ตม 2547

ตม

ตม (2547/2004) คุณใหญ่เป็นหญิงวัย 61 ปี มีลูกสามคนคือ พิจิกษ์ ( ป้อม ) อายุ 35 ปี พิพัฒน์ ( บี๋ ) อายุ 32 ปี และ อภิสิทธิ ( เบิ้ม ) อายุ 25 ปี คุณใหญ่มาจากครอบครัวฐานะปานกลางต่อสู้มากับสามีเพื่อทำธุรกิจ แต่สามีนอกใจไปมีผู้หญิงอื่น จึงแยกทางกัน คุณใหญ่หอบลูกคนเล็กไปอยู่บ้านเดิม ( ราชบุรี ) ค้าขายผลิตภัณฑ์จากพืชผักผลไม้ และทำสวนอาหาร หาเงินมาเลี้ยงลูกด้วยความขยันขันแข็ง จนไม่มีเวลาดูแลลูกด้วยตัวเอง เธอมอบหมายให้ยายม้อย ชาวบ้านข้างเคียงซึ่งชอบกินเหล้า ดูแลลูกชาย แต่การที่เด็กอยู่ใกล้ชิดกับคนที่ขาดความรับผิดชอบ กินเหล้าเมายา มีผลทำให้เขาเห็นสิ่งมันเมาเหล่านั้นเป็นเรื่องธรรมดา และติดนิสัยเหล่านี้เข้ามาโดยไม่รู้ตัว ประกอบกับที่แม่ไม่มีเวลาเอาใจใส่สั่งสอน เบิ้มจึงเป็นคนก้าวร้าว และเอาแต่ใจตนเอง ชอบการเอาชนะเพื่อสร้างเกราะคุ้มกันให้ตนเอง พิจักษ์ถูกส่งไปเรียนเมืองนอก ส่วนพิพัฒน์ อยู่กับพ่อ ซึ่งจ้างพี่เลี้ยงราคาแพงดูแลจนกลายเป็นคุณหนู เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เมื่อสามีตาย พิจักษ์ได้รับมอบหมายให้ดูแลมรดกร่วมกับพิพัฒน์ ส่วนเบิ้มติดยาสร้างปัญหาให้กับตนเองและแม่เป็นอย่างมาก พิจักษ์เติบโตกับพ่อแม่ในช่วยที่ยังไม่มีเงินทองมากมายนัก จึงยังติดดินและรู้จักรับผิดชอบ การที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ จึงได้เรียนรู้การช่วยตนเอง เขาไปรับจ้างล้างจาน เสิร์ฟอาหารในยามว่างที่เมืองนอก ปัจจุบันพิจักษ์ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในคอนโด เขาดูแลธุรกิจของพ่อ จนประสบความสำเร็จ พิจักษ์มีความห่วงใยให้กับผู้อื่นสูงและขยันทำงานมากเกินไป จนล้มป่วยเพราะลืมที่จะดูแลตัวเอง พิจักษ์พอใจในตัวอภิญญา เลขาคนใหม่ของเขาเป็นอย่างมาก เพราะเธอมีความฉลาด เข้มแข็งมีจิตใจที่ถูกกล่อมเกลาแล้ว จึงคิดดี คิดเป็น ทำให้เขาเกิดศรัทธา แต่เมื่อพบว่าตนเองเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารจึง พยายามตีจากเพราะเกรงว่าจะเป็นภาระแก่คนอื่น และไม่ยอมบอกใครแม้แต่แม่ของตน เกรงว่าจะทำให้ทุกคนเสียใจ พิจักษ์ส่งอภิญญาไปช่วยงานพิพัฒน์โดยไม่เห็นแก่ความสบายของตน ทำให้เขาต้องทำงานหนักมากขึ้น สุดท้ายพิจักษ์จึงบอกแม่ถึงเรื่องอาการป่วย แม่กลับไม่ให้เขาเป็นทุกข์กับความตายแต่ให้ใช้ทุกลมหายใจให้เป็นประโยชน์ ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสที่จะได้สร้างความสุข ให้แก่ตนเองและผู้อื่น ซึ่งป้อมก็ทำเช่นนั้นจนสิ้นชีวิต โดยมีอภิญญาดูแล ปฏิบัติเขาจนวันสุดท้าย พิพัฒน์เกิดมาในช่วงที่พ่อแม่มี เงินแล้ว และกำลังไม่ลงรอยกัน ความทุกข์ของพ่อแม่ที่ขัดแยังกัน ทำให้พิพัฒน์ ซึมซับแรงกระแทกที่พ่อแม่มีต่อกันเขาถูกเลี้ยงด้วยพี่เลี้ยงราคาแพง ที่ปรณนิบัติเขาอย่างเอาอกเอาใจตามหน้าที่ของพี่เลี้ยง พิพัฒน์จึงหยิบโหย่ง ทำอะไรไม่เป็น วัตถุราคาแพงทำให้เขามีความมั่นใจเพราะถูกพ่อเลี้ยงมาด้วยวัตถุ ขาดการพัฒนาทางจิตใจจึงหลงคนง่าย การหลงไหลในวัตถุ มองเห็นคนแต่เปลือกนอก จึงถูกคนเหล่านั้นหลอกใช้ ล้มเหลวในธุรกิจล้มเหลวในชีวิตครอบครัว เพราะความไมีรู้จักเลือก พิพัฒน์ มีภรรยาชื่อเจนนี่ และมีลูกชายอายุ 5 ขวบ ชื่อมิ๊ก ซึ่งถูกทิ้งให้อยู่กับพี่เลี้ยงเพราะพ่อแม่จมอยู่กับปัญหาของตนจนลืมลูก มิ๊กเริ่มมีนิสัยก้าวร้าว และเอา แต่ ใจตนเอง คุณใหญ่มองเห็นประวัติศาสตร์ ที่กำลังจะซ้ำรอยจากประสบการณ์ของตนเอง เธอจึงเข้าไปช่วยพยุงครอบครัวนี้ไว้ ให้เจนนี่รู้จักหน้าที่ของความเป็นแม่ เป็นภรรยาที่ดี โดยการพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น คิดดี คิดเป็น เพื่อจูงใจสามีที่ดื้อดึง และโอหังให้กลับมามีศรัทธาต่อเธอ คุณใหญ่จำนองบ้านเพื่อช่วยพิพัฒน์พิสูจน์ความสามารถของตนเองในเชิงธุรกิจ ถึงแม้ใครๆ จะไม่ศรัทธาในตัวเขาแต่เธอก็ยืนยันที่จะเป็นฟูกรองรับความล้มเหลวของลูก ตามหน้าที่ของแม่ เธอช่วยพัฒนาจิตใจของเจนนี่ให้คิดเป็น ก่อนที่จะสายเกินไปในที่สุดพิพัฒน์ก็ละอายต่อความเห็นแก่ตัวของตนเอง และเริ่มฟังความคิดเห็นของผู้อื่น จนประสบความสำเร็จด้วยความช่วยเหลือของอภิญญา ซึ่งป้อมส่งเข้ามาช่วยงาน ความฉลาดของอภิญญาทำให้ พิพัฒน์ขายสินค้าฟุ่มเฟือยที่เขาสั่งมามากมายจนหมด สามารถคืนเงินให้กับคุณใหญ่ และดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ความที่เบิ้มใช้ชีวิตอยู่กับแม่และยายม้อย เขาจึงรู้สึกต่ำต้อยที่ไม่เท่าเทียมพี่ ๆ ไม่เห็นคุณค่าของตนเอง เขาประชดชีวิตด้วยการเสพยา เพื่อเรียกร้องความไม่อิ่มในอารมณ์ กว่าเบิ้มจะหลุดพ้นจากากรเป็นทาสของยาเสพติด ก็เหนื่อยยากไปทั้งครอบครัว แม่เสียเงินทองที่เก็บหอมรอมริบตลอดชีวิตไปเป็นจำนวนมาก เบิ้มพยายามพิสูจน์ตัวเอง และเลิกยาเสพติดได้ในสถานบำบัด การสอนให้คิดและรับผิดชอบ ทำให้เขามุ่งมี่นที่จะทำงานแทนพี่ชาย ที่เสียชีวิต แต่กว่าเบิ้มจะสร้างศรัทธาให้กลับคืนมาได้เขาต้องอดทนต่อการดูถูก และคำนินทร เป็นกรรมที่ต้องชดใช้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอาฆาต เขากลับไปเสพยาอีกครั้งเพราะใจอ่อน แต่ก็สามารถหลุดพ้นออกมาได้ในที่สุด เมื่อเห็นเพื่อน ๆ ที่อยากกลับตัวกลับใจ สมองเสื่อมจนหมดหนทางที่จะแก้ไข เมื่อทุกคนกลับมาในสภาพปกติ คุณใหญ่ก็กลับมาอยู่ราชบุรี อย่างสมถะ และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เธอได้ทำหน้าที่ของแม่ที่ เธอควรทำตั้งแต่ลูกยังเล็ก แต่เนื่องจากความรู้เธอจึงเห็นว่าไม่สำคัญจนต้องเหนื่อยกับชีวิตในตอนแก่ก็ยังดีที่เธอได้เรียนรู้จากประสบการณ์และคิดได้ก่อนที่อีกหลายๆ ชีวิตที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องล่มสลายเพราะความไม่รู้ของเธอเอง

ชื่อไทย : ตม

ชื่ออังกฤษ :
ละครช่อง : ช่อง 3
บทประพันธ์ : ดินสอดำ, กุลธิดา, ประกายน้ำ
บทโทรทัศน์ :
กำกับการแสดง : ภัทราวดี มีชูธน
แสดงนำ : ภัทราวดี มีชูธน, ธนากร โปษยานนท์, นภัสกร มิตรธีรโรจน์, สราวุธ มาตรทอง, รินลณี ศรีเพ็ญ
ออกอากาศ : 26 สิงหาคม 2547 – 13 ตุลาคม 2547
วันออกอากาศ : พุธ – พฤหัสบดี
เวลาออกอากาศ : 20.20 – 22.05 น.
จำนวนตอน :
ความยาวตอน :
เรทละคร :
เป็นคนแรกที่รีวิว “ตม”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน