ใต้ฟ้า ตะวันเดียว (2553/2010) วินดี้ (ฉัตร ปริยฉัตร) พบรักกับปาร์คชองมิน (ไรอัน วงพารัน) ขณะไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ อเมริกา เมื่อเรียนจบชองมินชวนวินดี้ไปเที่ยวบ้านเกิดของเขาที่เกาหลี และขอวินดี้แต่งงาน โดยสัญญาว่าจะรีบให้พ่อแม่ไปสู่ขอเธอที่เมืองไทย วินดี้ดีใจมาก แต่ลึก ๆ แล้วแอบกลุ้มใจ เพราะรู้ว่าทุกคนในครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะคุณยายพนอจัน (เปียทิพย์) เกลียดคนเกาหลีมาก ซึ่งทั้งแม่ฤทัย (รัชนู บุญชูดวง) และ น้าศจี (ปู นริสรา) ต่างก็พากันบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่เธอถามถึงสาเหตุ ติดตามต่อได้ใน ใต้ฟ้าตะวันเดียว

สองปรารถนา (2553/2010) ปรารถนา ธาราทอง หรือ หนึ่ง (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) แต่งงานกับ ธียศ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ตามคำสั่งเสียก่อนตายของ ปองพล (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) พ่อของหนึ่งและเจ้าของรีสอร์ทบ้านหาดธารา ปองพลมีบุญคุณต่อธียศ ธียศจึงยอมแต่งงานกับหนึ่งแม้จะไม่ได้รัก แต่ในวันแต่งงาน นิชดา (รุจิรา ช่วยเกื้อ) คนรักเก่าของธียศกลับปรากฎตัวขึ้นมาของานทำ เพราะสามีของเธอเสียชีวิตจึงไม่มีใครให้พึ่งพา ด้วยความเห็นใจธียศจึงยอมให้นิชดาอาศัยที่รีสอร์ทโดยให้เป็นผู้ช่วยของตน ราตรีคนสนิทของหนึ่งไม่ไว้ใจนิชดาเพราะเคยเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ของเธอ จึงขอร้องให้หนึ่งไปสืบ แล้วหนึ่งก็พบเงินอยู่เต็มกระเป๋าเดินทางของนิชดา พอไปลองค้นประวัตินิชดาจึงพบว่าเธอคือภรรยาของ เพฑูรย์ (ปราบ ยุทธพิชัย) เลขานักการเมือง ที่เพิ่งรถคว่ำเสียชีวิตไปพร้อมกับเงิน 50 ล้าน หนึ่งตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับธียศ นิชดารู้ทันเลยวางแผนฆ่าปิดปากหนึ่งแต่ไม่สำเร็จเพราะ เฟื่อง (รัญญา ศิยานนท์) คนเก่าแก่ของรีสอร์ทมาเจอจึงช่วยไว้ หนึ่งเอาแต่เพ้อเพราะหวาดกลัวจนเฟื่องเข้าใจผิดว่าธียศเป็นคนวางแผนฆ่าหนึ่ง เฟื่องจึงเอาเสื้อผ้าของหนึ่งไปใส่ให้ราตรี สาวใช้ที่ออกเรือตามหาหนึ่งจนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต เพื่อให้ทุกคนรวมทั้งธียศเข้าใจว่าหนึ่งตายไปแล้ว ท่ามกลางความวุ่นวายหนึ่งกลับหนีเตลิดหายไป จนไปเจอกับ สาริศ (รัชชานนท์ สุขประกอบ) นายตำรวจหนุ่ม สาริศเห็นหนึ่งมีอาการทางจิตเลยให้ หมอสุรเชษฐ์ (พนมกร ตังทัติสวัสดิ์) เพื่อนสนิท และวรรณวลี (แอริน ยุกตะทัต) น้องสาวที่ทำงานอยู่สถานบำบัดจิตเวชช่วยรักษา แม้ธียศจะสงสัยเรื่องการตายของหนึ่ง แต่เพราะรีสอร์ทบ้านหาดธาราโดนพายุซัดหนักจนเสียหาย ธียศจึงต้องระดมเงินมาซ่อมแซม รวมทั้งปิดบัญชีธนาคารในชื่อ ปรารถนา ธาราทอง ของ ปลา (พอลล่า เทเลอร์) หญิงสาวที่มีชื่อและนามสกุลเหมือนหนึ่ง เมื่อปลารู้ว่าบัญชีถูกปิดจึงชวนวรรณวลีเพื่อนสนิทตามไปทวงหนี้ธียศถึงรีสอร์ท ทำให้รู้เรื่องการตายที่น่าสงสัยของหนึ่ง ปลาเริ่มสืบหาความจริงและได้ใกล้ชิดกับธียศ ทั้งคู่จึงเกิดความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ด้วยความระแวงและหึงหวงนิชดาจึงสร้างเรื่องข่มขู่ปลาต่าง ๆ นานา โดยให้เข้าใจว่าเป็นฝีมือของธียศ วรรณวลีจึงขอร้องให้ปลากลับกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัย ด้านสาริศที่รู้ตัวว่าหลงรักหนึ่งก็พยายามสืบประวัติพร้อมกับช่วยรักษาอาการกลัวทะเลของเธอไปด้วย ระหว่างที่ปลาไปหาวรรณวลีที่สถานบำบัด ปลาเกิดทำรูปธียศตกจนหนึ่งไปเห็นเข้าเลยอาละวาดหนัก ทำให้ปลาสงสัยว่าหนึ่งอาจรู้จักกับธียศ เธอจึงตามสืบจาก ภูมิ (ภูริ หิรัญพฤษ์) คนสนิทของธียศ จนรู้ว่าที่แท้หนึ่งคือภรรยาของธียศ ปลาจึงมั่นใจว่าธียศต้องเป็นฆาตกรที่วางแผนฆ่าเมียตัวเอง เธอจึงกลับไปที่รีสอร์ทเพื่อหาหลักฐานเอาผิดธียศ ส่วนหนึ่งที่อาการดีขึ้นมากก็ตัดสินใจกลับมาที่รีสอร์ทอีกครั้ง เพื่อเปิดโปงโฉมหน้าฆาตกรตัวจริง! แต่นั่นจะกลับกลายเป็นโอกาสให้นิชดาปิดบัญชีฆ่าทั้ง สองปรารถนา หรือไม่? ติดตามชม ละครสองปรารถนา

มาลัยสามชาย (2553/2010) เรื่องราวชีวิตของลอออร (พิยดา จุฑารัตนกุล) สตรีผู้มีความดีและความงามบริสุทธิ์ดุจมาลัย แต่โชคชะตานำพาให้ต้องผ่านการมีคู่ครองถึงสามครั้งกับชายที่มีคุณลักษณะแตกต่างกันถึงสามชาย ชายคนแรก คือ ยศ พลาธร (ภูธเนศ หงษ์มานพ) หนุ่มเจ้าสำราญที่เป็นรักแรกของลอออร เขาคือชายที่สอนให้เธอได้รู้จักกับด้านที่เลวร้ายของความรัก ชายคนที่สอง คือ เทพ ราชศักดิ์ (สหรัถ สังคปรีชา) นายทหารผู้แข็งแกร่งและมั่นคง เขาเป็นเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรให้เธอได้พักพิงได้ไม่นานเขาก็ถูกพรากจากไป และต่อมาเธอก็ได้พบกับเจ้าดิเรกรุจ (ยุกต์ ส่งไพศาล) ชายคนที่สาม นายแพทย์หนุ่มรูปงามที่เสมือนน้ำทิพย์ชุบชีวิตของลอออรให้ฟื้นกลับคืนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ตลอดเวลาถึงแม้จะผ่านมาถึงสามชาย ลอออรก็เป็นที่รักเป็นที่ยกย่องเชิดชูของทุกผู้คนที่ได้รู้จัก เพราะความดีและกรอบประเพณีที่ดีงามที่เธอยึดมั่นเอาไว้ในใจ ต่างจากทองไพรำ (อรจิรา แหลมวิไล) สาวน้อยจากซ่องยี่สุ่นเหลือง เธอใช้ความสวยล่อลวงให้ผู้ชายมาหลงใหล ไม่ใช่เพียงครอบครัวของยศและลอออรที่ต้องพินาศเพราะเสน่ห์ของทองไพรำ แต่กิเลสและความทะยานอยากของทองไพรำแผดเผาทำลายชีวิตของผู้ชายทุกคนที่อยู่ใกล้ ๆ คะนอง (ภูริ หิรัญพฤกษ์) บ่าวคนสนิทของยศ ยอมทรยศเจ้านายผู้มีพระคุณเพื่อเธอ แต่สุดท้ายก็ต้องตายด้วยมือของใบ (อาณัตพล ศิริชุมแสง) คนฝึกม้าของยศ ชู้อีกคนของทองไพรำ นรินทร์ (วิธวัฒน์ สิงห์ลำพอง) ชายหนุ่มผู้อ่อนไหว บุตรชายของเจ้าคุณนราภิบาล (จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) ก็ถูกดึงให้เข้ามาพัวพันในวังวนแห่งเสน่ห์นี้จนเกิดโศกนาฏกรรมที่ผลาญชีวิตทั้งพ่อและลูกไปอย่างน่าสลดใจ แม้ลอออรกับทองไพรำจะแตกต่างกันเหมือนน้ำกับไฟ แต่โชคชะตาก็เล่นตลกให้ทั้งสองต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในทุกช่วงของชีวิต โลกอันสงบร่มเย็นของลอออรต้องล่มสลายเพราะไฟแห่งกิเลสและราคะของทองไพรำที่ลุกโชนโชติช่วง

ตราบาปสีขาว (2553/2010) เป็นเรื่องราวของสามสาวเพื่อนรักที่เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าด้วยกัน เดือนเพ็ญ (นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้) เป็นคนใจเด็ด เข็มแข็ง แก้วตา (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) เป็นคนใจอ่อน เรียบร้อยอ่อนหวาน ส่วน คำเอื้อย (ปานวาด เหมมณี) เป็นคนร่าเริ่งแจ่มใส มองโลกในแง่ดี ทั้งสามคนรักกันราวกับพี่น้องคลานตามกันมา เมื่อเดือนเพ็ญได้ไปพบรักกับ พรชัย (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) นักเลงหัวไม้ เธอจึงตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าเพื่อมาอยู่กินกับเขาทันที เดือนเพ็ญชวนแก้วตาและคำเอื้อยออกมาด้วย แต่ชีวิตของเดือนเพ็ญไม่สวยงามอย่างที่คิด เมื่อพรชัยชอบทุบตีเธอเพื่อรีดไถเอาเงินที่เธอหาได้ไปเล่นไพ่และกินเหล้าจนหมด เดือนเพ็ญจึงตัดสินใจหนีจากพรชัยเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อื่น คำเอื้อยรู้เข้าจึงขอติดตามเดือนเพ็ญไปด้วย เมื่อวันสงกรานต์ อนล (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) วิศวกรหนุ่มจากกรุงเทพฯ ได้พาภรรยากับลูกชายแรกเกิดมาเยี่ยมแม่ยายของเขาที่เชียงใหม่ เป็นเวลาเดียวกับที่คำเอื้อยและเดือนเพ็ญตั้งใจไปบอกลาแก้วตาที่ร้านทอง แต่ไปเจอแก้วตาโดนเสี่ยเจ้าของร้านไล่ปล้ำ ทั้งสองจึงเข้าไปช่วยจนพลั้งมือทำร้ายเสี่ยร้านทองสลบไป ในขณะที่สามสาวกำลังจะหนี ก็ดันไปเจอกับพรชัยที่ตั้งใจมาตามเดือนเพ็ญกลับบ้าน แต่พรชัยกลับเปลี่ยนใจไปขโมยของในร้านทองแทน สามสาวไม่ยอมเพราะรู้ดีว่าพรชัยจะป้ายความผิดให้พวกเธอ แต่ถูกพรชัยชักปืนขึ้นมาขู่ เดือนเพ็ญกับคำเอื้อยจึงเข้าไปแย่งปืนจนปืนลั่นใส่พรชัย สามสาวตกใจมากเพราะคิดว่าพรชัยตายแล้ว จึงขโมยรถที่จอดอยู่หลบหนีตำรวจทันที แต่ในรถคันนั้นดันมีกานดาและลูกชายอยู่ด้วย ในระหว่างการหลบหนีเดือนเพ็ญกับแก้วตาทำปืนลั่นไปหลายนัด แต่แล้วพวกเธอก็ต้องตกใจอย่างสุดขีด เมื่อพบว่ากานดาเสียชีวิตเพราะโดนลูกหลงกระสุนปืนจากเดือนเพ็ญ ทั้งสามตัดสินใจขึ้นเรือขนสินค้าเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยพาลูกชายของกานดาไปด้วย ที่กรุงเทพฯ สามสาวได้ปลอมแปลงเอกสารเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ เดือนเพ็ญเปลี่ยนเป็นดารณี แก้วตาเปลี่ยนเป็นการะเกด และคำเอื้อยเปลี่ยนเป็นอรทิพย์ โดยการะเกดขอตั้งชื่อเด็กว่า สงกรานต์ (สิงโต สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี) ตามวันและเวลาที่โชคชะตาของพวกเธอต้องพลิกผัน และด้วยความสงสารไม่อยากให้เด็กต้องมีสภาพเป็นเด็กกำพร้าเหมือนพวกเธอ การะเกดจึงให้สงกรานต์เรียกเธอว่าแม่ 19 ปีต่อมา...สามสาวใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านห้องแถว อันเป็นมรดกที่ได้มาจากหญิงชาวจีน ทุกคนต่างตั้งตารอคอยวันที่คดีจะหมดอายุความ พวกเธอจะได้เป็นอิสระสักที แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับเธอทั้งสามเมื่ออนลได้พบกับสงกรานต์ โดยที่ไม่รู้เลยว่าความจริงแล้วทั้งคู่คือพ่อลูกที่พลัดพรากกันมาถึง 19 ปี อีกทั้งอนลยังหลงรักแก้วตา ที่เขาเข้าใจว่าเป็นแม่แท้ ๆ ของสงกรานต์อีกด้วย ถ้าอนลรู้ความจริงว่า ผู้หญิงคนที่เขายอมเปิดหัวใจรักอีกครั้ง คือฆาตกรที่ฆ่าภรรยาของเขาเอง และสงกรานต์คือลูกชาย อนลจะทำยังไงกับสามสาว? ติดตามชม ละครตราบาปสีขาว

หัวใจพลอยโจร (2553/2010) หัวใจพลอยโจร เป็นละครแนวโรแมนติค คอมเมดี้ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ วรภัทร (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) เซลส์แมนจอมกระล่อนถูก อุดม (พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) เพื่อนรักหักหลัง ทำให้เขากลายเป็นหนี้บริษัทร่วมสิบล้าน วรภัทรจึงจำเป็นต้องหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ระหว่างการหลบหนีเขาได้พบกับ บุญเกิด (ไท ธนาวุฒิ) คนขับแท็กซี่ดวงดีที่กำลังจะเดินทางไปรับมรดกที่บ้านเกิด เหตุการณ์พลิกผันเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ ทำให้บุญเกิดต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ในขณะที่วรภัทรเองถูกเข้าใจผิดว่าเป็นบุญเกิดและถูกนำตัวไปยัง บ้านตาลเดี่ยว ชนบทที่แสนจะลับหูลับตา ที่นั่นวรภัทรต้องรับสืบทอดคณะแตรวงของปู่และดูแลสวนตาลอีกหลายร้อยไร่ หนำซ้ำยังได้พบรักกับ แสนหวาน (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ชีวิตใหม่ของวรภัทรในคราบบุญเกิดจึงดูเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วย เหตุการณ์ พลิกผันไปอีกครั้งเมื่อ อบต. อำนาจ (ดิลก ทองวัฒนา) เริ่มเข้ามารุกรานกว้านซื้อที่ดินสวนตาล วรภัทรจึงต้องเลือกระหว่างการขายที่ดินเอาเงินไปใช้หนี้บริษัทที่เพื่อนตนก่อไว้ หรือจะรักษาสวนตาลไว้ตามเจตนารมย์ของปู่ ในที่สุดความดีงามของชาวบ้านตาลเดี่ยวก็สามารถเอาชนะใจของวรภัทรลงได้ เขาตัดสินใจลุกขึ้นสู้และปกป้องผืนดินแห่งชีวิตเอาไว้ วรภัทรจึงกลายเป็นวีรบุรุษที่ชาวบ้านตาลเดี่ยวทุกคนต่างชื่นชมยกย่อง แต่แล้วความจริงทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อบุญเกิดตัวจริงฟื้นขึ้นมาและหวนกลับมาทวงทุกอย่างคืน จึงถึงเวลาที่วรภัทรต้องกลับไปสู่อันตรายอีกครั้ง งานนี้ความรักของ เซลส์แมนหนุ่มเมืองกรุงกับสาวดงตาลบ้านนาจะลงเอยอย่างไร?

ดอกรักริมทาง (2553/2010) อนุสร์ พัฒนปรีดี (วรรณรท สนธิไชย) ถูกเรียกตัวกลับเมืองไทยทันที เพื่อเปิดพินัยกรรมของอรรณพ (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) พ่อที่เสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน แต่จิตรี (ปานวาด เหมมณี) ภรรยาใหม่กลับจัดพิธีศพอย่างรวบรัด แถมยังประกาศขายบ้านพ่อเธอทิ้ง อนุสร์จึงเหลือสมบัตอย่างเดียวคือฮั่งตู๋สุนัขแสนรู้ของพ่อ อนุสร์รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ระหว่างที่อนุสร์กำลังตามหาร่องรอยพินัยกรรม เธอกลับถูกทำร้ายเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็ทำให้ได้รู้ความจริงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังแผนการชั่วร้ายนี้คือ จิตรและ สิทธิศักดิ์ (ชัยพล พูพาร์ต) คู่ขาหนุ่ม ด้านปฐวี (สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว) ช่างภาพหนุ่มมีปากเสียงกับนวลจันทร์ (กาญจนา จินดาวัฒน์) แม่ และปวีณา (อลิชา ไล่ศัตรูไกล) พี่สาวอยู่บ่อย ๆ เพราะปฐวีคบหากับเจนจิรา (พิชญา เชาวลิต) ดาราที่โด่งดังจากการถ่ายเซ็กซี่ น้องสาวของจิตรี นวลจันทร์และปวีณามั่นใจว่าเจนจิราคบกับปฐวีเพื่อเงิน จึงพยายามจับคู่กับปฐวีกับพัดชา (จรินทร์พร จุนเกียรติ) ลูกสาวของไพลิน (ชนานา นุตาคม) และวินัย (ทรงสิทธิ์ รุ่นนพคุณศรี) เพื่อสนิท แต่ปฐวีรู้ทันเลยมักจะหาทางเลี่ยงเสมอ เจนจิราที่รู้ว่าจิตรีประกาศขายบ้านเลยเสนอให้ปฐวีซื้อไว้เพราะหวังจะใช้ เป็นเรือนหอ นวลจันทร์จึงส่งป้าอุ้ง (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ไปอยู่บ้านใหม่กับปฐวีเพื่อคอยดูแล และกันท่าเจนจิราด้านอนุสร์ที่รู้ ว่ากำลังถูกตามล่า จึงปลอมตัวเป็นผู้ชายกลับมาที่บ้านพ่ออีกครั้ง และได้รู้ว่าจิตรีขายบ้านให้ปฐวีไปแล้ว แต่สุดท้ายอนุสร์ก็หาวิธีเข้าไปอยู่ในบ้านปฐวีได้สำเร็จ ในชื่อใหม่ว่าอนุชา หรืออู๊ด ปฐวีให้อู๊ดมาทำงานแทนทินกร (เตชบดินทร์ ฉายทองดี) ผู้ช่วยที่บังเอิญประสบอุบัติเหตุขาหัก อนุสร์ลงมือสืบหาพินัยกรรมกับฮั่งตู๋สุนัขแสนรู้ทัน จนได้รู้ความจริงว่าพินัยกรรมฉบับจริงซ่อนอยู่ในภาพวาดของพ่อเธอ แต่อนุสร์ไม่รู้ว่าภาพไหน จึงเป็นหน้าที่ที่เธอต้องสืบหาโดยมีธัญญ์ (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) เพื่อนรุ่นพี่คนเดียวที่อนุสร์ไว้ใจให้รู้เรื่องแผนการปลอมตัวของเธอ คอยช่วยเหลือ เวลาผ่านไปหลังจากปฐวีและอู๊ดได้ใกล้ชิดกัน ปฐวีเริ่มมีความรู้สึกพิเศษกับอู๊ด และเริ่มสงสัยว่าตัวเองอาจจะกลายเป็นเกย์ ปฐวีเครียดจัดถึงขึ้นไปปรึกษาจิตแพทย์ บวกกับถูกเจนจิรารบเร้าเรื่องแต่งงานหนักเข้า ปฐวีเลยตัดสินใจแต่งงานกับเจนจิรา ท่ามกลางเสียงคัดค้านของแม่และพี่สาว ส่วนอู๊ดที่แอบรักปฐวีมานานก็เสียใจมาก เก็บข้าวของออกจากบ้านปฐวีทันที แต่ก่อนไปอู๊ดแอบไปขโมยภาพวาดที่ออฟฟิสปฐวี แต่เกิดถูกจับได้ อู๊ดเลยโกหกว่าจริงๆแล้วตนคือคนที่อนุสร์จ้างให้มาสืบหาพินัยกรรมตัวจริง ปฐวีเชื่อสนิทใจจึงอาสาจะช่วยอู๊ดตามหาพินัยกรรมอีกแรง แต่จู่ๆ ภาพวาดทั้งหมดกลับถูกจิตรีและสิทธิศักดิ์ขโมยไปเผา แต่ทั้งคู่ก็ช่วยกันตามหาภาพวาดทั้งหมดกลับมาจนได้ หลังจากผ่าน เหตุการณ์ร้าย ๆ มาด้วยกัน ปฐวีมั่นใจว่าตนหลงรักอู๊ดเข้าให้แล้ว จึงตัดสินใจบอกเลิกกับเจนจิราทำให้เจนจิราเลือดขึ้นหน้าสั่งสิทธิศักดิ์ให้ ลักพาตัวอู๊ดไปฆ่าทิ้งทันที แผนการชั่วร้ายครั้ง นี้จะสำเร็จหรือไม่? ปฐวีจะมาช่วยอู๊ดได้ทันเวลามั้ย? ที่สำคัญอู๊ดจะตบ ตาทุกคนว่าเป็นผู้ชายต่อไปได้อีกนานแค่ไหน? ติดตามชมได้ใน ละครดอกรักริมทาง

จับตายวายร้ายสายสมร (2553/2010) แหวน(บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) แหม่ม(ป่าน-อุทัยศรี ศรีณรงค์) ลิลลี่(เบสท์-ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ สามสาววายร้ายสายสมร เป็นกลุ่มมือปืนรับจ้างที่ตำรวจกำลังออกตามล่าแทบพลิกแผ่นดิน ผู้พันเสือ(แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) และ หมวดจ๊อด(ณัฎฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) สองตำรวจลับ มีธุรกิจบังหน้าเป็นเจ้าของร้านหนังสือและขายของเก่า ทั้งคู่ได้รับมอบหมายให้จับตายกลุ่มวายร้ายสายสมร ผู้พันเสือเป็นคนเคร่งเครียดและจริงจังกับงาน แต่หมวดจ๊อด นายตำรวจหนุ่มคู่หูรุ่นน้องจอมทะเล้น กลับเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนไหว แหวน แหม่ม ลิลลี่ เคยถูกคนร้ายจับไปขายซ่อง แต่หนีออกมาได้ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากชายคนหนึ่งที่พวกเธอเรียกว่าพ่อ พ่อเป็นเอเย่นต์รับจ้างฆ่าคนตามใบสั่ง พ่อเอาสามสาวมาเลี้ยงและฝึกให้เป็นนักฆ่าโดยใช้ฉายาว่า สายสมร ทั้งสามจึงรักและผูกพันเหมือนพี่น้องร่วมสาบาน แหวนอายุมากสุด จึงรับหน้าที่เป็นพี่สาวคนโต จิตใจเย็นชา ไม่ไว้ใจใคร โดยเฉพาะผู้ชาย แหม่มเป็นน้องสาวคนกลาง น่ารัก อ่อนหวาน ส่วนลิลลี่เป็นน้องเล็ก ห้าว ปากกล้า ด่าเก่ง สดใส ร่าเริงและผูกพันกับพี่สาวสองคนมาก ระหว่างที่เสือและจ๊อดกำลังออกตามหาวายร้ายสายสมร สองหนุ่มก็ได้รู้จักกับแหวน แหม่ม ลิลลี่ โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าเบื้องหลังของอีกฝ่ายเป็นใคร จ๊อดและลิลลี่เริ่มต้นความสัมพันธ์จากการเป็นคู่กัดและพัฒนาเป็นความรัก ในขณะที่แหม่มหลงรักเสือตั้งแต่แรกพบ โดยไม่รู้ว่าเสือสนใจแหวน ส่วนแหวนก็โกหกตัวเองว่าไม่ได้สนใจเสือ แหม่มชอบพูดถึงเสือให้แหวนฟัง จนแหวนต้องถอยตัวออกห่างจากเสือ เพราะกลัวแหม่มเสียใจ แต่แหวนก็ไม่สามารถฝืนใจตัวเองได้จนเธอตกเป็นของเสือในคืนหนึ่ง แหวนรู้สึกผิด จึงขอร้องให้เสือเลิกกับเธอ เสือไม่ยอมและจะไปบอกความจริงกับแหม่มว่า เขารักแหม่มเหมือนน้องสาว แต่แหม่มบังเอิญรู้เรื่องเสียก่อน เธอช็อคมากเพราะไม่คิดว่าแหวนจะหักหลัง แหวนพยายามอธิบาย แต่แหม่มไม่ฟังและประกาศตัดพี่น้องกับแหวน แหวนโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุ จึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่เสือเข้ามาพบและช่วยเหลือได้ทันเวลา หลังจากเกิดเรื่องแหม่มก็แยกตัวไปคบกับสองพี่น้องวิปริตคือ จันดารา(ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา) และ อินคา(อาร์-อาณัตพล ศิริชุมแสง) เป็นมือปืนอีกคู่ที่พ่อเลี้ยงไว้ จันดาราเป็นเลสเบี้ยน และเกลียดพวกสายสมร เธอจึงยุให้แหม่มหาทางฆ่าแหวนกับลิลลี่ ส่วนอินคาเป็นพวกซาดิสม์ที่แอบหลงรัก ลิลลี่ และพยายามฆ่าจ๊อดเพื่อให้ได้ลิลลี่มา แต่จ๊อดก็เอาตัวรอดมาได้ และจัดการฆ่าอินคาในที่สุด หลังผ่านพ้นเรื่องราวร้าย ๆ เสือและจ๊อดขอแหวนกับลิลลี่แต่งงาน สองสาวจึงไปบอกพ่อเพื่อขอชีวิตอิสระ แต่พ่อรู้มาว่าเสือและจ๊อดเป็นตำรวจ พ่อจึงให้แหม่มจัดการฆ่าแหวนกับลิลลี่ปิดปากซะ เพื่อตัดตอนไม่ให้ทั้งสองถูกเสือกับจ๊อดจับและเชื่อมโยงมาถึงตัว แหม่มอึ้งหลังรู้ความต้องการของพ่อ แต่ด้วยความผูกพันที่มีให้กันมา แหม่มฆ่าทั้งคู่ไม่ลง จึงบอกความจริงกับทั้งคู่ว่าเสือกับจ๊อดเป็นตำรวจปลอมตัวมาเพื่อจับสายสมรเช่นเดียวกัน เมื่อเสือและจ๊อดรู้ความจริงว่าคนรักของตนเป็นโจรที่ตัวเองกำลังตามล่า ก็ช็อคไม่แพ้กัน สุดท้าย 3 สาวจะจัดการกับความรักของพวกเธอยังไง?

โรงแรมผี (2553/2010) ณ โรงแรมบางละมุง ชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่ริมชายทะเล โรงแรมนี้เปิดดำเนินกิจการแบบครอบครัว มีนายปั้น เป็นเจ้าของและผู้จัดการ มีนายเปลี้ยง น้องชายเป็นรองผู้จัดการ มีนายปริญญา ลูกชายเป็นสมุห์บัญชีและปัทมา ลูกสาวเป็นแคชเชียร์ของโรงแรม... แล้วในคืนฝนตกหนักคืนหนึ่ง โรงแรมแห่งนี้ก็ได้ต้อนรับแขกผู้มาพักคือ เฉิดโฉมที่หนีจากนายปราโมทย์ สามีเพื่อจะเข้ากรุงเทพฯ แต่ฝนตกหนักก่อน ก็เลยแวะเข้าพักที่โรงแรม ระหว่างนั้นนายปราโมทย์ก็ตามมาทันและขอคืนดี แต่เฉิดโฉมไม่ยอมกลับบ้าน จึงเกิดปากเสียงจะทำร้ายกัน เฉิดโฉมจึงขอร้องให้นายปั้นผู้จัดการโรงแรมช่วยเหลือ ซึ่งทำให้นายปราโมทย์โกรธและพูดขู่จะฆ่าเฉิดโฉมทิ้งแล้วก็กลับไป คืนนั้นเอง เฉิดโฉมก็ถูกฆ่าตายในห้องพักหมายเลข 1 ซึ่งผู้กองชิงชัย นายตำรวจเจ้าของคดีตรวจพบว่า เธอตายเพราะตกใจจนช็อคและมีร่องรอยของการบีบคอ ไม่มีบาดแผลอื่นใดและยังพบรอยเท้าของคนข้างซ้ายพิการอยู่บนพื้นห้อง จึงสันนิษฐานว่า คนร้ายต้องมาจากภายนอกและสงสัยว่า จะเป็นนายปราโมทย์ที่ปลอมตัวมาฆ่าเฉิดโฉมตามคำขู่ จากนั้น เสี่ยเพ้งและวิไลสาวคู่ขาที่มาพักโรงแรม ก็ถูกฆ่าตายในลักษณะเดียวกันอีกที่ห้องพักหมายเลข 1 ส่วนเงินที่เสี่ยเพ้งพกติดตัวมาเป็นหมื่น ๆ กลับไปอยู่ที่ห้องของนายปั้น ทำให้นายเปลืองคิดว่า พี่ชายของตนเป็นคนฆ่าเสี่ยเพ้งหวังจะเอาเงิน แต่เมื่อพูดคุยกันจนเข้าใจแล้ว ทั้งสองคนจึงตัดสินใจนำเงินของเสี่ยเพ้งทั้งหมดไปทิ้งทะเลเพื่อตัดปัญหา แต่พอรุ่งเช้า เงินทั้งหมดก็ลอยกลับมากระจัดกระจายอยู่บนชายหาดหน้าโรงแรมอีก ผู้กองชิงชัยจึงสรุปว่า คนร้ายฆ่าเสี่ยเพ้งแล้วขโมยเงินหนีลงเรือไป แต่เกิดเรือล่ม เมื่อเกิดเหตุร้ายต่าง ๆ ก็ทำให้นายปั้นเริ่มวิตกว่า จะไม่มีใครมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ นายปริญญาจึงอาสาจัดงานรื่นเริงงานปาร์ตี้เพื่อให้ดูสนุกสนาน โดยเรียก วิสูตร เพื่อนเก่าที่เป็นนายช่างและ มยุรี คนรักของปริญญาให้มาร่วมงานนี้ด้วย นายปราโมทย์จึงได้ปลอมตัวเข้ามาในงาน แล้วลอบเข้าไปบีบคอปัทมาขณะหลับที่ห้องนอน แต่เสียงร้องของปัทมา ก็ทำให้วิสูตรและคนอื่น ๆ มาช่วยปัทมาไว้ได้ทัน นายปราโมทย์อ้างว่า ที่ทำไปก็เพราะต้องการแก้แค้นทุกคนที่ฆ่าเฉิดโฉมเพื่อหวังชิงทรัพย์ แต่ผู้กองชิงชัยได้บอกความจริงให้รู้ว่า คนอื่นเป็นคนฆ่า เรื่องจึงยุติลง นายปั้นจึงเชิญนายปราโมทย์เข้าพักที่โรงแรมเป็นการตอบแทน แต่ในคืนนั้นนายปราโมทย์ถูกฆ่าตายไปอีกคนหนึ่ง โดยศพนายปราโมทย์ไปอยู่ที่ห้องนายปั้น สร้างความปวดหัวให้แก่ผู้กองชิงชัยเป็นอย่างมาก คืนต่อมา นายปั้นก็ถูกวิญญาณผีร้ายเข้าสิง แล้วบังคับให้ไปฆ่ามุยรี ระหว่างลงมือบีบคอฆ่า ปริญญาก็มาช่วยไว้ได้ทัน มยุรีเล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุหน้าคนร้ายเหมือนผีมี 2 ใบหน้าสลับกัน หน้าหนึ่งเป็นคนแก่แต่งชุดโบราณ แต่อีกหน้าหนึ่งจะเหมือนนายปั้น ที่สำคัญเวลาเดินจะมีขาข้างซ้ายพิการ แต่เมื่อไปดูนายปั้นที่ห้องพัก ก็เห็นนอนหลับอยู่ตามปกติ ทุกคนจึงกลับไป ครั้นนายปั้นเข้านอนต่อ วิญญาณผีร้ายก็มาเข้าสิงนายปั้นอีก คราวนี้บังคับให้ไปฆ่าคนงานในโรงแรม แต่วิสูตรซึ่งได้ยินเสียงร้องก็ลงมาเห็นพอดี นายปั้นจึงวิ่งหลบหนีไป แต่วิ่งเหมือนคนขาพิการ แล้วก็ขับรถออกจากโรงแรมไป ตำรวจจึงตามไล่ล่า ระหว่างทาง รถนายปั้นเสียหลักพลิกตกเขาถึงแก่ความตาย ศพนายปั้นถูกนำไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาล แต่เมื่อลูก ๆ ทราบเรื่อง จะมาขอรับศพ พยาบาลก็บอกให้ฟังว่า ศพนายปั้นได้ลืมตาขึ้น พยาบาลตกใจเป็นล้ม ฟื้นมาอีกทีศพก็หายไปแล้ว แล้วความจริงก็ปรากฏขึ้นมาว่า การฆาตกรรมต่าง ๆ ในโรงแรมนั้น เกิดจากการกระทำของวิญญาณผีร้ายที่ชื่อ หลวงนฤบาลบุรีรักษ์ ซึ่งมีความอาฆาตเคียดแค้นนายปั้นมาตั้งแต่สมัยที่นายปั้นยังเป็นคนสนิทของเขา เพราะนายปั้นไปแอบพาสารภีเมียน้อยของหลวงนฤบาลฯ หนีไปอยู่กินและมีบุตรด้วยกัน จนกระทั่งหลวงนฤบาลฯ ถึงแก่ความตาย แต่ก่อนตายหลวงนฤบาลฯ ได้ยกตึกหลังหนึ่งให้แก่สารภีเป็นมรดก แล้วต่อมานายปั้นกับสารภี ก็ได้เอาตึกหลังนั้นมาดัดแปลงทำเป็นโรงแรมแห่งนี้ เมื่อทุกคนทราบเรื่องก็กลัว แล้วคืนนั้นวิญญาณของนายปั้นก็ได้มาเข้าฝันปริญญาบอกวิธีกำจัดวิญญาณผีร้าย โดยให้ปริญญาไปตามหาพระพุทธรูปแก้วที่เคยอยู่ประจำในโรงแรมกลับคืนมา วิญญาณผีร้ายก็จะเข้ามาในโรงแรมไม่ได้ แต่ปริญญาก็ตามหาพระพุทธรูปไม่พบเพราะมีการให้ต่อ ๆ กันไป ระหว่างนั้น วิญญาณหลวงนฤบาลฯ ก็ยังคงอาละวาด ทำให้คนงานของวิสูตรที่มาก่อสร้างโรงแรมตายไปและยังสะกดจิตให้มยุรีไปผูกคอตาย หลอกให้ปัทมาไปถ้ำค้างคาวเพื่อจะฆ่าทิ้ง แต่ทั้งสองคนก็รอดมาได้เพราะปริญญากับวิสูตรช่วยไว้ได้ทัน วิญญาณหลวงนฤบาลฯ จึงเข้าสิงนายเปลื้องแล้วบังคับให้ไปฆ่าป้าชื่น ป้าของมยุรีที่มาพักโรงแรม เมื่อฆ่าเสร็จก็หนีไป ทุกคนบอกกับผู้กองชิงชัยว่า นายเปลื้องเป็นคนฆ่า แต่เชื่อว่าเป็นเพราะผีร้ายเข้าสิงให้ทำ ขอให้ตำรวจอย่าเพิ่งทำอันตรายนายเปลื้อง แต่เมื่อนายเปลื้องกลับมาเพื่อมอบตัว วิญญาณหลวงนฤบาลฯ ก็เข้าสิงอีก แล้วบังคับให้นายเปลื้องต่อสู้ ยิงกับตำรวจจนถูกตำรวจยิงตาย และเมื่อยังไม่ได้พระพุทธรูปแก้วกลับคืน วิสูตรกับปริญญาจึงไปปรึกษาหมอผีและได้รับคำแนะนำว่า ให้ไปจัดการขุดศพของหลวงนฤบาลฯ ที่ยังไม่เผาเอาขึ้นมาสะกดวิญญาณไว้ก่อน แต่เมื่อไปถึงป่าช้าก็พบว่า ในหลุมศพที่ขุดขึ้นมานั้น ไม่มีศพหลวงนฤบาลฯ แต่กลายเป็นศพนายปั้นที่หายไป แล้ววิญญาณหลวงนฤบาลฯ ก็อาละวาดจนทั้งสองคนต้องรีบกลับโรงแรม เมื่อไปถึงก็พบว่า ปัทมากับมยุรีหายไป ระหว่างนั้น นายเพิ่มคนเก่าแก่ของหลวงนฤบาลฯ ก็ส่งจดหมายมาบอกว่า แท้จริงแล้ว ศพหลวงนฤบาลฯ ถูกย้ายมาเก็บไว้ที่ห้องใต้ดินของโรงแรมแห่งนี้เพื่อหวังจะแก้แค้นครอบครัวนี้ ทุกคนจึงคิดว่า ปัทมากับมยุรีจะต้องถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินของโรงแรม จึงช่วยกันค้นหาทางเข้าห้องใต้ดิน เมื่อค้นพบ ก็เป็นเวลาที่วิญญาณหลวงนฤบาลฯ กำลังอาละวาดเล่นงานสองสาวอยู่ พอเห็นว่า ทุกคนมากันพร้อมหน้า วิญญาณหลวงนฤบาลฯ ก็แสดงอิทธิฤทธิ์ให้ตึกเกิดสั่นสะเทือนจะถล่มลงมาเพื่อฆ่าทุกคน ระหว่างนั้น ไอ้น้อย บ๋อยโรงแรมก็เอาห่อผ้าใส่ของชิ้นหนึ่งลงมาให้ บอกว่า มีคนฝากมาให้ เมื่อวิสูตรคลี่ผ้าออกดู ก็พบว่า ข้างในเป็นพระพุทธรูปแก้วที่หายไปนั่นเอง ทันใดนั้นเมื่อปรากฏพระพุทธรูปเต็มองค์ ตึกก็หยุดสั่นสะเทือน ลมพายุก็หยุดพัด แล้วจึงค่อย ๆ ปรากฏร่างของหลวงนฤบาลฯ ออกมา แต่เมื่อวิญญาณร้ายเห็นพระพุทธรูปแก้ว ก็ตกใจ วิสูตรเป็นผู้ถือพระพุทธรูปแก้ว โดยให้ทุกคนช่วยกันตั้งจิตอธิษฐาน...แล้วอำนาจแห่งธรรมะก็บันดาลให้เกิดเป็นแสงสีประกายรุ้ง สาดส่องไปกระทบยังร่างหลวงนฤบาลฯ เกิดเป็นไฟลุกท่วมตัวหลวงนฤบาลฯ ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แล้วร่างค่อย ๆ มอดไหม้กลายเป็นผงธุลีสิ้นฤทธิ์ไป เหตุร้ายในโรงแรมแห่งนี้ก็สงบลง

คุณชายติดหรู คุณหนูติดดิน 2553

คุณชายติดหรู คุณหนูติดดิน (2553/2010) หลัง จากงานทุ่งดอกกระเจียวบานผ่านพ้นไปแล้ว จันดง (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) หญิงสาวนักพัฒนาและผู้ก่อตั้งกองทุนเพื่อการเกษตรครบวงจรของชุมชนบ้านเขาตา เย็น จึงได้เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อมาดูกิจการโรงงานทำขนมตามคำชักชวนของ หญิงจงกล (วัชรารัศมี สุนทรพนาเวช) ภรรยาของ อินทร์ (เป็ด เชิญยิ้ม) ถึงจะมีฐานะร่ำรวยแต่หญิงจงกลก็ยังสำนึกรักบ้านเกิดของตัวเองเช่นเดียวกับ อินทร์ ทั้งสองจึงเลี้ยงควายไว้ในบริเวณคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่ของตัวเองด้วย การมาของจันดงถึงแม้จะเป็นการเห็นชอบของหญิงจงกลกับพระอินทร์ก็ตาม แต่ก็ทำให้ทั้งสองต้องมีเรื่องพูดจาค่อนขอดกันตลอด เพราะในอดีตทั้งสองคนเคยเป็นคู่รักของ ผู้ใหญ่เมือง (วรุฒ วรธรรม) กับ จันดา (ปุณิกา โยคะกุล) พ่อและแม่ของจันดง สาเหตุที่หญิงจงกลอยากจะให้จันดงมาฝึกงานที่โรงงานทำขนมของเธอ เพราะเธออยากจะสนับสนุนข้าวทดลองของจันดงและชาวบ้านเพื่อเอามาผลิตขนม ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คืออยากจะให้จันดงช่วยเปลี่ยนพฤติกรรม คุณชายอุษมัน (นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช) ลูกชายที่ไม่ค่อยเอาไหนเอาแต่ผลาญเงินและติดผู้หญิงไปวัน ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชื่อ นงพะงา (ชาลิสา บุญครองทรัพย์) หญิงจงกลถึงกับประกาศห้ามลูกชายคบเด็ดขาด แต่ผู้หญิงที่อุษมันรักจริงหวังแต่งและเหมาะสมกับเขาในทุกเรื่องคือ กะชามาด (ปิยะดา ตุรงคกุล) เจ้าของร้านดอกไม้แสนสวยที่หญิงจงกลเห็นดีเห็นงามด้วย แต่เธอกลับไปให้ความสนใจ ลายแคน (จุตรวิทย์ คชน่วม) หนุ่มบ้านนอกที่อยู่ใกล้กับบ้านของจันดง ซึ่งหญิงจงกลให้ความอุปถัมภ์เลี้ยงดูจนเรียนจบและให้มาช่วยดูแลโรงงานทำขนม อุษมันไม่ค่อยพอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนลายแคนก็ไม่กล้าที่จะเอื้อมเด็ดดอกฟ้าอย่างกะชามาด ด้านจันดง ก็ต้องปลอมตัวให้กลายเป็นคนอ้วนฟันเหยิน เพราะไม่อยากให้อุษมันจำได้ว่าเธอคือ ผู้หญิงคนที่มีเคยเรื่องกับเขา และอยากจะสอนให้อุษมันรู้ว่าคนรวยคนจนก็มีความเป็นคนไม่ควรดูถูกคนอื่น โดยจันดงบอกทุกคนว่าเธอชื่อจันดง เป็นน้องสาวฝาแฝดของ จันได อุษมันรู้สึกอึดอัดใจที่ต้องขับรถไปรับส่งเธอถึงที่พักทุกวัน ตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ชนิดที่ขัดขืนไม่ได้ และด้วยความบังเอิญอพาร์ทเมนท์ที่จันดงไปพักนั้นเป็นของนงพะงา จึงทำให้นงพะงาไม่พอใจที่เห็นอุษมันมารับจันดง เพราะเธอเคยมีเรื่องทะเลาะกับจันไดและกะชามาดครั้งที่ไปเที่ยวผับกับอุษมัน ทาง ด้านจันดงกับกะชามาดหลังจากที่รู้จักกันในผับด้วยความบังเอิญ ทำให้ทั้งคู่มีถูกชะตากันและมีความสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ในช่วงฝึกงานอุษมันกับจันดงเป็นคู่กัดกันตลอด เมื่อครบกำหนดฝึกงานจึงมีการเลี้ยงส่งจันดง โดยมีอุษมันและกะชามาดมาร่วมงานด้วย แต่เพราะอุษมันหึงกะชามาดจนมีเรื่องชกต่อยกับลายแคน และอุษมันก็พูดจาดูถูกลายแคน ทำให้ลายแคนตัดสินใจลาออกแล้วกลับบ้านนอกพร้อมกับจันดง โดยไม่ได้ลาผู้ใหญ่ที่เคารพ พอหญิงจงกลกับพระอินทร์ทราบเรื่อง รู้สึกโกรธมากและลงโทษลูกชายโดยสั่งให้ไปตามลายแคนกลับมาทำงานเหมือนเดิม พร้อมทั้งขอโทษที่พูดจาดูถูกจันดงว่าเป็นคนบ้านนอกด้วย เท่านี้ยังไม่พออุษมันถูกส่งไปดัดสันดานที่เขาตาเย็น โดยให้ไปอยู่ที่บ้านของผู้ใหญ่เมืองกับจันดาเป็นเวลา 3 เดือน ทีแรกอุษมันไม่อยากไปพอรู้ว่ากะชามาดจะไปตามลายแคนจึงยอมไปแต่โดยดี

7 ประจัญบาน 2553

7 ประจัญบาน (2553/2010) ในยุคสมัยที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จ่าดับ จำเปาะ (อ๊อฟ พงษ์พัตน์) ทหารแห่งกองทัพไทยเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทาง เจอเรือของกองกำลังทหาร ร้อยโทโตโมะ (เอ็ม อภินันท์) ทรมานเชลยศึก คนไทยเห็นความทารุนไม่ไหวเข้าห้าม โตโมะกราดยิงชาวบ้านตายหมด จ่าดับเข้าตะลุยทหารญี่ปุ่นจนแพ้ จ่าดับดีใจที่ได้เอาคืนพวกใหญ่คับแผ่นดิน พอถึงบ้าน พบเมียรักที่อุ้มท้องลูก 7 เดือน นอนจมกองเลือด โดยพวกโตโมะตามจองเวร สิ่งแทนใจสุดท้ายคือกางเกงแดงที่เย็บไว้รอสามี จ่าดับตั้งใจชำระแค้นส่วนตัวใส่กางเกงแดงควงปืน บุกค่ายทหารญี่ปุ่นแต่ถูกโตโมะและลูกน้องยำเละ โชคดีมีชายชุดดำมาช่วยชีวิตไว้ จ่าดับฟื้นขึ้นมาในฐานบัญชาการของ พล.ต.ท กัมปนาท (สรพงษ์ ชาตรี) ซึ่งมีภารกิจลับต่อต้านญี่ปุ่น จ่าดับเอาด้วย งานแรกจ่าดับลุยเดี่ยวแต่เกือบเสียเรื่องเมื่อเจอลูกน้องเก่าอย่าง ดั้น มหิทธา (แบงค์ ปวริษฐ์) ที่กำลังจีบทหารญี่ปุ่นสาว จ่าดับต้องหนีทหาร ตังกวย (หนุ่ม กรรชัย) ช่วยจ่าดับจากทหารญี่ปุ่นไว้ทันที่บ่อน จากนั้นจ่าดับมาตามลูกน้องเก่า เหมาะ เชิงมวย (เจสัน ยัง) แต่ดันพูดผิดหูกับ อัคคี เมฆยันต์ (อาร์ต พศุตม์) หนุ่มสำอางเข้าของบ่อน จนเกิดตะลุมบอน กัมปนาทต้องเข้าสงบศึกและสั่งให้ทุกคนตามหา กล้า ตะลุมพุก (แมททิว ดีน) เป็นกุญแจอีกดอกที่สำคัญที่จะตบตาพาเข้าหาทหารญี่ปุ่น แต่พอจะลงมือ จุก เบี้ยวสกุล (ต๊อก ศุภกรณ์) มือระเบิดมัวแต่ปลุกพระในคอจนโตโมะล้อมจับทุกคนได้ จ่าดับกับพวกร่วมใจถล่มค่ายญี่ปุ่นจนย่อยยับ ชื่อของ 7 ประจัญบาน ถูกกล่าวขาน โดยการโพนทะนาของ จ่าอึ่ง (กล้วย เชิญยิ้ม) และ เจ๊อ่าง (อ้น ศรีพรรณ) ที่ค้าขายกับญี่ปุ่น แต่ในใจเชียร์พวก 7 ประจัญบาน ด้าน พลเรือเอก มาซาฮารุ (ปริญญ์ วิกานต์) เร่งให้โตโมะกำจัดพวก 7 ประจัญบาน ส่วนกัมปนาททำทีช่วยฝ่ายญี่ปุ่นจนรู้ความลับเรื่องญี่ปุ่นเร่งหาเหล็กน้ำพี้ จ่าดับไปที่วัด ระหว่างทางได้ช่วย เพียงจันทร์ (ฝน กุณณัฏฐ์) ลูกสาวของ หลวงไพรัชพิสิทธิ์ นายทหารใหญ่ (หมู สมภพ) จากเหตุการณ์ทิ้งระเบิด แต่เพียงจันทร์ก็ถูกลูกน้องของโตโมะพากลับไป ไม่นานงานหมั้นเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ระหว่างเพียงจันทร์กับโตโมะก็ถูกจัดขึ้น จ่าดับและพวกได้เบาะแสเรื่องเหมืองเหล็กจึงออกตามหา ระหว่างทาง ดั้น มหิทธาได้ช่วย ขมิ้น (ฝน พัชรินทร์) ลูกสาวของ ลุงโชติ ช่างตีเหล็กมือหนึ่ง (ไกรลาศ เกรียงไกร)ไว้จากพวกญี่ปุ่น ขมิ้นจึงปลอมตัวเป็นชายเพื่อขอนำทาง 7 ประจัญบาน เข้าป่า ระหว่างนั้น เหมาะ เชิงมวยได้ขอไปเยี่ยมแม่ที่ป่วยที่หมู่บ้าน และบังเอิญไปช่วย ยูริ (มิ้ม อัมราภัสร์ จุลกะเศียน) เจ้าหน้าที่ทหารญี่ปุ่นไว้จากหน่วยต่อต้าน เหมาะกับยูริเหมือนรักแรกพบ แต่ด้วยเชื้อชาติก็ได้แต่หักห้ามใจ การตามล่าเข้มข้นขึ้นทันที เมื่อพวก 7 ประจัญบาน เข้าใกล้บ่อพระแสง เป็นบ่อศักดิ์สิทธ์ที่ตระกูลของ เกสร (กนกกร ใจชื่น) สาวชาวบ้านสืบทอดรักษาไว้ 7 ประจัญบาน ปลอมตัวเป็นชาวบ้านเข้าไปในเหมือง พวกญี่ปุ่นทิ้งศพแรงงานชาวบ้านสร้างความเจ็บแค้นให้คนไทยทุกคนที่ต้องฝังศพเพื่อนร่วมชาติ ที่กองบัญชาการญี่ปุ่น เพียงจันทร์แกล้งเป็นคู่หมั้นที่ดีเพื่อหลอกล้วงความลับให้พวกจ่าดับ แต่โตโมะจับได้ การปะทะครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้น ขมิ้นพาเพียงจันทร์ลอบหนี แต่ถูกยูริสายลับญี่ปุ่นขัดขวางไว้ กัมปนาทตามมาช่วยกลุ่มผู้หญิงให้รอด หลังพักรบ จ่าดับกับเพียงจันทร์ได้เรียนรู้กันและกัน แต่จ่าดับตั้งกำแพงหัวใจไว้แน่นหนาเพราะไม่ลืมการตายของเมีย ทำให้เพียงจันทร์น้อยใจ ตรงข้ามกับดั้นและอัคคีที่แย่งกันจีบขมิ้น งานแต่งของเพียงจันทร์กับโตโมะถูกเลื่อนออกไป เพียงจันทร์รีบมาบอกจ่าดับ แต่ยังไม่ทันถึงบ้านของ 7 ประจัญบาน เพียงจันทร์ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ จ่าดับร้อนใจที่เพียงจันทร์หายตัวไปเหมือนโตโมะ กัมปนาทได้เบาะแสจาก นายพลพัลลภ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ว่าญี่ปุ่นกำลังเคลื่อนย้ายของสำคัญ นายทหารฝ่ายสัมพันธมิตร ดันแคน (ปีเตอร์ ธนะสูตร) ให้ข้อมูลญี่ปุ่นยังไม่วางมือจากแผนบันได 3 ขั้นเพื่อพิชิตศึก ภารกิจตามล้างศัตรูและตามหาหัวใจคืนเริ่มขึ้นอย่างดุเดือด ยูริถูกวางมือเป็นมือสังหารตามล่าพวก 7 ประจัญบาน เกสรขอตามไปแก้แค้น ขมิ้นเองก็ขอพักรักมาเริ่มรบและสัญญาว่าเสร็จงานแล้วถึงจะเสี่ยงหัวก้อยเลือกระหว่างอัคคีกับดั้น 7 ประจัญบาน ตามรอยขบวนเคลื่อนย้ายญี่ปุ่นจนมาถึงหมู่บ้านชายแดน พบชาวบ้านนอนตายอย่างไร้ร่องรอยการต่อสู้ จู่ ๆ เกสรล้มป่วย ตังกวยขอถอนตัวไปต่อเพื่อพยาบาลเกสร คนที่เหลือเดินทางต่อไป ระหว่างทางขมิ้นล้มลงอีกคน อัคคีกับดั้นแทบฆ่ากันตายเพราะต่างโทษอีกฝ่ายว่าเป็นต้นเหตุทำให้ขมิ้นเครียด ด้านจ่าดับก็มีอาการหายใจอึดอัดแต่เก็บเป็นความลับ จนกระทั่งตามขบวนขนย้ายทันแต่แล้วกลับพบร่างเพียงจันทร์ถูกทิ้งในป่า ในสภาพคนป่วยหนัก เพียงจันทร์แข็งใจบอกความลับที่น่าสะพรึงกลัวว่า คือขบวนขนย้ายกำลังขนส่งแก๊สพิษ เพื่อไปทดลองโปรยลงต้นน้ำ และเธอคือหนึ่งในคนที่โตโมะจับตัวมาให้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ได้ทดลอง เพื่อแก้แค้น จ่าดับแทบคลั่งออกตามลากตัวโมโตะเพื่อหยุดยั้งแผนชั่วและเอายาแก้พิษมาให้เพียงจันทร์ เกสร และขมิ้น ที่กองบัญชาการกรุงเทพฯ กัมปนาท ถูก นายพลพัลลภ คนไทยขายชาติที่ลอบขายข่าวให้พลเรือเอก มาซาฮารุ ใส่ความว่าเป็นมือสังหารเตรียมฆ่าท่านผู้นำ แต่หลวงไพรัชพิสิทธิ์ สั่งลูกน้องแหกคุกพากัมปนาทหนีก่อนถูกยิ่งเป้า และกัมปนาทลอบเข้าถึงตัวท่านผู้นำเพ่อเปิดโปงการกระทำของนายพลพัลลภ ด้านพลเรือเอกมาซาฮารุ ส่งยูริมาฆ่าปิดปากนายพลพัลลภ เพราะกลัวจะเปิดเผยแผลการลับ จากนั้นมาซาฮารุสั่งถอนกองกำลังกลับ ยูริสังหรณ์ใจว่าต้องถูกปิดปาก ยูริคิดถึงและห่วงใยเหมาะ จึงยอมทรยศลอบขโมยยาถอนพิษ และมุ่งหน้าไปหา 7 ประจัญบาน 7 ประจัญบาน จะสามารถหยุดยั้งแผนชั่วของโตโมะได้หรือไม่ และยูริจะนำยาถอนพิษมาช่วยชีวิตเพียงจันทร์ เกสร ขมิ้นได้ทันเวลาหรือไม่ ต้องติดตามชมต่อใน ละคร 7 ประจัญบาน ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00-20.00 ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละคร 7 ประจัญบาน เริ่มตอนแรกศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2553

หัวใจรักข้ามภพ 2553

หัวใจรักข้ามภพ (2553/2010) ปีพุทธศักราช 2310 ชายแดนระหว่างแปดริ้ว-ชลบุรี แม่ลูกจัน สาวน้อยวัย 17 ธิดากำพร้าของ นายบุญมา แม่ทัพคนหนึ่งในสงครามไทยกับพม่า ถูกบิดาส่งตัวออกจากอยุธยาก่อนกรุงแตกไม่กี่วันเพื่อให้ไปแต่งงานกับ ขุนไกร ทหาร ของพระยาพิชัยดาบหัก ขณะที่ขบวนเจ้าสาวกำลังเดินทางไปแต่งงาน ก็มีกลุ่มโจรเข้ามาปล้นขบวนเจ้าสาวและลงมือฆ่าทหารร่วมขบวน แม่ลูกจัน จึงพา แม่นมอั้ม พี่เลี้ยง หนีกระเซอะกระเชิงไม่คิดชีวิต ภาพตัดมายัง ปี พุทธศักราช 2552 โรงถ่ายภาพยนตร์ย่านทาวอินทาวน์ ทหารเข้ามารายงานต่อ องค์ราชาดำทมิฬ ว่าพระธิดาของพระองค์ ที่ส่งไปหัวเมืองถูก โปนจ้น เสียงคัท ดังขึ้น กอล์ฟ ผู้ช่วยผู้กำกับฯเดินเข้ามาตะคอกนักแสดงที่เล่นเป็นทหาร ว่าแค่คำว่า โจรปล้น ก็พูดผิดจนเทคอีก เสียงห้ามดังขึ้น แล้ว มาร์ค ผู้กำกับหนุ่มหล่อบาดใจรุ่นใหม่ไฟแรง ก็เดินออกมาจัดการเอง มาร์คเป็นผู้กำกับที่มีความสามารถทำเงินได้มากมายหลัง จากที่กำกับหนังเรื่องแรก ฝูงนักข่าวกำลังสัมภาษณ์ แพท นางเอกสาวที่กำลังมองมาร์คอยู่ แพท ให้สัมภาษณ์ว่าตนเองกำลังคบหาดูใจกับมาร์คอยู่ แพทโทรมาหามาร์คเพื่อที่จะชวนมาร์คไปร่วมงานแฟนซีเรนโบฟิล์มของ ต้อมเจ้าของบริษัทเรนโบฟิล์ม ซึ่งมี แม่หน่อย ซึ่งถูกชะตากับมาร์คมาก เช้าตรู่วันต่อมาเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาร์คสะกิดให้จันหยิบนาฬิกาปลุกให้ที จันงัวเงียหยิบส่งให้มาร์คไปกดเปิด แล้วนึกขึ้นได้ ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วร้องจ๊าก ทั้งสองคนตกใจมาก โดยเฉพาะแม่ลูกจัน ที่ต้องมาอยู่ในสถานที่ประหลาด แถมร่วมเตียงแปลกๆกับผู้ชายแปลกหน้า เธอโวยวายฟูมฟายว่าหมดแล้วศักดิ์ศรีแห่งสตรีสยาม มาร์คไม่มั่นใจ มาร์คคิดว่า จันคือหญิงสาวในงานแฟนซีที่อยากดังทางลัด เมื่อมาร์คต้องออกไปคุยงานกับลูกค้าที่นัดไว้ที่ห้าง เขาจึงลากจันขึ้นรถเพื่อจะเอาไปปล่อยให้พ้นๆ มาร์คขับรถมาถึงห้างด้วยความทุลักทุเลมาก เพราะแม่ลูกจันอาละวาดหนัก เธอช็อคกับทุกอย่างรอบตัวเมารถอ้วกแตก มาร์คหลอกปล่อยเธอไว้ในห้าง พร้อมเงินสองพัน บอกให้จันไปหาอะไรกิน แล้วก็ขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไปซะ แล้วมาร์คก็เข้าไปห้าง แม่ลูกจัน ทำอะไรไม่ถูกคิดว่าตัวเองอยู่บนสวรรค์ มาร์คพาลูกจันไปทำฟันใหม่ไม่ให้ดำ รูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์มไร้ไขมัน ผิวพรรณใสกิ๊ง สีหน้าบุคคลิกที่ดูโบราณ สำเนียงการพูดประหลาด เมื่อมาอยู่กับลุคของคนสมัยใหม่ มันเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ทำให้เธองามเก๋เป็นโอเรียนทั่ลที่ไร้ยุคสมัย ดุจนางแบบอินเตอร์ มาร์คเริ่มครื้มใจเหมือนเขาเป็นแมวมองที่ขุดพบดาราหน้าใหม่ที่สังคมจะต้องฮือฮา ในขณะที่หนังเรื่องใหม่กำลังจะปิดกล้องคลิปที่แพทถ่ายไว้กับชิตก็หลุด หนังสือพิมพ์ทุกฉบับโหมข่าวนี้กันมากมาย ทางผู้ใหญ่ ขอเบรกการถ่ายทำโดยด่วน ต้อมซึ่งแอบรักจันอยู่ได้เสนอให้เปลี่ยนบทให้จันเล่นเป็นนางเอกนำของของ เรื่องนี้ไปเลย ลดบทแพทเป็นตัวประกอบไปเพื่อแก้ปัญหา แพทสูญเสียทุกอย่าง เธอโทษว่าเป็นความผิดของจัน ภาพยนตร์ดำเนินการถ่ายทำไปจนเสร็จ และเริ่มออกฉาย จันรับบทหญิงยุคเก่าจนได้ดีเยี่ยมโด่งดังในชั่วข้ามคืน ต้อมได้จัดงานเลี้ยง ฉลองขึ้นบ้าน ทุกคนกินเลี้ยงกันอย่างสนุกสนาน มาร์คยืนมองจันที่ให้สัมภาษณ์อยู่บนเวทีอย่างชื่นชม ที่จันมาได้ถึงขนาดนี้ หลังจากคืนนั้นมาร์คพยายามหาวิธีที่จะย้อนกลับไปในยุคนั้น จนมาคืนหนึ่งเขาทั้งคู่ก็หาวิธีที่จะทำให้ทั้งสองเดินทางย้อนกลับได้แล้ว ทั้งคู่จึงดึงดาบฟ้าฟาดออกมาจากฝักทั้งคู่จึงย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ สำเร็จ ทั้งคู่ก็ไปช่วยกันรบในสงครามครั้งนั้นจนได้รับชัยชนะทำให้มาร์คกับลูกจัน รักกันท่ามกลางสงคราม มาร์คชักดาบขึ้นเพื่อที่จะป้องกันลูกจันจึงเกิดเสียงฟ้าร้องดังขึ้น ภาพสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้เห็นคือขุนไกรยิ้มส่งเค้า สรุปว่าที่ขุนไกรตัดสินใจทำแบบนี้ เพราะอยากให้เค้าออกไปจากสงครามครั้งนี้ มาร์คจึงกลับมาอยู่ในยุคปัจจุบัน เมื่อเวลาผ่านไป มาร์คและลุกจันได้ยืนอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ ทั้งสองกำลังยืนดูอยู่ตรงที่บู๊ทของพระเจ้าตากสิน เห้นความเก่งกาจของพ่อของเธอ ของพระยาพิชัย และเห็นประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนไป ทั้งคู่ก็ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ในจดหมายเหตุข้ามภพ

สืบสวนป่วนรัก 2553

สืบสวนป่วนรัก (2553/2010) เป็น เรื่องราวของนักสืบคนหนึ่งชื่อ ลายเมฆ สายลับมือหนึ่งของกรมตำรวจกำลังจะปลดระวางตัวเอง เพราะต้องการทุ่มเทเวลาให้ฟ้าครามลูกสาวให้มาก เพราะที่ผ่านมาต้องปกปิดสถานนะความเป็นสายลับของตัวเอง จึงต้องวางตัวเป็นคนขี้ขลาดอ่อนแอ ยิ่งทำให้ลูกสาวหมดศรัทธาในตัวเขา ฟ้าครามเป็นสาวสวย น่ารัก จิตใจดีและเธอกำลังจะได้เป็นดาราด้วย เธอพยายามทำตัวเปรี้ยวซ่าส์ เพียงเพราะต้องการประชดเรียกร้องความสนใจจากพ่อ จนคล้ายจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา เธอเกลียดพ่อที่ไม่มีเวลาให้เธอ และอยากให้พ่อของตัวเองแสดงความเป็นผู้นำเหมือนกับพ่อคนอื่น ๆ บ้าง ปีแสง สายลับมือใหม่ไฟแรง ดีกรีเกียรตินิยมจากโรงเรียนตำรวจ เชื่อมั่นในตัวเองสูง ใจร้าย ชอบท้าทาย คิดจะวัดร้อยเท้าลายเมฆ ซึ่งทางกรมตำรวจส่งทั้งคู่มาเป็นคู่หู่กับลายเมฆเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์การ ทำงานจริง ปีแสงหลงชอบฟ้าครามตั้งแต่แรกเห็น เมื่อรู้ว่าฟ้าครามเป็นลูกสาวสุดหวงของลายเมฆ ปีแสงจึงตามจีบฟ้าครามอย่างไม่เกรงกลัว ติดตามต่อได้ใน สืบสวนป่วนรัก

เจ้าสาวไร่ส้ม 2553

เจ้าสาวไร่ส้ม (2553/2010) การัณย์กรณ์ ลูกเจ้าของไร่ส้มต้องตกใจแทบล้มทั้งยืน เมื่อได้รู้ว่าข้อความในพินัยกรรม ซึ่ง นายศร ศรอภิวัฒน์ ได้ระบุไว้ว่า เขาจะได้ทรัพย์สิ้นทั้งหมดก็ต่อเมื่อจดทะเบียนสมรสกับ น.ส.ขวัญล่า ผู้จัดการไร่ส้มของพ่อเขา สาเหตุที่นายศร ต้องทำพินัยกรรมแบบนี้ เพราะความเหลวไหลของลูกชายตัวเองทั้งเล่นการพนันบอล จนเจ้าหนี้ตามล่าตัว ทำธุรกิจก็โดนโกงเอาแต่เที่ยวไปวัน ๆ นั้นเพราะยังมีแฝดพี่สาวสองคนชื่อ แสงดาว และ แสงเดือน ตามใจ แค่เพียงวันแรกที่ได้มาที่ไร่ การัณย์กรณ์ ก็รู้สึกเลยว่าเขาไม่สามารถที่จะแต่งงานกับสาวผิวคล้ำแถมหน้าตายังจืดชืดอย่างขวัญล่าได้เลย ส่วนขวัญล่าก็คิดว่าเธอสังเวชในตัวเขามากแม้หน้าตาเขาจะดีแต่กลับดูหยาบโย่ง ปากคอยังเราะร้า ในวันแรกที่ การัณย์กรณ์ มาที่ไร่ก็ถูกบังคับให้นอนที่บ้านริมบึง พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกหิวจึงเดินออกจากบ้านไปกินก๋วยเตี๋ยวแถวถนนใหญ่หน้าไร่ ด้วยความที่แดดร้อนกับทนหิวไม่ได้เขาจึงเป็นลมกลางทาง พอดีมีรถของ ปรวาตี ลูกเจ้าของสวนส้มข้าง ๆ กับ สกุลทิพย์ แม่ม่ายผัวฝรั่งเพิ่งหย่าขาดกัน ทั้งสองก็ได้ช่วยกันพาไปบ้านของ สกุลทิพย์ ระหว่างนั้นที่ไร่ส้มก็มีกลุ่มชายฉกรรณ์กลุ่มหนึ่งได้มารอทวงหนี้พนันบอล ขวัญล่าจึงตามหาตัว การัณย์กรณ์ จึงรู้ว่าเขาหายไปจึงชวน กิตติชนม์ นักวิชาการเกษตรที่ไร่ส้มของ ปารวาตี ออกช่วยตามหา จนมาเจอตัว การัณย์กรณ์ ที่บ้านของ สกุลทิพย์ วันต่อมาขวัญล่าได้ให้การัณย์กรณ์ เซ็นสัญญาว่าเขาจะเอาเงินที่ไร่ออกไปก่อนเพื่อใช้หนี้พนันบอลแต่ต้องแลกกับการเป็นลูกจ้างในไร่ ขวัญล่า เริ่มบังคับให้การัณย์กรณ์ ทำงานอย่างหนักแต่เขาก็ไม่ค่อยทำ ขวัญล่าจึงหงุดหงิด หมดหวังที่จะช่วยให้การัณย์กรณ์เปลี่ยนแปลงตังเอง โชคดีที่มี คมสันต์ เพื่อนของการัณย์กรณ์ ขอร้องให้ขวัญล่าอดทนละเห็นแก่คุณศร ขวัญล่าตั้งใจจะเริ่มต้นใหม่กับการัณย์กรณ์ แต่ก็มีอุปสรรคใหม่นั้นคือ แคทรีน่า ดารานางร้ายในละคร แฟนเก่าของ รัฐีย์ ที่ร่วมหุ้นกันเปิดผับ แคทรีน่า โกหกว่าเธอท้องแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ โดย วรวีย์ ลูกสาวของป้าสายปิดเทอมกลับมาอยู่บ้านได้ล่วงรู้ความลับจึงออกมาเปิดโปรง ต่อมาการัณย์กรณ์ถูกเคี่ยวเข็ญให้ออกไปทำงานตัดหญ้าแต่เขาก็แอบไปงีบอยู่ดี ขวัญล่ามาเจอจึงต่อว่าเขาอย่างรุนแรงทั้งคู่จึงแก้เผ็ดกันไปมา โดยการัณย์กรณ์ได้ชวน ก่อลาภ หนีไปเล่นน้ำตกขวัญล่าเอาคืนโดยการแจ้งตำรวจให้มาจับการัณย์กรณ์ในฐานะขโมย ซึ่งขวัญล่าก็ปล่อยให้ การัณย์กรณ์นอนในห้องขังเป็นการสั่งสอน เวลาผ่านไปการัณย์กรณ์เริ่มเข้าใจและเริ่มมีความรู้สึกรักขวัญล่ามากขึ้น แม้เขาจะทำตัวแย่ขนาดไหนแต่เธอก็ยังเป็นห่วง โดยเฉพาะช่วงที่การัณย์กรณ์ป่วย แต่เมื่อพี่สาวฝาแฝดรู้ว่าน้องชายสุดที่รักป่วยก็บังคับให้การัณย์กรณ์ มารักษาตัวที่กรุงเทพฯ แต่ก่อนกลับเขาสัญญากับ ขวัญล่าว่าจะมาให้ทันเวลาเก็บส้ม เมื่อการัณย์กรณ์ หายป่วยก็กลับมาทันช่วงเก็บส้มพอดี ซึ่งครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นคนละคน ขวัญล่าทึ่งในความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้และกำลังเริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับการัณย์กรณ์ แต่ไม่ทันไร ปารวาตี ตามมาตอแยหวังจะจับ การัณย์กรณ์ เป็นสามี หวังจะเอาเงินไปใช้หนี้แทนพ่อของเขา แต่การัณย์กรณ์ก็ไม่หลงกล เพราะในใจของเขามีเพียงขวัญล่าเท่านั้น แต่อุปสรรคของทั้งคู่ยังไม่หมด เมื่อ การัณย์กรณ์จำต้องกลับไปทำธุระที่กรุงเทพฯ สกุลทิพย์ ปรานี แม่ของปารวตี และแคท ต่างก็อิจฉาในตัวขวัญล่าอยู่แล้ว และสบโอกาสที่การัณย์กรณ์ไม่อยู่ วางแผนจ้างให้วัยรุ่นที่เคยมีเรื่องกับขวัญล่าตามมาทำร้ายขวัญล่า............. ขวัญล่า จะรอดพ้นอันตรายนี้ได้อย่างไร และเธอจะยอมเปิดใจให้กับการัณย์กรณ์หรือไม่ ต้องติดตามชม ละครเจ้าสาวไร่ส้ม ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 - 20.00น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครเจ้าสาวไร่ส้ม เริ่มตอนแรก จันทร์ที่ 12 ก.ค. 2553

สะใภ้เจ้าสัว 2553

สะใภ้เจ้าสัว (2553/2010) เจ้าสัวเทียน ผู้กุมอำนาจของตระกูล เศรษฐกิจเดชากุล และผู้บริหารไหมทองสยาม ผู้ผลิตผ้าไหมไทยระดับแนวหน้าของประเทศ ประสบความสำเร็จเป็นที่กล่าวขานของผู้คนในแวดวงธุรกิจ อาหลิวภรรยาที่สวยมากแม้ลูกชายจะโตเป็นหนุ่มหมดแล้วทั้ง 4 คน แต่ก็ยังสวยราวกับสาวสองพันปี เจ้าสัวเทียนเลือก เรืองริน ลูกสาวเพื่อนในวัยหนุ่มเจ้าของธุรกิจค่ายหนัง ซึ่งเป็นดาราสาวมากฝีมือ มาเป็นภรรยาของ ไตรเทพ ลูกชายคนรอง ซึ่งเขาไม่อาจจะปฏิเสธหญิงที่พ่อจัดให้ได้ หลังจากแต่งงานเรืองรินไม่เคยมีเวลาทำหน้าที่ภรรยาเลย ไตรภูมิลูกชายคนที่สามได้วิชารำมวยไท้เก๊กจากเจ้าสัวเทียน ทุกเช้าจะไปที่สวนสาธารณะเพื่อสอนไท้เก๊กจนเป็นขวัญใจอาม่าอาซิ้ม เจ้าสัวเทียนเลือก วัลลภา ลูกสาวเจ้าของธุรกิจอาหารแช่แข็งเป็นสะใภ้ที่สาม เมื่อได้สะใภ้ที่ถูกใจให้ลูกทั้ง 2 แต่เจ้าสัวก็ยังไม่พอใจ เพราะ ไตรภพ ลูกชายคนโตเป็นคนธรรมะธัมโมชอบพูดปรัชญาสุภาษิตจีนเพื่อให้ข้อคิดกับคนใกล้ตัวจนทุกคนรำคาญ ไตรภพขอทำงานหนักเพื่อแลกกับการที่ไม่ถูกจับแต่งงาน เจ้าสัวเทียนโกรธมากสงสัยว่าลูกชายจะเป็นเกย์ อาหลิวจึงแอบไปจ้าง ซินแสเหวง ให้มาทำนายว่า ถ้าไตรภพแต่งงานธุรกิจระส่ำระสาย แม้เจ้าสัวเทียนจะยอมเชื่อ แต่ก็ไม่ละความพยามที่จะหาภรรยาให้ไตรภพและปัญหาใหญ่คาใจเจ้าสัวคือลูกชายคนเล็ก ไตรวิช ที่ไม่ยอมเดินตามเส้นทางที่เจ้าสัวเทียนขีดไว้ ความอยากเป็นตำรวจทำให้เขาวางแผนหลังจบนิติศาสตร์ ไตรวิชแอบไปสอบเป็นตำรวจอยู่ในอำเภอเล็ก ๆ ที่จังหวัดสกลนครและได้พบกับ ฟ้าใส สาวอีสานบ้านนาคนสวยแห่งหมู่บ้านบึงน้ำงาม ลูกของ นายมิ่ง กับ นางทองสร้อย ที่เรียนจบด้านเกษตร ฟ้าใสมีคู่หูคือ ไอ้ไม้ ญาติผู้น้องวัยรุ่นจอมกวนที่มาอยู่ช่วยงานบ้าน ไตรวิชเกิดความสนใจอยากรู้จักเธอจึงไม่ยอมเปิดเผยตัวเองว่าเป็นตำรวจ ฟ้าใสกับไม้หลงเชื่อจึงเป็นมิตรกับเขา ฟ้าใสรู้สึกประทับใจและให้ความไว้วางใจในตัวเขา แต่วันหนึ่งฟ้าใสก็ต้องหน้าแตกเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือ ร้อยตำรวจโทไตรวิช เศรษฐกิจเดชากุล ฟ้าใสจึงรวมหัวกับไม้แก้เผ็ดหาทางกลั่นแกล้งเพื่อความสะใจ ความสนิทสนมระหว่างไตรวิชกับฟ้าใสก่อตัวขึ้น ท่ามกลางอุปสรรคคือ ผู้ใหญ่คง พ่อหม้ายวัยดึก กับ เสี่ยไฮ้ หนุ่มใหญ่จอมเจ้าชู้ประจำหมู่บ้านที่ต่างหมายปองฟ้าใสอยู่ ชิดชัย ตามเจอไตรวิชและให้อาหลินมาตาม ไตรวิชตัดสินใจกลับไปบ้านแต่จ้างฟ้าใสให้เป็นเมียเพื่อจะได้มีโอกาสออกมาจากบ้านอีก ฟ้าใสไม่ยอม ไตรวิชบอกว่าจะได้เอาเงินไปเรียนปริญญาโท และจะได้เอา ไหมไปขายให้กับบริษัทด้วย และตกลงว่าจดทะเบียนกันเฉย ๆ ฟ้าใสจึงตกลง ไม้รับปากกับฟ้าใสว่าจะเลี้ยง เจ้านำโชค และ เจ้าน้ำชัย ไก่คู่ที่ไตรวิชรับมาจากชาวบ้านที่ซาบซึ้งในบุญคุณที่ช่วยเหลือ และจะคอยดูแล ดาวเรืองเพื่อนสนิทฟ้าใสที่ต้องอยู่กับ พะยอม ผู้เป็นแม่ตามลำพัง ซึ่งไอ้ไม้แอบหลงรักดาวเรือง ส่วนเจ้าสัวเทียนกังวลว่าก้อนเนื้อเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียวในสมองที่เคยทำให้เขาปวดศีรษะบ่อย ๆ จะกำเริบ เรื่องนี้เจ้าสัวกับอาหลิวสัญญาว่าจะไม่บอกให้ลูก ๆ รู้เพราะไม่อยากให้เป็นกังวล เจ้าสัวเทียนรู้ว่าฟ้าใสเป็นแค่ลูกชาวนาธรรมดาจึงหาวิธีปราบสะใภ้ให้ออกไปจากตระกูลโดยเร็วที่สุด เจ้าสัวยอมให้ไตรวิชกลับมาแล้วพาเมียมาด้วย เพราะมีแผนจะจับคู่ให้ ไตรวิชกับ อรณิชา หญิงสาวทันสมัยกิริยามารยาทงาม ลูกสาว เจ้าสัวลี และ นางเข็มทอง เจ้าของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อดัง โดยที่ไม่รู้ความจริงว่าธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังถูกเปลี่ยนมือ หากไม่มีใครมาช่วยพยุงฐานะ ไตรวิชจับได้ว่าพ่อมีกิ๊ก เจ้าสัวเทียนตกใจแต่ไตรวิชบอกถ้าพ่อไม่เลิกแกล้งฟ้าใสเรื่องนี้จะถึงหูอาหลิว เจ้าสัวเทียนจำต้องยอมรับปากเพื่อเอาตัวรอด เมื่อพ่อแม่ฟ้าใสมาเยี่ยมที่บ้านก็ไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากเจ้าสัวไอ้ไม้จึงขออยู่กับฟ้าใสเพื่อช่วยเหลือ อรณิชามี โอห์ม เป็นคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ต้องหงุดหงิดรำคาญใจกับไอ้ไม้ที่คอยป่วนกวนใจเพราะเห็นอรณิชาทำตัวใกล้ชิดกับไตรวิชเกินไป ไตรภพได้มีโอกาสไปบึงน้ำงามแต่สิ่งที่ไตรภพให้ความสนใจมากที่สุดคือฝีมือการทอฝ้าไหมของคนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะลวดลายที่มาจากฝีมือของดาวเรืองที่ไตรภพชื่นชอบเป็นพิเศษจนไตรภพจ้างเธอให้ไปออกแบบลวดลายผ้าไหมให้กับไหมทองสยาม พะยอมเห็นด้วยให้ไปทำงานกับไตรภพ โดยไม่ห่วงว่าสุขภาพตัวเอง เจ้าสัวเทียนปฏิเสธเสียงแข็งที่จะรับดาวเรืองเข้ามาอยู่ร่วมชายคา แต่เมื่อเห็นฝีมือของดาวเรืองก็ต้องยอมใจอ่อน เจ้าสัวเทียนจึงให้ดาวเรืองเป็นผู้ออกแบบลวดลายผ้าไหมให้กับสินค้าชุดใหม่ของไหมทองสยาม ดาวเรืองเมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านก็ช่วยงานฟ้าใสทุกอย่าง ช่วยปรนนิบัติทุกคนที่อยู่ในบ้านโดยเฉพาะไตรภพจนอาหลิวก็อดคิดไม่ได้ว่าดาวเรืองเหมาะที่จะเป็นคู่ชีวิตของไตรภพ เจ้าสัวเทียนเริ่มหลงรักในตัวของฟ้าใส เตรียมให้เธอเข้าไปช่วยงานที่บริษัทเรืองรินยังไม่วายอยากจะกำจัดฟ้าใส ด้วยการใส่ร้ายป้ายสีและสร้างสถานการณ์จนฟ้าใสผิดในสายตาทุกคน จนเธอต้องพ้นจากบ้านเศรษฐกิจเดชากุล แต่สุดท้ายก็พยายามพิสูจน์ความจริงจนได้ แต่เหมือนทุกอย่างจะสายเกินไปเมื่อเธอรู้ว่าอดีตสามีนั้นกำลังตกอยู่ในภาวะกลืนไม่คายไม่ออก กับเรื่องที่จะต้องแต่งงานกับอรณิชา ฟ้าใสหนีกลับบ้านไตรภพชวนดาวเรืองมางานแต่งงานของไตรวิช ดาวเรืองขอให้ฟ้าใสไปเป็นเพื่อน ขณะที่พิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้นนั้น แพนเค้กก็เปิดเผยวามจริงว่าอรณิชาวางแผนจับไตรวิช ให้แต่งงานกับหล่อน เจ้าสัวเทียนและอาหลิวดีใจเป็นที่สุดที่พวกเขาจะได้มีโอกาสรับฟ้าใสเข้ามาเป็นสะใภ้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อไตรวิชปรับความเข้าใจกับฟ้าใสได้อีกครั้ง พวกเขาจึงสู่ขอฟ้าใสให้กับไตรีวิช เจ้าสัวเทียนและอาหลิวมีความสุขเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณเมื่อพวกเขามีอากาสได้ต้อนรับสะใภ้เพิ่มอีกหนึ่งคนเข้าตระกูล นั่นก็คือดาวเรืองที่ยอมใจอ่อนตกลงใจจะเป็นภรรยาของไตรภพอย่างถูกต้อง ติดตามชม ละครสะใภ้เจ้าสัว ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครสะใภ้เจ้าสัว เริ่มตอนแรก พฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน 2553

เศรษฐีข้างเขียง 2553

เศรษฐีข้างเขียง (2553/2010) เรื่องราว เศรษฐีข้างเขียง เกิดขึ้นเมื่อ อาแปะ อยากสร้างตำนานร่ำรวยด้วยมือเปล่า จึงหนีเข้าเมือง มาล่าฝันที่เมืองไทยพร้อม กิม หลานชายรูปหล่อ แต่ถูก ลุงฮวย สหายเก่าขโมยเงิน และทิ้ง หลาน หลานในไส้พร้อมกับหนี้พนันที่เหล่ามาเฟียตามล่า กิม หลาน อาแปะจึงต้องหนีไปพึ่งใบบุญ หลวงตา ทุกเช้าที่กิมไปช่วยหลวงตาบิณฑบาตร ต้องเดินผ่านร้านเป็ดพะโล้เจ้าอร่อยของ ตาเพิ่ม กับ แม่สาลี่ ที่มีลูกสาวคนสวยคือ ช้อนทอง กิมปิ๊งรักกับช้อนทองทันที แต่ความจนเป็นอุปสรรค กิมจึงตั้งมั่นลบคำสบประมาทของตาเพิ่มกับแม่สาลี ทำงานสารพัดแต่ไม่ได้ดีสักที อาแปะเลยถ่ายทอดสูตรเด็ดเป็ดพะโล้ กิมกับหลานรวบรวมเงินจนเปิดร้านใกล้ๆ ช้อนทอง แต่กลายเป็นว่าช้อนทองโกรธที่ร้านกิมมาแย่งลูกค้า ติดตามต่อได้ใน เศรษฐีข้างเขียง

คุณนายสามสลึง 2553

คุณนายสามสลึง (2553/2010) คุณนายน้ำเพชร เป็นคุณนายที่ไม่เต็มบาท แต่ไม่มีใครกล้าหือเพราะว่าเป็นเจ้าของที่ให้เช่ามากมาย คุณนายรักษาผลประโยชน์ตัวเองเต็มที่จนชาวบ้านพูดว่า ลูกผัวไม่มีจะงกสมบัติไว้ให้ใคร คุณนายเป็นลูกสาวคนเดียวที่สืบทอดตระกูลของท่านเจ้าคุณและท่านผู้หญิง ถ้าหนุ่มคนไหนจะแต่งงานต้องยอมเปลี่ยนมาใช้นามสกุล พนมดุลยภาค แล้วต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย ทำให้หนุ่ม ๆ หนีหายไปหมด ยกเว้น อินศวร คนเดียวที่ยอมรับข้อเสนอ จึงได้แต่งงานกัน หลังคุณนายคลอดลูกชายได้ 1 วัน อินศวรก็พาลูกหนีไปแล้วท่านผู้หญิงก็สิ้นใจ คุณนายน้ำเพชรรับความสูญเสียไม่ได้กลายเป็นคนเสียสติ เอษรา หญิงสาวข้างบ้านผู้ก๋ากั่นห้าวหาญวิ่งเข้าออกบ้านคุณนายตั้งแต่ยังเล็กจนสนิทกัน เอษราไม่กลัวคุณนายที่ชาวบ้านหาว่าเพี้ยน แต่กลับเห็นใจสงสารมากกว่าหลายครั้งมีคนปลอมตัวเข้ามาแอบอ้างว่าเป็นทายาทคุณนายน้ำเพชร เพื่อหวังมรดก แต่คุณนายก็จับได้ทุกครั้ง แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกวัน เพราะมี อินจำปาที่หน้าตาเหมือนอินศวรเข้ามาบอกว่าตัวเองเป็นลูกชาย เอษราตั้งแง่และแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าไม่เชื่อว่าเขาคือทายาทตัวจริง แต่คุณนายน้ำเพชรหัวใจพองโต นี่คือข่าวดีที่สุดที่เธอรอคอยมากว่า 20 ปี คุณนายมีชีวิตชีวาลุกขึ้นแต่งตัวสดใส ขณะที่เอษราคอยจับผิด อินจำปาซื้อรถใหม่ ได้ดูแลกิจการต่าง ๆ เก็บค่าเช่า ต่อเติมบ้านใหม่ วันหนึ่งมีเจ้าหนี้มาทวงหนี้ของ อินเกษม น้องชายต่างมารดา อินจำปายอมจ่ายหนี้การพนันที่ติดมาจากเมืองนอกของน้อยชาย และกำชับเจ้าหนี้ไม่ให้มาที่นี่อีก หลังจากนั้นอินจำปาก็โทรศัพท์หา อินประสงค์ ผู้เป็นพ่อ หาใช่อินศวรไม่ แต่อินประสงค์วางแผนให้อินจำปาเข้ามาแสดงตัวเพื่อหวังมรดก แต่ส่วนลึกของอินจำปากลับต้องการมาดูแลผู้หญิงที่ลุงแท้ ๆ และเป็นพ่อบุญธรรมของเขารักมาก กุมารี แฟนสาวของอินจำปา เข้ามากราบคุณนายน้ำเพชรขอความเห็นใจที่กำลังท้อง ทั้งอินจำปาและกุมารีไปเรียนที่อเมริกาจึงเป็นแฟนกัน เมื่ออินจำปากลับมาเมืองไทยก็ฝากไว้กับอินเกษม แต่สองคนมีใจให้กันจนท้อง เรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อเอษราคอยจับผิดอินจำปา ส่วนกุมารีคอยหาเรื่องเอษรา เอษราเดินทางไปทำวิจัยเพื่อจบการศึกษาที่เมืองเหนือจนได้พบกับอินเกษม เชตวัน ชวนเอษราไปพักที่บ้านเขา แต่บ้านพักคับแคบต้องไปพักที่บ้านของ แม่นางแก่นจันทร์ เอษราเห็นรูปถ่ายอินจำปากับแม่นางแก่นจันทร์ จึงรู้ความจริงทั้งหมด อินศวรพูดและขยับตัวไม่ได้ เขามีกำลังใจอยู่ได้เพราะอินจำปาคนเดียว อินศวรรู้ตัวว่าเป็นโรคร้ายทำให้ร่างกายอ่อนแอคล้ายอัมพาต และถ่ายทอดไปสู่ลูกได้ เมื่อน้ำเพชรคลอดลูกเขาจึงหอบลูกหนีไป เพราะไม่อยากให้น้ำเพชรเสียใจ แค่สองวันเด็กคนนั้นก็เสียชีวิต จากนั้นอินศวรเดินทางไปอยู่เวียงจันทร์ทันที เขาขอใช้ชีวิตอย่างสงบที่นั่น โดยมีแม่นางแก่นจันทร์มารดาแท้ ๆ ของอินจำปาคอยดูแล อินศวรเห็นหน้าอินจำปาตั้งแต่เด็ก ๆ จึงรักใคร่เหมือนลูก จึงขอมาเลี้ยงดูเป็นลูกบุญธรรม เมื่ออินประสงค์ยกอินจำปาเป็นลูกอินศวรแล้วก็เจ้าชู้ไปเรื่อย จนได้เมียใหม่คือ สร้อยสุดา และมีลูกชายคือ อินเกษม แม่นางจันทร์ทนความร้ายกาจของสร้อยสุดาไม่ได้ขอย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ อินจำปาต้องดูแลอินศวรเหมือนพ่อแท้ ๆ อินศวรยกทรัพย์สินทุกอย่างให้อินจำปาและขอให้ดูแลเขาอย่างดี เผื่อสักวันหายจากโรคร้ายจะเดินทางมาขอโทษคุณนายน้ำเพชรและเล่าเรื่องราวให้ฟัง แต่อาการป่วยทรุดลง อินจำปาเดินทางมาเยี่ยมแม่นางแก่นจันทร์ เอษราที่รู้ความจริงก็ต่อว่าอินจำปาว่าแต่งเรื่องโกหก แล้วกลับไปเล่าเรื่องนี้ให้คุณนายน้ำเพชรฟังจนอาการทรุด อินจำปาเข้ามาต่อว่าเอษราที่ทำทุกอย่างเสีย คุณนายน้ำเพชรกลับมาเพี้ยน ๆ บ้า ๆ บอ ๆ เหมือนเดิม อินเกษมก่อเรื่องอีก ไปมีสัมพันธ์กับ เดือนเต็มดวง สาวแก่เจ้าของธุรกิจ เธอสืบรู้ว่ากุมารีมีลูกกับอินเกษมเลยบีบบังคับให้เอาเด็กออก อินเกษมเบื่อเดือนเต็มดวงเข้ามาตีสนิทกับเอษรา เอษราขอให้อินจำปาออกไปจากชีวิตเธอและคุณนายน้ำเพชร อินจำปากลับเวียงจันทน์ อินประสงค์โมโหที่ทำตามแผนไม่สำเร็จ ไล่อินศวรไปตายที่อื่น อินจำปาย้ายอินศวรไปรักษาตัวกับแม่นางแก่นจันทร์ อินเกษมรู้ว่ากุมารีมีลูกก็เริ่มรักกุมาลีขึ้นมา เดือนเต็มดวงบุกไปแฉความเลวทรามของอินเกษมถึงงานหมั้นของกุมารี เดินเต็มดวงชักปืนยิงกุมารี แต่อินเกษมขวางไว้ อินจำปากลับมากรุงเทพฯ อีกครั้งเพื่อขอร้องเอษราให้เขาได้ดูแลคุณนายน้ำเพชร จนอาการดีขึ้น เขาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของอินศวรให้คุณนายน้ำเพชรฟัง เอษราเดินทางมาหลวงพระบางเพื่อดูความจริง จนอินศวรแข็งแรงขึ้นก็เดินทางมาหาคุณนายน้ำเพชร ทั้งสองรู้สึกดีขึ้น ความสุขเติมเต็ม เอษราเข้าใจอินจำปา คุณนายน้ำเพชรรับอินจำปาเป็นลูกและขอให้แต่งงานกับเอษรา ทุกชีวิตจึงได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เพื่อเติมเต็มความสุขอย่างแท้จริง ละครคุณนายสามสลึง ออกอากาศทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.00 - 20.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 คุณนายสามสลึง เริ่มตอนแรก วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2553