อุ่นไอรัก 2547

เรื่องย่อ : อุ่นไอรัก (2547/2004) ความรัก ความอบอุ่นที่เติมเต็มโดยครอบครัวจะช่วยพยุงชีวิตให้สมบูรณ์ ต่อสู้กับอุปสรรคบนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข เมยาวี เป็นลูกสาวคนเดียวของ เมศร์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจใหญ่กับ วิภาวี ผู้หญิงเก่งที่ร่วมบริหารธุรกิจเคียงบ่าเคียงไหล่กับสามีมาตลอดชีวิต ในวันเกิดครบ 17 ปีบริบูรณ์ของเมยาวี เธอได้รับของขวัญจากพ่อและแม่ที่ล้ำค่ามากกว่ารถยนต์ส่วนตัว หรือโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด เพราะคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นคงไม่อาจเทียบได้กับสายสิญจน์ที่พ่อและแม่ช่วยกันผูกข้อมือให้เธอในตอนนี้ ด้ายแม้เก่าคร่ำคร่าด้วยผ่านเวลามาเท่าอายุของเธอ เพียงไม่กี่เส้นที่กระหวัดเกี่ยวพันกันนั้นล้วนถอดแบ่งมาจากด้ายมงคลจากพิธีสมรสของพ่อแม่ ความรักอย่างเปี่ยมล้นจากเมศร์และวิภาวี หล่อหลอมรวมในเมยาวีกลายเป็นเด็กสาวที่มีชีวิตสมบูรณ์พร้อมคนหนึ่ง เมยาวีเป็นดาวเด่นของโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่สุดในกรุงเทพฯ เพียบพร้อมทั้งสติปัญญา รูปร่างหน้าตา ฐานะและชาติตระกูล ชีวิตคุณหนูยาวีไม่เคยพบกับคำว่าผิดหวัง ยกเว้นเรื่องการเรียนและกิจกรรมบางอย่างที่บางครั้งยาวีต้องหล่นลงมาเป็นอันดับสอง เพราะคู่แข่งคนสำคัญอย่าง…กานติมา กานติมา หรือ กาเหว่า เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเมยาวีมาตลอด นับตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากัน กาเหว่าทำหน้าตายเข้ามานั่งโต๊ะที่เพื่อนสองคนของเมยาวี คือ แยม และเยลลี่ จองไว้ก่อนหน้า ด้วยความอารมณ์ร้อนของเยลลี่และอาการขี้เบ่งของแยมทำให้เกิดเรื่องถึงขั้นลงไม้ลงมือกับกาเหว่า เมยาวีไม่อยากมีเรื่อง แต่ต้องทำเพราะช่วยเพื่อน เธอเลยพลาดท่าเล็บยาวสวยหัก เสียงกรีดร้องเพราะความตกใจของเมยาวี ทำให้กาเหว่ามองเธอหัวจรดเท้า และรู้สึกเหม็นหน้ากันมาตั้งแต่นั้น เมยาวีและกาเหว่ามีอันต้องปะทะกันอยู่เนืองๆ เพราะทั้งคู่เรียนห้องเดียวกัน

คู่แกร่งแข่งกันเก่ง 2547

เรื่องย่อ : คู่แกร่งแข่งกันเก่ง (2547/2004) เรื่องราวของสองหนุ่มมาดแกร่งที่แย่งกันเก่ง ” นัตย์ ” กร้าวกระด้าง สู้จนหักไม่ยอมงอ แต่หัวใจก็อ่อนละมุน ” ภาคย์ ” สุภาพสุขุม นุ่มนวล ใจอ่อนระทวยลงด้วยน้ำตาผู้หญิง กับสองสาวสวยสองสไตล์ที่หัวใจมิอาจปฏิเสธความรัก ” ภานุมาศ ” อ่อนหวาน มักหวาดระเวง แต่ใช่ยอมอะไรง่ายๆในชีวิต ” สารภี ” เข้มแข็ง หาญห้าว ปากกับใจไม่ตรงกันในเรื่องรัก ต้องนำพาชีวิตให้โลดแล่นมาพบกันในเชิงรบ เชิงรัก โดยใช้ ” ความแกร่ง ” แย่งชิง ” ความเก่ง ” ทั้งสองคุ่จะลงเอยอย่างไรเมื่อโดนพิษรัก ก่อกวนให้ป่วนปันหัวใจจนยากจะ ไถ่ถอน

รักได้ไหม...ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน 2547

เรื่องย่อ : รักได้ไหม...ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน (2547/2004) ดอนเมือง ไข่แก้ว ชะเง้อคอมองหาเพื่อนรักจนเจอ แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดด้วยความดีใจเมื่อ ปั้นดาว เดินหน้าตูมออกมาจากห้องผู้โดยสารขาเข้า ปั้นดาว หรือ แพน เดินทางกลับเมืองไทยเพื่อมาหาข้อมูลเกี่ยวกับเพลงลูกทุ่งของไทยในเชิงเปรียบเทียบกับลูกทุ่งตะวันตก หล่อนเป็นคนมีรสนิยมดีก็จริง แต่ก็เป็นคนทำอะไรง่ายๆ เอาสะดวกเข้าว่าด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องแต่งตัว อย่างเช่นการเดินทางกลับมาเมืองไทยคราวนี้ หล่อนนั่งเครื่องบินกลับมาด้วยการสวมเสื้อที - เชิตร์ทับด้วยแจ็กเก็ตหนังและกางเกงยีนส์เก่าๆ แล้วหล่อนก็ชอบสวมหมวกแก๊ปเสมอ คนจึงไม่ค่อยเห็นผมยาวสลวยครึ่งหลังของหล่อน ปั้นดาวไม่ชอบปล่อยผมสยายเหมือนผู้หญิงบางคน จะถักเปียเดียวไว้ตลอดเวลาถ้าไม่ออกงานเป็นเรื่องเป็นราว และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือแว่นกันแดด สไตล์สปอร์ตที่ต้องใส่เป็นประจำเพราะติดเสียแล้ว แต่หล่อนก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้เพราะอยากเป็นผู้ชาย เพียงแต่ชอบความสบายและคล่องตัวเท่านั้น หล่อนเป็นคนเดินตัวตรง ก้าวยาวอย่างคนที่มีความมั่นใจเต็มร้อย

สะใภ้ซ่าส์ แม่ย่าเฮี้ยน 2547

เรื่องย่อ : สะใภ้ซ่าส์ แม่ย่าเฮี้ยน (2547/2004) สะใภ้ซ่าส์แม่ย่าเฮี้ยน เป็นเรื่องวุ่นๆ ของสาวสวยจอมซ่าส์ ที่ตกกระไดพลอยโจน ถูกจับแต่งงานกับชายหนุ่มที่พบหน้าเพียงไม่กี่ครั้ง เพราะเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน ทำให้เธอต้องกลายเป็นสะใภ้แบบบังเอิ๊ญบังเอิญ แล้วต้องมาอยู่ในบ้านสามี ร่วมกับแม่ย่าสุดเฮี้ยนที่เป็นหัวโจกคอยป่วนกวนใจไม่ให้สมรัก แถมมีแฟนเก่าเป็นก้างขวางศรีสะใภ้จะงัดวิชาอะไรมาสยบให้อยู่หมัด

รักเกินพิกัดแค้น 2547

เรื่องย่อ : รักเกินพิกัดแค้น (2547/2004) เมื่อสามสิบปีก่อน อธิป (ดิลก ทองวัฒนา) และเกื้อเป็นเพียงลูกน้องในบริษัทค้าอาวุธ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกัน แต่เกื้อถูกอธิปจับได้ว่าขโมยอาวุธไปขาย เพื่อต้องการเอาเงินไปให้เมียคลอดลูก อธิปยิงเกื้อต่อหน้าสุภาผู้เป็นเมีย แต่อธิปปล่อยสุภากับลูกในท้องไป จากวันนั้นอธิปก็ขึ้นชั้นเป็นหัวหน้าทันที สุภาหนีมาคลอดลูกที่นครสวรรค์บ้านเกิด แต่ไม่นานสุภาก็ตรอมใจตาย ทิ้ง ทัย (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) ให้แม่กับพี่สาวเลี้ยงอย่างลำบาก อยู่มาไม่นานสุดา ป้าของทัยก็ถูกรถชนตายไปอีกคน ทำให้ทัยต้องรับภาระดูแล ยายสิน (พิสมัย วิไลศักดิ์) กับ น้องหนู (บัณฑิตา ศรีนวลนัด) ลูกสาววัย 7 ขวบของป้าสุดาที่มีอาการพิการทางสมอง ทัยใฝ่ฝันอยากเป็นคนเชิดสิงโต แต่ก็เป็นเพียงแค่ฝัน เพราะหลังจากที่บ้านทัยโดยไฟไหม้ ทัยก็พายายกับน้องหนูมาหางานทำในกรุงเทพฯ ทัยอดทนทำงานหนักเพื่อเลี้ยงยายกับน้อยแล้วยังส่งตัวเองเรียนจนจบ ม. 3 ชีวิตทัยแตกต่างจาก ยิษฐา หรือ คุณหนูยิ่น (สุวนันท์ คงยิ่ง) อย่างสิ้นเชิง ยิ่นเรียนจบวรรณคดีมาจากลอนดอน ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน แต่อธิปต้องการให้ยิ่นสานต่อการค้าอาวุธ ทำให้ นิทรา (รุ่งนภา กิติวัฒน์) แม่ของยิ่นต้องคอยห้ามทัยพ่อลูกคู่นี้อยู่ตลอดเวลา เวลามีปัญหายิ่นจะปรึกษากับ บุลลา หรือเอ๋ย (ศริญญา สวนสุวรรณ) ทุกครั้ง เพราะเอ๋ยเป็นเพื่อนสนิทที่สุดเพียงคนเดียวของยิ่น วันหนึ่งนิทราโดนวิ่งราวกระเป๋า ทัยเห็นพอดีเลยช่วยจับโจรจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ ต้องเข้าโรงพยาบาล นิทราตอบแทนทัยด้วยการให้เป็นคนขับรถของตน อธิปเห็นหน้าทัยแล้วรู้สึกตกใจมาก เพราะทัยหน้าเหมือนเกื้อเพื่อนรักที่อธิปฆ่าตาย เมื่ออธิปให้ลูกน้องสืบข้อมูลทัยจนรู้แน่แล้วว่าทัยเป็นลูกของเกื้อจริงๆ อธิปไม่อยากให้ทัยใกล้ครอบครัวเขาเลย ทัยได้เจอยิ่นอีกครั้งที่งานประมูลของเด็กพิการทางสมองที่ยิ่นจัดขึ้น งานนี้ ไตรคุณ (อรรถพล อนุรุทธิกร) ลูกชาย ไตรภาพ (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) นายธนาคารสนใจยิ่นออกนอกหน้า ส่วน สันธาน (พงศกร มหาเปารยะ) คุณหมอเจ้าของมูลนิธิฯ ก็ปลื้มยิ่นเช่นกัน ตรีดาว (ยุพาพักตร์ วัชราภัย) คอยเตือนน้องชายว่ายิ่นเป็นลูกศัตูรแต่ไตรคุณไม่สนใจ แฟลตที่ทัยอยู่มี กระวาน (นาเดีย นิมิตรวานิช) แม่ค้าเกี๋ยวเตี๋ยวปากร้ายแต่ใจดี และบัติ (อรรถพร ธีมากร) ลูกมือร้านตัดขนสุนัข เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือทัยดูแลยายกับน้องหนูเวลาที่ทัยไม่อยู่ บัตแอบชอบกระวานมาตลอด แต่กระวานแอบรักทัยโดยที่ทัยไม่รู้ตัว เมื่อทัยได้งานทำเป็นหลักแหล่งเลยคิดจะตอบแทนเพื่อนๆ ด้วยการพาไปเที่ยวทะเล ที่พัทยา ทัยได้มีโอกาสช่วยยิ่นที่กำลังถูกฝรั่งลวนลามจนถูกตีหัวแตก พออธิปรู้เรื่องกลับโกรธทัยที่ทำตัวมีบุญคุณกับนิทราและยิ่นไม่จบสิ้น ต่อมาทัยทำหน้าที่ปกป้องนิทรากับยิ่นจากการถูกลอบยิงจนทัยเกือบเอาชีวิตไม่รอด จากเหตุการณ์ครั้งนี้อธิปเลยคิดแผนให้ทัยได้มาทำงานกับเขาเพื่อสร้างบุญคุณให้กับทัย โดยให้ทัยเป็นบอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยให้นิทราและยิ่น อธิปเลยให้ทัยไปฝึกการใช้อาวุธและศิลปะการต่อสู้แบบเงียบๆ

หัวใจห่อใบตอง 2547

เรื่องย่อ : หัวใจห่อใบตอง (2547/2004) หัวใจห่อใบตอง เป็นเรื่องราวของนิด นิด เป็นคนขยันและมีน้ำใจ นนท์ พ่อของ นิด มีครอบครัวใหม่ เงินที่เคยส่งให้ สุมน แม่ของ นิด ลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดส่ง นิด ตัดสินใจไม่เรียนต่อเมื่อจบ ม.6 เพราะอยากให้ หนุ่ย น้องชาย ได้เรียนสูงๆ ส่วนเธอเลือกเรียน มสธ. แล้วช่วยแม่ทำขนมขาย ธีรชาติ ทายาทคนเดียวของ ชาติ นักธุรกิจชื่อดัง เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทำให้มารดาทาบทาม กิ่งแก้ว ลูกสาวเพื่อนรักไว้ให้ แต่ ธีรชาติ คิดกับ กิ่งแก้ว เพียงแค่น้องสาว วันหนึ่ง ธีรชาติ นั่งรถผ่านร้านขนมของ นิด คนขับรถขอแวะซื้อขนม ธีรชาติ นั่งคอยนานจึงตัดสินใจลงไปตาม เมื่อเห็นหน้า นิด รู้สึกประทับใจในความสวยและความมีน้ำใจ เขาจึงแนะนำตัวกับ นิด ว่าชื่อ ขันหมาก เป็นคนขับรถให้กับเศรษฐี และคิดหาวิธีต่างๆเพื่อใกล้ชิดกับ นิด หลังจากนั้น ธีรชาติ กลายเป็นแขกประจำของครอบครัว นิด ซึ่งเธอก็ไม่รังเกียจที่จะคบหาฉันเพื่อน จู่ๆร้านขนมของ สุมน โดนกลั่นแกล้ง ทำให้ยอดขายตก สภาพการเงินแย่ลง ต่อมา นิด ไปส่งขนมที่ร้านของ แพร นางแบบเก่าที่รู้จักมานาน ชักชวนให้เป็นนางแบบ นิด ตัดสินใจลองทำ ทางด้าน ธีรชาติ สืบจนรู้ว่าเป็นฝีมือของ ทิพย์ แม่ค้าขี้อิจฉา จึงช่วยเหลือจนร้าน สุมน กลับมาขายดีอีกครั้ง วันหนึ่ง นิด ไปหา นนท์ ที่ต่างจังหวัด ทำให้ นนท์ ดีใจที่ลูกมาหา ธีรชาติ ตามไปหา นิด และได้ทำความรู้จักกับ นนท์ ความสนิทระหว่างพ่อลูกทำให้ วลี ภรรยาใหม่ของ นนท์ ไม่พอใจจนถึงขั้นมีปากเสียงกัน ชาติ ต้องรีบไปสนามบินเพื่อติดต่อธุรกิจ แต่รถของเขาติดหล่มท่ามกลางฝนตก โชคดี นิด และ หนุ่ย เข้ามาช่วยกันเข็นทำให้ ชาติ สามารถไปติดต่อธุรกิจได้ทัน ชาติ รู้สึกถูกชะตาและพอใจในความมีน้ำใจ จนกระทั่ง ชาติ เล่าให้ ธีรชาติ ว่าเธอผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากแนะนำให้รู้จัก แต่ ธีรชาติ ปฏิเสธ เพราะเขามีคนที่เขารักอยู่แล้ว สุมน ทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน ระหว่างนั้น ชาติ ที่นำของมาให้เพื่อตอบแทนน้ำใจของ นิด มาพบว่า สุมน เป็นลมหมดสติไป ชาติ เป็นธุระพาส่ง รพ. นิด จะตามไปด้วย แต่ สุมน สั่งให้เธอเฝ้าบ้านแทน ธีรชาติ เข้ามาช่วยเหลือ นิด ทำขนม เพราะเห็นว่า สุมน ยังป่วยอยู่ เขาตัดสินใจสารภาพรักกับ นิด และเอ่ยปากขอแต่งงาน นิด ขอให้ ธีรชาติ ไปพูดกับ สุมน ก่อน ต่อมา นนท์ หย่ากับ วลี เพราะมีชู้ นนท์ กับ สุมน มีโอกาสปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง ประจวบกับที่ ชาติ มาเยี่ยม สุมน เอ่ยปากขอ นิด ให้ลูกชาย ขณะนั้นเอง ธีรชาติ มาเยี่ยม สุมน เช่นเคย พอเห็น ชาติ ก็ตกใจ ความลับเลยแตก นิด งอนที่ถูกหลอก ธีรชาติ เลยตามงอนง้อจนเข้าใจในที่สุด

หลงทางรัก 2547

หลงทางรัก (2547/2004) เลอลักษมี เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณสุรัสวดี ด้วยความที่เป็นที่รักของพ่อแม่และปู่ซึ่งเป็นมหาเศรษฐี ทำให้เธอเติบโตมาเป็นคนที่จู้จี้เจ้าระเบียบและเอาแต่ใจตัวเองเป็นอย่างยิ่ง เลอลักษมีมีเลขาส่วนตัวชื่อ พิเภก ซึ่งเป็นผู้ชายที่กระตุ้งกระติ้ง และคนสนิทชื่อ อรอุมา ซึ่งเป็นคนสวยเรียบร้อยใจดี หลังจากที่คุณปู่เสียชีวิต ก็ได้เขียนพินัยกรรมพร้อมระบุว่ามรดก 800 ล้าน จะเป็นของเลอลักษมี และอมรเทพ ญาติผู้พี่ของเธอ เมื่อทั้งสองแต่งงานกันภายใน 1 ปี หลังจากเปิดพินัยกรรม แต่ถ้าทั้งสองไม่แต่งงานกัน เลอลักษมีจะได้สมบัติครึ่งหนึ่ง ส่วนอมรเทพจะไม่ได้อะไรเลย คุณอารมณ์ พ่อของอมรเทพไม่พอใจมาก เพราะรู้ว่าคุณสุรัสวดีและเลอลักษมีทั้งๆ ที่เขาและอรอุมาแอบชอบกันอยู่ วันหนึ่งเลอลักษมีอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดจึงชวนอมรเทพ อรอุมา พิเภก และบรรดาคนใช้ไปด้วย แม้ทุกคนจะเบื่อหน่ายในความเรื่องมากของเลอลักษมีแต่ก็ขัดไม่ได้ ทิว เป็นชายหนุ่มพ่อหม้ายลูกสาม และเป็นเจ้าของฟาร์มโคนมแห่งเดียวในจังหวัด เขามีเพื่อนสนิทคือ หมอวิเศษ สัตวแพทย์ประจำตำบล ซึ่งเป็นคนสนุกสนานร่าเริง โต้ง ตั้ว และต่าย ลูกทั้งสามของทิวจึงติดลุงหมอกันมาก เมื่อมาถึงต่างจังหวัด เลอลักษมีก็ได้ใช้เงินเพื่อเช่าบ้านในไร่แห่งหนึ่ง ด้วยความที่ไม่เคยอาบน้ำบาดาล ทำให้เธอคันตัวมาก พิเภกจึงอาสาที่จะไปหาน้ำนมมาให้อาบแทน เพราะรู้ว่าละแวกนี้มีฟาร์มโคนมอยู่แห่งหนึ่ง พิเภกพยายามจะใช้เงินซื้อนมจากฟาร์มของทิว แต่เขาไม่ยอม เพราะต้องส่งเจ้าประจำแถมไม่พอใจที่จะนำน้ำนมที่มีค่าไปใช้อาบ แต่พอดีหมอวิเศษมาบอกให้ขายเพราะโรงงานเจ้าประจำเครื่องผลิตนมเสีย ทิวจึงยอมขาย ขณะที่ไปส่งนม คนงานส่งนมขาดไปหนึ่งคน ทิวจึงยกไปส่งโดยที่ไม่รู้ว่าเลอลักษมีกำลังอาบน้ำอยู่ เลอลักษมีโกรธมาก ส่งให้คนซ้อมทิวจนสะบักสะบอม พิเภกเห็นจึงอธิบายว่าทิวคือเจ้าของฟาร์ม เลอลักษมีจึงขอโทษและจะใช้เงินค่ารักษาพยาบาล แต่ทิวโกรธมากและปฏิเสธไป แถมให้เงินเลอลักษมีอีก 5 บาทโดยบอกว่าให้เพราะได้ดูโชว์จ้ำบ๊ะฟรี เมื่อทิวกลับมาถึงบ้านในสภาพฟกช้ำดำเขียว บรรดา โต้ง ตั้วและต่าย โกรธมาก และคิดแก้แค้นเลอลักษมีแทนพ่อ วันต่อมาพิเภกมาขอซื้อนมอีก ทิวยอมขายเพราะลูกๆ อ้อนวอน ความจริงแล้วเด็กๆ แอบใส่หมามุ่ยลงไปในถังนม ทำให้เลอลักษมีคันไปทั้งตัว ด้วยความโกรธเธอจึงขับรถออกมาจากที่พักตามลำพัง โดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากอมรเทพ รถยนต์ที่เลอลักษมีขับเกิดเบรกแตกทำให้รถตกเขา พวกอมรเทพรีบมาที่ฟาร์มของทิวเพราะคิดว่าเลอลักษมีมาที่นั่นแต่ก็ไม่พบอะไร ทิวเริ่มห่วงว่าเลอลักษมีจะประสบอันตราย โต้ง ตั้ว และต่ายต้องไปเรียนพิเศษกับครูพิมพา เป็นประจำ เด็กๆ ไม่ชอบครูพิมพาเพราะทั้งดุ เจ้าระเบียบและที่สำคัญเธอแอบชอบทิวอยู่ เวลาที่ทิวมารับเด็กๆ ก็จะพูดจาอ่อนหวาน และให้การบ้านเด็กๆ มากๆ เพื่อถ่วงเวลาให้ทิวอยู่คุยกับตนนานๆ หลังจากเรียนพิเศษเสร็จ เด็กๆ กลับบ้านได้เจอกับดาว ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่ด้วง นำปิ่นโตมาให้ทิว แถมทำตาหวานให้ทิวอีก เด็กๆ หมั่นไส้จึงแอบเจาะยางรถจักรยานของดาว หมอวิเศษซึ่งชอบดาวอยู่จึงอาสาไปส่งพร้อมช่วยปะยางให้ ผู้ใหญ่ดวงชอบในตัวหมอมาก แต่ดาวไม่สนใจหาว่าอยู่กับสัตว์จนขนเยอะเหมือนลิง คนงานในไร่ของทิวพบว่ามีซากรถตกเขาอยู่ ทิวจึงรีบโทรบอกอมรเทพให้มาดู แต่แล้วก็ต้องแปลกใจที่อมรเทพไม่ค่อยใส่ใจกับการหายตัวไปของเลอลักษมีนัก เมื่อคุณสุรัสวดีรู้ว่าลูกหายก็เป็นห่วงมาก รีบตามมาพร้อมคุณระเด่น ทนายความเพราะกลัวว่าอมรเทพจะฮุบสมบัติแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลอลักษมี สุรัสวดีจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ ฝ่ายเลอลักษมีหลงทางอยู่ในป่า จนมีคนไปพบและพาส่งอนามัยตำบลในสภาพของคนความจำเสื่อม ป้าหอมแม่บ้านของทิวได้ลากลับไปทำธุระที่บ้าน ทำให้เด็กๆ และทิวต้องทำงานบ้านกันเอง พอดีต่ายปวดท้องขึ้นมา ทิวจึงพาไปหาหมอที่อนามัย และได้เจอกับเลอลักษมีโดยบังเอิญ เขาแปลกใจมากที่เลอลักษมีดูสงบเสงี่ยมไม่โวยวายใส่เขาเหมือนเดิม จึงได้รู้ภายหลังว่าเธอความจำเสื่อม ทิวจึงคิดแก้เผ็ดโดยจะให้เธอมาอยู่บ้านเขาในตอนที่ป้าหอมไม่อยู่ โดยให้ทำงานบ้านเพื่อดัดนิสัยเย่อหยิ่ง ลูกๆ เห็นด้วยกับความคิดของทิว ทิวจึงไปที่อนามัยพร้อมบอกว่าเลอลักษมีเป็นภรรยาของเขาชื่อ เตือนใจ พร้อมนำรูปถ่ายและบอกตำหนิไฝในร่างกายของเธอได้หมด เพราะเคยเห็นตอนที่เธออาบน้ำ เลอลักษมีแปลกใจมาก เพราะเธอไม่คุ้นกับฟาร์มและเด็กๆ แต่เมื่อทิวและเด็กๆ ยืนยันว่าเธอเป็นเมียและแม่ เลอลักษมีจึงยอมรับสภาพแต่โดยดี ทิวและเด็กๆ เริ่มให้เลอลักษมีทำงานบ้านและอาหาร เธอรู้สึกเหนื่อยมากแต่เพื่อลูกๆ ที่น่ารักและสามี เธอจึงยอมหัดทำอาหาร ดาวแวะมาหาทิว และได้รู้ว่าเขามีเมียก็แปลกใจ แถมเด็กๆ จอมแสบก็ยอมรับในตัวเลอลักษมีอีกด้วย ดาวจึงเชื่ออย่างสนิทใจว่าเลอลักษมีคือเตือนใจเมียของทิว เธอเสียใจแต่ก็ได้หมอวิเศษคอยอยู่ปลอบใจ ฝ่ายครูพิมพาเห็นว่าเด็กๆ ขาดเรียนไปหลายวันจึงมาตามไปเรียนก็ได้พบเด็กๆ กำลังล้างรถกับเลอลักษมีอย่างสนุกสนาน เธอทำเป็นดุเด็กๆ ว่าสกปรก แต่เมื่อเลอลักษมีแสดงตัวว่าเป็นเมียของทิวและแม่ของเด็กๆ ก็ทำให้ครูพิมพาหน้าแตกกลับไป เด็กๆ เริ่มประทับใจในตัวเลอลักษมีที่ปกป้องพวกเขาได้ หลังที่เลอลักษมีทำงานติดต่อกันหลายวันก็ป่วย ทิวและเด็กๆ เริ่มสงสารจึงให้พักและช่วยกันทำงานบ้านเอง เลอลักษมีซึ้งใจมากที่ลูกๆ ห่วงใยเธอ เลอลักษมีได้ล้างรถให้ทิวก็ได้พบชุดชั้นในราคาแพง แต่เธอจำไม่ได้ว่าเป็นของเธอเอง จึงคาดคั้นกับทิวเพราะคิดว่าเขามีผู้หญิงซ่อนไว้ ทิวจึงโบ้ยว่าหมอวิเศษซื้อมาฝากดาวแต่ไม่กล้าให้ นั่นทำให้หมอวิเศษต้องตกบันไดพลอยโจน ต้องนำชุดชั้นในไปให้ดาว และเสี่ยงกับการโดนตบเพราะทะลึ่ง แต่เรื่องกลับตาลปัตร ดาวเริ่มชอบในตัวหมอวิเศษที่คุยสนุก และจริงใจกับเธอ ที่กรุงเทพฯ คุณสุรัสวดีให้จ้อยและศักดิ์ 2 คนคุ้มกันเลอลักษมีไปตามหาลูกสาวของเธอ โดยให้รางวัล 1 ล้านบาท พิเภกได้ยินพอดีจึงนำเรื่องนี้ไปบอกอมรเทพ เขาจึงถ่วงเวลา 2 สมุน โดยให้เหล้าไปเลี้ยงฉลอง ทั้งๆ ที่อมรเทพก็เป็นห่วงเลอลักษมี แต่ก็ขยาดความเอาแต่ใจของเธอ รวมทั้งไม่อยากแต่งงานด้วย ป้าหอมใกล้จะเดินทางกลับ ทิวจึงให้หมอวิเศษไปรับหน้าและอธิบายเรื่องเลอลักษมี ทิวไม่สบายใจบอกกับลูกๆ ว่าจะบอกความจริงกับเลอลักษมีและส่งเธอกลับบ้าน พวกเด็กๆ ไม่ยอม ทำให้เลอลักษมีสงสัยว่าลูกๆ มีแผนอะไร ขณะที่หมอวิเศษจอดรถคุยกับป้าหอมนั้น ผู้ใหญ่ดวงคิดว่าคุยกับผู้หญิงจึงไปบอกดาว เธองอนหมอวิเศษจึงให้ทิวช่วยไกล่เกลี่ยให้ ครอบครัวของทิวทำบุญครบรอบวันตายให้เตือนใจตัวจริง ซึ่งเป็นแม่ของเด็กๆ แต่บอกเลอลักษมีว่าทำบุญให้ยายของเด็กๆ ฝ่ายจ้อยและศักดิ์ก็ได้มาถึงตลาดในเมือง ก็ได้เห็นเลอลักษมีแว้บๆ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะเห็นกันคนละครั้ง แต่ก็ได้ไล่ตามไป เลอลักษมีตกใจวิ่งหนีเกือบถูกรถชน เธอสลบไป ทิวตกใจมากที่เลอลักษมีหายไปจึงไปตามหา พอดีหมอวิเศษกับดาวไปอนามัยจึงรับเลอลักษมีกลับมา ซึ่งจากความตกใจครั้งนี้ ทำให้ความจำของเลอลักษมีกลับมาบางส่วน หมอวิเศษจึงบอกให้ทิวรู้และเตือนเรื่องสมุนที่ตามตัวเลอลักษมี ทิวนำเรื่องนี้มาบอกเด็กๆ ทุกคนบอกจะเฝ้ายามและคอยดูแลปกป้องเลอลักษมีทำให้เลอลักษมีงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกๆ จ้อยและศักดิ์วนเวียนมาที่ฟาร์ม แต่ก็ถูกเด็กๆ ไล่กระเจิง ทิวตัดสินใจจะพาเลอลักษมี เด็กๆ รวมถึงหมอวิเศษและดาวไปพักผ่อนที่ชายทะเล เป็นการหลบหน้าพวกจ้อยและศักดิ์ แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก อมรเทพก็พาอรอุมาไปทะเลเช่นกัน ทั้งทิวและอมรเทพต่างเห็นกันและกัน แต่ไม่ทัก อมรเทพเห็นเลอลักษมี แต่แกล้งไม่เห็นและชวนอรอุมากลับกรุงเทพฯ เธองงๆ แต่ก็ไม่ขัดอมรเทพ เมื่อถึงกรุงเทพฯ อมรเทพให้พิเภกไปสืบหาเลอลักษมีแต่ไม่พบ คุณสุรัสวดีว่า อมรเทพ จ้อย และศักดิ์ ตามหาเลอลักษมีไม่เจอจึงคิดประกาศลงหนังสือพิมพ์ โดยให้รางวัล 10 ล้าน อมรเทพรู้เรื่องจึงรับอาสาจะจัดการให้แต่ที่จริงแล้วเขานำไปลงประกาศแค่ฉบับเดียว การไปเที่ยวทะเลทำให้ทิวและเลอลักษมีเข้าใจกันมากขึ้น เลอลักษมีได้รู้ว่าทิวกำลังทำโครงการเสนอธนาคารเพื่อขอทุนขยายฟาร์มแต่โครงการไม่ผ่าน เลอลักษมีจึงเข้ามาแก้ไขให้ทิวสบายใจที่มีคนช่วยแบ่งเบาภาระให้เขา ในที่สุดการเสนอโครงการกับธนาคารก็ได้รับการอนุมัติ ทุกคนดีใจมาก หมอวิเศษต้องแต่งงานกับดาว เพราะญาติๆ หาว่าพาไปค้างอ้างแรมมาเขาตื่นแต้นแต่ก็ดีใจ เลอลักษมีได้ไปดูแลฟาร์มพร้อมเด็กๆ ขากลับเธอขับรถขึ้นเขา และรู้สึกคุ้นเคยกับทาง และได้พบว่าซากรถตกเขาอยู่ เธอจำได้ขึ้นมาทันทีว่าเป็นของเธอ ขณะที่กำลังจะนึกออก เด็กๆ ก็พยายามทำเสียงโหวกเหวกให้เลอลักษมีไม่มีสมาธิ แล้วทิวก็ตามมาพากลับบ้านพอดี ทิวกลุ้มใจเพราะไม่รู้ว่าจะปกปิดความจริงได้อีกนานแค่ไหน และที่สำคัญเขาและลูกๆ ก็ผูกพันกับเลอลักษมีมาก หลังจากที่คุณสุรัสวดีคิดว่าอมรเทพลงข่าวของเลอลักษมีแล้ว ก็เอาแต่เฝ้ารอข่าวลูกจนอรอุมาสงสาร จึงไปคาดคั้นให้อมรเทพตามหาเลอลักษมีให้เจอ ด้วยความที่เขารักอรอุมามากจึงยอมบอกว่าเขาพบเลอลักษมีแล้ว และจะไปนำตัวกลับมาตามที่อรอุมาขอ แม้ว่าจะเสี่ยงกับฤทธิ์ของเลอลักษมี อรอุมาดีใจมากจึงไปบอกคุณสุรัสวดี เธอจึงจะไปตามลูกด้วย เพราะไม่ไว้ใจอมรเทพ เมื่อคุณสุรัสวดีไปถึงฟาร์มของทิว ก็ได้พบเลอลักษมี เธอดีใจและเข้าไปกอด เลอลักษมีเริ่มจำแม่และอมรเทพได้ จึงยอมกลับไปกรุงเทพฯ โดยที่ทิวก็ห้ามไม่ได้ เพราะเลอลักษมีโกรธที่เขาโกหกเธอตลอดเวลา ส่วนเด็ก โดยเฉพาะต่ายลูกสาวคนเล็กของทิว ซึ่งติดเลอลักษมีมากก็เอาแต่ร้องไห้ เลอลักษมีเองก็ใจอ่อนแต่คุณสุรัสวดีก็พยายามพาลูกกลับไป และจะทำให้แต่งงานกับอมรเทพ จะได้แบ่งสมบัติได้ บรรดาคนใช้ต่างตกใจกับการเปลี่ยนแปลงของเลอลักษมีที่ใจดี ไม่ดุและถือตัวอย่างเมื่อก่อน เลอลักษมีเฝ้าแต่คิดถึงชีวิตที่มีความสุขที่ฟาร์ม ทิวเอาแต่เศร้า หมอวิเศษตามมาให้สติและนำที่อยู่ของเลอลักษมีที่อมรเทพให้กับผู้ใหญ่ด้วงไว้ ทิวดีใจมาก พาลูกๆ เข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เลอลักษมีจะเข้าโบสถ์แต่งงาน เธอดีใจมากที่เห็นทิวและลูกๆ ในที่สุดเลอลักษมีก็เลือกที่จะไปอยู่กับทิว และบอกว่าเธอเลือกชีวิตที่อบอุ่นมากกว่าเงินทอง อมรเทพดีใจมากและบาทหลวงดำเนินพิธีระหว่างเขาและอรอุมาต่อ ทิวและเลอลักษมีแสดงความยินดีกับพวกเขาด้วย

บ้านภูตะวัน 2547

เรื่องย่อ : บ้านภูตะวัน (2547/2004) ที่สวนสาธารณะกลางกรุง ตะวัน หรือ สุริยฉาย สุริยะ ทายาทพิการแห่งบ้านภูตะวันเกือบถูกโจรเชือดคอกลางวันแสกๆ ถ้าไม่ได้ แดง รัชดา หญิงสาวผู้ปราดเปรียวเสี่ยงชีวิตเข้ามาช่วย พร้อมๆ กับ ร.ต.อ.สัณฑ์ ยอดบางไผ่ นายตำรวจหนุ่มสมาร์ทที่พุ่งเข้ามาต่อสู้ล็อคคนร้ายไว้ได้ มิตรภาพอันงดงามระหว่างสองสาว หนึ่งหนุ่มจึงเกิดขึ้น…ตะวันแอบรักสัณฑ์อยู่เงียบๆ และผูกพันเชื่อใจแดงรัชดาเหมือนพี่สาวแท้ๆ จนเมื่อสัณฑ์ได้รับทุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ไปเรียนต่อต่างประเทศด้าน อาชญวิทยา สามหนุ่มสาวก็ห่างกันไป ตะวันเฝ้ารอวันที่จะได้พบพี่สาวและชายผู้เป็นที่รักอยู่บ้านภูตะวัน อาณาจักรใหญ่มูลค่าพันล้าน ซึ่งพ่อแม่ทิ้งไว้ให้หลังการตายปริศนา โดยการดูแลของ แม่เลี้ยงแสงเพ็ญ น้าสาวของตะวัน และบุญน้อม พี่เลี้ยง เวลา ผ่านไป 2 ปี สัณฑ์บินกลับมาพร้อม แสงระวี สาวเปรี้ยวที่ใช้ชีวิตด้วยกันในต่างแดน ทันทีก็เจอคดียากหลายคดีติดๆ กัน ในเวลานั้นความรักที่สัณฑ์มีให้แสงระวีและภารกิจที่ต้องตามจับฆาตกรที่ฆ่า เพื่อนสนิทของสัณฑ์ ทำให้สัณฑ์ลืมเวลาดีๆ ที่เคยมีกับตะวันและแดงรัชดาไปสนิทใจ ตรงข้ามกับตะวันที่เฝ้าตามหาคนทั้งสอง และแอบเศร้าอยู่เงียบๆ กับภาพวาดของแดงรัชดาที่ตะวันเขียนไว้ที่ใต้ภาพว่า พี่สาวที่แสนดี และภาพชื่อ อยู่ไกล ซึ่งเป็นภาพวาดของสัณฑ์ เสธ.ประชา พ่อของสัณฑ์เป็นนักการเมืองชื่อดัง ภาพภายนอกเป็นนักบุญแต่ฉากหลังคือ มาเฟียใหญ่ที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว สัณฑ์ไม่เคยล่วงรู้เบื้องหลังเลยว่าที่แท้ ประชา คือผู้บงการฆ่า สัณฑ์ สืบทุกคดีปริศนา โดยได้หมวดแทนตำรวจรุ่นน้องเป็นคู่หูคู่ใจ ปัญหาก็คือ ฆาตกรไม่เคยทิ้งร่องรอยให้ตามสืบได้แม้สักครั้งเดียว สัณฑ์จึงวางแผนแนบเนียนให้ทุกคนเข้าใจว่าลาพักงาน ขณะที่เร่งฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย เรียนรู้วิธีคิดอย่างนักฆ่า เพื่อเข้าถึงใจฆาตกรได้ แดง รัชดา พยายามเข้าใกล้สัณฑ์และกลั่นแกล้งแสงระวีด้วยความหมั่นไส้ ขณะที่แสงระวีก็ตั้งแง่รังเกียจตะวันที่สัณฑ์ให้ความสนิทสนมด้วย ไม่มีใครรู้ว่า แดง รัชดา เจ้าของร้านดอกไม้ผู้ปราดเปรียวคือนักฆ่าฝีมือฉกาจ ในซุ้มของ ยอดศึก ซึ่งมี เกรียงเพชร เป็นครูฝึกที่เข้มงวด ซึ่งนอกจากแดงรัชดาแล้ว ซุ้มนี้ยังมี แดง คลองเตย และ แดง รามอินทรา ทั้งสามเป็นเด็กเร่ร่อนที่ยอดศึกเก็บมาเลี้ยง ยอดฝีมือทั้ง 3 ทำงานได้แม่นยำและไม่เคยทิ้งร่องรอย เสธ.ประชามี ความสัมพันธ์ลับๆ กับแม่เลี้ยงแสงเพ็ญ ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังการตายของพ่อแม่ตะวันเป็นฝีมือแม่เลี้ยงแสงเพ็ญที่ ต่อหน้าใครๆ ก็ใส่หน้ากากเป็นคนดี แสงเพ็ญจำต้องเลี้ยงหลานพิการเพราะพินัยกรรมได้ระบุไว้ว่า ถ้าตะวันเป็นอะไรไป มรดกทั้งหมดจะถูกยกให้การกุศล แม่เลี้ยงแสงเพ็ญจึงคิดแผนให้ตะวันแต่งงานกับสัณฑ์พอสมบัติเปลี่ยนมือก็ค่อย เก็บตะวัน ติดอยู่ที่ว่าสัณฑ์มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ แสงระวี เสธ.ประชาจึงช่วยวางแผนเช่าสัณฑ์จากแสงระวีไปเป็นเจ้าบ่าวของตะวันเป็นเวลา 3 เดือน แสงระวีปฏิเสธในตอนแรก แต่ก็ต้องจำยอมในภายหลังเพราะเพิ่งมารับรู้ความจริงว่าบ้านกำลังจะถูกยึด ครอบครัวจะล้มละลาย แต่แสงระวีก็มั่นใจเต็มร้อยว่าสัณฑ์จะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากเธอแน่นอน ส่วน สัณฑ์เองก็ไม่ยอมแต่งงานในตอนแรก ประชาต้องสร้างเรื่องว่าที่อยากให้สัณฑ์แต่งงานเพราะผู้หญิงที่จะเป็นเจ้า สาวของสัณฑ์ คือ ลูกสาวของคนที่เคยมีบุญคุณกับตน อยากให้สัณฑ์เป็นตัวแทนตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ สัณฑ์หนักใจ แต่บังเอิญภารกิจที่ทำอยู่ทำให้สัณฑ์คิดวางแผนให้ตัวเองออกจากตำรวจเพื่อตบ ตาเหล่านักฆ่า สัณฑ์เลยต้องทำตัวให้เป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ถูกบังคับให้แต่งงาน เพื่อจะได้พรางตัวให้ทำงานได้สะดวกขึ้นและไม่เป็นเป้าของพวกนักฆ่าอีกต่อไป สัณฑ์เดินทางสู่บ้านภูตะวัน จึงได้รู้ความจริงว่าคนที่จะต้องแต่งงานด้วยคือ ตะวัน ผู้หญิงพิการผู้น่าสงสาร ภาพอดีตที่เคยผูกพันก็ย้อนกลับเข้ามาในความรู้สึกสัณฑ์อีกครั้ง แสง เพ็ญวางแผนให้ทั้งคู่รักกัน จึงให้สัณฑ์จัดงานวันเกิดเซอร์ไพรส์ตะวัน คืนนั้นตะวันกับสัณฑ์ถูกลักพาตัวโดยคู่แข่งทางการเมืองของประชา สัณฑ์พาตะวันหนีรอดออกมาได้แต่บาดเจ็บสาหัส ตะวันคอยดูปรนนิบัติสัณฑ์ ความใกล้ชิดทำให้สัณฑ์เห็นความน่ารักอ่อนโยน และจริงใจ ก็ยิ่งเกิดความสงสาร จากความรู้สึกดีที่เคยมีให้กันในอดีตก่อเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว แสงระวี มั่นใจมาตลอดว่าสัณฑ์มีเธอคนเดียว เริ่มหึง จึงวางแผนพาตัวเองไปยังบ้านภูตะวัน โดยใช้ให้ศรีวรา น้องสาวไปสมัครเรียนศิลปะกับตะวัน แสงเพ็ญพอรู้ว่าแสงระวีมา อาละวาดที่บ้านภูตะวัน ก็ออกโรงตบสั่งสอนไม่ให้ยุ่งกับตะวันอีก แต่แสงระวีไม่ยอม สัณฑ์แม้จะรักตะวันแต่ก็รู้สึกผิดกับแสงระวี ประชาจึงแก้ปัญหาด้วยการบอกสัณฑ์ตรงๆ ว่าที่แสงระวียอมให้สัณฑ์แต่งงานกับตะวันเพราะตนเช่าสัณฑ์จากแสงระวี อยู่ๆ ซุ้มยอดศึกที่เคยรับงานฆ่าจากตัวแทนของประชา ก็ได้รับคำสั่งจากกลุ่มคนนิรนามให้ฆ่าประชา พ่อของสัณฑ์ เกรียงเพชร นำทีมสามแดงออกปฏิบัติงานลอบสังหารประชา แผนแยบยลขนาดมดก็ลอดหนีไปไม่ได้หลังจากยิงประชาแล้ว ทั้งสามต้องถอยห่างออกจากวงการนี้ตลอดกาล แต่พอกลับถึงซุ้มก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อยอดศึกเปิดให้ดูเทปข่าวที่เสธ.ประชาไปอภิปรายอยู่อีกที่หนึ่ง เสธ.ประชารอดตายเพราะมีตัวแทนไปในทุกที่ ไม่มีใครรู้ว่าคนไหนเป็นตัวจริง ยอดศึกรู้ว่าจุดอ่อน ของประชาคือผู้หญิง จึงส่งแดงรัชดาไปฆ่าประชา แดง รัชดา จำต้องรับงานนี้ด้วยความกดดันเพราะที่ต้องลงมือฆ่าพ่อคนที่ตัวเองรัก ยอด ศึกส่งเกรียงเพชร แดง คลองเตย และแดง รามอินทรา ไปช่วย แดง รัชดา ซึ่งปลอมตัวเป็นหมอนวดเข้าไปในเซฟเฮ้าส์ของประชา ระหว่างลงมือประชารู้ตัว เกิดการต่อสู้ เกรียงเพชรพาลูกศิษย์ที่สะบักสะบอมกลับมาที่ซุ้ม แดง คลองเตย กับ แดง รามอินทรา บาดเจ็บสาหัส ส่วน แดง รัชดา เป็นตายเท่ากัน เมื่อรู้ว่าสัณฑ์หมดรักในตัวเองแน่แล้ว แสงระวีจึงคิดแผนแกล้งทำดีกับตะวันเพื่อที่จะอยู่ภูตะวันต่อไป แต่ลับหลังก็แกล้งผลักตะวันตกน้ำ และผลักตกภูเขา ตะวันไม่กล้าบอกใครว่าเป็นฝีมือแสงระวีจนแอบได้ยินแสงเพ็ญคุยกับประชาว่า หลังแต่งงานพอได้สมบัติก็จะฆ่าตะวันให้เหมือนกับที่ทำกับพ่อและแม่ ตะวันได้ยินการสนทนาทั้งหมด ตกใจมากคิดได้แต่ว่าเมื่อยังไม่แต่งก็ไม่ตาย จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านพร้อมบุญน้อมด้วยความเสียใจและไม่ไว้ใจสัณฑ์อีกต่อ ไป ตะวันหนีมาหา แดง รัชดา แต่กลับพบ แดง รามอินทรา ซึ่งปลอมตัวเป็น อินทิรา คนขายดอกไม้ พร้อมแต่งเรื่องว่า แดง รัชดา ไปศัลยกรรมใบหน้าที่ญี่ปุ่น เพราะได้รับอุบัติเหตุ และพาตะวันไปอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ยอดศึก ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นพ่อของ แดง รัชดา ตะวันประทับใจในความอบอุ่นและเป็นสุภาพบุรุษของยอดศึก จนยอมเปิดปากเล่าเรื่องที่ตนต้องหนีงานแต่งงานมา ยอดศึกจึงคิดแผนให้ แดง รัชดา ปลอมตัวเป็นตะวันเพื่อฆ่าประชา ที่ภูตะวัน พอตะวันหายไปก็ค้นหากันจ้าละหวั่น แสงเพ็ญให้คนของประชาจับแสงระวีมาคาดคั้นหาความจริงแต่ก็ไม่ได้อะไร สัณฑ์ออกตามหาตะวันไปทั่วก็ไม่พบ แสงเพ็ญเครียดจัด แต่แล้วตะวันก็กลับมาพร้อมพี่เลี้ยงใหม่เป็นกระเทยตัวสูงใหญ่นาม เจ๊เกรียง ไม่มีใครรู้ว่าตะวันตอนนี้คือแดง รัชดา ปลอมตัวมา ตะวันอ้างไม่ได้หายไปไหนแต่ไปเที่ยว สนุกจนลืมติดต่อกลับมา ส่วนบุญน้อมตอนนี้อยู่ดูแลญาติที่ทางใต้ สัณฑ์ขอให้จัดการแต่งงานตามกำหนดเดิม แต่แสงเพ็ญต้องฝันค้างเมื่อศรีวราเข้ามาประกาศว่าแสงระวีหายไป สัณฑ์ขอเลื่อนการแต่งงานอีกครั้ง แสงเพ็ญบอกให้ประชาฆ่าแสงระวีซะ แต่ประชาเกรงว่าการตายของแสงระวีจะยิ่งทำให้สัณฑ์เลื่อนการแต่งงานออกไป ยอด ศึกค่อยๆ ฝึกตะวันให้เข้มแข็งทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยมี คณิน คอยดูแลอำนวยความสะดวก จนในที่สุดตะวันกลับมาเดินได้อีกครั้งพร้อมความแค้นในอกเรื่องพ่อแม่ตาย สัณฑ์ให้หมวดแทนสืบเรื่องแสงระวีกับ แดง รัชดา ที่หายไป รวมทั้งแสงเพ็ญ สัณฑ์สงสัยว่าการหายไปของ แสงระวี จะเป็นฝีมือของแสงเพ็ญ หมวดแทนตาม แดง รามอินทรา ไปจนถึงบ้านยอดศึก เก็บภาพคนในบ้านรวมทั้งบุญน้อม ยอดศึกตัดสินใจส่งตะวันกลับไปอยู่บ้านภูตะวันกับอินทรา โดยอ้างเรื่องให้ไปสืบเรื่องพ่อแม่ที่ตายปริศรา ในนาม จันทร์ คนสวนฝีมือดีแต่หน้าตาอัปลักษณ์ จันทร์เกือบทำแผนแตกเมื่อเห็นตะวันปลอมนั่งรถเข็นผ่านมา แต่อินทราเตือนว่าจะทำให้งานใหญ่จะเสีย จันทร์ปักใจว่าตะวันปลอมต้องเป็นคนของแสงเพ็ญ จันทร์พยายามหลบหน้าสัณฑ์ที่ดูจะสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้หน้าคล้ายตะวันนัก ตะวัน ตัวปลอมเองก็มีปัญหาเรื่องการปรับตัว สิ่งที่ลำบากสุดของ แดง รัชดา คือ การที่ต้องแกล้งทำรักเจ้าเหมียวตัวโปรดทั้งที่ตัวเองแพ้ขนแมว หลายครั้ง แดง รัชดา หลุดความเป็นตัวเองออกมาเช่น ชอบแต่งหน้าจัด ฉีดน้ำหอม ตลอดจนคำพูดที่ห้าวหาญผิดจากเดิม แต่เมื่อถูกทักก็เอาตัวรอดได้หลายครั้ง ความอบอุ่น อ่อนโยนของ สัณฑ์ ทำให้ แดง รัชดา ยิ่งถลำลึก ความกล้าของ แดง รัชดา ในคราบตะวัน ทำให้สัณฑ์แปลกใจในบางครั้ง เจ๊เกรียงต้องคอยเตือนอ้างเรื่องกลัวแผนแตก แต่ลึกๆ แล้วเหตุผลก็คือ เกรียงเพชรรัก แดง รัชดา เกินศิษย์อาจารย์มาตลอด แดง รัชดา ในคราบตะวันถามสัณฑ์ว่าทำไม่ไม่รักพี่แดง สัณฑ์บอกว่า แดงเหมาะจะเป็นเพื่อน เพราะตอนนี้ทั้งหัวใจมีแต่ตะวัน พอพ้นสายตาสัณฑ์ แดง รัชดา ก็ออกอาการเจ็บปวดหัวใจ กระชากหน้ากากหนีออกจากบ้านเข้าไปในป่า เกรียงเพชรตามไปปลอบจน แดง รัชดา โอนอ่อนเห็นใจในความรักของเกรียงเพชร จันทร์เข้ามาสืบเรื่องตะวันปลอมเจอสัณฑ์ ก็รีบดึงปานดำปลอมออกกลับมาเป็นตะวันตามเดิม ด้วยความรักที่มีเต็มหัวใจ ตะวันใจอ่อนขอใกล้ชิดสัณฑ์อีกครั้ง แดง รามอินทรามองเหตุการณ์ของสองคู่ด้วยความลำบากใจรีบรายงานยอดศึก หมวด แทนสืบจนรู้ว่า แดง รัชดา แดง คลองเตย และ แดง รามอินทรา เป็นบุคคลที่ไม่มีตัวตน ระหว่างนี้ยังสืบได้ว่า แสงเพ็ญมีสัมพันธ์ลับกับประชา พอสัณฑ์รุกหนักกดดันจนประชาต้องปล่อยแสงระวีออกมา ในสภาพถูกวางยาจนเบลอจำอะไรไม่ได้ จันทร์เองก็สืบค้นจนรู้ว่าแสงเพ็ญส่งเงินให้ครอบครัวคนงานดีเด่น จึงส่งบัตรสนเท่ห์ให้สัณฑ์ พอสัณฑ์ไปสืบคนงานก็ถูกฆ่าตายในคุกแล้ว และคนงานนี้คือคนที่ขับรถชนพ่อแม่ตะวัน สัณฑ์คิดว่าบัตรนี้น่าจะมาจากลูกผู้ตาย จึงถามความกับตะวันตัวปลอม แต่ แดง รัชดา กลับงง ไม่รู้เรื่อง สัณฑ์ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ สัณฑ์ออก อุบายชวนหมวดแทนแกล้งทำอุบัติเหตุขับรถชนรั้วบ้านยอดศึก จนเข้าไปในบ้าน แต่พบแค่ยอดศึกกับคณิน ยอดศึกตัดสินใจฆ่าบุญน้อมทิ้ง แดง คลองเตย ตามล่าสังหารหมวดแทน แต่โชคยังดี หมวดรอดมาได้ แต่ก็สะบักสะบอม สัณฑ์ลุยไปบ้านยอดศึกด้วยความแค้น เชื่อว่านายแดง คลองเตย คือคนไล่ยิง แต่พบเพียงบ้านว่างเปล่าไร้ผู้คนกับหลักฐานว่าบุญน้อมได้ตายแล้ว แสงระวีฟื้นขึ้นมาก็อาละวาด บุกบ้านภูตะวันเพื่อแก้แค้น ตะวันตัวปลอมแสร้งทำเป็นสงสาร แต่พอลับตาคนก็ถีบแสงระวีตกน้ำให้เหมือนกับที่เคยทำกับตะวัน แสงระวีโวยวายว่าถูกตะวันแกล้งแต่ไม่มีใครเชื่อ แต่สัณฑ์กับแสงเพ็ญเริ่มระแวงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของตะวัน ยอดศึก หายตัวลึกลับแม้แต่เกรียงเพชรก็ไม่สามารถติดต่อได้ แดง รัชดา ไม่รู้ว่าจะทำงานไปเพื่ออะไรอีก จึงบอกกับเกรียงเพชรให้หนีไปด้วยกัน เกรียงเพชรปฏิเสธเพราะรู้ว่าไม่มีใครหนีเงื้อมมือยอดศึกพ้น กล่อมให้ แดง รัชดา ทำภารกิจจนสำเร็จ แล้วค่อยวางมือ เมียคนงานที่ตายมาขู่แสงเพ็ญ บังเอิญแสงระวีมาแอบได้ยิน จึงใช้เป็นข้อต่อรองกับแสงเพ็ญ ว่า หากฆ่าตน แสงเพ็ญคือผู้ต้องสงสัยลำดับแรก ถ้าไม่โวยก็จะรอดตัว หลังจากลงทุนลงแรงด้วยชีวิตกับการรอคอยครั้งนี้ ภารกิจของนักฆ่าจะบรรลุหรือไม่ สัณฑ์จะปกป้องพ่อตัวเองอย่างไร และตะวันจะมีโอกาสได้เปิดเผยตัวจริงกับสัณฑ์หรือไม่ ในวันแต่งงานที่กำหนดไว้เป็นวันสังหารจะเกิดอะไรขึ้น

กลับบ้านเรานะ...รักรออยู่ 2547

กลับบ้านเรานะ...รักรออยู่ (2547/2004) จอมขวัญ ลูกสาวคนเล็กที่สวยปราดเปรียว ดื้อรัน และเชื่อมั่นในตนเองของกำนันชัย อดีตกำนันผู้ปกครองบ้านไร่พัฒนา เธอไปใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพเพื่อเรียน และทำงานหลายปี จนบริษัทโฆษณาเล็กๆ ที่เธอทำงานอยู่ประสบมรสุมทางเศรษฐกิจ และต้องปิดตัวลง จอมขวัญกลายเป็นคนตกงานอย่างกระทันหัน ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่าเธอจะกลับบ้านเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ และผันตัวเองไปทำงานเกษตรตามแนวทางเดิมของครอบครัว ทุกคนในบ้านต่างงุนงงไปกับการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตแบบพลิกความคาดหมายของจอมขวัญอยู่มาก หลายคนไม่คิดว่าเธอจะทำได้ แต่กำนันชัยเคารพการตัดสินใจของลูก เขาแบ่งที่ดินให้เธอ 1 แปลงเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับงานที่เธอตั้งใจ จอมขวัญเริ่มวางแผนการทำงานของเธอด้วยการศึกษาการทำเกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ เธอได้ที่ปรึกษาเป็นเพื่อนเก่าเจ้าเนื้ออย่าง สุพรรณี ลูกเจ้าของร้านหนังสือที่ช่วยเหลือด้านข้อมูลวิชาการ และนัดดา เพื่อนครูแสนเรียบร้อยที่คอยช่วยเหลือในเรื่องการสำรวจตลาด ขณะที่เธอกำลังเล่าความฝันอันบรรเจิดของตนให้สุพรรณีฟังอยู่นั้น เขตรัฐชายหนุ่มร่าสูงใหญ่ผิวเข้มหน้าตาคมคาย ที่ยืนอยู่แผลงหนังสือใกล้ๆ ได้ยินเรื่องราวโดยตลอดและอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นทางเลยว่าสาวสวยหุ่นเพรียวอย่างนางแบบแต่งตัวแปลกตาจะเป็นเกษตรกรได้อย่างไร จอมขวัญหันขวับไปมองตามเสียงนั้นด้วยความโกรธ จะตามไปเอาเรื่องแต่สุพรรณีห้ามไว้ เขตรัฐมีข่าวซุบซิบทั่วตลาดว่าเขาเป็นเกย์ หลังอกหักจากแฟนเก่าชื่อชุติมา และเขายังเป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกับ เดชชัย พี่ชายคนหนึ่งของจอมขวัญอีกด้วย จอมขวัญเริ่มวิตกว่าเดชชัยพี่ชายอาจกลายเป็นพวกชอบไม่ป่าเดียวกันไปแล้ว ขณะเดียวกันหนุ่มๆ ในกลุ่มของเดชชัย ก็คอยสังเกตน้องสาวเพื่อนคนนี้อยู่เหมือนกัน แถมยังตั้งคำถามกันว่าสาวสวยที่ชินกับชีวิตเมืองกรุงอย่างเธอจะไปรอดในอาชีพเกษตรกรหรือไม่ ด้านเขตรัฐและผู้กองวรพจน์ 2 หนุ่มโสดในกลุ่ม คิดว่าคนทำจริงอย่างจอมขวัญน่าจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง ขณะที่พิชัยอารักษ์ 2 หนุ่มไม่โสด คิดว่าเธอไม่มีทางทำอาชีพนี้ได้นานถึง 1 ปี เมื่อความคิดต่างกันการเดิมพันจึงเกิดขึ้น พิชัยเสนอให้วางเงินคนละ 1 แสนบาท มีระยะเวลา 1 ปี และให้เดชชัยซึ่งเป็นคนวงในทำหน้าที่เป็นกรรมการ โดยที่จอมขวัญไม่รู้เลยว่าเธอคือตัวแปรสำคัญของเกมนี้ จอมขวัญเดินทางไปปรึกษาที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และได้พบกับวีรวุธ ในที่สุดจอมขวัญก็ได้ข้อสรุปว่เธอจะปลูกมะนาวที่ยังไม่มีใครปลูก เลี้ยงปลาแรดที่กำลังมีราคาดี และเลี้ยงไก่ไข่เพื่อให้ไร่ของเธอมีเงินหมุนเวียนตลอดทั้งปี แต่โครงการของขวัญจำเป็นต้องไปขอความช่วยเหลือเรื่องรถขุดดินจากไร่สมสมัย ไร่ใหญ่ข้างๆ ที่มีคุณสมสมัยแม่ของเขตรัฐเป็นเจ้าของ และมีเขตรัฐเป็นคนดูแล เมื่อเจอหน้ากันทีไรจอมขวัญมักจะพูดเรื่องคนอกหักบ้าง พวกเบี่ยงเบนทางเพศบ้าง เพราะคิดเอาเองว่าเป็นการพูดจี้จุดเขตรัฐแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบจริงจังพอที่จะจับต้นชนปลายได้เลย แถมเขายังมักจะรู้ทันเธอไปซะทุกเรื่องและสวนกลับแบบที่ทำให้จอมขวัญแทบสะอึกอีกด้วย จอมขวัญได้รู้จักตัวตนของเขตรัฐมากขึ้น จากที่จอมขวัญได้เห็นเขตรัฐก็ดูเป็นคนดีแต่ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนๆ ของเธอจึงบอกว่าเขตรัฐน่ากลัว จะเล่าทีไรก็มักจะมีคนเข้ามาขัดอยู่ร่ำไป และรู้สึกว่าลุงชูไม่ชอบคุณนายสมสมัยและลูกๆ ของเธอนัก เขามักจะกันไม่ให้เขตรัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรืออยู่ใกล้ชิดด้วย ซึ่งจอมขวัญไม่รู้ว่าเพราะอะไร หากแต่คนในครอบครัวของเขตรัฐนั้นรู้ดีว่าลุงชูเชื่อว่าการตกบันไดตายของน้องสาวคือแม่แท้ๆ ของเขตรัฐไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่มันคือการฆาตกรรม ดังนั้นอีกคนที่อาจได้รับอันตรายก็คือเขตรัฐหลานรักเพียงคนเดียวของเขา ไร่จากน้ำพักน้ำแรงจอมขวัญรุดหน้าไปด้วยดี ด้วยความช่วยเหลือของเขตรัฐ นิติพงษ์กลับมาอีกครั้งพร้อมกับเพื่อนๆ ของจอมขวัญที่กรุงเทพฯ เธอจึงจัดโปรแกรมพาเพื่อนๆ เข้าไปเที่ยวชมธรรมชาติในป่า โดยขอให้เดชชัยและกลุ่มของเขาซึ่งมีความเชี่ยวชาญการเดินป่านำทางให้ เขตรัฐทำหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่มโดยมีประสิทธิ์คนสนิทของเขาซึ่งหลงรักนัดดาติดตามไปช่วยดูแลด้วยเพราะกลุ่มเที่ยวครั้งนี้มีจำนวนมากพอดู เนื่องจากนักรบและระวิขอตามไปแถมยังชวนชุติมา ธนากร และยุวดีเพิ่มเข้ามาอีก ตลอดเส้นทางเขตรัฐคอยดูแลจอมขวัญที่สามารถเดินทันเขา ขณะที่คนอื่นๆ เดินรั้งท้ายเพราะร่างกายไม่สู้ โดยเฉพาะนิติพงษ์ซึ่งอ่อนล้าและดูจะเป็นไข้จากการเดินทางที่ลำบาก เขาไม่ชอบที่เขตรัฐคอยห่วงใยและดูแลจอมขวัญเป็นพิเศษ คืนนั้นอากาศหนาวมาก ด้วยความเซ็งเขตรัฐชวนประสิทธิ์ไปเดินส่องสัตว์ เวลาเดียวกัน นิติพงษ์ออกจากเต็นท์มาเข้าห้องน้ำถูกลอยตีหัวจากทางด้านหลัง ทุกคนสงสัยเขตรัฐ เพราะเขาและประสิทธิ์ไม่ได้อยู่ในเต็นท์อีกทั้งนักรบซึ่งเป็นน้องของเขาเองแท้ๆ กลับคอยพูดให้ทุกคนเข้าใจว่าคนที่ลงมือต้องเป็นเขตรัฐ ผู้กองวรพจน์มั่นใจว่าคนอย่างเขตรัฐไม่มีทางลอบทำร้ายใคร เหตุการณ์ในคดีเดิมนั้นแม้ปืนจะเป็นของเขตรัฐแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนยิง วรพจน์และเพื่อนๆ ของเขตรัฐเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจนักรบที่ต่อหน้าก็เป็นน้องชายที่เคารพพี่ แต่ลับหลังกลับพูดจาเหมือนให้ร้ายพี่ชายตัวเอง หลังเกิดเหตุ จอมขวัญเริ่มไม่ไว้วางใจเขตรัฐอีกครั้งเธอไม่ได้พบเขาอีกเลย จอมขวัญเลิกคิดเรื่องต่างๆ และทุ่มเทเวลาให้กับงานอย่างเต็มที่ โดยมีวีรวุธคอยให้คำปรึกษา เขามาหาเธอที่ไร่เกือบทุกวัน เขตรัฐได้แต่แอบมองคนทั้งคู่มาจากไร่ของเขาอย่างอิจฉา เมื่อจอมขวัญทำปั้นปึ่ง เขตรัฐจึงเพียรมาที่ไร่ของเธอบ่อยๆ ทั้งที่รู้ว่าจอมขวัญไม่อยากพูดคุยด้วยนัก เพราะเธอไม่เคยรู้เลยว่า เขานั่นแหละที่เป็นคนให้เงินช่วยเหลือไร่ของเธอ เมื่อตอนที่ไก่ตายยกเล้า จอมขวัญรู้เพียงว่าเดชชัยไปกู้เงินมาให้เท่านั้น จู่ๆ จอมขวัญก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้วจอมขวัญก็กลับมาพร้อมทั้งบอกอย่างภาคภูมิใจว่าเธอได้รับเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาบริษัทโทรศัพท์เรื่อง "กลับบ้านเรานะรักรออยู่" ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลให้คนตกงานกลับไปทำมาหากินที่บ้านเกิด ซึ่งต้องการคนตกงานที่กลับบ้านเกิดมาทำเกษตรจนเป็นรูปเป็นร่างสำเร็จจริงๆ และต้องสวยพอที่จะเป็นนางเอกโฆษณาได้ด้วย ซึ่งคนนั้นก็คือ เธอ ที่สำคัญงานของจอมขวัญสามารถรวมแนวคิดหลักของรัฐบาลได้ทั้งสามแนวทางนั่นคือ กลับบ้านเกิด ส่งเสริมอาชีพในท้องถิ่นให้มีผลิตภัณฑ์ เฉพาะตำบลและส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น อาชีพของจอมขวัญทั้งนั้น ตกดึกทั้งเขตรัฐและจอมขวัญนั่งดูดาวอยู่ด้วยกันเพียงสองคน แล้วจู่ๆ เขตรัฐก็บอกกับจอมขวัญว่าเขาชอบเธอและบอกว่าน่าจะลองคบกันดู จอมขวัญแม้จะรู้อยู่เป็นนัยๆ ว่าเขาคิดอะไรกับเธอแต่มาจู่โจมอย่างนี้ก็ตั้งรับไม่ทันเหมือนกัน เธอจึงรีบเดินหนีไปที่กลุ่มทัวร์ด้วยความอาย และพยายามไม่สบสายตาของเขา นักรบมองออกว่าเขตรัฐสนใจจอมขวัญและบอกว่าจะจัดการให้ เขตรัฐห้ามไม่ให้มายุ่งกับเรื่องของตน แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้เมื่อรถของวีรวุธเจอเรือใบจนยางแตกหลังขับออกมาจากไร่จอมขวัญเขาสังเกตเห็นได้ว่ามีเงาคนมาเก็บเรือใบที่เหลือ เขตรัฐขับรถมาเห็นเข้าเลยลงมาช่วยและถามว่าเขาสนใจจอมขวัญหรือเปล่า วีรวุธกลัวและเข้าใจผิดว่าเป็นแผนของเขตรัฐที่ต้องการจะขู่ตน และเล่าเรื่องราวให้จอมขวัญฟัง จอมขวัญตำหนิเขตรัฐให้เดชชัยฟังแต่แล้วก็โดนเดชชัยโมโหใส่และบอกว่าเขตรัฐไม่ใช่คนอย่างนั้น จอมขวัญถูกลอบยิงขณะนำทัวร์ ประสิทธิ์ซึ่งอยู่ใกล้รีบวิ่งเข้ามาช่วย แต่จอมขวัญกลับคิดว่าเขาเป็นคนยิง เขตรัฐและเดชชัยรีบมาดูอาการจอมขวัญ จู่ๆ ถาวรเจ้าของเรือยางอิสระก็หน้าตาตื่นเข้ามาบอกว่ารู้ข่าวว่าขวัญถูกยิง แต่เมื่อเห็นผู้กองวรพจน์เดินมาก็ผงะรีบกลับไปทันที ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยของวรพจน์ยิ่งนัก เมื่อฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าเขตรัฐ จอมขวัญถึงกับผวาบอกว่าเธอโดนยิงเพราะไม่คบกับเขา และทะเลาะกับประสิทธิ์ เขตรัฐเสียใจมากและบอกว่าอย่าเอาเหตุการณ์ครั้งนั้นมาตัดสินเขาก่อนที่จะมองอย่างตัดพ้อแล้วเดินออกไป ชุติมาที่มาคอยดูแลจอมขวัญก็บอกว่าเขตรัฐไม่ใช่คนอย่างนั้น เขาไม่เคยฆ่าใคร เมื่อจอมขวัญจะถามต่อชุติมาก็ไม่ยอมพูดแล้วออกไป ผู้กองวรพจน์เริ่มสงสัยท่าทางของนักรบ เพราะมักจะพูดถึงเรื่องร้ายต่างๆ ว่าเป็นฝีมือธนากรได้ราวกับเป็นคนคิดแผนซะเองแต่ก็พยายามสืบทางธนากรด้วยเช่นกัน ธนากรก็ให้คนสืบอยู่เหมือนกัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีข่าวว่าเขาเป็นคนผิด วรพจน์เริ่มมองมาที่คนในครอบครัวของเขตรัฐ คืนนั้นเองเขตรัฐถูกลอบยิง ลุงชูจึงจัดการหาลูกน้องทหารเก่ามาคอยดูแลเขตรัฐ อารักษ์และเพื่อนมาเลี้ยงปลอบใจและวางแผนให้ได้เจอกับจอมขวัญ ตอนแรกเขตรัฐโมโหแทบบ้าที่จอมขวัญไม่แสดงอาการห่วงใยเขาเลยแถมพูดจาประชด จนวรพจน์ต้องเตือนให้ใจเย็นๆ เขตรัฐอาสาขับรถของจอมขวัญไปส่งเธอที่บ้านและให้อารักษ์เอารถเขาไปส่งที่บ้านท่ามกลางแรงเชียร์ของเพื่อน จอมขวัญเริ่มไม่ไว้ใจเมื่อเห็นเขาหยิบปืนมาด้วย ตลอดทางกลับบ้านเขตรัฐรับรถช้ามาก เขาสารภาพว่าเขารักเธอและไม่เคยทำร้ายใครเพื่อให้ได้เธอมา จอมขวัญหน้าแดงที่จู่ๆ ตาบ้าก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา และหาเรื่องเขาเพื่อกลบเกลื่อนความอาย เมื่อเขตรัฐหยุดรถด้วยความโกรธจอมขวัญก็คว้าปืนเขามาจ่อทันทีด้วยความกลัวและให้เขาออกรถ เขตรัฐไม่คิดจะปัดปืนให้พ้นตัวทั้งๆ ที่เขาทำได้ เขตรัฐบอกให้จอมขวัญระวังตัวเพราะเขาเห็นเงาคนตะคุ่มอยู่และหยิบปืนไปจากมือจอมขวัญพร้อมบอกให้เธอวิ่งหนีไปให้ไกล ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังลั่นจากการยิงต่อสู้ เขตรัฐรีบบอกให้เพื่อนตามมาเพราะเขาถูกดักยิงเช่นกัน จากนั้นก็ตะโกนเรียกจอมขวัญ ซึ่งหลบอยู่ในดงไม้ห่างจากถนนห้าหกเมตรเท่านั้น จอมขวัญบอกว่าเธอขาแพลง ช่วงที่รอผู้กองสองคนก็นั่งกอดเข่าหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกัน วรพจน์มาบอกข่าวที่ไม่น่าเป็นไปได้กับเขตรัฐ นั่นคือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดเป็นคนในบ้านเขา วรพจน์บอกเขตรัฐว่าให้ตัดสินใจว่า ระหว่างแม่เลี้ยงกับน้องชายเขาคิดว่าใครหรือว่าทั้งคู่ จอมขวัญไปหาชุติมาที่บ้านพักพยาบาล เธอต้องการให้ชุติมาบอกความลับต่างๆ เพราะผู้กองวรพจน์แน่ใจว่าชุติมาจะเป็นคนที่ไขความลับเรื่องนี้ได้ แล้วเธอก็ได้รู้ว่านักรบเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ทันใดนั้นเองนักรบก็พุ่งเข้ามาตบชุติมาจนหมดสติ ท่าทางของเขาดูไร้สติไม่มีเค้าความอ่อนโยนเหมือนนักรบคนเดิม ก่อนที่จะเอาปืนตบหน้าจอมขวัญจนหมดสติไปอีกคน เขตรัฐแทบบ้าที่รู้จากชุติมาที่หน้าตาบอบช้ำว่านักรบเอาตัวจอมขวัญไป ขณะนั้นมีจดหมายจากนักรบนัดเขาไปที่อุทยานแห่งชาติฯ สมสมัยขอร้องว่าอย่าฆ่าน้อง เขตรัฐรับปาก ที่ท่าเรือ นักรบให้เขตรัฐลงมาในเรือที่มีถาวรคุมท้าย จอมขวัญนั่งอยู่ตรงกลาง เขาเข้าไปกอดจอมขวัญเอาไว้และได้ฟังนักรบซึ่งดูเหมือนควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ ถาวรเห็นท่าไม่ดีกระโดดหนี แต่ก็ถูกนักรบยิงตายอย่างแม่นยำ พร้อมสั่งให้จอมขวัญบังคับเรือ เธอจึงบังคับเรือให้ชนโขดหิน นักรบกระโดดตกจากเรือ เขตรัฐพยายามช่วยน้องชายเอาไว้ลากขึ้นเรือในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บจากคมหินใต้น้ำ ท่ามกลางความเหนื่อยล้า จู่ๆ นักรบที่นอนนิ่งก็คว้าปืนจากเอวของวรพจน์ยิงตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตา เขตรัฐเสียใจมากที่เขาไม่อาจรักษาสัญญากับแม่เลี้ยงของเขาเอาไว้ได้ ด้านเขตรัฐและจอมขวัญลงเรือยางอีกครั้งเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจและปลอบโยนซึ่งกันและกัน เขาขอเธอแต่งงานอีกครั้งแต่จอมขวัญก็ยังคงดื้อดึงตามแบบของเธอ ครั้งนี้เขตรัฐรู้แล้วว่าเธอคงไม่จากเขาไปไหนอีกอย่างแน่นอน

