Cooking Crush อาหารเป็นยังไงครับหมอ 2566

เรื่องย่อ : Cooking Crush อาหารเป็นยังไงครับหมอ (2566/2023)  ในวันที่ความมั่นใจของ “เปรม” นักศึกษาปี 3 ว่าที่เชฟ หล่นลงไปเหลือศูนย์เพราะอาหารที่ทำโดนอาจารย์เมิน แต่กลับมีว่าที่คุณหมออย่าง “เท็น” ที่กำลังจะเป็นลมตายเพราะไม่ได้กินข้าวตามกลิ่นมาเจอ! จากจะเอาไปเทให้หมาดันกลายมาเป็นให้หมอซะงั้น

ปฏิบัติการสอนหมอทำอาหารจึงเริ่มขึ้น สอนกันไปสอนกันมาเลยพากันคิดไกล แถมมีเรื่องให้วุ่นวายหัวใจไม่หยุด! อาหารจานนี้จะทำเขาใจสั่นจนเสียอาการขนาดไหน ติดตามได้ใน “Cooking Crush อาหารเป็นยังไงครับหมอ” ทุกวันอาทิตย์ 20:30 น. ทางช่อง GMM25 ดูย้อนหลังแบบ Uncut ได้ที่ WeTV เวลา 22:30 น. เริ่ม 26 พฤศจิกายนนี้ (ที่มา : GMMTV OFFICIAL​​)

 

Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน 2566

เรื่องย่อ : Bake Me Please พิชิตใจ นายสายหวาน (2566/2023) เรื่องราวของ ชิน(โอห์ม ฐิติวัฒน์) เชฟเบเกอรี่หนุ่มชื่อดังสุดเย็นชา ที่ร่วมเปิดร้านเบเกอรี่ตามความฝันกับเพื่อนรักอีก2คนคือ กาย(ภูมิ ภูริพันธ์) เชฟขนมพายที่หาตัวจับยาก และ โอบ(เปรม ณพนัช) ผู้รับหน้าที่บริหารจัดการร้าน โดยโอบเป็นแกนนำขอเงินทุนจากแม่ตนเองมาลงทุนเปิดร้านร่วมกัน

แต่การทำร้านเบเกอรี่ไม่ง่ายอย่างที่คิด ด้วยความที่ชินเป็นคนอารมณ์ร้าย ไม่เอาใคร ปิดกั้นตัวเองจากทุกอย่าง เพราะปมบาดแผลในใจจากวัยเด็กที่เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวจากบ้านเด็กกำพร้า ทำให้ไม่มีใครทำงานที่ร้านได้นาน สร้างความหนักใจให้กายและโอบอย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของโอบบังคับให้ลากน้องชายตัวดี อะตอม(อะตอม ณฐาภพ) หนุ่มอารมณ์ดี ที่ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย มาทำงานที่ร้านให้ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับอะตอม เพราะรู้กิตติศัพท์ความน่ากลัวของชินเป็นอย่างดี ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด อะตอมจึงไปลากเพื่อนรัก พีช(ไกด์ กันตพล) ชายหนุ่มโลกใส มองโลกในแง่ดี จิตใจดี ให้มาทำงานที่ร้านด้วยกัน เพื่อหวังลดการปะทะกับชิน ด้านพีชเอง ได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักความอบอุ่นอย่างดีจากคุณยายที่ทำขนมชิฟฟ่อนขายเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก ทำให้ตัวเขาเองก็แอบมีความฝันในการทำร้านเบเกอรี่ของตัวเองเช่นกัน จึงรับปากที่จะไปทำงานที่ร้านกับเพื่อน เรื่องราวความสัมพันธ์ของชายหนุ่มทั้ง5คนจึงเริ่มต้นขึ้น

ความรักความผูกพันของ เพื่อน คนรัก คนสนิท ที่แทบจะแยกกันไม่ออก มันทำให้เกิดเรื่องราวมากมาย ซึ่งพวกเขาต้องพยายามค้นหาคำตอบให้ได้ว่า ความรักและความฝันของพวกเขา จะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ติดตามได้ในBake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน (ที่มา : entertainment.trueid.net)

Sweet Sensory เรื่องรัก หลากรส

Sweet Sensory เรื่องรัก หลากรส (2566/2023) คราม อดีตเชฟร้านอาหารหรูต้องมาเป็นครูในโรงเรียนสอนทำอาหารของเพื่อน เขาได้พบกับ แตม หญิงสาวตาบอดที่มีความสามารถพิเศษในการรับกลิ่นและรส และเรื่องราวชวนปวดหัวหลากรสชาติของบรรดานักเรียน (Source: thaipbs.or.th)

Moonlight Chicken พระจันทร์มันไก่ (2566/2023) "พระจันทร์มันไก่” ร้านข้าวมันไก่ที่เป็นทั้งจุดจบ และการเริ่มวันใหม่ของคนกลางคืน โดยมี “ลุงจิม” (เอิร์ท พิรพัฒน์) พ่อครัวหนุ่มใหญ่ใจดี “หลี่หมิง” (โฟร์ท ณัฐวรรธน์) หลานชายแท้ๆ และ “ไก่ป่า” (ข้าวตัง ธนวัฒน์) ลูกชายร้านขายไก่สดแวะเวียนมาช่วยบ่อยๆ คืนหนึ่งลุงจิมได้พบกับ “เหวิน” (มิกซ์ สหภาพ) นักตกแต่งดิสเพลย์ ลูกค้าที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง แต่กลับมีอุปสรรคมากมายที่ทำให้ลุงจิมสับสนกับการเปิดใจกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ (ที่มา : GMMTV OFFICIAL​​)

ผัดไทย สูตรลับลิขิตฝัน (2564/2021) เมื่อเชฟมือใหม่ตัดสินใจลงแข่งศึกทำอาหารรายการ Final Chef จึงงัดจานเด็ดอย่าง "ผัดไทย" หวังคว้าแชมป์ ทว่าแม่กลับไม่ปลื้มเพราะความหลังที่ฝังใจ แต่แล้วปาฏิหาริย์บางอย่างได้พาเธอย้อนเวลาหาอดีตเพื่อค้นพบสูตรลับและความหมายของรสชาติเหนือกาลเวลา

Baker Boys รักของผม ขนมของคุณ (2564/2021) เมื่อ เวียร์ (สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์) เชฟหนุ่มทำขนมหวานเจ้าเสน่ห์ ที่หล่อจนทําให้ลูกค้ายันเจ้าของร้านเป็นอันตบตีแย่งชิงเขาอยู่เสมอ ต้องตกงานเพราะเสน่ห์ของตัวเองอีกครั้ง จึงได้มาสมัครงานที่ร้าน Sweet Day ร้านขนมหวานเปิดใหม่สุดหรูของ ปุณ (ลี ฐานัฐพ์ โลห์คุณสมบัติ) หนุ่มหล่อสุดกวน ทายาทเศรษฐีระดับท็อป ที่ตัวเองมีความหลังฝังใจจนกินขนมหวานไม่ได้ แต่ดันมาเปิดร้านขนมหวานแค่เพราะอยากใกล้ชิดสาว ๆ ที่มาใช้บริการเท่านั้น เมื่อปุณเห็นโปรไฟล์ของเวียร์ก็รับเข้าทํางานทันที แต่เวียร์กลับมีปัญหาใหญ่ เพราะเขาดันเป็นโรคกลัวผู้หญิง ทําให้ปุณจําใจต้องรับ กระทิง (ปลื้ม ปุริม รัตนเรืองวัฒนา) อดีตนักมวยดาวรุ่งที่แขวนนวมเพราะโรคประจําตัว เข้ามาช่วยทำงาน แม้ปุณจะไม่ถูกใจกระทิงสักเท่าไหร่เพราะชอบกวนอยู่เสมอ แต่ก็ต้องยอม เพราะกระทิงมีต่อมรับรสขนมหวานขั้นเทพตามแบบที่เวียร์ต้องการ ร้าน Sweet Day เริ่มมีลูกค้าเข้ามามากขึ้น แต่ทว่ากลับมีข่าวเด็กถูกลักพาตัว ซึ่งหลักฐานชิ้นเดียวที่คนร้ายทิ้งไว้ก็คือ ห่อขนมจากร้าน Sweet Day ทําให้ โมเน่ (เจมี่ จุฑาพิชญ์ อินทร์จันทร์) นักข่าวออนไลน์ผู้โด่งดัง แอบมาตามสืบข่าวที่ร้าน ซึ่งเธอมั่นใจว่าคนร้ายจะต้องอยู่ที่ร้านนี้อย่างแน่นอน จนโมเน่ได้พบผู้ต้องสงสัย เป็นชายสวมแว่นดําที่คอยด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าร้าน แต่ชายคนนั้นกลับเป็น พูห์ (เฟย ภัทร เอกแสงกุล) บอดี้การ์ดหน้าโหดแต่นิสัยขี้อายของปุณ ที่มาคอยสังเกตการณ์และดูแลนายน้อยของเขา ทําให้สุดท้ายปุณก็ต้องรับพูห์เข้ามาเป็นเด็กเสิร์ฟในร้าน เพื่อไม่ให้มีใครเข้าใจผิดอีก ชีวิตสุดวุ่นวายในการเปิดร้านขนมหวานพร้อมกับการตามสืบหาคนร้ายจึงเริ่มต้นขึ้น พวกเขาต้องประสบปัญหามากมาย ทั้งเรื่องงาน หรือแม้แต่เรื่องหัวใจสุดมะรุมมะตุ้ม จนไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วความรักวุ่น ๆ เหล่านี้จะลงเอยอย่างไร ? ติดตามความสนุกกันต่อได้ใน Baker Boys รักของผม...ขนมของคุณ

ส่งร้อนเสิร์ฟรัก Bite Me (2564/2021) เมื่อ เอก (มาร์ค ศิวัช จำลองกุล) เด็กเหนือในวัย 21 ปี เติบและโตที่จังหวัดน่าน มีโอกาสได้เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ คณะบัญชี เอกหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือด้วยการส่งไลน์แมน และมีความฝันอยากเป็นเชฟระดับโลก ส่วน เชฟเอื้อ (ซุง กิดาการ ฉัตรแก้วมณี) เชฟวัย 30 ปี เจ้าของร้านอาหาร อิ่มเอื้อ ที่เปิดขึ้นมาเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเอง เพราะสิ่งที่เชฟเอื้อขาด ไม่สามารถมีอะไรมาเติมเต็มได้นอกจากพรสวรรค์ โดยเชฟเอื้อไม่เคยคาดคิดเลยว่าสิ่งที่เขาขาดหายไปจะถูกค้นพบในตัวของเอก เด็กส่งอาหาร เมื่อหนึ่งคนผู้มีความฝันแต่ขาดโอกาส กับหนึ่งคนผู้มือความเชี่ยวชาญและความสามารถแต่ขาดรสมือ เมื่อทั้งสองคนมาพบกัน ... ความมหัศจรรย์ของอาหารชวนให้ท้องหิวจึงเริ่มขึ้น เคลียร์ท้องให้ว่าง เกาะจอให้แน่น ได้ในซีรีส์ ส่งร้อนเสิร์ฟรัก Bite Me

รักล้นพุง (2564/2021) ทอย ธนากร นักขายประกัน เจ้าของอินสตาแกรมรีวิวอาหารที่มีชื่อเสียง ต้องย้ายไปประจำที่สำนักงานหัวหินอย่างกะทันหัน และได้พบกับ ธงชัย ซึ่งเป็นญาติของเขา ทั้งคู่ทำงานที่เดียวกัน และที่สำคัญ ทอยเข้าพักที่ ผาสุกวิลล่า เขาได้พบกับ เหมียว สุกัญญา หรือ สุกร เพื่อนตั้งแต่วัยเด็กด้วย ที่ผาสุกวิลล่า ทอยพยายามผูกมิตรกับเจ๊รัน กันดั้ม และอาม่า ด้วยการชวนไปรับประทานอาหารด้วยกัน แต่ว่าเหมียวกลับตั้งป้อมเป็นศัตรูเกลียดชังเขาอย่างเห็นได้ชัด ทอยต้องเอาชนะใจเหมียวให้ได้ เพราะเธอคือสะพานที่จะพาเขาไปรู้จักกับผู้คนอีกมากมายที่บริษัทของเหมียวเพื่อขายประกัน เหมียวหลงรัก ปานเทพ ชายหนุ่มโปรไฟล์ดี หัวหน้าฝ่ายวางแผนและนโยบาย เจ้าหน้าที่บริหารที่ทํางานร่วมกัน แต่ปานเทพยังจําแม้แต่ชื่อของเธอไม่ได้ เหมียวยื่นเงื่อนไขกับทอย ว่าถ้าอยากให้เธอแนะนำเพื่อนที่ทำงานให้ทอยรู้จักเพื่อขายประกัน ทอยจะต้องทําให้เธอได้คบกับปานเทพเสียก่อน ทอยทําตัวเนียนเข้าไปตีซี้ และได้พบความลับของปานเทพว่า ภายใต้บุคลิกอันเงียบขรึมสุภาพนั้น ปานเทพเป็นชายหนุ่มสายนักกีฬา ชอบออกกำลังกาย และไม่มีเพื่อนมากเท่าใดนัก เมื่อนานวันเข้า ทอยกับปานเทพจึงเริ่มกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทอยใช้อาหารหลากหลายเมนูเชื่อมความสัมพันธ์และสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับคนรอบ ๆ ตัว ทั้งเจ๊รัน เจ้าของอพาร์ตเมนต์สุดเค็ม, อาม่ากิมฮวย ผู้เช่าชั้นหนึ่งที่แสบซ่าและอินเทรนด์, โจ้ เด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยปริศนา, แอริน สาวมินิมาร์ทจอมอ่อย, ธงชัย หลานชายวัยลุงของทอย และเอมอร เลขาของปานเทพ ขาเมาท์และชอบโม้ เมนูแสนอร่อยที่จะทําให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะเปิดใจมองความสุขที่อยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะมิตรภาพของคนที่ชอบกินอย่างเหมียวและทอย ที่เริ่มเข้ากันได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับที่ปานเทพหันมาสนใจเหมียว เอมอรพยายามจับคู่ปานเทพกับอิ้งค์ ญาติของเธอที่เพิ่งเรียนจบมาจากเมืองนอก เมื่อเหมียวได้รู้จักกับอิ้งค์ จึงรู้ว่าเธอนั้นไม่มีความเหมาะสมกับปานเทพเลยสักนิด ทอยรู้สึกสงสารเหมียว จึงบอกความจริงกับปานเทพว่าเหมียวแอบหลงรักปานเทพมาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนเหมียวก็ดื่มเหล้าจนเมา เห็นหน้าปานเทพเป็นทอย จึงสารภาพความในใจอย่างหมดเปลือกไปกับปานเทพ ปานเทพรู้สึกถึงความรักอันแท้จริงที่เหมียวมีต่อเขา ปานเทพประทับใจมาก จึงขอเหมียวเป็นแฟนในที่สุด เมื่อความรักของเหมียวและปานเทพเริ่มดำเนินไปได้ด้วยดี ทอยจึงปลีกตัวออกมา แต่กลายเป็นว่าเขาแอบรักเหมียวโดยไม่รู้ตัว เขาเริ่มหงุดหงิดเมื่อเหมียวคอยมาเล่าเรื่องของปานเทพให้ฟัง จนทอยต้องโกหกเหมียวว่ามีแฟนแล้ว และไม่อยากจะมายุ่งเรื่องของเหมียวอีก ทั้งคู่ห่างเหินกัน เหมียวรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่เหมียวอยู่กับปานเทพจะอดพูดเรื่องของทอยไม่ได้ โจ้พักอาศัยอยู่ที่ชั้นบนดาดฟ้าของผาสุกวิลล่า และเขาแอบหลงรักแอริน โจ้พยายามปิดบังตัวตนที่แท้จริงว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ซึ่งธงชัยก็นึกสงสัยพฤติกรรมของโจ้ไม่น้อย จึงแอบให้เพื่อนซึ่งเป็นตำรวจสืบหาข้อมูลของโจ้ จนความผิดครั้งในอดีตที่โจ้เคยก่อถูกเปิดเผยในที่สุด โจ้ถูกตำรวจจับ และหลังจากที่หมดเคราะห์ เขาก็กลับมาอยู่ที่ผาสุกวิลล่าอย่างมีความสุข เหมียวได้พบกับความจริงที่ว่า เอมอรนั้นมีชีวิตครอบครัวที่ไม่มีความสุขนัก เอมอรได้รู้จักกับธงชัย ญาติผู้น้องของทอย ความบังเอิญในหลาย ๆ ครั้งที่ทั้งสองพบกัน ทำให้คนทั้งคู่ได้ปรับทุกข์ พูดคุยกัน และเกิดเป็นความรักในที่สุด ความลับที่เหมียวกับปานเทพเป็นแฟนกันถูกเปิดเผย ทําให้เกิดข่าวซุบซิบในที่ทํางานในแง่ลบ เหมียวพยายามปรับตัวให้เข้ากับปานเทพ แต่ยิ่งทําให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเอง เวลาผ่านไป เหมียวเริ่มเข้าใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วเธอชอบทอย เหมียวตัดสินใจบอกเลิกปานเทพในที่สุด ปานเทพเข้าใจความรู้สึกของเหมียวและทอย ไม่อยากให้ทั้งสองต้องห่างเหินกัน จึงพยายามเป็นกาวใจให้เหมียวและทอยได้กลับมาคบหากัน และตัวเขาเองก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทั้งกับเหมียวและทอย ติดตามชมความสนุกของซีรีส์ รักล้นพุง

Ingredients ส่วนผสมที่ลงตัว (2563/2020) เมื่อวินโดน cancel งาน วันนี้อะไรๆของวินจึงดูแย่ไปหมด งานนี้ท็อปส์เลยคิดเมนูคลายเครียด ที่ผสมผสานความน่ารักลงไปด้วย และหลอกวินมาทำด้วยกัน เพื่อให้เขาลืมเรื่องแย่ๆไป

You Never Eat Alone เมื่อความหิว และความเหงา ตัวเท่าบ้าน (2563/2020) เดี่ยว-ดนุสิทธิ ประวิทยาภัทร (พีค ภีมพล) ชายหนุ่มที่มีความแปลกเฉพาะตัว เนื่องจากเขาเป็นคนที่กินข้าวคนเดียวไม่ได้ ถ้าต้องกินข้าวคนเดียว เดี่ยวจะรู้สึกเศร้า เศร้าถึงขนาดที่ว่าต้องเปลี่ยนจากการกินข้าวมาเป็นน้ำตาแทน เขาเลยมีกฎว่า เขาจะไม่นั่งกินข้าวคนเดียวเลย แต่ถ้าเป็นการเดิน วิ่งในที่สาธารณะ เขาก็พอถูไถที่จะกินเพื่อหาอะไรลงท้อง ตั้งแต่จำความได้ เดี่ยวจะมีเพื่อนกินข้าวด้วยเสอมทุกมื้อ อาการกินข้าวคนเดียวไม่ได้ของเขา ไม่ได้สเป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิตมากนัก มื้อเช้า เดี่ยวจะกินข้าวกับครอบครัว กลางวันก็กินพร้อมกับเพื่อนที่โรงเรียน ส่วนมื้อเย็นก็กลับมากินพร้อมกันกับครอบครัว จนกระทั่งมีวันหนึ่งเดี่ยวพบว่า เขาจะต้องกินข้าวคนเดียว แบบนี้ไม่ดีต่อการใช้ชีวิตของเดี่ยวแน่ เขาจึงเริ่มภารกิจหาเพื่อนกินข้าว เรื่องราววุ่น ๆ ของการกินข้าวคนเดียวไม่ได้จึงบังเกิด เพราะเพื่อนกินนั้นหาง่าย แต่เพื่อนตายมันหายาก หลากหลายภารกิจที่วนเวียนใช้ หลายหลากความสัมพันธ์ที่พานมาพบ ทั้งคนที่เหมือนกัน คนที่คิดถึงผลประโยชน์ คนที่ต้องการในเวลาเหงา คนที่เข้าใจกันและกัน และคนที่ผูกพันกันมายาวนาน จะพาให้เดี่ยวผ่านพ้นมันไปได้หรือไม่ เขาต้องหาเพื่อนมากินข้าวด้วยทุกมื้อ หรือต้องหัดกินข้าวคนเดียวให้ได้ ตัวเขาเองเท่านั้นที่จะรู้คำตอบ ติดตามเรื่องราวของเขาได้ในซีรีส์ You Never Eat Alone

ฉันชื่อบุษบา (2563/2020) ฉันชื่อบุษบา ผู้หญิงธรรมด๊าธรรมดา แถมโชคชะตายังมาเล่นตลก ทั้งหักอก และตกงาน แต่ฉันก็ดันโชคดีที่เจอเจ้าชายขี่ม้าขาวมาเปลี่ยนชีวิต !! เมื่อ สรัล (ฟิล์ม ธนภัทร) เทพบุตรสุดหล่อดีกรีทายาทคนเดียวของโรงแรม ต้องมาวางแผนปฏิบัติเป็นแฟนหลอก ๆ กับ บุษบา (บี น้ำทิพย์) เชฟสาวที่ดูแล้วไม่น่ามีทางที่จะมาลงเอยกันได้ โดยงานนี้ต้องหลอกให้เนียน ปฏิบัติแฟนหลอก ๆ ของเขาและเธอ จะเนียนขนาดไหน ? เตรียมสัมผัสกับทุกรสชาติชีวิต และฝีมือทำอาหารที่ไม่ธรรมดา !! ของผู้หญิงที่ชื่อ บุษบา พร้อมกันได้ในละคร ฉันชื่อบุษบา

สูตรรักแซ่บอีหลี (2563/2020) เรื่องราวของโรงงานผลิตน้ำปลาร้าแซ่บไมค์ ของ นำพล (ไมค์ ภิรมย์พร) ที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตโควิด 19 เล่นงาน จนทำให้โรงงานขาดทุนย่อยยับ แถมยังถูกคู่แข่ง อนวัช (ต๊อก ศุภกร) เจ้าของน้ำปลาร้าแซ่บปากเว่อร์ ซึ่งอดีตเคยเป็นลูกน้องคนสนิทที่ขโมยสูตรน้ำปลาร้าไป คอยโจมตีเพื่อหวังจะฮุบกิจการของนำพล ทำให้ คิริน (ตงตง กฤษกร) ลูกชายของนำพลต้องรีบเดินทางกลับจากเมืองนอกเพื่อมากอบกู้กิจการของพ่อ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ทำให้น้ำปลาร้าแซ่บไมค์ เป็นที่ 1 ในตลาดน้ำปลาร้าให้ได้ ในขณะที่ธุรกิจน้ำปลาร้าแซ่บไมค์ และน้ำปลาร้าแซ่บปากเว่อร์ กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด คิรินจำเป็นต้องตัดงบบริจาคให้กับบ้านเติมฝัน บ้านเด็กด้อยโอกาสที่นำพลเคยบริจาคเงินให้เป็นประจำทุกปี เพื่อพยุงกิจการให้ดำเนินต่อไป เป็นเหตุให้ พลอยใส (มุก ณปภัช) ผู้ดูแลบ้านเติมฝันไม่พอใจ จึงตั้งตนเป็นคู่ปรับกับคิริน งานนี้เมื่อน้ำปลาร้ากลายเป็นชนวนความขัดแย้งทางธุรกิจ จนนำไปสู่ความรักระหว่างเขาและเธอ เรื่องราวชุลมุนวุ่นรักที่แซ่บนัวจึงเกิดขึ้น ห้ามพลาดชมละคร สูตรรักแซ่บอีหลี

ฟากฟ้าคีรีดาว 2563

ฟากฟ้าคีรีดาว (2563/2020) ราชิสา (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) หนีการตามล่าของกลุ่มมาเฟีย จากหิมาลัยมาซ่อนตัวอยู่ที่เชียงใหม่ สันธรากาศ (ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ ) หนุ่มหล่อหัวดื้อ ลูกชายมหาเศรษฐีอินเดีย ได้พบกับ ดานิกา (ภูริตา สุปินชุมภู) เจ้าของร้านอาหารที่เชิดใส่ความรวยของเขา สันธรากาศพยายามเอาชนะใจจนรู้ว่า ดานิกาชอบดูดาว แสงดาวงดงามยามฟ้ามืดเชื่อมหัวใจ สันธรากาศได้ใกล้ดานิกา แต่สันธรากาศกลับกลายเป็นคนแพ้ เมื่อดานิกาเลือกเด็กเสิร์ฟผู้อ่อนโยนอย่าง คิรี (สาริน รณเกียรติ) ดานิกาช่วยเหลือคิรีที่มีชีวิตลำบากเพราะแม่ขี้เมาอย่าง พรรำไพ (สินจัย เปล่งพานิช) จนเกิดเป็นความผูกพัน กิเลสที่อยากครอบครองดานิกา ต้องการอยู่เหนือสันธรากาศ และเอาชนะคำดูถูกของแม่ดานิกา ดารารัตน์ (เก็จมณี พิชัยรณรงค์สงคราม) ทำให้ขุนเขาต่ำต้อยอย่างคิรี ยอมทำทุกอย่างเพื่อผลักตัวเองขึ้นไปแข่งกับฟ้ากว้างอย่างสันธรากาศ คิรีถลำลึกทำงานนอกกฎหมายกับ ศิขริน (จอนนี แอนโฟเน) พ่อเลี้ยงดานิกา จนผงาดขึ้นมาร่ำรวยและสู้กับสันธรากาศทุกทาง สันธรากาศสืบรู้ว่าคิรีกำลังเลือกเส้นทางชีวิตผิด ถึงจะไม่เคยดีต่อกัน แต่เมื่อดานิกาขอร้องให้ช่วยคิรี สันธรากาศก็วางแผนดึงคิรีออกจากคนบาปอย่างศิขริน แต่กลับกลายเป็นปมที่มัดให้ดานิกา ต้องแต่งงานกับคิรี ยิ่งเมื่อสันธรากาศได้พบหน้าพรรำไพ เขากลับยอมปล่อยมือจากคนรักเพราะรู้ความจริงว่าคิรีคือน้องชาย ดานิกายอมแต่งงานกับคิรีทั้งน้ำตา เพื่อรักษาชีวิตแม่ ฟ้ากว้างอย่างสันธรากาศเจ็บปวด ที่ไม่อาจโอบอุ้มดวงดาวอย่างดานิกาได้อีก คิรีไม่รู้ตัวว่า ศิขรินต้องการฆ่าปิดปาก และเมื่อรู้ว่าลูกชายถูกทำร้าย ราชิสาก็สั่งฆ่าคิรีทันที สันธรากาศต้องสละทุกอย่างแม้ชีวิตเพื่อปกป้องน้องชายและคนรัก ฟากฟ้าจะโอบกอดดวงดาวและขุนเขาไว้ได้นานแค่ไหน ติดตามชมได้ใน " ฟากฟ้าคีรีดาว "

ปลายจวัก (2562/2019) “อันรสทิพย์สํารับตํารับลักษณ์ มรดกควรค่าจักสานสืบไว้ สมคุณค่าเสริมส่งดํารงไทย อุดมไว้ด้วยรสชาติแห่งชาติพันธุ์” ละครที่นําเสนอวัฒนธรรมอาหารไทยที่มีอัตลักษณ์อันวิจิตร สะท้อนวิถีชีวิตในยุคสมัยตามประวัติศาสตร์สอดแทรกความสนุกที่เล่าผ่านชะตาชีวิตของตัวละครและบริบทสังคมในสมัยรัชกาลที่ ๕ เรือนคุณหลวงพิชัยธานี ริมคุ้งน้ำคลองอัมพวา พ.ศ.๒๔๑๘ ภายในครัว คุณช้อย ภรรยาเอกผู้ดีอัมพวากําลัง กํากับการครัวรอรับคุณหลวงชลธารพฤฒิไกร สามีที่กําลังเดินทางกลับทางเรือจากการทําราชการที่นครศรีธรรมราชอย่างสุดฝีมือ โดยมี คุณกล้า บุตรชายคนโตวัย ๑๐ ขวบ และนางพัด บ่าวที่เคยทํางานในวังมาด้วยกันช่วยสุดฝีมือ แต่แล้วก็ต้องอึ้ง เมื่อคุณหลวงชลธารพฤฒิไกร ไม่ได้กลับพร้อมวัตถุดิบจากทางปักษ์ใต้เท่านั้น แต่ยังพานางทองสําลี บุตรีคุณพระสันต์ฯ หัวหน้าโปลิสคนสําคัญของเมืองนครศรีธรรมราชกลับมาเป็นอนุภรรยาพร้อมบ่าวติดตามชื่อหนุ่ย ทําให้คุณช้อยที่มีเอกลักษณ์การ ทําอาหารรสชาติกลมกล่อมตามตํารับชาววัง และเป็นหนึ่งในเรือนคุณหลวงมาตลอดเริ่มรู้สึกถูกรุกล้ำพื้นที่ในครัวผ่านอาหารรสชาติจัดจ้านร้อนแรงแบบปักษ์ใต้ของนางทองสําลี ทําให้ทั้งคุณช้อยและนางทองสําลีต่างพยายามสรรหาวัตถุดิบและรังสรรค์เมนูอาหารเลิศรสผ่านปลายจวักเพื่อมัดใจสามี ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๑๙ นางทองสําลีตั้งท้อง และคุณช้อยก็ท้องตามมาเช่นกัน ทองสําลีคลอดลูกสาวในครัวท่ามกลางบรรยากาศเผ็ดร้อนขณะตําพริกแกงชื่อวาด ในขณะที่คุณช้อยเกิดปวดท้องคลอดขณะคุมบ่าวกวนน้ำตาลมะพร้าวท่ามกลางบรรยากาศทั้งหอมและหวานชื่ออ่อน แต่เสียเลือดมากจนเสียชีวิต ทําให้คุณหลวงเศร้ามาก และพาลโกรธอ่อนว่าเป็นตัวกาลกิณีทําให้ภรรยาสุดที่รักตาย เมื่อสิ้นคุณช้อย นางทองสําลีจึงต้องขึ้นมาเป็นหลักในการดูแลกิจการงานบ้านงานครัวทุกอย่างในเรือนคุณหลวง จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๔๓๑ ทั้งอ่อนและวาด เติบใหญ่จนอายุได้ ๑๑ ย่าง ๑๒ ขวบ วาด ผู้ที่สวยคมขําตามแบบชาวใต้ มีนิสัยซุกซน ชอบพูดจาโผงผาง ไม่ค่อยสนใจงานครัว ต่างกับอ่อน น้องสาวที่อายุเท่ากัน แต่มีนิสัยเรียบร้อย ผิวขาว ค่อนข้างขี้อาย ชอบเรียนรู้การทํากับข้าว และการบ้านการเรือนโดยมีนางพัดดูแลอย่างใกล้ชิด อ่อนรับรู้ได้ว่าคุณพ่อซึ่งขณะนั้น เป็นคุณพระชลธารพฤฒิไกร ไม่รักและรังเกียจตน อ่อนจึงได้แต่สงบเสงี่ยมเจียมตัวและอยู่อย่างผู้อาศัย แต่สองพี่น้องทั้งวาดและอ่อนก็รักใคร่กันดี ส่วนคุณกล้า เมื่ออายุได้ ๑๙ ปี ได้เรียนเป็นทหารเรือกับบิดา พ.ศ.๒๔๓๔ ในขณะนั้นประเทศไทยถูกคุกคามดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแรงขึ้นเรื่อยๆ คุณกล้าจําเป็นต้องไปทําภารกิจที่ลาว พ่อทั้งกลุ้มทั้งห่วงลูก แต่ก็ภูมิใจที่ลูกจะได้รับใช้กรมหลวงพิชิตปรีชากร มณฑลลาวกาว นางทองสําลี อ่อน และบ่าวไพร่ในบ้านจึงช่วยกันคิดเมนูอาหารสําหรับเดินทางไกลและออกรบเพื่อให้คุณกล้าและเพื่อนๆ ได้กินระหว่างเดินทาง แต่คุณกล้าไปได้เพียงครึ่งทางก็เป็นไข้ป่าเจียนตายจนต้องถูกส่งตัวกลับ ระหว่างคุณกล้าป่วยมีเพื่อนมาเยี่ยม เป็นชายหนุ่มที่กําลังฝึกเป็นมหาดเล็กหลวง ชื่อคุณเลิศ คุณกรุ่น ญาติของคุณช้อย ตัวแทนจากพระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ มาคุยกับคุณพระและมาขอตัวอ่อนไปอยู่ในวัง แต่ในขณะเดียวกันนางทองสําลีก็ขออนุญาตคุณพระให้พาวาดเข้าวังไปด้วย ในที่สุดสองพี่น้อง อ่อนและวาดจึงได้เดินทางเข้าวังไปกับคุณกรุ่น และได้ฝึกและเรียนรู้การทําอาหารในวัง ทั้งอ่อนและวาดได้พบกับสิน ชายหนุ่มเชื้อ สายจีนวัย ๑๘ ปี ระหว่างการออกไปหาซื้อวัตถุดิบการทําอาหารเข้าวัง จนกระทั้งวาดและสินมีปากเสียงและพาลไม่ชอบหน้ากัน ในพิธีโกนจุกของอ่อนกับวาด คุณเลิศมากับคุณกล้า อ่อนสวยมาก คุณเลิศเก็บดอกลําเจียกมาให้ถูกวาดแกล้งหักจนดอกไม้ปี้ป่น พ.ศ. ๒๔๓๕ วาดและอ่อนได้รู้จักคุณปราง ข้าหลวงจากตําหนักเจ้าจอมกรกฎ กล้าและเลิศมารอพบน้องๆ และลาไปราชการที่เมืองลาว จึงได้รู้ว่าปรางเป็นน้องคุณเลิศ พ.ศ.๒๔๓๖ มีการจัดตั้งสภาอุณาโลมแดง ในห้องเครื่องตื่นตัวมาก มีการบรรจุหีบห่อของกินและเวชภัณฑ์ของใช้สําหรับส่งไปให้ทหารสยามในลาว สินเป็นอาสาในทีมขนของจากสภาอุณาโลมแดงไปลาว และอาสาขอร่วมรบด้วยโดยเป็นล่ามฝรั่งเศส หลังจากแพ้สงครามให้ฝรั่งเศส ในหลวงเศร้าไม่เสวย ห้องเครื่องจึงพยายามทําของรสเลิศต่างๆ ถวาย ซึ่งอ่อนกับวาดก็เป็นกําลังสําคัญในการสร้างสรรค์เมนูอาหาร ในปี พ.ศ.๒๔๓๘ เจ้าคุณมหินทร์พ่อของเลิศที่เป็นเจ้าคุณมาขอลูกสาวของคุณพระ พวกชาววังลือไปทั่วว่าเลิศไปสู่ขอลูกสาวคุณพระ สถานการณ์หลายอย่างทําให้วาดนึกว่า คุณเลิศมาขอตนทําให้วาดวิมานไปมากมาย คุณกรุ่นมาพูดกับอ่อน ว่าเลิศชอบพออ่อน วาดได้ยินก็รู้สึก อกหัก วาดได้คุยกับอ่อนไม่ต้องกังวลอาจจะเสียใจที่อกหัก แต่กลายเป็นเศร้ามากกว่าที่ต้องพรากจากพี่น้อง ก่อนถึงงานแต่งงานคุณพระขอโทษที่มีอคติกับอ่อนมาตลอด ในที่สุดสองพ่อลูกก็ได้ปรับความเข้าใจกัน เมื่อครั้งคุณเลิศได้ตามเสด็จประพาสยุโรป อ่อนต้องดูแลบ้านลําพังและอ่อนก็เริ่มตั้งท้อง ส่วนฝ่ายสินให้ผู้ใหญ่มาติดต่อขอวาด แต่วาดปฏิเสธเพราะตั้งใจถวายงานราชการ หลังจากคุณเลิศกลับจากยุโรป อ่อนคลอดลูกแฝดชายหญิง ในขณะเดียวกันเจ้าคุณล้มและเจ็บหนัก อ่อนหอบลูกไปเยี่ยม วาดลามาจากในวังและสองคนได้ดูใจจนคุณพ่อเสีย ในงานศพคุณพระ สินมาช่วยงานคุณกล้าเต็มตัวทําให้ได้ใกล้ชิดกับวาดมากขึ้น และขอโอกาสที่จะแต่งงานกับวาดอีกครั้ง แต่วาดไม่อยากออกจากวังเพราะชอบห้องเครื่องเสียแล้ว แต่สินก็ไม่ลดละ พยายามขอวาดแต่งงานอีกหลายครั้ง แต่วาดก็ปฏิเสธทุกครั้งไป จนกระทั่ง 5 ปีต่อมา สินได้เจอกับหญิงสาวและชอบพอกันทําให้วาดเสียใจมาก ส่วนกล้าได้คบกับหญิงฝรั่ง ลูกครูสอนศาสนา ชาวฝรั่งเศส ชื่อกัทรีน คุณเลิศตามประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ วาดจึงมาช่วยอ่อนเลี้ยงลูก และพูดถึงเรื่องในหลวงรัชกาลที่ ๕ ทรงป่วยไปรักษาตัว ในวังเป็นห่วงกันมาก ส่วนเลิศคิดถึงเมียจึงเขียนจดหมายเล่าถึงพระอาการของในหลวงร.๕ วาดเริ่มสอนข้าหลวงเด็กๆ ในวังเริ่มวิตกเพราะทรงเป็นโรคไต จึงคิดอาหารจืดๆ กลมกล่อม ซึ่งมักจะเป็นอาหารฝรั่ง เพราะอาหารไทยรสจัดมาก มีการทําอาหารที่รสเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่หวาน ไม่มัน ไม่เค็ม ตามที่แพทย์ฝรั่งมาแนะนํา กลางเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓ ในห้องเครื่องทําอาหารกันไปเช็ดน้ำตาไปเพราะท่าไม่ดีแล้ว ในที่สุดอ่อนก็ได้รู้ข่าวการสวรรคตของในหลวงร.๕ จากเลิศ เมืองทั้งเมืองเศร้ารันทด ในวัง ห้องเครื่องทําอาหารดับเศร้าเลี้ยงแขก อ่อนและวาดได้เรียนรู้ชีวิตทั้งดีและร้ายผ่านการทําอาหารที่พวกเธอได้ตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้น ผ่านช่วงชีวิตและเหตุการณ์สําคัญของบ้านเมือง อาหารจึงเปรียบเสมือนสิ่งสําคัญในการขับเคลื่อนให้ผู้คนมีพลังกายพลังใจที่แข็งแรงผ่านปลายจวักของพวกเธอ

นางสาวก้นครัว (2562/2019) เรื่องราวกราฟชีวิตของสาวใช้ต่างจังหวัด จากนางก้นครัวมาสู่เส้นทางความฝันกับในการเป็นเชฟโรงแรมระดับ 5 ดาว ผ่านตำนานอาหารไทย เชน นักเขียนหนุ่มที่พยายามรั้งแฟนสาว เคลลี่ ด้วยการทำอาหารจานเด็ดจากสูตรของแม่พร้อมมัดใจเธอด้วยเรื่องราวชีวิตเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด แซ่บ ของแม่ แต๋ว จากสาวใช้จอมโก๊ะที่หนีออกจากบ้านเกิดจังหวัดอุทัยธานี มาเผชิญชีวิตในบางกอกยุค 80s-90s เพื่อตามหาความฝันของการเป็นเชฟในโรงแรมระดับ 5 ดาว และรัก 3 เส้าเคล้าน้ำพริกลงเรือ ระหว่างแม่กับ พล พ่อครัวรุ่นพี่สุดเย็นชาและ จอม ผู้ช่วยกุ๊กรุ่นน้องที่ยอมทำยอมโดนทุกอย่างเพื่อเธอ

นายยิ้มมะยมหวาน 2562

นายยิ้มมะยมหวาน (2562/2019) ภัสดา ภัทรราชย์ ชายหนุ่มวัย 30 ปี ผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ ขาดเพียงอย่างเดียวคือศรีภรรยา ทำให้ หม่อมสุภางค์ ผู้เป็นป้ากลัวว่า ราชสกุลภัทรราชย์ของตนจะสูญสิ้น จึงพยายามสรรหาสาวๆ ในแวดวงไฮโซ ที่มีฐานะทัดเทียมกันมาให้หลานชายเลือก โดยอาศัยงานเปิดตัวโรงแรมเทวฤทธิ์ ซึ่งดัดแปลงมาจากวังเก่าแก่ของตระกูลเป็นสถานที่เลือกคู่ ภัสดารู้ทันแผนการของหม่อมสุภางค์ ดังนั้นวันงานเขาจึงดับฝันผู้เป็นป้า ด้วยการไม่ไปร่วมงาน แต่ส่งบุรินทร์ เพื่อนสนิท ซึ่งเป็นมือขวาในการบริหารโรงแรมไปเป็นตัวแทน

ในงานเดียวกัน...เบญจแขไข เจ้าของร้านขนมไทยประยุกต์วัย 22 ปี ได้รับการว่าจ้างให้มาสาธิตการทำขนมไทยแบบร่วมสมัย โดยใช้มะยมเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนม ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน ในระหว่างการสาธิตทำขนมมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นจากบรรดาสาวๆ ที่หม่อมสุภางค์เชิญมาร่วมงาน ที่เข้าใจผิดคิดว่า หากใครทำขนมได้เด็ดถูกใจหม่อมป้าจะได้รับเลือกให้เป็นหลานสะใภ้ สาวๆ เหล่านั้นจึงพากันปั่นป่วนการสาธิตทำขนมของเบญจแขไข หนึ่งในนั้นก็คือ จตุชไม (สี่) พี่สาวแท้ๆ ของเบญจแขไข ที่ไม่ยอมรับเบญจแขไขเป็นน้อง และสั่งห้ามไม่ให้บอกใครว่าเป็นพี่น้องกัน เพราะอายที่ไฮโซอย่างตนมีน้องเป็นแม่ค้าขายขนม จตุชไมถือว่าตนเป็นลูกรักของพ่อแม่ ส่วนเบญจแขไขเป็นลูกชัง ซึ่งถูกเนรเทศไปให้ ย่าพิศ เลี้ยงที่บ้านสวนตั้งแต่แบเบาะ จตุชไมเกลียดขี้หน้าเบญจแขไขมาก เพราะเบญจแขไขสวยกว่า เก่งกว่าทั้งงานบ้าน งานครัว แถมยังช่วยดูแลกิจการร้านขนมไทยของย่าพิศ จนมีชื่อเสียงโด่งดังอีกด้วย ความโกลาหลที่เกิดขึ้น ทำให้งานของเบญจแขไขเกือบจะพังไม่เป็นท่า แต่ก็โชคดีที่ นายยิ้ม มะยมหวาน ผู้ชายมอซอ ดูแล้วไม่มีออร่าของผู้ดีเลยสักนิด มาช่วยกู้สถานการณ์ไว้ได้ทัน ทุกอย่างจึงผ่านไปด้วยดี เบญจแขไขกล่าวขอบคุณนายยิ้มอย่างจริงใจ ในขณะที่จตุชไมด่านายยิ้มยกใหญ่ ที่มาช่วยเบญจแขไข และขู่ว่าจะไปฟ้องภัสดาเจ้าของโรงแรมให้ไล่นายยิ้มออก นอกจากนี้ยังดูถูกว่านายยิ้มเป็นคนจนต่ำต้อย น่ารังเกียจอีกด้วย เบญจแขไขสงสารนายยิ้มที่ทำดีแต่กลับถูกด่าฟรี จึงออกหน้าปกป้องนายยิ้ม โดยการต่อว่าจตุชไมกลับไปแรงๆ ทำให้นายยิ้มรู้สึกประทับใจเบญจแขไขมาก ที่ยอมมีเรื่องกับจตุชไมเพื่อคนต่ำต้อยด้อยค่าอย่างตน หลังจากความโกลาหลผ่านพ้นไป บุรินทร์ก็ได้รับโทรศัพท์จากภัสดาเพื่อถามเรื่องการสาธิตการทำขนมของเบญจแขไข ว่าไปจ้างใคร มาจากไหน พิมพา อาของเบญจแขไขก็เดินผ่านมาได้ยินและเข้าใจผิด คิดว่าภัสดาโทร. มาต่อว่า ที่เบญจแขไขทำให้งานเกือบล่ม พิมพากลัวว่าหลานสาวจะมีความผิด จึงรีบไปบอกหลาน แต่จังหวะนั้นก็เกิดซุ่มซ่ามเดินชนกับพนักงานที่ถือถาดแก้วน้ำที่เดินมาทางเดียวกัน จนเลอะเทอะไปทั้งตัว บุรินทร์เห็นก็รีบเดินเข้าไปตำหนิพนักงานที่ทำงานไม่ระวัง พิมพาบอกไม่ใช่ความผิดของพนักงาน ตนซุ่มซ่ามเองแล้วรีบเดินหนี ส่วนบุรินทร์มองตามยิ้มๆ ถูกใจความสวยของพิมพา โดยไม่รู้เลยว่าพิมพาอายุมากกว่าตนเองถึง 5 ปี พิมพานำเรื่องมาบอกเบญจแขไข พร้อมกันนั้น ธงทิว (ทิว) ชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนชายคนพิเศษของเบญจแขไข เจ้าของบริษัทออแกนไนเซอร์ ซึ่งเป็นคนจ้างเบญจแขไขมาทำงานนี้ ก็เอาเงินค่าจ้างมาให้ แต่แอบหักหัวคิวไป 50% มากกว่าทุกครั้ง ธงทิวมักจะเอาเปรียบและกอบโกยผลประโยชน์จากเบญจแขไขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และครั้งนี้ธงทิวก็หลอกเบญจแขไขว่า ภัสดา เจ้าของโรงแรมโกรธมาก ที่เบญจแขไขก่อความวุ่นวาย จนภาพลักษณ์ของโรงแรมเสียหาย จึงจ่ายค่าจ้างเพียงครึ่งเดียว ทำให้เบญจแขไขรู้สึกโกรธภัสดามาก เพราะคิดว่าภัสดาเป็นนักธุรกิจหน้าเลือด เห็นแก่ชื่อเสียงและผลประโยชน์ของตัวเอง แถมยังด่วนตัดสินว่าเธอผิด โดยไม่ให้โอกาสอธิบาย ทั้งๆ ที่เรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นจากผู้หญิงที่จ้องจะจับเขาทั้งสิ้น!!! หลังจากจบงาน จตุชไมก็กลับไปฟ้อง คุณนายสายสวาท ผู้เป็นมารดาว่าตนไม่เจอตัวภัสดาในงานเลี้ยงเพราะเบญจแขไขก่อเหตุวุ่นวาย แถมยังใส่สีตีไข่เกินความจริงอีกมาก ทำให้คุณนายสายสวาทโกรธสุดๆ และด่าเบญจแขไขว่าเป็นตัวซวยตั้งแต่เกิด เกิดมาก็ทำให้แม่เกือบตาย ทำให้ นายพนัส ผู้เป็นพ่อพลาดโอกาสได้เป็นพระเอกหนัง แถมยังมาขัดขวางการจับผู้ชายของพี่สาวอีก คุณนายสายสวาทปลอบใจลูกสาวคนโปรดว่า ไม่ต้องเสียใจเดี๋ยวตนจะพาไปจับภัสดาใหม่อีกรอบ คราวนี้จะเข้าให้ถึงตัว บุกให้ถึงวังเลย ทางด้านหม่อมสุภางค์ก็ร้อนใจที่ภัสดาหายตัวไป ตั้งแต่วันงานเปิดตัวโรงแรม จึงเรียกบุรินทร์เข้าไปถามที่วัง แต่บุรินทร์ก็ให้คำตอบไม่ได้ เพราะเขาก็ไม่เจอตัวภัสดาตั้งแต่วันนั้นเช่นกัน หม่อมสุภางค์ ออกคำสั่งแบบเด็ดขาดให้บุรินทร์ตามหาตัวภัสดาให้เจอภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะหักเงินเดือน จะไล่ออกจากงาน จะยึดบ้าน ยึดรถคืน และขู่อีกสารพัด จนบุรินทร์เครียดหนัก บุรินทร์พยายามติดต่อภัสดาทุกเครื่องมือการสื่อสารที่มีในโลก แต่ก็ติดต่อไม่ได้ และในที่สุดภัสดาก็เป็นฝ่ายโทร. มาบอกบุรินทร์เองว่า เขาจะหายตัวไปสักระยะ เพราะต้องการหนีการจับคู่ของหม่อมสุภางค์ ให้บุรินทร์ประจำการดูแลงานที่โรงแรมแทน บุรินทร์พยายามถามว่าภัสดาจะหลบไปอยู่ที่ไหน แต่ภัสดาไม่ยอมบอก และสั่งห้ามไม่ให้บอกหม่อมสุภางค์ว่าเขาติดต่อมา บุรินทร์เครียดยิ่งกว่าเดิม เพราะรู้ว่าต้องโดนหม่อมสุภางค์เล่นงานหนักแน่นอน หากครบกำหนดแล้วไม่มีคำตอบไปรายงาน นายยิ้ม มาด้อมๆมองๆอยู่หน้าร้านขายขนมของเบญจแขไข เด็กชายไข่ วัยประมาณ 8 ปี ลูกสมุนของเบญจแขไขเห็นเข้าก็กลัวว่าจะเป็นโจร จึงไปตามเบญจแขไขมาดู นายยิ้มถามทางไปส่งพิซซ่า เบญจแขไขบอกทางให้แต่โดยดี แต่นายยิ้มกลับโดนวัยรุ่นชายดักตีและแย่งชิงรถมอเตอร์ไซด์ไป นายยิ้มบอกเบญจแขไขว่าถูกภัสดาไล่ออกจากงาน เพราะช่วยเบญจแขไขเมื่อวันก่อน ไปสมัครงานที่ใหม่มาแล้วหลายที่แต่ก็ไม่มีคนรับ เบญจแขไขสงสาร ประกอบกับคิดว่าเป็นความผิดของตนด้วยส่วนหนึ่งที่ทำให้นายยิ้มตกงาน เลยบอกว่าจะไปขอให้ย่าพิศรับนายยิ้มเข้าทำงานที่ร้าน ทำให้นายยิ้มรู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจของเบญจแขไขมากยิ่งขึ้น เบญจแขไขเล่าเรื่องที่นายยิ้มถูกภัสดาไล่ออกจากงานให้ย่าพิศฟังด้วยความโกรธเคือง ที่ภัสดาไม่เห็นใจพนักงานระดับรากหญ้าอย่างนายยิ้ม ย่าพิศรับฟังแล้วก็สอนให้เบญจแขไขรู้จักใจเย็น อย่าด่วนตัดสินภัสดาจากคำพูดที่คนอื่นพูดถึงเขา รอให้เจอตัวจริงก่อนค่อยตัดสินว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่เบญจแขไขก็บอกว่าตนตัดสินภัสดา เหมือนที่ภัสดาเคยตัดสินว่าตนผิด โดยไม่ฟังเหตุผลเช่นกัน พิมพาที่นั่งฟังอยู่ด้วยจึงสอนหลานว่า ให้เอาชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่เบญจแขไขบอกว่าโกรธแล้วโกรธเลย และจะไม่มีวันญาติดีกับภัสดาเด็ดขาด!!! ย่าพิศอนุญาตให้นายยิ้มทำงานที่ร้านขนม แต่ระหว่างที่ทำงานนายยิ้มก็ถูกจับตามองจากคนงานทุกคน โดยเฉพาะเด็กชายไข่ ที่เฝ้าระวังไม่ให้นายยิ้มเข้าใกล้เบญจแขไขง่ายๆ เพราะนายยิ้มดูลึกลับ และไม่ยอมให้บัตรประชาชนมาตอนสมัครงาน แต่เบญจแขไขก็เชื่อมั่นในความรู้สึกของตัวเอง ว่านายยิ้มต้องเป็นคนดี และยังบอกอีกว่าเราควรมองคนที่ปัจจุบัน ต่อให้นายยิ้มเคยทำผิดหรือเป็นโจรมาก่อน แต่เราก็ควรให้โอกาสเขาได้แก้ตัว ถ้าสังคมไม่ให้โอกาสคน โลกเราก็คงไม่มีใครอยากกลับตัวเป็นคนดี ทำให้นายยิ้มยิ่งปลื้มและสัญญาว่าจะรักและภักดีต่อเบญจแขไขตลอดไป ระหว่างที่ช่วยงานในร้านขนม...นายยิ้มก็ได้เห็นว่า เบญจแขไขเป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่ง และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสูตรขนมไทยให้มีความแปลกใหม่ เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยไม่ทิ้งรากความเป็นไทย นายยิ้มชื่นชมแนวคิดของเบญจแขไข จึงเสนอตัวเป็นผู้ช่วยหมายเลขหนึ่ง และช่วยคิดชื่อขนมว่า มะยมยิ้ม เพราะเห็นว่าในสวนของย่าพิศมีต้นมะยมเยอะ น่าจะนำมาแปรรูปได้หลายอย่าง นอกจากนี้นายยิ้มยังให้คำแนะนำที่มีหลักการ มากเกินความรู้แค่ ป. 6 อย่างที่เขาเคยบอกไว้ จนเบญจแขไขสงสัย แต่นายยิ้มก็อ้างว่าตัวเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือเลยรู้เยอะ ธงทิวพยายามเข้ามาทำคะแนนกับเบญจแขไขและย่าพิศ ด้วยการนำลูกค้าใหม่ที่ทำธุรกิจส่งออกอาหารไปต่างประเทศ ครอบครัวเบญจแขไขดีใจเพราะรายได้จากการทำขนมส่งเป็นเงินก้อนโต แต่กลับมีเรื่องวุ่นย้อนกลับมาเมื่อตำรวจตรวจพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในขนมซึ่งลูกค้าลักลอบนำออกไปต่างประเทศ เบญจแขไขตกเป็นจำเลยขึ้นโรงพัก ในขณะที่ธงทิวหนีหายไปไม่รับผิดชอบ ร้อนถึงยิ้มต้องสั่งให้บุรินทร์ช่วยติดต่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ให้เร่งติดตามหาคนร้ายตัวจริง เบญจแขไขตกเป็นข่าวเสียหายไปทั่ว ลูกค้าประจำส่งคืนขนม ทั้งโดนสายสวาทต่อว่าที่สร้างความอับอาย แต่ยิ้มให้กำลังใจเบญจแขไขและนำขนมไปตั้งแผงขายเพื่อหารายได้ประทังครอบครัว แต่เมื่อวันหนึ่ง ธงทิวรู้ข่าวว่าจะมีทางด่วนตัดผ่านที่ดินแถบบ้านสวนของย่าพิศ และราคาที่ดินแถบนั้นก็จะต้องพุ่งปรี๊ดสูงขึ้นอีกหลายสิบเท่า ดังนั้นธงทิวจึงรบเร้าเบญจแขไขเรื่องการแต่งงานหนักขึ้น เพื่อหวังฮุบที่ดินและสมบัติทั้งหมด แต่เบญจแขไขก็บ่ายเบี่ยงเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองว่ารักธงทิวจริงหรือไม่ ทั้งที่เธอคบหาดูใจกับธงทิวมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ฉากหน้าที่ทุกคนในสังคมเห็นว่าธงทิวเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง เจ้าของบริษัทออกาไนเซอร์อนาคตไกลนั้น เบญจแขไขรู้ดีว่าเขามาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่สร้างฐานะมาจากการทำงานหนัก พ่อแม่ของธงทิวเลี้ยงลูกชายคนเดียวแบบไข่ในหิน ประเคนข้าวของเครื่องใช้อย่างดีให้ทุกอย่างจนธงทิวเสียนิสัย เมื่อโตขึ้น เขาจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจ เห็นตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล มีเสน่ห์ที่หน้าตาและคารม เจ้าชู้ และใช้เงินเป็นเบี้ย โชคดีที่ธงทิวเป็นคนหัวดี จึงเรียนเก่ง ได้เกรดสูงๆมาตลอด ต่อมาเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ ฟองสบู่แตก ครอบครัวของธงทิวเข้าสู่สภาวะล้มละลาย พ่อของธงทิวติดหนี้สินมากมายหลายสิบล้าน บังเกิดความเครียดจนผูกคอตาย แม่ของธงทิวรับสภาพไม่ไหว ล้มป่วยจนต้องส่งเข้ารับการรักษาทางจิตอยู่พักใหญ่ ก่อนจะออกไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่สำนักวิปัสสนาในชนบท ธงทิว เหมือนตกลงจากหอคอยงาช้าง บ้านช่องที่ดินทรัพย์สมบัติต่างๆถูกขายเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ธงทิวสัญญากับตัวเองว่าเขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อวันหนึ่งเขาจะกลับไปร่ำรวยเหมือนเดิม เมื่อเปิดบริษัทออกาไนซ์ของตัวเอง แรกๆกิจการทำท่าจะไปได้สวยเพราะความเก่งและคารมดีของธงทิว ฐานะเงินทองของธงทิวกลับมาเฟื่องฟู แต่นิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของเขาพาตัวเองเข้าไปอยู่ในวังวนหนี้สิน ธงทิวติดหนี้เสี่ยหลักชัยที่กู้ยืมมาหมุนเวียนใช้ในบริษัทหลายล้านบาท เบญจแขไขเห็นอกเห็นใจธงทิว เธอทราบดีถึงความทะเยอทะยานของธงทิว จึงคอยเป็นกำลังใจและช่วยเหลือธงทิวอยู่เสมอ ธงทิวซาบซึ้งใจดี แม้ความเห็นแก่ตัวของเขาทำให้คอยเอาเปรียบเบญจแขไขทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ลึกๆแล้วเขามีความรักให้เบญจแขไข ธงทิวมาหาเบญจแขไขที่ร้านบ่อยๆ พร้อมทั้งมีของกำนัลมากมายมาฝากย่าพิศและพิมพาเพื่อเอาใจ แต่ก็ถูกนายยิ้มกับเด็กชายไข่ที่หันมาร่วมมือกันปกป้องเบญจแขไขเล่นงานสะบักสะบอมกลับไปทุกครั้ง ธงทิวเริ่มสังเกตเห็นว่าเบญจแขไขกับนายยิ้มสนิทกันมากเกินเจ้านายกับลูกน้องก็เกิดอาการหึงหวง จึงต่อว่าเบญจแขไขที่ลดตัวลงไปคลุกคลีกับคนงานระดับล่าง เบญจแขไขบอกว่าตนไม่ได้เลือกคบคนที่ฐานะ แต่เลือกคบคนที่จิตใจ และบอกอีกด้วยว่าตนแค่สงสารนายยิ้มที่ถูกคนรวยๆ อย่างภัสดารังแกจนไม่มีที่ไป แต่ไม่ได้รักเขาอย่างที่ธงทิวกล่าวหา นายยิ้มที่แอบฟังอยู่รู้สึกปลื้มที่เบญจแขไขไม่รังเกียจคนจน ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้าที่เบญจแขไขบอกว่าไม่ได้รักเขา เพราะตอนนี้นายยิ้มรักเบญจแขไขเต็มหัวใจแล้ว เวลาผ่านไป บุรินทร์เริ่มทนไม่ได้ที่ภัสดาหายตัวไป เพราะตอนนี้เขาต้องรับศึกหนักหลายด้าน ทั้งหม่อมป้าสุภางค์ ทั้งจตุชไม ที่พอตามหาภัสดาไม่เจอก็พากันมารุมเขา และที่สำคัญ ทางโรงแรมกำลังจะจัดงานเทศกาลขนมนานาชาติ ซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับเอเชียอาคเนย์ และครั้งนี้ภัสดาจะต้องมาคุมงานด้วยตัวเอง ดังนั้นบุรินทร์จึงร่วมมือกับหม่อมสุภางค์วางแผนล่อให้ภัสดาออกจากถ้ำ ทั้งปล่อยข่าวหลอกว่าหม่อมสุภางค์ป่วยหนัก จ้างนักสืบออกตามหา และอีกสารพัดวิธีแต่ภัสดาก็ไม่หลงกล และแผนเด็ดก๊อกสุดท้ายที่บุรินทร์งัดออกมาใช้ก็คือ ปล่อยข่าวฉาวเรื่องผู้หญิงของภัสดา!!! หนังสือพิมพ์และนิตยสารแทบทุกฉบับก็พร้อมใจกันลงข่าวซุบซิบว่า เสน่ห์ไฮโซหนุ่มสุดฮ็อต ภ. แรง!! จนทำงานเปิดตัวโรงแรมเกือบล่ม เหตุทำชีกอใส่เจ้าของร้านขนมสาวสวยนิรนาม จนสาวอื่นอิจฉารุมทึ้งสาวนิรนาม จนเกือบเอาตัวไม่รอด ภัสดาเห็นข่าวก็โทร. มาด่าบุรินทร์ทันที และสั่งให้บุรินทร์แก้ข่าวให้เร็วที่สุด เพราะข่าวนี้มีผลกระทบต่อชื่อเสียงร้านขนมของเบญจแขไข รวมถึงตัวเบญจแขไขมากด้วย และที่สำคัญภัสดากลัวว่าเบญจแขไขจะมองเขาไม่ดี บุรินทร์เริ่มเอะใจที่ภัสดาแคร์เบญจแขไขมากเป็นพิเศษ และรู้ความเคลื่อนไหวของร้านขนมเป็นอย่างดีอีกด้วย บุรินทร์สงสัยจึงไปที่ร้านขนมของเบญจแขไข แล้วก็ได้เห็นภัสดาอยู่ที่นั่นในฐานะนายยิ้ม มะยมหวาน ลูกจ้างร้านขนม บุรินทร์ ดีใจที่ตามหาภัสดาเจอ สองคนหลบออกไปคุยกันในที่ลับตาคน ภัสดาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้บุรินทร์ฟังโดยไม่ปิดบังอีก และสารภาพว่าเขาคิดจะจีบเบญจแขไขอย่างจริงจัง บุรินทร์ฟันธงว่า เบญจแขไขไม่มีทางหลงรักนายยิ้ม มะยมหวาน ลูกจ้างร้านขนมแน่นอน แต่ภัสดาก็มั่นใจว่าสามารถทำได้ บุรินทร์จึงท้าให้ภัสดาให้จีบเบญจแขไขให้สำเร็จภายใน 3 เดือน ถ้าทำได้บุรินทร์จะยอมกินมะยมจนหมดสวนย่าพิศ ภัสดารับคำท้า เพราะมั่นใจว่ามองคนไม่ผิด บุรินทร์ใช้เรื่องนี้มาเป็นข้อต่อรองให้ภัสดากลับไปดูแลงานเทศกาลขนมนานาชาติ ภัสดากลัวความลับเรื่องที่เขาโกหกเบญจแขไขว่าเป็นนายยิ้ม มะยมหวานแตก จึงต้องยอมกลับไปทำงานที่โรงแรมตามเดิม แต่ก็ยื่นเงื่อนไขให้บุรินทร์ติดต่อเบญจแขไขไปเปิดซุ้มขนมไทย ในฐานะตัวแทนของโรงแรมในงานนี้ด้วย บุรินทร์ตอบตกลงทันที เบญจแขไขรู้สึกเหงาแปลกๆ เมื่อไม่มีนายยิ้มมาคอยวนเวียนรอบตัว ชวนคุย ชวนหัวเราะเหมือนเคย และในขณะที่เบญจแขไขกำลังคิดถึงนายยิ้มอยู่นั้น บุรินทร์ก็โผล่มาที่ร้าน เพื่อติดต่อให้เบญจแขไขไปช่วยงานเทศกาลขนมนานาชาติที่โรงแรมเทวฤทธิ์ โดยให้โจทย์ที่ภัสดาเป็นคนคิดให้เข้ากับตัวเองว่า ต้องเป็นขนมที่ทำจากมะยม และจะให้ขนมของเบญจแขไขเป็นไฮไลต์ของงาน เบญจแขไขไม่อยากรับงานนี้ เพราะเกลียดภัสดา แต่บุรินทร์ก็หว่านล้อมว่าการทำงานนี้จะช่วยโปรโมทร้านของเบญจแขไขให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติได้ ในที่สุดเบญจแขไขก็ยอมตกลง ระหว่างที่คุยงานกับเบญจแขไขอยู่นั้น บุรินทร์ก็สมาธิหลุดเมื่อเห็นพิมพาเดินเข้ามาในร้าน และก็ต้องอึ้งกิมกี่ เมื่อรู้ว่าพิมพาเป็นอาของเบญจแขไข วูบแรกบุรินทร์คิดว่าต้องอายุมากกว่าเขาแน่ๆ แต่เพราะพิมพาเป็นคนหน้าเด็ก บุรินทร์จึงเดาไม่ออกว่าพิมพาอายุเท่าไรกันแน่ แต่ถึงอย่างไรอายุก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับบุรินทร์ถ้าเขาคิดจะรัก บุรินทร์ฉวยโอกาสคะยั้นคะยอให้พิมพาไปช่วยงานเบญจแขไขที่โรงแรมด้วย พิมพางงว่าทำไมบุรินทร์ต้องอยากให้ตนไป แต่ก็ตอบว่าถึงบุรินทร์ไม่ชวนตนก็ต้องไปช่วยงานเบญจแขไขเป็นปกติอยู่แล้ว บุรินทร์ดีใจหน้าบานจนเก็บอาการไม่อยู่ ที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพิมพา ธงทิวรู้ข่าวว่าเบญจแขไขจะไปออกซุ้มขนมในงานใหญ่ก็ตาลุกวาว หวังจะเบียดเบียนผลประโยชน์จากเบญจแขไขเหมือนเคย ดังนั้นเขาจึงเสนอตัวเป็นออแกนไนเซอร์ช่วยจัดงาน เบญจแขไขปฏิเสธเพราะมีทีมงานของโรงแรมช่วยอยู่แล้วส่วนหนึ่ง แต่ธงทิวก็ยกเอาเหตุความวุ่นวายจากงานเปิดตัวโรงแรมคราวก่อนมาเป็นข้ออ้าง จนเบญจแขไขขาดความมั่นใจ กลัวงานเละเหมือนคราวก่อนอีก จึงยอมให้ธงทิวมาช่วยงาน เมื่อภัสดารู้ก็ไม่พอใจ อารมณ์หึงพุ่งสูงปรี๊ด แต่ก็พยายามข่มจิต ภัสดาทนคิดถึงเบญจแขไขไม่ไหว จึงขับรถมาแอบดูเบญจแขไขที่หน้าร้านบ้างในวันที่มีเวลาน้อย แวะมาเยี่ยมในคราบของนายยิ้ม มะยมหวานบ้างในวันที่มีเวลาว่างมากๆ โดยอ้างว่าเป็นวันหยุดเลยอยากมาช่วยงานเบญจแขไข ภัสดาทำตัวไม่ต่างกับพวกโรคจิตที่คอยติดตามว่าวันๆ เบญจแขไขไปทำอะไร อย่างไร ที่ไหน กับใคร และยิ่งเห็นเบญจแขไขอยู่กับธงทิวก็ยิ่งร้อนรนแทบทนไม่ไหว ภัสดาเร่งวันเร่งคืนอยากให้ถึงงานเทศกาลขนมนานาชาติเร็วๆ เพราะเบญจแขไขจะต้องไปเตรียมงานล่วงหน้า รวมกับระยะเวลาจัดงาน เขาก็จะได้มีโอกาสเจอเบญจแขไขทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนเต็ม ภัสดาไม่รู้ตัวเลยว่างานที่เขาหยิบยื่นให้เบญจแขไขทำนั้นกำลังจะนำภัยมาสู่ตัวเอง และแล้ว วันที่ภัสดารอคอยก็มาถึง เบญจแขไขต้องมาเตรียมงานล่วงหน้าที่โรงแรมเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ภัสดาจึงแอบมาช่วยงานเบญจแขไขในฐานะนายยิ้ม ภัสดาสวมบทนายยิ้มใส่ร้ายบุรินทร์ในทางเสียๆ หายๆ ด้วยความหมั่นไส้เพื่อน ว่าเป็นเจ้านายจอมโหด ร้อนถึงบุรินทร์ที่กลัวว่าพิมพาจะมองตนไม่ดี จึงเอาคืนโดยการใส่ไฟว่าที่ตนเป็นอย่างนี้เพราะ ภัสดาเจ้าชู้ ขี้งก เป็นเจ้าของโรงแรมมหาโหด ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ภัสดาที่อยู่ในฐานะนายยิ้มกับบุรินทร์ใส่ไฟกันไปมา แต่แล้วภัสดาก็ชิ่งหนีไปดื้อๆ เมื่อเห็นหม่อมสุภางค์เดินมากับจตุชไม บุรินทร์แนะนำให้เบญจแขไขและพิมพารู้จักกับหม่อมสุภางค์อย่างเป็นทางการ หม่อมสุภางค์รู้สึกถูกชะตาและเอ็นดูเบญจแขไขมากเป็นพิเศษ เพราะไม่บ่อยนักที่ท่านจะได้พบกับเด็กรุ่นใหม่ที่มีกิริยาเรียบร้อยงดงามเช่นนี้ จตุชไมแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเบญจแขไขกับพิมพา แต่ก็แอบส่งสายตาอาฆาตให้เบญจแขไขที่ได้คะแนนนิยมจากหม่อมสุภางค์มากกว่าตนทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ในขณะที่ตัวเองต้องประจบเอาใจหม่อมสุภางค์สารพัด แต่ท่าทางหม่อมสุภางค์ก็ปลื้มเบญจแขไขมากกว่า ในระหว่างเทศกาลขนมนานาชาติ ภัสดาต้องคอยสับรางตัวเองไม่ให้พวกของเบญจแขไขและหม่อมสุภางค์มาเจอเขาพร้อมกัน จึงทำให้ดูเหมือนเป็นคนลุกลี้ลุกลน จนเบญจแขไขผิดสังเกต โดยเฉพาะตอนที่หม่อมสุภางค์เดินมาที่ซุ้มของเบญจแขไขพร้อมกับจตุชไม นายยิ้มก็รีบชิ่งหลบทันที ภัสดาสงสัยว่าจตุชไมเป็นใคร ทำไมถึงได้อยู่กับหม่อมสุภางค์ตลอดเวลา บุรินทร์จึงเล่าให้ฟังว่า จตุชไมเป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งหลานสะใภ้ของหม่อมสุภางค์หมายเลขหนึ่ง และบอกอีกว่าจตุชไมเป็นลูกสาวบ้าน เปรียบทอง ที่ขึ้นชื่อเรื่องการจับผู้ชายรวยๆ ไปทำสามี โดยมีคุณนายสายสวาทผู้เห็นเงินเป็นพระเจ้าคอยยุยงส่งเสริม และคุณนายสายสวาทก็ขายลูกสาวให้เศรษฐีสำเร็จไปแล้วสองคนคือ หนึ่งฤทัย และตรีวิลัย และเหยื่อรายต่อไปก็คือภัสดา ภัสดารู้สึกรังเกียจนิสัยมองคนแต่เปลือกของคนบ้านเปรียบทอง และอยากจะให้บทเรียนแก่จตุชไมบ้าง จึงวางแผนสั่งสอนโดยการแกล้งพูดจาให้ความหวังต่างๆ นานา จนจตุชไมคิดว่าภัสดามีใจให้ แต่ที่จตุชไมขัดใจมากก็คือ ภัสดามักจะนัดไปพบในสถานที่แปลกๆ บรรยากาศแปลกๆ และแต่ละครั้งจตุชไมก็จะไม่เคยได้พบภัสดาเลยสักครั้ง เพราะภัสดาสร้างสถานการณ์ให้คลาดกันตลอด จตุชไมเกือบจะเจอตัวภัสดาจังๆ ในงานเทศกาลขนมฯ อยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกบุรินทร์สกัดดาวรุ่ง จนต้องล่าถอยกลับไป แต่จังหวะที่กำลังจะออกจากโรงแรมก็เจอกับธงทิวที่มาช่วยงานเบญจแขไข ต่างฝ่ายต่างจ้องกันตาเป็นมัน เพราะบุคลิกภายนอกของทั้งคู่ดูเป็นคนรวยมากๆ ธงทิวรีบปราดเข้าไปทำความรู้จักหวังจะคบเพื่อหลอกเอาเงินทอง ส่วนจตุชไมก็อ่อยเหยื่อให้ท่าธงทิว หวังเก็บไว้เป็นผู้ชายเบอร์สอง คบไว้คั่นเวลาระหว่างที่ยังจับภัสดาไม่ติด โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้ธงทิวมีแต่เปลือก เงินในบัญชีติดลบ บริษัทก็กำลังจะเจ๊ง พวกที่มีแต่เปลือกเหมือนกันก็เลยได้มีโอกาสได้จ้องจับกันเอง ในที่สุดงานเทศกาลขนมนานาชาติก็ผ่านไปด้วยดี เบญจแขไขหน้าบานยิ้มไม่หุบ เพราะขนมสูตรมะยมยิ้ม ที่มีแรงบันดาลใจมาจากนายยิ้ม มะยมหวาน ได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนมีออเดอร์เข้ามากมายจนแทบทำไม่ทัน เป็นเหตุให้ ลุงเผือก เจ้าของร้านขนมคู่แข่งเกิดความอิจฉา จ้องจะทำลายล้างร้านของเบญจแขไขให้ได้ ในขณะที่ชีวิตของเบญจแขไขกำลังไปได้สวย คุณนายสายสวาทก็เป็นหนี้การพนัน เสี่ยหลักชัย จำนวน 10 ล้านบาท และเมื่อถูกทวงมากๆ แล้วไม่มีเงินใช้หนี้ คุณนายสายสวาทก็โบ้ยให้เสี่ยหลักชัยไปทวงกับย่าพิศและเบญจแขไขที่บ้านสวน โดยอ้างความเป็นแม่กับเบญจแขไขทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจลูกคนนี้เลย เสี่ยหลักชัยรู้มาว่าที่ดินบริเวณนั้นกำลังจะมีทางด่วนตัดผ่าน และราคาจะสูงมากในอนาคต เสี่ยหลักชัยจึงบุกไปทวงหนี้ถึงที่บ้านสวน และขู่บังคับให้ย่าพิศยกที่ดินผืนนี้ให้ตน เพื่อล้างหนี้ให้คุณนายสายสวาท แต่ย่าพิศก็ไม่ยอมง่ายๆ เสี่ยหลักชัยจึงส่งลูกน้องไปคุกคามย่าพิศ เบญจแขไข และพิมพาต่างๆ นานา ทั้งขู่ว่าจะมาเผาบ้านบ้าง จะจับเบญจแขไขไปขายบ้าง หากไม่มีเงินมาใช้หนี้ภายใน 7 วัน นายพนัสถูกคุณนายสายสวาทบังคับให้ไปขโมยโฉนดที่ดินบ้านสวนของย่าพิศมาให้หลักชัย เพราะหลักชัยได้ทำสัญญาซื้อขายเตรียมไว้แล้ว คุณพนัสรู้ว่าคุณย่ารักบ้านสวนนี้มาก จึงขอต่อรองเป็นสัญญาจำนองที่ดิน หากตนไม่สามารถหาเงิน 10 ล้านมาคืนได้ภายใน 30 วัน โฉนดที่ดินก็จะตกเป็นของหลักชัย หลักชัยเห็นว่านายพนัสไม่มีทางหาเงินมาทันจึงตอบตกลง และบังคับให้ย่าพิศเซ็นสัญญา ย่าพิศไม่ยอมเซ็นดีๆ หลักชัยจึงบังคับพิมพ์ลายนิ้วมือไปจนได้ ย่าพิศต่อสู้จนตกบันได ต้องเข้าห้อง ICU อาการหนักมาก หมอสั่งให้ญาติทำใจ ระหว่างที่อยู่ในห้อง ICU ย่าพิศก็เพ้อบอกให้เบญจแขไขเอาที่ดินคืนมาให้ได้ เบญจแขไขกลุ้มใจมาก เพราะทุกอย่างรุมเร้าเข้ามาพร้อมๆ กันจนตั้งรับแทบไม่ทัน ทั้งย่าป่วย ถูกเจ้าหนี้คุกคาม ร้านขนมก็ถูกคู่แข่งทางธุรกิจกลั่นแกล้ง โดยการปลอมขนมมะยมยิ้ม พอลูกค้าซื้อไปกินก็เกิดท้องร่วงอย่างรุนแรง จนสินค้าถูกตีกลับมาหมด รวมถึงออเดอร์ต่างประเทศก็ถูกยกเลิกทั้งหมด เพราะลูกค้าไม่มั่นใจคุณภาพของขนม ลุงเผือกเจ้าของร้านคู่แข่ง ได้ทีจึงติดต่อธงทิวให้เป็นนายหน้าไปเจรจาขอซื้อที่ดินบ้านสวนจากเบญจแขไข เพราะที่ดินของคุณย่าพิศทำเลดี แถมวัตถุดิบในการทำขนมก็อุดมสมบูรณ์เต็มสวน ถ้าได้ที่ดินของคุณย่ามาก็เหมือนได้ทั้งแหล่งผลิต แหล่งขาย แถมได้จัดการตัดแขนตัดขาร้านคู่แข่งอีก ถือเป็นการยิ่งปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ลุงเผือกเสนอค่านายหน้าให้ธงทิวสูงกว่าปกติ แต่มีข้อแม้ว่าไม่ให้บอกว่าลุงเผือกเป็นคนมาขอซื้อ เพราะที่ผ่านมาลุงเผือกเป็นเพื่อนที่ดีของย่าพิศมาตลอด ธงทิวก็ตกปากรับทำงานนี้ทันทีเพราะเห็นแก่เงิน ธงทิวพยายามหว่านล้อมเบญจแขไขให้ขายที่สุดฤทธิ์ บอกว่านายทุนคนนี้ให้ค่าที่สูงถึง 15 ล้าน เอาเงินใช้หนี้ 10 ล้าน แล้วยังเหลือเงินไปใช้รักษาย่าพิศอีกตั้ง 5 ล้าน ดีกว่ายกโฉนดที่ดินให้เจ้าหนี้ไปเปล่าๆ เบญจแขไขไม่สนใจ แล้วบอกธงทิวว่าตนยอมทำงานเหนื่อย ยอมทำอะไรก็ได้เพื่อแลกเงิน ยอมขายสมบัติอื่นๆ ทุกอย่างที่มี แต่จะไม่มีวันขายหรือยกที่ดินบ้านสวนของย่าพิศให้ใครเด็ดขาด ธงทิวรู้ว่าเบญจแขไขเป็นคนดื้อ พูดคำไหนคำนั้น และคิดว่างานนี้เบญจแขไขคงยอมขายทุกอย่างจนเหลือแต่ตัว แต่ก็คงจะรักษาที่ดินของย่าพิศไว้ไม่ได้ ธงทิวเลยคิดจะชิ่ง เพราะเบญจแขไขคงไม่เหลือสมบัติอะไรให้ปอกลอกอีกต่อไป ประกอบกับเสี่ยหลักชัยทวงหนี้ธงทิวอย่างหนักเพื่อบีบให้ธงทิวพยายามตื้อเบญจแขไขให้ได้ ธงทิวหลบหน้าเบญจแขไขและเสี่ยหลักชัยไปต่างจังหวัด พอดีกับแม่ของธงทิวซึ่งปฏิบัติธรรมอยู่สำนักวิปัสสนาต่างจังหวัดล้มป่วย ธงทิวจึงไปเยี่ยม และรู้สึกหดหู่ใจเมื่อเห็นแม่ที่เคยเป็นเศรษฐีนีมีหน้าตาในสังคม นุ่งขาวห่มขาวใช้ชีวิตสมถะ สอนธรรมะและวิปัสสนาให้แก่ผู้คน แม่ของธงทิวพยายามชี้ให้ธงทิวเห็นถึงความสุขที่แท้จริงของชีวิต คือความสงบและพอเพียง แต่ธงทิวกลับไม่เชื่อ เขาเชื่อว่าเงินเท่านั้นที่จะนำความสุขมาให้เขาได้ เขาจึงต้องมองหาบ่อเงินบ่อทองแห่งใหม่...นั่นคือ จตุชไม ที่เขาหลงเข้าใจว่าเป็นลูกเศรษฐีผู้ดีเก่า ในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของชีวิต ธงทิวก็หายไปจากชีวิตของเบญจแขไขเพราะมีเป้าหมายใหม่คือจตุชไม ส่วนนายยิ้ม มะยมหวานก็กลับเข้ามาในชีวิตของเบญจแขไขอีกครั้งหนึ่ง นายยิ้มมาอยู่ช่วยงานและเป็นกำลังใจให้ทุกอย่าง จนเบญจแขไขเข้มแข็งขึ้นและมีแรงฮึดสู้อีกครั้ง ในขณะเดียวกัน เบญจแขไขก็รู้สึกหวั่นไหวและเริ่มหลงรักนายยิ้มอย่างไม่รู้ตัว นายยิ้มเป็นห่วงกลัวว่าเบญจแขไขจะได้รับอันตรายจากเสี่ยหลักชัย จึงบอกเบญจแขไขว่าภัสดายินดีจะช่วยเหลือเบญจแขไข โดยจะจ้างเบญจแขไขไปเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ มีหน้าที่คิดสูตรขนมไทยแปลกใหม่ ให้กับโรงแรมเทวฤทธิ์ ถ้าภัสดาถูกใจก็จะให้สูตรละ 1 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขว่าเบญจแขไขต้องพักอยู่ในโรงแรม ห้ามออกไปไหน เพื่อป้องกันสูตรขนมรั่วไหล และภัสดาก็จะส่งบุรินทร์ไปคอยดูแลพิมพาให้ด้วย แม้จะแปลกใจที่ภัสดาให้ค่าจ้างสูงผิดปกติและมีเงื่อนไขแปลกๆ แต่เบญจแขไขก็ไม่มีเวลาคิด เพราะต้องเร่งคิดสูตรขนมเพื่อเอาเงินไปซื้อที่คืนมาให้ย่าพิศ เบญจแขไขทุ่มเทเวลาในการทำงานแบบไม่ยอมพักผ่อน โดยมีนายยิ้มแอบมาเป็นลูกมือและให้กำลังใจอยู่เสมอ จนเบญจแขไขต้องไล่ให้ไปทำงาน เพราะกลัวว่านายยิ้มจะถูกภัสดาเล่นงานอีก ธงทิวรู้ว่าเบญจแขไขไปทำงานที่โรงแรมเทวฤทธิ์และได้เงินค่าจ้างสูง และมีแนวโน้มว่าจะรักษาบ้านสวนไว้ได้ ก็หันกลับมาทำดีกับเบญจแขไขอีกครั้ง แต่เบญจแขไขไม่ดีด้วยและบอกเลิกเป็นแฟนกับธงทิว เพราะรู้แล้วว่าธงทิวไม่จริงใจ ธงทิวรู้สึกโกรธที่เบญจแขไขคิดจะตีจาก และคิดว่าเบญจแขไขปฏิเสธตนเพราะจะไปคบกับนายยิ้ม จึงคิดหาทางรวบหัวรวบหางเบญจแขไข ภัสดาไม่ไว้ใจธงทิว จึงสั่งย้ายเบญจแขไขให้มาอยู่ที่บ้านพักของตนแทน เบญจแขไขเองก็อยากจะหลบหน้าธงทิวที่ตามตอแยไม่เลิกอยู่แล้ว จึงยอมย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของภัสดา ที่นายยิ้มบอกว่าเป็นเซฟเฮาส์ของโรงแรม โดยมีนายยิ้มช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง แต่นายยิ้มก็กำชับเบญจแขไขว่า ถ้าบังเอิญเดินไปเจอภัสดาก็ให้รีบหลบ รีบก้มหน้า ห้ามมองหน้าภัสดาเด็ดขาด เพราะภัสดาเป็นคนแปลกถือว่าตนเองมีศักดิ์มีตระกูลไม่ชอบให้ใครมองหน้า เหมือนสมัยก่อนที่ใครมองแล้วจะโดยประหาร ถ้าเบญจแขไขเผลอไปมองหน้า ภัสดาอาจจะโกรธและไล่ออกจากงานได้ แล้วก็เป็นจริงอย่างที่นายยิ้มบอก เพราะหลายครั้งที่เบญจแขไขบังเอิญเจอภัสดาที่โรงแรมหรือที่บ้านพัก เขาก็มักจะสั่งให้ก้มหน้าบ้าง หันหลังให้เขาบ้าง บางครั้งก็คุยกันผ่านห้องกระจกฝ้า ผ่านม่านกั้น ไม่ยอมให้เห็นหน้าเขาสักครั้ง จนเบญจแขไขหมั่นไส้ปนสงสัยพฤติกรรมแปลกๆ ของภัสดา เมื่อนายธงทิวตามหาเบญจแขไขไม่เจอก็เครียด ธงทิวจึงนัดจตุชไมมากินเหล้าที่ผับแห่งหนึ่ง สองคนเมาหนักเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเรื่องกลุ้มใจ ธงทิวหัวเสียเรื่องที่เบญจแขไขกำลังจะตีจากไปหานายยิ้ม ส่วนจตุชไมก็อารมณ์เสียที่จับภัสดาไม่ติดสักที ยิ่งระยะหลังภัสดาก็หายเงียบไป ติดต่อไม่ได้เลย และแล้วพิษแอลกอฮอล์ก็ทำให้ธงทิวและจตุชไมตกเป็นของกันและกันอย่างไม่ตั้งใจ แต่จตุชไมก็ไม่ได้เรียกร้องให้ธงทิวรับผิดชอบ เพราะถือว่าธงทิวเป็นแค่ทางผ่าน ส่วนเป้าหมายใหญ่ของจตุชไมอยู่ที่ภัสดา จตุชไมบุกไปหาภัสดาที่โรงแรมอีกครั้ง แต่ก็ถูกบุรินทร์กันไว้อีกตามเคย และครั้งนี้จตุชไมก็ได้เจอกับเบญจแขไขด้วย จตุชไมพูดจาประชดเสียดสีว่าเบญจแขไขตกต่ำถึงขนาดต้องมาเป็นพนักงานโรงแรม ระดับล่าง จตุชไมแสดงท่าทางรังเกียจเบญจแขไข พร้อมทั้งสั่งกำชับว่าอย่าได้เที่ยวไปบอกใครๆ ว่าเป็นน้องสาวของตน เพราะว่าที่ภรรยาเจ้าของโรงแรมเทวฤทธิ์ไม่นับญาติกับคนจน ภัสดาบังเอิญผ่านมาได้ยินว่าเบญจแขไขและจตุชไมเป็นพี่น้องกัน แต่ก็ยังไม่เข้าใจอะไรมาก

หน้าที่