จอมขมังเวทย์ 2020 (2562/2019) หลังการสูญเสียครอบครัวครั้งใหญ่ทำให้ วิน ชายหนุ่มผู้รอดชีวิตกลับต้องเปลี่ยนความเชื่อและศรัทธาที่มีต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ โดยมุ่งเข้าสู่ศาสตร์ลึกลับและอาคมเวทต่างๆ เพื่อสืบหาและจัดการฆาตกรด้วยตนเอง แต่ยิ่งสืบหามากเท่าใด เขาก็ยิ่งถลำลึกสู่ด้านมืดมากขึ้นทุกที จนทำให้ต้องเข้าไปพัวพันกับ “จอมขมังเวทในตำนาน”, “ผู้คลั่งพลังทำลายล้าง” และ “เจ้าลัทธิใหม่แห่งยุค” ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมด้วยกันทั้งสิ้น
Ghost Wife นารถ (2561/2018) สาววัยรุ่นตั้งครรภ์ต้องจบชีวิตลงหลังถูกพรากจากชายหนุ่มที่เธอรัก แต่วิญญาณแค้นของเธอจะยังกลับมาหลอกหลอนบ้านเดิมที่คุ้นเคย (ที่มา : netflix)
A Friend Is Another Self เพื่อนเป็นอีกคนหนึ่ง (2560/2017) ว่าด้วยเรื่องของความสัมพันธ์ของเพื่อนแท้อย่าง แชมป์ และ ต้น ที่ก่อตัวเป็นเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์แบบลับๆฉบับเทคนิค ที่มีเพียงเขาทั้งสองเท่านั้น ที่จะเข้าใจความรู้สึกนี้ได้เป็นอย่างดี . นำแสดงโดยสองนักแสดงหนุ่มมากความสามารถและผ่านผลงานด้านการแสดงภาพยนตร์มาแล้วทั้งคู่ เริ่มด้วย.., . คนแรก [กันกัน] นายณัฐวัฒน์ ชัยณรงค์โสภณ จากภาพยนตร์เรื่อง สิ่งเล็กๆที่น่าร็อค หนุ่มกันผ่านผลงานการแสดงมามากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์ ภาพยนตร์ หรือภาพยนตร์โฆษณา และครั้งนี้เป็นการพลิกบทบาทสำคัญอีกครั้งในชีวิต ที่ต้องมาเล่นเป็นเด็กหนุ่มที่แอบรู้สึกดีๆกับเพื่อนสนิทของตัวเอง และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมาหาคนที่ตนเองรัก... . คนต่อมา [เบส] นายเอกวัฒน์ เอกอัจฉริยา จากภาพยนตร์เรื่อง Last summer และ ภาพยนตร์เรื่องเค้าเรียกผมว่าความรัก หนุ่มเบสเคยผ่านผลงานด้านการแสดงมามากมายเช่นกัน ทั้งภาพยนตร์ ซีรี่ย์ และภาพยนตร์โฆษณา และเป็นหนุ่มที่น่าจับตามองอีกหนึ่งคนในฐานะนักแสดง หนุ่มเบสตัดสินใจมารับบท ต้น เพื่อนสนิทคนสำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างแชมป์ (กันกัน) เขาทั้งสองสนิทกันจนแยกไม่ออกว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันมากกว่าเพื่อนไปแล้ว กว่าต้นจะรู้ตัวว่าแชมป์คือคนสำคัญในชีวิต ก็ตอนวันที่ตัวเองก็เจอกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเขาไปทั้งชีวิต
11 12 13 รักกันจะตาย (2559/2016) เรื่องราว 1 อุบัติเหตุ 3 เหตุการณ์ 3 วัน "11: ถึงจะตายไป" ต้า (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หนุ่มเพลย์บอยถูกแฟนสาว ส้ม (ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ) เซ้าซี้เวิ่นเว้อ ขู่ฆ่าตัวตาย ต้า ทนไม่ไหวจนต้องตัดความสัมพันธ์และท้าให้ ส้ม ฆ่าตัวตายจริง ๆ ซะที และ ต้า ก็ได้เห็น ส้ม ตายสมใจ แต่หลังจาก ส้ม ตายแล้วเรื่องที่ควรจะจบก็ไม่จบ ต้า ยังต้องเผชิญหน้ากับ ผีส้ม ที่ถึงตายกูก็ไม่เลิก ทุกสถานการณ์ที่ ต้า เจอชวนให้ขนหัวลุก ทุกการเผชิญหน้ากับ ผีส้ม หลอนจนสติเสีย สุดท้ายเค้าจะรอดจากผีแฟนสาวหรือไม่ "12: รักติดค้าง" มด (เมฆ เมฆวัฒนา) เด่น (เกียรติศักดิ์ สุดแสงสว่าง) เก๋ (ณัฏฐ์ศรุต ถาม์พรทองสุทธิ) และ อ๊อด (ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์) แก๊งเพื่อนรักมหาลัยที่กินอยู่หลับนอนและเรียนที่เดียวกัน มด เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนและกลับถึงบ้านด้วยสภาพเละเทะจำความอะไรไม่ได้ แต่ตำรวจโทรมาแจ้งข่าวว่า มด ตายในอุบัติเหตุ ทำให้เพื่อนทั้ง 3 กลัวลนลานและคิดว่า มด เป็นผีที่กลับมาเพราะมีเรื่องตกค้างคาใจ ความโกลาหลปนฮาปนหลอนจึงเกิดขึ้น กับการหาวิธีสารพัดให้เพื่อนรักไปสู่ที่ชอบ ๆ ให้ได้ "13: รักผูกพัน" แคท (อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์) กับ เจน (ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล) คู่เพื่อนสาว เดินทางไปเล่นน้ำที่เชียงใหม่ด้วยกัน แคท เกลียดน้ำและกลัวผี แต่ยอมมากับเพื่อนเพราะอยากประชดแฟน ส่วน เจน แอบนัดผู้ชายไว้ที่เชียงใหม่แต่ไม่บอกเพื่อน ทั้ง 2 เจอเหตุการณ์ประหลาดทั้งระหว่างทางและในโรงแรมที่ทำให้ แคท กลัวสุดขีด แต่ เจน ก็ปกป้องดูแลเพื่อนอย่างดี สุดท้ายโทรศัพท์จาก พี่บอยแฟนแคท กลับทำให้ แคท ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่จะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต
หนูกันภัย ศึกมหายันต์ ยิงกันสนั่นจอ (2553/2010) วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2506 เด็กชายคนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและวิบากกรรม ด้วยบิดาเป็นเสือร้ายถูกหมายหัวจับตายทำให้แม่ต้องหอบหิ้วเขาหนีไปอย่างยากลำบาก หลังพ้นพยันตรายทารกน้อยคนนั้นก็เติบโตขึ้นในจังหวัดนนทบุรีที่รู้จักกันดีในนาม หนูโต เมื่อย่างอายุเข้า 6 ขวบเขาก็ค้นพบเส้นทางชีวิตของตัวเองทันทีที่ได้ครองพระตำรามหายันต์ของบรรพบุรุษ ต่อมาทั้งชีวิตและลมหายใจของ หนูโต ก็เต็มไปด้วยความหลงใหลในการร่ำเรียนคาถาอาคม อีกทั้งวิชาเวชมนต์สักเสกเลขยันต์ต่าง ๆ ซึ่งนับวัน หนูโต ก็แก่กร้าขึ้นเรื่อย ๆ และความร้อนวิชาก็เริ่มนำพาปัญหามาเรื่อย ๆ ราวกับถูกสวรรค์ส่งมาลองวิชา ไม่ว่าเด็กเกเรหรือนักเลงบ้านใกล้ในละแวกนั้นจึงไม่เคยมีใครหลีกเลี่ยงการมีเรื่องกับ หนูโต ไปได้ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาพยายามหลบเลี่ยงอย่างดีแล้วก็ตาม ข่าวคราวของเขาดังกระฉ่อนมากขึ้นในวีรกรรมต่าง ๆ ซึ่งทำให้แม่กับพ่อเลี้ยงของ หนูโต เริ่มหนักใจ จึงให้เขาบวชเณร แต่มันกลับทำให้เขาร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิม การอยู่ในศีลธรรมคือพลังผลักดันให้เขาก้าวเข้าไปอย่างลึกซึ้ง แล้ว เณรหนู ก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วในด้านการสักยันต์ให้ผู้คนแคล้วคลาดปลอดภัยจากเหตุร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนกระทั่งเขาเติบโตขึ้นด้วยวัย 14 ปี วันนี้ หนูโต ก็ยังมีเรื่องกับเหล่านักเลงอยู่เรื่อย ๆ จนเริ่มมีคนพูดถึงเขาไปยังนักเลงทั่วฟ้าเมืองไทยในด้านวิชาอาคมอันแก่กร้าเกินกว่าเด็กอายุ 14 ธรรมดา ๆ จะทำได้ แม้หลายคนจะแปลกใจในสิ่งนั้นแต่ หนูโต คือคนที่ตอบได้ชัดเจนที่สุดว่าตัวเขากับวิชามนต์คาถานั้นคือสิ่งที่เกิดมาคู่กัน ความฮึกเหิมในวิชารวมทั้งวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยศัตรูก็กลายเป็นดาบสองคมทำลายความสุขรอบตัวไปจนหมด เรื่องความรักและความอบอุ่นในบ้านที่เคยมีจึงค่อย ๆ หมดไป แถมกลายเป็นความบาดหมางระหว่าง หนูโต กับพ่อเลี้ยงที่เขาเข้าใจว่ามาแย่งความรักจากแม่ไป หนูโต จึงดำเนินหนทางชีวิตด้วยตนเองตั้งแต่บัดนั้น แม้กระทั่งแม่ของเขาก็ไม่สามารถบงการได้อีกแล้ว และชีวิตนักเลงของ หนูโต ก็ค่อย ๆ เด่นชัดมากขึ้นทุกทีจนไม่รู้ตัวเองว่าถูกเพ่งเล็งทำให้เขาต้องเดินเข้าออกคุกตารางอย่างบ่อยครั้ง หลังจากนั้น หนูโต ก็ไม่ค่อยกลับบ้านเอาแต่สร้างอำนาจให้ตนด้วยวิชาเพื่อคุมวงการนักเลงจนเริ่มมีเงินทองและฐานะแต่ศัตรูก็ยังอยู่เท่าเดิม และเวลาที่ล่วงเลยไปในแต่วันนั้นกำลังเผยให้เห็นว่า หนูโต เดินตามรอยของพ่อมาจนถอนตัวไม่ขึ้น การเป็นหนุ่มใหญ่ของเขาจึงกลายเป็นความมืดมนจากฐานะของตนที่เป็นเพียงโจรฆ่าคนในสายตาทุกคน แต่ก็ไม่มีใครหรือตำรวจหน้าไหนจัดการกับความร้ายกาจของมนต์คาถาได้เลย ส่วนแม่กับพ่อของหนูโตก็ได้แค่หาทางช่วยดึงเขากลับมาอยู่ห่าง ๆ แม่เล็กจึงวางอุบายให้หนูโตบวชพระแก้บนจนได้
เดอะ สเก๊าท์: บิดพิภพทะลุโลก (2552/2009) ไม่มีใครเคยคาดคิดว่าการตั้งแคมป์ลูกเสือที่ดูแสนจะธรรมดา ๆ ของโรงเรียนระดับประถมแห่งหนึ่ง จะกลายมาเป็นการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นเร้าใจอย่างชนิดที่พวกเด็ก ๆ จะต้องจดจำไปอีกนานเท่านาน เมื่อครูผู้คุมกองลูกเสือสามัญ ตัดสินใจตั้งแคมป์บริเวณใกล้กับปราสาทเก่าแก่แห่งหนึ่งกลางป่าใหญ่ ที่ดูสงบเงียบและน่าจะปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ เหล่านี้ แต่แล้วเมื่อค่ำคืนมาเยือน ปราสาทเก่าแก่ที่เด็ก ๆ เหยียบย่างเข้าไปกลับกลายเป็นดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ของมิติแห่งกาลเวลา ที่นำพาพวกเขาไปพบกับงูยักษ์ที่ทั้งดุร้าย และว่องไวกว่าอสรพิษทุกชนิดที่เคยรู้จัก รวมทั้งกบบินได้ และอีกมากมายสารพัดที่ทำให้การเดินทางข้ามเวลาครั้งนี้ของพวกเขาเป็นความทรงจำที่ไม่อาจจะลืมเลือน
2022 สึนามิ วันโลกสังหาร (2552/2009) ภายหลังเหตุธรณีพิบัติภัยครั้งยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2004 (พ.ศ. 2547) ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์เอลนีโย่ ลานีนย่า ทุพภิกขภัย อุทกภัย แผ่นดินไหว นับครั้งไม่ถ้วนและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2022 (พ.ศ. 2565) รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ "นายกรัฐมนตรีไตรภพ" (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) ได้ออกพระราชกำหนดฉุกเฉินจัดอันดับความรุนแรงของภัยพิบัติและวางแผนการเตือนภัย โดยจัดตั้ง "ศูนย์เตือนภัยภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย" ภายใต้การดูแลของ "ด๊อกเตอร์สยาม" (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ซึ่งมีหนุ่มสาวรุ่นใหม่ไฟแรงสามคน คือ "ภูเก็ต" (พิศาล ศรีมั่นคง) "ซินดี้" (สิรินดา เจนเซ่น) และ "พีพี" (นิชาภา ประกรณ์กิจวัฒนา) ทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันด้วยอุดมการณ์รักธรรมชาติอันมุ่งมั่นทั้งสามคนทำงานกันอย่างสนิทสนมเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน นายกรัฐมนตรีไตรภพเชื่อถือและเชื่อมั่นการคาดการณ์ภัยพิบัติของด็อกเตอร์สยามอย่างมาก แต่ด้วยลักษณะของภัยธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามินั้นไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และที่ไหน ด้วยเหตุนี้ทำให้ด็อกเตอร์สยามคำนวณการเกิดแผ่นดินไหวที่มีผลต่อชีวิตประชาชนผิดพลาด สร้างความตระหนกให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ เขาจึงถูกกดดันอย่างหนักจากพรรคการเมือง เมื่อมีการเตือนภัยครั้งต่อมา ด็อกเตอร์สยามรู้ตัวดีว่าเขาคือตัวแปรสำคัญของความน่าเชื่อถือและอนาคตทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีไตรภพ และไตรภพ ก็ต้องเลือกระหว่างลาภยศสรรเสริญ กับ ชีวิตของประชาชนทั้งประเทศที่เขาเป็นผู้นำ แต่ไม่ว่าเขาจะเลือกสิ่งใดก็ตาม มหันตภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดก็เกิดขึ้น จากอ่าวไทยมุ่งหน้าถล่มใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างย่อยยับ พวกเขาจะมีแผนรับมือกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่นี้อย่างไร แรงศรัทธาจะทำให้มนุษย์รอดพ้นจากหายนะครั้งนี้หรือไม่ หรือธรรมชาติเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินและชี้ชะตา หาคำตอบ 28 พฤษภาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
ปาฏิหาริย์รักต่างพันธุ์ (2551/2008) ความลับแห่งสายเลือด สู่แรงปรารถนาข้ามสายพันธ์ การไล่ล่าต่างสายพันธุ์ ระหว่าง วินทร์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ชายหนุ่มอดีตหน่วยข่าวกรองของรัฐบาล เขาคือผู้อยู่บนเส้นขีดขั้นระหว่าง คุณธรรม และความมั่นคงของชาติ จิน (พลอย จินดาโชติ) หญิงสาวผู้ถูกปลดปล่อยจากความทรงจำอันโหดร้ายในอดีต เธอกำลังถูกคุกคามจากกองกำลังที่ไม่เปิดเผยนาม และบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่คน จาย (ศักดิ์ดา แก้วบัวดี) ชายผู้เป็นความหวังสุดท้ายของชนเผ่า ชายผู้มีพลังอำนาจลึกลับบางอย่างในตัวพร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ ความลี้ลับของชาติพันธุ์แห่งอดีตกาลการไล่ล่าด้วยสัญชาติญาณแห่งป่าดงดิบ สู่ความรักโรแมนติกที่ทำลายกำแพงแห่งความเป็นมนุษย์
ห้าแถว (2551/2008) เสก (เสกสรร สุทธิจันทร์) เดินทางกลับหมู่บ้านที่เขาจากมาตั้งแต่สมัยเด็ก ก่อนจะถึงหมู่บ้าน เสกต่อสู้กับกลุ่มโจรที่ดักปล้นรถโดยสาร และได้พบชายคนหนึ่งที่เขาจำได้ว่าเป็น ศร (ชาติชาย งามสรรพ์) ฆาตกรฆ่าคุณพ่อของเขา เสกมีแรงอาฆาต รู้สึกอยากแก้แค้น แต่เสียงกระซิบที่ลอยมาตามลมว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ทำให้เสกมีสติขึ้นมา เสกจึงเดินจากไปโดยไม่สนใจอะไรอีก เมื่อมาถึงหมู่บ้าน เสกเจอ กำนันสมเล็ก (สมชาย ศักดิกุล) กับลูกสาวของกำนัน ครูสมศรี (ศุภักษร ไชยมงคล) และหลานสาวของกำนัน ครูมะลิ (ขวัญใจ จันทอง) จากนั้นเสกก็ได้ทราบว่าหมู่บ้านเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้น หลังจากที่มีกลุ่มชายแปลกหน้าเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ วันหนึ่ง เสกได้รู้ความจริงว่ากลุ่มชายแปลกหน้าเป็นพวกเดรัจฉานวิชาอาคม มาที่หมู่บ้านเพื่อจะทดลองเดรัจฉานวิชาที่ร่ำเรียนมา และคนที่เป็นหัวหน้าก็คือคนที่ฆ่าคุณพ่อของเสกนั่นเอง เสก ครูสมศรี ครูมะลิ และคนในหมู่บ้าน จึงพร้อมใจกันต่อสู้กับพวกเดรัจฉานวิชา จนผู้รุกรานพ่ายแพ้ หนีออกจากหมู่บ้านมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อฝึกปรืออาคมให้แก่กล้าขึ้น ศรพา ยอด (นะติ พันธุ์มณี) หรั่ง (รอน สมอเรนเบิร์ก) และนักโทษแหกคุกที่ต้องคดีปล้นและฆ่าข่มขืนมาเป็นสมุนในกลุ่มเดรัจฉานวิชา คนกลุ่มนี้สร้างความเดือดร้อนไปทั่วกรุง จนเป็นข่าวใหญ่ทางหนังสือพิมพ์ทุกวัน เสก ครูมะลิ ครูสมศรี จึงมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง เพื่อสะสางให้เรื่องต่างๆ ยุติลง การต่อสู้กับพวกเดรัจฉานครั้งนี้มีอุปสรรคมากมาย เสกรู้สึกท้อแท้เมื่อนึกถึงความดีที่ตนเคยทำมา จนเมื่อแสงแห่งคุณธรรมลอยเข้ามาอยู่ในร่างของเสก เขาจึงมีพลังที่จะต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และนี่คือจุดเริ่มต้นของนักสู้พลังยันต์ห้าแถว ยันต์แห่งความดีที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับสิ่งชั่วร้าย และกำจัดเดรัจฉานวิชาต่างๆ ให้หมดไป
หัวหลุด แฟมิลี่ (2551/2008) ครอบครัววิศวกรกินเงินเดือน ที่มี ดิ่ง (จาตุรงค์ พลบูรณ์) เป็นหัวหน้าครอบครัว กันตา (เมทินี กิ่งโพยม) แม่บ้านที่แสนดี และลูกชายที่เรียกได้ว่าหล่อ จนเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆอย่าง บราซิล (เจริญพร อ่อนละม้าย) ต้องมาพบเจอกับความวุ่นวายเมื่อดิ่งอยากพาครอบครัวไปเที่ยว แต่รถเจ้ากรรมดันมาพังต้องนั่งรถไฟชมบรรยากาศแทน และนี่ก็เป็นต้นกำเนิดของเรื่องราวที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อทั้งสามกลับมาบ้าน ต่างคนต่างต้องตกใจเมื่อรู้ว่าตนนั้นกลายเป็นมนุษย์ประหลาด หัวหลุดแต่ไม่ตาย ไม่มีใครกล้าบอกเรื่องนี้ให้ทุกคนในครอบครัวรู้ แต่เห็นหน้ากันอยู่ทุกวันความอึดอัดก็เกิดขึ้นในใจ สามคน พ่อ แม่ ลูก ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกัน จนต้องปิดเพื่อนบ้านที่แสนจะยุ่งวุ่นวายอย่าง สังคม (อาคม ปรีดากุล) ที่รับภาระเลี้ยงดูภรรยาที่เป็นอัมพาตชื่อ เวียงพิงค์ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) และ สิงโต (ธีรธร พลบูรณ์) ลูกชายแก่แดด ดิ่งต้องปกปิดเพื่อนร่วมงานที่บริษัท บราซิลก็ต้องปกปิดสาว ๆ ที่มหาลัย รวมทั้ง จับเลี้ยง (พัสกร พลบูรณ์) แฟนสาวของบราซิล แต่ความลับไม่มีในโลก เรื่องราวประหลาดเริ่มรู้ถึงสาธารณะชน เรื่องราวยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเริ่มต้นไม่ปกติ เรื่องมันก็คงจบลงไม่ง่ายนัก ผลสุดท้ายครอบครัวนี้ต้องพบเจอกับเรื่องอะไรใน หัวหลุดแฟมิลี่
เทวดาตกมันส์ (2551/2008) เมื่อ เทวดา (เทพ โพธิ์งาม) ทั่นเทวดาผู้รักษาคุณธรรม ได้รับคำบัญชาจากสวรรค์ให้มารับ หลวงพ่อ (บุญธรรม ฮวดกระโทก) ผู้บรรลุอรหันต์สู่สวรรค์ชั้นฟ้า ระหว่างการเดินทางไปตามหาหลวงพ่อ ทั่นเทวดา จึงต้องเดินตลาดสัมผัสวิถีชาวบ้านซะก่อน แล้วแต่ละบ้านในตลาด ก็มีแต่เรื่องป่วนที่ทั่นเทวดา ต้องให้คำตอบ ไม่ว่าจะ คู่ผัวเมียละเหี่ยใจ เจ๋ง (อาคม ปรีดากุล) กับ นาง (เนตรชนก ปั้นปรือ) ที่ทะเลาะหึงหวงกันไม่เว้นวัน ตบตีกันยิ่งกว่าบนเวทีมวย คู่รักวัยรุ่น ผู้กองหนุ่ม (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) นายตำรวจจบใหม่ที่ไม่อยากกลับบ้านนอก แต่ต้องการรับราชการตำรวจประจำในกรุงเทพ แถมยังมีแฟนสาว น้องหมวย (ธนัยนันท์ เต็มปรีชา) ก็อยากทำตามความฝันตัวเองเรื่องการไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน คู่พ่อลูก อาแปะ ขายกาแฟ (บรรพต วีระรัฐ) ที่ไม่อยากให้ลูกสาวทั้ง 2 คนไปอยู่ไกลถึงในเมือง หลังจากคอยดึงคอยหวงลูกสาว เหมย (ตรีชฎา กิ้มติ๋น) ลูกสาวคนโตไว้กับบ้านได้แล้ว แต่ หมวย ลูกสาวคนเล็กเนี่ยซิ ดื้อและหัวรั้นเป็นที่สุด อาแปะจะทำอย่างไร ถึงจะชนะใจลูกสาวได้ เจ้ลำยอง (จันทร์เพ็ญ คงประกอบ) เจ้าของร้านคาราโอเกะ สวยอวบ ขาวอึ๋ม ปรารถนาเพียงแค่มีสามีสักคน ที่ผ่านมา หากแต่งงานกับใคร สามีก็พาลมาอายุสั้นไปกันหมด แต่กระนั้น เจ้ก็ยังไม่เคยยอมแพ้ ยังมี สารวัตร (สมชาย ศักดิกุล) มาดเก่งฉกาจ แต่สืบอะไรไม่เคยได้คำตอบ กับ สายสืบ นอกเครื่องแบบ พูดไม่ชัด (สุธน เวชกามา) ที่มาช่วย ผู้กองหนุ่ม คลี่คลายคดี แต่กลับทำให้ผู้กองลำบากมากขึ้น แต่ละคนมีปริศนาปัญหาคาใจให้เทวดาต้องช่วยเคลียร์ เจอแบบนี้แล้ว เทวดาจะได้กลับสวรรค์เมื่อไรละ??? ทั้งหมดเป็นแค่บังเอิญ หรือ สวรรค์มอบหมายภารกิจให้เทวดามาช่วยมนุษย์ให้พบทางสว่าง?? ดูไปแล้ว ภารกิจของท่านเทวดายากเย็นกว่า MIB + MI3 แต่ระดับเทวดาขั้นเทพแล้ว ยังไงก็ต้องปฏิบัติการเด็ด ๆ เรียกเสียงฮาสะท้านกันบ้าง
หนุมานคลุกฝุ่น (2551/2008) เมื่อศาสตราแห่งวิชาไสยเวทย์มหายันต์ที่เลือนหายไปจากปัจจุบันได้ตื่นขึ้นจากสงครามการแย่งชิงสิ่งล้ำค่าที่สืบทอดกันมาพร้อมศาสตร์วิชาแด่ผู้รับช่วงดูแล เพื่อปกป้องมันจากเงื้อมมือคนโลภ ยอด(ศรราม เทพพิทักษ์) ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยปมหลังในอดีต ผู้ที่สูญเสียทุกอย่างจากการแย่งชิงสิ่งล้ำค่าที่ตนต้องเป็นผู้รับหน้าที่ดูแลรักษาและได้รับสืบทอดศาสตร์วิชาไสยะแห่งวานรเพื่อปกปัก เมื่อถูกคุกคามจากการตามหาสิ่งล้ำค่า พวกคนชั่วกำลังคืบคลานเข้ามา สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ความกดดันที่ยอดต้องแบกรับ ผลักดันให้เขากลายพันธ์สู่....มหาวานร …จึงเป็นฉายาที่มาของ “หนุมานคลุกฝุ่น”
ว้อ หมาบ้ามหาสนุก (2551)
ว้อ หมาบ้ามหาสนุก (2551/2008) ณ หมู่บ้านสุดกันดารห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่ง นิยมเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ ไว้ติดบ้านแทนหมา เพราะเคยมีโรคหมาบ้าระบาด ทำให้หมาในหมู่บ้านนี้ถูกจับไปหมด อีกทั้งหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีแต่ความแห้งแล้ง ดินแตกแล้ง กันดาร ฝนไม่ตก แต่พื้นที่ใกล้ ๆ กลับมีฝนตก อุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ต้นไม้เขียวขจีต่างกันราวฟ้ากับดิน แล้ววันหนึ่งเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีคนในหมู่บ้านถูกสัตว์ร้ายกัดตายอย่างสยดสยอง ชาวบ้านต่างสันนิษฐานกันไปต่างๆ นานา จนในที่สุดนักวิชาการคนเดียวในหมู่บ้านก็ลงความเห็นว่าน่าจะถูก หมาบ้า กัดตาย โชคหมาตัวเดียวที่มีอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งเป็นหมาวัดที่ฉลาดแสนรู้ ถูกชาวบ้านเพ่งเล็งว่าโชคนี่แหละคือหมาบ้าที่ทำร้ายคนในหมู่บ้าน ด้วยความกลัวที่จะถูกหมาบ้าทำร้าย คนในหมู่บ้านจึงช่วยกันหาวิธีป้องกันตัวเองไม่ให้หมาบ้าเข้ามาใกล้ ด้วยวิธีประหลาดๆ สุดบรรยายแล้วแต่ว่าใครจะสมองใสแจ๋วกว่ากัน ความวุ่นวายในการวางแผนและลงมือของ คน ในการกำจัด หมา แบบสุดโต่งจึงเกิดขึ้น กลเม็ดเด็ดดวงของคน กับสติปัญญาระดับเกรดเอของหมา ใครล่ะที่มันจะเจ๋งกว่ากัน
บ้านผีเปิบ (2551/2008) ณ หมู่บ้านแสนสุข ต้องเจอกับสถานการณ์ชวนขนลุก!!! เมื่อ ผีฟ้า (แสงดาว ทรงแสง) ผู้ที่เป็นตัวแทนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน แต่เมื่อเธอฝ่าฝืนคำต้องห้าม จึงต้องกลายร่างเป็นผีเปิบออกอาละวาดผู้คนจนขวัญผวา ร้อนถึง อบต.สมโภช จอมเจ้าชู้ (จาตุรงค์ พลบูรณ์) ที่นอกจากจะต้องเคลียร์กับฝาละเมียของตัวเองแล้ว ยังต้องหาทางช่วยชาวบ้านปราบผีเปิบอีก ขนาดบุคคลศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน อย่าง เซียนน้อย นักเลงพระ (เจริญพร อ่อนละม้าย) หรือจะเป็น เจ้าแม่ตะโกดำ (จันทร์เพ็ญ คงประกอบ) กิ๊กอบต. ยังสู้ความเฮี้ยนของผีเปิบไม่ได้ จนฟ้าได้ประทานให้กลุ่มนักศึกษาสุดเฮี้ยวเดินทางมายังหมู่บ้าน นำทีมโดยสาวสุดโก๊ะ อิ่ม (เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้) สาวขี้กลัวอย่าง ทา (สุภัสสรา เรืองวงศ์) หนุ่มจอมทะเล้น จุ๊บ (อิทธิกร สาธุธรรม) และหนุ่มผู้มีของพิเศษติดตัว นัท (อติรุจ สิงหอำพล) ทั้งหมดจึงต้องร่วมชะตากรรมเดียวกัน เมื่อผีเปิบจอมเขมือบระดับแอ็ดว้านซ์ต้องมาดวลกับกลุ่มชาวบ้านสุดเพี้ยนและวัยรุ่นแสนเฮี้ยว เรื่องราวโหดมันส์ฮาที่จะทำให้คุณหัวเราะจนขนหัวลุกจึงเริ่มต้นขึ้น
มนุษย์เหล็กไหล (2549/2006) แรงศัทธาจะเปลี่ยนคนธรรมดาให้เหนือคน การนำเอาแนวคิดทางด้าน “พุทธปรัชญาแห่งเอเชีย” และ “เหล็กไหล” วัตถุธาตุที่เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจอันทรงอานุภาพและขุมพลังลึกลับที่เกิดจากการบ่มเพาะและหล่อหลอมอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอันยาวนาน มาตีความใหม่ภายใต้แนวทางของ “ภาพยนตร์แอคชั่นซูเปอร์ฮีโร่แบบไทยๆ” อย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกของเมืองไทย โดยได้ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” และ “พันนา ฤทธิไกร” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ “องค์บาก” และ “ต้มยำกุ้ง” รับหน้าที่ “ควบคุมงานสร้างออกแบบ” และ “กำกับคิวบู๊แอคชั่น” (ตามลำดับ) และกำกับภาพยนตร์โดย “บัณฑิต ทองดี” ที่ทำให้ “มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม” (2545) และ “เฮี้ยน” (2546) เป็นภาพยนตร์ทำเงินที่กวาดรายได้อย่างสูงสุดของเมืองไทยมาแล้ว ด้วยรูปแบบของภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นที่เน้นความสมจริงซึ่งถูกนำมาผสมผสานกับงานเทคนิคพิเศษทางด้านภาพเพื่อถ่ายทอดพลานุภาพของเหล็กไหลทั้งในส่วนของความแข็งแกร่ง การยืดหดตัว รวมไปถึงการผสมผสานระหว่างเหล็กไหลและเลือดเนื้อในตัวร่างกายเป็นหนึ่งเดียวในตัวของ “มนุษย์เหล็กไหล” ให้สามารถโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มได้อย่างเหนือจริง ตามความเชื่อที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่ “เหล็กไหลจันทรา” (ความเย็น) และ “เหล็กไหลสุริยัน” (ความร้อน) รวมตัวกันคราใด ก็จะนำมาซึ่งขุมพลังแห่งอำนาจอเนกอนันต์อันยากเกินกว่าสรรพวุธอื่นใดจะสามารถสยบและหยุดยั้งได้ แต่แล้วแผนการครอบครองเหล็กไหลดังกล่าวของ “อุสมาห์” (อานนท์ สายแสงจันทร์) หัวหน้ากลุ่มผู้ก่อการร้ายจากตะวันออกกลางหาได้เป็นอย่างที่คิดไม่ ถึงแม้ “อารีนา” (เมทินี กิ่งโพยม) สมุนมือขวาของตนจะสามารถแย่งชิงเหล็กไหลจันทรา (วัชรธาตุหรือ หยดน้ำฟ้าอันศักดิ์สิทธิ์) มาจาก “พูนิมา” (จิณวิภา แก้วกัญญา) กุมารีผู้ปกป้องประจำอารามแห่งหนึ่งในทิเบตมาได้แล้วก็ตาม แต่ในระหว่างการปล้นตัวอุสมาห์ผู้ก่อการร้ายข้ามชาติจากเรือนจำคุ้มครองพิเศษจากทางการไทยเกิดความผิดพลาดขึ้นจนนำไปสู่การระเบิดครั้งใหญ่ในเรือนจำ จนทำให้เหล็กไหลสุริยันทิ่มแทงเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของ “ฌาน” (วสันต์ กันทะอู) นักดับเพลิงหนุ่มผู้มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ต้องตื่นตะลึงกับพลังลึกลับและฤทธานุภาพของเหล็กไหลที่อยู่ในตน ทางเดียวที่จะไม่ให้พลังแห่งความร้อนแรงที่เกิดขึ้นจากเหล็กไหลแผดเผาเลือดเนื้อและร่างกายของฌาน คือจะต้องเรียนรู้การควบคุมสภาวะความรุ่มร้อนในอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากส่วนลึกในจิตใจของตนให้จงได้และเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังจากเหล็กไหลที่ตอนนี้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเลือดเนื้อและร่างกาย และที่สำคัญจะต้องรับมือกับพลานุภาพของเหล็กไหลจันทราที่บัดนี้ถูกนำไปพัฒนาระดับขั้นของพลังเพิ่มทวีคูณขึ้นไปอีกจากกลุ่มก่อการร้ายของอุสมาห์ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการปะทะกันระหว่างพลานุภาพของเหล็กไหลทั้ง 2 ขั้วภารกิจอันยิ่งใหญ่ของชายหนุ่มอย่างฌาน หรืออีกนัยหนึ่งคือ “มนุษย์เหล็กไหล”

หน้าที่