นางฟ้าเดินดิน 2547

นางฟ้าเดินดิน (2547/2004) พัชราภา (วรัทยา นิลคูหา) ลูกสาวคนเดียวของเสี่ยซ้ง หรือทรงชัย(ไพโรจน์ สังวริบุตร) มีนิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจ พัชราภามีพี่ชายสองคนคือ สมศักดิ์ และสมชาย พัชราภาเป็นลูกคนสุดท้องและเป็นลูกสาวคนเดียว เสี่ยซ้งจึงทั้งรักทั้งหวง เสี่ยซ้งมีศัตรูค่อนข้างมากจากงานด้านการเมือง และการดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เสี่ยซ้งจึงให้มือปืนติดตามคุ้มกันพัชราภาไปทุกหนทุกแห่ง สร้างความหงุดหงิดให้พัชราภายิ่งนัก เสี่ยซ้งถูกทาง ราชการและตำรวจจับตาดูทุกฝีก้าว ตำรวจส่งทำนุ (ปราบ ยุทธพิชัย) แฝงตัวเข้าไปเป็นคนทำบัญชีเพื่อสืบการดำเนินงานผิดกฎหมายในเครือข่ายของ เสี่ยซ้ง เสี่ยซ้งพอใจในงานของทำนุ แต่เสี่ยซ้งไม่พอใจที่พัชราภาชอบกับทำนุ แต่เขาไม่สามารถห้ามพัชราภาได้สำเร็จ เสี่ยซ้งจึงสั่งให้ ธัช (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) มือปืนที่เสี่ยซ้งไว้ใจที่สุด ติดตามคุ้มกันพัชราภาและประกบทำนุไปในตัวด้วย ธัชหวั่นไหวตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นพัชราภา แต่เธอเป็นลูกเจ้านายที่เขาต้องซื้อสัตย์และจงรักภักดี ทำนุเองเขาไม่ ได้ชอบพัชราภา แต่เขาจำต้องทำเพราะคำสั่งของทางราชการ ทำนุรู้สึกเหมือนเขาผิดต่อ อรศรี (รุ่งระวี บริจินดากุล) คู่หมั้นของเขา พัชราภาหงุดหงิดที่ธัชตามเฝ้าเธอทุกฝีก้าว เสี่ยซ้งพาพัชราภาไปกินอาหารที่โรงแรม แต่พัชราภาไม่ยอมกินอาหารกับพ่อ จะไปกินที่อื่น เธอขอตัวไปห้องน้ำ ขณะที่ออกจากห้องน้ำเธอเดินไปชนชายหนุ่มคนหนึ่ง ชายหนุ่มคนนั้นคือ อรรณพ (ณัฐวุฒิ สะกิดใจ) เขาไม่ถือสาเธอ พัชราภาหนีออกไปทานอาหารที่ร้านอาหารที่ร้านแถวโรงแรมพบกับทำนุโดยบังเอิญ ธัชตามพัชราภาเข้ามาและพบกับอรรณพที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง อรรณพดีใจมากที่ได้พบธัช ทั้งสองไม่ได้พบกันมานานมากแล้ว แท้จริงแล้ว ธัช คือน้องชายต่างมารดาของอรรณพ พ่อของอรรณพแต่งงานกับคุณหญิงนวลศิริ และมีลูกชายคือ อรรณพและลูกสาวคือ อัจจิมา ซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่อังกฤษ ต่อมาพ่อของอรรณพได้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งจนมี ธัช ดำรงค์(อดุลย์ ดุลยรัตน์ )ปู่ของอรรณพและธัชไม่พอใจอย่างยิ่ง เพราะแม่ของธัชเป็นผู้หญิงชาวบ้าน ดำรงค์ถือว่าเขาเป็นใหญ่ที่สุดมีอำนาจควบคุม และจัดการกับชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัว แต่เขาไม่สามารถควบคุมธัชได้ ธัชถูกรังเกียจเหยีดหยามจากทุกคนในบ้าน มีแต่อรรณพที่คอยปกป้องช่วยเหลือ เมื่ออรรณพไปเรียนต่อเมืองนอก ธัชทนการเหยียดหยามไม่ไหวจึงออกจากบ้านไป อรรณพกลับมาจากเมืองนอกเขาเลือกที่จะทำไร่และปศุสัตว์ ไม่ยอมทำงานบริษัทของตระกูล ดำรงค์โกรธอรรณพมาก เขาถือว่าหลานทุกคนต้องทำงานกับบริษัทของตระกูล แต่เขามิได้ลงโทษอรรณพเพราะอรรณพเป็นหลานรัก ตั้งแต่กลับจากนอก อรรณพติดตามหาธัชมาตลอดด้วยความห่วงใยอย่างยิ่ง อรรณพชวนธัชไป อยู่ด้วยที่จังหวัดที่เขาทำไร่อยู่ และขอให้ธัชเลิกทำงานกับเสี่ยซ้ง แต่ธัชปฏิเสธ อรรณพเห็นสายตาของธัชที่มองพัชราภาแล้วรู้ทันทีว่าธัชรักพัชราภา และธัชเองก็สังเกตเห็นเช่นกันว่าอรรณพชอบพัชราภา ธัชบอกกับอรรณพว่าทำนุเป็นสายให้ตำรวจ อรรณพบอกธัชว่าทำนุคนนี้น่าจะเป็นคนเดียวกับคู่หมั้นของอรศรี ธัชอึ้งที่ทำนุคือคู่หมั้นของอรศรีจริงๆ อรศรีเป็นลูกของอาและเป็นคู่กัดกับธัชมาตั้งแต่เด็ก ทำนุมากรุงเทพฯเขาถามที่อยู่ของอรรณพจากอรศรี ทำนุพูดกับอรรณพไม่ให้อรรณพเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเขากับอรศรีให้เสี่ยซ้ง และพัชราภารู้ ทำนุถามอรรณพว่าธัชเป็นใคร อรรณพไม่ตอบแต่กลับบอกให้ทำนุระวังตัว เพราะเขารู้ว่าทำนุเป็นสายให้ตำรวจ เสี่ยซ้งตัดสินใจส่งพัชราภาไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯด่วนที่สุด และจะให้ธัชตามไปส่งเพราะเป็นห่วงพัชราภามากว่าจะได้รับอันตรายที่มาจากความ รุนแรงในการเลือกตั้ง และจากการแข่งกันทางการค้ากับเสี่ยเม้งคู่แข่งคู่ปรับคนสำคัญอีกด้วย อรรณพกับสะอาดศรี อาสะใภ้ซึ่งเป็นแม่ของอรศรีค้นรูปเก่าๆ ของธัชอยู่ด้วยกัน ทำนุเข้ามาดูด้วย อรรณพบอกทำนุว่ารูปนั้นคือรูปน้องชาย ทำนุพูดไม่ออกเมื่อรู้ว่าธัชเป็นน้องชายของอรรณพ คนของเสี่ยซ้งเห็นทำนุไปกับคนของเสี่ยเม้ง เสี่ยซ้งสั่งธัชเก็บทำนุแต่ธัชไม่อยากเป็นคนลงมือ เขาบอกเลี่ยงๆ ว่าเมื่อทำนุไม่มีประโยชน์ก็ปล่อยไป เสี่ยซ้งให้คนมาตามทำนุไปพบ ทำนุบอกเสี่ยซ้งว่า เสี่ยเม้งให้คนมาจี้ตัวเขาไป เสี่ยซ้งไม่ฟังทำนุถูกซ้อมสะบักสะบอมก่อนถูกปล่อยตัวไป เขารีบกลับกรุงเทพฯและไปหาอรศรีที่บ้านและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ ฟัง เสี่ยซ้งถูกจับ และเร่งทำเรื่องประกันตัว ทำนุถูกนำตัวมาพบเสี่ยเม้ง เสี่ยเม้งบอกให้ทำนุต้องไปเป็นพยานในศาลและเมื่อเสร็จงานแล้ว เสี่ยเม้งจะพูดกับเจ้านายของทำนุ ทำนุจะกลายเป็นวีรบุรุษที่จับเสี่ยซ้งเข้าคุกได้ เสี่ยซ้งติดคุกและถูกฆ่าตายในคุก งานศพจัดขึ้นอย่างเร่งด่วน ธัชจัดการให้ทุกอย่างและประกบอยู่ข้างพัชราภา พัชราภาบอกให้ธัชเก็บทำนุ หลังงานศพ สมศักด์บุกเข้าไปในบ้านของเสี่ยเม้งกระหน่ำยิงเสี่ยเม้งไม่นับ เสี่ยเม้งตายและสมศักดิ์ถูกยิงตายเช่นกัน ธัชออกไปจับตัวทำนุมาให้พัชราภา ธัชเด็ดชีวิตทำนุด้วยกระสุนนัดเดียว ธัชพาพัชราภามาพักที่ไร่ เพ็ญจันทร์ ลูกสาวแสนห้าวแสนแก่นของนายพัน ชอบธัชตั้งแต่แรกเห็น เธอนึกว่าธัชและพัชราภาเป็นสามีภรรยากัน เพ็ญจันทร์จึงเฝ้าสังเกตธัชและพัชราภาเงียบๆ อรรณพมากรุงเทพฯ บอกอรศรีในสภาพที่ทรุดโทรม สะอาดศรีบอกอรรณพว่าอรศรีท้องกับทำนุ ดำรงค์รู้เรื่องอรศรีท้องโกรธมาก และให้อรศรีทำแท้ง อรรณพว่าดำรงค์ไม่มีสิทธิ์บังคับอรศรี ถ้าไม่มีใครต้องการเด็กเขาจะรับเลี้ยงเอง เพ็ญจันทร์รู้ว่าธัชและพัชราภาคือมือปืนและลูกสาวเสี่ยซ้งที่มีข่าวใน หนังสือพิมพ์เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา เพ็ญจันทร์สอนว่าหากธัชสัญญาว่าจะกลับมาหาเธอเธอจะช่วยธัชและพัชราภา ธัชสัญญาเพื่อแลกกับความปลอดภัยของพัชราภา อรรณพเดินทางกลับไร่พบธัชและพัชราภา อรรณพให้พัชราภาช่วยงานด้านบัญชี อรรณพขอร้องให้พัชราภาขอร้องให้ธัชอยู่ที่นี่ แต่ธัชปฏิเสธเพราะกลัวว่าจะทำให้ทั้งคู่เดือดร้อน พัชราภาบอกให้อรรณพร่วมมือกับเธอวางแผนผูกมัดให้ธัชอยู่ด้วยการจะมอบความสาว ให้ แต่ธัชแอบมาได้ยินและวางแผนซ้อน กลายเป็นว่าพัชราภาต้องตกเป็นของอรรณพแทน แต่เธอไม่รู้คิดว่าธัช ธัชจากไปและฝากพัชราภาให้อรรณพดูแล ดำรงค์และคุณหญิงนวลศิริมาหาอรรณพที่ไร่ อรรณพแนะนำให้รู้จักพัชราภา บอกว่าเธอคือผู้ที่เขาจะแต่งงานด้วย อรรณพให้พัชราภาอออไปกับเขาด้วย ดำรงค์เริ่มจับผิดพัชราภา ส่วนคุณหญิงนวลศิริเริ่มบทบาทว่าที่แม่ผัวตัวร้าย ดำรงค์บอกคุณหญิงนวลศิริว่าต้องหาทางกำจัดพัชราภาให้พ้นไปจากอรรณพ จึงวางแผนจะทำเป็นยอมรับพัชราภาและเอาตัวกลับกรุงเทพฯ ธัชกลับมาที่ ไร่เพ็ญจันทร์ เพ็ญจันทร์ดีใจที่ธัชรักษาสัญญา เธอบอกกับพ่อเธอว่าเธอรักธัช และจะแต่งงานกับธัชและขอให้ธัชอยู่ที่ไร่ เพ็ญจันทร์มาหาธัชที่กระท่อมและขอให้ธัชแต่งงานกับเธอ ธัชรู้สึกประทับใจเพ็ญจันทร์ รู้สึกว่าเธอจริงใจกับเขามาก พัชราภาและ อรรณพกลับกรุงเทพฯพร้อมดำรงค์และคุณหญิงนวลศิริ อรรณพพาพัชราภามาเยี่ยมอรศรี อรรณพบอกอรศรีว่าพัชราภาเป็นแฟนของเขา แถมยังเป็นแฟนเก่าธัช คุณหญิงนวลศิริแอบฟังอยู่ในห้องถัดไป ได้ยินเรื่องพัชราภาทั้งหมด อรรณพและอรศรีเถียงกันและอรศรีมีอาการคลั่ง อรรณพพยายามจับตัวอรศรีไว้แต่อรศรีถอยหนี้จนตกบันได อรรณพพาอรศรีไปส่งโรงพยาบาล อรศรีคลอดก่อนกำหนด ได้ลูกชาย ธัชและเพ็ญ จันทร์มาหาอรรณพและพัชราภาที่บ้านไร่ พัชราภาดีใจที่ธัชกลับมา เพ็ญจันทร์รู้สึกว่าธัชยังรักพัชราภา ธัชบอกพัชราภาว่าเขาแต่งงานกลับเพ็ญจันทร์แล้ว พัชราภาเสียใจมากเพราะเธอคิดว่าธัชคงกลับมารับผิดชอบในการกระทำเมื่อคืนนั้น สาเหตุที่แท้จริงที่ธัชมาหาพัชราภาก็เพื่อจะบอกความจริงว่าเธอไม่ได้เป็นของ เขาอย่างที่เธอเข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้บอก คนร้ายบุกเข้ามายิงธัชและอรรณพ อรรณพถูกยิงบาดเจ็บ ธัชบอกเรื่องที่พัชราภาไม่ได้เป็นของเขาในคืนนั้น แต่พัชราภาเป็นของอรรณพ ทั้งหมดเป็นแผนซ้อนแผนของธัช เมื่ออรรณพหายแล้วขอให้พัชราภาแต่งงานกับอรรณพ สำหรับธัชเขาบอกว่าเขามีเพ็ญจันทร์แล้ว ธัชกับเพ็ญจันทร์คิดหาทางออกเรื่องธัชกับมือปืนได้แล้ว โดยจะออกข่าวว่าธัชถูกยิงตาย และจัดงานศพให้สมจริง จากนี้ไปจะมีแต่ธัชคนใหม่ พออรรณพฟื้นขึ้นมาเรียกหาแต่พัชราภา พัชราภาจึงเล่าถึงแผนการณ์ให้ฟัง อัจจิมากลับมา จากต่างประเทศพร้อมกับสมชาย สมชายบอกประวัติเขาแก่คุณหญิงนวลศิริ เธอแทบล้มทั้งยืนที่ต้องมาเกี่ยวดองกับลูกเสี่ยซ้งอีกคน อัจจิมาไปเยี่ยมอรศรี และบอกว่าจะรับลูกอรศรีไปเป็นลูกของเธอเมื่อเธอแต่งงานกับสมชายแล้วคุณหญิง นวลศิริพาอัจจิมาไปกราบดำรงค์ ดำรงค์ตกใจมากที่หลานสาวจะแต่งงานกับลูกนักเลงอีกคน อัจจิมาบอกว่าสาธิตส่งข่าวอรรณพและธัชถูกยิง อรรณพปลอดภัยแล้ว แต่ธัชตาย ดำรงค์นิ่งอึ้งทั้งที่ควรจะดีใจที่ธัชหลายที่เขาเกลียดตายไป ดำรงค์ให้ทุกคนไปบ้านไร่เพื่อเยี่ยมอรรณพ พัชราภาดีใจมากที่ได้พบสมชายอีกครั้ง ทุกคนเหมือนถูกผีหลอก ธัชยังไม่ตาย ดำรงค์เรียกธัชและเพ็ญจันทร์เข้าไปพบ ดำรงค์ถอดสร้อยที่สวมติดตัวให้เพ็ญจันทร์ อรรณพดีใจที่ดำรงค์ยอมรับธัช ธัชไม่เคยได้รับความอบอุ่นในชีวิตมาเลย คราวนี้เขาคงมีความสุขเสียที อรรณพกับดำรงค์กับมาเป็นปูหลานที่เข้าใจกัน ดำรงค์และทิฐิกลายเป็นปูที่น่ารักของหลานๆ พัชราภาแต่งานกับอรรณพ อัจจิมาแต่งงานกับสมชาย ธัชอยู่กับรักแท้ของเพ็ญจันทร์

ฟ้าใหม่ 2547

เรื่องย่อ : ฟ้าใหม่ (2547/2004) ปลายรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อ แสน (พระเอก) อายุได้ 8 ขวบ ออกหลวงพิชิตบรเทศ (หรือหลวงนายสิทธิ์) พ่อของแสนพาแสนเข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ของพระองค์ท่าน และพระองค์ท่านได้พระราชทานแสนให้เป็นมหาดเล็กของ สมเด็จพระมหาอุปราชเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ และแสนเป็นที่เอ็นดูและโปรดปรานของท่านยิ่งนัก การได้เข้าขบวนแห่พิธีอุปราชาภิเษกนำพาให้แสนได้พบกับ เรณูนวล (นางเอก) สาวรุ่นที่สวยมาก เธอมาดูขบวนแห่ครองวังกับนางในอื่นๆ การแต่งกายของเธอบ่งบอกว่าเธอเป็นสาวในสกุลสูง แต่ท่าทางเธอแก่นแก้วก๋ากั่นราวเด็กผู้ชาย เธอเรียกแสนอย่างล้อเลียนว่า “ลูกแขกค้าตะเภา” และชมอย่างล้อเลียนอีกเช่นกันว่าแสนขนตายาวเปรื้อย ทำให้แสนหงุดหงิดและขัดเคืองเป็นที่สุด แสนรู้จากเพื่อนชายว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของ พระยาพิษณุโลก กับภริยาเอก พ่อส่งเธอมาถวายตัวเป็นข้าหลวงตำหนัก พระพันวรรษาน้อย ตั้งแต่เธอยังเด็ก ปากคอเธอไม่มีใครเกินและเธอไม่กลัวใครด้วย ห้าวหาญเหมือนพ่อ ชอบขี่ม้ารำทวน ผิดวิสัยหญิงทั่วไป เพื่อนชายของแสนยุด้วยความคะนองให้แสนตอกกลับเธอคืน หากเจอกันอีกว่าเธอเป็นชาวเหนือพูดจากเก๋อไก๋น่าส่งไปเป็นตะพุ่นหญ้าม้า มากกว่าเป็นนางข้าหลวง แสนคิดว่าเขาจะตอกกลับในคราวหน้าที่พบกัน คุณใหญ่รู้เรื่องความหงุดหงิดของแสนด้วยความขัน คุณใหญ่บอกว่าข้าหลวงสาวคนนั้นน่าจะชอบว่าแสนตาสวยและคงอยากให้มองเธอ และล้อแสนว่าตัดจุกไม่ ทันไรก็มีสาวมาเกี้ยวเสียแล้ว แต่ความหงุดหงุดของแสนที่ถูกผู้หญิงล้อหายวับไปในทันใดเมื่อรู้ว่าคุณใหญ่มา ที่บ้านครั้งนี้เพื่อมาลาพ่อแสนไปประจำอยู่หัวเมือง แสนใจหายยิ่งนัก คุณใหญ่สั่งแสนให้ฝึกอาวุธไว้สม่ำเสมอ เพราะเมืองม่านขณะนี้เงียบเชียบผิดสังเกต และได้ข่าวจากคุณกลางว่าขณะนี้ม่านมาค้าอัญมณีตามชายเขตแดนหนักมือขึ้นราว กับ จะรวบรวมเงินทองไว้ทำการใด และผู้ที่มาค้าเป็นชายฉกรรจ์ทั้งสิ้น ไม่ใช่ผู้หญิงดังแต่ก่อน คุณใหญ่ให้แสนบอกพ่อว่าให้แบ่งทรัพย์สินเงินทองเก็บซ่อนในที่ที่พ้นตาศัตรู และเตือนแสนมิให้ข้องแวะกับนางในนางห้าม ด้วยว่าเป็นอันตรายต่อชายผู้รับใช้เบื้องพระยุคลบาท ให้ดูชะตากรรมของพระมหาอุปราชพระองค์เก่าเป็นตัวอย่าง แสนไม่เข้าใจตัวเองว่าเหตุใดเมื่อผลัดแผ่นดินและจะมีเรื่องยุ่งถึงเลือด เนื้อนั้น ใจเขาจึงประหวัดเป็นห่วงข้าหลวงที่ชื่อเรณูนวลขึ้นมาในทันใด ในงานพระเมรุพระบรมศพ ข้าราชบริพารและนางในใกล้ชิดต้องโกนศีรษะไว้ทุกข์ แต่เรณูนวลรับหน้าที่เป็นนางร้องไห้จึงไม่ต้องโกน นายสุจินดาบอกกับแสนว่าเขาและแสนคงต้องเตรียมตัวถวายตัวแก่เจ้านายใหม่อีก ครั้ง เพราะได้ยินมาว่าเจ้าฟ้าอุทุมพรจะถวายราชบัลลังก์แก่เจ้าฟ้าเอกทัศ และเธอเห็นบรรดาเถนต่างชาติที่เคยถูกขับไล่ไปจากวัดวรโพธิ์นั้นมาปะปนกับผู้ คนอยู่ในงานพระเมรุด้วย น่าจะเป็นเค้าลางว่าศัตรูคู่ศึกดั้งเดิมคือม่านกำลังคืบคลานมาใกล้ทุกขณะจิต ในงานพระเมรุนี้แสนได้ขี่ม้ารำทวนคู่กับนายสุจินดาถวายเจ้าฟ้าเอกทัศทอดพระ เนตร และท่านทรงพอพระทัยมาก ประทานเงินให้แก่ทั้งสองคน และเพียงชั่วในคืนนั้นเองเจ้าฟ้าอุทุมพรทรงถูกบังคับกลาย ๆ ให้ถวายราชบัลลังก์แก่เจ้าฟ้าเอกทัศ แล้วหลังจากนั้นท่านทรงออกผนวช แสนและเรณูนวลได้พบกันเพียงใกล้แค่เอื้อมชั่วหน้าต่างคั่น เรียมไปดูต้นทางอยู่ห่างออกไป แสนเอ่ยคำฝากรักจากใจได้ไพเราะล้ำและจริงใจยิ่งนัก สองคนแลกแหวนและให้คำสัตย์ต่อกัน เรณูนวลประนมมืออยู่ใกล้แก่เอื้อม แรงรักบริสุทธิ์ยามแรกรุ่นทำให้แสนสุดที่จะห้ามใจเขาประนมมือตนทับมือประนม ของเรณูนวลแล้วเอามือน้อยนั้นมาแนบใจ และให้คำมั่นแก่เธอว่าวันใดที่กรุงศรีฯ มีฟ้าแผ้วแผ่นดินเย็น แสนจะบากบั่นทำการทุกอย่างให้ได้เรณูนวลไปเป็นดาวประจำชีพ แม้จะต้องฝ่าพระราชอาญาและกฎมณเฑียรบาลก็มิเกรง มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะขวางกั้นเขากับเรณูนวลได้ ขอให้เรณูนวลรักษาตัวให้พ้นภัยรอท่าเขา เสียงจามเป็นสัญญาณหมดเวลาจากเรียม แต่ทันใดนั้นมีเสียงคนร้องด้วยความตื่นตระหนกระคนเสียงร่ำไห้ แล้วเรียมวิ่งถลันมาบอกว่ามีข่าวจากม้าเร็วว่าม่านบุกรุกเข้ามาถึง สุพรรณบุรีแล้ว ความรัก ความอาวรณ์เป็นฉันท์ใด หนุ่มสาวคราวแรกรักเพิ่งได้ประจักษ์ในบัดนี้ เรณูนวลสุดที่หวงตัวต่อไป เธอโผเข้าสู่อ้อมกอดของแสน หัวใจสะท้อนสะท้านดังใบไม้ต้องพายุ เธอให้คำมั่นแก่แสนว่า เมื่อบ้านดีเมืองหายเดือดในวันข้างหน้า ไม่ว่าเธอจะตกไปอยู่ที่ใด หากรู้ว่าแสนยังมิเบนใจไปอื่น ยังตั้งตาคอยวันกลับของเธอ เธอจะสู้ลุยไฟนรก ฝ่าพระราชอาญาไปสู่เรือนแสน แต่หากแสนต้องอันตรายสุดวิสัยที่จะครองกันในชาตินี้ เธอจะบวชชี จะไม่มีวันยอมให้มือชายที่สองมาต้องกายเป็นอันขาด แสนประจำอยู่กองทัพของพระยากำแพงเพชรซึ่งคุมทัพรักษาพระนครด้านทิศตะวัน ออกที่เกาะแก้ว แสนรู้จักนิสัยพระยากำแพงเพชรดีว่าเอาจริงเอาจังกับการรบอย่างสุดชีวิตจิตใจ เพียงใด ท่านมิใช่พวกตั้งรับข้าศึกอย่างเดียว หากแต่ชอบที่จะรุกไล่ด้วย การออกไปทัพกับท่านถึงเกาะแก้วครานี้ กว่าจะได้กลับเข้าพระนครก็คงอีกแสนนาน หรือไม่ก็อาจไม่ได้กลับเลยหากเสียทีข้าศึก หรือเสียชีวิต แสนจึงหาทางไปพบเรณูนวลก่อนที่จะออกไปเกาะแก้ว โดยไปดักพบเรียมที่ตลาด เรียมเห็นแสนก็รู้ทันทีว่ามาตามหาเธอด้วยเรื่องอะไร พูดนัดแนะกับแสนเป็นนัยที่รู้กันเฉพาะสองคน ว่าเธอจะพาเรณูนวลไปพบกับแสนที่บ้านหอรัตนชัย เรณูนวลและแสนพบและลากันด้วยเสน่หาอาลัยล้ำ วันอังคาร เดือนห้า ขึ้นเก้าค่ำ ปีกุน พ.ศ. 2310 ข้าศึกระดมกำลังยิงกระหน่ำทุกด้านรอบพระนคร และเร่งสุมเพลิงคลอกรากกำแพงเมืองทุกด้าน กองกำลังรักษาเมืองรับมือข้าศึกสุดชีวิตจมื่นไวยบัญชาการรบอย่างเข้มแข็ง อยู่ด้านที่กำแพงกำลังจะพัง ผู้ที่มาขัดการบัญชาการของจมื่นไวยคือพระยาพลเทพ พระยาพลเทพแต่เครื่องขุนนางชุดเข้าเฝ้าเต็มยศมารอต้อนรับทัพม่านด้วยหวัง เต็มที่ที่จะได้ยกขึ้นเป็นเจ้าครองเมืองประเทศราช จมื่นไวยระเบิดความแค้นไล่ฟันพระยาพลเทพ พลเทพหูขาดไปข้างหนึ่ง หนีจมื่นไวยหัยซุนด้วยอยากรักษาชีวิตไว้ขึ้นเป็นเจ้า จมื่นไวยตามล่าไม่ลดละ ประตูด้านป้อมมหาชัยถูกข้าศึกพังถล่มลงเป็นประตูแรก ข้าศึกเฮโลกันเข้าทางประตูนั้น จมื่นไวยมาเห็นพระยาพลเทพยืนปลื้มรับทัพข้าศึกเข้าเมืองอยู่ จึงโดยฟันแขนซ้ายพระยาพลเทพขาดก่อนที่พระยาพลเทพจะทันรู้ตัว และตามด้วยปลายดาบจิ้มทะลวงตาข้างหนึ่ง และสุดท้ายฟันแขนขวาขาดอีกข้าง จมื่นไวยคั่งแค้นแน่นหัวอก ไมให้พลเทพเหลือมือที่จะไปกราบไหว้แม่ทับและเจ้าผู้ครองกรุงอังวะ ไม่ให้เหลือรูปโฉมที่ผู้ใดจะยินดีมอง ข้าศึกกลุ้มรุมทำร้ายจมื่นไวย จมื่นไวยต่อสู้จนตัวตายอยู่ตรงประตูใหญ่ท่าช้างหน้าวังจันทรเกษม เพลาค่ำแปดนาฬิกา วันเนาสงกรานต์ ขึ้นเก้าค่ำ เดือนห้า พ.ศ. 2310 นั้นเอง พระนครศรีอยุธยามหาราชธานีก็สิ้นศักดิ์แห่งราชธานีลง หลังจากรวมกำลังตั้งต่อสู้ศัตรูมาได้หนึ่งปีกับสองเดือน เปลวเพลิงรุกโหมโชติช่วงแดงฉานตัดกับท้องฟ้าสีดำสนิท กลืนชีวิตกรุงศรีอยุธยาบรมราชธานีอันเคยบรมสุข เป็นหมดสิ้นเลื่อมยศ เพียงสามปีที่ผลัดแผ่นดินก็มีศึกพม่าประชิดติดเมืองอีกคือศึก เจ้าตะแคงปะดุง เจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ของพม่า ยกเข้ามาทางลาดหญ้า แขวงเมืองกาญจนบุรี แสนกราบเรียนให้ผู้สำเร็จราชการเมืองพิษณุโลกส่งบรรดาขุนหมื่นพันทนายออกไป ป่าวเรียกผู้คนให้อพยพมารวมกองกันในเมืองโดยเร็วและให้ขนเสบียงมาด้วย เพื่อจะได้ไม่เหมือนครั้งที่แล้วที่ต้องทิ้งเมืองเพราะขาดเสบียงความคิดของ แสนได้ผล ผู้คนหลั่งไหลเข้าเมืองทุกวัน แสนช่วยเป็นภาระคุ้มกันและจัดส่งกองเกวียนของชาวบ้านจนถึงทางเข้าเมือง และจวนเย็นวันหนึ่ง มีกองเกวียนใหญ่มากกองหนึ่งอพยพเข้ามาความที่เป็นกองใหญ่และเข้ามาตอนพลบจึง จะยังเข้าเมืองไม่ได้ แสนและกองกำลังออกไปดักตรวจตรากองเกวียนนั้นว่าจะมีผู้แปลกปลอมแฝงมาบ้าง หรือไม่ ขณะเมื่อกำลังพูดจากันอยู่แสนสังเกตเห็นว่ามีม้าสองม้ารีบถอยไปแผงอยู่ด้าน หลังสุดของขบวน และยิ่งได้ฟังคนนำกลุ่มพูดจาถึงวันที่เจ้าพระยาทั้งสองแตกทัพอะแซหวุ่นกี้ แสนก็ยิ่งปั่นป่วนหัวใจนัก จะมองสองม้าที่ถอยไปจนสุดกู่ก็มองไม่ถนัด ได้แต่คิดว่าจะต้องค้นเอาความจริงให้ได้ และคิดว่าจะเป็นคนกลุ่มนี้เองที่มาช่วยวันแตกทัพอะแซหวุ่นกี้ แสนได้แต่พูดฝากไว้ในเบื้องต้นนี้ว่าอยากรู้ว่าผู้ที่มาช่วยวันแตกทัพ เป็นใครแสนให้ชาวบ้านพักผ่อน ตัวเองก็ไปพักด้วย แต่จนดึกแล้วแสนก็ไม่อาจข่มตมให้หลับได้ จึงลุกออกจากที่พักเดินตรวจพลเวรยามไปเรื่อย แล้วแสนก็ต้องชะงักทันใดเมื่อได้ยินเสียงชายชาวบ้านป่าขับลำนำรักอันเป็น ลำนำที่ชาวกรุงศรีฯ ขับเป็นประจำและแสนกับเรณูนวลขับสู่กันก่อนแสนจากไปสงคราม แสนคาดคั้นจนได้ความว่ามีผู้สอน แสนสั่นไปทั้งตัวด้วยแน่ใจว่าผู้สอนนั้นเป็นเรณูนวลแน่และกองเกวียนนี้ต้อง เป็นของเธอ แสนคาดคั้นขาวบ้านจนในที่สุดได้พบกับเรียมพี่เลี้ยงของเรณูนวล เรียมต่อว่าต่อขานประชดประชันแสนมากมาย โดยเฉพาะเรื่องได้เมียพระราชทานถึงสองคน แสนชี้แจงและสาบานจนเป็นที่พอใจของเรียม เรียมจึงชี้เกวียนที่พักของเรณูนวลให้ แสนกับเรณูนวลได้พบกัน ความรักความคิดถึงแรมปีประดั่งหลั่งไหลท่วมท้นใจ แสนรับรู้ความลำบากของเรณูนวลด้วยน้ำตา และให้คำมั่นว่าจากนี้ไปความตายเท่านั้นที่จะพรากเขาจากเรณูนวลได้ แล้สองหัวใจรักที่รอคอยกันมานานแสนนานก็ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในคืน นั้น แสนขอให้ผู้สำเร็จราบการเมืองพิษณุโลกประกอบพิธีสมรสให้ แล้วจากนั้นแสนกับเรณูนวลและกองกำลังก็ไปสมทบทัพหลวงที่ลาดหญ้า ทำศึกกับพม่าซึ่งยกเข้ามาถึงเก้าทัพ กองของแสนและเรณูนวลรบแบบกองโจรและสามารถตีพม่าแตกกระเจิงได้ชัยชนะในด้าน นั้น แสนและเรณูนวลไปตนสมทบกับทัพหลวงซึ่ง พระอนุชิตราชา หรือพระราชวังบวรหรือคุณเล็กเป็นแม่ทัพ และท่านมีพระบัณฑูรให้แสนและเรณูเข้าเฝ้า ท่านตรัสว่าแสนและเรณูนวลจะได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวในวันที่เสร็จศึก เพี่ยงเท่านี้แสนก็ยินดีจนสะท้านไปทั้งกาย ทัพไทยทำศึกกับพม่าสุดชีวิตวิญญาณ บรรดาคนไทยที่ซุ่มซ่อนอยู่ต่างก็ออกมาช่วยบ้านเมืองทำศึกจนมีชัยชนะอย่าง เด็ดขาดต่อพม่า และศึกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นแล้วบ้านเมืองสยามก็เข้าสู่ความสงบสุข ไร้ศึกจากเมืองม่านมารบกวนอีกเลยตลอดรัชกาล

เดือนเดือด 2547

เดือนเดือด (2547/2004) พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ แก่นเพชร นายตำรวจมือปราบชื่อดังจากคดี ดร.ทัศน์ไท เมื่อหลายปีก่อน ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติภารกิจลับ นำหน่วยปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่เร็วบุกเข้าทลายโรงงานผลิตยาบ้าแห่งใหญ่ ที่สุดบริเวณแนวชายแนดไทย-เมียนม่า แต่นายตำรวจหนุ่มกลับถูกซ้อนแผนจากพ่อค้ายานรก ร่วมมือกับตำรวจชั่วรุมเล่นงานยิงกระหน่ำจนทีมตำรวจปราบปรามทั้งหมดตายเรียบ ส่วนเศรษฐพงศ์เองแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ที่โรงงานนรกนั้นเอง เศรษฐพงศ์รอดชีวิตได้ด้วยความช่วยเหลือจากสาวลึกลับคนหนึ่ง เธอสวมหน้ากากและชุดแนบเนื้อสีดำทั้งชุด เจ้าของฉายา ปกีรณัม ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คอยช่วยเหลือตำรวจปราบปรามยาเสพติดอยู่เสมอปกีรณัมวาดลวดลายสาวนักบู๊ เล่นงานวายร้ายที่รายรอบได้จนหมดสิ้น ยังความประหลาดใจให้กับนายตำรวจหนุ่มเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเธอจะมีชั้นเชิงการต่อสู้ที่แพรวพราวแล้ว ดูเหมือนวายร้ายทุกคนจะทำอันตรายเธอไม่ได้เลย กระสุนปืนทุกนัด รวมทั้งระเบิดทุกลูกของพวกมันด้าน ไม่ทำงานเสียเฉยๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปกีรณัม หลังจากช่วยเหลือเศรษฐพงศ์ให้รอด ชีวิตแล้ว สาวหน้ากากดำได้ทิ้งหลักฐานสำคัญเพื่อให้เขาสามารถสืบจับนายตำรวจชั่วซึ่ง วางแผนทั้งหมด พร้อมทั้งประกาศจะช่วยเหลือผู้กำกับหนุ่มต่อไป เพื่อกวาดล้างยาเสพติด โดยไม่ยอมเปิดเผยตัวจริงว่าเป็นใคร และมีความเป็นมาอย่างไร เศรษฐพงศ์ได้แต่เก็บปมปริศนานี้ไว้ในใจ ตั้งใจจะสืบทราบให้จงได้ว่าสตรีหน้ากากดำลึกลับคนนี้เป็นใครกันแน่ และเธอมีเหตุผลอะไรที่ทำแบบนี้ ในเย็นวันเดียวกัน มนทกานติ โชติรัตน์ ดาราสาวยอดนิยมเกือบจะไปงานคอนเสิร์ตหารายได้ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า บ้านแสงอรุณ แทบไม่ทัน เธอต้องแก้ตัวกับ วดี ชัยอนันต์ หรือ แม่วดี ประธานชมรมแสงอรุณเป็นพัลวัน โดยอ้างว่าติดภารกิจต้องถ่ายทำละครหามรุ่งหามค่ำในต่างจังหวัด ด้วย ท่าทางที่น่ารักของมนทกานติ ดาราสาวเจ้าของสารพัดฉายา ราชินีนักบู๊ ดาราเจ้าน้ำตา และ เจ้าแม่กุ๊กกิ๊ก การแสดงจึงผ่านพ้นไปได้ด้วยดีได้รับเงินบริจาคสมทบทุนชมรมไปหลายล้านบาท ในระหว่างที่มนทกานติกำลังแสดงอยู่นั้นเอง ช่างไฟคนงานอาละวาดคลั่งยาบ้าขึ้นมากะทันหัน ถือปืนวิ่งตรงเข้าจะทำร้ายผู้ร่วมงาน โชคดีที่มนทกานติวาดลวดลายราชินีนักบู๊ ช่วยเหลือทุกคนได้อย่างปลอดภัย โดยที่ทมนทกานติไม่ได้รับอันตรายจากกระสุนปืนของไอ้คลั่งแม้แต่นัดเดียว มี เพียงวดีคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้ เพราะเธอรู้ดีว่า มนทกานติ อดีตเด็กกำพร้าของชมรมแสงอรุณมักจะโชคดีเสมอในวันเดือนมืด แรม 15 ค่ำ มนทกานติ มีชีวิตที่น่าสงสาร ต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปในวันเกิด ซึ่งตรงกับคืนวันแรม 15 ค่ำพอดิบพอดี พ่อของมนทกานติเป็นนายตำรวจมือปราบหน่วยปราบปรามยาเสพติด สร้างผลงานยอดเยี่ยมจนถูกพ่อค้ายาเสพติดลงขันร่วมมือกันกำจัด ส่วนแม่ของเธอเสียชีวิตจากการเสียเลือดในวันคลอดนั้นเอง มนทกานติ ได้รับการเลี้ยงดูจากวดี ประธานชมรมแสงอรุณ ภรรยาของดนัยนพ นักธุรกิจผู้ใจบุญ วดีตั้งชื่อเธอให้มีความหมายว่า “พระจันทร์” โดยหวังว่าจะเป็นศิริมงคลแก่เด็กหญิงคนนี้ ทั้งๆ ที่ต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก เมื่อเข้าสู่วัยสาว ชายหนุ่มที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของมนทกานติ คือ วีรชัช ศัจกร ผู้กำกับการแสดงหนุ่ม อดีตนักเรียนอังกฤษ เจ้าของรางวัลผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยมหลายปีซ้อน เขาเลือกมนทกานติเป็นนางเอกใหม่ นำแสดงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เขากำกับ และแน่นอนเพียงเรื่องแรก มนทกานติก็ดังทะลุฟ้า รายได้ของภาพยนตร์ติดอันดับภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดของประเทศ ตั้งแต่ นั้นเป็นต้นมา วีรชัชกับมนทกานติ เป็นผู้กำกับและดาราคู่ขวัญที่สนิทสนมแนบแน่นกันที่สุด ด้วยบุคลิกเข้าใจยากและแยกตัวเองออกจากสังคมของวีรชัช ดูเหมือนจะมีมนทกานติเท่านั้นที่รู้ใจ จนเป็นที่ร่ำลือกันทั่วทั้งวงการบันเทิงว่า เขาและเธอเป็นคู่รักที่น่าอิจฉา แม้วีรชัชจะเป็นชายคนเดียวที่มนทกานติใกล้ชิด แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจพฤติกรรมและความรู้สึกลึกๆ ในบางเรื่องของเธอได้ หลายครั้งเขารู้สึกเหมือนเป็นคนอื่น…ที่ไม่ใช่คนรัก ในวงการบันเทิงเต็มไปด้วยมายา หรูหรา ฟู่ฟ่า และจอมปลอม หลายคนถูกกระแสพัดพาให้ถลำลึกไปไกลเกินกว่าจะกลับตัว บางคนติดยา บางคนติดเอดส์ บางคนยอมขายตัวให้กับผู้มีอิทธิพล หลากชีวิตหลายรูปแบบที่มนทกานติกับวีรชัชต้องเผชิญ ครั้ง หนึ่งวีรชัชเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถูกลอบทำร้ายจากดาราหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งเขาไล่ออกจากกองถ่ายเพราะเสพยาอีจน ติดงอมแงม วีรชัชถูกแทงอาการสาหัส ต้องเข้าโรงพยาบาลท่ามกลางความตกใจและเสียใจของมนทกานติ ด้วยความล่าช้าของหน่วยงานราชการ ทำให้พลาดการจับกุมผู้ค้ายาคนสำคัญไปได้ มนทกานติเริ่มตระหนักถึงปัญหายาอี คิดว่าจำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกวาดล้างยาอีในวงการ บันเทิง ในคราบของ “ปกีรณัม” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่คน ทั่วไปไม่รู้ นั่นคือ มนทกานติเป็นนักคอมพิวเตอร์ตัวยง เธอเชี่ยวชาญการใช้คอมพิวเตอร์ไม่ต่างจากมืออาชีพ จากการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต มนทกานติแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยโปรแกรมแชทกับบุรุษลึกลับที่ใช้นามแฝงว่า ฮีโร่ เธอไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร รู้เพียงว่าเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่ง สามารถให้เบาะแสทำลายล้างขบวนการค้ายาเสพติดได้บ่อยครั้ง การปฏิบัติงานของปกีรณัมหลายครั้งได้ข้อมูลสำคัญมาจากฮีโร่ ทำให้สามารถรวบตัวการส่งให้ตำรวจลงโทษได้ โดยที่ทั้งฮีโร่และมนทกานติต่างไม่เคยเห็นหน้าตัวจริงซึ่งกันและกันเลย ข่าว สำคัญล่าสุดที่ฮีโร่บอกมนทกานติคือ คนที่อยู่เบื้องหลังการค้ายาอีในวงการบันเทิง คือ นเรนทร อภิชัย พระเอกหนุ่มจอมกระชากเรตติ้งของวงการ เจ้าของฉายา คาสโนวายุคมิลเลนเนียม ลูกชายคนเดียวของ สนอง อภิชัย ส.ส.ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดทางการเมืองในขณะนี้ ภารกิจเล่นงานนเรนทรจึงเริ่มขึ้นที่งานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์แห่งปี มนทกานติใช้ความสวยและเสน่ห์ของตัวเองหลอกล่อให้นเรนทรมาติดกับ เขาหลงใหลในความงามของมนทกานติอย่างหัวปักหัวปำ คิดว่าดาราสาวเจ้าบทบาทกำลังหลงใหลในความหล่อเหลาของเขาด้วยเช่นกัน ความ สนิทสนมระหว่างมนทกานติและนเรนทรอยู่ในสายตาของวีรชัชโดยตลอด แม้จะเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและน้อยใจในพฤติกรรมของเธอ แต่วีรชัชก็พยายามกล้ำกลืนฝืนทน คิดเพียงแต่ว่าดาราสาวคงมีเหตุผลพอที่กระทำตัวแบบนี้ ด้วยความสนิทสนมที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มนทกานติสามารถลอบข้าไปในเพนเฮ้าส์หรูส่วนตัวของนเรนทรได้สำเร็จ เธอแอบติดตั้งกล้องโทรทัศน์และอุปกรณ์สเปเชี่ยลเอฟเฟคไว้เต็มห้องพัก เฝ้ารอเวลาที่นเรนทรจะทำการจำหน่ายยาอีให้กับเอเย่นต์และดาราอื่นๆ เพื่อจะทำลายวงจรอุบาทว์ให้หมดสิ้นไป แล้ววันนั้นก็มาถึง นเรนทรเชิญมนทกานติมาเป็นแขกพิเศษในปาร์ตี้ซื้อขายยาอีในเพนเฮ้าส์ส่วนตัว ของตัวเอง ด้วยความสามารถและอุปกรณ์สเปเชี่ยลเอฟเฟคที่มนทกานติแอบติดตั้งไว้ ทำให้ปาร์ตี้จำหน่ายยาอีของนเรนทรถูกทำลายลง ด้วยฝีมือของ “ปกีรณัม” พยัคฆ์สาวในชุดดำที่หลายคนกำลังกล่าวถึง นเรนทรกับพวกถูก พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ จับได้พร้อมยาอีที่เตรียมจำหน่าย ส่วนมนทกานติหายตัวไปพร้อมกับเงินสดของกลาง และการปรากฏตัวของปกีรณัม เหมือนเช่นทุกครั้งที่จบภารกิจกวาดล้างแก๊งค์ยาเสพติด มูลนิธิเด็กกำพร้าทั่วประเทศได้รับเงินบริจาค โอนเข้าบัญชีในจำนวนเท่ากับเงินสดของกลางที่หายไป โดยระบุชื่อผู้โอนในนาม ปกีรณัม เศรษฐพงศ์พยายามสืบหาว่าปกีรณัมเป็นใคร เขารู้เพียงว่า ปกีรณัม แปลว่า จำหน่ายจ่ายแจก ซึ่งก็ตรงกับพฤติกรรมของพยัคฆ์สาวในชุดดำ นั่นคือเอาเงินเลวที่ยึดได้จากการค้ายาเสพติด มาบริจาคให้บรรดาเด็กกำพร้าอยู่เสมอ การถูกตำรวจจับและถูกทลายปาร์ตี้จำหน่ายยาอี สร้างรอยแค้นให้กับนเรนทรเป็นอย่างมาก เขาปักใจเชื่อว่ามนทกานติกับปกีรณัมต้องเป็นคนๆ เดียวกัน ตั้งใจจะต้องล้างแค้นเธออย่างสาสม ด้วยอำนาจเงินและอิทธิพลล้นฟ้าของสนองผู้เป็นพ่อ นเรนทรรอดจากคดีกลับมาลอยนวลอยู่ในสังคมได้อย่างสบายอีกครั้ง ส่วนผู้กำกับเศรษฐพงศ์ถูกตั้งกรรมการสอบสวนในข้อหากระทำเกินกว่าเหตุ เพราะของกลางยาอีที่ยึดได้ถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลปึกไปในเพียงชั่วข้ามคืน นเรนทร ต้องการทำลายชื่อเสียงขอปกีรณัมที่สร้างไว้ โดยอาศัยผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาต้องการให้มนทกานติแสดงตัวตอบโต้กับเขา นเรนทรร่วมกับสนองจองล้างจองผลาญมนทกานติ เริ่มจากถล่มตำรวจและหน่วยงานราชการทั่วประเทศ ต่อด้วยปล้นเงินบริจาคจากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าทั่วกรุงเทพฯ แบบเย้ยกฎหมาย โดยมีผู้หญิงผมยาวใส่หน้ากากชุดดำนำขบวนปล้นทุกครั้ง และระบุว่าตัวเองคือ ปกีรณัม วันหนึ่งนเรนทรบุกเข้ามากระหน่ำมนทกานติถึงในห้องพักที่คอนโด เคราะห์ดีที่มนทกานติสร้างห้องลับไว้ซ่อนตัวเป็นอย่างดี เธอจึงรอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระนั้น นเรนทรก็ยังประกาศจะจองล้างจองผลาญเธอให้ถึงที่สุด ถ้าทำกับเธอไม่ได้ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็จะเป็นเป้าหมายสำคัญของเขา ในวันเด็กแห่ง ชาติ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั่วประเทศร่วมกับชมรมแสงอรุณจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อรวบ รวมรายได้สนับสนุนกิจการ โดยปีนี้มนทกานติเป็นแม่งานใหญ่ จัดการแสดงพิเศษที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ โดยหวังว่าจะได้รับเงินบริจาคหลายล้านบาท ที่งานแสดงนี้เองมนทกานติได้พบกับ กวง หัวหน้าช่างทำเอฟเฟคมือฉกาจของวงการบันเทิง กวงมากับ น้ำเย็น ลูกชายวัยเจ็ดขวบ ผู้ทะเล้นได้ที่และเคยสนิทสนมกับมนทกานติมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการบันเทิง การแสดงในงานวันเด็กดูเหมือนจะผ่านพ้นไปด้วยดี จนกระทั่งมาถึงช่วงมอบเงินบริจาคในห้องประชุม มนทกานติต้องพบกับสตรีลึกลับในชุดดำแนบเนื้อ พร้อมหน้ากากสีดำอย่างคาดไม่ถึง ปกีรณัมตัวปลอมโรยตัวมาจากหลังคา ห้องประชุม ดึงเอาเงินบริจาคทั้งหมดออกจากมือมนทกานติ พร้อมๆ กับรัวปืนกระหน่ำยิงเข้าใส่ไม่นับ มนทกานติต้องหนีอย่างหัวซุกหัวซุนจนเกือบเอาตัวไม่รอด ดีที่ได้น้ำเย็นกับกวงเข้าช่วยไว้ได้ทัน แต่แม้กระนั้นมนทกานติยังถูกยิงจ่อๆ แบบเผาขนอีกถึงสองนัด มนทกานติถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด วีรชัชเฝ้าดูแลเธออยู่ไม่ห่างท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของเด็กชายน้ำเย็น ที่พร่ำพูดถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญอยู่ตลอดเวลา สินี เป็นสาวนักฆ่า ที่นเรนทรจ้างมาสวมรอยเป็นปกีรณัม หลังจากปล้นเงินบริจาคเรียบร้อยแล้ว เธอก็ดำเนินแผนการโปรยนามบัตรปกีรณัมไว้จนทั่วบริเวณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจฯ บังคับให้เศรษฐพงศ์หาทางจับปกีรณัมมาลงโทษให้ได้ โดยตั้งรางวัลนำจับแพงลิบลิ่ว ชีวิตของสินีมีชะตากรรมไม่ต่างจากมนทกานติเลย ต่างเพียงว่ามนทกานติได้รับโอกาสที่ดีในชีวิตจากวดีและชมรมแสงอรุณ ในขณะที่สินีถูกตอกย้ำทำร้ายจากสังคมที่เลวทราม เธอจึงหันหลังให้กับความดี ดำรงตนเป็นนักฆ่าที่หาตัวจับยาก นักฆ่าอย่างสินีไม่ยอมให้ตัวเองทำ งานพลาด เธอแค้นใจที่กวงกับน้ำเย็นเข้ามาขัดขวางทำให้เธอกำจัดมนทกานติไม่สำเร็จ สินีเข้าไปสังหารกวงตายคาที่ในบ้านพัก ต่อหน้าน้ำเย็นผู้เป็นลูก แต่ด้วยความชาญฉลาดของเด็กชายน้ำเย็นทำให้เขารอดพ้นเงื้อมือมัจจุราชมาได้ อย่างหวุดหวิด และหนีไปหาผู้กำกับเศรษฐพงศ์ได้ทันท่วงที แผนการต่อไปของสินีคือลอบเข้าไปสังหารมนทกานติถึงในโรงพยาบาลตำรวจ เธอแฝงกายเข้าไปเป็นนางพยาบาล ลักลอบฉีดยาพิษไซยาไนด์อย่างแรงเข้าในขวดน้ำเกลือของมนทกานติ แล้วหนีออกไปอย่างเย้ยตำรวจ ทุกอย่างคงเสร็จสิ้น มนทกานติคงจบชีวิตลงไปแล้ว… หากคืนวันที่สินีลงมือ ไม่ใช่วันแรม 15 ค่ำ วันเดือนเดือด… อหังการ์แห่งพระจันทร์ หลัง จากมนทกานติรอดชีวิตมาได้ เธอกลับต้องเผชิญหน้ากับการสืบหาความจริงของเศรษฐพงศ์อีกครั้ง ผู้กำกับหนุ่มมั่นใจว่ามนทกานติเป็นคนๆ เดียวกับปกีรณัม มิฉะนั้นคงไม่ถูกตามจองล้างจองผลาญจากคู่อริอย่างนเรนทรกับสนองถึงเพียงนี้ เขาขอร้องให้มนทกานติวางมือจากภารกิจอันตรายนี้เสีย โดยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดความห่วงใยดาราสาวคนนี้มากกว่าคน อื่นๆ เศรษฐพงศ์ส่งคนติดตามความเคลื่อนไหวของนเรนทร เพราะได้ข่าวจากสายสืบว่านเรนทรกำลังสั่งเครื่องจักรผลิตยาอี มาผลิตขายอย่างเป็นล่ำเป็นสันในเมืองไทย แต่โชคร้ายที่สายสืบของเศรษฐพงศ์กลับทำงานพลาดเพราะเกลือเป็นหนอน ต้องถูกสินีฆ่าตายอย่างทารุณ น้ำเย็นถูกเศรษฐพงศ์ส่งไปอยู่ในสถาน สงเคราะห์แห่งหนึ่ง ที่นั่นเองน้ำเย็นพบว่าเด็กๆ ในสถานสงเคราะห์ถูกบังคับจากเอเย่นต์ยาบ้าในแถบนั้น ให้ขายยาบ้าเป็นอาชีพเสริม รอดพ้นสายตาจากตำรวจ แม้จะเป็นเด็ก แต่น้ำเย็นยังวางแผนช่วยเพื่อนๆ ให้เลิกตกเป็นทาสของอันธพาล คืนวันหนึ่งเขาแอบตามเพื่อนๆ ออกไปพบกับเอเย่นต์ค้ายาบ้า พร้อมๆ กับเล่นงานเอเย่นต์ยาบ้าจนอยู่หมัด หมดสภาพสลบเหมือดในตึกร้างแห่งหนึ่ง ซ้ำยังไม่วายโทรบอกตำรวจให้มาจับ ประกาศตัวอย่างน่ารักตาประสาเด็กว่าเขาคือ…ผู้ช่วยปกีรณัม เมื่อมน ทกานติหายเป็นปกติ เธอเข้าไปแสดงความจำนงขอย้ายตัวน้ำเย็นมาอยู่ที่ชมรมแสงอรุณ เพื่อให้เธอสามารถดูแลเขาแทนนายกวงที่เสียชีวิตไป น้ำเย็นยินดีเป็นอย่างมาก เขาแอบปลื้มในความสามารถของมนทกานติมานานแล้ว นเรนทรยังไม่วางมือจากการล่าสังหารมนทกานติง่ายๆ ในงานเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ที่เธอไปโชว์ตัว ถูกนเรนทรวางกำลังเอาไว้โดยรอบโดยมีสินีเป็นหัวหน้าในการกำจัดมนทกานติ แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ซ้ำร้ายยังถูกมนทกานติเล่นงานจนแทบจะย่ำแย่ สินีถูกผู้กำกับเศรษฐพงศ์นำกำลังตำรวจรวบตัวจับกุมไปได้ คนชั่วย่อม เป็นคนชั่ววันยังค่ำ ทันทีที่สินีถูกตำรวจจับกุม นเรนทรไม่ลังเลที่จะคิดกำจัดเธอให้พ้นทาง เขาจ้างนักฆ่ามืออาชีพเข้าไปลอบสังหารสินีถึงในเรือนจำ แต่ด้วยความสามารถของสินี เธอจึงรอดชีวิตไปได้อย่างหวุดหวิด แม้กระนั้นสินียังต้องบาดเจ็บสาหัส อยู่ในสภาพเจ้าหญิงนิทราไม่อาจให้การกับตำรวจได้ ความสัมพันธ์ระหว่างมนทกานต์กับวีรชัชงอกงามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่รู้แก่ใจตัวเองว่ารักกันมากแค่ไหน มนทกานติตัดสินใจเลิกภารกิจปกีรณัม ปล่อยหน้าที่กำจัดนเรนทรกับสนองให้เป็นของเศรษฐพงศ์ เพราะอีกไม่นานเธอจะแต่งงานกับวีรชัชตามที่เขาต้องการ ฮีโร่ ส่งข่าวการนำเข้าเครื่องจักรผลิตยาอีของนเรนทรกับสนองมาให้มนทกานติทราบอีก ครั้ง เธอส่งขอ้มูลสำคัญนี้ไปให้กับผู้กำกับเศรษฐพงศ์ เขาส่งนายตำรวจมือดีคอยติดตามหาทางเล่นงานนเรนทรกับพ่อ แต่กลับถูกย้อนรอยถูกยัดข้อหามียาอีอยู่ในครอบครอง ตำรวจสายของ ส.ส.สนองเข้าตรวจค้นที่พักของผู้กำกับเศรษฐพงศ์ พบยาอีซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนับหมื่นเม็ด พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ ถูกสั่งให้พักราชการและโดนจับกุมดำเนินคดีในทันที ในเรือนจำเขายังถูกคุกคามไม่สิ้นสุด เพียงแต่หาใครมีฝีมือเหนือเขาไม่ได้ นายตำรวจหนุ่มจึงยังมีชีวิตอยู่ในคุกได้อย่างสงบ เฝ้ารอเวลาที่จะพิสูจน์ตัวเอง เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดคนดีในสังคม ขณะที่มนทกานติกำลังรับหมั้นจากวีรชัชและสัญญาว่าจะแต่งงานกัน บ้านสวนริมน้ำของวีรชัชกลับถูกถล่มจากทีมล่าสังหารของนเรนทร ทั้งสองพยายามต่อสู้อย่างดุเดือด อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของมนทกานติที่เชี่ยวชาญเรื่องโลดโผนสมฉายา ราชินีนักบู๊ เธอพาวีรชัชฝ่าวงล้อมออกมาได้ แม้กระนั้นวีรชัชยังต้องอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส มนทกานติสามารถพาวีรชัชเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่แพทย์ก็มิอาจหยุดความตายของผู้กำกับหนุ่มเอาไว้ได้ ยังความเศร้าโศกเสียใจให้กับเธอย่างแสนสาหัส จนยากจะทานทน มนทกานติอาศัยชมแรงแสงอรุณเป็นที่พักจิตใจ ชีวิตของเธอขณะนี้ไม่เหลือใครอีกแล้ว ถึงเวลาที่เธอต้องต่อสู้กับความอยุติธรรมด้วยตัวเอง ถึงเวลาของ…ปกีรณัม มนทกานติในร่างของปกีรณัมบุกเข้าไปถึงบ้านของ ส.ส.สนองที่มีบอดี้การ์ดรายรอบนับสิบคน โดยอาศัยรถเทรลเลอร์ติดระเบิดที่บังคับด้วยรีโมทคอนโทรล ทำให้เธอสามารถกำจัดองครักษ์ชั่วของสนองไปได้ไม่ยาก เธอเข้าไปกระหน่ำเล่นงานสนองถึงในถ้ำด้วยตัวเธอเอง พยัคฆ์สาวบังคับให้สนองโอนเงินทางคอมพิวเตอร์เข้าเครือข่ายของบ้านเด็ก กำพร้าทั่วประเทศเป็นเงินถึง 100 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นไม่นานด้วยฤทธิ์ของเสือเฒ่า มนทกานติกลับเกือบเอาชีวิตไม่รอด ยังดีที่ผู้ช่วยวัยจิ๋ว น้ำเย็น แอบโผล่ออกมาจากท้ายรถ ช่วยเหลือเธอไว้ได้ทันทวงที น้ำเย็นแอบเล่นอินเตอร์เน็ตโดยใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ของมนทกานติ ทำให้ฮีโร่สามารถติดต่อเธอได้อีกครั้ง ฮีโร่แนะนำให้มนทกานติเล่นงานสนอง โดยแฉเรื่องเรือสำราญของสนองที่เปิดเป็นบ่อนคาสิโนกลางอ่าวไทย อำนาจทางการเมืองของสนองกับนเรนทรก็จะหมดลงด้วยการทำงานของสื่อมวลชน มนทกานติเข้าไปเยี่ยมเศรษฐพงศ์ที่เรือนจำเพื่อขอความร่วมมือจากเขา โดยเสนอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ เศรษฐพงศ์แนะนำให้มนทกานติรู้จักกับ พ.ต.ท.ภูมิ บูรณศิลป์ อดีตคู่หูที่เพิ่งกลับมาจากศึกษาต่อที่อเมริกา และมูลนิธิไททัศน์ ของ ดร.ทัศน์ไท ขาดแต่ ดร.ทัศน์ไทยที่ติดภารกิจการทำงานที่ต่างประเทศเท่านั้น ทั้งหมดตกลงจะปฏิบัติการกวาดล้างอิทธิพลของสนองกับนเรนทรให้สิ้นซาก มน ทกานติร่วมกับ สัก พิชิตผจง แฮกเกอร์มือหนึ่งของ ดร.ทัศน์ไท เจาะฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ของสำนักงานตำรวจฯ สืบทราบข้อมูลสำคัญที่ทำให้เศรษฐพงศ์รอดพ้นข้อกล่าวหายาอี กำลังจะถูกปล่อยตัวในไม่ช้า ติดอยู่ที่สนองยังทรงอิทธิพลอยู่เท่านั้น มนทกานติตัดสินใจเข้าไปแฉความเลวร้ายเรือสำราญของสนองและนเรนทรด้วยตัวเอง เธอจองที่พักบนเรือสำราญลำยักษ์ในนามของ นัทธมน โดยมีน้ำเย็นแอบติดตามมาด้วยอีกครั้ง ภายใต้การตกแต่งใบหน้าด้วยเทคนิคพิเศษ ดูเหมือนนเรนทรจะจำศัตรูตัวฉกาจอย่างมนทกานติไม่ได้ ซ้ำยังต้อนรับให้เธอเป็นแขกพิเศษบนเรือนด้วยลีลาคาสโนวายุคมิเลนเนียมอีก ด้วย ทันทีที่เรือออกจากท่า มนทกานติสามารถผ่านเข้าส่วนที่เป็นบ่อนคาสิโนของเรือสำราญได้ด้วยกุญแจ สารพัดประโยชน์ของน้ำเย็น เธอกำลังจะหาทางบันทึกภาพแล้วหนีออกอย่างเร็วที่สุด แต่โชคร้ายที่นเรนทรปรากฏกายขึ้น พร้อมๆ กับประกาศว่าจำเธอได้มาตั้งแต่แรก เขาต้องการล่อให้เธอมาติดกับดักลอยน้ำ ไม่มีทางหนีเขาต่างหาก มนทกานติถูกจับกุมได้และถูกทำร้ายอย่างทรมาน น้ำเย็นคู่หูตัวจิ๋วของเธอจะหาทางช่วย แต่กองกำลังนเรนทรและสนองมีมากเกินกว่าเด็กตัวเล็กๆ จะทำอะไรได้ เขาได้แต่เฝ้ามองมนทกานติด้วยความสงสาร เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด สินีในคราบของ ปกีรณัม ปรากฏตัวขึ้น เธอแค้นนเรนทรกับสนองที่ทรยศ คิดกำจัดเธอออกไปจากเส้นทาง ปราดเข้าเล่นงานลูกน้องนเรนทรกับสนองจนกระจัดกระจาย ช่วยมนทกานติให้ออกมาจากการจับกุมได้ ขณะที่สินีกลับตัวกลับใจเข้ามาอยู่ฝ่ายเดียวกันกับมนทกานติแล้ว คืนวันนั้น เรือสำราญที่ออกแบบมาเพื่อเป็นบ่อนคาสิโน ต้องโกลาหลกับการบุกเข้าถล่มจากพยัคฆ์สาวปกีรณัมถึงสองคน มนทกานติได้ภาพหลักฐานคามชั่วของสนองกำลังบังคับให้เรือสำราญเข้าเทียบฝั่ง แต่นเรนทรกับสมุนเข้าขัดขวางเล่นงานจนเธอ สินี และน้ำเย็น ย่ำแย่ กำลังจะต้องตกเป็นเชลยอีกครั้ง ในที่สุดสินีสละตัวเองกดระเบิดพลี ชีพทำลายเรือสำราญทั้งลำเพื่อให้มนทกานติกับน้ำเย็นหนีรอดออกมาได้ทางเรือใบ ขนาดเล็กแบบทาคามารัน ซึ่งสินีเทียบไว้กับเรือสำราญตอนลักลอบขึ้นไปบนเรือ ส.ส.สนองกับนเรนทรจบชีวิตลงท่ามกลางซากเรือสำราญของตัวเอง ดูเหมือนเรื่องราวทั้งหมดกำลังจะจบลงด้วยดี แต่ทันทีที่เรือใบเทียบท่า มนทกานติกลับโดนล้อมจับโดยกองกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหลักฐานระบุชัดเจนว่าเธอคือ ปกีรณัม โดยผู้ส่งหลักฐานให้ตำรวจคือ ฮีโร่ คนที่มนทกานติเชื่อใจมาโดยตลอด เศรษฐ พงศ์รอดพ้นจากคดีที่ไม่ได้ก่อ แต่เขากับสารวัติภูมิจำต้องดำเนินคดีกับมนทกานติทั้งที่ไม่เต็มใจเลยแม้แต่ น้อย สักสืบค้นข้อมูลจากคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จนรู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วฮีโรก็คือ ดนัยนพ นักธุรกิจใหญ่ผู้ใจบุญ สามีของวดีนั่นเอง เขาเป็นเจ้าของเงินบริจาคสนับสนุนสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศปีละหลายล้านบาท เบื้องหน้าเป็นคนใจดีแต่มีเบื้องหลังเป็นเจ้าของกิจการค้ายาเสพติด สาเหตุที่เขาติดต่อให้ข้อมูลปกีรณัมกำจัดพ่อค้ายาเสพติดรายอื่นๆ ก็เพื่อกำจัดคู่แข่งของตัวเอง เมื่อสามารถโค่นตัวการใหญ่อย่างสนองกับนเรนทรได้แล้ว ดนัยนพจึงกำจัดมนทกานติให้พ้นเส้นทาง ด้วยความร่วมมืออย่างลับๆ ของสัก และน้ำเย็น มนทกานติหนีออกมาจากคุกได้ เธอตั้งใจจะปฏิบัติการเป็นพยัคฆ์สาวปกีรณัมอีกครั้ง ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย กระชากหน้ากากคนชั่วให้สังคมได้รู้ ปกีรณัมประกาศกำหนดการกับสื่อมวลชนทุกแขนง ว่าจะเข้าปล้นธนาคารสยามของดนัยนพ เพื่อเอาเงินมาบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั่วประเทศ และจะเอาเงินไปบริจาคที่ชมรมแสงอรุณด้วยตัวเธอเอง เมื่อถึงกำหนดการ กองกำลังตำรวจปิดล้อมป้องกันธนาคารสยามไว้อย่างหนาแน่น แต่ในที่สุดด้วยความสามารถของมนทกานติ ปกีรณัมทำได้ตามที่กล่าวอ้าง และหนีไปได้อย่างลอยนวลอีกครั้ง ในวันเดียวกัน ปกีรณัมเอาเงินไปบริจาคที่ชมรมแสงอรุณกับดนัยนพด้วยตัวเองตามที่กำหนด เธอสามารถแฉจนคนทั่วประเทศได้รับรู้ว่าดนัยนพใช้ห้องใต้ดินบริเวณสนามหญ้า ชมรมแสงอรุณ เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดทั้งยาอียาบ้า ดนัยนพจำต้องก้มหน้ารับกรรมที่ตัวเองก่อไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงเวลาที่มนทกานติในคราบของปกีรณัมจะต้องเผชิญหน้ากับเศรษฐพงศ์อย่างหลีก เลี่ยงไม่ได้ เขานำกองกำลังตำรวจมาล้อมรอบชมรมแสงอรุณ จำต้องจับกุมเธอตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดี ทั้งสองยิงต่อสู้กันอย่างตื่นเต้นเร้าใจ แม้จะขัดกับความรู้สึกของตัวเองก็ตาม จากการต่อสู้นั้นเอง มนทกานติในคราบปกีรณัมถูกเศรษฐพงศ์ยิงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย ดูเหมือนกระสุนจะทะลุหัวใจ ร่างของมนทกานติล้มคว่ำ ลอยละลิ่วตกลงสู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาอันเชี่ยวกราก ฤาจะไม่มีปาฏิหาริย์แห่งคืนเดือนดับ เพราะวันนี้ไม่ใช่วันแรม 15 ค่ำ อหังการ์แห่งประจันทร์ พิธีศพมนทกานติทำอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความเสียใจของคนในวงการบันเทิงหลายคน น้ำเย็นร้องไห้จนแทบจะไม่มีน้ำตา คร่ำครวญคิดถึงแต่พี่สาวใจดี คนที่ให้ความเมตตาเขาอยู่เสมอ คนๆ เดียวที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาคือ เศรษฐพงศ์ ผู้ที่ได้ชื่อว่ากำจัดปกีรณัมออกไปจากทำเนียบอาชญากร ในวันเผาศพปกีรณัมเขากลับยิ้มที่มุมปากพร้อมๆ กับกระซิบที่ข้างหูน้ำเย็นอย่างมีเลศนัย บอกว่าบางครั้งสิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ หลายเดือนต่อมาที่รีสอร์ทบนเกาะส่วนตัวของมูลนิธิไททัศน์ ปรากฏร่างสตรีใบหน้างดงามราวกับภาพวาดคนหนึ่ง เธอดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการของรีสอร์ท เคยได้รับการปฐมพยาบาลจากการถูกยิงที่หน้าอกข้างซ้าย ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นชีวิตคงจบสิ้นไปแล้ว หากแต่ใครจะรู้ว่าเธอมีหัวใจ อยู่ข้างขวา และวันนั้นเป็นวันที่โชคดีอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด กระสุนปืนเพียงแทงทะลุเนื้อบริเวณหัวไหล่ซ้าย ไม่ทำอันตรายเธอจนถึงชีวิต แม้จะไม่ใช่วันแรม 15 ค่ำ วันเดือนเดือด แต่มันเป็นวันที่เกิดสุริยคราส ปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์ อหังการ์พระจันทร์จึงบังเกิดขึ้นอีกครั้ง

ไฟสีเงิน 2547

ไฟสีเงิน (2547/2004) มุกมณี สาวสวยเจ้าของไร่ดอกไม้แถบชานเมือง มีรายได้จากการตัดดอกไม้ขาย มุกมณีมีน้องสาวหนึ่งคน ชื่อ กอบกุล มุกมณีและน้องมักจะมีเรื่องทะเลาะกับแม่เลี้ยงเสมอ เพราะธนาลูกติดของแม่เลี้ยงมักจะหาโอกาสลวนลามมุกมณีและน้องสาวอยู่บ่อยๆ จนวันหนึ่งกอบกุลทนไม่ไหวจึงหนีออกจากบ้านไป เพราะพ่อเข้าข้างธนากับแม่เลี้ยง มุกมณีเองก็เสียใจเช่นเดียวกัน จึงย้ายไปอยู่เรือนหลังเล็กท้ายไร่เพียงลำพัง และในคืนนั้น มุกมณีก็ได้ช่วยเหลือชายหนุ่มปริศนาคนหนึ่งเอาไว้ หลังจากที่เห็นเขาถูกนำมาทิ้งไว้ที่ธารน้ำท้ายไร่ ในสภาพที่บาดเจ็บ และเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา เขาก็จำอะไรไม่ได้ แม้แต่ตัวเอง มุกมณีจึงเรียกเขาว่า นายวี เพราะในตัวเขามีเพียงไปแช็กเพียงอันเดียว และที่ไฟแช็กนั้นมีตราของ "โรงแรมวีวิช" ติดอยู่ มุกมณีแนะนำให้นายวีแจ้งตำรวจว่าถูกคนทำร้าย และเผื่อว่าเขาจะได้รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่นายวีกลับรู้สึกว่า เรื่องนี้ไม่ควรแจ้งตำรวจโดยเด็กขาด เขาจะต้องพยายามรื้อฟื้นความทรงจำและต้องรู้ให้ได้ว่าใครที่เป็นคนต้องการฆ่าเขา มุกมณีจึงให้นายวีทำงานอยู่ที่ไร่ดอกไม้ของคนไปก่อน โดยให้นายวี พักอยู่ที่เรือนหลังเล็กด้วย ธนาเห็นว่ามุกมณีอยู่กับผู้ชายจึงเอาเรื่องไปบอกพ่อ ทำให้พ่อไม่พอใจมาก สั่งให้ไล่นายวีออกไปจากไร่ แต่มุกมณีไม่ยอม จึงทำให้มุกมณีกับพ่อยิ่งไม่เข้าใจกันมากขึ้น วันหนึ่ง กอบกุลติดต่อกลับมาบอกว่า จะไปเป็นเมียเก็บของเศรษฐีคนหนึ่ง ไม่ว่ามุกมณีจะห้ามหรือข้อร้องยังไงก็ไม่ฟัง ทำให้มุกมณีกลุ้มใจมาก จึงปรึกษานายวี แต่เขากลับบอกว่าให้มุกมณีทำใจยอมรับ เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะจิตใต้สำนึกบอกเขาว่า "ผู้หญิงทุกคนซื้อได้ด้วยเงิน!!!" พอถึงวันทที่กอบกุลต้องถูกส่งตัวไปพบ "ท่าน" แต่บังเอิญวันนั้น "ท่าน" ติดธุระด่วนมาไม่ได้ จึงให้คนมาบอกว่าให้กลับไปก่อน และในวันนั้น กอบกุลก็ได้พบกับ พิริยะ น้องชายของท่าน ซึ่งมาที่โรงแรมพอดี เมื่อ พิริยะเห็นกอบกุลนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวประจำ ทำให้เขารู้ทันทีว่ากอบกุลมาทำอะไร จึงเข้ามาคุยด้วย และพากลับไปส่งบ้าน การที่กอบกุลได้พบกับพิริยะ ทำให้หล่อนตัดสินใจได้ว่าจะไม่ไปเป็นเมียเก็บเศรษฐี ซึ่งเมื่อมุกมณีรู้เรื่องก็ดีใจมากที่น้องสาวจะไม่เดินทางผิดต่อไป มุกมณีมีภาระต้องรับผิดชอบมากมาย ต้องดูแลไร่ดอกไม้ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เพราะพ่อไม่สนใจไร่ดอกไม้ และเริ่มติดการพนันตามแม่เลี้ยง จนวันหนึ่งถึงกับเอาไร่ไปจำนองในบ่อน และเมื่อถึงกำหนดใช้หนี้ก็ไม่มีเงินให้ทำให้เจ้าหนี้ส่งคนมาทำร้าย มุกมณีทุกข์ใจมาก เพราะไม่อยากเสียไร่ดอกไม้ไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินเป็นจำนวนมากได้จากที่ไหน มุกมณีตัดสินใจไปที่บ่อนเพื่อพบกับเจ้าหนี้ตามลำพัง พวกคนคุมบ่อนเห็นมุกมณีก็คิดจะลวนลาม แต่ สินธุ เจ้าของบ่อนมาพบเสียก่อน เขาถูกใจในตัวมุกมณีมาก จึงเสนอให้ มุกมณียอมแต่งกับเขา และจะยกหนี้สินทั้งหมดให้ เมื่อนายวีรู้เรื่อง เขาก็กลุ้มใจมาก ไม่รู้จะช่วยมุกมณีอย่างไร เขารู้สึกว่าเงิน 2 ล้านบาทมันน้อยนิดมากสำหรับเขา มุกมณีตัดสินใจที่จะยอมเสียไร่ดอกไม้ไปดีกว่าที่จะต้องแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รัก จึงยิ่งทำให้สุนธุพอใจในตัวมุกมณีมากขึ้น และต้องการให้มุกมณีมาเป็นของคนให้ได้ เขาสงสัยว่า ทำไมมุกมณีจึงไม่ยอมตกลงกับเขา จึงจ้างคนไปสืบว่ามุกมณีมีคนรักหรือยัง ทำให้ได้รู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งใกล้ชิดสนิทสนมกับมุกมณีมาก อยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ชายคนนี้ความจำเสื่อม และเมื่อสินธุได้ดูรูปถ่ายที่นักสืบถ่ายมาให้ดูก็ต้องตกใจ เพราะชายคนนั้นคือ วิชช์ เพื่อนของเขา ซึ่งเขาเป็นคนสั่งฆ่าเอง เมื่อเขารู้ว่า วิชชความจำเสื่อม เขาจึงส่งคนกลับไปจัดการกับวิชช์อีกครั้งหนึ่ง วิชช์ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส มุกมณีจึงตัดสินใจตามหาญาติพี่น้องของวิชช์ โดยมีไฟแช็กเพียงอันเดียวที่เป็นเบาะแส มุกมณีไปที่โรงแรมวีวิช จึงได้พบกับนุวัตร น้องชายของวิชช์ ทำให้มุกมณีได้รู้ว่า นายวีก็คือวิชช์ มหาเศรษฐี เจ้าของโรงแรมวีวิชและธุรกิจอีกมากมาย มุกมณีได้พบกับคนที่เกี่ยวข้องกับวิชช์มากมาย ทั้ง นุวัตร และพิมพา น้องของวิชช์ อวยชัย น้าชายของวิชช์ ธิดาลูกสาวของนายอวยชัย และเป็นคู่หมั้นของวิชช์ ราตรี เมียในบ้านของวิชช์ มุกมณีสับสนมาก กลัวว่าถ้าวิชช์ฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาจะลืมหล่อนและลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านไร่ แต่เมื่อวิชช์ฟื้นขึ้นมา เขาก็จำใครไม่ได้นอกจากมุกมณี วิชช์ไม่ยอมกลับบ้านถ้าไม่มีมุกมณีไปด้วย นุวัตรและพิมพา จึงขอร้องให้มุกมณีไปอยู่ที่บ้านของวิชช์ จนกว่าวิชช์จะหายดีและฟื้ความทรงจำได้ สินธุ ทำเป็นมาเยี่ยมวิชช์ที่บ้านเพื่อดูท่าทีของวิชช์ ทำให้รู้ว่ามุกมณีมาอยู่ที่บ้านของวิชช์ เขายังต้องการให้มุกมณีแต่งงานด้วย แต่มุกมณีก็ปฏิเสธ วิชช์ประกาศจะเป็นคนใช้หนี้ทั้งหมดให้ และจะแต่งงานกับมุกมณี สินธุโกรธแค้นมาก เพราะยอกจากวิชช์จะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของเขาแล้ว ก็ยังเป็นคู่แข่งเรื่องความรักของเขาอีกด้วย เขาจึงคิดจะกำจัดวิชช์ให้ได้ธิดาไม่พอใจมากที่วิชช์ประกาศว่ารักและจะแต่งงานกับมุกมณี จึงขอร้องให้อวยชัยผู้เป็นพ่อช่วยพูดกับวิชช์ให้ ธิดาเชื่อว่าถ้าความทรงจำวิชช์กลับคืนมา วิชช์จะต้องแต่งงานกันตนแน่นอน แต่อวยชัยกลับกลัวว่า ถ้าวิชช์ฟื้นความทรงจำขึ้นมา เขาต้องแย่แน่ เพราะเขาสมรู้ร่วมคิดกับสินธุ และยังโกงเงินบริษัทมาตั้งมากมายในช่วงที่วิชช์หายตัวไป วิชช์จัดการเคลียร์ตัวเอง โดยให้เงินแก่ราตรีและแม่ของราตรีจำนวนหนึ่ง และให้ทั้งสองออกจากบ้านไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ราตรีไม่ยอมออกจากบ้าน เพราะเชื่อว่าถ้าวิชช์จำทุกอย่าง จะต้องไม่ให้เธอออกจากบ้านแน่นอน แต่วิชช์กลับบอกว่า เขาแน่ใจที่จะทำอย่างนี้ เพราะเขาจำทุกอย่างได้ได้ตั้งแต่วันแรกที่ฟื้นขึ้นมา มุกมณีบังเอิญมาได้ยินพอดี จึงเสียใจมากที่ถูกหลอก แต่วิชช์ก็อธิบายว่า ที่เขาต้องทำเช่นนี้ เพราะต้องการกระชากหน้ากากคนทรยศให้ได้ เขาตั้งใจจะจัดการกับอวยชัยให้สาสม แต่มุกมณีขอร้องเอาไว้ว่าอย่าทำอะไรรุนแรง วิชช์จึงไล่อวยชัยและธิดาออกจากบ้านไป สินธุตัดสินใจจะจัดการกับวิชช์ด้วยตัวเอง จึงมาดักยิงวิชช์ แต่มุกมณีก็เข้ามาขัดขวางไว้ และก่อนที่จะหมดสติไป มุกมณีก็บอกสินธุว่า ต่อให้วิชช์ตายไป หล่อนก็ไม่มีวันที่จะรักสินธุได้ และขอร้องสินธุว่าอย่าทำร้ายวิชช์อีกเลย สินธุตัดสินใจทำตามคำขอร้องของมุกมณีไม่มาเกี่ยวข้องกับวิชช์อีก ส่วนวิชช์เองก็ให้อภัยกับสินธุในทุกๆเรื่องที่ผ่านมา วิชช์ตัดสินใจปิดบ่อนที่ทำอยู่ และเลิกธุรกิจที่ผิดกฎหมายทุกอย่าง และโอนธุรกิจที่เหลือทั้งหมดให้กับนุวัตรและพิมพา เป็นผู้ดูแล ส่วนตัวเองก็ไปซื้อที่ดินผืนใหญ่ที่อยู่ติดกับไร่ดอกไม้ของมุกมณี แล้วขยายไร่ดอกไม้ออกไป และใช้ชีวิตเป็นชาวไร่ร่วมกับมุกมณีอย่างมีความสุข

รหัสหัวใจ 2547

เรื่องย่อ : รหัสหัวใจ (2547/2004) ร.ต.อ. วิมลิน หรือ ผู้กองดาว นายตำรวจหญิงประจำหน่วยปราบปรามยาเสพติดได้รับมอบหมายให้ติดตามสืบข่าวทาง ลับผู้ต้องสงสัยว่าค้ายาเสพติดรายใหญ่ นายประยุทธ ผู้ผลิตดอกไม้ประดิษฐ์ส่งออก รหัส “ดอกไม้พิษ” บ้านและโรงงานของนายประยุทธอยู่ตรงข้ามบ้านของ รหัท สถาปนิกเพื่อนรักของ ติณณภพ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคดียาเสพติดให้ดาว ติณณภพจึงแนะนำให้ดาวไปหารหัท และรับรองประวัติของรหัทว่าสะอาดปลอดภัยไม่ปากโป้ง เพียงวันแรกที่เจอรหัท ทั้งดาวและ ร.ต.ต.พร้อม คู่หูของดาว ก็หนักใจมากถึงมากที่สุดกับความเป๋อและจินตนาการเพริดของรหัทเกี่ยวกับการทำ งานของตำรวจไทย แต่เมื่อติณณภพรับรองหนักแน่นว่ารหัทจะไม่ทำให้งานราชการพังแน่ ดาวจึงตกลงใจใช้บ้านของรหัทเป็นฐานปฏิบัติการ

