จากวันนี้ไปให้เธอคนเดียว 2539

สาวใช้คนใหม่ (2539/1996) ดำรัสสิริ เพิ่งจัดงานฉลองปริญญาศิลปศาสตร์เกียรตินิยมอันดับ 1 ไปในวันนี้ เธองดงามสดชื่นแจ่มใสและมีความสุขที่สุด ก่อนที่จะพบว่าโลกทั้งโลกถล่มทลายไปในพริบตา เมื่อ ดำริและจรัสศรี พ่อและแม่เสียชีวิตพร้อมกันในวันต่อมา ทิ้งมรดกจำนวนหนึ่งไว้ให้ มรดกที่ดำรัสสิริจะต้องจัดการอย่างดีที่สุดเพื่อเป็นหลักในการดำรงชีวิตของเธอ รวมทั้งบริวารเก่าแก่จำนวนหนึ่งในบ้าน บ้านหลังใหญ่ที่เคยอยู่ดำรัสสิริให้ทางราชการเช่า ส่วนตัวเธอย้ายไปอยู่ตึกหลังเล็กๆ ทาสีชมพูในบริเวณบ้าน ใช้เงินสดที่เป็นมรดกอย่างประหยัด และมีรายได้ไม่มากนักจากอาชีพนักเขียนนวนิยายให้นิตยสารรายสัปดาห์ ชีวิตของดำรัสสิริคงจะดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่เหมือนมรสุมพัดผ่านมา นวนิยายที่เธอเขียนในนิตยสารฉบับนั้นถูกคนอ่านประท้วงอย่างหนัก จนบรรณาธิการผู้ไม่สามารถต่อต้านกระแสความไม่พอใจขอร้องให้เธอจบนวนิยายเรื่องนั้นทันที พร้อมทั้งถอดเธอจากการเป็นนักเขียนประจำฉบับ ดำรัสสิริไม่สามารถประกอบอาชีพนักเขียนต่อไปได้ แต่เธอจำเป็นต้องหางานทำ เครื่องใช้ไฟฟ้าผ่อนส่งที่ซื้อมายังวางอยู่ในบ้าน บริวารยังต้องการเงินเดือนโดยเฉพาะ แม่ปุ้ย คนเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กและรักเธอยิ่งนัก ดำรัสสิริตัดสินใจให้คนมาเช่าตึกสีชมพูของเธอ เธอจะปลอมตัวเป็นสาวใช้แต่แม่ปุ้ยไม่ยอมเด็ดขาด เธอจึงออกไปอยู่กับญาติของแม่ปุ้ย โดยก่อนหน้านั้นเธอกับแม่ปุ้ยไปหาเพื่อนรักที่เรียนด้วยกันในมหาวิทยาลัยเป็นเจ้านางลาวคือ เจ้าคำแก้ว คนเช่าตึกสีชมพูเป็นนักเขียนหนุ่มชื่อ ไผท แม่ปุ้ยทำสัญญาเช่าแค่เป็นเวลา 1 ปี โดยสัญญาว่ากลับจากธุระแล้วจะมาเป็นคนใช้ทำงานบ้านให้ ธุระที่ว่านั้นคือพาดำรัสสิริไปประเทศลาวนั่นเอง ไผทเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง มีรายได้ดี ตัวไผทเองมีอดีตที่เจ็บปวด พ่อของเขาคือ ศราวุธ เป็นเศรษฐีร่ำรวยมาก แต่ไม่รักไผทเพราะคิดว่าเป็นลูกชู้ พี่น้องของไผทคือ ผุดพงษ์ พี่ชายคนโต ผ่านพักตร์ น้องสาวคนรอง ผาดภรณ์ น้องสาวคนสุดท้อง และเผ่าพันธุ์ น้องชายคนสุดท้อง ทั้งหมดไม่ชอบไผท และพอใจที่ไผทต้องออกจากบ้านไปในที่สุด ติดตามต่อได้ใน สาวใช้คนใหม่

Placeholder

ระเบิดเถิดเทิง (2539/1996) เป็นอดีต​รายการซิตคอมควบคู่กับเกมโชว์ ซึ่งผลิตโดยบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกทุกวันอาทิตย์ โดยในระยะแรกมีรูปแบบเป็นรายการวาไรตี้ อีก 3 เดือนต่อมาได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นละครซิตคอมคู่กับเกมโชว์ รายการระเบิดเถิดเทิงออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2539 จนถึงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 รวมเป็นระยะเวลากว่า 25 ปี

แม่ศรีไพร 2539

เรื่องย่อ : แม่ศรีไพร (2539/1996) ในค่ำคืนที่บรรยากาศของการฉลองงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ ประจัน (เอก รังสิโรจน์) นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของโรงโม่หินรายใหญ่ในภาคเหนือ กำลังดื่มฉลองคืนวิวาห์ของเขาอย่างมีความสุข ในขณะที่ ก้อนทอง (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) เจ้าสาวของเขา กลับเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องเพียงลำพัง เพราะความเศร้าใจที่ถูก ละม้าย (ดวงดาว จารุจินดา) ผู้เป็นแม่บังคับให้แต่งงาน แต่แล้วบรรยากาศของการฉลองก็ต้องจบลง โดยที่ประจัน ไม่ทันตั้งตัว เมื่อ อินทร (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) แอบบุกเข้าไปฉุดก้อนทองออกมาจากเรือนหอ โดยมีลูกน้องคู่ใจ ส่างพลอ (นวพล ภูวดล) กับ พ่อบุญมี ช้างพลายตัวโตที่ตีฝ่าเข้ามารับตัวอินทร กับ ก้อนท้อง หนีไปในความมืด ประจันโกรธแค้นสุดขีด ออกตามล่าหาตัวคนร้ายที่มาหยามศักดิ์ศรีฉุดเอาเจ้าสาวของเข้าไป ในขณะที่ ก้อนทอง รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนหลังช้างในป่าลึก ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายวันในการเดินทาง เธอยังถูกอินทร ชายหนุ่มหนวดเครารุงรัง พูดจาถากถาง และ กลั่นแกล้งตลอดเวลา โดยที่เธอไม่รู้เหตุผลเลยว่าทำไมอินทรต้องจับตัวเธอมากักขังเธอไว้ที่หมู่บ้าน“พะโส” หมู่บ้านกระเหรี่ยงกลางหุบเขาลึกที่ใครยากจะเดินทางมาถึง ก้อนทอง กลายเป็นคนที่ใครๆ ต่างให้ความสนใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง เพราะรู้ว่าเธอเป็นคนของ “พ่ออินทร” เว้นแต่ เหมยเจียง (อรวรรษา ฐานวิเศษ) สาวดาวยั่วประจำหมู่บานที่หลงรักอินทร จึงพยายามวางแผนหาทางกลั่นแกล้ง และ กำจัดก้อนทอง ให้ออกไปจากหมู่บ้าน แต่ก็ถูก อาละแต (ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) สาวสวยจิตใจงามที่ อินทร ไว้วางใจให้คอยดูแลก้อนทอง คอยช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา หลายครั้งที่ก้อนทอง อดคิดไม่ได้ว่าทำไม ชาวบ้านจึงรัก และ นับถืออินทรเยี่ยงพ่อ และเวลาก็เฉลยคำตอบให้ ก้อนทองรู้ว่า เพราะอินทร เป็นคนที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านทุกคน ทั้งเรื่องการเกษตร ยารักษาโรค และ สอนหนังสือให้กับเด็กๆ ทำให้หญิงสาวคิดได้ทันทีว่า อินทร ต้องไม่ใช่คนป่าธรรมดาแน่นอน ช่วงเวลาที่ก้อนทองได้ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้าน ทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ มากมาย ความสัมพันธ์ของอินทร กับ ก้อนทองงอกงามขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และตอนนี้หญิงสาวก็ลืมชีวิตในเมืองไปสนิท ยิ่งทั้งสองคนช่วยกันพัฒนาหมู่บ้าน ชาวบ้านก็ยิ่งรัก และ เอ็นดูเขาทั้งคู่ ทำให้ พะส่วย ( บอย-สิทธิชัย AF3 ) ไอ้หนุ่มจอมเกเร ที่ทะเยอทะยานอยากจะเป็นผู้นำหมู่บ้าน เกิดไม่พอใจ หนำซ้ำยังก่อเรื่องเลวร้ายฉุดเอาตัว มะสะยอง (แมงปอ ชลธิชา) ไปขืนใจ พร้อมกับฆ่า ปาโจ (นพพล โล่พิทักษ์กุล) คนรักของมะสะยองตาย อินทรโกรธมาก แต่ไม่ต้องการให้เลือดชั่วของพะส่วย เปื้อนแผ่นดิน จึงออกคำสั่งเนรเทศพะส่วยออกจากหมู่บ้านไป พะส่วยแค้นจัด ประกาศจะกลับมาล้างแค้น และ เป็นผู้นำหมู่บ้านนี้ให้ได้ ประจันกับพวกยังคงออกเดินทางไปในป่าลึก โดยมีพรานด้วง คอยนำทางให้ ในคืนหนึ่ง ประจัน จับพวกของพะส่วย ที่ตอนนี้กลายมาเป็นโจรป่าได้ พะส่วยยอมจำนน พร้อมขอแลกชีวิตด้วยการพาประจันไปรับก้อนทอง ออกมาจากหมู่บ้านพะโส ก้อนทอง ตัดสินใจถามถึงสาเหตุที่อินทร จับตัวเธอมา อินทรได้ฟังก็มีอาการเศร้าลงทันที พร้อมบอกความหลังที่แสนเจ็บปวดว่า เขาเคยเข้าพิธีวิวาห์กับคนรักที่ชื่อทับทิม แต่ก่อนจะเข้าเรือนหอ คนรักของเขากลับถูกประจันข่มขืน ตัวเขาเองต้องกลายมาเป็นฆาตกรฆ่าคนรักของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว และต้องระหกระเหินมาเป็นชาวป่าอยู่จนทุกวันนี้ เรื่องราวที่ได้ยินทำให้ก้อนทองสงสารอินทรจับจับ แล้วก็มาถึงวันที่ประจันบุกมาที่หมู่บ้านพะโส อินทรสั่งไม่ให้ทุกคนต่อสู้ เพราะเขารู้ดีว่าประจันมาเพื่ออะไร เขาจึงพาก้อนทองหนีไปอยู่ที่หุบสาบ หุบเขาแห่งความตายที่ไม่มีใครกล้าก้าวเข้ามา ประจันโมโหมาก ที่ชาวบ้านไม่ยอมเอ่ยปากบอกความจริง ประจันเผาบ้านไปหลายหลังด้วยความโมโห ขณะที่ชาวบ้านต่างประจานพะส่วย ที่ทำตัวเป็นไส้ศึก ประจันใช้หมู่บ้านพะโส เป็นฐานที่มั่นในการตามล่าตัวอินทร และทำให้ประจันได้พบกับอาละแต ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้ากับการจากไปของอินทร ความเป็นคนดีของอาละแต ทำให้ประจันเกิดความรู้สึกชื่นชมในตัวหญิงสาวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ในหุบสาง... ความลำบากทำให้อินทร และ ก้อนทองรักกันมากขึ้น ในขณะที่อินทรกำลังจะบอกรักก้อนทอง ประจันก็บุกเข้ามาถึงที่ซ้อนของเขาได้ในที่สุด ประจันถึงกับต้องตะลึง เมื่อได้เห็นหน้าอินทร ทั้งสองคนตรงเข้าต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่ความลับจะถูกเปิดเผยว่า แท้จริงแล้ว อินทร ก็คือ ประเจษ น้องชายแท้ๆ ของประจันที่หายตัวไปอย่างลึกลับนั่นเอง!! เรื่องราวรัก และ ความแค้นของสองพี่น้องจะจบลงอย่างไร? ตามลุ้นกันได้ในละคร “แม่ศรีไพร”

ดรรชนีนาง (2539/1996) ณ เกาะแห่งหนึ่งใน จ. สงขลา เรือรบหลวงอรุโณทัย ทอดสมอจอดนิ่งอยู่ระหว่างเกาะหนูและเกาะแมว นายทหารเรือหนุ่มแห่งราชนาวี ม.จ. นิรันดร์ฤทธิ์ธำรง ได้พบกับดรรชนี สาวน้อยผู้สวยใสไร้เดียงสา ดรรชนีอยู่กับพ่อผู้ชรา สองคนที่หาเลี้ยงชีพจับปลาขายและมีเหล้าเป็นเครื่องปรับทุกข์จากความหลังที่ฝังใจ นิรันดร์ตกหลุมรักดรรชนีทันทีที่ได้เห็นเธอ วันรุ่งขึ้นเขามา หาดรรชนีอีก และนิ้วชี้ของดรรชนีก็ต้องเสียเลือดจากแผลอันเกิดจากความปราณีต่อแขกที่มาเยือน เมื่อดรรชนีจะเฉาะน้ำมะพร้าวให้ นิรันดร์ทำแผลด้วยการดูดเลือดจาก นิ้วก้อยของเธอ และต่อจากนั้นดรรชนีก็ตกเป็นของนิรันดร์ ด้วยความยินยอมพร้อมใจ เมื่อเธอเองก็มีใจกับนิรันดร์เช่นกัน นิรันดร์กับดรรชนียังคงคบหากัน โดยนิรันดร์มักจะชอบชมนิ้วของดรรชนีว่าเรียวสวย ที่เขาไม่เคยพบเห็นจากนิ้วมือของหญิงคนใดมาก่อน เมื่อนิ้วชี้นี้เป็นรอยแผลเป็น จึงเปรียบเสมือนเป็นสัญญารักของหนุ่มสาวทั้งสอง เมื่อพ่อกลับมาจากหาปลา เห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน และจากคำบอกเล่าของลิงแสนรู้จึงรู้ว่าได้เกิดอะไรขึ้นในกระท่อมพ่อเฆี่ยน ดรรชนีด้วยหางกระเบน ทั้ง ๆ ที่ตนแสนจะเจ็บปวด เพราะไม่เคยลงโทษลูกเลย จากนั้นพ่อของดรรชนีก็ยิ่งกินเหล้าหนักยิ่งขึ้น พร้อมทั้งหวนคิดถึงความหลังระหว่างตนกับแม่ของดรรชนีแล้วยิ่งเสียใจ เพราะแม่ของดรรชนีไฉไลผู้ซึ่งเสียสละฐานันดรศักดิ์หนีตามตนมา ในอดีตนั้น พระองค์เจ้าหญิงดรรชนีไฉไล ทรงรักกับหนุ่มชาวประมงจน ๆ แต่ติดด้วยฐานันดรที่ต่างกัน จึงทำให้ตัดสินใจหนีตามกันมาใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ เพื่อหนีจากสังคมที่ตนเองเคยรู้จักและกันการครหานินทาจากสังคมรอบข้าง สองหนุ่มสาวใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข แม้ว่าจะไม่สบายกาย แต่ทั้งคู่ก็สบายใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก โดยไม่ยอมติดต่อกับโลกภายนอกอีกเลย ดรรชนีเติบโตขึ้นจากความรักของผู้เป็นพ่อที่ยังยึดติดกับอดีตจมปลักอยู่กับความหลัง โดยมีเหล้าเป็นเครื่องคลายทุกข์ เธอมีเพื่อนเพียงลิงแสนรู้ตัวหนึ่ง เด็กน้อยมีนิ้วที่เรียวสวยเหมือนมารดาผู้จากไป วันรุ่งขึ้น นิรันดร์มาหาดรรชนี และอีกครั้งที่เขาได้ลิ้มรสความหวานของสาวน้อยก่อนลาจากไป และเดินทางกลับมายังกรุงเทพฯ โดยที่เขายังคงรักและคิดถึงดรรชนีอยู่ไม่รู้ลืม ในขณะเดียวกัน ดรรชนี ก็ได้ตั้งหน้าตั้งตาคอยวันกลับมาของนิรันดร์ โดยพ่อของเขาเฝ้ามองลูกสาวสุดที่รักด้วยความสงสาร แต่ไม่อาจช่วยเหลืออะไรเธอได้เลย และเขาก็ยิ่งกินเหล้าหนักยิ่งขึ้น เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ นิรันดร์ได้มีโอกาสรู้จักกับ ศิริยุคล สาวสังคมชื่อดังและท่ามกลางความเห็นชอบของทุกคน ทั้งคู่จึงตัดสินใจแต่งงานกัน โดยที่นิรันดร์ลืมนึกถึงดรรชนีไป เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ดรรชนีท้องแก่จวนคลอด แต่นิรันดร์หายไปไม่มีแม้แต่เงา พ่อสู้อุตส่าห์ไปตามหาที่วังของนิรันดร์ในกรุงเทพฯ แต่ได้รับคำปฏิเสธว่าไม่รู้จัก พ่อซมซานกลับมาหาดรรชนี และในไม่ช้าด้วยความตรอมใจ พ่อก็ตายตามแม่ไปอีกคน ในวันเดียวกับที่ดรรชนีคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย ดรรชนีจึงอยู่กับลูกน้อยตามลำพังและมีลูกชายตัวน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ ใน วันแต่งงานของ ม.จ. นิรันดร์ฤทธิ์ธำรง กับ ศิริยุคล ของขวัญชิ้นหนึ่งถูกส่งจากเกาะสงขลามายังคู่บ่าวสาว ของขวัญที่ทำให้เจ้าบ่าวสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อเห็น มันคือนิ้วชี้ขาวซีดเป็นรอยตัดถึงโคนนิ้วที่กลางนิ้ว เป็นรอยแผลเป็นเห็นถนัดชัดเจน นิรันดร์จึงหวนนึกถึงดรรชนีขึ้นมาในทันที เขาจำนิ้วชี้ที่เขาเคยชอบและชมว่าสวยงามกว่านิ้วชี้ของหญิงคนอื่น เขารู้ในทันทีว่าดรรชนีตัดสินใจตัดนิ้วชี้ที่เธอรักม ากที่สุก ก็เพื่อเป็นของขวัญให้กับคนที่เธอรัก เพราะเธอจำได้ว่า เขานั้นรักนิ้วของเธอมากที่สุด เป็นเสมือนการทวงสัญญารักที่เคยมีต่อกัน เขาจึงรีบผละออกไปจากห้องหอ รีบเดินทางไปยังเกาะสงขลาในทันที แต่เขาไป สายไป ไม่มีดรรชนีและลูกอีกแล้ว เพราะพายุเพิ่งพัดผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างบนเกาะไม่มีเหลือ นิรันดร์จึงได้แต่เศร้าใจในการสูญเสียที่เกิดขึ้น ชนิดที่ไม่อาจหวนกลับคืนมาได้อีกแล้ว ในความจริงแล้ว ดรรชนีกับลูกได้รับการช่วยเหลือจากเสือใหญ่ โจรสลัด ก่อนที่เธอจะป่วยตาย เสือใหญ่จึงรับเลี้ยงลูกของเธอ โดยตั้งชื่อว่า เสือน้อย ในขณะเดียว กัน นิรันดร์กับ ศิริยุคล ก็ใช้ชีวิตคู่กันอย่างมีความสุขพร้อมทั้งพยานรักเป็น สาวอีกหนึ่งคน โดยที่นิรันดร์ยังคงระลึกถึงดรรชนีอย่างไม่มีวันเสื่ อมคลาย โดยที่เขาไม่มีวันรู้ล่วงหน้าเลยว่า ต่อมาในอนาคต ชะตากรรมกลับเล่นตลกให้เสือน้อยกับลูกสาวของเขา พี่น้องต่างมารดาต้องมาพบรักกันเอง

น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ (2539/1996) 6/16 ร้ายบริสุทธิ์ เป็นละครที่เล่าเรื่องราวของเพื่อนมัธยม ม.6/16 โรงเรียนศาสตราวิทย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน โดยจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวของวัยรุ่น ทั้งเรื่องครอบครัว เพื่อน และความรัก และยังสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในเวลานั้นเข้าไปด้วย จึงทำให้ละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเปรียบเสมือนตัวกลางระหว่างวัยรุ่น ครอบครัว และครู ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ก็ได้กลายเป็น น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ที่เล่าเรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มเดิมในการใช้ชีวิตภายในรั้วมหาวิทยาลัย โดยมีตัวละครรุ่นใหม่เพิ่มเข้ามามากมาย แทนตัวละครบางตัวก็ได้ปิดตัวลง ในปี พ.ศ. ​2556 เนื้อเรื่องก็ได้กลับมายังรั้วมัธยมของโรงเรียนอารยะวิทย์ ซึ่งยังคงมีตัวละครบางตัวที่ยังปรากฎอยู่ โดยจะบอกเล่าเรื่องราวของวัยรุ่นในโรงเรียนสหศึกษา แต่ยังคงสอดแทรกด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างตามทันยุคสมัยอยู่เช่นเดิม เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ทีมงานได้จัดทำตอนพิเศษ "I AM YOU สู้เพื่อฝัน" พร้อมกับปรับเปลี่ยนชื่อละครเป็น น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ เดอะซีรีส์ ซึ่งพูดถึงตัวละครที่ชื่อ "ยู" ศิลปินฝึกหัดจากเกาหลีใต้ที่ถูกส่งตัวกลับบ้าน น้าชายของเขาจึงพยายามหาวิธีปลุกพลังของยูขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการส่งยูไปดูแลวงดนตรีโนเนมของนักเรียนโรงเรียนอารยะวิทย์ ซึ่งต่อมาเขาก็เข้าใจและเรียนรู้ถึงความฝันและความต้องการของตัวเองว่าคืออะไรกันแน่

Placeholder

หน้าที่