ชุมชนคนรักดี 2551

เรื่องย่อ : ชุมชนคนรักดี (2551/2008) สุดรัก ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ บูรพา เสี่ยใหญ่เจ้าของกิจการผลิตอะไหล่เครื่องยนต์ เดินทางกลับจากอเมริกาช่วงปิดภาคเรียน แต่ไม่มีใครมารับที่สนามบิน จึงว่าจ้าง ทิม แท็กซี่หนุ่มให้ไปส่งเธอที่บ้าน ทิมถึงกับอึ้งเมื่อเห็นสัมภาระของสุดรักที่มากมายและหนักอึ้ง ยิ่งไปกว่านั้นสุดรักยังอุ้ม แคนดี้ สุนัขฝรั่งปากเปราะที่เห่าตลอดเวลา ขึ้นรถมาด้วย ระหว่างทาง สุดรัก สังเกตว่าทิมฟังวิทยุคลื่นหนึ่งอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ และใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกับใครบางคนเป็นระยะ ซึ่งสุดรักถือว่าเสียมารยาทมาก จึงตำหนิทิมอย่างรุนแรง แต่ทิมกลับไม่สนใจ แถมยังตวาดให้แคนดี้เงียบด้วย สุดรักโมโหมาก แต่ทันใดนั้นทิมกลับรถอย่างรวดเร็ว และ ขับไล่ล่าตาม รถกระบะคันหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่สนเสียงกรี๊ดของสุดรัก ซึ่งกว่าสุดรักจะ รู้ว่ารถกระบะที่ทิมไล่ตามนั้นคือโจรปล้นร้านทองที่ขโมยรถคนอื่นขับหนีตำรวจมา หัวใจสุดรักเกือบหยุดเต้น เมื่อทิมถึงกับขับรถปาดหน้าโจรจนรถกระบะพลิกคว่ำ สุดรักถือจังหวะที่ทิมลงไปจับโจร อุ้มแคนดี้วิ่งหนีออกจากรถ แต่โชคร้ายที่ทิมถูกโจรใช้อาวุธทำร้ายและจับสุดรักเป็นตัวประกัน ขณะที่ตำรวจตามมาถึงพอดี ก่อนที่ความรู้สึกของสุดรักจะดับวูบ แคนดี้ก็กระโจนเข้าขย้ำโจรจนต้องปล่อยสุดรัก และถูกตำรวจจับในที่สุด ที่โรงพยาบาล บูรพากับศจี ภรรยาและ สุดฝัน น้องสาววัย 6 ขวบของสุดรักรีบมาเยี่ยมสุดรัก บูรพาโกรธมากที่รู้ว่า ทิมเป็นต้นเหตุทำให้ลูกสาวเกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงอาละวาดทิมที่เพิ่งทำแผลเสร็จและยิ่งได้รู้ว่า ทิมไล่ล่าคนร้ายเพราะเป็นสมาชิกของวิทยุชุมชนคนรักดี บูรพาก็ยิ่งโกรธเป็นหลายเท่า เขาพาสุดรักกลับบ้านโดยตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่า จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาดกับวิทยุคลื่นนี้ หลังจากที่ปล่อยทุกอย่างให้ยืดเยื้อมานาน ศจีแอบผิดหวังเล็กๆ ที่สุดรักไม่เป็นอะไร วิทยุชุมชนคนรักดีเป็นคลื่นวิทยุที่ บรรเจิด อดีตนักข่าวนสพ.ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้บริหารวิทยุชุมชนซึ่งมีบูรพาเป็นเจ้าของคลื่น แรกๆ บูรพาตั้งใจจะใช้คลื่นนี้เป็นกระบอกเสียงสร้างภาพให้ตนเองเพื่อจะลงเล่นการเมือง จึงยอมให้บรรเจิดทำคลื่นนี้เป็นคลื่นที่ทำสาธารณะประโยชน์ให้ชุมชน โดยสร้างเครือข่ายคนรักดีขึ้นมาจากคนหลากหลายอาชีพที่ต้องการช่วยเหลือผู้คนในสังคม ไม่ว่าจะเป็น แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ สามล้อเครื่อง คนขับรถบรรทุก พ่อค้า แม่ขาย หนุ่มสาวโรงงาน พนักงานออฟฟิศ หมอ ตำรวจ หรือข้าราชการ และทิมก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของเครือข่ายนี้ แต่เมื่อวิทยุชุมชนคนรักดีเติบโต บูรพากลับพบว่าเขาไม่สามารถจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างที่ตั้งใจ จึงคิดจะยึดคลื่นคืนจากบรรเจิด แต่ยังไม่สามารถทำได้ถนัดนัก จึงเริ่มหาเรื่องตัดงบสนับสนุนคลื่นลงและขอให้บรรเจิดไปหาสปอนเซอร์เอง ซึ่งบรรเจิดก็พยายามดิ้นรนประคับประคองคลื่นมาได้ ในงานเลี้ยงต้อนรับสุดรักที่บูรพาจัดขึ้น สื่อมวลชนมากมายยกย่องบูรพาในฐานะที่เป็นเจ้าของคลื่นชุมชุนคนรักดี สุดรักจึงได้รู้ว่าคลื่นนี้เป็นที่นิยมมาก แต่เธอก็ต้องแปลกใจที่ได้ยิน บูรพาคุยกับทนงคนสนิทให้ดำเนินการบีบให้ บรรเจิดคืนคลื่นให้ตนโดยเร็ว รุ่งขึ้นสุดรักจึงแอบไปสังเกตการณ์ที่สถานี ซึ่งที่นั่นสุดรักได้พบว่าเป็นเพียงตึกเล็กๆ เก่าๆ ที่มีคนทำงานอยู่ไม่กี่คน ตั้งแต่ บรรเจิด ผู้บริหารสถานี ม้าศึก ดีเจจอมกวน น้ำหวาน ช่างเสริมสวยที่ใฝ่ฝันจะเป็นดีเจ ลุงธงชาติ หมอดูแม่นๆ ที่ยังรับจ๊อบทำขวัญนาค กวาดคอเด็ก และงานจิปาถะมากมาย บรรเจิดเข้าใจว่าสุดรัก จะมาสมัครเป็นดีเจจึงกุลีกุจอต้อนรับและพาชมสถานี พร้อมทั้งอธิบายถึงอุดมการณ์ต่างๆ สุดรักฟังแล้วรู้สึกทึ่ง เมื่อกลับมาบ้าน สุดรักเปิดวิทยุฟังจนเช้าได้รับรู้ถึงการช่วยเหลือสังคมที่น่าประทับใจของคลื่นชุมชุนคนรักดีจนทำให้เธอต้องกลับไปที่สถานีอีกครั้ง โดยไม่คาดฝัน สุดรักถูกบรรเจิดยัดเยียดให้ทำหน้าที่ดีเจแทนม้าศึกที่โดนวัยรุ่นรุมตื๊บจนต้องเข้าโรงพยาบาล (แท้จริงแล้ว เป็นฝีมือทนง) สุดรักจำใจเป็นดีเจจำเป็น ซึ่งก็ต้องเจอกับกรณีเร่งด่วน เมื่อทิมแจ้งเข้ารายการว่ามีอุบัติเหตุ และต้องการให้ช่วยประสานตำรวจและรถโรงพยาบาล ซึ่งสุดรักก็พูดผิดๆ ถูกๆ เพราะเธอแทบไม่รู้จักถนนหนทางในกรุงเทพเลย ทำให้ทิมฉุนขาดทะเลาะกับสุดรักแบบออกอากาศจนผู้ฟังงงเต๊ก ทิมบุกไปดูหน้าดีเจถึงสถานีแล้วถึงกับอึ้งที่เห็นสุดรัก สีหน้าดูถูกของทิมทำให้สุดรักเลือดขึ้นหน้าแต่ก็ยังไม่ยอมบอกใครว่า เธอคือลูกสาวของบูรพา บูรพาคาดโทษบรรเจิดที่เอาดีเจสมัครเล่นมาทำให้เสียชื่อสถานี และขอตัดเงินสนับสนุนลงอีก บรรเจิดประชุมขอตัดเงินเดือนพนักงาน และเปลี่ยนใจไม่จ้างสุดรักเป็นพนักงานเพราะไม่มีเงินจ่าย สุดรักแอบโอนเงินส่วนตัวเข้าบัญชีบรรเจิด โดยทำให้บรรเจิดเข้าใจว่าเป็นเงินบริจาคจากผู้ฟังทางบ้าน บรรเจิดออกอากาศขอบคุณ ทำให้บูรพาขัดใจมาก บูรพาไปที่สถานีและก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นว่าลูกสาวตัวเองเป็นดีเจอยู่ บูรพาจะลากสุดรักกลับบ้าน แต่สุดรักไม่ยอม ขอทำงานต่อไป บูรพายื่นคำขาดปิดสถานี แต่สุดรักยืนยันว่าหากพ่อทำอย่างนั้นจะหนีออกจากบ้านไม่กลับไปเรียนอีก บูรพาแค้นมาก บรรเจิดเข้าไกล่เกลี่ยขอร้องให้บูรพาผ่อนผันเวลาโดยจะพยายามหาสปอนเซอร์มาทำกำไรให้ได้ บูรพาจำยอมโดยให้เวลาสามเดือน ถ้าทำไม่ได้ ต้องคืนคลื่นและสุดรักต้องกลับไปเรียนต่อ สุดรักรับปาก ในที่สุดคลื่นชุมชนคนรักดีจึงได้ออกอากาศต่อไป ภายใต้แรงกดดันของบูรพา ซึ่งในทางตรงกันข้ามกลับเป็นแรงผลักดันให้สุดรักตั้งใจเรียนรู้งาน และฝึกฝนอย่างหนักที่จะเป็นผู้ดำเนินรายการเพื่อสังคมที่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันสุดรักได้เรียนรู้ปัญหาต่างๆ ในสังคมมากมายที่ถูกละเลย พร้อมกันนั้นก็ได้รู้จักกับผู้คนที่แม้ต่างฐานะ แต่กลับมีอุดมการณ์เดียวกัน เช่น จิมมี่ ดารานักบู๊ชื่อดังที่มาเป็นหน่วยอาสากู้ภัย แสงดาว หมออาสาประจำคลื่น แก๊งสามซิ่ง วินมอเตอร์ไซด์หัวใจลูกทุ่งที่มีกระทิงเป็นหัวหน้า และหลงเสน่ห์สุดรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ฯลฯ

ศัตรูคู่ขวัญ 2551

เรื่องย่อ : ศัตรูคู่ขวัญ (2551/2008) “​เมื่อ​ความ​แค้น​ทำ​ให้ปลัดอำ​เภอหนุ่มต้องผูกพันกับ​ไกด์สาว​ถึงขั้น​ให้กำ​เนิดลูกน้อยฝา​แฝด ​และ​ความน่ารัก​ไร้​เดียงสาของ​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ก็​ได้นำพา​ความรัก​เข้ามาสู่หัว​ใจของ​ผู้​ให้กำ​เนิด ​ทำ​ให้ศัตรูกลับกลายมา​เป็นคู่รัก​ในที่สุด” ภูมิพงษ์ หนุ่มรูปหล่อ ดี​ใจมาก​เมื่อผลสอบ​เป็นปลัดอำ​เภอผ่านฉลุย ​แม้จะ​ไม่​ได้​เป็นอาชีพที่​ใฝ่ฝัน ​แต่​ก็ยังดีกว่าที่​เขาต้อง​ไป​เรียนปริญญา​โทต่อตามที่มารดาต้อง​การ ​เพราะภูมิพงษ์อยากอยู่​เมือง​ไทยกับ ดาด้า ​แฟนสาวสวยที่​เพิ่งคบหากันมา ​แต่​ไม่ทันที่​เขาจะ​แจ้งข่าว​ให้มารดารู้ ​เมื่อกลับมา​ถึงบ้าน ​ก็พบว่า ม.ร.ว. ​เลขา ​ผู้​เป็น​แม่​เป็นลมพับ​ไป ​เนื่องจาก พล​โทพัฒน์ นายทหารที่​เพิ่ง​เกษียณอายุราช​การ บิดาของ​เขา รับสารภาพว่า​แอบ​เลี้ยงนาง​แบบสาวสวยอ่อนคราวลูก ชื่อ ​เยาวลักษณ์ ​ไว้​เป็นภรรยาอีกคน ภูมิพงษ์​โกรธมาก ​เพราะ ม.ร.ว.​เลขา​เป็น​ผู้หญิงที่​เพียบพร้อม​และ​เป็น​แม่ที่ดีมาตลอด ส่วน พรทิพย์ พี่สาว​ก็ยิ่ง​เรียบร้อยอ่อนหวาน​เหมือนมารดา ​การกระ​ทำของพล​โทพัฒน์​จึง​เท่ากับ​เป็น​การ​ทำร้ายจิต​ใจครอบครัวอย่าง​เลือด​เย็นที่สุด นายพลพัฒน์ หลบหน้าครอบครัว​ไปอยู่ที่บ้านของ​เยาวลักษณ์ ​ซึ่งมีน้องสาวอีกคนชื่อ รสสุคนธ์ รสสุคนธ์​ไม่​เห็นด้วยกับพี่สาวที่ยอม​เป็น​เมียน้อยนายพล​เพื่อ​เห็น​แก่​ความสบาย ​แต่​ก็พูดอะ​ไร​ไม่​ได้มากนัก ​เพราะ​เยาวลักษณ์ช่วยส่ง​เสีย​ให้​เรียนจนจบ ภูมิพงษ์มาตามบิดาที่บ้าน​เยาวลักษณ์​เพราะคุณหญิง​เลขาล้มป่วยลง​เพราะตรอม​ใจ ภูมิพงษ์​เข้า​ใจว่ารสสุคนธ์คือ​เยาวลักษณ์​จึงด่าว่าอย่าง​เสีย ๆ หาย ๆ จนนายพลพัฒน์ต้อง​เข้ามาห้าม​และ​ไล่ภูมิพงษ์ออกจากบ้าน ​ทำ​ให้ภูมิพงษ์​แค้น​ใจมาก รสสุคนธ์หาราย​ได้พิ​เศษด้วย​การ​เป็น​ไกด์ ​ให้กับ บริษัทของ สุพล พี่ชายของ สุทธิดา ​ซึ่ง​เป็น​เพื่อนสนิท สุพลชอบรสสุคนธ์มาก​จึง​ให้​ความช่วย​เหลือมาตลอด ​แต่รสสุคนธ์​เห็นสุพล​เป็น​แค่พี่ชาย​เท่านั้น รสสุคนธ์สอบ​เข้าบรรจุครูที่อุตรดิตถ์​ซึ่ง​เป็นบ้าน​เกิดของตัว​เอง​ได้ ท่านนายพลพัฒน์ ​และ ​เยาวลักษณ์​จึงพารสสุคนธ์​ไป​เลี้ยงส่ง ​แต่กลับ​ไป​เจอกับ ภูมิพงษ์ที่พา​แม่​และพี่สาวมาทานข้าวร้าน​เดียวกัน ​เยาวลักษณ์​จึง​แกล้ง​เอา​ใจนายพลพัฒน์​เต็มที่ ​ทำ​ให้ม.ร.ว.​เลขาทน​ไม่​ได้ ตบหน้า​เยาวลักษณ์ กลางร้านท่ามกลางคนมากมาย ​เยาวลักษณ์​เลยพาตำรวจ​และนักข่าวมาบ้านคุณหญิง​เลขา ​แจ้ง​ความข้อหา​ทำร้ายร่างกาย ​เพื่อหวัง​ให้ชื่อ​เสียงคุณหญิง​เลขา​เสียหาย ​ซึ่ง​ก็​ได้ผล วันรุ่งขึ้นวงสังคม​และหนังสือพิมพ์ซุบซิบ​เรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน คุณหญิงอับอายมากจน​ถึงขั้นช็อคต้อง​เข้า​โรงพยาบาล​และยื่นข้อ​เสนอขอหย่ากับนายพลพัฒน์ ​เยาวลักษณ์สะ​ใจมาก​เมื่อทุกอย่าง​เป็น​ไปอย่างที่วาง​แผน คุณหญิง​เลขามี​เพื่อนสนิทอีกคน คือ สุดจิตต์ ​เป็น​เจ้าของ​ไร่ อยู่ที่ อ.ลับ​แล อุตรดิตถ์ สุดจิตต์มา​เยี่ยม​ไข้​และชวนคุณหญิง​ไปพักผ่อน​เพื่อสงบจิต​ใจ ภูมิพงษ์​เห็นดีด้วย​และถือ​โอกาสบอกว่าตัว​เองสอบ​ได้ปลัดอำ​เภอ​และจะ​ไปบรรจุที่นั้น​เช่นกัน วัน​เดินทางมา​ถึง ภูมิพงษ์ตัดสิน​ใจ​ให้คุณหญิง​เดินทางด้วยรถ​ไฟ ​เพื่อ​เป็น​การ​เปลี่ยนบรรยากาศ ​แต่​ก็ต้องตก​ใจ ​เมื่อ​เห็นรสสุคนธ์อยู่​ในขบวนด้วย ภูมิพงษ์​เพิ่งรู้ว่า รสสุคนธ์กำลังจะ​ไป​เป็นครูที่อำ​เภอ​เดียวกับ​เค้า ​จึงตัดสิน​ใจอย่าง​เด็ดขาดว่าต่อ​ไปนี้จะ​แก้​แค้น​เยาวลักษณ์​และรสสุคนธ์​ให้รู้จัก​ความอับอาย​และ​เจ็บปวดบ้าง ! ภูมิพงษ์​แอบข​โมยกระ​เป๋าของรสสุคนธ์ รสสุคนธ์ตก​ใจมากที่กระ​เป๋าหาย​ไป​เพราะข้าง​ในมี​เงินที่​เยาวลักษณ์ฝากมา​ให้มารดา​เพื่อ​ใช้หนี้​และหนังสือรายงานตัว ภูมิพงษ์​ได้ที ​จึงต่อรอง​ให้รสสุคนธ์มา​เอากระ​เป๋าที่กระท่อมท้าย​ไร่​และปล้ำจูบรสสุคนธ์ ​แต่รสสุคนธ์ คว้ากระถางตีหัวภูมิพงษ์จนบาด​เจ็บ รสสุคนธ์ตก​ใจมาก พาภูมิพงษ์​ไปหาหมอที่สถานีอนามัย ​จึง​ได้พบกับหมอวุฒิ หมอสูติที่​เพิ่งย้ายมาประจำที่อุตรดิตถ์ หมอวุฒิดี​ใจมากที่พบภูมิพงษ์​เพราะ​ทั้งสอง​เป็น​เพื่อนกัน จากนั้นภูมิพงษ์​ก็​เปลี่ยน​แผน​ใหม่ ​โดย​ทำ​เป็นหลงรัก​และคอยตามจีบรสสุคนธ์ด้วย​ความจริง​ใจ ​แต่รสสุคนธ์พยายาม​ใจ​แข็ง​ไม่​เล่นด้วย ภูมิพงษ์​จึง​แสร้งหาย​ไปจากบ้านพัก ​โดยทิ้งจดหมาย​เล่าว่าตน​เป็นมะ​เร็ง​ในสมองขั้นสุดท้าย ​แต่​ไม่มี​ใครรู้ ​เมื่อถูกรสสุคนธ์ตีหัว​โรค​จึงกำ​เริบ รสสุคนธ์หลงกลตามภูมิพงษ์ ​ไป​ถึงกระท่อมชิง​เขา ​และที่นั่น รสสุคนธ์​ก็ตก​เป็นของภูมิพงษ์ ฝ่ายดาด้า​แฟนสาวภูมิพงษ์​เมื่อ​เห็น​แฟนหนุ่มขาด​การติดต่อ​ก็ตัดสิน​ใจ​เดินทางมาอยู่​เฝ้าภูมิพงษ์ ประจวบกับที่รสสุคนธ์ตั้งท้อง​และต้อง​การบอกภูมิพงษ์ ​แต่​ก็​เห็นภาพบาดตาระหว่างภูมิพงษ์กับดาดา​เสียก่อน ​จึงตัดสิน​ใจ​ไม่บอก รสสุคนธ์​เริ่มมีอา​การ​แพ้ท้อง ​เป็นลมบ่อยๆ ​เรื่อง​การตั้งท้องของรสสุคนธ์​แพร่​ไปทั่ว​เมือง ภูมิพงษ์พยายามคาดคั้นรสสุคนธ์ว่า ​เด็ก​ในท้อง​เป็นลูก​เขา​หรือ​ไม่ ​แต่รสสุคนธ์ยืนยันว่า​ไม่​ใช่ ดาด้าสัง​เกต​เห็นท่าที​เฉยชาของภูมิพงษ์​จึงรีบชวนภูมิพงษ์​ไป​เรียนต่อ จังหวะ​เดียวกันกับที่สุพล มา​เยี่ยมรสสุคนธ์​และรับรู้​ถึงปัญหา ​เขาตัดสิน​ใจรับ​เป็นพ่อ​เด็ก​ในท้อง​ให้รสสุคนธ์ ​ทำ​ให้ภูมิพงษ์ตัดสิน​ใจ​ไปต่างประ​เทศกับดาด้า วัน​แต่งงานสุพลกับรสสุคนธ์สุพล​โดน​เรียกตัวกลับกรุง​เทพกะทันหัน ระหว่างทาง​เกิดอุบัติ​เหตุรถคว่ำตาย​ในคืนนั้น​เอง รสสุคนธ์คลอดลูกออกมา​เป็นลูก​แฝดชายหญิง ชื่อ หนูนากับปลากัด รสสุคนธ์กัดฟัน​เลี้ยงครอบครัว​เพียงลำพังด้วย​ความลำบากกับ​เงิน​เดือนครู​เพียงน้อยนิด ​โชคดีที่​ได้หมอวุฒิ คอยช่วย​เหลือ ​เพราะหมอ​เอง​ก็​เริ่มรู้สึกรักรสสุคนธ์ ​เยาวลักษณ์จับ​ได้ว่านายพลพัฒน์มี​เมียน้อยคน​ใหม่อีกคนที่สาวกว่าตัว​เอง นายพล​ก็ยัง​ไม่ยอมหย่ากับคุณหญิง​เลขา ​เยาวลักษณ์บุก​ไปตบ​เมียน้อยคน​ใหม่​ถึงบ้าน ​เยาวลักษณ์ยิงนายพลพัฒน์ จนบาด​เจ็บ ​และหนีหาย​ไป 5 ปีผ่าน​ไป ……. ภูมิพงษ์​แต่งงานกับดาด้า​แต่ยัง​ไม่มีลูก​เพราะดาด้า​ไม่สามารถมีลูก​ได้ ภูมิพงษ์กลับมา​เมือง​ไทย ​ไป​เยี่ยมสุดจิตต์ที่​ไร่ ​ทำ​ให้​เจอกับ​เด็ก​แฝดหนูนากับปลากัด ที่มักจะมา​เล่นที่​ไร่ของสุดจิตต์บ่อย ๆ สุดจิตต์​เอง​ก็​เอ็นดู​เด็ก​ทั้งสองมาก ​เพราะรู้จากสนคนงาน​ใน​ไร่ว่าภูมิพงษ์​เคย​แอบนัดพบรสสุคนธ์ที่กระท่อมท้าย​ไร่ สงสัยว่า​เด็ก​ทั้งสองน่าจะ​เป็นลูกของภูมิพงษ์ ภูมิพงษ์รู้สึกถูกชะตากับหนูนา​และปลากัดมากจน​เริ่มสงสัยว่า​เด็กจะ​เป็นลูกของตน ส่วนรสสุคนธ์ยัง​เจ็บปวดกับสิ่งที่ภูมิพงษ์​ทำ​จึงหนีห่างอยู่​เสมอ​และสั่งห้ามลูก​ไม่​ให้​เข้า​ใกล้ภูมิพงษ์อีก ​ถึงอย่างนั้นภูมิพงษ์​ก็ยังพยายาม​เข้ามา​ใกล้ชิดกับรสสุคนธ์​และ​เด็ก​ทั้งสองอยู่​เสมอ รสสุคนธ์​เกิดปวดท้องอย่างกะทันหัน ​แม่​และยาย​ไม่อยู่บ้าน หนูนากับปลากัด​จึง​ไปตามภูมิพงษ์มาช่วยพารสสุคนธ์​ไป​โรงพยาบาล ปรากฎว่า​เป็น​ไส้ติ่งอัก​เสบ ภูมิพงษ์​เฝ้ารสสุคนธ์​ทั้งคืน ดาด้า​โกรธมากตามมาต่อว่าที่​โรงพยาบาล รสสุคนธ์​โม​โห​จึงออกจาก​โรงพยาบาลกลับบ้าน​ทั้งที่ยัง​ไม่หายดี ภูมิพงษ์ยิ่ง​แสดง​ความ​เป็นห่วงรสสุคนธ์จนออกนอกหน้า ดาด้าทน​ไม่​ไหว​เค้นถามภูมิพงษ์​เรื่อง​ความสัมพันธ์กับรสสุคนธ์ ภูมิพงษ์สารภาพว่า​เคยมีอะ​ไรกับรสสุคนธ์จริง​และสงสัยว่า​เด็กสองคนจะ​เป็นลูกของ​เขา ดาด้าช็อค หมอวุฒิ ตัดสิน​ใจบอกวัน​เวลาที่ รสสุคนธ์คลอด​ทำ​ให้ภูมิพงษ์ข​โมยตัว​เด็ก​ทั้งสอง​ไปตรวจดี​เอน​เอที่กรุง​เทพฯ ​และกำชับ​ไม่​ให้​เด็กบอกรสสุคนธ์ ผลออกมาว่าภูมิพงษ์​เป็นพ่อ​เด็ก ภูมิพงษ์รีบกลับ​ไปบอก​ความจริง​ให้คุณหญิง​เลขารู้ คุณหญิงตื่น​เต้นมากที่มีหลาน ​แต่​ก็ยัง​แค้นรสสุคนธ์อยู่ ​จึง​แนะนำ​ให้ดาด้าขอซื้อปลากัด​และหนูนา ​แต่รสสุคนธ์​ไม่ยอม ดาด้าขู่ว่าจะฟ้องศาล​เพราะศาลย่อมต้อง​ให้​เด็กอยู่กับพ่อ​เพราะ​แม่อย่างรสสุคนธ์​ไม่มีปัญญา​เลี้ยงดูลูก​ให้​การศึกษาที่ดี​ได้ รสสุคนธ์ตัดสิน​ใจพา ปลากัด ​และหนูนาหนี​ไป ภูมิพงษ์คลั่ง​เมื่อลูก​และ​เมียหาย​ไป ​เที่ยวออกตามหากับหมอวุฒิ จน​ในที่สุด​ก็สืบรู้ว่ารสสุคนธ์พาลูกหนีมาอยู่กับสุทธิดาที่กรุง​เทพ ดาด้า​โกรธมากที่ภูมิพงษ์​ไม่ยอม​เลิกยุ่งกับรสสุคนธ์​และลูก​เสียที ​จึงจ้าง​ให้คนจับตัวหนูนากับปลากัด​ให้​แ​ก็งค์ค้า​เด็ก ​เหตุ​การณ์​ทั้งหมด​ทำ​ให้ภูมิพงษ์สงสารรสสุคนธ์ยิ่งขึ้น สองคนช่วยกันออกตามหาลูกทุกทาง ภูมิพงษ์​ให้​เพื่อนที่​เป็นตำรวจช่วยอีก​แรง ​เยาวลักษณ์หลังจากหนีคดี ​ก็​ได้​เปลี่ยนชื่อ​เป็น​เจ๊​เยาว์ ​ทำงานค้า​ทั้ง​ผู้หญิง​และ​เด็กหนูนากับปลากัดถูกพามาขายต่อ​ให้​เยาวลักษณ์ ​เด็ก​ทั้งสองบอกว่าตน​เป็นลูกรสสุคนธ์ ​เยาวลักษณ์ตะลึงที่พบหลานอย่าง​ไม่คาดฝัน ​จึงตัดสิน​ใจพาหลานกลับ​ไปส่ง ​แต่​ก็ถูกมา​เฟียที่ร่วม​แ​ก็งค์ขัดขวาง​ไล่ล่า ​แต่​ในที่สุด​เยาวลักษณ์​ก็พาหลานมา​ถึงมือตำรวจ ก่อนสิ้น​ใจ​เยาวลักษณ์​ได้บอกกับตำรวจว่าดาด้า​เป็นคน​เอา​เด็ก​ทั้งสองมาขาย ดาด้า​เข้าตาจน จับตัวรสสุคนธ์​แล้วหนีตำรวจ​ไป ​แต่​ก็​ไม่รอด ดาด้า​โดนตำรวจจับ ถูกพิพากษาจำคุก รสสุคนธ์​และภูมิพงษ์ ​เพิ่งรู้ว่าหัว​ใจของตัว​เอง​ได้​แปร​เปลี่ยนจากศัตรูคู่​แค้น​เป็น​ความรัก​ไป​แล้ว …ภูมิพงษ์ขอรสสุคนธ์​แต่งงานอีกครั้ง ​เขาพารสสุคนธ์​และหลาน​ไปกราบนายพลพัฒน์ที่กลาย​เป็นชายชราที่มี​แต่​โรครุม​เร้า ด้วย​ความน่ารักของหลานย่า ​ทำ​ให้คุณหญิง​เลขา​ใจอ่อนตัดสิน​ใจ​ให้อภัยรสสุคนธ์​และ สามี ครอบครัวของภูมิพงษ์ กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าอีกครั้ง

เส้นไหมกับนายหิน 2551

เรื่องย่อ : เส้นไหมกับนายหิน (2551/2008) หิน หนุ่มวัยเบญจเพศ จบปวส.ช่างไฟฟ้า ใช้ชีวิตอิสระ ซกมก กะล่อนจอมกวน ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง วันๆก็สิงสถิตย์อยู่ในโรงสนุ๊กท้ายตลาดฯ ตีสนุ๊กท้าพนัน บ้างก็เมาแล้วมีเรื่องชกต่อยกับคนนั้นคนนี้เป็นประจำ รายได้จากการพนันตีสนุ๊กก็แค่พอเลี้ยงตัวกับจ่ายค่าเช่าบ้านซึ่งเขาอาศัย อยู่กับ ขวด หนุ่มเหนือรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพื่อนคู่หูและลูกสมุน กับ ดอน อดีตเด็กวัดเพื่อนซี้รุ่นพี่เป็นคิวมอเตอร์ไซค์จอมซ่าส์ที่ยกย่องหินเป็น ฮีโร่ แต่ชอบหาเรื่องเดือดร้อนมาให้หินต้องปวดหัวเป็นประจำ...ถึงชีวิตจะไร้สาระ ไม่เอาถ่าน ชนิดที่แม้แต่เด็กๆยังไม่เกรงใจ มองว่าหินเป็นตัวตลก แต่หินก็มีความสุขดี จีบสาวมาร์คกี้ไปเรื่อย มีก็กิน ไม่มีก็อด ไม่เดือดร้อน ไม่ขนขวาย ไม่วาดฝันถึงอนาคต ไม่เคยทำตัวให้มีประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น แต่ก็ไม่เคยทำใครเดือดร้อน

