ข้าวนอกนา (2556/2013) ดำเป็นลูกของสาวไทยกับฝรั่งนิโกร มีพี่สาวชื่อเดือน เป็นลูกครึ่งฝรั่งผิวขาวจากแม่เดียวกัน ทั้งสองอายุห่างกัน 1 ปี แม่ฝากดำกับเดือนให้ป้าหมอนกับลุงชาญ เพื่อนบ้านในสลัมเดียวกันช่วยเลี้ยง จนทั้งสองอายุได้ 4-5 ขวบ แม่ก็ทิ้งไปและไม่กลับมาอีกเลย แต่โชคดีที่เดือนเป็นเด็กลูกครึ่งฝรั่งผิวขาว หน้าตาน่ารัก ส่วนดำเป็นเด็กตัวดำ หน้าตาขี้เหร่ในสายตาคนอื่น เธอจึงมักถูกเปรียบเทียบกับเดือนเสมอ ดำรู้สึกว่าตนเองเกิดมาอาภัพ ทำให้เกิดความริษยาเดือน กลายเป็นปมด้อยและความเกลียดชังที่ฝังลึกโดยไม่รู้ตัว ดำจึงชอบแกล้งเดือน พอเดือนไปฟ้องป้าหนอม ดำก็จะโดนตี แต่ดำกลับไม่เคยร้องไห้ ป้าหนอมจึงมักต่อว่าดำนั้นใจดำเหมือนสีผิว หนึ่งปีหลังจากแม่ทิ้งดำกับเดือนไป ป้าหนอมหาทางขายดำกับเดือนให้คนอื่นเพราะเลี้ยงไม่ไหว จนมีคู่สามีภรรยาเศรษฐี คือ ดนัยธรกับเขมวรรณ ขอรับเดือนไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม เพราะทั้งสองไม่มีลูกของตัวเอง เขมวรรณตั้งชื่อให้เดือนใหม่ว่า เดือนไขแสง เดือนถูกเลี้ยงอย่างทะนุถนอม ได้รับการศึกษาสูง อยูในแวดวงสังคมไฮโซ ได้รับความรักความอบอุ่นจากครอบครัวใหม่ ทำให้เดือนลืมปมด้อยไปชั่วขณะ ส่วนดำถูกคุณนายจรูญศรีรับไปเลี้ยง เธอเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนท์ให้เช่าและอู่แท็กซี่ จรูญศรีทั้งตระหนี่และเห็นแก่ตัว ปฏิบัติกับดำเหมือนเป็นคนใช้ โดยให้คอยช่วยประนอม คนรับใช้ทำงานบ้าน ดำจึงมีชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก ไม่ได้รับความรักใด ๆ ประนอมเป็นคนดูแลดำ แต่เพราะไม่มีความรู้จึงไม่สามารถอบรมสั่งสอนดำได้ ดำเกลียดเดือนที่เกิดมาโชคดีกว่าดำทุกอย่าง จึงวางแผนจะทำลายอนาคตของเดือนด้วยการเปิดโปงรากเหง้าให้เดือนรู้สึกอับอาย หรือด้วยวิธีดึงเดือนลงมาเกลือกกลั้วในสังคมชั้นต่ำของตน แม้ชีวิตที่ผ่านมาของดำจะดูขมขื่น แต่เธอก็ยังมีลุงสวัสดิ์ คนขับแท็กซี่ ที่มีบุญคุณกับดำ และเข้าใจหัวอกของเธอดี แต่น่าเสียดายที่ลุงหวัดไม่ได้อยู่ให้เป็นที่พึ่งนานนัก ลุงหวัดประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ดำทนชีวิตที่ถูกคุณนายจรูญศรีจิกหัวใช้ไม่ไหว จึงหนีออกจากบ้านคุณนายไปอยู่กับใจหวาน นักร้องประจำผับแห่งหนึ่ง ใจหวานสงสารดำจึงช่วยเหลือไว้ ขณะนั้นดำได้รู้จักกับ จอร์จ เบเนดิกท์ ชาวอเมริกันลูกครึ่งเอเชีย ซึ่งมาทำงานเป็นครูและหมออาสาสมัครในเมืองไทย ดำเข้าเรียนภาษาอังกฤษกับเขาและนับถือเขาเป็นครูคนหนึ่ง แม้จอร์จจะมีท่าทีที่พิเศษต่อดำ แต่เธอคิดว่าจะไม่ซ้ำรอยแม่ของตน ที่มีสามีเป็นฝรั่ง เพราะกลัวจะมีลูกที่เกิดมามีปมด้อยเช่นเธอ เมื่อใจหวานได้เห็นพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงและความกล้าแสดงออกของดำ จึงหัดให้ดำร้องเพลงสากลและพาไปร้องเพลงที่ผับของเสี่ยพรพัฒน์ซึ่งใจหวานมีฐานะเป็นเมียน้อยของเขา พรพัฒน์ตั้งชื่อให้ดำใหม่ว่า มิสดอลลี่ ตามสไตล์นักร้องนิโกรอเมริกัน อาชีพนักร้องทำให้ดำมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้น แต่ทุกคนเข้าใจว่าดำเป็นนักร้องนิโกรอเมริกันจริง ๆ จนเมื่อความแตก ดำจึงต้องออกจากผับของเสี่ยพรพัฒน์ เพราะทุกคนหาว่าดำโกหกหลอกลวง ในขณะเดียวกัน ชีวิตเดือนมีอนาคตที่ดี มีคนรักแวดล้อม เดือนกลายเป็นดาวมหาวิทยาลัย เรียนหนังสือเก่ง และเป็นแฟนกับไวภพ ชายหนุ่มไฮโซที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่กลับทำให้ดนัยหงุดหงิดไม่พอใจ ที่เดือนมีแฟนหนุ่มมาส่งที่บ้านบ่อย ๆ โดยอ้างว่าจะทำให้เสียการเรียน ทั้งที่จริงแล้วดนัยแอบหึงและคิดกับเดือนเกินลูก จึงคอยขัดขวางไม่ให้เดือนคบกับไวภพ แต่เดือนก็ไม่เชื่อ ลอบคบกับไวภพโดยไม่ให้ดนัยรู้ ระหว่างนั้น จอร์จพาดำสมัครประกวดร้องเพลงในรายการหนึ่ง ชื่อเสียงของดำเริ่มโด่งดังขึ้นอีกครั้งเพราะความเป็นคนเสียงดี และเคยเป็นที่รู้จักในนาม มิสดอลลี่ มาก่อน ดำใช้ปมด้อยของตัวเองทำให้ดูน่าสงสาร และประกาศว่าตนมีพี่สาวที่พลัดพรากจากกันอีกคนคือเดือน ทำให้ทุกคนสนใจว่าเดือนเป็นใครกันแน่ ดนัยธรกับเขมวรรณรู้ข่าวก็คิดจะส่งเดือนไปเรียนต่อเมืองนอก แต่ด้วยความระแวงของดนัยธรที่กลัวว่าเดือนจะใจแตกเมื่ออยู่ไกลหูไกลตา จึงเปลี่ยนใจใช้วิธีสกปรกกลั่นแกล้งไม่ให้ดำเข้ารอบต่อไป สื่อต่าง ๆ จึงยุติความสนใจในเรื่องราวชีวิตของดำไว้เพียงแค่นั้น จอร์จคอยปลอบใจดำและพาดำไปสมัครงานนักร้อง ทำให้ดำได้งานในผับกึ่งคาเฟ่ของเจ๊ต่าย เมื่อใจหวานรู้ก็ทะเลาะกับดำ เพราะเจ๊ต่ายเป็นคู่แข่งกับเสี่ยพรพัฒน์ ดำถูกไล่ออกจากบ้านใจหวาน จอร์จช่วยหาที่อยู่ใหม่ให้ หลังจากนั้นไม่นานดำเจอกับสมพันธุ์อีกครั้ง เธอช่วยเหลือเขาหลังจากเขาถูกออยทิ้ง ออยเป็นนักร้องสาวสวยในผับเดียวกันและเป็นไม้เบื่อไม้เมากับดำ ออยสนใจจอร์จจึงอิจฉาดำ แต่ดำคิดว่าสมพันธุ์คือรักแท้ และคอยปรนเปรอเขาทุกอย่าง แม้จอร์จกับใจหวานคอยเตือนดำก็ไม่เชื่อ สมพันธุ์อ้างว่าทำธุรกิจแล้วขาดทุน แต่ที่จริงสมพันธุ์หลอกเงินของดำไปเลี้ยงดูคิตตี้ โคโยตี้สาวที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ จนดำจับได้ สมพันธุ์บอกว่าไม่มีใครเลือกผู้หญิงดำปี๋อย่างดำอยู่แล้ว ดำยิ่งเสียใจมาก ในขณะเดียวกัน จ้อย ลูกสาวคนโตของจรูญศรีเข้ามาร่วมหุ้นกับเจ๊ต่าย ออยใส่ร้ายดำให้จ้อยฟัง ทำให้จ้อยเกลียดและกลั่นแกล้งจนดำอึดอัดไม่อยากไปร้องเพลงที่ผับอีก ตั้งแต่นั้นมาดำจึงเต็มไปด้วยความเจ็บแค้นและความเกลียดชังทุกคน ดำได้เจอกับเดือนอีกครั้งในงานประกวดร้องเพลง และรู้จักกับไวภพ ดำหาทางแย่งไวภพมาจากเดือนแต่ไม่สำเร็จ ดำหาทางเปิดโปงเดือน แต่ในที่สุดก็ไม่สำเร็จเพราะจอร์จห้ามไว้ ดำประชดชีวิตโดยหันไปเสพยา จากการถูกชักชวนของโจ้ ชีวิตดำยิ่งตกต่ำหนัก แม้จอร์จจะคอยเตือนและให้เธอเข้ารับการบำบัด แต่ดำก็ไม่ฟัง เดือนเองก็มีความทุกข์เช่นกัน ทุกข์ที่ไวภพตีตัวออกห่าง เพราะเข้าใจว่าเดือนมีใจให้กับพ่อเลี้ยงของเธอ และทุกข์ที่กลัวความคิดอกุศลของพ่อเลี้ยง ด้วยความที่เดือนไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริง เดือนมาปรับทุกข์กับดำ ดำจึงชักชวนเดือนให้มาเสพยา แต่ก่อนที่เดือนจะติดยา ตำรวจก็เข้าทลายแหล่งซ่อมสุมเสียก่อน เดือนจึงกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ แต่ก็ยังมีความรู้สึกในใจที่ยังกลัวความคิดอกุศลของพ่อเลี้ยงที่มีต่อลูกเลี้ยงอย่างเธอ จนวันหนึ่งดนัยธรเข้ามาในห้องเดือนและหวังจะปลุกปล้ำ เดือนจึงหนีออกจากบ้านไปอยู่กับไวภพ แต่พ่อแม่ของไวภพไม่ยอมรับ และไวภพก็หมดรักเดือนแล้ว เพราะเธอไม่ใช่คุณหนูเดือนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับเขาอีกต่อไป เดือนออกมาใช้ชีวิตอยู่ในโลกกว้างเพียงลำพัง แต่เขมวรรณก็ยังแอบช่วยเหลือโดยไม่ให้ดนัยธรรู้ ดำถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดยาเสพติด จึงได้พบกับจอร์จอีกครั้ง จอร์จสอนให้ดำมองเห็นคุณค่าในตัวเอง เพราะเขามองเห็นพรสวรรค์ด้านร้องเพลงของดำตั้งแต่แรกที่ได้ฟังแล้ว และเป็นผู้ที่ดึงความฝันของดำให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยได้หยิบยื่นโอกาสและความหวังให้ดำ ชีวิตของดำจึงดีขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นนักร้องชื่อเสียงโด่งดัง และลืมปมด้อยของตน โดยมีจอร์จคอยเป็นกำลังใจ ติดตามชม ละครข้าวนอกนา

กากับหงส์ (2556/2013) มดดำ หรือ มนฤดี (พิงค์กี้ สาวิกา) เด็กสาวที่เติบโตขึ้นมาในสลัม อาศัยอยู่กับ ส้ม (บุ๋ม ปนัดดา) หมอนวดแผนโบราณที่สปาแห่งหนึ่ง ผู้เป็นแม่และเฉลิม พี่ชายแท้ ๆ ของส้ม และเป็นลุงของมดดำ ซึ่งมีอาชีพขับรถสองแถว แม้จะมีกันแค่สองคนแม่ลูก แต่ส้มเองกลับไม่เคยสนใจไยดีมดดำอย่างที่แม่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม ส้มจะแสดงอาการรังเกียจเดียดฉันท์มดดำมาตลอดตั้งแต่มดดำจำความได้ ไม่ว่ามดดำจะพยายามทำดีขนาดไหน แต่ก็ไม่เคยถูกใจส้มเลยแม้แต่น้อย และส้มมักจะตอบแทนความดีของมดดำด้วยการดุด่าตบตีอยู่เป็นประจำ จนเฉลิมเองที่เป็นลุงก็ทนไม่ไหวต้องออกโรงปกป้องมดดำบ่อยครั้ง ถึงมดดำจะมีแม่ที่ดุร้าย แต่เธอก็ยังโชคดีที่นอกจากจะมีลุงคอยช่วยแล้ว มดดำยังมีเพื่อนบ้านใจดีอย่างสองยายหลานคือยายแดง และอิทธิ (แบงค์ อธิกิตติ์) ซึ่งอยู่บ้านติดกันจนทำให้สองครอบครัวสนิทกันมานานมาก ยายแดงถือเป็นกำลังสนับสนุนสำคัญที่คอยสั่งสอนและช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่มดดำเท่าที่จะทำได้ ทั้งการให้อิทธิช่วยติวและให้อิทธิแอบพามดดำไปเรียนกศน. จนสอบได้วุฒิ ม.6 เพราะยายแดงเคยเป็นแม่บ้านในคอนโดฯ ของฝรั่งมาก่อน ทำให้เธอเห็นคุณค่าของการศึกษา ส่วนอิทธิเองก็ดูและสนิทสนมกับมดดำมากจนมดดำรู้สึกเหมือนมีพี่ชายแท้ ๆ หนึ่งคน หากแต่เมื่อโตขึ้นอิทธิกลับรู้สึกลึกซึ้งกับมดดำมากกว่าความเป็นเพื่อนแต่เขาก็ไม่กล้าแสดงออกได้แต่เก็บไว้ในใจคนเดียว ด้วยความที่ส้มไม่ต้องการให้มดดำเรียน จึงบังคับให้มดดำทำงานทุกอย่างที่มดดำจะทำได้ ตั้งแต่เข็นผักส่งแผงในตลาดแต่เช้ามืด ตามมาด้วยขายพวงมาลัย รวมทั้งเป็นหมอนวดในสปา และทำงานบ้านทุกอย่างที่ส้มต้องการ โดยห้ามเฉลิม อิทธิ หรือ ยายแดงเข้าช่วย หากใครฝ่าฝืน ส้มจะไปลงที่มดดำด้วยการเฆี่ยนตีต่อหน้าต่อตาทุกคน สุทธิดา หรือ ดา (กิ๊บซี่ วนิดา) บุตรสาวคนโตของ ชาติชาย (ถา สถาพร) และ กัลยา (กบ ปภัสรา) หลานสาวของคุณหญิงวาปี เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ ชีวิตของสุทธิดาถือได้ว่าเป็นสีตรงข้ามกับมดดำอย่างสิ้นเชิง เพราะแวดล้อมไปด้วยครอบครัวที่อบอุ่น ทุกคนรักใคร่ไม้เว้นแม้แต่องค์อร น้าสาวที่ไม่ได้แต่งงาน มีเพียงดอม น้องชายที่ชอบพูดตรงแต่ไม่ค่อยเข้าหูสุทธิดานัก ทั้งสองจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมาคอยเถียงกันอยู่เรื่อย ไม่เพียงแต่ชีวิตครอบครัวของสุทธิดาเท่านั้นที่น่าอิจฉา แต่ชีวิตนักศึกษาของเธอก็เป็นที่อิจฉาของเพื่อน ๆ เช่นกัน เพราะสุทธิดา นอกจากจะเด่นดังในเรื่องความรวยและความสวยแล้ว เธอยังเป็นที่รู้จักในเรื่องการเรียนเก่งติดอันดับต้น ๆ ของมหาวิทยาลัยด้วย เรียกได้ว่าผู้ชายทั้งมหาวิทยาลัยต่างหมายปองและอยากเป็นมิตรกับสุทธิดาทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่พงษ์ เพื่อนในกลุ่มของสุทธิดา เพราะพงษ์แอบรักสุทธิดามาตั้งแต่แรกเห็น จึงทำให้เขาพยายามพาตัวเองมาอยู่ใกล้สุทธิดา แม้ว่าระดับการเรียนของเขาจะห่างชั้นมากก็ตาม แก้วกับวาว่าเพื่อนสนิทของสุทธิดาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรพงษ์เพราะพงษ์ก็เป็นคนหน้าตาดีมากชนิดที่สองสาวแอบหมายปองอยู่เหมือนกัน เพียงแต่พงษ์ไม่เคยชอบสองสาวเลยแม้แต่น้อย แต่ไม่ว่าชายหนุ่มที่หล่อดีมีคุณสมบัติเด่นขนาดไหน สุทธิดาก็ไม่เคยจริงจังด้วย เพียงแต่คบเล่น ๆ แก้เซ็งรอเวลาที่สหรัฐ หรือ รัฐ (บีม กวี) หนุ่มหล่อนักเรียนนอก บุตรชายคนเดียวของพิมพ์พรรณ เจ้าของบริษัท Jewelry by Pimphan บริษัทเครื่องประดับอัญมณีอันดับหนึ่ง และพิมพ์พรรณยังเป็นเพื่อนสนิทของกัลยา แม่ของสุทธิดามาตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนฝรั่ง จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพยายามจะจับคู่ให้กับเด็กทั้งสอง คือ สหรัฐกับสุทธิดา แต่สหรัฐก็คิดกับสุทธิดาเพียงแค่น้องสาว หากแต่พูดไม่ออกบอกไม่ได้ เพราะไม่อยากขัดใจผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจึงจำเป็นต้องตามน้ำไป ขณะเดียวกันก็พยายามจะแสดงออกให้เห็นว่าเขาเป็นได้เพียงพี่ชาย ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าสุทธิดาและผู้ใหญ่ทุกคนก็พยายามมองไม่เห็นสารที่สหรัฐพยายามจะสื่อ มีเพียงดอมที่พอจะดูออกว่าสหรัฐไม่ได้ชอบพี่สาวของตน วันหนึ่ง กัลยาได้เดินหาซื้อต้นไม้เพื่อไปตกแต่งงานวันเกิดของสุทธิดา ระหว่างที่เดินอยู่นั้นกัลยาก็ถูกโจรสองคนวิ่งราวกระเป๋า โชคดีที่มดดำและอิทธิมาทำงานที่ร้านต้นไม้ใกล้ ๆ กัน ทั้งสองจึงช่วยกันต่อสู้กับโจรจนได้กระเป๋าคืนมา แต่โจรสามารถหนีรอดไปได้ กัลยารู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งน้ำใจของมดดำและอิทธิเป็นอย่างมาก จึงคิดจะตอบแทนเป็นเงินก้อนโต แต่ทั้งสองไม่รับเพราะคิดว่าช่วยด้วยน้ำใจ กัลยายิ่งรักเด็กทั้งสองคนมากขึ้น แต่ไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณอย่างไร เจ้าของร้านต้นไม้จึงบอกให้กัลยาช่วยอุปการะส่งเสียให้มดดำเรียนหนังสือ เพราะเธอสงสารที่มดดำไม่ได้เรียน กัลยายินดีมากแต่มดดำไม่กล้ารับ กัลยาจึงให้นามบัตรและสั่งให้มดดำไปขอแม่เพื่อที่จะไปอยู่ที่บ้านของเธอ เมื่อมดดำกลับมาบอกแม่ ส้มที่ไม่สนใจจะฟังมดดำอธิบายก็สั่งห้ามเด็ดขาดว่าไม่ให้เรียน ไม่ว่าจะได้เงินมาเรียนยังไงก็ตาม เฉลิมรู้สึกโกรธที่ส้มทำเกินไปแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะส้มจะใช้วิธีตีประชด ไม่เพียงแต่มดดำจะเสียใจเรื่องที่แม่ไม่ให้เรียนเท่านั้น แต่มดดำยังต้องเสียใจที่แม่จำวันเกิดของเธอไม่ได้ แม้ยายแดงกับอิทธิจะจัดงานวันเกิดเล็ก ๆ ให้มดดำ รวมทั้งเฉลิมเองก็มีของขวัญมาให้ แต่มันก็ไม่ได้ทดแทนสิ่งที่มดดำโหยหาจากแม่ หนำซ้ำแม่ยังออกจากบ้านไปอีก มดดำจึงต้องตามไปดูด้วยความเป็นห่วง และแล้วมดดำก็มาเจอว่าส้มมายืนแอบดูงานวันเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง แต่ด้วยความที่รั้วไกลมาก มดดำจึงไม่เห็นว่าบ้านนั้นมีกัลยาอยู่ด้วยและเป็นคนจัดงานวันเกิดให้ลูกสาวของเธอนั่นเอง มดดำไม่เข้าใจว่าแม่มาที่นี่ทำไม แต่พอจะถามส้มก็ตวาดด่าแล้วขึ้นรถหนีไป มดดำจะขึ้นรถไปด้วยส้มก็ไม่ยอมสุดท้ายมดดำต้องยืนคอยรถเมล์เพื่อกลับบ้าน ส่วนในงานวันเกิดของสุทธิดานั้น สหรัฐที่เพิ่งกลับมาก็ถูกพิมพ์พรรณจัดแจงหาของขวัญเป็นกำไลเพชรล้ำค่าให้สหรัฐมอบให้สุทธิดา ทำให้สุทธิดาปลาบปลื้มมาก ผู้ใหญ่ในงานทุกคนก็มีความสุขในงานสังสรรค์นี้ จนเมื่อพงษ์มาร่วมงานโดยพาแพรวพราว อาของเขามาด้วย คุณหญิงวาปี องค์อร ดูจะแสดงออกในการไม่ต้อนรับแพรวพราวมากที่สุด จนพาลไม่อยากมองหน้าชาติชายไปด้วย เพราะความผิดเก่า ๆ ที่ชาติชายเคยทำไว้มันย้อนกลับมาทำให้ทุกคนไม่พอใจ ผิดกับแพรวพราว ที่พยายามทำตัวเหมือนกับว่าทุกอย่างมันจบไปแล้ว แพรวพราวดีใจที่หลานของเธอกลายเป็นเพื่อนกับสุทธิดา วาปีกับองค์อรทนไม่ไหวจึงขอตัวขึ้นนอน สุทธิดากับดอมที่แอบดูเหตุการณ์ที่ผู้ใหญ่คุยกันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนเหมือนจะไม่ชอบกัน มีเพียงสหรัฐที่รู้จากพิมพ์พรรณว่าแพรวพราวคืออดีตเลขาของชาติชายที่เป็นมากกว่าเลขานั่นเอง วันรุ่งขึ้นสุทธิดากับดอมอดใจไม่ไหว จึงถามพวกผู้ใหญ่จนทำให้รู้ความจริงทั้งหมด รวมไปถึงพงษ์ที่ได้รู้จากปากของแพรวพราวด้วย พงษ์คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ ตนคงไม่มีสิทธิ์ที่จะชอบสุทธิดาแน่ เพราะทุกคนในบ้านนั้นคงรังเกียจอาสาวของเขา หากแต่ แพรวพราวกลับสนับสนุนเต็มที่ให้พงษ์เอาสุทธิดามาครอบครองให้ได้ ทางด้านมดดำ และ อิทธิ ที่ตื่นมาขนผักที่ตลาดแต่เช้า ก็ต้องตกใจที่ได้เจอโจรสองคนที่เคยจี้กัลยามาหากินที่ตลาดแห่งนี้อีก มดดำกับอิทธิต้องช่วยต่อสู้จับโจรแต่คราวนี้โจรจำทั้งสองได้จึงคิดจะแก้แค้นครั้งก่อนกะเอาให้ตาย โชคดีที่สหรัฐที่กำลังจะไปเริ่มงานวันแรกขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์และเกือบชนกับมดดำในช่วงที่วิ่งหนีโจร สหรัฐจึงต้องลงมาช่วยจนได้แผลกันไป และในที่สุดตำรวจก็มารวบตัวไอ้สองโจรร้าย เหตุการณ์น่าจะไปได้ดีถ้าสหรัฐไม่เผลอพูดผิดหูไปแตะความเป็นผู้หญิงที่คิดจะมาเตะต่อยอย่างผู้ชายกับมดดำ มดดำโมโหทำให้ทั้งสองทะเลาะกันและเหม็นหน้ากันจนเกือบจะมีเรื่อง แต่อิทธิเข้าห้ามไว้ ทั้งสองภาวนาว่าจะขอไม่เจอหน้ากันอีกตลอดชาติ ตกบ่ายมดดำก็กลับมาทำงานที่สปาตามปกติกับส้ม แต่เหมือนวันนี้จะไม่ใช่วันของเธอ มดดำได้ลูกค้าชีกอคิดจะลวนลามเธอ มดดำไม่ยอมจึงเกิดเป็นเรื่อง ส้มเข้ามาไกล่เกลี่ยโดยจะให้มดดำยอมแขก มดดำเสียใจมากที่แม่ไม่เห็นแก่ศักดิ์ศรีของเธอ หนำซ้ำแขกยังดูถูกเรื่องการศึกษาของมดดำอีก มดดำจึงตัดสินใจแน่วแน่ที่จะกลับไปเรียน เมื่อกลับบ้าน ส้มก็ตามด่าตามห้ามและจะตีมดดำถ้ามดดำไปเรียน โชคดีที่เฉลิมกลับมาห้ามได้ทัน เฉลิมขอนามบัตรมดดำจะไปโทรหากัลยาเอง เมื่อมดดำเอานามบัตรออกมา ส้มก็แย่งจะไปฉีกแต่พอเห็นเป็นชื่อกัลยา ส้มก็ตกใจชะงักไป และสุดท้ายส้มก็เปลี่ยนใจให้มดดำไปอยู่บ้านกัลยาแต่มีข้อแม้ข้อเดียวคือเธอต้องไปด้วย มดดำกับเฉลิมงงเป็นไก่ตาแตก เย็นวันนั้น วาปี กัลยา องค์อร ต่างก็มารอรับมดดำในฐานะที่เป็นคนช่วยชีวิตกัลยาไว้ ทุกคนตื่นเต้นมากที่ได้จะคนดี ๆ มาร่วมบ้าน แต่ก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่ามดดำเป็นลูกสาวของส้ม ส้มเองก็รู้ทันว่าอาจจะไม่ได้อยู่บ้านนี้ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง เธอจึงกลายร่างเป็นหญิงเจ้าน้ำตากราบขอโทษทุกคนสำหรับเรื่องที่ผ่านมา ทำให้มดดำงงมากว่าเกิดอะไรขึ้น ส้มบอกว่ามดดำเป็นลูกของเธอกับผัวใหม่ตอนที่ออกไปจากที่นี่ วาปีกับทุกคนจึงโล่งใจ แต่เรื่องจะให้มาอยู่ในบ้านก็ชักไม่แน่ใจกันแล้ว เพราะวาปีกับองค์อรก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่มดดำเป็นลูกของส้ม มีเพียงกัลยาที่รู้สึกอยากจะให้มดดำมาอยู่ที่นี่ และเธอก็จะลืมเรื่องเก่า เย็นนั้นชาติชายกลับมาได้เจอกับส้มอีก ยิ่งทำให้เขาละอายใจต่อกัลยาและวาปีมากขึ้น ส่วนส้ม พอได้เจอกับสุทธิดาที่กลับมาจากมหาวิทยาลัย ส้มก็ปรี่เข้าไปดูแลอย่างดีจนสุทธิดางง แต่ก็ชอบเพราะโดยนิสัยเธอชอบทุกคนที่มาเอาใจอยู่แล้ว แต่พอองค์อรเล่าเรื่องส้มว่าเคยเป็นหนึ่งในเมียของชาติชายเหมือนกัน แพรวพราวและสุทธิดาก็รังเกียจขึ้นมาทันที แถมยังพาลไปถึงชาติชายด้วย เพราะสุทธิดาไม่คิดว่าชาติชายจะไม่เลือกคนขนาดนี้ ชาติชายเสียใจที่ลูกสาวไม่เข้าใจ แต่กัลยาก็ปลอบไว้ แม้จะนึกถึงวันเก่า ๆ แล้วความเจ็บปวดก็หวนย้อนคืนมาหลอกหลอนอีกครั้ง โดยเมื่อยี่สิบปีก่อน ชาติชายเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกพร้อมกับเธอ และด้วยความที่ชาติชายมีครอบครัวพื้นเพอยู่ต่างประเทศ วาปีจึงให้เข้าร่วมบริหารกิจการของครอบครัวและแต่งงานกับกัลยา ชาติชายทำงานได้อย่างดีจนวาปีวางใจ แต่ทุกอย่างก็มาพังเมื่อมีการจับได้ว่า ชาติชายกับแพรวพราว แอบมีอะไรกัน วาปีขอให้แพรวพราวลาออกไป แล้วจะถือว่าทุกอย่างจบ แต่แพรวพราวไม่ยอม วาปีจึงใช้เส้นสายในการกลั่นแกล้งพี่ชายของแพรวพราว ทำให้แพรวพราวจำต้องลาออก ชาติชายเองก็สำนึกผิดและจะทำตัวใหม่ให้ดี ซึ่งเขาก็ทำได้ระยะหนึ่ง จนวันที่ส้มเข้ามาเป็นคนรับใช้ใหม่ของบ้าน ส้มเห็นชาติชายครั้งแรกก็พึงพอใจอย่างมาก เมื่อมีโอกาสส้มจะทอดสะพานให้เสมอ หากแต่ชาติชายก็ไม่สน จนวันหนึ่งที่วาปี กัลยา และองค์อร ต้องไปต่างประเทศ ส้มจึงจัดการวางยาชาติชายแล้วเธอก็สมใจ ชาติชายเมื่อได้สติก็รู้สึกผิด แต่ส้มสัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ซึ่งส้มต่างหากที่ทำไม่ได้เพราะความอิจฉาริษยาที่เห็นชาติชายดีกับกัลยาคนเดียว แต่กับเธอชาติชายไม่เคยเหลียวแล ส้มจึงใช้วิธีการบังคับให้ชาติชายแบ่งเวลามาหาเธอบ้าง ไม่อย่างนั้นเธอจะแฉ ชาติชายจำเป็นต้องทำตามส้ม เพื่อรักษาครอบครัวไว้ จนกระทั่งคืนหนึ่ง องค์อรที่แอบเห็นความผิดปกติของทั้งคู่ จึงแอบตามชาติชายไปและเห็นว่าไปอยู่ในห้องส้ม องค์อรจึงโวยวายเรื่องจึงแดงขึ้น วาปีกับกัลยาไม่พอใจอย่างมาก กัลยาถึงขึ้นขอหย่าจากชาติชาย ส้มที่ได้ยินก็ดีใจและหวังว่าจะจับชาติชายได้ แต่ระหว่างนั้นกัลยาเกิดเป็นลมหน้ามืด ทุกคนจึงต้องพาส่งโรงพยาบาล ที่โรงพยาบาล หมอตรวจเจอว่ากัลยาท้อง คุณหญิงวาปีและองค์อรดีใจมาก รวมทั้งชาติชายด้วย แต่กัลยายืนยันว่าเธอจะหย่า ชาติชายขอโอกาสอีกครั้งและครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย แม้ตอนแรกกัลยาจะไม่ยอม แต่ตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ชาติชายไม่ยอมอยู่ห่างจากสายตากัลยาเลย เขาจะไม่ยอมกลับบ้านถ้ากัลยาไม่กลับ ด้วยความที่กัลยารักชาติชายมากจึงเริ่มลังเล วาปีไม่เห็นด้วยถ้ากัลยาจะยอมคืนดีกับชาติชาย แต่องค์อรที่ดูเหมือนจะไม่ชอบชาติชายมาก ๆ พอ ๆ กับกัลยา กลับเป็นคนที่เห็นด้วยกับกัลยาเพราะเธอก็ไม่อยากเห็นหลานไม่มีพ่อ สุดท้ายวาปีจึงต้องยอมกัลยา หลังจากที่กัลยากลับจากโรงพยาบาล ชาติชายก็เป็นฝ่ายขอเลิกกับส้ม โดยส้มจะได้เงินไปก้อนใหญ่เพื่อไปตั้งตัว ส้มไม่ยอม จะเอาเรื่องชาติชายและขู่จะฟ้องว่าเธอถูกข่มขืน ชาติชายยอมทุกอย่างจะติดคุกก็ยอม แต่สิ่งเดียวที่เขาจะไม่ยอมส้มอีกต่อไปคือ การรับส้มเป็นเมียคนหนึ่งของเขา ส้มเสียใจเจ็บใจมากที่ชาติชายปฏิเสธ เธอจึงออกจากบ้านไปด้วยความเคียดแค้นเต็มหัวใจ ภายหลังจากที่ทบทวนเรื่องเก่า ๆ เมื่อ 20 ปี แล้ว ชาติชายกับกัลยาเริ่มฉุกใจคิดว่า มดดำน่าจะเป็นลูกของชาติชายก็ได้ เพราะดู ๆ แล้วก็รุ่นราวคราวเดียวกับสุทธิดา ชาติชายเองแม้จะคิดเหมือนกัน แต่ก็เกรงใจกัลยา ตรงกันข้ามกับกัลยา เธอกลับรู้สึกชอบมดดำมาก ถ้าเป็นลูกชาติชายจริง เธออยากจะอุปการะเป็นลูกอีกคน ชาติชายซึ้งน้ำใจความดีของกัลยา ซึ่งกัลยาก็บอกไม่ได้ว่าทำไมจึงรักและเอ็นดูมดดำมาก แต่เมื่อชาติชายกับกัลยาเรียกส้มมาถาม ส้มบอกว่าหลังจากที่เธอออกจากบ้านไป เธอก็ได้ผัวใหม่เป็นกรรมกรต่ำ ๆ มดดำจึงไม่ใช่ลูกของชาติชาย ทำให้กัลยากับชาติชายรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ส้มกลับรู้สึกสะใจ มดดำเองหลังจากที่รู้ว่าส้มเคยสร้างปัญหาไว้ที่บ้านหลังนี้ เธอก็ไม่อยากอยู่และขอให้ส้มย้ายออกไป เธอยอมที่จะไม่เรียนหนังสือ แต่ส้มไม่ยอมและบังคับให้มดดำอยู่ที่นี่กับเธอเพื่อคอยดูหายนะคนที่มันเคยทำร้ายเธอ มดดำเสียใจที่แม่เข้ามาอยู่ที่นี่ด้วยความเคียดแค้น และเสียใจที่ตัวเองจะกลายเป็นคนนำความเดือดร้อนมาให้คนอื่น การมาอยู่วันแรกของส้มกับมดดำ ก็ได้รู้จักกับ พี่เนื่อง แม่บ้าน มาลี เด็กรับใช้รุ่นราวคราวเดียวกับมดดำ และ ลุงเหวง คนขับรถที่พ่วงตำแหน่งคนสวนในบางเวลา แต่ส้มที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าพี่เนื่อง มาลี และลุงเหวง ส้มจึงขอไม่สุงสิงด้วยเมื่อโดนเนื่องตำหนิ ส้มก็ประกาศว่าเธออยู่มาก่อนเนื่อง แต่กลายเป็นว่าเนื่องไม่กลัวและไม่แคร์ เนื่องจึงประกาศกลับว่าเธอคือแม่บ้าน และคุมคนรับใช้ทุกคน ถ้าใครไม่เกรงกลัวเธอ เธอก็จะบอกวาปีว่าจะเอาออก ส้มโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้จึงหมายหัวเนื่องเป็นศัตรู มดดำจึงพลอยมีศัตรูไปโดยปริยายตั้งแต่วันแรกและจากวันนั้น มดดำก็พยายามทำงานทุกอย่าง ช่วยเหลือทุกคนจน เนื่อง มาลี และลุงเหวงเริ่มใจอ่อนกับมดดำ และชักทนไม่ได้ที่เห็นส้มโยนงานทุกอย่างให้ลูกสาว แต่ตัวเองนั่ง ๆ นอน ๆ ในบ้าน เพราะถือว่ามดดำมีบุญคุญกับกัลยา ส้มดุด่ามดดำทั้งตีทั้งด่า โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ต่อหน้า วาปี องค์อร กัลยา และชาติชาย จนทุกคนสงสารมดดำ มีก็แต่สุทธิดาที่ไม่เคยชอบสองแม่ลูกคู่นี้เพราะยังรับไม่ได้เรื่องเก่า ๆ ของพ่อ จึงไม่สนใจว่ามดดำจะโดนดุด่ายังไง หากแต่ดอมกลับแอบชอบมดดำ และเริ่มถูกใจในความฉลาดและเก่งของมดดำ ดอมเองก็จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีหน้า จึงช่วยติวหนังสือให้กับมดดำไปด้วย และไม่ยอมนับตัวเองเป็นน้องแต่จะเทียบรุ่นกับมดดำโดยอ้างว่าห่างกันปีเดียวเป็นเพื่อนกันได้ ส้มเห็นดอมกับมดดำเข้ากันได้ ก็พยายามจะยุให้ดอมจีบมดดำ แต่ดอมก็ไม่กล้าเพราะคิดว่าเขายังเด็กเกินไป ส้มเองไม่ได้ยุแค่ดอม แต่หันมายุมดดำด้วยซึ่งมดดำก็บอกไปตรง ๆ ว่าเธอรู้สึกกับดอมเหมือนน้องชายเท่านั้น ส้มจึงไม่พอใจ มดดำกลับมาเยี่ยมเฉลิมที่บ้าน และได้เจอกับยายแดงและอิทธิ มดดำเสียใจกับอดีตของแม่ เฉลิมเองก็ขอโทษที่ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้มดดำฟัง แต่เฉลิมเองก็งงว่าส้มมีผัวกรรมกรตอนไหน ยายแดงเองก็งง เพราะจำได้ว่า ส้มมาอยู่ที่นี่ก็ตัวคนเดียว ไม่นานก็ท้องและมีมดดำ แต่สุดท้ายทุกคนก็สรุปว่า ตอนที่ส้มออกจากบ้านชาติชายคงไปอยู่กับใครอีก เพราะตั้งแต่เล็ก ๆ ส้มก็เป็นคนทะเยอทะยาน อยากได้อยากมีจนต้องออกจากบ้านตั้งแต่อายุสิบห้า และไม่เคยติดต่อใครอีกเลยจนพ่อแม่ตาย เฉลิมย้ายมากรุงเทพฯ แล้วส้มเกิดรู้เข้าแต่ก็ไม่เคยติดต่อกัน จนเมื่อตกอับถึงมาอยู่กับเฉลิม อิทธิเองก็เริ่มเป็นห่วงมดดำมากขึ้นอยากจะไปดูแลแต่มดดำก็ห้ามไว้ อิทธิจึงขอไปหาบ่อย ๆ แทน สหรัฐกับพิมพ์พรรณ มาเยี่ยมครอบครัวกัลยา แต่เป้าประสงค์จริง ๆ ของพิมพ์พรรณ คืออยากจะมาดูหน้ามดดำที่กัลยาปลื้มนักปลื้มหนา ซึ่งพิมพ์พรรณก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ เพราะมดดำมีเสน่ห์น่ารักกับเธอมาก สุทธิดาเห็นเข้าก็ไม่พอใจจึง คิดจะชวนสหรัฐไปข้างนอก แต่ก็ต้องงงที่สหรัฐกับมดดำรู้จักกันมาก่อน สหรัฐจึงเล่าให้ฟังเรื่องที่มดดำช่วยต่อสู้โจร มดดำจึงกลายเป็นคนเก่งของทุกคนไป วาปีกับองค์อรที่เคยตึง ๆ กับมดดำก็ไม่วายแอบปลื้มในความเก่งของมดดำไม่ได้ แต่ต้องเก็บความรู้สึกไว้ สุทธิดาที่เคยเป็นคนเก่งที่สุดของบ้านเริ่มรู้สึกว่ามดดำจะมาเป็นคู่แข่ง จึงประกาศว่าแม่ของมดดำคือส้มที่เคยเป็นนางบำเรอของชาติชาย ส่วนมดดำก็มีพ่อเป็นกรรมกร มดดำทั้งอายและเสียใจมาก สุทธิดาไล่มดดำให้ไปอยู่หลังบ้าน สหรัฐเริ่มมองตามด้วยความเป็นห่วง จนช่วงหนึ่งสหรัฐเดินมาเจอมดดำที่จะเอาขยะไปทิ้ง สหรัฐเข้ามาคุย มดดำขอร้องว่าอย่ามายุ่งกับเธออีก สหรัฐมาทีไรเธอมีเรื่องทุกที สหรัฐไม่ยอมรับว่าเขาจะเป็นตัวซวยเลยเถียงกัน สุทธิดาตามหาสหรัฐมาเห็นเข้าก็ไม่พอใจไปลากตัวส้มมาต่อว่า ส้มได้ทีอาสาทำโทษมดดำด้วยการเอากิ่งไม้ฟาดมดดำ สหรัฐจะห้ามก็ไม่ฟัง ส้มบอกว่าถ้าสหรัฐเข้าใกล้มดดำอีก เธอจะตีมดดำให้ตาย สุทธิดาพอใจกับกฎนี้ยิ่งทำให้ส้มมีความสุขที่เห็นสุทธิดาพอใจในสิ่งที่เธอทำให้ แต่สหรัฐทั้งเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้มดดำเจ็บตัว และอึ้งกับท่าทีการเป็นแม่ของส้มมาก มดดำต้องไล่สหรัฐไปเพราะเธอไม่อยากเจ็บตัว เมื่อสหรัฐกับสุทธิดาไปแล้ว มดดำก็ขอเคลียร์กับแม่เรื่องที่ไม่ฟังเหตุผลเธอเลย เอาแต่ตี ส้มบอกว่าถ้าอะไรที่เป็นของสุทธิดาแล้วมดดำคิดจะแย่ง เธอจะฆ่ามดดำทิ้ง มดดำน้อยใจที่แม่เห็นคนอื่นดีกว่า เย็นวันนั้น สุทธิดากับสหรัฐออกไปเที่ยวฟังเพลงกัน แก้ว วาว่า ขอตามไปด้วยซึ่งสุทธิดาไม่อยากให้ไป แต่สหรัฐบอกว่าไปหลาย ๆ คนสนุกดี พงษ์ที่รู้ข่าวก็ขอตามไปด้วย แต่สุทธิดากลายเป็นคนที่ไม่ชอบหน้าพงษ์ตั้งแต่รู้ว่าแพรวพราวเคยเป็นหนึ่งในเมียน้อยพ่อของเธอ สหรัฐพยายามเตือนสุทธิดาว่าเรื่องของคนรุ่นหนึ่งไม่ควรจะเอามาเป็นอารมณ์กับคนอีกรุ่นหนึ่ง สุทธิดาไม่ค่อยพอใจจึงงอนสหรัฐแล้วประชดด้วยการเรียกคิม เพื่อนนักศึกษาเกาหลีจากคณะบริหารอินเตอร์ฯ สุดหล่อที่พ่วงตำแหน่งนายแบบมาเที่ยวด้วย เมื่อคิมมา พงษ์ก็ไม่พอใจพยายามขวางคิมจนมีเรื่องกัน สหรัฐพาสุทธิดากลับมาส่งและดุสุทธิดาไม่ให้ทำแบบนี้อีก สุทธิดาดีใจคิดว่าสหรัฐหึง แต่กลายเป็นว่าสหรัฐบอกว่าเขาห่วงน้องสาวของเขาที่ชื่อสุทธิดาสุทธิดาโมโหที่สหรัฐไม่ง้อเธอเหมือนอย่างผู้ชายคนอื่น สุทธิดาใช้ไม้ตายไปฟ้องวาปีกับองค์อรเรื่องที่สหรัฐเปลี่ยนไป และเธอมั่นใจว่าเป็นเพราะมดดำพยายามแย่งสหรัฐ วาปีกับองค์อรแม้จะไม่เกลียดมดดำ แต่เมื่อมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จึงต้องเรียกส้มกับมดดำมาเตือน ส้มได้ทีก็ตีมดดำต่อหน้าวาปีอีก จนวาปีสงสารสั่งห้าม และเตือนไม่ให้มดดำขึ้นมาบนตึกใหญ่อีก ทำให้สุทธิดาพอใจมาก มีแต่กัลยาที่ทนคิดถึงมดดำไม่ไหวจึงเดินลงไปหาอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็โดนส้มเหน็บแนมให้เจ็บใจอยู่เป็นประจำ วันหนึ่งกัลยาคิดถึงว่ายังไม่ได้ตอบแทนอิทธิเลย จึงให้มดดำพาไปหาอิทธิที่บ้าน แต่ยายแดงกับอิทธิก็ยังไม่รับความช่วยเหลืออะไรจากกัลยาเหมือนเคย กัลยาชื่นชมสองยายหลานนี้มาก จึงคิดจ้างอิทธิทำงานที่บริษัท แต่อิทธิก็ยังไม่จบ ระหว่างนี้กัลยาจึงจ้างอิทธิให้ทำงานพิเศษดูแลต้นไม้ในบ้าน อิทธิดีใจมากที่จะได้มาอยู่ใกล้มดดำ แต่กลายเป็นว่าอิทธิกับสุทธิดาต้องกลายมาเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน เพราะสุทธิดาไม่ชอบหน้าอิทธิตั้งแต่แรกเห็น เพราะถือว่าเป็นเพื่อนมดดำและเรียนมหาวิทยาลัยเปิด ต้องเป็นคนไม่เก่งแน่ ๆ แต่อิทธิก็สวนกลับจนสุทธิดาหน้าหงายไปหลายรอบ เป็นที่ถูกอกถูกใจดอมเป็นอย่างมาก จนดอมนับถืออิทธิเป็นรุ่นพี่อีกคน ทำให้สุทธิดาโมโหน้องชายตัวแสบไปอีกคน นานวันเข้าสหรัฐก็ถูกสุทธิดาเรียกมารับไปโน่นมานี่บ่อย ๆ และทุกครั้งที่มาหา สหรัฐก็ต้องมีเรื่องให้พบกับมดดำอยู่เรื่อย ๆ แม้มดดำจะพยายามหลบเลี่ยงหรืออยู่ห่าง ๆ แล้วก็ตาม จนวันหนึ่งวาปีไปทำงานแล้วไม่ค่อยสบายในระหว่างประชุม กัลยากับชาติชายอยากจะมาส่งที่บ้าน แต่ก็ติดต้องรับลูกค้าต่างชาติ ครั้นจะเรียกองค์อรมารับ องค์อรก็เกิดติดงานการกุศล วาปีจึงกลับบ้านไปกับคนขับรถ แต่เมื่อมาถึงบ้านวาปีก็เจอมดดำที่เข้ามาทำความสะอาด ช่วงที่ยืนคุยกันวาปีเกิดเป็นลม มดดำเห็นเข้าก็จะพาไปโรงพยาบาล แต่ส้มไม่ยอมให้การช่วยเหลืออะไรเลย มดดำจะโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลส้มก็ไม่ยอม จะโทรเรียกคนรถ ๆ ก็ขับออกไปแล้วไม่รู้เบอร์มือถือ ระหว่างนั้นสหรัฐที่พิมพ์พรรณใช้ให้เอาผลไม้จากนอกมาให้ที่บ้านวาปีพอดี จึงช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล แม้ส้มจะห้ามไม่ให้มดดำนั่งรถไปด้วย แต่สหรัฐไม่สนเพราะเขาต้องการคนช่วยจึงให้มดดำไปด้วย เมื่อวาปีฟื้นขึ้นก็ขอบคุณมดดำและสหรัฐเป็นอย่างมาก อาการตึงชาที่วาปีเคยมีต่อมดดำก็ลดน้อยลงไปเยอะ องค์อรที่รู้ข่าวรีบมาเยี่ยมวาปี ก็เริ่มคุยกับวาปีว่าจะรักมดดำก็รักไม่ลงจะเกลียดก็ไม่ใช่เรื่อง วาปีเลยเล่าให้ฟังว่าระหว่างเธอเป็นลม แม้จะไม่มีแรงลืมตา แต่วาปีได้ยินทุกอย่างที่สองแม่ลูกคุยกัน วาปีปลาบปลื้มที่มดดำไม่เหมือนแม่และน่าจะเป็นคนดีอย่างจริงใจ องค์อรเลยเริ่มมองมดดำในแง่ดีขึ้น สุทธิดาที่โทรหาสหรัฐ จึงรู้ว่าสหรัฐพาวาปีมาส่งโรงพยาบาล แต่พอรู้ว่าวาปีไม่ได้เป็นอะไรมาก สุทธิดาก็ไม่ค่อยอยากมาเยี่ยม เพราะไม่ชอบโรงพยาบาลแต่จะชวนสหรัฐออกไปดูหนังแทน แต่สหรัฐไม่ไปเพราะแม่ของเขาและพ่อแม่ของสุทธิดาพร้อมด้วยดอมกำลังมา จนเมื่อสุทธิดารู้ว่าสหรัฐกับมดดำเป็นคนพาวาปีมาและตอนนี้มดดำก็อยู่โรงพยาบาลด้วย ทำให้สุทธิดาโกรธจัดรีบตามมาทันที และเมื่อมาถึงก็ไม่ค่อยสนใจวาปี พยายามจะพาสหรัฐออกไปข้างนอกท่าเดียวจนที่สุดวาปีก็ต้องปล่อยไป เมื่อกลับบ้านไป องค์อรก็เรียกมดดำมาคุย สองคนเริ่มคุยถูกคอกัน ส้มเห็นเข้าก็ไม่พอใจแต่องค์อรก็ไล่ตะเพิดส้มไป องค์อรต้องการให้มดดำเรียนพิเศษ เพราะลำพังที่มดดำสอบผ่านกศน.มาไม่มีทางที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ได้แน่ กัลยาดีใจมากที่องค์อรหันมาเป็นพวกเธออีกคน ชาติชายเองก็รู้สึกดีกับมดดำไปด้วย ส้มเห็นแบบนี้ก็เลยเปลี่ยนแผนใหม่ ให้มดดำออกไปเรียนพิเศษใกล้ชิดกับดอม ดอมดีใจมากที่จะได้อยู่ใกล้กับมดดำมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม ที่มดดำต้องเรียนพิเศษกับดอมทุกวัน สหรัฐแนะนำโรงเรียนพิเศษชื่อดังที่เขารู้จัก และเป็นธุระพาทั้งมดดำและดอมไปสมัคร ซึ่งทำให้สุทธิดาไม่พอใจอย่างมาก แต่พอสุทธิดาจะเอาเรื่องสหรัฐก็ไม่ถือว่าตัวเองผิด สุทธิดายิ่งเจ็บใจมาก จึงหันมาเล่นงานส้มเป็นการระบาย ส้มพยายามประจบประแจงสุทธิดา แต่สุทธิดาก็เห็นส้มเป็นเพียงคนรับใช้คนหนึ่งที่ต้องสนองความต้องการของเธอ ส้มแม้จะน้อยใจสุทธิดาแต่ก็ต้องยอมเพื่อความสุขของเธอ การที่ส้มเอาอกเอาใจสุทธิดามาก ๆ ทำให้มดดำอดน้อยใจไม่ได้ และไม่เพียงแต่มดดำจะรู้สึกได้ หากแต่กัลยากับชาติชายเองก็รู้สึกแปลก ๆ ที่ส้มเอาใจสุทธิดาแต่กลับตบตีมดดำ แพรวพราวเริ่มโมโหที่พงษ์ไม่ได้อย่างใจ จีบสุทธิดาไม่ติดสักที ในขณะที่คนอื่น ๆ ได้ใกล้ชิดกับสุทธิดากันหมด แพรวพราวจึงออกโรงพาพงษ์มาใกล้ชิดกับครอบครัววาปี แต่การมาที่นี่ก็ยิ่งทำให้สองอาหลานเจ็บใจมากขึ้น เพราะส้มซึ่งก็ถือว่าแพรวพราวเป็นศัตรู เพราะเคยแย่งชิงชาติชายมาก่อน และวาปีก็สุดจะทนกับแพรวพราวจึงไล่แพรวพราวออกจากบ้าน ทำให้พงษ์โทษว่าเป็นความผิดของแพรวพราว แพรวพราวตัดสินใจให้พงษ์ใช้ยากับสุทธิดา พงษ์ยังลังเลไม่อยากทำจึงไม่ยอมรับยามา เพราะเขารู้สึกว่าอยากให้สุทธิดารักเขาที่หัวใจมากกว่า แพรวพราวหัวเราะขำหาว่าหลานชายเป็นคนโง่ที่สุด พงษ์เจ็บใจที่โดนอาว่าแต่ก็ยืนยันว่าจะทำอย่างที่เขาต้องการ วันเวลาผ่านไป ผลการสอบออกมาว่ามดดำสอบติดที่เดียวกับสุทธิดา และกลายมาเป็นรุ่นน้องของสุทธิดา สุทธิดายิ่งไม่พอใจ คิดว่ามดดำพยายามจะหาทางแข่งกับเธอ หนำซ้ำสหรัฐยังได้รับเชิญมาเป็นอาจารย์พิเศษสอนเด็กปีหนึ่งอีกซึ่งก็คือรุ่นมดดำ ทำให้สุทธิดายิ่งเกลียดมดดำมากขึ้น สุทธิดาขอให้ดอมช่วยรับส่งมดดำเวลาไปเรียน เพื่อที่จะกันสหรัฐไม่ให้เข้าใกล้มดดำ ดอมเองยินดีทำตามเพราะชอบอยู่แล้ว และดอมเองก็รู้สึกว่าไม่เหมาะที่สหรัฐจะมาคอยตามมดดำ เมื่อมีการพูดคุยเปิดอก สหรัฐจึงบอกกับดอมว่าเขาไม่เคยคิดอะไรกับสุทธิดามากไปกว่าน้องสาว ดอมอึ้งตกใจและไม่ต้องการรู้ต่อว่าสหรัฐชอบใคร แต่ชิงบอกว่าเขาชอบมดดำ และมดดำก็น่าจะชอบเขาถ้าสหรัฐเปิดโอกาสและช่วยเขา สหรัฐจึงพูดไม่ออกจำใจยอมเปิดทางให้ สุทธิดาเห็นมดดำมาเรียนคณะเดียวกัน ก็ยิ่งไม่ชอบ จึงปล่อยข่าวเรื่องกำพืดมดดำต่าง ๆ นานา ทำให้เพื่อน ๆ ต่างรังเกียจมดดำเพราะเข้าใจว่าเป็นลูกนางบำเรอและกรรมกร ไม่เคยรู้จักหน้าพ่อ ดีไม่ดีทำงานสปามาก่อนขายตัวหรือเปล่าก็ไม่รู้ แรก ๆ มดดำก็พยายามอดทน แต่พอนานวันเข้าก็ทนไม่ไหว จึงประกาศคืนว่าเธอไม่แคร์ว่าใครจะคบหรือไม่ ถ้าไม่คบเธอก็ไม่สน เพื่อนคนเดียวที่มดดำมีจึงกลายเป็นดอม แต่สุทธิดาก็ไม่วายคอยรังควานไม่อยากให้ดอมมายุ่งกับมดดำ วันหนึ่งครอบครัวของแก้วมีข่าวว่าล้มละลาย แต่แก้วยังรับสภาพไม่ได้จึงพยายามทำตัวปกติ ใช้เงินทองเหมือนเดิม และบอกทุกคนว่าบ้านเธอล้มบนฟูก แต่ต่อมาไม่นานพ่อกับแม่แก้วต้องหนีคดีบินไปต่างประเทศและทิ้งแก้วไว้เมืองไทย โดยแก้วต้องไปอยู่กับญาติ และสภาพความเป็นอยู่ก็ไม่ต่างกับคนอาศัย วาว่ากับสุทธิดาไม่ยอมรับแก้วโทษฐานที่ไม่พูดความจริงกับเพื่อน ๆ แก้วถูกทุกคนด่าว่าและไล่ออกจากกลุ่ม แก้วคิดจะกระโดดตึกตาย แต่โชคดีที่มดดำมาเจอจึงเข้าช่วยชีวิตไว้ และบอกให้แก้วสู้ชีวิต ถ้าคนรวยไม่ต้อนรับก็มาอยู่กับคนจนอย่างเธอสิ เธอยินดีต้อนรับแก้วเสมอ ในที่สุดแก้วจึงกลายเป็นเพื่อนมดดำและเชิดใส่กลุ่มของสุทธิดา อิทธิที่เรียนจบแล้วกัลยาก็ดึงมาช่วยทำงาน โดยกลายมาเป็นผู้ช่วยเลขาของชาติชาย ยิ่งทำให้อิทธิกับสุทธิดาได้เจอกันบ่อยขึ้น และอิทธิก็กล้าที่จะสั่งสอนสุทธิดามากขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ทางเมื่อสุทธิดากล่าวหาว่างานที่อิทธิได้ก็ไม่ใช่ว่าได้ด้วยฝีมือหากแต่เพราะพ่อแม่เธอเป็นคนเรียกมาทำ อิทธิเจ็บใจที่ถูกดูถูก ชาติชายแอบมาได้ยินพอดีจึงคุยกับกัลยาว่าจะดัดนิสัยของสุทธิดาเลยมอบโปรเจคท์สำคัญให้อิทธิไปดูแลโดยให้สุทธิดาไปช่วยด้วย แต่สุทธิดาไม่ยอมทำอะไรปล่อยให้อิทธิทำคนเดียว และสุดท้ายก็แกล้งให้อิทธิทำงานผิดพลาด อิทธิรู้ทั้งรู้ว่าเป็นฝีมือสุทธิดา แต่ไม่ยอมพูดความจริง ยอมรับความผิดและลาออกไปในที่สุด มดดำสุดจะทนกับพฤติกรรมของสุทธิดาที่มาแกล้งพี่ชายที่เคารพจึงมาเอาเรื่อง สุทธิดาไม่พอใจเถียงกันและตบหน้ามดดำ มดดำจึงตบกลับ สุทธิดาอึ้งไม่คิดว่ามดดำจะกล้า ส้มที่รู้เรื่องจึงเรียกมดดำมาตบตีให้สาแก่ใจสุทธิดา มดดำมาทำงานบ้านในสภาพบอบช้ำ วาปีและองค์อรเห็นเข้าก็เริ่มจะทนไม่ไหว วาปีจึงสั่งให้มดดำขึ้นมานอนบนตึก เพื่อจะให้ห่างไกลจากส้ม ส้มยิ่งเจ็บใจที่ลูกสาวที่เกลียดจะลอยหน้าลอยตาขึ้นไปนอนบนตึกใหญ่ สุทธิดารู้สึกว่ายิ่งเกลียดมดดำ แต่มดดำก็ยิ่งเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ ส้มจึงบอกแผนให้สุทธิดาหาคนมาปล้ำมดดำ โดยไปยุดอมก็ได้แต่สุทธิดาไม่ยอมเพราะคิดว่าส้มจะฉวยโอกาสให้มดดำเขยิบฐานะมาเป็นน้องสะใภ้ ส้มรู้สึกแ

ออฟฟิศพิชิตใจ (2556/2013) โกมินทร์ (ก้อง สหรัถ สังคปรีชา) และ วิภา (มาช่า วัฒนพานิช) คู่รักที่เป็นเจ้าของบริษัทขายสิ่งประดิษฐ์ไอเดียเก๋ที่แต่งงาน และช่วยกันสร้างบริษัทขึ้นมาทั้งสองคนอยู่กินกันมานาน จนกระทั่ง รักเริ่มจืดชืด ไร้ซึ่งความโรแมนติก และความตื่นเต้น ซึ่งบ่อยครั้งที่ทั้งคู่ทะเลาะกันทำให้ลูกน้องที่ออฟฟิศของตนต้องเจอเรื่องราวปวดหัวนี้ด้วย โกมินทร์จึงคุยกับวิภาว่าแท้จริงแล้วชายหญิงแต่งงานอยู่กินด้วยกันนั้นมันเกิดจากอะไร เงินทอง หรือ ความรัก โกมินทร์บอกว่า เกิดจากเงินทอง วิภาบอกว่า เกิดจากความรัก ทั้งสองความคิดไม่เหมือนกันจึงท้าพิสูจน์กัน ทั้งสองเลือก ตาน้ำ (กาย รัชชานนท์ สุขประกอบ) ซึ่งเป็นหลานของวิภา และเป็นพนักงานในบริษัทและ มัทรี (น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์) พนักงานในบริษัทอีกคนให้เป็นตัวแทนของตัวเอง (หนุ่มสาวทั้งสองไม่รู้ตัวเลย) โดยแอบบงการเจ้ากี้เจ้าการอยู่เบื้องหลังให้ทั้งสองรักกันให้ได้ โดยโกมินทร์พยายามให้รักกันด้วยเงิน ส่วนวิภาต้องการให้รักกันเพราะเกิดจากหัวใจ

คาราบาว เดอะซีรีส์ (2556/2013) คาราบาว เดอะซีรีส์ เป็นละครโทรทัศน์แบบจบในตอน ที่สร้างมาจากบทเพลงแต่ละบทเพลงในแต่ละอัลบั้มของคาราบาว ผลิตโดย บริษัท แฟล็กชิป เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ของกฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์

Forward ท้าเวลา พลิกอนาคต (2556/2013) เมื่อความลับของประตูเวลาถูกเปิดออก ด้วยฝีมือของพวกเขาทั้งสี่ ฮีโร่กาลเวลาจึงเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาให้กับทุกคนและทุกเหตุการณ์ ตั้งแต่เรื่องบ้าน ๆ ยันเรื่องระดับประเทศ เรื่องราวของเด็กหนุ่มธรรมดา 4 คน ธรณ์ (ฌอห์ณ)/นที (พุฒ)/วิน (นิกกี้)/พลุ (กันต์) ที่เกิดไปค้นพบวิธีเปิดประตูเวลา สามารถข้ามเวลาไปอนาคต พวกเขาเห็นและค้นพบว่าเรื่องที่แย่ แก้ไขได้ เรื่องที่ร้ายเปลี่ยนเป็นดีได้เหมือนกัน เด็กหนุ่มทั้งสี่จึงตัดสินใจสวมบทฮีโร่กาลเวลา สะสางปัญหาให้ผู้คน เรื่องราว และเหตุการณ์ แก้ปัจจุบันเพื่ออนาคตที่ดีเยี่ยม โดยมี ฟ้า (น้ำชา) รุ่นน้องของ อาร์ม (โอ๊ค) พี่ใหญ่ของทั้งสี่หนุ่ม ผู้ที่เป็นประตูทางเข้าและทางออกของการข้ามเวลา เป็นคนแรกที่พาสี่หนุ่มข้ามเวลาไปอนาคต และบังเอิญน้องข้างบ้าน แคร์ (มายด์) รับรู้ถึงความสามารถของทั้งสี่หนุ่ม ความวุ่นวายต่าง ๆ จึงเริ่มต้น พวกเขาเหล่านั้นจะเชื่อหรือไม่ เด็กหนุ่มพวกนี้จะเปิดประตูเวลาไปที่ไหน แล้วถ้าบางคนเห็นอนาคตของตัวเองแล้วไม่แก้ไข เด็กหนุ่มทั้งสี่จะทำอย่างไร และโชคร้ายที่ยิ่งกว่าโชคร้ายก็คือเด็กหนุ่มทั้งสี่เห็นชะตาชีวิตของใครก็ได้ ยกเว้นของตัวเอง

My Melody 360 องศารัก (2556/2013) ละครเพลงซีรีส์แนวใหม่ ที่ใช้ดนตรีและเสียงเพลง เป็นตัวนำเสนอการเล่าเรื่อง เพื่อให้เกิดความแตกต่าง ในเรื่องราว ความสนุกสนาน วุ่นวาย กับการแก้ปัญหาวัยรุ่น วัยเรียน ที่เกิดขึ้น ณ โรงเรียนมัธยมต้นนานาชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ที่ใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พ่อแม่ หรือครู ต้องมีส่วนในการเรียนรู้ และแก้ไขปัญหาของพวกเขา ซึ่งเพลงที่นำมาใช้ จะเล่าเรื่องในฉากนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงเก่า ที่มา แต่ทำนองใหม่ รวมทั้งเพลงใหม่ ที่เข้ามาประกอบเนื้อหา ฉากร้องเพลงของเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะถูกเล่าโดยการเปลี่ยนฉากเข้าไปในจินตนาการเหมือน เช่น ร้อง เต้น เล่น ละครเวที วันเปิดเทอมแรก ของโรงเรียนมัธยมนานาชาติ แห่งหนึ่ง ครูโจ (เจตริน วรรธนะสิน) ครูพละหนุ่มรูปหล่อ เป็นที่ชื่นชมของบรรดาครูสาว ครูแก่ และนักเรียนมากมาย เทอมใหม่นี้ ครูพละผู้ปั้นนักกีฬาจนโด่งดัง ในสายเยาวชนคนนี้ได้มาพบกับครูมารี (แคทรียา อิงลิช) ครูสาวสวย เซ็กซี่ ที่โรงเรียนสั่งตรงจากต่างประเทศ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า ครูมารีเคยเป็นเพื่อนสมัยมัธยม โดยมารี แอบหลงรักครูโจข้างเดียว ซึ่งบัดนี้เธอได้กลับมาเป็นครูสอนหลักสูตรร้องเพลง และดนตรีแนวใหม่ ณ โรงเรียนแห่งนี้ การแก้แค้นของครูมารีจึงเริ่มไปพร้อม ๆ กับการตกหลุมรักครูโจ โดยมี ครูโรส (รฐา โพธิ์งาม) ครูสวยเซ็กซี่ หุ่นดี เข้ามาประชันรักอีกคน ส่วนเทอมใหม่นี้ บรรดานักเรียน ก็มีทั้งที่เข้ามาใหม่และนักเรียนเก่า แต่ละคนเป็นไปตามวัย ที่ไม่หยุดจะสร้างความปั่นป่วนให้ผู้ปกครอง โรงเรียน เพื่อนฝูง และคุณครู อย่างไม่ได้ว่างเว้น โดยมีคุณครูเข้ามามีส่วนสร้างเหตุการณ์ แต่นักเรียนจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั้นคือการได้เข้าร่วมการแข่งขัน ร้องเพลงชิงถ้วยรางวัล ระดับประเทศ เริ่มด้วย วิน (พีช พชร จิราธิวัฒน์) นักเรียนใหม่ รูปหล่อ หุ่นนักกีฬา ถูกจับจ้อง จากบรรดาสาว ๆ มากมาย รวมทั้งแพร (เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม) นักเรียนสาวแสนเฉิ่ม โก๊ะสวย แต่ซุ่มซ่ามเพราะสายตาสั้น แต่ไม่ชอบสวมแว่น ที่บังเอิญเพราะความซุ่มซ่ามเลยทำให้ภาพแรกที่ทั้งเธอและวินเจอกัน คือภาพทั้งคู่ต้องเดินชนกัน จนทำให้เค้กแสนอร่อยของแพรหลุดมือ จึงเป็นสาเหตุของการไม่ชอบหน้ากัน นายแจ็ค (แจ็ค แฟนฉัน) ลูกเศรษฐี ขี้โอ่ อ้วนหน้าตาดูไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่เก่ง แต่เป็นขาใหญ่ประจำโรงเรียน เพราะตกซ้ำหลายปี พยายามแทรกตัวมาเป็นคู่แข่งความรักกับวินและเอก (วริศ พรพงศา) (ลูกคนใช้ที่บ้าน ของแจ็คมาเรียนด้วย) ลูกน้องจอมแสบคู่ใจ จัดการเรื่องแทนให้ทั้งหมด โดยที่รู้ว่าแจ็คไม่มีทางได้สาวสวยแน่นอน นอกจากนี้ยังมี แจน (เมทัล สุขขาว) เชียร์ลีดเดอร์สาวสวย เซ็กซี่ ดาวโรงเรียน เจ (มงคล กิจแสวง) เด็กเงียบขรึม แต่รักเสียงเพลงเป็นชีวิตและจิตใจ ใส่หูฟังเพลงตลอดเวลา เรื่องราววุ่น ๆ จึงก่อตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน ปัญหาทางบ้าน ปัญหาการอยู่ร่วมกันที่เหล่านักเรียนจอมวุ่นประสบ ครูมารี จำต้องดึงนักเรียนแสบทั้งหมดนี้มาเข้าเรียนดนตรีให้ได้ เพื่อกล่อมเกลา และปรับบุคลิกให้พวกเขาก้าวสู่สังคมอย่างภาคภูมิ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากนี้ ยังมีครูใหญ่สมเจตน์ (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว), ครูอังคณา (วิยะดา โกมารกุล) ฝ่ายวิชาการ และภารโรงเจ๊ชัย (ธงธง ม๊กจก) ที่แอ๊บแมนเพื่อหวังทำตัวใกล้ชิดหนุ่ม ๆ ในโรงเรียนตลอดเวลา รวมทั้ง เจ๊จุ๊บแจง (มัม ลาโคนิก) แม่ค้ากะเทยที่ตั้งบูธขายขนม เครื่องดื่ม กาแฟ ไอศกรีม ในโรงเรียน เป็นแหล่งที่นักเรียนมานั่งกันประจำ ทั้งหมดนี้ที่จะมาสร้างสีสัน ความสนุกและปั่นป่วนร่วมกันใน ละครMy Melody 360 องศารัก

หมวดโอภาส เดอะซีรีส์ ปี 2 (2556/2013) ห่างหายกันไปนาน กลับมาคราวนี้ หมวดโอภาส เดอะซีรี่ส์ ปี 2 ขอจัดเต็ม!! รับประกันความหลอนและความฮาโดย หมวดโอภาส (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เจ้าเก่า!! ด้วยเรื่องราวเข้มข้นถึงใจขึ้นกว่าเดิม อยากรู้ว่าจะฮากันแค่ไหน ติดตามชม หมวดโอภาส เดอะซีรี่ส์ ปี 2 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี หมวดโอภาส เดอะซีรี่ส์ ปี 2 พร้อมจัดทัพเหล่านักแสดงนำ ไม่ว่าจะเป็น เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี, ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร นางเอกสุดฮอตจากเรื่อง ATM เออรัก เออเร่อ, หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ รวมถึงคู่ฮาเจ้าเก่า เผือก-พงศธร จงวิลาส, ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม, ต่อพงษ์ กุลอ่อน เสริมทัพด้วยสาวสวย ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา ที่จะบุกมาสร้างความหรรษากันอย่างเต็มที่ แถมเพิ่มสีสันด้วยดารารับเชิญไม่ซ้ำหน้า อาทิ นาตาลี เดวิส, เอิร์ธ-ธวัช พรรัตนประเสิรฐ , พีช-พชร จิราธิวัฒน์, ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์, ฝน-ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล ,สมจิตร จงจอหอ, จิ้ม ชวนชื่น เป็นต้น จับกุมชายเมาแล้วขับ , รวมแก๊งค์ป้าเล่นป๊อกเด้ง , ตะครุบคนวิ่งราว , ช่วยตามหายายหลงทาง คดีเหล่านี้ล้วนถูกคลี่คลายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ถ้าคดีที่เกิดขึ้นไม่ใช่คดีธรรมดาอย่างที่เคยเป็น พยานอาจไม่ใช่คนที่มีลมหายใจ ที่เกิดเหตุอาจเคยเป็นแดนอาถรรพ์ของกลาง อาจเป็นสิ่งลี้ลับ หรือกระทั่งคนร้ายอาจเป็นสิ่งเหลือเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้! แล้วใครกัน? ที่จะมาคลี่คลายคดีพิศวงเหล่านั้น ถ้าไม่ใช่ หมวดโอภาส ขอต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของ หมวดโอภาส (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) ตำรวจหนุ่มสุดซื่อแต่ไฟแรง แห่งหน่วยงานสอบสวนและสนับสนุนคดีพิเศษ (ASI) เตรียมพบกับความสนุกสนาน และร่วมคลี่คลายคดีพิศวงไปกับ หมวดโอภาส กับการสืบสวนชวนมันส์ ไปด้วยเหล่าผี ๆ มากหน้าหลายตา หมวดโอภาส เดอะซีรี่ส์ ปี 2

