แสบสลับขั้ว 2555

เรื่องย่อ : แสบสลับขั้ว (2555/2012) เมื่อโชคชะตาเล่นตลกจับ “ตัวแสบขาแวนซ์ระดับเทพ” สลับร่างกับ “คุณชายจอมเนี้ยบตัวพ่อ” ความสุดขั้วของ 2 ตัวแสบ ทำให้เกิดเรื่องโกลาหลอลหม่านทั้งเรื่องการงานและความรัก

ณ ชุมชนพัฒนาสู่สุขาวดี ชุมชนเล็กๆที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นที่สิงสถิตย์ของ เซียน (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ชายไทยวัยเกือบ ๓๐ แต่มีพฤติกรรมราวกับทีนเอจเจอร์ (Teenager) หรือเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ผู้ใหญ่ไม่รู้จักโต”

วันๆ เซียนเอาแต่แต่งรถมอเตอร์ไซค์ ค่ำๆ ก็ออกแวนซ์กับเด็กแถวบ้าน ถึงแม้อายุจะต่างกันเกือบเท่าตัว แต่เซียนก็ไม่หวั่น ตะบี้ตะบันไร้สาระไปวันๆ เป็นที่หนักใจของ ป้าสายไหม (ราตรี วิทวัส) พี่สาวพ่อผู้รับหน้าที่อุปการะเซียน หลังจากกำพร้าพ่อแม่จากอุบัติเหตุทางเรือตั้งแต่เด็ก สายไหมต้องปากเปียกปากแฉะกับการพร่ำบ่นเซียนตลอดเวลา ตอนเป็นนักเรียนก็เรียนไม่เอาไหน โตขึ้นก็ไม่หางานทำเป็นเรื่องเป็นราว เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น จนสุดท้ายมาลงเอยอยู่ที่วินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยเป็นงานอดิเรก สายไหมเหนื่อยใจกับความไม่รับผิดชอบของหลานชายคนเดียวอย่างสุดระอา อยากจะไล่ออกจากบ้านหลายครั้ง แต่หลานชายตัวดีใช้คารม บวกอารมณ์ขัน ทำให้สายไหมใจอ่อน ต้องยอมเลี้ยงดู (มัน) ต่อไป

นอกจากสายไหมที่หลงคารมเซียนแล้ว สายพิณ หรือ พิณ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) เด็กสาวรุ่นน้องข้างบ้านที่โตตามกันมายังเป็นอีกหนึ่งคนที่แอบปลื้มกับอารมณ์ขันของเซียน สายพิณเป็นหญิงสาววัยใส แสนดี อ่อนหวาน ตัวเล็กๆ น่ารัก เป็นเหมือนดอกไม้แสนสวยที่แอบซ่อนอยู่ในชุมชนแออัด สายพิณเป็นเด็กกำพร้าเหมือนเซียน อาศัยอยู่กับ ยายปิ่น คู่หูคู่ฮาของป้าสายไหม สายพิณอยู่บ้านติดกับเซียน ด้วยความใกล้ชิดทำให้สายพิณคิดกับเซียนเกินพี่ชาย แต่เซียนกลับไม่เคยเห็นเธอเป็นอื่น นอกจากน้องสาวแสนน่ารัก น่าทะนุถนอม สายพิณจำต้องเก็บความรักไว้ในใจไม่เคยบอกใคร ด้วยความไม่เจียมกะลาหัว เซียนดั๊นไปแอบชอบ น้ำเพชร (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ลูกสาว เติมศักดิ์ หรือ เฮียเติม (พิพัฒน์พล โกมารทัต) และ เจ๊กิมฮวย (ณหทัย พิจิตรา) ผู้ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สมรศรีมณีฉาย ในภายหลัง

น้ำเพชรเป็นลูกสาวร้านทองหน้าชุมชนหมอเล้ง จบการบริหารมาจากออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นเลขานุการให้กับ ปลาใหญ่ หรือ คุณใหญ่ (ธันวา สุริยจักร) นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง (มั่กๆ) อายุยังไม่ทันก้าวข้ามมาเลข ๒ จำต้องมารับช่วงกิจการของตระกูลมหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจ น้ำเพชรเป็นเลขาหน้าใหม่ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน น้ำเพชรแอบชอบปลาใหญ่เจ้านายหน้าใส แต่ด้วยวัยที่ต่างกัน ประกอบกับความเคร่งขรึม จริงจัง เฮี้ยบ เนี้ยบ กริบ ทำให้น้ำเพชรไม่กล้าแสดงออก ได้แต่เก็บอาการแอบชอบอยู่ในใจลึ๊ก…ลึก !!

ถ้าเทียบระหว่างเซียนและปลาใหญ่ มันช่างแตกต่างและห่างไกลราวกับสรวงสวรรค์และแกนโลก ไม่ว่าเซียนจะพยายามตามจีบน้ำเพชรสักแค่ไหน แม้แต่ปลายหางตาเธอยังไม่เคยจะแลมาสักครั้งเดียว ปลาใหญ่เป็นลูกชายคนเดียวของ เกรียงไกร มหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจ (วันชัย เผ่าวิบูลย์) เจ้าของโรงงานทอผ้าไหมรายใหญ่ของประเทศไทย เกรียงไกรเสียภรรยาตั้งแต่ปลาใหญ่มีอายุได้เพียง ๓ ขวบ เขาส่งลูกชายคนเดียวไปอยู่โรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษ และกำลังจะเข้าศึกษาปริญญาตรี ปลาใหญ่ถูกเรียกตัวกลับมาประเทศไทยอย่างกะทันหัน เพราะเกรียงไกรเส้นโลหิตในสมองแตกจากความเครียด เขาเสียชีวิตหลังจากที่เห็นหน้าลูกชายเพียงไม่กี่นาที การจากไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของปลาใหญ่พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ปลาใหญ่ต้องรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทมหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจกรุ๊ป ในขณะเพียง ๑๙ ปี ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จักใครสักคน คนที่เขาพอจะไว้ใจได้คือ พ่อบ้านครรชิต (เกริก ชิลเล่อร์) คนเก่าแก่ผู้ซื่อสัตย์ที่คอยดูแลปลาใหญ่และพ่อ ครรชิตเป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่อยู่เคียงข้างปลาใหญ่ในขณะขึ้นชกในสังเวียนธุรกิจที่แสนจะโหดร้าย โดยเฉพาะต้องคอยรับมือกับการสกัดดาวรุ่งของ เกริกก้อง (อัมรินทร์ สิมะโรจน์) น้องชายพ่อ ที่ต้องการฮุบกิจการเป็นของตัวเอง เกริกก้องไม่พอใจที่พี่ชายแต่งตั้งหลานชายปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาดูแลธุรกิจที่ก่อร่างสร้างกันมา เขาพยายามกลั่นแกล้ง และบีบบังคับให้ปลาใหญ่ขายหุ้นให้เขา แต่ไม่สำเร็จ ปลาใหญ่ยืนยันที่จะดูแลธุรกิจของพ่อด้วยตัวเอง เกริกก้องยิ่งไม่พอใจ หาทางดัน รัญญา หรือ รัน (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ลูกสาวคนเดียวขึ้นมาเทียบชั้นกับปลาใหญ่

รัญญาเป็นสาวเก๋ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง จบการศึกษาด้วยคะแนนดีเยี่ยม เรียนรู้งานมาตั้งแต่เด็ก รัญญาได้เปรียบปลาใหญ่ในทุกๆ ด้าน นอกจากปลาใหญ่ต้องเจอกับการเปรียบเทียบกับรัญญาแล้วยังต้องปวดหัวกับ จันทร์ทิพย์ ภรรยาของเกริกก้องที่คอยสร้างความปั่นป่วนภายในบ้านไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งจ้างคนใช้สืบข้อมูลส่วนตัวของปลาใหญ่ และคอยสาระแนตีสองหน้าทำเป็นหวังดี แต่จริงๆ ร้ายสุดขั้ว ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวได้เป็นใหญ่

ปลาใหญ่ต้องต่อสู้กับตัวเอง และต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ทำให้เขาเป็นเจ้านายที่สุดแสนเคร่งขรึม และอารมณ์ร้ายได้อย่างง่ายดาย ต่อมเหวี่ยงทำงานดีเป็นพิเศษ จนได้รับฉายา “คุณหนูอารมณ์เหวี่ยง” เลขากี่คนๆก็ไม่เคยรอด ภายในเวลาแค่ ๓ เดือน เปลี่ยนเลขามา ๑๒ คน และน้ำเพชรเป็นคนที่ ๑๓ หมายเลขสุดอาถรรพ์ แต่ด้วยความประทับใจส่วนตัวที่มีต่อเจ้านายสุดหล่อหน้าใส ทำให้น้ำเพชรกัดฟันทนทุกสิ่งอย่าง เข้าทำนองถึงร้ายก็รัก เซียนมีโอกาสได้เจอกับปลาใหญ่โดยบังเอิญ เพราะน้ำเพชรลืมเอกสารสำคัญไว้ที่บ้าน กิมฮวย เลยต้องจ้างเซียนให้เอาเอกสารไปให้ แวบแรกที่เจอกัน เซียนสุดหมั่นไส้ (แกมอิจฉา) เพราะปลาใหญ่ทั้งหล่อ ใส รวย และยังได้ทำงานใกล้ชิดน้ำเพชรอีกต่างหาก

เซียนแอบหึงทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นแฟน ปลาใหญ่เห็นว่าเซียนมีท่าทีสนิทสนมกับน้ำเพชร จึงเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ปลาใหญ่เตือนให้น้ำเพชรอบรมสั่งสอนแฟน เพราะเซียนแสดงความรุ่มร่ามแอบทรามเล็กน้อยออกมาโดยไม่รู้ว่าปลาใหญ่เป็นเจ้านาย น้ำเพชรแทบกรี๊ดและพยายามจะอธิบายความจริง แต่ปลาใหญ่ไม่สนใจฟัง ทำให้น้ำเพชรยิ่งเกลียดเซียนเข้าไส้สั่งให้เขาอยู่ห่างจากเธอมากที่สุด เซียนถึงกับน้ำตาตกในและหมั่นไส้ (ไอ้) เจ้านายขี้เก๊กมากเป็นทวีคูณ เซียนกลับมาระบายกับสหายเลิฟที่วินมอเตอร์ไซค์ด้วยความแค้นใจ สหายของเซียนประกอบไปด้วย ป๋อง (ชูษี เชิญยิ้ม) ชายไทยวัยเกือบ ๒๐ ร่างใหญ่ มีน้ำใจ กลัวผี มีฝีมือด้านทำอาหารเป็นเลิศ มอมแมม (วิชญ จารุจินดา) ชายไทยร่างเล็ก ขี้ท้า…ท้าไปทั่ว แต่จริงๆเป็นคนขี้กลัวที่สุด ชายสี่ (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เป็นคนที่ดูดี มีหลักการ แต่จริงๆแล้วมั่ว ทั้งสามคนเป็นน้องรักของเซียน ขอให้เป็นเรื่องไร้สาระเข้าไว้…ถึงไหนถึงกัน!

หลังจากระบายความเคียดแค้นจนสาแก่ใจ เซียนประกาศอย่างกึกก้องว่าชาตินี้จะไม่ขอไปเหยียบที่ทำงานปลาใหญ่อีก และถ้ารวยกว่าเมื่อไหร่จะซื้อกิจการของปลาใหญ่ให้หมด !! ป๋อง มอมแมม และชายสี่ หรือแม้แต่ตัวเซียน รู้ว่ามันเป็นคำท้าทายที่สุดแสนจะห่างไกลความเป็นไปได้ ต่อให้เซียนเกิดใหม่อีกร้อยกว่าชาติก็ไม่มีทางจะรวยกว่าปลาใหญ่เด็ดขาดแต่แล้ว..เหตุการณ์สุดพิลึกพิลั่นก็พลันเกิดขึ้น…

เมื่อปลาใหญ่มีเหตุต้องรีบขับรถออกจากบ้านเพื่อไปงานสำคัญ ในขณะที่เซียนต้องมาส่งเอกสารให้กับลูกค้าในบริเวณใกล้เคียงกัน เซียนบิดมาอย่างเร็ว ทันใดนั้นเอง มีเด็กขี่รถจักรยานพรวดออกมานอกถนน และล้มลงตรงหน้าเซียนในระยะกระชั้นชิด เซียนตัดสินใจหักรถหลบออกโดยไม่ระวัง รถที่ตามหลังมาชนเข้าอย่างจัง ร่างเซียนลอยละลิวปลิวมาตกลงข้างถนน สลบเมือดไปทันที !! ในเวลาเดียวกัน ปลาใหญ่ขับรถอยู่อีกถนนด้วยความเร็วสูง ทันใดนั้นก็มีรถออกปาดหน้าเข้ามาอย่างเร็ว ทำให้ปลาใหญ่ต้องรีบหักหลบกะทันหัน รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า ทั้งปลาใหญ่และเซียนอยู่ในอาการโคม่า และถูกพาส่งโรงพยาบาลเดียวกัน !! ในวินาทีแห่งชีวิตที่คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นกับความตาย ทั้งสองคนถูกเครื่องกระตุ้นหัวใจกระชากจิตและวิญญาณเข้าสู่ร่าง…ฟึ่บบบบบ !!

เซียนและปลาใหญ่รู้สึกตัวขึ้นในเวลาเดียวกันอย่างปาฏิหาริย์ แต่สิ่งที่มหัศจรรย์พันลึกยิ่งกว่านั้น คือ ทั้งสองคนค้นพบว่าร่างที่ตัวเองกำลังดำรงอยู่นั้น…มันไม่ใช่ร่างของตัวเอง วิญญาณของปลาใหญ่ดั๊นอุตริเข้าไปอยู่ในร่างของเซียน และวิญญาณของเซียนทะลึ่งเข้าไปอยู่ในร่างของปลาใหญ่

ทันทีที่ทั้งสองคนรู้สึกตัวและค้นพบความจริงอันแสนพิสดาร ทั้งเซียน (ที่อยู่ในร่างของปลาใหญ่) และปลาใหญ่ (ที่อยู่ในร่างของเซียน) สุดแสนจะช้อค !! (โอ้ว..แม่เจ้าเป็นไปได้อย่างไร???)

ปลาใหญ่รีบบุกมาหาเซียนทันที ในขณะที่เซียนยังมึนๆ อยู่ ปลาใหญ่พยายามจะเขย่าให้วิญญาณของเซียนออกจากร่างตัวเอง ทันใดนั้น น้ำเพชรเข้ามาเห็นพอดี๊…พอดี รีบเข้ามากระชากปลาใหญ่ออกจากเซียน พร้อมกับด่ากระจายไล่ให้ปลาใหญ่ออกไปไกลๆ จากเซียน (เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองคนสลับร่างกันอยู่) ปลาใหญ่พยายามจะอธิบาย แต่ยิ่งพูด น้ำเพชรยิ่งคิดว่าเขาบ้า เซียนได้ทีรีบสวมรอยเป็นปลาใหญ่ทันที และไล่ปลาใหญ่ออกไป ทำให้ปลาใหญ่แค้นสุดๆ เขาจะต้องหาทางกลับคืนสู่ร่างเดิมให้ได้

หลังจากการสลับร่างที่สุดแสนพิลึกกึกกือเริ่มต้นขึ้น ชีวิตของเซียน (ในร่างปลาใหญ่) และชีวิตของปลาใหญ่ (ในร่างเซียน) ก็ต้องพบกับความโกลาหลอลหม่านมากมาย เรียงหน้ากระดานเข้ามาจนรับแทบไม่ไหว เซียนตื่นเต้นกับความรวยได้ไม่นาน เขาก็ค้นพบว่าชีวิตมหาเศรษฐีหมื่นล้านสุดแสนจะน่าเบื่อ งานก็หนัก ต้องมีประชุมมากมาย ประชุมแต่ละทีก็มีแต่เรื่องเครียด คิดหัวแตกก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง เอกสารที่ต้องเซ็นก็มีนับไม่ถ้วน และไม่ว่าเขาจะเซ็นสักกี่ครั้ง ก็เซ็นไม่เหมือน เช็คไม่ผ่าน ทั้งบริษัทวุ่นวายไปหมด ยิ่งไปกว่านั้น…ทั้ง เกริกก้อง จันทร์ทิพย์ (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) และ รัญญา ยังหาเรื่องเขาไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งเรื่องทำให้เสียหน้า ทำให้เสียชื่อเสียง เสียความน่าเชื่อถือ จนเซียนแทบจะอยากออกจากร่างเศรษฐีหมื่นล้าน แล้วกลับไปเป็นไอ้เซียนคนเดิม

สิ่งเดียวที่ทำให้เซียนมีความสุข คือการได้อยู่ใกล้น้ำเพชร ราวกับความฝันที่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง เซียนใช้ความเป็นปลาใหญ่หาโอกาสอยู่กับน้ำเพชรสองต่อสอง ใช้หน้าที่การงานไปหาเธอที่บ้าน อ้างว่ามีงานด่วน แล้วไปโชว์รวยต่อหน้าเติมศักดิ์และกิมฮวยด้วยความสะใจ แรกๆน้ำเพชรก็ตื่นเต้นที่เจ้านายสุดที่รักดูเหมือนจะมีใจให้อย่างคาดไม่ถึง แต่หลังๆ เธอเริ่มรู้สึกว่ามันมากจนผิดสังเกต ประกอบกับบุคลิกภาพก็แตกต่างราวกับคนละคน ยังไง๊…ยังไง มันก็ไม่ใช่คุณปลาใหญ่ที่เธอเคยรู้จัก แต่มันช่างคลับคล้ายคลับคลากับ (ไอ้)เซียนเสียเหลือเกิ๊น…(ยังไงกันเนี่ย?) แต่ในความต่างมันกลับทำให้เธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ทั้งอารมณ์ขันและคารมที่สุดแสนจะลื่นไหล ทำให้เธออารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ทางด้านปลาใหญ่ (ตัวจริง) พยายามจะหาทางบอกความจริงกับทุกคนที่อยู่รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นป้าสายไหม ยายปิ่น สายพิณ มอมแมม ชายสี่ ป๋อง ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า “เซียนสมองเสื่อม” หลงว่าตัวเองเป็นเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงงานผ้าไหมอันโด่งดัง ยิ่งปลาใหญ่อธิบาย ทุกคนก็ยิ่งคิดว่าสมองเขาผิดปกติ เขาจึงเลือกที่จะหยุดและหาทางพิสูจน์ด้วยวิธีอื่น ปลาใหญ่พยายามติดต่อน้ำเพชรที่บ้าน และขอให้เธอช่วย แต่น้ำเพชรกลับไล่ตะเพิดราวกับเขาเป็นไอ้โรคจิต ทำให้เขารู้ว่าน้ำเพชรไม่ได้เป็นแฟนกับเซียนแต่เธอแอบชอบเขา และปลาใหญ่ก็ต้องช็อกหนักเมื่อรู้ว่าเซียนแอบชอบน้ำเพชร และใช้ร่างของเขาตามจีบน้ำเพชร ปลาใหญ่อาละวาดใส่เซียน พยายามจะให้เซียนยอมรับว่าเกิดการสลับร่าง แต่เซียนทำเนียนไม่ยอมรับ แถมยังด่าว่าปลาใหญ่เพี้ยน น้ำเพชรยิ่งไม่พอใจและไล่ปลาใหญ่กลับไป พร้อมทั้งให้ตำรวจมาเฝ้าหน้าบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้เธอ

ปลาใหญ่เปลี่ยนเป้าไปที่ครรชิต เขาพยายามขอพบครรชิตเพื่อบอกความจริง แต่โดนเซียนกลั่นแกล้งสารพัด ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้เจอกัน เซียนติดรูปตัวเองไว้หน้าโรงงาน และหน้าบ้าน ห้ามไม่ให้เข้ามาใกล้ทุกคนที่อยู่แวดล้อมและครรชิตอย่างเด็ดขาด ความแสบของเซียนทำให้ปลาใหญ่สุดเครียด โดยเฉพาะเวลาเห็นข่าวความเสียหายของบริษัทที่ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน ปลาใหญ่รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของเกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และรัญญา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว เว้นแต่…สายพิณ

เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่รู้ว่าเซียนเปลี๊ยนไป ดูเงียบ ขรึม จริงจัง และไม่ออกไปไร้สาระกับสามสหาย ที่สำคัญ ยังมีความรู้และมีรสนิยมดีอย่างแปลกประหลาด ปลาใหญ่สุดดีใจ ถึงแม้สายพิณพูดได้ไม่เต็มปากว่าเธอเชื่อเรื่องการสลับร่าง แต่เธอยินดีจะช่วยเขาค้นหาความจริง และกลับคืนสู่ร่างเดิม ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกัน และความอ่อนหวานบวกกับน้ำใจอันดีของสายพิณ ทำให้ปลาใหญ่รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเธอ และทุกครั้งที่เขามีเรื่องกลุ้มใจ คนแรกที่เขาคิดถึง คือเธอ ผู้หญิงแสนธรรมดา ฐานะค่อนข้างยากจน คนที่เขาคงไม่มีโอกาสได้พบ ถ้ายังคงเป็น “คุณปลาใหญ่” ไฮโซฯ หมื่นล้าน แต่ปลาใหญ่ต้องแอบจ๋อยๆ …เมื่อรู้ว่าสายพิณแอบชอบพี่เซียน และที่เธอช่วยเขาเพราะต้องการได้พี่ชายสุดเลิฟคนเดิมกลับคืนมา

ทางด้านเซียน เริ่มเครียดหนักพอกัน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในร่างปลาใหญ่ เขาไม่สามารถทำงานที่ปลาใหญ่เคยทำได้ ประกอบกับน้ำเพชร ครรชิต เกริกก้อง รัญญา และจันทร์ทิพย์ เริ่มระแคะระคายว่าเขาเปลี๊ยนไป ในขณะที่เซียนกำลังเครียด เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าสายพิณเข้ามาทำงานเป็นพนักงานของโรงงานผ้าไหม เซียนลืมตัว แสดงความดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สายพิณยิ่งปักใจ แต่เมื่อเธอซักไซ้ เซียนกลับไม่ยอมรับและเอาตัวรอดไปอย่างกะล่อน สายพิณยอมเข้าไปทำงานในโรงงานเพื่อหาช่องทางช่วยปลาใหญ่ และเธอยังพยายามอธิบายให้สามสหาย ป๋อง มอมแมม และชายสี่ รวมทั้งสายไหมและปิ่น เห็นใจปลาใหญ่ จนทุกคนเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง เพราะความเฮฮาไร้สาระไม่เคยปรากฏหลังจากเซียนประสบอุบัติเหตุ แถมยังพูดจาดูดีมีการศึกษาหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะตอนบอกทางฝรั่งด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ทุกคนปักใจทันทีว่า…คนที่ยืนอยู่ข้างหน้า ไม่ใช่เซียนแน่นอน !!

ปลาใหญ่เปิดใจเล่าทุกเรื่องให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะเรื่องอันตรายที่เซียนอาจจะได้รับจากเกริกก้องและรัญญา เพราะทั้งสองคนร้ายกาจมากพอที่จะคิดกำจัดเขาเพื่อหวังฮุบโรงงาน ทั้ง ๕ คนจึงตัดสินใจช่วยปลาใหญ่ลากตัวเซียนมายอมรับความจริงและหาทางสลับร่างคืนดั่งเดิม ด้วยความร่วมมือของสายพิณ มอมแมม ป๋อง และชายสี่ ทำให้พวกเขาได้ตัวเซียนมา และเค้นจนเซียนต้องยอมรับอย่างหมดสภาพ พร้อมกับขอร้องให้ปลาใหญ่ช่วยเทรนด์ให้ตัวเองเป็น “คุณปลาใหญ่” ให้ได้ แต่ปลาใหญ่ไม่ยอม เขาต้องการกลับคืนร่างดังเดิมเท่านั้น เซียนจำใจต้องยอมเพราะไม่มีทางออกอื่น

ปิ่น (ปนัดดา โกมารทัต) และสายไหมเป็นเจ้าภาพฝ่ายพิธีการ ทั้ง ๒ คน พยายามหาวิธีเพื่อเรียกวิญญาณกลับคืนร่าง ทำหมดทุกวิธี ทั้งไสยศาสตร์ พุทธศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ชาวบ้าน) แต่ไม่สัมฤทธิ์ ไม่ว่าจะใช้ศาสตร์ทางด้านไหน ทั้งสองคนก็ไม่ยอมกลับคืนร่างตัวเอง จนยายปิ่นสรุปปิดท้ายว่า “มันคงเป็นเวรกรรมที่ทำให้เป็นแบบนี้ ไม่มีวิธีอื่น เมื่อหมดกรรมแล้ว ก็คงจะได้กลับคืนร่างเดิม” บทสรุปยายปิ่น ทำให้ปลาใหญ่ถึงกับอึ้ง มึน และหมดหวัง ต่างกับเซียนที่ใช้ความกะล่อนหว่านล้อมให้ปลาใหญ่ยอมรับสภาพ แล้วช่วยเขาสวมบทบาทคุณหนูหมื่นล้านให้แนบเนียนที่สุด เพื่อดำเนินธุรกิจที่สุดป่วนอยู่ในตอนนี้ พร้อมทั้งหาทางกำจัดครอบครัวเกริกก้องที่จ้องจะฮุบสมบัติอยู่ทุกลมหายใจ

ปลาใหญ่จำใจต้องยอมรับข้อเสนอ โดยเข้าไปทำงานเป็นที่ปรึกษาเซียนอย่างใกล้ชิด สร้างความงุนงงให้กับทุกคน โดยเฉพาะน้ำเพชร…เธอสงสัยอย่างแรง ที่จู่ๆ ไอ้บ้าเซียนก็เข้ามาทำงานเป็นที่ปรึกษานายใหญ่ ข้ามหัวใครต่อใครอีกมากมาย เซียนพยายามให้เหตุผลชื่นชมเซียนต่างๆนานา เพราะหวังว่าถ้าได้กลับร่าง น้ำเพชรจะชอบตัวเองขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ว่าจะชื่นชมแค่ไหน น้ำเพชรก็ไม่มีทางเชื่อว่าเซียนจะทำงานได้จริง

น้ำเพชรพยายามจับผิดปลาใหญ่ในขณะที่ทำงานให้เซียน แต่ยิ่งเธอจับผิดมากเท่าไหร่ เธอยิ่งแปลกใจมากเท่านั้น เพราะเซียนทำงานได้อย่างดี ไม่มีที่ติ และบางครั้งมันทำให้เธอคิดถึง “คุณปลาใหญ่” เจ้านายหน้าใสที่เธอเคยทำให้ใครกลัวจนตัวสั่น ขณะที่ปลาใหญ่ช่วยงานเซียน เขาต้องเทรนด์เซียนในทุกๆเรื่อง ทั้งบุคลิกภาพ การออกงานสังคม การวางตัว การพูดจา และจ้างครูมาสอนภาษาแบบตัวต่อตัว แต่อย่างเดียวที่เขาไม่ยอมสอน คือปลอมลายเซ็น เพราะฉะนั้น เอกสารทุกฉบับ ปลาใหญ่เป็นคนเซ็นเองทั้งหมด และต้องแอบเซ็นแบบลับๆ เซียนต้องคอยกันไม่ให้น้ำเพชรและครรชิตรู้ แต่แล้วครรชิตก็ล่วงรู้จนได้ เพียงเวลาไม่นานที่ปลาใหญ่เข้ามาช่วยงานเซียน ครรชิตก็รู้ทันทีว่า คุณหนูตัวจริงของเขากลับมาแล้ว!!

เกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และรัญญาไม่พอใจที่จู่ๆก็มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาช่วยกอบกู้สถานการณ์ให้ศัตรู จันทร์ทิพย์ยุให้ใช้ไม้แข็งเพื่อกำจัดปลาใหญ่ (ที่อยู่ในร่างเซียน) เกริกก้องอนุมัติ แต่ย้ำว่าอย่าให้เรื่องบานปลาย ปลาใหญ่ถูกทำร้ายอาการสาหัส เซียนเห็นสภาพปลาใหญ่แล้วก็เป็นห่วงร่างกายตัวเอง เขาตัดสินใจจ้างมอมแมม ป๋อง และชายสี่มาเป็นบอดี้การ์ดให้กับเซียนและตัวเอง วันแรกที่ชายสี่มาทำหน้าที่บอดี้การ์ดให้เซียน เขาได้เจอกับรัญญา และตกหลุมรักในทันที ในขณะที่รัญญาทั้งรังเกียจและดูถูกอย่างเห็นได้ชัด แต่ชายสี่ก็ยังหลงละเมอเพ้อพกอย่างไม่เจียมตัว

ในระหว่างที่ปลาใหญ่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เซียนกลับไปแก้แค้นเกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และรัญญาด้วยวิธีที่สุดแสนกะล่อน โทษฐานที่ทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาต้องมีอันต้องบวมช้ำ เซียนฉีกหน้าทั้ง ๓ คน กลางงานสังคมหรู ทำให้ทุกคนรู้ว่าเกริกก้องอิจฉาหลานชายตัวเองและต้องการจะฮุบสมบัติ กลายเป็นข่าวดังกระฉ่อนไปทั้งวงการ สร้างความสะใจให้กับปลาใหญ่อย่างแรง ปลาใหญ่ขอบใจเซียนที่ตอบโต้คนพวกนั้น ในขณะที่เซียนก็ขอโทษปลาใหญ่ที่เขาเคยไม่ชอบขี้หน้า อีกทั้งยังฉวยโอกาสจากร่างของเขา ปลาใหญ่ให้อภัยแต่ห้ามไม่ให้ทำอีก โดยเฉพาะการใช้ความเป็นเขาตามจีบน้ำเพชร ข้อห้ามที่แสนยาก เซียนอึกอัก ไม่รับปาก และขอร้องให้ปลาใหญ่ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เขาไม่อยากให้เธอรู้ว่า จริงๆแล้วเขาไม่ใช่ปลาใหญ่ เซียนรู้ว่าเมื่อความจริงปรากฏ น้ำเพชรคงจะกลับไปเกลียดเขาเหมือนเดิม

เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะคืนสู่ความจริง เขาขอฝันหวานแบบนี้ไปอีกสักพัก ปลาใหญ่รับปากด้วยความเข้าใจ เพราะเขาเองก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน ถ้าเขากลับสู่ร่างเดิม สายพิณก็คงจะไม่สนใจเขาเช่นกัน ท่ามกลางม่านหมอกของความรักที่ไม่ลงตัว พายุแห่งความคลั่งแค้นก็เริ่มก่อตัวขึ้น… หลังจากการโดนฉีกหน้ากลางสาธารณะชน เกริกก้องแค้นสุดแค้น เขาสั่งให้จันทร์ทิพย์กำจัดไอ้หลานชายจอมวายร้ายให้สิ้นซาก!!

ในขณะที่เกริกก้องกำลังหน้าดำคร่ำเครียดกับการแก้แค้นเซียน รัญญาเริ่มเอะใจกับการเปลี่ยนไปของปลาใหญ่ ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยเห็นเขาตอบโต้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะโดนรังแกแค่ไหน เขาจะเอาแต่เก็บกด และกดดันตัวเอง แต่จะไม่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้เด็ดขาด ประกอบกับบุคลิกที่ดูหลุกหลิก คำพูดคำจาที่ดูไม่ค่อยมีการศึกษา และเฮฮาผิดปกติ ทำให้เธอเริ่มสงสัย รัญญาอาศัยชายสี่เป็นเครื่องมือ เธอทำทีเป็นสนใจชายสี่ หาโอกาสอยู่กันสองต่อสอง และแอบล้วงความลับทุกครั้งที่มีโอกาส ชายสี่หลุดจะบอกหลายครั้ง แต่ก็ยั้งปากไว้ได้ทุกที น้ำเพชรเองก็เริ่มสงสัยมากขึ้น เธอรู้สึกว่าเซียน ปลาใหญ่ ครรชิต มอมแมม ป๋อง และชายสี่ รวมหัวกันทำอะไรบางอย่างลับหลังเธอ อีกทั้งจู่ๆก็มีสายพิณโผล่มาดูแลเซียน (ที่จริงๆแล้วเป็นปลาใหญ่) อย่างใกล้ชิด และเซียนก็ดูจะไม่สนใจเธอเหมือนเมื่อก่อน ด้วยความสงสัยทำให้น้ำเพชรแอบตามสืบว่า จริงๆแล้ว อะไรคือต้นเหตุของการเปลี๊ยนไป…ทำให้ปลาใหญ่และเซียนต้องระวังตัวเองอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็ต้องแก้ไขปัญหาภายในโรงงานที่เกริกก้องพยายามสร้างขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน และจันทร์ทิพย์ยังส่งนักเลงคอยสะกดรอยตาม หวังกำจัดเซียนตามคำสั่งของสามี

รอบตัวเซียนและปลาใหญ่มีความวุ่นวายและอันตรายรายล้อมอยู่ เท่านั้นยังไม่พอ เรื่องของหัวใจยังสร้างความปวดสมองไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อสายพิณได้ล่วงรู้ว่าเซียนชอบน้ำเพชร และพยายามจะใช้ความเป็นปลาใหญ่เพื่อเอาชนะใจเธอ สายพิณไม่พอใจอย่างแรง เพราะผิดศีลธรรม และแอบหึงเล็กๆ สายพิณพยายามจะเปิดโปงความจริงให้น้ำเพชรรู้ แต่เซียนอาศัยความกะล่อนเอาตัวรอดหลบเลี่ยงไปได้อย่างหวุดหวิด ในขณะเดียวกัน ทุกครั้งที่น้ำเพชรพยายามเข้าใกล้ปลาใหญ่เพื่อสืบความจริง เซียนก็ต้องคอยกีดกัน เพราะกลัวว่าน้ำเพชรจะรู้ความจริง และกลับไปชอบปลาใหญ่เหมือนเดิม

ยิ่งเซียนแสดงอาการหวงน้ำเพชรมากเท่าไหร่ สายพิณก็ยิ่งเสียใจมากเท่านั้น และยิ่งสายพิณเสียใจมากเท่าไหร่ ปลาใหญ่ก็ยิ่งจ๋อยมากเท่านั้น…เป็นวงเวียนของรักสี่เส้าที่แสนเศร้าและน่าเห็นใจ ป้าสายไหมและยายปิ่นอาศัยความเป็นผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน มองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเกิดอะไรขึ้น ยายปิ่นพยายามให้กำลังใจปลาใหญ่ และสารภาพว่าเธอยินดีจะมีเขาเป็นหลานเขยมากกว่าไอ้เซียน ถึงแม้เขาจะยังเด็ก แต่เป็นคนจริงจังและจริงใจ ในขณะเดียว กันก็พยายามจะให้หลานสาวได้รู้ตัวสักทีว่า จริงๆแล้ว เธอไม่ได้ชอบเซียน แต่มันเป็นเพียงความผูกพันและฝังใจ แต่ปลาใหญ่ก็ยังไม่กล้าพอจะสารภาพรัก ในขณะที่สายพิณก็ยังไม่รู้ใจตัวเองดีพอ ยายปิ่นก็ได้แต่ท้อใจ…พูดยังไงก็ไร้ประโยชน์ (เฮอ!) ป้าสายไหมเองก็พยายามจะให้เซียนยอมรับความจริงว่าน้ำเพชรไม่ได้ชอบเขาที่ตัวตนของเขาอย่างแท้จริง การปิดบังต่อไปก็เท่ากับหลอกตัวเองไปวันๆ แต่เซียนเองก็ยังไม่กล้าพอที่จะสารภาพความจริงกับเธอและแล้ว…การปิดบังก็เดินทางมาถึงสุดทาง

เมื่อน้ำเพชรจับได้ว่า…แท้จริงแล้ว เซียนและปลาใหญ่สลับร่างกันตามที่เธอสงสัย และทุกคนรู้ความจริงหมดแล้ว ยกเว้นเธอ น้ำเพชรอาละวาดใส่เซียน (ที่อยู่ในร่างปลาใหญ่) อย่างแรง ทั้งด่า ทั้งตบตี ด้วยความโกรธ และอายสุดจะบรรยาย น้ำเพชรเสียฟอร์มอย่างหนักที่ตัวเองสารภาพว่าชอบปลาใหญ่ ในขณะที่เขาอยู่ร่างของเซียน แล้วยังแสดงกริยาดูถูกเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเซียน น้ำเพชรตัดสินใจลาออกทันที และเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน ถึงแม้เซียนจะตามง้อ ตามขอโทษ แต่น้ำเพชรก็ไม่ยอมพูดด้วย แถมยังไล่ตะเพิดจนเปิดเปิง ปลาใหญ่ลงทุนมาขอโทษแทนเซียน น้ำเพชรก็ยังไม่ยกโทษให้ แถมด่ากลับ และประกาศว่าเธอเลิกชอบเขาแล้ว เพราะตอนนี้เธอรู้ตัวแล้วว่าไม่ชอบเด็ก !! และจะไม่มีวันกลับไปทำงานอีกเด็ดขาด เซียนสุดแสนเสียใจ ได้แต่เก็บตัวเงียบ สายพิณถึงได้รู้ว่าเซียนรักน้ำเพชรมาก และไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจเขาได้ สายพิณตัดใจจากเซียน และคืนสภาพกลายมาเป็นน้องสาวดังเดิม

รัญญาแอบมอมเหล้าชายสี่ พร้อมกับใช้เสน่ห์หญิงเย้ายวนจนเขาเคลิ้มและบอกเรื่องสลับร่างอย่างหมดเปลือกโดยไม่รู้ตัว รัญญารีบนำความจริงมาบอกเกริกก้องและจันทร์ทิพย์ทันที พร้อมกับถีบหัวชายสี่ทิ้งอย่างไม่ไยดี ทั้งสองคนแทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นจริง แต่จากการทดสอบ และนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากอุบัติเหตุ ทั้งสองคนเริ่มเชื่อว่ามันมีความเป็นไปได้สูง เกริกก้องจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากการกำจัดเซียน (ในร่างปลาใหญ่) มาเป็นกำจัดปลาใหญ่ (ในร่างเซียน) ทันที เพราะถ้ากำจัดวิญญาณเซียนที่อยู่ในร่างปลาใหญ่ แต่วิญญาณปลาใหญ่ที่อยู่ในร่างเซียนก็ยังอยู่ และเขาอาจจะกลับมาแก้แค้นได้ แต่ถ้ากำจัดวิญญาณของปลาใหญ่ในร่างเซียนได้ เขาจะใช้เงินซื้อเซียนและสั่งให้ใช้ความเป็นปลาใหญ่ทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการได้ไม่ยาก

ทั้ง ๓ คน วางแผนชั่วร้ายอย่างเลือดเย็น โดยไม่ได้รู้ว่าเลยว่าน้ำเพชรแอบมาได้ยินโดยบังเอิญ ขณะที่เธอเข้ามาเก็บของในที่ทำงานตอนกลางคืน น้ำเพชรรีบหนีกลับบ้านด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว แผนการสั่งเก็บปลาใหญ่ดังกึกก้องในสมอง น้ำเพชรลังเลว่าจะยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ดี หรือจะวางเฉยแล้วปล่อยให้มันเป็นไป เพื่อเป็นการแก้แค้นที่โดนหลอกมาตลอด แต่แล้วความดีงามก็ชนะ น้ำเพชรมาหาปลาใหญ่และบอกสิ่งที่รับรู้มา ปลาใหญ่ขอบใจและดีใจที่น้ำเพชรเห็นใจและให้ความร่วมมือ ในแวบนั้นเอง…น้ำเพชรเริ่มรู้ว่า จริงๆแล้ว คนที่เธอเป็นห่วงไม่ใช่แค่ปลาใหญ่แต่เป็นเซียน ผู้ชายที่เธอไม่เคยสนใจแม้แต่นิดเดียว น้ำเพชรเริ่มค้นเข้าไปในใจของตัวเอง จนพบว่าเธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่อยู่กับเซียน เขาคือผู้ชายคนเดียวที่ทำให้เธอหัวเราะได้อย่างสุดเสียง คนที่เธอชอบ คือผู้ชายที่สุดแสนจะเฮฮา…ไม่ใช่ปลาใหญ่ เด็กน้อย หน้าใสผู้เคร่งขรึม น้ำเพชรรู้ใจตัวเอง แต่มันสายเกินไป เพราะเซียนแวะมาหาป้าสายไหมที่บ้าน และเห็นตอนน้ำเพชรคุยกับปลาใหญ่พอดี ด้วยความสนิทสนมของทั้ง ๒ คน ขณะกำลังคุยกัน ทำให้เซียนเข้าใจผิดคิดว่าน้ำเพชรยังคงชอบปลาใหญ่อยู่เหมือนเดิม เซียนถึงกับจ๋อย และยอมทำตามที่ป้าสอน คือรับสภาพความจริง เลิกตอแยน้ำเพชร พยายามจะตัดใจจากเธอ ถึงแม้จะเศร้าแต่เขาก็ต้องทำให้ได้

หลังจากที่ปลาใหญ่ล่วงรู้แผนการของสามคนพ่อแม่ลูก และชายสี่มาสารภาพเรื่องที่โดนมอมเหล้าล้วงความจริง ชายสี่ทั้งรู้สึกผิดและเสียใจที่โดนหลอกใช้ เขาน่าจะเชื่อมอมแมมและป๋องที่พยายามเตือนว่ารัญญาไม่จริงใจกับเขา จากความรักกลายเป็นความแค้น ชายสี่ประกาศว่าจะต้องหาโอกาสสั่งสอนรัญญาให้ได้ !! ปลาใหญ่เรียกทุกคนมาประชุมระดมหัวสมอง ทั้งครรชิต เซียน สายพิณ มอมแมม ป๋อง และชายสี่ โดยมีน้ำเพชรเป็นสมาชิกใหม่เข้าร่วมก๊วน เซียนดีใจที่น้ำเพชรมา แต่ดีใจได้ไม่นานก็กลับมาเศร้าเหมือนเดิม เพราะคิดว่าน้ำเพชรมาเพราะต้องการช่วยปลาใหญ่ ในขณะที่น้ำเพชรเองก็แปลกใจที่เซียนดูเงียบๆ ผิดปกติ

ในการสุมหัวเพื่อเตรียมรับมือกับแผนการร้ายครั้งนี้ เซียนอาศัยความเจ้าเล่ห์และแสนกล คิดแผนที่คนอื่นคิดไม่ได้ ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง ไม่เว้นแม้แต่น้ำเพชรยังต้องยอมรับในความฉลาดของเซียน เซียนวางแผนให้น้ำเพชรเป็นนกต่อ ขอเข้าพบสามคนพ่อแม่ลูก โดยทำทีเป็นร้องห่มร้องไห้ พร้อมทั้งเล่าความจริงเกี่ยวกับการสลับร่างให้พวกนั้นฟัง และบอกว่าแค้นใจที่โดนเซียนหลอก จึงขอมาอยู่ด้วยเพราะต้องการแก้แค้นทั้งเซียนและปลาใหญ่ รัญญาเป็นคนแรกที่เชื่อเพราะจำได้ว่าตอนเมา ชายสี่เผลอพูดเรื่องที่น้ำเพชรโกรธออกมา เกริกก้องและจันทร์ทิพย์เลยเชื่อตามไปด้วย

น้ำเพชรยังบอกอีกว่าเซียนขอร้องให้เธอกลับมาทำงาน และเธอตัดสินใจกลับมาเพราะจะทำให้การแก้แค้นง่ายขึ้น น้ำเพชรเล่นละครได้อย่างแนบเนียนจนทุกคนยอมรับ เกริกก้องมอบหมายให้น้ำเพชรเป็นคนขับรถพาเซียนและปลาใหญ่ขึ้นเขาไปทางเชียงราย โดยให้อ้างว่าจะพาไปดูแหล่งผลิตไหมที่ใหม่ เพื่อนำมาใช้ในโรงงาน น้ำเพชรยอมทำแต่โดยดีเธอขับรถพาเซียนและปลาใหญ่ไปตามคำสั่ง และจอดรถไว้ในจุดที่เกริกก้องบอกไว้ หลังจากจอดรถแล้ว น้ำเพชรเดินลงจากรถโดยปล่อยให้ปลาใหญ่และเซียนนั่งอยู่บนรถเหมือนเดิม และไม่กี่นาทีต่อมาก็มีรถบรรทุกคันโตขับพุ่งพรวดมาอย่างเร็ว ตรงเข้ามาที่รถของน้ำเพชร พร้อมทั้งชนเข้าอย่างจัง ลากยาวต่อไปจนรถตกเขา น้ำเพชรได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้นเอง คนขับรถบรรทุกก็วิ่งลงจากรถและหนีไปอย่างรวดเร็ว

ที่กรุงเทพฯ…เกริกก้องและจันทร์ทิพย์รับโทรศัพท์รายงานจากคนขับรถด้วยความสะใจ ที่รู้ว่าแผนการสำเร็จ ทั้งเซียนและปลาใหญ่ตกเหวลงไปพร้อมกัน รับประกันว่าตายชัวร์ รัญญารู้ข่าวก็ดีใจ เตรียมชุดดำสำหรับไปงานศพทันที แต่ทั้งสามคนก็ดีใจได้ไม่นาน…เมื่อเซียนแล

เจ้าหญิงพิกุลทอง 2554

เรื่องย่อ : เจ้าหญิงพิกุลทอง (2554/2011) "เจ้าหญิงพิกุลทอง" เป็นธิดาของ "ท้าวสัณนุราช" กับพระมเหสี คือ "นางพิกุลจันทรา" ผู้ครองเมืองสรรพบุรี เมื่อย่างเข้าวัยรุ่นสาว ความงามของนางเป็นที่เลื่องลือว่ายากที่จะหาผู้หญิงคนใดเสมอเหมือนได้ ซึ่งนอกจากเวลาพูดกับใครจะมีดอกพิกุลทองร่วงจากปาก แล้วยังมีเส้นผมที่หอมอีกด้วย วันหนึ่งนางพิกุลทองเกิดร้อนรุ่มกลุ้มอุรา จึงได้ลาท้าวสัณนุราชไปเล่นน้ำกับพระพี่เลี้ยงในลำธาร ท้าวสัณนุราชจึงให้วางตาข่ายและทุ่นไว้รอบท่าน้ำ เพราะโหรทำนายว่านางจะต้องพลัดพรากจากเมือง จะกล่าวถึงพญาแร้งชื่อว่า "ท้าวสุบรรณปักษา" บินมาเห็นซากสุนัขเน่าจึงโฉบนำกลับไปจิกกินลอยมาใกล้บริเวณที่นางพิกุลทองกับพี่เลี้ยงเล่นน้ำอยู่ นางพิกุลทองได้กลิ่นเหม็นเน่าจึงใช้ให้พี่เลี้ยงไปดูก็พบพญาแร้งกำลังกินซากนั้นอยู่จึงได้พากันด่าว่าแล้วขับไล่ด้วยคำหยาบช้าต่างๆ นานา ฝ่ายท้าวปักษาก็โกรธจัดกล่าวว่า สุนัขเน่านี้ คือ อาหารของตนอยู่แล้ว นางพิกุลทองเป็นลูกเจ้าท้าวพระยาไม่น่ามากล่าวเจรจาด่าว่าขับไล่ตนเช่นนี้ว่าแล้วก็บินหนีไป แต่ท้าวปักษีก็ยังคิดจะแก้แค้นนางพิกุลทองให้ได้จึงออกอุบายแปลงกายเป็นหนุ่มรูปงามไปขออาศัยอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนขวัญของเมืองสรรพบุรี แล้วคอยเนรมิตทองคำให้ 2 ตายายใช้จนร่ำรวย โดยบอกว่าตนไปพบตอนขุดเผือกมัน อยู่มาวันหนึ่งจึงรบเร้าขอให้ 2 ตายายเข้าไปสู่ขอนางพิกุลทองมาเป็นภรรยา 2 ตายายฟังแล้วหัวใจแทบวายกล่าวว่าคิดเกินตัวอย่างนี้จะถูกประหารเจ็ดชั่วโคตร ท้าวปักษาแปลงจึงแสร้งทำเป็นตรอมใจใกล้ตาย 2 ตายายจึงจำใจเข้าไปทูลสู่ขอนางพิกุลทองจากท้าวสัณนุราชได้ทราบความดังกล่าวก็กริ้วจัด กล่าวว่าถ้าคิดว่าหลานชายมีบุญวาสนาจะได้คู่กับนางจริงใกล้สร้างสะพานเงินสะพานทองจากท้ายสวนมาถึงพระราชวังภายใน 3 วันมิเช่นนั้นจะประหารทั้งโคตร 2 ตายายหลังจากกลับมาถึงบ้านแล้วก็นั่งซึม เอาแต่ร้องไห้แล้วต่อว่าท้าวปักษาที่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตน ครั้นท้าวปักษาได้ทราบเรื่องต้องสร้างสะพานทองแล้วจึงกล่าวปลอบใจว่าถ้าตนทำไม่เสร็จจะยอมตายแทน 2 ตายายจึงค่อยโล่งใจบ้าง พอตกค่ำท้าวปักษาก็บอกว่าจะขอออกไปทำธุระข้างนอกจากนั้นก็แปลงเป็นพญาแร้งขนาดมหึมาบินกลับไปยังเขานินทะกาลา แล้วเกณฑ์ไพร่พลทั้งหลายให้มาช่วยสร้างสะพานจนแล้วเสร็จ

ธิดาวานร 3 2554

เรื่องย่อ : ธิดาวานร 3 (2554/2011) อิยะ วดี หนีมาอยู่กับแม่มานาตาลี ไม่ยอมกลับเข้าเมือง มิใยใครจะมาขอร้องอ้อนวอน อิยะวดีก็ไม่ยอมกลับไป แต่ก็มิได้เพิกเฉยต่อการดูแลสัตว์เจ็บป่วยป้องกันไม่ให้โดนทำร้าย ขับไล่พวกบุกรุก ต้นน้ำลำธารและป่า มี มะเมี๊ยะ มาร่วมขบวนการ อิยะวดีกับพวกแม่มาเดินทางในป่าด้วยการโหนเถาวัลย์ ส่วนมะเมี๊ยะเดินทางในป่า ด้วยการใช้เส้นผมตวัดเกาะเกี่ยวกิ่งไม้ไปกับอิยะวดี และยังใช้เส้นผมทำร้ายผู้บุกรุกได้ด้วยทั้งสองมีความสุขมาก พนา บุราณ มาแวะเวียนหาเป็นประจำ รวมทั้ง อรุณี ละเอ พินิจ ดำรง และ บัวบาน ทุกคนขอร้องอิยะวดีให้กลับเข้าเมือง มีเพียงละเอคนเดียวที่กลับไปเยี่ยมบ้านให้พ่อหมอทำนายดวงชะตาของอิยะวดี ที่มีแต่เรื่องราวร้ายๆ แปลกประหลาดเกิดขึ้นบ่อย ๆ ทราบว่าอิยะวดียังไม่หมดกรรม จะต้องประสพเคราะห์กรรมใหญ่อีกครั้ง จากเงื้อมมือมนุษย์ด้วยกัน ละเอจึงเห็นด้วยที่อิยะวดีจะอยู่ในป่าไปสักพักจนกว่าจะหมดกรรม แต่ไม่มีใครเห็นด้วย เป็นเช่นนั้นอยู่สองปีผ่านไป

ในที่สุดอิยวะดีก็หนีกรรมไม่พ้นบัวบานไม่สบายต้องผ่าตัดใหญ่ อิยะวดีจำใจกลับเพราะรักแม่ห่วงแม่ มะเมี๊ยะออกมาจากป่ามาพักอยู่กับอรุณี อรุณีรับมะเมี๊ยะเป็นลูกเช่นเดียวกับที่เคยรับอิยะวดี บุราณคอยดูแลมะเมี๊ยะ ครูหอมนวล กลายเป็นเลขาและคู่หูคู่ซี้ของอรุณีคอยอบรมบอกกล่าวเรื่อง สังคมคนเมืองให้มะเมี๊ยะรับรู้แบบที่มะเมี๊ยะไม่เต็มใจ

ส่วน พวก คำรณ พวงมาลี(เอมฤดี) แสงแก้ว(นาถยา) พากันหลบหนีไปอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย หนีเข้า หนีออกไปมา อยู่พักหนึ่งอย่างลำบากยากแค้น ด้วยความที่ต้องพึ่งพาคำรณทำให้คำรณเริ่มมีอำนาจเหนือสองคนแม่ลูก แสงแก้วลุ้นให้พวงมาลีเป็นภรรยาของคำรณตามที่คำรณต้องการ หารู้ไม่ว่า คำรณแอบไปมีกิ๊ก เจ้าเล่ห์ชื่อ มายาวดี พวงมาลีตั้งท้องและคลอดลูกสาวชื่อ น้องไพร แต่คำรณยังคลางแคลงใจว่าอาจเป็นลูกติดท้องมากับแสนไท

มายาวดีพาคำรณไปพบกับ หม่องติ๊ด มาเฟียใหญ่แห่งสองชายแดน หม่องติ๊ดกำลังต้องการมือขวาชั้นดีแทนที่คนเก่าที่โดนยิงตายขณะต่อสู้กับ ตำรวจ คำรณ แสงแก้ว พวงมาลีและน้องไพร จึงมีชีวิตที่ดีขึ้นจากเงินบาป ทั้งสามสาบานว่าจะแก้แค้นพวกอิยะวดีและพนาให้ได้ คำรณเริ่มขยายเครือข่ายเข้ามาในเมือง เพื่อสืบเรื่องราวของพนาและอิยะวดี บางครั้งก็ย่ามใจลงทุนปลอมตัวมาเอง เช่นเดียวกันทางการก็ยังไม่เลิกตามหาตัวทั้งสามเอามาลงโทษตามกฎหมาย

วันที่ดำรงและบัวบานมารับอิยะวดีเข้าเมือง พนากับบุราณตั้งใจจะไปส่งอิยะวดีกับมะเมี๊ยะ แต่เกิดเหตุ มีคนมาตัดไม้ทำร้ายป่า เผาป่าฆ่าสัตว์ในป่า ทั้งหมดประกอบด้วยพรานเส็ง มะสังและลีกอ รีบไประงับเหตุด่วน อิยะวดีจึงกลับบ้านกับพ่อแม่ตามลำพัง ส่วนอรุณีกับหอมนวลมารับมะเมี๊ยะไปอยู่บ้านดอย ละเอ คัดค้านว่าอย่าเพิ่งไปรับอิยะวดี ไม่มีใครฟัง ละเอสุดทัดทานพยายามสวดมนต์ช่วยอิยะวดี ส่วนอิยะวดีนั่งรถมากับพ่อแม่กลับบ้าน แว่วได้ยินเสียงสวดมนต์ดังแว่วมาตลอดเวลา พึมพำสวดตามทั้งสามไม่รู้ตัวว่าสายของคำรณติดตาม กว่าจะรู้ตัวก็มาถึงจุดที่คำรณ พวงมาลี แสงแก้ว ดักรอทำร้าย

สาม คนโดนถล่มอย่างรุนแรงรถพลิกคว่ำระเบิด อิยะวดีกระเด็นออกมาจากรถทั้งที่ปากยังสวดมนต์ตามเสียงที่แว่วมา ส่วนดำรงกับบัวบาน เสียชีวิตติดอยู่ในรถ

พนากับบุราณ ระงับเหตุเสร็จ รีบติดตามมาเพราะห่วงประกอบกับบุราณสังหรณ์ใจในคำทำนายของละเอ แต่ก็พลาดไปเส้นยาแดงผ่าแปด ทั้งหมดมาพบรถพลิกคว่ำระเบิด พยายามจะเข้าไปช่วยกลับโดนพวกคำรณยิงปะทะใส่ พนาเห็นอิยะวดี กำลังตะเกียกตะกาย บาดเจ็บ พยายามฝ่าวงล้อมเข้าไปจะช่วย แต่ไม่ทัน อิยะวดีโดนรุกไล่คลานหนีจนตกลงไปในหน้าผาน้ำตกสูงลิ่วต่อหน้าต่อตา พนาจะกระโดดตาม แต่อิยะวดีลอยละลิ่วลงไปเบื้องล่างก่อน

อิยะวดีตกลงไปในกระแสน้ำเชี่ยวกราก พัดไหลไปไกลพอสมควร ศีรษะกระแทกโขดหินสลบไป กำลังจะจมน้ำ จระเข้ของมะเมี๊ยะมาว่ายน้ำเล่นพบเข้าจึงเอาตัวดันอิยะวดีมาเกยไว้ริมฝั่ง ลำธารแห่งหนึ่ง อิยะวดีสลบไปเจ็ดวันเจ็ดคืน ระหว่างที่สลบอยู่อิยะวดี ได้รับการดูแลจากลิงแฝดแสนรู้สองตัวพี่น้อง

อิ ยะวดีฟื้นขึ้นมา ความจำเสื่อม ไขว้เขว อิยะวดีเข้าใจว่าลิงสองตัวคือลิงอุอุ๊กับลิงอิอิ๊ที่พบในสวนสัตว์สิงค์โปร์ อิยะวดีทำตัวเป็นลิงเหมือนตอนเด็ก ๆ ตะโกนเรียกหาแม่มาแม่มาตลอดเวลา รอนแรมไปในป่ากับอุอุ๊ อิอิ๊ ลืมทุกอย่างเบื้องหลังจนหมดสิ้น แต่ยังคงรักสัตว์และดูแลสัตว์ในป่าต่อไป

พนา อรุณี จัดการพิธีศพของบัวบานและดำรงเสร็จรีบออกตามหาอิยะวดี ทั้งพี่นก แม่มานาตาลี ช่วยกันตามหาตลอดเวลาแต่ไม่พบ เพราะอิยะวดีไปไกลมากคนละเขตแดนป่า พวกแม่มานาตาลีเข้าไปไม่ได้ พี่นกหาจนพบ ทักทายอิยะวดีแต่อิยะวดีจำไม่ได้ อุอุ๊ อิอิ๊ช่วยกันไล่ส่งพี่นกไป พี่นกเสียใจมาก มะเมี๊ยะไปหาจระเข้ รู้ข่าวจากจระเข้ว่าพาอิยะวดีไปส่งไว้ริมลำธารแห่งหนึ่ง มะเมี๊ยะ พนา บุราณ ทุกคนไปยังริมลำธารดังกล่าวไม่พบอีก พนาพยายามสลักรูปหัวใจให้อิยะวดีเห็น และแล้ว คืนวันหนึ่งพนาได้ยินเสียงอิยะวดีตะโกนเรียกหาแม่มาแว่ว ๆ มาแต่ไกล

พนา รีบร้อนออกไปตามเสียงโดยไม่บอกใคร พนาได้พบอิยะวดีผมยาวขึ้น กู่ร้องอยู่บนต้นไม้ พนาเรียกอิยะวดี อิยะวดีไม่รู้จักพนา แถมทำท่าขู่ใส่พนา มิใยพนาจะพยายามอย่างไรอิยะวดีก็โกรธเช่นเดิม สุดท้ายลิงแฝดสองตัวออกมาขับไล่พนา ด้วยการระดมปาด้วยสารพันสิ่ง ส่วนอิยะวดีหนีหายไป พนาเสียใจผิดหวังมาก พาพรรคพวกตามหาอิยะวดีต่อไป

พบเจอกันหลายครั้ง พนาและพวกจึงสันนิษฐานได้ว่า อิยะวดีความจำเสื่อม หรือไม่ก็แกล้งทำไม่รู้จัก เพราะไม่อยากออกจากป่า แต่พนาก็ตั้งใจว่าจะพยายามต่อไปไม่สิ้นสุด จนกระทั่งสองปีผ่านไป คำรณ พวงมาลี แสงแก้วโดนไล่ล่าจากทางการทั้งเรื่องผิดกฎหมาย และเรื่องฆาตกรรมบัวบานกับดำรง ต้องหนีข้ามแดนไปกลับโชคร้าย เจอกองกำลังไม่ทราบฝ่ายผลักดันไล่ล่าจำต้องหนีหัวซุกหัวซุน

คำรณวางแผนจะเอาน้องไพรไปเป็นเหยื่อล่อเพื่อเบนความสนใจ แสงแก้วกับพวงมาลีตกใจมากจึงลอบเอายานอนหลับใส่ให้น้องไพรกินจับตะกร้าลอย น้ำ อธิษฐานให้ปลอดภัย พบคนใจดีมีเมตตาดูแล คำรณ

รู้เรื่องเนื่องจากแอบได้ยินสองแม่ลูกบอกกันว่าน้องไพรคือลูกของคำรณต่างหาก ส่วนลูกของแสนไทนั้นแท้งไปแล้ว คำรณยิ่งโกรธมากตบตีทำร้ายสองแม่ลูกอย่างรุนแรง แสงแก้วกับพวงมาลีนั่งกินน้ำตาแทนข้าวทุกวัน ตั้งใจว่าจะตามหาน้องไพรให้พบสักวัน คำรณก็เช่นกันเสียดายที่ทำให้น้องไพรต้องโดนลอยน้ำไปใจแทบขาด

น้องไพรลอยมาตามน้ำ อิยะวดีกำลังว่ายน้ำเล่นกับลิงอุอุ๊ อิอิ๊ พลางตะโกนเรียกหาแม่มา เจอรูปหัวใจที่ต้นไม้ที่ก้อนหิน ฉุกคิดหยุดมอง เหมือนจะจำได้ แต่ก็จำไม่ได้เพราะเลือนรางมาก การพูดจาก็กลับกลายเป็นพูดได้สั้นๆเป็นคำหรือสองสามคำ บางครั้งอิยะวดีก็เหม่อลอย ว้าเหว่ เหมือนคิดถึงอะไรบางอย่างได้แล้วก็เลือนหาย ขณะนั่งเหม่อลอยที่โขดหิน อุ๊อ๊อิอิ๊ ชี้ให้ดูตะกร้าลอยน้ำมา อิยะวดีกับสองลิง พากันไปเอามาเปิดดู เห็นเด็กน้อย วัยสี่ขวบหลับปุ๋ยอยู่ในตะกร้าผูกติดขอนไม้ท่อนใหญ่โดยรอบกันจมน้ำ อิยะวดีดีใจมากที่ได้พบมนุษย์ตัวเล็ก ๆ หลุดปากเรียกออกมาว่า ลูก ลูกมา อิยะวดีโอบกอดเห่กล่อมเป็นทำนองเพลง ฮัมไปมาไม่มีคำเนื้อร้อง ลิงแฝดสองตัวมาด้อมมองสงสัย ตื่นเต้นไปด้วย อิยะวดีกล่อมเด็กจนตัวเองเอาเด็กหลับคาอ้อมอก พักหนึ่งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเด็กร้องไห้ น้องไพรตื่นขึ้นมาตกใจแปลกที่ แปลกคนอุ้มแถมมีลิงสองตัวมองอยู่ น้องไพรตะโกนหาแม่แม่แม่ ๆ ๆ สลับร้องไห้ อิยะวดีตั้งตัวเป็นแม่ของน้องไพร ชี้ตัวเองว่าแม่มา มีภาพในหัวบังเกิดขึ้น เป็นลิงแม่มาโอบกอดเด็กน้อยไว้บนตัก

เด็กน้อยเรียกหาแม่มา ๆ ๆ ๆ ลิงแฝดไปหากล้วยหาผลไม้มาให้น้องไพรกิน อิยะวดีรักน้องไพรยิ่งกว่าใด ๆ น้องไพรก็รักอิยะวดีติดแจ เรียกแม่มาทุกคำ อิยะวดีเรียกน้องไพรว่า ลูกมา สองคนสื่อสารกันง่าย ๆ สั้น ๆ ทั้งภาษาใบ้ สายตาความรู้สึก และคำพูดสั้นแต่ซาบซึ้ง ที่เริ่มนึกได้ทีละน้อย เช่นรักลูกมา รักแม่มา อิยะวดีชี้บอกว่าลูกมาชื่ออะอ๊ะ บางครั้งฝันเห็นพนา ที่ฝันบ่อยที่สุดคือภาพบัวบานกับดำรงติดในรถที่ระเบิดไฟครอกตาย ฝันทีไร อิยะวดีจะกรีดร้องคำว่า แม่มาพ่อมา แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนหน้าพบน้องไพร ลิงแฝดปลอบโยน เช็ดน้ำตาให้กอดด้วย มาตอนนี้ มีน้องไพร เช็ดน้ำตากอดหอมแล้วร้องไห้ตาม ทำให้อิยะวดีหยุดร้องเพราะสงสารน้องไพร ที่น่าแปลกอีกอย่าง คือน้องไพรมีปานสีแดงรูปหัวใจคู่อยู่ที่แผ่นหลังถ้าใส่เสื้อผ้าจะไม่เห็น อิยะวดีพยายามคิดว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เอามาเปรียบเทียบกับที่พนาเขียนไว้ในบางแห่ง อิยะวดีเริ่มขีดเขียนรูปหัวใจบ้าง ทำให้พนาได้พบร่องรอยของอิยะวดีเพิ่มขึ้น

บุราณยังคงขึ้นร่องเชียงใหม่กรุงเทพเป็นประจำ พามะเมี๊ยะไปด้วย มะเมี๊ยะตื่นเต้นตกใจ กลัวผู้คนแปลกหน้า แต่บุราณคอยปลอบโยน บุราณพามะเมี๊ยะไปพบเพื่อนฝูง บางคนหัวเราะเยาะมองความไร้เดียงสาของมะเมี๊ยะเป็นความเปิ่นความโง่เขลาตัว ตลก โดยเฉพาะ พิยะดา กับเพื่อนที่หมายปองบุราณ ชอบแอบกลั่นแกล้ง จนมะเมี๊ยะขวัญเสีย วิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง ตามหาตัวกันจ้าละหวั่น มะเมี๊ยะหนีด้วยการเอาเส้นผมตวัดตามที่สูง หนีลงไปบ่อจระเข้สร้างความแตกตื่นไปทั้งเมือง จระเข้ไม่กัดมะเมี๊ยะแถมทำท่าสยบ หนังสือพิมพ์ลงข่าว ทีวีมาถ่าย บุราณต้องขอร้องให้ยุติทั้งหมด ไปให้ห่างที่สุด มะเมี๊ยะจึงยอมมาหาบุราณ บุราณพามะเมี๊ยะกลับมาเชียงใหม่ ครูหอมนวลกับอรุณีดูแล มีแอนโตนิโอเป็นเพื่อน ไปเยี่ยมจระเข้บ้าง แอนโตนิโอเกิดปัญหากับหอมนวล น้อยใจว่าอรุณีรักหอมนวลสนิทกับหอมนวลมากกว่าตัวเอง หนีออกจากบ้าน มะเมี๊ยะต้องออกติดตามไปรับกลับมา

การ ตามหาอิยะวดีของพวกพนา มะเมี๊ยะ บุราณ แม่มานาตาลีดำเนินต่อไป พนาทุกข์ใจกว่าใคร ๆ ละเอนั่งสมาธิมองหาและส่งเสียงเรียกอิยะวดี อิยวะดีได้ยินแต่จำไม่ได้ว่าตัวเองชื่ออิยะวดี มะเมี๊ยะส่งจระเข้ออกตามหาเผื่อว่าอิยะวดีจะมาเล่นน้ำตามลำธาร ในที่สุดก็ได้ร่องรอยของอิยะวดีเพราะพ่อหมอข้ามฝากมาช่วยเพ่งมองหา ทุกคนจึงพากันติดตามหาอิยะวดีตามร่องรอยที่พ่อหมอบอกให้ คำรณข่มขู่คุกคามสองแม่ลูกจนหงอ ไม่กล้าหือสองคนเริ่มเสียใจในสิ่งที่ทำไปทีละน้อย อยากจะหนีจากคำรณเพื่อไปตามน้องไพร คำรณก็ไปลากตัวกลับมาทุกครั้ง คำรณเข้ากับมายาวดีกิ๊กใหม่ ได้ดีมาก

หม่องติ๊ด สร้างเมืองแม่ม้ายให้มายาวดีหลอก ฉุดคร่ากักขังหน่วงเหนี่ยวสาวสวยจำนวนมาไว้ให้อาณาจักรที่สร้างภาพว่าเป็น เมืองแม่ม้าย หรือเมืองคนอกหัก ไม่กินเนื้อสัตว์ รักษาศีล หลอกคนแก่เอาไว้เป็นคนรับใช้ มีพวกทอมเป็นบอร์ดี้การ์ด พวกสาวสวย มาแล้วมักหายไป มายาวดีบอกทุกคนคือพวกนั้นฟื้นฟูจิตใจดีแล้วจึงขอกลับบ้าน แต่ความจริงถูกส่งไปขาย มายาวดีมีลูกน้องฝาแฝดสวยงามแต่ชั่วร้ายสองคนชื่อ เมธาวดี และมาธาวดี คอยช่วยมายาวดีหลอกล่อหญิงสาวและหญิงแก่มากักขัง

มายาวดีอิจฉาพวงมาลีที่สาวสวยกว่า แม้ว่าคำรณจะดูมีความสุขกับมายาวดี แต่มายาวดีรู้ดีว่าคำรณรักพวงมาลีมากที่สุด จึงหาทางแกล้งจับตัวสองแม่ลูกไปไว้ในเมืองแม่ม้ายของตัวเอง ตั้งใจจะเอาพวงมาลีไปขายต่อ ส่วนแสงแก้วเอาไปรับใช้ ใช้วิธีตีสนิทแล้วหลอกสองคนว่าจะพาหนีให้พ้นจากคำรณ ที่แท้เอาไปกักขัง

เวลาผ่านไปอีกสองปีอิยะวดี เริ่มนึกภาพเก่า ๆ ได้มากขึ้น ได้ยินเสียงเรียกของละเอบ่อยเข้า อิยะวดีเริ่มอยากรู้ว่าใครคืออิยะวดี เสียงเรียกนั้นเริ่มดังใกล้มากขึ้น อิยะวดีขีดรูปปานหัวใจของลูกมาอะอ๊ะ ไว้ตามต้นไม้ ทำให้พนาเริ่มมีกำลังใจเพราะพบสัญลักษณ์ที่เคยมีต่อกันไว้

ลิงอุ๊อุ๊อิอิ๊ สอดรู้สอดเห็นกองคาราวานของพวกพนา ที่รอนแรมมาตามหาอิยะวดีเห็นอาหาร น่ากิน เสื้อผ้าของพวกพนา แอบหยิบฉวยขโมยมาให้อิยะวดีกับอะอ๊ะ อิยะวดีมองผ้ามองของที่ได้มา คุ้นเคยมาก จึงพยายามคิดว่าจะเอามาทำอย่างไร ในที่สุดจิตใต้สำนึกก็บอกให้อิยะวดีทำเสื้อผ้าจากที่ได้มาให้อะอ๊ะใส่ เอาอาหารกระป๋องมาเปิดกินพวกพนาแปลกใจมากเพราะของหายทุกวัน บางทีหายกลางวัน บางทีหายกลางคืน จึงวางแผนล่อจับขโมย พบว่าผู้ที่ขโมยคือลิงสองตัว จึงพากันสะกดรอยตามลิงทั้งสอง

มะเมี๊ยะเอาเส้นผมตวัดรัดลิงสองตัวไว้ได้ ลิงร้องโวยวาย อิยะวดีตกใจออกมาช่วยลิงทั้งสอง โดยมีอะอ๊ะติดหลังมาด้วย พนา บุราณ มะเมี๊ยะถึงแก่ตะลึง เพราะผู้ที่มาช่วยคืออิยะวดีนั่นเอง แต่อิยะวดีไม่ยอมรู้จักทุกคน พยายามจะเล่นงานทุกคนแบบเอาเป็นเอาตาย

น้อง ไพรเห็น พนา บุราณ ดีใจมากตะโกนเรียกพ่อพ่อมา อิยะวดี ขณะที่อิยะวดีและลิงจะเพลี่ยงพล้ำโดนพวกพนาจับได้ เกิดพายุใหญ่กระหน่ำพัดมา อิยะวดีน้องไพรลิงแฝดหนีไปอยู่บนต้นไม้ พายุถอนรากถอนโคนปลิวไปต่อหน้าต่อทุกคนที่พยายามจะเจรจากับอิยะวดี ทุกคนกับอิยะวดีจึงพลัดพรากจากกันอีกครั้ง

ต้นไม้ลอยตามแรงพายุไปตกใกล้เมืองแม่ม้ายของมายาวดี ทุกคนสลบทั้งลิงอิยะวดีน้องไพร พวกพนาก็บาดเจ็บเสบียงปลิวหายหมด ต้องกลับบ้านมือเปล่าอีกครั้ง พวกอิยะวดีฟื้นขึ้นมา พบว่าลอยมาไกลมาก หิวโหยและบาดเจ็บ ได้ยินเสียงเพลงแว่วมาจากไม่ใกล้ไม่ไกล อิยะวดีกระเตงลูกมา มีลิงแฝดลัดเลาะไปตามต้นไม้ตามเสียงเพลง มองเห็นอาณาบริเวณสวยสดงดงามมีลำธาร มีบ้านเล็กบ้านน้อย เต็มไปหมด อิยะวดีรู้ทันทีว่าที่นี่มีคนมีอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ประกอบกับเห็นหญิงสาวสวยแต่งกายแปลก ๆ ออกแนวโบราณกำลังร้องรำทำเพลง มีมายาวดี เมธาวดีประกอบซ้ายขวาเหมือนองครักษ์ กำลังชมการแสดงของพวกสาวสวย พวกคนแก่กำลังพัดวีให้ อิยะวดีและพวกดีใจตื่นตาตื่นใจมาก ที่สุดลิงแฝดลักลอบขโมยอาหารและเสื้อผ้าของพวกเมืองแม่ม้ายมาให้ลูกมากับอิ ยะวดีดัดแปลงใส่แทนตัวเก่าที่ฉีกขาด

อิยะวดีนึกได้จากส่วนลึกของจิตใจ ว่าควรมีเสื้อผ้าเปลี่ยนให้น้องไพร ควรทำผมสวย ๆ ให้น้องไพร อิยะวดีจึงคิดปักหลักใกล้เมืองแม่ม้ายเพราะอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ น้องไพรจะได้สบายขึ้น อิยะวดีทำซุ้มโพรงหรือเข้าไปอยู่ในถ้ำ ใกล้เมืองแม่ม้าย พวกในเมืองแม่ม้าย เริ่มแปลกใจทะเลาะตบตีกันเอง หาว่ามีการขโมยของเช่นเสื้อผ้าและอาหารของกันและกัน ความแตกตอนที่พวงมาลีกับแสงแก้วที่โดนจับมากำลังหลับสนิทเพราะอ่อนเพลีย โดนลิงแฝดมาขโมยอาหารและเสื้อผ้า ทำให้มายาวดีรู้ว่าที่แท้ไม่มีใครขะโมยกันเองแต่เป็นลิง คิดว่าเป็นลิงซุกซน จึงไม่สนใจให้ป้องกันของกันเอง

พวกพนาพักฟื้นเพียงไม่กี่วันก็ออกเดินทางต่อไปในทิศทางที่เห็นต้นไม้ลอยไป วันก่อน แต่ไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อน เนื่องจากไม่มีสัญลักษณ์หัวใจคู่ที่อิยะวดีเคยทำไว้พนาไปเจอเอาพวกของมาเฟีย หม่องติ๊ด นำโดยคำรณแต่ปิดหน้าพรางเอาไว้ พนาจึงไม่รู้ว่าคือคำรณที่ออกตามหา แสงแก้วและพวงมาลีเพราะคิดว่าหนีหายไปไม่รู้ว่าโดนมายาวดีหลอกไปขัง คำรณฉวยโอกาสเล่นงานพนากับพวก

บุราณ บาดเจ็บ มะเมี๊ยะพากระโดดน้ำดำหายลงไปในลำธาร พลางเอาผมสะบัดสู้ใส่พวกสมุน คำรณจึงรอดหนีไปได้ และพยายามจะช่วย พนาที่บาดเจ็บจนมุมกำลังจะโดนฆ่า อิยะวดีพาน้องไพรใส่หลังออกมาเล่นน้ำริมลำธาร พนาเห็นอิยะวดีตะโกนบอก อิยะวดีช่วยพนาด้วย อิยะวดีได้ยินคำว่าพนา เหมือนได้ยินชื่อที่ติดในหัวใจ น้องไพรจำพนาได้เรียกพนาว่าพ่อมา มาพ่อมา ช่วยพ่อมา อิยะวดีตัดสินใจช่วยพนา คำรณเห็นอิยะวดีมาช่วยพนา มีเด็กมาด้วย เข้าใจว่าเป็นลูกของพนากับอิยะวดีไม่รู้ว่าที่แท้ลูกตัวเองเพราะจากกันหลาย ปีทำให้จำหน้าเด็กไม่ได้ (ตอนที่ใส่ตะกร้ามากับตอนนี้ให้คนละคนไม่อย่างนั้นจะหน้าหมือนกันหรือไม่ก็ ทำผมคนละแบบ )คำรณอิจฉาที่สองคนมีลูกจึงคิดฆ่าทั้งสามคน ปาด้วยระเบิด แต่ลิงแฝดรับระเบิดไว้ได้ ปากลับใส่พวกคำรณหนีกันกระเจิดกระเจิง

อิยะวดีพาพนามารักษาอยู่นานพอสมควร ลิงแฝดขโมยเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มอาหารและหายาสมุนไพรมารักษาพนาจนอาการดี เป็นลำดับ น้องไพรติดพนาหนึบเรียกพนาว่าพ่อมาเรียกตัวเองว่าลูกมาอะอ๊ะ ช่วงนี้พนามีความสุขมาก มีอิยะวดีดูแล แม้จะยังความจำเสื่อม แต่พนาได้โอกาสเจ็บไม่เลิกค่อย ๆ สะกิดความจำของอิยะวดีให้รื้อฟื้น อิยะวดีกับพนาเหมือนคนรักกันครั้งใหม่ ต่างพอใจกันและกัน แต่แล้วก็เกิดอุปสรรคอีกจนได้

คำรณบอกกับมายาวดีให้จับตัวอิยะวดีไปยกให้หม่องติ๊ด มายาวดีรู้ว่าอิยะวดีคือหัวหน้าลิงสองตัวที่มาขโมย จึงรับปากหาทางจับอิยะวดี ในที่สุดก็จับสำเร็จ พนาที่กำลังจะสัมฤทธิ์ผลเรื่องพาอิยะวดีและน้องไพรกลับบ้านคอยแล้วคอยอีก อิยะวดีไม่กลับมาพนาจำต้องอยู่ต่อไปเพื่อดูแลน้องไพรที่ร้องไห้ เรียกแม่มา ๆ ๆ ตลอดเวลา

อิยะวดีโดนจับไปขังรวมกับสองแม่ลูก แสงแก้ว พวงมาลี ครั้งแรกมายาวดีตั้งใจจะส่งพวงมาลีให้หม่องติ๊ด แต่มาพบอิยะวดีจึงตัดสินใจส่งให้ทั้งสองคน อิยะวดีต้องอยู่รวมกับพวงมาลีและแสงแก้ว ที่ยังคงเกลียดชังและจ้องเล่นงาน อิยะวดีจำสองคนไม่ได้ แต่สองคนจำอิยะวดีได้ ทั้งสามจึงมีปัญหาตลอดเวลา ทะเลาะตบตีกันจนป่วนไปหมด ถึงเวลาพาสองคนไปมอบตัวให้หม่องติ๊ดในตัวเมือง อิยะวดีคิดแผนหนีตลอดทาง พวงมาลีเอาแต่ร้องไห้ อิยะวดีจะหนีกลับไปหาพนากับอะอ๊ะ พวงมาลีรู้ดีว่าอิยะวดีเก่งต้องพาหนีได้จึงหลอกล่อให้พาหนี

อิยะวดีก็พาพวงมาลีหนีมาได้ พวงมาลีขอร้องให้อิยะวดีกลับไปช่วยแสงแก้ว อิยะวดีรับปาก แต่ขณะที่กำลังจะพาแสงแก้วออกมา อิยะวดีวางแผนจะพาทุกคนหนีเพราะรู้ว่า ทุกคนโดนหลอก ป่วนไปทั้งเมืองทุกคนหนีได้ปลอดภัย แต่คนที่โดนจับกลับเป็นอิยะวดี เพราะโดนสองแม่ลูกหักหลังตะโกนเรียกการ์ดมาจับ อิยะวดีโดนจับไปทรมาณอย่างทารุณ

พนา ตัดสินใจพาน้องไพรบุกไปที่เมืองแม่ม้าย เพราะพบสัญลักษณ์ที่อิยะวดีทิ้งไว้ ลิงแฝดขโมยยานอนหลับของมายาวดีมาแอบใส่ให้พวกการ์ดของมายาวดีกิน เข้าไปช่วยอิยะวดีออกมาได้ พนาอ้อนวอนให้อิยะวดีตามไปกับพนาเพื่อเห็นแก่น้องไพรสำเร็จ

แสงแก้ว พวงมาลีหนีออกมาได้ หันไปค้าของผิดกฎหมายเพื่อยังชีวิต เพื่อมีเงินตามหาน้องไพร ไม่ได้ย้อนกลับไปหาคำรณอีก คำรณยังคงตามหาน้องไพรกับพวงมาลี และเริ่มเบื่อหน่ายมีปัญหากับมายาวดี คำรณคิดตั้งตัวเป็นใหญ่หักหลังหม่องติ๊ด วางแผนการใหญ่หลอกใช้มายาวดี ในที่สุดมายาวดีกับหม่องติ๊ดก็ติดกับดัก คำรณแอบแจ้งทางการว่าเป็นผู้หวังดี ว่ามีการส่งมอบของผิดกฎหมาย คำรณแอบยักยอกของหม่องติ๊ดเกือบทั้งหมดใส่ในกล่องนมเด็ก เพื่อส่งมอบให้เอเยนต์รายใหญ่หน้าใหม่ ซึ่งที่แท้ก็คือพวงมาลีและแสงแก้วนั่นเอง ทั้งสามพบกันคืนดีกันอีกครั้ง

พนาพาอิยะวดี กับอะอ๊ะกลับเข้ามือง มีอุอุ๊ อิอิ๊มาส่งถึงชายเขตป่า มีแม่มานาตาลีมารับที่เขตแดนของตัวเอง อิยะวดีพยายามทำทุกอย่างเพื่อน้องไพร ด้วยความอดทน แม้ว่าจะอยากกลับเข้าไปในป่าก็ตาม มีบางครั้งอิยะวดีพาน้องไพรและมะเมี๊ยะไปดูแลสัตว์ในป่า ขอไปเยี่ยมลิงแฝดบ้าง พนารับปาก พี่นกสื่อข่าวนัดหมายให้ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ คำรณ พวงมาลี แสงแก้วส่งยาเสพย์ติด และออกตามหาน้องไพร ลิงแฝดสองตัวพบเห็นการขนยาของทั้งสามจึงบอกพี่นกให้รู้มาแจ้งกับอิยะวดี พนาแจ้งต่อกับเจ้าพนักงาน

พวกคำรณก็สืบทราบเช่นกันว่า พวกพนากำลังพากันมาในป่า จึงจัดการวางแผนสังหารหมู่พวกพนา ในที่สุดทั้งสองฝ่ายมาพบกันปะทะกัน ฝ่ายพนาอาวุธสู้ไม่ได้จึงเริ่มพ่ายแพ้น้องไพรตกใจวิ่งหนีออกไปกลางวงปะทะ พวกคำรณจับเด็กมาเป็นตัวประกันโดยไม่รู้ว่านั่นคือลูกหลานตัวเอง หลอกล่อให้พนากับอิยะวดีออกมาให้สังหารหมู่สามคนพ่อแม่ลูก อิยะวดีกับพนาถลันตามมาจะเอาน้องไพรคืน

น้อง ไพรสลัดมือจากพวงมาลีกัดแสงแก้ว เพื่อให้หลุดพ้นไปหาอิยะวดีกับนาตาลีโดยเร็วทำให้เสื้อด้านหลังขาด เห็นแผ่นหลัง ขณะที่คำรณขว้างระเบิดใส่สามคนที่กำลังกอดกัน พวงมาลีตกตะลึงเพราะมองเห็นปานแดงรูปหัวใจคู่ของน้องไพร เช่นเดียวกับแสงแก้วที่เห็นปานแดงนั้น สองคนตะโกนเรียกน้องไพร และห้ามคำรณไม่ให้ขว้างระเบิดใส่น้องไพรลูกตัวเอง ไม่ทันแล้ว คำรณขว้างมา พนารวบน้องไพรดึงอิยะวดีกระโดดหลบ มีมะเมี๊ยะตวัดเส้นผมปัดระเบิดกระเด็นไปโดนเอาแสงแก้วกับพวงมาลีที่วิ่งไปหา น้องไพรระเบิดโดนสองคนเข้าเต็ม ๆ

คำรณแทนที่จะช่วย สองคนกลับหนี โชคร้ายเจอเอาหม่องติ๊ดกับมายาวดีที่แหกคุกออกมายิงคำรณต้องหนีกลับมาที่แสง แก้วและพวงมาลี ตำรวจมาสมทบทันเวลาจับพวกหม่องติ๊ดได้ คำรณพวงมาลี แสงแก้ว มาสารภาพผิดกับอิยะวดี เด็กที่รับรู้แล้วว่าอะอ๊ะคือลูกสาวของพวงมาลีกับคำรณ พยายามขอกอดน้องไพรก่อนตาย แต่น้องไพรไม่ยอมเข้าไปหาทั้งที่อิยะวดีกับพนาขอร้องให้ไปหาสามคน มิหนำซ้ำยังบอกตะโกนว่าเกลียด ๆ ๆ ใส่สามคน สามคนเสียใจเจ็บช้ำรู้สึกถึงการสูญเสียที่เคยทำกับอิยะวดีแต่ก็สายเกินไป จึงขอฝากให้ดูแลน้องไพรด้วย พนากับอิยะวดีรับปาก

หลังจากเหตุการณ์ร้ายผ่านไป อิยะวดีกลับมาอยู่บ้านดูแลน้องไพรให้มีชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป อิยะวดีทำหน้าที่พิทักษ์ป่าร่วมกับพนา ร่วมกับบุราณและมะเมี๊ยะ พ่อหมอบอกว่าอิยะวดีหมดกรรมแล้ว ต่อไปนี้ชีวิตมีแต่ดีงามตลอดไป อิยะวดีตัดสินใจร่วมชีวิตกับพนามีลูกเป็นน้องไพร มะเมี๊ยะกับบุราณก็ตัดสินใจร่วมชีวิตกัน มีการฉลอง ท่ามกลางฝูงสัตว์ในป่า ไม่มีการเลี้ยงหรูหราไม่มีการแต่งตัวสวยงาม แต่ทุกคนก็ยินดีมีความสุขสนุขกันทั่วหน้า อย่าลืมติดตามชม ละครธิดาวานร 3 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.40 น. ทางช่อง 7 สี

เพลงรักบ้านนา 2554

เรื่องย่อ : เพลงรักบ้านนา (2554/2011) ทวน และ เมิน ลูกศิษย์ หลวงตา แห่งวัดบ้านนา ต่างเป็นเด็กกำพร้าที่หลวงตาเก็บมาเลี้ยงไว้ด้วยข้าวก้นบาตรจนเติบโต ทั้งสองเดินทางกลับมาถึงบ้านนา หลังหายตัวไปนานเกือบสิบปี ทำให้เป็นที่โจษขานกันในหมู่ชาวบ้านนาว่าทั้งสองไปติดคุก ทวนและเมินกลับมาถึงบ้านนาในวันเวลาเดียวกัน ก็พบกับ ศรีไพร ลูกสาวคนเล็กของ นายพร และนางสด ซึ่งเพิ่งจะเรียนจบเกษตรสาขาพืชสวน กลับมาเป็นชาวนาที่บ้านนา ศรีไพรกำลังพาผู้หญิงแก่ไปคลอดลูก แต่รถบุโรทั่งของทวนกับรถแต๋นของเมินกลับจอดขวางไว้ ทำให้ต้องช่วยกันทำคลอดอย่างโกลาหล และศรีไพรก็ไม่ชอบหน้าหนุ่มทั้งสอง เมื่อรู้ว่าทั้งทวนและเมินต่างเคยหลงรัก ศรีแพร พี่สาวผู้เป็นนางงามท้องถิ่นคนเดียวกัน ด.ช.แสน รีบวิ่งไปแจ้งข่าวกับหลวงตาว่าทวนและเมินกลับมาแล้ว เนี้ยว ลูกสาว เจ๊กตง ซึ่งเคยหลงรักทวน ดีอกดีใจที่ทวนกลับบ้านนา ขณะที่เจ๊กตงต้องรีบกีดกันเพราะรังเกียจคนคุกเช่นทวนและเมิน ไม่ต้องการมาเป็นเขย หลวงตาให้ทวนและเมินไปปลูกเพิงอยู่หลังป่าช้าของวัด พร้อม ทอก และ หมอก ลูกศิษย์วัด โดยมี มหาเฉื่อย มัคทายกประจำวัดคอยดูแลทั้งสอง เมินรีบไปหาศรีแพรที่บ้าน กลับถูกนายพรและนางสดกีดกันไม่ให้พบกับศรีแพร เพราะทั้งสองต่างหวงลูกสาว ศรีแพรเป็นลูกสาวคนโตที่นายพรหวังจะให้แต่งงานกับ ชิงชัย ลูกชาย เศรษฐีบุญช่วย นายพรชอบความร่ำรวยเพราะคิดว่าเงินจะทำให้ศรีแพรมีความสุข แต่ศรีแพรแอบรักเมินมาตั้งแต่ทั้งสองเริ่มเป็นหนุ่มสาว เมินมีฐานะเป็นเด็กวัด ทวนทำตัวเป็นคู่แข่งของเมิน ทั้งสองต่างสงสัยกันและกันว่าต่างหายไปไหนกันมาเกือบสิบปี แต่ทั้งสองก็ต่างปกปิดความจริง และต่างเริ่มต้นแข่งขันกันเพื่อที่จะได้หัวใจของศรีแพร

ลุย 2554

เรื่องย่อ : ลุย (2554/2011) ลุย หล่มสัก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เป็นเด็กกำพร้าเติบโตที่หล่มสักโดยมีพระอาจารย์รูปหนึ่งเลี้ยงดู ชีวิตเด็กวัดของลุยผกผันเมื่อผู้มีอิทธิพลในทางนักเลงถูกชะตาจึงขอไปเลี้ยง พระอาจารย์กำชับกับผู้มีอิทธิพลท่านนั้นว่า…ดวงลุยความตายขึ้นอยู่ในมือ เต็มพรืดไปหมด อบรมให้ดีก็จะดี แต่ถ้าร้ายจะร้ายยิ่งกว่ามหาโจร แต่ดูเหมือนว่าการจะอยู่ในเส้นทางชีวิตคนดีของลุยนั้นยากยิ่ง เพราะพ่อบุญธรรมของเขาทำงานให้กับองค์การลับซึ่งทำงานผิดกฏหมาย ลุยเติบโตขึ้นในสิ่งแวดล้อมของอาชญากร…

หลายปีผ่านไป ลุยกลายเป็นหนุ่มรูปร่างบึกบึนแข็งแรงสมชายชาตรี เมื่ออายุ 21 ปีแข่งขันชกมวยชิงรางวัล แรงพลังของเขาทำให้คู่ชกบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้คนในแถบนั้นต่างพากันโจษจันชื่อ ลุย หล่มสัก

ลุย มีคนรักชื่อ ไทรงาม (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) เป็นลูกสาวร้านขายอาหารในตลาด แต่เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงเลื่อย ลุยบุกเข้าไปฉุดเจ้าสาวหนีในวันแต่งไปใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ความรักของลุยที่มีให้ไทรงามไม่เคยจืดจาง มีเพียงเรื่องงานเท่านั้นที่เขาขอร้องไม่ให้หญิงสาวก้าวก่าย ไทรงามไม่เคยรู้ว่าลุยทำงานอะไร รู้แต่เพียงว่าลุยทำงานให้กับพ่อผู้มีพระคุณ และการทำงานแต่ละครั้ง ลุยได้เงินกลับมาทีคราวละมากๆ

วันหนึ่งเกิดเรื่องร้ายขึ้นเมื่อพ่อของ ลุยถูกหักหลังถูกกลุ่มโจรฆ่าตาย ความแค้นทำให้ลุยเกรี้ยวกราด ลุยบุกเผาทำลายล้างพวกกลุ่มโจรที่ฆ่าพ่อจนราบคาบ แล้วพาไทรงามอพยพไปอยู่กับ กริช ลมกรด (อนุสรณ์ เตชะปัญญา) นายใหญ่ของพ่อ

กริช ลมกรด เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งองค์การที่พ่อเขาเคยทำงานให้ ทำเรื่องผิดกฏหมายทั้งค้าอาวุธเถื่อน สินค้าเถื่อนทุกชนิด รวมถึงของหนีภาษี ยาเสพติด ที่สำคัญ องค์การนี้รับจ้างฆ่าคน !

กริชชอบใจในฝีมือยิงปืนของลุยที่แม่นราวจับวาง ตำแหน่งของลุยเมื่อมาอยู่กับกริชจึงเป็น “มือปกาสิต” ซึ่งก็คือ “มือปืนอาชีพ” นั่นเอง

องค์การ ยังมีผู้ร่วมก่อตั้งอีก 4 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า (ทองขาว ภัทรโชคชัย) , เทียว สิบทิศ (เบคิม ฤทธิ์), ศักดา ปาฏิหาริย์ (ประกาศิต โบสุวรรณ) , และ ปกาศิต จอมพลัง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) จอมบงการหัวหน้าใหญ่

ลุยทำงานให้ กับองค์การอย่างดีเสมอมา ที่องค์การลุยมีโอกาสพบกับ สร้อยคีรี (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) อดีต คนรักเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นถึงกลุ่มผู้นำหญิงคนหนึ่ง ความรักในอดีตไม่สมหวังเพราะลุยรู้สึกตัวด้อยค่าจึงปล่อยให้สร้อยคีรีชอบพอ กับเพื่อนรักอีกคนหนึ่งของเขา ทันทีที่พบหน้ากันลุยกับสร้อยคีรีตระหนักว่ายังคงมีความรักและผูกพันระหว่าง กันเพียงใด สร้อยคีรีแอบช่วยเหลือลุยในหลายเรื่อง ไทรงามเองก็สังเกตเห็นและนึกไม่สบายใจอยู่บ้าง เพราะเคยรู้ว่าสองคนนี้รักกันมากเพียงใด หากแต่ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ลุยกับสร้อยคีรีจึงตกลงจะเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น

ผลงานและ ความจงรักภักดีของลุยต่อองค์การนับว่าน่าพอใจ แต่เมื่อลุยได้รู้ว่าไทรงามตั้งท้อง เขาเริ่มคิดอยากกลับตัวเป็นคนดีอยากถอนตัว ยิ่งเมื่อได้เห็นหน้า ทอม (ด.ช.เขมะ วิถี) ลูกชายสุดที่รัก ลุยก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องการวางมือจากอาชีพนี้โดยเร็ว แต่เขาก็ถูกนายทั้งหลายต่อรองเรื่อยมา พร้อมๆ กับสร้อยคีรีเองก็เฝ้าเตือนเขาไม่ให้แสดงตัวว่าจะทำตัวออกห่างองค์การนัก เพราะเธอรู้ว่าลุยจะต้องได้รับอันตรายแน่นอน

จนทอมอายุได้ 5 ขวบ ลุยมีโอกาสช่วยเหลือ แวววัลย์ (แพร เอมเมอรี่) เด็กสาววัยรุ่นกำพร้าใจแตกจากเงื้อมือของอันธพาล แวววัลย์มีอดีตที่ไม่น่าจดจำ พ่อแม่ของเธอแยกทางกัน แม่หนีไปกับชู้หนุ่มคนใหม่ ส่วนพ่อถูกฆ่าตายจากการเข้าสู่วงการเมืองได้ไม่นาน แวววัลย์หลงรักลุยและชื่นชมมากเข้ามาเป็นเพื่อนเล่นกับ ทอม อยู่บ่อยๆ

ตอน แรกลุยไม่สบายใจที่แวววัลย์เข้ามาสนิทสนมเพราะกลัวไทรงามไม่สบายใจ แต่เมื่อทราบถึงอดีตของแวววัลย์ ลุยถึงกับต้องผงะ เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วแวววัลย์เป็นบุตรสาวของเหยื่อกระสุนของเขาในอดีตใน ยุคแรกๆ ที่เริ่มทำงานให้กับองค์กร ทำให้ลุยรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นเมตตาแวววัลย์เหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ซึ่งแวววัลย์เข้าใจดีและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ เธอเข้ามาอยู่เป็นเหมือนคนในครอบครัวของลุย เป็นพี่สาวของทอม

ลุยไม่ อยากขัดแย้งกับนายใหญ่ขององค์การ เขาจำต้องยอมรับงานฆ่านักการเมืองทุจริตคนหนึ่งจากองค์การ แต่งานนี้เองที่ลุยต้องเสียใจมากที่สุด เพราะเขาพลั้งมือลั่นกระสุนใส่เด็กสาวคนหนึ่งที่นักการเมืองคนนี้แอบล่อลวง มาจากผับ และทันทีที่พลิกร่างเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา กลับกลายเป็น แวววัลย์ ที่เผลอเข้ามาอยู่ในที่เกิดเหตุโดยไม่รู้ตัว !

ลุยแทบคลั่งด้วยความ เสียใจ…เขาไม่ตั้งใจจะดับชีวิตเด็กสาวคนที่ตัวเองฆ่า พ่อเธอเลย ลุยรู้สึกผิดในใจอย่างมาก เหตุการณ์นี้ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะวางมือโดยเด็ดขาด เขาทำจดหมายแจ้งองค์การว่าต้องการลาออกและสัญญาว่าจะเก็บรักษาความลับ ทุกอย่างขององค์การไว้ แต่กริชไม่สนับสนุนการตัดสินใจของลุยเพราะรู้ดีว่าองค์การไม่เคยปล่อยให้ใคร เลิกอาชีพนี้ การออกจากองค์การทำได้เพียงสถานเดียวคือ..จบชีวิต !

กริช กับ เดือน แรมกล้า (ดนัย สมุทรโคจร) เพื่อนรักของลุยและ สร้อยคีรี พยายามคัดค้าน แต่ลุยตัดสินใจแน่วแน่ เขาพาเมียและลูกหนีไปประจวบเพื่อสร้างชีวิตใหม่ด้วยกัน โดยความช่วยเหลือของ สร้อยคีรี ที่หลอกล่อจนเหล่าเจ้านายขององค์การตายใจ ปล่อยให้ลุยหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

เมื่อลุยหนีไป ปกาศิต จอมพลัง สั่งให้ลูกน้องในองค์การออกล่าตัวพร้อมๆ กับจับตัวเดือนเพื่อนรักของลุยมาเพราะเชื่อว่าเดือนรู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ ไหน เดือนถูกซ้อมอาการสาหัสแต่เพราะความรักเพื่อนทำให้เดือนยอมทนเจ็บปิดปาก เงียบ ปกาศิตโกรธมากจะเล่นงานเดือนถึงตาย แต่ลูกน้องคนหนึ่งของปกาศิตบังเอิญคุยกับบอย (ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ — ตอนเด็ก / พลูภัทร อัตถปัญญาพล – ตอนโต) แล้วได้ข้อมูลว่า คนที่มารับทอมลูกของลุยคือ ไทรงาม และ ย้อย ศรีไทย เดือนจึงถูกปล่อยตัว และเป้าหมายของปกาศิตเปลี่ยนเป็นย้อยทันที

ย้อยเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ ลุยไว้ใจ เขากับเดือนเป็นเพียง 2 คนที่รู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ไหน เงินจากองค์การไม่สามารถทำให้ย้อยพูดถึงลุยได้ การใช้กำลังก็ไม่ได้ผล แต่การขู่ฆ่าเมียรักทำให้ย้อยจำต้องสารภาพหมดเปลือก !

แคล้ว ถูกส่งไปเก็บลุยที่ประจวบฯ แต่ด้วยฝีมือของลุยที่เหนือชั้นกว่าทำให้เขารอดและแคล้วกลายเป็นศพเสียเอง ก่อนตายลุยเค้นความจริงจากแคล้วแล้วก็ต้องแค้นใจอย่างมากเมื่อแคล้วกลับ สารภาพว่าคนที่บอกที่อยู่ของลุยคือ เดือน แรมกล้า เพื่อนรักของเขา !

ความ จริงผิดๆ ที่แคล้วพูดส่งเดชทำให้ลุยคิดว่าเดือนเป็นเพื่อนทรยศ ลุยรีบพาลูกเมียหนีไปชุมพร และวันรุ่งขึ้นก็ขึ้นเหนือเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยเพื่อให้องค์การไขว้เขว ชีวิตสงบสุขอย่างที่ลุยต้องการดูจะไกลห่างเสียแล้ว

ปกาศิตหงุดหงิดใจ อย่างมากที่ลุยรอดไปได้ เขาสั่งให้กริชไปจัดการลุยด้วยตัวเอง แต่กริชไม่ทำตาม ปกาศิตโกรธมาก ถ้าไม่ติดเรื่องผลประโยชน์ที่ต้องพึ่งพากันปกาศิตคงฆ่ากริชไปแล้ว

แต่เมื่อทำไม่ได้ ปกาศิตจึงเปลี่ยนเป็นเนรเทศกริชไปประจำการสาขาองค์การที่ฮ่องกงแทน

ก่อน ไปต่างประเทศกริชชวนเดือนไปตามหาลุยเพื่อจะเตือนเขา บอยคิดถึงทอมจึงขอตามพ่อไปด้วย กลุ่มของกริชคลาดกับลุยไปนิดเดียว คนที่ตามลุยเจอกลับเป็นคนของ เทียว สิบทิศ !

เทียวให้คนตามกริชมา ตั้งแต่กรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่ากริชต้องรู้ที่ซ่อนของลุย แม้กลุ่มของกริชจะคลาดกับลุย แต่ลูกน้องของเทียวปะทะกับลุยแบบเต็มๆ อดีตมือสังหารอย่างลุยเป็นฝ่ายชนะ ลุยตัดสินใจว่าเมื่อภาคใต้ไม่ปลอดภัย เขาจะย้ายไปทางเหนือแทน…

ลุยพาครอบครัวมาลงหลักปักฐานที่จอมบึง ราชบุรี โดยความช่วยเหลือจาก บุปผา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) กำนันหญิงกร้าว…เพื่อนเรียนของไทรงาม บุปผาช่วยเหลือทั้งเรื่องที่อยู่และที่ทางทำมาหากินให้กับทั้งคู่ หลายเดือนแล้วที่ไม่มีคนขององค์การมาตามล่า พวกเขาอยู่กันอย่างสุขใจ ลุยทำไร่ทำสวน เลี้ยงม้า ทำตัวเป็นชาวไร่เพื่อไม่ให้ชีวิตว่างโดยเปล่าประโยชน์

แต่เมื่อ อันตรายจากองค์การทุเลาเบาบางไป ชีวิตลุยกลับหนีไม่พ้นเรื่องผู้หญิงเข้ามาผูกพัน ด้วยความแข็งแกร่งเกินหญิงของกำนันบุปผา ทำให้เธอเริ่มระหองระแหงกับ อัสนี (ภาณุ สุวรรณโณ) หนุ่มชาวบ้านที่ชอบพอกันมานานแล้ว อัสนีเป็นเหมือนหนุ่มที่ชีวิตพบแต่ความล้มเหลว ซึ่งต่างจากแฟนสาวโดยสิ้นเชิง ลุยเห็นปัญหานี้จึงพยายามช่วยเหลือให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน แต่กาลกลับทำให้อัสนีเข้าใจผิด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับลุยอย่างเปิดเผย…แม้บุปผาจะอธิบายยังไงอัสนีก็ไม่ฟัง

ครอบ ครัวลุยมีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 คนคือ ประดู่ (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) เด็กสาวกำพร้าที่มาอ้อนวอนขออยู่ด้วย ประดู่พูดได้แต่ไม่มีเสียงฟังทุกอย่างเข้าใจ เด็กสาวขยันช่วยเหลืองานบ้านงานเรือนทุกอย่าง และเป็นเพื่อนเล่นกับทอมได้เป็นอย่างดี

ลุยบริจาคเงินจำนวนหนึ่ง สร้างวัด โรงเรียน โรงพักตำรวจฯ และบริจาคให้การกุศลมากมาย ไทรงามรู้ดีว่าลุยต้องการสร้างกุศลเพื่อทดแทนความเลวร้ายที่เคยทำมา สร้างความประทับใจให้กับกำนันบุปผาเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันก็สร้างความไม่พอใจให้กับอัสนีด้วยเช่นกัน

ความใจบุญ ทำให้ลุยเป็นที่รักของทุกคนละแวกนั้น เขาได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อจอมบึง นักบุญปืนไว” เพราะครั้งหนึ่งลุยไปช่วยกำนันบุปผาและตำรวจปราบโจรกระเหรี่ยง ที่บุกเข้ายึดโรงพัก แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ชีวิตของลุยพลิกผันเพราะอัสนีแอบถ่ายภาพไปลงข่าว หนังสือพิมพ์ ! เพราะเริ่มสงสัยว่าลุยกำลังปิดปังสถานะที่แท้จริงกับใครบางคนอยู่ !

เช้า วันหนึ่งไทรงามจะไปส่งทอมที่โรงเรียนเพราะลุยป่วยเป็นไข้ แต่เมื่อไทรงามสตาร์ทรถเกิดเสียงระเบิดบึ้ม ! ไฟลุกท่วมรถ ! ลุยสะท้านไปทั้งร่างเมื่อเห็นบุคคลที่รักตายไปต่อหน้าต่อตา ลุยไม่โวยวาย เสียงเขาแหบหายมีเพียงน้ำตาเท่านั้นหลั่งออกมา

ประดู่เข้าใจความ รู้สึกของลุยดี ครั้งหนึ่งเธอเคยเสียใจอย่างเขามาแล้ว…ประดู่เป็นกำพร้าบ้านถูกโจรปล้น พ่อของเธอถูกยิง แม่และพี่ถูกเรียงคิวข่มขืนก่อนจะถูกไฟครอกตาย เพราะความสูญเสียครั้งนั้นทำให้ประดู่ร้องไห้สุดเสียง…ร้องจนเสียงหมดจน ถึงปัจจุบัน

ลุยหนีออกมาจากราชบุรีโดยไม่ร่ำลาบุปผาเลย… ลุย เลือกแก้แค้นจองล้างจองผลาญ คนแรกที่ลุยบุกเข้าไปจัดการคือ เดือน เพื่อนรักของเขาซึ่งเชี่ยวชาญการใช้ระเบิด ลุยฆ่าเดือนโดยไม่ฟังคำอธิบายและรับบอยไปเลี้ยงเป็นลูก บอยรับรู้เพียงว่าพ่อเดือนตายด้วยน้ำมือของคนที่ฆ่าป้าไทรงามกับทอม

เมื่อหายโศกเศร้าเสียใจแล้ว บอยเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ลุยแทบล้มทั้งยืน…

เด็ก ชายเล่าว่า เทียว สิบทิศ มาหาเดือนเพื่อบังคับให้ไปจัดการลุย โดยให้ เด็ด (จักรกฤษณ์ คชรัตน์) ลูกน้องคนสนิทซ้อมพ่อทรมานสารพัด แต่เดือนไม่ยอมทรยศลุยเพื่อนรัก ขรรชัย อินทรีย์ (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ลูกน้องเทียวจึงอาสาทำงานแทน โดยรื้ออุปกรณ์จุดระเบิดไปจากโต๊ะเดือน

สิ่ง ที่บอยเล่าทำให้หัวใจลุยแทบหยุดเต้น เดือนไม่ได้เป็นเพื่อนเลว…แต่เขาต่างหากที่เลว ! เขาฆ่าเพื่อนรักได้ลงคอ… ลุยแค้นใจสาบานกับตัวเองว่าจะจองล้างจองผลาญคนทั้งสาม รวมทั้งผู้ยิ่งใหญ่ในองค์การทั้งหมดเพื่อเป็นการชดเชยให้ ไทรงาม ทอม และเดือน

ปฏิบัติการจองเวรของลุยเริ่มต้นขึ้น เด็ดถูกลุยส่งวิญญาณไปนรกคนแรก ตามด้วยขรรชัย ลุยเผาทั้งคู่เหมือนกับที่พวกมันทำกับไทรงามและทอม…ส่วน เทียว สิบทิศ ลุยได้ สร้อยคีรี อดีตคนรักเก่าให้ความช่วยเหลือ จึงจัดการกับเทียวได้อย่างง่ายดาย

เหลือคนที่ลุยต้องจัดการอีก 3 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า, ศักดา ปาฏิหาริย์ และปกาศิต จอมพลัง…

วัน หนึ่งลุยบังเอิญเจอกับ ปกาศิต จอมพลัง ที่ห้างสรรพสินค้าขณะพาลูกสาวไปซื้อของเล่น เขามีโอกาสฆ่าปกาศิตแต่ลุยทำไม่ลง เพราะปกาศิตกอดลูกสาวแน่น หนำซ้ำเด็กหญิงยังส่งยิ้มแสนบริสุทธิ์ให้อีกด้วย ลุยจึงปล่อยปกาศิตและไปเริ่มชีวิตใหม่ที่เกาะริมฝั่งภาคตะวันออกตามคำชวนของ สร้อยคีรี ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเหมือนคู่ชีวิตคนใหม่ของเขาไปแล้ว

อดีต สามีที่เสียชีวิตไปแล้วของสร้อยคีรีเป็นเพื่อนรักกับลุย สร้อยคีรีเป็นที่ปรึกษาพิเศษขององค์การ มีความสามารถในใช้เสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงทำงานหลายอย่างจนสัมฤทธิ์ผล สร้อยคีรีชวนลุยไปเป็นหุ้นส่วนโรงแรมบนเกาะแห่งนั้น

ลุยไปพบ ฟางแก้ว (มรกต กิตติสาระ) เจ้าแม่ผู้อิทธิพลแถบ ตะวันออกเพื่อขอพึ่งบารมี ทันทีที่เห็นหน้าลุย ฟางแก้วถึงกับพึงพอใจในความเป็นนักเลงกล้าหาญ แต่ลุยไม่มีจิตใจคิดถึงความรัก ความเศร้าภายในจิตใจยังคงตอกย้ำทำให้เขาตกอยู่ในห้วงของความเศร้าอยู่ไม่ คลาย

ฟางแก้วแสร้งทำเป็นไม่ไว้ใจลุย ยื่นข้อเสนอให้เขายอมมาเป็นมือขวาของเธอเพื่อสร้างอิทธิพลและเป็นศัตรูกับ องค์การอย่างถาวร ซึ่งความจริงแล้วเธอต้องการสนิทสนมกับลุยให้มากขึ้นกว่านี้ ซึ่งกลายเป็นประเด็นความโกลาหลในความรักระหว่าง ฟางแก้ว ลุย และ สร้อยคีรี ท่ามกลางอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้จากองค์การฯ

หลังจากประลองความ เป็นหญิงไปได้พักใหญ่ ระหว่างฟางแก้วกับสร้อยคีรีจึงยอมยุติศึกชิงนายชั่วคราว เมื่อตระหนักว่าทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกันคือองค์การ ทั้งสามคนร่วมมือกันเก็บ ศักดา ปาฏิหาริย์ ขณะมาเที่ยวที่เกาะ เพื่อให้ชีวิตสงบสุขของลุยสามารถดำเนินอยู่ได้ต่อไป !

หลังจากนั้น เป็นต้นมา…ฟางแก้วยอมหลีกทางสร้อยคีรี ลุยกับสร้อยคีรีจึงสามารถดำเนินกิจการโรงแรมได้ราบรื่น โดยมีฟางแก้วเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง แต่ยังไม่วายก่อสงครามกุหลาบแย่งชิงลุยมาเป็นคนรักระหว่างกันอยู่เนืองๆ แต่ไม่รุนแรง

สิบปีผ่านไป…เกาะแห่งนั้นเจริญมากขึ้น บ้านพักริมทะเลถูกดัดแปลงเป็นที่พักตากอากาศโก้หรู โรงแรมขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และแน่นอนว่ารีสอร์ทหรูหราที่สุดในย่านนั้น “ไข่มุกตะวันออก” เป็นของลุยและสร้อยคีรี นั่นเอง

ขณะนี้ลุยทำธุรกิจโรงแรมอย่างเต็ม ตัว ออกเดินทางรอบโลกไปกับกริชอยู่บ่อยๆ โดยยังระวังตัวจากองค์การเพราะไม่อยากมีเรื่องและเบื่อหน่ายการตามล่าชีวิต ระหว่างกันเต็มทนแล้ว

ลุยสนับสนุนบอยให้เรียนต่อการโรงแรม ปัจจุบันบอยดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการใหญ่ไข่มุกรีสอร์ท รับผิดชอบบริหารรีสอร์ทแทนลุยได้อย่างเต็มตัว โดยมีผู้ช่วยสาวแสนสวยคือ ประดู่ เพื่อนสาวที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย โดยบอยไม่รู้เลยว่าด้วยความผูกพันทำให้ประดู่หลงรักบอย อย่างเต็มหัวใจ ทำทุกอย่างเพื่อให้บอยมีความสุขได้

นอกจากบอยจะไม่รู้ว่าประดู่หลง รักแล้ว ยังทำเหมือนเธอเป็นเพื่อนสนิทยิ่งกว่าน้องสาวทักทายและใกล้ชิดแบบถึงเนื้อ ถึงตัวอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ทำให้ประดู่ขัดใจมากที่สุด เห็นจะเป็นกรณีที่บอยพยายามจะยัดเยียดเธอให้เป็นแฟนกับ องศา (เขตต์ ฐานทัพ) เพื่อนนายแพทย์หนุ่มอายุเท่ากัน บุคคลิกคร่ำเคร่งเต็มไปด้วยความเชย หากแต่จิตใจเต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี

ทั้งสามคนออกเที่ยวด้วยกัน บ่อยครั้ง บอยพยายามสร้างเรื่องจะทำให้ประดู่ชอบองศาให้ได้ แต่เหตุการณ์ทุกครั้งกลับทำให้บอยกับประดู่ต้องใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนจึงดูอลเวงอยู่ไม่น้อย

เมื่อลุยออกเดินทาง ไปโปรโมทโรงแรมรอบโลก เขาสั่งเสียบอยว่าอย่าเพิ่งมีครอบครัว…ถ้าศัตรูอีก 2 คนยังไม่เลิกตามราวี เพราะลุยไม่อยากให้บอยมีชีวิตครอบครัวที่เศร้าเหมือนตัวเอง

แต่ดู เหมือนบอยจะทำในสิ่งที่ลุยเตือนไม่ได้ เขารู้สึกถูกชะตา น็อท (แซมมี่ เคาว์เวล) ลูกค้าสาวสวยของไข่มุกรีสอร์ทที่เดินทางมาพักพร้อมกับ เมธา (พีรวิชญ บุนนาค) คู่หมั้น ในตอนแรกห้องพักของรีสอร์ทเต็มหมด แต่พอบอยได้เจอน็อท เขายินดีให้เธอกับเมธาไปพักที่ห้องชุดส่วนตัว แถมลดราคาให้เป็นพิเศษ ตัวน็อทเองรู้สึกดีกับบอยตั้งแต่แรกเห็น ความสุภาพของบอยยิ่งทำให้หญิงสาวสบายใจที่จะพูดคุยด้วย

วันนั้น…บอยจึงรู้ว่าน็อทถูกพ่อบังคับให้มาเที่ยวกับคู่หมั้น คนที่เธอไม่ได้รักเลยสักนิด !

เมธา เป็นลูกชายของ ศักดา ปาฏิหาริย์ หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ขององค์การที่ตายไปแล้ว ความเป็นลูกเจ้าพ่อทำให้เมธาเป็นนักเลงชอบวางอำนาจ น็อทเบื่อเต็มทนกับการอยู่กับผู้ชายอย่างเมธา เธอยังไม่ได้มีอะไรกับเขาจึงเกลียดมากเวลาที่เขาแสดงความเป็นเจ้าของเธอออก นอกหน้า

น็อทอยากหนีไปให้ไกลๆ จึงหลอกให้เมธากลับไปกรุงเทพฯ เพื่อไปเอาของให้เธอ ส่วนเธอเองถือโอกาสนี้ไปล่องเรือเล่นกับบอย…

บอย ยินดีและเต็มใจอย่างมากที่จะพาน็อทไปเที่ยว เขาพาหญิงสาวไปยังหาดทรายแก้วเกาะส่วนตัวของลุยที่ไม่มีใครรู้จัก มนต์เสน่ห์ของทะเลสวยงามสะกดให้ทั้งคู่รักกัน ทั้งสองกลับไปที่ รีสอร์ทด้วยความสดชื่น แต่ก็ยังแฝงความกังวลใจ…บอยรู้สึกผิดที่ไปแย่งคู่หมั้นเมธา แต่เมื่อหัวใจเรียกร้อง เขาก็ยากจะต้านทาน

เมธาหัวเสียอย่างมากเมื่อ กลับมาถึงโรงแรมแล้วไม่เจอคู่หมั้น เขาหึงหวงบอยแทบบ้าแต่เก็บอาการไว้ เมธาสังเกตแววตาของน็อทและบอยที่มองกันบ่อยครั้ง มั่นใจว่าหัวใจของน็อทตอนนี้เป็นของบอยไปแล้ว

เมธาโกรธมากประกาศกลาง งานเลี้ยงว่าบอยเป็นคนเลวแย่งคู่หมั้นเขาไปอย่างหน้า ไม่อาย เมธาท้าให้บอยสู้กับตนอย่างลูกผู้ชาย บอยจำต้องรับคำท้าเพื่อไม่ให้ใครมองว่าเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ อ่อนแอ…วันรุ่งขึ้นบอยใช้ศิลปมวยไทยต่อสู้กับเมธาอย่างดุเดือด แน่นอนว่าพลังแห่งความรักมีอานุภาพมากกว่าพลังแค้น เขาชนะเมธาขาดลอย

เมธา ได้รับบาดเจ็บ น็อทจำต้องพาตัวเขากลับกรุงเทพฯ พร้อม ทองเพชร เหล็กกล้า แขกผู้ไม่ได้รับเชิญของโรงแรม ตอนนี้ทองเพชรมีกิจการทัวร์ใหญ่โต เขาสืบจนรู้ว่าสร้อยคีรีคือหุ้นส่วนใหญ่ของรีสอร์ทไข่มุกตะวันออก ทองเพชรแปลกใจมากเมื่อได้เห็นบอย เพราะเขาจำได้ดีว่าบอยคือลูกของเดือนที่ลุยเก็บไปเลี้ยง

ทองเพชรเอา เรื่องไปเล่าให้ปกาศิตฟัง ทั้งสองเชื่อมั่นว่าสร้อยคีรีหักหลังองค์การและเป็นพวกเดียวกับลุย เขาต้องหาทางทำให้ลุยโผล่ออกมาให้ได้ สำหรับเรื่องของน็อท ปกาศิตจัดการให้น็อทเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของเมธา งานแต่งจะจัดขึ้นในปลายเดือน หญิงสาวตกใจอย่างมาก แม้จะทัดทาน อย่างไรก็ไม่ได้ผล

น็อทเสียใจมากหนีกลับไปหาบอยที่เกาะ สร้อยคีรีรู้ว่าน็อทเป็นลูกสาวปกาศิตศัตรูเก่าของลุยจึงเตือนบอย แต่ความเกลียดชังของคนในรุ่นพ่อไม่ได้ทำให้สองหนุ่มสาวหวั่นไหว ความรักทำให้ทั้งคู่เปิดเผยกายและใจกันอย่างลึกซึ้ง โดยประดู่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดทุกอย่าง แต่เธอจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพื่อ บอย คนที่เธอรัก

ปกาศิตโกรธ มากเมื่อรู้ว่าลูกสาวของตนรักกับลูกของศัตรู เขากับทองเพชรส่งคนไปเก็บเจ้าแม่ฟางแก้วและสร้อยคีรีก่อนที่ลุยจะกลับมา ความแค้นของลุยกลับมาคุกรุ่นอีกครั้งเมื่อพบว่าสร้อยคีรีและฟางแก้วถูกฆ่า ตายอย่างทารุณ หลักฐานมีดที่ทิ้งไว้ทำให้เขารู้ทันทีว่าคนที่ลงมือคือใคร

ลุย นำมันกลับไปคืนให้ ทองเพชร เหล็กกล้า ด้วยตัวของเอง ลุยปลิดชีวิตของทองเพชรโดยไม่ยาก เขาโทรศัพท์ไปหาปกาศิต…ประกาศว่าเขากลับมาแล้ว และกำลังจะทวงหนี้ชีวิตด้วยชีวิต

ปกาศิตเริ่มหวาดวิตก…เพราะเหลือ เพียงตัวคนเดียว ตัวการใหญ่ขององค์การเหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังรอดชีวิต ปกาศิตวางแผนร้ายขอร้องให้น็อทพาบอยมาพบ โดยอ้างว่าเขากับลุยมีเรื่องเข้าใจผิดกันหลายอย่าง บอยเป็นคนเดียวที่จะช่วยให้ลุยกับเขาเข้าใจกันได้

ลุยวางแผนจัดการ ทุกอย่างในชีวิต แบ่งมรดกให้บอยและประดู่ กริช ลมกรดรับรู้เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจึงกลับมาจากฮ่องกงเพื่อช่วยจัดการ ปัญหาทุกอย่าง แต่แล้วขณะที่ลุยสารภาพกับกริชว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเดือนตายด้วยความเข้าใจผิด บอยบังเอิญมาได้ยินเข้า !

บอยเสียใจและแค้นใจมากเมื่อทราบว่าคนที่ตนเองเคารพรักกลายเป็นคนที่ฆ่าพ่อ จิตใจของบอยยามนี้มีทั้งความรักและความแค้น…

บอย ตัดสินใจเด็ดขาดจะฆ่าลุยเพื่อแก้แค้นแทนพ่อ เขาบุกเข้าไปหาลุยด่าว่าสารพัด กริชเข้ามาห้ามและชี้แจงให้ฟังว่าลุยฆ่าเดือนเพราะความเข้าใจผิด แต่บอยก็ไม่ฟังเสียง เขาเล็งปืนไปยังลุยที่นั่งสงบนิ่ง ยินดีให้บอยยิงเขาให้ตาย

บอยตัดสินใจลั่นไกปืน ! แชะ !! ปืน นั้นไม่มีกระสุน บอยคลานเข้าไปก้มลงกราบแทบเท้าลุย…บอกว่าคนที่เขาเหนี่ยวไกปืนยิงไปเมื่อ ครู่นี้คือคนที่ฆ่าพ่อ เขาได้ล้างแค้นให้พ่อแล้ว ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขณะนี้คือคนที่มีพระคุณยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

รุ่ง เช้า…เมื่อ ลุย บอย กริช เดินออกมาจากบ้านกลับถูกพวกของ ปกาศิต จอมพลัง และกลุ่มสมุนซึ่งมาซุ่มอยู่ระดมยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บอยรับอาสาฝ่ากระสุนปืนออกจากพวกเหล่าร้ายเพื่อไปเพื่อแจ้งตำรวจ แต่ก็ไปไม่รอด…บอยถูกเมธาซัดด้วยปืนสลบเหมือด

ลุยถูกยิงอย่างไม่มี ทางสู้ จึงใช้อุบายล่อให้พวกเหล่าร้ายบุกเข้ามาในบ้าน รอบบ้านของลุยเต็มไปด้วยระเบิดชนิดร้ายแรงสามารถถล่มพวกเหล่าร้ายทั้งหมดภาย ในพริบตาเดียว

ลุยกับกริชกระโดดหลบลงมาจากบ้าน แต่กริชโชคร้ายถูกกระสุนของปกาศิตคว่ำไป ลุยบ้าเลือดปักหลักยิงโต้ตอบอย่างบ้าคลั่ง… แต่ลุยพลาดถูกปกาศิตและเหล่าร้ายรุมยิงพรุนไปทั้งตัว ร่างของลุยลอยหมุนคว้างลงไปฟุบใกล้ๆ กับบอยซึ่งนอนสลบอยู่ ปกาศิต จอมพลัง กับสมุนโจรนับร้อยต่างโห่ร้องด้วยความยินดีที่พิชิตลุยลงได้

ด้วยลม หายใจเฮือกสุดท้าย…ลุยตะกายร่างคว้าปืนที่ตกอยู่ข้างๆ บอย เล็งยิงไปที่สวิชต์ลับซึ่งเป็นที่รวมของชนวนระเบิดที่ตนเองฝังไว้…

ด้วยวิญญาณของนักสู้ก่อนจะสิ้นลม…ลุยยิงเข้าไปที่กลางสวิชต์ระเบิด บ้านระเบิดแหลกลาญไปพร้อมกับชีวิตชั่วร้ายของ ปกาศิต จอมพลัง

การจบชีวิตลงของลุยและปกาศิตทำให้องค์การลับต้องล่มสลายลงไป บอยกับน็อทหลังจากคลายจากความเศร้าโศกเสียใจแล้วจึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน

ประดู่กับหมอองศาพบรักและยอมรับหัวใจซึ่งกันและกัน หลังจากผ่านเหตุการณ์อันตรายและความเศร้าโศกมาด้วยกัน

พวกเขาทั้งสี่คนตั้งใจจะใช้อดีตอันเลวร้ายของผู้มีพระคุณ เป็นเรื่องสอนใจให้กับตัวเองในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป

ความเลวร้ายและเวรกรรมมีอยู่จริงบนโลก…ไม่ช้าก็เร็วมันจะตามมาสนองตอบต่อผู้กระทำ ความดีงามต่างหาก…ที่จะยืนยงคงอยู่ตลอดไป

บันไดดอกรัก 2554

เรื่องย่อ : บันไดดอกรัก (2554/2011) กระเช้า สาวสวย แสนใส จิตใจดี ไม่มีพิษไม่มีภัย ขดสมองไม่ซับซ้อน คิดทุกอย่างชั้นเดียว กระเช้าถูก จวงจิต (นังจวง) แม่บังเกิดเกล้าทั้งกดดัน และกล่อมเกลาให้กระเช้ามีความฝันอันสูงสุด คือการแต่งงานกับผู้ชายรวย ๆ เพื่อลดปมด้อยที่ถูก ชิดชัย (ไอ้ชิด) ผู้เป็นพ่อทิ้งไปหา เจ๊ปิ่นทอง (เจ๊ปิ่น) เศรษฐีนีประจำตลาดผลไม้ ชิดชัยทิ้งจวงจิตไปหาปิ่นทองเพราะรวย….ทำให้จวงจิตเจ็บแค้นแสนสาหัส หันไปกินเหล้าเมามาย และฝังหัวกระเช้าทุกเช้าค่ำให้เธอจับผู้ชายรวย ๆ ให้ได้สักคน เพื่อยกระดับครอบครัวให้สูงเทียมหน้าเทียมตาคนอื่น ยิ่งรวยกว่านังปิ่นทองได้ยิ่งดี กระเช้าสงสารแม่ที่วันๆเอาแต่เศร้าใจกับอดีต และหมั่นไส้เจ๊ปิ่นทองที่ชอบมาอวดรวยและควงพ่อมาเยาะเย้ยแม่ทุกครั้งที่มี โอกาส กระเช้าจึงตั้งประกาศก้องว่าต้องหาผู้ชายรวย ๆ มาเป็นสามีให้ได้ !!!! (เพราะถ้าจะรวยจากการทำมาหากินด้วยตัวเองชาตินี้คงไม่มีหวัง)

แผนปฎิบัติการตามความหวังอันสูงส่งของกระเช้า เริ่มต้นขึ้นเมื่อ หมี่กรอบ เพื่อนสาวสุดห้าวหาญมาชวนไปทำงานที่กรุงเทพฯ หมี่กรอบเป็นคนฉลาดและหัวดีเป็นเลิศ หมี่กรอบและกระเช้าเป็นเพื่อนซี้ที่มีบุคลิกต่างกันสุดขั้ว แต่เป็นความต่างที่ลงตัว ทำให้ทั้งสองคนผูกพันกันราวกับพี่น้องคลานตามกันมา หมี่กรอบเรียนเก่ง ขยัน และสู้คน แต่ไม่ค่อยแต่งตัว ทำให้ความสวยคมถูกซ่อนไว้ภายใต้เสื้อผ้าหลวมโขลก ถึงแม้กระเช้าจะพยายามจับหมี่กรอบแต่งตัว แต่สุดท้ายก็กลับมามอมแมมเหมือนเดิม

หมี่กรอบทำงานเป็นหัวหน้าคนงานในฟาร์ม ราชินีกล้วยไม้ เป็นฟาร์มกล้วยไม้ส่งนอกของ ดร. ศีล ผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายพันธุ์กล้วยไม้ ศีลเป็นคนมีศีลธรรมสมชื่อ ดูแลคนงานในฟาร์มด้วยความเป็นกันเอง เหมือนคนในครอบครัว ศีลมีภรรยาชื่อ บุปผา ผู้คลั่งไคล้การทำบุญอย่างมาก ทอดผ้าป่า ทอดกฐินเป็นงานหลัก หมี่กรอบชวนกระเช้าเข้ามาทำงานในฟาร์มเพราะเห็นว่ากระเช้าอยู่บ้านเฉย ๆ นาน ๆ ทีถึงจะมีคนมาชวนไปประกวดเทพีตามงานต่าง ๆ ได้รางวัลบ้าง ไม่ได้รางวัลบ้าง กระเช้าเห็นว่าดีกว่าอยู่เฉย ๆ จึงตัดสินใจหอบเสื้อผ้าลาแม่มาทำงานในเมืองกรุง

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้กระเช้าตัดสินใจมาทำงานกับหมี่กรอบ เพราะรู้มาว่าเจ้าของฟาร์มมีลูกชายสุดหล่อที่สาว ๆ กำลังจ้องจับมากมาย กระเช้าจึงพุ่งมาในทันที หวังว่าความสวยที่มีจะสามารถมัดใจลูกชายเจ้าของฟาร์มได้สำเร็จ

และแล้ว….ความตั้งใจของกระเช้าก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อโชคชะตาพาให้เธอได้มาเจอ กับ เทียน หนุ่มเสเพล รักสนุก อารมณ์ดี เปลี่ยนสาวราวกับเปลี่ยนกางเกงชั้นใน รักง่ายหน่ายเร็ว เข้าทำนอง หล่อเลือกได้ เทียนและกระเช้าได้เจอกันโดยบังเอิญในวันแรกที่เธอเข้ามาทำงาน กระเช้าไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของที่ควบตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาหีบห่อ คิดว่าเป็นพนักงานธรรมด๊า….ธรรมดา ซึ่งไม่คู่ควรกับเธอ กระเช้าทำเป็นไม่สนใจ ถึงแม้เทียนจะพยายามเข้ามาทำความรู้จัก กระเช้าทำเริ่ด ๆ เชิด ๆ ใส่อย่างเหยียดหยัน กระเช้าตอกหน้าเทียนอย่างไม่ไยดี แถมยังด่ากลับไปอีกเป็นชุดก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีไป ทำให้เทียนสะดุดใจกับความเย่อหยิ่งของกระเช้าอย่างแรง

กระเช้าบ่นเรื่องเทียนให้หมี่กรอบฟัง หมี่กรอบชะงักและซักรายละเอียด จนรู้ว่าผู้ชายที่กระเช้ากำลังด่าคือคุณเทียน ลูกชายเจ้าของฟาร์ม กระเช้าถึงกับอึ้ง…เหวอ…คาดไม่ถึงว่าผู้ชายขี้หลี ไม่มีมารยาท จะเป็นชายในฝันที่เธอกำลังตั้งใจจับ โอ้วววว…คุณพระ…กระเช้าเศร้าใจอย่างแรง และสุดจะสับสนว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไปดี อาการสติแตกทำให้หมี่กรอบรู้ว่าเพื่อนรักกำลังคิดการณ์ใหญ่ และแสนจะอันตราย เพราะเทียนขึ้นชื่อเรื่องเสือผู้หญิง Fun แล้วทิ้ง มานักต่อนัก หมี่กรอบพยายามจะเตือนกระเช้าให้เลิกสนใจเทียน เพราะไม่ดีกับตัวเอง แต่กระเช้าไม่ยอมล้มเลิก โดยให้เหตุผลว่า…ต้องทำเพื่อแม่ !! หมี่กรอบเข้าใจแต่ก็หนักใจในคราวเดียวกัน

ทางด้านเทียน….เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองตกหลุมรักความเย่อหยิ่งของผู้หญิง ที่ชื่อกระเช้าเข้าอย่างจัง พยายามจะสืบที่มาที่ไป และคิดว่าจะต้องรวบหัวรวบหางหาทางเอาชนะเธอให้ได้ เทียนสืบจนรู้ว่ากระเช้าทำงานอยู่แผนกดูแลกล้วยไม้ มีเพื่อนสนิทชื่อหมี่กรอบ หัวหน้าคนงานที่อายุน้อยที่สุด เทียนแอบดูกระเช้าอยู่สักพักจนแน่ใจว่าสวยจริง หยิ่งจริง (เพราะเชิดใส่คนงานทั้งไร่ เนื่องจากจน) ยิ่งทำให้เทียนสนใจในตัวกระเช้ามากขึ้น

ส่วนกระเช้าหลังจากหน้าแหกยับเยินจากการเชิดใส่เทียน เธอจึงหาทางเข้าหาเขาโดยไม่ให้เสียฟอร์ม และโชคชะตาก็เข้าข้างเธอ เมื่อทางฟาร์มจัดการประกวด เทพีกล้วยไม้ (Miss Orchid) เพื่อคัดเลือกสาวงามเป็นตัวแทนในงาน Orchid Expo กระเช้าไม่ลังเลที่จะส่งตัวเองเข้าประกวด หวังใช้ตำแหน่งเป็นบันไดให้ตัวเองได้มีโอกาสใกล้ชิดเทียน ทั้งที่หมี่กรอบไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ก็ต้องคอยช่วยด้วยความรักและห่วงเพื่อน

ในการประกวดมิสออร์คิด กระเช้าสวยเด้งอย่างแรง จนหนุ่มๆในงานส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม ยกเว้นแต่ เทียน ที่นั่งนิ่งขรึมในฐานะกรรมการ เทียนในวันนี้ดูแตกต่างจากเทียนที่เธอเห็นในวันแรกมากมาย แววตาขรึม น่าเกรงขาม มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า กระเช้าคิดว่าเขาคงจะโกรธที่เธอเหวี่ยงใส่ไปเมื่อวันก่อน กระเช้าจึงพยายามโปรยเสน่ห์สารพัด จน (คนที่เธอคิดว่าเป็น) เทียนรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาซะเลย

บันไดขั้นที่หนึ่งของกระเช้าก็เริ่มทอดตัว เมื่อมงกุฎมิสออร์คิดถูกสวมลงบนศรีษะของเธอโดย (คนที่เธอคิดว่าเป็น) เทียน กระเช้าใช้มารยาสาไถยทำเป็นดีใจจนเป็นลมอยู่ในอ้อมแขนของเทียน มีหลายคนจับภาพไว้ได้ แต่เทียนรู้ว่าเป็นมารยา หลังจากพาเธอมาหลังเวที เขาพยาบาลจนเธอมีสติ ในจังหวะที่อยู่กันสองต่อสอง กระเช้าพยายามจะหว่านเสน่ห์แบบถึงเนื้อถึงตัว (ถึงแม้จะเขิน ๆ แต่ก็ต้องยอมทำ)

ในระหว่างที่กระเช้ากำลังหว่านเสน่ห์กับ (คนที่เธอคิดว่าเป็น) เทียน…หมี่กรอบรออยู่ในงาน ทันใดนั้นเทียน (ตัวจริง) ก็ปรากฎตัวขึ้น…เทียนเดินมาหาหมี่กรอบและถามหากระเช้า หมี่กรอบงง ๆ เล็กน้อยเพราะกระเช้าหายไปกับเขา เทียนปฎิเสธเสียงแข็ง หมี่กรอบก็ยืนยันเสียงหนักแน่น ทั้งสองคนคุยกันไม่รู้เรื่องจนเกือบจะกลายเป็นทะเลาะกันอยู่สักพัก หมี่กรอบเริ่มเอะใจและฉุกคิดถึงความจริงอันแสนสำคัญยิ่งที่เธอลืมไปสนิทใจ นั่นคือ เทียนมีฝาแฝดที่หน้าเหมือนกันราวกับแกะ…และผู้ชายคนที่อยู่กับกระเช้า เพื่อนรักนั้นไม่ใช่เทียนแต่เป็น ธูป เจ้านายที่แสนเคร่งขรึม ถือตัว และดูถูกผู้หญิงที่วิ่งไล่จับผู้ชาย ซึ่งแตกต่างจากเทียนราวกับหน้ามือกับหลังมือ ทันทีที่หมี่กรอบคิดได้ เธอรีบชิ่งจากเทียน และตามหากระเช้าเพื่อบอกความจริง

แต่มันสายเกินไป….กระเช้างัดมารยาหญิงมากกว่าร้อยเล่มเกวียนมาใช้กับ ธูป เพราะคิดว่าเขาเป็นเทียน ยิ่งกระเช้าหว่านเสน่ห์งัดเล่ห์มารยาหญิงมาใช้มากเท่าไหร่ ธูปก็ยิ่งไม่ชอบขี้หน้าและคิดว่าเธอตั้งใจจะจับน้องชายฝาแฝดของเขามากเท่า นั้น ในขณะที่กระเช้ายิ่งหมั่นไส้และไม่เข้าใจว่าทำไมเทียนถึงดูมึนตึงและพูด จากวนประสาทเธอตลอดเวลา และแล้ว…ปริศนาทั้งหมดก็ถูกเปิดเผย เมื่อหมี่กรอบโผล่ถลาเข้ามาในห้องและแนะนำให้กระเช้ารู้จักกับธูป…พี่ชาย ฝาแฝดของเทียน กระเช้าถึงกับอึ้งเหวอ…ไปชั่วอึดใจ หมี่กรอบรีบลากตัวเพื่อนสาวออกมาก่อนที่ทุกอย่างจะยิ่งแย่ลงไป

การพบกันครั้งนี้ทำให้ธูปผูกใจคิดว่ากระเช้าเป็นผู้หญิงมักใหญ่ใฝ่สูง ใจง่าย และหากินกับการจับผู้ชายรวย ๆ ในขณะที่กระเช้าเองทั้งเสียใจและเสียหน้า จนแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย เพราะเผลอปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเร่อ ประกอบกับข้อมูลที่หมี่กรอบบอกเธอเกี่ยวกับนิสัยของธูปที่แสนจะตรงกันข้าม กับเทียน ยิ่งทำให้เธออยากกระโดดกัดคอเพื่อน โทษฐานไม่ยอมบอกข้อมูลนี้ตั้งแต่แรก ในขณะที่เทียนยังเข้าใจว่ากระเช้าเป็นผู้หญิงเชิดหยิ่ง จึงต้องทำการจีบอย่างแยบยล เทียนคิดไปคิดมา และเห็นว่าเข้าทางหมี่กรอบน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

เทียน เรียกหมี่กรอบมาล็อบบี้ เขายื่นข้อเสนอว่าถ้าช่วยจีบกระเช้าได้สำเร็จ เขาจะปูนบำเหน็จให้อย่างงาม เทียนยังบอกอีกว่าสิ่งที่ทำให้เขาสนใจกระเช้า คือความเย่อหยิ่ง หมี่กรอบถึงกับอึ้ง และก็ตอกเทียนกลับไปว่าเธอไม่มีวันจะขายเพื่อน หรือใช้เพื่อนเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ และถ้าหากเขาไม่พอใจเธอ และยังไล่เธอออก เธอจะไปฟ้องกระทรวงแรงงาน เทียนจำใจต้องยอม และเปลี่ยนจากบังคับมาเป็นขอความเห็นใจ เทียนออดอ้อนแต่หมี่กรอบยังใจแข็งไม่ช่วย แถมยังทิ้งท้ายว่า ถ้าแน่ใจว่ารักจริง ก็ต้องพยายามเอาเอง เทียนสุดเซ็งและแอบเขม่นหมี่กรอบอยู่ในใจ

หมี่กรอบรีบมาบอกกระเช้าว่าเทียนสนใจ เพราะคิดว่าเธอหยิ่ง กระเช้าก็มึนงง ๆ ไป หมี่กรอบเลยบอกว่าถ้าอยากได้เทียน ก็ต้องทำตัวหยิ่ง ๆ ไว้ อย่ายอมง่าย ๆ ไม่งั้นเขาจะเลิกสนใจทันที กระเช้านึกดีใจที่เทียนยังไม่เห็นอาการอ่อยเหยื่อของเธอ แต่ถ้าธูปบอกเทียน เขาอาจจะเปลี่ยนใจก็เป็นได้ หมี่กรอบบอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะธูปกับเทียนไม่ค่อยถูกกัน เนื่องจากธูปคิดว่าเทียนเอาแต่รักสนุก และเจ้าชู้ไปวัน ๆ ส่วนเทียนก็หมั่นไส้ที่พ่อกับแม่ไว้วางใจธูปมากกว่าตัวเอง เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ยากถ้าเทียนจะเชื่อคำพูดของธูป แต่ถึงอย่างนั้นกระเช้าก็ยังรู้สึกไม่ดีที่เธอปล่อยไก่ใส่หน้าธูปไปตัวเบ้อ เร่อ

ด้วยความเก้อเขินครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้กระเช้าแอบถอดใจ อยากจะลาออก แต่ด้วยตำแหน่งมิสออร์ดิคที่ได้มา ทำให้เธอต้องทำงานร่วมกับธูป ในฐานะนางงามประชาสัมพันธ์ประจำฟาร์ม กระเช้าต้องเข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลกล้วยไม้ในฟาร์ม เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์ในวันงาน กระเช้าจำต้องกล้ำกลืนฝืนใจทำงานร่วมกับธูป

ความอลวน แสนอลหม่านเริ่มขมวดปมแน่นขึ้นเมื่อ…. กระเช้าต้องฝืนทำงานกับธูป เจ้านายจอมเฮี้ยบที่จ้องจับผิดเธอตลอดเวลา ในขณะเดียวกันยังต้องคอย ระวังหลัง เพราะ ทับทิม เลขาของธูปคอยกระแหนะกระแหน แอบแทงข้างหลังกระเช้าอยู่ตลอดเวลา ทับทิมเป็นคนสวย ฉลาด และร้ายลึก ทับทิมแอบชอบธูปและหวังสูงคิดว่าสักวันธูปจะหันมาสนใจ แต่เมื่อกระเช้าเข้ามาใกล้ชิดกับธูป ทำให้ทับทิมต้องคอยสะกัดดาวรุ่ง ไม่ยอมให้กระเช้าดูดีในสายตาธูปเป็นอันขาด แรงยุของทับทิมยิ่งทำให้ธูปเข้าใจผิด คิดว่ากระเช้าเป็นสาวมักใหญ่ใฝ่สูงหนักขึ้นไปอีก

ธูปใช้ความเฮี้ยบ เนี้ยบ บีบกระเช้าต่าง ๆ นานา พยายามให้เธอทำงานหนัก จำข้อมูลยาก ๆ หวังว่าเธอจะท้อและขอถอนตัว แต่ยิ่งธูปแกล้งเธอมากเท่าไหร่ กระเช้าก็ยิ่งสู้ตายมากเท่านั้น กระเช้าแสดงให้เขาเห็นว่า ถึงเธอจะสมองไม่ดี แต่มีความตั้งใจ และไม่เคยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ในขณะเดียวกันกระเช้ายังเป็นคนมีรสนิยมโดยธรรมชาติมีพรสวรรค์ในการแต่งตัว สามารถทำให้ตัวเอง และคนรอบข้างดูดีได้ในทุกสถานการณ์ กระเช้าใช้ความสามารถในการแต่งตัวทำให้ธูป บุปผา และศีล เห็นกระเช้าในเวลาที่ออกงานสังคมหลายครั้ง ทำให้บุปผาถูกอกถูกใจในความน่ารักของกระเช้า แต่ธูปก็ยังไม่ยอมรับเพราะอคติที่ฝังใจในครั้งแรกที่เจอกัน (ถึงแม้ลึก ๆ จะเริ่มประทับใจและเห็นความไม่ธรรมดาก็ตาม)

ส่วนเทียนไม่พอใจนักที่กระเช้าต้องใกล้ชิดกับธูป ถึงแม้จะเป็นเพราะงาน แต่เขาก็แอบระแวงพี่ชายตัวเองไม่ได้ ธูปย้ำว่าเขาไม่มีวันสนใจผู้หญิงแบบกระเช้า แต่เทียนก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี เทียนพยายามตามจีบกระเช้า ในขณะที่กระเช้าต้องทำเป็นเริ่ด ๆ เชิด ๆ ใส่ (ตามคำแนะนำของหมี่กรอบ) ยิ่งกระเช้าหยิ่งใส่มากเท่าไหร่ เทียนก็ยิ่งชอบเธอมากเท่านั้น แม้ธูปจะพยายามบอกว่ามันเป็นมารยาของกระเช้า แต่เขาก็ไม่เชื่อ ยังเพียรจีบกระเช้าหนักขึ้นเรื่อย ๆ สาว ๆ หลายคนเริ่มเขม่นกระเช้า ทำให้หมี่กรอบต้องคอยช่วยปกป้องอยู่ตลอดเวลา

หมี่กรอบเองก็เริ่มเป็นห่วงเพื่อนรัก แต่ทุกอย่างมาไกลเกินกว่าที่เธอจะห้าม นอกจากคอยช่วยประคับประคองไม่ให้เพื่อนต้องเดือดร้อนมากไปกว่านี้ ขณะเดียวกันยังต้องคอยเป็นที่ปรึกษาของเทียนในการจีบกระเช้า ยิ่งเทียนปรึกษาหมี่กรอบมากเท่าไหร่ เธอยิ่งเห็นเสน่ห์ของเทียนมากเท่านั้น ความเป็นคนมีอารมณ์ขัน และเป็นกันเองของเขา ทำให้เธอแอบหวั่นไหวขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากต้องคอยเป็นที่ปรึกษาแล้วหมี่กรอบยังต้องคอยเป็นจราจรเฉพาะกิจ คอยสับรางสาว ๆ ให้เทียนโดยเฉพาะกลุ่มนางแบบอันประกอบไปด้วยเอแคลร์, ปาร์ตี้ และ แบมบี้ สามบอมบ์ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างความวุ่นวายในฟาร์มไม่เว้นแต่ละวัน หมี่กรอบต้องคอยกันไม่ให้สาว ๆ มาเจอกับกระเช้า ทำให้เทียนเริ่มเห็นความเฉลียวฉลาด และความเป็นคนมีไหวพริบเป็นเลิศของหมี่กรอบ แต่เขาก็ยังคิดกับเธอแค่เจ้านายกับลูกน้องอยู่ดี ถึงแม้บางมุมเขาจะแอบเห็นความสวยคม แต่ด้วยความมอมแมมก็ยากเกินกว่าที่เขาจะยอมรับได้

นอกจากความอลวนของธูป เทียน กระเช้า และหมี่กรอบแล้ว ธุรกิจกล้วยไม้ของครอบครัวแสวงบุญ ยังต้องต่อกรกับศัตรูคู่แข่งที่สำคัญ นั่นคือ ฟาร์มกล้วยไม้ดารา ของ ดารา รัศมีเรืองรอง หม้ายสาววัย ๕๐ นักธุรกิจผู้สนใจเม็ดเงินมากกว่าความสวยงามของกล้วยไม้…สมชัย สามีของเธอเคยเป็นเพื่อนสนิทของศีล แต่ร่างกายอ่อนแอจึงเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังหนุ่ม หลังจากสิ้นบุญสามี ดาราเข้ามาคุมธุรกิจแทน เปลี่ยนชื่อจาก กล้วยไม้สมชัย เป็น กล้วยไม้ดารา และเปลี่ยนฐานะจากเดิมที่เคยเป็นพันธมิตรกับฟาร์ม ราชินีกล้วยไม้ ก็กลับกลายเป็นศัตรูคู่แข่งตัวฉกาจ

ดาราเป็นคนใจคอคับแคบ เห็นแก่ตัว และแพ้ไม่เป็น เธอมีลูกชายหัวแก้วหัวแหวน คือ อิทธิเดช หนุ่มเจ้าสำอางที่โดนตามใจมาตั้งแต่เด็ก อิทธิเดชได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ ยกเว้น ความเป็นที่หนึ่งในการจัดอันดับทายาทฟาร์มกล้วยไม้ไทย เพราะทุกสำนักเซเลปต่างยกให้ธูปและเทียนมาเป็นที่หนึ่ง ทำให้อิทธิเดชอิจฉาและต้องการเอาชนะทั้งสองคนให้ได้

สองคนแม่ลูกทำสิ่งชั่ว ๆ มากมายเพื่อทำลายฟาร์มราชินีกล้วยไม้ โดยมี บัญชา หัวหน้าคนงาน ไม้เบื่อไม้เมาของหมี่กรอบ เป็นหนอนบ่อนไส้ คอยส่งข่าวและบ่อนทำลายฟาร์มด้วยวิธีต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นวางยา ปล่อยแมลง ปลุกปั่นพนักงาน ขโมยพันธุ์กล้วยไม้ ขายความลับทุกอย่างให้กับฟาร์มดารา เพื่อแลกกับเงิน

นอกจากบัญชาแล้วยังมีอีกหนึ่งหนอนที่หลายคนคาดไม่ถึง นั่นก็คือ ทับทิม เลขาของธูป กิ๊กเก่าของอิทธิเดชที่เปลี่ยนใจมากรี๊ดธูปแทน ทับทิมเป็นคนคอยส่งข่าวเชิงลึกให้อิทธิเดช แต่ในช่วงหลัง ๆ เมื่อความลุ่มหลงในตัวธูปมีเพิ่มมากขึ้น ทับทิมก็เริ่มกระด้างกระเดื่อง ทำให้ดาราไม่พอใจแต่ยังต้องเลี้ยงไว้ เพราะลงทุนไปมาก

ความวุ่นวายในฟาร์มไม่มีที่ท่าจะจบสิ้น…. ณ อีกมุมหนึ่งของประเทศไทย…จวงจิตกับเจ๊ปิ่นทอง ยังหาเรื่องตบตีกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้จวงจิตต้องหอบเสื้อผ้าและน้ำตามาหาลูกสาวสุดที่รัก การมาของจวงจิตทำให้กระเช้าต้องเดือดร้อนอยู่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาการเมา หลุด รั่ว และไถเงินลูก แถมยังกดดันให้กระเช้ารีบรวบหัวรวบหางเทียน ทำให้กระเช้าอึดอัดใจเป็นอย่างมาก และเมื่อความความอดทนมาถึงขีดสุด กระเช้าถึงกับระเบิดความในใจออกมาทั้งน้ำตา เธอบอกเหตุผลที่พ่อทิ้งแม่ไม่ใช่เพราะความจน ความรวย แต่เพราะแม่เอาแต่กินเหล้า ไม่ดูแลตัวเอง ไม่ดูแลครอบครัว ชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่วทั้งตลาด ทำให้พ่อทนไม่ได้ ทิ้งไปหาคนอื่น และถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอก็จะทิ้งจวงจิตไปอีกคน

คำพูดของกระเช้ากระซวกใจจวงจิตอย่างแรง ทำเอาจวงจิตตบะแตก ประกาศตัดแม่ตัดลูกกันอย่างไม่เหลือเยื่อใย เสร็จแล้วก็หอบเสื้อผ้ากลับไปบ้านนอกด้วยความชอกช้ำใจ กระเช้าร้องไห้อย่างหนัก รู้สึกผิดที่หลุดปากต่อว่าบุพการี โดยหารู้ไม่ว่า ธูปแอบได้ยินทั้งหมด เขารู้สึกเข้าใจและเห็นใจกระเช้าขึ้นมาทันที หลังเหตุปะทะกันครั้งนี้ ทำให้ท่าทีของธูปเปลี่ยนไป เขาใจเย็น และใจดี แถมยังมีน้ำใจกับกระเช้ามากขึ้น จนกระเช้าเริ่มสับสน ความดีของธูปทำให้ทับทิมเริ่มไม่ไว้วางใจ กลัวว่าธูปจะมีใจให้กับกระเช้า

ทับทิมตัดสินใจหันไปยุเทียน บอกว่าธูปเริ่มมีใจให้กระเช้า ทำให้เทียนร้อนใจรีบมาปรึกษากับหมี่กรอบ ทั้งสองคนจับตาดูพฤติกรรมของกระเช้าและธูปอย่างใกล้ชิด จนทั้งสองคนเห็นชัดว่าธูปเริ่มมีใจให้กระเช้าอย่างเห็นได้ชัด หมี่กรอบเองก็เริ่มรู้สึกว่ากระเช้าแอบมีใจให้ธูปอยู่ไม่น้อย

นอกจากนี้อิทธิเดชยังคอยตามตื้อกระเช้า เพราะได้ข่าวจากทับทิมว่า ธูปและเทียนต่างหมายปองเธอ ทำให้อิทธิเดชสนใจตามจีบด้วยอีกหนึ่งคน เพราะถ้ากระเช้าเลือกเขา เท่ากับได้หักหน้าทั้งสองคน ทั้งอาการผิดปกติของธูป และอิทธิเดชยังมาตามตื้อกระเช้าอีก…ทำให้เทียนเริ่มหวั่นใจ เห็นท่าไม่ค่อยดี ประกอบกับไม่อยากเสียหน้าที่ต้องถูกธูปแย่งสาวไปต่อหน้าต่อตา เทียนจึงตัดสินใจขอหมั้นกับกระเช้าแบบสายฟ้าแลบ ด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง ทำให้กระเช้ารับปากหมั้นไปโดยลืมถามใจตัวเอง

ข่าวการหมั้นของกระเช้ากระจายออกไปอย่างรวดเร็ว… คนแรกที่รู้ข่าว คือธูป เขารู้สึกจุก อึ้ง ใจหายแปลก ๆ แอบเสียใจโดยไม่รู้ตัว ทับทิมได้ทีรีบยุธูปว่ากระเช้าเป็นคนวางแผนเองทั้งหมด ประกอบกับเทียนมาบอกว่ากระเช้าเป็นคนขอหมั้นเอง เพื่อต้องการเอาชนะพี่ชาย ทำให้ธูปยิ่งเข้าใจผิด คิดว่ากระเช้าคงจะทำตามที่แม่สอน และเธอคงไม่ได้เป็นคนดีที่น่าสงสารอย่างที่เขาเข้าใจ

ทางด้านหมี่กรอบ…เธอรู้สึกใจหายวาบ และน้ำตาตกใน ในทันทีที่รู้ข่าวการหมั้น ในวินาทีนั้นเธอตอบกับตัวเองได้ทันทีว่า เธอตกหลุมรักหนุ่มเสเพลอย่างเทียนเข้าแล้ว หมี่กรอบเริ่มเก็บตัวเงียบ พูดน้อยลง และอยู่ห่างจากกระเช้ากับเทียนมากขึ้น จนทั้งสองคนเริ่มรู้สึกได้

อิทธิเดชโดนดาราเร่งรัดให้จัดการทำลายฟาร์มราชินีกล้วยไม้สักที เพราะตอนนี้ในฟาร์มดาราเกิดโรคระบาด ทำให้กล้วยไม้เสียหายจำนวนมาก ดาราไม่อยากให้ฟาร์มของศีลได้รับผลประโยชน์จากความเสียหายของตัวเอง เข้าทำนอง ถ้าฉันไม่มีความสุข อย่าหวังว่าคนอื่นจะมีความสุข จึงมาเร่งรัดลูกชายให้คิดแผนชั่วด่วน อิทธิเดชรับคำสั่งและคิดวางแผนร้ายในทันที ในขณะที่ครอบครัวเรืองรองรัศมีคิดแผนทำลายธุรกิจกล้วยไม้ฝั่งตรงข้าม ครอบครัวแสวงบุญกำลังชุลมุนกับการจัดงานมงคล

เทียนพยายามจะให้หมี่กรอบช่วยเป็นแม่งานในการหมั้น แต่เธอปฎิเสธด้วยความเย็นชา สาว ๆ มาอาละวาดเทียน หมี่กรอบก็ไม่ช่วยเหมือนเดิม จนเขาเริ่มรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรบางอย่างไป กระเช้าเอง แทนที่จะดีใจกับความฝันที่ใกล้จะเป็นจริง แต่เธอกลับรู้สึกไม่ตื่นเต้น ไม่ดีใจ แถมยังเศร้า ๆ เซ็ง ๆ ทุกครั้งที่ต้องเตรียมงานหมั้น ทั้งที่ศีลและบุปผาต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดี มีเพียงแต่ธูปที่เย็นชาใส่เธอ กระเช้าพยายามจะถามหาความจริง แต่ธูปก็ปิดปากเงียบ ปั้นปึ่ง เป็นเจ้าชายหิมะใส่ และเธอยังโดนทับทิมกีดกันต่างๆนานา ไม่ยอมให้มีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกัน แถมหมี่กรอบยังตีตัวออกห่างโดยไม่ทราบสาเหตุทำให้กระเช้าเศร้าหนัก แต่ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร

ทางด้านจวงจิตทันทีที่รู้ข่าวการหมั้น เธอรีบไปอวดเจ๊ปิ่นทองทันที ทำให้เกิดการตบตีครั้งมโหฬาร จนชิดชัยต้องเข้ามาเคลียร์ จวงจิตได้โอกาสถามถึงสาเหตุที่ทำให้ชิดชัยทิ้งไป ว่าเป็นจริงตามที่กระเช้าบอกหรือไม่ ชิดชัยโดนรุกหนักจนต้องตอบความจริง เขาสารภาพว่าทุกวันนี้ยังรักจวงจิตอยู่ แต่ความขี้เมา ไม่เอาไหนของเธอ ทำให้เขารับไม่ได้ และมาหาปิ่นทอง ทั้งที่ไม่ได้รัก ประกอบกับปิ่นทองยื่นข้อเสนอว่าถ้ายอมมาอยู่ด้วยจะไม่ยึดไร่ที่เป็นมรดกตก ทอด ชิดชัยจึงจำใจต้องมา จวงจิตถามว่า ถ้าเธอปรับปรุงตัว ชิดชัยจะยอมกลับมาหรือเปล่า ชิดชัยไม่ให้คำตอบ แต่บอกว่าถ้าปรับตัวได้จริง ๆ ค่อยมาว่ากัน

จวงจิตกลับมาคิดทบทวน และตัดสินใจเลิกเหล้าอย่างเด็ดขาด หันมาดูแลตัวเองตามที่กระเช้าเคยแนะนำไว้ เมื่อจวงจิตเริ่มเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น เธอเดินทางมาหากระเช้าอีกครั้ง เพื่อขอโทษ และให้กำลังใจลูกสาว และทันทีที่กระเช้าเห็นหน้าแม่ กระเช้าถึงกับร้องไห้และระบายความอึดอัดทั้งหมดออกมาอย่างหมดเปลือก

กระเช้าสารภาพกับแม่ว่า เธอสับสนและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ดีใจที่ได้หมั้นกับเทียน และเธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง เวลาที่อยู่กับเขา เธอรู้สึกว่าเขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ถึงแม้แผนการณ์จับครั้งนี้จะสำเร็จ แต่เธอไม่ดีใจเลย กระเช้าสารภาพอย่างหมดเปลือก โดยไม่รู้ว่า แบมบี้ สาวร้ายที่ตามจิกเทียนอยู่นั้นจะแอบฟังอยู่ และอัดเสียงเธอไว้ทั้งหมด

แบมบี้เอาคลิปเสียงไปให้เทียนฟัง แต่แทนที่เทียนจะแสดงอาการโกรธแค้น เขากลับทำทีเป็นไม่เชื่อ และไล่ให้แบมบี้กลับไป ทั้งที่ในใจจริง ๆ นั้นแสนจะเสียใจและสับสน เทียนต้องการรู้ว่าตัวตนจริง ๆ ของกระเช้าเป็นอย่างไรกันแน่

หลังจากที่แบมบี้อารมณ์เสียที่โดนเทียนตอกมาหน้าแตก เธอยังไม่หยุดที่จะทำลายกระเช้า แบมบี้นำคลิปเสียงไปฟ้องศีลและบุปผาโดยมีทับทิมเป็นคนประสานงาน ทั้งแบมบี้และทับทิมต่างเป่าหูทั้งสองคนจนเริ่มหวั่นไหว ศีลและบุปผาเรียกตัวธูปมาปรึกษา เพื่อสืบหาความจริง ธูปสารภาพว่ารู้ถึงที่มาที่ไปของกระเช้าเป็นอย่างดี บุปผาร้อนใจกลัวว่าเทียนจะถูกหลอก จึงขอร้องให้ธูปช่วยทำให้เทียนตาสว่างโดยด่วน

หมี่กรอบเอง เห็นความเปลี่ยนไปของกระเช้า ทั้งที่งานหมั้นใกล้เข้ามา แต่กระเช้ากลับไม่ดีใจแม้แต่น้อย หมี่กรอบเปิดอกพูดกับกระเช้าอย่างตรงไปตรงมา และบอกว่าให้ถามใจตัวเองให้ดีว่าต้องการหมั้นจริงหรือไม่ กระเช้าใช้เวลาทบทวนไม่นาน ก็ตอบตัวเองได้ว่า เธอไม่ได้รักเทียน แต่คนที่เธอรักจริง ๆ นั่นคือธูป ชายเฮี้ยบผู้เงียบขรึม ขณะที่กระเช้าเริ่มรู้ใจตัวเอง ธูปตัดสินใจมาคุยกับเทียนแบบเปิดอกเช่นกัน และแล้วเทียนก็สารภาพว่าเริ่มไม่แน่ใจกับตัวตนที่แท้จริงของกระเช้า และอยากรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงกันแน่

ธูปเสนอแผนลองใจกระเช้าขึ้นมาอย่างแยบยล… ในคืนก่อนวันหมั้น ทางฟาร์มประกาศให้พนักงานหยุดงานครึ่งวันบ่าย เพื่อเป็นเสมือนของขวัญให้พนักงานได้พักผ่อน เย็นวันนั้น ธูปนัดให้กระเช้ามาเจอกันเป็นการส่วนตัวในฟาร์มกล้วยไม้ โดยบอกว่าเขาต้องการจะพูดเรื่องส่วนตัวกับเธอเป็นครั้งสุดท้าย กระเช้าตอบรับในทันที !

ทับทิมล่วงรู้ถึงการนัดหมายในครั้งนี้จึงมาบอกอิทธิเดช แผนร้ายที่เตรียมการณ์ไว้จึงเริ่มในทันที อิทธิเดชให้บัญชาโทร.หากระเช้าก่อนถึงเวลานัด และแกล้งทำเป็นว่าขอความช่วยเหลือให้ขนกล้วยไม้ชุดใหม่ที่เพิ่งสั่งมาเข้าไป ในโรงเพาะชำ เพราะพนักงานของเขาลางานกันหมด และเขาไม่สบาย อยู่โรงพยาบาล ด้วยความเห็นใจ กระเช้าจึงขนกล้วยไม้ชุดนั้นเข้าไปโรงเพาะโดยไม่รู้ว่ามันคือกล้วยไม้ติด เชื้อจากฟาร์มดารา ขณะที่ดาราและอิทธิเดชกำลังดีใจที่แผนร้ายเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม รออีกไม่นาน กล้วยไม้ของศัตรูก็จะต้องเจ็บป่วยล้มตายเช่นเดียวกัน

หมี่กรอบรู้สึกเห็นใจเทียนที่ต้องหมั้นกับกระเช้า ทั้งที่กระเช้าไม่ได้รัก เธอพยายามจะบอกแบบอ้อม ๆ แต่ยิ่งพูดยิ่งทำให้เทียนเข้าใจผิด จนเกิดเป็นปากเสียงกัน หมี่กรอบน้อยใจ ตัดสินใจไม่พูด และประกาศว่าจะไม่สนใจอีกเลย ทำให้เทียนจ๋อย ๆ ไปเล็กน้อย

คืนวันนัดมาถึง เทียนปลอมตัวเป็นธูปและไปตามนัด เทียนมาในมาดของความนิ่งขรึม และพูดกับกระเช้าแบบตรงไปตรงมา บอกว่าเขารู้ว่ากระเช้าต้องการจับเทียน และดีใจด้วยที่ทำได้สำเร็จ คำพูดถากถางกึ่งประชดทำให้กระเช้าเสียใจ และยอมรับออกมาตรง ๆ ว่าเธอต้องการจับเทียน และเธอก็ไม่ใช่คนเริ่ด เชิด หยิ่ง เธอทำเพราะรู้ว่าจะทำให้เทียนสนใจ เทียนถึงกับจุกอึ้ง…แต่สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งยิ่งกว่า…คือกระเช้าสารภาพ ว่าแท้จริงแล้ว เธอชอบธูป เธอรู้สึกสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง เวลาที่อยู่กับเขา สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจมาในคืนนี้เพราะต้องการบอกความจริงให้รู้ ก่อนที่เธอจะไปขอยกเลิกงานหมั้นกับเทียน คำสารภาพของกระเช้า ทำให้เทียนถึงกับจุก…และค่อย ๆ ตอบออกมาว่า แท้จริงแล้ว…เขาไม่ใช่ธูปแต่เป็นเทียน และเขายินดีจะยกเลิกงานหมั้นในวันพรุ่งนี้ พูดจบ เทียนก็เดินจากไปด้วยความผิดหวัง และเสียใจจนเกินกว่าจะอธิบาย

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดใส่กระเช้า หลังจากที่งานหมั้นล้มไม่เป็นท่า ฟาร์มกล้วยไม้ก็เกิดอาการติดเชื้อไวรัสครั้งมโหฬาร จากภาพวงจรปิด ชี้ชัดว่ากระเช้าเป็นคนเอากล้วยไม้ชุดติดเชื้อเข้าไปในโรงเพาะ และบัญชาก็รีบสร้างเรื่องว่าเป็นคนละชุดกับที่เขาสั่งให้นำเข้าไป และเขาก็ไม่รู้ว่าชุดที่ติดเชื้อมาได้ยังไง ทับทิมรีบสาระแนเป่าหูศีล บุปผา และธูป บอกว่าอาจจะเป็นไปได้ที่กระเช้าเป็นไส้ศึกที่ถูกส่งเข้ามา เพราะตั้งแต่มีกระเช้า เรื่องวุ่นวายก็เข้ามาสารพัด โชคดีที่เทียนไม่เชื่อ และเป็นคนเดียวที่ออกโรงปกป้องไม่ให้ไล่กระเช้าออก จนกว่าจะหาหลักฐานได้ว่ากระเช้าถูกจ้างวานมาจริง และบัญชาเองก็ต้องถูกคาดโทษเช่นเดียวกัน

กระเช้ารู้สึกเสียใจและอับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น กระเช้าตัดสินใจคืนมงกุฎมิสออร์คิดให้กับบริษัท และเก็บเสื้อผ้าเตรียมกลับไปบ้านนอก ธูปพยายามซักไซ้ด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมเทียนยังปกป้องกระเช้า เทียนเองก็พูดไม่ออก บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่เขาก็มั่นใจว่ากระเช้าไม่มีทางเป็นหนอนบ่อนไส้เพราะเห็นแก่เงิน แต่สำหรับเรื่องส่วนตัว เขาและกระเช้าคงจะจบความสัมพันธ์กันเพียงเท่านี้…ทันทีที่ธูปได้ยิน เขารู้สึกดีใจลึก ๆ แต่ไม่แสดงออกมา

เทียนไปปรับทุกข์กับหมี่กรอบ พร้อมกับเล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด หมี่กรอบยอมรับว่าเธอรู้เรื่องแล้ว และพยายามจะบอกเขา แต่เขาไม่รับฟัง เทียนยอมรับว่าเขามั่นใจในตัวเองมากเกินไป และบอกเรื่องยกเลิกงานหมั้น หมี่กรอบดีใจด้วย เพราะไม่อยากให้เขาต้องอยู่กับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก เทียนรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ และท้อแท้เล็ก ๆ บ่น ๆ ว่าแล้วเขาจะได้เจอคนที่รักเขาจริงหรือเปล่า หมี่กรอบอยากจะบอกความในใจ แต่ก็ไม่กล้า ได้แต่ปิดปากเงียบ ไม่พูดอะไร

เทียนมาส่งหมี่กรอบที่พัก กระเช้าแอบเห็นพอดี พอเทียนขับรถออกไป กระเช้าแอบเห็นรอยยิ้มมีความสุขของหมี่กรอบ กระเช้ารู้ทันทีว่าเพื่อนรักแอบชอบเทียนอยู่ กระเช้าซักไซ้จนหมี่กรอบต้องยอมรับจนได้ กระเช้ารู้สึกดีใจที่ตัวเองปฎิเสธงานหมั้น และรับปากว่าจะช่วยหมี่กรอบให้สมหวังในความรักของเพื่อน ก่อนที่เธอจะจากไป

หมี่กรอบเองก็รับปากว่าจะช่วยเคลียร์เรื่องหนอนบ่อนไส้ให้กระเช้า เธอจะต้องหาหลักฐานมายืนยันให้ได้ว่ากระเช้าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลายฟาร์ม และไม่เคยถูกว่าจ้างใด ๆ ทั้งสิ้น หลังจากที่งานหมั้นถูกยกเลิก สาว ๆ ที่คอยรุมล้อมเทียนก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง !!

งแบมบี้ ปาร์ตี้ เอแคลร์ เทียวไปเทียวมาตามจิกเทียนทั้งวัน คราวนี้กระเช้าต้องเป็นคนคอยกันท่าสาว ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้หมี่กรอบ จนเกิดเป็นเรื่องราววุ่นวายไปทั้งฟาร์ม ทำให้ธูปเข้าใจผิดคิดว่ากระเช้าหวงก้าง จะกั๊กเทียนไว้ หวังว่าเขาจะกลับมา กระเช้าน้ำท่วมปาก บอกความจริงไม่ได้ จำใจต้องยอมทนฟังคำเสียดสีของธูปด้วยความเสียใจ ทำให้เทียนอึดอัดแทน

จากโรคร้ายกล้วยไม้นี้เอง ทำให้ฟาร์มกล้วยไม้สูญเสียมหาศาล กระเช้าเห็นแล้วก็เศร้าใจ อิทธิเดชได้ทีรีบเข้ามาเสียบ ทำทีเป็นเห็นใจกระเช้าและใส่ร้ายว่าคนในฟาร์มใจคอคับแคบ พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้ลาออกมาทำงานด้วยกัน จนกระเช้าต้องตอกกลับไปแบบเจ็บ ๆ หลายต่อหลายครั้ง แต่อิทธิเดชหาได้หยุดไม่ และทุกครั้งที่อิทธิเดชมาตอแยกระเช้า สร้างความไม่พอใจให้ธูปเป็นอย่างมาก เกิดอาการหึงแบบไม่รู้ตัวหลายครั้ง

ในขณะที่ดาราสั่งให้บัญชาดำเนินแผนร้ายขั้นต่อไป นั่นคือ ขโมยพันธุ์กล้วยไม้ใหม่ ที่ดร. ศีลได้คิดค้นขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นพันธุ์ที่สวยงามและแข็งแรงมาก แต่ทุกอย่างยังเป็นความลับ ไม่มีใครล่วงรู้ ดร.ศีลเตรียมเปิดตัวในอีกไม่นาน ดาราเร่งให้บัญชาขโมยพันธุ์มาให้ได้ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พฤติกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ ของบัญชาทำให้หมี่กรอบยิ่งสงสัยในตัวเขาเพิ่มมากขึ้น

กระเช้า ยอมโดนทุกคนในฟาร์มถากถางด้วยสายตา ในฐานะนางงามตกยากและไส้ศึก และยังต้องกลับมาดูแลฟาร์มกล้วยไม้หลังจากโดนเขี่ยตกจากตำแหน่งนางงามและ

ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง (2553/2010) นทรา นครที่เคยอุดมรุ่งเรืองมาแสนนาน เกิดแห้งแล้งวิปริตดุจต้องอาถรรพณ์ ในคืนหนึ่งเหนือหัวจันทราทิตย์ (เบญ เบญจมินทร์) สุบินเห็นอสูรย์ร่างกระดูกบอกวิธีแก้ไข โดยให้ไปตามหาดาบ 7 สี รุ่งขึ้น...ความทราบถึงพระโอรสคู่แฝดผู้เป็นความหวังของราชวงศ์ ต่างรีบอาสาสรุปด้วยวิธีจับไม้สั้นไม้ยาว เจ้าชายไกรเดชผู้พี่ชนะ (ฟิวส์-กิตติวงศ์) และออกเดินทางไป แต่ลับหายไร้วี่แวว เจ้าชายเพชราผู้น้อง (ฟิวส์-กิตติวงศ์)ทูลขอติดตาม เหนือหัวจันทราทิตย์ทรงอนุญาต ทั้งที่ทรงวิตกว่าจะเป็นอย่างไร หากดาบ 7 สี เป็นเพียงตำนานเล่าขานเจ้าชายเพชรา (ฟิวส์-กิตติวงศ์) และหัวหมู่แก้ว (จัตวา) ทหารคนสนิทเดินทางผ่านป่าใหญ่ อันเป็นที่สถิตบำเพเพ็ญพรตของ 5 มหาฤษีดัดตนทรงฤทธิ์อันมีนามว่า โอม สุ จิ ปุ ลิ ได้ร่วมกันผนึกกำลังพลังหลอมไม้เท้าวิเศษขึ้น สามารถพูดได้เป็นพหูสูตแปลงเป็นม้าบิน และอาวุธทวนคู่กายโดยใช้ชื่อของฤาษี โอม-สุ-จิ-ปุ-ลิ เป็นคาถากำกับ ส่วนเจ้าแก้วได้ลูกอมวิเศษ อมแล้วสามารถยืดหดตัวได้

ตุ๊กตาทอง 2553

เรื่องย่อ : ตุ๊กตาทอง (2553/2010) ณ นครไกรจักร กษัตริย์พัฒธิพงษ์ ขยายอาณาเขตด้วยวิธีเล่นพนัน ชนไก่ กัดปลา เอาบ้านเมือง มีศรีสัจจาเป็นมเหสีฝ่ายขวา สร้อยสวรรค์เป็นมเหสีฝ่ายซ้าย สองมเหสีมีใจริษยาต่อกัน และไร้ซึ้งรัชทายาท หลังพนันชนไก่ได้นครปัญจาแล้ว กษัตริย์พัฒธิพงษ์ได้ทำพิธีบวงสรวงของลูกจากเทพยดาใน วันเกิดสุริยคลาส พร้อมทำบุญแผ่กุศลให้แก่วิญญาณอาฆาตของบรรดาสัตว์ที่ต้องเจ็บตายในการพนันเมือง ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดอยู่ในความสนใจ เฝ้ามองของราชาตั๊กแตน หรือ องค์ตั๊ก สองมเหสีให้กำเนิดโอรสในเวลาไล่เลี่ยกัน ศรีสัจจามเหสีคลอดโอรสน่ารักน่าชัง ฝ่าย สร้อยสวรรค์คลอดกุมารตุ๊กตา ไม่นึกรักกลับเกลียดชัง อีกทั้งสร้อยสวรรค์เกรงกษัตริย์พัฒธิพงษ์ไม่เสน่หา ทั้งมีราชาตั๊กแตนคอยยุแยงให้สลับกุมารตุ๊กตากับโอรสศรีสัจจามเหสี เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นในนครไกรจักร กษัตริย์พัฒธิพงษ์ ใคร่รู้ว่ากุมารตุ๊กตาที่กำเนิดมาเป็นผู้มีบุญญาธิการ หรือเป็นกาลกิณี เลยสั่งให้ โหราธิบดีทำนายดวงชะตา จากที่โหรเฒ่าเพ่งพิศดวงชะตา รู้แจ้งว่ากุมารตุ๊กตามีกุมารน้อยรูปงาม ทรงอำนาจวาสนาแฝงองค์ อยู่ แต่ด้วยถูกสร้อยสวรรค์มเหสีฝ่ายซ้ายให้สินบนกับนางมณฑาเมียรัก กำชับให้ทำนายทายทักว่ากุมาร ตุ๊กตาเป็นกาลกิณี มีภูติร้ายสิง ควรเนรเทศศรีสัจจามเหสีและกุมารตุ๊กตาพ้นจากนครไกรจักรภายใน 7 วัน เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปติดตามชมได้ในละคร ตุ๊กตาทอง

คุณชายตำระเบิด 2553

เรื่องย่อ : คุณชายตำระเบิด (2553/2010) ณ หมู่บ้านอันห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ที่เพิงหมาแหงนริมถนนนั้น เป็นที่เลื่องชื่อของรสมือการตำส้มตำรสแซ่บหลาย ถูกใจชาวบ้านชาวช่องเป็นนักหนา ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ ผู้ลงมือเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำล่ำสัน ที่มีชื่อว่า ไอ้เผือก ฝีมือระดับเซียนที่หาคนมาเทียบเทียมได้ยาก ทั้งลาบหมู น้ำตก ต้มแซ่บ ไก่ย่าง ล้วนแต่อร่อยจนแทบไม่เหลือให้หมาที่ทำตาละห้อยแถวนั้นได้กินเลยสักวัน แต่ที่ต้องยกให้เป็นสุดยอดซุปเปอร์เมนูต้องเป็น ตำระเบิด เท่านั้น ส้มตำสูตรพิเศษรสแซ่บถึงเครื่อง ไม่มีหวงเครื่องปรุงให้เสียอารมณ์ ยิ่งกินกับขนมจีนด้วยแล้วละก็ หลายต่อหลายคนยอมนั่งรถจากในตัวเมืองมาลองลิ้มชิมรสตำระเบิดของเผือกกันอย่างถ้วนหน้า อันที่จริงเผือกน่าจะรวยเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว แต่เพราะ ทองมี พ่อของเผือกนั้นติดเหล้าอย่างหนัก ไถเงินลูกชายไปให้ร้านเหล้า ยาดอง ในตัวอำเภอตลอด พอไม่ให้ก็ตบตี เผือกจำใจต้องยอมให้พ่อเพราะไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญู เขาไม่ได้หวงเงินพ่อ แต่ไม่อยากให้พ่อเมาหัวราน้ำมากกว่า เท่านั้นยังไม่พอ รำจวญ ผู้เป็นแม่ก็ติดเล่นไพ่ งานการไม่ทำ วัน ๆ ขลุกอยู่แต่ในบ่อน คงไม่ต้องบอกว่าเงินที่เอาไปเล่นไพ่แทงหวยทุกวันนั้นมาจากใคร ถ้าไม่ใช่ เผือก ดีที่ยังมี ยายดวง กับ ผึ้ง สองยายหลานที่คอยเป็นกำลังใจให้เผือกสู้กับชีวิต ยายดวงเองไม่อยากเป็นภาระของหลาน อยากมาช่วยเผือกขายส้มตำ แต่ก็ฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว ทำได้แค่ช่วยเตรียมข้าวของให้ ส่วนผึ้งนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.6 แล้ว หญิงสาวมาช่วยพี่ชายขายส้มตำหลังจากเลิกเรียน และวันเสาร์อาทิตย์ผึ้งเองตั้งใจว่าถ้าจบ ม.6 แล้ว จะไม่เรียนต่อ เพราะสงสารเผือกที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว แต่เผือกไม่ยอม ไม่ว่าเขาจะทำงานเหนื่อยหรือหนักแค่ไหน เขาก็อยากให้น้องสาวคนเดียวของเขาได้เรียนสูง ๆ เท่าที่จะทำได้ เพื่อทดแทนความฝันของเขาที่อยากเรียนแต่ไม่มีเงินเรียน จึงจบมาแค่วุฒิ ม.6 เท่านั้น วันหนึ่ง มีชายแปลกหน้ามาขายล็อตเตอรี่ที่หมู่บ้าน แต่ไม่มีใครสนใจซื้อ ต่างก็เอาเงินไปเล่นหวยใต้ดินของ เจ๊ ในตัวอำเภอมากกว่า ชายคนนั้นหิวจนหน้ามืดเป็นลมตรงหน้าร้านส้มตำของเผือก เผือกจึงช่วยปฐมพยาบาลไว้และให้กินอาหารในร้านฟรี เพราะชายคนนั้นบอกว่าไม่มีเงิน โดยเผือกไม่เคยรู้เลยว่าแค่คำว่า "ไม่เป็นไรพี่...มีกินก็แบ่ง ๆ กัน"

มนต์รักสายฟ้าแลบ 2553

เรื่องย่อ : มนต์รักสายฟ้าแลบ (2553/2010) กัลย์กมล เด็กสาวกำพร้าแม่วัยยี่สิบ เรียนมหาวิทยาลัยปีสอง อาศัยอยู่กับพ่อคือ นายเก่ง และแม่เลี้ยงคือ วิภา มีน้องชายต่างแม่อายุหกขวบชื่อ น้องกร วิภาไม่ยอมให้กัลย์เรียนหนังสืออ้างว่าไม่มีเงินส่งเสียและเงินที่มีจะให้น้องกรเรียนคนเดียวเท่านั้นให้กัลย์เสียสละ กัลย์จึงมาวางแผนกับ ไอ้ท่อกเพื่อนสนิทมีอาชีพเป็นคนขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างโดยมีน้องกรเป็นผู้ช่วยคิดด้วยการไปเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์มาจากร้าน เสี่ยเลี้ยง กัลย์จึงมีอาชีพเลี้ยงตัวเองและส่งตัวเองเรียนด้วยการขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง รับส่งเอกสาร รับส่งน้องหมาไปหาหมอ บางครั้งก็โดนพวกเด็กแว๊นก่อกวนมีเรื่องราวแต่ก็เอาตัวรอดไปเพราะพวกเพื่อนมอเตอร์ไซด์มาช่วย วิภารู้เรื่องนี้จึงไปเบียดบังเอาเงินที่กัลย์ได้มาไปใช้ พอกัลย์ไม่ให้ก็ใส่ร้ายกับเก่งว่ากันไม่ดี กรพยายามแก้แทนพี่สาวแต่เก่งไม่ฟัง กัลย์จึงโดนพ่อทำโทษเสมอ เวลาที่เศร้าใจกัลย์มักพากรไปนั่งระบายความเศร้าที่หอนาฬิกาเป็นประจำ ปราณสม เป็นลูกชายมหาเศรษฐีใหญ่ตายแล้วสิบชาติก็ใช้ไม่หมด กำลังเรียนปริญญาโทแต่โดนเรียกให้กลับมาบริหารงานแทนพ่อคือ นายดนัย ที่กำลังป่วยเป็นมะเร็ง ปราณสมไม่อยากกลับมาเพราะกำลังมีความสุขอยู่กับ นรีนุช คนรักที่หมายมั่นว่าจะแต่งงานกันหลังจากเรียนจบ ปราณสมคิดว่าถ้าพ่อหายจะกลับไปเรียนต่อ ปราณสมมีนิสัยต่างจาก คุณนายนวลแข ผู้เป็นแม่ วิมลแข พี่สาวและนพ น้องชาย คือเป็นคนติดดิน ส่วนคนอื่น ๆ จะเย่อหยิ่งและคิดว่าใครก็อยากจะมาจับเพื่อแต่งงานด้วย ปราณสมกลับมาทำตัวดีทั้งที่ไม่มีความสุข มิหนำซ้ำยังโดนจับคู่ให้กับ เดือนฉาย ลูกสาวของ เดือนเต็ม เพื่อนสนิทของนวลแขที่ทำธุรกิจอัญมณีอยู่ต่างจังหวัด และซื้อบ้านให้เดือนฉายพักอยู่ที่กรุงเทพตามลำพัง ธุรกิจของเดือนเต็มขาลงแต่ปิดบังไว้ เดือนเต็มประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ก่อนตายฝากฝังและทวงสัญญาเรื่องแต่งงานกับปราณสม ปราณสมตกใจไม่เคยรู้มาก่อน อึกอักแต่นวลแขกับวิมลแขรีบรับปาก เดือนฉายดีใจมาก เดือนเต็มตายตาหลับ เดือนฉายพยายามชวนปราณสมไปบ้านบ่อย ๆ เพื่ออ่อยให้หลวมตัว วิภาไปกู้เงินนอกระบบมาจากเสี่ยเลี้ยง เอาบ้านไปจำนำไว้ไม่มีเงินส่งดอก เสี่ยมาทวงถึงบ้านพร้อมกับสมุนเพื่อซ้อมวิภากับเก่ง กัลย์กับกรมาพบเข้าจึงเข้าช่วยเหลือ เสี่ยเลี้ยงดีใจรู้ว่ากัลย์เป็นลูกเก่ง เลิกทวงกลายเป็นเช้าถึงเย็นถึงเอาของมาให้ ในที่สุดตกลงกับวิภาว่าให้ยกกัลย์ให้เพื่อแลกกับการยกหนี้ให้ทั้งหมดและแถมเงินอีกก้อน กัลย์ไม่ยอมแต่สงสารพ่อที่ต้องโดนทำร้ายและทวงหนี้ โดนขู่เอาชีวิต กัลย์จำใจตกลง แต่กรบอกว่ามีวิธีช่วยเหลือทำให้เสี่ยไม่แตะต้องกัลย์ แต่รอให้ถึงวันแต่งจริงก่อน ให้เสี่ยคืนโฉนดและฉีกสัญญาเงินกู้ทิ้งก่อน ส่วนปราณสมก็พูดไม่ออกเรื่องแต่งงานจึงแอบขี่มอเตอร์ไซด์ที่ซื้อมาขับเล่นโดยมีไซด์คาร์ด้านข้างเพื่อเอา น้องกิ่ง ที่ชอบติดสอยห้อยตามไปด้วย นั่งพากันไปนอกเมือง ผ่านหอนาฬิกาแห่งหนึ่งเป็นประจำ ขณะผ่านไปปราณสมสังเกตเห็นผู้หญิงสาวคนหนึ่งมานั่งเศร้าซึมเหม่อลอยเป็นประจำ นึกแปลกใจ จำหน้าได้แต่ไม่เคยจอดรถทักทาย ส่วนน้องกิ่งมักทำถุงขนมบ้าง แก้วน้ำบ้างหล่นจากมือ ไปใส่เอาหัวกรเสมอ ถ้าเป็นน้ำกรจะชูมือโวยวายไล่หลัง ถ้าเป็นขนมกรจะเอาไปกิน เด็กสองคนแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกกันประจำ ถึงวันแต่งงานของทั้งสองซึ่งเหลือเชื่อว่าเป็นวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน ต่างแค่สถานที่ ขณะที่กัลย์เข้าพิธีได้รับแหวนหมั้น ได้รับทองเป็นสินสอด โฉนดที่ดินและสัญญาเงินกู้คืนให้พ่อ แม่เลี้ยง กำลังจะเริ่มพิธีจดทะเบียนสมรส รอนายอำเภอ ก่อนหน้านั้นกรได้บอกให้ท่อกไปบอกบรรดาเมียน้อยทั้งหลายห้าหกคนของเสี่ยมุ่งหน้ามาอาละวาด พังงานโดยจัดมอเตอร์ไซด์รับส่ง ส่วนตัวกรเองก็ไปกระซิบว่าความจริงเขาไม่ใช่ลูกของวิภา แต่เป็นลูกของกัลย์ เสี่ยตะลึง นายอำเภอมาละล้าละลัง จากนั้นกองทัพภรรยาน้อยบุกมาอาละวาดงานป่วน กัลย์กับกรพากันหนีขี่มอเตอร์ไซด์คู่ชีพไปพ้นจากงานแบบไม่รู้ว่าจะไปไหน ส่วนปราณสมก็เช่นกัน หลังจากมอบแหวน มอบสินสอด ปราณสมกำลังรอนายอำเภอมาจดทะเบียนสมรส ก่อนหน้านั้นน้องกิ่งแอบวางแผนเดินห่างไปแล้วโทรไปหาเดือนฉายบอกว่าเป็นลูกของปราณสม แม่ของเธอกับเธออยู่ในงานแล้ว เตรียมตัวจะทำลายพิธีจดทะเบียน ทำให้เดือนฉายสั่นไปหมด หันไปเจอเอาแขกที่พาลูกมางานจึงโดดไปทำร้าย หาว่ามาทำลายพิธีเกิดปั่นป่วนกันไปหมด น้องกิ่งฉวยโอกาสฉุดมือปราณสมวิ่งหนีออกมาพากันมาขี่มอเตอร์ไซด์พุ่งหนีออกจากงานอย่างไร้ทิศทาง กว่าเสี่ยเลี้ยงจะเข้าใจว่าโดนกรหลอก กว่าจะเคลียร์กับเมียทั้งห้าได้ กัลย์กับกรก็เตลิดหายไปนานแล้ว ทางบ้านปราณสมก็เช่นกันกว่าจะเข้าใจว่ามีมือดีที่น่าจะเป็นน้องกิ่งโทรมาอำให้ทำร้ายคนอื่น ก็ไม่ทันแล้ว ส่วนกัลย์ขี่มอเตอร์ไซด์หนีมา มีพวกกองทัพมอเตอร์ไซด์รับจ้างนำโดยท่อกมาส่งและคุ้มกัน ร่ำลากัน ทุกคนมอบเงินจำนวนหนึ่งจากน้ำพักน้ำแรงให้กรกับกัลย์ กัลย์บอกว่าจะหลบไปหากินถิ่นอื่นแล้วจะโทรมาบอกความเป็นไป จากนั้นกัลย์มุ่งหน้าไปโดยยังคิดไม่ออกว่าไปทางไหน กะจะไปหาบ้านเช่า กัลย์ขับรถไปคิดไปใจลอยน้ำตาไหล ปราณสมขับรถมา ประสาทเสียมา ฝนทำท่าจะตก ท้องฟ้ามืด รถมอเตอร์ไซด์ของกัลย์กับรถมอเตอร์ไซด์ของปราณสมแล่นสวนกันในทางแคบ ๆ สายฟ้าแล่บเปรี๊ยงลงมา สองคนตาพร่ารถเฉี่ยวกันต่างล้มลงทั้งคู่ หลังจากฟ้าแล่บผ่านไป ทั้งสองคนล้มลงมากองเกาะกันอยู่ ส่วนเด็กสองคนก็ล้มมากองใส่กัน ปราณสมเห็นกัลย์นึกออกว่าเคยเห็นที่หอนาฬิกา ส่วนเด็กสองคนจำกันได้ลุกขึ้นมาตีกันทะเลาะกัน สองคนห้ามเด็ก เด็กไม่หยุด ฟ้าแล่บอีกครั้ง สองคนจึงดึงน้องของตัวเองหลุดจากกันได้และเริ่มทะเลาะกันเองต่อ เด็กสองคนจึงห้ามผู้ใหญ่บ้าง ต่างเหนื่อยกันทั้งหมดตกลงเลิกทะเลาะกันกลายเป็นมาถามไถ่ กรแนะนำว่าเป็นลูกชายของกัลย์ทำเอาปราณสมตกใจมาก ส่วนกิ่งแนะนำว่าเป็นน้องของปราณสม เด็กสองคนแยกตัวไปนั่งกินขนมที่ผ่านมาขาย ส่วนปราณกับกัลย์นั่งมองหน้าไม่สบอารมณ์กัน เด็กสองคนยื่นไมตรีให้กันเป็นเพื่อนกันคุยกันจนรู้ความทุกข์ของแต่ละฝ่ายจึงคิดแก้ปัญหาให้กัน ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่ากัลย์กับกรจะได้มีที่พักและปราณสมก็จะได้ไปหลอกทุกคนว่ามีภรรยาและลูกแล้วจริงคือกัลย์และกร ต่อไปถ้าเสี่ยเลี้ยงเจอกัลย์จะมาเอาตัวกัลย์คืนไปไม่ได้เพราะกัลย์มีสามีแล้วและกรพบพ่อจริงแล้วคือปราณสม เด็กสองคนเอาข้อเสนอนี้ไปบอกปราณสมและกัลย์ทีแรกสองคนไม่รับข้อเสนอ แต่ปราณสมมาคิดอีกทีก็เห็นดีด้วย ในที่สุดกัลย์ก็เห็นดีด้วย โดยมีข้อแม้ว่าจะแต่งงานกันแต่ในนาม ทั้งหมดจึงพากันไปจดทะเบียนและกลับบ้านปราณสมที่กรุงเทพฯ นวลแข วิมลแขและนพถึงกับช๊อคและโกรธมาก แต่แทนที่จะโกรธปราณสมกลับไปลงที่กัลย์หาว่าเป็นแม่ม้ายลูกติดจะมาจับปราณสม เดือนฉายก็คลั่งแค้นเพราะโดนแย่งว่าที่สามีไปซึ่งหน้า ไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ปราณสมบอก กัลย์อยู่ที่บ้านปราณสมอย่างทุลักทุเล โดนรังเกียจ ปราณสมหอบเอากัลย์ไปนอนห้องเดียวกันแต่ห้องของปราณสมมีห้องทำงานอยู่ด้วยจึงไม่มีปัญหา นวลแขกับวิมลแขมักเรียกกัลย์ไปพบบอกให้เงินและให้ไปจากที่บ้านของพวกเธอ กรไม่ยอม ไปบอกให้กัลย์สู้เพราะกรกับกิ่งมีความรู้สึกว่าสองคนนี่คู่กัน กัลย์โดนราวีจากทุกฝ่ายแต่ไม่กล้าไปไหนไกลเพราะกลัวเแม่เลี้ยงกับเสี่ยตามเจอเนื่องจากท่อกบอกว่าทั้งสองกำลังพลิกแผ่นดินตามหากัลย์กับกร ส่วนนพแอบพอใจกัลย์แต่โดนปราณสมปรามเอาไว้เพราะแอบหวง ประกอบกับแม่และพี่สาวคอยจ้องอยู่จึงหันไปคบ ทิพยจันทร์ หมอนวด จนหมอนวดท้อง พาลูกเข้ามาแสดงตัวถึงบ้านและไม่ยอมไปไหนทำให้นวลแขพูดไม่ออก แถมปราณสมสงสารเด็กในท้องจึงให้พักอาศัยอยู่ ทิพยจันทร์กลับแอบมาปิ๊งปราณสมและคิดว่าปราณสมน่าจะดีกว่านพ ตลอดเวลาเดือนฉายก็มาแสดงตัวว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของปราณสม ต่อมานรีนุชคนรักตัวจริงของปราณสมตามมาสมทบจึงเกิดรักหลายเส้าขึ้นระหว่างเดือนฉายและนรีนุช มีทิพยจันทร์ปนเปด้วยบางครั้งและ ลากเอากัลย์ติดบ่วงไปด้วยทุกครั้ง ส่วนกัลย์ถึงแม้ว่าปราณสมจะพยายามให้เงินก็ไม่ยอมรับเพราะคิดว่าแค่ได้ที่ซุกหัวนอนและอาหารก็พอแล้วจึงออกหางานทำเองด้วยการทำอาชีพเดิมคือขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง รับจ้างส่งเอกสาร และรับจ้างส่งน้องหมา มีปัญหากับวินปากซอยเสมอเพราะไม่มีเสื้อวินทำให้กิ่งกับกรต้องแอบไปขอเงินปราณสมมาซื้อให้และบอกให้ผ่อนใช้ภายหลัง คุณนวลแขกับวิมลแขและนพมารู้ว่ากัลย์แอบทำงานนี้ก็โกรธและอายมาก ห้ามเด็ดขาดแต่กัลย์ไม่เชื่อบอกว่าเป็นสิทธ์ของเธอ เดือนฉายที่แท้กลายเป็นญาติกับเสี่ยจึงไปรู้เรื่องนี้โดยบังเอิญ รีบไปรายงานเสี่ยเลี้ยง เสี่ยเลี้ยงไปบอกวิภา วิภากับเสี่ยจะพากันมาเอาตัวกัลย์คืนแต่ไม่สำเร็จและประกอบกับวิภาเห็นว่าปราณสมรวยกว่าเสี่ยมากจึงพยายามตัดรอนเสี่ย เมื่อไม่สำเร็จเสี่ยกับเดือนฉายจึงวางแผนเล่นงานกัลย์แต่โดนกองทัพมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาคุ้มกันกัลย์เอาไว้ วิมลแขไปร่วมธุรกิจกับเพื่อนรักคือ หม่อมดวงแก้ว ชายา ท่านชายสุขสม ไปมีเรื่องกันเพราะคิดจะแฮปท่านชาย กลายเป็นโดนประจานว่ามีลูกเป็นหนูกิ่งแล้วไม่ยอมรับ เอาไปให้แม่รับมาเลี้ยงเพราะอาย หนูกิ่งเสียใจมากเตลิดหนีหายไปจากบ้าน นวลแขเสียใจมากเพราะรักหนูกิ่งยิ่งกว่าลูก กินไม่ได้นอนไม่หลับ หนูกิ่งหนีไปเจอเอาเดือนฉาย เดือนฉายจึงไปวางแผนกับเสี่ยเลี้ยงจับเอาไปเรียกค่าไถ่ต่อรองให้ปราณสมเลิกกับกัลย์ และให้ส่งกัลย์มาแลกตัวคืน ปราณสมไม่ยอมแต่กัลย์ยอมอาสาไปแลกเปลี่ยนตัวกับน้องกิ่งทำให้คุณนวลแขและวิมลแขเห็นความดีของกัลย์ กรวางแผนกับปราณสมเพื่อเอาตัวกัลย์กลับคืน มีท่อกและกลุ่มกองทัพมอเตอร์ไซด์ร่วมมือบุกชิงตัวด้วย ในที่สุดทั้งความสามารถของกัลย์เอง ทั้งการช่วยเหลือของกร ปราณสมและกองทัพมอเตอร์ไซด์ ทำให้กัลย์หลุดพ้นมา เสี่ยเลี้ยงโดนจับ เดือนฉายโดนซัดทอด นรีนุชถอดใจ วิมลแขปรับความเข้าใจกับหนูกิ่ง นวลแขยอมรับความจริงว่าลูกของทิพยจันทร์คือหลานตัวเอง นพยอมรับทิพยจันทร์ แต่กัลย์ขอหย่าคืนอิสรภาพตามกฎหมายให้กับปราณสมเพื่อไปหานรีนุช แต่นรีนุชกลับขอไปใช้ชีวิตต่อที่เมืองนอกเพราะรู้ดีว่าเอาชนะใจปราณสมไม่ได้อีกต่อไป วิภากับเก่งขอโทษกัลย์ สัญญาว่าจะไม่ทำผิดกับกัลย์อีก กัลย์กลับไปบ้านใช้ชีวิตเหมือนเดิมเรียนหนังสือขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง รับส่งเอกสาร รับส่งน้องหมา แต่แล้ววันหนึ่งด้วยการวางแผนของกิ่งและกร กัลย์ไปรับน้องหมาที่บ้านหลังหนึ่งปรากฏว่าบ้านหลังนั้นคือบ้านของปราณสมและน้องหมาของปราณสม ปราณสมขอกัลย์แต่งงาน เขาสารภาพว่าแอบพอใจกัลย์ตั้งแต่ผ่านหอนาฬิกาและหลงรักกัลย์ตั้งรถเฉี่ยวกันตอนสายฟ้าแล่บแล้วว่ากัลย์คือคนที่ใช่ กัลย์นึกในใจว่ากัลย์ก็เป็นอย่างนั้นแต่ไม่พูดออกมาว่ารักของเธอกับปราณสมคือรักสายฟ้าแล่บจริง ๆ ติดตามชมเรื่องราวควาามสนุกสนานของ ละครมนต์รักสายฟ้าแลบ ได้ทุกวันเวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี

รักในม่านเมฆ 2553

เรื่องย่อ : รักในม่านเมฆ (2553/2010) น้องทราย ลูกสาวคนเดียวของ นายวิน ศิรวิทย์ เศรษฐีเจ้าของสวนผลไม้ เธอหน้าตาสะสวยแต่พิการเดินไม่ได้แต่กำเนิด ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนักนอกจาก ภาดา อภิรักษ์ภูบาล ลูกชายของ คุณหญิงอัมพร และท่านนายพลภัทร เพื่อนรักนายวิน น้องทรายรัก และบูชาภาดาเสมือนวีรบุรุษในใจ แม้ภาดาจะไปเรียนต่อต่างประเทศนับ 10 ปี เธอก็ยังไม่ลืมและเฝ้าคอยพี่ชายคนนี้อยู่ตลอดเวลา แม้มีทหารหนุ่ม เรืออากาศโท สมิต กาญจนรัตน์ มาหลงรักเธอแต่เธอให้ได้เพียงความเป็นเพื่อน และพี่น้องเท่านั้น นายวินเห็นลูกสาวเธอรอคอยเพียงภาดา จึงนึกถึงข้อตกลงที่เคยทำไว้กับนายพลภัทรเรื่องการที่จะให้ทั้ง2คนแต่งงาน กันเพื่อหักหนี้สิน 80 ล้าน คุณหญิงอัมพรร้อนใจมากเนื่องจากกลัวถูกยึดทรัพย์สินและบ้านวัชรเวชน์ที่แสน ยิ่งใหญ่ จึงรีบเรียกตัวภาดากลับมาทันที แต่ภาดาได้แต่งงานไปแล้วกับ โฉมพิไล จึงเครียดหนักนายวินอ้างว่าตนป่วยและจะอยู่ได้อีกเพียง 1 ปี ภาดาสงสารน้องทรายมาก คุณหญิงเห็นว่านายวินจะอยู่ได้เพียงปีเดียว จึงขอร้องโฉมพิไลให้หย่ากับภาดา 1 ปีเท่านั้น ไม่งั้นภาดาอาจจะเหลือแต่ตัว ไร้ซึ่งทรัพย์สินเงินทอง โฉมพิไลจึงยอมตกลง เมื่อภาดาและน้องทรายแต่งงานกัน ภาดาดูแลเธอดีมาก ไม่แตะต้องเธอเลย และเมื่อเธอได้พบใครสักคนที่ดี เขาก็จะหย่าให้ น้องทรายเจ็บปวดมากซ้ำยังต้องทนการเหยียดหยามจากคุณหญิง การกลั่นแกล้งของโฉมพิไล แต่เธอก็พยายามอดทนมาโดยตลอด ภาดารับรู้ได้ถึงความรัก ความห่วงใยของน้องทราย เขาเริ่มหวั่นไหว และมีใจให้น้องทราย โฉมพิไลรู้จึงส่ง เฉลิมชัย พี่ชายของเธอมาจีบน้องทรายเพื่อหวังทำให้เสียคน ภาดาหึงจนขาดสติ ปลุกปล้ำน้องทราย น้องทรายโกรธจึงหนีออกมานอกบ้านทำให้ทุกคนได้รู้ว่าน้องทรายไม่ได้พิการ เหมือนก่อน นายวินส่งเธอไปรักษาที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 13 จนหาย คุณหญิงโกรธมากจึงให้ภาดาหย่า แต่ภาดาไม่ยอมอ้างว่าต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนายวิน แต่ความจริงเพราะเขาไม่อยากเสียน้องทรายไป ภาดามัวแต่สนใจน้องทราย ทำให้โฉมพิไลหันไปคบ บุญเทิด สามีเก่า จนมีอะไรเกินเลยกันอีกครั้ง และถูกถ่ายวีดิโอไว้เป็นหลักฐาน คุณหญิงคอยเตือนภาดาอยู่ เสมอว่าภาดามีโฉมพิไลแล้ว และโฉมพิไลก็รักภาดามาก ไม่ควรคิดอะไรเกินเลยกับน้องทราย ภาดาจึงจำต้องตัดใจและกลับไปหาโฉมพิไลดังเดิม น้องทรายมาทราบทีหลังว่าภาดาแต่งงานกับโฉมพิไลแล้ว แต่ต้องมาหย่ากันเพราะเธอ น้องทรายเสียใจมากจึงขอหย่า ภาดาตกลงหย่าให้แต่โดยดี หลังหย่ากัน น้องทรายกลับไปอยู่บ้านสวน และตกลงจะแต่งงานกับสมิตเพื่อลืมรักครั้งนี้ ภาดารู้เรื่องที่โฉมพิไลมีความสัมพันธ์กับบุญเทิด จึงบอกเลิกโฉมพิไล โฉมพิไลโกรธแค้นมาก โทษว่าเป็นความผิดของน้องทรายจึงสั่งให้เฉลิมชัยจัดการฆ่าน้องทราย ภาดารู้จึงรีบไปเตือนน้องทราย ขณะที่มือปืนกำลังดักยิงน้องทราย ภาดาจึงเข้ามารับกระสุนแทน น้องทรายเป็นห่วงภาดามาก คอยเฝ้าดูอาการภาดาด้วยความรัก ทำให้สมิตยอมแพ้ว่าเขาไม่มีทางสู้ภาดาได้ จึงตัดใจและไปใช้ชีวิตเมืองนอก ภาดาบอกรักน้องทรายและขอเธอแต่งงานอีกครั้ง ส่วนคุณหญิงรับรู้ถึงความดีของน้องทรายและรู้สึกผิดเรื่องโฉมพิไลซึ่งเกือบ จะทำให้ลูกชายของเธอต้องตาย จึงยอมให้ภาดาและน้องทรายแต่งงานกันโดยดี นายวินยอมรับเรื่องหนี้สิน 80 ล้านว่าไม่เป็นความจริง เขาตั้งใจจะยกให้ภาดาหากภาดารักลูกสาวของเขาจริงโดยไม่รังเกียจว่าน้องทราย พิการ ภาดากับน้องทรายแต่งงานและมีลูกด้วยกัน 1 คน และดำเนินชีวิตครอบครัวด้วยความอบอุ่นตั้งแต่นั้นมา ติดตามชมและเอาใจ ช่วยน้องทรายให้ชนะอุปสรรค และชนะใจของคนที่เธอรักได้ ละคร รักในม่านเมฆ

ตะวันยอแสง 2553

เรื่องย่อ : ตะวันยอแสง (2553/2010) ตะวัน (เขมนิจ จามิกรณ์) อาศัยอยู่ในเรือกระชังกับ สาย (รชนีกร พันธุ์มณี) และ คร้าว (ทนงศักดิ์ ศุภการ) พ่อเลี้ยงขี้เมา ยังชีพด้วยการรับจ้างบรรทุกสินค้าล่องไปตามจังหวัดต่าง ๆ ตะวันมี เอี้ยง (ชวนภ โพธิประเสริฐ) ที่อาศัยอยู่ในเรือกระชังอีกลำกับแม่และพ่อเลี้ยงใจร้ายเหมือนตะวันเป็นสมุน คู่ใจ เมื่อตะวันต้องบรรทุกรำไปส่งที่เรือแพคลองบางหลวง ทำให้สายกังวลใจมากจนตะวันผิดสังเกต แต่สายอ้างว่าไม่อยากให้ไปที่นั้นเพราะ อินตา (ทองขาว ภัทรโชคชัย) พ่อของตะวันเคยก่อเรื่องไว้ สายเสียใจที่คิดถึงเรื่องในอดีต ความจริงที่อินตาต้องติดคุก เพราะฆ่าคนตาย ทำให้สายตัดสินใจผิดมาอยู่กับคร้าว เรือของตะวันกับเอี้ยงจอดรอส่งรำอยู่ตรงท่าน้ำใกล้กับเรือนแพและคฤหาสน์หลัง หนึ่ง ซึ่งเป็นที่ห้ามจอดเรือ ทำให้ตะวันมีเรื่องกับ นเรนทร์ (บวรพจน์ ใจกันทา) ลูกชายของ ท่านต้น (ดิลก ทองวัฒนา) เจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ พริ้มเพรา (อภิรดี ภวภูตานนท์) ป้าของนเรนทร์จะเอาเรื่องตะวัน แต่ ศักดิ์ระพี หรือ คุณเล็ก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เข้ามาห้ามเพราะรู้ว่านเรนทร์ทำร้ายตะวันก่อน สายเข้ามาขอโทษคุณเล็กกับพริ้มเพราแล้วรีบพาตะวันกลับ พริ้มเพราเห็นสายถึงกับตกใจ กลัวความลับจะแตก เพราะเมื่อ 12 ปีก่อน พริ้มเพราอิจฉา ดวงพร (เขมนิจ จามิกรณ์) ที่ท่านต้นรับเป็นอนุภรรยาแทนที่จะเป็นตน เมื่อดวงพรคลอดลูกเป็นผู้หญิงแล้วเธอก็ตาย แต่ก่อนตายดวงพรบอกกับ คุณใหญ่ (กชกร นิมากรณ์) ภรรยาหลวงของท่านต้นว่า ลูกของเธอมีปานแดงรูปหัวใจที่เหนือหน้าอกด้านซ้าย พริ้มเพราผิดหวังที่ไม่มีลูกชายไว้สืบสกุล จึงสลับตัวลูกสาวของดวงพรกับลูกชายของสายกับอินตา และให้ ช้อน (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) เอาเงินปิดปาก ละม่อม (ดารณีนุช โพธิปิติ) หมอตำแย ไม่ให้บอกใคร ทุกคนเข้าใจว่านเรนทร์คือทายาทของคฤหาสน์เดชาบดินทร์ คุณใหญ่จึงทำพินัยกรรมมอบสมบัติให้ลูกชายของดวงพร ตะวัน กับเอี้ยงอยู่เฝ้าเรือรอสายที่ไปหาหมอ ท่านต้นขับเรือเล่นบริเวณนั้น นเรนทร์ประมาทจนเรือผลิกคว่ำทำให้ท่านต้นตกน้ำ ตะวันกับเอี้ยงช่วยท่านต้นขึ้นมาบนเรือ เมื่อมาถึงคฤหาสน์ ท่านต้นสั่งรื้อป้ายห้ามจอดเรือทั้งหมด เพราะซาบซึ้งในน้ำใจของตะวัน คร้าวบังคับเอาเงินกับตะวัน สายเข้ามาช่วยจนแทงคร้าวตาย แล้วเอาจดหมายกับเงินให้ตะวันกับเอี้ยงไปหาพริ้มเพราที่เรือนแพในคลองบาง หลวง ส่วนสายมอบตัวกับตำรวจ ช้อนบอกความจริงกับท่านต้นต่อหน้าคุณใหญ่และคุณเล็กว่า ตะวันคือลูกของดวงพร ท่านต้นตรอมใจที่ตามหาตะวันไม่เจอ ก่อนสิ้นลม จึงทำพินัยกรรมฉบับใหม่ขึ้นมา พร้อมบอกคุณใหญ่ให้พาตะวันกลับบ้านให้ได้ ตะวันเข้าไปเคารพศพท่านต้นที่วัดด้วยความหดหู่ ก่อนจะหนีคุณใหญ่ไปเพราะกลัวความผิดที่เคยทำร้ายนเรนทร์ ตะวันปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อไม่ให้ใครจำได้ ส่วนเอี้ยงก็เปลี่ยนชื่อเป็น นพดล และโกนหัวเพื่อปลอมตัวเช่นกัน ตะวันหลอกคุณเล็กว่าชื่อ ยอแสง เป็นพี่น้องกับนพดลหนีออกมาจากบ้านเพราะถูกพ่อเลี้ยงทารุณ คุณเล็กจึงรับอุปการะทั้งสองให้ได้เรียนหนังสือ และโกหก พร้อมมิตร (ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) ลูกอนุภรรยาของท่านต้นว่า ทั้งสองเป็นญาติมาจากต่างจังหวัด ยอแสงกับนพดลได้รู้จักกับ ธาดา (ธาราเขต เพ็ชรสุกใส) นักเรียนรุ่นพี่ ธาดามักจะคอยช่วยเหลือทั้งสอง จนทั้งสองซาบซึ้งในน้ำใจ คุณเล็กไปเรียนต่อเมืองนอกจึงฝากยอแสงและนพดลไว้กับคุณใหญ่ 6 ปีผ่านไป เด็กทุกคนในเรือนแพโตเป็นหนุ่มเป็นสาว พร้อมมิตรทำงานในบริษัทใหญ่โต จิตรใส (วรภร เลิศเกียรติไพบูลย์) น้องสาวของพร้อมมิตรและนเรนทร์ยังคงเรียนซ้ำชั้นมัธยม นพดลสอบเข้านายร้อยตำรวจได้ ยอแสงเรียนอักษรศาสตร์หวังจบมาเป็นอาจารย์ ส่วนอินตาเองก็พ้นโทษ ยอแสงกับ ใจบุญ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ได้พบกับธาดาและนพดล นพดลแอบชอบใจบุญตั้งแต่แรกเห็น ธาดาเองก็สนใจยอแสงแต่ยอแสงไม่สนใจ คุณเล็กเดินทางกลับจากต่างประเทศ เมื่อได้พบกับยอแสงก็ถึงกับตะลึงในความสวย แต่ก็ทำตัวเหินห่างจนยอแสงน้อยใจ นเรนทร์รู้ว่าคุณใหญ่จะยกสมบัติให้ยอแสงจึงคิดกำจัดแต่ไม่สำเร็จ คุณใหญ่ยอมพูดว่านเรนทร์ไม่ใช่ลูกท่านต้น นเรนทร์ถามความจริงจากพริ้มเพรา นเรนทร์กลัวความจริงจะเปิดเผยจริงฆ่าช้อนและละม่อม คุณ ใหญ่ตัดสินใจเปิดพินัยกรรมก่อนกำหนด อินตาปรากฎตัวขึ้นทุกอย่างถูกเปิดเผย ยอแสงหรือตะวันคือทายาทที่แท้จริงของท่านต้นและดวงพร นเรนทร์คลั่งมากคว้าปืนมายิงทุกคน คุณเล็กกับอินตาช่วยกันจับตัวนเรนทร์ส่งตำรวจ ยอแสงหรือตะวันได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ ที่แท้จริง คุณเล็กได้เปิดเผยความในใจกับตะวัน ความอบอุ่นจึงกลับคืนมาอีกครั้ง

คุณพ่อหวานแหวว 2553

เรื่องย่อ : คุณพ่อหวานแหวว (2553/2010) รมิดา (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) สาวสวยหน้าหวานมารอรับ แมนยู (ชญานิน เต่าวิเศษ) ลูกชายวัย 5 ขวบที่โรงเรียนอนุบาล เธอเห็นลูกชายตัวน้อยกำลังผลักอกเด็กชายวัยเดียวกันเซล้มลง รมิดาจำได้ว่าเด็กคนนั้นชื่อ น้องบอย เป็นเด็กที่มีเรื่องทะเลาะกับแมนยูบ่อยๆ หญิงสาวรีบวิ่งไปดึงนายตัวดีออกมาก่อนที่แมนยูจะกระโจนเข้าไปฟัดน้องบอยอีก ครูเวรรีบเข้ามาช่วยแยกเด็กทั้งคู่ออกจากกัน รมิดาต้องช่วยครูเวรไกล่เกลี่ยคู่กรณีอยู่ครู่ใหญ่ พอขึ้นรถสองแม่ลูกก็หน้าบึ้งเข้าหากัน แมนยูมอง “แม่ดา” ตาคว่ำ เด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ดาต้องโกรธด้วย ทั้งๆ ที่น้องบอยเป็นฝ่ายหาเรื่องเขาก่อน แมนยูงอนไม่ยอมกินของว่างแสนอร่อยที่แม่ดาเตรียมไว้ให้ บรรยากาศในรถเงียบกริบ ไม่สนุกสนานเหมือนทุกวัน เมื่อกลับมาถึงบ้าน รมิดาดึงตัวลูกน้อยมาซักถามเรื่องราวทันที เธอแปลกใจที่แมนยูยืนกรานแต่ว่าแกไม่ผิด รมิดาคว้าไม้เรียวทั้งที่ไม่อยากทำ แต่ในเรื่องลูกชายดื้อนักก็ต้องปราบกันบ้าง หญิงสาวฟาดก้นแมนยูไปหนึ่งที เด็กน้อยน้ำตาคลอพึมพำปนสะอื้นว่า “น้องบอยล้อแมนยูว่าไม่มีพ่อ อยู่กับแม่ต้องเป็นตุ๊ดแน่ๆ แมนยูเถียงว่าไม่ใช่…บอยก็ไม่ยอมหยุดล้อ…แมนยูโมโหเลยผลักบอยล้ม….” รมิดาทิ้งไม้เรียวเข้ามากอดลูกชายอย่างสงสาร เธอส่งตัวลูกชายให้พี่เลี้ยงแล้วนั่งซึมหวลคิดถึงอดีต….ที่จริงแล้วแมนยู เป็นลูกชายของ ชาญศักดิ์ (สุรวุท ไหมกัน) กับ สีดา (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) แต่แม่ของแกหย่ากับชาญศักดิ์ แล้วไปอยู่อเมริกาตั้งแต่คลอดแมนยูได้ไม่กี่เดือน ชาญศักดิ์จึงเลี้ยงลูกตามลำพัง เขารวยมากเป็นเจ้าของที่ดินและอาคารพาณิชย์หลายแห่ง แค่บริหารจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ก็เกินพอแล้ว เขาโชคดีที่มี สุริยน (พาทิศ พิสิฐกุล) ซึ่งเป็นน้องชายคอยช่วยดูแลอีกแรง……ชาญศักดิ์รู้จักและสนิทสนมกับ สุเทพ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) พ่อของรมิดา สุเทพเปิดร้านอาหาร เขาเป็นเชฟฝีมือดีจึงมีลูกค้ามาอุดหนุนมากมาย ชาญศักดิ์และแมนยูเป็นลูกค้าประจำจึงคุ้นเคยกับรมิดามาก….แม้จะเป็นสาว หน้าหวาน แต่รมิดาตัดผมสั้น บุคลิกเก๋ เท่ห์ ชวนมอง ดูเผินๆ เหมือนผู้ชายหน้าสวยคนหนึ่ง หญิงสาวค่อนข้างซนแก่น จึงเข้ากับแมนยูได้ดีเด็กชายเองก็ติดเธอมากเช่นกัน รมิดาเข้าใจและเห็นใจแมนยูที่ไม่มีแม่ เพราะเธอเองก็ไม่รู้จัก “แม่” เช่นกัน ในชีวิตเธอมีแต่พ่อสุเทพเท่านั้น เธอเคยถามถึงแม่ สุเทพเล่าให้ฟังอย่างเจ็บปวดว่า…แม่ของเธอเป็นลูกสาวเศรษฐี ไม่อยากจะมากัดก้อนเกลือกินกับพ่อซึ่งเป็นเชฟจนๆ จึงหนีกลับไปอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่รมิดายังแบเบาะ ที่น่าเสียใจคือพ่อเพิ่งรู้ว่าแม่ไม่รักพ่อและเธอเลย ก็เพราะแม่ให้คนสนิทมานัดให้พ่อไปรับที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยบอกว่าจะหนีไปกับพ่ออีกครั้ง แต่เมื่อถึงวันนัดแม่กลับไม่มา แต่มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งมาแทน คนพวกนั้นต้องการกำจัดพ่อกับรมิดา พ่อต้องอุ้มเธอหนีตายกระเซอะกระเซิง….ไม่นานนัก พ่อก็ได้ข่าวว่าแม่แต่งงานใหม่กับลูกชายเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่ง พ่อจึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารทำมาหากินเลี้ยงรมิดาคนเดียว ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้พ่อผิดหวัง นอกจากเรียนเก่งแล้วเรื่องการทำอาหารเธอก็มีฝีมือมากเช่นกัน มิเสียแรงที่สุเทพอุ้มเข้าครัวตั้งแต่เล็กๆ รมิดาจึงมีรสมือที่ไม่ต่างจากสุเทพเลย เธอทำอาหารได้ดีทุกอย่าง ที่ถนัดมากคืออาหารจีน ชาญศักดิ์เห็นลูกชายติดรมิดามาก เขาเองก็อยากให้ลูกมีแม่ ได้มีครอบครัวอบอุ่นเหมือนคนอื่นบ้าง แต่ก็ยังไม่พบใครที่รักและเอ็นดูลูกชายของเขาได้เหมือนเธอ ชาญศักดิ์เฝ้าดูรมิดามานาน และรักเธอในที่สุดเขามั่นใจว่าเธอเป็นคนดีจึงขอรมิดาแต่งงาน ซึ่งสุเทพก็สนับสนุนเต็มที่ ทว่าอีกไม่นานสุเทพเกิดป่วยหนัก ชาญศักดิ์ช่วยรมิดาพาพ่อไปโรงพยาบาล แต่สุเทพอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนตายสุเทพบอกลูกสาวว่าแม่ของเธอชื่อ นัยนา (สุภัทธา ทิวานนท์) เป็นลูกสาวคนเล็กของ ทรงยศ (สมบัติ เมทะนี) กับ สุรีย์ เจ้าของโรงแรมเจสเตอร์ หลังจากแต่งงานกับ ศิริ (ทูน หิรัญทรัยพ์) ทายาทคนเดียวของเจ้าของโรงแรมสยามคอสโม เธอก็เข้ามาบริหารโรงแรมสยามคอสโมเต็มตัว ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว…..การที่สุเทพตัดสินใจบอกความจริงกับรมิดา ก็เพราะไม่ต้องการให้เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลนี้ไม่ว่าใครทั้งนั้น เมื่อรมิดาจัดการงานศพบิดาและออกทุกข์เรียบร้อย ชาญศักดิ์จึงเริ่มกำหนดงานแต่งงาน รมิดาโชคดีที่ทั้งลูกชายและน้องชายชาญศักดิ์ยอมรับเธอ แต่แล้วก่อนจะถึงวันแต่งงานเพียงสามวัน ชาญศักดิ์ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต รมิดากับสุริยนจึงต้องช่วยกันจัดงานศพและดูแลแมนยูไปพร้อมกัน…ชาญศักดิ์ เป็นคนรอบคอบมาก เขาทำพินัยกรรมไว้เรียบร้อย ทั้งสุริยน แมนยู และรมิดาต่างก็ได้รับมรดกเป็นทรัพย์สินที่มากพอจะอยู่ได้อย่างสบายไปตลอด ชีวิต….รมิดานั้นรักแมนยูมาก เธอดูแล ตั้งใจเลี้ยงดูเด็กน้อยราวกับเป็นลูกของเธอเอง หญิงสาวทำหน้าที่แม่ได้เป็นอย่างดี เธอไปรับไปส่งแมนยูที่โรงเรียนทุกวัน อาหารการกินก็ทำเอง วิถีชีวิตราบรื่น อบอุ่น มีความสุข…..แต่เหตุการณ์ที่โรงเรียนวันนี้ก็ทำให้รมิดาไม่สบายใจ สุริยนมาหารมิดาก็เห็นเธอนั่งหน้ามุ่ย รมิดาเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟัง เพราะเธอกับเขาก็สนิทกันมาก ชายหนุ่มเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายที่แสนดี ไม่เคยคิดกับเธอเป็นอื่น รมิดาอยากเห็นแมนยูเติบโตขึ้นอย่างไม่มีปมด้อย และมีความสุขมากที่สุด สุริยนไม่อยากให้รมิดากังวลเกินไป เพราะแมนยูยังเด็กนัก แต่เขาก็รับปากจะช่วยเธอทุกเรื่อง….

สวรรค์สร้าง 2553

เรื่องย่อ : สวรรค์สร้าง (2553/2010) ด้วยสมองระดับอัจฉริยะของ นับรบ พยัคฆ์ราชา (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) ทำให้เขากลายเป็นประธานบริษัทไทเกอร์คิงในวัยเพียง 25 ปี นักรบมองโลกเหมือนเสือ ไม่มีจริยธรรมควบคุม เขาสั่งตัดงบเกี่ยวกับความปลอดภัยของ เอื้อ (รติพงษ์ ภูมาลี) พี่ชายของ อุ่นใจ (พีชญา วัฒนามนตรี) จนเมื่อบริษัทของนักรบเกิดไฟไหม้ เอื้อโชคร้ายถูกคานทับขณะหนีเอาตัวรอดจากเปลวเพลิงจนกลายเป็นคนพิการ นักรบสั่งปิดข่าวและไล่เอื้อออกเพื่อรักษาภาพพจน์ เมื่อเอื้อรู้ความจริงหัวใจแทบสลาย เพราะเคยวาดฝันว่าจะใช้เงินก้อนนี้เปิดร้านซ่อมมือถือ ส่งอุ่นใจเรียนและเลี้ยง โอ๋ (ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ) ลูกชายวัย 10 ขวบ พร้อมทั้งดูแลแม่ นวล (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ที่ป่วยเป็นอัมพาต เอื้อทำในสิ่งที่ไม่คาดฝันด้วยการไปยืนขวางรถมอเตอร์ไซค์ของนักรบ หวังจะฆ่าตัวตายต่อหน้านักรบ นักรบหักหลบจนรถเสียหลักศรีษะกระแทกกับของแข็ง ทั้ง 2 ถูกนำตัวส่งห้องไอชียูทันที นักรบฟื้นขึ้นมาและจำเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตไม่ได้ คุณหญิง นายิกา (สุปรีย์ฏา คำนวณศิลป์) ผู้เป็นแม่จึงสั่งให้ ทองทิว (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) เลขาฯ ของนักรบช่วยเรียกความทรงจำของนักรบกลับมา และสั่งให้ปกปิดเรื่องทั้งหมด เพราะบริษัทพันล้านของเขาต้องอาศัยสมองอัจฉริยะของนักรบเป็นต้นทุนในการบริหาร นักรบคนใหม่เกิดความรู้สึกประหลาดต่อตัวเขาในอดีตที่เป็นคนหยิ่งผยองและไร้น้ำใจอย่างสิ้นเชิง เหตุการณ์เหล่านี้อยู่ในสายตาของ นิมมาน (แวร์ โชว) น้องสาวของนายิกาที่อิจฉาพี่สาวที่ร่ำรวย ในขณะที่ นักคิด (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูกชายกลับเป็นคนไม่เอาถ่าน และมักมีเรื่องชกต่อยกับนักรบเพื่อแย่ง ดาราราย (ปัญฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) สาวสวยไฮโชลูกของ ท่านรัฐมนตรี ตุลย์ (คาเมล ซาลวาลา) ที่พร้อมจะสนับสนุนการงานของไทเกอร์คิง และนิมมานยังแอบทรยศหักหลังนายิกาด้วยการไปคบกับ จอมภพ (สิรคุปต์ เมทะนี) เจ้าของบริษัทสัมปทานโทรศัพท์คู่แข่ง และหวังจะถอดนักรบออกจากตำแหน่ง อุ่นใจมีเพื่อนสนิทชื่อ ดอกจัน (ป่านทอง บุญทอง) คอยให้คำปรึกษา อุ่นใจมองเห็นความอ่อนโยนของนักรบจนคิดว่านักรบสำนึกผิด ดารารายเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ของอุ่นใจกับนักรบจึงเริ่มแผนร้ายด้วยการให้ ชูชี่ (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) คอยกลั่นแกล้ง เปลวแสง (สุจิตรา เรืองรองหิรัญญา) นักข่าวที่ตามทำข่าวเรื่องเอื้อ เอื้อกลัวอุ่นใจจะเปลี่ยนข้าง จึงหลอกนักรบไปที่สนามแข่ง และฉายภาพอุบัติเหตุให้ดูจนนักรบหมดสติไป ทองทิวต้องพาไปโรงพยาบาลอีกครั้ง นักรบฟื้นขึ้นมาด้วยแววตาของเสือถามเรื่องราคาหุ้นของบริษัทเป็นอันดับแรก สร้างความดีใจให้กับนายิกายิ่งนัก อุ่นใจไปหานักรบที่บริษัทแต่ถูกนักรบปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย จอมทัพ (อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) ลูกชายของจอมภพที่แอบรักอุ่นใจอยู่ถือโอกาสเข้ามาช่วยปลอบใจ นักรบเริ่มรำลึกถึงความหลังได้ จึงหันกลับมาง้ออุ่นใจอีกครั้ง แต่นายิกาไม่ต้องการให้นักรบกับอุ่นใจรักกัน จึงไปบอกนวลเรื่องที่เอื้อตาย ทำให้นวลเสียใจจนหัวใจวายตาย อุ่นใจโกรธนักรบมากจึงรับหมั้นจอมทัพ และหันไปช่วยงานของพีนิกช์ต่อสู้กับไทเกอร์คิงในการประมูลจนจอมทัพชนะการประมูล นักรบเหลือแต่ตัว แต่ยังตามมาง้ออุ่นใจอีก อุ่นใจจึงท้าให้นักรบกอบกู้บริษัทขึ้นมาใหม่ นักรบเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง และสามารถนำไทเกอร์คิงผงาดขึ้นมาได้ จึงทวงสัญญาด้วยการจับอุ่นใจไปล่องเรือตามลำพัง และประกาศขอรับผิดชอบที่พาอุ่นใจออกไปอยู่สองต่อสอง อุ่นใจปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้จึงยอมถอนหมั้นกับจอมทัพ นิมมานกับนักคิดแค้นใจที่นักรบจะได้ทุกอย่างจึงวางแผนลอบยิง จนนักรบได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ได้รับการช่วยชีวิตไว้อย่างปลอดภัย เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้นักรบตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการบริหารของตนเองใหม่ โดยสนใจความรู้สึกของคนรอบข้างมากขึ้น และตั้งใจจะเป็นนักธุรกิจมือสะอาดที่ไม่เต็มไปด้วยความโลภเหมือนที่ผ่านมา ติดตามชมรื่องราวความเข้มข้นของ ละครสวรรค์สร้าง

ปลาบู่ทอง 2552

เรื่องย่อ : ปลาบู่ทอง (2552/2009) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่มีเศรษฐี ชื่อ ทารกะ (อ่านว่า ทา-ระ-กะ) มีอาชีพจับปลา มีภรรยา 2 คน คนแรกชื่อขนิษฐา ผู้มีจิตใจดี อ่อนโยน มีลูกสาวแสนสวย เรียบร้อยเหมือนแม่ ชื่อ เอื้อย ส่วนคนที่สองชื่อ ขนิษฐี เป็นผู้มีจิตริษยาอาฆาต มารยาสาไถ ยุแหย่สามีให้เกลียด นางขนิษฐา และลูกสาวตลอดเวลา มีลูกสาวนิสัยเหมือนแม่ 2 คนชื่ออ้าย กับอี่ วันหนึ่งเศรษฐีทารกพาขนิษฐาไปจับปลาในคลอง ไม่ว่าจะเหวี่ยงแหไปกี่ครั้งก็ได้มาเพียงปลาบู่ทองที่ตั้งท้องตัวเดียวเท่านั้น จนกระทั่งพลบค่ำเศรษฐีก็ตัดสินใจที่จะเอาปลาบู่ทองที่จับได้เพียงตัวเดียวกลับบ้าน ทว่าขนิษฐาผู้เป็นภรรยาเกิดความสงสารปลาบู่ ขอให้เศรษฐีปล่อยปลาไป เศรษฐีมีความเกลียดชังเป็นทุนอยู่แล้วจึงโมโหคว้าพายได้ ก็ฟาดจนนางขนิษฐาสลบ และผลักตกน้ำจมตาย เมื่อกลับถึงบ้านเอื้อยก็ถามหาแม่ เศรษฐีจึงตอบไปว่าแม่ของเอื้อยได้หนีตามผู้ชายไป และจะไม่กลับมาบ้านอีกแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นเอื้อยจึงถูก 3 แม่ลูกกลั่นแกล้งทรมานด้วยการใช้ทำงานอย่างหนักไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ได้พักไม่ได้ผ่อนตลอดทั้งวัน เอื้อยคิดถึงแม่มากจึงมักไปนั่งร้องไห้อยู่ริมท่าน้ำ และได้พบกับปลาบู่ทองซึ่งเป็นนางขนิษฐากลับชาติมาเกิด เมื่อเอื้อยรู้ว่าปลาบู่ทองเป็นแม่ของตนก็ได้นำข้าวสวยและรำมาโปรยให้ปลาบู่ทองกิน และมาปรับทุกข์ให้ปลาบู่ทองฟังทุกวัน นางขนิษฐีและลูกสาวเห็นเอื้อยดูมีความสุขขึ้น เมื่อถูกกลั่นแกล้งก็อดทนไม่ปริปากบ่นจึงไปแอบสืบจนพบว่านางขนิษฐาได้มาเกิดเป็นปลาบู่ทอง และได้พบกับเอื้อยทุกวัน เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปติดตามชมได้ในละคร ปลาบู่ทอง

เทพสังวาลย์ 2552

เรื่องย่อ : เทพสังวาลย์ (2552/2009) มีเทพทั้งห้าและมีสังวาลห้าสี ครอบครอง คือ สังวาล ขาว แดง เหลือง เขียว และ ดำ เทพศาสตราและเทพีหยั่งรู้ ทำผิดกฎ รักกันและให้กำเนิดบุตรชาย มณีแดง จึงนำ มณีแดงไปให้อสูรเลี้ยงดู ยังโลกมนุษย์ แต่อสูรกลับเลี้ยงมณีแดงให้เป็นคนชั่วร้าย และทำร้ายคนที่เป็นปรปักษ์ ยุยงให้มณีแดงครอบครองทั้งสามภพ ตามล้างฆ่า แสงสุรีย์ โดยมีนาคี ให้ความช่วยเหลือแสงสุรีย์ แต่ แสงสุรีย์กับมณีแดง ยิ่งบาดหมาง เมื่อทั้งสองคนต่างหลงรัก พระธิดารัตนาวดี ซึ่งเป็นชนวนทำให้ มณีแดงและแสงสุรีย์เป็นศัตรูกัน รัตนาวดี ต้องตกเป็นของมณีแดงโดยไม่ได้ยินยอม ทำให้ก่อกำเนิด บุตรชาย ผู้มีเลือดสามภพ คือ สายเลือดเทพ สายเลือดมนุษย์ สายเลือดอสูร และที่สำคัญจะเป็นผู้ทำลายอสูร ทำให้อสูรต้องกำจัด รัตนาวดี และ ลูก มณีแดงเอาตัวเข้าขัดขวางทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเลือดในกายของมณีแดงเป็นพิษจากการดื่มเลือดของอสูร ถ้ามณีแดงจะเป็นคนดีเมื่อไร เลือดพิษจะทำลายล้างมณีแดง ก่อนตายมณีแดง แสงสุรีย์ นาคี ร่วมกันกำจัดอสูร รัตนาวดีเลี้ยงดูบุตรชายให้เป็นคนดี ไม่ให้เป็นอย่างมณีแดง โดยมีเทพ คอยดูแล