นางพญาไพร 2542
ลักษณวงศ์ 2542

ลักษณวงศ์ (2542/1999) ท้าวพรหมทัต มีมเหสี ชื่อ สุวรรณอำภา และมีพระราชโอรส ชื่อ ลักษณวงศ์ ทรงพามเหสีพร้อมด้วยพระราชโอรสเสด็จประพาสป่า ได้พบนางยักษ์แปลงเป็นสาวสวยทำเล่ห์กลจนท้าวพรหมทัตลุ่มหลง ต่อมาจึงสั่ง ประหาร มเหสี และพระโอรส แต่เพชฌฆาตสงสารจึงปล่อยไป นางสุวรรณอำภาถูกพระยายักษ์พาตัวไป ฤๅษีนำลักษณวงศ์ไปเลี้ยงคู่กับนางทิพย์เกสร เมื่อโตขึ้นเรียนวิชาจนสำเร็จและได้นางทิพย์เกสรเป็นชายา ได้ฝากนางไว้กับฤๅษี ออกตามหามารดาจนพบและ กู้บ้านเมืองได้ และได้นางยี่สุ่น เป็นชายา นางทิพย์เกสรปลอมเป็นพราหมณ์ติดตามมาพบพระลักษณวงศ์ ด้วยความน้อยใจ จึงไม่แสดงตนให้พระลักษณวงศ์รู้ นางยี่สุ่นริษยาที่สามี ใส่ใจพราหมณ์มากจึงวางอุบาย กำจัดพราหมณ์เกสร ในที่สุดพราหมณ์ถูกประหาร ร่างของนางจึงกายเป็นหญิง ลักษณวงศ์เสียใจมาก

เทพศิลป์ อินทรจักร 2542

เรื่องย่อ : เทพศิลป์ อินทรจักร (2542/1999) ท้าวจตุรพักตร์ พญายักษ์ผู้ครองเมืองกลางหาว ได้บังอาจเหิมเกริมบุกแดนสวรรค์ ทำลายวิมานของเหล่าเทวดานางฟ้าจนได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว พระสยมภูวญาณผู้เป็นใหญ่จึงได้ส่งให้เทพบุตรตนหนึ่ง พร้อมด้วยจักรแก้วจุติลงไปยังโลกมนุษย์เพื่อปราบท้าวจตุรพักตร์และวงศ์วานยักษ์ให้สิ้นไป นอกจากนี้ ยังได้ส่งให้เทพบุตรจำนวนหนึ่ง จุติตามลงไปเพื่อเป็นทหารเอกช่วยทำศึกกับท้าวจตุรพักตร์ด้วย เทพบุตรและจักรแก้วจุติลงมาเป็นโอรสของกษัตริย์เมืองหนึ่ง เทพบุตรจุติลงมาเป็นโอรสองค์พี่ ได้นามว่า เทพศิลป์ ส่วนจักรแก้วจุติลงมาเป็นโอรสองค์น้อง นามว่า อินทรจักร เมื่อเทพศิลป์และอินทรจักรเจริญวัย พระบิดาก็ได้ส่งไปร่ำเรียนวิชากับพระฤๅษีที่ในป่าลึก และพระฤๅษีได้ทำพิธีขออาวุธจากพระสยมภูวญาณให้แก่สองกุมาร โดยเทพศิลป์ได้ธนูเป็นอาวุธ ส่วนอินทรจักรได้จักรแก้วเป็นอาวุธ ทั้งสองพี่น้องร่ำเรียนวิชากับพระฤๅษีจนเติบโตเป็นหนุ่มก็สำเร็จวิชา หลังจากสองพี่น้องกลับเมืองมาได้ไม่นาน พระสยมภูวญาณก็ได้ประกาศหาผู้ที่สามารถดันเขาพระสุเมรุที่ทรุดเอียงจากการโจมตีของท้าวจตุรพักตร์ให้กลับมาตั้งตรงได้ดังเดิม ซึ่งเทพศิลป์สามารถทำได้สำเร็จ พระสยมภูวญาณจึงได้เสกดอกมณฑาบนสวรรค์ให้เป็นนางงาม นามว่า เทพมณฑา ยกให้เทพศิลป์นำไปเป็นชายา เมื่อท้าวจตุรพักตร์ได้เห็นนางเทพมณฑา ก็เกิดหลงรัก จึงดักชิงไประหว่างทาง ทำให้เทพศิลป์และอินทรจักรต้องร่วมกันทำศึกกับท้าวจตุรพักตร์เพื่อชิงนางเทพมณฑากลับคืนมา เทพศิลป์และอินทรจักรได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าเทพบุตรที่จุติลงมาเป็นทหารเอกในการทำศึก แต่ทั้งสองไม่สามารถปราบท้าวจตุรพักตร์ และตรีพักตร์ผู้เป็นโอรสได้ เนื่องจากทั้งสองได้ถอดดวงใจไปเก็บไว้ในที่ห่างไกล ตราบจนกระทั่ง ที่ซ่อนดวงใจถูกเปิดเผย เทพศิลป์และอินทรจักรจึงสามารถทำลายดวงใจปราบท้าวจตุรพักตร์ลงได้

ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง 2541

เรื่องย่อ : ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง (2541/1998) จันทรานคร เกิดทุกข์เข็ญข้าวยากหมากแพง แห้งแล้ง ประชาชนอดอยาก องค์เหนือหัวจันทราทิตย์ฝันว่ามีโครงกระดูกยักษ์มาบอกว่า ถ้าจะช่วยบ้านเมืองได้ต้องไปตามหาดาบเจ็ดสี ไกรเดชโอรสองค์โตอาสาออกไปตามหาดาบเจ็ดสี โดยตกลงว่าถ้าอีก 1 ปี ไกรเดชยังไม่กลับมา จะให้เพชรา โอรสองค์เล็ก ซึ่งเป็นฝาแฝดกันไปตามหา

จน กระทั่งครบ 1 ปี ไกรเดชก็ยังไม่กลับมา เพชราจึงออกไปตามหาพี่ชายและดาบเจ็ดสี โดยมีเจ้าแก้ว มหาดเล็กคนสนิทตามไปด้วย เพชราเดินทางไปพบฤาษีฝ่ายดี 5 ตน คือ โอม สุ จิ ปุ ลิ เสกไม้เท้าวิเศษ ที่พอท่องชื่อฤาษีทั้ง 5 ก็จะกลายเป็นม้าบินได้ ถ้าท่องกลับหลัง ก็จะกลับเป็นไม้เท้าตามเดิม ถ้าจะให้เป็นทวน ท่องว่าไงจำไม่ได้ ไม้เท้าพูดได้ด้วย แล้วก็ให้ลูกแก้วที่อมแล้วยืดหยุ่นตัวได้ให้เจ้าแก้ว

เพชรากับแก้ว หลงเข้ามาในเขตเมืองมนุษย์ครุฑา ครุฑาเทพจึงสาปทั้งสองให้กลายเป็นกวาง เพื่อกันไม่ให้ธิดาของตนผิดหวังกับพวกมนุษย์ สุวรรณมาลัยเป็นธิดาของครุฑาเทพที่เกิดจากนางมนุษย์ เพชราเห็นสุวรรณมาลัยก็หลงรัก และบอกนางว่าตนถูกบิดาของนางสาป สุวรรณมาลัยเลยหาทางแก้คำสาปให้ และหาทางเอาไม้เท้ามาคืนให้ เมื่อสุวรรณมาลัยแก้คำสาปให้เพชราและแก้วกลับเป็นมนุษย์ ก็ตกใจเพราะไม่เคยเห็นมนุษย์ผู้ชายมาก่อน เพชราเกี้ยวนาง และบอกว่าจะรอนางที่สวน แต่สุวรรณมาลัยไม่ยอมลงมาหา เพชราจึงแปลงเป็นนางกำนัลขึ้นไปหาบนตำหนัก ทั้งสองอยู่ด้วยกันหลายวันจนนางกำนัลสงสัยเลยไปบอกครุฑาเทพ

ครุฑา เทพจึงจับได้ว่าเพชราลักลอบเข้าหาธิดาของตน เพชราหนีออกจากนครมนุษย์ครุฑา แต่ครุฑาเทพตามมาทันจึงต่อสู้กัน เพชราสู้ลมพายุของครุฑาเทพไม่ได้ แต่สุวรรณมาลัยมาช่วยไว้ เอาตัวแลกบินเข้าไปในพายุ ครุฑาเทพจึงต้องยอมไว้ชีวิตเพชรา และจะจัดงานอภิเษกให้ แต่เพชราขอออกไปตามหาพี่ชายและดาบเจ็ดสีก่อน ครุฑาเทพจึงยอมปล่อยไปและให้สัญญาว่าจะต้องกลับมาให้สุวรรณมาลัย เพชรา กับแก้วเดินทางต่อไป ต่อสู้กับพวกภูติปิศาจมากมาย ไปจนถึงสถานที่ที่แห้งแล้ง ไร้น้ำ ไร้อาหาร จนสุดท้ายก็สลบไป มาฟื้นอีกทีก็พบว่าตัวเองได้รับการดูแลอยู่ในเมืองประหลาด คือทั้งเมืองมีแต่ผู้หญิง แม้แต่ทหารก็เป็นผู้หญิง มีแต่จ้าวผู้ครองเมืองคนเดียวที่เป็นผู้ชาย จึงได้รู้ว่าเมืองนี้ชื่อนครเนมิน มีธิดาชื่อ วนาลี ตอนแรกวนาลีคิดว่าเพชราเป็นไกรเดชที่เคยเดินทางผ่านเมืองนี้ แต่พอดูดีๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่ เพชราทำเจ้าชู้ใส่วนาลี วนาลีบอกว่าเพชราเหมือนคนที่ตนเคยรู้จักเมื่อประมาณ 1 ปีมาแล้ว เพชรารู้ว่าวนาลีหมายถึงไกรเดชจึงถามว่าไกรเดชอยู่ที่ไหน ต่อท้าย #2 26 ม.ค. 2554 , 18:11:56 วนาลีบอกว่า ไกรเดชหายสาปสูญไป หลังจากไปต่อสู้กับพ่อมดผาดำ และตัวเองก็ถูกอนันตนาคราชหมายปอง แต่เพราะไม่ยอม อนันตนาคราชเลยฆ่าผู้ชายทุกคนในเมืองทิ้ง ยกเว้นองค์เหนือหัว และปิดทางออกจากนครเนมินด้วยความแห้งแล้งไม่ให้ใครหนีไปได้ และคืนนี้ถ้าหากวนาลีไม่ยอมเป็นชายาของอนันตนาคราช ก็จะขึ้นมาฆ่าทุกคนในเมือง

เพชราอาสาช่วยทุกคน คืนนั้นวนาลีลอยประทีปให้อนันตนาคราชขึ้นมารับตัว เพชราเข้าไปขวางและต่อสู้ทำให้วนาลีไม่ต้องตกเป็นของอนันตนาคราช เพชราและแก้วไปต่อสู้กับพ่อมดผาดำเพื่อล้างคำสาปให้นครเนมิน แต่ถูกพ่อมดผาดำสาปให้กลายเป็นหินทั้งคู่ รวมทั้งไม้เท้าแก้วด้วย

นก แก้วตัวหนึ่งบินมาบอกวนาลีว่า ให้ไปช่วยเพชราจากการถูกสาป วนาลีไปถึงหน้าปากถ้ำของพ่อมดผาดำ ซึ่งมีร่างของเพชราและแก้วยืนอยู่ นกแก้วบอกวนาลีว่า จะต้องใช้เลือดของนางผสมกับผงวิเศษของพ่อมดผาดำ ที่เก็บอยู่ใต้หมอนของมัน วนาลีพยายามทำทุกอย่าง เพื่อจะได้ผงวิเศษมา ทั้งเสี่ยงตายเข้าไปในถ้ำ และจูบกับสัตว์น่าเกลียด และฆ่าพ่อมดผาดำตาย (มั้ง)

วนาลีฆ่าตัวตายเพื่อใช้เลือดตัวเองผสมกับผงวิเศษ ตามที่นกแก้วบอก นางเอาเลือดตัวเองป้ายร่างของเพชราและแก้ว และทั้งสองก็พ้นคำสาป เมื่อเห็นวนาลียอมเสียสละตัวเอง ก็ช่วยทำให้นางฟื้น ต่อท้าย #3 26 ม.ค. 2554 , 18:12:38 (วิธีไหนก็จำไม่ได้แล้ว)

เมื่อพ่อมดผาดำตาย นครเนมินก็พ้นคำสาป อนันตนาคราชหนีรอดไปได้ เพชราจึงออกเดินทางตามหาดาบเจ็ดสี และไกรเดชต่อไป

สิงห์ เป็นหนุ่มพเนจรเร่ร่อน พอดีหนีพวกโจรเข้าไปติดอยู่ในถ้ำสมบัติ แต่สิงห์ไม่ใช่คนโลภเลยไม่เอาสมบัติไป แต่อธิษฐานขอว่าถ้ามีของชิ้นไหนที่ตัวเองมีบุญพอขอให้กระเด็นออกมา ก็มีแหวนวงนึงกระเด็นออกให้สิงห์ แต่พอกำลังจะออกจากถ้ำ ก็ถูกปิศาจที่เฝ้าถ้ำขังเอาไว้ สิงห์เผอิญไปถูถูกหัวแหวน ทำให้มี 2 กุมาร ฤทธิ์ และ เดช ออกมา (เหมือนตะเกียงจินนี่อ่ะ) ฤทธิ์เดชบอกว่าเป็นกุมารในแหวน มีหน้าที่คอยรับใช้ผู้เป็นเจ้าของแหวนจะสั่งมา มีแค่ 2 อย่างที่ทำไม่ได้ (มั้ง) คือ ทำให้คนรักกันไม่ได้ และไม่สามารถสู้อำนาจดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสงได้

สิงห์ขอให้ทั้งสองพาออกจากถ้ำ สิงห์เดินทางหนีพวกปิศาจไปถึงอุตรนคร นครนี้มีธิดางดงามชื่อ อมราวดี แต่นางมีนิสัยโหดร้าย เพราะได้รับการเลี้ยงดูจากแม่เฒ่าเมาฬี ซึ่งเป็นปิศาจแมว อมราวดีหลอกล่อให้ผู้ชายมาหลงรักตน และต้องตายถ้าหากหาของที่ตนต้องการมาให้ไม่ได้ และร่างของคนที่ตายก็จะกลายเป็นปุ๋ยให้ต้นกุหลาบดำ มเหสีอำภา แม่ของอมราวดีไม่เห็นด้วยกับการกระทำของอมราวดี แต่เพราะเหนือหัวอุตระก็มีนิสัยโหดเหี้ยมเช่นกัน จึงไม่สามารถทำอะไรได้

สิงห์ มาอาศัยอยู่กับตายายเฝ้าอุทยาน และออกไปช่วยทำสวน เมื่อเห็นอมราวดีก็หลงรัก ทั้งที่ตายายเตือนแล้วว่านางมีไฟในดวงตา (มันคงเป็นเสน่ห์และความร้อนแรงมั้ง เวลาที่สิงห์จ้องตาอมราวดีครั้งแรกก็เห็นเปลวไฟลุกอยู่ในดวงตา) จึงให้ตายายไปสู่ขอ ตายายกลัวถูกประหารแต่ก็ไปขอให้ อมราวดีนึกสนุก จึงขอสะพานเงินสะพานทองพร้อมขบวนขันหมากเงินขันหมากทองทอดจากอุทยานมาที่ ตำหนักของตนพรุ่งนี้เช้า ถ้าไม่มีจะถูกประหาร

คืนนั้นสิงห์จึงให้ ฤทธิ์และเดชเนรมิตสะพานเงินสะพานทองให้ อมราวดีตื่นมาเห็นก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะมีใครทำได้ จะไม่ยอมแต่งงาน แต่แม่เฒ่าเมาฬีบอกว่าให้ยอมแต่งงานไปก่อน แล้วค่อยหาวิธีกำจัด

อมราวดี แกล้งทำเป็นรักสิงห์ และหลอกถามสิงห์ว่าเพราะอะไรถึงเสกสะพานเงินสะพานทองมาได้ สิงห์หลงกลอมราวดีทั้งที่ฤทธิ์กับเดชเตือนแล้วว่าอย่าไว้ใจนาง บอกว่าที่ทำได้เพราะมีแหวนวงนี้ อมราวดีแย่งแหวนไป และจะฆ่าสิงห์ แต่สิงห์หนีรอดไปได้ ระหกระเหินไปเจอเพชรากับแก้วช่วยไว้ จึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง เพชราอาสาช่วยสิงห์ ด้วยการแกล้งขี่ม้าผ่านอุตรนคร ให้เหนือหัวอุตระและอมราวดีเห็น ก็เกิดความโลภอยากได้ม้า จึงเชิญเพชราเข้ามาในวัง

เพชราหลอกล่อ ชิงหัวแหวนวิเศษกลับคืนมาให้สิงห์ได้ สิงห์แก้แค้นด้วยการลักพาตัวอมราวดีออกจากเมืองให้มาตกระกำลำบากในป่า อมราวดีฤทธิ์มากและร้ายกาจ แต่สิงห์ก็ไม่ยอมใจอ่อนให้ เพราะแค้นฝังใจ เพชรากับสิงห์แยกทางกัน เพราะเพชราจะต้องเดินทางไปตามหาดาบเจ็ดสี อมราวดีพยายามหนีสิงห์ แต่ก็ไม่เคยไปรอด แม่เฒ่าเมาฬีออกมาตามหาอมราวดี โดยให้ผีดิบกาฬราชช่วยตามหา โดยเอาอมราวดีมาล่อว่าจะได้นางเป็นชายา

เพ ชราเดินทางมาถึงเขตถ้ำมรกต ต้องผจญกับยักษ์ที่เฝ้าสระมรกต ยักษ์กินแก้วเข้าไป โดยให้เพชราตอบปัญหาถ้าตอบได้ก็จะคลายแก้วออกมาให้ เพชราตอบได้ แก้วเกือบไม่รอด พอผ่านยักษ์ข้างหน้าแล้วก็เจอกับบรรดาปิศาจที่เฝ้าถ้ำ รวมถึงภาพมายาต่างๆ ที่แสดงให้เห็นไกรเดช สุวรรณมาลัย วนาลี นกแก้ว และสิงห์ แต่ก็รอดมาได้

จน กระทั่งถึงด่านสุดท้าย เป็นโครงกระดูกยักษ์ที่เคยมาเข้าฝันกษัตริย์จันทราทิตย์ให้มาตามหาดาบเจ็ด สี คือโครงกระดูกนี่ต้องการหาตัวตายตัวแทนมาเฝ้าดาบแทน (ประมาณนั้นมั้ง จำไม่ค่อยได้) เพชราต่อสู้กับโครงกระดูกยักษ์ ในที่สุดก็ชนะได้และได้ดาบเจ็ดสีกลับไปช่วยบ้านเมือง ต่อท้าย #4 26 ม.ค. 2554 , 18:13:09 ลืมบอกไปอีกอย่างด้วยว่า สิงห์มีหมาดำตัวนึง ชื่อ ดำทมิฬ คอยติดตามรับใช้ตลอดเวลา (กาฬชอบดำทมิฬมากเลย)

อมราวดี ระหกระเหินอยู่กับสิงห์จากความเกลียดเริ่มกลายเป็นความซาบซึ้งใจนิดๆ ที่สิงห์ช่วยเหลือตนจากสัตว์ร้าย กาฬราชสาปให้สิงห์กลายเป็นแวมไพร์ โดยมีข้อแม้ว่าถ้าจะแก้คำสาป ต้องได้ความรักจากผู้หญิงที่เกลียดตนที่สุด หรือไม่ก็มณีเจ็ดแสง กาฬราชและเมาฬีแยกสิงห์กับอมราวดีออกจากกัน เพื่อไม่ให้สิงห์พ้นคำสาปได้

ฝ่ายวนาลีได้แปลงเป็นผู้ชายออกเดินทางตามหาเพชรา เพราะต้องการดาบเจ็ดสีมาแก้คำสาปให้ไกรเดช

ระหว่าง ทางที่เดินทางกลับ พวกเพชรา แก้ว ไม้เท้า มาพบสิงห์ที่บาดเจ็บ พักแรมในป่า ท้าวพันตาผ่านมาเห็นก็อยากได้ดาบเจ็ดสี จึงสะกดทุกคนให้หลับ แล้วขโมยดาบเจ็ดสีไป ก่อนจะโยนทุกคนกระเด็นไปคนละทาง เหลือแต่หมาดำกับไม้เท้าที่ท้าวพันตาไม่สนใจ เพชรากระเด็นไปตกบนยอดปราสาทบนยอดเขาของ ลีลาวดี ธิดาของท้าวพันตา ฝ่ายไม้เท้ากับดำทมิฬตื่นมาไม่เห็นทุกคนก็ออกตามหาจนมาเจอแก้วกับสิงห์

ท้าว พันตานำดาบเจ็ดสีที่ขโมยมาได้ ไปขู่บังคับให้ครุฑาเทพยก สุวรรณมาลัยให้เป็นมเหสีตน แต่เมื่อมาพบว่าสุวรรณมาลัยกำลังครรภ์แก่ ก็ประหลาดใจ แต่ยังไงก็ยังต้องการนางไปเป็นมเหสี จึงนำนางกลับไปยังนครพันตา

ฝ่ายเพชราได้พบกับลีลาวดีก็จีบเค้าอีก จนได้รู้ว่า ท้าวพันตาที่ขโมยดาบเจ็ดสีไป เป็นบิดาของนาง เพชราจึงหาทางเอาดาบเจ็ดสีคืน

สิงห์ กลับไปช่วยอมราวดีออกมาจากถ้ำค้างคาว และได้แหวนวิเศษคืนมา จึงให้ฤทธิ์กับเดชไปตามเพชรา แต่เพชรายังไม่ยอมกลับ เพราะจะชิงดาบเจ็ดสึคืน

พวกนางสนมของท้าวพันตาไม่พอใจที่ท้าวพันตาจะ เอาสุวรรณมาลัยมาเป็นมเหสี จึงส่งจดหมายไปบอกลีลาวดี ลีลาวดีไม่พอใจและเสียใจมากจึงมาเอาเรื่องกับท้าวพันตา ท้าวพันตาจึงให้อัคนี ซึ่งเป็นหลานชายมาดูแลลีลาวดี เพราะหวังอยากให้ทั้งสองแต่งงานกัน แต่ลีลาวดีไม่ได้รักอัคนี

คืน วันพระจันทร์เต็มดวง สิงห์ถูกกาฬราชครอบงำให้ไปชิงดาบเจ็ดสีจากท้าวพันตามาให้กาฬราช ทำให้สิงห์ได้รับบาดเจ็บ อมราวดีจึงรู้ว่า สิงห์กลายเป็นผีดิบ

เพ ชรารู้เรื่องสุวรรณมาลัยจากลีลาวดี ไหนยังจะดาบเจ็ดสีอีก ลีลาวดีเห็นใจเรื่องดาบเจ็ดสี แต่ไม่รู้ว่าเพชรามีชายาอยู่แล้ว ใจก็นึกเอนเอียงมาหาเพชรา เพชราต่อสู้กับท้าวพันตาจนถูกดูดเข้าไปในน้ำเต้า

นาง สนมของท้าวพันตาช่วยพาสุวรรณมาลัยหนีออกไปได้ ท้าวพันตาออกติดตามไป สุวรรณมาลัยหนีไปพบกับวนาลีที่ปลอมตัวเป็นชายและพวกโจรป่า นางคลอดลูกกลางป่า เป็นโอรสฝาแฝดที่มีบุญญาธิการ เกิดมาแล้วโตเท่าเด็กอายุ 10 ขวบเลย ชื่อ พนาเวศ พนมวัน มีต่างหูเพชรคนละข้างเป็นอาวุธ

พนาเวศพนมวันออกมาเจอท้าวพันตาและ ต่อสู้กัน ทำให้น้ำเต้าตกเพชรากระเด็นหลุดออกมาและชิงดาบเจ็ดสีคืนมาได้ เพชราได้พบโอรสทั้งสอง แต่ไม่รู้ว่าเป็นลูกของตน พนาเวศพนมวันเล่าให้สุวรรณมาลัยฟังว่าเจอเพชรา สุวรรณมาลัยได้ฟังก็รู้ว่าเป็นสวามีของตน ก็เจ็บใจที่เพชราได้ดาบเจ็ดสีแล้วไม่กลับมาหาตน ปล่อยให้ต้องตกระกำลำบาก

พนาเวศพนมวันรู้ว่าพ่อของตนเป็นใครก็ ออกตามหา และจับยุงผีตัวยักษ์ได้ไว้เป็นพาหนะ จนมาเจออนันตนาคราช อนันตนาคราชล่อหลอกจนรู้ว่าทั้งสองเป็นโอรสของเพชรา จึงหลอกจับตัวไว้ได้เพื่อเป็นเหยื่อล่อ แต่พนาเวศพนมวันหนีรอดมาได้ หนีแต่ยุงผี อนันตนาคราชบอกกับเพชราเรื่องที่มีโอรสทั้งสองเป็นตัวประกัน เพชราจึงได้รู้ว่า สุวรรณมาลัยมีลูกกับตน และเด็กที่เจอก็คือลูก เพชราช่วยยุงผีออกมาได้ และได้มาพบโอรสที่พระฤาษีทั้ง 5 ช่วยไว้ เพ ชราไม่อยากจะเชื่อที่โอรสของตนจะโตได้เร็วขนาดนี้ พนาเวศพนมวันมาพบสุวรรณมาลัย นางก็โกรธจนไม่ยอมคืนดีด้วย วนาลีรู้เรื่อง ก็อยากจะขอยืมดาบเจ็ดสีไปแก้คำสาปให้ไกรเดช แต่คิดว่าเพชราคงไม่ให้ยืม ต่อท้าย #5 26 ม.ค. 2554 , 18:13:40 สิงห์พาอมราวดีเดินทางไป ตามหามณีเจ็ดแสงที่ป่าหิมพานต์ เพราะคิดว่าคงไม่มีหว้งที่จะได้รับความรักจากอมราวดี อมราวดีถูกวิทยาธรชิงตัวไป สิงห์เข้าไปช่วยจนได้รับบาดเจ็บ แต่เพราะตนมีเลือดผีดิบจึงไม่ตาย ดำทมิฬเรียกไม้เท้ามาช่วย อมราวดีช่วยดูแลสิงห์ด้วยความสงสาร แต่สุดท้าย นางก็ขโมยแหวนวิเศษหนีกลับอุตระนคร เพราะกลัวว่าตนเองจะหลงรักสิงห์ ไม้เท้าจึงต้องกลับไปหาเพชรา เพื่อตามเพชรามาช่วยสิงห์ที่ป่าหิมพานต์ อัคนีอยากจะเอาชนะใจลีลาวดี จึงไปตามเพชราไปเพื่อชิงดาบเจ็ดสี

เมื่อ เพชรามาถึงป่าหิมพานต์พร้อมกับดาบเจ็ดสี ทำให้มณีเจ็ดแสงปรากฏขึ้นพร้อมกับเทพธิดาน้อยผู้ดูแลรักษา เพราะดาบเจ็ดสีและมณีเจ็ดแสงเป็นอาวุที่ดึงดูดกัน และเมื่อพบกันก็จะเข้าห้ำหั่นกันทันที สิงห์ได้มณีเจ็ดแสงมา แต่ต้องคอยคืนวันเพ็ญก่อน อัคนีจึงหลอกล่อชิงมณีเจ็ดแสงมาได้

อมราวดีรู้ใจตนเองว่ารักสิงห์ จึงให้ฤทธิ์กับเดชพานางกลับมาหาสิงห์ สิงห์ดีใจมากที่ในที่สุดอมราวดีก็รักตน

พนาเวศ พนมวันช่วยกันออกตามหานกแก้วไกรเดช มาเจอท้าวพันตาและถูกท้าวพันตาฆ่าตาย เพชรามาไม่ทัน มาเจอโอรสถูกฆ่าตายแล้วก็เสียใจ สุวรรณมาลัยรู้เรื่องก็เป็นลมหมดสติ เพชรามัวแต่ห่วงสุวรรณมาลัย ท้าวพันตาจึงหนีรอดไปได้ ครุฑาเทพที่ออกมาตามหาธิดาจึงพาสุวรรณมาลัยกลับนครมนุษย์ครุฑา

เพ ชราและครุฑาเทพแค้นใจท้าวพันตา เพชราจึงคิดจะกลับไปฆ่าท้าวพันตาที่นครพันตา แต่ท้าวพันตารู้ทัน เลยแลกห้องนอนกับลีลาวดี เพราะรู้ว่า เพชราชอบลูกสาวตนอยู่คงไม่ทำอะไรนาง

เพชราเข้ามาเจอลีลาวดีแทนที่จะเป็นท้าวพันตาก็โกรธแค้นมาก หาว่าท้าวพันตาขี้ขลาด ลีลาวดีทะเลาะกับเพชรา จนเพชราข่มเหงนางเป็นการแก้แค้น ว่าถ้าทำลายลูกที่รักดังแก้วตาดวงใจของท้าวพันตาได้ก็เหมือนท้าวพันตาได้ ตายทั้งเป็น

พอท้าวพันตารู้ว่าลีลาวดีตกเป็นของเพชราแล้วก็แค้นใจ จนกระอักเลือด แต่อัคนีก็ยังคงพยายามจะเอาชนะใจลีลาวดีอย่างไม่รังเกียจ เพชรากลับมาอยู่กับสุวรรณมาลัยที่นครมนุษย์ครุฑา ในขณะที่ใจก็ยังคิดถึงลีลาวดีอยู่บ้าง จนเผลอแสดงอาการให้สุวรรณมาลัยหึงหวง ต่อท้าย #6 26 ม.ค. 2554 , 18:14:13 เพ ชราออกตามหานกแก้วไกรเดชต่อ จนพบ แต่เพราะคำยุยงของ อนันตนาคราชและกาฬราชที่แปลงเป็นฤาษีหลอกว่าต้องฆ่านกแก้ว ไกรเดชจึงจะออกมาจากร่างนกแก้วได้ เพชราทำตามนั้น แต่กลับกลายเป็นว่าฆ่าไกรเดชตาย โดยที่เพชราก็ยังไม่เข้าใจ

กาฬราช และอนันตนาคราชยุยงวนาลี ว่าเพชราฆ่าไกรเดช แต่กาฬราชสามารถชุบชีวิตไกรเดชขึ้นมาใหม่ได้ และบอกว่า จันทรานครล่มสลายไปแล้วเพราะความแยกแค้นแสนเข็ญ ทั้งไกรเดชและเพชรากลับไปไม่ทัน ไกรเดชโกรธแค้นคิดว่าเป็นความผิดของเพชรา

ไกรเดชและวนาลีจึงเดินทางตามหาเพชราและพยายามจะแย่งชิงอาวุธวิเศษมา

ระหว่าง นี้ ดาบเจ็ดสี และ มณีเจ็ดแสง ก็ถูกเปลี่ยนมือไปมา จนเวียนหัว กาฬเองก็จำไม่ได้ว่า ใครได้ก่อน จำได้แต่ว่า ไกรเดชได้ดาบเจ็ดสี เพชราได้ดาบมณีเจ็ดแสงสลับกับดาบเจ็ดสี อัคนีก็ได้ดาบเจ็ดสีสลับกับมณีเจ็ดแสง บางทีดาบกับมณีก็ไปตกอยู่กับ กาฬราช แม่เฒ่าเมาฬี อนันตนาคราช ใครได้อาวุธไปครองก็ต่างเกิดความระแวงกลัวถูกหักหลังกัน

ท้าวพันตา กลัวว่าตนจะไม่สามารถรับมือกับอาวุธวิเศษทั้งสองได้ จึงไปพบฤาษีฝ่ายชั่ว คือ โอม อะ โล โม โต เสกม้าเท้าดำขึ้นมาต่อสู้กับไม้เท้าแก้วของเพชรา ในขณะที่สิงห์กำลังมี ความสุขกับอมราวดี ก็ถูกกาฬราชใช้มุกเดิม ทำให้สิงห์กลายเป็นแวมไพร์อีกครั้ง คราวนี้วิธีแก้คำสาปเปลี่ยนเป็นอะไรไม่รู้ แต่อย่างหนึ่งคือ ต้องได้ยินคำบอกรักจากอมราวดี กาฬราชจึงจับสิงห์กับอมราวดีแยกจากกัน

อมราวดี ออกตามหาสิงห์จนมาพบกับไกรเดชและวนาลีท ไกรเดชสงสารและประทับใจในความงามของนางจึงเปลี่ยนใจจากวนาลีมาเป็นอมราวดี ทำให้วนาลีน้อยใจมาก

วิญญาณของพนาเวศกับพนมวัน มาเกิดใหม่ โดยคนหนึ่งเกิดในครรภ์ของสุวรรณมาลัย อีกคนเกิดในครรภ์ของลีลาวดี และคลอดออกมามีอิทธิฤทธิ์ทั้งคู่ ทั้งครุฑาเทพและท้าวพันตาเห่อหลานมาก ลูกของสุวรรณมาลัยชื่อว่า เพชรไพรวัลย์ ลูกของลีลาวดีชื่อว่า พันธาทิตย์

กุมาร น้อยทั้งสองซุกซนออกมาท่องเที่ยวจนได้พบกัน ต่างก็สงสัยเพราะทั้งสองเหมือนกันราวกับฝาแฝด ต่างกลับมาเล่าให้มารดาของตนฟัง เพชรารู้ก็คิดว่าอาจจะเป็นลูกของลีลาวดี

ลีลาวดี ขอให้อัคนีพาตนออกไปตามหาลูกที่แอบหนีออกไปเที่ยวป่า อัคนียอมพาไป ทำให้พบกับเพชราที่ออกมาตามหาเพชรไพรวัลย์เช่นกัน ทั้ง 2 ฝ่ายต่อสู้กัน อัคนีพาลีลาวดีหนีกลับนครพันตามาได้ (รึเปล่า?? ไม่แน่ใจ) ในขณะนั้น ท้าวพันตาก็บุกไปชิงตัวสุวรรณมาลัยมา เพื่อเอามาเป็นตัวประกันต่อรองกับเพชราเรื่องอาวุธวิเศษ

สุวรรณ มาลัย ได้พบกับลีลาวดี และได้รู้ว่า ลีลาวดีก็เป็นชายาอีกคนของเพชรา และมีโอรส เมื่อสุวรรณมาลัยเห็น เพชรไพรวัลย์และพันธาทิตย์พร้อมกัน ก็มั่นใจว่าคือพนาเวศกับพนมวัน 2 กุมารจึงปรองดองกันดี รวมทั้ง 2 ชายาก็ร่วมมือกันแก้เผ็ดความเจ้าชู้ของเพชรา

อมราวดีและวนาลีพลัดหลง กับไกรเดชจนถูกพวกฤาษีโอม อะ โล โม โต จับมาขังไว้ในถ้ำที่ไร้ทางออก อมราวดีพยายามใช้เวทย์มนต์ดำที่เคยเรียนรู้มาจากแม่เฒ่าเมาฬีต่อสู้กับพวก ฤาษีชั่ว จึงถูกพลังกระแทกเข้ามาจนตาบอด

ฝ่ายท้าวพันตา เรียนรู้ที่จะเอาชนะดาบเจ็ดสีและมณ๊เจ็ดแสงด้วยการดูดวิญญาณความชั่วร้าย เข้ามาใส่ในตัวเอง ท้าวพันตาจึงไปไล่ดูดมาหลายร้อยตน รวมทั้ง กาฬราช แม่เฒ่าเมาฬี อนันตนาคราช รวมทั้งไกรเดชด้วย

ท้าวพันตาชั่วร้ายและเหิมเกริมมากขึ้น จนดาบเจ็ดสีและมณีเจ็ดแสงไม่สามารถต้านกำลังได้ และคิดจะฆ่าอัคนีเพื่อดูดวิญญาณด้วย

แต่อัคนีหนีรอดมาได้ เพราะเพชรามาช่วยไว้พอดี ดาบเจ็ดสีและมณีเจ็ดแสงถูกทำลาย

อมราวดีและวนาลีหนีออกมาจากถ้ำได้ ออกมาพบสิงห์ เสียงสิงห์เรียกอมราวดี อมราวดีควานหามาตามเสียงเรียก แต่ ยังไปไม่ทันถึงสิงห์ ก็ถูกพวกฤาษียิงพลังใส่ล้มลงต่อหน้าสิงห์ สิงห์เข้าไปกอดประคองไว้ ก่อนจะตาย อมราวดีบอกรักสิงห์ออกมา ทำให้สิงห์หลุดพ้นจากคำสาป

เทพธิดาน้อยมาขอให้สิงห์รีบไปช่วยเพชราต่อสู้กับความชั่วร้าย และช่วยฝังศพอมราวดีให้

ท้าวพันตาชั่วร้ายจนสามารถฆ่าได้แม้กระทั่งลูกสาวของตนเอง สิงห์ตามมาสมทบ และใช้พลังความดีช่วยอัคนีและเพชราต่อสู้กับท้าวพันตา จนสามารถฆ่าท้าวพันตาได้ในที่สุด

โลก สงบสุข ไม่มีดาบเจ็ดสีและมณีเจ็ดแสงที่คอยแต่จะล้างผลาญกัน เพชราครองรักกับสุวรรณมาลัยและลีลาวดีอย่างมีความสุข อัคนีเข้ามาปลอบใจวนาลีและทำท่าว่าจะไปได้ด้วยดี สิงห์ออกบำเพ็ญศีลอยู่ในป่าหิมพานต์โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก เพราะยังคงรักอมราวดีเพียงนางเดียว

ขวานฟ้าหน้าดำ 2541

เรื่องย่อ : ขวานฟ้าหน้าดำ (2541/1998) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสามีภรรยาคู่หนึ่งไม่มีลูกอาศัยอยู่ในกลางป่า ทั้งคู่รู้สึกเหงาและต้องการมีเด็ก ๆ ไว้เป็นเพื่อน ดังนั้นทั้งคู่จึงคิดที่จะไปขอบุตรกับเทวดา แต่ว่าเพื่อนของเขาแนะนำว่าทั้งคู่ควรจะไปขอบุตรกับเจ้าพ่อเขาเขียว พวกเขาปฏิบัติตามคำแนะนำของเพื่อนและเริ่มประกอบพิธี ท่ามกลางควันธูปและเทียนอันฟุ้งตลบ เจ้าพ่อเขาเขียวก็ปรากฏตัวขึ้นโดยเป็นชายร่างเล็กขนาดเท่าตุ๊กตา เจ้าพ่อบอกทั้งคู่ว่าถ้าหากว่าเขาต้องการลูกจริง ๆ แล้วท่านก็จะไปขอเทวดามาให้คนหนึ่งแต่ว่าทั้งคู่จะต้องรักและดูแลเด็กนั้นอย่างดี ไม่ว่าเด็กนั้นจะพิกลพิการ หรือขี้ริ้วขี้เหร่แค่ไหนก็แล้วแต่ ถ้าหากว่าทั้งคู่ตกลงรับปากท่านก็จะนำเด็กมาให้ตามคำขอ หลังจากทั้งคู่ให้สัญญาแล้ว เจ้าพ่อเขาเขียนวก็ขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อเชิญเทวดาองค์หนึ่งมาเกิดเป็นลูกของสองสามีภรรยาคู่นั้น

สิงหไกรภพ 2540

เรื่องย่อ : สิงหไกรภพ (2540/1997) เรื่องราวการเดินทางของ สิงหไกรภพ โอรสที่ยิ่งใหญ่แห่งนครโกญจา ที่เมื่อครั้นยังเล็กถูกพรากไปโดยพราหมณ์จินดา ระหกระเหินมากลางป่าจนกระทั่งพบกับยักษ์ พินทุกุมาร ก็เกิดความรักจึงนำมาเลี้ยงดูเป็นบุตร สิงหไกรภพต้องสู้รบเพื่อชิงเอาพระขรรค์กลับคืนมาจากเพชรพญาทรมา และตามหา เทวี 4 ตา ผู้สามารถมองเห็นได้รอบทิศและสามารถฆ่าเพชรพญาทรได้เท่านั้น

ลูกที่ถูกลืม 2540

เรื่องย่อ : ลูกที่ถูกลืม (2540/1997) พระ พิมุกเดชาได้ช่วยเหลือแม่เนิ่นจากคนที่รุมทำร้ายและได้พามาให้พักอาศัยและทำ งานอยู่ที่เรือน ลักลอบมีความสัมพันธ์กันจนแม่เนิ่นตั้งท้อง เมื่อแม่เนิ่นคลอดลูกออกมาเป็นชายก็เสียชีวิตและวนเวียนไม่ไปผุดไปเกิดด้วย ความเป็นห่วงลูกที่กลายเป็นใบ้จากสัตย์สาบานว่าจะไม่แพร่งพรายว่าพ่อของลูก เป็นใคร แต่คุณหญิงจุลกา...ภรรยาของพระพิมุกเดชาก็ระแวงว่าเจ้าใบ้เป็นลูกนอกสมรสของ สามีตน คุณหญิงเป็นคนใจคอโหดร้ายก็รังเกียจเดียดฉันท์และถ่ายทอดนิสัยใจคอสู่ ชายใหญ่...ลูกชายคนโต ตรงข้ามกับชายเล็กที่เป็นคนมีเมตตาสงสารใบ้ที่ถูกแม่กับพี่ของตนกลั่นแกล้ง และใช้เป็นที่รองรับอารมณ์เสมอ

น้ำใจแม่ 2540

เรื่องย่อ : น้ำใจแม่ (2540/1997) พระธิดาแก้วปัญหา จะเลือกคู่ครอง โดยได้ตั้งเงื่อนไขไว้ว่า หากชายใดสามารถใช้เชือกคล้องน้ำใส่ตุ่มจนเต็ม และสามารถนำเอาน้ำใจแม่ มาถวายพระธิดาแก้วปัญหาได้ ชายหนุ่มผู้นั้นก็จะได้เป็นคู่ครองของพระธิดา ฝ่ายยักษ์หัสกัณฐ์ เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่าพระธิดาคงต้องการหัวใจของแม่ ยักษ์หัสกัณฐ์จึงเดินทางกลับไปบ้านเมืองของตนและก็จัดการฆ่าแม่ของตนแล้วควักหัวใจออกมาเพื่อนำไปให้แก่พระธิดาแก้วปัญหา แต่พระเอกสามารถตอบได้เลยได้เป็นคู่ครอง ส่วนผกากรอง (ตวง สาวิกา) ได้รับการช่วยเหลือจากฤาษีโดยได้หน้ากากวิเศษที่ใส่แล้วกลายร่างเป็นยายแก่ชื่อ ผกา แล้วเดินทางไปกับพระเอกพร้อมทั้ง เท่งและหนูนุ้ยมณีจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ยายผกาชอบทำท่าเป็นสาว และมีผู้ร่วมเดินทางคือ เท่งกับหนูนุ้ยที่รู้เรื่องก็บอกไม่ได้เพราะโดนสาปให้ปวดท้อง แล้วลุ้นมากว่าเมื่อไหร่พระเอกจะรู้สักที สงสารผกา

ทาสวังหลัง 2539

เรื่องย่อ : ทาสวังหลัง (2539/1996)

(ช) ทาสวังหลังอย่างเรา แม้ใครเขาจะเกลียดชังไม่น้อยใจ กลัวหญิง ตัดเยื่อเสียจนไม่เหลือไย (ญ) หญิงเองเปลี่ยนใจกรุณา (ช) หากทาสจะขอสมัคร จะกุมทาสรักดวงใจ (ญ) แม้หญิงจะปล่อย (ช) ทาสมิยอมไป (ญ) แล้วใครเล่าใครไม่หลงวาจา (ช) แรกรักเริ่มที่วังหลัง (ญ) เหมือนวังรักเราบูชา (ช) อย่าเป็นวังร้าง เสน่หา (ญ) โปรดเมตตานะเจ้าประคุณ (ญ) โอ้พ่อทาสวังหลัง ทั้งชีวิตคงไม่มีใครค้ำจุน (ช) เจียมน้ำ จิตตน ฉันคนมีบาปเป็นทุน (ญ) หญิงจึงแบ่งบุญ จุนน้ำ ใจ (ช) แต่ทาสกลัวช้ำดวงจิต (ญ) พ่อทาสจะคิดทำไม (ช) ชีวิตหญิงเปรียบดังฟ้าเกินไกล (ญ) ฟ้าเอนกิ่งใจให้ถึงมือดิน (ช) วังหลังจะเป็น วังรัก (ญ) สองเราภักดี ชีวิน (พร้อม) ดุจดังฟ้ารักแผ่นดิน ดุจแผ่นดินรักฟากฟ้าเอย

มณีนพเก้า 2539

เรื่องย่อ : มณีนพเก้า (2539/1996) เป็นเรื่องที่ต้องเกี่ยวข้องกับมณีประจำตัวของเทพทั้ง 9 เพราะสองใน 9 เทพ คือเทพศาสตราและเทพีหยั่งรู้ กระทำผิดกฏสวรรค์คือรักกันและมีบุตร เทพศาสตราจึงต้องนำบุตรที่ชื่อมณีแดงไปให้อสูรเลี้ยง ภายหลังอสูรก็เสี้ยมสอนมณีแดงจนทำให้ โลก-สววรค์-บาดาล ปั่นป่วน จนทำให้เทพทั้งหลายต้องออกมาปราบ

กัณหา-ชาลี 2539

เรื่องย่อ : กัณหา-ชาลี (2539/1996) มหาเวสสันดรชาดก เป็นชีวประวัติเรื่องหนึ่งในทศชาติชาดก กล่าวถึงพระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ในการบำเพ็ญทานบารมี ก่อนจะทรงอุบัติเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "มหาชาติชาดก" ในการเทศนา เรียกว่า "เทศน์มหาชาติ" สำหรับ กัณหาชาลี เป็น พระโอรสนาม "ชาลี" และพระธิดานาม "กัณหา" ของ พระเวสสันดร ต่อมา ชูชกได้ไปขอเด็กมาเป็นทาสรับใช้ซึ่ง พระเวสสันดร ก็ยกให้เป็นทานบารมี "ดูก่อนพ่อชาลีลูกรัก พ่อจงมาเพิ่มพูนบารมีของพ่อให้เต็ม จงช่วยโสรจสรงหทัยของพ่อให้เย็นชุ่มฉ่ำ ลูกรักขอลูกจงทำตามคำของพ่อ ขอลูกทั้งสองจงเป็นดังยานนาวาของพ่อไม่หวั่นไหวต่อสาครคือภพ เมื่อพ่อข้ามฝั่งคือชาติแล้ว จักยังมนุษย์ และเทวดาทั้งหลายให้ข้ามพ้นด้วย"

มโหสถชาดก 2538

เรื่องย่อ : มโหสถชาดก (2538/1995) มโหสถชาดก เป็นชาดกเรื่องที่ 5 จากทศชาติชาดก โดยกล่าวถึงพระโคตมโพธิสัตว์ซึ่งเสวยพระชาติเพื่อบำเพ็ญปัญญาบารมีอันเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การตรัสรู้เป็นพระโคตมพุทธเจ้าในที่สุด ในอดีตกาลมีพระราชานามว่า พระเจ้าวิเทหราช ซึ่งปกครองกรุงมิถิลาทรงมีบัณฑิตคู่พระทัยอยู่ 4 คนคือ เสณกะ, ปุกกุสะ, กามินทะ และเทวินทะ ในคืนหนึ่งพระเจ้าวิเทหราชทรงพระสุบินประหลาดจึงโปรดให้ เสณกะ หัวหน้าบัณฑิตทำนายพระสุบิน ก็ทรงทราบว่าจะมีบัณฑิตคนที่ 5 ที่มีสติปัญญาล่วงเลยบัณฑิตทั้ง 4 ถือกำเนิดในมิถิลา ขณะเดียวกันใน หมู่บ้านปาจีนยวมัชฌคาม พระโพธิสัตว์ได้ทรงถือปฏิสนธิในครรภ์ของนางสุมนา ภรรยาของสิริวัฒกเศรษฐี เมื่อผ่านไป 10 เดือนนางสุมนาก็ให้กำเนิดบุตรชายที่ได้ถือแท่งยาออกมา ทันทีที่คลอดเสร็จสิริวัฒกเศรษฐีก็ได้นำแท่งยาไปฝนกับหินบดยาแล้วนำมาทาที่หน้าผาก ปรากฏว่าอาการปวดหัวของท่านเศรษฐีก็หายเป็นปลิดทิ้ง ท่านเศรษฐีจึงตั้งชื่อบุตรชายว่า มโหสถกุมาร แปลว่า กุมารผู้มียาอันมีอานุภาพมาก 7 ปีผ่านไปพระเจ้าวิเทหราชทรงรำลึกได้ว่าเมื่อ 7 ปีก่อนทรงพระสุบินว่าจะมีบัณฑิตคนที่ 5 มาเกิดในยุคของพระองค์จึงโปรดให้มหาอำมาตย์ออกไปสังเกตการณ์ในทิศทั้ง 4 ของมิถิลาซึ่งในที่สุดก็มีมหาอำมาตย์ท่านหนึ่งมาถึงหมู่บ้านที่มโหสถกุมารอาศัยอยู่ก็ได้ยินกิตติศัพท์และชื่อเสียงของมโหสถจึงกลับไปทูลรายงานว่าพบบัณฑิตคนที่ 5 แล้วพระเจ้าวิเทหราชดีพระทัยหมายจะเรียกมโหสถเข้ามาเป็นบัณฑิตในราชสำนัก แต่ทรงถูกเสณกะบัณฑิตยับยั้งไว้โดยอ้างว่าต้องการพิสูจน์ปัญญาของมโหสถกุมาร ในการพิสูจน์ปัญญาของมโหสถกุมารว่าเหมาะสมจะเป็นบัณฑิตคนที่ 5 หรือไม่นั้นมีปัญหาทดสอบเชาวน์ปัญญาของมโหสถกุมารถึง 19 ข้อแต่มโหสถกุมารก็สามารถวิสัชนาปัญหาได้หมด พระเจ้าวิเทหราชจึงรับมโหสถเป็นพระราชโอรสบุญธรรม พร้อมทั้งสถาปนาให้เป็นมหาบัณฑิต ซึ่งชื่อเสียงของมโหสถบัณฑิตก็ไปเข้าพระกรรณของ พระเจ้าจุลนีพรหมทัต ราชาแห่งกรุงพาราณสีที่หมายจะตีกรุงมิถิลา แต่ก็ถูกมโหสถบัณฑิตยับยั้งไว้ได้สำเร็จ จนพระเจ้าจุลนีพรหมทัตต้องขอร้องให้มโหสถมารับราชการที่ราชสำนักของพระองค์แต่มโหสถบัณฑิตได้ปฏิเสธไป แต่ได้ให้สัญญากับพระเจ้าจุลนีพรหมทัตว่าถ้าพระเจ้าวิเทหราชสวรรคตเมื่อไหร่จะไปรับใช้ทันที หลังจากพระเจ้าวิเทหราชสวรรคตมโหสถได้ไปรับใช้พระเจ้าจุลนีพรหมทัตตามสัญญาตราบจนสิ้นอายุขัย

เกราะเพชรเจ็ดสี 2538

เรื่องย่อ : เกราะเพชรเจ็ดสี (2538/1995) พระราชาและมเหสีกัลยาณี แต่งงานอยู่กินกันมานานไม่มีลูก วันหนึ่งได้รับบุตรของราชครูโกศลที่เสียชีวิตไปแล้ว กับนางฉันทา (นางฉันทาตอนหลังได้เป็นสนมเพราะใช้มนตร์ทำเสน่ห์ให้กษัตริย์หลง) มาเป็นบุตรบุญธรรมซึ่งก็คืออัคนินทร์ ต่อมา มเหสีกัลยาณีเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและคลอดบุตรออกมาเป็นสุริยวงศ์เทวัญ พอนางฉันทาทราบความกลัวเสียอำนาจจึงสร้างเรื่องต่างๆนาๆเพื่อให้เห็นว่าไม่ใช่ผู้มีบุญญาธิการมาเกิด กษัตริย์ก็หลงเมียน้อยจนขับไล่ลูกในใส้กับเมียออกไปจากมาตุภูมิโดยให้เหตุผลว่าทำเพื่อบ้านเมือง นางฉันทาได้ส่งคนไปตามล่า แต่ความดีที่เคยสั่งสมมาของเจ้าชายง่อยทำให้สวรรค์ดลใจให้ไปพบอาวุธวิเศษคือเกราะเพชรมาสวมใส่รอดพ้นจากอันตรายมาเอาชนะคนพาล

เรื่องย่อ : ไกรทอง (2537/1994) กาลครั้งหนึ่ง มีถ้ำแก้ววิเศษเป็นที่อยู่ของจระเข้(ใต้) ในถ้ำมีลูกแก้ววิเศษที่ส่องแสงดุจเวลากลางวัน จระเข้ทุกตัวที่เข้ามาในถ้ำจะกลายเป็นมนุษย์ มีท้าวรำไพ เป็นจระเข้เฒ่าผู้ทรงศีล ไม่กินเนื้อมนุษย์และสัตว์ มีบุตรชื่อ ท้าวโคจร ซึ่งนิสัยแตกต่างจากพ่อโดยสิ้นเชิง ท้าวโคจรมีบุตรชื่อ ชาละวัน วันหนึ่ง ท้าวโคจร เกิดทะเลาะวิวาทกับท้าวแสนตาและพญาพันวัง(เหนือ) ท้าวโคจรโกรธที่ท้าวแสนตาฆ่าลูกน้องของตนจึงเข้ามาขอท้าสู้ แต่ท้าวแสนตาก็ไม่อาจสู้กำลังของท้าวโคจรได้ พญาพันวังโมโหที่ท้าวโคจรฆ่าพี่ชายของตนจึงขึ้นมาสู้กับท้าวโคจร สุดท้ายทั้งสามก็จบชีวิตลงจากบาดแผลที่เกิดจากการสู้รบกัน หลังจากนั้น พญาชาละวัน บุตรของท้าวโคจร ก็ได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองถ้ำบาดาลโดยไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจ และได้จระเข้สาวสองตัวเป็นเมียคือ วิมาลา กับ เลื่อมลายวรรณ ด้วยความลุ่มหลงในอำนาจ ชาละวันจึงมีนิสัยดุร้ายต้องการกินเนื้อมนุษย์ และไม่รักษาศีลเหมือนท้าวรำไพผู้เป็นปู่แต่อย่างใด เพราะถือว่าตนเป็นผู้ปกครองถ้ำ มีอำนาจอยากจะทำอะไรก็ได้ ณ เมืองพิจิตร มีเหตุการณ์จระเข้อาละวาดออกมากินคนที่อยู่ใกล้คลอง วันหนึ่ง พี่น้องคู่หนึ่ง ชื่อนางตะเภาแก้ว ผู้พี่ และนางตะเภาทอง ผู้น้อง ทั้งสองเป็นธิดาของเศรษฐี อยากที่จะลงไปเล่นน้ำที่คลอง เศรษฐีห้ามแต่สองพี่น้องก็ยังรบเร้าที่จะไปโดยบอกว่ามีพี่เลี้ยงลงไปด้วย เศรษฐีจึงใจอ่อนยอมให้ตะเภาแก้วและตะเภาทองลงไปเล่นน้ำ ในเวลานั้น ชาละวัน ซึ่งกลายร่างเป็นจระเข้ยักษ์นิสัยอันธพาล ได้ออกจากถ้ำอาละวาดล่าหามนุษย์เป็นเหยื่อ สร้างความวุ่นวายไปทั่วเมือง และได้ว่ายน้ำผ่านมาเห็นตะเภาทองที่แม่น้ำแถวบ้านท่านเศรษฐี ก็เกิดความลุ่มหลงทันทีจึงคาบตะเภาทองแล้วดำดิ่งไปยังถ้ำทองด้วยความเหิมลำพอง เมื่อนางตะเภาทองฟื้นขึ้นมา ก็ตกตะลึงในความสวยของถ้ำ และได้เห็นพญาชาละวัน ซึ่งกลายร่างเป็นชายรูปงาม ชาละวันเกี้ยวพาราสีแต่นางไม่สนใจ ชาละวันจึงใช้เวทมนตร์สะกดให้นางหลงรักและยอมเป็นภรรยา เมียของชาละวันคือ วิมาลา และเลื่อมลายวรรณ เห็นก็ไม่พอใจและหึงหวงแต่ก็ห้ามสามีไม่ได้ ท่านเศรษฐีเสียใจมาก จึงประกาศไปว่าใครที่พบศพนางตะเภาทอง และสามารถปราบจระเข้ตัวนี้ได้จะมอบสมบัติของตนเองให้ครึ่งหนึ่ง และจะให้แต่งงานกับนางตะเภาแก้ว แต่ไม่ว่าจะมีผู้มีอาคมอาคมมาปราบชาละวันกี่คน ก็จะตกเป็นเหยื่อให้ชาละวันเอาไปนั่งกินเล่นทุกราย และแล้วก็ได้ ไกรทอง หนุ่มรูปหล่อจากเมืองนนทบุรี ซึ่งได้ร่ำเรียนวิชาการปราบจระเข้จากอาจารย์คง จนมีความเก่งกล้า ฤทธิ์อาคมแกร่ง ได้รับอาสามาปราบชาละวัน ก่อนพบเจอเหตุร้าย ชาละวันได้นอนฝันว่า มีไฟลุกไหม้และน้ำท่วมทะลักเข้าถ้ำ เกิดแผ่นดินไหวแปรปรวน ทันใดนั้น ได้ปรากฏร่างเทวดาฟันคอชาละวันขาดกระเด็น จึงได้นำความฝันไปบอกกล่าวกับปู่ท้าวรำไพ เพราะเหตุการณ์ในความฝันเป็นลางร้าย ชาละวันต้องจำศีลในถ้ำ 7 วัน ถ้าออกไปนอกถ้ำจะพบภัยพิบัติถึงชีวิต วิมาลาจึงรับสั่งให้บริวารจระเข้คาบก้อนหินมาปิดปากถ้ำเอาไว้ เพื่อไม่ให้มนุษย์เข้ามาในถ้ำ รุ่งเช้าไกรทองเริ่มตั้งพิธีบวงสรวงพร้อมท่องคาถา ทำให้ชาละวันเกิดอาการร้อนรุ่ม วิมาลาได้แต่คอยปลอบใจให้ชาละวันอดทนเข้าไว้ แต่สุดท้ายชาละวันก็ต้องออกจากถ้ำ แปลงกายเป็นจระเข้ขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อต่อสู้กับไกรทอง การต่อสู้ของคนกับจระเข้จึงเริ่มขึ้นไกรทองกระโดดขึ้นบนหลังจระเข้ชาละวันอย่างรวดเร็วและแทงด้วยหอกสัตตโลหะ ทำให้อาคมของเขี้ยวเพชรเสื่อม หอกอาคมได้ทิ่มแทงชาละวันจนบาดเจ็บสาหัส และมันได้รีบหนีกลับไปที่ถ้ำทองทันที แต่ไกรทองก็ใช้เทียนระเบิดน้ำเปิดทางน้ำ ตามลงไปที่ถ้ำทันที วิมาลาและเลื่อมลายวรรณต้องการของร้องให้ปู่ท้าวรำไพช่วย แต่ท้าวรำไพก็ไม่สามารถช่วยได้ เมื่อมาถึงถ้ำไกรทองได้พบกับ วิมาลา ด้วยความเจ้าชู้จึงเกี้ยวพาราสีจนนางใจอ่อนยอมเป็นชู้ จนนางตกใจวิ่งหนีเข้าถ้ำ ไกรทองจึงตามนางไป ส่วนชาละวันที่นอนบาดเจ็บอยู่ก็รีบออกมาจากที่ซ่อนตัวและได้ต่อสู้กับไกรทองต่อในถ้ำ จนชาละวันสู้ไม่ไหวในที่สุดก็พลาดเสียท่าถูกแทงจนสิ้นใจตายตรงนั้น (บางสำนวนก็บอกว่า ชาละวันถูกหอกอาคมของไกรทองแทงกลางหลัง แล้วร่างก็เปลี่ยนเป็นจระเข้ยักษ์นอนตายอยู่กลางถ้ำทอง) และไกรทองก็ได้พานางตะเภาทองกลับขึ้นมา เศรษฐีดีใจมากที่ลูกสาวยังไม่ตาย จึงจัดงานแต่งงานให้ไกรทองกับนางตะเภาแก้ว พร้อมมอบสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง แถมนางตะเภาทองให้อีกคน ใจของไกรทองกลับนึกถึงนางวิมาลา จึงไปหาอยู่กินด้วย โดยทำพิธีทำให้นางยังคงเป็นมนุษย์แม้ออกนอกถ้ำทอง นางตะเภาแก้วและนางตะเภาทอง จับได้ว่า สามีไปมาหาสู่ นางจระเข้จึงไปหาเรื่องกับนางในร่างมนุษย์จนนางวิมาลาทนไม่ไหวกลับ ร่างเป็นจระเข้และไกรทองต้องออกไปห้ามไม่ให้เมียตีกันและอำลาจากนางวิมาลาด้วยใจอาวรณ์ สุดท้ายไกรทองก็ปรับความเข้าใจได้กับทั้งสองฝ่าย ทั้งมนุษย์และจระเข้อยู่อย่างสันติ

ปลาบู่ทอง 2537

เรื่องย่อ : ปลาบู่ทอง (2537/1994) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่มีเศรษฐี ชื่อ ทารกะ (อ่านว่า ทา-ระ-กะ) มีอาชีพจับปลา มีภรรยา 2 คน คนแรกชื่อขนิษฐา ผู้มีจิตใจดี อ่อนโยน มีลูกสาวแสนสวย เรียบร้อยเหมือนแม่ ชื่อ เอื้อย ส่วนคนที่สองชื่อ ขนิษฐี เป็นผู้มีจิตริษยาอาฆาต มารยาสาไถ ยุแหย่สามีให้เกลียด นางขนิษฐา และลูกสาวตลอดเวลา มีลูกสาวนิสัยเหมือนแม่ 2 คนชื่ออ้าย กับอี่ วันหนึ่งเศรษฐีทารกพาขนิษฐาไปจับปลาในคลอง ไม่ว่าจะเหวี่ยงแหไปกี่ครั้งก็ได้มาเพียงปลาบู่ทองที่ตั้งท้องตัวเดียวเท่านั้น จนกระทั่งพลบค่ำเศรษฐีก็ตัดสินใจที่จะเอาปลาบู่ทองที่จับได้เพียงตัวเดียวกลับบ้าน ทว่าขนิษฐาผู้เป็นภรรยาเกิดความสงสารปลาบู่ ขอให้เศรษฐีปล่อยปลาไป เศรษฐีมีความเกลียดชังเป็นทุนอยู่แล้วจึงโมโหคว้าพายได้ ก็ฟาดจนนางขนิษฐาสลบ และผลักตกน้ำจมตาย เมื่อกลับถึงบ้านเอื้อยก็ถามหาแม่ เศรษฐีจึงตอบไปว่าแม่ของเอื้อยได้หนีตามผู้ชายไป และจะไม่กลับมาบ้านอีกแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นเอื้อยจึงถูก 3 แม่ลูกกลั่นแกล้งทรมานด้วยการใช้ทำงานอย่างหนักไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ได้พักไม่ได้ผ่อนตลอดทั้งวัน เอื้อยคิดถึงแม่มากจึงมักไปนั่งร้องไห้อยู่ริมท่าน้ำ และได้พบกับปลาบู่ทองซึ่งเป็นนางขนิษฐากลับชาติมาเกิด เมื่อเอื้อยรู้ว่าปลาบู่ทองเป็นแม่ของตนก็ได้นำข้าวสวยและรำมาโปรยให้ปลาบู่ทองกิน และมาปรับทุกข์ให้ปลาบู่ทองฟังทุกวัน นางขนิษฐีและลูกสาวเห็นเอื้อยดูมีความสุขขึ้น เมื่อถูกกลั่นแกล้งก็อดทนไม่ปริปากบ่นจึงไปแอบสืบจนพบว่านางขนิษฐาได้มาเกิดเป็นปลาบู่ทอง และได้พบกับเอื้อยทุกวัน

มิติมหัศจรรย์ 2537

เรื่องย่อ : มิติมหัศจรรย์ (2537/1994) มหัศจรรย์แห่งรักที่กาลเวลา ชาติภพ และอุปสรรคใดๆ มิอาจขวางกั้น ระหว่างสองเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประจำดวงดาว พระเสาร์ เทพผู้เคร่งขรึมงามสง่า พระอังคาร เทพแห่งสงครามผู้องอาจ กับ ทิพมณี สาวน้อยงามบริสุทธิ์สดใส ผู้ข้ามมิติแห่งเวลามาไถ่ถอนบาปอันหนักหนา ด้วยอานุภาพแห่งรัก จึงไม่มีอะไรสามารถขวางกั้น แม้จะอยู่ต่างกันคนละมิติ เพราะความรักก่อเกิด ความสูญเสียจึงเกิดขึ้น ความรักอันทรงพลานุภาพของเธอ ที่มีต่อเทพแห่งดวงดาว กลับกลายเป็นชนวนของสงครามอันคุกรุ่น ณ ดินแดนอันเร้นลับ มหัศจรรย์ ณ อีกภพหนึ่ง เธอต้องกลับมาเพื่อชดใช้ พลังรักของเทพแห่งดินแดนอันแสนไกล จะทรงอานุภาพส่งไปถึงเธอ ณ ดินแดนต่างมิติหรือไม่ ? และทั้งสองจะได้ครองคู่กันหรือ ในเมื่ออยู่ต่างกันคนละมิติ...