กลับไปสู่วันฝัน (2562/2019) พิมพ์ฉัตร ผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักคําว่าความสุขของชีวิตคืออะไร ตลอดทั้งชีวิตเธอมีแต่การทําเพื่อคนอื่น เพื่อแม่ เพื่อน้อง และเพื่อหลาน ๆ เคยมีบ้างไหม ที่เธอจะได้ทําเพื่อตัวเองบ้าง เธอเคยมีอนาคตที่ดี สอบติดมหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องออกมาช่วยหารายได้เพื่อส่งน้องทั้งสามคนเรียนต่อแทนพ่อที่เสียชีวิตไปกระทันหัน เธอเคยมีความรักครั้งแรกกับแฟนหนุ่ม แต่ก็ไม่สามารถไปถึงตามความต้องการของหัวใจ เมื่อยังต้องรับภาระหน้าที่ของครอบครัวอันหนักอึ้ง กว่าจะส่งทุกคนถึงฝั่ง แม่เสียชีวิตไปแล้ว เธอก็พบว่า อายุเธอมากกว่า 40 แล้ว เลยช่วงเวลาที่จะได้ทําอะไรเพื่อตัวเอง แถมน้อง ๆ ก็ยังเวียนส่งหลาน ๆ มาให้เธอช่วยดูแลอีก เอาล่ะ ได้เวลาแล้วที่เธอขอเป็นตัวของตัวเองในวัย 48 บ้าง พิมพ์ฉัตร หรือ หนึ่ง ลูกสาวคนโตของครอบครัว ตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตัวเองในวัย 48 ด้วยการขายบ้าน ไปอยู่เชียงใหม่ เพื่อหลีกหนีภาระที่ผูกพันต่อไปจากน้องและหลานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เธอได้ข้อเสนอให้มาทํางานบ้านของหมอคันฉัตร เพื่อนบ้านผู้แสนดี และเป็นสุภาพบุรุษในฝันตั้งแต่สมัยยังสาว พิมพ์ฉัตรทุ่มเททํางานสุดตัว ด้วยความรักเทิดทูนคุณหมอ แถมยังแอบฝันหวานว่า สักวันเธอจะก้าวเข้าไปเป็นภรรยาของเขาแทนที่นับดาว ภรรยาคนปัจจุบันที่ไม่เคยมีความรักเอาใจใส่ให้กับหมอคันฉัตรเลย พิมพ์ฉัตรยังได้เจอ พันธิน อดีตแฟนคนแรกสมัยเป็นนักศึกษา ที่ตอนนี้เขากลายเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวยและไม่มีทีท่าจะให้ความสนใจเธอ เพราะจําเธอที่อยู่ในวัย 48 สภาพของแม่บ้านโทรม ๆ แต่งตัวแบบป้า ๆ ไม่ได้ เธอเสียใจมาก เพราะเขาคือรักแรกของเธอ ที่หากเธอตัดสินใจหนีไปอยู่ออสเตรเลียกับเขาตั้งแต่ครั้งนั้น เธอก็ไม่ต้องมาเป็นป้า ๆ ในสภาพเช่นนี้ และเมื่อยังเจอหมอคันฉัตรไล่ออกจากบ้าน เพราะเข้าใจผิดว่า เธอแอบถ่ายรูปเขากับแฟนคนใหม่ ส่งไปให้ภรรยาดู เพื่อเป็นหลักฐานในการฟ้องหย่า พิมพ์ฉัตรจึงตกอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง ชีวิตเธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว มาลินดา หญิงชราผู้แสนดี ที่มีบ้านในโครงการเนิร์สซิ่งโฮมของหมอคันฉัตร เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของพิมพ์ฉัตรที่เชียงใหม่ เข้ามาจุดประกายความฝันครั้งใหม่ของเธอด้วยแหวนวิเศษ ของตระกูลเงือกทะเลจากไอร์แลนด์ เพราะมิสเตอร์ลี สามีของมาลินดาได้สวมแหวนเพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขหนึ่งปี ก่อนที่จะจากไป "คุณเคยฝันที่จะกลับไปแก้ไขสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตบ้างไหม แล้วความหวังในชีวิตของคุณคืออะไร …ถ้าคุณมีเวลากับฝันครั้งนี้แค่หนึ่งปีเท่านั้น.." "หนึ่งอยากได้โอกาส อย่างที่เคยมีเมื่อสามสิบปีก่อน จะได้ทําในสิ่งต่าง ๆ ที่อยากทํา แต่ไม่เคยได้ทํา" ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ครั้งที่สอง เธอกลายเป็นสาวน้อยวัย 18 ในชื่อ มะปราง (ชื่อของหลานสาว) สาวสวยสดใส งดงาม เธอกลับไปหาพันธิน แน่นอนว่าคนเจ้าชู้อย่างพันธินย่อมหลงรักเธอในวัยสาว เธอกลายเป็นภรรยาน้อยคนใหม่ของเขา เธอคิดว่านั่นคือความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ ได้แต่งตัวสวย ๆ ด้วยสินค้าแบรนด์เนม ได้เดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศกับคนรัก เวลาผ่านไปเธอเริ่มสํานึกได้ว่า นั่นไม่ใช่ความสุข แต่เธอคือนกในกรงทองของพันธิน ที่มีแต่ความหึงหวง อารมณ์ร้อน ทําร้ายร่างกายเธอทุกครั้งที่ไม่ได้ดั่งใจ เธอหนีออกมาจากกรงทอง เมื่อเหลือเวลาอีก 3 เดือน จะครบปีตามอํานาจแหวนวิเศษ มาหาหมอคันฉัตร สุภาพบุรุษในฝันที่เธอคิดว่านี่แหละคือความสุขที่แท้จริงยิ่งกว่า แต่ก็พบความจริงที่ว่าหมอไม่เคยแม้แต่จะมองเธอในฐานะคนรัก เขาเพียงแค่ชื่มชมเธอในฐานะแม่บ้านผู้แสนวิเศษ รู้ใจและทํางานให้เขาอย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้น และเขายังมีอัญญารินทร์ผู้หญิงอีกคนที่กำลังจะแต่งงานกัน ฝันทั้งหลายของเธอพังทลาย เธอได้เรียนรู้จากชีวิตจริงว่า เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว มีเพียงดาวินลูกชายของมาลินดาคนเดียวที่เธอสนิทใจและผูกพันด้วยตลอดเวลาหนึ่งปี ที่เธอมีเรื่องทุกข์ร้อน เขาเป็นคนเดียวที่ปรึกษา และให้กําลังใจซึ่งกันและกัน แต่เธอก็ไม่กล้าคิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นอีกแล้ว เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ที่ใครจะมามองป้าแก่ ๆ วัยใกล้ 50 อย่างเธออีกต่อไป เธอถอดแหวนออกจากนิ้วก่อนที่จะครบกําหนดหนึ่งปี และกลับไปเป็นป้าแก่ ๆ ที่ต้องเริ่มตั้งต้นชีวิตใหม่ครั้งที่สาม ซึ่งครั้งนี้เป็นการทําเพื่อตัวเองอย่างแแท้จริง โดยการไปซื้อบ้านเล็ก ๆ เปิดร้านตัดเสื้อ ที่เป็นงานฝีมือที่เธอถนัดที่สุดเพื่อเลี้ยงตัวเองตามอัตภาพ ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่นี่นี่เอง เพียงแต่ว้าเหว่ไปบ้างก็เท่านั้น แล้วความสมหวังก็ตามมาในไม่นาน โดยที่เธอไม่ต้องวิ่งเข้าหาแบบครั้งก่อน ๆ ดาวิน ผู้แสนอบอุ่น มาขอเธอแต่งงานในวัย 50 ครั้งนี้ทุกอย่างวิ่งเข้าหาเธอเอง เพราะความรัก ความผูกพันของคนทั้งคู่ในเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองคนตกลงใช้ชีวิตด้วยกัน ชีวิตใหม่ของเธอคือการเดินทางไปต่างประเทศกับดาวิน ที่มีอาชีพต้องเดินทางตลอดเวลาเพื่อเขียนบทความให้นิตยสารต่างชาติ และเมื่อถึงเวลาอันสมควร ทั้งสองก็ตกลงมาใช้ชีวิตบั้นปลายกันที่เชียงใหม่อีกครั้ง เพียงแต่การกลับมาครั้งนี้ เธอกลับพบว่า ผู้ชายทั้งสองของเธอในอดีต ต่างมีจุดหักเหที่แตกต่างจากภาพฝันของเธออย่างสิ้นเชิง พันธิน โดนคนลอบทําร้าย เพราะความเจ้าชู้ไม่มีที่สิ้นสุด บาดเจ็บสาหัส ต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทราและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หมอคันฉัตร แม้ว่าจะได้แต่งงานอีกครั้งกับ อัญญารินทร์ แต่ชีวิตครอบครัวใหม่กลับแห้งแล้ง ความแตกต่างของอายุสามีภรรยา ที่นับวันจะสร้างแต่ความเหินห่าง หมอคันฉัตรกลายเป็นผู้ชายแก่ ๆ คนหนึ่งที่ไร้คนดูแล ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่า ความรักที่เริ่มต้นจากต่างฝ่ายต่างเห็นความสําคัญของกันและกัน จะยืนยาวมั่นคง และมันคือความสุขที่แท้จริง เหมือนคู่ของเธอ ที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนานนั่นเอง ติดตามชมละคร กลับไปสู่วันฝัน

คำตอบสำหรับสวรรค์ (2562/2019) เทพ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) เทวดาที่ลงมาหาคำตอบยังโลกมนุษย์ว่าเหตุใดมนุษย์จึงทำความดีน้อยลง และได้มาพบกับ แอ๊ด (กันต์ กันตถาวร) นักข่าวกองเฉพาะกิจที่ถูกสั่งให้มาทำข่าวแผนกอาชญากรรม ซึ่งโชคชะตาก็ได้นำพาให้เทพเป็นผู้ช่วยชีวิตแอ๊ด จนส่งผลให้เทพกลับขึ้นสวรรค์ไม่ทัน

ภูตพิศวาส (2562/2019) เรื่องราวของทายาทเจ้าของธุรกิจน้ำหอม มารุต (ธนภัทร กาวิละ) ที่ได้เดินทางมายัง หมู่บ้านแสงใต้ เพื่อสืบหาสาเหตุที่แท้จริง เกี่ยวกับการตายของผู้เป็นพ่อ แต่ระหว่างทางนั้นมารุตได้พบ สระแสงจันทร์ สระน้ำสีนวลลอองามราวสรวงสวรรค์ พร้อมกับ ดาว (อัญชสา มงคลสมัย) สาวสวยราวกับนางฟ้าที่นั่งทอดสะพานอยู่ใต้แสงจันทร์ ทำให้มารุตตกตะลึงในความงามราวกับโดนมนต์สะกด โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วเธอคือ...ภูตสาวที่กำลังออกล่าเหยื่อ การพบกันระหว่างเขาและเธอ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความรักข้ามภพที่เต็มไปด้วยอุปสรรค หรือแท้จริงแล้ว..มารุตเป็นแค่เหยื่อที่ดาวกำลังออกตามล่าเท่านั้น ? ห้ามพลาดชมเรื่องราวลี้ลับชวนค้นหา และความรักเหนือปาฏหาริย์ระหว่างเขาและเธอได้ในละครรักโรแมนติก ภูตพิศวาส

4 เทพผู้พิทักษ์ (2562/2019) เรื่องราวของ น้ำตาล (ผิงผิง ณิชา) นักข่าวสายอาชญากรรมที่ได้รับคำสั่งเสียก่อนตายจากพ่อของเธอให้ตามหาเทพทั้ง 4 คือ เทพปฐพี (ตงตง กฤษกร) ผู้ควบคุมดิน, เทพวายุ (เพชร โบราณินทร์) ผู้ควบคุมลม, เทพธารา (ก้อง วิทยา) ผู้ควบคุมน้ำ และ เทพอัคคี (ซูริ ซูซานน่า) ผู้ควบคุมไฟ ที่ถูกสาปให้ลงมาอยู่บนโลกมนุษย์ เพื่อทำภารกิจตามหาของวิเศษทั้ง 4 อย่าง ได้แก่ มงกุฎมนตรา, สร้อยอารักขา, กำไลอัสนี และ แหวนสุริยัน ที่หากใครได้ของวิเศษเหล่านี้มาครอบครอง ผู้นั้นจะมีอำนาจเหนือทุกคน ซึ่ง ธนา (กาย รัชชานนท์) หัวหน้าแก๊งจงอางดำผู้กระหายอำนาจ ก็ต้องการของวิเศษนั้นมาครอบครองเพื่อให้มีพลังอำนาจเหนือทุกคนบนโลกมนุษย์ งานนี้น้ำตาลจะสามารถตามหาเทพทั้ง 4 พร้อมของวิเศษได้สำเร็จหรือไม่ ? ตามลุ้นกันได้ในละคร 4 เทพผู้พิทักษ์

สางนางพราย (2562/2019) ที่บ้านพักข้าราชการในกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมธาวลัย หรือ เมธ์ นักโบราณคดีสาว ลูกสาวคนเดียวของ พลเรือเอกมรุต ผู้บัญชาการกองทัพเรือ ถูกเรียกตัวกลับมาประจำพื้นที่แถบตะวันออกโดยด่วนจากข่าวการค้นพบซากเรือโบราณใต้ทะเลที่จ.ระยอง ก่อนที่จะย้ายไปประจำไซต์เมธาวลัยจึงถือโอกาสใช้เวลาอันน้อยนิดพักผ่อนอยู่กับครอบครัว แต่ ฉวี แม่บ้านคนสนิทของเมธาวลัยที่เลี้ยงเธอมาแทนอารีย์ แม่ของเมธาวลัยที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เมธาวลัยยังเด็กเกิดเป็นห่วง ไม่อยากให้ออกไปทำงานไกล ๆ อีกเพราะตั้งแต่เป็นนักโบราณคดีมาเมธาวลัยก็ต้องตระเวนไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำจนแทบไม่ได้อยู่บ้าน ฉวีอยากให้เมธาวลัยทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่งงานสร้างครอบครัวเหมือนที่ผู้หญิงควรจะทำ แต่เมธาวลัยกลับคิดว่าการให้ผู้หญิงแต่งอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนเป็นแม่บ้านเป็นความคิดที่ล้าสมัยแล้ว และเธอก็รักอาชีพของตัวเองมากจึงขอทำงานที่ระยองให้เสร็จก่อนแล้วจะพิจารณาอีกที ระหว่างที่พักอยู่บ้านที่สัตหีบ เมธาวลัยออกไปวิ่งริมทะเลแล้วเจอกลุ่มนายทหารนาวิกโยธินกำลังอยู่ระหว่างการวิ่งออกกำลังกายเหมือนกันร้องเพลงแซว เธอรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าตัวครูฝึกที่เป็นตัวตั้งตัวตี เลยหนีกลับมาบ้าน แต่กลับมาเจอ เรือเอกประสุต ครูฝึกคนนั้นอีกครั้งที่บ้านตัวเอง พร้อมกับ นพพันธ์ เพื่อนรุ่นน้องของประสุต มรุตแนะนำให้เมธาวลัยรู้จักว่าเขาเป็นครูฝึกนาวิกโยธินกับทำงานเป็นหน่วยจู่โจมใต้น้ำ ที่เรียกกันว่ามนุษย์กบ หรือ SEAL เป็นคนมีฝีมือมาก แต่เมธาวลัยกลับไม่ชอบขี้หน้าประสุตไปแล้วเลยได้แต่พูดจาเหน็บประสุตไปมา ประสุตก็ไม่ปลื้มเมธาวลัย จึงพูดจาทำนองว่าเขาก็ไม่สนผู้หญิงอย่างเธอ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก เมธาวลัยหงุดหงิดหนีขึ้นห้องตัวเองไปโดยไม่รู้เลยว่าประสุตถูกเรียกมารับคำสั่งจากมรุต ให้ไปประจำที่ระยองเพื่อช่วยงานสำรวจโบราณวัตถุใต้น้ำ ที่เดียวกับที่เมธาวลัยต้องไป ประสุตออกเดินทางไปที่ระยองก่อนเพื่อพบกับ ลุงบวบ ชาวประมงท้องถิ่นที่เป็นคนพบซากเรือโบราณใต้น้ำโดยบังเอิญ ลุงบวบให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ก่อนหน้าพื้นที่ตรงนี้ก็เป็นแค่ชุมชนชาวประมง ชาวบ้านออกเรือกันปกติ แต่กลับเกิดพายุรุนแรง ทั้ง ๆ ที่ช่วงเช้าไม่มีวี่แววว่าฝนจะตั้งเค้า ลุงบวบที่ออกหาปลาวันนั้นเกือบเอาชีวิตไม่รอด มีเรือลำหนึ่งแล่นเข้ามาใกล้พยายามร้องขอให้ช่วยแต่ลุงบวบช่วยไว้ไม่ทัน เรือลำนั้นเจอแรงพายุอับปางลง ลุงบวบรอจนพายุสงบ แล้วกลับไปสำรวจบริเวณที่เรือจมอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือ แต่กลับไม่พบใครพบแต่ซากเรือโบราณลำใหญ่ทรายใต้น้ำถูกพัดออกไปเผยให้เห็นซากเรือใหญ่ใต้น้ำ มีถ้วยโถโอชามโบราณอยู่ในนั้นเต็มไปหมด งานของมรุตที่ระยองคือการดำน้ำลงไปกับทีมมนุษย์กบเพื่อนำวัตถุโบราณสำคัญชิ้นหนึ่ง เป็นหัวเรือสลักรูปหญิงสาวสวมชฎาบนหัว ที่ไม่ว่าชาวบ้านจะพยายามนำขึ้นมากี่ครั้งก็นำขึ้นมาไม่ได้ ต้องมีเหตุติดขัด หรือเหตุการณ์ประหลาดทำให้คนที่เกี่ยวข้องต้องเลิกการเก็บกู้กลางคัน ประสุตฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อ แต่ลุงบวบบอกให้ระวังตัว ให้จุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให้งานราบรื่น ประสุตยอมทำตามเพื่อความสบายใจ แต่ขณะที่ไหว้ก็รู้สึกถึงลมพัดแรงมาปะทะหน้า มีเสียงร้องไห้ดังมาไกล ๆ ประสุตพยายามถามว่ามีใครได้ยินเหมือนตนหรือไม่ก็ไม่มี จึงตัดสินใจลงไปทำภารกิจใต้น้ำ เริ่มแรกการลงไปเก็บกู้วัตถุโบราณใต้น้ำดูจะเป็นไปได้ดี ทว่าเมื่อประสุตดำลงไปใกล้ซากเรือก็เกิดอาการเหมือนตกอยู่ในภวังค์ราวกับเคยเห็นซากเรือนี้ที่ไหนมาก่อน จนเกือบถูกกระแสน้ำพัดหลุดออกจากกลุ่ม โชคดีที่ประสุตเอาตัวรอดมาได้ แต่สุดท้ายก็ต้องหยุดการเก็บกู้หัวเรือกลางคัน เมธาวลัยตามมาที่ระยองทันทีในวันถัดมาพร้อมกับ ปกรณ์ รุ่นพี่และ ชนิดา เพื่อนสนิทในทีมกรมศิลป์เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลของซากหัวเรือโบราณ ประสุตแปลกใจที่ลูกสาวนายพลต้องมาทำงานกับเขา เมธาวลัยไม่เชื่อมือประสุตว่าจะทำงานด้วยกันได้ เพราะพลาดมาครั้งหนึ่งแล้วจากการเก็บกู้หัวเรือ แต่หัวหน้าเมธาวลัยบอกว่าทีมของประสุตฝีมือดีที่สุด ถ้าให้ทีมนักโบราณคดีลงไปเองก็ไม่มีใครทำได้ เมธาวลัยถึงยอม แต่ก็เก็บความสงสัยเรื่องหัวเรือชิ้นนั้นไว้ว่าเพราะอะไรถึงเอาขึ้นมายากจนไม่มีใครทำได้ เมธาวลัยดูข้อมูลหัวเรือโบราณลำนั้นจากรูปถ่ายและเอกสารที่ทางกรมศิลป์ฯเก็บไว้ แว่บแรกที่เห็นภาพหัวเรือนั้นสลักพบว่ามันจากไม้ทั้งอัน ดูจากรูปแบบการสร้างเรือที่ถูกถ่ายภาพมาประกอบเป็นเรือจากอารยธรรมโบราณอายุหลายร้อยปีที่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นของอาณาจักรใด แม้จะถูกแช่น้ำมานานจนมีร่องรอยตะไคร่เกาะจับแต่สภาพยังค่อนข้างสมบูรณ์ เมธาวลัยรู้สึกคุ้นตาเรือลำนี้มาก แต่ไม่รู้ว่าเคยเจอที่ไหน คืนนั้นขณะที่เมธาวลัยนอนหลับอยู่บ้านพัก เธอฝันประหลาดได้เสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้อยู่ริมทะเล ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาหาเธอบอกให้ตามหาให้เจอ จำชื่อนี้ไว้ เมธาวดี ก่อนจะสะดุ้งตื่นตอนเช้าเธอเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ปกรณ์และชนิดาฟัง บอกว่าฝันเหมือนจริงมากและคุ้นชื่อเมธาวดีมาก ปกรณ์คิดว่าเมธาวลัยเหนื่อยจากการเดินทางมากเลยฝันเป็นตุเป็นตะ เมธาวลัยพยายามสลัดความฝันนั้นทิ้งแล้วกลับไปทำงาน จากการตรวจสอบวัตถุโบราณที่เก็บกู้ได้จากซากเรือ เมธาวลัยพบว่าเป็นศิลปะอาณาจักรเก่าแก่โบราณอายุหลายร้อยปี และมีมูลค่ามหาศาล ลุงบวบที่มาช่วยงานบอกว่า เพราะแบบนี้เขาถึงต้องแจ้งทางการให้เข้ามาในพื้นที่ เพราะว่ามีกลุ่มนายทุนที่จ้องจะงมเอาสมบัติพวกนี้ไปขายในตลาดมืด ประสุตที่ตามมาดูด้วยเตือนเมธาวลัยให้ระวังตัวไว้ ไม่ต้องทำตัวห้าวหาญไปยุ่งกับคนพวกนั้น ถ้าอยากมีชีวิตทำงานพวกนี้ไปนาน ๆ เรื่องความเรียบร้อยผู้ใหญ่จะเป็นคนจัดการ เมธาวลัยเถียงว่าผู้ใหญ่บางคนก็เชื่อไม่ได้ ทั้งสองเกิดการโต้เถียงกันอีก ประสุตท้าให้เธอนั่งเรือออกไปสำรวจด้วยกัน เมธาวลัยตอบตกลงไปโดยไม่ฟังคำเตือนของปกรณ์ที่ให้อยู่รอบนฝั่งเพราะเธอดำน้ำไม่เป็น ประสุตแกล้งพาเมธาวลัยออกไปสำรวจกลางทะเล แล้วทิ้งให้อยู่คนเดียวบนเรือ ประสุตกับทีมหายไปนานจนเมธาวลัยเริ่มกลัว ท้องฟ้าเริ่มโพล้เพล้ เธอหลบเข้าไปนั่งใกล้ห้องคนขับ แล้วผล็อยหลับไปด้วยความเพลีย แต่ทันทีที่ดวงตาปิดลง เมธาวลัยก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้แบบเดิมอีก ในฝันเสียงผู้หญิงคนนั้นเรียกชื่อเมธาวลัยให้เดินไปที่หัวเรือ บอกให้มองลงไปในน้ำ ให้ตามหาเธอ เมธาวลัยทำตามที่บอกแล้วทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนมีคนมาผลักตัวเองลงไปในน้ำ แต่ประสุตมาช่วยไว้ได้ก่อน ประสุตต่อว่าเมธาวลัยที่ทำท่าเหมือนจะโดดลงไป เมธาวลัยไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น ประสุตหาว่าเมธาวลัยแต่งเรื่องและต่อว่าว่า ถ้าเมธาวลัยคิดจะมาจับผิดหรือแกล้งอะไรเขาก็ขอให้หยุดแล้วกลับไปทำงานของตัวเอง เมธาวลัยโกรธที่ประสุตไม่เชื่อเธอจะพิสูจน์ให้ดู ประสุตพาเมธาวลัยกลับเข้าฝั่งพร้อมบรรยากาศที่มาคุยิ่งขึ้นระหว่างทั้งสองคน การทำงานวันถัด ๆ มาระหว่างทีมสำรวจกับทีมทหารดูอึดอัดไม่ค่อยราบรื่น จนปกรณ์สังเกตเห็น เมธาวลัยขอตัวไปตรวจวัตถุโบราณที่คลังเพื่อจะหนีหน้าประสุต แต่ทันใดนั้นนพพันธ์ก็วิ่งเข้ามาแจ้งเหตุด่วน ทุกคนไปรวมกันที่ชายหาดใกล้แหล่งสำรวจแล้วก็แทบช็อก เพราะชาวบ้านเจอศพชาวประมงคนหนึ่งชื่อ ยัง นอนเกยตื้นเสียชีวิตอยู่ที่หาด สภาพศพน่าสยดสยอง คอมีรอยเขียวคล้ำเหมือนถูกบีบอย่างรุนแรงจนกระดูกคอหมุนได้รอบ แววตาเบิกโพลงเหลือกลานคล้ายกับเจอสิ่งที่น่าสยดสยอง ยง ชาวประมงอีกคนที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของยังมาดูศพน้องชายก็ทั้งตกใจทั้งเสียใจมาก บอกว่ายังออกไปหาปลากับตนเมื่อวาน แต่จู่ ๆ ก็เกิดพายุกลางทะเล ติดต่อไม่ได้ เช้ามาก็เจอสภาพนี้เสียแล้ว ตำรวจเข้ามาถึงพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐาน บอกกับทางทีมทหารและทีมนักโบราณคดีว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอศพลักษณะนี้ ตั้งแต่ค้นพบซากเรือก็เริ่มมีศพชาวบ้านตายถี่ขึ้น และไม่เคยพิสูจน์ได้เลยว่าตายด้วยสาเหตุอะไร ลุงบวบคิดว่าเกี่ยวกับอาถรรพ์ ต้องมีใครไปหลบหลู่สิ่งที่คุ้มครองเรือไว้ เพราะเรือทุกลำมี แม่ย่านาง คอยปกปักคุ้มครอง แต่ฝ่ายประสุตกลับคิดว่าเป็นอุบัติเหตุมากกว่า ในเมื่อหาข้อสรุปไม่ได้ ทางตำรวจจึงขอกันพื้นที่เอาไว้เพื่อเก็บหลักฐาน ทำให้ทีมสำรวจต้องหยุดงานชั่วคราว เมธาวลัยใช้วันหยุดที่ได้มาแบบไม่ตั้งตัวกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ฉวีดูข่าวการเจอศพตายปริศนาที่ระยองจำได้ว่าใกล้ไซต์งานของเมธาวลัยก็เป็นห่วงไม่อยากให้กลับไป เมธาวลัยบอกมันก็แค่อุบัติเหตุ เธอดูแลตัวเองได้ ด้านนายยงหลังจากไปดูศพน้องชายแล้วก็กลับไปที่บ้าน ปรากฏว่า สุทิน นักการเมืองท้องถิ่นกับนายทุนใหญ่ของย่านนั้นมาดักรอพบ สุทินแสดงความเสียใจเรื่องยัง ไม่คิดว่าน้องชายแท้ ๆ ของยงจะต้องมาตายในทั้ง ๆ ที่ยงกำลังทำงานสำคัญคือการลักลอบลงไปงมสมบัติที่ซากเรือนั่นเพื่อมาขาย ยงพูดด้วยความเจ็บใจว่าเขาเตือนยังให้ระวังแล้ว แต่เหมือนมันมีเหตุการณ์ประหลาดทำให้ยังขึ้นจากน้ำไม่ได้ พายุก็เข้าพอดีตนจำต้องเอาชีวิตรอด จึงได้แต่ปล่อยให้น้องตัวเองจมลงใต้ทะเล สุทินพูดปลอบใจยงบอกว่าอย่าไปกลัวมันแค่อุบัติเหตุให้ทำงานต่อไป นึกถึงเงินที่จะได้จากการขายสมบัติเข้าไว้ เมธาวลัยขอร้องให้ฉวีช่วยหาครูสอนดำน้ำให้แต่แล้วก็ต้องอึ้งเพราะครูฝึกที่ว่าคือประสุตนั่นเอง ตอนแรกเมธาวลัยไม่ยอมเรียนกับประสุตจนเขาหาว่าเมธาวลัยขี้แพ้ เธอเลยยอมลองให้เขาสอนดู ปรากฏว่าโดนประสุตสั่งให้วิ่งบ้างเพราะร่างกายไม่แข็งแรง สั่งให้ลองแบกถังออกซิเจนบ้าง จนเมธาวลัยรู้ว่านี่ไม่ใช่พื้นฐานดำน้ำแต่โดนแกล้ง ประสุตสอนเมธาวลัยว่ามันไม่ง่ายที่จะดำลงไป ถ้าเมธาวลัยยังทำอะไรอันตรายเหมือนที่เขาพาออกไปคราวก่อนอีก เขาคงต้องคุยกับพ่อของเมธาวลัย เมธาวลัยบอกงานนี้คือชีวิตของเธอ เธออยากให้ประสุตเข้าใจ ประสุตถึงยอมสอนพื้นฐานการดำน้ำจริง ๆ ให้ แต่ก็เกิดเรื่องแปลกขึ้นอีก เพราะเมื่อเมธาวลัยดำลงน้ำไปก็เกิดหายใจไม่ออกเหมือนถังออกซิเจนเสีย ประสุตเอาถังมาเช็กก็ยังปกติดีไม่ได้เป็นอะไร เขาขอให้เมธาวลัยกลับไปพักแล้วค่อยมาเรียนใหม่ หลังเมธาวลัยกลับไป นพพันธ์มาคุยกับประสุตถามเรื่องลูกสาวนาย ประสุตบอกน่าปวดหัวแต่ก็น่าสนใจตรงไม่ยอมแพ้อะไรเลย จนนพพันธ์คิดว่าเมธาวลัยหรือเปล่าที่จะมาทลายกำแพงในใจของประสุตเรื่องปมในอดีตเกี่ยวกับแม่ของตัวเองที่ทิ้งเข้าไป ประสุตยืนยันว่าเขาไม่ได้สนใจเมธาวลัย หลังจากวันนั้นมรุตได้เรียกพบประสุตส่วนตัว บอกว่าได้รับรายงานแล้วเรื่องมีชาวบ้านลักลอบงมสมบัติ ให้ประสุตกับนพพันธ์นอกจากช่วยชาวบ้านแล้วก็ให้ประสานกับตำรวจท้องที่ตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด ประสุตรับคำสั่ง แต่ไม่ทันไรประสุตก็ได้รับสายเข้าจากลุงบวบบอกว่ามีชาวบ้านเสียชีวิตบริเวณไซต์สำรวจเพิ่มอีกแล้ว ประสุตกับเมธาวลัยรีบกลับไประยองไปดูรายงานจากตำรวจพบว่า ศพคือไอ้บอมวัยรุ่นติดการพนันที่อาศัยอยู่แถวนั้น ลักษณะการตายเหมือนกับคราวนายยังทุกประการ ลุงบวบยืนยันว่ามันคืออาถรรพ์ แม่ย่านางจะตามมาเอาชีวิตคนที่ขโมยสมบัติ แต่ปกรณ์สงสัยว่าเป็นการฆ่าปิดปากที่เกิดจากการขัดขากันของขบวนการเถื่อนอะไรสักอย่างมากกว่า ประสุตยังไม่ปักใจเชื่ออะไร บอกให้ทุกคนทำงานไปตามปกติก่อน มีแต่เมธาวลัยที่รู้สึกเชื่อลุงบวบแต่ไม่กล้าบอกใครเพราะฝันเรื่องผู้หญิงที่ชื่อเมธาวดี ตกดึกคืนนั้น เมธาวลัยดูรายงานการสำรวจวัตถุโบราณกับจนผล็อยหลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย แล้วเธอก็ฝันถึงเสียงร้องไห้เดิมอีกจนสะดุ้งตื่น เมธาวลัยเดินออกไปสงบสติอารมณ์ที่ชายหาด เจอประสุตออกมาที่หาดกลางดึกเหมือนกันโดยบังเอิญ เลยได้คุยกันดี ๆ ครั้งแรก ประสุตถามว่าเมธาวลัยออกมาทำไม เมธาวลัยเลยลองเล่าว่าตัวเองฝันร้ายเหมือนได้ยินเสียงร้องไห้มาจากทะเล เมธาวลัยคิดว่าประสุตจะหาว่าเธอเหลวไหลเหมือนคนอื่น แต่เขากลับปลอบใจแล้วบอกให้เธอทำใจให้สบาย ตอนแรกอาจจะมีปัญหา แต่เขาก็อยากให้งานราบรื่น เมธาวลัยเลยขอโทษที่เคยทำตัวไม่น่ารักใส่เขา ประสุตเลยชวนเธอไปที่หมู่บ้านพรุ่งนี้ บอกว่าเขาจะไปสืบเรื่องคดีชาวประมงเสียชีวิต มีวัดเก่าอยู่บนเขาด้วยเมธาวลัยน่าจะชอบ เมธาวลัยเลยตกลงไป ที่หมู่บ้าน ลุงบวบพาประสุตเมธาวลัย ปกรณ์ไปที่ถามเบาะแสจาก กิ๊บเก๋ หญิงสาวเจ้าของร้านเหล้าเจ้าเดียวของที่นั่น กิ๊บเก๋เจอหน้าประสุตก็ตกหลุมรักทันที เลยให้ความช่วยอย่างดี ยงมาหากิ๊บเก๋ หลังจากพวกประสุตไปแล้วรู้ว่ากิ๊บเก๋ ช่วยพวกนั้นก็โกรธ กิ๊บเก๋เลยด่าสวนไปว่ายงไม่มีสิทธิ์ไปด่าคนที่ทำเรื่องที่ถูก ไม่เหมือนยงที่วัน ๆ เอาแต่ลอยชายกินเหล้าไม่ทำงานทำการ ยงโกรธบอกวันไหนตนมีเงินมีหน้ามีตา เธอจะไม่พูดกับเขาแบบนี้ ส่วนทีมของประสุต ลุงบวบพาพวกประสุตไปพบหลวงพ่อนาค พระเกจิที่ชาวบ้านเคารพนับถือที่วัดเพื่อทำบุญ หลวงพ่อเลยให้พรตอบ และพูดเป็นนัยว่าให้ประสุตกับเมธาวลัยตั้งมั่นในศีลในธรรม ความดีบุญบารมีจะคุ้มครองให้พ้นจากอันตราย คืนนั้นพวกของยงออกเรือแอบไปลักลอบงมสมบัติใต้น้ำอีกรอบ กับลูกน้องคือผินกับสอน ยงบอกให้รีบเอาพวกถ้วยชามโบราณขึ้นมาก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเห็น แต่ตอนที่ทยอยขนของขึ้นมาบนเรือ จู่ ๆ ผินก็โผล่พรวดขึ้นมาบนน้ำ ตะโกนให้ยงช่วยสอนที่ติดอยู่ใต้น้ำ ยงหันซ้ายขวาไม่รู้จะทำยังไงแล้วฝนก็เริ่มตก เหตุการณ์เหมือนครั้งที่ยัง หรือคนอื่น ๆ ตาย ยงเริ่มกลัวเลยไม่ช่วยสอน และสั่งทุกคนให้ทิ้งสอนไว้แล้วหนีกลับเข้าฝั่ง ประสุตกับทีมนักโบราณคดีและตำรวจเจอศพนายสอนในเช้าวันถัดมา สภาพศพทุกอย่างเหมือนกับทุกศพก่อนหน้า คอบิดหมุนรอบ ตาเบิกโพลงตัวเขียวคล้ำ เมธาวลัยยิ่งเห็นศพก็ยิ่งนึกถึงเสียงร้องไห้จากทะเลที่ตัวเองฝันเห็น เลยไปคุยกับประสุตว่าตนอยากดำลงไปดูใต้น้ำว่าที่ซากเรือมันเป็นยังไง ประสุตบอกเมธาวลัยยังไม่พร้อม แต่เมธาวลัยขอร้อง และเธอจะเชื่อประสุตทุกอย่าง เขาถึงยอมตกลง ฝ่ายยงพอรู้ว่าสอนตายแล้วเลยไปหาผิน แต่ผินเหมือนเป็นไข้จับสั่น เพ้อว่าเขาเห็นที่ใต้น้ำมันมีผี สอนไม่ได้จมน้ำตาย แต่ถูกวิญญาณร้ายลากลงทะเลไป ยงหาว่าผินกลัวจนเป็นบ้า ผินบอกว่าตนพูดจริง สิ่งที่พันขาสอนมันไม่ใช่พืชใต้น้ำอะไร แต่มันเป็นเส้นผมสีดำยาวน่ากลัว ผินเตือนยงไม่ให้ลงไปงมสมบัติอีกถ้าไม่อยากตาย ยงยืนยันว่าไม่มีทางเลิกอาชีพนี้ ถ้าผินไม่กล้าก็ไม่ต้องทำ ประสุตพาเมธาวลัยขึ้นเรือออกไปจุดดำน้ำสำรวจวันถัดมา ระหว่างที่เรือแล่นไปเมธาวลัยพยายามไม่นึกถึงเสียงใต้น้ำ แต่พอถึงเวลาต้องดำลงไปเจอซากเรือจริง ๆ ความอึดอัดที่เคยเจอเหมือนทุกครั้งที่ต้องดำน้ำก็กลับมาอีก เสียงร้องไห้เสียงเดิมก็ดังเสียดเข้ามาในหูจนเธอดำน้ำต่อไปไม่ได้ ประสุตช่วยเมธาวลัยกลับขึ้นมาบนเรือ คิดว่าเมธาวลัยเคลียร์หูไม่ได้ก็พยายามช่วยแต่เมธาวลัยบอกไม่ใช่ เธอได้ยินเสียงนั่นอีกแล้ว ประสุตปลอบเมธาวลัย ดูเวลากับสภาพอากาศที่ท้องฟ้าขมุกขมัว ก็บอกให้รีบกลับเข้าฝั่ง แต่ทันทีที่ประสุตพูดจบเครื่องยนต์เรือก็ดับลง ประสุตวิ่งไปเช็กปรากฏว่าน้ำมันหมด กลับเข้าฝั่งไม่ได้เสียแล้ว บ้านพักที่ระยอง เมื่อปกรณ์รู้ว่าเมธาวลัยและประสุตหายไปด้วยกันก็เริ่มไม่สบายใจบอกให้ทุกคนช่วยออกตามหาสองคนนั้นทันที ประสุตพยายามลอยเรือไปยังเกาะแห่งหนึ่งเพื่อพาเมธาวลัยขึ้นไปพัก ฝนเริ่มตกหนักขึ้น ประสุตตัดสินใจค้างที่นี่ รอให้พายุสงบแล้วพรุ่งนี้เขาจะพยายามส่งสัญญาณให้บนฝั่งมาช่วย เมธาวลัยรู้สึกไม่ค่อยสบายตั้งแต่ตอนลงไปดูซากเรือเลยหลับไปแต่ก็ยังฝันร้าย เห็นผู้หญิงผมยาวสวมเครื่องแต่งกายแบบโบราณคนหนึ่งเข้ามาบีบคอเหมือนจะฆ่าเธอให้ตาย เมธาวลัยสะดุ้งร้องกรี๊ดด้วยความตกใจกลัว ประสุตเข้ามาช่วยปลอบจนเมธาวลัยรู้สึกดีขึ้น ประสุตมองออกไปเห็นว่าใกล้เช้าแล้วเลยออกไปดูเรือ แต่เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายเมื่อเรือที่คิดว่าทอดสมอไว้หายไป เสบียงที่มีก็หมด ประสุตกับเมธาวลัยเลยต้องช่วยกันคิดหาทางรอดให้ได้ ทางด้านปกรณ์ออกตามหาประสุตกับเมธาวลัยแล้วเจอเรือที่ประสุตขับออกมาที่กลางทะเลแต่มันไม่ได้ทอดสมอไว้ รู้ว่าทั้งสองคนอยู่ไม่ไกลก็เร่งออกตามหาไล่ตามเกาะบริเวณนั้น ส่วนที่เกาะเมธาวลัยและประสุตพอมีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ได้ช่วยเหลือกันก็เริ่มรู้สึกดีต่อกันมากขึ้น แต่อาการป่วยเมธาวลัยกลับแย่ลง อาหารน้ำก็ไม่มี จนประสุตคิดว่าเขากับเมธาวลัยไม่น่าไปจากเกาะนี้ได้ แต่ปรากฏว่า ประสุตกลับเจอพลุสัญญาณเก่าอันหนึ่งอยู่ที่ชายหาดเลยยิงออกไป ไม่นานเรือของปกรณ์ก็เข้ามาช่วยไว้ทัน เมธาวลัยถูกพาส่งโรงพยาบาล มรุตมาเยี่ยมเมธาวลัยถึงโรงพยาบาลที่ระยอง บอกให้เมธาวลัยระวังตัวมากกว่านี้ แล้วก็เตือนประสุตว่าไม่ควรตามใจลูกสาวของเขา เพราะเขาไม่อยากเสียเมธาวลัยไปเหมือนกับอารีย์ แม่ของเมธาวลัย ประสุตเข้าใจและรับปากนายว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก หลังจากเมธาวลัยฟื้นไข้ก็สงสัยว่าทำไมประสุตไม่มาพบเธอ เลยไปหาเขาที่บ้านพัก ประสุตไล่เมธาวลัยไปบอกว่าไม่อยากให้เธอยุ่งกับเขาอีก แต่เมธาวลัยไม่ไป เพราะเธอไม่ใช่นางเอกละครที่ถูกไล่แล้วก็จะยอมแพ้ ความจริงประสุตควรจะได้ทั้งคำขอโทษจากเธอที่ขอให้เขาพาออกไปกลางทะเล แล้วก็คำขอบคุณที่เขาช่วยเธอควรไว้ ประสุตอึ้ง แล้วสุดท้ายก็ยอมบอกเมธาวลัยว่า เขากลัวจะเกิดอะไรกับเมธาวลัย กับคนที่นี่เพราะเสียงร้องไห้ที่เธอได้ยิน เขาก็ได้ยินเหมือนกัน ทางด้านปกรณ์เป็นฝ่ายออกไปทำงานกับลุงบวบแทนเมธาวลัย โดยไปสำรวจจุดดำน้ำใกล้ซากเรือ ลุงบวบบอกว่ามีจุดหนึ่งตรงถ้ำหลังเกาะ ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เลยไม่กล้าเข้าไปกัน ปกรณ์รู้สึกว่าแปลกเลยอาศัยตอนลุงบวบบอกให้พักออกไปสำรวจที่ถ้ำนั้นแล้วบังเอิญเจอพวกยงแอบขนของที่งมมาจากใต้ทะเลเอาไปซ่อนในถ้ำ ปกรณ์ตกใจมากจะรีบหนีแต่เกือบถูกพวกยงจับได้จนลุงบวบที่ตามมาทันมาช่วยไว้ถึงรอดมาได้ ยงเจ็บใจมากที่รู้ว่ามีคนแอบเข้ามาบริเวณนี้ทั้งที่ปล่อยข่าวไว้ว่ามีอาถรรพ์เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้ามา ลูกน้องคนหนึ่งวิ่งเข้ามาบอกยงว่าเก็บแว่นที่หล่นอยู่บนพื้นได้ ยงจำได้ว่าเป็นของปกรณ์ก็ไม่พอใจมากที่เริ่มเข้ามายุ่งมากขึ้น เลยคิดว่าต้องกำจัดพวกเจ้าหน้าที่ออกไปให้พ้นทางให้ได้ เมธาวลัยคุยกับประสุตบอกว่าเธอยังไม่ยอมแพ้ที่จะหาความจริงเรื่องซากเรือใต้ทะเล ยิ่งประสุตบอกว่าได้ยินเหมือนกัน เธอก็ยิ่งเชื่อว่าต้องมีอะไรที่ทำให้ทุกคนมาเจอกันที่นี่ ตอนนั้นปกรณ์กลับมาแจ้งข่าวเรื่องพื้นที่หลังเกาะพอดี เมธาวลัยตัดสินใจว่าจะแอบไปสำรวจบริเวณนั้น ขอให้ประสุตช่วยแต่เขาบอกมันอันตรายเกินไป เมธาวลัยคิดว่ามันช้าเกินไปเลยแอบออกไปคนเดียว เมธาวลัยไปซุ่มดูบริเวณที่ปกรณ์บอกแล้วก็เจอพวกของยงกำลังทยอยขนของออกจากถ้ำเพื่อย้ายไปซ่อนพอดี เมธาวลัยพยายามสะกดรอยตามไปแต่เกือบถูกยงจับได้ พวกยงวิ่งไล่ตามเมธาวลัยมาหมายจะยิงให้ตาย แต่ประสุตปรากฏตัวขึ้นมาช่วยเหลือเมธาวลัยได้ทัน เขายิงต่อสู้กลับไปแล้วโดนคนในขบวนการนั้นได้ แต่โชคร้ายที่ประสุตก็โดนยิงบาดเจ็บหนักด้วย ประสุตถูกพาส่งโรงพยาบาล เมธาวลัยเสียใจเพราะถ้าเธอไม่อยากรู้เรื่องนั้น ประสุตก็ไม่ต้องเจ็บตัว ประสุตบอกไม่เป็นไรแค่ให้เธอช่วยเขาเพราะมีลูกน้องคนหนึ่งของพวกนั้นถูกยิงอาจจะส่งมารักษาที่โรงพยาบาล แต่ไม่ว่าเมธาวลัยจะตามหาเท่าไหร่ก็ไม่มี เพราะยงไม่ยอมส่งลูกน้องมารักษายอมปล่อยให้ตายเพราะถ้าส่งโรงพยาบาลจะถูกจับได้ ลุงบวบมาพบประสุตถามอาการ ประสุตบอกไม่เป็นอะไร เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นแต่ลุงบวบก็ยังกังวลอยู่ ส่วนเมธาวลัยพอหาคนไข้ถูกยิงไม่เจอเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปหาข้อมูลเรื่องคนที่เสียชีวิตหลังจากเจอซากเรือโบราณ แล้วปรากฏว่าเป็นคนใกล้ตัวยงแทบทั้งหมดก็ยิ่งมั่นใจว่ายงต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยสมบัติ แต่ไม่มีหลักฐาน บังเอิญพวกเมธาวลัยกับปกรณ์เจอกิ๊บเก๋ กิ๊บเก๋ เลยบอกว่ามีคนหนึ่งที่รอดมาจากอาถรรพ์ใต้ทะเล แต่ตอนนี้สติไม่สมประกอบชื่อผิน อาศัยอยู่ที่วัด เมธาวลัยกับปกรณ์เลยรีบไปพบ แต่พอผินเจอหน้าเมธาวลัยก็กรีดร้องความลนลานบอกว่าเธอคือผี! เมธาวลัยตกใจพยายามบอกให้ผินสงบ แต่ผินกลัวมากจนไม่ได้ข้อมูลอะไรกลับมา เมธาวลัยกลับมาคิดเรื่องที่ผินบอกว่าเธอคือผี เรื่องหญิงสาวชุดโบราณที่เธอฝันเห็น อาถรรพ์ซากเรือใต้ทะเลเพื่อปะติดปะต่อกันก็ยิ่งเชื่อว่ามันต้องเกี่ยวกัน เลยจะไปคุยกับประสุตที่โรงพยาบาลแต่กลับพบว่าเขาถูกมรุตสั่งย้ายด่วนกลับสัตหีบไปแล้ว ยงรู้เรื่องประสุตไม่อยู่ก็ได้โอกาส คิดจะลอบไปงมของขึ้นมาขายอีก แต่ก็พบว่าไม่ง่าย เพราะตั้งแต่ประสุตโดนยิง ตำรวจก็ส่งคนไปประจำแทบทุกจุดในหมู่บ้าน ขยับตัวทำอะไรก็ยาก สุทินก็เร่งจะเอาของ จนยงคิดหนักว่าจะหาของจากไหนมา บังเอิญยงไปได้ยินจากกิ๊บเก๋ ว่ามีคลังเก็บวัตถุโบราณชั่วคราวของกรมศิลป์ เลยวางแผนว่าถ้างมจากทะเลเองไม่ได้ ก็เอาที่มันงมขึ้นมาแล้วแทน ตกดึกคืนหนึ่ง ยงจึงส่งทวน ลูกน้องอีกคนออกไปงัดคลังเก็บของ ทวนแอบเอาหัวเรือโบราณที่ดูมีค่าที่สุดออกมาได้ แต่ขณะที่ขนย้ายก็พบว่ายิ่งขนยิ่งหนัก ทวนขนไปถึงริมทะเล เริ่มไม่ไหวเลยสั่งลูกน้องที่ไปด้วยให้เปิดกล่องออกดูแล้วก็แทบสิ้นสติ เพราะในลังไม่มีหัวเรือแต่มีศีรษะของคนนอนเบิกตาโพลงอยู่ในนั้น ทวนจะโยนกล่องทิ้ง แต่ทุกอย่างก็จบสิ้นลงตรงนั้น เพราะเช้าวันต่อมา ทวนนั่นเองคือศพถัดไปที่นอนตายอยู่ริมหาด เมธาวลัยรู้สึกว่าเหตุการณ์มันร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ เลยกลับไปขอร้องมรุตให้ส่งประสุตกลับมา แต่มรุตไม่ยอม แถมยังสั่งให้ฉวีไปเฝ้าเมธาวลัยที่ระยองเพิ่ม ฉวีตามติดเมธาวลัยแจเพราะกลัวเธอทำอะไรแปลก ๆ อีก เมธาวลัยแกล้งทำเป็นสงบแต่ให้ปกรณ์แอบออกไปสืบแทน แต่ก็ถูกฉวีจับได้ ฉวีโวยวายว่าเมธาวลัยไม่ควรติดใจกับไอ้เรื่องหัวเรือบ้าบอพรรค์นั้น มันก็แค่เศษไม้จมน้ำที่ไม่มีค่าอะไร เมธาวลัยเตือนให้ฉวีอย่าพูดแบบนั้นแต่ฉวีก็ไม่ฟัง ปรากฏว่าคืนนั้นฉวีเจอผู้หญิงท่าทางคล้ายเมธาวลัยมาเรียกให้ออกไปที่ทะเล แต่ผู้หญิงคนนั้นมีผมยาวสยาย หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวพุ่งมาจะทำร้าย ฉวีตื่นขึ้นมาที่ริมทะเลพร้อมกับอาการไข้จับสั่นกลัวมากขอกลับบ้านที่สัตหีบ เมธาวลัยเลยกลับไปขอร้องมรุตอีกครั้ง เพราะไม่มีใครช่วยเธอได้ดีเท่าเขา มรุตก็ยังไม่ยอมอีก เมธาวลัยจึงยื่นขอเสนอว่าขอโอกาสให้เธอกับประสุตอีกครั้ง ถ้าคราวนี้เธอกับประสุตเอาหัวเรือที่ไม่มีใครเคยกู้ขึ้นมาได้สำเร็จ พ่อจะต้องยอมให้ประสุตกลับไปกับเธอ มรุตตกลงเพราะคิดว่าเมธาวลัยไม่มีทางทำได้ เธอดำน้ำยังไม่แข็ง ประสุตก็เพิ่งฟื้นจากบาดเจ็บหนัก ขณะเดียวกัน ประสุตก็คิดเหมือนมรุตว่า การเอาหัวเรือขึ้นมามันยาก เขาเองก็พลาดมาแล้ว แต่เมธาวลัยให้กำลังใจประสุตว่าถ้าช่วยกันประสุตต้องทำได้ ประสุตถึงรู้สึกดีขึ้น วันที่เมธาวลัยกับประสุตจะลงไปเก็บกู้หัวเรือ ลุงบวบรู้เรื่องจึงมาหาประสุต แล้วให้พระเครื่ององค์หนึ่งกับเขา เรียกว่า พระพุทธคุณพุทธศตวรรษ ซึ่งเป็นของเก่าแก่และจะคุ้มครองประสุตกับเมธาวลัยจากสิ่งชั่วร้ายใต้น้ำ ประสุตรับไปแล้วลงไปใต้น้ำกับเมธาวลัย พอเมธาวลัยเข้าไปใกล้ก็เริ่มออกอาการอึดอัดเจียนตายจนเกือบจะจมน้ำ แต่ประสุตคอยช่วยเมธาวลัย และตั้งจิตอธิษฐานต่อพระพุทธคุณพุทธศตวรรษให้ทุกอย่างสำเร็จราบรื่น เมธาวลัยถึงเริ่มอาการดีขึ้น ในที่สุดก็เอาหัวเรือแกะสลักนั้นขึ้นมาจากน้ำได้ มรุตพอทราบเรื่องการกู้หัวเรือโบราณขึ้นจากน้ำได้ก็ทำตามสัญญา สั่งย้ายประสุตกลับมาช่วยเมธาลัย ทันทีที่กลับมา ประสุตประกาศตัวว่าเขาจะร่วมมือกับตำรวจจับพวกที่คิดจะขโมยสมบัติให้ได้ยงเจ็บใจที่สุดท้ายประสุตก้างชิ้นใหญ่ของการลอบงมสมบัติกลับมา จึงคิดว่าจะไม่เก็บประสุตไว้อีก เมธาวลัยไปหาประสุตที่บ้านพักเพื่อนัดเขาออกมากินข้าวด้วยกันหลังเลิกงาน อ้างว่าตอบแทนตั้งแต่ที่เขาช่วยเธอที่เกาะกับหลาย ๆ เรื่อง ประสุตตอบตกลง แต่วันที่ประสุตออกไปทำงานแล้วกำลังขับรถจะกลับบ้านพักตามลำพังก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์มาขวางไว้แล้วลอบทำร้าย กิ๊บเก๋เป็นคนเจอร่างของประสุตที่สลบอยู่เลยช่วยเขาไว้ เมธาวลัยตามมาเจอที่โรงพยาบาล กิ๊บเก๋เลยต่อว่าเมธาวลัยอย่างหนัก โทษว่าความโชคร้ายทั้งหมดที่ประสุตต้องเจอกับเรื่องราวอาถรรพ์มันเป็นเพราะเมธาวลัยทั้งนั้น เมธาวลัยเสียใจ ประสุตที่อาการดีขึ้นตามมาหาเมธาวลัย พูดกับเธอว่าเขาไม่คิดเหมือนกิ๊บเก๋ ตอนแรกเขาอาจจะไม่ชอบแต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ตอนนี้เขาอยากช่วยเมธาวลัย ทุกอย่างมันจะต้องผ่านไปได้ วันต่อมาลุงบวบเลยพาทุกคนไปพบหลวงพ่อนาคที่วัดอีก เมธาวลัยจำเรื่องที่ลุงบวบเล่าให้ฟังได้ว่า หลวงพ่อนาคมีญาณแก่กล้า เลยถามว่าหลวงพ่อรู้เหตุที่ทำให้เธอต้องเจอเรื่องลึกลับแบบนี้หรือไม่ หลวงพ่อบอกได้ แค่มันเป็นกรรมหนักที่เกิดจากการจองเวรกันที่เมธาวลัยกับเขาคนนั้นเลยทำร่วมกันในอดีต รวมถึงทุกคนที่อยู่ที่นี่ตรงนี้ ทุกอย่างจะไม่จบถ้าคนที่ผูกใจเจ็บกับเมธาวลัยไม่หยุด ทำได้แค่ผ่อนหนักให้เป็นเบาเท่านั้น เมธาวลัยเลยตัดสินใจจะขุดค้นลงไปในอดีตให้ได้ว่า ซากเรือโบราณ ผู้หญิงที่เธอเห็นในฝัน ทรัพย์สมบัติใต้ทะเล และการฆาตกรรมที่เกิดทั้งหมดนี้มันเกี่ยวอะไรกับเธอ พอสืบค้นจากจารึกโบราณที่เก็บไว้ในวิหารวัดเก่าก็พบว่า พื้นที่ตรงหมู่บ้านอาจจะเป็นอาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองในอดีต เมธาวลัยเข้าไปดูหัวเรืออีกครั้ง ลองจุดธูปอธิษฐานจิตบอกว่า ถ้าต้องการอะไรจากเธอ หรืออยากให้เธอช่วยให้ช่วยบอก แต่ทันใดนั้นเมธาวลัยก็รู้สึกเหมือนลมปะทะหน้ารุนแรงแล้วหลุดเข้าไปในความฝัน ร่างของผู้หญิงคนนั้นที่เข้าฝันเธอมาตลอดปรากฏชัดขึ้น บอกว่าเธอคือเมธาวดีเธอจะเอาคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เมธาวลัยเอาไปจากเธอ เมธาวลัยฟื้นขึ้นมาที่ห้องพักอีกห้อง ประสุตบอกว่าเจอเธอนอนสลบอยู่ที่คลังเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมธาวลัยน้ำตาไหลบอกว่าเธอต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรือนั้น เธอจำได้แล้วว่าเคยฝันถึงมันมาก่อนตั้งแต่สมัยเด็ก ก่อนที่แม่เธอจะตาย ประสุตรู้ว่าเมธาวลัยกลัวมากเลยให้พระพุทธคุณพุทธศตวรรษกับเมธาวลัยไว้ หลังจากนั้นเมธาวลัยก็กลับไปบ้านเพื่อถามมรุตกับฉวีว่า ตอนเธอยังเด็กมีเหตุการณ์อะไรแปลก ๆ เกิดขึ้น ฉวีกับมรุตอ้ำอึ้ง แต่ก็ยอมเล่าว่าอารีย์แม่ของเมธาวลัยที่เป็นนักโบราณคดีเคยคิดจะสำรวจอารยธรรมโบราณแห่งหนึ่ง แต่กลับตั้งท้องเมธาวลัยเสียก่อน ตอนที่อารีย์ท้องเธอฝันเห็นเรื่องประหลาดทั้งปราสาทโบราณ เจ้าหญิงสองคนที่อาณาจักรแห่งนั้น แผ่นดินไหว อาณาจักรที่ล่มสลาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือมีผู้หญิงคนหนึ่งสั่งให้อารีย์ตั้งชื่อลูกว่าเมธาวลัย พออารีย์คลอดเมธาวลัยออกมาก็เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะก่อนจะเสียชีวิตเพราะตกน้ำตาย ฉวีเตือนเมธาวลัยว่าอย่านึกถึงอดีตพวกนั้นอีก มันไม่มีอะไรเป็นเรื่องจริง ตอนนี้แค่เมธาวลัยอยู่กับเธอกับมรุตก็มากพอแล้ว เมธาวลัยเชื่อฉวีกำลังตัดสินใจจะเลิกตามหาเรื่องทั้งหมด แต่กลับพบว่าวันต่อมาฉวีก็เสียชีวิตในสภาพศพคอหัก ตาเบิกโพลงเหมือนกับชาวบ้านที่กลายเป็นศพก่อนหน้านั้น เมธาวลัยทั้งโกรธ ทั้งเสียใจรู้ว่าต้องเกี่ยวกับวิญญาณร้ายที่จองเวรเธอเลยรีบกลับไปที่บริเวณซากเรือ ตะโกนท้าทายให้ใครก็ตามที่คิดจะเอาชีวิตเธอ เธอจะไม่ยอมให้ใครก็ไม่รู้พรากเอาคนที่รักไปจากเธอแบบนี้ ประสุตเข้ามาดึงเมธาวลัยไว้บอกให้ตั้งสติ เมธาวลัยตัดสินใจกลับไปทำงานอย่างหนักอีกครั้ง มีปกรณ์คอยช่วยจนรู้ว่าสามารถถอดอักขระจากใบลานได้ว่ามีเมืองชื่อเมธานคร แต่ชื่อเมืองนี้เลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์โดยไม่มีสาเหตุ เมธาวลัยฝันถึงเมธาวีอีกครั้งบอกว่าเธอไม่มีทางทำอะไรได้ สุดท้ายเมธาวลัยจ

มณีนาคา (2562/2019) มณีเนตร (ยีนส์-เกวลิน ศรีวรรณา) นางนาคีโอปปาติกะ ผู้มีรูปโฉมงดงาม ได้แอบหนีขึ้นมาเที่ยวบนโลกมนุษย์ ในขณะที่ องค์มุจลินท์นาคราช (ฟลุค-จิระ ด่านบวรเกียรติ) พระคู่หมั้น กำลังถือศีลในช่วงเข้าพรรษา นางได้ช่วยชีวิต ชลธิศ (ตูมตาม-ยุทธนา เปื้องกลาง) ทายาทมหาเศรษฐี ที่ถูกสั่งฆ่าถ่วงน้ำโดย ธัชชัย (เอ-พศิน เรืองวุฒิ) อาแท้ ๆ เพื่อแย่งชิงมรดก มณีเนตรได้สละแก้วมณีนาคาหนึ่งดวงเพื่อช่วยชีวิตชลธิศให้ฟื้นขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มณีเนตรกับชลธิศสามารถสื่อทางจิตถึงกันได้ราวกับมีกล้องวงจรปิดที่มองเห็นภาพ เหตุการณ์ของอีกคนแม้ว่าจะอยู่ต่างสถานที่กัน ภาคี (เหม-ภูมิภาฑิต นิตยารส) เพื่อนสนิทของชลธิศ พยายามสืบเรื่องการฆาตกรรมชลธิศในครั้งนี้และเพ่งเล็งไปที่ธัชชัย มณีเนตรมาอาศัยอยู่ที่บ้านของชลธิศ เธอได้เรียนรู้และสนุกกับสิ่งแปลกใหม่มากมายบนโลกมนุษย์ แต่ก็ไม่วายถูก ดุจจันทร์ (มีน-อัจจิมา โกสุมา) สาวไฮโซที่หมายปองชลธิศอยู่ กลั่นแกล้งจนเธอโกรธแล้วเผลอกลายร่างเป็นพญานาคให้เห็น แต่มณีเนตรก็สามารถลบความทรงจำของใครก็ตามที่รู้ความจริงเรื่องนี้ได้ ทำให้ยังคงไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงเธอคือพญานาค แต่แล้ววันหนึ่งชลธิศก็ได้เห็นมณีเนตรในร่างของพญานาคด้วยตาของตัวเอง แต่ด้วยอานุภาพแห่งความรักก็ทำให้ชลธิศยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นได้ ยิ่งนานวันมณีเนตรก็ยิ่งทำให้ชลธิศรักและหวงแหนเธอโดยไม่รู้ตัว แต่ความรักของทั้งคู่กลับต้องพบเจออุปสรรคมากมาย ทั้งจากองค์มุจลินท์นาคราชที่ตามขึ้นมาเอาตัวมณีเนตรกลับไปยังเมืองบาดาล และเธอยังถูก นิลรัตน์ (ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์) นางนาคีที่หลงรักองค์มุจลินท์ คอยหาเรื่องใส่ร้ายป้ายความผิดเพื่อแย่งชิงตำแหน่งพระชายา ส่วนชลธิศก็ต้องคอยกันท่า สดายุ (มังกร-ปภาวิน หงษ์ขจร) ศัตรูหัวใจคนสำคัญ แถมยังถูกธัชชัยวางแผนฆ่าซ้ำอีกจนมณีเนตรทนไม่ไหวถึงกับบันดาลโทสะแปลงกายเป็นพญานาคทำร้ายผู้คนจนบาดเจ็บล้มตาย ความรักของมนุษย์กับพญานาคสาวสุดสวย จะดำเนินต่อไปอย่างไร จะสมหวังหรือไม่ ติดตามกันต่อได้ในละคร มณีนาคา

เพรงลับแล (2562/2019) ตั้งแต่ นิรชา (ฝ้าย-เวฬุรีย์ ดิษยบุตร) เข้ามาเป็นครูในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ผู้ชายหลายคนในหมู่บ้านหลับไปในลักษณะไหลตาย ทุกคนพากันหวาดกลัว ไม่กล้าออกจากบ้านในยามค่ำคืน ชายหลายคนแต่งหน้าทาปากแดง เพื่อป้องกันไม่ให้ผีแม่ม่ายมาเอาตัวไปนิรชาไม่เชื่อเรื่องผีแม่ม่าย และครั้งแรกที่นิรชาได้พบกับ ทศนนท์ (สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์) ทั้งสองก็ไม่ถูกกันทันที เพราะนิรชาคิดว่าทศนนท์เป็นพวกเดียวกับทรงกลด (อู๋-นวพล ภูวดล) นายหน้าที่เข้ามากว้านซื้อที่แถวนั้น ทศนนท์เป็นวิศวกรที่ถูกส่งมาสำรวจเส้นทางที่จะตัดถนนเพื่อเข้าสู่น้ำตกพร้อมกับทีมอีกสองคนคือ พีรพร และ อนุชิต แต่ชาวบ้านต่างพากันเตือนพวกเขาว่าอย่าเข้าไปใกล้บริเวณน้ำตก เพราะที่นั่นอันตราย วันดีคืนดี จะได้ยินเสียงมโหรีซึงพาทย์ลาดตะโพนดังแว่วมาจากเพิงผาแถวนั้น ก่อนที่จะพบศพชายหนุ่มนอนตายโดยไม่มีสาเหตุอยู่ที่ชายป่าใกล้น้ำตกในวันรุ่งขึ้น แต่ทศนนท์ไม่เชื่อ การมาของ ปรางทิพย์ (น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์) หญิงสาวสวยลึกลับก็ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดระแวง เพราะบางคืนจะมีเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากบ้านของปรางทิพย์ ทันทีที่ปรางทิพย์ได้พบกับทศนนท์ ก็เข้าตีสนิทเหมือนรู้จักกันมานาน จนทำให้คนในหมู่บ้านนินทา โดยเฉพาะ เนตรมายา (ณฉัตร-กวิยณัฎฐ์ แฮร์มันน์) เจ้าแม่ร่างทรงชื่อดังที่ชอบทศนนท์ เธอจึงใช้ความเชี่ยวชาญด้านไสยเวทย์ตามจับผิดว่าปรางทิพย์ไม่ใช่มนุษย์ ปรางทิพย์มี บัวคำ (นุ่น-รมิดา ประภาสโนบล) เป็นแม่บ้านกึ่งคนสนิทที่อยู่ในบ้านเดียวกัน และไม่ค่อยออกจากบ้านไปไหนมาไหน และมีญาติเพียงคนเดียว คือ พิณทิพย์ (น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์) ยายของเธอ ซึ่งเป็นหญิงชราหลังค่อมหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนแม่มด พิณทิพย์มักจะมาปรากฏตัวอย่างลึกลับที่บ้านปรางทิพย์ก่อนคืนเดือนดับ มินตา (ดาริณ แฮนเซน) แอบไปซุ่มดูหน้าบ้านปรางทิพย์ แต่กลับพบทศนนท์กลางทาง เหมือนกำลังละเมอ แท้จริงแล้วปรางทิพย์กับพิณทิพย์เป็นคนคนเดียวกัน เธอเป็นหญิงสาวจากเมืองลับแลที่มาตามหาคนรักที่จากไป เธอพยายามจะฟื้นความทรงจำบางอย่างของทศนนท์ให้คืนกลับมาเพื่อให้เขาสำนึกผิดและกลับไปแก้คำสาปของสุบรรณเหรา ผู้คุมเมืองลับแล ที่เกิดจากเขาเป็นต้นเหตุ หมอปรัชญา (บอส-โตนนท์ วงศ์บุญ) นายแพทย์สาธารณสุขประจำอำเภอ พยายามหาสาเหตุและให้ความรู้กับชาวบ้าน ว่าการเสียชีวิตที่เรียกว่าไหลตายนั้น เกิดจากการขาดสารอาหารขณะที่ทำงานหนักและพักผ่อนไม่เพียงพอ ในขณะที่ จาริณี พยาบาลสาวที่หลงรักหมอปรัชญา ก็ช่วยห้ามปรามพ่อ คือผู้ใหญ่จรัล ไม่ให้พาชาวบ้านงมงาย ขณะเดียวกัน บุษบาลาวัณย์ (ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคม) หญิงสาวเมืองลับแลอีกคนได้หลุดพ้นจากคำสาปที่เคยทำผิด จึงตัดสินใจออกมายังเมืองมนุษย์ และได้พบกับทรงกลด เธอสนใจทรงกลดทันที ในขณะที่ทรงกลดก็สนใจบุษบาลาวัณย์เช่นกัน บุษบาลาวัณย์ตามเอาชีวิตของทศนนท์เพื่อจะนำเขาไปบูชายัญต่อสุบรรณเหรา เพราะแค้นปรางทิพย์ที่เคยทำให้เธอต้องคำสาปจนต้องพลัดพรากจาก คอน (อู๋-นวพล ภูวดล) ชายที่เธอเคยรัก ปรางทิพย์จึงต้องรีบช่วยให้ทศนนท์ระลึกชาติได้โดยเร็ว โดยเล่าเรื่องในอดีตที่เขาเคยเป็นเทศเมื่อชาติที่แล้ว และพาทศนนท์เข้าไปยังเมืองลับแลที่ปัจจุบันนี้เหลือแต่เพียงผู้หญิง เพราะเทศเป็นสาเหตุให้สุบรรณเหราพิโรธจนฆ่าผู้ชายจนตายหมดทั้งเมือง เมืองลับแลจึงกลายเป็นเมืองแม่ม่ายที่มีแต่ผู้หญิงเท่านั้น นิรชาแอบตามทศนนท์เข้าไปยังเมืองลับแลและถูกจับได้ ทศนนท์เห็นเข้าจึงรีบเข้าไปช่วยไว้ ปรางทิพย์โกรธคิดว่าเทศเปลี่ยนใจไปรักนิรชา จึงพยายามจับตัวทั้งสอง แต่ทศนนท์เข้าไปกันและให้นิรชาหนีไปก่อน ปรางทิพย์ไม่กล้าทำร้ายทศนนท์ ทศนนท์หนีออกมาได้ทีหลังแต่หมดสติไป นิรชาช่วยเขาและพาส่งโรงพยาบาล แต่นั่นกลับทำให้ชาวบ้านเข้าใจนิรชาผิดว่าเป็นผีแม่ม่ายที่จะเอาวิญญาณของทศนนท์ไปอีกคน ทศนนท์ช่วยอธิบาย แต่เขาก็พูดความจริงได้ไม่หมด เพราะจะกระทบถึงเมืองลับแลด้วย จึงถูกเข้าใจว่าเป็นเหยื่อที่ต้องมนต์เสน่ห์ผีแม่ม่าย ชาวบ้านพากันรุมประณามสาปแช่งนิรชาและไล่เธอออกจากหมู่บ้าน ทศนนท์กับนิรชาจึงเห็นใจกัน ทศนนท์พยายามปกป้องนิรชาและสัญญาว่าจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างเธอ นิรชาสืบรู้ว่าที่ชาวบ้านเข้าใจผิดเพราะทรงกลดเป็นคนใส่ไฟ เขาจึงพยายามต่อสู้และเปิดโปงทรงกลด และยังมีพฤติกรรมน่าสงสัยอีกหลายอย่าง จากการกว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านที่กลายเป็นหญิงม่ายเพราะสามีไหลตาย ทรงกลดรู้ว่าเมืองลับแลมีจริงและมีสมบัติมากมาย จึงร่วมมือกับเนตรมายาหลอกให้บุษบาลาวัณย์พาเขาและพรรคพวกเข้าไปปล้นเมือง แต่ทุกคนก็ถูกสุบรรณเหราจับได้และฆ่า ทศนนท์กับนิรชาที่ตามไปช่วยปรางทิพย์ก็ถูกจับตัวไปเช่นกัน บุษบาลาวัณย์สำนึกผิด จึงยอมสละชีวิตช่วยทศนนท์กับนิรชาออกมา ทศนนท์กับนิรชารู้ตัวว่ารักกัน ปรางทิพย์ได้รับรู้ความจริงที่เจ็บปวดและเปลี่ยนใจจากทศนนท์ เธอต้องตามหาเทศต่อไป เทศจะยังมีชีวิตอยู่หรือได้ตายจากไปแล้ว และปรางทิพย์จะได้เจอเขาอีกหรือไม่ ติดตามกันต่อได้ในละคร เพรงลับแล

เพลิงพรางเทียน 2562

เพลิงพรางเทียน (2562/2019) อินทร์ เวียงระมิงค์ (เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์) เป็นหนุ่มหล่อไฮโซเพียบพร้อม เป็นลูกคนเดียวของ คุณหญิงดุษฎี (เหมียว-ชไมพร จตุรภุช) ได้ตกหลุมรักกับ กลินท์ ระวีรัมภา (ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์) นางแบบสุดฮอต ทั้งๆ ที่อินทร์มีภรรยาอยู่แล้วคือ ติ๊ ปติมา (โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ บุญประชม) แต่อินทร์ก็ไม่สนใจว่ากลินท์กับปติมาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในวงการบันเทิง เมื่อมีข่าวเมาท์ทั่วเมืองเรื่องอินทร์กับกลินท์แอบคบกัน อินทร์ปฏิเสธกับปติมาว่าไม่เคยมีอะไรกับกลินท์ ขณะเดียวกับอินทร์ก็หว่านล้อมกลินท์ จนกลินท์พร้อมจะออกมาปฏิเสธว่าเธอกับอินทร์ไม่ได้มีอะไรกัน แต่ แพม (เม-นิศาชล ต้วมสูงเนิน) เพื่อนสนิทของปติมารับรู้เรื่องของอินทร์กับกลินท์มาตลอด และแพมก็บอกให้ปติมาฟัง ทั้งแพมและปติมาต่างหาโอกาสที่จะฉีกหน้ากากนางเอกของกลินท์ เบนจามิน หรือ เบน (ภณ-ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์) ดารา นายแบบที่แอบรักกลินท์ตัดสินใจบอก สายป่าน (สายไหม-มณีรัตน์ ศรีจรูญ) ที่เป็นทั้งผู้จัดการและเพื่อนสนิทของกลินท์ ให้เตือนกลินท์ แต่กลินท์ไม่เชื่อ กลินท์บอกว่ากลินท์กับอินทร์คือเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน เพราะกลินท์ฝันอยู่บ่อยๆ ในฝันนั้นอินทร์คือเจ้าชาย และกลินท์คือสาวทางล้านนา ยิ่งเมื่อมีงานอีเว้นต์ที่เชียงใหม่ ณ ขณะที่ทำการแสดง กลินท์ได้หลุดเข้าไปในอดีต และได้เห็นเรื่องราวความรักของเจ้าน้อยและเทียนคำ ที่มีหน้าตาเหมือนอินทร์กับกลินท์ ทำให้กลินท์ยิ่งปักใจเชื่อว่าตัวเองกับอินทร์เป็นเนื้อคู่กัน ด้วยความหวังดีและห่วงใย เบนพยายามชวน กลินท์ไปวัดนั่งสมาธิ เพื่อให้กลินท์ออกมาจากวังวนอดีต แต่เมื่อกลินท์ได้นั่งสมาธิก็ยิ่งได้เห็นภาพในอดีตมากขึ้น ทำให้กลินท์ได้รู้ถึงบ่วงกรรมเราสามคน ของอินทร์ ปติมา และ กลินท์ เริ่มต้นจากอดีตชาตินี่เอง เพราะเมื่อเจ้าวงเดือนรู้ว่าเจ้าน้อยแอบปันใจให้กับเทียนคำก็โกรธแค้น จนฆ่ากลินท์ตายที่ประตูแสนปุงหวัง ความเจ็บแค้นในดวงจิตของเทียนคำ ทำให้กลินท์คิดจะกลับไปอดีตเพื่อแก้แค้นทุกคนที่ทำกับเทียนคำ เรื่องราวความรักจะเป็นอย่างไร เมื่อต่างก็ถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยกรรมที่เคยทำร่วมกันมาจากอดีตสู่ปัจจุบัน กรรมที่เต็มไปด้วยไฟที่พร้อมจะแผดเผาทุกคนให้มอดไหม้แม้กระทั่งตัวเอง สามารถติดตามเรื่องราวสุดเข้มข้นได้ในละคร เพลิงพรางเทียน

นางสิบสอง 2562

เรื่องย่อ : นางสิบสอง (2562/2019) นานมาแล้วมีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ นนท์ และภรรยาของเขาชื่อ พราหมณี ทั้งสองมีลูกสาวถึง 12 คน ด้วยความที่ลูกเยอะฐานะทางบ้านจึงค่อย ๆ ตกต่ำลง เงินทองที่เก็บไว้ก็หายไปหมดเนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสิบสองคน อยู่มาวันหนึ่งพ่อของนางสิบสองก็ได้คิดอุบายว่าจะนำลูก ๆ ทั้งสิบสองคนไปปล่อยป่า โดยหลอกลูกของตนว่าตนจะไปเยี่ยมญาติจะพาลูก ๆ ไปด้วย เมื่อมาถึงกลางป่าเขาก็บอกกับลูกว่าจะไปหาผลไม้มาให้กินให้ลูก ๆ เมื่อได้โอกาสเขาก็หนีไปโดยหวังว่าจะมีคนที่ดีกว่านี้มารับเลี้ยงดู นางสิบสองรอบิดาของตนจนเหนื่อย โชคดีที่นางเภาน้องคนสุดท้องที่มีความฉลาดมากกว่าพวกพี่ ๆ ได้นำข้าวตากโรยตามทางที่เดินมา พวกนางทั้งสิบสองจึงกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย เมื่อบิดาและมารดาเห็นลูกของตนกลับมาได้ก็ตกใจมากและได้คิดว่าจะนำลูกของตนไปปล่อยป่าอีกครั้ง และวันนั้นก็มาถึง พ่อของนางสิบสองได้นำลูกของตนไปปล่อยป่าอีก คราวนี้โชคร้ายนางเภาไม่ได้เอาข้าวตากมาทำให้นางทั้งสิบสองติดอยู่ในป่า นางทั้งสิบสองได้อยู่ในป่าจนรุ่งเช้าของอีกวัน นางเภาได้บอกกับพี่ของตนว่าควรจะหาทางกลับบ้านใหม่ แต่เดินไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที จนในที่สุดก็มาเจอกับนางยักษ์สันตราพอดี นางยักษ์สันตราพอได้เห็นนางทั้งสิบสองก็เกิดความรักและเอ็นดูเนื่องจากตนไม่มีลูกและสามีของตนก็ตายไปแล้ว นางยักษ์จึงนำนางทั้งสิบสองมาเลี้ยงไว้ในวังโดยสั่งให้ทุกคนในเมืองทานตะวันแปลงกายเป็นมนุษย์ให้หมดเนื่องจากกลัวว่านางทั้งสิบสองจะหวาดกลัวและเกลียดตน ส่วนตนเองก็ได้เปลี่ยนชื่อจากสันตราเป็นสันธมาลา นางทั้งสิบสองใช้ชีวิตอยู่ในวังอย่างสุขสบายจนกระทั่งโตเป็นสาว นางเภาก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่าเมืองนี้เป็นเมืองยักษ์เพราะว่าตนนั้นไม่เคยเห็นสัตว์ตัวไหนในเมืองในเมืองนี้เลยและพี่ของตนก็ได้เจอกับกองกระดูกที่พวกยักษ์กินไว้ทางท้ายวังซึ่งนางสันธมาลาห้ามไม่ให้ไปอีกด้วย นางเภาจึงพาพวกพี่หนีจากเมืองยักษ์จนนางสันตราตามมา แต่มองไม่เห็นนางทั้งสิบสองเพราะเทวดาในป่าคุ้มครอง นางสันตราจึงกลับเมืองไปด้วยความอาฆาตแค้น นางทั้งสิบสองดีใจที่หนีจากนางยักษ์มาได้และก็เดินทางไปโดยไร้จุดหมาย จนมาถึงเมืองกุตลนครซึ่งมีราชารถสิทธิ์เป็นผู้ปกครองเมือง ท้าวรถสิทธิ์ เมื่อได้เห็นนางเภาที่รูปงามและพวกพี่ ๆ ของนางแล้วก็เกิดความรักใคร่ โดยรักนางเภามากที่สุด ท้าวรถสิทธิ์ได้นางทั้งสิบสองเป็นมเหสี อยู่มาวันหนึ่งนางทั้งสิบสองคนก็ได้ตั้งครรภ์ อีกด้านหนึ่งในขณะเดียวกันนางยักษ์สัตราได้ใช้มนต์วิเศษของตนดูภาพพวกนางทั้งสิบสองผ่านกระจก นางสันตราจึงได้เห็นและรู้ว่านางสิบสองอยู่ที่เมืองกุตลนครและได้เป็นมเหสีของราชารถสิทธิ์ ก็ได้ตามไปจนมาถึงเมืองกุตลนครและได้พบกับท้าวรถสิทธิ์ นางจึงเป่ามนต์สะกดให้ท้าวรถสิทธิ์รักใคร่และแต่งตั้งให้ตนเป็นพระมเหสีเอกแทนนางทั้งสิบสอง เมื่อนางสิบสองรู้ข่าวว่าพระสวามีตนมีมเหสีใหม่จึงโมโหและอยากรู้ว่าเป็นใคร พอดีนางยักษ์สันตราผ่านมาพอดีนางสิบสองจึงได้รู้ว่าเป็นนางยักษ์สันตราก็ตกใจกลัว และร้องขอว่าอย่าทำอะไรตนเลย นางยักษ์สันตราไม่ยอมจึงเป่ามนต์ให้ท้าวรถสิทธิ์เกลียดนางทั้งสิบสองและสั่งนางทั้งสิบสองไปขังไว้ในถ้ำ นางทั้งสิบสองต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในถ้ำขณะที่ท้องของนางก็เริ่มโตขึ้นทุกวัน ฝ่ายนางยักษ์สันตรายังไม่หยุดแค้นนางสิบสองจึงออกอุบายว่าตนป่วยเป็นโรคประหลาดและได้เป่ามนต์ใส่หมอหลวงให้พูดว่าต้องใช้ลูกตานางทั้งสิบสองมาทำยาให้กินจึงจะหาย พระรถสิทธิ์จึงรีบให้จัดการควักลูกตานางสิบสองมาถวายทันทีโดยนางยักษ์ได้สั่งให้วิรุฬและจำบัง สมุนเอกของตนรับหน้าที่นี้ เมื่อมาถึงถ้ำทั้งสองได้ควักลูกตานางสิบสองทันทีโดยเรียงจากพี่ไปน้อง ด้านนางค่อมผู้ซื่อสัตย์ต่อนางสิบสองได้อ้อนวอน ขอให้พระรถสิทธิ์สั่งไม่ให้ควักลูกตานางสิบสองอยู่พักใหญ่ก็ได้นำราชโองการมาให้วิรุฬและจำบังดูแต่ด้วยตนเองแก่แล้วและหลังก็ค่อมอีกด้วย จึงมาไม่ทันโดยวิรุฬจำบังได้ควักลูกตาไปทั้ง 11 คนแล้ว เว้นแต่นางเภาโดนควักไปเพียงข้างเดียวเพราะตนมาทันที่นางเภาพอดี วิรุฬจำบังจึงได้นำลูกตาของนางสิบสองใส่โถไปถวายให้นางสันธมาลา นางค่อมได้โมโหตัวเองที่มาไม่ทัน นี่ก็เป็นเพราะเวรกรรมของนางทั้งสิบสองที่ตอนเด็กได้ควักตาปลาออกมาเล่นแต่นางเภาควักออกมาเพียงข้างเดียว จึงไม่โดนควักลูกตาทั้ง 2 ข้าง นางทั้งสิบสองต้องทุกข์ทรมานเข้าอีกปวดทั้งตาและท้องแก่ที่ใกล้คลอดโดยหากบเขียดแถวนั้นมาย่างกินประทังชีวิตและข้าวที่นางค่อมคอยแอบนำมาถวาย เวลาผ่านไปจนกระทั่งพวกนางคลอดลูกมาแต่ลูกของนางทั้ง 11 คนตายหมด เพราะพวกนางอดอยากจึงกินลูกตัวเองเหลือแต่นางเภาที่ให้กำเนิดพระโอรสและตั้งชื่อว่า รถเสน รถเสนเป็นเด็กฉลาดและรูปงามมากและเป็นหัวแก้วหัวแหวนของแม่และป้าทั้ง 11 คน

ขวานฟ้าหน้าดำ 2562

เรื่องย่อ : ขวานฟ้าหน้าดำ (2562/2019) ขวานฟ้าหน้าดำ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชะตากรรมของ "สุทธาเทพ" เทวดาชั้นผู้น้อยซึ่งทำหน้าที่ล้างเท้าให้แก่บรรดาเทวดาผู้มาเข้าเฝ้าพระอิศวรและถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำ พระอิศวรจึงได้ประทานขวานฟ้าให้สุทธาเทพใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว ทว่าสุทธาเทพกลับใช้อาวุธดังกล่าวเพื่อล้างแค้นและข่มเหงรังแกเทวดาองค์อื่นที่ไม่ยอมสยบต่อตนเอง พระอินทร์ในฐานะผู้ดูแลสรวงสวรรค์จึงใช้ให้พระอาทิตย์ไปปราบสุทธาเทพจนสุทธาเทพพ่ายแพ้และได้รับแผลไหม้เกรียมที่ใบหน้า จากนั้นพระอินทร์จึงสาปซ้ำให้สุทธาเทพจุติลงไปเกิดบนโลกมนุษย์โดยที่ยังคงมีใบหน้าดำไหม้ติดตัวเพื่อชดใช้กรรม ต่อเมื่อทำความดีจนเป็นที่ประจักษ์แล้วเท่านั้นจึงจะกลับมามีใบหน้าปกติตามเดิมและได้ขวานฟ้ากลับคืนไปเป็นสิทธิ์ของตนเองโดยสมบูรณ์ สุทธาเทพได้จุติลงมาเกิดเป็น "ขวาน" ลูกของ "นายอุทัย" กับ "นางสำลี" ผู้มีฐานะยากจน อาศัยอยู่นอกหมู่บ้านแห่งหนึ่งชานเมืองบุรีรมย์ เหตุที่ขวานที่ได้ชื่อนี้เพราะมีขวานฟ้าติดตัวมาตั้งแต่เกิด เมื่อวันแรกเกิดนั้นหมอตำแยได้เห็นขวานมีหน้าดำเป็นแถบผิดจากเด็กธรรมดา ซ้ำยังถูกขวานฟ้าเล่นงานเนื่องจากคิดจะยักยอกขวานฟ้าไปเป็นของตัวเอง หมอตำแยจึงแพร่ข่าวไปว่าขวานเป็นเด็กปีศาจ ทำให้ชาวบ้านต่างเกลียดชังและหวาดกลัวครอบครัวของขวานมาก มีเพียง "ทิดแก้ว" ซึ่งเป็นเพื่อนของนายอุทัยและ "จ้อย" ลูกชายของทิดแก้วเท่านั้น ที่ยังคงคบหาและคอยให้ความช่วยเหลือครอบครัวของขวานอยู่เสมอ แม้จะเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรังเกียจเดียดฉันท์จากสังคมรอบข้าง แต่ขวานก็เป็นเด็กดี มีความอดทนอดกลั้น เชื่อฟังพ่อแม่ ขยันขันแข็งช่วยงานบ้านทุกอย่าง เวลาเห็นใครเดือดร้อนก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือเต็มที่ ยามที่ขวานมีภัยถึงชีวิต ขวานฟ้าก็จะลอยมาให้ความช่วยเหลือทุกครั้ง ทั้งยังได้ "เจ้าพ่อเขาเขียว" เทพารักษ์ประจำภูเขาในแถบหมู่บ้านที่ขวานอาศัยอยู่ คอยให้ความช่วยเหลือในยามคับขันอยู่เสมอ ชีวิตของขวานเริ่มตกอยู่ในอันตรายเมื่อขวานได้ช่วยเหลือเศรษฐีคนหนึ่งให้หนีรอดจากการถูก "อำมาตย์แสงเพชร" ขุนนางโฉดผู้ทรงอิทธิพลและมีจิตใจทะเยอทยาน จับตัวไปเรียกค่าไถ่เพื่อใช้เป็นทุนในการก่อกบฏต่อพระเจ้ากรุงบุรีรมย์ และต่อมาขวานได้ช่วยเหลือจ้อยซึ่งถูกลูกชายของอำมาตย์แสงเพชรและเด็กรับใช้รุมทำร้าย จนกลายเป็นว่าทำให้ลูกชายของอำมาตย์แสงเพชรได้รับบาดเจ็บสาหัส ครอบครัวของขวานจึงถูกอำมาตย์แสงเพชรคุกคามอย่างหนัก ทั้งหมดต้องแยกย้ายกันหนีไปอยู่ที่อื่นเพื่อเอาชีวิตรอด ขวานได้ออกเดินทางไปด้วยกันกับจ้อย มุ่งหน้าสู่การผจญภัยเพื่อปราบปรามคนชั่ว อภิบาลคนดี และค้นหาหนทางต่อสู้กับอำมาตย์แสงเพชร เพื่อช่วยเหลือพระเจ้ากรุงบุรีรมย์ให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกอำมาตย์แสงเพชร และเพื่อพาครอบครัวของตนเองกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอย่างสงบสุขอีกครั้งให้จงได้

เนตรนาคิน 2561

เนตรนาคิน (2561/2018) เนตรนาคิน เรื่องราวตำนานปีศาจ เมดูซ่า เมื่อตระกูลเก่าแก่ต้องพบกับคำสาปโบราณที่มีความเกี่ยวพันกับคนในครอบครัว ครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ประสบชะตากรรมที่ไม่คาดฝัน เมื่อคำสาปโบราณประจำตระกูลกล่าวไว้ว่า เมื่อใดก็ตามที่ลูกสาวถือกำเนิดขึ้น บุตรคนนั้นจะกลายเป็นปีศาจเมดูซ่า ทำให้บรรพบุรุษต้องกำจัดเด็กผู้หญิงทุกคนที่เกิดมา จนกระทั่งเวลาผ่านไป นิโคลัส ผู้สืบเชื้อสายเมดูซ่า ได้แต่งงานกับ อมรา เศรษฐินีชาวไทย และกำลังจะคลอดลูกสาวฝาแฝด สิ่งที่นิโคลัสกลัวมาโดยตลอดก็ได้เกิดขึ้น เมื่อ เฮเลน ป้าของนิโคลัสมาหา เพื่อหวังจะกำจัดลูกสาวฝาแฝดของเขา !! นิโคลัสพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกสาวคู่แฝดรอด ไม่มีใครล่วงรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ลูกสาวคู่แฝดถือกำเนิด จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป 25 ปี เรื่องราวของปีศาจร้าย เมดูซ่า จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และใครจะเป็นผู้ปิดตำนานลึกลับครั้งนี้ ติดตามชมได้ในละคร เนตรนาคิน

คู่ซี้ผีมือปราบ (2561/2018) ร้อยโท มัด (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ตำรวจหนุ่มมากความสามารถที่ผ่านการฝึกหลักสูตรต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศมามากมาย หลังฝึกจบ มัดถูกเรียกตัวให้เข้ามาประจำในหน่วยสืบสวนของ รองฯ สุทัศ (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) เพื่อสืบคดียาเสพติด ซึ่งพัวพันกับแก๊งรถหรูหนีภาษี มัดได้รถ สย.645 มาเป็นรถประจำตัว โดยที่มัดมารู้ภายหลังว่ามีวิญญาณของ ร้อยโท สยาม (ชาคริต แย้มนาม) นายตำรวจซึ่งเป็นเจ้าของรถคันเก่าซึ่งสิงอยู่ในรถ สยามถูกฆ่า และจัดฉากว่าเป็นตำรวจเลวที่ค้ายาเสพติด วิญญาณสยามต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ตัวเอง โดยอาศัยความช่วยเหลือของมัด มัดเริ่มต้นทำงานสืบ โดยมีสยามเป็นเหมือนคู่หูกลาย ๆ มัดได้รู้จักกับ เพียว (มรกต พูนผล) นักข่าวสาวสายแข็ง ซึ่งเพียวกำลังตามข่าวแก๊งรถหรูหนีภาษีเหมือนกัน ข้อมูลจากเพียวทำให้มัดได้เข้าใกล้ โอตี้ (อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ) กับ ทอม (อรรถพร ธีมากร) สองพี่น้องซึ่งคุมแก๊ง มัดได้รับมอบหมายจาก รองฯ สุทัศ ให้เป็นสายแทรกซึมเข้าไปในแก๊งของโอตี้ กับทอม เพื่อสืบข่าวหาข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด มัดปลอบเข้าแก๊งพวกโอตี้ได้สำเร็จ แต่เพียวแอบตามมัดเข้าไปด้วย แม้ว่ามัดจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องยอมกับคำขู่ของเพียวว่า ถ้ามัดไม่ยอมให้เธอไปด้วย เธอจะเปิดเผยตัวจริงของมัดให้พวกโอตี้รู้ มัดจำใจยอมให้เพียวปลอมตัวเข้าแก๊งด้วยในฐานะแฟนของมัด เพียวทุ่มเทชีวิตเพื่อทำข่าวนี้ ทั้งที่ เลิศศักดิ์ (สุทธิพงษ์ วัฒนจัง) เจ้าของสำนักข่าวไทยเดลี่ที่เพียวทำงานอยู่ และสนุกเกอร์ (ดนู ชุตินาวี) รุ่นน้องผู้เทิดทูนเพียวเป็นไอดอล ก็ยังไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำ เพราะห่วงจะเกิดอันตราย แต่ถ้าเพียวตั้งใจจะทำอะไรแล้วก็คงไม่มีอะไรมาขวางเธอได้ หลิว (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) อดีตคนรักของสยาม ซึ่งเป็นอัยการที่ทำคดีของสยาม ก่อนที่จะจบคดีไปว่าสยามเป็นคนร้ายค้ายาเสพติด และสิ่งที่ทำให้หลิวเสียใจที่สุดก็คือ สยามนอกใจเธอ โดยมีอะไรเกินเลยกับ ออย (จีร่าร์ พิทักษ์พรตระกูล) เด็กสาวที่ทำงานเป็นสายให้สยาม หลังจากคดีสยามจบไปหนึ่งปี หลิวยังคงจมอยู่กับความเศร้า คงจะมีแต่ ผู้กองเข้ม (สราวุฒิ มาตรทอง) ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ และสยามที่คอยมาเอาใจใส่ดูแล เธอรู้ดีว่าเข้มรู้สึกกับเธอมากกว่าเพื่อน แต่หัวใจเธอก็คงยังไม่มีที่ว่างสำหรับเขา หลิวได้รู้ความจริงจากออยหลังจากคดีสยามจบไปเกือบปีว่า คำให้การในศาลทั้งหมดนั้นเธอพูดโกหก เพราะมีคนบางกลุ่มซึ่งเธอไม่รู้ว่าใครขู่บังคับให้เธอต้องพูดโกหก ความเป็นจริงแล้วสยามนั้นรักหลิวเสมอ ออยเสียชีวิตด้วยการใช้ยาเกินขนาด ก่อนที่หลิวจะทันได้สอบถามอะไรเพิ่มเติม หลังจากออยตาย หลิวเจอแหวนวงหนึ่ง ซึ่งออยพยายามจะเอามาให้เธอ มันเป็นแหวนวงที่สยามซื้อไว้จะให้เธอในวันสุดท้ายก่อนที่จะถูกยิงตาย หลิวเสียใจที่เข้าใจสยามผิด และคิดจะรื้อคดีสยามขึ้นมาตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เข้มรู้ดีว่าสยามเจอกับอะไรก่อนที่จะตาย จึงพยายามค้านไม่อยากให้หลิวรื้อคดีของสยามขึ้นมา เพราะห่วงว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับเธอ แต่ก็ห้ามหลิวไม่ได้ มัดกับเพียวที่แฝงตัวเข้าแก๊งโดยแกล้งเป็นคู่รักกัน จนหลายครั้งที่เพียวเองที่เป็นฝ่ายมโนไปไกลว่าบทบาทคู่รักปลอม ๆ ระหว่างเธอกับมัด หากเกิดเป็นเรื่องจริงก็คงจะดีไม่น้อย แต่เพียวก็ต้องผิดหวัง เพราะในหัวของมัดคงมีแต่เรื่องงาน และมัดเป็นผู้ชายประเภทที่ดูจะไม่มีมุมโรแมนติกกับเขาซะเลย มัดกับเพียวสนิทกับโอตี้อย่างรวดเร็ว เพราะฝีมือการขับรถระดับเทพของมัดนั้นทำให้โอตี้ชื่นชม ทำให้ กร (ศรัณยู ประชากริช) ลูกน้องคนสนิทของทอม ไม่พอใจ ที่มัดจะมาแย่งความเด่นดังของมันไป กรคอยหาเรื่องมัด และทำให้มัดต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากหลายครั้ง แต่มัดก็รอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากสยาม ยิ่งสืบลึกเข้าไปใกล้ยาเสพติด คดีของสยามและคดีที่มัดกำลังสืบก็ดูเหมือนจะมีบางอย่างเชื่อมโยงถึงกัน เรื่องนี้คงมีตำรวจคอร์รัปชันบางคนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งมัดดูจะไม่สามารถไว้ใจใครได้เลย แม้แต่รองฯ สุทัศ เพราะหลังจากที่มัดส่งข่าวให้ รองฯ สุทัศ เอากำลังเข้าจับพวกโอตี้พร้อมยาเสพติดของกลาง แต่กลับกลายเป็นว่าพวกโอตี้รู้ตัว ทำให้การจับกุมครั้งนั้นล้มเหลว มัดเกือบโดนจับได้ว่าเป็นสาย แต่ก็รอดตัวไปได้เพราะกลายเป็นทอม ซึ่งสงสัยในตัวกรมานาน จับได้ว่ากรเป็นสายแทน กรซึ่งเป็นสายของ ป.ป.ส. ที่ต้องถูกเปิดเผย ได้มัดช่วยให้กรหลบหนีไปได้ กรโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดมัด และมัดต้องส่งข่าวพวกโอตี้ให้ตน เพราะมัดทำให้แผนของกรที่แฝงตัวเข้ามาในแก๊งโอตี้หลายปีต้องพัง มัดส่งข่าวให้กรตามสัญญา แต่กรซึ่งทำงานให้กับหน่วยงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกันทำงานกับหน่วยสืบสวนพิเศษของเข้ม โดยไม่ได้สงสัยว่าเข้มจะเป็นตำรวจคอร์รัปชัน กรเปิดเผยว่ายังมีสายของตำรวจอีกคนซึ่งแฝงตัวอยู่ในแก๊งโอตี้ เข้มหลอกให้กรล่อมัดออกมาเพื่อส่งคนไปฆ่า มัดหลบรอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของสยามอีกครั้ง ซึ่งทำให้พวกเข้มเข้าใจว่ามัดซึ่งเป็นสายคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ตายแล้ว มัดได้รู้กลไกการส่งยาเสพติดของพวกโอตี้ ที่มีเข้มเป็นตำรวจคอร์รัปชันที่คอยช่วยเหลืออยู่ เบื้องหลังซึ่งทำงานให้กับแก๊งโลกัย แก๊งใหญ่และมีอิทธิพลมาก โดยมี ดุจดาว (ภัสสร บุณยเกียรติ) เป็นแกนนำของแก๊ง สยามมั่นใจว่ายาเสพติดที่แก๊งโลกัยส่งขาย เป็นยาเสพติดที่มาจากของกลางของตำรวจ และลักลอบเอาออกมาขาย สยามแทบไม่อยากเชื่อว่าเข้ม เพื่อนสนิทที่สุดของตน จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้ายาครั้งนี้ ก่อนการส่งยาครั้งสุดท้าย มัดและเพียวถูกโอตี้จับได้ว่าเป็นสายให้ตำรวจ โอตี้ทะเลาะกับมัด แต่สุดท้ายมัดก็กล่อมจนโอตี้ยอมที่จะอยู่ข้างตำรวจได้สำเร็จ เพราะลึก ๆ แล้วมัดรู้ดีว่าโอตี้ไม่ได้มีความสุขกับงานส่งยาเสพติด โอตี้เพียงแค่รักรถและสนุกไปกับความเร็ว มัดสัญญาว่าจะกันโอตี้และทอมเอาไว้เป็นพยานเพื่อรับโทษน้อยลง และรับประกันความปลอดภัยให้คนทั้งคู่ มัดกับโอตี้วางแผนเพื่อให้ตำรวจเข้าจับกุมในการส่งยาครั้งสุดท้ายโดยไม่ได้บอกเรื่องนี้กับทอม มัดบอกแผนการให้ทางรองฯ สุทัศ รับทราบเพื่อเตรียมล้อมจับ พร้อมกับหลักฐานที่ชี้ว่าผู้กองเข้มเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย รองฯ สุทัศ เข้าพบ ผู้การอาทิตย์ (วีรศักดิ์ นิลกลัด) เป็นการส่วนตัว เพื่อสรุปคดีนี้ให้ผู้การอาทิตย์ฟัง เพื่อขอกำลังนำจับพวกโอตี้ ผู้การอาทิตย์ฟังด้วยความสนใจ ก่อนจะอนุมัติกำลังนำจับให้รองฯ สุทัศ โดยที่รองฯ สุทัศ ไม่รู้ตัวว่าแท้จริงนั้น ผู้การอาทิตย์คือนายตำรวจยศใหญ่ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังผู้กองเข้ม และมีผลประโยชน์ร่วมกับแก๊งโลกัย มัดกับโอตี้ที่รอตำรวจให้มาตามแผน แต่กลับกลายเป็นว่าแผนการของพวกมัดรู้ถึงหูแก๊งโลกัย ดุจดาวส่ง ดารินทร์ (เกศริน เอกธวัชกุล) นักฆ่ามือขวาผู้เป็นลูกเลี้ยงของเธอซึ่งนับถือดุจดาวเหมือนแม่แท้ ๆ ของตน แต่ดุจดาวกลับมองเธอเหมือนสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์ตัวหนึ่งเท่านั้น ดารินทร์มาจัดการทุกคนตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ ทอมเสียชีวิตในการปะทะกัน พวกมัดขโมยยาเสพติดทั้งหมดหนีไป ด้วยความช่วยเหลือของสยาม โอตี้บาดเจ็บและเสียใจกับการตายของทอม ทั้งหมดหลบซ่อนตัวจากการตามล่า มัดลอบไปหารองฯ สุทัศ โดยไม่สนใจคำเตือนของสยาม มัดมาที่บ้านรองฯ สุทัศ ด้วยความไม่พอใจ ก่อนพบว่ารองฯ สุทัศ เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านของตัวเอง ตำรวจเข้าล้อมจับมัด ซึ่งทั้งหมดเป็นการจัดฉากเพื่อป้ายความผิดให้มัด หลิวได้พบหลักฐานที่หักล้างหลักฐานเก่าในคดีสยามได้ และยื่นขอเปิดการพิจารณาคดีสยามใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางความไม่พอใจของคนที่เดือดร้อนหลายกลุ่ม แม้ว่าเข้มพยายามจะห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะวันนี้หลิวรู้ดีว่าเรื่องนี้เข้มก็มีส่วนที่อยู่เบื้องหลังการบิดเบือนความจริงทั้งหมดในคดีสยาม แต่ที่หลิวไม่รู้คือ ที่เข้มทำทั้งหมดก็เพื่อเข้าไปหาความจริง เพราะเข้มรู้ดีว่าเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลังการตายของสยามนั้นเป็นขบวนการใหญ่ และมีนายตำรวจเกี่ยวข้องหลายคน เพื่อที่จะลากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาลงโทษให้ได้ เข้มต้องยอมเข้าไปเป็นพวกเดียวกับพวกมัน และด้วยความร่วมมือกันของมัด และเพียว กับทีมสืบสวนของรองฯ สุทัศ ที่เหลือ ก็เตรียมที่จะจับกุมพวกหน้ากากแก๊งโลกัยทั้งหมด ดุจดาวและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้การอาทิตย์ถูกดำเนินคดีโดยอัยการหลิว ซึ่งได้หลักฐานทุกอย่างที่พอจะเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมดจากผู้กองเข้ม แต่ก่อนที่ดุจดาวจะขึ้นศาลเพื่อรับทราบความผิด ดารินทร์กับพวกก็บุกเข้ามาชิงตัวดุจดาวอย่างอุกอาจด้วยอาวุธหนัก หลิวถูกจับไปเป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับหลักฐานสำคัญในคดี มัดกับสยามจะช่วยหลิวได้อย่างไร และจะจัดการกับแก๊งโลกัยได้หรือไม่ รวมทั้งความรักของคู่ หลิว กับ สยาม และ มัด กับ เพียว จะลงเอยอย่างไร ก็ต้องติดตามชมในละคร คู่ซี้ผีมือปราบ

ซิ่นลายหงส์ (2561/2018) เรื่องราวของ อัญญานางหูกคำ (ใบเตย อาร์สยาม) ธิดาใน อัญญาหลวงพุทธังกูร (พันโท วันชนะ สวัสดี) เติบโตมาอย่างต่ำต้อย เพราะถูกชิงชังจาก อัญญานางคำอ่อนมหาเทวี (นุสบา ปุณณกันต์) ในฐานะที่เป็นลูกเมียน้อย แม้แต่ พระสนมทองจันทร์ (ภัครมัย โปตระนันทน์) มารดาแท้ ๆ ก็เกลียดลูกสาวตัวเอง ที่ไม่เกิดเป็นชาย เพื่อสร้างอำนาจให้ตนทัดเทียมกับมหาเทวี เมื่อเข้าสู่วัยสาว หูกคำหลงรัก อัญญาเจ้าราชบุตรศรีโซ่ทอง (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายต่างแม่ จึงทอผ้าซิ่นลายหงส์ หวังเอาไว้นุ่งในพิธีอภิเษกของตนกับเจ้าราชบุตร แต่อีกฝ่ายไม่มีใจ กลับดูถูกว่าต่ำต้อย และหันไปอภิเษกกับ เจ้าหญิงสีออน (ชลฤดี อมรลักษณ์) เชื้อพระวงศ์แห่งอาณาจักรเชียงรุ้ง ซ้ำยังร่วมมือกับอัญญามหาเทวี และ อัญญานางศรีสะอาด (กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์) ผู้เป็นน้องสาว ใช้อำนาจชิงผ้าซิ่นลายหงส์มาให้เจ้าหญิงสีออนใส่ในราชพิธี ทำให้หูกคำปวดใจมาก หูกคำกล้ำกลืนความผิดหวัง ด้วยการทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับการทอผ้าไหม สาธุบาทเจ้ารามังกูร (พีท ทองเจือ) เห็นฝีมือทอผ้าไหมลายงาม ก็ส่งราชสาสน์มาสู่ขอธิดาของเจ้าเมืองเวียงคำนาค เมื่อมหาเทวีรู้เข้าก็เปลี่ยนตัวหูกคำเป็นศรีสะอาด เพื่อให้ได้ครองอำนาจเป็นมหาเทวีแห่งอาณาจักรใหญ่ และใส่ความว่า หูกคำวางแผนลอบสังหารตนและลูก อัญญาหลวงหลงเชื่อ จึงสั่งประหารชีวิตหูกคำ เมื่อถึงวันตาย หูกคำสาปแช่งทุกคนที่ทำร้ายชีวิต และจิตใจเธอว่า ให้เกิดมามีชีวิตใหม่ที่ต้องเกี่ยวพันกับเธอ และได้รับความทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับที่เธอได้รับในชาตินี้ คำสาปถูกส่งผ่านผ้าซิ่นลายหงส์สีแดงสด ที่มหาเทวีสั่งให้นำเลือดของหูกคำไปย้อมผ้า เพื่อลบลายหงส์ ซึ่งเป็นกาลกิณีต่อเวียงคำนาค แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งทำให้คำสาปของหูกคำทวีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ผ้าซิ่นลายหงส์ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นจนมาถึงยุคอีสานบุรี พร้อมกับชีวิตของหูกคำและคนอื่น ๆ ที่ถูกคำสาปผูกพันไว้ อัญญาหลวงพุทธางกูรเกิดใหม่เป็น พ่อแพทย์พุทไธ (พันโท วันชนะ สวัสดี) ผู้มั่งคั่งด้วยสมบัติและบารมีจากการเป็นแพทย์ พ่อแพทย์อยู่กินกับ ยาแม่คำอ่อน (นุสบา ปุณณกันต์) มีลูกสาว 3 คน สะอาด (กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์), สอาง (ใบเตย อาร์สยาม), สะออน (ชลฤดี อมรลักษณ์) แรงอธิษฐานของหูกคำ ทำให้สอางสวยเด่น และชอบข่มพี่น้อง สอางถูกเลี้ยงมาโดยนางงอ (ภัครมัย โปตระนันทน์) หญิงค่อมที่มีประวัติลึกลับ นางงอเลี้ยงสอางให้เป็นคนเอาแต่ใจ ไม่เห็นหัวใคร โซ่ทอง (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ลูกศิษย์ปรุงยาของพ่อแพทย์ หลงรักสอางสุดใจตามคำอธิษฐานของหูกคำในชาติก่อน แต่สอางไม่เห็นโซ่ทองในสายตา ซ้ำดูถูกว่าต่ำต้อย เช่นเดียวกับที่หูกคำเคยเจ็บช้ำมาก่อน เมื่อสอางแอบเห็นยาแม่คำอ่อนเอาผ้าซิ่นลายหงส์ออกมาอวดสะอาด เพื่อไว้นุ่งในพิธีแต่งดองออกเรือนกับ หลวงอากาศกำจร (กฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์) สอางปรารถนาอยากได้ผ้าผืนนั้น เลยแย่งผ้าซิ่นลายหงส์มาสวมในงานเลี้ยง จนเกิดอิทธิฤทธิ์ดลใจให้หลวงอากาศกำจรเปลี่ยนใจมาหลงในตัวเธอ จึงเกิดการเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหัน เรื่องราวความแค้นที่ฝังอยู่ในผ้าซิ่นลายหงส์ผืนนี้ จะดำเนินไปทางไหน ใครจะได้รับผลกรรมที่ตนเองได้ทำไว้อย่างไรนั้น ต้องติดตามชมกันต่อได้ในละคร ซิ่นลายหงส์

พยัคฆา (2561/2018) ผู้ใหญ่คงเดช (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) และพวกตามล่าเสือสมิง ที่ออกมากัดกินชาวบ้าน แต่สู้ไม่ได้ โชคดีที่ อัคคี (วินัย ไกรบุตร) มาช่วยไว้ได้ อัคคีฆ่าเสือสมิงและทำน้ำมันเสือสมิงออกมา ซึ่งเป็นของวิเศษชุบชีวิตคนที่เกือบตายให้ฟื้นได้ คงเดชแค้นใจที่อัคคีได้ของวิเศษไป จึงกล่าวหาว่าอัคคีเป็นเสือสมิง อัคคีและ ศรีไพร (ทราย เจริญปุระ) อุ้มลูกชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่วัน หนีการตามล่าจากชาวบ้านและคงเดช เพราะต้องการแย่งชิงน้ำมันเสือสมิง พร้อมมีดสั้นลงอาคมกำจัดเสือสมิงมาเป็นเจ้าของ เมื่อจวนตัวอัคคีสั่งให้ศรีไพรวิ่งไปรอที่ริมน้ำ ส่วนเขาล่อคงเดชไปทางอื่น แต่ถูกจับได้ คงเดชพยายามเค้นถามถึงน้ำมันเสือสมิงและมีดลงอาคม อัคคีไม่ตอบเลยโดนจุดไฟเผาทั้งเป็น และออกตามหาศรีไพรกับลูก เมื่อตามเจอศรีไพรตัดสินใจโยนห่อผ้าที่มีมีดลงอาคมทิ้งแม่น้ำ ทำให้คงเดชแค้นใจฆ่าทั้งแม่ทั้งลูก แต่โชคดีที่ ภาคิน (สิทธา สภานุชาติ) ชะตาไม่ถึงฆาต คงเดชฟันโดนขวดน้ำมันเสือสมิง จึงไหลมาต้องบาดแผล และแผลฉกรรจ์สมานในทันที พนา (ชาติชาย งามสรรพ์) มาพบเข้าพอดี รีบเข้าไปช่วยภาคิน แต่ก็ต้องตกใจที่เห็นแววตาสมิงของภาคิน และเมื่อเจอขวดน้ำมันเปล่าก็นึกถึงคำพูดของพ่อครูมั่นว่า "น้ำมันเสือสมิงถือเป็นของวิเศษหายาก สามารถสมานบาดแผลฉกรรจ์ให้หายสนิท ชุบชีวิตคนที่กำลังจะตายให้ฟื้นคืนชีพได้ แต่ต้องแลกกับการเป็นเสือสมิง ถ้าคนคนนั้นยังอายุไม่ครบเบญจเพส" พนาจึงรีบถอดสร้อยเขี้ยวเสือกลวง สวมคอให้แก่ภาคิน 24 ปีต่อมา ภาคินเติบโตเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ และเป็นมือขวาของ เสี่ยอมร (สันติสุข พรหมศิริ) ผู้ซึ่งอุปการะเขามาตั้งแต่เด็ก เพราะสำนึกในบุญคุณที่พนาเคยช่วยชีวิตจากการลอบทำร้ายไว้ ภาคินเชี่ยวชาญในการดูพลอยเพราะมีตาสมิง และเจรจาธุรกิจเก่ง จนเสี่ยอมรรักเหมือนลูก และนั่นสร้างความไม่พอใจให้ พลอยรัมภา (ณัฐชา เจกะ) เธอจึงประชดภาคินเสมอเมื่อมีโอกาส ตรงกันข้ามกับภาคินที่แอบรักพลอยรัมภามาตั้งแต่เด็ก ความสวยของพลอยรัมภาต้องตาต้องใจ ไรวินทร์ (ภูมิภาฑิต นิตยารส) ลูกชายของคงเดช ไรวินทร์พยายามทำมิดีมิร้าย แต่พลอยรัมภาก็รอดมาได้จากการช่วยเหลือของภาคิน ทั้งคู่ต่างมีความรู้สึกดีให้กันมากขึ้น วันหนึ่งพลอยรัมภาถูกไรวินทร์จับตัวไป ภาคินตามไปช่วย แต่ถูกลูกน้องของไรวินทร์ทำร้ายอย่างหนัก จนสร้อยที่ใส่ติดตัวมาตลอดหลุดออกจากคอ ภาคินกลายร่างเป็นเสือสมิง และทำร้ายลูกน้องไรวินทร์จนเสียชีวิต แต่ไรวินทร์รอดไปได้ เพราะคงเดชมาช่วยเอาไว้ จากนั้นคงเดชและไรวินทร์ จ้องจะเปิดเผยความลับเรื่องภาคินเป็นเสือสมิง และหวังจะฆ่าภาคินเพื่อนำมาสกัดน้ำมันเสือสมิง ด้านพลอยรัมภาแม้จะรู้ความจริงว่าภาคินไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่ด้วยความรัก ทั้งสองคนยินยอมที่จะมอบกายและใจให้กันโดยไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า แต่มนุษย์กับเสือสมิงจะรักกันได้หรือ...เมื่อความจริงถูกเปิดเผยความรักของทั้งคู่ก็เดินทางมาถึง...จุดสิ้นสุด มีเพียงหนทางเดียวที่ความรักของเขาและเธอจะสมหวังได้ก็คือ...ภาคินจะต้องกลับมาเป็นมนุษย์เหมือนเดิมอีกครั้ง ภาคินจะรอดจากการตามล่าของคนชั่วได้หรือไม่...เขาจะล้างอาถรรพ์เสือสมิงที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดได้อย่างไร ? ติดตามชมกันต่อได้ในละคร พยัคฆา