เล็กใหญ่ไม่เกี่ยว…ขอเอี่ยวด้วยคน 2547

เรื่องย่อ : เล็กใหญ่ไม่เกี่ยว…ขอเอี่ยวด้วยคน (2547/2004) บันฑิต พ่อของ เล็กกับใหญ่ เป็นนักธุรกิจทางด้านสะสมของเก่า และได้ศิลปะล้ำค่ามาชิ้นหนึ่ง แต่ถูกฮอค มาเฟียไทยผสมเยอรมัน ซึ่งมีธุรกิจการค้าของเก่าทั่วโลกเช่นกัน ส่งสมุนมาจารกรรมของชิ้นนี้ พวกโจรบุกเข้าบ้านตอนดึก ซึ่งตอนนั้นใหญ่กับเล็กยังเด็กมาก คุณหญิงเพียงเพ็ญ ซึ่งเป็นแม่ของใหญ่และเล็ก ได้พยายามพาทั้งสองหนี แต่เหตุการณ์ชุลมุนเพียงเพ็ญจึงพาใหญ่หนีมาได้คนเดียว เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ใหญ่และเล็กพรากจากกันถึง 21 ปี สิ่งที่ใหญ่ฝังใจก็คือ คนสวมแหวนรูปนาซีไขว้กะโหลก ที่ฆ่าพ่อและน้องของตน ในที่สุดเพียงเพ็ญก็พาใหญ่กลับไปอยู่กับอดีตอธิบดีตำรวจ กัมปนาท ไพรีพ่าย ผู้เป็นพ่อ ปู่ของใหญ่กับเล็ก ผู้มีประวัติปราบอาชญากรมือสะอาดที่สุดของกรมตำรวจ ส่วนเล็กฮอคสั่งให้สมุนชื่อ สมภพ เอาเล็กไปฆ่าเสีย แต่สมภพใจอ่อนพาเล็กออกมาแล้วไปทิ้งไว้ในสลัมบ้านของสมุนเก่าแก่ของตนชื่อ เดชศักดิ์ กำชับให้ช่วยดูแลเลี้ยงดู พอเล็กโตขึ้นสมภพพาไปฝึกงานจนวันหนึ่งสมภพได้งานศิลปะเก่าแก่มาชิ้นหนึ่ง เป็นภาพวาดของปิคัสโซ่ที่ฮอคต้องการจึงส่งคนมาแย่งและฆ่าสมภพ เล็กซึ่งแอบอยู่เห็นว่าคนยิงสมภพใส่แหวนนาซีกะโหลกไขว้แต่ไม่เห็นหน้า จนพวกมันไปหมดแล้วจึงออกมาพบว่าสมภพยังไม่ตายซึ่งก่อนตายสมภพบอกว่าตนนำเล็กมาจากพ่อแม่ที่แท้จริง แล้วมาให้เดชศักดิ์เลี้ยงดู เมื่อเล็กรู้ว่าเดชศักดิ์ไม่ใช่พ่อที่แท้จริงจึงค่อยๆ แยกตัวออกมากับ นิด ลูกสาวของเดชศักดิ์ เล็กใช้ความสามารถในงานศิลปะ บวกกับพรสวรรค์ในด้านการวางแผนขโมยกับอุดมการณ์ที่จะขโมยจากพวกคนโกงมาช่วยคนจน ทำให้ในกลุ่มพวกมิจฉาชีพเรียกเล็กว่า “โมเสส..จอมโจรนักบุญ” และมีธุรกิจบังหน้าทางด้านแกลแลรี่ ( ค้าขายงานศิลปะเก่าแก่และมีค่า ) แต่ไม่มีใครรู้เบื้องหลังของเล็ก งานแสดงศิลปะโบราณที่เก่าแก่ และมีค่าจากทั่วโลก จัดองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวและเปิดโอกาสให้มีการประมูลใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้รับมอบหมายให้มาดูแลความปลอดภัยภายในงานนี้ คุณหญิงเพียงเพ็ญแม่ของใหญ่หนึ่งในคณะกรรมการร่วมนัดงานครั้งนี้ ได้มาดูแลความเรียบร้อยในด้านการต้อนรับแขกผู้ทรงเกียรติ ฮอคมาปล้นตามแผน เล็กก็มาเพื่อประมูลและฉกเครื่องประดับของผู้โกงกินที่มาในงานนี้ด้วย และแล้วเวลาที่ทุกคนรอบคอยก็มาถึงศิลปะอันล้ำค่าถูกเปิดตัวขึ้น จากนั้นแผนการปล้นก็เกิดขึ้นมีการต่อสู้กันอย่างชุลมุน ในช่วงนั้นเล็กได้เข้าช่วยเพียงเพ็ญทำให้ทั้งสองคนได้พบกันเป็นครั้งแรก ส่วนฮอคหนีไปได้ รุ่นขึ้นมีข่าวทำให้เล็กเสียชื่อ เล็กจึงติดต่อกับใหญ่บอกว่าจะช่วยสืบหาของที่ถูกขโมย แต่มีขอแลกเปลี่ยนให้เลิกยุ่งกับแก๊งค์ของตน ใหญ่ตกลงและได้พาเล็กเข้าร่วมทีม ซึ่งมีอดีตอธิบดีกัมปนาทและ นิสา เจ้าหน้าที่ตำรวจสากลที่มีความรู้ทางด้านศิลปะโบราณ ซึ่งทางการสหรัฐเลือกมาให้ร่วมงาน อีกคนหนึ่งก็คือ เสกสรร เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐมนตรีฝ่ายต่างประเทศที่ถูกส่งมาให้ทำรายงานเกี่ยวกับคดีนี้ ทุกคนยอมรับข้อแลกเปลี่ยนของเล็กและให้เล็กร่วมทีม แต่เสกสรรรู้ว่าเล็กเป็นโจรพยายามคัดค้านแต่ไม่สำเร็จจึงไม่พอใจ เล็กพาใหญ่และนิสาไปในที่ต่างๆ ในที่สุดก็รู้ว่ารังของฮอคอยู่ที่ไหน เล็กใช้ความสามารถเข้าไปขโมยนาฬิกาพกมาได้โดยมีใหญ่คอยคุ้มกัน แต่เล็กถูกยิงที่ไหล่จึงหนีมาที่คลีนิคแห่งหนึ่ง ซึ่งได้พบ ลีน่า ลูกครึ่งไทยเยอรมันซึ่งเป็นหมอได้ช่วยเล็กไว้ เล็กพอใจลีน่า แต่แล้วพวกฮอคตามมาทัน และจับลีน่าไปเล็กตามไปช่วยลีน่า แต่ลีน่าถูกมือที่สามจับไปอีกคนคือ ลิขิต นักธุรกิจมีชื่อ มีกิจการโรงแรมและส่งออกบังหน้า ลิขิตนัดหมายฮอคเพื่อแลกเปลี่ยนนาฬิกาพกโบราณกับลีน่า แต่ฮอคก็ฉลาดนัดพวกรัสเซียให้เอาเงินมาซื้อนาฬิกาพกโบราณตามที่นัดไว้เพื่อให้ก๊วนรัสเซียมาปะทะกับก๊วนลิขิต ขณะที่ที่ปะทะกันเล็กโผล่มาขัดขวางและช่วยลีน่าไว้ได้ ต่อมาเล็กได้ไปมาหาสุ่กับลีน่าจนสนิทสนม เล็กไปงานการกุศลกับลีน่าก่อนกลับได้ไปเดินเล่นที่ทะเล ลีน่าถามเรื่องของเล็กและได้รู้ว่าที่ซ่อนของนาฬิกาพกที่ขโมยมาเก็บไว้ที่ไหนจึงค้น แต่ไม่เจอ วันหนึ่งในระหว่างปฏิบัติงานใหญ่พานิสาไปทานข้าวนิสาเตือนว่าใหญ่ไม่ควรไว้ใจเล็กเพราะเล็กเป็นโจร ใหญ่จึงถามนิสาว่าเคยรู้ประวัติของเล็กหรือเปล่า นิสาบอกว่ารู้ถึงจะช่วยคนก็ตามแต่ยังไงก็เป็นโจร ใหญ่รู้สึกผิดหวังที่นิสาพูดอย่างนั้น ก่อนแยกกันนิสาบอกว่าตนไม่ได้มองใครในแง่ร้ายและหวังว่าจะได้พบกันอีกใหญ่ยิ้มให้ เล็กโผล่มาขัดจังหวะ ทั้งสองชวนกันไปดื่มจึงได้เล่าเรื่องของกันและกันให้ฟัง แต่นิสาโทรมาขัดจังหวะและบอกว่าตอนนี้มีนักถอดชิ้นส่วนนาฬิกาเข้ามาในประเทศ ใหญ่และเล็กรวมทั้งนิสาไปดักรอพวกมันที่โรงแรมตามที่ได้รับรายงาน พวกรัสเซียก็ได้เบาะแสเช่นกัน จึงตามล่าฮอคเพราะแค้นที่โดนหลอก ทำให้ฮอคไหวตัวแต่ก็หนีไม่พ้นเงื้อมือเล็ก ในที่สุดเล็กได้นาฬิกาพกโบราณมาได้จากฮอคแต่ฮอคหนีไปได้ เล็กโทรมารายงานให้ใหญ่รู้ว่าได้นาฬิกาพกโบราณมาแล้ว และโทรบอกลีน่าว่าพรุ่งนี้จะไปฉลองกัน แต่ขากลับก็เจอพวกคนร้ายขวางจนเสียท่า เล็กถูกแย่งชิงนาฬิกาพกโบราณไปโดยผู้ร้ายรู้ที่ซ่อนและเอานาฬิกาจริงไป เล็กไปหาลีน่าเพื่อต้องการอธิบายเรื่องที่ตนเองไม่ไปตามสัญญา กลับเห็นลีน่านั่งรถออกไปโดยมีคนของฮอคประกบจึงตามไปช่วย และได้รู้ว่าลีน่าเป็นลูกของฮอคทำให้ไม่เข้าใจกัน เล็กได้ข่าวจากนิดว่าแดงถูกพวกลิขิตยิงบาดเจ็บเพราะเข้าไปสืบเรื่องราวให้ เล็กอาการหนักมากจึงโทรไปหาลีน่าขอให้ช่วย ส่วนฮอคได้ข่าวว่าลิขิตคือมือที่สามที่ชิงนาฬิกาไป และได้นัดพบกับช่างถอดนาฬิกาพกโบราณบนเรือในพัทยาจึงเตรียมตัวที่จะไปจัดการกับลิขิต ขณะที่วางแผนกับอยู่ลีน่ามาหาฮอคพอดีจึงโทรบอกเล็ก เล็กรีบออกไปทันทีกัมปนาทบอกให้ใหญ่ตามเล็กไป เล็กตามฮอคไปจนถึงเรือของลิขิตได้มีการต่อสู้แย่งชิงกันอย่างดุเดือด ใหญ่และนิสาได้ติดตามเล็กมาและได้เข้าช่วยเหลือจนได้นาฬิกาพกโบราณกลับมา ในขณะที่ทั้งหมดกลับมาที่ศูนย์ก่อนที่จะลงรถโทรศัพท์ของใหญ่ก็ดังขึ้น ฮอคขอพูดกับเล็ก บอกว่าเดชศักดิ์พ่อเลี้ยงกับนิดถูกฮอคจับไว้ได้แล้ว ขณะนี้อยู่ที่คลีนิคให้เอาของมาแลกไม่งั้นจะฆ่าทั้งสองคน ใหญ่จึงให้นาฬิกาเล็กไปนิสาก็ยอม ใหญ่กับนิสาเข้ามาที่ศูนย์พบทุกคนบอกว่าไม่ได้นาฬิกามา ใหญ่สารภาพว่าให้นาฬิกาพกโบราณเล็กไปแลกกับชีวิตคน กัมปนาทบอกว่าทุกคนทำถูกต้องแล้ว เหลืออยุ่อย่างเดียวคือไปตามเอานาฬิกาพกโบราณกลับมาให้ได้ ณ จุดนี้ใหย่เข้าใจนิสาดีขึ้น เล็กมาพบฮอคตามที่นัดและพาไปที่โกดัง ให้สมุนคอยคุมแดงและลีน่าไว้ ใหญ่กับนิสาช่วยลีน่าและแดงไว้ได้แล้วจึงรีบตามเล็กไป ลีน่าขอไปด้วยเพื่อจะขัดขวางไม่ให้ฮอคฆ่าเล็ก ที่ศูนย์ขณะที่ท่านกัมปนาทรับเรื่องจากใหญ่ เสกสรรเข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่สากลพอดี และบอกว่าตนจะคุมกำลังไปด้วยตนเอง เมื่อมาถึงโกดังเล้กได้นำนาฬิกาออกมาสั่งให้ปล่อยนิดกับเดชศักดิ์ ฮอครับถุงนาฬิกาพกโบราณแล้วเปิดดู ปรากฏว่าเป็นนาฬิกาพกโบราณปลอม จึงเกิดการต่อสู้กันนิดถูกยิงเสียชีวิตตามด้วยลิขิตที่ถูกเสกสรรยิง เล็กกับใหญ่ตามฮอคไปเพราะรู้ว่าคนที่ฆ่าพ่อคือฮอค และเกิดการต่อสู้กันใหญ่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เล็กจึงถามว่าทำเพื่ออะไร ในที่สุดก็รุ้ว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ฮอคแอบซุ่มอยุ่ได้ยินเล็กเดินมาจะยิง จึงต่อสู้กันอย่างอุตลุตในที่สุดเล็กชนะ ฮอครีบจับลีน่าบังตนเองไว้ เล็กถูกยิงที่หัวไหล่ ในขณะที่ฮอคจะยิงเล็กเสียงปืนก็ดังขึ้น เป็นใหญ่นั่นเองที่มาช่วยไว้ทัน แต่ตัวเองก็ทรุดลงไป เล็กรีบเข้ามาดูใหญ่ ลีน่าบอกเล็กว่าอาการใหญ่สาหัสมากรีบนำส่งโรงพยาบาล เล็กยังห้อยแขนที่ไหล่ซ้ายเดินมากับคุณหญิงเพียงเพ็ญอย่างสนิทสนม มีพยาบาลเข็นรถ คุณกัมปนาทอยู่ด้านหน้า ลีน่าเดินมาข้างๆ กำลังไปเยี่ยมใหญ่ พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นนิสายืนอยู่แล้ว ใหญ่ยังหลับสนิทอยู่ เล็กเข้าไปยืนดูใกล้ๆ แล้วพูดว่า ฉันหวังว่านายคงหายเร็วๆ คุณปู่บอกว่ามีคดีใหญ่ที่จะต้องจัดการอีกแล้ว คุณปู่จะให้ฉันช่วยนายด้วย เสียงใหญ่ดังขึ้น แกไม่ต้องยุ่งคดีฉัน ฉันจัดการได้ แต่เล็กไม่ยอมและบอกว่า “เล็กใหญ่ไม่เกี่ยว…ขอเอี่ยวด้วยคน”

ในเรือนใจ 2547

เรื่องย่อ : ในเรือนใจ (2547/2004) กรพินธุ์ หรือ พิณ ( ปิยธิดา วรมุสิก ) หญิงสาวผู้เงียบขรึม ที่สูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก เพราะความรักที่แตกร้าวของอาจอง ( อรรถชัย อนันตเมฆ ) ผู้เป็นพ่อ ทำให้พิณเป็นผู้หญิงชอบเก็บตัว แต่กฤษณะ ( เผ่าทอง ทองเจือ ) และคุณหญิงอังคณา ( พนารัตน์ บุญนาค ) พ่อแม่บุญธรรมของเธอ ก็สามารถขอร้องแกมบังคับให้เธอออกงานมาเจอกับผู้คนจนได้ วันหนึ่งที่เธอได้พบกับ กันตยศ หรือ กัน ( ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ) ชายหนุ่มที่ภายนอกดูแสนดี แต่กลับมีอดีตที่เลวร้าย ถึงขั้นเคยปอกลอกและทำร้ายร่างกายผู้หญิงที่เป็นคนรักมาแล้วหลายต่อหลายคน เมื่อครั้งที่เรียนอยู่ที่เมืองนอก จนเพื่อนๆ หรือคนใกล้ชิดรู้นิสัยของเขาดี กันตยศได้แรงสนับสนุนจาก คุณเขมิกา ( สุพรรษา เนื่องภิรมย์ ) ผู้เป็นแม่ให้หมั่นไปมาหาสู่กับพิณไว้ เพราะครอบครัวของพิณเพียบพร้อมไปทุกด้าน แม้ว่าโกศล ( ดิลก ทองวัฒนา ) ผู้เป็นพ่อจะไม่ค่อยพอใจนักก็ตาม ด้วยความสนิทสนมกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย กันตยศจึงสามารถเข้าใกล้ตัวพิณได้อย่างสะดวก คุณหญิงอังคณาก็เห็นว่ากันตยศดูเรียบร้อย ต่งจากธีรเดช ( อรรถวิทย์ อภิธนัง ) ลูกชายนักการเมืองที่มาติดพันพิณอยู่ จึงอยากให้พิณมีคนดูแลที่ดี จึงตกลงยกพิณให้แต่งงานกับกันตยศ แต่อาจองไม่ยอม เพราะอาจองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้ถึงอดีตที่แสบสันของว่าที่ลูกเขยดี จึงคัดค้านไว้ก่อน งานแต่งจึงต้องเปลี่ยนเป็นงานหมั้นไปตามระเบียบ งาน หมั้นที่จัดอย่างใหญ่โตหรูหราทำให้หลายคนอิจฉาว่าที่บ่าวสาวคู่นี้เป็นอย่าง ยิ่ง แต่ในวันนั้นเองที่กันตยศต้องหวาดหวั่น เพราะความเป็นวัวสันหลังหวะ เพราะคมกฤช หรือ โก้ ( แซม โชติบัณฑ์ ) ญาติผู้พี่ที่รู้อดีตของเขาดีได้ปรากฏตัวขึ้นในงานนั้นเอง แถมยังมีอีกคนหนึ่งที่รู้ลึกถึงอดีตอันแสบสันของกันตยศเป็นอย่างดีนั่นคือ ตรีทิพย์ หรือ สาม ( วาโย เกียรติกนก ) เพื่อนสนิทของพิณนั่นเอง งานนี้เพื่อนๆ ของพิณและเพื่อนๆ ของกันก็มาด้วย บดีศร ( ปัญญาพล เดชสงค์ ) เห็นนวพิธ หรือ น้อง ( ภารดี อยู่ผาสุข ) ก็เกิดติดใจทาบทามให้ไปเป็นนางแบบ แต่อารดี ( ภัสรี กังวานพงศ์ ) เพื่อนสาวสุดเปรี้ยวของพิณก็กลับเสนอตัวอย่างไม่กลัวน่าเกลียด บดีศร เห็นว่าอารดีน่าจะยอมให้เขาง่ายๆ จึงคิดหลอกเล่นๆ แต่อารดีไม่ได้เป็นอย่างที่บดิศรคิด รวมพล ( สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล ) เพื่อนร่วมก๊วนกับบดีศรเห็นแล้วก็นึกหมั่นไส้พาลหาเรื่องอารดีอยู่เสมอ กันตยศหวั่นกลัวว่าคมกฤช จะบอกเรื่องร้ายๆ ในอดีตของเขาให้พิณรู้ เขาจึงต้องเล่าสิ่งที่เขาเรียกว่าความจริงแต่เป็นเพียงครึ่งเดียวให้พิณฟัง ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้พิณรู้สึกอะไรเลยจนกันตยศเริ่มไม่แน่ใจว่าพิณคิดเช่นไรกับ ตนกันแน่ แต่เขาก็ตั้งใจจะรอจนถึงหนึ่งปีตามที่พิณตกลงไว้ว่าจะแต่งงานด้วย อาจองกลัวว่าพิณจะใจอ่อน จึงส่งโก้ให้มาทำงานใกล้ชิดกับพิณ นั่นยิ่งทำให้กันตยศหัวเสียเข้าไปใหญ่ ถึงขั้นทิ้งงานการมาเฝ้าพิณที่ทำงานเลยทีเดียว จนบดีศรต้องแนะแผน ใหม่ให้กันตยศห่างพิณไปบ้าง เขาจึงใช้โอกาสนี้หวนกลับไปเล่นการพนันดังเดิม แม้เรื่องนี้จะรู้ถึงหูพิณ ซึ่งเธอก็คิดว่าเขาเล่นสนุกๆ แต่อาการของเพื่อนสาวและโก้ก็ทำให้เธอเคลือบแคลงอยู่หลายครั้งว่ากันตยศต้อง มีสิ่งใดเคลือบแฝงอยู่แน่ วันหนึ่งที่บริษัทของกันตยศจัดทัวร์พานักขายมือทองของบริษัทไปเที่ยวยังต่าง ประเทศ เขาจึงชวนพิณ ไปด้วยเพื่อหวังจะได้ใกล้ชิดกันที่นั่น แต่ทริปนี้สนุกกว่าที่คิด เพราะผู้ที่พ่วงไปด้วยนั้นมีทั้งตรีทิพย์ และคมกฤช ซึ่งเรียกว่าถูกอาจองบังคับมาก็ว่าได้ แต่กันตยศก็ยังชื่นใจที่มีบดีศรและรวมพลไปด้วย ทางฝ่ายพิณก็ชวนอารดีและนวพิธไปด้วย พิณรู้สึกดีต่อโก้ขึ้นมามากแล้ว จากในตอนแรกที่แทบจะเรียกได้ว่าคู่กัด เธอได้เห็นความจริงจังของเขาจาการทำงานด้วยกัน ทำให้เธอเริ่มรู้สึกลึกๆ อยู่ในใจ แต่เธอก็กลัวจะซ้ำรอยเดิมของแม่ จึงต้องเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกไว้คนเดียว การไปทัวร์ครั้งนี้ ทำให้กันตยศได้พบกับคนที่ไม่คาดฝัน จิลลา ( สิริพรรณ หลิมวิจิตร ) หญิงสาวที่เคยโดนเขาปลอกลอกมาจนแทบหมดตัว กันตยศหวาดระแวงว่าความลับจะถูกเปิดเผย แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงอยู่ใกล้พิณให้มากที่สุดเท่านั้น ในขณะเดียวกันกับที่รวมพล ซึ่งคอยตามหาเรื่องอารดีจนเผลอหลุดปากว่าเธอเสียๆ หายๆ ทำให้เธอรู้ว่าบดีศรนำเธอไปพูดเช่นไรเมื่ออยู่กับเพื่อนๆ อารดีโกรธจัดถึงกับเปลี่ยนทีท่าเป็นไม่ใยดีบดีศรไปเลย รวมพลจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเข้าใจอารดีผิดไป และแล้ววันหนึ่ง ในขณะที่กำลังเที่ยวชมทิวทัศน์อย่างสนุกสนาน พิณก็พลาดพลั้งตกเขาไป แต่ผู้ที่วิ่งไปช่วยเธอเป็นคนแรกกลับเป็นโก้ นี่เองที่ทำให้เธอรู้ซึ้งถึงหัวใจของตัวเอง จนร้องไห้ออกมาให้เขาเห็นเป็นครั้งแรก เขาโอบกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน แต่ทั้งสองรู้ดีว่าเขาและเธอมีภาระใดวางอยู่ตรงหน้า ภาพความรักหวาน ซึ้งของทั้งคู่ ถูกนวพิธถ่ายรูปเก็บไว้ และภาพนั้นก็ตกถึงมือกันตยศ นวพิธแอบหลงรักกันตยศตั้งแต่เมื่อไหร่เธอก็ไม่รู้ตัว แต่ความรักก็ทำให้เธอเห็นแก่ตัวพอที่จะทำร้ายเพื่อนได้ กันตยศโกรธจัด จึงเผลอทำร้ายร่างกายพิณ ต่อหน้าทุกคนจนโก้ต้องเข้าไปช่วย แต่กันตยศกลับพาลหันมาเล่นงานตรีทิพย์ เลยกลายเป็นเปิดโปรงตัวเองโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดพิณก็ได้รู้ความจริงในสิ่งที่เธอเคลือบแคลงมานาน เธอจึงไม่รู้สึกผิดอีกต่อไปที่จะทอดทิ้งผู้ชายไม่จริงใจคนนี้ แต่แน่นอนรักแท้ย่อมมีอุปสรรค เรือ่งรักที่เกิดระหว่างความสับสน และกำแพงหัวใจที่เธอก่อร่างมาเนิ่นนาน จะเป็นเช่นไรต่อไป