ยมบาลเจ้าขา 2556

เรื่องย่อ : ยมบาลเจ้าขา (2556/2013) ในแดนนรกภูมิ ท้องฟ้าอันเป็นรอยต่อระหว่างโลกมนุษย์กับแดนนรก เกิดวิปริตผิดอาเพศ พญายมราชได้เล็งทิพยเนตรดูจึงรู้ว่า บัดนี้นอกจากสมดุลธรรมชาติของโลก จะถูกมนุษย์ทำลายลงแล้ว ศีลธรรมก็กำลังจะสูญหายไปจากสังคม ทำให้คนตกนรกกันมากแต่สวรรค์กลับว่างเปล่า สมดุลแห่งโลกวิญญาณก็กำลังวิกฤติเช่นกัน หากนรกแตกลงเมื่อใดบรรดาสัตว์นรกจะหนีไปเกิดเป็นมนุษย์ จะได้ครอบครองอำนาจ สุดท้ายก็จะเป็นผู้ทำลายโลกมนุษย์จนพินาศไปในที่สุด ชุมชนใกล้ ๆ อพาร์ทเม้นท์ของลลิต ก็เกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย โดยมีต้นเหตุสำคัญมาจากการที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ มีลิฟต์ที่สร้างทับประตูทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และแดนนรก ทำให้ลิฟต์นี้กลายเป็นทางผ่านที่ยมทูต ผู้ที่ได้รับคำบัญชามาจากท่านพญายม ให้นำดวงวิญญาณที่ทำกรรมดีและกรรมชั่วทั้งหลายลงไปฟังคำตัดสินพิพากษา ในแดนนรก ท่านพญายมนอกจากจะมีสุวานและสุวรรณ ที่ทำหน้าที่เลขานุการควบคุมบัญชีบาปบุญแล้ว ท่านพญายมยังได้แต่งตั้งดวงวิญญาณของเด็กน้อย ที่ถูกทำแท้ง แต่มีความกตัญญูสูงให้เป็นยมทูตพิเศษ ชื่อยมทูตกุมารทองอีกด้วย ซึ่งกุมารทองหรือยมทูตหนูทองนี้สามารถท่องไปโลกมนุษย์และสวรรค์ได้ตามคำบัญชา เพื่อภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือคนดี และเปลี่ยนใจคนหลงผิดให้กลับใจ เพื่อจะได้ไม่ต้องลงมาในแดนนรก ด้วยความที่ประตูทางเชื่อมยมโลกอยู่ที่ลิฟต์ของอพาร์ทเม้นท์นี้ ทำให้ยมทูตกุมารทองต้องเข้ามาคลุกคลีกับคนในอพาร์ทเม้นท์ของลลิตอยู่เสมอ ลลิต สาวสวยเจ้าของอพาร์ทเม้นท์เจ้าปัญหา เพิ่งจะสูญเสียบิดาไปไม่นาน จึงต้องมารับหน้าที่เป็นผู้สืบทอดธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ของครอบครัว โดยมีพระเอกคือ ผู้กองมนัส นายตำรวจหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ หรือตำรวจนอกเครื่องแบบ ที่ได้รับการมอบหมายให้มาแฝงตัวเพื่อสืบข่าวท้องที่ จนมีเหตุจำเป็นให้มาอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ของลลิต การทำงานของมนัสคือการแฝงตัวมาสืบข่าว ทำให้ต้องเจอกับคดีต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความฟอนเฟะของสังคม ทั้งคดีฆาตกรรม คดีทำแท้ง คดียาเสพติด และเรื่องราวการทำดีทำชั่วของคนในสังคมรอบข้าง ไปจนถึงกระแสวัฒนธรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาจนบดบังความดีงามของวัฒนธรรม รวมไปถึงค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่ยึดติดอยู่กับวัตถุ แม้กระทั่งกิเลสตัณหา รัก โลภ โกรธ หลง หรือความอยากได้ใคร่มี หวังไปให้ถึงเป้าหมายสูงที่สุดของชีวิต โดยไม่คำนึงถึงวิธีการที่ให้ได้มา แต่สุดท้ายแล้วบาปนั้นก็จะย้อนกลับมาทำลายชีวิตพวกเขาในที่สุด ทั้งหมดทั้งมวลมาจากต้นเหตุของศีลธรรมอันดีงามของมนุษย์ได้เสื่อมถอยลงไปนั่นเอง เหตุการณ์ทั้งดี ทั้งชั่ว เรื่องราวที่นำมาซึ่งความสุขความเจริญในชีวิต และเรื่องราวที่เป็นเหตุนำพาให้ชีวิตตกต่ำลงต่าง ๆ มากมายได้เข้ามาพัวพันข้องเกี่ยวกับชีวิตของลลิต และมนัส ไม่รู้จักจบสิ้น จนดูเหมือนว่าลลิต และมนัส จะกลายเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดเรื่องราวทั้งดีและร้ายต่าง ๆ เข้ามาโดยไม่รู้ตัว เพราะพวกเขาไม่รู้ว่านั่นเป็นเพราะลิฟต์ในอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้เป็นทางเชื่อมยมโลกนั่นเอง ท่ามกลางเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชุมชนทำให้พระเอกและนางเอก ซึ่งปรกติจะเป็นคู่กัดกันอยู่เสมอ ต้องหันหน้าเข้าหากัน ยอมสลบศึกชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้คน โดยมียามปุ๋ยคนงานเก่าแก่ของพ่อนางเอก ผู้กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจแต่ก็มักจะต้องมาพบเจอผีอยู่เสมอ เป็นคนคอยสร้างเรื่องราวและความวุ่นวายที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างเสมอ แต่ไม่ว่าเรื่องราวต่าง ๆ จะเกิดขึ้นมากมายอย่างไร มนัสมักจะหาสาเหตุเจออยู่เสมอ ซึ่งบางครั้งลลิตกลายเป็นผู้ช่วยในการหาสาเหตุได้อย่างไม่ตั้งใจ ถึงแม้บางครั้งการทำชั่วของมนุษย์จะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่เมื่อมนุษย์ที่หมดบุญบนโลกแล้วนั้น ต้องลงไปรับการพิจารณาอย่างเที่ยงธรรมจากท่านพญายมราชอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังคำพูดที่กล่าวว่า "ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ" ติดตามชม ละครยมบาลเจ้าขา ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.00 - 18.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครยมบาลเจ้าขา เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2556

หมอรัก...หมอเพลง 2556

เรื่องย่อ : หมอรัก...หมอเพลง (2556/2013) บอกได้เลย ว่า อลหม่าน กันมากมาย ในเมื่อ สองกวน แห่ง ซิทคอมหมอรัก...หมอเพลง รินทร์ดนัย – เจสซี่ รับบทเป็น คุณชาย งามเผ่า และ วิชญ จารุจินดา รับบท เป็น บอส กับเหล่านักแสดงที่ เข้าฉากพร้อมกัน เมื่อสองคนมาทำความดีช่วยกวาดลานวัด ทำให้ เศษฝุ่น เข้าตา สองจอมกวน ทั้งสองกวาดลานวัดกัน บอสกวาดจนฝุ่นเข้าตางามเผ่า งามเผ่าคิดว่าบอสแกล้ง เลยกวาดแรงๆ ให้ฝุ่นเข้าตาบอสบ้าง ทั้งสองกวาดฝุ่นใส่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย และทั้งสองก็เอามือที่กวาดขยี้ตาโดยไม่รู้เลยว่ามือของตัวเองสกปรก ทั้งสองทะเลาะจนจะต่อยกัน หลวงพ่อเข้ามาพอดี ทำให้ฉากนี้ดูวุ่นวายพอสมควร ทั้งฝุ่น เรียกได้ว่า โดนกันถ้วนหน้า ทำให้หมอรัก มรกต กิตติสาระ (เอมมี่) ต้องเข้ามารักษาด้วยการหยอดยา และ ให้คำอธิบายว่า โรคตาแดงเกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา จากการติดเชื้อไวรัส อาจจะมาจากมือที่ไม่สะอาดแล้วไปขยี้ตา หรืออาจเกิดจากฝุ่นละอองเข้าตา เลยทำให้เกิดตาแดงยาหยอดตาสามารถแก้อาการตาแดงได้ จะทำให้เส้นเลือดในตาตีบลง หรือลองใช้น้ำตาเทียม ก็จะช่วยหล่อลื่นลูกตาที่แห้ง แต่หากตาแดงแล้วมีขี้ตา น้ำตาไหล ตามัว หรือมีอาการเจ็บตาร่วมด้วย ปัญหาอาจจะหนักกว่าที่คิด ควรไปพบแพทย์ดีกว่า แถมยังแนะนำว่าโรค ตาแดง มักระบาดในช่วงหน้าฝนแบบนี้นะคะ สาเหตุเกิดจากเชื้อโรคที่มากับฝุ่นละออง เข้าในเยื่อบุตาหรือการใช้มือที่ไม่สะอาด มีเชื้อโรคอยู่มาขยี้ตา วิธีป้องกันคืออย่าใช้ผ้าเช็ดหน้า หรือเครื่องแต่งหน้าร่วมกับคนอื่น ควรล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงกคลุกคลีกับคนป่วย แต่ถ้า ปัญหาหนักกว่าที่คิด ควรไปพบแพทย์ดีกว่า ติดตามซิทคอม เรื่องหมอรัก... หมอเพลง ตอนกินยาหมดอายุ ได้ใน วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2556 ออกอากาศ เวลา 13.00 น. ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 .................................................................................... “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่ถ้ารักบังเกิด แล้วเครียดจนหัวระเบิด ก็อย่ามีมันดีกว่ามั้ย !!! ” แล้วเรื่องของโรคมาเกี่ยวกับความรักได้ยังไงกันเนี่ย !! ก็เป็นเพราะ “ หมอรัก ” หมอสาวจิตอาสาจบวิชาแพทย์มาจากอเมริกา แต่ไหงมารักษาโรคอยู่ที่ชุมชนสาริกา สาเหตุก็เพราะคำว่ารักนี่แหละ หมอรัก ถูกจับคลุมถุงชนจากญาติผู้ใหญ่ว่า เรียนจบเมื่อไหร่ ให้ไปเป็นสะใภ้เพื่อนแม่ แต่ หมอรัก ไม่ยอม จึงหลบหนีมาอยู่ที่ชุมชนสาริกาเพื่อตามหา “พ่อ” ที่เป็นหมอสมุนไพรอยู่ที่นี่! แต่อนิจจา... พ่อของหมอรัก หายตัวไปทิ้งไว้แต่ตำรายาสมุนไพร ด้วยความที่ หมอรักเป็นหมอสมัยใหม่จึงไม่ได้ใส่ใจกับสมุนไพรมากนัก กล่าวฝ่ายหมออีกฝั่งนั่นคือ “หมอพล” หมอพลไม่มีกล่องเข็มแต่มีกล่องเสียงอันแหลมใส หมอพลเป็นหมอเพลง อดีตเด็กวัดท่าสาริการ้อง หล่อ ใจดี ชอบช่วยเหลือคน ช่วยเงินไม่ได้ก็ช่วยด้วยการร้องเพลง มีเพื่อนต่างวัย แต่ไอคิวใกล้เคียงกันนั่นคือ “แผน” เป็นหมอแคน ที่สามารถเป่าและลำซิ่งพร้อมกันไปด้วยได้ แผน คือเด็กกำพร้าที่เดินตามพลมาจากไหนก็ไม่รู้ แผนมีอาวุธคู่ใจคือแคนจิ๋วลำเล็กไว้เป่าหาเลี้ยงชีพ แผนมีพรสวรรค์ตรงความเจ้าเล่ห์ เสน่ห์แรง แถมยังแฝงความเจ้าชู้ประตูดินไว้เพียบ จนพลที่โตกว่ายังอาย วันหนึ่งในขณะที่หมอรักกำลังขับรถจะไปทำคลอดให้คนในชุมชน ที่กำลังจะคลอดท้องแรกภายในบ้านของตัวเอง แต่ก็เกิดเหตุการณ์ทำให้ไปล่าช้า หมอพลกับแผน ที่ถูกจ้างมาลำเพลงรับขวัญเด็กที่กำลังจะเกิดในบ้านเจ้าภาพ และวินาทีนั้น ว่าที่คุณแม่มือใหม่ จู่ๆ ก็ร้องโอดครวญ เพราะทนไม่ไหวกำลังจะคลอดเต็มที่ สามีเจ้าของบ้านจึงตะโกนถามหาว่าใครเป็นหมอ ด้วยความที่หมอพล ก็เป็นหมอ (เพลง) จึงยกมือขึ้น สามีของหญิงคนนั้นก็ไม่ทราบว่า พลคือหมอเพลง จึงเข้าใจผิดดึงหมอพลเข้าไปทำคลอด ซึ่งหมอพล ก็คิดว่า ได้เวลาแสดงแล้วจึงไม่ขัดขืน แล้วให้แผนหอบของตามมา สามีเจ้าของบ้านให้พลเข้าไปในห้อง คนเดียว พอหมอพลเข้าไปถึงกับงุนงง และตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้านั่นคือ ผู้หญิงที่กำลังใกล้คลอด พลสับสนทำตัวไม่ถูก หมอพลพยายามจะทำคลอดแต่ก็กล้าๆ กลัวๆ ในที่สุดหมอรักก็มาถึง และจะรีบไปทำคลอด สามีเจ้าของบ้านถึงกับงงว่า คนที่เข้าไปทำคลอดสรุปว่าคือใคร หมอรักรีบเข้าไปข้างในห้องเพื่อทำคลอดก็เจอหมอพลกำลังสติแตกอยู่กับสถานการณ์ตรงหน้า หมอรักจึงให้หมอพลหลบไปและจัดแจงเครื่องมือทำคลอดให้ทันที คุณแม่มือใหม่เบ่งเท่าไหร่ก็เบ่งไม่ออก หมอพลจึงคิดวิธีช่วยคือการ ร้องเพลง เพื่อเป็นจังหวะในการเบ่งได้ง่ายขึ้น ปรากฏว่าได้ผล เด็กออกมาอย่างปลอดภัยในที่สุด แต่เมื่อหมอพลเห็นเลือดก็ถึงกับสลบไป หมอรักจึงต้องเข้าไปช่วยหมอพลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อหมอพลฟื้นขึ้นมา ไม่ทันไรก็ทะเลาะกับหมอรัก เพราะมาสายเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนเองต้องสลบ แต่หมอรักก็ไม่ยอม เถียงกันไปเถียงกันมา เมื่อถึงเวลาร้องรับขวัญทารก หมอพลให้แผนมาช่วยเป่าแคน และร้องเป็นเพลงแต่เนื้อเพลงต่อว่าหมอรักต่างๆ นาๆ หมอรักแค้นใจจากเหตุการณ์ครั้งนี้เลยทำให้หมอพลกับหมอรักเป็นคู่กัดกันนับตั้งแต่นั้นมา เจอหน้าเป็นต้องทะเลาะกันเป็นประจำ “พรเทพ” เภสัชหนุ่มจิตใจดีประจำชุมชนสาริกา เพื่อนหมอรักสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน พรเทพแอบหลงรักหมอรักตั้งแต่สมัยเรียนโดยที่หมอรักไม่รู้ตัว เมื่อพรเทพเรียนจบก็กลับมาเป็นเภสัชที่ชุมชนบ้านเกิด และไม่คิดว่าจะได้พบรักแรกของตัวเองอีก แต่แล้วหมอรักก็มาอยู่ที่นี่โดยบังเอิญ ทำให้พรเทพดีใจจนแทบทำตัวไม่ถูกแต่ก็ต้องเก็บอาการรักไว้ในใจ เพราะกลัวว่าถ้าหมอรักรู้ความในใจของตัวเองแล้วจะเปลี่ยนไป เมื่อหมอรักต้องการความช่วยเหลือ พรเทพจะคอยให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเต็มใจเสมอ และหวังลึกๆ ว่าซักวัน หมอรักจะหันมาสนใจตนเอง ทั้งคู่มีจิตวิญญาณในการให้บริการทางการแพทย์อยู่เต็มเปี่ยม เพราะต้องการมุ่งเน้นให้ชาวบ้านรู้จักวิธีการป้องกันดูแลใส่ใจสุขภาพ มากกว่าการรักษา ร้านขายอาหารตามสั่ง ที่อร่อยที่สุดในชุมชนสาริกา เพราะมีอยู่ร้านเดียวนั่นคือร้าน “เฮียเล้ง” ที่มีนิสัยขี้งก ขี้เหนียว สารพัดเค็ม อะไรๆ ก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ขนาดคนมาขอยืมปากกาจดแป๊บเดียว ยังคิดค่าน้ำหมึก เฮียเล้งมีลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนหนึ่งคนคือ “หงส์” ซึ่งก็มีนิสัยไม่ต่างจากพ่อชนิดถอดแบบกันมาเลยก็ว่าได้ แต่ต่างกันตรงที่หงฉลาดกว่า และใช้มารยาหญิงออดอ้อน เก็บเงินจากคนที่มาหาตัวเองได้เสมอๆ เพราะด้วยความที่หงส์เซ็กซี่และน่ารัก จึงเป็นที่หมายตาของหลายๆ คนในชุมชน และมักมานั่งดูหงส์ โดยที่ไม่สั่งอะไรกินบ่อยครั้ง โดยเฉพาะ “เฮียเบิ้ม” เจ้าของวินรถตู้ชอบแต่งตัวเป็นอาสาสมัคร แสดงตนว่าเป็นผู้มีอำนาจในย่านนั้น แต่ดูเหมือนไม่ค่อยมีใครเกรงกลัวอำนาจซักเท่าไร เฮียเบิ้มชอบในความเซ็กซี่ของหงส์ จึงมักไปร้านเฮียเล้งอยู่บ่อยครั้ง แต่ หงส์ ดูเหมือนจะรำคาญเฮียเบิ้ม ซะมากกว่า แต่ด้วยความที่เฮียเบิ้มมีเงิน หงส์จึงใช้มารยาของตนหลอกเอาเงินเฮียเบิ้มเป็นประจำ “บอส” คอยเฝ้าวินรถตู้ให้เฮียเบิ้มซึ่งเป็นพ่อของตนอย่างไม่ขาด บอสมีนิสัยติดหล่อ และบ้า เค ป๊อป เป็นอย่างมาก บอสไม่เชื่อฟังใครทั้งนั้นแม้แต่พ่อตัวเอง แต่คนที่บอสเชื่อและยอมทำทุกอย่างก็คือหมอรัก ทั้งสองคนพ่อลูกมีลูกน้องคนสนิทชื่อ “ บื้อ ” และก็บื้อสมชื่อจริงๆ ซะด้วย ครอบครัวเฮียเบิ้ม ไม่ถูกกับครอบครัวตัวงอ ซึ่งคือครอบครัวของ “คุณนายงามพิศ” มีลูกสาวคนโตชื่อ “งามเหลือ” และมีลูกชายคนเล็กชื่อ “งามเผ่า” มีอาชีพปล่อยเงินกู้ให้คนในชุมชน เมื่อสองตระกูลนี้เจอกันเมื่อไร วอดวายเมื่อนั้น “หลวงตาเก่ง” เป็นเกจิอาจารย์ มีความรู้ด้านสมุนไพร หมอพลได้มาฝากตัวเป็นศิษย์ตั้งแต่เล็ก แต่แท้จริงแล้วถูกนำมาทิ้งไว้ตั้งแต่เด็กนั่นเอง เมื่อเติบใหญ่หมอพลก็มาเป็นหมอเพลงซึ่งอยู่ในคณะหมอแหล่ของ “มัคทายกโทน” ซึ่งทั้งคณะมีกันอยู่แค่ 3 คน นั่นคือ หมอพล แผน และมัคทายกโทน เพียงเท่านั้น ทั้งหมดใช้บริเวณวัดในการฝึกซ้อม โดยมี “ เจ๊จอย ” เจ้าของร้านเสริมสวยและร้านกาแฟ พยายามเปล่งเสียงร้องออกมาเพื่อให้เป็นที่สนใจของ มัคทายกโทนเห็นแวว แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเสียงของเจ๊จอยนั้น ช่างไม่ต่างอะไรจากกระบือออกลูก แต่เจ๊จอย ไม่ได้มีความคิดที่อยากจะเข้าร่วมวงเพียงอย่างเดียว แต่ยังคิดที่จะอยากใช้ชีวิตร่วมกับมัคทายกโทนอีกด้วย เพราะหลงรักในน้ำเสียงและการร้องแหล่ของมัคทายกโทน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลเช่นเดียวกันที่มัคทายกโทนไม่รับเจ๊จอยร่วมวง ด้าน เจ๊จอย มีนิสัยขี้เหนียวตัวแม่ แถมยังปากจัด ชนิดที่เรียกกว่า จัดหนักมาก !! แต่ถ้าได้ฟังเสียงของพลหรือโทนเมื่อใด วิญญาณแม่ยกจะเข้าสิงกลายเป็นจอยบุญทุ่ม เพราะหลงใหลในเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจ เจ๊จอยไม่ถูกกับเฮียเล้งเพราะว่า เมื่ออดีตคนเคยคบกัน แต่แล้วเฮียเล้งก็ทิ้งเจ๊จอยไป เพราะเฮียเล้งดันไปทำผู้หญิงอีกคนท้อง จึงต้องรับผิดชอบ ซึ่งเด็กคนนั้นก็คือหงส์นั่นเอง นับจากนั้นมา เจ๊จอยจึงแค้น เฮียเล้งมาก ส่วนเฮียเล้งก็รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง แต่เจ๊จอยแค้นฝั่งหุ่นถึงกับป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ทั้งจังหวัด จากที่เฮียเล้งรู้สึกผิดก็อับอายจนกลับกลายเป็นแค้นใจแทน จากนั้นทั้งคู่จึงเป็นศัตรูกันเรื่อยมาจนปัจจุบัน “ดาบยิ้ม” ตำรวจหนุ่มผู้รักความยุติธรรม และซื่อตรงต่อหน้าที่อย่างเคร่งครัด เมื่อเยาว์วัยดาบยิ้มเคยเป็นเด็กวัด และโดนรังแกมาตลอด โตขึ้นจึงอยากช่วยเหลือปกป้องประชาชน ที่ข่มเหงรังแก ดาบยิ้ม จึงไม่ชอบเห็นคนโดนรังแก และจะเข้าไปช่วยเหลืออย่างไม่คิดชีวิต ดาบยิ้มจึงคอยดูแลความสงบสุขของชุมชนนี้เป็นอย่างดี และก็ไม่เคยลืมบุญคุณก้นบาตรของหลวงตาเก่ง ถึงพลหมอเพลงจะจน แต่ก็มีดีที่ความหล่อและฝีมือการร้องรำทำเพลง ไม่เป็นรองใคร จึงเป็นที่หมายปองของงามเหลือ งามเหลือตามจีบหมอพลชนิดที่เรียกว่าเช้าถึงเย็นถึง แต่ก็ต้องแก่งแย่งชิงดีกับหงส์ ซึ่งชอบหมอพลไม่แพ้กัน ส่วนหมอพลดูไม่มีทีท่าจะมอบใจให้ใครเลยซักคน มักปัดไปให้แผนเป็นประจำซึ่งเข้าทาง แผนที่อ้าแขนรออยู่แล้ว และเมื่อหมอรักเข้ามาก็ทำให้ผู้ชายในชุมชนปั่นป่วนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น บอส งามเผ่า หรือไม่เว้นแม้กระทั่ง แผนเองก็ตาม จนบางทีทำให้พรเทพเกิดหึงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวบ้างบางที อันว่าเกิดเป็นคน ไม่ว่าจนหรือรวยก็ต้องป่วยเป็นธรรมดา หมอรักจึงมีหน้าที่แนะนำวิธีป้องกันตนและหนทางแก้ไขโรคภัยต่างๆ นาๆ ไม่ให้มากล้ำกลาย การช่วยเหลือชาวบ้านของหมอรักด้วยวิชาการแพทย์ จะทำให้สุขภาพกายของคนในชุมชนสาริกา ห่างไกลจากโรคภัยได้หรือไม่ แล้วบทเพลงของ พลหมอเพลง จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพใจของคนในชุมชนนี้ได้แค่ไหน ศึกระหว่างหมอแป้งกับหมอพลจะเลิกราจากการทะเลาะ แล้วหันมาสมานใจกันได้อย่างไร โปรดติดตามได้ใน ซิทคอมฮากระจาย แต่ไม่ห่างหายจากความรู้ควบคู่สุขภาพ ใน หมอรัก...หมอเพลง !!!

ฉก. น้ำหวาน อันธพาลหลบไป 2556

เรื่องย่อ : ฉก. น้ำหวาน อันธพาลหลบไป (2556/2013) “ แดง ไบเล่ย์ยังต้องหลบ...ปุ๊ ระเบิดขวดยังต้องถอย... ไม่ใช่ว่าพวกเขาเจอกับซุปเปอร์ฮีโร่ในตำนานอะไรหรอก หากแต่เป็นสาวน้อยที่ไม่สวย ไม่รวย ไม่เก่ง แต่ที่แน่ๆคือเฮงแน่นอน เพราะเธอมีพลังวิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆ แล้วเธอก็รู้ด้วยว่า...ถ้าใครได้ดูละครเรื่องนี้จะต้องลุ้นระทึกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ กับภารกิจสุดพิลึกของเธอและเหล่าองครักษ์ของเธออย่างแน่นอน ” .................................................................................... น้ำหวาน... (อาภา ภาวิไล) สาวน้อยธรรมด๊าธรรมดา หน้าตาก็ไม่สวยเริ่ดแต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ ฐานะก็ปานกลาง แถมยังไม่มีความสามารถพิเศษอะไร แต่ทำไมถึงได้เกริ่นมาขนาดนี้...ไปฟังกันเลยดีกว่า น้ำหวานเป็นลูกสาวคนเดียวของตำหนักเจ้าพ่อเปิ่น หรือ เปิ่น... (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) พ่อจอมกะล่อนของเธอ ผู้ที่ชาวบ้านละแวกนั้นให้ความเคารพนับถือเพราะเปิ่นคือเจ้าพ่อ อ้ะๆ ไม่ใช่เจ้าพ่อมาเฟียอะไรที่ไหน เจ้าพ่อในที่นี้หมายถึงเจ้าพ่อผู้มีอิทธิฤทธิ์สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างได้นั่นเอง เจ้าพ่อเปิ่นจึงเปรียบเหมือนที่พึ่งของคนในชุมชนที่ทุกคนให้ความเกรงใจ แต่คนที่พ่อเปิ่นให้ความเกรงใจมีเพียงคนเดียวก็คือ เจ้าแม่เรไร...แม่สุดสวยของน้ำหวานนั่นเอง ที่เรียกว่าเจ้าแม่เพราะที่ตำหนักเจ้าพ่อเปิ่นนี่ แม่เรไรกับพ่อเปิ่นจะผลัดกันทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะใกล้วันหวยออก ทั้งคู่แทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะต้องคอยใบ้เลขให้กับชาวบ้าน ภายในตำหนักทรงเจ้าพ่อเปิ่นประกอบด้วย ลุงทอง... (นง เชิญยิ้ม) มัคทายกของวัดผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายของเจ้าพ่อเปิ่น และทำหน้าที่หางานคอยบอกกล่าวญาติโยมให้มาสะเดาะเคราะห์กันที่นี่ อีกคนก็คือ ไม้... (เทวินธวิ์ คุณารัตนวัฒน์) เด็กรับใช้ประจำบ้าน ที่จริงแล้วไม้เป็นเด็กวัดที่กำพร้าพ่อแม่ แต่พ่อเปิ่นเห็นแววว่าไอ้นี่กะล่อนพอตัวน่าจะใช้งานได้ จึงนำไม้มาชุบเลี้ยงจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำหนักทรงไป น้ำหวานไม่ค่อยชอบใจในอาชีพของที่บ้านเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะเธออายอะไรหรอก แต่เธอไม่อยากให้พ่อเปิ่นกับแม่เรไรหลอกเงินชาวบ้านไปวันๆ อย่างนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าพ่อกับแม่เธอไม่ได้มีพลังวิเศษอะไร แค่จับจุดความทุกข์ของคนที่มาหาได้ก็พอแล้ว หรือจะเรียกแบบสวยหรูตามสมัยนิยมก็คือ การใช้มายาจิต นั่นเอง แต่ทุกครั้งที่เธอบอกกับพ่อเปิ่นและแม่เรไรให้เลิก ก็มักจะถูกทั้ง 2 บอกว่า เพราะการที่ทำอย่างนี้จึงสามารถเลี้ยงดูและส่งเสียให้น้ำหวานเรียนหนังสือมาจนป่านนี้ หลายครั้งที่พ่อเปิ่นกับแม่เรไรถึงกับตั้งคำถามว่าตกลงแกเป็นลูกฉันหรือว่าลูก ไอ้เฮียโส่ย... (สมบัติ ขจรไชยกุล) เจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ ผู้ที่ไม่ค่อยลงรอยกับตำหนักเจ้าพ่อเปิ่น เพราะตั้งแต่เจ้าพ่อเปิ่นมาเปิดที่นี่ ทำให้คนหันไปสะเดาะเคราะห์กับพ่อเปิ่น ไม่ค่อยซื้อสังฆทานไปถวายเหมือนแต่ก่อน เฮียโส่ยจึงคอยหาเรื่องตำหนักเจ้าพ่อตลอดเวลา แล้วยังมีอีกคนที่ต้องเสียรายได้ นั่นก็คือ รัศมี หรือคนแถวนั้นเรียกว่า มีมี่ (สิริลภัส กองตระการ) นั่นเอง มีมี่เป็นนางรำที่ชาวบ้านแถวนั้นอยากจะรำท่ามวยไทยถวายให้เหลือเกิน เพราะปากและนิสัยที่เรียกว่าเป็นช่างเม้าท์ตัวแม่ มีมี่จะแพ้ทางให้ก็มีเพียงคนเดียวนั่นก็คือ ประคำ...(มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ) เด็กวัดกวนบาทา ผู้เป็นที่เคารพนับถือของหมาวัดทั้งหลายนั่นเอง แม้ว่าชีวิตชุมชนที่ตำหนักและวัดจะมีเรื่องขัดแย้งยังไงก็ตาม แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องร้ายแรงจนกระทั่งวันนึง ถ้าพ่อเปิ่นกับแม่เรไรเชื่อน้ำหวานที่บอกให้เลิกอาชีพร่างทรงก็คงจะดี เพราะชีวิตของพวกเขากำลังจะเปลี่ยนไป หลังจากที่ชายคนนึงก้าวขึ้นมาบนตำหนัก !!! ชายคนนั้นต้องการให้พ่อเปิ่นกับแม่เรไรสืบหาของบางอย่างที่น้องชายเขาทำหายไป ซึ่งเป็นของสำคัญมาก พ่อเปิ่นกับแม่เรไรถึงกับมองหน้ากันเพราะไม่ค่อยถนัดเรื่องอย่างนี้ (จะถนัดได้ยังไงเพราะไม่มีพลังวิเศษจริงๆ นี่หว่า) แต่ทั้งคู่กลับรับปากชายคนนั้นเพราะชายคนนั้นยื่นเงินที่ดูๆ แล้วคงไม่ต่ำกว่าหลักแสนเป็นการตอบแทน พ่อเปิ่นบอกกับชายคนนั้นว่าอีก 3 วันค่อยกลับมา เพราะต้องใช้พลังในการทำสมาธิ (ที่จริงแล้วพ่อเปิ่นจะเอาเงินไปจ้างนักสืบตามหาของอีกที) แล้วเรื่องวุ่นๆ ก็เกิดขึ้นเมื่อน้ำหวานที่กำลังเดินกลับจากตลาด ดันไปได้ยินชายคนนั้นคุยโทรศัพท์ แล้วน้ำหวานก็ต้องอึ้งไปเมื่อรู้ว่าชายคนนั้นคือโจรปล้นธนาคารที่ตำรวจกำลังตามหา แล้วของที่ชายคนนั้นให้พ่อเปิ่นตามหาก็คือถุงเงินหลายสิบล้านที่น้องชายเขาซ่อนเอาไว้ก่อนจะถูกตำรวจวิสามัญนั่นเอง น้ำหวานตกใจกำลังจะไปจากตรงนั้น แต่แล้วชายคนนั้นก็หันมาเห็นน้ำหวานพอดี ชายคนนั้นวิ่งไล่น้ำหวานเพื่อต้องการฆ่าปิดปาก น้ำหวานวิ่งหนีสุดชีวิต แต่แล้วน้ำหวานก็ดันสะดุดไม้บนสะพานข้ามคลองก่อนที่เธอจะหล่นลงไปในน้ำ ร่างของเธอจมหายไปกับคลอง ชายคนนั้นยิงซ้ำ ยังดีที่ชาวบ้านแถวนั้นมา จึงทำให้ชายคนนั้นหนีไป น้ำหวานจมน้ำจนขาดอากาศหายใจไปได้สิบนาที หรือเรียกง่ายๆ ว่า เธอได้ตายไปแล้วนั่นเอง พ่อเปิ่นกับแม่เรไรร้องไห้แทบจะขาดใจ แต่แล้วน้ำหวานก็ฟื้นขึ้นมาจากความตาย ทุกคนตกใจก่อนจะกลายเป็นความดีใจเป็นที่สุด น้ำหวานเองก็แปลกใจว่าทำไมเธอไม่หายใจไปสิบนาทีแล้วจึงฟื้นขึ้นมาได้ แต่ยังไงก็ช่างเถอะ...เธอไม่ตายก็ดีแล้ว น้ำหวานเล่าเรื่องที่ชายคนนั้นเป็นโจรปล้นธนาคารให้กับพ่อเปิ่นและแม่เรไรฟัง ทั้งคู่ตกใจที่ดันหาเหาใส่หัวซะแล้ว พ่อเปิ่นคิดๆๆๆ แล้วคิดได้ว่า ถ้าอย่างนั้นวันที่ชายคนนั้นมา เขาจะใจดีสู้เสือแล้วคืนเงินให้กับชายคนนั้น น้ำหวานหวังว่าเรื่องจะจบลงด้วยดี หลังจากที่น้ำหวานฟื้นขึ้นจากความตาย เธอก็รู้สึกเหมือนถูกสะกดรอยจากชายคนนึง (ไม่ใช่โจรปล้นธนาคารคนนั้น) กับหญิงอีกคนนึง น้ำหวานรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นไอ้พวกที่ปล้นธนาคารแน่ๆ น้ำหวานต้องอาศัยความเป็นคนในพื้นที่จึงหนีเอาตัวรอดจากชายหญิงคู่นั้นมาได้ และแล้ววันที่เจ้าโจรปล้นธนาคารนัดไว้ก็มาถึง พ่อเปิ่นสารภาพว่าไม่รู้จริงๆว่าของเหล่านั้นอยู่ไหน พร้อมกับคืนเงินให้กับโจรปล้นธนาคารคนนั้น แต่เจ้าโจรกลับไม่พอใจเพราะพ่อเปิ่นดันหลุดพูดเรื่องเงิน ทำให้เจ้าโจรคิดจะฆ่าปิดปากทั้งตำหนัก แต่แล้วน้ำหวานก็เข้ามาขวางเอาไว้ วินาทีที่น้ำหวานมองหน้าของเจ้าโจรนั่น ภาพการปล้นธนาคารและเส้นทางการหลบหนี และเงินที่ซ่อนอยู่ก็ผุดขึ้นมาในหัวอย่างที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน วินาทีที่เจ้าโจรนั่นจะเหนี่ยวไก น้ำหวานก็บอกว่าเธอรู้ว่าน้องชายเขาซ่อนเงินเอาไว้ที่ไหน ที่ใต้สะพานข้ามคลองน้ำหวานบอกกับเจ้าโจรคนนั้นว่าน้องชายของเขาซ่อนเงินเอาไว้ที่ใต้สะพานโดยผูกติดไว้กับไม้โดยมีผักตบชวาคอยบังไว้ เจ้าโจรให้ไม้ดำลงไปเอาขึ้นมา เพราะถ้าไม่มีอยู่จริง ทั้งหมดจะโดนยิงเรียงตัวทันที แต่แล้วทุกคนก็ดีใจเหมือนได้เกิดใหม่เพราะไม้ดันเจอถุงเงินซ่อนอยู่ใต้น้ำจริงๆ ไม้รีบเอาขึ้นมาให้กับเจ้าโจรนั้น เจ้าโจรดีใจที่ได้เงินคืน ก่อนจะหันกระบอกปืนมาจะฆ่าทุกคนปิดปาก น้ำหวานตกใจเพราะเจ้าโจรไม่ทำตามสัญญา วินาทีที่เจ้าโจรนั้นจะเหนี่ยวไก อยู่ๆ ชายกับหญิงคู่นั้นก็เข้ามาช่วย ก่อนจะจัดการกับเจ้าโจรปล้นธนาคารจนสิ้นฤทธิ์ เมื่อเจ้าโจรหมดฤทธิ์แล้วชายกับหญิงคู่นั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้น้ำหวานสงสัย เพราะเธอเคยเชื่อว่าทั้ง 2 เป็นพวกของเจ้าโจรปล้นธนาคาร แสดงว่าเธอคิดผิด พ่อเปิ่นกับแม่เรไรแปลกใจที่น้ำหวานสามารถบอกที่ซ่อนเงินได้ น้ำหวานบอกว่าอยู่ๆ มันก็เห็นขึ้นมาเอง พ่อเปิ่นกับแม่เรไรดีใจกันใหญ่ เพราะนั่นหมายถึงน้ำหวานจะต้องกลายมาเป็นเจ้าแม่อีกคน น้ำหวานได้ยินอย่างนั้นก็รีบชิ่งทันที แต่แล้วน้ำหวานก็ต้องชะงักไปเมื่อได้พบกับชายกับหญิงคู่นั้น น้ำหวานจะวิ่งหนี แต่ชายกับหญิงคู่นั้นก็บอกความจริงให้กับน้ำหวานฟังว่า ที่จริงแล้วเขาคือ รตอ.คมกฤช (กัณตพงศ์ บำรุงรักษ์) เป็นตำรวจกองปราบปรามที่ถูกคัดเลือกให้มาทำภารกิจลับของชาติ โดยที่ พ.ต.ต.เอกยุทธ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) หัวหน้าหน่วยของเขาไม่ได้บอกว่าภารกิจนั่นคืออะไร บอกเพียงอย่างเดียวคือให้คุ้มครองผู้หญิงที่ชื่อน้ำหวาน เรื่องนี้สร้างความสงสัยให้กับคมกฤช และ จ่าแก้ว... (ต๋อง ชวนชี่น) จ่าตำรวจรุ่นพี่ ผู้ซื่อตรงทุกสถานการณ์ และเป็นคู่หูกับคมกฤชมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เพียงแต่คมกฤชกับจ่าแก้วที่อยากรู้ว่าน้ำหวานมีความสำคัญยังไงถึงต้องให้เขามาคุ้มครอง แม้แต่ ร.ต.อ.ชนะศึก...คู่ปรับตลอดกาลของคมกฤชเองก็อยากรู้เช่นกัน เพราะเรื่องอะไรที่ทำแล้วได้หน้าได้ความดีความชอบ ชนะศึกจะไม่รอช้าอยู่แล้ว แล้วความจริงก็เฉลยจาก อเดล ทับสะอ้อน (รฐกร สถิรบุตร) (เป็นลูกครึ่งอเมริกา – สุรินทร์) ว่าเธอเองก็เป็นสายลับจากหน่วยงานวิทยาศาสตร์ที่เป็นหน่วยงานลับของประเทศ ได้รับหน้าที่ให้มาคุ้มครองน้ำหวาน เพราะคอมพิวเตอร์สมองกลของสหรัฐอเมริกาบอกว่า น้ำหวานคือผู้หญิงที่จะมากอบกู้โลกจากเหล่าอธรรม เพราะน้ำหวานมีความสามารถพิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีตและอนาคตได้ น้ำหวานได้ยินอย่างนั้นก็เป็นลมล้มทั้งยืน น้ำหวานตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นก่อนจะดีใจเพราะคิดว่าเธอคงจะฝันไปว่าเธอคือผู้หญิงที่จะกอบกู้โลก แต่แล้วน้ำหวานก็ต้องอึ้งไปเพราะเธอเห็น อเดล...มาเปิดแผงขายพระเครื่องที่หน้าวัดใกล้บ้าน ส่วนคมกฤชก็มาเปิดร้านกาแฟใกล้ๆ ตำหนักเธอ พร้อมกับที่ทั้ง 2 มาหาเธอแล้วยื่นภารกิจแรกให้กับเธอ นั่นก็คือการตามหาสายลับของกองกำลังข้ามชาติ ที่กำลังจะเข้ามาก่อวินาศกรรมในประเทศไทย !!! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อต้องติดตามกัน...

มนต์นาคราช 2556

เรื่องย่อ : มนต์นาคราช (2556/2013) มนต์นาคราชเรืองฤกธา ด้วยเดชะอำนาจบารมี ต่างแย่งชิงให้ได้ครองมนต์นาคี เหมือนหิรัญไกรศรี ผู้ไม่มีคุณธรรม เมฆดำบังใจ เผลอไปคิดใหญ่ค้ำฟ้า สามภพโลกานี้ ข้าต้องใหญ่ หาหนทางให้ได้เวทมนตร์ไป ถึงคิดชิงดวงใจยอกอัปสรกัลยา ริษยาสุ่มหัวใจ เหมือนดังไฟเผาชีวี หิรัญไกรศรี ฤทธีผงาดโลกาไม่ชนะใจอัปสรกัลยา มุ่งแต่ไขว้คว้าพระเวทเรืองศรี ต้องแพ้พ่ายอนันตภุชงค์คนดี จวบเวลาพ้นผ่านเนิ่นนานปี ให้กำเนิดบุตรี ดาราวดีและนิลวรรณา ดวงแก้วเทพนาคา กำหนดชะตาพี่น้องสองศรี นิลวรรณาด้อยปัญญา มีราคี จึงเชื่อคำหิรัญไกรศรี ใจนารีจึงมืดดำ ด้วยใจนางนั้นแหลกสลาย เพราะรักแพ้พ่ายดาราวดี เกลียดชังทั้งบุพการี เจ้าลืมความดี เพราะรักบังตา สำนึกบาปสุดท้าย คล้ายดังมีบุญญา ด้วยเวทมนตร์นาคราชเรืองเดชา ดลหัวใจเจ้านิลวรรณา กลับมาใช้กรรมทำความดี กลับมาใช้กรรมทำความดี

จันทร์สุริยคาธ 2556
เณรจ๋า 2556

เรื่องย่อ : เณรจ๋า (2556/2013) ซิทคอมเบาสมอง เสริมความสนุกด้วยธรรมะ แง่คิดคำคม เน้นเตือนใจให้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า สนุกสนานไปกับครูเพียงฟ้า ครูประจำหมู่บ้านผู้รักความยุติธรรม, หมอนาวา แพทย์หนุ่มอารมณ์ดี เจ้าชู้ ขี้เล่น และตัวละครผู้สร้างเสียงหัวเราะอีกมากมาย

แม่คุณเอ๊ย

เรื่องย่อ : แม่คุณเอ๊ย (2556/2013) ยายพิมพ์ กับสารภี หลานสาวกำพร้า และเจ้าไม้ หลานชาย อยู่ร่วมกันในบ้านไม้เก่าริมคลอง สารภีนั้นเรียนจบพละและเก่งกีฬาหลายประเภท รวมถึงศิลปะป้องกันตัว ได้งานพิเศษเป็นเทรนเนอร์ในสปอร์ตเซ็นเตอร์แห่งหนึ่ง ที่นั่นเธอได้รู้จักกับ เอก ลูกศิษย์ที่อยากเรียนว่ายน้ำ แต่กลับถูกส่งมาเรียนเทควันโดแทน ข้างบ้านสารภีเป็นบ้านหลังใหญ่ 2 หลังอยู่ภายในรั้วเดียวกัน หลังหนึ่งเป็นของกรกนก ซึ่งไม่ถูกกับสารภีเพราะไม่พอใจที่ไม่ยอมขายที่ให้ สุดท้ายเลยแกล้งทำรั้วขวางทางเข้าออก จนสารภีและชาวบ้านข้างเคียง ต่างเดือดร้อน แถมช่วงค่ำยังชอบจัดงานเลี้ยงแกล้งเปิดเพลงดัง ๆ จนสารภีทนไม่ไหว เล่นงานกลับด้วยระเบิดไข่เน่า จนแขกเหรื่อหนีกระเจิง กรกนกแจ้งความจับสารภีข้อหาก่อกวน แต่พอสืบสวนจึงรู้ว่ากรกนกต่างหากที่เริ่มก่อน ผู้กองเวไนยนอกจากจะไม่เอาผิดสารภี เขายังประทับใจเธออย่างมาก เวไนยนำเรื่องสารภีมาคุยให้เฟื่องฟ้าฟังด้วยความชื่นชมโดยไม่รู้ว่าเฟื่องฟ้ากับสารภีเป็นเพื่อนรักกัน เฟื่องฟ้าฟังแล้วก็พอจะเดาออกว่าเวไนยชอบสารภี เธอรู้สึกเสียใจเพราะเธอแอบชอบเขาอยู่ เทวัญ เจ้าของบ้านอีกหลังในรั้วเดียวกันกับกรกนก เป็นประธานบริษัท สยามพาเหรด ทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกรถยก รถลาก ซึ่งรับช่วงต่อมาจากพี่ชาย (เทพไทพี่ชายเทวัญ เสียชีวิตในอุบัติเหตุพร้อมภรรยาคือ กรณิก (พี่สาวกรกนก) โดยทิ้งลูกชาย คือ เอก ให้ดูแลตั้งแต่นั้นมาเทวัญรับเอกเป็นบุตรบุญธรรม) เพราะมุทำงานจนดึกจึงไม่ค่อยรู้ความเป็นไปในบ้านนัก กรกนกนั้นหลงรักเทวัญพยายามหาทางใกล้ชิดแต่เขาก็ไม่สนใจเธอเพราะในใจมีแต่ วันทิพย์ อดีตคนรักที่จมน้ำเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้แต่งงานกัน เรื่องของวันทิพย์ทำให้เทวัญสั่งห้ามไม่ให้เอกอยู่ใกล้น้ำเพราะกลัวจะเสียเอกไป สารภีออกหางาน เห็นประกาศของสยามพาเหรดที่รับสมัครเลขาบุคลิกคล่องตัว เธอไปสมัครแต่เทวัญไม่รับเพราะไม่เชื่อว่าผู้หญิงจะทำได้ ทั้งคู่ปะทะคารมกัน สาวมั่นอย่างสารภีเชื่อในความสามารถของผู้หญิง ถือในสิทธิสตรีที่มีเท่าเทียมชาย ส่วนเทวัญคิดว่าสิ่งที่สารภีพูดเป็นได้แค่ความคิดในอุดมคติเท่านั้น ด้วยความอยากเอาชนะ สารภีตัดสินใจมาสมัครอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น โดยต้องผ่านบททดสอบของเทวัญซะก่อน ในงานเลี้ยงงานหนึ่งเทวัญได้พบชิตพงษ์ อดีตพนักงานที่ยักยอกเงินบริษัทจนถูกเขาไล่ออก ซึ่งปัจจุบันทำธุรกิจ ประเภทเดียวกัน ด้วยความแค้นชิตพงษ์จึงสั่งให้มือปืนตามไล่ยิงจนเทวัญต้องขับรถหนีตาย แต่สุดท้ายรอดมาได้ด้วยความฉลาดมีไหวพริบของสารภี เหตุการณ์นี้ทำให้เทวัญตัดสินใจรับเธอเป็นเลขาสร้างความริษยาให้กับแสงจันทร์เลขาบริษัทและกรกนก ทั้งคู่จึงคอยหาเรื่องแกล้งสารภีอยู่เสมอแต่ก็ถูกสารภีเอาคืนทุกครั้งเช่นกัน วันหนึ่งเอกแอบมาเล่นน้ำกับเด็ก ๆ แถวบ้าน จนพลาดจมน้ำ ดีที่สารภีมาเห็นจึงช่วยชีวิตไว้ได้ หลังจากนั้น เอกจึงตัดสินใจแอบมาเรียนว่ายน้ำกับสารภี โดยไม่ให้เทวัญรู้ เทวัญมอบหมายงานให้สารภีทำ แต่ด้วยภารกิจมากมายทำให้เขาลืมเธอไปสนิท สารภีก็ทำงานเพลินจนค่ำ พอคิดจะกลับก็กลับไม่ได้ เพราะแสงจันทร์แกล้งล็อคประตูไว้ สารภีพยายามติดต่อเทวัญแต่ติดต่อไม่ได้ คืนนั้นชิตพงษ์ให้คนเข้ามาขโมยเอกสาร เลยโดนสารภีจัดการซะหมอบก่อนโทรแจ้งตำรวจ เทวัญตามมาทีหลังเขาอาสาพาสารภีไปส่งจึงรู้ว่าบ้านเธออยู่ติดบ้านกรกนกนั่นเอง สารภีรู้จากเอกว่าอาของเขาคือเทวัญและน้าก็คือกรกนกแต่ไม่บอกเอกว่าเทวัญเป็นเจ้านายเธอ เพราะกลัวเทวัญรู้ว่าเธอทำงานพิเศษแล้วจะมีปัญหากับงานประจำ เวลาเทวัญไปส่งเอก สารภีออกอุบายเอาตัวรอดหนีการเผชิญหน้าได้ทุกครั้ง แต่ก็พลาดจนได้ เมื่อเวไนยพาเทวัญมาหาเธอเพื่อสอบสวนเรื่องคนร้ายที่บุกเข้าไปในตึก ทำให้เทวัญจับได้ว่าสารภีคือครูของเอก เขาตำหนิสารภีว่าไร้สาระที่กลัวเขาจะไล่ออกเพียงเพราะเธอทำงานพิเศษ สารภียังไม่วายต่อล้อต่อเถียง กลายเป็นความเคยชินของคู่นี้ที่มักปะทะคารมกันเสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งคู่เริ่มสนิทกัน ความตรงไปตรงมาเป็นหญิงเก่งของสารภี สร้างความประทับใจให้เทวัญโดยที่เขาไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับสารภี ท่าทางที่จริงจังและมุ่งมั่นของเทวัญ ทำให้เธอเริ่มรู้สึกนิยมชายคนนี้อย่างบอกไม่ถูก เทวัญต่อว่าสารภี เขาโกรธมากเมื่อรู้ว่าเธอสอนเอกว่ายน้ำ สารภีถามจนรู้ว่าเพราะคนรักของเขาจมน้ำตาย เธอเข้าใจเทวัญแต่ก็อยากช่วยแก้ปมในใจเขา เมื่อสบโอกาสสารภีแกล้งผลักเทวัญตกน้ำแล้วรีบโดดลงไปช่วย เขาต่อว่าเธอที่ทำบ้า ๆ แล้วเธอก็ค่อย ๆ สอนจนเขาว่ายน้ำเป็น เมื่อเทวัญเลิกกลัวน้ำ เขาก็ยินดีที่จะให้เอกเรียนว่ายน้ำกับสารภี เทวัญต้องการให้สารภีมีรถประจำตัว สารภีกลับเลือกมอเตอร์ไซค์ เทวัญนึกสนุกซื้อให้ หลังจากนั้นการไปประชุมต่างบริษัท เขาจึงมีโอกาสซ้อนมอเตอร์ไซค์เลขายามรถติด เลยทำให้สร้างความสนิทให้ทั้งคู่มากขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กรกนกอย่างยิ่ง กรกนกจึงยอมให้ชิตพงษ์เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ทั้งคู่วางแผนทำบางอย่างเพื่อประโยชน์ร่วมกัน บริษัทสยามพาเหรดเกิดปัญหา เทวัญกับสารภีสืบจนพบว่าต้นเหตุมาจากคนของกรกนก มีหลักฐานการโกงโดยย้ายเงินเข้าบัญชีชิตพงษ์ เทวัญยื่นคำขาดกับกรกนกให้ชดใช้ความเสียหาย แต่เธอปากแข็งปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ อ้างเรื่องบุญคุณพี่สาวที่ช่วยเทพไทบริหารงานจนบริษัทก้าวหน้า ทำให้เทวัญยอมให้อภัย แต่คาดโทษไว้ กรกนกร้อนใจไปปรึกษาชิตพงษ์ ๆ บอกว่าต้องฆ่าเทวัญ กรกนกกังวลใจไม่น้อย เพราะเธอยังมีใจให้เทวัญอยู่ เทวัญและสารภีกลับจากตรวจงานโรงงาน รถถูกขนาบข้างด้วยมือปืน สารภีขับหนีการไล่ล่าเธอปกป้องเทวัญสุดชีวิต ทั้งคู่รอดมาได้ แต่เทวัญบาดเจ็บเพราะสละตัวเองรับกระสุนแทนสารภี สารภีเริ่มตระหนักในใจว่า ชายคนนี้สำคัญกับเธอมากเพียงใด ความสนิทสนมของทั้งคู่ อยู่ในสายตาของเอก ความรู้สึกกลัวที่จะถูกแย่งความรักผุดขึ้นอีกครั้ง เมื่อกรกนกรู้ว่าเทวัญจะไปขอสารภีกับยาย ก็ยิ่งใส่ไฟกับเอก เขาหนีออกจากบ้านท่ามกลางฝนที่ตกหนัก สารภีเสียใจรีบมาหาเอก เป็นเวลาเดียวกับที่เทวัญมาหาหลาน วันนั้นเอกจับไข้ กรกนกแกล้งทำดี ดูแลเอกต่อหน้าเทวัญ เธอโผกอดเทวัญสารภาพว่าชอบเขาและอยากให้เทวัญให้โอกาส ภาพที่ทั้งคู่กอดกัน อยู่ในสายตาสารภี เธอสะเทือนใจและเข้าใจผิด วิ่งออกจากบ้านไป ฝ่ายสารภีรู้ตัวว่ารักเทวัญ แต่ก็คิดว่าไม่ควรทำตัวเป็นปัญหากับเขา หากกรกนกแต่งงานกับเทวัญทุกอย่างจะลงตัวที่สุด ยายพิมพ์ห่วงหลาน โทรตามเวไนยมาเยี่ยม วันนั้นเวไนยสารภาพรักและขอสารภีแต่งงาน เฟื่องฟ้าได้ยินก็เสียใจมาก พอเฟื่องฟ้ากลับไป สารภีบอกกับเวไนยว่า เธอรักใครไม่ได้เพราะมอบใจให้เทวัญแล้ว เธอขอรักเวไนยแบบเพื่อน แบบพี่ชายที่แสนดี เพราะเธอรู้สึกกับเขาแบบนี้มาตลอด วันต่อมาสารภีไปลาออกจากสยามพาเหรด เทวัญวอนขอให้อยู่ต่อแต่ก็ไม่เป็นผล เขานึกน้อยใจที่สารภีไม่เห็นถึงความผูกพันที่เขามีต่อเธอ สารภีอ้างว่าสิ่งที่ทำไป ดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว สารภีไปลาเอกที่บ้านกรกนก แต่เอกยังโกรธ ไม่ยอมให้พบ ซ้ำยังด่าว่าเสียหาย แม้สารภีจะเสียใจ แต่เธอก็เข้าใจเอกเป็นอย่างดี คืนนั้น เทวัญเสียใจดื่มเหล้าจนเมา เรียกเอกมาสอนว่า นอกจากพ่อแม่และอาแล้วขอให้มั่นใจว่าไม่มีใครจริงใจกับเอกเท่าครูสารภี เอกถึงกับอึ้ง ภาพความผูกพันระหว่างเขากับสารภีผ่านเข้ามาในความคิด เอกแอบออกจากบ้านจะไปหาสารภี แต่บังเอิญเห็นกรกนกคุยกับชิตพงษ์ บอกว่าล้างสมองเอกแล้ว เอกโกรธมาก ออกไปด่าว่ากรกนก จึงถูกชิตพงษ์จับไปเป็นตัวประกัน สารภีรู้ว่าเอกถูกจับไปก็ร้อนใจรีบตามหา และรู้ว่าชิตพงษ์มีอู่ต่อเรือริมน้ำจึงมาซุ่มรอ ระหว่างนั้นเอกที่ถูกจับกำลังจะหนีมาได้อยู่แล้ว ชิตพงษ์กับกวินมาเห็นก่อน แต่ก่อนที่ชิตพงษ์จะทำร้ายเอก สารภีก็ปรากฏตัวปราดเข้าช่วยเอกไว้ ทั้งสองหนีการไล่ล่าเป็นพัลวัน สารภียอมเสี่ยงเอาตัวบังเอกที่กำลังโดนชิตพงษ์เล็งปืนมา จนเซตกลงในแม่น้ำ เทวัญตัดสินใจกระโดดลงแม่น้ำงมหาร่างสารภีอย่างไม่คิดชีวิต สารภีปลอดภัย กระสุนเพียงเฉี่ยวร่างเธอเท่านั้น ระหว่างไปโรงพยาบาลทั้งคู่กอดพร่ำบอกความในใจที่มีต่อกัน เทวัญรู้ว่ากรกนกร่วมมือกับชิตพงษ์ แต่ไม่อยากเอาผิดเธอเพราะยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นน้าของเอก กรกนกละอายใจมากเธอขอโทษเทวัญสำหรับเรื่องร้ายๆที่ผ่านมา เทวัญยกโทษให้ ในที่สุดชีวิตของเอกก็มีพร้อมหน้าอีกครั้ง แม้สารภีจะเป็นเพียงอาสะใภ้ แต่มั่นใจได้ว่าเธอรักเขาไม่น้อยไปกว่าแม่แท้ ๆ เลย เทวัญเรียนรู้ที่จะรักใครอีกคน สารภีไม่อาจแทนที่คนรักเก่าได้ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เขามั่นใจว่ารักสุดชีวิตเช่นกัน สารภีได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ เทวัญเป็นทั้งคนรักและผู้ปกครองที่จะนำพาชีวิตเธอให้ก้าวหน้า ไม่ต้องโลดแล่นอยู่บนโลกใบนี้อย่างโดดเดี่ยวต่อไปอีกแล้ว ติดตามชม ละครแม่คุณเอ๊ย ได้ทุกวัน เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครแม่คุณเอ๊ย เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2556

แม่ค้า 2556

เรื่องย่อ : แม่ค้า (2556/2013) ต้อย (วิณี) เป็นหลานของ ป้ามน คนรับใช้ในบ้านของ ดาราวดี ผู้ดีเก่าหัวโบราณ มีลูกชายชื่อ เดชา รับราชการในกระทรวง แต่มีจิตใจรักชอบต้อย ป้ามนพยายามห้ามปรามต้อยแต่ไม่สำเร็จ ทั้งสองแอบมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งจนต้อยท้อง เดชามีราชการต่างจังหวัด ดาราวดี ได้โอกาสจึงบังคับให้ต้อยออกจากบ้านโดยมอบเงินให้ก้อนหนึ่ง ต้อยจะไม่รับ ป้ามนบอกให้รับไว้เพื่อนำไปเป็นทุนเพื่อลูก

ต้อยออกจากบ้านไปพบกับ ปยุต คนขับรถแท็กซี่และ ฟ้าคำรณ นักมวยทั้งสองให้ความช่วยเหลือให้ที่พักอาศัย ยิ่งรู้ว่าต้อยกำลังท้องทั้งสองยิ่งช่วยกันดูแล โดยเฉพาะคำรณยอมสละห้องให้ต้อยอยู่ เมื่อเดชากลับจากต่างจังหวัดรู้ว่าต้อยหนีออกจากบ้านก็ออกตามหา โดยไม่ฟังเสียงห้ามของแม่ที่พยายามใส่ร้ายว่าต้อยหนีตามผู้ชายไป เมื่อมีผู้ให้ความช่วยเหลือต้อยก็มีกำลังใจในการที่จะต่อสู้ ต้อยเริ่มทำกับข้าวคือข้าวราดแกงออกขาย คำรณว่างจากซ้อมมวยก็จะมาช่วยต้อย ปยุตว่างจากขับรถก็จะมาช่วยล้างจานบ้างพาไปซื้อของบ้าง ความผูกพันเริ่มทวีขึ้นเรื่อย ๆ จนต้อยคลอดลูกเป็นผู้หญิง ปยุตก็ใส่ชื่อตัวเองว่าเป็นพ่อ ต้อยตั้งชื่อลูกว่า นิรชา (แตน) คำรณเห็นว่าต้อยคงจะมีใจกับปยุตมากกว่า คำรณจึงหลีกทางให้ปยุตและขอร้องปยุตว่าต่อไปอย่าทำให้ต้อยเสียใจ ปยุตรับคำ ทั้งสองจึงได้อยู่เป็นผัวเมีย

ปยุตให้ความรักแตนทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง ปยุตดีกับต้อยและแตนมาตลอดจนต้อยท้องและคลอดลูกผู้หญิงมาอีกคน ปยุตตั้งชื่อให้ว่า ปาลินี (ผึ้ง) ปยุตเริ่มเปลี่ยนไปไม่สนใจแตน แรก ๆ ต้อยก็คิดว่าปยุตเห็นผึ้งยังเล็กอยู่ แต่เมื่อมีลูกชายมาอีกคน ชื่อ ปิยะพัทธ์ (ต่อ) ปยุตก็ไม่เปลี่ยนมารักต่อ ยังคงให้ความรักต่อผึ้งมากกว่าเพื่อน แม้แต่เรื่องเรียน พอแตนเรียนจบมัธยมต้นปยุตก็ไม่ให้เรียนต่อ ให้ออกมาช่วยแม่ขายข้าวแกงส่งผึ้งกับต่อเรียน

ผึ้งกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 1 เรียนเก่งเป็นที่พอใจของทุกคนในบ้านโดยเฉพาะพ่อ ต่อเรียนไม่เก่งแค่สอบผ่าน ต่อกำลังเรียนอยู่อาชีวะปี 2 ความขัดสนเริ่มเข้ามาเยือนเนื่องจากปยุตกินเหล้าเมาแล้วไม่ไปขับรถหรือไปก็หาไม่คุ้มกับค่าเช่าจนเถ้าแก่ไม่ยอมให้ออกรถ ค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาวิทยาลัยของผึ้ง ซึ่งปยุตพยายามให้ลูกสาวอยู่ในแวดวงของพวกลูกคนมีเงิน ฉะนั้นค่าใช้จ่ายก็ต้องสูงไปด้วย ผึ้งจะเรียนอย่างเดียว ไม่เคยช่วยงานที่บ้านจนทำให้ผึ้งดูถูกอาชีพของแม่และพี่สาวโดยมีพ่อคอยให้ท้าย

แตนกับแม่พยายามขายข้าวแกงให้ได้มากขึ้น แต่ก็ไม่วายถูกกลั่นแกล้งจากคู่อริของแตนคือ เท่ง ซึ่งเป็นลูกชายจอมเกเรของ คุณนายวลัย เจ้าของสลัมที่พวกแตนเช่าอยู่ เท่งแกล้งขับรถมาชนรถเข็นขายข้าวแกงของแตนจนคว่ำเสียหาย ทำให้แตนและ สอน เพื่อนคู่หูของแตนเกิดการชกต่อยกันขึ้น สอนซึ่งเป็นนักมวยที่ค่ายของฟ้าคำรณซึ่งได้รับการฝึกจากคำรณมาบ้าง ทำเอาพวกของเท่งได้รับบาดเจ็บหลบหนีกันไป เมื่อกลับถึงบ้านคุณนายวลัยก็มาฟ้องปยุต และมาทวงค่าเช่ารวมทั้งเงินกู้ ทำให้ปยุตถึงกับลงมือกับแตนโดยตบหน้าแตน ต้อยพยายามห้ามและเล่าความจริงให้ฟัง ปยุตก็ไม่สนใจเพราะปยุตถือว่าคุณนายวลัยเป็นผู้มีพระคุณ แตนวิ่งหนีไปที่ค่ายมวยไประบายอารมณ์กับกระสอบทราย คำรณมองอย่างสงสาร แตนถามคำรณว่าปยุตเป็นพ่อจริง ๆ ของแตนหรือเปล่า แตนถูกคำรณดุว่าคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง แตนสงสัยว่าทำไมพ่อจึงรักลูกไม่เท่ากัน เมื่อแตนสบายใจแล้วก็กลับบ้านเพื่อไปช่วยแม่เตรียมของไว้เพื่อสำหรับขายในวันรุ่งขึ้น

ผึ้งกลับจากมหาวิทยาลัยก็ไม่สนใจที่จะช่วยงานที่บ้านโดยอ้างว่าการบ้านเยอะ ส่วนต่อกลับมาก็รีบช่วยแม่กับแตนทำทุกอย่างที่ทำได้ เมื่อปยุตเมากลับมาก็จะชอบพูดยกย่องว่าผึ้งเป็นเด็กดี เรียนก็เก่ง ต่อไปจะเป็นที่พึ่งของพ่อแม่ แล้วก็พูดถึงแตนว่าจะต้องเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงไปตลอดชีวิต รวมทั้งต่อด้วยที่จะต้องตัวดำมุดอยู่แต่ใต้ท้องรถหรือไม่ก็อาจจะติดยา ต้อยทนไม่ได้ก็เถียงขึ้นมาบ้าง ปยุตก็เงียบไป ผึ้งเข้ามาบอกว่า อาทิตย์หน้าจะต้องเอาเงินไปจ่ายค่าทัศนศึกษาหนึ่งพันบาท ปยุตก็บอกให้ต้อยเตรียมเงินไว้ให้ลูกด้วย ต้อยจะพูดแตนก็ห้ามไว้ แตนกับแม่ออกขายข้าวแกงวันดีคืนดีก็ได้พบกับพวกเท่งอีก แตนทนไม่ได้จึงบอกเท่งว่าถ้าก่อเรื่องอีกแตนจะยอมติดคุกและก็จะฆ่าล้างโคตรเลย เท่งเห็นว่าแตนเอาจริงจึงล่าถอยไปแต่ไม่วายที่จะหาทางแกล้งไม่ว่ากับแตนหรือกับน้อง ๆ

ต่อถูกนักเรียนฝ่ายตรงข้ามไล่ตีมาก็มาพบกับแตน สอนและแม่ขายข้าวแกงอยู่ แตนกับสอนจึงจัดการกับพวกนักเรียนเกเรกระเจิงไปแต่ก็หมดแกงไปหม้อหนึ่ง เมื่อกลับถึงบ้านก็ถูกพ่อด่าแล้วก็ทุบตีอีกที่ทำให้ของเสียหาย แตนก็วิ่งไประบายอารมณ์ที่ค่ายมวยอีก แต่พอวิ่งถึงตลาดแตนก็พบคนวิ่งราวกระเป๋าของคนแก่ แตนจึงเข้าสกัดแล้วแย่งเอากระเป๋าคืนมาได้แล้วก็ส่งคืนให้เจ้าของซึ่งก็คือดาราวดีกับป้ามนที่มาจับจ่ายซื้อของ ดาราวดีหยิบเงินให้แตนเป็นรางวัลแต่แตนไม่รับเดินจากไป ดาราวดีกับป้ามนมองแตนอย่างพินิจ ดาราวดีเอานามบัตรให้ป้ามนเอาไปให้แตนว่าถ้าเดือดร้อนไม่ว่างานหรือเงินให้ไปหา แตนบอกว่าอยากทำงานแต่มีความรู้แค่มัธยมต้น ป้ามนบอกให้ไปหาวันรุ่งขึ้น

ดาราวดีกลับถึงบ้านก็เล่าเรื่องที่ไปประสบมาให้เดชาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ฟัง แต่เดชาไม่สนใจ อาการป่วยของเดชาเป็นมานานนับสิบปี แต่เดชาไม่พยายามที่จะอยากหายเพราะไม่มีกำลังใจ หมอบอกถ้าเดชามีความพยายามและมีกำลังใจ สักวันหนึ่งเดชาก็จะเดินได้ ดาราวดีเกือบจะพลั้งปากบอกเดชาว่าแตนหน้าตามีส่วนคล้ายต้อยกับเดชา ส่วนป้ามนเมื่อกลับมาถึงก็รีบไปค้นหารูปต้อยสมัยสาว ๆ ขึ้นมาดู

คำรณกลับมาจากสนามมวยและรู้เรื่องที่แตนถูกตีอีกจึงออกไปหาแตนที่บ้าน เมื่อพบกับปยุตทั้งสองจึงมีปากเสียงกัน ปยุตก็เถียงแบบข้าง ๆ คู ๆ จนคำรณทนไม่ได้เลยต่อยปยุต ปยุตถึงกับสลบ แตนกลับมาบ้านมาเห็นจึงรีบช่วยแม่พาพ่อเข้าบ้าน คำรณเอาเงินให้แตนสองพันบาทเพราะรวยพนันมวยมา แตนจะไม่รับ คำรณบอกให้เก็บเอาไว้เวลาฉุกเฉิน หลังจากดูแลพ่อเรียบร้อยแตนก็ได้คุยกับแม่เรื่องที่จะไปหางานทำจะได้ไม่มีเรื่องให้ร้อนใจ ต้อยเตือนให้ระวังว่าอาจจะถูกหลอกได้

ต่อกลับมาถึงบ้านมืดผิดเวลาเมื่อแตนซักถามต่อก็อ้างว่าไม่อยากเข้าบ้านเพราะรำคาญเสียงพ่อด่า แม่ไล่ต่อไปอาบน้ำแล้วหาข้าวกิน วันรุ่งขึ้นหลังจากช่วยแม่จัดของและออกไปส่งแม่เรียบร้อยแตนก็ฝากเงิน 1,000 บาทไว้ให้ผึ้ง แตนบอกแม่ว่าคำรณให้ แล้วแตนก็ไปที่บ้านดาราวดี ดาราวดีตั้งหน้าตั้งตาคอยการมาของแตน ป้ามนก็เหมือนกัน ทั้งสองพยายามที่จะไม่ให้อีกฝ่ายรู้ แต่ทั้งสองก็รู้จนได้ เว้นเดชาคนเดียวที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แตนมาถึงป้ามนรีบพามาหาดาราวดีที่กำลังนั่งอยู่กับเดชา เมื่อสอบถามความปรารถนาของแตนแล้ว ดาราวดีก็เสนอให้มาทำหน้าที่ดูแลเดชา แตนก็ยินดี เดชาไม่สนใจแตน แตนถามถึงหลักฐานในการสมัครงาน ดาราวดีบอกไม่ต้องเพราะคิดว่าแตนเป็นคนดี ดาราวดีตั้งเงินเดือนให้แตนเดือนละ 4,500 บาท และให้หยุดอาทิตย์ละสองวันตามความต้องการของแตน แตนดีใจเพราะไม่คิดว่าจะได้มากถึงขนาดนี้ แตนตกลงจะมาเริ่มงานตั้งแต่วันพรุ่งนี้

แตนกลับไปบ้านไปบอกแม่กับพ่อ ปยุตไม่ว่าอะไรเพียงแต่ประชดว่าไปบอกไอ้ครูมวยรึยัง เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อช่วยงานแม่เสร็จแตนก็รีบไปทำงานที่บ้านดาราวดี โดยได้รับการชี้แนะจากป้ามนและดาราวดี แตนทำงานอย่างไม่มีท่าทีรังเกียจเดชาแม้ว่าเดชาจะทำสกปรก เป็นที่พอใจของดาราวดีมาก เมื่อว่างแตนก็จะหาหนังสือมาอ่านให้เดชาฟัง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์หรือหนังสืออื่น ๆ ที่เดชาต้องการ เดชาเริ่มชอบแตนและชอบนั่งมองแตนแต่ไม่พูดอะไร ดาราวดีมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของลูกชายภายหลังจากที่แตนมาดูแล ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร การแต่งตัว ยอมให้แตนทำให้ทุกอย่าง เริ่มพูดคุยกับแตนมากขึ้น แตนพยายามชวนให้เดชาออกกำลังตามที่ดาราวดีหาหนังสือคู่มือมาให้ เดชาก็ยอมทำตามทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนไม่เคยยอมใครแม้แต่หมอ ดาราวดีเสนอให้แตนมาค้างที่นี่จะจัดห้องบนตึกให้และจะจ่ายเงินเดือนเพิ่มให้อีกเท่าตัว วันหยุดยังเหมือนเดิม แตนขอไปปรึกษาแม่ก่อน ในตอนแรกต้อยก็ดีใจแต่ก็สอบถามว่าเป็นบ้านของใครอยู่ที่ไหน พอรู้ว่าเป็นบ้านของดาราวดี ต้อยก็มีคำสั่งห้ามไม่ให้แตนไปทำงานที่บ้านนั้นอีกเด็ดขาด และห้ามถามเหตุผล ถ้าแตนไม่เชื่อฟังแม่จะฆ่าตัวตายให้ดู ทำให้แตนตกใจมาก แต่ไม่พยายามที่จะถามให้แม่สะเทือนใจอีก และต้อยสั่งห้ามบอกใครทั้งสิ้น ถึงปยุตถามก็บอกว่าเลิกทำ ทำให้ปยุตตราหน้าว่าแตนไม่มีความอดทน

บ้านดาราวดีรอการกลับมาของแตน แต่ก็ไร้วี่แวว ทุกคนคาดการณ์ไปต่าง ๆ นานาด้วยความเป็นห่วง ดาราวดีได้ให้น้อยหน่าคนขับรถกับป้ามนไปตามหาแตน ป้ามนและน้อยหน่าเดินผ่านรถขายข้าวแกงของต้อยแต่ก็จำกันไม่ได้ แตนเห็นจึงหลบป้ามน แล้วสะกิดบอกแม่ว่านี่คือป้ามน เมื่อต้อยเห็นก็รีบเข็นรถหนี และเมื่อกลับถึงบ้าน ผึ้งก็กำลังจะออกไปทัศนศึกษากับเพื่อนที่ต่างจังหวัด และในเวลาต่อมาก็มีตำรวจมาตามหาต่อ แตนปฏิเสธว่าไม่มีคนชื่อต่อที่นี่ตำรวจก็กลับไป คนขับแท็กซี่มาบอกว่าปยุตไปออกแท็กซี่แล้วก็ถูกรถสิบล้อชน ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ต้อยตกใจทำอะไรไม่ถูก แตนจึงบอกให้ผึ้งอยู่ดูแลแม่และคอยบอกให้ต่อหลบตำรวจไปอยู่ที่ค่ายมวย ส่วนแตนจะไปดูพ่อ ผึ้งอยู่ไม่ได้เพราะได้เวลารถออกแล้ว แม่จึงให้ผึ้งไป แตนมองตามผึ้งอย่างน้อยใจ แม่ขอไปโรงพยาบาลกับแตน ทั้งสองคนแม่ลูกจึงไป ระหว่างทางเจอกับสอนจึงขอร้องให้สอนคอยดักต่อให้ไปหลบที่ค่ายมวยเพราะตำรวจมาตามตัว ที่โรงพยาบาลปยุตได้รับบาดเจ็บที่หัวและใบหน้านิดหน่อย แขนขวาหักเข้าเฝือก หมอบอกต้องอยู่อย่างน้อยก็เจ็ดวันถึงสิบวัน แตนเอาเงินที่เก็บไว้ไปจ่ายค่ายาให้ปยุต เมื่อเสร็จเรื่องของปยุตแตนก็รีบกลับเพราะเป็นห่วงต่อ เมื่อถึงบ้านก็รู้จากสอนว่าต่อถูกตำรวจรวบตัวไปที่สถานีตำรวจแล้ว แตนกับต้อยรีบตามไปที่สถานีตำรวจ ตำรวจจะกันต่อไว้เป็นพยานและเป็นสายให้ถ้ายอมร่วมมือ ถ้าไม่เช่นนั้นต่อจะต้องติดคุกหมดอนาคต เพราะมียาไว้ในครอบครอง ต่อพยายามอธิบายให้แม่กับพี่ฟังว่าไม่ใช่ของต่อ เพื่อนมันวิ่งหนีแล้วมายัดของให้ต่อ แตนขอให้ต่อให้ความร่วมมือกับตำรวจเพื่ออนาคตของต่อเอง ต่อตกลง ตำรวจจึงลงบันทึกประจำวันแล้วปล่อยต่อกลับไป

เมื่อกลับมาถึงบ้าน วลัยมายื่นคำขาดให้จ่ายค่าเช่าที่ค้างรวมทั้งเงินต้นและดอกตามกำหนด ไม่เช่นนั้นให้ย้ายออกไป แตนรับปากจะหาให้เมื่อแม่เข้านอน แตนได้เตือนต่อให้ระวังตัวมาก ๆ เพราะการเป็นสายให้ตำรวจถ้าฝ่ายค้ายาบ้ามันรู้มันฆ่าตายแน่

บ้านดาราวดีกลับเข้าสู่สภาพเดิมก่อนที่แตนจะเข้ามาหรืออาจจะยิ่งมากขึ้นก็ได้ แตนไปเยี่ยมพ่อหลังจากที่ช่วยแม่เตรียมของไปขาย ปยุตต่อว่าต้อยไม่มาเยี่ยมห่วงแต่ขายของไม่ห่วงชีวิตของผัว แตนพยายามอธิบายปยุตก็ไม่ฟัง ถามถึงผึ้งเมื่อรู้ว่าผึ้งไปตจว.ก็ไม่ว่าอะไร แตนกับต่อลากลับเพื่อจะไปช่วยแม่ขายของ เย็น ๆ จะกลับมาใหม่พร้อมกับแม่

ที่หน้าโรงพยาบาล แตนเห็นอาม่าแก่ ๆ กำลังมองซ้ายมองขวาเหมือนจะข้ามถนน แตนกับต่อเลยเข้าไปถาม เมื่อรู้ว่าจะหารถกลับบ้าน แตนจึงจัดการช่วยเหลือ เมื่ออาม่าส่งเงินและที่อยู่ให้แตนให้ต่อกลับไปช่วยแม่ก่อนเดี๋ยวจะตามกลับไป แตนเรียกแท็กซี่แล้วพาอาม่าขึ้นรถไป ภายในโรงพยาบาล ภวันกับภัทรมน สองแม่ลูกกำลังตามหาอาม่าถามใครก็ไม่มีใครเห็นภัทรมน จึงให้ภวันลูกชายโทรกลับไปบ้าน เผื่อว่าอาม่าจะหนีกลับบ้านก่อน ระหว่างทางอาม่ากับแตนคุยกันอย่างถูกคอ จนถึงบ้านแต่พาอาม่าเข้าบ้าน แม่บ้านรายงานว่า ตี๋เล็กหรือภวัน โทรมาตามหาอาม่า แม่บ้านรีบโทรกลับไป บอกภวัน แตนลากลับ เมื่ออาม่ารู้ว่าแตนขายข้าวแกงก็เลยสั่งให้เอามาส่งให้ในวันพรุ่งนี้อย่างละ 50 บาท แตนบอกอย่างละ 20 ก็พอ อาม่าไม่ยอมจะเอาอย่างละ 50 และแถมค่ารถไปกลับให้ด้วย และให้ส่งให้ทุกวัน ภวันกับภัทรมนกลับมาพอดีกับแตนจะออกไป ภวันเดินออกไปส่งแล้วจะเอาเงินให้แตน แตนไม่รับและสอนให้ภวันรู้จักน้ำใจว่าซื้อหาไม่ได้ ภวันไม่เชื่อว่าเงินจะซื้ออะไรต่อมิอะไรไม่ได้

เดชาจะออกไปตามหาแตนเอง โดยให้น้อยหน่าขับรถให้ ดาราวดีก็โทษตัวเองที่ไม่เอาสำเนาบัตรประชาชนของแตนไว้ เพราะอย่างน้อยก็มีที่อยู่ ป้ามนช่วยแก้ให้ ดาราวดีสบายใจว่าใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น รถของเดชาขับช้า ๆ คอยมองหาแตน แตนเดินข้ามถนนหลังรถเดชาแต่ไม่เห็นกัน เดชากลับบ้านให้เรียกทนายมาให้หานักสืบออกตามหา

แตนเล่าเรื่องอาม่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าอาม่าอยากจะตอบแทนที่แตนไปส่ง ก็เลยสั่งอาหาร แค่นี้เราก็รู้แล้วว่าอาม่ามีน้ำใจ เพราะฉะนั้นอย่าทำให้ท่านเป็นภาระเลย และโดยปกติแล้วคนจีนชอบทานอาหารจืด ๆ แต่กับข้าวของเราส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารไทยและรสจัด

วันรุ่งขึ้นอาม่ารอไม่เห็นแตนเอากับข้าวมาส่งจึงขอให้ภวันขับรถมาตามหา เพราะได้ยินแตนเล่าให้ฟังว่าขายอยู่ที่ไหน พอพบอาม่าลงมาต่อว่าแตนที่ไม่เอากับข้าวไปส่งเพราะรอกินอยู่ แตนแนะนำให้แม่รู้จักอาม่าและภวัน อาม่าชมว่าต้อยเลี้ยงลูกดีให้ลูกมีน้ำใจทั้ง ๆ ที่ต้องมาช่วยแม่ขายของแล้ว เย็นก็ต้องกลับไปดูพ่อที่โรงพยาบาลอีก อาม่าเหมาหมดทุกอย่าง แตนพยายามทักท้วง อาม่าบอกว่าที่บ้านคนเยอะแค่นี้ไม่พอหรอก แล้วอย่าลืมพรุ่งนี้ให้เอาไปส่งหรือว่าจะให้มาเอาเอง แตนรับปากว่าจะเอาไปส่งเพราะไม่อยากจะเห็นคนหน้าบึ้ง แตนอดที่จะเหน็บภวันไม่ได้ อาม่าหัวเราะชอบใจแล้วขึ้นรถกลับไป แตนมองเงินในมือแม่ แม่ยิ้มด้วยความตื้นตันใจที่เห็นคนมีน้ำใจ เมื่อคลี่ออกมาเป็นเงินใบละร้อยห่อเงินใบละห้าร้อยอยู่เมื่อภวันกลับมาส่งอาม่า ภวันจึงขออนุญาตไปหาเพื่อนที่ต่างจังหวัด ภวันไปพบกับ สวิต เพื่อนสนิทที่มาเที่ยวกับเพื่อน ๆ ของน้องสาว สวิตสนใจผึ้ง ผึ้งเองก็สนใจสวิตเหมือนกัน สวิตพยายามชวนผึ้งดื่ม แรก ๆ ผึ้งก็ปฏิเสธเพราะไม่เคย แต่ทนแรงเชียร์จากเพื่อน ๆ ไม่ไหวจึงยอมดื่ม เมื่อมีแก้วแรกก็ย่อมมีแก้วต่อ ๆ ไป ผึ้งเริ่มเมาก็เริ่มไม่หวงตัว กอดคลอเคลียร์กับสวิต จนดึกทุกคนแยกย้ายกันเข้านอน สวิตก็พาผึ้งเข้านอนเช่นกัน

วันรุ่งขึ้นขณะที่แตนเอากับข้าวไปส่งให้อาม่า ดาราวดีกับป้ามนมาถามหาคนชื่อแตนกับต้อย ต้อยก้มหน้าตอบว่าไม่รู้จักแล้วก็รีบเข็นรถหนีไป ดาราวดีกับป้ามนมองตามอย่างงง ๆ ที่บ้านอาม่า ภวัต ลูกชายอาม่ากับ ภัทรมนลูกสะใภ้ชวนแตนให้มาทำงานด้วยดีกว่าไปขายข้าวแกงอีก ชวนให้แม่มาด้วยก็ได้ อาม่ามีงานให้ทำ แตนขอไปปรึกษาแม่ก่อน เมื่อแตนกลับมาถึงก็ปรึกษาแม่ แม่รู้ว่าภัยกำลังเข้ามาใกล้ลูกแล้วจึงอนุญาตให้แตนไปทำ แต่ตัวเองทิ้งไปไม่ได้หรอก ผึ้งลงจากรถเก๋งของภวันที่มีสวิตนั่งอยู่ แตนมองเห็นจำได้ แต่แตนไม่ถาม ผึ้งกลับเข้าบ้านมีอาการแปลก ๆ แตนช่วยแม่ทำความสะอาดเสร็จถึงชวนกันไปเยี่ยมพ่อ ผึ้งผลัดรอไปพรุ่งนี้ แตนกับแม่จึงไปเพียง 2 คน

หลายวันต่อมา ปยุตออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักที่บ้าน ต่อมาเล่าให้แตนและคำรณฟังเรื่องตำรวจกำลังจะกวาดล้างพวกค้ายาโดยมีต่อเป็นหน้าม้า คำรณให้ระวังอย่าพูดให้ใครฟังอีก ไม่เช่นนั้นจะไม่ปลอดภัยทั้งครอบครัว ผึ้งกลับบ้านผิดเวลาตลอดถ้าถามก็จะอ้างกิจกรรมเยอะ แต่แท้ที่จริงไปคลุกอยู่ที่ห้องของสวิต การเรียนเริ่มตกต่ำ แตนไปทำงานที่บ้านภวัน ทั้งสองชอบกัดกันในเรื่องที่ภวัตไม่รู้จักค่าของเงิน อาม่ามองอย่างพอใ

ต่อไปทำงานให้ตำรวจโดยไม่มีโอกาสบอกใคร เหตุการณ์เกิดผิดพลาดต่อถูกยิงอาการสาหัส ตำรวจนำส่งโรงพยาบาลและไปแจ้งให้ที่บ้านรู้ซึ่งมีแต่ปยุต ปยุตรีบออกไปตามต้อยเพื่อที่จะไปดูลูกที่โรงพยาบาล ต้อยโทรศัพท์ตามแตน แตนตกใจจึงขออนุญาตอาม่าไปเยี่ยมต่อ อาม่าให้ภวันขับรถไปส่งที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงได้พบกับแม่และพ่อปยุตบ่นว่าต่อหาแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้ ไม่รักดีไปคบกับพวกยาบ้า แตนทนไม่ได้จึงเล่าความจริงให้ฟัง แทนที่รู้ความจริงแล้วปยุตจะเห็นใจกลับหาว่าต่ออยากดัง ไปยุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแล้วยังหันมาด่าแตนว่าไม่ดูแลน้อง ต้อยฟังแล้วก็ช้ำใจที่ปยุตเป็นคนไม่มีเหตุผล ต้อยโกรธจนเป็นลม แตนต้องร้องเรียกให้พยาบาลมาช่วย ภวันได้รู้ได้เห็นเริ่มเข้าใจชีวิต พยาบาลพาต้อยเข้าห้องฉุกเฉิน ส่วนต่อก็ยังอยู่ในห้องผ่าตัด อาม่าโทรศัพท์เข้ามือถือภวัน ภวันรายงานให้อาม่ารู้ อาม่าสั่งให้ภวันอยู่จัดการทุกอย่างให้หาห้องพิเศษให้ ค่าใช้จ่ายอาม่าจัดการเอง พยาบาลออกมาบอกแตนว่า ต้อยเป็นโรคหัวใจและความดันเป็นอันตรายมาก ถ้าเป็นอีกมีสิทธิที่จะเสียชีวิต แตนกับปยุตฟังถึงกับอึ้ง ปยุตบ่นว่าจะหาเงินที่ไหนมารักษาทั้งแม่และลูก ภวันบอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะอาม่าโทรศัพท์มาสั่งให้จัดการแล้ว ปยุตค่อยเบาใจ ปยุตแอบกระซิบกับแตนว่าภวันเป็นแฟนหรือ แตนดุพ่อ

เช้าอาม่าขอให้ภวันพาไปเยี่ยมแม่และน้องของแตน ส่วนภวัตและภัทรมนจะไปเยี่ยมเพื่อนก่อนแล้วจะตามไป อาม่ามาเห็นสภาพแตนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไหนจะแม่ไหนจะน้องที่ยังไม่พ้นขีดอันตรายยังอยู่ในห้องไอ ซี ยู อาม่าปลอบใจแตน แตนขอบคุณอาม่าที่ให้ความช่วยเหลือ อาม่าบอกให้ภวันพาแตนกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยมาใหม่ อาม่าจะอยู่เฝ้าให้ แตนจะไม่ยอม ภวันจึงเตือนว่าถ้าแตนล้มอีกคนใครจะมาช่วยดูแลแม่กับน้อง แตนจึงยอมไป ภวัตกับภัทรมนกำลังพูดคุยอยู่กับเดชาที่เป็นเพื่อนเก่าและดาราวดี ดาราวดีเล่าให้ภวัตฟังว่า อาการของเดชาเกือบจะดีแล้วเมื่อได้เด็กคนหนึ่งมาช่วยดูแล เดชามีกำลังใจมาก แต่อยู่ ๆ เด็กก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยไปตามหาที่ไหนก็ไม่พบ เดชาก็ออกไปตามเอง เดชาบอกว่าเด็กชื่อแตนทำให้สองผัวเมียมองหน้ากัน ภัทรมนจึงเล่าเรื่องแตนให้ฟัง เดชาได้ยินจึงอยากพบแตน และเมื่อรู้ว่าไปเฝ้าไข้แม่และน้องที่โรงพยาบาล เดชาก็ขอให้ภวัตพาไป เดชารีบเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จนแม่และป้ามนตามแทบไม่ทัน

ที่บ้านแตน แตนมาถึงขณะที่วลัยพาพวกมาทวงเงินและถ้าไม่ได้จะรื้อบ้าน ภวันถามจำนวนเงิน เมื่อรู้จึงควักกระเป๋าจ่ายให้ เท่งพูดก่อนจากไปว่ารีบหาผัวให้น้องได้แล้ว เพราะผึ้งกำลังแพ้ท้อง เดี๋ยวจะได้ลูกโดยไม่มีพ่อ ผึ้งวิ่งออกมาอ้วกและพอเห็นภวันก็ตกใจเรียกชื่อภวัน แตนงงและสงสัยว่าทำไมทั้งสองจึงรู้จักกัน แตนพาผึ้งเข้าบ้านเพื่อซักถามอาการ ผึ้งรับว่าประจำเดือนได้ขาดหายไปเป็นเดือนที่สองแล้ว แตนถามถึงพ่อเด็กในท้อง ผึ้งไม่ยอมบอก แตนหันไปถามภวัน ผึ้งห้ามไม่ให้ภวันบอก ทำให้แตนคิดว่าต้องเป็นภวันแน่ ๆ แตนไล่ภวันกลับไป ปยุตกลับเข้ามาเห็นผึ้งร้องไห้ก็เอะอะเอากับแตน ภวันไปหาสวิตที่บ้าน ให้สวิตรับผิดชอบแต่สวิตปฏิเสธ อ้างว่าถ้าพ่อแม่รู้ ตนจะไม่ได้ไปเรียนต่อ ภวันโกรธเพื่อนมากจึงตัดความเป็นเพื่อน

ที่โรงพยาบาล อาม่านั่งเฝ้าต้อยอยู่ ภวัตพาดาราวดีและภัทรมนเข้าเยี่ยม อาม่าและภวัต ภัทรมนจึงออกมารออยู่ข้างนอก เดชากับดาราวดีเห็นต้อยก็จำได้ถึงแม้ว่าจะดูโทรมไปมาก เดชาเข้าไปบีบมือต้อยด้วยความสงสารน้ำตาไหลอาบแก้ม ดาราวดีก็น้ำตาไหลเสียใจที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง ได้แต่พูดเบา ๆ ว่าขอโทษ ดาราวดีออกมาเล่าเรื่องให้อาม่า ภวัตและภัทรมนฟังอย่างคร่าว ๆ ว่าแท้จริงแล้วแตนคือลูกของต้อยกับเดชา ตั้งแต่นั้นมาตนและลูกก็รับกรรมที่ทำมาตลอด ภวัตขอร้องให้กลับกันไปก่อนเพราะถ้าต้อยตื่นขึ้นมาเห็น ถ้ารับไม่ได้อาการโรคหัวใจจะทรุดหนัก ภวัตขอร้องไม่ให้ดาราวดีบอกว่าแตนเป็นลูกของเดชา ดาราวดีรับคำ เมื่อกลับถึงบ้านจึงเล่าให้ป้ามนฟังและคิดว่าเดชายังคงไม่รู้ แต่เดชาปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับบอกว่าตนรู้เรื่องว่าต้อยท้องสามเดือนก่อนต้อยจะจากไป แตนกลับมาที่โรงพยาบาลก็เห็นผึ้งนั่งเฝ้าแม่อยู่ ผึ้งบอกว่าอาม่าจะมาเยี่ยมอีกในวันพรุ่งนี้ ต้อยเริ่มรู้สึกตัว แตนรีบไปตามพยาบาลมา แม่ถามถึงอาการของต่อ แตนบอกว่าปลอดภัยแล้ว ผึ้งอาสาจะเฝ้าไข้แม่ แตนก็ต้องไปเฝ้าไข้ต่อ เมื่อทุกคนหลับแตนกับผึ้งได้คุยกันอีก แตนพยายามถามว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้อง ผึ้งไม่ตอบ แต่บอกว่าไม่ใช่ภวัน แตนบอกให้ผึ้งระวังอย่าทำให้พ่อกับแม่รู้ซะก่อนแล้วแตนจะหาทางจัดการแก้ไขเอง เพราะแม่เป็นโรคหัวใจ ส่วนพ่อก็หวังในตัวผึ้งมาก ถ้ารู้ท่านก็คงจะผิดหวังมาก ผึ้งขอโทษแตน แตนปลอบน้อง

เดชาตื่นแต่เช้าพยายามช่วยตัวเองไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ แต่งตัวเพื่อที่จะได้ออกไปพบต้อยกับแตน ดาราวดีเห็นก็ยิ่งเกิดความสงสารมากขึ้น ภวัตมารับเดชากับดาราวดีไปที่โรงพยาบาลได้พบกับแตนและผึ้งที่กำลังจะกลับบ้าน แตนดีใจที่ได้พบเดชากับดาราวดี แตนเล่าถึงสาเหตุที่ไม่ได้กลับไปทำงานต่อ เพราะแม่สั่งห้ามไม่อย่างนั้นแม่จะฆ่าตัวตาย ภวัตได้ยินก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แน่ ยิ่งต้อยเป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย จึงขอให้เดชากับดาราวดีอย่าเพิ่งเข้าเยี่ยมต้อยเลย เดชากับดาราวดีขอเป็นเจ้าของไข้ และขอร้องแตนอย่าได้ปฏิเสธเลย ภวัตตัดบทไว้ค่อยคุยกันทีหลัง ดาราวดีส่งเงินให้แตน แตนไม่รับ ดาราวดีบอกว่าเป็นเงินค่าแรงที่แตนทำงาน แตนจึงรับ

เท่งกำลังเล่าว่าเห็นผึ้งมีอาการแพ้ท้องให้ปยุตฟัง ปยุตไม่เชื่อ พวกเท่งแซวว่าปยุตจะได้หลานโดยไม่รู้ว่าใครเป็นลูกเขย ปยุตเดินเมากลับบ้านพร้อมกับความแค้น เพราะนึกว่าคนที่เท่งพูดถึงคือแตน เมื่อมาถึงจึงเข้าตบแตนและก็ด่าว่าไม่รักดี ท้องให้พ่อแม่อับอายชาวบ้าน ปยุตด่าว่าแตนใจง่ายเหมือนแม่จนต้องท้องไม่มีพ่อ ต้องมาอาศัยคนอื่นเป็นพ่อ ผึ้งทนไม่ได้จึงรับสารภาพว่าคนที่ท้องไม่ใช่แตนแต่เป็นผึ้งเอง ปยุตได้ยินถึงกับช็อก ขณะที่คำรณเข้ามาพอดี คำรณพยายามที่จะเข้าไปปลอบปยุต ปยุตไม่ฟังได้แต่พูดว่าไม่จริงเป็นไปไม่ได้ ปยุตเดินออกจากบ้านไป คำรณบอกให้สอนตามไปดูห่าง ๆ แตนพาผึ้งเข้าบ้านแล้วออกมาคุยกับคำรณเพื่อถามถึงพ่อที่แท้จริง คำรณไม่รู้นอกจากต้อยคนเดียวที่รู้

เมื่อต้อยอาการดีขึ้นก็สังเกตเห็นท่าทีของแตนที่เงียบเหงาไปจึงถามผึ้ง ๆ บอกว่าแตนรู้แล้วว่าพ่อปยุตไม่ใช่พ่อที่แท้จริง ต้อยเรียกแตนเข้าไปกอดด้วยความรักและสงสารที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับแม่และน้อง ๆ ผึ้งบอกว่าตั้งแต่แม่ไม่สบายแตนยังไม่ได้นอนเลย ต้อยยิ่งสงสารลูกมากขึ้น ต้อยจึงเล่าเรื่องของพ่อแตนให้ฟังและขอให้แตนยกโทษให้กับทุกคนแล้วถือว่าเป็นบาปกรรมที่เราต้องชดใช้ แตนบอกต้อยว่าเดชากับดาราวดีมาเยี่ยมตั้งสองสามครั้งขณะที่ไม่ได้สติและดาราวดีขอเป็นเจ้าของไข้ให้แม่ด้วย คืนนี้แม่ขอร้องให้แตนกับผึ้งกลับไปนอนที่บ้านไปดูพ่อด้วย ผึ้งกำลังจะบอกแม่ แตนจึงแกล้งชวนผึ้งกลับ พอกลับไปถึงบ้านแตนกับผึ้งก็ได้เห็น ภวันนั่งคอยอยู่กับสวิต ผึ้งเห็นจึงเลี่ยงหนีเข้าบ้าน ภวันพยักหน้าให้สวิตตามเข้าไป แตนขอโทษภวันที่เข้าใจผิด ทั้งสองคู่เข้าใจกัน สวิตจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอผึ้งและแต่งงานโดยเร็ว แตนพอใจและขอบใจภวันที่ช่วยเหลือ

ตกดึก ปยุตได้เข้ามาหามาขอโทษต้อยที่ทำตัวไม่ดีและขอยอมรับผิดทุกอย่าง ต้อยยกโทษให้ขณะที่ทั้งสองเข้าใจกัน เดชาได้เข็นรถเข้ามา ต้อยตกใจ ปยุตมองและเข้าใจจึงเชิญให้เดชาเข้ามา ส่วนตัวเองจะออกไป เดชาขอร้องให้ปยุตอยู่ด้วย เดชามาขอโทษต้อยและขอขอบใจ ปยุตที่ช่วยดูแลต้อยและลูกในท้อง ทั้งสามเข้าใจกัน เดชาขอร้องให้ต้อยพาแตนไปที่บ้านส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง รับรองว่าจะไม่มีการพรากใครไปจากกันอีก

เมื่อต้อยและต่ออกจากโรงพยาบาลจึงพากันไปบ้านดาราวดี ดาราวดีให้การต้อนรับอย่างกับลูกหลาน อาม่าและครอบครัวก็มาแสดงความยินดีด้วย รวมทั้งครอบครัวของสวิตที่จะมาสู่ขอปาลินีหรือผึ้ง อาม่าก็มาสู่ขอแตนให้กับภวันหรือตี๋เล็ก ทุกคนมีความสุข ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครแม่ค้า ได้ทุกวัน เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครแม่ค้า เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2556

โคกอีเลิ้งเริงร่า 2556

เรื่องย่อ : โคกอีเลิ้งเริงร่า (2556/2013) ตำบลโคกอีเลิ้ง พื้นที่ชนบทที่กำลังได้รับการพัฒนาโดย ปลัดโอมชนะ (รังสิต ศิรนานนท์) ปลัดหนุ่มนักพัฒนาคนเก่งที่เดินหน้าให้ความรู้กับคนในโคกอีเลิ้ง เป็นปลัดหนุ่มรูปหล่อพ่อรวย แต่โดนตัดออกจากกองมรดก เพราะพ่อกับแม่อยากให้กลับไปบริหารธุรกิจของที่บ้าน พบู (อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล) พยาบาลสาวประจำโรงพยาบาลตำบลโคกอีเลิ้ง ชุมชนตำบลโคกอีเลิ้งได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วเพราะความร่วมมือ ความมีน้ำใจของคนในชุมชนโคกอีเลิ้ง ไม่ว่าจะเป็น ครูกมลมิตร (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) ซึ่งครูกมลเป็นครูหนุ่มหล่อมาดเข้ม พ่อแม่รวยที่ดิน แต่ติดจำนองเพราะช่วยญาติ จึงถูกแม่พเยียกีดกันไม่ให้เข้าหอ เพราะพเยียรู้ว่าที่นาถูกจำนอง ครูจึงใช้ความจริงใจเพื่อพิสูจน์รักแท้กับพรไพร ซึ่ง ครูพรไพร (ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) เป็นครูที่สอนโรงเรียนเดียวกับครูกมล และยังเป็นพี่สาวของพบูอีกด้วย ภายหลังจากที่ปลัดโอมชนะและพบู ครูกมลมิตรและครูพรไพรได้ตกลงคบหาดูใจ เป็นคู่รักกันแล้ว การดำเนินชีวิตของพบูยังคงเหมือนเดิม ถึงแม้จะถูกกีดกันโดยคุณแม่พเยีย คือจะแวะเวียนมาทำผมที่ร้าน เจ๊แน่งน้อย (กรุณา มอริส) ร้านทำผมซาลอนสุดกิ๊ฟเก๋กลางหมู่บ้าน แหล่งรวมสารพัดข่าวชั้นดี ถือเป็นสถานที่ซึ่งผู้หญิงทุกคนโดยเฉพาะลูกค้าสาวที่ช่างเม้าท์เรื่องต่างๆ ในโคกอีเลิ้งจะแวะเวียนมาทำผมเสมอ เพราะนั้นหมายถึงจะได้อัพเดมทข่าวสารไปด้วย และยังมีร้านประจำอีกหนึ่งร้านที่พบูจะแวะมาซื้อโอเลี้ยงร้านโกแฉะเจ้าประจำ ร้านกาแฟ โกแฉะ (แฉ่ง ช่อมะดัน) เป็นร้านกาแฟร้านเดียวในตำบล เป็นจุดศูนย์รวมของคนทุกเพศทุกวัยในโคกอีเลี้ง เปรียบเสมือนโต๊ะสภากาแฟขนาดเล็ก และยังเป็นร้านประจำที่กำนันคงและผู้ใหญ่ถึก มักจะมานั่งจิบกาแฟ โดยเฉพาะ ผู้ใหญ่ถึก (ปราบ ยุทธพิชัย) และ กำนันคง (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) ถือเป็นคู่ปรับ ไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด แม่เพยีย (นาตยา จันทร์รุ่ง) แม้ลูกสาวทั้งสองจะแต่งงานแล้ว แต่พเยียก็ยังไม่ยอมรับปลัดโอมและครูกมล แต่ก็ยังหวงลูกสาวทั้งสองอยู่ดี โดยยื่นข้อเสนอให้สองเขยว่า จะไม่ให้ส่งตัวเข้าหอเด็ดขาดจนกว่าครูกมลจะปลอดหนี้และปลัดจะได้รับมรดกร้อยล้าน ส่วน พ่อตะโพน (สุรชัย สมบัติเจริญ) ผู้เป็นสามี แม้จะถูกใจชอบพอและสนับสนุนว่าที่ลูกเขยทั้งสองอย่างไร ก็ไม่กล้าขัดใจแม่เพยีย ตะโพนเป็นคนชอบเสียงเพลงและเล่นดนตรี โดยเมื่อมีเรื่องงานสังคมบันเทิงในหมู่บ้านจะไปช่วยงานเต็มที่ ทำให้มีเรื่องนี้เรื่องเดียวที่พ่อตะโพนกล้าขัดใจกับแม่พเยีย แต่เพยียก็ยอมให้พบูและพรไพรได้แต่งงานกัน แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในพิธีแห่ขันหมาก โดยมีแก๊งของ กำนันคง และ เส้นใหญ่ (นันทศัย พิศลยบุตร) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของกำนันคง รวมทั้งหลานสาว แจนจิรา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) มาร่วมมือกันวางแผนก่อกวนเพื่อชิงปลัดโอมจากพบู และยังขึ้นรถขยายเสียงประกาศทั่วโคกอีกเลิ้งว่า วันนี้เป็นวันอัปมงคลทำให้แม่เพยีย เลื่อนการส่งตัวเข้าหอระหว่าง ปลัดโอมชนะกับพบู และพรไพรกับกมล เมื่อแม่เพยียไม่ยอมให้ปลัดโอมชนะและกมลเข้าหอกับพบูและพรไพร ทั้งสองคนจึงทำทุกทางที่จะเข้าหอให้ได้ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ผู้ใหญ่ถึก ซึ่งเป็นน้องชายของแม่เพยีย ความวุ่นวายเริ่มเกิดขึ้นในโคกอีเลิ้ง มีชาวบ้านมาร้องเรียนเกี่ยวกับถนนในโคกอีเลิ้งกับปลัดโอมชนะมากมายว่า มีถนนชำรุดทั่วโคกอีเลิ้งจะไปไหนก็สัญจรลำบาก จึงมีการประมูลซ่อมถนนเกิดขึ้น โดยที่ผู้ใหญ่ถึกร่วมประมูลอีกเช่นเดิม แต่ที่แปลกกว่านั่นคือ ตะโพนได้ลงร่วมประมูลครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้กำนันคงกลัวว่าจะไม่สามารถประมูลสร้างถนนได้ จึงจะใช้วิธียัดเงินให้กับปลัดโอมชนะ แต่ก็โดนปลัดปฏิเสธกลับไป ผลสุดท้ายคนที่ชนะการซ่อมประมูลก็ไม่ใช่ตะโพนและกำนันคง แต่เป็นคนมาจากที่อื่นมาประมูลไปได้อย่างเฉียดฉิว หลังจากที่การประมูลซ่อมถนนเสร็จสิ้นไป กำนันคงก็อยากที่จะใช้เส้นให้เป็นนายก อบต. โดยการสั่งให้ไอ้ลูกชิ้นและไอ้ถั่วงอก ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทไปขู่ให้นายก อบต.คนปัจจุบันลาออก เพื่อที่จะได้ให้เส้นใหญ่ลงสมัครนายก อบต. แต่การแข่งขันเลือกนายก อบต.ในปีนี้ไม่ง่ายอย่างที่กำนันคงคิด เพราะตะโพนได้ลงสมัครด้วย เพราะสาเหตุมาจากที่รถขนดินของกำนัน ทำให้พบูเกิดอุบัติเหตุ จึงทำให้ตะโพนแค้นใจมาก จึงลงสมัครแข่งกับพวกของกำนันคง ทั้งสองฝ่ายต่างเสนอนโยบายต่างๆ เพื่อที่พี่น้องชาวโคกอีเลิ้งสนใจ โดยตะโพนได้ชูนโยบาย ไม่กลัวเมีย เมื่อเพยียรู้เข้าก็โกรธตะโพนมาก แต่ผลการเลือกตั้งคนที่ได้รับเลือกเป็นนายก อบต.ก็เป็นคนหนุ่มโคกอีเลิ้งรุ่นใหม่ไฟแรงได้ตำแหน่งไปแทน เมื่อมีสิ่งแปลกใหม่เข้ามาในโคกอีเลิ้ง ทำให้ชาวโคกอีเลิ้งต่างสนใจกับสิ่งๆ นั่นก็คือ ธุรกิจขายตรงอาหารเสริมสุขภาพได้เข้ามาขายในโคกอีเลิ้ง ทำให้ทุกคนต่างแย่งกันที่จะมีอาหารเสริมเพื่อสุขภาพกิ๊บๆ ไว้ครอบครอง แต่พบูก็สงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะสามารถช่วยสุขภาพได้จริงหรือไม่ จึงได้นำไปตรวจสอบกับคุณหมอที่โรงพยาบาล ผลที่ได้ก็คือ มันคือทรายไม่มีประโยชน์ใดๆ กับร่างกายเลย ทำให้โกแฉะรีบโทรไปที่บริษัทที่ผลิตเพื่อที่จะคืนสินค้า จนได้ทราบว่าบริษัทนี้ได้หนีไปแล้ว ส่งผลให้แต่ละคนต้องเสียเงินกับอาหารเพื่อสุขภาพวาเลนไทน์กิ๊บๆ ไม่ว่าจะเป็น โกแฉะ แม่เพยีย รวมทั้งกำนันคงที่เสียเงินไปมากที่สุด จากนั้น มีการกระจายข่าวทั่วโคกอีเลิ้งว่าจะมีกองถ่ายมาถ่ายที่โคกอีเลิ้ง ทำให้ทุกคนในโคกอีเลิ้งต่างตื่นเต้น แต่งตัวหล่อ สวย เพื่อที่จะได้เป็นดารา สาวๆ ทั่วโคกอีเลิ้งมาต่อคิวทำผมกันที่ร้านแน่งน้อยกันแน่นร้าน เพื่อที่ผู้กำกับและแมวมองจะสนใจพาไปเป็นดารา ชาวโคกอีเลิ้งต่างวาดฝันที่จะเปลี่ยนโคกอีเลิ้งให้เป็นฮอลลีวู๊ด แต่ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เพราะแท้ที่จริงแล้วไม่ใช่กองถ่ายหนัง และความฝันจะเป็นดาราไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ ด้านโรงเรียนโคกอีเลิ้ง ได้มีการจัดการแข่งขันกิจกรรมโรงเรียนหวานแหว๋ว ทำให้คุณครูแต่ละคนในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นครูกมล ครูพรไพร รวมทั้ง ครูหวาน (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) เป็นครูที่เพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนโคกอีลอย ได้มาตกหลุมรักครูกมล ครูหวานคิดที่จะหาวิธีในการที่จะชนะในกิจกรรมโรงเรียนหวานแหว๋ว เพื่อครูกมลจะได้หันมาสนใจ ครูหวานจึงคิดไปกู้เงินจากครูใหญ่เพื่อที่จะได้ซื้อชุดเครื่องเสียง ทีวีมาเปิดให้เด็กๆ ได้ดูกัน ส่วนครูกมลก็ได้ผลิตจานดาวเทียมขึ้นมาเอง เพื่อที่จะให้นักเรียนได้เรียนทางไกล แต่ก็ทำให้ครูใหญ่เกิดไฟช๊อตขึ้นจากผลงานจานดาวเทียมของกมลที่นำเอากระทะมาเป็นจานดาวเทียม แต่พรไพรกลับให้เด็กๆ จัดห้องเรียนด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่นักเรียนทำเองอย่างประหยัด ทำให้พรไพรชนะเลิศ ในโครงการโรงเรียนหวานแหว๋ว ครูหวาน ได้เปิดร้านเบเกอรี่ ขนมอบใหม่ในโคกอีเลิ้ง เนื่องจากไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อนในหมู่บ้านเล็กๆ แถมยังห่างไกลอย่างนี้ เพราะโดยปกติแล้วขนมกับของว่างของชาวโคกอีเลิ้ง ก็จะเป็นขนมไทยๆ อย่างเช่นกล้วยบวชชี ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ข้าวต้มมัด อะไรทำนองนี้ ขนมปัง ขนมเค้กและขนมอบต่างๆ ที่คนในเมืองใหญ่นิยมกัน ไม่ใช่ของที่หากินได้ง่ายในหมู่บ้าน ใครที่อยากกินขนมปังหรือเค้ก ก็จะต้องนั่งรถประจำทางเข้าไปในตัวจังหวัด ดังนั้นทุกคนต่างสนใจกับเบเกอรี่ของครูหวาน ความอลหม่านในโคกอีเลิ้งยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีเทคโนโลยี 3G เข้ามาในโคกอีเลิ้ง และยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเช่น แทปเลต คอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน ทำให้คนในโคกอีเลิ้งเริ่มใช้โทรศัพท์กันมากขึ้น จนกำนันคงได้คิดธุรกิจเกี่ยวกับโทรศัพท์ จึงได้เปิดร้านขายโทรศัพท์ในโคกอีเลิ้ง ชาวบ้านต่างแห่กันมาซื้อมากมาย จากที่เทคโนโลยีได้เข้ามาในโคกอีเลิ้ง ทำให้ทุกคนในโคกอีเลิ้งต่างหมกหมุ่นอยู่กับแต่เทคโนโลยีใหม่ๆ และโทรศัพท์ จึงไม่มีใครคุยกับใคร คอยที่จะจ้องอยู่ที่หน้าจอ เพื่อที่จะคุยผ่านโปรแกรมไลน์ และโปรแกรมแชทต่างๆ ทำให้มีการพูดคุยกันน้อยลง ด้านพบูและโอมชนะ ก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าหอกันได้ เพราะการขัดขวางของแม่เพยีย มิหนำซ้ำยังโดนแจนจิราคอยมาขัดขวาง และสร้างความแตกร้าวระหว่างพบูและโอมชนะอยู่บ่อยครั้ง ส่วนพรไพรต้องเสียใจกับครูกมลอยู่ตลอด เพราะครูหวานชอบมาทำตัวสนิทสนมกับครูกมลอยู่ ทำให้พรไพรและกมลเกิดการเข้าใจผิดกัน อาการเสียใจของพบู และครูพรไพรไม่ต่างกัน ทั้งคู่ต่างปรับทุกข์ถึงความเปลี่ยนแปลงของคู่รักตน ปลัดโอมและครูกมลจะปรับความเข้าใจกับพบูและครูพรได้หรือไม่ และจะพิสูจน์ให้แม่พเยียเห็นอย่างไร กำนันคง, เส้นใหญ่ จะสร้างความวุ่นวายอะไรโคกเลิ้งอีก ต้องติดตามความอลหม่านตามประสาบ้านทุ่งใน โคกอีเลิ้ง เริงร่า

คุณแม่เฉพาะหน้า คุณย่าเฉพาะกิจ 2556

เรื่องย่อ : คุณแม่เฉพาะหน้า คุณย่าเฉพาะกิจ (2556/2013) สิงห์สยาม กับ ริมปิง พบกันโดยบังเอิญในเหตุการณ์ที่สิงห์ต้องปลอมตัวไปทำภารกิจจับคนร้าย แต่แผนเกิดล่ม จากความหวังดีของริมปิง ทำให้สิงห์จดจำริมปิงได้แม่น มันเป็นทั้งความประทับใจและหมั่นไส้ไปพร้อม ๆ กัน หลังจากที่ริมปิงได้มีปากเสียงกับ มณีจันทร์ ผู้เป็นแม่ เธอได้พาตัวเองย้ายออกจากบ้าน เพื่อมาอาศัยอยู่กับ แคท โชคดีที่แคทคอยหางานฝ่าย Costume มาให้เธอช่วยทำ จึงทำให้ริมปิงมีรายได้โดยไม่ต้องกลับไปแบมือขอเงินจากแม่อีก นอกจากแคทที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุด ริมปิงยังมี กาย อีกคนที่สนิทจนเรียกว่าแฟน กายกับแคทแอบคบหากันแบบลับ ๆ จนท้องกับกาย ริมปิงคอยดูแลแคททุกเรื่อง ยิ่งริมปิงดีกับแคทเท่าไหร่ แคทยิ่งรู้สึกผิดกับสิ่งที่เธอทำลงไป สิงห์อยากเป็นตำรวจ เพราะเขามีปมในใจเรื่องพ่อแม่แท้ ๆ ที่ถูกยิงตาย อีกทั้งยังพยายามสืบหาข้อมูลในอดีตที่เกี่ยวกับตัวเอง แต่ก็ไม่ค่อยได้รับการเห็นด้วยจาก ท่านมานพ พ่อบุญธรรมของเขาสักเท่าไหร่ แต่การเซ้าซี้ของสิงห์ก็เป็นผล ในที่สุดเขาก็ได้เข้ามาทำงานเกี่ยวกับการสืบคดี เป็นสายลับ ต่าง ๆ สิงห์จึงชวน เลิศฤทธิ์ มาช่วยงานในยามที่ต้องปลอมตัว เลิศฤทธิ์เองชอบทางด้านนี้อยู่แล้ว และกำลังสนุกกับการปลอมตัวเป็นช่างแต่งหน้าสุดสวยไปทำงานในกองถ่าย จนได้มีโอกาสพบกับริมปิงและ รู้ว่าริมปิงพักอยู่ที่คอนโดเดียวกันกับเขา และก็เกิดเหตุความวุ่นวายจนได้ เมื่อ เม็ดนุ่น เพื่อนรุ่นน้องที่อยู่เชียงคานแอบเห็นเลิศฤทธิ์แต่งหญิง จึงนำไปเล่าให้บรรดาคนที่เชียงคานฟัง ทั้ง หวานใจ เนียม ละมุน ละไม ฟองฟ้า หนุ่ม แคน คูณ น้าขวด ตาทุ้ย ป๋อง Mr.Robert ที่สำคัญ บรรดาขาเม้าท์ 3 สาวอย่าง สมส่วน กิมจ๊อ และหวานหวานก็รู้ ทำให้ พ่อทิม คลางแคลงใจ แต่เมื่อได้ยินจากปากของเลิศฤทธิ์ว่ากำลังปฏิบัติภารกิจลับให้ตำรวจอยู่ก็โล่งใจ กายสร้างรายได้จากการทำงานส่งของผิดกฎหมายให้ เสี่ยเล้ง กายดูเหมือนจะโชคดีที่รอดมาได้ทุกครั้ง จนกระทั่งแคทคลอดลูก แต่เพราะความโลภมากของเขาที่แอบเปลี่ยนพระเครื่องมูลค่าหลายสิบล้านบาทของเสี่ยเล้ง โดยนำของแท้แอบไปยัดใส่ในตุ๊กตาที่เขาเย็บเองและสั่งให้แคทเก็บไว้ให้ลูกชายที่เพิ่งคลอดออกมา แคทเสียใจที่กายไม่แสดงความรับผิดชอบต่อตัวเธอ แคทจึงตัดสินใจทิ้งลูกเอาไว้พร้อมจดหมายและตุ๊กตาที่กายเย็บไว้ให้ริมปิง ริมปิงอ่านจดหมายแล้วแทบช็อกทำอะไรไม่ถูก และตัดสินใจพาลูกกลับไปหามณีจันทร์หวังให้มณีจันทร์ช่วยเลี้ยง แต่ก็ต้องผิดหวังจากการเข้าใจผิดและคำต่อว่าที่แม่พูดกับเธอ ริมปิงอุ้มลูกออกมาจากบ้านด้วยความเสียใจ โชคดีที่กายมารับ ระหว่างที่รถกำลังจะออกไป สาวใช้ในบ้านเกิดหวังดี นำเงินสะสมใส่ซองมาให้ริมปิง ระหว่างทางกายได้เจอกับเสี่ยเล้งและสมุน เสี่ยเล้งยิงกายต่อหน้าริมปิง และหวังที่จะฆ่าปิดปากริมปิงด้วย โชคดีที่เธอรอดมาได้ เพราะตำรวจเข้ามาทันเวลา หลังจากรอดมาได้ ริมปิงได้พบกับสิงห์สยามอีกครั้ง สิงห์สยามเข้าใจผิดว่านี่คือลูกของริมปิงกับกาย แต่ด้วยหน้าที่ทำให้เขาต้องคอยดูแลพยานคนนี้ให้ดีที่สุด แต่แล้วก็เกิดปากเสียงกัน ทำให้ริมปิงอุ้มเด็กน้อยหนี โชคดีที่ริมปิงสังเกตเห็นหน้าซองที่สาวใช้ใส่เงินมาให้ เป็นซองที่อยู่ของ คุณย่าโอบจันทร์ ย่าที่เธอรักและไม่ได้เจอกันมานานกว่า 20 ปี ริมปิงตัดสินใจพาตัวเองไปที่เชียงใหม่ทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นคือซองที่ใส่ใบมรณะบัตรของย่าส่งมาให้ ริมปิงเดินทางไปพร้อมด้วยความหวังมากมายว่าจะได้พบกับย่าที่เธอคิดว่าคือคนที่รักและเข้าใจเธอมากที่สุด สิงห์สยามถูกต่อว่าจากท่านมานพว่าดูแลผู้หญิงคนเดียวไม่ได้ และสั่งให้ตามไปคุ้มกันให้ถึงที่สุด สิงห์ได้รู้ข้อมูลจากปากของมณีจันทร์เรื่องย่าโอบจันทร์และมณีจันทร์มั่นใจว่าริมปิงกำลังเดินทางไปที่นั่น สิงห์รีบนัดกับเลิศฤทธิ์ ทั้งคู่รีบเดินทางไปให้ถึงก่อนริมปิง เมื่อริมปิงถึงบ้านย่าที่เชียงใหม่ เธอดีใจที่เห็นย่าโอบจันทร์นั่งอยู่ในบ้าน ภาพความหลังเก่า ๆ เริ่มย้อนกลับมา ริมปิงกอดย่าร้องไห้ด้วยความดีใจและโล่งใจ สิงห์ในร่างของย่าโอบดูกระดากที่จะต้องแสดงความรักความเอ็นดูตอบกลับไป จนเลิศฤทธิ์ต้องคอยส่งซิกให้แสดงให้เนียน ๆ ไม่งั้นแผนจะแตก สิงห์จึงจำยอมเป็นคุณย่าที่แสนจะอบอุ่นของริมปิง ริมปิงบอกกับย่าว่าเด็กน้อยคือลูกของเธอ ด้วยเพราะเธอคิดว่าถ้าบอกว่าเป็นลูกคนอื่น ก็จะเหมือนเธอแก้ตัว เรื่องมาถึงขนาดนี้บอกว่าเป็นลูกไปเลยน่าจะตัดปัญหาได้ดีกว่า อีกอย่างเธอก็เริ่มรักและผูกพันกับเด็กน้อยคนนี้แล้ว แล้วทั้งหมดก็ต้องหนีการไล่ล่าอีกครั้ง เลิศฤทธิ์ออกความเห็นว่าควรจะหนีไปที่บ้านเกิดของเขาที่เชียงคาน และทั้งหมดก็พากันเดินทางทันที ที่เชียงคาน ริมปิงได้พบกับมิตรภาพที่ดีจากคนในหมู่บ้าน ย่าโอบได้ตั้งชื่อให้เด็กน้อยว่า ลำโขง เธอได้อยู่แวดล้อมกับเพื่อนบ้านหลากหลายอารมณ์ สิงห์ต้องสลับสับเปลี่ยนการปลอมตัวระหว่างตัวตนจริง ๆ กับย่าโอบเพื่อสืบอะไรบางอย่าง จนได้พบกับ นับดาว เพื่อนสมัยเด็ก ๆ ที่ห่างกันไป สิงห์จึงได้โอกาสสอบถามเรื่องของตัวเองสมัยเด็ก ๆ จากนับดาว การสนิทสนมของสิงห์กับนับดาวทำให้ริมปิงเกิดความน้อยใจนำไปบ่นกับย่าโอบบ่อย ๆ ริมปิงพยายามไม่คิดมาก จนได้ไอเดียที่จะนำผ้าพื้นเมืองมาประยุกต์ จนได้ออกทีวีโด่งดัง และความโด่งดังนี้เองกลับมาทำร้ายเธออีกครั้ง เสี่ยเล้งส่งสมุนแอบแกะรอยมาไล่ล่าอีกครั้ง ตุ๊กตาเจ้าปัญหา จะมีใครค้นพบว่าข้างในมีของสำคัญอยู่ สิงห์จะทนกับสภาพการปลอมตัวสลับไปมาอย่างนี้ได้อีกนานเท่าไหร่ ถ้าวันหนึ่งความจริงถูกเปิดเผยริมปิงจะทำอย่างไร สิงห์จะสืบหาอดีตของตัวเองและเมื่อความจริงปรากฏเขาจะยอมรับความจริงได้มากแค่ไหน ร่วมลุ้นและเป็นกำลังใจให้กับภารกิจของ คุณแม่เฉพาะหน้า อย่างริมปิง และความพยายามที่จะเป็น คุณย่าเฉพาะกิจ ของสิงห์สยาม รวมถึงความสนุกสนาน เฮฮาจากบรรดาคนรอบ ๆ ตัวของทั้งคู่ ที่จะทำ ให้คุณเพลิดเพลินตลอดเรื่อง ติดตามชม ละครคุณแม่เฉพาะหน้าคุณย่าเฉพาะกิจ ได้ทุกวัน เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครคุณแม่เฉพาะหน้าคุณย่าเฉพาะกิจ เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2556

โทน 2556

เรื่องย่อ : โทน (2556/2013) โทน หนุ่มลูกกำพร้า โทนเติบโตมาพร้อมกับ เก่ง หนุ่มใจนักเลง สังข์ หนุ่มตลกและจิตใจดี และคนสุดท้าย มอส เด็กน้อยวัย 7 ขวบ ที่พูดมาก และมีโทนเป็นไอดอลในดวงใจ ทั้งสี่คนเป็นเด็กวัดที่ หลวงตาแคน อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเท่าฝาหอย ถึงแม้ทั้งสี่คนจะเป็นเด็กวัด แต่ก็เป็นนักสู้ตัวยง ที่มักจะก่อเรื่องยุ่ง ๆ ให้หลวงตาปวดหัวอยู่เสมอ แต่หลวงตาก็รักทั้งสี่คนมาก จึงถ่ายทอดวิชาในการร้องเพลง แต่งเพลง เล่นดนตรีเพื่อให้ทุกคนได้ใช้ในการทำมาหากิน โรส ลูกสาวคนเดียวของ ผู้ใหญ่ณรงค์ แห่งทุ่งบางเพลง มีพรสวรรค์ในร้องและเต้น แต่ณรงค์ไม่ส่งเสริม โรสแอบชอบโทน แต่โทนเจียมตัวไม่กล้ายุ่งด้วย ผิดกับเก่งที่หลงรักโรส แต่โรสคิดกับเก่งเป็นพี่ชายที่แสนดีเท่านั้น วัดทุ่งบางเพลงจะจัดงานวัดประจำปี มีการแข่งขันบั้งไฟ เก่งไปท้าพนันกับกลุ่มของบารมี ลูกชายอำนาจ นายก อบต. คนดัง โดยเดิมพันว่าถ้าบารมีแพ้จะต้องยอมบริจาคเงินเข้าวัดหนึ่งแสนบาท แต่ถ้าบั้งไฟของตัวเองแพ้ บารมีขอหอมแก้มโรส คณะของประจิน เจ้าของค่ายเพลงลูกทุ่ง อ๊อด ลูกชายคนโต กับหนูแดง ลูกสาวคนเล็กเดินทางมาร่วมงานนี้ด้วย เพราะอดีตหลวงตาแคนคือนักร้องลูกทุ่งที่อยู่วงเดียวประจินและณรงค์ ทั้งสามคนจึงเป็นเพื่อนที่สนิทมาก ทีมของบารมีกับทีมของโทนเตรียมการจุดบั้งไฟประชันกัน มีการเดิมพันทั้งสองข้างอย่างคึกคัก บารมีเป็นคนจุดบั้งไฟเป็นทีมแรก บั้งไฟวิ่งไปได้แค่ยอดไม้ก็ตกลงมา ทำให้ฝ่ายของโทนดีใจ เพราะเพียงแต่บั้งไฟของพวกตัววิ่งเลยยอดไม้ไปนิดเดียวก็จะชนะแล้ว แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ บั้งไฟของโทน ซึ่งถูกพวกบารมีมาแอบดัดแปลงไว้ก่อน แทนที่จะวิ่งขึ้นฟ้ากลับวิ่งไปรอบงานวัด จนทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั้งงาน มันยังวิ่งไปตกที่ข้างรถของประจินซึ่งมีหนูแดงนั่งอยู่ หน้าของหนูแดงดำปี๋ไปด้วยเขม่าดินปืน หนูแดงแทบคลั่ง และหาว่าใครเป็นเจ้าของบั้งไฟอันนี้ แล้วความซวยก็มาเยือน เมื่อโทนตามมาเก็บบั้งไฟ โทนเจอกับหนูแดง สองคนเลยทะเลาะกันอย่างรุนแรง เธอจะเอาเรื่องโทนให้ได้ หนูแดงประกาศให้โทนเป็นคนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยจำนวนเงินมหาศาล ทำให้โทนตกใจมากเพราะไม่มีปัญญาที่จะหาเงินมาจ่าย เมื่อฝ่ายของโทนแพ้ โรสจำต้องทำตามคำสัญญายอมให้บารมีหอมแก้ม แต่เก่งไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้ ทำให้โทนกับสังข์ต้องเข้าไปร่วมด้วย หลวงตาแคนต้องเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยกับประจิน โดยขอเปลี่ยนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับหนูแดง เป็นการให้โทนทำงานทดแทน โดยหวังว่าจะให้โทนไปทำงานที่บริษัทเพลงของประจิน แต่หนูแดงไม่ยอมบอกว่าโทนต้องไปเป็นคนรับใช้ที่บ้านแทน โดยทำงานชดใช้ความผิดเป็นเวลา 1 ปี เก่งก่อเรื่องกับบารมีอีกจนได้ คราวนี้หนักถึงขั้นบารมีบาดเจ็บ ทำให้อำนาจโมโหมาก หมายจะเด็ดหัวเก่งมาให้ได้ หลวงตาเป็นห่วงความปลอดภัยของเก่ง จึงตัดสินใจให้เก่ง สังข์ และมอสเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปพร้อมกับโทน โดยมีประจินช่วยเก็บเป็นความลับไม่ให้หนูแดงรู้ ทางด้านณรงค์เองก็เป็นห่วงโรส กลัวบารมีจะกลับมาทำมิดีมิร้าย จึงให้โรสไปอยู่กับป้าสมใจ ซึ่งเป็นป้าแท้ ๆ ที่กรุงเทพฯ หนูแดงใช้งานโทนสารพัด โทนถูกคุณหนูแดง กลั่นแกลงทุกวิถีทาง แต่โทนก็ยอมทำตามทุกอย่าง แต่เพราะความเป็นคนซื่อของโทน ทำให้โทนทำผิด ๆ ถูก ๆ โทนเอาเสื้อผ้าแพง ๆ ในตู้ที่ซักรีดแล้วมาซักจนหมดตู้ แถมยังทำชุดราคาพัง ทำให้โทนเป็นหนี้หนูแดงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ด้านเก่งเทียวไล้เทียวขื่อไปหาโรสบ่อยครั้ง แต่ก็จะเจอป้าสมใจกับลูกสาว ต้อยติ่ง ที่สกัดดาวรุ่งทุกครั้ง เก่งกับต้อยติ่ง สองคนจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ณรงค์ฝากให้โรสมาทำงานที่ค่ายเพลงของประจิน โรสได้งานเป็นคนดูแลศิลปินในค่าย คนในค่ายเพลงชื่นชมโรสกันมาก เพราะโรสเป็นคนนิสัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น รวมถึงอ๊อดด้วย ทำให้อ๊อดประทับใจในตัวโรส การที่อ๊อดไปดูแลเอาใจใส่โรส ทำให้หนูแดงอิจฉาหาทางกลั่นแกล้งทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ทำให้โทนไม่พอใจเลยมีปากเสียงกับหนูแดงอีก หนูแดงเข้าใจว่าโทนกับโรสมีบางอย่างที่พิเศษต่อกันเลยเตือนอ๊อด แต่อ๊อดไม่เชื่อ ประจินเห็นหนูแดงชอบใช้งานโทนก็อดสงสารไม่ได้ เลยให้โทน เก่ง และสังข์ ไปทำงานในค่ายเพลง ทั้งสามคนทำงานทุกอย่างตั้งแต่ขัดห้องน้ำยันจัดฉากบนเวที หนูแดงโกรธที่พ่อเข้าข้างพวกโทน เลยขอพ่อมาทำงานด้วย โดยโกหกว่าอยากช่วยพ่อบ้าง ประจินรู้ไม่เท่าทันลูกเลยให้หนูแดงมาทำงานกับอ๊อด ระหว่างนั้นที่ทุ่งบางเพลง บารมีรู้ข่าวจากเด็กวัดว่าโทนไปได้ดีในกรุงเทพฯ ก็เกิดความอิจฉาเลยขอพ่อมากรุงเทพฯ อำนาจให้บารมีไปอยู่กับบัญชา ผู้ใหญ่ที่ตนนับถือ แต่เบื้องหลังของเขาคือมาเฟียรายใหญ่ ทางด้านโทน ยังถูกหนูแดงตามรังควานไม่เลิก หนูแดงสั่งให้โทนเป็นคนขับรถให้เธอ ทำให้สองคนต้องไปไหนมาไหนด้วยกันและใกล้ชิดกันมากขึ้น โทนพยายามดัดนิสัยเอาแต่ใจและเจ้ายศเจ้าอย่างของหนูแดง โดยการพาหนูแดงไปกินร้านข้างถนน หรือไม่ก็พาหนูแดงไปช่วยงานสังคม พอหนูแดงไม่ยอมทำ โทนก็จะดูถูกและท้าทาย ทำให้หนูแดงต้องยอม หนูแดงเริ่มนิสัยดีขึ้นโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว ทำให้โทนพอใจมาก ครั้งหนึ่งโทนพาหนูแดงไปต่างจังหวัด ขากลับกรุงเทพฯ เจอพายุฝนกระหน่ำ แถมรถยังเสีย หนูแดงโวยวายด้วยความตื่นกลัว โทนแสดงความเป็นสุภาพบุรุษโดยการให้หนูแดงนั่งอยู่ในรถ ในขณะที่เขาออกไปเข็นรถ หนูแดงแอบประทับใจในความดีของโทน แต่เมื่อหนูแดงเห็นโทนไปสนใจดูแลโรสมากว่าตัวเอง ก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับหนูแดงมากยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ ในขณะเดียวกันอ๊อดก็เข้าข้างโทนตลอดเวลา และขอให้โทนช่วยเป็นพ่อสื่อให้เขากับโรส โทนลำบากใจมาก เพราะรู้ว่าเก่งแอบชอบโรสอยู่ โทนจำต้องช่วยอ๊อด เพราะอ๊อดเป็นผู้มีพระคุณ แต่โรสดันเข้าใจว่าโทนชอบเธอ ทำให้เก่งเข้าใจผิด เรื่องราวเลยบานปลายไปกันใหญ่โต เก่งมีเรื่องชกต่อยกับโทน หนูแดงเกลียดโรสเข้าไปอีก ทางด้านจินตนา แม่ของคุณหนูแดง อยากจะให้สามีปั้นลูกสาวให้เป็นนักร้องลูกทุ่งที่โด่งดัง ประจินจึงให้โทนเป็นคนสอนร้องเพลงให้ แต่หนูแดงบอกว่าไม่ชอบเพลงลูกทุ่ง ที่พูดไปแบบนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะได้อยู่ใกล้กับโทน เพราะตอนนี้หนูแดงเริ่มรู้ใจตัวเองว่าชอบโทนแล้ว ประจินจึงให้หนูแดงเรียนร้องเพลงสตริงกับครูหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ คีตะ ซึ่งเป็นหนุ่มนักดนตรีขี้หลี ทำให้โทนต้องคอยแอบดูพฤติกรรมของคีตะกับหนูแดงอยู่เงียบ ๆ เพราะรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนไม่ดีแน่นอน เขาบอกให้หนูแดงระวังตัว แต่เธอกลับว่าเขามองโลกในแง่ร้าย แท้ที่จริงแล้วคีตะเป็นกิ๊กอยู่กับปูเป้ นักร้องลูกทุ่งสาวสุดเซ็กซี่ ที่แอบมีใจให้โทน อ๊อดเห็นแววนักร้องในตัวโรสจึงอาสาเสนอให้พ่อปั้นโรสอีกคน โทนเสนอให้สังข์เขียนเพลงให้โรสเพื่อเอาไปเสนอค่ายเพลงอื่น แต่ก็โดนหนูแดงสั่งห้ามอีก คีตะเริ่มแสดงตัวตนที่แท้จริงพยายามลวนลาม หนูแดงเกือบจะเสียท่า ดีที่โทนมาช่วยไว้ทัน หนูแดงซึ้งใจ แต่ยังทำเป็นฟอร์มจัดตามเดิม แต่ยอมลดวันที่โทนจะต้องรับใช้จาก 1 ปี เหลือแค่ 11 เดือน โทนเลยต้องมาสอนหนูแดงแทน ครั้งนี้หนูแดงไม่ปฏิเสธ และแอบสุขใจที่ได้ใกล้ชิดกับโทน การเรียนการสอนเริ่มต้นขึ้นอย่างวุ่นวาย อ๊อดบอกให้โทนอดทนกับหนูแดง โทนตั้งใจอย่างมาก จริง ๆ แล้วหนูแดงร้องเพลงลูกทุ่งได้ แต่แกล้งร้องไม่ได้ เพราะโทนจะได้สอนเธอไปนาน ๆ ด้านบัญชาต้องการขยายธุรกิจเพิ่มเลยชวนประจินลงทุนเปิดค่ายเพลงเพิ่มอีกหนึ่งค่าย นั่นคือค่ายเพลงเด็ก และมีศิลปินเบอร์แรกก็คือ มอส บารมีได้เข้ามาดูแลงานที่นี่แทนบัญชา และทำให้เจอกับพวกโทน อีกทั้งบารมียังเบนความสนใจมาที่หนูแดงแทนโรส เพราะหนูแดงรวยกว่า บารมีเดินหน้าจีบหนูแดง แต่ก็จะเจอหนูแดงทำเชิดใส่ บารมีอยากเอาชนะหนูแดงให้ได้ เก่งเริ่มหมดหวังในตัวโรส เลยพยายามตัดใจ ช่วงเวลาที่เก่งเศร้า กลับได้ต้อยติ่งคอยดูแล จากที่เคยเป็นคู่กัดก็กลายเป็นคู่ซี้กันในเวลาต่อมา โรสเห็นโทนสนิทสนมกับหนูแดงก็เริ่มทำใจว่าเธอคงไม่ใช่เนื้อคู่ของโทน อ๊อดเห็นโรสเศร้าซึมเลยชวนโรสไปสอนเด็ก ๆ ในสลัม เพื่อฝึกให้มาเป็นหางเครื่องให้กับมอส จนเป็นที่สุนกสนานไปทั้งชุมชน มอสมาปรากฎตัวที่ชุมชน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างกรี๊ดกร๊าดชอบใจ แล้วมอสก็มาปิ๊งกับต้นอ้อ ลูกสาวผู้นำชุมชน ที่มีอายุมากกว่ามอส 5 ปี แต่มอสยึดคติ อายุเป็นเพียงตัวเลข ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ สังข์เลยแต่งเพลงที่มีเนื้อหาประมาณนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นเพลงใหม่ของมอส และมันก็ดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง บารมีเริ่มคิดการใหญ่เลยชวนอำนาจให้มาอยู่ด้วยกันในกรุงเทพฯ โดยเปิดบริษัทจำหน่ายแผ่นซีดีเพลงและหนังที่ถูกกฎหมายบังหน้า แต่เบื้องหลังกลับเอาแผ่นเพลงของค่ายต่าง ๆ ไปก๊อบปี้ออกขาย โดยเฉพาะของค่ายประจิน และบารมีก็ยังแอบได้เสียกับปูเป้อีกต่างหาก บารมีแกล้งทำดีกับบัญชาจนบัญชาเซ็นรับบารมีเป็นบุตรบุญธรรมถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากนั้นบารมีก็โกงเงินของบัญชาจนทำให้ตัวเองร่ำรวยผิดหูผิดตา บัญชาจับได้ จะกำจัดบารมี แต่เจอบารมีกำจัดก่อน บารมีก็ตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นมาเฟียคนใหม่ เข้าหุบกิจการทั้งหมดของบัญชา และทำเรื่องผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ความสัมพันธ์ของโทนกับหนูแดงเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โทนเองก็เริ่มชอบหนูแดงมากขึ้นทีละเล็กทีละน้อย แต่ถึงอย่างนั้นสองคนก็ยังทำเก๊กใส่กัน รวมถึงคู่ของเก่งกับต้อยติ่ง อ๊อดกับโรส กลายเป็นสามคู่ชู้ชื่น จะมีก็แต่สังข์ที่ไร้คู่ แต่สังข์ไม่สน เพราะคารมที่เป็นต่อ รูปหล่อที่เป็นรอง ทำให้มีสาว ๆ มาติดพันสังข์มากมาย โดยเฉพาะแมวกับหมู แฝดคนละฝา ใกล้ถึงวันฉลองครบรอบ 20 ปีของค่ายเพลงประจิน ประจินมีโครงการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ และจะใช้งานนี้เปิดตัวหนูแดง หนูแดงตื่นเต้นมาก ดีที่ได้โทนช่วยซักซ้อมให้ โทนตัดสินใจว่าหลังงานคอนเสิร์ต เขาจะสารภาพรักหนูแดง ขณะที่บารมีขอให้อำนาจเป็นเถ้าแก่มาสู่ขอหนูแดงกับประจิน ประจินยินดีเพราะบารมีทั้งรูปหล่อและมีฐานะ แต่หนูแดงปฏิเสธและตามไปด่าบารมีถึงที่บ้าน ทำให้บารมีแค้นใจ ตั้งใจว่าต้องเอาหนูแดงเป็นเมียให้ได้!! บารมีวางแผนชั่วร้าย ทำให้ประจินเข้าใจว่าโทน เก่ง สังข์ ปั๊มแผ่นซีดีในค่ายไปวางขายใต้ดิน ประจินโกรธมากไล่ทั้งสามคนออกจากบ้าน หนูแดง อ๊อด โรส มอส ไม่เชื่อ แต่ประจินไม่ฟัง และสั่งไม่ให้โทน เก่ง สังข์กลับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก โทนกับหนูแดงจำต้องจากกัน โดยที่โทนยังไม่ทันได้บอกความในใจกับหนูแดง หนูแดงโดนประจินบังคับให้แต่งงานกับบารมี หนูแดงปฏิเสธ ประจินสั่งกักบริเวณหนูแดง ไม่ให้ออกไปไหนมาไหนได้อีกต่อไป โทน สังข์ และเก่ง ไปอาศัยอยู่บ้านป้าสมใจ ทั้งสามคนตกงาน โทนเลยเสนอให้สังข์แต่งเพลง ไปเสนอตามค่ายเพลงต่าง ๆ ทั้งสามคนคอยช่วยเหลือกัน โดยมีอ๊อดแอบสนับสนุน และคอยส่งข่าวให้หนูแดงได้รู้เรื่องโทน โทนกับหนูแดงทนคิดถึงกันไม่ไหว อ๊อดแอบพาโทนมาเจอหนูแดง โทนสารภาพรักหนูแดง หนูแดงดีใจมาก และรับรักโทน แต่ ยง คนสนิทของบารมีมาเห็นเข้า บารมีโมโหมาก ส่งคนไปจัดการโทน แต่เจอโทน เก่ง สังข์เล่นงานกลับไป ด้านประจินเห็นธาตุแท้ของบารมี และรู้มาว่าบารมีเป็นเอเย่นต์รายใหญ่ในการปั๊มแผ่นผีขาย ประจินไปขอให้ สารวัตรไตรภูมิ มาช่วย ประจินตามมาขอโทษโทน และขอร้องให้โทนกลับมาทำงานที่ค่ายเพลงตามเดิม โทน เก่ง สังข์ มอสกลับมา หนูแดง อ๊อด โรสดีใจมาก โทนกับหนูแดงจับมือไปสารภาพต่อหน้าประจินกับจินตนาว่าเขารักกัน ประจินกับจินตนาไม่ขัดขวาง อีกทั้งยังยินดีมาก ถึงวันคอนเสิร์ตครบรอบ 20 ปี ก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่ม บารมีปะปนเข้ามากับฝูงชน แล้วลอบเข้ามาจับตัวหนูแดงไปเรียกค่าไถ่ แต่โรสดันมาเห็นเข้าเลยถูกจับไปด้วยอีกคน บารมีติดต่อประจินให้เอาเงินมาไถ่ตัวหนูแดงกับโรส โดยให้โทนเป็นคนถือเงินมาให้ คอนเสิร์ตต้องยกเลิกกะทันหัน ด้านโทนก็หิ้วกระเป๋าใส่เงินมาตามที่บารมีนัด โดยมีเก่งกับสังข์แอบมาห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ บารมีออกมา โทนขอเจอหนูแดงกับโรสก่อน แล้วถึงจะให้เงิน แต่ยงที่ซุ่มอยู่ในความมืด ดันเห็นเก่งกับสังข์เลยส่งสัญญาณบอกบารมี ทำให้เกิดการต่อสู้เกิดขึ้น แล้วสังข์ก็โดนบารมียิงเพราะช่วยปกป้องโทนกับเก่ง สังข์ถูกพามาส่งโรงพยาบาลแต่ไม่รอด สังข์เรียกโทน เก่งและมอสเข้าไปหา และบอกให้เพื่อนสนุกกับชีวิตต่อไป เพื่อเป็นการทำให้เขานอนตายตาหลับ อีกทั้งยังขอให้ทั้งสามคนช่วยร้องเพลงที่เขาแต่ง โทน เก่ง มอสรับปาก แล้วสังข์ก็จากไปอย่างสงบ โทน เก่ง มอส นำร่างไร้วิญญาณของสังข์กลับไปทำพิธีที่ทุ่งบางเพลง ทุกคนเศร้ากับการจากไปของสังข์มาก ประจินตัดสินใจจัดคอนเสิร์ตอีกครั้งที่ทุ่งบางเพลง โทน เก่ง มอส ร้องเพลงที่สังข์แต่งขึ้น จนทำให้เพลงนี้ดังชั่วข้ามคืน หลังจากผ่านไป 11 เดือน ครบสัญญาทาสของโทน โทนที่ตอนนี้กลายเป็นนักแต่งเพลงชื่อดังก็ขอหนูแดงแต่งงาน หนูแดงตกลง จึงจัดงานแต่งงานพร้อมกับอ๊อดและโรส ด้านเก่งกับต้อยติ่งที่แต่งงานกันก่อนหน้านั้นก็มีลูกด้วยกันหนึ่งคน ส่วนมอสกลายเป็นนักร้องลูกทุ่งเด็กร้อยล้าน ที่มีงานโชว์ตัวไปอีก 10 ปี ติดตามชม ละครโทน ได้ทุกวัน เวลา 18.40 น. ทางช่อง 7 สี ละครโทน เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 19 มิถุนายน 2556

ลิเกเงินร้อย 2556

เรื่องย่อ : ลิเกเงินร้อย (2556/2013) พระเอกลิเกบางคนเป็นลิเกเงินล้าน แต่พระเอกอีกกี่คนที่ต้องเป็นลิเกเงินร้อยในยามข้าวยากหมากแพง ยามที่วัฒนธรรมกำลังจะถูกกระแสโลกาภิวัฒน์กลืนหาย เขาคนนี้ยังคงยืนหยัดมาได้ด้วยความรักและภาคภูมิในศิลปวัฒนธรรมไทยในสาขาลิเก! เพราะเป็นสิ่งที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายของพวกเขาดำรงรักษาสืบมาคู่กับแผ่นดินไทยและคนไทย อาชีพลิเกกำลังตกต่ำ ไม่มีงานแสดงทำให้ชาวคณะกระดิ่ง เสียงเพชร ต้องลำบาก พระเอกซึ่งเป็นขวัญใจแม่ยกของคณะลาออกไปอยู่กับวงดนตรีลูกทุ่งที่ดูจะมีอนาคตกว่า โต้โผทองสุกหัวหน้าคณะจึงคิดหาวิธีที่จะฟื้นคืนชีพลิเกใหม่ ทำให้คณะกลายเป็น ลิเกเงินล้าน ให้ได้ จึงให้ธงทองหลานชายกำพร้าพ่อแม่ ซึ่งทองสุกเลี้ยงและส่งให้ไปเรียนเทคนิคที่กรุงเทพฯ แต่ธงทองก็กลับทำตัวเป็นนักเลง มีเรื่องตีรันฟันแทงกับเอกชัยคู่อริต่างสถาบัน สร้างความเดือดร้อนให้ทองสุกต้องไปประกันตัวอยู่เสมอ ทองสุกจึงคิดจะฝึกให้หลานชายคนนี้เป็นพระเอกลิเก แต่ธงทองปฏิเสธ เพราะเขาฝันที่จะเป็นนักดนตรีวงสตริง วันหนึ่งธงทองขับรถมอเตอร์ไซด์ซิ่งถูกตำรวจจับ ทองสุกไม่ยอมประกันตัวหลานชาย นอกเสียจากว่าธงทองจะยอมเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นพระเอกลิเก ธงทองจำยอม วางแผนว่าเมื่อออกจากห้องขังแล้วจะหนีทองสุกไป แต่ทองสุกวางแผนดักจับ ทำให้ธงทองต้องเดินทางกลับอยุธยากับโต้โผสุกและหัดลิเกกลางทุ่งนา ทองสุกจับธงทองกดน้ำเพื่อให้มีเสียงสำลักลูกคอ สั่นหัวใจแม่ยก ทำการฝึกด้วยเทคนิคแบบโบราณหลายวิธี เพื่อให้ธงทองเล่นลิเกให้ได้ ในคณะมีทั้งหยุมหยิมดาวร้ายซึ่งเขม่นธงทองแต่แรกพบ กระตั้วตลกชาย ลำพูนางร้าย พวกระนาด ฆ้องวง และคนเก็บตั๋ว ความยากไร้ในการใช้ชีวิตที่ปากกัดตีนถีบ ทำให้ธงทองเริ่มเข้าใจถึงความยากลำบากของคนที่พยายามจะรักษาสมบัติเก่าแก่ อันเป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมของชาวคณะลิเก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโต้โผทองสุกผู้เป็นลุง ซึ่งแต่งทั้งเรื่อง คำกลอน และติดต่อรับงานจากเจ้าภาพ เพื่อให้ชาวคณะอยู่ได้ แก้วกุดั่น ลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่ หนีพิธีแต่งงานทั้งที่อยู่ในชุดเจ้าสาว เพราะถูก ชาติสรรและลักษณา บิดามารดา จับแต่งงานกับ กำภุ ลูกชายของนักธุรกิจเพชรส่งออก เพราะกำภูเป็นคนร่ำรวยมีมรดก ขณะที่วิ่งไล่จับตัวแก้วกุดั่น แก้วกุดั่นหลบเข้าไปอยู่ท้ายรถขนเครื่องของพวกลิเก เมื่อไปถึงบ้านงานนางเอกลิเกไม่ยอมขึ้นเวที เพราะต่อรองเรื่องค่าตัวไม่ได้ จึงผละหนีไป ทำให้ทองสุกต้องรีบแต่งหญิงเพื่อขึ้นไปแสดงเป็นนางเอกแทน แต่ถูกคนดูโห่ ธงทองจึงออกความคิดผลักให้แก้วกุดั่นในชุดเจ้าสาวออกไปเล่นเป็นนางเอก ในบทบาทที่กำลังถูกดาวร้ายฉุด แก้วกุดั่นไม่เข้าใจบทจึงต่อสู้ เพราะมีนิสัยดื้อรั้นที่ไม่ยอมใคร จนดาวร้ายมีอาการปางตายทำให้คนดูชอบใจปรบมือเชียร์นางเอกกันลั่น เมื่อคณะลิเกกลับถึงอยุธยา ธงทองจึงไล่ให้แก้วกุดั่นกลับไป แต่แก้วกุดั่นไม่ยอมกลับ ขอติดตามอยู่ในคณะลิเก แก้วกุดั่นปกปิดฐานะที่แท้จริง ทองสุกจำต้องรับแก้วกุดั่นไว้ในคณะลิเก ให้ทำหน้าที่ผู้ช่วยนางปริกแม่ครัวประจำคณะ แต่แก้วกุดั่นก็ทำอะไรไม่เป็นเพราะเป็นลูกคนรวย ทำให้เกิดทั้งเรื่องปวดหัวและเรื่องครื้นเครงอยู่เสมอ หยุมหยิมดาวร้ายประจำคณะ ที่ร้ายทั้งนอกโรงและหลังโรงพอใจในตัวแก้วกุดั่น จึงหาโอกาสปลุกปล้ำแก้วกุดั่น แต่กลับถูกแก้วกุดั่นใช้ศิลปะป้องกันตัวที่ตนเองมีดีกรีเป็นถึงแชมป์กีฬามหาวิทยาลัยเอาตัวรอดได้ ท่าทางของแก้วกุดั่นเข้มแข็ง แกร่งกร้าว เป็นตัวของตัวเอง จึงไม่ยอมสยบให้กับผู้ชายที่แข็งแรงกว่าเช่นธงทอง ทั้งสองมีเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา แต่เพราะเหตุจำเป็นหานางเอกไม่ได้ ทองสุกจึงจำต้องให้แก้วกุดั่นขึ้นแสดงเป็นนางเอกในบทบาทใหม่ คือเป็นนางเอกรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมแพ้ผู้ชาย ยิ่งทำให้คนดูพอใจยิ่งขึ้น แม่ยกต่างชื่นชอบในตัวแก้วกุดั่น จนกระทั่งชาวคณะเริ่มมีงานแสดงพอได้ประทังชีวิต เมื่อหยุมหยิมหายดีแล้วจึงตั้งแง่กับทองสุก ขอบทบาทของดาวร้ายที่มีการปลุกปล้ำนางเอก หยุมหยิมแกล้งฉวยโอกาสลวนลามแก้วกุดั่น แต่ก็ถูกนางเอกสู้จนหยุมหยิมต้องเจ็บตัวไปเกือบจะทุกครั้ง แก้วกุดั่นมาอยู่ในคณะลิเก เริ่มเรียนรู้ชีวิตที่ยากลำบากของชาวคณะลิเก ที่ต้องอาบเหงื่อต่างน้ำทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการทอดแหหาปลา ต้องเร่ร่อนไปเปิดวิกแสดงในตลาดเพื่อใช้วิชาชีพหาเงินมาซื้ออาหารเลี้ยงกันเพียงแค่อิ่มท้อง บางทีก็ได้เงิน บางทีก็ได้เป็นผักหญ้าอาหารถ้าในตลาดมีแม่ยกเป็นพวกแม่ค้า ธงทองต้องร้องกลอนออดอ้อนแม่ยก เพื่อให้ได้รางวัลมาเลี้ยงคณะลิเก กำภุเจ้าบ่าวของแก้วดุดั่น จ้างนักสืบเอกชนสืบหาตัวเจ้าสาว ซึ่งหนีไปในวันแต่งงาน ชาติสรรและลักษณาก็ป่าวประกาศหาตัวแก้วกุดั่นทางหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้เอกชัย อดีตนักเรียนคู่อริของธงทองพบข่าวของแก้วกุดั่นทายาทเศรษฐีในหน้าหนังสือพิมพ์ จึงวางแผนตามหาตัว แก้วกุดั่นเพื่อจับมาเรียกค่าไถ่ จนพบว่าแก้วกุดั่นมาเป็นนางเอกลิเกอยู่ในคณะของธงทองซึ่งเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง จึงบุกขึ้นไปจับตัวแก้วกุดั่น คนดูคิดว่าเป็นพวกกลุ่มดาวร้ายของหยุมหยิม จึงช่วยกันเอารองเท้าขว้างปาเพื่อช่วยนางเอก ทำให้เอกชัยกับพวกต้องล่าถอยกลับไป พร้อมกับวางแผนที่จะจับตัวแก้วกุดั่นไปเรียกค่าไถ่จากชาติสรรและลักษณาให้จงได้ เมื่อธงทองรู้ว่าแท้จริงแล้วแก้วกุดั่นเป็นทายาทเศรษฐี จึงพยายามให้แก้วกุดั่นกลับไปหาพ่อแม่ แต่แก้วกุดั่นไม่ทิ้งคณะลิเกที่ยามนี้คนกำลังติดนางเอก ทำให้เริ่มมีงานแสดงพอเลี้ยงปากท้อง แก้วกุดั่นค่อย ๆ ปรับตัวให้คุ้นเคยกับความยากจน ใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบพอเพียง ความใกล้ชิดและความเห็นอกเห็นใจกันในยามยาก ทำให้แก้วกุดั่นและธงทองเกิดความรักต่อกัน หยุมหยิมดาวร้ายประจำคณะพยายามขัดขวางเพราะตนเองก็หลงรักแก้วกุดั่นเช่นกัน รักแบบที่แสดงออกไม่เป็นจึงแสดงแต่ความร้าย ๆ เหมือนบทบาทดาวร้าย ไม่เพียงแต่แก้วกุดั่นจะหลงรักธงทองเท่านั้นแต่ยังหลงรักวัฒนธรรมพื้นบ้านสาขาลิเก ไม่ต้องการให้หายไปจากสังคมไทย แก้วกุดั่นและธงทองจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ลิเกเป็นความบันเทิงที่อยู่ในความนิยมของคนรุ่นใหม่ ลำพูนางร้ายประจำคณะซึ่งหลงรักธงทองอยู่ก่อนแล้ว พยายามทำทุกวิธีที่จะกำจัดแก้วกุดั่นออกไปจากคณะ เมื่อรู้ว่าเอกชัยมีแผนจับตัวแก้วกุดั่น ลำพูจึงให้ความร่วมมือกับเอกชัย เพื่อกำจัดแก้วกุดั่นไปจากคณะลิเก แต่ลำพูก็ตกเป็นของเอกชัยเพราะถูกหลอกใช้ คณะลิเกกระดิ่ง เสียงเพชร ได้รับการติดต่อให้ไปเล่นในทีวี ชาติสรรและลักษณาจำได้ว่าเป็นแก้วกุดั่นลูกของตนเอง จึงส่งคนไปจับตัวแก้วกุดั่น แต่ธงทองก็พาแก้วกุดั่นหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ยิ่งทำให้หนุ่มสาวทั้งสองยิ่งรักกันมากยิ่งขึ้น กำภุเดินทางมาอยุธยาเพื่อซื้อตัวธงทองมาเป็นนักร้องลูกทุ่ง เพราะเห็นโอกาสจากความโด่งดังของลิเกเงินร้อย ที่กำลังจะกลายเป็นลิเกเงินล้าน กระดิ่ง เสียงเพชร ที่ขณะนี้เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศในฐานะลิเกรุ่นใหม่ เล่นโดนใจคนดู แต่กำภุก็มีแผนร้ายทำลายความรักของแก้วกุดั่นและธงทอง ธงทองดีใจที่จะได้เป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีทั้งชื่อเสียงและเงิน โดยไม่รู้ว่าเป็นเพียงแผนของกำภุที่จะทำให้แก้วกุดั่นเห็นว่าธงทองเป็นจอมลวงโลก เห็นแก่เงินมากกว่าศิลปะ ธงทองเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ชาติสรรและลักษณามารับตัวแก้วกุดั่นกลับ ทองสุกและชาวคณะไม่มีทั้งพระเอกและนางเอก เหลือแต่เพียงดาวร้ายจึงวางแผนให้คณะตลกแต่งหญิงขึ้นเล่นแทนนางเอก แต่ถูกคนดูโห่ไล่ ชาวคณะสิ้นหนทางที่จะนำพาคณะลิเกให้ไปรอด จึงปรึกษากันจะล้มคณะ เพราะไม่มีทั้งพระเอกเงินร้อย และนางเอกแก้วกุดั่น แก้วกุดั่นกำลังจะเดินทางไปเรียนต่อเมืองนอก แต่เพราะเห็นทองสุกร้องลิเกบทขอทาน ออกโทรทัศน์ ทำให้แก้วกุดั่นต้องร้องไห้เพราะความสงสารเพื่อนร่วมอาชีพ แก้วกุดั่นจึงตัดสินใจละทิ้งเงินในกองมรดก กับฐานะทายาทเศรษฐี กลับมาขึ้นเวทีเป็นนางเอก เอกชัยกับพวกขึ้นฉุดแก้วกุดั่นบนเวทีเพื่อเรียกค่าไถ่ แก้วกุดั่นต่อสู้ ซ้อมเอกชัยและพวก คนดูอินในบทบาทของนางเอกผู้ไม่ยอมแพ้ใคร จึงกรูกันขึ้นเวทีรุมกระทืบเอกชัยจนต้องยกพวกหนีไป ธงทองมาใช้ชีวิตนักร้องลูกทุ่งอย่างไม่มีความสุข เพราะจิตใจของธงทองคิดถึงแต่ชาวคณะลิเก ซ้ำยังคิดถึงแก้วกุดั่นเมื่อธงทองขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ขณะที่ร้องเพลงชื่อ ลิเกเงินร้อย กลับยิ่งคิดถึงเพื่อนร่วมคณะลิเก และคิดถึงแก้วกุดั่นยิ่งขึ้น ทำให้ธงทองวิ่งลงจากเวทีทั้งที่ยังร้องเพลงไม่จบ เมื่อกลับถึงอยุธยาพบว่าคณะลิเกเดินทางไปแสดงงานวัดจึงตามไป ขณะนั้นทองสุกไม่มีพระเอกจึงให้หยุมหยิมเลื่อนจากดาวร้ายเป็นพระเอกคู่กับแก้วกุดั่น หยุมหยิมมีความสุขมากแต่เมื่อถึงบทเข้าพระเข้านาง หยุมหยิมจะจูบนางเอก พระเอกตัวจริงคือธงทองก็พรวดพราดเข้ามา ทำให้หยุมหยิมโกรธจัด จนกลายเป็นดาวร้ายเหมือนเดิม บรรดาแม่ยก ปรบมือให้การต้อนรับพระเอกเงินร้อยด้วยความรัก ทำให้ธงทองได้รู้ว่ายังมีคนที่รักและเฝ้ารอคอยผลงานของเขาต่อไป เอกชัยกับพวกพร้อมอาวุธในมือเข้าทำร้ายคณะลิเก ชาวคณะสู้ไม่ได้ เอกชัยจึงฉุดตัวแก้วกุดั่นลงไปจากเวที ธงทองเข้าขวาง เอกชัยจึงยกปืนขึ้น ลำพูวิ่งเข้ามาขวางไว้ด้วยความรักที่มีต่อธงทอง ทำให้เอกชัยยิงลำพูบาดเจ็บก่อนลากแก้วกุดั่นออกไป ธงทองจึงติดตามไปช่วยแก้วกุดั่น ทั้งสองจึงกลับมาอยู่ร่วมคณะ หยุมหยิมและลำพูเห็นอกเห็นใจกัน เพราะต่างผิดหวังในความรัก ทองสุกมีกำลังใจในการแต่งเรื่องแต่งคำกลอนสำหรับบทลิเก ทั้งธงทองและแก้วกุดั่นต่างกลับมาช่วยกันฟื้นฟูอาชีพอันเก่าแก่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมเพื่อไม่ให้สูญหาย เป็นมรดกตกทอดไปถึงคนชั้นลูกหลานไทยเช่นลิเก ธงทองและแก้วกุดั่นต่างรู้ว่าเมื่อศิลปินทุกคนพยายามไปให้ถึงที่หมาย ไม่ว่าจะเหนื่อยยากลำบากสักเพียงใด ความพยายามย่อมส่งผลนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จดังเช่น พระเอกเงินร้อย คนนี้กลายเป็น ลิเกเงินล้าน ในที่สุด ติดตามชม ละครลิเกเงินร้อย ได้ทุกวัน เวลา 18.40 น. ทางช่อง 7 สี ละครลิเกเงินร้อย เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556

สุภาพบุรุษบ้านทุ่ง 2556

เรื่องย่อ : สุภาพบุรุษบ้านทุ่ง (2556/2013) หิน (พาทิศ พิสิทฐกุล) หนุ่มหล่อโสดวัยเบญจเพส เป็นผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้านทุ่งแสงจันทร์ ชื่อเสียงโด่งดังข้ามหมู่บ้านฯ เป็นที่เกรงกลัวของนักเลงทั่วไป เป็นเจ้าของที่นามากมาย ซึ่งทั้งหมดเป็นมรดกสืบทอดจากพ่อชื่อ เมฆ อดีตนังเลงใหญ่ ซึ่งเพิ่งโดนตำรวจยิงตายไปเมื่อปีก่อน ทุกวันนี้หินเหลือเพียงแม่ชื่อ แป้น (วาสนา สิทธิเวช) ซึ่งช็อกกับการตายของสามีจนเป็นอัลไซเมอร์ ขี้หลงขี้ลืม ซึ่งรักและอาลัยเมฆมาก มักจะพร่ำพูดถึงแต่ความดีของเมฆให้หินฟังตลอดเวลา และ ไม้ (มิกค์ ทองระย้า) น้องชายจอมเกรียนประจำหมู่บ้าน ที่ชอบกร่าง ก่อเรื่องให้พี่ชายตามแก้ไปทั่วทั้งยังมี ป้าทอง (วิยะดา อุมารินทร์) แม่บ้านแก่เก่าที่คอยปรนนิบัติดูแลแป้นอย่างขยันขันแข็ง และน้าดอน อดีตมือขวาของเมฆที่ผันตัวมาเป็นคนสนิทของหินแทน คอยเป็นหูเป็นตาดูแลทุกอย่างให้ เพราะเป็นพี่ชายคนโต ต้องดูแลมรดกและบริวารสืบต่อจากพ่อ ต้องรับผิดชอบกับอดีตที่พ่อเคยทำไว้กับโจทย์เก่า ๆ นับไม่ถ้วน ต้องดูแลแม่ที่ป่วย ขี้หลงขี้ลืม และต้องปกป้องไม้ที่ชอบก่อเรื่องให้ต้องตามเคลียร์ให้ตลอด หินจึงต้องเข้มและแกร่งเกินอายุ เป็นผู้นำตั้งแต่ยังหนุ่ม ด้วยหวังจะลบล้างอดีตที่ไม่ดีของพ่อ หินจึงสืบต่อมรดกของพ่ออย่างเป็นธรรม เลิกเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน เลิกใช้อิทธิพลในทางที่ผิดเหมือนอย่างที่พ่อเคยทำ แถมยังมีน้ำใจช่วยเหลือชาวบ้านในทุก ๆ เรื่อง จนชาวบ้านชื่นชมและนับถือหิน เมื่อมีเรื่องเดือดร้อนไม่ว่าจะเรื่องเงิน งาน แม้แต่เรื่องส่วนตัว ทุกคนก็มักจะมาขอพึ่งใบบุญของหิน ซึ่งหินก็ยินดีจัดให้ทุกรายเท่าที่สามารถ หินจึงเป็นที่รักของชาวบ้าน เป็นหนุ่มโสดขวัญใจสาว ๆ โดยเฉพาะสาวโรงงานเปรี้ยวจี๊ดอย่าง แต๋น (วันวิสา ศรีวิไล) แต๋นตามตื้อทำตัวเป็นเจ้าของหิน แต่หินไม่เล่นด้วย นอกจากจะดูแลคนในปกครองแล้ว หินยังดูแลไปถึงชาวบ้านในหมู่บ้านอีกด้วย และการที่ดนู (ประกาศิต โบสุวรรณ) นักธุรกิจพ่อค้าที่ดินเจ้าของบริษัท ดนู พร็อพเพอร์ตี้ จอมอิทธิพลประจำจังหวัด มอบหมายให้ ธนา (นนทพันธ์ ใจกันทา) หลานชายสุดรักซึ่งเขาหมายมั่นจะมอบธุรกิจทั้งหมดให้ดูแลต่อ ทั้งคู่วางแผนหลอกล่อใช้แผนสกปรกบีบบังคับให้ชาวบ้านจำต้องขายที่ดินทำกินให้ในราคาที่ไม่เป็นธรรมเพื่อหวังจะฮุบหมู่บ้านขายให้ชาวต่างชาติ ซึ่งเรื่องนี้หินยอมไม่ได้ เข้าขัดขวางเต็มที่ โดยมี เฮียสี่ (พิเชษฐ ศรีราชา) เจ้าของร้านของชำประจำหมู่บ้าน กับหลิน (ด.ญ. สุพิชชา มงคลจิตตานนท์) สาวน้อยจอมซนลูกของเฮียสี่เป็นตัวแทน คอยสอดส่องและรายงานให้ และนั่นเองเป็นเหตุให้หินกลายเป็นศัตรูตัวสำคัญของธนา เป็นอุปสรรคสำคัญที่ธนาต้องกำจัดให้สิ้นซาก กำนันเจิม (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) เป็นอดีตอันธพาล แต่กลับตัวกลับใจจนได้รับเลือกให้เป็นกำนัน มีเมียแสนดีชื่อ กิ่ง (เจเน็ต เขียว) มีลูก 2 คน คนโตเป็นหนุ่มนักเลงหัวไม้ประจำหมู่บ้าน ชื่อ แจ้ง (ปฏิญญา วิโรจน์แสงประทีป) ส่วนคนเล็กเป็นสาวสวยชื่อ แก้ว (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) เพิ่งเรียนจบมาจากกรุงเทพฯ และตั้งใจนำความรู้ที่ได้กลับมาสร้างโรงเรียนอนุบาลที่บ้านเกิด ตามที่เธอไว้ฝันไว้ ในอดีตเมื่อครั้งที่เมฆพ่อของหินยังมีชีวิต กำนันเจิมเป็นอันธพาลคู่ซี้กับเมฆ แต่ถูกเมฆหักหลังจนแค้นฝังใจ เมื่อเมฆตายกำนันเจิมก็แค้นต่อเนื่องมาถึงหิน มีอคติกับหิน มองหินในแง่ร้ายมาโดยตลอด ซึ่งเข้าทางแจ้ง เป๊ะ!!! ในวัยเด็กแก้วสนิทสนมกับหินและไม้เหมือนพี่เหมือนน้อง แต่ตลอดเวลาที่แก้วไปเรียนในกรุงเทพฯ แจ้งมักโทรไปเป่าหูให้แก้วฟังเสมอว่าหินชอบทำตัวเป็นมาเฟียใหญ่ เป็นอันธพาลที่ชอบเอารัดเอาเปรียบชาวบ้านเหมือนกับเมฆ จนแก้วปักษ์ใจเชื่อ ...เพียงครั้งแรกที่ได้เจอกันอีกครั้ง แก้วจึงวางตัวเป็นปรปักษ์กับหิน แอนตี้หาเรื่องหินตั้งแต่เริ่ม ทั้ง ๆ ที่หินดีใจมากเรื่องที่ได้เจอแก้วอีกครั้ง หินจึงทั้งผิดหวังและเสียใจที่แก้วเข้าใจผิดปักใจมองเขาในด้านลบ ทั้งไม่ยอมฟังคำอธิบายใด ๆ ด้านไม้ แม้ในวัยเด็กจะไม่เคยคิดอะไรกับแก้ว แต่เมื่อได้เจอแก้วที่เติบโตเป็นสาวสวย ก็ปิ๊งและตามตื้อจีบแก้วทันทีอย่างเปิดเผย แจ้งรู้ข่าวเข้าก็ไม่พอใจ กีดกันเต็มที่ แต่แม้แจ้งจะเป็นพี่ชายแต่แจ้งก็ไม่กล้าหือกับแก้ว แจ้งจึงไม่กล้าสั่งแก้วให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับไม้ ได้แต่ส่ง 2 สมุนคู่ใจ ห้อย (เอกรินทร์ อารีรักษ์) กับ ย้อย (ณัฏฐพล อิศรางกูร ณ อยุธยา) ลูกคู่ ลูกไล่ ให้แอบสะกดรอยตามแก้ว คอยกีดกันไม้ไม่ให้ใกล้ชิดแก้ว และคอยรายงานความคืบหน้าทุกระยะ ได้ผล ไม้โดนห้อยกับย้อยขัดขวาง จนหมดโอกาสได้สนิทสนมกับแก้ว ไม้กลุ้มจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากหิน ด้วยรักน้องชายสุดชีวิต แม้จะแอบรักแก้วมานานแล้ว แต่หินก็ยอมอาสาช่วยไม้จีบแก้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี เพราะแก้วมีอคติกับหิน แก้วริเริ่มโครงการโรงเรียนอนุบาลในหมู่บ้าน เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาส หากที่ดินที่แก้วหมายตาจะสร้างกลับกลายเป็นของหินคนที่แก้วเกลียดสุด ๆ แก้วพยายามไปขอซื้อที่แต่ก็โดนปฏิเสธ หินปฏิเสธด้วยหวังจะยกที่ดินให้แก้วฟรี ๆ แก้วก็ยอมเพราะไม่อยากให้หินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หินจึงต้องยกที่ดินผืนนั้นให้ไม้ ให้ไม้ยกให้แก้วอีกต่อแก้วจึงยอม โดยมี กะรอก (ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี) สาวใช้ตัวป่วนในบ้านคอยช่วย และรับฟังปัญหา ลุงพูน (ชูเกียรติ เอี่ยมสุข) พ่อของกระรอกป่วยหนักไม่มีเงินรักษาตัวจะไปยืมใครก็ไม่มีใครให้ กะรอกจึงมาขอความช่วยเหลือจากหิน หินจึงช่วยนำตัวลุงพูนไปส่งโรงพยาบาลในเมือง ทั้งอาสาเป็นเจ้าของไข้ และยังฝากลุงพูนให้ทำงานเป็นคนขับรถในโรงพยาบาล หวังแก้ตัวแทนเมฆที่เคยโกงลุงพูนจนต้องลำบากอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งนอกจากลุงพูนจะหายโกรธเมฆแล้ว ยังซาบซึ้งในน้ำใจหินอีกด้วย ระหว่างนั้นเองหินก็ต้องเจอเรื่องหนักใจ เมื่อเฮียสี่กับหลินมารายงานว่ามีชาวบ้านหลงกล โดนธนาบีบบังคับหลอกซื้อที่ดินทำกิน หินขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว แต่ธนาไม่สนแถมยังประกาศกล้าอีกว่าจะยึดหมู่บ้านให้ได้ ทั้งยังหลอกใช้แจ้งให้เป็นคนกลางไปซื้อที่ของชาวบ้านให้ แล้วใส่ไฟว่าที่หินขัดขวางเพราะหินอยากจะฮุบหมู่บ้านเอาไว้เอง....ทั้งเจิม แจ้ง แก้วทุกคนเชื่ออย่างที่ธนาบอก ไม้พยายามตามตื้อแก้วแต่ไม่สำเร็จ วันหนึ่งไม้แอบได้ยินแก้วว่าตนเองไร้สาระไม่ทำงานทำการ ไม้จึงคิดที่จะปรับปรุงตัวเองใหม่ เปลี่ยนลุคให้เมือนกับหินเพื่อหวังว่าจะเปลี่ยนใจแก้วให้ได้ หินดีใจมากรีบสนับสนุนโดยยกให้ไม้เป็นผู้จัดการไร่ และให้น้าดอนคอยดูแล และสอนงานให้ ซึ่งครั้งนี้ไม้ไม่ลังเลใจเลยที่จะทำ โรงเรียนอนุบาลแก้วเริ่มต้นได้อย่างสวยด้วยความช่วยเหลือจากธนา หากเพียงไม่นานก็เริ่มมีปัญหา งบประมาณเริ่มบานปลาย เงินที่แก้วเตรียมไว้เริ่มไม่พอ ทั้งค่าวัสดุอุปกรณ์ และค่าแรง หากแก้วก็เกรงใจที่จะเอ่ยปากให้ธนาช่วยอีก พอไม้รู้ไม้จึงขอเงินหินเพื่อไปให้แก้ว หากแก้วไม่ยอมรับด้วยไม่อยากยอมรับความช่วยเหลือจากหิน แต่เมื่อกำนันเจิมป่วยก็ได้หินที่ส่งลุงพูนที่มารับและบังคับเอากำนันเจิมไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งทำให้แก้วเริ่มซึมซับน้ำใจจากหินโดยไม่รู้ตัว ถึงหินจะเคยช่วยชีวิตแจ้งไว้จากน้าดอนจนตัวเองบาดเจ็บ เมื่อคราวที่แจ้งทำหลานสาวน้าดอนท้องแล้วไม่รับผิดชอบจนหลานสาวน้าดอนคิดสั้นฆ่าตัวตาย หากแจ้งกลับคิดว่าหินทำเพราะอยากเป็นฮีโร่ ทั้งยังเจ็บใจที่ต้องสูญเงินมากมายจากการเป็นนายหน้าซื้อที่ชาวบ้านให้ธนา แจ้งจึงคิดกำจัดหิน โดยการจ้างมือปืนมาฆ่าหิน แต่ลุงพูนก็ช่วยหินเอาไว้ได้ ทั้งยังจับตัวมือปืนและบังคับจนยอมรับสารภาพว่าแจ้งเป็นคนจ้างมา หินไม่เอาเรื่องแจ้งเพราะเห็นกับแก้ว และคิดว่างานนี้แจ้งน่าจะโดนธนาหลอกใช้ แต่ไม้ไม่ยอมจึงไปบอกแก้ว แก้วถึงกับอึ้งเมื่อรู้ความจริง ธนาโกรธที่โดนหินขู่ให้เลิกยุ่งกับแก้วต่อหน้าลูกค้า ธนาจึงคิดเอาคืนโดยการชวนแก้วไปงานเลี้ยงวันเกิดพ่อเลี้ยงแสงชัย อดีตผู้ว่าที่ผันตัวมาทำธุรกิจจนร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของจังหวัด และเป็นผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความใจบุญสุนทาน โดยธนาเอาเรื่องโรงเรียนเข้ามาล่อจนแก้วตกลง พอหินรู้ก็ตามแก้วไปถึงงานเลี้ยงหวังจะเตือนแก้ว หากแก้วไม่เชื่อ ธนาใช้อุบายหลอกว่าพ่อเลี้ยงให้แก้วไปรอที่โรงแรมแล้ววางยาจนแก้วหลับไม่ได้สติ หินไม่เห็นแก้วในงานก็ออกตามหา ลุงพูนไปรับคนเจ็บที่โรงแรมเห็นแก้วไม่ได้สติอยู่กับธนาจึงโทรไปบอกหิน หินจึงตามมาช่วยแก้วไว้ทัน หินพาแก้วมาส่งบ้านแต่เห็นแก้วหลับอยู่จึงไม่อยากปลุก ไม้มาหาแก้วเห็นหินนั่งอยู่ในรถคล้ายกำลังกอดกับแก้วอยู่ก็โกรธถึงขั้นตัดพี่ตัดน้อง แม้หินจะพยายามอธิบายไม้ก็ไม่ฟังหาว่าหินจะแย่งแก้วไป แก้วรู้ความจริงจากลุงพูนก็มาหาหินที่บ้านเห็นแป้นกำลังต่อว่าหิน แก้วพยายามบอกว่าตนไม่ใช่แฟนไม้แป้นก็ไม่เชื่อ หินตัดสินใจไปสู่ขอแก้วให้ไม้ ทำเอาไม้กับแป้นดีใจหายโกรธหิน หากแก้วกลับปฏิเสธไม่รับหมั้นไม้ ไม้เสียใจจึงประชดรักด้วยการดื่มเหล้าเมาทุกวัน แก้วมีไอเดียคิดจะจัดงานวัดเพื่อหาทุนเพิ่มในการสร้างโรงเรียน เจ้าอาวาสเห็นดีด้วย แนะให้แก้วไปคุยกับหิน เพราะหินเคยเป็นแม่งานจัดงานหาเงินเข้าวัดมาตลอดทุกปี แก้วปฏิเสธเพราะไม่อยากร่วมงานกับหิน แก้วลุยเดี่ยวแต่ด้วยไม่ประสีประสาไม่รู้จะเริ่มต้นอะไรยังไง สุดท้ายแก้วจึงจำยอมไปขอคำปรึกษาจากหิน หินช่วยแก้วเต็มที่ด้วยความยินดี และนั่นก็ทำให้ทั้งคู่กลับมาสนิทสนมกันอีกครั้งเหมือนสมัยที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กถึงขั้นแก้วเรียกหินว่า "นายปี๊ด" ฉายาที่แก้วเคยตั้งให้หิน ทำให้หินคนที่คร่ำเคร่งมาตลอดตั้งแต่พ่อตายกลับมาเริ่มยิ้มแย้มแจ่มใส และมีความสุขอีกครั้ง หากความสุขของหินก็มีได้ไม่นานเมื่อแป้นยื่นคำขาดห้ามให้หินรักแก้ว เพราะแก้วเป็นคนที่ทำให้ไม้เสียใจ นุช หลานป้าทอง เป็นหญิงสาวหน้าตาดี มีนิสัยตรงไปตรงมา กล้าพูดกล้าทำ ป้าทองพานุชมาฝากงานกับหิน หินจึงให้นุชไปช่วยป้าทองดูแลแป้น แป้นถูกใจนุชมาก ยิ่งได้เห็นนุชฉะกับไม้จนไม้เถียงไม่ออกก็ยิ่งชอบ จึงสั่งให้นุชคอยตามไม้จนไม้รำคาญหมดอารมณ์ที่จะไปหาเพื่อน ไปดื่มเหล้า ไม้เริ่มดีขึ้นหากก็ยังไม่สามารถตัดใจจากแก้วได้ จึงคิดเปลี่ยนบรรยากาศขึ้นเชียงใหม่ไปหาเพื่อน โดยมีนุชตามไปคอยดูแลตามคำสั่งแป้น กำนันเจิมรับเงินจากดนูและธนาให้เป็นคนกลางคอยซื้อที่ดินจากชาวบ้านให้ หากพอแจ้งรู้ก็ขอมีส่วนด้วย หิน กิ่ง และแก้วพยายามห้ามไม่ให้กำนันเจิมเอาที่ดินไปชาวบ้านไปขาย กำนันเจิมก็ไม่เชื่อ ไม่สนใจ แต่พอแจ้ง ห้อย ย้อยเอาชื่อตัวเองไปอ้างบังคับชาวบ้านให้ขายที่จนชาวบ้านเดือดร้อน กำนันเจิมก็เริ่มรู้สึกตัวสำนึกผิดและเลิกทำงานให้ดนู ฝ่ายดนูแค้นที่แผนการซื้อที่ดินบ้านทุ่งแสงจันทร์ต้องล้มเหลว จึงให้ธนาตามแจ้งมาเพื่อจัดการกับหินขั้นเด็ดขาด และเมื่องานสำเร็จก็จะให้ธนาจัดการปิดปากแจ้งเพื่อไม่ให้สาวมาถึงตน แป้นกังวลใจมากที่ติดต่อนุชไม่ได้หลายวัน จนไม้พานุชกลับมาถึงได้รู้ว่านุชพลาดท่าเสียทีไม้ แม้ไม้จะขอรับผิดชอบ หากนุชกลับไม่ยอมรับ เพราะรู้ว่าไม้ไม่ได้รักตน แค่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ แป้นให้แหวนหมั้นของตัวเองกับไม้เพื่อไม้จะได้เอาไปหมั้นนุช แต่ไม้เข้าไม่ถึงตัวนุช แก้วพอรู้เรื่องก็มากล่อมนุชจนนุชเริ่มใจอ่อน ส่วนไม้แอบได้ยินน้าดอนคุยกับป้าทองเรื่องที่หินแอบรักแก้ว แต่แป้นไม่ยอมรับ ไม้อยากทำอะไรเพื่อหินบ้าง จึงเข้าไปคุยกับแป้นจนแป้นใจอ่อนยอมให้หินรักกับแก้ว และยังทำตัวเป็นกามเทพให้หินบอกรักแก้ว เมื่อเห็นหินกับแก้วมีความสุข ไม้จึงตั้งใจจะกลับบ้านไปขอแต่งงานกับนุช หากแค่สตาร์ทรถ ระเบิดที่แจ้งแอบวางไว้ใต้ท้องรถหวังฆ่าหินเกิดระเบิดซะก่อน ดนูรับรู้เรื่องราวจากแจ้งด้วยความดีใจ แม้จะฆ่าหินไม่สำเร็จ แต่การที่ไม้ตายก็ทำให้หินเสียใจจนแทบกระอักเลือด ดนูให้ธนาไปส่งแจ้งหวังให้ธนาฆ่าแจ้งปิดปาก แต่ธนาไม่ทำแถมยังดัดหลังดนูเอาคลิปเสียงที่ดนูสั่งฆ่าหินส่งให้หิน ๆ ตามมาจะเอาเรื่องธนาที่บ้าน ตำรวจตามจับดนูหลังได้คลิปเสียงจากหิน ดนูหนีตำรวจมาหาธนาที่บ้านด้วยความแค้น เจอธนาและแจ้งอยู่ด้วยกัน ดนูพยายามจะยิงธนา แต่แจ้งเข้ามาแย่งปืนจนพลาดปืนลั่นใส่ธนาจนตาย แจ้งอาศัยจังหวะชุลมุนหนีไปได้ ในขณะที่ดนูโดนจับ แก้วไปขอให้กำนันเจิมช่วยพูดกับชาวบ้านให้ยกโทษให้เมฆพ่อของหิน แรก ๆ ชาวบ้านก็ไม่ยอม หากกำนันเจิมก็ยกความดีของหินมาอ้าง แล้วให้ชาวบ้านเอาไปคิด ระหว่างนั้นเกิดไฟไหม้บ้านไอ้สุกชาวบ้านที่เคยโดยเมฆเอารัดเอาเปรียบ สุกพยายามจะเข้าไปช่วยแม่ที่ติดอยู่ในบ้านแต่ก็โดนชาวบ้านดึงตัวไว้ ขณะนั้นเองทุกคนก็เห็นหินอุ้มยายไสแม่ของสุกฝ่ากองไฟออกมา ทั้งยังเป็นธุระพาไปหาหมอ และจ่ายค่ารักษาให้ ทำเอาสุกและชาวบ้านยอมอโหสิกรรมให้เมฆพ่อของหิน ในที่สุดโรงเรียนอนุบาลก็สร้างเสร็จ โดยมีหลวงตามาเป็นคนตัดริบบิ้น แก้วตัดสินใจที่จะมาเป็นครูในโรงเรียนอนุบาล และอยู่เคียงข้างหิน ท่ามกลางความดีใจของชาวบ้านทุ่งแสงจันทร์ทุกคน โดยมีพระแจ้งยืนแอบมองอยู่ไกล ๆ ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครสุภาพบุรุษบ้านทุ่ง ได้ทุกวัน เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี

ปิ่นรัก 2556

เรื่องย่อ : ปิ่นรัก (2556/2013) ที่หัวหิน ชะเอม ลูกชายชะอ้อน เอาเหล้ามาฝากเหิม แก้วแก่น เพื่อนรักของพ่อ เขาตามจีบ เก่ง ลูกสาววัยสิบสี่ของเหิมที่ยิ่งโตยิ่งสวยผิดพ่อแม่ แต่ไม่กล้าแม้แต่จะจับมือ เพราะเธอหมัดหนัก เก่งไม่อยากให้พ่อคบชะอ้อนที่เป็นนักเลงหากินทางทุจริตและมักใช้วิธีหมาหมู่ทำร้ายผู้อื่น แต่ก็ทำไม่ได้ เก่งเป็นเด็กฉลาดไหวพริบดี แต่ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะพิกุล ผู้เป็นแม่ และนางหอม ผู้เป็นย่าไม่มีเงินส่งเสีย เก่งจึงไปรับจ้างยกของในตลาด จนเจอครูสำอาง หลานสาวคุณนายสมสุข สำอางเห็นเก่งขยันจึงจ้างไปช่วยงานที่บ้านสมสุข แต่สำอางอยู่แค่ช่วงปิดเทอม เก่งจึงขาดรายได้ เพราะสมสุขไม่ไว้ใจเธอ รานี รมเยศ หรือต๋อม น้องสาวของรติ หรือโต้ง กำลังหงุดหงิดที่เห็นโยคิน คุณากร นักประพันธ์หนุ่มหล่อไฟแรงนามปากกา เมิน แมนสรวง ควงสาวอื่น รติรู้ว่าโยคิน เพื่อนรักของเขารักรานี แต่ก็ไม่อยากให้รานีแสดงออกมากนัก เพราะเธอเป็นผู้หญิงและยังเรียนไม่จบ โยคินเป็นนักเขียนชื่อดัง มีแฟนนิยายมากมาย และรานีก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เขาคิดว่ารานีไม่เหมือนคนอื่นที่มองเขาแค่ความเป็น เมิน แมนสรวง เขาจึงเตรียมเก็บเงินสร้างเรือนหอไปสู่ขอรานี เมื่อเธอเรียนจบ รติแวะไปหาโยคินที่บ้าน มีจ๋อง เด็กหนุ่มคนรับใช้สนิทของโยคินมาต้อนรับ โยคินบ่นให้รติฟังเรื่องที่ถูกประเดิม ผู้เป็นพ่อเทศนาเรื่องงานของเขา พ่อมองอาชีพนักเขียนว่าต่ำต้อย และชื่นชมประโคม หรือใหญ่ พี่ชายโยคินที่กำลังจะจบปริญญาโทจากอังกฤษ สาขาปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์มาช่วยธุรกิจครอบครัว จนโยคินคิดว่าพ่อไม่รัก โชคดีที่คนึง ผู้เป็นแม่คอยปลอบโยน ประเดิมย้ำให้โยคินไปรับประโคมที่จะกลับจากต่างประเทศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า รติไม่อยากให้โยคินเครียดจึงชวนไปหัวหินเปลี่ยนบรรยากาศทำงาน โยคินตกลง ชะอ้อนแนะนำให้เหิมใช้เก่งเป็นตัวล่อลอกคราบผู้ชาย เหิมไม่คิดขายลูกกิน แต่ไม่อยากผิดใจกับชะอ้อนจึงขอคิดดูก่อน ขณะที่เก่งไปรับจ้างยกของที่ตลาดพบเจ้ายง มือกาวลูกน้องของชะเอม ที่ถูกชะเอมสั่งมาล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว เก่งไม่ชอบ เพราะไม่ถูกต้องและมีความเสี่ยงที่จะถูกจับสูง วันนี้เจ้ายงคิดจะล้วงกระเป๋าโยคิน เก่งเคยเจอโยคิน และรู้ว่าเขาเป็นคนดี จึงไม่ให้ยงทำผิด เจ้ายงกลัวเก่งมากกว่าชะเอมจึงไม่กล้า ส่วนเก่งเข้าไปช่วยโยคินถือของและบอกจะมาทุกวันให้คุ้มกับค่าจ้างของเขา เธอไม่ลืมบอกเรื่องที่จะมีคนมาล้วงกระเป๋านาย โยคินยังคิดว่าเก่งเป็นผู้ชายจึงถูกใจน้ำใจของเก่ง เก่งมารอช่วยโยคินทุกวัน โยคินชอบความซื่อสัตย์และขยันของเก่ง จึงจ้างเธอมาดูแลเขาระหว่างพักอยู่บ้าน "คิดถึง""ปิ่นรัก" ของ เทอด ไผท มาให้เก่งอ่าน เรื่องราวในนิยายเหมือนชีวิตของเก่งกับโยคิน เก่งมาขอที่อยู่คนเขียนจากผไท ผไทบอกว่าคนเขียนชื่อคำ น่านเมือง เก่งจึงส่งจดหมายไปในนามแฟนนิยายเพื่อพิสูจน์ว่าเขาใช่โยคินหรือไม่ ลุงคำนำจดหมายแฟนนิยายมาให้โยคินในไร่แถวนครสวรรค์ วันเกิดเหตุ โยคินถูกจี้รถและทรัพย์สิน โชคดีที่ลุงคำช่วยไว้ ส่วนคนที่ตายในอุบัติเหตุคือ โจรขโมยรถ โยคินสวมรอยว่าเสียชีวิตเพื่อให้เก่งลืมเขา โยคินอ่านจดหมายเก่งที่ขอร้องไม่ให้มุนี พระเอกของเรื่องต้องตายเหมือนคนที่เธอรัก เพราะปิ่น นางเอกในเรื่องคงรักใครไม่ได้แม้แต่พี่ชายของมุนี เก่งลงท้ายชื่อว่า ปะราลี พิชิตรณชัย ทำให้โยคินดีใจที่รู้ว่าเก่งยังไม่ได้แต่งงาน และมีใจตรงกับเขา โยคินตัดสินใจลาลุงคำไปอยู่บ้าน คิดถึง ที่หัวหิน ขณะที่เก่งกลับไปตัดผมสั้น และขอไปพักที่หัวหิน เพื่อรำลึกความหลัง ลึก ๆ เก่งมั่นใจว่าโยคินยังไม่ตาย เช้าวันใหม่ที่หัวหิน เก่งไปบ้านคิดถึงในเสื้อผ้าชุดเก่าที่โยคินคิดว่าเธอเป็นผู้ชาย เก่งนึกถึงสมุดบันทึกหน้าสุดท้ายของโยคินที่บอกว่าทนไม่ได้ที่เห็นคนที่เขารักแต่งงานกับคนอื่น ของขวัญแต่งงานที่เก่งได้จากโยคิน คือ แหวนเพชรซึ่งโยคินเก็บเงินซื้อไว้เป็นแหวนวงสำคัญในชีวิต เก่งร้อยแหวนใส่สร้อยคอติดตัวตลอดเวลา ระหว่างนั้น เก่งเห็นห้องพักโยคินเปิดหน้าต่าง เธอจึงเข้าไปและพบว่าโยคินนอนป่วยอยู่ เก่งส่งข่าวให้ทุกคนรู้ เป็นครั้งแรกที่ประเดิมแสดงความรักต่อโยคิน ทำให้เขาดีใจ ประโคมตัดสินใจคืนเก่งให้โยคิน และพยายามเปิดใจมองปรารถนา โยคินรักษาตัวจนดีขึ้นเพราะมีเก่งดูแลใกล้ชิด ทั้งสองเปิดเผยความในใจที่มีต่อกัน เก่งตกลงแต่งงานกับโยคิน ทั้งคู่สัญญาว่าจะรักและมั่นคงต่อกันตลอดไป ติดตามชม ละครปิ่นรัก ได้ทุกวัน เวลา 18.40 น. ทางช่อง 7 สี ละครปิ่นรัก เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2556

รักร้อยล้าน 2556

เรื่องย่อ : รักร้อยล้าน (2556/2013) เศรษฐี ชายหนุ่มหน้าตาดี เป็นคนซื่อตรงและมีน้ำใจ เติบโตมาจากครอบครัวธรรมดา อาศัยอยู่กับ ศักดา ผู้เป็นพ่อ และ เศรษฐา พี่ชาย หลังจากเรียนจบ เศรษฐี เดินย่ำออกหางานทำมาเป็นปีจนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้งาน ทำให้เศรษฐาพี่ชายที่ทำงานแบงก์แห่งหนึ่งพูดจาเยาะเย้ยดูหมิ่นอยู่เนือง ๆ มีแต่ ศักดา ผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่คอยให้กำลังใจ คอยปลูกฝังให้เขาเป็นคนดี ซื่อสัตย์และยึดมั่นทำในสิ่งที่ถูกต้องมาแต่เล็กจนโต วันหนึ่งโชคของเศรษฐีก็มาถึง เมื่อไปสมัครงานที่บริษัทแห่งหนึ่งได้พบกับ สมหญิง ผู้จัดการทั่วไป ที่ถูกชะตาเขา จึงเสนองานเมสเซ็นเจอร์ให้ เศรษฐี รีบรับเอาไว้เพราะไม่อยากคว้าน้ำเหลวกลับบ้าน ฟ้าใส เด็กสาวแสนสวย มีนิสัยสุภาพเรียบร้อย กตัญญู อ่อนโยน แต่สุดแสนจะอาภัพ เป็นลูกสาวบุญธรรมที่ คุณหญิงสายสมร กับ นายพลชัชวาล รับเลี้ยงไว้เพราะมีคนเอาเด็กน้อยมาทิ้งไว้หน้าประตูบ้าน แต่เมื่อรับเลี้ยงฟ้าใส คุณหญิงสายสมรก็ตั้งท้อง และได้ลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจคือ สรวงสุดา ตั้งแต่นั้นจึงเลิกสนใจฟ้าใส และส่งเด็กให้ ประภา แม่บ้าน เป็นคนเลี้ยง เมื่อฟ้าใสโตเป็นสาวกลับเป็นที่สนใจของคนรอบข้างเพราะความสวยที่เด่นสะดุดตาทำให้ทุกคนจับจ้องจนมองข้ามสรวงสุดา ทำให้คุณหญิงสายสมรเกลียดฟ้าใส มากยิ่งขึ้น โดยที่เธอเองไม่รู้เลยว่าไม่ใช่ลูกแท้ ๆ และทำไมแม่จึงไม่รักตน เมื่อเศรษฐีเริ่มทำงานก็ได้เจอกับฟ้าใส แต่ด้วยความเข้าใจผิดทำให้ทั้งสองกลับกลายเป็นคู่กัดกันตั้งแต่แรก แต่เมื่อเศรษฐีเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำเพราะไปส่งงานให้ลูกค้าของฟ้าใส และยังช่วยเหลือเธอจากพวกเด็กแว้นที่เข้ามาลวนลามทำให้ทั้งสองรู้สึกดีต่อกันยิ่งขึ้น ทำให้ ถาวร ผู้จัดการที่หมายปองฟ้าใสไม่พอใจ จึงวางแผนร้ายแกล้งให้เศรษฐีเอาเครื่องแก้วเจียระไนไปส่งลูกค้า โดยแอบทำเครื่องแก้วให้แตกก่อนที่จะเอาไปส่ง ทำให้เศรษฐีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก และขณะเดินหางานใหม่นั้นเอง เขาได้ช่วยชีวิตหญิงชราที่ลงจากรถหรูแล้วถูกโจรขี้ยาใช้มีดจี้เพื่อชิงทรัพย์ หญิงชราจะตอบแทนด้วยเงินจำนวนหนึ่งแต่เศรษฐีไม่ยอมรับ หญิงชราจึงขอร้องแกมบังคับให้รับฉลากกินแบ่ง 1 ชุดที่มีอยู่แทน โดยไม่คาดฝันว่าลอตเตอรี่ใบนั้นถูกรางวัลที่ 1 ชุดใหญ่ แต่ ศักดา บอกให้เศรษฐีนำเงินไปคืนหญิงชราเพราะรางวัลใหญ่นี้ควรจะเป็นของเธอ ทำให้ คุณนฤมล ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นถึงเศรษฐีนีร้อยล้านซึ้งใจและรับเขาเข้าทำงาน และยังให้ช่วยตามหาหลานสาวคนเดียวที่หายสาบสูญไปตั้งแต่แบเบาะ นอกจากนั้นยังขอรับเศรษฐีเป็นหลานบุญธรรมและมอบหมายให้ดูแลกิจการร้อยล้านของเธอ ทำให้ เพชรี ลูกสาวบุญธรรม ไม่พอใจแต่พยายามซ่อนความรู้สึกเอาไว้ และตัดพ้อว่าเธออาจเป็นหลานสาวตัวจริงที่หายไปก็ได้ แต่คุณนฤมลมั่นใจว่าไม่ใช่ ทำให้เพชรีเคียดแค้นและเกิดอาการเครียดจนต้องกินยาคลายเครียดเป็นประจำ ยุวดี เพื่อนสนิทจึงยุให้จับเศรษฐีให้ได้ มรดกร้อยล้านจะได้ตกเป็นของเธอ ด้านคุณหญิงสายสมรฝาก สรวงสุดาให้ทำงานกับ สหรัฐ และหมายมั่นให้ทั้งคู่ได้ลงเอยกัน ด้วยความหล่อของสหรัฐทำให้สรวงสุดาตกหลุมรักเขาโดยง่ายแต่ก็ต้องฝ่าด่านบรรดาสาว ๆ ของเขาโดยมีแม่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง ทุกอย่างน่าจะลงเอยด้วยดีแต่เมื่อรู้ว่าฟ้าใสรักอยู่กับเศรษฐี ซึ่งจู่ ๆ กลายเป็นมหาเศรษฐีทำให้คุณหญิงสายสมรเปลี่ยนเป้าหมายจับคู่เศรษฐีให้สรวงสุดา ฝ่ายฟ้าใสด้วยความกตัญญูจึงยอมหลีกทางให้น้องแม้ว่าเธอจะเจ็บปวดเสียใจแค่ไหนก็ตาม วันหนึ่ง คุณนฤมลเจอ จวง คนที่ขโมยหลานสาวเธอไปจากโรงพยาบาลเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วโดยบังเอิญ จวงสารภาพผิดและกราบขอโทษคุณนฤมล และจะไถ่บาปด้วยการช่วยติดตามหาเด็กที่หายไปเพราะตอนนั้นนำไปฝากไว้กับสามี ส่วนตัวเธอก็หนีตำรวจจึงไม่เคยได้เจอกันอีกเลย เมื่อเพชรีรู้ข่าวการตามหาหลานสาวที่หายไปจึงอาการกำเริบลอบเข้าไปทำร้ายจวง ทำให้เธอหนีไปก่อนจะหาโอกาสกลับมาบอกว่าเอาเด็กไปทิ้งไว้ที่หน้าบ้านคนรวยก่อนที่จะโดนเพชรีทำร้ายปางตาย ซึ่งเศรษฐีสืบจนรู้ว่าบ้านหลังนั้นคือบ้านคุณหญิงสายสมร นั่นเอง คุณหญิงสายสมรบังคับให้ฟ้าใสแต่งงานกับสหรัฐที่ถูกใจในความสวยของเธอ แต่นายพลชัชวาล เห็นว่าทำเกินไปจนเกิดมีปากเสียงรุนแรงทำให้ฟ้าใสได้รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ ๆ เธอเสียใจมาก เมื่อได้เจอกับเศรษฐี จึงระบายให้ฟังทำให้ชายหนุ่มสงสัยว่าฟ้าใสอาจเป็นหลายสาวคุณนฤมลที่หายตัวไป เมื่อมีการพิสูจน์ดีเอ็นเอจึงมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ฟ้าใสคือทายาทคนเดียวของคุณนฤมลจริง ๆ หนุ่มสาวทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันและตกลงจะแต่งงาน แต่ในวันแต่งงานนั่นเอง เพชรีที่คุ้มคลั่งเพราะกำลังสูญเสียทุกอย่างในชีวิตจึงลักพาตัวฟ้าใส ไปและระบายความแค้นทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น เธอพยายามร้องขอชีวิตและก่อนที่จะหมดสติไป เศรษฐีก็เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน เพชรีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประสาทเพราะตอนนี้เธอได้กลายเป็นบ้าไปแล้ว คุณนฤมล เสียใจมากที่บุตรสาวบุญธรรมต้องมีชะตากรรมเช่นนี้ เศรษฐีจะพาฟ้าใสส่งโรงพยาบาล แต่เธอขอร้องให้เขาพากลับไปที่งานแต่งงาน เพราะวันนี้เป็นวันที่เธออยากเห็นเศรษฐีและคุณยายนฤมลมีความสุขมากที่สุด ฟ้าใสสารภาพรักกับเศรษฐี ทั้งที่เธอไม่เคยพูดคำนี้มาก่อน เศรษฐีบอกว่าเขารู้มาตั้งนานแล้ว ฟ้าใสบอกว่าอยากพูดให้ได้ยิน เพราะคำว่ารักมันเป็นคำซึ่งยากที่จะหลุดจากปากผู้หญิง เศรษฐีหอมแก้มฟ้าใส แล้วบอกว่าจะดูแลเธอและคุณยายไปจนชั่วชีวิต ติดตามชม ละครรักร้อยล้าน ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี