เทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง 2553

เรื่องย่อ : เทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง (2553/2010) รามิล หนุ่มหล่อมาก เนื้อหอมมากร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีเพราะมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้พ่อแม่ของรามิลเสียชีวิตหมดแล้ว เหลือแต่ แม่แก้ว หรือ คุณแก้วอังกาบแม่เลี้ยงสุดแสนดีผู้เป็นน้าแท้ๆ ของเขารามิลใช้ชีวิตเพลย์บอยเต็มที่กับสาวสวยมีระดับทั้งสิ้นข้อตกลงของเขากับสาวทุกคนคือ คบกันเท่าที่พอใจไม่ผูกพันและไม่ล่วงล้ำเรื่องส่วนตัวอื่น ๆ ขาประจำล่าสุดของเขา คือ อัจฉราวดีนางแบบและดาราสาวสวยเฉี่ยวเปรี้ยว ผู้หมายมาดจะจับเขาให้ได้ แล้ววันหนึ่งรามิลแทบเป็นบ้าเมื่อแม่แก้วบอกว่า ราเมศวร์พ่อเขาตกลงหมั้นลูกสาวของภาคินัย เพื่อนรักไว้ให้เขาก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตและคู่หมั้นของเขาคือ ภัครมัย หรือ มัดไหม เด็กหญิงที่รามิลเห็นแค่ตอนเด็กๆ และไม่เคยเห็นกันอีกเลย แต่เขาจำความซน เฮี้ยวและแสบสุดขั้นของเธอได้ไม่มีวันลืมเธอเคยแกล้งเขาสารพัดรูปแบบจนเขาขยาดและเกลียดขี้หน้าเธอมากตั้งฉายาเธอว่าเด็กนรก และที่เจ็บใจคือ รามิลชอบผู้หญิงสวย แต่ด็กหญิงมัดไหมหน้าตาไม่เอาไหน แถมยังสวมแว่นสายตาหนาเตอะรูปร่างผอมเหมือนเสาโทรเลข อีกอย่างที่รามิลจำได้คือบ้านเธอมีไร่ชื่อมนตรามีคอกม้าที่ไร่ และมัดไหมรักม้ามาก รามิลโวยกับแม่แก้วว่าเขาไม่มีวันแต่งงานกับมัดไหมแต่ถึงกับอึ้งเมื่อแม่แก้วบอกว่าพ่อของเขาและมัดไหมมีเงื่อนไขว่าเมื่อรับรู้เรื่องหมั้นแล้วรามิลกับมัดไหมต้องแต่งงานกันภายในสามเดือนและถ้ารามิลไม่แต่งงานกับมัดไหมหรือแต่งแล้วอยู่กันไม่ถึงปีเขาต้องยกเงินสดทั้งหมดที่มีให้มัดไหม ฝ่ายมัดไหมก็เช่นกันและรามิลอยากตายลงไปเลยเมื่อแม่แก้วบอกว่าทางมัดไหมตอบตกลงจะแต่งงานกับเขาแล้ว รามิลตั้งปณิธานว่าจะไม่มีวันแต่งงานกับมัดไหมและก็จะไม่ยอมสูญเสียเงินทั้งหมดให้เธอด้วยเขาจะทำ ให้เธอเป็นฝ่ายปฏิเสธเขา รามิลไปหามัดไหมภาพแรกที่ทำให้เขาถึงตะลึงคือหญิงสาวร่างระหง สวยไม่มีที่ติอยู่บนหลังม้าที่วิ่งอย่างสง่า งาม เธอคือภัครมัยหรือมัดไหมแต่เธอมีแผนอยู่แล้วที่จะแกล้งปั่นหัวเขาเธอจึงบอกว่าเธอไม่ใช่มัดไหมคู่หมั้นของเขา แต่บังเอิญชื่อมัดไหมเหมือนกันเพียงแต่เธอมีฐานะเป็นคนรับใช้ของมัดไหมคู่หมั้นเขา รามิลเห็นหน้าตาผิวพรรณและเสื้อผ้าราคาแพงของต่างประเทศที่เธอสวมอยู่แล้วไม่อยากเชื่อเลยว่ามาดอย่างเธอจะเป็นคนรับใช้ แต่อะไรดลใจให้เขาเชื่อไปก็ไม่รู้ และมัดไหมคนนี้ก็ปากจัดใช่ย่อยไม่ยอมลงให้เขาด้วยเพียงแรกเจอกันเธอก็กัดเขาสะตั้งตัวไม่ติด เป็นสาวใช้บรรดาศักดิ์จริง ๆกล้ากัดกระทั่งคู่หมั้นของเจ้านายรามิลแปลกใจว่าเธอรู้รายละเอียดของเขาและคู่หมั้นราวกับเธอคือภัครมัยซะเองแต่มัดไหมก็เอาตัวรอดไปได้อย่างชาญฉลาด รามิลหัวเสียกลับไปมัดไหมขำกลิ้งกับ ติ๋ม สาวใช้ตัวจริง ติ๋มไม่อยากให้มัดไหมแกล้งรามิลแต่มัดไหมบอกว่าผู้ชายเจ้าชู้เสเพลอย่างรามิลต้องให้บทเรียนแสบ ๆ ซะบ้างไม่งั้นจะคิดว่าอะไร ๆโดยเฉพาะผู้หญิง ง่ายไปซะหมด รามิลไปปรับทุกข์กับ ดนุพันธ์ เพื่อนรักของเขาดนุพันธ์ขำว่ารามิลถูกพ่อดัดหลัง แต่ดนุพันธ์เองก็ปวดเศียรกับความรักที่ยังไม่มีท่าจะสมหวังของตัวเอง เขาจีบ นาตาชาน้องสาวของรามิลอยู่ และนาตาชายังไม่ยอมรับรักเขาแถมความรักของเขายังมีมารผจญอีกคือ พิมมาดา ที่ตามตื้อเขาจนนาตาชาไม่ไว้วางใจเขา ว่าเขาเจ้าชู้เหมือนรามิล ส่วนนาตาชาก็มี อภิชาติเจ้าของนิตยสารชั้นนำ ที่เธอเป็นตากล้องให้อยู่ตามจีบและดนุพันธ์หึงแทบหน้ามืดตาลาย นาตาชาเป็นเพื่อนรักของมัดไหม แสบพอ ๆกับมัดไหม มัดไหมเพิ่งกลับจากฝรั่งเศส เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานและเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของปารีสเคยขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของโลกมาแล้ว เธอใช้ชื่อว่า แม็ตตี้นาตาชาขอให้มัดไหมถ่ายแบบและเป็นปกให้นิตยสารของเธอ มัดไหมตกลงแต่ขอแต่งตัวแต่งหน้าแบบแฟนซีแปลก ๆ รามิลฮึดกลับไปหามัดไหมอีกเขาไปจ้างให้มัดไหมเป็นแฟนเป็นเวลาสามเดือนรามิลกะยิงนกสองตัวด้วยกระสุนนัดเดียว คือ ทั้งตัดคู่หมั้นที่เขาแสนเกลียดและตัดอัจฉราวดีที่เขารู้สึกว่าเริ่มรุกรานเขา และจะจับเขาจริง ๆ จัง ๆเขาจะจ่ายค่าจ้างมัดไหมหนึ่งหมื่นเพราะประเมินว่าเธอเป็นแค่คนรับใช้แต่มัดไหมเรียกหนึ่งล้าน รามิลต้องยอมจ่ายมัดไหมเรียกเงินล่วงหน้าห้าแสนบาทรามิลนัดกับมัดไหมกินอาหารมื้อค่ำเพื่อปล่อยข่าวเธอเป็นแฟนคนใหม่ของเขาเขาพาเธอไปที่ร้านของ พลอยไพลิน เพื่อนรักของ อัจฉราวดีกะให้พลอยไพลินเห็นเต็ม ๆ ว่าเขามีแฟนใหม่และเพราะที่ร้านของพลอยไพลินมักมีนักข่าวไปนั่งหาข่าวเป็นประจำด้วยมัดไหมแต่งชุดราตรี สวยจนรามิลตะลึงและเมื่อไปถึงร้านก็โดนพลอยไพลินเสียดสีขบกัดมัดไหมบอกรามิลว่าพลอยไพลินชอบรามิล ที่เธอกัดนั่นเพราะความหึงรามิลไม่เชื่อ พลอยไพลินโทรฟ้องอัจฉราวดีรุ่งขึ้นอัจฉราวดีไปหารามิลถึงบริษัท รามิลเฉย ๆ กับเธอ อัจฉราวดีอาฆาตบอกตัวเองว่าจะทำให้รามิลเจ็บจำไปจนตาย รามิลนัดพามัดไหมไปงานกาลาดินเนอร์ วันที่ไปรับมัดไหมเขาเห็นหญิงสาวรูปร่างแบบเดียวกับมัดไหมยืนหันหลังสั่งงานอยู่ เขาเรียกแต่เธอคนนั้นไม่หันมา จนกระทั่ง อัคนี หัวหน้าคนงานบอกเธอจึงหันหาเขารามิลตกใจ หน้าเธอเป็นแผลเป็นเละจนเหมือนหน้าผี เมื่อพูดกันรามิลจึงรู้ว่าเธอคือภัครมัยคู่หมั้นของเขารามิลลืมความเกลียดชังเขาสงสารเธอมาก ยิ่งภัครมัยมีทีท่าเจียมตัวและพูดทำนองว่าเขาโชคร้ายที่จะต้องเป็นคู่หมั้นหญิงหน้าตาอย่างเธอรามิลยิ่งสงสารจนพูดแทบไม่ออก เขาพูดอ่อนโยนแสดงความเห็นใจเธอแทนตัวเองว่าพี่ เรียกเธอว่าน้อง เหมือนที่เคยเป็นเมื่อตอนเด็ก ๆ มัดไหมหน้าผีเข้าบ้านไปหัวเราะกับติ๋มแทบตายว่ารามิลมีตาแต่หามีแววไม่บอกอะไรก็เชื่อหมด ติ๋มเห็นใจรามิลมากให้มัดไหมเลิกเล่นตลกและบอกความจริงรามิล แต่มัดไหมบอกว่าเธอยังสนุกอยู่ มัดไหมแกะหน้าผีแล้วออกไปต้อนรับรามิลในฐานะมัดไหมสาวใช้อัจฉราวดียังตามตื้อสม่ำเสมอ จนวันหนึ่งเจอกับมัดไหมและนาตาชาเมื่อเธอพารามิลไปที่ห้องเสื้อของ ยังโซน หรือ วายซีดีไซเนอร์มือใหม่ของไทยที่ไปโด่งดังมากในต่างประเทศ และอัจฉราวดีอยากเป็นนางแบบให้วายซีมาก รามิลเห็นมัดไหมในร้านอาหารอิตาเลียนเขานึกว่าเธอมากับหนุ่ม ไม่รู้ตัวเลยว่าฤทธิ์หึงขึ้นหน้าเขาไปกระชากตัวเธอ มัดไหมเพิ่งเสร็จจากการถ่ายแบบและยังไม่ได้ถอดคอนแทกเลนซ์สีฟ้าออก เธอเลยทำตัวเป็นแม็ตตี้พูดไทยไม่ชัดกับเขา รามิลมีทีท่าไม่เชื่อ แต่นาตาชาออกมาช่วยมัดไหมไว้ทันอัจฉราวดีมาที่กลุ่มเมื่อเห็นมัดไหมเธอตื่นเต้นมากว่าได้สัมผัสตัวจริงของนางแบบโลกเธอทักมัดไหมว่าแม็ตตี้ รามิลจึงสงบได้ทั้ง ๆที่ยังไม่ค่อยเชื่อสนิทใจว่ามัดไหมกับแม็ตตี้เป็นคนละคนกัน อัจฉราวดีพูดจาไม่เข้าหูนาตาชาเลยโดนนาตาชาด่าไปมัดไหมรู้ว่ารามิลต้องตามเรื่องถึงที่สุดเลยรีบกลับบ้านแล้วให้ติ๋มสวมหน้ากากหน้าเละเป็นภัครมัยป่วยแล้วเธอดูแลรามิลตามมาถึงบ้านจริง ๆและเมื่อเห็นภัครมัยปลอมอยู่กับมัดไหมเขาเลยเลิกสงสัยและสงสารภัครมัยหน้าผีขึ้นมาอีก เขาบอกมัดไหมให้บอกภัครมัยว่าคราวต่อ ๆไปที่เจอเขาไม่ต้องสวมฮู้ดปกปิดหน้าผี มัดไหมชื่นชมรามิลขึ้นมาหน่อย รามิลพามัดไหมไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่ คือ แม่แก้ว คุณพิศมัยหรือ ย่าน้อย คุณอุมาพร กับ คุณอรรุจิพี่น้องฝาแฝดผู้พูดกันคำทะเลาะกันสามคำ แต่รักกันมากทั้งสี่ท่านทราบความจริงแล้วว่ามัดไหมเป็นใครจึงพยายามร้ายเต็มที่ถล่มใส่มัดไหมเต็มที่ แล้วต่างลุกไปโดยที่มัดไหมยังไม่ทันได้กราบมัดไหมน้อยใจมาก เธอไม่รู้เลยว่านี่คือแผนซ้อนแผนของนาตาชากับแม่แก้วเธอจำต้องค้างที่บ้านสวนตามคำสั่งของรามิลมัดไหมยังเผชิญแผนการดูถูกและกลั่นแกล้งของญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่ของรามิลอัจฉราวดีตามตื้อรามิลทุกวันและไม่รู้ตัวเลยว่าถูกผู้ใหญ่ทั้งสี่ใช้เป็นเครื่องมือทดสอบความรักของรามิลกับมัดไหม มัดไหมไม่กล้ายอมรับว่าทุกคำพูดและทุกอาการที่เธอแสดงออกต่อรามิลนั้นเกิดจากความหึงหวงรามิลเองก็ไม่อยากยอมรับเหมือนกันว่าความฉุนเฉียวทุกวันของเขาเกิดจากความรักมัดไหมสาวใช้คนนี้ ความที่รามิลรักมัดไหมและไม่อยากให้เธอจากไปทำให้เขาตัดสินใจพูดกับเธอว่าเขาคงต้องยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่มีชาติตระกูลตามที่ญาติผู้ใหญ่เห็นสมควรแต่ถ้าเธอไม่รังเกียจเขาจะขอพาเธอหลบไปอยู่ด้วยกันเงียบ ๆ ณที่ห่างไกลผู้คน จะรักและทะนุถนอมเธอไม่ให้เธอลำบากไปชั่วชีวิต มัดไหมโกรธนั่นหมายถึงว่าเธอต้องเป็นเมียน้อย เธอตบหน้ารามิล ขณะที่มัดไหมกำลังเก็บเสื้อผ้าจะหนีไปจากบ้านสวนอัจฉราวดีเข้ามาตอกย้ำความเจ็บปวดของเธออีกด้วยทีท่าสงบเสงี่ยมเป็นมิตรอัจฉราวดีบอกว่ารามิลเล่าทุกอย่างให้ฟังหมดแล้วว่ามัดไหมรับจ้างเป็นแฟนของรามิลด้วยค่าจ้างล้านบาทและเมื่อเธอเห็นว่ารามิลเป็นฝ่ายเลิกสัญญาก่อนกำหนดเธอจึงขอให้รามิลจ่ายเงินให้มัดไหมให้ครบเพื่อว่ามัดไหมจะได้มีเงินไปลงทุนทำอะไรของตัวเองจะได้ไม่ต้องเป็นคนใช้เขาต่อไป คราวนี้มัดไหมโกรธรามิลจริง ๆไม่ใช่โกรธแง่งอนชั่วแวบเหมือนครั้งก่อนๆ มัดไหมขอติดรถอัจฉราวดีเข้าเมืองอัจฉราวดีสมใจ รามิลตัดสินใจไปหามัดไหมคนหน้าผีเพื่อจะทำความใกล้ชิดกับเธอให้มากขึ้นแต่อีกใจก็จะไปเพราะความหวังว่าจะได้พบมัดไหมสาวใช้เจ้าหัวใจของเขาด้วยตลอดเวลาที่อยู่กับมัดไหมหน้าผี รามิลไม่มีสมาธิเลยเขาคอยมองหามัดไหมสาวใช้ตลอด มัดไหมหน้าผีถามแต่รามิลไม่บอกว่าเขาไม่สบายใจเรื่องอะไรเขาเบนเรื่องไปที่จะให้มัดไหมคนนี้ไปปรึกษาแพทย์เรื่องใบหน้าเละแต่มัดไหมบอกว่าผ่านมานานขนาดนี้แล้วไม่ไปแล้วแล้วในที่สุดรามิลก็พูดถึงมัดไหมสาวใช้จนได้มัดไหมบอกว่าลาออกไปแล้วรามิลใจหายเขาตัดสินใจถามมัดไหมว่าคนเราควรจะแต่งงานด้วยเหตุผลใดมัดไหมบอกว่าด้วยความรัก รามิลถามถึงความเหมาะสม มัดไหมยืนยันความรักแต่ก็บอกว่าแล้วแต่ความจำเป็นเฉพาะตัวของแต่ละคนด้วยรามิลบอกว่าเขาคิดอะไรไม่ออกแล้วเพราะกระทั่งคนที่เขาคิดว่ารู้จักดีก็ยังไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเหมือนว่าคนเราทุกวันนี้ใส่หน้ากากใส่กันเล่นเอามัดไหมสะดุ้งเพราะว่าเธอก็กำลังใส่หน้ากากอยู่จริง ๆ ด้วยรามิลสับสนมากกระทั่งไม่รู้ตัวเลยว่ามาจากบ้านมัดไหมตอนไหน ดนุพันธ์สรุปว่ารามิลรักมัดไหมสาวใช้ ให้เขาตามหาเธอแต่รามิลบอกว่ามัดไหมมีโอกาสพบผู้ชายดี ๆแต่ภัครมัยหน้าผีไม่มีใครนอกจากเขา เขาตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกับภัครมัยดนุพันธ์ไปเล่าทั้งที่รามิลบอกว่ารักมัดไหมสาวใช้และที่บอกว่าจะแต่งงานกับภัครมัยให้นาตาชาฟังโดยไม่รู้ว่ามัดไหมอยู่กับนาตาชาด้วยนาตาชาให้มัดไหมบอกความจริงกับรามิลก่อนที่นานไปเขารู้เองมัดไหมเชื่อว่ารามิลจริงใจในกรณีมัดไหมหน้าผีแต่เธอยังอยากทดสอบความจริงใจของเขาต่อมัดไหมสาวใช้ต่ออีกด้านรามิลก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงมีความรู้สึกใกล้เคียงกันกับผู้หญิงถึงสามคน สำหรับแม็ตตี้ เขาพอจะรู้ว่าเพราะเธอหน้าเหมือนกับมัดไหมสาวใช้เขาโทรนัดแม็ตตี้ทานอาหาร เธอพูดถึงมัดไหมสาวใช้อีกรามิลตัดสินใจถามมัดไหมหน้าผีว่ามัดไหมสาวใช้อยู่ที่ไหนรามิลพยายามตามหามัดไหม ใจลอยมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อรถเขามาถึงหน้าไร่มนตราของมัดไหมสถานที่แรกที่เขาได้พบกับเธอ สาวสวยคนหนึ่งควบม้าอยู่ รามิลดีใจที่สุดเขาตะโกนเรียกเธอสุดเสียง เธอไม่ได้ยิน รามิลกดแตรรัวเจ้าตะวันสาดแสงม้าที่มัดไหมควบอยู่ตกใจ สลัดมัดไหมตกจากหลังรามิลประคองมัดไหม เธอไม่เป็นไรมาก งอนเขาที่ทำให้ตกม้าแล้วรามิลก็งอนมัดไหมบ้าง เมื่อหนุ่มหล่อผมยาวขี่ม้าอีกตัวมาหามัดไหม มัดไหมเรียกเขาว่าวายซีรามิลเหม็นขี้หน้านายวายซีนี่ทันที และยิ่งงอนหนักเมื่อมัดไหมสะบัดจากเขาไปหาวายซี ท่าทางเธอไว้ใจนายนั่นมากกว่าเขาเขาพาลว่าเธอแกล้งตกม้าเพื่อเรียกความสนใจ มัดไหมต่อปากต่อคำกับรามิลแล้วเผลอตกเป็นเหยื่อเมื่อโดนเขายั่วว่าสำออย เธอเดินไปขึ้นรถเขากว่าจะรู้ตัวว่าโดนรามิลเจ้าเล่ห์ใส่ เธอก็ออกมาจากไร่กับเขาเขาจงใจยั่วเธอเพื่อแยกเธอจากวายซี รามิลสารภาพรักกับมัดไหมมัดไหมจึงต้องสารภาพแผนการทั้งหมดของเธอ และสารภาพว่ารักเขาเช่นกันรามิลมีความสุขที่สุดในชีวิต ติดตามชม ละครเทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง ได้ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครเทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง

สาวใช้ไฮเทค 2553

เรื่องย่อ : สาวใช้ไฮเทค (2553/2010) นล รัศมีมาน (อรรคพันธ์ นะมาตร์) ถูก รมณี (เปรมสินี รัตนโสภา) ว่าที่เจ้าสาวทิ้งไปกลางงานวิวาห์ โดยที่นลไม่รู้เลยว่าตลอดเวลาที่คบหาเป็นแฟนกับรมณีมาตลอด 10 ปี ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันนั้น รมณีแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ ศักดิ์ชัย (ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน) เพื่อนรักของเขาเอง และทั้งคู่ก็หนีไปด้วยกันในคืนวันแต่งงานของเขา รมณีทำทุกอย่างเพราะรักศักดิ์ชัยอย่างจริงใจ ทั้งสองหายตัวเงียบไปไม่ได้ข่าวคราว ทิ้งให้นลต้องทุกข์ระทม และค้างคาในใจ ที่เจ้าสาวหายตัวไปโดยที่ตนไม่ทราบสาเหตุ ทิ้งเพียงโน้ตสั้นๆ ที่กล่าวลา บอกให้รู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอันตราย หรือโดนลักพาตัว แต่เลือกที่จะทิ้งเขาไปไม่ใยดี

สามเดือนต่อมา คุณกนกวรรณ (ดารัณ ฐิตะกวิน) แม่ของนล แสนจะกลัดกลุ้มกับสภาพของนล ที่แทบไม่เป็นผู้เป็นคน ปล่อยเนื้อปล่อยตัว หนวดเคราไม่โกน เอาแต่เมา ไม่ยอมพบเจอผู้คน บางคราวก็อาละวาดฉุนเฉียว นายเป็ด (ปราบ ยุทธพิชัย ) คนขับรถเก่าแก่ที่เป็นคนรับใช้คนสนิทก็ยังเข้าไม่ติด กระทั่ง นิยา (เอมี่ กลิ่นปทุม) น้อง สาวแท้ๆ ของนลก็ยังไม่สามารถช่วยนลได้ และสำคัญก็คือกิจการของห้างสรรพสินค้ากลางกรุง ‘ดรากอน มอลล์’ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นคุณยายซึ่งนลได้รับมอบหมายให้ดูแลมาหลายปีก็ถูกน ลละเลยจนผลประกอบการช่วงไตรมาสที่ผ่านมาตกต่ำติดดิน กนกวรรณปรึกษากับ คุณยายชื่น (ดร.ปัทมาฆะ สุคนธมาน) ผู้เป็นแม่ของตนให้ทำอะไรซักอย่างก่อนที่นลจะแย่ไปกว่านี้ และก่อนที่กิจการห้างจะต้องถึงกับปิดตัว แต่ก็โดนคุณยายชื่นเอ็ดเอาว่าเป็นแม่ประสาอะไร ถ้าดูแลลูกชายไม่ได้ ก็หาคนอื่นมาดูแลซะ แต่กนกวรรณจนปัญญา ถึงกับเข้าหา อาจารย์คงเดช (สมชาย ศักดิกุล) หมอดูชื่อดังที่ร่ำรวยกับการดูดวงในแวดวงเศรษฐีไฮโซ นั่นทำให้คุณยายชื่นรู้สึกขัดใจ และหมดหวังกับการแก้ปัญหาอย่างงมงายของกนกวรรณ หนำซ้ำ อาจารย์คงที่ดูเหมือนจะจีบกนกวรรณเพราะหวังสมบัติ ยังพยายามจะยัดเยียด กิ่งกานต์ (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ลูกสาวสุดเปรี้ยว อารมณ์เหวี่ยง ให้มาดูแลนล แต่ลับหลังนล กิ่งกานต์ก็แสดงกริยาแย่ๆ ให้คุณยายชื่นจับได้ว่ากิ่งกานต์ไม่ได้คิดจริงใจกับนลในสภาพย่ำแย่นั้น คุณยายชื่นถึงกับเปรยกับ ป้าบัว สาวใช้เก่าแก่ประจำบ้านว่าตนจะต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว

คืนนั้น คุณยายชื่น ต้องไปเป็นประธานงานการกุศลหาเงินก่อตั้งกองทุนสวัสดิภาพผู้ใช้แรงงาน โดยมีนิยาตามมาดูแล งานนั้นจัดแบบตั้งโต๊ะแถลงข่าวเล็กๆ ในห้องโรงแรม เรืองริน (วรัทยา นิลคูหา) เจ้าหน้าที่ฝ่ายให้คำปรึกษาเปลี่ยนชุดราตรีสวยเป็นชุดคนใช้ เพื่อให้เข้ากับคอนเสปท์ที่ช่วยเหลือเรื่องสวัสดิภาพแก่ลูกจ้างที่ไม่มี ประกันสังคม ในงานนอกจากเจ้าหน้าที่จะแต่งตัวเป็นวินมอร์เตอร์ไซค์ สาวใช้ และแม่ค้าแล้วยังมีสื่อมวลชนสำนักต่างๆ ให้ความสนใจร่วมทำข่าวด้วย นิยาแทบช็อกเมื่อพบว่าสาวในชุดคนใช้ปอนๆ ผมเผ้าไม่เซ็ทเป็นทรงคนนี้คือ ริน สองสาวคุยกันขโมงโดยมีคุณยายชื่นฟังอยู่อย่างสนใจว่ารินเป็นเพื่อนซี้กับนิ ยาตั้งแต่สมัยมัธยมที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะรินไปเรียนมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่จนจบมาทางด้านจิตวิทยาและทำงานอาสาฯ ช่วยเหลือให้คำปรึกษาผู้ประสบปัญหาล้มเหลวในชีวิต คุณยายชื่นฟังรินกับนิคุยกันไปพลางลอบมองลุคสาวใช้ของรินจนปิ๊งไอเดีย จินตนาการไปว่า เรืองรินนี่ละที่จะช่วยเหลือนลได้ จึงรีบทาบทามว่าจ้างให้เรืองรินปลอมเป็นคนใช้เพื่อดูแลนลในทุกๆ ทางให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนเสียที โดยเรื่องนี้ต้องปิดเป็นความลับ มีรู้กันเพียงแค่คุณยายชื่น นิยา และเรืองริน ห้ามแพร่งพรายไปแล้วถึงหูนลโดยเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นยิ่งทำให้นลโกรธเคือง และทุกอย่างจะพาลแย่ลง แต่เรืองรินไม่ได้อยากรับภารกิจนี้

จนกระทั่งเมื่อเรืองรินพบว่า ชุติมา (นิตยา ปานะถึก) แม่ของตน และ เจตน์ (พงษ์ประยูร ราชอาภัย) ผู้ เป็นพ่อ ที่ทำกิจการร้านซักแห้งที่ต่างจังหวัดกำลังเดือดร้อนเพราะมีร้านซักแห้ง แฟรนไชส์เจ้าใหญ่มาเปิดใกล้ๆ จนเป็นหนี้เป็นสินถึงขั้นต้องจำนองบ้าน ในขณะที่ เรืองยศ (เจจินตัย อันติมานนท์) ผู้เป็นพี่ชาย ที่เป็นคนเนือยๆ ไม่เก่งอะไร แต่อยากพิสูจน์ตนเองด้วยการทำร้านซักแห้งในกรุงเทพฯ ก็กำลังประสบภาวะขาดทุนหนักเพราะถูกเกสร (นภัสศรณ์ มั่นวงษ์ศิริกุล) สาวใหญ่ผู้จัดการร้านจอมโลภโกง เรืองรินจึงต้องยอมรับข้อเสนอของคุณยายชื่น ที่ยินดีจะจ่ายหนี้ให้เรืองรินซึ่งรวมๆ แล้วเป็นเงินถึง 5 ล้านบาทแลกกับการทำงาน 3 เดือน เรืองรินเกรงใจนิยา บอกกับคุณยายชื่นว่า ในอนาคตจะหาเงินก้อนนี้มาคืน แต่คุณยายชื่นยืนยันว่าไม่ต้องการ หนำซ้ำถ้าเรืองรินทำให้นลกลับมาดีเหมือนเดิมได้สำเร็จ เธอจะตบรางวัลแถมให้อีกหนึ่งล้านบาท

เรืองรินต้องโกหกเรืองยศ และ ดนุ (รัฐศาสตร์ กรสูต) แฟน หนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนรักกับเรืองยศว่าจะไปตระเวนทำงานอาสาเป็นเวลา 3 เดือน แต่เมื่อถูกซักไซร้แบบจี้ไม่ให้หายใจจากดนุ เรืองรินก็หลุดบอกสถานที่มั่วซั่ว ไม่รู้เหนือใต้ ทำให้ดนุแคลงใจ เก็บความสงสัยในพฤติกรรมของเรืองรินไว้ในใจ

คืนนั้นดนุทำเซอร์ไพรส์ด้วยดอกไม้ช่อใหญ่และแหวนหมั้น แต่เรืองรินไม่ตอบรับ เพราะอยากจะเคลียร์ภาระของตนในสามเดือนนี้ให้ลุล่วงก่อน ดนุใจแป้วไป ด้วยเซ้นส์ของคนเป็นแฟนกัน ดนุรู้ได้ทันทีว่าเรืองรินมีอะไรบางอย่างที่ปิดบังตนอยู่

ก่อนเริ่มงานนิยารับเรืองรินไปช็อปปิ้งของใช้สำหรับสาวใช้คนใหม่ที่ ดรากอนมอลล์ของเธอ ระหว่างที่แยกตัวจากนิยามาเข้าห้องน้ำ ที่หน้าห้องน้ำหญิงเรืองรินมีเรื่องโต้เถียงกับนลโดยที่ไม่รู้ว่านลคือพี่ ชายของนิยา เพราะสารรูปโทรมๆ ดูไม่ได้ ทำให้เรืองรินเข้าใจว่านลเป็นพวกโรคจิต เลยคว้าเอาไม้ม็อบที่หยิบได้แถวนั้นตีเอา เมื่อเจอหน้ากันอีกทีที่บ้านรัศมิมานของนล เรืองรินถึงกับหงายหลังพูดไม่เป็นภาษาขณะถูกนลสัมภาษณ์ นลรับเรืองรินไว้เพราะหมั่นไส้ อยากจะเอาคืน วันแรกของการเป็นคนใช้ รินจึงเจอแต่งานหนักๆ เพราะนลกะเอาคืนที่โดนตีกบาลหน้าห้องน้ำ แถมยังต้องวิ่งหนีกระบองรปภ. เพราะรินตะโกนว่าตนเป็นพวกลามก โรคจิต

เรืองรินเริ่มภารกิจสาวใช้ไฮเทคหวังช่วยคุณยายชื่นที่มีบุญคุณกับเธอและครอบ ครัวอย่างเต็มที่ เริ่มต้นด้วยการแอบเข้าไปเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของนล ตั้งแต่เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน อย่างที่ไม่มีใครหน้าไหนกล้าแหยมนลมาก่อน จากที่เคยแต่งตัวด้วยโทนสีทึมหม่น วันหนึ่งนลต้องกัดฟันกรอดเพราะเปิดตู้เสื้อผ้า เจอแต่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส แบบที่เขาไม่ใส่เด็ดขาดโดยเสื้อผ้าสีทึมๆ ของเขาถูกรินโละทิ้งเกลี้ยงตู้ นลประกาศลั่นกับนายเป็ดว่าให้หาตัวการมาให้ได้ นายเป็ดจนปัญญาเพราะนิยาสั่งไว้เช่นกันว่าห้ามยุ่ง รินรุกหนักถึงขั้นเอาแว่นสายตากรอบดำหนาที่นลใส่ประจำไปทำลายเพื่อให้ นลเปลี่ยนมาใส่คอนแท็คเลนส์ซึ่งนลก็มีอยู่แล้ว นลแค้นใจที่รู้ดีว่าเป็นฝีมือใครแต่ก็ทำอะไรเรืองรินไม่ได้

จนกระทั่งนลมาฟิวส์ขาดเอาเมื่อเห็นรินกำลังเปลี่ยนรูปในกรอบที่เป็นรูปคู่ ของนลกับรมณีเป็นภาพวิวชายหาดเห็นร่มหรือเตียงผ้าใบสีฉูดฉาดสดใส ทำให้นลโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง รินก็ย้อนว่าเธอพยายามช่วยให้นลเริ่มต้นชีวิตใหม่ และลืมอดีตที่ขมขื่นซะ นลก็ย้อนเอาว่าแล้วใครบอกเธอล่ะว่าฉันอยากลืม รินพูดจี้ใจดำจนนลโกรธเกือบจะลงไม้ลงมือ ดีที่กนกวรรณกับนิยามาเห็นซะก่อน รินเกือบจะถอดใจไม่อยากช่วยนลเพราะชิงชังความไม่เป็นสุภาพบุรุษของนล แต่คืนหนึ่งรินบังเอิญเห็นนลในสภาพเศร้าหมอง น้ำตาร่วงขณะจ้องมองรูปคู่ของเขากับรมณี มีขวดเหล้าที่เกือบหมดวางอยู่ รินรู้สึกสงสารระคนเห็นใจ เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นด้านที่อ่อนไหวและอ่อนแอของนล หลังจากที่เจอมาแต่ด้านหยาบ ดุ กระโชกโฮกฮากของเขามาโดยตลอด

รินกลับมาฮึดสู้และรุกหนักจนปฏิบัติการภาคแรกผ่านฉลุย นลเปลี่ยนการแต่งกายภายนอกไปแทบจะเป็นคนละคน คุณยายชื่น และนิยาภูมิใจในตัวรินมาก ขณะเดียวกันกิ่งกานต์ก็ตามจับนล อย่างออกนอกหน้า ด้วยนิสัยทั้งวีน ทั้งเหวี่ยง กิ่งกานต์ต้องปะทะกับรินอยู่เนืองๆ เพียงแต่รินก็ทำให้กิ่งกานต์รู้ซึ้งว่า เธอไม่ใช่คนใช้ซื่อบื้อ ที่จะยอมให้กิ่งกานต์โขกสับอยู่แต่เพียงฝ่ายเดียว ตรงกันข้าม รินยังสวนเอากิ่งกานต์หงายเงิบไปแทบทุกครั้ง

เมื่อเห็นว่าริน เป็นคนโปรดของคุณยายชื่น ทำให้ป้าบัว คนใช้เก่าแก่จอมเฮี๊ยบ ก็ยิ่งหาทางจับผิดริน แต่รินก็ยังมี อ่อน สาวใช้ซื่อๆ เอ๋อๆ ไม่ค่อยมีความรู้ คอยช่วยเหลือ เพราะซาบซึ้งที่รินปฏิบัติต่อตนดี ไม่ดูถูก หรือโขกสับอย่างที่เธอมักจะเจอ

ภารกิจต่อไปของรินก็คือการดึงนลให้กลับไปใส่ใจกับงานบริหารห้างสรรพสินค้า ดราก้อน มอลล์ให้ได้ รินพยายามพูดดีๆ หว่านล้อม แต่ไม่ได้ผล จึงต้องใช้การปะทะคารม ดูถูกเหยียดหยามนล จนนลปรี๊ดขึ้น กลับมาทำงานเพื่อที่จะให้รินหุบปาก เลิกดูหมิ่น เยาะเย้ยตน แต่นลก็แก้เผ็ดรินด้วยการจิกรินให้ตามไปรับใช้เขาที่ห้างด้วย วันแรกของการที่ไปห้างสรรพสินค้า รินก็ดวงแตกไปเจอเอาดนุ และกลุ่มเพื่อน 3 สาวที่สนิทกันมานาน ทั้งแพรวรุ่ง (สิชา ศรีทองสุข) สาวห้าวขาลุย ตัวนำการเม้าธ์ ทิพปภา (อนันญญา โตแสงชัย) จอมเสนอไอเดีย เจ้าแห่งโปรเจกต์ และ เจนนี่ (เพชรชนก ณ ลำปาง) คุณ หนูระวัง ที่กลัวและระวังไปซะทุกอย่าง รินออกอาการอึกๆ อักๆ ตอบไม่ได้ที่ตนแต่งตัวปอนๆ แบบคนใช้ แถมหิ้วกระเป๋าที่เห็นได้ชัดว่าเป็นกระเป๋าผู้ชาย รินแสดงพิรุธหนักจนเอาไม่อยู่จึงหาจังหวะเผ่นหนีไปไม่มีปี่มีขลุ่ย ดนุปรับทุกข์กับแก๊งค์สามสาวว่าเขาชักสงสัยในพฤติกรรมของริน ลึกๆ กลัวไปถึงว่ารินจะแอบคบผู้ชายคนอื่น เนื่องจากไปพ้องกับการที่รินไม่รับหมั้นตน อ้างว่าจะเดินทางไปตระเวนทำงานทั่วประเทศ แต่ก็เห็นอยู่ในกรุงเทพฯ อยู่จะๆ สามสาวออกความ เห็นไปต่างๆ นาๆ ตามแบบฉบับของแต่ละคน ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรดนุเลย แต่สาวๆ ก็รับปากว่าจะช่วยดูให้ ถ้ามีอะไรจะส่งข่าวถึงกัน

กนกวรรณโล่งใจอย่างแรงที่นลดีขึ้น ไพล่ไปคิดว่าเป็นผลจากการตระเวนทำบุญสะเดาะห์เคราะห์ 99 วัดของตนตามคำแนะนำของอาจารย์คง อาจารย์คงไซโคกนกวรรณว่าจะมีอุบัติเหตุครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับครอบครัว ถ้าไม่รีบหาคู่ให้นลรีบแต่งงานเสีย เมื่อกนกวรรณถามถึงลักษณะเนื้อคู่ที่เหมาะกับนล อาจารย์คงก็ร่ายยาวถึงลักษณะของ กิ่งกานต์ ลูกสาวของตนล้วนๆ

ทางด้านรมณีหลังจากที่เลือกทางเดินชีวิตคู่กับศักดิ์ชัย ทุกอย่างก็ลุ่มๆ ดอนๆ ยามมีเงินก็มีมากมายแต่บทจะหายเงินนั้นก็ละลายไปในพริบตา ถึงอย่างนั้นรมณีก็ยังชื่นชมศักดิ์ชัยที่หาเงินเก่ง ไม่รู้เลยว่าเงินนั้นได้มาจากการเล่นพนันล้วนๆ วันหนึ่งขณะกำลังเพลิดเพลินไปกับการช็อปปิ้งกระเป๋าใบหรูแพงระยับ แต่เมื่อรูดเครดิตการ์ดก็ต้องหน้าแตก ที่พนักงานแจ้งว่ามีวงเงินไม่พอ โทรไปเช็คก็พบว่าวงเงินถูกเบิกไปหมดแล้ว รมณีกลับไปโวยศักดิ์ชัย ศักดิ์ชัยปากหวานว่าเอาไปใช้จ่ายจำเป็น และเอาไปซื้อต่างหูให้รมณี รมณีเคลิ้มอยู่พักหนึ่งแต่ซักไปซักมาก็จับได้ว่าศักดิ์ชัยติดการพนันขั้น หนัก จากนั้นมาทั้งสองก็ทะเลาะกันอย่างคู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันด้วยความโลภ เมื่อเงินหมด ความรักก็จางตามไป ศักดิ์ชัยปฏิเสธที่จะหางาน หาเงินเลี้ยง หนำซ้ำยังตะโกนใส่รมณีว่า ให้หัดฉลาด ใช้นลที่ตามืดบอดหลงรักรมณีให้เป็นประโยชน์ พร้อมทั้งด่าว่ารมณีโง่ที่มีโอกาสได้แต่งงานกับนลแล้ว แทนที่จะคิดปอกลอก ดันหนีมาหาเขา รมณีตะโกนใส่ว่า ก็เพราะเธอรักศักดิ์ชัย นึกว่าศักดิ์ชัยจะซาบซึ้งกับความรักที่ตนมีให้ แต่ศักดิ์ชัยกระแทกว่าซาบซึ้งที่ตอนนี้ไม่มีกินน่ะสิ ถ้าเป็นไปได้ จะจับรมณีใส่ตะกร้าล้างน้ำ ไปเสนอไอ้โง่นลมันอีกครั้ง

รินยังคงเดินหน้าทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างตั้งใจ บ่อยครั้งที่เธอสร้างเหตุบังเอิญต่างๆ เพื่อละลายพฤติกรรมเย็นชาเป็นภูเขาน้ำแข็งของนล เช่นแกล้งตกน้ำโดยที่ตรงนั้นมีนลอยู่เพียงคนเดียว นลกระโดดลงไปช่วยตามสัญชาติญาณลูกผู้ชาย พอรู้ว่าเสียทีให้เรืองรินนลก็โกรธมาก เริ่มรู้ว่าเรืองรินมีลับลมคมใน ไม่ใช่เด็กบ้านนอกธรรมดาๆ รินได้ใจหลังจากทดสอบแล้วว่านลไม่ได้มีนิสัยแย่แต่เพียงแค่สร้างกำแพงขึ้น เพราะสูญเสียความมั่นใจที่ถูกรมณีทิ้งก็เท่านั้น และกำแพงนั้นเรืองรินก็ต้องทะลายลงให้จงได้ แต่อุปสรรคก็ไม่ได้น้อยลงเลย กิ่งกานต์ยังคงปะทะกับรินบ่อยๆ จนเก็บความแค้น จะดักตบที่หน้าร้านอาหารตามสั่งของ คิตตี้ (นิทัศน์ ธำรงค์) แต่ ดวงของรินยังแข็ง เมื่อแก๊งค์สามสาว แพรวรุ่ง ทิพปภา และเจนนี่ เห็นรินถูกรุม ก็ช่วยลุยกิ่งกานต์กระเจิงไป รินแทบช็อก กลัวเพื่อนๆ จะทำความแตก แต่โชคดีที่ตอนตบชุลมุน กิ่งกานต์เอาอาหารโปะหน้าริน ซะยับเยินจำไม่ได้ รินรีบเดินหนีเพื่อนๆ ออกมา ก่อนจะโดนจับได้

วันหนึ่งในห้างสรรพสินค้า นลบังเอิญได้เห็นรินกำลังบอกทาง และพูดคุยกับฝรั่งอย่างฉาดฉาน เป็นธรรมชาติ แต่รินยังหัวไว พอเห็นหางตาว่านลโผล่มา ก็ทำเป็นพูดภาษาฝรั่งเป็นคำมั่วๆ สำเนียงแย่ๆ แบบสเน๊กๆ ฟิชๆ แปลตรงๆ เพี้ยนๆ แบบภาษาอังกฤษซับนรก เอาตัวรอดมาได้ แต่รินก็พลาดไปจนได้ที่เผลอเข้าเฟซบุ๊ค ทักทายกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม โดยไม่เห็นว่านลมายืนข้างหลัง นลเลยสอบปากคำรินยกใหญ่ และพบว่าเจอรุกไล่ถามหนักๆ เข้า รินก็ตอบประวัติการศึกษาของตนผิดไปจากครั้งก่อนๆ นลเริ่มสงสัยในตัวรินมากขึ้น ประกอบกับที่ กุ๋งกิ๋ง (แคทลียา พันธ์ครุฑ) เลขาจอมเป๋อของนล มีปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็ได้รินแก้ไขให้ปรื๊ดเดียวเสร็จ จนกุ๋งกิ๋งแอบแซวว่าเป็น สาวใช้ไฮเทค

ทางด้านเรืองยศ หลังจากถูกเกสรโกงเงินไปครั้งหนึ่งก็ยังไม่เข็ด ดันหลงคารมเกสรที่ชวนควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน แล้วก็ถูกเกสรดูดเงินที่เรืองรินหามาใช้หนี้ให้จนเกลี้ยง รินรู้ก็ปรี๊ดแตก หลังเล่นงานเรืองยศเสร็จก็ตามไปฉะเกสร แล้วไปเจอรมณีซึ่งเป็นหลานของเกสรเข้า รินจำได้แม่นว่ารมณีคือคนในรูปคู่กับนล แต่รมณีไม่รู้ว่ารินเป็นใคร เธอวีนใส่รินที่กล่าวหาว่าน้าสาวโกงจนมีเรื่องตบตีกับริน รินซัดรมณีจนรมณีไม่มีโอกาสแม้แต่จะแตะตัวริน รมณีกรี๊ดลั่นประกาศจะเอาคืนเมื่อไรก็ตามที่เจอหน้าริน จนกระทั่งครั้งหนึ่ง นลเดินอยู่กับริน เฉียดกันไปกับรมณี เกือบจะได้เจอหน้ากันชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด รมณีแอบมองนลห่างๆ แปลกใจรินที่หน้าเหมือนคนที่เคยมีเรื่องกันที่ร้านเกสร แต่ทำไมแต่งตัวเป็นสาวใช้ราวกับเป็นคนละคนในวันมีเรื่อง ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นคือสาวใช้อะไรกล้าพูดกล้าคุยกับนลอย่างสนิทสนม

ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรืองรินกับนลจะดูสนิทกันขึ้น แต่ก็ยังมีหลายครั้งที่กิ่งกานต์โดนรินลบเหลี่ยมต่อหน้า จึงกลั่นแกล้งคืนด้วยกลเม็ดตื้นๆ โดยเอานาฬิกาข้อมือเรือนหรูของตนไปซ่อนใต้ที่นอนของริน แล้วใส่ร้ายว่ารินเป็นหัวขโมย ทำให้รินถูกนลตำหนิอย่างแรง แต่รินก็ด่าย้อนเอา ว่าถ้าขืนเชื่อลูกไม้ตื้นๆ อย่างงี้ ก็คงบริหารห้างสรรพสินค้าไม่เจริญ นลโกรธรินมาก ทะเลาะกันใหญ่โต ดีที่นิยามาช่วยห้ามไว้ได้

รินเคืองกับนล พอดนุโทรมานัดเจอจึงแอบออกไปทันที ดนุพยายามสืบถามว่ารินกำลังทำอะไรอยู่ ถึงได้ดูลับๆ ล่อๆ และเมื่อแยกย้ายกันกลับ ดนุแอบสะกดรอยตามรินไปจนถึงบ้านนล พอดีกับที่นลออกมาเห็นแล้วรู้สึกขัดใจ นลประหลาดใจกับความรู้สึกตัวเองที่ดันไปหึงหวงสาวใช้ที่มีแฟนมาส่ง พอรินก้าวเข้าบ้าน นลจึงปรากฏตัวขึ้นหาเรื่อง รินยังกรุ่นๆ เรื่องที่นลเข้าข้างกิ่งกานต์จึงพูดยั่วโทสะจนนล เผลอใจจุมพิตริมฝีปากริน นิยาเข้ามาเห็นก็ช็อคนะจังงังไป นลกับรินรีบผละออกจากกัน แต่รอยจุมพิตนั้น ก็ทำให้สาวใช้อย่างรินเผลอให้ความรู้สึกดีๆ และมีใจให้กับเจ้านายอย่างนลไปซะแล้ว

ดนุนัดนิยามาทานข้าวหลังจากแน่ใจว่ารินไปเป็นสาวใช้ที่บ้านนิยา นิยาดีใจมาก เพราะแอบมีใจให้ดนุอยู่ แต่ไม่กล้าคิดเพราะเป็นแฟนเพื่อนสนิท แถมเมื่อเห็นรินจุมพิตกับนล นิยาจึงกล้ารับนัด แต่ปรากฏว่าดนุเอาแต่สอบถามคาดคั้น ถึงการที่รินปลอมตัวเป็นคนใช้อยู่ในบ้านของนิยา นิยาเสียงแข็งไม่ตอบ อ้างว่าเป็นกิจธุระของคุณยายตน ตนเป็นเด็กไม่อาจแพร่งพรายธุระของคุณยายได้ ดนุจึงบอกว่า ดีล่ะ ถ้างั้นเขาจะสืบหาความจริงเอง นิยาชักแม่น้ำทั้งห้ามาห้ามดนุก็ไม่ฟัง

วันต่อมา รินแทบช็อค ที่เห็นดนุเดินเข้ามาในบ้าน นลสั่งให้รินคอยดูแลน้ำท่าให้กับแขกคนนี้ที่อ้างว่าจะมาพูดคุยเรื่องเหมา เช่าพื้นที่ค้าขายในดราก้อนมอลล์ นลจับสังเกตเห็นว่ารินดูแปลกๆ ลนๆ เทน้ำหกน้ำล้นมั่วไปหมด คืนนั้นรินต้องรีบออกไปชี้แจงความจริงกับดนุและแก๊งค์สามสาว แพรวรุ่ง ทิพปภา และเจนนี่

ยิ่งนานวัน ความสัมพันธ์ของนล กับริน ก็พัฒนาขึ้น ในขณะที่ กนกวรรณ เริ่มขัดหูขัดตาอย่างแรง หนำซ้ำยังได้ยินเข้าหูบ่อยๆ จากกิ่งกานต์ว่าลูกชายของตนกำลังให้ความสนิทสนมกับริน จนเกินนายกับบ่าว กนกวรรณกับกิ่งกานต์ และป้าบัวจึงต้องคอยร่วมมือกัน ขัดขวางกลั่นแกล้งริน โดยมีนิยากับคุณยายชื่น และอ่อน เป็นฝ่ายปกป้องริน

ในการเจอกันครั้งหนึ่งของดนุ กับริน ดนุทวงถามเรื่องการแต่งงาน รินปัด บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ และเมื่อดนุพยายามกอด ถูกเนื้อต้องตัวกลับทำให้รินรู้สึกว่า ความรู้สึกรักที่เคยมีต่อดนุได้จืดจางลงไปแล้ว รินถึงกับปรึกษาเรื่องนี้กับนิยา ที่พูดปลอบรินว่าอย่าคิดมากไป ทั้งที่ในใจ แทบจะร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ เพราะนิยาหลงรักในตัวดนุมานาน จนอดคิดไม่ได้ ว่าอยากจะเชียร์รินให้เลิกกับดนุ แล้วมารักกับ นล พี่ชายตนซะให้รู้แล้วรู้รอด วันหนึ่งป้าบัว พา ไข่ตุ๋น (ด.ญ.ชนิกานต์ ตังกบดี) หลาน สาวช่างฉอเลาะ น่ารักวัย 5 ขวบ ด้วยความช่างถาม และไร้เดียงสา ไข่ตุ๋นกลายเป็นตัวเร่งให้ความสัมพันธ์ระหว่างนลกับริน ยิ่งเติบโต ใกล้ชิดกันมากขึ้น วันที่พาไข่ตุ๋นไปสวนสนุก ไปทานไอศกรีม พนักงานขายต่างพากันทักว่า พ่อแม่ลูกครอบครัวนี้น่ารักจัง เล่นเอารินยิ้มแก้มปริ ทั้งปลื้มทั้งขวยเขิน แต่ขากลับ กำลังจะเข้าบ้าน ก็เจอฝนเทลงมา ไข่ตุ๋นไม่สบาย นลกับรินต่างช่วยกันเฝ้าด้วยความเป็นห่วง ป้าบัวก็เริ่มรู้สึกดีกับรินมากขึ้นที่ช่วยดูแลหลานตน

ใกล้วันเกิดของคุณยายชื่น คุณยายชื่นกับนิยา ปรึกษากัน แล้วตกลงกันว่า จะไปจัดปาร์ตี้ที่รีสอร์ตสวยริมทะเล เพราะคุณยายชื่น อยากเห็นลูกหลานทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน นิยาหาเรื่องชวนดนุไปด้วย ดนุรีบตอบตกลง เพราะเขาเองก็คิดถึง และอยากจะมีโอกาสอยู่ใกล้ๆ กับริน

ทางด้านรมณีกับศักดิ์ชัย ที่เริ่มจะอยู่นิ่งไม่ได้ เพราะศักดิ์ชัยถูกขู่จากคนทวงหนี้ของโต๊ะบอล ที่จะเล่นงานศักดิ์ชัยถึงตาย เพราะความรักที่มืดมัวตาบอดของรมณี รมณีจึงตัดสินใจจะกลับไปหานลอีกครั้ง เพื่อที่จะหาทางแต่งงานกับนล เพื่อปอกลอกทรัพย์สินของนล มาใช้หนี้ให้กับศักดิ์ชัย

นลกับรินช่วยกันแพลนเซอร์ไพรส์งานวันเกิดให้คุณยายชื่น มีจังหวะหนึ่งที่รินเซเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดนลโดยไม่ตั้งใจ นลอดใจไม่ไหว หอมแก้มรินไป ทั้งสองมองตากัน รู้อยู่แก่ใจว่ามีความรู้สึกดีๆ ให้กันมากมายขนาดไหน แต่เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น และเมื่อเปิดประตู นลก็แทบช็อค เมื่อพบว่าคนที่มาหาตนก็คือ…รมณี!

รินหาทางหลบหน้ารมณีอยู่ตลอดแต่แล้วก็ปะหน้ากันจนได้ โชคเหมือนเข้าข้างรินเมื่อรมณีแค่หัวเราะเยาะว่ารินน่าสมเพชที่หมดตัวถึงกับ ต้องมาหากินด้วยอาชีพขี้ข้า สองคนมีเรืองตบตีกันอีก แต่คราวนี้รินต้องออมมือจนเป็นฝ่ายเสียเปรียบถูกรมณีตบคืนจนสาใจ

นลรู้สึกสับสนและเคว้งคว้าง แน่นอนว่าในใจเขายังรักรมณีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่พิษจากความเจ็บปวดของการโดนทิ้งกลางงานวิวาห์ ทำให้เขาเจ็บแค้นฝังใจ ในขณะที่รินเองก็สับสนอยู่เช่นกัน เพราะรู้ดีว่าชายที่ตนกำลังมีใจให้คนนี้ ยังมีใจรักรมณีอยู่มากขนาดไหน แม้นลจะทำพฤติกรรมร้ายๆ เข้าใส่รมณี ลึกๆ ก็เพื่ออยากให้รมณีทิ้งตนไป เพราะรู้ตัวว่าตนใจไม่แข็งพอจะทิ้งรมณีไป แม้เธอจะเคยทำเขาไว้เจ็บปวดสักเท่าใดก็ตาม

คุณยายชื่น เคยเห็นนลหลานรักเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคนเพราะรมณีมาแล้ว ประกอบกับการได้ยินรมณีแอบคุยโทรศัพท์กับศักดิ์ชัย ทำให้คุณยายชื่นคิดจะกีดกันอย่างสุดตัว โดยการมอบหมายภารกิจให้ริน จัดการยังไงก็ได้ให้รมณีออกห่างนลซะ และด้วยภารกิจนี้ ทำให้รมณีเกลียดรินอย่างเข้าไส้ที่เหมือนจะเป็นตัวขัดลาภของตน แต่ด้วยความเชี่ยวชาญในการตีสองหน้า และแสร้งทำตัวเป็นคนดีของรมณี เธอแกล้งโกหก อ้างเหตุผลว่าเธอป่วยเป็นโรคร้าย โดยมีศักดิ์ชัย ช่วยร่วมในการหลอกลวงครั้งนี้ ศักดิ์ชัยโกหกนลว่ารมณีตรวจพบว่ามีเนื้องอกที่อาจเป็นมะเร็ง จึงหนีงานวิวาห์ไป เพราะไม่อยากทำให้นลเสียใจ แต่พอเข้ารับการรักษาจนหาย จึงกลับมาหานลอีกครั้ง ได้ฟังเพียงแค่นี้ทั้งนล กนกวรรณ หรือแม้แต่คุณยายชื่นก็ให้การยอมรับรมณีเป็นอย่างดี ทิ้งให้รินต้องทนกล้ำกลืน ความรู้สึกเหมือนคนอกหักที่เสียความรักไป มีเพียงนิยาคนเดียวที่พอจะรับรู้ความรู้สึกของรินตรงจุดนี้ แต่รินก็แสร้งทำปากแข็งว่าไม่เป็นไร ไม่บอกใครว่าตนเจ็บปวดแค่ไหน

วันเกิดคุณยายชื่น ทุกคนในบ้านพากันไปที่รีสอร์ตสวยริมทะเล โดยมีดนุตามไปด้วย ไข่ตุ๋นก็ติดสอยห้อยตามไป แต่พอได้เล่นกับรมณีที่แอบตวาดใส่ และเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานรักเด็กเมื่ออยู่ต่อหน้านล ทำให้ไข่ตุ๋นไม่ชอบหน้ารมณี ขณะที่กำลังจะทานข้าวกลางวันกันริมชายหาด นลใช้ให้รินไปตามรมณี รินไปตามที่ห้องแต่ไม่เจอจึงเดินหารมณีแล้วเจอรมณีแอบคุยกับศักดิ์ชัยซึ่ง ขับรถตามมาเพื่อเค้นรมณีให้หาทางหลอกเอาเงินนลขึ้นมาก่อนซักห้าแสน เพราะเพิ่งโดนคนทวงหนี้ ตบสั่งสอน และขู่หมายหัวไว้ ศักดิ์ชัยจึงรับปากสุ่มๆ ไปว่าวันนี้จะหาเงินมาให้ก้อนหนึ่งก่อน รินได้ยินเรื่องราวแล้วรู้สึกเจ็บแทนนลจึงรีบวางแผนให้นลมาเห็นทุกอย่างด้วย ตาตัวเอง รมณีไหวตัวทัน ซ้อนแผนให้นลไปเห็นรินกับดนุแอบพบกันสองต่อสองแทน นลเมินหน้าหนีภาพที่เห็นและชิงชังตัวเองที่ตาต่ำคิดอะไรกับคนใช้อย่างริน

รินต้องทนฝืนใจ คอยรับใช้รมณีกับนลที่เล่นน้ำทะเลหยอกล้อหวานชื่นกันอยู่ ดนุพยายามเข้าใกล้ริน เขารับรู้ว่ารินแปลกๆ ไป ไม่รักเขาเหมือนเดิม จึงพยายามหาโอกาสคอยเอาใจใกล้ชิด แต่ก็ตกอยู่ในสายตาของนล นลก็แปลกใจที่ตัวเองมีอารมณ์หึงหวงเล็กๆ เกิดขึ้นมา จนมีเรื่องราวทะเลาะกับดนุ เพราะนลด่าริน หาว่ารินเป็นสาวใช้ที่หวังเอาตัวเข้าแลก เพื่อยกระดับตัวเอง ดนุทนไม่ไหวก็เกิดซัดกันคนละหมัดเพราะรู้ดีว่ารินไม่ได้เป็นอย่างที่นลพูด หนำซ้ำรินไม่ได้สนใจเค้าแล้วต่างหาก นิยาเข้ามาสงบศึกไว้ได้ทัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของคุณยายชื่นตลอดเวลา คุณยายชื่นอ่านเกมส์ออกอย่างง่ายดายว่าหลานชายท่านเกิดตกหลุมรักรินสาวใช้ ไฮเทคเข้าแล้ว

เวลาเย็น ทุกคนกำลังวุ่นวายกับการตระเตรียมบาร์บีคิวปาร์ตี้ สำหรับวันเกิดคุณยายชื่น นลฝากให้รมณีดูแลไข่ตุ๋น แต่รมณีไม่ได้ใส่ใจ ปล่อยให้ไข่ตุ๋นเอาห่วงยางเป่าลมไปเล่นน้ำทะเลบริเวณที่ลึก เมื่อรินมาถามหา รมณีบอกว่าเล่นห่วงยางอยู่ในทะเล แต่เมื่อมองไป เหลือแต่เพียงห่วงยางลอยอยู่ รินรีบกระโจนว่ายน้ำไปช่วย นลวิ่งมา รมณีรีบสวมรอย ลงน้ำไปอุ้มไข่ตุ๋นขึ้นมา พร้อมดุด่าริน ว่าพาไข่ตุ๋นไปเล่นที่ลึก จนเด็กจมน้ำเกือบตาย รินที่เหนื่อยแทบขาดใจ กลับโดนนลด่าเสียๆ หายๆ หาว่าไม่รับผิดชอบถ้าไม่ได้รมณี เด็กคงตายไปแล้ว รินพยายามจะอธิบายก็ยิ่งเจอด่า จนเธอฉุนเดินออกมา

ปาร์ตี้ฉลองวันเกิดริมหาดคืนนั้น รมณีฉวยโอกาสคิดรวบรัด ด้วยการหลอกชนแก้วเหล้ากับนล โดยแก้วตนแอบเทน้ำชาเขียวแทน พอนลเมาไม่ได้สติ ก็จัดฉากให้นลนอนเปลือยกายอยู่กับตน จนเช้ามา ก็จ้างพนักงานรีสอร์ตให้ตามคุณกนกวรรณมา กนกวรรณมาถึงก็กรี๊ดลั่นหาด รินและทุกคนตามมาดู ก็ได้เห็นภาพที่รมณีเปลือยอยู่ใต้ผ้าห่มกับนล รมณีแกล้งร้องไห้ ให้ทางผู้ใหญ่ดำเนินการเรื่องแต่งงานซะ กนกวรรณรับปากจะจัดการให้

รินเสียใจ อยากจะหนีหน้า ไม่อยากรับจ้างทำภารกิจให้คุณยายชื่นอีกแล้ว ขากลับจากรีสอร์ตจึงแวะไปหาเจตน์และชุติมาผู้เป็นพ่อและแม่ซึ่งเปิดร้านซัก แห้งอยู่จังหวัดนั้น แต่เมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่ยังย่ำแย่อยู่เช่นเดิมถึงกิจการซักแห้งพอจะ กระเตื้องดีขึ้นบ้าง แต่บ้านที่จำนองใช้หนี้ก็ใกล้จะโดนยึดเต็มที รินจึงต้องกลับมาทำหน้าที่สาวใช้ไฮเทคต่อไป

ที่กรุงเทพฯ ดนุพยายามมาออดอ้อน ง้องอน ขอร้องรินให้โอกาสเขาบ้าง รินกำลังเสียใจ จึงให้เวลาสนิทสนมกับดนุอีกครั้ง แต่ก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกในใจว่า กระทั่งอยู่ใกล้ชิดดนุ แต่ใจของเธอก็ยังคิดถึงแต่นล คนเดียวเท่านั้น นลเองก็เช่นกัน กระทั่งอยู่อิงแอบเคียงข้างรมณี เขาก็ยังรู้สึกคิดถึงรินอยู่บ่อยๆ จนรมณีเริ่มรู้สึกว่านลพูดถึงรินด้วยสายตาชื่นชม และชอบพอในตัวริน

คืนนั้น ดนุทนไม่ไหว ต้องจับเข่าคุยกับรินว่าคิดยังไงกับตนกันแน่ รินยอมรับว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อดนุได้เปลี่ยนไปเป็นเพียงแค่เพื่อน แล้ว ดนุเสียใจมาก แต่ก็ได้นิยามาคอยดูแล จนทำให้ดนุเริ่มมองนิยาในอีกมุมหนึ่ง

รมณีเริ่มออกลาย วางแผนให้นลเห็นว่าเธอต้องใช้เงินก้อนหนึ่งเพื่อไปหาหมอเรื่องโรคร้ายที่เคย โกหกทุกคน นลแอบเซ็นเช็คให้โดยไม่ให้รมณีรู้ รมณีพอได้รับเงินก็ตีหน้าเศร้าเล่นบทนางเอก ขอคืนเช็คให้นล จังหวะนั้น โทรศัพท์มือถือของรมณีดังขึ้น นลเห็นชื่อศักดิ์ชัยและรูปใบหน้าของเพื่อนซี้ตนบนหน้าจอมือถือรมณี รมณีแสร้งทำเป็นกดรับคุยแล้ววางหู บ่นว่าพวกขายประกันโทรมา น่าเบื่อจริงๆ นลรู้ว่ารมณีโกหก แต่ก็เก็บไว้ในใจ เพราะอยากจะรู้ให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

นลเรียกใช้นายเป็ดให้คอยขับรถสะกดรอยตามรมณีไป เพราะรมณีพอได้เช็ค ก็ร้อนรนจะออกจากบ้านอย่างน่าสงสัย นลสะกดรอยตามไปจนได้พบความจริง ว่ารมณีเอาเช็คมาให้ศักดิ์ชัย และจากการแอบฟังบทสนทนาของทั้งคู่ ก็ทำให้รู้ว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน นลบันดาลโทสะ พุ่งเข้าไป ชกต่อยศักดิ์ชัยด้วยความแค้นที่สะสมมานาน ศักดิ์ชัยสู้ไม่ได้เป็นฝ่ายรับหมัดของนลอยู่ข้างเดียว แต่นลก็ต้องช็อค เมื่อรมณียกปืนมาจ่อตน พร้อมเปิดใจสารภาพว่าตนรักศักดิ์ชัยมาตั้งแต่เราสามคนยังเป็นกลุ่มเพื่อนใน มหาวิทยาลัย ศักดิ์ชัยแย่งปืนมา รมณีไม่รู้จะทำยังไงต่อดี ศักดิ์ชัยขอสวมรอยจับตัวนลไว้เรียกค่าไถ่ซะ โดยโทรไปที่บ้านนล คุณยายชื่นถึงกับเป็นลม กนกวรรณ ริน ป้าบัว และอ่อน วิ่งวุ่นกัน

นายเป็ดกลับมาถึง เล่าให้รินทราบเรื่อง รินขอร้องให้เป็ดพาเธอไป รินเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วย นลออกมา รอจนถึงจังหวะที่ศักดิ์ชัย กับรมณีเผลอ รินก็ช่วยแก้มัด พานลออกมาได้ กำลังจะขึ้นรถหนี รินก็โดนศักดิ์ชัยยิงเข้าที่ท้อง ศักดิ์ชัยจะยิงซ้ำ นลก็พุ่งเข้าชาร์จ ขณะกำลังโรมรันพันตู ตำรวจ (ซึ่งรินมอบหมายให้เป็ดโทรแจ้ง) ก็มาถึง และยิงสวนศักดิ์ชัยไปจนศักดิ์ชัยล้มทั้งยืน รมณีเองก็ยกมือยอมแพ้ให้ตำรวจจับตัวไปแต่โดยดี

และเมื่อรินต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวกระสุนออกจากบริเวณช่องท้อง เรืองยศ คุณเจตน์ คุณชุติมา ต่างมากันพร้อมหน้าด้วยความเป็นห่วง ทำให้ความลับที่ปิดมานานถูกเปิดเผยออกมา นลที่กำลังจะกลับมารู้สึกดีกับรินก็โกรธที่รินเล่นบทสาวใช้ โกหกหลอกลวง และตบตานลมาโดยตลอด แม้นิยาจะยืนยันว่ารินรักนลด้วยใจจริงๆ นลก็สวนว่า รินทำไปก็เพื่อเงินค่าจ้างจากคุณยายชื่นต่างหาก

คุณยายชื่นจ่ายเงินให้ริน และจะเพิ่มโบนัสให้ แต่รินไม่รับขอรับเพียงค่าจ้างที่พอเพียงจะปลดจำนองบ้านของพ่อแม่ตน และเงินที่จะช่วยปลดหนี้ให้เรืองยศที่โดนโกงไป

นลเองก็ไม่ได้มีความสุข เพราะลึกๆ เขารู้ตัวดีว่ารักรินแค่ไหน และเมื่อได้รับรู้จากนายเป็ด ว่ารินกล้าหาญและเสี่ยงชีวิตเพื่อนลอย่างไร นลจึงเลิกฝืนใจตัวเองให้จงเกลียดจงชังรินอีกต่อไป โดยเฉพาะมีคุณยายชื่นที่เชียร์รินอย่างออกนอกหน้า

ในขณะที่เรืองยศเริ่มสานต่อความสัมพันธ์กับกิ่งกานต์ซึ่งเป็นลูกค้าคู่กัด ของตน นิยากับดนุก็เริ่มควงแขนกันอย่างเปิดเผย อาจารย์คงจะกะลิ้มกะเลี่ยกนกวรรณ แต่กลับได้ฝ่ามือมาฉาดหนึ่งแทน นลบอกรักริน และยกสถานะจากสาวใช้ไฮเทค มาเป็นคู่รักคู่ชีวิตของเขาคนเดียว ณ วันนี้…และตลอดไป

รักในม่านเมฆ 2553

เรื่องย่อ : รักในม่านเมฆ (2553/2010) น้องทราย ลูกสาวคนเดียวของ นายวิน ศิรวิทย์ เศรษฐีเจ้าของสวนผลไม้ เธอหน้าตาสะสวยแต่พิการเดินไม่ได้แต่กำเนิด ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนักนอกจาก ภาดา อภิรักษ์ภูบาล ลูกชายของ คุณหญิงอัมพร และท่านนายพลภัทร เพื่อนรักนายวิน น้องทรายรัก และบูชาภาดาเสมือนวีรบุรุษในใจ แม้ภาดาจะไปเรียนต่อต่างประเทศนับ 10 ปี เธอก็ยังไม่ลืมและเฝ้าคอยพี่ชายคนนี้อยู่ตลอดเวลา แม้มีทหารหนุ่ม เรืออากาศโท สมิต กาญจนรัตน์ มาหลงรักเธอแต่เธอให้ได้เพียงความเป็นเพื่อน และพี่น้องเท่านั้น นายวินเห็นลูกสาวเธอรอคอยเพียงภาดา จึงนึกถึงข้อตกลงที่เคยทำไว้กับนายพลภัทรเรื่องการที่จะให้ทั้ง2คนแต่งงาน กันเพื่อหักหนี้สิน 80 ล้าน คุณหญิงอัมพรร้อนใจมากเนื่องจากกลัวถูกยึดทรัพย์สินและบ้านวัชรเวชน์ที่แสน ยิ่งใหญ่ จึงรีบเรียกตัวภาดากลับมาทันที แต่ภาดาได้แต่งงานไปแล้วกับ โฉมพิไล จึงเครียดหนักนายวินอ้างว่าตนป่วยและจะอยู่ได้อีกเพียง 1 ปี ภาดาสงสารน้องทรายมาก คุณหญิงเห็นว่านายวินจะอยู่ได้เพียงปีเดียว จึงขอร้องโฉมพิไลให้หย่ากับภาดา 1 ปีเท่านั้น ไม่งั้นภาดาอาจจะเหลือแต่ตัว ไร้ซึ่งทรัพย์สินเงินทอง โฉมพิไลจึงยอมตกลง เมื่อภาดาและน้องทรายแต่งงานกัน ภาดาดูแลเธอดีมาก ไม่แตะต้องเธอเลย และเมื่อเธอได้พบใครสักคนที่ดี เขาก็จะหย่าให้ น้องทรายเจ็บปวดมากซ้ำยังต้องทนการเหยียดหยามจากคุณหญิง การกลั่นแกล้งของโฉมพิไล แต่เธอก็พยายามอดทนมาโดยตลอด ภาดารับรู้ได้ถึงความรัก ความห่วงใยของน้องทราย เขาเริ่มหวั่นไหว และมีใจให้น้องทราย โฉมพิไลรู้จึงส่ง เฉลิมชัย พี่ชายของเธอมาจีบน้องทรายเพื่อหวังทำให้เสียคน ภาดาหึงจนขาดสติ ปลุกปล้ำน้องทราย น้องทรายโกรธจึงหนีออกมานอกบ้านทำให้ทุกคนได้รู้ว่าน้องทรายไม่ได้พิการ เหมือนก่อน นายวินส่งเธอไปรักษาที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 13 จนหาย คุณหญิงโกรธมากจึงให้ภาดาหย่า แต่ภาดาไม่ยอมอ้างว่าต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนายวิน แต่ความจริงเพราะเขาไม่อยากเสียน้องทรายไป ภาดามัวแต่สนใจน้องทราย ทำให้โฉมพิไลหันไปคบ บุญเทิด สามีเก่า จนมีอะไรเกินเลยกันอีกครั้ง และถูกถ่ายวีดิโอไว้เป็นหลักฐาน คุณหญิงคอยเตือนภาดาอยู่ เสมอว่าภาดามีโฉมพิไลแล้ว และโฉมพิไลก็รักภาดามาก ไม่ควรคิดอะไรเกินเลยกับน้องทราย ภาดาจึงจำต้องตัดใจและกลับไปหาโฉมพิไลดังเดิม น้องทรายมาทราบทีหลังว่าภาดาแต่งงานกับโฉมพิไลแล้ว แต่ต้องมาหย่ากันเพราะเธอ น้องทรายเสียใจมากจึงขอหย่า ภาดาตกลงหย่าให้แต่โดยดี หลังหย่ากัน น้องทรายกลับไปอยู่บ้านสวน และตกลงจะแต่งงานกับสมิตเพื่อลืมรักครั้งนี้ ภาดารู้เรื่องที่โฉมพิไลมีความสัมพันธ์กับบุญเทิด จึงบอกเลิกโฉมพิไล โฉมพิไลโกรธแค้นมาก โทษว่าเป็นความผิดของน้องทรายจึงสั่งให้เฉลิมชัยจัดการฆ่าน้องทราย ภาดารู้จึงรีบไปเตือนน้องทราย ขณะที่มือปืนกำลังดักยิงน้องทราย ภาดาจึงเข้ามารับกระสุนแทน น้องทรายเป็นห่วงภาดามาก คอยเฝ้าดูอาการภาดาด้วยความรัก ทำให้สมิตยอมแพ้ว่าเขาไม่มีทางสู้ภาดาได้ จึงตัดใจและไปใช้ชีวิตเมืองนอก ภาดาบอกรักน้องทรายและขอเธอแต่งงานอีกครั้ง ส่วนคุณหญิงรับรู้ถึงความดีของน้องทรายและรู้สึกผิดเรื่องโฉมพิไลซึ่งเกือบ จะทำให้ลูกชายของเธอต้องตาย จึงยอมให้ภาดาและน้องทรายแต่งงานกันโดยดี นายวินยอมรับเรื่องหนี้สิน 80 ล้านว่าไม่เป็นความจริง เขาตั้งใจจะยกให้ภาดาหากภาดารักลูกสาวของเขาจริงโดยไม่รังเกียจว่าน้องทราย พิการ ภาดากับน้องทรายแต่งงานและมีลูกด้วยกัน 1 คน และดำเนินชีวิตครอบครัวด้วยความอบอุ่นตั้งแต่นั้นมา ติดตามชมและเอาใจ ช่วยน้องทรายให้ชนะอุปสรรค และชนะใจของคนที่เธอรักได้ ละคร รักในม่านเมฆ

โรบอทยอดรัก 2553

เรื่องย่อ : โรบอทยอดรัก (2553/2010) เมื่อหุ่นยนต์ที่เป็นผลงานชิ้นโบแดงสัญชาติเกาหลีดันเครื่องรวนก่อนวันที่จะ มาเมืองไทยเพียงวันเดียว หนุ่มน้อยผู้เป็นรองประธานบริษัทจึงต้องปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์ แต่ปัญหาไม่จบแค่นั้นเพราะพ่อหุ่นจำแลงของเราต้องมาอยู่กับครูสาวที่เกลียด เทคโนโลยียิ่งกว่าอะไร เรื่องวุ่นๆ ก็เลยเกิดเมื่อหัวใจของเธอดันไปรักกับหุ่นยนต์จำแลงเข้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

นิจชิตา (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ...ครูสาว จากโรงเรียนหัวหินวิทยาผู้มีอุดมการณ์และรักความเป็นไทยอย่างแรงกล้า จนได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยมาที่เกาหลี เพื่อดูงานและเทคโนโลยีจากการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท LE ผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเกาหลี ณ.ขณะนี้ นิจชิตาไม่เห็นด้วยเพราะเธอรู้สึกว่ามันคือการรุกคืบทางวัฒนธรรม และเป็นวิธีการล่าอาณานิคมแบบใหม่ของผู้ที่คิดว่าเจริญกว่าเท่านั้นเอง แม้ว่าเธอจะพยายามคัดค้านเท่าไหร่แต่สำหรับตำแหน่งครูเล็กๆ จากโรงเรียนต่างจังหวัดคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากแกล้งไม่สบายขอนอนเฉยๆ อยู่ที่โรงแรมเล็กๆ ในกรุงโซลแทนที่จะออกไปเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโซลอย่างเช่นครูท่าน อื่นที่มาจากเมืองไทยด้วยเหมือนกัน

แต่ก็เกิดเรื่องจนได้เมื่อนิจชิตาเกิดหิวเลยคิดจะต้มบะหมี่ โดยไม่รู้เลยว่าควันที่เกิดจากการต้มน้ำดันไปทำให้สัญญาณเตือนอัคคีภัยภายใน ห้องดังขึ้น ทำให้ทั้งโรงแรมต้องตกอยู่ในสภาพเมืองบาดาลเพราะสายน้ำที่พวยพุ่งออกจาก สปริงเกอร์ นิจชิตารีบชิ่งออกจากโรงแรมทันทีเพราะกลัวว่าต้องติดคุกในข้อหาวางเพลิง แต่ระหว่างที่นิชจิตาวิ่งออกมาทางด้านหลังของโรงแรมเธอก็ได้พบกับชายหญิงชาว เกาหลีคู่หนึ่งกำลังขนกระเป๋าเสื้อผ้าใบเขื่องขึ้นท้ายรถ แต่ทันใดนั้นกระเป๋าเจ้ากรรมดันหลุดตกกระแทกกับพื้นจนเผยให้เห็นว่าสิ่งที่ อยู่ภายในกระเป๋าเสื้อผ้านั่นก็คือ หนังของมนุษย์ !!!

นิจชิตาถึงกับหน้าซีดเผือดนี่เธอต้องมาเจอกับเหตุการณ์วุ่นวายอะไรอย่างนี้ ทำไมเธอต้องมาเจอกับไอ้ฆาตกรหั่นศพในเกาหลีด้วย นิจชิตาพยายามค่อยๆ ย่องออกมาอย่างเงียบกริบแต่ทันใดนั้นชายหนุ่มก็หันมาเห็นนิจชิตาเข้าให้ เร็วเท่าความคิดนิจชิตารีบวิ่งหนีทันทีพร้อมร้องให้คนช่วยอย่างไม่คิดชีวิต การไล่ล่าระหว่างเธอกับเจ้าฆาตกรผัวเมียโรคจิต (ที่เธอคิดไปเอง) จึงเริ่มขึ้น แต่โชคยังดีที่ตำรวจและนักดับเพลิงที่มาดับ เพลิงเพราะเหตุไฟไหม้โรงแรมช่วยไว้ได้ทัน นิจชิตาจึงรอดพ้นจากเจ้าฆาตกรโรคจิตได้อย่างหวุดหวิด นิจชิตารีบบอกกับตำรวจว่าในกระเป๋าเสื้อผ้าใบนั้นมีหนังสดๆ ของมนุษย์อยู่ และนั้นทำให้ชายต้องสงสัยจึงถูกจับทันที

นิจชิตากำลังเล่าวีรกรรมให้กับพวกครูๆ ที่มาจากเมืองไทยด้วยกันอย่างภาคภูมิใจ โดยไม่รู้เลยว่าเรื่องวุ่นๆ กำลังเกิดขึ้นเพราะชายต้องสงสัยที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตนั่น แท้ที่จริงเขาคือ คิมมินโฮ (คณิน บัดติยา) ...ลูกชายหัว แก้วหัวแหวน ของ คิมยองมิน (กฤตย์ อัธเสรี) ...ประธานบริษัท LE ซึ่งเป็นบริษัทขายเครื่องไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเกาหลีนั่นเอง คิมมินโฮมีอีกชื่อว่าคิมหันต์ เพราะแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นลูกครึ่งไทย – เกาหลี นั่นเอง และหนังมนุษย์ที่อยู่ในกระเป๋านั่นก็คือ หนังเทียมที่หล่อขึ้นจากสารเคมีพิเศษที่ให้ความใกล้เคียงกับหนังของมนุษย์ มากที่สุด คิมมินโฮต้องการนำหนังมนุษย์นั่นมาใส่ให้กับ ME 1 (เอ็ม-อี วัน) ...หุ่นยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้เวลาในการค้นคว้าและประดิษฐ์ร่วม สิบปี คิมมินโฮเจ็บใจที่อยู่ๆ ตัวเองก็กลายเป็นฆาตกรโรคจิตไปซะงั้น ดีที่ ยุ นอา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ...เลขาสาวสวยประจำตัวมาประกันตัวและบอกความจริงให้กับทางตำรวจฟัง แต่ยังไง๊ยังไงคิมมินโฮก็หมายแค้นนิจชิตาเอาไว้แล้วว่าชาตินี้อย่าได้เจอกับ ผู้หญิงสติไม่ดีคนนี้อีกเลย

แต่เขาว่าเกลียดอะไรก็เจออย่างนั้นเมื่อวันรุ่งขึ้นที่นิจชิตาต้องไปงาน สัมมนาที่บริษัท LE เพื่อไปดูหุ่นยนต์ที่ทางบริษัทนี้คุยนักคุยหนาว่าเป็นเทคโนโลยีที่โลกต้อง ตะลึง แต่แล้วนิจชิตาก็ต้องตะลึงจริงๆ เมื่อพบกับคิมมินโฮที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตภายในลิฟต์สองต่อสอง นิจชิตาต่อสู้อย่างสุดชีวิตโดยไม่รู้เลยว่าที่เธอกำลังเตะต่อยอยู่นั่นคือ เจ้าหุ่นต้นแบบ ME 1 ที่ถอดแบบทุกอย่างมาจากคิมมินโฮนั่นเอง แต่คนที่ต้องตะลึงที่สุดเห็นจะเป็นคิมมินโฮ เพราะทันทีที่เขาเห็นลิฟต์เปิดออกสิ่งที่เขาเห็นก็คือนิจชิตากำลังทำลายสิ่ง ประดิษฐ์ที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา นิจชิตาเองก็ตกใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าชายที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตนั้นแท้ จริงแล้วเป็นรองประธานบริษัทนั่นเอง นิจชิตากำลังจะขอโทษในสิ่งที่เธอทำ แต่คิมมินโฮที่กำลังโมโหกลับดูถูกเธอว่าเป็นพวกป่าเถื่อนไร้วัฒนธรรม ไม่รู้จักเทคโนโลยี นิจชิตากลับประเทศไทยพร้อมกับประกาศเลิกกินกิมจิ และทุกอย่างที่เป็นของเกาหลีตลอดชีวิต

แม้ว่านิจชิตาจะกลับประเทศไทยไปแล้ว แต่ปัญหาไม่ได้กลับไปกับเธอด้วย เพราะสิ่งที่เธอทิ้งไว้ก็คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเจ้าME 1จนต้องใช้เวลาในการแก้ไขอีกหลายเดือน แต่จะทำยังไงในเมื่อคิมมินโฮ มีสัญญาที่จะต้องมอบเจ้าหุ่น ME 1 ให้กับรัฐบาลไทยตามโครงการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและสารสนเทศภายในอาทิตย์นี้ คิมมินโฮผู้ถือคติว่าเสียเงินไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้จึงต้องคิดหาวิธีแก้ไข สถานการณ์นี้ให้ได้!

ทางด้านนิจชิตาก็กำลังระบายอารมณ์ใส่ ภูชิต (สุพจน์ จันทร์เจริญ) ...ปลัด หนุ่มอนาคตไกล ที่หมายปองนิจชิตาไว้ตั้งแต่เห็นเธอเพียงครั้งแรก และการที่นิจชิตาได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปเกาหลีก็เพราะภูชิตมีส่วนในการ ผลักดันนั่นเอง โดยมี ลุงปุ่น (กล้วย เชิญยิ้ม)...พ่อผู้ บังเกิดเกล้าของนิจชิตาคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะลุงปุ่นมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นคนในเครื่องแบบตั้งแต่เด็ก แต่ในเมื่อชีวิตมันเลือกไม่ได้ งั้นขอมีลูกเขยเป็นคนในเครื่องแบบแทนก็ยังดี ภูชิตชักชวนนิจชิตาไปทำเนียบเพื่อพบกับท่านนายกรัฐมนตรี แต่นิจชิตากลับไม่สนใจเพราะเวลาที่เสียไปเธอเอาไปสอนหนังสือให้กับเด็กๆ ยังเป็นประโยชน์กว่า

วันรุ่งขึ้นนิจชิตาไปโรงเรียนตามปกติ แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบตกมอเตอร์ไซค์เมื่อพบว่าคิมมินโฮมาปรากฏกายที่ โรงเรียนเธอได้อย่างไร ภูชิตรีบเข้ามาห้ามแล้วบอกว่าคิมมินโฮที่นิจชิตาเห็นนั่นก็คือ หุ่นต้นแบบ ME 1 นั่นเอง และที่เขาชวนนิจชิตาไปพบท่านนายกก็เพราะมีพิธีมอบหุ่นต้นแบบให้กับทาง โรงเรียนของเรามาดูแล นิจชิตาค้านหัวชนฝาที่จะเป็นคนดูแลหุ่นสัญชาติเกาหลีนี้เพราะสิ่งที่เกิด ขึ้นที่เกาหลีทำให้นิจชิตาไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า แม้จะรู้ว่าเป็นแค่หุ่นยนต์ก็ตาม แต่ภูชิตกลับบอกว่านิจชิตาปฏิเสธไม่ได้เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศเลยทีเดียว แล้วอีกอย่างเด็กๆ ก็เป็นปลื้มทันทีเมื่อรู้ว่าจะมีหุ่นยนต์เสมือนคนมาช่วยสอน แต่คนที่ไม่ปลื้มและอยากจะกลับเกาหลีทันทีที่เห็นหน้านิจชิ ตาก็คือคิมมินโฮนั่นเอง เพราะแท้ที่จริงแล้วเจ้าหุ่น ME 1 ที่ทุกคนเห็นอยู่นั่นก็คือ คิมมินโฮตัวจริงเสียงจริง !!! ที่ตกกระไดพลอยโจนปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์ของตัวเอง เพราะยุนอาเลขาสาวสุดสวยให้คำแนะนำว่าระหว่างที่หุ่นต้นแบบ ME 1 ส่งซ่อมนั่นคิมมินโฮต้องปลอมตัวมาเมืองไทยเพื่อรักษาชื่อเสียงของบริษัทเอา ไว้ ตอนแรกที่คิมมินโฮรับปากก็เพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องมาอยู่ในโรงเรียนของนิจ ชิตา แต่เมื่อเห็นเธอเข้าคิมมินโฮก็รู้ได้ทันทีว่านิจชิตาจะต้องหาทางแกล้งเขา อย่างแน่นอน

แล้วมันก็เป็นอย่างที่คิมมินโฮกลัว เพราะนิจชิตานึกออกว่านี่เป็นทางเดียวที่เธอจะได้แก้แค้นคิมมินโฮให้รู้ว่า ที่จริงแล้วคนไทยก็มีดีเหมือนกัน ยุนอาเองก็กลัวว่านิจชิตาจะแกล้งคิมมินโฮจนความลับแตกจึงได้อ้างว่าเป็น ศาสตราจารย์ที่ตามมาดูแลที่เมืองไทยด้วย โดยดัดแปลงรถบ้านให้เป็นศูนย์บัญชาการเพื่อคอยช่วยเหลือคุณคิมอยู่ห่างๆ ก่อนที่เธอจะบอกเงื่อนไขกับนิจชิตาว่าหุ่น ME 1 ต้องส่งกลับมาที่ศูนย์เคลื่อนที่ทุกอาทิตย์เพื่อเช็คความผิดปกติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นเมื่อคิมมินโฮต้องเล่นเป็นหุ่นยนต์ที่ทำงานใกล้เคียงกับมนุษย์ ที่สุด โห...ทำไมมันถึงได้ซับซ้อนเช่นนี้ แต่คนที่ดีใจไม่ใช่เฉพาะเด็กๆ ยังมี ชุมพล (นนทพันธ์ ใจกันหา)...อาจารย์พละบ้าพลัง เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันกับนิจชิตา เพราะทันทีที่ชุมพลเห็นยุนอาหรือตอนนี้ต้องเรียกว่าศาสตราจารย์ยุนอา ชุมพลก็ตกอยู่ในห้องภวังค์แห่งรักทันที แต่ก็ติดตรงที่ภาษาและเชื้อชาติที่เป็นอุปสรรครัก

ชีวิตในร่างหุ่นยนต์ของคิมมินโฮจึงเริ่มต้นขึ้น โดยเริ่มจากนิจชิตาเปลี่ยนชื่อจากคิมมินโฮให้เป็นนายคอห่าน คิมมินโฮฉุนกึกทันทีคิดว่าเขาไม่รู้ภาษาไทยหรือไง นิจชิตาถึงกับงงที่รู้ว่านายคอห่านพูดภาษาไทยได้ คิมมินโฮจึงรีบเฉไปเพราะกลัวความลับแตกว่า เขามีชื่อภาษาไทยว่า คิมหันต์ แล้วที่เขาพูดภาษาไทยได้ก็เพราะถูกใส่โปรแกรมภาษาไทยมาให้ พ่อหุ่นจำแลงนามคิมหันต์ของเราถูกนิจชิตาแกล้งต่างๆ นานา ไม่ว่าจะใช้ให้เขาเดินข้ามตำบลราวกับคนส่งเอกสาร หรือจะให้เขาทำงานภายในโรงเรียนแทนภารโรงทุกคน แม้คิมมินโฮจะไม่พอใจแต่เขาก็ต้องอดทนผ่านสถานการณ์นี้ให้ได้ คิมมินโฮหรือที่นิจชิตาตั้งชื่อให้ใหม่ว่านายคอห่านนั่นรู้สึกว่ากว่าชีวิต จะผ่านไปแต่ละวันช่างยาวนานเหลือเกิน ทุกวันเขาลุ้นให้ถึงเวลาเลิกเรียนให้เร็วที่สุดเพราะนิจชิตาจะปล่อยเขาไว้ ที่โรงเรียน และนั่นก็คือเวลาที่เขาจะได้เป็นอิสระซะที แต่แล้วก็เริ่มมีเสียงเล่าขานจากบรรดาเด็กๆว่าที่โรงเรียนแห่งนี้มักจะมี วิญญาณออกมาตอนกลางคืน นิจชิตาไม่เชื่อเรื่องอย่างนี้เด็ดขาด จึงได้ชักชวนชุมพลเพื่อมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงจนกระทั่งทั้งสองได้รู้ความจริง ว่า เงาที่เด็กๆ เห็นเมื่อยามค่ำคืนนั่นก็คือคิมมินโฮที่แอบออกมากินข้าวที่ยุนอาเอามาส่งที่ โรงเรียนให้ทุกคืนนั่นเอง เอาละซิคิมมินโฮจะแก้ตัวจะสถานการณ์นี้ยังไงในเมื่อเป็นหุ่นยนต์แล้วจะกิน ข้าวได้ยังไง

โชคยังดีที่ยุนอาช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ทันโดยเธออ้างว่าหุ่นยนต์ ME 1 คือหุ่นที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุดแม้แต่อวัยวะภายในก็แทบจะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นหุ่น ME 1 จึงต้องการพลังงานเหมือนคนทั่วไป คิมหันต์กับยุนอาถึงกับปาดเหงื่อที่เอาตัวรอดได้ทัน แต่ยังไงยุนอาก็คิดว่าขืนปล่อยให้เจ้านายของเธอต้องตากยุงในตอนกลางคืนอยู่ อย่างนี้ คิมหันต์อาจจะเป็นไข้เลือดออกตายเสียก่อน คิมหันต์กับยุนอาจึงช่วยกันคิดแผนที่จะทำให้คิมหันต์ได้ไปนอนบนเตียงนุ่มๆ ที่บ้านของนิจชิตาได้อย่างแนบเนียน แล้วแผนนั่นก็คือ...!

การจ้างคนไปปล้นบ้านของนิจชิตาเพื่อให้นิจชิตารู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สิน เพื่อที่ยุนอาจะได้บอกกับนิจชิตาว่าคิมหันต์มีระบบการป้องกันตัวจะได้นำ คิมหันต์กลับไปบ้านด้วย แต่เกิดผิดแผนเมื่อคิมหันต์ได้เจอกับผู้ร้ายตัวจริงที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะคิมหันต์เองก็เป็นนักกีฬาเทควันโดอยู่แล้ว ไอ้โจรจึงหมอบราบคาบด้วยฝีมือของคิมหันต์ทันที แต่คิมหันต์ก็ต้องอึ้งไปเมื่อนิจชิตากลับมาแล้วเปิดไฟจึงพบว่าผู้ชายที่ คิมหันต์คิดว่าเป็นโจรตัวจริง ที่แท้ก็คือปลัดภูชิตที่เข้าไปอยู่ในบ้านของนิจชิตาเพื่อต้องการเซอร์ไพรส์ เธอเนื่องในวันเกิดเธอนั่นเอง

ยุนอารีบแก้ตัวให้คิมหันต์ ว่าคิมหันต์มีระบบเซ็นเซอร์ที่รู้ว่ามีคนแอบอยู่ในบ้านของนิจชิตาจึงตามมา เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นก่อนที่ยุนอาจะบอกให้นิจชิตานำคิมหันต์ กลับมาที่บ้านเพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่ควรประมาท ลุงปุ่นหัวหมอพอรู้ว่าคิมหันต์เป็นหุ่นยนต์ก็เห็นด้วยทันที รวมถึงปลัดภูชิตที่จำต้องยอมเห็นด้วยอีกคนก็ดีครับ...เพราะถ้าได้หุ่นยนต์ ที่มีฝีมือทัดเทียมกับผมจะได้สบายใจ (ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายโดนอัดแท้ๆ) ตั้งแต่นั้นคิมหันต์จึงต้องเดินกลับบ้านพร้อมกับนิจชิตาเพื่อเป็นองครักษ์ ให้กับเธอที่บ้านด้วย

แต่ก็มีปัญหาขึ้นมาอีกเมื่อชาวบ้านละแวกบ้านของเธอโจษจันกันหนาหูว่านิจชิตา พาผู้ชายเข้าบ้าน แม้ว่าลุงปุ่นจะพยายามอธิบายให้ชาวบ้านฟังว่าไอ้คอห่านนั่นเป็นหุ่นยนต์ แต่จะมีใครเชื่อเล่าก็ในเมื่อหุ่นยนต์เหมือนคนจริงๆ ซะอย่างนั้น แล้วคนที่ไม่พอใจอีกคนก็คือ ภูชิตเพราะพูดกันอย่างนี้คนรักของเขาก็เสียหายหมดซิ แล้วไหนจะความแค้นส่วนตัวที่คิมหันต์เคยอัดภูชิตหมอบราบมาแล้ว ภูชิตจึงนึกแผนแก้เผ็ดไอ้หุ่นยนต์คอห่านขึ้นมาได้ว่าถ้าทุกคนไม่เชื่อเราก็ ให้นายคิมหันต์ของเราไปอยู่กับชาวบ้านคนละวัน ลุงปุ่นเห็นดีด้วยทันทีเพราะเขาจะได้คิดค่าเช่าจากการที่ชาวบ้านเอาคิมหันต์ ไปทำงาน

ตั้งแต่นั้นคิมหันต์ของเราก็กลายเป็นคนใช้ประจำหมู่บ้านไปโดยปริยาย คิมหันต์ทำทุกอย่างตั้งแต่ไถนาแทนควาย จับปลา ทำนา จนคิมหันต์ทนไม่ไหวจะหนีกลับเกาหลีให้ได้ แต่ยุนอาได้ยั้งสติของเจ้านายเธอเอาไว้ก่อนจะช่วยกันคิดว่าทำยังไงถึงจะให้ คิมหันต์ไม่ต้องทำงานพวกนั้นอีก แล้วทั้งคู่ก็นึกออกว่าที่ชาวบ้านทุกคนทำงานก็เพราะอยากมีรายได้มีเงินเพื่อ ใช้จ่าย ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องหาเงินให้พวกเขา

คิมหันต์จึงได้คลุกคิดค้นเครื่องประดิษฐ์ภายในรถตู้อเนกประสงค์ หรือที่เรียกว่าศูนย์บัญชาการของเขาเพื่อจะคิดเครื่องประมวลเลขเด็ดแจกจ่าย ชาวบ้าน แล้วก็ได้ผลเมื่อเลขเด็ดที่คิมหันต์ให้กับชาวบ้านถูกกันเกือบทุกคน จนสร้างความประหลาดใจให้กับนิจชิตาที่มาเห็นการฉลองใหญ่ภายในตำบลของเธอก่อน จะรู้ว่าที่ชาวบ้านฉลองกันอยู่เพราะถูกหวยที่คิมหันต์ใบ้ให้มา

นิจชิตาถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อเห็นหุ่นยนต์คิมหันต์แต่งตัวเป็นเจ้าพ่อนั่งใต้ต้นตะเคียนกำลังนั่งใบ้ หวยงวดต่อไปให้กับชาวบ้าน นิจชิตาถึงกับโมโหจนควันออกหูเข้าไปต่อว่าคิมหันต์ว่าการที่คิมหันต์ทำอย่าง นี้เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด นอกจากเป็นการผิดกฏหมายแล้วยังทำให้ชาวบ้านไม่รู้จักทำมาหากิน ถ้าเกิดวันนึงคิมหันต์ต้องกลับเกาหลีแล้วชาวบ้านจะทำยังไง ทุกคนไม่ต้องขวนขวายหาที่พึ่งงมงายอย่างนี้ไปจนตายหรือไง วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องคือการให้เกษตกรทำงานโดยไม่พึ่งกระดาษแผ่นบางๆ ที่เรียกว่าเงินต่างหาก

คิมหันต์ไม่เข้าใจในสิ่งที่นิจชิตาพูด จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อทุกวันนี้สิ่งที่ทุกคนต้องใช้ก็คือเงิน จนกระทั่งนิจชิตาได้พาคิมหันต์ลงพื้นที่ให้ความรู้กับชาวบ้านเรื่องเศรษฐกิจ พอเพียงกับการทำเกษตรยั้งยืนเสียใหม่ คิมหันต์ถึงกับอึ้งไปเพราะเข้าพึ่งเข้าใจในสิ่งที่นิจชิตาสอน และเริ่มมองนิจชิตาและคนไทยเสียใหม่

แม้ว่าคิมหันต์กับนิจชิตาจะเริ่มพูดจาดีๆ ต่อกัน แต่จากการที่คิมหันต์ทำให้ชาวบ้านทุกคนถูกหวย ทำให้ เสี่ยฉั่ว ...ผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่ไม่พอใจอย่างยิ่ง เพราะคิมหันต์ เกือบทำให้เขาล่มจมภายในวันเดียว เสี่ยฉั่วคิดว่าถ้าขืนปล่อยให้คิมหันต์อยู่ต่อไปก็เท่ากับขัดขวางการทำมาหา กินของเขา เสี่ยฉั่วจึงได้ใช้ให้มือปืนในซุ้มไปจัดการทำลายไอ้หุ่นกระป๋องนั่นทิ้งซะ เสียฉั่วรู้ว่าอาทิตย์หน้าที่โรงเรียนของนิจชิตาจะมีการพานักเรียนไปตั้ง แค้มป์ทัศนศึกษาที่ปราณบุรี เขาจึงโอกาสนั่นคิดจะทำลายคิมหันต์ทิ้งทะเลซะ แต่เพราะความไฮเทคต่างๆ ภายในรถศูนย์บัญชาการของยุนอาทำให้เธอแอบดักคลื่นโทรศัพท์ของเสี่ยฉั่วก่อน จะได้ยินแผนที่จะปองร้ายคิมหันต์ ยุนอารีบขอให้ชุมพลพาเธอไปที่ปราณบุรีอย่างเร่งด่วน เพื่อไปเตือนว่าตอนนี้ชีวิตของคิมหันต์กับนิจชิตากำลังตกอยู่ในอันตราย

แต่ก็ไม่ทันการเมื่อกลุ่มมือของเสี่ยฉั่วเข้ามาลอบทำร้ายคิมหันต์ คิมหันต์ใช้เทควันโด้ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติเกาหลีผสมกับแม่ไม้มวยไทย จัดการกับพวกมันก่อนจะรีบพานิจชิตาหนีออกทะเลไปทันที ทั้งสองไปติดเกาะด้วยกันแห่งหนึ่ง ค่ำคืนที่เปลี่ยวเหงา และลมทะเลที่หนาวเหน็บแต่นิจชิตากลับไม่รู้สึกหนาวเลยเมื่อเธอหลับไปไม่รู้ ตัวบนอกของคิมหันต์ ไม่รู้ว่าเพราะความเหนื่อยหรือว่าเธอคิดไปเองว่าอกของเจ้าหุ่นยนต์นี้ทำไม ถึงได้อุ่นใจอย่างประหลาด จนกระทั่งรุ่งเช้านิจชิตาสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกว่าคิมหันต์นั่นหนาวสั่นก่อน ที่เธอจะตกใจเมื่อรู้ว่าเจ้าหุ่นยนต์บาดเจ็บจากการไล่ล่าเมื่อคืน คิมหันต์ถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บ นิจชิตาแปลกใจเมื่อเห็นเลือดออกจากตัวของคิมหันต์ ทันใดนั้นยุนอากับชุมพลที่ออกตามหาทั้งสองกันข้ามคืนก็เข้ามาพบพอดี ยังดีที่ยุนอาแก้ตัวได้ทันว่าเป็นน้ำมันเครื่องที่ใช้หล่อลื่นภายใน คิมหันต์รอดจากคมกระสุนมาได้และในช่วงเวลาที่พักฟื้นทำให้เขาและนิจชิตา เริ่มรู้สึกแปลกๆ ต่อกันตั้งแต่คืนนั้นที่ทั้งสองอยู่กันตามลำพังที่เกาะร้าง นิจชิตาเองเริ่มรู้สึกว่าคิมหันต์ไม่ใช่หุ่นยนต์หรือว่านั่นคือความต้องการ ของเธอกันแน่

ปลัดภูชิตสั่งควานหาตัวคนที่ลอบทำร้ายคิมหันต์กับนิจชิตาให้ได้ จนกระทั่งเขาได้รู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของเสี่ยฉั่วนั่นเอง แต่แล้วกลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ภูชิตสังหรณ์ใจว่านิจชิตาอาจจะกำลังหลงรัก เจ้าหุ่นยนต์กระป๋องนั่นก็ได้ เพราะระยะหลังๆ นิจชิตาเริ่มมีอะไรที่แปลกๆ ออกไป และปลัดภูชิตจึงยอมไม่ได้ที่จะให้เรื่องบัดสีอย่างนี้เกิดขึ้น

ความลับไม่มีในโลก...เมื่อปลัดภูชิตได้ไปบังเอิญได้ยินที่ยุนอาคุยกับชุมพล ภายในรถบัญชาการว่าที่จริงแล้วคิมหันต์นั่นไม่ใช่หุ่นยนต์แต่เป็นรองประธาน บริษัทตัวจริงที่ปลอมตัวมาเป็นหุ่นยนต์ ปลัดภูชิตจึงต้องการกระชากหน้ากากไอ้เกาหลีคนนี้ออกมาจึงได้ร่วมมือกับเสี่ย ฉั่วเพื่อลักพาตัวนิจชิตา

คิมหันต์ตกใจเมื่อได้รู้ว่านิจชิตาถูกลักพาตัวไป เขารีบถอดสายน้ำเกลือทิ้งเพื่อไปช่วยเธอทันที โดยที่คิมหันต์ไม่รู้เลยว่าทั้งหมดเป็นแผนของปลัดภูชิตนั่นเอง นิจชิตาถูกพาขึ้นไปที่แก่งกระจานโดยที่นิจชิตาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่ จับเธอมาเป็นใคร จนกระทั่งคิมหันต์โผล่มาช่วย ปลัดภูชิตผู้อยู่ในเงามืดจึงได้ยื่นข้อเสนอเป็นเงินสิบหลักเพื่อแลกกับตัว ของนิจชิตา คิมหันต์หลงกลปลัดภูชิตและยอมรับว่าตัวเองมีเงินเพราะตัวเองเป็นรองประธาน บริษัท LE และพร้อมจะส่งเงินมาให้ แต่ขออย่างเดียวว่าอย่าทำอะไรนิจชิตาเลย นิจชิตาถึงกับอึ้งก่อนที่ปลัดภูชิตจะเผยตัวและบอกความจริงทั้งหมดที่เขาทำก็ เพื่อต้องการให้นิจชิตาตาสว่าง ว่าไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้านิจชิตาคือคนที่หลอกลวงเธอ หลอกลวงชาวบ้านมาตลอด ทันใดนั้นตำรวจที่คิมหันต์ซ้อนแผนให้ยุนอาไปแจ้งตำรวจก็บุกเข้ามาในโรงนา ก่อนจะรวบตัวปลัดภูชิตเอาไว้ ปลัดภูชิตซัดทอดเสี่ยฉั่วเป็นผู้ร่วมขบวนการอีกคน ทำให้ทั้งสองต้องเข้าไปชดใช้กรรมในคุก

คิมหันต์พยายามจะอธิบายให้ฟัง แต่นิจชิตารับไม่ได้กับสิ่งที่คิมหันต์ทำไว้กับเธอเพราะเธอเคยบอกแล้วว่าเธอ เกลียดคนโกหกที่สุด ถ้าจะมีคำพูดสุดท้ายที่จะพูดกับคิมหันต์ เธอขอให้เขากลับเกาหลีไปซะ

คิมหันต์จากเมืองไทยไปด้วยความเจ็บปวดที่ทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเสียใจ เช่นเดียวกับนิจชิตาที่แม้ว่าเธอจะบอกว่าเกลียดเขาและเป็นคนไล่เขาไปเอง แต่หัวใจเธอกลับไม่ได้บอกเช่นนั้น ชีวิตที่ไม่มีเจ้าหุ่นยนต์จอมยุ่งอย่างคิมหันต์ เธอรู้สึกเหมือนว่าสีสันที่อยู่รอบๆ ตัวเธอกลับซีดจางไร้ชีวิตชีวา ชุมพลเองก็ทิ้งเธอไปเกาหลีพร้อมกับยุนอา แม้ว่านิจชิตาจะพยายามห้ามเพราะยุนอาเองก็ดูเหมือนไม่ได้มีใจให้กับชุมพล ทำไมชุมพลถึงได้ยอมทิ้งทุกอย่างไปจากเมืองไทย ชุมพลจึงบอกนิจชิตาก่อนจะจากกันว่า ตอนนี้เขารู้ว่าหัวใจต้องการอะไร และถ้าเขาไม่พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อมันแล้วละก็ เขาจะเสียใจไปจนตาย

สามเดือนผ่านไป...นิจชิตายังเป็นครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนเล็กๆ ที่หัวหินตามเดิม แล้วนิจชิตาก็ต้องแปลกใจเมื่อเธอได้รับการ์ดแต่งงานของชุมพลกับยุนอาที่ส่ง มาจากเกาหลี พร้อมกับตั๋วเครื่องบินให้นิจชิตาไปร่วมงานให้ได้ นิจชิตาสองจิตสองใจเพราะรู้ว่าถ้าเธอไปก็ต้องเจอกับคิมหันต์อีก แต่ถ้าเธอไม่ไปก็เท่ากับเธอจะวิ่งหนีความรู้สึกนี้ไปตลอดชีวิตอย่างนั้น หรือ..?

ในที่สุดนิจชิตาก็ปรากฏกายที่งานแต่งงานของชุมพลที่เข้าพิธีวิวาห์กับยุนอา แบบเกาหลีโบราณ แล้วหัวใจของนิจชิตาก็ต้องสั่นไหวอีกครั้งเมื่อได้พบกับคิมหันต์ เธอหวังในใจลึกๆ ว่าคิมหันต์จะมาง้อเธอ แต่นิจชิตาก็ต้องเสียใจเมื่อพบท่าทางเย็นชาของคิมหันต์ราวกับว่าเธอและเขา ไม่เคยพบกันมาก่อน นิจชิตาตัดสินใจที่จะกลับประเทศไทยทันที ชุมพลโมโหคิมหันต์แทนนิจชิตาเพราะนิจชิตาอุตส่าห์มาหานายถึงที่แต่คิมหันต์ กลับเย็นชาใส่นิจชิตา ชุมพลทนไม่ไหวจนมีเรื่องกับคิมหันต์ ยุนอารีบเข้ามาห้ามเพราะทุกคนกำลังเข้าใจผิด คิมหันต์ที่ทุกคนเห็นนั่นไม่ใช่คิมหันต์ แต่เป็น...?

นิจชิตาพาหัวใจที่บอบช้ำกลับมายังหัวหินบ้านเกิดตามเดิม แต่ทันใดนั้นเธอก็ต้องสับสนเมื่อเห็นคิมหันต์มาปรากฏกายต่อหน้าเธอ จะเป็นไปได้ยังไงก็ในเมื่อเขาอยู่เกาหลีตอนที่เธอมา ก่อนที่คิมหันต์จะเล่าความจริงทั้งหมดให้นิจชิตาฟังว่า ตลอดเวลาที่เขากลับเกาหลีไปไม่มีซักวันที่เขาไม่คิดถึงนิจชิตา และนั่นทำให้ทั้งวันทั้งคืนเขาคลุกอยู่แต่ในห้องทดลองเพื่อต้องการซ่อมเจ้า หุ่น ME 1 ให้เสร็จ คิมหันต์สารภาพกับนิจชิตาว่าเขาจะมาอยู่เมืองไทยกับเธอเพราะเขารู้แล้วว่า ไม่ว่าจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพียงใดเขาก็ไม่สามารถสร้างหุ่นยนต์ที่มีความ รักเหมือนมนุษย์ได้ นิจชิตาสงสัยว่าแล้วคิมหันต์ที่อยู่เกาหลีเป็นใคร คิมหันต์สารภาพกับเธอว่าคิมหันต์ที่อยู่ที่เกาหลีตอนนี้คือ ME 1 ที่ซ่อมเสร็จแล้ว และเขาก็พร้อมที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อนิจชิตาเพียงคนเดียว...

หงส์ฟ้า (2553)

เรื่องย่อ : หงส์ฟ้า (2553/2010) นาฏลดาถูกเรียกตัวกลับจากอเมริกา พร้อมครรภ์แก่ใกล้คลอด คุณหญิงชฎาผู้เป็นแม่ทำเช่นนี้เพราะก่อนที่สามีของเธอจะตายได้หมั้นหมายนาฏลดากับอนุวัฒน์ นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง ชฎาคิดว่าจับลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำได้ เธอส่งนาฏลดาไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัด โดยมีสำลี แม่นมของนาฏลดาคอยช่วยเหลือ นาฏลดาคลอดทารกเพศหญิง เธอผูกเส้นเชือกซึ่งเป็นหูกระเป๋าผ้าไหมจีนลายหงส์ทองกับข้อมือของทารก ซึ่งเป็นของสิ่งสุดท้ายที่เจ้ามิ่งหล้า คนรักของเธอมอบให้ ก่อนที่เขาจะหนีจากไป นาฏลดารู้เพียงว่าเขาเป็นเจ้าชายจากรัฐอิสระรัฐเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่ต้องจากเธอไปด้วยเหตุผลทางการเมือง มิ่งหล้าไม่สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาได้ เพราะเกรงว่านาฏลดากับลูกจะมีภัย วิทย์ ได้รับคำสั่งจากคุณหญิงชฎาให้ขโมยลูกของนาฏลดาไปทิ้ง นาฏลดาเสียใจมาก มีเพียงสำลีที่คอยปลอบใจ เธอถูกส่งตัวเข้าพิธีแต่งงานตามฤกษ์ที่ซินแสให้อย่างกะทันหัน ส่วนเด็กทารกนั้นวิทย์ นำใส่รถตู้ไปทิ้งไว้ข้างบุญช่วย ขอทานริมถนน บุญช่วยตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องไห้ของทารกตอนเช้าตรู่ และเห็นทารกน้อยอยู่ข้างกะลาที่แกใช้ขอทาน บุญช่วยจ้างยายนิ่ม ให้ช่วยเลี้ยงทารกน้อย กระเป๋าลายหงส์ที่ผูกข้อมือทารก ทำให้แกตั้งชื่อทารกว่า “หงส์ฟ้า” แต่ยายนิ่มเรียกว่า “นังกะลา” ในที่สุดทุกคนในสลัมก็เรียกเด็กหญิงว่า “กะลา” และต่างก็เชื่อว่ากะลา เป็นลูกของโสเภณีคนหนึ่งในซ่อง ซึ่งวิ่งหนีตำรวจ แล้วนำเด็กมาทิ้งไว้ กะลาเองก็เชื่อว่าแม่ของตนคือโสเภณีคนหนึ่งในซ่องนั้น ทุกครั้งที่กะลาเสียใจ เพราะถูกยายนิ่มตี เธอจะไปที่หน้าซ่องแล้วก็เรียกหาแม่ ทำให้พิกุล แม่เล้าเจ้าของซ่องเกิดความเวทนาและรับกะลาเป็นลูก อ้อมกอดของพิกุล สร้างความอบอุ่นให้แก่กะลา โดยที่เด็กหญิงมิเคยรังเกียจ กะลาเติบโตมาพร้อมกับเงาะ หลานยายนิ่ม ซึ่งแม่คลอดแล้วก็มาฝากไว้ แล้วไม่กลับมาอีกเลย เงาะชอบลักเล็กขโมยน้อย กะลาไม่อยากทำ แต่ก็ถูกยายนิ่มตี ถ้าวันไหน บุญช่วยไม่มีเงินค่าเลี้ยงดูมาให้ แกก็จะบังคับให้กะลาหาเงินมาให้แกแทน บ่อยครั้งที่กะลาได้เงินจากมานพ เด็กวัด ข้างสลัม มานพสงสารกะลา เขารู้สึกผูกพันกับกะลามาก วันหนึ่งบุญช่วยถูกรถชน คนขับชนแล้วหนีไป กะลาต้องหาเงินค่ารักษาพยาบาลให้ได้ เธอตัดสินใจวิ่งราวกระเป๋าของนาฏลดา ซึ่งลงจากรถมาซื้อพวงมาลัยข้างทาง แล้วกะลาก็วิ่งหนีเข้าไปในวัด มานพหาที่ซ่อนให้ แต่ไม่วายถูกวิทย์ตามมาพบ วิทย์จับตัวกะลาได้พร้อมของกลาง มานพเข้าช่วยแต่ก็สู้วิทย์ไม่ได้ วิทย์ทุบตีกะลาแต่นาฏลดาเกิดความเวทนาจึงเข้าห้าม และจะอุปการะกะลา เมื่อถามว่าพ่อแม่เป็นใคร กะลาก็ตอบว่า “พ่อเป็นขอทาน แม่เป็นผู้หญิงหากิน” ทำให้อนุวัฒน์รังเกียจกะลาตั้งแต่แรกเห็น นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตน กะลาจึงเรียกค่าตัวเป็นค่ารักษาพยาบาลบุญช่วย เธอขอไปบอกยายนิ่มก่อน แล้วจะกลับมาพบ เมื่อถึงบ้านยายนิ่ม กะลามอบเงินให้ สั่งให้นำไปเป็นค่ารักษาพ่อ เธอขอเพียงกะลาที่บุญช่วยใช้ขอทานกับกระเป๋าไหมจีนรูปหงส์ทองติดตัวไปเท่านั้น แต่เมื่อพบมานพ เธอซึ้งใจในน้ำใจของเพื่อน จึงให้กระเป๋าหงส์ทองใบนั้นเป็นสิ่งตอบแทน ขอให้มานพสัญญาว่าจะไม่ทิ้งขว้างมัน เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ยืนยันการมีอยู่ของตัวเธอ กะลามาถึงรถตู้ของอนุวัฒน์ นาฏลดาดีใจมาก ขณะที่รถตู้จอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง อนุวัฒน์ให้เงินกะลาพันบาทเพื่อซื้อน้ำดื่ม กะลาหลงเชื่อ แต่เมื่อลงจากรถไป อนุวัฒน์ก็สั่งให้วิทย์ขับรถหนีไป กะลาวิ่งตามจนหกล้ม เธอคิดแค้น ผูกใจเจ็บ และคิดว่านาฏลดาเปลี่ยนใจ และไม่รักษาสัญญา ส่วนนาฏลดาเสียใจมาก มีปากเสียงกับอนุวัฒน์อย่างรุนแรง ยายนิ่มนำเงินของกะลาไปเล่นหวย และใช้หนี้ค่าแชร์ที่ติดค้างเจ้าหนี้ไว้ บุญช่วยได้รับการช่วยเหลือจากสถานสงเคราะห์ ขาของบุญช่วยเสียข้างหนึ่ง ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว เขาเข้ารับฝึกอาชีพในสถานสงเคราะห์คนพิการ รอคอยการกลับมาของกะลา ลูกสาวที่เขาแสนรัก เช่นเดียวกับมานพที่รอคอยการกลับมาของเพื่อนรัก ชีวิตสมรสของนาฏลดาเหมือนตกอยู่ในนรก อนุวัฒน์ทรมานใจเธอ เขารู้ว่าตลอดเวลาเธอไม่เคยลืมคนรักเก่า รัชนีวิภา ผู้ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา นำความลับเรื่องที่เธอเคยท้องกับผู้ชายคนหนึ่งมาแล้ว ไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่คุณหญิงชฎามารดาของนาฏลดาบอกใครๆ รัชนีวิภาจ้างสด หัวหน้าแม่บ้านให้คอยรายงานความเคลื่อนไหว และหาทางกลั่นแกล้งนาฏลดาทุกวิถีทาง แม้สำลีจะคอยช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยได้ทุกครั้ง รัชนีวิภาหาทางทำลายชีวิตสมรสของนาฏลดา เพื่อเธอจะได้อยู่กินกับอนุวัฒน์ อย่างเปิดเผย ไม่ใช่ในฐานะเมียเก็บอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่นาฏลดาไม่สามารถหย่าได้เพราะธุรกิจของครอบครัวขาดทุนอย่างหนัก ต้องใช้เงินทุนของอนุวัฒน์พยุงธุรกิจไว้ กะลาเร่ร่อนไป ในย่ามเก่าๆมีเพียงกะลาที่ใช้ขอทาน เธอตัดสินใจใช้กะลาของบุญช่วยขอทานเพื่อยังชีพ และรับจ้างทำงานสารพัด หลายครั้งที่ต้องผจญภัยแทบเอาชีวิตไม่รอด สุดท้ายเธอหนีไปแอบในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ครูอารี มาพบเข้าและอุปการะ จัดการให้เรียนหนังสือ ต่อมาคุณหญิงชฎากับนาฏลดามามอบทุนการศึกษาที่โรงเรียนนี้ นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตนตามที่เคยสัญญากันไว้ กะลาต่อว่านาฏลดาที่ไม่รักษาสัญญา คุณหญิงชฎาเห็นว่าลูกสาวมีความต้องการอุปการะกะลาจริง จึงยินดีให้กะลาไปอยู่กับตน คอยรับใช้เล็กๆน้อยๆ กะลาจึงลาครูอารีไปอยู่กับคุณหญิงชฎา อนุวัฒน์รู้เรื่องก็โกรธนาฏลดามาก สั่งห้ามไม่ให้พาเด็กกะลาเข้ามาในบ้าน กะลาโตเป็นสาว สวย ผิวพรรณดี คุณหญิงชฎาเมตตากะลามาก และมักจะพาออกงาน คุณหญิงชฎาเลยคิดจะตั้งชื่อให้เธอใหม่ แต่กะลาพอใจจะใช้ชื่อนี้ หรือไม่ก็ชื่อหงส์ฟ้า วันที่เธอเล่าให้คุณหญิงฟังเรื่องที่มาของชื่อหงส์ฟ้า นาฏลดาอยู่ด้วย ทำให้เธอมั่นใจว่ากะลาคือลูกสาวของตน แต่ไม่อาจเปิดเผยกับกะลาได้ เพราะไม่อยากทำให้อดีตของเธอถูกเปิดเผยต่อสังคมวงกว้างมากขึ้น กะลานำเงินเก็บก้อนหนึ่งกลับไปยังสลัม และเธอก็พบว่าสลัมกลายเป็นสถานที่ก่อสร้างคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือโครงการของอนุวัฒน์นั่นเอง ยายนิ่มเสียชีวิตแล้ว พิกุลป่วยเป็นโรคร้ายตาย ศพยังเก็บไว้ที่วัด รอคอยญาติมาทำพิธี มานพเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง กะลามอบเงินจำนวนนั้นให้มานพเป็นค่าทำศพพิกุล แล้วเธอก็ได้พบกับเงาะ หลานสาวของยายนิ่ม ซึ่งออกจากสถานพินิจมาทำงานในสถานที่ก่อสร้างคอนโดมีเนียม เงาะเห็นกะลามีความสุขก็เกิดอิจฉาและหาทางลัดให้กับตัวเอง โดยยอมเป็นเมียเก็บของอนุวัฒน์ ซึ่งมาคุมงานก่อสร้างบ่อยๆ รัชนีวิภารู้เข้าก็อาละวาดใส่เงาะ และเล่าเรื่องนี้ให้นาฏลดาฟัง แต่นาฏลดาไม่เจ็บร้อนเพราะเธอไม่เคยรักอนุวัฒน์เลย พลโทชัชวาล กลับจากอังกฤษ พาวายุ บุตรชายมาเยี่ยมชฎา วายุเห็นกะลาก็นึกชอบ วายุได้รับการว่าจ้างให้ตกแต่งภายในคอนโดมิเนียมของอนุวัฒน์ เขาได้พบกับพริ้งพิไล หลานสาวของรัชนีวิภา พริ้งพิไลชอบวายุมาก จึงหาเรื่องกับกะลาบ่อยๆ แต่วายุก็แอบมาพบกะลาเสมอ มานพสอบบรรจุเป็นตำรวจได้ เขาถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนที่ภาคเหนือ ขณะนั้นรัฐอิสระเกิดการรัฐประหารขึ้น มิ่งหล้าหนีตายเข้ามาในชายแดนไทย มานพถูกสั่งให้ปฏิบัติการพิเศษ โดยการนำตัวเจ้ามิ่งหล้าเข้ามาในแผ่นดินไทยและดูแลอารักขาในฐานะแขกของรัฐบาลไทย มานพถูกย้ายเข้ากรุงเทพฯ มิ่งหล้าซ่อนตัวอยู่ในแฟลตแคบๆของมานพ ในฐานะญาติคนหนึ่งที่เพิ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด วันหนึ่งมานพหยิบกระเป๋าลายหงส์ออกมาดู มิ่งหล้าจำได้ และอยากพบเจ้าของกระเป๋านี้มาก แต่ก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าเพราะเหตุใด พริ้งพิไลกับรัชนีวิภารวมหัวกันหาเรื่องกับกะลา กะลาตบสองน้าหลานจนได้รับบาดเจ็บ อนุวัฒน์สั่งให้นาฏลดาตบหน้ากะลาแทนตนเป็นการลงโทษ นาฏลดาจำใจตบลูกทั้งน้ำตา คืนนั้นเธอสารภาพกับกะลาว่าเธอคือแม่ แต่กะลาไม่ยอมรับ พร้อมยืนยันว่าพ่อของเธอเป็นขอทาน ส่วนแม่เป็นผู้หญิงหากิน ถ้าคุณเคยเป็นผู้หญิงหากินมาก่อน กะลาก็จะยอมรับว่าเป็นแม่ คำตอบของกะลาทำให้นาฏลดาเสียใจมาก มานพติดตามขบวนของคุณหญิงชฎามาสถานสงเคราะห์คนพิการ กะลาตามคุณหญิงชฎามาด้วย มานพกับกะลาดีใจที่ได้พบบุญช่วย กะลาบอกกับใครๆว่านี่คือพ่อของเธอ ส่วนแม่เสียชีวิตแล้ว นาฏลดา ซึ่งไปร่วมการกุศลครั้งนั้นด้วย ได้ยินก็เสียใจมาก มานพชวนกะลาไปเที่ยวบ้าน มิ่งหล้าได้พบกับกะลา เขาแอบร้องไห้ดีใจ แต่ไม่กล้าแสดงตัวเพราะเกรงว่ากะลาจะมีอันตราย เงาะแสดงความหมางเมินกับกะลาและทำทุกวิถีทางที่จะมีชีวิตที่ดีเหมือนกะลาให้ได้ แต่อนุวัฒน์กลับไม่ให้เงินทองอย่างที่เงาะต้องการ เงาะจึงดื้อแพ่งมาอยู่ในบ้านของอนุวัฒน์ หาเรื่องกับนาฏลดา แต่กะลาซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่านาฏลดาคือแม่ของตน เธอจึงปกป้องนาฏลดาเท่าที่จะทำได้ ทำให้เงาะตั้งตัวเป็นศัตรูกับกะลาอย่างเปิดเผย กะลาจึงต้องรับศึกหนัก ทั้งจากพริ้งพิไล รัชนีวิภาและเงาะ วายุให้บิดามาสู่ขอกะลา ชัชวาลตามใจลูก ทำให้พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาไม่พอใจมาก กะลาไม่กล้าตัดสินใจเพราะชีวิตตนเป็นหนี้บุญคุณคุณหญิงชฎา ในวันหมั้นกันนั่นเอง พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาจ้างนักข่าวมาทำข่าวขุดคุ้ยกำพืดของกะลา ชัชวาลอับอายที่จะบอกใครๆว่าสะใภ้ของตนมีกำเนิดที่น่ารังเกียจ กะลาวิ่งหนีแขกเหรื่อในงาน เป็นที่สะใจของสองน้าหลานเป็นอย่างมาก นาฏลดาจึงเปิดเผยกับทุกคนว่ากะลาไม่ได้มีกำเนิดที่น่ารังเกียจ เพราะเธอคือลูกของตน รัชนีวิภาจึงถามว่าพ่อของกะลาเป็นใคร นาฏลดาจึงเปิดเผยว่าพ่อของกะลาเป็นบุคคลสูงส่ง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยตัวได้ อนุวัฒน์ข่มขู่นาฏลดาให้เปิดเผยความจริงว่าพ่อของกะลาเป็นใคร เขาทนไม่ได้ที่รู้ว่าตลอดเวลานาฏลดายังมีใจให้ผู้ชายคนนั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะถอนหุ้นในบริษัทของคุณหญิงชฎาให้หมด สังคมจะได้รู้กันเสียทีว่าคุณหญิงชฎามีแต่เปลือก และจะฆ่ากะลาเสียด้วย ในฐานะที่กะลาเป็นพยานรักอันน่ารังเกียจสำหรับเขา นาฏลดากลัวคำขู่นั้นจึงบอกความจริงว่าพ่อของกะลาคือเจ้ามิ่งหล้า องค์รัชทายาทผู้สูงส่ง อนุวัฒน์เรียกวิทย์ไปพบ ขอให้วิทย์สืบหาตัวมิ่งหล้า ซึ่งแอบมาซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯให้พบและฆ่าเสีย อย่าให้มีชีวิตกลับไปที่รัฐของตนได้ แต่วิทย์ไม่ตกลงเขาเปิดเผยว่าเขาหลงรักนาฏลดามาตั้งแต่เธอยังสาว และเขาก็ทำงานเป็นลูกน้องพ่อของนาฏลดามา เขาไม่สามารถทำร้ายจิตใจของนาฏลดาได้ อนุวัฒน์ตกใจมากที่รู้ความจริง จึงไล่วิทย์ออกไปจากบ้าน เงาะแอบได้ยินจึงอาสาว่าจะทำงานนี้ให้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคืออนุวัฒน์จะต้องหย่ากับนาฏลดาและจดทะเบียนสมรสกับตนทันทีที่ทำงานนี้สำเร็จ เงาะเข้ามาสนิทกับกะลาอีกครั้ง นาฏลดาย้ายข้าวของมาอยู่กับมารดา ทำให้เธอเริ่มปรับความเข้าใจกับกะลา แม้กะลายังมึนตึงกับเธออยู่ก็ตาม วายุตามมาง้องอนแต่กะลาไม่มีใจให้แล้ว เธอรู้ดีว่าคนที่รักเธอมาตลอดคือมานพ มานพมาชวนให้กะลาไปหาลุงมิ่ง กะลาถูกชะตากับลุงมิ่งอยู่แล้ว จึงไปเยี่ยม เงาะสงสัยจึงสะกดรอยตามไป และได้เห็นการเปิดเผยความจริงของพ่อกับลูก เงาะยิงมิ่งหล้า แต่กระสุนพลาดไปถูกกะลา มานพตามล่าเงาะ แต่เธอหนีไปที่คอนโดมีเนียม ซึ่งกำลังมีงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เงาะขอให้อนุวัฒน์ช่วยตน แต่อนุวัฒน์บอกให้เงาะหลบไปซ่อนตัวที่ไหนก่อน เงาะเสียใจมาก จึงยิงอนุวัฒน์ตายในงาน ต่อมามานพนำกำลังตำรวจมาจับตัวเงาะได้ นาฏลดา มิ่งหล้า และกะลา ดีใจที่เปิดเผยความในใจต่อกัน กะลากราบพ่อแม่ของตน มิ่งหล้าเห็นว่าสถานการณ์ในรัฐของตนสงบแล้ว จึงชวนให้ทั้งสองไปกับตนด้วย กะลารับรักมานพ วายุยอมรับความพ่ายแพ้ เขาเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ พริ้งพิไลขอติดตามวายุไปด้วย ส่วนรัชนีวิภาสูญเสีย อนุวัฒน์ไปแล้ว ก็กลายเป็นบ้าอยู่ในคอนโดมีเนียมร้าง

รักซ่อนรส 2553

เรื่องย่อ : รักซ่อนรส (2553/2010) ณ ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง แกงป่าถูกวางตรงหน้าฟ้าใส เธอตักแกงขึ้นดมและรู้ได้ทันทีว่าพ่อครัวลืมใส่กระชาย ฟ้าใสหวังดีเพียงแค่อยากเตือนพนักงานเสิร์ฟให้บอกพ่อครัว แต่สุชินพ่อครัวเผอิญออกมาได้ยิน และโกรธจัดที่ถูกเด็กสอน โวยวายตะเพิดใส่ฟ้าใส บังเอิญเจ้าของร้านมาตรวจเยี่ยมร้านพอดีรู้ว่าพ่อครัวสะเพร่าจึงไล่พ่อครัวออกจากงาน ฟ้าใสรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นสาเหตุแต่ไม่มีเวลาไล่ตามไปขอโทษสุชินเพราะต้องรีบไปเข้าเรียนทำอาหารวันแรก ทำให้สุชินผูกใจเจ็บกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ฟ้าใสมีความใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟอาหารไทย ด้วยพรสวรรค์ที่ติดตัวมาประกอบกับคลุกคลีอยู่กับธุรกิจการส่งออกวัตถุดิบและเครื่องเทศอาหารไทยของอาทิตย์ซึ่งเป็นบิดา ทำให้ฟ้าใสรอบรู้ด้านเครื่องเทศ แต่อรุณผู้เป็นย่าต่อต้านความฝันของฟ้าใสชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะย่าอรุณเจ็บช้ำกับอดีตสมัยที่เคยเป็นต้นห้องทำครัวอยู่ในวัง แต่โดนใส่ร้ายว่าใส่สมุนไพรบางตัวที่เป็นอันตรายทำให้เจ้านายในวังล้มป่วย ย่าอรุณถูกไล่ออกจากวังจึงเสียใจอย่างหนักเลิกทำอาหารตั้งแต่บัดนั้น แต่ฟ้าใสก็ยังดื้อรั้นแอบมาสมัครเรียนจนได้

ความหวังของฟ้าใสล้มเหลวเพราะย่าอรุณตามมาลากหลานสาวกลับบ้าน ขณะกำลังโดนย่าลงโทษ ทั้งคู่ก็ได้รับข่าวร้ายว่า บริษัทส่งออกของอาทิตย์ถูกบริษัทหลักทรัพย์ของอมราใช้เล่ห์กลเข้าฮุบกิจการ จนอาทิตย์บิดาของฟ้าใสรับสภาพล้มละลายไม่ได้ตัดสินใจแขวนคอตาย การตายของอาทิตย์เปลี่ยนแปลงชีวิตฟ้าใสจากคนมีอันจะกินกลายเป็นยาจกไปในพริบตา แถมย่าอรุณยังล้มป่วยเพราะสูญเสียลูกชายสุดที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ ฟ้าใสต้องพาย่าไปเช่าบ้านถูก ๆ อยู่ และรับภาระเป็นหัวหน้าครอบครัวเลี้ยงดูย่า กับน้องอีกสองคน คือฝนทิพย์และด.ช.เมฆ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น เธอจึงต้องไปรับจ้างปอกมะพร้าวกะทิในตลาด ฟ้าใสกัดฟันสู้อย่างไม่ยอมแพ้

นายอำนาจ มหาเศรษฐี เจ้าของธุรกิจไฟแนนซ์ ประกาศวางมือทางธุรกิจ แล้วยกกิจการให้อยู่ในความดูแลของอมรากับอุไร หลานสาว ซึ่งอยู่ในวัยสาวใหญ่ ยังไม่ได้แต่งงานเพราะอำนาจกีดกัน เนื่องจากคิดว่าผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของหลานสาว มีแต่หวังปลอกลอกเอาสมบัติมากกว่าจะรักด้วยความจริงใจ สาเหตุอีกประการหนึ่งก็คืออารีย์ หลานสาวอีกคนหนึ่งของอำนาจ เคยถูกผู้ชายทิ้งกระทั่งอารีย์ต้องเลี้ยงลูกแต่เพียงลำพัง

ลูกสาวของอารีย์ชื่อชฎาฉัตร เรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ขณะที่อยู่ต่างประเทศชฎาฉัตรเคยผูกพันกับพรวุฒิหรือคุณตั้มทายาทนักธุรกิจร้อยล้าน แต่คุณตั้มสำเร็จการศึกษาก่อน และต้องรีบกลับมาช่วยกอบกู้บริษัทเลิศรส ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารแบบเฟรนไชน์ของครอบครัว ที่กำลังประสบกับภาวะวิกฤตเพราะคนไทยหันไปนิยมกินอาหารต่างชาติ โดยมีพรฤดีพี่สาวคอยช่วยอีกแรง

พนักงานของร้านอาหารเลิศรสหลายสาขาพากันลาออกไปสมัครงานกับร้านอาหารทั้งญี่ปุ่นและอิตาเลี่ยน ทำให้คุณตั้มต้องรีบประกาศรับคนด่วน เหมือนพรหมลิขิตชักพาให้คุณตั้มกับฟ้าใสต้องโคจรมาพบกัน เมื่อเกิดปัญหามะพร้าวขาดตลาด พ่อค้าที่คอยจัดส่งกะทิให้กับร้านอาหารเลิศรสต้องไปตระเวนซื้อกะทิจากตลาดทั่วไป ร้านขายกะทิที่ฟ้าใสรับจ้างทำงานอยู่จึงให้ฟ้าใสนำกะทิไปส่งที่ร้านอาหารเลิศรสสาขาหนึ่ง ทำให้ฟ้าใสรู้ข่าวการรับสมัครงานของบริษัทเลิศรส จึงรีบสมัครเป็นพนักงานในตำแหน่งผู้ช่วยเชฟ ซึ่งจะต้องเข้าไปฝึกงานในบริษัทแม่ แต่โชคร้ายเมื่อเธอได้เข้าไปทำงาน กลับต้องไปเจอกับสุชินที่เคยถูกไล่ออกจากงานเพราะฟ้าใส สุชินมีหน้าที่ดูแลเด็กฝึกงาน เขาจำฟ้าใสได้อย่างแม่นยำ จึงคอยกลั่นแกล้งฟ้าใสให้ทำงานปัดกวาดเช็ดถู ล้างห้องน้ำ ไม่ให้ฟ้าใสได้มีโอกาสฝึกทำอาหารเลย

ด้านชฎาฉัตรทนอยู่ที่ต่างประเทศคนเดียวไม่ได้ จึงเดินทางกลับมาเงียบ ๆ โดยไม่มีปริญญาติดตัวมาเลย อำนาจโกรธมาก กดดันชฎาฉัตรไปช่วยงานที่บริษัท เพราะวิตกว่าชฎาฉัตรจะพลาดพลั้งอย่างมารดาและอาจเสียคน ชฎาฉัตรแม้จะยอมไปทำงาน แต่ก็ไปวางท่าหยิ่งผยองถือตัวว่าเป็นผู้ดีมีระดับเหนือพนักงาน

คุณตั้มต้องการปรับปรุงด้านรสชาติอาหารโดยการคัดเลือกเครื่องเทศที่มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้เขานึกถึงอาทิตย์เพื่อนสนิทของบิดาที่เคยมีบุญคุณช่วยเหลือบิดาของคุณตั้มในสมัยเริ่มทำธุรกิจร้านอาหาร คุณตั้มอยากติดต่อซื้อเครื่องเทศจากอาทิตย์ แต่พรฤดีบอกว่าอาทิตย์เสียชีวิตไปแล้ว คุณตั้มเป็นห่วงครอบครัวของอาทิตย์ จึงแวะไปที่บ้านเดิมของฟ้าใส ปรากฏว่าบ้านหลังนั้นตกเป็นของครอบครัวอมราเสียแล้ว คุณตั้มออกตามหาครอบครัวฟ้าใสโดยไม่รู้เลยว่าเด็กสาวที่ทำขยะหกใส่หัวเขาในบริษัทโดยไม่ตั้งใจ ที่แท้ก็คือฟ้าใสคนที่เขาตามหานั่นเอง

พนักงานฝึกงานหลายคนถูกส่งตัวไปทำงานที่ร้านอาหารตามสาขาต่าง ๆ เหลือเพียงฟ้าใสที่สุชินไม่ให้ผ่านงาน ฟ้าใสถูกให้ออก ก่อนไปฟ้าใสแอบทำข้าวผัดสูตรชาววังที่ย่าเคยทำให้กินตอนเด็กที่ตัวเองแอบจำสูตรมา จัดใส่กล่องสวยงามให้แม่บ้านเป็นการตอบแทนน้ำใจที่คอยช่วยเหลือฟ้าใสมาตลอดที่ฝึกงาน ข้าวผัดกล่องนั้นได้ถูกแม่บ้านนำไปเสิร์ฟให้คุณตั้มกิน คุณตั้มรู้สึกคุ้นรสชาติข้าวผัดที่ย่าอรุณเคยทำให้กิน รีบให้คนตามหาคนทำ จนได้พบกับฟ้าใสในที่สุด

คุณตั้มให้การช่วยเหลือครอบครัวของฟ้าใสด้วยการให้มาอยู่ตึกแถวริมถนนที่ตนซื้อทิ้งไว้ ย่าอรุณห่วงหลานทั้งสามเลยออกไปรับจ้างทำงานหนักจนป่วยหนัก ฟ้าใสจึงอุบายบอกย่าอรุณว่าเธอจะแต่งงานกับเศรษฐี จะได้ไม่ลำบากเพื่อให้ย่าสบายใจ แต่อรุณไม่เชื่อให้ฟ้าใสพาคนรักมาพบ ฟ้าใสตัดสินใจบากหน้าไปหาคุณตั้ม เพื่อขอร้องให้มาช่วยเล่นละครรับปากกับย่าที่กำลังเจ็บหนักใกล้ตาย เพื่อให้ย่าตายอย่างสงบ

ฟ้าใสเข้าไปพบคุณตั้มในคฤหาสน์ ขณะที่เขากำลังจัดงานปาร์ตี้ มีเพื่อนฝูงทั้งหญิงชายล้วนแต่เป็นผู้ลากมากดีมีฐานะ รวมทั้งคุณชฎาฉัตร ฟ้าใสโดนหัวเราะเยาะ ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงชั้นต่ำไม่มีความละอาย ถึงขนาดมาขอให้ผู้ชายที่ไม่เคยรักกันมาก่อนให้มาแต่งงานด้วย ฟ้าใสอธิบายว่าเธอทำเพียงเพื่อจะให้ย่าที่เจ็บป่วยสบายใจ ชั่วคราวเท่านั้น และเธอก็คิดว่าไม่ช้าย่าก็จะตาย และทุกอย่างก็จะสิ้นสุดลง แต่ชฎาฉัตรไม่ยอม ซ้ำยังประณามและดูถูกฟ้าใส รวมทั้งเพื่อนคนอื่น ๆ เช่นเทียนสีหรืออำพลกลับนึกสนุกล้อเลียนฟ้าใสเป็นที่สนุกสนาน ฟ้าใสรู้สึกละอายและผิดหวัง จึงกลับไปหาย่า ตั้งใจจะบอกความจริง แต่คุณตั้มกลับบอกฟ้าใสว่าเขาจะไปพบย่าของฟ้าใส และไปบอกย่าตามที่ฟ้าใสขอร้อง เพราะเขาเห็นใจฟ้าใสและสงสารย่า อยากให้กำลังใจคนแก่ที่ใกล้ตาย ทำให้ชฎาฉัตรโกรธมาก เธอคิดว่าฟ้าใสวางแผนกับย่าเพื่อหลอกลวงคุณตั้มให้แต่งงานด้วย จึงขอตามไปดูว่าสิ่งที่ฟ้าใสพูดมาเป็นความจริงหรือไม่ แต่คุณตั้มไม่อนุญาต และขู่ชฎาฉัตรกับเพื่อน ๆ ว่าหากทุกคนไปวุ่นวายขัดขวางเรื่องนี้ เขาจะเลิกคบทันที

ย่ามีความสุขขึ้นเมื่อเห็นกับตาว่าคุณตั้ม ชายหนุ่มที่ย่าเคยเห็นว่าเป็นลูกชายคนเดียวของเศรษฐีใกล้บ้านของย่ามารักหลานสาวจริง ๆ จากนั้นย่าอรุณก็แข็งแรงขึ้นอย่างกับปาฏิหาริย์และคุณตั้มกับฟ้าใสก็เลยต้องเล่นละครเป็นคนรักกันต่อมาอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ชฎาฉัตรยิ่งเชื่อว่า ทั้งหมดเป็นแผนของฟ้าใส และพยายามโน้มน้าวให้คุณตั้มเชื่อว่าฟ้าใสเป็น 18 มงกุฎ แต่คุณตั้มไม่สนใจแถมยังรับปากที่จะส่งเสียฝนทิพย์และดช.เมฆให้เรียนจนจบอีกด้วย แต่ได้รับการปฏิเสธจากฟ้าใส เพราะเธอไม่ต้องการสูญเสียศักดิ์ศรีที่เป็นสิ่งเดียวที่เธอมีอยู่ในตอนนี้

คุณตั้มจึงให้ฟ้าใสไปเป็นผู้ช่วยเชฟในร้านอาหารเลิศรสในห้างใหญ่ พรฤดีขัดขวางเพราะกลัวว่าน้องชายจะไปหลงรักฟ้าใสซึ่งต่างฐานะกัน การได้ชฎาฉัตรมาเป็นน้องสะใภ้น่าจะเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจมากกว่า แต่พรฤดีก็ไม่อยากหักหาญน้องชายเสียทีเดียว จึงเสนอให้ฟ้าใสเป็นแค่เด็กเสิร์ฟแล้วค่อยไต่เต้าไปเป็นผู้ช่วยเชฟ ชฎาฉัตรรู้ข่าวโกรธมากตามไปราวีฟ้าใสแต่ก็ทำอะไรฟ้าใสไม่ได้ จึงพาลไปอาละวาดกับคนในบ้านตัวเองแทน

เริ่มต้นจากการทวงสิทธิ์ของอารีย์ในกองมรดก จนอมรากับอุไรต้องแบ่งบริษัทที่ยึดมาจากพ่อของฟ้าใสให้ชฎาฉัตรดูแล แต่ชฎาฉัตรเอาแต่ตามหึงหวงฟ้าใส จนกิจการขาดทุน เมื่อถูกอำนาจตำหนิ ชฎาฉัตรก็หันไปหาเรื่องกับสาริกา ลูกของสำรวยคนใช้ในบ้าน ทำให้สาริกาไม่พอใจ คิดเอาชนะชฎาฉัตรด้วยการตั้งใจเรียนหนังสือและทำงานปรนนิบัติอำนาจ เพื่อให้อำนาจเอ็นดูและให้เห็นว่าเธอนั้นมีความรู้เหนือกว่าชฎาฉัตร จนอำนาจเอ็นดูถึงกับจะยกสมบัติส่วนหนึ่งให้สาริกา

ที่เลิศรสพนักงานเสิร์ฟไม่ค่อยใส่ใจงานด้านบริการทำให้ยอดขายตก แต่ฟ้าใสช่วยกู้สถานการณ์ตั้งใจเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าพร้อมแนะนำคุณประโยชน์ของอาหารไทยแต่ละประเภทให้ลูกค้าฟัง จนลูกค้าพากันชื่นชอบเรียกหาแต่ฟ้าใส ฟ้าใสจึงโดนเพื่อนพนักงานหมั่นไส้ลากไปรุมตบตี อธิป เพื่อนสมัยเรียนที่หลงรักฟ้าใสอยู่ ตามมาช่วยได้ทันเวลาพาฟ้าใสส่งโรงพยาบาล คุณตั้มรู้เรื่องโกรธมากจะไล่พนักงานพวกนั้นออกและจับส่งตำรวจ แต่ฟ้าใสกลับบอกว่าตัวเองถูกอันธพาลทำร้ายไม่เกี่ยวกับเพื่อนพนักงานเลย ทำให้เพื่อนพนักงานสำนึกผิดหันมาทำดีกับฟ้าใส ชฎาฉัตรยังคอยตามราวีกลั่นแกล้งฟ้าใสไม่เลิกรา ด้านพรฤดีเริ่มรู้สึกเห็นใจและมองเห็นความดีงามในตัวของฟ้าใส เด็กสาวที่เธอมองว่าฐานะต่ำชั้น แต่กลับมีนิสัยดีกว่าชฎาฉัตรที่ถือตัวเป็นผู้ดีหลายเท่านัก

พยัคฆ์ หุ้นส่วนบริษัทคุณตั้ม เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แสดงท่าทีว่าชอบพรฤดี แต่เธอทำเป็นไม่สนใจ ขณะที่คุณตั้มต้องการให้พี่สาวมีครอบครัว จึงเปิดทางให้พยัคฆ์ได้เข้ามาใกล้ชิดกับพรฤดีตลอดเวลา พรฤดีเริ่มใจอ่อน แต่ก็ยังไว้ฟอร์มไม่ยอมรับปากแต่งงานกับพยัคฆ์

ธุรกิจร้านอาหารของคุณตั้มประสบปัญหาใหญ่อีกครั้ง เพราะสุชินขโมยสูตรอาหารไทยเมนูใหม่ ซึ่งเป็นสูตรผสมระหว่างอาหารไทยกับอาหารฝรั่งไปขายให้กับบริษัทเฟรนไชน์เปิดใหม่ ซึ่งคุณตั้มไม่รู้เจ้าของบริษัทที่ชิงสูตรไปนั้นก็คือพยัคฆ์นั่นเอง ลูกค้าของเลิศรสโดนแย่งไปหมดสถานการณ์จวนเจียนเจ๊ง แต่ฟ้าใสอ้อนวอนให้ย่าอรุณช่วยสอนสูตรการทำอาหารตำรับชาววังขนานแท้ให้เพื่อช่วยเหลือคุณตั้ม ย่าอรุณทนเห็นความทุกข์ใจของหลานไม่ไหว จึงยอมสอนฟ้าใส คุณตั้มกับฟ้าใสช่วยกันพลิกฟื้นฐานะของบริษัทจนเพิ่มยอดขายถล่มทลาย ฟ้าใสกลายเป็นที่ยอมรับของเชฟทุกคนได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นเชฟที่มีอายุน้อยที่สุดของบริษัท แถมยังได้รับรางวัลเชฟหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากสถาบันอาหารไทยสู่ครัวโลก

ชฎาฉัตรริษยาฟ้าใสหนักขึ้น ด้วยความกลุ้มใจจึงไปหาเทียนสีกับอำพล ซึ่งเป็นคู่รักกัน ชฎาฉัตรลักลอบได้เสียกับอำพล ขณะเดียวกันก็ยังเฟลิตกับผู้ชายมากหน้าหลายตา ชฎาฉัตร ออกเที่ยวกลางคืนทุกวัน จนพบกับพยัคฆ์ที่ไปนั่งกินเหล้ากับลูกค้าในบาร์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว พยัคฆ์ช่วยชฎาฉัตรแก้ปัญหาเรื่องบริษัท ที่สุดชฎาฉัตรก็ได้เสียกับพยัคฆ์ และตั้งท้องขณะเดียวกันพรฤดีก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับพยัคฆ์ พยัคฆ์จึงขอให้ชฎาฉัตรไปทำแท้งเสีย ประจวบกับอำนาจประกาศยอมรับสาริกาเป็นบุตรบุญธรรม

ชฎาฉัตรเสียหน้าอย่างที่สุด เธอคิดกลับมาหาคุณตั้ม และเริ่มดำเนินแผนการที่จะทำให้คุณตั้มแตกกับฟ้าใส โดยใช้อธิปเป็นเครื่องมือ แผนของชฎาฉัตรสำเร็จ คุณตั้มหึงฟ้าใสกับอธิปจนทะเลาะกันรุนแรง และมีท่าทีว่าจะกลับมาสนิทกับชฎาฉัตรเป็นการประชด ชฎาฉัตรเห็นว่าได้ที่พึ่ง จึงปฏิเสธเงินของพยัคฆ์ โชคร้ายที่การพบกันครั้งสุดท้ายของพยัคฆ์และชฎาฉัตรรู้ถึงหูพรฤดี พรฤดีเสียใจมากยื่นคำขาดล้มเลิกการแต่งงาน

พยัคฆ์โกรธมาก เพราะการที่เขาแต่งงานกับพรฤดีครั้งนี้ เพราะต้องการจะเข้าฮุบกิจการของพรฤดี พยัคฆ์จึงโทรแบล็คเมล์อำนาจให้ขายหุ้นให้ตัวเองในราคาถูก ไม่งั้นจะแฉเรื่องที่ชฎาฉัตรท้องกับตน อำนาจเสียใจมากจนหัวใจวายตาย สาริกาบุกไปตามชฎาฉัตรขณะกำลังจะมอมยาคุณตั้ม และประณามว่าชฎาฉัตรเป็นคนทำให้ทวดตาย คุณตั้มตกใจมากที่รู้ความจริงว่าพยัคฆ์เป็นคนเลว และคิดร้ายกับครอบครัวตนเองมาตั้งแต่ต้น ส่วนชฎาฉัตรก็ตามไปเอาเรื่องพยัคฆ์ แต่ถูกพยัคฆ์ทำร้ายจนตกบันไดแท้งลูก พยัคฆ์นึกว่าชฎาฉัตรเสียชีวิต จึงให้คนเอาร่างของชฎาฉัตรไปทิ้งที่ชานเมือง

ฟ้าใสโดนย่าบังคับให้ลาออกจากร้านอาหารเลิศรสเพราะรู้ความจริงว่าฟ้าใสกับคุณตั้มร่วมกันโกหกเรื่องเป็นแฟนกัน ย่าอรุณโกรธคุณตั้มมาก พาหลาน ๆ ย้ายไปอยู่ชานเมือง เปิดร้านขายข้าวแกงเล็ก ๆ พออยู่พอกิน ฟ้าใสได้พบชฎาฉัตรโดยบังเอิญจึงช่วยชฎาฉัตรไว้ ที่บ้านของฟ้าใสนี่เองที่ทำให้ชฎาฉัตรรู้ตัวว่าคนจนที่ตัวเองรังเกียจ กลับมีจิตใจอันงดงาม ไม่เหมือนกับตัวเองที่หลงคิดว่าสูงส่งมาตลอดแต่กลับทำเรื่องน่าละอายสารพัด ชฎาฉัตรขอโทษฟ้าใสและรับปากว่าจะคืนบริษัทที่อมรายึดมาคืนให้แก่ฟ้าใส

ส่วนฟ้าใสนั้นสงสารและเห็นใจชฎาฉัตรมาก เมื่อคุณตั้มตามมาปรับความเข้าใจ จึงแกล้งโกหกคุณตั้มว่าตนแต่งงานกับอธิปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ความจริงอธิปย้ายมาอยู่บ้านฟ้าใสเพราะแต่งงานกับฝนทิพย์ ฟ้าใสต้องการให้คุณตั้มลงเอยกับชฎาฉัตร แต่ชฎาฉัตรสำนึกตัวแล้ว จึงไม่คิดจะกลับไปหาคุณตั้มอีก คิดแต่ว่าจะกลับมาแก้แค้นพยัคฆ์แทน

ชฎาฉัตรนัดพยัคฆ์เจรจาโอนหุ้นของอำนาจคืนให้ตน ไม่งั้นจะแฉเรื่องที่พยัคฆ์พยายามฆ่าตนกับตำรวจ พยัคฆ์แกล้งตกลงพาชฎาฉัตรไปเอาเอกสารและจะฆ่าปิดปาก แต่คุณตั้มพาตำรวจตามมาช่วยไว้ได้ทัน เพราะฟ้าใสแอบรู้ว่าชฎาฉัตรนัดกับพยัคฆ์ จึงบอกให้คุณตั้มรู้ พยัคฆ์ถูกจับ

คุณตั้มซื้อหุ้นของอำนาจคืนให้ชฎาฉัตร และรีบกลับไปหาฟ้าใส แต่ปรากฏว่าฟ้าใสพาครอบครัวย้ายหนีไปแล้ว คุณตั้มออกตามฟ้าใสจนพบและขอฟ้าใสแต่งงาน เพราะเขาตระหนักแล้วว่าฟ้าใสคือผู้ดีที่ถูกตีตราด้วยความดีงาม คุณตั้มขอหมั้นฟ้าใสด้วยสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฟ้าใส นั่นคือบ้านเก่าที่ถูกอมรายึดไป ซึ่งฟ้าใสไม่รู้เลยว่าคุณตั้มซื้อเก็บไว้นานแล้ว ฟ้าใสและทุกคนมีความสุขมากที่ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง รักซ่อนรส

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ 2553

เรื่องย่อ : พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ (2553/2010) แดน เทพ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ซูเปอร์สตาร์วัยสามสิบเป็นทั้งนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงและร้ำรวยถึง ขีดสุด มีแฟนเป็นซูเปอร์โมเดลชื่อปรายฟ้า (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) ทั้งคู่จะหมั้นกันในหนึ่งเดือนข้างหน้า แต่ก็เกิดเรื่องวุ่น ๆ ขึ้นซะก่อน แดนเทพได้รับอีเมล์ปริศนาจากเด็กสาวชื่อไอด้า (พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์) ที่อ้างว่าเป็นลูกสาวของแดนเทพกับเคท (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ไอด้าตามสืบเรื่องพ่อและหนีมาเมืองไทยโดยมีโอ๋ (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เพื่อนสนิทของแม่ให้ความช่วยเหลือ แดนเทพกังกลเรื่องที่ไอด้าจะมาเมืองไทยจนทำงานไม่ได้ จึงเล่าเรื่องไอด้าให้ปั๋ง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ผู้จัดการส่วนตัวฟัง เรื่องที่เคยทำเคทสาวไทยท้องเมื่อ 15 ปีก่อนตอนซัมเมอร์ที่ฮอลแลนด์ แต่แม่ของฝ่ายหญิงกีดกันไม่ให้เจอกันอีก แดนเทพไม่เชื่อเรื่องที่ไอด้าเป็นลูกสาวของตน ปั๋งบอกให้แดนเทพปิดเรื่องนี้ไว้เพราะกลัวจะกระทบกับเรื่องงานและเรื่องปราย ฟ้า ปั๋งอาสาจัดการทุกอย่างให้และจัดแจงไปรับไอด้าที่สนามบิน ปั๋งพาไอด้าไปพักที่เพนท์เฮาส์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของแดนเทพ เมื่อแดนเทพและไอด้าเจอกันปั๋งยื่นข้อเสนอแลกหลักฐานด้วยเงินก้อนโตแต่ไอด้า ไม่รับ ไอด้ายื่นข้อเสนอให้แดนเทพเป็นพ่อตนเองหนึ่งอาทิตย์ แดนเทพให้ไอด้ามาอยู่ที่บ้านของคุณยุทธ (วันชัย เผ่าวิบูล) คุณเอื้อ (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) และผู้พันดนัย (สุรวุฒิ ไหมกัน) พ่อ แม่และพี่ชายของแดนเทพ เป็นเหตุให้แดนเทพนั่งเป็นจำเลยให้พ่อแม่และพี่ชายสอบสวนแดนเทพจึงขอความ ร่วมมือจากพ่อ แม่และพี่ชาย และบอกว่าแค่ได้หลักฐานจากไอด้าทุกอย่างก็จะจบ ไอด้าใช้เวลาอยู่กับแดนเทพและครอบครัวอย่างสนุกสนาน แดนเทพทำอาหารให้ไอด้าทาน นั่งดูรายการโปรดเป็นเพื่อนไอด้าและทุกเย็นก็รีบกลับมาทานข้าวด้วยและในขณะ เดียวกันก็จ้องจะแฮ็คหลักฐานจากไอด้าแต่ถูกไอด้าจับได้ตลอด คุณเอื้อ คุณยุทธและผู้พันดนัยก็เอ็นดูไอด้าเพราะความน่ารัก ถึงวันเฉลยหลักฐานของไอด้า หลักฐานก็หายไปด้วยฝีมือของเคท เคทกับไอด้าทะเลาะกันยกใหญ่ โอ๋ซ้อนแผนแย่งหลักฐานจากเคทมาได้ และเอาไปให้พ่อแม่ พี่ชายของแดนเทพและแดนเทพดู และบอกว่าตอนนี้เคทแม่ของไอด้าตามมาเอาตัวไอด้ากลับไปแล้ว เคทพาไอด้าออกจากบ้านแดนเทพ แต่ลืมของไว้ที่บ้านแดนเทพ จึงกลับไปเอาของและเจอแดนเทพเข้าอย่างจัง แดนเทพโวยวายเรื่องที่เคทไม่บอกว่าเธอท้องเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เคทไม่รู้เรื่องที่แม่ของเธอกีดกันแดนเทพกับเธอ เธอจึงไม่เถียงด้วยเพราะคิดว่าแดนเทพเป็นคนไม่รับผิดชอบและทิ้งเธอไปก่อน ไม่ทันที่แดนเทพกับเคทจะเถียงกัน โอ๋โทรมาบอกว่าอยู่โรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคเครียด ต้องได้รับการรักษาด้วยความอบอุ่นและทางจิตใจ คุณเอื้อขอให้เคทและไอด้าอยู่เมืองไทยต่อจนอาการไอด้าดีขึ้น เคททนอยู่บ้านแดนเทพทั้งที่เกลียดขี้หน้า พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ ปรายฟ้าอยาก รู้เรื่องของแดนเทพจึงส่งเอื้อมดาว (อธิชนัน ศรีเสวก) ศิลปินในค่ายที่แอบชอบแดนเทพตามแดนเทพแทนตน แลกกับการขึ้นแท่นนางเอกใหม่ เอื้อมดาวตกลงทันที ส่วนทางด้าน ปาปารัสซี่หนุ่มชื่อโม่ง (วิชญ จารุจินดา) ตามถ่ายภาพแดนเทพและไอด้าจนมีข่าวว่าแดนเทพมีกิ๊กเด็ก ปั๋งก็ออกมายอมรับตามนั้นเพราะกลัวว่าจะกระทบกับงาน เคทกับแดนเทพอยู่ร่วมกันในบ้านทั้ง 2 คนได้กลับมาเรียนรู้ซึ่งกันและกับใหม่อีกครั้ง แดนเทพทำตัวน่ารักขึ้น ในวันหนึ่งขณะที่ เคท แดนเทพและไอด้าช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว ปรายฟ้าแอบปีนรั้วเข้ามาเห็นเข้า แดนเทพบอกความจริงทั้งหมดกับปรายฟ้า ปรายฟ้าเสียใจวิ่งสติแตกออกไป ปั๋งหาทางตั้งรับเพราะคิดว่าปรายฟ้าต้องเอาคืนแน่ ๆ แต่ปลายฟ้าวางฟอร์มทำเฉยแล้วกลับช่วยส่งข่าวและให้แดนเทพทำกิจกรรมสาธารณ กุศลสร้างชื่อเสียงให้แดนเทพดังขึ้นไปอีก ปั๋งเอ่ยปากชมเปราะถึงความมีน้ำใจของปรายฟ้าที่ไม่แก้แค้นแดนเทพ ปรายฟ้าขอให้แดนเทพรับปากว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะต้องไม่มีการเลื่อนวัน หมั้น โม่งยังไม่วางมือจากครอบครัวแดนเทพเพราะถูกจ้างพิเศษจาก คีตะ (กฤษณกัณฑ์ มณีผกาพันธ์) ศิลปินจอมอิจฉาร่วมค่ายเดียวกัน ทนไม่ได้ที่แดนเทพมีงานล้นมือ คีตะตั้งรางวัลให้กับโม่งอย่างงามหากโม่งเปิดโปงเรื่องของแดนเทพได้ ในช่วงนั้นไอด้าและเคทต้องทำทุกทางเพื่อเลี่ยงนักข่าว จนเคททนไม่ไหวพาไอด้าย้ายไปอยู่คอนโด ครอบครัวแดนเทพรู้เข้าก็พยายามทำทุกวิธีให้ทั้งสองคนกลับมาใกล้ชิดกันอีก ครั้ง โดยเฉพาะผู้พันดนัยวางแผนกับผู้พันต้อม (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เพื่อนรักนายทหารให้ช่วยจีบเคทเพื่อเร่งปฏิกิริยาแความหึงหวงของแดนเทพ ผู้พันต้อมตกหลุมรักเคทเรื่องเลยอิรุงตุงนังเข้าไปอีก ด้านโม่งลงทุนย้ายไปอยู่คอนโดที่เดียวกับไอด้าและตีสนิทกับไอด้าเพื่อจะคุ้ย ข่าวเรื่องแดนเทพ รุ่นพี่ของโม่งที่เป็นโมเดลลิ่งเห็นไอด้าจึงชวนไปถ่ายโฆษณา ไอด้ามีงานหลายชิ้น แต่ชิ้นที่ไอด้าเห็นจะดี๊ด๊าที่สุดก็คือโฆษณาที่แดนเทพเล่นเป็นพระเอก โม่งจับตาดูจนแน่ใจว่าไอด้ากับเคทเป็นลูกเมียของแดนเทพ คีตะได้ภาพแอบถ่ายของแดนเทพ เคทและไอด้าจากโม่ง แล้วส่งให้เอเจนซี่สินค้าหนุ่มโสด แดนเทพถูกถอดและคีตะได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์แทน แดนเทพกลายเป็นคนเงียบขรึม ส่วนโม่งได้ค่าจ้างเป็นเงินก้อนโตจากคีตะ ก็เอามาเลี้ยงข้าวและซื้อของให้ไอด้า ไอด้าสงสัยว่าโม่งเอาเงินมาจากไหน โม่งเริ่มสึกผิด เคทเค้นโม่งจนรู้เบื้องหลังารเป็นพรีเซนเตอร์ของคีตะ เคทดุ่ยไปเอาเรื่องกับคีตะ คีตะถึงกับอึ้งที่เจอผู้หญิงเอาจริงอย่างเคท แอบประทับใจเคทอยู่เงียบ ๆ คีตะจับสังเกตได้ว่าเคทกับแดนเทพรักกันจึงคิดแย่งเคทมาจากแดนเทพ แดนเทพเห็นเคท อยู่กับคีตะโดยบังเอิญในวันที่เคทไปส่งไอด้าที่บ้านแดนเทพ ทั้งสองคนมีปากเสียงกัน เคทเก็บกดจึงกับความดื้อและเลี้ยงยากของไอด้า แดนเทพรู้สึกผิดจึงกอดเคท ปรายฟ้าเข้ามาเห็นวิ่งร้องไห้ออกไปเกือบถูกรถชนแดนเทพช่วยไว้ทัน ปรายฟ้าอยู่ในอ้อมกอดแดนเทพ เคทมองด้วยความเจ็บปวดก่อนออกรถไป ปรายฟ้า ไม่ไว้ใจความสัมพันธ์แดนเทพกับเคท ปรายฟ้าจึงวางแผนให้ไอด้าเข้าใจผิดเคท ไอด้าหนีไปเที่ยวกับเอื้อมดาวและหนุ่มไฮโซแต่เห็นท่าไม่ดีจึงขอตัวกลับและ เปิดประตูขณะรถวิ่งอยู่ ปรายฟ้าที่ขับตามหลังมาปาดหน้ารถแล้วพาไอด้ากลับบ้านแล้วให้สัญญาณหนุ่มไฮโซ ให้พาเอื้อมดาวไปแทน แดนเทพอึดอัดในความดีของปรายฟ้าที่ผุกมัดตัวเขามากขึ้นทุกวัน แดน เทพรู้ใจตัวเองว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักคือเคทแต่ยิ่งเข้าใกล้เคทเท่าไหร่เคท ยิ่งทำตัวออกห่างด้วยการไปเดทกับคุณต้อมและคีตะ โอ๋พยายามช่วยแดนเทพตามจีบเคทแต่ถูกปั๋งขัดขวางอยู่ตลอด เคทพยายามให้คีตะวางมือจากแดนเทพแต่ไม่สำเร็จ ทางเดียวที่จะช่วยแดนเทพได้คือพาไอด้าไปจากเมืองไทย แดนเทพไม่ยอม เคทอ้างว่าคบกับคุณต้อมและจะพาไปให้แม่ดุตัว แดนเทพจึงยอมให้กลับฮอลแลนด์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ ไอด้ามีงานร่วมกับแดนเทพและคีตะ มีนักข่าวมาทำข่าว คีตะพยายามเปิดโปงความสัมพันธ์ของสองคนพ่อลูกจนน่ารำคาญ คีตะจึงใช้แผนสกปรกโดยการลวนลามไอด้า แดนเทพทนไม่ไหวเข้าไปชกกับคีตะ และประกาสว่าไอด้าเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเอง และให้ปั๋งจัดแถลงข่าวเรื่องเคทกับไอด้า นักข่าวตามล่าตัวเคทกับไอด้า คุณเอื้อรับไอด้าไปเก็บตัวเงียบ ส่วนแดนเทพกับเคทไปซ่อนตัวเงีบย ๆ กันอยู่ที่ต่างจังหวะ ทั้งสองคนมีเวลาปรับความเข้าใจกัน แดนเทพสั่งดอกไม้เพื่อจะขอเคทแต่งงานระหว่างที่ไปรับดอกไม้ก้ปล่อยให้เคทอ ยู่คนเดียว ปรายฟ้าโผล่มาหาเคทพูดว่าทุกอย่างที่แดนเทพทำก็เพื่อลูกเท่านั้นทำให้เคท น้อยใจหนีกลับกรุงเทพฯ มาก่อน แดนเทพกลับมาเจอแต่ปรายฟ้า เธออ้างว่าเคทด่าว่าเธอแล้วก็เดินออกไป ปรายฟ้าให้ข่าวกับนักข่าวว่าเธอกับแดนเทพยังดีกันอยู่และเธอก็สนิทกับไอด้า ลูกติดของแดนเทพด้วย และวางแผนให้นักข่าวมาถ่ายรูปตอนที่เธออยู่กับแดนเทพว่าเป็นการซ้อมฮันนีมูน อีกด้วย ข่าวที่ออกมาจึงว่าแดนเทพกับปราบฟ้ามีข่าวดีแน่นอนส่วนเคทเป็นแค่เมียเก่า เท่านั้น เคทเห็นข่าวหมดความอดทนจึงพาไอด้ากลับฮอลแลนด์ ไอด้าโกรธเคทหนีออกจากเครื่องบินทำให้เคทตามลงมา ตามหาทั้งที่ไม่รู้จักทางในกรุงเทพฯเลย ปรายฟ้าโทรบอกเคทว่าไอด้าอยู่ที่บ้านแดนเทพแล้ว เคทกลับไปแต่เห็นภาพที่แดนเทพ ไอด้า และปรายฟ้าอยู่ด้วยกันเข้าจึงเสียใจและร้องไห้ออกไป ไอด้าเห็นเคทเข้าวิ่งไปหาแม่อย่างรู้สึกผิด แดนเทพต่อว่าเคท เคทไม่สนใจฟังแดนเทพ ถามความสมัครใจว่าไอด้าจะอยู่ที่ไหน ปรายฟ้าช่วยพูดให้ไอด้าเห็นใจแม่ ไอด้าฝืนความรู้สึกบอกว่าจะกลับฮอลแลนด์กับแม่ แดนเทพจะตัดสินใจอย่างไร จะเลือกหมั้นกับปรายฟ้า หรือ ตามหาหัวใจของตัวเอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตาในละคร พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

เธอกับเขาและรักของเรา 2553

เธอกับเขาและรักของเรา (2553/2010) แป้งร่ำ (เขมนิจ จามิกรณ์) หญิงสาวผู้เปรียบเสมือนนกน้อยในกรงทองที่ใครๆ พากันชื่นชม เพราะมีคุณใหญ่ (พีท ทองเจือ) นักธุรกิจชั้นแนวหน้าเป็นผู้อุปการะ แต่ไม่มีใครรู้ว่า แป้งร่ำปรารถนาจะโบยบินไปสู่โลกกว้างทุกเวลา จนวันหนึ่ง แป้งร่ำไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ และได้เปา (อารักษ์ อมรศุภศิริ) หนุ่มไทยเป็นไกด์พาเที่ยว ความรักระหว่างหนุ่มสาวก่อตัวขึ้น โดยแป้งร่ำไม่รู้ว่าเปาก็คือเด็กชายที่ช่วยเหลือเธอในวัยเด็กและเธอโหยหาที่จะพบเขาตลอดมา โชคชะตานำพาให้เปาได้ใกล้ชิดแป้งร่ำอีกในฐานะบอดี้การ์ด แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อคุณใหญ่ประกาศว่าแป้งร่ำคือผู้หญิงของตน และคุณใหญ่ก็คือผู้ชายที่เปาจะต้องชำระแค้น ความรักหลบๆ ซ่อนๆ ก่อตัวขึ้นพร้อมกับความสับสนของเปาและแป้งร่ำที่ต้องเลือกระหว่างความรักหรือความกตัญญู ทำให้เรื่องยิ่งเลวร้ายลง และท้ายที่สุดก็กลายเป็นโศกนาฏกรรมความรักที่แสนสะเทือนใจ

นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว 2553

นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว (2553/2010) เสือ ชายหนุ่มเลือดอีสาน ผู้มีฝีมือด้านหมัดมวยโคราช แถมยังหนังเหนียวคงกระพันด้วยพลังพิเศษจากการกินข้าวทิพย์ในวันที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเสาร์ทำมุมตั้งฉากกับโลกตั้งแต่ยังเด็ก เสือเป็น นักสู้ที่คอยต่อต้านนายทุนต่างชาติ โดยเฉพาะองค์กรเขี้ยวพยัคฆ์ที่จะมายึดครองที่นาของคนไทย จนได้พบรักกับแสงระวี นักข่าวสาวเพื่อสังคมซึ่งกำลังเปิดโปงความชั่วขององค์กรนี้

ด้วยแรงอธิษฐาน 2553

ด้วยแรงอธิษฐาน (2553/2010) ก่อนสิ้นลม เธอ อธิษฐานเพื่อให้ได้เกิดมาเพื่อแก้แค้น เขา แต่เขา มีชีวิตอยู่เพื่อรัก และรอเธอคนเดียว ความรัก ความแค้น ข้ามเวลา วรดา ลูกสาวของวารี ภรรยาบ่าวของนายพลประพจน์ หลบออกมาจากงานเลี้ยงวันเกิดของผาณิต ลูกสาวคุณหญิงผกา ภรรยาแต่งของประพจน์ คุณหญิงผกาและผาณิตไม่เคยนับญาติกับวรดา วารีสอนให้วรดาต้องอดทนทุกครั้งเมื่อต้องฟังคำพูดดูถูกของคุณหญิงผกา วรดานั่งอ่านเจนแอร์ นวนิยายเล่มโปรดในสวนใกล้ต้นปีบ กฤตย์เห็นวรดาครั้งแรกก็ชอบทันที กฤตย์ชวนวรดาคุยและสัญญาว่าจะเอาหนังสือนิยายมาให้ วรดาขอบคุณและเป็นสุขใจ เกื้อกับสายพิณมีลูกสามคน คือเกตุมณี พี่สาวคนโต กฤตย์ ลูกชายคนเดียวในบ้าน และแกมแก้ว ลูกคนเล็กที่เอาแต่ใจตัวเองมาก เกื้อมีเชื้อสายจีน เขาย้ายมาอยู่ข้างบ้านประพจน์ คุณหญิงผกาไม่ชื่นชมมากนัก แต่ผาณิตกลับชอบกฤตย์ผาณิตเป็นคนหัวอ่อนขี้กลัว จึงสนิทกับแกมแก้วที่มีนิสัยกระด้าง ชอบเอาชนะ ผาณิตแอบชอบ กฤตย์ ขณะที่แกมแก้วแอบชอบปิติ ซึ่งเป็นนายทหารผู้ช่วยประพจน์ ปิติเป็นสุภาพบุรุษจึงมักไปส่งผาณิตและแกมแก้วซื้อของเป็นประจำ แกมแก้วไม่ชอบวรดาเพราะรู้ว่าปิติชอบวรดา กฤตย์ชวนวรดาไปเดินเล่นในสวนที่บ้านกฤตย์ โดยมุดกำแพงผุที่อยู่ระหว่างบ้านกฤตย์ และบ้านวรดา วรดาถามเรื่องหลุมหลบภัยในบ้านกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ทั้งสองคนจึงช่วยกันหาแล้วลงไปในหลุมนั้นด้วยกัน ก่อนกลับบ้าน กฤตย์ขอสัญญาที่จะเจอวรดาอีกแต่วรดาไม่รับปาก ปิติแอบไปหาวรดาที่สวนหลังบ้าน ปรากฏว่าเขาเห็นวรดาอยู่กับกฤตย์ ปิติเสียใจมาก จนขับรถไปชนกับรถเกตุมณี ปิติกำลังโมโหจึงพูดจาไม่ดีกับเกตุมณี เมื่อนึกได้ปิติจึงไปขอโทษเกตุมณี วันหนึ่งแม่ของปิติไปตลาดจึงได้เจอกับเกตุมณี ทั้งคู่ถูกชะตากัน แม่ของปิติเชียร์ให้ปิติจีบเกตุมณี แกมแก้วมาหาผาณิตที่บ้านจึงเห็นว่าวรดายืนคุยกับคนสวน ทั้งสองหาว่าวรดาร่าน จึงไปฟ้องประพจน์กับคุณหญิงผกา แต่เมื่อมาอีกครั้งผู้ชายคนนั้นกลับเป็นกฤตย์ กฤตย์ยอมรับผิดทุกอย่างพร้อมทั้งขอให้เกื้อมาสู่ขอวรดาให้เขา เกตุมณีเล่าเรื่องที่กฤตย์จะแต่งงานกับวรดาให้ปิติฟัง เธอจึงได้รู้ว่าปิติเคยรักวรดา รวมถึงแกมแก้วก็หลงรักปิติเช่นกัน ทำให้เกตุมณีคิดตัดใจ แต่ปิติตามง้อและบอกรักเกตุมณี ในที่สุดเกตุมณีก็ยอมแต่งงานกับปิติ เมื่อแก้มแก้วรู้เธอรับไม่ได้และหาว่าเกตุมณีแย่งปิติไป ปิติกับเกตุมณีจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่เพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องในสวน วรดาไม่ได้เจอกฤตย์เลยเพราะถูกกีดกันจากคุณหญิงผกา แกมแก้ว และผาณิต วรดาทำงานหนักจนไม่สบาย กฤตย์อยากพูดกับวรดาเมื่อเจอหน้ากัน แต่ทุกอย่างแย่ลง คุณหญิงผกาพูดให้กฤตย์คิดว่าวรดาท้อง กฤตย์ไม่อยากเชื่อ วรดาเข้าใจว่ากฤตย์หันไปชอบผาณิต ทั้งสองเข้าใจผิดกัน และวันสุดท้ายที่เจอกันกฤตย์นัดวรดาไปที่สวนหลังบ้านวรดารีบทำงานเพื่อไปตามนัด เมื่อเธอไปถึงกลับไม่พบกฤตย์ แต่โดนคนเอาไม้มาตีคอ วรดาคิดแค่ว่ากฤตย์ทำร้ายเธอ ที่สำคัญเขาจับเธอไปขังที่หลุมหลบภัย จนวรดาขาดอาหาร ก่อนตายเธอตั้งสัตย์อธิษฐาน ขอกลับมาแก้แค้นคนที่ทำให้เธอต้องเจ็บจนตาย มนทิรากับนิกรมีลูกสาวชื่อนัทธมน เด็กสาวเกิดมาพร้อมพลังพิเศษที่สามารถบังคับสิ่งของได้ คืนใดที่นัทธมนฝันร้าย สิ่งรอบตัวของเธอจะลอยขึ้นจนทำให้มนทิรากับนิกรตกใจและเป็นห่วงนัทธมน แต่ทั้งสองยังไม่พานัทธมนไปหาหมอเพราะยังเด็กอยู่วันหนึ่งมนทิราพานัทธมนวัยขวบเศษไปใส่บาตรกับพระธุดงค์รูปหนึ่ง พระรูปนี้เตือนให้มนทิราเลี้ยงนัทธมนให้ดี ให้สอนเรื่องการให้อภัยเพื่ออนาคตของนัทธมน แม้นัทธมนจะโตขึ้นแต่อาการฝันร้ายยังมีเหมือนเดิม มนทิราจึงคอยระวังไม่ให้นัทธมนกลัวและสอนนัทธมนให้อโหสิ แต่ยิ่งโตขึ้น นัทธมนเริ่มไม่เชื่อฟังจนมนทิราหนักใจเมื่อนัทธมนเข้าโรงเรียน เธอไม่ชอบเพื่อนคนหนึ่งชื่อติสรณ์ หรือเต้ย ซึ่งเป็นลูกนักการเมืองใหญ่ ติสรณ์ชอบกระตุกผมเพื่อนผู้หญิง วันหนึ่งติสรณ์กระตุกผมนัทธมนทำให้เธอโกรธและใช้พลังพิเศษจนติสรณ์ได้รับบาดเจ็บมากกว่านัทธมนหลายเท่า มนทิรารู้ว่านัทธมนเป็นคนทำ เธอให้นัทธมนสาบานว่าจะไม่ทำอีก แต่นัทธมนไม่ยอม ทำให้แม่ลูกทะเลาะกัน นิกรเกิดอุบัติเหตุรถชนตาย นัทธมนรู้ล่วงหน้าจึงรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนมนทิราก่อนที่เพื่อนร่วมงานของนิกรจะโทรมาบอกว่านิกรเสียแล้ว หลังจบมัธยมสาม นัทธมนบอกมนทิราว่าจะเรียนต่อเลขานุการโดยไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงว่า มีอะไรบางอย่างดึงดูดให้เธอต้องไปเรียนที่นี่ มนทิราห้ามไม่ได้จึงปล่อยไป แม้แต่ติสรณ์ที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของนัทธมนก็เสียดายความรู้ของนัทธมนแทน วันแรกของการเข้าเรียน นัทธมนได้เพื่อนใหม่ชื่อกลิกาหรือถุงแป้ง ลูกของเกตุมณีกับปิติ และนัทธมนก็ได้รู้จักกฤตย์ ซึ่งเป็นน้าชายของกลิกา นัทธมนรู้ทันทีว่าเป็นเขาที่เธอต้องแก้แค้นนัทธมนนั่งอ่านเจนแอร์ ทำให้กลิกางงที่นัทธมนอ่านหนังสือเก่า แต่นัทธมนไม่รู้สึกซาบซึ้งไปกับเนื้อหา เธอเห็นว่าเจนแอร์เป็นผู้หญิงโง่ที่ยอมให้ผู้ชายหลอกแล้วทิ้งไปเหมือนวรดาที่โง่ให้กฤตย์หลอก แล้วก็ตายเพราะเขาเพื่อนของกลิกามักถามถึงกฤตย์ แม้แต่นัทธมนที่ยังไม่เคยเจอกฤตย์ก็ถามถึงจนเพื่อน ๆ งง นัทธมนจึงบอกว่าเธอสนใจกฤตย์ กลิกาอยากให้เป็นจริงเพราะไม่อยากให้กฤตย์ต้องตกลงปลงใจกับปณิตา หม้ายสาวที่ตามตื้อกฤตย์มานาน ที่กฤตย์ยังไม่มีใครเพราะลืมวรดาไม่ได้ กฤตย์มารับกลิกาที่โรงเรียน เขาเห็นนัทธมนแล้วตกใจมากเพราะคิดว่าเป็นวรดา ขณะที่ติสรณ์มารับนัทธมนที่โรงเรียน ติสรณ์สนใจกลิกา นัทธมนจึงช่วยติสรณ์เพราะรู้ว่าทั้งคู่เป็นคนดีนัทธมนแต่งตัวไปงานวันเกิดของกลิกาที่บ้านกฤตย์ เมื่อไปถึงนัทธมนตกใจที่บ้านกฤตย์กลายเป็นบ้านเรือนไทย บ้านเก่าเธอ นัทธมนถามกลิกาจนรู้ว่า กฤตย์ซื้อบ้านหลังนี้มาเพราะทุกคนในบ้านตายหมด ส่วนบ้านอีกหลังกฤตย์ใช้เป็นสำนักงาน นัทธมนยังไม่ได้เจอกฤตย์เพราะเขาไม่สบายจึงลงมาร่วมงานไม่ได้ กฤตย์เห็นนัทธมนเดินอยู่ในสวนแต่เรียกไม่ทัน จนสะดุดโต๊ะที่วางเค้กวันเกิดของกลิกา แกมแก้วโวยวายว่าเป็นความคิดของกลิกา แต่กฤตย์ปกป้องกลิกา นอกจากนี้ เขาถามกลิกาถึงเพื่อนที่มาเดินในสวนจึงรู้ว่าเป็นนัทธมน กฤตย์จึงบอกกลิกาให้ชวนนัทธมนมาทำงานเป็นเลขาที่บริษัท ซึ่งนัทธมนก็ยินดี นัทธมนจะได้มาทำงานเป็นเลขาของกฤตย์โดยตรง และทำงานที่บ้านเรือนไทย ไม่ใช่ที่สำนักงาน กลิกาดีใจที่นัทธมนได้งาน แกมแก้วนำเอกสารขอส่งลินจันทร์ ลูกสาวที่เป็นใบ้ไปเรียนต่างประเทศเพื่อรักษาตัว ลึกๆ แกมแก้วอิจฉาที่กฤตย์จะส่งกลิกาลูกเกตุมณีไปเรียน กฤตย์ขอเวลาตัดสินใจ วันแรกของการทำงาน นัทธมนได้รู้จักกับพิษณุ เลขาเก่าของกฤตย์ ซึ่งจะย้ายไปประจำที่สาขาชลบุรี พิษณุสอนงานให้นัทธมนตอนบ่ายกฤตย์พานัทธมนไปประชุมที่สำนักงานฝั่งตรงข้ามบ้านเรือนไทย นัทธมนได้ทักทายบงกช ซึ่งต้องติดต่องานประจำเมื่อกฤตย์กับนัทธมนไปแล้วบงกชโทรศัพท์บอกเรื่องนัทธมนให้ปณิตารู้ทันที ปณิตาไม่ไว้วางใจจึงคิดหาทางกำจัดนัทธมน ปณิตา เป็นลูกแม่ค้าจน ๆ จึงตัดสินใจแต่งงานเพื่อยกระดับตัวเองถึงสองครั้ง ครั้งที่สองทำให้เธอรวยมาจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อปณิตาตั้งใจจะจับกฤตย์แล้วเธอต้องทำให้ได้ แกมแก้วเข้ามาดูเลขาคนใหม่ของกฤตย์ทำให้แกมแก้วตกใจมากที่นัทธมนหน้าเหมือนวรดา หลังจบประชุม กฤตย์พานัทธมนไปยังสระน้ำที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัยที่วรดาตาย กฤตย์บอกว่าเคยคิดทำสวน กฤตย์พานัทธมนเดินมาหาลินจันทร์เมื่อนัทธมนเห็นลินจันทร์จึงรู้ว่าลินจันทร์คือผาณิตกลับชาติมากเกิด ลินจันทร์รู้เช่นกัน จึงกลัวนัทธมนจนวิ่งหนีไป มนทิราบอกเรื่องที่คนจะขายรถ นัทธมนสนใจเพราะจะได้ไปทำงานสะดวก หลังจากไปลองนำรถมาใช้ นัทธมนก็ตกลงซื้อ และขับรถไปทำงานทุกวัน ปณิตาชวนกฤตย์ไปทานข้าว แต่กฤตย์นัดนัทธมนและกลิกาไว้แล้ว ปณิตาจึงขอไปด้วย โดยเลือกร้านอาหารทะเล และเหน็บแนมนัทธมนตลอดเวลา สุดท้าย นัทธมนใช้พลังพิเศษทำให้ปูหนีบนิ้วปณิตา ปณิตาถึงกับพูดไม่ออก ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของนัทธมน วันรับวุฒิบัตร มนทิราได้เจอกับกฤตย์ที่ไปแสดงความยินดีกับกลิกาและนัทธมน ทั้งสี่คนจึงไปทานอาหารเย็นด้วยกัน มนทิราสังเกตเห็นว่านัทธมนไม่ชอบกฤตย์ และแน่ใจว่าผู้ชายที่ลูกฝันถึงเป็นกฤตย์ มนทิราไม่สบายใจที่นัทธมนไม่ตัดความแค้นออกจากใจเสียที ขณะที่นัทธมนนำรูปคู่ระหว่างตนเองกับกฤตย์ไปตั้งบนโต๊ะทำงานตามที่กลิกาของร้อง แกมแก้วมาเห็นจึงไม่ชอบใจนัก กลิกากลับไปเพชรบูรณ์พร้อมของฝากและรูปถ่าย เมื่อเกตุมณีและปิติเห็นรูปนัทธมนทั้งคู่ตกใจว่าทำไมถึงเหมือนวรดามาก ปณิตาเห็นรูปที่ตั้งบนโต๊ะนัทธมน ปณิตาไม่พอใจมาก เธอชวนกฤตย์ไปทัวร์ยุโรปแถมจองตั๋วเผื่อกฤตย์แล้ว แต่กฤตย์ปฏิเสธเพราะติดธุระพอดี ปณิตาช้ำใจมาก ยิ่งเธอชวนนัทธมนไปทำงานที่บริษัทเพื่อให้ห่าง กฤตย์แต่นัทธมนปฏิเสธ ปณิตาก็ยิ่งแค้น เมื่อคนใช้ยกกาแฟมาให้ ปณิตาจะแกล้งทำกาแฟหกใส่นัทธมน ปรากฏว่ากาแฟหกรดตัวเอง ปณิตางงกับเหตุการณ์ที่พลิกผัน แกมแก้วพยายามพาลินจันทร์ไปหากฤตย์ พอดีไพโรจน์มาเยี่ยมลูกสาวคือลินจันทร์ และจะพาไปเที่ยว แต่แกมแก้วไม่ยอมจึงทะเลาะกันรุนแรง คราวนี้ไพโรจน์ไม่ยอมเหมือนครั้งก่อน เมื่อลินจันทร์ไปกับไพโรจน์แกมแก้วจึงมีอาหารเหมือนคนคลุ้มคลั่ง กฤตย์รีบพาแกมแก้วส่งโรงพยาบาลไพโรจน์ขอโทษที่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น แต่กฤตย์เข้าใจนัทธมนจัดเสื้อผ้าเตรียมไปทำงานกับกฤตย์ที่เชียงราย โดยกฤตย์รับปากมนทิราว่าจะดูแลนัทธมน อย่างดี ตอนขึ้นเครื่องนัทธมนอาเจียนเพราะกลัวความสูงจึงไม่มีแรง เมื่อถึงเชียงรายกฤตย์จึงพาไปพักที่โรงแรมก่อน แต่นัทธมนกลับไม่ยอมขึ้นลิฟต์เพราะกลัวที่แคบและความมืด จนลืมตัวพูดไปว่า กฤตย์จะฆ่าตัวเอง ทำให้กฤตย์สงสัย แต่เขาตัดสินใจพักชั้นล่างและพานัทธมนเดินขึ้นบันไดนัทธมนฝันร้ายจนสิ่งของลอยเหมือนตอนแด็กอีกครั้ง ทำให้กฤตย์คิดว่าแผ่นดินไหวแต่เมื่อไปถามคนอื่น ทุกคนยืนยันว่าไม่มีแผ่นดินไหว กฤตย์คิดว่านัทธมนต้องมีอะไรปิดบังเขาอยู่สิงห์ หรือสีหนาท เป็นคนมารับกฤตย์กับนัทธมนไปยังไร่สัตตบุษย์ที่กฤตย์จะทำโครงการนัทธมนออกปากชมบ้านของสีหนาท แต่สีหนาทบอกว่ากฤตย์เป็นคนออกแบบ นัทธมนจึงเงียบลงไปเพราะไม่ชอบให้ใครชื่นชมกฤตย์ต่อหน้าก่อนที่อำพล วิศวกรร่วมโครงการจะขึ้นมา กฤตย์กับนัทธมนได้ไปเที่ยวฝั่งพม่าพร้อมกับสีหนาทและน้องสาว กฤตย์ซื้อสร้อยคอเส้นที่นัทธมนให้นัทธมน เธอจะไม่รับ กฤตย์จึงบังคับเธอ เมื่อกฤตย์และนัทธมนต้องไปเที่ยวกันตามลำพัง นัทธมนไม่อยากไปจนครั้งหนึ่งเธอทำร้ายกฤตย์ กฤตย์สงสัยในพฤติกรรมแปลก ๆ ของนัทธมนแต่ยังหาคำตอบไม่ได้ เมื่ออำพลขึ้นมา กฤตย์เร่งทำงานส่วนนัทธมนใช้เวลาว่างในการคิดแผนการที่จะจัดการกฤตย์ให้เร็วที่สุด เพราะกฤตย์เริ่มรู้ตัวแล้ว กฤตย์ไปส่งนัทธมนที่บ้านหลังกลับจากเชียงราย มนทิราขอบคุณกฤตย์ เมื่อนัทธมนกลับไปทำงาน กฤตย์ก็ดีต่อเธอทุกอย่าง แต่นัทธมนไม่ต้องการมัน เธอเริ่มดำเนินตามแผนแก้แค้นเริ่มจากการเอากุญแจห้องเก็บของมาไว้ที่ตัวเองนัทธมนเจอปิติก่อนที่เขาจะกลับเชียงรายจึงได้รู้ว่า ประพจน์ขอหย่าจากผกาหลังวรดาตาย แล้วไปบวชเป็นพระออกธุดงค์ไปเรื่อย ๆ คุณหญิงผกากับผาณิตถูกรถชนตาย ประพจน์จึงขายบ้านให้กฤตย์ แล้วออกธุดงค์ต่อ ในที่สุดก็มรณภาพ แกมแก้วเห็นปิติคุยกับนัทธมนจึงเข้ามาหาเรื่อง เมื่อปิติกลับไปถึงเชียงรายก็เล่าเรื่องให้เกตุมณีฟัง ปณิตารู้ว่านัทธมนกลับมาจึงรีบโทรหาสมุนของเธอให้จัดการกับนัทธมน แต่ทุกอย่างผิดแผน เพราะคนร้ายตามรถที่นัทธมนใช้ประจำไปโดยไม่ได้ดูว่าใครขับ ทำให้มนทิราเคราะห์ร้าย เมื่อนัทธมนรู้เรื่อง เธอสัญญาว่าจะต้องจัดการกับคนร้ายให้ได้ แม้มนทิราจะขอร้องแต่นัทธมนไม่รับปาก ปณิตารู้ว่างานพลาดจึงสั่งให้จัดการใหม่อีกครั้ง แต่นัทธมนไม่กลัวเพราะรอชำระความอยู่แล้ว คนร้ายทั้งสองถูกจัดการจนบาดเจ็บสาหัส คนแรกที่นัทธมนจัดการคือบงกช นัทธมนใช้วิธีสะกดจิตให้บงกชเกิดภาพหลอนเห็นหนอนเต็มปาก ส่วนปณิตาเมื่อรู้ว่านัทธมนไม่ใช่คนธรรมดา เธอจึงมาเตือนกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่สนใจ นัทธมนสะกดจิตปณิตาให้เห็นปีศาจอย่างที่ปณิตากล่าวหาว่านัทธมนเป็นปีศาจ เมื่อเลิกงาน นัทธมนชวนกฤตย์ไปห้องเก็บของ กฤตย์ยอมไปแต่โดยดีและเดินลงไปในห้องเก็บของตามที่นัทธมนต้องการ กฤตย์รอฟังคำอธิบายจากนัทธมนจึงรู้ว่านัทธมนคือวรดากลับชาติมาเกิด นัทธมนไม่ฟังสิ่งที่กฤตย์จะบอก เธอทำให้กองอุปกรณ์หล่นมทับขากฤตย์หักและขังกฤตย์ไว้ เธอหวังให้เขาร้องขอความช่วยเหลือแต่เขาไม่ร้อง สุดท้ายคนที่แพ้คือนัทธมนอีกครั้ง วันรุ่งขึ้นนัทธมนให้ทุกคนตามหากฤตย์ที่หายไปจนเจอ แกมแก้วจะพากฤตย์ไปหาหมอ แต่กฤตย์ขอคุยกับนัทธมนเป็นการส่วนตัวกฤตย์ส่งแหวนที่เขาเตรียมให้วรดากับนัทธมน วันนั้นกฤตย์ยังไม่ทันออกจากบ้าน แม่ของกฤตย์เกิดหกล้มขาหักเขาจึงพาส่งโรงพยาบาลและให้แกมแก้วไปบอก วรดาแทน แต่วันต่อมาวรดาหายไปไม่มีใครพบ จนกระทั่งวรดาตาย นัทธมนตกใจที่รู้ว่าไม่ใช่กฤตย์ เธอจึงไปหาลินจันทร์และแกมแก้ว นัทธมนคาดคั้นลินจันทร์ให้พูดความจริง ลินจันทร์กลัวมากจึงเล่าว่า แกมแก้วเป็นคนวางแผนทั้งหมด ตั้งแต่ตีหัววรดา และลากวรดาไปซ่อนในหลุมหลบภัย ซึ่งแกมแก้วบอกจะปล่อยวรดาในอีกสองสามวันข้างหน้าแต่แกมแก้วไม่ทำ จนวรดาตาย นัทธมนโกรธมากที่รู้ว่าแกมแก้วทำแกมแก้วไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ลินจันทร์พูดได้แต่เป็นเสียงผาณิต เมื่อเรื่องทุกอย่างเปิดเผยแกมแก้วจึงยอมรับออกมาและคิดจะฆ่านัทธมนอีกครั้ง แต่นัทธมนใช้พลังจิตทำร้ายแกมแก้วจนแกมแก้วกลัวลนลาน กฤตย์พยายามห้ามไว้แล้วให้นัทธมนอโหสิกรรม หลังจากวันนั้น แกมแก้วเป็นอัมพาต กฤตย์รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และตัดสินใจส่งลินจันทร์ไปเรียนต่างประเทศ นัทธมนหลีกเลี่ยงการพบกับกฤตย์แต่ยังถามข่าวจากกลิกานัทธมนพามนทิราไปเที่ยวชายทะเล จนคิดได้ตามที่แม่สอนว่าคนเราไม่ควรฝืนชะตาความรัก นัทธมนโทรหากฤตย์ แต่กฤตย์ไม่อยู่บ้าน เธอจึงเสียใจ แต่กฤตย์ตามเธอมาที่ทะเล ทั้งสองปรับความเข้าใจกันในที่สุด ทั้งคู่ก็ยอมรับในความรักของกันและกันเวลาผ่านไป กลิกาใกล้เรียนจบ โดยมีติสรณ์รออยู่เมืองไทย ส่วนนัทธมนมีลูกชายหนึ่งคน ชื่อ อธิษฐ์ แม้อธิษฐ์จะดื้อ แต่นัทธมนก็รักเขามาก รวมถึงลูกในท้องที่จะเป็นเด็กผู้หญิง กฤตย์และนัทธมนตกลงจะตั้งชื่อลูกว่า วรดา

เรือนซ่อนรัก 2553

เรือนซ่อนรัก (2553/2010) ตระกูลราชศักดิ์มนตรีธรรม เป็นตระกูลที่เก่าแก่ เมื่อ ม.ร.ว.เอกชยา (ดีลก ทองวัฒนา) กับภรรยา คุณสดศรี (จุฑาทิพย์ ครุธามาศ) ถึงแก่กรรมก็ได้ฝากฝังให้ หม่อมดารารุ่ง (สุวนันท์ คงยิ่ง) ลูกสาวคนโตดูแลทรัพย์สมบัติและเกียรติยศแห่งวงศ์ตระกูล โดยคุณรุ่งได้ให้คำสัญญากับพ่อและแม่ไว้ คุณรุ่งทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อ แม่ และพี่ของน้องสาวทั้ง 3 คน ได้แก่ หม่อมดารารัตน์ (อุษณีย์ วัฒฐานะ) หม่อมดาราน้อย (ธัญสินี พรมสุทธิ์) และหม่อมดารานิจ (พีชญา วัฒนามนตรี) ซึ่งคุณรุ่งทั้งรักและหวงน้องมาก ตามใจทุกอย่าง แต่สิ่งที่คุณรุ่งขอร้องน้อง ๆ ก็คือ ไม่อยากให้น้อง ๆ แต่งงาน เพราะไม่อยากให้น้อง ๆ ช้ำใจเหมือนอย่างกับแม่ ที่ถูกพ่อนอกใจไปได้เสียกับสาวใช้ที่ชื่อ สลวย (ปิยะดา เพ็ญจินดา) จนเกิดตั้งท้องแล้วคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชายชื่อว่า ฤกษ์ (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) ม.ร.ว.เอกชยาแสนจะรักและโปรดปรานลูกชายคนนี้มาก สั่งให้ทุกคนรักและตามใจฤกษ์ พี่น้องทุกคนรวมทั้งคุณรุ่งไม่พอใจ แต่ขัดพ่อไม่ได้ ต่อหน้าคุณรุ่งจึงทำเป็นรักน้องแต่ลับหลังจะคอยกลั่นแกล้งตลอด เมื่อเติบโตเป็นสาว คุณรุ่งพยายามที่จะหาทางออกจากบ้าน เพราะเบื่อความเป็นผู้หญิงที่ถูกผู้ชายกดขี่ทางเพศ เมื่อคุณไกร (เคลลี่ ธนพัฒน์) ลูกชายคนเดียวของ กรุณ การุณพินิตย์ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันท์) คหบดีใหญ่มาผูกสัมพันธ์ไมตรีด้วย ความที่คุณไกรเป็นชายหนุ่มรูปงาม พูดจาไพเราะและช่างเอาอกเอาใจ ผิดจากผู้เป็นพ่อ ทำให้คุณรุ่งยอมรับไมตรีได้ไม่ยาก ไม่นานคุณรุ่งก็ตกหลุมรักถึงขนาดยอมหมั้นหมายด้วย แต่คุณไกรกลับทำให้คุณรุ่งช้ำใจ ด้วยการว่านเสน่ห์ให้กับผู้หญิงและเที่ยวมีสัมพันธ์ไปทั่ว ขนาดสาวใช้ในบ้านอย่าง เรไร (ปริษา ตัณทนาวิวัฒน์) ก็ไม่เว้น พอคุณรุ่งจับได้เลยตัดขาด พอคุณไกรมาง้อคุณรุ่งก็ไล่ตะเพิด นับจากวันนั้นคุณรุ่งก็ไม่เคยเชื่อมั่นในความรักอีกเลย เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของ อรอนงค์ (พิชญ์นาฏ สาขากร) ศัตรูคู่แข่งของคุณรุ่ง เลยถือโอกาสนี้เข้าไปปลอบใจคุณไกร จนเกิดได้เสียกัน เลยถูกบังคับให้แต่งงาน เมื่อคุณรุ่งรู้ข่าวเสียใจเป็นอย่างมาก จากความช้ำใจกลายเป็นความเกลียดแค้น ชิงชัง จนจิตใจของคุณรุ่งเต็มไปด้วยความเก็บกด อิจฉา ริษยา ไม่อยากเห็นใครมีความสุข ส่วนอรอนงค์เองก็ไม่เคยมีความสุขในชีวิตแต่งงานเลย เพราะคุณไกรไม่สามารถลืมคุณรุ่งไปจากใจได้เลย แม้ว่าจะมีโซ่ทองคล้องใจอย่าง ทักษิณาหรือหนูนา (อินทิรา เกตุวรสุนทร) ลูกสาวทั้งคน แต่คุณไกรก็ยังคงพยายามไปตามง้อคุณรุ่งตลอดเวลา มันยิ่งทำให้อรอนงค์ผูกใจเจ็บคุณรุ่งมากขึ้น ในขณะที่คุณรุ่งเองก็รังเกียจการกระทำของผู้ชายแบบคุณหลวงเต็มที คุณรุ่งจึงพร่ำสอน กรอกหูน้องสาวเสมอถึงความชั่วช้าสามานย์ของผู้ชาย แต่คุณรัตน์ไม่เชื่อฟังแอบไปคบกับ ปกรณ์ ชาญบุรี (อรุชา โตสวัสดิ์) ลูกกุลี เมื่อคุณรุ่งรู้เข้าก็โกรธมาก ทั้งด่าและทุบตี พร้อมสั่งห้ามไม่ให้คบกันอีก ซึ่งคุณรัตน์ก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปอยู่กินกับปกรณ์ ทำให้คุณรุ่งโกรธมากถึงขั้นตัดขาดจากความเป็นพี่เป็นน้องกัน เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของ มาโนช สุกรมกิจ (นนทพจน์ ใจกันทา) หนุ่มหล่อข้างบ้านของคุณรุ่ง ซึ่งแอบชอบคุณรุ่งอยู่ แต่ถูกคุณรุ่งดูถูกสารพัดหาว่าเป็นขี้ครอก ไม่มีศักดิ์มีตระกูล มาโนชจึงหันไปให้ความสนใจกับคุณน้อยแทน ซึ่งคุณน้อยก็ยอมรับไมตรีอย่างง่ายดาย พอคุณรุ่งจับได้เลยสั่งกักขังบริเวณไม่ให้พบกัน แต่คุณน้อยไม่ยอม ในที่สุดก็หนีออกจากบ้านไปอยู่กับมาโนชทั้งที่ยังเรียนไม่จบ คุณรุ่งเสียใจมาก ความคาดหวังทั้งหมดจึงตกไปอยู่ที่น้องสาวคนสุดท้อง คือ คุณนิจ ที่ถูกกรอกหูตั้งแต่เล็กจนโตเกี่ยวกับเรื่องความเลวของผู้ชาย เลยทำให้ไม่กล้าเข้าใกล้ผู้ชาย ฤกษ์พี่ชายต่างมารดาสุดแสนจะสงสารน้องสาว จึงมาคอยดูแลแต่ทุกครั้งก็จะถูกคุณรุ่งสั่งห้ามตลอด ฝ่ายคุณรัตน์ เมื่อหนีออกจากบ้านมาอยู่กับปกรณ์ ก็พบแต่ความลำบาก เพราะปกรณ์กลายเป็นชายหนุ่มขี้เมา หยาบคาย ชอบทุบตีและใช้กำลัง คุณรัตน์ทุกข์ใจมาก แต่ไม่กล้าย้อนกลับบ้าน เพราะกลัวคุณรุ่ง และอีกอย่างคุณรัตน์ก็มีลูกชายหนึ่งคนชื่อ ชาตรี (พิชยดลย์ พึ่งพันธ์) ด้วยไม่อยากให้ลูกขาดพ่อเลยต้องจำใจอยู่ต่อ วันหนึ่งคุณรุ่งไปตลาดแล้วเจอคุณรัตน์กำลังเข็นผักอยู่ แทนที่คุณรุ่งจะสงสารน้อง แต่กลับหันไปเยาะเย้ยสมน้ำหน้า แล้วก็ไม่แม้แต่จะชายตามองชาตรี ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีหลาน ส่วนตัวคุณรัตน์เองก็ไม่กล้าเล่าเรื่องชาติตระกูลให้ชาตรีรู้ เพราะไม่อยากให้ราชศักดิ์มนตรีธรรมต้องเสื่อมเสียเพราะเธอ จะมีก็แต่ปกรณ์ที่เทียวไปเทียวมาที่บ้านราชศักดิ์มนตรีธรรม เพื่อขอเงินบ่อย ๆ แต่ถูกคุณรุ่งไล่ตะเพิดออกมาทุกครั้ง ก็มีแต่คุณนิจที่คอยช่วยเหลือเจือจาน เพราะสงสารพี่สาวและหลานชาย แต่เมื่อถูกคุณรุ่งจับได้เลยถูกทุบตีทรมาน ชีวิตคุณรัตน์ก็เฉกเช่นเดียวกับคุณน้อย ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความรัก เมื่อมาโนชเปลี่ยนไป กลายเป็นคนเจ้าชู้ ทั้ง ๆ ที่มีลูกสาว ณชนกหรือหนูนก (กรรณาภรณ์ พวงทอง) เป็นโซ่ทองคล้องใจก็ตาม เมื่อคุณรุ่งรู้ข่าวก็สะใจมากที่ชีวิตน้องสาวแต่ละคนได้รับความทุกข์ ทรมานอย่างแสนสาหัสที่รักไม่เป็นอย่างที่หวัง คุณนิจจึงต้องอยู่ในห้วงแห่งความเกลียดชัง สิบปีต่อมาคุณนิจโตเป็นสาวเต็มตัวเข้าเรียนในวิทยาลัย มีเพื่อนสนิทคนเดียวชื่อ ปรางเชย (กัญญกร พินิจ) ซึ่งปรางเชยเป็นลูกสาวของ ครูเสรี (นึกคิด บุญทอง) ครูที่นักเรียนทุกคนต่างนับถือและยึดเป็นแบบอย่างหนึ่งในนั้นก็มี เมืองใหญ่ (รังสิต ศิรนานนท์) กับ เมืองเล็ก (ธาวิน เยาวพลกุล) สองพี่น้องลูกนายตำรวจใหญ่ เมืองเล็กสนิทกับปรางเชยเลยชอบล้อเลียนปรางเชยกับคุณนิจว่าเป็นพวกวิปริตผิด เพศ คุณนิจรู้เข้าก็ไม่พอใจ เลยทำให้ทั้งคู่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ในขณะเดียวกันเมืองใหญ่ก็แอบหลงรักคุณนิจอยู่ และคุณนิจก็เผลอหลุดปากเล่าเรื่องของเมืองเล็กให้คุณรุ่งฟัง แทนที่จะเข้าข้างน้อง แต่กลับดุว่าและไม่ให้พูดคุยกับเมืองเล็กอีก ไม่อย่างนั้นจะถูกจับขัง คุณนิจกลัวมากจึงได้แต่หุบปากและจมอยู่กับความคิดของตัวเองเพียงลำพัง คุณนิจไม่กล้าปรึกษาคุณรุ่ง เมื่อปรางเชยมีทีท่าแปลก ๆ ที่เกินเลยคำว่าเพื่อน คุณนิจได้แต่พยายามหนีออกห่าง จนปรางเชยตรอมใจ เมืองเล็กรู้ข่าวก็ตามมาต่อว่าคุณนิจทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากจนคุณนิจล้มลงไปอยู่ในอ้อมกอดของเมืองเล็ก เลยทำให้ทั้งคู่รู้ว่าตนเองมีใจให้แก่กันแล้ว เมืองเล็กพยายามบุกเข้าไปหาคุณนิจเพื่อขอโทษ แต่ทุกครั้งก็ถูกคุณรุ่งกีดกัน แต่เมืองเล็กก็ไม่ละความพยายามบอกกับตัวเองว่าจะต้องเอาชนะใจของคุณรุ่งและ คุณนิจให้ได้ ในขณะเดียวกัน รตี (ธิดารัตน์ จักรสิงโต) หญิงสาวที่แอบรักเมืองเล็กอยู่ แต่เมืองเล็กไม่สนใจ รตีเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปเรื่อย แต่ไม่มีใครสนใจ ด้วยความโกรธเกลียด ริษยา ทำให้รตีหาทางยุแหย่ ให้เมืองเล็กเข้าใจคุณนิจผิด แล้วความมุทะลุดุดันของเมืองเล็กก็ทำให้คุณนิจเดือดร้อน โดนคุณรุ่งทุบตี หนำซ้ำยังเอาแมวตัวโปรดมาเชือดคอต่อหน้าต่อตาคุณนิจเป็นการลงโทษ ทำให้คุณนิจช๊อคจนพูดไม่ออกและหลังจากนั้นก็พูดไม่ได้อีกเลย เมืองเล็กทราบข่าวก็เสียใจที่เป็น ต้นเหตุทำให้คุณนิจพูดไม่ได้เลยตัดสินใจบุกเข้าไปแย่งชิงตัวคุณนิจออกมาแต่ ไม่สำเร็จ พ่อแม่ของเมืองเล็กเลยต้องตัดสินใจส่งไปเรียนต่อเมืองนอก ก่อนไปได้ฝากให้ปรางเชยดูแลและฝากจดหมายให้คุณนิจ ทำให้ปรางเชยได้มีโอกาสกลับมาใกล้ชิดกับคุณนิจอีกครั้ง แต่ปรางเชยไม่ยอมมอบจดหมายให้คุณนิจพร้อมกับแต่งเรื่องว่าเมืองเล็กไปชอบ ผู้หญิงเมืองฝรั่งแล้ว ทำให้คุณนิจเสียใจมาก ทุกครั้งที่ปรางเชยเข้าใกล้คุณนิจ คุณนิจจะทำท่ารังเกียจ โดยที่คุณรุ่งไม่รู้ว่าปรางเชยเป็นพวกผิดเพศ ฉะนั้นปรางเชยจึงมีโอกาสล่วงเกินคุณนิจบ่อย ๆ ในขณะเดียวกันปรางเชยก็ส่งข่าวไปบอกเมืองเล็กว่าคุณนิจตัดใจจากเมืองเล็ก แล้ว เมืองเล็กไม่เชื่อเลยขอร้องให้เมืองใหญ่ช่วยสืบ แม้จะเจ็บปวดใจก็ตาม แต่เมื่อรู้ว่าทั้งสองคนนั้นรักกันจริง ๆ ก็เลยยอมตัดใจ เมืองใหญ่จึงเข้าทางหนูนก หลานสาวของคุณนิจ ให้ช่วยสืบ แล้วทุกครั้งที่เข้าไปที่บ้านก็จะเห็นท่าทีของคุณนิจที่รังเกียจปรางเชยจน น่าสงสัย เลยรีบเอามาบอกเมืองใหญ่ จนเมืองใหญ่สืบรู้ว่าปรางเชยเป็นพวกผิดเพศเลยส่งข่าวบอกน้องชาย แล้วสั่งให้หนูนกหาทางกีดกันไม่ให้ปรางเชยอยู่ใกล้คุณนิจอีก เมืองเล็กทราบข่าวก็รีบกลับมาเมืองไทยแล้วบุกเข้าไปชิงตัวคุณนิจ แต่คุณรุ่งมาขัดขวางไว้ทันเลยยิงเมืองเล็กจนได้รับบาดเจ็บ คุณนิจตกใจกลัว กลายเป็นคนจิตตก หนูนกสงสารน้านิจมาก พยายามปรับทุกข์กับฤกษ์ จนเป็นเหตุให้ฤกษ์ได้รู้จักกับทักษิณา เพื่อนของหนูนก ทักษิณาแนะนำให้ฤกษ์หาทางจัดการห้ามปรางเชยเข้ามาในบ้านอีก ฤกษ์เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คุณรุ่งฟัง แต่คุณรุ่งไม่เชื่อ จนได้เจอกับตัวเอง เลยไล่ตะเพิดปรางเชยออกจากบ้านไป ฤกษ์โล่งใจมาก แต่คุณรุ่งก็ไม่ยอมรับอยู่ดีว่าเป็นคนเปิดทางให้ปรางเชยมาใกล้ชิดกับคุณนิจ ในเวลาต่อมาฤกษ์ก็ตกหลุมรักทักษิณา แต่ฤกษ์ต้องหัวใจสลายเมื่อรู้ว่าทักษิณาคือลูกของอรอนงค์และคุณหลวง ศัตรูหัวใจของคุณรุ่ง เมื่อรู้ว่าฤกษ์คือน้องชายต่างมารดาที่แม่มีศักดิ์แค่คนใช้ของคุณรุ่ง อรอนงค์ก็ตั้งท่ารังเกียจ จึงบุกไปหาคุณรุ่งที่บ้านแล้วสั่งห้ามไม่ให้ฤกษ์มายุ่งกับลูกสาวของตนอีก คุณรุ่งโกรธมากที่อรอนงค์บุกมาด่าตนถึงบ้าน เลยอาละวาดทุบตีฤกษ์บ้านแทบแตก สั่งไม่ให้ไปยุ่งกับบ้านนั้นอีก แต่ฤกษ์ไม่ยอมกลับยอมให้คุณรุ่งตัดขาดจากความเป็นพี่เป็นน้อง เพื่อขอไปใช้ชีวิตกับทักษิณา คุณรุ่งโกรธมากที่คนว่านอนสอนง่ายอย่างฤกษ์เปลี่ยนไป เลยแกล้งทำใจยอมรับ พร้อมทั้งวางแผนเชิญทักษิณามารับประทานอาหารที่เรือนเล็ก แล้วให้ฤกษ์พาคุณนิจมาด้วย แต่ในใจคิดว่า “ฉันไม่มีวันให้ใครไปจากฉันทั้งนั้น” คุณรุ่งสั่งให้ ป้าพริ้ง (จารุศิริ คชหิรัญ) ไปซื้อยานอนหลับมาให้ แล้วคุณรุ่งก็เอายานอนหลับนี้ไปผสมกับอาหาร โดยที่ไม่รู้ตัวว่าระหว่างจัดสำรับอยู่นั้นสลวยได้มาสลับถ้วยชาไป จนคนที่ดื่มชากลายเป็นคุณรุ่ง ไม่นานยาก็ออกฤทธิ์ ทุกคนเกิดอาการง่วงงุน ยกเว้นคุณนิจที่นั่งเหม่อลอยเพราะไม่ได้กินชา แต่คุณรุ่งก็ไม่ทันเฉลียวใจ ด้วยใจอาฆาตพยาบาทมีมากกว่า จึงจุดไฟเผาเรือนหลังเล็กกะจะให้ทุกคนนอนตายอยู่ในนั้น ขณะที่เปลวไฟกำลังไหม้ คุณรุ่งก็หมดสติไป พร้อม ๆ กับฤกษ์และทักษิณา มีเพียงคุณนิจที่นั่งกอดเข่าด้วยความกลัว เพราะเธอพูดไม่ได้แถมยังสติไม่สมประกอบ เดชะบุญที่เมืองเล็กและเมืองใหญ่บุกเข้ามาหวังจะชิงตัวคุณนิจ จึงพบเห็นเหตุการณ์เลยรีบเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่รู้ว่าเมืองเล็กและเมืองใหญ่จะสามารถช่วยคุณนิจ,ฤกษ์,ทักษิณา และคุณรุ่งได้หรือไหม แล้วบทสรุปสุดท้ายของคุณรุ่งจะเป็นหรือตายต้องคอยติดตามชมกันต่อไป ในละคร เรือนซ่อนรัก

ตะวันยอแสง 2553

เรื่องย่อ : ตะวันยอแสง (2553/2010) ตะวัน (เขมนิจ จามิกรณ์) อาศัยอยู่ในเรือกระชังกับ สาย (รชนีกร พันธุ์มณี) และ คร้าว (ทนงศักดิ์ ศุภการ) พ่อเลี้ยงขี้เมา ยังชีพด้วยการรับจ้างบรรทุกสินค้าล่องไปตามจังหวัดต่าง ๆ ตะวันมี เอี้ยง (ชวนภ โพธิประเสริฐ) ที่อาศัยอยู่ในเรือกระชังอีกลำกับแม่และพ่อเลี้ยงใจร้ายเหมือนตะวันเป็นสมุน คู่ใจ เมื่อตะวันต้องบรรทุกรำไปส่งที่เรือแพคลองบางหลวง ทำให้สายกังวลใจมากจนตะวันผิดสังเกต แต่สายอ้างว่าไม่อยากให้ไปที่นั้นเพราะ อินตา (ทองขาว ภัทรโชคชัย) พ่อของตะวันเคยก่อเรื่องไว้ สายเสียใจที่คิดถึงเรื่องในอดีต ความจริงที่อินตาต้องติดคุก เพราะฆ่าคนตาย ทำให้สายตัดสินใจผิดมาอยู่กับคร้าว เรือของตะวันกับเอี้ยงจอดรอส่งรำอยู่ตรงท่าน้ำใกล้กับเรือนแพและคฤหาสน์หลัง หนึ่ง ซึ่งเป็นที่ห้ามจอดเรือ ทำให้ตะวันมีเรื่องกับ นเรนทร์ (บวรพจน์ ใจกันทา) ลูกชายของ ท่านต้น (ดิลก ทองวัฒนา) เจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ พริ้มเพรา (อภิรดี ภวภูตานนท์) ป้าของนเรนทร์จะเอาเรื่องตะวัน แต่ ศักดิ์ระพี หรือ คุณเล็ก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เข้ามาห้ามเพราะรู้ว่านเรนทร์ทำร้ายตะวันก่อน สายเข้ามาขอโทษคุณเล็กกับพริ้มเพราแล้วรีบพาตะวันกลับ พริ้มเพราเห็นสายถึงกับตกใจ กลัวความลับจะแตก เพราะเมื่อ 12 ปีก่อน พริ้มเพราอิจฉา ดวงพร (เขมนิจ จามิกรณ์) ที่ท่านต้นรับเป็นอนุภรรยาแทนที่จะเป็นตน เมื่อดวงพรคลอดลูกเป็นผู้หญิงแล้วเธอก็ตาย แต่ก่อนตายดวงพรบอกกับ คุณใหญ่ (กชกร นิมากรณ์) ภรรยาหลวงของท่านต้นว่า ลูกของเธอมีปานแดงรูปหัวใจที่เหนือหน้าอกด้านซ้าย พริ้มเพราผิดหวังที่ไม่มีลูกชายไว้สืบสกุล จึงสลับตัวลูกสาวของดวงพรกับลูกชายของสายกับอินตา และให้ ช้อน (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) เอาเงินปิดปาก ละม่อม (ดารณีนุช โพธิปิติ) หมอตำแย ไม่ให้บอกใคร ทุกคนเข้าใจว่านเรนทร์คือทายาทของคฤหาสน์เดชาบดินทร์ คุณใหญ่จึงทำพินัยกรรมมอบสมบัติให้ลูกชายของดวงพร ตะวัน กับเอี้ยงอยู่เฝ้าเรือรอสายที่ไปหาหมอ ท่านต้นขับเรือเล่นบริเวณนั้น นเรนทร์ประมาทจนเรือผลิกคว่ำทำให้ท่านต้นตกน้ำ ตะวันกับเอี้ยงช่วยท่านต้นขึ้นมาบนเรือ เมื่อมาถึงคฤหาสน์ ท่านต้นสั่งรื้อป้ายห้ามจอดเรือทั้งหมด เพราะซาบซึ้งในน้ำใจของตะวัน คร้าวบังคับเอาเงินกับตะวัน สายเข้ามาช่วยจนแทงคร้าวตาย แล้วเอาจดหมายกับเงินให้ตะวันกับเอี้ยงไปหาพริ้มเพราที่เรือนแพในคลองบาง หลวง ส่วนสายมอบตัวกับตำรวจ ช้อนบอกความจริงกับท่านต้นต่อหน้าคุณใหญ่และคุณเล็กว่า ตะวันคือลูกของดวงพร ท่านต้นตรอมใจที่ตามหาตะวันไม่เจอ ก่อนสิ้นลม จึงทำพินัยกรรมฉบับใหม่ขึ้นมา พร้อมบอกคุณใหญ่ให้พาตะวันกลับบ้านให้ได้ ตะวันเข้าไปเคารพศพท่านต้นที่วัดด้วยความหดหู่ ก่อนจะหนีคุณใหญ่ไปเพราะกลัวความผิดที่เคยทำร้ายนเรนทร์ ตะวันปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อไม่ให้ใครจำได้ ส่วนเอี้ยงก็เปลี่ยนชื่อเป็น นพดล และโกนหัวเพื่อปลอมตัวเช่นกัน ตะวันหลอกคุณเล็กว่าชื่อ ยอแสง เป็นพี่น้องกับนพดลหนีออกมาจากบ้านเพราะถูกพ่อเลี้ยงทารุณ คุณเล็กจึงรับอุปการะทั้งสองให้ได้เรียนหนังสือ และโกหก พร้อมมิตร (ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) ลูกอนุภรรยาของท่านต้นว่า ทั้งสองเป็นญาติมาจากต่างจังหวัด ยอแสงกับนพดลได้รู้จักกับ ธาดา (ธาราเขต เพ็ชรสุกใส) นักเรียนรุ่นพี่ ธาดามักจะคอยช่วยเหลือทั้งสอง จนทั้งสองซาบซึ้งในน้ำใจ คุณเล็กไปเรียนต่อเมืองนอกจึงฝากยอแสงและนพดลไว้กับคุณใหญ่ 6 ปีผ่านไป เด็กทุกคนในเรือนแพโตเป็นหนุ่มเป็นสาว พร้อมมิตรทำงานในบริษัทใหญ่โต จิตรใส (วรภร เลิศเกียรติไพบูลย์) น้องสาวของพร้อมมิตรและนเรนทร์ยังคงเรียนซ้ำชั้นมัธยม นพดลสอบเข้านายร้อยตำรวจได้ ยอแสงเรียนอักษรศาสตร์หวังจบมาเป็นอาจารย์ ส่วนอินตาเองก็พ้นโทษ ยอแสงกับ ใจบุญ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ได้พบกับธาดาและนพดล นพดลแอบชอบใจบุญตั้งแต่แรกเห็น ธาดาเองก็สนใจยอแสงแต่ยอแสงไม่สนใจ คุณเล็กเดินทางกลับจากต่างประเทศ เมื่อได้พบกับยอแสงก็ถึงกับตะลึงในความสวย แต่ก็ทำตัวเหินห่างจนยอแสงน้อยใจ นเรนทร์รู้ว่าคุณใหญ่จะยกสมบัติให้ยอแสงจึงคิดกำจัดแต่ไม่สำเร็จ คุณใหญ่ยอมพูดว่านเรนทร์ไม่ใช่ลูกท่านต้น นเรนทร์ถามความจริงจากพริ้มเพรา นเรนทร์กลัวความจริงจะเปิดเผยจริงฆ่าช้อนและละม่อม คุณ ใหญ่ตัดสินใจเปิดพินัยกรรมก่อนกำหนด อินตาปรากฎตัวขึ้นทุกอย่างถูกเปิดเผย ยอแสงหรือตะวันคือทายาทที่แท้จริงของท่านต้นและดวงพร นเรนทร์คลั่งมากคว้าปืนมายิงทุกคน คุณเล็กกับอินตาช่วยกันจับตัวนเรนทร์ส่งตำรวจ ยอแสงหรือตะวันได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ ที่แท้จริง คุณเล็กได้เปิดเผยความในใจกับตะวัน ความอบอุ่นจึงกลับคืนมาอีกครั้ง

เงากามเทพ 2553

เรื่องย่อ : เงากามเทพ (2553/2010) เมื่อโรมหนุ่มกรุงเทพฯ ไฮโซเนื้อหอมโดนกลั่นแกล้งและโกงจนหมดตัว เขาจึงไปตั้งต้นชีวิตใหม่ในดินแดนไกลปืนเที่ยง แต่แล้วเพื่อนสนิทต้องจบชีวิตอยางอนาถ โดยค้นพบว่าคู่แค้นของเขาอำมหิตขนาดสลับเปลี่ยนตัวลูกสาวคนเดียวกับลูกของคน ใช้ เพื่อสมบัติมหาศาล เขาจึงใช้เด็กสาวเป็นเครื่องมือทำร้ายอีกฝ่ายอย่างเลือดเย็น โดยใช้โฉมหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรซ่อนความโหดเหี้ยมอำมหิตดุจมารร้าย ไว้ แต่ความบริสุทธิ์น่ารักไร้เดียงสาของเธอกลับทำให้หัวใจมารนั้นอ่อนไหว เขาจะเลือกความแค้นหรือความรัก

คุณพ่อหวานแหวว 2553

เรื่องย่อ : คุณพ่อหวานแหวว (2553/2010) รมิดา (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) สาวสวยหน้าหวานมารอรับ แมนยู (ชญานิน เต่าวิเศษ) ลูกชายวัย 5 ขวบที่โรงเรียนอนุบาล เธอเห็นลูกชายตัวน้อยกำลังผลักอกเด็กชายวัยเดียวกันเซล้มลง รมิดาจำได้ว่าเด็กคนนั้นชื่อ น้องบอย เป็นเด็กที่มีเรื่องทะเลาะกับแมนยูบ่อยๆ หญิงสาวรีบวิ่งไปดึงนายตัวดีออกมาก่อนที่แมนยูจะกระโจนเข้าไปฟัดน้องบอยอีก ครูเวรรีบเข้ามาช่วยแยกเด็กทั้งคู่ออกจากกัน รมิดาต้องช่วยครูเวรไกล่เกลี่ยคู่กรณีอยู่ครู่ใหญ่ พอขึ้นรถสองแม่ลูกก็หน้าบึ้งเข้าหากัน แมนยูมอง “แม่ดา” ตาคว่ำ เด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ดาต้องโกรธด้วย ทั้งๆ ที่น้องบอยเป็นฝ่ายหาเรื่องเขาก่อน แมนยูงอนไม่ยอมกินของว่างแสนอร่อยที่แม่ดาเตรียมไว้ให้ บรรยากาศในรถเงียบกริบ ไม่สนุกสนานเหมือนทุกวัน เมื่อกลับมาถึงบ้าน รมิดาดึงตัวลูกน้อยมาซักถามเรื่องราวทันที เธอแปลกใจที่แมนยูยืนกรานแต่ว่าแกไม่ผิด รมิดาคว้าไม้เรียวทั้งที่ไม่อยากทำ แต่ในเรื่องลูกชายดื้อนักก็ต้องปราบกันบ้าง หญิงสาวฟาดก้นแมนยูไปหนึ่งที เด็กน้อยน้ำตาคลอพึมพำปนสะอื้นว่า “น้องบอยล้อแมนยูว่าไม่มีพ่อ อยู่กับแม่ต้องเป็นตุ๊ดแน่ๆ แมนยูเถียงว่าไม่ใช่…บอยก็ไม่ยอมหยุดล้อ…แมนยูโมโหเลยผลักบอยล้ม….” รมิดาทิ้งไม้เรียวเข้ามากอดลูกชายอย่างสงสาร เธอส่งตัวลูกชายให้พี่เลี้ยงแล้วนั่งซึมหวลคิดถึงอดีต….ที่จริงแล้วแมนยู เป็นลูกชายของ ชาญศักดิ์ (สุรวุท ไหมกัน) กับ สีดา (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) แต่แม่ของแกหย่ากับชาญศักดิ์ แล้วไปอยู่อเมริกาตั้งแต่คลอดแมนยูได้ไม่กี่เดือน ชาญศักดิ์จึงเลี้ยงลูกตามลำพัง เขารวยมากเป็นเจ้าของที่ดินและอาคารพาณิชย์หลายแห่ง แค่บริหารจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ก็เกินพอแล้ว เขาโชคดีที่มี สุริยน (พาทิศ พิสิฐกุล) ซึ่งเป็นน้องชายคอยช่วยดูแลอีกแรง……ชาญศักดิ์รู้จักและสนิทสนมกับ สุเทพ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) พ่อของรมิดา สุเทพเปิดร้านอาหาร เขาเป็นเชฟฝีมือดีจึงมีลูกค้ามาอุดหนุนมากมาย ชาญศักดิ์และแมนยูเป็นลูกค้าประจำจึงคุ้นเคยกับรมิดามาก….แม้จะเป็นสาว หน้าหวาน แต่รมิดาตัดผมสั้น บุคลิกเก๋ เท่ห์ ชวนมอง ดูเผินๆ เหมือนผู้ชายหน้าสวยคนหนึ่ง หญิงสาวค่อนข้างซนแก่น จึงเข้ากับแมนยูได้ดีเด็กชายเองก็ติดเธอมากเช่นกัน รมิดาเข้าใจและเห็นใจแมนยูที่ไม่มีแม่ เพราะเธอเองก็ไม่รู้จัก “แม่” เช่นกัน ในชีวิตเธอมีแต่พ่อสุเทพเท่านั้น เธอเคยถามถึงแม่ สุเทพเล่าให้ฟังอย่างเจ็บปวดว่า…แม่ของเธอเป็นลูกสาวเศรษฐี ไม่อยากจะมากัดก้อนเกลือกินกับพ่อซึ่งเป็นเชฟจนๆ จึงหนีกลับไปอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่รมิดายังแบเบาะ ที่น่าเสียใจคือพ่อเพิ่งรู้ว่าแม่ไม่รักพ่อและเธอเลย ก็เพราะแม่ให้คนสนิทมานัดให้พ่อไปรับที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยบอกว่าจะหนีไปกับพ่ออีกครั้ง แต่เมื่อถึงวันนัดแม่กลับไม่มา แต่มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งมาแทน คนพวกนั้นต้องการกำจัดพ่อกับรมิดา พ่อต้องอุ้มเธอหนีตายกระเซอะกระเซิง….ไม่นานนัก พ่อก็ได้ข่าวว่าแม่แต่งงานใหม่กับลูกชายเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่ง พ่อจึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารทำมาหากินเลี้ยงรมิดาคนเดียว ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้พ่อผิดหวัง นอกจากเรียนเก่งแล้วเรื่องการทำอาหารเธอก็มีฝีมือมากเช่นกัน มิเสียแรงที่สุเทพอุ้มเข้าครัวตั้งแต่เล็กๆ รมิดาจึงมีรสมือที่ไม่ต่างจากสุเทพเลย เธอทำอาหารได้ดีทุกอย่าง ที่ถนัดมากคืออาหารจีน ชาญศักดิ์เห็นลูกชายติดรมิดามาก เขาเองก็อยากให้ลูกมีแม่ ได้มีครอบครัวอบอุ่นเหมือนคนอื่นบ้าง แต่ก็ยังไม่พบใครที่รักและเอ็นดูลูกชายของเขาได้เหมือนเธอ ชาญศักดิ์เฝ้าดูรมิดามานาน และรักเธอในที่สุดเขามั่นใจว่าเธอเป็นคนดีจึงขอรมิดาแต่งงาน ซึ่งสุเทพก็สนับสนุนเต็มที่ ทว่าอีกไม่นานสุเทพเกิดป่วยหนัก ชาญศักดิ์ช่วยรมิดาพาพ่อไปโรงพยาบาล แต่สุเทพอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนตายสุเทพบอกลูกสาวว่าแม่ของเธอชื่อ นัยนา (สุภัทธา ทิวานนท์) เป็นลูกสาวคนเล็กของ ทรงยศ (สมบัติ เมทะนี) กับ สุรีย์ เจ้าของโรงแรมเจสเตอร์ หลังจากแต่งงานกับ ศิริ (ทูน หิรัญทรัยพ์) ทายาทคนเดียวของเจ้าของโรงแรมสยามคอสโม เธอก็เข้ามาบริหารโรงแรมสยามคอสโมเต็มตัว ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว…..การที่สุเทพตัดสินใจบอกความจริงกับรมิดา ก็เพราะไม่ต้องการให้เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลนี้ไม่ว่าใครทั้งนั้น เมื่อรมิดาจัดการงานศพบิดาและออกทุกข์เรียบร้อย ชาญศักดิ์จึงเริ่มกำหนดงานแต่งงาน รมิดาโชคดีที่ทั้งลูกชายและน้องชายชาญศักดิ์ยอมรับเธอ แต่แล้วก่อนจะถึงวันแต่งงานเพียงสามวัน ชาญศักดิ์ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต รมิดากับสุริยนจึงต้องช่วยกันจัดงานศพและดูแลแมนยูไปพร้อมกัน…ชาญศักดิ์ เป็นคนรอบคอบมาก เขาทำพินัยกรรมไว้เรียบร้อย ทั้งสุริยน แมนยู และรมิดาต่างก็ได้รับมรดกเป็นทรัพย์สินที่มากพอจะอยู่ได้อย่างสบายไปตลอด ชีวิต….รมิดานั้นรักแมนยูมาก เธอดูแล ตั้งใจเลี้ยงดูเด็กน้อยราวกับเป็นลูกของเธอเอง หญิงสาวทำหน้าที่แม่ได้เป็นอย่างดี เธอไปรับไปส่งแมนยูที่โรงเรียนทุกวัน อาหารการกินก็ทำเอง วิถีชีวิตราบรื่น อบอุ่น มีความสุข…..แต่เหตุการณ์ที่โรงเรียนวันนี้ก็ทำให้รมิดาไม่สบายใจ สุริยนมาหารมิดาก็เห็นเธอนั่งหน้ามุ่ย รมิดาเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟัง เพราะเธอกับเขาก็สนิทกันมาก ชายหนุ่มเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายที่แสนดี ไม่เคยคิดกับเธอเป็นอื่น รมิดาอยากเห็นแมนยูเติบโตขึ้นอย่างไม่มีปมด้อย และมีความสุขมากที่สุด สุริยนไม่อยากให้รมิดากังวลเกินไป เพราะแมนยูยังเด็กนัก แต่เขาก็รับปากจะช่วยเธอทุกเรื่อง….

สวรรค์สร้าง 2553

เรื่องย่อ : สวรรค์สร้าง (2553/2010) ด้วยสมองระดับอัจฉริยะของ นับรบ พยัคฆ์ราชา (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) ทำให้เขากลายเป็นประธานบริษัทไทเกอร์คิงในวัยเพียง 25 ปี นักรบมองโลกเหมือนเสือ ไม่มีจริยธรรมควบคุม เขาสั่งตัดงบเกี่ยวกับความปลอดภัยของ เอื้อ (รติพงษ์ ภูมาลี) พี่ชายของ อุ่นใจ (พีชญา วัฒนามนตรี) จนเมื่อบริษัทของนักรบเกิดไฟไหม้ เอื้อโชคร้ายถูกคานทับขณะหนีเอาตัวรอดจากเปลวเพลิงจนกลายเป็นคนพิการ นักรบสั่งปิดข่าวและไล่เอื้อออกเพื่อรักษาภาพพจน์ เมื่อเอื้อรู้ความจริงหัวใจแทบสลาย เพราะเคยวาดฝันว่าจะใช้เงินก้อนนี้เปิดร้านซ่อมมือถือ ส่งอุ่นใจเรียนและเลี้ยง โอ๋ (ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ) ลูกชายวัย 10 ขวบ พร้อมทั้งดูแลแม่ นวล (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ที่ป่วยเป็นอัมพาต เอื้อทำในสิ่งที่ไม่คาดฝันด้วยการไปยืนขวางรถมอเตอร์ไซค์ของนักรบ หวังจะฆ่าตัวตายต่อหน้านักรบ นักรบหักหลบจนรถเสียหลักศรีษะกระแทกกับของแข็ง ทั้ง 2 ถูกนำตัวส่งห้องไอชียูทันที นักรบฟื้นขึ้นมาและจำเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตไม่ได้ คุณหญิง นายิกา (สุปรีย์ฏา คำนวณศิลป์) ผู้เป็นแม่จึงสั่งให้ ทองทิว (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) เลขาฯ ของนักรบช่วยเรียกความทรงจำของนักรบกลับมา และสั่งให้ปกปิดเรื่องทั้งหมด เพราะบริษัทพันล้านของเขาต้องอาศัยสมองอัจฉริยะของนักรบเป็นต้นทุนในการบริหาร นักรบคนใหม่เกิดความรู้สึกประหลาดต่อตัวเขาในอดีตที่เป็นคนหยิ่งผยองและไร้น้ำใจอย่างสิ้นเชิง เหตุการณ์เหล่านี้อยู่ในสายตาของ นิมมาน (แวร์ โชว) น้องสาวของนายิกาที่อิจฉาพี่สาวที่ร่ำรวย ในขณะที่ นักคิด (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูกชายกลับเป็นคนไม่เอาถ่าน และมักมีเรื่องชกต่อยกับนักรบเพื่อแย่ง ดาราราย (ปัญฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) สาวสวยไฮโชลูกของ ท่านรัฐมนตรี ตุลย์ (คาเมล ซาลวาลา) ที่พร้อมจะสนับสนุนการงานของไทเกอร์คิง และนิมมานยังแอบทรยศหักหลังนายิกาด้วยการไปคบกับ จอมภพ (สิรคุปต์ เมทะนี) เจ้าของบริษัทสัมปทานโทรศัพท์คู่แข่ง และหวังจะถอดนักรบออกจากตำแหน่ง อุ่นใจมีเพื่อนสนิทชื่อ ดอกจัน (ป่านทอง บุญทอง) คอยให้คำปรึกษา อุ่นใจมองเห็นความอ่อนโยนของนักรบจนคิดว่านักรบสำนึกผิด ดารารายเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ของอุ่นใจกับนักรบจึงเริ่มแผนร้ายด้วยการให้ ชูชี่ (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) คอยกลั่นแกล้ง เปลวแสง (สุจิตรา เรืองรองหิรัญญา) นักข่าวที่ตามทำข่าวเรื่องเอื้อ เอื้อกลัวอุ่นใจจะเปลี่ยนข้าง จึงหลอกนักรบไปที่สนามแข่ง และฉายภาพอุบัติเหตุให้ดูจนนักรบหมดสติไป ทองทิวต้องพาไปโรงพยาบาลอีกครั้ง นักรบฟื้นขึ้นมาด้วยแววตาของเสือถามเรื่องราคาหุ้นของบริษัทเป็นอันดับแรก สร้างความดีใจให้กับนายิกายิ่งนัก อุ่นใจไปหานักรบที่บริษัทแต่ถูกนักรบปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย จอมทัพ (อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) ลูกชายของจอมภพที่แอบรักอุ่นใจอยู่ถือโอกาสเข้ามาช่วยปลอบใจ นักรบเริ่มรำลึกถึงความหลังได้ จึงหันกลับมาง้ออุ่นใจอีกครั้ง แต่นายิกาไม่ต้องการให้นักรบกับอุ่นใจรักกัน จึงไปบอกนวลเรื่องที่เอื้อตาย ทำให้นวลเสียใจจนหัวใจวายตาย อุ่นใจโกรธนักรบมากจึงรับหมั้นจอมทัพ และหันไปช่วยงานของพีนิกช์ต่อสู้กับไทเกอร์คิงในการประมูลจนจอมทัพชนะการประมูล นักรบเหลือแต่ตัว แต่ยังตามมาง้ออุ่นใจอีก อุ่นใจจึงท้าให้นักรบกอบกู้บริษัทขึ้นมาใหม่ นักรบเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง และสามารถนำไทเกอร์คิงผงาดขึ้นมาได้ จึงทวงสัญญาด้วยการจับอุ่นใจไปล่องเรือตามลำพัง และประกาศขอรับผิดชอบที่พาอุ่นใจออกไปอยู่สองต่อสอง อุ่นใจปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้จึงยอมถอนหมั้นกับจอมทัพ นิมมานกับนักคิดแค้นใจที่นักรบจะได้ทุกอย่างจึงวางแผนลอบยิง จนนักรบได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ได้รับการช่วยชีวิตไว้อย่างปลอดภัย เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้นักรบตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการบริหารของตนเองใหม่ โดยสนใจความรู้สึกของคนรอบข้างมากขึ้น และตั้งใจจะเป็นนักธุรกิจมือสะอาดที่ไม่เต็มไปด้วยความโลภเหมือนที่ผ่านมา ติดตามชมรื่องราวความเข้มข้นของ ละครสวรรค์สร้าง

เงาหัวใจ 2553

เรื่องย่อ : เงาหัวใจ (2553/2010) เพราะรอยรักรอยแค้นที่เธอฝากไว้ให้เขา ทำให้ เขากลายเป็นคนเลือดเย็น ใช้อำนาจเงินซื้อทุกอย่าง แม้กระทั่งซื้อหัวใจโดยไม่รู้ว่า เธอยอมขายศักดิ์ศรีให้เขาเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่และพี่ชายอันเป็นที่รักเมื่อทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง เงาอดีตที่ทาบทับอยู่ในใจ ก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับความผูกพันครั้งใหม่ที่ยากจะสลัดพ้น ในงานปาร์ตี้ บนห้องพักหรูของตึกสูงกลางมหานครนิวยอร์ค วิศเวศ นักธุรกิจหนุ่มเลือดเย็น กำลังสนุกมือกับการกว้านซื้อกิจการที่ตกต่ำเอามาขายต่อเพื่อเอากำไร ทุกอย่างในชีวิตสามารถซื้อได้ด้วยเงิน นี่คือนิยามของวิศเวศแม้แต่ความรัก วิศเวศควงสาวสวย นางแบบ ดาราไม่ซ้ำหน้า อยากได้อะไรวิศเวศสามารถปรนเปรอซื้อให้พวกเธอได้ทุกอย่างไม่อั้น แต่สาวทุกคนที่เป็นคู่ควงต่างรู้ดีถึงกฎที่ตั้งไว้ คือ ห้ามหวังความสัมพันธ์ที่ถาวร ไม่มีการผูกมัดใด ๆ ทั้งสิ้น อย่าหวังเยื่อใยเพราะต่างก็แค่มาสนุกด้วยกันทั้งสองฝ่าย สิ่งที่ผู้หญิงของวิศเวศเลือกทำเมื่อจบความสัมพันธ์ก็คือ จะเดินออกไปเฉย ๆ หรือเดินออกไปพร้อมเช็คที่เขาเซ็นให้ และนี่คือทางเลือกที่วิศเวศเสนอให้กับคู่ควงคนล่าสุดในงานปาร์ตี้ มีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถรับพฤติกรรมของวิศเวศได้ คือ ลูซี่ ลูกสาวของท่านชายอภินพกับแหม่มฝรั่งลูซี่ทำตัวไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมของวิศเวศ เป็นคู่ควงเบอร์ 1 ที่ออกหน้าออกตาของวิศเวศ วิศเวศได้รับอีเมลล์จาก ไวณิก น้องชายต่างบิดา ให้กลับเมืองไทยด่วน! เนื่องจากโรงงานทอผ้าส่งออกในและนอกประเทศ ที่เค้ายกให้น้องชายดูแลมีปัญหา วิศเวศเป็นลูกชายคนโตของวิมาลากับบิดาเศรษฐีเจ้าของรีสอร์ทหลายแห่งทางภาคใต้ วิมาลาหย่าร้างกับบิดาของวิศเวศ แล้วจึงไปแต่งงานอยู่กินกับบิดาของไวณิกซึ่งมีอายุน้อยกว่า แต่ก็ต้องเลิกรากันอีกเพราะความจู้จี้ เจ้าระเบียบ และการคาดหวังความสมบรูณ์แบบทุกอย่างในชีวิตของวิมาลาเอง หลังจากบิดาของวิศเวศเสียชีวิตและยกมรดกทั้งหมดให้วิศเวศ ไวณิกทั้งรักและนับถือพี่ชายคนนี้มากสำหรับเค้าวิศเวศเป็นทั้งพ่อ พี่ชาย และเป็นไอดอลในใจเลยทีเดียว วิศเวศหัวเสียมากเมื่อกลับมาพบว่าโรงงานไม่ได้มีปัญหาอย่างที่ไวณิกบอก แต่ไวณิกต้องการให้พี่ชายช่วยออกหน้าพูดกับแม่เรื่องที่เค้าชอบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ เธอคนนี้เป็นเพียงพนักงานในโรงงานเท่านั้น แถมยังเป็นแม่ม่ายลูกติดอีก วิศเวศรู้ทันทีว่าน้องชายผู้อ่อนต่อโลกกำลังจะถูกผู้หญิงจับ จึงบอกให้ไวณิกพามาดูตัว แล้ววิศเวศก็ต้องตะลึงเมื่อเจอกับ อัญชิสา หญิงสาวที่ไวณิกชอบ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทำให้อดีตที่แสนเจ็บปวด ความรัก ความแค้นที่อัดแน่นอยู่ในใจหวนคืนมาเมื่อหกปีก่อนที่นิวยอร์ค