ทองเนื้อแท้ 2551

ทองเนื้อแท้ (2551/2008) เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้เด็กสาวไร้เดียงสาได้พบกับบทพิสูจน์ที่ชี้ให้เห็นว่า "หากมนุษย์ยึดมั่นในความดีแล้วไซร้ แม้ชีวิตจะถูกฉาบด้วยโคลนตม แต่สักวันความผุดผ่องแห่งเนื้อแท้จักต้องเผยให้เห็นเนื้อในตม" ทองกับแม่ได้รับอุบัติเหตุถูกรถชน แม่สิ้นใจในเวลาต่อมา ทองตกอยู่ในสภาพของเด็กกำพร้า โชคดีที่อุรา และ ศรีบังอร สองสาวเพื่อนซี้ที่ให้ความเมตตา ศรีบังอรรับทองมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม และตั้งชื่อให้ใหม่ว่า นวลทอง นวลทอง เริ่มต้นชีวิตวัยสาวในครอบครัวอบอุ่น และยังไปมาหาสู่กับอุรา ในฐานะผู้มีพระคุณคนหนึ่ง ที่บ้านอุรานี้เองได้พบและรู้จักกับนพนัย ชายหนุ่มที่เป็นที่พึ่งทางใจ เป็นเพื่อน เป็นพี่ และดูจะเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตของนวลทอง ในความอบอุ่นจากครอบครัวบุญธรรม คือพจนา มอบให้นวลทอง แต่นวลทองมักจะได้รับความทุกข์ครั้งแล้วครั้งเล่า จากครอบครัวของพจนีย์ น้องสาวจอมงกของพจนา ครอบครัวของพจนามีลูกสาวชื่อน้องหนู ส่วนครอบครัวของพจนีย์มีความไม่มั่นคงมากนักเพราะสามีคือ ประวิช ติดการพนันงอมแงม มีลูกสาวคือพรสวรรค์ และลูกชายอีกคนคือ ปัญญาที่มีนิสัยลูกไม้ใต้ต้นอย่างไม่มีที่ติ ติดตามต่อได้ใน ทองเนื้อแท้

หาบของแม่ 2551

หาบของแม่ (2551/2008) กิมเน้ย (กุณณัฎฐ์ กุลปรียาวัฒน์) เป็นลูกสาวคนเดียวของนายเฉียว (เศรษฐา ศิระฉายา) ชาวประมงชาวจีนกับทองเต็ม สาวไทย หลังจากแม่ของกิมเน้ยคลอดกิมเน้ยแล้วก็เสียชีวิตทำให้นายเฉียวต้องทิ้งอาชีพ ประมงมาหาบปลาทูนึ่งเร่ขาย แม้กิมเน้ยจะขาดแม่แต่ก็เติบโตมาอย่างอบอุ่นเพราะมีครอบครัวของกิมกี (เพ็ญพัตร์ ศิริกุล) รวมทั้งหลุง (พศิน เรืองวุฒ) ลูกชายของกิมกี หลุงหลงรักกิมเน้ยซึ่งเรื่องนี้เฉียวกับกิมกีก็สนับสนุนหวังจะให้เป็นทอง แผ่นเดียวกันในอนาคต ติดตามต่อได้ใน หาบของแม่

ชมพู่แก้มแหม่ม 2551

ชมพู่แก้มแหม่ม (2551/2008) ชมพู่สาวน้อยลูกครึ่งอเมริกันวัยรุ่น นิสัยซนแก่นแก้ว หลานสาวคนเดียวของคุณนายรำพึง คุณนายรับชมพู่มาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ แม่ของชมพู่คือน้องสาวของคุณนายนั่นเสียชีวิต ชมพู่เป็นเด็กลูกครึ่งที่เติบโตในบ้านนอก ดีกรีความซนแก่นแก้วจึงเป็นที่เลื่องลือ คุณนายรำพึงเฝ้าอบรมกำหราบอยู่เสมอ ชมพู่เป็นคนงกจึงชอบรับทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรับจ้างคุมบ่อน เชิดสิงโต หรือรับจ้างร้องไห้หน้าศพ วันหนึ่งคุณนายรำพันตามหาตัวชมพู่ เพราะจะออกไปทำผม สายใจคนใช้ก็ไม่อยู่ จึงตัดสินใจเข้าตลาดไปทำผมที่ร้านเจ๊แต๋ว เจ๊แต๋วถามถึงชมพู่ คุณนายบอกว่าชมพู่โตแล้วกิริยามารยาทเรียบร้อยดั่งที่สอนไว้ ขณะนั่นคณะสิงโตผ่านมาหน้าแล้ว คุณนายรำพึงชื่นชมในความเก่งผาโผนของสิงโต และสิงโตก็มาหยุดหน้าคุณนายเชิดออก กลับกลายเป็นชมพู่ ทั้งชมพู่และคุณนายตกใจ คุณนายโกรธมากลากชมพู่กลับบ้าน กิตติคุณ สัมฤทธิ์พันธ์สุขกลางคืนชมพู่กับโต้งนัดกันไปรับจ้างร้องไห้หน้าศพ แต่ความซวยบังเกิด คนตายเป็นอากง แต่ชมพู่ดันนึกว่าเป็นอาม่า ก็ร้องไห้คร่ำครวญถึงอาม่า จนโดนอาม่าไล่ออกมาจากงาน ชมพู่กลับมาถึงบ้านพบอธิคมลูกชายของคุณนายเอมอรบ้านติดกัน กำลังจะดุ้มเข้าบ้านชมพู่นึกว่าเป็นขโมยจึงรุมชกต่อยอธิคมกับโต้ง จนตาเขียวปูด ทั้งคุณนายรำพึงและคุณนายเอมอรจึงออกมาอาละวาดวางมวยกันอีกรอบ คุณนายรำพึงและคุณนายเอมอรไม่ถูกกันมาตั้งแต่สาวๆ เพราะมีแฟนคนเดียวกันคือ ผู้พันเกษม แต่ผู้พันไปเสร็จคุณนายเอมอรที่ฉอเลาะกว่า อธิคมนำความรู้ที่เรียนมา มาเสนอให้กับชาวบ้านตามหลักแนวพระราชดำริ อยู่อย่างพอเพียง ในหมู่บ้านยังมีครอบครัวนายสนอง ผู้มีอิทธิพลรายหนึ่ง นายสนองมีลูกสาว 2 ฝาแฝด คือ สำนวนกับสำเนา และเสนาะ วันหนึ่ง จอร์ชพ่อของชมพู่ส่งข่าวมาว่าจะกลับมาอยู่เมืองไทย โดยพาไอช่าลูกสาวอีกคนมาด้วย ชมพู่ดีใจมาก ความสนุกสานาวุ่นวายไปทั้งหมู่บ้าน โดยเฉพาะชมพู่กับโต้ง ชอบสอนให้จอร์ชและไอช่าพูดจาแปลกๆ ดูลิเก ยิงนกตกปลา โดยเฉพาะเล่นน้ำคลอง คุณนายรำพึงจะเป็นลมตายรับไม่ได้ แอนเน็ท เรณู เธท - วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์กำนันแวะมาปรึกษาเรื่องงานพัฒนาท้องถิ่นกับอธิคม อธิคมบอกให้นัดชาวบ้านมาประชุมแต่ปรากฏไม่มีใครมา เพราะไปอยู่บ่อนไพ่นายสนองกันหมด โดยมีชมพู่ซึ่งรับเฝ้าดูต้นทางให้ อธิคมจึงพาตำรวจไปจับ อธิคมจับชมพู่มานั่งสั่งสอนผิดถูก ในความขัดแย้งของชมพู่และอธิคม ทั้งสองต่างก็แอบชอบกันอยู่ในใจ วันหนึ่งจอร์ชนั่งเล่นอยู่ริมคลองได้พบกับอรชา จึงเกิดตกหลุมรักทันที คุณนายเอมอรรู้เข้าจึงคอยขัดขวาง รวมถึงรำพึงด้วย เดือดร้อนมาถึงชมพู่กับไอช่าที่ต้องคอยเป็นแม่สื่อให้ อธิคมชอบใจจึงร่วมมือกันช่วยให้จอร์ชและอรชาสมหวัง ส่วนอาคมก็แอบชอบไอช่าอยู่ เมื่อชมพู่และอธิคมใกล้ชิดกัน อธิคมจึงจีบชมพู่ตรงๆ ความรักท่ามกลางทุ่งนาจึงเกิดขึ้น อธิคมและชมพู่คอยช่วยเหลือชาวบ้านด้วยกันเสมอมา ท่ามกลางความไม่พอใจของนายสนองและลูกๆ นายสนองจึงจ้างมือปืนมายิงอธิคม แต่ไม่อันตรายมาก ชมพู่คอยเฝ้าดูแล ทั้งคุณนายรำพึงและคุณนายเอมอร เห็นใจและพยายามทำใจอยู่นาน จึงยอมอ่อนข้อไปขอชมพู่ให้ คุณนายรำพึงหมั่นไส้คุณนายเอมอร และกลัวว่าจะไม่เห็นค่าของชมพู่จึงเรียกเงินไปห้าล้าน คุณนายเอมอรเป็นลมโกรธมากว่าโก่งค่าตัวหลานสาว พอดีที่จอร์ชไปขออรชาคุณนายเอมอรจึงเรียกกลับห้าล้านเท่ากัน ทั้งคู่จึงสมหวังพร้อมกับอาคมและไอช่า ทั้งคุณนายรำพึงและคุณนายเอมอรจึงต่างยอมกันลงมาบ้าง ทั้งหมดจึงมีความสุข

นส. ผ้าขี้ริ้ว 2551

นส. ผ้าขี้ริ้ว (2551/2008) “เมื่อเจ้าหนุ่มเพลย์บอยหน้าอ่อน ต้องมา ปิ๊งรัก กับสาวไร้เสน่ห์ หาความสนเท่ห์ไม่เจอ แต่หนทางความรักของทั้งเขาและเธอกลับไม่ได้ราบลื่นอย่างที่คิดเมื่อทั้งสอง ต้องเข้ามาช่วยกันกู้วิกฤตของตลาดเพลงเมืองไทยในตอนนี้ พร้อมด้วยอุปสรรคและเรื่องวุ่นๆ ของเหล่าผู้คนมากมาย ที่จะมาสร้างสีสันและแสบสันต์จนคุณลืมไม่ลง” คาร่า นักร้อง สาวของค่ายเพลงแห่งหนึ่ง มีพนักงานส่งดอกไม้กำลังนำดอกไม้ช่อใหญ่ จากผู้ไม่ประสงค์ออกนามกับคอนเสริต์แรกในอัลบั้มใหม่ของเธอ คาร่าประทับใจยิ่งนักเมื่อพบว่าดอกไม้นั่นมาจาก ภูวนาท ชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่เป็นลูกของเจ้าของค่ายเพลงที่เป็นคู่แข่งกัน ภูวนาทอยากทำเซอร์ไพร์ คาร่า โดยแสดงความยินดีโดยการจุบพิษหลังม่านฉากแต่ มือของเขาได้ไปถูกปุ่มไฮโดรลิคสำหรับการเปิดตัวทำให้ทุกคนเห็นทั้งสองอยู่ กลางเวที ภูวนาทตัดสินใจดึงคาร่าวิ่งหนีลงเวทีคอนเสิร์ตทันที ขณะเดียวกันอีกด้าน งามตา สาวน้อยผู้ซ่อนความงามเอาไว้ใต้ทรงผมที่กระเซอะกระเซิงเหมือนไม่เคยถูกหวีมา ตั้งแต่เกิด กำลังยืนอยู่หน้าร้านชุดแต่งงานแล้วมองชุดเจ้าสาว เพราะวันนี้เธอนัดกับ ทรงยศ แฟนหนุ่มของเธอที่ทำงานเป็นโค้ชในฟิตเนส แต่ดันมีเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้น ทรงยศกับบอกเลิกกับเธอในวันสำคัญวันนี้ ทั้งที่งามตายอมตัดสินใจออกจากงาน โดยเหตุผลว่าเธอต้องกาจะไปเป็นแม่บ้านที่ดีแต่ทรงยศได้พางามตาที่ร้านอาหาร หรูแห่งหนึ่ง แต่ที่ไหนได้ทรงยศกลับบอกเลิกเธอ งามตาถึงกับ อึ้ง..อึ้ง..และอึ้ง ความฝันในชุดเจ้าสาวของเธอพังทลายในพริบตา ทินกร มือขวาของ เฮียกั๊ว นายใหญ่แห่งค่ายเพลงดังอันดับหนึ่งของเมืองไทยเขาอยู่ค่ายเพลงแห่งนี้มา ตั้งแต่ฝึกงาน ทำงานวันนี้ ทุกเรื่องจะต้องผ่านการตัดสินใจของเขา เฮียกั๊ว โมโห ลูกชายตัวแสบเพียงคนเดียวของเขาดันไปโผล่ที่คอนเสิร์ตของค่ายคู่แข่ง แล้วอย่างนี้เขาจะเอาหน้าไว้ที่ไหน ภูวนาทฟื้นขึ้นมาพร้อมกับเฝือกคอ พบกับงามตาที่พาเขามาส่งที่โรงพยาบาล งามตากลับโดนภูวนาทประเคนคำด่าเป็นชุด สิ่งที่เขารับไม่ได้ที่สุดก็คือหน้าตาและความไร้รสนิยมของงาม งามตาโกรธจัดถูกลูกดูถูกยังไม่พอ พ่อยังมาหาว่าเธอเป็นแม่บ้านอีกงามตาต่อว่าเฮียกั๊วด้วยความโมโหเฮียกั๊วคิด ถึงความไม่เอาไหนของภูวนาท แต่เมื่อนึกถึงหน้าของงามตา เฮียกั๊วก็คิดอะไรขึ้นมาได้ งามตาจึงได้เริ่มชีวิตใหม่อีกครั้ง กับตำแหน่งสำคัญที่เฮียกั๊วมอบหมายให้นั่นคือ เป็นเลขาของภูวนาท ภูวนาทไม่เข้าใจความคิดของเฮียกั๊วว่าให้งามตามาเป็นเลขาเขาได้ยังไง ทินกรจึงได้วางแผนให้ซูซี่เข้าไปอ่อยภูวนาทเพื่อจะได้คอยเป่าหู และงานแรกที่ซูซี่ต้องทำก็คือจะต้องทำให้ได้ เพราะในเมื่อเขาไม่สามารถไล่งามตาออกได้ ก็ต้องทำให้งามตาลาออกเสียเอง ค่ายเพลงงามตาได้พบกับ เจ้ผึ้ง เป็นเลขาคนสนิทเฮียกั๊ว ที่ทุกคนในค่ายให้ความเชื่อถือเจ้ผึ้งทนไม่ได้กับความไร้รสนิยมของงามตา แต่งามตาไม่ยอมเพราะเธอไม่อยากเสียความเป็นตัวเองไป ไม่มีใครกล้าตัดสินใจเจ้ผึ้ง จะมีก็งามตานี่แหละเป็นหน่วยกล้าตายคนแรก แล้วทินกรกับซูซี่ก็เริ่มวางแผนขับงามตาออกจากบริษัท แล้วทำให้ภูวนาทเสียชื่อเสียงไปด้วย ทินกรแกล้งเล่นละครไม่อยากให้ภูวนาทดูแลงานนี้ ภูวนาทขอดูแลงานนี้เองซึ้งก็เข้าแผนของทินกรกับซูซี่เป๊ะ เพราะทั้งสองได้ให้แดนเซอร์คนหนึ่งแกล้งลาป่วยทำให้คนขาด ซูซี่จึงยุให้งามตาขึ้นเต้นแทน งามตาผู้ทุ่มเทให้กับงานจนเกินร้อยยอมเต้น งามตากลับกลายเป็นตัวตลก เสียงหัวเราะดังก้องในหัวของงามตา นั่นเองทำให้งามตาถึงกับเสียใจจนร้องไห้วิ่งตกเวที กลับรู้สึกผิดขึ้นมาลึกๆ ภูวนาทรู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงคิดจะไปขอโทษงามตา แต่แล้วภูวนาทก็อึ้งไปเมื่อรู้ว่างามตาได้ขอลาออกแล้ว!!! ภูนาทมาตามงามตาที่บ้านเพื่อขอโทษ ทำทุกอย่างเพื่อให้งามตาเห็นความตั้งใจ จนงามตาใจอ่อยอมมาทำงานอีก ทินกรกับซูซี่คิดหาทางที่แผนขั้นเด็ดขาดที่จะทำให้ภูวนาทและงามตาต้องลาออก เอง งามตาเข้ามาเห็นก็รู้ว่าภูวนาทลืมเทปเดดมจึงได้เก็บเอาไว้ เพราะเธอรู้ว่าเป็นสิ่งสำคัญ

ยุทธการหักคานทอง 2551

ยุทธการหักคานทอง (2551/2008) ดา ทำทุกอย่างตามแผนยุทธการหักคานทองของน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแผนการใดๆ สุดท้ายแผน เด็ดของเธอต้องขอความร่วมมือจาก น้องมาร์ค หลานชายวัยซนของผู้กองหนุ่ม ในวันเกิดของ ศรีวิไล แม่ของกฤตที่แยกทางกับ พ.ต.ท. ประวิทย์ ซึ่งงานนี้ดาหมายมั่นว่าได้ผลเพราะแบ็คชั้นดีมีทั้งศรีวิไล การันต์ พี่ชายของกฤต และ อัปสร พี่สะใภ้ของกฤตเห็นดีเห็นงามด้วย เมื่อ แผนการทั้งปวงใช้ไม่ได้ผล ซ้ำเรื่องยังรู้ถึงหูของ เอวิกาและ เอมี่ A.E. คู่ปรับของน้ำและดา ที่ชอบสอดรู้สอดเห็นหาเรื่องเหน็บแนมน้ำกับดามาตลอด น้ำ เริ่มมีความคิดใหม่เกี่ยวกับนักล่าเพศผู้ เธอจึงตัดสินใจใช้ ภีห์มะ ลูกชาย เจ้าของร้านเพชรรูปหล่อลูกครึ่งไทย – อินเดีย ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของภูริดาให้มาตามจีบ ภูริดา เพื่อที่จะให้กฤตินเริ่มเห็นคุณค่าและความสำคัญของดาบ้าง ติดตามต่อได้ใน ยุทธการหักคานทอง

ใจร้าว 2551

ใจร้าว (2551/2008) กรวิก (เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ซูเปอร์สตาร์หนุ่มผู้เย่อหยิ่ง แข็งกร้าว ได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมระดับเอเชีย.. ความ สมบูรณ์แบบของเขาทำให้ถูกจับคู่กับเมลานี (วิกกี้-สุนิสา เจทท์) นักแสดงสาวดาวรุ่ง แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะในวันประกาศรางวัล กลับมีหญิงสาวนิรนามมาแสดงความยินดีกับกรวิกต่อหน้าแฟนคลับและกองทัพนักข่าว นับร้อย..แถมสาวเจ้ายังเป็นลมล้มลงจนกรวิกต้องอุ้มพาเธอหายตัวไปต่อหน้าต่อ ตาทุกคน.. ช็อต เด็ดชวนเป็นข่าวใหญ่ขนาดนี้มีหรือเจษฎา (ดุ๊ก-ภานุเดช วัฒนสุชาติ) นักข่าวมือเก๋าวงการน้ำหมึกจะยอมปล่อยให้หลุดมือ เจษฎาตามเกาะติดรถของกรวิกไปจนถึงที่หมาย.. ภัทร (มอริส เค) ผู้จัดการส่วนตัวของกรวิกต้องลงมาเจรจา แต่เจษฎาก็ไม่ยอมลดราวาซอกดันทุรังจนได้รัวชัตเตอร์ภาพในรถของกรวิก… ติดตามต่อได้ใน ใจร้าว

สะใภ้ลูกทุ่ง 2551

สะใภ้ลูกทุ่ง (2551/2008) ความรักระหว่างหนุ่มชาวกรุงกับสาวลูกทุ่ง จะลงเอยอย่างไร เมื่อมีอุปสรรคมากมายรอพวกเขาอยู่ ความวุ่น ๆ ของ อาติยะ สถาปนิกหนุ่ม รูปหล่อ ชายในฝันของสาว ๆ หลายคนในเมืองกรุง กับ สมวิญญา นักเรียนแพทย์จากชนบท ผู้ยึดมั่นในอุดมคติ เมื่อเขาและเธอมาพบกัน เรื่องราววุ่น ๆ จึงเกิดขึ้น แล้วความขัดแย้งต่าง ๆ จะแปรเปลี่ยนเป็นความรักได้อย่างไร ความรักระหว่างหนุ่มชาวกรุงกับสาวลูกทุ่ง จะลงเอยอย่างไร เมื่อมีอุปสรรคมากมายรอพวกเขาอยู่ และรอให้คุณร่วมลุ้นและสัมผัสไปพร้อม ๆ กัน

สู่ฝันนิรันดร 2551

สู่ฝันนิรันดร (2551/2008) ตามหาแม่เฟื่อง หลักฐานทางวัตถุคือ เสื้อผ้า นาฬิกา และบัตรเคลือบพลาสติก เป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าสัวเจิมศักดิ์ ราชเสนา คหบดีผู้มั่งคั่งวัย 75 ปี ผู้หนึ่ง ต้องตามหาผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อส่งกลับไปอดีต ตามบันทึกที่ได้เขียนไว้ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งเป็นคำสั่งของบรรพบุรุษที่ตกทอดกันมา เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นต้นตระกูลของราชเสนา ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีตระกูลนี้ ถ้าหาสตรีผู้นั้นไม่เจอ วันหนึ่งช่างภาพสาวที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนในบันทึก มาปรากฏกายต่อหน้าเจ้าสัวเจิมศักดิ์และ พีรพัฒน์ หลานชาย โดยบังเอิญ แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าสัวเจิมศักดิ์สนใจ คือชื่อของเธอที่ถูกเรียกว่าเฟื่อง เหมือนในบันทึก เจ้าสัวเจิมศักดิ์หมดสติ ไปต่อหน้าต่อตาพัชร์เฟื่อง ในขณะที่พัชร์เฟื่องก็ตกใจไม่น้อย นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้พัชร์เฟื่องต้องเจอกับเหตุการณ์ประหลาด เธอเริ่มฝันถึงชายโบราณผู้หนึ่ง ที่มาเรียกเธอด้วยเสียงนุ่มๆ ว่า แม่เฟื่อง... กวิน อาจารย์ประจำคณะโบราณคดี เพื่อนสนิทพัชร์เฟื่อง ได้ขอให้พัชร์เฟื่องไปช่วยให้คำแนะนำ เทคนิคการถ่ายภาพให้กับนักศึกษาของเขา ทำให้พีรพัฒน์ที่เป็นลูกศิษย์กวินได้พบกับพัชร์เฟื่องอีกครั้งและเขาก็ตกหลุกรักเธอเข้าอย่างจัง จนกวินรู้สึกไม่พอใจในพฤติกรรมของนักศึกษาคนนี้ และเริ่มขัดแย้งกับลูกศิษย์ของตัวเอง เจ้าสัวเจิมศักดิ์ได้ออกอุบายว่าจ้างให้พัชร์เฟื่องมาถ่ายรูปบ้านเรือนไทยโบราณของเขา เจ้าสัวเจิมศักดิ์เริ่มเข้าแผนการทันที เริ่มจากพาพัชร์เฟื่องไปชมเรือนไทยและนำภาพเขียนบรรพบุรุษให้ดู ภาพที่เธอเห็นคือภาพชายโบราณที่เธอเคยฝันถึง เจ้าสัวเจิมศักดิ์มอบสร้อยพร้อมจี้หินสีดำให้พัชร์เฟื่อง หลังจากที่เธอทำงานให้เสร็จ โดยอ้างว่าตอบแทนที่เธอถ่ายรูปเรือนไทยของเขาออกมาดี พร้อมกับให้เธอพยายามท่องคาถากำกับอย่าได้ขาด บอกว่าสิ่งนี้เป็นเครื่องรางป้องกันอันตราย แต่พีรพัฒน์กลับพยายามขัดขวางไม่ให้เจ้าสัวเจิมศักดิ์พาพัชร์เฟื่องกลับไปยังอดีต เพราะด้วยความรักที่มีต่อพัชร์เฟื่องนั่นเอง แต่วันหนึ่งเฟื่องทำงานอยู่ใกล้ๆ กับวัดระฆัง และกำลังจะกลับบ้านกับกวิน เธอได้ยินเสียงสวดคาถา "โอมพะพะโลกะระทะวารัง" ตลอดเวลา และเข้าใจว่าเป็นเสียงสวดมาจากวัด แต่เมื่อนั่งในรถจะกลับบ้านก็ยังคงได้ยินเสียงสวดอยู่ เสียงดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และเฟื่องก็เผลอสวดคาถาตามจนเป็นเสียงเดียวกันไม่ยอมหยุด ฉับพลันเกิดเสียงเปรี้ยงลงมาที่รถกวิน หลังเหตุการณ์สงบกวินก็ต้องตกใจเมื่อหันมาไม่เจอเฟื่อง ซึ่งไม่รู้หายไปได้อย่างไร ทั้งที่รถยังปิดล็อก กวินร้องหาพัชร์เฟื่องจนสุดเสียง นับเนื่องอดีตกาล ภายในโบสถ์วัดบางหว้าใหญ่สมัยกรุงธนบุรีในปี 2312 พัชร์เฟื่องมาปรากฏกายอยู่ที่นี้ สร้างความตกตะลึงให้กับสังฆราชศรี และทุกคนในโบสถ์ เธอเงยหน้าขึ้นมาและได้พบกับชายโบราณที่เธอแอบหลงรูป หลวงพิพิธราชเสนา นั่นเอง เธอตกใจมากวิ่งหนีออกจากโบสถ์ไป แต่หลวงพิพิธราชเสนาได้กระชากร่างเธอสู่อ้อมแขนของเขา พัชร์เฟื่องกรีดร้องก่อนจะสิ้นสติไป หลวงพิพิธราชเสนาพาเธอมาฝากไว้กับพี่สาวคือ แม่สำลีที่เรือนสวนบางล่างที่อยู่ห่างจากผู้คน พัชร์เฟื่องพยายามเล่าเรื่องว่าเธอมาจากอนาคตให้หลวงพิพิธราชเสนารับรู้ และพยามยามหาทางที่จะไปกลับไปที่วัดบางหว้าใหญ่เพื่อพบกับสังฆราชศรีให้ช่วยพาเธอกลับสู่ปัจจุบัน เฟื่องได้เจอกับ พระยาอนุชิตราชา จางวางกรมพระตำรวจ จางวางผู้นี้ชอบเธอในทันทีเมื่อพบกัน วันหนึ่ง นายจัน หลานชายนิสัยไม่ดีของทองมาก สามีของนางสำลีได้ฉุด สาย บ่าวในเรือนไปเพื่อหวังจะข่มขืน แต่พัชร์เฟื่องแข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน และกลับกลายเป็นพัชร์เฟื่องที่เกือบจะพลาดท่าเสียทีให้กับนายจัน แต่หลวงพิพิธราชเสนาเข้ามาช่วยไว้ก่อน เหตุการณ์นี้สร้างรอยแค้นไว้ให้นายจันเป็นอย่างมาก ด้วยความรักและความเป็นห่วงทำให้หลวงพิพิธราชเสนาตัดสินใจที่จะพาพัชร์เฟื่องกับสายมาอยู่ที่เรือนมังคุด เรือนพักของตนที่พระนคร โดยให้สายคอยอยู่รับใช้พัชร์เฟื่อง พุดซ้อน ลูกสาว พระยาราชาเศรษฐี ซึ่งมีใจหมายปองหลวงพิพิธราชเสนาอยู่ไม่น้อย ได้แสดงความเป็นเจ้าของหลวงพิพิธราชเสนาอย่างออกนอกหน้า นางพุดซ้อนวางแผนให้ว่าหลวงพิพิธราชเสนาล่วงเกินตนทำให้ทุกคนเข้าใจผิด จนหลวงพิพิธราชเสนาต้องรับผิดชอบ หลวงพิพิธราชเสนาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ได้ดื่มเหล้าจนเมามายและเอ่ยปากบอกรักพัชร์เฟื่อง ทางด้านยุคปัจจุบัน กวินและพีรพัฒน์จากไม่ชอบหน้ากัน ก็ได้ร่วมมือกันพยายามค้นหาพยานหลักฐาน ยืนยันว่าพัชร์เฟื่องยังไม่ตาย และค้นหาวิธีพาตัวเธอกลับมาให้ได้ พระยาอนุชิตราชาเทียวมาพาพัชร์เฟื่องบ่อยขึ้น และชวนออกไปเที่ยวข้างนอก สร้างความหึงหวงแก่หลวงพิพิธราชเสนาอย่างมาก จึงได้หลุดปากบอกหมั้นพุดซ้อนต่อหน้าพัชร์เฟื่องเป็นการประชด สร้างความเสียใจให้กับพัชร์เฟื่องเป็นอย่างมาก หลวงพิพิธราชเสนาไม่พอใจบ่าวไพร่ ที่ปล่อยให้พัชร์เฟื่องไปเที่ยวกับพระยาอนุชิตราชาตามลำพัง จึงได้เฆี่ยนตีบ่าวไพร่ พัชร์เฟื่องจึงเข้ารับหวายแทนจนบาดเจ็บ หลวงพิพิธราชเสนาตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าพัชร์เฟื่องจะทำถึงขนาดนี้และได้พยายามขอโทษ ทายาให้ และเอ่ยปากสารภาพรักกับพัชร์เฟื่อง พุดซ้อนเข้ามาเห็นภาพบาดตาบาดใจ จึงคิดวางแผนชั่วร้ายให้นายจันไปลวงพัชร์เฟื่องออกมาจากเรือนมังคุด เพื่อส่งไปขายให้นายจีนบุ้นเส็ง สายทาสที่จงรักภักดีขอตามมาด้วย สายได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องนายที่รักจึงพลาดพลั้งโดนนายจันข่มขืนและทำร้ายปางตาย พัชร์เฟื่องถูกนำตัวไปลงเรือสำเภาของนายจีนบุ้นเส็ง แต่หลวงพิพิธราชเสนาและพระยาอนุชิตราชามาช่วยไว้ได้ทัน นายจันถูกจับ สารภาพว่านางพุดซ้อนคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง แต่พุดซ้อนไหวตัวทันจึงได้โยนความผิดให้ เผื่อน บ่าวคนสนิทรับผิดแทน เผื่อนเสียใจกับการกระทำของนายที่รักเป็นอย่างมาก จึงตอกย้ำนางพุดซ้อนได้อย่างเจ็บแสบด้วยคำพูด ก่อนที่จะถูกจับไป พบพานสุขทุกข์ เมื่อจบสิ้นเรื่องร้ายต่างๆ พระยาอนุชิตราชาบอกจะส่งคนมาสู่ขอพัชร์เฟื่อง แต่เธอตัดสินใจเลือกหลวงพิพิธราชเสนาเพราะรักมาตั้งแต่ก่อนที่เธอจะมายังกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทรอีกด้วย พัชร์เฟื่องมีลูกคนแรกเป็นเด็กผู้ชายชื่อ กิมจู และกำลังตั้งท้องอ่อนๆ เธอมีความสุขเป็นอย่างมากกับชึวิตที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อกวินและพีรพัฒน์ทำพิธีสวดคาถาเรียกพัชร์เฟื่องกลับ เมื่อเสียงเรียกแห่งมิติเปิดขึ้นอีก พัชร์เฟื่องเอ่ยปากขานรับไปโดยที่ไม่รู้ตัว ในขณะที่เธอกำลังป้อนข้าวลูกชายที่กำลังอ้าปากรอรับข้าวจากมือแม่ เธอก็ถูกถึงกลับสู่ปัจจุบันในทันที ทั้งๆ ที่ข้าวยังอยู่ในมือ เธอไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เธอต้องจากสามีอันเป็นที่รัก และลูกกิมจูอย่างกะทันหันแบบนี้ได้ เธอพยายามท่องคาถาให้กลับไป แต่หินศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นมิติเวลานั้นได้แตกกระจายไปแล้ว เจ้าสัวเจิมศักดิ์พาเธอไปยังเรือนมังคุด และได้นำเอาสมุดบันทึกที่หลวงพิพิธเขียนเรื่องราวไว้ หลังจากเธอจากมาในบันทึกนี้ได้บอกด้วยว่าถ้ามีลูกสาวให้ตั้งชื่อว่า แก้วกัลยา พัชร์เฟื่องกอดสมุดบันทึกไว้แนบกับอก เพื่อระลึกถึงสิ่งที่ผ่านมาและพยายามยอมรับความจริงที่โหดร้าย

บาดาลใจ 2551

บาดาลใจ (2551/2008) สักการ ธนศักดิ์ ( อธิชาติ ชุมนานนท์) ชายหนุ่มทายาทเจ้าของโรงแรมชื่อดัง อยู่ในความทุกข์เมื่อรังสิยา คู่หมั้นของเขาต้องมาเสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในต่างประเทศ นับจากวันนั้นสักการก็ปล่อยให้ความทุกข์ทำลายเขาให้กลายเป็นผู้ชายที่ไร้ หัวใจ

พฤติกรรมของสักการที่นั่งดูรูปของรังสิยาทั้งวันทั้งคืนจนร่างกายซูบผอม ลง และการที่สักการรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตเพราะต้องการจะอยู่อย่างสงบจึงขอแยก บ้านออกไปอยู่ที่บ้านย่านชานเมืองตามลำพัง โดยเอานายเพิ่ม ( บอล เชิญยิ้ม) คนรับใช้ชายไปอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น สร้างความทุกข์ใจให้กับ ดำรง ( สุเชาว์ พงษ์วิไล) ชุลี ( ดวงตา ตุงคมณี ) พ่อ แม่ของเขา และ อาฬวี ( มนัสนันท์ พันธุ์เลิศวงศ์สกุล) น้องสาวของเขาเป็นอย่างมาก ทุกคนในครอบครัวของเขาจึงพยายามพาผู้หญิงสาวสวยมาให้สักการรู้จัก โดยหวังว่าสักการจะลืมรังสิยาได้ แต่ว่าสักการไม่เคยสนใจผู้หญิงที่สมาชิกในครอบครัวพามาแนะนำให้รู้จักเลย ชุลีโทรศัพท์ไปปรึกษาปริม ( ทัศวรรณ เสนีย์วงษ์ ณ อยุธยา ) เพื่อนสนิทซึ่งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่กับลูกชายและลูกสาว ของเขาได้แก่ แพะ ( พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์) และ ปุริมาน ( ราศรี บาเล็นซิเอก้า) เพราะว่าสามีของปริมเสียชีวิตตั้งแต่ลูกทั้งสองยังเด็ก ปริมจึงเลี้ยงลูกด้วยการทำไร่ลำไยและโรงงานลำไยกระป๋อง โดยมีบริษัทส่งออกอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีแพะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญ ส่วนปุริมานนั้นเพิ่งเรียนจบทางด้านการเกษตร จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ปริมตัดสินใจลงมากรุงเทพกับปุริมานเพื่อมา เยี่ยมชุลี และมาดูงานที่บริษัทส่งออกลำไยกระป๋อง เมื่อปริมและปุริมานมาถึงกรุงเทพและได้พบกับชุลีแล้ว ชุลีแปลกใจเป็นอย่างมากเมื่อพบว่าปุริมานโตเป็นสาวสวย และด้วยความสดใสน่ารักของปุริมาน ทำให้ชุลีและอาฬวีรักและเอ็นดูปุริมานมาก จึงตัดสินใจพาสองแม่ลูกไปพักผ่อนที่บ้าน แล้วโทรบอกให้สักการกลับมาที่บ้านเพื่อมาหาปริม สักการยอมมาเพราะไม่อยากให้ใครไปที่บ้านย่านชานเมืองของเขา เมื่อสักการมาถึงบ้านจึงได้เจอแต่ปริมเท่านั้น สักการพูดคุยกับปริมสักพักก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนปุริมานหนีออกมาจากบ้านเพื่อนำของฝากไปให้นิตยา( ) เพื่อนร่วมชั้นที่สนิทกันโดยบอก ผล ( ) คนรับใช้ในบ้านของชุลีเอาไว้ แต่ว่าด้วยความที่ปุริมานไม่เคยไปบ้านของนิตยา มาก่อนจึงทำให้ปุริมานหลงทางเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยว แล้วพบกัยชายวัยรุ่นที่พยายามจะปล้ำเธอ แต่ว่าโชคดีที่สักการขับรถผ่านมาเห็นพอดีเพราะว่าบ้านของเขาอยู่ในซอยนั้น สักการจึงลงไปช่วยเหลือปุริมานได้ทันเวลา ทำให้ปุริมานหลงรักสักการขึ้นมาทันที เพราะว่าสักการเป็นผู้ช่วยชีวิตเธอไว้ หลังจากนั้นปุริมานก็สลบไป สักการจึงจำใจพาปุริมานกลับไปที่บ้านพักของเขา เมื่อปุริมานฟื้นขึ้นมาก็พบว่าสักการกำลังนั่งดูรูปของรังสิยาอยู่ เธอจึงไม่อยากรบกวนเขา ปุริมานจึงไปทำกับข้าวให้เขาเพื่อขอบคุณที่สักการช่วยเหลือปุริมานไว้ ปุริมานสังเกตว่าบ้านของสักการขาดชีวิตชีวา ดังนั้นเมื่อถึงวันตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ปุริมานจึงนำต้นดอกแก้วมาปลูกที่บ้านของสักการ แต่กลับทำให้สักการไม่พอใจที่ปุริมานทำตาใจตนเอง ถึงแม้ว่าปุริมานจะพยายามพูดให้สักการเห็นถึงข้อดีของการมีต้นไม้อยู่ในบ้าน ว่าจะทำให้บ้านของสักการดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้วก็ตาม สักการก็ไม่ฟังและยังไล่ปุริมานให้กลับบ้านไป เมื่อปุริมานออกมาจากบ้านของสักการ ก็พบกับนิตยาเพื่อนของเธอ นิตยาจึงพาปุริมานมาอยู่ในบ้านของตนเอง ทำให้ปุริมานได้รู้ความจริงว่าบ้านของนิตยาและบ้านของสักการอยู่ติดกัน จากเหตุการณ์นี้ทำให้ปุริมานได้พบกับ วรมิตร ( ตรีพล พรหมสุวรรณ) พี่ชายของนิตยาซึ่งหลงรกปุริมานตั้งแต่แรกเห็น แต่ว่าด้วยความที่เป็นคนขี้อายจึงไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกออกมา สักการถูกแม่ของเขาบังคับให้ไปทานข้าวที่บ้านเพื่อเลี้ยงส่งปริมและลูก สาว เมื่อสักการไปถึงทำให้เขาได้รู้ว่าปุริมานเป็นลูกสาวของปริม ขณะที่ปุริมานเองก็ตกใจที่รู้ว่าสักการเป็นลูกชายของชุลี ชุลีเห็นความสดใสและน่ารักของปุริมานจึงคิดที่จะสู่ขอปุริมานให้สักการ เพราะเชื่อว่าความสดใสและน่ารักของปุริมานจะทำให้สักการหลุดพ้นจากความทุกข์ ได้ ปริมจึงตอบตกลงและบอกว่าเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับปุริมานและสักการด้วย ปุริมานตกใจเมื่อรู้ว่าว่าจะต้องแต่งงานกับสักการ แต่ว่าเธอก็ตกลงเพราะว่าเธอรักสักการอยู่แล้ว เมื่อวันแต่งงานมาถึง สักการที่รู้ความจริงว่าตนเองจะต้องแต่งงานกับปุริมานก็โวยวายใหญ่ เพราะว่าไม่ต้องการที่จะถูกจับคลุมถุงชน ชุลีจึงต้องแกล้งป่วยหนัก และขอร้องให้สักการแต่งงาน สักการจึงยอมเข้าพิธีแต่งงานในที่สุด หลังจากที่งานแต่งงานได้ผ่านพ้นไป รังสิตา ( ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ) น้องสาวของรังสิยา อดีตคู่หมั้นของสักการก็เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และรู้ข่าวว่าสักการแต่งงานกับปุริมานแล้ว เธอก็เสียใจมากเพราะว่ารังสิตาแอบหลงรักสักการมานานแล้ว แต่เพราะว่าสักการเป็นคู่หมั้นของพี่สาว เธอจึงต้องเก็บความรู้สึกของเธอไว้ ส่วนด้านสักการเมื่อเขาได้พบกับรังสิตา เขาก็ตกใจมาก เพราะว่ารังสิตามีหน้าตาคล้ายกับพี่สาวมากเหมือนกับเป็นคนๆเดียวกัน หลังจากแต่งงานแล้ว สักการและปุริมานก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านย่านชานเมืองด้วยกัน โดยทั้งสองคนนอนแยกห้องกัน ทำให้ปุริมานรู้สึกสับสนว่าเธอตัดสินใจถูกหรือผิดที่ตัดสินใจแต่งงานกับ สักการ เพราะว่าสักการไม่ยอมรับปุริมานเลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามในเมื่อปุริมานได้ตัดสินใจไปแล้ว เธอก็จะไม่ถอยและจะพยายามดึงสักการขึ้นมาจากบาดาลของความเศร้าให้ได้ ปุริมานทำหน้าที่ดูแลสักการให้ดีที่สุด โดยที่เธอพยายามทำให้บ้านของสักการมีชีวิตชีวาด้วยการปลูกต้นไม้และรดน้ำต้น ดอกแก้วที่เธอเคยปลูกไว้ และถึงแม้ว่าวันๆสักการจะเอาแต่นั่งมองรูปของอดีตคู่หมั้น ปุริมานก็พยายามเก็บความน้อยใจไว้ และไม่โกรธสักการ เธอพยายามทุกทุกวิธีให้สักการอารมณ์ดีขึ้น จนบางครั้งสักการรู้สึกรำคาญปุริมานมาก รังสิตามาเยี่ยมสักการและปุริมานเสมอ และพยายามทำให้ปุริมานหึง แต่ว่าปุริมานก็ไม่หึงสักการเลยเพราะเธอเข้าใจว่าที่สักการแต่งงานกับตนเอง ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพราะความจำเป็น ดังนั้นเวลาที่รังสิตามาที่บ้าน ปุริมานจึงไปนั่งเล่นที่บ้านของนิตยาเป็นประจำ วรมิตรจึงได้ใกล้ชิดกับปุริมานมากขึ้น ทำให้สักการไม่พอใจที่เห็นปุริมานทำตัวสนิทกับวรมิตร ดังนั้นสักการกับปุริมานจึงทะเลาะกันบ่อยครั้งในเรื่องของวรมิตร โดยที่สักการไม่ยอมฟังเหตุผลของปุริมานเลยสักนิดเดียว ปุริมานไม่อยากทุกข์ใจ เธอจึงขออนุญาตสักการไปช่วยพี่ชายทำงานที่บริษัทส่งออกลำไยกระป๋อง แต่ว่าสักการไม่ยอมให้ปุริมานไปทำงานเพราะว่ากลัวคนอื่นจะดูถูกว่าเขาดูแล ภรรยาไม่ดี ต้องให้ภรรยาออกไปทำงานนอกบ้าน ปุริมานจึงประชดกลับไปว่าการที่สักการไม่ยอทำงานแล้วเอาแต่นั่งจมอยู่กับ ความทุกข์ เป็นสิ่งที่น่าอายมากกว่า สักการโกรธมากจึงบอกปุริมานว่าเขาจะกลับไปทำงานแล้วโดยที่สักการได้เปิด บริษัทรับออกแบบบ้านของตนเอง แต่ว่ากิจการไม่ค่อยดี ปุริมาน พยายามให้กำลังใจและคำแนะนำกับสักการ แต่สักการก็ไม่เชื่อ ปุริมานจึงทำได้เพียงให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ในที่สุดสักการก็ต้องปิดกิจการลง แต่ว่าปุริมานก็ไม่เคยเยาะเย้ยเขาและยังให้กำลังใจสักการเสมอ ทำให้สักการเริ่มมีความรู้สึกดีๆกับปุริมานมากขึ้น ชีวิตรักของทั้งคู่เริ่มไปได้ด้วยดี แต่ว่ารังสิตาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอจึงคิดวางแผนให้ปุริมานกับสักการบาดหมางกัน โดยรังสิตาทำสำเร็จ ทั้งคู่ทะเลาะกันใหญ่โต ปุริมานเสียใจมากจึงหนีไปอยู่บ้านชุลี ทำให้รังสิตาดีใจมาก อาฬวีกับแพะ สังเกตุท่าทางของปุริมาน จึงรู้ว่าทั้งคู่ต้องมีเรื่องหมางใจกัน จึงชวนทั้งสองไปเที่ยวทะเลเพื่อปรับความเข้าใจกัน โดยมี นิตยา วรมิตร และรังสิตา ตามไปด้วย เมื่อเดินทางไปถึงที่ทะเล อาฬวีกับแพะ พยายามทำให้ปุริมานและสักการได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ปุริมานพยายามลืมเรื่องที่สักการว่าเธอ แล้วพยายามทำหน้าที่ของภรรยาให้ดีที่สุด แต่ว่าก็ถูกขัดขวางจากรังสิตาเสมอ และนอกจากนั้นรังสิตาได้พยายามสร้างสถานการณ์ทำให้สักการเข้าใจปุริมานผิด ว่าปุริมานกับวรมิตรนัดพบกันตอนกลางคืน ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันและบอกว่าเกลียดกัน ปุริมานจึงบอกพี่ชายของเธอว่าอยากกลับบ้านพักแต่ว่าปุริมานก็ไม่ได้กลับไป เพราะว่าอาฬวีกับแพะ เห็นว่าถ้าสักการกับปุริมานยิ่งอยู่ไกลกัน ความสัมพันธ์ก็จะยิ่งลดลงไปด้วย ทำให้ปุริมานต้องกลับไปอยู่ในบ้านของสักการอีกครั้ง แต่ว่าสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะว่าทั้งคู่ทะเลาะกันอีก โดยสักการได้บอกกับปุริมานว่า ถ้าเขาได้แต่งงานกับรังสิตาเขาคงจะมีความสุขมากกว่าอยู่กับปุริมาน ปุริมานจึงตบหน้าสักการ แล้ววิ่งหนีออกไปท่ามกลางสายฝน ตอนแรกสักการใจแข็งไม่ยอมไปตามปุริมานกลับมา แต่แล้วในที่สุดสักการก็ฝืนใจของตัวเองไม่ได้จึงวิ่งออกไปตามปุริมานกลับมา พอสักการกับปุริมานเจอกันทั้งคู่ก็ทะเลาะกันอีกท่ามกลางสายฝน ปุริมานต่อว่าสักการที่ใจร้ายกับตัวเองและว่าสักการเรื่องที่สักการมัวแต่ นั่งจมอยู่กับความทุกข์ เมื่อสักการได้ฟังคำต่อว่าของปุริมานก็อึ้งไป จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้สักการดูและปุริมานเพราะเขารู้สึกผิดที่ปุริมานต้องมาเป็นแบบนี้เพราะ ตนเอง ส่วนด้านปุริมานคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดระหว่างเธอกับสักการ ทำให้ปุริมานตัดสินใจหนีกลับบ้านที่เชียงใหม่ตอนที่สักการไม่อยู่บ้าน เพราะว่าปุริมานทนอยู่กับผู้ชายที่ไร้หัวใจอย่างสักการไม่ได้แล้ว เมื่อสักการกลับมาถึงบ้านและรู้ว่าปุริมานหนีไปแล้วจึงคิดจะขึ้นไปตามปุ ริมานที่เชียงใหม่ แต่รังสิตาก็ห้ามไว้ไม่ให้สักการไปตามปุริมานกลับมาและใช้โอกาสที่ปริมานไม่ อยู่พยายามยั่วสักการ แต่ว่าสักการก็ห้ามใจของตัวเองได้ ทำให้รังสิตาไม่พอใจ จึงแกล้งพูดว่าสักการว่าสักการลืมพี่สาวของตนเองไปแล้ว สักการจึงปฏิเสธแต่ว่ารังสิตาไม่เชื่อ เธอจึงท้าให้สักการหย่ากับปุริมาน เพื่อให้วิญญาณพี่สาวของตนเองสบายใจ สักการจึงต้องรับปากรังสิตาอย่างจำใจ เขาจึงขึ้นมาเชียงใหม่เพื่อมาขอหย่ากับปุริมาน ปุริมานตอบตกลงแต่เธอขอให้สักการกลับไปรอที่กรุงเทพ แล้วปุริมานจะตามลงไปเซ็นใบหย่าให้ ทำให้ครอบครัวของสักการโกรธสักการมาก แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถของปุริมานระหว่างที่ขับเข้ามากรุงเทพเพื่อมาเซ็นใบหย่าให้สักการ นั้น ตกลงเหว แม้แต่ร่างของปุริมานก็หาไม่เจอ สักการเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่เป็นอันทำอะไร และจมอยู่ในความเศร้าอีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งอาฬวีชาวนสักการไปงานวันเกิดของเพื่อน และที่นั่นเองทำให้สักการได้พบกับแก้ว หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบจากต่างประเทศ แก้วกับปุริมานเหมือนกันมาก แต่ว่าต่างกันตรงที่แก้วนั้นชอบแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม จัดจ้านสมกับเป็นสาวมั่น ส่วนปุริมานนั้นเธอเป็นเพียงแค่สาวน้อยสดใสและเป็นธรรมชาติ สักการจึงพยายามทำความรู้จักกับแก้วเพื่อดูให้แน่ใจว่าแก้วกับปุริมานเป็นคน เดียวกันหรือเปล่า สักการจึงหมั่นไปหาและทำความรู้จักกับแก้วให้มากขึ้น จนบางครั้งสักการรู้สึกว่าแก้วกับปุริมานเหมือนเป็นคนเดียวกัน เพราะว่าแก้วพูดเสียงโทนเดียวกับปุริมาน และแก้วก็ยังรักและสนใจต้นไม้เหมือนปุริมานด้วย สักการจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาน้องสาวของเขา แต่น้องสาวของเขากลับบอกว่า ให้เลิกคิกมากได้แล้วเพราะว่า ปุริมานตายไปแล้ว แต่สักการก็ไม่เชื่อเขาพยายามสืบหาความจริงต่อไป จนวันหนึ่งแก้วต้องอยู่กับสักการตามลำพัง เพราะว่าสักการเชิญมางานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้าน แต่เมื่อแก้วมาถึงที่บ้านของสักการแล้วเธอก็พบว่าสักการ ไม่ได้ชวนใครมาเลยนอกจากเธอ ในคืนที่แก้วกับสักการอยู่กันตามลำพัง 2 คน ฝนก็ตกลงมา แก้วกลัวฟ้าร้อง เธอจึงเผลอกอดสักการเหมือนที่ปุริมานเคยทำ ทำให้สักการแน่ใจว่าแก้วคือปุริมาน จึงพยายามถามความจริงกับแก้วว่าแก้วคือปุริมานหรือเปล่า แต่ว่าแก้วไม่ยอมรับ สักการจึงวิ่งออกไปยืนตากฝน และบอกกับแก้วว่าถ้าแก้วไม่ยอมรับความจริง เขาจะยืนตากฝน อยู่แบบนี้ แต่ว่าสักการก็ไม่ได้รู้ความจริง เพราะว่ารังสิตามาเห็นพอดีจึงเข้ามาขัดขวางเสียก่อน จากเหตุการณ์นี้ทำให้สักการไม่พอใจเขาจึงต่อว่ารังสิตา รังสิตาจึงเข้าใจว่าที่สักการใจร้ายกับตนเองแบบนี้เป็นเพราะแก้ว รังสิตาโกรธมากจึงคิดที่จะทำร้ายแก้ว เธอจึงขับรถตามแก้วมาที่บริษัทลำไยกระป๋อง ทำให้เธอได้รู้ความจริงว่าแก้วคือปุริมาน เธอจึงเข้าไปหาแก้วเพื่อคุยเรื่องสักการ ตอนแรกแก้วจะไม่คุยด้วย แต่รังสิตาเอาความลับว่าแก้วคือปุริมานมาอ้าง และสั่งให้ปุริมานออกไปจากชีวิตของสักการ ปุริมานไม่ยอมทั้งสองจึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง และตบตีกันจนปุริมานเกือบพลัดลงจากตึก ปุริมานขอร้องให้รังสิตาช่วยแต่รังสิตาไม่ช่วยและยังบอกความจริงกับปุริมาน ว่าเธอรักสักการและทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งฆ่าพี่สาวของตัวเอง ทำให้สักการที่ตามมาได้ยินความจริงทั้งหมด สักการเข้าไปช่วยปุริมาน แต่ปุริมานล้มหัวกระแทกพื้นและเป็นลมแน่นิ่งไป สักการจึงต่อว่ารังสิตาที่ฆ่ารังสิยาและบอกกับรังสิตาว่าเขาไม่มีวันที่จะ รักคนใจร้ายอย่างรังสิตาได้ ที่ผ่านมาเขาเพียงแค่หลอกตัวเองว่าการที่อยู่ใกล้รังสิตาก็เหมือนว่าเขาได้ รังสิยาคนรักเก่าของเขากลับคืนมา แต่ว่าความจริงแล้วไม่มีใครสามารถแทนใครได้ และยังบอกว่าตอนนี้ความรู้สึกที่เขามีต่อรังสิยาเหลือแค่เพียงความรู้สึกดีๆ ต่อรังสิยาเท่านั้น เพราะว่าเวลานี้ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดและเขาจะรักตลอดไปก็คือปุริมาน เท่านั้น สักการพาปุริมานมาที่โรงพยาบาล ขณะที่รังสิตาถูกจับไปดำเนินคดีฆ่าพี่สาวของตนเอง หมอบอกว่าอาการของแก้วเข้าขั้นวิกฤต เมื่อสักการเข้าไปเยี่ยมและมองไปที่หน้าของแก้วที่ไร้เครื่องสำอาง เขาจึงแน่ใจว่าแก้วคือปุริมาน สักการเฝ้าดูอาการของแก้วทั้งวัน ทั้งคืน วันหนึ่งสักการสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าหัวใจของปุริมานหยุดเต้น สักการจึงกอดร่างของปุริมานเอาไว้ แล้วร้องไห้ น้ำตาของสักการจึงตกใส่ร่างของปุริมานทำให้หัวใจของปุริมาน เต้นอีกครั้งหนึ่งราวกับปาฏิหารย์ที่ริมทะเลหัวหิน ปุริมานกับสักการมาฮันนีมูนกันอีกครั้ง สักการขอโทษที่เคยทำให้ปุริมานต้องเสียใจและขอบคุณที่เธอทำให้เขาได้รู้จัก กับแสงสว่างอีกครั้งหลังจากที่ต้องจมอยู่กับบาดาลใจที่เศร้าโศกมานานแสนนาน
อเวจีสีชมพู 2551

อเวจีสีชมพู (2551/2008) โปดก ต้องรีบเดินทางกลับมาดูใจ ถมปัด ( แม่ของ ปะวะหล่ำ ) เป็นครั้งสุดท้าย เพราะถมปัดถูกลอบยิงอาการโคม่า ถมปัดสั่งเสียก่อนสิ้นลมด้วยความเป็นห่วง ปะวะหล่ำ ให้โปดกช่วยแต่งงานกับปะวะหล่ำลูกสาวคนเดียวของเธอ เพราะถมปัดรู้ดีว่านี่คือทางเดียว ที่จะช่วยให้ปะวะหล่ำรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกา โดยเฉพาะ ศพล ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอเอง ศพลต้องการฮุบที่ดินสวนส้มจำนวนมหาศาล โดยอาศัยความเป็นพ่อ และเบื้องหลังความตายของถมปัดก็คือศพลนั่นเอง จ้างมือปืนมาเก็บถมปัด ฐาปนา ( ตาของปะวะหล่ำ ) พยายามขัดขวางการแต่งงานของโปดกกับปะวะหล่ำ เพราะคิดว่าโปดกต้องการที่จะมาครอบครองสมบัติทั้งหมด ติดตามต่อได้ใน อเวจีสีชมพู

สวรรค์เบี่ยง 2551

สวรรค์เบี่ยง (2551/2008) "ลีลา" กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นหนุ่มในอีกห้าวันข้างหน้า แต่โชคร้ายประสบอุบัติเหตุและคู่หมั้นของเธอเสียชีวิต ในขณะฝ่ายคู่กรณีก็สูญเสียภรรยาเช่นกัน นั่นทำให้ชะตาชีวิตของลีลาพลิกผัน… เธอตอบตกลงแต่งงานกับ "คุณคิด วรวัตต์" พ่อม่ายสูงวัยผู้ขับรถคันที่ชนเข้ากับคู่หมั้นของเธอ ด้วยเหตุผลหลักที่ฝังลึกในใจเธอก็คือ…เขาเป็นบิดาของ "คาวี วรวัตต์" ชายหนุ่มที่เธอเคยหลงใหลได้ปลื้มในตอนที่ยังอยู่ในวัยรุ่น แล้วถูกเขาปฏิเสธด้วยการหยามเหยียด… เมื่อแต่งงานกับคุณคิด ลีลาก็พาครอบครัวของเธอย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกับคาวี… นั่น ทำให้คาวีมีโอกาสได้เฝ้ามอง "นาริน" หญิงสาวที่เข้มแข็งและมีความมั่นคงในอารมณ์ ผู้น้องสาวของลีลาอย่างสนอกสนใจอยู่ลึกๆ แม้ภายนอกจะแสดงอาการดูหมิ่นและหยามเหยียดอย่างเปิดเผย... จะมีสิ่งใดที่เปลี่ยนใจชายหนุ่มอารมณ์ร้าย ผู้เย่อหยิ่งยโส ถือตัวว่าเกิดมามีชาติตระกูลอย่างคาวีได้หรือไม่? ติดตามร่วมลุ้นไปพร้อมกันได้

กิ่งแก้วกาฝาก 2551

กิ่งแก้วกาฝาก (2551/2008) กิ่งกนก หญิงสาวหน้าตาสวย เติบโตมาในครอบครัว “อิทธิวัชร” ในฐานะลูกเมียน้อยของ คุณสมยศ ซึ่งเขามีลูกอีก 3 คนกับภรรยาหลวงคือ คุณนันทา ซึ่งก็คือ ปิติ ลูกชายคนโตจอมเจ้าชู้ ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสานต่อธุรกิจ สิริวิภา ลูกคนกลางนิสัยขี้อิจฉา จินตหรา น้องสาวคนเล็กที่คอยเข้าข้างกิ่งกนก ให้พ้นจากคำด่าว่าลูกเมียน้อย แม่ของกิ่นกนกคือ พัชนี คนรับใช้ของนันทา ซึ่งพอพัชนีท้องกับสมยศและคลอดกิ่งกนก นันทาก็เริ่มเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ คุณวลัย แม่ผัวที่เอ็นดูพัชนีและกิ่งกนกอย่างออกนอกหน้า และถึงกับยก เพชรมรดกประจำตระกูลให้พัชนี นันทาทะเลาะกับคุณวลัยรุนแรงจนขาดสติ คว้ามีดแทงคุณวลัยตาย พัชนีเข้ามาช่วยกลายเป็นมีดตกอยู่ในมือ ต้องจำยอมรับผิดแทนเพราะกตัญญูต่อนันทาที่ชุบเลี้ยงมา สมยศเกลียดพัชนีตั้งแต่วันนั้นและพลอยเกลียดกิ่งกนกไปด้วย กิ่งกนกกลายเป็นลูกชัง สมยศปฏิบัติต่อเธอเหมือนทาส แม้แต่ หวิว คนรับใช้ในบ้านก็ยังกดขี่กิ่งกนก พัชนีต้องโทษจำคุกและตั้งท้องลูกของสมยศอีกคนในคุก โดยสมยศไม่รู้เรื่อง พัชนีติดต่อ อำนวย และรุจี ญาติสนิทรับลูกอีกคนไปเลี้ยง แก้ว เก็จ จึงโตมาในครอบครัวอบอุ่นริมทะเล กลายเป็นสาวแก่นกะโหลก แก้วเก็จได้พบกับ ดิสทัต ที่อกหักจาก สาธิตา มาลงเรือยอชต์ไปบ้านพักส่วนตัวบนเกาะเก็จ ดิสทัตขับรถเฉี่ยวแก้วเก็จทำให้ไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรก ดิสทัตจะออกเดินทางแต่เรือเสีย อำนวยต้องไปซ่อมให้ แก้วเก็จแกล้งเอาสีไปพ่นเรือดิสทัตจนอำนวยทำโทษให้ทำความสะอาด ระหว่างเข้าไปเอาเครื่องมือเธอโดนเครื่องมือหล่นใส่หัวจนสลบ ทำให้ติดเรือดิสทัตไปที่เกาะด้วย ระหว่างอยู่ที่เกาะแก้วเก็จเห็นดินทัตเอาแต่กินเหล้า เธอ สมเพชคนอกหักจึงพยายามทำให้เขาเลิกกินเหล้า และกลับมาเป็นผู้เป็นคน ความรักจึงเริ่มก่อตัวขึ้น ดิสทัตขอตัวแก้วเก็จมาอุปการะที่กรุงเทพฯ โดยอำนวยกับรุจีขอตามมาดูแลลูกด้วย สุพัฒนา แมของดิสทัตและน้องชาย วรวีร์ ถูกชะตากับแก้วเก็จมาก ดิสทัตพาแก้วเก็จไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ที่ห้างฯ และได้เจอกับกิ่งกนกที่มาซื้อของกับจินตหราโดยบังเอิญ ทั้งสองตะลึงที่เห็นคนหน้าเหมือนตัวเอง ด้านสาธิตาสลัดรักดิสทัตมาควงกับปิติ สร้างความไม่พอใจให้กับ ภาณุ พี่ชายของสาธิตา ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับดิสทัตด้วย วันหนึ่งสาธิตา บังคับให้ภาณุไปกินข้าวกับครอบครัวของปิติเป็นเพื่อนเธอ ภาณุได้เจอกับกิ่งกนกก็ตกหลุมรัก แต่ถูกขัดขวางโดยทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะสิริวิภาที่ชอบภาณุเหมือนกัน ภาณุคิดพากิ่งกนกหนีแต่โดนสิริวิภาซ้อนแผน บอกว่าภาณุย่องเข้าหาเธอ และบังคับให้ภาณุรับผิดชอบด้วยการหมั้น ภาณุยอมหมั้นแต่ไม่ยอมแพ้ จึงวางแผนกับดิสทัตและแก้วเก็จพากิ่งกนกหนีไปจนได้ แต่ปิติตามไปเจอและพาตัวกลับมา สมยศลงโทษกิ่งกนกด้วยการจับขังในห้องใต้ดิน กิ่งกนกโดนสิริวิภาทรมานทุกวันจนเริ่มมีอาการทางจิต แก้วเก็จต้องการช่วย กิ่งกนก จึงวางแผนเปลี่ยนตัวเข้าไปอยู่ในบ้านอิทธิวัชรแทนแล้วแกล้งบ้า ส่วนดิสทัตก็พากิ่งกนกมาพักที่บ้านของเขาเพื่อรักษาตัว ด้านปิติจับได้ว่าแก็วเก็จเปลี่ยนตัวมาอยู่แทนกิ่งกนก ก็พยายามจะลวนลามแก้วเก็จทุกครั้งที่มีโอกาส วันหนึ่งแก้วเก็จได้เจอ น้าวอน คนเก่าคนแก่ของบ้านอิทธิวัชร ได้เล่าให้ฟังเรื่องพัชนีที่ตั้งท้องลูกอีกคนของสมยศก่อนโดนจับ ทำให้แก้วเก็จยิ่งสงสัยในกำเนิดของตัวเอง เธอกลับไปคาดคั้นอำนวยและรุจีจนทั้งสองยอมสารภาพว่าแก้วเก็จเป็นลูกอีกคนของพัชนี แก้วเก็จไปหาพัชนีที่เรือนจำ แต่พบว่าพัชนีพ้นโทษออกไปแล้ว ดิสทัตช่วยแก้วเก็จตามหาแม่ ส่วนภาณุไปเจอพัชนีโดยบังเอิญจึงพามาพบกิ่งกนก แม่ลูกได้เจอกัน ภาณุขอกิ่งกนกแต่งงาน ด้านนันทากลัวความจริงจะเปิดเผยว่าตัวเองเป็นคนฆ่าคุณวลัย จึงวางยาสมยศจนเป็นอัมพาตและฆ่าวอนปิดปาก แต่วอนเขียนจดหมายสารภาพทุกอย่างไว้หมดแล้ว จดหมายนั้นจึงเป็นหลักฐานมัดตัวนันทาจนโดนตำรวจจับ ปิติถูกหลอกไปเล่นพนันจนหมดตัว จึงลักพาตัวพัชนีกับกิ่งกนกไปเรียกค่าไถ่ในวันแต่งงานของเธอ ดิสทัต ภาณุ และแก้วเก็จตามไปช่วย โดยสาธิตาขอตามไปด้วยและถูกยิงบาดเจ็บ แต่ปิติหนีไปได้ ขณะที่แก้วเก็จเฝ้าสาธิตาอยู่ที่โรงพยาบาล ปิติก็กลับมาลักพาตัวแก้วเก็จกับสาธิตาไปอีก คราวนี้ดิสทัตกับภาณุตามไปช่วย ปิติถูกตำรวจยิงตาย ขณะที่สาธิตากลับตัวเป็นคนดี แก้วเก็จต้องการหลีกทางให้สาธิตาได้กลับไปคืนดีกับดิสทัต จึงหนีกลับบ้านที่หาดทรายแก้ว แต่ดิสทัตตามไปง้อด้วยความรัก ทั้งสองปรับความเข้าใจกัน และแก้วเก็จยอมตกลงรับคำขอแต่งงานของดิสทัตในที่สุด

ดาวจรัสฟ้า 2551

ดาวจรัสฟ้า (2551/2008) ดาวจรัสฟ้า เป็นเรื่องราวของหมอลำสองคณะจะมาประชันกันระหว่างวงของ สาวน้อยเพชรบ้านแพง และ วงหนูภารวิเศษศิลป์ ทั้งสองวงเป็นที่มีฝีมือการแสดงหมอลำได้ดีพอๆ กัน แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อนายเคน ที่เป็นเจ้าของวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง ล้มป่วย ถึงกับเส้นเลือดในสมองแตก เพราะ นายก้อง เจ้าของ วงหนูภารวิเศษศิลป์ ใช้วิธีสกปรก จ้างคนไปป่วน ทำให้คนดูแห่ไปดู วงหนูภารวิเศษศิลป์ กันหมด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้นายเคนล้มฟุบไป และเสียชีวิตในที่สุด หลัง งานศพ ดาวคาดคั้นถาม ฟ้า พี่สาวว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ฟ้า ผู้เป็นพี่สาวก็ไม่กล้าที่บอกให้น้องฟัง ดาวจึงตัดสินใจทำการสืบหาต้นตอว่าใครทำกับพ่อ หลังจากนั้น ดาว จึงแอบไปสมัครเป็นนักร้องประจำวง หนูภารวิเศษศิลป์ ด้วยน้ำเสียงและหน้าตา ดาวได้รับเลือกเป็นนางเอกหมอลำคนใหม่ จึงทำให้พัชรี ลูกสาวของบุษบา ไม่พอใจจึงหาวิธีกลั่นแกล้งดาวให้ออกจากวง แต่ดาวก็อดทนเป็นอย่างสูง โดยมีแหล ตัวตลกประจำวงที่คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ ยิ่ง เธอถูกกลั่นแกล้งมากเท่าไหร่ พล ที่เป็นหัวหน้าวงก็ยิ่งเห็นใจ ทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ในช่วงเวลา 1 เดือน ที่ดาวได้มาอยู่ในวงหนูภารวิเศษศิลป์ เธอก็ซ้อมร้องเพลง และยังโชว์ลีลาการแสดงหมอลำที่อ่อนช้อยสวยงาม หลัง จากการฝึกซ้อมจบลงก็จะเป็นการประชันเพลงหมอลำกันขึ้นระหว่างวง สาวน้อยเพชรบ้านแพง และวงหนูภารวิเศษศิลป์ เกิดขึ้นระหว่างนั้น พล ก็ได้สารภาพบอกรัก ดาว เธอลำบากใจเป็นที่สุด เมื่อความรักของเธอ ต้องมาเกิดขึ้นกับความแค้น แต่ดาวก็จากพลไป ไปพร้อมกับขึ้นแสดงโชว์ให้กับวง สาวน้อยเพชรบ้านแพง พร้อม กับการที่เหนือกว่าพลทุกอย่าง ทำให้คนดูแห่ไปดูวงสาวน้อยเพชรบ้านแพงกันจนหมด พลบุกไปหา ดาวที่ข้างหลังเวทีด้วยความเสียใจ ฟ้า เดินออกมาหาดาว พลจึงรู้ว่า ดาวเป็นลูกสาวของนายเคนเจ้าของวง สาวน้อยเพชรบ้านแพง ที่เสียชีวิตไปแล้ว ณัฐแค้นดาวหนักขึ้น พยายามหาทางทำร้ายจิตใจฟ้า เพราะฟ้าเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ ซึ่งต่างจากดาวที่ไม่ยอมใคร ดาว กลับไปคุมวง สาวน้อยเพชรบ้านแพง ที่มีฟ้าผู้เป็นพี่สาวคอยให้ความช่วยเหลือและเป็นนางเอกประจำวง และยังมีนางพิม ผู้เป็นแม่คอยอยู่เบื้องหลัง ให้กำลังใจลูกสาวทั้งสองที่จะกอบกู้วงให้กลับมาเหมือนเดิม และ ในช่วงนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น งานที่เจ้าภาพมัดจำไว้ ถูกยกเลิกไปเกือบหมด เนื่องจากวงหนูภารวิเศษศิลป์ ใช้วิธีสกปรก ด้วยการตัดราคาลดลง จึงทำให้คนที่จ้างยกเลิกเกือบหมด ดาวตัดสินใจบุกเข้าบ้านพักของพล ดาว และ พล เผชิญหน้ากันทั้งสองโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ดาวและพล ประกาศเป็นศัตรูกัน แหล่ และ จ่อย ตัวตลกประจำวง หนูภารวิเศษศิลป์ ต่างเป็นไส้ศึกนำความเคลื่อนไหวของวงหมอลำของตัวเองมาเล่าให้กันฟัง ทั้งสองพยายามทำหน้าที่เป็นกาวใจ ให้ดาว และ พลกลับมาคืนดีกันแต่ก็ถูกกีดกันของฝีมือจากสองแม่ลูก ทัง พัชรี และ บุษบา พยายามขัดขวางตลอดเวลา และในที่ขณะที่สถาณการณ์สงบลงก็เกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง เมื่อฟ้า พบว่าตัวเองตั้งท้อง นางพิมพา โกรธจัด ทุบตีลูก และไล่ออกจากบ้านด้วยความโกรธ ดาวตัดสินใจ จาก พล แม้รู้ว่าพลจะรู้อยู่แกใจว่าเขาไม่ใช่คนทำ ให้ฟ้าท้อง ขณะที่ฟ้ายอมรับสภาพเมียของผู้ชายที่ไม่ได้รัก และเธอก็ถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ แถมยังถูก ณัฐ พูดประชดประชันอยู่เสมอ การประกวดหมอลำ ชิงถ้วยรางวัลประจำปี งานนี้ เป็นเป้าหมายขอลวงหมอลำทุกวง เพราะถ้าหมอลำวงไหนได้รางวัล นั่นหมายถึงเงิน และชื่อเสียง และวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง และ วงหนูภารวิเศษศิลป์ ต้องกลายเป็นคู่แข่งกันอีกครั้ง พลและ ดาว ต่างก็ต้องการเป็นผู้ชนะ ทำให้ฟ้าตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต แต่เธอก็ตัดสินใจเลือกที่จะกลับไปเป็นนางเอกคู่กับดาวที่วงสาวน้อยเพชรบ้าน แพง แต่ในขณะที่วงสาวน้อยเพชรบ้านกำลังแสดงเป็นฉาก สุดท้ายนั่นเอง ร่างของดาวสุดฮวบลง เกิดเรื่องโกลาหล พลวิ่งขึ้นไปรับร่างของดาว ไว้ได้ทัน ก่อนที่เธอจะล้มลงบนพื้นเวที พลสารภาพรักดาว ทั้งน้ำตา และในที่สุด วงหนูภารวิเศษศิลป์และวงสาวน้อยเพชรบ้านแพงยุบรวมกันเป็นหนึ่งกลายเป็นวงดาว จรัสฟ้า ”

โบตั๋นกลีบสุดท้าย 2551

โบตั๋นกลีบสุดท้าย (2551/2008) โบตั๋นกลีบสุดท้าย ของ สำเภาทอง ได้รับรางวัลนวนิยายยอดเยี่ยมประจำปี ไม่มีใครรู้ว่าสำเภาทองเป็นใคร เพราะทุกครั้งเขาจะให้ ดนัย เด็กวัดที่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัว อาเชง เป็นคนนำต้นฉบับและรับเงินให้ทุกครั้ง สำเภาทองแท้จริงคือ ธีรเดช ( อาจู ) ลูกชายคนสุดท้ายของอาเชงกับ เหมยหลิง สองสามีภรรยาที่อพยพจากเมืองจีน มาขายข้าวมันไก่ในเมืองไทย จนส่งเสียลูกชายทั้ง 3 คนคือ ธีรชัย ( อาโจ ), ธีรชาติ ( อาจิว ) และธีรเดช ( อาจู ) จนจบปริญญา อาเชงไม่ค่อยชอบอาจูมากนัก เพราะตอนเหมยหลิงท้องอาจู ครอบครัวเขาลำบากถึงกับอพยพหนีมาเมืองไทย อาจูจึงเป็นลูกชัง ขณะที่อาโจและอาจิวเป็นลูกรักที่ได้ทุกอย่างจากอาเชงตลอดเวลา และมักเรียกอาจูว่า ไอ้ตัวซวย ทำให้อาจูกดดันกับชีวิตเสมอมา อาโจเข้ามาทำงานที่บริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนอาจิวเข้าทำงานที่ธนาคาร โดยไม่บอกให้อาเชงรู้เพราะกลัวถูกแบ่งเงินเดือน อาจูระบายความในใจลงในบันทึกตามคำแนะนำของดนัย และให้อาจูเขียนเรื่องสั้นส่งนิตยสาร “ระเบียงสยาม” งานเขียนของอา จูเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ เขาจึงกลายเป็นนักเขียนมืออาชีพในนามปากกา “สำเภาทอง” โดยปิดบังอาเชงและเหมยหลิงเอาไว้ อาโจแต่งงานกับ จรัสศรี ลูกข้าราชการใหญ่ สร้างความช้ำใจให้อาเชงไม่น้อยแต่ไม่เคยบอกใคร อาจูรู้ว่าพ่อผิดหวังมากแต่ไม่สามารถปลอบใจได้ อาเชงมักใช้เวลาว่างอ่านนิตยสารระเบียงสยาม เพราะติดใจการเขียนนวนิยายของสำเภาทองมาก อาจูได้รับการทาบทามให้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับงิ้ว เขาไม่มีข้อมูลจึงไปสมัครที่คณะงิ้วฉางชิน ที่เป็นแหล่งข้อมูลแต่ เกือบไม่ได้ทำงานในคณะเพราะ ตันหยง ลูกสาวคนเล็กของ อาฉาง และอาซิน ไม่เชื่อว่าอาจูด้อยการศึกษาและตกงาน อาจูเห็นว่าครอบครัวอาฉางมีแต่ลูกสาว แต่สามารถให้ความรักความอบอุ่นแกลูกๆ ได้ดี แตกต่างจากครอบครัวของเขาที่มีแต่ลูกชาย แต่กลับได้รับความรักไม่เท่ากัน อาจูจึงเอาเรื่องราวชีวิตของอาฉางและข้อมูลเกี่ยวกับงิ้วที่ได้จาก อาซุ่น คนสอนงิ้วของคณะเป็นผู้ให้ข้อมูล ดาหลา ลูกสาวคนโตของอาฉางแต่งงานกับ พงษ์เลิศทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น ตันหยง ลูก ชายของ เจ้าสัวกำจร กับมาดามเหลียว จนมีลูก 2 คนคือ หยก กับหงส์ ปาหนัน ลูกสาวคนกลางเป็นนางเอกงิ้วที่ เสี่ยเดชา เจ้าของร้านทองจอมอันธพาล, อดิเทพ ผู้กำกับละครเวทีชื่อดัง และ แอนดี้ เพลย์บอยหนุ่มนักเรียนนอกรุมจีบ ตันหยงเป็นลูกสาวคนเล็กที่อยากเปิดอู่ซ่อมรถ มีนิสัยห้าว ชอบโต้เถียงกับอาฉางเป็นประจำ จนเธอคิดว่าพ่อไม่รักเหมือนลูกคนอื่น อาหลง เด็กกำพร้าที่อาฉางและอาซินเลี้ยงไว้เพราะอยากได้ลูกชาย เขาทำทุกอย่างในคณะที่เป็นการตอบแทนบุญคุณ และแอบรักปาหนัน ข้อมูลทั้งหมดอาจูได้ฟังจากอาซุ่น จึงตั้งชื่อนวนิยายเรื่องใหม่ว่า “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” อาเชงทำงานหนักเพราะหวังเก็บเงินให้ลูกรักทั้ง 2 ได้สบาย จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคไต เขาไม่รู้เลยว่าเงินทุกบาทที่จ่ายไปนั้นเป็นเงินที่อาจูหามาจากงานเขียน หนังสือ อาเชงเชื่อว่าอาโจกับอาจิวต้องไปสอนพิเศษเพื่อหาเงินมารักษาตน อาจูกับเหมยหลิงปิดปากเงียบไม่ยอมบอกให้อาเชงรู้ เพราะกลัวว่าอาเชงจะไม่ยอมรักษาตัว ดนัยเห็นอาเชงอคติกับอาจูตลอดเวลา จึง เอานิตยสารระเบียบสยามมาให้อ่าน อาเชงได้อ่านเรื่อง “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” เรื่องราวของครอบครัวจีนที่มีลูกๆ 3 คนมาอ่าน อาเชงอ่านแล้วอินไปกับเรื่องราว อาเชงรู้ว่าอาจูทำงานในสำนักพิมพ์นี้ จึงฝากอาจูไปชมสำเภาทอง อาจูตื้นตันใจมากที่พ่อกล่าวชมเขาเป็นครั้งแรก แม้พ่อจะไม่รู้ว่าเขาคือสำเภาทองก็ตามที งานแสดงงิ้วเริ่มซบเซา อาฉางไม่อยากให้ศิลปะงิ้วหายไป จึงปรับปรุงการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ โดยกู้เงินจากเสี่ยเดชามาใช้ เสี่ยเดชาเป็นคนเจ้าเล่ห์และชอบปาหนันอยู่ เขา จึงยื่นข้อเสนอว่าหากอาฉางหาเงินมาใช้หนี้ไม่ทันกำหนด จะต้องยกปาหนันให้ตนอาฉางยอมตกลง และพยายามทำให้การแสดงมีคนเข้าชมมากๆ เมื่อเสี่ยเดชาเห็นว่าอาฉางจะหาเงินมาใช้หนี้ตนได้ จึงส่งลูกน้องมากลั่นแกล้งจนทำให้โรงงิ้วไฟไหม้ การแสดงต้องยุติลง อาจูยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการให้ไปแสดงที่โรงหนัง และเขาเป็นคนช่วยเขียนบทการแสดง ทำให้ครอบครัวอาฉางพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ตันหยงทีแรกตั้งตนอคติกับอาจู คอยหาเรื่องกลั่นแกล้ง เกียรติกมล ล่าทา แสดงเป็น อาหลงและ คิดจะกระชากหน้ากากเขาตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นความดีของอาจูที่คอยช่วยเหลือครอบครัว ความรู้สึกเธอจึงเปลี่ยนไปและโอนเอนมาทางแอบชอบ ขณะที่ความรักของทั้งสองกำลังก่อตัวขึ้น ความลับที่อาจูปิดบังไว้มาตลอดก็ถูกเปิดโปงขึ้น เมื่อตันหยงจับได้ว่าอาจูเป็นนักเขียนนวนิยายในนามสำเภาทอง ทุกคนผิดหวังในตัวเขามากจึงไล่อาจูออกไปจากคณะ อาจูแอบไปดูคณะงิ้วซ้อมการแสดงที่โรงหนัง ช่วงนั้นคณะกำลังมีปัญหาเพราะตันหยงหายตัวไป อาฉางก็ป่วยหนักจนเข้า โรงพยาบาล อาจูเห็นว่าพ่อลูกทะเลาะกันจึงหาเหตุให้ตันหยงไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาล จนทำให้พ่อลูกสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ในวันเกิดอาหลงเขานัดปาหนันไปกินข้าว แต่ปาหนันผิดนัดปล่อยให้อาหลงนั่งอยู่ที่ร้านเพียงลำพัง จึงถูกเสี่ยเดชาและลูกน้องรุมทำร้ายจนขาหัก ไม่สามารถแสดงงิ้วได้อีก อาฉางจึงต้องตามตัวอาจูมาแสดงแทน ดาหลาจับได้ว่าพงษ์เลิศเป็นเกย์จึงขอหย่ากับเขา โดยนำลูกทั้งสองไปเลี้ยงเอง เจ้าสัวกำจรผิดหวังในตัวลูกชายมาก จึงไล่ออกจากบ้าน พงษ์เลิศตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกากับคู่ขา อาเชงรู้ความจริงว่าอาจูซื้อบ้านสวนเอาไว้ แทนที่จะดีใจกลับโกรธจัดเพราะเข้าใจว่าลูกชายไปทำงานผิดกฎหมาย จนดนัยต้องโพล่งความจริงออกมาว่า อาจูใช้เงินจากงานเขียนนวนิยายซื้อบ้านหลังนั้นไว้ และเหมยหลิงยังบอกอีกว่าอาจูเป็นคนออกค่ารักษาตัวให้เขา ไม่ใช่อาจิวและอาโจอย่างที่อาเชงเข้าใจ อาเชงฟังแล้วสะท้อนใจอย่างแรง เมื่อรู้ว่าลูกชังไม่เคยทอดทิ้งเขาเลย ผิดกับลูกรักทั้งสองที่ไม่เคยมาเหลียวแล อาเชงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน แต่ก็แอบไปดูการแสดงงิ้วของอาจูที่โรงหนัง และในที่สุดอาจูกับอาเชงก็ได้ปรับความเข้าใจกัน ปาหนันรู้ว่าอาจูมีใจให้ตันหยง จึงร่วมมือกับอาหลงหาทางให้คนทั้งสองได้สารภาพรักกัน อาจูถือโอกาสบอกรักตันหยงขณะที่แสดงงิ้วบนเวที สร้างความหวั่นไหวให้เธอไม่น้อย อาจิวถูกจับได้ว่ายักยอกเงินธนาคารจึงถูกจับเข้าคุก ให้อาโจมาประกันตัวแต่อาโจปฏิเสธเพราะกลัวพาดพิงมาถึงตน อาจิวโกรธพี่ชายมากจึงเขียนจดหมายไปบอกจรัสศรีว่าอาโจมีเมียน้อย จรัส ศรีพาลูกน้องไปยิงอาโจจนกลายเป็นอัมพาต อาเชงสงสารลูกชายจับใจจึงตัวมาดูแลที่บ้าน ตันหยงเรียนจบวิชาช่างมาแล้ว อาฉางจึงให้ทุนเปิดอู่ซ่อมรถตามความฝัน และให้ดูแลคิวการแสดงของคณะงิ้วฉางซิน ที่กำลังก้าวหน้าไปด้วยดี “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” ได้รับรางวัลงานเขียนนวนิยายดีเด่นประจำปี อาจูขึ้นไปรับรางวัลนี้ด้วยความภาคภูมิใจ ไม่นานนักเขาก็เริ่มงานเขียนชิ้นใหม่ในเรื่อง “คือวันที่ฉันรอ” โดยสำเภาทอง และมีตันหยงคอยให้กำลังใจอยู่ข้างกาย

รักซ่อนแค้น 2551

รักซ่อนแค้น (2551/2008) รักซ่อนแค้น เป็นเรื่องราวความรักที่เคยบริสุทธิ์ แต่แปรเปลี่ยนเป็นไฟแค้นที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่ง การรอคอย 15 ปีเต็มของ ปภพ ลูกชายของภูวดลเจ้าของโรงแรมก็มาถึง ปภพกลับมาทวงความยุติธรรมให้กับ ดุจดาว แม่ของเขาที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลบ้ามานานกว่าห้าปี ปภพเข้าใจว่า ดวงใจ แม่ของ น้ำหนึ่ง เป็นสาเหตุทำให้แม่ของตนเป็นบ้า ปภพจึงแค้นและเกลียดชังสองแม่ลูกคู่นี้ ยี่สิบปีก่อน ภูวดลกับมนตรีเป็นเพื่อนรักกันชนิดตายแทนกันได้ แต่วันหนึ่งมนตรีประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต ภูวดลจึงรับอุปการะภรรยาและลูกของมนตรีเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้ปภพและน้ำหนี่งในวัยเด็กสนิทกันมากจนกระทั่งปภพถูกส่งตัวไปเรียนเมือง นอก หลังปภพไปเรียน พ่อกับแม่ของปภพทะเลาะกันเรื่อยมา ภูวดลปรึกษาเรื่องนี้กับดวงใจจนกลายเป็นความรัก ภูวดลห้ามใจตนเองไม่ได้ จึงใช้กำลังทำให้ดวงใจตกเป็นเมียของตน ภูวดลบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ดุจดาวรู้ หลังจากที่ดุจดาวรู้ก็พยายามไล่ดวงใจออกจากบ้าน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะภูวดลคอยปกป้องอยู่ คืนหนึ่งดุจดาวออกไปเที่ยวแล้วเจอกับมงคล เซลล์แมนหนุ่มนักพนันที่มาหลอกเธอ ดุจดาวไปเที่ยวกับมงคลจนได้เสียกัน ภูวดลรู้จึงสั่งคนไปซ้อมมงคลทำให้มงคลต้องหนีและหายไป หลังจากนั้นภูวดลก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับดุจดาวอีกเลย เขาไม่หย่ากับเธอเพราะลูก ทำให้ดุจดาวเกิดความเครียดและบ้าในที่สุด ปภพสานความสัมพันธ์กับน้ำหนึ่งอีกครั้ง เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เขาขอน้ำหนึ่งแต่งงานตามคำสัญญาที่เขาให้ไว้กับเธอ ทำให้ภูวดลสงสัยปภพ เพราะปภพเกลียดดวงใจแม่ของน้ำหนึ่งมาก ปริมเพื่อนสาวคนสนิทลูกของเพิ่มลาภ เพื่อนของภูวดลอยากได้ปภพเป็นเขย ไม่พอใจที่ปภพจะแต่งงานกับน้ำหนึ่งจึงพยายามขัดขวางแต่ไม่สำเร็จ ปภพแต่งงานกับน้ำหนึ่ง น้ำหนึ่งตกเป็นของปภพ หลังจากคืนเข้าหอ ปภพก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ปภพบอกว่าเขาแต่งกับเธอเพราะต้องการแก้แค้นแทนแม่ และน้ำหนึ่งต้องตกเป็นทาสของเขาตลอดไป น้ำหนึ่งเสียใจและปวดร้าว มิหนำซ้ำ ปภพยังพาปริมเข้ามาทำงานในโรงแรม เพื่อแกล้งน้ำหนึ่ง ภูวดลรู้ว่าดุจดาวแกล้งบ้าเลยหาทางเปิดเผย ดุจดาวกลัวความจริงเปิดเผยเลยให้เพิ่มลาภจ้างคนมาฆ่าภูวดล แต่ภูวดลไม่ตาย เพราะ น้ำหนึ่งกลับมาเห็นคนร้ายเข้า คนร้ายหนีไป น้ำหนึ่งรีบพาพ่อไปส่งโรงพยาบาล แต่ภูวดลกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เตชาพ่อของตะวัน ทนายประจำตระกูลเปิดพินัยกรรม ภูวดลยกสมบัติให้น้ำหนึ่งทั้งหมด ทำให้ดุจดาวและปภพโกรธมาก ดุจดาวหาทางใส่ร้ายว่าน้ำหนึ่งเป็นคนทำร้ายภูวดล แต่ปภพกลับช่วยเธอเพราะรู้ว่าเธอไม่ได้ทำ ส่วนดุจดาวจ้างให้คนมาปิดปากน้ำหนึ่ง การไล่ล่าเกิดขึ้น ทำให้ปภพรถคว่ำ ความจำเสื่อม น้ำหนึ่งพาปภพมารักษาตัวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง น้ำหนึ่งไม่พาปภพกลับบ้าน เพราะว่าเธอต้องการรื้อฟื้นความทรงจำที่ดีระหว่างเขาสองคน ในที่สุดความทรงจำในวัยเด็กของปภพค่อยๆ กลับมาแต่ปภพก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ปภพกลับมาเป็นพี่ชายที่แสนดีของน้ำหนี่ง ความรักของทั้งคู่เริ่มสานต่อ ปภพและน้ำหนึ่งตกเป็นของกันและกันด้วยความเต็มใจ แต่ก็มาหยุดลงเมื่อปริมสืบรู้ว่าปภพและน้ำหนึ่งอยู่ที่ไหน ปภพกับน้ำหนึ่งจำต้องกลับบ้าน และเผชิญหน้ากับความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น ดุจดาวกับปริมเห็นความเปลี่ยนแปลงของทั้งคู่ ดุจดาววางแผนทำให้ปภพเข้าใจว่าปริมเป็นเด็กผู้หญิงในความทรงจำของปภพ แล้วแผนของดุจดาวก็สำเร็จ ปภพเข้าใจน้ำหนึ่งผิด เขาขอหย่ากับเธอ น้ำหนึ่งเสียใจมาก ปภพไม่เป็นอันทำอะไร เพิ่มลาภกับก้องเกียรติ คู่อริกับปภพเลยวางแผนหาทางยักยอกเงินของโรงแรม แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ราบรื่น เมื่อ ปภพความทรงจำกลับมา ระหว่างนั้นมงคล..หนุ่มนักพนันที่เคยมีอะไรกับดุจดาวซมซานกลับมาหลังจากที่ หายตัวไป มงคลมาไถเงินดุจดาว ดุจดาวจำต้องยอมเพราะกลัวปภพรู้ความจริง แต่พอมากเข้า เธอก็ทนไม่ไหว ดุจดาวจ้างคนไปฆ่ามงคล แต่มงคลกลับรอดตายมาได้หวุดหวิดจึงหาทางแก้แค้นดุจดาว ความสัมพันธ์ของปภพกับน้ำหนึ่งยังไม่ดีขึ้น เพราะดุจดาวและปริมพยายามใส่ไฟ น้ำหนึ่งยอมทนอยู่ในบ้านเพราะต้องการสืบเบื้องหลังของดุจดาว แต่สุดท้ายดุจดาวรู้เรื่อง จึงวางแผนฆ่าน้ำหนึ่งอีก เรื่องราวความรักความแค้นของปภพกับน้ำหนึ่งจะลงเอยอย่างไร รวมทั้งใครจะเป็นผู้ฉีกหน้ากากความร้ายกาจของดุจดาว ติดตามชม ความรักที่มาพร้อมกับความแค้นในละคร “รักซ่อนแค้น” ด้านพระเอก “พอล- ภัทรพล” ถึงกับเอ่ยปากว่าลัครเรื่องนี้หนักเอาการ “เรื่องนี้ค่อนข้างหนัก หนักที่สุดเรื่องนึงในชีวิต เพราะจะเป็นคนที่มีปม จะจำได้ว่าแม่ถูกพ่อทำร้ายทางจิตใจ จนเป็นบ้าโดนลากเข้าโรงพยาบาล เราเห็นภาพนั้น คนที่ทำให้แม่เราเป็นอย่างนั้นคือแม่นางเอก เราก็จะฝังใจแค้นเขามาตลอด พอโตจะกลับมาเอาคืน เวลาคุยกับพี่ผิน ผู้กำกับ เขาจะบอกว่าเหมือนเป็นคนเก็บกดตลอดเวลาแล้วพร้อมจะระเบิดตลอด เกือบๆ เป็นโรคจิตนิดๆ ด้วยซ้ำ เป็นคนจิตใจไม่คงที่เท่าไหร่ครับ” ส่วนนางเอก “แพท-ณปภา” เผยถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับโพลีพลัสอีกครั้งว่า “กับพี่พอลถือว่าสบายใจ เพราะเคยเจอกันมากันมาแล้ว สนิทกันแล้วพอส คือเรารู้ว่าพี่พอลสไตล์ไหน การพูด การทวน เหมือนเป็นคนรู้จักกันไปแล้ว กับที่งามก็อบอุ่นมากคะ เหมือนอยู่ในครอบครัว” แฟนๆ คอละครช่อง 3 อย่าพลาดชมการประกบคู่อีกครั้งของ พอล-แพท พร้อมนักแสดงคุณภาพอีกคับคั่ง ที่จะมาเชือดเฉือนอารมณ์กันในละครดราม่าเข้มข้นครบทุกรส “รักซ่อนแค้น”

ถึงร้ายก็รัก 2551

ถึงร้ายก็รัก (2551/2008) ดูเหมือนว่าไม่มีรักแท้ใดไม่พบอุปสรรค ความรักมักไม่มีความพอดีหรือลงตัวได้ง่ายๆ ปัญหาของศวินคือมนทิยา คู่หมั้นคนที่เหมาะสมและคู่ควร ปัญหาของลลนา คือพี่สาวร่วมสายเลือดที่หลงรักชายคนรักของน้องสาวและปัญหาใหญ่ที่ทั้งคู่มีร่วมกันคือ กษมา...เพื่อนรักเพื่อนเรียนเพื่อนคนที่ทั้งศวินและลลนา ผูกพันรักใคร่อย่างที่สุด กษมารักลลนา...รักอย่างไม่อาจยอมสูญเสียเธอให้ใครได้ เมื่อความรักแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น คนที่เคยรักกันหวานชื่น...อาจต้องกลายเป็นร้ายเหลือ รักอาจต้องกลายเป็นร้าย...แต่ถึงร้าย...ก็จะรัก