คือหัตถาครองพิภพ 2556

เรื่องย่อ : คือหัตถาครองพิภพ (2556/2013) ศรี (ปิยธิดา วรมุสิก) ลูกสาวคนโตวัยขึ้นคานของท่านเจ้าสัว (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) พ่อค้าใหญ่ร่ำรวยมีชื่อเสียง ที่เกิดกับ แม่น้อย (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ภรรยาคนที่สอง ศรีครองตัวเป็นโสด ไม่สนใจเรื่องการมีครอบครัว ก่อนหน้านั้นมีคนมาสู่ขอ แต่ศรีก็ไม่สนใจ ท่านเจ้าสัวทั้งโกรธทั้งกลุ้มใจ ถึงขั้นต้องบังคับจับคลุมถุงชน แต่ศรีก็สร้างเรื่องให้วุ่นวายโดยร่วมมือกับ อีเมี้ยน (อริสรา วงษ์ชาลี) พี่เลี้ยงสาวทึนทึก ห้าว ๆ คล้ายผู้ชาย เมี้ยนปลอมตัวเป็นเจ้าสาวแทนศรี เพราะเจ้าสาวคลุมหน้าเข้าห้องหอไปเปิดหน้ามาเจ้าบ่าวถึงกับลมใส่ ส่วนศรีมี ศุกล (ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์) น้องชายลูก แม่ใหญ่ (นวลนง จามิกรณ์) ทั้งสองคน แม้จะเป็นลูกต่างแม่แต่รักใคร่และสนิทกันมาก ศุกลที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก รีบช่วยเหลือพาศรีไปแอบที่เรือนแพของแม่พริ้ง (ปัทมา ปานทอง) ซึ่งอาศัยที่ริมน้ำท่านเจ้าสัวขายเครื่องปั้นดินเผา

เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อนท่านเจ้าสัวโกรธมากกล่าวหาว่า เจ้าสัวเอาคนรับใช้มายกให้เป็นสะใภ้ถือเป็นการดูถูกครอบครัว และตัดความเป็นเพื่อนกับท่านเจ้าสัว ที่แพ ศุกลได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี สะบันงา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ลูกสาวของพริ้ง เวลานั้นสะบันงากำลังจะลงว่ายน้ำเล่น ศุกลกับศรีขับเรือเครื่องมาอย่างเร่งรีบ ไปชนเอากระดานไม้ที่สะบันงายืนเก้งก้างอยู่จนตกลงไปในน้ำ สะบันงาตกใจร้องหวีดจนผ้าถุงหลุด ไม่กล้าขึ้นมาจากน้ำ ศรีต้องรีบไล่ศุกลให้ไป แล้วเอาผ้าถุงจากแพมาให้สะบันงาใส่ ศุกลหลงรักสะบันงาทันที และเป็นรักแรกพบของทั้งสองคน

พระยาสมิติภูมิ (เดวิด อัศวนนท์) ชาวฝรั่งสัญชาติอังกฤษ คอยเสาะหาผู้หญิงมีฐานะและมีความรู้คู่ควรมาเป็นภรรยา โดยไม่ได้เน้นความรัก พระยาเกษม (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) เพื่อนรักเป็นผู้แนะนำศรีให้ เนื่องเพราะศรีเป็นสาวหัวทันสมัย เขียนอ่านภาษาได้ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส นอกจากนี้ศรียังเป็นเพื่อนสนิทของ คุณหญิงลออศรี (กชกรณ์ นิมากรณ์) ภรรยาพระยาเกษมอีกด้วย ท่านเจ้าสัวดีใจมาก เพราะศรีลูกสาวมีวัยถึง 28 ปี เหตุเพราะศรีบ่ายเบี่ยงการแต่งงานหลายครั้ง

เวลาต่อมาพระยาสมิติภูมิมาสู่ขอศรี คุณหญิงลออศรีช่วยอ้อนวอน ศรีลังเลในเบื้องแรก เจ้าสัวกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จึงกักตัวศรีไว้ในห้องก่อนแต่งงาน 7 วัน ส่วนอีเมี้ยนนั้นท่านเจ้าสัวแสร้งส่งไปทำธุระต่างจังหวัด ศรีจำต้องแต่งงานกับพระยาสมิติภูมิ กลายเป็น คุณหญิงศรี และมีอำนาจเต็มในคฤหาสน์หลังใหญ่

ค่ำคืนแรกที่ตกเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์ของพระยาสมิติภูมิ ศรีกรีดร้องดังโหยหวนจนท่านพระยาทั้งตกใจและประหลาดใจ แต่ก็ภูมิใจที่ศรีอุตส่าห์ครองตัวมานาน แต่ยอมแต่งงานกับตน คุณหญิงศรีพาอีเมี้ยนมาเป็นต้นห้อง และหลีกเลี่ยงการหลับนอนกับพระยาสมิติภูมิสม่ำเสมอ โดยคอยจัดหาบ่าวสาว ๆ ในบ้าน ไปปรนนิบัติพระยาสมิติภูมิแทน ไม่เว้นแม้แต่อีเมี้ยนก็ต้องยอมไปแก้ขัดให้

หลังจากศรีแต่งงานออกเรือนไปแล้ว เจ้าสัวส่งศุกลไปเรียนเมืองนอกด้านคอมเมิร์ชเพิ่มเติม เพื่อติดต่อค้าขายธุรกิจให้ใหญ่โตมากขึ้น ตลอดเวลาศุกลไม่เคยลืมสะบันงาสาวน้อยตกน้ำคนนั้น เขาตั้งใจเรียนจนจบและเดินทางกลับจากต่างประเทศเร็วกว่ากำหนด ท่านเจ้าสัวผิดหวัง ศุกลไม่ได้เรียนการบริหารธุรกิจกลับไปเรียนด้านวรรณคดีและอักษรศาสตร์

ศุกลกับคุณหญิงศรีเป็นพี่น้องที่รักกันมาก จนถึงขั้นกล้าขอให้คุณหญิงมาบอกท่านเจ้าสัวไปสู่ขอสะบันงา ท่านเจ้าสัวโมโหมากสั่งให้ศุกลเลิกติดต่อกับสะบันงา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ศุกลลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวจะไปมีเมียเป็นลูกแม่ค้าเรือนแพยากจน ไม่มีสกุลรุนชาติ นอกจากนี้ท่านเจ้าสัวแอบไล่แม่พริ้งและสะบันงาให้ไปจากที่ดินของตน ห้ามกลับมาอีก ศุกลเศร้าหมองไม่รู้สาเหตุการหายไปของสองแม่ลูก

สะบันงาในวัยเพียง 14 ปี กับแม่พริ้งและพ่อ การค้าขาดทุน เรือนแพโดนยึดเพราะติดจำนองเอาเงินไปรักษาแม่พริ้ง วันหนึ่งแม่พริ้งได้พบกับ แกละ (ประถมาภรณ์ รัตนภักดี) โดยบังเอิญ จนได้รู้ว่าแกละเป็นบ่าวในบ้านพระยาสมิติภูมิ แกละแนะนำให้แม่พริ้งพาสะบันงาไปขายฝากตัวขัดดอกเพื่อเอาเงินไปรักษาตัว แม่พริ้งพาสะบันงามาบ้านพระยาสมิติภูมิ คุณหญิงศรีจำสะบันงาได้และดีใจแทนศุกลจึงรีบรับซื้อสะบันงาเอาไว้รับใช้ หวังให้ศุกลมารับไปเป็นภรรยาสักวัน ความที่สะบันงาอายุน้อยมากไร้เดียงสา จึงรอดพ้นสายตาประกอบกับคุณหญิงพยายามเอาสะบันงาหลบจากพระยาสมิติภูมิเสมอ สะบันงาจึงรอดหูรอดตามาตลอด

แต่แล้ววันหนึ่งสะบันงาก็ได้พบกับเจ้าพระยาสมิติภูมิโดยบังเอิญอย่างจัง ๆ ท่านกลับไมได้คิดในแง่ชู้สาวเพราะมองว่าเด็กมาก ได้แต่ติดใจว่าสวยมากแต่ยังเด็ก แต่ท่านพระยาก็ไม่ได้ละเลยสะบันงา

คุณหญิงศรีปกครองคนในบ้านโดยมีอีเมี้ยนเป็นตัวแทน คอยสอดส่องดูแลความเป็นไปในบ้านและหาบ่าวสาวไปปรนนิบัติ รวมทั้งสองพี่น้อง สังเวียน (ธัญสินี พรมสุทธิ์) กับ สังวร (ภารดี อยู่ผาสุก) ที่ต่างเป็นคนขี้อิจฉาและมักใหญ่ใฝ่สูง อีเมี้ยนมักมีปัญหากับบ่าวไพร่ในบ้านเป็นประจำ แต่ไม่มีใครกล้าหือ บ่าวในครัวนินทาเมี้ยนกับคุณหญิงศรีว่าเล่นเพื่อนกัน คุณหญิงศรีโกรธขู่จะเอาโทษกับทุกคนที่พูดเรื่องนี้ จนทำให้เรื่องสงบลง

วันหนึ่งคุณหญิงศรีชวนศุกลมาหาที่บ้าน ศุกลมาพบสะบันงาถึงกับตะลึงงันมองด้วยความดีใจและหลงใหล จากนั้นศุกลจึงแวะเวียนมาเยี่ยมคุณหญิงศรี เพื่อได้พบหน้าสะบันงาบ่อยมากจนดูผิดสังเกตของพวกบ่าวไพร่ โดยเฉพาะ น้อย (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) บ่าวปากมากจอมส่อเสียด หนึ่งในบ่าวที่คอยไปบำเรอความสุขให้ท่านพระยา น้อยจับตาความสัมพันธ์ของสองคนตลอด แม้ไม่ค่อยได้พูดจากัน แต่สะบันงาก็มีใจรักตอบศุกล ไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นภรรยาของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิในวันหนึ่ง

ที่นั่นนางเล็ก ๆ ทั้งหลาย สังเวียน สังวร และน้อย พยายามชิงดีชิงเด่นเพื่อให้เจ้าพระยาสมิติภูมิหลงใหล และแย่งตำแหน่งคุณหญิงศรี ตบตีกันเองก็เคยทำ โดยหารู้ไม่ว่าท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิจะเชิดชูเพียงคุณหญิงเท่านั้น เพราะเหมาะสมคู่ควร บรรดาเมียเล็กเมียน้อยเกลียดคุณหญิงศรีและเมี้ยนมาก ถึงกับทำพิธีสาปแช่งให้คุณหญิงมีอันเป็นไปสารพัด แต่ไม่รอดสายตาเมี้ยน คุณหญิงศรีแสร้งทำเฉยแต่เก็บงำข้อมูลไว้ชำระแค้น

ด้วยความเอ็นดูรักใคร่เป็นพิเศษ คุณหญิงศรีสอนวิชาสารพัดทั้งไทยอังกฤษให้สะบันงา ทำให้สะบันงามีความรู้มากมาย เพราะคุณหญิงต้องการให้สะบันงาเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่คู่ควรของศุกลผู้เป็นน้องชาย แต่พวกนางเล็ก ๆ กลับคิดไปว่าคุณหญิงจะเอาสะบันงามาเป็นตัวตายตัวแทนในวันข้างหน้า จึงพากันเกลียดและอิจฉาสะบันงาไปด้วย สะบันงาเป็นเด็กจิตใจดี ใจเย็น อดทน ไม่มองใครในแง่ร้าย ยิ่งทำให้คุณหญิงศรีรักสะบันงามากในฐานะน้องสะใภ้ในอนาคต คุณหญิงศรีบอกสะบันงาเรื่องศุกลรักและจะแต่งงาน สะบันงาเต็มใจรักตอบศุกล ซึ่งทั้งศุกลกับสะบันงาได้พูดจาตกลงกันเรื่องแต่งงานไว้แล้ว เพียงรอเวลาให้สะบันงาโตอีกสักนิด

สังวรออดอ้อนขอร้องพระยาสมิติภูมิอย่าทิ้งขว้าง พระยาสมิติภูมิรับคำทำให้สังวรไม่เกรงกลัวคุณหญิงศรี โดยเฉพาะกับเมี้ยนมักเป็นคู่ปรับกันเป็นประจำ คุณหญิงศรีแม้จะไม่ชอบสังวรแต่ก็ทำให้เธอพ้นหน้าด้วยการให้หลับนอนกับพระยาสมิติภูมิ คุณหญิงศรีฉลาดไม่ลดตัวไปทะเลาะกับสังวรให้เป็นหน้าที่ของเมี้ยน สังวรท้องสมใจและอยากได้ลูกชายมาสืบทอดตระกูลและเขี่ยคุณหญิงศรีให้กระเด็น คุณหญิงศรีรับรู้แผนการของสังวร โดยมีเมี้ยนคอยจับตาดู คุณหญิงศรีไม่มีวันยอมให้พระยาสมิติภูมิมีลูกกับบ่าวไพร่ขี้อิจฉาคนใดโดยเด็ดขาด

สังวรยังไม่ทันบอกให้ใครรู้เรื่องตั้งท้องนอกจากสังเวียนน้องสาว น้อยเมียบ่าวผู้ทะเยอทะยานแอบฟังสองพี่น้องคุยกันจึงรีบไปบอกเมี้ยน เมี้ยนไปบอกคุณหญิงหญิงศรี แต่คุณหญิงศรียินดีกับสังวรยกใหญ่เมี้ยนถึงกับแปลกใจ สังวรผยองยกใหญ่วางก้ามตีเสมอเผลอเบ่งทับคุณหญิงศรี

เมี้ยนโมโหและโกรธจัด วางแผนเฉดหัวสังวรออกจากบ้านเนียน ๆ ให้คุณหญิงศรี โดยแสร้งชวนสังวรมาคุยในห้องคุณหญิงศรี แล้วทิ้งไว้คนเดียว เมี้ยนจัดแจงนำเอาเครื่องเพชรของคุณหญิงศรีไปซ่อนไว้ในห้องของสังวร พร้อมกับร้องโวยวายว่าสังวรขโมยเครื่องเพชรไป คุณหญิงศรีให้ทางเลือกสองทาง ส่งตำรวจหรือต้องไปจากบ้าน สังวรจำนนต่อหลักฐาน พวกบ่าวไพร่คนในบ้านเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มีแต่สังเวียนเท่านั้นที่ไม่เชื่อเต็มที่ว่าสังวรจะขโมย สังวรต้องออกจากบ้านไปโดยมีลูกติดท้องไปด้วย ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิไม่รู้ว่าสังวรท้อง รู้แต่ว่าขโมยของคุณหญิงแล้วหนีไปเพราะกลัวความผิด

สังวรกลับไปคลอดลูกชายตั้งชื่อว่า ทอง (ศรุต สุวรรณภักดี) พร้อมกับเลี้ยงดูและเสี้ยมสอนให้ทองกลับมาแก้แค้นคุณหญิงศรีแทนตน หลังจากเห็นพี่สาวถูกใส่ร้าย สังเวียนเจ็บแค้นคุณหญิงศรีที่กลั่นแกล้งสังวร จึงพยายามท้องกับเจ้าพระยาสมิติภูมิให้ได้ สังเวียนสนิทกับแกละที่ยังแคล้วคลาดไม่ได้เป็นภรรยาของท่านสมิติภูมิสักที สังเวียนพยายามไปปรนนิบัติเจ้าพระยาสมิติภูมิแทนคิวของแกละ และคอยเสี้ยมแกละให้ลาออกไปกับ ซ้ง (พศิน ศรีธรรม) กุ๊กจีนที่รักใคร่ชอบพอกันอยู่ ในที่สุดทั้งสองลาออกไปเปิดร้านอาหารจีนภายหลังกิจการเจริญรุ่งเรืองใหญ่โต และมีชื่อเสียงมากในเวลาต่อมา แกละเปลี่ยนชื่อเป็นลออศรีวดี ตามชื่อของคุณหญิงลออศรี ต่อมาเติมคำว่า วดี ข้าไปอีก แกละจึงมีชื่อยาวมากว่า คุณหญิงลออศรีวดี ส่วนซ้งก็เปลี่ยนชื่อเป็นคุณทรงวาด

น้อยเมียบ่าวอีกคนดีใจที่สังวรถูกกำจัดออกไป และหวังมีลูกกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเช่นกัน น้อยอิจฉาสังเวียนที่กลายเป็นคนโปรด คอยติดตามข่าวสังเวียนไปบอกเมี้ยนหวังรางวัล หารู้ไม่ว่าเมี้ยนไม่ไว้ใจน้อยเช่นกัน ในที่สุดสังเวียนท้องกับพระยาสมิติภูมิ แต่ขอร้องไม่ให้บอกใคร เจ้าพระยาสมิติภูมิรับปาก และทำให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสังเวียนอีก เมี้ยนจับสังเกตอยู่ด้วยความแปลกใจ น้อยมาส่งข่าวว่าสังเวียนน่าจะท้อง คุณหญิงศรีสงบนิ่งด้วยยังไม่แน่ใจ เพราะกำลังวางแผนแต่งงานให้ศุกลกับสะบันงา เมื่อหมดคนที่จะส่งไปให้ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิ อีกทั้งท่านเจ้าพระยาไม่ต้องการน้อยเพราะปากมาก เมี้ยนก็มีรอบเดือน คุณหญิงศรีรักน้องชายมากและหวงสะบันงาไว้ให้น้องชาย จึงยอมไปนอนกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเสียเอง พร้อมกับเตือนสะบันงาให้ระวังตัว

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อปรากฏว่าคุณหญิงศรีท้องมีอาการแพ้และป่วยจนนอนอยู่แต่ในห้อง ไม่สามารถปกป้องสะบันงาให้น้องชายได้อีก แม้สะบันงาจะเฝ้าดูแลคุณหญิงศรีตลอดเวลา แต่ก็ต้องโดนเรียกไปพบท่านเจ้าพระยาในที่สุด

โชคยังดีที่เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสะบันงาทันที เพราะจะถนอมเอาไว้ให้สะบันงาเต็มใจรับรักท่าน ท่านหลงรักสะบันงายิ่งกว่าหญิงใด ๆ แม้แต่คุณหญิง ยิ่งพบว่าสะบันงาเก่งกาจเพราะเรียนรู้จากคุณหญิง ท่านยิ่งหลงใหล จ้างครูมาสอนสารพัดวิชาให้สะบันงา

ศุกลมาเยี่ยมคุณหญิงศรีและรู้ว่าสะบันงาเข้าไปดูแลปรนนิบัติพระยาสมิติภูมิก็เสียใจมาก คุณหญิงศรีบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รอเวลาไม่ได้แล้ว บอกให้ทั้งสองคนหนีไปด้วยกัน น้อยมาแอบฟังจึงรีบไปฟ้องสังเวียน และสังเวียนไปฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิต่อ สังเวียนกร่างใหญ่โตเบ่งมากมีปากเสียงกับเมี้ยนไม่เกรงกลัวใคร เพราะเจ้าพระยาสมิติภูมิคอยให้ท้าย สังเวียนแอบส่งจดหมายถึงสังวรแจ้งข่าวท้องฝาก นายยอด (กษาปณ์ จำปาดิบ) คนรถไปส่ง ด้านนายยอดไม่ชอบหน้าสองพี่น้องจึงแอบเปิดอ่านและเอาจดหมายไปให้เมี้ยนเพราะหวังรางวัล คุณหญิงศรีอ่านจดหมายจึงรู้ว่าสังเวียนท้องจริง และยังรู้ด้วยว่าสังเวียนเอาสมุนไพรทำให้แท้งลูกใส่ในยาหม้อบำรุงครรภ์ของคุณหญิงศรี เหตุนี้คุณหญิงศรีจึงป่วยกระเสาะกระแสะ

คุณหญิงศรีแค้นมากแต่อีเมี้ยนแค้นกว่าจึงอาสาจัดการให้ โดยจ้างยอดให้เข้าหาสังเวียน สังเวียนต่อสู้แทงยอดด้วยมีด เมี้ยนเข้าไปเจอสังเวียนอยู่กับยอด จึงต่อว่าเสียงดังและเอาจดหมายที่สังเวียนคิดร้ายกับคุณหญิงโชว์ให้ดู สังเวียนตกใจกลัวมากจนด้วยหลักฐาน เมี้ยนขู่จะบอกท่านเจ้าพระยา สังเวียนจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมลูกในท้อง ส่วนยอดเมี้ยนปิดปากด้วยการลอบวางยาพิษ เจ้าพระยาสมิติภูมิอดสงสัยไม่ได้ แต่คุณหญิงเอาจดหมายที่สังเวียนเขียนถึงพี่สาวให้ท่านเจ้าพระยาอ่าน ท่านพูดไม่ออกเพราะสังเวียนปองร้ายคุณหญิงศรีและคิดร้ายถึงขึ้นจะฆ่าลูกในในท้องให้แท้ง จึงเงียบและไม่ต้องการให้เรื่องอื้อฉาว

เวลาต่อมาคุณหญิงศรีคลอดลูกสาวชื่อ พริสซิลลา หน้าตางดงามแต่ไม่แข็งแรงนัก คุณหญิงศรีไม่มีน้ำนม เมี้ยนต้องไปเอาบ่าวชื่อ ดา (มนตระกานต์ ทองขาว) พี่สาวของ เดือน (อุษณีย์ วัฒฐานะ) มาเป็นแม่นม น้อยมาบอกให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไปดูศุกลกับสะบันงาคุยกันอย่างสนิทสนมใต้ต้นพิกุล ท่านตัดสินใจเลิกทะนุถนอมสะบันงาเอาไว้ต่อไป เจ้าพระยาสมิติภูมิกักสะบันงา ไม่ยอมส่งสะบันงากลับไปดูแลคุณหญิง และให้คุณหมออดุล หมอประจำบ้านมาดูแลพร้อมด้วยพยาบาลและเมี้ยน สะบันงาตกเป็นภรรยาของเจ้าพระยาสมิติภูมิจึงปฏิเสธแต่งงานกับศุกลเพราะมีมลทิน แต่ศุกลกลับไม่ถือสา เขารักสะบันงายิ่งกว่าสิ่งใดในโลก และให้ตัดสินใจหนีไปกับเขา ศุกลจะส่งรถมารับ นัดหมายให้ออกไปตอนเที่ยงคืนแรมสิบห้าค่ำที่จะมาถึง ถ้าไม่ออกมาเขาจะรอจนกว่าจะตาย สะบันงาสองจิตสองใจ น้อยแอบฟังที่ศุกลบอก แต่บิดเบือนเมื่อมารายงานท่านเจ้าพระยาว่าสะบันงานัดศุกลให้มารับเพื่อจะหนีไปด้วยกัน ท่านแค้นมาก สั่งน้อยหานักเลงมาให้สองคน โดยท่านเจ้าพระยาสั่งให้เอาศุกลไปทำร้ายสั่งสอนให้เข็ดหลาบเท่านั้น

เมื่อถึงวันนัด สะบันงาไม่ยอมลงไป เพราะไม่ต้องการทรยศต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ศุกลมารอรับสะบันงาตามที่นัดหมายไว้ ขณะเดินไปรอที่ต้นพิกุลใหญ่ เขาโดนสองคนทำร้ายทุบตีและอุ้มหายไป ขณะเดียวกันนั้นคุณหญิงศรีซึ่งอยู่ในห้องกับพริสซิลลาที่ยังแบเบาะมองทางหน้าต่าง เห็นสองคนกำลังอุ้มและทุบตีใครคนหนึ่งไป เอะใจว่าเป็นศุกลจึงลอบลงเรือนตามไปดู ทิ้งให้พริสซิลลาหลับอยู่ตามลำพัง เมี้ยนได้ยินเสียงพริสซิลลาร้องไห้วิ่งมาดู ไม่พบคุณหญิงศรีก็ตกใจมาก จึงมาเรียกน้อยไปตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลา น้อยฉวยโอกาสมากระซิบสะบันงา

เมื่อรู้ว่าพริสซิลลาไม่มีใครดูแลเพราะเมี้ยนจะออกไปตามหาคุณหญิงศรี สะบันงาจึงขอไปดูแลพริสซิลลา ระหว่างทางน้อยกลับชวนไปแวะที่ต้นพิกุลใหญ่ บอกว่ามีคนรอพบถ้าไม่ไปพบเขาจะขึ้นไปหาเจ้าพระยาสมิติภูมิ สะบันงายอมไปแต่ไม่พบใคร น้อยย้อนกลับมาฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิว่าสะบันงาไปรอพบศุกล สะบันงาเจอเมี้ยนระหว่างทางจึงรู้ว่าโดนน้อยหลอก เมี้ยนตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลาแทนแล้ว เมี้ยนโกรธน้อยมากรู้ว่าน้อยหักหลัง แต่ต้องรีบไปตามหาคุณหญิง

ท่านเจ้าพระยาตามลงมาหาสะบันงาชวนกลับเรือนไปโดยไม่บอกว่ารู้เรื่องใด ๆ สั่งให้สะบันงาอยู่แต่ในห้องอย่าไปไหน ส่วนตนเองออกไปดูผลงาน น้อยแอบวางเพลิงเรือนคุณหญิงศรีหวังให้พริสซิลลาตาย จากนั้นแอบไปดูผลงานที่สองโจรทำร้ายศุกลเพื่อรอรับส่วนแบ่งรางวัลตามที่ตกลงกันไว้ โจรสองคนเกิดโลภทำร้ายศุกลเมื่อเห็นว่ามีทองหยองเงินทองติดตัวมากมาย จึงริบมาหมดกลายเป็นฆ่าชิงทรัพย์ ขณะรูดแหวนติดนิ้วที่มีอักษรไขว้ ศก. คุณหญิงตามมาเจอโจรสองคน กระโจนเข้าไปหาน้องชายด่าว่าโจรเป็นการใหญ่ โจรชั่วสองคนที่กำลังขุดหลุมรอฝังศุกลโมโหใช้จอบฟันเข้าที่หน้าคุณหญิงศรีจนหน้าเละไปข้างหนึ่ง คุณหญิงไม่สิ้นฤทธิ์ พยายามคลานไปขัดขวางจึงโดนจอบฟันขาเดี้ยงไปข้างหนึ่ง เมื่อจะฟันมือปรากฏว่าคุณหญิงศรีหลบทันก่อนจะแกล้งนอนสลบ

น้อยพรวดออกมาแสดงความยินดีกับสองโจรเพื่อตั้งใจมาขอส่วนแบ่ง โจรสองคนจึงฟันน้อยตายไปด้วย เมื่อฝังศุกลและน้อยเสร็จ สองโจรคิดว่าคุณหญิงศรีตายแล้ว กำลังจะฝัง แต่ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาพบโจรสองคนตามนัดหมายเพื่อให้ค่าจ้างเสียก่อน และรู้ว่าโจรสองคนฆ่าศุกลแถมคุณหญิงศรีนอนตายอีกคน จึงโกรธมากด่าว่าโจรสองคน ทั้งสองคนบอกว่าคุณหญิงศรีมาขัดขวางจึงตัดสินใจฆ่า

ท่านเจ้าพระยาเสียใจมาก และจะยิงโจรทั้งสองคนทิ้งแต่เห็นไฟลุกท่วมบ้านที่คุณหญิงพัก ก็ตกใจกลัวพริสซิลลาโดนไฟครอกจึงรีบหันกลับบ้านเพื่อไปดูลูก โจรสองคนฉวยโอกาสหนีไปพร้อมค่าจ้าง พอทุกคนคล้อยตัวไป เมี้ยนตามมา และพบสภาพคุณหญิงศรีก็หัวใจสลาย สงสารคุณหญิงจับใจ เมื่อเห็นว่าคุณหญิงยังไม่ตายจึงรีบอุ้มไปหลบที่รถของศุกลที่จอดแอบรออยู่ โดยให้คนรถขับพาไปที่บ้านของตนเองที่ปทุมธานี

ด้านสะบันงารีบออกจากตึกของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาช่วยพริสซิลลากับเดือนและดา เจ้าพระยามาถึงบ้านไฟมอดไหม้มจนเป็นจุณ พริสซิลลาปลอดภัยเพราะทั้งสามคนช่วยไว้ ท่านซาบซึ้งในน้ำใจของทั้งสาม จากนั้นจึงย้อนกลับมาดูร่างคุณหญิงศรี แต่ร่างคุณหญิงหายไปไร้ร่องรอย จึงเข้าใจว่าพวกโจรพวกนั้นเอาศพไปด้วย ท่านเจ้าพระยาไม่สบายใจมากเรื่องคุณหญิงศรี และกลายเป็นหนามทิ่มแทงให้เจ็บปวดหัวใจจนกลายเป็นโรคหัวใจในเวลาต่อมา

ท่านเจ้าพระยาประกาศว่าคุณหญิงศรีเสียชีวิตในกองเพลิง และจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ ส่วนสะบันงาได้รับการยกย่องเป็นภรรยาเอกเลื่อนฐานะเป็นคุณหญิง เธอดูแลพริสซิลลาอย่างดีรักเหมือนลูก พริสซิลลาโตขึ้นปรากฏว่าเป็นออทิสติก แต่คนในสมัยนั้นคิดว่าเด็กปัญญาอ่อน เธอเป็นเด็กสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตา พระยาสมิติภูมิรักลูกสาวคนนี้มาก สะบันงาก็รักใคร่เอ็นดูเช่นกัน สะบันงาไม่เชื่อว่าพริสซิลลาปัญญาอ่อนพยายามดูแลอย่างดี พริสซิลลามีความจำดีอย่างมหัศจรรย์มักรู้อะไรที่ใครนึกไม่ถึง คิดเลขได้เร็ว

สะบันงายังรักศุกลแม้จะไม่ได้คิดหนีตามไป แต่เข้าใจผิดคิดว่าศุกลหลอกว่าจะมาพบแต่กลับไม่มา เรื่องราวร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีคนเอาไปนินทาว่าเป็นฝีมือของสะบันงา ซึ่งวางแผนกำจัดคุณหญิงศรี ฆ่าตายหมกไว้ที่ไหนสักแห่ง บ้างว่าคุณหญิงศรีหนีตามน้องชายคนละแม่ สะบันงาเสียใจแต่นิ่งเฉยเสีย ท่านเจ้าพระยาคอยปลอบใจและรักสะบันงามากขึ้นทุกวัน และเล่นงานทุกคนที่พูดเรื่องนี้จนพากันเงียบปากไป โดยเฉพาะคุณหญิงลออศรีวดี หรือ แกละ นั่นเองคือตัวกระจายข่าวในวงชั้นสูง ภายหลังพระยาเกษมได้มาพบปะสะบันงาจึงรู้สึกดีขึ้น

เวลาผ่านไปสะบันงามีลูกสาวคนแรกกับเจ้าพระยาสมิติภูมิ ชื่อ พริ้มเพรา เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เมี้ยนกลับมาหาสะบันงาบอกว่าขอพาพี่สาวที่พิการมาขออาศัยอยู่บ้านท้ายสวน โดยไม่ยอมบอกว่าที่แท้เป็นคุณหญิงศรีนั่นเอง สะบันงาอนุญาตด้วยความเต็มใจ และถามไถ่ถึงคุณหญิงศรี สะบันงาร้องไห้เสียใจที่คุณหญิงศรีหายไป เธอยังเคารพเทิดทูนและรู้ซึ่งในพระคุณคุณหญิงศรีเสมอ เมี้ยนฟังแล้วถึงกับร้องไห้โฮนำความมาบอกคุณหญิงศรี

คุณหญิงได้ทราบว่าสะบันงาปฏิเสธไม่ให้ทุกคนเรียกว่า คุณหญิง เพราะเธอมั่นใจว่าคุณหญิงศรียังมีชีวิตอยู่ คุณหญิงศรีถึงกับตื้นตันน้ำตาคลอขนาดไม่รู้ว่าเป็นคุณหญิงมาอาศัยอยู่ สะบันงายังใส่ใจส่งอาหารขนมนมเนยของใช้ทุกอย่างมาให้กินให้ใช้ แม้ว่าจะแปลกใจไม่น้อยที่รู้ว่าพี่สาวเมี้ยนคนนี้ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ และทานอาหารด้วยมีดและส้อม

สะบันงาพยายามขอไปเยี่ยมพี่สาว แต่เมื่อเมี้ยนไปรายงาน ถูกคุณหญิงศรีปฏิเสธ บ่าวไพร่หลายคนไปเดินเล่นแถวนั้นพบหญิงสูงวัยพิการหน้าคล้ายผี ต่างตกใจวิ่งหนีกันทุกคน ภายหลังเมี้ยนไปหาหน้ากากมาให้ใส่บังใบหน้าแทน

คุณหญิงศรีมักแอบไปนั่งที่หลุมฝังศพศุกล นำดอกไม้ไปวางไว้ พูดกับหลุมศพน้องเสมอ เจ้าพระยาสมิติภูมิก็เช่นกันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงมักวนเวียนไปขอโทษศุกลที่นั่น จนอยู่มาวันหนึ่งพบดอกไม้วางอยู่เช่นเคย ผู้วางยังไม่ทันออกไปพ้น เจ้าพระยาสมิติภูมิตามไปกระชากไหล่ให้หันกลับมา หญิงคนนั้นใส่หน้ากากเห็นแค่ดวงตาข้างที่ไม่บอด ท่านจำได้ทันทีว่าคือดวงตาของคุณหญิง อุทานเรียกชื่อออกไปคุณหญิงผลักท่านเจ้าพระยาล้มลงแล้วกระเซอะกระเซิงหนีไป เจ้าพระยาสมิติภูมิยิ่งเสียใจมาก สงสารคุณหญิงศรีจับใจ ส่งคนไปสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ น่าอยู่ มีทุกอย่างครบครันแทนกระท่อมผุพัง

สะบันงาเลี้ยงดูพริสซิลลาอย่างดี จนต่อมา สะบันงามีลูกสาวคนที่สองชื่อ แพรวพรรณราย และลูกสาวคนที่สามชื่อ พราวพิลาส แต่ละคนล้วนงดงามน่ารัก แถมยังมีลูกชายคนสุดท้องชื่อพฤกษ์ สมหวังดังปรารถนาของท่านเจ้าพระยาที่จะมีลูกไว้สิบสกุล เดือนผู้แสนดีได้รับการสนับสนุนจากสะบันงา ให้มาเป็นภรรยาคนที่สองของเจ้าพระยาต่อจากเธอ และมีลูกชายกับท่านเจ้าพระยาอายุแก่กว่าพฤกษ์สามวัน ชื่อ พจน์ และได้เกิดเรื่องราวกับพฤกษ์มากมาย พจน์จึงกลายเป็นผู้สืบสกุลแทน

ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิอุปการะเด็กชายคนหนึ่งชื่อ ศีล (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) เนื่องจากพ่อแม่ตาย จากการไปช่วยงานกฐินของท่าน ศีลเป็นเด็กดีกตัญญูรู้คุณได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก และกลับมาทำงานเป็นผู้จัดการห้างของตระกูลสมิติภูมิ เป็นที่ไว้วางใจของทุกคนในบ้าน

สะบันงามีเพื่อนสนิทชื่อ ปานวาด (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เป็นลูกสาวของคุณหญิงลออศรี ปานวาดถูกส่งไปเรียนฝรั่งเศส มีสามีเป็นนักดนตรี ชื่อ ปีแอร์ และมีลูกชายด้วยกันชื่อ ธรรม์ (ชินวุฒ อินทรคูสิน) ปีแอร์โดนรถชนจนพิการ ปานวาดเลิกเรียนเอาเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้รักษาตัวสามี ปีแอร์ทนดูสภาพปานวาดลำบากไม่ได้จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ปานวาดตัดสินใจพาลูกชายกลับบ้าน คุณหญิงไม่พอใจมาก แต่พระยาเกษมกลับนิ่งเฉย พาปานวาดมาพบกับสะบันงา สะบันงาให้กำลังใจปานวาด

ธรรม์กลายเป็นเพื่อนสนิทกับพริ้มเพรา แพรวพรรณราย โดยเฉพาะพิมพิลาส เนื่องจากชอบดนตรีเหมือนกัน พริ้มเพราสงบเสงี่ยมสุขมรอบคอบ ชอบไปหลังบ้านพบคุณป้าพิการ เธอไม่ตกใจกลัวเช่นคนอื่นพูดด้วยอย่างดี ศรีสอนภาษาให้พริ้มเพราและรักเหมือนลูกสาวอีกคน ศรีส่งข่าวให้ครอบครัวทราบว่ายังไม่ตายแต่ไม่พร้อมจะไปพบ ไม่ต้องการให้พ่อแม่เห็นหน้าผีของตนส่วนศุกลนั้นตายแล้ว ต่อมาภายหลังสิ้นเจ้าสัว ศรีได้รับมรดกทั้งหมดจึงยกต่อให้พริ้มเพรา

ส่วนพริสซิลลามักจะไปเดินเล่นในสวน จนพบศรีกลับจำได้ว่าเป็นแม่ และเรียกเธอว่าแม่ ศรีเสียใจมากแต่ไม่อาจยอมรับว่าเป็นแม่จึงให้เมี้ยนพากลับไปหาสะบันงา กำชับว่าห้ามบอกพริสซิลลามาเล่นแถวนั้นอีก แต่พริสซิลลาก็แอบมาจนได้

ฟากสองโจรชั่วใช้เงินหมดแล้วย้อนกลับมาจะไถเงินท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิ พบกับพริสซิลลาสวยงามน่ารักมาด้อมมองเรียกหาแม่จึงฉุดจะข่มขืน ศรีมาพบใช้จอบฟาดสองคนซมซานหนีไปตายอย่างน่าอนาถ เมี้ยนพาพริสซิลลากลับไปหาสะบันงาอีก สะบันงาตัดสินใจปรึกษาเจ้าพระยาสมิติภูมิเรื่องส่งตัวพริสซิลลาไปรักษาโดยมีหมออดุลคอยดูแล ส่วนอุดร ลูกชายหมอรู้จักคุ้นเคยกับลูก ๆ ของสะบันงาและสนิทเป็นคู่ ๆ

อุดรสนิทและรักกับพริ้มเพราแต่ไม่สมหวัง เพราะพริ้มเพรารักธรรม์มากกว่า ส่วนธรรม์สนิทสนมกับพราวพิลาสเพราะรักดนตรีเหมือนกัน แพรวพรรณรายคอยตามกลั่นแกล้งทุกคนเพราะไม่มีใครจับคู่ด้วย พฤกษ์สนิทกับพจน์ไปไหนมีพจน์ตามไปด้วยดั่งเงา

ทุกคนดีกับพจน์ยกเว้นแพรวที่ชอบด่าว่าเป็นลูกบ่าว พริ้มเพรามีเพื่อนสนิทชื่อเมขลา เด็กยากไร้มาขอรับใช้ มาร์แมร์ เพื่อแลกกับการได้เรียนโรงเรียนไฮโซ โดยอาสาว่าจะกลับมาสอนหนังสือตอบแทนเมื่อเรียนจบ ไม่มีใครคบกับเมขลาเลย เพราะนิสัยไม่ดียกเว้นพริ้มเพรา เมขลามักหยิบเอาข้าวเอาของและแอบอ้างชื่อพริ้มเพราไปเบ่งใส่ใครต่อใคร

วันหนึ่งพฤกษ์กับพจน์พากันไปขุดไส้เดือนตกปลา กลับไปขุดพบกระดูกคนจึงร้องโวยวายขึ้นมา แพรวตามไปแกล้งพจน์พบแหวนที่โครงกระดูกรีบเอามาบอกสะบันงา สะบันงาเห็นแหวนสลัก ศก. ถึงกับลมจับ และรู้ความจริงว่าศุกลมารอรับเธอจริง ๆ แต่โดนฆ่าตาย มั่นใจว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศุกล จึงไปโวยวายต่อว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศรีด้วย ท่านเจ้าพระยาหัวใจวายกะทันหัน ก่อนสิ้นลมยังทันได้บอกว่าคุณหญิงยังไม่ตายอยู่ท้ายบ้านสวน สะบันงารีบไปเชิญคุณหญิงศรีกลับมาเอาบ้าน เอาตำแหน่งคืนให้ คุณหญิงศรีไม่ยอมรับ และบอกว่าเธอคือคนสาบสูญขออาศัยอยู่แต่บนเรือนเท่านั้น

สองคนรักใคร่ปรองดองกันดังเดิม สะบันงายอมรับให้ทุกคนเรียกว่าคุณหญิงเนื่องจากคุณหญิงศรีอนุญาตแล้ว เคารพเรียกศรีว่าคุณพี่ เมี้ยนปรึกษาดูแลทุกอย่างในบ้านเช่นเดิม สะบันงามีความสุขมากจนถึงวันที่พฤกษ์ตายสะบันงาใจสลาย ผมที่เคยดกดำเปลี่ยนเป็นสีขาวชั่วข้ามคืน ด้านพริ้มเพราถูกส่งให้ส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ยังเริ่มวัยรุ่น สะบันงาตัดสินใจส่งพจน์ไปแทนพฤกษ์ ส่วนเมขลาอยากไปนอกอย่างพริ้มเพราะบ้าง จึงตั้งใจเรียนเต็มที่ได้ทุนไปนอกจนได้ ก่อนไปได้ทำทีพบกับศีลที่เคยพบที่บ้านพริ้มเพรา อ้างว่าเป็นเพื่อนพริ้มเพราให้มาหาศีลดูข้าวของเครื่องใช้ไปนอก ศีลใจดีให้เสื้อผ้าไปใส่เมืองนอกมากมายทำให้เมขลาอยากได้ศีลเป็นสามี แต่ศีลนิ่งเฉยมากเมขลาจึงอดใจไว้ก่อน

ศีลกลับเอ็นดูหลงใหลสาวน้อยวัยรุ่นพราวพิลาส ชอบฟังเสียงเธอเล่นเปียโน เขาหาเปียโนมาให้เล่น หาครูมาสอน พราวพิลาสนับถือศีลเป็นญาติผู้ใหญ่ แต่กลับพึงพอใจธรรม์ที่คอยตามติดเล่นดนตรีด้วยกัน โชคร้ายธรรม์ได้เวลาไปเรียนต่อ อาคม สามีใหม่ของปานวาดแนะนำให้ไปเรียนกฎหมาย ธรรม์เคยสัญญากับพราวพิลาสว่าจะไม่ไปไหน เขาจำต้องไปและบอกว่าจะกลับมาเมื่อเรียนจบ แต่พอเรียนจบจริง ธรรม์ก็เรียนดนตรีต่อและรับเป็นพ่อของลูกเพื่อนสนิทตนชื่อ ชองปอง ทำให้พราวพิลาสเสียใจมาก เธอเศร้าซึมและแต่งเพลงหลายเพลงล้วนเศร้าสะเทือนใจ ศีลพยายามปลอบโยนชวนไปร้องเพลงที่ห้องอาหารในโรงแรมใหญ่ ศรีขอร้องให้สะบันงาอนุญาตเพื่อรักษาแผลใจ พราวพิลาสรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อศีลคอยดูแลทำให้อุ่นใจ

ต่อมาศีลไปดูงานเมืองนอกพบเมขลาอยู่ที่เมืองนั้นพอดี เมขลาทำที่ว่าโดนคนร้ายปล้นหมดตัวจึงมาขออาศัยศีลอยู่ และมอมเหล้าจนได้เสียกันกับศีล ศีลไม่สบายใจมากแต่จำต้องแต่งงานเพราะเมขลาท้องส่วนเมขลาคลอดลูกปุ๊บก็สอบชิงทุนไปเรียนต่ออีก ทิ้งลูกไว้กับศีลแบบไม่ใยดี ศีลผิดหวังโกรธตัวเองเพราะต้องการขอพราวพิลาสแต่งงาน ศีลอกหัก แต่พยายามประคองตัวเลี้ยงดูลูกสาวอย่างดี พราวพิลาสเอ็นดูหนูน้อยมาก

พริ้มเพรากลับมาเมืองไทยท่ามกลางความยินดีของทุกคน อุดรกลายเป็นหมอหวังจะแต่งงานกับพริ้มเพราตามที่สะบันงาและศรีคอยสนับสนุน หวังให้พริ้มเพราดูแลกิจการของตนเอง แต่พริ้มเพรากลับหันไปเข้าวัดและจำศีลไม่กลับบ้าน ต่อมาสุดท้ายกลายเป็นบวชชี อุดรผิดหวังแต่ก็สนับสนุนช่วยทำหนังสือธรรมะ พริ้มเพรากลับบ้านเมื่อมีเหตุสำคัญเพื่อมาปลอบใจให้คำแนะนำทำให้ทุกคนสงบใจได้

ส่วนแพรวพรรณรายร้ายกาจมาก ถึงขั้นแอบไปขึ้นเรือที่พจน์ไปนอก แพรวพรรณรายอยากไปมาก แต่โดนจับได้ก่อน โดนส่งตัวกลับมาบ้าน แต่มาสมหวังเมื่อเลดี้แลนดอล น้องสาวของพระยาสมิติภูมิตายลง จึงได้มอบมรดกเป็นไร่ชาที่ดาจิริงให้พระยาสมิติภูมิ แพรวพรรณรายอาสาไปดูแลไร่ชา สะบันงาค้านแต่ศรีสนับสนุน แพรวพรรณรายหารู้ไม่ว่า พอล (มิกค์ ทองระย้า) หลานชายแท้ ๆ ของลอร์ดแลนดอล สามีเลดี้วางแผนฆ่าเจ้าพระยาสมิติภูมิเอาไว้

พอพบหน้ากัน พอลถึงกับตะลึง เพราะไม่ใช่ชายแก่ที่ต้องการฆ่า แต่กลับเป็นสาวน้อยสวยงาม เช่นเดียวกับแพรวพรรณรายพบชายหนุ่มหล่อเหลาผู้น่าหลงใหล มีสาวน้อยข้างไร่ซึ่งรักพอล พยายามมากระแนะกระแหนดูถูกแพรวพรรณรายแต่เจอตอกกลับ พอลเข้าข้างแพรวพรรณรายและบอกสาวน้อยคนนั้นตามตรงว่าเขาไม่ได้รักเธอ พอลช่วยดูแลไร่ชา คอยแนะนำให้แพรวพรรณรายเข้าใจเป็นอย่างดี แล้วบอกลากลับอังกฤษ แพรวพรรณรายเสียใจมากไม่ยอมให้ไป พอลยืนยันจะไปเพราะไม่ต้องการเกาะเธอกิน แพรวพรรณรายขี่ม้าแบล็กการ์ดตัวโปรดของพอลตกเหว ม้าตายแต่แพรวพรรณรายกระโดดเกาะโขดหินไว้ได้บาดเจ็บสาหัส พอลเสียใจมากสารภาพว่ารักแพรวพรรณรายและจะไม่ทิ้งแพรวพรรณรายไปไหน ทั้งคู

บอดี้การ์ดสาว 2556

เรื่องย่อ : บอดี้การ์ดสาว (2556/2013) งานแต่งงานระหว่าง ไอศูรย์ เดชโชดม (เจจินตัย อันติมานนท์) กับอริสรา (ตาล กัญญา รัตนเพชร์) เกิดขึ้นบนความเสียใจของอิศร์ เดชโชดม (เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) อริสราเป็นคนรักของอิศร์ อนุภัทร (อานัส ฬาพานิช) เพื่อนรักต้องคอยปลอบใจ มายาวี (พอลลี่ พรพรรณ สิทธินววิธ) เพื่อนสนิทของอิศร์ที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เมืองนอกก็เป็นห่วงอิศร์ที่กำลังเศร้าเสียใจ ระหว่างนั้น ไอริณ (กีฟ อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์) น้องสาวไอศูรย์หาว่าแพรพลอย (แซมมี่ บัณฑิตา เคาวเวลล์) บอดี้การ์ดของบรรเลง (วันชัย เผ่าวิบูล) จงใจสาดน้ำใส่เสื้อผ้าชุดหรู ทั้งที่ความจริงเธอเดินไปชนแพรพลอยเอง อิศร์ให้แพรพลอยขอโทษ แต่แพรพลอยยืนยันว่าไม่ได้ทำ คุณบรรเลงและอำพล (กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) พ่อของไอศูรย์กับไอริณช่วยไกล่เกลี่ย จนไอริณต้องยอม เดช เดชโชดม (นาท ภวนัย) ปู่ของอิศร์มีลูกชายสามคน คือ อำพล (กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี), อำนวย (นึกคิด บุญทอง) และอำนาจ (สุธี ศิริเจริญ) อำพลแต่งงานกับเรณู (วาสนา พูลผล) มีลูกสองคน คือ ไอศูรย์กับไอริณ อำนวยเป็นม่ายมีลูกคนเดียวคือธำรง (เอ สิทธิพันธ์ กลมเกลี้ยง) ส่วนอำนาจมีอิศร์คนเดียว ปู่รักอำนาจมากสุด ท่านมอบหุ้นในบริษัทให้มากกว่าทุกคนพร้อมทั้งยกบ้านหลังใหญ่ให้ แต่อำนาจเสียชิวิตตั้งแต่อิศร์อายุสิบห้า อำพลกับอำนวยจึงช่วยดูแลบริษัทให้อิศร์ซึ่งเรียนอยู่ต่างประเทศ อิศร์มีคนรักคืออริสรา แต่อริสราถูกไอศูรย์ที่หลงรักขืนใจจนท้อง เมื่ออนุภัทรเตือนเรื่องงานบ่อย ๆ อิศร์จึงจะเข้าไปบริหาร ทำใหไอศูรย์กับอำพลไม่พอใจ แต่เก็บอาการและทำเป็นยินดีที่อิศร์จะเข้าไปบริหาร แต่ก่อนที่อิศร์จะไปทำงาน เขาถูกคนร้ายลอบแทง โชคดีที่อนุภัทรมาช่วยไว้ อนุภัทรเชื่อว่าคนที่สั่งทำร้ายอิศร์คือญาติของอิศร์เอง แต่อิศร์ไม่เชื่อ อนุภัทรจึงขอให้อิศร์มีบอดี้การ์ด มายาวีเลยแนะนำแพรพลอยให้ แล้วอิศร์ก็เลือกแพรพลอย โดยอ้างเหตุผลที่เลือกแพรพลอยว่า เป็นเพราะอนุภัทรชอบแพรพลอย เมื่อแพรพลอยเริ่มทำงานเธอเก็บข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวอิศร์ให้มากที่สุด แต่อิศร์มักไม่ให้ความร่วมมือและเห็นว่าการมีบอดี้การ์ดเป็นเรื่องไร้สาระ ด้านอริสราเป็นห่วงอิศร์จึงแอบมาเยี่ยม ไอศูรย์ไม่พอใจ อริสราโดนไอศูรย์ต่อว่าและทำร้าย อิศร์โทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้อริสราต้องเจอเรื่องเลวร้าย อิศร์อาการดีขึ้น ย้ายไปพักพื้นที่บ้านพักหัวหินโดยมีแพรพลอยคอยคุ้มกัน อิศร์พิสูจน์ฝีมือแพรพลอยโดยแกล้งจมน้ำ จนแพรพลอยต้องช่วยผายปอด เมื่อรู้ว่าถูกแกล้งเธอโกรธเขามาก ระหว่างนั้นแพรพลอยเห็นคนร้ายจะยิงอิศร์ จึงฉุดอิศร์ดำน้ำหนี แต่จู่ ๆ อิศร์ก็ดึงเธอไปจูบและไม่เชื่อว่ามีคนร้าย ทำให้แพรพลอยตัดสินใจจะเปลี่ยนบอดี้การ์ดให้อิศร์ ตกกลางคืนแพรพลอยพบว่าใต้ท้องรถมีระเบิด เธอกู้ระเบิดได้ เป็นการข่มขู่เท่านั้น อิศร์เริ่มเชื่อฝีมือแพรพลอยและเชื่อว่าเขาถูกปองร้ายจริง ๆ อิศร์ขอร้องให้แพรพลอยเป็นบอดี้การ์ดต่อ แพรพลอยตกลงไอศูรย์ยังคงหึงหวง ไม่พอใจที่อริสราคุยกัยอิศร์จนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ไอริณไม่พอใจที่อิศร์ให้แพรพลอยมาอยู่ในบ้านแต่ทำอะไรไม่ได้ ส่วนเรณูภรรยาของอำพล ก็ไม่มีปากมีเสียงในบ้าน แม้แต่ลูก ๆ ก็ปรามไม่ได้ วันแรกที่อิศร์เข้าร่วมประชุม เขาคัดค้านโครงการสร้างโรงงานของอำพล ขณะที่ธำรง เอาเงินไปเล่นหุ้นเสียจึงมาขออำนวยแต่อำนวยไม่ให้ อำพลทำเป็นใจดีให้เงินธำรง และให้ธำรงเซ็นต์รับเงินสองล้าน แต่เมื่อธำรงรับเงินไปอำพลก็แก้ตัวเลขเป็นยี่สิบล้านเพื่อใช้ธำรงเป็นแพะ หากอิศร์ตรวจสอบบัญชีบริษัท มายาวีเริ่มมองออกว่าอิศร์ไม่ได้คิดกับแพรพลอยแค่บอดี้การ์ด ด้านอำพลพยายามพูดกัยอิศร์เรื่องโครงการ แต่ก็ยังโดนสั่งชะลอ ทำให้เขาตัดสินใจสั่งสุนทรให้จัดการอิศร์ขั้นเด็ดขาด ไอศูรย์เริ่มมีทีท่าว่าสนในแพรพลอยและแสดงออกชัดเจน ไอศูรย์เริ่มตีสนิทแพรพลอย แพรพลอยจึงลองหยั่งเชิง จนไอศูรย์พลาดทำให้เธอจับได้ว่าเขาเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดรถอิศร์ ส่วนอิศร์ก็เริ่มออกอาการหวง เขาจึงระบายอารมณ์ใส่แพรพลอย ยิ่งเมื่ออนุภัทรควงแพรพลอยไปที่อื่น อิศร์ยิ่งไม่พอใจ อนุภัทรขอคบกับแพรพลอย แต่เธอบ่ายเบี่ยง เมื่องานเลิก มายาวีขอให้อิศร์ไปส่งที่บ้าน ระหว่างทางแพรพลอยเหลือบเห็นคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์มายิงอิศร์ แพรพลอยรีบผลักอิศร์ จนเธอโดนยิงแทน แพรพลอยฟื้นขึ้นมาเห็นอิศร์คนแรกก็ดีใจและสบายใจที่เขาไม่เป็นอะไร อิศร์กับอนุภัทรเป็นห่วงความปลอดภัยของแพรพลอย อิศร์จึงขอให้บริษัทแพรพลอยส่งบอดี้การ์ดคนใหม่มาให้ นั่นคือ สมชาย (จอม ศรุฒ สุวรรณภักดี) อิศร์ตัดสินใจรุกหนักผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้อำพลต้องกำชับไอศูรย์ให้เพลาเรื่องการเบิกเงินไปเล่นพนันลง ไอศูรย์ไม่พอใจที่สุนทรทำงานพลาด เขาจึงระบายอารมณ์กับกรองทอง (โย ปราณวรินทร์ ปามี) โดยการขืนใจกรองทอง อิศร์จับได้ว่ามีคนโกงเงินบริษัทยี่สิบล้าน เขามั่นใจว่าเป็นอำพลกับไอศูรย์แต่กลายเป็นธำรง จากหลักฐานที่เข้าเซ็นต์รับเงิน อำนวยรู้สึกผิดจึงเขียนใบลาออกให้ตัวเองกับลูก อิศร์ต้องจำยอมให้ออก แม้จะเชื่อว่าธำรงเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ตาม ไอศูรย์ยังคงไปหาความสุขกับกรองทองโดยที่อริสรารู้อยู่เต็มอกแต่ไม่อาจช่วยกรองทองได้ เมื่อสุนทรกลับมารู้เรื่องลูกสาว เขาตัดสินใจเลิกทำงานให้อำพล แล้วพาลูกกลับไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ไอศูรย์ไม่ยอมทำให้สุนทรโกรธจะยิงไอศูรย์ทิ้ง ไอศูรย์จึงยอม สุนทรจึงปล่อยเขาไป ทำให้สุนทรโกรธมาก สั่งลูกน้องจัดการสุนทร สุนทรถูกรถชนเสียชีวิต กรองทองแอบได้ยินอำพลคุยกัยไอศูรย์รู้ความจริงว่าไอศูรย์เป็นคนสั่งฆ่าพ่อของตนจึงไปบอกแพรพลอย แพรพลอยวางแผนทำเหมือนว่าอิศร์ถูกระเบิดเสียชีวิต ส่วนกรองทองกลับมาอยู่บ้าน อิศร์ยอมตามใจไอศูรย์จนเขาตายใจ ไอศูรย์เมามาหากรองทอง เขาจึงถูกอิศร์ซึ่งปลอมเป็นผีมาหลอกให้สารภาพความจริง ไอศูรย์ยอมรับสารภาพทุกอย่าง แต่ไม่ยอมถูกจับ เขาใช้แพรพลอยเป็นตัวประกัน แต่สุดท้ายไอศูรย์ถูกกรองทองยิงบาดเจ็บสาหัสและกลายเป็นอัมพาต อำพลถูกจับฐานโกงเงินบริษัท อริสราตัดสินใจอยู่ดูแลไอศูรย์ซึ่งเป็นอัมพาตเพื่อลูก เมื่อเรื่องเลวร้ายผ่านไปอิศร์ขอแพรพลอยแต่งงานและขอให้เธอเป็นบอดี้การ์ดให้เขาคนเดียวตลอดไป ติดตามชม ละครบอดี้การ์ดสาว ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครบอดี้การ์ดสาว เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2556

ธิดาพญายม 2556

เรื่องย่อ : ธิดาพญายม (2556/2013) ในอดีตที่ผ่านมาโลกทั้งสี่คือ สวรรค์ มนุษย์ มหาสมุทร และเมืองนรก ต่างอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ต่างทำสัญญากันว่าทุกฝ่ายจะไม่รุกล้ำซึ่งกันและกัน จนกระทั่งปัจจุบัน เทพโอมา ซึ่งอยู่บนแดนสวรรค์ คิดเป็นใหญ่ ใช้อำนาจที่เจ้าสวรรค์มอบให้ บันดาลให้ธรรมชาติแปรปรวน มนุษย์เกิดกิเลส แย่งชิงอำนาจซึ่งกันและกัน พร้อมส่งกองทหารภูติเพชฌฆาตทำสงครามเข่นฆ่ามนุษย์ ก่อความวุ่นวาย ให้มนุษย์เข่นฆ่ากันเอง จนนรกสั่นสะเทือน เกิดความทุกข์ไปทั้งสี่โลก เทพผู้พิทักษ์คือ อัครา ได้รับบัญชาจากเจ้าสวรรค์บุกเข้าปราบ เทพโอมา จนราบคาบและจับเทพโอมาลงทัณฑ์ขังอยู่ในคุกสวรรค์ตลอดชั่วชีวิต และจับทหารภูติเพชฌฆาตทั้งหมดไปอยู่ในคุกนิลกาลที่ไม่มีใครสามารถที่จะหนีออกมาได้ จากนั้นเอากุญแจประตูคุกนิลกาลแบ่งออก เป็น 4 ส่วนให้เทพองค์รักษ์ 4 เทพ แยกย้ายกันลงมาซ่อนตัวอยู่ในเมืองมนุษย์เพื่อไม่ให้ใครหาพบ แต่ อาคิน ลูกชายของเทพโอมา แม้ว่าจะเป็นทายาทกบฏ แต่ไม่มีหลักฐานผูกมัด เทพอัครา จึงเอาผิดไม่ได้ แต่ก็กักขังอาคิน ให้อยู่แต่ในปราสาทของตนเท่านั้น อาคินแค้นและไม่ยอมแพ้ลอบสั่งสมกำลัง และส่งทหารตามล่าหากุญแจคุกนิลกาลมาปลดปล่อยทหารภูติเพชฌฆาตของตน เพื่อเป็นกำลังบุกยึดความเป็นใหญ่ในสวรรค์ให้ได้อีกครั้งหนึ่งแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งในที่สุดอาคินรู้ว่ากุญแจถูกมอบให้เทพองค์รักษ์ 4 องค์นำมาเก็บซ่อนรักษาอยู่ในเมืองมนุษย์ อาคินจึงหนีจากสวรรค์ลงมายังเมืองมนุษย์ พร้อมเทพสังหารของตนจำนวน 9 ตน ตามล่าเทพองค์รักษ์ทั้ง 4 องค์ หาทางชิงเอากุญแจคุกนิลกาลมาให้ได้ เจ้าสวรรค์ตำหนิเทพอัครา ที่ผิดพลาดไม่จับอาคินขังไว้แต่แรก จนทำให้อาคินหลุดมือไปได้ เทพอัคราขอรับผิดและยอมรับโทษ ณัชชา ลูกสาวของ เทพอัครา ขออนุญาตนางกัณฑ์วลีผู้เป็นมารดา ลงมาตามจับอาคิน เพื่อไถ่โทษให้กับเทพอัคราบิดาของตน แต่นางกัณฑ์วลีไม่อนุญาตเพราะไม่อยากให้ลูกได้รับอันตราย นางกัณฑ์วลีไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังความน่ารักเรียบร้อยและไร้เดียงสาของณัชชานั้น แท้จริงแล้วเป็นคนที่มีฝีมือและมีจิตใจที่แข็งแกร่งของเทพพิทักษ์อัคราผู้เป็นบิดาอย่างเต็มเปี่ยม เนื่องจากตอนเด็กแม้บิดาและมารดาห้ามเรื่องเรียนวิชายุทธ์ แต่ณัชชาหาเชื่อฟังไม่ แอบไปร่ำเรียนวิชากับอาจารย์ปู่ ซึ่งเป็นอาจารย์ของเทพพิทักษ์อัครา จนแม้กระทั่งอาจารย์ปู่ยังยอมรับว่าณัชชามีฝีมือในอาวุธทุกชนิด วิชาอาคมก็แข็งแกร่งยิ่งใหญ่ อีกทั้งจิตใจก็ห้าวหาญ ครั้งหนึ่งณัชชาหนีเที่ยวไปแดนสวนสวรรค์พบวิญญาณภูติหลงแดน กำลังทำร้ายเทพและนางฟ้าอยู่ ณัชชาเข้าช่วยและสังหารวิญญาณภูติโดยไม่กระพริบตา เพราะณัชชาเกลียดความชั่วร้าย หลังจากนั้นณัชชาก็แอบหนีออกมาตามล่าพวกวิญญาณภูติที่หนีมาจากนรกมาอยู่สวรรค์รวมถึงเทพชั้นต่ำทั้งหลาย จนเป็นที่หวาดกลัวของพวกมัน จนกระทั่งอาจารย์ปู่ถึงกับพูดว่า ณัชชาไม่ใช่เป็นเทพธิดาของเทพพิทักษ์แต่เป็น เทพธิดาพญายม ณัชชาตัดสินใหนีมารดามาเมืองมนุษย์เพื่อตามล่าอาคิน นำตัวกลับมารับโทษสวรรค์เพื่อไถ่โทษความผิดให้กับบิดาของตน โดยมี นาชะ กามเทพหญิงจอมแก่นซึ่งเป็นเพื่อนสนิทติดตามมาด้วย ณัชชาจะห้ามปรามอย่างไรนาชะก็ไม่ฟัง ณัชชาเป็นห่วงเนื่องจากนาชะแม้จะฉลาดรอบรู้ชีวิตของทั้งสี่โลกและมีวิชาอยู่บ้างแต่ก็ไม่สามารถทำร้ายใครได้ นอกจากทำให้คนรักกันเท่านั้นในยามเผชิญหน้ากับพวกของอาคินอาจจะเป็นอันตรายได้ แต่นาชะก็ไม่ฟังแอบตามมาด้วยจนได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของ เทพธิดาพญายม ปัจจุบัน ผู้กองเอกภพ มือปราบมือหนึ่งของกรมตำรวจ ชอบทำตัวเป็นสายสืบมอซอ ตามล่าคนร้ายทุกระดับที่เป็นอันตรายต่อสังคม คนร้ายที่ถูกตามล่าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต ทำให้คนร้ายต่างขนหัวลุกเมื่อได้ยินชื่อของผู้กองเอกภพ ที่น่าทึ่งที่สุดคือ ผู้กองเอกภพไม่เคยพลาดและไม่เคยได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าคนร้ายจะส่งมือสังหารมาลอบเอาชีวิตมานักต่อนักแล้ว (เพราะเอกภพคือลูกของเทพองค์รักษ์หนึ่งในสี่เทพที่ถูกส่งลงมาอยู่ในเมืองมนุษย์ แต่งงานกับมนุษย์และมีลูกสองคน คือ เอกภพ และนาฬิกา) พ่อแม่ของเอกภพย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ในฐานะเจ้าหน้าที่สถานทูต และหลังจากหมดวาระก็ตัดสินใจอยู่ที่นั่นเลย โดยปล่อยให้เอกภพอยู่กับนาฬิกา น้องสาวคนสวยที่เมืองไทย วันหนึ่งในขณะที่เอกภพไล่ล่าคนร้ายหนึ่งอยู่ก็มีคนประหลาด 3-4 คนเข้ามาขัดขวาง พวกมันมีฝีมือเหนือมนุษย์ ในขณะที่เอกภพกำลังจะเสียท่า ก็มีหญิงสาวในชุดหนังสีดำแวบโผล่มาช่วยไว้ด้วยฝีมือที่เหนือชั้น แต่พวกมันก็ส่งสัญญาณเรียกพวกมาเพิ่มไล่ล่ารุมล้อมทั้งหญิงสาวและเอกภพ จนต้านไม่ไหวหญิงสาวโดดเข้ากอดเอกภพแล้วแวบหายไป ทั้งคู่หนีพ้นจากพวกมันไปได้ หญิงสาวคนนั้นคือณัชชาได้เล่าให้เอกภพฟังว่าพวกมัน คือเทพสังหาร 9 คนที่มาตามหาแผนที่ เอกภพไม่เชื่อและแยกตัวไป นาฬิกากำลังเดินเที่ยวกับเพื่อน ก็มีเทพสังหารโผล่มา 2-3 คนเข้ามาจะจับนาฬิกา แต่นาฬิกาซึ่งเป็นนักกีฬาเทควันโดของมหาวิทยาลัย ก็ไม่กลัวพยายามต่อสู้ แต่สู้ไม่ได้ จู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มมาช่วยไว้และพาหนีหายไปท่ามกลางฝูงชน นาฬิกาได้รู้ว่าชายหนุ่มชื่อไกรยุทธ์ รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย ไกรยุทธ์อยู่คนเดียว พ่ออยู่ต่างประเทศเนื่องจากแม่เสียไปแล้วด้วยโรคมะเร็ง (ไกรยุทธ์ถูกพ่อสั่งไว้ว่าอย่าแสดงตนว่ามีฝีมือ และบอกไกรยุทธ์ว่าไกรยุทธ์คือลูกเทพองค์รักษ์กับมนุษย์มีหน้าที่ปกป้องกุญแจที่ได้รับมอบต่อมา) ไกรยุทธ์จึงเก็บความลับของตนตามที่พ่อสั่งจึงพยายามปลีกตัวอยู่ตามลำพัง) ซึ่งพ่อแม่ของทายาทที่มีแผนที่จะไปอยู่ต่างประเทศหมด เพื่อให้ห่างไกลจากทายาทของตนเป็นการป้องกันไม่ให้ใครค้นพบความเป็นเทพ ซึ่งจะทำให้ศัตรูรู้ได้ง่ายว่าอยู่ที่ไหน แต่ถ้าเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพแล้วจะหาตัวได้ยาก) อาคิน ซึ่งบัดนี้อยู่ในคราบของหัวหน้ากลุ่มมาเฟียใหญ่ ที่มาเฟียทั้งหลายต้องเกรงขามเนื่องจากพออาคินมาถึงเมืองมนุษย์ก็รีบหากำลังให้กับตนด้วยการฆ่ามาเฟียใหญ่และยึดองค์กรของมาเฟียใหญ่ไว้ใต้อำนาจของตน ทำตัวเป็นผู้น่าเชื่อถือจนเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมไฮโซของเมืองมนุษย์ ทำให้อาคินหลงใหลในชีวิตมนุษย์ และยิ่งต้องการที่จะทำสงครามทำลายสวรรค์เพื่อยึดโลกทั้ง 4 ไว้ในอุ้งมือ อาคินสั่งให้เทพสังหารทั้ง 9 เร่งออกค้นหาแผนที่จากทายาทของเทพทั้ง 4 ให้ได้ แผนที่นั้นถูกแบ่งออกเป็น 4 เสี้ยว แบ่งเป็นสร้อยให้ทายาททั้ง 4 คนใส่กันคนละเสี้ยว ณัชชาตามมาพบผู้กองเอกภพและพยายามอธิบายเรื่องราวของอาคินให้ฟัง เอกภพได้บอกณัชชาว่าตนพอรู้เรื่องแผนที่อยู่บ้างจากการบอกเล่าของคุณพ่อและคุณแม่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าณัชชาเป็นใครจึงทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนาฬิกา ทำให้เอกภพรู้ว่าสิ่งที่รับรู้มาจากพ่อและแม่บัดนี้ได้กลายเป็นจริงแล้ว นาฬิกานำสร้อยที่มีเสี้ยวหนึ่งของแผนที่ให้ณัชชาดู ณัชชาจึงมั่นใจและเลิกมีอคติกับเอกภพและเข้าใจกันในที่สุด ในที่สุดเอกภพจึงร่วมมือกับณัชชาออกตามหาทายาทที่เหลือที่มีเสี้ยวหนึ่งของแผนที่อยู่ในครอบครอง หนึ่งในทายาทที่พบก็คือไกรยุทธ์ที่ได้เคยช่วยนาฬิกาไว้ ทั้งสองต่างดีใจที่ได้พบกันอีก ทั้งได้พบเพื่อนใหม่ ทายาทอีกสองคนที่มารวมกลุ่ม คือ บีม กับ ปิงปอง ซึ่งยังเป็นวัยรุ่นในวัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายเท่านั้น อาคินส่งเทพสังหารทั้ง 9 ตามล่าทายาทเทพทั้งสี่จนพบ แม้ว่าณัชชากับเอกภพจะช่วยกันป้องกันจนสุดฤทธิ์และสามารถช่วยนาฬิกาและทายาทคนอื่น ๆ ไว้ได้ แต่ก็พลาดให้เทพสังหารชิงสร้อยแผนที่ทั้ง 4 ไปจนได้ เนื่องจากเทพสังหารทั้ง 9 มีฝีมือกล้าแข็ง แม้แยกกันไปตามล่า แต่พอคับขันเผชิญศัตรูก็สามารถส่งพลังออกไปขอความช่วยเหลือและสามารถมารวมตัวเพื่อพิฆาตศัตรูได้อย่างรวดเร็ว มีทางเดียวที่จะทำลายเทพสังหารได้คือใช้อาวุธแทงที่หัวใจ แต่เทพสังหารทั้ง 9 ก็มีเกราะเหล็กแข็งป้องกันหัวใจเอาไว้ยากนักที่จะมีอาวุธธรรมดาเจาะทำลายได้ เอกภพกับณัชชาพยายามติดตามเอาสร้อยแผนที่คืน และได้ลักลอบผ่านพวกสมุนมาเฟียของอาคินเข้าไปในองค์กรของอาคินจนได้ แต่ทันใดนั้นเทพสังหาร 5 คนผ่านมา ณัชชาเลยจำเป็นจะต้องกอดเอกภพเอาไว้เพื่อพรางตนชั่วขณะ จนกระทั่งเทพสังหารผ่านไป ณ ช่วงนี้ทำให้ทั้งสองได้ใกล้ชิดกัน แต่ต่างก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บุกต่อเข้าไปจนแอบซุ่มเห็นสมุนของอาคินกำลังจะนำสร้อยทั้ง 4 มาประกบกันเพื่ออ่านแผนที่ แต่ก็มีแสงสาดจ้าออกมาฆ่าพวกสมุนมาเฟียที่ล้อมอยู่ตาย เทพสังหารพุ่งชนอาคินทำให้มันรอดไปได้ แต่อาคินก็บาดเจ็บพอควร ความจริงแล้วเทพองค์รักษ์ได้ซ้อนแผนป้องกันไว้หนึ่งชั้นโดยสร้างเสี้ยวแผนที่ทั้ง 4 ขึ้นมาเป็นกับดักเพื่อทำลายศัตรูที่พยายามจะค้นหาปริศนาเส้นทางของแผนที่นั่นเอง ณัชชากับเอกภพกลับมาด้วยความตื่นเต้นสงสัย และรวบรวมทายาทของเทพทั้ง 4 ที่มีสร้อยมาสอบถามว่าพ่อแม่ของทุกคนได้สั่งหรือบอกเรื่องราวอะไรไว้บ้าง ในที่สุดก็พบว่ามีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือคำสั่งที่ว่าถ้าชี้ไปข้างหน้าจะพบเส้นทางสู่ที่เก็บซ่อนของกุญแจ ณัชชากับเอกภพให้ทุกคนยืนเรียงแถวกันแล้วชี้ไปที่จุดเดียวกัน ปรากฏว่ากลายเป็นแสงพุ่งจากนิ้วชี้ของทายาททั้งสี่เป็นรูปแผนที่ปรากฏอยู่บนผนัง ซึ่งมีสถานที่ทั้งหมดถึง 7 แห่ง แต่ก่อนที่ทุกคนจะจำได้ แผนที่ก็จางหายไปเหลือแต่จุดแรกเพียงจุดเดียวให้ติดตาม ทั้งหมดจึงต้องทำตามแผนที่คือหาแห่งแรกให้ได้ก่อน และหวังว่าแผนที่จะนำไปสู่แห่งที่สองต่อไป การค้นหาเต็มไปด้วยอันตรายเพราะองค์รักษ์ทั้ง 4 ผู้ซ่อนกุญแจได้วางกลไกและกำลังไว้รอกำจัดทุกคนที่ตามหาแผนที่ ดังนั้นทั้งหมดต้องต่อสู้กับบุคคลแปลก ๆ ที่มีฝีมือและอาวุธในรูปแบบต่าง ๆ ณ จุดนี้มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวมาช่วยพวกของณัชชาและเอกภพ และประกาศตนว่าชื่อ ราเชน เป็นทหารเอกแห่งเมืองมัจจุราช ท่านมัจจุราชส่งให้มาช่วยเพื่อป้องกันไม่ให้โลกทั้ง 4 ต้องสั่นสะเทือนด้วยฝีมือของอาคิน และแล้วอาคินก็หายจากการบาดเจ็บเพราะพลังเทพที่อยู่ในตัวนั่นเอง อาคินรวบรวมคนของมันพร้อมเทพสังหารบุกไล่ล่าติดตามพวกของเอกภพและณัชชา ช่วงหนึ่งได้พบกับความคับขัน แต่ก็ปรากฏว่ามีหญิงสาวอีกคนมาช่วยไว้ เป็นหลานสาวของ เจ้าสมุทร นั่นเอง การค้นหาที่ยากเย็นและต้องผ่านเป็นผ่านตายด้วยกันตลอดเวลา ทำให้ทุกคนต่างเริ่มมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันอย่างแน่นแฟ้น ณัชชาเริ่มมีความรู้สึกใกล้ชิดกับเอกภพ หลานของเจ้าสมุทรชื่อ ปาระนัง ก็ใกล้ชิดกับราเชน ไกรยุทธ์กับนาฬิกา ส่วนนิคกับปิงปองก็กระหนุงกระหนิงกันตามภาษาวัยรุ่น ทุกคนต่างก็มีความรู้สึกที่พิเศษต่อกัน แม้ว่าบางครั้งจะถกเถียงมีอารมณ์ใส่กันบ้างแต่ก็ถูกนาชะกามเทพน้อยโปรยละอองความรักให้กลับมาดีกันเหมือนเดิม และในที่สุดทุกคนก็ไขปริศนาจนพบที่เก็บกุญแจคุกนิลกาลจนได้ แต่ก่อนที่ทุกคนจะได้เข้าไป อาคินก็มาถึงและเกิดการต่อสู้กันขึ้น ในตอนหนึ่ง เทพสังหารทั้ง 9 ได้ควบคุมตัวนิคและปิงปอง รวมทั้งไกรยุทธ์และนาฬิกาไว้ได้ ทำให้ณัชชา ผู้กองเอกภพ ราเชน และ ปาระนัง ต้องยอมจำนน อาคินคุมตัวทั้งหมดเข้าไปยังที่เก็บกุญแจ จนในที่สุดก็พบกล่องใส่กุญแจสีทองเรืองรองเด่นลอยอยู่ อาคินใช้พลังกระแทกกล่องจนกุญแจกระเด็นเข้ามาอยู่ในมือ และเยาะเย้ยณัชชาและทุกคนว่าต่อไปนี้ตนจะเป็นใหญ่เหนือโลกทั้ง 4 โดยไม่ทันระวังตัวว่าณัชชาส่งสัญญาณให้ทายาททั้งสี่ร่วมกันใช้นิ้วชี้ไปที่กุญแจ ทำให้เกิดเป็นพลังแสงจากนิ้วชี้ของทายาททั้ง 4 พุ่งเข้าใส่ทำลายกุญแจจนเป็นผุยผง ขณะนั้นเองทุกคนก็ฉวยโอกาสต่อสู้กับพวกของอาคินอีกครั้ง อาคินแค้นจนบ้าคลั่งสั่งฆ่าหมดทุกคน เทพสังหารทั้ง 9 จึงลงมือรุนแรง มีคนหนึ่งจับนาชะไว้ได้ นาชะใช้ลูกศรปักเข้าที่อกที่มีโล่บังอยู่ แต่ไม่เข้า ดีที่ปาระนังเข้ามาช่วยให้หลุดไปได้ ปาระนังใช้มีดคมกริบที่ทำจากหางปลากระเบนยักษ์ แทงเข้าที่โล่ห์บังหัวใจของเทพสังหารคนหนึ่ง แต่ไม่เข้าอีก ต่างพยายามต่อสู้ต้านทานอย่างสุดฤทธิ์ เทพสังหารคนหนึ่งคว้าปาระนังกับนาชะไว้ได้ นาชะกับปาระนังหมดทางสู้ ส่วนณัชชากับเอกภพก็พยายามป้องกันพวกทายาททั้ง 4 ราเชนเองก็ถูกรุมล้อมติดพันไม่มีใครสามารถมาช่วย ปาระนังกับนาชะเจอสถานการณ์คับขัน ปาระนังกับนาชะอ่อนแรงเต็มที ตัดสินใจสู้เป็นเฮือกสุดท้าย ปาระนังใช้มีดแทงที่โล่ห์บังหัวใจของเทพสังหารบังเอิญที่นาชะใช้ธนูแทงออกไปพร้อมกัน ปรากฏว่าธนูกับมีดของปาระนังคู่กันสามารถทำลายโล่ห์บังหัวใจของเทพสังหารได้อย่างอัศจรรย์ ณัชชาจึงใช้พลังของตนรวมพลังกับธนูของนาชะและมีดของปาระนังเข้าด้วยกันกลายเป็นอาวุธทำลายเทพสังหารทั้ง 9 จนหมด อาคินเมื่อปราศจาก เทพสังหารทั้ง 9 ก็ไม่สามารถต้านทานณัชชากับเอกภพรวมทั้งราเชนได้ ในที่สุดก็พ่ายแพ้ถูกณัชชาจับตัวไว้ได้ ถึงเวลาที่ต้องลาจากกัน ณัชชาซึ่งเป็นธิดาของสวรรค์ จึงทำให้เอกภพไม่กล้าเผยความในใจ เพราะตนต้องอยู่บนโลกมนุษย์ ส่วนณัชชาต้องกลับขึ้นสวรรค์ ทั้งคู่ต่างก็มีหน้าที่ต้องกระทำไม่สามารถฝืนได้ ในที่สุดณัชชาก็พาตัวอาคินกลับไปสวรรค์เพื่อให้เทพพิทักษ์อัคราพ้นผิดพร้อมกับนาชะกามเทพจอมแก่น แต่ก่อนไปนาชะหันมาปล่อยลูกศรใส่นาฬิกากับไกรยุทธ์ แล้วก็บินผ่านไปโปรยแค่ละอองความรักให้นิคกับปิงปอง ทั้งหมดต่างยิ้มอย่างมีความสุข ผู้กองเอกภพทำหน้าที่ปราบปรามผู้ร้ายต่อไป ส่วนราเชนขออนุญาตท่านมัจจุราชตามปาระนังไปอยู่ยังโลกสมุทร ทายาททั้ง 4 ใช้ชีวิตต่อไปในเมืองมนุษย์อย่างปกติ โดยมีเอกภพคอยตรวจดูแล สามเดือนผ่านไป.. วันหนึ่งเอกภพกำลังปราบผู้ร้ายและตกอยู่ในวงล้อมของคนร้ายจำนวนมาก ทันใดนั้นร่างของณัชชาก็ปรากฏตัวออกมาช่วยจนคนร้ายยอมจำนน ทั้งสองต่างยิ้มและเดินเข้าหากันท่ามกลางกระสุนของผู้ร้ายที่ยิงมา ทั้งสองต่างยิ้มให้กันอีกครั้งแล้วหันมาสาดกระสุนยิงปืนเข้าหาเหล่าร้าย ติดตามชม ละครธิดาพญายม ได้ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครธิดาพญายม เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2556

เลือดเจ้าพระยา 2556

เรื่องย่อ : เลือดเจ้าพระยา (2556/2013) ลานเท อยุธยา พื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญ ณ ที่แห่งนั้นกฎหมายแทบไม่มีความหมาย การใช้อำนาจเถื่อนเป็นสิ่งที่พบเจอเป็นปกติ ศรีนวล ลูกสาวของกำนันธง กำนันในพื้นที่ เป็นคนสวย เก่งความสามารถ ห้าวหาญไม่แพ้ผู้ชาย ศรีนวลเป็นที่หมายปองของผู้ชายหลายคนในพื้นที่ รวมทั้ง สมิง หนุ่มลูกชาวบ้านธรรมดา ๆ ในงานวันเกิดครบรอบ 20 ปีของศรีนวล บันลือ ลูกชายของเถ้าแก่ชิ้น ผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่มาป่วน และยิงพ่อแม่ของสมิงตาย สมิงประกาศจะล้างแค้นให้กับพ่อแม่ตนเอง แต่เถ้าแก่ชิ้นรู้จักกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จึงใส่ร้ายให้สมิงเป็นผู้กระทำผิด สมิงจึงต้องหนีเข้าป่าไปซ่อนตัวอยู่กับชุมโจรของเสือเฮี้ยนที่ผาช่องลม โดยที่เสี่ยชิ้นเองก็มี เสือมเหศักดิ์ จอมโจรผู้โหดเหี้ยมชื่อดังให้ความช่วยเหลืออยู่ เลอสรร นักเรียนนายร้อยตำรวจหนุ่ม บุตรชายของผู้ว่าราชการจังหวัดเจ้าของพื้นที่หลายแปลงที่ลานเท ขณะที่ปิดเทอมได้ลงพื้นที่ลานเทเพื่อหาประสบการณ์ เลอสรร ได้พบกับศรีนวลขณะร้องลำตัด เกิดรักศรีนวลขึ้นมา ขณะที่ศรีนวลเองก็มีใจให้ด้วย สร้างความปวดร้าวให้แก่สมิงมาก แต่สมิงก็เข้าใจทั้งคู่ และขอผูกมิตรกับเลอสรร ต่อมาศรีนวลได้ลักลอบได้เสียกับเลอสรร โดยที่กำนันธงรับรู้เข้า เลอสรร ประกาศว่าจะรับผิดชอบด้วยการขอแต่งงานกับศรีนวล โดยขอเวลา 3 เดือนให้เรียนจบก่อน ขณะที่เดินทางกลับกรุงเทพฯ เลอสรรได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้สติเลอะเลือนไป และจดจำเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ เมื่อกลับมาถึง แม่ของเลอสรรจึงจัดการให้แต่งงานกับ สร้อยเพชร บุตรสาวของเพื่อนสนิทเธอ ขณะที่ศรีนวลและกำนันธงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาทวงสัญญา เลอเสรรขณะที่ความทรงจำเลอะเลือนจึงจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ทั้งคู่ผิดหวังเป็นอย่างมาก และสร้างความเจ็บแค้นให้แก่สมิง ผู้เป็นเพื่อนรักของทั้งคู่ 20 ปีผ่านไป เลอสรร ได้กลายเป็นรองผู้กำกับตำรวจกองปราบ เลอสรรมีบุตรชายและหญิงอย่างละคนกับสร้อยเพชร ขณะที่ ศรีนวล ก็คลอดบุตรสาวออกมา ซึ่งเป็นลูกของเลอสรร ซึ่งก็มีความเก่งกาจไม่แพ้ผู้เป็นแม่ เลอสรร กับ ระพี นายตำรวจหนุ่มผู้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา มีความจำเป็นต้องกลับไปที่ลานเทอีกครั้ง และ ณ ที่นั้น ความทรงจำและเรื่องราวทั้งหมดเมื่อ 20 ปีก่อนก็ค่อย ๆ ฟื้นกลับคืนมา

นักสู้มหากาฬ 2556

เรื่องย่อ : นักสู้มหากาฬ (2556/2013) ฤทธิ์ ราวี นายทหารผู้ชำนาญการต่อสู้ทุกรูปแบบ ได้วางมือจากการเข่นฆ่า เพื่อมาใช้ชีวิตกับคนรักที่บ้านเกิดในชลบุรี เขาเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ขึ้น เพื่อปกป้องคนไทยจากการข่มเหงของพวกอันธพาลต่างชาติที่แผ่ขยายอำนาจเข้ามาในพัทยา แม้ว่าจะต้องมีปัญหากับแก๊งมาเฟียต่าง ๆ แต่ด้วยฝีมือที่กาจฉกรรจ์จึงทำให้ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาได้ ต่อมาฤทธิ์ก็ได้รับการติดต่อจาก กรณ์ เพื่อนทหารเก่า ที่ต้องการให้เขาร่วมปฏิบัติภารกิจลับ ในการบุกทลายโรงงานของขบวนการค้ายาเสพติด ที่ตั้งอยู่นอกเขตชายแดนไทย ฤทธิ์ยอมรับงานนี้เพราะอยากรับใช้ชาติ และคิดว่าจะนำเงินค่าจ้างมาพัฒนาสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าซึ่ง ใจทิพย์ แฟนสาวของเขาดูแลอยู่ แต่ภารกิจลับของกรณ์กลับมีเงื่อนงำแอบแฝง เมื่อฤทธิ์พบว่าโรงงานที่เขากับพวกบุกจู่โจมนั้น แท้จริงกลับเป็นห้องทดลองที่ค้นคว้าเกี่ยวกับอาวุธชีวภาพ หนำซ้ำผู้ว่าจ้างของกรณ์ก็ไม่ได้เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทยอย่างที่อ้างไว้ หากแต่เป็นผู้องค์กรโฉดที่มีสมญาว่า "พรายพิฆาต" ซึ่งมีเป้าหมายจะปล้น "น้ำตามัจจุราช" มหาอาวุธชีวภาพไปจากห้องทดลอง ฤทธิ์พยายามขัดขวางกรณ์กับพวกนักรบรับจ้างจนถูกรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส และถูกกรณ์ใช้ดาบปลายปืนสองเล่มปักตรึงร่างไว้เพื่อให้ตายอย่างทรมาน แต่ขณะที่กรณ์มัวหลงลำพองว่าสามารถโค่นเพื่อนรักได้สำเร็จนั้น ฤทธิ์ที่อยู่ในสภาพปางตายก็ตัดสินใจกดสวิทช์ระเบิดที่ซ่อนอยู่ เพื่อทำลายคลังเก็บสารเคมีทั้งหมดก่อนที่เขาจะสิ้นลม พวกของกรณ์จึงต้องหนีตายโดยมีเพียงสารตั้งต้นในการผลิต "น้ำตามัจจุราช" ติดมือไปเท่านั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าน้ำตามัจจุราชที่ระเหยจากคลัง จะซึมเข้าสู่ร่างกายของฤทธิ์ผ่านทางบาดแผล มันทำให้ฤทธิ์คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับพลังอำนาจในการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วรุนแรงยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไป ฤทธิ์รีบเดินทางกลับพัทยาด้วยความเป็นห่วงคนรัก แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป เมื่อกรณ์ได้จ้างพวกมาเฟียคู่ปรับเก่าของฤทธิ์ให้ปล้นฆ่าใจทิพย์แฟนสาวของเขา เพื่ออำพรางคดี ด้วยความแค้น ฤทธิ์จึงตามไปฆ่าพวกมาเฟียถึงรัง ก่อนจะสืบพบความจริงว่ากรณ์และองค์กรพรายพิฆาต คือผู้อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ฤทธิ์จึงย้อนไปที่กรุงเทพฯ อีกครั้งเพื่อล้างแค้น โดยแฝงตัวเข้าไปในสังเวียนนักสู้เถื่อน เพื่อหาตัวลูกทีมคนหนึ่งของกรณ์ ซึ่งทุกคนรู้ดีว่ามีงานอดิเรกเป็นนักค้ากำปั้น ระหว่างนั้น มาดามหลิว มหาเศรษฐีนีพันล้านผู้ร่ำรวยจากการเป็นหุ้นส่วนในบริษัทขุดเจาะน้ำมัน ก็ได้ส่งคนมาช่วยฤทธิ์เอาไว้ในยามคับขัน เนื่องจากเธอเองก็มีความแค้นต่อองค์กรพรายพิฆาต ที่ได้สังหารครอบครัวของเธอ และทำให้เธอกลายเป็นคนพิการต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต เพียงเพราะไม่ยอมร่วมมือกับพวกมัน ที่ผ่านมามาดามหลิวได้ตระเตรียมแผนการณ์ที่จะล้างแค้นมาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าฤทธิ์มีคุณสมบัติมากพอที่จะปฏิบัติภารกิจนี้ จึงมอบหมายให้ โซเฟีย ผู้ช่วยสาวคนสนิทปลอมแปลงประวัติเขาเสียใหม่ ก่อนจะเปิดตัวในงานเลี้ยงว่าเขาคือ มิสเตอร์โทมัส หลานชายบุญธรรมของเธอ ในตอนกลางวันฤทธิ์จะสวมบทหนุ่มเพลย์บอย เพื่อสืบหาข่าวขององค์กรพรายพิฆาต ซึ่งมีสมาชิกมากมายอยู่ในสังคมชั้นสูง แต่พอตกกลางคืนเขาก็สวมหน้ากากดำออกขัดขวางแผนการณ์ของพวกมันทุกรูปแบบ รวมถึงสังหารสมาชิกระดับแกนนำทุกคน โดยใช้สมญาในการปฏิบัติงานว่า "พยัคฆ์มหากาฬ" ตามชื่อหน่วยรบสมิงดำที่เขาเคยสังกัด และยังมีดาบปลายปืนสองเล่ม แบบเดียวกับที่กรณ์เคยทำร้ายเขาเป็นอาวุธคู่มืออีกด้วย การมาของ มิสเตอร์โทมัส กับการปรากฏตัวของพยัคฆ์มหากาฬถูกเผยแพร่เป็นข่าวหน้าหนึ่งไม่เว้นแต่ละวัน ไอริณ ดารานักบู๊ชื่อดังเป็นบุตรสาวของ ท่านนำชัย นักการเมืองใหญ่ รู้สึกสนใจในตัวฤทธิ์หรือมิสเตอร์โทมัสเป็นพิเศษ จนมีโอกาสได้เจอกันในงานเลี้ยงการกุศล แต่แล้ว มาวิน มาเฟียหนุ่มที่หลงใหลเธอก็ได้เข้ามาข่มขู่เพื่อให้เธอเซ็นสัญญากับบริษัทผลิตภาพยนตร์ของมัน แต่ไอริณก็ปฏิเสธไปเพราะเธอสืบทราบว่าบริษัทของมาวิน แท้จริงมีไว้เพื่อฟอกเงินจากธุรกิจนอกกฎหมาย หลังเลิกงานมาวินได้ส่งลูกสมุนมาอุ้มตัวไอริณที่ลานจอดรถ แต่โชคดีที่ฤทธิ์ได้ปกป้องเธอเอาไว้ ทำให้เขากลายเป็นเพื่อนสนิทของไอริณและมีโอกาสเข้าถึงตัวท่านนำชัย บุคคลที่มาดามหลิวสงสัยว่าเป็นสมาชิกระดับแกนนำขององค์กรพรายพิฆาต ทว่ายังไม่ทันที่ฤทธิ์จะได้สืบความลับ เขาก็ถูก ร้อยตำรวจเอกหญิงณัฐชา มือปราบหญิงปืนดุ ซึ่งเป็นเพื่อนและครูสอนคิวบู๊ให้กับไอริณพบพิรุธเข้าเสียก่อน ณัฐชาสงสัยว่าการที่ฤทธิ์เข้ามาตีสนิทกับครอบครัวของไอริณจะมีเบื้องหลัง เธอจึงคอยขัดขวางไม่ให้ฤทธิ์กับไอริณได้ใกล้ชิดกัน จนฤทธิ์กับเธอต้องปะทะคารมกันหลายครั้ง ณัฐชาตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการท้าแข่งกับฤทธิ์ ทั้งในด้านการต่อสู้ การขับรถ ไปจนถึงกีฬาต่าง ๆ ตามแต่ที่เธอถนัด โดยมีเงื่อนไขว่าผู้แพ้จะต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับไอริณ ซึ่งฤทธิ์ก็สามารถเอาชนะณัฐชาได้สำเร็จ หนำซ้ำยังช่วยชีวิตเธอจากอุบัติเหตุในการแข่งครั้งที่สามอีกด้วย แต่แทนที่ณัฐชาจะยอมรับความพ่ายแพ้ เธอกลับมอบหมายให้ จ่าไมตรี กับ หมู่ปรีดา สองคนสนิทคอยตามสืบพฤติกรรมของฤทธิ์แทนเธอ แต่ทั้งคู่ก็ถูก นายชาญ คนขับรถหนุ่มมาดทะเล้นของฤทธิ์ หลอกล่อจนไม่สามารถตามติดได้เลยสักครั้ง ทั้งนี้เพราะนายชาญไม่ใช่คนขับรถธรรมดา แต่เขาเป็นมือปืนระดับพระกาฬที่มาดามหลิวจ้างมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของฤทธิ์นั่นเเอง ความห้าวหาญแกมดื้อรั้นของณัฐชาทำให้ฤทธิ์เริ่มรู้สึกสนใจ เขาสืบประวัติของเธอจนรู้ว่าในอดีตครอบครัวของเธอถูกฆ่าตาย ทำให้เธอมุ่งมั่นที่จะเป็นตำรวจเพื่อปราบปรามเหล่าร้าย เพราะความที่เติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้า และต้องดูแลตัวเองมาตั้งแต่เล็ก ณัฐชาจึงไม่มีเพื่อนมากนักนอกเสียจากไอริณที่เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ด้วยความประทับใจนี้เองฤทธิ์จึงไม่เคยเล่นงานณัฐชาขั้นเด็ดขาด อีกทั้งยังมีความสุขเสียด้วยซ้ำที่เห็นเธอมาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ เขา เพราะเธอมีนิสัยบางอย่างคล้ายกับใจทิพย์คนรักของเขาที่จากไป แต่มาดามหลิวไม่อยากให้ณัฐชามาป่วนภารกิจของตน เธอจึงรายงานพฤติกรรมของณัฐชาให้ สารวัตรราเมศ นายตำรวจหนุ่มซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ สารวัตรราเมศจึงได้เข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกิดขึ้น ฤทธิ์รู้สึกเลื่อมใสในตัวสารวัตรราเมศ เพราะนอกจากจะเป็นตำรวจตงฉินแล้ว ก็ยังมีฝีไม้ลายมือทัดเทียมกับเขาอีกด้วย เช่นเดียวกับผู้กองณัฐชาที่หลังจากใกล้ชิดกับฤทธิ์มากขึ้น เธอก็พบว่าเขาไม่ได้เป็นเพลย์บอยอย่างที่เคยเข้าใจ หากแต่เป็นสุภาพบุรุษที่เชื่อมั่นในรักแท้เสมอมา ฤทธิ์กับผู้กองณัฐชาเริ่มมีใจให้กัน แต่ทั้งสองก็ไม่กล้าแสดงออกเพราะติดที่ไอริณชอบฤทธิ์และสารวัตรราเมศก็ตามจีบณัฐชาอยู่ ไอริณชวนทั้งหมดไปเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศของตน เพื่อตอบแทนที่ทุกคนคอยดูแลความปลอดภัยให้เธอในระหว่างถ่ายหนัง แต่คาดไม่ถึงว่ามาวินที่ต้องการล้างแค้น จะโผล่มาเล่นงานไอริณจนเป็นเหตุให้ณัฐชาที่ปกป้องเธอได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ฤทธิ์ตั้งใจจะสวมบทพยัคฆ์มหากาฬเพื่อเล่นงานมาวินนั้นเอง องค์กรพรายพิฆาตก็ได้ส่งคนมาตัดหน้าเขาเสียก่อน มาวินถูกไล่ล่าจนถึงขั้นต้องยอมมอบตัวกับสารวัตรราเมศเพื่อหนีตาย แต่องค์กรพรายพิฆาตก็ยังส่งคนตามไปทำร้ายถึงในเซฟเฮ้าส์ ทำให้มาวินต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปตลอดชีวิต เรื่องราวของมาวินทำให้มาดามหลิวยิ่งมั่นใจว่า ท่านนำชัยจะต้องเกี่ยวพันกับองค์กรพรายพิฆาต พวกมันถึงได้ออกโรงมาเล่นงานมาวิน จึงออกคำสั่งให้ฤทธิ์ในคราบพยัคฆ์มหากาฬไปสังหารท่านนำชัยถึงบ้าน แต่เพราะไอริณกับณัฐชาขัดขวางไว้ แผนการของฤทธิ์เลยต้องพลาดไป เวลานั้นเองที่กรณ์ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในฐานะหัวหน้าองครักษ์คนใหม่ของท่านนำชัย ฤทธิ์แทบจะฆ่ามันทันทีที่เห็นหน้า แต่เพราะมาดามหลิวเตือนสติไว้ เขาจึงต้องแสร้งสวมบทเป็นนายโทมัสต่อไปเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายไหวตัว ส่วนกรณ์ก็แกล้งตีหน้าเซ่อทำเป็นไม่รู้จักฤทธิ์เช่นกัน เพราะมันมีภารกิจใหญ่ต้องรีบสะสาง เนื่องจากก่อนหน้านี้หัวหน้าสาขาของพรายพิฆาตในเมืองไทยได้แจ้งว่า สามารถสะกัด "น้ำตามัจจุราชเทียม" จากสารตั้งต้นที่กรณ์ขโมยมาได้สำเร็จ และมีอานุภาพเหมือนน้ำตามัจจุราชของแท้เกือบทุกประการ จุดด้อยก็คือคนที่ได้รับสารนี้เข้าไปจะมีอาการเสพติดขั้นรุนแรง และจะตายทันทีหากขาดสารนี้เกิน 24 ชม. ความจริงแล้วน้ำตามัจจุราชก็คือสารเคมีที่สกัดขึ้นจากยาเสพติดบางชนิด มันมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเซลล์กับระบบประสาทอย่างรุนแรง คนที่ได้รับสารนี้เข้าไปไม่เพียงจะมีพลังเหนือมนุษย์ธรรมดา แต่ยังมีความสามารถในการสมานบาดแผลเร็วกว่าปกติหลายพันเท่า มันถูกค้นพบโดยหน่วยงานทหารต่างชาติหน่วยงานหนึ่ง และถูกพัฒนาเพื่อใช้สร้างกองทัพอมตะที่มีพลังเหนือมนุษย์ ก่อนจะถูกกรณ์และพวกพรายพิฆาตปล้นชิงไป ต่อมากรณ์ได้นำน้ำตามัจจุราชเทียมไปทดลองใช้กับมาวินที่นอนเป็นอัมพาตอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้มาวินที่ฟื้นขึ้นมาต้องกลายเป็นทาสของมัน เนื่องจากเสพติดน้ำตามัจจุราชอย่างรุนแรง กรณ์ส่งมาวินไปตามฆ่าผู้คนมากมายที่เป็นศัตรูกับองค์กรพรายพิฆาต รวมถึงเล่นงานฤทธิ์ที่มันเชื่อว่าคือพยัคฆ์มหากาฬอีกด้วย งานนี้ฤทธิ์แทบจะเอาตัวไม่รอด เพราะคาดไม่ถึงว่ามาวินที่เคยเป็นอัมพาต จะลุกขึ้นมาอาละวาดด้วยเรี่ยวแรงปานช้างสารขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ชาญเข้าช่วยเอาไว้พยัคฆ์มหากาฬคงต้องปิดฉากในคืนนั้น ฝ่ายกรณ์ก็สะใจกับผลงานของมันได้ไม่นานนัก เพราะมันลืมไปว่าอดีตหัวหน้ามาเฟียอย่างมาวินไม่เคยยอมก้มหัวให้ใคร ต่อมามาวินจึงได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ในห้องแล็ป แล้วปล้นน้ำตามัจจุราชในคลังเก็บไปจนหมดโดยไม่มีใครขัดขวางได้ พลังที่เหนือมนุษย์ของมาวินบวกกับฤทธิ์ยาทำให้มันคึกคะนองอย่างบ้าคลั่ง เที่ยวก่อเหตุปล้นฆ่าไม่เว้นวัน หนำซ้ำยังฉุดตัวไอริณที่มันลุ่มหลงไปกักขังอีกด้วย ร้อนถึงสารวัตรราเมศกับผู้กองณัฐชาที่ต้องตามล่ามันแทบพลิกแผ่นดิน ทางด้านฤทธิ์เองก็ร้อนใจมากด้วยความเป็นห่วงไอริณ แต่มาดามหลิวมั่นใจว่าหากท่านนำชัยเกี่ยวข้องกับองค์กรพรายพิฆาตแล้ว พวกมันจะต้องช่วยเหลือไอริณอีกแน่ ทุกอย่างเป็นไปตามคำพูดของมาดามหลิว เมื่อพรายพิฆาตได้ส่งคนมาช่วยไอริณที่ถูกกังขังอยู่ในรังของมาวิน แต่พวกมันก็ถูกมาวินที่มีพลังดุจอมนุษย์สังหารจนหมดเกลี้ยง ฤทธิ์ในคราบของพยัคฆ์มหากาฬที่สะกดรอยตามมา จึงได้ปรากฏตัวขึ้นต่อสู้กับมาวินอย่างดุเดือด โดยมีแผนจะล่อมันจากที่กบดาน เพื่อเปิดทางให้สารวัตรราเมศเข้าไปช่วยไอริณ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน…เมื่อฤทธิ์สามารถฆ่ามาวินได้สำเร็จ แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือสารวัตรราเมศจะสมคบกับกรณ์และพวกพรายพิฆาตจับตัวเขาเอาไว้ ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกเปิดเผยว่าแท้จริงหัวหน้าสาขาขององค์กรพรายพิฆาตในประเทศไทยก็คือสารวัตรราเมศนั่นเอง ส่วนท่านนำชัยกลับเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกพวกมันบังคับให้ทำงานเท่านั้น ฤทธิ์ถูกส่งตัวไปยังห้องทดลองของพรายพิฆาต เพื่อค้นคว้าวิธีผลิตน้ำตามัจจุราชของแท้ และอานุภาพในส่วนที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ทำให้ฤทธิ์ได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัส ไอริณต้องการช่วยฤทธิ์เธอจึงได้ทรยศพ่อด้วยการส่งข่าวให้มาดามหลิว มาดามหลิวจึงได้ส่งโซเฟียกับชาญไปช่วยฤทธิ์ออกมา แต่คาดไม่ถึงว่ากรณ์จะวางกับดักเอาไว้ทำให้มือปืนระดับพระกาฬอย่างชาญต้องจบชีวิตลง เพื่อเปิดทางให้โซเฟียพาฤทธิ์หลบหนีไป ต่อมาผู้กองณัฐชาเริ่มระแคะระคายเรื่องที่เกิดขึ้นจากไอริณ จึงพยายามเข้ามาสืบแต่กรณ์ก็แกล้งฉีดยากล่อมประสาทให้ไอริณจนดูเหมือนคนเสียสติ ก่อนจะโกหกกับผู้กองณัฐชาว่าไอริณติดยาจนเป็นบ้า โดยที่ท่านนำชัยก็ไม่กล้าขัดขวางเพราะถูกพวกพรายพิฆาตขู่เข็ญด้วยเรื่องการคอรัปชั่นที่ท่านเคยหมกเม็ดเอาไว้สมัยเป็นรัฐบาล แต่สุดท้ายท่านนำชัยก็ทนสงสารลูกสาวไม่ได้ จึงแจ้งข่าวให้ผู้กองณัฐชามาช่วยพาไอริณไปกบดาน ส่วนตนก็พลีชีพหวังแลกตายกับราเมศและกรณ์ แต่ก็พลาดท่าถูกฆ่าตายเสียก่อน ผู้กองณัฐชาพาไอริณไปที่กองปราบหวังจะแฉเบื้องหลังของราเมศ ซึ่งแท้จริงเป็นสมาชิกของพรายพิฆาตที่แฝงตัวมาเป็นตำรวจเมื่อหลายสิบปีก่อน ทว่าสารวัตรราเมศก็ใส่ร้ายว่าผู้กองณัฐชาเป็นคนลักพาตัวไอริณไปเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่เมื่อถูกจับได้ก็เลยฆ่าท่านนำชัยปิดปาก ทำให้ผู้กองณัฐชากับไอริณต้องถูกตำรวจตามล่าจนหัวซุกหัวซุน และต้องไปซ่อนตัวที่คฤหาสน์ของมาดามหลิว จนได้พบกับฤทธิ์ที่กบดานอยู่ที่นั่น โชคร้ายที่กรณ์กับพวกเกิดพบเบาะแสเข้า มันจึงยกพลถล่มคฤหาสน์ของมาดามหลิวทันที แม้ว่าในตัวอาคารจะมีกลไกรักษาความปลอดภัยและมีเวรยามที่แน่นหนา ก็ไม่อาจต้านทานพวกของกรณ์ได้ เพราะสมุนของมันทุกคนล้วนเป็นอมตะด้วยพลังของน้ำตามัจจุราช มาดามหลิว โซเฟีย ณัฐชา และไอริณพยายามต่อสู้กับพวกของกรณ์ไว้อย่างสุดความสามารถ เพื่อปกป้องฤทธิ์ที่ยังอยู่ในอาการบาดเจ็บ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานกำลังของอีกฝ่ายได้ มาดามหลิวจึงให้สามสาวพาฤทธิ์หนีไป ขณะที่ตัวเธอต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า ณัฐชา ไอริณ และโซเฟียพาฤทธิ์ไปซ่อนตัวที่เกาะแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไกลผู้คน ไม่นานนักพลังของน้ำตามัจจุราชก็ช่วยให้ฤทธิ์หายเป็นปกติ ในช่วงนั้นเองก็มีข่าวว่ากรณ์ได้สร้างกองทัพขนาดย่อมของตนเองขึ้น โดยให้นักรบทุกคนเสพสารน้ำตามัจจุราชจนมีพลังเป็นอมตะ ก่อนจะทดลองขีดความสามารถด้วยการส่งนักรบเหล่านี้ ไปปฏิบัติการณ์ปล้นฆ่าตามสถานที่ต่าง ๆ โดยมีสารวัตรราเมศร่วมรู้เห็นอย่างลับ ๆ ทำให้บ้านเมืองตกอยู่ในสภาพวุ่นวาย ฤทธิ์กับสามสาวจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ เพื่อหยุดยั้งกรณ์ และเปิดโปงเบื้องหลังของสารวัตรราเมศ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากจ่าไมตรีกับหมู่ปรีดา ฤทธิ์สามารถจับตัวสารวัตรราเมศและบังคับให้มันพาพวกเขาบุกเข้าไปในฐานทัพของพวกพรายพิฆาต จนเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับกรณ์และลูกสมุน ระหว่างนั้นณัฐชา ไอริณ และโซเฟียก็ช่วยกันปิดทางเข้าออกและวางระเบิดคลังแสงของพวกมัน จนทำให้สารวัตรราเมศกับสมาชิกของพรายพิฆาตแทบทั้งหมดต้องจบชีวิตลงในกองเพลิง ขณะที่ระเบิดลูกสุดท้ายจะทำงานนั้นเอง กรณ์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับฤทธิ์ ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ในสภาพของอสูรกายที่เสพน้ำตามัจจุราชเข้าไปจนเกินพิกัด มันฆ่าโซเฟียทิ้งอย่างโหดเหี้ยม และพยายามจะฆ่าณัฐชากับไอริณเป็นรายต่อมา แต่ฤทธิ์ก็โผล่มาขัดขวางไว้เสียก่อน เขาให้สองสาวรีบหนีออกไป ก่อนจะกดชนวนระเบิดถล่มฐานทัพของพวกพรายพิฆาตจนสิ้นซาก กรณ์จบชีวิตลงเพราะแรงระเบิด ในขณะที่ฤทธิ์สามารถรอดตายมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ เขาเชื่อว่าคงเป็นเพราะผลกรรมดีที่ปกป้องเขาเอาไว้ นับจากนั้นก็ไม่มีใครได้ยินชื่อองค์กรพรายพิฆาตอีกเลย ส่วนพยัคฆ์มหากาฬก็หายสาสูญไปเช่นกัน แต่อีกไม่นาน…เมื่อใดที่ภัยร้ายเข้ารุกรานแผ่นดิน… ฤทธิ์ ราวี จะต้องกลับมาอีกครั้ง ติดตามชม ละครนักสู้มหากาฬ ได้ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครนักสู้มหากาฬ เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556

ไฟหวน 2556

เรื่องย่อ : ไฟหวน (2556/2013) เจ้าคุณเทพ (สุรวุฑ ไหมกัน) และ คุณหญิงมณี (ปิยธิดา วรมุสิก) ผู้เป็นเจ้าของวังเทพมณี ต้องต้อนรับแขกเหรื่อ ที่มาร่วมแสดงความยินดีที่คุณหญิงตั้งท้องลูกคนแรก รวมทั้ง คุณชไม (ณัฎฐริณีย์ กรรณสูต) เพื่อนสนิทของคุณหญิงมณีที่เดินทางมาจากเชียงใหม่ด้วย

คุณชไมมีความสามารถเรื่องดูดวง เมื่ออยู่กันตามลำพัง คุณชไมจึงดูดวงให้คุณหญิงมณี แล้วทำนายว่าลูกในท้องที่จะเกิดมาจะเป็นผู้หญิง แต่คุณหญิงมณีจะมีลูกได้แค่คนเดียวเท่านั้น คุณหญิงไม่เชื่อคำทำนายของคุณชไม เพราะคิดว่าเป็นเพียงคำพูดไร้สาระ ส่วนเจ้าคุณเทพเมื่อรู้เรื่องกลับไม่ใส่ใจกับคำทำนาย เพราะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่แล้วเรื่องราวดูเหมือนจะเป็นจริงดังคำทำนายของคุณชไม เมื่อถึงกำหนดคลอดลูก คุณหญิงมณีปวดท้องทุรนทุรายอยู่หลายวัน จนกระทั่งในที่สุดคุณหญิงก็คลอดลูกสาวออกมา แล้วเกิดอาการเลือดเป็นพิษ หมอฝรั่งที่โรงพยาบาลบอกว่าคุณหญิงมณีจะไม่สามารถมีลูกได้อีก ไม่เช่นนั้นจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิต คุณหญิงเสียใจมาก เธอนึกถึงคำพูดของคุณชไมขึ้นมาจับใจ

ครั้นเมื่อร่างกายหายป่วยเป็นปกติแล้ว คุณหญิงมณีจึงพา มัทนา ลูกสาวคนเดียวของเธอ เดินทางไปขอโทษคุณชไม แต่เมื่อคุณชไมดูดวงให้หนูน้อยมัทนา เธอก็ถึงกับต้องตกใจ เมื่อคำทำนายออกมาว่าหนูน้อยจะต้องตายเพราะพี่น้องร่วมสายเลือด แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อคุณหญิงมณีไม่สามารถมีลูกได้อีก!! ไม่นานนักคุณหญิงก็ได้รู้ความจริงว่า เจ้าคุณเทพแอบมีเมียน้อยชื่อ อุ่น (ธัญสินี พรมวิสุทธิ์) ซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอด คุณหญิงมณีโกรธจนแทบคลั่ง เธอกลัวว่าลูกที่กำลังจะเกิดของเจ้าคุณเทพคนนี้ จะมาทำร้ายมัทนาลูกสาวของเธอดั่งคำทำนาย คุณหญิงมณีเลยสั่งให้ สร้อย (น้ำทิพย์ เสียมทอง) บ่าวคนสนิท ไปเผาบ้านของอุ่น

แต่ค่ำคืนนั้น อุ่นเกิดเจ็บท้องต้องคลอดก่อนกำหนด ทำให้อิ่ม (รัชยา รักษ์กสิกรณ์) พี่สาวของเธอต้องรีบพาหนูน้อยที่เพิ่งคลอดออกมาพร้อมปานแดงที่ต้นขา และมีอาการตัวซีด ออกมาจากบ้านเพื่อไปหาหมอเพียงลำพัง ก่อนที่คนร้ายก็ลอบเข้ามาวางเพลิงเผาบ้าน ทำให้อุ่นต้องนอนจมอยู่ในกองเพลิง ระหว่างที่อิ่มพาหลานกลับมาบ้าน เธอแอบเห็นว่าสร้อยอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เธอจึงรู้ทันทีว่าคุณหญิงมณีสั่งมาฆ่าอุ่นและลูกแน่นอน อิ่มกลัวมากจึงอุ้มหลานวิ่งหนีเตลิดไป แต่เคราะห์ร้ายถูกรถเก๋งที่ ผกา (ภารดี อยู่ผาสุข) เจ้าของซ่องชื่อดัง แห่งหอโคมแดงนั่งมากับแขกชนเข้าอย่างจัง อิ่มกับเด็กน้อยกระเด็นล้มไป คนละทิศละทาง เธอพยายามตะเกียกตะกายไปหาหลานที่อยู่อีกฟากของถนน ผกาจึงช่วยพาทั้งสองไปส่งโรงพยาบาล ด้วยความกลัวและความตกใจสุดขีด ทำให้เมื่ออิ่มฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นคนเสียสติวิ่งออกไปจากโรงพยาบาลแล้วหายสาบสูญไปเลย ด้านผกา มาเยี่ยมที่โรงพยาบาลจึงพบว่าอิ่มเสียสติ และหนีออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว โดยทิ้งเด็กน้อยเอาไว้ ผกาจึงพาเด็กน้อยที่เธอตั้งชื่อว่า บุปผา และนำไปเลี้ยงในซ่อง

ด้านคุณหญิงมณีถึงจะคิดว่าได้กำจัดลูกอีกคนหนึ่งของเจ้าคุณเทพ ที่กลัวว่าจะเป็นคนฆ่ามัทนาในอนาคตตามคำทำนายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงกระนั้นคุณหญิงมณีก็ยังไม่วางใจเพราะกลัวว่าเจ้าคุณเทพที่ยังหนุ่มแน่นสามารถมีลูกกับหญิงอื่นได้อีก คุณหญิงมณีจึงสั่งให้สร้อยไปหาตาเถา (ชรัส เฟื่องอารมย์) หมอชาวบ้านเพื่อขอยาที่ทำให้เจ้าคุณเทพกินแล้วเป็นหมันมาให้ พอเจ้าคุณเทพกลับมาก็รู้เรื่องว่าอุ่นและลูกในท้องตายเพราะไฟไหม้บ้าน เจ้าคุณเทพเสียใจมากจนล้มป่วย คุณหญิงมณีจึงได้โอกาสวางยาเจ้าคุณเทพ โดยโกหกว่าเป็นยาบำรุง จนเจ้าคุณเทพเป็นหมันสมใจ

20 ปีต่อมา เด็กหญิงลูกสาวของอุ่น เติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง บุปฝา (แซมมี่ เคาวเวลล์) เป็นโสเภณีเบอร์หนึ่งของซ่องหอโคมแดง แต่ด้วยนิสัยมักใหญ่ใฝ่สูง เธอจะเลือกบริการเฉพาะแขกกระเป๋าหนักเท่านั้น เพื่อหวังว่าสักวันเธอจะไปเป็นคุณหญิงแทนการเป็นโสเภณีเช่นนี้ ดังนั้นเมื่อ สิน (ภาณุ สุวรรณโณ) คนขับรถของบ้านเจ้าคุณเทพมาเที่ยวและอยากใช้บริการของเธอ บุปผาก็ให้ผกาปฏิเสธไปทันที

วันหนึ่งบุปผาไปตัดชุดที่ร้านในตลาด เธอจึงได้พบกับ ไอศูรย์ (ธนพล นิ่มทัยสุข) หมอหนุ่มที่จบจากเมืองนอก ผู้เป็นเจ้าของวังรัตนา บุปผาก็ตกหลุมรักชายหนุ่มขึ้นมาทันที เธอพยายามเข้าไปทำความรู้จัก และให้ท่าชายหนุ่มด้วยความมั่นใจ เพราะคิดว่าเขาจะต้องศิโรราบต่อความสวยของเธอดังเช่นผู้ชายทุกคน แต่ไอศูรย์ไม่มีท่าทีสนใจเธอเลย ผิดกับท่าที ที่ไอศูรย์มอบให้คุณหนูมัทนา (โบ ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์) ลูกสาวเจ้าคุณเทพที่เพิ่งมาถึงร้านโดยมีสินเป็นคนขับรถ ไอศูรย์พูดจาหวานหูและดูแลอย่างดี ทำให้บุปผายิ่งสนใจชายหนุ่มและอยากจะเอาชนะใจเขาให้ได้ เมื่อสินกลับไปเที่ยวที่ซ่องอีกครั้ง บุปผาก็เปลี่ยนท่าที มาต้อนรับสินอย่างดี และยอมให้เขาใช้บริการในที่สุด ทำให้สินหลงใหลในตัวบุปผามาก บุปผาได้รู้ว่าไอศูรย์กับมัทนาเป็นคู่หมายกัน และไอศูรย์ก็ยังเป็นหมอประจำตัวของคุณหญิงมณีแม่ของมัทนาด้วย ดังนั้นบุปผาจึงคิดแผนให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับไอศูรย์ด้วยการออดอ้อนขอสินให้พาตนเข้าไปอยู่ในบ้านของมัทนา แต่ขอให้บอกกับทุกคนว่าเธอเป็นน้องสาวของสิน เพราะไม่อยากให้ใครมองตนไม่ดีว่าหนีตามผู้ชายมา ซึ่งสินก็ยอมทำตาม

สินพาบุปผาเข้าไปกราบ และขออนุญาตคุณหญิงมณีให้น้องสาวอยู่ด้วย แม้คุณหญิงมณีจะไม่สู้เต็มใจนัก แต่มัทนาเห็นใจบุปผา จึงขอร้องให้มารดายอมให้น้องสาวของสินอยู่ด้วย เมื่อบุปผาอยู่ในบ้านของมัทนาในฐานะคนใช้ เธอก็แทบจะไม่ทำอะไรเลยนอกจากเฝ้ารอให้ไอศูรย์มาที่นี่ และเสนอตัวเข้าไปรับใช้ ด้วยความที่บุปผาไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวจัดจ้านเช่นครั้งที่อยู่หอโคมแดง ทำให้ไอศูรย์จำบุปผาไม่ได้

อยู่มาวันหนึ่งคุณหญิงมณีและเจ้าคุณเทพจัดงานวันเกิดให้มัทนา มีแขกเหรื่อแต่งตัวโก้หรูมาร่วมงานมากมาย รวมทั้ง คุณพลอย (กรรณาภรณ์ พวงทอง) เพื่อนสนิทของมัทนาที่มาพร้อม คุณเพชร (ธีร์ วณิชนันทธาดา) พี่ชายซึ่งเป็นนายตำรวจหนุ่ม ซึ่งก็แอบมีใจให้มัทนาอยู่ ความอ่อนหวานของมัทนา ทำให้บุปผาเกิดอาการหมั่นไส้ เธอจึงคิดหาวิธีกลั่นแกล้งมัทนาอยู่เสมอ แต่ยิ่งทำให้ไอศูรย์ได้ใกล้ชิดมัทนามากยิ่งขึ้น บุปผาจึงใช้คุณเพชรเป็นเครื่องมือทำให้มัทนากับไอศูรย์เข้าใจผิดกัน พร้อม ๆ กับหาโอกาสออดอ้อนไอศูรย์ ว่าตนอยู่ข้างเขาเสมอ และในระหว่างที่บุปผาคุยกับไอศูรย์ตามลำพังนั้น สินก็มาเห็นเข้าจึงไม่พอใจ สั่งห้ามไม่ให้บุปผาอยู่ใกล้ไอศูรย์อีก แต่บุปผาไม่ยอม สินขู่ว่าจะบอกทุกคนว่าบุปผาเป็นเมียเขา หญิงสาวจึงรีบใช้มารยา ทำให้สินหายโกรธ แต่บุปผาเห็นท่าไม่ดีถ้าปล่อยสินเอาไว้เช่นนี้ เธอจึงไปปรึกษากับผกา ผกาจึงพาบุปผาไปขอยาที่ทำให้เป็นอัมพาตจากตาเถา หมอสมุนไพรที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

บุปผานำสมุนไพรมาให้สินกิน แล้วสินก็เกิดอาการเป็นอัมพาต และพูดไม่ได้อีกต่อไป คุณหญิงมณีสั่งให้เอาสินไปอยู่กระท่อมหลังสวน แล้วให้บุปผาผู้เป็นน้องสาวคอยดูแล บุปผาก็แกล้งทำเป็นเต็มใจ แต่พออยู่กันตามลำพังบุปผาก็ไม่เคยดูแลสินเลย สินรู้ว่าที่ตนเป็นอย่างนี้ก็เป็นเพราะฝีมือของบุปผา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนเสียใจที่หลงเชื่อผู้หญิงเลว ๆ อย่างบุปผา

ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของบุปฝา ไม่นานนักเธอก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของมัทนาด้วยความไว้ใจจากคุณหญิงมณี จากนั้นเป็นต้นมา มัทนาจึงมีบุปผาคอยไปไหนมาไหนด้วยตลอด รวมทั้งเวลาไปที่วังรัตนาของไอศูรย์ ที่นั่นบุปผาได้พบกับ คุณหญิงแจ่มจันทร์ (วจี กัลย์จาฤก) มารดาจอมเจ้ายศเจ้าอย่างของไอศูรย์

วันหนึ่งขณะที่มัทนาไปทำบุญที่วัดตามปกติทุกวันพระ ระหว่างทางกลับมัทนาได้พบกับหญิงบ้าสติไม่ดี ที่มาจากต่างถิ่นถูกชาวบ้านไล่ตีเพราะไปขโมยข้าวมากิน หญิงบ้ากลัวจนวิ่งตกลงไปในน้ำ หญิงบ้าว่ายน้ำไม่เป็นพยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด มัทนาเห็นดังนั้นก็กระโดดลงไปช่วยไว้ แต่หญิงบ้าสลบไปก่อน มัทนาจึงรีบพาหญิงบ้าไปส่งที่โรงพยาบาลโดยมีไอศูรย์เป็นแพทย์ผู้รักษา เมื่อมัทนารู้ว่าหญิงบ้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลยรับเป็นเจ้าของไข้ ทำให้มัทนากับไอศูรย์ได้ใกล้ชิดกันอีกครั้งเพราะต้องคอยพูดคุยกันเรื่องอาการป่วยของหญิงบ้า อาการของหญิงบ้าดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของไอศูรย์และมัทนาที่ปรับความเข้าใจกันได้ บุปผารู้เรื่องก็ไม่พอใจรีบเอาเรื่องที่มัทนาไปคลุกคลีกับหญิงบ้าชั้นต่ำไปบอกกับคุณหญิงมณี คุณหญิงจึงสั่งห้ามไม่ให้มัทนาไปยุ่งอีก แต่มัทนาไม่ยอม เพราะหากทิ้งหญิงบ้าไปแล้วเธอจะอยู่อย่างไร จึงยอมขัดคำสั่งมารดา

ไม่นานนักหญิงบ้าก็เริ่มจะจำความได้ว่าเธอชื่ออิ่ม แต่เธอโกหกมัทนาว่าชื่อเอม น้องสาวที่มีอยู่เพียงคนเดียวก็ถูกไฟไหม้ตายในบ้าน อิ่มได้รู้ว่ามัทนาคือลูกสาวของเจ้าคุณเทพ จึงขอเธอเข้าไปทำงานในวัง เพื่อหาโอกาสบอกความจริงทั้งหมดกับเจ้าคุณเทพ และวันที่อิ่มรอคอยก็มาถึง อิ่มพยายามหาทางเข้าพบเจ้าคุณเทพตามลำพัง พอเจ้าคุณเทพเห็นอิ่มก็จำได้ทันทีว่าคือพี่สาวของอุ่นนั่นเอง อิ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้าคุณเทพฟังว่าคุณหญิงมณีเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดที่สั่งสร้อย ให้จ้างคนไปเผาบ้านตน เพื่อให้อุ่นน้องสาวตนกับหลานในท้องตาย เจ้าคุณเทพเสียใจมาก เขาไม่คิดเลยว่าหญิงที่แสนสูงส่งจะใจคอโหดร้ายมากมายถึงเพียงนี้ แต่เพื่อเห็นแก่มัทนา เจ้าคุณเทพจึงขอร้องให้อิ่มเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะไม่อยากให้มัทนาเสียใจ แล้วอิ่มก็บอกกับเจ้าคุณเทพว่าลูกสาวของอุ่นกับเจ้าคุณเทพยังไม่ตาย แต่ระหว่างทางหนีอิ่มเกิดอุบัติเหตุ เธอจึงเสียสติ และคิดว่าคงมีคนใจบุญเอาตัวหลานสาวไปเลี้ยงดูแล้ว เจ้าคุณเทพดีใจมากจึงแอบสืบข่าวลูกสาวอีกคนอย่างลับ ๆ

แล้ววันหนึ่ง สร้อยก็จำได้ว่าเอมก็คืออิ่มพี่สาวของอุ่นนั่นเอง คุณหญิงมณีจึงจับตัวอิ่มมาทรมาน อิ่มทนความเจ็บปวดไม่ไหวยอมรับความจริง คุณหญิงมณีตัดสินใจจะฆ่าอิ่ม แต่โชคดีที่อิ่มหลบหนีออกมาได้ ระหว่างทางหนีอิ่มพบกับบุปผาโดยบังเอิญ บุปผาช่วยชีวิตอิ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ ช่วงเวลาวุ่นวายนั้นเองอิ่มก็เห็นปานที่ต้นขาขวาของบุปผา จึงรู้ว่าบุปผาคือหลานสาวของตนก็ดีใจ อิ่มบอกกับบุปผาว่าพ่อที่แท้จริงของบุปผาก็คือเจ้าคุณเทพนั่นเอง บุปผาดีใจมากที่ตนคือลูกสาวอีกคนของเจ้าคุณเทพ และเธอคือคุณหนูแห่งวังนี้ อิ่มบอกให้บุปผาไปบอกความจริงกับเจ้าคุณเทพเพราะขณะนี้เจ้าคุณเทพกำลังตามหาบุปผาอยู่ แต่บุปผาบอกว่ายังไม่ถึงเวลา พร้อมกับพาอิ่มไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง

ขณะที่เจ้าคุณเทพตามหาลูกสาวอีกคน คุณหญิงมณีก็แอบส่งคนตามหาลูกสาวอีกคนของเจ้าคุณเทพเช่นกัน เพื่อหวังจะกำจัดเด็กคนนี้ให้ได้ก่อนที่เจ้าคุณเทพจะเจอตัว เมื่อเจ้าคุณเทพกลับมาที่วังก็พบว่าอิ่มหนีออกจากวังไปแล้ว เจ้าคุณเทพท้อใจมากคิดว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสพบลูกสาวอีกคนแล้ว คุณหญิงมณีจึงโล่งอก แต่ก็ยังสั่งให้สร้อยส่งคนคอยตามหาไม่หยุด โดยที่คุณหญิงมณีไม่รู้เลยว่าคนที่คุณหญิงตามหานั้นคือบุปผาที่อยู่ใต้จมูกของเธอนั่นเอง!

ใกล้ถึงวันเกิดคุณหญิงมณี บุปผาจึงแสร้งยุให้คุณหญิงมณีจัดงานเลี้ยงอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เพื่อให้สมฐานะ คุณหญิงมณีเห็นด้วยจึงให้บุปผาเป็นแม่งานโดยไม่รู้เลยว่าบุปผามีแผนชั่วร้ายอยู่ และแล้วงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหญิงมณีก็มาถึง บุปผาใช้จังหวะเหมาะขึ้นบนเวทีประกาศบอกทุกคนว่าเธอคือลูกสาวอีกคนหนึ่งของเจ้าคุณเทพกับแม่อุ่น ทุกคนตื่นตะลึง คุณหญิงมณีต่อว่าบุปผาว่าพูดโกหก บุปผาให้อิ่มออกมาปรากฏตัวและยืนยันต่อหน้าเจ้าคุณเทพว่าตนคือลูกอีกคนของเจ้าคุณเทพจริง ๆ เจ้าคุณเทพดีใจมากยอมรับบุปผาเป็นลูก และโอบกอดบุปผาด้วยความรัก มัทนาก็ดีใจที่มีน้องสาวเช่นกัน แต่คุณหญิงมณีนั้นแค้นใจมากที่ถูกบุปผาหลอกใช้

พอได้เข้ามาเป็นคุณหนูของวัง บุปผาก็ทำตัวเทียบเท่ามัทนาทุกอย่าง ทำให้คุณหญิงมณีไม่พอใจมากขึ้นอีกจึงด่าว่าบุปผา บุปผาแค้นใจเลยใส่ความคุณหญิงมณีว่าทำร้ายตน จนเจ้าคุณเทพไม่พอใจต่อว่าคุณหญิงมณีอย่างรุนแรง เมื่อมีบิดาปกป้องและให้ท้ายบุปผาก็วางอำนาจบาตรใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้คุณหญิงมณีโกรธแค้นบุปผาเป็นเท่าทวีคูณ เมื่ออีกาได้แปลงกายไปเป็นหงส์เทียบเท่ากับมัทนาแล้ว บุปผาคิดว่าไอศูรย์คงมีใจให้แก่เธอได้ไม่ยาก จึงพยายามยั่วยวนไอศูรย์แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะไอศูรย์นั้นมีความรักมั่นคงกับมัทนาเพียงคนเดียว บุปผาแค้นใจมาก คุณหญิงมณีจึงรู้ว่าบุปผามีใจให้ไอศูรย์และพยายามแย่งไอศูรย์ไปจากลูกสาวที่รักของเธอ คุณหญิงมณีจึงคิดใช้จุดอ่อนข้อนี้เพื่อกำจัดบุปผาให้พ้นทาง

วันหนึ่งบุปผาได้รับจดหมายจากไอศูรย์ให้ไปพบที่ท้ายป่าเพราะมีเรื่องสำคัญจะสารภาพ บุปผาหน้ามืดตามัวเพราะความรักที่มีต่อไอศูรย์จึงไม่ได้ฉุกใจคิดเลยว่านั่นคือแผนลวงของคุณหญิงมณี เมื่อบุปผาไปถึงจึงพบกับโจรที่คุณหญิงจ้างมาเพื่อฆ่าบุปผา แต่มัทนามาเจอเข้าจึงช่วยบุปผาจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ แต่ทั้งคู่ก็หนีรอดมาได้ บุปผาเอาเรื่องราวทั้งหมดไปเล่าให้อิ่มฟัง อิ่มมั่นใจว่าเป็นฝีมือของคุณหญิงมณีแน่ อิ่มแค้นคุณหญิงมณีเลยหลุดปากพูดเรื่องที่คุณหญิงสั่งคนเผาบ้านจนอุ่นแม่ของบุปผาตายในกองไฟ บุปผาแค้นใจจะไปเอาเรื่องคุณหญิงมณีเข้าคุก แต่อิ่มขอร้องบอกรับปากกับเจ้าคุณเทพไว้ว่าจะไม่เล่าเรื่องนี้กับใคร ถ้าบุปผาไปเอาเรื่องคุณหญิงมณี เจ้าคุณเทพต้องโกรธมาก เจ้าคุณเทพไม่อยากเอาเรื่องคุณหญิงมณีเพราะเห็นแก่มัทนานั่นเอง

เมื่อบุปผาไม่สามารถเอาเรื่องคุณหญิงมณีที่วางแผนฆ่าแม่ของตนเข้าคุกได้ เพราะทั้งเจ้าคุณเทพและอิ่มเห็นแก่มัทนา บุปผาจึงคิดว่ามัทนาก็ควรจะสูญเสียอะไรให้ตนบ้าง บุปผาจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกมัทนาเพื่อข่มขู่ให้มัทนาถอนหมั้นและเลิกยุ่งเกี่ยวกับไอศูรย์เสีย ถ้าไม่อยากให้คุณหญิงมณีแม่ของเธอถูกจับเข้าคุก มัทนารู้ความจริงก็เสียใจมากเธอจึงถอนหมั้นกับไอศูรย์ทันทีเพื่อปกป้องมารดา ไม่มีใครเข้าใจเหตุผลที่มัทนาขอถอนหมั้นกับไอศูรย์เลย โดยเฉพาะตัวไอศูรย์เอง เขาไม่เข้าใจว่าเขาทำผิดอะไร ไอศูรย์พยายามถามมัทนาแต่เธอก็มักจะหลบหน้าหลบตาไม่ยอมพบเขาเลย จนกระทั่งวันหนึ่งไอศูรย์ดักพบมัทนาจนได้ มัทนาอยากให้ไอศูรย์ตัดใจจึงโกหกว่าตอนนี้เธอรักอยู่กับคุณเพชรทำให้ไอศูรย์เสียใจมาก บุปผาจึงใช้ช่วงเวลานี้ปลอบใจไอศูรย์แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะใจไอศูรย์ได้ ไอศูรย์ปฏิเสธความรักที่บุปผามีต่อเขาแม้จะไม่มีมัทนาแล้วก็ตาม บุปผาเสียใจมากแต่ก็ไม่ยอมแพ้ บุปผาต้องการเอาไอศูรย์มาเป็นของตัวเองให้ได้จึงวางแผนมอมเหล้าไอศูรย์และสร้างเรื่องว่าไอศูรย์ปลุกปล้ำเธอ ทำให้ไอศูรย์ต้องยอมตกลงแต่งงานกับบุปผา แม้คุณหญิงแจ่มจันทร์แม่ของไอศูรย์จะไม่ชอบบุปผาเพราะมีแม่เป็นแค่หญิงชาวบ้านต่ำต้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมจัดงานตามประเพณีเพราะเห็นแก่เจ้าคุณเทพ

ขณะที่บุปผากำลังวุ่นวายอยู่กับเรื่องแต่งงานกับไอศูรย์นั้นเอง มัทนาที่หัวใจเจ็บช้ำเพราะรู้เรื่องที่ไอศูรย์กำลังจะแต่งงานกับบุปผา จึงมาเยี่ยมสินที่ไม่มีคนดูแล มัทนาได้พาหมอมารักษาสินที่เธอเคารพรักเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนอาการอัมพาตของสินเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่หมอกลับพบว่าสินกำลังป่วยหนักด้วยโรคใหม่

ก่อนวันแต่งงาน ผกาที่กำลังลำบากเพราะถูกตำรวจปิดซ่องเพิ่งรู้เรื่องว่าบุปผาได้ดีไปเป็นลูกสาวเจ้าคุณเทพก็มาหาบุปผาเพื่อขอเงิน แต่บุปผาไม่ยอมให้เพราะแค้นใจที่เคยถูกผกาโขกสับและบังคับให้ขายตัว จึงไล่ผกาไปอย่างหมูอย่างหมา ผกาเสียใจและแค้นใจมากจึงตั้งใจจะทำลายงานแต่งงานของบุปผา

เมื่อวันแต่งงานของบุปผาและไอศูรย์มาถึง ผกามาเจอมัทนาที่เดินเศร้าอยู่หน้างานจึงบอกมัทนาว่าเธอคือแม่ที่เคยเลี้ยงดูบุปผามาก่อนเพิ่งรู้ข่าวว่าบุปผาจะแต่งงาน แต่เข้าไปในงานไม่ได้เพราะลืมเอาบัตรเชิญมา จึงขอให้มัทนาพาเธอและเพื่อนๆเข้าไปแสดงความยินดีกับบุปผาด้วยเพราะบุปผาสั่งคนงานห้ามไม่ให้คนที่ไม่มีบัตรเชิญเข้าไปเพื่อป้องกันไม่ให้ผกามาป่วนในงานของตน พอผกาและเหล่าโสเภณีเข้ามาในงานเลี้ยงได้สำเร็จ ผกาก็เปิดเผยความจริงว่าบุปผาคือโสเภณีที่เคยทำงานในซ่องของตนมาก่อน บรรดาโสเภณีที่อยู่ในสังกัดของผกาก็ออกมาช่วยกันพูดเป็นพยาน คุณหญิงแจ่มจันอับอายมากเลยประกาศยกเลิกงานแต่งงานทั้งหมด

บุปผาแค้นใจมากคิดว่ามัทนาพาผกามาทำลายงานแต่งงานของตน จึงเปิดโปงเรื่องที่คุณหญิงมณีแม่ของมัทนาเป็นคนสั่งวางเพลิงเผาบ้านจนแม่ของตนต้องตาย คุณหญิงมณีโกรธมากจึงไปหยิบปืนจะมาฆ่าบุปผา แต่มัทนามาปกป้องบุปผาและขอร้องให้แม่ไว้ชีวิตน้องสาวตน คุณหญิงมณีคับแค้นใจระบายทุกอย่างออกมาว่าที่ทำไปเพราะหมอดูทำนายว่ามัทนาจะถูกน้องของตัวเองฆ่าตาย จังหวะนั้นเองบุปผาแย่งปืนจากคุณหญิงมณีมาได้ จึงเล็งปืนไปที่มัทนาด้วยความแค้นและคิดจะฆ่ามัทนาเสีย เจ้าคุณเทพขอร้องบุปผา เพราะไม่อยากให้พี่น้องฆ่ากันเองแต่บุปผาไม่ฟัง แต่วินาทีที่บุปผาลั่นไก ก็มีเสียงปืนจากอีกกระบอกดังขึ้น! บุปผาทรุดตัวลงแล้วหันไปเห็นว่าเป็นสินนั่นเองที่เป็นคนยิงเธอ แต่บุปผายังไม่ตาย แค่โดนยิงถาก ๆ สินกำลังจะยิงซ้ำแต่มัทนาขอร้องไว้ บุปผาไม่คาดคิดว่าสินจะหาย สินแค้นใจพูดพรั่งพรูความแค้นบอกว่าถึงแม้เขาจะหายจากอัมพาต แต่อีกไม่นานเขาก็ต้องตายอยู่ดีเพราะเขาติดโรคร้ายมาจากบุปผา พูดจบสินก็ยิงตัวเองตาย บุปผาตกใจมากที่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคร้าย

เวลาผ่านไป บุปผานอนป่วยใกล้ตายอยู่กระท่อมท้ายสวน โดยมีเพียงเจ้าคุณเทพ อิ่มและมัทนาเท่านั้นคอยช่วยกันดูแล เพราะคนอื่น ๆ พากันรังเกียจกลัวว่าจะติดโรคจากบุปผากันหมด วันหนึ่งขณะที่มัทนากำลังเช็ดตัวให้บุปผาอย่างไม่เคยคิดรังเกียจเลย บุปผามองมัทนาแล้วร้องไห้รู้สึกผิดว่าทั้งที่เธอคิดจะเอาชีวิตมัทนาแต่มัทนากลับช่วยชีวิตเธอแล้วยังดูแลเธออย่างดีอีก บุปผาจึงหยิบมีดที่ซ่อนเอาไว้แล้วยกขึ้นมา คุณหญิงมณีมาเห็นก็กรีดร้องเพราะคิดว่าคำทำนายกำลังจะเป็นจริง แต่แล้วบุปผากลับหันมีดแทงตัวตาย!

หลังจากบุปผาตาย คุณหญิงมณีเสียใจและรู้สึกผิดมาก เรื่องราวเลวร้ายทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความงมงายหลงเชื่อคำทำนายของหมอดูของตน ดุจรับเอาไฟร้ายเข้าตัวและยอมให้ไฟนั้นหวนกลับมาทำร้ายผู้คนรอบข้างตัวเธอ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ คุณหญิงมณีจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจข้อหาจ้างวานฆ่าโดยไม่ซัดทอดใครเลย คุณหญิงยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว มัทนารู้สึกภูมิใจที่คุณหญิงมณีทำผิดแล้วยอมรับผิด เจ้าคุณเทพแม้จะเสียใจมากแต่ก็รู้ว่าที่คุณหญิงทำลงไปทั้งหมดด้วยความรักลูก จึงไปเยี่ยมคุณหญิงมณีที่คุกทุกวันไม่ขาด

ส่วนคุณหญิงแจ่มจันทร์ ซึ่งแม้จะประกาศไม่ยอมให้ไอศูรย์ยุ่งเกี่ยวกับมัทนาและครอบครัวของเจ้าคุณเทพอีก แต่ด้วยความรักมั่นคงของไอศูรย์ที่มีต่อมัทนาเพียงคนเดียว และความดีงามของ มัทนา ทำให้คุณหญิงแจ่มจันทร์เห็นใจยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกันในที่สุด ติดตามชม ละครไฟหวน ได้ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครไฟหวน เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2556

มายาสีมุก 2556

เรื่องย่อ : มายาสีมุก (2556/2013) กองถ่ายละครถ่ายทำฉากบู๊ นักแสดงสาวในชุดนางเสือเล่นได้เก่งกาจ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้นานาชนิดรวมทั้งกระโดดเหินเวหา แต่ท่าสุดท้ายกลับพลาด ตกลงพื้นอย่างหมดท่า ผู้กำกับสั่งคัท หน้ากากเสือถูกเปิดออกให้เห็นเด็กสาวสวยที่ชื่อ ไข่มุก เด็กเสิร์ฟน้ำ ตัวประกอบ และสตั๊นท์เกิร์ล หลังจาก ไข่มุกเดินออกมาอย่างหงอย เพราะเธอถูกสั่งให้ไปตามตัว กีกี้ นางเอกตัวจริงมาเข้าฉากแทนแต่เมื่อเข้ามาในห้องแต่งตัวกลับได้ยินเสียงกีกี้ พลอดรักอยู่กับผู้ชาย ด้วยความอยากรู้ ไข่มุกในชุดนางเสือ จึงห้อยโหนเพื่อแอบดู คีรินทร์ ที่กำลังกอดรัดอยู่กับกีกี้ กีกี้หันมาเห็นหน้ากากนางเสือที่ไข่มุกใส่อยู่ ก็ร้องตกใจ ไข่มุกเองก็ตกใจ รีบวิ่งหนีออกไป คีรินทร์ตะโกนด่าตามหลังอย่างโมโหที่โดนขัดจังหวะ ไข่มุกกลับมาบ้านหลังเก่าในชุมชนแออัด เอาเงินที่ได้จากการทำงานทั้งหมดให้ วันดี อดีตหญิงขอทานเจ้าเล่ห์ นอกจากทำงานหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวแล้ว ความสุขของเธออยู่ที่การได้ดูหนัง ไข่มุกชอบดูหนังมาก และนางเอกหนังเกาหลีในดวงใจของเธอก็คือ จินจู ไม่มีใครรู้เลยว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จินจูได้เดินทางมาถ่ายหนังในประเทศไทย และได้พบรักกับ คธา นักดนตรีหนุ่มชาวไทย และเมื่อกลับไปเกาหลี จินจูจึงรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง แทยอน พาจินจูหลบมาคลอดที่ประเทศไทย เธอพยายามติดต่อคธา คธาเองก็พยายามติดต่อเธอเช่นกัน แต่ก็โดนแทยอนขัดขวางทุกทาง ทำให้จินจูเข้าใจคธาผิด คิดว่าเขาไม่ต้องการเธอกับลูก จินจูคลอดลูกเป็นหญิง และถอดจี้ไข่มุกประจำตัวเธอให้พยาบาลวางไว้ข้างตัวเด็กทันทีที่คลอด เพื่อเป็นเครื่องหมายโชคดี พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า ยองแอ แทยอนให้คนเอายองแอไปทิ้ง และโกหกจินจูว่า ลูกสาวเธอได้ตายไปแล้ว วันดี ที่กำลังเสียใจที่ลูกตายเพราะคลอดก่อนกำหนดได้มาเจอยองแอที่หน้าตาน่ารักจึง เก็บไปเลี้ยง หวังพาไปขอทานด้วยเพื่อให้คนสงสาร เธอจะได้เงินเยอะๆ วันดีได้เห็นจินจูที่ร้องไห้คร่ำครวญขณะจะออกจากโรงพยาบาล จึงได้รู้ว่าเด็กน้อยที่เจอเป็นลูกของหญิงสาวหน้าตาสวยคนนี้เอง แต่วันดีก็ไม่กล้าเอาเด็กไปคืนเพราะกลัวแทยอน จินจูกลับประเทศเกาหลีไปอย่างใจแตกสลาย ไข่มุกโตมาอย่างลูกขอทานในชุมชน แต่ด้วยความใฝ่ดี ทำให้เธอมุ่งมั่นเรียนหนังสือจนจบ แต่เงินที่หามาได้ ก็จะโดน เม่น รีดไถไปหมด วันดีจึงต้องกู้ยืมจาก ชลลดา เจ้าแม่เงินกู้ จนดอกเบี้ยท่วมเงินต้นไปหลายเท่า ต้องยอมขายไข่มุกเพื่อให้ไปเป็นคนใช้ในบ้านชลลดา บ้านชลลดาเองก็ไม่ใช่ว่ารวยจริง เธอเองก็เป็นหนี้ เขมทัต อยู่ไม่น้อย จนเคยตกลงจะยก ภัททิมาให้แต่งงานกับคีรินทร์ แต่ภัททิมาไม่ยอม เพราะถือตัวว่ามาจากสกุลเก่ามีชื่อ ในขณะที่คีรินทร์ เป็นพวกเศรษฐีใหม่ ภัททิมาเองก็มี พิพัฒน์ แล้ว ถึงเขาจะไม่เอาไหน แต่ภัททิมาก็ยังภูมิใจ ที่แฟนหนุ่มมีนามสกุลดัง เชิดหน้าชูตาเธอได้อย่างมาก แม้จะมีแค่เปลือกก็ตาม เขมทัตเร่งรัดการแต่งงาน หวังให้คีรินทร์หายเสเพลสักที ภัททิมาปฏิเสธเด็ดขาด ไม่ยอมแต่งกับคีรินทร์ คีรินทร์มาที่บ้านชลลดาตามคำสั่งของเขมทัต แต่ได้เจอไข่มุก เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นภัททิมา คีรินทร์กรุ้มกริ่มใส่ทันทีเพราะเห็นไข่มุกสวย ชลลดาเลยได้ความคิด ให้ไข่มุกสวมรอยแต่งงานเป็นลูกสาว เพื่อแต่งงานกับคีรินทร์ โดยเธอกับภัททิมายังวางแผนรีดเงินจากไข่มุกเป็นค่าปิดบังความจริง คีรินทร์ซึ่งปฏิเสธการแต่งงานมาตลอดกลับยอมที่จะแต่งงานตามคำสั่งของพ่อ ไข่มุกเองก็จำใจต้องแต่งงาน เพื่อให้วันดีได้เงินก้อนโต ไปใช้หนี้ที่เม่นก่อไว้ หลังจากแต่งงาน คีรินทร์พยายามจะให้ไข่มุกเป็นภรรยาของเขาอย่างสมบูรณ์ แต่เธอก็หาทางเอาตัวรอดมาตลอด คีรินทร์เห็นถึงความจริงใจและความเป็นคนดีของเธอ เลยคิดอย่างสนุกว่าจะยอมรอต่อไปเพื่อเอาชนะใจเธอให้ได้ก่อน ไข่มุกในนามของภัททิมา ต้องอยู่ในบ้านคีรินทร์อย่างไม่มีความสุข แม้เขมทัตจะเอ็นดูเธอ แต่ มณี กลับตั้งท่ารังเกียจเปิดเผย เพราะรู้กิตติศัพท์ความใจแตกของภัททิมามาก่อน แถมยังเจอกับการเกลียดชังของ นุชนารถ มีเพียง หนูนา ที่เห็นใจและเข้าข้าง ช้อย เองก็ตั้งท่าใส่ นอกจากนี้ไข่มุกยังต้องวุ่นวายกับบรรดาสาวๆ ของคีรินทร์ ภัททิมาที่โกหกว่าเป็นหลานของชลลดาได้เห็นคีรินทร์ใกล้ชิดก็ชักเสียดาย เข้ามาวอแวพร้อมใส่ร้ายไข่มุกสารพัด หาว่าเป็นแฟนลับๆ ของพิพัฒน์ ทำให้คีรินทร์ที่เกือบจะรักไข่มุกหลายครั้งต้องชะงัก ชักลังเล ไข่มุกได้แต่แปลกใจที่บางทีคีรินทร์ก็แสนดีกับเธอ แต่บางครั้งก็แสนร้ายจนเหลือทน ชลดาและภัททิมาคอยรีดไถเงินจากไข่มุก ทำให้ไข่มุกเป็นทุกข์ที่ต้องหลอกลวงคนที่ตนรัก ไข่มุกอยากบอกความจริงกับคีรินทร์แต่ก็ไม่กล้า เพราะเธอเกิดรักคีรินทร์ขึ้นมาแล้วจริงๆ และกลัวว่าถ้าหากบอกความจริงไป คีรินทร์คงโกรธและยอมรับเธอไม่ได้ นอกจากนี้นุชนารถก็ยังคอยหาทางกลั่นแกล้งไข่มุกเพราะต้องการแย่งคีรินทร์กลับไป ไข่มุกได้พบอาคธา นักดนตรีที่เล่นอยู่ในโรงแรมของคีรินทร์ ซึ่งที่จริงแล้วก็คือพ่อแท้ๆ ของเธอนั่นเอง ไข่มุกแปลกใจที่เธอรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้คธา และก็เช่นเดียวกันกับคธาที่ถูกชะตา และเกิดความปรารถนาดีกับนายสาวของเขาตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอ ด้านจินจูมีชีวิตอย่างทุกข์ระทม คิดถึงลูกสาว แทยอนทนไม่ไหว ต้องยอมสารภาพว่ายองแอยังมีชีวิต จินจูมีความหวังในชีวิตขึ้นอีกครั้ง เธอเดินทางมาประเทศไทย หวังหาตัวยองแอให้พบ แทยอนตามมาด้วยเพื่อจะได้ลบล้างความผิด คีรินทร์เดินทางไปเกาหลีเพื่อเจรจาร่วมทุนในธุรกิจโรงแรมกับทางเกาหลี โดยพาไข่มุกเดินทางไปด้วย จากความรู้สึกที่ดี ก็กลายเป็นความรักโดยที่ทั้งสองคนไม่รู้ตัว ไข่มุกได้พบจินจูโดยบังเอิญ ทั้งสองถูกชะตากันมาก จนสนิทอย่างรวดเร็ว จินจูนึกเอ็นดูไข่มุกมาก หวังว่ายองแอจะน่ารักเหมือนสาวไทยคนนี้ วัฒนาหวังได้คุยโปรเจ็คร่วมทุนกับทางเกาหลี แต่เมื่อเขมทัตให้คีรินทร์ดูแล วัฒนาจึงหาทางแกล้งทำให้การเซ็นสัญญามีปัญหา โชคดีที่จินจูช่วยไว้ ทวยไทย เห็นกิจการของคีรินทร์มีอนาคตดี จึงไล่ซื้อหุ้นจนได้เป็นกรรมการ และยังคิดหาทางฮุบโรงแรมมาเป็นของตนให้ได้ แทยอนกับจินจูมาพักที่โรงแรมของคีรินทร์ แทยอนให้นักสืบตามหายองแอ จนรู้ว่ามีหญิงขอทานที่ลูกเพิ่งตายพาเด็กหญิงอีกคนกลับไป แทยอนกับจินจูออกตาม แต่คนแถวนั้นบอกว่าวันดีย้ายบ้านไปสิบกว่าปีแล้ว จินจูเริ่มจะหมดหวัง เธอได้พบคธา ทั้งสองต่างพูดประชดประชันกันด้วยความแค้นและความรัก คีรินทร์นึกเกรงใจและรักไข่มุกมากขึ้น จนทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน วัฒนาเห็นวันดีตามมาขอเงินไข่มุกถึงโรงแรม ก็ให้คนตามไปสืบจนรู้ความจริง วัฒนาให้คนจับวันดีและเม่นไปขัง ขู่ให้ไข่มุกบอกความจริงต่อหน้าทุกคน ไม่งั้นจะฆ่าวันดีกับเม่น ไข่มุกจึงต้องยอมสารภาพ ชลลดาเอาตัวรอดใส่ร้ายไข่มุกหนักขึ้นไปอีก ไข่มุกโดนไล่ออกจากบ้าน แต่ชลลดากับภัททิมาได้อยู่ต่อ เพราะเขมทัตนึกถึงบุญคุณของสามีเธอ ที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ นุชนารถพยายามหาทางให้คีรินทร์แต่งงานกับเธอ แต่เมื่อไม่ได้ผล จึงลักพาตัวเขาไป โดยฉีดยากล่อมประสาทเพื่อจะได้ควบคุมตัวไว้ได้ ไข่มุกมาช่วยไว้ทัน แต่ชลลดากับภัททิมาก็อ้างว่าเป็นความชอบของพวกเธอตามเคย ด้วยความรักที่มีให้เพียงไข่มุก แต่ก็ไม่ยอมรับกับตัวเอง คีรินทร์จึงบังคับให้ไข่มุกกลับมาอยู่ที่บ้านเขา โดยอ้างว่าต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้เขา 1.5 ล้านบาทให้ได้ก่อน เงินก้อนนี้คีรินทร์ใช้หนี้ให้ชลลดา ไข่มุกจึงต้องมารับผิดชอบแทน เมื่อกลับมาอยู่ในบ้านคีรินทร์อีกครั้ง จากภรรยาคีรินทร์ ไข่มุกต้องเปลี่ยนสถานะไปเป็นสาวใช้แทน ไข่มุกจึงโดนมณี ชลลดา ภัททิมาและช้อยกดขี่ ประณามและเหยียดหยันสารพัด แต่เธอก็อดทนทุกอย่าง เพราะรักคีรินทร์ ไข่มุกรู้ตัวว่าท้องแต่ไม่กล้าบอกคีรินทร์ เพราะรู้ว่าเขาคงยอมรับไม่ได้ที่จะมีลูกกับลูกสาวขอทาน นุชร่วมมือกับวัฒนา จับตัวมณี ชลลดา และภัททิมาไปเรียกค่าไถ่ ระหว่างโดนจับ ภัททิมาแสดงความเห็นแก่ตัว จนมณีรู้สึก คีรินทร์มาเจรจากับวัฒนา ไข่มุกรู้เรื่องก็แอบไปช่วยมณี ภัททิมาและคีรินทร์โดยไม่คิดชีวิต วัฒนาตั้งใจจะฆ่าคีรินทร์จึงไม่ยอมเจรจา จนเกิดการต่อสู้กันขึ้น ไข่มุกเข้าช่วยคีรินทร์จนตัวเองได้รับบาดเจ็บ เขมทัตพาตำรวจเข้าไปช่วย และจับตัววัฒนากับนุชนารถได้ในที่สุด ไข่มุกบาดเจ็บสาหัส ทุกคนจึงได้รู้ว่าเธอกำลังตั้งท้อง คีรินทร์เชื่อว่าเป็นลูกของตน พิพัฒน์ยอมเล่าเรื่องจริงให้ฟังทั้งหมด เพราะไม่ต้องการให้ภัททิมาทำร้ายใครอีกต่อไป คีรินทร์เสียใจที่เข้าใจไข่มุกผิด เมื่อต้องพบกับความรู้สึกที่อาจต้องสูญเสียไข่มุกไปหากไข่มุกไม่ฟื้น ทำให้คีรินทร์รู้ใจตัวเองว่ายังรักไข่มุกอยู่และยอมลดทิฐิลง จินจูสืบจนรู้ว่าวันดีคือหญิงขอทานที่เอายองแอไป จึงขอให้วันดีช่วยบอกที่อยู่ของลูกสาวเธอ แต่วันดีไม่ยอมรับ ปฏิเสธทุกอย่าง เม่นจะไถเงินจากวันดี เมื่อเธอไม่ให้ก็ซ้อม วันดีสู้ แต่พลั้งมือฆ่าเม่นตายโดยไม่ตั้งใจ วันดีติดคุก ไข่มุกหาเงินไปประกันตัวแม่ ตัดใจเอาสมบัติที่มีไปขายจินจู จินจูเห็นจี้มุกก็จำได้ว่าเป็นของเธอที่ให้ยองแอไว้ จินจูนึกรู้ว่าไข่มุกก็คือยองแอนั่นเอง ทุกคนตกใจที่รู้ความจริงทั้งหมด จินจูพาไข่มุกกลับเกาหลีโดยไม่สนใจคีรินทร์ คีรินทร์ตามไปเกาหลี เพื่อจะปรับความเข้าใจกับไข่มุก ด้านคธาพอรู้ว่าไข่มุกเป็นลูกก็ดีใจตามไปปรับความเข้าใจกับจินจู ทั้งคู่ได้จัดงานแต่งงานกันอย่างถูกต้องเสียที ไข่มุกดีใจกับพ่อและแม่ท่จะมีความสุขหลังพลัดพรากมานาน ส่วนคีรินทร์ก็พยายามง้อไข่มุก และยอมรับว่าเขามีใจรักเธอมานานแล้ว คีรินทร์ยังสัญญาจะปรับนิสัยเรื่องเจ้าชู้ และจะให้เกียรติไข่มุก รักเดียวใจเดียวตลอดไป ไข่มุกใจอ่อนเพราะใจก็หลงรักคีรินทร์ด้วยเช่นกัน ไข่มุกยอมกลับบ้านคีรินทร์ที่เมืองไทยมาอยู่ในฐานะภรรยา มณีเองก็ยอมรับไข่มุกเพราะเห็นความดีของเธอ ไข่มุกสัญญากับคีรินทร์ว่า จะไม่มีความลับกับคีรินทร์อีกตลอดไป….

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง 2556

เรื่องย่อ : ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง (2556/2013) ครอบครัววิชเวทย์ เป็นครอบครัวที่ร่ำรวย มีความเป็นอยู่ที่หรูหรา มีบ้านใหญ่โตชื่อ มโนรมย์ และยังเป็นเจ้าของกิจการบริษัท รัตนกิจก่อสร้าง โดยมี นายประสิทธิ์ วิชเวทย์ (เจค-ศตวรรษ ดุลยวิจตร) และ คุณอังกาบ ภรรยา เป็นผู้ดูแลกิจการของบริษัท แต่ต่อมานายประสิทธิ์และคุณอังกาบ ได้ถึงแก่กรรมเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ บุตรทั้ง 3 คนจึงต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต อสิต (เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูกชายคนโตและ ลลิตา (หยก-ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ภรรยาจึงได้เข้ามาดูแลกิจการของบริษัท อรชา (นุ้ย-ภัสรภรณ์ เจติยานุวัตร) น้องสาวคนรองช่วยดูแลกิจการในบ้าน ส่วน อนุช (ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่) น้องสาวคนสุดท้องเรียนหนังสืออยู่ที่อังกฤษ แต่เมื่อสถานการณ์ทางการเงินได้เปลี่ยนแปลง อนุชจึงต้องหาผู้อุปการะและได้รับความช่วยเหลือจาก ป๋า ชายสูงอายุคนหนึ่งจากประเทศไทย เพราะลูกสาวที่ตายไปชื่อนุชเหมือนกัน ต่อมาบริษัทรัตนกิจก่อสร้างได้ถูกว่าจ้างจากมหาเศรษฐีหนุ่มชื่อ กร้าว ศุภกาญจน์ (เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ) ให้รับเหมาสร้างโรงแรมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท อนุชเดินทางกลับเมืองไทยมาพร้อม กรวิก พัชรกุล (ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก) เพื่อนรักที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน และได้พบกับกร้าวชึ่งไปรับกรวิก เพราะกร้าวและกรวิกต่างก็มีใจให้กัน ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่กร้าวและอนุชจะได้พบกันที่บ้านของกรวิกเสมอ ความรู้สึกที่อนุชมีต่อกร้าวก็คือ กร้าวเป็นคนที่ลึกลับ ประหลาดและเย็นชา แต่ต่อมาเธอกลับคิดถึงแต่กร้าว และทำให้ความรู้สึกของเธอที่มีต่อ ชายธง (แม็ค-วีรดนย์ หวังเจริญพร) คนรักของเธอนั้นเปลี่ยนไป แม้ชายธงจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ อนุชก็ปฏิเสธว่ายังไม่พร้อม ต่อมา นายชาติ นิติชัย (ชลิต เฟื่องอารมมย์) ลุงของกร้าวเกิดล้มป่วย ซึ่งบังเอิญที่นายชาติก็คือป๋าผู้อุปการะของอนุชนั่นเอง อนุชจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ดูแล โดยเป็นไปตามที่กร้าวได้วางแผนไว้ กร้าวจึงเริ่มทำตามแผนกับผู้หญิงคนต่อไปนั่นคือ อรชาและลลิตา ดังนั้นเวลานี้ผู้หญิงทุกคนในวิชเวทย์จึงเสมือนตกอยู่ในเวทย์มนต์ของกร้าว เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อสถานการณ์การเงินของอสิตย่ำแย่ขึ้น หากเจ้าหนี้ไม่ได้เงินก็จะยึดบ้านมโนรมย์ กร้าวจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยจ่ายเงินให้ 20 ล้านบาทเพื่อไถ่ถอนบ้าน เพราะฉะนั้นบ้านจึงได้เปลี่ยนมือไปเป็นของกร้าว หนำซ้ำยังเลวร้ายขึ้นเมื่ออสิตถูกรถชนอาการสาหัส เหตุการณ์นี้ทำให้กร้าวมีโอกาสเข้าไปใกล้ชิดกับลลิตา กร้าวทำให้ลลิตาพร้อมที่จะเป็นชู้กับเขา พฤติกรรมระหว่างกร้าวและลลิตามีผู้พบเห็นนั่นคือชายธงนั่งเอง เขานำเรื่องไปบอกกับอนุช อนุชทั้งเกลียดทั้งเศร้าใจต่อพฤติกรรมของทั้ง 2 คน ส่วนอรชานั้น กร้าวทั้งซื้อของให้และป้อนคำหวาน กร้าวได้บอกให้อรชาเลิกคบกับ ปรารภ (โน๊ต-วัชรบูล ลี้สุวรรณ) คนรักของเธอ ซึ่งอรชาก็เชื่อและทำตามคำของกร้าว อนุชรู้เรื่องเข้าจึงได้บอกให้กร้าวเลิกยุ่งกับพี่สะใภ้และพี่สาวของเธอ กร้าวจึงเสนอให้เธอแต่งงานกับเขา เธอตกลงแต่ง เพราะไม่อยากให้อสิตเสียใจ และช่วยอรชาที่เคยบอกว่าเกลียดกร้าว แต่สิ่งที่ตามมาคือลลิตาและอรชาต่างเสียใจและโกรธแค้น อรชาจึงประชดชีวิตด้วยการแต่งงานเงียบ ๆ กับปรารภ ส่วนกรวิกเสียใจมากจึงหนีไปอยู่อเมริกาพร้อมกับครอบครัว ต่อมาระหว่างที่กร้าวอยู่กับอนุช เขาขอเวลา 1 ปีที่จะหย่ากับอนุช แต่เขากลับระงับความต้องการไม่ได้ จึงใช้กำลังข่มขืนอนุชให้เป็นภรรยา โดยให้เหตุผลที่เขาต้องทำกับวิชเวทย์เช่นนี้เพราะแม่ของเขาถูกพ่อของอนุชข่มขืน แม้ว่าแม่จะมีเขาแล้ว แม่เจ็บแค้นเสียจริตและจากโลกนี้ไป ตอนนี้อนุชจึงเปรียบเหมือนลูกไก่ในกำมือของกร้าว ส่วนทางลลิตายังคงคิดถึงความสัมพันธ์กับกร้าว จึงได้หย่ากับอสิตและพยายามยั่วยวนกร้าว แต่กร้าวทั้งโกรธทั้งขยะแขยง จึงด่าว่าลลิตาอย่างรุนแรง ซ้ำยังถามลลิตาว่ายังจำ ชีวิต ได้หรือไม่ คนที่เธอหักอกเขาและทำให้เขาเสียใจจนต้องฆ่าตัวตาย ชีวิตเป็นน้องชายของเขาเอง และกร้าวยังพูดเยาะเย้ยลลิตาว่าเป็นผู้หญิงไม่มีค่าไม่มีราคา ลลิตาทั้งเจ็บทั้งอายและโกรธแค้น จึงใช้ปืนยิงกร้าว แต่อนุชเข้ามารับกระสุนแทน ทำให้ชีวิตของอนุชมีความเป็นและความตายเท่ากัน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ชีวิตของทุกคนได้เปลี่ยนไป อรชากำลังให้กำเนิดทายาทคนแรก อสิตเดินทางไปอเมริกาเพื่อหาประสบการณ์การทำงาน ลลิตาถูกตัดสินจำคุก ส่วนอนุชได้หายเป็นปกติ และกร้าวก็ได้บอกความในใจของเขาต่ออนุชว่า ความจริงแล้วเขารักนางฟ้าที่ชื่อว่าอนุช ความสนุกเข้มข้น ดราม่า เชือดเฉือนอารมณ์ บีบคั้นทุกฉากทุกตอน ต้องติดตามชม ละครร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง เปิดประเดิมตอนแรกวันศุกร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556

วิมานมะพร้าว 2556

วิมานมะพร้าว (2556/2013) อาก๋ง ผู้ล่วงลับแต่วิญญาณยังคงห่วงโรงงานแปรรูปมะพร้าวเนื่องจากรู้ว่าผู้จัดการวางแผนยักยอกเงินและหวังทำลายชื่อเสียงโรงงาน มีเพียง จุลลา วิศวกรสาวสวยประจำโรงงานคนเดียวเท่านั้นที่มองเห็นและสื่อสารกับวิญญาณอาก๋งได้ อาก๋งจึงตามอ้อนวอนกึ่งบังคับให้จุลลาช่วยเปิดโปงแผนการร้ายและพยายามผลักดันให้ความรักระหว่างเธอกับหลานชายของเขาลงเอยกันด้วยดี

สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย 2556

สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย (2556/2013) เรื่องราวของ หรั่ง เด็กหนุ่มลูกกำพร้า สิ่งเดียวที่ติดตัวเขามาก็คือ ร็อกเก็ตรูปไวโอลิน ที่เขาเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี มันเป็นเพียงสมบัติชิ้นเดียวที่เขามี หรั่งรับจ้างทำงานสารพัดเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนและเพื่อหาเงิน มาเป็นค่าผ่าตัดตาให้ ก้อย หญิงสาวตาบอดที่หรั่งรับมาดูแลอย่างน้องสาว ถึงชีวิตจะไม่ร่ำรวยแต่หรั่งก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังเล็ก ๆ ในชุมชนแออัดกับก้อยและมีเพื่อนร่วมชุมชนอย่าง โบ้ เท่ห์ เช็ง ความสุขของหรั่งอีกอย่างก็คือ การได้เฝ้ามองดู แพรวา สาวสวยไฮโซ หรั่งรู้ตัวดีว่าเขากับแพรวาแตกต่างกันมากและ แพรวามีคู่รัก คือ ตะวันฉาย อยู่แล้ว หรั่งได้แต่มองแพรวาแบบหมาวัดหมายปองดอกฟ้าอย่างไรอย่างนั้นแต่แล้วหรั่งก็มีโอกาสได้เจอกับแพรวา แพรวาก็เริ่มประทับใจในความมีน้ำใจของหรั่ง เมื่อเธอต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของครอบครัว เธอจึงได้ขอให้หรั่งเข้าไปทำหน้าที่ผู้ช่วยให้เธอ การได้เข้ามาใกล้ชิดกับแพรวาในฐานะผู้ช่วยทำให้หรั่งได้รู้ว่าแพรวาไม่ต้องการจะเข้ามาทำงานที่บริษัท ซึ่งตรงข้ามกับความตั้งใจของ เผ่าลาภ ที่อยากผลักดันให้แพรวาขึ้นมาสืบทอดตำแหน่ง เพื่อที่เขาจะได้ไปลงเล่นการเมืองได้เต็มตัว เผ่าลาภหวังว่าการลงไปเล่นการเมืองในพรรคของ สุริยะ พ่อของตะวันฉาย จะเป็นใบเบิกทางไปสู่สัมปทานบัตรเหมืองพลอยแห่งใหม่ แต่การขอสัมปทานก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะกลับมีคู่แข่งอย่าง แสงเทพ เข้ามาขอสัมปทานให้กับบริษัท เทพทอแสง ด้วยการใช้สุริยะเป็นทางลัดเหมือนกัน การที่เผ่าลาภดันแพรวาขึ้นมาแทนที่ สร้างความไม่พอใจให้กับบารมีและอรทัย น้อง ๆ ของเผ่าลาภ เผ่าลาภรู้ดีว่าคนสองคนนี้ห่วงแต่ประโยชน์ส่วนตัว เขาจึงพยายามกันตำแหน่งไว้ให้แพรวา แต่ปัญหาก็คือแพรวาไม่มีความสามารถพอ เผ่าลาภจึงได้มอบภาระให้หรั่งทำทุกวิถีทางให้แพรวากลายเป็นผู้บริหารที่ดีให้ได้ เผ่าลาภเริ่มมีอาการปวดหัวเนื่องจากโรคความดันบ่อย ๆ เขาเริ่มกลัวว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นาน ดังนั้นเขาจึงเร่งรัดให้หรั่งช่วยสอนให้แพรวาเป็นนักบริหารที่ดีโดยเร็ว หรั่งให้สัญญา เผ่าลาภบอกกับหรั่งว่าเขาถูกชะตากับหรั่งอย่างบอกไม่ถูก หรั่งถือโอกาสสารภาพกับเผ่าลาภว่าเขาเคยเจอกับเผ่าลาภมาก่อนแล้ว ตอนที่เขาตามคณะคนงานก่อสร้างไปสร้างบ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาได้พบกับแพรวาเป็นครั้งแรก แต่แพรวายังเด็กมากจึงจำเขาคนที่เคยช่วยเธอจากการถูกกลุ่มเด็กอื่นรังแกไม่ได้ เมื่อเผ่าลาภรู้ว่าหรั่งคือเด็กชายคนที่ห้อยสร้อยไวโอลินเส้นนั้นก็ตกใจมาก บารมีร่วมกับอรทัยยักยอกพลอยในสต็อกของบริษัทไปขาย ทำให้บริษัทซึ่งกำลังต้องการขายพลอยก้อนเพื่อเอาเงินมาหมุนต้องเดือดร้อน เผ่าลาภไล่บารมีและอรทัยออก เผ่าลาภเองเครียดจัดจนถึงกับเส้นเลือดในสมองแตกกลายเป็นอัมพาต ทำให้แพรวาต้องขึ้นรักษาการแทน ในขณะที่กำลังวุ่นวายกับปัญหาการเงินของบริษัท ตะวันฉายก็มาขอเลิกกับแพรวา แพรวาเสียใจอย่างมากแต่โชคดีที่มีหรั่งคอยอยู่เคียงข้าง ทำให้เธอทำใจได้เร็วกว่าที่คิด หรั่งถือโอกาสบอกความจริงกับแพรวาเรื่องที่เขาและเธอเคยเจอกันมาก่อนเมื่อ ตอนเด็ก เมื่อแพรวารู้ว่าหรั่งคือเด็กชายตัวโตคนนั้นก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ความผูกพันจากวัยเด็กทำให้คนทั้งคู่ยิ่งรู้สึกดีต่อกัน แพรวายอมรับความรู้สึกตัวเองแล้วว่าเธอมีใจเริ่มรักหรั่งเข้าแล้ว แต่แล้วขณะที่ทุกอย่างเริ่มจะดีขึ้น เผ่าลาภก็มาด่วนจากไปอย่างกะทันหันในเหตุการณ์ลิฟต์ระเบิด ตำรวจพบว่าการตายของเผ่าลาภนั้นเป็นการฆาตกรรม ด้วยพยานหลักฐานที่มัดตัวทำให้หรั่งกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ญาติ ๆ ทุกคนคิดว่าหรั่งตั้งใจฆ่าเผ่าลาภแล้วใช้ความไว้วางใจที่แพรวามีให้เข้ามายึดอำนาจในบริษัท แพรวานึกไม่ถึงว่าหรั่งจะมีแผนไม่ซื่อกับเธอ หรั่งหมดอิสรภาพ เขาถูกจับเข้าคุกทันที แพรวารู้สึกผิดหวังในตัวหรั่งอย่างมาก คืนหนึ่งลูกน้องของเผ่าลาภพาแพรวามาที่บ้านหลังหนึ่ง ที่นั่นแพรวาได้เจอกับเผ่าลาภและหรั่ง เธอจึงได้รู้ความจริงว่าเผ่าลาภแกล้งตายแล้วให้หรั่งเป็นแพะรับบาปในคดี เพื่อจะหาหลักฐานมาดัดหลังคนที่วางแผนฆาตกรรมตัวจริง แพรวาได้รู้ว่าคนบงการฆ่าตัวจริงคือ แสงเทพและตะวันฉายที่ต้องการจะฆ่าเผ่าลาภเพื่อให้ตัวเองเป็นฝ่ายได้สัมปทาน แล้วเอาที่ดินนั้นไปใช้เป็นโกดังเก็บของเถื่อนโดยใช้การทำเหมืองพลอยบังหน้า แต่แผนของแสงเทพก็ถูกเปิดเผยด้วยโน้ตลับจากบารมีที่เริ่มสำนึกได้แล้วเขียนมาเตือนเผ่าลาภให้ไหวตัวก่อน แพรวาร่วมมือกับหรั่งที่ยังแสร้งติดคุกอยู่หาหลักฐานมาเปิดโปงเทพทอแสงทำให้แสงเทพถูกจับและสัมปทานก็ตกมาเป็นของบริษัท แพรวาอยากลาออกแล้วคืนตำแหน่งให้เผ่าลาภ แต่เผ่าลาภปฏิเสธ เขาต้องการให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาตายไปแล้วเพื่อที่เขาจะไปใช้ชีวิตเงียบสงบในบั้นปลาย ก่อนจะไปเผ่าลาภบอกความจริงกับหรั่งว่าที่จริงนั้นหรั่งเป็นลูกชายของเผด็จศึก พี่ชายของเขาที่ตายไป หรั่งไม่เข้าใจ เผ่าลาภบอกว่าถ้าหรั่งคือเด็กผู้ชายคนที่ห้อยสร้อยคอไวโอลินคนนั้น หรั่งก็คือลูกของเผด็จศึกแน่ ๆ เพราะก่อนเผด็จศึกจะตายเคยบอกกับเผ่าลาภไว้ว่าเขามีลูกชายหนึ่งคนที่มีร็อกเก็ตไวโอลินเป็นสัญลักษณ์ หรั่งทนรับความจริงไม่ได้เมื่อรู้ว่าเขากับแพรวาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรั่งจึงหนีหน้าไป ทิ้งให้แพรวาดำเนินงานไปคนเดียว น้าเบิ้ม พ่อของโบ้มาบอกความจริงแก่หรั่งว่าที่จริงร็อกเก็ตนั้นไม่ได้เป็นของหรั่ง แต่เป็นของที่ติดตัวโบ้มาตั้งแต่เด็ก น้าเบิ้มเป็นเพียงคนที่เก็บโบ้มาเลี้ยงแล้วก็เป็นคนถอดสร้อยนั้นใส่ให้หรั่งเองโดยไม่คิดอะไร หรั่งจึงรู้ความจริงว่าโบ้ต่างหากที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแพรวา หรั่งรีบไปหาแพรวาที่บริษัทขณะกำลังแถลงข่าวของบริษัทอยู่ หรั่งไปในเวลาที่มือปืนลึกลับกำลังเล็งปืนขึ้นยิงบารมีพอดี บารมีถูกยิงล้มลง หรั่งปราดเข้าไปถึงตัวมือปืนทำให้ลูกกระสุนพลาดไปถูกแพรวาหนึ่งนัด หรั่งวิ่งเข้าไปหาแพรวาแล้วบอกความจริงกับแพรวาว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน แพรวาหมดสติไปในอ้อมแขนหรั่ง เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บารมีเสียชีวิต ตำรวจสืบสวนจนรู้ว่าตะวันฉายเป็นคนสั่งฆ่าบารมีปิดปากเพราะบารมีรู้ว่าเขาเป็นคนบงการฆ่าเผ่าลาภ ตะวันฉายถูกจับดำเนินคดี ส่วนหรั่งนั้นเขาไปใช้ชีวิตอยู่ที่เก่าแห่งหนึ่งเพื่ออยู่ดูแลแพรวาที่อยู่ในระหว่างมาพักรักษาตัว หรั่งบอกแพรวาว่าเขาจะขอปกป้องดูแลแพรวาอย่างที่เขาเคยทำมาตั้งแต่เด็กและจะทำเช่นนี้ตลอดไป

ฟ้าจรดทราย 2556

ฟ้าจรดทราย (2556/2013) ณ โรงเรียนคอนแวนต์ของคณะชีที่มีชื่อในฝรั่งเศสตอนเหนือ มิเชลล์ เดอลาโรนีส์ (ขวัญ อุษามณี) ได้เติบโตขึ้นที่นี่หลังจากพ่อกับแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน และญาติพี่น้องไม่มีใครยอมรับเพราะมีแม่เป็นชาวตะวันออกที่ถูกรังเกียจ เธอสำนึกบุญคุณที่คอนแวนต์แห่งนี้รับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าเช่นเธอ จึงตั้งใจจะเรียนเป็นชี แต่ แคชฟียา (เอมมี่ มรกต) เพื่อนสาวชาวตะวันออกไกล ได้ชวนมิเชลล์ไปช่วยทำงาน เพราะเธอคิดจะเปิดโรงเรียน แม่อธิการจึงให้ทุนมิเชลล์เข้ามาเรียนในปารีสและพักในอารามของชี ส่วนแคชฟิยา ก็เรียนที่ปารีส แต่อาศัยอยู่กับพี่ชาย - พี่สะใภ้ ของเธอ ซึ่งทำงานในสถานฑูต แคชฟิยามีแฟนชื่อ โรแบร์ (สเตฟาน ฐสิษฐ์) ตั้งใจว่าเรียนจบแล้วจะตามไปทำงานที่เมืองเกซาห์ เมืองท่าของประเทศซูดานของแคชฟียา พี่ชายแคชฟียารู้ก็ก็กีดกันโรแบร์ เพราะต่างชาติต่างศาสนากัน ไม่เป็นที่ยอมรับของชนชาติของเธอ เมื่อเรียนจบ มิเชลล์ กลับมาลาแม่อธิการและบอกว่าจะไปทำงานที่เมืองเกซาห์ โรแบร์ได้งานในบ่อน้ำมันเมืองหลวงของซูดาน และแอบมาพบแคชฟียาที่เกซาห์ เธอขอร้องให้มิเชลล์ช่วย เพราะมิเชลล์เป็นชาวต่างชาติสามารถพบกันอย่างเปิดเผย ซึ่งผิดกับที่เมืองนี้ห้ามหญิงชายพบกันตามลำพังยกเว้นสามีภรรยากัน มิเชลล์ ไม่เห็นด้วยเพราะผิดประเพณีของเกซาหห์ แคชฟียา โกรธที่มิเชลล์ไม่ช่วย และว่ามิเชลล์แอบชอบโรแบร์ ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ มิเชลล์ จึงต้องทำตามเพราะแคชฟียาเปลี่ยนไปมากหลังจากกลับมายังบ้านของเธอ คือชอบแสดงอำนาจและข่มขู่เหมือนกับที่เคยทำกับพวกทาสในบ้านของเธอ พอนัดพบกับโรแบร์ได้ เขากลับแสดงความรักต่อมิเชลล์ และขอเธอแต่งงาน เพราะระหว่างเขากับแคชฟียานั้นมีอุปสรรคเกินไป แคชฟียาแอบได้ยินทั้งสองคุยกัน หลังจากนั้นเธอก็แสดงตัวเป็นเจ้านายและข่มขู่มิเชลล์ เธอรู้สึกเสียใจที่เพื่อนรักเปลี่ยนไปมาก แม่ของแคชฟียา บอกว่าจะส่งตัวแคชฟีเข้าวังเพื่อเป็นมเหสีขององค์อาหเม็ดที่ 3 (อานัส ฬาพานิช) ของนครฮิลฟารา เพราะโหรหลวงได้ทำนายว่าท่านจะได้มเหสีผู้มาจากแดนไกลและมีความรู้อันหมายถึงแคชฟียาที่เพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสนั่นเอง หญิงผู้นี้จะให้โอรสแก่ราชวงศ์เป็นคนแรก แคชฟียากลุ้มใจมาก เพราะไม่อยากไปอยู่ในฮาเร็ม วันต่อมาแคชฟียาจับเด็กในบ้านคนหนึ่งที่แอบส่งจดหมายนัดของโรแบร์มาให้มิเชลล์ หล่อนลงมือตบตีเด็กอย่างแค้นใจ และมีแผนการใหม่สำหรับมิเชลล์ ที่โฮเต็ลอุลดรารัน ที่นัดพบกับโรแบร์ เขาชวนเธอแต่งงานกลับไปอยู่ฝรั่งเศส แต่มิเชลล์ไม่สามารถรับข้อเสนอได้ และแคชฟียาแอบตามไปด้วย ขณะอยู่ในห้องอาหารได้มีการต้อนรับแขกคนสำคัญขององค์อาหเม็ด ซึ่งมาจากอาฟริกา คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่มิเชลล์ได้เห็นทหารองครักษ์ที่มาจากในวังขององค์อาหเม็ด เมื่อกลับมาบ้านเศรษฐีเกซาห์ มิเชลล์พบว่าแคชฟียากำลังขับไล่แม่ลูกจัสปาล ชื่อ ติเยาะ (ฟร้อนท์ มอนโกเมอรี่) กับ มูฮา ซึ่งเป็นเด็กที่แอบมาส่งจดหมายให้เธอนั่นเอง เธอรู้สึกสงสารติเยาะกับมูฮาที่ต้องเดือดร้อนเพราะเธอ มิเชลล์แอบให้เงินแม่คู่นั้นไปเป็นการขอโทษ วันที่ได้ฤกษ์ส่งตัว แคชฟียาหลอกให้มิเชลล์ไปตามที่ทางวังนัดมารับตัว โดยให้เธอปิดหน้าตามประเพณี เมื่อมาถึงทุกคนตกใจที่มิเชลล์กลายเป็นหญิงชาวต่างชาติ เป็นที่กังขาขององค์อาหเม็ดและพระอนุชาองค์โอมาน (ติ๊ก ชีโร่) มิเชลล์ได้เห็นองครักษ์คนนั้นอีกครั้งในวังแห่งนี้ องค์โอมานสั่งให้ประหารชีวิตมิเชลล์ตามกฎของผู้ลักลอบสับเปลี่ยนตัวเข้ามาในวัง แต่เมื่อองค์รักษ์ผู้นี้ทูลถึงสกุลเดลาโรนีล์แก่องค์อาหเม็ดทราบ จึงรับสั่งให้สืบถามข้อเท็จจริง เพราะท่าทางของมิเชลล์เหมือนไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อน พันเอกชารีฟ (ตุ้ย ธีรภัทร) ราชองครักษ์รับหน้าที่ไต่สวนมิเชลล์ จนแน่ใจว่าเธอบริสุทธิ์ เมื่อแคชฟียารู้ว่ามิเชลล์ไม่ถูกประหารชีวิต ก็บ้าคลั่งเสียสติจนบิดาต้องพาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ องค์อาหเม็ด ขอให้มิเชลล์เป็นครูสอนภาษาต่างประเทศในวังต่อไป และต้องถวายตัวเป็นมเหสี เพราะมิเชลล์ ถูกนำตัวเข้ามาในวังตามฤกษ์ดีที่โหรทำนายไว้ มิเชลล์ขอเวลาตัดสินใจ และจะให้คำตอบหลังจาก พระองค์เสด็จกลับจากเมืองอิชฟาอัค เพื่อเยี่ยม เจ้าชายอับดุลลา (โอ๊ต สุรศักดิ์) พระญาติที่นั่น มิเชลล์ ได้พักอยู่กับ เจ้าหญิงฟารีดา (เงาะ กชกร) มเหสีขององค์โอมานและเธอได้รับความเมตตาเอ็นดูจากเจ้าหญิงเป็นอย่างดี เธอมี อะมีนา (ภูษณิศา) คนรับใช้เป็นเพื่อนสนิทและคอยเล่าเรื่องความเป็นไปภายในวังให้ฟังอยู่เสมอ รวมทั้งเรื่องของพันเอกชารีฟ วันที่องค์อาหเม็ดเสด็จกลับจากอิชฟาอัด องค์โอมานได้ก่อการกบฏยึดอำนาจขึ้นอย่างไม่คาดคิด แล้วลอบปลงพระชนม์องค์อาหเม็ด เพราะกลัวจะเสียอำนาจและต้องการเป็นใหญ่ เมื่อเจ้าหญิงฟารีดาทรงทราบก็ผิดหวังต่อการกระทำของสวามี จึงขอเสด็จกลับไปเกซาห์บ้านเกิด เพราะไม่เคยทรงเห็นด้วยกับแผนการทั้งปวงตั้งแต่ต้นแล้ว อะมีนารีบมาส่งข่าวให้มิเชลล์เพื่อนำไปแจ้งพันเอกชารีฟ เรื่องการก่อกบฎโดยด่วน แล้วอะมีนาก็ถูกเจ้าซาอิ๊บ (ทองขาว) สมุนของโอมานฆ่าตาย หลังมิเชลล์จากไปไม่นาน เมื่อไปถึงที่พัก พันเอกชารีฟให้มิเชลล์ปลอมตัวเป็นผู้ชายและเปลี่ยนชื่อเป็นตาฟา แล้วพาลอบหนีออกไปชายแดนจากการตามล่าของซาอิ๊บ และถูกกล่าวหาว่าราชองครักษ์ชารีฟ เป็นศัตรูกับกษัตริย์องค์ใหม่อับดุลเลาะ พ่อค้าชาวเบดูอินได้นำเงินทองมาดักรอชารีฟเพื่อมอบให้จากพ่อแม่ของเขาเอง และให้แฝงตัวอยู่ในคาราวานม้ากับอูฐหนีเข้าไปยังเขตทะเลทรายและมอบทั้งสองให้ ฟูรอ (อมต อินทานนท์) หัวหน้าคาราวานอีกคณะหนึ่งที่ได้รับค่าจ้างจากอับดุลเลาะอีกต่อหนึ่งนำทั้งสองร่วมขบวนไปยังไฮไดดะ แต่ก็แอบขายอาวุธให้กับชีคแห่งคาฟราด้วย เมื่อเดินทางถึงโอเอซีสไฮไดดะ ชารีฟขอซื้อปืนต่อจากฟูรอไว้บางส่วน พร้อมอูฐ แล้วเดินทางต่อไป โดยไม่แวะเข้าไปไฮไดดะ เพราะมีตำรวจทหารลาดตระเวณของโอมานอยู่ ชารีฟกับมิเชลล์ ต้องฝ่าฟันพายุทะเลทรายอยู่หลายวันและเสบียงเริ่มหมด ทั้งสองเริ่มเห็นอกเห็นใจกันและพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนรอดพ้นการตรวจจับของทหาร จนมาถึงโอเอซีสกุไวอิยา เป็นที่ห่างไกลจากโอเอซีสอื่นทำให้ไม่มีผู้คนหรือสัตว์อยู่ที่นี่ เมื่อพักกินน้ำทำความสะอาดร่างกายและนอนพักผ่อน จากนั้นก็เดินทางเขาเขตหมู่บ้านกลางทะเลทรายจาอุฟ ซึ่งใช้เวลาถึง 3 วัน ชารีฟมีเพื่อนเป็นชีคอัสมันอยู่ที่นั่น ทั้งสองได้พบพ่อค้าพี่น้อง นะหมัด (กษาปณ์ จำปาดิบ) กับ กาเซ็ม (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) บนถนนในเมืองจาอุฟ เนื่องจากเจ้ากาเซ็มขี้เมา พี่น้องจึงต้องออกไปพักแรมนอกเมือง เพราะในจาอุฟมีการปล้นสดมภ์ และวุ่นวายกันพอสมควร ชารีฟ ได้พบชีคอัสมัน (โอ๋ ฐาปกรณ์) ซึ่งกำลังป่วยเป็นฝี ชารีฟช่วยรักษาจนหาย ทำให้หมอโบราณ (สีเทา) ที่เคยรักษาชีคอัสมันแต่ไม่หายรู้สึกไม่พอใจที่ชารีฟใช้วิชาแพทย์สมัยใหม่เข้ามารักษา ชารีฟเล่าเรื่องกบฎโอมานให้ชีคอัสมันฟัง เขาแนะนำให้รู้จักกับเด็กรับใช้ชื่อดาฟา ยูซุฟ (เต้ ปิติศักดิ์) คนสนิทของชีค และขอให้ชารีฟไปรักษาพ่อของเขาที่ไม่สบายมานาน ชารีฟรักษาพ่อเฒ่าให้หายในเวลาอันสั้น ต่อมาคณะคาราวานสินค้าของชีคอัสมันถูกโจรตูอิค ปล้นทำร้ายขณะเดินทางกลับมาจากตลาดค้าสัตว์ เมืองซากากา ชารีฟกับมิเชลล์ทำหน้าที่ดูแลรักษาคนของชีค ขณะทำแผลผ่าตัด หมอโบราณแอบเห็นเหรียญประจำตัวของราชองครักษ์ของชารีฟ จึงนำไปบอกทหารฝ่ายโอมานให้ตามมาฆ่าสมความแค้นของหมอเฒ่า ผลการรักษาคนบาดเจ็บเป็นไปโดยราบรื่น เป็นที่พอใจของชีคอัสมัน และต้องการชารีฟกับตาฟาเป็นลูกเขย จึงวางแผนให้ยูซุฟ ชารีฟและตาฟาเดินทางไปยังซากากา เพื่อขายแพะและอูฐ และถูกตำรวจทะเลทรายไล่ลาจนไม่มีที่อยู่ และกลับมายังจาอุฟในที่สุด แต่บังเอิญชารีฟได้ช่วยชีวิตยูซุฟจากคนของหัวหน้าโจรตูอิดที่ชื่อ บูชิค จนตายคาที่ ยูซุฟจึงตอบแทนชารีฟด้วยการบอกความจริงเกี่ยวกับแผนซีคอัสมัน ยูซุฟวางแผนให้ชารีฟกับตาฟาแยกออกจากองคราราวาน และให้เดินทางอีกหนึ่งอาทิตย์จึงจะพบกับโอเอซีสแห่งอานาอีซา ซึ่งมีนครกลางทะเลทรายอยู่ที่นั่น มีเบดูอินต่างเผ่าพักรวมกันจึงทำให้ปลอดภัยในการลี้ภัย ถึงอานาอีซาจะใกล้เมืองฮิลฟาราเข้าไปแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะไม่ใช่เมืองการค้าเหมือนซากากา ตำรวจจึงไม่อยากไปวุ่นวายด้วย ก่อนออกเดินทาง มิเชลล์ขอชารีฟไปเดินซื้อของในตลาด และแอบเห็นพี่น้อง นะหมัดกับกาเซ็มกำลังเป็นสายให้ตำรวจเร่งจับตัวชารีฟโดยด่วน เพราะได้เงินค่าจ้างให้มาบอกตำรวจกับหมอโบราณแล้ว มิเชลล์รีบมาบอกชารีฟในตอนกลางคืน ทั้งสองจึงเริ่มเดินทางพร้อมเสบียง ขณะหยุดพักวันที่สามของการเดินทางออกจากซากากา โจรบูชิคกับพวกตามมาทำร้ายและจะฆ่าชารีฟกับมิเชลล์หลังจากตามไปฆ่ายูซุฟมาแล้ว แต่บูชิคเห็นดาบองครักษ์ติดตัวชารีฟจึงไม่กล้าทำอะไร และรีบทำลายข้าวของพร้อมกับปล้นอูฐไปจนหมด ก่อนที่เครื่องบินลาดตระเวรจะมาพบแล้วมันก็จะถูกทำโทษฐานทำร้ายคนของกษัตริย์ ชารีฟเจ็บหนักเพราะถูกซ้อม อูฐ น้ำ และเสบียงถูกปล้น ทั้งสองทรมานต่อความอดทนอย่างมาก ชารีฟเมื่อรู้ตัวก็สารภาพรักกับมิเชลล์จนหมดหัวใจ ทั้งสองมอบรักให้แก่กันท่ามกลางทะเลทรายแห่งนั้น สี่วันผ่านไป ภาวะขาดน้ำและอาหารทำให้มิเชลล์กำลังจะตาย แม้แต่ชารีฟเองก็กำลังจะไม่รอดเช่นกัน เมื่อความมืดมาจึงมีดวงไฟสว่างอยู่ไกล ๆ ทำให้ชารีฟพยายามพาร่างมิเชลล์ไปถึงที่นั่นให้ได้ โชคดีที่เป็นครอบครัวเบดูอินของติเยาะจัสปาลนั่นเอง นางจำมิเชลล์ได้และให้ความช่วยเหลือแต่ อาลี (หมู กลศ) พี่ชายของติเยาะไม่เชื่อเพราะมิเชลล์แต่งกายเป็นชาย ชารีฟจึงต้องบอกว่ามิเชลล์เป็นเมีย เขาจึงเชื่อ แต่ทั้งสองไม่รู้ว่าชารีฟเป็นใคร และให้เดินทางไปโอเอซีสอานาอีซาด้วย ติเยาะเห็นเหรียญห้อยคอที่ชารีฟเหมือนกับผู้มาพักในกระโจมใหญ่บนเนินเขาที่นางเคยพบเมื่อคราวที่แล้ว จึงมาเล่าให้อาลีฟัง และให้อาลีไปแจ้งคนที่กระโจมใหญ่ซึ่งเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อไปถึงผู้เฝ้ากระโจมได้นำอาลีกับติเยาะไปพบหัวหน้าใหญ่ แล้วให้รีบนำชายหญิงที่อาลีบอกรูปพรรณสัณฐานมาเข้าพบ เมื่อชารีฟพบหัวหน้าใหญ่ ก็รีบทำความเคารพตามประเพณี เพราะเขาคือองค์อาหเม็ดที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่นั่นเอง ทรงรอดมาได้ด้วย ท่านนายพลมุสคัต (ฤทธิ์ ลือชา) บิดาของอะมีนา ช่วยเหลืออกมาจากวังได้ และยังได้เจ้าชายอับดุลลาแห่งอิชฟาอัคมาประทับอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเป็นกำลังด้วย ส่วนมิเชลล์ได้ถูกส่งตัวไปอยู่ในฮาเร็มรวมกับพระชายาขององค์อาหเม็ด (นก อุษณีย์) และจะจัดพิธีแต่งงานกับชารีฟให้เมื่อยึดฮิลฟาราคืนได้สำเร็จ เมื่อได้ทหารเอกกลับมา องค์อาหเม็ดได้วางแผนโจมตียึดราชบัลลังก์คืน โดยวางแผนให้ชารีฟกับการีม (เก่ง ชาติชาย) สับเปลี่ยนตัวศาสตราจารย์โมฮัมหมัด แพทย์ที่จะไปผ่าตัดองค์โอมานที่ประชวร แผนการดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ มีสายคอยรายงานความคืบหน้าของการเดินทางของชารีฟและการีมตลอดที่เดินทางโดยรถไฟไปยังด้านฝั่งทะเล ลงเรือสินค้าแอบเข้าเมืองที่ศาสตราจารย์มูฮัมหมัดอยู่และทั้งสองก็ถูกนำตัวเข้าวังในฐานะศาสตราจารย์และผู้ช่วยแพทย์แต่องค์โอมานใช้แผนซ้อนแผนจับตัวชารีฟกับการิมไว้ได้ โดยจับทหารลาดตระเวณมาสอบถามอย่างทารุณ และดักจับวิทยุสื่อสาร แต่กองทัพองค์อาหเม็ดเห็นความผิดปกติจึงรีบยกทัพเข้ามาล้อมเมืองฮิลฟาราได้สำเร็จ เจ้าชายโอมานให้ชารีฟต่อสู้ตัวต่อตัวด้วยวิชามีดวงเดือนที่โอมานเป็นหนึ่งไม่มีใครทาบติด แต่ชารีฟเองก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีโดยคำสั่งขององค์อาหเม็ดเช่นกัน องค์โอมานถูกปลิดชีวิตลง กบฎพ่ายแพ้เพราะไม่มีผู้นำ องค์อาหเม็ดจึงจัดพิธีสมรสให้กับชารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่กับมิเชลล์อย่างสมเกียรติ ส่วนองค์หญิงฟารีดา ขอเสด็จไปอยู่เมืองท่านอก

โดมทอง 2556

โดมทอง (2556/2013) คุณมณฑา หญิงสาวงามสง่าแห่งตระกูลผู้ดี ได้สมรสกับ เจ้าพระยาสรรักษ์ไกรณรงค์ เจ้าของคฤหาสน์ที่สวยงามราวกับความฝันชื่อ โดมทอง ซึ่งด้านหน้าติดภูเขา ด้านหลังติดทะเล โดยหลังแต่งงาน คุณมณฑา ได้พาน้องสาวที่เกิดจากภรรยาคนสุดท้ายของบิดามาด้วย คุณพลับพลึง หรือ คุณน้อย จึงมีอายุห่างจากคุณมณฑาค่อนข้างมาก ในขณะที่คุณมณฑาเป็นคนรักแรงเกลียดแรง แฝงด้วยความอำมหิตอย่างคาดไม่ถึง เข้มงวด และเจ้าอารมณ์ สร้างความตึงเครียด อึดอัดใจให้กับผู้ที่อยู่ใกล้เสมอ แต่คุณพลับพลึงและเสียงเพลงลาวครวญจากจะเข้ของเธอ กลับนำความสดใส มีชีวิตชีวามาสู่ โดมทอง และ ท่านเจ้าคุณสรรักษ์ฯ คุณมณฑาเริ่มเอะใจเมื่อท่านเจ้าคุณสั่งให้ปลูกทุ่งดอกพลับพลึง แต่ท่านเจ้าคุณก็แก้โดยปลูกต้นมณฑาไว้ในสวน นางพิศ บ่าวคนสนิท คอยยุยงว่าทำไมถึงปลูกพลับพลึงมากมายเป็นทุ่ง แต่ปลูกมณฑาไม่กี่ต้น ท่านเจ้าคุณก็แก้ได้อีกว่า ต้นมณฑาไม่เหมาะกับปลูกเป็นทุ่งเหมือนต้นพลับพลึง ถึงแม้คุณมณฑาจะไม่พอใจแค่ไหน ก็ไม่กล้าแสดงออกมากนักด้วยเกรงใจสามี โดยมาไล่เบี้ยเอากับน้องสาวแทน ถึงแม้จะเกรงกลัวพี่สาวขนาดไหน คุณพลับพลึงผู้อ่อนไหวและเยาว์วัยก็ไม่อาจต่อต้านความรัก ความปรารถนาของท่านเจ้าคุณได้ ทั้งสองลักลอบมีความสัมพันธ์กัน ขณะที่คุณมณฑาตั้งครรภ์ นางพิศเป็นคนจับได้ แล้วนำมาฟ้องนาย คุณมณฑาเคียดแค้นจนแทบกระอักเป็นเลือด ระหว่างที่ท่านเจ้าคุณไปทำงาน คุณมณฑาสั่งให้นางพิศโบยคุณพลับพลึงจนสลบ พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้เรื่องนี้ถึงท่านเจ้าคุณเด็ดขาด ขณะเดียวกันคุณหญิงก็มารยาแพ้ท้องมากมายจนท่านเจ้าคุณไม่อาจปลีกตัวมาพบคุณพลับพลึงได้ และถึงแม้จะพบโดยบังเอิญคุณพลับพลึงก็จะพยายามหลบหน้าหลบตา หรือไม่คุณมณฑากับนางพิศก็จะเข้ามาในบริเวณนั้น จนกระทั้งวันหนึ่ง ท่านเจ้าคุณต้องไปราชการต่างจังหวัด ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงคุณพลับพลึง ท่านเจ้าคุณจึงหาโอกาสมาล่ำลา ซึ่งก็ไม่ได้พ้นสายตาของนางพิศ ที่ได้รับคำสั่งให้คอยสอดส่องเป็นหูเป็นตาแทนเจ้านาย คุณมณฑาแค้นแสนแค้น แต่พยายามเก็บอารมณ์ไว้ ยิ่งได้สังเกตเห็นแววตาท่านเจ้าคุณที่ลอบมองน้องสาวอย่างเป็นห่วงและอาลัยอาวรณ์ ท่านผู้หญิงแค้นแสนแค้น หากพยายามเก็บอารมณ์ไว้ เมื่อท่านเจ้าคุณไปแล้ว คุณมณฑาไม่รอช้า สั่งให้นางพิศไปพาพี่ชายมา แล้วสั่งให้ทั้งสองจับคุณพลับพลึงไปล่ามโซ่ขังในห้องบนยอดโดมทอง คุณพลับพลึงพยายามขอร้องให้ฆ่าเธอให้ตายเสียดีกว่า จะขังทรมานกันแบบนี้ แต่คุณมณฑากลับหัวเราะเยาะ บอกว่าการฆ่ามันไม่สาแก่ใจเท่ากับการที่ต้องทนทุกข์ทรมาน คุณพลับพลึงร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่นั่นกลับทำให้คุณมณฑาสะใจ คุณพลับพลึงถูกขังอยู่ในห้องบนยอดโดมทองนั้น โดยไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ทั้งยังไม่ได้กินข้าวกินน้ำ นายพัน ซึ่งรู้สึกผิดได้แอบเอาข้าวเอาน้ำมาให้ เมื่อคุณมณฑาจับได้จึงไล่นายพันออกไป ไม่ให้มาเหยียบโดมทองอีก และได้สั่งนางพิศให้ตอกตะปูปิดตายห้องนั้นเสีย เสียงคุณพลับพลึงตะโกนออกมา "คุณพี่ใจร้ายเหลือเกิน อิฉันจะไม่ไปไหนจะอยู่รอดูวันสุดท้ายของคุณพี่"

อาญารัก 2556

เรื่องย่อ : อาญารัก (2556/2013) อาญารัก เป็นเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง คือ เนียน ถูกนำตัวมาเป็นข้ารับใช้ เพราะน้อม ข้าเก่าท่านหมื่นผู้เป็นบิดาของขุนภักดีภูบาล ได้เข้ามาขอกู้เงิน แต่ไม่พบตัวท่านขุนภักดีภูบาล คุณเรียมภรรยาเอกท่านขุนจึงให้นายน้อยยืมเงิน 2 ชั่ง เพื่อรักษาตัวและนำไปไถ่ถอนที่นา น้อมจึงยกลูกสาวให้ตอบแทนคุณ เนียนเป็นเด็กสาวหน้าตาดี อุปนิสัยเรียบร้อย คุณเรียมจึงเอ็นดูเลี้ยงไว้ในฐานะน้องสาว นอกจากคุณเรียมแล้ว ขุนภักดียังมีภรรยาอีกคนคือ คุณสน ลูกสาวกำนันฐานะดี แต่ขี้อิจฉาริษยา เมื่อเห็นท่านขุนสนใจเนียน และมีช้อย สาวใช้ประจำตัวคอยยุยง เนียนจึงถูกกลั่นแกล้ง ท่านขุนก็เมตตาสงสาร และรักเนียนยิ่งขึ้น เนียนลำบากใจ เพราะเธอเคยมีครอบครัว แต่สามีตายไปแล้ว แลมีลูกแล้วเป็นชายที่ยังเล็กก็ฝากให้ยายแพรเป็นคนเลี้ยงดู ต่อมาพ่อของเนียนเสียชีวิต ท่านขุนจัดงานศพให้อย่างดี เนียนสำนึกในบุญคุณจึงยอมเป็นเมียท่านขุน โดยเก็บเรื่องลูกไว้เป็นความลับ คุณสนจ้างเหิม ลูกน้องของพ่อกำนันให้ข่มขืนเนียน เหิมชวนหนักและโพล้งร่วมทำการโดยไม่รู้ว่าเสือหนักเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเนียน จึงถูกซ้อนแผน คุณสนและช้อยจึงเป็นผู้รับเคราะห์แทน คุณสนและช้อยอาฆาตเนียนมากขึ้น ต่อมา คุณสนตั้งท้องอันเกิดกับเสือหนัก แต่ไม่บอกใคร ให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นลูกของท่านขุน ขณะเดียวกัน คุณเรียมและเนียนก็ตั้งท้องเช่นกัน เสือหนักลอบเข้ามาพบเนียน แจ้งข่าวเรื่องลูกที่กำลังป่วยหนัก ต้องการเงินรักษา คุณสนกับช้อยบังเอิญพบเข้า จึงนำความไปบอกท่านขุนว่าเนียนคบชู้ ท่านขุนโกรธจัด เฆี่ยนตีเนียนอย่างหนัก และไล่ให้ไปอยู่เรือนคนใช้ คุณสนคลอดบุตรเป็นชายได้ชื่อว่าเทิดศักดิ์ คุณเรียมนั้นเมื่อคลอดเด็กออกมาไม่นานทารกก็เสียชีวิต จึงให้เอกไปขอลูกของเนียนมาคนหนึ่ง ซึ่งเนียนคลอดลูกสาวฝาแฝดในวันเดียวกัน โดยให้หมอตำแยปิดเป็นความลับ ทานตะวันหรือลูกของเนียนที่คุณเรียมนำไปเลี้ยง เมื่อเติบโตขึ้นในฐานะลูกสาวคนเดียวของขุนภักดี และอยู่ใกล้คุณสน ทำให้มีนิสัยผิดแผกจากเนื้อทอง ลูกของเนียนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกชู้ เนื้อทองเป็นคนเจียมตน ขยัน เรียบร้อยเช่นเดียวกับเนียน จึงได้รับความกรุณาจากคุณทองจันทร์ และคุณเรียมให้เรียนอย่างเต็มที่ แดงน้อย ลูกชายของเนียน ซึ่งเกิดจากสามีคนแรก เติบโตขึ้น โดยมีเสือหนักผู้เป็นลุงคอยส่งเสียโดยไม่เคยพบกัน แดงน้อยกับเทิดศักดิ์เป็นเพื่อนสนิทกัน ทำให้เสือหนักได้พบกับลูกคือเทิดศักดิ์ และทำให้เนียนได้พบกับแดงน้อย ทานตะวันนั้นชอบแดงน้อย เมื่อถูกคุณสนยุยงว่าจะถูกเนื้อทองแย่งไป ทานตะวันจึงออกอุบายกลั่นแกล้งเนื้อทอง จนถูกขุนภักดีเฆี่ยนตี แต่โชคดีที่เทิดศักดิ์ซึ่งแอบชอบพอเนื้อทองอยู่มาห้ามไว้ทัน ท่านขุนจึงยอมหยุดมือ หนุ่มสาวทั้ง 4 เรียนจบ เทิดศักดิ์เป็นนายร้อยตำรวจ แดงน้อยเป็นนายอำเภอ ทานตะวันจบเสริมสวยจากฝรั่งเศส เปิดร้านอยู่ในตัวเมือง ส่วนเนื้อทองบรรจุเป็นครูประจำจังหวัด ต่อมาคุณเรียมและคุณทองจันทร์ออกทุนให้เนื้อทองเปิดโรงเรียน ยิ่งเป็นเหตุให้ทานตะวันชิงชังเนื้อทองมากขึ้น ช้อยมีลูกชายที่ต้องคดีอยู่ จึงขอให้คุณสนบอกเทิดศักดิ์ให้ช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วยได้ ช้อยจึงขู่คุณสนว่าจะเปิดเผยความจริง คุณสนจึงฆ่าช้อยทิ้งและป้ายความผิดให้เนียน โดยไม่รู้ว่าคุณทองจันทร์รู้เรื่องจากช้อยแล้ว ทางด้านแดงน้อยได้พบกับยายอ่อนหมอตำแยโดยบังเอิญจึงทราบเรื่อง และเข้าพบท่านขุนเพื่อเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เทิดศักดิ์จับกุมเนียนข้อหาฆาตกรรมช้อย คุณสนแอบได้ยินว่ายายอ่อนจะเปิดเผยความจริงเพื่อช่วยเนียน จึงฆ่ายายอ่อนเพื่อปิดปาก ท่านขุนมาประกันตัวเนียนและทราบความจริงเกี่ยวกับลูก ๆ ของตนทั้งหมด เทิดศักดิ์ทราบความจริงว่าเขาเป็นพี่น้องกับทานตะวัน เนื้อทอง และแดงน้อย และได้รู้ว่าตนเป็นลูกของเสือหนัก คุณสนเข้าใจว่าขุนภักดียังไม่ทราบความจริง จึงฆ่าคุณทองจันทร์ปิดปากอีกคน เทิดศักดิ์จำใจต้องจับคุณสน คุณสนขู่ประจานตระกูลภักดีภูบาลให้เสียชื่อเสียง ขุนภักดีจึงต้องการให้คุณสนฆ่าตัวตาย และคุณสนปฏิเสธ เสือหนักออกมาฆ่าคุณสน แดงน้อยเห็นเหตุการณ์จึงยิงเสือหนักตายโดยไม่รู้ว่าคือลุงผู้ส่งเสียเลี้ยงดูเขามาโดยตลอด โศกนาฏกรรมของครอบครัวภักดีภูบาล ปิดตัวลงท่ามกลางความช้ำใจของทุกคน

ลูกไม้หลากสี 2556

ลูกไม้หลากสี (2556/2013) ชีวิตหนุ่มสาวรุ่นใหม่ เป็นผลผลิต "ลูกไม้" หลากสีสันของสถาบันครอบครัว ผลผลิตเหล่านี้จะช่วยให้สังคมสดใสหรือหม่นหมอง ล้วนขึ้นอยู่กับผู้บ่มเลี้ยง ที่จะทำให้ลูกไม้เหล่านี้หยั่งราก ยืนต้น เพื่อฟันฝ่าพายุในชีวิตทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า ในวันที่บ้านเงียบเหงา หัวใจของหนุ่มแน่นอย่าง ชนกชนม์ ก็พลอยเปลี่ยวเหงาไปด้วย เมื่อแม่บังเกิดเกล้าที่ไม่เคยมอบความรักให้กำลังใจไปรับน้องชายต่างบิดาของเขากลับจากการเรียนที่อังกฤษด้วยหัวใจชุ่มชื่นพร้อมด้วยพ่อเลี้ยงที่แสนดีของเขา ชีวิตของชนกชนม์เกิดมาท่ามกลางพายุร้ายจากผลผลิตครอบครัวที่แตกร้าว คุณชลนิภา แม่ของเขาเป็นเศรษฐีนีเจ้าของธุรกิจอัญมณีชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ได้แต่งงานกับ คุณวีรภัทร นักการทูตใหญ่ด้วยความเหมาะสมของฐานะทางสังคม และความเห็นชอบจากผู้ใหญ่แต่สุดท้ายชีวิตครอบครัวต้องล่มสลาย เมื่อนิสัยมั่นใจในตัวเองที่ถูกปลูกฝังจากครอบครัวทำให้คุณ ชลนิภา ทำตัวเป็นช้างเท้าหน้า บ้าอำนาจ และบงการชีวิตสามีทุกอย่างจนเขาทนไม่ไหว ดังนั้นลูกน้อยที่เกิดมาแบบชนกชนม์จึงกลายเป็นความเกลียดชังของคุณชลนิภาที่มีต่ออดีตสามี เมื่อชนกชนม์มีนิสัยหัวแข็งดื้อรั้นไม่ต่างจากพ่อของเขา จากนั้นไม่นาน คุณชลนิภาก็ประชดอดีตสามีด้วยการคว้า คุณธนกร พนักงานในบริษัทที่ต่ำกว่าทั้งฐานะและชาติตระกูลมาเป็นสามีใหม่ เธอสมใจเมื่อสามีเป็นได้แค่ช้างเท้าหลังของเธอ ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนคือ ชยางกูร ชยางกูร เป็นลูกชายสุดที่รักของคุณชลนิภา เธอทุ่มเททุกอย่างในชีวิตให้เขาจนสุดหัวใจเมื่อเขาเป็นลูกชายที่ประจบและเอาอกเอาใจแม่ทุกอย่าง ความรักจากแม่ที่มอบให้ชยางกูรจึงแตกต่างจากที่มอบให้ต่อชนกชนม์อย่างสิ้นเชิง ทำให้วิถีชีวิตเด็กหนุ่มทั้งคู่แตกต่างกันลิบลับ แม้ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องกัน แต่สายใยรักและผูกพันระหว่างชนกชนม์และชยางกูรแทบไม่มีให้กัน แม้ชนกชนม์จะรักและห่วงใยน้องชาย แต่สิ่งที่น้องชายมอบให้เขาคือ ความอิจฉาริษยา เพื่อต้องการเป็นผู้ชนะเหนือพี่ชายทุกอย่าง ความเศร้าที่ซุกซ่อนไม่มิดของชนกชนม์ทำให้ สุตาภัญ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ติดกับบ้านเขาได้เห็นร่องรอยของปัญหาชีวิตซึ่งไม่ต่างจากชีวิตเธอ เขาและเธอจึงได้สานสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว เมื่อมีประสบการณ์ชีวิตที่ไม่แตกต่างกันมากนัก สุตาภัญ เป็นผลผลิตจากครอบครัวที่เหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่มันหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อต้องอยู่ภายใต้การเลี้ยงดูของทหารยศใหญ่ คุณสุทิน ผู้เป็นพ่อที่เคร่งครัดในกฎระเบียบยิ่งกว่าสิ่งใด และคุณเสาวนิตย์ แม่ผู้มีอาชีพครูที่อบรมลูกสาวด้วยระเบียบที่แน่นหนา ทั้งคู่มองว่าการเลี้ยงลูกสาวเป็นเรื่องยากจึงเลี้ยงดูลูกด้วยกฎเกณฑ์แน่นหนา ตีกรอบชีวิตให้เดินตามเส้นทางที่ขีดไว้ โดยไม่อาจรู้ล่วงหน้าเลยว่าความหวังดีที่มากเกินไปจะย้อนกลับมาทำร้ายลูกสาวและตัวเองให้ต้องเจ็บปวด แต่มันหาได้เกิดขึ้นกับสุตาภัญไม่ แต่กลับปะทุขึ้นในชีวิตของ สุรัมภา ลูกสาวคนเล็กของครอบครัว เมื่อเด็กสาวทั้งคู่ต้องดำเนินชีวิตในแบบที่แตกต่างภายใต้ความกดดันเดียวกัน เมื่อกรอบชีวิตที่แน่นหนาไม่ทำให้สุตาภัญหลงทาง เธอมีหลักดำเนินชีวิตที่มั่นคง ผิดกับสุรัมภาที่ต้องขมขื่นกับชีวิตเก็บกด ที่ไม่สามารถทำอะไรตามใจได้เลย รอวันที่ความอึดอัดนั้นจะระเบิดออกมาเท่านั้น สายสัมพันธ์เพื่อนระหว่างชนกชนม์และสุตาภัญที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วทำให้ชยางกูรที่กลับจากอังกฤษอิจฉาเมื่อเขาหลงรักสุตาภัญตั้งแต่แรกพบ แต่เธอไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเขาเลย ทำให้ชยางกูรยิ่งเกลียดพี่ชายมากขึ้นเมื่อเขากลายเป็นศัตรูหัวใจคนสำคัญ เขาจึงทำทุกอย่างเพื่อแย่งสุตาภัญมาเป็นของตนเอง แต่กับสุรัมภา ชยางกูรไม่ได้รู้สึกหลงใหลอะไรในตัวเธอเลย ทั้งคู่จึงกลายเป็นคนที่เกลียดชังกันมากกว่าที่จะรักกัน การที่สุตาภัญสนิทสนมกับชนกชนม์ทำให้คุณสุทินและคุณเสาวนิตย์กีดกันทุกทาง แต่ลูกสาวคนโตก็แหกฎพ่อแม่เมื่อเห็นว่าไร้เหตุผล ทั้งคู่เบื่อหน่ายลูกสาวผู้ดื้อรั้นคนนี้ แต่กลับภูมิใจกับลูกสาวที่เชื่อฟังอย่างสุรัมภา โดยหารู้ไม่ว่าลูกสาวที่ตนภูมิใจนั้นซุกซ่อนความเก็บกดไว้ และลึก ๆ แล้ว สุรัมภาก็แอบหลงรักชนกชนม์อยู่ด้วยเช่นกัน ทำให้บางครั้งเธอโกรธเกลียดพี่สาวเมื่อได้เห็นพี่สาวใกล้ชิดกับชายหนุ่มที่เธอรัก การที่ชนกชนม์และสุตาภัญเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ยิ่งเพิ่มความสนิทสนมให้ทั้งคู่มากขึ้น และสุตาภัญยังนำพาให้ชนกชนม์ได้รู้จักเพื่อนสนิทร่วมกลุ่มอีก 2 คน คือ ชนิกานต์ และ ธีรดนย์ แม้จะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันแต่ทั้งชนิกานต์และธีรดนย์กลับมีความเกลียดชังมอบให้กัน ชนิกานต์ เป็นลูกสาวคนเดียวของ คุณธนวัต มหาเศรษฐีที่ตกพุ่มม่ายมานาน ชีวิตเขาหมดไปกับการทำงานและเลี้ยงดูลูกสาวคนเดียวให้ดีที่สุด ชนิกานต์จึงถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจทำให้เธอกลายเป็นสาวเปรี้ยว มาดมั่นที่เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรเธอต้องได้ แม้คุณธนวัตจะหาเศษหาเลยกับผู้หญิงบ้าง ซึ่งชนิกานต์ก็รับรู้ความจริงนี้แต่เธอไม่เคยห้ามพ่อเพราะรู้ว่านั่นคือความสุขของพ่อ เธอขอสิ่งเดียวว่าไม่ให้พ่อเอาใครแทนที่แม่เท่านั้น เหตุผลที่ทำให้ชนิกานต์เปรียบธีรดนย์เหมือนเป็นศัตรู เมื่อเขาเป็นเพียงลูกแม่บ้านอย่าง นางอุษา เท่านั้น การที่ธีรดนย์เป็นคนรักศักดิ์ศรีตัวเองเหนือกว่าสิ่งใดทำให้ชนิกานต์มองว่าเขาจองหองไม่เจียมตัวกับฐานะตัวเอง ฝ่ายธีรดนย์ก็มองชนิกานต์ว่าเป็นผู้หญิงที่ชอบดูถูกคนอื่นจนดูน่าขยะแขยงทั้งคู่จึงกลายเป็นคู่กัดที่เกลียดกัน สุตาภัญ ชนิกานต์ และธีรดนย์ เป็นเพื่อนเรียนกันมาตั้งแต่สมัยประถมจนถึงมหาวิทยาลัย การที่คุณธนวัตเอ็นดูธีรดนย์ด้วยการส่งเสียให้เรียนโรงเรียนที่ดีเทียบเท่าลูกสาวตัวเอง จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ชนิกานต์เกลียดเขา และพยายามกันเขาออกจากกลุ่ม แต่สุตาภัญกลับสงสารจึงช่วยเหลือเขาทุกด้าน จนทำให้ธีรดนย์ประทับใจและแอบรักสุตาภัญมาโดยตลอดแต่เธอไม่ได้คิดเหมือนที่เขาคิดกับเธอ แถมชนิกานต์ยังกีดขวางเพราะไม่อยากให้เพื่อนสาวสนิทต้องรักกับผู้ชายที่เธอชิงชังด้วย แม้ธีรดนย์จะถูกอบรมเลี้ยงดูจากแม่ให้เจียมตัวในฐานะของการเป็นแค่ลูกคนใช้ และควรกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ แต่การดูถูกเหยียดหยามจากหญิงคนหนึ่งว่าเป็นคนชั้นต่ำ สร้างแรงกดดันให้เขากลายเป็นผู้ชายที่ทะเยอทะยานเพื่อจุดสูงสุดในการเอาชนะคำดูถูกนั้นให้ได้ เมื่อชนกชนม์กลายเป็นเพื่อนใหม่ในกลุ่ม แค่แรกพบชนิกานต์ก็หลงรักเขาทันที เธอเปิดเผยให้เขารู้ว่าเธอรักเขา เมื่อโดนจู่โจมแถมยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนทำให้ชนกชนม์คบหากับเธอเป็นแฟน และความรักที่ชนิกานต์มอบให้ชนกชนม์แบบโอเวอร์ทำให้ธีรดนย์หมั่นไส้จนหาทางประชดประชันเธอ ส่วนสุตาภัญเมื่อเห็นว่าชนิกานต์หลงรักชนกชนม์ เธอจึงต้องซ่อนความรู้สึกดีที่มีให้เขาโดยไม่ให้เขาและเพื่อนรักล่วงรู้ความลับในใจนี้เด็ดขาด แล้วครอบครัวที่อบอุ่นของชนิกานต์ก็ต้องล้มพังครืน เมื่อความรัก ความเข้าใจ ระหว่างเธอกับพ่อต้องถึงจุดแตกสลาย…. คุณธนวัตได้เจอกับ กัณฐิกา ม่ายสาวทรงเครื่องที่ยังสวยไม่สร่าง แม้จะมีลูกโตเป็นสาวแรกรุ่นแล้วก็ตาม เธอเป็นผู้หญิงทะเยอทะยานที่อยากถีบตัวเองให้สุขสบาย เมื่อเจอผู้ชายที่เป็นบ่อเงินบ่อทองอย่างคุณธนวัต เธอจึงใช้เสน่ห์ยั่วยวนจนเขาหลงใหลหัวปักหัวปำถึงขนาดยอมตัดสินใจแต่งงานกับเธอ แม้ชนิกานต์จะขัดขวางทุกวิถีทางแต่ไม่เป็นผล สายสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกจึงมีความชิงชังและเหินห่างเข้ามาแทนที่ เมื่อความรักจากผู้เป็นพ่อถูกแย่งไปจากผู้หญิงหน้าเงิน ชนิกานต์กลายเป็นผู้หญิงเจ้าคิดเจ้าแค้นที่พร้อมยื้อแย่งสิ่งที่เป็นของเธอกลับคืนมา เธอกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกัณฐิกา และในเมื่อกัณฐิกาก็ไม่ใช่แม่เลี้ยงที่แสนดี การฟาดฟันระหว่างแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงจึงระเบิดขึ้นด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคม และความลับอีกอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจกัณฐิกา คือ เธอตกหลุมรักเด็กหนุ่มคราวลูกอย่างธีรดนย์ เธอต้องการครอบครองเรือนร่างเขา แต่ต้องเก็บงำความลับนี้ไว้ให้มิดชิดที่สุด ไม่อย่างนั้นความฝันที่จะเป็นคุณนายที่สบายไปตลอดชาติของเธอต้องพังทลายแน่ ๆ กัณฐิกาไม่เคยเลี้ยงดู กฤติยา ลูกสาวคนเดียวของเธอตั้งแต่แบเบาะ หน้าที่นั้นตกเป็นของ ยายแก้ว แม่ของเธอ จึงไม่แปลกที่กฤติยาจะรักยายแก้วมากกว่าแม่ที่แท้จริง ไม่ใช่ว่ากัณฐิกาไม่รักลูก แต่เธอรักลูกผิดวิธี เมื่อเธอคิดว่าเงินจะซื้อความสุขให้ลูกได้แต่มันไม่ใช่เช่นนั้นเลย กฤติยาต้องการความรักและการเอาใจใส่จากแม่ต่างหาก ทำให้เธอกลายเป็นลูกที่ใช้ชีวิตประชดผู้เป็นแม่เท่านั้น ชนิกานต์หนีความจริงที่เจ็บปวดใจเมื่อพ่อได้กำหนดแต่งงานกับกัณฐิกาด้วยการไปเที่ยวพัทยาโดยมีชนกชนม์ สุตาภัญ และธีรดนย์ เดินทางไปด้วย แต่ก็เกิดอุบัติเหตุเมื่อเจ็ทสกีของชนกชนม์ไปชนเจ็ทสกีของธีรดนย์ จนเขาบาดเจ็บหนัก ส่วนธีรดนย์ไม่เป็นไร ยิ่งทำให้ชนิกานต์และธีรดนย์มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จนสุตาภัญต้องห้ามศึกไว้ก่อน และเป็นสุตาภัญที่ช่วยชีวิตชนกชนม์ขึ้นจากน้ำได้ แต่สุดท้ายเธอกลับบอกว่าชนิกานต์เป็นคนช่วยชีวิตเขาเพื่อให้ความรักของเพื่อนเป็นจริงเร็วขึ้น แม้ตัวเองต้องเจ็บปวดกับคำโกหกนั้น ทำให้ชนกชนม์ซาบซึ้งในความดีของชนิกานต์ที่มอบให้เขามากขึ้น ในงานแต่งานของ คุณธนวัต และกัณฐิกา ชนิกานต์ต้องไปร่วมงานด้วยความเศร้า แม้ตอนแรกเธอหวังทำลายงานแต่งงานให้ย่อยยับ แต่ลึก ๆ แล้วเธอรักพ่อและหวังให้พ่อมีความสุข เธอจึงไปในสภาพผู้แท้ ด้วยการเมามายจนไม่ได้สติ เช่นเดียวกับกฤติยาที่จำเป็นต้องไปงานแต่งงานของแม่เมื่อโดนบังคับ แต่ในงานเมื่อได้พบธีรดนย์ กฤติยาเหมือนโดนศรรักปักอกเมื่อได้เจอรักแรกพบ เธอตกหลุมรักเขาอย่างจัง แต่ก็ต้องเศร้าใจอย่างที่สุดเมื่อกลับจากงานแต่งงานแล้วได้รับข่าวร้ายว่า สลัมที่ยายแก้วอยู่ถูกเผาไล่ที่ และยายแก้วต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ สุดท้ายกฤติยาจำเป็นต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านคุณธนวัตกับแม่แม้ใจจะไม่อยากเลยก็ตาม แต่กัณฐิกาต้องปิดบังฐานะของเธอว่าเป็นแค่หลานเท่านั้น ไม่ใช่ลูกสาว เพื่อหนทางสบายไปตลอดชีวิตของเธอ ยิ่งทำให้กฤติยารู้สึกปวดร้าวในหัวใจเมื่อไม่เคยได้สัมผัสความรักที่โหยหาจากแม่เลย และเมื่อรู้ว่าผู้เป็นแม่ก็มีท่าทีพิเศษต่อธีรดนย์ กฤติยาจึงคิดประชดแม่ด้วยการหว่านเสน่ห์ให้คุณธนวัต ซึ่งก็ได้ผลเมื่อทำให้แม่เจ็บปวด แต่เธอก็ไม่ได้คิดเกินเลยกับพ่อเลี้ยง แม้เขาจะหวังสิ่งนั้นจากเธอก็ตาม ดังนั้นเมื่อเห็นพฤติกรรมกร้านโลกเพื่อกลั่นแกล้งแม่ของกฤติยา ทำให้ชนิกานต์พลอยเกลียดเธอไปด้วย เมื่อคิดว่าเธอคงไม่ต่างจากกัณฐิกา กฤติยาพยายามเลี่ยงปะทะกับชนิกานต์ แต่ไม่วายโดนกลั่นแกล้งให้เจ็บตัวจนธีรดนย์ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ยิ่งทำให้ชนิกานต์เกลียดชังเขามากขึ้น ความมีน้ำใจของธีรดนย์ทำให้กฤติยารักเขามากขึ้น แต่เขากลับคิดต่อเธอเพียงน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น เพราะหัวใจเขามีแต่สุตาภัญเพียงผู้เดียว และในวันเกิดของสุตาภัญ ธีรดนย์ก็ได้สร้างความประทับใจให้เธอเมื่อมอบของขวัญซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สุตาภัญชื่นชอบเธอนั่นคือ โมเดลเรือ ผิดกับชนกชนม์ที่เสียใจเมื่อไม่ได้เตรียมของขวัญให้สุตาภัญ ที่นับว่าเขาจะได้ค้นพบใจตัวเองมากขึ้นว่าเขาได้รักเธอไปแล้ว แต่งานวันเกิดต้องวุ่นวายเมื่อสุรัมภาเปิดเผยใจตัวเองว่ารักชนกชนม์ด้วยการยื้อแย่งกับชนิกานต์อย่างเปิดเผยโดยไม่มีใครยอมใคร โดยคนกลางอย่างชนกชนม์ลำบากใจมากที่สุด เมื่อเขาได้รู้ใจตัวเองแล้วว่าคนที่เขารักคือ สุตาภัญ เขาจึงตัดสินใจบอกความในใจว่ารักเธอ แม้เธอจะรู้สึกเช่นเดียวกับเขา แต่ก็ต้องปฏิเสธเขาด้วยการแกล้งบอกว่าเธอรักธีรดนย์ต่างหากเพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อนรักและน้องสาวตัวเอง และนับว่าชยางกูรจะเกลียดชังวชนกชนม์มากขึ้น เมื่อเขาตามตื้อสุตาภัญไม่สำเร็จ ยิ่งได้รู้ว่าสุตาภัญหลงรักพี่ชายเขาด้วยแล้ว เขาจึงเพิ่มความเกลียดชังต่อพี่ชายมากขึ้นจนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะพี่ชาย สิ่งหนึ่งที่เขาทำ คือ การขอแม่เข้าไปบริหารบริษัท แม้ชนกชนม์จะเตือนว่าเขายังขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้บริหารที่ดี แต่ก็โดนแม่ที่รักชยางกูร โดยไม่สนใจเหตุผลใดด่าว่าเขาอิจฉาน้อง การเข้ามาบริหารบริษัทของชยางกูรทำให้สถานการณ์บริษัทย่ำแย่ เมื่อเขาไม่มีความรู้ ความสามารถ ไม่มีประสบการณ์ และยังใช้อารมณ์ตัดสินใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น เขาไล่มันสมองของบริษัทออกไปหลายคน รวมทั้งยังตกเป็นทาสของการพนันจากการชักชวนของเสี่ยปรัชญาอีกด้วย ชยางกูรต้องการครอบครองสุตาภัญเป็นที่สุด และเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล เขาจึงล่อลวงสุตาภัญให้ไปที่บ้านเขาเพื่อปลุกปล้ำเธอ แต่ชนกชนม์ก็มาช่วยเธอไว้ได้อย่างหวุดหวิดก่อนที่เธอจะตกเป็นทาสอารมณ์ของชยางกูร และเขาก็ชกต่อยจนน้องชายถึงขึ้นเลือดตกยางออก สุรัมภาที่สะกดรอยตามพี่สาวมาที่บ้านชนกชนม์ เมื่อคิดว่าพี่สาวกำลังแอบลักลอบมาพบกับชายที่รัก และเมื่อได้พบไม้เบื่อไม้เมาอย่างชยางกูรอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเธอจึงพูดเย้ยเขา สุดท้ายชยางกูรข่มขืนสุรัมภาด้วยความแค้นจนเธอเสียใจที่สุด เมื่อชีวิตต้องตกนรกกลายเป็นเมียของผู้ชายกักขฬะ และบัดนี้เขาก็เป็นศัตรูที่มีเพียงความเกลียดชังมอบให้กันเท่านั้น ภาพที่ชนกชนม์กำลังอุ้มสุตาภัญไปส่งที่บ้านหลังจากช่วยเหลือเธอให้พ้นเงื้อมมืออันชั่วร้ายของชยางกูร ทำให้คุณสุทินและคุณเสาวนิตย์เข้าใจผิด คิดว่าลูกสาวไม่รักนวลสงวนตัวจึงต่อว่าลูกสาวอย่างหนัก และทั้งคู่ก็ยื่นคำขาดให้เธอเลิกคบหากับชนกชนม์ แม้จะต้องเจ็บตัวจากฝีมือพี่ชาย แต่ชยางกูรก็หาวิธีกำจัดชนกชนม์ให้พ้นทางได้ด้วยการใส่ไฟต่อคุณชลนิภาว่าพี่ชายคิดพาสุตาภัญมาทำประเจิดประเจ้อในบ้าน แต่เมื่อเข้าห้ามไว้พี่ชายก็ไม่ฟังจึงชกต่อยเขาจนหน้าบวมปูดเช่นนี้ แม้ชนกชนม์พยายามอธิบายที่ทำร้ายน้องแต่แม่ไม่เคยเชื่อเขา เธอเชื่อลูกชายสุดที่รักอย่างเดียว เธอจึงใช้ที่เขี่ยบุหรี่ปาหัวชนกชนม์จนหัวแตกแล้วไล่ออกจากบ้านแบบไร้เยื่อใย ความรักศักดิ์ศรีของตัวเองทำให้ชนกชนม์ตัดสินใจออกจากบ้านไป ยิ่งทำให้ชยางกูรสะใจยิ่งนัก ชนกชนม์ไร้ซึ่งหนทางไป เขาจึงไปพักอาศัยอยู่กับเพื่อนรักอย่าง สุรเดช อีกหนึ่งผลผลิตของครอบครัวที่แตกแยกจนชีวิตต้องดำดิ่งสู่ความเลวร้ายเมื่อตกเป็นทาสยาเสพติด และยังเป็นเครือข่ายผู้ขายอีกด้วย แต่ชนกชนม์ยังรักดีแม้จะได้รับการชักชวนให้เสพยาครั้งแล้วครั้งเล่าจากสุรเดชแต่เขาไม่เคยคิดว่ายาเสพติดจะช่วยทำให้ปัญหาชีวิตเขาคลี่คลายไปได้ เขาจึงเลือกที่จะไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟแทน แม้จะได้ข้อเสนอจากแขกที่มาเที่ยวเพราะหน้าตาที่หล่อเหลาเขาโดนใจใครหลายคนให้ขายตัวเพื่อเงิน แต่เขาก็ไม่คิดจะทำอาชีพลัดนั้น นับวันความสัมพันธ์ระหว่างชนิกานต์กับธีรดนย์จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น โดยมีตัวกลางอย่างกัณฐิกาที่คอยเติมเชื้อไฟ แล้วกัณฐิกายังใช้เล่ห์มายาเพื่อทำให้ธีรดนย์เป็นของเธอให้ได้ และภาพที่กัณฐิกากำลังอ่อยเหยื่อธีรดนย์อยู่ทำให้ชนิกานต์ที่ได้เห็นภาพนั้นตัดสินใจขับรถชนทั้งคู่ แต่นางอุษาที่เห็นเหตุการณ์นั้นก่อนจึงรีบวิ่งเข้าขวางธีรดนย์ สุดท้ายเธอจึงต้องรับเคราะห์แทนลูกชายไป ชนิกานต์เสียใจอย่างสุดหัวใจที่ฆ่านางอุษาตายด้วยน้ำมือตนเอง แม้เธอจะเกลียดธีรดนย์มากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ได้เกลียดนางอุษา เพราะนางอุษาคือผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมาอย่างทะนุถนอม แม้ธีรดนย์จะหวังให้ชนิกานต์ไปรับกรรมในคุก แต่คุณธนวัตก็ขอร้องต่อเขาไม่ให้เอาผิดชนิกานต์โดยอ้างบุญคุณจากข้าวแดงแกงร้อนมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน แต่แล้วธีรดนย์ก็แก้แค้นต่อชนิกานต์ตามแบบของเขาเองด้วยการปลุกปล้ำจนได้เธอเป็นเมีย แม้จะตกเป็นเมียธีรดนย์อย่างไม่เต็มใจ แต่ชนิกานต์กลับมีความสุขไปกับรสสวาทที่เธอได้รับจากเขา ความรักที่เคยมอบให้ชนกชนม์จนหมดหัวใจกลับกลายเป็นความว่างเปล่า โดยที่เธอไม่เสียใจสักนิด แต่ความรักทั้งหมดถูกส่งมอบให้ธีรดนย์แทน จากผู้โดนกดขี่บัดนี้ ธีรดนย์กลายเป็นผู้ชนะที่อยู่เหนือชนิกานต์ เธอจึงเปรียบเป็นลูกไก่ในกำมือเขาเท่านั้น ชนิกานต์กลายเป็นผู้หญิงขี้หึงเมื่อต้องการให้ธีรดนย์เป็นของเธอคนเดียว เธอจึงแสดงความเป็นเจ้าของเขาจนออกนอกหน้า เธออาละวาดรุนแรงกับกฤติยาเมื่อเห็นเธอมาตอแยกับธีรดนย์ รวมทั้งกับสุตาภัญ ซึ่งรู้สึกแปลกใจที่เห็นท่าทีเช่นนั้นของเพื่อนสาวเพราะตลอดมาเธอเกลียดชังธีรดนย์ยังกับอะไรดี ในยามเศร้าใจเมื่อการจากไปของแม่ยังไม่ทำให้ความทุกข์ในใจธีรดนย์หายไปได้ เขามีที่พึ่งทางใจอย่างสุตาภัญ เขาจึงไปหาเธอที่บ้านเพื่อหวังได้กำลังใจในการลุกขึ้นสู้กับปัญหา สุตาภัญไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับธีรดนย์จึงกอดปลอบประโลมเขาในยามท้อแท้ แต่การกระทำนั้นกำลังทำร้ายตัวเอง เมื่อทั้งชนกชนม์ที่หวังจะมาปรับทุกข์กับเธอได้เห็นภาพบาดตาบาดใจนั้น รวมทั้งพ่อแม่ที่มาเห็นภาพนั้นด้วยเช่นกัน ทั้งคู่จึงอบรมลูกสาวให้รักนวลสงวนตัวแต่สุตาภัญก็อธิบายเหตุผลที่ทำเช่นนั้น แต่พ่อแม่ไม่ฟังจึงออกปากไล่เธอออกจากบ้านเมื่อทำตัวให้น่าอับอาย ชีวิตชนกชนม์ไม่ได้เลวร้ายเพียงแค่เห็นภาพที่สุตาภัญกอดธีรดนย์เท่านั้น เมื่อโดนแม่ที่ได้รับฟังคำใส่ไฟจากชยางกูรดูถูกว่าชีวิตตกต่ำจนคิดขายตัว เมื่อชีวิตไม่มีอะไรหลงเหลือแล้ว ชนกชนม์จึงคิดว่ามีชนิกานต์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่รักเขาแต่เพียงผู้เดียว เขาจึงไปหาเธอด้วยความหวังสุดท้าย แต่กลับกลายว่าบัดนี้ชนิกานต์ที่หมดรักในตัวเขาอย่างสิ้นเชิงได้บอกเลิกต่อเขา และเธอก็บอกความจริงกับต่อเขาว่าเธอไม่ได้ช่วยเขาจากเหตุการณ์เจ็ทสกีคว่ำ แต่เป็นสุตาภัญต่างหากที่ช่วยชีวิตเขาไว้ แม้จะซาบซึ้งในน้ำใจของสุตาภัญแต่บัดนี้เขารู้แล้วว่าเธอไม่ได้รักเขาแต่รักธีรดนต์ต่างหาก สุดท้ายชนกชนม์ตัดสินใจหันหน้าเข้าหายาเสพติด เมื่อคิดว่ามันจะทำให้เขาลืมปัญหาทุกอย่างในชีวิต แม้จะปฏิเสธมันมาตลอดก็ตาม แต่กลับเป็นว่าชีวิตเขาช่างเลวร้ายเมื่อเอาตัวไปพัวพันกับสิ่งชั่วร้าย สุตาภัญออกจากบ้านเพื่อยุติปัญหาระหว่างเธอกับพ่อแม่ เธอออกไปอยู่อพาร์ทเม้นท์ใกล้มหาวิทยาลัย แต่เธอไม่ได้ทำตัวเหลวแหลกเพื่อประชดพ่อแม่ เธอตั้งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองให้พ่อกับแม่เห็นความดีที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจเธอ ผิดกับชีวิตของสุรัมภา ที่เมื่อขาดพี่สาวคอยเป็นกำลังใจและให้หลักชีวิตเธอมาตลอด จึงกลายเป็นเด็กสาวใจแตกเต็มขั้นด้วยการหนีเที่ยวกลางคืนอย่างหนักแถมใช้ชีวิตเสเพลไปกับการดื่มเหล้าอีกด้วย ส่วนธีรดนย์เมื่อได้รู้ว่าชนิกานต์ขาดเขาไม่ได้ เขายิ่งแกล้งทำให้เธอกลายเป็นคนติดเหล้าไปแล้ว ความเศร้าใจของธีรดนย์ก็ได้รับการเติมเต็มด้วยกำลังใจจากกฤติยาที่รักและหวังดีต่อเขาตลอด และเมื่อได้รับการปฏิเสธจากสุตาภัญหลังบอกรักกับเธอ ทำให้ธีรดนย์เสียใจแล้วความเห็นอกเห็นใจก็ทำให้ธีรดนย์และกฤติยาได้สานสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน พอรู้ว่าชีวิตชนกชนม์ต้องย่ำแย่เมื่อโดนชนิกานต์ตัดความสัมพันธ์ สุตาภัญจึงพร้อมยืนเคียงข้างเขาเพื่อฝ่าฟันปัญหาไปด้วยกัน กำลังใจที่ดีจากสุตาภัญทำให้ชนกชนม์ได้รู้ใจตัวเองว่าใจแท้ที่จริงแล้วเขารักเธออย่างสุดหัวใจ ทางด้านชีวิตชยางกูรกำลังพบจุดวิกฤติเมื่อเป็นหนี้สินเสี่ยปรัชญาหลายสิบล้านทำให้เขาโดนซ้อม และขู่ว่าจะแฉความลับนี้ให้คุณชลนิภารู้ แต่เขาก็ค้นพบทางออกให้ชีวิตได้เมื่อเสี่ยปรัชญาถูกใจสุตาภัญ เมื่อได้พบเธอขณะทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร เสี่ยปรัชญาจึงยื่นข้อเสนอว่าถ้าชยางกูรพาตัวสุตาภัญมาให้เขาสังเวยสุขได้เขาจะยกหนี้สินให้หมด ชีวิตสุรัมภาย่ำแย่เมื่อเธอได้ค้นพบว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง แถมพ่อแม่ยังจับได้ว่าเธอหนีเที่ยวจึงโดนกักบริเวณ เช่นเดียวกับชนิกานต์ที่ได้รู้ความจริงว่าเธอกำลังตั้งท้องกับธีรดนย์ แต่นับวันเขาจะยิ่งทำตัวเหินห่างจากเธอมากขึ้น แถมกัณฐิกายังล่วงรู้ความลับเรื่องการท้องของชนิกานต์อีกต่างหาก เธอจึงรอวันที่จะแฉความเลวร้ายนี้ของลูกเลี้ยงตัวแสบให้ทุกคนรู้อย่างสะใจ สุรัมภาไม่อาจเก็บควาทุกข์เรื่องการท้องไว้ได้คนเดียว เธอจึงบอกพี่สาวให้ได้รับรู้ เมื่อรู้ดีว่าพี่สาวหวังดีกับเธอมาโดยตลอด สุตาภัญสงสารน้องสาวที่ชะตาชีวิตเป็นเช่นนี้ และยิ่งโกรธเกลียดชยางกูรมากขึ้นที่ทำร้ายน้องสาวเธอ เธอพร้อมสุรัมภาจึงบุกไปที่บ้านเพื่อทวงความรับผิดชอบจากเขา แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากเขาและคุณชลนิภา แถมยังโดนดูหมิ่นน้ำใจอีกด้วย คุณสุทินและคุณเสาวณิต ได้รู้ความลับเรื่องการท้องของสุรัมภา ทั้งคู่โกรธมากที่ลูกสาวซึ่งไว้ใจมาตลอดกลายเป็นเด็กใจแตก ท้องไม่มีพ่อตั้งแต่ยังเรียนหนังสือไม่จบ จึงไล่สุรัมภาออกจากบ้านไป เธอจึงต้องไปอาศัยอยู่กับพี่สาว แต่เหมือนว่ากำลังใจที่ดีจากพี่สาวจะทำให้สุรัมภาเข้มแข็งขึ้นมาก เมื่อโดนเร่งรัดเรื่องสุตาภัญจากเสี่ยปรัชญา ชยางกูรจึงต้องวางแผนลักพาตัวเธอ แต่ชนกชนม์ก็ยังมาช่วยเธอได้อย่างหวุดหวิด และซัดน้องชายจนสะบักสะบอมอีกครั้ง แม้จะโดนน้องชายใช้วิธีหมาลอบกัดก็ตาม ชนกชนม์ตัดสินใจพาสุตาภัญไปแจ้งความตำรวจเรื่องชยางกูรเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชนกชนม์และสุตาภัญได้เปิดหัวใจรักต่อกันมากยิ่งขึ้น เมื่อทำงานพลาด เสี่ยปรัชญาโกรธแค้นต่อชยางกูรอย่างมาก จึงสั่งลูกน้องให้รุมทำร้ายเขาจนบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ แถมเสี่ยปรัชญายังบุกไปที่ทำงานคุณชลนิภาเพื่อแฉเรื่องที่ชยางกูรเป็นหนี้การพนันเขา แถมตำรวจยังตามไปล่าตัวชยางกูรที่บ้าน เมื่อโดนแจ้งความเรื่องการพยายามข่มขืนสุตาภัญ ทำให้คุณชลนิภาเริ่มตระหนักถึงความรักที่เกินขอบเขตที่เธอมอบให้ลูกชายอย่างชยางกูร ความใกล้ชิดระหว่างกฤติยากับธีรดนย์ทำให้ชนิกานต์อาละวาดตบตีกฤติยาเป็นการใหญ่ จนกัณฐิกาต้องเข้ามาช่วยลูกสาว และแม่ก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนลูกสาวเรื่องธีรดนย์ กฤติยามั่นใจว่าแม่กำลังหึงหวงเธอ จึงพูดประชดประชันเรื่องที่แม่ก็หลงรักธีรดนย์อยู่ การเชือดเฉือนใจที่ดุเดือดระหว่างสองแม่ลูกทำให้ชนิกานต์ที่แอบฟังอยู่ได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน ไม่ใช่น้าหลานกันอย่างที่บอกทุกคน ชนิกานต์จึงหวังจะแฉความลับของแม่เลี้ยงให้พ่อได้รู้ แต่กัณฐิกาก็ใช้ความลับเรื่องการท้องของชนิกานต์มาเป็นเครื่องต่อรอง ทำให้ชนิกานต์นึกเสียดายที่ไม่ได้แฉความลับของแม่เลี้ยงผู้กระหายเงิน เมื่อรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บจนหายดี ชยางกูรตัดสินใจกลับบ้านเพราะคิดว่ายังไงแม่ก็ต้องเชื่อเขาและอยู่ข้างเขาตลอดเวลา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่อย่างที่ผ่านมาเมื่อคุณชลนิภามีสติและเหตุผลมากขึ้นจากข้อคิดที่ได้คุณธนกรซึ่งเธอไม่เคยคิดว่าเขาจะช่วยเหลืออะไรเธอได้ ดังนั้น เมื่อโดนต้อนให้จนมุมเพื่อให้บอกเหตุผลเรื่องหนี้การพนันและคดีข่มขืนสุตาภัญ จนโดนตำรวจแจ้งจับ แต่เมื่อไม่สามารถหาเหตุผลได้ ชยางกูรก็เผยโฉมหน้าตัวเองออกมา และตอกย้ำว่าที่เขาเลวเป็นเพราะการเลี้ยงดูของแม่ ยิ่งทำให้คุณชลนิภาได้รู้ธาตุแท้ลูกชายคนนี้ เธอเสียใจที่ความรักซึ่งเธอให้เขาจะเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทำร้ายเธอเธอใช้ที่เขี่ยบุหรี่อันเดียวกับที่ทำร้ายชนกชนม์ปาหัวชยางกูรจนแตกแล้วก็ไล่เขาออกจากบ้าน เมื่อหมดสิ้นทุกอย่างในชีวิต ชยางกูรจึงคิดจัดการกับศัตรูที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ เริ่มที่เสี่ยปรัชญาด้วยการโทรไปแจ้งตำรวจเรื่องการเปิดบ่อนพนันผิดกฎหมายและการลักลอบขนอาวุธเถื่อนด้วย จนเสี่ยปรัชญาต้องโดนตำรวจตามจับจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน แล้วศัตรูคนต่อไปคือ ชนกชนม์ โดยเขาต้องการทำลายหัวใจพี่ชายนั่นคือ สุตาภัญ เขาจึงคิดลักพาตัวเธอไปปู้ยี่ปู้ยำอีกครั้ง แต่การบุกไปที่ห้องทำให้เขาได้พบสุรัมภาแทน และเมื่อโดนขัดขวางจากเธอทำให้เขาทำร้ายเธอจนเกือบจะแท้ง แต่โชคดีที่ไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อสุตาภัญ พร้อมคุณสุทิน คุณเสาวนิตย์ ซึ่งได้รู้ซึ้งถึงการเลี้ยงลูกที่ผิดแบบของตัวเองมาตลอดกำลังจะมารับเธอกลับบ้านแต่ต้องมาพบเธอโดยทำร้ายก่อน สุดท้ายทุกคนก็โล่งใจเมื่อเด็กในท้องสุรัมภาปลอดภัย สายใยรักของครอบครัวจึงกลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง ยาเสพติดไม่เคยให้ประโยชน์ มีแต่ให้โทษ ดังนั้นชีวิตที่เกี่ยวพันกับยาเสพติดของชนกชนม์กำลังถึงจุดเลวร้าย เขากลายเป็นผู้ส่งยาเสพติดด้วย ชนกชนม์ต้องต่อสู้กับจิตใจที่อยากยา แต่เขาก็อยากจะเลิกมันเพื่อผู้หญิงที่รักอย่างสุตาภัญ และเมื่อเขารับปากกับสุรเดชว่าจะทำงานส่งยาเป็นครั้งสุดท้าย แต่ครั้งนี้เขาและสุรเดชต้องพิสูจน์บทเรียนของความเป็นเพื่อนที่ยิ่งใหญ่ เมื่อขณะไปส่งยานั้นตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุม ชนกชนม์และสุรเดชต้องหนีหัวซุกหัวซุน สุดท้ายสุรเดชยอมตายเพื่อเพื่อนรักเพื่อให้ชนกชนม์หนีไปได้ แต่เขาก็โดนยิงที่แขน เขาซึ้งใจที่สุรเดชต้องมาจบชีวิตเพื่อช่วยเหลือชีวิตเขา ชนกชนม์หนีไปหาสุตาภัญ เธอพาเขาส่งโรงพยาบาล โดยที่ไม่รู้สาหตุที่เขาโดนยิง เมื่อเขาตื่นขึ้นมาและพบว่าอยู่ที่โรงพยาบาลเขาจึงพยายามหนีเพราะกลัวโดนจับ และเมื่อโดนคาดคั้นหนักถึงสาเหตุการโดนยิง ชนกชนม์จึงเผยความจริงเรื่องการติดยาให้สุตาภัญได้รับรู้ สุตาภัญโกรธมากที่เขาใฝ่ต่ำเอาตัวไปมั่วกับยาเสพติด เธอต่อว่าและตบหน้าเขาด้วยความเสียใจ เมื่อตั้งสติได้หลังจากความโกรธจางหาย สุตาภัญรู้ดีว่าเธอทำผิดต่อชนกชนม์ เพราะในยามนี้เขาต้องการกำลังใจจากเธอไม่ใช่การทับถมให้เจ็บช้ำน้ำใจ แต่เมื่อคิดได้ก็สายไปเมื่อเขาหนีเธอไปแล้ว ชนกชนม์เสียใจเมื่อผู้หญิงที่เขาคิดว่าเข้าใจมากที่สุดอย่างสุตาภัญก็ไม่ต่างจากคนอื่นที่เห็นเขาเป็นกากเดนสังคม เขาจึงกลับไปที่บ้านสุรเดช แต่ไม่คิดจะเสพยาอีกต่อไป เขาเผายาทั้งหมดทิ้ง และต้องต่อสู้กับอาการอยากยาอย่างทุกข์ทรมาน แต่เขาก็ตั้งมั่นที่จะเลิกมันให้ได้ สุตาภัญตามหาชนกชนม์ในทุกที่ ๆ เขาจะไป และได้รับกำลังใจจากคุณธนกรและคุณชลนิภาที่บัดนี้รู้แล้วว่าทำร้ายลูกชายอย่างชนกชนม์มากแค่ไหน และสุดท้ายเธอได้พบเขา เธอขอโทษต่อเขาที่ใช้อารมณ์โกรธทับถมให้เขาขาดกำลังใจ แต่ชนกชนม์ไม่โกรธเธอ แต่กลับรู้สึกซาบซึ้งในสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำเพื่อเขามาตลอดชีวิต สุตาภัญร้องขอให้ชนกชนม์เข้ารับการบำบัดยาเสพติดจากสถานบำบัด ซึ่งเขาก็ตั้งใจทำเพื่อเธอ เมื่ออยากทิ้งอดีตเลวร้ายทั้งหมด เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่กับอนาคตที่สดใส เพราะไม่มีอะไรที่สายเกินไป แม้จะขัดขวางไม่สำเร็จที่จะให้ลูกสาวข้องเกี่ยวกับธีรดนย์ แถมยิ่งต้องเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อได้รู้ความจริงว่ากฤติยามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับธีรดนย์ แม้จะเป็นการทำร้ายใจตัวเองแต่กัณฐิกาก็หวังที่จะทำลายหัวใจชนิกานต์ให้เจ็บปวดกว่าเธอ เมื่อเธอรู้ว่าลูกเลี้ยงหลงรักธีรดนย์มากแค่ไหน เธอจึงให้คุณธนวัตจัดการเรื่องแต่งงานระหว่างธีรดนย์กับกฤติยาอย่างรวดเร็วที่สุด ชนิกานต์เสียใจที่สุดเมื่อชายที่รักกำลังจะแต่งงานกับหญิงอื่น เธอจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องการท้องของเธอ ชนิกานต์จึงบอกว่าเธอท้องกับเขา แต่ธีรดนย์คิดว่าเป็นแผนการทำลายเขาจึงพูดทำร้ายจิตใจเธอ แถมหัวใจชนิกานต์ยังบอบช้ำอย่างมากขึ้นเมื่อคุณธนวัตรู้ความจริงเรื่องการท้องของเธอ เขาตบหน้าลูกสาวที่เธอทำเรื่องเลวร้าย แถมยังออกปากไล่ออกจากบ้าน แม้เธอพยายามบอกความจริงเรื่องกัณฐิกาแต่เขาก็ไม่สนใจจะรับฟัง ชนิกานต์จึงออกจากบ้านพร้อมกับปืนของพ่อ ที่พึ่งยามท้อแท้ของชนิกานต์ยังเป็น สุตาภัญ เธอไปหาเพื่อนรักและได้บอกความจริงเรื่องการท้องของเธอกับธีรดนย์ และงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นของธีรดนย์กับกฤติยา สุตาภัญโกรธที่ธีรดนย์กลายเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ และ

พรมแดนหัวใจ 2556

เรื่องย่อ : พรมแดนหัวใจ (2556/2013) เรื่องราวความรักความแค้นระหว่างเอ็นจีโอหนุ่มผู้มีอุดมการณ์แรงกล้ากับสาวสวย ลูกเจ้าแม่เงินกู้ ที่มุมมองชีวิตแตกต่างอย่างสุดชั้ว อะไรที่ทำให้หัวใจทั้งสองหลอมรวมกันเป็นหนึ่งได้

อัปสรโสภิต สาวสวยลูกสาวแม่เลี้ยงอมรา ถูกเรียกตัวกลับมาที่บ้านเกิดด่วนทันทีที่เรียนจบปริญญาจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เพราะแม่เลี้ยงเกิดล้มป่วยกะทันหัน ระหว่างทางโสภิตถูกคนร้ายกลุ่มหนึ่งดักปล้นและฉุดลงจากรถประจวบกับที่ จีรณะ เอ็นจีโอหนุ่มที่กำลังลงจากดอย หลังจากที่ไปเป็นอาสาสมัครช่วย ผู้กองเกียรติก้อง ตชด. ที่เป็นเพื่อนสนิท สอนเด็ก ๆ ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จีรณะเห็นเหตุการณ์จึงเข้าช่วยโสภิตได้ทัน แล้วจีรณะก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคนร้ายก็คือนาย บุญมี ผู้ที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี นายบุญมีเป็นชาวสวนที่เป็นลูกหนี้ของ แม่เลี้ยงอมรา และต้องการจะจับโสภิตไปเป็นตัวประกันเพื่อให้แม่เลี้ยงยกหนี้ให้ จีรณะขอให้บุญมีเลิกล้มความคิด แล้วปล่อยให้บุญมีหนีไป โสภิตฟื้นขึ้นได้ยินจีรณะเจรจากับบุญมีจึงคิดว่าจีรณะเป็นคนร้าย เข้าทำร้ายจีรณะจนหัวแตก ก่อนจะหนีกลับไปที่บ้านแล้วพบว่าแม่เลี้ยงผ่าตัดบายพาสหัวใจต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน แม่เลี้ยงอมราเป็นเศรษฐีนีเงินกู้สุดเค็มประจำจังหวัด เป็นที่เกรงกลัวเกรงใจของบรรดาคนใหญ่คนโตตั้งแต่ผู้ว่า สจ. นักการเมืองท้องถิ่น ตำรวจ แม่ค้า ไปจนถึงเกษตรกรตัวเล็ก ๆ

ต่อหน้าแม่เลี้ยง ทุกคนสรรเสริญเยินยอ แต่ลับหลังกลับสาปแช่งให้ตายเร็ว ๆ แม่เลี้ยงมีลูกสามคน คนโตคือพิมพร แต่งงานไปอยู่ต่างประเทศกับสามี คนที่สองคือยศลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ไม่ทำงานทำการทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพาย ขยันหาเรื่องให้แม่เลี้ยงต้องตามแก้ปัญหา แต่เป็นคนปากหวานชอบอ้อนแม่เหมือนเด็ก ๆ แม่เลี้ยงก็ใจอ่อนให้ท้ายยศอยู่เสมอ ส่วนโสภิตเป็นคนสุดท้อง ถูกส่งไปเข้าโรงเรียนประจำตั้งแต่มัธยมเพิ่งเรียบจบปริญญาตรีทางบัญชีมาจากกรุงเทพฯ แม่เลี้ยงตั้งใจให้ลูกสาวคนนี้ช่วยแบ่งเบาภาระงานการของตัวเอง เพราะนิสัยคล้ายตัวเองที่สุด

จีรณะเป็นลูกชายของ ครูเจือ ครูแสนดีที่เป็นครูตัวอย่างประจำจังหวัด มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งรักและ เคารพทั่วเมือง ครูเจือเสียชีวิตไปแล้ว แต่จีรณะก็ได้บารมีพ่อ จึงเป็นที่รักของผู้คนไปด้วย จีรณะเรียนมาทางด้านป่าไม้ และกำลังทำโครงการวิจัยพันธุ์พืช ด้วยความที่เป็นคนรักเด็ก จีรณะจึงมักไปช่วยเกียรติก้องสอนหนังสือที่โรงเรียนบนดอยเสมอ และแล้วจีรณะก็ได้เจอเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อกลับมาคราวนี้ จิตรา น้องสาวคนเดียวของเขาเพิ่งกินยาฆ่าตัวตายเข้าไป จีรณะพาส่งโรงพยาบาลช่วยชีวิตไว้ได้ทัน จีรณะพยายามถามถึงสาเหตุที่น้องสาวคิดสั้น แต่จิตราก็ปิดปากเงียบไม่ยอมบอกอะไรทั้งสัน จีรณะทำอะไรไม่ได้ แต่เดาสาเหตุว่าน่าจะเกิดจากแฟนหนุ่มที่มาติดพันน้องสาว แต่ก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร จีรณะได้เจอกับโสภิตที่มาเยี่ยมแม่เลี้ยง โสภิตรีบโทรแจ้งตำรวจให้มาจับจีรณะ แต่เมื่อตำรวจมาถึงกลับไม่ยอมจับกุม มิหนำซ้ำยังพูดคุยกับจีรณะเป็นอย่างดี แถมยังยืนยันเอาตำแหน่งตัวเองเป็นประกันว่าจีรณะไม่มีทางเป็นคนร้าย เพราะจีรณะคือลูกครูเจือ พ่อพระของลูกศิษย์ โสภิตโกรธมากแต่ก็ไม่กล้าฟ้องแม่เพราะอมราอยู่ในระหว่างพักฟื้น

แม่เลี้ยงอมราขอให้ ชีพ ลูกน้องคู่ใจพาโสภิตไปฝึกการทวงหนี้กับลูกหนี้ รายแรกเป็นพ่อค้าขี้เมา แต่เมื่อไปถึงที่ลูกหนี้ได้หนีไปแล้ว ทิ้งลูกเมียให้รับหน้า ลูกหนี้พยายามอ้อนวอนขอผัดผ่อนหนี้โสภิตเกือบใจอ่อน แต่จีรณะกลับโผล่เข้ามารับหน้าแทนแม่ลูกคู่นั้น โสภิตจึงแกล้งขูดรีดเงินอย่างโหด จีรณะพยายามไกล่เกลี่ยต่อรองผ่อนหนักเป็นเบา แต่โสภิตไม่สน ขู่จีรณะว่าจะเอาสองแม่ลูกติดคุกถ้าใช้หนี้ไม่ได้ตามกำหนดก่อนจะสะบัดหน้าออกไป

ในเย็นวันนั้น สองแม่ลูกลูกหนี้ของแม่เลี้ยงอมราได้ออกรายการสดทางโทรทัศน์ที่ตีแผ่ความยากลำบากของชีวิตเมื่อเจอมรสุมนายทุนขูดรีด โสภิตกลายเป็นเจ้าหนี้หน้าเลือดที่ออกอากาศประจานตัวเองไปทั้งประเทศ โสภิตอายมากเข้าใจว่าจีรณะตั้งใจจัดฉากทำลายชื่อเสียงของตัวเอง จึงทวีความโกรธเกลียดที่มีกับจีรณะมากยิ่งขึ้น ขอให้ชีพไปสั่งสอน แต่พอรู้ว่าชีพยกพวกไปดักทำร้ายจีรณะจริง ๆ โสภิตก็รีบตามไปห้าม เพราะจริง ๆ แล้วโสภิตไมใช่คนนิสัยโหดร้าย โสภิตต้องบาดเจ็บเสียเอง แต่ก็ไม่กล้าให้แม่รู้ ต้องโกหกว่าหกล้ม ชีพเอาเรื่องไปฟ้องแม่เลี้ยงจนได้โสภิตถูกแม่เลี้ยงตำหนิที่ใจอ่อน ขณะเดียวกันก็ให้ชีพยกพวกไปเล่นงานจีรณะอีกครั้ง แต่คราวนี้ลูกศิษย์ตัวน้อยของจีรณะโดนลูกหลง จีรณะเข้าใจผิดว่าเป็นการสั่งการของโสภิตที่แกล้งมาช่วยตนแต่ลอบมาตลบหลังจึงยิ่งแค้นโสภิต แม่เลี้ยงกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ยื่นคำขาดให้ยศเลิกกับผู้หญิงทุกคนที่มีอยู่ เพื่อเตรียมตัวไปเป็นลูกเขยของผู้ว่าราชการจังหวัด ยศบ่ายเบี่ยงเกี่ยงว่ายังให้คำตอบไม่ได้ ต้องเห็นหน้าผู้หญิงที่แม่หาให้เสียก่อน แม่เลี้ยงโกรธอาละวาดใส่ยศ ฟ้องโสภิตว่ายศวัน ๆ เอาแต่เจ้าชู้หาเรื่องมาให้แม่แก้ปัญหา นี่ก็เพิ่งจับได้ว่าไปแอบจดทะเบียนสมรสกับนางพยาบาลจน ๆ คนหนึ่ง ผู้หญิงเป็นคนไม่ดี มั่วผู้ชาย พยายามจับคนรวย ๆ แม่เลี้ยงสั่งให้โสภิตรีบไปเจรจากับฝ่ายนั้น โสภิตบ่ายเบี่ยงไม่อยากทำ แต่ถูกแม่เกลี้ยกล่อมจนโสภิตเห็นว่าฝ่ายหญิงต้องการจับยศ จึงยอมรับปาก

วันที่โสภิตไปเจรจากับจิตรา จีรณะกลับมาพอดีได้ยินสิ่งที่โสภิตพูด จึงยิ่งเกลียด ด่าว่าโสภิตอย่าง รุนแรงเพราะเข้าใจว่าโสภิตเป็นผู้หญิงคนใหม่ของยศมาจ้างให้น้องสาวตัวเองหย่า ส่วนโสภิตก็เข้าใจผิดว่าจีรณะเป็นชู้ของจิตรา โสภิตแสดงท่าทางดูถูกจีรณะ จีรณะหมั่นไส้แกล้งให้โสภิตตกนํ้า และเข้าไปช่วยพร้อมกับลวนลามจูบหอมโสภิตเพื่อสั่งสอนให้ลดความยโสลงไป โสภิตกลับบ้านไปด้วยความแค้น จิตราสารภาพกับจีรณะว่า สาเหตุที่ตัวเองฆ่าตัวตายเพราะถูกยศขอให้หย่าโดยอ้างว่าแม่เลี้ยงอมราไม่ยอมรับตัวเองเป็นสะใภ้เพราะจน ยศจำเป็นต้องทำตามคำสั่งแม่คือไปแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ที่แม่หาให้ จีรณะแค้นครอบครัวนี้มาก สั่งให้จิตราเลิกยุ่งกับยศเด็ดขาด

พิมพรหย่ากับสามีฝรั่งหอบลูกชายวัย 6 ขวบคือบ๊อบบี้ เดินทางกลับมาหาแม่ และเกิดพลัดหลงกับ บ๊อบบี้ ที่ท่ารถ พิมพรตามหาลูกแทบคลั่ง แต่ก็หาลูกเจอในที่สุดเพราะจีรณะมาช่วยไว้ จีรณะพาพิมพรไปส่งบ้าน ทำให้รู้ว่าพิมพรเป็นลูกของแม่เลี้ยงอมราและเป็นพี่สาวของยศ จีรณะรีบลากลับก่อน ทำให้พลาดการเจอกับโสภิต พิมพรเป็นไม้เบื่อไม้เมากับแม่เลี้ยงอมราเพราะแม่ไม่ชอบลูกเขยฝรั่ง เมื่อแม่เจอลูกสาวก็ปึงปังใส่ โสภิตต้องเป็นตัวกลางคอยประสานคนทั้งคู่ แต่แม่เลี้ยงอมรารักและหลงหลานลูกครึ่งมาก บ๊อบบี้ก็ปากหวานประจบยายให้ยิ่งหลงมากยิ่งขึ้น

จีรณะได้รับอนุมัติมาเป็นผู้ช่วยงานวิจัยทางการศึกษาที่โรงเรียนประจำจังหวัดชั่วคราว เป็นเวลาเดียวกับที่แม่เลี้ยงอมราใช้เส้นจับหลานชายให้มาเรียนกลางเทอมโรงเรียนที่จีรณะสอนอยู่ บ๊อบบี้มีปัญหาเข้ากับเพื่อนไม่ได้และหนีเรียน จีรณะเข้าช่วยตามหาจนพบ และปราบพยศจนบ๊อบบี้รักและศรัทธา ยกใหจีรณะเป็นฮีโร่ของตัวเอง บ๊อบบี้ไปขอให้ยายจ้างจีรณะเป็นครู ไม่งั้นจะย้ายกลับไปเรียนหนังสือที่เมืองนอก แม่เลี้ยงอมราไปขอร้องให้จีรณะมาเป็นครูโดยไม่เกี่ยงค่าแรง แต่จีรณะไม่ตกลง แม่เลี้ยงผิดหวังกลับไป แล้วไปจ้างลูกหนี้คนหนึ่งซึ่งเคยให้จีรณะคํ้าประกันเงินกู้การศึกษาให้หนีไป จีรณะต้องชดใช้หนี้แทน แม่เลี้ยงเสนอตัวล้างหนี้ให้โดยเสนอข้อแลกเปลี่ยนให้จีรณะมาสอนภาษาไทยให้บ๊อบบี้ จีรณะจำใจต้องตกลงเพราะสงสารบ๊อบบี้และมีแผนอยู่ในใจว่าจะพยายามเปลี่ยนให้ครอบครัวนี้หันมาเห็นใจคนยากจนบ้างพิมพรเริ่มหลงรักจีรณะ และพยายามแสดงออกอย่างชัดเจนว่าขอบ แต่จีรณะกลับทำเฉย ๆ เมื่อโสภิตรู้ว่าจีรณะมาเป็นครูของบ๊อบบี้ก็คัดค้านหัวชนฝา แต่ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งมารู้ว่าทิมพรพอใจจีรณะทำให้ยิงหมั่นไส้ เมื่อทั้งสองเจอกันก็เหมือนไม้เบื่อไม้เมา จีรณะรู้ว่าโสภิตเกลียดก็ยิ่งแกล้ง ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

แม่เลี้ยงอมรายึดที่ดินของนายบุญมี นายบุญมีแค้นมาก เอาเรื่องมาปรึกษาจีรณะว่าจะแก้แค้นสอง แม่ลูกนี้ไม่ปล่อยไว้อีกต่อไป จีรณะพยายามห้าม แต่นายบุญมีไม่ฟ้ง เพราะสงสัยว่าจีรณะจะมีความสัมพันธ์กับครอบครัวของอมรา แต่แท้จริงแล้วจีรณะรู้ว่านิสัยจริง ๆ ของโสภิตไม่ได้เค็มเขี้ยวเหมือนแม่ แต่ยังไม่ทันที่จีรณะจะเกลี้ยกล่อมโสภิต ยศก็มาสารภาพกับโสภิตว่าตัวเองได้เสียกับนิตยา ลูกสาวผู้ว่าฯ แล้ว แต่ก็ไปแอบจดทะเบียนไว้กับจิตราด้วย ถ้านิตยารู้ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ ๆ โสภิตจำใจต้องออกหน้าไปพูดเรื่องนี้อีกครั้ง จิตราปฏิเสธไม่ยอมคุยกับโสภิต โดยให้จีรณะออกหน้าแทน จีรณะเองก็เพิ่งรู้ว่าจิตราไม่ยอมเลิกกับยศอย่างที่รับปาก แต่ต้องปกป้องน้องสาว จีรณะกับโสภิตปะทะคารมกันอย่างดุเดือด จีรณะขู่กลับไปว่าถ้าต้องการใบหย่าให้เอาเงินมาจ่าย 20 ล้าน จึงจะยอมให้จิตราหย่าให้ จิตราคิดฆ่าตัวตายอีกรอบ จีรณะแค้นใจยิ่งเกลียดโสภิตมากขึ้น ไม่ยอมไปหาบ๊อบบี้อีก

วันหนึ่ง โสภิตกลับบ้านคนเดียว นายบุญมีกับพวก 3 คนดักรออยู่แล้ว เข้าฉุดโสภิตจะเอาไปข่มขืน จีรณะซึ่งเป็นห่วงอยู่แล้วเข้ามาช่วยได้ทัน คราวนี้นายบุญมีไม่ยอมเปลี่ยนใจ ยื่นคำขาดว่าจีรณะต้องปล้ำโสภิตเป็นเมีย จะได้บังคับให้โสภิตยกหนี้ให้พวกตนได้ จีรณะตกลง ทั้งสามจึงเอาเงินของโสภิตไปเที่ยวผู้หญิงแทน โสภิตเข้าใจว่าจีรณะกับพรรคพวกตั้งใจทำลายเธอ จีรณะจึงผสมโรงและขู่โสภิตเพิ่มเข้าไป จีรณะแกล้งลวนลามโสภิต โสภิตเกลียดจีรณะสุด ๆ จนตัดสินใจกระโดดออกมาจากหน้าต่างขั้นสอง ตกลงมาสลบ เมื่อฟื้นขึ้นมากลายเป็นว่าจีรณะเป็นฮีโร่ของที่บ้านมาช่วยชีวิตโสภิตตามเคย จีรณะพาโสภิตมาโรงพยาบาลเลยพบว่าบ๊อบบี้ป่วยเรียกหาแต่จีรณะ จีรณะจึงต้องจำใจดูแลบ๊อบบี้ พ่อฝรั่งของบ๊อบบี้ส่งทนายให้มาง้อพิมพร แม่เลี้ยงไม่ยอมจึงไล่ทนายกลับ เมื่อเห็นจีรณะกับบ๊อบบี้เล่นด้วยกัน ก็เกิดความคิดอยากได้จีรณะมาเป็นเขยเพื่อดึงลูกและหลานให้อยู่ในเมืองไทย แม่เลี้ยงจึงสนับสนุนพิมพรกับจีรณะ อยู่กลาย ๆ จีรณะต้องไปดูโรงเรียนที่ชายแดน พิมพรตามไปโดยอ้างว่าบ๊อบขอร้องบ๊อบบี้เล่นกับเด็กดอยอย่างสนุกสนาน ขณะที่พิมพรออกอาการรังเกียจและไม่สนุกกับความทุรกันดารบนดอย จึงโทรขอให้โสภิตเอาเครื่องอำนวยความสะดวกตามไปให้ โสภิตจำใจต้องไป จีรณะแอบดีใจที่โสภิตมา เพราะเริ่มหลงรักโสภิตโดยไม่รู้ตัว ก็ใช้อุบายขอให้โสภิตช่วยตนสอนหนังสือบ้าง พาไปเยี่ยมบ้านลูกศิษย์บ้าง เพื่อให้โสภิตได้ซึมซับความยากลำบากของคนที่ขาดทุกอย่าง

วันที่กลับกรุงเทพฯ มีอุบัติเหตุทำให้ตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับมีไม่ครบคน พิมพรพาบ๊อบบี้กลับไปก่อน ส่วนโสภิตจะบินตามไปในวันรุ่งขึ้น โสภิตทะเลาะกับจีรณะ แล้วเกิดหลงทางเข้าป่าไปเจอกับแหล่งเก็บยาบ้าเข้าโดยบังเอิญ ทั้งสองถูกคนร้ายจับจีรณะพาโสภิตหนีออกมาได้โสภิตเป็นไข้ จีรณะแกล้งทำให้โสภิตเข้าใจผิดว่าตกเป็นของตัวเองแล้ว พอกลับมากรุงเทพฯ จีรณะถือไพ่เหนือกว่า บอกว่าจะแฉความสัมพันธ์ของตนกับโสภิต และยังขู่ว่าจะบอกเรื่องที่ยศไปจดทะเบียนกับจิตราให้นิตยารู้ด้วย จีรณะจึงได้ตามติดโสภิตเวลาไปทวงหนี้และแอบผ่อนผัน ช่วยลูกหนี้ของโสภิตตลอด โสภิตไม่กล้าหือ ขณะเดียวกันจีรณะก็แกล้งจีบพิมพรให้โสภิตหึง โสภิตก็แอบหึงแต่ไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง

พีรพงษ์ ลูกชาย ส.ส. ของวังหวัดเมื่อเห็นโสภิตก็ประกาศว่าเจอเจ้าสาวที่จะแต่งงานด้วยแล้ว พ่อของพีรพงษ์ต้องการเงินจากแม่เลี้ยงอมราเพื่อใช้หาเสียง ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายจึงต่างสนับสนุนหนุ่มสาวคู่นี้อย่างออกนอกหน้า ทำให้จีรณะเริ่มหึงและกีดกัน โดยมีบ๊อบบี้เป็นลูกคู่ ยศกับนิตยาทะเลาะกัน ยศกลับมาหาจิตรา จิตราก็ใจอ่อน ลักลอบแอบมาคบกับยศอีก พีรพงษ์เห็นว่าความสัมพันธ์ของตัวเองกับโสภิตไม่คืบหน้าไปสักที จึงวางแผนให้ลูกน้องปลอมเป็นโจรมาจับโลภิตไปแล้วตัวเองทำเป็นไปช่วย เพื่อจะทำให้โสภิตตกเป็นของตน แต่จีรณะกลับเป็นฝ่ายไปช่วยแทน ปรากฏว่าลูกน้องพีรพงษ์เคยเป็นลูกศิษย์พ่อจีรณะมาก่อน เลยปล่อยทั้งคู่ไป จีรณะบาดเจ็บ โสภิตคอยดูแล และในที่สุดทั้งสองก็ตกเป็นของกันและกันจริง ๆ พิมพรบอกอมราว่ารักจีรณะและอยากได้มาเป็นพ่อของลูก แม่เลี้ยงอมรามาปรึกษาโสภิตว่าต้องการให้พิมพรสมหวังในรักและขอให้โสภิตช่วย โสภิตยอมเสียสละให้พี่สาว ประกาศจะแต่งงานกับพีรพงษ์ และจะไปเรียนด็อกเตอร์ต่อที่เมืองนอก จีรณะเสียใจมาก จึงหลบไปสงบใจบนดอยและได้อาโป ชาวเขาที่หลงรักจีรณะคอยปลอบใจ

บ๊อบบี้ล้มป่วยหนัก หมอพบว่าบ๊อบบี้เป็นโรคหัวใจเฉียบพลัน ซึ่งเป็นกรรมพันธุ์มาจากอมรา อมราตกใจมาก พยายามหาหมอมารักษาหลาน แต่ก็ไม่ดีขึ้น บ๊อบบี้บ่นหาจีรณะ โสภิตจึงตัดสนใจขึ้นดอยไปตามหาจีรณะ เป็นเวลาเดียวกับที่พีรพงษ์กำลังลำเลียงยาบ้าข้ามชายแดนมาขาย และจีรณะกำลังตามซุ่มดูแต่โสภิตไม่รู้ตามจีรณะไป ทำให้ทั้งคู่ไปเผชิญหน้ากับพีรพงษ์ พีรพงษ์คิดว่าโสภิตแอบมาหาจีรณะจึงหงหวงมาก ตัดสินใจจะฆ่าจีรณะแต่ตำรวจตามมาทันพอดี พีรพงษ์ถูกจับ ด้วยความแค้น พีรพงษ์จึงซัดทอดแม่เลี้ยงอมราว่าร่วมกันค้ายา แม่เลี้ยงถูกสั่งอายัดทรัพย์สินจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ขอความช่วยเหลอใครก็ไม่มีใครเต็มใจช่วย แม่เลี้ยงจึงได้ตระหนักว่าที่แล้วมาได้สร้างความเจ็บใจไว้ให้คนรอบข้างมากแค่ไหน เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อบ้านของแม่เลี้ยงเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้วอดทั้งหลัง ต้องไปอาศัยศาลาวัดชั่วคราว ส่วนบ๊อบบี้ที่อยู่โรงพยาบาลอาการทรุดลงอีก แม่เลี้ยงจึงถอดแหวนทองวงสุดท้ายถวายพระและอธิษฐานขอให้หลานปลอดภัย โดยตัวเองจะยกหนี้ให้กับทุกคน จิตราได้ข่าวว่าหมอที่เชี่ยวชาญเรื่องหัวใจกำลังเดินทางมาเมืองไทยจึงไปหาและขอให้หมอช่วยบ๊อบบี้ด้วยความที่หมอเคยเป็นลูกศิษย์ครูเจือ จึงยอมมาช่วยผ่าตัดโดยไม่คิดเงิน บ๊อบบี้ดีขึ้น พ่อของบ๊อบบี้รู้ข่าวจึงรีบมาเยี่ยม และคืนดีกับพิมพร จะพาบ๊อบบี้กลับต่างประเทศ แม่เลี้ยงจะคัดค้านก็ไม่มีปัญญา ถึงกับล้มป่วย ยศที่ถูกนิตยาเฉดหัวส่งเพราะเห็นว่ายศตกต่ำก็ซมซานมาหาจิตราเพื่อขอคืนดี จิตราเสนอให้อมราไปอยู่บ้านเช่าด้วยกัน แม่เลี้ยงไปอย่างไม่เต็มใจ แต่เพราะความดีของจิตราที่ปรนนิบัติทำให้แม่เลี้ยงใจอ่อน

โสภิตกับจีรณะยังคงงอนไม่แสดงความในใจต่อกัน ยิ่งโสภิตได้เห็นว่าจีรณะสนิทสนมกับอาโปก็ยิ่งพยายามตัดใจ พิมพรขอให้แม่เลี้ยงกับโสภิตไปอยู่เมืองนอกด้วยกัน แต่แม่เลี้ยงไม่ยอมไป เพราะอยากถือศีลไถ่บาป โสภิตตกลงไปคนเดียว จีรณะเสียใจคิดว่าโสภิตไม่มีเยื่อใยด้วย จึงขึ้นดอยไปสอนหนังสือเด็ก จิตรามาบอกจีรณะว่าโสภิตตั้งครรภ์ (โสภิตไปตรวจที่โรงพยาบาลที่จิตราทำงาน) จีรณะจึงรีบตามไปที่สนามบินแต่ไม่ทัน จีรณะกลับมาที่โรงเรียนบนดอย และก็ได้พบว่าโสภิตมาสอนเลขแทนจีรณะอยู่ (จิตราพาอาโปหาโสภิต เพื่อยืนยันว่าไม่มีอะไรกับจีรณะ) จีรณะแกล้งโวยวายว่าไม่มีเงินจ้าง โสภิตบอกให้ติดไว้ก่อน แต่ขอคิดดอกเบี้ยแพง ๆ ในที่สุดพรมแดนหัวใจของคนทั้งสองก็ไม่ถูกปิดกั้นอีกต่อไป

เรือนกาหลง

เรื่องย่อ : เรือนกาหลง (2556/2013) เรื่องราวความรักที่มากด้วยอุปสรรคของ กาหลง (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) กับ ไม้(วงศกร ปรมัตถากร) ทั้งคู่ถูกพรากจากกันโดยไม้ต้องไปหาเงินมาเป็นค่าสินสอดตามที่ แม่กลอย (สรารัตน์ หลุ่นเรือวงศ์) แม่ของกาหลงกำหนด ขณะที่ กาหลงถูก โชติ (พูลพัฒน์ อัตถปัญญาพล) ลูกชายผู้ใหญ่ช่วงฉุดไปหวังข่มขืน แต่กาหลงไม่ยอม โชติจึงทำร้ายและจับกาหลงถ่วงน้ำจนตาย ด้วยความรักและห่วงใยในครอบครัวและไม้ กาหลงไม่ยอมไปเกิด เธอกลับมาใช้ชีวิตคู่กับไม้เยี่ยงคนปกติ พร้อมกันนั้น เธอก็อาละวาดทุกคนที่พยายามเปิดเผยความจริงเรื่องตนเป็นผีให้ไม้รู้ ไม่เว้นแม้แต่ พุดจีบ (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) เพื่อนรักของกาหลงที่แอบรักไม้อยู่ โดยไม่สนใจว่าที่พุดจีบทำไปก็เพื่อช่วยกาหลง ด้านโชติหาวิธีกำจัดวิญญาณกาหลง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นบ้าและฆ่าพ่อตัวเองตาย ส่วนไม้เมื่อรู้ความจริงก็ตัดสินใจบวชอุทิศส่วนกุศลให้กาหลง จนกาหลงยอมไปผุดไปเกิดในที่สุด