ขุมทรัพย์อมตะนคร 2547

ขุมทรัพย์อมตะนคร

ขุมทรัพย์อมตะนคร (2547/2004) โยธิน ราชอิงควัตร (สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ได้เดินทางเข้าป่าเพื่อตามหาเมืองแห่งพุทธะ เมืองลึกลับในตำนาน เพื่อสานฝันของภรรยาสุดที่รักซึ่งเป็นนักโบราณคดีให้เป็นจริง เขาออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าป่าต้องห้ามทิ้งให้ เฌอปรางค์ (เจนสุดา ปานโต) ทายาทสาวคนเดียว เป็นผู้ดูแลกิจการแทน โยธา (ทองขาว ภัทรโชคชัย) น้องชายของโยธิน มีแผนฮุบสมบัติ จึงจ้างทหารรับจ้างตามไปฆ่าโยธินในป่า ทหารรับจ้างฆ่าลูกหาบเสียชีวิตส่วนโยธินหนีไปได้จนพบถ้ำที่เป็นปากทางเข้า เมืองแห่งพุทธะและผ่านเข้าไปจนถึงเมืองแห่งพุทธะที่สุขสงบแล้วหมดสติไป ส่วนพวกทหารรับจ้างด้วยความละโมบโลภเมื่อเห็นสมบัติในถ้ำทำให้ถูกวิญญาณของ ผีหลวงที่ปกปักรักษาเมืองลึกลับทำร้ายจนเสียชีวิตทั้งหมด ทางกรุงเทพฯ โยธาฉวยโอกาสที่โยธินหายเข้าป่าวางแผนยักยอกเงิน แต่เฌอปรางค์ขัดขวางไว้สร้างความไม่พอใจให้โยธา วันหนึ่งเฌอปรางค์ได้ข่าวจากสรวงทนายประจำตระกูล ว่ามีคนพบศพลูกหาบของโยธิน ทั้งโยธาและศรีวรางค์ (วิยะดา อุมารินทร์) อาสะใภ้ของเฌอปรางค์เป็นภรรยาของโยธีน้องชายคนเล็กของโยธิน ปิ่นแก้ว (จุฬาลักษณ์ กฤติยารัตน์) ลูกสาวของศรีวรางค์ และญาติคนอื่นๆ ที่หวังในสมบัติของโยธิน ต่างก็เชื่อว่าโยธินตายแล้วและเร่งรัดให้สรวงเปิดพินัยกรรม..ยกเว้น เฌอปรางค์ที่ยืนกรานว่าจะออกตามหาพ่อ..สรวงอยากช่วยเฌอปรางค์จึงโกหกว่า โยธินได้นำเอาพินัยกรรมติดตัวไปด้วย ทุกคนจึงคิดจะติดตามเฌอปรางค์ไปตามหาโยธิน รวมทั้งธนาคาร (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) คู่หมั้นหนุ่มของเฌอปรางค์ก็คิดจะติดตามเธอไปด้วย แม่อบ (มาเรียม คำเมือง) แม่นมของเฌอปรางค์ขอให้ บารมี (คงกระพัน แสงสุริยะ) ลูกชายซึ่งเป็นนายทหารพรานฝีมือดีนำทางให้ และขอตามไปดู้แลเฌอปรางค์ในป่าด้วย บารมีแนะนำว่านายพรานผู้เก่งกล้าพอที่จะนำทางเฌอปรางค์เข้าไปที่ป่าอาถรรพ์ และเมืองลึกลับนั้น มีเพียงคนเดียวคือ สิงห์ สมิงไพร (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) แต่สิงห์ปฏิเสธงานนี้ เพราะเขารู้ดีว่าที่นั่นมีอันตรายมาก เฌอปรางค์จึงตัดสินใจเดินทางไปขอร้องสิงห์ด้วยตัวเอง ทั้งคู่ไม่ถูกชะตากันตั้งแต่ต้น สิงห์เตือนให้เธอเลิกล้มความคิดพร้อมเล่าตำนานเมืองพุทธะให้ฟัง เมื่อธนาคารได้ยินว่าเมืองพุทธะเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติมากมายก็ยิ่งสนใจมาก แต่เฌอปรางค์ต้องการจะไปตามพ่อของเธอ สิงห์เห็นแก่ความรักที่เฌอปรางค์มีต่อพ่อ จึงยอมรับจ้าง และอีกเหตุผลที่ทำให้สิงห์ตัดสินใจเดินทางเข้าป่าอาถรรพ์เพราะเมื่อ 20 ปีก่อน ขามพ่อของเขาได้นำทางนักโบราณคดีคนหนึ่ง (แม่ของเฌอปรางค์)เข้าไปที่นั่นแล้วทั้งคณะเสียชีวิตลงก่อนที่จะไปถึง มีเพียงเฒ่าบ้า (ครูช่าง ชลประคัลภ์ จันทร์เรือง) พรานผู้เชี่ยวชาญอาคมคนเดียวที่รอดออกมาได้ สิ่งนี้เป็นฝันร้ายที่ฝีงใจสิงห์มาตลอด และเขาต้องการจะไปค้นหาความลับของเมืองนี้เช่นกัน สิงห์เตรียมคนออกเดินทางมีเฒ่าบ้า และหนานเมือง เป็นพรานคู่ใจส่วนไพร (ตวง ภัสสรี กังวานพงศ์) พรานสาวคู่หูของสิงห์ ที่เคยทำงานร่วมกัน บังเอิญได้รับบาดเจ็บสิงห์จึงเข้าป่าไปโดยไม่ชวนไพร นอกจากนี้ยังมีมะเมี๊ยะ (ภุมวารี ยอดกมล) เด็กสาวชาวเขาจอมแก่นเป็นลูกทีมด้วย เมื่อถึงวันเดินทางเฌอปรางค์ตกใจเมื่อเห็นว่าญาติๆ ของเธอขอติดตามไปด้วย เพราะต่างหวังในมรดกของโยธิน รวมทั้งธนาคารและกรินทร์ (สรณัฐ มัสยวาณิช) น้องชาย สิงห์เห็นคณะของเฌอปรางค์ที่ยกโขยงกันมา ก็ไม่พอใจแต่ก็จำใจเดินทางต่อไป ศักดิ์ลูกน้องของโยธา ได้รับคำสั่งตามหาโยธินแย่งเอาพินัยกรรมมาให้ได้ก่อน ศักดิ์ติดต่อไพรให้เป็นพรานนำทาง ไพรตกลงโดยหวังจะเดินทางตามสิงห์ที่ล่วงหน้าไปก่อนให้ทัน ด้วยความเป็นห่วงส่วนโยธาคิดฉวยโอกาสที่เฌอปรางค์ไม่อยู่ยักยอกเงินบริษัท แต่เฌอปรางค์ สั่งระงับคำสั่งทุกอย่างของโยธาไว้ก่อน โยธาโกรธมากสั่งให้ศักดิ์เปลี่ยนแผนตามหาโยธินมาเป็นตามฆ่าเฌอปรางค์แทน ระหว่างการเดินทางปิ่นแก้วและศรีวรางค์สร้างความปั่นป่วนอยู่ตลอดเวลา ปิ่นแก้วเป็นไม้เบื่อไม้เมากับมะเมี๊ยะ แต่กรินทร์กลับสนใจในความซื่อบริสุทธิ์ของเธอ สิงห์กับเฌอปรางค์ก็งัดข้อกันไปตลอดทางปิ่นแก้วยุให้ธนาคารปล้ำเฌอปรางค์ แต่สิงห์มาช่วยไว้ทัน เฌอปรางค์โกรธและยกเลิกการหมั้นกับธนาคาร พวกของศักดิ์ที่นำโดยไพรเร่งเดินทางตามมา ศักดิ์กลัวจะตามคณะของสิงห์ไม่ทันจึงวิทยุไปบอกพวกทหารกะเหรี่ยงให้ดักจับ ตัวพวกสิงห์ไว้ คืนนั้นทหารกะเหรี่ยงบุกเข้ามาจับตัวทุกคน สิงห์ได้พบกับไพรและพวกของศักดิ์ ไพรขอร้องให้ปล่อยสิงห์ไปศักดิ์จึงจับไพรขังอีกคน เฌอปรางค์รู้ความจริงว่าโยธาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมด สิงห์วางแผนหนีจนเกิดการต่อสู้ขึ้น ไพรและเฌอปรางค์หนีไม่รอดถูกจับตัวไปได้อีก ภายในห้องขังไพรบอกเฌอปรางค์เป็นนัยๆ ว่าสิงห์กับตนเป็นคู่รักกัน โยธาได้รู้เรื่องทรัพย์สมบัติในเมืองพุทธะเขาละโมบอยากได้สมบัติจึงบังคับ ให้ไพร เป็นพรานนำทางเข้าเมืองพุทธะและตามหาโยธิน ไพรวางแผนพาเฌอปรางค์หนีออกมาได้ เฌอปรางค์วิ่งหนีเข้าป่าหลงทางกับไพรและสลบไป แต่ด้วยอำนาจของผีหลวงที่ปกป้องคนดี ได้นำทางให้สิงห์มาพบเธอ สิงห์อุ้มเฌอปรางค์กลับไปที่แคมป์เฌอปรางค์ฟื้นในเวลาต่อมา พร้อมกับบอกสิงห์ถึงจุดนัดพบที่ไพรบอกไว้ แต่สิงห์มาช้าเกินไปเพราะไพรได้รับบาดเจ็บและหมดสติจนชาวเขาเข้ามาช่วยไว้ สิงห์เลยหาไพรไม่พบ ไพรฟื้นสติมาได้ นึกโทษว่าเป็นความผิดของเฌอปรางค์และคิดแค้น จึงรีบออกตามหาคณะเดินทาง การเดินทางลำบากขึ้น ศรีวรางค์ป่วยหนักและเสียชีวิต ปิ่นแก้วคิดฆ่าเฌอปรางค์ เฌอปรางค์วิ่งหนีเข้าป่าและตกลงไปในหลุมขวาก สิงห์ตามมาช่วยแต่ทั้งคู่กลับหลงป่าและเฌอปรางค์ล้มป่วย สิงห์ดูแลอย่างใกล้ชิด และนี่เองที่ทำให้ทั้งสองเรียนรู้กันและกันอย่างลึกซึ้ง จนกลายเป็นความรัก แต่ต่างฝ่ายก็หยิ่งเกินกว่าจะบอกให้อีกฝ่ายได้รู้ ฝ่ายบารมีกลายเป็นหัวหน้าคณะแทนสิงห์ออกเดินทางตามหาสิงห์และเฌอปรางค์จนพบ ในที่สุดพวกของสิงห์ก็มาพบไพร ไพรด่าว่าเฌอปรางค์ที่ทิ้งเธอโดยที่หยิงสาวไม่มีโอกาสแก้ตัวเลย คณะทั้งหมดเดินทางไปถึงทางเข้าเมืองพุทธะ พวกโยธาตามมาติดๆ พวกสิงห์รีบหนีเข้าป่าอาถรรพ์เฒ่าบ้าเริ่มคลุ้มคลั่งในป่าอาถรรพ์แห่งนี้ บาดแผลและด้านมืดในใจของทุกคนก็ค่อยๆ ปรากฎออกมา สิงห์เริ่มมีอาการหวาดกลัว จากเรื่องราวในอดีต ไพรคิดฆ่าเฌอปรางค์โดยยืมมือปิ่นแก้ว สิงห์ช่วยเฌอปรางค์ไว้ได้แต่เจ็บตัวเสียเอง ทำให้ไพรยิ่งแค้นใจ ในที่สุด โยธา ก็ตามมาทันพวกสิงห์หนีต่อเข้าไปในถ้ำและไล่ฆ่ากัน ความชั่วร้ายนี้ได้ปลุกวิญญาณอารักขาออกมาตรงเข้าทำร้ายทุกคนในถ้ำ จนต้องหนีตายกันอีกครั้ง ระหว่างทางที่หนีไพรต่อว่าสิงห์ และพูดถึงความสัมพันธ์เก่าๆ สิงห์จึงพูดให้ไพรเข้าใจว่าเขาไม่เคยรักไพรอย่างคู่รักเลย เขาให้ได้แค่ความรักของพี่น้องเท่านั้น ไพรเข้าใจเรื่องทั้งหมดด้วยหัวใจที่แตกสลาย สุดท้ายไพรสละชีวิตเพื่อป้องกันเฌอปรางค์ เป็นการชดใช้ความผิดที่เธอเคยทำไว้กับเฌอปรางค์ โยธาหนีมาเจอพวกสิงห์และเกิดการต่อสู้กันอีก ผีหลวงที่ตามมาตรงเข้าทำร้ายโยธา แต่โยธาสังเกตว่าผีหลวงไม่ทำร้ายเฒ่าบ้าเลย จึงจับตัวเฒ่าบ้าไว้พร้อมๆ กับที่สิงห์พาเฌอปรางค์หนีไปจนถึงทุ่งกว้างสีเขียวขจีและได้พบกับโยธิน เฌอปรางค์ขอร้องให้พ่อกลับไปอยู่กับตน แต่โยธินได้รับรู้และเข้าใจถึงความสงบสุขทางจิตใจที่ได้รับจากดินแดนพุทธะ แห่งนี้ และเชื่อว่าเฌอปรางค์เติบโตได้โดยไม่ต้องมีพ่ออีกต่อไปแล้ว… โยธาที่ตามมา ทวงถามเรื่องพินัยกรรมจากโยธิน พอรู้ว่าไม่มีพินัยกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ก็คลุ้มคลั่ง จับเฌอปรางค์เป็นตัวประกัน พระพุทธรูปทองคำในเมืองพุทธะเกิดมีน้ำตาไหลออกมาเป็นสายเลือด ก่อนจะค่อยๆ ปริร้าวทีละน้อยๆ โยธาที่คลุ้มคลั่งหนักขึ้น ไล่ยิงทุกคน ก่อนที่พระพุทธรูปทองคำจะหักโค่นลงมาเศษองค์พระกลิ้งหล่นลงมาทับโยธาตาย… องค์พระที่ปริร้าวลงเรื่อยๆ จนใต้ฐานบังเกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ดูดวิญญาณของเฌอปรางค์ลงไป โยธินให้สิงห์รีบลงไปช่วย มิเช่นนั้นเธอจะไม่ได้กลับมาอีก สิงห์นึกถึงคำของเฌอปรางค์ ที่ว่า “ถ้าเราไม่สู้ เราก็ต้องกลัวตลอดไป” “เอาชนะความกลัวด้วยความไม่กลัว” สิงห์กระโดดตามลงไป.. สิงห์ตรงเข้าไปช่วยเฌอปรางค์ไว้ได้ พร้อมๆ กับที่ภาพของเมืองพุทธะที่ถูกทำลายไปจะเป็นเหมือนวิดีโอที่ถูกกรอกลับ มาเป็นเมืองสงบสุขสวยงามเช่นเดิม…ทุกคนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ นายสรวงขอโทษและสารภาพว่า เขาเป็นคนเก็บพินัยกรรมไว้เอง แต่เฌอปรางค์กลับขอบคุณที่ทำให้เธอได้พบพ่ออีกครั้ง…สิงห์กลับไปเป็นหมอ อีกครั้ง ในวันที่เฌอปรางค์ให้กำเนิดทายาทตัวน้อยๆ ของเขาและเธอ

ชื่อไทย : ขุมทรัพย์อมตะนคร

ชื่ออังกฤษ :
ละครช่อง : ช่อง 3
บทประพันธ์ :
บทโทรทัศน์ :
กำกับการแสดง : พิเชฐ ตงศิริ
แสดงนำ : ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, ปานโต สิริสันต์
ออกอากาศ : 28 มีนาคม 2547 – 25 เมษายน 2547
วันออกอากาศ : ศุกร์ – อาทิตย์
เวลาออกอากาศ : 20.20 – 22.05 น.
จำนวนตอน :
ความยาวตอน :
เรทละคร :
เป็นคนแรกที่รีวิว “ขุมทรัพย์อมตะนคร”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน