ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ 2556

เรื่องย่อ : ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ (2556/2013) เมื่อความฝันที่อยากเป็นเจ้าหญิงในเทพนิยายผลักดันให้ห่าน (พีชญา วัฒนามนตรี) พนักงานขายรองเท้าลงทุนปลอมตัวเป็นฮันนี่ ไฮโซสาวสวยเพื่อทำให้คุณชาย (ณัฏฐวุฒิ อิศรางกูร ณ อยุธยา) ทายาทเจ้าของห้างสรรพสินค้าที่ห่านทำงานอยู่หลงรัก แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะดาหลา (นภัสสร ช่วยเกิด) หญิงสาวผู้มีดีกรีนางสาวไทยและเป็นว่าที่คู่หมายของคุณชายคอยจับผิดฮันนี่ หลายครั้งที่ห่านเกือบถูกจับได้ แต่บื้อ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) หนุ่มเซอร์เพื่อนพนักงานชายที่แอบหลงรักเธอคอยช่วยเหลือเสมอ พร้อมสอนให้เธอรู้จักยอมรับความจริง การได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มสองคนซึ่งแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ทำให้ห่านได้สติ และเมื่อเรื่องที่เธอหลอกลวงทุกคนถูกเปิดเผย ห่านจึงเลือกที่จะอยู่กับผู้ชายธรรมดาอย่างบื้อ ซึ่งแม้จะไม่มีรองเท้าแก้ว แต่ห่านก็พร้อมจะใส่รองเท้าแตะเดินเคียงข้างเขาตลอดไป

วันนี้ที่รอคอย 2556

เรื่องย่อ : วันนี้ที่รอคอย (2556/2013) น่าน ปิงนรเทพ (วัยเด็ก) ไปเดินเล่นกับม่านฟ้า หรือเมย น้องสาวสุดที่รักเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่คุณพ่อบาทหลวงโจเซฟจะพาม่านฟ้าไปส่งให้พ่อเลี้ยงทางเหนือ ซึ่งเป็นอดีตทหาร เพื่ออนาคตของม่านฟ้า หากน่านปิงกับม่านฟ้ามีวาสนาต่อกัน ทั้งคู่ย่อมได้พบกันอีก

น่านปิงนรเทพ เป็นราชบุตรของเจ้าหลวงพีริยเทพ และพระเทวีศุลีมาน แห่งคีรีรัฐนคร เจ้าหลวงพีริยเทพมีพระเชษฐา ชื่อ เจ้าชายมาทยาธร ซึ่งมีพระชายานาม สิริวาระตี (พี่สาวพระเทวีศุลีมาน) และบุตรนาม ศิขรนโรดม เจ้าชายมาทยาธรไม่พอใจที่เจ้าหลวงพีริยเทพไม่เปิดการค้าเสรีจึงทำการปฏิวัติ เจ้าหลวงพีริยเทพไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนจึงยอมโดยดี แต่พระองค์แอบให้อินปง ราชองครักษ์พาพระเทวีและราชบุตรหนี พร้อมนำตราสุรสีหนาท สัญลักษณ์ของกษัตริย์แห่งคีรีรัฐไปด้วย ส่วนพระองค์ดื่มยาพิษของเจ้าชายมาทยาธรสิ้นพระชนม์ เจ้าชายมาทยาธรให้นายพลจตุรัส ออกข่าวเรื่องเจ้าหลวงสิ้นพระชนม์ อินปงพาพระเทวีและราชบุตรหนีไปพร้อมจันทร์แรม ภรรยา และม่านฟ้า ลูกของเขา โดยมี ภูสินทร ราชองครักษ์อีกคนระวังหลัง และคำฝาย หญิงใบ้คอยดูแลราชบุตร ทั้งสองพระองค์ลงเรือล่องไปทางแม่น้ำเวียงสาย อินปงกับจันทร์แรมฝากม่านฟ้าไปด้วย แล้วพวกเขาก็กลับมาช่วยภูสินธร พลเอกราชิด ปะทะกับภูสินทร พวกภูสินทรสู้ไม่ได้ อินปงกับจันทร์แรมชิงฆ่าตัวตาย ภูสินทรบาดเจ็บสาหัส และถูกจับไปไว้ที่ผาห่มดอก ราชิดกลับมารายงานเจ้าชายมาทยาธร บายศรี ภรรยาของภูสินทรแอบได้ยินก็รีบไปเล่าให้พระชายาสิริวาระตีฟัง พระชายาหาทางช่วยภูสินทร เพื่อให้ภูสินทรไปอารักขาพระเทวีและราชบุตร

เจ้าชายมาทยาธรมาบอกพระชายาสิริวาระตีกับศิขรนโรดมว่าเจ้าหลวงสิ้นแล้ว ส่วนพระเทวีกับราชบุตรหายตัวไป พระชายาสิริวาระตีทำเป็นเพิ่งรู้ พระนางสงสารลูกเพราะรู้ว่าศิขรนโรดมกับน่านปิงนรเทพรักกันมาก ศิขรนโรดมไปเรียนหนังสือกับครูเฒ่าคนเดียว ด้วยความคิดถึง องค์ชายจึงเล่าให้ครูเฒ่าฟัง ตั้งแต่น่านปิงเป็นคนตั้งชื่อม่านฟ้า ทั้งยังเลี้ยงกระต่ายไว้เป็นของขวัญม่านฟ้า และอีกหลายเรื่องซึ่งทำให้ครูเฒ่ารู้ว่าแท้จริงเจ้าหลวงพีริยเทพทรงเห็นด้วย กับการเปิดประเทศ แต่คีรีรัฐยังไม่พร้อมจึงจะรอไปก่อน ศิขรนโรดมไม่ชอบการปกครอง แต่น่านปิงนรเทพขอร้องแกมบังคับให้เรียน เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ศิขรนโรดมจึงสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนเพื่อเป็นผู้ช่วยของน่านปิงนรเทพ และจะรอให้น่านปิงนรเทพกลับมาเป็นเจ้าหลวง

นายแพทย์สิงหะไปตรวจอาการภูสินทร และแอบส่งข่าวเรื่องพาหนีในวันงานลอยประทีปให้ภูสินทรรู้ รุ่งเช้าของวันงาน ครูเฒ่าพาศิขรนโรดมนั่งรถม้าเล่น ระหว่างทางพบชายสองคนเดินอยู่ซึ่งหนึ่งในนั้นจะไปแม่น้ำเวียงสาย ครูเฒ่าให้ติดรถม้าไปด้วย ชายคนนั้น คือ ภูสินทร เขาได้รับคำสั่งให้ตามหาพระเทวีกับราชบุตรเพื่อถวายอารักขา และมอบห่อสมบัติให้สองพระองค์ใช้ยังชีพ

เวลาผ่านไปสิบกว่าปี ม่านฟ้ามาอยู่กับพลตรีสุริยะ ภีมะมนตรี โดยมีชื่อใหม่ว่า บราลี หรือ บรี ขณะที่คุณพ่อบาทหลวงย้ายมาอยู่ที่โบสถ์ในฮ่องกง พระเทวีศุลีมานฝากน่านปิงนรเทพมาเรียนด้วย ต่อมาไม่นาน พระเทวีตรอมใจตาย คุณพ่อบาทหลวงได้ฝากฝังน่านปิงไว้กับจ้าวฉินเย่ว์ หรือ เต้ นักธุรกิจใหญ่ในฮ่องกง โดยน่านปิงนรเทพ มีชื่อใหม่ว่า จ้าวซัน เต้มีจ้าวไทไท เป็นภรรยาใหญ่ นางไม่มีลูก เต้มีภรรยาอีกหลายคน และมีลูกชายกับหญิงต่างชาติ ชื่อ จ้าวฉินเจียง แต่จ้าวไทไทไม่ยอมรับทั้งแม่และลูก ฉินเจียงน้อยใจจึงหันไปหาอบายมุข โดยมีเกาเฟย อดีตนักเลงเป็นคนชักนำ นอกจากนี้ เต้ยังมีลูกสาวกับคุณนายสี่ 2 คน คือ เหม่ยอิง ผู้หญิงเก่ง แอบรักจ้าวซัน เพราะรู้ว่าจ้าวซันไม่ใช่พี่แท้ ๆ และผิงอัน หรือซายหมุย น้องสุดท้องซึ่งเป็นที่รักของทุกคน เต้ป่วยหนักและเสียชีวิตลง ก่อนตายท่านจะให้จ้าวซันสืบทอดกิจการ แต่จ้าวซันไม่รับ เต้จึงให้จ้าวซันดูแลชั่วคราว ส่วนฉินเจียงได้เป็นไท้เป่ง สืบทอดกิจการ จ้าวซันทำทุกอย่างเพื่อน้อง แต่ฉินเจียงคิดว่าจ้าวซันจะแย่งทุกอย่างไป เพราะตอนนี้ทุกคนรักและเคารพการตัดสินใจของจ้าวซันคนเดียว

บราลีเรียนจบปริญญาตรีที่ต่างประเทศ และกำลังจะกลับเมืองไทย แต่เธอแวะเที่ยวฮ่องกงก่อน ตอนแรกบราลีจะไปอยู่กับเพื่อนชื่อ หลินจื้อเหม่ย แต่เพื่อนติดธุระหลายวัน สุริยะจึงให้บราลีรับความช่วยเหลือจากจ้าวซัน ซึ่งสุริยะแนะนำว่าเป็นเพื่อนทางธุรกิจ จ้าวซันส่งหลี่ คนขับรถ ไปรับบราลีที่สนามบิน แล้วพามาพักที่โรงแรม บราลีเชื่อมาตลอดว่าสุริยะเป็นคนดี โดยไม่รู้ว่าเบื้องหลังสุริยะเป็นเสือผู้หญิงและนักพนันตัวยง แต่เพราะจ้าวซันช่วยเหลือเรื่องเงิน สุริยะจึงดูแลบราลีอย่างดี

ฉินเจียงมาต่อว่าจ้าวซันเรื่องซื้อบริษัทตื้อสวน ที่กำลังจะเจ๊ง เพราะคิดว่าใช้เงินกองกลาง แต่เมื่อรู้ว่าจ้าวซันใช้เงินส่วนตัว ฉินเจียงก็เสียหน้ากลับไป เต๋อเป่า มือขวาของจ้าวซันมารายงานว่าบราลีถึงโรงแรมแล้ว จ้าวซันจึงให้เทเรซ่า เลขาส่วนตัวที่ทำงานมาตั้งแต่เต้ยังอยู่โทรไปที่โรงแรม แต่เทเรซ่าติดต่อบราลีไม่ได้ ทำให้จ้าวซันรีบไปโรงแรมด้วยความร้อนใจ ขณะที่บราลีไปเดินเล่นและได้เจอผิงอันที่มากับอาม่า คนใช้ ทั้งคู่ถูกชะตากันจึงไปเที่ยวด้วยกัน ผิงอันเล่าให้บราลีฟังถึงบ้านของตนที่เรียกว่า บ้านสี่ฤดู บราลีรับปากจะไปเที่ยวบ้านผิงอัน แล้วบราลีก็แยกกลับโรงแรม จ้าวซันโล่งใจที่บราลีกลับมา เขานัดบราลีทานข้าวเย็น จากนั้นจ้าวซันก็กลับไปบริษัทแล้วให้เทเรซ่ายกเลิกนัดวันพรุ่งนี้ เพราะจะพาบราลีไปเที่ยว

ภูสินทรมาหาจ้าวซันด้วยใบหน้าที่ผ่าตัดแล้ว และมีชื่อใหม่ว่า เมืองเทพ เป็นนักธุรกิจไทย ภูสินทรอยู่กับคำฝายและติดต่อจ้าวซันเรื่อยมา ภูสินทรเตือนจ้าวซันให้ระวังตัวเพราะศิขรนโรดมจะมาดูงานที่ไทย แล้วเลยมาชมไหมจีนที่ฮ่องกงซึ่งพลเอกราชิดเดินทางมาด้วย ตกเย็น เหม่ยอิงชวนจ้าวซันไปงาน แต่จ้าวซันปฏิเสธเพราะนัดบราลีแล้ว เหม่ยอิงข่มความไม่พอใจไว้ เธอยังคิดว่าตนกับจ้าวซันเหมาะสมกันที่สุด และจะเป็นผู้นำธุรกิจต่อจากเต้ได้ จ้าวซันไปเยี่ยมจ้าวไทไท แม่ใหญ่ของบ้าน ในอดีตแม่ใหญ่เป็นคนเก่ง แต่เมื่อเต้เสียไป แม่ใหญ่ก็วางมือและอยู่แต่ในบ้าน ทั้งยังชอบพูดจาแปลกจนคนอื่นคิดว่าท่านเพี้ยน แม่ใหญ่บอกจ้าวซันเรื่องฉินเจียงคิดทำบ้านสี่ฤดูเป็นโฮเต็ล จ้าวซันไม่คิดว่าแม่ใหญ่จะรู้มากกว่าเขา อากง คนดูแลบ้านเก่าแก่เคยบอกจ้าวซันว่าแม่ใหญ่รู้อะไรดี ๆ มากกว่าทุกคน

จ้าวซันมารับบราลี เขาดีใจที่บราลีใส่ชุดที่เขาเตรียมให้ จ้าวซันพาบราลีไปเที่ยวรอบเมือง แล้วพาไปทานอาหาร เขาเป็นกันเองจนบราลีผ่อนคลาย คำพูดของจ้าวซันทำให้บราลีคิดถึงอดีตที่ไม่เคยรู้ เธอมักฝันถึงครอบครัวอบอุ่นบ่อย ๆ จ้าวซันเห็นใจแต่ยังไม่บอกความจริง เหม่ยอิงมาทานข้าวกับคุณนายหวัง แม่ของเพื่อนจึงเห็นจ้าวซันกับบราลี เหม่ยอิงโกรธมากเลยไม่เข้าไปทัก ตลอดเวลาที่จ้าวซันไปกับบราลี เต๋อเป่าแอบตามไป เพราะกลัวมีคนมาปองร้ายจ้าวซัน

เหม่ยอิงมารอจ้าวซันที่บ้านและต่อว่าที่เขาไปทานข้าวกับบราลี ทั้งยังพยายามบอกความในใจ แต่จ้าวซันย้ำว่าเหม่ยอิงเป็นน้อง เหม่ยอิงโกรธจนพูดเรื่องที่ฉินเจียงแอบใช้เงินบริษัท เหม่ยอิงย้ำว่าคนที่ได้ครองบริษัทควรเป็นเธอกับจ้าวซัน จ้าวซันอึ้งทั้งเรื่องฉินเจียงและท่าทางแข็งกระด้างของเหม่ยอิง อากงมาปลอบใจและเตือนให้จ้าวซันระวังผู้หญิงตระกูลจ้าว

วันรุ่งขึ้น จ้าวซันพาบราลีไปเที่ยว เขาพูดถึงฮ่องกง และเรื่องที่ตนเคยคิดจะแก้แค้น บราลีไม่ชอบการแก้แค้น จ้าวซันเห็นบราลีเศร้าจึงเผลอเรียก ม่านฟ้า จนบราลีแปลกใจ แต่ยังไม่ทันถามคุณพ่อบาทหลวงก็เข้ามาทัก คุณพ่อบาทหลวงบอกว่ารู้จักบราลี ตั้งแต่บราลียังเด็ก บราลีอยากรู้เรื่องในอดีตแต่ก็ทำได้เพียงเก็บความสงสัยเอาไว้

สุริยะ มาเล่นการพนันที่บ่อนของฉินเจียงในมาเก๊าจนหมดตัว จึงขอกู้เงินฉินเจียงโดยอ้างว่ารู้จักจ้าวซัน เกาเฟยยุให้ฉินเจียงตกลงและทำสัญญาเงินกู้ไว้เผื่อวันข้างหน้าจะใช้ต่อรอง กับจ้าวซัน นอกจากนี้ เกาเฟยยังบอกเรื่องผลสำเร็จการเจรจาซื้อขายอาวุธเถื่อนกับทหารคีรีรัฐ ฉินเจียงเชื่อเกาเฟยทุกอย่าง และสั่งให้เกาเฟยสะกดรอยตามบราลี เพราะเขาคิดว่าบราลีเป็นผู้หญิงพิเศษของจ้าวซัน

ศิขรนโรดมต้องเดินทางไปเมืองไทยและฮ่องกง แต่ใจยังห่วงพระบิดาและพระมารดาที่ไม่สบายจึงมาหาครูเฒ่าเพื่อปรับทุกข์ องค์ชายเพิ่งรู้เรื่องพระบิดาปฏิวัติเมื่อตอนโต จึงคิดเสมอว่าคีรีรัฐเป็นของน่านปิงนรเทพ ส่วนพระองค์มีหน้าที่ดูแลแทนเท่านั้น ครูเฒ่าซึ้งในน้ำพระทัยขององค์ชายมาก

พลเอกราชิดมีลูกสองคน คือ อสุนี เพื่อนเรียนและองครักษ์ของศิขรนโรดม กับมิถิลา น้องสาวอสุนีซึ่งกำลังจะเข้าถวายตัวเป็นข้าหลวงของพระเทวี อสุนีไม่เห็นด้วยที่พ่อจะปฏิวัติ ยิ่งการไปประเทศเพื่อนบ้านครั้งนี้ อสุนีไม่ได้ไปด้วย เขาก็ยิ่งห่วงองค์ชาย มิถิลาแอบบอกอสุนีว่าราชิดประชุมลับบ่อย ๆ และได้ส่งทหารไปฮ่องกงเพื่อติดต่อเรื่องอาวุธแล้ว อสุนีอยากทูลเรื่องนี้ในวันที่ศิขรนโรดมเดินทาง แต่เขาก็พูดไม่ออก เพราะราชิดคอยมองอยู่ จ้าวซันมองรูปศิขรนโรดมในหนังสือพิมพ์ด้วยความชื่นชม เขาให้เทเรซ่าติดต่อเชิญองค์รัชทายาทมาชมผ้าไหมที่บริษัทและจัดงานเลี้ยง ต้อนรับ ก่อนจะโทรไปขอบใจภูสินทรที่ช่วยโอนเงินใช้หนี้แทนฉินเจียง จากนั้นจ้าวซันก็มารับบราลีที่จะย้ายไปอยู่กับเพื่อนไปส่ง จ้าวซันรู้ว่าฉินเจียงส่งคนสะกดรอยตามก็เป็นห่วงบราลี จึงให้เต๋อเป่าจัดคนมาดูแลบราลี

โกศิณ ตัวแทนราชิดมาตกลงเรื่องอาวุธ ฉินเจียงเสนออาวุธใหม่ที่อานุภาพรุนแรงกว่าเดิม แต่มีราคาสูงขึ้นสองเท่า โกศิณขอเวลาคิด ฉินเจียงกลัวชวดเงิน แต่เกาเฟยมั่นใจว่าโกศิณต้องตกลง ทำให้ฉินเจียงสบายใจ เขาจึงไปหาความสุขกับซูหลิง คู่ขานักร้องคนใหม่ เหม่ยอิงรู้ความลับที่ฉินเจียงเบิกเงินโดยไม่มีใบเบิกจึงคิดแผนร้ายในใจ จ้าวซันไปติดต่อเรื่องเรียนต่ออเมริกาให้ผิงอัน ทำให้ผิงอันดีใจมาก แต่เธออ่อนภาษาอังกฤษจ้าวซันจึงจะหาคนมาสอนเพราะเหม่ยอิงไม่ยอมสอน ผิงอันคิดจะให้บราลีมาสอน จ้าวซันรู้ว่าอาม่าห่วงและคิดถึงผิงอันจึงรับปากจะให้ผิงอันกลับบ้านทุกเทอม เหม่ยอิงน้อยใจที่จ้าวซันห่วงผิงอันมากกว่าตนเมื่อครั้งไปเรียนเมืองนอก ทั้งที่ความจริง เหม่ยอิงไม่ยอมกลับบ้านเอง เหม่ยอิงขอจ้าวซันทำงาน จ้าวซันรับปากจะจัดการให้ เขาไม่ชอบที่เหม่ยอิงมีความคิดว่า ในธุรกิจไม่มีคำว่าพี่น้อง

ผู้กองเหลียง แห่งหน่วยปราบปรามอาชญากรรมมาบอกจ้าวซันว่า รถขนเสื้อสำเร็จรูป บริษัทสื้อฉวนของจ้าวซันถูกปล้นของหายหมด ผู้กองเหลียงมองจ้าวซันเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะจ้าวซันอาจวางแผนปล้นตัวเองเพื่อเรียกเงินประกัน เต๋อเป่ารายงานจ้าวซันว่า เจิ้นจง คนขับรถที่หายตัวไปมีเพื่อน ชื่อ เสี่ยวจู จ้าวซันจึงไปหาเสี่ยวจูกับเต๋อเป่า และให้เหม่ยอิงเตรียมงานต้อนรับรัชทายาทแห่งคีรีรัฐ เต๋อเป่ากับจ้าวซันมาหาเสี่ยวจูที่โรงฝิ่น แต่เสี่ยวจูตายแล้ว จ้าวซันให้เต๋อเป่าโทรบอกผู้กองเหลียง ผู้กองเหลียงบอกว่าที่จริงคนเฝ้าประตูโรงฝิ่นก็ถูกฆ่า ผู้กองจึงส่งจ่าหมง ปลอมตัวไปแทนเพื่อดูเหตุการณ์ ตอนนี้ผู้กองเหลียงมั่นใจแล้วว่าจ้าวซันไม่ใช่คนร้าย ผู้กองจึงพุ่งไปที่คนอื่นโดยเฉพาะฉินเจียง

จ้าวซันเร่งการผลิตเสื้อ เตรียมจัดส่งทางเครื่องบิน จ้าวซันมีคติว่าขาดทุนดีกว่าเสียคำพูด เหม่ยอิงอาสาคุมการผลิต จ้าวซันตกลง เกาเฟยมาบอกฉินเจียงที่อยู่กับซูหลิงเรื่องคดีของจ้าวซัน ฉินเจียงเพิ่งรู้เรื่องก็สมน้ำหน้าจ้าวซัน เกาเฟยยังบอกอีกว่าโกศิณตกลงซื้ออาวุธแล้ว ทำให้ฉินเจียงดีใจมาก ตอนนี้ ฉินเจียงคิดจะลองอยู่กินกับซูหลิงเพราะเริ่มชอบซูหลิงจริง ๆ

ถึงวันเกิดผิงอัน จ้าวซันจัดงานที่บ้านสี่ฤดูและให้ต่างหูเพชรเป็นของขวัญ ผิงอันดีใจมาก ฉินเจียงพาซูหลิงมางานจึงทะเลาะกับเหม่ยอิง เพราะเหม่ยอิงเกลียดคนไร้สกุล จ้าวซันรีบมาห้าม แล้วให้ผิงอันดูแลซูหลิง จากนั้นจ้าวซันบอกฉินเจียงว่ารู้สิ่งที่ฉินเจียงทำและใช้หนี้แทนแล้ว ทำให้ฉินเจียงไม่พอใจ จ้าวซันเตือนให้ฉินเจียงระวังเกาเฟยและตั้งใจทำงาน เพราะจ้าวซันจะวางมือ ฉินเจียงกลัวจ้าวซันทำจริงจึงพูดดีขึ้น เพราะลึก ๆ แล้วเขายอมรับว่าจ้าวซันเก่ง ซูหลิงกลับมาคุยกับสองหนุ่มเรื่องที่ตนชอบของเก่าและเคยขายของเก่า ฉินเจียงจึงคิดเปิดร้านขายของเก่าให้ซูหลิงโดยมีจ้าวซันสนับสนุน ซูหลิงเห็นว่าจ้าวซันเป็นคนดี จึงไม่อยากให้ฉินเจียงมีอคติ ผิงอันพาบราลีมาแนะนำ บราลีกับจ้าวซันดีใจที่ได้เจอกัน จ้าวซันขอให้บราลีมาสอนภาษาผิงอัน บราลียังไม่ตอบรับ จ้าวซันพาบราลีชมรอบบ้านทำให้เหม่ยอิงไม่พอใจ เธอบอกคุณนายสี่ ผู้เป็นแม่ว่าสิ่งที่เธอต้องการ เธอต้องได้ แม้แต่ตัวจ้าวซัน คุณนายสี่หวาดหวั่นกับท่าทีของเหม่ยอิง

วันต่อมา จ้าวซันนัดบราลีกับคุณพ่อบาทหลวงไปทานข้าวที่ร้านเล็ก ๆ ร้านประจำของเขา บราลีตอบรับสอนภาษาให้ผิงอัน ทั้งสามได้พบผู้กองเหลียงจึงรู้ว่ายังหาเจิ้นจง คนขับไม่พบ และคนร้ายเปลี่ยนตู้คอนเทนเนอร์หลังรถ ผู้กองเหลียงเตือนให้จ้าวซันระวังอันตรายโดยเฉพาะในงานเลี้ยงต้อนรับองค์ รัชทายาทแห่งคีรีรัฐ บราลีคุ้นชื่อคีรีรัฐแต่ไม่ได้คำตอบจากใคร หลังจากนั้น จ้าวซันไปส่งบราลีสอนภาษาผิงอัน เขาสัญญาว่าจะมารับบราลีไปส่งบ้าน เหม่ยอิงมาพูดกันท่าบราลีกับจ้าวซัน บราลีไม่คิดจะโต้แย้ง ผิงอันเข้ามาขัดจังหวะและขอโทษแทนพี่สาว

ผู้กองเหลียงนัดจ้าวซันมาพบ จ้าวซันจึงให้หลี่ไปรับบราลีแทน แต่เขาก็หงุดหงิดเมื่อรู้ว่าบราลีนั่งรถเมล์กลับ ผู้กองเหลียงแนะนำให้จ้าวซันรู้จักหมวดจาง ลูกน้องและอเล็กซ์ จากหน่วยพิสูจน์หลักฐาน อเล็กซ์พบศพเจิ้นจงคนขับ แต่ไม่แน่ใจเพราะศพหน้าเละ เต๋อเป่าจำรอยสักที่แขนเจิ้นจงได้จึงไปช่วยยืนยัน ผู้กองเหลียงบอกจ้าวซันว่าตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกเปลี่ยนเป็นของบริษัทที่ตั้ง ขึ้นลอย ๆ ไร้พนักงาน ไร้ที่อยู่ จ้าวซันช่วยอะไรไม่ได้จึงขอตัว เขาไปหาบราลีที่บ้านหลินจื้อเหม่ยเพราะเป็นห่วง บราลีย้ำว่าเธอโตพอที่จะเดินทางคนเดียวได้ แต่จ้าวซันกลัวบราลีไม่ปลอดภัยจึงยื่นข้อเสนอให้รถคันเล็กกับบราลีไว้ใช้ บราลียอมตกลง จ้าวซันเล่าเรื่องคดีให้ฟัง ทำให้บราลีเห็นใจเขามากขึ้น

ศิขรนโรดมและผู้ติดตามมาถึงเมืองไทย องค์ชายขอพักโรงแรมเป็นการส่วนตัว ราชิดเห็นว่าศิขรนโรดมไม่มีพิษภัยจึงยอม โกศิณมาบอกราชิดว่าการติดต่ออาวุธเรียบร้อย ภูสินทรแกล้งเป็นลมต่อหน้าองค์ชาย ศิขรนโรดมรีบช่วยเหลือทันทีจนภูสินทรซึ้งน้ำพระทัย แต่ใบหน้าของศิขรนโรดมที่คล้ายจ้าวซันมาก ทำให้ภูสินทรตัดสินใจไปฮ่องกงเพื่อดูแลความปลอดภัยให้จ้าวซัน

ผิงอันเล่าให้คุณนายสี่ผู้เป็นแม่และอาม่าฟังว่าแม่ใหญ่อยากพบบราลี แล้วยังสั่งให้ผิงอันตั้งใจเรียนเพราะต่อไปต้องทำงานหนักสร้างความแปลกใจให้ คนที่ฟังมาก เหม่ยอิงกลับมาบ้านก็เถียงกับผิงอันเรื่องบราลี คุณนายสี่จึงเตือนสติเหม่ยอิงว่า ผิงอันรักเหม่ยอิงมากขนาดยกของขวัญที่จ้าวซันให้กับเหม่ยอิง นางขอให้เหม่ยอิงหยุดทุกสิ่งที่กำลังทำโดยเฉพาะคิดเป็นใหญ่ในตระกูลจ้าว เหม่ยอิงสะท้อนใจแต่ก็ไม่คิดถอย เธอนัดพบเกาเฟย เหม่ยอิงทำให้เกาเฟยยอมร่วมมือโดยเอาครอบครัวของเกาเฟยมาต่อรอง เธอเป็นคนทำทุกอย่างให้จ้าวซันกับฉินเจียงผิดใจกัน เธอวางแผนว่าวันส่งอาวุธงวดสุดท้ายคือจุดจบของฉินเจียง ส่วนจ้าวซันมีสองทางเลือก คือ ร่วมมือกับเธอ หรือต้องเลิกทำธุรกิจ เพราะระหว่างที่คุมการผลิตเสื้อ เธอใช้ผ้าคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ถ้าส่งออก อเมริกาจะไม่เชื่อถือจ้าวซันอีก แต่ถ้าจ้าวซันร่วมมือ เธอจะส่งของจริงไปแทน หมวดจางแอบตามมาเพราะได้รับคำสั่งให้ดูความเคลื่อนไหวของคนในบ้านสี่ฤดู เขาไม่รู้ว่ารถที่ตนตามมาเป็นของใครจึงตรวจสอบ เหม่ยอิงกลับถึงบ้านก็ไปหาผิงอันในห้องนอน ผิงอันงัวเงียตื่นขึ้นมาบอกไม่ให้เหม่ยอิงออกไปคนเดียวดึก ๆ เพราะเป็นห่วง เหม่ยอิงซึ้งใจน้องมาก

จ้าวซันนั่งแท็กซี่ไปหาบราลีแต่เช้า แล้วพาไปเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า เพราะวันนี้เป็นวันเกิดจ้าวซัน บราลีอวยพรวันเกิดให้ จ้าวซันเล่าว่าอนาคตจะสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและอยากให้บราลีมาช่วย บราลีไม่ตอบ เหม่ยอิงหาจ้าวซันไม่พบก็หงุดหงิดมาก ขณะที่จ้าวซันกลับมาทำงานด้วยความสุข ผิงอันพาบราลีมาหาแม่ใหญ่ แม่ใหญ่ชมบราลีว่าสวยและเป็นคนจริงใจ ผิงอันบอกบราลีว่า แม่ใหญ่ชอบพูดเรื่องตระกูลจ้าวจะไม่เหลือใคร ผิงอันต้องดูแล ที่สำคัญแม่ใหญ่ขอให้บราลีช่วยดูแลจ้าวซัน ผิงอันเองก็อยากให้บราลีเป็นพี่สะใภ้ บราลีไม่ตอบรับแล้วขอตัวกลับทันที เมื่อบราลีถึงบ้านเพื่อน เธอเห็นชายคนหนึ่งซุ่มมองอยู่ก็ไม่สบายใจ

ผู้กองเหลียงได้ข้อมูลว่ารถที่หมวดจางเห็นเป็นของเหม่ยอิง เขาจึงเริ่มสนใจเหม่ยอิง หมวดจางกับผู้กองเหลียงไปรับเสด็จองค์รัชทายาทที่สนามบิน ระหว่างทางมีผู้หวังดีโทรบอกว่ามีเงินจำนวนมากโอนเข้าเซฟบริษัทตระกูลจ้าว ซึ่งฉินเจียงดูแล โดยไม่มีใบฝากเงินผู้กองเหลียงจึงสั่งระงับการเบิกจ่ายเงินจำนวนนี้ที่สนาม บิน คนตระกูลจ้าวไม่มีใครมา ขณะที่องค์รัชทายาทมาพร้อมผู้ติดตาม เกาเฟยแอบมาติดต่อกับโกศิณ หมวดจางเห็นก็รีบบอกผู้กองเหลียง แต่ผู้กองไม่ทันมองจึงต้องรอดูจากภาพถ่ายที่ให้จ่าหมงถ่ายไว้ ระหว่างกลับ ผู้กองกับหมวดจางเห็นรถเหม่ยอิงก็แปลกใจที่เธอไม่ยอมปรากฏตัว

สาเหตุที่ฉินเจียงไม่มาสนามบินเพราะอยู่เปิดร้านซูหลิง ขณะที่จ้าวซันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้าโรงพยาบาล หลี่อาการหนักกว่า คุณพ่อบาทหลวง เหม่ยอิง ผิงอัน และบราลีมาเยี่ยมจ้าวซัน บราลีเป็นห่วงจ้าวซันแต่แสดงออกไม่ได้ จ้าวซันดีใจที่บราลีมา เขาขอให้บราลีไปงานต้อนรับองค์รัชทายาท แต่ไม่ทันได้คำตอบ จ้าวซันก็หลับไปเพราะฤทธิ์ยา บราลีจึงเลี่ยงออกจากห้องสวนกับภูสินทรที่มาเยี่ยมจ้าวซัน ภูสินทรแนะนำตัวว่าชื่อเมืองเทพ เป็นเพื่อนสุริยะ เขาทำตามแผนของจ้าวซันคืออ้างว่าสุริยะได้รับเชิญไปงานต้อนรับองค์รัชทายาท ก็อยากให้บราลีไปด้วย จึงฝากชุดและจดหมายมากับภูสินทร บราลีตกลงไปงานพร้อมภูสินทร วันต่อมา บราลีมาสอนผิงอันจึงรู้ว่าจ้าวซันกลับมาพักที่บ้านแล้ว ผิงอันพาบราลีไปหาจ้าวซัน ทำให้บราลีเห็นเหม่ยอิงเอาใจจ้าวซันออกนอกหน้า เธอรีบบอกว่าจะไปงานกับภูสินทร แล้วขอตัวกลับทันทีเพราะทนเห็นภาพนั้นไม่ได้

บราลี มาหาคุณพ่อบาทหลวงเพื่อถามถึงอดีต คุณพ่อบาทหลวงบอกแค่ว่า บราลีเคยอยู่กับครอบครัวอื่นมาก่อน แต่ทุกคนอยากให้บราลีได้สิ่งที่ดีที่สุดจึงให้บราลีมาอยู่กับสุริยะ คุณพ่อบาทหลวงพูดถึงจ้าวซันด้วยความเป็นห่วงที่เขาไว้ใจคนมากไปจนอันตราย บราลีจึงเริ่มห่วงบ้าง จ้าวซันมาง้อบราลีเพราะคิดว่าเธอโกรธ แต่เธอปฏิเสธ จ้าวซันเล่าชีวิตวัยเด็กในฮ่องกงที่เรียนรู้อะไรหลายอย่าง บราลีพูดถึงเรื่องที่ไปหาคุณพ่อบาทหลวงมา เธอถามจ้าวซันว่ามีน้องสาวอีกคนหรือไม่ แต่จ้าวซันไม่ตอบ บราลีแยกกลับบ้านก็รู้จากหลินจื้อเหม่ยว่ามีชายแปลกหน้ามาหา บราลีนึกถึงชายที่แอบดูเธอวันนั้นอย่างไม่สบายใจ

อาหมงนำภาพถ่ายที่สนามบินมาให้ผู้กองเหลียงกับหมวดจางดู ทุกคนคุ้นหน้าศิขรนโรดม แต่พวกเขาสนใจเกาเฟยมากกว่า อาหมงเล่าว่าเกาเฟยเคยช่วยพันหงปิงค้าอาวุธเถื่อน เมื่อพันหงปิงถูกจับ เกาเฟยก็หนีไปพร้อมอาวุธที่เหลือ ทุกคนคิดว่าฉินเจียงอาจรู้เห็น ผู้กองเหลียงให้หมวดจางสืบประวัติคีรีรัฐเพื่อประกอบคดีอาวุธเถื่อนและเก็บ ภาพคนของคีรีรัฐติดต่อเกาเฟยไว้เป็นหลักฐาน หมวดจางสืบจากญาติของอาหมงที่เป็นนักข่าว จนรู้ว่าคีรีรัฐเคยมีการปฏิวัติและอาจเกิดขึ้นอีกครั้ง ด้านผู้กองเหลียงมาเยี่ยมจ้าวซันที่บ้าน ขณะที่จ้าวซันคุยกับเหม่ยอิงเรื่องงานต้อนรับองค์รัชทายาทในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเหม่ยอิงสั่งเกาเฟยเตือนฉินเจียงแล้ว ผู้กองแปลกใจที่เหม่ยอิงสนิทกับเกาเฟยถึงขั้นสั่งได้จึงเริ่มพิจารณาเธอมาก ขึ้น อีกทั้งผู้กองยังสนใจจ้าวซันที่เก่งทุก ๆ ด้าน จนผู้กองเหลียงคิดว่าจ้าวซันไม่ใช่เด็กเก็บตกธรรมดา เต๋อเป่ามาบอกจ้าวซันว่าอาวุธเถื่อนของพันหงปิงอยู่ที่ฉินเจียงซึ่งจะขายให้ ทหารของคีรีรัฐ จ้าวซันคิดไม่ตกทั้งเรื่องฉินเจียงและศิขรนโรดม อากงเห็นท่าทางของจ้าวซันก็ให้ข้อคิดหลายเรื่อง และย้ำให้จ้าวซันอภัยให้น้อง จ้าวซันคิดถึงเรื่องฉินเจียงและศิขรนโรดมอย่างหนัก

รุ่งเช้าวันงานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาท ฉินเจียงและเหม่ยอิงต้อนรับศิขรนโรดมที่โรงงานทอผ้าไหม จ้าวซันตัดสินใจช่วยน้องทั้งสองโดยวางแผนกับภูสินทรไม่ให้เกิดการปฏิวัติที่ คีรีรัฐ จากนั้นจ้าวซันกับเต๋อเป่าก็ไปหาฉินเจียง ผู้กองเหลียงรู้เรื่องคีรีรัฐจึงมั่นใจว่าจ้าวซันเกี่ยวข้องกับศิขรนโรดม เขาไปหาคุณพ่อบาทหลวงพร้อมหมวดจาง ฉินเจียงแยกกับเหม่ยอิงหลังองค์รัชทายาทไปพัก เหม่ยอิงคิดว่าจ้าวซันคล้ายศิขรนโรดม เกาเฟยบอกฉินเจียงที่ตำรวจอายัดเงิน และพูดให้ฉินเจียงเข้าใจว่าจ้าวซันบอกตำรวจ ฉินเจียงโกรธมากจึงให้ลูกน้องเอาสัญญาเงินกู้ของสุริยะไปให้บราลี และพูดให้บราลีเข้าใจว่าจ้าวซันทำให้สุริยะติดการพนัน จ้าวซันมาหาฉินเจียงจึงถูกต่อว่าเรื่องตำรวจอายัดเงิน จ้าวซันไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเขาตั้งใจมาพูดให้ฉินเจียงยกเลิกการขนอาวุธคืนนี้ โดยสัญญาว่าจะไปจากฮ่องกงทันที ฉินเจียงคิดหนัก เกาเฟยกลัวเสียแผนและครอบครัวเป็นอันตราย จึงหว่านล้อมจนฉินเจียงยอมขนอาวุธต่อ เกาเฟยเปลี่ยนแผนให้ส่งของทางเรือทั้งหมด จ้าวซันไม่ไว้ใจเกาเฟยจึงให้เต๋อเป่าตามทุกฝีก้าว

เหม่ยอิงเอาเครื่องประดับสุดหวงของแม่ใหญ่มาใส่ไปงานคืนนี้โดยไม่กลัวจ้าว ซันโกรธ เพราะของชิ้นนี้แม่ใหญ่ไม่เคยให้ใครใส่ จากนั้นเหม่ยอิงก็ไปหาเกาเฟย ขณะที่มีคนนำสัญญาเงินกู้มาให้บราลีโดยอ้างว่าเป็นลูกน้องจ้าวซัน บราลีโกรธมากจึงตามหาจ้าวซันจนรู้ว่าเขาไปหาคุณพ่อบาทหลวง บราลีรีบตามไปทันที คุณพ่อบาทหลวงมารับหน้าบราลีเพราะจ้าวซันกำลังเล่าความจริงให้ผู้กองเหลียง ฟัง จ้าวซันบอกผู้กองว่าฉินเจียงถูกหักหลัง และศิขรนโรดมไม่รู้เรื่องอาวุธ โดยเขาใช้ชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน ผู้กองเหลียงชื่นชมในความรักและให้อภัยน้องของจ้าวซัน

บราลีต่อว่าจ้าวซันเรื่องหนี้ของสุริยะ จ้าวซันจึงบอกความจริงทุกอย่าง บราลีได้แต่นิ่งอึ้ง เธอขอไม่ไปงานคืนนี้ จ้าวซันไม่ขัดเพราะอยากให้บราลีพัก เทเรซ่าบอกจ้าวซันว่าเต๋อเป่าถูกยิงบาดเจ็บสาหัสกำลังผ่าตัดอยู่ที่โรง พยาบาล จ้าวซันห่วงเต๋อเป่ามาก แต่ต้องไปเตรียมตัวเพื่องานคืนนี้ เหม่ยอิงกลับมาบ้านอย่างมีพิรุธและถามจ้าวซันถึงเต๋อเป่า แต่จ้าวซันไม่บอก เหม่ยอิงยิ่งไม่สบายใจเพราะมั่นใจว่าคนที่แอบดูเธอกับเกาเฟย คือ เต๋อเป่า เหม่ยอิงกลัวจ้าวซันจับพิรุธได้จึงแสร้งสารภาพว่า เอาเครื่องเพชรสุดหวงของแม่ใหญ่มาใส่ จ้าวซันไม่ว่าอะไรเพราะกลุ้มเรื่องอื่นอยู่ ขณะที่ทางโรงแรมที่ประทับ โกศิณมารายงานราชิดเรื่องเปลี่ยนแผนส่งอาวุธ ราชิดยังเชื่อใจฉินเจียง อสุนีเลือกทำเพื่อแผ่นดินจึงตามมาจากคีรีรัฐ แล้วแอบไปเตือนศิขรนโรดมเรื่องราชิด พ่อของอสุนีวางแผนปฏิวัติ ศิขรนโรดมไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนจึงเปรยกับราชิดทำนองว่าพระองค์จะไป เรียนต่อและให้ราชิดสำเร็จราชการแทน ทำให้ราชิดตื่นเต้นมาก

ที่งานเลี้ยง จ้าวซันเห็นฉินเจียงกับซูหลิงมางานก็จะไปคุยด้วย แต่ฉินเจียงเลี่ยงตลอดเวลา จ้าวซันจึงมั่นใจว่าฉินเจียงไม่เปลี่ยนใจ องค์รัชทายาทเสด็จมาในงาน จ้าวซันมารับเสด็จ ศิขรนโรดมจำพระเชษฐาได้ แต่ก็ทำเฉยตามที่จ้าวซันกระซิบบอก ราชิดคุ้นหน้าจ้าวซัน ผู้กองเหลียงบอกจ้าวซันว่าเต๋อเป่าผ่าตัดเสร็จแล้วรอเพียงฟื้นขึ้นมา แล้วผู้กองก็แยกไปเตรียมการ เหม่ยอิงรู้เรื่องเต๋อเป่าจากจ้าวซัน เธอโกรธมากที่จ้าวซันปกป้องทุกคนยกเว้นเธอ เหม่ยอิงจึงไปโกหกบราลีว่าจ้าวซันเจ็บหนัก บราลีเชื่อตามขึ้นรถจึงโดนจับไปที่โกดังใกล้ท่าเรือส่งของ

ศิขรนโรดมคุยกับจ้าวซันโดยไม่ให้คนอื่นผิดสังเกต ผู้กองเหลียงมาที่งานอีกครั้งและบอกจ้าวซันว่าเต๋อเป่าฟื้นแล้ว และคนที่อยู่กับเกาเฟย คือ เหม่ยอิง จ้าวซันเป็นห่วงบราลีจึงให้ภูสินทรไปคุ้มกันบราลี ขณะที่เหม่ยอิงคิดใช้บราลีต่อรองให้จ้าวซันยอมทุกอย่าง เพราะจ้าวซันรักบราลี บราลีหว่านล้อมให้เหม่ยอิงเปลี่ยนใจ เกาเฟยเตรียมงานเสร็จ เหม่ยอิงจึงให้เงินเกาเฟยไปหาครอบครัวที่เมืองไทย โดยกำชับให้เกาเฟยแจ้งตำรวจเพื่อให้ฉินเจียงถูกจับ หมวดจางซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ก็รีบแจ้งผู้กองเหลียงทันที

ในงาน ภูสินทรกับผู้ว่าฯ กันองค์รัชทายาทออกจากราชิด จ้าวซันดักพบราชิด โกศิณเป็นคนรุ่นใหม่จึงไม่รู้จักน่านปิงนรเทพ ราชิดปฏิเสธเรื่องที่จ้าวซันกล่าวหาแต่เหตุการณ์ไม่เอื้อ โดยเฉพาะเรื่องอาวุธเถื่อนที่มีอสุนีเป็นพยาน ราชิดเสียใจที่ลูกหักหลัง โกศิณกลัวความผิดจึงมอบตัวและยอมเล่าความจริง ฉินเจียงถูกจับ แต่จ้าวซันยืนยันจะช่วยฉินเจียงให้ถึงที่สุด และบอกฉินเจียงว่าเหม่ยอิงวางแผนทุกอย่าง ฉินเจียงเสียใจที่เข้าใจจ้าวซันผิด ภูสินทรมาบอกจ้าวซันว่าบราลีหายไป จ้าวซันจึงไปกับผู้กองเหลียง หมวดจางได้รับคำสั่งจากผู้กองเหลียงให้บุก บราลียอมเล่าอดีตที่เจ็บปวดของตนกับจ้าวซันเพื่อให้เหม่ยอิงได้คิด เธอสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนเหม่ยอิงและไม่มีวันทิ้งเหม่ยอิง เหม่ยอิงคิดได้และเสียใจที่ตนเองคิดผิด เหม่ยอิงฝากสร้อยเพชรกับบราลีไปคืนจ้าวซัน บราลีให้เหม่ยอิงจับเธอเป็นตัวประกันฝ่าวงล้อมตำรวจจนไปถึงรถ แต่เสียงเรียกของจ้าวซันทำให้เหม่ยอิงหันมามอง ตำรวจคิดว่าเหม่ยอิงจะต่อสู้จึงยิงเหม่ยอิงทันที เหม่ยอิงขอโทษจ้าวซัน จ้าวซันก็ยอมยกโทษให้ เหม่ยอิงหันมาขอบคุณบราลีก่อนจากไปอย่างสงบ

ฉินเจียงสำนึกผิดจึงรับดูแลเรื่องงานศพของเหม่ยอิง ผู้กองเหลียงตามจับเกาเฟยสำเร็จ จ้าวซันขอร้องให้แม่ใหญ่ยอมรับฉินเจียง แม่ใหญ่รับปากแต่ขอให้จ้าวซันกลับมาฮ่องกงหลังทำธุระเสร็จ จ้าวซันสัญญา แล้วเขาก็ไปพบศิขรนโรดมพร้อมผู้กองเหลียง และภูสินทร เมื่อรู้ว่าที่คีรีรัฐยังมีนายพลจตุรัส คนของราชิดอยู่ จ้าวซันจึงตัดสินใจไปคีรีรัฐกับภูสินทร เพื่อจัดการนายพลจตุรัสก่อนศิขรนโรดมจะกลับไป ศิขรนโรดมเป็นห่วงจ้าวซันจึงให้อสุนีไปด้วย เพราะอสุนีน่าจะช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จง่ายขึ้น

งานศพเหม่ยอิงผ่านไป แม่ใหญ่เปิดพินัยกรรมโดยที่ไม่มีจ้าวซันเข้าฟัง บราลีเตรียมตัวกลับเมืองไทย เธอรู้ว่าจ้าวซันจะไปคีรีรัฐก็เข้าใจว่าเขาจะไปทวงสิทธิ์จึงเสียใจมาก จ้าวซันไปเยี่ยมเต๋อเป่า ก่อนมาอธิบายให้บราลีเข้าใจ เขาสัญญาจะกลับมาหาบราลี บราลีสัญญาจะรอ ภูสินทรพาศิขรนโรดมกับคำฝายมาหาจ้าวซันและบราลี คำฝายกอดบราลีด้วยความคิดถึง

จ้าวซันเดินทางมาคีรีรัฐ เขาแวะมาหาครูเฒ่าที่กระท่อมเพื่อเล่าแผนการทั้งหมด และฝากตราสุรสีหนาทกับครูเฒ่าเพื่อมอบให้ศิขรนโรดม อสุนีไม่ไว้ใจจ้าวซันเพราะคิดว่าจะมาแย่งตำแหน่งเจ้าหลวงกับศิขรนโรดม ภูสินทรก็กลัวอสุนีทำร้ายจ้าวซัน แต่จ้าวซันคิดว่าอสุนีจะไม่ทำอย่างนั้น อสุนีทวนแผนกับจ้าวซันและภูสินทร แผนคืออสุนีนำจดหมายของโกศิณไปให้นายพลจตุรัสและบอกว่ามีอาวุธใหม่มาขาย จึงจะให้นายพลจตุรัสมาดูในงานเลี้ยงที่บ้านอสุนี แล้วค่อยจัดการ ตอนแรกอสุนีจะให้ทหารคุมนายพลจตุรัสไปผาห่มดอก เมื่อเสร็จงานก็จะฆ่าทหารทิ้ง แต่จ้าวซันเตือนให้อสุนีไว้ใจคนอื่นเหมือนที่ศิขรนโรดมไว้ใจอสุนี แล้วจ้าวซันก็บอกว่าเขากับภูสินทรจะจัดการเอง แล้วจากนั้นจ้าวซันจะไปขึ้นเรือที่แม่น้ำเวียงสายกลับทันที อสุนีไม่เชื่อ มิถิลามาหาอสุนีแล้วถามถึงศิขรนโรดม อสุนีเข้าใจความรู้สึกของน้อง แต่ก็เตือนว่าบางอย่างเป็นไปไม่ได้ แล้วอสุนีก็เล่าให้มิถิลาฟังว่าจะกำจัดจ้าวซัน ภูสินทรแอบฟังอยู่ก็เจ็บใจแทน เขาหาทางช่วยเหลือจ้าวซันจึงไปปรึกษาครูเฒ่า แต่ภูสินทรต้องตกใจมากเมื่อพบบราลีอยู่กับครูเฒ่า บราลีเล่าว่าเป็นห่วงจ้าวซันมากเลยขอให้ศิขรนโรดมช่วยเหลือ องค์ชายน้อยจึงส่งบร

คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ 2556

เรื่องย่อ : คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ (2556/2013) “แม่สาวจอมกะล่อนกลับกะล่อนไม่ออก เมื่อไปพัวพันกับเหตุฆาตกรรมระดับชาติ ชีวิตหล่อนจึงหักเหครั้งมโหฬาร ต้องมาหลบซ่อนตัวอยู่ในฟาร์มหมู และต้องพบเจอกับคุณชายเลี้ยงหมูติสต์แตก แล้วคุณหนูของเราจะทำอะไรเล่า...ก็ต้องเลี้ยงแกะซิคะ” ไผ่พญา (ไปรยา สวนดอกไม้) หรือที่คนในวงการเรียกกันว่า จูเลีย อ๊ะๆ ไม่ใช่วงการบันเทิงหรอก วงการที่ว่าคือ ดิออร์แกน คอกเทลเลาจ์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟนั่นเอง ผู้คนที่เข้ามาถ้าไม่ใช่นักการเมืองก็ต้องเป็นพวกมหาเศรษฐีเท่านั้น ไผ่พญาถือเป็นดาวและเป็นแม่เหล็กของที่นี่ เศรษฐีทุกคนต่างอยากได้ตัวของไผ่พญาทั้งนั้น แต่ทุกคนก็ต้องเกรงอกเกรงใจ สมสุข (โอริเวอร์ บีเวอร์) เศรษฐีที่ร่ำรวยจากการส่งออก แต่ใครๆ ก็รู้ว่าเบื้องหลังของเขา คือ เจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่ที่มีเครือข่ายตั้งแต่เหนือสุดจนใต้สุดของประเทศไทย ไผ่พญาอยากจะเปลี่ยนชื่อสมสุขเป็นสมสู่จริงๆ เพราะที่สมสุขมาเที่ยวทุกคืนก็เพราะอยากได้ไผ่พญาเป็นเมียเก็บอีกคน แต่ไผ่พญาก็รู้ทันพวกผู้ชาย แล้วใครๆ ก็รู้ว่าไผ่พญานั่นแหละเป็นปลาไหลตัวแม่เลยทีเดียว เพราะอย่างนี้ไผ่พญาถึงยังทำงานเป็นเด็กนั่งดริ๊งก์ได้ โดยที่ไม่เคยพลาดท่าใคร จนกระทั่งคืนนี้

เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง 2556

เรื่องย่อ : เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง (2556/2013) กรุงเทพมหานครในยุค 80 เป็นยุคที่อารยธรรมตะวันตกเริ่มไหลบ่าเข้ามาในสังคมเมือง วัยรุ่นคลั่งไคล้วัฒนธรรมต่างชาติ ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ถูกทำให้กลายเป็นเรื่องของการค้า เครื่องรางของขลังกลายเป็นของมีราคาที่ต้องใช้เงินซื้อหามาครอบครองเพื่อเสริมสร้างบารมีมากกว่าจะบูชาเพื่อคุ้มครองชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือความโลภของมนุษย์

กล้า ไพรีพ่าย (นิว วงศกร ปรมัตถากร) ลูกชายคนเดียว ของพลตำรวจโทเพชร ไพรีพ่าย นายตำรวจกองปราบซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ ว่าเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ โดยเฉพาะเรื่องของไสยเวทก็เป็นเป้าหมายหนึ่งซึ่งเป็นที่เพ่งเล็งของนักสะสมเครื่องรางของขลัง ที่มักจะวนเวียนมาขอดูของสะสม หรือมาลองวิชาอยู่เสมอ โดยเฉพาะ ตะกรุดสามกษัตริย์ มรดกชิ้นสำคัญที่กล้าได้รับมอบมาจากเพชร หลังจากที่เพชรเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทำให้กล้ารู้สึกเบื่อหน่ายมาก เพราะตนเองไม่ได้สนใจจะศึกษาเรื่องเหล่านี้เลย

แต่ดูเหมือนว่ายิ่งหนี กล้าก็กลับยิ่งต้องเจอกับเรื่องลึกลับ เพราะเมื่อใกล้อายุครบยี่สิบ กล้ามักฝันประหลาดถึง หลวงปู่หาญ (เคลลี่ ธนะพัฒน์) ซึ่งเป็นปู่แท้ ๆ แต่เข้าธุดงค์อยู่ในป่าเป็นเวลานาน หลวงปู่หาญได้เตือนให้กล้าระวังตัวเพราะจะเกิดอันตราย แม้แต่ กระเต็น (ทราย เจริญปุระ) ก็ฝันเหมือนกัน กล้าไม่ค่อยเชื่อนัก แต่กระเต็นเดือดร้อนใจมาก ต้องไปปรึกษากับ จุก (อ๋อง พัฒนะ พันธุ์เทวะ) อดีตเด็กวัดที่เคยฝากตัวเป็นลูกศิษย์หาญ แต่เพราะหาญไม่ยอมสอนวิชาให้ จุกจึงผันตัวเองมาเป็นเซียนพระ หากินอยู่แถวท่าพระจันทร์

จุกกระตุ้นให้กระเต็นระลึกถึงอดีตเมื่อครั้งที่หาญเคยมาทำพิธีโกนผมไฟให้หลานและเคยทักว่า กล้ามีดวงที่แรงมาก ถ้าใฝ่ดีจะเป็นเจ้าคนนายคน ถ้าใฝ่ชั่วจะกลายเสือร้ายที่ไม่มีใครปราบได้ โดยเฉพาะเมื่ออายุครบยี่สิบจะเป็นช่วงตัดสิน จุกแนะนำให้กล้าบวชเพื่อสะเดาะเคราะห์ กระเต็นเห็นด้วย และกล้าก็รับปาก เพราะกล้ารักแม่มาก แม้จะไม่รู้สึกเดือดร้อนไปกับคำทำนายเลย จุกส่งรัก-ยม วิญญาณเด็กที่เลี้ยงไว้ให้ไปตามสอดส่องคุ้มครองกล้า ทำให้ นุกูล (หมู ศุภกิจ บัวงาม) หรือนุเพื่อนกล้า ที่เชื่อเรื่องเร้นลับอยู่แล้วหวาดกลัวมาก

และแล้วก็เกิดเรื่องที่ทำให้ชาวเมืองหลวงต้องขวัญหาย เมื่อ ทิว (หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน) นักโทษคดีฆ่ายกครัว (ลูกเมียของตัวเอง) หนีออกจากที่คุมขังมา โดยฆ่าผู้คุมอย่างโหดเหี้ยมด้วยไสยดำเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ทิวก็คือคนที่มาขอเรียนวิชาไสยเวทกับเพชร แต่ถูกปฏิเสธ ทิวจึงไปซุ่มฝึกวิชาอาคมด้วยตัวเอง และมาท้าเพชรประลองวิชา ทิวพ่ายแพ้ เลยทำให้ทุ่มเทฝึกวิชาจนคลุ้มคลั่งสังหารลูกเมียจนหมดบ้าน ทิวถูกตัดสินประหาร แต่ก็ได้รับการลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตเพราะศาลลงความเห็นว่าทิวจิตไม่ปกติ ความจริงก็คือแม้จะถูกคุมขังแต่ทิวก็ยังไม่เลิกฝึกฝนมนต์ดำ เพราะยังมีความแค้น อยากจะประลองกับเพชรอยู่ตลอดเวลา และที่ทิวหนีออกมาก็เพื่อท้ากับเพชรอีกครั้ง ซึ่งทิวก็ต้องผิดหวังเมื่อมาถึงบ้านเพชรแล้วได้รู้ว่าเพชรตายไปแล้ว ทิวขอสู้กับกระเต็นซึ่งแม้จะมีวิชาติดตัว แต่ก็ทิ้งร้างไปนานจึงเพลี่ยงพล้ำเกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่พระหาญที่รู้จากฌาณว่ากระเต็นตกอยู่ในอันตราย มาช่วยกระเต็นไว้ได้ทัน แต่ด้วยความที่อยู่ในสมณะเพศจึงไม่สามารถฆ่าทิวได้ ได้แต่ปล่อยให้ทิวหนีไป ซึ่งหาญรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นการปล่อยเสือเข้าป่า

คืนเดียวกันนั้น โรงเรียนของกล้ากำลังจัดงานประจำปี กล้าถูกส่งขึ้นชกมวยไทยชิงถ้วยรางวัล กล้าเอาชนะได้อย่างง่ายดาย เหตุการณ์การต่อสู้ของกล้าอยู่ในสายตาของ พ่อเลี้ยงภูชิต (อานัส ฬาพานิช) เศรษฐีเจ้าของปางไม้ที่พรางตัวเข้ามาในงานพร้อมกับคม ลูกน้องคู่ใจ ภูชิตติดใจฝีมือกล้าจึงให้คมขึ้นไปท้าชก คมใช้กลโกงโดยแอบใช้สนับมือทำให้กล้าบาดเจ็บ แต่กล้าก็คว่ำคมลงได้ นุเอาตะกรุดที่กล้าฝากไว้มาคืน ต่อว่าว่ากล้ามีของดีไม่ใช้จนเจ็บตัวฟรี ทำให้พ่อเลี้ยงที่เป็นนักสะสมของขลังตัวยงรู้สึกสนใจตะกรุดของกล้าถึงกับขอซื้อ แต่กล้าไม่ขาย การเจรจาหยุดชะงักลง เมื่อคมวิ่งมาบอกพ่อเลี้ยงว่าเจอตัว คะนึงนิจ (แนท ณัฐชา นวลแจ่ม) หรือนิจ น้องสาวคนเดียวของภูชิตแล้ว คะนึงนิจหนีออกจากบ้านมาเพราะได้ค้นพบว่า ภูชิตทั้งขายไม้เถื่อน ล่าสัตว์ป่าเพื่อเอาหนังและเขาส่งนอก แม้แต่ขุดสมบัติของชาติขายก็ทำ คะนึงนิจทะเลาะกับภูชิตอย่างหนัก และหนีมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงด้วยการวาดรูปขาย ยามว่างก็ไปเรียนวาดรูปเพิ่มเติมกับ ครูเริง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) พ่อของ ราชาวดี (นาว ทิสานาฏ ศรศึก)

ภูชิตให้คนสืบหาจนรู้ว่าคะนึงนิจมาเช่าบ้านอยู่แถวโรงเรียนสหช่างจึงตามมา คะนึงนิจซึ่งนั่งรับจ้างวาดรูปอยู่ในงานหนีการไล่ล่าของพี่ชายไปหลบอยู่ในห้องน้ำชายที่กล้าเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ และขอร้องไม่ให้กล้าบอกพวกภูชิต กล้าทำตามเพราะนึกว่าภูชิตเป็นพวกคนร้าย คะนึงนิจปลอมตัวเป็นผู้ชาย ขอให้กล้าช่วยเดินกอดคอออกไปในงานเพื่อพรางตาพวกภูชิต โดยขอให้กล้าไปส่งตัวเองที่หลังเวทีการแสดงที่กำลังจะมีการรำของนักเรียนนาฏศิลป์ ที่นั่นกล้าได้พบกับราชาวดี นักเรียนนาฏศิลป์ที่เป็นดาวของโรงเรียน และกล้าก็ตกหลุมรักราชาวดีนับแต่นั้น

พระหาญที่กลับไปจำพรรษาในวัดป่าเกิดร้อนผ้าเหลือง เพราะกลัวอยู่ตลอดเวลาว่าทิวที่หนีรอดไปจะใช้ไสยเวทเข่นฆ่าคน ที่สำคัญเวลาที่กล้าจะอายุครบยี่สิบใกล้เข้ามาทุกที ในที่สุดพระหาญก็อธิษฐานจิตเชิญวิญญาณหลวงปู่บุญทาผู้ซึ่งเป็นอาจารย์มาปรากฏเพื่อขออนุญาตสึก หลวงปู่บุญทารู้ทันทีว่าหาญหมดบุญที่จะอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์แล้ว จึงสึกให้หาญแล้วใช้อาคมทำให้หาญกลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง หาญเริ่มต้นไล่ล่าหาตัวทิวเพราะเชื่อว่าทิวยังแค้นเพชรและกระเต็นอยู่ ซึ่งความแค้นนี้ต้องลุกลามมาถึงกล้าแน่นอน

ฝ่ายกล้าไม่รู้ว่าภัยกำลังมาถึงตัว เพราะความรักที่มีต่อราชาวดีกำลังเบ่งบาน โดยกล้าสามารถผ่านด่านครูเริง พ่อของราชาวดีซึ่งหวงลูกสาวอย่างมากไปได้ ขณะเดียวกันก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับคะนึงนิจ ที่เห็นว่ากล้าเจ้าชู้ไม่คู่ควรกับราชาวดี และก็ยังต้องปวดหัวกับงามตา นักเรียนนาฏศิลป์คู่แข่งของราชาวดี ที่หลงรักกล้าจนถึงขนาดไปทำเสน่ห์ยาแฝด แต่แทนที่จะทำให้กล้าหลง กลับกลายเป็นนุกูลที่โดนพิษของน้ำมันพรายแทน ส่วนภูชิตยังคงมาตามหาคะนึงนิจ กระทั่งวันหนึ่งภูชิตได้ให้คมมาดักจับคะนึงนิจ แต่กลับได้ตัวราชาวดีไปด้วยความเข้าใจผิด ภูชิตต้องตาต้องใจราชาวดีมากกล้าตามไปช่วยราชาวดีได้ทัน โดยสามารถกำหราบลูกน้องภูชิตได้ราบคาบ แถมตะกรุดของกล้ายังประกาศศักดาความคงกระพันให้ภูชิตเห็นด้วย ภูชิตจึงตัดสินใจจะกำจัดกล้าเพื่อแย่งทั้งราชาวดีและตะกรุดมาเป็นของตนให้ได้

วันอุปสมบทของกล้าถูกกำหนดขึ้น แต่ในคืนก่อนบวช ภูชิตคิดแผนให้สมุนปลอมเป็นนักเรียนโรงเรียนใกล้ ๆ กับสหช่างไปรุมซ้อมนุกูล ขณะเดียวกันเสี่ยไพบูลย์ก็ส่งคนไปปาระเบิดใส่โรงเรียนนั้น ทำให้กล้าที่คิดจะไปเจรจา จนถูกเข้าใจผิดและถูกรุมยำจากนักเรียนช่างที่ถูกปาระเบิด ซึ่งกล้าก็สู้สุดชีวิตโดยมีคะนึงนิจอยู่ในเหตุการณ์ด้วย มีนักเรียนและครูได้รับบาดเจ็บหลายคน คืนนั้นนักเรียนคนหนึ่งที่เป็นลูกชายนายตำรวจถูกลอบยิงเสียชีวิต กระเต็นไปประกันตัวกล้าโดยใช้บารมีของพลตำรวจตรีสุพจน์เพื่อนรักของเพชรเช่นเคย กระเต็นสั่งให้กล้าเก็บตัวท่องบทสวดมนต์อยู่โบสถ์ ภูชิตให้คมที่ได้วิชากำบังกายมาจาก อาจารย์ยอด (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) เอาปืนเข้าไปซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าของกล้า สุพจน์ต้องไปจับกล้าด้วยตัวเองในวันบวชทำให้กระเต็นเสียใจมาก ระหว่างที่กล้าถูกคุมตัวไปเรือนจำ ภูชิตก็ให้สมุนปลอมตัวเป็นนักโทษพยายามฆ่ากล้าทิ้ง แต่กล้าต่อสู้จนรถขนนักโทษคว่ำ ตำรวจที่คุมรถตาย คะนึงนิจขับรถมาช่วยพากล้าที่บาดเจ็บหนีออกต่างจังหวัด แต่ภูชิตแจ้งความว่ากล้าจับคะนึงนิจเป็นตัวประกันหนีไป กล้าจึงถูกตามล่าจากทั้งตำรวจและพวกภูชิต จนในที่สุดคะนึงนิจและกล้าต้องหนีเข้าป่าลึกไป หาญที่ออกจากป่ามาหากระเต็นรู้เรื่องเข้าก็รีบตามกล้ากับคะนึงนิจไปทันที

ทิวที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับหาญปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในวัดร้างทางใต้ เพื่อขุดเอากระดูกของ ขุนโชติ (วินัย ไกรบุตร) และสมุนคือ เสือดำ (เอ็กซ์ ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) กับ เสือไท (ป๊อบ จิณณะ จอมขันเงิน) เสือร้ายสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เป็นที่เลื่องลือในเรื่องความเหี้ยมโหดและอยู่ยงคงกระพัน ทิวตั้งใจจะเอากระดูกของขุนโชติไปชุบชีวิตในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของป่าอาถรรพ์เพื่อจะใช้ขุนโชติไปแก้แค้นหาญ แต่เมื่อทิวทำสำเร็จกลับถูกขุนโชติฆ่าตายอยู่ในป่าอาถรรพ์ จากนั้นขุนโชติและสมุนก็ออกปล้นฆ่าชาวบ้านอย่างไร้ปรานี ตามแบบที่เคยทำเมื่อครั้งมีชีวิต จนกระทั่งไปพบกับแก๊งโจรตัดเศียรพระของเสี่ยไพบูลย์พ่อค้าขายวัตถุโบราณที่เคยหนีคดีไปได้เมื่อครั้งเพชรยังมีชีวิต สมุนของเสี่ยถูกขุนโชติทำร้ายและบอกว่าแม้เป็นโจรก็จะไม่ขโมยของวัด สมุนที่รอดชีวิตซมซานกลับมาหาเสี่ยไพบูลย์ซึ่งกำลังเจรจาขายของให้กับภูชิต ทำให้ทั้งคู่ต้องไปตามอาจารย์ยอด อดีตพระที่มาตั้งสำนักสักยันตร์ลงของ และเป็นอาจารย์ของภูชิตมาปราบขุนโชติ

เมื่ออาจารย์ยอดพบกับขุนโชติ ก็รู้ว่าขุนโชติถูกชุบชีวิตด้วยน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์มากเหมาะจะล่อเอาไว้ใช้ จึงเสนอให้ขุนโชติร่วมกันตั้งแก๊งกับภูชิต เพื่อปล้นทรัพย์สินมาแบ่งกันโดยภูชิตจะหารังให้ขุนโชติหลบซ่อน พร้อมสอนการใช้ชีวิตอย่างคนปัจจุบันให้ ขุนโชติเกือบจะไม่ตกลงแต่พอรู้ว่าศัตรูของภูชิตคือกล้า หลานของหาญ เจ้าของตะกรุดสามกษัตริย์ก็ตกลงทันทีเพราะจำได้ว่าทิวเคยพูดไว้ก่อนตายว่าหาญเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมเป็นเลิศหากขุนโชติปราบได้จะเป็นที่หนึ่งในแผ่นดิน ขุนโชติจึงอยากเจอกับหาญมาก

ที่กลางป่า กล้าและคะนึงนิจโซซัดเซเข้าไปในหมู่บ้านควาญช้างที่มี สำริด (บุ๋มบิ๋ม สุธีรัชย์ ชาญนุกูล) เป็นหัวหน้า สำริดมีลูกสาวชื่อว่า ศรีแพร (แก้ม กวินตรา โพธิจักร) เมียของสำริดคือศรีวรรณต้องตายเพราะปกป้องช้างตัวหนึ่งให้พ้นจากการถูกล่าเอางา สำริดและศรีวรรณจึงเกลียดคนเมืองมากเมื่อพบกับกล้าและคะนึงนิจก็คิดว่าเป็นพวกล่าสัตว์จึงเกือบฆ่าทิ้ง แต่คะนึงนิจก็ช่วยอธิบายจนเข้าใจกัน กล้ารักษาตัวอยู่ในหมู่บ้านได้เรียนรู้วิชาอาคมของควาญช้างที่ใช้บังคับสัตว์ต่าง ๆ จนกระทั่งพวกภูชิตและขุนโชติบุกมาถึง หาญรีบย่นระยะทางมาช่วยกล้าและคนในหมู่บ้านสู้กับภูชิตและขุนโชติ กล้ารู้ว่าหาญคือพระหาญผู้เป็นปู่ก็ดีใจมาก ผนึกกำลังกันสู้พวกขุนโชติ แต่คราวนี้ยอดได้ปลุกวิญญาณเสือทับ (เอ อรุชา โตสวัสดิ์) ซึ่งรู้จุดอ่อนของหาญ และเสือต่าง ๆอีกมากมายมาเป็นกองกำลัง กล้าพยายามต้านพวกขุนโชติไว้เพื่อให้หาญหนีไป ตัวเองถูกภูชิตจับ ยึดตะกรุดไป เสือทับได้ทีเข้าสิงร่างกล้า (ทับไม่สามารถชุบชีวิตเหมือนขุนโชติ เพราะทั้งร่างและกระดูกถูกเผาทำลายไม่มีเหลือโดยหาญตั้งแต่ครั้งอดีต) หาญต้องปล่อยให้หมู่บ้านถูกทำลาย สำริดถูกฆ่า มีเพียงศรีแพรและคะนึงนิจ ที่หนีรอดมากับหาญโดยพากันมาซุ่มอยู่ในมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ ขณะที่ภูชิต ก็ใช้กล้าที่มีวิญญาณเสือทับสิงอยู่ กับขุนโชติไปตามหาเครื่องรางของขลัง ที่เคยเป็นพวกชุมเสือเมฆ ตามที่ต่าง ๆ รวมทั้งสมบัติที่เคยปล้นมาได้ โดยฆ่าคนที่ครอบครองทิ้ง กลายเป็นว่ามีพวกเซียนพระและนักสะสมของเก่าต้องตายกันเป็นใบไม้ร่วง รวมทั้งจุกด้วย ยังความปวดหัวให้กับตำรวจเป็นอย่างยิ่ง

เพื่อต่อกรกับขุนโชติ หาญตัดสินใจปลุกวิญญาณของ ยิ่งยศ (เก่ง ชาติชาย งามสรรพ์) อดีตนายตำรวจที่เก่งกาจทางวิชาอาคมขึ้นมาช่วยตำรวจต่อกรกับเหล่าวิญญาณร้าย โดยกระเต็นเป็นคนพาหาญไปพบกับพลตำรวจตรีสุพจน์ แรก ๆ สุพจน์ไม่เชื่อ แต่เมื่อได้พบกับยิ่งยศก็ถึงกับเข่าอ่อน ยอมให้หาญกับยิ่งยศมาช่วย แต่เสี่ยไพบูลย์กับภูชิตก็สร้างเครือข่ายได้แข็งแรงขึ้น โดยได้นายตำรวจใหญ่หลายนายเป็นพวก เสือทับใช้ร่างกล้าเข้าปล้นผู้คน จนกล้าถูกตั้งค่าหัวสูงมาก หาญได้ประมือกับกล้าแต่ไม่อยากทำร้ายกล้า ส่วนกล้าที่มีวิญญาณเสือทับสิงก็จะฆ่าแม้แต่กระเต็น ทำให้กระเต็นเจ็บปวดมาก ในที่สุดกล้า (เสือทับ) ก็สามารถฉุดเอาราชาวดีมาซ่อนไว้ที่ปางไม้ตามคำสั่งของภูชิต แต่ภูชิตก็ไม่สามารถปลุกปล้ำขืนใจราชาวดีได้ เพราะหาญได้สักยันตร์อัคคีไว้บนตัวของราชาวดีทำให้ตัวร้อนเป็นไฟทุกครั้งที่เข้าใกล้ ภูชิตยิ่งเจ็บใจจึงระบายความแค้นด้วยการขอให้ขุนโชติกับกล้าพาเสือออกปล้นครั้งใหญ่ เข่นฆ่าผู้คนล้มตาย คะนึงนิจทนไม่ไหวกลับมาหาภูชิต และแสร้งทำเป็นขอคืนดีกับพี่ชาย เพื่อหาจังหวะขโมยตะกรุดมาคล้องคอให้กล้า เพื่อไล่ผีเสือทับออกจากร่าง จากนั้นทำแผนถ่วงเวลา ให้กล้าพาราชาวดีหนี ส่วนตัวเองถูกภูชิตทำร้ายและจับขังไว้

กล้ากลับมาหากระเต็นและหาญได้ก็จริง แต่กลับต้องหลบซ่อน เพราะตำรวจเข้าใจว่ากล้าเป็นเสือร้าย แต่ในที่สุดกล้าได้ไปพบคาถาที่สามารถปราบขุนโชติและทับได้ แต่หากใช้คาถานี้ หาญและยิ่งยศก็จะได้รับผลไปด้วย แต่หาญและยิ่งยศก็ยินดีเสียสละ ทั้งสามผนึกพลังกันสู้ โดยมีสุพจน์นำกำลังตำรวจไปสมทบ เสี่ยไพบูลย์ถูกตำรวจฆ่าตาย หาญมาดวลกับยอด กล้าดวลกับขุนโชติ ส่วนยิ่งยศจัดการกับวิญญาณทับ ในที่สุดยอดและภูชิตก็พ่ายแพ้ ยอดตาย ภูชิตถูกจับ ความจริงที่กล้าถูกเสือทับสิงร่างได้รับการเปิดเผย วิญญาณยิ่งยศสลายไป พลังความหนุ่มแน่นของหาญที่เกิดจากน้ำอมฤตก็หมดลง หาญกลับไปเป็นชายชราและสิ้นลมในอ้อมกอดของศรีแพร

ด้านคะนึงก็ต้องทำใจกับความรักและกลับไปบริหารงานต่อจากพี่ชายกลายเป็นแม่เลี้ยงของปางไม้แทนพี่ชาย ส่วนกล้าขอแต่งงานกับราชาวดี โดยไม่มีโอกาสได้รู้ความลับสำคัญที่กระเต็นไม่มีวันเปิดเผย นั่นคือ กล้านั้นไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของเธอกับเพชร แต่เป็นลูกเสือผาด เสือที่เพชรไปล้อมจับและวิสามัญจนตาย เมียเสือผาดคลอดลูกในเวลานั้นพอดี แต่ก็ตกเลือดจนตาย เพชรจึงต้องอุ้มลูกเสือกลับมาที่บ้านเป็นเวลาพ้องกับที่กระเต็นคลอดลูกชายก่อนกำหนด ทำให้ลูกเสียชีวิต เพชรกลัวกระเต็นจะเสียใจจึงเอาลูกเสือผาดมาสวมรอยเป็นลูกตัว โดยที่กระเต็นเพิ่งได้รู้ความจริงจากปากเพชรก่อนที่เพชรจะตาย ซึ่งทำให้หาญและกระเต็นกังวลมาตลอดว่ากล้าจะเสียคนกลายเป็นโจรเหมือนพ่อ อย่างที่คำโบราณว่าไว้ ว่าเลี้ยงลูกเสือลูกตะเข้ แต่กล้าก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า "สายเลือดไม่สำคัญเท่าความใฝ่ดี และความดีเท่านั้นที่จะคุ้มครองคนไม่ใช่เวทมนตร์คาถาใดใด"

Love On Air ไม่บอกรัก...แต่รักมาก

Love On Air ไม่บอกรัก...แต่รักมาก  (2556/2013)

เรื่องราวอลวนนี้เริ่มต้นที่ ต้นหอม ศกุลตลา รับบทเป็นโปรดิวเซอร์รุ่นพี่ที่แอบหลงรัก โบ ธนากร ดีเจรุ่นน้องในสังกัดจนเป็นที่มาของความฮาและเรื่องราววุ่น ๆ ชวนให้ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน เริ่มตอนแรกก็มีซีนเข้าพระเข้านางกันเลยทีเดียว โดยฉากนี้ โบ เข้ามาขอบคุณ ต้นหอม ที่ซื้อนาฬิกามาให้ เท่านั้นไม่พอยังคุกเข่าสารภาพรักแถมเอามือต้นหอมมาจูบ ๆ ๆ แบบจู่โจมชนิดบ้าคลั่งไม่ทันให้ตั้งตัวอีกต่างหาก ซึ่งฉากนี้ก่อนถ่ายทีมงานกลัวว่าทั้งคู่จะเขินกันจนต้องถ่ายหลายเทค แต่ที่ไหนได้ทั้งคู่กลับเคมีตรงกัน เล่นเข้าขากันจนเทคเดียวผ่าน!! แถมสีหน้าและท่าทางแอ็คติ้งของทั้งคู่ก็แสดงออกมาซะมากมาย เล่นเอาดีเจคนอื่น ๆ ที่รอเข้าฉากหัวเราะกันจนท้องแข็ง เอาละซิ! พระเอกจู่โจมนางเอกตั้งแต่ตอนแรกแบบนี้ เห็นทีความรักของนางเอกจะมีแววสมหวังรึเปล่า? ติดตามเอาใจช่วยได้ในซิทคอมดีเจสุดฮา เลิฟ ออน แอร์ ไม่บอกรัก...แต่รักมาก ในวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายนนี้ เวลา 19.00 น. เสนอเป็นตอนแรก ทางช่องกรีนแชนแนล

 

หน้าที่