รักกระหน่ำซัมเมอร์เซล 2553

เรื่องย่อ : รักกระหน่ำซัมเมอร์เซล (2553/2010) เรื่องราววุ่นๆมากมายเกิดขึ้นเมื่อดีไซเนอร์คนเก่าของบริษัทเสื้อผ้าชื่อดังลาออก “มัดหมี่”รับบทโดย“เบเบ้ – ธันย์ชนก ฤทธินาคา พนักงานรับโทรศัพท์ผู้มีความฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ และมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองจึงเสนอตัวแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ แต่“เจนีส”รับบทโดย“แจง – วราพรรณ หงุ่ยตระกูล” เจ้านายผู้ชอบคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลและไม่ยอมให้มัดหมี่ได้เลื่อนขึ้นเป็นดีไซเนอร์ เพราะมีนโยบายว่า “ดีไซเนอร์ของบริษัทจะต้องเรียนจบจากสถาบันศิลปะชั้นสูงจากต่างประเทศเท่านั้น” มัดหมี่ จึงต้องทำความฝันใช้เวลาหลังเลิกงานมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าของตนเองที่“ตลาดสุขสำราญ”โดยมี“แพรวา”รับบทโดย“น้ำหวาน–กรรณาภรณ์ พวงทอง”เพื่อน สาวสุดที่รักที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถมศึกษามีฐานะการเงินทางบ้านดี มากเป็นผู้ออกทุนให้ทั้งหมด เริ่มแรกแพรวาไม่อยากร่วมหุ้นด้วยเพราะกลัวความลำบากและห่วงว่าหากต้องนอน ดึกดวงตาและใบหน้าจะหมองคล้ำ แต่เมื่อพบว่าร้านที่จะเช่าถูกขนาบด้วยร้านของชายหนุ่มน้าตาดีทั้งซ้ายและ ขวาความลังเลทั้งหมดจึงหมดไปอย่างง่ายดายและยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าเช่า ที่แสนแพงให้ทันที ร้านด้านซ้ายเป็นร้านของ “ตุ๊กแก”รับบทโดย “เต็งหนึ่ง – กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์” หนุ่ม หล่อเซอร์มาดศิลปินทายาทตระกูลไฮโซที่ไม่ชอบความเป็นอภิสิทธิ์ชน โกหกที่บ้านว่าไปเรียนต่อต่างประเทศแต่แท้ที่จริงแอบบออกมาเปิดร้านขายของ แต่งบ้านและงานศิลปะที่เขาออกแบบเอง ร้านด้านขวาเป็นร้านของ “ก้องภพ”รับบทโดย“น้ำ – รพีภัทร เอกพันธ์กุล” หนุ่มหล่อจอมกะล่อนผู้ขายของเครื่องใช้สัพเพเหระหรือเรียกว่าขายทุกอย่างที่คนอยากได้ มุ่งเน้นแต่กำไรเป็นสำคัญไม่เคยคิดเรื่องอื่น มัดหมี่ตั้งใจและพยายามขายของปรับปรุงดูแลร้านให้ดูดีสวยงามตลอดเวลาเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ต่างกับแพรวาที่ไม่สนใจเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องความรัก แต่แพรวาเข้าตำรา“รักพี่ เสียดายน้อง” ตัดสินใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกใครดีระหว่างตุ๊กแกกับก้องภพ ด้านชายหนุ่มทั้ง 2 กลับมีโอกาสใกล้ชิดมัดหมี่มากกว่าแพรวา เพราะหลังจากเปิดร้านได้ไม่นานก้องภพ ก็เข้ามาทำงานที่เดียวกับมัดหมี่ในตอนกลางวัน และตุ๊กแกก็บังเอิญย้ายที่พักมาพักอยู่ที่เดียวกับมัดหมี่ มัดหมี่รู้ดีว่าแพรวาโหดร้ายกับศัตรูหัวใจของตัวเองขนาดไหน มัดหมี่จึงต้องปิดบังเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะถ้าแพรวารู้เรื่องนี้จะต้องถอนหุ้นเป็นแน่ และความฝันที่จะมีแบรนด์เสื้อผ้าของมัดหมี่ก็คงต้องพังทลายลง เรื่องราววุ่น ๆ ได้เกิดขึ้นทั้งที่ทำงาน ตลาดสุขสำราญ หอพัก และจากผู้คนในชุมชนที่รายล้อมรอบตัวมากมาย อาทิ “ลุงชวน” รับบทโดย “เด๋อ ดอกสะเดา” ที่กลางวันทำอาชีพรปภ.บริษัทของมัดหมี่ ส่วนกลางคืนหลังออกเวรมาขายข้าวหมูแดงที่ตลาดเป็นรายได้เสริมต่อ“ป้าชื่น”รับบทโดย“เหมี่ยว–ปวันรัตน์ นาคสุริยะ” กลางวันมีหน้าที่ดูแลหอพัก กลางคืนเปิดร้านขายน้ำปั่นที่ตลาด “วิลเลียม” รับบทโดย“น้องโก๊ะ”หลานลุงชวนกับป้าชื่น เด็กเก็บเงินค่าเข้าห้องน้ำที่ตลาด “วิชัย” รับบทโดย “เอก – วิชัย จงประสิทธิ์พร” คนเก็บเงินค่าเช่าแผงจอมเบ่ง ที่คอยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับป้าชื่นและลุงชวนเป็นประจำ ติดตามชมเรื่องราวมิตรภาพ ความฝัน และความสัมพันธ์ อันอลวนของทั้ง 4 หนุ่มสาว ว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด โดยเฉพาะเรื่องความรักของ“มัดหมี่ , แพรววา , ตุ๊กแก และก้องภพ”นั้นว่าจะลงเอยกันหรือไม่อย่างไร ร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาทั้งหมดได้ใน “รักกระหน่ำ ซัมเมอร์เซล”

วัยป่วน ก๊วนล่าฝัน 2553

เรื่องย่อ : วัยป่วน ก๊วนล่าฝัน (2553/2010) จู่ๆ ฟ้าผ่าเปรี้ยง!!! โรงเรียนเอกชนที่ทำงานมาเกือบ 10 ปี โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน ถึงขั้นปิดกิจการกระทันหัน คุณครูพ่อม่ายลูกติดอย่าง เจริญ (ปกาศิต โบสุวรรณ) ถูกลอย แพ ตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว มึนตึ๊บ ไปไม่เป็น จะหางานใหม่ทำก็แสนยากเย็น สุดท้ายไร้ทางออก ตัดสินใจหันมาพึ่งตัวเอง ใช้เงินชดเชยที่ได้รับกับทุนส่วนตัวที่มี กับความสามารถทางการทำอาหาร อาศัยบ้านเช่าที่ค่อนข้างจะมีบริเวณ ลงทุนปรับเปลี่ยนและเปิดกิจการเป็นร้านอาหารชื่อ “บ้านอิ่มฝัน” ไม่เพียงเจริญที่ต้องปรับตัวเปลี่ยนสถานะจากครูมาทำธุรกิจ น้อยหน่า (เฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) ลูกสาวคนเดียวของเขา ก็อยู่ในช่วงปรับตัวเช่นกัน เธอเพิ่งจบ ม.6 ต้องทิ้งชุดนักเรียนมาใส่เครื่องแบบนักศึกษา เป็นเฟรชชี่ปี 1 คณะนิเทศน์ศาสตร์ จากเด็กหญิงแก่นเซี้ยวเริ่มเป็นสาวน้อย เริ่มมีหนุ่มๆ ตามรุมจีบ

มนต์รักมหานคร 2553

เรื่องย่อ : มนต์รักมหานคร (2553/2010) "เธอหลงเกาหลีแต่พี่เกาเหลา ไม่กินเส้นเขาที่มาหลอกเอาเงินทองน้องไป ฟังเสียงครวญตัวแทนหนุ่มไทย ได้โปรดเปลี่ยนใจ กลับมองหนุ่มไทย ใกล้ ๆ ตัวน้อง" นั่นคือบทเพลงเสียงครวญของหนุ่มไทยกำลังออกอากาศทางคลื่นวิทยุลูกทุ่งสยาม 97.97 เมกะเฮิรตซ์ ในช่วงเพลงช้างเผือก แต่ด้วยความผิดพลาดทางเทคนิคทำให้ทางคลื่นไม่อาจทราบว่าใครเป็นผู้ที่ส่งบทเพลงนี้มา คุณศรชัยผู้เป็นดีเจและเจ้าของคลื่นต้องประกาศตามหาเจ้าของบทเพลงนี้ด่วน นั่นเองจึง ทำให้ ดอกรัก...เด็กวัดจากเมืองสุพรรณบ้านเฮา ผู้มีความฝันและความหวังที่จะเป็นนักแต่งเพลง จนได้แต่งและทำเพลงขึ้นพร้อมกับลุง ๆ แตรวงประจำวัด โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากหลวงพ่อ ดอกรักได้ขออนุญาตหลวงพ่อเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานครเพื่อมาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของบทเพลงเสียงครวญของหนุ่มไทยกับทางคลื่นวิทยุลูกทุ่งสยาม บางทีความฝันของเขาอาจจะเป็นจริงในเร็ววันนี้แล้วก็ได้ แต่ทันทีที่มาถึงกรุงเทพฯ ดอกรักก็ได้รับการต้อนรับจากชาวเมืองหลวงด้วยการวิ่งราวกระเป๋าของเขา ดอกรักพยายามวิ่งไล่เพื่อแย่งกระเป๋าคืน เพราะภายในกระเป๋านั้นมีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของเขา นั่นคือเนื้อเพลงที่เขาและลุง ๆ จากคณะแตรวงภายในวัดร่วมกันทำขึ้น และเป็นหลักฐานชิ้นเดียวว่าเขาเป็นเจ้าของเพลงนั่น นอกจากดอกรัก จะเอากระเป๋ากลับมาไม่ได้แล้วเขายังโดนซ้อมจนสะบักสะบอม แต่เหมือนสวรรค์ยังเมตตา เมื่อดอกรักได้เจอกับป้าคนนึงบอกว่าตัวเองมีบ้านเช่า คิดค่าเช่าราคาถูก ๆ โดยที่ดอกรักได้ให้เงิน ที่ค้นทั้งเนื้อทั้งตัวแล้วมีไม่กี่ร้อยให้กับป้าใจดี ยังดีที่ป้าแกบอกว่ามีแค่ไหนก็เอาแค่นั้นไว้ให้ดอกรักหาเงินได้แล้วค่อยผ่อนจ่ายทีหลังก็ได้ ดอกรักที่เพิ่งเศร้าจากความร้ายกาจของเมืองหลวงถึงกับซาบซึ้งใจ อย่างน้อยกรุงเทพฯ ก็ยังมีคนดี แต่แล้วดอกรักก็ต้องตกใจกับเสียงเอะอะโวยวายของ คำหล้า...สาวโรงงานผลไม้กระป๋อง เพราะคำหล้าคิดว่าดอกรักจะมาปล้นความสาวไปจากตน เสียงโวยวายทำเอาผู้เช่าทุกคนต่างออกมารวมตัวกัน ประกอบด้วย ทะนง...พนักงานรักษาความปลอดภัยผู้มีความฝันที่จะได้เป็นคนในเครื่องแบบ แต่เพราะการศึกษาน้อยทำให้เขาเป็นไม่ได้อย่างที่ใจฝัน ฤทธิ์...หนุ่มชาวปักษ์ใต้ผู้มีอาชีพขายไส้กรอกอีสาน เพื่อนำเงินที่ได้กลับไปไถ่สวนยางคืน ข่อย...หนุ่มแท็กซี่มิเตอร์ชาวอีสานผู้มีใจมั่นในรักแท้ ต้องการหาเงินเพื่อกลับไปแต่งงานกับหญิงอันเป็นที่รักที่บ้านนอก รินทร์...หมอนวดแผนโบราณชาวเชียงใหม่ที่มุ่งหน้ามาเมืองหลวงเพื่อต้องการหาเงินส่งกลับไปให้ครอบครัว อีกคนคือ โอ่ง...เด็กหนุ่มจากโคราช มีความฝันอยากเป็นเหมือน จา พนม แต่จับพลัดจับผลูต้องมาเป็นเด็กส่งพิซซ่าเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง แล้วคนสุดท้ายก็คือเจ้าของบ้านเช่า ที่ทุกคนต่างให้ความยำเกรงนั่นคือ เจ้หวาน...สาวใหญ่ชาวสุโขทัยที่บรรดาลูกบ้านต่างเปลี่ยนชื่อให้แกว่าเจ้เค็ม ดอกรักยืนยันกับเจ้หวานถึงเรื่องเมื่อคืนที่เขาจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้กับป้าใจดีคนนั้นแล้ว ทำให้ทุกคนรู้ได้ทันทีว่าดอกรักเป็นเหยื่อถูกหลอกมาอีกราย ทะนงไล่ดอกรักให้ออกไปแต่ดอกรักอ้อนวอนขอความเมตตาจากเจ้หวานว่าหลังจากที่เขาหางานได้เมื่อไหร่จะนำค่าเช่ามาจ่ายให้ทันที ข่อยรู้สึกเห็นใจคนต่างจังหวัดเหมือนกันจึงช่วยขอร้องเจ้หวานอีกคน จนในที่สุดเจ้หวานก็ยอมเพราะห้องก็ยังว่างอยู่ แต่มีข้อแม้ว่าเจ้ให้เวลาหนึ่งเดือน ถ้าดอกรักไม่นำค่าเช่ามาให้ก็กลับบ้านนอกไป ดอกรักตระเวนออกตามหาชายคนที่ขโมยกระเป๋าของเขาไปจนหมดแรง รู้สึกท้อใจในความเลวร้ายของเมืองหลวง ถ้าเขาเชื่อหลวงพ่อและลุง ๆ แตรวงที่พยายามเตือนเขา เขาก็คงไม่ถูกเมืองหลวงที่หลายคนบอกว่าเป็นสวรรค์ทำร้ายเขาอย่างนี้ ในขณะที่ดอกรักกำลังจะสิ้นหวัง เขาก็ได้พบกับ ดาราราย...หรือ ดาว...สาวน้อยที่เหมือนนางฟ้ามาโปรด ทำให้ดอกรักรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ เสี้ยววินาทีที่เหมือนความฝันนั้นอยู่ ๆ ก็เกิดความชุลมุนวุ่นวาย พอดอกรักรู้สึกตัวอีกทีก็เห็นแต่กระเป๋าสตางค์ใบนึงตกอยู่ เปิดออกดูจึงรู้ว่าเป็นของดาวนั่นเอง ดอกรักตามไปคืนกระเป๋าสตางค์ให้ดาวถึงบ้าน จึงได้รู้ว่าดาวเป็นลูกสาวของลุงโป่ง...เจ้าของสวนอาหารแห่งหนึ่ง ที่มี ศรีสมร...ผู้มีฐานะเป็นน้องเมียและเป็นหัวหน้าแม่ครัวใหญ่ประจำร้าน พี่โมทย์...พนักงานที่ทำทุกอย่างตั้งแต่จ่ายตลาดยันเอ็นเตอร์เทนลูกค้า การพบกันครั้งแรกไม่ค่อยน่าประทับใจนักเพราะเกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดจนลุงโป่งเกลียดขี้หน้าดอกรักเข้าไส้ งห้ามไม่ให้ดอกรักเข้ามาเหยียบที่นี่อีก ดอกรักกลับบ้านเช่าด้วยความเศร้าใจ เพื่อน ๆ เห็นแล้วก็สงสารจึงช่วยกันวางแผนให้ดอกรักได้กลับเข้าไปที่นั่นอีกครั้ง แผนครั้งนี้สำเร็จ ดอกรักสามารถเดินเข้าออกที่ร้านลุงโป่งได้ทุกวัน แถมยังได้ใกล้ชิดกับดาวอีกด้วย แต่ดอกรักจะต้องทำงานทุกอย่างในร้านตามที่ลุงโป่งสั่งเพื่อใช้หนี้ที่เกิดจากความผิดพลาดในแผนครั้งนี้ แม้ว่าจะดอกรักจะถูกลงโทษแต่เขากลับยิ้มอยู่คนเดียวจนทุกคนที่บ้านเช่าพากันสงสัยว่าดอกรักท่าจะบ้า ข่อยได้รู้เรื่องที่ดอกรักแอบชอบดาวก็บอกให้ดอกรักตัดใจก่อนที่จะเสียใจมากไปกว่านี้ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าแกน่ะอยู่บนดินแต่เขาน่ะอยู่บนฟ้า ยิ่งพอนึกถึง ดุ๊ก...ชายหนุ่มที่ลุงโป่งบอกว่าเป็นว่าที่ลูกเขย รอยยิ้มที่กำลังเบ่งบานของดอกรักก็เป็นอันต้องหุบลงทันที ข่อยบอกกับดอกรักว่าพวกเราเป็นคนแปลกหน้าของที่นี่ เหตุผลเดียวที่พวกเราทุกคนมากรุงเทพฯก็เพื่อต้องการชีวิตที่ดีกว่า แล้วสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเรายังอยู่ที่นี่ได้ก็คือความหวังและเสียงเพลง ดอกรักเพิ่งเข้าใจว่าทุกเย็นจะเห็นเหล่าชาวบรรดาบ้านเช่ารวมตัวกันที่สวนเพื่อรอฟังผลงานเพลงของตัวเองที่ส่งไปยังคลื่นวิทยุลูกทุ่งสยามเพื่อรอฟังว่าเมื่อไหร่ผลงานของพวกเขาจะได้ออกอากาศเช่นเดียวกับตน แต่แล้วดอกรักก็ต้องอึ้งไปเมื่อเขาได้ยินเสียงของคุณศรชัย ดีเจประจำคลื่นวิทยุลูกทุ่งสยามได้ประกาศด้วยความดีใจว่าบทเพลงเสียงครวญของหนุ่มไทยนั่นมีผู้แสดงตนเป็นเจ้าของบทเพลงแล้ว !!! ดอกรักจะทำอย่างไรเมื่อเพลงที่เขาแต่งกำลังถูกคนอื่นแอบอ้าง แล้วเรื่องราวความรักที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ของเขากับดาวจะสมหวังหรือไม่ ก็คงต้องคอยลุ้นและคอยเอาใจช่วยกันได้ใน ละครมนต์รักมหานคร ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 น. ทางช่อง 7 สี

สูตรรักกับดักหัวใจ 2553

เรื่องย่อ : สูตรรักกับดักหัวใจ (2553/2010) เรื่องราวของ ครีม (เอมี่ กลิ่นประทุม) ที่ถูกเลย์ออฟจากบริษัท แบบสายฟ้าฟาด นอกจากตัวเองแล้วครีมต้องดูแล ทอม (พัตเตอร์ ภทรนันท์ จามิกรณ์) น้องชายคนเดียวด้วย ในบ้านนอกจากทั้งคู่แล้วยังมี จิตร (แพร เอมเมอรี่) ลูกพี่ลูกน้อง จิตรชอบอ่านนิยายมากโดย เฉพาะนิยายสืบสวนสอบสวน เธอฝันที่จะเป็นนักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวน ครีมกลับไปทำงานพริตตี้ที่เคยทำ 2 สาวคู่หูครีมกับจิตรชอบ ไปนั่งที่ร้านกาแฟ “สูตรรัก” ของ ก็อต (ศรุต วิจิตรานนท์) จนสนิทสนมคุ้นเคย พอรู้ว่าครีมตกงานก็อตก็เลยครีมชวนให้มาทำงานที่ร้านกาแฟสูตรรักด้วยกัน จิตรตกหลุมรักโชค (รังสิต ศิรนานนท์) ชายหนุ่มที่เพิ่งย้ายสำนักงานมาในละแวกนั้น และเข้ามาเป็นลูกค้าประจำคนใหม่ของร้านสูตรรักฯ จิตรบอกครีมด้วยความตื่นเต้นว่าผู้ชายคนนี้ คือชายในอุดมคติของเธอ และเมื่อวันที่ ครีมเห็นหน้าโชค เธอแทบช็อกเพราะโชคคืออดีตที่อยากจะลืมของครีมสมัยมัธยมนั่นเอง แต่เมื่อโชคสอบเรียนต่อมหาวิทยาลัยทางเหนือได้ก็ต้องย้ายไปเรียน โดยไม่บอกกล่าวไม่มีแม้แต่คำลา ครีมจะปฏิเสธหัวใจตัวเองได้อีกนานแค่ไหน โชคจะทำอย่างไรกับความรู้สึกเก่าๆที่ย้อน กลับมาขณะที่ความรู้สึกใหม่ๆกำลังก่อตัวขึ้น จิตรจะเลือกชายในฝัน หรือคนธรรมดาที่รักจริง ก็อตจะกล้าสารภาพรักกับจิตรหรือไม่ ทอมกับหวานจะลงเอยกันอย่างไร และครีมจะสามารถก้าวไปถึงการแข่งขันบาริสต้าระดับโลกได้หรือไม่ “สูตรรัก กับดักหัวใจ” จะทำให้ทุกคนได้ซึ้งนิดๆ หัวเราะเยอะๆไปกับความรักหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีเรื่องรักจากดารารับเชิญอีกมากมายที่จะเข้ามาป่วนความรักทั้งหมดนี้ ให้ได้ลุ้นกันยิ่ง ขึ้นแบบไม่ซ้ำหน้า ล้วนแล้วแต่สนุกสนานเกิดทั้งสุข เศร้า เหงา และเพี้ยน !

ลูกโขน (2553/2010) เสียงปี่พาทย์ขับขานท่วงทำนองไพเพราะ เสนาะหู กำปั้น (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) เด็กหนุ่มวัยเพิ่งแตกพานร่ายรำท่วงท่าของศิลปะโขนได้อย่างวิจิตรและงดงาม ท่วงท่าอันอ่อนช้อย เรียกความสนใจจากผู้ชมไม่ให้ละสายตา แต่ใครจะรู้ว่าเด็กหนุ่มหน้ามนคนนี้…ชีวิตเขาไม่ได้ถูกลิขิตมาเพื่อ เป็น…โขน แต่ถูกขีดเส้นทางเดินเอาไว้แล้วว่า…เขาต้องเป็นแชมป์มวยไทยเท่านั้น !!! 10 กว่าปีก่อน สนามมวยเวทีราชดำเนิน คำรณ (วินัย ไกรบุตร) หรือ พยัคฆ์คำรณ นักมวยไทยดาวรุ่งที่กำลังเจิดจรัสบนเวที ตั้งใจเอาชนะคู่ต่อสู้เพื่อเข็มขัดแชมป์แห่งประเทศไทย หวังเป็นรางวัลให้กับลูกชายคนเล็กที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่นาน แต่แม้จะใส่หัวใจสิงห์สู้ยิบตาคำรณก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับคู่ชกเพราะถูกโกงบน เวที แต่นั่นยังไม่น่าเจ็บใจเท่ากับการถูกพวกมาเฟียในวงการมวยที่ไม่พอใจในความ พ่ายแพ้ของคำรณ สั่งเช็คบิลด้วยความตาย สายทอง (ฐรินดา กรรณสูต) เมียรักของคำรณเอาตัวปกป้องสามีจากกระสุนปืน ช่วงเวลาเป็นและตายที่เหลือ สายทองเลือกชีวิตของลูกน้อยในท้องแทนที่ชีวิตตัวเอง เพราะคิดว่าวันนึงข้างหน้าคำรณจะเลี้ยงลูกชายของเธอให้เป็นชายหนุ่มที่เต็ม เปี่ยมไปด้วยความดีเหมือนกับชายที่เธอรัก คำรณให้สัญญากับเมียรักและตั้งชื่อให้เด็กน้อยหน้าตาน่าเอ็นดูคนนี้ ว่า…กำปั้น ชื่อแห่งเกียรติยศที่จะต้องมาสานฝันของพ่อให้จงได้ กำปั้นเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดของคำรณ ที่ปูทางทุกอย่างไว้สู่เส้นทางการเป็นนักมวย เหมือนกับที่เขากำลังพยายามปลุกปั้น สังเวียน (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) ลูกชายคนโตที่กำลังก้าวสู่อนาคตของนักมวยอย่างที่คำรณหวัง ฝีมือการชกของสังเวียนเป็นที่ถูกใจค่ายมวยเจริญชัยของ เฮียอ๋า (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) แถมสังเวียนยังไปชอบพออยู่กับ หลิว (กัญญา รัตน์เพชร์) เด็กสาวใจแตกเอาแต่ใจตัวเองลูกสาวของเฮียอ๋าที่เฮียอ๋าไม่ห้ามให้คบกันเพราะ เฮียอ๋าอยากได้เด็กฝีมือดีอย่างสังเวียนมาอยู่สังกัด คำรณนับถือเฮียอ๋าเหมือนพี่และมักจะไปสุงสิงเป็นเป้าล่อซ้อมให้พวกนักมวย เป็นประจำ เพราะปัจจุบันคำรณมีอาชีพขับแท๊กซี่เป็นอาชีพหลักไม่ได้ยึดทางมวยหากิน เนื่องจากกระสุนปืนเมื่อในอดีตทำให้คำรณขาเป๋ไปข้างหนึ่ง คำรณภาคภูมิใจที่สามารถปั้นสังเวียนให้เป็นไปในทางที่ตัวเองต้องการแล้ว จึงคิดว่ากำปั้นก็น่าจะจับมาปั้นได้ไม่ยาก แต่หารู้ไม่ว่าทุก ๆ วันหลังจากที่คำรณขับรถไปส่งกำปั้นเรียนแผนกช่างยนต์ในโรงเรียนอาชีวะที่มี ชื่อเสียงทางด้านกีฬาชกมวย รถมอเตอร์ไซค์ของ รำไทย (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ )เด็กสาวหน้าตาน่ารักแต่ก๋ากั๋นจากโรงเรียนนาฏศิลป์จะมาติดเครื่องรอรับ กำปั้นเพื่อหนีการซ้อมในชมรมมวย พาไปฝึกซ้อมนาฏกรรมโขนที่บ้านศิลป์ไทยเป็นประจำ รำไทย เป็นลูกสาวคนเดียวของ ศิลป์ไทย (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) หรือ ครูศิลป์ อดีตครูโขนในกรมศิลป์ เคยเป็นผู้ดีเก่าเจ้าระเบียบ แต่ทุกวันนี้สมบัติที่เหลือติดตัวมีอยู่แค่ 2 อย่าง คือบ้านเรือนไทยริมน้ำหลังสวยที่นายหน้าหลายคนจ้องตาเป็นมัน และวิชาศิลปะการรำโขนที่ครูศิลป์ตั้งใจถ่ายทอดให้กับเด็กรุ่นใหม่ จึงเปิดบ้านรับสอนโขนให้กับเด็ก ๆ ในละแวกนั้น เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ครูศิลป์ไม่เคยคิดถึงเงินทอง ไม่เคยเรียกเก็บเงินค่าสอน แม้ทุกบาสทุกสตางค์ที่หาได้จากการรับงานรำโขนโชว์ตามงานต่าง ๆ ที่ยังมีผู้ว่าจ้าง จะหมดไปกับค่ารักษาอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งของ ดวงใจ (ดวงดาว จารุจินดา) แม่ของรำไทยที่ต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลเป็นประจำ แต่ครูศิลป์ก็ไม่เคยย่อท้อต่อความลำบาก คำนึงที่ครูศิลป์มักจะพูดให้รำไทยและกำปั้นฟังเสมอ ๆ ก็คือ “ถึงจะหมดเนื้อหมดตัวบ้านจะถูกยึด แต่ขอให้โขนยังอยู่ต่อไป” กำปั้นเชื่อและรักในศิลปะการรำโขนมากพอ ๆ กับที่รักรำไทย เด็กหนุ่มสาวสองคนจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อสานต่อปณิธานของครูศิลป์ ยามว่างจากการซ้อมโขน เด็กทั้งคู่มักไปหารายได้พิเศษในย่านตรอกข้าวสารโดยมี ชกลม (ธีรภัทร์ แย้มศรี) เพื่อนสนิทของกำปั้น และพอใจ (ศรศิลป์ มณีวรรณ์) เพื่อนสนิทของรำไทยไปช่วยตั้งแผงขายของด้วย รำไทยเอาหัวโขนจำลองไปขายเป็นของที่ระลึกบ้าง สีซอสามสายแลกเศษสตางค์บ้าง บางครั้งก็ไปรำตามโรงแรม ห้องอาหาร และรับจ้างซ่อมชุด ปักชุดนาฏศิลป์ไทยกับพอใจ ส่วนกำปั้นก็เอากางเกงมวยไปขายให้พวกฝรั่งที่ชื่นชอบศิลปะมวยไทย เมื่อมีฝรั่งสนใจก็มักจะโชว์ท่าทางแม่ไม้มวยไทยให้ฝรั่งดูโดยให้ชกลมเป็นคู่ ชก แต่สิ่งที่กำปั้นทำได้ดีที่สุดก็คือการรำไหว้ครูของมวยไทย เพราะกำปั้นได้ฝึกพื้นฐานการรำโขนมาจากครูศิลป์ ท่วงท่าการไหว้ครูของกำปั้นจึงอ่อนช้อยงดงาม หลายครั้งที่พวกจิ๊กโก๋แถวบ้านรำไทยเจอกำปั้นเดินอยู่กับรำไทย พวกนั้นมักจะแซวกำปั้นว่าเป็นลูกนักมวยประสาอะไรไปหัดรำโขน หาว่ากำปั้นเป็นกะเทยและชอบหาเรื่องกำปั้นกับรำไทยเสมอ ๆ เมื่อเหลืออดกำปั้นจึงงัดเชิงมวยที่ได้เรียนมาจากพ่อเล่นงานพวกนักเลงจน กระเจิง แต่ความลับของกำปั้นก็ปิดไม่มิดเมื่อคำรณขอให้เฮียอ๋าพากำปั้นขึ้นชกบนเวที เป็นคู่เปิดให้กับการชกแข่งของสังเวียน กำปั้นดูไม่มีสมาธิที่จะขึ้นชกเท่าไหร่ เมื่อขึ้นไปเจอคู่ต่อสู้กำปั้นก็เอาแต่ชกสไตล์ป้องกันตัวเองอย่างเดียว โดยเฉพาะกับสองมือที่กำปั้นจะห่วงมากเป็นพิเศษ คำรณพยายามบอกให้ลูกชายชกให้เต็มที่ แต่กำปั้นก็ทำให้พ่อผิดหวังด้วยความพ่ายแพ้ ในขณะที่สังเวียนสามารถเอาชนะคู่ชกได้สมศักดิ์ศรี คำรณเริ่มสงสัยพฤติกรรมของลูกชาย คำพูดของหลาย ๆ คนที่เคยพูดเอาไว้ให้ได้ยินว่าบนเวทีกำปั้นรำไหว้ครูได้ดีกว่าชกจริง จนน่าจะเป็นนางรำมากกว่านักมวย (หรือไอ้กะเทย) คำ รณจึงตามดูพฤติกรรมของลูกชายจนในที่สุดก็เจอความจริงเมื่อตามไปเห็นกำปั้น หนีซ้อมมวยมารำโขนที่บ้านครูศิลป์ คำรณโกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่กำปั้นไม่ฟังคำสั่ง ลงไม้ลงมือตีลูกชายไม่ยั้งต่อหน้าครูศิลป์ และเหล่าบรรดาแม่ยกของครูศิลป์ ป้าสายใจ (ส้มเช้ง 3 ซ่า) สายสมร (ดีใจ ดีดีดี) และ สายพิณ (จิ้ม ชวนชื่น) ที่เอ็นดูรักใคร่กำปั้น ทุกคนพยายามห้ามและขอร้องไม่ให้คำรณตีลูก เหล่าแม่ยกด่าคำรณซะเสียผู้เสียคนทำให้คำรณโกรธกลับไป กำปั้นเสียใจที่ทำให้พ่อโกรธ จึงตัดสินใจขอลาครูศิลป์และรำไทยทิ้งความฝันการรำโขนเพื่อกลับไปทำให้พ่อได้ ภาคภูมิใจ แม้ว่าครูศิลป์จะเสียดายอนาคตในการรำโขนของกำปั้น เพราะฝีมือที่กำปั้นเฝ้าฝึกมาตลอดเวลาหลายปี จะทำให้กำปั้นเป็นความหวังของครูศิลป์ แต่หน้าที่ของลูกที่ต้องกตัญญูต่อพ่อก็ทำให้ครูศิลป์เข้าใจ ยอมปล่อยให้กำปั้นทิ้งโขนแล้วเดินหน้าสู่สังเวียนของมวยไทย แต่กับรำไทยเธอน้อยใจร้องไห้ใส่กำปั้นเพราะคิดว่ากำปั้นน่าจะทำทั้งสองอย่าง ได้ดีทั้งคู่ เพราะมวยไทยกับรำโขนมันก็เป็นศิลปะเหมือนกัน แต่กำปั้นยังไม่เข้าใจ ตอนนี้เขาต้องเลือกทำหน้าที่ของลูกก่อน กำปั้นแอบเห็นพ่อกินเหล้าแล้วร้องไห้ต่อหน้ารูปของแม่ พ่อเสียใจที่ไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ได้ กำปั้นรู้เรื่องวันที่เขาเกิดเป็นวันเดียวกับพี่แม่ตายมาจากพี่ชาย กำปั้นสงสารพ่อและรู้สึกผิด จึงถือพานไปกราบขอขมาพ่อที่เวทีมวยขอให้ยกโทษให้และสัญญากับพ่อว่าจะเลิกรำ โขนอย่างเด็ดขาด ต่อไปนี้เขาจะเป็นนักมวยเพื่อทดแทนพระคุณพ่อ เมื่อกำปั้นสัญญาแบบนั้นคำรณก็ยกโทษให้ลูกและจับกำปั้นให้มุมานะซ้อมมวย เพื่อเจริญรอยตามสังเวียนซึ่งกำลังเป็นนักมวยมีชื่อเสียง กำปั้นพยายามซ้อมตามที่พ่อสั่งทุกอย่างแม้จะต้องเจ็บตัวเขาก็อดทน แต่ใจของกำปั้นก็ยังโหยหาการรำโขนอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งที่เขาเดินผ่านบ้านครูศิลป์ กำปั้นมักจะไปแอบดูรำไทยซ้อมรำและสีซอ แต่เขาก็ไม่กล้าไปสู้หน้าครูศิลป์กับรำไทย เพราะรู้ดีว่าทำให้ครูศิลป์ผิดหวัง จนวันนึงกำปั้นไปเจอพวกทวงหนี้มาทวงเงินแต่ไม่ได้เงินเลยเอาเครื่องดนตรีไทย ในบ้านไปขายแลกเป็นเงิน เพราะครูศิลป์เอาโฉนดบ้านไปจำนองไว้กับพวกนั้นเพื่อเอาเงินไปเป็นค่าใช้จ่าย รักษาน้าดวงใจที่อาการกำลังทรุดหนัก กำปั้นตามไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลและได้เจอครูศิลป์อยู่กับน้าดวงใจ ครูศิลป์ไม่ให้กำปั้นพูดเรื่องที่ตนเอาบ้านทรงไทยไปจำนองจนเป็นหนี้ ดวงใจดีใจที่ได้เห็นกำปั้นและบอกว่าเมื่อไหร่ที่หายออกจากโรงพยาบาลจะตามไป ดูกำปั้นรำโขนในวันพ่อเฉลิมพระเกียรติ แต่ครูศิลป์ต้องบอกให้ดวงใจรู้ว่ากำปั้นเลิกรำโขนแล้ว ดวงใจเสียดายแต่ก็ชื่นชมกำปั้นที่เลือกการทดแทนพระคุณพ่อ รำไทยมาเห็นกำปั้นอยู่กับแม่ก็ไม่พอใจ รำไทยตามไปต่อว่ากำปั้นหลังจากออกจากโรงพยาบาล รำไทยไม่อยากให้กำปั้นมายุ่งกับครอบครัวเธออีก เพราะตอนนี้ครอบครัวเธอไม่เหลือสมบัติอะไรอีกแล้ว นอกจากศิลปะการรำโขนที่พ่อเลือกที่จะรักษาเอาไว้ พ่อทำตามคำพูดที่เคยพูดอยู่เสมอว่า “ถึงจะหมดเนื้อหมดตัว บ้านถูกยึดแต่ก็ขอให้โขนยังอยู่ต่อไป” เพราะฉะนั้นในเมื่อกำปั้นเลือกทิ้งหัวโขนแล้ว กำปั้นก็ไม่ควรมาให้เธอเห็นหน้าอีก กำปั้นรู้สึกเสียใจเก็บเอาคำพูดของรำไทยมาครุ่นคิดโดยไม่ได้เล่าให้พ่อฟัง เพราะพ่อกำลังจะพาเขาไปชกมวย จึงเคี่ยวเข็ญให้เขาขยันซ้อม จนถึงเวลาขึ้นชกกำปั้นยังคงรำไหว้ครูอย่างสวยงาม ลีลาอ่อนช้อยผสมท่ารำโขน เช่นท่า พระรามแผลงศร กำปั้นพยายามชกตามที่พ่อบอกทุกอย่าง แต่คู่ชกของกำปั้นแข็งแกร่งมากกว่าที่คำรณคาดการณ์เอาไว้ กำปั้นอยากทำให้พ่อภูมิใจจึงไม่กลัวเจ็บ พยายามชกอย่างที่สุดแต่ก็โดนพายุหมัดรัวใส่ คำรณสงสารลูกบอกกำปั้นว่าจะขอยอมแพ้ แต่กำปั้นห้ามพ่อแล้วบอกให้พ่อรู้ว่า “ถ้าทำให้พ่อภูมิใจไม่ได้ เขาก็ไม่รู้จะเกิดมาเป็นลูกของพ่อทำไม” กำปั้นยังคงเดินหน้าเข้าชกกับคู่ต่อสู้ แต่ก็โดนหมัดศอกถาโถมเข้าใส่เต็มแรงจนอ่วม ถึงอย่างไรกำปั้นก็ไม่ถอย ยังคงงัดลีลาแม่ไม้มวยไทยที่พ่อสอนมาสู้อย่างสุดกำลัง จนในที่สุดก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ แต่แม้กำปั้นจะชกชนะแต่ก็ถูกล้อเลียน คำรณเลยไม่ได้ภูมิใจในชัยชนะที่ลูกมอบให้กลับต่อว่ากำปั้นที่ไปรำมวยจนดู เป็นนางรำมากกว่านักมวย เป็นตัวตลกให้เขาอับอายขายหน้า กำปั้นเสียใจที่พ่อไม่ภาคภูมิใจในเมื่อเขาทำทุกอย่างเพื่อพ่อแล้ว กำปั้นเผลอขึ้นเสียงกับพ่อด้วยอารมณ์ว่าเขาไม่ใช่คนที่สัญญากับแม่ทำได้แค่ นี้พ่อก็น่าจะดีใจกับเขาบ้าง คำรณโกรธที่กำปั้นเอาเรื่องนี้มาพูดเลยตบหน้าลูกชายไปอย่างแรง กำปั้นเจ็บปวดตัดสินใจถอดนวมโยนทิ้งแล้วเลิกเป็นนักมวยและเป็นลูกอย่างที่ พ่อต้องการ กำปั้นออกจากบ้านไปอยู่กับชกลม กำปั้นไปแอบดูครูศิลป์กับรำไทยซ้อมโขนที่บ้านเช่าที่บรรดาแม่ยกช่วยกันหาที่ ให้ใหม่ รำไทยจะไล่กำปั้นแต่ครูศิลป์ห้ามและอนุญาติให้กำปั้นมาอยู่ด้วยกัน กำปั้นบอกครูศิลป์ว่าเขากลับมาเพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับน้าดวงใจเขาจะ ขึ้นรำโขนในวันพ่อเฉลิมพระเกียรติ ครูศิลป์เห็นความตั้งใจของกำปั้นก็ยอมที่จะให้กำปั้นกลับมารำโขนอีกครั้ง รำไทยแอบดีใจที่กำปั้นกลับมาแต่ก็ยังแกล้งทำเป็นงอน วางฟอร์มไม่ให้เสียหน้ากำปั้น คำ รณยังไม่หายโกรธกำปั้น แต่ก็ยังมีทิฐิไม่ยอมไปตามกำปั้นกลับมาถึงกับบอกใครต่อใครว่ากำปั้นไม่ใช่ ลูกนักมวยแต่มันเป็นลูกโขน คำรณจึงหันไปสนใจสังเวียนที่กำลังจะก้าวขึ้นชิงแชมป์เข็มขัดเดียวกับที่คำรณ เคยพลาดหวังมาเมื่อในอดีต คำรณมั่นใจว่าสังเวียนจะกู้หน้าให้กับตัวเองได้ แต่เมื่อตามไปเชียร์ลูกชายกลับพบว่าสังเวียนพ่ายแพ้อย่างค้านสายตาคนดู คำรณไปคาดคั้นกับสังเวียนเพราะไม่เชื่อว่าสังเวียนจะแพ้ ในที่สุดสังเวียนก็ยอมพูดความจริงกับพ่อว่าที่แพ้เพราะหลิวมาขอร้องให้เขา รับเงินจากเฮียอ๋าเพื่อล้มมวย แม้เขาจะไม่อยากทำแต่เขาก็ต้องยอมเพราะสงสารพ่อที่เป็นหนี้เงินกู้นอกระบบ แถมรถ TAXI คันเก่งของพ่อก็เสียต้องเข้าอู่ซ่อมและก็ไม่มีเงินไปจ่ายค่าซ่อมเอารถออกมา ทำให้พ่อไม่มีรายได้เลย คำรณจุกอกไม่อยากเชื่อว่าลูกชายจะยอมขายศักดิ์ศรีที่เขาเฝ้าอุตส่าห์สั่งสอน ให้ลูกมาตลอด คำรณสั่งให้สังเวียนเอาเงินไปคืนเฮียอ๋า สังเวียนไม่ยอมคำรณจึงแย่งเอาเงินจากสังเวียนไปหาเฮียอ๋าเอง คำรณเอาเงินไปปาใส่หน้าเฮียอ๋าแล้วสั่งให้เลิกยุ่งกับสังเวียน พวกเฮียอ๋าไม่พอใจดูถูกคำรณเป็นแค่ไอ้เป๋ที่มีลูกเป็นกะเทยนางรำแต่อยากปั้น ให้เป็นนักมวยตุ๊ด คำรณเลือดขึ้นหน้ามีเรื่องกับพวกมัน กำปั้นแวะมาหาพ่อพอดีกับที่สังเวียนกำลังตามไปช่วยพ่อ สองพี่น้องไปเจอพ่อกำลังโดนพวกเฮียอ๋าทำร้ายเลยเข้าไปช่วย เฮียอ๋าชักปืนจะยิงกำปั้น คำรณรีบเอาตัวเข้าไปกันกระสุนให้ รำไทยพาตำรวจมาถึงพอดี พวกเฮียอ๋าถูกจับได้ทั้งหมด แต่อาการของคำรณไม่ค่อยดีถูกส่งเข้าโรงพยาบาล คำรณรอดมาได้อย่างหวุดหวิดเพราะกำปั้นพาพ่อมาถึงโรงพยาบาลทันเวลา สังเวียนเข้ามากราบขอโทษพ่อที่ทำให้พ่อผิดหวังและสัญญาว่าต่อไปจะไม่ยอมขาย ศักดิ์ศรีตัวเองอีก กำปั้นแอบดูพ่อกับพี่ชายแล้วไม่อยากเข้าไปเพราะรู้ว่าตัวเองเป็นลูกที่ไม่ เคยทำให้พ่อภูมิใจยอมเดินจากไปตามลำพัง แต่ขณะที่กำปั้นกำลังจะหันหลังกลับ พ่อก็หันมาเห็นกำปั้นพอดี จึงตะโกนด่ากำปั้นว่า “เป็นลูกโขนแล้วกลับมาอีกทำไม ที่นี่มันมีแต่ลูกนักมวย” กำปั้นเสียใจน้ำตานองหน้าบอกพ่อไปว่า “ถ้าเลือกได้ เขาอยากเป็นแค่ลูกที่ทำให้พ่อภูมิใจ” กำปั้นมาหารำไทยกับครูศิลป์แต่พบว่าอาการของน้าดวงใจกำลังแย่ ทุกคนที่บ้านโขนไปดูใจน้าดวงใจกันพร้อมหน้า ดวงใจบอกเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ดูรำไทยกับกำปั้นรำโขนในวันพ่อเฉลิมพระ เกียรติ แต่ก็ดีใจที่สุดท้ายแล้วกำปั้นก็กลับมาช่วยครูศิลป์สืบสานศิลปะโขนต่อไป ดวงใจรู้เรื่องที่ครูศิลป์เอาบ้านไปจำนองจากการได้ยินรำไทยคุยกับ 3 แม่ยก ที่ช่วยรวบรวมเงินมาช่วยยืดเวลาชำระไปได้อีก 1 เดือนก่อนที่จะถึงเดือนธันวาคม ซึ่งขณะโขนของครูศิลป์จะได้รำในงานวันพ่อเฉิลมพระเกียรติ จากงานวันนั้นครูศิลป์จะได้เงินมาจำนวนหนึ่งมาจ่ายหนี้ค่าบ้าน ทำให้สามารถรักษาบ้านทรงไทยเอาไว้ได้อีก ไม่จำเป็นต้องเอาเงินมารักษาเธอ เพราะชีวิตของเธอไม่คุ้มกับการต้องสูญเสียศิลปะโขนสมบัติอันล้ำค่าของทุกคน รำไทยและกำปั้นตัดสินใจพาดวงใจออกมาที่สนามของโรงพยาบาล แล้วแสดงโขนให้ดวงใจดูเพื่อให้ดวงใจได้จากไปอย่างสงบ ในที่สุดการแสดงโขนในวันพ่อเฉลิมพระเกียรติก็มาถึง ก่อนการแสดงจะเริ่มกำปั้นแวะไปหาพ่อที่บ้านเพื่อขอให้พ่อไปดูการแสดงของเขา แต่กำปั้นไปไม่เจอบ้านปิดเงียบเชียบไม่มีใครอยู่ กำปั้นคิดว่าพ่อคงไม่สนใจที่จะไปดูเขานั่นทำให้กำปั้นรู้สึกเสียใจที่เขา เป็นได้แค่ลูกที่ทำให้พ่อภูมิใจไม่ได้ กำปั้น กลับมาที่เวทีการแสดงที่ทุกคนกำลังเตรียมพร้อม แต่ก่อนที่การแสดงจะเริ่มขึ้นไม่กี่นาทีคำรณกับสังเวียนก็เดินทางมาหากำปั้น คำรณขออนุญาติครูศิลป์เป็นผู้สวมชฎา (พระราม) ให้กำปั้นก่อนขึ้นแสดง ด้วยความตื้นตันใจกำปั้นก้มกราบเท้าพ่อสารภาพความในใจว่าตลอดมาเขาอยากทำให้ พ่อภาคภูมิใจเพราะคิดมาตลอดว่าถ้าแม่ไม่เลือกให้เขามีชีวิตอยู่ พ่อก็คงจะได้มีความสุขอยู่กับแม่ คำรณจุกอกกับความคิดซื่อ ๆ ของลูกชาย น้ำตาไหลพร่างพรู บอกกำปั้นทำให้พ่อได้รู้ว่า “มวยไทยมีหน้าที่รักษาชาติรักษาแผ่นดิน โขนก็ช่วยเป็นหน้าเป็นตาของวัฒนธรรมไทย ยามเมื่อสงบเราก็อ่อนช้อย ยามเมื่อถูกรุกรานเราก็มีมวยไทยไว้คอยปกป้อง” สิ่งที่กำปั้นทำอยู่เป็นความภูมิใจของพ่อที่สุดแล้ว คำรณสวมชฎาให้กำปั้นแล้วไปนั่งดูการแสดงโขนที่ดีที่สุดในชีวิตที่ลูกชายของ เขาได้แสดงต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ รอยยิ้มของทุกคนเต็มไปด้วยความปลื้มปิติยินดี ติดตามชม ละครลูกโขน

ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง (2553/2010) นทรา นครที่เคยอุดมรุ่งเรืองมาแสนนาน เกิดแห้งแล้งวิปริตดุจต้องอาถรรพณ์ ในคืนหนึ่งเหนือหัวจันทราทิตย์ (เบญ เบญจมินทร์) สุบินเห็นอสูรย์ร่างกระดูกบอกวิธีแก้ไข โดยให้ไปตามหาดาบ 7 สี รุ่งขึ้น...ความทราบถึงพระโอรสคู่แฝดผู้เป็นความหวังของราชวงศ์ ต่างรีบอาสาสรุปด้วยวิธีจับไม้สั้นไม้ยาว เจ้าชายไกรเดชผู้พี่ชนะ (ฟิวส์-กิตติวงศ์) และออกเดินทางไป แต่ลับหายไร้วี่แวว เจ้าชายเพชราผู้น้อง (ฟิวส์-กิตติวงศ์)ทูลขอติดตาม เหนือหัวจันทราทิตย์ทรงอนุญาต ทั้งที่ทรงวิตกว่าจะเป็นอย่างไร หากดาบ 7 สี เป็นเพียงตำนานเล่าขานเจ้าชายเพชรา (ฟิวส์-กิตติวงศ์) และหัวหมู่แก้ว (จัตวา) ทหารคนสนิทเดินทางผ่านป่าใหญ่ อันเป็นที่สถิตบำเพเพ็ญพรตของ 5 มหาฤษีดัดตนทรงฤทธิ์อันมีนามว่า โอม สุ จิ ปุ ลิ ได้ร่วมกันผนึกกำลังพลังหลอมไม้เท้าวิเศษขึ้น สามารถพูดได้เป็นพหูสูตแปลงเป็นม้าบิน และอาวุธทวนคู่กายโดยใช้ชื่อของฤาษี โอม-สุ-จิ-ปุ-ลิ เป็นคาถากำกับ ส่วนเจ้าแก้วได้ลูกอมวิเศษ อมแล้วสามารถยืดหดตัวได้

ตุ๊กตาทอง 2553

เรื่องย่อ : ตุ๊กตาทอง (2553/2010) ณ นครไกรจักร กษัตริย์พัฒธิพงษ์ ขยายอาณาเขตด้วยวิธีเล่นพนัน ชนไก่ กัดปลา เอาบ้านเมือง มีศรีสัจจาเป็นมเหสีฝ่ายขวา สร้อยสวรรค์เป็นมเหสีฝ่ายซ้าย สองมเหสีมีใจริษยาต่อกัน และไร้ซึ้งรัชทายาท หลังพนันชนไก่ได้นครปัญจาแล้ว กษัตริย์พัฒธิพงษ์ได้ทำพิธีบวงสรวงของลูกจากเทพยดาใน วันเกิดสุริยคลาส พร้อมทำบุญแผ่กุศลให้แก่วิญญาณอาฆาตของบรรดาสัตว์ที่ต้องเจ็บตายในการพนันเมือง ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดอยู่ในความสนใจ เฝ้ามองของราชาตั๊กแตน หรือ องค์ตั๊ก สองมเหสีให้กำเนิดโอรสในเวลาไล่เลี่ยกัน ศรีสัจจามเหสีคลอดโอรสน่ารักน่าชัง ฝ่าย สร้อยสวรรค์คลอดกุมารตุ๊กตา ไม่นึกรักกลับเกลียดชัง อีกทั้งสร้อยสวรรค์เกรงกษัตริย์พัฒธิพงษ์ไม่เสน่หา ทั้งมีราชาตั๊กแตนคอยยุแยงให้สลับกุมารตุ๊กตากับโอรสศรีสัจจามเหสี เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นในนครไกรจักร กษัตริย์พัฒธิพงษ์ ใคร่รู้ว่ากุมารตุ๊กตาที่กำเนิดมาเป็นผู้มีบุญญาธิการ หรือเป็นกาลกิณี เลยสั่งให้ โหราธิบดีทำนายดวงชะตา จากที่โหรเฒ่าเพ่งพิศดวงชะตา รู้แจ้งว่ากุมารตุ๊กตามีกุมารน้อยรูปงาม ทรงอำนาจวาสนาแฝงองค์ อยู่ แต่ด้วยถูกสร้อยสวรรค์มเหสีฝ่ายซ้ายให้สินบนกับนางมณฑาเมียรัก กำชับให้ทำนายทายทักว่ากุมาร ตุ๊กตาเป็นกาลกิณี มีภูติร้ายสิง ควรเนรเทศศรีสัจจามเหสีและกุมารตุ๊กตาพ้นจากนครไกรจักรภายใน 7 วัน เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปติดตามชมได้ในละคร ตุ๊กตาทอง

คุณชายตำระเบิด 2553

เรื่องย่อ : คุณชายตำระเบิด (2553/2010) ณ หมู่บ้านอันห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ที่เพิงหมาแหงนริมถนนนั้น เป็นที่เลื่องชื่อของรสมือการตำส้มตำรสแซ่บหลาย ถูกใจชาวบ้านชาวช่องเป็นนักหนา ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ ผู้ลงมือเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำล่ำสัน ที่มีชื่อว่า ไอ้เผือก ฝีมือระดับเซียนที่หาคนมาเทียบเทียมได้ยาก ทั้งลาบหมู น้ำตก ต้มแซ่บ ไก่ย่าง ล้วนแต่อร่อยจนแทบไม่เหลือให้หมาที่ทำตาละห้อยแถวนั้นได้กินเลยสักวัน แต่ที่ต้องยกให้เป็นสุดยอดซุปเปอร์เมนูต้องเป็น ตำระเบิด เท่านั้น ส้มตำสูตรพิเศษรสแซ่บถึงเครื่อง ไม่มีหวงเครื่องปรุงให้เสียอารมณ์ ยิ่งกินกับขนมจีนด้วยแล้วละก็ หลายต่อหลายคนยอมนั่งรถจากในตัวเมืองมาลองลิ้มชิมรสตำระเบิดของเผือกกันอย่างถ้วนหน้า อันที่จริงเผือกน่าจะรวยเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว แต่เพราะ ทองมี พ่อของเผือกนั้นติดเหล้าอย่างหนัก ไถเงินลูกชายไปให้ร้านเหล้า ยาดอง ในตัวอำเภอตลอด พอไม่ให้ก็ตบตี เผือกจำใจต้องยอมให้พ่อเพราะไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญู เขาไม่ได้หวงเงินพ่อ แต่ไม่อยากให้พ่อเมาหัวราน้ำมากกว่า เท่านั้นยังไม่พอ รำจวญ ผู้เป็นแม่ก็ติดเล่นไพ่ งานการไม่ทำ วัน ๆ ขลุกอยู่แต่ในบ่อน คงไม่ต้องบอกว่าเงินที่เอาไปเล่นไพ่แทงหวยทุกวันนั้นมาจากใคร ถ้าไม่ใช่ เผือก ดีที่ยังมี ยายดวง กับ ผึ้ง สองยายหลานที่คอยเป็นกำลังใจให้เผือกสู้กับชีวิต ยายดวงเองไม่อยากเป็นภาระของหลาน อยากมาช่วยเผือกขายส้มตำ แต่ก็ฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว ทำได้แค่ช่วยเตรียมข้าวของให้ ส่วนผึ้งนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.6 แล้ว หญิงสาวมาช่วยพี่ชายขายส้มตำหลังจากเลิกเรียน และวันเสาร์อาทิตย์ผึ้งเองตั้งใจว่าถ้าจบ ม.6 แล้ว จะไม่เรียนต่อ เพราะสงสารเผือกที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว แต่เผือกไม่ยอม ไม่ว่าเขาจะทำงานเหนื่อยหรือหนักแค่ไหน เขาก็อยากให้น้องสาวคนเดียวของเขาได้เรียนสูง ๆ เท่าที่จะทำได้ เพื่อทดแทนความฝันของเขาที่อยากเรียนแต่ไม่มีเงินเรียน จึงจบมาแค่วุฒิ ม.6 เท่านั้น วันหนึ่ง มีชายแปลกหน้ามาขายล็อตเตอรี่ที่หมู่บ้าน แต่ไม่มีใครสนใจซื้อ ต่างก็เอาเงินไปเล่นหวยใต้ดินของ เจ๊ ในตัวอำเภอมากกว่า ชายคนนั้นหิวจนหน้ามืดเป็นลมตรงหน้าร้านส้มตำของเผือก เผือกจึงช่วยปฐมพยาบาลไว้และให้กินอาหารในร้านฟรี เพราะชายคนนั้นบอกว่าไม่มีเงิน โดยเผือกไม่เคยรู้เลยว่าแค่คำว่า "ไม่เป็นไรพี่...มีกินก็แบ่ง ๆ กัน"

แม่ศรีไพร 2553

เรื่องย่อ : แม่ศรีไพร (2553/2010) ในค่ำคืนที่บรรยากาศของการฉลองงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ ประจัน (รังสิโรจน์ พันธุ์เพิ่ง) นักธุรกิจหนุ่มระดับพ่อเลี้ยงภาคเหนือ กำลังดื่มฉลองคืนวิวาห์ของเขาอย่างมีความสุข ในขณะที่ ก้อนทอง (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) เจ้าสาวของเขา กลับเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องเพียงลำพัง เพราะความเศร้าใจที่ถูก ละม้าย (ดวงดาว จารุจินดา) ผู้เป็นแม่บังคับให้แต่งงาน แต่แล้วบรรยากาศของการฉลองก็ต้องจบลง โดยที่ประจันไม่ทันตั้งตัว เมื่อ อินทร (อัษฏาวุธ เหลืองสุนทร) แอบบุกเข้าไปฉุดก้อนทองออกมาจากเรือนหอ โดยมีลูกน้องคู่ใจ ส่างพลอ (นวพล ภูวดล) กับพลายบุญมีมารับตัวอินทรกับก้อนท้องหนีเข้าป่าไปในความมืด ประจันโกรธแค้นสุดขีดออกตามล่าหาตัวคนร้ายที่มาหยามศักดิ์ศรีฉุดเอาเจ้าสาวของเข้าไป ในขณะที่ก้อนทองรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนหลังช้างในป่าลึก ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายวันในการเดินทาง เธอยังถูกอินทรชายหนุ่มหนวดเครารุงรังพูดจาถากถางและกลั่นแกล้งต่าง ๆ นา ๆ โดยที่เธอไม่รู้เหตุผลเลยว่าทำไมอินทรต้องจับตัวเธอมากักขังไว้ที่หมู่บ้าน พะโส กลางป่าลึกและยากที่ใครจะเดินทางถึง ก้อนทองกลายเป็นคนที่ใคร ๆ ต่างก็ให้ความสนใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งเพราะรู้ว่าเธอเป็นคนของ พ่ออินทร เว้นแต่ เหมยเจียง (อรวรรษา ฐานวิเศษ) สาวดาวยั่วประจำหมู่บ้านที่หลงรักอินทร จึงพยายามวางแผนหาทางกลั่นแกล้งและกำจัดก้อนทองให้ออกไปจากหมู่บ้าน แต่ก็ถูก อาละแต (ณิชานันท์ ฟั่นแก้ว) สาวสวยจิตใจงามที่อินทรไว้วางใจให้คอยดูแลก้อนทอง คอยช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา หลายครั้งที่ก้อนทองอดคิดไม่ได้ว่าทำไมชาวบ้านจึงรักและนับถืออินทรเยี่ยงพ่อ แล้วเวลาก็เฉลยคำตอบให้ก้อนทองรู้ว่าเพราะอินทรเป็นคนที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านทุกคน ทั้งเรื่องการเกษตร ยารักษาโรคและสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ ทำให้หญิงสาวคิดได้ทันทีว่าอินทรต้องไม่ใช่คนป่าธรรมดาแน่นอน ช่วงเวลาที่ก้อนทองใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้าน ทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ มากมาย ความสัมพันธ์ของอินทรกับก้อนทองงอกงามขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และตอนนี้หญิงสาวก็ลืมชีวิตในเมืองไปสนิท ยิ่งทั้งสองคนช่วยกันพัฒนาหมู่บ้าน ชาวบ้านก็ยิ่งรักและเอ็นดูทั้งคู่ ทำให้ พะส่วย (สิทธิชัย ผาบชมภู) หนุ่มจอมเกเรที่ทะเยอทะยานอยากจะเป็นผู้นำหมู่บ้านเกิดไม่พอใจ หนำซ้ำยังก่อเรื่องเลวร้ายฉุดเอาตัว มะสะยอง (แมงปอ ชลธิชา) ไปขืนใจ พร้อมกับฆ่า ปาโจ (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) คนรักของมะสะยองตาย อินทรโกรธมากแต่ไม่ต้องการให้เลือดชั่วของพะส่วยเปื้อนแผ่นดินจึงออกคำสั่งเนรเทศพะส่วยออกจากหมู่บ้านไป พะส่วยแค้นจัดประกาศจะกลับมาล้างแค้นและเป็นผู้นำหมู่บ้านนี้ให้ได้ ประจันกับพวกออกเดินทางไปในป่าลึก โดยมี พรานด้วง คอยนำทางให้ ในคืนหนึ่งประจันเจอพะส่วยและช่วยเหลือเอาไว้ พะส่วยยอมเป็นพวกอาสานำทางประจันเข้าหมู่บ้านพะโสไปรับก้อนทอง ในขณะที่ก้อนทองตัดสินใจถามถึงสาเหตุที่อินทรจับตัวเธอมา อินทรได้ฟังก็มีอาการเศร้าลงทันที พร้อมเล่าความหลังที่แสนเจ็บปวดว่า เขาเคยเข้าพิธีวิวาห์กับคนรักที่ชื่อ ทับทิม แต่ก่อนจะเข้าเรือนหอ ทับทิมถูกประจันข่มขืน ตัวเขาเองต้องกลายมาเป็นฆาตกรฆ่าคนรักของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว และต้องระหกระเหินมาเป็นชาวป่าอยู่จนทุกวันนี้ เรื่องราวที่ได้ยินทำให้ก้อนทองสงสารและเห็นใจอินทร แล้วก็มาถึงวันที่ประจันบุกมาที่หมู่บ้านพะโส อินทรสั่งไม่ให้ทุกคนต่อสู้ เพราะเขารู้ดีว่าประจันมาเพื่ออะไร เขาจึงพาก้อนทองหนีไปอยู่ที่หุบสาง หุบเขาแห่งความตายที่ไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไป ประจันโมโหมากที่ชาวบ้านไม่ยอมเอ่ยปากบอกความจริง ประจันเผาบ้านไปหลายหลังด้วยความโกรธแค้น ขณะที่ชาวบ้านต่างประจานพะส่วย ที่ทำตัวเป็นไส้ศึก ประจันใช้หมู่บ้านพะโสเป็นฐานที่มั่นในการตามล่าตัวอินทร และทำให้ประจันได้พบกับอาละแต ที่กำลังโศกเศร้ากับการจากไปของอินทร ความเป็นคนดีของอาละแต ทำให้ประจันเกิดความรู้สึกชื่นชมในตัวหญิงสาวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ในหุบสาง ความลำบากทำให้อินทรและก้อนทองรักกันมากขึ้น และได้เสียกันที่นั่น พอดีจังหวะประจันบุกเข้ามาถึงที่ซ่อนของเขา ประจันถึงกับต้องตะลึกเมื่อได้เห็นหน้าอินทร ทั้งสองคนตรงเข้าต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ความลับจะถูกเปิดเผยว่าแท้จริงแล้ว อินทรก็คือ ประเจษ น้องชายแท้ ๆ ของประจันที่หายตัวไปอย่างลึกลับนั่นเอง สองพี่น้องเข้าใจกันแล้ว ประจันชวนอินทรหรือประเจษไปอยู่ด้วยกันในเมือง แต่อินทรไม่ไปอ้างว่าพะโสเป็นบ้านของเขา ประจันจึงพาก้อนทองกลับเข้าเมืองโดยเธอไม่อาจจะบอกความจริงได้ ก้อนทองอยู่ในเมืองอย่างไม่มีความสุข ในขณะที่อินทรก็เป็นทุกข์เศร้าคิดถึงก้อนทอง อาละแตทนเห็นอินทรทุกข์ใจอยู่ไม่ได้ก็เข้าเมืองไปเผยความจริง ประจันพบอาละแตอีกครั้งก็รู้ตัวว่าเขารักอาละแต พอรู้ว่าก้อนทองกับอินทรรักกัน ประจันก็ยอมให้ก้อนทองกลับไปบ้านพะโสอีกครั้ง แม้คุณนายละม้ายจะคัดค้านแต่ก้อนทองก็บอกเธอทำเพื่อแม่มามาก แล้วขอทำเพื่อหัวใจตัวเองบ้าง คุณนายละม้ายจำต้องยอมปล่อยให้ก้อนทองไปอยู่บ้านพะโส และครองรักกับอินทรอย่างมีความสุข เป็น แม่ศรีไพร ของอินทรและเป็นขวัญใจของชาวพะโสตลอดไป ติดตามชม ละครแม่ศรีไพร ได้ทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี

เปรี้ยวตลาดแตก 2553

เรื่องย่อ : เปรี้ยวตลาดแตก (2553/2010) อีเปรี้ยวตลาดแตก สมญานี้ ชาวบ้านอำเภอปลายดง พร้อมใจกันตั้งให้ เปรี้ยว (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) สาวแก่นเก่ง และแกร่งกล้า ที่แม้แต่ชายอกสามศอกยังต้องสยบให้กับความห้าวของเธอ แต่ก็เหมือนสวรรค์แกล้ง ส่งคู่ปรับหมายเลขหนึ่ง อย่างร้อยตำรวจเอก เชียรฉาย ชนานนท์ (เขตต์ ฐานทัพ) มาเป็นสารวัตรประจำสภอ. ปลายดง แต่สารวัตรเชียรฉาย กับเปรี้ยวก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่แรกเจอ เพราะเปรี้ยวดันไปออกฤทธิ์กับเชียรฉาย โดยไม่รู้ว่ากำลังต่อกรอยู่กับสารวัตรคนใหม่ จนทั้งคู่พบหน้ากันเมื่อไร ต้องปะทะกันตลอด แม้ว่าจะมี อาสำอาง (พิมพรรณ ชลายนคุปต์) ที่เลี้ยงเปรี้ยวมาแต่แบเบาะคอยห้ามปราม แต่ลับหลังอาสำอาง เปรี้ยวต้องหาทางแกล้งเชียรฉายอย่างเจ็บแสบ ที่เปรี้ยวแก่น กร้าวเกินหญิงได้ขนาดนี้ คงจะมาจากการอบรมเลี้ยงดูของ พ่ออวน (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) ที่หอบลูกและพาน้องสำอางหลบหนีจากกรุงเทพฯ มากบดานอยู่ในอำเภอปลายดงตั้งแต่ เปรี้ยวยังแบเบาะ อวนไม่คบค้าสมาคมกับใคร แถมยังสอนหนังสือเปรี้ยวด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้เปรี้ยวไปโรงเรียน ไม่ให้สังคมกับใคร ทำให้เปรี้ยวมีความหวาดระแวง และโหยหาความรักจากแม่ แต่การทำงานของสารวัตรเชียรฉาย ก็มีอุปสรรคจากผู้ทรงอิทธิพลตัวบ่อนทำลายท้องถิ่นอันดับหนึ่งคือกำนันสาย (โกวิท วัฒนกุล) เจ้าพ่อไม้เถื่อนจอมโหดและ เสี่ยเส็งศักดิ์ (พิพัฒน์พล โกมารทัต) เจ้าของโรงสี โรงเลื่อย นายทุนหน้าเลือดที่ผูกขาดธุรกิจเกือบทั้งอำเภอ ทั้งสองเริ่มต้นแผนด้วยการให้ของกำนัลแพง ๆ แต่เสี่ยเส็งมีแผนลึกซึ้งถึงขั้นจับคู่ให้กับ สิริยา (อภิษฎา เครือคงคา) ลูกสาวคนโปรดที่เพิ่งเรียนแฟชั่นดีไซน์จบมาจากฝรั่งเศส สิริยาเองก็เต็มใจนำเสนอ แต่กลับถูกเชียรฉายปฏิเสธ แต่ความสนิทสนมของเขากับสำอาง ยังทำให้ แสน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกชายกำนันสายที่ทั้งหึง ทั้งแค้น เพราะแสนตามจีบสำอางมานาน แต่สำอางไม่เคยมีใจให้ รายต่อมาคือเปรี้ยว ที่ไม่อยากให้อาคบกับศัตรูของเธอ จึงหันหน้ามาปรองดองกันชั่วคราว เพื่อกำจัดเชียรฉายไปให้พ้นหน้าอีกรายหนึ่งที่แอบเสียใจคือ หมู่ปลิว (รวิช ไรวินทร์) ตำรวจม่ายเมียทิ้ง ที่หวังจะได้สำอางมาเป็นยารักษาแผลใจ แต่เมื่อโดนสารวัตรเชียรฉายที่หมู่ปลิวนับถือมาตัดหน้า ก็เลยได้แต่น้ำตาตกใน ต่อมาเปรี้ยวหาทางซ่อมสะพานข้ามช่องเขาขาด เส้นทางเก่าแก่ที่ชาวอำเภอปลายดงใช้ติดต่อกับโลกภายนอก ที่กำลังชำรุดทรุดโทรมด้วยตัวเอง โดยติดสินบนแสนว่า ถ้าแสนแอบเอาไม้ของกำนันสายมาให้ซ่อมสะพานได้ เปรี้ยวจะเปิดทางสะดวกให้แสนได้ใกล้ชิดกับสำอาง แสนตกลงทันที โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งหมดอยู่ในสายตาของเชียรฉาย จนมาถึงกำหนดส่งมอบไม้เถื่อน ในวันทอดกฐินจากคณะของกรุงเทพฯ เชียรฉายเข้าจับกุมเปรี้ยวไว้ได้พร้อมหลักฐาน ขณะกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้น เปี๊ยกกระโดดหนีลงมาทับหมู่ปลิวจนปืนในมือเกิดลั่นขึ้น ทำให้คนขับตกใจเสียงปืนจนรถแฉลบพลิกคว่ำ เชียรฉายกับหมู่ปลิวต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ เปรี้ยวที่กำลังโดนคุมตัวก็กลับร่วมเสี่ยงตายพร้อมเชียรฉาย เข้าช่วย ชีวิตทุกคนบนรถออกมาได้อย่างหวุดหวิด ท่านอธิบดีอังศุธร (ตฤณ เศรษฐโชค) กับคุณทิพย์จันทร์ (มัณฑนา หิมะทองคำ) ภรรยา และบุตรสาวทั้งสองคือ แพทย์หญิงแขฉวี (อธิชนัน ศรีเสวก) กับไขลดา (ปาลิตา โกศลศักดิ์) ที่รอดชีวิตมาได้รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของสารวัตรเชียรฉายกับเปรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่คืนนั้น ท่านอธิบดี กับภรรยาและลูกจำเป็นต้องค้างที่วัดเพราะรถเสียหาย ไขลดามีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง รู้สึกหงุดหงิด ตลอด แต่แขฉวีกลับหลงรักทุกอย่าง เชียรฉายพูดคุยกับแขฉวีอย่างถูกคอ ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาที่จากกัน เชียรฉายก็ชักมั่นใจว่าแขฉวีคือผู้หญิงแบบที่เขาตามหามานานแสนนาน พร้อมชวนให้แขฉวีสมัครมาเป็นแพทย์ประจำอนามัยอำเภอ ชาวบ้านต่างพากันดีใจให้การต้อนรับแพทย์หญิงคนใหม่ เปรี้ยวเองเข้ากับหมอแขได้เป็นอย่างดี เปรี้ยวดีใจที่มีหมอมาประจำอำเภอ หมอแขรู้สึกผูกพันเอ็นดูเปรี้ยวเหมือนน้องสาว เชียรฉายขอให้หมอช่วยอบรมเปรี้ยวให้เป็นผู้หญิงเรียบร้อยขึ้นบ้าง ซึ่งตั้งแต่หมอมาอยู่ เชียรฉายดูกระตือรือร้นขึ้น จนชาวบ้านลือกันว่าคงจะมีข่าวดีระหว่างสารวัตรกับคุณหมอในไม่ช้า แต่ทั้งเชียรฉายและเปรี้ยวกลับเริ่มมาคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองกันอีกครั้ง กระทั่งวันหนึ่งเปรี้ยวช่วยพ่อเก็บหน่อไม้อยู่ในป่า พบกำนันสายและเสี่ยเส็งศักดิ์กำลังร่วมมือกันตัดไม้ทำลายป่า เปรี้ยวโกรธแค้นต้องจัดการให้ได้ เปรี้ยวเลยสั่งเปี๊ยกไปเอากล้องและซื้อฟิล์มมา หมอแขฉวีมาตามเปรี้ยวถึงบ้านด้วยความเป็นห่วง แต่เปรี้ยวไม่อยู่ จึงได้มีโอกาสได้พูดคุยกับสำอาง และต่างก็พูดคุยกันถูกคอ จนเมื่ออวนรู้ว่าพ่อแม่ของหมอแขฉวีชื่อ อธิบดีอังศุธร และคุณทิพย์จันทร์ ทั้งอวนและสำอางต่างตกตะลึง อวนบอกให้หมอแขฉวีกลับไป หมอแอบสงสัยคิดว่าอวนรู้จักพ่อแม่ตนในใจ แต่อวน ปฎิเสธและออกปากไล่ จนเชียรฉายมารับหมอกลับบ้าน คุณทิพย์จันทร์เฝ้านึกถึงแววตาของเปรี้ยวอยู่ตลอดเวลา จนเธอชวนสามีและไขลดา ไปอำเภอปลายดงอีกครั้งอ้างว่าไปเยี่ยมแขฉวี ต่อมาเชียรฉายได้รับซองเอกเป็นรูปคนกำลังตัดไม้ พอจะประมวลได้ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าเกิดขึ้น เชียรฉายมาปรึกษาหมู่ปลิว และคิดว่ารูปนี้อาจเป็นฝีมือของเปรี้ยว แต่เชียรฉายไม่เชื่อว่าเปรี้ยวจะทำสิ่งดี ๆ แบบนี้ เปรี้ยวโมโหที่ได้ยินประโยคนี้ จนไม่ยอมพบหน้าเขาหลายวัน แต่หมู่ปลิวบอกว่าสารวัตรยังรู้จักเปรี้ยวน้อยเกินไป ถึงภายนอกจะดูร้าย แต่เปรี้ยวรักปลายดงมาก ส่วนหมอแขฉวีช่วยง้อและอธิบายเหตุผลจนเปรี้ยวเข้าใจ จึงขอให้เปรี้ยวช่วยพาไปรับพ่อแม่ที่สถานีรถไฟ ท่านอธิบดีและภรรยาแสดงความเอ็นดูเปรี้ยว จนเปรี้ยวรู้สึกอบอุ่นผูกพันกับครอบครัวของหมอแขฉวีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ในขณะที่ไขลดาหงุดหงิดไม่พอใจไปเสียทุกอย่าง เมื่อคุณทิพย์จันทร์ รู้ว่าเปรี้ยวเป็นลูกของอวน จึงแวะมาหาที่บ้าน แต่อวนไม่ยอมคุยและไล่ทิพย์จันทร์กลับไป จนสำอางขอให้อวนพูดความจริงและทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อวนไม่ยอม ต่อมาคุณทิพย์จันทร์หาโอกาสปรึกษากับท่านอธิบดีเรื่องเปรี้ยว ท่านอธิบดีร้อนรนจะชิงเอาตัวเปรี้ยวกลับมาให้ได้ ทิพย์จันทร์ห้ามว่าอย่าเพิ่งใช้ความรุนแรง และต้องทำความเข้าใจกับแขฉวี ไขลดา ให้รับความจริงว่าไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่หมอแขฉวีมาแอบได้ยินเข้า เธอจึงบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าได้ยินทุกอย่าง และรู้มานานแล้ว แต่ปัญหาคือ กลัวไขลดาจะรับไม่ได้ และที่สำคัญคือ จะต้องหาวิธีให้นายอวนคืนเปรี้ยวมาให้พ่อแม่โดยเร็ว หมอแขฉวีไปเจรจาขอร้องให้อวนคืนเปรี้ยวให้พ่อแม่ แต่อวนไม่ยอม สำอางจึงเล่าเรื่องในอดีตให้แขฉวีฟังจนหมดว่า อวนหลงรักคุณทิพย์จนคลั่ง เมื่อคุณทิพย์แต่งงานมีลูก จึงไปขโมยตัวเด็กคือ เปรี้ยวออกมาเพื่อแก้แค้น ทั้ง ๆ ที่คุณทิพย์ไม่รู้เรื่องด้วยเลย สำอางต้องยอมตามมาอยู่ที่ปลายดงเพราะสงสารเปรี้ยว กลัวอวนจะเลี้ยงไม่รอด แขฉวีจึงวางแผนปรึกษาเชียรฉาย เพื่อเอาตัวเปรี้ยวกลับไป ที่แค้มป์คนงานตัดไม้กลางป่า เปรี้ยวถูกเชียรฉายส่งไปดึงดูดความสนใจคนงานเพื่อถ่วงเวลา ให้กำลังตำรวจบุกโอบล้อมเข้าไปทุกด้าน เปรี้ยวถ่วงเวลาไป รอตำรวจบุกไปจนเกือบจะโดนคนงานบุกเข้ารุมทึ้ง เชียรฉายถึงสั่งบุกเหมือนจะถ่วงเวลาแกล้งกัน ในที่สุด ตำรวจจับกุมคนงานลักลอบตัดไม้ได้เกือบยกแก๊ง แต่คนที่หนีไปได้ คือกำนันสาย และเสี่ยเส็งศักดิ์ หัวโจกตัวร้ายที่สุด คืนนั้น เปรี้ยวเข้ามาได้ยินสำอางคุยกับอวนขอให้ส่งตัวเปรี้ยวคืนกับพ่แม่แท้ ๆ แต่อวนกับสำอางไม่ตอบเปรี้ยววิ่งหนีออกไปจากบ้าน ส่วนกำนันสาย เสี่ยเส็งศักดิ์ และสิริยาหนีมาหลบซ่อนที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง และหวังจะจัดการกับเปรี้ยว เท่านั้นไม่พอยังคิดจะลักพาตัวแขฉวีเพื่อเป็นเครื่องมือต่อรองด้วยซึ่งเมื่อแขฉวี ถูกลากตัวไปขังไว้ที่กระท่อมท้ายไร่ แต่โชคยังดีที่เปรี้ยวชิงตัวหมอออกมาได้ แต่เมื่อกลับมาบ้าน ก็ถูกสารวัตรเชียรฉายที่ยังไม่ทันได้ชี้แจงอะไร ต่อว่าเปรี้ยวอย่างรุนแรง ที่ออกมาเที่ยวนอกบ้าน ทั้จนเปรี้ยวงอนหนีไป แต่ไขลดากลับหายไปอีกคน ไขลาดถูกพวกของเสี่ยเส็งศักคิ์กับสิริยาคุกคาม ต่อรองให้เชียรฉาย และแขฉวี ทำตามที่ขบวนการค้าไม้เถื่อนต้องการ เชียรฉายวางแผนบุกชิงตัวประกัน แต่ต้องอาศัยเปรี้ยว จึงต้องตามไปง้อขอร้องให้เปรี้ยวช่วย ที่บ้านกำนัน แสนปรึกษากับเปรี้ยวว่าจะล่อให้ลูกน้องกำนันดื่มน้ำผสมยานอนหลับ แล้วให้เปรี้ยวเข้าไปช่วยตัวประกัน ที่เขาช่วยเปรี้ยวเพราะไม่อยากให้พ่อทำผิดมากไปกว่านี้ เปรี้ยวรับปากว่าจะช่วยเชียร์แสนขาดใจ ทั้งคู่จัดการตามแผน เปรี้ยวเข้าไปช่วยไขลดาออกมา แต่เจอกำนันขวางทางและโดนกำนันยิงที่ขา เปรี้ยวดึงให้ไขลดาวิ่งหนีไปทั้งที่ตัวเองถูกยิง จนมาประจันหน้ากับเสี่ยเส็งศักดิ์และสิริยา เปรี้ยวเอาตัวเองบังไขลดา สิริยายุเตี่ยให้ยิงทั้งคู่ ก่อนที่ปืนจะลั่น อวนกระโดดเข้ารับกระสุนแทนตน ก่อนเปรี้ยวจะหมดสติไป... เปรี้ยวฟื้นขึ้นมาในอ้อมอกของคุณทิพย์ สำอางบอกเปรี้ยวว่านี่คือแม่แท้ ๆ ของเปรี้ยว เปรี้ยวถามถึงพ่อ แต่อวนได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของพ่อไปแล้ว เปรี้ยวเสียใจมาก ที่สถานีรถไฟ สารวัตรเชียรฉาย มาส่งเปรี้ยว พร้อมชาวบ้าน จนรถไฟใกล้จะออก เชียรฉายจึงรวบรวมกำลังใจเข้าไปจับมือบอกเปรี้ยวว่า ให้กลับมาเร็ว ๆ เพราะที่นี่ (แตะที่หัวใจ) คือเขตสัมปทานของไอ้เปรี้ยวแต่เพียงผู้เดียว กระทั่งหลายเดือนต่อมา สารวัตรเชียรฉายมองสำรวจรอบตลาด ชาวบ้านรีบเร่งปิดร้านหนีอะไรบางอย่าง พ่อแม่รีบดึงลูกเข้าบ้าน ไม่กี่วินาทีตลาดก็เงียบสงัด เชียรฉายรำพึงกับตัวเองว่า อีเปรี้ยวตลาดแตก เสียงเปรี้ยวรับคำดังมาจากข้างหลัง เชียรฉายหันกลับไปเห็นสาวน้อยน่ารักในชุดกระโปรงสวยเก๋สมตัว เชียรฉายตะลึงมองแล้วเดินเข้าไปโอบกอดไว้อย่างหวงแหน เจ้าของสัมปทานหัวใจแต่เพียงผู้เดียวของเขากลับมาแล้ว ชาวบ้านที่หลบอยู่ออกมาไชโยโห่ร้อง ต้อนรับเปรี้ยวกันอย่างครึกครื้น สมกับเป็นการกลับมาของอีเปรี้ยวตลาดแตกที่รักของทุกคน.... ติดตามชม ละครเปรี้ยวตลาดแตก ได้ทางช่อง 7 สี ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.45 – 19.45 น. ละครเปรี้ยวตลาดแตก เริ่มตอนแรก ศุกร์ที่ 25 มิ.ย. 2553

มนต์รักสายฟ้าแลบ 2553

เรื่องย่อ : มนต์รักสายฟ้าแลบ (2553/2010) กัลย์กมล เด็กสาวกำพร้าแม่วัยยี่สิบ เรียนมหาวิทยาลัยปีสอง อาศัยอยู่กับพ่อคือ นายเก่ง และแม่เลี้ยงคือ วิภา มีน้องชายต่างแม่อายุหกขวบชื่อ น้องกร วิภาไม่ยอมให้กัลย์เรียนหนังสืออ้างว่าไม่มีเงินส่งเสียและเงินที่มีจะให้น้องกรเรียนคนเดียวเท่านั้นให้กัลย์เสียสละ กัลย์จึงมาวางแผนกับ ไอ้ท่อกเพื่อนสนิทมีอาชีพเป็นคนขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างโดยมีน้องกรเป็นผู้ช่วยคิดด้วยการไปเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์มาจากร้าน เสี่ยเลี้ยง กัลย์จึงมีอาชีพเลี้ยงตัวเองและส่งตัวเองเรียนด้วยการขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง รับส่งเอกสาร รับส่งน้องหมาไปหาหมอ บางครั้งก็โดนพวกเด็กแว๊นก่อกวนมีเรื่องราวแต่ก็เอาตัวรอดไปเพราะพวกเพื่อนมอเตอร์ไซด์มาช่วย วิภารู้เรื่องนี้จึงไปเบียดบังเอาเงินที่กัลย์ได้มาไปใช้ พอกัลย์ไม่ให้ก็ใส่ร้ายกับเก่งว่ากันไม่ดี กรพยายามแก้แทนพี่สาวแต่เก่งไม่ฟัง กัลย์จึงโดนพ่อทำโทษเสมอ เวลาที่เศร้าใจกัลย์มักพากรไปนั่งระบายความเศร้าที่หอนาฬิกาเป็นประจำ ปราณสม เป็นลูกชายมหาเศรษฐีใหญ่ตายแล้วสิบชาติก็ใช้ไม่หมด กำลังเรียนปริญญาโทแต่โดนเรียกให้กลับมาบริหารงานแทนพ่อคือ นายดนัย ที่กำลังป่วยเป็นมะเร็ง ปราณสมไม่อยากกลับมาเพราะกำลังมีความสุขอยู่กับ นรีนุช คนรักที่หมายมั่นว่าจะแต่งงานกันหลังจากเรียนจบ ปราณสมคิดว่าถ้าพ่อหายจะกลับไปเรียนต่อ ปราณสมมีนิสัยต่างจาก คุณนายนวลแข ผู้เป็นแม่ วิมลแข พี่สาวและนพ น้องชาย คือเป็นคนติดดิน ส่วนคนอื่น ๆ จะเย่อหยิ่งและคิดว่าใครก็อยากจะมาจับเพื่อแต่งงานด้วย ปราณสมกลับมาทำตัวดีทั้งที่ไม่มีความสุข มิหนำซ้ำยังโดนจับคู่ให้กับ เดือนฉาย ลูกสาวของ เดือนเต็ม เพื่อนสนิทของนวลแขที่ทำธุรกิจอัญมณีอยู่ต่างจังหวัด และซื้อบ้านให้เดือนฉายพักอยู่ที่กรุงเทพตามลำพัง ธุรกิจของเดือนเต็มขาลงแต่ปิดบังไว้ เดือนเต็มประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ก่อนตายฝากฝังและทวงสัญญาเรื่องแต่งงานกับปราณสม ปราณสมตกใจไม่เคยรู้มาก่อน อึกอักแต่นวลแขกับวิมลแขรีบรับปาก เดือนฉายดีใจมาก เดือนเต็มตายตาหลับ เดือนฉายพยายามชวนปราณสมไปบ้านบ่อย ๆ เพื่ออ่อยให้หลวมตัว วิภาไปกู้เงินนอกระบบมาจากเสี่ยเลี้ยง เอาบ้านไปจำนำไว้ไม่มีเงินส่งดอก เสี่ยมาทวงถึงบ้านพร้อมกับสมุนเพื่อซ้อมวิภากับเก่ง กัลย์กับกรมาพบเข้าจึงเข้าช่วยเหลือ เสี่ยเลี้ยงดีใจรู้ว่ากัลย์เป็นลูกเก่ง เลิกทวงกลายเป็นเช้าถึงเย็นถึงเอาของมาให้ ในที่สุดตกลงกับวิภาว่าให้ยกกัลย์ให้เพื่อแลกกับการยกหนี้ให้ทั้งหมดและแถมเงินอีกก้อน กัลย์ไม่ยอมแต่สงสารพ่อที่ต้องโดนทำร้ายและทวงหนี้ โดนขู่เอาชีวิต กัลย์จำใจตกลง แต่กรบอกว่ามีวิธีช่วยเหลือทำให้เสี่ยไม่แตะต้องกัลย์ แต่รอให้ถึงวันแต่งจริงก่อน ให้เสี่ยคืนโฉนดและฉีกสัญญาเงินกู้ทิ้งก่อน ส่วนปราณสมก็พูดไม่ออกเรื่องแต่งงานจึงแอบขี่มอเตอร์ไซด์ที่ซื้อมาขับเล่นโดยมีไซด์คาร์ด้านข้างเพื่อเอา น้องกิ่ง ที่ชอบติดสอยห้อยตามไปด้วย นั่งพากันไปนอกเมือง ผ่านหอนาฬิกาแห่งหนึ่งเป็นประจำ ขณะผ่านไปปราณสมสังเกตเห็นผู้หญิงสาวคนหนึ่งมานั่งเศร้าซึมเหม่อลอยเป็นประจำ นึกแปลกใจ จำหน้าได้แต่ไม่เคยจอดรถทักทาย ส่วนน้องกิ่งมักทำถุงขนมบ้าง แก้วน้ำบ้างหล่นจากมือ ไปใส่เอาหัวกรเสมอ ถ้าเป็นน้ำกรจะชูมือโวยวายไล่หลัง ถ้าเป็นขนมกรจะเอาไปกิน เด็กสองคนแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกกันประจำ ถึงวันแต่งงานของทั้งสองซึ่งเหลือเชื่อว่าเป็นวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน ต่างแค่สถานที่ ขณะที่กัลย์เข้าพิธีได้รับแหวนหมั้น ได้รับทองเป็นสินสอด โฉนดที่ดินและสัญญาเงินกู้คืนให้พ่อ แม่เลี้ยง กำลังจะเริ่มพิธีจดทะเบียนสมรส รอนายอำเภอ ก่อนหน้านั้นกรได้บอกให้ท่อกไปบอกบรรดาเมียน้อยทั้งหลายห้าหกคนของเสี่ยมุ่งหน้ามาอาละวาด พังงานโดยจัดมอเตอร์ไซด์รับส่ง ส่วนตัวกรเองก็ไปกระซิบว่าความจริงเขาไม่ใช่ลูกของวิภา แต่เป็นลูกของกัลย์ เสี่ยตะลึง นายอำเภอมาละล้าละลัง จากนั้นกองทัพภรรยาน้อยบุกมาอาละวาดงานป่วน กัลย์กับกรพากันหนีขี่มอเตอร์ไซด์คู่ชีพไปพ้นจากงานแบบไม่รู้ว่าจะไปไหน ส่วนปราณสมก็เช่นกัน หลังจากมอบแหวน มอบสินสอด ปราณสมกำลังรอนายอำเภอมาจดทะเบียนสมรส ก่อนหน้านั้นน้องกิ่งแอบวางแผนเดินห่างไปแล้วโทรไปหาเดือนฉายบอกว่าเป็นลูกของปราณสม แม่ของเธอกับเธออยู่ในงานแล้ว เตรียมตัวจะทำลายพิธีจดทะเบียน ทำให้เดือนฉายสั่นไปหมด หันไปเจอเอาแขกที่พาลูกมางานจึงโดดไปทำร้าย หาว่ามาทำลายพิธีเกิดปั่นป่วนกันไปหมด น้องกิ่งฉวยโอกาสฉุดมือปราณสมวิ่งหนีออกมาพากันมาขี่มอเตอร์ไซด์พุ่งหนีออกจากงานอย่างไร้ทิศทาง กว่าเสี่ยเลี้ยงจะเข้าใจว่าโดนกรหลอก กว่าจะเคลียร์กับเมียทั้งห้าได้ กัลย์กับกรก็เตลิดหายไปนานแล้ว ทางบ้านปราณสมก็เช่นกันกว่าจะเข้าใจว่ามีมือดีที่น่าจะเป็นน้องกิ่งโทรมาอำให้ทำร้ายคนอื่น ก็ไม่ทันแล้ว ส่วนกัลย์ขี่มอเตอร์ไซด์หนีมา มีพวกกองทัพมอเตอร์ไซด์รับจ้างนำโดยท่อกมาส่งและคุ้มกัน ร่ำลากัน ทุกคนมอบเงินจำนวนหนึ่งจากน้ำพักน้ำแรงให้กรกับกัลย์ กัลย์บอกว่าจะหลบไปหากินถิ่นอื่นแล้วจะโทรมาบอกความเป็นไป จากนั้นกัลย์มุ่งหน้าไปโดยยังคิดไม่ออกว่าไปทางไหน กะจะไปหาบ้านเช่า กัลย์ขับรถไปคิดไปใจลอยน้ำตาไหล ปราณสมขับรถมา ประสาทเสียมา ฝนทำท่าจะตก ท้องฟ้ามืด รถมอเตอร์ไซด์ของกัลย์กับรถมอเตอร์ไซด์ของปราณสมแล่นสวนกันในทางแคบ ๆ สายฟ้าแล่บเปรี๊ยงลงมา สองคนตาพร่ารถเฉี่ยวกันต่างล้มลงทั้งคู่ หลังจากฟ้าแล่บผ่านไป ทั้งสองคนล้มลงมากองเกาะกันอยู่ ส่วนเด็กสองคนก็ล้มมากองใส่กัน ปราณสมเห็นกัลย์นึกออกว่าเคยเห็นที่หอนาฬิกา ส่วนเด็กสองคนจำกันได้ลุกขึ้นมาตีกันทะเลาะกัน สองคนห้ามเด็ก เด็กไม่หยุด ฟ้าแล่บอีกครั้ง สองคนจึงดึงน้องของตัวเองหลุดจากกันได้และเริ่มทะเลาะกันเองต่อ เด็กสองคนจึงห้ามผู้ใหญ่บ้าง ต่างเหนื่อยกันทั้งหมดตกลงเลิกทะเลาะกันกลายเป็นมาถามไถ่ กรแนะนำว่าเป็นลูกชายของกัลย์ทำเอาปราณสมตกใจมาก ส่วนกิ่งแนะนำว่าเป็นน้องของปราณสม เด็กสองคนแยกตัวไปนั่งกินขนมที่ผ่านมาขาย ส่วนปราณกับกัลย์นั่งมองหน้าไม่สบอารมณ์กัน เด็กสองคนยื่นไมตรีให้กันเป็นเพื่อนกันคุยกันจนรู้ความทุกข์ของแต่ละฝ่ายจึงคิดแก้ปัญหาให้กัน ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่ากัลย์กับกรจะได้มีที่พักและปราณสมก็จะได้ไปหลอกทุกคนว่ามีภรรยาและลูกแล้วจริงคือกัลย์และกร ต่อไปถ้าเสี่ยเลี้ยงเจอกัลย์จะมาเอาตัวกัลย์คืนไปไม่ได้เพราะกัลย์มีสามีแล้วและกรพบพ่อจริงแล้วคือปราณสม เด็กสองคนเอาข้อเสนอนี้ไปบอกปราณสมและกัลย์ทีแรกสองคนไม่รับข้อเสนอ แต่ปราณสมมาคิดอีกทีก็เห็นดีด้วย ในที่สุดกัลย์ก็เห็นดีด้วย โดยมีข้อแม้ว่าจะแต่งงานกันแต่ในนาม ทั้งหมดจึงพากันไปจดทะเบียนและกลับบ้านปราณสมที่กรุงเทพฯ นวลแข วิมลแขและนพถึงกับช๊อคและโกรธมาก แต่แทนที่จะโกรธปราณสมกลับไปลงที่กัลย์หาว่าเป็นแม่ม้ายลูกติดจะมาจับปราณสม เดือนฉายก็คลั่งแค้นเพราะโดนแย่งว่าที่สามีไปซึ่งหน้า ไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ปราณสมบอก กัลย์อยู่ที่บ้านปราณสมอย่างทุลักทุเล โดนรังเกียจ ปราณสมหอบเอากัลย์ไปนอนห้องเดียวกันแต่ห้องของปราณสมมีห้องทำงานอยู่ด้วยจึงไม่มีปัญหา นวลแขกับวิมลแขมักเรียกกัลย์ไปพบบอกให้เงินและให้ไปจากที่บ้านของพวกเธอ กรไม่ยอม ไปบอกให้กัลย์สู้เพราะกรกับกิ่งมีความรู้สึกว่าสองคนนี่คู่กัน กัลย์โดนราวีจากทุกฝ่ายแต่ไม่กล้าไปไหนไกลเพราะกลัวเแม่เลี้ยงกับเสี่ยตามเจอเนื่องจากท่อกบอกว่าทั้งสองกำลังพลิกแผ่นดินตามหากัลย์กับกร ส่วนนพแอบพอใจกัลย์แต่โดนปราณสมปรามเอาไว้เพราะแอบหวง ประกอบกับแม่และพี่สาวคอยจ้องอยู่จึงหันไปคบ ทิพยจันทร์ หมอนวด จนหมอนวดท้อง พาลูกเข้ามาแสดงตัวถึงบ้านและไม่ยอมไปไหนทำให้นวลแขพูดไม่ออก แถมปราณสมสงสารเด็กในท้องจึงให้พักอาศัยอยู่ ทิพยจันทร์กลับแอบมาปิ๊งปราณสมและคิดว่าปราณสมน่าจะดีกว่านพ ตลอดเวลาเดือนฉายก็มาแสดงตัวว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของปราณสม ต่อมานรีนุชคนรักตัวจริงของปราณสมตามมาสมทบจึงเกิดรักหลายเส้าขึ้นระหว่างเดือนฉายและนรีนุช มีทิพยจันทร์ปนเปด้วยบางครั้งและ ลากเอากัลย์ติดบ่วงไปด้วยทุกครั้ง ส่วนกัลย์ถึงแม้ว่าปราณสมจะพยายามให้เงินก็ไม่ยอมรับเพราะคิดว่าแค่ได้ที่ซุกหัวนอนและอาหารก็พอแล้วจึงออกหางานทำเองด้วยการทำอาชีพเดิมคือขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง รับจ้างส่งเอกสาร และรับจ้างส่งน้องหมา มีปัญหากับวินปากซอยเสมอเพราะไม่มีเสื้อวินทำให้กิ่งกับกรต้องแอบไปขอเงินปราณสมมาซื้อให้และบอกให้ผ่อนใช้ภายหลัง คุณนวลแขกับวิมลแขและนพมารู้ว่ากัลย์แอบทำงานนี้ก็โกรธและอายมาก ห้ามเด็ดขาดแต่กัลย์ไม่เชื่อบอกว่าเป็นสิทธ์ของเธอ เดือนฉายที่แท้กลายเป็นญาติกับเสี่ยจึงไปรู้เรื่องนี้โดยบังเอิญ รีบไปรายงานเสี่ยเลี้ยง เสี่ยเลี้ยงไปบอกวิภา วิภากับเสี่ยจะพากันมาเอาตัวกัลย์คืนแต่ไม่สำเร็จและประกอบกับวิภาเห็นว่าปราณสมรวยกว่าเสี่ยมากจึงพยายามตัดรอนเสี่ย เมื่อไม่สำเร็จเสี่ยกับเดือนฉายจึงวางแผนเล่นงานกัลย์แต่โดนกองทัพมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาคุ้มกันกัลย์เอาไว้ วิมลแขไปร่วมธุรกิจกับเพื่อนรักคือ หม่อมดวงแก้ว ชายา ท่านชายสุขสม ไปมีเรื่องกันเพราะคิดจะแฮปท่านชาย กลายเป็นโดนประจานว่ามีลูกเป็นหนูกิ่งแล้วไม่ยอมรับ เอาไปให้แม่รับมาเลี้ยงเพราะอาย หนูกิ่งเสียใจมากเตลิดหนีหายไปจากบ้าน นวลแขเสียใจมากเพราะรักหนูกิ่งยิ่งกว่าลูก กินไม่ได้นอนไม่หลับ หนูกิ่งหนีไปเจอเอาเดือนฉาย เดือนฉายจึงไปวางแผนกับเสี่ยเลี้ยงจับเอาไปเรียกค่าไถ่ต่อรองให้ปราณสมเลิกกับกัลย์ และให้ส่งกัลย์มาแลกตัวคืน ปราณสมไม่ยอมแต่กัลย์ยอมอาสาไปแลกเปลี่ยนตัวกับน้องกิ่งทำให้คุณนวลแขและวิมลแขเห็นความดีของกัลย์ กรวางแผนกับปราณสมเพื่อเอาตัวกัลย์กลับคืน มีท่อกและกลุ่มกองทัพมอเตอร์ไซด์ร่วมมือบุกชิงตัวด้วย ในที่สุดทั้งความสามารถของกัลย์เอง ทั้งการช่วยเหลือของกร ปราณสมและกองทัพมอเตอร์ไซด์ ทำให้กัลย์หลุดพ้นมา เสี่ยเลี้ยงโดนจับ เดือนฉายโดนซัดทอด นรีนุชถอดใจ วิมลแขปรับความเข้าใจกับหนูกิ่ง นวลแขยอมรับความจริงว่าลูกของทิพยจันทร์คือหลานตัวเอง นพยอมรับทิพยจันทร์ แต่กัลย์ขอหย่าคืนอิสรภาพตามกฎหมายให้กับปราณสมเพื่อไปหานรีนุช แต่นรีนุชกลับขอไปใช้ชีวิตต่อที่เมืองนอกเพราะรู้ดีว่าเอาชนะใจปราณสมไม่ได้อีกต่อไป วิภากับเก่งขอโทษกัลย์ สัญญาว่าจะไม่ทำผิดกับกัลย์อีก กัลย์กลับไปบ้านใช้ชีวิตเหมือนเดิมเรียนหนังสือขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง รับส่งเอกสาร รับส่งน้องหมา แต่แล้ววันหนึ่งด้วยการวางแผนของกิ่งและกร กัลย์ไปรับน้องหมาที่บ้านหลังหนึ่งปรากฏว่าบ้านหลังนั้นคือบ้านของปราณสมและน้องหมาของปราณสม ปราณสมขอกัลย์แต่งงาน เขาสารภาพว่าแอบพอใจกัลย์ตั้งแต่ผ่านหอนาฬิกาและหลงรักกัลย์ตั้งรถเฉี่ยวกันตอนสายฟ้าแล่บแล้วว่ากัลย์คือคนที่ใช่ กัลย์นึกในใจว่ากัลย์ก็เป็นอย่างนั้นแต่ไม่พูดออกมาว่ารักของเธอกับปราณสมคือรักสายฟ้าแล่บจริง ๆ ติดตามชมเรื่องราวควาามสนุกสนานของ ละครมนต์รักสายฟ้าแลบ ได้ทุกวันเวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี

เพลงรักทะเลใต้ 2553

เรื่องย่อ : เพลงรักทะเลใต้ (2553/2010) บ้านทะเลใต้ หมู่บ้านเล็ก ๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีงานบุญประเพณีที่ยิ่งใหญ่ประจำปี คือบุญเดือนสิบ และเป็นวันบุญใหญ่เปิดให้ชาวบ้านจากทั่วสารทิศได้มาสักการะ พระน้อย พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยศรีวิชัย ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของทุกคนด้วย ในงานบุญเดือนสิบ ไม่ได้มีแค่พิธีชิงเปรต แต่มีศึกชิงนางเกิดขึ้นควบคู่กันเมื่อ นคร (ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) หนุ่มหน้าคมเลือดร้อน ผู้มีจิตใจเดียว พยายามขอความรักจาก สวย (อุ่น ปรียานุช อาสนจินดา) สาวสวยประจำหมู่บ้าน ด้วยการเปิดวงเพลงบรรเลงเพลงจีบ เป็นที่ครื้นเครงในงานบุญ แต่สวยยังแทงกั๊ก ไม่ตอบตกลงซะที นครตามติดสวยทุกฝีก้าว แต่ถูก พ่อผู้ใหญ่คม (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) ขัดขวาง ไม่อยากได้ลูกเขยเป็นหนุ่มสวนยางจน ๆ แถมยังเชียร์ แม็ค (แดน ดนัย สมุทรโคจร) หนุ่มเจ้าเสน่ห์ ขาวใสลูกชายโทนของ เจ๊เอียด (อำภา ภูษิต) เศรษฐีนีเจ้าของโรงรับซื้อยางและของทะเลผู้ทรงอิทธิพลในอำเภอ สวยเองก็เหมือนจะเปิดทางให้กับแม็ค นครทนไม่ไหวปราดเข้าไปต่อยหน้าแม็คกลางงานบุญ บรรดาผองเพื่อนอย่าง เทพ (โก๊ะตี๋) นักศึกษานิติรามปี 8 หัวหมอรู้ข้อกฎหมาย ที่เพิ่งกลับจากกรุงเทพฯ และเพื่อนต่างวัยอย่าง น้าไข่ (วีระชัย หัตถโกวิทย์) ภารโรงที่เป็นเสือเก่ากลับใจฉายาไข่ดำร่วมตะลุมบอนด้วย ครูสันติ (อู ภาณุ สุวรรณโณ) ครูพละหล่อเข้ม ทำหน้าที่เข้าไปห้ามศึก และช่วยเหลือแม็ค ทำให้นครไม่ชอบหน้าครูสันติ เหมารวมว่าเป็นพวกแม็ค จะเปิดศึกกับครูสันติอีกยก ร้อนถึง หลวงปู่เสม (สุภักดิ์ ปิติธรรม) เจ้าอาวาสวัดพระน้อย ปู่ของนคร ต้องห้ามศึกและต่อว่านครยกใหญ่ พ่อผู้ใหญ่ดูถูกซ้ำว่านครเป็นได้แค่พวกชอบใช้ความรุนแรง และสวยเองก็ดูเหมือนจะเข้าข้างแม็คเต็มที่ นครเสียใจ ท้อใจ กลุ้มใจ ปวดใจ หนีเข้าไปนั่งรักษาแผลใจใต้ต้นยางหลังเขา นคร หยิบเม้าท์ออแกน มาร้องเพลงระบายความรักที่มีต่อสวย และแล้วใครคนหนึ่งก็เข้ามาหานคร นครหลงดีใจคิดว่าเป็นสวย แต่กลับเป็น สาว (เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) สาวตาคมผมยาว น้องสาวของสวย สาวเห็นนครช้ำใจ เธอก็เจ็บปวดใจเพราะลึก ๆ แล้วเธอหลงรักนคร (รักนะ..แต่ไม่แสดงออก) สาวพยายามให้กำลังใจนครในแบบที่ตัวเองถนัดคือ ด่าเพื่อให้นครฮึดสู้ แต่ผลก็คือนครไล่ตะเพิด สาวจึงเปลี่ยนมาเป็นสมน้ำหน้าและท้าทายว่านครไม่มีน้ำยา และไม่มีทางเป็นอะไรได้มากกว่าที่พ่อผู้ใหญ่ดูถูก นครตัดสินใจลงสมัครแข่งตีกลองประเพณีของอำเภอ โดยมีทีมของสาวเป็นคู่แข่งร่วมกับทีมจากหมู่บ้านอื่น ๆ แต่ดูเหมือนจะกลายเป็นศึกที่ดุเดือดระหว่างทีมของนครกับสาวเท่านั้น สองทีมดวลฝีมือกันไม่มีใครยอมใคร รวมถึงกองเชียร์จากผองเพื่อน ก็เชียร์ประชันกันแบบไม่มีใครยอมตาย ซึ่งประกอบด้วย ดวงใจ (ส้ม ธัญสินี พรหมสุทธิ์) พยาบาลสาวสวย น่ารัก แต่ดุ!!!!! ชอบดุคนไข้ เกลียดคนในเครื่องแบบ เกลียดคนรวย แต่มักจะได้ในทุกอย่างที่ตัวเองเกลียด โฉมงาม (ชมพูนุช กลิ่นจำปา) ลูกสาวเจ้าของร้านชำ และสภากาแฟประจำหมู่บ้าน ดำตับเป็ดแต่อยากเป็นดารา เธอเชื่อว่าเธอเกิดมาเพื่อดับ อั้ม พัชราภา โฉมงามเป็นคู่กัดกับเทพ โดยมี สันติ ร่วมเชียร์ในกองเชียร์ของสาวเพราะอยากใกล้ชิดดวงใจ แต่มักถูกดวงใจไล่ตะเพิดทุกครั้ง ด้วยข้อหาเป็นคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่คนปักษ์ใต้บ้านเรา ผลประกาศออกมา ทีมของนครได้รางวัล นครหวังใช้เงินไปซื้อของหมั้นสวย แม็คเข้ามาใกล้ชิดสวยมากขึ้นจนสวยหลงเชื่อคารมและสวยเองก็ทะเยอทะยานอยากได้แฟนรวย ๆ ไม่อยากจมปลักกับสวนยาง เจ๊เอียดก็ออกโรงสนับสนุนลูกชาย โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ทุกอย่างมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ครูสันติเข้ามาใกล้ชิดดวงใจและช่วยเชียร์สาว จนดวงใจรำคาญไล่ออกไป ครูสันติทำเป็นหายออกไปจากสายตาของดวงใจจริง ๆ แต่แท้จริงแล้ว ครูสันติ หรือ สารวัตรสันติ ออกไปไล่ล่าแก๊งค์ค้าน้ำมันเถื่อนที่ซื้อขายอย่างลับ ๆ ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับงานประเพณี แต่ก็ไม่สามารถสาวถึงผู้บงการใหญ่ได้ มีเพียงหลักฐานที่น่าเศร้าใจทิ้งไว้เท่านั้น ครูสันติจำเป็นที่จะต้องแทรกซึมในพื้นที่เพื่อสืบหาผู้บงการใหญ่ต่อไป และยังได้รับมอบหมายภารกิจใหม่ที่สำคัญเพิ่มเติมจากหน่วยเหนืออีกว่า....มีผู้ลักลอบค้าวัตถุโบราณรายใหญ่ในพื้นที่ สวยหนีเข้ากรุงเทพกับแม็ค เพราะแม็คสัญญาจะหางานในวงการบันเทิงให้สวย พ่อผู้ใหญ่อับอายที่ลูกสาวหนีตามผู้ชาย บุกไปเอาเรื่องเจ๊เอียด เจ๊เอียดทำไม่รู้ไม่ชี้และไม่รับผิดชอบ นครใจสลายอีกรอบ หลังรู้ว่าสวยหอบเสื้อผ้าหนีไปกับแม็ค เก็บความช้ำไว้ในอก กลั่นออกมาเป็นบทเพลงแห่งน้ำตา....ท่ามกลางต้นยางสูง ฝนพรำ สาว ปลอบใจและโน้มน้าวให้นครรักคนที่เขารักเราดีกว่าแต่ นคร ไม่รับรู้ฮึดสู้รอบใหม่ รวบรวมไพร่พล มีเทพเพื่อนเกลอนำทีม เดินทางสู่กรุงเทพฯ เพื่อทำคะแนนต่อ โดยไม่สนใจคำทักท้วงของคนรอบข้าง สาวจึงระดมพลเข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามตัวสวยกลับบ้าน เพราะกลัวแม็คหลอก ดวงใจสบโอกาสขอไปอบรมที่กรุงเทพฯ จะได้ไปช่วยสาว ครูสันติ อ้างว่าไปเยี่ยมพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ ขอไปด้วยคน เบื้องหลังคือ ครูสันติต้องเข้ามารายงานตัวกับต้นสังกัดเพื่อรายงานผลการปฏิบัติการดวงใจไม่ยอมให้ครูสันติไปด้วยกัน แต่โฉมงามกลับซื้อตั๋วรถไฟให้ครูสันติ เพราะเห็นว่าครูสันติเป็นเด็กเทพ อยากให้นำทางและพาไปพักที่หอหน้าราม หวังใจว่าแมวมองจะได้มาพบเพชรในตมอย่างเธอ เทพพานครและน้าไข่ มาอาศัยอยู่กับ หลวงอา ที่วัดราชาธิวาส ระหว่างการตามหาสวย นคร ขอให้เทพและน้าไข่พาไปสมัครเรียนราม ด้วยอุดมการณ์ที่ว่าตามหาหัวใจ แต่ก็ต้องหาอะไรใส่สมองด้วย สาวเองก็เช่นกัน ชวนโฉมงามไปสมัครเรียนราม อยากได้ความรู้ไปพัฒนาหมู่บ้าน นคร มาขอพรพ่อขุน อธิษฐานขอให้ได้เจอหัวใจของตัวเองที่หนีมาเสียที ในขณะที่สาวก็มาขอพรให้ได้เจอสวย และขอให้เรียนจบเพื่อนำความรู้ไปพัฒนาบ้านเกิด และขอให้นครเห็นใจสักที เทพหาทางสร้างรายได้ด้วยการพาทีมไปร้องเพลงเพื่อชีวิต...ทุกคนมีความหวังที่จะได้ทำการแสดงในผับใหญ่ใจกลางเมือง ตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ แต่แล้ว...ฝันก็สลาย...ผับใหญ่ใจกลางเมืองของเทพคือ...ร้านหมูกะทะริมถนน ถึงแม้จะไม่ถูกใจโลเกชั่น แต่ด้วยเลือดศิลปิน นครและทีมต่างร้องเพลงเกินเงินค่าจ้าง ซึ่งในคืนนั้นเอง ครูสันติพาสาว,ดวงใจ,โฉมงาม มาเลี้ยงข้าวที่ร้านหมูกะทะเดียวกัน นครดีใจที่เจอคนพรรคพวก เล่นเพลงเอาใจคนบ้านเดียวกัน ลูกค้าขาโจ๋เมาเข้าไปทำรุ่มร่ามสาว นครไม่พอใจลงไปห้ามจนเปิดศึกวางมวย นครพาสาววิ่งหนี ครูสันติปกป้องดวงใจจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ สาวต่อว่านครที่ทำเสียชื่อคนใต้ นครเถียงกลับว่าแล้วจะยอมให้คนอื่นมาลวนลามคนบ้านเดียวกันได้อย่างไร ทำให้สาวแอบปลื้ม ระหว่างนั้นสาวและนคร เห็นแม็คขับรถเปิดประทุนพาสวยนั่งเคียงข้างแล่นผ่านไป สาวพยายามร้องเรียกและวิ่งตามไป แต่ก็ไม่ทัน ดวงใจช่วยครูสันติทำแผลที่หอพัก และชวนทุกคนนั่งแท็กซี่ไปส่งครูสันติที่หน้าสลัมซึ่งครูสันติอ้างว่าเป็นบ้าน แต่เมื่อแท็กซี่คล้อยหลัง ครูสันติกลับเดินข้ามถนนเรียกรถกลับไปยังคฤหาสน์ใหญ่ ครูสันติจำใจปิดบังฐานะ เพราะรู้ดีว่าดวงใจยังปักใจเกลียดคนรวย รุ่งเช้านครและสาว ต่างฝ่ายต่างรีบออกตามหารถของแม็ค สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็มาเจอกันที่ร้านอาหารของแม็ค ซึ่งเป็นวันที่สวยจะต้องถ่ายแบบนิตยสารที่นี่ นครตามตื้อสวย สวยตัดขาดไม่เหลือเยื่อใย สาว พยายามโน้มน้าวให้สวยกลับบ้าน แต่สวยไม่ยอม เพราะตัวเองกำลังจะเดินเข้าสู่วงการบันเทิง โดยที่สวยไม่ล่วงรู้เลยว่าแม็คไม่ได้จริงใจที่จะช่วย ทำทุกอย่างเพื่อหวังเคลมสวย และที่สวยเพิ่งจะรู้อีกอย่างก็คือแม็คมี แครี่ (สิริลภัส กองตระการ) พริ้ตตี้นักศึกษาสาวเซ็กซี่ประจำร้านอาหารของแม็ค หลบซ่อนเป็นกิ๊กเอาไว้อีกคน แครี่ ตั้งตัวเป็นศัตรูกับสวยอย่างชัดเจน โดยมี กุ๊งกิ๊ง (วรรณพร สิริอังกุล) และ โมโม่ (วันสิริ อ่องอำไพ) เพื่อนสาวพริ้ตตี้สุดแสบ เป็นแนวร่วมช่วยแครี่กลั่นแกล้งสวยทุกครั้งที่มีโอกาส สวยพยายามสู้ ไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างอย่างเด็ดขาด ยิ่งทำให้แครี่คิดจะกำจัดสวยไปให้พ้นทาง เพราะแครี่ต้องการเป็นเบอร์หนึ่งของแม็ค โดยไม่รู้เลยว่า กุ๊งกิ๊ง กับ โมโม่ ก็เป็นกิ๊กของแม็คเช่นกัน สาวพยายามพูดให้นครตัดใจเสียที แต่นครยังยืนยันที่จะตามล่าหัวใจของสวยต่อไป โดยจะทำให้ตัวเองเป็นศิลปินเพื่อชีวิตที่โด่งดังให้ได้ เพื่อให้ศักดิ์ศรีสูสีกับหญิงอันเป็นที่รัก ควบคู่กับการตั้งใจเรียนในคณะมนุษย์ศาสตร์สื่อสารมวลชน ที่นครคิดว่าจะช่วยเปิดทางไปสู่การทำงานในวงการบันเทิง ส่วนสาวเลือกเส้นทางรัฐศาสตร์ เพื่อนำความรู้ทางด้านการปกครองไปช่วยพัฒนาบ้านเกิด ในฐานะผู้ใหญ่บ้านหญิงในอนาคตต่อไป นครพยายามทำตัวสดใสร่าเริงเพื่อปกปิดความเศร้า ฝ่ายสาว รู้ว่านครเจ็บ สาวก็ยิ่งเสียใจมาก เศร้าไม่แพ้นคร แต่ก็ทำตัวสดใสร่าเริงเช่นกัน เพื่อน ๆ ทั้งสองฝ่ายดูออก จึงคิดกิจกรรมต่าง ๆ นานาในค่ายอาสา เพื่อเยียวยาหัวใจให้นครและสาวกลับมาเป็นปกติ จากสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้ นครและสาวได้ใกล้ชิดกัน ก่อเกิดเป็นความรักความผูกพันที่ลึกซึ้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทั้งนครและสาวก็ยังไว้เชิงเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ในขณะเดียวกัน เทพ,น้าไข่,โฉมงามก็ต้องระดมสมองมาช่วยสร้างความสมานฉันท์ระหว่างดวงใจและครูสันติ ไม่นานนักดวงใจก็ใจอ่อน แม็คหาโอกาสรวบหัวรวบหางสวย แต่สวยยังเล่นตัว เรียกหาสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะทำให้สวยโด่งดังและแต่งงานกับสวย แม็คไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป เข้าขืนใจสวยแล้วสลัดทิ้ง แครี่ได้ทีเยาะเย้ยถากถางสมน้ำหน้าสวยต่าง ๆ นานา สวยเสียใจมากที่รู้ธาตุแท้ของแม็ค สวยท้องและมีลูกกับแม็ค แต่แม็คไม่สนใจ สวยไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว จึงซมซานกลับบ้านเกิด สวยใช้แผนมอมเหล้านคร และให้นครรับผิดชอบตนและลูก นครไม่เชื่อว่าตัวเองทำอะไรสวย และตอนนี้เค้าก็รักสาวแล้ว แต่ด้วยสงสารนครเลยเลือกตัดใจจากสาวและสร้างครอบครัวกับสวย พ่อผู้ใหญ่โกรธมากที่สวยถูกแม็คย่ำยี ไปเอาเรื่องกับเจ๊เอียด เรียกร้องให้แม็ครับผิดชอบสวย เจ๊เอียดโกรธที่แม็ควู่วาม จึงผัดผ่อนประวิงเวลา เรียกตัวแม็คกลับมาด่วน เจ๊เอียดบังคับให้แม็คอดทนทำดีกับสวย เพื่อหลอกล่อให้สวยสืบจากพ่อผู้ใหญ่มาให้ได้ว่าที่ซ่อนของพระน้อยอยู่ที่ไหน หลังจากนั้นแม็คจะไม่สนใจใยดีสวยอย่างไร เจ๊เอียดก็จะไม่ว่าอีกต่อไป แม็คจำยอมทำตามกลับไปง้อสวย สวยก็ใจอ่อนขอเลิกกับนครจะไปอยู่กับแม็ค แต่....พ่อผู้ใหญ่เข้ามาล่วงรู้สิ่งที่เจ๊เอียดคุยกับแม็คเข้า เจ๊เอียดสั่งลูกน้องฆ่าปิดปากพ่อผู้ใหญ่ทันที แล้วอำพรางคดี สาว สวย และทุกคนช็อคและเสียใจกับการจากไปของพ่ออันเป็นที่รัก สาวประกาศกลางงานศพ จะลากคอฆาตกรมาลงโทษให้ได้!!!! ครูสันติ ได้ข่าวว่าขบวนการลักลอบค้าพระกำลังจะเข้าไปขโมย พระน้อย จึงเข้าไปป้วนเปี้ยนในวัด ทำให้นครเข้าใจผิด คิดว่าครูสันติจะเข้าไปสืบหาที่ซ่อนพระพุทธรูป ครูสันติจึงยอมบอกความจริงว่าเป็นตำรวจปลอมตัวมาตามสืบคดีลักลอบค้าวัตถุโบราณ นครจึงขอโทษที่เคยเข้าใจผิดพร้อมรับปากจะช่วยปกป้องพระพุทธรูปของหมู่บ้าน สวยถูกแม็คขู่และบังคับให้เข้าไปล้วงความลับจากนคร แต่นครไม่ยอมหลุดปาก แม็ครู้ว่าสวยทำงานไม่สำเร็จ ก็โกรธมากทำร้ายสวยปางตาย สาวเข้ามาเห็นจะช่วยเหลือสวย แต่แม็คจับสวยเป็นตัวประกัน สั่งให้สาวไปเอาข้อมูลจากนครมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะฆ่าสวย แล้วทุกคนก็รู้ความจริงว่า เจ๊เอียดและแม็ค เป็นผู้บงการฆ่าผู้ใหญ่บ้านและเป็นผู้ลักลอบค้าวัตถุโบราณรายใหญ่ของประเทศ สาวขอร้องนคร นครยอมช่วยและแอบบอกข่าวให้ครูสันติ นครพาสวยพาไปยังที่ซ่อนพระพุทธรูป แม็คและลูกน้องสะกดรอยตามมาจนเจอพระน้อย แม็คจะฆ่านครและสาวที่กรุพระแห่งนี้ แต่แล้วครูสันติก็นำกำลังตำรวจเข้าปิดล้อม เจ๊เอียดซึ่งถูกตำรวจคุมตัว ขอร้องอย่าทำร้ายลูก และบอกให้แม็คยอมมอบตัว แม็คไม่ยอมแพ้ คว้าตัวสาวเป็นตัวประกัน แล้ววิ่งหนีไป นคร ครูสันติ สวยและทุกคนตามไปช่วย เกิดการไล่ล่า สาวฉวยจังหวะดิ้นหลุดจากแม็ควิ่งหนีไปสวนยาง แม็คยิงใส่ทันที สวยปราดเข้ามาขวางวิถีกระสุนเพื่อปกป้องสาว ขอโทษกับความผิดพลาดของเธอ แล้วสิ้นใจตายในอ้อมกอดของสาว หลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย ดวงใจรู้ความจริงว่าครูสันติเป็นตำรวจ ดวงใจยิ่งโกรธหนักที่ถูกหลอกอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เคยสัญญากันไว้แล้วว่าจะพูดความจริง ครูสันติจึงขอร้องให้เทพและน้าไข่สอนร้องเพลงสำเนียงใต้ สารภาพรักให้ดวงใจเห็นความจริงใจ เพราะรู้ดีว่าดวงใจแพ้เสียงเพลง ในที่สุดก็เป็นจริงอย่างที่ครูสันติคิดไว้ ความรักของดวงใจและครูสันติจึงสมรักสมรส สาวเสียใจกับการจากไปของสวย นครเข้ามาปลอบใจและขอคำตอบจากสาวอีกครั้งว่า....เธอรักฉันบ้างไหม??? สาวเดินหนีไปก่อนจะหันมาร้องเพลง ใจความว่า ถ้ารักก็ขอให้รักด้วยความจริงใจและให้มาขอ ตนพร้อมจะมอบใจให้กับคนที่รักจริง นครหัวใจพองโตวิ่งเข้าไปกอดสาวพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่ แต่ก็ถูกสาวต่อยกลับ ฐานล่วงเกินก่อนที่แม่จะมาขอ แล้วบรรดาลูกคู่ทั้งหลายที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็โผล่ขึ้นมาแสดงความยินดีกันอย่างครื้นเครง ติดตามชมละคร เพลงรักทะเลใต้ ได้ทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7

ปอบอพาร์ตเมนต์ 2553

เรื่องย่อ : ปอบอพาร์ตเมนต์ (2553/2010) ป๊อบ เจ้าของอพาร์ตเมนต์คนใหม่ ต้อนรับทั้งลูกค้าใหม่ที่มาเช่าห้อง รวมถึง ยายเนือง ยายของเขาที่เดินทางมาจากบ้านน้ำเชี่ยวเพื่อมาขออยู่ที่นี่ ซึ่งยายเนืองไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมี ผียายแหนม ตามมาด้วย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความเฮฮาที่มาพร้อมความสยอง

บ้านนาคาเฟ่ (2553)

เรื่องย่อ : บ้านนาคาเฟ่ (2553/2010) ละครเพลงแนวหรรษา ส่งเสริมอาชีพชุมชน และเสริมสร้างสำนึกรักบ้านเกิด ผ่านเรื่องราวความรักของน้องนางบ้านนา กับ ทายาทเศรษฐี ที่มีลำคลอง ท้องทุ่ง และ รถไถเป็นพยาน ดล (น้ำ – รพีภัทร) หนุ่มทายาทเสี่ยเจ้าของกิจการส่งออกแถวหน้า ได้รับโทรศัพท์จากบิดาเรียกตัวให้รีบบินกลับเมืองไทยกะทันหัน เมื่อไปถึงคฤหาสน์ เลิศมหาดำรงสกุล ก็ได้พบว่า เสี่ยดิเรก ผู้เป็นพ่อก็ได้หลบหนีเจ้าหนี้ไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้แต่จดหมายสั่งเสียกับแผนที่อีก 1 ฉบับระบุให้ดล เดินทางไปที่หมู่บ้านโคกสำราญ เพื่อขอความช่วยเหลือจาก ผู้ใหญ่ยิ้ม เพื่อนรัก เมื่อไม่มีทางหลีกเลี่ยง ดลจำต้องเดินทางไปที่โคกสำราญ ในสภาพที่ทรหดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะหนทางเพื่อไปสู่หมู่บ้านโคกสำราญนั้นทุรกันดารเป็นอย่างมาก แต่ต่อให้ดลวาดภาพโคกสำราญไว้เลวร้ายขนาดไหน ก็ไม่สามารถเทียบได้กับความเป็นจริงที่เขาต้องเผชิญและยอมรับให้ได้ว่าต้องอยู่กับมันไปอย่างไม่มีกำหนด ด้วยความโกรธ เมื่อเขาถึงทางที่พอจะเร่งเจ้ารถคันงามของเขาได้ ดลเหยียบคันเร่งจนสุดและทำให้เจ้ารถคู่ชีพคันงามพุ่งทะยานราวจรวด เกือบจะเสยเข้ากับเกวียนของหลานสาวผู้ใหญ่ยิ้ม นามว่า หวานใจ (กระติ๊บ-ชวัลกร) สาวน้อยบ้านนา อายุ 18 พ่อตายตั้งแต่เด็ก ส่วนแม่ทิ้งไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วหายสาบสูญไป จึงต้องอยู่กับผู้ใหญ่ยิ้มผู้เป็นลุงตั้งแต่เด็ก จึงรักลุงเหมือนพ่อ ถูกฝึกให้ทำทุกอย่างได้เหมือนผู้ชาย รักบ้านเกิดมาก เป็นครูของโรงเรียนโคกสำราญ ในช่วงวิกฤต ดลหักรถหลบควาย จนทำให้เจ้ารถคันงามก็ไปสิ้นฤทธิ์อยู่ที่ใต้ต้นไทรและเขาได้หมดสติลงในทันที แต่อย่างน้อย หวานใจก็พาร่างที่ไร้สติของดลมายังโคกสำราญจนได้ในท้ายที่สุด โคกสำราญเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อันที่จริง การไร้ซึ่งความเจริญนี้มีเหตุผลที่เข้าใจได้ ทั้งนี้ก็เพราะนายชัย เจ้าของโรงงานผลไม้กระป๋องที่ใช้เงินซื้อเสียงจนก้าวมาเป็นอบต. บิดาของบัวตูม (โอ๋-รุ่งระวี) บัวบาน (น้ำหวาน-ลาวัลย์) สองศรีพี่น้อง ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นดาว ได้ใช้ความสามารถทุกวิถีทางที่จะยึดหมู่บ้านนี้ให้มาเป็นของเขาให้ได้ แต่ทั้งนี้หมู่บ้านนี้ก็ยังมีผู้ใหญ่ยิ้มที่ไม่ใช่ผู้ใหญ่บ้านธรรมดา ที่จะยอมใครได้ง่าย ๆ ในอดีต ยิ้มเป็นคนแรกของหมู่บ้านที่ลุยเข้าเมืองหลวงเก็บหอมรอมริบจนเป็นเจ้าของคาเฟ่ที่เริ่มจากเล็กๆจนใหญ่โตที่มีชื่อว่า บ้านนาคาเฟ่ ยิ้มได้พบรักและแต่งงานกับ สาลิกา (ฮันนี่-ภัสสร) หนึ่งในนักร้องแม่เหล็กที่สามารถเรียกแขกเข้ามาฟังเพลงจากเธอจนแน่นขนัดและในคาเฟ่ของเขายังได้ ครูนวล (โย่ง เชิญยิ้ม) ผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวงลูกทุ่งที่สอนและสร้างนักร้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ อีกทั้งยิ้มยังได้ ทับ (ดอน จมูกบาน) และชู (ชูศรี เชิญยิ้ม) ตลกของคาเฟ่ที่เรียกเสียงหัวเราะจากแขกได้ทุกค่ำคืน ในครั้งนั้น ยิ้มกับลูกน้องต่างเสพสุขกันมากอย่างน่าอิจฉา จนกระทั้งวันหนึ่ง เมื่ออิทธิพลมืดเข้ามาบีบบังคับให้ยิ้มขายคาเฟ่ให้ แต่ยิ้มไม่ยอม แต่ช่างเป็นโชคที่ลูกค้าผู้ร่ำรวยและเมตตาคนหนึ่ง ซึ่งก็คือเสี่ยดิเรกได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเคลีย์ปัญหาให้จนทำให้เขาและลูกน้องสามารถรอดชีวิตมาได้แต่ก็ลำบากยากจนถึงกับหมดเนื้อหมดตัว และก็เสี่ยดิเรกอีกนั้นเองที่หยิบยื่นเงินก้อนหนึ่งให้กับยิ้ม จนทำให้เขาอพยพลูกน้องกว่าห้าสิบครอบครัวอพยพมาปักหลักปักฐานกันที่หมู่บ้านแห่งนี้ ยิ้มและลูกบ้านของเขาได้เรียนรู้ความจริงที่ว่าเมืองกรุง ที่ดูมีเสน่ห์นั้นแฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมและมนุษย์ที่มากไปด้วยกิเลส สังคมชนบทที่อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติแท้ที่จริงแล้วนั้นคือสังคมที่สมบูรณ์ ที่หล่อหลอมมนุษย์จนมีจิตใจที่ดีงาม ดังนั้น ยิ้มและลูกบ้านของเขาจึงตั้งใจที่จะรักษาให้หมู่บ้านอยู่ในสภาพใกล้ธรรมชาติที่สุด แต่อย่าได้เข้าใจผิดว่าชีวิตในโคกสำราญไร้สีสัน ยิ้มและลูกบ้านที่เป็นลูกหลานของนักร้อง นักดนตรีและตลกต่างก็ช่วยกันได้สร้างบรรยากาศของบ้านนาคาเฟ่ให้เกิดขึ้นทุกคืนวัน จึงเป็นที่เข้าใจได้ถึงความจริงข้อที่ว่าแม้นายชัยจะใช้แผนร้ายประการใด ก็ไม่อาจแผ่อิทธิพลชั่วเข้าสู่หมู่บ้านของผู้ใหญ่ยิ้มได้เลย แต่คนอย่างชัยก็ไม่เคยยอมแพ้ เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ชัยจึงใช้อำนาจในนามนายกอบต.หาทางกลั่นแกล้งหมู่บ้านของยิ้มทุกวิถีทาง เพื่อบีบให้หมู่บ้านของยิ้มเป็นถิ่นกันดารจนไม่น่าจะมีผู้คนทนอยู่ได้ แต่สิ่งที่แปลกก็คือ แผนการร้ายของชัยไม่อาจทำอันตรายต่อยิ้มและลูกบ้านของเขาให้รู้สึกท้อถอยลงได้เลย ขณะที่ ดล สลบไปเขากำลังฝัน และเป็นความฝันที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ในฝันเขากำลังอยู่ในคลับหรูต่างแดนที่แวดล้อมไปด้วยสาวสวยมากหน้าหลายตา แต่เมื่อแหม่มสาวอ้าปากพูด กลับเอื้อนเอ่ยเป็นภาษาถิ่นอิสานของไทยเราอย่างคล่องปาก พวกฝรั่งก็เว้าลาวกันอย่างอื้ออึงจนทำให้ ดลสติกลับคืนมา เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็พบว่ารอบตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยพวกบ้านนอกคอกนา แต่ในขณะที่เขากำลังจะกรีดร้องด้วยความสยดสยอง เสียงแตรวงของผู้ใหญ่ยิ้มที่มารอรับก็แผดเสียงขึ้น แต่ที่สะดุดตาที่สุด ก็เห็นจะเป็นใบหน้าคมคายของ หวานใจ หลานสาวของผู้ใหญ่ยิ้มที่พยายามปฐมพยาบาลดลด้วยวิธีต่างๆอย่างคล่องแคล่ว ดลพบว่าทุกคนในหมู่บ้านแสดงท่าทีดีใจมาก ที่ได้ต้อนรับเขา โดยเฉพาะผู้ใหญ่ยิ้ม ซึ่งบอกดลว่า เสี่ยดิเรกเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายที่มีพระคุณกับผู้ใหญ่ยิ้มอย่างมาก และดิเรกได้เคยส่งเงินก้อนนึงมาให้ผู้ใหญ่ยิ้มซื้อที่เอาไว้แปลงหนึ่งเพื่อจะได้มาอยู่ในบั้นปลายชีวิต ดลเริ่มมีความหวังขึ้นมาทันที อย่างน้อย พ่อก็ยังทิ้งสมบัติเอาไว้ให้เขาบ้าง แต่เมื่อดลได้เห็นที่ดิน ใจที่เริ่มพองฟูก็แฟบลงทันที เพราะที่ดินห้าสิบไร่ที่ผู้ใหญ่ยิ้มภูมิใจนำเสนอนั้น คือที่ดินล้วน ๆ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ นอกจากเพิงเล็ก ๆ กับต้นไม้ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ดลโวยวายขอขายที่คืน เพื่อเอาเงินกลับกรุงเทพฯ ทำให้หวานใจ ไม่พอใจอย่างมากเพราะสำหรับหวานนั้น ที่ดินของดลเป็นที่ในฝันที่หวานแอบวาดหวังว่า หากมันเป็นของหวานหวานจะพรวนดินหว่านไถ และสร้างให้มันเป็นผืนดินที่สมบูรณ์และน่าอยู่ที่สุด แต่สำหรับดลมันกลับเป็นของที่ไร้ค่า ผู้ใหญ่ยิ้มรับปากว่าจะหาเงินมาให้ดล ดลตีอกชกลมว่าเขาไม่สามารถทนอยู่ในที่อันล้าสมัยได้เลยแม้เพียงวันเดียว และขอให้ยิ้มหาทางขายที่ดินของเขาให้ได้จนหวานรำคาญ คิดแผนจะดัดนิสัยดล โดยสัญญาว่าจะหาคนมาซื้อที่ดินต่อจากดลให้อย่างเร็วที่สุด แต่ดลต้องทำให้ที่ดินเป็นที่ที่ดูดีมีค่ากว่าที่เป็นอยู่โดย เข้าไปถากถาง ปลูกพืชไร่ และสร้างบ้านในที่ดิน แสดงความภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ เพื่อให้คนเห็นแล้วอยากจะซื้อ ดลหลงกลรับปาก และขอให้หวานเป็นพี่เลี้ยงบุกเบิกที่ดินร่วมกับเขาและเขาจะจ่ายค่านายหน้าให้อย่างงามซึ่งหวานก็แกล้งตอบตกลงเพื่อให้ดลตัดสินใจอยู่โคกสำราญต่อตามแผน หวานได้พบว่า ดลเป็นผลิตผลคนเมืองที่ไร้คุณภาพอย่างที่สุด ทั้งจับจด เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เป็นทาสเทคโนโลยี ขณะที่ดลก็รู้สึกเหมือนตัวเองย้อนกลับไปอยู่ในยุคก่อนกรุงศรีอยุธยาแตก แต่สิ่งที่ทำให้ดลเกือบจะเป็นบ้าก็คือ แทบทุกคนในโคกสำราญนั้นไม่มีใครเดือดเนื้อร้อนใจกับสภาพความลำบากในชีวิตเลย ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนยังอารมณ์ดีจนเกินกว่าเหตุ ในแต่ละวัน ดลต้องกลายเป็นเกษตรกรจำเป็น ผจญทั้งภัยธรรมชาติ ทะเลาะเบาะแว้งกับหวาน ขณะเดียวกันดลก็ค่อย ๆ ได้ซึมซับถึงวิถีชีวิตของชาวชนบทที่เรียบง่าย งดงามโดยไม่รู้ตัวรวมทั้ง ได้เห็นการแก้ปัญหาให้ลูกบ้านโดยใช้หลักเมตตาของผู้ใหญ่ยิ้ม ที่สำคัญดลยังได้ซาบซึ้งถึงความรัก ความผูกพันระหว่างผู้คนในหมู่บ้านที่พร้อมจะเผชิญความทุกข์ยากและฝ่าฟันปัญหาต่าง ๆ ไปด้วยกันโดยไม่เคยคิดจะทอดทิ้งแผ่นดินถิ่นเกิด เมื่อทางการขอให้โคกสำราญ ซึ่งเป็นตำบลเดียวที่ไม่เคยมีสินค้าโอท็อป ส่งสินค้าของตนเข้าประกวด และหวานก็เห็นว่าจะเป็นทางเดียวที่สามารถบีบให้ชัยต้องเจียดงบมาสนับสนุนสินค้านี้ และเป่าประกาศขอให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างสรรสินค้าโอท๊อปของหมู่บ้าน แต่ชัยก็หาทางสกัดดาวรุ่งโดยอ้างว่าสินค้าเหล่านั้นล้วนเป็นโอท๊อปของที่อื่นทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว แต่คนในโคกสำราญก็ยังไม่สิ้นหวัง สร้างสรรค์สิ่งที่ไม่มีใครนึกฝันระดับปฐม อีกทั้งดลยังใช้ความรู้ความสามารถของเขาช่วยชาวบ้านคิดประดิษฐ์สินค้าโอท๊อปอีกจำนวนหนึ่งซึ่งถึงแม้มันจะดูไม่เข้าท่า แต่การอุทิศกายใจให้กับชาวบ้านและทำให้เขาต้องเกือบเอาชีวิตไม่รอดเช่นกรณีของข้าวหลามดิลิเวอรี่ก็ทำให้หวานเริ่มเปิดใจให้กับเขา แต่ขณะที่ความสัมพันธ์ของเขา และหวานกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี พ่อของดลในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัวก็ปรากฏกายขึ้นเพื่อขอให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพยายามหาเงินสดก้อนใหญ่เพื่อให้เขาไปชำระหนี้เพื่อที่จะกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งซึ่งเมื่อเขาขอความช่วยเหลือจากดลเสร็จแล้วก็ต้องรีบหลบหนีการตามล่าจากบรรดาเจ้าหนี้และเงื้อมมือของกฏหมายต่อไป ดลที่สงสารพ่อและกำลังมืดแปดด้านจึงจำเป็นต้องหันหน้าไปพึ่ง ชัย ผู้หมายมั่นปั้นมือที่จะยึดหมู่บ้านของยิ้มให้ได้ ซึ่งชัยปฏิเสธที่จะซื้อที่ของดลโดยอ้างว่าถึงแม้จะเป็นที่ ๆ สวยงามเพียงไรแต่ขนาดไม่พอที่เขาจะสามารถทำประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เขาต้องการที่จะกว้านซื้อที่ดินจำนวนมากจากบรรดาชาวบ้านและถ้าดลสามารถโน้มน้าวจิตใจของลูกบ้านให้ขายที่ดินให้กับเขาได้ เขาจะสมนาคุณให้กับดลอย่างงามด้วยเงินก้อนใหญ่ที่จะสามารถช่วยปัญหาของพ่อของดลได้ ดลรู้สึกเป็นห่วงว่าชัยจะเอาที่ดินไปทำอะไรแต่ชัยสังเกตุเห็นรีบออกตัวว่าเขามีแผนที่จะพัฒนาโคกสำราญให้เป็นแหล่งเพาะปลูกขนาดใหญ่เพื่อป้อนวัตถุดิบให้กับโรงงานผลไม้กระป๋องของเขาและจะทำให้ชาวบ้านมั่งคั่งมากขึ้นซึ่งทำให้ดลสบายใจที่ได้ยินเช่นนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้เท่ากับทรยศยิ้มและทรยศความไว้วางใจที่หวานมีให้กับเขา แต่ด้วยความสงสารพ่อ ดลจำเป็นต้องทำตามที่ชัยขอร้อง ดลวางแผนพาเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านไปค้นพบความศิวิไลท์ที่เมืองกรุงจนทำให้หลาย ๆ คนเผลอหลงไปกับแสง สี เสียง เมืองกรุง จนกลับมาคิดขายที่นา สวนของตนเพื่อไปอยู่กรุงเทพฯ หวานใจรู้ว่าทั้งหมดดลเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้หวานใจเสียใจมาก และออกปากไล่เขาให้ออกไปจากหมู่บ้านของเธอ ด้วยความเสียใจที่ทำให้หวาน ผู้หญิงที่เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้วเสียใจ ดลตัดสินใจสวนกระแสเปลี่ยนใจไม่ขายที่ดินให้กับชัยและเมื่อเขาไปพบชัย เขาได้พบกับความจริงโดยบังเอิญว่าแท้ที่จริงแล้วเขาถูกชัยหลอกมาตั้งแต่ต้น ชัยตั้งใจจะสร้างโรงงานเครื่องกระป๋องในที่ดินของหมู่บ้านโคกสำราญในทันทีที่เขานำเอาไฟฟ้า และประปาที่เป็นเงินหลวงมาพัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้และหมู่บ้านของยิ้มจะกลายเป็นที่ทิ้งกากของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมจนสภาพแวดล้อมจะกลายเป็นพิษ ดล ที่รู้ตัวว่าผิดไปแล้วเขาต้องหาทางที่จะต่อสู้กับชัยเพื่อรักษาหมู่บ้านของหญิงคนรักที่สอนให้เขารู้จักกับความสวยงามของความพอเพียง เพื่อทำให้โคกสำราญกลับมามีความสุขเหมือนกับอดีตที่ผ่านมาโดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ติดตามชมละคร บ้านนาคาเฟ่ ได้ทางช่อง 7 บ้านนาคาเฟ่ ออกอากาศทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.45 น. บ้านนาคาเฟ่ เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2553

ตำรวจเหล็ก 2553

เรื่องย่อ : ตำรวจเหล็ก (2553/2010) พ.ต.ท.เอกภาพ (อัครา อมาตยกุล) นายตำรวจหนุ่มมือดีจากค่ายนเรศวร ถูก พล.ต.ท.วิชัย เรียกตัวมาช่วยงานราชการ ให้เป็นหัวหน้าหน่วยนปพ.ฉก. โดยปฏิบัติการพิเศษปราบผู้ก่อการร้ายข้ามชาติขบวนการแอตแลนด์ติส ที่ใช้เมืองไทยเป็นฐานกำลังในการทำงานผิดกฎหมายทุกประเภท โดยอาศัยแก๊งอิทธิพล 2 แก๊งใหญ่ที่มีธุรกิจถูกกฎหมายบังหน้าอย่างแก๊งนายภูมิชาติ และแก๊งนายวิโรจน์ และที่สำคัญ ขบวนการแอตแลนด์ติสกำลังจะแลกซื้ออาวุธสงครามล็อตใหญ่ที่หากทำสำเร็จประเทศ ทั่วภาคพื้นเอเชียจะวุ่ยวายจากการก่อการร้ายแน่นอน พ.ต.ท.เอกภาพ ขอมือดีมาช่วยอีก4นาย พ.ต.ต.ธัญญะ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) หน่วยอรินทร์ราช ร.ต.อ.วีระชัย (เอกพงศ์ ผูกพันธุ์) กรมสรรพาวุธ ร.ต.ท.วรัญญา (รฐกร สถิรบุตร) เชี่ยวชาญนิติวิทยาศาสตร์ จ.ส.อ.ทองใบ เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์

เจ้าสาวริมทาง 2553

เรื่องย่อ : เจ้าสาวริมทาง (2553/2010) เรื่องราวของเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมความงาม และความสามารถ หากกลับต้องมีชีวิตที่ทุกข์ยาก ลำเค็ญ จนเธอได้พบกับชายหนุ่มรูปงาม ผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง ทว่าชายหนุ่มผู้นี้กลับเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น แต่โชคชะตาเล่นตลก ทำให้ทั้งสองต้องมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างปลอมๆ จนเขาได้เห็นถึงความดี และจิตใจที่ดีงามของเธอ กว่าจะรู้ตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงได้รู้ว่า เธอผู้มีความงามโดดเด่นคนนี้ ได้สอนให้ผู้มากประสบการณ์อย่างเขา ได้เรียนรู้ และรู้จักความรักจริง ๆ เข้าให้แล้ว เอ็มฟิตเนส ฟิตเนสหรูระดับห้าดาว เนืองแน่นไปด้วยสมาชิกที่ออกกำลัง กิจกรรมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เป็นการเต้นออกกำลังกายที่นำโดยเทรนเนอร์สาวสวย หุ่นดี ที่ชื่อว่า รสา แม้จะมาจากครอบครัวยากจน แต่รสาเป็นเด็กรักดีพยายามเรียนจนจบปริญญาตรี แม้จะเรียนเก่งและมีความสามารถ แต่เพราะไม่มีเส้นสาย ต้องมาเป็นเทรนเนอร์สอนการออกกำลังและโยคะ แต่เมื่อเป็นแล้วเธอก็พยายามทำงานให้ดี จนได้รับคำชมจากสมาชิกมากมาย รวมทั้ง วิษณุ เจ้าของบริษัทจำหน่ายรถยนต์ชื่อดัง วิษณุเป็นหนุ่มใจดี รวย มีการศึกษา และรักการออกกำลังกาย นอกจากจะติดใจที่รสานำการออกกำลังได้ดีแล้ว ยังติดใจในนิสัยที่น่ารัก รสาเองก็จำวิษณุได้เพราะมาเล่นเป็นประจำ หลังงานเลิก สมาชิกบางคนที่ติดใจรสาหาโอกาสลวนลามเธอ หวังจะซื้อตัว จนวิษณุต้องมามาช่วยและมีเรื่องชกต่อยกับแขกคนนั้น รสาซาบซึ้งในความดีของชายหนุ่มมาก จึงยอมคบเขาเป็นเพื่อน แต่วิษณุนึกสนใจเธอมากกว่านั้น รสามอบเงินเดือนเกือบทั้งหมดให้ สมร แม่เลี้ยง สมรเลี้ยงเธอมาแต่เด็ก หลังจากแม่ที่แท้จริงตายไป และเมื่อเรียนจบ พ่อก็มาตายไปอีกคน ชีวิตรสาจึงเหลือแต่สมร รสาส่งเสียให้ มิ้น ได้เรียนหนังสือ มิ้นเป็นลูกสาวของสมรที่เกิดจากสามีเก่า แต่มิ้นกลับเอาเงินของรสาไปใช้ฟุ่มเฟือย ซื้อเสื้อผ้า ซื้อเครื่องสำอางค์แพง เกเร ไม่เรียนหนังสือ แต่นอกจากสมรจะไม่ว่าแล้ว ยังให้ท้ายมิ้นอีกต่างหาก รสาจึงต้องอยู่อย่างอดทนกล้ำกลืน เพราะความกตัญญูต่อสมร สมรเองก็คอยทวงบุญคุณ และตอกย้ำให้รสาต้องเสียสละเพื่อมิ้นทุกอย่าง เธอคนเดียวจึงต้องหาเลี้ยงคนทั้งบ้าน รวมทั้ง เผด็จ สามีใหม่ของสมรด้วย นอกจากจะเกาะลูกเลี้ยงกินแล้ว เผด็จ พ่อเลี้ยงตัวแสบ ยังคอยลวนลามรสาทุกครั้งที่มีโอกาส แต่เธอไม่กล้าบอกสมรเพราะรู้ว่าแม่เลี้ยงหลงสามีใหม่มาก รสาจึงต้องคอยปกป้องตัวเอง โดยมีวิษณุช่วยเหลืออีกคน อัคริน เพลย์บอยหนุ่มรูปหล่อ รวย การศึกษาดี ขวัญใจของบรรดาสาว ๆ อัครินไม่เคยคิดจริงจัง จะแต่งงานกับใคร ไม่รู้แม้แต่วิธีที่จะรัก ผู้เป็นปู่อย่าง อำนาจ จึงคิดสั่งสอน ดัดนิสัยหลานชาย ปู่บังคับให้อัครินแต่งงาน เพื่อแลกกับการได้ดูแล เอ็มฟิตเนส สถานออกกำลังกายชื่อดัง ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวอัคริน อัครินรับคำท้าจากปู่ทันที เพราะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างเขา ที่จะหาเจ้าสาวสักคน อรอุมา น้องสาวของอัคริน รีบประกาศจะแต่งงานกับคู่หมั้น เพื่อกดดันพี่ชาย เพราะเธอก็ต้องการชิงตำแหน่งผู้บริหารของเอ็มฟิตเนสเหมือนกัน อัครินพยายามเลือกเจ้าสาวจากบรรดาคู่ควง ไม่ว่าจะเป็น น้ำเพชร ไฮโซสาวหรูชื่อดัง หรือ ชิดใจ ลูกน้องสาวที่คอยให้ท่าเขาอยู่บ่อย ๆ แต่สาว ๆ พวกนี้ล้วนมีข้อบกพร่องจนเขารับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการนอนกรนเสียงดัง การกินอยู่อย่างไม่มีมารยาท บางคนก็ต้องการแต่เงินของเขา อัครินกลุ้มหนัก นึกไม่ถึงว่าการหาเจ้าสาวจะยากเย็นขนาดนี้ อัครินได้พบรสา ก็สะดุดใจในความสวยของเธอ แต่เมื่อเห็นผู้ชายคุยจีบรสาอย่างสนิทสนม นึกดูถูก คิดว่าอย่างเธอ คงซื้อได้ไม่ยาก โดยอัครินไม่ได้รู้เลยว่ารสาจำใจต้องคุยตามมารยาท แต่ที่จริงแล้วเธอจะวางตัวดี ไม่เคยทำอะไรเสียหาย อัครินทำจีบรสาแบบทีเล่นทีจริง เพราะเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะกล้าปฎิเสธผู้ชายที่แสนจะสมบรูณ์แบบอย่างเขา แต่รสาดูออกว่าอัครินดูถูก ดูแคลนเธอ เลยไม่สนใจตอบ แม้จะจีบไม่ติด แต่อัครินก็ไม่ละความพยายาม เพราะลึก ๆ เขานึกชื่นชมในกริยามารยาทที่ดีงามของรสา ซึ่งบรรดาคู่ควงของเขาไม่เคยมี ยิ่งรวย แวะมาดูที่ฟิตเนส เห็นรสาก็นึกชอบใจ ลวนลามเธอเพราะความเมา รสาตอบโต้ เตะผ่าหมากให้ รสาถูกอรอุมาไล่ออกจากงาน โดยไม่ฟังเหตุผล สมรโกรธมากที่รสาตกงาน เผด็จจะลวนลามเธอแต่สมรมาเห็นเข้า แทนจะโกรธเผด็จ สมรกลับหาว่ารสาให้ท่าเผด็จ พร้อมกับไล่เธอออกจากบ้าน รสาต้องเดินมาตามถนนท่ามกลางสายฝนอย่างไร้จุดหมาย เจอคนร้าย คิดจะข่มขืนเธออีก ดีแต่อัครินผ่านมา และช่วยไว้ได้อย่างฉิวเฉียด สมรก็ทะเลาะกับเผด็จจนตกจากบ้าน ต้องทำการผ่าตัดด่วน มิ้นโทษรสาว่าเป็นความผิดของเธอ บังคับให้รสาหาเงินมาเป็นค่าผ่าตัดแม่ให้ได้ รสาคิดไปปรึกษาวิษณุ แต่กลับพบว่าเขากำลังยุ่งกับการเตรียมงานแต่งงานกับอรอุมา รสาเลยไม่กล้าไปเกี่ยวข้องด้วย เมื่อใกล้สัญญาที่ปู่กำหนด อัครินตัดสินใจจ้างรสาไปเป็นภรรยาชั่วคราว เพื่อตบตาอำนาจ โดยทำสัญญาว่าเธอต้องอยู่กับเขาเป็นเวลาหนึ่งปี และจะเป็นสามีภรรยากันแต่เพียงในนามเท่านั้น เมื่อไหร่ที่เขาได้ดูแลกิจการของครอบครัว เขาจะหย่าให้ โดยรสาจะได้ค่าตอบแทน 2 ล้านบาท ครั้งแรกจะจ่ายให้หนึ่งล้านก่อน รสาตัดสินใจตกลงเพราะเธอไม่มีทางเลือก อัครินอ้างบุญคุณที่ช่วยเหลือเธอและ ถ้าไม่ได้เงินไปผ่าตัด สมรคงไม่รอดแน่ ส่วนอัครินนั้นไม่ยอมรับว่าจริง ๆ แล้ว เขาเองก็พึงพอใจในตัวรสาอยู่ลึก ๆ เช่นกัน อัครินจับรสาแปลงโฉมกลายเป็นสาวสวย มีชาติมีตระกูล เขากับรสาเลยทันได้แต่งงานพร้อมคู่ของวิษณุและอรอุมา พักตร์พิไล ผิดหวังมากที่ลูกสะใภ้ไม่ใช่สาวสังคมหรูอย่างที่หวัง แต่อำนาจกลับถูกใจหลานสะใภ้คนนี้ เพราะรสาทั้งฉลาด และมีความรู้รอบตัวมากมาย อำนาจว่าถ้าอัครินและรสาอยู่ด้วยกันครบหนึ่งปี จะยกธุรกิจให้ อรอุมา ผิดหวังมาก ที่รสาทำให้คนดุอย่างอำนาจเอ็นดูได้ ต่อหน้าคนอื่นอัครินจะทำเหมือนรักภรรยาเหลือเกิน แต่ลับหลังทุกคน เขากลับดูถูกเธอ เห็นเป็นผู้หญิงง่าย นึกจะลวนลามก็ทำ รสาเองก็ช้ำใจที่เขาดูถูกเธอเช่นนี้ หลังผ่าตัดสมรกลายเป็นอัมพฤกษ์ เดินไมได้แต่ยังด่าเก่งเหมือนเดิม เผด็จมาคอยรีดไถเงินจากรสาเสมอ ขู่ว่าถ้าไม่ให้ เขาจะทิ้งสมรไป กระแตไปฟ้องพักตร์พิไลว่าเผด็จเป็นแฟนเก่ารสา มิ้นเองก็โดนไล่ออกจากโรงเรียน อยู่บ้านก็เบื่อที่ต้องดูแลแม่ เลยบังคับแกมขู่มาขออยู่กับรสา รสาจำใจต้องรับ เพราะความกตัญญูที่มีต่อสมร แต่มิ้นกลับมาสร้างปัญหาให้ รสาหนักขึ้นอีกมากในบ้านหลังนี้ วันเกิดอำนาจ น้ำเพชรมารำอวยพร พร้อมให้ท่าอัครินอย่างเปิดเผย อัครินเองก็พูดจาดูถูกเธอ ทำให้รสานึกหึงโดยไม่รู้ตัว เลยเต้นการออกกำลังโชว์ เพื่อจะแกล้งให้อัครินขายหน้า แต่ปู่กลับถูกใจ อัครินเข้าใจผิด คิดว่ายิ่งรวยเคยเป็นแฟนรสามาก่อน เลยชกให้จนยิ่งรวยแทบคลานกลับบ้านด้วยความโมโหหึง อัครินว่าเขาจะต้องได้ตัวเธอด้วยความเต็มใจ รสาว่าไม่มีวัน มิ้นนึกชอบอัคริน อยากแย่งจากพี่สาว พยายามให้ท่าต่าง ๆ นา ๆ แต่อัครินไม่สนใจ พร้อมกันนั้นมิ้นก็โปรยเสน่ห์กับวิษณุด้วย จนมีเรื่องกับอรอุมาเป็นประจำ มิ้นทำเก่ง ไม่กลัวใคร มิ้นใส่ร้ายหาว่ารสาเคยมีผู้ชายหลายคนมาก่อน รวมทั้งวิษณุด้วย อัครินมีเรื่องชกกับวิษณุ วิษณุว่าถ้าเมื่อไหร่รสาเลือกเขา เขายินดีจะแต่งงานกับเธอทันที อัครินว่าไม่มีวันปล่อยเธอไป อรอุมาเริ่มสงสัยวิษณุเรื่องรสา แต่วิษณุกลับปกปิดภรรยา เพราะถึงจะนึกชอบรสามาก แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะหย่าขาดกับอรอุมา อำนาจบังคับให้อัครินมีลูกกับรสา เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรับผิดชอบธุรกิจทั้งหมด รสาบอกอัครินว่าเธอไม่มีวันมีอะไรกับเขาแน่ อัครินคิดหนัก หาทางออกด้วยการทำให้รสาท้องปลอม ๆ เพื่อหลอกปู่ไปก่อน พักตร์พิไลผิดหวังที่รู้ว่ารสาท้อง เธอกดดัน หาเรื่องทุกทางเพื่อให้รสากับอัครินเลิกกัน น้ำเพชรเองก็เอาตัวมาวุ่นวายกับอัครินตลอดเวลา อรอุมาหาว่ารสาเป็นชู้กับเผด็จ แต่อัครินรู้ความจริง จึงไม่สนใจ และห้ามเผด็จไม่ให้มาข่มขู่เอาเงินจากรสาอีก รสาซึ้งใจเงียบ ๆ ที่อัครินดูแล ปกป้องเธอทุกอย่าง เมื่อเอาชนะใจรสาไม่ได้ วิษณุก็เริ่มปล่อยความร้ายออกมา เขาพยายามจะลวนลามเธอ แต่มิ้นมาเห็นเข้า และหวังจะให้วิษณุลวนลามเธอแทน แต่อรอุมามาพบ อรอุมาเอาเรื่องมิ้นจนบ้านแทบแตก รสาให้มิ้นกลับไปอยู่กับแม่ตามเดิม มิ้นโกรธมาก เผด็จพาสมรมาแฉความจริงว่ารสาเป็นลูกของสามีเก่าเธอเอง ไม่ใช่ผู้ดีมาจากไหน แต่อำนาจกลับจำได้ว่าพ่อของรสาก็มีเชื้อแถวผู้ดีเหมือนกัน พักตร์พิไลให้อัครินหย่าจากรสา เพราะทนไม่ได้ที่จะมีลูกสะใภ้เป็นอดีตลูกจ้าง แต่อัครินไม่ยอม อำนาจว่าไม่เห็นแปลก เทรนเน่อร์ฟิตเนสก็เป็นอาชีพสุจริต ไม่เห็นน่าอายตรงไหน เวลาผ่านไป อรอุมาจับผิด ทักว่าทำไมท้องรสาไม่ค่อยโต อัครินช่วยหาฝาชีมาให้ใส่อยู่ด้านใน รสากลุ้มใจที่ต้องโกหกทุกคนเรื่องเธอท้อง อัครินว่าท้องจริง ๆ ก็หมดเรื่อง อัครินทำปล้ำรสาทีเล่นทีจริง แต่ด้วยความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน ทำให้ต่างได้เสียกัน อัครินแปลกใจที่เธอยังบริสุทธิ์ ไม่เคยมีใครมาก่อน แต่เขาก็นึกอายที่จะบอกว่ารักเธอ รสาผิดหวัง คิดว่าอัครินไม่ได้รักเธอ เหมือนที่เธอรักเขา อรอุมาเหยียดหยามว่ารสาสารพัด แต่เธอก็พยายามอดทนเพราะไม่อยากให้อัครินและอำนาจร้อนใจ อรอุมาพยายามทำให้ทุกคนเห็นว่าเธอเหมาะสมที่จะดูแลธุรกิจมากว่าอัคริน เพราะเธอมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ชิดใจพาลูกในท้องมาเรียกร้องสิทธิ์ให้วิษณุแต่งงานด้วย เพราะเคยรับปากเธอไว้ อรอุมาจะเข้าทำร้ายชิดใจ ชิดใจสู้เต็มที่ รสาต้องเข้าช่วยอรอุมา เมื่อการต่อสู้จบลง ทุกคนแปลกใจที่ท้องของรสาแฟ่บลงเหมือนคนปรกติ ใกล้กันนั้นมีฝาชีตกอยู่ อำนาจทำท่าโกรธมาก รสาบอกอัครินว่าสัญญาระหว่างเธอกับเขาจบลงแล้ว และออกจากบ้านไป พักตร์พิไลให้อัครินหย่าขาดกับรสาเพราะไม่ได้มีลูกด้วยกัน อัครินไปขอโทษปู่ที่โกหกมาตลอด แต่อำนาจว่ารู้มานานแล้ว และยังดูออกอีกว่าอัครินรักรสา อัครินยอมรับ บ่นอย่างน้อยใจว่าเธอต่างหากที่ไม่เคยรักเขา อำนาจว่าหลานชายไม่น่าโง่แบบนี้ ถ้าไม่รัก ผู้หญิงอย่างรสาคงไม่ยอมทำสัญญา มาแต่งงานกับอัครินหรอก รสามอบเงินอีกหนึ่งล้าน ที่ได้จากอัคริน ให้สมรทั้งหมด ตอบแทนบุญคุณที่สมรเลี้ยงดูเธอมา รสาต่อว่าอย่างน้อยใจที่สมรไม่เคยรักเธอเลย สมรชักเริ่มสำนึกผิด แต่เมื่อกลับถึงบ้านกลับเจอเผด็จกำลังจะปลุกปล้ำมิ้น สมรเอามีดฟันเผด็จอย่างลืมตัวด้วยความโกรธ แต่พลั้งมือจนเผด็จตาย สมรติดคุก อัครินหางานให้มิ้นทำ บอกมิ้นว่าที่เขายอมช่วยเพราะเห็นแก่รสา แต่ต่อไปเธอต้องหัดรับผิดชอบตัวเอง อย่าเป็นภาระของใครอีกอัครินพยายามตามหารสาแต่ไม่พบ จนได้เห็นโฆษณาชิ้นใหม่ นางแบบในภาพคล้ายรสามาก อัครินพยายามหาทางจนได้พบเธอ ซึ่งอยู่ในสภาพท้องโต อัครินนึกว่าเธอใส่ฝาชีไว้ข้างในอีก แต่คราวนี้พบว่าเธอกลับท้องจริง ๆ อำนาจบอกว่าคราวนี้เขาจะได้เหลนจริง ๆ ตลอดเวลาที่รสาหายไป เขาเป็นคนดูแลเธอเอง แต่ที่ไม่บอกอัครินเพราะอยากดัดนิสัยอัครินจะได้รู้เสียบ้าง ว่าความรักเป็นยังไง อัครินดีใจมาก ตามตื๊อภรรยาจนรสายอมปรับความเข้าใจด้วย ทั้งคู่ก็กลับไปบ้านอย่างมีความสุข อำนาจยกธุรกิจทั้งหมดให้อัครินดูแล โดยตัวเขาจะได้มีเวลาเล่นกับเหลนคนใหม่ พักตร์พิไลจำใจรับสะใภ้คนนี้อย่างไม่มีทางเลือก ส่วนอรอุมาก็ตามราวีชิดใจต่อไป เพื่อแย่งวิษณุกลับมาให้ได้ ติดตามชมเรื่องราวความเข้มข้นของ ละครเจ้าสาวริมทาง ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครเจ้าสาวริมทาง เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2553