เทพอัศวิน 2545

เทพอัศวิน (2545/2002) เป็นละครพื้นบ้านปี 2545 ออกอากาศทางช่อง 3 ผลิตโดย :  แสดงนำ : นิรุทธ์ สุจริต, ศิริวรรณ ย้อยสกุล

พิกุลทอง 2545

เรื่องย่อ : พิกุลทอง (2545/2002) เจ้าหญิงพิกุลทอง เป็นธิดาของ "กษัตริย์ยศกานต์" กับพระมเหสี คือ "นางพิกุลจันทรา" ผู้ครองเมืองสรรพบุรี (ต้นฉบับสมุดข่อยเขียนว่าเมือง สันทบุรี) เมื่อย่างเข้าวัยรุ่นสาว ความงามของนางเป็นที่เลื่องลือว่ายากที่จะหาผู้หญิงคนใดเสมอเหมือนได้ ซึ่งนอกจากเวลาพูดกับใครจะมีดอกพิกุลทองร่วงจากปาก แล้วยังมีเส้นผมที่หอมอีกด้วย วันหนึ่งนางพิกุลทองเกิดร้อนรุ่มกลุ้มอุรา จึงได้ลาท้าวสัณนุราชไปเล่นน้ำกับพระพี่เลี้ยงในลำธาร ท้าวสัณนุราชจึงให้วางตาข่ายและทุ่นไว้รอบท่าน้ำ เพราะโหรทำนายว่านางจะต้องพลัดพรากจากเมือง จะกล่าวถึงพญาแร้งชื่อว่า "ท้าวสุบรรณปักษา" บินมาเห็นซากสุนัขเน่าจึงโฉบนำกลับไปจิกกินลอยมาใกล้บริเวณที่นางพิกุลทองกับพี่เลี้ยงเล่นน้ำอยู่ นางพิกุลทองได้กลิ่นเหม็นเน่าจึงใช้ให้พี่เลี้ยงไปดูก็พบพญาแร้งกำลังกินซากนั้นอยู่จึงได้พากันด่าว่าแล้วขับไล่ด้วยคำหยาบช้าต่างๆ นานา ฝ่ายท้าวปักษาก็โกรธจัดกล่าวว่า สุนัขเน่านี้ คือ อาหารของตนอยู่แล้ว นางพิกุลทองเป็นลูกเจ้าท้าวพระยาไม่น่ามากล่าวเจรจาด่าว่าขับไล่ตนเช่นนี้ว่าแล้วก็บินหนีไป แต่ท้าวปักษีก็ยังคิดจะแก้แค้นนางพิกุลทองให้ได้จึงออกอุบายแปลงกายเป็นหนุ่มรูปงามไปขออาศัยอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนขวัญของเมืองสรรพบุรี แล้วคอยเนรมิตทองคำให้ 2 ตายายใช้จนร่ำรวย โดยบอกว่าตนไปพบตอนขุดเผือกมัน อยู่มาวันหนึ่งจึงรบเร้าขอให้ 2 ตายายเข้าไปสู่ขอนางพิกุลทองมาเป็นภรรยา 2 ตายายฟังแล้วหัวใจแทบวายกล่าวว่าคิดเกินตัวอย่างนี้จะถูกประหารเจ็ดชั่วโคตร ท้าวปักษาแปลงจึงแสร้งทำเป็นตรอมใจใกล้ตาย 2 ตายายจึงจำใจเข้าไปทูลสู่ขอนางพิกุลทองจากกษัตริย์ยศกานต์ พระองค์ได้ทราบความดังกล่าวก็กริ้วจัด กล่าวว่าถ้าคิดว่าหลานชายมีบุญวาสนาจะได้คู่กับนางจริงใกล้สร้างสะพานเงินสะพานทองจากท้ายสวนมาถึงพระราชวังภายใน 3 วันมิเช่นนั้นจะประหารทั้งโคตร 2 ตายายหลังจากกลับมาถึงบ้านแล้วก็นั่งซึม เอาแต่ร้องไห้แล้วต่อว่าท้าวปักษาที่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตน ครั้นท้าวปักษาได้ทราบเรื่องต้องสร้างสะพานทองแล้วจึงกล่าวปลอบใจว่าถ้าตนทำไม่เสร็จจะยอมตายแทน 2 ตายายจึงค่อยโล่งใจบ้าง พอตกค่ำท้าวปักษาก็บอกว่าจะขอออกไปทำธุระข้างนอกจากนั้นก็แปลงเป็นพญาแร้งขนาดมหึมาบินกลับไปยังเขานินทะกาลา แล้วเกณฑ์ไพร่พลทั้งหลายให้มาช่วยสร้างสะพานจนแล้วเสร็จ

วงษ์สวรรค์ 2545
อุทัยเทวี 2545

เรื่องย่อ : อุทัยเทวี (2545/2002) ณ นครใต้บาดาลอันเป็นเขตปกครองของพญานาคราชพระองค์มีพระราชธิดา มีนามว่า สมุทมาลา มีอยู่วันหนึ่งสมุทมาลา หนีจากเมืองบาดาลมาเที่ยวเมืองมนุษย์ และพบรักกับรุกขเทวดา ที่สิงสถิตอยู่ในต้นไม้ริมสระน้ำ เมื่อรุกขเทวดาโดนพระอินทร์ลงโทษให้ไปอยู่นอกป่าหิมพานต์ สมุทมาลาได้ตั้งครรภ์รอจนคลอดเป็นไข่ฟองหนึ่ง จึงใช้สไบห่อและพ่นพิษคุ้มครองไว้ก่อนกลับเมืองบาดาล บังเอิญมีคางคกเข้ามากินไข่ แต่ก็ตายด้วพิษพญานาค เมื่อไข่ฟักออกมา เป็นเด็กหญิงจึงคิดว่าคางคกเป็นแม่มาตลอด และอาศัยอยู่ในนั้น ตายายผัวเมียมาตกปลาพายเรือผ่านมาเห็นเข้าก็ช่วยเลี้ยงดูจนโต ตั้งชื่อให้ว่าอุทัยเทวี เมื่ออุทัยเทวีเติบโตขึ้น ก็ได้พบกับเจ้าชายสุทราช แต่ตายายมีข้อกำหนดว่าต้องสร้างสะพานทองตั้งแต่วังไปจนถึงบ้านตายาย และในที่สุดอุทัยเทวีก็ได้แต่งงานกับเจ้าชาย แต่เจ้าชายต้องไปแต่งงานกับเจ้าหญิงฉันทนาตามสัญญา เจ้าหญิงฉันทนาคิดกำจัดอุทัยเทวี แต่ในที่สุดอุทัยเทวีก็ปลอดภัย และได้ครองรักกับเจ้าชายอย่างมีความสุข

จักรแก้ว จักรเพชร 2544
นิลมณี 2544
พระรถเสน 2543
แก้วหน้าม้า 2544

เรื่องย่อ : แก้วหน้าม้า (2544/2001) นางแก้วหน้าม้าเป็นธิดาสามัญชนชาวเมืองมิถิลา เหตุที่นางมีชื่อเช่นนี้เพราะก่อนตั้งครรภ์ผู้เป็นมารดาได้ฝันว่าเทวดานำแก้วมาให้ พอให้กำเนิดบุตรสาวเลยตั้งชื่อว่า “แก้ว” แต่เนื่องจากใบหน้าเหมือนม้า ชาวบ้านเรียกว่า นางแก้วหน้าม้า นางแก้วนั้นวัยไล่เลี่ยกับพระปิ่นทอง พระโอรสเมืองมิถิลา และมีญาณวิเศษสามารถล่วงรู้ลมฝน จึงเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน เมื่อเก็บว่าวจุฬาได้ นางแก้วดีใจจะเก็บไว้เล่นเอง เมื่อพระปิ่นตามมาขอว่าวคืน นางแก้วขอสัญญากับพระโอรสว่าต้องมารับนางเข้าวังไปเป็นมเหสี พระปิ่นรับปากเพียงเพราะหวังอยากได้ว่าวคืน รออยู่หลายวันไม่เห็นพระปิ่นทองมารับ นางแก้วจึงเล่าเรื่องให้พ่อกับแม่ฟัง และขอให้ไปทวงสัญญา เมื่อพ่อแม่ไปทวงสัญญากับพระปิ่น ท้าวภูวดลกริ้วตรัสให้นำตัวไปประหาร แต่พระนางนันทาได้ทัดทานพร้อมเรียกพระโอรสมาสอบถาม พระปิ่นทองยอมรับว่าสัญญาจะให้มาอยู่กับสุนัข เมื่อพระปิ่นทองสัญญาแล้ว พระนางนันทาสั่งให้ไปรับตัวนางแก้วมาอยู่ในวัง ครั้งไม่มีวอทองมารับสมกับตำแหน่งมเหสี นางแก้วก็ไม่ยอมไป จนในที่สุดนางแก้วได้นั่งในวอทอง พร้อมกับแต่งตัวสวยพริ้ง พอมาถึงวังหลวง ท้าวภูวดลกับพระปิ่นทองเห็นนางแก้วรูปร่างหน้าตาน่าเกลียด กริยามารยาทกระโดกกระเดกก็ทนไม่ได้ คิดหาทางกำจัดนางแก้ว แต่พระนางนันทานึกเอ็นดู นางแก้วเข้าวังมาไม่นาน ท้าวภูวดลกับพระปิ่นทองหาทางกำจัดนางแก้ว โดยให้นางแก้วไปยกเขาพระสุเมรุมาไว้ในเมืองภายใน 7 วัน หากทำไม่สำเร็จจะต้องได้รับโทษประหาร แต่ถ้าทำได้จะจัดพิธีอภิเษกสมรสกับพระปิ่นทอง นางแก้วออกไปตามป่า เสี่ยงสัตย์อธิษฐานกับเหล่าทวยเทพว่าหากตนเป็นเนื้อคู่ของพระปิ่นทอง ขอให้พบเขาพระสุเมรุ เดินทางต่อไปอีกสามวัน พบพระฤาษีรีบเข้าไปกราบและเล่าเรื่องราวทั้งหมด พระฤาษีมีใจเมตตาจึงช่วยถอดหน้าม้าออกให้ นางแก้วกลายเป็นหญิงที่งดงามโสภา

สี่ยอดกุมาร 2544

เรื่องย่อ : สี่ยอดกุมาร (2544/2001) สี่ยอดกุมาร เป็นละครโทรทัศน์แนวนิทานพื้นบ้าน เป็นเรื่องราวของเด็กสี่คนที่มีอาวุธสี่อย่างประจำตัว คือ ตรี คทา จักร สังข์

แก้วหน้าม้า 2544

เรื่องย่อ : แก้วหน้าม้า (2544/2001) นางแก้วหน้าม้าเป็นธิดาสามัญชนชาวเมืองมิถิลา เหตุที่นางมีชื่อเช่นนี้เพราะก่อนตั้งครรภ์ผู้เป็นมารดาได้ฝันว่าเทวดานำแก้วมาให้ พอให้กำเนิดบุตรสาวเลยตั้งชื่อว่า “แก้ว” แต่เนื่องจากใบหน้าเหมือนม้า ชาวบ้านเรียกว่า นางแก้วหน้าม้า นางแก้วนั้นวัยไล่เลี่ยกับพระปิ่นทอง พระโอรสเมืองมิถิลา และมีญาณวิเศษสามารถล่วงรู้ลมฝน จึงเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน เมื่อเก็บว่าวจุฬาได้ นางแก้วดีใจจะเก็บไว้เล่นเอง เมื่อพระปิ่นตามมาขอว่าวคืน นางแก้วขอสัญญากับพระโอรสว่าต้องมารับนางเข้าวังไปเป็นมเหสี พระปิ่นรับปากเพียงเพราะหวังอยากได้ว่าวคืน รออยู่หลายวันไม่เห็นพระปิ่นทองมารับ นางแก้วจึงเล่าเรื่องให้พ่อกับแม่ฟัง และขอให้ไปทวงสัญญา เมื่อพ่อแม่ไปทวงสัญญากับพระปิ่น ท้าวภูวดลกริ้วตรัสให้นำตัวไปประหาร แต่พระนางนันทาได้ทัดทานพร้อมเรียกพระโอรสมาสอบถาม พระปิ่นทองยอมรับว่าสัญญาจะให้มาอยู่กับสุนัข เมื่อพระปิ่นทองสัญญาแล้ว พระนางนันทาสั่งให้ไปรับตัวนางแก้วมาอยู่ในวัง ครั้งไม่มีวอทองมารับสมกับตำแหน่งมเหสี นางแก้วก็ไม่ยอมไป จนในที่สุดนางแก้วได้นั่งในวอทอง พร้อมกับแต่งตัวสวยพริ้ง พอมาถึงวังหลวง ท้าวภูวดลกับพระปิ่นทองเห็นนางแก้วรูปร่างหน้าตาน่าเกลียด กริยามารยาทกระโดกกระเดกก็ทนไม่ได้ คิดหาทางกำจัดนางแก้ว แต่พระนางนันทานึกเอ็นดู นางแก้วเข้าวังมาไม่นาน ท้าวภูวดลกับพระปิ่นทองหาทางกำจัดนางแก้ว โดยให้นางแก้วไปยกเขาพระสุเมรุมาไว้ในเมืองภายใน 7 วัน หากทำไม่สำเร็จจะต้องได้รับโทษประหาร แต่ถ้าทำได้จะจัดพิธีอภิเษกสมรสกับพระปิ่นทอง นางแก้วออกไปตามป่า เสี่ยงสัตย์อธิษฐานกับเหล่าทวยเทพว่าหากตนเป็นเนื้อคู่ของพระปิ่นทอง ขอให้พบเขาพระสุเมรุ เดินทางต่อไปอีกสามวัน พบพระฤาษีรีบเข้าไปกราบและเล่าเรื่องราวทั้งหมด พระฤาษีมีใจเมตตาจึงช่วยถอดหน้าม้าออกให้ นางแก้วกลายเป็นหญิงที่งดงามโสภา

สังข์ทอง (2543/2000) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองยศวิมลนครอันมีท้าวยศวิมลเป็นผู้ครองนคร พระองค์ทรงมีมเหสีสององค์คือ พระนางจันเทวี มเหสีฝ่ายขวาผู้เป็นที่รักใคร่ของประชาชนทุกคน และพระนางจันทา มเหสีฝ่ายซ้ายผู้มีจิตใจอิจฉาริษยาผู้อื่นตลอดเวลา ท้าวยศวิมลต้องการจะมีพระราชโอรสสืบทอดราชบัลลังค์จึงได้บวงสรวงเทวดาฟ้าดินให้ประทานโอรสมาให้ จนกระทั่งพระนางจันเทวีตั้งครรภ์ขึ้นมา สร้างความปิติยินดีให้กับท้าวยศวิมลเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครบกำหนด พระนางจันเทวีก็ได้ประสูติพระโอรสออกมา แต่พระโอรสกลับกลายเป็นหอยสังข์สร้างความอับอายให้กับท้าวยศวิมล พระนางจันทาได้ทีจึงใส่ร้ายว่าพระโอรสเป็นกาลีบ้านเมือง และให้ขับพระนางจันเทวีและพระโอรสหอยสังข์ออกจากวังเสีย พระมเหสีจันเทวีต้องระหกระเหินออกจากวังไปอาศัยอยู่ที่กระท่อมตายยายชายป่า และได้พบกับพระสังข์ที่ออกมาช่วยแม่ทำงานบ้าน พระนางจันเทวีจึงได้ทุบทำลายหอยสังข์เสีย สองแม่ลูกจึงได้พบกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เรื่องล่วงรู้ไปถึงพระกรรณของพระนางจันทา จึงได้ส่งทหารมาจับพระสังข์ไปถ่วงน้ำทิ้ง พระสังข์จมลงไปที่ก้นบาดาล ท้าวภุชงค์ พญานาคราชพบเข้าจึงนำมาเลี้ยงไว้ และได้ส่งพระสังข์ไปให้นางพันธุรัตเจ้าเมืองยักษ์เลี้ยง โดยนางพันธุรัตและชาวเมืองยักษ์ได้แปลงตัวเป็นคนเพื่อหลอกให้พระสังข์หลงเชื่อ จนกระทั่งพระสังข์ได้แอบไปเที่ยวที่ปราสาทหลังวัง และได้พบซากสัตว์ที่พวกยักษ์กินเหลือไว้ จึงได้รู้ว่านี่คือเมืองยักษ์ เมื่อนางพันธุรัตเผลอ พระสังข์จึงแอบชุบตัวในบ่อเงินบ่อทองและขโมยรูปเงาะที่ช่วยให้มีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้หนีออกจากเมืองไป นางพันธุรัตรู้เข้าก็เสียใจและตามพระสังข์จนมาถึงตีนเขาแต่พระสังข์อธิษฐานให้เทวดาช่วยไว้ นางยักษ์ตามขึ้นมาไม่ได้ จึงได้มอบมนต์มหาจินดา ที่ใช้เรียกเนื้อเรียกปลาให้พระสังข์ ก่อนที่จะอกแตกสิ้นใจตายที่ตีนเขานั่นเอง พระสังข์ได้เหาะมาถึงเมืองหนึ่งชื่อว่าเมืองสามล ท้าวสามลและนางมณฑาเป็นผู้ครองนครท้าวสามลต้องการหาคู่ให้ธิดาทั้งเจ็ดจึงได้จัดการเลือกคู่ให้ทุกองค์ เหลือเพียงรจนาที่ยังไม่ยอมเลือกใคร ท้าวสามลจึงมีรับสั่งให้ไปตามเจ้าเงาะที่อาศัยอยู่กระท่อมปลายนามาให้เลือก รจนามองเห็นรูปทองที่ซ่อนอยู่ภายในจึงโยนมาลัยไปให้เจ้าเงาะ สร้างความไม่พอพระทัยให้ท้าวสามลจนถึงกับขับออกไปจากวัง ท้าวสามลคิดหาทางกลั่นแกล้งด้วยการให้เจ้าเงาะหาเนื้อหาปลาแข่งกับหกเขย เจ้าเงาะได้ถอดรูปและใช้มนต์มหาจินดาเรียกเนื้อเรียกปลามาเต็มไปหมด พร้อมกับแกล้งทำเป็นเทวดาผู้ปกป้องสัตว์ป่า หกเขยหาปลาไม่ได้ จึงต้องยอมให้ตัดจมูกและหูให้เทวดาแลกกับเนื้อและปลา ท้าวสามลทรงพิโรธมากที่เสียทีเจ้าเงาะจนถึงขั้นคิดประหารเจ้าเงาะเสีย ร้อนถึงพระอินทร์ ต้องหาทางช่วยด้วยการลงมาท้าตีคลีกับท้าวสามลเพื่อชิงเมือง ท้าวสามลส่งหกเขยไปแข่งก็สู้ไม่ได้ในที่สุดก็ต้องยอมให้เจ้าเงาะไปแข่ง เจ้าเงาะจึงถอดรูปเป็นพระสังข์และตีคลีกับพระอินทร์จนชนะท้าวสามลจึงรับพระสังข์และรจนากลับเข้าวัง กล่าวฝ่ายท้าวยศวิมล ได้ทรงพระสุบินว่าพระอินทร์มาทูลเรื่องราวความจริงทั้งหมด เมื่อตื่นบรรทมจึงได้ออกติดตามหาพระนางจันเทวีจนพบและปลอมเป็นชาวบ้านออกติดตามหาพระสังข์ถึงเมืองสามล โดยพระนางจันเทวีได้ปลอมเป็นแม่ครัวในวัง และได้แอบสลักชิ้นฟักเป็นเรื่องราวของพระสังข์ เมื่อพระสังข์ได้เห็นชิ้นฟักจึงรู้ความจริงทั้งหมด จึงได้ตามเสด็จ ท้าวยศวิมลและนางจันเทวีกลับไปครองยศวิมลนครสืบไป

พระสุธน-มโนราห์ 2543

เรื่องย่อ : พระสุธน-มโนราห์ (2543/2000) นางมโนห์รา เป็นธิดาองค์เล็กของท้าวทุมราชผู้เป็นพระยากินนร รูปร่างหน้าตาของพวกเขาเหมือนมนุษย์แต่มีปีกและหางที่ถอดออกได้ นางมโนห์ราและพี่น้องทั้งหกได้ไปเล่นน้ำที่สระน้ำอโนดาต เจอพรานบุญที่ต้องการจับตัวนางกินรี พรานบุญได้จับนางมโนห์ราไปถวายแค่พระสุธน พระสุธนเห็นเข้าก็เกิดหลงรักนางและพานางกลับเมือง และได้อภิเษกกัน ต่อมาปุโรหิตคนหนึ่งได้เกิดจิตอาฆาตแค้นแก่พระสุธนเพราะว่าพระสุธนไม่ให้ตำแหน่งแก่บุตรของตน เมื่อถึงคราวเกิดสงคราม พระสุธนออกไปรบ พระบิดาได้ทรงพระสุบิน ปุโรหิตได้ทำนายว่าจะเกิดภับพิบัติครั้งใหญ่ ให้นำนางมโนห์ราไปบูชายัญ ซึ่งท้าวอาทิตยวงศ์ได้ยินยอมตามนั้น นางมโนห์รารู้เข้าก็เกิดตกใจ จึงออกอุบาย ของปีกกับหางขอนางคืน เพื่อร่ายรำหน้ากองไฟก่อนจะตาย เมื่อนางได้ปีกกับหางแล้ว นางก็ร่ายรำได้สักพักก็บินหนีกลับเมืองไป ก่อนถึงเมืองได้เจอฤาษีก็ได้กล่าวกับฤาษีว่า หากพระสุธนตามมาให้บอกว่าไม่ต้องตามนางไป เพราะมีภยันอันตรายมากมาย และได้ฝากภูษาและธำมรงค์ให้พระสุธน ฝ่ายพระสุธนที่กลับจากสงครามได้ลงโทษปุโรหิต และติดตามหานางมโนห์รา เมื่อเจอพระฤาษี พระสุธนจะติดตามนางมโนห์ราต่อไป โดยมีพระฤาษีค่อยช่วยเหลือ เป็นเวรกรรมแต่ชาติที่แล้ว เพราะอย่างนี้จึงทําให้ทั้งสองเกิดมาคู่กันอีก

นางสิบสอง 2543

เรื่องย่อ : นางสิบสอง (2543/2000) นางสิบสอง เป็นนิทานที่สืบต่อกันมาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสิบสองคนที่ต้องผจญภัยในที่ต่าง ๆ เนื่องจาก นนท์และภรรยาของเขาชื่อ พราหมณี ด้วยความที่ลูกเยอะฐานะทางบ้านจึงค่อย ๆ ตกต่ำลง เงินทองที่เก็บไว้ก็หายไปหมดเนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสิบสองคน พ่อของนางสิบสองก็ได้คิดอุบายว่าจะนำลูก ๆ ทั้งสิบสองคนไปปล่อยป่า จนมาเจอกับนางยักษ์สันตราพอดี นางยักษ์พอได้เห็นนางทั้งสิบสองก็เกิดความรักและเอ็นดูเนื่องจากตนจึงนำนางทั้งสิบสองมาเลี้ยงไว้ในวังโดยสั่งให้ทุกคนในเมืองทานตะวันแปลงกายเป็นมนุษย์ให้หมดเนื่องจากกลัวว่านางทั้งสิบสองจะหวาดกลัวและเกลียดตน ส่วนตนเองก็ได้เปลี่ยนชื่อจากสันตราเป็นสันธมาลา ต่อมาเมื่อนางทั้งสิบสองได้รู้ความจริงจึงหนีออกจากเมือง นางยักษ์สันตรากลับเมืองมารู้ว่านางสิบสองได้หนีไป จึงออกตามหาด้วยความอาฆาตแค้น

หลวิชัยคาวี 2543

เรื่องย่อ : หลวิชัยคาวี (2543/2000) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีเมือง “รมยนคร” ซึ่ง “ท้าวมัทราช”กับ “พระนางแก้วเกสร”เป็นผู้ปกครอง มีธิดาแสนสวยองค์หนึ่งชื่อ “เจ้าหญิงจันทวรา” ซึ่งบ้านเมืองสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แต่อยู่ดีๆก็เกิดวิปริต ฟ้าฝนไม่ตก พลอยศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองเปล่งแสง โหรได้ทำนายว่าเป็นเพราะมีผู้มีอวิชากำลังฝึกอวิชามนต์ดำ ท้าวมัทราชจึงให้คนไปสืบความพบว่า ในเมืองนี้มีแม่เฒ่าชื่อ “แม่เฒ่าธิดาจันทร์” อาศัยอยู่ในกระท่อมกับ “เวตาล” หรือ "เหวงตาล"ลูกสมุน กำลังมีการทดลองมนต์ดำที่จะทำให้มีอำนาจควบคุมมนุษย์โลกได้ ขณะที่กำลังจะทำสำเร็จนั้น แม่เฒ่ากับเวตาลก็ถูกจับได้ ท้าวมัทราชสั่งให้ประหารแม่เฒ่าและเวตาลในทันทีเพราะเป็นกระทำการชั่วช้าและทำให้บ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวายมาก แต่แม่เฒ่าได้ใช้มนต์วิเศษหนีไปได้ โหรบอกว่าถ้าแม่เฒ่าฝึกอาคมจนแก่กล้า ก็จะมีอำนาจครอบงำมนุษย์ สัตว์ และอสูรกายทั้งหลายให้อยู่ในอำนาจได้ ท้าวมัทราชให้โหรดูว่าจะมีใครที่จะสามารถมาช่วยบ้านเมืองไว้ได้บ้างใหม โหรบอกว่ามีเพียง “เสือ” และ “โค” ที่เป็นพี่น้องกันเท่านั้นจึงจะสามารถช่วยบ้านเมืองได้ ในป่าแห่งหนึ่ง ขณะสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างสงบสุขก็พลันแตกตื่นเมื่อมีเสือเข้ามาในเขตของพวกตน สัตว์ทุกตัวพากันหลบหนีเข้าที่ซ่อน ลูกเสือกับลูกวัวเดินเข้ามามีเจ้าจ๋อตามหลัง

เพชรรุ้งไฟ 2543
ขุนช้างขุนแผน 2542

เรื่องย่อ : ขุนช้างขุนแผน (2542/1999) ที่เมืองสุพรรณบุรี กล่าวถึงครอบครัวสามครอบครัว คือ ครอบครัวของขุนไกรพลพ่ายรับราชการทหาร มีภรรยาชื่อ นางทองประศรี มีลูกชายด้วยกันชื่อ พลายแก้ว ครอบครัวของขุนศรีวิชัย เศรษฐีใหญ่ของเมืองสุพรรณบุรี รับราชการเป็นนายกองกรมช้างนอก ภรรยาชื่อ นางเทพทอง มีลูกชายชื่อ ขุนช้าง ซึ่งหัวล้านมาแต่กำเนิด และครอบครัวของพันศรโยธา เป็นพ่อค้า ภรรยาชื่อ ศรีประจัน มีลูกสาวรูปร่างหน้าตางดงามชื่อ นางพิมพิลาไลย วันหนึ่งสมเด็จพระพันวษา มีความประสงค์จะล่าควายป่า จึงสั่งให้ขุนไกรปลูกพลับพลาและต้อนควายเตรียมไว้ แต่ควายป่าเหล่านั้นแตกตื่นไม่ยอมเข้าคอก ขุนไกรจึงใช้หอกแทงควายตายไปมากมาย ที่รอดชีวิตก็หนีเข้าป่าไป สมเด็จพระพันวษาโกรธมากสั่งให้ประหารชีวิตขุนไกรเสีย นางทองประศรีรู้ข่าวรีบพาพลายแก้วหนีไปอยู่ที่เมืองกาญจนบุรี