ปีศาจแสนกล 2553

ปีศาจแสนกล (2553/2010) พรต หนุ่มพนักงานธนาคารหน้าตาดีที่มุมานะทำแต่งาน สมถะ และเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทาง จนคนทั้งธนาคารสำนักงานใหญ่ ให้ฉายาว่าหลวงตา มุ่งมั่นจะเก็บเงินแต่งงานกับ ชัชรี แฟนสาวที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของธนาคาร ที่รักและเข้าใจเขามานานหลายปี พรตจนปัญญาที่จะพิสูจน์ให้ทางบ้านเห็นว่าเขาจะเป็นเขยที่มีอนาคตได้ พรตปรับทุกข์กับ ชัชรี ถึงท่าทีที่สมาชิกในครอบครัวของชัชรีมักจะแสดงอาการรังเกียจว่าเขาจน ชัชรีงอนว่าตนหมดหวังแล้ว จนถึงขั้นทะเลาะ วิ่งหนี จนพรตวิ่งตามแล้วลื่นลงไปหัวกระแทกแท่นหิน แล้วจู่ ๆ ท่าทีของพรตก็เปลี่ยนไป เป็นร่าเริง กรุ้มกริ่ม แววตาเจ้าชู้ฉายชัด เขาชวนเธอกลับไปให้ทันทานข้าวมื้อเย็นกับครอบครัวของชัชรี ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด พรตพูดจาโต้ตอบกับทุกคนอย่างฉะฉานมั่นใจ ปล่อยมุขกระจายจนทุกคนประทับใจ เขาดูเหมือนจะเป็นพรตคนใหม่ เช้าวันต่อมา พรตก็แปลกใจที่มีเสียงลึกลับดังข้างหูแต่หาตัวเจ้าของเสียงไม่ได้ ทำให้พรตใจหายเมื่อคิดได้ว่านั่นคือเสียงของผี ผีจึงออกมาแนะนำตัวเองว่าชื่อ ทองห่อ เป็นผีในวัง อดีตเป็นขุนนางเพลย์บอย ทองห่ออยากจะสะสมบุญเพื่อจะได้ไปเสวยสุขบนสวรรค์ซะที เขาจึงตั้งใจจะช่วยให้ความรักของทั้งคู่สมหวัง ส่วนผีทองห่อก็อดใจไม่ไหวขอยืมร่างพรตออกเที่ยวอยู่บ่อย ๆ ส่วน ชัชรี ชอบที่เขาเลิกเคร่งขรึมสมถะ และที่เคยทำตัวสุภาพ สำรวมกายใจกับเธอ จนน่าเบื่อ ก็กลับมาเป็นสวีทโรแมนติก หวานแหววหวือหวามากมาย จนถึงขั้นเจ้าชู้ใส่เธอ แต่ไป ๆ เธอก็เริ่มเครียด เมื่อเขากลายเป็นนักเที่ยว มีสาว ๆ แปลกหน้าหลายคนที่เข้ามาทักพรตอย่างสนิทสนม ทำให้พรตเริ่มทะเลาะกับ ชัชรีบ่อยขึ้น พรตจึงต่อต้านทองห่ออย่างจริงจัง พยายามสวดมนตร์ไล่ผีด้วยคาถาต่าง ๆ แต่ก็เหมือนทำให้ทองห่อกล้าแข็งยิ่งขึ้น เขาเข้าสิงพรตบ่อยขึ้น จนสามารถยึดร่างพรตได้ทั้งกลางวันกลางคืน ทองห่อพยายามบอกตอกย้ำกับตัวเองว่าสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อ ชัชรี คือการช่วยให้ความรักของ ชัชรี กับ พรต สมหวัง เขาจะได้ไปสวรรค์ ทองห่อใช้ร่างพรต ไปเที่ยวตีกอล์ฟกับเทพ และแก้ไขปัญหาครอบครัวให้เทพและอมราได้ เทพและอมราขาดเขาไม่ได้จนถึงขั้นต้องขอให้พรตมาเป็นลูกบุญธรรม ที่บ้านจนกว่าจะจัดงานหมั้นเสร็จ หลังจากหมั้น ชัชรีลากพรตไปเคลียร์ในสวนเรื่องหญิงทั้งหลาย พรตไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดเผยความลับให้ชัชรีฟังว่า เขามีเพื่อนเป็นผีที่ช่วยให้เขาถูกล็อตเตอรี่จนมีเงินสำหรับงานหมั้นที่เขาจะยกขันหมากไปขอเธอ ชัชรีไม่เชื่อ จนพรตต้องขอให้ทองห่อออกมาแสดงตัว และทองห่อก็ไม่ขัดข้อง เพราะชอบโชว์อยู่แล้ว ความโลภของมนุษย์ ก็ทำให้ทุกคนยอมรับทองห่อ แล้วต่างขอในสิ่งที่ตนเองหวังจนผีทองห่อเริ่มอึดอัด แต่ถึงอย่างไรทองห่อก็ยังเพลิดเพลินกับของเซ่นไหว้ และการรำถวายของแม่พิไล และสนุกกับการได้แกล้งผู้คน แต่พรตทนเพื่อนผีของเขาไม่ไหวแล้ว เพราะเขามีปัญหากับชัชรีมากขึ้น ๆ ความรักความเข้าใจสมัยเขาจน กลายเป็นความระหองระแหงเข้าใจผิด ร้าวฉานและชัชรีก็ทะเลาะกับผีทองห่อบ่อยจนหมดความเกรงกลัว แถมหาอุปกรณ์ปราบผีต่าง ๆ มาแกล้งทองห่อด้วย พรตคิดจะให้ทองห่อรีบไปเสวยสุขบนสวรรค์เร็วขึ้นด้วยการปลดปล่อยวิญญาณออกจากหลุมศพ พรตจะจัดการผีเจ้าเล่ห์อย่าง ทองห่อ อย่างไร และความรักของเขากับ ชัชรี จะสมหวังหรือไม่ ต้องติดตามชม ปีศาจแสนกล ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น. ปีศาจแสนกล เริ่มตอนแรกพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ทางช่อง 3

เขยบ้านนอก 2553

เขยบ้านนอก (2553/2010) โฉมโสภา หรือ คุณหนู ลูกสาวคนเดียวของ รมต. สุพจน์ และคุณหญิงสิรี เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ เธอเป็นสาวน้อยน่ารัก สดใสปราดเปรียว และมั่นใจในตนเอง ดังนั้น จึงมีหนุ่มมากมายมาติดพันเธอ แต่ในบรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลาย "หัสดี" ถูกใจคุณหญิงสิรีมากที่สุด เพราะเขารูปหล่อและกิริยามารยาทเรียบร้อย คุณหญิงสิรีอยากจะให้หัสดี แต่งงานกับโฉมโสภา โดยได้นัดให้ทั้งคู่ได้รู้จักกันแต่ก็เกิดผิดพลาดขึ้น คุณหญิงสิรีจึงวางแผนใหม่ โดยให้ทั้งคู่ไปเจอกันที่ไร่ต่างจังหวัด การมาที่ไร่ของโฉมโสภาในครั้งนี้ ทำให้เธอได้เจอกับ "นวณ" ลูกชายผู้ใหญ่นาคและมีไร่ติดกับไร่ของคุณหญิงสิรี โฉมโสภาตั้งใจจะให้ นวณเป็นพระเอกในนวนิยายที่ตัวเองกำลังเขียนอยู่โดยที่นวณไม่รู้ตัว โฉมโสภาจึงพยายามเข้าไปใกล้ชิด นวณ เพื่อเก็บข้อมูลรายละเอียดจนทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความไม่พอใจของ คุณหญิงสิรีจึงคิดที่จะพาโฉมโสภากลับกรุงเทพ ก่อนกลับโฉมไปเที่ยวกับนวณ พอดีเกิดพายุฝนและ ใกล้พลบค่ำแล้วทั้งสองยังไม่กลับ ทำให้ทุกคนเป็นห่วงและออกตามหา จนกระทั่งพบทั้งคู่นอนกอดกัน อยู่ในโรงนา ผู้ใหญ่เกรงว่านวณจะถูกท่านรมต.สุพจน์ ทำร้าย จึงลงมือซ้อมนวณด้วยตนเอง โฉมโสภา เข้าปกป้องและบอกเธอตามนวณมาเอง นวณจึงขอรับผิดชอบทุกอย่าง โดยยินดีจะแต่งงานกับ โฉมโสภา เพื่อไม่ให้เธอเสียชื่อเสียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณหญิงสิรีด่าว่านวณอย่างรุนแรงจน โฉมโสภาทนไม่ไหว และพูดว่าจะแต่งงานกับนวณ คุณหญิงสิรีโกรธมากประกาศตัดแม่ตัดลูกกับ ลูกสาวและกลับบ้านทันที ก่อนที่จะแต่งงานกันโฉมโสภาขอร้องนวณว่าขอให้การแต่งงานครั้งนี้เป็น เพียงในนามเท่านั้นเพราะทั้งคู่ยังไม่รู้จักกันมากพอและไม่ได้รักกันด้วย หลังจากการแต่งงาน คุณหญิง สิรีก็ออกอุบายโดยให้คนมาส่งข่าวกับโฉมโสภาว่าป่วยหนัก นวณและโฉมโสภาเข้ากรุงเทพเพื่อเยี่ยม คุณหญิง คุณหญิงขอให้โฉมโสภาอยู่พยาบาลก่อนจนกว่าจะหาย นวณเห็นคุณหญิงสิรีไม่ได้เป็นอะไร นอกจากใช้มารยา จึงเริ่มออกฤทธิ์ทำตัวขวางหูขวางตาคุณหญิงสิรีด้วยการแต่งตัวและทำท่าทางอย่าง บ้านนอกเต็มที่ ทำให้คุณหญิงอับอาย และขายหน้าอยู่เสมอๆ จึงคิดหาทางแยกลูกสาวกับลูกเขยออก จากกันโดยการชักนำหนุ่มๆ ทั้งหลายเข้ามา ทำให้นวณและโฉมโสภามีเรื่องขัดใจกันอยู่เรื่อยๆ แต่ด้วย ความใกล้ชิดกันทำให้ทั้งคู่เป็นของกันและกัน เมื่อโฉมโสภารู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์จึงบอกนวณและชวน นวณไปเช่าบ้านอยู่ตามลำพัง แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องผิดใจกันเมื่อแม่วันร่วมมือกับคุณหญิงใส่ไฟนวณเรื่อง ทรงสม ทำให้โฉมโสภาโกรธคิดว่านวณปันใจจึงย้ายกลับไปอยู่บ้านแม่จนกระทั่งคลอด นวณมาเยี่ยม แต่โดนคุณหญิงกีดกัน วันหนึ่งท่านรัฐมนตรีสุพจน์ได้ไปเป็น ประธานในพิธีมอบรางวัลผลงานวิจัย เกษตรธรรมชาติดีเด่น ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าผู้ได้รับรางวัลคือ นายคำนวณ เหล่าพนา ข้าราชการ กระทรวงเกษตรฯ ระดับ 6 ผู้ซึ่งเป็นลูกเขยของตน ความเศร้าหมองของโฉมโสภาทำให้แม่วรรณทนไม่ได้ ยอมสารภาพความจริง โฉมโสภาจึงตามนวณไปที่บ้านไร่ เพื่อปรับความเข้าใจกับนวณและนวณก็ทำให้ คุณหญิงยอมรับเขยบ้านนอกคนนี้ในที่สุด.................

มนต์รักลูกทุ่ง 2553

มนต์รักลูกทุ่ง (2553/2010) คล้าว (ทฤษฎี สหวงษ์) คนจนนิสัยดี เป็นคนขยันทำมาหากิน เพื่อไถ่ที่นาที่ แม่คอน (ชุดาภา จันทเขต) ผู้เป็นแม่นำไปจำนองไว้กับจอม (สันติสุข พรหมศิริ) ผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้าน เจิด (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของจอม ที่หลงรัก ทองกวาว (จิตตาภาแจ่มปฐม) ลูกสาวคนสวยเศรษฐี พ่อก้อน (อนันต์ บุญนาค) กับ แม่ทับทิม (จินตหรา สุขพัฒน์) เป็นคนสวย น่ารัก เรียบร้อย เชื่อฟังพ่อแม่ แต่ทองกวาวไม่ชอบที่เจิดเป็นนักเลงอันธพาลหัวไม้ ทองกวาวมีญาติสนิทชื่อ บุปผา (ณัฎฐพัชร วิพันธครตระกูล) สาวสวยวัยไล่เลี่ยกันเป็นที่ปรึกษาหัวใจ ส่วนบุปผาชอบ พี่แว่น (เบญจพล เชยอรุณ) เพื่อนสนิทของนายคล้าว คล้าวเป็นหนุ่มเนื้อหอมมีสาวๆ มาชอบมากมาย แต่ตนมีใจรักทองกวาวเพียงผู้เดียว ถึงแม้จะมี สายใจ ลูกสาวตามิ่ง (เป็ด เชิญยิ้ม) ขี้เมา คอยตามตื้อก็ตาม ทองกวาวแอบไปพบคร้าวเสมอ เจิดเห็นเอามาฟ้องก้อน ก้อนทำโทษห้ามออกจากบ้าน เมื่อออกไปเจอคล้าวไม่ได้ คล้าวเลยแอบมาปีนบ้านหาทองกวาวนัดไปเจอกันที่เพิงกลางนา แต่แม่คอนไม่สบาย คืนนั้นคล้าวต้องอุ้มแม่ไปรักษาที่สุขศาลานอนเฝ้าแม่เลยไม่ได้ไปตามนัด ทองกวาวมารอคล้าวบังเอิญสายใจผ่านมาเจอทองกวาวเลยโกหกว่าคล้าวไม่มาเพราะเพิ่งแยกกับตนที่บ้าน ทองกวาวเชื่อคำพูดของสายใจ และเมื่อเจิดเอารถคันใหม่มารับที่บ้านแม้จะไม่ชอบเจิด แต่ก็ทนความตื๊อและคะยั้นคะยอของพ่อกับแม่ไม่ไหวจึงยอมนั่งรถออกไปกับเจิด คล้าวกลับจากเฝ้าแม่พร้อมสายใจมาเจอเจิดกับทองกวาว ทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจผิดกัน บุปผา รู้เรื่องเข้าจึงแอบไปบอกความจริงกับคล้าว คล้าวไปหาทองกวาว และบอกสาเหตุที่ตนเองไม่ไปตามนัด ก้อนกับทับทิมให้จอมไปหาฤกษ์ จะได้ให้เจิดยกขันหมากมาขอทองกวาว ทองกวาวรู้เรื่องก็ร้องไห้เสียใจ ด้านคล้าวรู้เรื่องจึงพาแม่ไปทาบทามขอหมั้นทองกวาวตัดหน้าเจิด ตาก้อนหัวเราะเยาะเรียกสินสอดเป็นจำนวนเงิน 10 หมื่น ก้อนกับทับทิม กลัวทองกวาวจะหนีตามคล้าวก็เลยตัดสินใจส่งทองกวาวไปกรุงเทพฯไปอยู่บ้านพี่สาวก้อนชื่อ ทองคำ ให้เรียนตัดเย็บเสื้อผ้า โดยหลอกลูกสาวกับหลานสาวว่าเรียนจบเมื่อไหร่กลับมาบ้านก็ให้คล้าวมาสู่ขอได้ ทองกวาวกับบุปผาดีใจไปบอกเรื่องนี้กับคล้าวและแว่นว่าให้รออีกปี เมื่อไปถึงสองสาวตั้งใจเรียน ต่างส่งจดหมายมาให้คล้าวและแว่นแต่ก็โดนก้อนเอาเผาไฟหมด ระหว่างนั้นทองกวาวมีชายเจ้าชู้หลานป้าทองคำมาชอบชื่อ ธรรมรักษ์ (ศรันยู ประชากริช) ที่แอบมีเมียเป็นนักร้องชื่อ ฤทัย (ปิยะดา ตุรงคกุล) และลูกน้องของธรรมรักษ์ชื่อ ธีระ (ภุชงค์ โยธาพิทักษ์) มาติดพันบุปผา แต่ทองกวาวและบุปผาไม่สนใจ ทองกวาวพบ บุญยืน (เอกชัย ศรีวิชัย) ที่มาเป็นนักร้องในคลับของธรรมรักษ์ โดยบังเอิญ สองสาวเข้ามาสอบถามถึงได้รู้ว่าเพลงนี้แว่นฝากมาให้ร้องให้คนกรุงเทพฟัง ทั้งทองกวาวและคล้าวได้รู้ข่าวคราวซึ่งกันและกัน โดยผ่านทางบุญยืนเป็นสื่อกลาง ด้วยความที่กลัวลูกลำบาก อยากให้แต่งงานกับคนรวยมีฐานะอย่างธรรมรักษ์ พ่อก้อนจึงโกหกลูกสาวทองกวาวว่าคล้าวลืมทองกวาวแล้ว และได้ สายใจเป็นเมียไปแล้ว ด้านบุญยืนชวนคล้าวมาเล่นดนตรีที่คลับเพิ่งเปิดใหม่ของฤทัยที่กรุงเทพ คล้าวลาแม่ไปกรุงเทพ เพชร น้องทองกวาวเห็นใจคล้าว จึงยอมบอกที่อยู่ของทองกวาว ระหว่างทางเรือเกิดล่ม กระดาษที่จดที่อยู่ทั้งของบุญยืนและทองกวาวละลายน้ำไม่สามารถอ่านได้ พวกคล้าวกับแว่นต่างก็ตามหาทองกวาว บุปผา และบุญยืน จนหมดกำลังใจตัดสินใจกลับ แต่ก็โชคดีมาพบบุญยืนโดยบังเอิญ บุญยืนว่าเรื่องที่จะไปเล่นดนตรีที่คลับนั้นสายไปแล้ว เพราะเห็นคล้าวไม่มาเจ้านายก็เลยรับนักดนตรีวงอื่นไปแล้ว แต่ก็มีงานเล่นดนตรีในงานประกวดเทพีเหมันต์ ทั้งหมดไปรอเล่นดนตรีก็เลยเห็นทั้งทองกวาวและบุปผาที่เข้าประกวดเทพีเหมันต์ แว่นแอบเอาโน๊ตเพลงไปวางให้นักดนตรีเล่น คล้าวขึ้นไปร้องเพลงออกทีวีในงานนี้คู่กับทองกวา รุ่งขึ้นคล้าวพายเรือไปหาทองกวาวที่บ้านทองคำ คล้าวเห็นทองกวาวเดินเล่นกับธรรมรักษ์ จึงเข้าใจผิดเกิดการวิวาทกับพวกธรรมรักษ์ ทองกวาวไล่คล้าวและให้เลิกกันดีกว่า คล้าวเสียใจมากจึงกลับบ้านนอก ด้านทองคำขอทองกวาวให้ธรรมรักษ์และบุปผาให้แก่ธีระ สองสาวที่กำลังอกหักตัดสินใจรับหมั้นกับธรรมรักษ์และธีระ คล้าวกลับถึงบ้านจึงรู้ว่าจอมยึดนายึดบ้าน โดยปลอมหนังสือว่าแม่คอนไปยืมเงินตอนคล้าวไปกรุงเทพ และเมื่อได้ข่าวว่าทองกวาวรับหมั้นไอ้หนุ่มกรุงเทพ คล้าวก็ตัดสินใจย้ายบ้านไปหาที่ทำกินใหม่โดยมีสายใจตามไปด้วย ก้อนกลับบ้านมาเตรียมงานหมั้นและแต่งงาน เมื่อจอมรู้ว่าธรรมรักษ์ยอมทุ่มสินสอดแบบไม่อั้นเพื่อมาขอทองกวาว จึงคิดวางแผนปล้นสินสอด พร้อมจับตัวทองกวาวและป้าทองคำเป็นตัวประกันเรียกค่าไถ่ วั นสุกดิบก่อนวันแต่งงาน พ่อก้อน แม่ทับทิมเมาเผลอบอกความจริงเรื่องที่ทำให้ ทองกวาว บุปผา คล้าว และแว่น เข้าใจผิดกัน เพชรรีบไปตามคล้าวเพื่อบอกความจริงแต่พอคล้อยหลังก็เห็นพวกเจิดเข้าปล้นเอาสินสอดและทองกวาวไปด้วยเพื่อเรียกค่าไถ่ เพชรรีบมาบอกคล้าวว่าพวกเจิดมาปล้นบ้านและจับเอาตัวทองกวาวไปด้วย คล้าวรีบติดตามไปช่วยและให้เพชรไปแจ้งตำรวจพร้อมตามชาวบ้านมาช่วยคล้าว คล้าวจะสามารถช่วยทองกวาวได้หรือไม่ และความรักระหว่างทองกวาวกับคล้าว และบุปผากับแว่น จุลงเอยกันเช่นไร ต้องติดตามใน “มนต์รักลูกทุ่ง”

4 หัวใจแห่งขุนเขา วายุภัคมนตรา 2553

4 หัวใจแห่งขุนเขา วายุภัคมนตรา (2553/2010) ทิชากร หรือ กะทิ ( ราศรี บาเล็นซิเอก้า ) เป็นนักเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งมีนามปากกาว่า “ฮัมมิ่งเบิร์ด”นิยายของ ทิชากรได้รับความนิยมในหมู่นักอ่านเพราะมีบทโรมานซ์หวือหวาเอาใจตลาดแต่ความจริงเธอยัง เวอร์จิ้น และเริ่มจะหมดมุกเลิฟซีนที่จะเขียนเธอเป็นสาวโบฮีเมียนขนานแท้แถมยังชอบทำอะไรโก๊ะๆโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ และสิ่งที่น้อยคนรู้ก็คือเธอเป็นลูกสาวของหมอไกรฤทธิ์ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) อดีตหมอไสยจอมขมังเวทที่ผันตัวมาเป็นแพทย์แผนโบราณเพราะกลัวบาป ทิชากรกำลังจะเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งเกิดในไร่องุ่น ซาร่า (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) บก.สาวประเภทสองของเธอจึงเสนอให้หญิงสาวไปใช้ชีวิตในไร่องุ่นสายลม ซึ่งเป็นไร่องุ่นของรุ่นน้องซาร่าเพื่อหาข้อมูล หารู้ไม่ว่าไกรฤทธิ์หวงลูกสาวคนเดียวที่จะต้องจากบ้านไปไกลโดยลำพัง เขาจึงแอบส่งรัก(สุพิชชา มงคลจิตตานนท์)-ยม (ทัศน์พล วิวิธวรรธ์) ให้ไปตามดูแลเธอ ในวันที่ ทิชากรไปถึงไร่องุ่นสายลม เธอประหลาดใจเมื่อเห็นท้องฟ้าเหนือไร่องุ่นเต็มไปด้วยเมฆดำทะมึนปกคลุม เธอรู้โดย สัญชาตญาณของลูกอดีตจอมขมังเวทว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่รวมทั้ง รัก-ยมในกระเป๋าก็ออกมายื่นยันว่ามีสิ่งผิดปกติ สิ่งที่ทิชากรเห็นไม่ใช่ความหล่อบาดใจของเขาที่ผู้หญิงทุกคนเป็นต้องหลงใหล แต่เป็นใบหน้าหมองคล้ำเหมือนถูกของและเงาของ นางโหงพราย(จุฬา ศรีคำมา) ที่เกาะอยู่บนหลังเขาต่างหาก ทิชากรจึงเดินเทิ่งๆไปบอกผู้ชายคนนั้น แต่กลับถูกเขาตอกหน้ากลับมาอย่างไม่เชื่อถือทำให้เธอโกรธมาก หนุ่มหล่อปากร้ายคนนั้นก็คือ วายุภัค หรือ ลม (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) หนึ่งในสี่ฝาแฝดตระกูลอดิศวรซึ่งได้รับหมอบหมายให้ดูแลไร่องุ่นของครอบครัวนั่นเอง วายุภัคมีนิสัยไม่ต่างจากลมเพลมพัด รักง่ายหน่ายเร็ว ไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ และมีอารมณ์ศิลปินสูง ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาบาดใจราวกับเทพบุตรเดินดินและนิสัยรื่นรมย์ช่างยิ้ม วายุภัคจึงมีสาวมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนไปมาอยู่ตลอด เมื่อต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร วายุภัคกับ ทิชากรจึง ปฎิเสธที่จะเกี่ยวข้องกัน แต่ซาร่าห้ามไว้และเตือนให้เธอเห็นแก่หน้าที่ พร้อมกับลำเลิกบุญคุณกับวายุภัคที่เธอเคยกีดกันสาวๆของเขาสมัยที่ชายหนุ่มไปเรียนปริญญาโทด้านการองุ่นและทำไวน์ ที่ ฝรั่งเศส ชายหนุ่มจึง ปฏิเสธไม่ได้ สองคนจึงต้องอยู่ในไร่องุ่นอย่างเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อไป วายุภัคมีอาการเปลี่ยนไปจากเดิม มักได้ยินภาษาแปลกๆ เห็นเงาวูบวาบ ปวดศรีษะและท้องทรมานอย่างไม่รู้สาเหตุ ทิชากรรู้จากท่านเจ้าที่ว่านางโหงพราย ถูกหมอไสยคนหนึ่งเสกมาเพราะมีความแค้นกับวายุภัคแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทิชากรจึงพยายามบอกกับวายุภัค เขายิ่งคิดว่าเธอบ้า ทิชากรกับวายุภัคทะเลาะกันหลายครั้ง ทิชากรโกรธจัดจึงประกาศกร้าวว่าเธอจะทำให้เขาเห็นว่าเขาผิดให้ได้และต้องคลานมาขอโทษเธอ การต่อสู้ห้ำหั่นกันระเบิดขึ้นไปทั้งไร่ เมื่อ ทิชากรบุกสาดน้ำมนต์ใส่วายุภัคไปทุกที่ด้วยวิธีการ ต๊องๆตามประสาเธอ เพื่อให้อาการของคนถูกของแสดงออกมาแต่วายุภัคก็ไวสมชื่อลม เขาสามารถรอดพ้นจากการจู่โจมของ ทิชากรได้ทุกที สาวๆของวายุภัคหายไปเกือบหมดแต่ วายุภัคไม่เดือดร้อนกับการที่ผู้หญิงของเขาหายหน้าไปทีเดี่ยวเกือบหมด ที่สำคัญ วายุภัคแอบประทับใจทิชากรอย่างไม่รู้ตัว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาไม่เคยนึกเบื่อ หมอไสยดำ(สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) ส่งคุณไสยครอบงำจิตใจของวายุภัคจนใช้ชีวิตไม่ต่างจากผีดิบ โดยทั้งให้นางโหงพรายถึงสามตนควบคุมเขาไว้ ทิชากรจึงบุกเข้าไปช่วยเขาโดยมี รัก-ยม และเจ้าที่อีกแรงหนึ่ง เมื่อวายุภัคฟื้น เขาโกรธจัด เพราะเสียหน้าที่หญิงสาวบุกเข้ามาถึงในบ้านและกล่อมทุกคนในครอบครัวเขาจนเชื่อว่าเขาถูกคุณไสยจริง พวกเขาจึงมีปากเสียงกันรุนแรง วายุภัคเผลอลวนลามจูบ ทิชากรไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เธอโกรธมากและประกาศว่าจะไม่ช่วยวายุภัคอีกแล้ว วันนั้นเองวายุภัคถูกคุณไสยและผีตายโหงทำร้ายปวดท้องเกือบตาย เขาจึงเริ่มเชื่อเธอในที่สุด เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็พบวัตถุประหลาดที่อยู่ในท้องของวายุภัค ทิชากรเลยจำเป็นต้องช่วยเขาเพราะไม่อยากให้เขาตาย จึงเอาน้ำมนต์ให้ดื่มแล้วอาเจียนออกมาโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด วายุภัคพบความจริงว่าเขาหลงรัก ทิชากรเข้าแล้ว วายุภัคยอมให้ ทิชากรช่วยอย่างเต็มใจ เขาหัดสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำบุญทำทานแผ่เมตตา แม้จะไม่หายขาดเพราะหมอไสยดำยังไม่ยอมรามือแต่อาการของวายุภัคก็ดีขึ้นพร้อมๆกับความสัมพันธ์ของเขากับ ทิชากรที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ที่ดีก็สะดุดลงเมื่อ พัชนี(สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตน์) บุตรสาวกำนันทอง(สมชาย ศักดิกุล) ซึ่งหลงรักวายุภัคมาตั้งนาน มาหา ทิชากรและบอกเธอว่าวายุภัคมีลูกมีเมียแล้ว ทิชากรจึงทะเลาะกับชายหนุ่มรุนแรง วายุภัคน้อยใจที่หญิงสาวไม่เชื่อ ความสัมพันธ์ของทั้งสองยิ่งเลวร้ายกว่าเก่าเมื่อ ซองแตล (อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท) คู่รักเก่าของวายุภัคและที่ปรึกษาของไร่เดินทางมาจากฝรั่งเศสเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพไวน์ ความสวยสง่าและมีรสนิยมเดียวกันของลมกับซองแตลตอกย้ำให้ ทิชากรเห็นความแตกต่างระหว่างเธอกับชายหนุ่มมากขึ้นทุกที ทิชากรรู้สึกแปลกแยกทุกครั้งที่ซองแตลพูดเรื่องในอดีตของเธอกับวายุภัค ในเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปีของไร่ วายุภัคอธิบายให้นักเขียนสาวได้รับรู้ถึงความรักและจริงใจที่เขามีต่อเธอ และถือโอกาสปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ทิชากรพยายามสืบหาว่าใครเป็นคนสั่งหมอไสยให้ทำร้ายวายุภัค จึงขอความช่วยเหลือจาก อัจจิมา(อุรัสยา เสปอร์บันด์)ภรรยาของ อัคนี (ณเดช คูกิมิยะ)และ เฌอเอม(ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง)คนรักของ ปฐพี (ปริญ สุภารัตน์)สามสาวจึงบุกบ้านปิ่นมุกรวมทั้งตระเวนทั่วจังหวัดเพื่อหาหมอไสยดำ หมอไสยดำรู้ว่า ทิชากรตามหาเขา เขายังรู้อีกว่างานของเขาถูกขัดขวางจากเธอเขาจึงเบนเข็มมาจัดการทิชากรก่อน หญิงสาวโดนทำคุณไสย ทิชากรฝันร้ายและอาการไม่ดี ในเวลาเดียวกัน ไกรฤทธิ์โทรศัพท์มาบอกว่าเธอกับวายุภัคมีเคราะห์หนักห้ามออกไปไหนเด็ดขาด เธอจึงรีบไปตามวายุภัคแต่ถูก ปฏิเสธและเข้าข้างซองแตลตำหนิ ทิชากรว่าเหมือนเด็กไม่มีเหตุผล ทิชากรโกรธและน้อยใจมากเธอจึงไปสวดมนต์นั่งสมาธิคนเดียวเพื่อช่วยวายุภัค วันนั้น หญิงสาวได้รับจดหมายลับให้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ถ้าต้องการช่วยวายุภัคเธอจึงรีบไปเพียงลำพัง ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่ม แต่พบหมอไสยดำที่รอคอยทำร้ายเธอให้กลายเป็นนางโหงพรายรับใช้ วายุภัครู้ข่าวว่า ทิชากรหายตัวไปจากปฐพีและอัคนี อัจจิมากับเฌอเอมเล่าความจริงว่า ทิชากรทำอะไรมากมายเพื่อวายุภัคบ้าง เขาจึงสำนึกผิดและออกตามหา ทิชากรที่บ้านกำนันทองพร้อมพี่น้องของเขาและ เจ้าชายภูวเนศ(อธิชาติ ชุมนานนท์) และองครักษ์ที่มาเมืองไทยพอดีกำนันทองรับสารภาพว่าสะกดรอยตาม ทิชากรจิงแต่ไม่ได้ทำร้าย และบอกตำแหน่งสุดท้ายที่คนของเขาเห็นหญิงสาวทั้งหมดจึงรีบตามไปทันที รัก-ยม บอกชายหนุ่มว่า ทิชากรอยู่ในป่าช้าพวกเขาช่วยเธอออกมาได้โดยมีนางโหงพรายสามตนช่วยอีกแรงเนื่องจาก ทิชากรและวายุภัคแผ่เมตตาให้พวกมันมาตลอด ทิชากรอาการหนักไม่ฟื้นเสียที ไกรฤทธิ์กับภรรยาก็มาถึงโรงพยาบาลอย่างไม่มีใครคาดฝัน และต่อว่าวายุภัคที่ไม่ยอมเชื่อลูกสาวเขา และกีดกันตามประสาคนห่วงลูก หมอไสยดำใช้อำนาจทำร้าย ทิชากรกับวายุภัคอีก แต่ไกรฤทธิ์ไม่ยอมอยู่เฉยจึงใช้อาคมสู้กับหมอไสยดำ จึงช่วยทิชากรและวายุภัคไว้ได้ ส่วนหมอไสยดำก็ถูกนางโหงพรายทั้งสามฆ่าตายด้วยความแค้น ทิชากรฟื้นคืนสติ แต่เธอไม่ยกโทษให้วายุภัคเพราะไม่กล้าเชื่อใจเขาอีกต่อไป ปฐพี อัคนี และ ทิพย์ธารา(คิมเบอร์รี่ แอนโวลเทมัส) คู่แฝดของวายุภัคจึงช่วยกันวางแผนง้องอน จนหญิงสาวยอมใจอ่อนและเปิดเผยความลับที่วายุภัคหมกมุ่นกับการทำไวน์จนละเลยทิชากร ก็เพราะต้องการทำไวน์ที่เหมาะสมกับผู้หญิงสวยเก๋ ห้าวหาญ มุ่งมั่น และไม่น่าเบื่ออย่าง ทิชากร รามทั้งส่งไวน์รุ่น “ทิชากร” นี้ เข้าประกวดรางวัลระดับโลก เพื่อเป็นของขวัญแต่งงานให้กับเจ้าสาวของเขา วายุภัคขอโทษทิชากรและคืนดีกันในที่สุด วายุภัคสัญญากับทิชากรว่าเขาจะไม่เจ้าชู้อีก เพราะเห็นโทษของความเจ้าชู้ที่ทำให้เข้ากับคนที่เขารักเกือบตายมาแล้ว วายุภัคแต่งงานกับทิชากร หลังทำไวน์ที่เหมาะสมกับหญิงสาวได้สำเร็จ โดยกวาดรางวัลมากมายสมความตั้งใจ แต่เขาก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาไวน์ใหม่ๆและสะสมถ้วยรางวัลให้เต็มห้อง ขณะที่ทิชากรเองก็มีฉากรักไว้เขียนนิยายโรมานซ์ของเธอโดยไม่ติดขัดอีกเลย

4 หัวใจแห่งขุนเขา ปฐพีเล่ห์รัก 2553

4 หัวใจแห่งขุนเขา ปฐพีเล่ห์รัก (2553/2010) ปฐพี หรือ ดิน (ปริญ สุภารัตน์) หนุ่มมาดขรึม หนึ่งใน 4 พี่น้องฝาแฝดแห่งตระกูลอดิศวร ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรีสอร์ทของครอบครัวอดิศวร ด้วยภาระหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ ไหนจะต้องระวังศัตรูสองด้าน ซึ่งก็คือโรงแรมคู่แข่งสองแห่ง ได้แก่ ป่าฝนรีสอร์ท รีสอร์ทกึ่งสวนสัตว์ และ แมกไม้วัลเลย์ รีสอร์ทเก่าแก่ของจังหวัด รีสอร์ททั้งสองแห่งตกลงจะร่วมทุนกันเปิดรีสอร์ทแบบเอ็กซอติก มีสวนสัตว์หายาก และภัตตาคารอาหารป่า แต่ถูกปฐพีขัดขวางเอาไว้ ทำให้ทั้งสองแห่งเคืองแค้น แม้จะมีนิสัยขี้เล่น เจ้าเล่ห์ คล้ายคลึงกับพี่น้องฝาแฝดชายอีกสองคน หากภายนอกปฐพีดูเงียบขรึม โดยเฉพาะเวลาทำงานเขาจะดูเคร่งเครียด สันโดษ ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส โดยเฉพาะหลังจากเกิดเหตุวุ่น ๆ บางอย่างที่เกิดขึ้นในรีสอร์ทซึ่งเขาโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง แต่แล้ววันหนึ่ง ชีวิตที่มีแต่งาน งาน งาน ของปฐพีกลับต้องถูกสั่นคลอนเมื่อเขาได้พบกับหญิงสาวปริศนาคนหนึ่งที่เข้ามาสร้างความปั่นป่วนในรีสอร์ท ดินไม่รู้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ เพราะครั้งแรกที่พบเธอ...เธอมาในมาดสาวไฮโซในกลุ่มเซเลบริตี้ที่มาจัดเลี้ยงในธารารินรีสอร์ทของเขา แต่เขาแอบจับได้ว่าเธอเป็นไฮโซปลอม ที่เขาสันนิษฐานว่าจะเป็นพวกแฝงตัวมากินฟรี จึงได้แต่จับตาดูเฉย ๆ ไม่ได้เอาเรื่องเอาราวอะไร แต่แล้วเขาก็ได้พบเธออีกเป็นครั้งที่สอง คราวนี้เธอมาในคราบนักศึกษาปะปนมากับนักเรียนการโรงแรมของมหาวิทยาลัยราชภัฎของจังหวัด ที่อาจารย์พามาทัศนศึกษาดูงานที่ธารารินรีสอร์ท คราวนี้ปฐพีให้ นที (ดนัย จารุจินดา) เลขาหนุ่มปากจัดคนสนิทไปล็อกตัวเธอมาสอบปากคำว่าเธอเป็นใคร และเข้ามาทำอะไรในโรงแรมเขากันแน่ หญิงสาวซึ่งบอกว่าตัวเองชื่อ ชะเอม หรือ เฌอเอม (ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) ตีหน้าจ๋อย สารภาพว่าที่แฝงตัวเข้ามาก็แค่จะเก็บข้อมูลเพื่อมาสมัครงานที่นี่ เธอบอกว่าเพิ่งจบการโรงแรมมาจากเมืองนอก กำลังหางานทำช่วยทางบ้านที่ตกอับ ปฐพียังไม่ไว้ใจนัก แต่ด้วยต้องการรู้แน่ว่าเธอเข้ามาทำอะไรในรีสอร์ทเขา จึงบอกให้เธอมาสมัครงานพรุ่งนี้เลย…วันต่อมา ชะเอมจึงมายื่นเอกสารสมัครงาน แต่แค่เพียงดูบัตรประชาชนเธอแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นบัตรประชาชนปลอม...เขาจึงเดาว่าวุฒิการศึกษาที่บอกจบจากเมืองนอกก็คงจะปลอมเหมือนกัน เธอ...เป็นใครกันแน่ระหว่างแก๊งต้มตุ๋น...สายลับจากโรมแรมคู่แข่ง...เป็นใครบางคนที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนั้น หรือเป็นแค่หญิงสาวจิตป่วนคนหนึ่งกันแน่ เพราะใคร่จะรู้คำตอบ ปฐพีจึงตัดสินใจรับเธอเข้าทำงาน โดยให้เลขาหนุ่มคอยจับตาดูใกล้ชิด ชะเอมมาเริ่มงานวันแรกด้วยความกระตือรือร้น แต่อดเคืองไม่ได้ที่ถูกส่งไปเริ่มงานที่แผนกแม่บ้าน ทำหน้าที่จัดเตียง ปูเตียง ทำความสะอาดห้องพัก ปฐพีเป็นคนสั่งให้หัวหน้าแม่บ้านคอยจิกหัวใช้งาน ทำให้ชะเอมแทบไม่มีเวลาออกไปวุ่นวายที่ไหน เมื่อรีสอร์ทของปฐพีต้องต้อนรับคนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่จะมาดูงานเพื่อคัดเลือกรีสอร์ทในโครงการคัดสรรรีสอร์ทห้าดาวแบบซุปเปอร์อันซีนไทยแลนด์ ที่จะเลือกรีสอร์ทห้าดาวแห่งเดียวเท่านั้นในจังหวัด ปฐพีจริงจังกับเรื่องนี้มาก เขาวางแผนพา คณะ ททท.เที่ยวชมรีสอร์ท รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่พี่น้องฝาแฝดคนอื่น ๆ ดูแล เช่น ไปชิมไวน์ที่ไร่องุ่น ไปดูฟาร์มโคนม ไปล่องแก่ง เป็นการท่องเที่ยวแบบผสมผสาน แต่ตลอดงาน ชะเอมกลับคอยจะป่วน สร้างเรื่องวุ่นวาย แบบที่แยกแยะไม่ออกระหว่างความซุ่มซ่ามของเธอเอง กับความจงใจ หลายครั้งเธอทำเป็นแกล้งโง่ แกล้งเซ่อ เพื่อจะให้รีสอร์ทอับอายขายหน้า เสียคะแนนต่อคณะประเมินของ ททท. แต่เธอก็ทำได้แค่เกือบสำเร็จ เพราะแผนของเธอจะโดนรู้ทันก่อนทุกครั้ง จนผลย้อนกลับมาเล่นงานตัวเธอเองเสมอ เธอไม่เคยแกล้งเขาได้สำเร็จสักที แต่ระหว่างที่ปฐพีกับชะเอมเล่นเอาเถิดกันไปมา ความรักก็เริ่มก่อตัวขึ้น ปฐพีเริ่มเคยชินกับการจับตามองชะเอมทุกฝีก้าว จากการจับผิดกลายเป็นเอ็นดู ขำ และตลกกับพฤติกรรม ความคิดและแผนการแปลก ๆ ของเธอ ทำให้ชีวิตที่ขรึม เครียด เคร่งกับงานมาตลอดของดินเริ่มมีสีสัน มีชีวิตชีวา ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าเธอจงใจมาทำงานที่นี่เพื่อแกล้งเขา แต่เขากลับจดจ่อคอยดูสิ่งที่เธอทำอย่างสนุกรื่นรมย์ เหมือนเป็นเกมท้าทายให้เล่น ให้ปราบ ให้เอาชนะ ส่วนชะเอมเอง ระหว่างที่มัวเอาแต่คิดแผนบ้องตื้นตามความสามารถทางสมองของเธอ เธอไม่รู้ตัวว่าหลายครั้งหลายคราที่เธอเฉียดไปเกือบเจอความลับบางอย่างเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนั้น ซึ่งถูกเก็บเงียบเอาไว้ในรีสอร์ท แต่ชะเอมกลับไม่ฉลาดพอที่จะเอะใจ ชะเอมเกิดไปเป็นที่ถูกใจของคุณสุพรรษา (จินตรา สุขพัฒน์) แม่ของปฐพี คุณสุพรรษาจึงจัดการขอย้ายตำแหน่งให้ชะเอม ไปทำงานกับคุณจิดา ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ซึ่งปฐพีแสนเกรงใจ คุณจิดาให้ชะเอมมาช่วยรับหน้าที่โดยตรงในการดูแลคณะ ททท. ชะเอมจึงมีโอกาสมากขึ้นในการทำลายชื่อเสียงของรีสอร์ทต่อคณะ ททท. และคราวนี้เธอตัดสินใจว่าต้องลงมือขั้นเด็ดขาดเสียแล้ว เชื่อว่าถ้าแผนสุดท้ายขั้นสุดยอดที่เธอคิดไว้สำเร็จ ดินจะเสียหายอย่างมาก แต่ยังไม่ทันลงมือ ป่าฝนรีสอร์ท ส่งคนมาปองร้ายปฐพีและคณะประเมินของ ททท. แต่ชะเอมซึ่งรู้ใจตัวเองว่ารักปฐพีเข้าแล้วทนดูเขาโดนแกล้งไม่ได้ จึงช่วยขัดขวาง ทำให้แผนของคนร้ายที่ป่าฝนรีสอร์ทส่งมาไม่สำเร็จ ปฐพีขอบคุณชะเอม แต่ชะเอมก็รู้สึกผิดจึงตัดสินใจสารภาพว่าเธอไม่ใช่คนดีอย่างที่เขาคิด และเล่าว่าทีแรกเธอก็วางแผนจะแกล้งเขาเหมือนกัน แต่แล้วชะเอมก็ต้องแปลกใจ เมื่อปฐพีเองก็สารภาพว่าเขารู้ทันเธอมาโดยตลอด เขารู้หมดว่าชะเอมกำลังจะทำอะไร รวมถึงรู้ว่าเธอเป็นใคร ปฐพีเล่าว่าเขาให้คนไปสืบเรื่องบัตรประชาชนปลอมที่ชะเอมใช้สมัครงาน และพบว่าเธอไม่ได้ชื่อชะเอม แต่ชื่อ เฌอเอม ต่างหาก ที่สำคัญ นามสกุลเธอตรงกับพนักงานหญิงที่เขาไล่ออกไปคนหนึ่ง เขาจึงรู้ว่าที่เธอเข้ามาทำงานและป่วนโรงแรมเขาก็เพราะต้องการแก้แค้นให้แม่ของเธอ ที่โดนไล่ออกและใส่ร้ายว่าขโมยของแขกที่เข้ามาพัก ปฐพีบอกขอโทษที่ทำกับแม่ของเธอเช่นนั้น เขาสารภาพความรู้สึกกับเธอ และบอกว่าถ้าเธอรับรัก เขาก็จะรับแม่ของเธอกลับมาทำงาน จะให้ยกพานไปขอขมาก็ยังได้ แต่เฌอเอมยังเล่นตัว บอกว่าขอคิดดูก่อน ปฐพีหมดข้อสงสัยในตัวผู้หญิงที่เขารัก แต่ นที เลขาคนสนิทของดินไม่คิดอย่างนั้น เขายังสงสัยจนเดินหน้าสืบประวัติเธอต่อ และต้องแปลกใจเมื่อพบว่าใบประกาศนียบัตรการโรงแรมจากต่างประเทศนั้นเป็นของจริง เลขาของดินเริ่มแปลกใจว่าลูกพนักงานจน ๆ ทำไมถึงมีเงินไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา ในประเทศที่ค่าครองชีพแพงหูฉี่ ยังไม่ทันได้เอาหลักฐานที่พบไปรายงานกับดิน เฌอเอมก็เผอิญได้พบความลับสุดยอด ของรีสอร์ทที่ปฐพีซุกซ่อนเอาไว้มาตลอดเข้าจนได้ นั่นก็คือหลักฐานเกี่ยวกับอุบัติเหตุท่อน้ำร้อนระเบิด เมื่อสองปีก่อน ที่ทำให้มีพนักงานบาดเจ็บและเสียชีวิต หนึ่งในผู้รอดชีวิตนั้นถึงกับพิการ แต่เรื่องกลับเงียบไม่เป็นข่าวเพราะปฐพีสั่งปิดข่าว เฌอเอมลังเลใจ คิดไม่ตกว่าเธอจะเอาหลักฐานที่พบไปให้อีกฝ่ายดีหรือเปล่า ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจจะปกปิดหลักฐานไว้กับตัว แต่ด้วยจับพลัดจับผลู บังเอิญคนจากอีกฝ่ายมาเห็นความลับที่เธอค้นพบ จึงแย่งเอาหลักฐานไป อีกฝ่ายนั้นคือ แมกไม้วัลเล่ย์ รีสอร์ทเก่าแกที่กำลังอยู่ในภาวะตกต่ำ นายโมกข์ (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) ซึ่งเป็นเจ้าของมาพบปฐพี และประกาศอย่างสะใจว่าปฐพีโง่ โดนต้มเสียเปื่อย และเฉลยว่าเฌอเอมเป็นลูกสาวของเขาเอง เป็นลูกสาวที่เกิดกับเมียน้อย (ซึ่งก็คือพนักงานหญิงที่ถูกปฐพีไล่ออกไป) ซึ่งโมกข์ส่งเสียเฌอเอมไปงั้น ๆ เอง แต่ไม่เคยเรียกว่าลูก เขาบอกว่าถ้าเฌอเอมหาวิธีทำลายชื่อเสียงรีสอร์ทของปฐพีได้ เขาก็จะยอมรับเฌอเอมว่าเป็นลูก และจะยอมให้เธอเข้ามาร่วมบริหารกิจการครอบครัวร่วมกับพี่ ๆ น้อง ๆ ปฐพีมองหน้าเฌอเอมอย่างทั้งช็อคและผิดหวัง เมื่อรู้ว่าเขาเองที่โง่ที่สุดในเรื่องนี้ โดนหลอกทั้งที่คิดว่ารู้ทันเธอมาตลอด แต่สุดท้ายกลับมาตกม้าตาย เธอมาเหนือเมฆเกินกว่าที่เขาคิดไว้ เฌอเอมร้องไห้เสียใจ เพราะเธอไม่ได้ต้องการให้เรื่องเป็นแบบนี้เลย เธอไม่ได้แผนสูงอย่างที่เขาคิด แต่ทุกอย่างมันประจวบเหมาะเป็นความบังเอิญ แต่จะอธิบายอย่างไรก็ไม่ได้ ปฐพีคงจะเกลียดเธอเสียแล้ว ปฐพีเสียใจอย่างที่ไม่เคยเสียใจเท่านี้มาก่อน เขาเอาแต่เก็บตัวเงียบ ที่เคยแค่ขรึม ตอนนี้กลับเป็นหงุดหงิด ใครเข้าหน้าไม่ติดทั้งนั้น เฌอเอมตัดสินใจขอร้องให้โมกข์เลิกความคิดที่จะแฉเรื่องอุบัติเหตุที่ปฐพีปกปิดมาตลอดออกไป แต่โมกข์ไม่ยอม แถมพูดจาให้เฌอเอมเสียใจอีกทำนองว่าเธอเป็นแค่ลูกคนใช้ ระหว่างนั้นคนร้ายที่มาจากป่าฝนรีสอร์ทจะมาทำร้ายโมกข์เพื่อแย่งชิงหลักฐานไป แต่เฌอเอมเข้าขวางพ่อไว้จนตัวเองบาดเจ็บหนัก โมกข์ซึ้งมากที่เฌอเอมถึงขั้นยอมสละชีวิตเพื่อเขา เฌอเอมบอกว่าเธอยอมตายแทนเขาได้เพราะเขาเป็นพ่อเธอ ส่วนปฐพีเมื่อรู้ว่าเฌอเอมโดนยิงก็รีบรุดไปที่โรงพยาบาล คอยเฝ้าไว้ เขาเจ็บปวดมากทั้งเกลียด ทั้งรัก ทั้งห่วง ยิ่งตอนรู้ว่าเธอเกือบตาย เขาแทบจะตายไปด้วย โมกข์เข้ามาขอคุยกับปฐพี และบอกว่าจะยอมเก็บเรื่องอุบัติเหตุครั้งนั้นไว้เป็นความลับต่อไป และบอกให้ดินรู้ว่าเฌอเอมไม่เคยคิดจะทำลายปฐพี ไม่เพียงไม่เปิดเผยความลับเท่านั้น แต่โมกข์ยังช่วยสืบจนรู้ว่าอุบัติเหตุท่อน้ำร้อนระเบิดในรีสอร์ทของปฐพีเมื่อสองปีก่อนไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นฝีมือสกปรกของป่าฝนรีสอร์ท ปฐพีกับโมกข์กลายเป็นมิตรทางธุรกิจกัน ปฐพีกลับไปหาเฌอเอมที่โรงพยาบาลเพื่อจะปรับความเข้าใจ แต่กลับพบว่าเธอออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว เพราะทนอยู่ต่อให้ปฐพีมองด้วยสายตาเกลียดชังไม่ได้ ปฐพีกลับไปเป็นคนขรึม เงียบ พูดน้อยเหมือนเดิม แต่ไม่กี่วันต่อมา ฝ่ายบุคคลเอาใบสมัครจากผู้หญิงคนหนึ่งมาให้ คราวนี้เธอใช้ชื่อจริงว่า เฌอเอม ในใบสมัคร ไม่มีการหลอกลวงอีกต่อไป ทั้งสองสบตากันอย่างรู้ใจ แม้ดินจะเห็นว่าเกรดเธอในทรานสคริปนั้นแย่มาก แต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะรับเฌอเอมเข้าทำงานที่นี่...ไม่ใช่ตำแหน่งพนักงาน แต่เป็นตำแหน่งภรรยาของเขา ซึ่งแม้เธอจะจบการโรงแรมมาด้วยเกรดแย่แค่ไหนก็ไม่สำคัญ ติดตามชม ละครปฐพีเล่ห์รัก ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครปฐพีเล่ห์รัก เริ่มตอนแรก วันศุกร์ที่ 26 พ.ย. 2553

4 หัวใจแห่งขุนเขา ดวงใจอัคนี 2553

4 หัวใจแห่งขุนเขา ดวงใจอัคนี (2553/2010) ดวงใจอัคนี ความบาดหมางของสองตระกูลที่ถ่ายทอดจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกทำให้อัคนีและอัจจิมาเป็นศัตรูคู่แค้นกันมาตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อทั้งคู่เข้ามาบริหารฟาร์มโคนมของตนซึ่งมีเพียงรั้วไม้สีขาวกั้นอาณาเขต การปะทะคารมอย่างรุนแรงจึงเกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ แท้จริงแล้ว ภายใต้ท่าทีอันแข็งกร้าวของทั้งสองคนนั้นซ่อนความห่วงใยซึ่งกันและกันไว้ แต่แล้วเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็นำพาให้ทั้งคู่ได้เผยความรู้สึกต่อกัน ติดอยู่ที่ก้างชิ้นใหญ่คือพ่อของฝ่ายหญิงที่ไม่ยอมละทิฐิยอมรับว่าที่ลูกเขยคนนี้แล้วอัคนีจะทำเช่นไร เพื่อให้ได้ดวงใจที่เขาแสนรักมาครอบครอง

4 หัวใจแห่งขุนเขา ธาราหิมาลัย 2553

4 หัวใจแห่งขุนเขา ธาราหิมาลัย (2553/2010) ธาราหิมาลัย ทิพย์ธารา (คิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส) หรือ หมอน้ำ เป็นแพทย์ประจำอยู่ในศูนย์ระบบประสาทและสมองของโรงพยาบาลปากช่อง ทิพย์ธาราเป็นแพทย์เจ้าของไข้ภูวเนศ (อธิชาติ ชุมนานนท์) องค์รัชทายาทผู้เพียบพร้อมแห่ง ประเทศปารวัตร ทิพย์ธาราหนึ่งในแฝด 4 สุดมหัศจรรย์แห่งไร่ “อดิศวร” เธอมีพี่ชายฝาแฝดอีก 3 คน คือ ปฐพี (ปริญ สุภารัตน์) วายุภัค (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) หรือ ลม และคนสุดท้ายคือ อัคนี หรือ ไฟ ภายนอกทิพย์ธาราดูเป็นหญิงสาวที่โชคดีที่มีชายทั้ง 3 คอยเป็นบอดี้การ์ดไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ จนเธอเองเกิดอาการเซ็งและฝันอยากมีความรักสักครั้งในชีวิต

ศิราพัชร ดวงใจนักรบ 2553

ศิราพัชร ดวงใจนักรบ (2553/2010) มินาลิน รัฐอิสระเล็ก ๆ ที่มั่งคั่งด้วยเพชร ปกครองโดยผู้นำรัฐชื่อ วาสิน (สถาพร นาควิไล) มีภรรยาชื่อ เนตรา (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ) ทั้งสองมีลูกชายด้วยกันคือ พชร (ศรราม เทพพิทักษ์) วาสินมีเพื่อนสนิทที่พ่อนำมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม คือ ดารัณ (อรรถชัย อนันตเมฆ) ทั้งสองเติบโตมาด้วยกันจนวาสินขึ้นเป็นผู้นำ ดารัณได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลด้านการทหารของมินาลิน เขามีอำนาจรองจากวาสิน ต่อมาดารัณได้ทำการกบฎ ไพรสณฑ์ เป็นผู้บัญชาการทหารที่วาสินไว้ใจให้พาเนตราและพชรหนี แต่ไพรสณฑ์หักหลังวาสินและเข้าเป็นพวกของดารัณ โดยลวงสองแม่ลูกไปฆ่าทิ้ง แต่ถูกพชรฆ่าตายก่อน สองแม่ลูกได้รับการช่วยเหลือจาก มาดิสร์ (เวนช์ ฟอลโคเนอร์) ผู้นำรัฐอิสระเล็ก ๆ ชื่อรัฐ มินทุ โดยมาดิสร์บอกกับคนของเขาว่าทั้งสองเป็นญาติ ดารัณก่อการกบฏสำเร็จและจับวาสินไว้แล้วบังคับให้เปิดห้องนิรภัยที่เก็บ ศิราพัชร อัญมณีประจำตำแหน่งผู้นำแคว้น ซึ่งต้องใช้นิ้วของวาสินเป็นรหัส วาสินไม่ยอม ดารัณจึงตัดนิ้ววาสินและสั่งให้ ชาคร (พศิน เรืองวุฒิ) นำวาสินไปฆ่า มาดิสร์มีลูกสาวชื่อบาจรีย์ (หยาดทิพย์ ราชปาล) และลูกชายชื่อ ภูษณะ (มาวิน ทวีผล) อดิสร (สรพงษ์ ชาตรี) ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษแห่งประเทศไทยเพื่อนรักของมาดิสร์มารับพชรไปเรียนการรบ พชรมาเรียนการทหารที่ประเทศไทยในนาม ชวิน อดิสรมีลูกชายที่เรียนทหารเหมือนกันชื่อ ธาม (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) และลูกสาวที่กำลังเรียนหมอชื่อ ลำธาร (ศรีริต้า เจนเซ่น) วันหนึ่งระหว่างการฝึกการทหารอย่างหนัก พชรมีโอกาสได้ช่วยเหลือ ธาม ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต่อมาธามได้ช่วยชีวิตพชรในขณะที่จะถูกลอบฆ่าในระหว่างการฝึกภาคสนาม ทำให้ทั้งคู่กลายมาเป็นเพื่อนรักกัน ลำธารจัดงานวันเกิดที่ร้านอาหารในวันที่เรียนจบ พชรแอบมอบของขวัญวันเกิดเป็นสร้อยเพชรที่เคยเป็นของพ่อใช้หมั้นแม่โดยฝากบริกรไปมอบให้เธอ วันแรกของการผ่าตัดจริงที่ น.ศ.แพทย์ลำธาร ต้องผ่าตัดด้วยตัวเองโดยมี น.ศ.แพทย์ ธีรัช (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) ลูกชายนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่หลงรักเธออีกคนคอยเป็นกำลังใจ และเธอก็สามารถผ่านการผ่าตัดได้เป็นอย่างดี ดารัณสั่งเก็บผู้ที่เขาส่งไปลอบสังหารพชร แต่มีมุกริน ภรรยา และดิสรณ์ ลูกชายที่ไม่เห็นด้วย วาสินที่ใคร ๆ คิดว่าตาย กลับรอดชีวิตมาได้จากการช่วยเหลือของชาคร ชาครได้เข้ามาเป็นสายสืบโดยชาครมีเป้าหมายเพื่อจะให้วาสินฟื้นความจำ ในวันจบหลักสูตรขณะที่พชรเลี้ยงฉลอง คนของดารัณมาลอบฆ่าพชรแต่ว่าพชรก็ได้หลบหนีไปได้ พชรหนีมาจี้รถและบังคับให้คนขับรถพาเขาหนี แต่คนที่จี้มากลายเป็นลำธาร พชรพาลำธารบุกป่าฝ่าเข้าไปซ่อนตัวในถ้ำแห่งหนึ่งทางเหนือ โดยมีพวกดารัณตามฆ่าทั้งสองตลอดเวลา แต่ความที่หลงรักมาหลายปี พชรหลอกลำธารว่ามีสัตว์ร้าย มีอันตรายสารพัดจนลำธารต้องหนีระหกระเหินไปกันสองคนเป็นเวลาถึง 7 วัน ลำธารสัมผัสได้ถึงความเป็นสุภาพบุรุษและความเก่งกล้าสามารถ รวมถึงความอ่อนโยนที่พชรมีต่อเธอ จนทำให้เธอเกิดความรู้สึกพิเศษต่อเขา ลำธารไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ เมื่อพชรต้องเปลี่ยนแผนการหนี ลำธารยืนยันจะเป็นตัวประกันไปจนถึงชายแดน ด้านผู้หมวดธามได้รับแจ้งจากพชรว่าได้จี้รถของลำธารหนี จึงตกใจแต่ก็ได้คำอธิบายจึงยอมทำตามแผนของพชรโดยปล่อยให้น้องสาวไปกับเขา และก็ได้ตามขึ้นไปที่ชายแดนเพื่อรับน้องสาวกลับบ้าน พชรเดินทางกลับมินทุทั้งที่หัวใจของเขาอยู่กับลำธาร ชาครพาวาสินมาดักรอพบพชร พชรดีใจมากที่พ่อยังไม่ตายถึงแม้จะยังจำอะไรไม่ได้ เนตราพยายามดูแลวาสิน และทั้งหมดก็ร่วมกันวางแผนกู้มินาลินคืน จากการครอบครองรัฐโดยไม่มีคุณธรรมของดารัณ มินาลินที่เคยมีความสุขกลับตกต่ำ ประชาชนทุกข์ยาก มีการชุมนุมประท้วงดารัณโดยการนำของ พาริณ (ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ) เพื่อนสาวของพชร ทั้งสองแอบพบกันและร่วมกันวางแผนกู้มินาลินคืน การประท้วงของกลุ่มผู้ใช้แรงงานครั้งต่อ ๆ มามี พชร และชาครชักใยอยู่เบื้องหลัง ลำธารเฝ้าติดตามเรื่องราวของมินาลินอย่างใกล้ชิด และก็อาสาไปกับทีมแพทย์เพื่อไปดูแลผู้บาดเจ็บที่มินาลิน ชาครถูกดารัณปลดออกจากตำแหน่งและให้ ราชิต (จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) ขึ้นรับตำแหน่งแทน พชรได้รับบาดเจ็บหนีเข้ามารักษาตัวที่หน่วยแพทย์อาสา และได้พบกับแพทย์หญิงศิรพัชร (ลำธาร) ดารัณตามล่าพชรลำธารจึงพาพชรหนี ดารัณใช้ให้ราชิตสลายม๊อบโดยใช้กำลังและสั่งจับแกนนำกลุ่มแล้วตั้งข้อหากบฏ ส่วนผู้ร่วมประท้วงถ้าหนีไม่ทันก็ถูกจับกุมโดยไม่รู้ชะตากรรม เวคิน (อดิศร อรรถกฤษณ์) แกนนำคนสำคัญหนีมาได้โดยมีคนของพชรช่วย พาริณมองออกว่าพชรและลำธารรักกันเธอจึงพยายามเข้าใกล้ชิดพชร แต่พาริณก็ไม่สามารถทำให้พชรรักเธอได้ พชรเดินทางไปยังดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ รัฐมินทุจึงส่งภูษณะลูกชายของมาดิสร์เป็นตัวแทนมาเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อคอยช่วยพชร มานิตย์ นายทหารคนสนิทที่มีกำลังในมือพอสมควรเห็นว่าแผนของพชรช้าไป จึงชิงลงมือบุกเข้าไปเพื่อจับตัวดารัณก่อน แต่เกิดผิดพลาด จนพชรต้องนำกำลังเข้าไปช่วย พาริณจับมือกับหมอธีรัช ที่จะทำให้พชรและลำธารเลิกร้างกัน และทั้งคู่ก็ทำสำเร็จ ทั้งสองจึงเข้าใจผิดกัน ความรักของทั้งสองคนจะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ และปฏิบัติการรบเพื่อกอบกู้เมืองมินาลินจะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน ละครศิราพัชรดวงใจนักรบ ออกอากาศทุกคืนวันศุกร์ เวลา 20.30 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ละครศิราพัชรดวงใจนักรบ เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 18 กันยายน ศกนี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3

เพลงรักริมขอบฟ้า 2553

เพลงรักริมขอบฟ้า (2553/2010) นีรา (ณปภา ตันตระกูล) นักร้องซูปเปอร์สตาร์ของค่ายเพลินเรคครอร์ด ขึ้นโชว์คอนเสิร์ตโดยมี กิดาการ (พรชิตา ณ สงขลา) ลูกพี่ลูกน้องของนีราได้มาชมคอนเสิร์ตพร้อมกับ ญาณี แม่ของนีรา โดยหารู้ไม่ว่าหลังเวทีนั้นนีราถูกนักข่าวตามสัมภาษณ์เรื่องข่าวฉาวว่าเธอท้อง หลังจากคอนเสิร์ตมีการเปิดแถลงข่าว นีราประกาศว่ากำลังจะแต่งงานกับ เบน (วรินทร ปัญหกาญจน์) ลูกของ ชาร์ล็อต เมียคนสุดท้ายของ บัณทิต ผู้ก่อตั้งเพลินเรคคอร์ด เจ้าของค่ายที่นีราสังกัดอยู่ ซึ่งเบน เป็นน้องชายต่างมารดาของ บรม (มนตรี เจนอักษร) ซึ่งเป็นลูกเมียหลวงคือ เพลิน นีราถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์โดยมี อัญชลี (เบญจศิริ วัฒนา) ผู้จัดการของบริษัทดูแลอยู่ นักข่าวถามว่าท้องก่อนแต่งหรือเปล่า แต่นีราปฎิเสธ เบนเดินออกมาด้านนอกโดยมีกิดาการดักรอถามว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ เบนย้อนไปว่าแต่งทำไม ทำให้กิดาการเกลียดขี้หน้าของเบนขึ้นมาทันที เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบลูกของในท้องของนีรา ทั้งคู่เถียงกันจน บรรณ (อภินันท์ ประเสริฐวัฒนะกุล)บรรณาธิการนิตยสารบันเทิง บุริม (พิษณุ นิ่มสกุล)โปรดิวเซอร์รุ่นเก๋า และ บัวบุษบา (อภิสรา ฉวีวงษ์) ครูสอนร้องเพลงทั้งสามคนเป็นลูกของ ทิพย์ เมียคนที่สองของบัณฑิต ต้องเข้ามาห้ามโดยมี แจ็ด(ปณิตา พัฒนาหิรัญ) พีอาร์สาวสวยที่แอบหลงรักเบนคาบข่าวไปบอกนักข่าว บรมถือว่าตัวเองเป็นลูกเมียหลวงและเป็นพี่ชายคนโต จึงมักข่มขู่น้องคนอื่นๆให้อยู่ใต้อาณัติเสมอ และเขายังเป็นผู้กุมบังเหียนเพลินเรคคอร์ดอีกด้วย บรมบังคับเบนพานีรามาอยู่ที่บ้านเพื่อกลบข่าวฉาวระหว่าง นีรากับ ดวงฤทธิ์ (โชคชัย บุญวรเมธี)หรือ ด้วง นักร้องค่ายคู่แข่ง นีราขอร้องให้กิดาการไปอยู่กับเธอด้วย หลังจากนั้นญาณีก็ไปอเมริกาทันที ขณะที่นีราย้ายเข้ามาในบ้านของเบน เขาเองก็หลบหนีการที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับนีราโดยการไปต่างประเทศ ทำให้กิดาการมีอคติกับเขามากขึ้น และเธอยังต้องคอยรับมือกับนักข่าวรวมทั้งจัดระเบียบเพื่อเตรียมความพร้อมการเป็นแม่ให้นีรา ซึ่งเธอไม่สนใจและยังสนุกกับการรับมือนักข่าวเพื่อเพิ่มความดังให้ตัวเอง บัวมาเตือนนีราว่าบรมเจ้าเล่ห์และให้เธอกลับไปอยู่บ้านของตัวเอง แต่นีราไม่ฟัง บี (ฐากูร การทิพย์) ลูกชายคนเดียวของบรมกลับมาจากเมืองนอก และกำลังจะได้ออกอัลบั้ม บรมระดมนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์มือดีมาดูแล ซึ่งบุริมก็ได้รับมอบหมายให้เป็นโปรดิวเซอร์ แต่ด้วยความเอาแต่ใจของบี ทำให้บุริมต้องหนักใจ เบนกลับมาก็เจอนีรายังไม่ออกจากบ้าน คราวนี้เบนไล่นีรา อย่างโมโห กิดาการต่อว่าเบนไม่สนใจใยดีนีราเลย เบนเลยพูดว่าไม่รู้อะไรอย่ามาพูด นีรารู้สึกเบื่อเลยนัดเจอ จอย (จีรนันท์ ปรีดากุล) และ โอม (สุดที่รัก บำรุงญาติ) เพื่อนของเธอไปเที่ยวกลางคืน นีราดื่มจนเมามายโดยไม่สนใจลูกในท้องของเธอจนไปพบด้วง ซึ่งจอยและโอมนัดมาเหมือนกัน พอดีนักข่าวเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน จึงตามทั้งคู่ไปถ่ายรูปแต่นีรากับด้วงหนีไปหลบอยู่ในห้องเก็บของ บรรยากาศเป็นใจทั้งคู่จูบกัน โดยที่ด้วงแอบถ่ายคลิปไว้ด้วย กิดาการออกตามหานีราจึงรู้ว่านีราอยู่ที่ผับ เธอตามหานีราจนเจอแล้วพากลับบ้าน วันต่อมานีราแอบหนีไปหาด้วงที่คอนโด ทั้งคู่เกือบจะมีสัมพันธ์กันแต่นีรายับยั้งทัน ด้วงเลยรู้ว่านีรากำลังท้อง นีราเลยบอกกับด้วงว่าเขาไม่ได้รักเบน แถมท้าให้ด้วงพิสูจน์โดยใช้มือถือถ่ายรูปที่หอมแก้มกันเก็บไว้ นีราตามเบนออกไปทำงานในขณะเดียวกันบีก็มาหาเบนเพื่อให้ช่วยวิจารณ์เพลง เบนก็ถามว่าบีเป็นพ่อของเด็กในท้องของนีราหรือเปล่า บีไม่ยอมรับ เพราะนีรานอนกับคนทั่ววงการแล้ว และบียังบอกว่าพ่อของเขาทำเกินเหตุที่ให้เบนมารับผิดชอบแค่ให้นีราไปทำแท้งก็พอแล้ว ทำให้เบนผิดหวังในตัวของบีมาก นีราแสดงความเป็นเจ้าของเบนทำให้แจ็ดไม่พอใจทั้งคู่จึงทะเลาะตบตีกัน เบนทนไม่ไหวจึงบอกกิดาการให้พานีราออกจากบ้านไป ซึ่งนีราทำอย่างนั้นจริงๆ ทั้งคู่จึงต้องช่วยกันตามหาแต่นีรายื่นเงื่อนไขว่าเบนต้องไม่รังเกียจเธออีก เพราะต้องการให้สื่อเห็นว่าทั้งคู่รักกันจริง เบนทำตามแต่กิดาการกลับรู้สึกเจ็บปวดแต่ก็หักห้ามความรู้สึกนั้น แจ็คให้ข่าวว่านีราตบเธอ จนเป็นข่าวหน้าหนึ่ง อัญชลีออกมาแก้ข่าวให้ ด้วงเอาคลิปมาโชว์ เฮียเชษฐ์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายเพลงอาละดินคู่แข่งของเพลินเรคคอร์ด เฮียเชษฐ์จึงสั่งให้คนไปปล่อยคลิปเพื่อทำลายชื่อเสียงของนีรา กิดาการกลับต่อว่าเบนที่ไม่สนใจปล่อยให้นีราเหงาจนต้องไปคบด้วง ทั้งสองเถียงกัน จนเบนโมโหจูบกิดาการ เธอตบหน้าเบนและด่าเขาว่าเป็นพวกฉวยโอกาส เบนตามง้อกิดาการว่าถึงอย่างไรเขาจะไม่มีทางแต่งงานกับนีรา เพราะเขาไม่ใช่พ่อของเด็กในท้องจริงๆ ทั้งสองจึงปรับความเข้าใจกันจนความสัมพันธ์ดีขึ้น เบนขอให้กิดาการกลับเข้ามาอยู่ในบ้านอีกครั้งเพื่อดูแลนีรา กิดาการตอบตกลงเพราะอีกใจก็เป็นห่วงนีราเหมือนกัน นีรากลัวเธอจะเสียเปรียบเพราะถ้าคลอดเด็กออกมาเธอก็จะเรียกร้องสิ่งต่างๆยาก บรมไปปรึกษาอัญชลี สารภาพว่าเด็กในท้องของนีราเป็นลูกของบี เขาเป็นห่วงอนาคตของลูกที่กำลังจะออกอัลบั้ม ส่วนอัญชลีปล่อยข่าวว่านีราท้องกับด้วงแล้วไปทำแท้ง เฮียเชษฐ์จัดแถลงข่าวให้ ด้วงบอกว่าเป็นแค่เพื่อน ขณะเดียวกันบัวก็พบหลักฐานว่าอัญชลีเป็นคนปล่อยคลิปหลุด จึงบอกนีราว่าเป็นฝีมือของบรมแน่ นีราจึงเข้าไปพบบรมเพื่อยื่นไม้ตาย เอาคลิปวีดีโอที่บีกำลังเสพยาและขายยาในโรงเรียนสอนร้องเพลง บรมเป็นห่วงอนาคตของลูกชายแล้วจึงยอม บีเองก็ตามหานีราเพื่อจะถามว่าใครถ่ายคลิป นีราตระหนักว่าทุกอย่างจวนตัวแล้ว จึงบอกว่าบัวเป็นคนถ่ายคลิปแลกกับการจดทะเบียนกับเธออย่างลับๆบีจำใจยอม แต่นีราก็ยังใส่ร้ายกิดาการว่าเป็นคนช่วยวางแผนที่กิดาการรักกับเบนเพื่อบีบบรมตามแผนของบัว เบนไม่ต้องการจดทะเบียนกับนีรา บรมจึงบอกความจริงว่า นีราต้องการหุ้นจากเพลินเรคคอร์ด ทำให้เบนตะลึงที่ได้รับรู้เรื่องจริงและยังต่อว่านีราที่ใส่ร้ายกิดาการ ทำให้กิดาการเสียใจมาก บีอาละวาดตามขู่จะฆ่าบัวถ้าไม่เอาคลิปมาให้เขาทำลาย บัวสารภาพว่าที่ถ่ายคลิปเพราะว่าแค้นที่บรมข่มขืนเธอ ทำให้ทุกคนตะลึงกับความจริง บีต่อว่าบรมทำให้บัวรู้ว่าเวรกรรมตามมาทันบรมแล้ว ในขณะที่บุริมจะขอยอมรับเป็นพ่อเด็กให้นีราแต่เธอไม่ยอมแถมยังพูดดูถูกบุริมจนมีเรื่องกัน กิดาการและเบนมาห้ามทันและพานีราไปโรงพยาบาลเพราะเธอปวดท้องคลอด บรมกลับมาบริษัทเพ่อให้อัญชลีแก้ข่าวแต่เขาพบจดหมายลาออกของเธอแทน กิดาการคอยดูแลจนนีราคลอดลูกชาย บีก็ได้เปิดคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่แต่เขาแสดงได้สักพักตำรวจก็บุกมาจับหลังเวที เพราะได้คลิปของบีที่เสพยาเสพติดซึ่งคนปล่อยก็คืออัญชลีที่ลาออกไปเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของอาละดินค่ายเทปคู่แข่ง บีถูกส่งไปโรงเรียนดัดสันดานเป็นเวลาสองปี บรมเองสำนึกที่ตัวเองทำผิดจึงแบ่งหุ้นให้พี่น้องเท่าๆกันแล้วประกาศลาออกจากประธานกรรมการ แล้วยกตำแหน่งให้เบนนังแท่นบริหารแทนโดยมีบรรณกับบุริมช่วยดูแล ส่วนบัวดึงกิดาการมาช่วยบริหารโรงเรียนสอนร้องเพลง นีราทนไม่ได้กับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป คือเอาลูกมาเป็นเครื่องต่อรอง อีกทั้งข่าวเสียหายของเธอทำให้ประชาชนรับไม่ได้ จึงอำลาวงการไปอยู่อเมริกากับแม่ของเธอ แต่ก่อนไปนีราพาลูกไปเยี่ยมบีซึ่งเขาเองก็สำนึกผิด นีราก็พร้อมที่จะให้โอกาสเขา เบนขอกิดาการแต่งงาน กิดาการตอบตกลง หลังจากที่บีออกจากโรงเรียนคัดสันดาน เขาก็บินไปหานีรากับลูก และแต่งงานกับเธอเงียบๆที่นั่น โดยมีเบนและกิดาการพาลูกของตนไปร่วมยินดีกับทั้งสองด้วย

เพียงใจที่ผูกพัน 2553

เพียงใจที่ผูกพัน (2553/2010) มุกพิศุทธ์ (น้องมุก) ที่จากเมืองไทยไปอยู่กับพ่อที่เป็นนักดนตรีที่อังกฤษถึง 10 ปี ได้เดินทางกลับมางานศพของแม่เธอ โดยมีพี่ชายพี่สาวต่างพ่อไปรับที่สนามบิน และในการกลับมาครั้งนี้ พยัคฆ์ (พี่เสือ) ก็ได้เดินทางไปรับเธอด้วย สำหรับน้องมุกนั้นเธอเป็นลูกของตระกูลเก่าแก่ของจังหวัดที่มีธุรกิจมากมาย แม่ของเธอเป็นสส.ที่ได้รับการเลือกตั้งตลอดมา ส่วนพี่เสือเป็นลูกของแม่ที่ใจแตก มีลูกตั้งแต่อายุ 14 ปี กับฝรั่งที่มาสอนหนังสือและมาเที่ยวที่เมืองไทย ที่นำความอับอายมาสู่พ่อแม่ของเธอ จนพ่อตรอมใจกินแต่เหล้า จนเสียชีวิตไปในที่สุด หลังจากที่แม่ของเสือได้คลอดลูกออกมา เธอก็ไม่เคยดูแลเสือเลย เธอได้ยกเสือให้กับน้องชายที่ขาพิการ และก็ให้น้ากับยายของเสือเลี้ยง โดยตัวเธอเอาแต่เที่ยวเตร่คบผู้ชายไม่เลือกหน้า ไม่มีเงินก็มาไถแม่และน้องของเธอ จนกระทั้งเสืออายุได้ 9 ขวบ เขาก็ลงทุนเลี้ยงปลาหางนกยูงแล้วเอาไปขายตามตลาดนัดกับน้าชาย จนกระทั้งวันหนึ่งมีการแข่งขันวาดภาพประกวดประจำจังหวัดโดยเสือเคยได้รางวัล นี้มาตลอด แต่ปีนี้เขากลับได้ที่ 2 เขาแพ้ให้กลับน้องมุกที่เขาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ทำให้เขาโกรธน้องมุกมากเพราะที่เขาแพ้ไม่ได้แพ้ที่ฝีมือแต่แพ้เพราะเส้นสาย แม่ของน้องมุกเป็นสส.ที่ทางคนจัดเขาเกรงใจ และในการแข่นขันในครั้งนี้ คนที่ได้ที่ 1 และที่ 2 ต้องเข้าค่ายศิลปะ 2 วัน เมื่อเสือรู้เสือจึงไม่ยอม แต่ครูที่เขานับถือได้มาขอร้องไว้ และในการเข้าค่ายครั้งนี้ เสือได้ว่าประชดประชันน้องมุกตลอด จนตอนเช้าของวันสุดท้ายทางค่ายได้พาคณะของค่ายศิลปะไปดูการทำหอยมุก และในตอนกลับทางฟาร์มหอยมุกได้ให้นักเรียนเลือกหอยมุกซีกมาคนละตัว น้องมุกและเสือก็ได้กลับมาด้วยโดยเสือได้มุกสีชมพูมา น้องมุกเห็นอยากได้แต่ไม่กล้าขอกับเสือ จนกลับมาที่ค่ายหลังพักกลางวันเสือก็ได้เห็นพี่เลี้ยงของน้องมุกกำลังแย่ง หอยมุกกับน้องมุกอยู่ เสือเลยเข้าช่วยและพาน้องมุกไปวาดรูปด้วยกัน และที่นี่เองเสือก็ได้รู้ว่า น้องมุกนั้นโดนรังแกตลอด ไม่ว่าจะเป็นจากพี่เลี้ยงจากพี่สาวต่างพ่อ หรือกับแม่ของเธอเอง จึ่งทำให้เสือสงสารน้องมุกขึ้นมา ในการวาดรูปด้วยกันนี้ เสือได้ให้รูปของเขากับน้องมุก แล้วน้องมุกก็ได้ให้หอยมุกกับเสือไป ในการนี้เสือได้ให้สัญญากับน้องมุกว่า พอโตเขาจะคืนหอยมุกให้กับน้องมุกโดยจะให้ตัวสีชมพูอีกด้วย หลังจากนั้นก็ได้แยกกัน ทุกอาทิตย์เสือและน้าต้องไปขายปลาตามตลาดนัด แต่อาทิตย์นี้เสือได้พบกับลูกค้าคนพิเศษที่ชื่อน้องมุก น้องมุกมาหาเสือที่ขายปลาและได้ช่วยเขาขายจนกระทั้งเลิก และในครั้งนี้น้องมุกได้ซื้อปลาบอลลูนไปอีกด้วยโดยตั้งชื่อว่ารถถัง เป็นอย่างนี้ทุกอาทิตย์จนโรงเรียนเปิดเทอม และก่อนจะแยกจากกันเสือได้บอกให้น้องมุกหาแนวทางการเล่นดนตรีเพื่อที่เวลามี ใครว่าจะได้ไม่ต้องสนใจในสิ่งที่ได้ยินอีกด้วย หลังปิดเทอมอีกครั้ง น้องมุกได้มาหาพี่เสือของเธอที่ตลาดนัด และได้มาบอกเขาเกี่ยวกับการเล่นไวโอลิน และยังมาเล่นให้เขาฟังอีกด้วย น้องมุกมาหาพี่เสือของเธอทุกอาทิตย์ จนกระทั่งวันหนึ่งน้องมุกได้มาชวนพี่เสือของเธอไปงานวันเกิด พลอยพิศุทธ์ พี่สาวของเธอ และในงานนี้เองพลอยพิศุทธ์และเพื่อน ๆ ของเธอได้แกล้งเสือ จนน้องมุกมาเห็นเข้าจึงโกรธพี่สาวของเธอมากที่แกล้งพี่เสือของเธอ และในวันรุ่งขึ่นนั้นเองน้องมุกได้มาหาพี่เสือที่บ้าน เพื่อมาขอโทษเขา น้องมุกมาพร้อมกับตุ๊กตาที่เสือให้เป็นของขวัญกับพลอยพิศุทธ์ แต่พลอยพิศุทธ์ไม่เอา พอเสือรู้เข้าเขาก็บอกให้น้องมุกทิ้งไป แต่น้องมุกขอไว้เองเสือเลยตกลงให้ไป น้องมุกมาอยู่เล่นที่บ้านพี่เสือจนบ่ายถึงกลับไป และในวันอาทิตย์นั้นเอง เพชรพิศุทธ์ พี่ชายใหญ่ของบ้านเป็นคนพาน้องมุกมาหาเสือที่ตลาดนัด และในครั้งนี้น้องมุกได้สัญญาว่าจะมาช่วยพี่เสือของเธอขายของทุกอาทิตย์ตลอด ไป แต่อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอนในอาทิตย์สุดท้ายก่อนเปิดเทอมน้องมุกได้มาลาพี่เสือของเธอ เมื่อพ่อและแม่ของเธอได้หย่าขาดจากกันโดยให้น้องมุกอยู่กับพ่อ เธอถึงต้องเดินทางไปอยู่ที่ฮ่องกง และในการมาลาในครั้งนี้น้องมุกขอให้พี่เสืออย่าลืมเธอ การจากลาของทั้งคู่ ทั้งน้ำตานี้ที่เป็นเวลาถึง 10 ปีจะเป็นอย่างไรต่อไป พี่เสือจะลืมน้องมุกหรือไม่ แล้วในระยะเวลา 10 ปีนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงของคนทั้งคู่หรือไม่ แล้วเด็กเลี้ยงปลาขายอย่างเสือจะต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อจะเป็นเสี่ยพยัคฆ์ ที่มีธุรกิจมากมายในตอนนี้ มาติดตามชีวิตของ พี่เสือและน้องมุก ได้ใน ละครเพียงใจที่ผูกพัน ผลงานการประพันธ์ของ กิ่งฉัตร ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครเพียงใจที่ผูกพัน เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม นี้

สามหัวใจ 2553

สามหัวใจ (2553/2010) โฉม เป็นนักศึกษาพยาบาลปีสุดท้ายต้องไปอยู่หอพักเพื่อหลีกเลี่ยง นายกำพล พ่อบุญธรรมที่ติดการพนันและพยายามจะข่มขืนเธอ ส่วนคุณอารีย์แม่ซึ่งรับเธอมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม คุณอารีย์สุขภาพไม่ค่อยดีโฉมจึงหวังว่าเรียนจบจะได้มารักษาพยาบาล แต่แล้วคุณอารีย์ก็เสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุ โฉมต้องย้ายกลับมาอยู่บ้านกับพ่อใจบาป ชัช เป็นนักเรียนโรงเรียนช่างกลหลังจากรับทำงานพิเศษจากอู่รถ และกำลังกลับบ้านพอดีพบโฉมวิ่งเสื้อผ้าหลุดลุ่ยออกมาจากบ้าน ชัชจึงช่วยโฉมพาซ้อนมอไซด์หนีไปต่อหน้านายกำพล ชัชจึงพาโฉมไปไว้ที่บ้านแม่ชื่น เช้าวันรุ่งขึ้นโฉมแอบเห็นผู้ชายสองคนนั่งกินข้าวกับแม่ชื่นอยู่ จึงถามชัชว่าใคร ชัชเลยบอกว่าเป็นพี่ชายคนแรกชื่อ ชาญ เพิ่งสอบเป็นทนายได้ ส่วนคนรองเป็นนักมวยชื่อ ชาย ขณะที่นายกำพลกำลังเปิดบ่อนอยู่ที่บ้านชัชจึงอาสาไปเอาเสื้อผ้าให้ที่บ้าน พอดีตำรวจเข้ามาพอดีชัชจึงแต่งเป็นหญิงจึงรอดจากตำรวจมาได้ วันต่อมาแม่ชื่นกำลังทำขนมไทยอยู่เกิดน้ำร้อนลวก โฉมเห็นจึงเข้าไปช่วย แล้วโฉมจึงเล่าเรื่องของตนให้แม่ชื่นฟัง แม่ชื่นจึงให้โฉมช่วยขายขนมหน้าบ้านแทน ชายพี่ชายของชัชกำลังซ้อมมวยอย่างหนักกับครูแน่เป็นครูมวย และแล้ว พิภพ ทนายคนหนึ่งก็นำหนังสือมายื่นต่อครูแนบว่าที่ดินจะถูกยึด ครูแนบจึงของผ่อนผันไปก่อน ให้ผ่านพ้นชกมวยไปก่อน และแล้ววันชกมวยก็มาถึงชายชนะน็อกจึงนำเงินมาต่อดอกที่ดินให้ครูแนบได้สำเร็จ แม่ชื่นบอกใครต่อใครว่าโฉมเป็นหลานสาวที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อที่จะมาเรียนพยาบาล จึงมี เอม ซึ่งเป็นทอมลูกสาว คุณอิ่ม กระเทยเจ้าของเกสท์เฮาส์ริมน้ำมาเฝ้าจีบโฉมทุกวัน เมื่อนายกำพลรู้ที่อยู่โฉมจึงนำตำรวจไปจับชัชแต่ชาญรู้กฎหมายจึงช่วยชัชไว้ได้ นายพิภพเห็นชาญมีความรู้ความสามารถจึงชวนชาญไปทำงานด้วยกัน จึงพาชาญไปแนะนำให้กับ คุณนายพวงแก้มและลูกสาวชื่อ พิมพรรณ เมื่อชาญว่าความชนะคดีมรดก ทำให้สำนักงานได้รับส่วนแบ่งจากคดี พิมพรรณจึงซื้อรถใหม่ชาญขับ แม่ชื่นเลยบอกให้ไปรับไปส่งโฉมแทนที่ชัช ทำให้ชัชรู้สึกเจ็บปวด มากชัชจึงไปแข่งเต้นบีบอยจนได้รางงวัล จึงเอาเงินไปให้โฉม แต่โฉมกับเอาเงินไปทำบุญบ้านเด็กกำพร้า แล้วชัชพาโฉมไปเที่ยวงานในค่ำวันนั้นอย่างมีความสุข ทำให้ชาญไปรับโฉมที่โรงเรียนไม่เจอ และแล้วก็เกิดเรื่องเมื่อโฉมถูกลวนลามชัชถูกโดนรุม พอดีที่ชาญมาช่วยได้ทันและพาโฉมมาส่งบ้าน ส่วนชัชนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีเอมดูแลแล้ว ชาญถือโอกาสมอมเหล้าโฉมแล้วพาเข้าม่านรูด พอดีเป็นเวลาที่ชัชกับเอมอาการดีขึ้นออกจากโรงพยาบาลพอดี จึงเข้ามาช่วยโฉมทันเวลา ชัชโกรธชาญมากจึงจะพาโฉมหนี แต่แม่ชื่นดันมาล้มหัวฟาดพื้นเสียก่อน โฉมจึงต้องคอยดูแลแม่ชื่น และแล้วการชกครั้งสำคัญที่มีการเดิมพันเป็นที่ดินของครูแนบ แต่ก่อนค่ำก่อนวันชกชายได้เห็นชาญมอบแหวนให้โฉม และโฉมก็รับแหวนจากชาญด้วยความยินดี ทำให้ชาญไม่มีกำลังใจในการชก จึงถูกแชมป์จากเมืองกรุงถลุงจนยับเยิน ชายไม่มีหน้ากลับไปพบใครครูแนบจึงชวนชายไปอยู่ด้วยกันที่ ฝาง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับลูกสาวครูเนบที่เป็นใบ้ชื่อ นันทา ที่เมืองฝาง ครูแนบและนันทาได้ไปทำงานที่สวนดอกไม้ของป้าเนียร น้องสาวครูแนบแล้วชายก็ได้ไปทำงานที่สวนส้มธนาธร ของพ่อเลี้ยง ธนาธร เพื่อนเก่าของครูมีลุกสาวชื่อ คุณทิพยา ซึ่งเป็นภรรยาของ ศักดา ชายรู้มาว่าคุณทิพยาเป็นน้องสาวของเทพฤทธิ์เจ้าของค่ายมวยใหญ่ ชายจึงมีโอกาสได้ขึ้นชกอีกครั้งแล้วก็ชนะ ทำให้ชายได้ความนิยมกลับคืนมา ชายจึงกลับมาบ้านท่ามกลางความยินดีของทุกคน และเมื่อรู้ว่าโฉมไม่ได้รับหมั้นกับชาญ ชายจึงใกล้ชิดกับโฉมอย่างคนรัก ชาญเห็นภาพบาดตาจึงหนีไปกินเหล้าแล้วถูกพิมพรรณมอมเหล้าและยั่วยวนจนได้ชาญเป็นสามี และย้ายมาอยู่กับเธอที่บ้านสวน และเทพฤทธิ์กับนายบัชญาก็ได้จัดมวยขึ้นอีกครั้งเพื่อที่จะให้สิงหราชแก้มือ แล้วชายก็โดนวางยาจึงทำให้แพ้ในครั้งนี้ พอชัชได้รู้ความจริงจึงบุกบ้านไปทำร้ายศักดิ์ดา จึงถูกนายศักดิ์ดายิงตาย แม่ชื่นเสียใจล้มป่วยลงด้วยโรคหัวใจอย่างรุนแรง คุณทิพยาพยายามหย่าขาดจากศักดิ์ดา ศักดิ์ดาจึงเรียกร้องเงิน 80 ล้านและพยายามฆ่าคุณทิพยา แต่คุนทิพยาก็รอดมาได้ แต่อัมพาตไปทั้งตัว ส่วนพิมพรรณก็มาเป็นชู้กับศักดิ์ดา ต่อมาพิมพรรณรู้ว่าศักดิ์ดาไม่จริงใจแล้วกินเหล้าเมามายเหมือนคนเสียสติ พ่อเลี้ยงจึงจ้างพิภพฟ้องนายศักดิ์ดาที่วางยาชายตอนชกมวย พี่ชายของคุณทิพยาทนเห็นน้องสาวลำบากไม่ไหว จึงให้ชายไปช่วยน้องออกมา คุณทิพยาจึงได้ยิงนายศักดิ์ดาตาย ชายเห็นจึงรีบคว้าปืนมามาถือไว้ขณะที่ตำรวจมาเห็นพอดี ชายถูกจับตัวถูกตัดสินประหารชีวิต แม่ชื่นรู้ข่าวจึงช็อคตาย ชาญตัดสินใจยืนอุทรณ์สู้คดีให้ชาย คุณทิพยาสารภาพเองว่าตนเป็นคนยิงนายศักดิ์ตายเอง และเปิดโปงความชั่วอะไรบ้าง โดยมีนายกำพลเป็นพยานหักหลังนายบัญชา ศาลเลยตัดสิ้นสั่งจำคุกชายแค่ 2 ปี ฐานบุกรุกและทำร้ายร่างกาย ตำรวจจับนายบัญชาในความผิดหลายอย่าง นายพิภพสำนึกผิดเลยฆ่าตัวตาย ส่วนชาญก็ถูกพิมพรรณยิงตาย หนึ่งปีต่อมา ชายได้รับอภัยโทษกลับมาที่บ้าน พบว่าบ้านได้รับเป็น ศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กทั้งหลายต่างเรียกโฉมว่าแม่ และโฉมยังคงคอยชายอยู่เสมอ แม้เธอจะเคยได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่มี สามหัวใจ ก็ตาม ติดตามรับชม ละครสามหัวใจ ละครแนวดราม่า เมื่อความรักของชายสามพี่น้องกับหญิงสาวคนหนึ่ง ท่ามกลางสังคมที่แก่งแย่งเอาเปรียบและคดโกง ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ละครสามหัวใจ เริ่มตอนแรก วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายนนี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 จ้า

หวานใจกับนายจอมหยิ่ง (2553/2010) จอมใจ กุล และ แก้วใส ดาวมหาวิทยาลัย แห่ง คณะคหกรรม ถูกส่งไปฝึกงานที่โรงแรม สยามธารา โรงแรมใหญ่ ระดับ 5 ดาวที่แสนจะหรูหราซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นหนึ่งในอาณาจักรธุรกิจยักษ์ใหญ่ของบริษัท อัครศิริกรุ๊ป ที่มี ยุบล เป็นผู้ครอบครองในฐานะประธานบริษัท โดยมีหลานชายสองคน อัศวินและชัชวิน เป็นเหมือนขุนพลมาช่วยบริหารโรงแรม ชัชวินเห็นแก้วใสก็ถูกตาต้องใจตั้งแต่ครั้งแรก แต่ไม่รู้จะจีบเธออย่างไรได้แต่คอยเย้าแหย่หยอดคำหวานไปเรื่อย แก้วใสไม่กล้าตอบโต้เพราะเจียมตัวที่ยากจน แต่อีกใจหนึ่งก็ดีใจที่ได้ใกล้ชิดกับชายในฝัน จอมใจได้พบ ทศวิน พ่อครัวหนุ่ม ท่าทางเคร่งขรึมแกมเศร้า จอมใจพบกับทศในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักทำให้ทั้งคู่มีอคติต่อกัน ด้วยความบังเอิญสุด ๆ เมื่อจอมใจมาฝึกงานที่โรงแรม สยามธารา จอมใจต้องมาเป็นนักศึกษาฝึกหัดในความควบคุมของ ทศ ทำให้ทั้งคู่เกิดมีเรื่องที่ต้องทะเลาะกันอยู่บ่อย ๆ ทศวิน ให้สามสาวฝึกงานอย่างเข้มงวด แก้วใสทำงานหนักได้สบายเพราะลำบากมาแต่เด็ก กุลนั้นอาจจะมีบ่นบ้าง ถึงครอบครัวจะไม่ร่ำรวย แต่ไม่เคยต้องทำงานหนักแบบนี้มาก่อน ส่วนจอมใจนั้นมีปัญหาตลอด เพราะถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู หลังจากนั้นสามสาวแยกกันฝึกงานในแต่ละแผนกที่ตนถนัด จอมใจได้อยู่แผนกห้องครัวทำอาหาร กุลอยู่แผนกดอกไม้และตกแต่ง ส่วนแก้วใสทำด้านขนมหวาน ทศนึกไม่ถึงว่าจอมใจจะมีฝีมือในการทำอาหารได้อย่างดีเลิศ ทำเอาทศวินถึงกับทึ่งในฝีมือปลายจวักของจอมใจ ยุบล ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการ สยามธารา ประกาศวางมือจาการเป็นผู้บริหารและต้องการหาตัวแทนในการบริหารโรงแรมสยามธาราใหม่ จึงเปิดตัวทศวินกับผู้ถือหุ้น ในฐานะผู้สืบทอดโรงแรมโดยให้ชัชวินกับทศวิน ผลัดกันบริหารงานโรงแรมสยามธาราเพื่อดูความสามารถและประสิทธิภาพในการบริหาร โดยอัศวินหลานชายอีกคนของยุบลขอถอนตัวกับโปรเจคส์นี้ เพราะต้องการแค่บริหารศูนย์ประชุมที่เขารักเพียงอย่างเดียว เพลินจิตและวิชาต่างช่วยกันดันชัชวิน เพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้บริหารคนต่อไป จอมใจนำอาหารไทยมาปรุงแต่งในแนวสมัยใหม่ จนเป็นที่ชื่นชอบให้กลับลูกค้าของโรงแรม รวมทั้ง ยุบล อัศวิน และ สุมนา แม้แต่คนช่างติอย่างเพลินจิต ก็ยังอดติดใจฝีมือเธอไม่ได้ ในวันงานเลี้ยงของโรงแรมสยามธารา บดี และ นงนุช พ่อ-แม่ของจอมใจ ได้การ์ดเชิญเป็นแขก VIP และอยากจะมาชิมฝีมือการทำอาหารของลูกสาวคนสวยด้วย ทำให้เพลินจิตได้พบกับบดี ผู้ชายที่เธอเคยหลงรักมาก่อน แต่บดีกลับไปรักและแต่งงานกับนงนุช ทำให้เพลินจิตเอาความแค้นในอดีตมาลงที่จอมใจ แต่ได้ทศวินคอยช่วยไว้ จอมใจสงสัยว่าทำไมเพลินจิตถึงเกลียดเธอนัก ส่วน ลลิล สาวสวยมาจากครอบครัวร่ำรวยและไฮโซไม่แพ้จอมใจ เธอเคยคิดว่าตัวเองแสนจะเด่น และเป็นสาวที่น่าสนใจที่สุดในมหาวิทยาลัย แต่กลับเป็นว่าจอมใจ สวยกว่า รวยกว่า และเด่นกว่า ลลิลจึงทนไม่ไหว ต้องการเอาชนะให้ได้ นิลรัตน์เองก็อิจฉาแก้วใสที่จนเหมือนกัน แต่กลับสวยกว่า และเรียนเก่งกว่าเธอมากนัก ลลิลกับนิลรัตน์จึงเป็นอริกับสามสาวอย่างเปิดเผย เว้นแต่ข้าวปุ้นที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ด้านความสัมพันธ์ของชัชวินและแก้วใส คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วทำให้เพลินจิตผู้เป็นแม่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะความที่ไม่อยากได้ลูกสะใภ้ที่มีฐานะทางบ้านยากจน เพลินจิตพยายามจะแยกทั้งชัชวินและแก้วใสออกจากกันโดยลงมือจับยายน้อม ยายของแก้วใสเป็นตัวประกันและบังคับให้แก้วใสทำให้ทศกับจอมใจแตกคอกัน แก้วใสจำใจทำตามเพราะห่วงยายน้อม ทำให้ทั้งจอมใจและชัชวินเข้าใจผิดแก้วใส โดยมี อุไรริสา คู่หมั้นของอัศวินคอยร่วมมือกับเพลินจิตอีกทางหนึ่ง เพราะใจลึก ๆ แล้ว อุไรริสาชอบทศวิน จึงวางแผนทำให้ทุกคนเข้าใจผิดเรื่องอัศวินและจอมใจ เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องหมั้นกับอัศวิน อัศวินเห็นฝีมือการจัดดอกไม้ของกุล จึงให้เธอไปช่วยจัดให้ที่ศูนย์ประชุมของเขา ทำให้อัศวินมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับกุลมากขึ้น อัศวินมีชีวิตในวงธุรกิจที่มีแต่การแข่งขัน เมื่อได้พบกุล ผู้หญิงจิตใจดี สบาย ๆ ทำให้เขารู้สึกมีความสุขในทุก ๆ ครั้งที่ได้อยู่ใกล้เธอ ทศวินเริ่มสืบเรื่องราวเงื่อนงำการตายของ ปกรณ์ ผู้เป็นพ่อ จนทำให้เข้าต้นตอตัวการเข้าไปทุกที ทำให้เพลินจิตกับวิชาผู้อยู่เบื้องหลังการตายเริ่มหวั่นใจกลัวความจริงจะถูกเปิดเผย เพลินจิต วิชาและยุทธเริ่มเครียดเพราะทุกอย่างดูจะเทไปทางทศวิน ส่วนชัชวินเองก็ดูไม่ยินดียินร้ายกับทรัพย์สมบัติซักเท่าไหร่ วิชาและเพลินจิตคิดจะกำจัดทศวินให้พ้นทาง ยุทธ์ตกใจกับความจริงที่เขาเพิ่งได้รู้ เพลินจิตวางแผนพา ปกิต สามี โรงพยาบาล หมอสั่งควบคุมอาหารของคนเป็นโรคไต แต่นั่นกลับเป็นช่องทางให้เพลินจิตค่อย ๆ ฆ่าปกิต ได้อย่างง่ายดาย ยุบลให้จอมใจมาคอยดูแลเรื่อง อาหารของปกิต ทำให้ปกิตมีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ง่ายต่อการสืบเงื่อนงำการตายของปกรณ์เพราะปกิตคือกุญแจดอกสำคัญที่จะแฉเรื่องราวทั้งหมด เพลินจิตสงสัยในอาการของปกิตที่ดีขึ้น และยิ่งเห็นข้อความที่ปกิตเขียนไว้ ตกอยู่ในห้องนอน ทำให้เพลินจิตปล่อยทศวิน จอมใจ และ ปกิตไม่ได้อีกแล้ว จึงบีบให้แก้วใส เข้าไปแทรกกลางระหว่างทศวินกับจอมใจ แก้วใสต้องยอมทำตาม แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของยาย ถึงแม้มันจะทำร้ายจิตใจเพื่อนรักอย่างจอมใจแค่ไหน .... ความรักระหว่างจอมใจกับ ทศวิน จะเป็นเช่นไร แก้วใสจะตัดสินใจกับความขัดแย้งในใจอย่างไร ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายหรือไม่ ต้องติดตามชมละคร หวานใจกับนายจอมหยิ่ง ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 หวานใจกับนายจอมหยิ่ง ออกอากาศตอนแรก วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2553

เงารักลวงใจ 2553

เงารักลวงใจ (2553/2010) ณ บ้านอัศวธานนท์ รัญญา ทายาทคนเดียวของตระกูล อัศวธานนท์ถูก เถลิง ผู้เป็นพ่อตบตี หลังจากจับได้ว่าเธอแอบลักลอบได้เสียกับ มงคล คนงานในบ้าน เพื่อปกปิดความอัปยศ เถลิงได้จับรัญญาขังไว้ในห้อง แล้วสั่งลูกน้องให้วางแผนฆ่ามงคลโดยทำให้รถยนต์เกิดอุบัติเหตุ หากทว่ามงคลกลับไม่ตายเพราะได้ บัว หญิงสาวใจดีที่มาช่วยชีวิตนำส่งโรงพยาบาลและได้ชักชวนให้ไปอยู่ที่ บ้านทอฟ้า จังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะเธอได้งานใหม่เป็นผู้จัดการมูลนิธิของที่นั่น ด้านรัญญาที่เข้าใจว่า มงคล ตายแล้วก็ได้ตั้งท้องกับมงคล จึงวางแผนหลอกผู้เป็นพ่อว่าต้องการจะไปเรียนต่อต่างประเทศ เถลิงเชื่อยอมให้ไปรัญญาจึงไปพักอยู่กับ ยุวรินทร์ เพื่อนสมัยเด็กที่อาศัยอยู่ที่นั้นมานานแล้ว จนถึงวันที่เด็กน้อยคลอดออกมา เป็นเพศหญิง หน้าตาผิวพรรณ งามหมดจด รัญญาเห็นความน่าเอ็นดูของลูกจึง แอบหวังว่าพอพ่อเธอเห็นหลานอาจจะยอมใจอ่อนให้อภัยเธอและลูก เมื่อมาถึงแผ่นดินเกิด รัญญาพาลูกสาวไปฝากเนอสเซอรี่ก่อนเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้ก่อนที่จะสารภาพกับพ่อ ก่อนไปรัญญาได้ทำจี้สลักที่มีอักษรย่อชื่อเธอและมงคล หล่นอยู่ข้างเตียงลูก สร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยที่มงคลได้ให้เธอไว้ตั้งแต่สมัยคบหากัน ขณะที่รัญญาเดินทางกลับไปอัศวธานนท์เพื่อจะสารภาพความจริง แต่เถลิงสืบรู้เรื่องนี้ก่อน เถลิงโกรธมากไม่รับฟังคำอธิบายใด ๆ รัญญาเห็นว่าหมดหนทางเธอจึงตัดสินใจกลับไปรับลูก แต่ต้องตกใจสุดขีดเพราะไฟไหม้เนอสเซอรี่ที่เธอฝากลูกไว้!!! ด้านเถลิงที่ตามมาพบเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็สะใจเป็นอันมาก แต่เด็กน้อยได้ถูกช่วยเหลือไว้และถูกส่งตัวไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า บ้านทอฟ้าราวกับฟ้ามีตา เวรกรรมตามทัน เถลิงชายชราก็ถูกเล่นงานด้วยอาการโรคหัวใจกำเริบ ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสและถูกหลอกหลอนด้วยภาพความผิดต่าง ๆ ที่ตนทำไว้ในอดีต แม้คิดจะเปิดเผยความลับเรื่องลูกของรัญญายังมีชีวิตอยู่เพื่อจะไถ่บาปที่ติดตัว ก็ยังไม่สามารถทำได้และได้ตายไปในสภาพโดดเดี่ยวไร้คนเหลียวแล 18 ปีต่อมา ข้าวหอม เด็กสาวหน้าตาดี เติบโตขึ้นในบ้านทอฟ้า ได้รับสร้อยพร้อมจี้ เป็นของขวัญวันเกิดจากแม่บัวผู้จัดการมูลนิธิ เด็กสาวมีความสุขมาก ต่างจาก รตี ถึงจะโตมาด้วยกันในบ้านทอฟ้าแต่ลึก ๆ แล้วในใจมีแต่ความอิจฉาริษยา มีนิสัยแตกต่างกับข้าวหอมทุกอย่างทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับข้าวหอม รตีต้องระบายออกโดยการกลั่นแกล้งข้าวหอม แต่ข้าวหอมก็อภัย รตีทุกครั้ง รตีแอบคบอยู่กับ มังกร เด็กหนุ่มในบ้านทอฟ้าเหมือนกัน ด้วยความหน้าตาดี ทำให้รตีหลงเสน่ห์ และ ยอมเชื่อฟังมังกรทุกอย่าง แม้ว่าจะชักนำไปหนทางผิด ๆ ก็ตาม ขณะเดียวกันที่บ้าน กำธรภูวนาท ภูผา หนุ่มใหญ่ผู้ดูแลที่ดินบ้านทอฟ้า กำลังต่อว่า โตมร น้องชาย ทีวางแผนจะทำให้บ้านทอฟ้าเป็นรีสอร์ทห้าดาว ภูผาเป็นคนใจบุญแต่โตมรเป็นคนโลภมาก ภูผา มีลูกชายชื่อ นาวา ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้ขาพิการ โตมรมีลูกชายชื่อ เตชิต เป็นเด็กหนุ่มที่ได้รับความกดดันจากผู้เป็นพ่อจึงทำไห้มีนิสัยแข็งกระด้าง เมื่อนาวาเจอข้าวหอมทำให้หัวใจของนาวาไม่โศกเศร้ามีกำลังใจเหมือนเดิม โตมรส่งคนมาทำร้ายภูผาแล้วขึ้นรักษาการกรรมการผู้จัดการ นาวารู้เรื่องเลยไปเยี่ยม ภูผาดีใจที่ลูกชายกลับมามีกำลังใจเหมือนเดิม จึงขอนาวาให้ไปรับการรักษาขาที่ต่างประเทศ ด้านโตมร ได้ส่ง เตชิต มาบีบให้ทุกคนที่บ้านทอฟ้า รีบย้ายออกไปเพื่อจะได้ปรับเป็นรีสอร์ท 5 ดาว ตามแผนของตนเอง เตชิตมาถึง ก็ได้พบนาวา ทั้งสองมีปากเสียงกัน ทำให้ข้าวหอมต่อว่าเตชิตอย่างรุนแรง เตชิตโมโหมากและตั้งใจจะเอาชนะคนอวดดีในสายตาของเขา ในขณะเดียวกัน รัญญาก็ยังคงเดินหน้าตามหาลูกสาวอย่างมุ่งมั่น ยุวรินทร์กลับจากต่างประเทศมาช่วยหาอีกแรง ที่บ้านทอฟ้า เตชิตตั้งใจกลั่นแกล้งจนสั่งให้ทำงานบ้านสารพัดทำให้ข้าวหอมล้มป่วยลง ตอนนั้นเองทำให้เตชิตรู้สึกว่าที่แท้จริงแล้ว ลึก ๆ เขาห่วงใย และต้องการจะดูแลเธอ ยิ่งได้ใกล้ชิดกันเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้ใจตนเองว่าเขาได้ตกหลุมรักข้าวหอมเสียแล้ว ขณะที่ข้าวหอมกำลังกลุ้มใจว่าจะหนีอำนาจจากเตชินได้อย่างไร ไม้ ภารโรงพิการที่เคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ เห็นสร้อยคอพร้อมจี้ของเธอ ก็ถามเอาความจริงแต่เธอก็รู้แต่เพียงว่ามันเป็นของชิ้นเดียวที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิด ทำให้นายไม้คิดขึ้นมาว่าบางทีอาจจะเป็นลูกของเขากับรัญญา เขาดีใจมากเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่จึงสวมกอดข้าวหอม รตีเห็นจึงเกิดสงสัยอย่างมาก จึงแกล้งขู่โดยถ้าไม่บอกจะไปฟ้องคุณบัว เรื่องที่ใกล้ชิดกับข้าวหอมจนเกินงาม นายไม้จึงบอกความจริง รตีไม่อยากเชื่อเรื่องที่นายไม่พูด จึงหาข้อมูลจนรู้ฐานะของรัญญา และกำลังตามหาลูกสาวที่หายไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ทำให้ต้องเชื่อว่าข้าวหอมคือบุตรสาวที่หายไปไฮโซสาว ความอิจฉายิ่งพุ่งพล่านมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว รตีวางแผนจะสวมรอยโดยขอร้องให้มังกรช่วยเหลืออีกแรง โดยวางยาข้าวหอมและนายไม้จนขโมยสร้อยมาได้แต่มังกรเห็นว่าควรฆ่าปิดปากทั้งสองคนด้วย แต่ข้าวหอมก็รอดชีวิตมาได้ การจากไปของคุณบัวและนายไม้พร้อมกับบ้านทอฟ้าที่ถูกเผา ข้าวหอมจึงจำใจต้องจดทะเบียนสมรสกับเตชิต นาวากลับมาจากการรักษาขาต่างประเทศ รู้ข่าวก็คิดว่าเตชิตตั้งใจเอาชนะเขาจึงบีบข้าวหอม แต่ไม่คิดยอมแพ้ เขาออกปากกับเตชิตว่าจะต้องแย่งข้าวหอมกลับมาเป็นของเขาให้ได้ ด้านรตีเมื่อเข้ามาอยู่บ้านอัศวธานนท์ ก็เริ่มออกลายนิสัยเสีย ในงานวันเกิดรัญญา เตชิตได้พาข้าวหอมไปเปิดตัวด้วย รตีเห็นก็แทบคลั่งและต้องการจะแย่งเตชิตจากข้าวหอมให้ได้ แต่รัญญาเมื่อพบข้าวหอมกลับรู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูกข้าวหอมเองก็เช่นกัน ด้านมังกรที่ติดพนันทำให้เขามาเรียกร้องขอเงินกับรตีอยู่เนือง ๆ เมื่อไม่ให้ก็ขู่ว่าจะแฉความลับที่รตีเป็นทายาทตัวปลอม ในที่สุดรตีจึงวางแผนฆ่ามังกรทิ้ง เพื่อที่เธอจะได้ไม่ถูกเปิดเผยความลับ เตชิตเข้าใจผิดว่านาวากับข้าวหอมแอบใกล้ชิดกัน ก็แค้นและเสียใจมาก จึงเย็นชาและควงรตีมาประชด ข้าวหอมทนไม่ได้เลยหนีออกมา เตชิตมาเข้าใจภายหลังว่าทั้งหมดเป็นแผนของโตมรและรตีจึงไปตามกลับมาพร้อมนาวา รตีที่ไม่สามารถแย่งเตชิตมาได้ก็ผิดหวังอย่างมาก ก็ได้รัญญาคอยปลอบ แต่รัญญาก็มาประสบอุบัติเหตุ ทางโรงพยาบาลต้องการเลือด ยุวรินทร์บอกให้ใช้เลือด รตี แต่ปรากฏว่ามีกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกัน รัญญาไม่เชื่อจึงขอตรวจ ดีเอ็นเอ แต่รตีก็แอบเอาเลือดของข้าวหอมไปตรวจดีเอ็นเอแทนเลือดเธอ เหตุการณ์ครั้งนี้ รตีคิดว่ายุวรินทร์คือหอกข้างแคร่ที่เธอต้องกำจัด จึงวางแผนฆ่ายุวรินทร์จนสำเร็จแต่หลังงานศพยุวรินทร์ ผลพิสูจน์ดีเอ็นเอถูกส่งกลับมาที่บ้านอัศวธานนท์ ทำให้รู้ว่าที่จริงยุวรินทร์ไม่ไว้ใจรตี จึงแอบแบ่งเลือดรตีไปตรวจต่างหาก รัญญาถึงกับช็อค เมื่อรตีรู้เข้าจึงผลักรัญญาตกบันได หวังฆ่าและเก็บความลับนี้ตลอดไปข้าวหอมมาเห็นเข้าจึงพารัญญาส่งโรงพยาบาล เมื่อรัญญาฟื้นขึ้นมาพบว่าตัวเองความจำเสื่อม เวลาผ่านไปรัญญาก็เริ่มจำเหตุการณ์ที่รตีผลักเธอได้แต่ แต่ยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมรตีจึงทำ แกล้งทำเป็นความจำเสื่อมต่อไป โดบแอบจับผิดรตีเรื่อย ๆ จนความทรงจำของเธอกลับมาทั้งหมด จึงซักรตีหวังเอาความจริง ด้วยความโมโห และกลัวความผิด รตีจึงคิดฆ่ารัญญาอีกครั้งแต่ข้าวหอมกลับมาช่วยได้ทัน รตีจึงจับข้าวหอมเป็นตัวประกัน เตชิตกับนาวารู้เรื่องจึงรุดไปช่วย รตีแค้นที่มีแต่คนรักข้าวหอมตั้งใจจะฆ่าให้ตาย จังหวะที่รตียิงข้าวหอมนาวาโดดเข้าไปรับกระสุนแทน บาดเจ็บสาหัส รตีถูกตำรวจจับด้วยความเสียใจและหวาดกลัวทำให้คลุ้มคลั่งจนเสียสติในที่สุด ระหว่างทางที่ส่งนาวาเข้าโรงพยาบาล นาวาก็สิ้นใจลงในอ้อมกอดข้าวหอมอย่างสงบ รัญญาเสียใจอย่างมาก ตำรวจส่วนของติดตัวรตีกลับมาที่บ้าน ทำให้ข้าวหอมเห็นสร้อยพร้อมจี้ของเธอที่หายไป ที่จริงอยู่กับรตีนี่เอง ข้าวหอมยินดีตรวจดีเอ็นเอ ทำให้ฝันของรัญญาเป็นจริง ลูกสาวเธอที่หายไป 18 ปีแท้จริงคือเด็กสาวที่เฝ้าดูแลเธอตลอดนี่เอง ข้าวหอมกลับบ้านอัศวาธานนท์ในฐานะทายาท ทำให้โตมรเลิกอคติและยอมรับมากขึ้น อีกทั้งการจากไปของนาวาทำให้โตมรเรียนรู้ว่า ควรรักเตชินมากขึ้น เพราะถ้าเตชิตจากไปเขาต้องเสียใจอย่างเช่นภูผา โตมรและเตชิตจึงปรับความเข้าใจกัน ในที่สุดความรักของข้าวหอมและเตชิตก็ไม่เป็นเงารักที่ลวงใจอีกต่อไป..... เงารักลวงใจ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เงารักลวงใจ เริ่มตอนแรกในวันศุกร์ ที่ 23 เมษายน 2553 ทางไทยทีวีสีช่อง 3

จงกลกิ่งเทียน 2553

จงกลกิ่งเทียน (2553/2010) เจ้าบัวเทียน หญิงชราวัย 85 ปี นั่งเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองให้ กอหญ้า หลานชายฟังถึงความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับตน ชื่อเดิมของเธอคือ “เทียนกันยา” พ.ศ.2495 หลังพ่อแม่เสียชีวิต เทียนกันยากับโกมุทหรือก้องน้องชายได้ดูแลสมบัติของตน ทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านสุจัณยา ร่วมกับ ศล น้องชายบุญธรรมที่พ่อของเทียนกันยาอุปการะเลี้ยงดู ก้องไม่สบายตั้งแต่เด็ก เทียนกันยาเลยจ้าง เรือนใจ พยาบาลสาวมาดูแล จนกระทั่งก้องป่วยหนักเสียชีวิตลง เรือนใจบอกละม่อม ละม่อมสะใจที่ยาลูกกลอนผสมสารหนูที่ฝากเรือนใจไปให้ก้องกินได้ผล เรือนใจตกใจมากที่รู้ว่าละม่อมใช้ตนเป็นเครื่องมือ ละม่อมขู่เอาผิดเรือนใจและจะเปิดเผยเรื่องเรือนใจไม่ได้จบพยาบาลมาจริงๆแต่ปลอมเอกสาร เรือนใจกลัวเลยต้องเป็นพวกละม่อมต่อไป เทียนกันยาเสียใจที่สูญเสียน้องชาย เรือนใจเข้ามาดูแลอย่างดี เทียนกันยาจึงให้เรือนใจเป็นพยาบาลประจำตัวเธอต่อ เพื่อนก้องมางานศพของก้องรวมทั้ง อัพภันดร์ บอกว่าตนเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของก้อง ทุกคนแปลกใจที่อัพภันดร์เข้ามาสนิทสนมกับเทียนกันยา เพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้จากก้องมาก่อนเลย ในงานศพก้องละม่อมเข้ามาทวงสมบัติของตนโดยอ้างสิทธิ์เมียอีกคนของพ่อเทียนกันยา ประทินทนายความของบ้านสุจัณยาว่าละม่อมหมดตัวเพราะผีพนัน ละม่อมโกรธจะเข้ามาทำร้ายเทียนกันยา อัพภันดร์เข้ามาขวาง ทำให้เทียนกันยาชื่นชมอัพภันดร์ การกระทำของอัพภันดร์สร้างความแคลงใจให้กับศล เพราะศลเป็นคนดูแลเอกสารของก้อง แต่ไม่เคยเห็นจดหมายของอัพภันดร์เลยซักฉบับ ศลเตือนเทียนกันยา เทียนกันยาไม่เชื่อและต่อว่าศล ศลจึงได้แต่เฝ้าดูพฤติกรรมของอัพภันดร์อยู่ห่างๆ จรัส ป้าของเทียนกันยาพาชายหนุ่มมาให้เทียนกันยาดูตัวเพราะเป็นห่วงเรื่องคู่ครองของหลาน เทียนกันยาไม่สนใจเพราะแอบชอบอัพภันดร์อยู่แล้ว เมื่องานศพของก้องเรียบร้อยอัพภันดร์ก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านสุจัณยา คอยดูแลเทียนกันยาจนกลายเป็นความรัก อัพภันดร์อ้างว่าสำนักงานทนายความที่เชียงใหม่ซึ่งตัวเองทำงานอยู่ปิดตัวลง ทำให้เขาต้องขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพ เทียนกันยาฝากงานให้ที่สำนักงานทนายความของประทิน และให้เข้ามาพักอยู่ในบ้านสุจัณยาแต่เป็นห้องพักที่เรือนเลี้ยงม้า ไม่ได้อยู่บนบ้านใหญ่ อัพภันดร์ไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จริงๆแล้วเขาไม่ได้จบทนายความอย่างที่บอกไว้ แต่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อหลอกฮุบสมบัติของ เทียนกันยา โดยพยายามตีสนิทประทินทำดีตบตาจนเขาสามารถเข้ามาดูแลทรัพย์สมบัติของเทียนกันยาแทนประณตหลานชายของประทินได้สำเร็จ ความเจ้าชู้ของอัพภันดร์ทำให้เขาได้เสียกับเรือนใจ และอารีเสมียนในสำนักงานของประทิน อัพภันดร์ให้อารีปลอมเอกสารยักยอกเงินของเทียนกันยา แต่ประทินจับได้ อัพภันดร์แก้ตัวโยนความผิดให้ประณต ทำให้ประณตต้องลาออกไปอยู่ชุมพร ภายหลังประทินรู้ความจริงว่าอัพภันดร์ปลอมเอกสารวุฒิการศึกษา และเขาเป็นหลานของละม่อม อัพภันดร์กลัวความลับแตกจึงกำจัดประทินเสียชีวิต เด็กในบ้านเห็นว่าเรือนใจแอบไปเรือนเล็กของอัพภันดร์ จึงไปบอกศล ศลโกรธไปบอกเรื่องนี้กับเทียนกันยา แต่อัพภันดร์กับเรือนใจไม่ยอมรับ และเรียกคะแนนสงสารจากเทียนกันยา เทียนกันยาใจอ่อน สุดท้ายอัพภันดร์ขอเทียนกันยาแต่งงาน ก่อนวันงานอัพภันดร์ให้อารีปลอมจดหมายลายมือเทียนกันยา ส่งหาศลเพื่อไล่ศลออกจากบ้าน ศลเสียใจไม่กลับมาบ้านสุจัณยาอีกเลย อัพภันดร์ให้เรือนใจวางยาเทียนกันยาให้เจ็บอ็อดๆแอ็ดๆเหมือนก้อง ก่อนตายเทียนกันยารู้ความจริงว่าอัพภันดร์คือหลานของละม่อม จึงถูกอัพภันดร์ผลักตกบันได แต่แจ้งกับหมอว่าเทียนกันยาเป็นลมตกบันได เทียนกันยาไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วิญญาณของเธอถูกดูดเข้าไปในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว เจ้าทางเหนือที่นิสัยเปรี้ยวจี๊ด ก็ประสบอุบัติเหตุหนักเข้ามารักษาพร้อมกัน เทียนกันยาฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความดีใจของเจ้าส่องเมือง ละปั๋น สาวใช้ เธอเองก็ตกใจเมื่อพบว่าวิญญาณของตนอยู่ในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว หมอสันนิษฐานว่าเธอความจำเสื่อมชั่วคราว เทียนกันยาจำเป็นต้องอยู่ในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว และเป็นเจ้าบัวคำแก้วตามที่ทุกคนบอก เมื่อออกจากโรงพยาบาลเธอพบว่าร่างของเธอถูกอัพภันดร์เผาไปเรียบร้อยแล้ว อัพภันดร์เห็นเจ้าบัวคำแก้วก็เกิดหลงรักทันที เทียนกันยาใช้ร่างของเจ้าบัวคำแก้วเพื่อสืบเรื่องของอัพภันดร์ต่อไป เจ้าบัวละวง ย่าของเจ้าบัวคำแก้ว และผกาฟ้าพี่สาวต่างแม่ มาที่อยุธยาเพื่อดูอาการของบัวคำแก้ว เทียนกันยารู้จากเจ้าส่องเมืองว่าบัวคำแก้วไม่ค่อยถูกกับเจ้าย่า และไม่ชอบผกาฟ้า เทียนกันยาจึงเข้าไปไหว้ขอโทษเจ้าย่า ยิ่งใกล้ชิดเจ้าย่าก็ยิ่งมั่นใจว่าวิญญาณที่อยู่ในร่างไม่ใช่บัวคำแก้ว เทียนกันยาตัดสินใจเล่าความจริง เจ้าย่าตั้งชื่อใหม่ให้เทียนกันยาว่า บัวเทียน เจ้าบัวเทียนห่วงศลจึงขอให้เจ้าย่าช่วยอุปการะส่งเสียศลต่อ เจ้าย่าให้ส่องเมืองเป็นธุระติดต่อศลเพื่อขอส่งเสียเรียนจนจบแพทย์ และให้บัวเทียนเป็นตัวแทนเขียนจดหมายติดต่อกับศล เจ้าบัวเทียนเข้ามาให้ห้องเก็บรูปและตกใจมากเมื่อพบว่าแท้จริงแล้วเจ้าย่าเป็นย่าทวดอายุเกือบร้อยปีแล้ว เจ้าบัวละวงรู้ว่าตนเองคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานจึงเลือกผู้สืบทอดตำรายาอายุวัฒนะให้เจ้าบัวเทียน อัพภันดร์โมโห เรื่องเรือนริมสระน้ำที่ก้องเขียนยกให้ศลก่อนตาย จึงพาลใส่อารี อารีขอแยกทางกับอัพภันดร์และขอเงินก้อนใหญ่ อัพภันดร์ยอมให้เพื่อแลกกับความลับและขู่ไม่ยอมให้อารีมีความสุขตลอดชีวิต อารีกลัวจึงเล่าความจริงให้ศลฟัง อัพภันดร์จึงตามมาฆ่าปิดปากอารี เมื่อเรียนจบศลขอไปเป็นแพทย์ประจำอนามัยจอมทอง เพื่อทดแทนบุญคุณเจ้าย่า หลังทุกอย่างเรียบร้อยเจ้าย่าก็สิ้นลม ศลปลอบใจบัวเทียน ส่องเมืองไม่พอใจที่ศลสนิทกับเจ้าบัวเทียน บัวเทียนบอกว่าเธอคิดกับส่องเมืองแค่พี่ชาย เจ้าส่องเมืองจึงเริ่มหันไปมองผกาฟ้า ที่ดีกับตนทุกอย่างและแอบรักตนอยู่ อัพภันดร์ลอบยิงศลเพราะโกรธที่ศลแย่งเจ้าบัวเทียนไป บัวเทียนทำทีมาเยี่ยมอัพภันดร์ที่กรุงเทพ เรือนใจกลัวว่าบัวเทียนจะมาแย่งอัพภันดร์ไปจึงจ้างยอดมาฆ่าบัวเทียนแต่ศลมาช่วยไว้ทัน อัพภันดร์วางยาหวังจะข่มขืนบัวเทียน แต่วิญญาณของเจ้าบัวคำแก้วที่วนเวียนอยู่กับร่างของเธอได้เข้ามาช่วยไว้ เรือนใจขัดขวางไม่ให้แผนของอัพภันดร์สำเร็จ ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง อัพภันดร์ยิงเรือนใจ ก่อนตายเรือนใจก็แทงอัพภันดร์อาการสาหัส อัพภันดร์เห็นบัวเทียนเป็นเทียนกันยาจึงพยายามยิงใส่ แต่เขากลับเห็นภาพหลอนวิญญาณของคนที่ตัวเองฆ่าทั้งหมดตามมาทวงชีวิต สุดท้ายอัพภันดร์ก็สิ้นใจตายตามเรือนใจไป เจ้าบัวคำแก้วมาทวงร่างของเธอคืนจากเทียนกันยา แต่เจ้าบัวละวงไม่ยอมและส่งวิญญาณของบัวคำแก้วไปเกิดเป็นลูกสาวของบัวเทียนกับศลแทน ทั้งสองแต่งงานและมาอยู่ที่บ้านสุจัณยา และตั้งชื่อลูกสาวว่า ศรีกัญญา แต่ศรีกัญญาก็เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 20 ปี จากอุบัติเหตุรถชนเหมือนในชาติที่แล้วที่เธอต้องจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุรถคว่ำ พ.ศ.2553 กอหญ้าฟังเรื่องราวตำนานของตระกูลตัวเองด้วยความตื้นตันใจ

ทัดดาวบุษยา 2553

ทัดดาวบุษยา (2553/2010) คุณเด่น บุษยา (อนุสรณ์ เดชะปัญญา) เศรษฐีใหญ่เมืองนนท์แต่งงานอยู่กินกับ จิตรี (สาวิตตรี สามิภักดิ์) อดีตนางงามผู้รักสวยรักงาม รักความสะดวกสบายจนติดเป็นนิสัย ทำให้ขาดคุณสมบัติของภรรยาและสะใภ้ที่ดี คุณหญิงบุษย์ (จารุวรรณ ปัญโญภาส) แม่สามี เกลียดชังจิตรีมาก จึงวางแผนกำจัดจิตรีและหาภรรยาใหม่ให้คุณเด่นคือ คุณเดือน (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) ซึงหลอกคุณหญิงว่าลูกติดท้องของเธอ กับ นายเฉิด (ศุกล พงศทัต) สามีเก่า เป็นลูกของเธอกับคุณเด่น คุณหญิงหลงเชื่อ ประกาศว่าลูกในท้องคุณเดือนคือทายาทแท้ๆ ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรม จิตรีหนีออกจากบ้านบุษยาทั้ง ๆ ที่กำลังตั้งท้อง โดยไม่บอกให้คุณเด่นรู้ เธอหนีมาอยู่เชียงใหม่และคลอดลูกสาวชื่อว่า ทัดดาว (วรกาญจน์ โรจนวัชร) จิตรีพร่ำสอนทัดดาวให้เกลียดพ่อและทุกคนในบ้านบุษยา โดยหารู้ไม่ว่าคุณเด่นได้สืบรู้ที่อยู่และแอบไปมาหาสู่ทัดดาวอยู่บ่อยๆ จนทัดดาวรักและผูกพันกับคุณเด่นมากกว่าจิตรี เมื่อจิตรีจับได้ก็สั่งห้ามไม่ให้พ่อลูกได้พบกันอีก เที่ยง (ดารณีนุช โพธิปิติ) แม่นมของทัดดาวสงสาร จึงแอบพาทัดดาวมาพบคุณเด่น ครั้งล่าสุดที่คุณเด่นกับ ตาพ่วง (สุเชาว์ พงษ์วิไล) มาหา คุณเด่นบอกทัดดาวให้ตั้งใจเรียนและดูแลจิตรีแทนเขาด้วย และยังบอกอีกว่าได้ทำพินัยกรรมยกมรดกทั้งหมดรวมทั้งบ้านบุษยาให้กับทัดดาวแต่เพียงผู้เดียว หลังจากวันนั้นคุณเด่นก็ไม่เคยมาหาทัดดาวอีกเลย ส่วนจิตรีมีหนี้สินจากการเล่นการพนัน ได้ส่งทัดดาวเข้าประกวดนางสาวเชียงใหม่และชนะได้เงินรางวัล เธอได้พบกับ เจ้ายอดขวัญ หรือ เจ้าน้อย (ทฤษฎี สหวงษ์) ที่เข้ามาช่วยเธอจากพวกอันธพาล แต่กลับถูกลูกหลง เจ้าพัฒนา (ดิลก ทองวัฒนา) หลงรักทัดดาวเมื่อมีโอกาสที่จิตรีมาขอความช่วยเหลือเนื่องจากติดหนี้การพนัน จึงยอมช่วยแต่มีข้อแลกเปลี่ยนต้องการแต่งงานกับทัดดาว ทำให้เจ้าน้อยโกรธมากมีปากเสียงกัน ส่วนทัดดาวก็ไม่ยอมเช่นกัน ทั้งเจ้าน้อยและทัดดาว ก็ได้ปะทะคารมและกลายเป็นศัตรูกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทัดดาวหนีออกจากบ้านเมื่อรู้ข่าวการตายของพ่อ และเพื่อไปทวงกรรมสิทธิ์ของบ้านบุษยาคืนโดยมี เที่ยง (ดารณีนุช โพธิปิติ) แม่นมตามไปและให้ปลอมตัวเป็นผู้ชายชื่อสุทัศน์ ส่วนเจ้ายอดขวัญก็หนีออกจากบ้านไปกับ บาง(วิชัย จงประสิทธิพร)คนสนิท โดยไปร่ำลา เจ้าแสงคำ (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) เที่ยงจึงขอให้บางพาเธอและสุทัศน์ไปด้วยดดยเจ้าน้อยไม่รู้ว่าคือทัดดาว ส่วนเจ้าพัฒนาเมื่อทัดดาวหนีไปจึงให้จิตรีมาแต่งงานแทน เธอคิดได้และปรับปรุงตัวใหม่ เพื่อให้สมเป็นภรรยาที่ดีของเจ้าพัฒนา เจ้าน้อยและสุทัศน์สนิทกันมากขึ้น สุทัศน์ขอร้องให้เจ้าน้อยพาไปบ้านบุษยาเจ้าน้อยสงสัย แต่สุทัศน์บอกว่าจะจะไปทวงสิทธิ์แต่บอกเพียงว่าเธอเป็นลูกคุณเด่น เจ้าน้อยมีเพื่อนชื่อ วิธูร (ธนกฤต พานิชวิทย์) และทุกคริ้งที่เขากลับมาเมืองไทยและกรุงเทพฯจะไปพักบ้านบุษยากับวิทูร เจ้าน้อยยังไม่พาสุทัศน์เข้าบ้านบุษยาทั้งหมดมาพัฒนาไร่ที่ปากช่อง ทำให้สุทัศน์ได้รู้ถึงความฝันของเจ้าน้อยและเจ้าแสงคำ ทำให้ทำตัวเหินห่างเจ้าน้อย ในที่สุดเจ้าน้อยก็พาสุทัศน์เข้าบ้านบุษยาในฐานะคนรับใช้ส่วนตัว คุณเดือนไม่ถูกชะตากับสุทัศน์ตั้งแต่แรกเห็น และหวังจะให้ เต็มดวง (สินิทธา บุญยศักดิ์) น้องสาวจับเจ้าน้อยแต่เอกลับเฉยชา สุทัศน์รู้ว่าเต็มดวงเป็นคนที่เธอจะไว้ใจได้ คุณหญิงบุษย์(จารุวรรณ ปัญโญภาส) ย่าของสุทัศน์ที่ล้มเจ็บหลังคุณเด่นตาย รู้สึกถูกชะตากับสุทัศน์ที่แอบมาหาบ่อยๆ เต็มดวงและแต้ม (เมธัส ตรีรัตนวารีสิน) ลูกคุณเดือนมาคอยดูแลคุณหญิงผิดกับ ต้อม (โชติกา วงศ์วิลาศ) ลูกสาวอีกคนของคุณเดือนที่ไม่เคยมาดูแลเลย ต่อมาเกิดปัญหาที่ไร่ เจ้าน้อยต้องกลับไปดู ต้อมขอตามไปด้วยระหว่างที่เจ้าน้อยไม่อยู่สุทัศน์สนิทกับวิธูร ทำให้เจ้าน้อยที่กลับมารู้สึกหึง ขณะที่เรื่องราวความรักกำลังยุ่งเหยิง เจ้าน้อยเริ่มสับสนตัวเอง และต่อมาได้ประกาศหมั้นกับเจ้าแสงคำ ความลับก็เริ่มจะเปิดเผยขึ้นที่ละน้อย สุทัศน์ได้พบกับตาพ่วง ซึ่งเป็นกุญแจไขความลับทั้งหมด แต่แล้วเธอก็ถูกจับไปขังคุณคุณย่าของเธอซึ่งเสียใจกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา เมื่อคุณเดือนรู้ความจริงทั้งหมดจึงหาทางทำร้ายสุทัศน์และคุณย่าของเธอ วิธูรกับเต็มดวงมาช่วยไว้ทัน ทำให้ความจริงถูกเปิดเผย ต้อมเสียใจที่ไม่ได้เกี่ยวดองกับบ้านบุษยาจึงประชดชีวิต แต่ทัดดาวหรือสุทัศน์ช่วยมาได้ ส่วนแต้มเธอส่งให้เรียนต่อ วิธูรลงเอยกับเจ้าแสงคำ ส่วนทัดดาวเมื่อเจ้าน้อยรู้ความจริงแล้วเธอจะจัดการกับความรักอย่างไร ต้องติดตามชม “ทัดดาวบุษยา”

กุหลาบซ่อนหนาม 2553

กุหลาบซ่อนหนาม (2553/2010) พารณ(แดน วรเดช) ชายหนุ่มผู้รักอิสระ หนีออกจากบ้านเพราะถูก ปกรณ์(หนุ่ม สันติสุข) พ่อของเขาขัดขวางความรักกับ ปานนภา(โบว์ โชติมา) ครูอาสาแสนสวย ทั้ง 2 จึงมาใช้ชีวิตอยู่ที่แม่ฮ่องสอน ปกรณ์วางแผนกับภูรินทร์(ออย ธนา) หลอกให้พารณหมั้นกับรุจิรา(แพง พรรณชนิดา) โดยบอกว่าถ้าพารณหมั้นกับรุจิรา เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับความรักของพารณอีก ปานนภาช็อคเมื่อเห็นพารณสวมแหวนให้รุจิรา เมื่อพารณเห็นคนรักยืนร้องไห้ก็จะเข้าไปอธิบาย แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้พารณถูกรถชน กลายเป็นอัมพาตและความจำเสื่อม ปานนภาเสียใจที่ถูกพารณหลอก จึงฆ่าตัวตายพร้อมลูกในท้อง เมื่อปาลิไลยก์(เอ๊ะ อิสริยา) พี่สาวของเธอรู้ก็เสียใจมาก แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือ ปราชญ์(ต้น จักรกฤษณ์)ผู้เป็นพ่อตกใจจนสลบไป ปาลิไลยก์เห็นจดหมายลาตายของปานนภาที่เขียนเรื่องที่พารณหลอก ทำให้ปาลิไลยก์แค้นมาก เมื่อปาลิไลยก์ได้รู้จาก หนูนา(โอ๋ เพชรลดา) เพื่อนสนิทว่าพารณประสบอุบัติเหตุ ปาลิไลยก์จึงปลอมตัวเป็นพยาบาลแทนหนูนาเพื่อแก้แค้นพารณเหมือนกับที่น้องสาว ของเธอเคยได้รับ