Mister Merman แฟนฉันเป็นเงือก 2561

Mister Merman แฟนฉันเป็นเงือก (2561/2018) ณ เมืองริมทะเล... เงือกสามหนุ่มสามบุคลิก ทะเล เงือกเย็นชาผู้เบื่อหน่ายมนุษย์ พายุ เงือกผู้เคร่งในกฎเพื่อความอยู่รอดของเงือก และ แพลงตอน เงือกหนุ่มวัยรุ่นผู้ที่อยากใช้ชีวิตให้ได้เหมือนมนุษย์ปกติและอยากรู้อยากลองเรื่องราวมากมายในโลกใบนี้ เงือกทั้งสามได้ตกลงย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ที่เมืองริมทะเลแห่งนี้ เพื่อที่จะสืบโปรเจ็คลับที่อาจจะกระทบต่อความเป็นอยู่ของเงือก แผนเบื้องต้น ทะเลได้เข้าครอบครองอะควาเรี่ยมแห่งหนึ่ง เพราะได้ข่าวมาว่ามีคนต้องการใช้อะควาเรี่ยมเพื่อบังหน้าทดลองสัตว์น้ำแปลกๆ โดยผู้ต้องสงสัยก็คือ ดาว สาวมั่นสวยเนี้ยบ กรรมการผู้จัดการของอเวนิวในเครือบริษัท SEA Group ส่วนพายุ ได้ปลอมตัวเข้าไปเป็นช่างภาพที่คอยติดตามทำคอลัมน์เรื่องของ ดาว เพื่อที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดและคอยแอบสืบข้อมูลต่างๆ และ แพลงตอน ได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนชลธิศวิทยาคม เพื่อคอยแอบสืบเรื่องราวของครูคนหนึ่งในโรงเรียน ที่ต้องสงสัยว่าเป็นหนึ่งในทีมนักวิจัยที่คอยสนับสนุนดาวในการทดลองเรื่องราวที่มีผลกระทบต่อเงือก และแพลงตอนยังเปิดร้านกาแฟ Sea U Again CAFÉ เพื่อทำเป็นงานอดิเรกแก้เบื่อ และมีไว้เพื่อที่จะได้เจอสาวๆ ที่แวะเวียนมาหาเขาที่ร้านอีกด้วย ในขณะที่เหล่าเงือกดำเนินภารกิจสืบเรื่องราวไปนั้น ทางด้านทะเลได้ไปเจอกับ ฟ้าฝน สาวในลุคบอยๆ ที่ปัจจุบันเป็นครูสอนว่ายน้ำให้กับเด็กๆ ทะเลจำได้ในทันทีว่าฟ้าฝนคือเด็กหญิงที่เขาช่วยไว้ ตอนที่ประสบภัยเรือล่มจนพ่อแม่เสียชีวิต แต่ทะเลก็ต้องตัดใจไม่ติดตามเรื่องราวของฟ้าฝนต่อ เพราะเขากลัวจะต้องผูกพันกับมนุษย์ และจะต้องเสียใจในภายใน ดูเหมือนว่าเรื่องราวของเงือกและมนุษย์ยังคงเป็นเส้นขนานกันไป ไม่มีทางมาเจอกันได้ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในคืนหนึ่ง... คืนนั้นบนเรือยอร์ชหรู น่านน้ำ ได้จัดงานเลี้ยงเล็กๆ ในฐานะที่เขามาเป็นผู้จัดการคนใหม่ของ บริษัท Sea-Trans Corporation สาขาเมืองริมทะเล ซึ่งน่านน้ำได้เชิญ ฟ้าฝน เพื่อนคนสนิทมาร่วมงานด้วย ในขณะเดียวกัน ทะเล พายุ และแพลงตอน ก็ปลอมตัวมาเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ ในงานนี้ เพราะ ดาว ผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับโปรเจ็คลับก็มาร่วมงานนี้ด้วย ทำให้ทะเลได้บังเอิญเจอกับฟ้าฝนอีกครั้งหนึ่ง แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อฟ้าฝนตกลงไปในทะเล ทำให้ทะเลต้องรีบตามลงไปช่วย ปรากฏว่าทะเลได้ช่วยให้ฟ้าฝนมีสติอีกครั้งด้วยการ “จูบ” เพียงเท่านั้นก็เกิดแสงสว่างวาบไปทั่วทะเล เหมือนเกิดปาฏิหาริย์บางอย่าง โดยเหล่าเงือก พายุ และ แพลงตอน ก็รู้ทันทีว่ามีเรื่องไม่ปกติเกิดขึ้น ในวันต่อมาทะเลได้ไปติดตามอาการของฟ้าฝน เพราะคาดเดาว่าฟ้าฝนน่าจะต้องเจอกับเรื่องราวประหลาดๆ แน่นอน และก็เป็นไปตามคาด เมื่อฟ้าฝนเกิดทำน้ำทะเลหกราดตัวเอง ฟ้าฝนก็กลายเป็นเงือกในทันที!! ทะเลได้เข้ามาเห็น และก็รู้แล้วว่า ชีวิตของเขาต้องวุ่นวายอย่างแน่นอน ฟ้าฝนเองก็รู้สึกได้ว่าชีวิตเธอต้องเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อเธอได้กลายเป็นเงือกทั้งๆ ที่เธอไม่เคยเชื่อในเรื่องเหล่านี้เลย ในกลุ่มเงือก พายุเป็นผู้คุมกฎ ห้ามไม่ให้เงือกไปยุ่งเกี่ยวมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ เพราะเขาเคยมีคนรักที่เป็นมนุษย์ และจากการจูบก็ทำให้มนุษย์คนนั้นกลายเป็นเงือก แต่ในตอนสุดท้าย มนุษย์ที่กลายเป็นเงือกคนนั้นก็ต้องกลายเป็นฟองสลายไป พายุเลยสั่งห้ามทะเลและแพลงตอน ไม่ให้มีความสัมพันธ์กับมนุษย์โดยเด็ดขาด แต่เมื่อทะเลได้ทำพลาดไปแล้ว เขาก็ตั้งใจจะปรึกษาพายุอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ปรากฏว่า ในขณะที่พายุไปสืบเรื่องราวของดาว ทำให้เขาเข้าไปเจอ ข้าวฟ่าง เลขาฯ ของดาว ที่หน้าตาเหมือนกับคนรักเก่าของพายุมาก ทำให้พายุมีความหวังว่าคนรักเก่าของเขาอาจจะไม่ได้ตาย และอาจจะความจำเสื่อม เพราะข้าวฟ่างเองก็ไม่รู้เรื่องอดีตของตัวเองเลย ทะเลได้รู้เรื่องนี้เลยหวังว่าน่าจะมีวิธีที่ทำให้ฟ้าฝนกลับเป็นปกติเช่นกัน ภารกิจลับเรื่องความปลอดภัยของเหล่าเงือกดำเนินไป พร้อมๆ กับภารกิจรักที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ทะเลต้องอยู่ร่วมบ้านกับฟ้าฝน ในฐานะที่ฟ้าฝนเป็นเงือกมือใหม่หมาดๆ เขาเลยต้องดูแลทุกกิจกรรม ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง โดยมี “น่านน้ำ” มาเป็นคู่แข่งหัวใจ และมี “ดาว” คอยทำให้เขากับฟ้าฝนต้องเข้าใจผิด ทางฝ่ายพายุก็ต้องหาเรื่องเข้าใกล้ข้าวฟ่างเพื่อพิสูจน์ว่าข้าวฟ่างเป็นคนรักเก่าของเขาหรือไม่ จนเขาเองก็สับสนว่า เขากำลังหลงรักคนรักเก่าอีกครั้ง หรือหลงรักคนรักใหม่ที่หน้าเหมือนคนรักเก่ากันแน่ ส่วนแพลงตอนก็ได้เจอกับ พลอยใส เพื่อนสนิทของฟ้าฝนที่ตามรอย “พ่อค้าหล่อบอกด้วย” จนมาเจอแพลงตอน แพลงตอนต้องคอยหลบหลีกการลวนลามของพลอยใส โดยเฉพาะเรื่อง “จูบ” เพื่อไม่ให้มีปัญหาเหมือนทะเลกับฟ้าฝน และเรื่องยุ่งๆ ของแพลงตอนก็ยิ่งยุ่งเข้าไปอีก เมื่อเขาได้ไปเรียนในโรงเรียน และต้องเจอกับ ส้มซ่า สาวอินดี้สุดแปลกที่คอยจับจ้องแพลงตอนทุกย่างก้าว และออกตัวแรงตั้งแต่แรกว่าชอบแพลงตอน และด้วยความเสน่ห์แรงของแพลงตอน จึงทำให้ ออมสิน เพื่อนชายคนใหม่ ก็เข้ามาหวั่นไหวในตัวของแพลงตอนอีกเช่นกัน! ในด้านของสามสาว ฟ้าฝน ที่เคยมีปมในวัยเด็กที่พ่อแม่เสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุทางน้ำ ทำให้ฟ้าฝนมีความมุ่งมั่นจะสอนให้เด็กๆ ว่ายน้ำเป็น และดำน้ำเป็น แต่เมื่อฟ้าฝนกลายเป็นเงือก ทำให้ไม่สามารถลงไปสอนดำน้ำในทะเลได้ตามฝัน และยังได้มารู้ความจริงในภายหลังว่า ทะเลคือคนที่ช่วยเธอไว้ตอนเด็ก แต่ช่วยพ่อแม่เธอไว้ไม่ทัน ฟ้าฝนต้องต่อสู้กับความรู้สึกสับสนของตัวเอง เพราะถ้าทะเลช่วยพ่อแม่เธอไว้ได้ ฟ้าฝนก็จะไม่ต้องอยู่คนเดียวแบบนี้ และทะเลก็เป็นตัวการที่ทำให้เธอเป็นเงือก ทำให้ชีวิตเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ส่วนพลอยใสที่มีปมรักครั้งก่อนที่ไม่สมหวัง เมื่อเธอได้เจอแพลงตอน จึงเดินหน้าเต็มที่เพื่อมาลบปมนี้ แต่แพลงตอนก็ไม่สามารถเติมเต็มความรักของพลอยใสได้เต็มที่ เมื่อแพลงตอนต้องคอยหลบหลีกเธอมากขึ้นทุกที รวมถึงก้างขวางคออย่างส้มซ่า และประเด็นเรื่องของออมสิน ที่ทำให้พลอยใสสงสัยในตัวแพลงตอน จนเริ่มไม่มั่นใจว่าแพลงตอนจะเยียวยาแผลใจของเธอได้ และในด้านของข้าวฟ่างที่เคยสูญเสียความทรงจำจนไม่รู้อดีตของตัวเอง แต่ต้องมาเจอกับพายุที่พยายามช่วยข้าวฟ่างฟื้นคืนความทรงจำ แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ก็ยิ่งสับสนว่าพายุไม่ได้ให้ความสนใจเธอเพราะเธอเป็นข้าวฟ่าง แต่เพราะเธอแค่หน้าตาเหมือนคนรักเก่าของเขาเท่านั้นเอง เรื่องราวสุดวุ่นวายของเหล่าเงือกชายและมนุษย์ก็เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์เงือกจากโปรเจ็คทดลองลับ ในขณะที่มนุษย์กล่าวหาว่าเงือกเป็นสัตว์ประหลาด แต่การที่มนุษย์ไล่ล่าเงือกและจับสัตว์ต่างๆ ไปทดลอง ก็น่าตั้งข้อสงสัยว่ามนุษย์ก็เป็นสัตว์ประหลาดไม่แพ้กัน เหล่าเงือกจะรอดพ้นจากโปรเจ็คลับหรือไม่ คลามลับต่างๆ จะเปิดเผยเรื่องราวออกมาอย่างไร และความรักของเงือกกับมนุษย์จะลงเอยอย่างไร ลุ้นไปกับเรื่องราววุ่นๆ ของคนและเงือก ใน “Mister Merman แฟนฉันเป็นเงือก”

อังกอร์ 2561

อังกอร์ (2561/2018) ป่าทึบ ใจกลางประเทศสาธารณรัฐบันตรันเจีย พ.ศ. 2497 เสือร้ายตัวมหึมา ส่งเสียงคำรามร้องกึกก้องป่า มันไม่ใช่เสือธรรมดา แต่มีวิญญาณชั่วร้ายเปี่ยมด้วยจิตอาฆาตแค้นมนุษย์สิงอยู่ในร่าง มันกำลังหลบหนีการไล่ล่าของกลุ่มทหารและนายพราน นำโดย นายพลมิน ทางเดียวที่จะคร่าวิญญาณเสือร้ายได้ คือปืนของนายพลมินที่บรรจุกระสุนเงินลงอาคม แต่นายพลมินกลับลั่นไกสังหารเสือร้ายด้วยกระสุนเงินไม่สำเร็จ วิญญาญร้ายจึงพุ่งออกจากร่างเสือด้วยความอาฆาตแค้น มุ่งตรงไปยังบ้านพักของนายพลมิน ขณะที่ คุณหญิง ผู้เป็นภรรยากำลังจะคลอดทารกน้อย เมื่อทารกหญิงชื่อว่า อังกอร์ ได้คลอดออกมา วิญญาณร้ายได้พุ่งเข้าสิงสู่ร่างอังกอร์ทันที คุณหญิงผู้มีสัมผัสพิเศษรู้ดีว่า...วิญญาณเสือร้ายเข้าสิงลูกสาวของตนเสียแล้ว แต่ก็มิอาจแก้ไขเหตุการณ์ได้ แต่สั่งเสียฝากลูกสาวของตนไว้กับแม่นรินทร์ และสิ้นใจลงในที่สุด....นายพลมินและแม่นรินทร์คอยดูแลอังกอร์อย่างใกล้ชิด แม้นถึงนาทีสุดท้ายที่วิญญาณเสือร้ายควบคุมอังกอร์ได้...นายพลมินจะสังหารเธอด้วยกระสุนเงินนัดสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ทันที....เพื่อไม่ให้เธอต้องรับกรรมทรมานไปชั่วชีวิต 24 ปีผ่านไป อังกอร์ อายุย่างเข้า 25 ปี และกำลังเรียนแพทย์ปีสุดท้ายที่ประเทศอังกฤษ อังกอร์เติบโตขึ้นมาโดยมี ผู้กองคอยที ลูกชายแม่นรินท์คอยอยู่เคียงข้าง นอกจากคอยทีจะเป็นมือขวาคู่ใจของท่านนายพลมินแล้ว ยังเป็นองครักษ์ผู้แกร่งกล้าและซื่อสัตย์ต่ออังกอร์ยิ่งชีวิต เขาได้รับความไว้วางใจจากนายพลมินให้เป็นผู้ถือกระสุนเงินอาคมไว้ จึงเป็นหน้าที่ของคอยที ที่จะต้องจัดการกับวิญญาณร้ายก่อนที่ อังกอร์จะโดนควบคุมอย่างสิ้นเชิงเมื่ออายุครบ 25 ปีเต็ม อังกอร์ได้กลับมาที่กรุงสุรัตจันเตรียมโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย กลุ่มทหารที่ก่อกบฏเข้ายึดอำนาจเหนือกรุงสุรัตจันเตรียม คอยทีจึงจำต้องพาอังกอร์หนีออกนอกเมือง ผู้กองคำปัน และ นายพลเวียน ผู้เป็นพ่อได้ทรยศต่อรัฐบาลไปเข้ากับพวกกบฎ คำปันซึ่งชื่นชมหลงใหลในตัวอังกอร์มานาน ครั้นมีอำนาจจึงสั่งทุกหน่วยตามล่าอังกอร์อย่างไม่ลดละ เมื่อเหตุการณ์คับขัน คอยทีจึงจำใจให้อังกอร์แยกหนีไป ส่วนตัวเองจะช่วยล่อพวกทหารกบฎไปอีกทาง แล้วให้สัญญาว่าจะตามไปสมทบกันที่ค่ายอพยพชายแดนไทย อังกอร์จึงต้องผจญภัยตามลำพัง มุ่งสู่ชายแดนไทย ด้วยใจที่มุ่งหวังจะได้พบกับคอยทีอีกครั้ง ณ. ค่ายอพยพชายแดนไทย.... ผู้กองกาญจน์ เดชะสิทธิ์ นายตำรวจหนุ่มฝีมือดีจากหน่วยสืบราชการลับ ได้รับมอบหมายให้มาค้นหาอาวุธสงครามมูลค่ามหาศาลของสหรัฐอเมริกาที่สูญหายไป เขาถูกส่งมาประจำที่ชายแดนไทยอย่างลับๆ พร้อมกับลูกน้องคู่ใจ 3 คนคือ หมวดชยันต์ หมวดภาวิไล และหมวดเทอด ผู้กองกาญจน์ขัดแย้งกับ หมวดฤทธิ์ อดีตเจ้าหน้าที่ค่ายอพยพชายแดนไทย ผู้มีอิทธิพลครอบคลุมค่ายอพยพ เพราะมีพ่อคือ กำนันหิน เป็นนักเลงผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนั้น อีกทั้งกำนันหินมี ผอ. อาจณรงค์ ผู้อำนวยการค่ายอพยพคอยหนุนหลัง ทำให้การทำงานของผู้กองกาญจน์มีอุปสรรค แต่โชคดีที่ยังมีเจ้าหน้าที่นํ้าดีคอยช่วยเหลือ นั่นคือ จ่าเข้ม และ หมวดชาติ รวมทั้ง ครูกิ่ง ลูกสาวจ่าเข้มผู้มากฝีมือร่วมมือด้วย ฝ่ายอังกอร์เดินทางระหกระเหินหนีพวกกบฏมากับผู้อพยพ เธอโชคร้ายโดนพวกกะเหรี่ยงคะหยิ่นจับไป และบังเอิญไปรู้ความลับว่าหมวดฤทธิ์สังหารเจ้าหน้าที่เพื่อปิดปากเรื่องที่เขาร่วมมือกับคะหยิ่นค้าขายอาวุธสงครามของอเมริกาที่หายไป ทำให้อังกอร์ถูกหมวดฤทธิ์ตามล่า แต่อังกอร์หนีรอดพ้นไปได้ จนกระทั่งได้พบกับผู้กองกาญจน์ที่ค่ายอพยพ แต่เธอไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่คนไหนเป็นคนดีหรือเลว เธอจึงเงียบไม่ปริปากพูดกับใคร ส่วนผู้กองกาญนจ์เมื่อได้พบหน้าอังกอร์ก็รู้สึกตรึงใจอย่างประหลาด เพราะความสวยลึกลับมีเสน่ห์ของอังกอร์ แต่แล้วเธอกลับถูกพวก ไอ้เมฆ น้องชายของหมวดฤทธิ์จับไปเพื่อนำไปขายพร้อมกับผู้อพยพหญิง ไอ้เมฆหลงใหลอังกอร์จึงใช้กําลังเข้าปลุกปลํ้า อังกอร์สู้อย่างสุดฤทธิ์จึงถูกไอ้เมฆทำร้ายอย่างรุนแรง และหลังจากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น อันเป็นจุดเริ่มต้นของการไล่ล่าล้างแค้นอย่างไม่สิ้นสุด เมื่ออังกอร์เจ็บปวด..หรือขาดสติ...ร่างกายและจิตใจจะอ่อนแอ...เปิดทางให้วิญญาณเสือร้ายที่สิงสู่มีหนทางออกมา...และทุกครั้งที่วิญญาณร้ายจะปรากฏ..ดินฟ้าอากาศจะวิปริตแปรปรวนเนื่องจาก อำนาจร้ายของมัน.... ไอ้เมฆ และเจ้าหน้าที่หลายคนถูกอังกอร์ที่แปลงร่างเป็นเสือร้ายฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม กำนันหิน พ่อของไอ้เมฆแค้นใจที่ลูกชายคนเล็กตาย จึงได้พา พรานหม่อง พรานล่าเสือชาวพม่ามาออกตามล่า ผู้กองกาญจน์รู้ว่าอังกอร์เป็นพยานสำคัญที่จะจับหมวดฤทธิ์ จึงช่วยรักษาอังกอร์ โดยไม่รู้ว่าอังกอร์มีวิญญาณเสือร้ายสิงร่าง ผู้กองตัดสินใจพาอังกอร์หนีออกจากค่ายตั้งใจจะส่งกลับประเทศ เพื่อไม่ให้ถูกหมวดฤทธิ์ฆ่าปิดปาก การเดินทางเพื่อช่วยเหลืออังกอร์ครั้งนี้ของผู้กองกาญจน์จึงเริ่มต้นขึ้นมีหมวดชาติ และครูกิ่งเป็นเพื่อนร่วมทาง ฝ่ายกำนันหิน หมวดฤทธิ์ และคำปันก็ตามไล่ล่าอย่างไม่ลดละ พวกผู้กองกาญจน์ต้องฟันฝ่าเส้นทางหฤโหดอย่าง แก่งนรก ที่กระแสน้ำเชียวกรากเสียจนซัดแพแตก ทุกคนต้องแยกกันเอาชีวิตรอด ระหว่างนั้นได้พบพานเพื่อนร่วมทางใหม่อย่าง พันเอกหญิง มาเรีย โจเซฟิน หรือ ผิง ผู้ที่รัฐบาลฝรั่งเศสส่งมาแทรกซึมเพื่อทำภารกิจลับ พังพอน หญิงสาวชาวป่า ผู้สื่อสารกับผองสัตว์ได้มาช่วยนำทาง ผา พรานหนุ่มผู้รอบรู้มากวิชา และผาด พี่ชายผา ผู้สัญญาว่าจะพาอังกอร์ไปถํ้านํ้าตกเพื่อตามหากริชเงินในตำนานที่สามารถสลายวิญญาณร้ายในร่างอังกอร์ได้ และคอยที บุคคลที่อังกอร์เฝ้ารอก็ได้กลับมาพบ และคอยอารักขาอยู่เคียงข้างอังกอร์เสมอ หากแต่หนทางไปถ้ำน้ำตกเพื่อตามหากริชเงิน คือดินแดนที่ลึกลับสุดคาดเดา ทั้ง เกาะบาป.... หุบเขากินคน….นรกดำ....สุสานป่าเย็น....สุสานดำ...และหุบเขาหลับ...มีแต่ความดีงามเท่านั้นที่จะทำให้ทุกคนรอดชีวิต อังกอร์จะเอาชนะบททดสอบที่บีบคั้นทั้งร่างกายและหัวใจ…จะสามารถครองสติให้เข้มแข็งเพื่อควบคุมวิญญาณร้ายไว้ได้ตลอดทางหรือไม่ . ความรักของผู้กองกาญจน์ หรือความเสียสละของคอยที สิ่งใดที่จะช่วยอังกอร์ให้หลุดพ้นจากคำสาปของเสือร้ายได้….ตำนานที่เคยหลับไหลได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง