กลับบ้านเรานะ...รักรออยู่ 2547

กลับบ้านเรานะ…รักรออยู่

กลับบ้านเรานะ...รักรออยู่ (2547/2004) จอมขวัญ ลูกสาวคนเล็กที่สวยปราดเปรียว ดื้อรัน และเชื่อมั่นในตนเองของกำนันชัย อดีตกำนันผู้ปกครองบ้านไร่พัฒนา เธอไปใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพเพื่อเรียน และทำงานหลายปี จนบริษัทโฆษณาเล็กๆ ที่เธอทำงานอยู่ประสบมรสุมทางเศรษฐกิจ และต้องปิดตัวลง จอมขวัญกลายเป็นคนตกงานอย่างกระทันหัน ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่าเธอจะกลับบ้านเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ และผันตัวเองไปทำงานเกษตรตามแนวทางเดิมของครอบครัว ทุกคนในบ้านต่างงุนงงไปกับการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตแบบพลิกความคาดหมายของจอมขวัญอยู่มาก หลายคนไม่คิดว่าเธอจะทำได้ แต่กำนันชัยเคารพการตัดสินใจของลูก เขาแบ่งที่ดินให้เธอ 1 แปลงเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับงานที่เธอตั้งใจ จอมขวัญเริ่มวางแผนการทำงานของเธอด้วยการศึกษาการทำเกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ เธอได้ที่ปรึกษาเป็นเพื่อนเก่าเจ้าเนื้ออย่าง สุพรรณี ลูกเจ้าของร้านหนังสือที่ช่วยเหลือด้านข้อมูลวิชาการ และนัดดา เพื่อนครูแสนเรียบร้อยที่คอยช่วยเหลือในเรื่องการสำรวจตลาด ขณะที่เธอกำลังเล่าความฝันอันบรรเจิดของตนให้สุพรรณีฟังอยู่นั้น เขตรัฐชายหนุ่มร่าสูงใหญ่ผิวเข้มหน้าตาคมคาย ที่ยืนอยู่แผลงหนังสือใกล้ๆ ได้ยินเรื่องราวโดยตลอดและอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นทางเลยว่าสาวสวยหุ่นเพรียวอย่างนางแบบแต่งตัวแปลกตาจะเป็นเกษตรกรได้อย่างไร จอมขวัญหันขวับไปมองตามเสียงนั้นด้วยความโกรธ จะตามไปเอาเรื่องแต่สุพรรณีห้ามไว้ เขตรัฐมีข่าวซุบซิบทั่วตลาดว่าเขาเป็นเกย์ หลังอกหักจากแฟนเก่าชื่อชุติมา และเขายังเป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกับ เดชชัย พี่ชายคนหนึ่งของจอมขวัญอีกด้วย จอมขวัญเริ่มวิตกว่าเดชชัยพี่ชายอาจกลายเป็นพวกชอบไม่ป่าเดียวกันไปแล้ว ขณะเดียวกันหนุ่มๆ ในกลุ่มของเดชชัย ก็คอยสังเกตน้องสาวเพื่อนคนนี้อยู่เหมือนกัน แถมยังตั้งคำถามกันว่าสาวสวยที่ชินกับชีวิตเมืองกรุงอย่างเธอจะไปรอดในอาชีพเกษตรกรหรือไม่ ด้านเขตรัฐและผู้กองวรพจน์ 2 หนุ่มโสดในกลุ่ม คิดว่าคนทำจริงอย่างจอมขวัญน่าจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง ขณะที่พิชัยอารักษ์ 2 หนุ่มไม่โสด คิดว่าเธอไม่มีทางทำอาชีพนี้ได้นานถึง 1 ปี เมื่อความคิดต่างกันการเดิมพันจึงเกิดขึ้น พิชัยเสนอให้วางเงินคนละ 1 แสนบาท มีระยะเวลา 1 ปี และให้เดชชัยซึ่งเป็นคนวงในทำหน้าที่เป็นกรรมการ โดยที่จอมขวัญไม่รู้เลยว่าเธอคือตัวแปรสำคัญของเกมนี้ จอมขวัญเดินทางไปปรึกษาที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และได้พบกับวีรวุธ ในที่สุดจอมขวัญก็ได้ข้อสรุปว่เธอจะปลูกมะนาวที่ยังไม่มีใครปลูก เลี้ยงปลาแรดที่กำลังมีราคาดี และเลี้ยงไก่ไข่เพื่อให้ไร่ของเธอมีเงินหมุนเวียนตลอดทั้งปี แต่โครงการของขวัญจำเป็นต้องไปขอความช่วยเหลือเรื่องรถขุดดินจากไร่สมสมัย ไร่ใหญ่ข้างๆ ที่มีคุณสมสมัยแม่ของเขตรัฐเป็นเจ้าของ และมีเขตรัฐเป็นคนดูแล เมื่อเจอหน้ากันทีไรจอมขวัญมักจะพูดเรื่องคนอกหักบ้าง พวกเบี่ยงเบนทางเพศบ้าง เพราะคิดเอาเองว่าเป็นการพูดจี้จุดเขตรัฐแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบจริงจังพอที่จะจับต้นชนปลายได้เลย แถมเขายังมักจะรู้ทันเธอไปซะทุกเรื่องและสวนกลับแบบที่ทำให้จอมขวัญแทบสะอึกอีกด้วย จอมขวัญได้รู้จักตัวตนของเขตรัฐมากขึ้น จากที่จอมขวัญได้เห็นเขตรัฐก็ดูเป็นคนดีแต่ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนๆ ของเธอจึงบอกว่าเขตรัฐน่ากลัว จะเล่าทีไรก็มักจะมีคนเข้ามาขัดอยู่ร่ำไป และรู้สึกว่าลุงชูไม่ชอบคุณนายสมสมัยและลูกๆ ของเธอนัก เขามักจะกันไม่ให้เขตรัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรืออยู่ใกล้ชิดด้วย ซึ่งจอมขวัญไม่รู้ว่าเพราะอะไร หากแต่คนในครอบครัวของเขตรัฐนั้นรู้ดีว่าลุงชูเชื่อว่าการตกบันไดตายของน้องสาวคือแม่แท้ๆ ของเขตรัฐไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่มันคือการฆาตกรรม ดังนั้นอีกคนที่อาจได้รับอันตรายก็คือเขตรัฐหลานรักเพียงคนเดียวของเขา ไร่จากน้ำพักน้ำแรงจอมขวัญรุดหน้าไปด้วยดี ด้วยความช่วยเหลือของเขตรัฐ นิติพงษ์กลับมาอีกครั้งพร้อมกับเพื่อนๆ ของจอมขวัญที่กรุงเทพฯ เธอจึงจัดโปรแกรมพาเพื่อนๆ เข้าไปเที่ยวชมธรรมชาติในป่า โดยขอให้เดชชัยและกลุ่มของเขาซึ่งมีความเชี่ยวชาญการเดินป่านำทางให้ เขตรัฐทำหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่มโดยมีประสิทธิ์คนสนิทของเขาซึ่งหลงรักนัดดาติดตามไปช่วยดูแลด้วยเพราะกลุ่มเที่ยวครั้งนี้มีจำนวนมากพอดู เนื่องจากนักรบและระวิขอตามไปแถมยังชวนชุติมา ธนากร และยุวดีเพิ่มเข้ามาอีก ตลอดเส้นทางเขตรัฐคอยดูแลจอมขวัญที่สามารถเดินทันเขา ขณะที่คนอื่นๆ เดินรั้งท้ายเพราะร่างกายไม่สู้ โดยเฉพาะนิติพงษ์ซึ่งอ่อนล้าและดูจะเป็นไข้จากการเดินทางที่ลำบาก เขาไม่ชอบที่เขตรัฐคอยห่วงใยและดูแลจอมขวัญเป็นพิเศษ คืนนั้นอากาศหนาวมาก ด้วยความเซ็งเขตรัฐชวนประสิทธิ์ไปเดินส่องสัตว์ เวลาเดียวกัน นิติพงษ์ออกจากเต็นท์มาเข้าห้องน้ำถูกลอยตีหัวจากทางด้านหลัง ทุกคนสงสัยเขตรัฐ เพราะเขาและประสิทธิ์ไม่ได้อยู่ในเต็นท์อีกทั้งนักรบซึ่งเป็นน้องของเขาเองแท้ๆ กลับคอยพูดให้ทุกคนเข้าใจว่าคนที่ลงมือต้องเป็นเขตรัฐ ผู้กองวรพจน์มั่นใจว่าคนอย่างเขตรัฐไม่มีทางลอบทำร้ายใคร เหตุการณ์ในคดีเดิมนั้นแม้ปืนจะเป็นของเขตรัฐแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนยิง วรพจน์และเพื่อนๆ ของเขตรัฐเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจนักรบที่ต่อหน้าก็เป็นน้องชายที่เคารพพี่ แต่ลับหลังกลับพูดจาเหมือนให้ร้ายพี่ชายตัวเอง หลังเกิดเหตุ จอมขวัญเริ่มไม่ไว้วางใจเขตรัฐอีกครั้งเธอไม่ได้พบเขาอีกเลย จอมขวัญเลิกคิดเรื่องต่างๆ และทุ่มเทเวลาให้กับงานอย่างเต็มที่ โดยมีวีรวุธคอยให้คำปรึกษา เขามาหาเธอที่ไร่เกือบทุกวัน เขตรัฐได้แต่แอบมองคนทั้งคู่มาจากไร่ของเขาอย่างอิจฉา เมื่อจอมขวัญทำปั้นปึ่ง เขตรัฐจึงเพียรมาที่ไร่ของเธอบ่อยๆ ทั้งที่รู้ว่าจอมขวัญไม่อยากพูดคุยด้วยนัก เพราะเธอไม่เคยรู้เลยว่า เขานั่นแหละที่เป็นคนให้เงินช่วยเหลือไร่ของเธอ เมื่อตอนที่ไก่ตายยกเล้า จอมขวัญรู้เพียงว่าเดชชัยไปกู้เงินมาให้เท่านั้น จู่ๆ จอมขวัญก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้วจอมขวัญก็กลับมาพร้อมทั้งบอกอย่างภาคภูมิใจว่าเธอได้รับเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาบริษัทโทรศัพท์เรื่อง "กลับบ้านเรานะรักรออยู่" ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลให้คนตกงานกลับไปทำมาหากินที่บ้านเกิด ซึ่งต้องการคนตกงานที่กลับบ้านเกิดมาทำเกษตรจนเป็นรูปเป็นร่างสำเร็จจริงๆ และต้องสวยพอที่จะเป็นนางเอกโฆษณาได้ด้วย ซึ่งคนนั้นก็คือ เธอ ที่สำคัญงานของจอมขวัญสามารถรวมแนวคิดหลักของรัฐบาลได้ทั้งสามแนวทางนั่นคือ กลับบ้านเกิด ส่งเสริมอาชีพในท้องถิ่นให้มีผลิตภัณฑ์ เฉพาะตำบลและส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น อาชีพของจอมขวัญทั้งนั้น ตกดึกทั้งเขตรัฐและจอมขวัญนั่งดูดาวอยู่ด้วยกันเพียงสองคน แล้วจู่ๆ เขตรัฐก็บอกกับจอมขวัญว่าเขาชอบเธอและบอกว่าน่าจะลองคบกันดู จอมขวัญแม้จะรู้อยู่เป็นนัยๆ ว่าเขาคิดอะไรกับเธอแต่มาจู่โจมอย่างนี้ก็ตั้งรับไม่ทันเหมือนกัน เธอจึงรีบเดินหนีไปที่กลุ่มทัวร์ด้วยความอาย และพยายามไม่สบสายตาของเขา นักรบมองออกว่าเขตรัฐสนใจจอมขวัญและบอกว่าจะจัดการให้ เขตรัฐห้ามไม่ให้มายุ่งกับเรื่องของตน แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้เมื่อรถของวีรวุธเจอเรือใบจนยางแตกหลังขับออกมาจากไร่จอมขวัญเขาสังเกตเห็นได้ว่ามีเงาคนมาเก็บเรือใบที่เหลือ เขตรัฐขับรถมาเห็นเข้าเลยลงมาช่วยและถามว่าเขาสนใจจอมขวัญหรือเปล่า วีรวุธกลัวและเข้าใจผิดว่าเป็นแผนของเขตรัฐที่ต้องการจะขู่ตน และเล่าเรื่องราวให้จอมขวัญฟัง จอมขวัญตำหนิเขตรัฐให้เดชชัยฟังแต่แล้วก็โดนเดชชัยโมโหใส่และบอกว่าเขตรัฐไม่ใช่คนอย่างนั้น จอมขวัญถูกลอบยิงขณะนำทัวร์ ประสิทธิ์ซึ่งอยู่ใกล้รีบวิ่งเข้ามาช่วย แต่จอมขวัญกลับคิดว่าเขาเป็นคนยิง เขตรัฐและเดชชัยรีบมาดูอาการจอมขวัญ จู่ๆ ถาวรเจ้าของเรือยางอิสระก็หน้าตาตื่นเข้ามาบอกว่ารู้ข่าวว่าขวัญถูกยิง แต่เมื่อเห็นผู้กองวรพจน์เดินมาก็ผงะรีบกลับไปทันที ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยของวรพจน์ยิ่งนัก เมื่อฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าเขตรัฐ จอมขวัญถึงกับผวาบอกว่าเธอโดนยิงเพราะไม่คบกับเขา และทะเลาะกับประสิทธิ์ เขตรัฐเสียใจมากและบอกว่าอย่าเอาเหตุการณ์ครั้งนั้นมาตัดสินเขาก่อนที่จะมองอย่างตัดพ้อแล้วเดินออกไป ชุติมาที่มาคอยดูแลจอมขวัญก็บอกว่าเขตรัฐไม่ใช่คนอย่างนั้น เขาไม่เคยฆ่าใคร เมื่อจอมขวัญจะถามต่อชุติมาก็ไม่ยอมพูดแล้วออกไป ผู้กองวรพจน์เริ่มสงสัยท่าทางของนักรบ เพราะมักจะพูดถึงเรื่องร้ายต่างๆ ว่าเป็นฝีมือธนากรได้ราวกับเป็นคนคิดแผนซะเองแต่ก็พยายามสืบทางธนากรด้วยเช่นกัน ธนากรก็ให้คนสืบอยู่เหมือนกัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีข่าวว่าเขาเป็นคนผิด วรพจน์เริ่มมองมาที่คนในครอบครัวของเขตรัฐ คืนนั้นเองเขตรัฐถูกลอบยิง ลุงชูจึงจัดการหาลูกน้องทหารเก่ามาคอยดูแลเขตรัฐ อารักษ์และเพื่อนมาเลี้ยงปลอบใจและวางแผนให้ได้เจอกับจอมขวัญ ตอนแรกเขตรัฐโมโหแทบบ้าที่จอมขวัญไม่แสดงอาการห่วงใยเขาเลยแถมพูดจาประชด จนวรพจน์ต้องเตือนให้ใจเย็นๆ เขตรัฐอาสาขับรถของจอมขวัญไปส่งเธอที่บ้านและให้อารักษ์เอารถเขาไปส่งที่บ้านท่ามกลางแรงเชียร์ของเพื่อน จอมขวัญเริ่มไม่ไว้ใจเมื่อเห็นเขาหยิบปืนมาด้วย ตลอดทางกลับบ้านเขตรัฐรับรถช้ามาก เขาสารภาพว่าเขารักเธอและไม่เคยทำร้ายใครเพื่อให้ได้เธอมา จอมขวัญหน้าแดงที่จู่ๆ ตาบ้าก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา และหาเรื่องเขาเพื่อกลบเกลื่อนความอาย เมื่อเขตรัฐหยุดรถด้วยความโกรธจอมขวัญก็คว้าปืนเขามาจ่อทันทีด้วยความกลัวและให้เขาออกรถ เขตรัฐไม่คิดจะปัดปืนให้พ้นตัวทั้งๆ ที่เขาทำได้ เขตรัฐบอกให้จอมขวัญระวังตัวเพราะเขาเห็นเงาคนตะคุ่มอยู่และหยิบปืนไปจากมือจอมขวัญพร้อมบอกให้เธอวิ่งหนีไปให้ไกล ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังลั่นจากการยิงต่อสู้ เขตรัฐรีบบอกให้เพื่อนตามมาเพราะเขาถูกดักยิงเช่นกัน จากนั้นก็ตะโกนเรียกจอมขวัญ ซึ่งหลบอยู่ในดงไม้ห่างจากถนนห้าหกเมตรเท่านั้น จอมขวัญบอกว่าเธอขาแพลง ช่วงที่รอผู้กองสองคนก็นั่งกอดเข่าหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกัน วรพจน์มาบอกข่าวที่ไม่น่าเป็นไปได้กับเขตรัฐ นั่นคือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดเป็นคนในบ้านเขา วรพจน์บอกเขตรัฐว่าให้ตัดสินใจว่า ระหว่างแม่เลี้ยงกับน้องชายเขาคิดว่าใครหรือว่าทั้งคู่ จอมขวัญไปหาชุติมาที่บ้านพักพยาบาล เธอต้องการให้ชุติมาบอกความลับต่างๆ เพราะผู้กองวรพจน์แน่ใจว่าชุติมาจะเป็นคนที่ไขความลับเรื่องนี้ได้ แล้วเธอก็ได้รู้ว่านักรบเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ทันใดนั้นเองนักรบก็พุ่งเข้ามาตบชุติมาจนหมดสติ ท่าทางของเขาดูไร้สติไม่มีเค้าความอ่อนโยนเหมือนนักรบคนเดิม ก่อนที่จะเอาปืนตบหน้าจอมขวัญจนหมดสติไปอีกคน เขตรัฐแทบบ้าที่รู้จากชุติมาที่หน้าตาบอบช้ำว่านักรบเอาตัวจอมขวัญไป ขณะนั้นมีจดหมายจากนักรบนัดเขาไปที่อุทยานแห่งชาติฯ สมสมัยขอร้องว่าอย่าฆ่าน้อง เขตรัฐรับปาก ที่ท่าเรือ นักรบให้เขตรัฐลงมาในเรือที่มีถาวรคุมท้าย จอมขวัญนั่งอยู่ตรงกลาง เขาเข้าไปกอดจอมขวัญเอาไว้และได้ฟังนักรบซึ่งดูเหมือนควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ ถาวรเห็นท่าไม่ดีกระโดดหนี แต่ก็ถูกนักรบยิงตายอย่างแม่นยำ พร้อมสั่งให้จอมขวัญบังคับเรือ เธอจึงบังคับเรือให้ชนโขดหิน นักรบกระโดดตกจากเรือ เขตรัฐพยายามช่วยน้องชายเอาไว้ลากขึ้นเรือในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บจากคมหินใต้น้ำ ท่ามกลางความเหนื่อยล้า จู่ๆ นักรบที่นอนนิ่งก็คว้าปืนจากเอวของวรพจน์ยิงตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตา เขตรัฐเสียใจมากที่เขาไม่อาจรักษาสัญญากับแม่เลี้ยงของเขาเอาไว้ได้ ด้านเขตรัฐและจอมขวัญลงเรือยางอีกครั้งเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจและปลอบโยนซึ่งกันและกัน เขาขอเธอแต่งงานอีกครั้งแต่จอมขวัญก็ยังคงดื้อดึงตามแบบของเธอ ครั้งนี้เขตรัฐรู้แล้วว่าเธอคงไม่จากเขาไปไหนอีกอย่างแน่นอน

ชื่อไทย : กลับบ้านเรานะ…รักรออยู่
ชื่ออังกฤษ : Glub Ban Rao Na…Ruk Ror Yoo
ละครช่อง : ช่อง 7
ผลิตโดย : บริษัท 559 ออนแอร์ จำกัด
บทประพันธ์ : ชาครียา
บทโทรทัศน์ :
กำกับการแสดง : ปัญญา ชุ่มฤทธิ์
แสดงนำ : ดนุพร ปุณณกันต์, พิยดา อัครเศรณี, ศราวุธ นวแสงอรุณ, ภัสสรี กังวานพงศ์
ออกอากาศ : 24 สิงหาคม 2547 – 4 ตุลาคม 2547
วันออกอากาศ : จันทร์ – อังคาร
เวลาออกอากาศ : 20:25 – 22:25 น.
จำนวนตอน : 12
ความยาวตอน :
เรทละคร :

 

เป็นคนแรกที่รีวิว “กลับบ้านเรานะ…รักรออยู่”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน