จอมขมังเวทย์ 2020 (2562/2019) หลังการสูญเสียครอบครัวครั้งใหญ่ทำให้ วิน ชายหนุ่มผู้รอดชีวิตกลับต้องเปลี่ยนความเชื่อและศรัทธาที่มีต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ โดยมุ่งเข้าสู่ศาสตร์ลึกลับและอาคมเวทต่างๆ เพื่อสืบหาและจัดการฆาตกรด้วยตนเอง แต่ยิ่งสืบหามากเท่าใด เขาก็ยิ่งถลำลึกสู่ด้านมืดมากขึ้นทุกที จนทำให้ต้องเข้าไปพัวพันกับ “จอมขมังเวทในตำนาน”, “ผู้คลั่งพลังทำลายล้าง” และ “เจ้าลัทธิใหม่แห่งยุค” ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมด้วยกันทั้งสิ้น
คนขับรถ DRIVER (2560/2017) คนขับรถเล่าเรื่องราวของ เกด (ศิตา ชุติภาวรกานต์) ผู้หญิงสวยและแสนดีคนหนึ่งที่ เต้ (ภูริ หิรัญพฤกษ์) สามีของเธอหายตัวไปแบบติดต่อไม่ได้หลังจากทริปดูงานที่เกาหลี เกดร้อนใจจึงปรึกษาตั้ม(ปฏิพล นาคะประเสริฐกุล) เพื่อนที่เป็นตำรวจให้ช่วยสืบดูแต่ตั้มคิดว่าเต้คงไปเถลไถลที่ไหนต่อตามประสาผู้ชายจึงให้เกดรอดูอีกสองสามวัน เกดรอไม่ไหวจึงขอให้ แมค (ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย) คนขับรถของเต้พาเธอไปสืบดูที่ออฟฟิสจนเจอบิลค่าไฟบ้านหลังที่เธอไม่เคยรู้จัก เกดขอให้แมคขับรถพาเธอไปตามหาบ้านหลังนั้นหวังว่าจะเจอสามีสุดที่รัก แต่สิ่งที่เธอค้นพบกลับเป็นเบาะแสสู่ความลับที่เจ็บปวดที่ทำให้เธอไม่สามารถไว้ใจใครได้อีกตลอดไป คนขับรถเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าที่มีความเป็นอีโรติกและทริลเล่อร์ผสมอยู่ นำแสดงโดย ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย, ภูริ หิรัญพฤกษ์, ปฏิพล นาคะประเสริฐกุล และนางเอกใหม่ประเดิมผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ศิตา ชุติภาวรกานต์ เขียนและกำกับโดย ฐิติพันธ์ รักษาสัตย์ อำนวยการสร้างโดย ปฐมกฤษณ์ สุดสระ
A Friend Is Another Self เพื่อนเป็นอีกคนหนึ่ง (2560/2017) ว่าด้วยเรื่องของความสัมพันธ์ของเพื่อนแท้อย่าง แชมป์ และ ต้น ที่ก่อตัวเป็นเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์แบบลับๆฉบับเทคนิค ที่มีเพียงเขาทั้งสองเท่านั้น ที่จะเข้าใจความรู้สึกนี้ได้เป็นอย่างดี . นำแสดงโดยสองนักแสดงหนุ่มมากความสามารถและผ่านผลงานด้านการแสดงภาพยนตร์มาแล้วทั้งคู่ เริ่มด้วย.., . คนแรก [กันกัน] นายณัฐวัฒน์ ชัยณรงค์โสภณ จากภาพยนตร์เรื่อง สิ่งเล็กๆที่น่าร็อค หนุ่มกันผ่านผลงานการแสดงมามากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์ ภาพยนตร์ หรือภาพยนตร์โฆษณา และครั้งนี้เป็นการพลิกบทบาทสำคัญอีกครั้งในชีวิต ที่ต้องมาเล่นเป็นเด็กหนุ่มที่แอบรู้สึกดีๆกับเพื่อนสนิทของตัวเอง และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมาหาคนที่ตนเองรัก... . คนต่อมา [เบส] นายเอกวัฒน์ เอกอัจฉริยา จากภาพยนตร์เรื่อง Last summer และ ภาพยนตร์เรื่องเค้าเรียกผมว่าความรัก หนุ่มเบสเคยผ่านผลงานด้านการแสดงมามากมายเช่นกัน ทั้งภาพยนตร์ ซีรี่ย์ และภาพยนตร์โฆษณา และเป็นหนุ่มที่น่าจับตามองอีกหนึ่งคนในฐานะนักแสดง หนุ่มเบสตัดสินใจมารับบท ต้น เพื่อนสนิทคนสำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างแชมป์ (กันกัน) เขาทั้งสองสนิทกันจนแยกไม่ออกว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันมากกว่าเพื่อนไปแล้ว กว่าต้นจะรู้ตัวว่าแชมป์คือคนสำคัญในชีวิต ก็ตอนวันที่ตัวเองก็เจอกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเขาไปทั้งชีวิต
แม่เบี้ย (2558/2015) ความลุ่มหลงแห่งอิสตรี จะเปิดความลับแห่งอสรพิษ เบื้องลึกของความรัก ตัณหาราคะ เหล่าคนบาป และความเร้นลับแห่งอสรพิษ ทุกเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชนะชล สุพรรณภูมิ (ชาคริต แย้มนาม) ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่งมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นเจ้าของ "เรือนไทยโบราณริมแม่น้ำ" ทำให้ภาคภูมิ (จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร) เลขาคนสนิทได้พาเขาไปดูเรือนไทยโบราณที่ อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี ของ เมขลา พลับพลา (กานต์พิสชา เกตุมณี) เจ้าของบริษัท "เมขลาทัวร์" ซึ่งเป็นเพื่อนหญิงรุ่นพี่ของภาคภูมิ ที่นั่น ชนะชลเกิดความลุ่มหลงในความเร้นลับของบรรยากาศเรือนไทยโบราณแห่งนั้น รวมทั้งเสน่ห์อันยั่วยวนใจ ของเมขลาเจ้าของบ้าน ทำให้ทั้งสองติดต่อกันเรื่อยมาจนก้าวข้ามไปสู่ความสัมพันธ์ฉันชู้สาวอย่างลึกซึ้ง และที่เรือนไทยแห่งนี้ ชนะชลได้ค้นพบขนบธรรมเนียนประเพณีไทยที่บ้านนั้นรักษาไว้อย่างเคร่งครัดพร้อมกับความลึกลับที่มี "งูเห่ายักษ์" แฝงเร้นความน่าสะพรึงกลัวในบ้านนั้น และคอยจับจ้องทำร้ายเขาในทุกขณะจิต และที่นี่เขาก็ได้พบกับ ลุงทิม (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) คนเก่าแก่แห่งครอบครัวพลับพลาผู้เฝ้าดูแลและกุมความลับเหนือธรรมชาติของเรือนไทยโบราณแห่งนี้ ซึ่งชนะชลรู้สึกคุ้นเคยกับชายชราผู้นี้เป็นพิเศษราวกับเคยรู้จักกันมาแต่เก่าก่อน รวมถึงการล่วงรู้ความลับดำมืดในบ้านเรือนไทยหลังนี้ที่ได้สร้างความปวดร้าวใจแก่ คุณโกสุม (อาภา ภาวิไล) มารดาของเมขลาเป็นยิ่งนัก ซึ่งมันอาจจะเกี่ยวพันกับปริศนาชีวิตในอดีตของเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย ยิ่งเวลาผ่านไป สัมพันธ์สวาทของชนะชลและเมขลาก็ยิ่งดำดิ่งเป็นปมลึก และนั่นได้นำพาทั้งคู่และคนรอบข้างไปสู่หายนะแห่งชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ไหมแก้ว (ภัทรนันท์ รวมชัย) ภรรยาของชนะชลที่ไม่อาจยอมรับการนอกใจของสามีได้ และ พจน์ (ชัยวัฒน์ ทองแสง) เพื่อนสนิทและคู่ขาของเมขลาที่หึงหวงอย่างรุนแรงต่อการปันใจของเธอให้ชายอื่น รวมถึง คุณ (งูเห่ายักษ์) ที่ปรากฏตัวให้ชนะชลและเมขลาเห็นบ่อยขึ้น และแสดงอำนาจเร้นลับมากขึ้นทุกที ราวกับจะดึงสติทั้งคู่ให้กลับมาอยู่ในทำนองคลองธรรม ก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างจะพลิกผันจบลงด้วยการแก้แค้น, ชำระบาป และความตาย เมขลาจึงจำต้องคลี่คลายปัญหาด้วยการตัดใจลา ยุติความสัมพันธ์กับชนะชลอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้งูเห่ายักษ์พรากชีวิตของเขาไป ในขณะที่ชนะชลเองก็ได้ค้นพบรากเหง้าชีวิตอันเป็นต้นกำเนิดของเขาไปพร้อมๆ กับตระหนักถึงบาปที่ตนก่อไว้เช่นกัน
จันดารา ปัจฉิมบท (2556/2013) หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นในบ้านพิจิตรวานิช ทำให้ จัน ดารา (มาริโอ้ เมาเร่อ) และ เคน กระทิงทอง (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) สหายสนิทของเขาต้องหนีภัยอันเกิดจากการกระทำอันเหี้ยมโหดของ คุณหลวงวิสนันท์เดชา (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้ที่เขาคิดว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้านานถึง 17 ปี ไปพำนักอยู่กับ คุณท้าวพิจิตรรักษา (รัดเกล้า อามระดิษ) ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เมืองพิจิตร ช่วงระยะเวลาที่อยู่ที่เมืองพิจิตรนี้ จัน เป็นสุขทั้งกายใจ และรู้สึกถึงอิสรภาพของชีวิตอย่างแท้จริง เขายังคงติดต่อทางจดหมายกับ ไฮซินธ์ (สาวิกา ไชยเดช) เพื่อนหญิงในดวงใจอันเป็นรักบริสุทธิ์ของเขาอยู่เสมอมา และคาดหวังว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่อันสดใสที่เมืองนี้พร้อม ๆ กับการตามค้นหาพ่อแท้ ๆ ของเขาไปด้วย แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งให้วันชื่นคืนสุขอยู่กับเขาเพียงไม่นาน เมื่อในที่สุด จัน ก็ได้ล่วงรู้ความจริงอันไม่คาดฝันเรื่องพ่อผู้ให้กำเนิดแท้จริงที่เขารอคอยมานานจากปากคำของ ร้อยตำรวจเอกเรืองยศ (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) ผู้กุมความลับอันน่าอดสูเกี่ยวกับ ตระกูลพิจิตรวานิช นี้ไว้มาตลอดทั้งชีวิต จัน พยายามทำใจให้ผ่านช่วงชีวิตอันแสนทุกข์ทรมานนี้ไปให้ได้ จนกระทั่ง น้าวาด (บงกช คงมาลัย) ได้เดินทางมาแจ้งข่าวเรื่อง คุณหลวง ล้มป่วยลงอย่างฉับพลัน เนื่องจากเกิดเหตุบางอย่างขึ้นกับ คุณแก้ว (โช นิชิโนะ) และ คุณขจร (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) และแล้วสงครามแห่งการชำระแค้นและทวงคืนทุกอย่างให้กลับมาเป็นของเขาและ ตระกูลพิจิตรวานิช ก็ได้เปิดฉากขึ้นในทันทีตามคำสั่งเสียสุดท้ายของ คุณท้าว ยายผู้คอยบงการและพลิกผันชะตาชีวิตของ จัน ให้ตกอยู่ในด้านมืดอย่างคาดไม่ถึง จัน กลับมาอย่างสง่าผ่าเผยในฐานะเจ้าของบ้านคนใหม่ และมีสิทธิในทรัพย์สมบัติและอำนาจทั้งหมดภายในบ้าน แต่เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจของเขา เมื่อสัตว์ร้ายและตัณหาราคะในใจปะทุออกมาอย่างรุนแรง เมื่อเขาเห็นภาพ คุณบุญเลื่อง (รฐา โพธิ์งาม) กับ คุณหลวง ยังรักใคร่กันเป็นอย่างดี จัน จึงใช้เสน่ห์แห่งความเป็นชายหนุ่มรูปงามหลอกล่อจน คุณบุญเลื่อง ตกเป็นของเขาอย่างสมยอม และเมื่อ คุณหลวง ได้เห็นภาพร่วมรักอันเร่าร้อนของทั้งคู่ ทำให้เขาสิ้นสติและกลายเป็นอัมพาตไปในที่สุด กระจกเงาแห่งความชั่วร้ายได้สะท้อนภาพคุณหลวงมาสู่ตัว จัน อย่างไม่มีผิดเพี้ยน การล้างแค้นอันน่าขยะแขยงนี้ดูเหมือนจะปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบด้วยชัยชนะของ จัน ดารา แต่เพียงผู้เดียว ถ้าเขาไม่ได้รับบทเรียนชีวิตอันยิ่งใหญ่จากศัตรูคู่อาฆาตอย่าง คุณแก้ว ที่เอาคืนจันอย่างสาสม รวมถึงคนรอบข้างที่คอยห่วงใยเขาเสมอมาอย่าง น้าวาด, เคน และ คุณบุญเลื่อง ที่ค่อย ๆ ตีตัวออกห่างจาก จัน ไปเรื่อย ๆ อำนาจและทรัพย์สมบัติจะมีค่าอะไร หากไร้คนที่รักและห่วงใยเราอย่างจริงใจอยู่เคียงข้าง
จันดารา ปฐมบท (2555/2012) เรื่องราวโศกนาฏกรรมชีวิตของ จันดารา (มาริโอ้ เมาเร่อ) เริ่มต้นนับตั้งแต่เขาถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ณ บ้านพิจิตรวานิชในปี พ.ศ. 2458 เขาเกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับความตายของมารดาโดยไม่คาดฝัน นั่นทำให้ คุณหลวงวิสนันท์เดชา (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้เป็นบิดาได้ลงโทษทัณฑ์เขาอย่างทารุณราวกับว่าเขาไม่ใช่ลูก พร้อมเรียกขานเขาว่า ไอ้จัญไร ที่เรือนเล็กในสวนหลังบ้าน จัน เติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูของ น้าวาด (บงกช คงมาลัย) ญาติสนิทของมารดาจากเมืองพิจิตร และมี เคน กระทิงทอง (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) ลูกชายแม่ครัวในบ้านเป็นสหายสนิทเพียงคนเดียวที่ จัน สามารถเล่าทุกอย่างให้ฟังได้ ต่อมา น้าวาด ได้ตกเป็นภรรยาของ คุณหลวง และให้กำเนิดลูกสาวสาวชื่อ คุณแก้ว หรือ วิไลเลข (โช นิชิโนะ) อันเป็นที่รักยิ่งของ คุณหลวง ซึ่งสอนให้หล่อนเกลียดชัง จัน ตั้งแต่จำความได้ ตัว คุณหลวง เองนั้นก็มักมากในกาม บริวารหญิงแทบทั้งสิ้นในบ้านล้วนตกเป็นเมียลับของเขา ซึ่งเมื่อเขามีอารมณ์ที่จะสังวาสกับหญิงคนใดก็กระทำการอย่างเปิดเผยไม่ว่าจะเป็นเวลาใดหรือมุมใดในบ้านหลังนั้นอย่างเสรี จนทำให้เด็กทุกคนในบ้านไม่ว่าจะเป็น จัน ดารา, เคน กระทิงทอง หรือ คุณแก้ว ล้วนเติบโตขึ้นมาในบรรยากาศแห่งกามตัณหาอย่างที่ไม่สมควรจะเกิดให้เป็นแบบอย่างแก่เด็กคนใดก็ตาม เมื่อ จัน เติบโตเป็นหนุ่ม เขาได้เรียนรู้ประสบการณ์แห่งกามคุณกับบ่าวหญิงในบ้าน โดยการชักนำของ เคน กระทิงทอง ก่อนที่ จัน จะได้พบรักอันบริสุทธิ์เป็นครั้งแรกกับ ไฮซินธ์ (สาวิกา ไชยเดช) เพื่อนหญิงร่วมโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภาคค่ำ จนกระทั่งเมื่อคุณหลวงได้พา คุณบุญเลื่อง (รฐา โพธิ์งาม) คนรักเก่าเข้ามาอยู่บ้าน ทำให้ จัน เกิดความประทับใจในความสง่างามและความอบอุ่นประดุจมารดา ส่วนตัว คุณบุญเลื่อง เองก็ประทับใจในความละเอียดอ่อนลึกซึ้งดุจศิลปินของ จัน จนมีความสัมพันธ์ลับอันเกินเลย และแล้ววันหนึ่ง ชะตากรรมได้พลิกผันทำให้ จัน ล่วงรู้ความจริงบางอย่างอันน่าอดสูเกี่ยวกับตระกูลของเขา นั่นทำให้ จัน ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต เพราะ คุณหลวง นั้นเป็นมนุษย์ฉ้อฉลผู้ใช้ทุกกลวิธีในการคดโกงเพื่อครอบครองทรัพย์สินอันมหาศาลแห่ง ตระกูลพิจิตรวานิช ทำให้ จัน ต้องเดินทางหนีภัยจากพระนครไปพำนักอยู่กับ คุณท้าวพิจิตรรักษา (รัดเกล้า อามระดิษ) ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เมืองพิจิตร เพื่อรอเวลาชำระแค้นและเอาทุกสิ่งทุกอย่างคืนกลับมาเป็นของเขาให้จงได้ โศกนาฏกรรมชีวิตของ จันดารา แวดล้อมไปด้วยผู้คนรอบข้างที่สะท้อนมวลอารมณ์แห่งความรัก ความชัง ความใคร่ ความเคียดแค้น และการจดจำเอาเยี่ยงอย่างมาสู่การดำเนินชีวิตของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นธาตุแท้ของความเป็นมนุษย์อันน่าสมเพชจนนำไปสู่หายนะอย่างแท้จริง
หนูกันภัย ศึกมหายันต์ ยิงกันสนั่นจอ (2553/2010) วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2506 เด็กชายคนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและวิบากกรรม ด้วยบิดาเป็นเสือร้ายถูกหมายหัวจับตายทำให้แม่ต้องหอบหิ้วเขาหนีไปอย่างยากลำบาก หลังพ้นพยันตรายทารกน้อยคนนั้นก็เติบโตขึ้นในจังหวัดนนทบุรีที่รู้จักกันดีในนาม หนูโต เมื่อย่างอายุเข้า 6 ขวบเขาก็ค้นพบเส้นทางชีวิตของตัวเองทันทีที่ได้ครองพระตำรามหายันต์ของบรรพบุรุษ ต่อมาทั้งชีวิตและลมหายใจของ หนูโต ก็เต็มไปด้วยความหลงใหลในการร่ำเรียนคาถาอาคม อีกทั้งวิชาเวชมนต์สักเสกเลขยันต์ต่าง ๆ ซึ่งนับวัน หนูโต ก็แก่กร้าขึ้นเรื่อย ๆ และความร้อนวิชาก็เริ่มนำพาปัญหามาเรื่อย ๆ ราวกับถูกสวรรค์ส่งมาลองวิชา ไม่ว่าเด็กเกเรหรือนักเลงบ้านใกล้ในละแวกนั้นจึงไม่เคยมีใครหลีกเลี่ยงการมีเรื่องกับ หนูโต ไปได้ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาพยายามหลบเลี่ยงอย่างดีแล้วก็ตาม ข่าวคราวของเขาดังกระฉ่อนมากขึ้นในวีรกรรมต่าง ๆ ซึ่งทำให้แม่กับพ่อเลี้ยงของ หนูโต เริ่มหนักใจ จึงให้เขาบวชเณร แต่มันกลับทำให้เขาร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิม การอยู่ในศีลธรรมคือพลังผลักดันให้เขาก้าวเข้าไปอย่างลึกซึ้ง แล้ว เณรหนู ก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วในด้านการสักยันต์ให้ผู้คนแคล้วคลาดปลอดภัยจากเหตุร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนกระทั่งเขาเติบโตขึ้นด้วยวัย 14 ปี วันนี้ หนูโต ก็ยังมีเรื่องกับเหล่านักเลงอยู่เรื่อย ๆ จนเริ่มมีคนพูดถึงเขาไปยังนักเลงทั่วฟ้าเมืองไทยในด้านวิชาอาคมอันแก่กร้าเกินกว่าเด็กอายุ 14 ธรรมดา ๆ จะทำได้ แม้หลายคนจะแปลกใจในสิ่งนั้นแต่ หนูโต คือคนที่ตอบได้ชัดเจนที่สุดว่าตัวเขากับวิชามนต์คาถานั้นคือสิ่งที่เกิดมาคู่กัน ความฮึกเหิมในวิชารวมทั้งวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยศัตรูก็กลายเป็นดาบสองคมทำลายความสุขรอบตัวไปจนหมด เรื่องความรักและความอบอุ่นในบ้านที่เคยมีจึงค่อย ๆ หมดไป แถมกลายเป็นความบาดหมางระหว่าง หนูโต กับพ่อเลี้ยงที่เขาเข้าใจว่ามาแย่งความรักจากแม่ไป หนูโต จึงดำเนินหนทางชีวิตด้วยตนเองตั้งแต่บัดนั้น แม้กระทั่งแม่ของเขาก็ไม่สามารถบงการได้อีกแล้ว และชีวิตนักเลงของ หนูโต ก็ค่อย ๆ เด่นชัดมากขึ้นทุกทีจนไม่รู้ตัวเองว่าถูกเพ่งเล็งทำให้เขาต้องเดินเข้าออกคุกตารางอย่างบ่อยครั้ง หลังจากนั้น หนูโต ก็ไม่ค่อยกลับบ้านเอาแต่สร้างอำนาจให้ตนด้วยวิชาเพื่อคุมวงการนักเลงจนเริ่มมีเงินทองและฐานะแต่ศัตรูก็ยังอยู่เท่าเดิม และเวลาที่ล่วงเลยไปในแต่วันนั้นกำลังเผยให้เห็นว่า หนูโต เดินตามรอยของพ่อมาจนถอนตัวไม่ขึ้น การเป็นหนุ่มใหญ่ของเขาจึงกลายเป็นความมืดมนจากฐานะของตนที่เป็นเพียงโจรฆ่าคนในสายตาทุกคน แต่ก็ไม่มีใครหรือตำรวจหน้าไหนจัดการกับความร้ายกาจของมนต์คาถาได้เลย ส่วนแม่กับพ่อของหนูโตก็ได้แค่หาทางช่วยดึงเขากลับมาอยู่ห่าง ๆ แม่เล็กจึงวางอุบายให้หนูโตบวชพระแก้บนจนได้
ทวิภพ (2547/2004) มณีจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษระดับ 6 สาขาประวัติศาสตร์ ประจำกงสุลไทยนครปารีส ถูกเรียกตัวด่วนในคืนนั้น ในฐานะตัวแทนผู้เกี่ยวข้องกับประเทศสยาม อันเป็นที่มาของบันทึกนั้น วัวอิยา ถูกจัด ระดับความสำคัญเพียง “นิยายไร้สาระ” แต่ในความคิดของ มณีจันทร์ มันเป็นสิ่งที่น่าค้นหา …เธอได้ล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนแห่งความลับที่ถูกกำหนดไว้จากบันทึกนี้ ดินแดนที่เธอไม่เชื่อว่าเป็นจริงเมื่อแยกจากโลกปัจจุบัน ..หญิง สาวต้องกลับประเทศไทยด้วยเหตุผลบางประการ ที่บ้านเกิดในเมืองไทย มณีจันทร์ สับสนและแยกแยะไม่ออกว่า ตัวเธออยู่ในความเป็นจริงอันใด.. “วันนี้คืออดีตของพรุ่งนี้ ? หรือ วันนี้คืออนาคตของเมื่อวาน ?” “มณีจันทร์” จะอยู่ในตำแหน่งไหนของตัวเธอเอง หลายครั้งที่เธอคิดอยู่เสมอว่า เธอเป็นต้นเหตุของบันทึกเสียเองหรือไม่ ? และการเดินทางครั้งใหม่ของ มณีจันทร์ ก็เริ่มขึ้น เมื่อภาวะสมดุล ความจริงกึ่งฝัน นำ มณีจันทร์ สู่ดินแดนที่แปลกหน้าทีละน้อย ดินแดนนั้นคือบ้านเกิดเมืองนอนของเธอนั่นเอง แต่เธอเป็นคนแปลกหน้าของที่นั่น…เธอได้กลับไปสู่บ้านเมืองของเธอเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว กลับไปสู่ “สยาม” แห่งการเริ่มต้นของอารยธรรมใหม่ กลับไปสู่ รัชสมัยพระจอมเกล้าฯ ยุคแห่งการเอาตัวให้รอดจากการล่าอาณานิคมของตะวันตก ยุคที่ต้องยอมรับว่า “ภาษาอังกฤษคือภาษาอนาคต” “การกลับไปได้เห็น” ของมณีจันทร์เหมือนความฝันที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม คำว่า “ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน” ก็ยังเป็นสิ่งเตือนใจเสมอ ..แต่ที่ไหนล่ะคือบ้านที่แท้จริงของเธอ ? ที่ใดคือปัจจุบันของเธอ ? ความรักอยู่ที่ภพไหน ? การเสียดินแดนครั้งสำคัญที่สุดในสยาม หรือ “วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112”..คือบทสุดท้ายของเรื่องราว รวมทั้งเป็นวิกฤตสำคัญของเธอด้วย เหตุการณ์ที่ปากน้ำ ใน “วิกฤต ร.ศ. 112” ทำให้มณีจันทร์ต้องเสียสละความรัก เพื่อ คงอดีตที่ถูกต้องไว้ มณีจันทร์ ได้เข้าใจว่า “ความทุกข์ที่เกิดจากความรัก ไม่ใช่เพราะมันจากไป หากแต่เพราะมันยังอยู่ต่างหาก”
ขุนแผน (2545/2002) เรื่องเล่าจากปากชาวบ้านขับขานเป็นวรรณกรรมราชสำนัก ว่าด้วยเรื่องของหนึ่งหญิงสองชาย ซึ่งมีชะตาแผลงให้อุตริคิดเล่นเป็นโจรแย่งชิงเมียผัวแต่วัยเยาว์ ใครเล่าจะรู้ว่า เมื่อกาลเติบใหญ่ เหตุคราวนั้น กลับเป็นลางบอกถึง โศกนาฎกรรมแห่งความรักแสนสะเทือนใจ ขุนแผน (วัชระ ตังคะประเสริฐ) ชายผู้ต้องการจะเป็นยอดคนด้วยการเป็นเจ้าของอำนาจวิเศษทั้งสามสิ่ง คือ ดาบฟ้าฟื้น ม้าสีหมอก และกุมารทอง เขาผ่านช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ และตกต่ำจนถึงขีดสุด ชะตาพลิกพันทำให้ต้องจากพิมพิลาไลยคนรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยเป็นชายหนุ่มรูปงาม ทำให้มีสาวงามมาพัวพันสม่ำเสมอ จวบเมื่อถึงวันที่เขาเข้าใจได้ว่าอำนาจอันยิ่งใหญ่มิได้นำมาซึ่งความสุข และต้องการละทิ้ง ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ด้วยกิเลส และวังวนแห่งตัณหาที่สร้างมา เขาจึงต้องทำใจยอมรับผลกรรม ที่ก่อไว้ ขุนช้าง (อภิชัย นิปัทธหัตพงศ์) ชายร่างอ้วนใหญ่ เกิดมาพร้อมหน้าตาอัปลักษณ์ แต่ไม่ได้อาภัพจนเกินไป ด้วยมีฐานะร่ำรวย เป็นพ่อค้า และคนรับใช้ใกล้ชิดกษัตริย์ เขาหลงรักพิมพิลาไลยด้วยใจที่บริสุทธิ์ ทั้งที่รู้ว่านางมีใจรักมั่นคงให้กับพลายแก้ว แต่แล้วความรักกลับทำให้เขาพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อช่วงชิงนางมาเป็นของตน ไม่ว่าจะด้วยทรัพย์สิน หรือเล่ห์กล จนท้ายที่สุดต้องระทมทุกข์ เพราะความรักที่มากเกินไป พิมพิลาไลย (บงกช คงมาลัย) สาวงามผู้ตกเป็นที่หมายปองของสองชาย จนทำให้ท้ายที่สุดต้องถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงสองใจ นางมีใจรักแท้ต่อพลายแก้ว แต่แล้วกลับต้องทุกข์ใจในความมักมากไม่รู้จักพอ จนเมื่อหลงเล่ห์กลจำต้องตกเป็นของ ขุนช้าง ขุนช้างเฝ้าดูแลทะนุทะนอมนางเป็นอย่างดี แต่ทั้งคู่กลับแก่งแย่งนางไปมา จนนางถูกหาว่าเป็นเหตุ แห่งความโกลาหลจนต้องโดนพิพากษา เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างชายสองคนนี้ นางจึงใช้ทางเลือกเป็นเครื่องเตือนสติแก่คนทั้งสอง สุดท้ายชะตากรรมจะนำพาคนทั่งสามไปอย่างไร ติดตามได้ใน “ขุนแผน”
จัน ดารา (2544/2001) ปี พ.ศ. 2461 พระนคร "จัน ดารา" ได้ถือกำเนิดขึ้นจากความผิดพลาดและความเกลียดชัง... ดารา (วัลภา พรหมนวล) แม่ของจัน เศรษฐีนีสาวสวยถูกจอม (ดนัย ชนะชานันต์) แฟนของน้าวาด (วิภาวี เจริญปุระ) พร้อมกับสมุนสองคน ฉุดไปกระทำชำเรา เมื่อครั้งเดินทางไปเมืองพิจิตรกับบิดาของเธอ บิดาของเธอจึงว่าจ้างให้คุณหลวง (สันติสุข พรหมสิริ) แต่งงานกับดารา โดยยกบ้านและทรัพย์สินให้เป็นการแลกเปลี่ยน ดาราเสียชีวิตทันทีที่คลอดจันออกมา คุณหลวงโกรธเกลียดชังเด็กชายตัวน้อยทันที แม้ยังไม่ได้เห็นหน้า คุณหลวงตั้งชื่อให้ว่า "จัน-จัญไร วิสนันท์" น้าวาดลงมาจากพิจิตรเพื่อร่วมพิธีศพ พบว่าไม่มีใครต้องการจัน น้าวาดจึงรับอาสารับเลี้ยงจัน และเพื่อเป็นการไถ่บาปให้กับจอมคนรักของตน ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุแห่งเคราะห์กรรมนี้ และแม้ว่าน้าวาดต้องสละตัว ยอมเป็นเมียคุณหลวง เพื่อเธอจะได้มีโอกาสเลี้ยงดูจันได้ตลอดรอดฝั่ง เมื่อจันอายุ 4 ปี (ด.ช. วุฒิชัย สภาพัตร์) ในกลางดึกคืนวันหนึ่ง คุณหลวงเข้ามานอนในห้องที่จันและน้าวาดนอน คุณหลวงนอนกับน้าวาดไม่เกรงต่อสายตาของจัน จันเริ่มสงสัย ในความสัมพันธ์ของตนและคุณหลวง อย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมา ต่อมาไม่นาน น้าวาดให้กำเนิด คุณแก้ว-วิไลเรข วิสนันท์ ซึ่งระหว่างที่น้าวาดตั้งครรภ์ คุณหลวงเริ่มใช้ชีวิตสำส่อน หาความสุขสำราญทางเพศรส จากบรรดาสาวใช้น้อยใหญ่ไม่เลือกหน้าในบ้าน คุณหลวงทำร้ายจันอย่างรุนแรง เมื่อครั้งจันอายุได้ 12 ปี (ด.ช.วิสันต์ ทิพย์สุวรรณ) โดยขังจันไว้คนเดียวในเรือนเขียว ซึ่งเคยใช้เป็นที่เก็บศพของ ดารา แม่ของจัน สัญชาตญาณบอกจันว่า คุณหลวงไม่ใช่พ่อที่แท้ของตน แต่ที่จำทนอยู่ในบ้านต่อไป เพราะอย่างน้อยก็เหมือนได้อยู่ใกล้แม่ และอาจจะได้รู้ว่า พ่อที่แท้จริงของตนคือใครในสักวัน ในชีวิตจันมีคุณบุญเลื่อง (คริสตี้ ชุง) ภรรยาคนหนึ่งของคุณหลวง ครอบครองจิตใจจันในเรื่องกามารมณ์ และไฮซินธ์ (ศศิธร พานิชนก) สาวน้อยวัย 14 ปี ที่จันเจอที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภาคค่ำ ไฮซินธ์ เป็นเหมือนดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ดอกเล็กดอกเดียวในหัวใจของจัน สองปีต่อมา จันได้นอนกับคุณบุญเลื่อง และในปีเดียวกันนั้นเอง จันก็ถูกคุณแก้วใส่ร้าย ให้รับผิดแทนเคน (ครรชิต ถ้ำทอง) จันจึงต้องรับผิดในคดีกระทำชำเราคุณแก้ว จันมองทะลุปรุโปร่งไปในใจคุณแก้ว เห็นความผิดปกติและความเกลียดชังในจิตใจของเธอ
ทวิภพ (2533/1990) มณีจันทร์ ลูกสาวของท่านทูตที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ วันหนึ่งเธอซื้อกระจกเงาโบราณบานใหญ่มาไว้ที่บ้าน แล้วพบว่ากระจกบานนี้สามารถพาเธอย้อนอดีตไปสู่แผ่นดินสยามสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ ที่นั่นมณีจันทร์ได้พบกับ หลวงอัครเทพวรากร จนเกิดเป็นความรักความผูกพันของคนต่างภพ ท่ามกลางวิกฤติการณ์ของสยามในช่วงที่ชาติตะวันตกกำลังออกล่าอาณานิคม
คนทรงเจ้า (2532/1989) ขามเป็นชายหนุ่มที่เป็นร่างทรงของเจ้าพ่อไกร เป็นที่เคารพของคนในหมู่บ้าน แต่แล้วก็ได้มีเหตุการณ์ความรักสามเส้าระหว่าง ขาม พเนีย และเมฆ เมฆได้ฉุดพเนียมาเป็นเมีย แต่ขามใช้อำนาจของเจ้าพ่อช่วยพเนียมาได้ เมฆโกรธแค้นมากจึงตามฆ่าขาม และกระชากหน้ากากออกมาให้ชาวบ้านรู้ว่าเจ้าพ่อไม่มีจริง แต่แล้วเมฆก็ถูกฆ่าตายโดยวิมลซึ่งอาศัยฝีมือของนายบึ้กชายปัญญาอ่อน เมื่อเมฆตายแล้วก็แสดงว่าอำนาจของขามหรือของเจ้าพ่อยังคงดำรงอยู่ต่อไปนานแสนนาน
ผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่ผี (2530)
ถนนนี้ของบัวไร (2527)
เรื่องย่อ : ถนนนี้ของบัวไร (2527/1984) บัวไร ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากมีชีวิตครอบครัวที่เรียบง่ายและมีความสุข แต่แล้วเธอก็ต้องพบกับความวุ่นวาย เมื่อสามีของเธอที่มีอาชีพขับสามล้อถูกคนร้ายชิงทรัพย์และรุมทำร้ายจนอาการสาหัสและต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษาตัว แต่เนื่องจากเธอไม่มีเงินเธอจำเป็นต้องผันชีวิตตัวเองไปเป็น ผู้หญิงขายบริการเพื่อสามีและครอบครัว

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