อีสา-รวีช่วงโชติ (2556/2013) อีสา (วรนุช ภิรมย์ภักดี) เกิดมาในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 หลังจากที่มีการเลิกทาสแล้ว เกิดมาได้สองสามวันแม่ก็ตาย เพราะตกเลือด ป้าเจิม (รัญญา ศิญานนท์) จึงคอยเลี้ยงดูสา ป้าเจิมมีหน้าที่ช่วยงานอยู่ในโรงครัวของวังหม่อมเจ้าโชติช่วงรวี รวีวาร (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ท่านชายเข้าพิธีเศกสมรสกับ หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) ซึ่งถือว่าเป็นหม่อมใหญ่ นอกจากนั้นท่านชายยังมีหม่อมอื่น ๆ อันได้แก่ หม่อมลำดวน (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) หม่อมคนที่สอง หม่อมนิ่ม (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) และ หม่อมน้อย ท่านชายทรงมีลูกกับหม่อมต่าง ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นธิดาทั้งสิ้น หม่อมทุกคนจึงแข่งขันกันอยู่ในทีว่าใครจะให้กำเนิดลูกชาย ผู้จะเป็นผู้รับสืบทอดตราประจำตระกูลรวีวารต่อจากท่านชาย สาโตขึ้นเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย ป้าเจิมจึงพาสาไปฝากกับหม่อมนิ่มและหม่อมน้อยให้ฝึกรำ สาได้เห็นท่านชายอยู่บ่อยครั้ง และแอบหลงใหลในความสง่างามของท่าน สาโตเป็นสาวอายุได้ 16 ปี ในวังมีงานฉลองพระชนม์มายุครบ 4 รอบ (46 ปี) ของท่านชายหม่อมนิ่มให้สาขึ้นรำเป็นนางรจนา ตอนนางรจนาเสี่ยงพวงมาลัย สาตั้งใจรำโปรยเสน่ห์เต็มที่ และก็ได้ผล ความสวยของสาจับใจท่านชาย จนสาได้เป็นหม่อมของท่านชายในคืนนั้นเอง ท่านชายโปรดปรานสามาก จนหม่อมทุกคนอิจฉา ต่อมาไม่นานสาก็ตั้งครรภ์ สาวาดหวังไว้ว่าตนจะได้ลูกชาย และมีอนาคตที่ดีงาม เมื่อถึงกำหนดคลอด สาให้กำเนิดลูกชายตามที่คาดไว้ แต่หม่อมพริ้มขอลูกของสาไปเลี้ยงเป็นลูกของตน ตอนแรกสาเองไม่แน่ใจ แต่เนื่องจากสาน้ำนมเป็นพิษ และท่านชายก็หลงใหลตัวสามาก ไม่ต้องการให้สาเสียเวลาไปกับการเลี้ยงลูก จึงยกลูกชายให้หม่อมพริ้มไป ท่านชายไปบรรทมที่ห้องสาทุกคืนไม่หยุดหย่อน จนในที่สุดท่านชายก็สิ้นพระชนม์ในคืนที่ไปนอนกับสา เมื่อสิ้นท่านชายก็สิ้นเสาหลักของบ้าน หม่อมพริ้มไม่ต้องการรับภาระเลี้ยงดูหม่อมต่าง ๆ และบ่าวไพร่จำนวนมากมาย หลายคนจึงต้องออกไปจากวัง เหลือเพียงป้าเจิมกับอีสาที่ยังอยู่เลี้ยงดู คุณชายรวีช่วงโชติ (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ลูกชายแท้ ๆ ของสาเอง กับคุณหญิงอีก 3 คนอันเป็นลูกสาวของหม่อมพริ้ม บริเวณรอบตำหนักใหญ่ถูกขายให้กับพระคลังข้างที่ จนหม่อมพริ้มต้องล้อมรั้ว และปล่อยบ้านเล็กบ้านน้อยรอบตำหนักใหญ่ให้เช่าเพื่อหารายได้ ทำให้สาได้รู้จักกับ สมศักดิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) หนุ่มรูปงามที่มาอาศัยเช่าบ้านอยู่ สมศักดิ์หว่านเสน่ห์ใส่สาจนสาเคลิบเคลิ้ม แต่กลายเป็นว่า หญิงที่สมศักดิ์หมายปองกลายเป็น คุณหญิงโสภาพรรณวดี (เต็มฟ้า กฤษณายุทธ) ลูกสาวคนโตของหม่อมพริ้ม สาเสียใจมาก เพราะจริง ๆ แล้วก็หลงใหลในตัวสมศักดิ์ แต่พอสารู้ตัวว่าตนตั้งท้องลูกของท่านชาย สาจึงตัดใจยอมรับเป็นแม่สื่อ ส่งจดหมายรักให้สมศักดิ์กับคุณหญิงโสภา จนถึงขั้นนัดพบกัน แต่หม่อมพริ้มจะให้คุณหญิงโสภาแต่งกับงานลูกของญาติท่านชาย แต่เธอไม่ต้องการแต่งงานกับคนอื่น จึงหนีไปตามคำชวนของสมศักดิ์ โดยมีสาเป็นผู้จัดการและติดตามไปด้วยความภักดี สร้างความโกรธแค้นให้กับหม่อมพริ้มเป็นอย่างมาก หม่อมพริ้มประกาศตัดแม่ตัดลูกกับคุณหญิงโสภา และถ้าหากพบตัวสากับสมศักดิ์จะจับเข้าคุกเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทำให้สมศักดิ์ตกใจและผิดหวังมาก สาเพิ่งรู้ว่าจริง ๆ แล้วสมศักดิ์เป็นคนดีแต่ปาก ที่หลอกพาคุณหญิงโสภาหนีมา เพราะหวังจะเข้าไปเป็นเขยของรวีวารเกาะกินสมบัติของหม่อมพริ้ม แต่พอสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาด สมศักดิ์จึงตกกระไดพลอยโจนต้องเลี้ยงดูคุณหญิงโสภาต่อไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นช่วงสงครามเศรษฐกิจตกต่ำ สมศักดิ์หางานทำไม่ได้ คุณหญิงโสภาและสาต้องอดอยาก สาสงสารคุณหญิงจึงพยายามเคี่ยวเข็ญสมศักดิ์ให้ออกไปหางานหาเลี้ยงคุณหญิงด้วย สาคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง คุณหญิงไม่อยากให้ลูกของท่านชายต้องเป็นเด็กกำพร้า จึงรับเป็นแม่ของเด็ก ตั้งชื่อให้ว่า โสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) แล้วเลี้ยงดูเป็นอย่างดี สาทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงคุณหญิงและลูก พอเห็นคณะละครชาตรีมาแสดงแถวบ้าน สาจึงไปสมัครเป็นนางละคร และได้เป็นนางเอกของคณะละครนั้น สำรวย (รัดเกล้า อามระดิษ) นักแสดงจากคณะละครร้องมาเห็นสา รู้สึกทึ่งในความสวยและความสามารถ จึงชวนสาไปแสดงด้วย สาก็ไปด้วยความเต็มใจ เพราะต้องการหาเงิน และอีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อหลบหนีจากสมศักดิ์ ที่มักจะมาเกาะแกะหาทางใกล้ชิดสาเสมอ เมื่อกลับไปเป็นนางละคร สาก็กลับมาเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์เหมือนที่เคย ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสมศักดิ์กับคุณหญิงค่อย ๆ ห่างกันออกไป สมศักดิ์กลับมาติดพันสามากขึ้น วันหนึ่งระหว่างที่เล่นละคร สาเห็นหม่อมพริ้มมาชมละครก็ตกใจมาก ด้วยความที่กลัวหม่อมพริ้มสาจึงลาออกจากคณะ ไม่กลับไปแสดงละครอีก สมศักดิ์เริ่มหาโอกาสใกล้ชิดสามากขึ้น แล้วในวันหนึ่งด้วยบรรยากาศเป็นใจ สากับสมศักดิ์ก็ลักลอบมีความสัมพันธ์ต่อกันจนได้ หลังจากนั้นสาก็ยิ่งพยายามตีตัวออกห่างสมศักดิ์ พอดีกับที่สาได้ไปพบ วิทย์ (กันต์ดนย์ อะคาซาน) เด็กหนุ่มนักดนตรีในหลุมหลบภัย วิทย์ทำงานอยู่ที่คณะละครที่สาไปดูมา วิทย์ติดใจสาจึงชวนสาไปเล่นละครแบบชายจริงหญิงแท้กับคณะละครที่กำลังจะเปิดใหม่ซึ่งสาก็ยินดี เรื่องย่ออีสา สาบอกคุณหญิงว่าจะตนกลับไปเล่นละคร และเสนอให้คุณหญิงพาสมศักดิ์และโสภิตพิไล ย้ายไปอยู่บ้าน ป้าแป้น (ไปรมา รัชตะ) หญิงชาวสวนใจดีที่สาเคยรู้จักที่คลองบางกอกน้อย โดยอ้างว่าจะได้ไม่ต้องหนีลูกระเบิด แต่จริง ๆ แล้วสาต้องการจะหนีห่างจากสมศักดิ์ สมศักดิ์ยังคงแอบมาหาสาที่บ้าน สาไม่เต็มใจ แต่ก็ขัดขืนธรรมชาติของตัวเองไม่ได้ คืนหนึ่งที่ระเบิดลงหนักสมศักด์ขอค้างกับสาที่บ้าน คุณหญิงเห็นสมศักดิ์ไม่กลับบ้าน ประกอบกับเป็นห่วงสาจึงไปหาที่บ้านแต่เช้าตรู่ และได้เห็นสาอยู่กับสมศักดิ์ คุณหญิงเสียใจมากหนีกลับบ้านป้าแป้นทันที สาสั่งให้สมศักดิ์ตามไปง้อขอคืนดี แต่คุณหญิงเสียใจและผิดหวังที่ถูกคนที่รักทั้งสองคนทรยศ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย เสร็จงานศพคุณหญิง สาตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับวิทย์เพื่อหนีสมศักดิ์ ทำให้สมศักดิ์เสียใจหันไปดื่มเหล้าอย่างหนัก และในที่สุดก็เมาตกน้ำตาย ในที่เดียวกับที่คุณหญิงฆ่าตัวตายนั่นเอง หลังแต่งงาน สาย้ายไปอยู่ที่บ้านวิทย์ วิภา (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) พี่สาวของวิทย์รังเกียจสา เพราะทั้งสาและวิทย์ต่างไม่มีงานทำ วิทย์เป็นศิลปินไม่ยอมทำงานแบบอื่น เอาแต่สีไวโอลินไปวัน ๆ จนสาเองก็เริ่มเบื่อหน่าย วันหนึ่งสาไปพบกับพลเรือนญี่ปุ่นคนหนึ่งในหลุมหลบภัยชื่อ เซกิ (ณัฐ เทพหัสดิน ณ อยุทธยา) เป็นพนักงานบริษัทญี่ปุ่น เซกิหลงรักสา สาเองก็เผลอไผลไปกับความสุขสนุกสนานที่เซกิปรนเปรอให้ ทำให้สากับวิทย์เริ่มมีปากเสียงกัน ต่อมาเซกิรู้ว่าญี่ปุ่นกำลังจะยอมแพ้สงครามกับอเมริกา ด้วยความรักเซกิจึงมอบเงินก้อนใหญ่ให้สาก่อนจะกลับประเทศไป สาจึงตัดสินใจเลิกกับวิทย์แล้วกลับไปอยู่กับป้าแป้น สา ซึ่งบัดนี้เป็นที่รู้จักของทุกคนในนามของ อุษาสาวใหญ่วัย 40 ปี เอาเงินที่ได้จากเซกิมาตั้งไนต์คลับ สากลับมามีชื่อเสียงหอมหวนให้หมู่นักเที่ยว คลับของสามีคนแน่นทุกวัน ทำให้ฐานะของสาร่ำรวยขึ้นอีกมาก จน ประธาน (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) หุ้นส่วนหนุ่มที่แอบหมายปองในตัวสา เพราะหวังเงิน ซึ่งสาก็รู้ทันแต่ก็อดไม่ได้ลอบมีความสัมพันธ์กับประธานอย่างลับ ๆ แต่สาไม่เคยไว้ใจประธานเลย สาเหมือนจะมีความสุขทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องเดียวคือ โสภิตพิไลลูกที่แท้จริงของสา ที่คิดว่าตนเป็นเพียงหลานสาว ตอนนี้เรียนจบชั้นมัธยมจากโรงเรียนประจำ และกลับมาอยู่ในบ้านกับสา โสภิตคิดว่าสาเป็นญาติห่าง ๆ ของแม่ และมีศักดิ์เป็นป้า โสภิตเกรงใจสาที่เลี้ยงมา แต่ก็แอบไม่พอใจที่สามีอาชีพที่น่ารักเกียจ ทำให้เธอต้องอับอายเพื่อนฝูง ประธานสนใจโสภิตที่กำลังแตกเนื้อสาว แต่โสภิตไม่ชอบประธานนัก และสาเองก็รู้ทันคอยกีดกันอยู่เสมอ วันหนึ่งสาได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่คลับของเธอ เขาคือหม่อมราชวงศ์รวีช่วงโชติ รวีวาร สาดีใจมากที่ได้เห็นลูกชายของตนเติบโตมาเป็นชายหนุ่มที่สง่างาม สาสนใจคุณชายรวีอย่างออกนอกหน้า และพยายามสืบเรื่องของคุณชายรวี จนรู้ว่าจบกฎหมายมาจากฝรั่งเศส แล้วตอนนี้เป็นผู้พิพากษา สาพยายามตีสนิทเอาอกเอาใจคุณชายรวี ชวนให้รวีมาที่ไนต์คลับบ่อย ๆ ทำให้ประธานไม่พอใจ คุณชายรวีเองก็รู้สึกถูกชะตากับสา ไม่ได้นึกรังเกียจว่าเป็นคนกลางคืน กลับสงสารที่สาต้องมาทำงานในที่ที่คนดูถูกอย่างนั้น คุณชายรวีชอบเสียงร้องเพลงของสา และมักจะแวะไปที่คลับบ่อย ๆ หม่อมพริ้มได้ข่าวว่าคุณชายรวีไปติดพันนักร้องเจ้าของไนต์คลับ หม่อมพริ้มตักเตือนคุณชาย แต่คุณชายไม่เชื่อ จนกระทั่งวันหนึ่ง หม่อมพริ้มเห็นรูปสาในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ไม่แน่ใจจึงไปถามยายเจิม ยายเจิมบอกได้ชัดเจนว่าผู้หญิงในรูปคือสา หม่อมพริ้มตกใจมาก เกรงว่าสาจะบอกความจริงกับชายรวี ว่าตัวเองคือใคร หม่อมพริ้มไปหาสาที่บ้าน ทั้งสองคนจำกันได้ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม หม่อมพริ้มห้ามสา บอกคุณชายรวีเรื่องชาติกำเนิดของตน สาให้คำสาบานว่าจะไม่บอก แต่ก่อนจะกลับ หม่อมพริ้มเห็นโสภิตพิไล เธอสงสัยว่าเด็กสาวคือลูกของใคร สาจึงจำใจต้องบอกว่าเป็นลูกของคุณหญิงโสภา ทำให้หม่อมพริ้มเศร้าใจ คิดถึงลูกสาวที่จากไปเพราะความใจแข็งของเธอเอง หม่อมพริ้มคิดจะขอโสภิตมาเลี้ยงแทนคุณหญิงโสภา แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร โสภิตก็ถูกประธานที่ดื่มเหล้าเมาลวนลาม สาเห็นการกระทำของประธานเข้า โมโหจนขาดสติ จึงคว้าปืนยิงประธานล้มลง ถึงแก่ความตาย สาถูกตำรวจจับไป สาไม่ยอมบอกความจริงว่าเธอยิงประธานเพราะลวนลามโสภิต เพราะไม่อยากให้ชื่อเสียงของโสภิตเสียหาย สาถูกนำตัวไปฝากขังไว้ที่เรือนจำแดนนักโทษหญิงเพื่อรอพิจารณาคดี โสภิตพิไลรู้ว่าสาอาจจะถูกพิพากษาประหารชีวิตเพื่อปกป้องตน โสภิตตัดสินใจว่าจะต้องช่วยเหลือสาให้ได้ วันพิจารณาคดีสาถูกนำตัวไปขึ้นศาลโดยมีคนรู้จักสา ลูกจ้าง นักร้อง ร่วมถึงหม่อมพริ้มมานั่งฟังการพิจารณาคดีด้วย สายตาของสาเหลือบไปเห็นผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือ คุณชายรวี ซึ่งเป็นผู้พิพากษาในคดีของสา และโดยที่สาไม่คาดฝัน โสภิตพิไลเข้ามาเป็นพยาน โสภิตเล่าเรื่องทั้งหมดให้ศาลฟัง จนสุดท้ายศาลก็ยกฟ้องคดีของสา สาจึงได้เป็นอิสระ คุณชายรวีชื่นชมในความรักและเสียสละที่สามีต่อโสภิต ที่เป็นเพียงหลานสาว ยิ่งคุณชายชื่นชมสามากเท่าไหร่ หม่อมพริ้มก็ยิ่งระแวงมากขึ้นเท่านั้น เกรงว่าอีสาจะมาอ้างความเป็นแม่ แล้วแย่งคุณชายรวีกลับคืนไป หม่อมพริ้มจึงขอให้สายุติความสัมพันธ์ระหว่างสากับคุณชายรวีลง และขอร้องชายรวีให้เห็นแก่ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เลิกไปคบกับสา และร้ายกว่านั้น หม่อมพริ้มยังตัดสินใจบอกความจริงกับโสภิตพิไล ว่าจริง ๆ แล้วสาไม่ใช่ญาติ แต่เป็นเพียงบ่าวที่ชักนำให้แม่ของเธอหนีตามผู้ชายไป โสภิตโกรธและเกลียดสามาก ทำให้สายิ่งเสียใจสาถูกพรากจากลูกทั้งสอง ด้วยความเสียใจ สาเกือบจะฆ่าตัวตาย แต่ทันใดนั้นสาก็นึกถึงพระรัตนตรัยขึ้นมาจึงทำให้สาหยุดความคิดนั้น สาหันหน้าเข้าสู่พระรัตนตรัยโดยการบวชเป็นชีที่สำนักชีแห่งหนึ่ง ทำให้สามีจิตใจที่สงบขึ้น และหลุดพ้นจากกิเลสตัณหา แต่สาบวชชีได้พักหนึ่ง จิตใจสงบอยู่ได้ไม่นาน นิสัยเดิมของสาที่ติดหลงในกิเลส ความเย้ายวนต่าง ๆ ก็ทำให้สาตัดสินใจสึกออกมา สากลับไปที่วังรวีวารอีกครั้ง เพื่อไปกราบหม่อมพริ้ม และคุณหญิงลูก ๆ ของหม่อมพริ้ม สาไปเยี่ยมโสภิตพิไล ที่บัดนี้หม่อมพริ้มเอามาเลี้ยงดูในฐานะหลานสาว เพราะเข้าใจว่าโสภิตเป็นลูกของหญิงโสภา โสภิตเย็นชากับสา เพราะยังไม่หายโกรธ ที่สาเป็นต้นเหตุให้คุณหญิงโสภาแม่ของเธอ ต้องมีชีวิตที่ยากลำบาก ทำให้สาเสียใจมาก ส่วนคุณชายรวีนั้นรู้เพียงว่า สาเคยเป็นหม่อมคนหนึ่งของท่านพ่อ แต่ก็ยังรักและดีกับสาเสมอ ความอ่อนโยนและเมตตาของชายรวี เป็นเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจสา เรื่องย่ออีสา จากนั้น สาก็ไปเยี่ยมพี่แป้นที่บ้านคลองบางกอกน้อย ทุกคนรักและมีน้ำใจกับสาเหมือนเดิม ใจสว่าง (ภัณฑิลา ปานสิริธนาโชติ) หลานสาวของพี่แป้นเรียนอยู่มหาวิทยาลัยคณะเดียวกับโสภิตพิไล และเป็นมหาวิทยาลัยที่คุณชายรวีเป็นอาจารย์สอน ใจสว่างเป็นเด็กดีสาจึงชวนใจสว่างให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องไปอยู่ที่หอพัก และสาเองก็มีใจสว่างเป็นเพื่อนปรับทุกข์เรื่องโสภิตพิไล เพราะใจสว่างรู้ความจริงทุกอย่าง ที่บ้านของสา เพ็ญศรี เพื่อนของสาเป็นคนช่วยดูแลไนต์คลับให้ระหว่างที่สาเข้าคุกและบวชชี นำเงินที่ได้มาให้สา สาตัดสินใจเลิกทำไนต์คลับ หันมาเปิดร้านทำผมตัดเสื้อ เพราะเห็นแก่โสภิต ว่าจะได้ไม่ต้องอับอายคนที่มีแม่เป็นคนกลางคืน หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง กลุ่มนักการเมืองขึ้นมามีอำนาจ ความสำคัญของตระกูลรวีวารก็หมดลง ทรัพย์สมบัติก็ร่อยหรอไป คุณหญิงหริ พี่สาวคุณชายรวี ต้องการแนะนำให้ชายรวีแต่งงานกับ คุณแหวว สวาทโฉม ลูกสาวของ คุณหญิงเฉิดฉวี และนายพลสันทนา (ภูธเนศ หงษ์มานพ) ที่กำลังเรืองอำนาจ เพราะใกล้ชิดกับท่านผู้นำ ทั้งนี้เพื่อผดุงฐานะของรวีวาร และเป็นการสนับสนุนธุรกิจของ ปวุฒิ สามีของคุณหญิงหริทางอ้อมด้วย ในงานฉลองยศของนายพลสันทนา คุณชายรวี และโสภิต จึงได้รับเชิญไปงานด้วย เพื่อให้คุณชายรวีได้พบกับสวาทโฉม แต่ "ท่าน" เจ้านายของนายพลสันทนาที่มาร่วมงานเกิดถูกตาต้องใจในตัวโสภิต ต้องการให้โสภิตมาเป็นอนุภรรยา จึงให้นายพลสันทนาเป็นธุระจัดการให้ นายพลสันทนารู้ว่าโสภิตเป็นลูกสาวของสา จึงมาติดต่อสาที่ร้านทำผม แต่เมื่อนายพลสันทนาได้พบสาก็เกิดหลงเสน่ห์ สาเองก็ว้าเหว่จึงเผลอใจตกเป็นอนุภรรยาของนายพลสันทนา นายพลสันทนาหลงรักสามากถึงกับให้เงินลงทุน ให้สาเปิดคลับขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่เขาจะได้ไปหาสาได้สะดวก เมื่อคุณหญิงเฉิดฉวีรู้เรื่องเข้า จึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับสาอย่างเปิดเผย ส่วนตัวโสภิตพิไลเองนั้น กำลังมีความรักกับ ชิษณุ ลูกชายของคุณหญิงศุภลักษณ์ลูกสาวของหม่อมพริ้ม ถึงขั้นจะแต่งงานกับโสภิต แต่เมื่อสารู้ข่าวก็อดไม่ได้ที่จะขัดขวาง เพราะจริง ๆ แล้วโสภิตเป็นลูกสาวของตัวเอง และมีศักดิ์เป็นน้าแท้ ๆ ของชิษณุ สาจึงจำเป็นต้องพาคุณชายรวีไปหาพี่แป้น และเล่าความจริงเรื่องกำเนิดของโสภิตให้คุณชายรวีฟัง โดยมีพี่แป้นเป็นพยานอีกคนหนึ่ง เมื่อคุณชายรวีรู้เรื่องก็ตกใจ จึงหาทางช่วยขัดขวางเรื่องการแต่งงาน คุณชายรวีไปพบชิษณุ ซึ่งคุณชายรวีมีศักดิ์เป็นน้าของชิษณุ ทั้ง ๆ ที่คุณชายรวีมีอายุน้อยกว่า คุณชายรวีเล่าเรื่องทั้งหมดให้ชิษณุฟัง ชิษณุเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงหนีหน้าโสภิตไปทำงานที่โคราช เพื่อตัดปัญหาทั้งหมด โสภิตตามไปหาชิษณุที่โคราช แต่เจอชิษณุอยู่กับอัญมณีคนรักเก่า โสภิตเสียใจดื่มเหล้าจนเมาขาดสติ และเกือบจะถูกทหารจีไอพาตัวไป แต่โชคดีที่ ปรมัตถ์ คนที่เคยชอบเธอสมัยเรียนมาช่วยไว้ได้ทัน ใจสว่างได้รู้ข่าวจากปรมัตถ์ จึงพาคุณชายรวีไปตามหาโสภิตถึงโคราช คุณชายรวีเห็นโสภิตเสียใจมากที่ถูกทอดทิ้ง จึงตัดสินใจบอกความจริง ว่าชิษณุกับโสภิตไม่อาจรักกันได้ เพราะจริง ๆ แล้ว เธอเป็นลูกของสา โสภิตตกใจมากที่ตนเป็นลูกของสา ผู้หญิงที่ตนเคยดูถูกว่าต่ำต้อยและไร้ยางอาย โสภิตไม่อาจสู้หน้าหม่อมพริ้ม จึงกลับไปอยู่กับสา และเมื่อโสภิตไปพบนายพลสันทนา จึงรับปากจะเป็นอนุภรรยาของ "ท่าน" เพื่อประชดสา และประชดทุก ๆ คน สาและคุณชายรวีพยายามห้าม แต่โสภิตก็ไม่ฟัง และยังหนีไปจากบ้าน ที่ "ท่าน" สั่งให้หาเอาไว้ให้ สาพยายามติดตามหาโสภิต แต่เธอไม่ยอมพบสา ระหว่างนั้น คุณชายรวีจำใจต้องแต่งงานกับสวาทโฉม เพราะไม่อาจขัดผู้ใหญ่ได้ ตลอดเวลาคุณชายรวีทำหน้าที่เป็นสามีที่ดี แต่สวาทโฉมเองก็ไม่ได้รักคุณชาย เธอเองก็มีความจำเป็นทำให้ต้องแต่งงานเหมือนกัน ใจสว่างเห็นชัดว่าคุณชายรวีไม่มีความสุข เธอทำได้เพียงให้กำลังใจเขา ยายเจิมล้มป่วยลงใกล้ตาย คุณชายรวีและคุณหญิงศรีลักษณา ไปเยี่ยมยายเจิมที่ห้อง ยายเจิมหลงเห็นคุณชายรวีเป็นท่านชายพ่อของคุณชายรวี เลยหลุดปากพูดเรื่องสาออกมา ว่าสามีลูกชายกับท่านชาย 1 คน คุณชายรวีจึงไปถามความจริงจากคุณหญิงศรีลักษณา และได้รู้ว่าตัวเองคือลูกของสา แต่ด้วยความเข้าใจในเรื่องราวทั้งหมด คุณชายรวีก็ไม่ได้โกรธ หรือรังเกียจที่มีแม่อย่างสาเลย แต่ดีใจด้วยซ้ำที่ได้รู้ความจริง และก็ยังรักหม่อมพริ้มแม่ที่เลี้ยงดูมาเหมือนเดิม นายพลสันทนาช่วยให้สาและใจสว่างได้เจอโสภิต โสภิตได้สติขึ้นมา แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะอีกไม่นาน "ท่าน" จะกลับจากต่างประเทศ และไม่มีใครสามารถจะปฏิเสธ "ท่าน" ได้ สาได้แต่เสียใจ หม่อมพริ้มได้แต่ก่นด่าสาปแช่งสา ว่าเกิดมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของรวีวาร สุดท้ายสาจะหาทางช่วยโสภิตได้หรือไม่ ? และความบาดหมางของสากับหม่อมพริ้มจะลงเอยยังไง ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครอีสา รวีช่วงโชติ

ภาพอาถรรพณ์ (2556/2013) อนงค์วดี สิงหมนตรี (ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์) ทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูลสิงหมนตรี จำใจต้องขายคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลให้กับ เชษฐา เกรียงไกรฤทธิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) เนื่องจาก ปิ่นสุดา (สิรินยา บิชอพ) แม่ของเธอติดการพนันอย่างหนักจนมีหนี้สินหลายล้าน ในวันที่เชษฐาและ มนัสวีร์ (รัชชานนท์ สุประกอบ) ทนายความส่วนตัว เดินทางไปที่คฤหาสน์เพื่อทำสัญญาซื้อขายกับอนงค์วดี เชษฐาได้เดินสำรวจภายในคฤหาสน์ เค้าไปสะดุดกับภาพเขียนของ คุณประยงค์ (พิยดา จุฑารัตนกุล) คุณชวดของอนงค์วดี เป็นภาพของหญิงสาวสวยท่าทางสง่า ดวงตาคมกริบ แต่สิ่งที่ทำให้เชษฐารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นคุณประยงค์ที่อยู่ในภาพส่งยิ้มกลับมาให้เขา ส่วนมนัสวีร์ก็สะดุดตากับภาพของสาวสวยคนหนึ่ง อนงค์วดีบอกว่านั่นคือรูปของคุณย่าน้อยของเธอ ชื่อว่า คุณอ่อน (พิชญา เชาวลิต) เป็นน้องสาวคนสุดท้องของ เจ้าพระยาสีหศักดิ์ฤทธิรงค์ (นิรุตนิ์ ศิริจรรยา) ผู้เป็นเจ้าคุณปู่ทวดของเธอ ภาพนี้วาดเอาไว้ก่อนที่คุณอ่อนจะจมน้ำตายไปเพราะเรือล่ม มนัสวีร์รู้สึกสายตาผู้หญิงในภาพมองมาที่เขาอย่างตัดพ้อและเศร้าสร้อยอย่างประหลาด ระหว่างที่ทุกคนกำลังเดินดูภาพบรรพบุรุษอยู่นั้น จู่ ๆ ก็เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักจน ปู่กลับ (อรรถพร ธีมากร) ผู้ดูแลคฤหาสน์บอกให้ทุกคนนอนค้างที่นี้ และในคืนนั้นเองมนัสวีร์ฝันเห็นคุณอ่อนเดินออกมาจากภาพ เธอเรียกเขาว่า "คุณหลวง" แล้วตัดพ้อเขาว่าเขาเป็นสาเหตุทำให้เธอต้องตาย มนัสวีร์ตกใจตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว ส่วนเชษฐาฝันว่าตนเดินลงมาที่ห้องโถง สภาพตึกเก่าร้างกลับกลายมีชีวิตชีวา สว่างไสวด้วยแสงเทียน ผู้คนแต่งตัวสวยงามในภาพเขียนพากันเดินออกมาจากรูปภาพ เพื่อไปรวมตัวกันต่อหน้าเจ้าพระยาสีหศักดิ์ฤทธิรงค์ และคุณประยงค์ก็เรียกเขาอย่างอ่อนหวานว่า "เจ้าคุณ" เธอเรียกเขาให้ไปที่ห้องโถง ที่นั่นเขาได้เห็นเจ้าคุณปู่ทวด คุณอ่อน และหญิงสาวคนหนึ่งนุ่งห่มสไบ ไว้ผมทัด หน้าตาเหมือนอนงค์วดีราวกับพิมพ์เดียวกัน ทุกคนเรียกเธอว่า "แม่อร" อนงค์วดีเองก็รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเช่นกัน เธอเห็นเชษฐาอยู่ในชุดไทยโบราณ และในความฝันนั้น เธอรู้สึกว่าคุณประยงค์จงเกลียดจงชังเธออย่างเห็นได้ชัด พอรุ่งเช้าเชษฐารู้สึกสงสัยในความฝันกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณประยงค์และแม่อร เค้าจึงบอกอนงค์วดีว่าเค้าตัดสินใจจะไม่รื้อตึกทิ้ง แต่จะปรับปรุงตกแต่งตึกขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ทำเป็นคลับหรู แต่มีเงื่อนไขว่าเธอจะต้องอยู่ค้างที่นี่เพื่อช่วยเหลือแนะนำเกี่ยวกับการตกแต่งสถานที่จนกว่าจะแล้วเสร็จ แต่ เกษลดา (รฐา โพธิ์งาม) กลับไม่เห็นด้วยที่เชษฐาเปลี่ยนใจไม่ยอมรื้อคฤหาสน์โบราณทิ้ง และยิ่งรู้ว่าเชษฐาคิดจะไปนอนค้างอ้างแรมที่นั่น ยิ่งสงสัยว่าเขาอาจจะมีอะไรปิดบังเธออยู่ ในระหว่างซ้อมแซมคฤหาสน์ เมื่อทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน ยิ่งทำให้เชษฐาและอนงค์วดีสนิทสนมกันมากขึ้น และยิ่งสนิทสนมกันมากเท่าไหร่ ก็เหมือนจะมีภัยอันตรายเกิดขึ้นกับอนงค์วดีมากเท่านั้น ในตอนกลางคืนทั้งคู่ต่างฝันถึงเหตุการณ์ในอดีตอีกหลายครั้ง จนปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าชายที่หน้าตาคล้ายเชษฐาที่ใคร ๆ เรียกว่า "เจ้าคุณ" นั้น ในอดีตเคยเป็นเด็กในบ้านที่ลอบรักกับคุณประยงค์ ธิดาสาว ของท่านเจ้าพระยาฯ ต่อเมื่อได้ดีจึงไปรับราชการที่หัวเมืองแล้วมีภรรยาเป็นสาวชาวบ้านชื่อ "อร" ซึ่งมีใบหน้าเหมือนกับอนงค์วดีในชาตินี้ อนงค์วดีเข้าใจว่าวิญญาณคุณชวดคงเข้าใจผิดว่าเธอคือแม่อร ซึ่งในความฝันอนงค์วดีได้รู้ว่าคุณอ่อนลักลอบรักกับชายที่มีศักดินาต่ำกว่าชื่อ "หลวงขจร" ซึ่งมีใบหน้าเหมือนมนัสวีร์ ซึ่งหลวงขจรนั้นมีคู่หมั้นหมายแล้ว และเมื่อหลวงขจรถูกบังคับให้แต่งงาน คุณอ่อนเสียใจมาก จึงพายเรือฝ่าพายุฝนข้ามแม่น้ำไปหาทั้ง ๆ ที่ตนว่ายน้ำ ไม่แข็ง จนกระทั่งเรือล่มคุณอ่อนจึงจมน้ำตายและก็ไม่มีใครหาศพเจอ และทุกครั้งที่มนัสวีร์ต้องไปที่คฤหาสน์เก่าหลังนั้น เขาจะถูกดึงดูดให้ไปที่ริมแม่น้ำอย่างไม่รู้ตัวอยู่บ่อย ๆ จนเกือบจะจมน้ำตาย โชคดีที่ปู่กลับมักจะช่วยมนัสวีร์เอาไว้ทัน ในที่สุดการซ่อมแซมตกแต่งคฤหาสน์ก็เสร็จลง เกษลดาเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการจัดงานเลี้ยงเปิดคลับของเชษฐาอย่างหรูหรา เชษฐาเสนอให้อนงค์วดีทำงานที่คลับของเขาในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอาหาร เนื่องจากงานคลับเป็นงานกลางคืน เชษฐาจึงให้เธอพักอยู่ที่นี่ ทั้งหมดนี้สร้างความไม่พอใจให้เกษลดามาก เธอจึงมักแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเชษฐาอยู่บ่อย ๆ และย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้ด้วยอีกคน เพียงคืนแรกเกษลดาก็เจอฤทธิ์คุณประยงค์ที่หวงแหนเชษฐา คุณประยงค์ชี้หน้าด่าและเรียกเธอว่า "อีเกด" จนเกษลดารู้สึกหวาดกลัวมาก เธอนำเรื่องนี้ไปเล่าให้เชษฐาฟัง แต่เชษฐากลับไม่สนใจพร้อมไล่ให้เธอกลับบ้าน แต่ด้วยความหึงหวงเกษลดาจึงแข็งใจอยู่ที่นี่เพื่อคอยกันท่าอนงค์วดี นานวันเข้าอนงค์วดีมักฝันเห็นเรื่องราวในอดีตมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอฝันว่าในอดีตเธอมีบ่าวชื่อเกด ติดตามมาอยู่ด้วย บ่าวคนนั้นหน้าตาเหมือนเกษลดา ซึ่งในอดีตชาติเกดยังเป็นเมียบ่าวของเจ้าคุณอีกด้วย และในความฝันบอกชัดว่าเจ้าคุณรักกับคุณประยงค์มาก่อน ยิ่งความจำเป็นทางด้านการเลื่อนขั้นในหน้าที่การงาน ทำให้เจ้าคุณต้องกลับมาพึ่งใบบุญท่านเจ้าพระยาฯ แม่อรผู้เป็นเมียหลวงจึงตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากนังเกดเมียบ่าว ต่อมาแม่อรได้ตั้งท้องลูกคนแรก เจ้าคุณดีใจมากและคิดจะยกย่องเธอเป็นเมียเอก ทำเอาคุณประยงค์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าคุณประยงค์จะอ้อนวอนเจ้าคุณอย่างไร ท่านก็ยืนยันว่าแม่ของลูกจะต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น ดังนั้นคุณประยงค์จึงวางแผนทำร้ายแม่อรจนตกบันไดตายทั้งกลม จากนั้นไม่นานพอคลับของเชษฐาเริ่มมีชื่อเสียง ผู้คนก็หลั่งไหลเข้ามาหาความสำราญมากขึ้น จากคฤหาสน์เก่าร้างก็กลับมามีชีวิตชีวาด้วยแสงไฟและเสียงเพลง จนสร้างความ ไม่พอใจให้กับคุณประยงค์เป็นอย่างยิ่ง เธอจึงเริ่มออกมาจากภาพมาเล่นงานทุกคน แต่คนที่โดนหลอกหลอนหนักที่สุดคือเกษลดา เพราะเธอพยายามออดอ้อนเชษฐาอยู่ตลอด ส่วนตัวเชษฐาเองก็โดนคุณประยงค์สะกดจิตให้หลงติดอยู่ในความฝันบ่อยขึ้น จนตัวเองเริ่มแยกแยะอดีตกับปัจจุบันไม่ออก อนงค์วดีเริ่มไม่สบายใจ เพราะเป็นห่วงกลัวเชษฐาจะได้รับอันตราย เธอตัดสินใจทำพิธีเชิญภาพเขียนคุณประยงค์ลงจากผนังพร้อมกับเอาสายสิญจน์พันไว้ แล้วเอาภาพไปเก็บไว้ที่เรือนเก็บของ ทำให้คุณประยงค์โกรธจัด จึงพยายามสะกดจิตเชษฐาให้มาช่วยตัดสายสิญจน์ออกจากภาพของเธอ แม้อนงค์วดีพยายามจะห้ามแต่ก็ไม่สำเร็จ จากนั้นวิญญาณคุณประยงค์ก็ออกอาละวาดอย่างหนัก และทำร้ายอนงค์วดีจนล้มหมดสติไป เมื่อเชษฐารู้ข่าว ด้วยความรักและเป็นห่วงอนงค์วดี เค้าจึงฮึดสู้กับคุณประยงค์ที่พยายามจะเข้ามาครอบงำชีวิตของเขา เพราะเชษฐาระลึกได้แล้วว่าชาติที่แล้วเขายอมให้คุณประยงค์ครอบงำและทำร้ายแม่อรมามาก ในชาตินี้เขาจะไม่ยอมให้คุณประยงค์มาบงการเขาให้ทำร้ายอนงค์วดีอีก เชษฐาจึงตัดสินใจทำลายภาพของคุณประยงค์ แต่แผนการทำลายภาพไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะแรงรักแรงอาฆาตที่คุณประยงค์มีต่อเชษฐาส่งผลทำให้คุณประยงค์มีพลังอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายเชษฐาจะสามารถทำลายภาพอาถรรพ์ของคุณประยงค์ได้หรือไม่ บทสรุปของโศกนาฏกรรมความรักที่มาพร้อมแรงอาฆาตแค้นพยาบาทครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมได้ใน ละครภาพอาถรรพณ์

ปีกมาร (2556/2013) ศลัยลา สาวนักโบราณคดีพบรักกับ ภูฉาย นายธนาคารหนุ่มอนาคตไกล แม้จะคบกันไม่นานแต่ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันและกันอย่างลึกซึ้ง จนในที่สุดภูฉายและศลัยลาตกลงที่จะแต่งงานกัน ภูฉายพาศลัยลาไปพบกับ สลัก แม่ของเขา แต่ทั้งคู่กลับเจอสลักกำลังอาละวาดใส่พ่อของภูฉายซึ่งทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่เขายังเด็ก สลักโกรธแค้นพ่อของภูฉายมากที่ทอดทิ้งเธอกับลูกไป จนทำให้สลักกลายเป็นคนมีอาการทางจิตชอบเรียกร้องความรักความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภูฉาย ยิ่งสลักได้รู้ว่าภูฉายจะแต่งงานกับศลัยลาก็ยิ่งเพิ่มความรักความหวงภูฉายมากขึ้น ฝ่ายศลัยลาที่ได้เห็นสภาพจิตที่ไม่ปกติของสลักก็ตกตะลึง แต่เธอก็ยังยืนกรานจะแต่งงานกับภูฉาย ท่ามกลางเสียงคัดค้านของ นวลนภาและภาษิต แม่และน้องชาย รวมทั้งเพียรภมร ทนายความสาวเพื่อนรุ่นน้องของศลัยลาที่เป็นโรคเกลียดผู้ชายขึ้นสมอง เพียรภมรพยายามพูดให้ศลัยลาคิดให้ดีเพราะไม่อยากให้ศลัยลาทุกข์ใจเพราะผู้ชายเหมือน ฉวี แม่ของตนที่ถูกผู้ชายทุบตีทำร้ายมาตลอดชีวิต เมื่อภูฉายบอกสลักว่านวลนภายินดียกที่ดินพร้อมบ้านและรถให้เป็นของขวัญแต่งงาน สลักจึงยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกัน แต่ในคืนแต่งงานสลักแกล้งเป็นลมหมดสติจนทำให้ภูฉายไม่ได้เข้าหอกับศลัยลา ศลัยลาเสียใจมากแต่ไม่ยอมแสดงความรู้สึกให้ใครรับรู้ ระหว่างนั้นสลักแกล้งไม่สบายพร้อมทั้งใช้แผนต่างๆ นานาเพื่อให้ภูฉายมาอยู่ดูแลตนที่บ้านดังเดิม ในขณะที่ชีวิตคู่ของภูฉายกับศลัยลากำลังดิ่งลงเหว ศลัยลาก็พบว่าตัวเองตั้งท้อง ทำให้สลักยิ่งอิจฉาศลัยลาจึงพยายามเรียกร้องความสนใจจากภูฉายมากขึ้น จนในคืนที่ศลัยลาคลอดลูก ภูฉายก็ถูกสลักดึงตัวไว้จนไม่ได้ไปหาศลัยลา สลักกลัวภูฉายจะทิ้งตนไปสนใจแต่ศลัยลากับลูก จึงพูดเกลี้ยกล่อมจนภูฉายยอมยกลูกให้เลี้ยง ศลัยลาเสียใจมากที่ภูฉายยอมตามใจสลักจนครอบครัวแตกแยก เธอจึงตัดสินใจขอหย่าขาดจากภูฉาย แต่ภูฉายไม่ยอมและขอให้ศลัยลาคิดทบทวนอีกครั้ง ในขณะที่สลักกลับคอยยุยงให้ภูฉายหย่ากับศลัยลา ระหว่างที่ศลัยลาแยกกันอยู่กับภูฉาย เธอก็ถูกส่งตัวไปทำงานที่แหล่งขุดค้นวัตถุโบราณแถบภาคอีสาน ทำให้เธอได้พบกับ ลายสือ นักศึกษาโบราณคดีเพื่อนสนิทของภาษิต เมื่อลายสือได้เจอกับศลัยลาครั้งแรก ก็สะดุดตาทันทีโดยที่ไม่รู้ว่าเธอคือพี่สาวของภาษิต ด้วยความที่ลายสือขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็กและถูกพัลลพ พ่อของเขาทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ทำให้ลายสือตกหลุมรักความเป็นผู้ใหญ่ อบอุ่นและพึ่งพาได้ของศลัยลา ยิ่งทั้งคู่ได้ทำงานใกล้ชิดกันลายสือก็ยิ่งรักศลัยลาจนถอนตัวไม่ขึ้นแม้จะรู้ว่าเธอมีครอบครัวแล้ว ฟากศลัยลาเมื่อเจอคนที่เข้าใจเธอจริงๆ ก็เริ่มหวั่นไหว แต่เพราะในใจศลัยลายังมีภูฉาย ประกอบกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ศลัยลาจึงพยายามขับไสไล่ส่งลายสือออกไปจากชีวิตตน แต่ลายสือก็ดื้อแพ่งจะทำตามหัวใจตัวเองให้ได้ ทำให้ศลัยลายิ่งสับสนว้าวุ่นใจมากกว่าเดิม

หัวใจเรือพ่วง (2556/2013) ธันยธรณ์ หรือ แพท (อรจิรา แหลมวิไล) โกรธมากเมื่อจับได้ว่าเมื่อ รัญธิดา หรือ รัญ (คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) หลานสาว แอบหมั้นกับ พิรภพ (สน ส่งไพศาล) นายจ้างหนุ่มเจ้าของรีสอร์ท รัญเองก็เสียใจคิดว่าแพทขัดขวางอนาคตที่สวยงามของเธอ เพราะทิพปภา (ชฎาพร รัตนากร) แม่ของเธอติดคุกด้วยข้อหายาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องที่รัญรับไม่ได้ และไม่เคยไปเยี่ยมแม่เลยตลอดเวลาที่ติดคุก รวมทั้งปกปิดเรื่องในอดีตของเธอกับทุกคนด้วย เมื่อ 6 ปีก่อน แพทพา อะตอม (ด.ช.อชิรวิชช์ เดชปรอท) ลูกชาย และรัญธิดา มาอยู่ที่ปากช่อง ท่ามกลางเสียงนินทา แต่แพทก็กัดฟันเลี้ยงดูลูกชายและส่งเสียรัญจนจบ ด้วยการเป็นพนักงานบริษัทเล็ก ๆ และทำเค้กส่งขายที่ร้านกาแฟของเตอร์ (ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร) เพื่อนสนิทของเธอที่ปากช่อง พิรภพต้องการรีบแต่งงานกับรัญ เพราะเพิ่งรู้ว่ากันตา (กาญจนา จินดาวัฒน์) แม่ของเขาเป็นโรคมะเร็ง และเล็งเห็นว่า รัญเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุด จึงไปปรึกษากับธาริศ (ทันโตวิ์ หิรัญญ์ธนภูวดล) ลูกพี่ลูกน้อง พิรภพจึงชวนแพทมาทำงานที่รีสอร์ท สองคนเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน จนรัญต้องคอยห้ามทัพเป็นประจำ แต่แพทมักมีข้อแนะนำดี ๆ ในเรื่องงานที่พิรภพคิดไม่ถึงเสมอ ในขณะเดียวกันรัญก็กลัวว่าแพทจะเปิดเผยความลับของเธอ นอกจากนี้ เฉิดโฉม (สิตางศุ์ ปุณภพ) ประชาสัมพันธ์สาวที่ชอบพีทอยู่ จึงคอยหาเรื่องจับผิดสองน้าหลานอยู่เสมอ ธาริศพาภรรยาคือ ทักษอร (พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า) มาพักผ่อนที่รีสอร์ท ทักษอรสร้างภาพเป็นหญิงสาวขี้โรคให้ธาริศคอยดูแล เพราะรู้ว่าธาริศยังไม่ลืมคนรักเก่า ด้านธาริศได้เจอกับว่าที่เจ้าสาวของพี่ชายคือรัญ ก็ตกใจมาก ทำให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตระหว่างตนกับรัญ ที่ในอดีต ย่ามักจะด่าทอทุบตีรัญเป็นประจำ จนรัญน้อยใจในชีวิตของตัวเองและคิดฆ่าตัวตาย แต่ธาริศมาช่วยไว้ และปลอบใจรัญ ด้วยความใกล้ชิดหนุ่มสาวจึงได้เสียกัน สองคนสัญญากันว่าจะหนีไปใช้ชีวิตร่วมกัน แต่รุ่งขึ้น ธาริศกลับไม่มาตามสัญญา ต่อมารัญตั้งท้อง ย่ายิ่งโกรธและขายหน้า สั่งให้รัญออกจากโรงเรียน โชคดีที่แพทยื่นมือเข้ามาช่วย พารัญไปอยู่ที่อื่นและรับอะตอมเป็นลูกเสียเอง ธาริศพยายามเตือนพิรภพ ว่ารัญอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดี รัญเองก็หลบหน้าธาริศ แต่ธาริศกลับพยายามพาตัวเข้ามาตอแย โดยอ้างเรื่องที่รัญปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตหวังจะจับพิรภพ จนวันหนึ่งธาริศช่วยอะตอมที่เกือบถูกม้าในคอกดีดไว้ได้ และด้วยสายเลือดก็ทำให้พ่อลูกเล่นกันถูกคอ แม้แต่ รุจวี (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) แม่ของธาริศที่ไม่ชอบรัญกับแพท ก็ยังหลงเสน่ห์ความน่ารักของอะตอม รัญแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบให้ธาริศมายุ่งกับอะตอมอีก ถึงกับคาดโทษอะตอมถ้าจับได้ว่าหนีมาเล่นกับธาริศอีก สร้างความงุนงงให้กับทุกคนมาก ทิพปภาได้รับการอภัยโทษออกจากคุกมาเร็วกว่ากำหนด กลับมาอยู่กับแพท รัญกลัวพิรภพจะรู้ ทิพปภาจึงตัดสินใจปกปิดฐานะของตัวเอง เมื่อพิรภพมาก็บอกว่าเป็นแค่คนใช้ ทำให้แพทยิ่งผิดหวังในตัวหลานสาวมากขึ้น พิรภพพาแพทกับอะตอมไปน้ำตก อะตอมเกิดอุบัติเหตุตกน้ำ แพทรีบจะไปช่วยจนทำให้เขาพลัดตกน้ำไปอีกคน โชคดีที่พิรภพช่วยเอาไว้ทัน แพทและอะตอมไข้ขึ้นสูง ทำให้รัญต้องมาเฝ้าแทนและมีโอกาสดูแลอะตอมอย่างใกล้ชิด ตกดึกอะตอมฝันร้ายตื่นมาร้องไห้ ธาริศผ่านมาได้ยินจึงเข้ามาปลอบ รัญเห็นพ่อลูกอยู่ด้วยกันก็ใจอ่อนจนเกือบบอกความจริง แต่ทักษอรเข้ามาเห็นธาริศกับรัญก็เกิดอาการหอบหืดชักอย่างรุนแรง และเริ่มสงสัยทั้งคู่ จึงให้เฉิดโฉมจับตาดูจนรู้ความจริงว่า รัญคือคนรักเก่าของธาริศนั่นเอง พิรภพเริ่มประทับใจในตัวแม่ม่ายอย่างแพทมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่กันตาอาการกำเริบหนัก ขอให้พิรภพรีบแต่งงาน เฉิดโฉมจึงประกาศความจริงให้ทุกคนรู้ พิรภพโกรธมาก รัญจึงสารภาพความจริงว่าอะตอมเป็นลูกตัวเองไม่ใช่ลูกของแพท ทิพปภาถึงกับยอมกราบเท้าขอโทษกันตากับพิรภพขอร้องไม่ให้ยกเลิกการแต่งงาน รัญซึ้งใจมาก และปรับความเข้าใจกับแม่ได้ ทักษอรทะเลาะกับธาริศอย่างรุนแรงเรื่องจะรับอะตอมเป็นลูก เพราะกลัวธาริศจะกลับไปคืนดีกับรัญ จนแอบจ้าง เปลี่ยน (วิทิต แลต) คนงานเก่าของรีสอร์ทมาจับตัวอะตอมไปจัดการฆ่า พิรภพกับธาริศตามไปช่วยได้ เปลี่ยนโดนจับจึงยอมรับสารภาพว่าทักษอรเป็นจ้าง ทักษอรโมโหจะยิงเปลี่ยน แต่กลับโดนยิงตายเสียเอง รุจรวียอมเปิดเผยความจริงว่าในอดีตธุรกิจที่บ้านมีปัญหา บ้านทักษอรยื่นมือเข้ามาช่วย รุจรวีจึงต้องบังคับให้ธาริศแต่งงานกับทักษอรเพื่อตอบแทนบุญคุณ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รักทักษอรเลย หลังเหตุการณ์ร้าย ๆ ผ่านไป รัญ อะตอม และธาริศจึงกลับมาอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก ส่วนแพทและพิรภพต่างก็กลับมาเป็นอิสระปราศจากพันธะอีกครั้ง เรื่องราวความรักของอดีตแม่ม่ายเรือพ่วงและเจ้าของรีสอร์ทหนุ่มจะลงเอยอย่างไร? ติดตามได้ใน ละครหัวใจเรือพ่วง

มารกามเทพ (2556/2013) น้ำหนึ่ง หรือ เพชรน้ำบุศย์ (มนชนก แสงฉายเพียรเพ็ญ) ดีใจมากที่ได้เจอกับ เพชร (ฌวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) วิศวกรหนุ่มหล่อรุ่นพี่ ที่น้ำหนึ่งแอบปลื้มตั้งแต่สมัยมัธยม เมื่อเพชรบอกรักและแสดงออกซึ่งความจริงใจ น้ำหนึ่ง จึงรับรักเพชร เพชรดีใจมากจึงขอน้ำหนึ่งแต่งงาน แต่ รมต.เกรียงศักดิ์ (สุรวุฑ ไหมกัน) และ คุณหญิงดาราณี (กชกร นิมากรณ์) พ่อและแม่ของน้ำหนึ่งไม่ยอม เพราะเห็นว่าสถานภาพทางสังคมของน้ำหนึ่งและเพชรแตกต่างกันเกินไป แต่เพชรก็บอกกับน้ำหนึ่งว่าเขาจะพิสูจน์ความรักจนกว่าพ่อแม่ของน้ำหนึ่งจะเห็นใจ น้ำหนึ่งดีใจมาก แต่ ภาคย์ (ชมะนันทน์ อรรถจินดา) เพื่อนรุ่นพี่ของน้ำหนึ่ง ลูกชายของ สมบัติ (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) กับ อารีย์ (ภัสสร บุณยเกียรติ) เจ้าของร้านเพชร เสียใจมากเพราะภาคย์แอบหลงรักน้ำหนึ่งอยู่ แม้จะมี อลิส (แอริณ ยุกตะทัต) สาวไฮโซลูกสาวคนเดียวของ คุณชายศิริศักดิ์ (ตฤณ เศรษฐโชค) มาดามหัวใจ ภาคย์ก็ไม่สนใจ ทำให้อลิสโกรธมาก เพราะอลิสเป็นคู่แข่งของน้ำหนึ่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อลิสพยายามทำทุกอย่างให้น้ำหนึ่งไปจากชีวิตรักของเธอ ในที่สุดน้ำหนึ่งก็ได้แต่งงานกับเพชร ท่ามกลางความไม่เห็นชอบของรมต.เกรียงศักดิ์และคุณหญิงดาราณี หลังแต่งงานเพชรพาน้ำหนึ่งไปอยู่ที่บ้านเชิงเขา ที่นั่นน้ำหนึ่งได้พบกับ ทับทิม (อภิรดี ภวภูตานนท์) แม่ของเพชร และ พลอย (นัท มีเรีย) พี่สาวขาพิการของเพชร ทั้งสองคนมีทีท่ามึนตึงเฉยชากับน้ำหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะพลอยที่มีทีท่าว่าเกลียดชังน้ำหนึ่งตั้งแต่แรกเห็น น้ำหนึ่งไม่เข้าใจ แต่พยายามไม่สนใจเพราะสงสารพลอยที่ขาพิการ แต่แล้วน้ำหนึ่งต้องช็อคเมื่อพลอยพา รจนา (เปรมนลิน ธรรมเจริญ) เข้ามาในบ้าน พร้อมทั้งแนะนำว่ารจนาคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเพชร นั่นหมายถึงน้ำหนึ่งต้องตกอยู่ในฐานะภรรยาน้อย หรือภรรยาเก็บ เพราะน้ำหนึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับเพชร น้ำหนึ่งเสียใจและตกใจมาก ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพชรจึงเล่าให้น้ำหนึ่งฟังว่า ในอดีตพ่อของน้ำหนึ่งได้ปลุกปล้ำขืนใจพลอย หนำซ้ำยังขับรถไล่ชนพลอยจนขาพิการ เพราะกลัวแม่ของน้ำหนึ่งจะรู้เรื่อง แต่เมื่อคุณหญิงดาราณีรู้เรื่อง ก็ยังส่งคนมาทำร้ายแลัรังควานพลอยไม่สิ้นสุด ทำให้เพชรและครอบครัวโกรธแค้นมาก เพชรบอกกับน้ำหนึ่งว่าเขาไม่เคยรักเธอ ที่ทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้น้ำหนึ่งตกหลุมรักเขาเท่านั้น น้ำหนึ่งจะต้องตกอยู่ในสภาพเมียเก็บ นางบำเรอของเขา เหมือนที่พลอยถูกพ่อของน้ำหนึ่งกระทำ น้ำหนึ่งทั้งตกใจและเสียใจมาก เมื่อรู้ว่าพ่อและแม่ของตนทำร้ายพลอย และเพชรไม่เคยรักเธอ ต้องการตัวเธอมาเพื่อแก้แค้นเท่านั้น ด้วยความรักน้ำหนึ่งยอมก้มหน้าชดใช้ความผิดแทนพ่อและแม่โดยไม่คิดจะหนีกลับกรุงเทพฯ แต่อย่างใด ที่บ้านเชิงเขา น้ำหนึ่งต้องถูกเพชร พลอย และทับทิม ตลอดจนรจนาทำร้ายทั้งร่างกายและหัวใจ โดยเฉพาะต้องทนอยู่กับคนที่เหมือนมีอาการประสาทตลอดเวลาอย่างพลอย ไม่มีใครเห็นใจน้ำหนึ่ง มีแต่คนสะใจยกเว้น พจนีย์ (อินทิรา เกตุวรสุนทร) พี่สาวของรจนา เพราะพจนีย์รู้ดีว่าความจริงแล้วเพชรและรจนาไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่พจนีย์บอกน้ำหนึ่งไม่ได้ เพราะพลอยมีบุญคุณกับเธอ ตาหวาน (กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ) คนที่ติดตามมารับใช้ดูแลน้ำหนึ่ง ไปบอกกับ นวล (สุปราณี เจริญผล) แม่บ้านเรื่องน้ำหนึ่งถูกเพชรทำร้ายทั้งร่างกายและหัวใจ นวลสงสารน้ำหนึ่งมาก ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังเพชร นวลหาโอกาสเข้าไปเยี่ยมน้ำหนึ่งที่บ้านเชิงเขา เมื่อไปถึงที่นั่น นวลตกใจมากที่ได้เจอกับทับทิม เพราะในอดีต ทับทิมคือเพื่อนรุ่นพี่ของนวล ที่นวลฝากลูกชายเอาไว้ให้เลี้ยง เนื่องจากเมื่อครั้งยังสาว นวลพลั้งมือฆ่าคนตายจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน นวลทั้งดีใจ เสียใจ ตกใจที่ได้รู้ว่าเพชรคือลูกชายของเธอ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นวลตกใจมากที่ได้รู้ว่าพลอยคือลูกสาวของทับทิม เพราะความจริงแล้ว พลอยคือหน้าห้องของเกรียงศักดิ์ที่ต้องการเป็นอนุ แต่เกรียงศักดิ์เป็นคนรักครอบครัว ไม่ได้ต้องการพลอยแบบนั้น พลอยโกรธและเสียใจมากที่ถูกปฏิเสธ วิ่งให้รถชนตาย แต่ หมอณัฐ (ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน) ลูกพี่ลูกน้องของอลิสช่วยเอาไว้ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พลอยขาพิการ แต่พลอยสร้างเรื่องโบ้ยความผิดว่าเป็นฝีมือของเกรียงศักดิ์และดาราณี ทำให้เพชรกับทับทิมโกรธแค้นมาก ที่สุดความแค้นมาตกที่น้ำหนึ่ง อลิสตามมาแฉซ้ำเรื่องความเลวร้ายของพลอย เพราะอลิสรู้เรื่องทุกอย่างดี พลอยโกรธมาก ฆ่าอลิส และทุกคนที่ขวางทางเธอ เพชรเสียใจมากที่ทำร้ายน้ำหนึ่ง คนที่รักเขาสุดหัวใจ และยิ่งตกใจหนักเมื่อเพชรรู้ว่าแท้จริงแล้วพลอยแอบหลงรักเขาอยู่ เพชรจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่าพลอยพี่สาวที่แสนรัก และน่าสางสารของเขา แท้จริงแล้วคือ มารกามเทพ ระหว่างเขากับน้ำหนึ่ง และพลอยจะทำอย่างไรเมื่อความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย เธอไม่ใช่คนน่าสงสาร แต่เธอคือมาร คือความเลวร้ายสำหรับทุกคน ติดตามชม ละครมารกามเทพ

แผนรัก แผนร้าย (2556/2013) ม.ล.นภดารา (ปิยธิดา วรมุกสิก) ธิดาสาวคนเดียวของ ม.ร.ว.นภัสรพี ศิวาวงศ์ (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มต่ำศักดิ์จนตั้งครรภ์ เธอถูกนภัสรพีส่งตัวไปอยู่เชียงใหม่เพื่อให้พ้นจากเสียงครหา แต่โชคร้ายในคืนที่นภดาราคลอดลูกเกิดไฟไหม้ที่โรงพยาบาล ลูกสาวของเธอหายสาบสูญไป นภดาราล้มป่วยลงด้วยความตรอมใจตั้งแต่บัดนั้น 18 ปีต่อมา นภดาราอาการทรุดหนัก นภัสรพีสงสารลูกจึงให้ ปราบ (ทนงศักดิ์ ศุภการ) ทนายคนสนิทไปหาเด็กหญิงกำพร้ามาอุปโลกน์เป็นลูกสาวของนภดารา โดยเธอบอกว่าได้ให้ล็อกเก็ตประจำตระกูลและแหวนเพชรรูปดาวติดตัวลูกไว้ด้วย นภัสรพีจึงสั่งทำล็อกเก็ตอันใหม่ให้ปราบนำติดตัวไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเชียงใหม่ ปราบได้พบกับ กอหญ้า (เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์) เด็กสาวที่มีทั้งล็อกเก็ตและแหวนรูปดาว คุณแม่ยุพา (สุกานดา บุณยธรรมิก) บอกว่าพบกอหญ้าถูกทิ้งไว้หน้าโบสถ์เมื่อ 18 ปีก่อนพร้อมของสองสิ่งนี้ ปราบจึงบอกความจริงกับกอหญ้าว่าเธอคือทายาทของตระกูลศิวาวงศ์อันมั่งคั่ง กอหญ้าเดินทางกลับไปกรุงเทพฯ พร้อมคุณแม่ยุพาและปราบ โดยมี พเยีย (โม มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) เพื่อนเด็กกำพร้าที่มีนิสัยทะเยอทะยานขอติดรถไปด้วย แต่ระหว่างทางรถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ พเยียฟื้นขึ้นมาเห็นปราบกับคุณแม่ยุพาเสียชีวิต ส่วนกอหญ้าบาดเจ็บสาหัส ด้วยความโลภ พเยียจึงเอาไม้ฟาดกอหญ้าจนคิดว่าตายแล้ว จึงเอาล็อกเก็ตไปแสดงตัวกับนภดาราอ้างว่าตนคือลูกสาว นภดาราดีใจมาก มีเพียง ม.ร.ว.นภาจรี (สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์) น้องสาวของนภัสรพีและแม่ชื่น (พิศมัย วิไลศักดิ์) พี่เลี้ยงของนภดาราที่ไม่ไว้ใจพเยีย ฝ่ายกอหญ้าถูกช่วยชีวิตโดย อิศร (ตูมตาม ยุทธนา เปื้องกลาง) หนุ่มอารมณ์ร้อนที่เคยทะเลาะกับเธอตอนอยู่ที่เชียงใหม่ เมื่อกอหญ้าฟื้นขึ้นมาความจำเสื่อม อิศรจึงหลอกกอหญ้าว่าเธอคือคนรักของเขา โดยมี สุบรรณ (จูเนียร์ กรวิชญ์ สูงกิจบูลย์) และ หมอวิชาญ (เก่ง วาโย อัศวรุ่งเรือง) เพื่อนรักให้ความร่วมมือ อิศรพากอหญ้าไปอยู่ที่บ้านเพื่อประชด อรรถ (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) พ่อของเขาที่เอา สกุณา (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) เมียน้อยที่เขาเกลียดชังเข้ามาอยู่ด้วย ในขณะเดียวกัน ชิษณุพงศ์ (สิงโต ธนณัฏฐ์ รวงงาม) ลูกของ เจ้าแสงโชติ (ภุชงค์ โยธาพิทักษ์) และ เจ้ามลุลี (ภัทรา ทิวานนท์) คหบดีชาวเชียงใหม่ก็กำลังตามหาตัวกอหญ้า เพราะกอหญ้าคือคนที่คอยดูแลตนตอนที่ประสบอุบัติเหตุจนตาบอดชั่วคราว ทำให้เขาหลงรักกอหญ้าทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้า เมื่อชิษณุพงษ์ผ่าตัดตาจนมองเห็นอีกครั้ง จึงออกตามหากอหญ้าโดยมี แตง (หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช) หลานสาวจอมซนของ ลุงเติม (ประสาท ทองอร่าม) คนสนิทของตนเป็นผู้ช่วย ในงานเลี้ยงเปิดตัว พเยีย ศิวาวงศ์ ทายาทคนใหม่ของวังศิวาลัย อิศรที่เป็นเพื่อนบ้านพากอหญ้าไปร่วมงานด้วย ส่วนชิษณุพงษ์ก็ไปในฐานะญาติสนิท พเยียเห็นกอหญ้าก็ตกใจแทบสิ้นสติ เช่นเดียวกับชิษณุพงษ์ที่จำเสียงทั้งกอหญ้าและพเยียได้ แต่ทั้งสองต่างอ้างว่าจำเขาไม่ได้ เขาจึงพยายามสืบหาความจริง อิศรไม่ไว้ใจชิษณุพงษ์จึงคอยขัดขวาง พเยียกลัวว่ากอหญ้าจะกลับมาทวงทุกสิ่งทุกอย่างคืน จึงจ้างให้ นพดล (กิตติพงศ์ ตันติชินานนท์) คู่ขาเก่าช่วยกำจัดกอหญ้า แต่กลับทำให้นภาจรีจับได้ว่าเธอเป็นทายาทตัวปลอม พเยียจึงจัดการปิดปากนภาจรีและแม่ชื่น ชิษณุพงษ์สืบจนรู้ว่ากอหญ้าความจำเสื่อมและพเยียแอบอ้างเป็นทายาท นภัสรพีเสนอให้เงินกับพเยียเพื่อให้เรื่องสงบ แต่พเยียกลับจับตัวกอหญ้าไป แล้วขู่นภัสรพีให้ทำพินัยกรรมยกทุกอย่างให้ตน นภัสรพียอมตกลง แต่ด้วยความหวาดระแวงนพดลกลับฆ่านภัสรพีตาย พเยียจึงต้องต่อรองกับนภดารา นภดาราเสี่ยงชีวิตไปช่วยกอหญ้าจนถูกพเยียจับตัวไว้หวังจะฆ่าทั้งคู่ อิศรกับชิษณุพงษ์ที่รู้เรื่องจึงรีบตามไปช่วย สุดท้ายแล้วทั้งสองหนุ่มจะช่วยกอหญ้าจากเงื้อมือพเยียได้หรือไม่? และระหว่าง อิศร กับ ชิษณุพงษ์ ใครจะได้หัวใจของกอหญ้าไปครอง? ติดตามชมและร่วมลุ้นได้ใน ละครแผนรักแผนร้าย

บ่วงวันวาร (2556/2013) สมัย ร.5 ฉัตร (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) และฉาย (อัครัฐ นิมิตชัย) 2 พี่น้อง สำเร็จการศึกษาจากรัสเซีย พระยาโกสินทร์ (สรพงษ์ ชาตรี) จึงคิดจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของบุตรชายทั้งสองอย่างเอิกเกริก แต่ฉายพาแอนนา เมียแหม่มกลับมาด้วย พระยาโกสินทร์จึงฝากความหวังเรื่องลูกสะใภ้สมหน้าสมตาไว้ที่ฉัตรคนเดียว นายชด (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) เป็นหนี้พระยาสมาน (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) จึงเอาบัว (วรัทยา นิลคูหา) ลูกสาวคนเดียวมาเป็นทาสขัดดอก พระยาสมานคิดจะเอาบัวเป็นเมียคนล่าสุดให้ได้ จึงฝากให้อยู่ในความดูแลของน้อย (พิชญา เชาวลิต) ทาสในเรือนเบี้ย ทำให้ด้วง (เก็จมณี วรรธนะสิน) เมียทาสที่อยากขึ้นเป็นคุณหญิงคนใหม่ชังน้ำหน้าบัวขึ้นมาทันที จึงเอาเรื่องบัวไปเล่าให้พิศ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวคนเดียวของพระยาสมานฟัง แต่พิศกำลังวุ่นวายเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงฉัตรและฉาย จึงทำให้ยังไม่ได้เห็นหน้าบัว ในงานเลี้ยง พระยาสมานแสร้งไม่สบายเพื่อขอลากลับก่อน พิศที่หลงรักฉัตรทันทีที่เห็นหน้า ก็แสร้งทำเป็นไม่สบายอ้อนฉัตรเช่นกัน ในขณะที่พระยาสมานแอบกลับบ้านเพื่อจะไปเอาบัวเป็นเมียในคืนนี้ให้ได้ แต่ขณะที่พระยาสมานกำลังจะข่มเหงบัว ฉัตรก็เข้ามาช่วยบัวเอาไว้ได้ทัน เพราะฉัตรพาพิศที่แกล้งไม่สบายกลับมาส่งบ้าน ฉัตรเห็นหน้าบัวก็หลงรักทันที พิศจึงเกลียดบัวตั้งแต่นาทีนั้นจับใจและสั่งย้ายบัวจากเรือนทาสไปอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนและหาวิธีกลั่นแกล้งบัวต่าง ๆ นานา ถึงแม้ฉัตรจะรู้ว่าบัวเป็นเพียงทาสขัดดอกก็ไม่ได้รังเกียจ น้อยเป็นคนคอยส่งข่าวสารให้ระหว่างบัวกับฉัตร แต่น้อยก็ต้องระวังตัวแจเพราะกลัวจะถูกพิศลงโทษ หลังจากวันนั้นพระยาสมานยังไม่กล้าทำอะไรบัวเพราะเกรงใจพิศ แต่สั่งเพียร (ภูริ หิรัญพฤกษ์) ลูกทาสที่เกิดจากนางพุ่ม (ปวีณา ชารีฟสกุล) เมียทาสคนหนึ่งให้คอยจับตาไว้ เพียรอยากเอาใจพ่อด้วยหวังว่าจะได้ความเมตตาจากพระยาสมาน จึงเฝ้าดูและส่งข่าวบัวให้พระยาสมานเป็นระยะ เพียรเองก็แอบชอบน้อยมานานแล้ว แต่น้อยไม่เล่นด้วยเพราะรู้ว่าไม่ใช่คนดี วันหนึ่งนายชดไปหาปลาแล้วเกิดงมเอา ตรวนทองคำ ขึ้นมาได้ จึงเอามาไถ่ตัวบัว พระยาสมานเห็นตรวนทองคำเป็นของแปลกมหัศจรรย์ก็อยากได้ จึงสั่งให้เพียรฆ่านายชดหมกป่าแล้วเอาตรวนทองคำมาให้ แต่เมื่อพิศมาเห็นเข้าก็ชอบจึงเอ่ยปากขอจากพ่อ พระยาสมานจึงต้องตามใจลูกสาว ยกตรวนทองคำให้แก่พิศไป นางด้วงโทษว่าพระยาสมานเปลี่ยนใจไปจากเธอเพราะบัว จึงคิดยืมมือพิศฆ่าบัวทิ้งโดยเขียนจดหมายในชื่อบัวลวงฉัตรให้มาที่กระท่อมท้ายสวน แล้วเขียนจดหมายอีกฉบับที่เหมือนกันแล้วเอาไปให้พิศ อ้างว่าได้มาขณะที่บัวฝากน้อยให้เอาไปส่งให้ฉัตร พิศอ่านจดหมายนั้นก็โกรธมาก พุ่งตรงไปที่กระท่อมท้ายสวนทันที ฉัตรไปหาบัวที่กระท่อมท้ายสวนและรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ก็คิดจะพาบัวหนี แต่ไม่ทันพิศที่เข้ามาตบตีบัว ฉัตรจึงลากบัววิ่งหนี พิศวิ่งตามแต่สะดุดตะเกียงแล้วถูกไฟครอกจนเสียโฉม ฝ่ายฉัตรที่พาบัวหนีเกิดไปพบพวกพระยาสมานเข้าอีก จึงยื้อยุดฉุดกระชากกันจนพระยาสมานหกล้มทับหลาวแหลมจนเสียชีวิต พิศที่ตามมาตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าพ่อตาย จึงสั่งเพียรจับฉัตรและบัวล่ามด้วยตรวนทองคำแล้วพาขึ้นเรือไป กลางแม่น้ำ พิศที่เสียใจมากที่ทำดีกับฉัตรเท่าไหร่เขาก็ไม่เคยสนใจ ซ้ำทั้งฉัตรและบัวยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อเธอตายและทำให้เธอเสียโฉมด้วย เมื่อรักกันมากนักก็จงตายไปด้วยกันเสีย และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ชาติก็จะขอจองล้างจองผลาญไม่ให้ฉัตรกับบัวสมหวังในรักได้เป็นอันขาด พูดจบพิศก็ถีบฉัตรและบัวตกน้ำไป พ.ศ.2555 (ปัจจุบัน) ฉัตร, บัว, พิศ, พระยาสมาน, ไอ้เพียร และอีกหลากหลายชีวิตในอดีตชาติ ต่างพากันกลับมาเกิดร่วมกรรมกันอีกในชาตินี้ แต่มีเพียงคน ๆ เดียวเท่านั้นที่สามารถระลึกชาติได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชาติที่แล้ว และนั่นคือพิศ หนำซ้ำชาตินี้เธอยังได้ตรวนทองคำมาครอบครองอีกครั้งเสียด้วย พิศไม่ต้องการผิดหวังในรักซ้ำอีก เธอจึงเริ่มตามฆ่าบัวอีกครั้ง! ความรักระหว่างบัวและฉัตรในชาตินี้จะถูกจองจำด้วยตรวนทองคำอีกหรือไม่? หาคำตอบได้ใน ละครบ่วงวันวาร

จ้าวพายุ (2556/2013) อรทัย(โสภิตนภา ชุ่มภาณี) ลูกสาวคนเดียวที่เกิดจากเมียหลวงของศิวา(เกรียงไกร อุณหนันท์) เจ้าของนามสกุลใหญ่ “เจนจรัสตระกูล” หลังจากแม่แท้ๆของเธอตาย ศิวาก็หันไปคว้าเอาอาภา(กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) เด็กรับใช้ในบ้านรุ่นราวคราวเดียวกับอรทัยมาเป็นเมีย อรทัยจึงเกลียดอาภามาก สร้างความหนักใจให้ศิวา จนกระทั่งอาภาคลอดลูกชายคือศุวิล หรือ ลม(ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ที่ได้เป็นเจ้าของนามสกุล เจนจรัสตระกูล อีกคนหนึ่ง อรทัยไม่ยอมให้เมียน้อยและลูกมาแย่งความรักและสมบัติของจากพ่อ คืนหนึ่งศิวาไม่อยู่ อรทัยจึงขู่อาภาว่าจะฆ่าลมและขับไล่สองแม่ลูกออกจากบ้าน อาภาจึงพาลมลูกชายวัย5ขวบจากไป อรทัยใส่ร้ายว่าอาภามีชู้ ศิวาไม่เชื่อและได้แต่สงสัยว่าอาภาหนีไปเพราะเหตุใด 20 ปีผ่านไป อรทัยคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่เธอคิดผิด เมื่อบรรเจิด(ภูธเนศ หงษ์มานพ) สามีของเธอ เริ่มมีพฤติกรรมน่าสงสัย แต่อรทัยก็ฉลาดพอที่จะไม่กระโตกกระตาก ตั้งใจจะสืบเรื่องผู้หญิงที่มาเป็นเมียน้อยของสามีเธออย่างลับๆ อรทัยต้องการให้สุธาวี(เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) ลูกชายที่ดื้อรั้นไม่ได้ดั่งใจ แต่งงานกับฟ้าใส(ลิลลี่-ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ) หลานบุญธรรมของบรรเจิด เพราะศิวารักและเอ็นดูฟ้าใสมากกว่าสุธาวีหลานแท้ๆของตน ความกตัญญูของฟ้าใสทำให้อรทัยมั่นใจว่าจะควบคุมทุกอย่างได้ แม้ว่าบรรเจิดจะคัดค้าน และสุธาวีเองก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้ชอบฟ้าใสแม้แต่น้อย ก็ไม่ได้ทำให้อรทัยเปลี่ยนใจ ศิวาตามหาอาภาและศุวิลจนพบ แต่อาการมะเร็งกำเริบจนต้องเข้าโรงพยาบาล อาภาใจอ่อนและสงสารศิวา แต่ก็ไม่ยอมปริปากถึงสาเหตุการจากมาของตน ศุวิลเติบโตมากับความเกลียดชังพ่อแท้ๆ อาภารู้ว่าถ้าศุวิลรู้ความจริงว่าอรทัยเคยขู่ฆ่า ศุวิลจะไม่ปล่อยอรทัยแน่ แต่ศุวิลก็มีเหตุปะทะกับอรทัยที่โรงพยาบาลจนได้ ฟ้าใสเข้ามาขวางจึงได้รับบาดเจ็บ ฟ้าใสตั้งใจจะทำให้ศุวิลปรับความเข้าใจกับศิวา ศุวิลรำคาญฟ้าใส แต่ความดีของเธอก็ทำให้หัวใจของศุวิลสั่นคลอน แม้ว่าเขาเองจะคบหาอยู่กับปิ่นมณี(ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) ก็ตาม ศุวิลไม่เคยรู้ว่าชีวิตลับๆ ของปิ่นมณีคือการขายตัวให้แขกไฮโซ ต่อหน้าเธอแสนดีและเข้าใจเขาเสมอ แท้จริงแล้วความฝันเดียวของปิ่นมณีคือ หาผู้ชายดีๆ รวยๆ สักคน เพื่อหนีชีวิตที่ยากลำบาก เพราะต้องเลี้ยงปาน(ณหทัย พิจิตรา) แม่บังเกิดเกล้าและพัน(จตุรงค์ โกลิมาศ) ผัวใหม่ของแม่ แต่เธอก็ไม่สามารถทิ้งแม่ของเธอได้ ความลับของปิ่นมณีไม่เคยมีใครรับรู้ แม้กระทั่งฟ้าใสเพื่อนสนิทของเธอ ปิ่นมณีอิจฉาชีวิตที่โชคดีของฟ้าใส รวมถึงแก้วตา(ซี-หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช) สาวน้อยใสซื่อเพื่อนสนิทอีกคน ที่ภายใต้หน้ากากสาวอ่อนหวานไร้พิษภัย แต่แท้จริงยอมพลีกายให้กับบรรเจิด สามีของอรทัย เพื่อแลกกับชีวิตที่สุขสบาย ทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่ง หักหลังฟ้าใสเพื่อนสนิทของตน อรทัยระแคะระคายได้เบาะแสเมียน้อยบรรเจิด แต่แก้วตาก็หนีรอดทุกครั้ง แต่ไม่ใช่การช่วยเหลือของบรรเจิดเพียงคนเดียว แต่เพราะเดช(ดิว-ภัทรพล กันตพจน์) คนสนิทของบรรเจิดที่แอบชอบแก้วตาช่วยด้วย ความลับของแก้วตาเริ่มถูก งามเสมอ(หนูอิมอิม ก้าวมหัศาจรรย์) ครูที่โรงเรียนจับตามอง แต่ชนเมศร์(ดิว-อรุณพงศ์ ชัยวินิตย์) ครูอีกคนที่ชอบแก้วตาคอยแก้ตัวให้อยู่เสมอ เมื่อศิวาประกาศว่า จะแบ่งสมบัติของตนครึ่งนึงให้ศุวิล อรทัยจึงแค้นที่สองแม่ลูกจะกลับมาแย่งของๆ เธออีกครั้ง อรทัยเห็นว่า ฟ้าใสเป็นเครื่องมือที่จะทำได้สมบัติทั้งหมด จึงออกคำสั่งให้สุธาวีเอาชนะใจฟ้าใสและแต่งงานให้เร็วที่สุด! แม้ว่าสุธาวีจะคบหาอยู่กับ สราลัย(เมย์-สิรินทร์ ก่อเกียรติ) ลูกสาวรัฐมนตรีอยู่ แต่เขาก็ไม่เคยกล้างัดข้อกับอรทัย จนกระทั่งสุธาวีได้พบปิ่นมณี สุธาวีก็คลั่งไคล้ปิ่นมณีทันที! สราลัยไม่พอใจที่ปิ่นมณีดึงสุธาวีไปจากตน จึงรุมทำร้ายปิ่นมณีแต่ก็แพ้ ยิ่งทำให้สุธาวีพอใจในความแซ่บของปิ่นมณี เมื่อรู้ว่าปิ่นมณีคือแฟนของศุวิล ก็ยิ่งอยากชนะ สราลัยเอาเรื่องปิ่นมณีไปบอกอรทัย อรทัยไม่ยอมรับปิ่นมณี แต่เพราะความหลงเสน่ห์ปิ่นมณี ทำให้สุธาวีกลับลุกขึ้นแข็งข้อกับอรทัย และยืนกรานว่าจะต้องอยู่กับปิ่นมณีให้ได้ สุธาวีเล่าเรื่องที่ศิวาจะยกมรดกให้ศุวิลครึ่งนึงให้ปิ่นมณีฟัง ทำให้ปิ่นมณีไม่ยอมปล่อยศุวิล เพราะยังไม่รู้ว่าศุวิลหรือสุธาวีจะได้ครอบครองสมบัติกันแน่ เธอจึงปกปิดเรื่องที่เธอแอบคบสุธาวีไม่ให้ศุวิลรู้ สุธาวีปะทะกับอรทัยบ่อยขึ้น และยื่นข้อเสนอกับอรทัยว่าจะแต่งงานกับฟ้าใสตามต้องการ แต่จะให้ปิ่นมณีเป็นเมียน้อย อรทัยไม่ยอมเด็ดขาด ปัญหารอบตัวของอรทัยยิ่งทวีคูณ เมื่อเห็นว่าศุวิลกับฟ้าใส เหมือนจะมีสายใยบางอย่างเกิดขึ้น หลายครั้งที่ศุวิลหัวเสียจากอรทัย คนที่โดนลูกหลงก็มักจะเป็นฟ้าใสเสมอ ครั้งนึงที่ศุวิลพลั้งมือทำร้ายฟ้าใส ศุวิลรู้สึกผิดมาก พยายามตามทำดีกับฟ้าใสเพื่อไถ่โทษ เมื่อได้ใกล้ชิดกันก็ทำให้ทั้งสองต่างหวั่นไหวต่อกัน รวมถึงแก้วตา เมื่อได้พบศุวิล ก็ตั้งใจว่าจะไม่ยอมให้ฟ้าใสได้สมหวังกับศุวิลแน่ จึงยกเอาเรื่องศุวิลเป็นแฟนของปิ่นมณีขึ้นมาพูดกับฟ้าใส และแสร้งทำทีว่าเข้าใจความรู้สึกของฟ้าใสที่มีต่อศุวิล แก้วตาขอให้ฟ้าใสรับปากว่าจะไม่หักหลังแย่งศุวิลจากปิ่นมณี ฟ้าใสยอมรับปาก แม้ในใจจะเจ็บลึกๆก็ตาม ฟ้าใสออกห่างจากศุวิล และขอร้องให้เรื่องระหว่างเธอกับเขาไม่มีอะไรเกินเลย เธอไม่อยากหักหลังเพื่อน ศุวิลรับปากเพราะไม่อยากทำให้ฟ้าใสลำบากใจ แก้วตาสมหวังที่กีดกันฟ้าใสออกจากศุวิลได้ เพื่อที่เธอจะได้แอบสร้างความสัมพันธ์กับศุวิลเอง และโชคก็เข้าข้างแก้วตา เมื่อบรรเจิดย้ายบ้านเธอหนีจากการรุกรานของอรทัย ที่สำคัญบ้านนั้นติดกับบ้านของศุวิล! ศุวิลและอาภาไม่เคยสงสัยแก้วตา และไม่เคยรู้ว่าแก้วตาคือเพื่อนของฟ้าใส ทุกครั้งที่ศุวิลไปหาฟ้าใสที่โรงเรียน แก้วตาจะหลบเลี่ยงไปทุกครั้ง มีเพียงสำลี(อุ่นเรือน ราโชติ)ที่ฟันธงว่าแก้วตาเป็นเมียน้อย!! แก้วตาทนไม่ไหวที่ต้องหลบซ่อน จึงระบายเรื่องที่เธอเป็นเมียน้อยบรรเจิดให้กับปิ่นมณีฟัง ปิ่นมณีปลอบใจแก้วตา แต่ความลับนี้กลายเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ปิ่นมณีจะใช้ไขเข้าบ้านเจนจรัสตระกูล ปิ่นมณียื่นข้อเสนอจะให้เบาะแสเรื่องเมียน้อยบรรเจิดกับอรทัย แม้ว่าไม่เต็มใจแต่อรทัยก็ตอบรับข้อเสนอปิ่นมณี ที่ขายความลับของเพื่อนสนิทให้อรทัยรู้ หารู้ไม่ว่า ถึงอย่างไรอรทัยก็จะไม่ยอมรับปิ่นมณี ฟ้าใสคนเดียวที่จะช่วยนำเธอไปสู่ชัยชนะระหว่างเธอกับศุวิลได้ อรทัยส่งคนไปทำร้ายแก้วตา แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเดชคอยส่งข่าวเตือน ด้านปิ่นมณีก็ทวงสัญญาการแต่งงานของเธอกับสุธาวีที่อรทัยเคยให้ แต่อรทัยเสนอให้สุธาวีสืบหาและจัดการกับแก้วตาให้เธอ และจะไม่ขัดขวางเรื่องแต่งงานกับปิ่นมณีอีก สุธาวีจึงรับปาก สุธาวีพาปองพล(พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา) พี่ชายลูกติดพ่อเลี้ยงของปิ่นมณีไปจัดการแก้วตาด้วย แม้ว่าปิ่นมณีจะไม่ลงรอยกับปองพล แต่งานนี้เธอก็ใช้ปองพลกับสุธาวีร่วมมือกันทำร้ายแก้วตาจนปางตาย สร้างความเสียใจให้บรรเจิดและเดช ทาสรักผู้ภักดีของแก้วตา เมื่อฟ้าใสรู้เรื่องแก้วตาก็ตกใจ แก้วตาขอโทษและขอร้องให้ฟ้าใสเข้าใจความรักของเพื่อนกับอา ฟ้าใสหลงเชื่อสงสารจึงยอมทำตาม แต่คิดไว้ว่าจะหาวิธีพูดให้แก้วตาเลิกเป็นเมียน้อยบรรเจิดให้ได้ ลึกๆแล้วแก้วตายังไม่อยากทิ้งบรรเจิด เพราะยังไม่ได้ศุวิลมาครอง แต่เมื่อรู้ว่าปิ่นมณีคือผู้ชี้เป้าให้อรทัยได้รู้ แก้วตาก็สืบจนรู้ว่าปิ่นมณีทำงานขายตัว จึงบอกเรื่องนี้กับศุวิลเพื่อเป็นการแก้แค้น ศุวิลไม่อยากเชื่อ แต่ก็ตามไปดูปิ่นมณี สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาต้องช็อค เพราะพบปิ่นมณีกำลังนัวเนียกับสุธาวี ศุวิลขอเลิกกับปิ่นมณีทันที เมื่อถูกสลัดจากศุวิล ปิ่นมณีจึงมาเร่งการแต่งงานกับสุธาวี แต่อรทัยก็ไม่รักษาคำพูด ซ้ำยังหันไปบังคับฟ้าใสให้ยอมแต่งงานกับสุธาวี ฟ้าใสยืนกรานไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รักเด็ดขาด เพราะในใจลึกเธอรักศุวิลแม้จะรักข้างเดียวก็ตาม คืนหนึ่งสุธาวีเมาและแค้นอรทัยมาก เมื่อกลับมาเจอฟ้าใส สุธาวีจึงใช้กำลังปลุกปล้ำ โชคดีที่ศุวิลมาช่วยฟ้าใสไว้ได้ทัน สุธาวีต่อสู้กับศุวิล สุธาวีเลยจะยิงศุวิล ฟ้าใสเอาตัวเข้าขวางเอาไว้ ฟ้าใสจึงถูกยิงแทน หลังเหตุการณ์นี้ศุวิลขอร้องให้ฟ้าใสมาพักรักษาตัวที่บ้านเขา ศุวิลกลายเป็นคนมีชีวิตชีวา อาภารับรู้ถึงความรู้สึกของทั้งคู่ แต่แม้ว่าจะได้ใกล้ชิดกันแค่ไหน ทั้งคู่ก็ยังรักษาสัญญาที่ว่าจะเป็นเพียงเพื่อนกัน อรทัยรู้ข้อมูลของปิ่นมณีเรื่องจ็อบเป็นโสเภณีชั้นสูง จากการให้ข่าวของปรียะ(ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล) เพื่อนกินของสุธาวี จึงเอาเรื่องนี้มาบอกสุธาวี แต่สุธาวีกลับยอมรับปิ่นมณีได้ แต่อรทัยไม่ยอม สั่งลูกน้องไปดักทำร้ายปิ่นมณีหวังข่มขู่ให้เลิกกับสุธาวี แต่สุธาวีมาช่วยปิ่นมณีเอาไว้ได้ทัน สุธาวีโกรธจนลืมตัว บุกไปเอาเรื่องอรทัย และประกาศว่าปิ่นมณีต้องเป็นเจ้าสาวของเขา! ทำให้อรทัยแค้นมาก ศุวิลยังไม่ยอมรับศิวาเป็นพ่อ ทำให้อาการของศิวาทรุดหนัก อาภาจึงบอกความจริงกับศุวิล ว่าอรทัยขู่ฆ่าศุวิล เธอจึงต้องหนีออกมา ศุวิลจึงโกรธแค้นอรทัยมาก แต่พอฟ้าใสกับอาภาขอร้องให้ใจเย็น ศุวิลก็เย็นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อศิวารู้ว่าอรทัยส่งคนไปทำร้ายแก้วตาจนปางตาย เขาก็ยิ่งเสียใจที่ลูกสาวแท้ๆของเขามีจิตใจเหี้ยมโหด จึงตั้งใจจะไม่มอบอะไรให้อรทัยและสุธาวีแม้แต่แดงเดียว อรทัยยอมรับและยังบอกให้ศิวายกสมบัติให้สุธาวีทั้งหมด ไม่อย่างนั้น ตนจะไม่เอาอาภาและศุวิลไว้ ศิวาเป็นห่วงอาภาและศุวิล จึงยอมร่างพินัยกรรม ปิ่นมณีใช้มารยาปั่นหัวสุธาวีจนแตกหักกับอรทัยแล้วมาแต่งงานอยู่กับตน ส่วนบรรเจิดได้ขอแยกทางกับอรทัยถาวร ทำให้อรทัยแค้นใจมาก แต่เรื่องทั้งหมดยังไม่จบลงเท่านั้น เมื่อเดชบุกมากลางงานแต่งงานพร้อมปืนในมือเพื่อล้างแค้นแทนแก้วตา ปิ่นมณีเองก็แค้นแก้วตาที่ขายความลับที่เธอขายตัวให้ศุวิลรู้และทำให้ชีวิตเธอแทบพัง บทสรุปของเรื่องราวความรัก ความแค้น ความเกลียดชังราวกับลมพายุที่โหมกระหน่ำในใจของทุกคนจะจบลงอย่างไร และสายลมรักของฟ้าใสกับศุวิลจะพัดพาฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกันได้หรือไม่?

วุ่นนักรักหรือหลอก (2556/2013) คุณหญิงดวงเดือน (ดวงตา ตุงคะมณี) เศรษฐีนีเจ้าของธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งชื่อดังตรา คุณหญิง เกิดล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ เธอคิดว่าตัวเองอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ จึงหวนคิดถึงความผิดพลาดที่เป็นเหมือนตราบาปในชีวิต นั่นคือการจ้างตะวัน (สมชาย เข็มกลัด) ครูสอนเต้นรำเท้าไฟมาสอนเธอและพิมพ์ดาว (สโรชา วาทิตตพันธ์) ลูกสาวเพียงคนเดียว แต่กลับกลายเป็นเรื่องงามหน้า เมื่อพิมพ์ดาวลักลอบได้เสียกับตะวันจนตั้งท้อง ทั้งที่คุณหญิงได้หมั้นหมายเธอกับเจนธรรม (สันติสุข พรหมศิริ) หนุ่มนักกฎหมายอนาคตไกล ความโกรธทำให้คุณหญิงเฉดหัวลูกสาวเพียงคนเดียวออกจากบ้าน เพราะหวังว่าเมื่อลูกสาวค้นพบความเลวร้ายของตะวันเมื่อไหร่เธอคงกลับมา เวลาผ่านไปถึงยี่สิบปี พิมพ์ดาวไม่เคยกลับมาอีกเลย นุชา (พิชญะ นิธิไพศาลกุล) หลานชายที่คุณหญิงดวงเดือนรับมาอุปการะ จึงช่วยประกาศตามหาพิมพ์ดาวให้กลับมา ข่าวคุณหญิงตามหาลูกและหลานดังไปทั่วประเทศ จนรู้ถึงหูตะวันกับแสงหล้า (หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์) เมียใหม่ ตะวันเจ็บใจที่โอกาสจะรวยลอยมาตรงหน้า แต่เขาไม่มีทางคว้าไว้ได้อีก เนื่องจากพิมพ์ดาวกับลูกได้ตายไปเมื่อ 20 ปีก่อน จนกระทั่งตะวันได้เจอองุ่น (ขวัญฤดี กลมกล่อม) องุ่นเคยทำงานเป็นลูกมือและเป็นเพื่อนของพิมพ์ดาว และได้เห็นขนุน (เปาวลี พรพิมล) ลูกสาวขององุ่นที่มีวัยไล่เลี่ยกับลูกของตนกับพิมพ์ดาวที่ตายไป รวมทั้งความเจ้าเล่ห์แสนกลของขนุน เพื่อหาเงินมารักษาแม่ ตะวันจึงขอร้องให้ขนุนร่วมมือปลอมตัวเป็นทายาทคุณหญิงเพื่อไปรับมรดก ด้านไข่ข้าว (รณวีร์ เสรีรัตน์) ลูกชายเจ้าของบ้านเช่าเสนอให้ขนุนแต่งงานกับเขา เพื่อเขาจะได้ขอเงินแม่มารักษาแม่ยายได้ ขนุนไล่ตะเพิดไข่ข้าวไปแล้วปรึกษาเดอะแก๊งอันประกอบด้วยทองแท้ (กรวิชญ์ สูงกิจบูลย์) และจิ๋ว (สรัณวัชร วิเชียรณรัตน์) สองเพื่อนคู่หูต่างเห็นพ้องต้องกันว่าชีวิตแม่องุ่นนั้นสำคัญกว่า และค่ารักษาก็เป็นแค่เศษเงินของคุณหญิง จึงสนับสนุนให้ขนุนร่วมกระบวนการกับตะวัน เพื่อหลอกเงินจากคุณหญิงมารักษาแม่ การปรากฏตัวของขนุน มีเพียงนุชาคนเดียวที่สังหรณ์ใจว่าการมาของสองพ่อลูกคู่นี้ คงมาเพื่อปอกลอกคุณหญิงเป็นแน่ ทางฝั่งครอบครัวของเจนธรรม ซึ่งบัดนี้ได้กลายมาเป็นทนายประจำตระกูลของคุณหญิง เจนธรรมและอรอุมา (ภัสสร บุญเกียรติ) ภรรยา ต่างยุให้อธิป (กันต์ดนย์ อะคาซาน) ลูกชายมาดสุขุมนุ่มลึก หาทางพิชิตใจขนุน เพื่อจะได้มีส่วนร่วมในกองมรดก อธิปหนักใจเพราะแอบคบกับจิราภา (แอริน ยุกตะทัต) เลขาสาวสวย และเมื่อจิราภาได้เจอขนุน เธอก็มั่นใจว่าอธิปจะไม่มีวันเปลี่ยนใจจากเธอไปหาเด็กบ้านนอกอย่างนั้นได้ จึงยินยอมให้แฟนหนุ่มแกล้งหว่านเสน่ห์เพื่อให้ทายาทคุณหญิงหลงรัก ขณะที่นุชาเริ่มมีความรู้สึกดีต่อขนุน แต่กลับต้องมาผิดหวัง เพราะจับผิดขนุนได้ว่าไม่ใช่ทายาทตัวจริง ขนุนเองก็เสียใจยอมรับว่าเธอต้องการหาเงินไปรักษาแม่จริง ๆ และไม่เคยสบายใจเลยที่ต้องหลอกคุณหญิง ทั้งสองตัดสินใจจะบอกความจริงกับคุณหญิง แต่โรคหัวใจของคุณหญิงกำเริบเสียก่อน ทำให้นุชากับขนุนต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่ เพราะกลัวว่าคุณหญิงจะรับความจริงไม่ได้ สุดท้ายเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมได้ใน ละครวุ่นนักรักหรือหลอก