เลิฟสตรอเบอรี่ 2547

เลิฟสตรอเบอรี่ (2547/2004) เลิฟสตรอเบอร์รี่ เป็นเรื่องราวของสตรอเบอรี่ สาวน้อยวัยสดใส เธอเป็นนักเรียนมัธยมปลาย และเธอยังเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ และครู จึงไม่แปลกที่จะมีชายหนุ่มเข้ามาทักทายหัวใจ สุดยอด หนุ่มหล่อมาดเซอร์ ลูกชายคนเดียวของเศรษฐีโรงบ่มยาสูบ ที่แวะเข้ามาทักทายหัวใจของสตรอเบอรี่ มิตรภาพของทั้งคู่เริ่มต้นแบบไม่ค่อยดีนัก เมื่อสุดยอดโดนสามล้อมือดีลอกคราบและเอาไปทิ้งในถังขยะโรงเรียนสตรีที่สตรอ เบอรี่อยู่ สถานการณ์ก็พัดพาให้เขาเข้าไปยังห้องน้ำนักเรียนหญิง ซึ่งสาวๆ กำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอยู่ สุดยอดพยายามหาทางออกจากที่นั่น เขาจึงขโมยชุดนักเรียนมาใส่และปลอมตัวหนีออกไป แต่โชคร้ายที่เขาเจอกับสตรอเบอรี่ซะก่อน ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น สุดยอดจึงกลายเป็นไอ้โรคจิตในสายตาของสตรอเบอรี่ ติดตามต่อได้ใน เลิฟสตรอเบอรี่

แฝดพี่ฝาดน้อง 2547

แฝดพี่ฝาดน้อง (2547/2004) เรื่องราวของฝาแฝด 3 รุ่น ที่มีชีวิตผิดแผกกันดุจโชคชะตาเล่นตลก ชีวิตจึงล้มเหลว และการกระทำของตนส่งผลกระทบมาถึงรุ่นลูกหลาน แต่ชีวิตทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ ถ้ามีมือที่เข้มแข็งมีเมตตาโอบอุ้มด้วยความรักอย่างแท้จริง เสงี่ยมและสงัด สองสาวฝาแฝดที่เกิดมาหน้าตาสะสวยแต่ยากจน เป็นภรรยาลับๆของท่านนายพลอาทิตย์ด้วยกันทั้งคู่ ความมาแตกเอาเมื่อวันที่ท่านนายพลอาทิตย์จะเข้าพิธีแต่งงานกับคุณหญิง ปราศรัย ลูกสาวเศรษฐีและผู้ดีเก่า เพราะสงัดพาเสงี่ยมบุกเข้ามาอาละวาดกลางงาน สร้างความอับอายแก่คุณหญิงปราศรัยเป็นอย่างมากจนเกือบจะล้มพิธี แต่ป้าอ้วน คนสนิทของคุณหญิงปราศรัยห้ามเอาไว้ และแนะนำให้คุณหญิงปราศรัยยอมให้ท่านนายพลอาทิตย์พาเสงี่ยมและสงัดเข้ามา อยู่ร่วมชายคาบ้านด้วย เพราะดีกว่าปล่อยให้ท่านนายพลอาทิตย์ออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้าน คุณหญิงปราศรัยเลยให้เสงี่ยมและสงัดอยู่เรือนหลังเล็กในอาณาบริเวณบ้านประภา วิสิทธิ์ด้วยกัน ติดตามต่อได้ใน แฝดพี่ฝาดน้อง

เขยมะริกัน 2547

เขยมะริกัน (2547/2004) จอร์แดน หนุ่มนักการทูตชาวอเมริกันถูกบังคับให้แต่งงานกับ เบ็ตตี้ หลานสาวนักธุรกิจใหญ่ชาวอเมริกัน ด้วยเหตุผลของผู้ใหญ่เห็นว่าทั้งคู่นั้นเหมาะสมกัน ทั้งๆ ที่จอร์แดนไม่ได้รักเบ็ตตี้เลยสักนิด ทำให้จอร์แดนหนีไปใช้ชีวิตที่เมืองไทย โดยมี ?เคน? คนขับรถคู่ใจมาอยู่ด้วย จอร์แดนเปลี่ยนชื่อเป็น จอร์จ ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวซำเหมาอยู่แถวถนนข้าวสาร เขาโดนไกด์ผีหลอกเอาเงินไปจนหมดตัว จอร์จได้เจอกับ สนอง คนขับรถ 3 ล้อซึ่งกำลังถูกเจ้าหนี้ทำร้ายจึงเข้าไปช่วย สนองตอบแทนความมีน้ำใจโดยให้จอร์จและเคนไปอยู่ด้วยกัน สมจิตร เมียของสนองซาบซึ้งในความมีน้ำใจ ติดตามต่อได้ใน เขยมะริกัน

เก่งไม่เก่งไม่เกี่ยว 2547

เก่งไม่เก่งไม่เกี่ยว (2547/2004) ในช่วงเปิดเทอมของทุกปี แป๋ง มีภารกิจต้องเข้าบ่อน ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ชอบเล่นการพนัน แต่ต้องการหาเงินมาช่วยเด็กด้อยโอกาส ในชุมชนที่อยู่ในความดูแลของครูสายใจผู้เป็นแม่ โดยทุกอย่างทำไปอย่างลับๆ ครูสายใจอยากได้ที่ทำโรงเรียนให้เด็กแต่ก็เป็นได้แค่ความหวังอันเลื่อนลอย ไม่เหมือนบ่อนที่มีอยู่มากมายทั้งเล็กทั้งใหญ่ ครูสายใจเกลียดบ่อน เกลียดการพนันทุกชนิด โดยเฉพาะ “บ่อนสี่มุมเมือง” เกลียดโดยที่ไม่สามารถอธิบายให้แป๋งเข้าใจได้ แต่วันหนึ่งก็มีเหตุจำเป็นให้แป๋งต้องเดินเข้าบ่อนแห่งนี้ด้วยเหตุผลเพื่อช่วยราชการและเรื่องราวความวุ่นวายก็เลยเกิดขึ้น เดือนเมษายน ของทุกปี แป๋ง (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) กับหมูยอ (ลีโอ พุฒ) คู่หูวินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอยชุมชนน้ำใสใจดี มีภารกิจสำคัญคือเข้าบ่อน เพื่อใช้พรสวรรค์เรื่องโชคหาเงินจากบ่อน… สิ่งเหล่านี้แป๋งได้มาจากสายเลือดนักพนันผู้เป็นพ่อ “เซียนพนันพันมือ” (สันติสุข พรหมศิริ) และก็ได้ผลเสมอมาอย่างหาตัวจับได้ยาก เหตุผลที่แป๋งทำก็เพราะต้องการช่วยหาเงินค่าเทอมให้กับเด็กๆ ที่เรียนดีแต่ด้อยโอกาสในชุมชน ในความดูแลของครูสายใจ (ดวงใจ หทัยกาญจน์) แม่ของแป๋งและครูผู้ช่วยอย่าง แดงน้อย (พุ?ธชาด พงษ์สุชาติ) สิ่งที่แป๋งคิดอยู่ในหัวตลอดก็คือ “บ่อนในประเทศมีเยอะแยะมากมาย ถ้าเปลี่ยนบ่อนให้เป็นโรงเรียนได้ ประเทศชาติจะเจริญกว่านี้อีกเยอะ” แต่เมื่อโดนถามว่าจะไปไหน แป๋งจะตอบว่าไปบ่อน ไปฟอกเงินและในครั้งนี้ก็เหมือนกับทุกครั้ง แป๋งกับหมูยอก็เดินเข้าไปในบ่อน จังหวะที่แป๋งกับคู่หูหมูยอกำลังดวงขึ้นแป๋งก็ได้ยินเสียงคนคุม บ่อนคุยกันถึงเรื่องจะจัดการกับสายตำรวจคนนึงที่ปะปนเข้ามาทำทีเป็นขาพนัน เขารีบหาวิธีหนีเอาตัวรอด เป็นจังหวะที่แป๋งหลบหนีออกไปพร้อมกับตำรวจหนุ่มชื่อ แมน (ศินะ แพทย์รัตน์) โดนที่แป๋งไม่ลืมสั่งให้หมูยอโกยเงินมาให้หมด ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งของใจกลางกรุงเทพฯ พิม หรือพิมพ์มาดา (รามาวดี สิริสุขะ) ทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง ไม่เหมือน พัช ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพ่อ พี่ชายคนเดียวของพิม เธอน้อยใจ สับสนกับความรู้สึกที่พ่อมีต่อเธอ ซึ่งไม่เหมือนตอนที่แม่ยังอยู่ เธอไม่เคยรู้สึกว่าขาดความรักเลย ด้วยเพราะพ่อซึ่งมีเชื่อแบบจีนแท้ๆ ที่ใส่ใจแต่พัชด้วยหวังจะให้สืบทอดกิจการ พิมขับรถออกมาอย่างไม่มีจุดหมายเพื่อหนีปัญหา ด้วยความใจลอย ทำให้เธอเกือบเฉี่ยวครูสายใจ และหักหลบลงคูน้ำข้างทาง รถจมอยู่ในน้ำครึ่งคัน ครูสายใจเห็นแล้วสงสารเลยพามาเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำแผลที่บ้าน พิมประทับใจและรู้สึกแปลกๆ ต่อครูสายใจ เพราะตั้งแต่แม่ตายจากไปความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับพิม ด้าน แป๋ง หมูยอ และหมวดแมนสังเกตเห็นความเฉลียวฉลาดและความเจ้าเล่ห์ในตัวแป๋ง ทุกอย่างน่าจะราบรื่นถ้าหมูยอไม่อวดฉลาดคว้าเอาชิบในบ่อนออกมาแทนที่จะเป็นเงิน แป๋งกุมขมับ..และคิดลงมือหา เงินใหม่ แป๋งกลับมาถึงบ้านและเจอพิมเข้า ตอนแรกนึกว่าเข้าบ้านผิดแต่ดูยังไงๆ ก็เป็นบ้านแป๋งอยู่ดี จะแปลกก็ตรงที่มีผู้หญิงมาอยู่ในห้องนี่แหละ หัวใจแป๋งก็เต้นไม่เป็นส่ำ เพราะความสวยของพิม แต่เขาก็ไม่กล้าพูดไม่รู้เพราะอะไร ครูสายใจบ่นกับแป๋งว่าทำไมปีนี้มูลนิธิที่เคยช่วยยังไม่ส่งเงินค่าเทอมมาให้เด็กๆ อีก แป๋งอึกอักเพราะจริงๆ แล้วทุกอย่างแป๋งอยู่เบื้องหลังแป๋งปกปิดเรื่องเข้าบ่อนเพราะแม่ไม่ชอบ และแม่ก็บอกกับแป๋งเสมอๆ ว่า “บ่อนเป็นสิ่งไม่ดี และพ่อของแป๋งก็ตายในบ่อน” ในที่สุดแป๋งกับหมูยอก็ ตัดสินใจใช้วิธีเดิม คือบ่อน แต่แป๋งต้องเปลี่ยนไปยังบ่อนที่ใหญ่ขึ้น ความเสี่ยงสูงขึ้น ทำให้แป๋งกับหมูยอต้องวางแผนกันเป็นอย่างดีเพื่อความเนียน ความประทับใจระหว่างพิมกับครูสายใจในเรื่องโรงเรียนสอนเด็กในชุมชน พิมเอาเรื่องท่เกิดขึ้นไปเล่าให้พ่อฟัง แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้ามพ่อมองว่าเหลวไหล ซึ่งก็เป็นแรงผลักดันให้พิมลุกขึ้นสู้ เพื่อที่จะแสดงให้พ่อเห็นว่าเธอทำได้ ในขณะที่พิมอยากจะออกงานสังคมที่เพียบพร้อมไปด้วยเงินทอง แต่ เมย์ (คทรีนา กลอส) นักศึกษาสาวลูกป้าส้มเจ้าของร้านขายข้าวแกง กลับอยากที่จะไปอยู่ในสังคมไฮโซเพราะความทะเยอทะยาน เมย์ฝันเพียงแค่อยากแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหรูๆ ใช้ของราคาแพง เมย์ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอจน เธอรังเกียจสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเธอรวมทั้งแม่ด้วย นั่นทำให้เมย์ไม่เป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านโดยเฉพาะครูแดงน้อย ยกเว้นหมูยอที่หลงรักเมย์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แล้ววันหนึ่งเมย์ก็พลาดท่าขายตัวให้กับเสี่ยคนหนึ่ง เพียงแค่แลกกับของหรูหราราคาแพง เมย์ติดโรคและคนที่เข้ามาช่วยเหลือเมย์ก็คือแดงน้อย แดงน้อยสอนเมย์ให้รู้จักโลกอีกด้านหนึ่งซึ่งมีแต่สิ่งที่ดีงามกว่า ส่วนหมูยอ เมย์ก็ได้เห็นความจริงใจที่หมูยอมีให้ แต่เมย์ก็รับหมูยอได้แค่เพื่อนเท่านั้น งานอดิเรกอย่างหนึ่งของแป๋งกับหมูยอ ก็คือการไปร่วมเล่นไพ่ตองกับคนแก่ในชุมชน ที่มีขาประจำอย่าง ป้าเอียด ป้าแต๊ว ลุงทอง เพื่อนซี้ต่างวัยของแป๋ง เขามักแกล้งเล่นแพ้เพื่อให้คนแก่เหล่านั้นได้เงิน และไม่ใช่แค่คนแก่เท่านั้นที่เรียกร้องให้แป๋งเล่นด้วย ยังมี เฮียหมง(ซูโม่ เป๊บซี่) นักเลง ประจำซอยที่ชอบรีดไถเงินจากชุมชน ทางด้านพิมก็อยากจะทำตัวให้มีประโยชน์กับชุมชน แดงน้อยเสนอให้พิมมาช่วยสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ แค่วันแรกของการเป็นครูฝึกสอน เด็กๆ ก็ติดกันเกรียว ชื่อเสียงของพิมเลื่องลือระบือไกลจนไปเข้าหูเฮียหมง ทันทีที่เฮียหมงเจอพิมก็ตกหลุมรักในทันที เฮียหมงพยายามทำตัวเป็นคนดีเพื่อพิม และเสนอหน้ามาขอนั่งเรียนด้วย ด้านแป๋งยังคงไม่กล้าพูดกับพิมแต่แอบซ้อมทำเป็นทักทายหน้ากระจก จนกระทั่งวันหนึ่งแป๋งเห็นชายหนุ่ม หน้าตาดีมารับมาส่งพิม ด้วยแรงหึงทำให้แป๋งพลั้งปากกระแหนะกระแหนพิมออกไป ด้วยความหัวเสียบวกที่ไม่ได้พิมมาเป็ยเมียซะที ทำให้เฮียหมงวางแผนฉุดพิม แต่ แป๋ง หมูยอและชาวบ้านมาช่วยพิมได้ทันก่อนที่จะเสียตัว เรื่องไม่ได้หมดแค่นั้น เมื่อครูสายใจถูกรถชนอาการสาหัส ตั้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก พิมเอาเงินค่ารักษาครูสายใจมาให้แป๋งในเบื้องต้น แต่ความซวยก็มาเยือนแป๋งกับหมูยอ เมื่อศัตรูจากบ่อนเก่าเจอและจำได้ว่าแป๋งคือคนที่ร่วมก่อปัญหาในบ่อน ทั้งคู่ตกในที่นั่งลำบากแต่ด้วยความฉลาดของแป๋ง แป๋งลากหมูยอเข้าโรงพักมอบตัวให้ตำรวจในข้อหาลักทรัพย์ (แจ้งความเท็จ) เพื่อหนีพวกมาเฟีย ขณะเดียวกันหมวดแมน….ก็กำลังจะถูกปลดเพราะผลงานไม่เข้าตา หมวดแมนออกมาเจอแป๋งกับหมูยอ เขารีบเข้าไปยื่นข้อเสนอการเป็นสายให้ตำรวจกับแป๋ง 2 คู่หูปฏิเสธทันทีเพราะไม่อยากยุ่งกับพวกสีกากี ไม่ว่าหมวดแมนจะพูดยังไงแป๋งก็ไม่ยอม ด้านครูสายใจอาการทรุดหนักต้องผ่าตัดอีก แต่ครั้งนี้ต้องใช้เงินมากกว่าครั้งแรก แป๋งตัดสินใจเป็นสายให้หมวดแมน และแล้วภารกิจสายสืบก็เริ่มขึ้น โดยเริ่มเรื่องจากบ่อนสี่มุมเมือง บ่อนสี่แห่งของเจ้าพ่อกระจับทอง แป๋งไม่ได้ทำให้หมวดแมนผิดหวังเพราะข้อมูลที่เขาสืบมาได้ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น หมวดแมนคิดหนักถึงวิธีที่จะผ่านเข้าไปในบ่อนวิธีที่ดูจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ ปลอมตัวแป๋งและหมูยอเป็นนักธุรกิจ แป๋งขอร้องให้พิมช่วยปลอมตัวเป็นเลขาเพราะพิมพูดภาษาอังกฤษคล่อง ส่วนหมูยอเป็นบอดี้การ์ด แป๋งรายงานความคืบหน้า หมวดแมนวางกำลังตำรวจเข้าจับกุมบ่อนที่หนึ่ง แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะเจ้าพ่อกระจับทองไหวตัวทัน เมื่อครั้งนี้พลาด แต่ไม่ต้องห่วง เพราะแป๋งมีแผน “ในเมื่อกฏหมายทำอะไรมันไม่ได้ แต่ลูแป๋งคนนี้ทำได้” แผนของแป๋งก็ คือการทำให้เจ้าพ่อกระจับทองหมดตัว และแผนนี้ลูแป๋งพลาดไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว การปฏิบัติภารกิจของแป๋งดำเนินมาจนถึงบ่อนสุดท้าย นั่นก็คือ “บ่อนกระจับทอง” บ่อนยักษ์ใหญ่ที่มีเงินทุนหนาที่สุด แป๋ง หมูยอ พิม เข้าไปในบ่อนพร้อมกับฝากคำท้าทายไปถึงเจ้าพ่อกระจับทอง ว่าถ้าไม่อยาก ให้บ่อนฉิบหายเป็นแห่งที่สี่ก็ให้ออกมา แต่ด้วยความเก๋าของเจ้าพ่อกระจับทอง จึงส่งตัวแทนออกมาดูฝีไม้ลายมือแป๋งถึงสองคน แต่ทั้งสองคนก็ต้องพ่ายแป๋งราบคาบ เจ้าพ่อกระจับทองตัวจริงจึงโผล่ออกมา แป๋งจะเล่นชนะเจ้าพ่อกระจับทองและทำในสิ่งที่เขาหวังมาทั้งชีวิตได้หรือไม่ แล้วชีวิตของแป๋งยิ่งเรื่องความรักของเขากับคุณพิม และชุมชนน้ำใสใจดีจะเป็นอย่างไรต่อไป ติตตามได้ใน “เก่งไม่เก่ง…ไม่เกี่ยว”

หวานใจไทยแลนด์ 2547

หวานใจไทยแลนด์ (2547/2004) หวานใจ หรือ หวาน ( คัทลียา แมคอินทอช ) สาวน้อยเจ้าของตำแหน่งนางงามบั้งไฟพญานาค เดินทางมาอยู่กรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ โดยอาศัยอยู่กับลูกเพื่อนบ้านคือ คิมหันต์ หรือ คิม ( ศรราม เทพพิทักษ์ ) เด็กบ้านนอกที่เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็ก ด้วยสังคมที่ต้องดิ้นรนทำให้เขาเป็นคนกะล่อน หลอกลวง หาเงินเลี้ยงชีพด้วยวิธีที่ไม่ค่อยจะสุจริตนัก ครั้งแรกที่หวานเจอคิมก็โดนคิมหลอกว่าตัวเองเป็นตำรวจสายลับ ซึ่งหวานหลงเชื่อและศรัทธาในตัวคิมมาก พยายามทำดี ดูแลปรนนิบัติคิมทุกอย่าง จนคิมกับ 2 คู่ซี้ ปาน ( ชัชชัย จำเนียนกุล ) และบี้ ( อรรถกร สุวรรณราช ) อยู่อย่างสบายประหนึ่งมีคนรับใช้ในบ้านเลยทีเดียว อยู่ไปสักพักคิมพาหวานไปฝากให้ทำงานในโรงงานของคุณปรุง ( ปิยะ วิมุกตายน ) หนุ่มผู้กำกับหนังไทยสไตล์อาร์ต ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงเศวตาภรณ์ ( อาภาพร กรทิพย์ ) โดยมีเจ๊เล็ก ( จรรยา ธนาสว่างกุล ) หัวหน้าขึ้ประจบ ขี้อิจฉา คอยดูแลหวาน คิมมีโอกาสได้ไปกองถ่ายที่คุณปรุงทำงานอยู่ และได้เจอนางเอกภาพยนตร์ของคุณปรุงชื่อน้องวุ้น ( ชนกวนัน รักชีพ ) คิมโดนใจใจความสวย น่ารักของน้องวุ้นมาก และประจวบเหมาะว่าขณะนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่มีการประกวดนางนพมาศพอดี คิมเลยติดต่อและส่งน้องวุ้นเข้าประกวดโดยให้หวานเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด จนหวานเปรียบเสมือนคนรับใช้ของน้องวุ้นไปโดยปริยาย แต่โอกาสนี้ทำให้หวานได้ใกล้ชิดกับวงการนางงามมากขึ้น จนสนิทสนมเจ๊ได๋ ( อรนภา กฤษฎี ) กระเทยเมคอัพอาร์ตติสฝีมือเยี่ยมที่มารับหน้าที่เป็นครูฝึกนางงามให้กับการประกวดครั้งนี้ เท่านั้นไม่พอหวานยังถูกเจ๊ได๋เรียกให้ไปเป็นตัวอย่างในการสอนบุคลิกภาพและมารยาทในการเข้าสังคมกับนางงามอีก เลยทำให้หวานได้ปรับบุคลิกกิริยามารยาทของตัวเองกลายเป็นหญิงสาวที่มีบุคลิกภาพสง่างามอย่างบังเอิญ

สมปองน้องสมชาย 2547

สมปองน้องสมชาย (2547/2004) ลินดาและพัณณิณ สองเพื่อนรักที่คบหากันมาตั้งแต่เด็ก ต้องมาอกหักและตกงานพร้อมกันในวันวาเลนไทน์ ทั้งคู่พากันดื่มฉลองจนเมามาย เผลอตัวเดินปล่อยอารมณ์ไปถึงแหล่งหากินของบรรดาโสเภณีจรจัด ทั้งคู่จึงถูกตำรวจจับกุมข้อหาค้าประเวณี และจะพ้นข้อหาได้ต่อเมื่อญาติมารับ แต่ทั้งสองไม่ต้องการให้คนในครอบครัวมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ สองสาวจึงถูกเสนอให้เป็นสายลับทำงานแลกกับอิสรภาพ สารวัตรเชี่ยวชาญจับสองสาวแปลงกาย เป็นหนุ่มน้อย สมปองน้องสมชายเข้าไปสืบคดีการตายของมงกุฎ เพชรอุทัย นักร้องลูกทุ่งค่ายทูเอมิวสิกของเสี่ยอุทัย ลินดาต้องปลอมเป็นสมปอง และพัณณินปลอมเป็นสมชายเข้าไปสมัครเป็นหางเครื่องชายในค่ายทูเอมิวสิก สมปองกับสมชายทำให้หางเครื่อง สาว ๆ ของนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างเทวา ราชเทวัญ แทบจะตบตีกันจนวงแตกเพราะหลง ใหลในความหล่อเหลา ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นที่เหม็นขี้หน้าของกันต์ธร นครพรหม นักร้องดาวเด่นของค่ายที่เคยติดอันดับรูปหล่อทรมานใจสาว ๆ มานาน บูรณัสผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ ไม่ค่อยชอบหน้าสมปองกับสมชายนัก พยายามหาทางกำจัดสองหนุ่มให้พ้นไปจากกองถ่ายแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะทุกคนพากันให้ความช่วยเหลือสองหนุ่ม โดยเฉพาะบริบูรณ์กับวรรณี พ่อแม่ของบูรณัสที่ดูท่าจะถูกชะตากับสองหนุ่มเป็นอย่างมาก ลินดากับพัณณิณแอบได้ยินกันต์ธรโทร ศัพท์คุยกับเสี่ยพิมานเรื่องที่กันต์ธรจะลาออกจากทูเอมิวสิกไปเป็นนักร้องให้กับค่ายเดอะฟิวเจอร์ จึงรีบแจ้งข่าวให้สารวัตรเชี่ยวชาญกับหมวดยุทธิยงรู้ มิวสิกวิดีโอของเทวาที่บูรณัสกำกับได้รับความนิยมจากแฟนเพลงเป็นอย่างมาก ลัทธิกับพัลลภน้องชายและคู่หมั้นของลินดาเห็นมิวสิกฯก็จำได้ จึงยกขบวนครอบครัวมาตามหาลินดาที่ค่ายทูเอมิวสิก ดีที่โรสิตาเข้ามาเบี่ยงเบนความสนใจไปได้ก่อน พัลลภตกตะลึงกับความสวยของโรสิตาเฝ้าพรํ่าเพ้อด้วยความ ชื่นชม จนโรสิตาหลงเคลิ้ม กันต์ธรแอบเอายาบ้าไปใส่ไว้ในกระเป๋าสูทของเทวาแล้วโทรฯแจ้งให้ตำรวจมาจับกลางงานแถลงข่าวเปิดตัว เสี่ยอุทัยระงับงานเพลงของเทวาทันที ขณะเดียวกันพอลลีนลูกสาวเสี่ยพิมานเห็นมbวสิกฯของเทวาคิดอยากได้เทวามาเป็นคู่ครองและมาเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งของค่าย จึงได้ไปทาบทามเทวาให้มาเป็นนักร้องของค่าย สารวัตรเชี่ยวชาญกับหมวดยุทธิยงเลยให้เทวากับสมชายลาออกจากทูเอมิวสิกไปอยู่เดอะฟิวเจอร์ ทั้งคู่ถูกรุมประณามว่าเนรคุณ คงมีเพียงแอนนี่เท่านั้นที่รู้ความจริงเกี่ยวกับแผนการนี้ พิสมรหางเครื่องในค่ายประกาศก้องว่าท้องกับสมปอง บูรณัสโกรธมาก เผลอตัวต่อว่าสมปองอย่างรุนแรง สมปองจึงตัดสินใจประกาศให้ทุกคนรู้เรื่องที่เธอคือลินดาและเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่เกิด บูรณัสดีใจที่สมปองเป็นผู้หญิง แต่ก็โกรธที่ถูกสมปองหลอกมาตั้งแต่ต้น จึงพยายามตัดใจและตัดความรู้สึกที่มีต่อสมปอง กันต์ธรรีบขอลาออกจากค่ายทูเอมิวสิกเพื่อไปอยู่ที่เดอะฟิวเจอร์ ขณะที่เสี่ยพิมานตัดสินใจให้เทวาเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งของค่าย และเตรียมตัวเป็นว่าที่ลูกเขย ด้วยความแค้นกันต์ธรจับตัวพอลลีนไป เทวากับสมชายตามไปช่วยแต่ก็ถูกกันต์ธรจับตัวไว้ได้ เสี่ยพิมานตามไปช่วยลูกสาว กันต์ธรตัดสินใจยิงเสี่ยพิมานแต่พอลลีนเอาตัวเข้าไปบังกระสุนไว้ เสี่ยพิมานจึงให้ปืนยิงกราดใส่กันต์ธร อย่างบ้าคลั่ง กันต์ธรพยายามจะยิงปืนใส่เทวา แต่สมชายกระโดดเข้ารับกระสุนแทน ทำให้เทวา รู้ว่าสมปองเป็นผู้หญิง กันต์ธรสิ้นใจตายคาที่ ส่วนเสี่ยพิมานถึงกับเป็นบ้าต้องเข้ารับการบำบัดในสถานบำบัดผู้ป่วยโรคจิต หลังเหตุร้ายผ่านไป ความสุขสดใสก็เข้ามาแทนที่ ทุกคนในค่ายทูเอมิวสิกเข้าใจในตัวลินดากับพัณณิณ แอนนี่ตกลงรับหมั้นหมวดยุทธิยง ขณะที่โรสิตาก็ตัดสินใจเป็นเถ้าแก่เนี้ยร้านขายทองของพัลลภ พัณณินตัดสินใจแต่งงานกับเทวา บูรณัสก็ตัดสินใจให้บริบูรณ์กับวรรณีไปสู่ขอลินดาให้

อย่าบังคับข้าให้ใหญ่ 2547

อย่าบังคับข้าให้ใหญ่ (2547/2004) คนเรา วันดีคืนดี ก็มีใครไม่รู้ มายกตำแหน่ง “เจ้าพ่อ”ให้โดยที่เขาไม่ทันตั้งหลัก ชีวิตมันก็ต้องหกคะม่ำคว่ำคะเมนกันบ้างเป็นของธรรมดา “หงส์”ก็คือ “หงส์” “กา” ก็คือ “กา” ต่อให้ย้อมสีขนาดไหน สักวันลายเดิมมันก็ต้องโผล่ออกมาวันยังค่ำ บุญล้อมพยายามจะทำหน้าที่ “ทายาทเจ้าพ่อ”เต็มที่ แต่ลูกอีสานทำได้ดีที่สุดก็แค่ทายาทกำมะลอไม่เข้าท่า เกือบจะทำเรื่องแตกตั้งหลายครั้งหลายครา ผลสุดท้าย บุญล้อมก็ขอถอดหน้ากากกำมะลอทิ้ง ขอกลับไปเป็นบักบุญล้อมคนเดิมเสียที

แตงสากับอาฉี 2547

เรื่องย่อ : แตงสากับอาฉี (2547/2004) แตงสา(ศิริลักษณ์ ผ่องโชค) สาวสวยลูกอีสาน สู้ชีวิต ขยันอดทนช่วยแม่ขายส้มตำ หาเงินเลี้ยงพี่น้อง แตงสามีฝีมือในการทำส้มตำ มีลูกค้าอุดหนุนมากมาย แต่เมื่อถึงวันประกวดตำส้มตำประจำจังหวัด แตงสาก็โชว์ฝีมือเต็มที่เพราะหวังตำแหน่งชนะเลิศเพื่อจะได้แผงขายส้มตำในตลาดฟรี แต่แล้วฝันของเธอก็สลายเมื่อคณะกรรมการตัดสินให้ชบา ( สุวัจนี ไชยมุสิก ) แม่ค้าส้มตำคู่แข่งเป็นผู้ชนะ งานนี้ทำให้แตงสารุ้สึกโกรธอาฉี หรือ ฉัตรชนก ( อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล ) หนึ่งในคณะกรรมการเพราะความที่กินส้มตำไม่เป็น แล้วตัดสินส่งเดช ทำให้ชบาชนะเลิศไป พอเสร็จงานแตงสาก็เลยสั่งสอนด้วยการเอาปลาร้าสาดใส่ทั้งชบาและอาฉี แตงสา และ น้อง ๆ คือ บัวจันทร์ (มนชญา ศรีสวัสดิ์) และ คำหล้า ( สัจจากาจ จิตรพึงธรรม ) กลับบ้านอย่างอ่อนล้าไปเจอนางสาย ( อำภา ภูษิต ) ผู้เป็นแม่นอนโทรมเจ็บปวดเพราะโดนนายคำ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) พ่อเลี้ยงทุบตี หล้าออกไปตามหมอพอดีนายคำดื่มเหล้ากลับมา ตบตีแตงและแม่สายอีก ทั้งยังจะข่มขืนแตงสา นางสายจึงเอามีดแทงนายคำ แต่โดนนายคำแทงกลับจนเสียชีวิต ก่อนจะหนีเตลิดไปสิ้นแม่ไปคนแล้วแตงสาก็ตั้งใจทำมาหากินเพื่อส่งเสียน้อง ๆ ให้เล่าเรียนจนจบแต่นาง สำเรียง (ณ หทัย พิจิตรา) พี่สาวคนโตก็ยังทำร้ายน้อง ๆ อีกด้วยการขโมยเงินที่เก็บสะสมไว้ พร้อมเงินค่าเช่าบ้านหนีไปอยู่กรุงเทพ ฯ กับสามีคือ หาญ (โจโจ้ หลุยส์ ไมอ๊อกซี่) แตงสากับน้อง ๆ ไม่มีทางเลือก ก็เลยเก็บข้าวของไปหาสำเรียงที่บ้านหาญบังคับขออยู่ด้วยไม่อย่างนั้นจะตามเจ้าหนี้ของสำเรียงให้มาจับเข้าคุก สำเรียงจำยอม แต่ก็คิดแผนร้ายไว้ในใจ แตงสามาอยู่กรุงเทพ ฯ ตระเวณหหาร้านเช่าขายส้มตำ ก็ไปถูกใจร้านส้มตำของเฮียเป็ด (กฤตย์ อัธรเสรี) ซึ่งเอมี่ (กมล ภู่วัฒนวนิชย์) กับ น้ำพอ (พุทธชาด พงษ์สุชาติ) เช่าขายอยู่ ซึ่งติดกับรั้วบ้านของอาฉีต่อมาเอมี่มีเรื่องทะเลาะกับอาฉี อีกทั้งร้านไม่ค่อยมีลูกค้าจึงตัดสินใจไม่เช่าขายต่อ แตงสา จึงขอเช่าต่อ โดยให้หาญช่วยพูดให้ เพราะเป็นลูกน้องของเฮียเป็ดด้วย เฮียเป็ดยินยอมให้แตงสาเช่าร้าน ขณะเดียวกันก็หวังได้ตัวแตงสาด้วย แตงสาเช่าร้านเฮียเป็ด แต่ขายไม่ดีเหมือนเดิม ก็เลยตัดสินใจไปตั้งรถขายส้มตำหน้าโรงงานของอาฉี ขายดิบขายดีเพราะฝีมือแตงสาไม่เป็นรองใคร เหมยฮัว (ศนันท์ธร รักษ์อลงกต) น้องสาวอาฉี ก็เป็นลูกเจ้าประจำ สั่งไปกินที่บ้านบ่อยๆ อาม้า (ดวงใจ หทัยกาญจน์) ก็ชอบฝีมือแตงสาแตงสาขายดีจนมีลูกค้ามาอุดหนุนที่ร้านของเธอหนาแน่นขึ้น ไม่ต้องไปขายหน้าโรงงาน แต่อาฉีก็ทำท่าไม่พอใจ เพราะเคยโดนแตงสาแกล้ง ตำส้มตำรสจัดจนเขาท้องเสีย สุดท้ายด้วยความหมั่นไส้ อาฉีจึงสั่งไม่ให้คนในโรงงานไปกินส้มตำร้านแตง สาทำให้ ยอด (เกริก ชิลเลอร์) หัวหน้าคนงาน ซึ่งจีบแตงสาอยู่ ไม่พอใจมาก ทำการประท้วงเรียกค่าแรงเพิ่มอาฉีหัวหมุนต้องไกล่เกลี่ยจนม๊อบสลาย ข้อเสนอสุดท้ายของคนงานคือต้องยอมให้คนงานไปกินร้านแตงสาได้ ทำให้อาฉีรู้ว่าต้นเหตุคือแตงสานั่นเอง สำเรียงกับหาญ ร่วมมือวางแผนชั่วเอาแตงสาไปประเคนให้เฮียเป็ด แตงสาโดนมอมยาเกือบจะเสียทีเฮียเป็ดในคาราโอเกะ แต่อาฉีกับเพื่อนคือ ไกร (แดนนี่ ศรีภิญโญ) และภาคี (สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ) ไปช่วยได้ทัน แตงสามองอาฉีในแง่ดีขึ้น เจ๊จวง (จรรยา ธนาสว่างกุล) เมียของเฮียเป็ดพาลูกน้องมาอาละวาดทำลายข้าวของที่ร้านแตงสาด้วยความหึงหวงเพราะเห็นเฮียเป็ดมาติดพันแตงสาอยู่ อาฉีมาช่วยและเล่าความจริงให้เฮียเป็ดฟัง เจ๊จวงจึงยอมพาลูกน้องกลับไปอาฉีกับแฟนสาว ยอดปรารถนา ( เมย์ เฟื่องอารมณ์) บางครั้งก็สวีทหวาน แต่บางครั้งก็มีความแตกต่าง และช่องว่างความคิดที่ไม่เหมือนกันยอดปรารถนาชอบออกงานสังคม ฟุ้งเฟ้อ แม่ของเธอคุณทูนหัว ( ดวงตา ตุงคะมณี ) มีธุรกิจเครื่องสำอางค์ มีงานเปิดตัวสินค้าบ่อยๆ อาฉีจำต้องไปงานสังคมอย่างเสียไม่ได้ ทั้งที่ไม่ชอบ สุดท้ายก็มีเรื่องทะเลาะกัน อาฉีกินเหล้าเมามาย แตงสาพูดจาให้ สติ ทำให้อาฉีได้คิดและกลับไปขอคืนดีกับยอดปรารถนา อาฉีกับแตงสาสนิทสนมกันมากขึ้น บางครั้งอาฉีถึงกับบอกเล่าปัญหาของเขากับยอดปรารถนาให้ฟัง แตงสาให้เหตุผลที่ดีจนอาฉีรู้สึกทึ่งในความคิดของแม่ค้าขายส้มตำ แต่ยอดปรารถนาเห็นอาฉีอยู่กับ แตงสาก็หึงหวง แตงสาจึงพยายามถอยห่างเพราะไม่อยากแย่งแฟนคนอื่น อีกทั้งกลัวใจตัวเองที่เริ่มแอบรักอาฉีเข้า แล้ว หล้ากับเหมย เรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกัน ทั้งคู่ต่างรู้สึกดีต่อกัน อาฉีไปเห็นทั้งคู่สนิทสนมกัน ก็สั่งห้ามไม่ให้เหมยติดต่อด้วยแต่เหมยดื้อรั้น ยังคงติดต่อหล้าตลอด ชบาย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นนักร้องอยู่ผับของเจ๊จวง มีเสี่ย ๆ สนใจรวมทั้งเฮียเป็ดด้วย ชบาหวังอาศัยเงินและบารมีเฮียเป็ด จึงยอมเป็นเมียเก็บ อีกทั้งยังมีสัมพันธ์กับหาญด้วย ส่วนแตงสาโดนเฮียเป็ดบีบเรื่องร้านส้มตำ แล้วยังพี่เขยกับพี่สาวคือหาญและสำเรียงยังคอยกลั่นแกล้งมาแย่งการค้ากันอีก จึงตัดสินใจเลิกเช่าร้านมาขอความช่วยเหลือจากอาฉี ขายของหน้าโรงงานอาฉี กิจการเป็นไปด้วยดี อาฉี สับสนในความรู้สึกตัวเอง ว่าระหว่างยอดปรารถนากับแตงสา เขารักใครกันแน่ อาฉียอมรับว่าตัวเองยังติดกับธรรมเนียนเก่าที่ต้องมีเมียเชื้อสายดี ตระกูลดี เพื่อหน้าของตระกูลสืบไป อาฉีสับสนไปหมด ขณะเดียวกันความรักที่มีต่อยอดปรารถนาก็ลดน้อยลงทุกวัน หาญกับสำเรียงวางแผนแกล้งแตงสาอีก ด้วยการผสมยาสมุนไพรให้แตงสากิน ทำให้หน้ามืดไม่สบาย ตำส้มตำผิดๆถูกๆ แล้วยังทำให้คนงานในโรงงานอาฉีท้องเสียอีก อาฉีจำต้องให้แตงสาไปขายส้มตำที่อื่นแตงสาไปหาเจ๊จวงขอขายส้มตำในผับ เจ๊จวงเห็นความตั้งใจจริงของแตงสาจึงยอมช่วยเหลือ แต่ชบา เอมี่ และน้ำพอ เห็นคู่แข่งอย่างแตงสาได้รับการยอมรับจากเจ๊จวงก็คอยกลั่นแกล้งหาเรื่องตลอด แต่ทำไรไม่ได้ อาฉีตัดสินใจแต่งงานกับยอดปรารถนาเพื่อความเหมาะสมและความเห็นชอบของผู้ใหญ่ สร้างความเสียใจให้แตงสามาก จึงไม่เป็นอันทำอะไร ความสัมพันธ์ของชบากับเฮียเป็ดถูกเจ๊จวงจับได้ ควงปืนไปยิง แต่สุดท้ายเจ๊จวงพลัดตกบันไดจนเป็นอัมพาต ชบาซึ่งท้องกับหาญ ก็เลยขอให้หาญรับผิดชอบ แต่หาญกลัวสำเรียงรู้เรื่อง จึงไม่ยอมจัดการอะไร ชบาจึงวางแผนจับหล้าให้เป็นแพะรับบาป หล้ามีความสัมพันธ์กับชบาหลายครั้ง พอชบาบอกว่าตั้งท้อง หล้าจึงปฏิเสธไม่ออก เหมยรู้เรื่องเสียใจมาก หล้าก็เสียใจเอาแต่กินเหล้า แต่ชบาไม่สนใจขนข้าวของมาอยู่บ้านเดียวกับแตงสา โดยแตงสาสังเกตเห็นว่าชบากับหาญสนิทสนมกันมาก และดูหาญห่วงใยลูกในท้องของชบายิ่งกว่าหล้าซึ่งเป็นพ่อเสียอีก ชบาคลอดลูก สำเรียงเห็นหาญพะเน้าพะนอดูแลชบา ได้รู้ความจริงว่าหาญ เป็นพ่อของเด็กในท้องก็เลยควงปืนไปขู่หาญและชบาให้สารภาพความจริงทั้งหมด หล้ารู้เรื่อง หาญแย่งสำเรียงและตัดสินใจหนีไปใช้ชีวิตกับชบาและลูก แตงสาคอยไปดูแลเจ๊จวงที่บ้านเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ ส่วนอาฉีแต่งงานกับยอดปรารถนได้ไม่นานยอดปรารถนาก็มัวแต่ออกงานสังคม ไปช่วยธุรกิจทำเครื่องสำอางของแม่แล้วยังขอเงินอาฉีไปลงทุนหลายล้านบาท อาฉียังไปตามตอแยแตงสาที่ผับเจ๊จวง เฮียเป็ดโมโหที่อาฉีคอยขัดขวางเขาเรื่องแตงสา ก็เลยสั่งมือปืนไปยิงอาฉีที่หน้าผับ อาฉีโดนยิงที่ขาบาดเจ็บไม่มากแต่ต้องการลองใจยอดปรารถนาและแตงสา จึงร่วมมือกับภาคีหลอกทุกคนว่าตัวเองกลายเป็นคนพิการ ยอดปรารถนารู้เรื่องเริ่มตีตัวออกห่างไม่สนใจสามี ในขณะที่แตงสาคอยมาดูแลอาฉีอย่างดี สุดท้ายยอดปรารถนาทนไม่ไหวขอหย่ากับอาฉี ซึ่งอาฉีก็เต็มใจ เพราะรู้ใจตัวเองแล้วว่าคนที่เขารักที่สุด และเธอเองก็รักเขาด้วยเช่นกันก็คือแตงสา แต่แตงสาเมื่อรู้ความจริงว่าอาฉีหลอกเธอมาตลอด ก็ไม่ยอมพบหน้าอาฉีอีก ความรักของแตงสากับอาฉีจะลงเอยอย่างไร

ขุมทรัพย์อมตะนคร 2547

ขุมทรัพย์อมตะนคร (2547/2004) โยธิน ราชอิงควัตร (สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ได้เดินทางเข้าป่าเพื่อตามหาเมืองแห่งพุทธะ เมืองลึกลับในตำนาน เพื่อสานฝันของภรรยาสุดที่รักซึ่งเป็นนักโบราณคดีให้เป็นจริง เขาออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าป่าต้องห้ามทิ้งให้ เฌอปรางค์ (เจนสุดา ปานโต) ทายาทสาวคนเดียว เป็นผู้ดูแลกิจการแทน โยธา (ทองขาว ภัทรโชคชัย) น้องชายของโยธิน มีแผนฮุบสมบัติ จึงจ้างทหารรับจ้างตามไปฆ่าโยธินในป่า ทหารรับจ้างฆ่าลูกหาบเสียชีวิตส่วนโยธินหนีไปได้จนพบถ้ำที่เป็นปากทางเข้า เมืองแห่งพุทธะและผ่านเข้าไปจนถึงเมืองแห่งพุทธะที่สุขสงบแล้วหมดสติไป ส่วนพวกทหารรับจ้างด้วยความละโมบโลภเมื่อเห็นสมบัติในถ้ำทำให้ถูกวิญญาณของ ผีหลวงที่ปกปักรักษาเมืองลึกลับทำร้ายจนเสียชีวิตทั้งหมด ทางกรุงเทพฯ โยธาฉวยโอกาสที่โยธินหายเข้าป่าวางแผนยักยอกเงิน แต่เฌอปรางค์ขัดขวางไว้สร้างความไม่พอใจให้โยธา วันหนึ่งเฌอปรางค์ได้ข่าวจากสรวงทนายประจำตระกูล ว่ามีคนพบศพลูกหาบของโยธิน ทั้งโยธาและศรีวรางค์ (วิยะดา อุมารินทร์) อาสะใภ้ของเฌอปรางค์เป็นภรรยาของโยธีน้องชายคนเล็กของโยธิน ปิ่นแก้ว (จุฬาลักษณ์ กฤติยารัตน์) ลูกสาวของศรีวรางค์ และญาติคนอื่นๆ ที่หวังในสมบัติของโยธิน ต่างก็เชื่อว่าโยธินตายแล้วและเร่งรัดให้สรวงเปิดพินัยกรรม..ยกเว้น เฌอปรางค์ที่ยืนกรานว่าจะออกตามหาพ่อ..สรวงอยากช่วยเฌอปรางค์จึงโกหกว่า โยธินได้นำเอาพินัยกรรมติดตัวไปด้วย ทุกคนจึงคิดจะติดตามเฌอปรางค์ไปตามหาโยธิน รวมทั้งธนาคาร (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) คู่หมั้นหนุ่มของเฌอปรางค์ก็คิดจะติดตามเธอไปด้วย แม่อบ (มาเรียม คำเมือง) แม่นมของเฌอปรางค์ขอให้ บารมี (คงกระพัน แสงสุริยะ) ลูกชายซึ่งเป็นนายทหารพรานฝีมือดีนำทางให้ และขอตามไปดู้แลเฌอปรางค์ในป่าด้วย บารมีแนะนำว่านายพรานผู้เก่งกล้าพอที่จะนำทางเฌอปรางค์เข้าไปที่ป่าอาถรรพ์ และเมืองลึกลับนั้น มีเพียงคนเดียวคือ สิงห์ สมิงไพร (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) แต่สิงห์ปฏิเสธงานนี้ เพราะเขารู้ดีว่าที่นั่นมีอันตรายมาก เฌอปรางค์จึงตัดสินใจเดินทางไปขอร้องสิงห์ด้วยตัวเอง ทั้งคู่ไม่ถูกชะตากันตั้งแต่ต้น สิงห์เตือนให้เธอเลิกล้มความคิดพร้อมเล่าตำนานเมืองพุทธะให้ฟัง เมื่อธนาคารได้ยินว่าเมืองพุทธะเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติมากมายก็ยิ่งสนใจมาก แต่เฌอปรางค์ต้องการจะไปตามพ่อของเธอ สิงห์เห็นแก่ความรักที่เฌอปรางค์มีต่อพ่อ จึงยอมรับจ้าง และอีกเหตุผลที่ทำให้สิงห์ตัดสินใจเดินทางเข้าป่าอาถรรพ์เพราะเมื่อ 20 ปีก่อน ขามพ่อของเขาได้นำทางนักโบราณคดีคนหนึ่ง (แม่ของเฌอปรางค์)เข้าไปที่นั่นแล้วทั้งคณะเสียชีวิตลงก่อนที่จะไปถึง มีเพียงเฒ่าบ้า (ครูช่าง ชลประคัลภ์ จันทร์เรือง) พรานผู้เชี่ยวชาญอาคมคนเดียวที่รอดออกมาได้ สิ่งนี้เป็นฝันร้ายที่ฝีงใจสิงห์มาตลอด และเขาต้องการจะไปค้นหาความลับของเมืองนี้เช่นกัน สิงห์เตรียมคนออกเดินทางมีเฒ่าบ้า และหนานเมือง เป็นพรานคู่ใจส่วนไพร (ตวง ภัสสรี กังวานพงศ์) พรานสาวคู่หูของสิงห์ ที่เคยทำงานร่วมกัน บังเอิญได้รับบาดเจ็บสิงห์จึงเข้าป่าไปโดยไม่ชวนไพร นอกจากนี้ยังมีมะเมี๊ยะ (ภุมวารี ยอดกมล) เด็กสาวชาวเขาจอมแก่นเป็นลูกทีมด้วย เมื่อถึงวันเดินทางเฌอปรางค์ตกใจเมื่อเห็นว่าญาติๆ ของเธอขอติดตามไปด้วย เพราะต่างหวังในมรดกของโยธิน รวมทั้งธนาคารและกรินทร์ (สรณัฐ มัสยวาณิช) น้องชาย สิงห์เห็นคณะของเฌอปรางค์ที่ยกโขยงกันมา ก็ไม่พอใจแต่ก็จำใจเดินทางต่อไป ศักดิ์ลูกน้องของโยธา ได้รับคำสั่งตามหาโยธินแย่งเอาพินัยกรรมมาให้ได้ก่อน ศักดิ์ติดต่อไพรให้เป็นพรานนำทาง ไพรตกลงโดยหวังจะเดินทางตามสิงห์ที่ล่วงหน้าไปก่อนให้ทัน ด้วยความเป็นห่วงส่วนโยธาคิดฉวยโอกาสที่เฌอปรางค์ไม่อยู่ยักยอกเงินบริษัท แต่เฌอปรางค์ สั่งระงับคำสั่งทุกอย่างของโยธาไว้ก่อน โยธาโกรธมากสั่งให้ศักดิ์เปลี่ยนแผนตามหาโยธินมาเป็นตามฆ่าเฌอปรางค์แทน ระหว่างการเดินทางปิ่นแก้วและศรีวรางค์สร้างความปั่นป่วนอยู่ตลอดเวลา ปิ่นแก้วเป็นไม้เบื่อไม้เมากับมะเมี๊ยะ แต่กรินทร์กลับสนใจในความซื่อบริสุทธิ์ของเธอ สิงห์กับเฌอปรางค์ก็งัดข้อกันไปตลอดทางปิ่นแก้วยุให้ธนาคารปล้ำเฌอปรางค์ แต่สิงห์มาช่วยไว้ทัน เฌอปรางค์โกรธและยกเลิกการหมั้นกับธนาคาร พวกของศักดิ์ที่นำโดยไพรเร่งเดินทางตามมา ศักดิ์กลัวจะตามคณะของสิงห์ไม่ทันจึงวิทยุไปบอกพวกทหารกะเหรี่ยงให้ดักจับ ตัวพวกสิงห์ไว้ คืนนั้นทหารกะเหรี่ยงบุกเข้ามาจับตัวทุกคน สิงห์ได้พบกับไพรและพวกของศักดิ์ ไพรขอร้องให้ปล่อยสิงห์ไปศักดิ์จึงจับไพรขังอีกคน เฌอปรางค์รู้ความจริงว่าโยธาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมด สิงห์วางแผนหนีจนเกิดการต่อสู้ขึ้น ไพรและเฌอปรางค์หนีไม่รอดถูกจับตัวไปได้อีก ภายในห้องขังไพรบอกเฌอปรางค์เป็นนัยๆ ว่าสิงห์กับตนเป็นคู่รักกัน โยธาได้รู้เรื่องทรัพย์สมบัติในเมืองพุทธะเขาละโมบอยากได้สมบัติจึงบังคับ ให้ไพร เป็นพรานนำทางเข้าเมืองพุทธะและตามหาโยธิน ไพรวางแผนพาเฌอปรางค์หนีออกมาได้ เฌอปรางค์วิ่งหนีเข้าป่าหลงทางกับไพรและสลบไป แต่ด้วยอำนาจของผีหลวงที่ปกป้องคนดี ได้นำทางให้สิงห์มาพบเธอ สิงห์อุ้มเฌอปรางค์กลับไปที่แคมป์เฌอปรางค์ฟื้นในเวลาต่อมา พร้อมกับบอกสิงห์ถึงจุดนัดพบที่ไพรบอกไว้ แต่สิงห์มาช้าเกินไปเพราะไพรได้รับบาดเจ็บและหมดสติจนชาวเขาเข้ามาช่วยไว้ สิงห์เลยหาไพรไม่พบ ไพรฟื้นสติมาได้ นึกโทษว่าเป็นความผิดของเฌอปรางค์และคิดแค้น จึงรีบออกตามหาคณะเดินทาง การเดินทางลำบากขึ้น ศรีวรางค์ป่วยหนักและเสียชีวิต ปิ่นแก้วคิดฆ่าเฌอปรางค์ เฌอปรางค์วิ่งหนีเข้าป่าและตกลงไปในหลุมขวาก สิงห์ตามมาช่วยแต่ทั้งคู่กลับหลงป่าและเฌอปรางค์ล้มป่วย สิงห์ดูแลอย่างใกล้ชิด และนี่เองที่ทำให้ทั้งสองเรียนรู้กันและกันอย่างลึกซึ้ง จนกลายเป็นความรัก แต่ต่างฝ่ายก็หยิ่งเกินกว่าจะบอกให้อีกฝ่ายได้รู้ ฝ่ายบารมีกลายเป็นหัวหน้าคณะแทนสิงห์ออกเดินทางตามหาสิงห์และเฌอปรางค์จนพบ ในที่สุดพวกของสิงห์ก็มาพบไพร ไพรด่าว่าเฌอปรางค์ที่ทิ้งเธอโดยที่หยิงสาวไม่มีโอกาสแก้ตัวเลย คณะทั้งหมดเดินทางไปถึงทางเข้าเมืองพุทธะ พวกโยธาตามมาติดๆ พวกสิงห์รีบหนีเข้าป่าอาถรรพ์เฒ่าบ้าเริ่มคลุ้มคลั่งในป่าอาถรรพ์แห่งนี้ บาดแผลและด้านมืดในใจของทุกคนก็ค่อยๆ ปรากฎออกมา สิงห์เริ่มมีอาการหวาดกลัว จากเรื่องราวในอดีต ไพรคิดฆ่าเฌอปรางค์โดยยืมมือปิ่นแก้ว สิงห์ช่วยเฌอปรางค์ไว้ได้แต่เจ็บตัวเสียเอง ทำให้ไพรยิ่งแค้นใจ ในที่สุด โยธา ก็ตามมาทันพวกสิงห์หนีต่อเข้าไปในถ้ำและไล่ฆ่ากัน ความชั่วร้ายนี้ได้ปลุกวิญญาณอารักขาออกมาตรงเข้าทำร้ายทุกคนในถ้ำ จนต้องหนีตายกันอีกครั้ง ระหว่างทางที่หนีไพรต่อว่าสิงห์ และพูดถึงความสัมพันธ์เก่าๆ สิงห์จึงพูดให้ไพรเข้าใจว่าเขาไม่เคยรักไพรอย่างคู่รักเลย เขาให้ได้แค่ความรักของพี่น้องเท่านั้น ไพรเข้าใจเรื่องทั้งหมดด้วยหัวใจที่แตกสลาย สุดท้ายไพรสละชีวิตเพื่อป้องกันเฌอปรางค์ เป็นการชดใช้ความผิดที่เธอเคยทำไว้กับเฌอปรางค์ โยธาหนีมาเจอพวกสิงห์และเกิดการต่อสู้กันอีก ผีหลวงที่ตามมาตรงเข้าทำร้ายโยธา แต่โยธาสังเกตว่าผีหลวงไม่ทำร้ายเฒ่าบ้าเลย จึงจับตัวเฒ่าบ้าไว้พร้อมๆ กับที่สิงห์พาเฌอปรางค์หนีไปจนถึงทุ่งกว้างสีเขียวขจีและได้พบกับโยธิน เฌอปรางค์ขอร้องให้พ่อกลับไปอยู่กับตน แต่โยธินได้รับรู้และเข้าใจถึงความสงบสุขทางจิตใจที่ได้รับจากดินแดนพุทธะ แห่งนี้ และเชื่อว่าเฌอปรางค์เติบโตได้โดยไม่ต้องมีพ่ออีกต่อไปแล้ว… โยธาที่ตามมา ทวงถามเรื่องพินัยกรรมจากโยธิน พอรู้ว่าไม่มีพินัยกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ก็คลุ้มคลั่ง จับเฌอปรางค์เป็นตัวประกัน พระพุทธรูปทองคำในเมืองพุทธะเกิดมีน้ำตาไหลออกมาเป็นสายเลือด ก่อนจะค่อยๆ ปริร้าวทีละน้อยๆ โยธาที่คลุ้มคลั่งหนักขึ้น ไล่ยิงทุกคน ก่อนที่พระพุทธรูปทองคำจะหักโค่นลงมาเศษองค์พระกลิ้งหล่นลงมาทับโยธาตาย… องค์พระที่ปริร้าวลงเรื่อยๆ จนใต้ฐานบังเกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ดูดวิญญาณของเฌอปรางค์ลงไป โยธินให้สิงห์รีบลงไปช่วย มิเช่นนั้นเธอจะไม่ได้กลับมาอีก สิงห์นึกถึงคำของเฌอปรางค์ ที่ว่า “ถ้าเราไม่สู้ เราก็ต้องกลัวตลอดไป” “เอาชนะความกลัวด้วยความไม่กลัว” สิงห์กระโดดตามลงไป.. สิงห์ตรงเข้าไปช่วยเฌอปรางค์ไว้ได้ พร้อมๆ กับที่ภาพของเมืองพุทธะที่ถูกทำลายไปจะเป็นเหมือนวิดีโอที่ถูกกรอกลับ มาเป็นเมืองสงบสุขสวยงามเช่นเดิม…ทุกคนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ นายสรวงขอโทษและสารภาพว่า เขาเป็นคนเก็บพินัยกรรมไว้เอง แต่เฌอปรางค์กลับขอบคุณที่ทำให้เธอได้พบพ่ออีกครั้ง…สิงห์กลับไปเป็นหมอ อีกครั้ง ในวันที่เฌอปรางค์ให้กำเนิดทายาทตัวน้อยๆ ของเขาและเธอ

เขียวหวาน 2001 (2547/2004) เต็มตรอง สาวน้อยที่ตกงานมานานหลายปี หนำซ้ำเธอยังต้องมาพบกับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างมากจึงทำให้เธอคิดหางาน เป็นจริงเป็นจัง สุดท้ายเธอก็ได้ข้อสรุปคืออาชีพแม่ค้าขายแกงเขียวหวานเพราะเป็นอาหารสุดโปรด ปรานของเธอแถมยังมีสูตรเด็ดของ สารภี ที่ใครต่อใครต่างติดใจในรสชาติ ก่อน ที่เต็มตรองจะย้ายที่อยู่เธอได้ช่วยเหลือ นกยูง เพื่อนร่วมอพาร์ตเม้นท์ให้หนีจากสมศักดิ์ผู้เลี้ยงดูเพื่อจะได้อยู่กับ บวรวิทย์ ลูกชายของเศรษฐีนี บราลี คนที่นกยูงหลงรักจึงทำให้เต็มตรองต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงกลางคืนเพื่อพานก ยูงหนี เมื่อคนที่มารับนกยูงคือ ศรุต เพื่อนสนิทของบวรวิทย์จึงทำให้ศรุตมาเจอกับเต็มตรองและเข้าใจว่าเธอทำอาชีพ เดียวกับนกยูง แต่ศรุตกลับหลงรักเต็มตรองทั้งที่ยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้ง ๆ ที่ศรุตก็มีแฟนอยู่แล้วคือ บุรณี หรือ เบบี๋ ลูกสาวรัฐมนตรี สมศักดิ์ซึ่งเคยเลี้ยงดูนกยูงมาก่อน สมศักดิ์ทราบข่าวการหายตัวไปของนกยูงก็โกรธแค้นมากที่ถูกนกยูงหักหลัง จึงสั่งให้ลูกน้องตามหา สันติ คุณปู่เล็กของศรุต เดินทางกลับมาจากเมืองนอกและพักอยู่ที่บ้านสวนเมืองนนท์ จากการพูดคุยกันจึงทำให้ศรุตรู้ว่าคุณปู่ก็มีปัญหาเรื่องความรักเช่นเดียว กับเขา แต่ปัจจุบันคุณปู่ก็ไม่มีพันธะใดๆแล้วจึงจะกลับมาหาคนรักเก่าแต่เมื่อ จากกรุงเทพมานานจึงทำให้ลืมบ้านของคนรักไป และในที่สุดศรุตก็ได้มาพบ กับเต็มตรองที่เมืองนนท์จึงได้ทราบว่าเธอต้องอยู่แถวนั้นแน่ พอคุณรัมภา มารดาของศรุตได้ทาบทามให้ศรุตเข้ามาคุมการก่อสร้างร้านอาหารญี่ปุ่นที่เมือง นนท์จึงทำให้ศรุตตกลงรับปากทันทีเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับเต็มตรองและเมื่อเบบี๋ ทราบข่าวจึงตามไปวุ่นวายกับชีวิตของศรุต แต่ศรุตก็ได้ มอด เพื่อนต้นห้องคนใหม่คอยช่วยอยู่ นก ยูงได้พบว่าชีวิตของเธอไม่ได้สวยหรูเมื่อบวรวิทย์ ลูกชายในโอวาทไม่สามารถทำอะไรตามที่เธอต้องการแต่เพราะความรักจึงทำให้บวร วิทย์ไม่รู้ธาตุแท้ของนกยูงว่าไม่ได้สวยเหมือนรูปกายภายนอกเลย ศรุต ก็คอยมาพัวพันกับเต็มตรองอยู่เสมอ และเขายังคิดว่าเต็มตรองเป็นผู้หญิงกลางคืนทั่ว ๆ ไปเขาจึงเอ่ยปากถามถึงราคาค่าตัวจึงทำให้เต็มตรองโกรธมาก แต่ในใจลึกๆเต็มตรองก็มีความรู้สึกที่ดี ๆ ให้กับศรุตตั้งแต่ที่ศรุตคอยมาตื้อและพูดคุยกับเธอเสมอ ๆ แต่เต็มตรองยังมีปัญหาค้างคาใจเรื่องความเข้าใจผิดของศรุตพอมาปรึกษาคุณยาย ก็ได้ทราบความจริงว่าที่คุณยายเป็นโสดมาถึงทุกวันทั้งที่มี เด่น คอยมาพัวพันอยู่ก็ตามเป็นเพราะฐานะต่างกันแต่คุณยายก็ไม่ลืมผู้ชายคนนั้น โดยที่เต็มตรองหารู้ไม่ว่าคือปู่เล็กของศรุตนั่นเอง จนในเวลาที่เธอ เตรียมที่จะเปิดร้านเธอก็คิดชื่อร้านไม่ออกจู่ ๆ เพราะบ้านเลขที่ 2001 ของคุณยาย เธอก็สรุปชื่อร้านได้ว่า เขียวหวาน 2001 จนถึงวันเปิดร้านก็มาถึง เต็มตรองเปิดให้กินฟรี และทุก ๆ คนต่างติดใจในรสชาติของแกงเขียวหวานกันอย่างมากและในวันนั้นจึงทำให้สันติ ได้พบกับสารภี และรู้ว่าเธอยังครองตัวเป็นโสดรอเขาอยู่แต่เด่นยังคอยเป็นหมาหวงก้างดังเดิม ร้านเขียวหวาน 2001 ก็เป็นที่นิยมจากลูกค้าอย่างมากทำให้เต็มตรองมีกำลังใจในการทำงานส่วนศรุตก็ คอยมาตอแยเต็มตรองด้วยความรักและจริงใจอยู่เสมอ ส่วนนกยูงก็ถูกกดดัน ทั้งบวรวิทย์และแม่ของเขาจึงทำให้เธอตัดสินใจทิ้งบวรวิทย์ ซึ่งเป็นโอกาสเดียวที่พิไลพรเริ่มมาสนิทสนมจึงทำให้บวรวิทย์มีคนรักษาแผลใจ ให้ ส่วนนกยูงได้กลับไปหาสมศักดิ์แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะสมศักดิ์เกิดพอใจในตัวเต็มตรองมาก จึงทำให้นกยูงและเบบี๋วางแผนร่วมมือกันหลอกให้เต็มตรองมาจัดงานที่บ้านของสม ศักดิ์เพื่อจะให้สมศักดิ์ขืนใจเธอ ซึ่งจะได้ขจัดเสี้ยนหนามออกไปจากชีวิตของทั้งสองคน เต็มตรองเกือบจะ เสียทีแต่โชคดีที่เธอได้ต่อรองกับสมศักดิ์ว่าจะยอมเปิดเผยสูตรลับแกงเขียว หวานของคุณยายให้ทราบ ภายหลังเรื่องร้ายผ่านไป สันติ และ สารภี ตัดสินใจแต่งงานกัน ส่วนศรุตก็เข้าใจและทราบความจริงทั้งหมดและในที่สุดทั้งคู่ก็ลงเอยกันด้วยดี ด้วยมนต์เสน่ห์ของแกงเขียงหวาน ที่บ้านเลขที่ 2001

ผู้หญิงชั้นหนึ่ง 2547

ผู้หญิงชั้นหนึ่ง (2547/2004) อรินลดา เหยี่ยวข่าวและพิธีกรสาว ประจำรายการ “ผู้หญิงชั้นหนึ่ง” ที่สืบเสาะเจาะข่าวเฉพาะกิจ จนรายการโด่งดังไปทั่ว รวมถึงความรักที่กำลังราบรื่นกับเฉียบวุฒิ สถาปนิกหนุ่มรูปหล่อที่คบหากันมานาน อรินลดาทำงานเป็นทีมร่วมกับโจม แป้ง และแก้ว ทั้งสี่คนเป็นเพื่อนรักทั้งที่ทำงาน และยังเช่าบ้านอยู่ด้วยกันอีกด้วย โดยมี เจ๊พรรณ และป้องปราม บอสใหญ่คอยดูแลงานให้กับทุกคน ด้านล่มฟ้า นายตำรวจหนุ่มก็กำลังมีความสุขกับพิธีกรสาว ญดา อย่างเต็มที่ โดยมีเพื่อนร่วมงานที่ดีอย่าง สารวัตรทนง, จ่าเมฆ, หมู่ฉกรรจ์, หมู่วันรบ, จ่าแดน และกานต์นรี ภรรยาสาวที่ขายข้าวแกงอยู่ในแฟลต ที่ช่วยลุ้นให้ความรักของล่มฟ้าได้ลงเอยกับญดา ติดตามต่อได้ใน "ผู้หญิงชั้นหนึ่ง"

โบสีชมพู 2547

โบสีชมพู (2547/2004) โบว์ สาวสวยพนักงานต้อนรับที่สปอร์ตคลับแห่งหนึ่ง อาศัยอยู่ในบ้านเช่า กับภรณี เพื่อนสนิทและเด็กชายนนท์ หลานชายสุดที่รัก คนภายนอกมักมองเธอว่าชอบคบหาแต่ผู้ชายรวยๆ เพื่อหวังจะแต่งงานด้วยแต่สาเหตุที่แท้จริง เป็นเพราะจันทร์ทิรา พี่สาวเพียงคนเดียวของเธอผิดหวังในความรัก จึงต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิต ทิ้งหลานไว้ให้เธอดูแล ทำให้เธอไม่คิดที่จะเชื่อใจผู้ชายคนไหนเลย ในความคิดของเธอเงินเท่านั้นที่จะบันดาลให้ทุกอย่างเป็นจริง สุรยุทธิ์เพื่อนบ้านซึ่งแอบรักโบว์อยู่เข้าใจตัวเธอทุกอย่าง เพราะความที่มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาจีบเธอ รวมถึงวีรศักดิ์ นักพนันตัวยง นอกจากนี้ยังมีเทียนชัย นักธุรกิจใหญ่ที่หมายมั่นปั้นมือจะแต่งงานกับเธอให้ได้ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องตลึงเมื่อรู้ว่า ธีระเดช ชายหนุ่มที่กำลังมาติดพันเธอนั้นเป็นลูกชายของเทียนชัยนั่นเอง กฤชพล ทายาทหนุ่มลูกเจ้าของโรงแรมใหญ่ เป็นอีกคนที่ไม่เชื่อในรักแท้เนื่องจากแม่ของเขาทิ้งพ่อไปมีรักใหม่จนพ่อต้องตรอมใจกฤชพลและชนาภาพี่สาวของเขาจึงต้องบริหารโรงแรมแทนพ่อ กฤชพลได้รู้จักกับโบว์ในวันที่เทียนชัยไปขอเธอแต่งงานที่สปอร์ตคลับ เรื่องวุ่น ๆ เกิดขึ้นเมื่อธีระเดชเดินทางมาที่สปอร์ตคลับเช่นกัน ทำให้โบว์ต้องรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ แต่กลับเป็นห้องน้ำชายซึ่งทำให้เธอได้เจอกับกฤชพล ซึ่งเดินออกจากห้องน้ำโดยที่ลืมแหวนเพชรเอาไว้ โบว์เห็นเข้าจึงลองหยิบมาสวมดู ปรากฎว่าถอดไม่ออก พอดีกฤชพลเดินย้อนกลับมาถามหาแหวนเพชรแต่โบว์ปฏิเสธ ทำให้ทั้งคู่เกิดปากเสียงกันขึ้น ธีระเดชเข้ามาพอดี และบอกกับกฤชพลว่าโบว์กำลังจะเป็นเจ้าสาวของเขา ยิ่งทำให้กฤชพลมั่นใจว่าโบว์ต้องเป็นนักต้มตุ๋นอย่างแน่นอน

ตม 2547

ตม (2547/2004) คุณใหญ่เป็นหญิงวัย 61 ปี มีลูกสามคนคือ พิจิกษ์ ( ป้อม ) อายุ 35 ปี พิพัฒน์ ( บี๋ ) อายุ 32 ปี และ อภิสิทธิ ( เบิ้ม ) อายุ 25 ปี คุณใหญ่มาจากครอบครัวฐานะปานกลางต่อสู้มากับสามีเพื่อทำธุรกิจ แต่สามีนอกใจไปมีผู้หญิงอื่น จึงแยกทางกัน คุณใหญ่หอบลูกคนเล็กไปอยู่บ้านเดิม ( ราชบุรี ) ค้าขายผลิตภัณฑ์จากพืชผักผลไม้ และทำสวนอาหาร หาเงินมาเลี้ยงลูกด้วยความขยันขันแข็ง จนไม่มีเวลาดูแลลูกด้วยตัวเอง เธอมอบหมายให้ยายม้อย ชาวบ้านข้างเคียงซึ่งชอบกินเหล้า ดูแลลูกชาย แต่การที่เด็กอยู่ใกล้ชิดกับคนที่ขาดความรับผิดชอบ กินเหล้าเมายา มีผลทำให้เขาเห็นสิ่งมันเมาเหล่านั้นเป็นเรื่องธรรมดา และติดนิสัยเหล่านี้เข้ามาโดยไม่รู้ตัว ประกอบกับที่แม่ไม่มีเวลาเอาใจใส่สั่งสอน เบิ้มจึงเป็นคนก้าวร้าว และเอาแต่ใจตนเอง ชอบการเอาชนะเพื่อสร้างเกราะคุ้มกันให้ตนเอง พิจักษ์ถูกส่งไปเรียนเมืองนอก ส่วนพิพัฒน์ อยู่กับพ่อ ซึ่งจ้างพี่เลี้ยงราคาแพงดูแลจนกลายเป็นคุณหนู เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เมื่อสามีตาย พิจักษ์ได้รับมอบหมายให้ดูแลมรดกร่วมกับพิพัฒน์ ส่วนเบิ้มติดยาสร้างปัญหาให้กับตนเองและแม่เป็นอย่างมาก พิจักษ์เติบโตกับพ่อแม่ในช่วยที่ยังไม่มีเงินทองมากมายนัก จึงยังติดดินและรู้จักรับผิดชอบ การที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ จึงได้เรียนรู้การช่วยตนเอง เขาไปรับจ้างล้างจาน เสิร์ฟอาหารในยามว่างที่เมืองนอก ปัจจุบันพิจักษ์ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในคอนโด เขาดูแลธุรกิจของพ่อ จนประสบความสำเร็จ พิจักษ์มีความห่วงใยให้กับผู้อื่นสูงและขยันทำงานมากเกินไป จนล้มป่วยเพราะลืมที่จะดูแลตัวเอง พิจักษ์พอใจในตัวอภิญญา เลขาคนใหม่ของเขาเป็นอย่างมาก เพราะเธอมีความฉลาด เข้มแข็งมีจิตใจที่ถูกกล่อมเกลาแล้ว จึงคิดดี คิดเป็น ทำให้เขาเกิดศรัทธา แต่เมื่อพบว่าตนเองเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารจึง พยายามตีจากเพราะเกรงว่าจะเป็นภาระแก่คนอื่น และไม่ยอมบอกใครแม้แต่แม่ของตน เกรงว่าจะทำให้ทุกคนเสียใจ พิจักษ์ส่งอภิญญาไปช่วยงานพิพัฒน์โดยไม่เห็นแก่ความสบายของตน ทำให้เขาต้องทำงานหนักมากขึ้น สุดท้ายพิจักษ์จึงบอกแม่ถึงเรื่องอาการป่วย แม่กลับไม่ให้เขาเป็นทุกข์กับความตายแต่ให้ใช้ทุกลมหายใจให้เป็นประโยชน์ ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสที่จะได้สร้างความสุข ให้แก่ตนเองและผู้อื่น ซึ่งป้อมก็ทำเช่นนั้นจนสิ้นชีวิต โดยมีอภิญญาดูแล ปฏิบัติเขาจนวันสุดท้าย พิพัฒน์เกิดมาในช่วงที่พ่อแม่มี เงินแล้ว และกำลังไม่ลงรอยกัน ความทุกข์ของพ่อแม่ที่ขัดแยังกัน ทำให้พิพัฒน์ ซึมซับแรงกระแทกที่พ่อแม่มีต่อกันเขาถูกเลี้ยงด้วยพี่เลี้ยงราคาแพง ที่ปรณนิบัติเขาอย่างเอาอกเอาใจตามหน้าที่ของพี่เลี้ยง พิพัฒน์จึงหยิบโหย่ง ทำอะไรไม่เป็น วัตถุราคาแพงทำให้เขามีความมั่นใจเพราะถูกพ่อเลี้ยงมาด้วยวัตถุ ขาดการพัฒนาทางจิตใจจึงหลงคนง่าย การหลงไหลในวัตถุ มองเห็นคนแต่เปลือกนอก จึงถูกคนเหล่านั้นหลอกใช้ ล้มเหลวในธุรกิจล้มเหลวในชีวิตครอบครัว เพราะความไมีรู้จักเลือก พิพัฒน์ มีภรรยาชื่อเจนนี่ และมีลูกชายอายุ 5 ขวบ ชื่อมิ๊ก ซึ่งถูกทิ้งให้อยู่กับพี่เลี้ยงเพราะพ่อแม่จมอยู่กับปัญหาของตนจนลืมลูก มิ๊กเริ่มมีนิสัยก้าวร้าว และเอา แต่ ใจตนเอง คุณใหญ่มองเห็นประวัติศาสตร์ ที่กำลังจะซ้ำรอยจากประสบการณ์ของตนเอง เธอจึงเข้าไปช่วยพยุงครอบครัวนี้ไว้ ให้เจนนี่รู้จักหน้าที่ของความเป็นแม่ เป็นภรรยาที่ดี โดยการพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น คิดดี คิดเป็น เพื่อจูงใจสามีที่ดื้อดึง และโอหังให้กลับมามีศรัทธาต่อเธอ คุณใหญ่จำนองบ้านเพื่อช่วยพิพัฒน์พิสูจน์ความสามารถของตนเองในเชิงธุรกิจ ถึงแม้ใครๆ จะไม่ศรัทธาในตัวเขาแต่เธอก็ยืนยันที่จะเป็นฟูกรองรับความล้มเหลวของลูก ตามหน้าที่ของแม่ เธอช่วยพัฒนาจิตใจของเจนนี่ให้คิดเป็น ก่อนที่จะสายเกินไปในที่สุดพิพัฒน์ก็ละอายต่อความเห็นแก่ตัวของตนเอง และเริ่มฟังความคิดเห็นของผู้อื่น จนประสบความสำเร็จด้วยความช่วยเหลือของอภิญญา ซึ่งป้อมส่งเข้ามาช่วยงาน ความฉลาดของอภิญญาทำให้ พิพัฒน์ขายสินค้าฟุ่มเฟือยที่เขาสั่งมามากมายจนหมด สามารถคืนเงินให้กับคุณใหญ่ และดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ความที่เบิ้มใช้ชีวิตอยู่กับแม่และยายม้อย เขาจึงรู้สึกต่ำต้อยที่ไม่เท่าเทียมพี่ ๆ ไม่เห็นคุณค่าของตนเอง เขาประชดชีวิตด้วยการเสพยา เพื่อเรียกร้องความไม่อิ่มในอารมณ์ กว่าเบิ้มจะหลุดพ้นจากากรเป็นทาสของยาเสพติด ก็เหนื่อยยากไปทั้งครอบครัว แม่เสียเงินทองที่เก็บหอมรอมริบตลอดชีวิตไปเป็นจำนวนมาก เบิ้มพยายามพิสูจน์ตัวเอง และเลิกยาเสพติดได้ในสถานบำบัด การสอนให้คิดและรับผิดชอบ ทำให้เขามุ่งมี่นที่จะทำงานแทนพี่ชาย ที่เสียชีวิต แต่กว่าเบิ้มจะสร้างศรัทธาให้กลับคืนมาได้เขาต้องอดทนต่อการดูถูก และคำนินทร เป็นกรรมที่ต้องชดใช้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอาฆาต เขากลับไปเสพยาอีกครั้งเพราะใจอ่อน แต่ก็สามารถหลุดพ้นออกมาได้ในที่สุด เมื่อเห็นเพื่อน ๆ ที่อยากกลับตัวกลับใจ สมองเสื่อมจนหมดหนทางที่จะแก้ไข เมื่อทุกคนกลับมาในสภาพปกติ คุณใหญ่ก็กลับมาอยู่ราชบุรี อย่างสมถะ และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เธอได้ทำหน้าที่ของแม่ที่ เธอควรทำตั้งแต่ลูกยังเล็ก แต่เนื่องจากความรู้เธอจึงเห็นว่าไม่สำคัญจนต้องเหนื่อยกับชีวิตในตอนแก่ก็ยังดีที่เธอได้เรียนรู้จากประสบการณ์และคิดได้ก่อนที่อีกหลายๆ ชีวิตที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องล่มสลายเพราะความไม่รู้ของเธอเอง

ผู้ชายมือสอง 2547

ผู้ชายมือสอง (2547/2004) เมื่อชัชชมเปิดกิจการร้านอาหาร ทำให้ถวิกาภรรยาสาวก็ถึงขีดสุดของความเบื่อหน่าย เธอออกเที่ยวเตร่และควงหนุ่มนายแบบรุ่นน้องพาไปนอนที่คอนโดโดยไม่สนใจเสียง นินทา แต่เมื่อพรายแพรวมาจี๋จ๋ากับชัชชม ถวิกาก็โกรธแค้น ตามราวีจนลูกสาวคือ ด.ญ.น้ำตาล ขวัญเสีย เพราะถวิกาเพียงแต่กลับมาด่าทอ ตบตีกับพรายแพรวแล้วก็กลับไปเที่ยวกินเหล้ากับหนุ่มๆไม่สนในเสียงคร่ำครวญหา แม่ของน้ำตาลเลย ถวิกากล่าวโทษคุณป้าของชัชชมกับอัญชลีพี่สาวว่า เป็นญาติแก่ๆ ที่เกาะชัชชมจนต้องหากินตัวเป็นเกลียว และไม่มีเวลาสำหรับลูกเมียทั้งๆที่ถวิกาเองไม่เคยเลี้ยงน้ำตาลอย่างจริงจัง เลยตั้งแต่เกิดมาจน 5-6 ขวบ อัญชลีพี่สาวของชัชชมจ้างชลาศัยมาช่วย งานแคชเชียร์ช่วงกลางคืน อัญชลีได้ตัวชลาศัยมาจากเพื่อนที่เป็นอาจารย์อยู่ที่วิทยาลัยพานิช ชลาศัยปลื้มชัชชมมาตั้งแต่เด็กๆ เธอยังเก็บจดหมายของดีเจชัชชมไว้ในกล่องสมบัติชลาศัยบอกแม่ว่า เธอจะพยายามทำงานและเรียนให้จบโดยเร็ว เพื่อจะได้พาแม่ไปให้พ้นจากบ้าน บวร ซึ่งเธอและคนในบ้านต้องเรียกเขาว่า นาย ให้ได้ในวันหนึ่ง ชลาศัยไม่รู้ว่าอะไรทำให้แม่ไปไหนไม่รอด ไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องทนสภาพอันเลวร้ายในบ้านบวร แต่ก็ทนอยู่มาตั้งแต่เล็กจนโต โดยนายไม่กล้าล่วงเกินเธอเหมือนกับที่ทำกับกำไล สาวใช้ในบ้านหรือแม้แต่กับแม่ของเธอเอง ทั้งคุณป้าและพี่สาวของชัช ชมพอใจที่ชลาศัยขยันขันแข็ง และเต็มใจทำงาน ทุกคนสังเกตเห็นความสดชื่นเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับชัชชม เมื่อพรายแพรวพบชลาศัยในร้าน ก็เกิดอาการหึงหวงชัชชม จึงหาทางแกล้งฉีกหน้าชลาศัย โดยแกล้งให้ชลาศัยใส่ชุดเด็กเสิร์ฟ ประกอบกับมีงานถ่ายแบบที่เธอให้มาถ่ายที่ร้านของชัชชมเพื่อยั่วถวิกา แต่เมษช่างภาพหนุ่มหล่อกลับติดใจความสวยของชลาศัย และชวนชลาศัยให้รับงานถ่ายแบบ แรกๆ ถวิกาตามหาเรื่องชัชชมซึ่งมีพรายแพรวมาพัวพัน แต่เมื่อชลาศัยเข้ามาอยู่ในร้านของชัชชม พรายแพรวก็วางแผนให้ถวิกามาช่วยกำจัดชลาศัย และจับมือกับบวรให้มาล่อถวิกาให้ติดกับ โตมรคู่นอนของพรายแพรวแอบส่งนักเลงมาพังร้านของชัชชม ทำให้เขาต้องนับ 1 ใหม่ ถวิกาหย่ากับชัชชมทั้งๆที่พ่อแม่ห้าม เพราะหลังจากราวีจนเหนื่อยแล้วก็เห็นว่าชัชชมไม่ใช่คนมีค่าอะไรสำหรับเธอ เมื่อเทียบกับบวรซึ่งคอยเอาใจอยู่ไม่ห่าง ชลาศัยพยายามช่วยถวิกาไม่ ให้ตกเป็นเหยื่อของบวรได้หลายครั้ง แต่ด้วยความดื้อดึง ถวิกาก็ตกเป็นของบวร และถูกหว่านล้อมถึงขั้นจดทะเบียน ถวิกาให้บวรไล่ทุกคนออกจากบ้าน ชวนชม ชลาศัย กำไล จึงออกมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน แต่กำไลแอบกลับไปหาบวรทั้งๆที่ถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อเห็นถวิกา กำไลก็เกิดบ้าผลักถวิกาตกน้ำ ชวนชมตามไปทัน ทำให้กำไลรอดมือบวรมาได้ เมษ มาช่วยชลาศัยกับกำไลทำข้าวแกงขายที่บ้านเช่า แต่เมื่อชัชชมซ่อมร้านเสร็จก็มาขอให้ชลาศัยไปอยู่ด้วย เมษผิดหวังที่ไม่สามารถทำให้ชลาศัยรักได้ เกิดบ้าตามแรงยุของโตมร จึงขับรถพาชลาศัยออกไปหาโรงแรมม่านรูดนอกเมือง ชลาศัยหนีออกมาและโทรตามชัชชมให้มารับ บวรไม่สามารถใช้ทะเบียนสมรส ไปขู่เข็ญพ่อแม่ของถวิกา ก็เกิดโมโหหน้ามืดซ้อมถวิกาจนสะบักสะบอม ถวิกาโทรเรียกน้องสาวมาช่วยแต่ก็เข้าบ้านไม่ได้ ชวนชมรู้ว่าบวรจะทำเหมือนเดิม จึงบอกความลับที่บวรฝังศพภรรยาไว้ในบ้านให้กำไลรู้ และชวนกันไปช่วยถวิกา ถวิกายังบ้าหึงหวงคิดว่าบวรนัดกำไลมาหลับนอน ทำให้แผนแตก เกิดการต่อสู้ กำไลถูกแทงตายไปพร้อมกับบวร และเตรียมพบกับเรื่องราวที่สะท้อนปัญหาสังคม ปัญหาครอบครัว ได้ใน “ผู้ชายมือสอง”

รักแผลงฤทธิ์ 2547

รักแผลงฤทธิ์ (2547/2004) ใน ท่ามกลางปัญหาสังคมมากมายที่รังแต่ จะทวีความรุนแรง ยุ่งยาก และซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด รักและเซ็กซ์ในวัยเรียน การค้าประเวณี ฯลฯ ฉายฉาน ชายหนุ่มที่ถูกเรียกตัวให้เข้ามารับงานสายสืบในชุมชนวัดมะยมหวาน ได้แต่ถามตัวเองว่า อะไรหรือสิ่งใดกันที่จะมีฤทธิ์ร้ายกาจและรุนแรงพอจะต่อกรและยับยั้งปัญหา สังคมเหล่านั้นได้ เขาได้รู้คำตอบเมื่อ ได้พบพริตตี้สาว เปรี้ยวอย่างบายศรีหรือหนูพุก ซึ่งสายสิญจน์น้องชายคนเดียวของเธอกำลังเดินเลาะเลียบอยู่ที่ปากเหวของปัญหา เหล่านั้นอยู่เช่นกัน สิ่งนั้นคือรัก รักซึ่งจะแผลงฤทธิ์ สำแดงเดช ต่อสู้กับภัยอันตรายมากมีในสังคม ไม่ใช่แค่รักของหนุ่ม สาวเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงรักของเพื่อน รักของพ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร รักของครอบครัว และรักของคนในชมุชน ในสังคมนี้ทั้งหมด รักมีพลานุภาพ ถึงเวลาแล้วที่รักจะแผลงฤทธิ์ !

ขอพลิกฟ้าตามล่าเธอ (2547/2004) นารา หญิงสาวที่เติบโตมาพร้อมกับความเคียดแค้น เพราะครอบครัวของตนถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เธอเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตจากการกบฎในรัฐเชียงฐาน แท้จริงแล้ว เบื้องหลังเกิดจากการขัดผลประโยชน์ของ ณรัน พ่อของนารา กับ สิงคาร คิม อาแท้ๆของเธอพา นารามาหลบซ่อน และฝึกฝนให้รู้จักการต่อสู้ทุกรูปแบบ เพื่อกลับไปล้างแค้น 14 ปี ต่อมา นาราได้เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ โดยมาพักที่ค่ายมวยของ เจ๊เล้ง และได้ลงแข่งขันมวยปล้ำหญิงชิงแชมป์โลก จึงทำให้ ภูผา ช่างภาพหนุ่มชื่อดังได้เจอกับนารา ภูผารู้สึกประทับใจในตัวนารามากจึงได้ชักชวนให้นารามาเป็นนางแบบของตน นาราจึงใช้โอกาสนี้เพื่อสืบหาความจริง แต่ปัญหากลับไม่จบแค่นั้น ภูผาถูกตามฆ่าโดย เฮียแป๊ะ เจ้าของบ่อนใหญ่แต่ไม่สำเร็จ ติดตามต่อได้ใน ขอพลิกฟ้าตามล่าเธอ