ไหม เป็นเวิร์คกิ้งเกิร์ล เพิ่งจบปริญญาตรีฯ มีกิจการร้านเสริมสวย(ตึกแถวหน้าตลาดฯ) ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เป็นคนรักเด็ก มุ่งมั่น กระตือรือร้น ทำงานหนัก เพราะมีภาระต้องเลี้ยงดูแม่ชื่อ สมร กับหลานชายจอมซนตัวแสบวัย 8 ขวบชื่อ หมูหวาน และช่างประจำร้านอีกคนซึ่งไหมรักและสนิทสนมเหมือนญาติ เป็นกะเทยแต่งหญิงชื่อ สิงโต ไหมมีเพื่อนสนิทชื่อ กระต่าย เป็นครูโรงเรียนอนุบาลแถวบ้านซึ่งหมูหวานเรียนอยู่ เป็นสาวสวยอ่อนไหว ส่วนเรื่องหัวใจ ไหมก็มีเจ้าของแล้วเช่นกัน เป็นนายตำรวจหนุ่มนิสัยดีอนาคตไกลชื่อ โตมร ซึ่งสนิทสนมคุ้นเคยกับทุกคนดี และเป็นคนที่สมรหมายมั่นอยากได้เป็นลูกเขย

แม้จะอยู่ในชุมชนเดียว กัน แต่หินไม่รู้จักไหม เพราะวันๆเขาใช้ชีวิตอยู่แต่ในโรงสนุ๊กฯ ไม่เมาแอ๋ก็ต้องมีเรื่องชกต่อยจนหมดสภาพให้ขวดกับดอนลากสังขารกลับบ้านตอน เช้าตลอด ไหมรู้จักสนิทสนมกับขวดและดอนดี เพราะสิงโตตามตื้อจีบขวด และดอนเองก็ตามตื้อจีบครูกระต่าย ไหมรู้จักหินแค่ว่าเป็นเพื่อนสนิทของขวดกับดอน แต่ไม่เคยคุยด้วย ความไม่เอาไหนของหินเป็นที่รู้กันของคนในละแวกนั้น ทุกคนเอือมระอาในตัวหิน มองว่าหินเป็นพวกเกเร ไร้อนาคต และไม่ควรค่าแก่การคบหา

แล้วชีวิต ของหินก็ถึงจุดเปลี่ยน เมื่อจู่ๆ ผักบุ้ง พี่สาวแท้ๆซึ่งเป็นญาติคนเดียวที่ยังเหลือ และเป็นคนเดียวที่มีพระคุณ ทำงานส่งเสียให้เขาเรียนจนจบปวส.ก็เขียนจดหมายให้เขาไปหา เมื่อไปถึงหินจึงได้รู้ว่าบุ้งป่วยหนัก และที่เรียกหินมาก็เพื่อฝากฝัง ผักกาด ลูกสาววัย 8 ขวบของเธอให้หินดูแล หินรับปากด้วยความจำใจ และในวันรุ่งขึ้นผักบุ้งก็จากไป

หลังจากงานศพผักบุ้ง หินก็ผิดคำพูด พาผักกาดไปให้ ชัยชนะ พ่อของเธอดูแลต่อ แต่ชัยชนะปฏิเสธที่จะรับเลี้ยงผักกาด เพราะหลังจากชัยชนะหย่าขาดกับบุ้งเขาก็แต่งงานใหม่ และภรรยาใหม่ของเขาก็ไม่ยอมรับผักกาด แต่หินก็ไม่ยอมใจอ่อน เขาหลอกล่อพาผักกาดไปบ้านเด็กกำพร้า และทิ้งผักกาดไว้ แต่ด้วยความที่ผักกาดเป็นเด็กฉลาดเกินวัย เธอถามทางมาบ้านหินเรื่อยๆ จนได้เจอกับพวกไหม เมื่อทุกคนรู้เรื่องก็โกรธหิน จึงพาผักกาดจะไปเอาเรื่องหิน ส่วนขวดกับดอนฟังเรื่องทั้งหมดจากหินก็พากันต่อว่าหินที่ใจร้ายกับหลานสาว และผิดสัญญากับพี่สาวตัวเอง ยิ่งคิดหินก็ยิ่งรู้สึกผิดกับบุ้ง จะไปตามผักกาดกลับบ้าน แต่ดันมาเจอผักกาดกับทุกคนที่หน้าบ้านซะก่อน...สองฝ่ายเจอกัน ยังไม่ทันที่หินจะพูดอะไร ทุกคนก็ช่วยไหมรุมต่อว่าหิน หินจะอธิบายก็ไม่มีใครฟัง หินเลยนิ่ง ไม่เถียง รอฟังทุกคนด่าจนพอใจแล้วจึงชวนผักกาดเข้าบ้านท่ามกลางความดีใจของทุกคน หากการอยู่ร่วมกันในครั้งนี้กับผักกาด หินมีข้อแม้ว่าห้ามผักกาดเรียกเขาว่า “พ่อ” เด็ดขาด ผักกาดขานรับ “ค่ะ...พ่อ” (ฮา) เพราะก่อนตายแม่เธอสอนให้เรียกหินว่า “พ่อ”

แค่วันแรกที่รับผักกาด มาอยู่บ้าน ก็เจอปัญหาซะแล้ว เมื่อทองแท้ เจ้าของบ้านเช่าจอมงกยื่นคำขาดว่าถ้ามีเด็กมาอยู่ด้วยต้องเพิ่มค่าเช่าบ้าน ! ขวดกลัวหินจะเปลี่ยนใจอีก จึงรีบโกหกว่าผักกาดแค่มาเที่ยวเฉยๆ...เป็นเหตุให้ผักกาดต้องอยู่บ้านหินแบบ หลบๆซ่อนๆ หิน,ขวด,ดอนต้องวุ่นวายกับการหลบซ่อนผักกาด หลอกล่อทองแท้ไม่ให้รู้ว่าผักกาดมาอยู่ด้วย (แบบสนุกสนาน ไม่เครียด) แต่แล้วเรื่องก็ไปถึงหูไหม ไหมสงสารผักกาด ลุยไปต่อว่าหินถึงในโรงสนุ๊กฯ หินขายหน้า โวยกลับ หาว่าไหมชอบยุ่งเรื่องคนอื่น เถียงกันแต่หินเถียงไม่ขึ้น แกล้งขู่ทำท่าจะต่อยไหม แต่ดันพลาด ลื่นล้ม หมัดไปโดนหน้าไหมเข้าเต็มๆ (ฮา) ไหมตาปูด หินโดนจับ โตมรจะเอาเรื่องหิน แต่ก็ยอมใจอ่อนด้วยผักกาดมาคุกเข่าอ้อนวอนขอไม่ให้เอาเรื่องหิน หากโตมรก็ให้หินไปขอขมาไหม ไหมได้ทีบังคับให้หินบอกความจริงกับทองแท้เรื่องผักกาด ยอมจ่ายค่าเช่าบ้านเพิ่ม เพื่อที่ผักกาดจะได้ไม่ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป หินจำใจตกลง...จากนั้นมาหินก็ตั้งตัวเป็นอริกับไหม เพราะปักใจว่าไหมเป็นพวกจุ้นจ้าน น่ารำคาญ

แม้ผักกาดจะได้อยู่กับ หินตามที่ควรจะเป็นแล้ว แต่หินไม่ยอมเปลี่ยนง่ายๆ เขาปล่อยทิ้งผักกาดให้ขวดกับดอนช่วยกันดูแล และยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม วันๆก็เข้าโรงสนุ๊กฯ ท้าพนันหาเงิน กลับมาไม่เมาแอ๋ก็มีเรื่องชกต่อย หมดสภาพกลับบ้านตลอด เขาไม่เคยรู้เลยว่าผักกาดคือคนที่คอยเปิดประตูและพาเขาไปนอน คอยถอดรองเท้า เช็ดหน้าเช็ดตาทายาให้หิน ผักกาดพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ คอยดูแลบ้าน จัดเสื้อผ้า ทำอาหารให้หิน เพื่อให้หินหันมาสนใจเธอบ้าง แต่ด้วยเป็นเด็ก อยากทำแต่ทำไม่เป็น บางครั้งก็พลาดบ้าง จนโดนหินดุ ขวดกับดอนสงสารผักกาด พยายามพูดให้หินสนใจผักกาดบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น...ทุกครั้งที่หินทำให้ผักกาดเสียใจหรือน้อยใจ ขวดกับดอนก็จะคอยแก้ตัวให้ผักกาดเข้าใจหิน เพราะทั้งคู่รู้จักหินดีว่า ภายนอกอาจจะไม่เอาไหน แต่ลึกๆแล้วเป็นคนจิตใจดี (หินเคยช่วยเหลือทั้งคู่มาก่อน) แต่เสียอย่างเดียว เกลียดเด็ก...แทนที่จะรู้สึกดี ผักกาดยิ่งรู้สึกแย่

ไหมรับรู้ เรื่องของผักกาดจากขวดกับดอนเป็นระยะ คิดจะไปเจรจาขอร้องหินให้ดูแลผักกาดดีขึ้นกว่านี้ก็รู้ดีว่าไม่มีผล เลยออกปากชวนผักกาดให้มาเล่นอยู่ที่ร้านของเธอ แต่ก็เจอปัญหาอีกจนได้ เมื่อหมูหวานจอมกวนชอบหาเรื่องแกล้งผักกาด แต่ผักกาดไม่ยอม เล่นงานหมูหวานจนหัวโน เป็นเรื่องให้หินต้องมีปัญหากับไหมจนได้ แต่ไม่น่าเชื่อ หินกลับปลื้มผักกาดที่เล่นงานหมูหวาน เพราะสะใจเหมือนผักกาดได้แก้แค้นไหมแทนให้เขา เหมือนเขาได้เล่นงานไหม พาผักกาดไปเลี้ยงส้มตำ

ครูกระต่ายกำลังกลุ้มใจเรื่องที่โตมรไม่สนใจ ตน พอทองแท้มาชวนไปดูดวงครูกระต่ายจึงตกลง แล้วหมอดูก็ทักว่าวันนี้ครูกระต่ายจะได้เจอเนื้อคู่ ทั้งยังบอกลักษณะอย่างชัดเจน ทำเอาครูกระต่ายหายกลุ้มเป็นปลิดทิ้ง และหนุ่มคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่ก็คือนายหินซึ่งบังเอิญเดินชนกับโจรที่ กระชากกระเป๋าครูกระต่าย ครูกระต่ายจึงเข้าใจผิดคิดว่าหินเป็นฮีโร่ แถมยังมีลักษณะคล้ายกับคนที่หมอดูทำนายครูกระต่ายจึงยิ่งปักใจเชื่อ โดยไม่ฟังคำเตือนของไหม แถมยังบอกว่าจะทำให้ทุกคนเห็นว่าหินไม่ได้เป็นคนเหลวไหล และเริ่มเข้ามาวุ่นวายในชีวิตของหิน ทั้งห้ามหินเข้าโต๊ะสนุ๊กฯ ให้ผักกาดเรียนต่อ โดยอาสาจะเป็นธุระให้ แต่หินปฏิเสธเพราะไม่อยากมีภาระ ไหมทนไม่ไหว ออกปากจะรับผิดชอบเรื่องค่าเทอมให้ผักกาดเอง แต่พอหินตกลง ไหมอึ้งเลย เพราะผิดแผนคิดว่าวิธีนั้นจะทำให้หินเปลี่ยนใจ ทั้งคู่จึงเถียงกันจนผักกาดร้องไห้ บอกไม่เรียนแล้ว หินจึงใจอ่อนยอมให้ผักกาดเรียนหนังสือต่อ ผักกาดได้เรียนห้องเดียวกับหมูหวาน โดยมีครูกระต่ายเป็นครูประจำชั้น ด้วยความไม่ชอบขี้หน้าเป็นทุนเดิมหมูหวานจึงคอยหาเรื่องแกล้งผักกาดเป็น ประจำ บางครั้งผักกาดไม่ยอมก็เอาคืน แต่บางครั้งผักกาดก็ไม่เอาเรื่อง ด้านครูกระต่ายก็ยังไม่เลิกวุ่นวายกับหิน ถึงขนาดสั่งห้ามหินเข้าโต๊ะสนุ๊กฯ หินโกรธมากตามไปต่อว่าครูกระต่ายถึงที่โรงเรียน งานนี้ทำเอาทุกคนพากันแอนตี้หินที่ใจร้ายกับครูกระต่าย ที่โรงเรียนเพื่อนๆก็พากันรุมประณามผักกาดที่มีพ่อใจร้าย

วันหนึ่ง ผักกาดกลับจากรร.พร้อมคำถามของครูว่าผู้ปกครองมีอาชีพอะไร หินสะอึกตอบไม่ถูก เพราะเขาใช้ชีวิตไร้สาระมาตลอด ไม่เคยถามตัวเองมาก่อนว่าตัวเองทำงานอะไร ผักกาดแก้หน้าให้หินด้วยการกลับไปโกหกคุณครูว่าหินทำงานเป็นช่างเสริมสวย หมูหวานฟ้องครูว่าผักกาดโกหก ขวด กับดอนจึงวางแผนกับสิงโตลวงไหม, สมร, หมูหวานไปข้างนอกแล้วให้หินแสร้งเป็นช่างทำผมในร้านไหม เพื่อถ่ายรูปไปยืนยัน แต่ความดันแตกซะก่อน ไหมต่อว่าหิน และว่า...คนอย่างหินไม่มีอนาคต

หินเจ็บใจกับคำดูถูกของไหม เกิดอยากเอาชนะ อยากลบล้างคำดูถูกของไหม เขาจึงเริ่มต้นเปลี่ยนตัวเอง คิดอยากมีอาชีพเป็นหลักเป็นฐานเหมือนคนทั่วไป ผักกาด ขวดและดอนดีใจ ให้กำลังใจหินเต็มที่ หินเปลี่ยนบุคลิกใหม่ใส่เสื้อผูกไทด์เรียบร้อย แต่ดันใส่รองเท้าแตะไปสมัครงาน หากนั่นก็ทำให้ผู้จัดการของบริษัทที่หินไปสมัครงานด้วยเกิดถูกใจที่หินมี นิสัยหลายๆอย่างคล้ายตัวเอง หินจึงได้งานในตำแหน่งหัวหน้าช่างไฟของบริษัท แค่วันแรกของการทำงานหินก็โดนไล่ออกซะแล้ว เพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกโรคจิตจะข่มขืนแม่ผู้จัดการ

โตมรได้ เลื่อนยศเป็นรองสารวัตร ทุกคนปลาบปลื้มยินดี โดยเฉพาะไหม เธอถึงกับลงทุนจัดงานเลี้ยงฉลองให้โตมร หินแอบหมั่นไส้ไหม ไม่ยอมไปงานเลี้ยงด้วย คืนนั้นหินจึงได้แต่เหงาอยู่คนเดียวในขณะที่ทุกคนสุดแสนจะแฮปปี้ ส่วนครูกระต่ายหลังจากผิดหวังจากโตมรแม้จะพยายามตัดใจ หรือเปลี่ยนใจให้ชอบหินก็ยังไม่อาจหักห้ามใจรักได้ จึงตัดสินใจที่จะฮึดสู้อีกครั้งเพื่อชิงโตมรจากไหม

หินเลิกล้มความ คิดที่จะมีอาชีพ กลับไปตีสนุ๊กหาเงินต่อเหมือนเดิม ผักกาดยกคำพูดที่แม่ผักบุ้งเคยพูดถึงหินว่า..หินเป็นคนเก่ง ทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ แต่ไม่ค่อยชอบทำ..หินถึงกับอึ้ง แถมโตมรยังมาพูดให้คิดอีก หินจึงตัดสินใจที่จะทำงานเป็นช่างไฟรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยมีทองแท้เป็นลูกค้ารายแรก ผักกาดดีใจที่หินทำสำเร็จ จึงพยายามหาของมาให้หินซ่อม โดยมีไหมคอยช่วยอีกทาง จนสมรอดไม่ได้ที่จะคิดว่าไหมชอบหิน จนไปบอกกับโตมร โตมรจึงมาคาดคั้นเอากับไหม ไหมทั้งโกรธ ทั้งผิดหวังโตมรไม่เชื่อใจตน ต่อว่าจนโตมรสำนึกผิดยอมขอโทษ และสัญญาว่าจะไม่คิดแบบนี้อีก ไหมจึงยอมยกโทษให้

ผักกาดเขียนป้ายหางานให้หิน โดยช่วยกันกับดอน, ขวด, โอ่งเอาไปติดตามที่ต่างๆ เมื่อเรื่องรู้ไปถึงหูหิน หินโกรธหาว่าผักกาดทำตัวเป็นเจ้าชีวิตสั่งให้ทำโน้นทำนี่ ตามไปต่อว่าผักกาดจนถึงที่โรงเรียน แถมไล่ผักกาดให้ไปอยู่ที่อื่นโดยไม่ฟังใคร ทุกคนปรึกษากันว่าให้ผักกาดพักอยู่กับไหมไปก่อน หินเริ่มสำนึกแต่ไม่กล้าจะเข้าไปหาผักกาด หินตัดสินใจเข้ามาขอยืมเงินโตมรเพื่อเป็นทุนในการเปิดร้านซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้าอย่างเอาจริงเอาจังที่บ้าน และไปรับผักกาดจากที่โรงเรียนมาให้เป็นคนเปิดป้ายร้าน หินพาทุกคนไปเลี้ยงหมูกะทะ ได้เจอกับชัยชนะ แต่ยังไม่ทันได้คุยกับผักกาดก็โดนลากตัวกลับก่อน ผักกาดเสียใจ และให้หินสัญญาว่าจะไม่ทิ้งตนเหมือนกับที่พ่อทำในวันนี้ ซึ่งหินก็สัญญา

ไหม เข้าใจผิดคิดว่าหินเป็นขโมยของ กว่าจะรู้ก็ตบหน้าหินไปเต็มๆ ไหมตามไปขอโทษ และง้องอนหินที่บ้าน และนั่นทำให้ทั้งคู่เริ่มมีความรู้สึกดีๆต่อกัน แต่ก็ดีได้ไม่นาน เมื่อหินไปซ่อมไฟที่บ้านน้ำฝน (อิม – อชิตะ สิกขมานา) ที่นั่นหินได้เห็นภาพถ่ายของน้ำฝนกับโตมร และเด็กผู้หญิง ซึ่งน้ำฝนบอกว่าเป็นลูกสาวของตน และโตมรคือพ่อของเด็ก และเมื่อหิน กับผักกาดกำลังเดินกลับ ทั้ง 2 ก็เห็นโตมรขับรถมาจอด และโอบน้ำฝนเข้าไปในบ้าน หินสั่งห้ามไม่ให้ผักกาดบอกไหม แต่ความลับก็ไม่มีในโลก เมื่อหินเผลอบอกดอน กับขวด แล้วทั้งคู่ก็ไปพูดต่อจนรู้ถึงหูไหม แรกๆไหมไม่ก็ไม่ใส่ใจ เพราะเชื่อในตัวของโตมรแต่ก็อดหวั่นไหวไม่ได้ พอเรื่องรู้ไปถึงโตมร เขาจึงพาหิน กับไหมไปหาน้ำฝนที่บ้าน พร้อมเฉลยให้ฟังว่าน้ำฝนเป็นแฟนของเพื่อนรักของเขาที่ต้องไปทำงานต่างประเทศ และก่อนไปได้ฝากเขาให้ช่วยดูแลน้ำฝน กับน้ำค้างลูกสาวให้

ทาง โรงเรียนจัดทัศนศึกษาพานักเรียนไปค้างคืนต่างจังหวัด โดยให้ผู้ปกครองตามไปด้วย 1 คน แต่กว่าผักกาดจะได้ไปก็มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย เพราะหินไม่มีเงิน จนในที่สุดก็ต้องจำใจเข้าไปขอยืมเงินจากไหม จบจากเรื่องเงินก็มาถึงเรื่องผู้ปกครองที่จะต้องไปด้วย หินคิดว่าไหมต้องไปกับหมูหวานจึงปฏิเสธ แต่พอผักกาดบอกว่าไหมไม่ได้ไปหินก็รีบตกลง ด้านไหมที่บอกว่าไม่ไปก็มีเหตุให้ต้องไป ทำเอาหินเซ็งไปเลย ยิ่งเผลอรับปากโตมรว่าจะดูแลไหมให้ หินก็ยิ่งเซ็งหนัก ที่ทะเลทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมให้นักเรียน กับผู้ปกครองจัดคู่กันเล่นเกมส์ ซึ่งไหมกับหินก็แข่งกันแบบไม่มีใครยอมใคร ผลัดกันแพ้-ชนะจนผลออกมาว่าทั้งคู่เสมอกัน แต่ของรางวัลกลับมีชิ้นเดียวเป็นสร้อยทองคำ และไหมก็แย่งเอาไว้คนเดียวโดยที่หินไม่สมัครใจ ระหว่างที่ทั้งคู่เถียงกันอยู่นั้นหมูหวานก็ปลีกตัวไปขี่จักรยานจนเกือบโดน เด็กเกเรเจ้าถิ่นเล่นงาน แต่ผักกาดเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ทำเอาหมูหวานซาบซึ้ง ยอมซูฮกให้ผักกาด กลางคืนมีกิจกรรมรอบกองไฟ หินบังเอิญเห็นปฏิกิริยาของครูกระต่ายเมื่อได้ยินไหมคุยโทรศัพท์กับโตมร ครูกระต่ายเล่าให้หินฟังเรื่องที่ตัวเองเคยคบกับโตมร แต่ไหมแย่งโตมรไป ทำเอาหินเจ็บใจแทนครูกระต่ายจน

ทนไม่ไหวต่อว่าไหม ทั้งคู่จึงทะเลากันจนโดนลงโทษให้ไปนอนบนรถแทน และนั่นเองทำให้ทั้งคู่มีเวลาได้ปรับความเข้าใจกัน และพูดคุยกันถึงความฝัน ไหมออกปากชมหินที่เปลี่ยนตัวเองได้สำเร็จ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะผักกาด แต่หินก็บอกว่าไหมก็มีส่วนที่ทำให้เขาดีขึ้นด้วย ทำเอาไหมรู้สึกอดที่จะดีใจไม่ได้

กลับจากทัศนาจร ทุกอย่างเปลี่ยนไป หมูหวานกับผักกาดกลายเป็นคู่หูคู่ฮา ส่วนหินกับไหมก็สนิทกัน จนทุกคนงงกันเป็นแถว พร้อมกับความรู้สึกของหินที่มีให้กับไหมที่เริ่มเปลี่ยนไป ทั้งๆที่รู้ว่าไหมเป็นแฟนโตมร จึงพยายามตัดใจ

ผักกาดไม่สบายเข้าโรง พยาบาล หินรีบมาดู แต่เมื่อผักกาดฟื้นก็โวยวายจะกลับบ้าน เพราะรู้ว่าหินไม่มีเงินค่าโรงพยาบาล ทำเอาหินอึ้งไปพักใหญ่ แต่ก็ไม่ยอมให้ผักกาดกลับบ้าน หินรู้สึกโกรธตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนที่ไม่มีเงินจนทำให้ผักกาดคิด อย่างนั้น ไหมดีใจที่หินเริ่มคิดได้ จึงไปเล่าเรื่องให้โตมรฟัง โตมรจึงออกค่ารักษาให้ หินจึงพาผักกาดมาขอบคุณโตมรที่โรงพัก ทั้งยังรู้สึกผิดที่แอบคิดรักไหม

งานหินเริ่มมีงานล้นมือ พอดีกับที่เจ้าของห้องแถวข้างๆร้านไหมจะย้ายออก ทองแท้ซึ่งเป็นเจ้าของเลยต้องหาคนมาเซ้งต่อ ไหมเลยชวนหินมาเปิดร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้าข้างๆกัน หินปฏิเสธเพราะไม่มีเงินเซ้ง ไหมช่วยคุยกับทองแท้ให้ลดราคา แต่ทองแท้ไม่ลด ไหมเลยช่วยพาหินไปกู้แบ๊งค์ แต่ก็ไม่มีแบ๊งค์ไหนให้กู้ ไหมเลยลงทุนเอาเงินเก็บของตัวเองให้หินกู้ แต่หินไม่ยอม ซึ่งก็พอดีกับที่ทองแท้หาคนเช่าได้เรื่องจึงยุติ สมรไม่พอใจที่ไหมทำดีกับหินเกินเหตุ กลัวว่าโตมรจะเข้าใจผิด แต่ไหมให้เหตุผลเหมือนเดิมว่าที่ทำทุกอย่างก็เพื่อผักกาด โดยที่ไม่รู้เลยว่าตลอดเวลาที่ไหมวิ่งเต้นให้หินเซ้งห้องนั้นอยู่ในสายตาของ โตมรตลอดเวลา และทำให้โตมรเริ่มไม่ไว้ใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ โดยมีครูกระต่ายที่มักจะแวะเวียนไปหาโตมรที่สถานีฯบ่อยๆ คอยพูดยุแยงให้โตมรระแวงมากกว่าเดิม

โตมรไปหาหินที่บ้านอ้างว่าเอา เครื่องอัดเสียงมาให้ซ่อม แต่แท้ที่จริงมาเพื่อขู่หินไม่ให้ยุ่งกับไหม แต่ถึงหินจะไม่อยากมีเรื่อง แต่เรื่องก็วิ่งเข้ามาหาหินจนได้ เมื่อไหมชวนแกมบังคับให้หิน กับผักกาดไปเที่ยวเขาดินในวันเกิดหมูหวานพร้อมกับตน และโตมร โตมรจึงตัดสินใจถือโอกาสนี้ลองใจไหมกับหิน โดยอ้างว่าติดงาน แล้วให้ทั้งคู่ไปด้วยกันก่อน โดยบอกว่าเสร็จงานแล้วจะตามไป จากนั้นก็ชวนครูกระต่ายตามไปดู ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ ไหมกำลังจะขึ้นฝั่ง แล้วเสียหลักลื่นล้มโดยฉุดหินที่ยื่นมือมารับล้มไปด้วยกัน ทำให้โตมรเข้าใจผิดเข้าไปชกหน้าหิน ทำเอาไหมที่เพิ่งรู้เรื่องที่โตมรไปขู่หินที่บ้านโกรธ และผิดหวัง ยิ่งรู้ว่าโตมรโกหกว่าติดงานเพื่อที่จะคอยจับผิดก็ยิ่งเสียใจที่โตมรทำ เหมือนดูถูกความรักของตัวเองจนพูดบอกเลิกโตมร

ไหมเสียใจมากได้แต่ เก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง โตมรตามมาขอโทษแต่ไหมไม่ยอมใจอ่อน เพราะครั้งที่แล้วที่โตมรระแวงตนกับหินก็คุยกันแล้ว และโตมรก็สัญญาแล้วว่าจะเชื่อใจไหม โตมรจึงได้แต่จ๋อยกลับไป เหตุการณ์ในครั้งนี้ทุกคนรุมประณามว่าหินเป็นต้นเหตุ หินรู้สึกผิดจึงตัดสินใจจะทำให้ทั้งคู่คืนดีกัน หากก็ไม่สำเร็จ ครูกระต่ายพยายามเข้ามาปลอบโตมร แต่โตมรกลับผลักไสไม่สนใจ ในที่สุดความเข้มแข็งของตัวเองก็ทำให้ไหมกลับมาเป็นไหมคนเดิม ที่ร่าเริง สดใส

ขณะที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี ชัยชนะพ่อของผักกาดก็โผล่มาขอตัวผักกาดคืนซะงั้น (ชัยชนะหย่าขาดกับเมียใหม่ และต้องการมารับผักกาดไปอยู่ด้วย) ผักกาดดีใจที่จะได้ไปอยู่กับพ่อ แต่พอรู้ว่าหินไม่ได้ไปอยู่ด้วยกันผักกาดก็ไม่ยอมไป ชัยชนะดึงดันที่จะเอาผักกาดกลับไป ในขณะที่ทุกคนไม่อยากให้ผักกาดไป หินกลับเป็นคนเอ่ยปากให้ผักกาดกลับไปกับพ่อ เพราะยังไงซะชัยชนะก็เป็นพ่อที่แท้จริง ทุกคนโดยเฉพาะผักกาดเศร้าไปเลย ทุกคนโกรธรุมแอนตี้หิน ว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเอง ต้องการปัดภาระถึงได้ส่งผักกาดกลับไป

แต่แล้วหินก็ทนไม่ได้เอง ทั้งๆที่ยืนยันว่าผักกาดควรจะได้อยู่กับพ่อที่แท้จริง แต่เมื่อไม่มีผักกาด เขากลับรู้สึกขาดหาย รู้สึกผิดที่ทำเหมือนไม่รัก ผลักไสไล่ส่งผักกาดไปอยู่กับพ่อทั้งๆที่ผักกาดอยากอยู่กับเขา หินตัดสินใจไปหาไหม และตอบคำถามที่ไหมเคยทิ้งไว้ให้เขาคิด หินบอกกับไหมว่าความฝันของเขาคือการได้ดูแลผักกาดไปตลอดชีวิต ไหมงี้ปลื้มซะ

หินชวนไหมเดินทางไปรับผักกาดด้วยกัน แต่เป็นวันเดียวกับที่ผักกาดหนีพ่อออกจากบ้านกลับมาหาหิน จนได้มาเจอหินที่ออกมาตามหาผักกาด ผักกาดดีใจที่รู้ว่าหินไปตามเธอกลับ ที่เคยน้อยใจหายเป็นปลิดทิ้ง หินกับไหมช่วยกันเจรจากับชัยชนะ ขอให้คิดถึงความต้องการของผักกาด แต่ชัยชนะไม่ใจอ่อน ยืนยันจะพาผักกาดไปกับเขาให้ได้ แต่คราวนี้หินไม่ยอมเสียผักกาดไปอีกแล้ว ทั้งคู่ถียงกันจนผักกาดรับไม่ได้วิ่งหนีไปถึงสะพานร้องไห้ยืนยันว่าต้องการ อยู่กับหิน ไม่อยากไปอยู่กับพ่อ ผักกาดพลัดตกจากสะพาน ชัยชนะเอาแต่ยืนตกใจ แต่หินกลับเป็นคนที่กระโดดลงไปช่วยผักกาด แต่ผักกาดหมดสติ กว่าจะฟื้นก็ทำเอาทุกคนใจเสียไปตามๆกัน นึกว่าจะไม่รอด ชัยชนะอายตัวเองยอมแพ้ความรักของหินที่มีต่อผักกาด จึงยอมให้ผักกาดอยู่กับหิน โดยสัญญาว่าจะไปเยี่ยมผักกาดบ่อยๆ

การ กลับมาของผักกาดครั้งนี้สร้างความยินดีให้กับทุกคน ทั้งยังทำให้ความ สัมพันธ์ระหว่างไหม กับหินดีขึ้นกว่าเดิม หินไปขอร้องจนเจริญศรีใจอ่อนยอมรับผักกาดกลับเข้ามาเรียนต่อ ส่วนครูกระต่ายยังตามตื้อโตมรอย่างไม่ย่อท้อ จนเจริญศรีเตือนสติครูกระต่าย จึงเริ่มคิดได้ และเริ่มห่างออกมา จนโตมรที่ปกติต้องคอยหลบ คอยเลี่ยงเริ่มรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายจนต้องเป็นฝ่ายไปหาครู กระต่ายถึงที่โรงเรียน หลังจากกระต่ายเข้าใจกับโตมรแล้วก็มาหาไหมเพื่อปรับความเข้าใจกัน มาถึงตอนนี้ทุกคนจึงยุให้หินจะจีบไหมเพราะถือว่าทางสะดวกแล้ว หินจึงตามตื้อจีบไหมในแบบของตัวเอง เปิ่นเชยแต่จริงจังจนไหมยอมแพ้รับรักหิน

สะใภ้ก้นครัว 2551

เรื่องย่อ : สะใภ้ก้นครัว (2551/2008) สะใภ้ก้นครัว เป็นเรื่อง ราวความรักที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคระหว่าง แทนไท หนุ่มไทยจากครอบครัวหัวโบราณ กับ ซินดี้ สาวหัวนอกที่ใช้ชีวิตในอเมริกาตั้งแต่เด็ก เมื่อแทนไทไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา ทั้งคู่ได้พบรักกันและใช้ชีวิตอยู่ก่อนแต่งมาตั้งแต่ตอนนั้น กำนันเทียน พ่อของแทนไทเป็นคนหัวโบราณ เคร่งครัดต่อระเบียบประเพณีเป็นที่สุด แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีต่อต้านการอยู่ก่อนแต่ง เพราถือเป็นการทำลายวัฒนธรรมไทย และประกาศว่าลูกสะใภ้ของกำนันเทียนจะต้องเป็นกุลสตรีที่ไม่มีมลทินใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อต้องเดินทางกลับบ้านเกิด แทนไทไม่กล้าพาซินดี้เข้าบ้าน จึงพาไปอาศัยบ้านเช่าที่ เข่ง เพื่อนสนิทของแทนไทเป็นคนหาให้ และขอร้องให้เข่งเก็บเรื่องการกลับมาเมืองไทย ขอตนเป็นความลับ แต่เข่งก็เผลอบอกกำนันเทียนจนได้ ครอบครัวกำนันเทียนเลยพากันเดินทางมากรุงเทพทันที ซึ่งประกอบด้วย สายบัว แม่ของแทนไท ผู้มีความสามารถในการทำอาหารเป็นเลิศ ทองทิว น้องชายของแทนไท ที่ถูกอบรมจนรักในความเป็นไทยเข้าสายเลือด และไอ้หมึก คนขับรถผู้ซื่อสัตย์ บังเอิญวันนั้น แทนไทออกไปทำธุระเหลือแต่ซินดี้อยู่บ้านคนเดียว เมื่อพวกกำนันเทียนมาถึง ซินดี้ที่ได้รับคำเตือนจาก ซอนย่า เพื่อนนางแบบว่าให้ระวังโจรผู้ร้ายในเมืองไทย ทำให้ซินดี้คิดว่าพวกกำนันเทียนเป็นโจร จึงใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำตีกำนันเทียนจนน่วม ดีว่าแทนไทกลับมายุติเหตุการณ์ไว้ได้ทัน จากเหตุการณ์นี้ ทำให้แทนไทต้องโกหกครอบครัวว่าซินดี้ คือ สาวใช้ที่เข่งหามาให้ชื่อ ลำใย ส่วนอาการบาดเจ็บของกำนันเทียนทำให้ครอบครัวของแทนไทต้องพักอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อ ชีวิตคู่ของแทนไทและซินดี้จึงตกอยู่ในภาวะวิกฤต ทั้งสองต้องแยกห้องกันอยู่ ซินดี้ต้องรับบทคนใช้ ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยทำงานบ้านมาก่อน กำนันเทียนเลยยิ่งหมั่นไส้คอยหาเรื่องซินดี้ตลอดเวลา แม่สายบัวก็เอาแต่เรียกซินดี้เข้าครัว ทั้งๆ ที่เธอทำอาหารไม่เป็น ด้านไอ้หมึกก็หวังจะเคลมซินดี้ทุกครั้งที่มีโอกาส แทนไท และซินดี้ จึงไม่เป็นอันกินอันนอน เพราะต้องคอยแก้ไขสถานการณ์คับขันต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะความจุ้นจ้าน และความเข้าใจผิดของครอบครัว ทองทิวเป็นคนที่มีปัญหากับซินดี้น้อยที่สุด แต่เขากลับไปตกหลุมรัก ฝ้าย เด็กสาวข้างบ้านลูกของ กิตติ เพื่อนบ้านที่ชอบยุ่งเรื่องของบ้านแทนไท และคุณครูระเบียบ ครูฝ่ายปกครองเจ้าระเบียบ ทำให้ฝ้ายกลายเป็นเด็กเก็บกด อยู่บ้านเรียบร้อยแต่ออกนอกบ้านเมื่อไหร่จะกลายเป็นเป็นเด็กแก่นเซี้ยว เปรี้ยวซ่า ทองทิวจึงตั้งใจว่าจะดึงฝ้ายให้กลับมาเป็นกุลสตรีไทยให้จงได้ ฝ่ายแทนไทที่ทนความวุ่นวายไม่ไหว จึงวางแผนจะไล่ซินดี้ออก แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นใจ เพราะซินดี้ดันไปได้น้ำพริกชาววังเจ้าอร่อยติดมือกลับมาบ้าน แม่สายบัวกินแล้วคิดว่าลำใยเป็นคนทำ เลยบังคับให้ลำใยเป็นตัวแทนของตำบลเข้าแข่งขันตำน้ำพริกประจำปีของจังหวัด ที่กำลังจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ซินดี้ และแทนไทไม่อาจจะปฏิเสธได้ จึงตบปากรับคำ ซึ่งทั้งสองแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่า ถ้าซินดี้ชนะจะใช้โอกาสนี้บอกฐานะที่แท้จริงของซินดี้ให้ทุกคนรู้ ทั้งหมดจึงยกขบวนกลับหมู่บ้านแม่ลากาหลง โดยมีซินดี้เป็นความหวังในการแข่งขันตำน้ำพริก แต่หารู้ไม่ว่าอุปสรรคของเธอในการแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่ครกกับสากเท่า นั้น เธอต้องสู้รบกับ รัชนี สาวสวยประจำอำเภอ ซึ่งเป็นลูกของกำนันไฝ เพื่อนซี้ของกำนันเทียน ซึ่งกำนันไฝหมายมั่นให้รัชนีได้แต่งงานกับผู้ชายรวยๆ โดยเหยื่อรายแรกเป็นเสี่ยรถไถ ชื่อ เสี่ยติ่ง พ่อบุญทุ่มที่หลงรักรัชนีสุดหัวใจ แต่พอรัชนีได้พบแทนไท เธอก็เปลี่ยนเป้าหมายจากเสี่ยติ่งเจ้าพ่อรถไถหน้าตาด้อยพัฒนา มาเป็นแทนไทหนุ่มนักเรียนนอกรูปหล่อและร่ำรวย โดยเธอเข้ามาสนิทสนมกับแทนไทจนซินดี้อดหึงหวงไม่ได้ แทนไทจึงต้องคอยปลอบใจซินดี้ ทำให้รัชนีอดสงสัยไม่ได้ว่า แทนไทดูจะเอาอกเอาใจสาวใช้คนนี้เป็นพิเศษ รัชนีเลยเข้าใจว่าลำใยเป็นคนใช้ที่มักใหญ่ใฝ่สูง คิดจะจับเจ้านาย จึงประกาศตัวเป็นศัตรูกับลำใยโดยตรง ศึกตำน้ำพริกครั้งนี้จึงร้อนระอุ เพราะนอกจากจะมีตำแหน่งแชมป์น้ำพริกร้อยครกเป็นเป้าหมายแล้วรัชนียังหวังจะ ชนะใจแทนไทอีกด้วย ในวันแข่งขันรัชนีวาดลวดลายตำน้ำพริกแบบกุลสตรีไทยให้กรรมการเคลิบเคลิ้น ส่วนซินดี้ก็ไม่ยอมแพ้ เธอเน้นโชว์หรูเริ่ดอลังการสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับกรรมการชาวแม่ลา กาหลงยิ่งนัก แต่เมื่อการแข่งขันสิ้นสุด กรรมการตัดสินให้รัชนีได้รางวัลที่หนึ่ง แต่ซินดี้ก็ได้รางวัลพิเศษด้านความคิดสร้างสรรค์และขวัญใจคนดู ทำให้แม่สายบัวดีใจมาก แทนไท และซินดี้ เผลอกระโดดกอดกันต่อหน้าต่อตากำนันเทียน ทำให้กำนันเทียนรู้สึกเสียหน้ามากที่ลูกชายกอดสาวใช้ เลยประกาศหมั้นแทนไทกับรัชนีต่อหน้าทุกคนในหมู่บ้าน ซินดี้ได้ยินก็เสียใจเลยหนีกลับกรุงเทพโดยไม่บอกแทนไท แทนไท ตามไปง้อซินดี้ที่กรุงเทพ โดยสัญญาว่าจะบอกความจริงให้ครอบครัวรู้ว่าเขากับซินดี้เป็นสามีภรรยากัน แต่กำนันเทียมเกิดประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ ต้องเข้าโรงพยาบาล แทนไท เลยต้องเก็บความลับเรื่องซินดี้ไว้ก่อน และขอร้องให้ซินดี้มาช่วยดูแลกำนันเทียนด้วยอีกแรง ซินดี้ต้องทนฤทธิ์เดชของกำนันเทียนหลายต่อหลายครั้ง จนกำนันเทียนเห็นความดีของซินดี้ และเริ่มยอมรับในตัวของเธอ ระหว่างนั้นรัชนีหลอกให้ติ่งพามากรุงเทพ เพื่อหาความจริงเรื่องซินดี้ ก่อนที่แทนไทยจะบอกความจริงให้กำนันเทียนและแม่สายบัวรู้ ความลับว่าซินดี้กับแทนไทอยู่กินกันก่อนแต่งก็แตกโดยฝีมือของติ่งและรัชนี ทำให้กำนันเทียนโกรธแทนไทและซินดี้มาก แทนไททะเลาะกับกำนันเทียนอย่างรุนแรง ซินดี้เสียใจที่เป็นต้นเหตุของความบาดหมางในครอบครัว เธอจึงหนีไปอีกครั้ง แทนไทจึงออกตามหาซินดี้จนไม่เป็นอันกินอันนอน จนกำนันเทียนและแม่สายบัวเริ่มเห็นใจลูก รัชนี ให้กำนันไฝมาเร่งรัดเรื่องแต่งงาน แต่กำนันเทียนบอกว่าจะให้แทนไทเป็นคนเลือกถ้าแทนไทจะเลือกซินดี้ เขาก็ไม่มีปัญหา รัชนีแค้นมากเลยวางแผนการครั้งสำคัญ เพื่อให้แทนไทเป็นฝ่ายเลิกเธอ

ทหารหญิงหัวใจแหวว 2551

เรื่องย่อ : ทหารหญิงหัวใจแหวว (2551/2008) สิบเอกศักดิ์ศรีตำแหน่งพลปืนกลเบา (เอ็ม 26) ประจำหน่วยลาดตระชายแดน โดยมี พันโทเกรียงไกร เป็นผู้บังคับกองพัน ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับลูกน้องคู่นี้เหตุเกิดจากการสู้รบที่ชายแดน เมื่อผู้พันเกรียงไกรได้นำกำลังทหารเข้าทำการผลักดันกองกำลังต่างชาติที่ได้ล่วงล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยออกไป แต่ผู้พันเกรียงไกรได้เพรี่ยงพร้ำแก่ข้าศึกตกอยู่ในวงล้อมของข้าศึก เหตุการณ์คับขันยากที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ ถ้าไม่ได้นักรบที่มีหัวใจบ้าบิ่นที่มีชื่อสิบเอกศักดิ์ศรี ซึ่งเป็นผู้บังคับหมู่พลปืนกลเบานำทหารตีฝ่าวงล้อมเข้าไปช่วยชีวิตนายออกมาได้อย่างปลอดภัย สร้างความประทับใจให้แก่ผู้บังคับกองพันอย่างพันโทเกรียงไกรอย่างไม่รู้ลืม

เมื่อพันโทเกรียงไกรได้ถูกย้ายเข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้บังคับกองพันในกรุงเทพฯ จึงได้ทำเรื่องย้ายสิบเอกศักดิ์ศรีมาอยู่ด้วย หน้าที่และตำแหน่งของพันโทเกรียงไกรก้าวหน้าเป็นลำดับ เช่นเดียวกับหมู่ศักดิ์ศรีก็ได้รับตำแหน่งขึ้นเช่นเดียวกันกับนาย เพราะได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากพันโทเกรียงไกร วิถีชีวิตเริ่มหักเหเมื่อผู้พันเกรียงไกรได้รับตำแหน่งเป็นผู้บังคับการต้องย้ายไปประจำการที่โรงเรียนนายร้อย หมู่ศักดิ์ศรีได้รับยศเป็นจ่ากองร้อยไม่สามารถย้ายตามไปได้ ความห่างเหินเริ่มห่างออกไปตามกาลเวลา ท่านผู้บังคับการมีตำแหน่งหน้าที่ก้าวไกลตามความสามารถ

ส่วนจ่าศักดิ์ศรีความก้าวหน้าเริ่มหยุดนิ่งตามอุปนิสัยที่แข็งไม่ยอมคน มีเรื่องความขัดแย้งต่างๆ ได้พยายามเอาไปปรึกษานายเก่าก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือเหมือนอย่างที่ตั้งใจ เนื่องมาจากคุณนายของผู้การเกรียงไกรไม่ค่อยชอบหน้าจ่าศักดิ์ศรีเท่าใดนัก จ่าศักดิ์ศรีเริ่มท้อแท้หมดกำลังใจหันมาดื่มเหล้าปลอบใจชีวิตก็เริ่มตกต่ำ นายเก่าซึ่งได้รับตำแหน่งใหญ่โตขึ้นเป็นถึงพลโทแล้วได้เรียกเข้าไปตักเตือนหลายครั้งด้วยความหวังดี แต่ว่าจ่าศักดิ์ศรีกลับคิดว่านายเก่าเรียกไปดุด่าจึงมีความเสียใจมากขึ้น หันไปพึ่งยาเสพติด ถึงแม้เมียอันเป็นที่รักและลูกสาวจะเฝ้าอ้อนวอนขอร้องอย่างไรก็ไร้ผลไม่สามารถดึงจ่าศักดิ์ศรีขึ้นมาจากขุมนรกของยาบ้าได้ จนกระทั่งผู้บังคับบัญชาจับได้จึงให้ออกจากราชการ

ชีวิตของจ่าศักดิ์ศรีเริ่มตกต่ำยิ่งขึ้นเมื่อถูกออกจากราชการ แต่ด้วยหัวใจของคนที่เคยเป็นนักรบ บ้าบิ่นมาก่อน ประกอบกับกำลังใจที่เมียและลูกคอยให้กำลังใจมาตลอด จ่าศักดิ์ศรีจึงตัดใจหักดิบเลิกยาเสพติดอย่างเด็ดขาด จ่าศักดิ์ศรีจะตกระกำลำบากปานใดเขาไม่เคยบ่นสู้ทนขับแท็กซี่คู่ใจหาเลี้ยงครอบครัว หวังส่งเสียให้ลูกสาวได้เล่าเรียนสูงๆ เพื่อกอบกู้ความผิดของตนที่คิดพลาดไปอย่างไม่มีวันเรียกร้องคืนได้อีก ส่วนประนอมเมียของเขาก็ไม่เคยย่อท้อทำขนมขายเป็นการหารายได้เสริมให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น

เคียงเดือน ลูกสาวคนเดียวของอดีตจ่าทหารนอกราชการที่ถูกปลดเพราะไปติดยาเสพติด มีความแค้นฝังใจกับพวกค้ายาเสพติดที่ทำให้ครอบครัวต้องลำบากจึงตัดสินใจไปสมัครเรียนเป็นนักศึกษาวิชาทหาร หวังว่าในอนาคตจะไปสมัครสอบเข้าทหารหรือตำรวจอาชีพ เพื่อหวังเข้าไปปราบปรามพวกค้ายาให้หมดไปจากประเทศให้ได้ เมื่อได้เข้าไปเรียนในศูนย์ฝึกกำลังสำรองแล้วได้พบเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกันอีกหลายคน

โรงเรียนฝึกกำลังสำรองได้นำนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 2 เดินทางไปสอบภาคปฏิบัติที่ศูนย์ฝึกกำลังสำรองที่เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรีเป็นครั้งแรก ขบวนรถนักศึกษาหญิงได้ร่วมขบวนสมทบกับนักศึกษาชายเดินทางไปถึงอนุสรณ์สถานประวัติศาสตร์สงคราม 9 ทัพ แห่งทุ่งลาดหญ้า คณะนายทหารได้นำนักเรียนชายหญิงเยี่ยมชมภายในอนุสรณ์สถานและให้นักเรียนได้ฟังวิทยากรบรรยายถึงดินแดนประวัติศาสตร์ ถึงเรื่องราวในครั้งที่พม่าได้ยกทัพเข้ามาทางด้านด่านเจดีย์สามองค์เป็นจำนวนแสนๆ คน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้สั่งให้แม่ทัพของพระองค์นำกำลังเพียง 2 หมื่นนายไปยันข้าศึกเอาไว้ก่อน

เมื่อวิทยากรได้บรรยายมาถึงตอนนี้ทำให้เคียงเดือนกับเพื่อนที่นั่งฟังด้วยความสนใจเกิดมีความประทับใจไปกับวีรบุรษผู้กล้าหาญในอดีตทำให้เกิดจินตนาการเป็นภาพของนักรบไทยในอดีตที่ต่อสู้กับทหารพม่าบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ปกป้องกับเพื่อนนักศึกษาชายได้ร่วมนั่งฟังบรรยายอยู่ด้วย ปกป้องได้จ้องหน้าเคียงเดือนที่นั่งเอามือปาดน้ำตาที่ไหลนองหน้า เคียงเดือนเหลือบมองปกป้องเห็นจ้องมองตนอยู่จึงหลบสายตาด้วยความเขินอาย

ช่วงการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่เป็นช่วงฤดูหนาว แต่อากาศที่ทุ่งลาดหญ้านั้นไม่ใช่เพียงแต่หนาวอย่างเดียว อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา กลางวันร้อนตับแทบแตก กลางคืนกลับหนาวกระดูกแทบร้าว บางวันฝนตกแทบไม่ลืมหูลืมตา นักศึกษาชายหญิงล้มป่วยเป็นไข้กันมากมาย รวมทั้งเคียงเดือนและปกป้องด้วย ทั้งสองได้มีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งจึงได้ปรับทุกข์ถึงวิธีการฝึกของครูฝึกที่ค่อนข้างโหด ปกป้องในฐานะเป็นลูกชายนายทหารใหญ่เข้าใจยุทธวิธีการฝึกของครูฝึกเป็นอย่างดี

จึงอธิบายให้เคียงเดือนเข้าใจว่าครูไม่ใช่อยากจะลงโทษนักศึกษาที่ผิดระเบียบวินัยเพียงอย่างเดียว แต่ครูฝึกต้องการให้ลูกศิษย์รู้จักมีความเข้มแข็งในด้านจิตใจด้วย เมื่อต้องไปมีอาชีพการงานจะได้มีจิตใจเข้มแข็งรู้จักมีความอดทนอดกลั้นต่อไปในอนาคต เคียงเดือนจึงมีความสนิทสนมกับปกป้องมากเป็นพิเศษ พร้อมกลุ่มเพื่อนๆ นักศึกษาในกลุ่มของเคียงเดือนก็มีความสนิทสนมกับกลุ่มของเพื่อนๆ ปกป้องเช่นเดียวกัน

หลังจากการฝึกภาคปฏิบัติที่เขาชนไก่แล้ว ปกป้องและเคียงเดือนพร้อมกลุ่มเพื่อนๆ ต่างมีความสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นความรักความเห็นใจ เมื่อปกป้องได้รู้ถึงความตั้งใจของเคียงเดือนที่มีความกดดันในเรื่องที่ต้องมาเรียน รด. เนื่องจากพ่อต้องถูกปลดจากราชการเพราะยาบ้าเป็นต้นเหตุ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมายามใดที่เคียงเดือนมีเรื่องทุกข์ใจหรือท้อแท้ ปกป้องจะคอยเป็นที่ปรึกษาให้กำลังใจตลอดเวลา

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักศึกษาวิชาทหารหญิงต้องเข้าไปฝึกภาคสนามที่จังหวัดกาญจนบุรี ปกป้องกับเพื่อนๆ ได้เรียนวิชาทหารถึงปีสุดท้าย (ปี 5) ส่วนเคียงเดือนได้เรียนมาถึงปีที่ 4 ทั้ง 2 ชั้นเรียนได้ไปฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่อีกครั้ง ฝึกวิชาดำรงตนอยู่ในป่า ไม่มีอาหารกินต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการหาอาหารป่า หรือจับสัตว์ที่จะพอหาได้มาปะทังชีวิตเพื่อให้อยู่รอด ต้องจับงูหรือแย้มาฆ่ากิน ด้วยความเป็นห่วงว่าเคียงเดือนจะลำบาก ปกป้องจึงแหกกฎปลอมตัวเป็นนักศึกษาหญิงเข้าไปในแดนของนักศึกษาหญิง เป็นช่วงที่ครูฝึกได้นำงูมาปล่อยเพื่อทดสอบใจนักศึกษาหญิง แต่งูได้เลื้อยไปหาปกป้อง ปกป้องตกใจวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงจนครูฝึกจับได้ว่าเป็นผู้ชายปลอมตัวเข้ามาในแดนของนักศึกษาหญิง จึงทำโทษปกป้องภายหลังว่า ปกป้องยอมเสี่ยงเข้ามาเพื่อจะนำอาหารมาให้เคียงเดือนด้วยความเป็นห่วง ยิ่งสร้างความประทับใจให้กับเคียงเดือนที่มีกับปกป้องมากเป็นพิเศษ

ความสนิทสนมรักใคร่ระหว่าง ปกป้อง กับ เคียงเดือน ได้รู้ถึงจ่าศักดิ์ศรี จึงถูก จ่าศักดิ์ศรีขัดขวางความรักของคนทั้งสองอย่างหนัก เมื่อจ่าศักดิ์ได้รู้ว่าปกป้องเป็นลูกของเจ้านายเก่าของตน ซึ่งรู้ดีว่าความรักของคนทั้งสอง ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะแต่งงานกัน เนื่องจากคุณหญิงแม่ของปกป้องไม่ชอบคนจนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยิ่งถ้าได้รู้ว่ามาชอบกับลูกสาวของคนซึ่งเป็นลูกน้องเก่าด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อย่างเด็ดขาด จ่าศักดิ์ศรีจึงจำเป็นต้องตัดความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเสียก่อนที่จะสายเกินไป ทั้งปกป้องและเคียวเดือนไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง ที่จ่าศักดิ์ศรีกีดกันความรักของเขาทั้งสอง เนื่องจากเหตุผลใด เพราะจ่าศักดิ์ศรีไม่เคยเล่าให้ลูกสาวได้ฟังเลย ส่วนประนอมก็ไม่กล้าที่จะเล่าความจริงให้ลูกสาวได้ฟัง เนื่องจากจ่าศักดิ์ศรีห้ามบอกความจริงในอดีตให้ลูกสาวรู้เด็ดขาด

ปกป้องเมื่อถูกฝ่ายพ่อของเคียงเดือนกีดกันหวงห้ามก็ยิ่งอยากจะเอาชนะ โดยมีเพื่อนๆ ของปกป้องและเพื่อนๆ ของเคียงเดือนเป็นฝ่ายสนับสนุนให้มีการพบกันมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหลังจากการฝึก รด. จนมาถึงงานวันเกิดของปกป้อง ได้ชวนเคียงเดือนไปในงานวันเกิดและได้แนะนำให้รู้จักกับท่านนายพลและคุณหญิง แม่ของปกป้องได้ถามถึงครอบครัวของเคียงเดือน ซึ่งปกป้องได้บอกความจริงถึงชื่อพ่อแม่ของเคียงเดือนให้คุณหญิงฟัง คุณหญิงแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากวันนั้น คุณหญิงได้ไปที่บ้านของเคียงเดือน เมื่อได้พบกับ จ่าศักดิ์ศรี ลูกน้องเก่าของสามี จึงได้ให้จ่าศักดิ์ศรีห้ามปรามลูกสาวว่า อย่าทะเยอทะยานคิดไปเป็นลูกสะใภ้ตนเลยชาตินี้คงรับไม่ได้ สร้างความโกรธแค้นให้กับจ่าศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก และได้โต้ตอบกลับไปกับคุณหญิงว่า ให้ห้ามลูกชายของตัวเองให้ได้อย่าคิดว่ามีเงินแล้วจะซื้อผู้หญิงจนๆ อย่างลูกสาวตนได้ ต่างคนต่างใช้อารมณ์โต้เถียงกันอย่างรุนแรงจนคุณหญิงระงับอารมณ์ไม่อยู่ กล่าวอาฆาตจ่าศักดิ์ศรีด้วยความแค้นแล้วกลับไปอย่างหัวเสีย

เมื่อเคียงเดือนกลับจากโรงเรียนได้ถูกพ่อต่อว่าอย่างรุนแรงและห้ามลูกสาวไปพบกับปกป้องอย่างเด็ดขาด เคียงเดือนเสียใจมากกล่าวหาว่าพ่อเอาแต่อารมณ์ไร้เหตุผล ประนอมพยายามห้ามปรามลูกสาวไม่ให้ต่อปากต่อคำกับพ่อ ทำให้เคียงเดือนน้อยเนื้อต่ำใจกล่าวหาทั้งพ่อและแม่ว่าไม่รักตนไม่ยอมเข้าใจตน ประนอมพยายามจะอธิบายถึงความจริงให้ลูกรู้แต่ก็ถูกจ่าศักดิ์ศรีห้ามไว้เสียก่อน

กำแพงความรักของปกป้องกับเคียงเดือนถูกฝ่ายผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายตั้งป้อมขัดขวางมากขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ก็เหมือนยิ่งเพิ่มดีกรีความรักความเห็นใจมากยิ่งขึ้น ประกอบกับได้รับแรงเชียร์จากเพื่อนๆ ของทั้งสองฝ่ายยิ่งทำให้ปกป้องและเคียงเดือนมีความพยายามจะทลายกำแพงความรักที่พ่อและแม่ได้ตั้งขึ้นให้จงได้ตามปรารถนา โดยปกป้องจะมีฝ่ายท่านนายพลคอยให้ท้ายลูกชาย ส่วนเคียงเดือนก็จะมีประนอมผู้รักลูกดั่งดวงใจเป็นกำลังใจคอยเชียร์อย่างลับๆ ไม่ให้สามีรู้ ความรักของปกป้องและเคียงเดือนจึงเหมือนอมตะนิยายรักน้ำเน่าถูกรีไซเคิลกลับมาอีกครั้งด้วยกลยุทธ์ศึกรักศึกรบฝุ่นตลบไปทั้งคนรักและคนเชียร์

ช่วงที่ไปฝึกภาคสนามที่ศูนย์ฝึกเขาชนไก่ เคียงเดือนและกลุ่มเพื่อนๆ 4 คนพลัดหลงทางเข้าไปในป่าลึก จนเป็นเหตุให้ผู้บังคับบัญชาต้องสั่งให้ครูฝึกจำนวนหนึ่งออกค้นหา เมื่อข่าวการเดินทางหลงป่าของเคียงเดือนได้รู้ไปถึงปกป้องที่ไปฝึกภาคสนามอยู่ที่เขาชนไก่ในช่วงเวลาเดียวกัน ปกป้องกับเพื่อนๆ จึงขออาสาไปกับครูฝึกด้วย เพื่อออกค้นหาเคียงเดือนกับนักศึกษาหญิงที่หายไป

เคียงเดือนกับเพื่อนๆ อีก 4 คนได้พลัดหลงเข้าไปในดินแดนของกระเหรี่ยงที่เป็นแหล่งผลิตยาเสพติด และถูกกลุ่มคนร้ายจับตัวเอาไว้ โดยคนร้ายคิดว่าเป็นสายสืบเข้าไปสืบจับยาเสพติด เมื่อหัวหน้ากระเหรี่ยงได้สอบสวนแล้วจึงรู้ว่าเป็นนักศึกษาวิชาทหาร หัวหน้ายิ่งมีความวิตกกังวลมาก ถ้าปล่อยกลับไปเกรงว่าจะนำข่าวแหล่งผลิตยาไปเปิดเผยได้ จึงคิดที่จะฆ่าปิดปากเสีย แต่เคียงเดือนได้พยายามพูดให้เหตุผลว่าถึงฆ่าพวกเธอไป หัวหน้าก็ไม่สามารถอยู่อย่างสบายได้ ถึงยังไงทางตำรวจก็ต้องออกตามล่าจนเจอแหล่งผลิตยาที่นี่แน่นอน สู้ปล่อยให้พวกเธอไปดีกว่า แล้วจะช่วยปิดเรื่องราวทั้งหมดให้เป็นความลับ หัวหน้าเริ่มลังเลใจ จึงสั่งให้ลูกน้องเอาพวกนักศึกษาไปขังไว้ชั่วคราวก่อน

ในช่วงที่เคียงเดือนกับพรรคพวกถูกกักขังอยู่นั้น รื่นรมย์ หนึ่งในกลุ่มได้ใช้เล่ห์มารยาหญิงตีสนิทให้ผู้คุมหลงเชื่อ เธอหลอกล่อจนตายใจแล้วให้เพื่อนๆ ตีผู้คุมจนสลบ จากนั้นทั้งหมดจึงรีบหลบหนีมา แต่ด้วยขาดประสบการณ์ในการเดินป่าจึงทำให้ทั้งหมดหลงทาง ไม่สามารถออกจากป่าแห่งนี้ได้

ปกป้อง และเพื่อนนักศึกษาชาย ได้ติดตามมาพบ จึงได้ช่วยกันรีบพาออกไปอย่างเร่งด่วน แต่ก็ไม่ทันรอดพ้นไปจากป่าได้ ในเมื่อหัวหน้ากระเหรี่ยง ได้ติดตามไล่ล่ามาทันพอดี จึงได้เกิดการปะทะกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างการปะทะกันอยู่นั้นครูฝึกได้นำกำลังเข้ามาสมทบจนกระทั่งพวกเหล่าร้ายถอยร่นเข้าป่าไป

เคียงเดือน และกลุ่มเพื่อน แจ้งครูฝึกว่า พวกผู้ร้ายกลุ่มนี้ได้ตั้งแหล่งผลิตยาเสพติดอยู่ที่ชายแดนป่าลึก ขอให้รีบตามเข้าไปทำลายล้างด่วน มิฉะนั้นพวกคนร้ายจะขนย้ายแหล่งผลิตหนี ทางด้านครูฝึกและกำลังสนับสนุนจึงตามล่ากลุ่มคนร้ายไปตามคำบอกเล่าของเคียงเดือน จนกระทั่งเข้าล้อมจับกุมกระเหรี่ยงที่ตั้งโรงงานผลิตยาเสพติดไว้ได้ทั้งหมด

ผู้บัญชาการกองกำลังสำรอง กรมการรักษาดินแดนได้จัดงานรับขวัญกลุ่มนักศึกษาที่ถูกจับ พร้อมกล่าวยกย่องต่อหน้าเพื่อนนักศึกษาที่สนามฝึกกำลังสำรองเขาชนไก่อย่างใหญ่โต สร้างความยินดีปรีดาให้กับเพื่อนและกลุ่มนักศึกษาทุกชั้นปีที่เข้ามาฝึกอยู่ที่นั้น และถือเป็นการปิดภาคการศึกษาในปีนั้นด้วย

หลังจากจบการศึกษา ปกป้อง และ เคียงเดือน ได้นำเรื่องความรักที่ทั้งสองมีต่อกันมาปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ของตน ทั้งสองได้รับการปฏิเสธ พ่อของเคียงเดือนซึ่งไม่ชอบปกป้องอยู่แล้ว ประกาศห้ามลูกสาวคบกับปกป้องอย่างเด็ดขาด ส่วนคุณแม่ของปกป้อง ก็ประกาศห้ามคบกับเคียงเดือน เพราะเห็นว่าฐานะยากจน ไม่สมควรที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ ปกป้องและเคียงเดือนผิดหวังจากการที่ถูกกีดกันความรัก เพื่อนๆ จึงวางแผนช่วยเหลือให้ทั้งสองสมหวังให้ได้ โดยการสร้างสถานการณ์ว่าทั้งสองไปกระโดดน้ำตายที่สะพานพระราม 8

เมื่อพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายรู้เข้าจึงเสียใจมาก สารภาพผิดกันทั้งสองฝ่ายว่าเป็นคนฆ่าลูกตัวเองเพราะความคิดผิดๆ แล้วพร่ำรำพันร้องให้เสียใจแทบขาดใจตาย ขอให้เทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ประทานชีวิตให้ลูกกลับมาเถอะ ถ้าลูกมีชีวิตกลับมาได้จริงๆ ต่อไปจะไม่ขัดขวางทางรักของลูกทั้งสองอีกแล้ว ลูกต้องการอะไรจะให้ทุกอย่าง

สดใส ซึ่งนั่งเฝ้าดูอยู่นั้นได้พูดปลอบใจพ่อแม่ของเพื่อน แล้วย้ำคำพูดเดิมของพ่อแม่ว่าจริงนะ ถ้า ปกป้อง และ เคียงเดือน ไม่ตายจริงพ่อแม่จะไม่ขัดขวางทางรักของเขาอีกต่อไป ทั้งสองฝ่ายรับปากอย่างแข็งขัน สดใสจึงให้สัญญาณให้ปกป้อง และ เคียงเดือน เดินออกมาจากที่ซ่อนเข้ามาหาพ่อแม่ พ่อของเคียงเดือนโกรธมากที่ถูกหลอก แต่พ่อของปกป้องกับแม่ของเคียงเดือนห้ามไว้ว่าได้สัญญากับลูกแล้ว เป็นผู้ใหญ่ต้องไม่ผิดคำพูด พ่อของเคียงเดือนจึงยอมตกลงตามสัญญา เพื่อนของปกป้องและเคียงเดือนต่างเฮโล แสดงความดีใจที่แผนการสำเร็จตามเป้าหมาย

เจาะเวลาหาโก๊ะ 2551

เรื่องย่อ : เรื่องย่อ : เจาะเวลาหาโก๊ะ (2551/2008) หลังจากที่นักศึกษาชายหญิงทุกคน สามารถเดินทางผ่านเวลากลับจากโลกอดีตในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 กลับมาสู่ในโลกปัจจุบันได้ แต่พรานโก๊ะกลับขอใช้ชีวิตต่อไปอยู่ที่บ้านแพ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนเมืองกาญจนบุรีแห่งนั้น เพราะนอกจากจะมีเลือกรักชาติรักแผ่นดินอันเข้มข้นแล้ว ที่สำคัญคือความรักที่โก๊ะมีต่อ บุญหลาย ลูกสาวของ เฒ่าหอม ซึ่งเป็นจอมใจของเขา โก๊ะจึงตัดสินใจอยู่ใช้ชีวิตคู่กับบุญหลายและช่วยชาวบ้านปกป้องหมู่บ้านท่าแพให้อยู่รอดปลอดภัยจากข้าศึก

ส่วนนักศึกษาที่กลับมาไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องที่พวกตนไปผจญภัยให้กับใครฟังได้ เพราะอยากที่จะมีคนเชื่อนอกจากคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันเหลวไหล หรือพวกเขาเพ้อเจ้อกันไปเองเพราะพิษไข้ป่า เรื่องราวของพรานโก๊ะกับชาวท่าแพจึงเป็นแค่ความทรงจำอันงดงามและอยู่ในความคิดถึงของทุกคนเท่านั้น ยกเว้น โอสถ ที่ความทรงจำของตัวเองเจือความเจ็บปวดจากความผิดหวังเพราะเมื่อกลับมาไม่นาน จำนรรจ์ ก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยและไปเรียนต่อที่อเมริกา

ไม่นานนักก็มีนักข่าวว่าเธอมีคนรู้ใจใหม่ ทิ้งให้โอสถเศร้าซึมอยู่เดียวดาย และทางแก้ไขด้วยการเล่าเรื่องการต่อสู้ของตนเองกับทหารข้าศึกให้เป็นที่สนุกสนานกับพวกนักศึกษารุ่นน้อง แต่ก็มักจะถูกมองว่าพูดโม้หรือเพ้อเจ้อ โดยเฉพาะนักศึกษาปีหนึ่งที่ชื่อ จอมขวัญ หรือ จ๋อม ที่มักจะคอยขัดคออยู่เสมอโดยไม่เกรงกลัวรุ่นพี่ เธอมีดีกรีเป็นนักแม่นปืนระดับแชมป์แถมยังมี เอกสิทธิ์นักศึกษาหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยมาคอยติดพัน

หนึ่งเทอมผ่านไป เมื่อนักศึกษาสอบเสร็จและใกล้จะปิดภาคการศึกษา ในวันหนึ่งก็มีเสียงโฟนเรียกหาโอสถไปพบญาติที่ตึกอำนวยการในมหาวิทยาลัยทำให้โอสถแปลกใจคิดว่าใครอำเล่น เพราะตัวเองเป็นเด็กกำพร้าอาศัยวัดอยู่ ไม่มีญาติที่ไหน และพอหันมาโอสถก็ต้องตกใจและดีใจตื่นเต้นสลับกันไป เพราะชายคนนั้นคือ โก๊ะ หรือ พรานโก๊ะของทุกคนนั่นเอง โอสถดีใจที่ได้พบกับโก๊ะ แต่ก็ต้องแปลกใจที่ดูเหมือนโก๊ะจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

โก๊ะบอกว่า เป็นเพราะเวลาได้ผ่านไปเกือบสิบปี เขาเองยังไม่หวังว่าจะพบกับโอสถหรือเพื่อนๆ ของโอสถที่มหาวิทยาลัยนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหนจึงลองเสี่ยงมาหา แต่โอสถยืนยันว่าพวกตนเพิ่งกลับมาได้แค่สี่เดือนเท่านั้น ทั้งสองเถียงกันเรื่องเวลาเพราะโก๊ะก็ยืนยันว่า บุญชู ลูกชายของตนกับบุญหลายอายุได้ 9 ขวบแล้ว นั่นแสดงว่า เวลาของโลกอดีตกับปัจจุบันมีความเคลื่อนไปไม่ตรงกัน

โก๊ะเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่พวกนักศึกษากลับไป เหตุการณ์ทางชายแดนค่อนข้างสงบลง แต่ก็ยังมีข้าศึกเข้ามาบ้างประปราย เฒ่าหอมจึงผูกข้อมือแต่งงานให้โก๊ะกับบุญหลาย บุญหลาย ขอให้โก๊ะรับดาวเรืองเป็นเมียอยู่ร่วมเรือนอีกคนด้วยความสงสาร และเห็นว่าดาวเรืองก็เคยปลื้มโก๊ะมาก่อน ดอกรักทนทรมานด้วยความผิดหวังแต่ไม่ยอมมีเมียหรือสนใจผู้หญิงคนไหน และลั่นคำพูดไว้ว่า ถ้าโก๊ะกับบุญหลายมีลูกสาวเมื่อไหร่ จะทนรอเพื่อจีบเอามาเป็นเมียของตนให้ได้ แต่ ดอกรักก็ต้องผิดหวังอีกหนเพราะบุญหลายคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย

ซึ่งโก๊ะตั้งชื่อว่า บุญชู พอ บุญชูเติบโตขึ้นมาก็มีนิสัยขี้โม้และอีกหลายๆ อย่างไม่ต่างจากโก๊ะผู้เป็นพ่อซักเท่าไหร่ แต่ที่มากกว่าคือ การเอาตัวรอด เล่ห์เหลี่ยมและซุกซนจนเป็นหัวใจของเด็กๆ ในหมู่บ้าน และไม่เกรงกลัวใครแม้แต่ดอกรักที่ยังตัดใจจากบุญหลายไม่ได้ จึงมักจะคอยยุให้ดาวเรืองพยายามชิงโก๊ะจากบุญหลายเพื่อให้ชีวิตคู่ของทั้งสองมีปัญหา แต่ดาวเรืองไม่ยอมเล่นด้วย จนกระทั่งในเวลาต่อมาก็เริ่มมีข้าศึกเข้ามารุกราน โก๊ะกับดอกรักและพวกชาวบ้านก็ยังต่อสู้ขัดขวางและขับไล่พวกข้าศึกออกไปได้ด้วยความสามัคคี แต่ก็เริ่มมีปัญหาเมื่อดินปืนร่อยหรอลง โก๊ะจึงไปเก็บขี้ค้างคาวในถ้ำเพื่อเอามาทำดินปืนตามตำราที่กำจัดเขียนให้ไว้ ดาวเรืองตามไปคอยช่วยเหลือแต่ทนกลิ่นเหม็นอับในถ้ำไม่ไหว โก๊ะจึงให้ออกไปตักน้ำข้างนอก ทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว และประตูเวลาเปิดออก ดึงเอาโก๊ะกลับมายังโลกปัจจุบัน

ดาวเรืองตกใจเมื่อโก๊หายไปจึงพยายามตามหา และกลับมาเล่าให้ทุกคนรู้ บุญหลายกับบุญชูเข้ามาตามในถ้ำแต่ก็ไม่พบอะไร ดอกรักดีใจและพยายามบอกกับบุญหลายว่า ไม่มีวันที่โก๊ะจะกลับมาได้อีกเพราะโก๊ะไม่ใช่คนของที่นี่ แต่บุญหลายกับบุญชูไม่ยอมเชื่อ และคอยภาวนาให้โก๊ะกลับมา แม้ว่าดอกรักจะใช้ความพยายามอย่างไร บุญหลายก็ไม่ใจอ่อนแถมยังถูกขัดขวางจากดาวเรืองและบุญชูอยู่ตลอดเวลา

ส่วนโก๊ะเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็ออกมานอกถ้ำแต่กลับได้พบกับโจรสองพ่อลูกคือ เล่าหยาง กับ เล่าอู ที่หนี การคุมขังของเจ้าหน้าที่ออกมาได้ ทำให้โก๊ะรู้ว่าตนเองกลับมาสู่เวลาในโลกปัจจุบัน โก๊ะหนีพวกโจรเข้าไปในถ้ำเพื่อรอให้เกิดแผ่นดินไหว และตนจะได้ย้อนเวลากลับไป แต่ก็ไม่เกิดซักทีจนนึกถึงครั้งทีกำจัดและนักศึกษาสามารถทำระเบิดและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ จึงตัดสินใจออกจากถ้ำกลับเข้าเขตแดนไทยพบกับทองใบและเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อตามหาบรรดานักศึกษา และได้มาพบกับโอสถที่มหาวิทยาลัยนี่

โอสถพาโก๊ะไปพักที่วัดที่เขาอาศัยอยู่ โก๊ะได้กราบหลวงตามิ่งที่ซึ่งอวยพรให้โก๊ะประสบความสำเร็จและสวัสดีมีชัย วันรุ่งขึ้น โอสถพยายามนัดพวกเพื่อนๆ และรุ่นน้องให้มาพบกับ โก๊ะ แต่กลับไม่มีใครมาเพราะติดธุระหรือภาระของตนเอง จะมีก็แต่จัตวาและน้ำผึ้งเท่านั้นที่มาหาโก๊ะ รวมทั้งนักศึกษาปี 1 เช่น จอมขวัญ และเพื่อนๆ ได้แก่ ยิหวา ลักษมี อนุชา กำจร ซึ่งเป็นน้องชายของกำจัดและกำจัดบอกว่า มีความสามารถไม่แพ้ตนเอง และเอกสิทธิ์ที่ตามจอมขวัญมาด้วย กำจรยินดีช่วยโก๊ะถ้าเขาสามารถทำได้

บรรดานักศึกษาทุกคนสนใจที่จะตามไปดูการส่งตัวโก๊ะกลับเพื่อพิสูจน์ความจริงอันเหลือเชื่อ จอมขวัญยังพา จู้จี้ น้องสาวของตัวเองที่เป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ไปด้วยแม้จะถูกทัดทานจากทุกคนว่าอาจจะลำบากและมีอันตราย แต่จู้จี้ก็ดื้อตามมาจนได้ เอกสิทธิ์แม้จะไม่อยากมาเท่าไหร่แต่เมื่อจอมขวัญไม่เปลี่ยนใจจึงจำใจต้องตามมาด้วย

ทุกคนมาถึงท่าแพและพบกับทองใบ ทองใบไม่อยากให้จู้จี้ไปด้วย แต่โอสถสงสารจู้จี้จึงบอกกับทางทองใบว่าจะดูแลจู้จี้เอง ทำให้จู้จี้รู้สึกดีกับโอสถมากกว่าใครๆ แต่โอสถกับจอมขวัญก็ยังมีปัญหาเข้ากันไม่ได้ และมักจะกระทบกระทั่งกันด้วยคำพูดตลอดเวลาอยู่ดี เพราะจอมขวัญมักจะแซวโอสถเรื่องของจำนรรค์ โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นเพราะอะไรนอกจากรู้สึกหมั่นไส้ และก็ถูกโอสถย้อนให้เจ็บๆ เพราะเป็นคนปากไวไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ โก๊ะรู้สึกห่วงเมียและลูกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะรู้ว่าเวลาจะผ่านไปไว

ทางด้านในอดีต จอระแน นายกองคนใหม่ที่เป็นน้องชายฝาแฝดของนายกองคนเดิมที่ติดคุกเพราะพ่ายแพ้แก่พวกชาวบ้าน ได้อาสายกไพร่พลมาปราบชาวบ้านท่าแพเป็นการแก้ตัวให้กับพี่ชาย โดยมีเมืองประทุน หัวหมู่ทหารคนเดิมนำทางมาและ เม็งรายอ หัวหมู่คนใหม่ยกไพร่พลเดินทางมา ดอกรักพาพวกชาวบ้านเข้าซุ่มโจมตีแต่ต้องถอยหนีแตกพ่าย เพราะมีกำลังน้อยกว่า เมื่อจอระแนยกกำลังมาถึงหน้าหมู่บ้านก็วางแผนการณ์เข้าโจมตีโดยไม่ใช้กำลังให้เสียเลือดเนื้อแบบเดียวกับแผนการณ์ของสุกี้พระนายกองที่ใช้ศึกต่อสู้กับชาวบ้านบางระจันนั่นก็คือ ใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเข้าไป จนชาวบ้านพากันได้รับบาดเจ็บล้มตาย และระส่ำระสายไปตามๆ กัน ดอกรักจึงคิดจะพาพวกชาวบ้านเข้าตีค่ายข้าศึกที่วางกับดักรอไว้อยู่แล้ว

ในวันรุ่งขึ้น โก๊ะก็พาทองใบและพวกนักศึกษาเข้าป่าเพื่อเดินทางไปยังถ้ำที่เป็นประตูแห่งกาลเวลา และด้วยธรรมชาติของพรานใหญ่อย่างโก๊ะก็พาทุกคนหลงทางและวิ่งหนีเสือกันกระเจิดกระเจิงอีกจนได้ ขณะที่โก๊ะออกมาปรึกษาโอสถและทองใบ เล่าหยางกับเล่าอูก็มาพบกับนักศึกษาจึงใช้ปืนขู่และจับพวกผู้ชายมัดไว้ ส่วนผู้หญิงจะพาไปบังคับขืนใจเป็นเมียของพวกตน แต่จู้จี้วิ่งหนีพ้นไปได้ และตามพวกโก๊ะมาช่วยไว้ทันท่วงที ทุกคนจึงจับเล่าหยางกับเล่าอูมัดติดกันไว้บ้าง และทิ้งไว้ในป่าจนพบกับเสือตัวใหญ่ ทำให้สองโจรพ่อลูกต้องเอาตัวรอดกันอย่างทุลักทุเลเต็มที

ส่วนโก๊ะพาทุกคนมาถึงถ้ำจนได้ พวกนักศึกษาขอตามเข้าไปในถ้ำเพื่อพิสูจน์ว่าโก๊ะหายไปต่อหน้าต่อตาจริงๆ กำจรกำลังจะทดลองวางระเบิดเพื่อให้ถ้ำเกิดความสั่นสะเทือนแต่ปรากฏว่าเกิดแผ่นดินไหวจริง และทุกคนก็ถูกดูดเข้าอุโมงแห่งกาลเวลา เมื่อทุกคนรู้สึกตัวว่าได้เดินทางมาสู่เวลาใหม่ก็ตกใจ โดยเฉพาะเอกสิทธิ์ที่โวยวายจะกลับไป จัตวากับน้ำผึ้งไม่กลัวอะไรมากนักเพราะตนเองเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ทองใบก็ดีใจที่ได้มา เพราะคิดว่าวิชามวยไทยของตนเองอาจจะมีประโยชน์อะไรกับโก๊ะและชาวบ้านบ้าง โอสถไม่ตื่นเต้น เพราะคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะตามมา และตนเองไม่มีห่วงอะไรในโลกปัจจุบันอีกต่อไป

ส่วนพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมี อนุชา และกำจร แม้จะตื่นเต้นและกังวลบ้างแต่ก็พอระงับอารมณ์ได้ และยังมีหวังว่ากำจรจะพาทุกคนกลับได้เช่นกัน จู้จี้ร้องไห้ตกใจตามประสาเด็กแต่โอสถคอยปลอบให้กำลังใจ จอมขวัญรู้สึกดีกับโอสถขึ้นบ้างแต่พอถูกโอสถถากถางก็กลับหมั่นไส้ใหม่ ทุกคนตัดสินใจตามโก๊ะออกจากถ้ำ โก๊ะเริ่มกังวลและไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นนอกถ้ำมีความเปลี่ยนแปลงไป เพราะหน้าถ้ำไม่เหมือนกับหน้าถ้ำสมัยที่เขาอยู่ในหมู่บ้านท่าแพ และทุกคนก็รู้ว่าถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งโก๊ะตัดสินใจยิงปืนขู่ก็ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงและเสียงวิ่งเกรียวกราวหนีไป

โก๊ะพาทุกคนเข้ามาที่หมู่บ้านและเห็นความแตกต่างของสิ่งก่อสร้างหลายอย่าง ไม่ทันที่จะตั้งตัวก็มีทหารหญิงกรูเข้ามาใช้หอกและดาบควบคุมพวกโก๊ะไว้ พวกผู้หญิงพาพวกโก๊ะไปหานายบ้านซึ่งเป็นหญิงชื่อ รานี ทุกคนจึงรู้ว่าที่นี่เป็นเหมือนเมืองลับแลที่อยู่ในความปกครองของผู้หญิง และผู้ชายเป็นได้แค่ทาสกับบริวารเท่านั้น เอกสิทธิ์โวยวายแต่ถูกทหารหญิงตบจนเงียบเสียงไป

รานีรู้สึกพอใจในตัวโก๊ะจึงจะรับไว้เป็นทาสรักแต่โก๊ะไม่ตกลง รานีจึงคิดจะยกพวกนักศึกษาหญิงให้กับองครักษ์ของตนที่ไม่มีใครยอมเป็นคู่ด้วย พวกผู้ชายไม่ยอม รานีบอกว่า ถ้าเช่นนั้นต้องต่อสู้กับองครักษ์ของตนที่ชื่อว่า จิ๋ว หลายคนอาสาแต่พอจิ๋วก้าวเข้ามาก็ต้องตกใจเพราะจิ๋วเป็นชายร่างยักษ์สูงกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป จิ๋วชี้จะเอาจอมขวัญไปเป็นเมีย ทุกคนมองเอกสิทธิ์ที่ถอดใจไม่กล้าสู้ จอมขวัญบอกว่ายอมตายดีกว่าและทำท่าล้วงเป้เพื่อหยิบอะไรบางอย่าง จู้จี้ร้องไห้ โอสถตัดสินใจรับอาสาต่อสู้ จิ๋วว่าตัวแค่นี้ไม่ครณามือและท้าให้เข้ามาได้สองคน โก๊ะเข้าช่วยโอสถอีกคนและร่วมมือกันโค่นจิ๋วลงได้

จอมขวัญยิบชิ้นส่วนของปืนออกมาจากเป้และประกอบเป็นปืนยาวแล้วเข้าจี้ตัวรานี ขณะที่เหตุการณ์กำลังตึงเครียดก็มีพวกโจรป่าเข้ามาโจมตีหมู่บ้านหรือเมืองของรานี พวกโก๊ะตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้และปราบพวกโจรลงได้ รานีจึงยอมปล่อยตัวทุกคนและเดินทางมาส่งที่ถ้ำด้วยความอาลัย กำจรทดลองวางระเบิดในถ้ำจนสั่นสะเทือนและเกิดแผ่นดินไหว ทุกคนถูกดูดเข้าสู่ห้วงเวลา และมารู้สึกตัวในถ้ำอีกหน แต่เป็นเวลาของบ้านท่าแพและเมื่อออกมาที่หน้าถ้ำ โก๊ะก็เห็นกระบอกน้ำที่ดาวเรืองทิ้งเอาไว้จึงรีบพาทุกคนเข้าไปในหมู่บ้าน แต่สิ่งที่พบก็คือ ซากปลักหักพังของกระท่อมและหมู่บ้านท่าแพที่ยับเยินด้วยปืนใหญ่และไฟไหม้ โก๊ะตกใจวิ่งร้องหาบุญชูและบุญหลายกับดาวเรือง

ในขณะที่กำลังจะหมดหวัง บุญชูก็โผล่เข้ามาทำให้โก๊ะดีใจมาก และบุญชูเล่าให้ทุกคนฟังว่า ทหารข้าศึกยิงปืนใหญ่เข้ามาทุกวันจนชาวบ้านบอบช้ำเต็มที่แล้วจึงเข้าโจมตี ดอกรักต้านไม่ไหวจึงตัดสินใจพาทุกคนถอยหนีไปอยู่ที่หมู่บ้านท่าสร้างและอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ก็เกิดปัญหาเมื่อ หาญ นายบ้านหนุ่มใหญ่เกิดความพอใจในตัวของบุญหลายและดาวเรือง แต่ทั้งสองไม่ยินยอมพร้อมใจ ดอกรักเองก็คอยขัดขวางเกิดการปะทะกัน พอดีจอระแนยกกำลังตามไปและเกิดการต่อสู้ ส่วนบุญชูหนีมาเพราะยังแอบหวังว่าโก๊ะจะกลับมาหาและได้พบกับโก๊ะจริงๆ

โก๊ะจึงพาทุกคนเดินทางไปที่ท่าสร้างทันที และหาทางฝ่าทัพของจอระแนเข้าไปในหมู่บ้านในขณะที่หาญกำลังทำความตกลงกับดอกรักได้ด้วยการยกบุญหลายให้ดอกรักและตนเองยอมรับดาวเรืองคนเดียว แต่พวกโก๊ะเข้ามา ทั้งสองก็ต้องผิดหวัง เพราะบุญหลายกับดาวเรืองต่างโผเข้าหาโก๊ะทั้งคู่ หาญแสดงฝีมือขู่โก๊ะ แต่ทองใบแสดงฝีมือและชั้นเชิงมวยไทยจนปราบหาญกับดอกรักได้ ทองใบรับชาวบ้านเข้ามาเป็นศิษย์เพื่อฝึกสอนมวยไทยไว้ต่อสู้กับข้าศึก ส่วนพวกนักศึกษาก็เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตนเองมีมา กำจรมีดินปืนจำนวนมากสำหรับทำระเบิด จัตวา และอนุชาก็มีปืนของเล่าหยางกับเล่าอู โอสถมีเครื่องมือช่าง ส่วนพวกจอมขวัญมีเสบียงอาหารและยารักษาโรคกับเครื่องเวชภัณฑ์ ทำให้โก๊ะสงสัยว่าทุกคนตั้งใจจะตามเขามาที่นี่

จู้จี้ เริ่มบ่นตามประสาเด็กหญิงที่เคยชินกับความสะดวกสบาย และชักคิดถึงบ้าน เลยถูกบุญชูคอยยั่วแหย่ให้โมโหหุนหัน แต่ก็ทำให้หายเหงาไปได้ เอกสิทธิ์พยายามประกาศตัวว่าเป็นแฟนกับจอมขวัญจนทุกคนหมั่นไส้เพราะไม่ค่อยช่วยทำอะไร และจอมขวัญก็อึดอัดใจ โอสถพาชาวบ้านตัดไม้สร้างเป็นรั้วหรือป้อมค่ายล้อมหมู่บ้านเอาไว้ พวกนักศึกษาชายช่วยกันทำระเบิดบั้งไฟ หาญท้วงว่าอานุภาพอาจสู้ปืนใหญ่จริงๆ ไม่ได้ อนุชาเสนอให้เปลี่ยนจากรับเป็นรุกดูก่อนและทำสงครามกองโจรกับข้าศึกเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจ และอาสาเป็นทัพหน้าไปกับโอสถ เพราะถูกต่อว่าจากพวกผู้หญิง

โดยเฉพาะจอมขวัญแต่พอโอสถจะไปจริงๆ จอมขวัญก็เกิดเป็นห่วงขึ้นมาและภาวนาให้โอสถกลับมาด้วยความปลอดภัย แต่พอแสดงความเป็นห่วงเมื่ออยู่กันตามลำพัง ก็ถูกโอสถเย้าแหย่จนอดโมโหอีกไม่ได้ ยิหวาสงสัยว่าเพื่อนจะมีใจให้โอสถ แต่จอมขวัญคิดว่าในใจของโอสถมีแต่จำนรรค์เท่านั้น และมีเอกสิทธิ์เป็นเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว

เอกสิทธิ์รู้สึกดีใจลึกๆ ที่โอสถไปเสี่ยงอันตราย และอดแช่งขออย่าให้โอสถกลับมา แต่เผลอพูดดังไปจนจู้จี้ได้ยิน จู้จี้ไม่พอใจจึงเข้ามาต่อว่าจนเอกสิทธิ์ไม่พอใจและเกิดการเถียงกับจู้จี้ที่รู้สึกว่าน่าจะภาวนาให้พวกเดียวกันปลอดภัย บุญชูมาได้ยินทำให้เห็นว่าจู้จี้เป็นเด็กที่มีความคิดและอะไรในตัวดีเหมือนกัน จึงคิดและเลิกแกล้งจู้จี้และทำดีด้วยแต่กลับถูกจู้จี้เล่นงานกลับคืนจนย่ำแย่

พวกโอสถเข้ามาในป่าเพื่อดักทัพของข้าศึก จอระแนสั่งให้เม็งรายอที่ชอบคุยทับถมเมืองประทุน เป็นกองหน้ายกพลล่วงหน้ามาก่อนเพื่อดูลาดเลา โอสถคิดจะดักซุ่มโจมตีแต่อนุชาเสนอแผนการที่ดีกว่านั้นคือ วิธีของพลายงามที่เสกใบมะขามเป็นผึ้งตัวต่อเล่นงานทัพของแสนตรีเพชรกล้าในวรรณคดีไทย และขอให้ชาวบ้านที่มีความสามารถในการจับผึ้งป่ามาขังไว้ในหม้อดินและปิดฝาขังไว้

เมื่อพวกของเม็งรายอเดินทางมาและเตะถูกเชือกที่ขึงดักอยู่ เชือกดึงหม้อดินตกลงมา ฝูงผึ้งป่าที่กำลังโกรธจัดเพราถูกจับขังก็กรูกันออกมาต่อยพวกเม็งรายออุตลุด จนเม็งรายอและทหารพากันแตกหนีไม่เป็นขบวน พวกชาวบ้านเลยพากันเข้าไปเก็บอาวุธที่ข้าศึกทิ้งไว้และขนกลับไปหมู่บ้านด้วยความดีใจ แต่ดอกรักบอกว่าแค่ข้าศึกที่เป็นกองหน้าแตกหนีไปเท่านั้น แถมยังไม่มีใครตาย อีกไม่ช้าก็คงจะมากันใหม่ และใช้วิธีสู้อย่างเก่าไมได้ อนุชากับกำจรและโอสถบอกพวกตนก็ยังไม่หมดมุขแค่นี้เหมือนกัน

เม็งรายอ และทหารหนีมาหน้าตาหัวหูบวมปูดไปตามๆ กัน จอระแนคิดว่าพวกชาวบ้านที่ท่าแพอาจจะมีวิชาอาคมเสกพวกสัตว์พิษได้ แต่ทุกคน ก็ต้องแปลกใจเมื่อเหล่าหยางกับเล่าอูเข้ามาหาและบอกว่าพวกตนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่พวกนักศึกษาวางแผนกัน เมืองประทุนบอกกับจอระแนว่าเล่าอูเป็นใคร เล่าอูกับเล่าหยางเอาของขวัญแปลกๆ ให้และบอกว่าจะช่วยจอระแนจัดการกับนักศึกษาและชาวบ้านท่าสร้าง จอระแนจึงรับสองคนพ่อลูกไว้และตั้งให้เป็นที่ปรึกษา สั่งให้หมอยาช่วยกันพิษเหล็กในผึ้งให้พวกเม็งรายอและทหารกองหน้าก่อนที่จะเคลื่อนพลต่อมา

ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกากัน รานีกับจิ๋วก็เข้ามาหา ชาวบ้านตกใจนึกว่ายักษ์หรือเปรตที่ไหน รานีบอกว่าเป็นห่วงโก๊ะจึงตามมา บุญหลายกับดาวเรืองชักไม่ชอบใจด้วยความหึงหวงและเกิดปะทะคารมกัน โก๊ะเลยหนีไป โจมตีข้าศึกด้วยความรำคาญใจ จิ๋วขอตามไปด้วย จอมขวัญกับยิหวาและลักษมีก็ขอตามไปสังเกตการณ์ เมืองประทุนส่งทหารออกมาหาข่าว ยิหวาแต่งชุดเชียร์ออกมาเต้นยั่วให้พวกทหารตามจนถูกพวกโก๊ะจับได้ และสอบถามจนรู้ว่าเมืองประทุนคุมกองหน้ามา

โก๊ะจำได้ว่าเมืองประทุนค่อนข้างขลาดและกลัวผี ยิหวา กับลักษมีจึงช่วยกันแต่งหน้าให้จิ๋วจนมองดูเหมือนผีเปรตตัวสูงใหญ่ ขณะที่เมืองประทุนกับทหารกำลังจะพักก็ต้องตกใจเมื่อเห็นจิ๋วบุกเข้ามา ทุกคนวิ่งหนีและถูกจอมขวัญกับโก๊ะสุ่มยิงจนล้มกลิ้งไปตามๆ กัน จอระแนชักหนักใจที่พวกโก๊ะมีฝีมือและวิชาอาคมแปลกๆ เหมือนกับขุนแผนเจ้าเมืองกาญจน์สมัยก่อน แต่เล่าหยางกับเล่าอูบอกว่าเรื่องคนตัวสูงไม่มีอะไรแปลกตรงไหนเพราะพวกตนเคยเห็น โยกเยก เชิญยิ้ม เป็นนักแสดงตลกรูปร่างสูงใหญ่มาแล้ว พวกโก๊ะอาจจะมีคนตัวสูงปลอมเป็นผีมาหลอกก็ได้ จอระแน จึงสั่งให้เล่าหยางกับเล่าอูลองเป็นศึกกองหน้าดูบ้าง

พวกชาวบ้านพากันดีใจที่ได้ชัยชนะข้าศึก โดยไม่เสียเลือดเนื้ออีก แต่ดอกรักกับหาญก็ค้านว่าพวกข้าศึกก็ไม่เสียเลือดเนื้อเช่นกัน และพวกมันคงไม่ยอมถอยไปง่ายๆ แค่นี้ และเมื่อกำลังข้าศึกใกล้เข้ามา หาญจึงอาสาหาคนของตนยกออกไปรับข้าศึกดูบ้าง เอกสิทธิ์รู้สึกเสียหน้าจึงขอตามไปด้วยเพราะคิดว่าคงไม่น่ากลัวซักเท่าไหร่ แต่พอจะปะทะกันจริงๆ และถูกพวก เล่าหยางซุ่มยิงใส่ เอกสิทธิ์ก็ถอดใจวิ่งหนีให้ชาวบ้านใจเสีย และพอเข้าปะทะกันจึงสู้พวกทหารไม่ได้ทำให้หาญได้รับบาดเจ็บ ต้องพ่ายกลับมาอย่างบอบช้ำยับเยิน จอระแนชื่นชมเล่าหยางกับเล่าอูจนเมืองประทุนและเม็งรายอไม่ค่อยพอใจ

หาญเห็นชาวบ้านเสียขวัญจึงประกาศสละตำแหน่งนายบ้านให้เลือกหัวหน้าใหม่ เฒ่าหอมขอสละสิทธิ์เพราะคิดว่าตนแก่เกินไป ดอกรักสนใจอยากได้ตำแหน่งนี้เพื่อจะได้ดูดีมีความหมาย โอสถเสนอให้ใช้วิธีเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยใช้เสียข้างมาก มีคนเสนอให้โก๊ะรับตำแหน่งนายบ้านแข่งกับดอกรัก และเมื่อมีการเลือกตั้งคะแนนเสียงส่วนใหญ่ก็เป็นของโก๊ะทำให้โก๊ะได้เป็นนายบ้านคนใหม่แทนหาญ ดอกรักรู้สึกผิดหวังจนเตลิดออกจากหมู่บ้านอย่างคลุ้มคลั่ง และในที่สุดก็ถูกทหารของจอระแนจับตัวมาได้ จอระแนคิดจะฆ่าให้ตาย แต่เล่าอูคิดจะใช้ประโยชน์จากดอกรักจึงเข้ามาเกลี้ยกล่อมและเสนอผลประโยชน์จนดอกรักเริ่มหวั่นไหว

บุญชู พาลูกลิงแสนรู้ของตนเองไปเที่ยวในป่าและลิงหนีขึ้นต้นไม้ไม่ยอมลงมา บุญชูปีนตามขึ้นไปจึงรู้ว่าลิงหนีโขลงช้างป่าที่เข้ามาหากินใกล้ๆ บุญชูพาลิงกลับเข้าหมู่บ้านและมาเล่าให้โก๊ะฟัง โก๊ะจึงตัดสินใจออกไปล่อโขลงช้างป่าให้ตามมาและวิ่งเข้ากลางทัพข้าศึกจนจอระแนแทบจะถูกช้างป่าเหยียบตาย แต่พอตั้งหลักได้ก็ถูกพวกชาวบ้านมาตั้งค่ายบังเอาไว้

ทหารข้าศึกพยายามจะบุกเข้ามาให้ได้ แต่ถูกพวกโก๊ะและชาวบ้านยันเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เล่าอูแอบมาพบกับดอกรักและเอายาเบื่อมาให้ดอกรักวางยาพวกโก๊ะและนักศึกษา แต่ทุกอย่างอยู่ในสายตาของบุญหลายกับดาวเรือง ดาวเรืองเสียใจแต่บุญหลายพูดปลอบว่าคนเราอาจจะผิดพลาดกันได้ ทั้งสองไปปรึกษากับโก๊ะเพื่อให้จับตัวดอกรักไว้ โก๊ะมาขอให้โอสถกับจัตวาช่วยแก้ปัญหา โอสถเล่าให้ทุกคนฟังถึงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ของไทยว่าเป็นเพราะความแตกความสามัคคีและมีไส้ศึกที่ทรยศต่อชาติต่อแผ่นดินเกิดของตนเอง โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว และในที่สุดข้าศึกก็ไม่เคยคิดจะเลี้ยงคนทรยศไว้ ดอกรักเริ่มคิดหนักและเมื่อได้ยินบุญหลายกับดาวเรืองเล่าให้บุญชูและจู้จี้ฟังถึงวีรกรรมต่างๆ ของตนเอง และดาวเรืองก็บอกว่าภูมิใจในพี่ชายที่ชื่อดอกรักคนนี้

เล่าอูบอกกับจอระแนว่า ได้รับการนัดหมายจากดอกรักเรื่องวางยาพวกนักศึกษาและชาวบ้าน จอระแนไม่แน่ใจเพราะเคยได้รับการบอกเล่าจากพี่ชายจึงให้เม็งรายอพาทหารบุกเข้าไป เม็งรายอเห็นทุกคนนอนหลับก็คิดจะฆ่าฟัน แต่พวกโก๊ะลุกขึ้นมาเล่นงานทหารข้าศึกและเม็งรายอจนจับเยิน ชาวบ้านเริ่มระส่ำระส่าย พวกกำจรแก้เกมด้วยการตัดต้นตาลมาทาสีให้ดูเหมือนปืนใหญ่นับสิบกระบอกแล้วลากออกมาประจันหน้า แล้วยิงด้วยบั้งไฟจนทหารข้าศึกนึกว่าถูกระดมยิงจากปืนใหญ่จำนวนมาก

พอเห็นว่าข้าศึกเสียขวัญ พวกโก๊ะกับทุกคนก็เข้าประจัญบานทันที จอระแน เมืองประทุน และเม็งรายอ รวมทั้งทหารข้าศึกต่างบาดเจ็บล้มตายแตกพ่ายหนี แม้จะเป็นฝ่ายมีชัย แต่โก๊ะก็ต้องสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เมื่อบุญหลายกับดาวเรืองเข้าป้องกันบุญชูและจู้จี้จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในอ้อมกอดของโก๊ะ ก่อนที่จะสัญญาว่าจะขอตามไปรักโก๊ะในทุกชาติไป

โก๊ะไม่สนใจรานีที่คิดว่าตนเองอาจจะมีหวังเมื่อโก๊ะกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ดอกรักปลอบใจและมองว่าตนเองกับรานีหัวอกเดียวกัน แต่หาญก็เข้ายืนยันว่าตนเองก็ผิดหวังเหมือนกัน และถามว่ารานีจะเลือกใคร โก๊ะกับบุญชูพากันมาส่งพวกนักศึกษาที่ถ้ำขณะที่กำจรจะทำระเบิดก็เกิดแผ่นดินไหวทุกคนกลับสู่โลกปัจจุบัน ทันใดนั้นเล่าหยางกับเล่าอู ก็โผล่เข้ามาดูถูกพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมีจับเอาไว้ได้ และช่วยกันมัดทั้งสองพ่อลูกไว้ ทุกคนออกจากถ้ำไปแต่ที่สวนเข้ามาคือเสือตัวใหญ่ที่ท่าทางหิวกระหาย ทำให้สองโจรถึงกับร้องลั่นอย่างหมดหวัง

พวกโก๊ะกลับมาพักที่บ้านของทองใบ โก๊ะกับบุญชูยังไม่หายโศกเศร้าในขณะที่มีเสียงขบวนแห่ขันหมากเข้ามา จู้จี้ชวนบุญชูออกไป ดูแต่พอเห็นเจ้าบ่าวบุญชูก็หน้าตื่นกลับเข้ามาเพราะเจ้าบ่าวหน้าตาเหมือนดอกรักราวกับพิมพ์เดียวกัน ทองใบมาส่งข่าวว่าเจ้าบ่ายชื่อ ดอกดิน กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวชื่อ บุญเรือน โก๊ะรู้สึกสังหรณ์ใจ จึงวิ่งไปดูพร้อมกับบุญชู พอเจ้าสาวเห็นหน้าโก๊ะกับบุญชูก็ตกใจ เช่นเดียวกับบุญชูที่ร้องตะโกนเรียกแม่ เพราะเจ้าสาวหน้าเหมือนบุญหลายราวกับพิมพ์เดียวกัน แล้วเจ้าสาวหรือบุญเรือนก็ทิ้งทุกอย่างวิ่งเข้ามาหาและบอกว่า โก๊ะ กับ บุญชู คือ คนที่เธอฝันถึงตลอดมา ทำเอาเจ้าบ่าวหรือดอกดินแทบจะเป็นบ้าด้วยความเสียใจ แต่ดาวที่เป็นน้องสาวเข้ามาปลอบใจและชวนไปดูการแสดงของนักร้องลูกทุ่งที่ดอกดินติดใจคือ อาภาพร นครสวรรค์

จอมขวัญ ยังคงเถียงกับโอสถ แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าเป็นการเถียงเพื่อได้ใกล้ชิดกัน ส่วนกำจรกับยิหวา และอนุชากับลักษมีก็ตัดสินใจว่าจะทดลองคบกันเพื่อศึกษา จู้จี้สัญญาว่าจะไม่ลืมเพื่อนที่ชื่อ บุญชู และทุกคนก็ร่ำลากันและเดินทางไปตามครรลองชีวิตของตน

สิบสามปีต่อมา มีกลุ่มนักศึกษามาเที่ยวป่าและพบกับพรานนำทางหนุ่มหน้าตาดีแต่พูดคล่องท่าทางกะล่อนเต็มที่ พร้อมกับแนะนำตัวว่าชื่อพรานโก๊ะ มีเสียงท้วงว่าพรานโก๊ะน่าจะแก่กว่านี้ พรานโก๊ะหนุ่มจึงบอกผมเป็นลูกชายชื่อ โก๊ะจูเนียร์ และสงสัยว่ามีคนรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ใช่พรานโกะ นักศึกษาสาวสวยจึงบอกว่าเธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่และยังรู้ว่าชื่อจริงของเขาน่าจะชื่อ บุญชู ซะมากกว่า ทำให้โก๊ะจูเนียร์มองเด็กสาวอย่างพิจารณาก่อนจะร้องเรียกว่า ยายจู้จี้

คู่ปั่น คู่ป่วน 2551

เรื่องย่อ : คู่ปั่น คู่ป่วน (2551/2008) ทีมงานกองถ่ายยกกองมาปักหลักถ่ายทำในชุมชน ทำเอาชาวบ้านไม่เป็นอันทำมาหากิน ป๊อด ชายไทยใจซื่อ ทั้งมือและปากถือศีลห้า ป๊อดซึ่งมุ่งมั่นอยากเป็นดาราทั้งๆ ที่หน้าตาไม่ให้ มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาอยู่กับ หวาน ลูกพี่ลูกน้องสาวซ่าประจำชุมชน ความเซ่อซ่าของป๊อดทำเอากองถ่ายพังยับเยิน อีกด้านหนึ่ง สมคิด หนุ่มกะล่อนสมองลื่นไหลราวกับมีสองหัว ขายทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่กลายเป็นฮีโร่ในสายตาของป๊อด พรหล้า และ ทองประสม 2 แม่ค้าส้มตำที่ยอมทิ้งร้านเพื่อหวังจะเข้ากล้องเป็นดารา พรหล้าเจอกับทองประสมทีไรก็ต้องปะทะคารมกัน ป๊อดชื่นชมสมคิดให้ยายต่วน ฟัง จนหวานชักอยากจะเจอตัว แต่พอรู้ว่าเป็นสมคิดก็ชักไม่แน่ใจเพราะรู้กิติศัพท์ความกะล่อน และเอาตัวรอดของสมคิดดี หวาน แอบชอบสมคิดแต่มักจะแสดงออกตรงข้ามเพราะความอาย แต่หมอดูมาทักว่าเป็นเนื้อคู่กัน ทำให้หวานตั้งใจว่าจะตามแก้นิสัยสมคิดให้ได้ อู๋ ลูกชายเสี่ยอ๋าผู้มีอิทธิพลในย่านนั้น และเป็นเจ้าหนี้ของทุกคนในชุมชน อู๋มักจะแวะเวียนมาร้องเพลงลูกกรุงยุคเก่าจีบหวานอยู่บ่อยๆ แต่หวานไม่สนใจ สมคิดเบื่อชีวิตที่เต็มไปด้วยหนี้สิน ทั้งของตัวเอง และที่แม่หนูดี ก่อไว้ สมคิดพยายามทำงานทุกอย่าง แต่นับวันก็ยิ่งมีปัญหา จนวันหนึ่งทนายประจำตัวของสมสุขพ่อของสมคิดก็มาหาเพื่อแจ้งข่าวการตายของสมสุข และมอบมรดกชิ้นสุดท้ายคือ ซันคาเฟ่ เพื่อชดเชยที่ไม่เคยเลี้ยงดูสมคิด สมคิดดีใจที่ชีวิตจะเป็นเศรษฐี แต่ยิ่งเศร้าเพราะซันคาเฟ่อยู่ในภาวะขาดทุน แม่หนูดีจึงคิดจะขายแล้วเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ทนายบอกว่าสมคิดต้องบริหารที่ค่าเฟ่อย่างน้อย 1 ปี ถ้าไปไม่รอดก็จะพิจารณาให้ขาย สมคิดหัวใสต่อรองเสี่ยอ๋าขอผลัดหนี้ไปอีกปี โดยมีคาเฟ่เป็นตัวการันตีว่าเขามีสินทรัพย์เป็นทุนค้ำประกัน แต่เสี่ยหาเห็นทำเลของคาเฟ่ก็หวังจะฮุบเป็นของตัวเอง สมคิดบอกกับแม่หนูดีว่าเขาจะบริหารคาเฟ่เอง และจะทำให้เจ๊งมากขึ้น สมคิดรู้ว่าป๊อดอยากเป็นดาราจึงชวนป๊อดไปเล่นตลกที่ซันคาเฟ่ ป๊อดดีใจและบูชาสมคิดมากขึ้นที่ช่วยสานฝัน แต่หวานไม่แน่ใจจึงตามไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวจะได้ไม่ถูกหลอก สมคิดเห็นว่าคนเดียวยังไม่พอต้องหาคนมาร่วมวงอีก พอสมคิดไปเจอพรหล้ากับทองประสมกำลังทะเลาะกัน สมคิดคิดว่าสองคนไปเล่นด้วยกันค่าเฟ่จะต้องพังแน่ จึงชวนให้มาร่วมทีม สุดท้ายทั้งสามคนก็ได้ร่วมทีมกันในนาม “ป่วนสามสลึง” ราตรี เมียน้อยของสมสุขซึ่งเลิกกันไปเมื่อสมสุขตกต่ำ ราตรีเจ็บใจที่สมสุขยกคาเฟ่ให้สมคิดลูกเมียหลวง ราตรีจึงวางแผนให้ มีมี่ แก้แค้นด้วยการทำให้สมคิดหลงเสน่ห์และแย่งคาเฟ่มาเป็นของตัวเอง อู๋แอบมาเฝ้าหวานที่คาเฟ่บ่อยๆ เสี่ยอ๋าจึงส่ง จ๊ะ ลูกน้องคนสนิทให้คอยตามอู๋ พอมีมี่รู้ว่าอู๋เป็นลูกชายเศรษฐีก็อยากจะจับ มีมี่ลองหว่านเสน่ห์แต่ผิดหวังเพราะอู๋รักหวานคนเดียว มีมี่จึงใช้สมคิดเป็นเครื่องมือ ป๊อด ไปหลงรัก สวย สาวเชียร์เบียร์ แฟนของโต หัวหน้าวินมอเตอร์ไซด์ สวยมักจะประชดตัวเองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี ไม่อยากให้คนดีๆ อย่างป๊อดมายุ่งกับเธอ ซันคาเฟ่แย่ลงตามแผนที่สมคิดวางไว้ แต่ป๊อดก็ไม่ยอมแพ้ ส่วนพรหล้ากับทองประสมก็ทะเลาะแย่งความเด่นกันจนคนน้อยลงเรื่อยๆ เหลือเพียง เจ๊ม้า ลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ ที่หลงชอบสมคิด และอุดหนุนสินค้าที่สมคิดขายมาตลอด หวานโกรธสมคิดมากจึงคิดหาทางจะทำให้คาเฟ่นี้ดังให้ได้ อันดับแรกต้องทำให้พรหล้ากับทองประสมเลิกทะเลาะกัน ในที่สุดทั้งสองคนก็ยอมสงบศึก ทุกคนประชุมว่าต้องหาการแสดงที่มีสีสัน หวานเกิดไอเดียวจะเอาละครโทรทัศน์มาสร้างเป็นเรื่องล้อเลียนให้ป่วนสามสลึงเล่น การแสดงคืนแรกมีอุปสรรคมาก แต่ทั้งสามก็พยายามจนเริ่มมีคนพูดกันปากต่อปากตามมาดูมากขึ้น ป๊อดขอบใจสวยที่ช่วยเชียร์แขกมาดูด้วย แต่สวยบอกเธอทำเพื่อตัวเอง เสี่ยอ๋าจีบมีมี่แต่สมคิดออกตัวว่ามีมี่เป็นแฟนเขาทำเอาเสี่ยอ๋าเจ็บใจ เสี่ยอ๋าส่งลูกน้องไปป่วนคาเฟ่ ให้โตพาพวกมอเตอร์ไซด์ไปคอยไล่แขก ไม่นานสมคิดก็ใช้หนี้เสี่ยอ๋าหมด คณะป่วนสามสลึงเริ่มมีงานเดินสายโชว์ตัว ความแรงของป่วนสามสลึงดังจนมีรายการติดต่อให้ไปออกโทรทัศน์ ป๊อด พรหล้า และทองประสม ดีใจมากที่จะได้ออกทีวี วันที่ไปอัดรายการ เสี่ยอ๋าขัดขวางจนป่วนสามสลึงไปไม่ถึงสตูดิโอ หวานถอนตัวไม่ร่วมงานกับสมคิดอีก ป๊อด พรหล้า ทองประสม ไม่รู้จะเข้าข้างใครดี หวานรู้จากยายต่วนว่าจริงๆ แล้ว สมคิดต้องการให้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาสมคิดหลอกใช้พวกเขามาตลอด พรหล้าและทองประสมเสียใจมากประกาศถอนตัว สุดท้ายสมคิดตัดสินใจขายคาเฟ่ให้เสี่ยอ๋า สมคิดพาป่วนสามสลึงเดินสายไปแสดงตามที่ต่างๆ เพื่อสร้างคะแนนเสียง จนสามารถหาเงินมาสร้างคาเฟ่ใหม่อีกครั้ง เสี่ยอ๋าสั่งลูกน้องให้ไปจับตัวหวานเพื่อแลกกับที่ดิน ทุกคนบอก ถึงแม้จะไม่มีคาเฟ่ แต่ป่วนสามสลึงก็ยังคงอยู่ อู๋รับการกระทำของพ่อไม่ได้จึงพาหวานหนี เสี่ยอ๋าสั่งเก็บทุกคน ป๊อดเกือบถูกยิงแต่สวยมารับกระสุนแทน หวานขอบใจอู๋ที่ช่วยเธอไว้ และบอกความในใจว่าเธอรักอู๋ได้แค่เพื่อนเท่านั้น

มนตราแห่งรัก 2551

เรื่องย่อ : มนตราแห่งรัก (2551/2008) ชาคริต ชายหนุ่มฐานะดี เจ้าของบริษัทบ้านแก้วสวนขวัญ บุตรชายของ ชีพ และ กมลา พ่อแม่ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลสำคัญในการปลูกฝังความเชื่อในรักแท้ที่งดงามให้ลูกชาย ในอดีตชีพเคยเป็นแค่นักร้องเพลงลูกกรุงในภัตตาคารของกมลา แต่ด้วยความมุ่งมั่นใช้รักแท้พิสูจน์หัวใจให้พ่อของคนรักเห็น จึงยินยอมยกลูกสาวและภัตตาคารให้ชีพดูแล โดยทั้งคู่มีลูกด้วยกันสองคนคือ ชลทิชา และ ชาคริต ชลทิชาพี่สาวของชาคริตได้แต่งงานกับ อำพล ทนายความเพื่อนรักของชาคริต และช่วยกันดูแลกิจการภัตตาคารจนรุ่งเรือง ส่วนชาคริตก็แยกตัวไปทำธุรกิจด้านตกแต่งภายในจนประสบความสำเร็จ กลายเป็นหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังในสังคม เป็นที่หมายปองจับจ้องของบรรดาสาวๆ ในแวดวงไฮโซ แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ปักใจกับสาวคนใด จนวันหนึ่งพรหมลิขิตชักพาให้เขาได้มาพบกับ ม่านไหม ทำให้เขาตกหลุมรักเธอในทันที แต่ชาคริตต้องตกใจเมื่อบังเอิญไปได้ยินม่านไหมบอกตัดขาดความรักจาก ป่านคม เพื่อนสนิท ที่มาสารภาพรักและขอม่านไหมแต่งงาน ชาคริตได้ยินเหตุผลของม่านไหม ที่ไม่อาจรับรักป่านคมได้เพราะว่าผู้ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยต้องร่ำรวยเท่านั้น ชาคริตเกิดความสงสัยว่าเหตุใดที่ม่านไหมบูชาเงินมากกว่าความรัก ด้านม่านไหมที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือศรัทธาในความรักใดใดเลย เพราะม่านไหมเจอกับสิ่งเลวร้ายในชีวิต และมีปมที่ทำให้เกลียดชังผู้ชายมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะพ่อของเธอเป็นชายหนุ่มรูปงาม ที่ชอบหลอกลวงผู้หญิงมีเงินพอเงินหมดก็เขี่ยทิ้ง แม่ของม่านไหมก็เช่นกัน ซึ่งอดีตเป็นลูกของ คุณหญิงเกยูร อยู่ในตระกูลดีมีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยความรักที่มีต่อพ่อก็ยอมหนีตามกันไป แต่พอเงินหมดพ่อก็ทิ้งแม่และไปหลอกผู้หญิงอีกหลายคน แม่ขอ งใบหม่อน พี่สาวต่างมารดาของม่านไหมก็เป็นอีกคนที่ตกเป็นเหยื่อ ม่านไหมไม่อยากเหมือนแม่ที่ทุ่มเทความรักทั้งหมดให้กับผู้ชาย แล้วสุดท้ายสิ่งที่ได้รับคือความเจ็บปวดชั่วชีวิต หลังจากพ่อและชู้รักฆ่ากันเองจนเสียชีวิตทั้งคู่ แม่ของม่านไหมก็รับจ้างเย็บผ้าเลี้ยงดูม่านไหมและใบหม่อนจนเติบโต ก่อนจะเสียชีวิตโดยทิ้งให้สองพี่น้องใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้นอยู่ในบ้านสวนเล็กๆ ที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่แม่ไม่ยอมให้พ่อเอาไปขาย ใบหม่อนมีอาชีพเป็นพยาบาลและส่งน้องเรียนจนจบ ม่านไหมหางานทำเป็นปีแต่ก็ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงาน จนวันหนึ่งเธอได้ไปสมัครงานที่บริษัทของชาคริต และที่นี่ชาคริตได้เจอกับผู้หญิงที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นอีกครั้ง จนทำให้เขาเชื่อว่า "นี่แหละ ... คือพรหมลิขิต" ชาคริตตัดสินใจเข้าไปพัวพันกับม่านไหม เพื่อพิสูจน์รักแท้ตามฉบับที่เขาเชื่อถือมาตลอด โดยปลอมตัวเป็น เหนือ พนักงานส่งเอกสารที่นำจดหมายเรียกตัวไปสัมภาษณ์งานไปให้ม่านไหมที่บ้าน แล้วแกล้งทำเป็นตกงานจนใบหม่อนสงสารอนุญาตให้เขามาอาศัยในซุ้มกระดังงาภายในสวน แต่ต้องจ่ายค่าเช่าตามความต้องการของม่านไหม การปลอมตัวหลอกคนอื่นของเขาได้รับความช่วยเหลือจาก หมอวิค เพื่อนซี้ที่พลอยตกที่นั่งลำบาก เพราะถูกใบหม่อนคิดว่าเขาเป็นเกย์ หมอวิคพยายามหาทางปรับความเข้าใจกับใบหม่อน จนเกิดเป็นความรักอย่างไม่รู้ตัว ม่านไหมเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยของชาคริต ทำให้ชาคริตต้องวางแผนแปลงโฉมเป็นคนแก่เพื่อไม่ให้ม่านไหมจำได้ว่าเขาคือเหนือ และเพื่อพิสูจน์ใจ ม่านไหมว่ารักคนที่เงินจริงหรือเปล่า แต่ภารกิจในการพิสูจน์รักแท้ของชาตริตไม่ค่อยราบรื่นนัก เพราะ มิกิ สาวไฮโซเจ้าของห้างดังที่หลงรักชาคริตเ ข้ามาแทรกกลางแผนการของชาคริตให้ยุ่งเหยิง หนำซ้ำมิกิกับม่านไหมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องคู่แค้นคู่อาฆาตกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ย้อนกลับไป มิกิเป็นหลานของคุณหญิงเกยูรยายของม่านไหม มีน้องสาวอีกคนคือ กีกี้ ทั้งสองถูกยายและแม่ปลูกฝังความเกลียดชังต่อครอบครัวของม่านไหมมาตลอด โดยเฉพาะตอนที่ม่านไหมได้ทุนมาเรียนโรงเรียนเดียวกับมิกิ ความสวยและความเก่งของม่านไหมไปบดบังดาวเด่นโรงเรียนอย่างมิกิ ทำให้มิกิกลั่นแกล้งม่านไหมตลอดมา แต่ก็ได้กีกี้ที่ไม่ชอบนิสัยของพี่สาวคอยช่วยม่านไหม ต่อมาพ่อแม่ของมิกิเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิตทั้งคู่ ทำให้คุณหญิงเกยูรเศร้าโศกจนล้มป่วย และเกิดอยากยกโทษให้แม่กับม่านไหม โดยแบ่งสมบัติส่วนหนึ่งให้ม่านไหม และอยากให้ม่านไหมย้ายกลับมาอยู่ในตระกูล แต่ม่านไหมไม่ยินยอม ด้านมิกิกลัวว่ายายจะยกทุกอย่างให้ม่านไหม เลยเกิดบันดาลโทสะพลั้งมือฆ่าคุณหญิงเกยูรตาย แล้วเผาพินัยกรรม ติดสินบนทนาย แล้วฮุบห้าง และมรดกทั้งหมดไว้ โดยที่ไม่รู้ว่ากีกี้น้องสาวเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ด้วยความรักและความกลัวที่มีต่อพี่สาวคนเดียว กีกี้จึงเก็บงำความลับไว้โดยที่ไม่คาดคิดว่าความรักแบบผิดๆ จะยิ่งทำให้พี่สาวทำสิ่งที่ร้ายกาจต่อคนอื่นอย่างไม่จบไม่สิ้น การปลอมตัวของชาคริตรอดจากการจับได้อย่างหวุดหวิด เพราะได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จาก สมศรี เลขาทอมบอย และนายเหนือพนักงานส่งเอกสารผู้สุภาพ และอ่อนโยน ความใกล้ชิดในระหว่างร่วมภารกิจจอมปลอมทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกดีดีต่อกันในเวลาต่อมา ชาคริตเริ่มสืบรู้ความจริงที่ม่านไหมเกลียดชังผู้ชาย ชาคริตจึงพยายามใช้ความรักทำให้ม่านไหมเปลี่ยนแปลงจิตใจ โดยอาศัยคราบของชาคริตซึ่งใช้ความเป็นผู้ใหญ่น่าเชื่อถือ ซึ่งก็ได้ผลม่านไหมเริ่มรู้สึกอ่อนไหวและอบอุ่นหัวใจ ในยามที่ได้ใกล้ชิดกับเจ้านายจนยินดีรับหมั้น แต่ชาคริตก็ยังคลางแคลงใจว่าที่ม่านไหมรับหมั้นอาจเป็นเพราะความร่ำรวยของเขามากกว่า การปลอมตัวเป็นคนแก่เพื่อพิสูจน์รักแท้ของชาคริต โดนพ่อกับแม่และพี่สาวจับได้ ด้วยความห่วงใยลูกชายคุณกมลาจึงปลอมตัวเป็นป้าขอทานไปลองใจม่านไหม จนพิสูจน์ได้ว่าม่านไหมเป็นหญิงสาวที่มีจิตใจดี มิกิโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อรู้ว่าชาคริตหลงรักม่านไหม และไม่เคยรักเธอเลย มิกิเลยพาคนไปทำร้ายม่านไหมกับใบหม่อน แต่ป่านคมมาช่วยไว้ทันจนตัวเขาเองบาดเจ็บสาหัส ส่วนใบหม่อนที่กำลังจะโดนคนร้ายข่มขืน กีกี้ก็เข้ามาขัดขวางและเผลอเปิดโปงความชั่วร้ายของพี่สาวจนหมด จนทำให้มิกิเกิดคลุ้มคลั่งคิดฆ่าน้อง สาวตัวเองปิดปาก แต่โชคดีที่ชาคริตในคราบของเหนือตามมาช่วยได้ทันเวลาและไล่มิกิกลับไป ซึ่งตอนที่มิกิเรียกชื่อชาคริตทุกคนก็สลบไปหมดแล้ว ชาคริตขอร้องให้กีกี้ช่วยปิดเรื่องที่ตนปลอมตัวเป็นความลับ ด้านม่านไหมยอมไม่เอาโทษมิกิตามที่กีกี้ขอร้อง แต่กีกี้ก็ไม่สามารถกลับไปอยู่กับมิกิได้ จึงมาอาศัยอยู่กับม่านไหมที่บ้านสวน แต่ป่านคมก็ตามมาป้วนเปี้ยนคอยหาเรื่องกีกี้ตลอดเวลา เพราะไม่คิดว่ากีกี้จะดีไปกว่าพี่สาว แต่หลังจากที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ป่านคมก็เห็นด้านความรักอันบริสุทธิ์ที่กีกี้มีให้กับพี่สาวเพียงคนเดียว จนเกิดเป็นความเห็นใจและกลายเป็นความรักในที่สุด ด้านหมอวิคก็พยายามใกล้ชิดกับใบหม่อน เพื่อกลบข่าวเกย์ที่แพร่กระจายไปทั่วโรงพยาบาลเร็วยิ่งกว่าเชื้อไวรัส ส่วนใบหม่อนก็พยายามหลบหน้าหมอวิคเพราะกลัวใจตนเองที่แอบหลงรักเขามาตั้งนาน แต่ยิ่งใบหม่อนหนีหมอวิคเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้หมอวิคเกิดความรักกับใบหม่อนขึ้นมาจริงๆ จนสารภาพรักด้วย แต่ใบหม่อนกลับปฏิเสธเพราะความที่กลัวความโหดร้ายของผู้ชายจับใจ หมอวิคผิดหวังในความรักจนคิดจะไปเรียนต่อต่างประเทศที่ไกลๆ ส่วนม่านไหมก็ได้เห็นความรักของ ปูดำ เพื่อนพนักงานในบริษัทที่ ฉาดฉาน แฟนของหล่อนหนีหายไปเพราะเป็นโรคมะเร็งขั้นสุดท้าย แต่ปูดำก็ชวนม่านไหมออกตามหาจนเจอฉาดฉาน และอยู่ดูแลจนฉาดฉานสิ้นใจ จึงเป็นครั้งแรกที่ม่านไหมได้เรียนรู้ และเห็นว่ารักแท้นั้นก็ยังมีอยู่ในโลกนี้จริงๆ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอได้ค้นพบรักแท้ของตัวเอง ม่านไหมตัดสินไปบอกถอนหมั้นชาคริต และกลับไปเอ่ยคำรักกับเหนือ คนที่เธอรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้งมากกว่าเงิน ชาคริตรู้สึกดีใจมากที่ม่านไหมไม่เลือกเงิน แต่เขาก็กลัวว่าความลับที่เขาหลอกม่านไหมไว้นั้นจะมากมายจนเธออาจไม่มีวันให้อภัยเขา แล้วมิกิก็เป็นคนวางแผนเปิดโปงความลับนี้ ม่านไหมรู้ความจริงแล้วโกรธแค้นชาคริตมากจนประกาศไม่ยอมอภัยให้ ด้านมิกิก็กลับมาหาชาคริตในยามที่เขาเสียใจสุดๆ มิกิแสร้งทำเป็นกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีต่อหน้าชาคริต แถมยังรับกีกี้กลับบ้าน แต่ขณะเดียวกันก็วางแผนร้ายกับ พิชิต คนสนิททำให้บริษัทชาคริตล้มละลาย เพื่อแก้แค้นที่ชาคริตไม่เคยมีความรักในตัวเธอ เมื่อคุณกมลาแม่ของชาคริตไปหาม่านไหม และพาม่านไหมมาเห็นสภาพของชาคริต ม่านไหมเห็นสภาพของชาคริตแล้วสงสาร จึงหันกลับมาคอยเป็นกำลังใจให้ชาคริต มิกิเห็นความรักของทั้งคู่ถึงกับแค้นขั้นบุกไปฆ่าม่านไหม แต่ชาคริตเอาตัวเข้าบัง ส่วนม่านไหมก็ยอมแลกชีวิตตัวเองกับชาคริตจนโดนยิงบาดเจ็บสาหัส ม่านไหมต่อสู้กับมัจจุราชเพื่อจะได้มีโอกาสเจอกับคนรักอีกสักครั้ง และครั้งนี้เธอสัญญากับตัวเองว่าจะเชื่อและรักษาความรักไว้อย่างดีที่สุด แต่ความรักย่อมมีอุปสรรคขวางกั้น และครั้งนี้น่าจะเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ต้องรอให้มัจจุราชเป็นผู้ ตัดสินว่าเธอมีโอกาสมีชีวิตต่อไปเพื่อรักษาความรักแท้ครั้งแรกที่เธอเพิ่งเจอะเจอได้หรือไม่ ต้องติดตามกัน แล้วท้ายสุดความรักระหว่างหมอวิคกับใบหม่อน และกีกี้กับป่านคม แล้วสุดท้ายมิกิสาวไฮโซที่เอาแต่ใจคอยทำลายความรักของคนอื่นจะลงเอยอย่างไร

ศิลามณี 2551

เรื่องย่อ : ศิลามณี (2551/2008) เจ้าแสนฝาง เจ้าผู้ปกครองเชียงรัฐ ซึ่งเป็นนครรัฐอิสระที่อยู่ทางเหนือของประเทศไทยได้ หมั่นหมาย เจ้าหญิงแสนฝาง ธิดาเพียงคนเดียวของตนกับ ภรต ราชเสนา บุตรชายคนโตของตระกูลราชเสนา ซึ่งเป็นตระกูลนักการทูต โดยมี “ศิลามณี” ซึ่งเป็นอัญมณีล้ำค่าที่เป็นของคู่บ้านคู่เมืองของเชียงรัฐ เป็นของหมั้น โดยที่เจ้าแสนฝางได้มอบศิลามณีให้แก่ตระกูลราชเสนาไปเพื่อใช้ในการหมั้นหมาย ของบุตรทั้งคู่เมื่อเติบโตขึ้น เจ้าแสนฝางมีชายาซึ่งเป็นหญิงชาวไทยชื่อ อธิติ แต่เธออายุน้อยกว่าเจ้าแสนฝางถึงสองรอบ ความแตกต่างกันจึงทำให้เธอเมื่อคลอดเจ้าหญิงแสนฝางแล้ว เธอจึงหนีไปใช้ชีวิตใหม่ที่กรุงเทพพร้อมกับแต่งงานครั้งใหม่กับ นายทหารใหญ่ในกองทัพบกไทยชื่อ พลเอกจอมณรงค์ ซึ่ง พล.อ.จอมณรงค์ เองก็มีลูกสาวคนหนึ่งติดมาจากภรรยาเก่าที่เสียชีวิตไปแล้ว ชื่อ ศศิ หลายปีผ่านไป เจ้าแสนฝางเจ็บหนักใกล้ถึงชีวิต จึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แก่ เจ้าหญิงแสนฝาง ธิดาเพียงคนเดียวที่ต่อไปจะเป็นผู้ปกครองเชียงรัฐฟัง เจ้าหญิงแสนฝางรู้สึกเจ็บแค้นตระกูลราชเสนานัก และหมายมั่นที่จะนำศิลามณีกลับสู่เชียงรัฐให้ได้ จึงเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อเรียนหนังสือต่อ โดยปลอมตัวใช้ชื่อว่า งามแสนหลวง หรือ งาม เธอสืบทราบจนมาพบกับ ภรต ราชเสนา นักการทูตหนุ่ม บุตรชายคนโตของตระกูลราชเสนา ซึ่งเป็นคู่หมั้นเธอโดยที่ภรตและคนอื่น ๆ เองก็ไม่รู้ตัว ปรากฏว่า ภรตแสดงอาการหยิ่งผยองต่อเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณหญิงเสมอใจ ซึ่งเป็นแม่ของภรต ซึ่งเป็นผู้ครอบครองศิลามณีอยู่ขณะนี้ รังเกียจทางเชียงรัฐยิ่งนัก แต่ทางตระกูลราชเสนายังมีบุตรชายคนเล็กซึ่งเป็นศิลปิน ชื่อ ชาลี ชาลีรู้สึกชอบพอกับงามแสนหลวง ทั้งคู่จึงสนิทสนมกันเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ทางงามแสนหลวงหวังใช้ชาลีเป็นเครื่องมือนำไปสู่ศิลามณีเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่คนที่มีใจให้กับชาลีอย่างแท้จริง คือ ศศิ บุตรสาวเพียงคนเดียวของพล.อ.จอมณรงค์ ทางคุณหญิงอธิติ เมื่อทราบถึงการมาของงามแสนหลวง ก็สำนึกได้และรู้สึกผิดที่ได้กระทำไปในอดีต คุณหญิงอธิติพยายามขอคืนดีและแสดงความเป็นแม่แก่งามแสนหลวง แต่งามแสนหลวงก็ปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยทุกครั้งที่ได้พบกัน เมื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านไป คุณหญิงเสมอใจรู้สึกไม่พอใจที่ชาลีที่คบหากับงามแสนหลวง จึงวางแผนให้ภรตสนิทสนมกับงามแสนหลวงแทน เพื่อให้ชาลีเลิกรา แต่ปรากฏว่าภรตกลับชอบงามแสนหลวงเข้าจริง ๆ โดยที่ไม่รู้มาเลยว่าแท้ที่จริงแล้วงามแสนหลวงคือ เจ้าหญิงแสนฝาง แห่งเชียงรัฐ ที่เป็นคู่หมั้นของตนมาตั้งแต่เด็ก

ภูตแม่น้ำโขง (2551)

เรื่องย่อ : ภูตแม่น้ำโขง (2551/2008) บัวผัน ชวน ทองมี เพื่อนรักกินข้าวกับไข่ประหลาดที่ได้มาจากริมแม่น้ำโขง แต่ทองมีปฏิเสธ บัวผันกินไข่แล้วเกิดกระหายน้ำอย่างแรง ต้องกระโดดลงเรือไปดื่มต่อกลางลำน้ำโขง ทองมีส่งเสียงให้คนช่วยจับบัวผัน ทิดเคน กระชากตัวบัวผันขึ้นจากน้ำ เธอตวาดเกรี้ยวกราดว่าเธอไม่ใช่บัวผัน และจมลงไปอยู่ใต้น้ำด้วยกัน เฒ่าเชียงหล้า และชาวบ้านได้แต่ภาวนาขอให้พระพุทธรูปพระเจ้าองค์คำคุ้มครองให้ทั้งสอง ปลอดภัย ทิดเคนรอดมาได้จึงบอกชาวบ้านว่าบัวผันถูกจองจำอยู่ที่เมืองใต้น้ำ นายแพทย์อัคนี ได้เดินทางเข้ามาทำวิจัยเรื่อง จิตเวชชุมชน และเข้าร่วมในพิธีเข้าทรงของ นางเทียม ชื่อ คำแพง ผู้ที่จะบอกข่าวบัวผัน พร้อมกับ สมัย และชาวบ้านเพื่อบันทึกวิดีโอ หมออุ่นเงิน ที่แต่งงานกับ เจ้านางโคมคำ อดีตคนรักของหมออัคนี และ เจ้าวรวงศ์ น้องชายของเจ้านาง ได้มาขอพบอัคนีเพื่อชวนไปดูพระธาตุประจำตระกูลที่พังลงมา เจ้าวรวงศ์คิดจะฆ่าอัคนีที่สลัดรักพี่สาว แต่แท้จริงแล้วอัคนีคิดกับเจ้านางโคมคำแค่น้องสาว เจ้าวรวงศ์กับหมออุ่นเงินวางยาพิษอัคนีแล้วทิ้งลงในแม่น้ำโขง ทำ ให้อัคนีได้พบกับ พญาจันหัวจระเข้ และ เจ้าแม่ทอหูก ภูตแห่งแม่น้ำโขง ที่จับตัวบัวผันไป เพราะต้องการแก้แค้นที่ชาติก่อนบัวผันกับหมออัคนีแอบรักกัน ทั้งที่หมออัคนีเป็นคู่สยุมพรของตน เจ้าแม่ทอหูกพยายามจะขังอัคนีไว้อีกคน แต่อัคนีจำเรื่องราวในอดีตไมได้จึงหนีรอดกลับมา บุญเรือน โศกเศร้ามากที่บัวผันลูกสาวหายไป และ หลวงพ่อจูม สามีก็บวชไม่สึก ไม่นานบัวผันก็กลับมาในสภาพที่ถูกเจ้าแม่ทอหูกสะกดจิต เจ้าแม่ทอหูกต้องการให้ทุกคนรวมทั้งหมออัคนีเข้าใจว่าบัวผันเป็นผี เพื่อจะได้เลิกรักบัวผันเสีย แต่หมออัคนีไม่ยอมเชื่อ และพยายามหาทางพิสูจน์ เจ้าแม่ทอหูกยิ่งเหิมเกริมหนัก พาบริวารออกไปอาละวาดฆ่าคน และจับหญิงสาวบริสุทธิ์ลงไปสังเวย พร้อมกับป้ายความผิดให้กับบัวผัน จนชาวบ้านพยายามจะจับบัวผันเผาทั้งเป็น แต่หมออัคนีไปช่วยห้ามปรามไว้ เจ้าแม่ทอหูกจึงจับบัวผันลงไปใต้บาดาลอีกครั้ง และบังคับให้บัวผันดื่มเลือดของนาง จนบัวผันเริ่มมีสภาพครึ่งคนครึ่งภูต และดุร้ายขึ้นกว่าเดิม บัวผันกลายเป็นภูตกลับมาฆ่าคนเพิ่มขึ้น รวมถึงเจ้าวรวงศ์ที่พยายามจะเข้าไปขโมยสมบัติในพระธาตุอีกด้วย เจ้า แม่ทอหูกสั่งให้บัวผันจับตัว จำปา หญิงสาวคนสุดท้ายไปสังเวยเพื่อตนจะได้เป็นอมตะ แต่หมออัคนีเข้าคล้องสร้อยที่คอของบัวผันไว้ จนกระทั่งบัวผันหมดฤทธิ์ ส่วนตัวเองก็ตามลงไปช่วยจำปาที่ใต้บาดาล และพบความจริงว่าที่แท้แล้ว เจ้าแม่ทอหูกเองต่างหากที่เป็นภูตแม่น้ำโขง หมออัคนีรีบกลับขึ้นมารวมกับหลวงพ่อจูม และชาวบ้านสวดอธิษฐานจนวัน เพ็ญเดือนสิบ ที่ประตูสามภพเปิดออก เจ้าแม่ทอหูกพยายามตั้งพิธีบูชายัญจำปาเข้าสู้ แต่วิญญาณของคนที่เจ้าแม่ทอหูกฆ่าตายถูกพระยายมปลดปล่อยออกมา เข้ามาช่วยมนุษย์จัดการกับเจ้าแม่ทอหูก จนในที่สุดเจ้าแม่ทอหูกก็อ่อนแรงและหมดฤทธิ์ลง พร้อมๆ กับเมืองบาดาลที่ถูกทำลายลงไปด้วย 20 ปีผ่านไป หมออัคนีกับบัวผันแต่งงานกัน และให้กำเนิดลูกสาวชื่อ ใบบัว ซึ่งหน้าตาเหมือนบัวผันไม่ผิดเพี้ยน ใบบัวเดินทางมายังนครพนมเพื่อเยี่ยมเยียนบุญเรือน และเผลอออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำ จนพบไข่ขนาดใหญ่วางอยู่ โดยไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวทุกอย่าง อยู่ในสายตาอำมหิตของเจ้าแม่ทอหูก ภูตแม่น้ำโขงที่ไม่มีวันถูกกำจัดไปง่ายๆ

เย้ยฟ้าท้าดิน 2551

เรื่องย่อ : เย้ยฟ้าท้าดิน (2551/2008) เมื่อมนุษย์คนหนึ่งร้องขอชีวิตอันเป็นนิรันดร์จากมัจจุราช และได้พรนั้นสมใจ เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาจะต้องตอบแทนนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบากเพียงใด เหลือเพียงความดีที่เขายึดมั่นเท่านั้นที่เขาจะยอมสูญเสียมันไปไม่ได้ แต่เขาจะรักษามันได้ตลอดรอดฝั่งเหมือนชีวิตที่เป็นอมตะของเขาได้หรือไม่ ในขณะที่ฝ่ายอธรรมเติบโตแข็งแรงขึ้นตลอดเวลา ภวินทร์นายตำรวจหนุ่มไฟแรงแห่งกองปราบไล่ล่าคนร้ายจากแก๊งอินทรี แก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็สามารถสังหารสมาชิกคนสำคัญของแก๊งได้ ทำให้กลายเป็นที่หมายหัว แต่ภวินทร์ก็ไม่หวั่น เพราะเขามีความมุ่งมั่นที่จะกำจัดแก๊งอินทรีให้สิ้นซาก เพื่อล้างแค้นแทนพ่อ แม่ที่ถูกแก๊งอินทรีฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดตั้งแต่เขายังเป็นวัยรุ่น เนื่องจากพ่อของเขาเป็นนายตำรวจปราบปรามยาเสพติดฝีมือฉกาจ เหตุการณ์ครั้งนั้น ภวินทร์รอดตายมาได้อย่างปาฎิหารย์ พร้อมความลับที่เขาเก็บงำเอาไว้ไม่ยอมเปิดเผยให้ใครฟัง นั่นคือเขาเห็นเงาดำมาดึงวิญญาณพ่อของเขาออกไป และจากนั้นเป็นต้นมาหากเจอะกับคนตายที่ไหน ภวินทร์ก็จะเห็นเงาดำที่นั่น ซึ่งเขาพยายามบอกตัวเองตลอดมาว่าเขาตาฝาด ทิชา สาวกำพร้าในความอุปการะของป้าเนียม เจ้าของร้านอาหารข้างกองปราบมีน้องชายขี้โรคชื่อนที นทีใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ และยึดถือภวินทร์เป็นฮีโร่ ขณะที่ทิชาก็แอบรักภวินทร์อยู่แต่ไม่แสดงออก เพราะรู้ดีว่าภวินทร์มีแฟนอยู่แล้ว เป็นครูสอนบัลเล่ห์ชื่อดวงใจ ภวินทร์เองก็เห็นทิชาเป็นเหมือนน้องชายด้วยลักษณะห้าวๆ ลุยๆ ค่อนข้างเปิดเผย ขณะที่ภวินทร์ฟื้นจากอาการบาดเจ็บและเริ่มต้นสืบหาหัวหน้าแก๊งอินทรี เขาก็ถูกลอบสังหารอย่างอุกอาจอีกครั้ง คราวนี้ เป็นการลอบวางระเบิดไว้ที่รถยนต์ของเขา ภวินทร์เอะใจเพราะเห็นเงาดำป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณรถ แต่นทีเกิดเข้าไปแอบอยู่ในรถเพื่อจะเล่นซ่อนหากับภวินทร์ทำให้ภวินทร์ต้องเข้าไปจับนทีโยนออกมา เขาจึงถูกแรงอัดระเบิดเข้าอย่างจัง ก่อนสติดับวูบ ภวินทร์เห็นเงาดำโฉบมาหา และดึงวิญญาณออกจากร่าง เงาดำพาวิญญาณของภวินทร์ไปที่เขตแดนแห่งความตาย ภวินทร์เพิ่งตระหนักว่าที่แท้เงาดำนั้นคือยมฑูตและอายุขัยของเขาได้หมดลง แต่ภวินทร์ไม่ยอมข้ามเขตแดนแห่งความตาย แม้ยมฑูตก็ไม่สามารถขัดขวางพลังจิตที่เข้มแข็งของภวินทร์ได้ วิญาณภวินทร์จึงได้กลับมาเข้าร่างเดิม ส่วนนทีถูกทิชานำส่งโรงพยาบาลเพราะเกิดหายใจไม่ออก หมดสติไป หมอวิเคราะห์ว่านทีมีความผิดปกติในเม็ดเลือดและมีสิทธิ์จะเป็น ลูคิเมีย ทิชาแทบล้มทั้งยืน เพราะเธอเพิ่งสูญเสียภวินทร์ชายที่เธอรักไป แต่ขณะที่ทิชากำลังสิ้นหวัง ภวินทร์ก็ฟื้นขึ้นบนเตียงในห้องผ่าพิสูจน์ศพ ท่ามกลางความตกตะลึงของคนในโรงพยาบาล ภวินทร์ขอให้หมอช่วยเย็บแต่งแผลให้และแวะเยี่ยมนที ทิชาถึงกับดีใจจนพูดไม่ออกที่ภวินทร์ยังไม่ตาย ส่วนนทีอาการดีขึ้นทันทีที่เห็นหน้าภวินทร์ ภวินทร์เดินทางไปรายงานตัวที่กรมตำรวจ สร้างความแปลกใจให้กับดำรงผู้บังคับบัญชาและเพื่อนตำรวจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ ผู้การวัลลภ ตำรวจกังฉินที่เป็นสายให้แก๊งค้ายา ผู้การวัลลภมีสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่กับพิมพาตำรวจหญิงมือขวาภวินทร์ พิมพาเริ่มสงสัยพฤติกรรมวัลลภ จึงพยายามตามสืบแล้วก็พบว่าวัลลภติดต่อกับแก๊งอินทรี พิมพาตัดสินใจบอกภวินทร์ๆ จึงสะกดรอยตามวัลลภหวังว่าจะไปถึงรังแก๊งอินทรี แต่การกลับกลายเป็นว่า ภวินทร์หลงกลวัลลภ ภวินทร์ถูกทอมลูกน้องตัวกลั่นของแก๊งอินทรีจับมัดเอาไปถ่วงแม่น้ำ วิญญาณภวินทร์ออกจากร่างอีกครั้ง แต่ภวินทร์ก็ดึงดันไม่ยอมข้ามเขตแดนแห่งความตายอีก พลังจิตของภวินทร์ชนะยมฑูต วิญญาณภวินทร์กลับเข้าร่างอีกครั้ง เขาแก้มัดตัวเองทะลึ่งขึ้นพื้นน้ำและอาศัยเรือหางยาวที่ผ่านมา ไล่ล่าจนเข้าตะลุมบอนกับคนร้ายได้ เมื่อกำลังตำรวจมาสมทบภวินทร์ก็ปราบคนร้ายทุกคนได้ราบคาบ จนถูกยกย่องให้เป็นฮีโร่คนใหม่ของกรมตำรวจ ภวินทร์ได้รับมอบหมายให้ทำคดีใหญ่ๆ และเสี่ยงตายอีกหลายคดี โดยมีพิมพา และศักดานายตำรวจรุ่นน้องอีกคนคอยช่วยเหลือ ภวินทร์เริ่มมั่นใจในพลังจิตอันแรงกล้าที่ท้าทายความตายได้ แต่ดวงใจแฟนสาวของเขากลับตกอยู่ในความหวาดระแวงกลัวภวินทร์จะเป็นอันตราย ดวงใจขอให้ภวินทร์เลิกอาชีพตำรวจ แต่ภวินทร์ไม่ยอม เขาสัญญากับดวงใจว่าเขาจะไม่ยอมตายเป็นอันขาด เพื่อให้ดวงใจสบายใจ ภวินทร์จึงขอหมั้นดวงใจเอาไว้ก่อน ทั้งยังพยายามพาดวงใจไปไหนมาไหนด้วย โดยเฉพาะมาเยี่ยมนที ซึ่งทำให้ทิชาแอบเจ็บปวดใจอยู่คนเดียว ในการเข้าขัดขวางการส่งมอบยาเสพติดล็อตใหญ่ ภวินทร์ถูกแก๊งอินทรี จับฝังทั้งเป็นเมื่อวิญญาณเขาหลุดจากร่างอีกครั้ง เขาก็ต่อรองขอความเป็นอมตะจากยมฑูตเพื่อขจัดคนชั่วให้สิ้นซาก มิใยที่ยมฑูตจะทัดทาน ว่าความชั่วไม่มีทางหมดไปจากโลกตราบใดที่ยังมีมนุษย์ ภวินทร์ก็ไม่เชื่อ ยมฑูตจึงยอมให้ภวินทร์กลับเข้าร่างพร้อมชีวิตที่เป็นอมตะโดยเตือนว่า ต่อไปแม้อยากตาย ภวินทร์ก็จะไม่สามารถตายได้อีก กิตติศัพท์การตายแล้วฟื้นของภวินทร์แพร่สะพัดออกไป คนมากมาย มาติดต่อของพบตัว ส่วนมากจะขอดูของขลังที่ภวินทร์พกเอาไว้ ในจำนวนผู้คนที่มาขอดูตัว มีอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ศึกษาเรื่องพลังจิตและโลกหลังความตาย พยายามจะเอาตัวภวินทร์ไปเป็นกรณีศึกษาแต่ภวินทร์ปฎิเสธ ขณะที่เขากำลังภูมิใจกับชัยชนะเหนือมัจจุราชอยู่นั้น ดวงใจแฟนสาวของเขาก็ต้องจบ ชีวิตลงเพราะถูกคนร้ายลอบวางระเบิดในสตูดิโอ จากนั้น คนรอบข้างภวินทร์ก็เริ่มเดือดร้อนจากการถูกข่มขู่ทำร้าย จนภวินทร์ต้องกลายเป็นคนโดดเดี่ยวเพราะไม่อยากให้คนร้ายใช้ใครมาต่อรองกับเขาอีก รวมทั้งทิชาและนที ความเย็นชาของภวินทร์ทำให้ทิชาเข้าใจว่าเขายังเสียใจไม่หายจากการจากไปของดวงใจ ทิชาจึงพยายามตามเอาใจภวินทร์จนเกือบถูกลูกหลงของคนร้าย ทิชาถูกภวินทร์ไล่ตะเพิด อาการของนทีทรุดลงอีก และต้องการเงินมารักษาเป็นจำนวนมาก ทิชาจึงตัดสินไปสมัครเป็นหญิงบริการในคลับแห่งหนึ่งซึ่งเผอิญ เป็นแหล่งค้าผู้หญิงรายใหญ่ที่ภวินทร์ต้องเข้าไปทลาย ภวินทร์ได้พบ ทิชาอีกครั้งและต่อว่าทิชาที่ยอมขายศักดิ์ศรีแลกเงิน ทิชาบอกว่าเธอสามารถ ขายชีวิตก็ได้ ถ้าจะแลกกับชีวิตน้องชาย คืนนั้นภวินทร์ยอมไปพบนที ทำให้นทีอาการดีขึ้น ภวินทร์จำต้องสัญญาว่าจะมาเยี่ยมนทีบ่อยๆ ทำให้นทีมีความสุขมาก แต่แล้วภวินทร์ก็จำต้องผิดสัญญาเพราะคนร้ายเริ่มสะกดรอยและลอบทำร้ายเขา ทำให้ทิชาโกรธมากที่ภวินทร์ไม่ไปหานทีอีก ความที่ต้องหาเงินมาซื้อยาให้นที ทำให้ทิชาถูกล่อลวงให้เป็นตัวกลางในการส่งยาเสพติคของแก๊งอินทรี ซึ่งเป็นแก๊งค้ายาข้ามชาติ ทิชาได้พบกับภวินทร์อีกครั้ง เขาขอให้ทิชาเป็นสายให้ โดยจะมีค่าจ้างอย่างงาม ทิชาบอกว่าเธอตั้งใจจะถอนตัวอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับแก๊งค้ายา ทิชาตกลงเป็นนกต่อให้ภวินทร์ แต่ถูก เมฆา หัวหน้าแก๊งจับได้ซะก่อน เมฆายื่น ข้อเสนอให้ ภวินทร์ไปเอาซีดีบัญชีดำรายชื่อของนักค้ายาจากกรมตำรวจมาแลกกับทิชา ภวินทร์จำยอมเพราะหลงรักทิชาเข้าแล้ว แต่เมื่อภวินทร์เอาซีดีมาได้ ทิชากลับโดดลงแม่น้ำเพื่อจบชีวิตตัวเองเพราะไม่ต้องการเป็นสาเหตุให้ภวินทร์ต้องขายชาติ โดยฝากให้ภวินทร์ดูแลนทีด้วย ภวินทร์บุกเข้าตะลุยกับสมุนเมฆาอย่างดุเดือด แต่เมื่อเขายิงเมฆากลับพบว่ากระสุนไม่ระคายผิวเมฆาแม้แต่น้อย และแล้วภวินทร์ก็ได้รู้ความจริงว่าที่แท้เมฆาก็ได้พรจากยมฑูตเช่นเดียวกับเขา ร้อยปีก่อน เมฆานั้นเคยเป็นตำรวจและถูกลอบสังหารเช่นเดียวกับภวินทร์ เมฆาขอชีวิตเป็นอมตะและยมฑูตก็ยินยอม ตั้งแต่นั้น เมฆาก็ต้องประสบแต่ความสูญเสีย ต้องทนเห็นคนรักตายไปต่อหน้า โดนคนทรยศหักหลัง และถูกบีบบังคับจนต้องกลายมาเป็นฝ่ายอธรรม เมื่อเมฆาได้ข่าวภวินทร์จึงแน่ใจว่าภวินทร์คือคนประเภทเดียวกับเขา เขาต้องการให้ ภวินทร์ ติดต่อยมฑูตให้ได้ เพื่อเขาจะขอจบชีวิตตัวเอง มิเช่นนั้นภวินทร์จะต้องสูญเสียคนที่รักคนสุดท้ายในชีวิตไป ภวินทร์รีบไปที่โรงพยาบาลก็พบว่านทีหายไปแล้ว ภวินทร์พยายามตามหายมฑูตด้วยการไปทุกที่ที่เกิดมีคนตายแต่ก็ไม่พบ จนในที่สุดต้องขอให้อาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ หาวิธีให้ อาจารย์แนะนำให้ภวินทร์ใช้วิธีถอดจิตไปรอยมฑูตที่เขตแดนแห่งความตาย ยมฑูตปรากฎตัวขึ้นและเตือนว่าหากภวินทร์ไม่ไปเข้าร่างของภวินทร์จะถูกทำลายและจิตของภวินทร์จะต้องล่องลอยพเนจรตลอดไป แต่ภวินทร์ก็ยืนกรานขอให้ยมฑูตบอกวิธีจบชีวิตเขากับ เมฆาเพื่อรักษาความดีของโลกไว้ ในที่สุดยมฑูตยอมแพ้ จิตภวินทร์ได้กลับเข้าร่างได้ทันก่อนที่จะถูกคนร้ายบุกมาทำร้าย ภวินทร์ไปพบเมฆา เขาบอกว่ารู้ความลับของการจบชีวิตที่เป็นอมตะมาแล้ว แต่เขากับเมฆาคนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่ทำได้ การตัดสินก็คือทั้งคู่ต้องประลองกันด้วยพลังแห่งจิต คนที่พ่ายแพ้คือคนที่ต้องมีชีวิตอมตะตลอดกาล ภวินทร์หรือเมฆาที่จะได้จบชีวิตอมตะสมใจ คนที่ต้องอยู่ จะอยู่อย่างเย้ยฟ้าท้าดินได้ต่อไปอย่างไร

สุภาพบุรุษซาตาน 2551

เรื่องย่อ : สุภาพบุรุษซาตาน (2551/2008) ปารัณ ( ต่อ ) จดจำภาพอันเจ็บปวดที่ มุทิตา แม่ของเขาทอดทิ้ง ปานดาว ( แตน ) น้องสาวและพ่อจากบ้านสวนอัมพวาไปอยู่กับ ราม วรเวช พ่อของ หนูตุ่น เศรษฐีใหญ่ที่กรุงเทพฯ ปารัณทั้งโกรธและเกลียดแม่ เมื่อพ่อขาดใจตายเพราะโรคหัวใจกำเริบ หนูตุ่นมาเที่ยวบ้านสวนที่อัมพวาซึ่งเป็นบ้านของ คุณยายระเบียบ เธอเสียใจมากที่พ่อจะแต่งงานใหม่ ปารัณคอยปลอบใจจนทั้งสองกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เมื่อหนูตุ่นถูกมุทิตาให้ไปเรียนต่อที่อเมริกา เธอจึงถอดต่างหูรูปหยดน้ำไว้ให้พี่ต่อเป็นที่ระลึกหนึ่งข้าง เก็บไว้ที่ตัวเองหนึ่งข้าง ส่วนพี่ต่อได้ให้กล่องดนตรีแก่หนูตุ่น เวลาผ่านไปปารัณเรียนจบเป็นร้อยตำรวจเอก และได้รู้จักกับ เดือนเมษา ( เมย์ ) ลูกสาวของ วันชัย นักธุรกิจใหญ่และเพื่อนสนิทของคุณราม เดือนเมษารักปารัณมาก แต่ปารัณรู้สึกเพียงแค่เพื่อนกันเท่านั้น ปารัณต้องหารายได้พิเศษเพื่อหาเงินมารักษาน้องสาวที่ป่วยเป็นลูคีเมีย เมื่อเงินไม่พอรักษาปารัณจึงขายบ้านที่อัมพวา พาปานดาวกับ ย่ามาลา มาเช่าบ้านที่กรุงเทพฯ และตัดสินใจลาออกจากข้าราชการตำรวจเพราะเกิดปัญหา จึงมาสมัครเป็นบอดี้ การ์ดส่วนตัวให้กับ ลิลลี่ ที่กลับมาจากอเมริกา โดยใช้ชื่อใหม่ว่า สันต์ มุทิตาจำลูกชายของตัวเองไม่ได้ ปารัณเองก็จำหนูตุ่นไม่ได้เมื่อเธอเปลี่ยนชื่อเป็นลิลลี่ จึงเข้าใจว่าเป็นลูกสาวของรามและมุทิตา จึงคิดจองเวร ผู้กองเดชพงษ์ ตำรวจเพื่อนสนิทคอยเตือนสติปารัณ ไม่ให้ระบายความแค้นกับคนบริสุทธิ์ ความขัดแย้งระหว่างมุทิตากับลิลลี่ ทำให้ปารัณรู้ว่าทั้งสองไม่ใช่แม่ลูกกัน เดือนเมษามาหาปารัณที่บ้าน ลิลลี่ไม่ชอบเดือนเมษาเพราะเคยมีเรื่องกันเมื่อครั้งอยู่อเมริกา ลิลลี่ดูถูกเดือนเมษาที่เอาตัวไปเกลือกกลั้วกับผู้ชายต่ำต้อยอย่างสันต์ การตอบโต้ของลิลลี่ทำให้เดือนเมษารู้ว่าลิลลี่แอบสนใจปารัณ ปารัณเองก็แอบรักลิลลี่อยู่ไม่น้อย มุทิตาคิดจะให้ปารัณกำจัดลิลลี่แต่ปารัณปฏิเสธ มุทิตาจึงจ้าง ชาติชาย แทน ลิลลี่ถูกชาติชายทำร้าย ขณะเดินทางไปอัมพวาแต่ปารัณช่วยไว้ทัน การเสี่ยงชีวิตของปารัณทำให้ลิลลี่รับรู้ถึงความเป็นห่วงของเขา รามล้มป่วยด้วยโรคหัวใจกำเริบ เพราะถูกวันชัยโกงจนล้มละลาย มุทิตาจึงบอกให้รามบังคับลิลลี่ให้แต่งงานกับ ก้องภพ ลูกชายมหาเศรษฐี ลิลลี่ยอมตกลงเมื่อมุทิตาอ้างจะเอาเงินมารักษาพ่อ แต่งานแต่งงานต้องถูกล้มเลิกเมื่อปารัณฉุดลิลลี่ไปที่บ้าน ที่ซื้อเก็บไว้ตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับหนูตุ่น หวังแก้แค้นรามและมุทิตา ลิลลี่พยายามค้นหากุญแจเพื่อหาทางหนี แต่ กลับเจอต่างหูรูปหยดน้ำบนหัวเตียง ลิลลี่คิดถึงพี่ต่อขึ้นมาทันที ปารัณกลับมาเห็นต่างหูอยู่ในมือลิลลี่จึงด่าทอ ลิลลี่น้อยใจมากจนเผลอบอกความในใจที่มีต่อปารัณ ปารัณเองก็สารภาพรักกับลิลลี่ ทั้งคู่จึงตกเป็นของกันและกันด้วยความรัก รามล้มป่วยจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อรู้ว่ามุทิตาหลอกตัวเองมาตลอด ลิลลี่โกรธมากที่รู้ว่ามุทิตาคือสาเหตุที่ทำให้พ่อตาย เมื่อรู้ว่ามุทิตาไปอยู่กับวันชัยในฐานะเมียเก็บ ลิลลี่จึงหลอกให้ วุฒิกร ลูกชายของวันชัยที่หลงรักจนยอมแต่งงานด้วย ลิลลี่ให้วุฒิกรไล่มุทิตาออกจากบ้าน เมื่อมุทิตาไม่มีที่อยู่ลิลลี่จึงให้ไปหาปารัณซึ่งเป็นลูก มุทิตารีบกลับไปหาปารัณแต่ถูกปารัณปฏิเสธ มุทิตาโกรธลิลลี่มากจึงเอาน้ำกรดไปสาดใส่หน้า แต่พลาดโดนน้ำกรดเสียเอง มุทิตาทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงขาดใจตายอย่างน่าสมเพชเวทนา ลิลลี่รู้ว่าตัวเองท้องกับปารัณ จึงหนีการแต่งงานกับวุฒิกรไปอาศัยอยู่กับยายระเบียบที่อัมพวา ย่ามาลารู้ว่าลิลลี่คือหนูตุ่นจึงรีบบอกปารัณ ปารัณมาสารภาพกับหนูตุ่นว่าเขาคือพี่ต่อ แต่ลิลลี่เจ็บปวดเกินกว่าจะรับปารัณได้ วุฒิกรตามมาทำร้ายลิลลี่เพราะแค้นที่ถูกหลอกใช้ วุฒิกรคว้าปืนยิงลิลลี่ แต่ปารัณเอาตัวมาปกป้องจนถูกยิงอาการสาหัส และยังยิงพลาดถูกวันชัยตายคาที่ วุฒิกรช็อกจนเสียสติอยู่ตรงนั้น เดือนเมษาขอดูแลปารัณไปตลอดชีวิต แต่ถูกปารัณปฏิเสธเดือนเมษาเสียใจมาก จึงยอมตัดใจไปอยู่ที่อเมริกาและบอกให้ลิลลี่ทำตามที่หัวใจต้องการ เพราะปารัณรักลิลลี่และลูกมาก เมื่อปารัณฟื้นลิลลี่จึงละทิฐิยอมปรับความเข้าใจกับปารัณ และเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งโดยมีลูกน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ

คุณหนูเทวดา 2551

เรื่องย่อ : คุณหนูเทวดา (2551/2008) อลิส สาวสวยวัย 20 ปี ลูกสาวของ โรลอง เจ้าของเหมืองเพชรที่รวยที่สุดในประเทศอนาเซีย เธอถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ จนกลายเป็นคุณหนูเทวดาที่ใครขัดใจไม่ได้ อยากได้อะไรต้องเนรมิตมาให้ในพริบตา แบร์นาร์ด คนรักของอลิสที่โรลองหมายตาไว้เป็นคู่หมั้น เป็นลูกของ นายพลอูวา คนสำคัญของกองทัพ อูวาต้องการยึดอำนาจจึงให้แบร์นาร์ดมากดดันโรลอง ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้นำประเทศเพื่อกล่อมให้เขาลงจากเก้าอี้ แบร์นาร์ ดรู้เรื่องปฏิวัติก็รีบบอกให้โรลองรู้เพื่อจะได้ส่งอลิสไปอยู่ที่อื่น โรลองเห็อลิสอยากเป็นช่างภาพ แบร์นาร์ดจึงแนะนำให้มาที่ประเทศไทย เพราะรู้จักกับช่างภาพคนหนึ่ง อลิสดีใจมากที่จะได้มาเที่ยวเมืองไทย แดน ช่างภาพอิสระลูกชายของ วิโรจน์ ทั้งสองทะเลาะกัน แดนจึงออกมาอยู่กับ สกล เพื่อนรักที่เป็นเกย์ แฟนของ ชัชพล พี่ชายของ ศิวาพร แฟนของแดน เมื่อ ญาณี ผู้เป็นแม่ระเคะระคายเรื่องลูกชาย ชัชพลจึงวางแผนกับสกลให้เขาแกล้ง เล่นละครตบตาว่าเป็นแฟนกับแดนหลอกญาณี ญาณีเห็นภาพคนทั้งสองอี๋อ๋อกันอย่างเกลียด ก็ยิ่งชิงชังไม่อยากให้ศิวาพรคบกับแดน อลิสและแบร์นาร์ดมาดูนิทรรศการภาพถ่ายของแดน อลิสชอบฝีมือเขมนิจ จามิกรณ์ รับบท อลิสถ่าย ภาพของแดน จึงอยากให้เขามาเป็นครูสอนถ่ายภาพ แบร์นาร์ดพาอลิสไปพบ ปราโมทย์ ช่างภาพรุ่นพี่ของแดน ปราโมทย์ขอร้องให้แดนช่วยสอนถ่ายภาพให้อลิส แดน จำยอมทำตามแต่ก็รู้ว่าต้องมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นแน่ เพราะอลิสเป็นคุณหนูที่เอาแต่ใจมาก เมื่อฝากฝังอลิสเสร็จแล้วแบร์นาร์ดก็กลับประเทศ อลิสไม่รู้เลยว่าแบร์นาร์ดกับอูวาร่วมมือกันปฏิวัติและจำคุกพ่อเธอไว้ ญาณีถูกธนาคารฟ้องเธอคิดพยุงฐานะด้วยากรให้ชัชพลแต่งงานกับ สุมิตตา ลูกสาวของวิโรจน์ เจ้าของร้านเพชรที่ร่ำรวย และให้ศิวาพรคบกับ อาทร เจ้าของโรงงานผลิตผลไม้กระป๋อง แดนรู้ว่าชัชพลมาหลอกคบน้องสาวต่าง มารดา จึงเตือนให้สุมิตตาสืบประวัติชัชพลให้แน่ใจเสียก่อน แดนไม่รังเกียจที่ศิวาพรมีหนี้สิน แต่เขาต้องการฟังความจริงจากปากของเธอ แต่ศิวาพรก็ไม่ยอมบอกและยังพูดให้เขาได้ยินอีกว่า เธอหลอกคบอาทรเพราะต้องการเงินของเขา แดนรู้สึกผิดหวังในตัวคนรักมาก อลิสเข้าใจผิดว่าเขาเป็นเกย์ แดนจึงอธิบายให้ฟังว่าสกลกับชัชพลเป็นแฟนกัน นพพล พิทักษ์โล่พานิช รับบท สกลอลิ สต่อว่าแดนที่ทำให้เธอเข้าใจผิด อลิสถูกทหารของอูวาลอบทำร้าย แดนให้อลิสติดต่อแบร์นาร์ดเพื่อมารับกลับ แต่อลิสไม่ยอมกลับ แบร์นาร์ดรู้ว่าพ่อส่งคนมาทำร้ายคนรักของเขา เขาจึงส่งคนของตัวเองมาคอยปกป้องอลิส แดนแปลกใจที่แบร์นาร์ดไม่ยอมมารับอลิส จนได้รู้มาว่าที่อนาเซียมีการปฏิวัติ แดนเป็นห่วงอลิสมาก เขาจึงคอยดูแลเธอย่างใกล้ชิด จนเกิดเป็นความรักขึ้นมา ญาณีวางแผนให้ ศิวาพรวางยานอนหลับอาทร และโกหกว่าเขาได้เสียกับเธอ อาทรผู้อ่อนหัดยอมทำตามที่ญาณีต้องการ สุดท้ายก็ถูกเปิดโปง อลิสถูกทหารเอาปืนจี้แดนเข้าไปช่วยแต่โดนตีจนสลบ อลิสเสียใจมากที่ทหารบอกว่าเธอว่าคนที่ทำการปฏิวัติคือแบร์นาร์ดกับอูวา ขณะที่อลิสรอความตายทหารได้รับข้อความจากอนาเซียส่งมาว่าการปฏิวัติล้มเหลว อูวาฆ่าตัวตายแบร์นาร์ดถูกเนรเทศออกนอกประเทศ อลิสถอนใจโล่งอกที่เธอ ที่เธอและพ่อปลอดภัย ไม่นานนักอลิสก็กลายเป็นช่างภาพมืออาชีพ มีผลงานออกจัดนิทรรศการที่โรงแรม และมีการประมูลเพื่อนำรายได้เข้าการกุศล อลิสดีใจมากที่แดนเปิดตัวผู้ประมูลคือพ่อของเธอ ที่เดินทางมากับแบร์นาร์ด โดยการวางแผนของแดน แบร์นาร์ดถูกเนรเทศไปอยู่อเมริกา เขาจึงมาล่ำลาและฝากอลิสไว้ให้แดนดูแล วันนี้เป็นวันที่อลิสมีความสุขมาก เพราะแดนขอเธอแต่งงาน อลิสจึงให้สัญญาว่าเธอจะเป็นคุณหนูที่ไม่ดื้อ ไม่เกเรกับเขาตลอดไป คุณหนูเทวดาคนนี้พร้อมจะเคียงข้างไปกับเขาด้วยใจรักและมั่นคง

ดาวเปื้อนดิน 2551

เรื่องย่อ : ดาวเปื้อนดิน (2551/2008) ก้องภพเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่แต่งงานแล้วกับนวลลออ มีลูกสาวหนึ่งคนชื่อเอื้อมดาวซึ่งเพิ่งเรียนจบวิศวกรและเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้างโรงแรมแห่งหนึ่งที่จังหวัดจันทบุรี โดยมีอารัณหรืออาร์ม แฟนหนุ่มลูกชายของท่านรัฐมนตรีสุทินกับคุณหญิงฤดีรับหน้าที่เป็นสถาปนิก ธัชพงษ์ ลูกชาย วินัย เพื่อนของก้องภพ แอบรักเอื้อมดาว แต่เมื่อธัชพงษ์รู้ว่าเอื้อมดาวคบกับอาร์ม ก็อกหักและไปเรียนต่อที่อเมริกา พัชระ คนงานคู่ใจของก้องภพพลั้งมือฆ่าเจ้าหนี้ตาย จึงพาภรรยาและลูก คือบงกชเกศและรินลดามาฝากให้ดูแล ก้องภพรับปากเพราะต้องการทดแทนบุญคุณที่พัชระเคยช่วยชีวิต บงกชเกศกับรินลดาเป็นคนทะเยอทะยานสองแม่ลูกวางแผนที่จะเข้ามาเป็นคุณนายของบ้าน บงกชเกศทำทุกอย่างจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับก้องภพ และให้เบาะแสกับตำรวจจนพัชระสามีเก่าถูกจับติดคุกนานนับสิบปี เอื้อมดาวกับนวลออเสียใจอย่างมากที่ถูกทรยศ แต่กลุ่มเพื่อนอันมี มุกดา จานีน และวีรเทพคอยให้กำลังใจ เอื้อมดาวบอกเรื่องความร้ายกาจของสองแม่ลูกให้อาร์มฟังแต่อาร์มไม่เชื่อ เพราะภายนอกรินลดากับบงกชเกศดูอ่อนหวาน และประการสำคัญรินลดาเล่าให้อาร์มฟังว่าแท้จริงแล้วก้องภพเป็นฝ่ายขืนใจบงกชเกศ อาร์มกับเอื้อมดาวเริ่มมีปัญหากันโดยมีรินลดาเป็นต้นเหตุ ประจวบเหมาะกับรัฐศาสตร์วิศวกรหนุ่มที่แอบหลงรักเอื้อมดาวมานานเข้ามาใกล้ชิด ทำให้อาร์มหึงหวงเกิดผิดใจกับเอื้อมดาวอย่างรุนแรง เป็นจังหวะเดียวกับอาร์มถูกส่งตัวไปดูงานที่อเมริกา ทำให้อาร์มต้องห่างเหินจากเอื้อมดาวไปโดยที่ทั้งคู่ไม่ทันได้ปรับความเข้าใจกัน รินลดารู้เรื่องก็รีบขอก้องภพไปเรียนต่อที่อเมริกาเพื่อตามอาร์ม ธัชพงษ์มีโอกาสกลับมาเยี่ยมเมืองไทยและได้เจอกับจานีน พนักงานธนาคารสาวสวย ธัชพงษ์ตามจีบจนจานีนใจอ่อนยอมรับรักแต่มีสัญญาว่าธัชพงษ์ต้องเลิกเจ้าชู้อย่างเด็ดขาดเพราะพ่อของจานีนเจ้าชู้มากจนแม่ตรอมใจตาย ธัชพงษ์รับปาก ก่อนที่จะกลับอเมริกาไปเรียนต่อ ที่อเมริการินลดาพยายามทำตัวใกล้ชิดกับอาร์มเพื่อหวังเอาชนะใจ แต่อาร์มยังคงเฉยชาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจรินลดาแต่อย่างใด รินลดาโกรธมากแกล้งส่งข่าวบอกเอื้อมดาวว่าขณะนี้คบกันอยู่กับอาร์ม เอื้อมดาวเสียใจมากคิดว่าอาร์มเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ นวลลออกับเอื้อมดาวผิดหวังในตัวก้องภพมาก เมื่อรัฐศาสตร์ขอแต่งงาน เอื้อมดาวจึงตกลงเพราะต้องการพานวลลออออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และที่สำคัญเอื้อมดาวอยากจะลบความเจ็บปวดใจจากอาร์ม มุกดา ,จานีน, วีรเทพ บอกให้เอื้อมดาวคิดให้ดี อย่าตัดสินใจเพียงเพราะต้องการประชด เอื้อมดาวบอกไม่ได้ประชดเพราะในขณะนี้อาร์มคบกับรินลดาอยู่ อาร์มรู้ข่าวจากรินลดาว่าเอื้อมดาวมีคนรักใหม่ก็เสียใจมาก ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของรินลดานั่นคืออาร์มกับเอื้อมดาวตัดขาดกัน อาร์มเปลี่ยนไปเป็นผู้ชายที่เย็นชา ด้วยความเหงา รินลดาแอบมีความสัมพันธ์กับ ธัชพงษ์ ที่บังเอิญเจอกันในผับ แต่เมื่อทุกอย่างผ่านพ้น ธัชพงษ์เกิดความละอายใจรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ผิดสัญญากับจานีน เมื่อดูงานเสร็จอาร์มก็กลับเมืองไทย รินลดารีบตามกลับไปด้วยทั้งที่ยังเรียนไม่จบอารมณ์ประชดที่รู้ว่าเอื้อมดาวกำลังจะแต่งงานกับรัฐศาสตร์ทำให้อาร์มยอมที่จะคบกับรินลดา เอื้อมดาวสุดแสนที่จะช้ำใจ เมื่อรัฐศาสตร์เห็นรินลดาครั้งแรกก็ตะลึงเพราะรินลดาสวยมาก รินลดารู้เข้าก็ใช้มารยาสารพัดยั่วยวนจนรัฐศาสตร์ลุ่มหลงจนถึงขนาดล้มเลิกงานแต่งงาน เอื้อมดาวโกรธมากจึงบอกกับตัวเองว่าจะต้องแย่งอาร์มกลับมาเป็นการตอบแทน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธัชพงษ์กลับมาเมืองไทย ธัชพงษ์ตกใจมากเมื่อรู้ว่าจานีนเป็นเพื่อนสนิทของเอื้อมดาว ในขณะที่จานีนก็คิดมากเพราะรู้ว่าธัชพงษ์ยังไม่ลืมเอื้อมดาวด้วยความน้อยใจจานีนจึงทำห่างเหินจากธัชพงษ์ ด้วยความเป็นห่วงเอื้อมดาว ธัชพงษ์จึงบอกอาร์มเรื่องที่เคยมีความสัมพันธ์กับรินลดา เมื่ออาร์มรู้ความจริงจึงกลับมาขอคืนดีกับเอื้อมดาว ทั้งคู่กลับมาคบกันอีกครั้ง แต่จานีนกับธัชพงษ์กลับแตกหัก เพราะจานีนรับไม่ได้ที่ธัชพงษ์ผิดคำสัญญา ด้วยใจรักจริง ธัชพงษ์ไม่ท้อพยายามทำทุกอย่างเพื่อขอคืนดีกับจานีน แต่จานีนไม่ยอมเพราะลึกๆยังค้างคาใจที่ว่า ธัชพงษ์รักเอื้อมดาวมากขนาดยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งยอมผิดใจกับเธอ ธัชพงษ์ละอายใจ เพราะแท้จริงแล้วธัชพงษ์ยังตัดใจจากเอื้อมดาวไม่ได้จริงๆ รัฐศาสตร์พารินลดาไปอยู่ที่สวนปาล์มทางภาคใต้ พัชระออกมาจากคุก แค้นมากที่รู้ว่าก้องภพกับบงกชเกศทรยศจึงบุกไปยิง บงกชเกศหลบทัน แต่ก้องภพเจอที่สำคัญบาดเจ็บสาหัสจนเป็นอัมพาต บงกชเกศจึงหนีไปอยู่กับท่านนายพลสมมาตร เอื้อมดาวกับอาร์มตกลงที่จะแต่งงานกัน รินลดารู้ข่าวว่าอาร์มจะแต่งงานกับเอื้อมดาวก็โกรธจัดบุกเข้ามาในงานแต่งแล้วประกาศว่าเอื้อมดาวแย่งสามีของตัวเอง เอื้อมดาวพลั้งปากโต้ตอบว่ามันก็สาสมแล้วที่รินลดาแย่งรัฐศาสตร์ไป อาร์มได้ยินเสียใจมาก จึงล้มเลิกงานแต่งงานและบอกว่าจะกลับไปคบกับรินลดา แต่รัฐศาสตร์ที่ตามมาไม่ยอมพยายามลากรินลดาออกจากงาน ที่สุดรินลดาก็ผลักรัฐศาสตร์จนหัวกระแทกเสาหมดสติกลายเป็นเจ้าชายนิทรา พ่อแม่ของรัฐศาสตร์จะเอาเรื่องรินลดาให้ถึงที่สุด รินลดารีบหนีไปหาบงกชเกศ ขอให้นายพลสมมาตรช่วย ท่านนายพลตกลงแต่มีข้อแม้ว่ารินลดาต้องเป็นเมียของท่าน รินลดาโกรธที่ธัชพงษ์เอาความสัมพันธ์ในอดีตไปบอกอาร์ม จึงขับรถพุ่งเข้าชนจนธัชพงษ์บาดเจ็บสาหัส เมื่อจานีนรู้เรื่องก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ด้วยความรักทำให้จานีนยอมที่จะลดทิฐิหันมาปรับความเข้าใจกับธัชพงษ์ ที่สุดทั้งสองคนก็ตกลงที่จะแต่งงานกัน ท่ามกลางความยินดีของเอื้อมดาวและกลุ่มเพื่อน คุณสนธยากับคุณปราณี พ่อแม่ของรัฐศาสตร์ขอให้เอื้อมดาวไปดูแล ราวกับปาฏิหาริย์ไม่นานรัฐศาสตร์ก็ฟื้นขึ้นมารินลดารู้ข่าวรีบกลับไปหารัฐศาสตร์หวังจะฟื้นความสัมพันธ์เพราะไม่อยากเป็นเมียนายพลแก่ ด้วยรักรินลดาอย่างมากรัฐศาสตร์ตกลง แต่คุณสนธยากับคุณปราณีไม่ยอม รินลดาโกรธมากจึงแอบผลักคุณปราณีจนตกบันไดกลายเป็นอัมพาต และขอให้ท่านนายพลช่วยกำจัดเอื้อมดาวแต่ท่านนายพลปฏิเสธ พัชระที่ดักซุ่มดูอยู่เมื่อเห็นบงกชเกศมาหาก้องภพก็ได้โอกาสอีกครั้ง พัชระดักฆ่าบงกชเกศจนตาย ส่วนก้องภพสลบหมดสติ บังเอิญคืนนั้นรัฐศาสตร์เป็นคนพบเหตุการณ์เขาจำได้แม่นว่าใครเป็นฆาตกรแต่ไม่รู้ว่าพัชระคือพ่อของรินลดา รินลดาเที่ยวกล่าวหาจนใครๆเชื่อว่าครอบครัวของเอื้อมดาวฆ่าบงกชเกศ เอื้อมดาวเอาตัวไปพัวพันกับท่านนายพลเพื่อแก้แค้นรินลดา เมื่อท่านนายพลหลงใหลเอื้อมดาวก็ขอให้ท่านนายพลไล่รินลดาออกจากบ้าน รินลดารู้เข้าก็แทบคลั่งไปร้องห่มร้องไห้กับอาร์ม อาร์มยิ่งเข้าใจว่าเอื้อมดาวว่าเป็นคนร้ายกาจ รัฐศาสตร์ต้องการที่จะช่วยครอบครัวของเอื้อมดาวให้หลุดพ้นจากมลทินจึงเข้าเป็นพยานว่าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ว่าใครฆ่าบงกชเกศ รินลดาโกรธมาก ก้องภพตามหาพัชระจนเจอแล้วก้มลงกราบแทบเท้าขอโทษในเหตุการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมา และขอให้พัชระยอมมอบตัวรับเป็นคนฆ่าบงกชเกศเพื่อครอบครัวของเขาจะได้พ้นผิด รินลดาบอกว่างั้นขอแค่ชีวิตของก้องภพแล้วทุกอย่างก็จะจบสิ้น รินลดาโยนปืนให้ก้องภพ ก้องภพหยิบปืนมายิงตัวตายต่อหน้าพัชระ พัชระสลดใจกับการกระทำของก้องภพยอมเข้ามอบตัว เอื้อมดาวเสียใจมากที่พ่อตาย บอกกับตัวเองว่าจะทำทุกอย่างให้รินลดาต้องตายทั้งเป็น เอื้อมดาวออกอุบายจนรินลดามาพบตามนัด รินลดาไม่ซื่อแอบไปบอกอาร์มจนอาร์มที่ตามมาเข้าช่วยรินลดาไว้ได้ทัน อาร์มด่าเอื้อมดาวอย่างรุนแรงว่าร้ายกาจใจร้ายใจดำ เอื้อมดาวโต้ตอบบอกอาร์ม สำหรับคนที่ทำให้พ่อของเธอต้องตาย แค่นี้มันยังน้อยไป และขอให้อาร์มจำไว้ไม่มีทางที่เธอจะปล่อยรินลดาไปเด็ดขาด รินลดาแค้นจัดหาทางกำจัดเอื้อมดาว จึงขอให้ชาตรีลูกน้องคนสนิทของท่านนายพลช่วยโดยการเอาตัวเข้าแลก และยังสั่งให้ชาตรีฆ่าท่านนายพลแต่ชาตรีสำนึกผิดมาสารภาพกับเจ้านาย ท่านนายพลเห็นตัวตนที่แท้จริงของรินลดาที่คิดจะฆ่าแม้กระทั่งตัวท่าน ท่านนายพลช้ำหนัก ออกปากยกรินลดาให้ลูกน้อง ชาตรีจึงสั่งให้ลูกน้องจับตัวรินลดามารุมโทรมจนเสียสติ อาร์มเองก็โกรธเข้าใจว่าทั้งหมดเป็นการกระทำของเอื้อมดาว ด้วยทิฐิเอื้อมดาวแกล้งยอมรับ อาร์มโกรธมากจึงปล้ำเอื้อมดาว หลังจากนั้นก็บอกท่านสุทินว่าจะไปอยู่ต่างประเทศ ธัชพงษ์กับจานีนหาทางที่จะทำให้เอื้อมดาวคืนดีกับอาร์ม แต่เอื้อมดาวยังคงใจแข็ง ท่านนายพลรู้เรื่องจึงบอกท่านสุทินว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะการกระทำของรินลดาและตอนนี้เธอก็ได้รับกรรมแล้ว ท่านสุทินจึงมาพบกับเอื้อมดาวและให้สติ ถึงตัวท่านเองจะไม่ใช่คนที่ดีนักแต่ก็ไม่ใช่คนเลว รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว แต่คนที่บริสุทธิ์อย่างเอื้อมดาว ท่านอยากคิดให้ดี คุณค่าของคนอยู่ที่คุณความดี อย่าเป็นดวงดาวที่ต้องมาแปดเปื้อนดินเพราะความอาฆาตพยาบาท เพราะไม่อย่างนั้นความโกรธแค้นของเอื้อมดาวจะทำร้ายทุกคน และที่สำคัญมันจะทำร้ายเอื้อมดาวเอง เพราะทุกวันนี้เอื้อมดาวก็อยู่อย่างไม่มีความสุข ท่านสุทินบอกอาร์มกำลังจะไปอยู่ต่างประเทศ พัชระกับนวลลออขอให้เอื้อมดาวยุติความแค้นแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่รักเธอ กลับไปเป็นเอื้อมดาว ดวงดาวที่มีคุณค่าคนเดิม เอื้อมดาวลังเล รัฐศาสตร์จึงไปบอกความจริงทุกอย่างกับอาร์ม และก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป อาร์มก็กลับมาปรับความเข้าใจกับเอื้อมดาว ทั้งสองตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่และลืมเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆที่ผ่านมา

เรไร ลูกสาวป่า 2551

เรื่องย่อ : เรไร ลูกสาวป่า (2551/2008) เรื่องราวเกิดขึ้น ณ บ้านภูหมอก ผืนป่าอุทยานที่ปกคลุมไปด้วยไอหมอก และที่อยู่ของสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด ซึ่งกำลังถูกบุกรุกจากพวกนายทุน วันขึ้นปีใหม่ของทุกปีชาวบ้านป่าภูหมอกจะร่วมกับ หลวงพ่อใหญ่ (นภดล ดวงพร) แห่งวัดภูหมอกทำบุญและบวชป่าสืบชะตาน้ำ เพื่อสืบต่อวัฒนธรรม และอนุรักษ์ต้นไม้ ที่ลานวัดภูหมอก วงข้าวเหนียว ขึ้นแสดงบนเวที มี ไพรวัลย์ (น้ำ รพีภัทร) เจ้าหน้าที่อุทยานและหัวหน้าวง กำลังร้องเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการร่วมอนุรักษ์ต้นไม้และสัตว์ป่า ในขณะเดียวกัน ที่กลางป่าลูกช้างตัวหนึ่งกำลังฟาดงวงฟาดงาลั่นป่า ขาของมันติดบ่วงที่นายพรานมาดักไว้ ใกล้ๆ กัน เรไร (อเล็กซานดร้า ธิดาวัลย์ บุญช่วย) ปลอบลูกช้างจนสงบลง แล้วเอามีดพกติดตัวของเธอมาตัดบ่วงเชือก โดยข้างๆ กันนั้น หรีดหริ่ง (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) มากระซิบที่ข้างหูให้เรไรรีบเร่งมือ เพราะไอ้พรานละม้าย (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) กำลังจะปรากฏตัว เรไรและหรีดหริ่ง วิ่งหนีละม้ายจนมาเจอกับคาราวานขนของเถื่อน โดยมีลูกน้องของ สหภพ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) เป็นคนคุมขบวนมา เรไรและหรีดหริ่งเหมือนหนีเสือปะจระเข้ ขณะไม่รู้จะหนีไปทางไหนดี พวกตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่นำโดยไพรวัลย์ก็แสดงตนเข้าจับกุม อีกด้านหนึ่งที่จุดตรวจบนทางหลวง รถบรรทุกไม้ของบริษัทสันติสุขกิจการค้า กำลังเดินทางมุ่งไปยังท่าเรือจังหวัดใกล้เคียง ตำรวจเห็นว่าเป็นไม้ของ สันติสุข ก็ปล่อยผ่านไปได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ระแคะระคายเลยว่าภายในรถเหล่านั้นได้แอบลักลอบขนของเถื่อนจากป่าซึ่งเป็นล็อตที่ใหญ่กว่าที่โดนจับได้ และแผนการครั้งนี้ก็เป็นที่รู้กันแค่ 2 คนระหว่าง สหภพ และ วจี (กรองทอง รัชตะวรรณ) ภรรยาของสันติสุข (อรรถชัย อนันตเมฆ) ในวัยเยาว์ มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ไพรวัลย์และเรไรรวมทั้งหรีดหริ่งได้แอบมาให้คำมั่นสัญญาต่อกัน เมื่อเขาทั้ง 3 มาอยู่ที่นี้ พวกเขาจะไม่มีวันโกหกต่อกัน ที่แห่งนี้จึงได้ขึ้นชื่อว่า หน้าผาไม่โกหก ที่นัดพบของทั้ง 3 คน จากความสัมพันธ์เล็กๆ ไพรวัลย์ค่อยๆ พัฒนาความรู้สึกของตนเองต่อเรไรจนกลายเป็นความรัก คนทั้งหมู่บ้านภูหมอกต่างก็รับรู้ และชื่นชมในความรักของชายหนุ่ม แต่ว่าตัวเรไรเองกลับกลับรักษาระยะห่างระหว่างเธอและเขาเอาไว้ด้วยมิตรภาพของความเป็นเพื่อนมากกว่าคำว่า "คู่รัก" จนเมื่อตะวันได้เข้ามาเป็นหัวหน้าอุทยานภูหมอกคนใหม่ เรื่องราวความรักสามเส้าระหว่าง ตะวัน, เรไร และ ไพรวัลย์ ก็ก่อตัวขึ้น โดยที่เรไรต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ? ขณะเดียวกันเหตุการณ์ใหญ่ก็เกิดขึ้น เมื่อมีไม้เถื่อนจากป่าล็อตใหญ่ กำลังรอจัดส่ง ขณะกำลังเตรียมขนของอยู่ในป่า เรไรกับตะวันบังเอิญไปเจอกับกองคาราวานของสหภพ ที่กำลังทำการฆ่าปิดปากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้ามาขัดขวางการลักลอบขนไม้เถื่อนในครั้งนี้ และวันนี้เองที่เรไรได้รู้ความจริงว่าใครคือคนที่ฆ่าแม่ของเธอ สหภพป้ายความผิดเรื่องเจ้าหน้าที่ป่าไม้ถูกฆ่าตายให้กับตะวันและเรไร พวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ และไพรวัลย์ได้ออกตามหาตะวันและเรไร อีกด้านพวกหรีดหริ่ง, พรานหวิน (ถนอม สามโทน) และพรานหวัง (กิ๊ฟ โคกคูน) ก็ออกตามหาเรไรเช่นกัน ไพรวัลย์รู้เส้นทางในป่าเป็นอย่างดีจึงได้พบกับตะวันและเรไร ไพรวัลย์คอยเป็นคนมาบอกข่าวตะวันและเรไรให้หลบรอดจากเงื้อมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บาดแผลถูกยิงของเรไรเริ่มติดเชื้อ เธอเพ้อและเริ่มช็อคเพราะเสียเลือดไปมาก ตะวันยอมทุกอย่างเพื่อให้เรไรกลับมามีสติอีกครั้ง แม้ว่าเรไรจะทำร้ายเขาขนาดไหน ตะวันก็ยอมทุกอย่าง เช้าวันใหม่เรไรตื่นขึ้นมาในอ้อกอดของตะวัน เธอเห็นตามร่างกายของตะวันมีแต่ร่องรอยการทำร้าย ความรู้สึกของเรไรที่เคยคิดไม่ดีกับตะวันบัดนี้ได้สูญสลายไปหมดแล้ว ตะวันตัดสินใจพาเรไรเข้าไปรักษาในเมือง โดยเขาได้วางแผนกับไพรวัลย์เพื่อถอดหน้ากากของสหภพ สหภพโดนหลอกให้พูดความชั่วร้ายต่างๆ ของตนออกมา โดยมีไพรวัลย์เป็นคนอัดเทปไว้ สหภพจับได้ก็จะเล่นงานเขา ไพรวัลย์พลาดท่า ในขณะที่สหภพกำลังเล็งปืนขึ้นจะยิงไพรวัลย์ ตะวันที่ตามมาช่วยพอดีได้เอาตัวเข้ามาบังไว้ เขาจึงถูกกระสุนยิงเข้าที่ลำตัว หรีดหริ่ง พรานหวัง และพรานหวิน พาตำรวจมาช่วยไว้ได้ทันเวลาโดยที่ตะวันได้ถูกนำไปส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน ชะตากรรมของตะวันจะเป็นอย่างไร สำหรับเรื่องความรักของเรไรนั้น เหลือเพียงคำตอบจากหัวใจของเธอเท่านั้นที่จะเลือก ตะวัน หรือ ไพรวัลย์ ? ติดตามชมเรไรลูกสาวป่าได้ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

เพลงดินกลิ่นดาว 2551

เรื่องย่อ : เพลงดินกลิ่นดาว (2551/2008) ณ เมืองรุ้งทอคำ รัฐอิสระ เล็กๆ รัฐหนึ่งที่ตั้งอยู่ติดเขตชายแดนประเทศไทยทางตอนเหนือ บรรเลง เสรีวงศ์ พ่อครูเพลงชาวไทย ผู้หลงใหลวัฒนธรรมพื้นบ้านของรุ้งทอคำ ได้พบ รักกับ จันทร์หอม แม่เพลงพื้นบ้านชาวรุ้งทอคำ ทั้งสองได้ช่วยกันตั้งวงจันทร์หอมบรรเลง วงดนตรีขึ้น พร้อมๆ กับได้ให้กำเนิด ดาวละออ สาวน้อยสองสัญชาติ ผู้เต็มเปี่ยมด้วยเลือดศิลปินและรักการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ครอบครัวเสรีวงศ์ตั้งรกรากอยู่ที่รุ้งทอคำ อย่างมีความสุข จนกระทั่ง ดาวละออเรียนจบมัธยมปลาย บรรเลงประสบปัญหาทางการเงิน ถึงขั้นต้องขายเครื่องดนตรีประจำวงมาเลี้ยงครอบครัว ทำให้เครียดมากที่ไม่มีเงินส่งดาวละออ ไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย บรรเลงสั่งให้ดาวละออ เลิกเรียนร้องเพลง จันทร์หอมสงสารลูก พยายามโหมหางานพิเศษทอผ้าเก็บเงิน เพื่อให้เป็นทุนการศึกษาของดาวละออ จนกระทั่งล้มป่วยและเสียชีวิตลง บรรเลงเสียใจมาก จนถึงขนาดได้ยินเสียงเพลงอีกไม่ได้ เขาเลิกเล่นดนตรี ประกาศยุบวง และห้ามดาวละออร้องเพลงของแม่ให้ได้ยินอีก ดาวละออเข้าใจผิดว่าที่พ่อทำไปทั้งหมด เพราะโกรธเกลียดตนที่เป็นต้นเหตุทำให้แม่ตาย ดาวละออยอมรับโทษทุกอย่างจากพ่อแต่ขอให้เธอได้มีโอกาสร้องเพลงต่อไป บรรเลงไม่ยอม ทั้งสองทะเลาะกันถึงขั้นแตกหัก ประกาศตัดพ่อตัดลูก ดาวละออ จำต้อง ระเห็จออกจากบ้านด้วยหัวใจสลายและจึงตัดสินใจรับทุนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับประเทศฝรั่งเศส ไปเรียนร้องเพลงสากล ห้าปีผ่านไป ในบรรยากาศสวยงาม เต็มไปด้วยความงดงามทางศิลปะของกรุงปารีส ประเทศ ฝรั่งเศส ดาวละออ ได้เปิดการแสดงวิทยานิพนธ์ทางการขับร้อง ขับขานบทเพลงอันไพเราะจนชนะใจ ทุกคนในงานและได้คะแนนยอดเยี่ยมเรียนสำเร็จสร้างความปลาบปลื้มใจให้กับ นภัส เพื่อนสนิทคนไทยที่รักดาวละออเกินเพื่อน นภัสมอบล็อกเกตรูปดอกดาวละออซึ่งเป็นดอกไม้แสนรักของแม่ จนนำมาตั้งชื่อให้กับดาวละออ เป็นของขวัญเรียนจบ ทำให้ดาวละอออดหวนคิดถึงบ้านขึ้นมาอย่างจับใจ และยิ่งเมื่อโดน นภัสถามไถ่ถึงเวลากลับบ้านยิ่งทำให้ ดาวละออ สะเทือนใจฝ่าความหนาว หนีความจริง ออกไปริมแม่น้ำแซน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ ปฐพี ผู้บริหารหนุ่ม หน้าตา คมสัน ของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในกรุงเทพฯ เดินทางมาเจรจาธุรกิจ ดาวละออ ไม่สามารถสะกดความคิดถึงพ่อแม่ไว้ได้ จึงเอื้อยเอ่ยบทเพลงที่พ่อเคยแต่งไว้ ออกมาจากหัวใจ ทำให้ปฐพีหลงในเสียงของดาวละออ ทันทีที่ได้ยิน เปลี่ยนใจจากการติดต่อธุรกิจ ออกวิ่งตามหาดาวละออ แต่ไม่ทันที่เขาจะได้เห็นหน้าเจ้าของเสียงนั้น ปฐพีกลับโดนโจรจี้ชิงทรัพย์และถูกแทงจนล้มจมกองเลือด ปฐพีเกือบตายไปแล้ว ถ้าดาวละออไม่ผ่านมาพบและช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทันและความทรงจำที่ปฐพีมีต่อดาวละออก็คือ เสียงเพลงไทยอันอบอุ่นให้กำลังใจที่ดาวร้องให้เขาฟังตลอดทางไปโรงพยาบาลและล็อกเกตรูปดอกดาวละออที่เขาดึงจากดาวละออไว้ติดมือ ไม่ทันที่ปฐพีจะฟื้นขึ้นมารับรู้ว่าใครเป็นคนช่วยชีวิตเขา ดาวละออจำต้องออกจากโรงพยาบาล เนื่องจาก สุวรรณ ผู้จัดการวงดนตรีของ บรรเลง ส่งข่าวมาว่า บรรเลงไม่สบายมาก อาการเป็นตายเท่ากัน ดาวตัดสินใจ เดินทางกลับรุ้งทอคำ นภัสพยายามขอตามไปด้วยแต่ติดที่ว่า ยังเรียนไม่จบ นภัสพยายามบอกให้ดาวละออ สัญญาว่าจะรอเขาไปหาที่รุ้งทอคำ โดยไม่เฉลียวใจเลยว่า นภัสจะคิดเกินเลยไปมากกว่าคำว่าเพื่อนแล้ว เมื่อถึงรุ้งทอคำดาวละออ กลับพบว่า บรรเลงไม่ได้ป่วยอย่างที่สุวรรณบอก แต่กลับกลายเป็นตาแก่ ขี้เหล้าที่เอาแต่เมาทั้งวัน สุวรรณขอโทษที่ต้องหลอกดาวละออ เพราะอยากให้พ่อลูกได้กลับมาคืนดีกัน และพลิกฟื้นวงจันทร์หอมบรรเลง ให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง ในขณะที่ ปฐพีกลับมารักษาตัวที่เมืองไทยและพยายามที่จะตามหา เจ้าของล๊อกเกตที่เขาเข้าใจว่าเป็นคนไทย ซึ่งเขารู้สึกว่า เธอเป็นผู้หญิงคนพิเศษที่เข้ามานั่งในหัวใจเขาแล้ว ปฐพีไม่สนใจ มัทนา สาวสวยนักเรียนนอก ที่ มณีอร แม่ของปฐพีพยายาม ยัดเยียดให้หมั้นหมายด้วยเลย ดาวละออ พยายามจะเอาชนะใจบรรเลงให้เลิกเหล้าแล้วกลับมาจับเครื่องดนตรีอีกครั้ง ดาวละออยอมนั่งตากฝนร้องเพลงให้บรรเลงฟังจนไม่สบาย แต่บรรเลงก็ไม่ใจอ่อน ไล่ดาวละออสาดเสียเทเสีย จนดาวละออถอดใจ ทุบขวดเหล้าของบรรเลง จะแทงตัวเองเพื่อชดเชยความผิดในอดีตที่พ่อไม่เคยลืมว่าเธอเป็นต้นเหตุให้แม่ตาย บรรเลงตบหน้าดาวละออ แล้วไล่ให้กลับไปอยู่ฝรั่งเศส ดาวละออเสียใจ วิ่งออกไป ร้องไห้ที่ริมน้ำ และได้พบกับปฐพี ซึ่งหนีมาทำใจก่อนที่ต้องถูกมารดาจับให้หมั้นกับมัทนา ดาวละออจำปฐพีได้แต่ไม่ยอมรับว่าเคยช่วยชีวิตเขาไว้ ด้วยเห็นว่าไม่ต้องการเอาบุญคุณอะไร แม้ปฐพีพยายามซักไซ้อย่างไรก็ตาม ปฐพีหาเรื่องว่าจ้างดาวละออให้เป็นไกด์พาเขาเที่ยวเมืองรุ้งทอคำ ปฐพีเบ่งใช้เงินซื้อ ความสะดวกสบายทุกอย่างตามประสาคนมีเงิน ทำให้ดาวหมั่นไส้ หาเรื่องขโมยกระเป๋าสตางค์ของปฐพีมาเก็บเอาไว้ แล้วแกล้งพาปฐพีเที่ยวแบบติดดิน ทั้งทานขนมจีนข้างทาง ปั่นจักรยานรอบเมืองพาไปสอยดาว และรำวง ทำให้ปฐพีได้รู้ว่า ความสุขบางอย่าง เงินซื้อไม่ได้ และเขาก็ทำให้ดาวละออได้คิดจะกลับไปคืนดีกับพ่อ ดาวละออ คลายทิฐิลงและกำลังจะพาปฐพีไปเยี่ยมบ้านของเธอ แต่แล้วมัทนามาตามตัวปฐพีให้กลับกรุงเทพฯ เสียก่อน ทั้งสองจึงคลาดกันไป ดาวละออกลับบ้านมาพบว่า บรรเลงเปลี่ยนใจจะเล่นดนตรีแล้วเนื่องจากค้นพบจดหมายที่จันทร์หอมเคยเขียนให้ไว้ ดาวดีใจมากที่พ่อยอมกลับมาเล่นดนตรีอีกครั้ง แต่แล้วบรรเลงกลับโดนรถชนต่อหน้าต่อตา และก่อนที่บรรเลงจะหมดลม ได้สั่งเสียให้ดาวละออนำเพลงรักสองแผ่นดินที่เขาแต่งไว้ เป็นอนุสรณ์ความรักของเขากับภรรยาไปเผยแพร่ให้ก้องกังวาน หลังจากงานศพของบรรเลง ดาวละออ ตัดสินใจ พา สุวรรณ และนวลสวรรค์ นักร้องในวงอีกคน เดินทางมากรุงเทพฯ ตาม ประกาศ รับสมัคร นักร้องใหม่ของบริษัทปฐพีที่ลงไว้ในหนังสือพิมพ์ แอนกับตุ้ม ซึ่งเป็นลูกน้องของปฐพี จะพาดาวกับพวกไปหาปฐพีที่บ้าน ซึ่งเป็นงานหมั้นของปฐพีกับมัทนาพอดี แอนจัดให้ดาวขึ้นไปร้องเพลงอวยพรบนเวทีเพื่อเป็นการทดสอบเสียง แต่ปรากฎว่าดาวไม่มีเสียง ร้องเพลงออกมาไม่ได้อีกแล้ว ดาวตกใจมาก สร้างความตระหนกให้กับทุกคนในวงและปฐพีเป็นอย่างยิ่ง มัทนาพยายามไล่ดาวออกไปอีก แต่ปฐพีรั้งไว้เห็นว่าดาวมาจากต่างแดน ไม่มีที่ไป จึงจ้างให้ดาวและพวกเข้าไปทำงานที่บ้านของเขาแทน มัทนาและมณีอรไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทั้งสองจึงหาทางกลั่นแกล้งดาวกับพวกให้ออกจากบ้านไปให้ได้ นภัสเรียนสำเร็จ แล้วโดน อำนาจ พ่อของนภัส ซึ่งเป็นนักการเมืองใหญ่ ที่มีเบื้องหลังสกปรกคือเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้า บังคับให้กลับมาเมืองไทยและบังคับให้นภัสทำงานการเมือง นภัสจำยอม ออกไปหาเสียงกับพ่อ แล้วได้ช่วยดาวที่ถูกมัทนาหลอกไปทำร้ายไว้ได้ ปฐพีไม่พอใจที่ ดาวกับนภัสสนิทสนมกันแต่มัทนากลับพึงพอใจมากและพยามยามยุให้นภัสแต่งงานกับดาว แต่แล้วนภัสกลับได้เห็นล็อกเกตที่ตัวเองให้อยู่กับปฐพี ทำให้นภัสเสียใจมาก รู้ว่าดาวต้องมีใจให้กับปฐพี นภัสหนีไปต่างจังหวัด อำนาจไปตาม พา กลับบ้าน ระหว่างทางมีการซื้อขายของครั้งใหญ่ นภัสติดไปด้วย เบื้องหลังของพ่อที่ค้ายา ทำให้นภัสตัดสินใจ แจ้งความเรียกตำรวจมาจับพ่อตัวเอง แต่ข่าวรั่วเสียก่อนอำนาจจึงไหวตัวทันและโกรธนภัสจนแทบจะลั่นไกฆ่าลูกในไส้ของตัวเองแต่ในที่สุดก็ทำใจไม่ได้ ปล่อยให้นภัสออกไปเผชิญโลกเหมือนสุนัขข้างถนนตัวหนึ่ง ปฐพีกับดาวได้สัญญากันจะนำเพลงรักสองแผ่นดินที่พ่อกับแม่ดาวทำไว้มาเผยแพร่ให้มีชื่อเสียง แต่ดาวโดนมัทนาหาเรื่องไล่ออกจากบ้านไปเสียก่อน ในช่วงนั้น ดาวได้ช่วยทำให้ พอล นักร้องในค่ายปฐพี ที่ร้องเพลงเพื่อเงิน กลับใจมารู้จักความหมายที่แท้จริงของการร้องเพลง พอลจึงคิดจะเลิก เป็นเอเยนต์ขายยา ตามที่เขาถูก วิชัย ลูกน้องคนสนิทของอำนาจ บังคับให้ทำ พอลเลยโดนวิชัยเก็บ โดยการทำเป็นอุบัติเหตุ ถูกรถชน การตายของพอลทำให้ดาวได้คิด ยอมกลับมาหาปฐพี เพื่อให้เขาพาไปรักษาเสียงและทำเพลงด้วยกัน มัทนารู้เข้าโกรธจัดจ้างมือปืนจะมายิงดาวแต่พลาดโดนปฐพีเข้า ดาวพยายามช่วยชีวิตปฐพี จึงร้องเพลงออกมาได้อีกครั้ง ดาวพาปฐพีไปโรงพยาบาล แต่ไม่มีใครมีเลือดหมู่เดียวกับปฐพี นอกจากมัทนา มัทนาจึงยื่นคำขาดให้ดาวออกไปจากชีวิตปฐพี ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ยอมให้เลือดกับปฐพี ดาวจำยอมสัญญาว่าจะไม่ทำเทปกับปฐพีอีกแล้วและเดินทางกลับรุ้งทอคำ แต่โดนสิบแปดมงกุฎหลอกไปขายซ่อง ทำให้ได้เจอกับนภัสซึ่งตอนนี้หมดสภาพ ขับสามล้อ มาเที่ยวซ่องโสเภณี นภัสช่วยดาวออกมาจากซ่องโสเภณี ดาวกลายไปเป็นนักร้องบาร์รำวงเพื่อหาเงินประทังชีวิต นภัสทนเห็นดาวที่ตกต่ำไม่ได้ ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง กลับไปหาอำนาจ ยอมเป็นพ่อค้ายาบ้าตามที่อำนาจต้องการ เพื่อแลกกับการเทคโอเวอร์ ค่ายเพลงแห่งหนึ่งเพื่อทำเพลงให้กับดาว โดยที่ดาวไม่เคยระแคะระคายสักนิดว่านภัสเลือกวิธีผิดๆ เพื่อช่วยเหลือเธอ ดาวกลับมาเชิดฉายเป็นนักร้อง ในค่ายเพลงของนภัส ทำให้ปฐพีเสียใจมากที่ดาวหลงลืมสัญญาที่เคยให้ไว้ ปฐพียอมแต่งกับมัทนา มณีอรดีใจมาก ตามไปคุยกับมัทนาที่บ้าน และได้แอบเห็นมัทนาคุยกับมือปืน ที่ยิงปฐพี ทำให้มัทนา ตามมาจัดการผลักมณีอรตกบันไดกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ดาวแอบมาเยี่ยมมณีอรด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะเจอกับปฐพีที่คอยค่อนขอด ขับไสไล่ส่งก็ตาม อำนาจอาศัยการเดินสายร้องเพลงของดาวส่งยาบ้าไปขายตามจังหวัดต่างๆ จนวันหนึ่งสุวรรณจับพิรุธได้ และรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการค้ายาก็คือ นภัสกับพ่อนั่นเอง นภัสยิงสุวรรณตาย แล้วสร้างหลักฐานกลบเกลื่อนว่าเป็นฝีมือของปฐพีที่หวังจะกลั่นแกล้งดาวไม่ให้เกิดในวงการเพลง ดาวหลงเชื่อทั้งโกรธและเสียใจ ต่อว่าปฐพีจนแทบจะไม่เผาผี และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด มัทนาว่าจ้างให้ดาวมาร้องเพลงที่งานแต่งงานของเธอกับปฐพี ดาวฝืนใจตอบตกลง ทั้ง ๆ ที่เสียใจอย่างแรงและก่อนที่จะเดินทางไปดาวกลับพบหลักฐานที่นภัสยิงสุวรรณ รวมไปถึงเรื่องการค้ายา อำนาจจึงจับตัวดาวไป เพื่อหวังฆ่าปิดปาก ในงานแต่งงานของปฐพีกับมัทนา มณีอรซึ่งอาการดีขึ้นแล้ว ได้บุกเข้าไปเปิดโปงความชั่วของ มัทนาที่เป็นคนทำร้ายเธอ การแต่งงานพังไม่มีชิ้นดี มัทนาโดนตำรวจจับไปดำเนินคดี นวลสวรรค์ตามมาบอกปฐพีเรื่องที่ดาวโดนจับตัวไป ปฐพีจึงรีบตามไปช่วยดาว อำนาจเกือบจะยิงปฐพีตาย ดาวอ้อนวอนขอชีวิตปฐพีจากอำนาจ เนื่องจากปฐพีเป็นคนที่เธอรักมากที่สุด ทำให้นภัสสะเทือนใจจนทนไม่ได้ ลั่นกระสุนยิงอำนาจและยิงตัวเองให้ตายตาม เพื่อจบเรื่องเลวร้ายทั้งหมด ก่อนที่จะสิ้นลมนภัสได้สารภาพกับดาวถึงความรักทั้งหมดที่มีให้กับดาวและฝากฝังให้ปฐพีดูแลดาวอย่างดีที่สุด มณีอรเสียใจมากที่ทำเลวกับดาวมาตลอด แต่แล้วดาวกลับช่วยเหลือเธอจนมีชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง มณีอรกับปฐพีจึงวางแผนจัดคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ให้กับดาว และเซอร์ไพร์ด้วยบทเพลงรักที่ปฐพีกับดาวร่วมร้องด้วยกันและปฐพี ได้ขอดาวแต่งงานบนเวทีคอนเสิร์ต แฟนเพลงต่างตบมือยินดีไปด้วยอย่างที่สุด ในเช้าอากาศสดใส เพลงรักสองแผ่นดิน ดังก้องกังวาน ปฐพียกขบวนขันหมากไปสู่ขอดาวละออ มาเป็นคู่ชีวิตชั่วนิรันดร์