ตลาดน้ำดำเนินฯ รัก 2 2551

เรื่องย่อ : ตลาดน้ำดำเนินฯ รัก 2 (2551/2008) เมื่อว่าที่แม่ยายที่แสนจะงก แสบ เด็ด เผ็ด มัน ตาโตกับของกำนัล วางแผนเล่นเอาเถิดกับชายหนุ่มที่จะเข้ามาพัวพันกับลูกเลี้ยงซะจนหัวหมุนไปตามๆ กัน ชีวิตของหนุ่ม-สาว สองคู่ต้องเผชิญ ผจญกับโชคชะตาฟ้าลิขิตที่ทำให้ถูกตาโดนใจ แต่ทำไมส่งปัญหาแสบๆ คันๆ มาให้แก้ได้อย่างไม่ขาดสาย โดยผ่านผู้กุมชะตาที่แสนจะเป็นคนที่พกไว้ด้วยกลเม็ด เล่ห์เหลี่ยม บททดสอบสุดแสบ สุดฮา สุดงก จะว่าตลกก็ไม่ใช่ น้ำตาไหลก็ไม่เชิง พวกเขาจะลงเอยกันแบบไหน ต้องฝ่าฟันกับคู่ปรับในวัยเดียวกันอย่างไร ไม่ธรรมดาแน่ๆ แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวขี้เม้าท์ ที่ชื่อ “แม่กุหลาบ” ถูกฝรั่งจากอเมริกาที่มีลูกสาวติดมาด้วยอีกหนึ่งคน ตามจีบ ตามตื้อ จนบรรดาแม่ค้าท่าเดียวกันต่างก็ยุให้ลงเอยกันไปเถอะ เผื่อโชคดีมีโอกาสไปใช้ชีวิตต่างแดนกับเขาบ้าง ถึงขนาดเพื่อนๆ พาไปไหว้พระ ขอพร ขอให้พ่อฝรั่งรักจริง หวังแต่ง อยู่ครองคู่กันไปนานแสนนาน และก็ได้ผล “พ่อเคลิ๊ก” ทั้งรัก ทั้งหลงสาวไทย วิถีไทยแบบหัวปักหัวปำ ดำเนินชีวิตจนจะเป็นคนไทยไปซะแล้ว ยังความขัดใจมายังแม่กุหลาบเป็นอย่างยิ่ง ดูไม่มีวี่แววจะได้คิดได้ฝัน ไปเปิดร้านอาหารไทยในต่างแดน แม่ลูกสาวตาน้ำข้าวที่พ่วงมากับตาเคลิ๊ก แกก็อุตส่าห์เลี้ยงดูมาตั้งแต่ 9 ขวบ หวังว่าเมื่อโตเป็นสาวก็คงอยากจะกลับถิ่นฐานบ้านเดิม สหรัฐอเมริกากับเขาบ้าง แต่ก็เปล่าเลย “คัทลียา” หรือ “นังดอกเข็ม” ที่แม่กุหลาบเรียกติดปากมากกว่า เพราะหมั่นไส้ว่าไม่สมเป็นชื่อดอกไม้ต่างชาติเลย เหมาะจะเป็นไม้ไทยธรรมด๊า ธรรมดา แถมเห็นหน้าทีไร เป็นเสียบแทงความคิด ความฝันของเธออยู่ร่ำไป “คัทลียา (นังดอกเข็ม)” โตเป็นสาวเต็มตัว ทั้งคล่อง ทั้งไว แถมออกแนวทะโมนไพร เพื่อนฝูงมากมาย ทั้งรัก ทั้งชัง ด้วยเพราะสวย มีเสน่ห์ ปราดเปรียว ฉลาด ทันคน มือไว ปากไว มีส่วนผสมของพ่อฝรั่งกับแม่ใหม่ไทยได้อย่างสุดจะลงตัว หัวตลาด ท้ายตลาด ใครไม่รู้จักก็แย่แล้ว (รุ่นแม่ก็ทำชื่อเสียงเอาไว้ลั่นคุ้งน้ำตั้งแต่สาวๆ เรื่องราวของแม่กุหลาบ ขายก๋วยเตี๋ยว กับแม่อุไร ขายกาแฟ เบาซะที่ไหน) โตเป็นสาว ใครเห็นก็หมายปอง แต่ใครจะมาเป็นคู่ครอง ก็ต้องวัดที่ดวงชะตา ถ้าคู่กันแล้ว ทุกอย่างก็ต้องลงตัว ไม่มีใครเด่น ไม่มีใครด้อยไปกว่ากัน “จุ๊ย” เด็กหนุ่มวัยโตกว่า “ดอกเข็ม” ตอนประถมเคยอยู่โรงเรียนเดียวกัน ชอบเอาใจน้องด้วยการซื้อขนมครั้งละเยอะๆ แต่ต้องมีของแถมต่างๆ นานาตามที่ นายจุ๊ยขอ ดอกเข็มยอมบ้าง แกล้งกลับบ้างตามโอกาส เช่น ให้ถีบจักรยานแล้วตัวเองซ้อนท้าย เพราะเห็นว่าดอกเข็มเป็นเด็กแก่น แต่ก็น่ารัก น่าเอ็นดู ดอกเข็มยอมทำ แล้วก็ไปทำจักรยานล้มกลางทาง ตัวเองกระโดดทัน ส่วนจุ๊ยไม่ทันระวังตัว ทั้งรถ ทั้งคนล้มลงข้างทาง แถมจุ๊ยดันหน้าไปหน้าคว่ำกับโคลนเป็นที่ขบขันให้กับดอกเข็มไม่รู้ลืม หรือครั้งที่ดอกเข็มหลอกให้จุ๊ยไปเอาของแถมที่ปากทางเข้าบ้าน จุ๊ยไปตามนัด พอถึงที่นัดหมายใต้ต้นมะพร้าว ดอกเข็มที่ปีนไปรออยู่ข้างบน ก็ถีบลูกมะพร้าวลงมาตามแผน โดนนิ้วเท้าของนายจุ๊ยบวมตุ่ยไปหลายวัน เรื่องราวแสบๆ คันๆ อันน่าประทับใจของ น้องดอกเข็ม ถูกฝังไว้ในความทรงจำของนายจุ๊ย ว่าวันหนึ่งเรียนจบกลับมาอยู่บ้านจะต้องเอาคืน จบมหาวิทยาลัย ที่ต่างคนก็ต่างตั้งหน้าตั้งตาเรียนๆๆ ให้จบ เพื่อจะได้กลับบ้าน มีใบปริญญาไปแขวนโชว์แต่ละบ้านแถบนี้ ลูก-หลานมีดีกรีกันทั้งนั้น แต่ดูเหมือนว่าถูกปลูกฝังให้รักถิ่นไทยตลาดน้ำฯ จะทำมาค้าขายก็ใช้ผืนแผ่นดินที่มีมาให้เป็นประโยชน์ ไม่ต้องไปหวังใหญ่โตที่ไหนกับเขา จะเป็นพ่อค้า คหบดีซะส่วนใหญ่ ถ้าอยากโตขึ้นไปอีกก็สมัครเล่นการเมืองท้องถิ่นกันไป แต่เช้าตรู่ที่ตลาดน้ำ ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นเป็นปกติ เรือแน่นจนเกยกันเบียดกัน แม่ค้าต่อแม่ค้า แทบจะเอาพายฟาดกันให้ตายไปข้างหนึ่ง ไอ้ที่จอดเทียบท่ากันอยู่แล้ว ก็ไม่แพ้ ไม่น้อยหน้า มีปัญหา ท้าตบ ท้าตี เอาเส้นก๋วยเตี๋ยวโปะหัวกันไปเลย เวลาโกรธหรือโมโห มนุษย์หน้าไหนก็ไม่รู้จักกันแล้ว ดอกเข็ม กับเพื่อนซี้จอมแก่น เช้านี้ถูกแม่ค้ารุ่นเดียวกันแซวหนัก จนต้องเขวี้ยงเส้นหมี่ที่กำลังลวกอยู่ไปสังเวยปาก แล้วก็ขึ้นจากเรือมาตะลุยกันบนบก ชุลมุนวุ่นวายมองไม่เห็นหน้าคนแล้ว บังเอิญ นายจุ๊ยพาเพื่อนมาเที่ยว พลอยฟ้าพลอยฝน โดนลูกหลงจากดอกเข็มเต็มๆ แถมฝ่ายหญิงยังไถเถือกคิดว่านายจุ๊ยเป็นพวกเดียวกับฝ่ายตรงข้ามก็เลยไม่ยั้งมือ นายจุ๊ยหมั่นเขี้ยวสาวเจ้าก็เลยรับมือแบบขับเคี่ยว เผ็ดมัน ผลัดกันรับ ผลัดกันรุก แน่นอน ตัวถึงตัวแบบนี้ แม่ดอกเข็มของเราเสียเปรียบ เสียหน้าแน่นอน ทั้งโดนกอดรัด ทั้งโดนจับเขย่าตัว ถึงแม้จะเอาตัวรอดมาได้ แต่ก็ถูกเนื้อต้องตัวกันไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ชบา แม่ค้าส้มตำ ที่เคยเรียนห้องเดียวกับนายจุ๊ย จำนายจุ๊ยได้รีบปรี่เข้าไปหาแล้วก็แยกตัวออกไปจากกลุ่มชุลมุน ชบากับพวก 2-3 คน ช่วยดูแลบาดแผล หาน้ำ หาอาหาร ให้กลุ่มนายจุ๊ยได้อิ่มหนำสำราญตามประสา เขามาเยี่ยมเยือนเรือนชานต้องต้อนรับ น้ำซุป พ่อค้าหน้าหยก รุ่นเดียวกับนายจุ๊ย พายเรือข้าวมันไก่ลอยอยู่ห่างๆ ชะเง้อมองดู เหมือนเห็นคนคุ้นเคยตีกัน พอแน่ใจว่าเป็นายจุ๊ยก็เลยโทรหา ให้แวะมากินข้าวมันไก่ที่ท่าเรือด้วย คนโต สาวห้าว ขับ Taxi ป้ายดำ ไหว้พระภาวนาเช่นเคยก่อนออกจากบ้าน เพื่อขอให้มีลูกค้าต่างชาติเหมารถไปไกลๆ และเช้านี้ก็โชคดีจริงๆ หน้าโรงแรมเล็กๆ ที่เธอมักไปจอดรอรับลูกค้า มีชาวต่างชาติหนุ่ม-สาวเซอร์ 1 คู่ เรียกให้เธอพาไปตลาดน้ำดำเนินฯ แล้วช่วยพาท่องเที่ยวทางเรือตามหมู่บ้านด้วย คนโตดีใจ ตอบรับทุกอย่างแล้วไปลุยเอาข้างหน้า หวังว่าคงมีคนช่วยได้ นายจุ๊ย รับรู้เรื่องราวของ ดอกเข็ม จาก น้ำซุป จนอ๋อซะทุกสิ่งทุกอย่าง นึกสนุกใจใจว่าต้องตะลุยฝ่าด่านนายเคลิ๊ก กับแม่กุหลาบ แถมแม่อุไรอีกคนให้ได้ ด้วยพอจบม.ต้น เข้าต้องไปอยู่กรุงเทพฯ แล้วก็สอบติดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงห่างหาย ขาดการติดต่อจากรุ่นน้อง รุ่นพี่ตรงนี้ไปซะนาน กลับมาก็ต้องเจอกับสาวคู่ปรับในวัยเด็กอีกรูปแบบ รู้สึกประทับใจน่าค้นหาตามประสาหนุ่มสาวนั่นเอง คนโต แวะมาจอดที่ท่าเรือนายน้ำซุป พอดี 2 ฝรั่ง สนใจข้าวมันไก่ร้อนๆ ดูสะอาด ดูดี ก็เลยพากันสั่งรับประทาน คนโตได้ที ถามถึงท่าเช่าเรือพาฝรั่งเที่ยว น้ำซุปตกตะลึงในความห้าว ความเก๋ของสาวมาดเข้ม ตาโต ผู้มีอาชีพขับรถ Taxi ป้ายดำ ช่างเป็นผู้หญิงที่กล้าน่าดู น้ำซุปนั่งคิด นั่งนึกถึงเรื่องราวคนโตจนเพลิดเพลินว่าทำไมเธอต้องทำงานแบบนี้ แล้วมันมีอะไรอีกตั้งมากมายเป็นภาพคิดขึ้นมา โดยเฉพาะอันตรายต่างๆ ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเผชิญ ถ้าเธอไม่แน่จริง คงไม่ตัดสินใจทำงานขับ Taxi แน่ๆ เอาละซิ พ่อค้าข้าวมันไก่ เกิดหลงไหลสาวขับ Taxi เขาจะมีโอกาสเจอะเจอกันอีกแบบไหน ก็ไม่ธรรมดาซะแล้วสำหรับ นายน้ำซุป แม่กุหลาบ แม่อุไร ไหนๆ ก็พลาดหวัง ไม่ได้ไปเมืองนอกตามที่ฝันไว้ว่าจะเป็นหุ้นส่วนเปิดร้านอาหารไทยในต่างแดน ก็หันกลับมาขับเคี่ยวเอากับลูกสาวสุดสวย จอมแก่น จะต้องทำมาหากิน หาผู้ชายรวยๆ มาเป็นคู่ครอง สนองความต้องการที่จะโก้ จะหรู เลิกเป็นแม่ค้าลอยน้ำกับเขาให้ได้ จึงเป็นกลเม็ดเข้าแผนการคัดเลือกว่าที่ลูกเขยที่เหมาะสม จึงเป็นที่มาระหว่างคู่ปรับกับสมญานามที่ว่า ลูกเขยทีเด็ด พิชิตเผ็ดแม่ยาย หลายครั้งที่ แม่กุหลาบ แม่อุไร ช่วยกันคิด อยากได้โน่น อยากกินนี่ นายจุ๊ยก็แสนจะรู้ทันจัดหามาให้ ถูกใจบ้าง ขัดใจบ้าง แต่ก็ปลิ้นปล้อน กะล่อน เอาตัวรอดไปได้อย่างสนุกสนาน โดยมีว่าที่ลูกเขยเรียงคิวเข้าแถวกันส่งส่วยอวยแม่ยายที่ดูจะเป็นแถวหน้าก็มี นายจุ๊ย นายหัวปี คู่ปรับ คู่แข่ง คู่บู๊ คู่ซน ชีวิตของสองหนุ่มเหมือนอยู่บนสนามแข่งรถ ต่างฝ่ายต่างมีชั้นเชิง มีไหวพริบ ชิงดีชิงเด่น เพื่อหวังจะเด็ดดอกเข็มมาไว้ในครอบครอง จะธรรมดาไปได้อย่างไร สำหรับ นายจุ๊ย สาวเจ้าก็เข้ายากพอตัว ด้วยความที่มีวิธีคิดลองใจอันแสนจะพิสดารตามประสาสาวแก่นที่รักความสนุกสนาน ท้าทาย ใครไม่เข้าใจตามไม่ทัน มันก็ต้องยากส์กันหน่อย ด้วยความที่หนุ่มจุ๊ยไปอยู่กรุงซะนาน ทำให้ลืมวิถีชาวตลาดน้ำฯ ไปบ้าง แต่ก็ได้ น้ำซุป คอยลุ้น คอยเชียร์ และบอกพฤติกรรมส่วนตัวของดอกเข็มเป็นการพิเศษได้ นายจุ๊ยก็ได้เปรียบมีการเตรียมตัว และรับมือกับดอกเข็มได้เสมอ ถึงแม้จะเหนื่อยหนัก เลือดตกยางออก แต่เขาก็นึกสนุกไปด้วยแล้ว ชีวิตต้องต่อสู้ และเอาชนะกับอุปสรรค ปัญหา ฮา ฮา ของดอกเข็มให้ได้ “หัวปี” ลูกชายรูปหล่อของ เสี่ยป๊อด ทำฟาร์มกล้วยไม้อยู่ในแถบนั้น ก็ถูกตาต้องใจดอกเข็มมาตั้งแต่เรียนแล้ว แต่โอกาสเข้าหายาก เพราะเพื่อนๆ ของดอกเข็มเป็นกำแพงเต็มไปหมด ความพยายามของหัวปีมีมากขึ้น เมื่อดันมีคู่แข่งเป็นนายจุ๊ยที่หล่อกว่า เก่งกว่าหลายๆ ด้าน หัวปี เอาแต่ใจตัวเอง ออกจะไปรุกเร้าให้พ่อกับแม่ที่มีผู้คนนับหน้าถือตา ลุกขึ้นมาช่วยลูกชายบ้าง สร้างความปวดหัวเวียนเกล้าได้ไม่น้อย ทั้งปัญหาธุรกิจ ปัญหาส่วนตัว ปัญหาของลูก เสี่ยกับซ้อต้องหนีไปเที่ยวไกลๆ ลองใจให้เสี่ยน้อยอย่างนายหัวปีต้องหาวิธีแก้ปมปัญหาชีวิตเอาเองซะบ้าง เพราะกลัวว่าลูกจะอยู่บนโลกใบนี้ไม่ได้ด้วยตัวเอง เมื่อชบา แม่ค้าส้มตำ รู้ว่านายจุ๊ยมีใจให้ดอกเข็ม เธอแกล้งดอกเข็มแบบเนียนๆ หลายครั้ง เช่น ตำส้มตำสูตรพิเศษให้ดอกเข็มกินจนเข้าโรงพยาบาล รวมหัวกับเพื่อนร้านทำผม เป่าหูแม่กุหลาบจนหัวปั่นกับลูกเลี้ยงที่ถูกหาว่าไปมั่ว ทำตัวเป็นฝรั่งกับหนุ่มๆ อย่างหัวปี และเพื่อนๆ อยู่บ่อยๆ ชบาให้ร้ายใส่หลายอย่างด้วยสมองกล สั่งการให้คิด ให้พูดเรื่องเลวร้าย ทำลายดอกเข็มได้สารพัดอย่าง ด้วยรักริษยาของเธอสามารถทำให้ดอกเข็มเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่โชคก็เข้าข้างคนดี ดอกเข็มเอาตัวรอดมาได้ และทำให้คิดได้ว่า ชีวิตมีอะไรมากมายที่ทำเป็นเล่นไม่ได้ ต้องรู้จักโต รู้จักคิด วางแผน รู้ที่จะสู้และเผชิญ แม่กุหลาบ แม่อุไร พายเรือกลับบ้านเพลินๆ ไม่ทันระวังตัว ถูกดักปล้นทองในตัวที่เธอชอบใส่อวดความมั่งมีขึ้นมา บังเอิญอยู่ในคุ้งน้ำใกล้ๆ ที่น้ำซุปขายข้าวมันไก่อยู่ จึงช่วยชีวิต 2 แม่ที่เกือบจะถูกกดน้ำตายอยู่ตรงนั้นไว้ทัน ส่วนทองของนอกกายก็ต้องอุทิศให้โจรเอาไป บทเรียนสาหัสครั้งนี้ทำให้ 2 แม่ เบาเรื่องขี้คุย ขี้อวดลงไปได้ ฟาร์มไก่ ของนายจุ๊ยทำท่าว่าจะมีปัญหา เพราะถูกปล่อยข่าวจอมปลอมจากฟาร์มกล้วยไม้ของนายปี ว่าเกิดโรคระบาด เสี่ยตา พ่อนายจุ๊ยแทบจะล้มทั้งยืน เพราะลงทุนมาตรการป้องกันโรคระบาดไก่มามาก ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้น จะต้องฆ่าไก่ทั้งหมด เท่ากับว่าต้องเริ่มต้นลงทุนกันใหม่ นายจุ๊ยจับได้ว่าเป็นการใส่ความ โดยมีหลักฐานไปยืนยันเป็นเทปที่บันทึกไว้ในวงสุราที่ลูกน้องของนายปี พลาดคุยฟุ้งออกมาเมื่อสุราเข้าปาก ประกอบกับทางหน่วยราชการก็มาตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีโรคระบาดเกิดขึ้นตามคำบอกเล่า เรื่องก็ผ่านพ้นไปได้ แต่นายจุ๊ยไม่ปล่อยนายหัวปีไว้แน่นอน แค้นใหญ่ต้องชำระด้วยวิธีที่แยบยล ซึ่งไม่เกินความสามารถและความร่วมมือร่วมใจของฝ่ายที่เรียกว่า ลูกผู้ชาย อย่างนายจุ๊ย กับ นายน้ำซุป ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนกันไปก่อนระหว่าง นายน้ำซุป กับ คนโต ทำให้เขาสองคนได้มีส่วนช่วยเหลือกัน พึ่งพากันแบบบู๊ๆ ลุยๆ มากกว่าคู่ของนายจุ๊ย กับ ดอกเข็ม เพราะโจทก์ชีวิตต่างกันมาก ข้าวมันไก่บ้านๆ ของน้ำซุป ดูท่าจะมีคู่แข่งที่มีเงิน นึกอยากจะลงทุนทำอะไรก็ทำได้ เอาชื่อสูตรราชวงศ์เข้าข่ม แถมจะตั้งประกบคลองกันอีก คนโต ก็ช่วยไว้ได้ด้วยปัญญาของเขาทั้งสอง ทำให้สูตรบ้านดั้งเดิม ก็ยังคงอยู่คู่คลองดำเนินฯ ได้ต่อไป ส่วนเรื่องของคนโตก็ลำบากลำบนมากขึ้น เมื่อมีปัญหาจี้ปล้น Taxi อิจฉาในสายอาชีพ ถูกกลั่นแกล้งกลางทางด้วยสายตรวจปลอมๆ อยู่เสมอ จนต้องช่วยกันจับตำรวจปลอมชุดนี้ที่มักจะซุกปัญหาจากน้อยไปหามาก ถึงขนาดแจ้งว่าในรถของคนโตมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ กว่าจะเอาตัวรอดมาได้ ต้องอาศัยพวกพ้องของจุ๊ย น้ำซุป และดอกเข็มที่จับได้แล้วว่า มันน่าจะเป็นตำรวจกำมะลอแน่ๆ เขาทั้งสี่ เป็นเพื่อนรักที่คอยช่วยเหลือกันหลายๆ ด้าน เมื่อ คนโตอยู่ลำบากในกรุงเทพฯ เขาทั้งหมดช่วยกันจัดการโยกย้ายให้คนโตพาพ่อที่เป็นอัมพาตกับน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ ให้มาใช้ชีวิตที่ดำเนินสะดวก แล้วทุกอย่างก็สะดวกขึ้นจริงๆ บทพิสูจน์ความรักที่แท้จริงของพวกเขา พิชิตความรู้สึกที่ไม่ดีต่างๆ นานาของผู้คนที่รายล้อม และโยนขวากหนามเข้าไปขวางกั้นเป็นครั้งคราวให้ผ่านพ้นไปได้ในทุกสถานการณ์ เป็นอีกหลายๆ ชีวิตที่พัวพันเกี่ยวเนื่องเรื่องราวกันเอาไว้ในคุ้งน้ำแห่งนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ให้แง่คิดในการมีชีวิตในโลกใบนี้ มีทั้งรอยยิ้ม น้ำตา ปัญหาน้อยใหญ่ ให้ร่วมมือร่วมใจกันแก้ไข และทำให้ตื่นขึ้นมา สูดลมหายใจและเดินหน้าเผชิญต่อสู้ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยความรักในหลายๆ รูปแบบของทุกคนใน ตลาดน้ำดำเนินฯ รัก

พลิกฟ้า ล่าตะวัน 2551

พลิกฟ้า ล่าตะวัน (2551/2008) วิทธี นักวิทยาศาสตร์หนุ่มใหญ่ ตัดสินใจขัดขวางการทดลองการสรรหาพลังงานทดแทน โดยได้แอบขโมยแผ่นชิปหนีออกมาจากห้องทดลองของ องค์กรสุริยะ และหลบหนีไปพร้อมลูกสาว 3 คน แต่กลับถูกคนขององค์กรตามมาสังหาร วิทธีเลยตัดสินใจส่งลูกสาวคนเล็กให้ ยายอนงค์ หญิงรับใช้คนสนิทระหว่างการหลบหนี แต่พลังงานจากแผ่นชิปเกิดรั่วไหลและระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้วิทธีเสียชีวิต และลูกสาว 2 คนที่เหลือก็หายสาปสูญไปพร้อมกับพ่อ ทอรุ้ง คือสาวน้อยคนสุดท้องที่รอดชีวิตมา แต่เธอจำอดีตไม่ได้แม้แต่นิดเดียว รู้เพียงว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ และก็ทิ้งสร้อยล็อกเก็ตไว้ให้ ทอรุ้งเป็นคนแก่นกะโหลกแต่เธอก็รักเรียน แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการก่อตั้งชมรม รักษ์โลก ซึ่งทอรุ้งมีเพื่อนซี้อย่าง ลันเตา ชายหนุ่มเจ้าคารมยียวนคอยช่วยเหลือ และเขาก็รู้ว่าทอรุ้งมีความสามารถพิเศษที่คนอื่นไม่มีขนาด อาจารย์ด๋อย ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ เลยเรียกสิ่งนั้นว่าพลังจิต แต่แล้วชีวิต ที่สงบสุขของทอรุ้งต้องมาสั่นคลอนเมื่อ มีนา และ สายลม เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ครั้งแรกที่ทั้งสามคนพบกันก็เหมือนมีบางอย่างระหว่างกันซ่อนอยู่ ซึ่งมีนาและสายลมถูก เอวานอฟ ผู้ก่อตั้งองค์กรสุริยะส่งตัวเข้ามาสืบหาเป้าหมายในมหาวิทยาลัย ทุกครั้งที่มีนาโกรธแววตาเธอจะเป็นประกายเพลิง ส่วนสายลมเวลาจ้องมองรอบตัวเธอจะหนาวเย็นจับขั้วหัวใจ ความสัมพันธ์ของทั้งสามสาวดำเนินไปอย่างกระท่อนกระแท่น ซึ่งทอรุ้ง พยายามที่จะเป็นมิตรกับทุกคน ในขณะที่มีนานั้นปฏิเสธไม่รับมิตรภาพจากใคร แต่สายลมยอมเป็นมิตรกับทอรุ้ง เลยทำให้มีนาไม่พอใจ ส่วนการตามล่าเพื่อหาตัวหญิงสาวที่มีพลังวิเศษเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการรวมกลุ่มทดลองค้นคว้าขององค์กรสุริยะอีกครั้ง ซึ่งการรวมกลุ่มในครั้งนี้ทำให้บุคคลระดับอัจฉริยะหลายคนหายตัวไป ซึ่งแต่ละคนพบอีกครั้งก็กลายเป็นศพที่มีสาเหตุการตายแบบเดียวกันคือ หัวใจวายอย่างเฉียบพลันไอยวรินทร์ โอสถานนท์ แสดงเป็น ทอรุ้ง ทาง การเลยส่งให้ แผ่นดิน สารวัตรหนุ่มมารับผิดชอบคดีนี้ และหนึ่งในจำนวนเด็กอัจฉริยะที่ตายนั้นเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเดียวกับทอ รุ้งและลันเตา เลยทำให้แผ่นดินต้องมาสืบหาความจริงที่มหาวิทยาลัย แต่แล้วก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ทำให้ทั้งคู่ต้องมาร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกดีๆ ระหว่างทอรุ้งกับแผ่นดินก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ เช่นเดียวกับลันเตาที่แอบชอบมีนาตั้งแต่แรกพบ แต่กลับถูกปฏิเสธเสียงแข็งจากมีนา ซึ่งลันเตาก็ไม่ยอมแพ้ขอให้สายลม เป็นแม่สื่อให้ ทั้งๆ ที่สายลมก็แอบชอบลันเตาอยู่ ความรักของคนกลุ่มนี้ดำเนินไปพร้อมกับภารกิจตามล่าที่ทวีความน่ากลัวขึ้น เรื่อยๆ เมื่อแผ่นดินสืบจนได้เงื่อนงำสำคัญว่าตัวยาที่ฉีดเข้ากระแสเลือดของเด็ก อัจฉริยะเหล่านั้น คือตัวยาเดียวกันกับโรงพยาบาลชื่อดัง ซึ่งแพทย์หนึ่งในองค์กรสุริยะเป็นเจ้าของ แต่ยังไม่ทันจะได้สืบสาวราวเรื่อง แพทย์คนดังกล่าวก็ถูกฆ่าตัดตอนเสียแล้ว นั่นเป็นเวลาเดียวกันกับที่มีนาและสายลมจับได้ว่า คนที่เธอกำลัง ตามหานั้นคือทอรุ้ง เนื่องจากเอวานอฟเห็นว่าทั้งคู่เริ่มทำงานล่าช้าจึงส่ง โยชิดะ สมุนมือขวาที่แอบชอบมีนาอยู่ เข้ามาจัดการแทน ซึ่งโยชิดะก็ได้ขู่เอาชีวิตของนักศึกษาทั้งหมดเป็นตัวประกัน ทอรุ้งจึงแสดงความสามารถพิเศษของเธอออกมา โยชิดะไม่รอช้าพยายามจับตัวทอรุ้ง แต่แผ่นดินได้เข้ามาช่วยก็เลยเกิดการต่อสู้กัน ลันเตาและแผ่นดินพาทอรุ้งหนีกลับบ้าน โดยมีโยชิดะ มีนา และสายลมตามไปติดๆ แต่ก็หนีไม่รอดส่งผลทำให้สองตายายถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ก่อนสิ้นใจ ยายบอกกับทอรุ้งว่า “พลังอำนาจที่ทุกคนต้องการ มันอยู่กับตัวทอรุ้งมาตลอด” จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แผ่นดินได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยทอรุ้งไว้ แล้วทั้งคู่ก็พากันมาหลบที่เกาะแห่งหนึ่ง ทอรุ้งปรนนิบัติดูแลแผ่นดินอย่างดีจนเกิดเป็นความรัก และแผ่นดินก็ติดต่อกลับมาหาลันเตา เพื่อต้องการให้สืบหาข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับทอรุ้ง โดยส่ง กมล มาช่วยอีกแรง เอวานอฟเจ็บใจมากที่โยชิดะ มีนา และสายลมทำไม่สำเร็จ จึงลงโทษทั้งหมดด้วยการทรมานแสนสาหัส รังสิต ศิรนานนท์ – ปัณฑิตา เคาวเวลล์สาย ลมทนไม่ไหวจึงอยากถอนตัวจากภารกิจนี้แต่มีนาไม่ยอม ทางด้านลันเตาก็ไม่รอช้าร่วมมือกับอาจารย์ด๋อยและกมลสืบหาจนรู้ว่า สามสาวมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกัน จากหลักฐานกล่องเหล็กเก่าๆ ที่ถูกฝั่งอยู่ใต้พื้นบ้าน เป็นจังหวะเดียวกันที่สายลมตัดสินใจหนีออกมาจากองค์กรสุริยะ หลังจากแอบไปเห็นแผนการทั้งหมดของเอวานอฟ สายลมจึงหนีเอาชีวิตรอดมาที่บ้านของลันเตา เมื่อลันเตาเห็นสภาพของสายลมจึงตกใจมาก สายลมขอร้องว่าอย่าพาไปที่โรงพยาบาล เพราะ เอวานอฟครอบงำไว้หมดแล้ว สุดท้ายลันเตาจึงต้องคอยดูแลสายลม จากความสงสารเห็นใจเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความผูกพันที่ลันเตาไม่เคยรู้สึกมา ก่อน ทันทีที่เอวานอฟรู้ว่าทอรุ้งและแผ่นดินอยู่บนเกาะ จึงส่งมีนาและโยชิดะมาตามล่า ส่วนลันเตาก็เป็นห่วงเพื่อนจึงพากันมาช่วยที่เกาะ ทั้งหมดเผชิญหน้ากันสงครามย่อยๆ จึงเริ่มขึ้น ทำให้ลันเตาตัดสินใจบอกความจริงว่า ทั้งสามเป็นพี่น้องกัน มีนาถึงกับตกใจเมื่อได้รู้ความจริง แต่แล้วเอวานอฟก็สั่งให้ลูกน้อง จับตัวทั้งสามสาวไว้ ซึ่งทั้งสามตัดสินใจรวบรวมพลังของแต่ละคนเพื่อหนีออกจากห้องคุมขัง เอวานอฟเจ็บใจมากที่ทุกสิ่งทุกอย่างใกล้จะสำเร็จกลับต้องมาพังทลายลง เอวานอฟเลยตัดสินใจสร้างนักฆ่าขึ้น โดยโยชิดะขออาสาฉีดเลือดของสามสาวเข้าเส้นเพื่อถ่ายทอดพลังเอง เนื่องจากเจ็บใจที่ถูกมีนาปฏิเสธความรัก จนโยชิดะกลายเป็นนักฆ่าที่น่ากลัวที่สุด แม้แต่พลังของทั้งสามสาวก็ไม่สามารถทำอะไรโยชิดะได้ สุดท้ายทอรุ้ง มีนา และสายลม ก็ตกอยู่ในวงล้อมของเอวานอฟ แต่คราวนี้สามสาวไม่ใช่เป้าหมาย หากแต่เป็นแผ่นดินและลันเตา ซึ่งเอวานอฟยื่นคำขาด หากไม่สามารถหาแผ่นชิปมาได้ทั้งสองจะตายอย่างทรมานที่สุด จะต้องมาคอยลุ้นกันต่อไปว่าทั้งสามสาวจะหาแผ่นชิปเจอหรือไม่ และจะช่วยชีวิตของชายคนรักได้หรือเปล่า และจุดจบของโลกจะเป็นอย่างไร ติดตามบทสรุปทุกอย่างได้ในละคร “พลิกฟ้าล่าตะวัน”

เสน่ห์นางงิ้ว 2551

เสน่ห์นางงิ้ว (2551/2008) เสน่ห์นางงิ้ว ที่งานประจำปีของศาลเจ้าพ่อเสือปีนี้คึกคักมาก มีการจัดแสดงงิ้วถึงเจ็ดคืนติดต่อกัน ผู้คนต่างมาจับจองที่นั่งรอชมการแสดงงิ้วของคณะเหลี่ยนฮัว คณะงิ้วเก่าแก่ที่มี เจียง เป็นหัวหน้าคณะ แต่ขณะที่การแสดงกำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า หลังเวทีกลับวุ่นวาย เมื่อนางเอกงิ้วเกิดหนีตามผู้ชายไป อาจารย์หลอ ถึงตัดสินใจขอให้ บงกช หรือ บัว ขึ้นแสดงแทน ในบทของ “โม่งเจียงหนุ่ย” นางผู้ยึดมั่นในความรัก ร้องให้จนกำแพงเมืองจีนพัง เจียง ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกสาวเล่นงิ้วได้ แต่เมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องยอมให้บัวขึ้นแสดง บัว ขึ้นเวทีครั้งแรกด้วยความประหม่า และตื่นเต้น ยิ่งเจอกับเสียงหัวเราะจาก ชยุติ ชายหนุ่มนักเรียนนอกที่บังเอิญผ่านมาดูงิ้ว ก็ยิ่งทำให้บัวผิดพลาดมากขึ้น แต่ในที่สุด บัว ก็สามารถเอาตัวรอดแสดงงิ้วได้สำเร็จไปด้วยดี ผู้คนชอบใจในการแสดงของนางเอกหน้าใหม่ ความจริงแล้ว บัว เป็นลูกบุญธรรมของ เจียง เพราะเมื่อสิบปีที่แล้ว บัว กับ เกิ่ง ได้ช่วยกันพา เจียง หนีมาจากการถูกโจรจับเรียกค่าไถ่ ขณะที เจียง พาคณะมาเล่นที่โคราช กลุ่มโจรจึงกลับไปทำร้ายพ่อกับแม่ และย่าของทั้งบัวและเกิ่งจนตาย เจียง ซาบซึ้งในความมีน้ำใจของเด็กๆ จึงตัดสินใจรับเด็กทั้งสองคนเป็นลูกบุญธรรมพามาอยู่ที่กรุงเทพ และเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า บงกช และ ดำเกิง เจียง ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร คณะงิ้วเหลี่ยนฮัวเป็นเพียงคณะงิ้วเล็ก ๆ และความนิยมในการดูงิ้วในปัจจุบันก็ลดลง ทำให้คณะงิ้วของ เจียง ไม่ได้มีงานมากนัก บัว แอบฝึกงิ้วกับ อาจารย์หลอ อยู่เสมอ โดยที่ เจียง ไม่รู้ เพราะ เจียง อยากให้ บัว ตั้งใจเรียนมากกว่า บัว ไม่ทำให้ เจียงผิดหวัง ตั้งใจเรียนจนสามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยปิดเก่าแก่มีชื่อเสียงได้ ในขณะที่ เกิ่ง ไม่ยอมเรียนต่อขอแสดงงิ้วเป็นตัวประกอบเล็กๆ แทน เพื่อไม่ให้เจียงต้องรับภาระค่าใช้จ่ายมากนัก และยังออกไปรับจ้างทำงานต่างๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนของบัวเพิ่มเติม การเสียสละของเกิ่งครั้งนี้ ทำให้บัวซาบซึ้งในน้ำใจของเกิ่งเป็นอย่างยิ่ง นางเหวียน แม่ของธานีแวะมาเยี่ยมเจียงที่บ้านในฐานะคนเคยรู้จักกัน เมื่อเห็นบัวจึงคิดทาบทามให้ธานี เหวียนออกอุบายให้ธานีได้เจอกับบัว ด้วยการชวนธานีไปดูงิ้วที่บัวแสดง ธานีไม่ชอบดูงิ้ว แต่ขัดใจแม่ไม่ได้จึงจำเป็นต้องไป ทำให้เจอกับชยุติเพื่อนเก่าสมัยเรียนเมืองนอก ชยุติจึงรู้ว่ายิ่งจันทร์ทำงานกับธานี ธานีเจอบัวในสภาพของนางงิ้วที่แต่งหน้าหนาเตอะ ทำให้รู้สึกไม่ชอบบัว ใน งานวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของยายมาลัว วลีกับวิลัยแข่งกันจัดงานใหญ่โตเชิญแขกเหรื่อมากมาย จ้างดารา นักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาในงาน แต่มาลัยต้องการเอาคณะงิ้วเหลี่ยนฮัวมาแสดง วลีกับวิลัยไม่ชอบนักแต่ก็ขัดมาลัยไม่ได้ ทำให้ชยุติได้เจอกับบัวอีกครั้ง และรู้ว่าบัวกับนางเอกงิ้วเป็นคนเดียวกัน ชยุติเอาดอกไม้ไปให้บัวถึงหน้าเวที บัวรับมาอย่างอดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้ เกิ่งมองดูอย่างไม่พอใจ ก่อนการแสดงเพียงไม่กี่วัน พระเอกงิ้วของคณะลาออกไปอย่างกะทันหัน เพราะไม่อยากทนกับความลำบากอีกต่อไป ทำให้เจียงต้องตัดสินใจแสดงเอง ด้วยสุขภาพที่ไม่อำนวย ทำให้เจียงเป็นลมคาเวที อาจารย์หลอจึงให้เกิ่งมารับบทพระเอกแทน เกิ่งดีใจมากที่ได้เป็นพระเอกคู่กับบัว ยายมาลัยติดตามดูคณะเหลี่ ยนฮัวมาตลอด ทำให้ชยุติได้เข้ามารู้จักกับงิ้วคณะนี้มากขึ้นและได้เจอบัวมากขึ้น รวมทั้งรับรู้ปัญหาต่างๆ ในคณะ โดยเฉพาะสุขภาพของเจียงที่แย่ลงทุกที ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างบัวกับชยุติก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความไม่พอใจของเกิ่ง ทั้งสองคนหนีไป อยู่ต่างจังหวัดหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข แต่กลับโชคร้าย เมื่อเงินที่ยายมาลัยแอบให้ชยุติมาตั้งตัวกลับหมดสิ้นไปในกองเพลิง ทั้งชยุติและบัวจึงต้องช่วยกันดิ้นรนทำงานหาเงินเลี้ยงตัว ถึงแม้ความเป็นอยู่จะลำบาก แต่ทั้งคู่ก็ไม่ย่อท้อ เพราะความรักที่มีให้แก่กัน วลีออกตามหาชยุติจนเจอ จัดการจ้างคนให้โปะยาสลบพาชยุติกลับไป และบอกให้บัวรู้ว่ายิ่งจันทร์ท้อง ชยุติจะต้องกลับไปรับผิดชอบ ขอให้บัวเห็นแก่เด็กในท้องปล่อยชยุติไป บัวเสียใจมากซมซานกลับมาที่คณะงิ้ว ขอโทษเจียงและตั้งใจจะฟื้นฟูคณะงิ้วขึ้นมาใหม่ คณะงิ้ว เหลี่ยนฮัวได้รับการติดต่อให้ไปแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรม เจียงกับอาจารย์หลอดีใจมาก ช่วยกันปรับบทและเพิ่มเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ดูสนุกขึ้น การแสดงประสบความสำเร็จ ได้รับคำชมทั้งจากสื่อมวลชน และคนดูอย่างท่วมท้น ชยุติกับบัวมาพาตัววลีกลับไปดูแลที่โรง งิ้ว และช่วยมาลัยออกมาจากบ้านจนได้ อาการของวลีค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากบัว ในที่สุดวิลัยก็โดนหุ้นส่วนคนใหม่หักหลังหลอกให้ทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ จนประชาชนแห่กันมาฟ้องร้องเอาเรื่อง ทิ้งให้วิลัยรับผิดชอบหนี้ก้อนใหญ่เพียงคนเดียว วิลัยหนีไปกบดานและพยายามติดต่อกนกวิภาให้เอาเงินไปให้ แต่กนกวิภาบอกพวกวลีให้รู้ ทั้งหมดจึงไปหาวิลัย มาลัยตัดสินใจถอดกำไลทองสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ใส่ติดตัวมาตลอดออกมาให้วิลัย ณ วินาทีนั้นเอง วิลัยเพิ่งจะตระหนักได้ถึงความรักของแม่ รู้สึกสำนึกผิด วลีเองก็ถึงกับจะยอมรับผิดแทนวิลัย วิลัยกราบขอโทษแม่และพี่ขอชดใช้กรรมที่ทำมาทั้งหมดในคุก วลียอมรับบัวเป็นลูกสะใภ้ เพราะเห็นในความกตัญญูที่บัวมีมาตลอด เกิ่งแต่งงานกับกนกวิภา บัวกับชยุติช่วยกันพัฒนาคณะงิ้วเหลี่ยนฮัวให้เป็นที่นิยมยิ่งๆ ขึ้น และสนับสนุนให้ลูกหลานชาวจีนมาฝึกงิ้ว มาลัยกับวลีกลับกลายเป็นผู้อุปภัมถ์คณะงิ้วเพื่อให้ศิลปะเก่าแก่คงอยู่ต่อไป และเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ

สู่แสงตะวัน 2551

สู่แสงตะวัน (2551/2008) ชีวิตของนภา (ชฎาพร รัตนากร)นักการเมืองหญิงอนาคตไกลมีสร้อย (จารุวรรณ ปัญโญภาส)ผู้เป็นแม่ขีดเส้นทางและเป็นผู้พรากเธอจากลูกฝาแฝดชายหญิงตั้งแต่แบเบาะ แถมยังทำให้พี่น้องต้องพลัดพราก ความเข้าใจผิดว่าแม่ไม่รักผลักดันให้กานต์ (ธนพล นิ่มทัยสุข) ทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้น ทั้งเข้าสมัครเป็นส.ส.พรรคคู่แข่งของนภาในนาม จันทรกานต์ และการจับตัวลินิน (เขมนิจ จามิกรณ์) ทายาทนักธุรกิจผู้แสนเย็นชา คู่หมายของชลกร (ชนะพล สัตยา) ลูกติดสามีใหม่ของนภาไปกักขัง แต่ด้วยต่างมีปมเรื่องครอบครัวทำให้หนุ่มสาวเห็นใจกันจนก่อเกิดเป็นความรัก เมื่อกานต์รู้ว่ารวิ (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ซึ่งทำงานในบ้านนภาคือพี่สาวฝาแฝดของตนก็พยายามพูดให้รวิเกลียดนภา แต่กลับเป็นรวิที่ให้แง่คิดกับกานต์ แถมเธอยังช่วยให้ชลกรเลิกทำตัวเสเพลหันมาช่วยทำงานและทำให้เขาได้รู้จักรักแท้ กานต์ลังเลในตอนแรกก่อนจะตัดสินใจเดินหน้าเปิดโปงความเลวร้ายที่นภาทอดทิ้งลูกจนเป็นกระแสสังคม แต่แล้วสร้อยก็ออกมายอมรับผิดและทำให้แม่ลูกเข้าใจกัน นภายุติบทบาททางการเมืองมาเปิดมูลนิธิเพื่อเด็กกำพร้าร่วมกับลูกๆ ขณะที่ กานต์ต้องตามง้อลินินอยู่นานกว่าที่ลินินจะหายโกรธเรื่องที่เขาเคยเห็นเธอเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมแก้แค้น

คมแฝก 2551

คมแฝก (2551/2008) เรื่องราวของ กัลป์ เกรียงไกร นายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลผู้ต้องติดคุกนานถึง 10 ปี เพราะถูกใส่ความว่าฆ่าคนตาย และ 10 ปีให้หลังเขากลับมาพร้อมไม้คมแฝกเพื่อกลับมาสะสางความแค้นที่มีต่อ แสน ราชสีห์ เพื่อนของกัลป์ซึ่งใส่ร้ายเขาจนทำให้เขาต้องติดคุก และได้กลายมาเป็นผู้มีอิทธิพลซึ่งเข้าครองเมืองพลในเวลาต่อมา

เสี่ยงลวงเสี่ยงรัก 2551

เสี่ยงลวง เสี่ยงรัก (2551/2008) ศรัณยา ( ซินดี้ ) ลูกสาวของ ประสงค์ เจ้าของกิจการโรงภาพยนตร์ มหาเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองไทย เธอฝันร้ายและ ตุ๊กตาทอง รางวัลการแสดงภาพยนตร์ที่แบงค์ให้เธอตก แบงค์อยู่ในใจซินดี้ตลอดมา เพราะเมื่อ 5 ปีก่อน แบงค์อายุ 10 ขวบขายพวงมาลัยตามสี่แยก ได้ช่วยเธอจากผู้ร้ายขโมยเด็ก ทั้งคู่เคยติดต่อกันอยู่พักหนึ่งจดหมายสุดท้ายที่ซินดี้ได้รับแบงค์บอกว่า เขาเป็นลูกบุญธรรมชาวออสเตรเลียแล้ว 8 ปีผ่านไปจากวันเครื่องบินตก ต๊อบมีความสุขสุดๆ ในคฤหาสน์ของพ่อแม่บุญธรรมของแบงค์ และอยู่ๆ ก็เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ว่า น้องแบงค์กลับมาแล้ว ต๊อบรู้สึกเหมือนโลกถล่ม ที่กองถ่ายภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ มาวิน ( น้องแบงค์ตัวปลอม ) นั่งเครียดที่ต้องกลายเป็นสิบแปดมงกุฎแหกตาคนทั้งประเทศ มาวินแค้นตัวเองที่หลงการพนัน ทำให้เขากำลังจะสูญเสีย สินสมุทร สมบัติชิ้นสุดท้ายให้แก่ เชษฐา เพื่อนที่เขาไว้ใจที่สุดแต่กลับหักหลังเขา

นางทาส 2551

นางทาส (2551/2008) เย็น ถูกพ่อแม่นำมาขายให้กับ คุณหญิงแย้ม ตั้งแต่อายุ 15 ปี ตกอยู่ในความปกครองของทาสหญิงชราชื่อ นางฟัก ดูแลฝึกหัดให้สันทัดงานผู้ลากมากดี ภายหลังคุณหญิงก็เรียกให้ไปรับใช้บนเรือน เพราะเย็นผิวพรรณหมดจดหน้าตาสะสวย เมื่ออายุยี่สิบปีจึงได้ชื่อว่าเป็นอนุภรรยาคนหนึ่งของ พระยาสีหโยธิน เย็นไม่ลืมว่าตัวตกเป็นของบุรุษผู้มีอายุคราวบิดามารดา เพราะความกลัวเกรงบุญบารมีหาใช่เพราะสมัครรักใครไม่ กระนั้นเย็นก็ตั้งหน้าสามิภักดิ์โดยสุจริต เจ้าคุณเมตตาเป็นพิเศษ จึงก่อให้เกิดริษยาในหมู่เมียน้อยด้วยกัน เย็นอายุน้อยกว่าเขาทั้ง นั้น ซ้ำมีชื่อว่าเป็นทาสมาแต่เดิมก็สงบเสงี่ยมเจียมตัว คุณหญิงจึงเอ็นดูกว่าอนุภรรยาคนอื่นๆ แปลกแสนแปลกด้วยเมื่อปีหนึ่งล่วงไป คุณหญิงและเย็นก็มีครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าคุณตื่นเต้นดีใจเท่าไหร่ เย็นก็ถูกริษยาจากเพื่อนเมียน้อยเท่านั้น เย็นรู้ว่าถ้าเย็นเป็นมารดาลูกของเจ้าคุณ ก็อาจถูกใส่ความว่าประพฤติชั่วกับชายอื่น มันหมายถึงอันตรายยิ่งใหญ่ทีเดียว แต่โชคดีที่คุณหญิงตั้งครรภ์ด้วย หลังจากแต่งงานมานาน เมื่อเวลาใกล้กำหนดคลอด เจ้าคุณมีราชการต้องไปค้างอยู่ต่างจังหวัดมีกำหนดสามสิบวัน และก่อน หน้าที่จะกลับสิบสองวัน คุณหญิงแย้มก็ได้คลอดลูกชายและเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น ซึ่งพร้อมกับเย็นให้กำเนิดเด็กหญิง โดยมิคาดฝัน นางฟักก็มาบอกว่า คุณหญิงขอเปลี่ยนเอาลูกของเย็นไปเป็นลูกของท่าน ให้เย็นรักษาเป็นความลับไว้ตลอดอายุ และให้รางวัลอย่างงาม เย็นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ใจหนึ่งนั้นหวงแหนเลือดในอก ปรารถนาจะได้โอบอุ้มเลี้ยงดูเองให้สมกับอุ้มท้องมาเกือบเต็มขวบปี แต่อีกใจหนึ่งนั้นหวั่นกลัวอำนาจอันยิ่งใหญ่ของภรรยาหลวง ไม่แน่ว่าการปฏิเสธจะเกิดผลร้ายแก่ตัวสักแค่ไหน แต่นางฟักชักแม่น้ำ ทั้งห้าหว่านล้อม อ้างว่าเพื่ออนาคตอันสดใสของลูก เป็นลูกคุณหญิงต้องดีกว่าเป็นลูกของนางทาสแน่นอน แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเจ้าคุณก็ตาม เย็นจึงยอม ค่ำวันนั้นคนในบ้านก็รู้ทั่วกันว่าลูกของเย็นตาย ส่วนลูกของคุณหญิงรอดชีวิตเป็นผู้หญิง เจ้าคุณกลับมาบ้านตามกำหนด ครั้นทราบว่าลูกของเย็นเป็นชายแต่ตายเสียก็บ่นเสียดาย ส่วนคุณหญิงได้รับการเอาใจใส่อย่างดีเลิศ ทารกซึ่งได้ตำแหน่งธิดาคุณหญิงแย้มเติบโตรวดเร็ว ผิวพรรณผ่องใส เป็นที่รักของเจ้าคุณและคุณหญิงผู้ตั้งตนเป็นมารดาอย่างยิ่งกบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เย็น ได้ให้น้ำนมได้อุ้มชูเลี้ยงดูโดยคำสั่งของคุณหญิงเป็นบางครั้ง ซึ่งทำให้เย็นเก็บความชื่นชมเสน่หาบุตรสาวอยู่กลายเป็นของคนอื่นไว้คนเดียว ท่านเจ้าคุณยังคงรักและเมตตาเย็น พร้อมทั้งมีความหวังว่าเย็นอาจจะมีลูกให้ท่านอีก เพราะอนุภรรยาอื่นๆ ไม่ปรากฎว่าใครจะตั้งครรภ์เลย จนในวันหนึ่ง ทิดยืน พี่ชายของเย็นมาบอกว่าพ่อเจ็บ แม่ให้มาขอขึ้นค่าตัวเย็นไปรักษาพ่อ เย็นไม่กล้าให้พี่ชายเอ่ยปากกับท่านเจ้าคุณ จึงให้ตะกรุดทองซึ่งเจ้าคุณให้ผูกตอนตั้งท้องไปแทน แต่การณ์กลับเป็นผลร้ายแก่เย็น ด้วย บุญมี อนุภรรยาของเจ้าคุณที่ริษยาเย็นอยู่ ได้กล่าวโทษฟ้องว่าเย็นคบผู้ชายถึงให้เป็นสิ่งของกัน เย็นจึงโดนหวายเฆี่ยนเจียนตาย และถูกถอดลงมาเป็นนางทาสตามเดิม เย็นต้องมาเป็นลูกมือนางในคนครัว ตำน้ำพริก ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว หุงข้าว ผ่าฟืน ล้างถ้วยชามรามไห แล้วแต่นางในจะใช้ เหนื่อยสายตัวแทบขาด ที่ร้ายที่สุดคือห่างเหินลูกรักชนิดสุดเอื้อม กระนั้นก็ตามเย็นก็คอยหาโอกาสแอบเข้าไปใกล้ชิด อุ่นเรือน ( คุณหนูแดง) อยู่เสมอจนวันหนึ่ง วันที่เย็นเข้าไปหา นางพุ่ม พี่เลี้ยงคุณแดง อุ้มคุณแดงเชยชม ก็ปรากฏว่าสร้อยข้อเท้าคุณแดงหายไป นางพุ่มระบุว่าเย็นมาอุ้มคุณแดง เย็นจึงถูกเฆี่ยนเป็นครั้งที่สอง จนคุณหญิงสงสารหยิบสร้อยเส้นใหม่ออกมาและบอกว่าหาพบแล้ว เย็นจึงรอดพ้นจากอาญาไปได้ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าคุณก็สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เย็นเข้าใกล้อุ่นเรือน เวลาผ่านไปตามลำดับอุ่นเรือนโตเป็นสาวแรกรุ่นจำเริญตา ในขณะที่เย็นร่างกายเสื่อมโทรมไปเพราะงานหนัก ผิวพรรณด้านหลังงองุ้ม ผมหงอกเกือบทั่วศีรษะ วันหนึ่งขณะที่เย็นกำลังพักผ่อน หลังจากทำงานในครัวอย่างหนัก ก็ได้ยินเสียง นางสาลี่ อนุภรรยารุ่นเก่าคนหนึ่งของเจ้าคุณ และอีทาสหน้าตาขี้ริ้วชื่อ แอบ นัดแนะกันจะล่ออุ่นเรือนมาให้ ทิดคล้อย ซึ่งอดีตเป็นพระนักเทศน์ตัวลือ เย็นตกใจแทบสิ้นชีวิต เฝ้าตรึกตรองหาทางป้องกันอุ่นเรือนจนกระทั่งถึงวันนัด เย็นไปดัก ณ ที่นัดพบเพื่อห้ามอุ่นเรือน อุ่นเรือนโกรธจัดถึงกับตบหน้าเย็น แต่เย็นไม่ฟังเสียงเฝ้าวิงวอนจนถึงกับต้องยื่นคำขาดว่า จะขัดขวางถึงตายก็ยอม เมื่อสาลี่มาถึงรู้ว่าความแตกแล้วก็กรีดร้องขึ้นเต็มเสียงว่า เย็นพยายามแย่งของจากอุ่นเรือน อีกครั้งหนึ่งที่นางทาสถูกโบยจนสลบคาหวาย ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่มแต่ คำน้อยมิได้หลุดจากปากเพราะรู้ว่าคือโทษหนักต่อลูกรัก จนในที่สุดอุ่นเรือนทนไม่ได้ต้องสารภาพกับคุณหญิง เย็นจึงรอดพ้นจากหวายลงหลังซ้ำสอง สิ่งที่ได้ตอบแทนคือคุณหญิงพาอุ่นเรือนมาขอโทษเย็นถึงเรือนพัก อุ่นเรือนร้องไห้จนตัวโยน จับมือเหี่ยวแห้งมากำไว้ขณะที่กล่าวคำขอโทษ เย็นจูบปลายเท้าลูกน้ำตาไหลพรากเมื่อตอบว่า ถึงบ่าวจะตายเพราะช่วยคุณก็ไม่เสียดายชีวิต เพราะบ่าวรักคุณเหลือเกิน คุณหญิงบอกความจริงเจ้าคุณ และวันรุ่งขึ้นเมื่อใกล้พลบ ใต้ถุนหอนั่งก็มีการเฆี่ยนกันอีก ครั้งนี้คือสาลี่กับนางแอบ หลังจาก นั้นสาลี่ก็ถูกถอดลงทำงานตักน้ำผ่าฟืนข้างล่าง หลังจากนั้นไม่นานด้วยเดชะพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่แห่งพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ ซึ่งมีต่อพสกนิกรแห่งพระองค์ ได้ทรงออกพระราชบัญญัติประกาศให้เลิกทาสทั่วพระราชอาณาจักร ปวงประชาราฎร์ทั้งหลายต่างชื่นชมโสมนัส สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้เป็นล้นพ้น แซ่ซ้องสรรเสริญทั่วทุกหลังคาเรือน พระอารามทั่วไปเคาะระฆังแสดงความปลื้มปิติ และเป็นความหมายให้สำเนียงนี้อุโฆษขึ้นไปถึงเทพยดาเจ้าเบี้ยงบนฟากฟ้าโน่น ตาม เคหะสถานท่านผู้มีทาสใช้สอย บางรายก็เสียดายอำนาจซึ่งหลุดลอยไป บางแห่งก็ยินดี โดยเฉพาะพระยาสีหโยธิน เจ้าคุณโสมนัสชื่นชมเป็นที่ยิ่ง ประกาศให้ทุกคนในบ้านมีการรื่นเริงได้เต็มที่ ปัจจุบันนางทาสเย็นไม่ต้องทำงานหนักตรากตรำแล้ว คุณหญิงให้นั่งดูแลหอนั่ง เย็นค่อยแจ่มใสอ้วนท้วนนุ่งห่มสะอาดนัยน์ตา มีโอกาสได้พบปะใกล้ชิดลูกโดยไม่มีใครรังเกียจ แม้ฝ่ายอุ่นเรือนเองจะไม่รู้จักว่าเป็นแม่ ตามวิสัยของมารดากับบุตร ย่อมมีสัมพันธ์ทางสายโลหิตใกล้ชิดอยู่เสมอ อุ่นเรือนจึงรักเย็นมาก เจ้า คุณเคยปรารถกับตัวเองว่า เย็นเป็นคนดีพอใช้ เสียแต่ใจมันรักชั่วเห็นคนเลวดีกว่าพระยาอย่างเรา ไม่งั้นป่านนี้กินนอนกันสบาย และวันที่ความจริงปรากฏขึ้นก็มาถึง เมื่อทิดยืนพี่ชายมาหาเย็นพร้อมทั้งเงินค่าไถ่ ความจริงเปิดเผยว่าผู้ที่เจ้าคุณคิดว่าเป็นชู้ของเย็นเมื่อเกือบยี่สิบปี ก่อนนั้นคือ พี่ชาย เจ้าคุณอึ้งไปด้วยสำนึกในความผิด ทั้งเสียใจและเสียดายความหลังเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางใดจะแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ ได้แต่ขออโหสิต่อเย็นอยู่ในใจ เย็นมีชีวิตเป็นสุขขึ้นมาก ความดีทุกอย่างปรากฏขึ้นแล้ว แต่ความจริงที่อุ่นเรือนคือบุตรสาวที่แท้จริงของเย็น จะปรากฏหรือไม่ คอยติดตามชมกันต่อไปในละคร นางทาสป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก

วิมานมังกร 2551

วิมานมังกร (2551/2008) ลัลล่า สาวสวยทายาทรุ่นที่ 6 ของตระกูลชุน กลับมาบ้านครั้งแรก หลังจากแม่พาไปซ่อนตัวที่แคนาดา เพราะพ่อถูกฆ่าตายอย่างไร้ร่องรอย ที่เมืองไทย ลัลล่าได้พบกับ พินธุ ชายหนุ่มที่คอยช่วยเหลือเธอให้รอดจากอุบัติเหตุหลายครั้ง ทั้งคู่ถูกชะตากันและกัน จนกระทั่ง เสี่ยสาม ผู้เป็นอา พาลัลล่าเข้ามากราบ อาม่า ความริษยาเกิดขึ้นทันที เมื่อ จึงลิ้ม ได้พบพี่สาวต่างมารดา ในวันแซยิด อาม่า ให้สร้อยไข่มุก ลัลล่า จึงลิ้ม กระชากสร้อยออกจากคอพี่สาว และยังมีเหตุการณ์ ซ้อสี่ ถูกปองร้ายจนตกบันได ลัลล่ายิ่งเบื่อหน่ายการแย่งชิงมรดกเลือดของตระกูล ก่อนจะกลับแวนคูเวอร์ ลัลล่าแวะดำน้ำ แต่อากาศในถังหมด พินธุ มาช่วยแบ่งอากาศหายใจ และพาลัลล่าขึ้นผืนน้ำอย่างปลอดภัย เงามืดที่กระหายมรดกเลือดยังตามวนเวียนปองร้ายลัลล่า ลำภู แม่ลัลล่าโดนจับ ลัลล่าช่วยชีวิตแม่ไว้ไม่ได้ เธอหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เมืองไทย ยกเว้นพินธุคนที่รักจริงใจกับเธอ พินธุ ขอ ลัลล่าแต่งงาน ลัลล่าตอบตกลงท่ามกลางเสียงคัดค้านจากตระกูลชุน ลัลล่ากับพินธุไม่สนใจ แถมยังรับ ลมเพ ลมพัด สองเด็กน้อยกำพร้าจากเหตุการณ์สึนามิมาเป็นลูกบุญธรรม ลัลล่าตัดสินใจอยู่เมืองไทยต่อเพื่อเลี้ยงเด็กทั้งสอง และร่วมชีวิตกับพินธุ ปี่ โป้ย ญาติผู้น้องชอบอัธยาศัยลัลล่า จึงขอเสี่ยสอง และเสียสี่ ชวนลัลล่าให้ช่วยงานในตระกูล ลัลล่าตอบตกลง เพราะกำลังคิดเรื่องตามหากระดูกพ่อ เพื่อมาทำพิธีที่ฮวงซุ้ยภูเขาไข่มุกตามประเพณี แต่เกิดอุบัติเหตุเอาชีวิตลัลล่าหลายครั้ง พินธุรบเร้าให้ลัลล่าไปอยู่เมืองนอก ลัลล่าไม่ไป เพราะพบเงื่อนงำการโกงในบริษัท จึงลิ้มเองก็คอยตีสองหน้าแอบมาหาพินธุลับหลังลัลล่าบ่อยๆ ทั้งๆ ที่มี เฮง คนขับรถเป็นสามีลับๆ เสี่ยสาม ผู้เป็นลุงออกปากทักท้วง แต่ ลัลล่า ไม่หยุดค้นหาคำตอบเรื่องการตายของพ่อ วันหนึ่ง เสี่ยสองถูกจับตัวไป ความโกลาหลเกิดขึ้นในตระกูล พร้อมกับความจริงที่เปิดเผยว่า พินธุ คือมือปืนที่รับใช้ใครคนหนึ่ง เพื่อปลิดชีวิตแม่และลัลล่า ลัลล่า เสียใจมากที่รักคนผิด พินธุ หวานอมขมกลืน เพราะเขาคือมือปืนที่ถูกส่งมากำจัดลัลล่า แต่เพราะความรัก เขาถึงลงมือไม่ได้ ลัลล่าขอหย่าแต่พินธุไม่ยอมเพราะรู้ว่าคนรักยังอยู่ในอันตราย พินธุสืบจนพบคนบงการฆ่าพี่น้องทั้งหมดในตระกูลว่าเป็น เสี่ยสาม ลัลล่า ไม่เชื่อ เพราะเสี่ยสามฉาบหน้าด้วยความเป็นผู้ใหญ่ใจดี แม้กระทั่ง เอ็ดดี้ สิบ ก็ยังหลงเชื่อร่วมมือกำจัดญาติๆ โดยไม่รู้ว่าถูกเสี่ยสามหลอกใช้ พินธุ หาทางกระชากหน้ากากเสี่ยสาม เสี่ยสามใช้จึงลิ้มให้ทำลายครอบครัวลัลล่า อีกทาง แต่อีกปัญหาที่ทำให้ความรักของ พินธุ กับลัลล่าสั่นคลอน คือ ปานใจ เมียเก่าของพินธุที่ตามมาใกล้ชิด พินธุแก้ปัญหาไม่ตก ต้องพึ่งคำแนะนำ จาก พันธมิตร อาที่คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือทุกทาง ลัลล่าตั้งท้อง พินธุทั้งดีใจและขมขื่น เพราะลัลล่าไม่ต้องการให้พินธุเข้าใกล้ลูก เฮง ถูกใช้ให้ขับรถชนลัลล่า พินธุมาช่วยไว้แต่ไม่ทัน ลัลล่าแท้ง พินธุคอยดูแลลัลล่าที่บอบช้ำทั้งกายและใจไม่ห่าง ทั้งๆ ที่ ลัลล่าย้ำว่าไม่ต้องการเขา อาม่าตั้งใจจะรวบรวมญาติทุกคนให้ได้อีกครั้งในวันเกิด อาโหล ลูกชายคนสุดท้าย พินธุ วางแผนกระชากหน้ากากคนดีของเสี่ยสาม ทุกคนตะลึงกับเรื่องที่เสี่ยสามฆ่าพี่น้อง ยกเว้นลัลล่าคิดว่าพินธุทำเพื่อให้ตนเองพ้นผิด จึงลิ้มแสร้งทำดีตอกย้ำให้ลัลล่าระแวงพินธุ ลัลล่าตั้งท้องอีกครั้ง และมีความหวังที่จะได้ร้องเพลงกล่อมลูก ในขณะที่อาม่าจำได้ว่าในบรรดาลูกทั้งหมด เสี่ยสามเป็นคนเดียวที่อาม่าไม่เคยกอด และร้องเพลงกล่อมเลยจึงลิ้มถูกไล่ออกจากบ้าน เพราะเรื่องได้เสียกับ เฮง ทั้งคู่ลำบากแสนสาหัส เพราะ จึงลิ้มตั้งท้อง วันคลอด จึงลิ้มขโมยลูกชาย ลัลล่าไป เพราะไม่อยากให้ลัลล่าได้ร้องเพลงกล่อมลูก พินธุกับลัลล่ากลับมาเป็นกำลังใจให้กันอีกครั้งระหว่างตามหาลูกน้อย ขณะที่เสี่ยสามย้อนกลับมาเพื่อทำลายทุกคน พินธุหาทางปกป้องคนรักจากเสี่ยสาม แต่ลัลล่ายังเชื่อมั่นในสายเลือด ทำให้เสี่ยสามกับจึงลิ้มมีโอกาสเข้าใกล้และฆ่าลัลล่าได้ทุกขณะ ความหวังของลัลล่า ไข่มุกเม็ดงามของตระกูลที่จะไขปริศนาการตายของพี่น้องร่วมสายเลือด และทำให้ร่างของพ่อได้กลับคืนสู่ ณ ภูเขา ที่เป็นดั่งวิมานมังกรสำเร็จลงหรือไม่

เจ้าหญิงลำซิ่ง 2551

เรื่องย่อ : เจ้าหญิงลำซิ่ง (2551/2008) เจ้าหญิงขวัญวาริน รัชทายาทแห่งอาณาจักรเวียงสิงห์ เด็กสาวยุคใหม่ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ เธอจึงไปเรียนร้องเพลงโอเปร่าที่ยุโรป ด้วยความที่กำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เล็ก ขวัญวารินเลยต้องอยู่ในความดูแลของ เจ้าวิไลจรัส เจ้าป้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทน และคิดจะฮุบสมบัติหลานสาวไว้เอง โดยบังคับให้เจ้าหญิงขวัญวารินแต่งงานกับ เจ้าภาสกร ลูกชายที่ชอบเอาแต่ใจของเธอ แต่ขวัญวารินก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด พอสบโอกาสเธอจึงหนีมาเมืองไทยพร้อมกับ รัศมี องครักษ์หญิงคนสนิทที่เอ็นดูเจ้าหญิงเหมือนน้องสาวแท้ๆ พอ นายพลเดชา พ่อของรัศมีรู้เข้า จึงให้ 2 สาวไปพักอยู่กับ สุชาติ ลูกน้องเก่าคนสนิทที่อยู่เมืองไทย ชีวิตอิสระในเมืองไทยทำให้เจ้าหญิงเพลิดเพลินจนไม่ได้ระวังตัว เธอเลยถูกลอบสังหารแต่รัศมีปกป้องเจ้าหญิงไว้ได้จนตัวเองบาดเจ็บ ทำให้ทั้งคู่ต้องพลัดหลงกัน เจ้าหญิงขวัญวารินรีบไปขอความช่วยเหลือที่สถานฑูตเวียงสิงห์ แต่กลับพบว่าเจ้าภาสกรได้ยึดอำนาจที่เวียงสิงห์ไปแล้ว แถมยังส่งมือสังหารมาฆ่าเธอ แล้วแถลงการณ์ว่ารัศมีเป็นคนลอบปลงพระชนม์เจ้าหญิง เมื่อรู้ข่าวนี้เธอจึงหลบหนีจนมาถึงงานวัดแห่งหนึ่งด้วยท่าทีแปลกๆ ทำให้ นาวี เข้าใจผิดว่าเป็นพวกวิ่งราวกระเป๋า เขาเลยจับตัวเธอส่งให้มือสังหารที่คิดว่าเป็นเจ้าทุกข์ เจ้าขวัญวา รินจึงต้องหนีตายอีกครั้ง ทำให้เธอได้เจอนาวีอีกและครั้งนี้เขาต้องตกบันไดพลอยโจนพาขวัญวารินหนีซะเอง ระหว่างการหลบหนีเจ้าหญิงขวัญวารินได้ประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม นาวีสงสารทิ้งไม่ลงเลยต้องพาเธอมาอยู่ที่คณะหมอลำซิ่งด้วย โดยโกหกทุกคนว่าวารินเป็นน้องสาว ครูเสน่ห์ เจ้าของคณะหมอลำซิ่งและมีศักดิ์เป็นลุงของนาวีเลยรับเธอเข้าทำงาน วารินรับหน้าที่เป็นลูกมือ ป้าอ่อน ช่างเย็บชุดนักแสดงในคณะทำให้เธอรู้จัก ไอ้จ้อย ลูกชายขี้โม้ของป้าอ่อน ถึงจ้อยจะโผงผาง โวยวายเก่ง แต่นาวียังไว้ใจให้เป็นมือขวาคอยช่วยงานเขาในคณะด้วย ป้าอ่อนมีเชื้อ สายคนเวียงสิงห์ พอเห็นแหวนที่มีตัวอักษรแปลกๆ และลายปักผ้าของวารินก็รู้ทันทีว่าต้องเป็นคนเวียงสิงห์แน่ๆ แต่ที่ทุกคนไม่ค่อยไว้ใจขวัญวาริน เพราะเธอชอบทำตัวแปลกๆ รสนิยมเวอร์เกินฐานะ แถมชอบทำตัวเป็นคุณหนูชี้นิ้วใช้คนอื่น ทำให้ หวาน ลูกมืออีกคนของป้าอ่อนหมั่นไส้ พาลให้คิดว่าวารินเป็นสปายที่หมอลำวงอื่นส่งมาสอดแนม ขนาดนาวีเองยังไม่ไว้ใจคอยจับผิดเธอเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ รจนา นักร้องหญิงของวงที่ชอบนาวีอยู่ก็พลอยไม่ชอบหน้าวารินไปด้วย เธอเลยร่วมมือกับ กำไล หัวหน้าแดนซ์เซอร์คู่ซี้โขกสับขวัญวารินสารพัด หนักๆ เข้าถึงขั้นรุมสกรัมวารินกลางบ้านสาวิกา ไชยเดช แสดงเป็น เจ้าหญิงขวัญวาริน ( วาริน ) แต่ ถูกวารินจัดการซะอยู่หมัด รจนาเลยเปลี่ยนแผนใส่ความกับครูเสน่ห์และทุกคนว่าถูกวารินทำร้าย นาวีที่เป็นผู้จัดการวงเลยต้องลงโทษเฆี่ยนน้องสาวด้วยตัวเอง วารินโกรธและน้อยใจที่นาวีเชื่อคนอื่นมากกว่า เธอหักไม้เรียวแล้วหนีออกจากบ้านไป จนเกือบถูกนักเลงลากไปข่มขืน โชคดีที่นาวี จ้อย และ น้าเขียด มือขวาคนสนิทของครูเสน่ห์ช่วยไว้ทัน ทว่าแผนร้ายของรจนากับกำไลที่จะกำจัดวารินยังไม่จบแค่นี้ พวกเธอให้ ชำนิ คู่ขากำไลคอยหาเรื่องวารินอีกแรง แต่ก็ได้ สายชล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของครูเสน่ห์กับนาวีคอยปกป้องไว้ได้ทุกครั้ง และระหว่างนั้นรัศมีองครักษ์ที่พลัดหลงกัน ก็ตามมาสมทบกับเจ้าหญิง ขวัญวารินด้วย ทั้งคู่ตัดสินใจซ่อนตัวอยู่กับคณะลำซิ่งแห่งนี้ จนกว่าเรื่องวุ่นวายในเวียงสิงห์จะยุติ รัศมีจึงช่วยกำหราบชำนิกับกำไลจดอยู่หมัด ขนาดไอ้จ้อยว่าแน่ๆ ยังต้องยอมเป็นเบ๊ เพราะทึ่งในฝีมือการต่อสู้ของรัศมี ผิดกับสายชลที่ไม่ชอบท่าทางห้าวๆ ของเธอ พอๆ กับที่รัศมีก็หมั่นไส้มาดขี้เก๊กของสายชลเช่นกัน ต่อมาไม่นานเศรษฐกิจของคณะเสียงเสน่ห์เริ่มตกต่ำ เพราะสังคมส่วนใหญ่มองคณะลำซิ่งเป็นพวกโชว์อนาจาร หรือไม่ก็เป็นเธคเคลื่อนที่ เนื่องจากคณะลำซิ่งทั่วไปทำเสียชื่อเสียงไว้ คณะเสียงเสน่ห์เลยพลอยไม่มีคนจ้างงานไปด้วย ทำให้ครูเสน่ห์เคลีย ดหนักล้มป่วยบ่อย ชาวคณะก็พากันลาออกหนีตายไปทำงานที่อื่น ด้านรจนาก็ถือว่าตัวเองเป็นแม่เหล็กของวงเลยฉวยโอกาสโก่งค่าตัวไปด้วย พอนาวีไม่ยอมจ่ายรจนาก็แกล้งมาขึ้นเวทีสาย บางครั้งก็ประชดด้วยการวอล์คเอาท์ไม่ขึ้นแสดงเอาดื้อๆ ก็มี ทำให้คนดูไม่พอใจที่ต้องรอนาน วารินเลยกู้วิกฤตด้วยการขึ้นร้องเพลงคู่กับสายชลแทนรจนา เธอทั้งร้อง ทั้งเต้น สุดฝีมือ เรียกเสียงเฮจากคนดูเกินคาด ขนาดครูเสน่ห์กับนาวียังออกปากชม น้าเขียดถึงกับประกาศบนเวทีว่า “วาริน เสียงเสน่ห์” เป็นหมอลำดาวรุ่งดวงใหม่ของคณะ จากนั้นครูเสน่ห์ก็ ตัดสินใจปั้นขวัญวารินเป็นหมอลำประจำวง แถมครูยังส่งให้เธอกับนาวีไปเรียนวิชาหมอลำกับเพื่อนสนิทที่โคราช แต่พอทั้งคู่ไปถึงก็พบว่าเพื่อนครูเสน่ห์เสียชีวิตไปแล้ว ภรรยาของเขาเลยฝากเอกสารสำคัญกับทั้งคู่มาให้ครูเสน่ห์ พร้อมเล่าอดีตที่ครูทั้งสองสร้างวงหมอลำมาด้วยกัน สายชลกับวารินมีแรงฮึดขึ้นโชว์บนเวทีท่ามกลางความภูมิใจของครูเสน่ห์อีก ครั้ง ทั้งคู่โชว์หมอลำซิ่งเต็มที่จนครองใจบรรดาแฟนเพลงสำเร็จ ทำให้รจนาตกกระป๋องแค่ข้ามคืน รจนาจึงคิดจะชิงเรตติ้งคืนด้วยการแต่งตัวโป๊ และหาวิธีสกปรกกลั่นแกล้งวารินเช่นเคย ธีรวีร์ อัศวศิริชัยกุล แสดงเป็น สายชลแต่ รัศมีกับนาวีรู้แกวซะก่อนเลยช่วยวารินไว้ได้ รจนาเลยให้ชำนิกับกำไลลักพาตัววาริน แล้วบอกทุกคนว่าวารินหนีไปอยู่กับคณะอื่น แต่รัศมีไม่เชื่อจับพิรุธจนรจนายอมสารภาพ รจนาแสร้งตีหน้าเศร้าขออโหสิกรรมกับทุกคน ครูเสน่ห์ใจอ่อนไม่แจ้งความ แต่แค่ไล่รจนากับพวกออกจากคณะ หลังเรื่องวุ่นๆ นาวีคิดวางแผนกอบกู้ชื่อเสียงของหมอลำซิ่งด้วยการออกอัลบั้มใหม่ แต่พวกเค้าไม่มีทุนนาวีเลยคิดจะไปพึ่ง เสี่ยอำนวย เจ้าของค่ายเพลงอีกครั้ง เสี่ยได้แนะนำให้นาวีรู้จักกับ กวิน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน และให้กวินเป็นคนดูแลโปรเจกท์นี้แทน แค่เจอวารินครั้งแรกกวินก็หลงเสน่ห์จนปลุกปล้ำเธอ โชคดีที่สายชลกับ นาวีพาวารินหนีไปก่อน กวินแค้นมากจึงหันไปปล้ำและปั้นรจนาแทน หนำซ้ำรจนายังปล่อยข่าวว่าวารินเป็นเมียกวิน จนไม่มีค่ายเพลงไหนยอมปั้นวาริน แต่จู่ๆ สถานการณ์ก็พลิกผัน เมื่อวารินบังเอิญไปช่วย พนิดา ลูกสาวเจ้าของค่ายเพลงคู่แข่งของกวินที่ถูกรุมทำร้าย พนิดาซาบซิ้งน้ำใจวารินมากจึงวิ่งเต้นให้เธอได้ออกเทปสมใจ กวินกับรจนาเลยคิดจะปล่อยข่าวใส่ร้ายวารินอีก แต่ครูเสน่ห์รู้ทันเลยหาทางให้วารินได้แก้ข่าวผ่านสื่อ เหตุการณ์นี้ทำให้วารินดังชั่วข้ามคืนพร้อมๆ กับอัลบั้มเพลงชุดใหม่ของคณะเสียงทองที่กำลังวางตลาด กวินแค้นใจสุดๆ เลยทุ่มโปรโมทรจนาสุดตัว ด้วยการเปิดคอนเสิร์ตประชันกับคณะเสียงทอง แต่วารินไม่หวั่นเพราะครูเสน่ห์และทุกคนในคณะเสียงทองให้กำลังใจ เมื่อถึงเวลาวารินโชว์ลีลาสุดฤทธิ์จนได้ใจแฟนๆ มาครอง แถมยังขึ้นแท่นเป็นราชินีหมอลำคนใหม่อีกด้วย ชัยชนะครั้งนี้นำมาซึ่งชื่อเสียงและเงินทอง แต่วารินไม่เคยฟุ่มเฟือยซ้ำยังเอาเงินไปช่วยเหลือคนยากไร้ ทุกคนเลยขนาดนามเธอว่า “เจ้าหญิงลำซิ่ง” ตรงข้ามกับพวกกวินที่หมดเนื้อหมดตัว รจนาก็ได้แต่กินเหล้าเมาจนไปมีอะไรกับชำนิ ทำให้กำไลฟิวส์ขาดตัดขาดกับรจนา แถมยังเอาข่าวฉาวนี้ไปขายให้หนังสือพิมพ์จนรจนาเสียชื่อ ขนาดกวินกับชำนิยังตีตัวออกห่าง รจนาแค้นจัดบุกไปยิงวาริน แต่สายชลปกป้องเธอจนตัวเองบาดเจ็บ แต่สุดท้ายรจนาก็โดนตำรวจรวบตัวจนได้ วารินรู้สึกเป็นหนีบุญคุณสายชล เธอจึงคอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิด พนิดาคิดว่าทั้งคู่ชอบกันเลยปล่อยข่าวรักโปรโมทจนนาวีหึง บวกกับที่พนิดาแอบชอบนาวีทั้งคู่จึงได้ใกล้ชิดกัน ด้านกวินที่หนีหนี้ไปอยู่เวียงสิงห์เลยได้เจอเจ้าวิไลจรัสโดยบังเอิญ กวินได้ทำงานเป็นคนดูแลมหรสพวันขึ้นครองราชย์ของเจ้าภาสกร พอได้เข้านอกออกในวังบ่อยๆ เลยเห็นรูปเจ้าขวัญวาริน กวินขายข่าวนี้ให้เจ้าภาสกรทันที ขณะนั้นรัศมีก็ช่วยให้วารินกับนาวีได้ปรับความเข้าใจกัน โดยให้นาวีแต่งเพลงรักง้อวารินได้สำเร็จ ไม่นานเจ้าภาสกรก็ให้คนมาจับวารินไปและฆ่ากวินปิดปาก ทำให้สถานการณ์ในณัฏฐินี เจียรวนนท์ แสดงเป็น รัศมีเวียง สิงห์เปลี่ยนแปลง เพราะประชาชนออกมาต่อต้านเจ้าภาสกร เจ้าวิไลจรัสจึงจะจับลูกชายแต่งงานกับวารินเพื่อลดกระแสแข็งข้อทั้งหมด รัศมีกับนาวีจึงเสี่ยงตายไปช่วยเจ้าขวัญวารินในวัง แต่ทั้งคู่พลาดถูกเจ้าวิไลจรัสจับได้ เจ้าขวัญวารินจำใจอภิเษกกับภาสกร เพื่อแรกกับอิสรภาพของคนที่เธอรักถึงสองคน เมื่อชีวิตของเจ้าหญิงขวัญวารินถึงทางตัน เธอจะหาทางออกให้กับตัวเองยัง? ตามให้กำลังใจเธอได้ในละคร “เจ้าหญิงลำซิ่ง”

คู่ป่วนอลวน 2551

เรื่องย่อ : คู่ป่วนอลวน (2551/2008) กามเทพ นี้ชอบเล่นตลกกับความรักจัง จู่ๆ ก็จับสาวมาดมั่นอย่าง ภาวิกาให้มาพบเจอกับพล หนุ่มมาดเท่ห์ ถ้าคู่กัด คู่ป่วนต้องมาเป็นคู่รักกัน มันจะสับสนอลวน....อลเวง....เพียงใด จากคู่แข่ง คู่ปรับ ต้องมาเป็นคู่กันแล้วเรื่องวุ่น ๆ จะลงเอยอย่างไร พล มัณฑนากร หนุ่มหล่อ พ่อตาย มีแต่แม่ที่ชอบแอบเล่นการพนัน พล ฝีมือดี บ้างานจนลืมแฟนเสมอ กระทั่งวันสำคัญนัดถ่ายรูปกับ กุสุมา ที่สตูดิโอแห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมพิมพ์เป็นการ์ดแต่งงาน พลจะไปรับชุดแต่งงานที่ร้านตัดเสื้อหรูของ คุณวิวาห์วดี มาให้เธอเพื่อเอาใจและแก้ตัวที่ชอบผิดนัด กุสุมาเป็นลูกสาวคนเดียวของ สมพงษ์ เจ้าของร้านทองที่มีชื่อเสียงและรวยมาก เธอเป็นสาวสวย อ่อนหวาน น่ารัก ตามใจแฟน ไม่ต่อว่าต่อขาน พลจะดูหนังบู๊แต่เธออยากดูหนังรัก พลจะกินอาหารญี่ปุ่น แต่เธอจะกินอาหารจีนก็ไม่ขัดข้อง เธองอนกับเขาเรื่องเดียวคือผิดนัด ติดตามต่อได้ใน คู่ป่วนอลวน

หมวยอินเตอร์ 2551

เรื่องย่อ : หมวยอินเตอร์ (2551/2008) หมวยอินเตอร์ เป็นเรื่องราวของ ชญานุช หรือ นุช (เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเล็กของตระกูล จิตตินันท์ ซึ่งเป็นตระกูลคนไทยเชื้อสายจีนที่มีกิจการค้าข้าวสารรายใหญ่รายหนึ่งของประเทศ ที่มี เถ้าแก่ปอ (เกียรติ กิจเจริญ) ผู้เป็นเตี่ยและเป็นหัวหน้าครอบครัว นุชเป็นสาวยุคใหม่ที่แต่งตัวเปรี้ยวและชอบการแข่งรถซิ่ง เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ จึงมักสร้างความปวดหัวแก่เถ้าแก่ปอเป็นอย่างยิ่ง ที่สุดนุชต้องออกจากมหาวิทยาลัยเพราะเตี่ยไม่ให้เรียนต่อ ซึ่งนิสัยของนุช ผิดกับ พล (รวิช ไรวินทร์) พี่ชายคนโต และ ปัท (อาภรศรี ตัณมานะศิริ) พี่สาวคนรอง ที่เชื่อฟังเตี่ยมากกว่า โดยเฉพาะปัทเป็นคนที่หัวอ่อน ขี้กลัว มีบุคลิกไม่มั่นใจในตัวเองอย่างที่สุด ซึ่งพี่น้อง 3 คนนี้ได้ อี๊เง็ก (นัฏฐา ลอยด์) น้องสาวของแม่ทั้ง 3 คนนี้ที่เสียชีวิตไปนานแล้ว คอยดูแลอยู่ นุชยังมีเพื่อนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีก คือ อร (นาเดีย นิมิตรวานิช) อรเป็นคนเก่งทำงานด้วยเรียนด้วย อรทำงานอยู่ที่บริษัทรับจัดงานโฆษณาและประชาสัมพันธ์แห่งหนึ่ง โดยที่มี ชาลี (สันติ วีระบุญชัย) หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่เพิ่งเดินทางมาสู่ประเทศไทย เป็นทีมงานสำคัญของบริษัทและเป็นเจ้านายของอร การที่ชาลีกลับมาครั้งนี้เพื่อล้างแค้น ตระกูลของ คุณหญิงเอมจิตร (มณีนุช เสมรสุต) ที่เคยทำให้แม่ (ฟรอนต์ มอนโมเกอรี) ของเขาต้องตายเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งชาลีพบกับอรและนุชครั้งแรกด้วยความเข้าใจผิด ชาลีคิดว่านุชเป็นผู้หญิงขายบริการ ทำให้ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากัน ชาลีวางแผนจนเข้าสู่ตระกูล วรประภา ของคุณหญิงเอมจิตรได้ในที่สุด โดยสนิทสนมกับลูก ๆ ทั้ง 3 คนของคุณหญิงเอมจิตร คือ บารมี (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ซึ่งเป็นพี่ชายคนโต และเป็นหมอหนุ่มวัยใกล้เคียงกับชาลีและเป็นเจ้าของโรงพยาบาลของกิจการครอบครัว, สาธิต (กัณฑ์เอนก ทิพวรรณ) น้องชายคนรองที่ชอบนุชอยู่ แต่นุชไม่ชอบด้วย และ ศา (ชโลทร กาหลง) น้องสาวคนเล็กที่เรียนอยู่ที่เดียวกับนุชและอร ชาลีวางแผนให้ศามาชอบพอตนเอง เพื่อที่จะทำลายครอบครัวนี้ ต่อมา บริษัทของอรโดยประธานบริษัทต้องการให้นุชเข้าประกวด มิสไชนีส กาแล็คซี่ ที่มีสมาคมค้าข้าวไทย-จีน เป็นผู้สนับสนุน โดยมี เฮียเล้ง (วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์) นายกฯสมาคม เป็นประธาน อรต้องขอร้องแกมบังคับ ในที่สุดนุชก็ยอมประกวดอย่างไม่เต็มใจและไม่ตั้งใจ เพราะคิดว่าไม่นานคงตกรอบ ซึ่งงานครั้งนี้ชาลีและอรเป็นทีมงานจัดงานด้วย คุณหญิงเอมจิตร และ บารมีก็เป็นกรรมการ และก็มี นภา (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) และ อโนมา (สรวงสุดา ศรีธัญญรัตน์) เพื่อนที่โตมาด้วยกันของทั้งคู่เข้าประกวดด้วย โดยที่นภาและอโนมาก็เป็นเพื่อนที่คอยกลั่นแกล้งนุชมาตั้งแต่เด็กยันโต นภาเป็นลูกสาวของ อาไซ (กฤตย์ อัทธเสรี) เจ้าของกิจการข้าวบรรจุกระป๋องยี่ห้อ เมจิกไรท์ ผู้เป็นทั้งเพื่อนรักเพื่อนแค้นของเถ้าแก่ปอ ซึ่งอาไซเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของการประกวดครั้งนี้ และ มนัส (อรรถชาติ ศรีภักดี) พี่ชายจอมเพลย์บอยของนภากลับจากเมืองนอกหลังจากเรียนไม่จบ ก็ชอบนุชด้วย มนัสพยายามตามจีบนุชด้วยวิธีต่าง ๆ แต่นุชไม่เล่นด้วย และเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิดแทบทุกครั้ง บารมีก็ชอบนุชอยู่ โดยขอให้อรคอยช่วยเหลือ แต่อรกลับแอบชอบบารมีอยู่เงียบ ๆ ไม่กล้าบอก ขณะที่ปัทก็แอบชอบเงียบ ๆ กับ ภารดร หรือ ดร (กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์) พี่ชายของอรอยู่ แต่เถ้าแก่ปอไม่รู้ เพราะเถ้าแก่ปอกะเกณฑ์มาตลอดที่จะให้นุชแต่งงานกับดร ในการประกวด นางงามต้องเก็บตัวที่พัทยา นุชต้องวิ่งสลับมาระหว่างบ้านกับพัทยาอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากเถ้าแก่ปอไม่ชอบการประกวดนางงามเป็นอย่างมาก โดยมีคนอื่น ๆ คอยช่วยเหลือ ทั้งยังต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งทุกรูปแบบจากนภาและอโนมา การตามรังควาญของมนัสและสาธิต ซ้ำยังจับสลากได้พักห้องเดียวกับ หลิงหลิง (ตรีชฎา เพชรรัตน์) ผู้เข้าประกวดคนสวยที่เป็นดาวเด่น โดยไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นกะเทยปลอมตัวมา และทำเย็นชากับนุช แต่การที่ชาลีกับนุชได้ใกล้ชิดกัน ทำให้ความรู้สึกของทั้งคู่ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ซึ่งนุชจะต้องทำให้เตี่ยของตนเองเปลี่ยนความคิดให้ได้ รวมถึงทัศนะคนอื่น ๆ ที่มีต่อกันด้วย การสนุกสนานวุ่นวายจึงเกิดขึ้น

ปมรักรอยอดีต 2551

เรื่องย่อ : ปมรักรอยอดีต (2551/2008) ตะวันฉาย ศิมันตรา ทายาทคนเดียวของตระกูลศิมันตรา ที่ร่ำรวยมหาศาล ต้องพักการเรียนต่อในระดับปริญญาเอกและรีบเดินทางจากอังกฤษกลับไทยทันทีที่ รู้ข่าวการเสียชีวิตอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุของ บวร , คงเดช และ ณรงค์วิทย์ ซึ่งคือ ปู่ พ่อ และ อาของเขา ตะวันฉายช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น การจัดการเรื่องงานศพผ่านไปอย่างเรียบร้อยด้วยความช่วยเหลือของ ลุงชาญชัย และ แน่แท้ ลูกชายคนเดียวของชาญชัยที่เป็นเพื่อนสนิทและเติบโตมาด้วยกัน ทว่าเมื่อเปิดพินัยกรรม ตะวันฉายยิ่งงงมากขึ้นเมื่อบวรระบุว่าเมื่อท่านจากไปก็ให้จัดการทรัพย์สิน ให้กับบุตรชายทั้งสองคือคงเดช และ ณรงค์วิทย์ แต่ถ้า คงเดช และณรงค์วิทย์เสียชีวิตไปก็ให้แบ่งทรัพย์สินเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน คือให้กับ ตะวันฉาย ศิมันตรา ลูกชายของคงเดช และอีกส่วนให้กับลูกของณรงค์วิทย์ ศิมันตรา และ วรรณา รักบริสุทธิ์ เงื่อนไขในพินัยกรรมบีบให้ชายหนุ่มต้องตามหาลูกของณรงค์วิทย์ผู้เป็นอาซึ่ง เขาไม่เคยรู้มาก่อน เมื่ออยู่กันตามลำพัง ชาญชัยจึงเล่าให้ตะวันฉายและแน่แท้รู้ว่าณรงค์วิทย์ได้วรรณาซึ่งเป็นสาวใช้ ในบ้านเป็นเมียโดยไม่ตั้งใจ และไม่รักเลย ทว่าวรรณานั้นทะเยอทะยานและหาโอกาสจะเป็นสะใภ้คนเล็กของบวรให้ได้

วรรณาอิจฉาคงเดชซึ่งแต่งงานกับ กนกรส จนมีลูกด้วยกันคือตะวันฉาย ปู่บวรทั้งรัก ทั้งหลงหลานชายทำให้กนกรสซึ่งเป็นสะใภ้ใหญ่มีความสุข วรรณานั้นเป็นเด็กสาวบ้านนาที่หัวสูง ช่างฝัน เธอเกลียดการทำนา ดังนั้นพอเริ่มเป็นสาวเธอจึงมากรุงเทพมาทำงานที่บ้านนี้ ไม่นานเธอก็เริ่มมองเห็นทางที่จะสุขสบาย ณรงวิทย์ คือเป้าหมายสำคัญ และเขาก็พลาดจนได้ แม้จะไม่รักแต่เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ บวรรู้ดีว่าลูกชายอึดอัดใจเพราะวรรณาเหิมเกริมและนิสัยไม่ดีหลายอย่าง ท่านจึงต้องช่วยโดยให้ณรงค์วิทย์ไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาจากไปโดยไม่รู้ว่าวรรณาเริ่มตั้งครรภ์ บวรรู้จักวรรณาดีว่า โลภ และ อยากได้เงินมากขนาดไหน ท่านจึงตกลงกับเธอว่าจะให้เงินก้อนหนึ่ง และส่งเงินเพื่อเป็นค่าเลี้ยงดูลูกทุกเดือนไม่ให้ลำบาก ถ้าวรรณายอมออกไปจากบ้านนี้ บวรสัญญาว่า จะไม่ทิ้งหลานคนนี้เด็ดขาด แต่วรรณาก็ต้องเลี้ยงหลานท่านให้ดีด้วย เงินก้อนใหญ่ทำให้วรรณายอมตกลง เธอมั่นใจว่าถ้าณรงวิทย์กลับมาต้องมาตามเธอกลับไปแน่ๆ บวรมอบให้ชาญชัยญาติสนิทเป็นธุระจัดการเรื่องเงินให้วรรณา

เมื่อณรงค์วิทย์กลับจากต่างประเทศจึงรู้จากบิดาว่าวรรณาหนีตามผู้ชายอื่น ไปนานแล้ว ซึ่งเขาไม่ติดใจออกติดตามแต่อย่างใด ชายหนุ่มทุ่มเทให้กับการทำงาน และมีความสุขดีโดยไม่คิดจะแต่งงานจนกระทั่งเสียชีวิต ชาญชัยให้ข้อมูลบางอย่างกับตะวันฉาย และแน่แท้เพื่อออกตามหาลูกของณรงค์วิทย์ ส่วนวรรณานั้นกลับมาใช้ชีวิตในสลัมเพราะเงินหมด นางอยู่กับ ทอฝัน ลูกสาวคนโต วุ้นเส้น หรือ วริศรา ลูกสาวคนรอง และ เด็กชายลูกชิ้น เด็กทั้งสามรู้ดีว่า วุ้นเส้นกับลูกชิ้นมีพ่อคนเดียวกัน วรรณาไม่เคยพูดถึงพ่อของทอฝันเลย และเวลานี้วรรณามีสามีใหม่อายุคราวลูกอีกคนชื่อ เอก ซึ่งมีอาชีพขี่มอร์เตอร์ไซคล์รับจ้าง ในครอบครัวนี้มีทอฝันคนเดียวที่ขยันทำมาหากิน เธอต้องหาเงินเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง แถมยังต้องหาค่าเทอมให้ลูกชิ้นอีกด้วย เด็กชายสงสารพี่สาวแต่เขาก็ยังเด็กเกินไปกว่าจะช่วยทอฝันได้ วรรณาเองก็เอาแต่เล่นไพ่ ส่วนวุ้นเส้นออกจากโรงเรียนตั้งแต่จบประถมหก เธอทำตัวเป็นสาวเปรี้ยว ใส่สายเดี่ยว นุ่งขาสั้นเดินอวดหนุ่มๆ ตั้งแต่เริ่มสาว ความยากจนทำให้ทอฝันทำได้ทุกอย่าง เธอร้อยมาลัยส่งขายตามสี่แยก หรือถ้าถึงคราวลำบากจริงๆ เธอก็ทำได้กระทั่งแกล้งเดินให้รถชนเพื่อเรียกค่าทำขวัญมาใช้จ่ายในครอบครัว

วันหนึ่งทอฝันต้องใช้วิธีนี้อีกเมื่อต้องหาค่าเทอมให้น้องชายทำให้เธอได้ พบกับตะวันฉายเป็นครั้งแรก ซึ่งชายหนุ่มหยิบเงิน “ทำขวัญ” ให้มากเกินควรแถมยังพูดเหมือนรู้ทันจนทอฝันต้องโวยวายเพื่อดับความอายของตน ทั้งคู่พบกันอีกหลายครั้งแต่ก็ทะเลาะกันตลอดเวลา อีกไม่กี่วันต่อมา แน่แท้ก็ตามวรรณาจนพบ เมื่อรู้เรื่องพินัยกรรมวรรณาก็รีบบอกว่าทอฝันคือลูกของณรงวิทย์ แต่เมื่อรู้ว่าทอฝันคนเดียวที่มีสิทธิในทรัพย์สินวรรณาโวยวายอีก ส่วนทอฝันไม่ยอมไปรับมรดกถ้าต้องทิ้งแม่และน้อง เธอทำให้แน่แท้ประทับใจโดยไม่รู้ตัว เขาพยายามหาทางช่วยเธอโดยบอกว่าพินัยกรรมไม่ได้ห้ามเธอนำเงินมาเลี้ยงแม่และ น้อง ทำให้ทอฝันดีใจมาก ส่วนตะวันฉายไม่ตื่นเต้นอะไรนัก ยิ่งรู้ว่าทายาทอีกคนคือทอฝันเขาก็ยิ่งกลุ้ม แล้ววันที่ตะวันฉายรู้สึกว่าเป็นวันโลกาพินาศก็มาถึง เมื่อ ทอฝันพาแม่และน้องมาคฤหาสน์ “ศิมันตรา” เธอจำเป็นต้องมาเพราะนายเอกสามีคนล่าสุดของวรรณานำบ้านไปจำนองจนถูกไล่ที่ อยู่ ตัวนายเอกหอบเงินหนีหายไป วรรณาแค้นมากแต่ ทอฝัน ศิมันตรา ทำให้นางมีหวังขึ้นมาอีกครั้งตรงข้ามกับทอฝันที่ไม่มีความสุขและปวดหัวกับ วรรณาและวุ้นเส้นที่ใช้เงินมากสุรุ่ยสุร่าย วรรณาหมดไปกับวงไพ่ ส่วนวุ้นเส้นหมดไปกับการแต่งตัว ที่ร้ายคือวุ้นเส้นแสดงออกชัดเจนว่าติดใจตะวันฉาย และทำทุกอย่างโดยไม่อายเพื่อให้ใกล้ชิดกับเขา ทำให้ นกยูง สาวสวยไฮโซ ซึ่งเป็นแฟนของตะวันฉายไม่พอใจมาก ทั้งคู่มีเรื่องตบตีกันบ่อยครั้ง นกยูงพาลไปหมดแม้กระทั่งกับทอฝัน

เมื่อนกยูงร้ายมาทอฝันก็ตอบโต้กลับไปทั้งในมาดนางร้ายและนางเอกที่ฉลาด เชือดเฉือนให้นกยูงได้อายหลายครั้ง ความแค้นและอารมณ์หึงหวงทำให้นกยูงจ้างเอกมาทำร้ายทอฝันแต่แน่แท้มาช่วยไว้ ทัน แม้กระนั้น ทอฝันก็เขียวช้ำอย่างน่าสงสาร ตะวันฉายไม่เชื่อว่าจะมีใครปองร้ายทอฝัน จนทำให้ต้องขัดใจกับแน่แท้ เหตุการณ์วันนั้นทำให้เอกตามเข้ามาอยู่ใน “ศิมันตรา” อีกคน แม้วรรณาจะเกลียดอย่างไรก็ห้ามไม่ได้เพราะเอกรู้ความลับเรื่องทอฝันที่วรรณา เคยเล่าให้ฟัง วันหนึ่งขณะที่ทอฝันเดินเล่นอยู่กับแน่แท้ที่บริเวณสลัมที่เคยอยู่ เธอพบกับ สุภาพสตรีท่าทางดีคนหนึ่งซึ่งเธอมารู้ภายหลังว่าเธอชื่อ เดือน เป็นภรรยาของ มิสเตอร์ จอห์น ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท “ศิมันตรา” เดือนเอ็นดูทอฝันอย่างบอกไม่ถูก ในงานเลี้ยงรับรองจอห์นและเดือน ทอฝัน ไปร่วมงานในฐานะทายาทของ “ศิมันตรา” คนหนึ่ง เธอสวยสง่าจนตะวันฉายตะลึง ส่วนวรรณาซึ่งตามวุ้นเส้นมางานด้วยต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบกับเดือน ตรงข้ามกับเดือนที่ดีใจมากที่พบวรรณา ย้อนไปประมาณยี่สิบปี เดือนและวรรณามาเช่าห้องอยู่ใกล้กันทั้งคู่สนิทสนมกันมาก วรรณานั้นท้องได้ 4-5 เดือน แต่แล้ววันหนึ่งวรรณาลื่นล้มในห้องน้ำ เดือนรีบพาส่งโรงพยาบาล วรรณาแท้งลูก ลูกที่มีณรงค์วิทย์เป็นพ่อ เธอเสียใจมาก ตรงข้ามกับเดือนที่เพิ่งรู้ตัวว่าท้อง เธอดีใจมากแม้พ่อของลูกจะทอดทิ้งเธอไปแล้วก็ตาม เดือนปลอบวรรณาว่า ลูกของเธอก็เป็นลูกของวรรณาด้วย โดยไม่รู้ว่าคำปลอบโยนของเธอทำให้วรรณา วางแผนร้ายทันที ตราบใดที่เธอมีทายาทของ “ศิมันตรา” อยู่ เธอต้องสุขสบายในสักวัน

ดังนั้นเมื่อเดือนคลอดได้ไม่กี่วัน วรรณาจึงขโมยเด็กน้อยนั้นมาเตรียมอุปโลกน์เป็นลูกของณรงค์วิทย์ ซึ่งเด็กคนนั้นคือทอฝันนั่นเอง ความลับเรื่องนี้เอกรู้ดี วรรณาจึงกำจัด เอกไปไม่ได้ เมื่อพบกับเดือน วรรณารู้ว่าเดือนต้องมาตามลูกคืนแน่นอน ความโลภของทั้งเอกและวรรณาทำให้ส่งวุ้นเส้นไปแทน และ จำเป็นต้องเล่าให้วุ้นเส้นรู้เรื่องด้วย เรื่องวุ่นวายมากขึ้นเมื่อตะวันฉายและนกยูงต้องการที่ดินบริเวณสลัมที่ทอฝัน เคยอยู่มาสร้างเป็น ศูนย์การค้า ทอฝันซึ่งมีสิทธิในที่ดินผืนนี้ด้วยไม่ยอม เธอผูกพันกับที่นี่มาก เธอเกิดและโตที่นี่ เป็นครูอาสายามว่าง เธอลำบากมามากทำให้รู้ดีว่าชีวิตในสลัมหรือชุมชนแออัดต้องดิ้นรนเพียงใด ถ้าต้องมาอพยพไร้ที่อยู่อีกจะลำบากที่สุด เธอทำร้ายพวกเขาไม่ลง นกยูงให้ตะวันฉายจ่ายเงินค่าโอนกรรมสิทธิ์กับ ทอฝันเป็นสิบล้าน แต่เธอกลับฉีกเช็คใบนั้นทิ้ง และทะเลาะกับตะวันฉายอีกจนได้ เมื่อทอฝันไม่ยอม นกยูงจึงจ้างเอก ซึ่งนกยูงรู้แล้วว่าเขาคือสามีวรรณาให้ไปบอกวรรณาให้บังคับทอฝันให้ได้ โดยเธอจะจ่ายเงินก้อนโตให้ เมื่อวรรณารู้เรื่องจึงไปบังคับทอฝันให้เซ็นเอกสาร เมื่อทอฝันไม่ยอมวรรณาก็ตบตีจนทอฝัน บาดเจ็บจนเธอต้องยอมเซ็นทั้งน้ำตา ตะวันฉายซึ่งกลับมาพอดีจึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขานึกสงสารทอฝันเป็นครั้งแรก ทว่าเพียงวันรุ่งขึ้นวรรณาก็ทำให้ตะวันฉายเข้าใจทอฝันผิด เมื่อนางเข้ามาขอเงินเป็นค่าที่ดินโดยอ้างชื่อทอฝัน ซึ่งเขาก็ยอมพลางนึกดูถูกทอฝัน ความโลภและใจร้อนของนกยูงทำให้เรื่องเลวร้ายลงเมื่อเธอไปจ้างเอกให้ไปวาง เพลิงเผาไล่ที่ชาวสลัม ทอฝันโกรธมากต่อว่าตะวันฉายรุนแรง ขณะที่แน่แท้พยายามบอกว่าตะวันฉายเปลี่ยนใจไม่ซื้อที่ดินแล้วแต่เธอก็ไม่ เชื่อ ส่วนตะวันฉายทั้งเสียใจและน้อยใจทอฝันอย่างบอกไม่ถูก เขาวิ่งฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยชาวบ้านขนของและช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งจนตัวเองต้องบาดเจ็บ

ตะวันฉาย พิสูจน์ตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้องกับการวางเพลิงจนทอฝันเห็นใจ เธอหาโอกาสจะขอโทษเขา แต่ตะวันฉายบอบช้ำทั้งกายและใจจนไม่เปิดโอกาสให้เธอเลย วันรุ่งขึ้นนกยูงมาพบตะวันฉายอย่างปลื้มใจในความสำเร็จ ทว่ากลับโดนตะวันฉายต่อว่ารุนแรง เขาพูดชัดเจนว่าเลิกคบกับเธอเด็ดขาด นกยูงกลับไปอย่างโกรธจัด ไม่นานนักตะวันฉายก็ต้องปวดหัวเมื่อกลุ่มชาวบ้านรวมตัวมาประท้วงอยู่หน้า บริษัท เขาพยายามชี้แจงและเสนอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครเชื่อ ก่อนที่เหตุการณ์จะรุนแรงกว่านี้ ทอฝันเข้ามาช่วยเจรจา เธอยืนยันว่า ตะวันฉายไม่เกี่ยวข้องและสำหรับเธอแล้วแม้จะเป็นทายาทของ “ศิมันตรา” แต่เธอก็ไม่คิดทำลายบ้านเกิดตัวเอง เธอพูดชัดเจนว่าเธอเป็นลูกของวรรณาและเคยอยู่ที่นั่นจนชาวบ้านจำได้ ทอฝันเล่าให้ชาวบ้านฟังว่า ตะวันฉายได้ช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้ด้วย ถ้าเขาเป็นตัวการจะไปช่วยจนต้องบาดเจ็บทำไม ทอฝันคว้ามือของตะวันฉายที่โดนไฟลวกจนผิวแดงบวมอักเสบรุนแรงให้ชาวบ้านดู เธอพูดหนักแน่นว่าเธอและตะวันฉายจะช่วยปรับปรุงที่อยู่ สร้างบ้านให้ใหม่ และตอนนี้เธอได้ส่งพนักงานบริษัทนำสิ่งของไปช่วยเหลือแล้ว ตะวันฉายแทบไม่เชื่อตาเมื่อกลุ่มชาวบ้านยอมสลายตัว และเริ่มมีความรู้สึกที่ดีให้ทอฝัน เขายอมให้เธอพาเขาไปทำแผลที่โรงพยาบาล ทอฝันดูแลเขาอย่างอ่อนโยนและจริงใจ นับจากวันนั้นทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ตะวันฉายเริ่มมีความรู้สึกที่ดีให้ทอฝัน ทั้งคู่รักกันโดยไม่รู้ตัว แน่แท้ซึ่งแอบรักทอฝันอยู่เฝ้ามองอย่างไม่สบายใจ ตะวันฉายเหมือนจะลืมไปว่าทอฝันเป็นน้องสาว

ส่วนทอฝันเองแม้จะบอกตัวเองอยู่ทุกวันว่าเธอรักเขามากไปกว่าพี่ชายไม่ได้ แต่สายเกินไป เธอรักเขามากเหลือเกิน วันหนึ่งทอฝันจะออกไปซื้อของ ตะวันฉายจะตามไปด้วย ทอฝันเลยแกล้งเขาโดยการพาไปบางลำพู ตั้งใจจะให้เขาลำบาก เหนื่อย ร้อน จนกลับไปเอง แต่กลายเป็นว่าเขาสนุกกับการช้อปปิ้งสินค้าราคาถูกมาก ขณะกำลังเดินซื้อของ ทอฝันหยุดดูสร้อยเงินเส้นบางสวยคล้องจี้รูปดอกไม้อย่างพอใจแต่ไม่ซื้อจน ตะวันฉายแกล้งยั่วว่าเธอต้องการให้เขาซื้อให้เหมือนพระเอกหนังไทย ทอฝันงอนเดินหนีทันที จนชายหนุ่มต้องตามง้ออย่างไม่เคยทำมาก่อน เขาพาเธอไปดื่มกาแฟที่ร้านเล็กๆ น่ารักแห่งหนึ่ง ตะวันฉายสั่งขนมอร่อยๆ มาให้เธอ เขาอ่อนโยนกับเธอมากจน ทอฝันใจสั่นเธอต้องคอยเตือนตัวเองว่าเขาเป็นพี่ชาย ตะวันฉายกำลังมีความสุข จู่ๆ แน่แท้ก็เดินเข้ามา ทอฝันขอตัวไปห้องน้ำ แน่แท้จึงขอให้ตะวันฉายช่วยเรื่องทอฝัน เขารักทอฝันและเตรียมแหวนมาแล้วด้วย แน่แท้หยิบกล่องแหวนมาเปิดอวดตะวันฉาย ชายหนุ่มบอกไม่ถูกว่าทำไมต้องเสียใจและเจ็บปวดอย่างนี้ เขาไม่อยากให้ทอฝันรักแน่แท้ และทนไม่ได้ที่จะเสียเธอไป ตะวันฉายพรวดพราดออกไปจากร้านทันที เมื่อ ทอฝันกลับมาที่โต๊ะ แน่แท้บอกว่าตะวันฉายมีงานด่วน ขณะที่ทอฝันโกรธที่เขาทิ้งเธอไปง่ายๆ และยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อแน่แท้สารภาพรักกับเธอ ทอฝันเข้าใจว่าตะวันฉายหลอกเธอมาที่ร้านนี้และจัดฉากให้แน่แท้ ได้อยู่กับเธอตามลำพัง ทอฝันข่มใจค่อยๆ ปฏิเสธแน่แท้อย่างอ่อนหวานว่าสำหรับเธอแล้วเขาคือเพื่อนที่ดีที่สุดและคง เป็นไปมากกว่านี้ไม่ได้ แน่แท้ผิดหวังแต่ก็ต้องทำใจ เขารู้ว่าทอฝันกับตะวันฉายรักกัน แต่พี่กับน้องจะแต่งงานกันได้อย่างไร ค่ำมากแล้วเมื่อแน่แท้พาทอฝันมาส่ง ตะวันฉายพาลหาเรื่องด้วยความหวง ทอฝันก็ยิ่งยั่วโมโห เธอเองก็โกรธเขาเหมือนกัน ทั้งคู่กลับมาเป็นคู่กัดอีกครั้ง คู่กัดที่แน่แท้มองออกว่าเหมือนเป็นคู่รักมากกว่า ดึกมากแล้วเมื่อตะวันฉายมาเคาะประตูห้องนอนทอฝัน เขาส่งถุงของที่ซื้อเมื่อตอนกลางวันให้เธอและเหน็บแนมว่าเธอคงมีความสุขมาก ที่มีชายหนุ่มที่แสนดีอย่างแน่แท้มาสารภาพรัก

ตะวันฉายขอดูแหวนหมั้น ทำให้ทอฝันเข้าใจผิดมากขึ้นว่าเขารู้เห็นเป็นใจกับแน่แท้ เธอเสียใจอย่างบอกไม่ถูกจึงประชดเขาว่าตะวันฉายเต็มใจยัดเยียดเธอให้เพื่อน รักเหลือเกิน น่าจะพาเธอไปส่งให้แน่แท้ถึงห้องนอน ทอฝันตกใจเมื่อตะวันฉายพูดแค้นๆ ว่าเขาจะตามใจเธอ ตะวันฉายฉวยข้อมือเธอลากออกมาจากห้องอย่างแรง เขาฉุดเธอไปตามทางเดินด้วยท่าทางเอาจริง ทอฝันขัดขืนและพยายามดิ้นหนีสุดฤทธิ์ เธอต้องตกใจอีกครั้งเมื่อตะวันฉายหันกลับมารวบตัวเธอกอดไว้แน่นและจูบเธอ อย่างอ่อนหวาน ตะวันฉาย กระซิบเบาๆ ว่าเขารักเธอ อ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาทำให้ทอฝันมีความสุขมากรู้สึกราวกับฝันไป แต่เมื่อได้สติเธอผลักเขาออกอย่างแรง ทอฝันตบหน้าตะวันฉายอย่างแรง เธอบอกเขาทั้งน้ำตาว่าเธอเป็นน้องสาว ไม่ใช่คนรักและคงเป็นไปไม่ได้ตลอดไป ทอฝันวิ่งหนีกลับเข้าห้องไปร้องไห้อีกนาน ส่วนตะวันฉายเองก็เดินคอตกกลับห้องเช่นกัน ทั้งคู่ไม่รู้ว่าวรรณาซึ่งเพิ่งกลับมาจากเล่นไพ่ เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด นางไปเล่าให้ลูกสาวฟังที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง วุ้นเส้นกรี๊ดอาละวาดลืมมาดคุณหนูลูกคุณเดือนทันที สองแม่ลูก วางแผนกำจัดทอฝันโดยไม่ทันระวังว่าจะมีใครได้ยิน นกยูงซึ่งบังเอิญนั่งอยู่ใกล้ที่สุดจึงรู้เรื่องทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่ทอฝันไม่ใช่ลูกของวรรณาแต่เป็นลูกของเดือนอีกด้วย อารามตื่นเต้นจะไปบอกตะวันฉาย นกยูงพรวดพราดออกจากร้านจนสองแม่ลูกเห็นจนได้ ดังนั้นเธอจึงเป็นเป้าหมายแรกแทนทอฝัน นกยูงโดนเอกลูกน้องทรยศจับตัวไป และวุ้นเส้นยิงเธอตายอย่างเลือดเย็นต่อหน้าวรรณาและเอก การตายของนกยูงทำให้ตะวันฉายและทอฝันใกล้ชิดกันอีกครั้ง แผนกำจัดทอฝันดำเนินต่อไปทันที ทอฝันถูกหลอกไปเพื่อฆ่าทิ้งแต่ ตะวันฉายตามไปช่วยจนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เอกกำลังจะยิงทอฝันแต่บังเอิญมีรถผ่านมา ทอฝันวิ่งไปขอความช่วยเหลือทันที เอกจึงต้องหนีไป พลเมืองดีพาทอฝันและตะวันฉายไปโรงพยาบาล ทอฝันกอดเขาไว้แน่น เธอร้องไห้ตลอดทางรู้ซึ้งแก่ใจว่าเธอรักเขามากแค่ไหน

ระหว่างที่เขาพักฟื้นหลัง ผ่าตัดเอากระสุนออก ทอฝันเฝ้าดูแลเขาไม่ห่าง กรรมตามสนองวุ้นเส้นเมื่อเอกมาขอค่าจ้างแล้วเธอไม่ให้ เอกจึงข่มขืนเธอและถ่ายคลิปวิดีโอไว้เพื่อขู่ไถเงิน เมื่อเอกไปแล้ววุ้นเส้นจึงเล่าให้วรรณาฟัง สองแม่ลูกแค้นใจมาก คืนนั้นวรรณาพยายามลบคลิปของลูกสาวจากโทรศัพท์มือถือของเอกแต่ไม่สำเร็จเอก เห็นพอดี เขาพยายามบีบคอฆ่านาง แต่วรรณาหนีกระเสือกกระสนออกมาจากห้องแต่ไม่พ้นเงื้อมมือของเอก เขาผลักนางตกบันไดอย่างเหี้ยมเกรียม เสียงร้องของวรรณาทำให้ทุกคนในบ้านออกมาดู เอกหนีไปได้ส่วน วรรณาบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นความจำเสื่อม ทอฝันเสียใจมาก เธอดูแลวรรณาและลูกชิ้นอย่างดีที่สุด โดยมีตะวันฉายเป็นกำลังใจ หนุ่มสาวทั้งคู่สุขใจลึกๆ แต่ต้องทรมานกับความจริงที่เขาและเธอเป็นพี่น้องกัน แน่แท้จึงเตือนสติเพื่อนรักและแนะนำให้เขากลับไปเรียนต่อ ตะวันฉายยอมตกลงทั้งที่ใจทรมานที่สุด ก่อนจากไปเขาให้สร้อยเงินเส้นที่ทอฝันชอบ เขาให้เธอเก็บไว้เป็นที่ระลึกแทนตัวเขา ตะวันฉายบอกเธอเพียงว่าเขาต้องไปติดต่องานที่ต่างประเทศ โดยไม่บอกว่านานเพียงใด ตะวันฉายไปไม่นานวุ้นเส้นนัดเอกมาเพื่อจ่ายเงินแลกคลิปวิดีโอ เอกหลุดปากเรื่องทำร้ายวรรณาเพื่อขู่ไม่ให้วุ้นเส้นทรยศ เอกยังต้องการเงินจากเธออีกมาก ทว่าวุ้นเส้นโกรธจนลืมตัวเมื่อรู้ว่าเอกทำร้ายมารดา ทั้งที่จริงเธอต้องการฆ่าเอกอยู่แล้ว ความแค้นจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ วุ้นเส้นฉวยโอกาสที่เอกเผลอหยิบปืนออกมา แต่เอกเข้าแย่งทันที เขาพลาดจึงโดนวุ้นเส้นกระหน่ำยิงจนตาย วุ้นเส้นตกใจจนเสียสติ ตำรวจพยายามติดต่อทอฝัน แต่ กลายเป็นแน่แท้ที่รู้เรื่องก่อน เขาไปพบวุ้นเส้นที่โรงพัก หญิงสาวพร่ำเพ้อไม่ได้สติเข้าใจว่าแน่แท้คือตะวันฉาย เธอจึงบอกความจริงเรื่องทอฝันเป็นลูกของเดือน แน่แท้ไม่ค่อยเชื่อนัก เขายังไม่ทันบอกทอฝัน วรรณาก็สารภาพเสียเองเมื่อเดือนรีบเดินทางกลับจากอังกฤษมาเยี่ยมนางและวุ้น เส้น เดือน ทอฝัน และแน่แท้อยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อตำรวจเข้ามาจับวรรณาในข้อหาร่วมมือฆ่านกยูง

ทอฝันทนไม่ได้เธอไม่ยอม และพยายามช่วยทุกทางโดยอ้างว่าวรรณาได้รับบาดเจ็บอยู่ระหว่างรักษาตัว ตำรวจจึงสวมกุญแจมือนางล็อคไว้กับเตียงกันหนี เมื่อตำรวจไปแล้ว วรรณายอมแพ้ในความดีของทอฝันจึงเล่าความจริงทั้งหมด นางย้ำว่านางแท้งลูกของณรงค์วิทย์ไปแล้ว และขโมยทอฝันมาจากเดือนเพื่อเตรียมรับมรดกของศิมันตรา วรรณายืนยันว่าทอฝันคือลูกสาวของเดือน ส่วนวุ้นเส้นเป็นลูกสาวของนางเอง เดือนดีใจมากที่ได้ลูกของเธอจริงๆ กลับคืนมา ที่จริงแล้วเธอเอ็นดู และรู้สึกผูกพันกับทอฝันมากกว่าวุ้นเส้นเสียอีก ในช่วงเวลาของความยุ่งเหยิงวุ่นวายนี้ทอฝันน้อยใจที่ตะวันฉายไม่กลับมาช่วย เขาใจร้ายใจดำทิ้งเธอไปได้จริงๆ ทอฝันคิดถึงตะวันฉายมากและพยายามตัดใจจากเขา แน่แท้จึงสารภาพว่าเขาเองที่แนะนำให้ตะวันฉายจากไป แต่ก็ไม่ทำให้ทอฝันรู้สึกดีขึ้น เธอตัดสินใจไปอยู่ที่อังกฤษกับเดือนโดยพาลูกชิ้นไปด้วย ก่อนเดินทางทอฝันและเดือนไปเยี่ยมและลาวรรณาที่เรือนจำ โดยบอกว่าจะพาลูกชิ้นไปอังกฤษด้วย วรรณาฝากดูแลวุ้นเส้นที่ตกใจจนเสียสติ ถูกส่งไปรักษาตัวที่ศรีธัญญาด้วยทอฝันรับปากอย่างเต็มใจ เมื่อถึงวันเดินทางแน่แท้ขับรถมารับทุกคนที่ศิมันตรา เพื่อไปสนามบิน ทอฝันมอง “ศิมันตรา” อย่างใจหายที่จะจากไป เธอคิดถึงตะวันฉายมากได้แต่ลาและตัดพ้อเขาในใจ เธอไม่หวังว่าจะได้พบกับเขาอีก ทอฝันเดินขึ้นเครื่องอย่างใจลอย พนักงานต้อนรับพาเธอไปนั่งข้างชายคนหนึ่ง ขณะที่เดือนนั่งคู่กับลูกชิ้น ทอฝันนั่งหลับตาเพราะไม่อยากพูดกับใคร เธออยากให้ตะวันฉายอยู่ด้วยเหลือเกิน เครื่องขึ้นได้ไม่นานนักก็ตกหลุมอากาศ ทอฝันตกใจมากผวากอดชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ อย่างไม่รู้ตัว เมื่อทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ ทอฝันอายจนหน้าแดงเธอพึมพำขอโทษเขา แต่ชายหนุ่มกลับกอดเธอแน่นและบอกว่าเขาไม่ยอมรับคำขอโทษนั้นจนกว่าเธอจะ บอกว่ารักเขา เสียงเขาเหมือนตะวันฉายมาก ทอฝันผลักเขาออกเต็มแรงและมองเขาเต็มตา เธอยิ้มอย่างดีใจที่ชายคนนั้นคือตะวันฉายจริงๆ ชายหนุ่มกอดเธออย่างแสนรักอีกครั้งก่อนจะสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้ายของ เธอ เขายกมือเธอขึ้นมาจูบอีกครั้งแววตาตะวันฉายเป็นประกายพราวเมื่อบอกทอฝันว่า เธอต้องอยู่กับเขาที่ “ศิมันตรา” ไปตลอดชีวิต ทอฝันซุกตัวกอดเขาแน่นพึมพำเบาๆ ว่าเธอก็ไม่ยอมให้เขาจากเธอไปอีกเช่นกัน

ทอง 9 2551

เรื่องย่อ : ทอง 9 (2551/2008) กริช หนุ่มใหญ่วัยใกล้ 30 ปีมีความฝันอยากเป็นตำรวจเขาอาศัยอยู่วัดแห่งหนึ่งในพัทยากับหลวงพ่อที่เป็นญาติทางพ่อเพื่อใช้เวลาอ่านหนังสือและดูแลหลวงพ่อที่สุขภาพไม่ค่อยดี พ่อของเขาเป็นนายทหารนอกประจำการชื่อพันตรีวัลลภเคยไปร่วมรบที่เวียดนามมันเป็นความภูมิใจของเขาที่มีพ่อเป็นวีรบุรุษ กริชมีฝีไม้ลายมือในการชกมวยไทยและมักแอบไปชกมวยเถื่อนพนันเงินเพื่อหาเงินมาจุนเจือวัดและรักษาหลวงพ่อ โดยมีโจอี้เพื่อนรักเป็นผู้ชักนำ โจอี้มีนิสัยกะล่อนหากินกับฝรั่งไปวันๆแต่เป็นคนดี วันหนึ่งมีกลุ่มคนร้ายนำโดยพันเอกเลดิ๊กโท หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับแห่งสภาความั่นคงเวียดนามเหนือ ภายใต้การบัญชาการของนายพลเลวันเดื๊อก โดยมีบินห์ซวนและเบาได๋ เป็นลูกน้องคนสนิท และได้บุกไปฆ่าพ่อแม่ของกริชที่บ้านที่จังหวัดอุดรธานี พวกเขาค้นหาอะไรบางอย่างแต่ไม่เจอจึงเผาบ้านทำลายหลักฐานพ่อแม่กริชจึงตายในกองเพลิง แม้ว่าจะมีร้อยตรีมินห์ ซีไอเออเมริกันเชื้อชาติเวียดนามมาช่วยแต่ก็ไม่ทันการ สิ่งเดียวที่พ่อของกริชทิ้งไว้ให้คือสร้อยคอที่คล้องพระองค์ใหญ่สมัยที่เคยสวมตอนรบ กริชเสียใจมากและคิดว่าต้องหาคนที่ฆ่าพ่อเขาให้ได้ มิเชล สาวลูกครึ่งเวียดนามฝรั่งเศส มีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตส ขณะที่เครื่องกำลังจะลงมีผู้โดยสารลวนลามเธอจนมีเรื่องมีราว เธอจึงขอลาพักร้อนและมาเยี่ยมนายพลเหงียนวันตรี ซึ่งเป็นปู่แต่ปกปิดชื่อจริงเอาไว้โดยใช้ชื่อว่าลุงโฮแทนและเป็นญาติของเธอคนเดียวที่มีเหลืออยู่เพราะพ่อแม่ตายตั้งแต่เธอยังเล็กเธอจึงผูกพันกับปู่มาก ชุมชนบ้านญวนเป็นชุมชนของพวกเวียดนามใต้ที่อพยพมาตอนที่ไซ่ง่อนแตกครั้งสงครามเวียดนามโดยมีเหงียนวันตรีเป็นผู้นำและได้สร้างโบสถ์คาทอลิกไว้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมีบาทหลวงซึ่งเป็นเพื่อนของเหงียนวันตรีคอยดูแล พันเอกฮอฟกินส์ ซีไอเอ กับลูกน้องคือจ่าแมคคอยด์ และร้อยตรีมินห์ ปรากฏตัวขึ้นที่หน่วยข่าวกรองของไทยและได้มาพบกับพ.ต.อ.พิชิต ซึ่งเป็นผู้อำนวยการอยู่ เพื่อต้องการตามหานายพลเหงียนวันตรีที่เคยร่วมรบด้วยกันสมัยเวียดนามเพราะมีข่าวว่าทางรัฐบาลเวียดนามปัจจุบันต้องการจับตัวไปขึ้นศาลในฐานะอาชญากรสงคราม พันตำรวจพิชิตจึงให้ร.ต.อ.อิสรา และร.ต.ต.กรณ์ ไปช่วยประสานงานในการสืบหา รวมทั้งไปคอยคุ้มกันมิเชลที่ไปพักผ่อนที่พัทยาด้วย แพรว นักร้องคาเฟ่ลูกครึ่งไทยนิโกรแห่งเมืองโคราชที่วาดหวังจะโกอินเตอร์มีพ่อเป็นจีไอชื่อจ่าวัตสัน ซึ่งเสียชีวิตไปหลายปีแล้วแต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังต้องร้องเพลงในคาเฟ่ราคาถูกเลี้ยงชีวิตไปวันๆเพราะสมบัติอย่างเดียวที่พ่อทิ้งไว้ให้คือสายสร้อยมีไม้กางเขนรูปทรงประหลาดห้อยคอไว้ เพราะเธอถูกลวนลามจากเสี่ยจึงจำต้องหนีขึ้นรถขนผักและมาโผล่ที่พัทยาโดยบังเอิญ ขณะที่เธอเดินไปตามถนนเห็นพ่อครัวชาวเวียดนามชื่อฟามวันเทียว ได้ตกลงมาจากตึกและเสียชีวิตต่อหน้าเธอ เธอจึงต้องตกเป็นพยาน และได้รู้จักกับมายด์ ลูกสาวของฟามวันเทียวซึ่งต้องดูแลกิจการแทนพ่อ ทางกองปราบฯได้ส่งผู้กองธันวา มาคลี่คลายคดี ธันวาจึงได้รู้จักกับแพรว และมายด์ได้แนะนำให้รู้จักกับโจอี้ซึ่งเป็นแฟนของเธอ และกริช ธันวารู้สึกถูกชะตากับทุกคนจึงสอนการยิงปืนให้และทั้งหมดได้ช่วยกันคลี่คลายปมสังหารในครั้งนี้ เมื่อสืบไปเรื่อยๆจึงพบว่าคนที่ตายล้วนแต่เคยร่วมรบในเวียดนามทั้งนั้น อีกทั้งเลดิ๊กโทได้นำพวกมาไล่ล่ากลุ่มของกริชจนต้องอพยพหนีมาอยู่ที่กรุงเทพชั่วคราว ที่พัทยากริชได้รู้จักกับมิเชลโดยบังเอิญ เมื่อมากรุงเทพมายด์ก็พามาหาเจ้านายเก่าของพ่อเธอที่ชุมชนบ้านญวนปรากฏว่าเจ้านายเก่าของพ่อเธอคือนายพลเหงียนวันตรีที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาพ่อของเธอในครั้งสงครามเวียดนาม มายด์กับแพรวจึงมาอาศัยอยู่ที่นี่กับมิเชลชั่วคราว ทำให้กริชได้ใกล้ชิดมิเชลมากขึ้น ทางฝ่ายนายพลเลวันเดื๊อกก็ส่งผู้พันเลดิ๊กโทออกตามหาเหงียนวันตรีเช่นกันจนชักจะเข้าใกล้ตัวเหงียนวันตรีเข้าทุกทีจนกระทั่งเหงียนวันตรีต้องออกอุบายให้ลูกน้องเก่ามาชิงตัวไปและหลบซ่อนอยู่ทุกฝ่ายจึงออกตามหาเหงียนวันตรีกันอย่างพลิกแผ่นดินและในที่สุดฝ่ายของกริชก็สามารถพบนายพลเหงียนวันตรีและนำมาพักที่บ้านพิชิต ระหว่างนี้ฮอฟกินส์กับเลดิ๊กโทได้จับมือกัน เรื่องราวเกี่ยวกับทองจึงถูกเฉลยขึ้น เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ไซ่ง่อนจะแตกฮอฟกินส์ซึ่งมียศเป็นร้อยโทในสมัยนั้นได้รับคำสั่งให้นำกำลังผสมเฉพาะกิจประกอบด้วยจ่าวัลลภพ่อของกริช จ่าวัตสัน พ่อของแพรวได้มารวมกำลังกับนายพลเหงียนวันตรี ที่มีฟามวันเทียวพ่อของมายด์เป็นคนสนิท ไปดักปล้นทองคำมูลค่ามหาศาลที่กองทัพเวียดนามเหนือนำโดยผู้พันเลวันเดื๊อกได้ขนจากธนาคารกลางในไซ่ง่อนไปฮานอย ที่เมืองดานัง ในการปล้นครั้งนั้น ฮอฟกินส์ได้กุญแจเปิดเซฟไปสองดอกแล้วแบ่งให้จ่าวัตสันถือไว้หนึ่งดอก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าหลังจากที่ทุกคนหลบหนีจ่าวัตสันได้หักกุญแจออกเป็นสองท่อนแบ่งให้จ่าวัลลภเพื่อนรักเก็บไว้ ส่วนรถขนทองคำฟามวันเทียวได้ขับพานายพลเหงียนวันตรีฝ่าออกมาแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอยจนทุกวันนี้ ทางฝ่ายผู้พันเลวันเดื๊อกก็ได้แต่เก็บรหัสเปิดเซฟเอาไว้ เหงียนวันตรีได้เล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ทุกคนฟังในขณะที่ฮอฟกินส์เล่าให้เลดิ๊กโทฟัง เลดิ๊กโทจึงวางแผนมาชิงรหัสเปิดเซฟจากนายพลเลวันเดื๊อก แต่ช้าไปเพราะว่ามินห์ซึ่งได้แปรพักต์จากฮอฟกินส์ได้มาชิงไปก่อน อีกด้านหนึ่งบินห์ซวน ลูกน้องของเลดิ๊กโทก็ไปลักพาตัวนายพลเหงียนวันตรีที่บ้านพิชิตแต่พลาดทำให้เหงียนวันตรีล้มสมองได้รับการกระทบกระเทือนกลายเป็นเจ้าชายนิทราไป ความลับของที่ซ่อนทองจึงมีท่าทีว่าจะต้องเป็นความลับไปชั่วกัลปวสาน แต่แล้วเหงียนวันตรีก็ละเมอออกมา ว่า "ซอ" ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาผูกพันมากที่สุดพอๆ กับมิเชล ทุกคนจึงพยายามค้นหาปริศนาจากซอแต่ไม่สามารถพบอะไร และเพื่อความปลอดภัยบาทหลวงจึงแอบเอาเหงียนวันตรีมารักษาที่ห้องลับในโบสถ์ เพราะมีความหวังอย่างมากว่าเหงียนวันตรีจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ฮอฟกินส์นำกุญแจออกมาให้เลดิ๊กโทดู พร้อมกับมินห์ได้ทำตัวเป็นคนลึกลับมาร่วมมือกับเลดิ๊กโทและเสนอรหัสให้ไปหนึ่งชุดและเก็บเอาไว้หนึ่งชุดแล้วเฉลยว่ามินห์คือลูกเลี้ยงที่นายพลเลวันเดื๊อกเก็บมาเลี้ยงและเอาไว้ใช้งาน ธันวาปล่อยข่าวว่ากริชกับแพรวมีกุญแจอยู่ ฮวนลูกน้องเก่าของเหงียนวันตรีจึงมาชิงกุญแจจากกริชไป ส่วนบินห์ซวนก็มาชิงกุญแจจากแพรวและจับแพรวกับมายด์ไป ทำให้โจอี้แค้นกริชจึงกระชากคอเสื้อกริชจนพระที่คล้องคอไว้ขาดและตกลงบนพื้นแตกกระจายทำให้เห็นว่ามีส่วนหัวของกุญแจที่หักอยู่ในนั้นและมีข้อความสั้นๆเขียนไว้ในกระดาษว่า "จ่าวัตสัน" ทั้งหมดจึงรู้ว่าอีกส่วนอยู่ที่แพรว เมื่อทุกคนไปช่วยแพรวออกมาได้จึงรู้ว่าไม้กางเขนที่จ่าวัตสันทิ้งไว้ให้แพรวก็คืออีกส่วนหนึ่งของกุญแจนั่นเอง ฮอฟกินส์กับเลดิ๊กโทตามจนมาเจอนายพลเหงียนวันตรีแล้วคุมตัวไว้ถ้าหากไม่มีใครบอกที่ซ่อนเหงียนวันตรีต้องตาย ทุกคนจึงพยายามคิดปริศนาจากซอแต่ก็ไม่ได้ผลจนกระทั่งมิเชลโมโหเอาซอฟาดกับฝาผนังจนแตกหมด แพรวจึงสังเกตเห็นว่าที่หนังหุ้มซอมีข้อความเขียนอยู่โดยบอกที่ซ่อนของทองซึ่งถูกฝังอยู่ใต้โบสถ์นั่นเอง ทุกฝ่ายจึงมารวมกันแล้วเปิดพื้นลงไปพบว่าทองถูกฝังไว้ลึกประมาณ 50 เมตร ฮอฟกินส์จึงสั่งให้กริช โจอี้ ธันวา มิเชล แพรว และมายด์ลงไปขน แต่เมื่อขนเสร็จฮอฟกินส์ก็ปิดฝาข้างบนขังทุกคนไว้ในห้องใต้ดินซึ่งไม่มีโอกาสที่จะออกมาได้ แต่ด้วยความฉลาดของกริชเขาคิดว่านายพลเหงียนวันตรีจะเอาตู้คอนเทรนเนอร์ใบใหญ่ขนาดนี้ลงมาได้อย่างไร ในที่สุดเขาก็คิดออก คือเมื่อทำห้องเสร็จก็ปล่อยน้ำจากแม่น้ำผ่านท่อเข้ามาเมื่อเต็มห้องจึงผลักตู้คอนเทรนเนอร์ลงไป และในทางกลับกันเขาก็ต้องออกไปทางที่น้ำเข้ามา ในที่สุดเขาก็หาเจอและพาทุกคนออกมาได้ เลดิ๊กโทหักหลังฮอฟกินส์และฆ่าฮอฟกินส์ตาย เลดิ๊กโทพร้อมมินห์และลูกน้องขนทองไปที่ชายแดนประเทศลาวหวังจะใช้เป็นทางผ่านขึ้นไปประเทศจีน แต่พวกของกริชก็ไม่ลดละแกะรอยตามมาแล้วเกิดการปะทะกันแต่พวกกริชเสียเปรียบกำลังจะถูกฆ่าทั้งหมด ในขณะที่นายพลเหงียนวันตรี บาทหลวง ท่านฑูตเวียดนาม พร้อมด้วยพิชิต ได้นำกำลังพลมาช่วย แต่กริชและพวกจะมีชีวิตเพื่อรอให้ทุกคนมาช่วยได้ทันหรือไม่ สุดท้ายทองจำนวนมหาศาลจะตกเป็นสมบัติของใคร?

เธอคือชีวิต 2551

เรื่องย่อ : เธอคือชีวิต (2551/2008) โตมร เป็นเด็กกำพร้า เติบโตอย่างโดดเดี่ยว เขาเป็นเด็กต่างจังหวัด แต่เป็นคนที่มุมานะจนสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยของรัฐ เขาต้องเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพทั้งที่ไม่มีที่พัก แต่โตมรไม่รู้สึกเดือดร้อนนัก ในมหาวิทยาลัยเขามีพี่รหัสเป็นผู้หญิงชื่อ เอื้อเฟื้อ หรือพี่เอื้อ เอื้อเฟื้อเป็นคนดีและเอื้อเฟื้อสมชื่อ เธอดูแล น้องรหัส คนนี้อย่างจริงใจ ทั้งคู่สนิทกันมาก จนโตมรได้มีโอกาสรู้จักกับ ปกป้องพี่ชายของเอื้อเฟื้อซึ่งเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่ต่างคณะ ทั้ง 3 คนมีนิสัยเหมือนกันคือรักสุนัขเหลือเกิน

รู้จักกันได้ไม่นานกลายเป็นว่าปกป้องสนิทกับโตมรมากกว่า อาจเป็นเพราะเป็นผู้ชายด้วยกัน และชอบอะไรคล้าย ๆ กัน ถึงแม้สองพี่น้องจะรู้จักโตมรจนสนิทกันมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าน้องชายคนใหม่ไม่มีที่พัก จนกระทั่งวันหนึ่งปกป้อง และเอื้อเฟื้อเห็นโตมรนั่งเล่นอยู่กับลูกสุนัขที่หน้าคณะทั้งที่เย็นมากแล้ว ท่าทางของโตมรทำให้ทั้งคู่ต้องเดินเข้าไปหา คุยกันจนรู้ว่าโตมรไม่มีที่พัก เขาอาศัยนอนที่มหาวิทยาลัย หรือวัดแถว ๆ นั้นมาระยะหนึ่งแล้ว ปกป้องอดคิดไม่ได้ว่า โตมรเหมือนคนเร่ร่อนจรจัดเข้าไปทุกวัน ซึ่งเขาไม่อยากเห็นอย่างนั้น ปกป้องและเอื้อเฟื้อจึงพาโตมรมาที่บ้านในเช้าวันหนึ่ง

หมอจิรัสย์ หรือปู่ใหญ่ของเขาตั้งกองทุนขึ้นมาสำหรับนักศึกษาแพทย์ที่ขาดแคลน แม้ปู่ใหญ่จะตายไปหลายปีแล้ว คนที่ดูแลและมีอำนาจตัดสินใจเลือกนักศึกษาคือ ย่าแขไข หรือ ภรรยาม่ายของปู่ใหญ่ โตมรตาม 2 พี่น้องมาอย่างไม่แน่ใจนักว่าเขาจะผ่านการพิจารณาของแขไข ปกป้องบอกโตมรว่า แขไขเป็นพี่สาวของ พัดชา ซึ่งเป็นย่าแท้ ๆ ของเขา พ่อของเขาคือ จิรายุ เรียกแขไขว่าป้า บ้านสวยหลังนี้เป็นของปู่ใหญ่กับแขไข ทั้งคู่ไม่มีลูกด้วยกัน เมื่อ ปู่กวิน สามีของย่าพัดชาตาย ย่าพัดชาจึงพาจิรายุลูกชายมาอยู่กับพี่สาว จนเรียนจบแต่งงานแยกครอบครัวไปอยู่ลำพัง

จนกระทั่งแม่ของปกป้องและเอื้อเฟื้อตาย จิรายุจึงพาลูกชายและลูกสาวมาอยู่กับย่า เพราะเขาต้องย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่ จะว่าไปแล้วจิรายุไม่อยากให้ลูกอยู่กรุงเทพกับป้าแขไขและแม่พัดชา แต่ขัดใจพัดชาไม่ได้ อีกประการหนึ่งจิรายุเองก็ห่วงป้าแขไขผู้มีบุญคุณและพัดชาเหมือนกัน ในบ้านสวยงามใหญ่โตนี้ มีเพียงผู้หญิงแก่ ๆ 2 คน กับบริวารเท่านั้น การที่ให้ปกป้องและเอื้อเฟื้ออยู่ด้วยก็จะดีเพราะจะได้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ ทั้งบ้านมีปกป้องเป็นผู้ชายอยู่คนเดียว และเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีสมชื่อ ปกป้อง ทว่าในวันนี้ปกป้องพาโตมรมาเพื่อขออนุญาตย่าแขไขให้น้องรักต่างสายเลือดมาอยู่ด้วย เมื่อปกป้องแนะนำโตมรให้แขไข และพัดชารู้จัก ชายหนุ่มกราบอย่างเรียบร้อย เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าแขไขมองเขาอย่างพิจารณา นางเรียกให้เขาเข้าไปหาใกล้ ๆ โตมรเข้าไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าแขไขเหมือนต้องมนต์

เมื่อสบตากันโตมรคิดว่าเขาเห็นแววตาของหญิงชรามีประกายของความยินดีขึ้นมาวูบหนึ่ง สีหน้าของเธออ่อนโยนและแจ่มใสขึ้นทันที แขไขยื่นมือซ้ายให้โตมรและยิ้มให้ โตมรตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมเขาจึงรวบมือของนางไว้อย่างอ่อนโยน เขาสัมผัสมือของนางและลูบเบา ๆ ไปทีละนิ้วจนถึงนิ้วนาง นิ้วของเขาสัมผัสกับรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ที่นิ้วนั้น เมื่อเขามองอย่างพิจารณาจึงเห็นว่าแผลนั้นเป็นรอยแผลเป็นที่คาดอยู่โคนนิ้วเหมือนแขไขสวมแหวนไว้ตลอดเวลา โตมรเงยหน้าสบตาแขไขอย่างแปลกใจ เขารู้ว่าเขาไม่มีสิทธิถามทว่าแขไขกลับทำให้ พัดชา ปกป้อง และเอื้อเฟื้อแปลกใจ เมื่อนางยิ้มให้โตมรอย่างแจ่มใส แววตาแจ่มจรัสเป็นประกายเหมือนสาว ๆ แขไขอนุญาตให้โตมรอยู่ที่บ้านนี้ได้

ยิ่งไปกว่านั้นเธออนุญาตให้เขาไปอยู่ที่ กระท่อมเจ้าเงาะ หรือเรือนเล็กในสวนซึ่งทุกคนในบ้านรู้ดีว่า แขไขรักและผูกพันกับที่นั่นมาก นางชอบไปวาดรูปที่นั่นเสมอจนเป็นเหมือนสตูดิโอส่วนตัวของแขไข ยิ่งไปกว่านั้นแขไขพูดกับโตมรเบา ๆ แต่ก็ดังพอที่ทุกคนจะได้ยินว่า ดีใจที่กลับมา ต่อไปนี้โลกไม่มืดมนอีกแล้ว ปกป้องและเอื้อเฟื้อมัวแต่ดีใจที่น้องเลิฟจะมาอยู่ด้วย จึงไม่ผิดสังเกตอะไรกับคำพูดของย่าแขไข มีแต่โตมรเท่านั้นที่แปลกใจกับคำพูดของย่าแขไข ยิ่งไปกว่านั้นเขาตอบไม่ได้ว่าทำไมเขาจึงรู้สึก คุ้นเคย และ ผูกพัน กับนางเหมือนรู้จักกันมานานแสนนาน

โตมรยกกระเป๋าเสื้อผ้าตามปกป้องไปที่กระท่อมเจ้าเงาะอย่างมีความสุข และเมื่อเห็นเรือนเล็กกะทัดรัดหรือกระท่อมตามที่แขไขเรียก เขารู้สึกว่ามันดีเกินกว่าจะเรียก กระท่อม โตมรจัดที่พักใหม่อย่างตื่นเต้น เขารู้สึกเหมือนกระท่อมนี้เป็นบ้านของตัวเองก็ไม่ปาน ยิ่งไปกว่านั้น ภาพวาดของแขไขที่ทิ้งเอาไว้นั้นสวยเหลือเกินบอกถึงฝีมือคนวาดได้อย่างดี แม้ปกป้องจะอนุญาตให้เขาเก็บลงกล่องได้ถ้ารู้สึกเกะกะ แต่โตมรตั้งใจว่าเขาจะค่อย ๆ เก็บเงินและทำกรอบแขวนตกแต่งไว้จะดีกว่า อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการเคารพเจ้าของสถานที่

วันรุ่งขึ้น กัญญา แม่บ้านมาตามเขาไปใส่บาตรกับผู้เฒ่าทั้ง 2 ปกป้องและเอื้อเฟื้อ โตมรรีบไปทันที ที่หน้าบ้านทุกอย่างพร้อมหมดแล้วรอเพียงพระภิกษุที่จะมารับบาตรเท่านั้น เมื่อปกป้องให้เขาช่วยแขไข ซึ่งนั่งบนเก้าอี้รถเข็นเพื่อใส่บาตร โตมรเข้าไปอยู่ข้าง ๆ นางอย่างไม่เคอะเขิน เขาใช้มือแตะประคองมือที่สั่นเทาของหญิงชราที่ถือทัพพีตักข้าวสวยร้อน ๆ หอมกรุ่นจากโถกระเบื้องใบโตใส่ลงในบาตรอย่างอ่อนโยน นุ่มนวล ส่วนปกป้อง เอื้อเฟื้อ และพัดชาช่วยหยิบกับข้าว ขนม ดอกไม้ใส่บาตร ขณะที่ใส่บาตรร่วมกัน โตมรรู้สึกอบอุ่นวาบลึกในใจอย่างบอกไม่ถูก แขไขเองก็มีสีหน้าแจ่มใส มีความสุขเช่นกัน เมื่อใส่บาตรเสร็จพระไปหมดแล้ว ก่อนจะเข็นเก้าอี้ของแขไขกลับเข้าบ้าน โตมรเห็นชายคนหนึ่งในชุดดำเดินจากไปอย่างโกรธแค้นจนชายเสื้อสะบัดอย่างแรง เขากระพริบตาอีกครั้งก็ไม่มีแล้ว

โตมรคิดว่าเขาตาฝาด แต่แขไขกลับช่วยยืนยันความคิดของเขาว่าถูกต้องเมื่อนางมองไปทางหน้าประตูบ้านและพูดว่า นั่นใครใส่ชุดดำอยู่ตรงนั้น ปกป้อง เอื้อเฟื้อ และพัดชาหันไปตามสายตาของแขไขแต่ไม่พบใคร ทว่าแขไขยังคงมองอยู่ที่เดิมอย่างไม่มั่นใจอยู่ครู่หนึ่งเมื่อไม่เห็นใครจริง ๆ นางจึงยอมกลับขึ้นไปรับประทานอาหารเช้าที่ระเบียงบ้านอันสวยงามร่มรื่นโดยมีโตมรร่วมโต๊ะด้วยนอกจากหลาน ๆ ของนาง หลังอาหารเช้าวันนั้น วันที่โตมรรู้สึกอบอุ่นมีความสุขที่สุดในชีวิตแขไขก็หลับไป นางหลับไปโดยไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยแม้จะยังมีลมหายใจก็ตาม

เวลาผ่านไป 2 ปี แขไขถูกส่งเข้าโรงพยาบาล นางเป็นเจ้าหญิงนิทราในห้องไอซียู โตมรจะมาเยี่ยมเธอบ่อยครั้งจนคุ้นเคยกับพยาบาลที่วอร์ดเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในวันพระเขาจะเตรียมของใส่บาตรมาให้แขไข ผู้หญิงที่มีพระคุณสำหรับเขา และเขาผูกพันมากที่สุดเพื่อให้เธอได้จบของก่อนที่เขาจะไปใส่บาตรแทนเธอ โตมรเรียนอยู่ปี 3 เอื้อเฟื้ออยู่ปี 4 ส่วนปกป้องเรียนจบแล้ว เขาเริ่มทำงาน ถ้าว่างจะไปต่างจังหวัดเสมอ มีเพียงโตมรที่รู้ว่าปกป้องไปบ้าน รวิชา แฟนสาวที่คบ ๆ เลิก ๆ แต่เมื่อเรียนจบทั้งคู่ก็หันมาคบกันอย่างจริงจัง เอื้อเฟื้อเองก็มี ชีวา เพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นคนรู้ใจ จึงออกไปเที่ยวตามประสาคนรัก

จิรายุนั้นแต่งงานใหม่กับ ปัณรสี และแทบจะย้ายไปอยู่เชียงใหม่เป็นการถาวรถึงกลับกรุงเทพก็จะพักอยู่คอนโดที่ซื้อไว้ จิรายุไม่ค่อยกลับมาอยู่ที่บ้านนี้เท่าไหร่ ส่วนโตมรไม่ค่อยไปไหนนอกจากเยี่ยมแขไข แล้วเขาชอบเลี้ยงสุนัข และวาดรูปอยู่ที่บ้านพัก เย็นวันหนึ่งโตมรได้รับโทรศัพท์จากเอื้อเฟื้อเป็นข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของเขาในรอบ 2 ปี เอื้อเฟื้อพูดพลางร้องไห้พลางว่าตำรวจโทรมาบอกเธอว่าปกป้องขับรถชนรถสิบล้ออาการสาหัส เอื้อเฟื้อให้โตมรไปดูปกป้องที่โรงพยาบาลแทนเธอ โตมรรีบออกจากบ้านทันที เขารู้สึกเหมือนใจจะขาด สำหรับเขาแล้วปกป้องเป็นเหมือนพ่อ และพี่ชายของเขา และที่เขามีชีวิตที่ดีในวันนี้ได้ก็เพราะปกป้อง

เมื่อถึงโรงพยาบาลโตมรรีบเดินเพื่อจะให้ทันลิฟต์ตัวหนึ่งที่กำลังจะขึ้น เขาเห็นชาย หญิงคู่หนึ่งสวมชุดดำทั้งคู่กำลังอยู่ในลิฟต์และกำลังจะปิด โตมรเห็นเพียงว่าผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สง่า แต่ผู้หญิงสาวที่มายืนด้วยกันนั้นผิวผ่อง เธอดูตัวเล็กบอบบางหรือเกิน เมื่อยืนคู่กับชายคนนั้น อารามรีบร้อนโตมรสะดุดบันไดหกล้ม เข่ากระแทกพื้นอย่างแรงจนต้องทรุดตัวลงนั่ง เขามองประตูลิฟต์ที่เลื่อนปิดอย่างเจ็บใจ เขาเป็นห่วงปกป้องและไม่อยากเสียเวลาสักวินาทีที่จะไปหาพี่ชายที่เขารัก ส่วนชายหญิงคู่นั้นเตรียมตัวออกจากลิฟต์ เมื่อถึงชั้นที่ต้องการคือหอผู้ป่วยหนัก (ICU) ชายหนุ่มต้องออกแรงดึงตัวหญิงสาวหน้าตาน่ารักออกจากลิฟต์อย่างเอ็นดู

ชายหนุ่มผู้นั้นชื่อ แสง เรียกสาวน้อยที่มาด้วยอย่างทั้งรักและเอ็นดูว่า หนูเล็ก หรือ อรอินทุ์ ให้ตามเขามา เขาอดเอ็นดูไม่ได้ที่สาวน้อยชอบลิฟต์หรือเกิน เธอสนใจทุกอย่างอยากเรียนรู้ทุกเรื่อง แสงจูงมือเธอออกจากลิฟต์ เขาบอกเธอว่าเวลาน้อยเต็มทีแล้ว อรอินทุ์มองบรรยากาศรอบตัวอย่างสงสารและหดหู่ เธอทำใจไม่ได้สักทีกับงานที่ต้องรับผิดชอบ งานของ ยมทูต ทูตที่มารับดวงวิญญาณที่ถึงเวลากลับไปสู่ดินแดนแห่งความตาย อรอินทุ์ทำหน้าที่มา 2 ปีแล้วโดยมีแสงเป็นยมทูตพี่เลี้ยง อรอินทุ์อยากทำได้เหมือนแสงที่เข้มแข็งและเด็ดขาด เธอเดินตามแสงเข้าไปในห้องฉุกเฉินโดยไม่มีใครขัดขวาง เพราะไม่มีใครเห็น แสงพาไปที่เตียงของปกป้อง อรอินทุ์มองปกป้องอย่างสงสาร ร่างกายเขาดูบอบช้ำเต็มที ตามร่างกายเต็มไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์

แสงถามเธอว่า เธอแน่ใจว่าทำได้ตามลำพัง อรอินทุ์รับคำ แล้วจึงเดินไปห้องไอซียู ฝั่งตรงข้าม อรอินทุ์ยืนอยู่ปลายเตียงของปกป้อง มองสัญญาณชีพของปกป้องซึ่งเหลือน้อยเต็มที อรอินทุ์ข่มใจเรียกปกป้องให้ไปกับเธอ ส่วนปกป้องผงกศีรษะขึ้นตามเสียงเรียก เขาเบิ่งตามองเธออย่างตกใจ ก่อนพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า ย่าแข – รุจ ไม่ทันที่อรอินทุ์จะตอบรับหรือปฏิเสธ เธองงและไม่รู้จะทำอย่างไรดี แสงก็กลับมาเขาเพ่งตาสบตาปกป้องและพูดเข้ม ๆ ว่า ให้ตามเขามาเวลาของเขาหมดแล้ว อรอินทุ์มองภาพ วิญญาณ ของปกป้องที่ลุกขึ้นเดินมาอยู่ตรงหน้าแสงอย่างสงสารพร้อม ๆ กับที่คลื่นหัวใจของปกป้องกลายเป็นเส้นยาว เสียงแหลมของอุปกรณ์ทำให้รู้ว่าปกป้องสิ้นชีวิตแล้ว

อรอินทุ์มองหมอและพยาบาลซึ่งพยายามยื้อชีวิตปกป้องอย่างสุดความสามารถ ทุกคนชุลมุนวุ่นวายไปหมด เธออยากบอกพวกเขาว่าไม่มีประโยชน์ วิญญาณปกป้องอยู่ในมือคุณแสงแล้ว ทุกอย่างบนโลกนี้สำหรับปกป้องหมดแล้ว อะไรบางอย่างและคำพูดสุดท้ายของปกป้องทำให้อรอินทุ์ขอร้องแสงให้เวลาเขาได้ลาญาติอีก 2 นาที แต่แสงไม่ยอม เขามองแววตาอ้อนวอนของสาวน้อยอย่างอึดอัดใจ ทำอย่างไรอรอินทุ์จึงจะยอมรับได้กับ หน้าที่ ของเธอ หน้าที่ของยมทูตที่ไม่มีสิทธิ์ แตะต้องชีวิต ทำได้แค่รับวิญญาณเท่านั้น แสงตัดสินใจพาอรอินทุ์ไปห้องไอซียู ฝั่งตรงข้าม เขาพาเธอไปที่เตียงของแขไข เธอมองร่างหญิงชราที่นอนหลับไม่รับรู้อะไร พลังบางอย่างสัมผัสให้เธอเหลียวมองไปทางห้องไอซียูเด็ก

เธอเห็นด้วยอำนาจพิเศษของเธอว่า มีเด็กหญิงอายุราว 10 ขวบ ก็นอนหลับใหลไม่ได้สติเหมือนกับหญิงชราตรงหน้านี้ แสงเรียกอรอินทุ์เมื่อเห็นเธอเหม่อไปทางอื่น เธอหันกลับมาตามเสียงเรียก มองแสงที่จับมือของแขไขอย่างทะนุถนอม สายตาที่มองแขไขนั้นอ่อนโยน นุ่มนวล มีแววรักและหวานอย่างที่อรอินทุ์ไม่เคยเห็นแสงมองใครนอกจากเธอ แสงบอกอรอินทุ์ว่า มนุษย์ต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่าง ถึงจะมี ชีวิต สมบูรณ์ได้ คือ ร่าง ชีวิต และ วิญญาณ แต่ละคนมีเวลา มีชีวิตไม่เท่ากัน ไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อใดจะหมดเวลาของตัว แขไขเป็นตัวอย่างของร่างที่มีชีวิตคือยังหายใจอยู่ แต่หลับใหลไม่ได้สติ เพราะวิญญาณของเธอหายไป แต่เธอยังไม่ตาย แสงพูดกับแขไขเบา ๆ ว่า เขาขอเวลาที่เธอจะพร้อมไปกับเขาซึ่งก็คงไม่นาน

แม้อรอินทุ์ไม่ได้ยินว่าแสงพูดอะไรกับแขไข แต่เธอก็มองออกว่าผู้หญิงคนนี้สำคัญกับแสงมาก อรอินทุ์ตัดสินใจเอื้อมมือจับมืออีกข้างของแขไขบ้างโดยที่แสงไม่ได้มอง เพราะสมาธิของเขาทั้งหมดรวมถึงจิตใจด้วย ผูกพันอยู่กับแขไขเท่านั้น ส่วนอรอินทุ์ทันทีที่เธอสัมผัสมือแขไข เธอรู้สึกเหมือนถูกกระแทกด้วยพลังบางอย่างที่รุนแรง ภาพต่าง ๆ มากมายไหลผ่านม่านตาเหมือนรถไฟวิ่งผ่าน เธอเห็น งานแต่งงาน น้ำตก ลูกหมา ภาพวาด และบ้านริมน้ำ อรอินทุ์ยืนสั่นเหมือนถูกไฟช๊อต เธอปวดหัวราวหัวจะแตก เธอพยายามเรียกแสงแต่ก็ยากเต็มที

ขณะเดียวกันแสงก็ตกใจ เมื่อแขไขขยับมือและลืมตาขึ้น แสงหันมาหาอรอินทุ์ทันที สาวน้อยซูบซีดราวจะหมดพลัง เธอเรียกให้แสงช่วย ชายหนุ่มตกใจมาก เขารวบรวมพลังกระชากอรอินทุ์จากแขไข แสงบอกอรอินทุ์ว่าให้รีบไปรับปกป้อง เพราะหมดเวลาแล้ว เขาคว้ามือสาวน้อย แต่มือของแสงกลับผ่านทะลุมืออรอินทุ์ไปเหมือนเป็นอากาศธาตุ อรอินทุ์ตกใจเรียกแสงเสียงดัง ทำให้ วันเพ็ญ พยาบาลประจำวอร์ดที่ดูแลห้องไอซียูหันมามอง เธอเดินมาที่เตียงแขไข และดุอรอินทุ์ว่า ทำไมเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมยังส่งเสียงรบกวนคนไข้อีก

อรอินทุ์ตกใจที่วันเพ็ญเห็นเธอ ขณะเดียวกัน แขไขเอื้อมมือที่ยังมีพลังน้อยนักจับมือวันเพ็ญ เธอจึงมองหน้าแขไข และแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นแขไขลืมตา มือของแขไขจับมือวันเพ็ญ แม้จะเบาแสนเบา แต่ก็รู้สึกได้ แขไขกระพริบตา 2 3 ครั้งก่อนจะหลับไป มือที่จับวันเพ็ญอ่อนแรงลง แขไขกลับไปเป็นเจ้าหญิงนิทราอีกครั้ง ส่วนอรอินทุ์รีบวิ่งไปหาแสงซึ่งเธอรู้อยู่ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม อรอินทุ์วิ่งชนประตูกระจกอย่างแรง เธอไม่สามารถผ่านออกไปได้อย่างง่ายดายเหมือนเคย อรอินทุ์ยืนงงอยู่หน้าประตูจนวันเพ็ญต้องเปิดประตูให้ พยาบาลสาวงงที่สาวน้อยหน้าตาดี ทำไมดูเอ๋อ ๆ ซุ่มซ่าม และเปิดประตูไม่เป็น

อรอินทุ์เดินออกมาอยู่ห้องโถงกลางระหว่าง ICU กับฉุกเฉิน เธอเห็นแสงเดินนำปกป้องออกมา เขาพยายามพูดกับเธอ แต่อรอินทุ์ไม่รู้เรื่อง ซ้ำร้ายร่างของแสงกับปกป้องค่อย ๆ หายไปกับตา เธอรู้ว่าทั้งคู่ไปที่ดินแดนแห่งความตาย ดินแดนที่เธออยู่มา 2 ปี ไม่รู้ที่มาของตัวเอง รู้เพียงว่าเธอเป็นยมทูตฝึกหัด มีแสงเป็นพี่เลี้ยง และสักวันเขาและเธอจะข้ามทะเลสาบกว้างใหญ่ ก้าวข้ามไปสู่ดินแดนหลังความตายที่แท้จริง แต่ตอนนี้อรอินทุ์รู้สึกเหมือนเธอมีชีวิต ขณะที่สับสนกับตัวเองเธอเห็นผู้คนรอบตัวมีแต่ความทุกข์กับการจากไปของคนที่รัก เธอเห็นชายหนุ่มผมยาวระต้นคอฟุบหน้าร้องไห้ อรอินทุ์สงสัยว่าเขาร้องไห้ทำไม

เธอได้คำตอบเมื่อเอื้อเฟื้อวิ่งเข้ามาหาชายหนุ่มที่เธอเรียกว่าโต ชายหนุ่มลุกขึ้นและกอดเอื้อเฟื้อร้องไห้ โตมรร้องไห้เขาพูดแต่ว่าเขามาไม่ทันปกป้อง เท่านี้เอื้อเฟื้อก็รู้ว่าเธอเสียพี่ชายที่รักยิ่งไปแล้ว ทั้งคู่กอดกันร้องไห้ สงสารปกป้องจนอรอินทุ์ต้องบอกว่าอย่าห่วงเขาเลยเขาไปสบายแล้ว เสียงใส ๆ ของเธอทำให้โตมรและเอื้อเฟื้อหันมามองอย่างแปลกใจ เธอบอกเอื้อเฟื้อว่าเธอมาทันปกป้องและได้ยินปกป้องพูดครั้งสุดท้ายว่า ย่าแข – รุจ เอื้อเฟื้อถามอรอินทุ์ว่าเธอเป็นใคร ขณะที่โตมรยืนงงอยู่ครู่หนึ่ง ชื่อของรุจคล้ายแสงวาบเข้ากลางใจ โตมรแทบช็อคเมื่อได้ยินเสียงอรอินทุ์บอกเอื้อเฟื้อว่าเธอเป็นแฟนของโตมร

เวลานั้นไม่เปิดโอกาสให้โตมรปฏิเสธหรืออธิบายอะไรได้เพราะ ปัณรสี แม่เลี้ยงของปกป้องกับเอื้อเฟื้อมาพอดี เธอโศกเศร้าเสียใจอย่างออกนอกหน้า จนอรอินทุ์รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัวและไม่จริงใจ จะอย่างไรก็ตามอรอินทุ์ก็ตามโตมรกลับบ้านจนได้ เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพัง เธอบอกโตมรว่าเธอเป็นยมทูตและขณะนี้เธอกลับดินแดนแห่งความตายไม่ได้ ติดต่อคุณแสงซึ่งเป็นยมทูตพี่เลี้ยงก็ไม่ได้ โตมรอยากจะบ้าเขาคิดว่าอรอินทุ์คือเด็กเอ๋อหรือสมองเสื่อม อรอินทุ์พูดเหมือนอ่านใจเขาออกว่าเขาคิดอะไร เธอยืนยันคำเดิมและขอร้องว่าอย่าเอาเธอไปทิ้งที่ไหน เธอไม่มีใครนอกจากเขา สถานการณ์บังคับให้โตมรต้องรับอรอินทุ์ไว้และตั้งใจว่าเสร็จงานศพปกป้องเมื่อไหร่เขาจะพาเธอไปส่งโรงพยาบาล

ในช่วงเวลาของงานศพ อรอินทุ์ช่วยงานแข็งขัน ขณะเดียวกันที่อยู่บ้านเธอมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างคุ้นตา เหมือนเคยอยู่มาก่อน เมื่อเธอบอกโตมรเขาก็ว่าเธอบ๊อง ทว่าดวงตาสวยใสซื่อนั้นบอกโตมรว่าอรอินทุ์พูดจริง ในงานศพปกป้องอรอินทุ์เห็นคุณแสงมองเธออย่างห่วงใย เขาพูดเบามากแต่เธอก็รู้ว่าเขาจะหาทางมารับเธอไปให้ได้

ในงานสวดศพคืนที่ 3 ย่าพัดชา เอื้อเฟื้อ จิรายุ และปัณรสีก็ได้รับรู้เรื่องชวนตกใจจาก รวี ซึ่งเป็นนายอำเภออยู่จังหวัดใกล้ ๆ เขาแนะนำตัวเองและบอกว่าในวันเกิดเหตุปกป้องไม่ได้ไปคนเดียวแต่มี รวิชา ลูกสาวของเขาไปด้วยซึ่งเธอบาดเจ็บสาหัส อะไรไม่ร้ายเท่าเรื่องที่ รวี บอกว่า รวิชากำลังท้อง ส่วนโตมรพยายามหาทางทิ้งอรอินทุ์ให้ได้ เขาไม่เชื่อเรื่องที่เธอเล่า จนอรอินทุ์ตัดสินใจพิสูจน์ให้โตมรดู เธอให้โตมรพาเธอไปหาแขไข ก่อนจะไปหาแขไขทั้งคู่แวะเยี่ยมรวิชาก่อน อรอินทุ์จับมือรวิชาแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอท้าให้โตมรพาเธอไปหาแขไข ทันทีที่เธอจับมือแขไข อรอินทุ์รู้สึกเหมือนสัมผัสพลังที่แรงกล้า

เธอพยายามต้านทานพลังนั้น โตมรมองอรอินทุ์อย่างตกใจ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อแขไขลืมตามองเขา และขยับปากจะพูด โตมรก้มลงใกล้ ๆ หน้าแขไข และจับคำได้ว่าแขไขพูดว่า รุจ ส่วนอรอินทุ์ปวดร้าวไปทั้งตัวเหมือนจะระเบิด เธอรู้สึกว่าใกล้ความตายไปทุกที อรอินทุ์เรียกให้โตมรช่วยอย่างอ่อนแรง โตมรรีบปลดมือของอรอินทุ์ออก และต้องรีบรับร่างอ่อนแรงของอรอินทุ์ไว้แทบไม่ทัน นับจากวันนั้นเป็นต้นมาโตมรเริ่มยอมรับอรอินทุ์และเรื่องแปลก ๆ ของเธอ อรอินทุ์น่ารักสดใส มีชีวิตชีวา และติดโตมรเหลือเกิน

แรก ๆ โตมรก็รำคาญ ทว่านานวันเข้าเขาก็รู้สึกมีความสุขกับสาวน้อยร่างเล็ก น่ารัก ที่ตามเขาไปทุกแห่ง เสียงใสถามโน่นถามนี่อย่างอยากรู้อยากเห็นไปทุกอย่าง เธอสนใจรูปที่แขไขวาดค้างไว้ รูปผู้ชายที่มีเพียงโครงหน้า แต่ไม่มีรายละเอียดและโตมรนำมาใส่กรอบ ติดผนังไว้

เย็นวันหนึ่ง พัดชาให้มาตามโตมรและบอกว่าวันเพ็ญแจ้งมาว่าแขไขมีอาการดีขึ้น ลืมตาและพูดได้ โตมรยอมรับว่าจริงและบอกว่าแขไขพูดถึง รุจ พัดชาตกใจจนเห็นได้ชัด ส่วนจิรายุและเอื้อเฟื้อให้โตมรไปตามหารุจซึ่งคาดว่าต้องเกี่ยวข้องกับรวิชาและปกป้อง โตมรไปอย่างเต็มใจโดยมีอรอินทุ์ไปด้วย แม้จะบอกตัวเองว่ารำคาญ แต่ถ้าอรอินทุ์งอนเขาก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องรีบง้อ และชอบฟังนักหนาเวลาเธอบอกว่ารักเขา โตมรไม่กล้าสบตาสวยใส ซื่อ และหวานที่มองเขาและพูดจริงใจว่าเธอรักเขามาก

เธอรักทุกอย่างในโลกนี้ เธอรัก ชีวิต และอยากให้ทุกคนคิดเหมือนเธอ เวลาที่โตมรยั่วให้โกรธอรอินทุ์จะต่อว่าอย่างน้อยใจว่า ทำไมเขาไม่รักเธอบ้างสักนิด เวลาของเธอมีน้อยเหลือเกินสักวันถ้าเธอต้องไปเขาจะต้องเสียใจ โตมรได้แต่หัวเราะเยาะและปฏิเสธว่าไม่มีทาง อรอินทุ์จึงบอกจริงจังว่า คนเราเมื่อมีชีวิตอยู่ก็ควรทำดีต่อกัน รักกัน และควรบอกรักกันด้วย ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาบอกเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งจากไปแล้ว โตมรยังปากแข็ง หนุ่มสาวทั้งคู่ไปถึงบ้านรวี และพบ ย่าจา (รุจา) เมื่อถามหารุจ รุจาจึงบอกว่าเขาตายไป 50 ปีแล้ว วันนั้นทั้งคู่กลับกรุงเทพไม่ได้เพราะรถเสีย เย็นนั้นเองโตมรก็ได้รู้หัวใจตัวเอง เมื่อเขาพายเรือให้อรอินทุ์นั่งและเรือล่มเมื่อกระแทกเข้ากับแพผักตบชวาขนาดใหญ่ทั้งคู่จมหายไปในน้ำ

เสียงเรียกของอรอินทุ์ทำให้โตมรพยายามมองหา แล้วเขาแทบไม่เชื่อตาเมื่อเห็นว่า ชายหนุ่มชุดดำหน้าตาคมสันเรียกอรอินทุ์ให้ไปกับเขา แต่อรอินทุ์ปฏิเสธเธอเรียกเขาว่าคุณแสง แสงพยายามกระชากอรอินทุ์ไปด้วยทว่าโตมรไม่ยอมเขารวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายดึงอรอินทุ์มาจนได้ โตมรทะลึ่งพรวดขึ้นจากน้ำ เขาประคองเธอว่ายเข้าฝั่ง มีคนมาช่วยมากมาย ตัวโตมรเองก็เรียกอรอินทุ์ หรือ ตัวเล็กอย่างที่เขาชอบเรียกเธอ เขาทนไม่ได้ถ้าเธอจะจากไป กำนันทอง ให้โตมรอุ้มอรอินทุ์พาดบ่าและวิ่งจนเธอสำลักน้ำออกมา เมื่อฟื้นสาวน้อยก็กอดโตมรแน่นคร่ำครวญว่าอย่าให้ใครพรากเธอไปจากเขา นาทีนั้นโตมรจึงรู้ว่ามี ตัวเล็ก สาวน้อยจอมจุ้นวุ่นวายคนนี้เข้ามาอยู่แล้วเต็มหัวใจ

วันรุ่งขึ้น กำนันทองมาช่วยแก้รถให้โตมร แกบอกว่าแขไขมีบุญคุณกับแกที่รับ ลูกจันทน์ หรือ ตมิสา ลูกสาวแกไว้ให้รักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างดี ก็คือโรงพยาบาลเดียวกับที่ แขไขเป็นเจ้าหญิงนิทรานั่นเอง เช้าวันรุ่งขึ้น รุจาให้หนุ่มสาวลงมาใส่บาตร เมื่อโตมรจับทัพพี อรอินทุ์ก็วางมือลงบนมือเขาและช่วยกันใส่บาตร โตมรอบอุ่นและมีความสุขที่สุดเมื่อใส่บาตรเสร็จอรอินทุ์จึงบอกว่าเธอเคยเห็นโตมรกับแขไขใส่บาตรด้วยกันมาก่อน ที่บ้านรุจาโตมรพบรูปวาดคล้าย ๆ กับของแขไขมากมาย วิวเดียวกันแต่ต่างมุม สำหรับนักเรียนศิลปะอย่างเขาแล้ว มองดูรู้ว่าผู้วาดมีฝีมือเพียงใด แม้โตมรจะเห็นภาพวาดฝีมือแขไขมากมายแต่ยังไม่มีสายตาละเอียดเหมือนอรอินทุ์

เธอบอกได้ทันทีว่าเคยเห็นรูปนี้ที่นี่อย่างไร ความตายของรุจกลายเป็นปริศนาที่จิรายุให้โตมรและอรอินทุ์ค้นหาความจริง ขณะที่อรอินทุ์เองก็ต้องต่อสู้กับแสงที่พยายามพรากเธอไปจากโตมร ทั้งคู่ไปคุยกับรุจาอีกครั้งจึงรู้ว่ารุจถูกฆ่าตาย เขาถูกมีดปักคาหลังก่อนฆาตรกรจะถีบลงน้ำ รุจลอยมาตายที่บันไดท่าน้ำที่บ้านโดยที่มือยังกำผ้าเช็ดหน้าไว้ด้วย โตมรแปลกใจที่เขามีอาการปวดหลังขึ้นมาทันทีที่รู้ว่ารุจถูกแทง อาการนี้เขาเป็น ๆ หาย ๆ มานานแล้ว อาการที่เหมือนมีอะไรปักคาอยู่บนหลังของเขา โตมร อรอินทุ์ จิรายุ และเอื้อเฟื้อพยายามปะติดปะต่อเรื่องจนรู้ว่า รุจกับแขไขรักกันมาก ทั้งคู่ชอบวาดรูปเหมือน ๆ กัน แต่แขไขต้องแต่งงานกับจิรัสย์ หรือปู่ใหญ่เพื่อทดแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตบิดาเธอ

แม้ชีวิตหลังแต่งงานของแขไขจะมีความสุขจนใคร ๆ อิจฉา เวลาผ่านไปถึง 8 ปีกว่ารุจจะถูกฆ่าตายโดยจับใครไม่ได้ ข้อมูลเหล่านี้ทำให้พัดชาร้อนรุ่มราวอกจะระเบิด ถ้าใครเข้าไปในห้องของเธอจะเห็นรูป จิรัสย์เต็มไปหมด ขณะที่ในห้องแขไขไม่มีเลย แสงมาขู่อรอินทุ์มากขึ้น เขาบอกว่าเขาสร้างเธอได้เขาก็จะทำลายเธอได้เช่นกัน อรอินทุ์กลัวจับใจเธอจึงใช้เวลาที่เหลือกับโตมรให้มากที่สุด บอกเขาว่ารักทุกวัน อรอินทุ์ตัดสินใจเชื่อมต่อพลังกับแขไขอีกครั้ง คราวนี้อรอินทุ์ป่วยหนักกว่าทุกครั้ง แขไขดูดพลังชีวิตจากเธอไปจนเกือบหมด แขไขแข็งแรงจนกลับบ้านได้ หญิงสาวต่างวัยมองหน้ากันอย่างเข้าใจกันเป็นอย่างดี แขไขไปบ้านรุจาเพื่อทำบุญให้รุจ เธอต้องการรู้ว่ารุจตายอย่างไร หลักฐานที่รุจาส่งให้แขไขคือ ผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกปีบคู่ ซึ่งแขไขรู้ทันทีว่าใครคือฆาตรกร

ส่วนอรอินทุ์รู้ดีว่า ชีวิต และ ร่าง ของเธอจวนหมดเวลาแล้ว ความสุขของเธอคือการที่โตมรคอยดูแลเธอไม่ห่าง เขากอดเธอเพื่อถ่ายทอดพลังชีวิตให้แต่มันก็ไม่ใช่ วันหนึ่งอรอินทุ์เร่งให้โตมรไปหาแขไข เธอบอกว่าแขไขอยู่ในอันตราย โตมรอยู่หน้าห้องแขไขได้ยินพัดชาทะเลาะกับแขไข โตมรช็อคเมื่อความจริงก็คือ พัดชาหลงรักจิรัสย์มานาน เธอเสียใจที่จิรัสย์รักแขไข วันหนึ่งเมื่อจิรัสย์กับพัดชาเห็นรูปรุจที่แขไขวาดค้างไว้ จิรัสย์ก็หมดความอดทน พัดชาอาสาช่วยพี่เขยด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ โดยไม่รู้ว่าจิรัสย์หลอกให้เธอไปฆ่ารุจโดยบอกว่าเขาจะรอเธอที่โรงแรม เมื่อพัดชากลั้นใจแทงมีดใส่หลังรุจและผลักตกน้ำไปแล้ว

เธอกลับโรงแรมแม้จะแปลกใจที่ห้องพักมืดเหลือเกินแต่อ้อมกอดของชายคนหนึ่ง คนที่เธอเข้าใจว่าเป็นจิรัสย์ก็ทำให้เธอหวามไหว พัดชายอมตัวยอมใจเป็นของเขาด้วยความรักอย่างหมดหัวใจ จนเธอท้องจึงต้องแต่งงานกับกวินหมอรุ่นน้องจิรัสย์ พัดชาเข้าใจว่าลูกในท้องของเธอคือจิรายุคือลูกของจิรัสย์ ทว่าแขไขหยิบหลักฐานบางอย่างให้พัดชาดูและบอกว่าพัดชาถูกหลอก จิรัสย์อยู่กับเธอตลอดเวลา พัดชาเข้าใจทันทีว่าชายในคืนนั้นคือกวินนั่นเอง กวินที่แสนดีรักเธอมานานและรักจนตาย พัดชาเตลิดกลับห้องพักขณะที่แขไขออกมาพบโตมร เธอชวนโตมรไปหาอรอินทุ์เพื่อยุติเรื่องทุกอย่างเสียที เมื่อ 2 สาวต่างวัยพบกัน แขไขและอรอินทุ์เชื่อมพลังเข้าหากัน นาทีนั้นคุณแสงก็ปรากฏ แสงคือ จิรัสย์นั่นเอง เขารักแขไขมากจนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง

โตมรมองภาพตรงหน้าเหมือนฝันไป พายุรุนแรงอรอินทุ์กับแขไขจับมือกันแน่นโดยมีจิรัสย์หรือยมทูตแสงจ้องทำลายอรอินทุ์ แสงบอกว่าอรอินทุ์คือร่างมายาที่เขาสร้างขึ้น และนำวิญญาณของแขไขกับลูกจันทน์มารวมไว้ในร่างอรอินทุ์เพื่อรอวันที่แขไขจะหมดเวลาและไปอยู่กับเขาจริง ๆ ส่วนร่างของอรอินทุ์ และวิญญาณของลูกจันทน์จะถูกทำลาย แสงอาฆาตโตมรว่าถ้ารู้ว่าเป็นรุจคงฆ่าเสียแล้ว อรอินทุ์พูดกับโตมรเป็นครั้งสุดท้ายว่าเธอจะกลับมาหาเขาให้เขารออยู่ที่นี่ ท่ามกลางลมพายุรุนแรง แสง แขไข และอรอินทุ์สะบัดมือหลุดจากมือของแสง แล้วทุกอย่างก็สงบลง

โตมรรู้ความจริงว่าเขาคือรุจ และแขไขรู้ตั้งแต่วันแรกที่พบกัน ทว่าเวลานี้วันนั้นเขารักและต้องการ อรอินทุ์ เมื่อใครถามหาตัวเล็กหรืออรอินทุ์เขาจะบอกว่าผู้ปกครองรับไปแล้ว แขไขนอนสิ้นใจบนเตียงที่อรอินทุ์นอนเป็นประจำ หลังจัดงานศพแขไข โตมรมุจนเรียนจบและไปเรียนต่อต่างประเทศ จากเดิมที่เขาชอบวาดภาพอาวุธ เขาก็หันมาวาดภาพดอกไม้ และร่วมกับโครงการอนุรักษ์พันธุ์พืช โตมรอยู่ต่างประเทศหรือไม่ก็เข้าป่าเพื่อวาดรูป ที่เขาเปลี่ยนเส้นทางชีวิตมาวาดดอกไม้ก็เพราะอรอินทุ์รักดอกไม้นักหนานั่นเอง โตมรทำงานหนักจนเป็นจิตรกรที่มีผลงานระดับโลก แต่เขาไม่เคยกลับไปที่บ้านเลย คงได้รับแต่จดหมายจากเอื้อเฟื้อและชีวาเป็นระยะ ๆ

รวิชาคลอดลูกเป็นหญิงชื่อ น้อยหน่อย และฝากเอื้อเฟื้อและชีวาเลี้ยงเพราะเธอต้องไปทำงานต่างประเทศ ไม่นานนักรวิชาก็แต่งงานใหม่ น้อยหน่อยจึงเป็นลูกเอื้อเฟื้อ และชีวาไปโดยปริยาย เวลาผ่านไปสิบกว่าปี วันหนึ่งน้อยหน่อยเขียนจดหมายมาบอกว่าเอื้อเฟื้อถูกรถชนกำลังจะต้องเข้าห้องผ่าตัด โตมรใจหายรีบเก็บของออกจากป่ากลับกรุงเทพ เขากลัวประวัติศาตร์จะซ้ำรอยเหมือนปกป้อง เมื่อถึงโรงพยาบาลเหมือนเวลาหมุนกลับ โตมรสะดุดบันไดหกล้มที่เดิม ทว่าคราวนี้ลิฟต์เปิดออกสาวน้อยในเสื้อกาวน์รีบเข้ามาดูแลเขา

เสียงใส ๆ ของเธอบอกว่าเธอชื่อ แสงตะวัน และเป็นหมอเมื่อรู้ว่าโตมรมาเยี่ยมเอื้อเฟื้อ แสงตะวันยิ้มจนตาหยี และอาสาพาไปหาเอื้อเฟื้อ เอื้อเฟื้อดีใจที่โตมรกลับมา เธอบอกว่าแสงตะวันหรือเล็กคือ ตมิสา ลูกกำนันทองนั่นเอง โตมรสบตาแสงตะวันแล้ววูบในใจ เอื้อเฟื้อบอกว่าหลังจากฟื้นจากเจ้าหญิงนิทราสาวน้อยคนนี้ก็รีบเรียน ขยันจนจบเร็วกว่าอายุ เรียนแบบตายอดตายอยาก เมื่อกลับบ้านโตมรจึงรู้ว่า กระท่อมเจ้าเงาะ เป็น กระท่อมรจนา ไปแล้ว เพราะแสงตะวันพักที่นี่ เมื่อโตมรกลับมาเธอจึงไปพักบนตึกกับเอื้อเฟื้อ โตมรและแสงตะวันเหมือนรู้ใจกัน

ชายหนุ่มไม่ค่อยกล้า เพราะไม่มั่นใจแต่เมื่อแสงตะวันบอกว่าเธอมีลูกสุนัขและเคยถูกกัดที่นิ้ว เธอให้เขาดูแผลที่นิ้วนางข้างซ้ายเขาก็มั่นใจทันที ยิ่งรู้ว่าหลังจากแสงตะวันฟื้นขึ้นมา เธอรู้แต่ว่าต้องรีบเรียน รีบโต เพื่อไปพบใครคนหนึ่งที่เธอสัญญาว่าจะกลับมาหาเขา คำพูดและกิริยาของแสงตะวันทำให้โตมรรู้ว่าวิญญาณในร่างคืออรอินทุ์ วันหนึ่งแสงตะวันบอกกับเขาว่าเธอหลงรักเขาทันทีที่เห็นภาพของเขา ภาพโตมรศิลปินที่วาดรูปดอกไม้สวย ๆ โตมรตั้งตัวไม่ทัน เมื่อสาวน้อยสบตาเขาเหมือนทวงสัญญา และถลันเข้ามากอดเขาไว้ เธอบอกว่า

"เล็กรักโตมาก แล้วโตล่ะไม่รักเล็กบ้างหรือไง" โตมรไม่ตอบแต่กอดเธอไว้แนบอก เหมือนได้ของรักกลับคืน เขาจูบเธอเบาๆ และบอกว่าเขารักเธอ รักมานานและรอเธออยู่นานมากกว่าจะถึงวันนี้ แสงตะวันจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มกับเขาอย่างอบอุ่น เธอกอดเขาแน่นและบอกว่าเมื่อเห็นโตมรจากในรูป เธอรู้ทันทีว่าโตมรนี่เองคือคนที่เธอต้องตามให้พบเพื่อรักและใช้ชีวิตกับเขาตลอดไป

สายใยสวาท 2551

เรื่องย่อ : สายใยสวาท (2551/2008) เขาเป็นลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐี เมื่อพ่อเสียชีวิต อัยการกลับช็อคที่พินัยกรรมทั้งหมดตกเป็นของแม่เลี้ยงวัยรุ่นของบิดา ซึ่งเขาไม่เคยพบหน้าค่าตามาก่อน หล่อนมีลูกเล็กเป็นโซ่ตรวน เมื่อเขาหมดตัว คนรักก็ทอดทิ้ง จากนั้นเขาก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งโดยบังเอิญต่างหลงรักกัน ในกาลต่อมา เขาต้องช็อคอีกครั้งเมื่อรู้ว่าเธอคือแม่เลี้ยงม่ายภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายของพ่อนั่นเอง แค้นครั้งนี้ต้องดับด้วยอะไร ผู้ชายรูปหล่อราวเทพบุตรที่มีนิสัยก้าวร้าวกราดเกรี้ยวเช่นเขาจะแก้แค้นผู้หญิงคนนั้นด้วยวิธีไหน..? แล้วแท้จริงเกิดอะไรขึ้นในเมื่อเธอผู้นั้นไม่เคยเป็นเมียที่แท้จริงของพ่อเขาสักนิด!

แสนแสบ นักสืบผีสิง (2551)

เรื่องย่อ : แสนแสบ นักสืบผีสิง (2551/2008) นักสืบแสนแสบได้เปิดสำนักทรงเจ้าชื่อ " ปู่คำแสนรู้ " รับเข้าทรงและสืบสวน โดยแสนแสบปลอมเป็นร่างทรง ช่วยปัดเป่าความทุกข์ของชาวบ้าน และเป็นที่รู้กันทั่วประเทศว่า คดีที่ยังปิดไม่ลง เจ้าทุกข์จะมาที่สำนักทรง ขอให้ปู่คำแสนรู้ช่วยสืบให้ - เมื่อรับทำคดีแล้ว แสนแสบจะออกสืบสวนทันที โดยมีผู้ช่วย 2 คน คนหนึ่งเป็นผีชื่อ " พรายหักมุก " อดีตเคยเป็นนางไม้ สิงอยู่ในต้นกล้วยหักมุก อีกคนเป็นนักข่าวสาวสวย Sexy ชื่อ " จริงจัง " ช่วยค้นหาข้อมูลต่างๆได้อย่างรวดเร็ว พรายหักมุกมักจะอิจฉาจริงจังเสมอ เพราะแสนแสบแสดงตัวชัดเจนว่า อยากให้จริงจังเป็นแม่ของลูก บางครั้งที่พรายหักมุกหึงจัดๆ ชอบเข้าสิงแสนแสบ เพื่อแกล้งจริงจัง ต่างๆนาๆ ทำให้งานเสียบ่อย จนแสนแสบเบื่อ - เมื่อสืบสวนคดีจนรู้ตัวคนร้ายแล้ว แสนแสบจะกลับมาเป็นร่างทรง บอกกล่าวให้เจ้าทุกข์รู้ เพื่อแจ้งตำรวจให้ไปจับ บ่อยครั้งที่เจ้าทุกข์ไม่เชื่อว่าจะเป็นคนร้ายตัวจริง แต่เมื่อปู่คำแสนรู้ลั่นวาจา และเสกหลักฐานมาวางตรงหน้า ทุกคนจึงเชื่อ และจับคนร้ายได้ในที่สุด (ที่มา: broadcastthai.com)