ซิ่นลายหงส์

ซิ่นลายหงส์ (2561/2018) เรื่องราวของ อัญญานางหูกคำ (ใบเตย อาร์สยาม) ธิดาใน อัญญาหลวงพุทธังกูร (พันโท วันชนะ สวัสดี) เติบโตมาอย่างต่ำต้อย เพราะถูกชิงชังจาก อัญญานางคำอ่อนมหาเทวี (นุสบา ปุณณกันต์) ในฐานะที่เป็นลูกเมียน้อย แม้แต่ พระสนมทองจันทร์ (ภัครมัย โปตระนันทน์) มารดาแท้ ๆ ก็เกลียดลูกสาวตัวเอง ที่ไม่เกิดเป็นชาย เพื่อสร้างอำนาจให้ตนทัดเทียมกับมหาเทวี เมื่อเข้าสู่วัยสาว หูกคำหลงรัก อัญญาเจ้าราชบุตรศรีโซ่ทอง (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายต่างแม่ จึงทอผ้าซิ่นลายหงส์ หวังเอาไว้นุ่งในพิธีอภิเษกของตนกับเจ้าราชบุตร แต่อีกฝ่ายไม่มีใจ กลับดูถูกว่าต่ำต้อย และหันไปอภิเษกกับ เจ้าหญิงสีออน (ชลฤดี อมรลักษณ์) เชื้อพระวงศ์แห่งอาณาจักรเชียงรุ้ง ซ้ำยังร่วมมือกับอัญญามหาเทวี และ อัญญานางศรีสะอาด (กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์) ผู้เป็นน้องสาว ใช้อำนาจชิงผ้าซิ่นลายหงส์มาให้เจ้าหญิงสีออนใส่ในราชพิธี ทำให้หูกคำปวดใจมาก หูกคำกล้ำกลืนความผิดหวัง ด้วยการทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับการทอผ้าไหม สาธุบาทเจ้ารามังกูร (พีท ทองเจือ) เห็นฝีมือทอผ้าไหมลายงาม ก็ส่งราชสาสน์มาสู่ขอธิดาของเจ้าเมืองเวียงคำนาค เมื่อมหาเทวีรู้เข้าก็เปลี่ยนตัวหูกคำเป็นศรีสะอาด เพื่อให้ได้ครองอำนาจเป็นมหาเทวีแห่งอาณาจักรใหญ่ และใส่ความว่า หูกคำวางแผนลอบสังหารตนและลูก อัญญาหลวงหลงเชื่อ จึงสั่งประหารชีวิตหูกคำ เมื่อถึงวันตาย หูกคำสาปแช่งทุกคนที่ทำร้ายชีวิต และจิตใจเธอว่า ให้เกิดมามีชีวิตใหม่ที่ต้องเกี่ยวพันกับเธอ และได้รับความทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับที่เธอได้รับในชาตินี้ คำสาปถูกส่งผ่านผ้าซิ่นลายหงส์สีแดงสด ที่มหาเทวีสั่งให้นำเลือดของหูกคำไปย้อมผ้า เพื่อลบลายหงส์ ซึ่งเป็นกาลกิณีต่อเวียงคำนาค แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งทำให้คำสาปของหูกคำทวีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ผ้าซิ่นลายหงส์ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นจนมาถึงยุคอีสานบุรี พร้อมกับชีวิตของหูกคำและคนอื่น ๆ ที่ถูกคำสาปผูกพันไว้ อัญญาหลวงพุทธางกูรเกิดใหม่เป็น พ่อแพทย์พุทไธ (พันโท วันชนะ สวัสดี) ผู้มั่งคั่งด้วยสมบัติและบารมีจากการเป็นแพทย์ พ่อแพทย์อยู่กินกับ ยาแม่คำอ่อน (นุสบา ปุณณกันต์) มีลูกสาว 3 คน สะอาด (กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์), สอาง (ใบเตย อาร์สยาม), สะออน (ชลฤดี อมรลักษณ์) แรงอธิษฐานของหูกคำ ทำให้สอางสวยเด่น และชอบข่มพี่น้อง สอางถูกเลี้ยงมาโดยนางงอ (ภัครมัย โปตระนันทน์) หญิงค่อมที่มีประวัติลึกลับ นางงอเลี้ยงสอางให้เป็นคนเอาแต่ใจ ไม่เห็นหัวใคร โซ่ทอง (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ลูกศิษย์ปรุงยาของพ่อแพทย์ หลงรักสอางสุดใจตามคำอธิษฐานของหูกคำในชาติก่อน แต่สอางไม่เห็นโซ่ทองในสายตา ซ้ำดูถูกว่าต่ำต้อย เช่นเดียวกับที่หูกคำเคยเจ็บช้ำมาก่อน เมื่อสอางแอบเห็นยาแม่คำอ่อนเอาผ้าซิ่นลายหงส์ออกมาอวดสะอาด เพื่อไว้นุ่งในพิธีแต่งดองออกเรือนกับ หลวงอากาศกำจร (กฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์) สอางปรารถนาอยากได้ผ้าผืนนั้น เลยแย่งผ้าซิ่นลายหงส์มาสวมในงานเลี้ยง จนเกิดอิทธิฤทธิ์ดลใจให้หลวงอากาศกำจรเปลี่ยนใจมาหลงในตัวเธอ จึงเกิดการเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหัน เรื่องราวความแค้นที่ฝังอยู่ในผ้าซิ่นลายหงส์ผืนนี้ จะดำเนินไปทางไหน ใครจะได้รับผลกรรมที่ตนเองได้ทำไว้อย่างไรนั้น ต้องติดตามชมกันต่อได้ในละคร ซิ่นลายหงส์

เป็นคนแรกที่รีวิว “ซิ่นลายหงส์”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

พีท ทองเจือ

พระขัตติยะรามังกูร (ปัจจุบัน)/สาธุบาทเจ้ารามังกูร (อดีต)

เบิร์ด วันชนะ สวัสดี

พ่อแพทย์พุทไธ (ปัจจุบัน)/อัญญาหลวงพุทธางกูร (อดีต)

นุส นุสบา ปุณณกันต์

ญาแม่คำอ่อน (ปัจจุบัน)/อัญญานางมหาเทวีเจ้าคำอ่อน (อดีต)

ตอง ภัครมัย โปตระนันทน์

แม่งอ,ญาแม่ทองจันทร์ (ปัจจุบัน)/อัญญานางสนมทองจันทร์ (อดีต)

ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน

แม่สอาง (ปัจจุบัน)/อัญญานางหูกคำ (อดีต)

ไนซ์ นิธิดล ป้อมสุวรรณ

พ่อโซ่ทอง (ปัจจุบัน)/อัญญาเจ้าราชบุตรศรีโซ่ทอง (อดีต)

จูน ชลฤดี อมรลักษณ์

แม่สะออน (ปัจจุบัน)/เจ้านางสีออน (อดีต)

ขนมจีน กุลมาศ สารสาส

แม่สะอาด (ปัจจุบัน)/อัญญานางศรีสะอาด (อดีต)

กิจ กฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์

พันตำรวจตรีหลวงอากาศกำจร (ปัจจุบัน)/ท้าวเพียคำจัน (อดีต)

อุ๋ม อาภาศิริ นิติพน

แม่เจ้าปทุมรัตน์ (แม่บัว)

ปู นาตยา จันทร์รุ่ง

นางสาย (ปัจจุบัน)/นางไอ่ (อดีต)

วิทย์ ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล

พ่อครูสมิงพันดง (ปัจจุบัน)/สมีพราหมณ์แดง (อดีต)

ธนภัทร สีงามรัตน์

พ่อแพทย์จันทกุมาร

พสุ สิงห์อุสาหะ

พ่อแพทย์พุทไธ (วัยหนุ่ม)

ธันยพร คงแจ่ม (เพลง อาร์สยาม)

ญาแม่ทองจันทร์ (วัยสาว)

ฐานมาศ ขวัญหวาน

นางสาย (วัยสาว)

ชลิตา ทวีธรรมวัฒนะ

อัญญานางหูกคำ (วัยเด็ก)

ธัญวรัชย์ ชมายกุล

อัญญานางศรีสะอาด (วัยเด็ก)

หทัยประภัสสร์ กิตติถาวรวุฒิ

ลูกสาวพ่อแพทย์โซ่ทองกับญาแม่สะออน

สุภาภรณ์ สร้อยพานิช

แม่สารวัตรกำจร

ชาลี อิ่มมาก

มหาอำมาตย์

อภิเดช ดวนใหญ่ (แบงค์ ท้องทุ่ง)

ลูกน้องพ่อครูสมิงพันดง

เบญจา สิงขรวัฒน์

นักปฏิบัติธรรมในวัดป่า

ชเลศวร หาญชนะ

ญาครู (หลวงพ่อ)

กํากับการแสดง