นักสู้สะท้านฟ้า 2561

เรื่องย่อ : นักสู้สะท้านฟ้า (2561/2018) เมื่อสิ่งชั่วร้ายยังไม่หมดสิ้น หัวหน้านักรบในอดีตชาติ ถูกส่งมาเกิดอีกครั้ง เพื่อมาจัดการกับสิ่งชั่วร้ายที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เหมือนภารกิจที่ทำมาทุกอดีตชาติ หมู่บ้านภูอีโต้ เป็นชื่อของหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไกลความเจริญ ได้เกิดเหตุอาเพศขึ้นในคืนหนึ่งที่หมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อมีกลุ่มคนเข้ามาแอบขุดหาวัตถุโบราณที่วัดร้าง ที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน และได้พบกับบุรุษนิรนามรูปร่างปราดเปรียวที่ปรากฏตัวพร้อมกับสายฟ้าฟาดโดยมีดาบอีโต้ลงอักขระเป็นอาวุธ เกิดการต่อสู้กัน บุรุษนิรนามจัดการกับพวกหัวขโมยที่มาขุดหาวัตถุโบราณจนบาดเจ็บหลบหนีไป เรื่องการปรากฏตัวของบุรุษนิรนาม เริ่มถูกกล่าวขวัญแต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร ? แท้ที่จริงแล้วบุรุษนิรนามผู้นั้นก็คือ เคน (ยศวรรธน์ ทะวาปี) ชายหนุ่มซื่อ ๆ คนหนึ่งที่อาศัยอยู่กับลุงและป้าในหมู่บ้านนั่นเอง 25 ปีที่แล้ว ในคืนที่พายุฝนกระหน่ำ เคนยังแบเบาะถูกใส่ตะกร้าลอยน้ำมาท่ามกลางสายน้ำที่เชี่ยวกรากแล้วมาติดที่ริมตลิ่งแห่งหนึ่ง หลวงพ่อเข้ม (กรุง ศรีวิไล) พระธุดงค์ เป็นผู้มาพบ ซึ่งหลวงพ่อเข้มเป็นผู้มีฌานพิเศษแก่กล้าก็รู้ว่าเคนไม่ใช่เด็กธรรมดา เด็กคนนี้มีความลับบางอย่างที่จะต้องถูกเปิดเผยเมื่อถึงเวลา หลังจากนั้นหลวงพ่อเข้มก็เข้าธุดงค์ในป่าทึบและไม่มีใครพบหลวงพ่อเข้มอีกเลย เวลาผ่านไปในคืนเดือนมืด หลวงพ่อเข้มได้ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านของทองมี (โย่ง เชิญยิ้ม) เคนได้พบกับหลวงพ่อเข้มและได้รู้เรื่องราวในอดีตว่าหลวงพ่อเข้มเป็นคนช่วยชีวิตตนไว้ ในคืนนั้นเอง เคนได้รู้ความจริงผ่านฌานวิเศษของหลวงพ่อเข้มว่าในอดีตชาติที่แล้ว เขาถูกเลือกให้เป็นหัวหน้านักรบเพื่อปกป้องหมู่บ้านจากพวกศัตรูที่มารุกราน ด้วยมีดอีโต้ลงอักขระที่ได้จากพระเกจิในสมัยนั้นเป็นผู้มอบให้ และได้พลังพิเศษจากแผ่นศิลาที่มีอักษรอักขระโบราณจากผนังของวัดเพื่อใช้ต่อสู้กับศัตรู เคนถูกส่งมาเกิดในภพนี้ เหมือนเป็นตัวแทนของความดีเพื่อมาจัดการกับสิ่งชั่วร้ายที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ โดยน้ำมือของพวกมนุษย์ เหมือนภารกิจที่ทำมาทุกอดีตชาติ ทันใดนั้นก็มีฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา เป็นคืนเดียวกับที่พวกหัวขโมยแอบเข้ามาขุดหาวัตถุโบราณในวัดและได้พบกับเคนในร่างของนักรบโบราณ และถูกเคนจัดการด้วยมีดอีโต้โบราณจนต้องหลบหนีไป หลวงพ่อเข้มหายตัวไปในคืนนั้น เคนเริ่มเข้าใจภารกิจที่ได้รับมอบหมายแต่ก็ต้องปกปิดเรื่องราวของตนเป็นความลับเช่นเดียวกัน ที่โรงสีของเฮียเดช (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) เสี่ยใหญ่ในหมู่บ้าน เบื้องหน้าของเฮียเดชเป็นนักธุรกิจใจดี แต่เบื้องหลังเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางธุรกิจผิดกฎหมายหลายอย่าง อาชีพหลักของเฮียเดชคือเล่นแร่แปรธาตุของวัตถุโบราณ และซื้อ-ขายวัตถุโบราณกับต่างประเทศโดยแฝงสิ่งผิดกฎหมายเข้าไปด้วย ดอน (สุรเกียรติ บุนนาค) เป็นลูกชายของเฮียเดช เป็นคนเกเรใจร้อน บ้าผู้หญิง ไม่ถูกกับเคนเพราะเคนดีกว่า หล่อกว่า มีแต่คนชื่นชอบเคนมากกว่า ดอนมักจะหาเรื่องเคนทุกครั้งเมื่อมีโอกาส แต่ก็มักจะเสียท่าให้เคนกลับไปทุกครั้ง ทำให้ความแค้นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ตั้งแต่เคนในร่างของนักรบโบราณปรากฏตัวขึ้นในหมู่บ้าน ธุรกิจผิดกฎหมายของเฮียเดชก็ถูกขัดขวางและถูกทำลายจนเสียหายโดยฝีมือของเคน เฮียเดชโกรธแค้นมากพยายามให้คนตามหาตัวนักรบโบราณเพื่อหมายจะฆ่าทิ้ง ดร.โชติ (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) เป็นนักโบราณคดีผู้คร่ำหวอดเชื่อในปรากฏการณ์และสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นในโลก เป็นคนสุขุมใจเย็น มีลูกสาวชื่อดอกบัว (คริษฐา สังสะโอภาส) โชติกับดอกบัวได้ออกค้นหาความลับทางประวัติศาสตร์บางอย่างและหลงมาที่หมู่บ้านเขาอีโต้ ทำให้โชติและบัวได้พบกับเคนและครอบครัว ดอนเมื่อได้เจอกับบัวก็รู้สึกชอบและมักมาเกาะแกะแต่ก็รู้สึกเสียหน้า ที่บัวให้ความสำคัญกับเคนมากกว่าตน ธุรกิจมืดของเฮียเดชถูกทำลายย่อยยับด้วยฝีมือของนักรบโบราณในร่างของเคน เฮียเดชพยายามต่อกรทุกวิถีทางแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ จนกระทั่งเฮียเดชได้ พ่อมดมนตร์ดำ (ศรุฒ สุวรรณภักดี) ผู้มากด้วยคุณไสยมาช่วย พ่อมดมนตร์ดำใช้คุณไสยหลายอย่างโดยแฝงมาในร่างของมนุษย์ เขาได้เข้าฌานและรู้ว่าเคนคือนักรบโบราณในอดีต ก็หาวิธีที่จะจัดการกับเคน แต่คุณไสยจะทำลายเคนได้หรือไม่ หรือเคนจะสามารถต่อกร และทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ไร้ธุรกิจมืดได้ ติดตามชมกันต่อได้ในละคร นักสู้สะท้านฟ้า ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 หรือชมย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV ละคร นักสู้สะท้านฟ้า เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2561

จ้าวสมิง

เรื่องย่อ : จ้าวสมิง (2561/2018) ย้อนอดีตชาติไปเมื่อ 25 ปีก่อน เม้ยเจิง (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ลูกสาวคนเดียวของ จอปา (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) เป็นนางรำคนสวยประจำหมู่บ้านเมืองเย ติดชายแดนไทยด้านสังขละบุรี แต่เม้ยเจิงต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร พร้อมกับ อองที (หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล) หนุ่มคนรัก ด้วยพิษรักที่ไม่สมหวังของ อูซาน (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) ลูกชายที่ไม่ค่อยสู้คนของ อากาพะโย (ชาติชาย งามสรรพ์) จอมขมังเวทย์ประจำหมู่บ้าน แต่เมื่ออูซานได้ขโมยเอาน้ำมันพรายเสือสมิงของอากาพะโยมาชุบร่างกาย จึงทำให้เขากลายเป็นหนุ่มอมตะที่มีพลังมาก เพราะถูกวิญญาณเสือสมิงเข้าสิง อูซานจึงสามารถฆ่า ตะละเกล็บ (อติรุจ สิงหอำพล) นักเลงประจำหมู่บ้านที่ชอบรังแกเขาและยังหลงรักเม้ยเจิงเช่นกัน ในภพชาติปัจจุบัน เม้ยเจิงมาเกิดใหม่ชื่อ พิมพ์สาย เป็นลูกสาวของ สวัสดิ์ (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) เสี่ยทำปางไม้ โดยมี ยองตะมุ (เอก รังสิโรจน์) เป็นลูกน้องคนสนิท ยองตะมุมีลูกชายกับ ถวิล (ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ) ชื่อ ตะวัน ซึ่งคืออองทีที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ตะละเกล็บมาเกิดใหม่ชื่ออรรถ เป็นปลัดหนุ่มลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ส.ส.อาคม (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ที่ทำปางไม้ร่วมกับเสี่ยสวัสดิ์ แต่มีเบื้องหลังแอบแฝงด้วยการขายยาเสพติด อรรถกับพิมพ์สายจึงเป็นว่าที่คู่หมั้นของกันและกัน ด้วยความเห็นดีเห็นงามของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ตอนวัยเด็กตะวันได้เข้าช่วยเหลือพิมพ์สายจากการที่จะถูกเสือสมิงกัด จึงทำให้ตะวันรับเคราะห์แทนและถูกวิญญาณเสือสมิงเข้าสิง ยองตะมุจึงจำเป็นต้องพาครอบครัวย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านอื่น เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าตะวันเป็นเสือ และออกตามล่าเอาหัวใจเสือสมิงมาให้ตะวันกินล้างอาถรรพ์ เพราะแต่ละคนมีกรรมร่วมกันมาก่อน จึงทำให้มีโอกาสมาเจอกันอีกครั้ง และเรื่องราวที่ร้ายแรงในอดีตชาติก็ได้หวนกลับมา เพราะพิมพ์สายมีใจให้กับตะวัน จึงทำให้อรรถไม่พอใจและเร่งรัดการแต่งงานกับพิมพ์สายให้เร็วขึ้น ส่วนอูซานยังมีชีวิตที่เป็นอมตะ เมื่อได้เจอพิมพ์สายจึงดีใจ และคิดที่จะเอาเธอมาเป็นคนรักของตัวเองให้ได้ ตะวันคิดว่าตัวเองไม่มีทางที่จะกลับมาเป็นคนปกติได้อีก จึงยอมสร้างเรื่องว่าชอบพอกับ ซาเง (ซาน่า สิมิลัน) เพื่อให้พิมพ์สายเข้าใจผิดและไปแต่งงานกับอรรถ จึงทำให้ ร.ต.อ. กำพล (ไพศาล ขุนหนู) คนรักของซาเง เกิดความเข้าใจผิดกันไปด้วย ในขณะที่เรื่องราวจะลงเอยด้วยดี โดยที่ทุกคนคิดว่าตะวันไม่ต้องเป็นเสือสมิงไปตลอดชีวิต เพราะมีผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อช่วยได้อีกทางหนึ่ง แต่ เสือคล้อย (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) และ เสือแคล้ว (สุทธิ์คุณ วันทานุ) ลูกชาย ได้พากันมาปล้นเอาผ้ายันต์ที่ป้องกันการเป็นเสือสมิงไปได้อีก ชีวิตของตะวันจะกลับมาเป็นคนปกติได้อีกต่อไปหรือไม่ ? ความแค้นในอดีตที่อูซานเข้าใจผิดอองทีจะจบลงอย่างไร ? เพราะเขาใช้อองทีเป็นพ่อสื่อกับเม้ยเจิง !! ความรักระหว่าง ร.ต.อ. กำพล และ ซาเง จะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ ? ติดตามหาคำตอบกันได้ในละครแอ็คชั่น แฟนตาซี ลี้ลับ เรื่อง จ้าวสมิง ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 ละคร จ้าวสมิง เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2561

พ่อมดเจ้าเสน่ห์ 2561

เรื่องย่อ : พ่อมดเจ้าเสน่ห์ (2561/2018) หลังจากที่แนนนี่ แม่มดรุ่นที่ 3 แต่งงานไปกับมนุษย์ นครเวทมนตร์ก็เงียบสงบเรื่อยมา เช่นเดียวกับชีวิตของคุณยาย ทาฮีร่า ซึ่งตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ยอมเลี้ยงแม่มดให้เสียดุลแก่มนุษย์อีกต่อไป โลกมนุษย์กับโลกของเวทมนตร์ก็ดูเหมือนจะขาดจากกัน ถ้าหากไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น นาดาล พ่อมดผู้รักสงบ ไม่ค่อยสนใจที่จะศึกษาเวทมนตร์ จนทำให้เป็นพ่อมดที่อ่อนด้อยคาถาอาคมมากที่สุด เขาพอใจจะมีชีวิตที่เรียบง่าย สุขสบายกับภรรยาสาวสวยคือ ฮันนา และลูกชายฝาแฝดแรกเกิดคือ โรม และ แมทธิว เด็กทั้งสองถึงแม้จะเป็นฝาแฝด แต่หน้าตาไม่เหมือนกันนัก จนกระทั่งความสุขสงบของครอบครัวนาดาลต้องถูกทำลายลงด้วยฝีมือของพวกตระกูล อัครเดโชชัย ซึ่งเป็นตระกูลล่าแม่มด บรรพบุรุษของตระกูลนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของบรรดาพ่อมดแม่มดทั้งหลาย โดยเหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อฮันนาถึงคราวต้องร่างสลายไป ทำให้เธอเกิดรุ่มร้อนอยากออกไปเที่ยวเล่นเมืองมนุษย์ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งคลอดลูกแฝดได้ไม่เท่าไหร่ นาดาลพยายามห้ามปรามด้วยความสังหรณ์ใจ แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจึงต้องจำใจไปกับฮันนาด้วย ทั้งสองท่องเที่ยวโลกมนุษย์อย่างเพลิดเพลิน จนหลงเข้าไปในบริเวณสวนดอกไม้อันงดงาม ของอาณาเขตอันกว้างใหญ่ และดูลึกลับของตระกูลอัครเดโชชัย โดย คุณตลับ ซึ่งต้องรับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลแทน คุณพิชัย สามีผู้วายชนม์ด้วยน้ำมือของแม่มดผู้โหดร้ายตนหนึ่งชื่อ ลอร่า ลอร่าซึ่งรู้ว่าคุณพิชัยเป็นหัวหน้าตระกูลล่าแม่มด จึงใช้มารยาล่อลวงไปฆ่าทิ้ง สร้างความเคียดแค้นให้แก่คุณตลับเป็นอย่างมาก แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานพอสมควร แต่ก็ไม่อาจลบล้างความแค้นของคุณตลับได้ ดังนั้นเมื่อฮันนากับนาดาลหลงเข้ามา คุณตลับจึงใช้เชือกวิเศษจับฮันนาซึ่งมีคาถาอาคมแก่กล้ากว่าสามี เข้าช่วยป้องกันเขาไว้ เธอจึงถูกจับแทน ส่วนนาดาลผู้หวาดกลัวหนีรอดไปได้ เพราะฮันนาไล่ให้กลับไปเลี้ยงลูกแฝดแทนเธอ ฮันนาถูกคุณตลับ และลูกชาย ลูกสะใภ้ รวมทั้ง ยายชด และ จัน หลานยายชด เผาร่างสลายไป โดย อุษณีย์ สะใภ้รอง ผู้มีจิตใจอ่อนโยนมีเมตตากรุณาเกิดความสลดใจเป็นอย่างยิ่ง และสังหรณ์ว่าจะมีเหตุร้ายเกิดตามมา นาดาลหนีซมซานกลับมาบ้านด้วยความเสียใจ และความคั่งแค้นอาฆาตพยาบาท การสูญเสียฮันนาไปต่อหน้าต่อตา ทำให้นาดาลผู้รักสงบเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาวางแผนนำแมทธิว ลูกแฝดคนน้อง ไปสับเปลี่ยนกับลูกชายซึ่งเพิ่งคลอดของครอบครัว ธงไชย และ กรองทอง ลูกชายคนโต และสะใภ้ใหญ่ของคุณตลับ เขาสะกดให้กรองทองตั้งชื่อลูกชายว่าแมทธิว และเขาตั้งชื่อหลานชายคุณตลับว่า เดวิด หลังจากนั้นเขาก็นำโรมแฝด แฝดคนพี่ ไปแอบทิ้งไว้ที่กระท่อมทาฮีร่า ด้วยทาฮีร่าเป็นแม่มดชั้นผู้ใหญ่ มีคาถาและอำนาจในเมืองเวทมนตร์ ถึงแม้จะป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ด้วยวัยที่เข้าใกล้ 1,000 ปีไปแล้วก็ตาม ทาฮีร่าจึงได้เลี้ยงพ่อมดน้อยตามที่เคยคิดเล่น ๆ ไว้นานมาแล้ว ชีวิตของทาฮีร่ายังวุ่นวายได้อีก เมื่อ ชานนท์ หลานเขยคนที่สอง สามีของฮันนี่ ได้พาลูกสาวชื่อ โรซี่ มาฝากให้อบรมเลี้ยงดู เพราะหนูน้อยซนมาก แถมยังไม่กลัวใคร ประกอบกับได้ยีนด้อย ซึ่งทาฮีร่าเถียงว่าเป็นยีนเด่นของทางฝ่ายมารดา ทำให้โรซี่มีเวทมนตร์คาถาแบบแม่มดทั้งหลาย และใช้อย่างสนุกสนานตามประสาเด็ก ก่อให้เกิดความวุ่นวายมาก ไม่มีใครเอาอยู่ ดังนั้นฮันนี่จึงให้สามีพาโรซี่มาฝากให้คุณทวดช่วยเลี้ยง ทาฮีร่ารับไว้ โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะสะกดให้โรซี่เป็นเด็กเล็ก ๆ ตลอดไป ชานนท์ไม่ยอม แต่ผลสุดท้ายตกลงกันได้ว่าพบกันคนละครึ่งทาง นั่นคือ เมื่อใดที่โรซี่พ้นจากอ้อมอกคุณทวดไปอยู่กับพ่อแม่ในโลกมนุษย์ เธอถึงจะโตเป็นสาวได้ตามวัย การที่ทาฮีร่าต้องกลับมารับเลี้ยงแม่มดอีกทำให้ ชิคเก้น เยาะเย้ยทาฮีร่าเป็นอย่างมาก โรม แมทธิว และเดวิด เติบโตขึ้นตามสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอม โดยโรมเติบโตเป็นพ่อมดเจ้าเสน่ห์ เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ ครบถ้วน นั่นคือรูปงาม ฉลาดจนเรียนจบหมออยู่ในโรงพยาบาลเมืองเวทมนตร์ โรมอารมณ์ดี มีเมตตา มองโลกสวย ขี้เล่น กุ๊กกิ๊ก ในขณะที่แมทธิวได้รับการอบรมจากย่าตลับ เพื่อให้เป็นนักล่าแม่มด เขาจึงค่อนข้างเคร่งขรึม จริงจังกับชีวิต แมทธิวเรียนเก่งจนเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญประจำโรงพยาบาลเดโชชัย เขามีดวงตาสีเขียวเช่นเดียวกับโรม แต่ไม่มีใครสงสัย เพราะคิดว่าแมทธิวได้สืบทอดคุณสมบัตินี้มาจากต้นตระกูล ซึ่งเป็นชาวตะวันตก ส่วนเดวิดก็เรียนเก่งจนเป็นหมอประจำโรงพยาบาลเวทมนตร์เช่นเดียวกัน เขาเป็นคนเคร่งเครียด มุ่งมั่นศึกษาคาถาอาคมตามที่นาดาลต้องการ นาดาลเข้มงวดคอยบังคับ แถมยังโหดเหี้ยมใจร้ายใจดำกับเดวิด แต่เดวิดกลับมองว่าพ่อต้องการให้เขาแก้แค้นให้แม่ที่ถูกมนุษย์เผาทั้งเป็น ซึ่งเป็นเรื่องที่นาดาลฝังหัวเดวิดตั้งแต่เริ่มรู้ความ ถึงแม้เดวิดจะเป็นมนุษย์ แต่เขาสามารถเรียนคาถาอาคมได้ เนื่องจากสืบเชื้อสายมาจากพวกล่าแม่มด นาดาลเฝ้าดูความเจริญเติบโตทั้งร่างกาย จิตใจ และพัฒนาการความเก่งกล้าทางด้านคาถาอาคมของทั้งสามคนด้วยความพอใจ เขาวางแผนจะให้เดวิดฆ่าพ่อแม่พี่น้อง และย่าของตัวเองโดยความร่วมมือของโรมผู้เก่งกาจ และแมทธิวจะเป็นสายชั้นยอดให้เขา เมื่อทั้งโรมและแมทธิวรู้กำเนิดอันแท้จริงของตัวเอง ด้วยดวงชะตาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว โรมได้พบกับ ณิศรา ตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเขาหนีไปเที่ยวเมืองมนุษย์ตามคำชักชวนของโรซี่ ซึ่งแอบชวน โมนา แม่มดกำพร้าผู้หมั่นเพียรฝึกฝนเวทมนตร์จนเก่งกล้าเพื่อลบปมด้อยของตัวเอง โรมไม่ค่อยชอบณิศรานัก ด้วยเห็นว่าเป็นเด็กใจร้ายชอบรังแก มาริสา แต่เมื่อโมนาลงโทษความร้ายกาจของณิศรา โรมก็ช่วยเธอเอาไว้เพราะทั้งสองมีชะตาผูกพันกันมา ณิศราเป็นลูกสาวคนเล็กของ ไพจิตร และอุษณีย์ ถูกตามใจจนนิสัยเสีย โดยชอบแกล้งมาริสาซึ่งเป็นลูกของธงไชยกับจัน หลานยายชด ด้วยแรงยุยงของ กุลนภา ซึ่งเป็นลูกของธงไชยและกรองทอง ณิศราเองก็ถูกโมนากลั่นแกล้งเช่นกัน ซึ่งบางครั้งก็เกือบถึงแก่ชีวิต เพราะโมนารู้ว่าโรมและณิศรามีดวงชะตาผูกพันกัน แมทธิวนั้นก็มีดวงชะตาผูกพันกับมาริสา เขารู้สึกเอ็นดู และเมตตาเธออย่างลึกซึ้ง เช่นเดียวกับมาริสาซึ่งรักและภาคภูมิใจ ห่วงใยพี่ชายคนนี้มาก แต่ความรู้สึกเหล่านี้ถูกเข้าใจว่าเป็นเพราะความเป็นพี่น้องกัน โรม เดวิด และโมนาก็ได้สมัครมาเป็นหมอที่โรงพยาบาลเดโชชัย โดยโรมและโมนาอยากเรียนรู้และรู้จักมนุษย์ให้มากขึ้น ประกอบกับนาดาลซึ่งเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลเวทมนตร์ยุยงแบบเนียน ๆ ส่วนเดวิดก็ไปด้วยเพราะเป็นคำสั่งของบิดา ปฏิบัติการแก้แค้นของนาดาลเริ่มขึ้นแล้ว ที่โรงพยาบาลเดโชชัย บุคลากรที่นั่นรวมทั้งคนไข้ต้องประสบกับความแปลกประหลาด และความวุ่นวายต่าง ๆ นานา ซึ่งปกติก็วุ่นวายอยู่แล้ว เพราะคนไข้กิตติมศักดิ์ชื่อ คุณปรารถนา เธอคิดว่าเธอเดือดร้อนเพราะยุงมาปัสสาวะรดเกลื่อนกราดในห้อง และเมื่อทาฮีร่าปลอมตัวมาในรูปแบบต่าง ๆ พยาบาลบ้าง คนไข้บ้าง ยิ่งทำให้คุณเพ็กกี้เจอสิ่งประหลาด ๆ มากขึ้น ในที่สุดความปรารถนาของนาดาลก็ประสบผลสำเร็จ เดวิด แมทธิว และโรมเข้าทำร้ายทำลายตระกูลเดโชชัย นาดาลใช้พลังชีวิตของตัวเองเพื่อผลักดันให้ทุกอย่างเป็นไปตามความประสงค์ โดยนาดาลยอมแลกกับชีวิตของตัวเอง ซึ่งผลสุดท้ายพลังชีวิตของนาดาลก็แตกดับไปจริง ๆ ความเคียดแค้นทั้งหลายจบลงได้ด้วยทาฮีร่า ซึ่งพยายามเรียกสติของโรม และแมทธิวคืนมา เมื่อความจริงทุกอย่างเปิดเผยพร้อม ๆ กับร่างที่ใกล้สลายของนาดาล ทุกคนอโหสิกรรมให้แก่กัน โรมลงเอยกับณิศรา แมทธิวกับมาริสา โมนาพยายามตัดใจจากโรมและพยายามให้กำลังใจเดวิดด้วยความสงสาร ชิคเก้นเยาะเย้ยทาฮีร่าที่แม้จะเปลี่ยนมาเลี้ยงพ่อมดก็ยังต้องเสียดุลให้มนุษย์ผู้หญิงไป ทาฮีร่าเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ว่า เธอยังเหลือโรซี่ และโรซี่จะไม่มีวันทำให้เธอผิดหวัง เพราะนิสัยเหมือนเธอมาก แต่เมื่อสบนัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของโรซี่ และคำพูดของโรซี่ที่ว่า "เธอชักจะชอบโลกมนุษย์" ก็ทำให้ทาฮีร่าเริ่มไม่แน่ใจ ติดตามชมความสนุกของละคร พ่อมดเจ้าเสน่ห์ ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 ละคร พ่อมดเจ้าเสน่ห์ เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2561

อาคม 2560

อาคม (2560/2017) เงินสามารถซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั่งความถูกต้อง กฎหมายไม่สามารถทำอะไรคนเลวได้ ทรงกลด จึงตัดสินใจพิพากษาคนชั่วเหล่านี้ด้วยตัวเขาเอง....ครอบครัวของทรงกลดเคยถูกนักธุรกิจโกงและโยนความผิดให้ ครอบครัวทรงกลดกลายเป็นแพะรับบาป และต้องหนีจากการฆ่าปิดปาก และเพราะ ฮันเตอร์ ผู้มีวิชาอาคม เขาช่วยชีวิตทรงกลดไว้ ทรงกลดกลับมาในนามของคิม และจัดการล้างแค้นนักธุรกิจชื่อดัง รวยติดอันดับต้นๆในประเทศ ร้อยตำรวจเอกทีเกื้อ มีสัมผัสพิเศษ ทำให้พอเดาได้ว่าคิมจัดการกับเหยื่อด้วยวิธีไหน ทีเกื้อพยายามไล่ล่าคิม แต่ก็พลาดทุกครั้งไป เหยื่อรายล่าสุด คมกฤช... ทว่าคมกฤชกลับเสียชีวิตลงโดยที่คิมไม่ได้ตั้งใจ คมกฤชถูกส่งมาที่โรงพยาบาลที่แพทย์หญิงเอื้อกานต์ทำงานอยู่ เอื้อกานต์เป็นพี่สาวฝาแฝดของทีเกื้อ และมีสัมผัสพิเศษเช่นทีเกื้อ เอื้อกานต์รู้ว่านายคมกฤชไม่ได้ตายโดยธรรมชาติ เอื้อกานต์บอกใครไม่ได้ว่าคมกฤชเสียชีวิตจากการโดนอาคม แต่ให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่าคมกฤชเสียชีวิตเพราะหัวใจวาย คิมรู้สึกแปลกใจกับการตายของคมกฤช คิมเข้าไปขโมยผลการชันสูตรศพคมกฤชจึงได้พบกับเอื้อกานต์ เอื้อกานต์เห็นคิมยิ่งตกใจเพราะเหมือนกับทรงกลดคนรักเก่าของตนเองที่จากไปแล้ว หากแต่บุคลิกต่างกันมาก เอื้อกานต์พยายามใช้พลังจิตตรวจดูว่าคิมใช่ทรงกลดรึเปล่า แต่คิมใช้พลังจิตปิดกั้นไว้ ยิ่งทำให้เอื้อกานต์สับสน คิมมีลูกมือคอยช่วยงานคือ แดน เด็กหนุ่มผู้ที่มีชะตาชีวิตไม่ต่างจากคิม ทีเกื้อถูกส่งมาให้ดูแลความปลอดภัย ธีรนัฐ ผู้เป็นพ่อแท้ๆแต่ไม่มีใครรู้เลยนอกจากคนในครอบครัว เพราะเอื้อกานต์กับทีเกื้อเป็นลูกเมียน้อย ทีเกื้อยิ่งอึดอัดเพราะต้องมาทำงานใกล้ สัตตบงกช ซึ่งเป็นอดีตคนรัก แต่ตอนนี้เป็นคู่หมั้นกับ ด็อกเตอร์ธีรภูมิ พี่ชายต่างมารดา คิมเริ่มจัดการเหยื่อรายต่อไป เกริกภพ เจ้าของสินค้าสำเร็จรูป แต่สินค้าที่ขายไม่ได้มาตรฐานจนผู้บริโภคหลายคนร้องเรียน คิมแฝงตัวเข้าไปสืบเรื่องสารพิษและได้พบกับเอื้อกานต์อีกครั้ง เอื้อกานต์ที่ช่วยเหลือคนไข้และพยายามสืบเรื่องสารพิษที่ปล่อยจากโรงงานเกริกภพ จนถูกลูกน้องของเกริกภพทำร้าย คิมตามมาช่วยทัน คิมแกล้งปลอมเป็นนักข่าวเข้ามาทำงานจิตอาสาที่โรงพยาบาล จึงเริ่มสนิทกับเอื้อกานต์ คิมปล่อยอาคมใส่เกริกภพจนตาย แต่คิมรู้สึกผิดเมื่อเห็นลูกชายของเกริกภพต้องกำพร้าพ่อ เอื้อกานต์กลับไปสถานที่ที่คิมเคยทำอาคมจึงรู้ว่า ฮันเตอร์ คือคนทำให้เกริกภพตาย คิมตั้งใจว่าจะไม่ฆ่าใครอีกแต่จะใช้สื่อจัดการเปิดโปงแทน ฮันเตอร์ยอมตกลงให้คิมใช้วิธีของคิมจัดการกับเหยื่อ คิมเริ่มไปป่วนที่ห้างของเสี่ยเดชา แต่เดชาก็ใช้เงินปิดข่าวได้ทุกอย่าง และยังให้คุณหญิงอับสรเปลี่ยนบทสัมภาษณ์ใส่ร้ายคิมในรายการข่าวด้วย คิมจึงต้องกลับมาใช้อาคมเหมือนเดิม ทีเกื้อจำต้องไปดูแลความปลอดภัยให้ธีรนัฐ ระหว่างทางถูกแก๊งปาหินปาใส่รถธีรภูมกับสัตตบงกช ที่เกื้อให้ทุกคนรออยู่ในรถ แต่ก้อนหินนั้นมีกลิ่นฉุน ที่เกื้อตามแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุ เมื่อกลับมาพบว่าทุกคนในรถสลบไป เอื้อกานต์เห็นทุกอย่างในนิมิตจึงรีบตามมาและพาไปพักที่บ้านของคุณตา ทุกคนจึงต้องค้างคืนที่นี่ ยายยิ้มกับคุณตาคนดูแลบ้าน ได้เล่าเรื่องของทรงกลด คนรักเก่าของเอื้อกานต์ที่จากไปแล้วเอื้อกานต์ก็ไม่เปิดใจรักใครอีกเลยให้คิมฟัง แม้แต่นภ ซึ่งเป็นตำรวจเพื่อนสนิททีเกื้อ คิมเองเริ่มสบสันในความรู้สึก ธีรภูมิเห็นท่าทีของทีเกื้อกับสัตตบงกช ทีเกื้อยอมรับว่าเคยเป็นคนรักของสัตตบงกช ธีรภูมรู้สึกผิดที่หมั้นกับสัตตบงกชเพราะเหตุผลทางธุรกิจและเพื่อให้สัตตบงกชจะได้มีเงินใช้หนี้แทนแม่และเพื่อปกปิดการเป็นเกย์ของธีรภูมิ คิมเริ่มโดนเหยื่อมาทวงความยุติธรรม อาจารย์ได้เตือนเขาแล้วว่าเมื่อก้าวสู่เส้นทางการล้างแค้น นั่นหมายถึง กำลังเดินบนเส้นทาง ‘ผู้ก่อกรรมร้าย’ คิมยอมรับผลกรรมทุกอย่าง เดชาก็หัวใจวายแต่จู่ๆก็เด้งตัวขึ้นมาเหมือนผีเข้า คิมแค่ใช้อาคมให้เดชาทรมานแต่เดชากลับตาย คิมสืบจนรู้ว่าแท้จริงเหยื่อทุกคนที่ตายเพราะ ฮันเตอร์ คิมรู้สึกผิดหวังในตัวอาจารย์ ทีเกื้อสืบจนรู้ว่าเหยื่อทุกคนเกี่ยวข้องกับ ทรงพล นักลุงทุนและเป็นประธานก่อตั้งบริษัท TB Group ในยุคฟองสบู่แตก บริษัทของ เกริกภพ เดชา และ ธีรนัฐ ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก TB Group เช่นกัน แต่เมื่อ 5 ปีก่อนบ้านของทรงพลโดนโจรยกเค้า คนร้ายสารภาพว่าในบ้านมีเงินสดอยู่มากและทองรูปพรรณ อีกทั้งทรงพลยังถูกซักฟอกเรื่องคดียาเสพติดอีกด้วย ทรงพลปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาและพาครอบครัวหนี แต่โชคร้ายเครื่องบินโดนวางระเบิด ทุกคนเสียชีวิต เดชาขึ้นเป็นประธานคนต่อไปของ TB Group และโจรยกเค้าก็คือคนของ เกริกภพ จากข้อมูลทั้งหมดทำให้ทีเกื้อคิดว่า คิมมีส่วนเกี่ยวข้องกับทรงพล เหยื่อรายต่อไปคือ ธีรนัฐ เพราะ T.N. Entertainment ได้โจมตีข่าวทรงพล การแก้แค้นเริ่มขึ้น คิมป่วนสัญญาณออกอากาศเพื่อเปิดโปงความเลวของสถานีที่ช่วยปกปิดความผิดของเดชา จน T.N. Entertainment โดนซักฟอกเหมือนทรงพล เมื่อเทียบเรื่องราวเหตุการณ์ที่ได้จากทีเกื้อ เอื้อกานต์มั่นใจมากขึ้นว่าคิมคือทรงกลดคนรักเก่าของตัวเอง ทีเกื้อกับเอื้อกานต์จึงต้องช่วยกันหาทางขัดขวางคิมและปกป้องธีรนัฐ แต่เหยื่อตัวจริงคือ คุณหญิงอัปสร ภรรยาของธีรนัฐ คุณหญิงอัปสรได้ถูกอาคมจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล เอื้อกานต์เอาชีวิตตัวเองเข้าแลกเพราะมันคือทางที่จะช่วยชีวิตคนไข้ไว้ได้ เธอไม่สามารถปล่อยคนไข้ตายไปต่อหน้าต่อตาถึงแม้คุณหญิงอัปสรจะเกลียดเธอก็ตาม ทีเกื้อใช้พลังพิเศษดูดพิษให้เอื้อกานต์แต่เอื้อกานต์ต้องเป็นเจ้าหญิงนิทรา คิมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดยอมใช้อาคมเพื่อถอนอาคมให้เอื้อกานต์ ถึงแม้จะรู้ดีว่าการแก้อาคมจะทำให้พลังตนเองลดลงกว่าครึ่งและต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกนานก็ตาม อาจถึงขั้นเสียชีวิต แต่คิมก็ยอมเพราะคิมห่วงชีวิตเอื้อกานต์มาก ทีเกื้อแปลกใจที่คิมกลับมาช่วย คิมสารภาพว่าตนเองคือทรงกลดและคนที่ทำให้คิมรอดชีวิตมานั้นคือ ฮันเตอร์ ตนเป็นศิษย์ของฮันเตอร์ที่ตั้งใจถ่ายทอดวิชาให้ ทีเกื้อสงสัยอีกว่าทำไมทรงกลดต้องใส่หน้ากากหนัง ปลอมตัวเป็นคิม แต่ทรงกลดก็ไม่ยอมบอก บอกแค่กลับมาช่วยชีวิตเอื้อกานต์ ฮันเตอร์ให้ทรงกลดเปลี่ยนวิธีจัดการเหยื่อเพราะทีเกื้อเดาทางได้หมด คิมต้องกลับมาเป็นทรงกลดเพราะใบหน้าของคิมถูกตำรวจสเก็ตภาพไว้แล้ว ทรงกลดขอวิธีถอนพิษอาคมแต่ฮันเตอร์ท้าทายให้ไปฟื้นฟูพลังมาให้เท่าหรือมากกว่าเดิมเสียก่อน ทรงกลดเก็บตัวฝึกวิชาครั้งนี้ ทรงกลดต้องรอดเพื่อกลับไปช่วยชีวิตเอื้อกานต์ ทีเกื้อเฝ้าไข้เอื้อกานต์ไม่ห่าง สัตตบงกชดูแลทีเกื้อด้วยความเป็นห่วง จนคุณหญิงอัปสรสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทั้งสองรับตรงกันว่าเคยรักกัน แต่รับปากว่าตราบใดที่สัตตบงกชยังเป็นคู่หมั้นของธีรภูมิจะไม่ทำอะไรเสียหาย คุณหญิงอัปสรพอใจในคำตอบของทั้งคู่ นภ พาศักดิ์ชาย เจ้าของบริษัทขนส่งมวลชน ไปหลบที่เซฟเฮาส์ ทรงกลดแก้แค้นโดยการส่งพลังจิตเพื่อสร้างภาพหลอนให้ศักดิ์ชายเห็นเป็นภาพเครื่องบินระเบิด ตอนนี้พลังของทรงกลดฟื้นฟูสำเร็จเขามีพลังมากกว่าเดิม อาจจะมากกว่าฮันเตอร์ด้วยซ้ำ เอื้อกานต์รู้สึกตัวแล้วและรู้ว่าคิมกับทรงกลดคือคนเดียวกัน เอื้อกานต์ขอให้ทรงกลดกลับมาเดินทางที่ถูกต้อง ทรงกลดใจอ่อน ฮันเตอร์จึงคิดหาทางกำจัดเอื้อกานต์เพราะเอื้อกานต์เป็นอุปสรรคต่อการแก้แค้นของทรงกลด ทรงกลดกับเอื้อกานต์เริ่มใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีคนสวมรอยเป็นคิมและฆ่าคน ทรงกลดจึงสืบจนรู้ว่าเป็นฝีมือของศักดิ์ชายและศักดิ์ชายเป็นคนอยู่เบื้องหลังการระเบิดเครื่องบิน จนทำให้ครอบครัวทรงกลดต้องตาย ไม่มีใครคิดว่าทรงกลดจะรอดมาได้และกลับมาแก้แค้น ทวงความยุติธรรมให้พ่อ ด้วยวิธีที่ทุกคนคาดไม่ถึง ทรงกลดไม่ยอมหยุดเขาไม่รอกฎแห่งกรรม ทีเกื้อจึงพาทรงกลดไปห้องศักดิ์ชาย แต่ศิกดิ์ชายกำลังทุกข์ทรมานกับโรงมะเร็งจนต้องร้องขอความตายจากทรงกลด ความตายคือหนทางเดียวที่จะทำให้ศักดิ์ชายพ้นทุกข์ ทรงกลดไม่เคยเจอเหยื่อที่ร้องขอความตาย เขาสับสนว่าควรทำอย่างไร ทรงกลดจะพ้นจากพันธนาการความแค้น หรือ ปล่อยให้ศักดิ์ชายรับผลกรรม และเอื้อกานต์จะทำให้ทรงกลดคนเดิมกลับมาได้หรือไม่ ความแค้นในใจของทรงกลดจะดับลงด้วยวิธีได ติดตามได้

แหวนปราบมาร 2560

เรื่องย่อ : แหวนปราบมาร (2560/2017) “เมื่อของวิเศษในตำนาน กลับมาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ด้วยฝีมือของมารและเหล่าร้าย จึงมีเพียงผู้ครอบครองแหวนวิเศษเท่านั้นที่จะช่วยได้” เมื่อครั้งบรรพกาลยังมีของวิเศษอยู่ 12 ชิ้น ที่ถูกเล่าขานจนเป็นตำนานอันโด่งดัง เช่น ดาบฟ้าฟื้น เกราะเพชรเจ็ดสี เหล็กไหล ปี่พระอภัย หรือแม้กระทั่งอีโต้แก้วหน้าม้า ซึ่งหากตกในมือเหล่าร้ายจะก่อให้เกิดมหันตภัยครั้งใหญ่ขึ้นแก่ทั้งสรวงสวรรค์และโลกมนุษย์ “มหาธรรมเทพ” เทพผู้ยิ่งใหญ่เล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงตัดสินใจสร้างกรุเจดีย์ล่องหนเพื่อใช้รวบรวม “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” โดยมีข้อแม้ว่ากรุเจดีย์ต้องล่องหนอยู่ระหว่างโลกกับสวรรค์เท่านั้น และจะปรากฏขึ้นทุกๆ 400 ปี และได้สละบารมีธรรมของตนออกมากลายเป็น “ภูติหมัดภูผา” และ “ภูติบาทาวายุ” เพื่อให้ภูติทั้งสองคอยปกปักษ์รักษา “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” ในกรุนี้ โดยให้ภูติทั้งสองสิงสถิตอยู่ใน “แหวนภูผาวายุ” ที่อยู่บนยอดเจดีย์ ซึ่งการสร้างเจดีย์ล่องหนนี้ ฝ่ายมารจับจ้องรอเวลาการปรากฏตัวของกรุเจดีย์ล่องหนนี้ กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 2,000 ปี ใกล้ถึงวันที่เจดีย์ล่องหนปรากฏตัวอีกครั้ง แถววัดเก่าแก่ในจังหวัดอยุธยา จึงทำให้ฝ่ายเทพและฝ่ายมารเตรียมที่จะเผชิญหน้ากัน แต่ครั้งนี้ยังมีมนุษย์ที่ถูกความโลภครอบงำจิตใจถึงขีดสุดอย่าง “อาคม”ชายผู้ไปร่ำเรียนไสยดำมาตั้งแต่เด็ก และรู้โดยทางในว่าถึงเวลาที่จะต้องไปชิง “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12W มาครอบครองแล้วนำมาสร้างความยิ่งใหญ่ในกับตน เมื่อถึงวันที่กำหนดทั้งฝ่ายเทพ, ฝ่ายมารและ “อาคม” ไปที่ที่กรุเจดีย์จะปรากฏ ทั้งสามฝ่ายได้ต่อสู้กันเพื่อสิ่งที่ตนเองมุ่งหวัง โดยไม่รู้เลยว่าในขณะนั้น “แทน” และเพื่อนซึ่งไปทัศนศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ โดยมี “แทน” เด็กหนุ่มหน้าตาธรรมดาๆ เฉยๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่เป็นคนดี มีน้ำใจ ต้องเป็นคนดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ในครั้งนี้ตามที่อาจารย์มอบหมายไว้ “แทน” ทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่จะดูแลเป็นพิเศษอยู่คนหนึ่งก็คือ “แพรวา” สาวในดวงใจ ที่ทั้งนิสัยดี มีดีกรีเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยแต่ไม่มีใครกล้าแหยม เพราะเธอเป็นถึงคู่หมั้นของ “ทรงเดช” ลูกชายนักธุรกิจใหญ่ของประเทศ นอกจากนี้ยังมี “พล” เพื่อนสนิทจอมทะเล้น ยียวนกวนบาทา พร้อมด้วยคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “กานดา” สาวน่ารัก แต่มักมองโลกแง่ร้ายแถมมีอคติกับผู้ชายสุดๆ และยังมีเพื่อนๆ สาขาประวัติศาสตร์อีกมากมายก็นั่งรถทัวร์มาดูงานถึงอยุธยาเช่นกัน แต่พวกเขาดันโชคร้ายโดนโจรถือปืนมาดักปล้นและจะทำมิดีมิร้ายสาวๆ รวมทั้ง “แพรวา” ด้วย “แทน” รวบรวมความกล้าอาศัยจังหวะที่โจรเผลอวิ่งเอาถุงของมีค่าที่โจรคนหนึ่งให้เขาเก็บรวบรวมวิ่งหนีลงจากรถไป พวกโจรทั้งสามเห็นจึงรีบวิ่งตามไป เพื่อนๆ ทุกคนจึงรีบวิ่งไปแจ้งตำรวจ ส่วน “แทน” ก็ถือถุงของวิ่งหนีเข้าป่าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปตรงจุดที่กรุเจดีย์ล่องหน ที่เก็บ “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่ “แทน” กำลังจะถูกโจรยิงอยู่นั้น กรุเจดีย์ก็สำแดงอิทธิฤทธิ์ช่วย “แทน” ไว้ให้พ้นจากกระสุนปืน โจรทั้งสามงง จึงยิงกระหน่ำไม่หยุดแต่ผลก็เหมือนเดิม แล้วจู่ๆ กรุเจดีย์ก็แตกออก ลำแสงสีทองส่องสว่างไปทั่ว และ “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” ก็กระจัดกระจายออกเหลือไว้แค่ 3 ชิ้นเท่านั้นที่อยู่ในกรุ ซึ่งส่องไปถึงเหล่าเทพ, มาร และ “อาคม” ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ จนเหล่าเทพและพวกมารที่มีกายทิพย์ทนไม่ไหวต้องสลายหายไป เหลือไว้แต่ “อาคม” ที่ถูกแรงกระแทกสลบ แต่ด้วยความโลภเขาจึงยืนหยัดแล้วเดินไปตามทางที่แสงทองสาดส่องมา ทางด้าน “แทน” ที่หลับตาหลบแสงสีทอง อยู่ๆ แหวนวิเศษเหนือยอดเจดีย์ก็ลอยมาสวมที่นิ้วของเขาโดยไม่รู้ตัว แล้วหลังจากนั้นสติของ “แทน” ก็หายไป แสงสีทองดับลง พวกโจรลุกขึ้นเตรียมจะจัดการ “แทน” แต่ “แทน” กลับเปลี่ยนไปทั้งสายตาและท่าทาง แถมมีปอยผมสีแดงแซมออกมา ระหว่างนั้นเพื่อนๆ ก็พาตำรวจมาพอดี จึงได้เห็น “แทน” ในลุคหนุ่มจอมพลังซัดโจรหมอบไปตามๆ กัน แล้ว “แทน” ก็สลบ เพื่อนทุกคนตกใจรีบพา “แทน” ไปโรงพยาบาล ส่วนตำรวจก็จับพวกโจรไปโรงพัก หลังจากทุกคนจากไปได้ไม่นาน “อาคม” ก็เดินมา พอเห็นกรุเจดีย์ล่องหนที่แตกออกก็ตกใจรีบเดินเข้าไปอย่างทุลักทุเล “อาคม” ได้เจอของวิเศษแห่งโลกธาตุเหลืออยู่ 3 ชิ้น อันได้แก่ ดาบฟ้าฟื้น, หัวเงาะป่า และบ่วงนาคบาท “อาคม”ยิ้มดีใจที่อย่างน้อยตนก็ได้ของวิเศษแห่งโลกธาตุ 3 ชิ้นมาครอง เมื่อกลับมายังมหาวิทยาลัย “แทน” ก็กลายเป็นคนดัง เพราะมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่เขาโชว์ฝีไม้ลายมืออัดพวกโจรเสียจนน่วม ทุกๆ คนชื่นชม “แทน” เป็นอย่างมาก แต่ “แทน” กลับจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อยว่าตนเองทำอะไรลงไป ความโด่งดังของ “แทน” นั้นลอยไปเข้าหูรุ่นพี่หัวหน้าชมรมมวย ทำให้รุ่นพี่ผู้นั้นมาท้า “แทน” สู้ ผลปรากฏว่า “แทน” แพ้ไม่เป็นท่า แต่แทนที่รุ่นพี่หัวหน้าชมรมมวยจะเลิกรา เขากลับคิดว่า “แทน” แกล้งแพ้ จึงประกาศว่าจะมาท้า “แทน” สู้ทุกวัน จนกว่า “แทน” จะยอมเอาจริง หลังจาก “แทน” พ่ายแพ้ “แพรวา” ก็มาหา “แทน” เพื่อเอา ”แหวนภูผาวายุ” จากโรงพยาบาลมาคืนให้ “แทน” บอกไม่ใช่แหวนของตน แต่ “แพรวา” ก็ยืนยันว่าเป็นแหวนของ “แทน” จริงๆ เขาจึงยอมสวมแหวนวงนี้ไว้อย่างเสียมิได้ “แทน” กลับไปที่หอพัก ในระหว่างที่กำลังอาบน้ำอยู่ “แทน” ก็ได้ยินเสียงคนดังมาจากในห้องนอนของตนเอง พอออกมาดู “แทน” ก็พบกับ “ภูติหมัดภูผา” และ “ภูติบาทาวายุ” ซึ่งภูติทั้งสองกำลังทะเลาะกันอยู่ “แทน” ตกใจมาก เพราะคิดว่ามีคนบุกรุกเข้ามาในห้อง เขาจึงร้องเรียกให้คนช่วย ภูติทั้งสองก็ทำให้ “แทน” ได้เห็นภาพวันนั้น หลังจากนั้น “ภูติหมัดภูผา” และ “ภูติบาทาวายุ” ก็อธิบายเรื่อง “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” ให้แทนได้ฟังก่อนทำพันธสัญญากับ “แทน” เพื่อที่พวกเขาทั้งสามจะได้ร่วมมือกันตามหา “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” อีกด้านหนึ่ง “อาคม” ก็เอาของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 3 มาเก็บไว้โดยไม่ให้ “ทรงฤทธิ์” นักธุรกิจชื่อดังซึ่งเป็นเจ้านายของตนเองรู้ แต่ “อาคม” บอกเรื่องของวิเศษนี้ให้ “อาวุธ” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนผู้ร้ายลึกเพียงคนเดียวของตนรู้ ”อาคม” วางแผนที่จะหักหลัง “ทรงฤทธิ์” เขาจึงขอให้ “อาวุธ” เก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับ “อาวุธ” ตกลงที่จะทำตาม “อาคม” บอก แล้วหลังจากนั้น สองพ่อลูกก็ตัดสินใจที่จะลองฤทธิ์ของของของวิเศษ คนจากชมรมมวยมาท้าสู้ “แทน” อีกแล้ว ซึ่ง “แทน” ก็ยืนยันที่จะไม่สู้เหมือนเดิม แต่ก็ใช่ว่าจะรอดไปได้ “แทน” โดนบังคับให้สู้ทั้งๆ ที่ไม่อยาก เขาโดนอัดจนน่วม แต่ถึงแบบนั้นเหล่าคนจากชมรมมวยก็ยังไม่พอใจ หันไปเล่นงาน “แพรวา” แทน เธอพยายามสู้แต่สู้ไม่ได้ “แทน” สุดกลั้นพยายามเข้าไปช่วยจนมือลั่น ต่อยกลับมาในช่วงที่ยกมือขึ้นกันหมัดจากคนชมรมมวย มือของ “แทน” ไปถูก “แหวนภูผาวายุ” เข้า ภูติประจำแหวนทั้งสองจึงตื่นขึ้นมา “ภูติบาทาวายุ” เข้าสิงร่างของ “แทน” ทำให้ “แทน” เปลี่ยนไป และ “ภูติบาทาวายุ” ในร่างของ “แทน” ก็จัดการสั่งสอนคนจากชมรมมวยจนทุกคนที่เห็นเหตุการณ์อ้าปากค้างกับความเก่งกาจของ “แทน” “อาคม” ลองฤทธิ์ของวิเศษโดยการปลุกวิญญาณรับใช้ที่ตนเลี้ยงไว้ขึ้นมา แล้วให้ “อาวุธ” ทดลองใช้ของวิเศษแห่งโลกธาตุชิ้นแรก คือ “ดาบฟ้าฟื้น” ของขุนแผน “ดาบฟ้าฟื้น” นั้นมีฤทธิ์สังหารและเรียกวิญญาณได้ “อาคม” และ “อาวุธ” พอใจมากหลังจากทดสอบฤทธิ์ของ “ดาบฟ้าฟื้น” เสร็จ ฤทธิ์ของ “ดาบฟ้าฟื้น” ที่แสดงให้เห็น ก็ยิ่งทำให้ “อาคม” อยากครอบครองขงอวิฌศษชิ้นอื่นมากยิ่งขึ้น ณ สวรรค์เบื้องบน รับรู้ได้ว่าของวิเศษถูกใช้งานแล้ว เหล่าเทวดาจึงส่ง “จิตติ” ลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อเก็บรวบรวม “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” คืนก่อนที่ของวิเศษเหล่านั้นจะทำให้โลกมนุษย์เกิดภัยพิบัติ “การุณ” ผู้กองคนสวยแห่งกองปราบปรามเดินทางมายังมหาวิทยาลัยเพื่อสอบสวนคดีโจรปล้นทรัพย์กับ “แทน” “การุณ” ถามหา “แทน” จาก “อ.เมืองแมน” ที่กำลังจะกลับห้องพักครู “แทน” ซึ่งกำลังหาตัว “อ.เมืองแมน” จึงได้พบกับ “การุณ” ในระหว่างที่ “การุณ” กำลังจะทำการสอบสวน “แทน” อยู่ “ภูติหมัดภูผา” และ “ภูติบาทาวายุ” ได้บอก “แทน” เรื่องที่มีคนกำลังใช้ของวิเศษอยู่ ให้รีบไปเดี๋ยวนี้ “อ.เมืองแมน” จึงมีโอกาสได้พูดคุยกับ “การุณ” ถึงเธอจะไม่เต็มใจคุยก็ตาม “จิตติ” ที่กำลังตามหา “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” รู้สึกได้ถึงพลังอำนาจของ “ดาบฟ้าฟื้น” จึงรีบไปยังต้นตอของพลัง “จิตติ” เห็น “อาวุธ” กำลังใช้ “ดาบฟ้าฟื้น” เลยพยายามที่จะแย่งชิง “ดาบฟ้าฟื้น” มา แต่ “จิตติ” กลับพ่ายแพ้ ในระหว่างที่ “จิตติ” กำลังจะถูก “อาวุธ” ทำร้าย “แทน” และภูติทั้งสองก็เข้ามาช่วยเหลือทัน “อาวุธ” รีบหนีไปพร้อม “ดาบฟ้าฟื้น” ทางฝ่ายมารเองก็สามารถรับรู้ได้ว่ามีการเคลื่อนไหวของหนึ่งใน “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” และแหวนภูผาวายุ” จึงได้ตัดสินใจส่ง “มายา” มารสาวสวยพราวเสน่ห์ผู้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและความฉลาดหลักแหลมไปยังโลกมนุษย์เพื่อตามหา “แหวนภูผาวายุ” และรวบรวม “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” เมื่อ “จิตติ” เห็นแหวนที่นิ้วของ “แทน” “จิตติ” ก็เข้าใจผิดว่า “แทน” เป็นคนขโมย “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” ทั้งสองจึงได้ต่อสู้กันเอง “จิตติ” ไม่อาจสู้ “แทน” ที่มีภูติทั้งสองช่วยเหลือได้ หลังการต่อสู้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ “จิตติ” ทั้งสองก็ได้พูดคุยกันจน “แทน” รู้ว่า ”จิตติ” คือเทพที่มารวบรวม “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” เพื่อนำไปเก็บไวในกรุเจดีย์ล่องหน และเมื่อทั้งสองรู้ว่าตนมีจุดประสงค์เหมือนกัน “แทน” และ “จิตติ” จึงตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อตามหา “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” “อาวุธ” บาดเจ็บกลับไปยังบ้านของตนเอง “อาคม” ที่เห็นลูกตัวเองบาดเจ็บก็โกรธมาก ตั้งใจที่จะเอาคืนผู้ที่ทำร้ายลูกตนให้สาสม และในระหว่างที่ “อาคม” กำลังโมโหอยู่นั้น “มายา” ก็ได้มาหา “อาคม” และ “อาวุธ” เพื่อแย่งชิง “ดาบฟ้าฟื้น” ซึ่งการกระทำนั้นยิ่งกระตุ้นอารมณ์โกรธของ “อาคม” สองพ่อลูกจึงร่วมมือกันจัดการ “มายา” “มายา” ไม่เห็นวี่แววว่าตนจะสามารถชนะได้ จึงยอมแพ้และบอกว่าตนจะขอร่วมมือกับ “อาคม” และ “อาวุธ” เพื่อตามหา “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” ตอนแรกสองพ่อลูกจะไม่ยอมร่วมมือด้วย แต่มายารับรู้ด้วยจิตว่า “จิตติ” ได้ร่วมมือกับมนุษย์ผู้ครอบครอง “แหวนภูผาวายุ” เพื่อตามหา “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” “อาคม” และ “อาวุธ” ก็ได้ตัดสินใจร่วมมือกับ “มายา” ในทันที เพราะพวกเขาจะไม่ยอมให้ใครชิง “ของวิเศษแห่งโลกธาตุทั้ง 12” เป็นอันขาด !!!

นาคี 2559

นาคี (2559/2016) โขงเจียม อุบลราชธานี พ.ศ. 2480 นายเคนสามีของคำปองจับได้งูลักษณะประหลาดเป็นสีขาวตลอดตัวขนาดใหญ่กว่าแขนยาวประมาณวาเศษบนหัวมีหงอนเหมือนหงอนพญานาค ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นงูเจ้าแม่ที่เรียกกันว่า “นาคี” เขานำไปขายให้กับฝรั่งนักค้างู จอห์น วินสัน ด้วยราคาสูงลิ่ว คำปองซึ่งท้องแปดเดือนมีความเชื่อเช่นเดียวกับชายบ้านอีกหลายคนว่างูเจ้าแม่นี้หากไปหลบหลู่ดูหมิ่นจะต้องประสบกับความพินาศฉิบหาย นางพยายามห้ามปรามสามีแต่สายไปเสียแล้ว กลุ่มของจอห์น วินสัน ประกอบด้วยผู้ช่วยชาวไทยอีกสองคนคือ นายกอ และ นายบุญส่ง นายบุญส่งนั้นร้องด่าหลบหลู่งูขาวที่จับมาได้และท้าทายว่าหากเป็นงูเจ้าแม่จริงก็ให้สำแดงฤทธิ์เดช ฉับพลันนั้นเองขณะที่เปิดกรงเพื่อนำงูที่จับได้บรรทุกขึ้นเกวียน ปรากฏอาเพศบนท้องฟ้าเกิดสุริยคราสพายุอื้ออึงฟ้ามืดครึ้มเกิดลมพายุรุนแรงจนหมู่บ้านถล่ม นายเคนถูกกระท่อมทับตายคาที่ บุญส่งถูกไม้ทับขาข้างหนึ่งจนแหลกเหลว นายกอนั้นหนีไปได้ แต่จอห์น วินสัน ถูกงูเผือกฉกตาย ส่วนคำปองนั้นเกิดเจ็บท้องคลอดกะทันหันเด็กทารกหญิงที่คลอดออกมาสิ้นชีวิต แต่ก่อนที่คำปองจะหมดสติไปนางบังเกิดเห็นภาพงูใหญ่เลื้อยแทรกกลืนหายเข้าตัวเด็ก และลูกของนางก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

คำปองตั้งชื่อบุตรสาวว่าคำแก้วย้ายจากโขงเจียมไปอยู่ดอนไม้ป่าครองตัวเป็นแม่ม่าย เด็กหญิงคำแก้วในวัยเรียนชั้นประถมศึกษามีลักษณะต่างจากเด็กทั่วไปบางครั้งขอบเดินเที่ยวในป่าคนเดียวหรือมักนั่งเงียบครุ่นคิดที่น่าประหลาดคือมักปรากฏอสรพิษอยู่ใกล้เด็กหญิงเสมอแต่ไม่เคยทำร้าย คำปองซึ่งยังเป็นสาวงามแม้จะตกพุ่มม่ายมีนายหวานพ่อม่ายลูกติดมาชอบพอแต่นางปฏิเสธไปด้วยใจยังไม่ลืมสามีและด้วยความรักที่มีต่อบุตรสาว คำแก้วมักหายตัวไปบริเวณปราสาทหินร้างท้ายหมู่บ้าน เด็กหญิงยังบอกอีกว่าสามารถพูดคุยกับงูได้และพวกมันเชื่อฟังเธอ คำปองเชื่อว่าเด็กหญิงคิดเอาเองตามประสาเด็ก คำแก้วเล่าให้แม่ฟังอีกว่าเธอชอบปราสาทหินร้างแห่งนั้นรู้จักคุ้นเคยราวกับเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน 20 ปีผ่านไป... พ.ศ. 2500 คณะอาจารย์และนักศึกษาโดยการนำของอาจารย์ทัศนัยได้ลงพื้นที่ขุดค้นโบราณวัตถุ ในจำนวนนี้มี ทศพล นักศึกษาปีสุดท้ายของคณะโบราณคดีรวมอยู่ด้วย เขาเป็นคนรูปงามและหลงใหลในวัตถุโบราณเป็นอย่างมาก ทศพลขุดพบรูปปั้นประหลาดเป็นหินสลักสีขาวอมชมพูรูปหญิงสาวเปลือยท่านอนบิดตัว ช่วงล่างตั้งแต่สะโพกลงไปเป็นหางงูส่วนบนของหน้าผากที่จรดกับศีรษะมีหงอน ซึ่งอาจารย์ทัศนัยอธิบายว่านั่นคือสัญลักษณ์ของนาคีหรือพญานาค ทศพลหลงใหลในความงามของรูปปั้นจนเก็บไปเพ้อถึงทำให้พิมพ์พรที่แอบชอบเขาอยู่ไม่พอใจ ตั้งแต่ขุดพบรูปปั้นประหลาดมีเรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้นกับคณะทำงาน เริ่มตั้งแต่ทศพลพบเด็กสาวสวยสวมชุดแพรเยื่อไม้สีกลีบบัว แต่เมื่อเขาติดตามไปหล่อนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ในเวลาเดียวกันคำแก้วซึ่งเติบโตเป็นสาวสวยของบ้านดอนไม้ป่าเกิดฝันประหลาดว่าได้พบชายหนุ่มรูปงามเขาและพวกกำลังขุดหาวัตถุโบราณอยู่ ทศพลและเพื่อน ๆ คือ วันชนะ ประกิต เชษฐ์ สมมาตร รวมถึง พิมพ์พร รัตนาวดี ไม่ได้การต้อนรับจากกำนันแย้ม เพราะกำนันแย้ม ไม่ต้องการให้คนต่างถิ่นเข้ามายุ่มย่ามในหมู่บ้าน รวมถึงการขุดค้นที่เทวาลัย จึงขับไล่ทุกคน ไม่ให้นอนค้างที่หมู่บ้าน สุดท้ายทัศนัย จึงพาเด็ก ๆ ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของคำปอง และที่นั่นเอง ทศพลก็ได้พบกับคำแก้ว และเริ่มชอบคำแก้วในที่สุด พิมพ์พรเดินตลาดของบ้านดอนไม้ป่าได้พบกับคำแก้วที่เก็บดอกไม้ป่าหลากชนิดมาขาย เธอไม่ชอบหน้าคำแก้วแต่แรกเห็นเพราะสวยจัดทั้งยังฉลาดรู้จักยอกย้อนต่อปากต่อคำต่างกับหญิงชาวบ้านทั่วไป พิมพ์พรเห็นรูปปั้นนาคี พิมพ์พรถึงกับประหลาดใจเมื่อพบว่าใบหน้าของรูปปั้นนั้นเหมือนเด็กสาวชาวป่าที่เธอเพิ่งได้พบแทบไม่ผิดเพี้ยน หมออ่วมทำนายกับกำนันแย้มว่าอีกเจ็ดวันจะเกิดสุริยคราสทำความวิตกให้กับเขามากเนื่องจากทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์นี้จะต้องมีคนถูกฝูงงูกัดกินจนตายทุกครั้ง หมออ่วมบอกว่านี่เป็นอิทธิฤทธิ์ของเจ้าแม่นาคี เขาทำนายพิมพ์พรว่ากำลังมีเคราะห์หนักจนอาจถึงสิ้นชีวิตภายในเจ็ดวัน พิมพ์พรและรัตนาวดีได้พบกับคำแก้วที่ตลาดอีกครั้ง รัตนาวดีเริ่มเอะใจเธอจำได้ว่าคำแก้วมีใบหน้าคล้ายกับรูปปั้นนาคีทีทศพลขุดได้พิมพ์พรขอให้เธอเก็บไว้เป็นความลับ หมออ่วม ฉุกใจคิดว่าเจ้าแม่นาทีที่แสดงอิทธิฤทธิ์ฆ่าคนจะเกี่ยวข้องกับคำแก้วเด็กสาวที่เกิดในวันสุริยคราสที่อำเภอโขงเจียมและเป็นวันเดียวกับที่เจ้าแม่อาละวาดเมื่อหลายปีก่อน นายอ่วมต้องการกำจัดเจ้าแม่นาคีแต่กำลังสืบหาที่อยู่และหาของขลังมาปราบ ส่วนลำเจียก ลูกสาวนายกอ ก็ตกหลุมรักทศพล ด้วยรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลา ยิ่งเมื่อเห็นทศพลชอบอยู่ใกล้ชิดกับคำแก้ว ก็ยิ่งไม่พอใจ ลำเจียกหาทางกลั่นแกล้งคำแก้วอยู่เสมอ โดยมีซ่อนกลิ่นกับชบาคอยเป็นมือขวาให้ลำเจียก ทศพลพบภาพประหลาดเป็นปราสาทราชวังตะการตาและหญิงสาวสวมมงกุฏงูคนเดิมเช่นเดียวกับคำแก้วที่ฝันถึงทศพล พิมพ์พรเห็นภาพประหลาดเป็นงูเผือกยักษ์กำลังโอบรัดทศพลอยู่เธอกังวลและหวาดกลัวจนต้องเล่าให้ทศพลฟังว่างูใหญ่บางตัวมีฤทธิ์แปลงเป็นคนได้จากคำบอกเล่าของบิดา นั่นก็คือนายบุญส่งที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์อาเพศเจ้าแม่นาคีเหมือนหลายปีก่อนนั่นเอง หมออ่วมลอบนำว่านพญาลิ้นงูที่ได้จากสัปเหร่อคงไปฝังไว้ที่ใต้ถุนเรือนคำปอง เพื่อทดสอบว่าคำแก้วคือร่างแปลงของนาคี จนคำแก้วร้อนรนจนอยู่บนเรือนไม่ได้ต้องเสาะหาขุดว่านนั้นทำลายเสีย หมออ่วมเริ่มแน่ใจมากขึ้น ทางด้านอาจารย์ทัศนัยขุดพบซากเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์งูเต็มไปหมดนอกจากนี้เขายังสันนิษฐานว่ารูปปั้นนาคีนั้นแท้ที่จริงแล้วไม่ใช่หินสลักหรือวัตถุทั่วไปแต่เป็นศพอาบน้ำยาเช่นเดียวกับมัมมี่ ของอียิปต์ที่ถูกฝังไว้เป็นเวลานานจนแปรสภาพเป็นเนื้อหิน กำนันแย้มและหมออ่วมแจ้งเตือนชาวบ้านถึงวันสุริยคราสที่จะมาถึงในพรุ่งนี้ ยังบอกอีกว่าเจ้าแม่นาคีจะต้องอาละวาดฆ่าคนอีกเพราะที่ปราสาทหินร้างท้ายหมู่บ้านนั้นมีถ้ำติดต่อไปยังอำเภอโขงเจียมที่เจ้าแม่เคยปรากฏอิทธิฤทธิ์ หมออ่วมเสริมว่าเจ้าแม่นาคีนั้นมีร่างเป็นคนอาศัยปะปนอยู่กับชาวบ้านแต่เมื่อคำแก้วคาดคั้นให้บอกออกมาว่าเป็นใครเขาก็กลับอึกอักบอกว่ายังไม่มีหลักฐานแน่นหนาพอ คนขับรถที่พาคณะของอ.ทัศนัย และเด็ก ๆ ถูกงูกัดตาย ทัศนัยจะเอาศพคนขับกลับไปทำพิธี แต่กำนันไม่ยอม บอกว่าถูกงูกัดตาย หากเคลื่อนย้ายศพ จะเกิดอาเพศใหญ่ ลำเจียกไปหาทศพลถึงที่บ้านคำแก้ว ขากลับ เจองูเผือกจะทำร้าย ดีที่ใส่แหวนที่พ่อให้ไว้ จึงรอดมาได้ ทศพลกับพวก มาที่บ้านสัปเหร่อคง ถามเรื่องที่ฝังศพคนรถ ทศพลจ้างให้สัปเหร่อไปขุดโลง เปิดออกมา เห็นงูกำลังกัดกินศพอย่างหน้าสะอิดสะเอียน ทุกคนแทบช็อค ส่วนรัตนาวดีก็กลัวตาย วิ่งหนีไปจากหมู่บ้าน เจอเข้ากับผี โดนทำร้ายจนสลบไป ทุกคนตกใจ รัตนาวดีหายไป ไปแจ้งกำนันแย้ม ก็ไม่รับแจ้ง บอกถ้าภายใน 3 วันไม่กลับมาคือไม่รอด ทัศนัย แบ่งเด็ก ๆ เป็น 2 กลุ่ม ออกไปตามหา คำแก้ว ช่วยเหลือรัตนาวดีมาได้ โดยพิมพ์พร และเจิดนภา พากลับมาที่บ้านพัก แต่รัตนาวดี อยู่ในอาการหวาดกลัว ยังคงไม่พูดจากับใคร สุดท้ายคำปอง จึงไปหาหมออ่วมให้มารักษา หมออ่วมเห็นแววตาคำแก้ว พร้อมกับกลิ่นสาบงู เริ่มมั่นใจ ว่าคำแก้ว จะต้องเป็นบริวารของเจ้าแม่นาคี ส่วนทศพล วันชนะ และประกิต ต้องค้างที่เทวาลัย เนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้ทศพล ค้นพบ ถ้ำใต้เทวาลัย และได้พบกับร่างทิพย์ของเจ้าแม่นาคี ที่มีหน้าตาเหมือนกับคำแก้วอย่างไม่มีผิดเพื้ยน หลังจากออกจากถ้ำ ทศพล จึงบอกกับทัศนัย และจะพาทีมนักศึกษา เข้าไปสำรวจถ้ำต่อไป และได้พบกับวัตถุโบราณจำนวนมาก ลำเจียก ขะมักเขม้น ซ้อมรำถวายเจ้าแม่ ตอนแรก คำแก้ว จะไม่ยอมรำถวาย ทำให้กำนันไม่พอใจ แต่สุดท้ายคำปองเกลี้ยกล่อม ให้ทำเพื่อเจ้าแม่นาคี เพราะเคยสัญญาไว้ตั้งแต่ตอนท้องคำแก้ว ว่าหากคำแก้วปลอดภัยดี จะยกคำแก้วให้กับเจ้าแม่นาคี สุดท้ายคำแก้วจึงยอมรำถวายให้ ชาวบ้านดอนไม้ป่าเชื่อว่า เมื่อเกิดสุริยุปราคา มนุษย์ต้องสังเวยชีวิตเพื่อให้พญานาคคายดวงอาทิตย์ออกมา และเมื่อถึงวันบวงสรวง ชาวบ้านต่างมากันพร้อมหน้าที่หน้าเทวาลัย คำแก้วก็มารำถวายด้วย คำแก้วเริ่มรำไปได้ไม่นาน เธอก็เริ่มเลื้อยเหมือนงู ผิวหนังเริ่มเป็นเกล็ด ลำเจียกหันมาเห็น ร้องตกใจใหญ่ ทำให้พิธีต้องหยุดกะทันหัน คำแก้ววิ่งไปที่เทวาลัย ในขณะที่ทศพล และอาจารย์ รวมทั้งเพื่อน ๆ ต้องรีบหนีออกมาจากเทวาลัย ทศพลหยิบโบราณวัตถุออกมา ทำให้วัชระปราการ ฉัตรสุดา เลื่อมประภัส ซึ่งเป็นบริวารเจ้าแม่นาคี หลุดออกจากคำสาป กลายร่างเป็นคน ทศพลสงสารคำแก้ว ที่ถูกชาวบ้านใส่ร้ายว่าเป็นเจ้าแม่นาคี จึงชวนไปอยู่กรุงเทพฯด้วยกัน ลำเจียกมาพบพอดีไม่พอใจ เธอไม่กลัวคำแก้ว เพราะใส่แหวนพิรอดของกอมาด้วย ลำเจียกวางแผนร่วมมือกับเลื่อง จะเอาคำแก้ว มาเป็นเมียเลื่องให้ได้ ทศพล เริ่มอ่านเรื่องราวจากศิลา พบชื่อ เมืองมรุกขนครและกษัตริย์ที่ปกครองเมืองนี้ก็คือพระเจ้านิรุทธราช! คำแก้วถูกลำเจียกหลอกมาที่กระท่อม ให้เลื่องปล้ำ คำแก้วตกใจ กลายร่างเป็นงูเผือก เลื่องเห็นแทบช็อค คำแก้วหมดสติไป แล้วเลื่องก็ถูกงูฉกตาย เดี่ยวกับทัพเข้ามาเจอ ถูกฉกตายไปด้วยทั้งคู่ ลำเจียกรีบวิ่งหนีไป กำนันแย้มแค้นใจมาก ลำเจียกบอกคำแก้วเป็นคนฆ่า ชาวบ้านแห่กันมาจะเอาเรื่องคำแก้ว แต่ลำเจียกไม่กล้าพูดมากนัก เพราะกลัวเรื่องจะแดงขึ้นมา ว่าตนเอง เป็นคนวางแผนให้เลื่องฉุดคำแก้วไป กำนันแย้ม ร่วมมือกับหมออ่วม ทำพิธี กำจัดเจ้าแม่นาคี ใช้แหวนพิรอด พันกับสายสิญจน์ ผูกไว้ และเผาหุ่นเจ้าแม่นาคี คำแก้ว ซึ่งกำลังขายดอกไม้ เริ่มร้อน ทุรุนทุราย ทนไม่ไหว ทศพลเห็นหมออ่วมทำพิธี รีบวิ่งไปหาคำแก้ว ถึงแม้จะถูกลูกน้องกำนันแย้มทำร้ายก็ตาม ส่วนลำเจียกเองก็กลัว ที่ต้องถอดแหวนพิรอดออกจากนิ้ว ที่กอให้ไว้ เพราะกลัวจะถูกเจ้าแม่นาคีทำร้าย ร่างทิพย์เจ้าแม่นาคีพุ่งวูบออกมาจากร่างคำแก้ว เจ้าแม่นาคีทำพิธีเรียกฝน กางแขนออก ปากขมุบขมิบสาธยายร่ายคาถาเรียกฝนมาสู้กับพิธีของหมออ่วม พายุฝนตกอย่างแรง ฟ้าฝ่าจนสายสิญจน์ขาด ไฟที่หุ่นฟางดับลง พิธีหยุดลงกะทันหัน ทุกคนวิ่งหลบฝน คำแก้วสลบอยู่ในอ้อมกอดทศพล แล้วทศพล ก็อุ้มเข้าเทวาลัยไป จนคำแก้วฟื้น ทศพลจึงให้คำแก้วขี่หลังกลับไปที่บ้าน ลำเจียกแต่งตัวเลียนแบบเจ้าแม่นาคี มาปล้ำทศพลถึงที่พัก แถมร้องโวยวายว่าถูกปล้ำ ทั้ง ทัศนัย พร้อมด้วยลูกศิษย์ ต่างตกใจ แต่คำแก้วบอก ว่าลำเจียกต่างหากที่มาปล้ำทศพลถึงที่พัก ทำให้ทศพล รอดพ้นจากลำเจียกไปได้ ลำเจียกแค้นใจคำแก้วมาก รุ่งเช้า ทศพล สารภาพรักกับคำแก้ว คำแก้วอดดีใจไม่ได้ แต่ทำทีปฎิเสธ จนทศพลเสียใจ หมออ่วม กำนันแย้ม ลำเจียก มาที่กระท่อมทศพล ใช้แหวนพิรอด ส่องทาง ไม่ให้เจ้าแม่นาคีบังตา จนพบกับ เทวรูปเจ้าแม่นาคี กำนันแย้มและพวก จึงไปจับตัว ทศพลและเพื่อน ๆ เอาไว้ คำแก้วรีบตามไปดู ถูกชาวบ้านเอาหินปาใส่ หาว่าคำแก้วเป็นงู ทศพลเข้าช่วย บอกกับกำนันแย้มและทุกคน ว่าจะไปพิสูจน์เรื่องเจ้าแม่นาคีที่เทวาลัย เพราะไม่ว่าใครจะไปที่นั่น ก็ไม่รอดกลับมา แต่หากเขารอดกลับมาได้ ต้องยอมปล่อยตัวทุกคน และไม่ต่อว่าคำแก้วอีก คำแก้วเป็นห่วงทศพล อยากตามไปช่วย ทัศนัย เข้าไปที่เทวาลัยพบศิลาจารึก พร้อมลวดลายอักขระ บนศิลา คือ มนต์อาลัมพายน์! เป็นวิชาสะกดจิตอย่างหนึ่งที่ใช้สะกดจิตพวกนาค ทัศนัยมัวแต่สนใจ อ่านอักขระ ไม่ทันมอง ว่า - เงางูใหญ่ทาบทับลงไปบนแผ่นศิลา ทำให้ทัศนัยรู้สึกตัว พอหันหลังกลับไปมองก็เห็นดวงตาเรืองๆ ของงูใหญ่วัชระปราการมองมาอย่างมุ่งร้าย สุดท้ายทัศนัยก็หมดสติไป ทศพลเริ่มหนาวเพราะอากาศในถ้ำ เขาเห็นเงาทัศนัย เดินตามไป ส่วนงูเขียว พาคำแก้ว เข้ามาที่ถ้ำจนได้ เจ้ามานาคีเข้าสิงห์ร่างคำแก้ว แล้วก็มาพบกับทศพล ทศพลดีใจมากที่ได้เจอคำแก้ว โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าแม่นาคี เจ้าแม่พาทศพล มายังสระน้ำสีมรกต น้ำใส เป็นประกายระยิบระยับ สระแห่งนี้เป็นเส้นทางเชื่อมไปได้หลายแห่ง เป็นรอยต่อระหว่างโลกมนุษย์กับวังบาดาลเมืองของพวกพญานาค เจ้าแม่เล่าเรื่องอดีตให้ทศพลฟัง และบอกว่าตนเองรออยู่ จนไชยสิงห์ มาเกิดเป็นทศพล คำแก้ว ก็คือเจ้าแม่นาคีนั่นเอง รุ่งเช้า ทศพลหลับอยู่กับคำแก้ว คำแก้วตื่นมาตกใจ จำอะไรไม่ได้ คำแก้วกลับบ้านไปแบบงุนงง ไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นของทศพลหรือเปล่า กำนันแย้ม หมออ่วม กอ สั่งลูกน้อง ทั้งทุบ ทั้งเผา รูปเจ้าแม่นาคี แต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายเอาล่องแพ ไปเผาที่วัด คำแก้ว ทศพล และเพื่อน ๆ ช่วยกันออกตามหาเทวรูป แพของกำนันแตก ลูกสมุน ถูกน้ำวน ดูดจมหายไป เทวรูปก็จมไปด้วย ทศพลเสียดายมาก แต่คำแก้วบอกว่ามันอยู่ในที่เหมาะสมแล้ว คือในน้ำนั่นเอง ลำเจียกบอกกับทุกคนว่าคำแก้ว กับทศพล ผิดผีกันแล้ว คำปองเสียใจ แต่ทศพล กลับบอกว่า เป็นผัวเมียกันแล้ว ทศพลขอรับผิดชอบ สุดท้ายคำแก้วกับทศพลจึงได้แต่งงานกันในที่สุด ซึ่งลึก ๆ แล้วคำปองก็ดีใจที่คำแก้วจะมีทศพลมาคอยปกป้อง หมออ่วม จะปราบนาคี โดยใช้ครุฑ คำปองมาได้ยิน แต่ถูกคนของกำนันจับตัวไว้ เลื่อมประพัตร ฉัตรสุดา ไปบอกคำแก้ว คำแก้วรีบไปช่วยแม่ แต่ถูกจับตัวเอาไว้ ฉัตรสุดาจึงกลายร่างเป็นคน ไปบอกให้ทศพลมาช่วยคำแก้ว ทศพลถุกซ้อมจนสลบไป คำแก้ว กลายร่างเป็นงู ฉกสมุนกำนันแย้ม ฉกจนสมุนตายเรียบ บุญส่ง กำนันแย้ม หมออ่วม กอวิ่งหนีงูเจ้าแม่นาคี นาคีจะฆ่าบุญส่ง แต่คำปองห้ามไว้ วัชระปราการมาช่วยนาคี สกัดพวก กำนันแย้ม หมออ่วมไว้ คำแก้วกลายร่างกลับเป็นคนร้องไห้เสียใจ ไม่อยากเป็นงู คำปองกอดลูกไว้ บอกว่าต้องมีวิธีแก้อาถรรพ์ให้ได้ ดร.สุภัทรมาที่หมู่บ้าน และได้รู้ว่าทศพลแต่งงานกับคำแก้วแล้ว ทศพลทำสัญลักษณ์ของนาคีบนหน้าผากรูปปั้นหลุดออกมาเขาจึงเก็บไว้กับตัวตั้งใจว่าจะเก็บไว้ติดให้เหมือนเดิม นายบุญส่งตามมาที่หมู่บ้าน และดีใจมากที่พิมพ์พร ลูกสาวของเขาปลอดภัย เขาได้พบกับคำแก้วทำให้คำแก้วจำได้ว่าเคยเป็นงูเผือกถูกจับมาขาย และนายบุญส่งได้ร้องท้าทายจนเธอโกรธจัดและอาละวาดฆ่าคน คำแก้วเกินนิมิตหยั่งรู้ว่าหากเมื่อใดที่เธอมีความโกรธหรือระลึกชาติได้ครบถ้วนเธอจะกลายร่างเป็นงูมีเพียงสถานที่เดียวคือต้องขึ้นไปบนปราสาทหินเพื่อระลึกชาติจึงจะไม่กลายร่าง คำแก้วเห็นอดีตชาติของตนเอง ตำบลหนองไทรในอดีตคือมรุกขนครปกครองโดยพระเจ้านิรุทธราชซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเป็นพิมพ์เดียวกับบุญส่ง ทิศเหนือของนครมีสระน้ำกว้างใหญ่ใสสะอาดให้ชาวเมืองได้อาบกินทำการประมงที่ก้นสระนั้นเป็นที่อาศัยของนางพญานาค ขณะนั้นเจ้าชายแสนเมืองหรือทศพลในชาตินี้ได้เป็นเชลยที่ถูกจับมาจากประเทศราช นางนาคีแปลงร่างเป็นสาวสวยพบรักและสมสู่อยู่กินกับเจ้าชาย แต่ในยามหลับนางกลับคืนร่างเป็นงูเผือกยักษ์หงอนสีแดงทำให้เจ้าชายรังเกียจนางจึงหนีกลับลงบาดาลไป เมื่อเจ้าชายแสนเมืองระลึกได้ถึงความรักที่มีต่อกันจึงไปเรียกหาที่สระ แต่นางนาคีซึ่งบำเพ็ญเพียรอยู่ก้นสระไม่ยอมใจอ่อนอีก ต่อมาพระเจ้านิรุทธราชจับปลาไหลเผือกได้นำมาเชือดเนื้อกินกันในหมู่บริวารซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ที่คิดปองร้ายนางในชาตินี้ได้แก่หมออ่วม นายกอ กำนันแย้ม เชษฐ์ เคน รวมถึงผู้คนที่ถูกนางพญานาคีกัดตายในวันสุริยคราสนั่นเอง สนมสองนางของพระเจ้านิรุทธราชก็คือพิมพ์พรและลำเจียกทุกคนล้วนกินเนื้อของนาง ยกเว้นไว้แต่นางกำนัลคำปองที่สงสารปลาไหลไม่ยอมกิน เนื้อของปลาไหลประหลาดนั้นยิ่งหั่นแจกก็กลับยิ่งทวีคูณเพิ่มขึ้นจนต้องนำไปแจกชาวประชาให้ได้กินกันทั้งเมือง ตกค่ำคืนนั้นลมพัดแรงนางกำนัลคำปองได้ยินเสียงกระซิบให้หนีออกจากเมืองเสียก่อนที่จะเกิดหายนะครั้งใหญ่นางทำตามคำบอก คืนนั้นเองเจ้าแม่สำแดงอิทธิฤทธิ์บันดาลให้ฝนตกกระหน่ำแผ่นดินไหวน้ำท่วมมรุกขนครถล่มทลาย ด้วยกรรมหนักที่ได้ก่อนางจึงถูกฟ้าดินสาปให้กลายเป็นหินครึ่งหนึ่งเป็นคนแสดงถึงความดีงามครึ่งหนึ่งเป็นงูหมายถึงความชั่วร้าย ส่วนจิตวิญญาณเร่ร่อนเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด เป็นงูบ้างคนบ้างจนกระทั่งสิ้นเวร หลังจากนั้นนับศตวรรษนางพญาเกิดเป็นงูเผือกที่โขงเจียมบำเพ็ญเพียรแต่กลับถูกจับมาขายฝรั่ง คำปองคลอดลูกตาย เจ้าแม่นาคีจึงกลั้นใจตายแทรกวิญญาณทับร่างด็กเติบโตเป็นคำแก้วนั่นเอง ทุกครั้งที่มีการตายโดยงูกัดในวัน สุริยคราสหรือวันอื่นๆ คำแก้วจะไม่รู้สึกตัวรับรู้แต่เพียงฝันร้ายว่าฆ่าคนตายเท่านั้น บุญส่ง นายกอ กำนันแย้ม และหมออ่วมเดินทางไปตำบลหนองไทรเพื่อหาของขลังมาปราบเจ้าแม่นาคี ต่อมานำรูปปั้นพญาครุฑเพื่อกำจัดคำแก้วอีกครั้งโดยจับตัวคำปองมาเป็นเหยื่อล่อ ด้านลำเจียกให้หมออ่วมทำเสน่ห์จนทศพลหลงใหลทิ้งคำแก้วไปยังตำบลนาคหนีซึ่งเจ้าแม่นาคีไม่สามารถไปได้ เนื่องจากที่ตำบลนี้มีตำนานเล่าว่านางนาคตนหนึ่งแปลงกายมายั่วพระธุดงค์ให้ตบะแตกท่านจึงสาปให้นาคใดๆไม่สามารถเข้าเขตได้ คำแก้วตามหาทศพลไปถึงตำบลนาคหนีแต่ทศพลถูกเสน่ห์ของลำเจียก ไม่ยอมกลับ แถมยังสู้ลำเจียกไม่ได้เพราะไม่มีอิทธิฤทธิ์ใดๆเกือบถูกฆ่าตายด้วยการผลักให้จมน้ำ กลับกลายเป็นว่าเมื่อลงน้ำคำแก้วมีกำลังมากขึ้นหนีจากลำเจียกที่มุ่งร้ายมาได้ เมื่อกลับมาถึงบ้านเธอพบว่าคำปองถูกคนจับไปเสียอีก คำปองนั้นอันที่จริงรอดพ้นจากน้ำมือของพวกนายกอมาได้ ด้วยบริวารของเจ้าแม่คอยคุ้มกัน ไล่ต้อนคำปองขึ้นไปกักขังไว้ในปราสาทหินจนพวกของนายกอหาไม่เจอ ลำเจียกอยู่ที่ตำบลนาคหนีได้พบเมืองอินทร์หมอผีอายุสามสิบเศษที่มีวิชาแก่กล้า หล่อนทอดตัวเป็นเมียเพื่อให้เขาช่วยกำจัดนางพญานาคี เมืองอินทร์จึงเดินทางมาพร้อมกับลำเจียกที่บ้านดอนไม้ป่า ทศพลจึงเริ่มคืนสติและกลับมาหาคำแก้ว และแหวนหลวงปู่มั่นนั้นจะไม่คุ้มครองลำเจียกอีกเนื่องจากหล่อนทำเสน่ห์เล่ห์กลซึ่งเป็นของต่ำ ทั้งยังคิดร้ายฆ่าเมียหลวงชิงผัวเขามา คำแก้วระลึกชาติได้อีกเมืองอินทร์ในอดีตชาติคือเจ้าอินทร์ผู้ซึ่งร่ายคาถาจับปลาไหลเผือกนำมาถวายพระเจ้าอนิรุทธราช คำอ้ายหรือลำเจียกในชาตินี้แอบมองเจ้าอินทร์จากหลังม่านทำตาเจ้าชู้ เจ้าอินทร์เป็นคนหนึ่งที่กินเนื้อปลาไหลเผือกจึงต้องโทษสิ้นชีพไปเช่นกัน ลำเจียกเกิดโมโหเอามีดไล่ฟันคำแก้วในวันหนึ่งจึงถูกเจ้าแม่นาคีกลายร่างขึ้นฆ่าเธอตาย พวกของบุญส่งหลอกทศพลว่าหากต้องการให้คำแก้วพ้นข้อกล่าวหาขอให้ทศพลนำชิ้นส่วนที่เป็นหงอนของรูปปั้นนำไปติดที่หน้าผากของคำแก้ว หากมีนางพญานาคีสิงอยู่นางจะปรากฏร่างออกมาและคำแก้วจะปลอดภัยเป็นคนธรรมดาไม่มีวิญญาณร้ายสิงสู่อีก ทศพลทำตามแท้ที่จริงแล้วการทำเช่นนั้นจะทำให้คำแก้วกลายร่างเป็นงูตลอดชีวิต คำแก้วเสียใจหนีไปยังปราสาทร้างกราบไว้พระอ้อนวอนขออยู่ในร่างคน เสียงจากพระพุทธรูปบอกเธอว่าให้ถือศีลอยู่แต่ในถ้ำนี้ห้ามออกไปไหนเด็ดขาดจนครบร้อยวันคำแก้วจะเป็นคนโดยสมบูรณ์ไม่มีวันกลายเป็นงูอีก ทศพลพาคำปองหลบหนีพวกของนายบุญส่งที่ต้องการจับตัวไปล่อให้นางพญานาคีออกมา แต่ ท้ายที่สุดจึงถูกพวกของเมืองอินทร์และนายบุญส่งจับตัวได้ พวกของเมืองอินทร์จับคำปองและทศพลเผาทั้งเป็นเพื่อล่อคำแก้วออกมา คำแก้วอดทนจนถึงที่สุดแต่ก็ไม่อาจยับยั้งคนใจทรามได้ คำปองไม่อาจทนเห็นสภาพคำแก้ว ที่ถูกชาวบ้านทำร้ายได้ จึงยอมปลิดชีวิตตนเอง เพื่อช่วยเหลือลูก ทศพลรอดชีวิต คำแก้วในร่างนางพญางูออกอาละวาดฆ่าคนทั้งหมดตายไป และกลายร่างเป็นงูตลอดอายุขัย ทศพลเสียใจร้องขอให้คำแก้วอยู่กับเขาไม่ว่าจะในสภาพใดก็ตาม แต่คำแก้วไม่อาจอยู่ร่วมกับเขาได้ หนีกลับขึ้นไปยังเทวาลัย ทั้งสองต้องพลัดพรากจากกันอีกครั้ง และจากกันด้วยน้ำตา พระธุดงค์ได้ชี้ทางสว่างให้แก่ทศพลโดยให้เขาบวชเป็นพระจนสิ้นอายุขัย
คงกระพันนารี 2559

คงกระพันนารี (2559/2016) 40 ปีก่อน...เณรน้อยแคล้ว และ เด็กชายดำมะกอก ตาม หลวงตาเอี่ยม ไปฝึกสมาธิ ณ ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ “ถ้ำอัคนีวารีทิพย์” หลวงตาพบเทพพิทักษ์ถ้ำในนิมิตว่าให้หลวงตาทำพิธีอัญเชิญเหล็กไหลและนางพญาเหล็กไหลจากถ้ำแห่งนี้ เพราะในรอบ 1,000 ปี เหล็กไหลจะมาประทับยังโลกมนุษย์เพื่อปราบมารร้ายสำคัญบนโลก...และมีเพียงผู้เดียวที่จะรวบรวมเหล็กไหลทั้งหมดให้กลับคืนมา และมีบุญบารมีที่จะปราบมารร้ายผู้นี้ได้ นั่นคือ กุมารีพิทักษ์เหล็กไหล...หรือ “คงกระพันนารี” ดำมะกอก และ แคล้ว แอบเรียนรู้วิชาไสยดำจนเป็นจอมขมังเวทที่กินกันไม่ลงทั้งคู่ ก่อนจะแยกย้ายหายสาบสูญจากกันไป โดยที่...พญาเหล็กไหลทั้ง 3 องค์ อยู่ที่หลวงตาเอี่ยมหนึ่งองค์ ดำมะกอก และแคล้วคนละองค์ แต่หลวงตาแอบมอบนางพญาเหล็กไหลหนึ่งองค์ให้กับแคล้ว เพื่อส่งต่อให้คงกระพันนารีในไม่ช้า และนารีนางนั้นก็คือ วรมัย หรือ แอร์พอร์ท ลูกสาวคนเดียวของแคล้ว แอร์พอร์ทมีพลังดึงดูดเหล็กไหลเข้าหาตัว และจะมีอาการธาตุไฟแตกซ่านและแก้วนัยน์ตากลายเป็นสีน้ำเงินแวววาวทุกครั้งที่เหล็กไหลแสดงอิทธิฤทธิ์ และเพื่อไม่ให้ใครแย่งชิงนางพญาเหล็กไหล แคล้วจึงฉีดนางพญาเหล็กไหลหลอมเหลวเข้าไปในตัวของแอร์พอร์ท โดยที่แอร์พอร์ทก็ไม่รู้และจำเรื่องราวไม่ได้ รู้เพียงแค่ว่าตนมีพลังพิเศษและยิงฟันไม่เข้า แคล้วต้องพาแอร์พอร์ทหนีไปค่อนโลกจากการตามล่าแย่งชิงเหล็กไหลมาตลอดชีวิต จนกลับมาขอความช่วยเหลือจาก ท่านรองคฑา นายตำรวจใหญ่เพื่อนเก่าแคล้ว จึงทำให้แอร์พอร์ทพบกับ หมวดณัฐเดช ตำรวจหนุ่มมือสะอาด ที่แท้จริงแล้วเป็นลูกชายที่เกิดจากดำที่ติดท้อง เพียง ไป และณัฐเองก็คือ ลูกนัท เด็กวัดของหลวงตา ผู้เป็นพี่ชายที่แสนดีที่ดูแลปกป้องแอร์พอร์ทในวัยเด็ก และทั้งคู่เคยสัญญาว่าจะแต่งงานกัน แต่แอร์พอร์ทจำณัฐไม่ได้ ดำกลายเป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดและอาวุธเถื่อนระดับชาติ ดำหลอกขายเหล็กไหลปลอมให้กับ หลุยราจีฟ ผู้นำทหารในแคว้นอิสระผู้บ้าอำนาจและกระหายสงคราม ทั้งคู่ต่างก็ต้องการครอบครองเหล็กไหลทั้งหมด รวมทั้งต้องการตัวคงกระพันนารีเพื่อควบคุมและหลอมละลายเหล็กไหลให้กลายเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างรุนแรงที่สุด...หลวงตาเอี่ยมและแคล้วจึงโดนตามล่าแย่งชิงเหล็กไหล จนหลวงตาและแคล้วถูกฆ่าตายในเวลาต่อมา หลังจากแคล้วตาย ชีวิตของแอร์พอร์ทจากเด็กสาวที่ต้องหนีมาตลอดชีวิต เริ่มรับรู้ว่าตนเป็นใคร เพราะได้รับการนำทางช่วยเหลืออยู่เคียงข้างและให้กำลังใจจากณัฐ ให้รอดพ้นจากการตามล่า และยังพาแอร์พอร์ทไปฝึกทั้งสมาธิจิตและวิชาต่อสู้เพื่อเตรียมพร้อมทั้งกายและจิต ทำให้แอร์พอร์ทมีพลังพอที่จะหันหน้ามาสู้และค้นหามารตามภารกิจของคงกระพันนารี การต่อสู้กับมารร้าย และความผูกพันของแอร์พอร์ทและณัฐ จึงดำเนินไปเคียงข้างกันแบบ “รักระหว่างรบ” ทั้งคู่จะต้องต่อสู้เหล่าร้ายทั้งแก๊งของดำและหลุยส์ การฝึกฝนฝ่าฟันเพื่อช่วยกันทำภารกิจของ “คงกระพันนารี” ที่ต้องกำจัดมารร้ายและนำเหล็กไหลทั้งหมดกลับคืนสู่ที่มาให้สำเร็จ

สร้อยนาคี 2566

เรื่องย่อ : สร้อยนาคี (2566/2023) อังกาบ (แคทรียา อิงลิช) แค้นใจที่เจตน์ (อานัส ฬาพานิช) หนีไปแต่งงานกับกานดา (สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา) ญาติห่าง ๆ ที่มีสถานะไม่ต่างจากคนรับใช้ในบ้าน ที่หมู่บ้านในหุบเขาของจังหวัดเพชรบูรณ์ อังกาบตามไปแก้แค้น ระหว่างเดินทางกลับ รถเกิดอุบัติเหตุพังยับเยิน แต่ร่างกายอังกาบไม่เป็นอะไร ร่างของเธอถูกนำเข้ากรุงเทพฯ แต่วิญญาณของเธอถูกทาวดีนำไปยังผารุ้ง

ทาวดี (ทิสานาฏ ศรศึก) นางนาคีแห่งนาคนครถูกเมฆา (ดอม เหตระกูล) จองจำไว้ในผารุ้ง เพราะตระบัดสัตย์ ไม่ยอมเข้าหอกับตน แต่กลับทอดกายให้พระทอง (วรพล จินตโกศล) มนุษย์หนุ่มที่เรือแตกกลางทะเล ทาวดีกราบทูลเท็จต่อท้าวนาคาธิบดีว่าต้องการปฏิบัติธรรมและเป็นพรหมจรรย์ ท้าวนาคาธิบดีเป็นผู้ฝักใฝ่ในทางธรรม จึงมอบ “สร้อยนาคี” ให้ทาวดีไว้ป้องกันตัว เมฆาสร้างอุบายแก้แค้นส่งปรางค์อุษา (ณัฐฌา บุญปอง) มาตามหาพระทองทั้งสองรักกันในทันทีและได้เสียกัน ในขณะที่ทาวดีไปบำเพ็ญเพียรที่ถ้ำทอง ทำทาวดีโกรธมาก ออกจากถ้ำทองมาฆ่าปรางค์อุษา แต่เมฆายกกองทัพมาช่วย ระหว่างต่อสู้กันนั้นพระทองกระชากสร้อยนาคีของทาวดีขาด อัญมณีร่วงลงสู่พื้นทรายแล้วหายไปทันที พระทองกับปรางค์อุษาว่ายน้ำหนีไปกลางทะเล แล้วก็ตัดสินใจกลั้นใจตายด้วยกัน เมฆาจองจำทาวดีไว้ในผารุ้ง และสาปว่าหากทาวดีหนีออกไปตามหาพระทองนางจะต้องตายด้วยสร้อยนาคีจากน้ำมือของพระทองชายที่นางรักเท่าชีวิต ทาวดีใช้เวลานับพันปีบำเพ็ญเพียรในผารุ้งจนบารมีแก่กล้า จนสบโอกาสที่ได้พบกับอังกาบ ทาวดีต่อรองขอใช้ร่างอังกาบเพื่อตามหาพระทอง ในช่วงเวลาเดียวกันพ่อแม่ของอังกาบขอให้หลวงพ่อดำ (รอง เค้ามูลคดี) ช่วยพาวิญญาณของอังกาบกลับมา หลวงพ่อดำช่วยอังกาบได้ แต่ขณะที่จะหลุดจากผารุ้งนั้น ทาวดีก็ตามติดมายังโลกมนุษย์เมฆาอยู่ในร่างของมนุษย์โดยวิธีโอปปาติกะ ใช้ชื่อว่าคงคา มีอาชีพเป็นวิศวกร ด้วยความเป็นห่วงเหมือนหมาย(ศิรประภา สุขดำรงค์) ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ คงคาจึงเร่งปฏิบัติธรรมเพื่ออัญเชิญอัญมณีจากสร้อยนาคีมาเป็นอาวุธของตนก่อนที่ทาวดีจะได้ไป

อังกาบแม้จะรอดชีวิตแต่ดวงจิตที่ยังคิดแค้นกานดากับเจตน์ กลับเป็นดวงจิตที่เปิดรับจิตแห่งมารของทาวดีได้อย่างลงตัว อังกาบขอให้ทาวดีให้ช่วยกำจัดกานดากับลูกในท้อง เธอยอมให้ทาวดีใช้ร่างชั่วคราว แลกเปลี่ยนกับการได้เข้าพิธีแต่งงานกับเจตน์ แต่ทาวดีกลับทำร้ายกานดาไม่ได้ ทาวดีสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างจากครรภ์ของกานดา คืนวันแต่งงานเจตน์ไม่ยอมหลับนอนกับอังกาบ ทำให้เธอเสียใจมากยอมให้ทาวดีใช้ร่างของตน เพื่อจะได้เป็นภรรยาของผู้ชายที่ตนรัก เธอคิดเพียงว่าหลังจากนี้จะหาทางกำจัดทาวดีให้ได้ อังกาบใช้ชีวิตกับเจตน์ไม่กี่วัน เจตน์ก็พากานดากับลูกกลับมาอยู่บ้าน อังกาบตัดสินใจกลับมาอยู่บ้าน และหาหมออาคมมากำจัดทาวดี แต่ก็พ่ายแพ้ทาวดีหมด ทาวดีทำร้ายอังกาบด้วยการนำวิญญาณของอังกาบไปจองจำไว้ในผารุ้ง และเธอก็ใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ในร่างของอังกาบ ทาวดีในร่างของอังกาบ สั่งทุบศาลพระภูมิแล้วให้สร้างศาลพญานาคขึ้นแทนให้ปุรเสน(ฐปนัท สัตยานุรักษ์) นาคเสนาผู้ซื่อสัตย์มาสถิตแล้วคอยช่วยเหลือคนที่มาสักการะขอพร ยิ่งทาวดีช่วยคนตกทุกข์ได้ยากมากเท่าใด บารมีของทาวดีก็เพิ่มพูนขึ้นเท่านั้น

20 ปีผ่านไป บารมีที่ทาวดีช่วยเหลือผู้คน ทำให้ร่างของอังกาบยังสวยสง่าไม่เปลี่ยนแปลง บุณิกา (ณัฐฌา บุญปอง) ลูกสาวของเจตน์กับกานดา เติบโตเป็นสาว ลูกชายของเหมือนหมาย เป็นหนุ่มหล่อ เรียนจบด้านการออกแบบเครื่องประดับ เขามีชื่อว่าภุชงค์ (วรพล จินตโกศล) คืนหนึ่งเกิดอาเพศภุชงค์ฝันว่าตนจับมือหญิงสาวดิ่งลงสู่ก้นบึ้งทะเล เมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็ตัดสินกลับเมืองไทย อาเพศในคืนนั้นทำให้ทาวดีรับรู้ได้ว่าคนที่รอคอยมานานแสนนานนั้นใกล้จะปรากฏตัวแล้ว ด้วยความที่ทาวดีเชื่อว่าบุณิกาคือปรางค์อุษา และด้วยบุพเพสันนิวาสบุณิกาก็ได้พบกับภุชงค์ซึ่งก็คือพระทอง แม้กระทั่งในชาติภพปัจจุบันบุณิกากับภุชงค์ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเจอ ทาวดีผู้เฝ้ารอคนรัก และการแก้แค้นมานานแสนนาน และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่นางนาคีได้พบกับคนที่เฝ้ารอ (ที่มา : bugaboo.tv)

บุรำปรัมปรา 2558

บุรำปรัมปรา (2558/2015) นับดาว นักเขียนนวนิยายสาวสวยไฮโซ บุตรสาวของ อาจณรงค์ เจ้าของห้างสรรพสินค้ากาแล็กซี่ พบว่าคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานด้วยกันในอีกไม่นาน ดันไปอยู่บนเตียงกับชายอื่น นับดาวเสียใจจนไม่เป็นอันเขียนนวนิยาย แม้จะถูกทางสำนักพิมพ์ทวงถามก็ตาม ระรินดา เพื่อนสนิทของนับดาว จึงเสนอให้นับดาวหลบมาพักที่เกาะกาวินเพื่อรักษาแผลใจให้หาย จะได้เขียนนวนิยายได้ ระรินดาติดต่อมาหา แสนสมุทร เพื่อนสนิทสมัยเรียนที่ต่างประเทศด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของรีสอร์ทหรูระดับห้าดาวที่เกาะกาวิน เพื่อให้รับนับดาวมาพัก โดยมีข้อแม้ว่าแสนสมุทรจะต้อง “แอบ” ดูแลนับดาวอย่างใกล้ชิด เพราะระรินดากลัวว่านับดาวจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย

นับดาวเดินทางมาถึงเกาะกาวิน พร้อมกับข้าวของแบรนด์เนมมากมายที่ขาดไม่ได้จนต้องขนมาด้วย แสนสมุทรที่แอบดูอยู่ยังนึกค่อนขอดว่านับดาว “เว่อร์” ได้ใจมากๆ วันแรก ขณะที่นับดาวพักอยู่ในรีสอร์ท ก็เกิดพายุใหญ่ใหญ่เข้าถล่มเกาะกาวิน นับดาวเห็นเด็กชายคนหนึ่งกำลังถูกคลื่นซัดใกล้จม จึงรีบวิ่งออกไปช่วย แสนสมุทรรีบตามออกไปห้ามเพราะเข้าใจผิดว่านับดาวกำลังจะฆ่าตัวตาย แต่เมื่อรู้ว่ากำลังจะไปช่วยเด็ก จึงออกไปช่วยด้วยกัน เด็กชายคนนั้นบอกทั้งคู่ว่าเขาชื่อ สุดสาคร ก่อนจะหมดสติไป นับดาวตกตะลึงเพราะเด็กน้อยแต่งกายเหมือนที่ท่านกวีเอก สุนทรภู่ รจนาไว้ในวรรณคดีเรื่อง พระอภัยมณี ไม่มีผิด ทว่าแสนสมุทรไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็ก จึงไม่สันทัดเรื่องวรรณคดีไทยเท่าไรนัก จึงไม่รู้จักว่าสุดสาครเป็นใคร ตอนแรกทั้งนับดาวและแสนสมุทรต่างก็ไม่เชื่อว่าสุดสาครจะเป็นตัวจริงเสียงจริง ทันใดนั้น ทั้งนับดาวกับแสนสมุทรก็ถูกโจมตีจากผีเสื้อยักษ์ นับดาวนึกถึงคำกลอนของสุนทรภู่ได้ จึงคว้าไม้เท้าของสุดสาครมาใช้ป้องกันตัว และสามารถกำจัดผีเสื้อยักษ์ได้สำเร็จ ทั้งคู่ต่างก็มึนงงกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ได้พบ แต่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ แสนสมุทรกับนับดาวจึงตกลงกันว่าจะพาสุดสาครไปดูแลที่รีสอร์ทก่อนเป็นการชั่วคราว เมื่อนับดาวกลับไปถึงห้องพัก ก็ตกใจมาก เพราะว่าข้าวของแบรนด์เนมทั้งหมดที่เธอขนติดตัวมาด้วย ได้แปรสภาพเป็นของราคาถูกไปหมด นับดาวโวยวายกับกับพนักงานว่าของแบรนด์เนมของเธอถูกขโมยไป แต่พนักงานยืนยันว่าข้าวของทั้งหมดนั้นเป็นของนับดาว นับดาวออกอาการเหวี่ยงใส่ ทว่าพนักงานยืนกรานว่านับดาวเป็นเพียงนักเขียนที่ทางนิตยสารส่งมาทำสกู๊ปเรื่องเกาะกาวินเท่านั้น นับดาวนึกได้ว่าแสนสมุทรเป็นเจ้าของรีสอร์ท จึงรีบไปขอความช่วยเหลือทันที ด้านแสนสมุทรเองก็เจอปัญหาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านับดาว เพราะรีสอร์ทที่เคยเป็นของเขา กลับมีชายที่ชื่อว่า ตรีลังกา มังคลาวงศ์ มาครอบครองแทน แม้แต่ อัครา พนักงานคนสนิท ก็ไม่มีทีท่าว่าจะจำเขาได้แม้แต่น้อย แม้แต่ใบอนุญาตสัมปทานของเกาะก็ยังเป็นชื่อของ ตรีลังกา นับดาวเริ่มเห็นความผิดปกติ จึงบอกแสนสมุทรให้ถอยมาตั้งหลักกันก่อน ทั้งคู่กลับมานั่งปรึกษากันในห้องพัก นับดาวนึกถึงระรินดาขึ้นมาได้ จึงโทรไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ระรินดาเพื่อนรักของนับดาว ก็กลับกลายเป็นเจ้าของนิตยสารจอมโหดที่นับดาวทำงานให้ มิหนำซ้ำระรินดาก็ไม่รู้จักแสนสมุทร แต่กลับเป็นคนรักเก่าของตรีลังกาที่เมืองนอก ระรินดายืนยันว่าเป็นคนส่งนับดาวให้มาทำสารคดีที่เกาะกาวิน และนับดาวก็เป็นเพียงนักเขียนไส้แห้ง ลูกของ อาจณรงค์ ครูสอนภาษาไทยจนๆ กับ ดารารัตน์ แม่บ้านต๊อกต๋อยเท่านั้น ด้านแสนสมุทรที่หาข้อมูลของตรีลังกาจากอินเทอร์เน็ต ก็ได้คำตอบไม่ต่างจากที่รู้มา และที่เจ็บปวดไปกว่านั้นก็คือแสนสมุทรในโลกนี้ กลายเป็นนายทหารเรือหนุ่มที่ถูกให้ออกจากราชการเพราะยิงปืนใหญ่ใส่พวกเดียวกันเอง!!! ไม่ว่าทั้งคู่จะพยายามพิสูจน์ความจริงสักเท่าใด ก็ได้คำตอบแค่เพียงว่าโลกนี้ไม่ใช่โลกใบเดิมที่ทั้งคู่เคยรู้จักอีกแล้ว แต่ที่ทั้งคู่ไม่เข้าใจก็คือเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อสุดสาครฟื้นขึ้นมา ก็ถามหาหัสไชยกับเสาวคนธ์ พอเห็นนับดาวกับแสนสมุทรมัวแต่อ้ำอึ้งด้วยความตกใจที่เห็นสุดสาครพูดออกมาเป็นคำกลอนทั้งหมด สุดสาครจึงใช้ไม้เท้าแผลงฤทธิ์จนทั้งคู่เชื่อว่าเป็นสุดสาครตัวจริง นับดาวเล่าเหตุการณ์ในวรรณคดีให้แสนสมุทรฟังว่าหลังจากสุดสาครต่อสู้กับผีเสื้อยักษ์และช่วยหัสไชยกับเสาวคนธ์ได้สำเร็จ สุดสาครก็เดินทางไปพบกับพระอภัยมณีที่เมืองผลึกเป็นที่เรียบร้อย แสนสมุทรแย้งว่าไม่มีทางเรียบร้อยแน่ เพราะสุดสาครยังอยู่ที่นี่ นับดาวเอะใจ รีบโทรกลับไปถามดารารัตน์ว่าเหตุการณ์หลังจากสุดสาครออกจากเมืองการเวกเป็นอย่างไรต่อไป ก็ได้คำตอบชวนตะลึงว่าท่านกวีเอกสุนทรภู่แต่งค้างไว้เพียงเท่านั้น!!! ทั้งคู่จึงสรุปว่าการที่สุดสาครหลุดออกมาจากวรรณคดี ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นวิธีแก้ไขก็คือ หาทางส่งสุดสาครกลับไปให้เร็วที่สุด นับดาวกับแสนสมุทรพาสุดสาครไปส่งตรงที่เดิมที่พบกับสุดสาคร สุดสาครเรียกม้านิลมังกรให้ออกมาปรากฏกาย แสนสมุทรกับนับดาวตกตะลึงที่ได้เจอม้านิลมังกรตัวเป็นๆ แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าโลกจริงกับโลกวรรณคดีมาเชื่อมต่อกันได้อย่างไร สุดสาครอำลาแสนสมุทรกับนับดาวไปเพื่อตามหาหัสไชยกับเสาวคนธ์ สองหนุ่มสาวโล่งอกเพราะคิดว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเสียที ทว่าเรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น วันรุ่งขึ้น นับดาวถูกปลุกให้ตื่นแต่เช้า และถูกไล่ให้ออกจากเกาะทันที นับดาวได้เจอกับแสนสมุทรที่ถูกไล่ออกจากเกาะเหมือนกัน แสนสมุทรตัดสินใจพานับดาวกระโดดลงจากเรือกลับไปยังเกาะกาวิน เพราะหากออกไปจากเกาะกาวินแล้ว อาจจะไม่มีโอกาสพบกับสุดสาครเพื่อแก้ไขเรื่องราวทั้งหมดได้อีก แสนสมุทรพานับดาวไปซ่อนตัวอีกฟากหนึ่งของเกาะ ซึ่งเป็นฝั่งที่พักของพวกพนักงานและมีบ้านพักส่วนตัวของชายหนุ่มตั้งอยู่ ณ ที่นั้นทั้งคู่ได้พบกับ นอบน้อม พี่เลี้ยงของแสนสมุทร แสนสมุทรตกใจมากเพราะในโลกเดิมนั้น ป้านอบน้อมตายไปพร้อมกับพ่อแม่ของเขาแล้ว แสนสมุทรแนะนำนับดาวกับป้านอบน้อมว่าเป็นเมีย ป้านอบน้อมจึงเตือนว่าให้ระวังตรีลังกาจะแย่งเมียไปอีก แสนสมุทรถึงกับงง เพราะตนไม่เคยมีเมียมาก่อน ป้านอบน้อมสงสาร คิดว่าแสนสมุทรเอ๋อ จึงเล่าเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดให้ฟัง เกาะกาวินนั้นอยู่ในเขตปกครองของประเทศศรีลังกา ฉะนั้นเมื่อพ่อแม่ของแสนสมุทรจะทำธุรกิจบนเกาะแห่งนี้ จึงต้องมีชาวศรีลังกาถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่งด้วย พันแสง พ่อของแสนสมุทร จึงเชิญ มีฤทธิ์ มังคลาวงศ์ พ่อของตรีลังกา ซึ่งมีเชื้อสายกษัตริย์ของศรีลังกา มาเป็นหุ้นส่วนแบบลอยๆ ทว่าเหตุการณ์สึนามิเมื่อหลายปีก่อน ทำให้พ่อกับแม่ของแสนสมุทรเสียชีวิต ตัวแสนสมุทรเองก็ไม่ยอมรับมรดก จึงเซ็นยกหุ้นของ รีสอร์ทให้ สุภัชชา ภรรยาของแสนสมุทรไป ทว่าสุภัชชาไม่ถนัดการบริหารงานรีสอร์ตนัก ตรีลังกาจึงถูกส่งตัวมาช่วยบริหารงาน ด้วยความใกล้ชิด ตรีลังกากับสุภัชชาจึงจดทะเบียนสมรสกัน ทว่าสุภัชชารู้ดีว่าที่ตรีลังกาแต่งงานด้วยก็เพราะอยากได้หุ้นของรีสอร์ทเกาะกาวิน สุภัชชาจึงไม่ยอมเซ็นชื่อโอนหุ้นให้กับตรีลังกา ตอนนี้ สุภัชชาเสียชีวิตไปแล้ว พร้อมทั้งทิ้งพินัยกรรมที่ระบุว่าจะยกหุ้นของเธอคืนให้กับแสนสมุทรทั้งหมดไว้ แต่ปัญหาก็คือ ตอนนี้ยังไม่มีใครค้นหาพินัยกรรมฉบับนั้นเจอ ป้านอบน้อมจึงยุให้แสนสมุทรค้นหาพินัยกรรมให้พบ แล้วทวงสิทธิ์ในการบริหารเกาะกาวินคืนมาจากตรีลังกา ป้านอบน้อมได้ยินแสนสมุทรกับนับดาวพูดถึงสุดสาคร ก็แปลกใจว่าทำไมช่วงนี้ใครต่อใครถึงได้มาตามหาเด็กที่ชื่อสุดสาครกัน แสนสมุทรกับนับดาวแปลกใจว่าป้านอบน้อมพูดถึงใคร ป้านอบน้อมจึงพาทั้งคู่ไปพบกับ ชีเปลือย ที่ออกมาตามสุดสาครให้กลับไปเข้าเรื่องพระอภัยมณีเหมือนเดิม เพราะหลังจากสุดสาครไปไม่ถึงเมืองผลึก เรื่องราวพระอภัยมณีต่อจากนั้นก็บิดเบือนไปหมด เมื่อไม่มีสุดสาครไปแก้อาถรรพณ์รูปของนางละเวงวัณฬา พระอภัยมณีจึงหลงรูปนางละเวงจนวางอาวุธยอมแพ้กองทัพเมืองลังกา จับพระมเหสีสุวรรณมาลีส่งให้เป็นเชลย แล้วอภิเษกกับนางละเวงวัณฬาอย่างมีความสุข แต่กลับทำให้คนอื่นในเรื่องวุ่นวายไปกันหมด นับดาวรับไม่ได้ที่เรื่องราวในวรรณคดีเปลี่ยนแปลงไปแบบนี้ จึงตัดสินใจร่วมมือกับชีเปลือยเพื่อออกตามหาสุดสาครให้พบ แสนสมุทรไม่มีทางเลือกจึงต้องร่วมทีมไปด้วย อาจณรงค์ พ่อของนับดาว ถูกเจ้าหนี้ตามล่า จึงบุกมาหานับดาวถึงรีสอร์ทที่เกาะกาวิน เพราะต้องการขอเงินไปใช้หนี้ ตรีลังกายืนยันว่าเขาส่งนับดาวกลับขึ้นฝั่งไปแล้ว แต่อาจณรงค์ไม่เชื่อเพราะเขาจับตาดูอยู่ที่ท่าเรือฝั่งโน้น แต่ไม่เห็นนับดาวขึ้นจากเรือแต่อย่างใด อาจณรงค์ต้องค้างที่เกาะหนึ่งคืน เพราะตรีลังกาไม่ยอมไปส่งที่ฝั่ง เนื่องจากกำลังจะมีฝนตกหนัก อาจณรงค์จึงถือโอกาสสำรวจเกาะไปในตัว อาจณรงค์ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ของรีสอร์ทและได้พบกับสุดสาครและม้านิลมังกรที่กลับมาตามหานับดาวและแสนสมุทร อาจณรงค์แนะนำตัวกับสุดสาครว่าเป็นพ่อของนับดาว ขณะเดียวกันพนักงานของรีสอร์ทต่างกรูกันออกมาจับตัวสุดสาคร สุดสาครจึงพาตัวอาจณรงค์หลบหนีไปด้วยกัน ตรีลังกาเป็นกังวลกับเรื่องของสุดสาคร เพราะในตระกูลของเขามีคำทำนายที่เล่าสืบต่อกันมาว่าเมื่อใดที่กุมารน้อยซึ่งนุ่งห่มหนังเสือปรากฏกายขึ้น ให้ระวังให้จงดี มิฉะนั้นตระกูลมังคลาวงศ์จะสิ้นวงศ์ ตรีลังกากลุ้มใจ ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร จึงโทรศัพท์ไปปรึกษามีฤทธิ์ ผู้เป็นบิดา มีฤทธิ์สั่งให้ตรีลังกาจัดการสังหารสุดสาครเสียก่อนที่สุดสาครจะจัดการพวกเขา มีฤทธิ์ส่งตัว ย่องตอด อมนุษย์ที่เป็นภูตรับใช้มาช่วยตรีลังกาจัดการกับสุดสาครทันที กลุ่มของนับดาวได้พบกับสุดสาครกับอาจณรงค์จนได้ ชีเปลือยดีใจมากที่ได้พบสุดสาคร แต่สุดสาครยังไม่ค่อยไว้ใจชีเปลือยเท่าไร เพราะเคยถูกชีเปลือยหลอกมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่นับดาวช่วยยืนยันว่าชีเปลือยมาช่วยพาสุดสาครกลับไปหาหัสไชยและเสาวคนธ์จริงๆ ชีเปลือยบอกว่าการที่จะพาสุดสาครกลับเข้าสู่เรื่องพระอภัยมณีได้ จำเป็นต้องหาให้พบก่อนว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำให้สุดสาครหลุดออกมาจากโลกวรรณคดี และคนผู้นั้นทำไปด้วยเหตุผลใด ป้านอบน้อมเห็นเมฆมนตร์พุ่งลิ่วแหวกอากาศเบื้องบนมา สุดสาครเห็นท่าไม่ดี จึงสั่งให้ทุกคนรีบเข้าหาที่กำบังทันที เมฆมนตร์นั้นคือย่องตอดที่เดินทางมายังเกาะกาวินตามคำสั่งของมีฤทธิ์ มีฤทธิ์นั้นเป็นผู้สืบทอดวิชาไสยเวทย์มาจากบรรพบุรุษ และต้องการจะให้ตรีลังกาผู้เป็นบุตรชายคนเดียวสืบทอดวิชานี้ต่อไป ทว่า เกนหลง มารดาชาวไทยของตรีลังกา ไม่เห็นด้วย จึงพยายามกันตรีลังกาไม่ให้เรียนวิชาไสยเวทย์เหล่านั้น ย่องตอดแจ้งข่าวกับตรีลังกาว่าเห็นสุดสาครกับพวกหลบอยู่ที่ท้ายเกาะกาวิน ตรีลังกาจึงสั่งให้ย่องตอดพาตัวสุดสาครไปส่งให้มีฤทธิ์เป็นคนจัดการ แต่ห้ามยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นไม่เกี่ยวข้องเป็นอันขาด ย่องตอดรับคำสั่งก่อนจะหายตัวไปทันที สุดสาครวางมาตรการให้ทุกคนซ่อนตัวอยู่แต่ในที่พัก ห้ามออกไปข้างนอกเป็นอันขาดเนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคน ทุกคนหารือกันจนได้ข้อสรุปว่าผู้ที่จะได้ประโยชน์จากการที่สุดสาครไปไม่ถึงเมืองผลึก ก็คือพวกตระกูลมังคลาวงศ์ที่สืบเชื้อสายมาจากพระมังคลา บุตรของพระอภัยมณีกับนางละเวงวัณฬานั่นเอง ระหว่างที่ทุกคนกำลังหารือกันนั้น ย่องตอดก็ใช้มนตร์สะกดให้ทุกคนหลับใหล ก่อนจะบุกเข้ามาสังหารสุดสาคร ทว่าสุดสาครนั้นไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา ย่องตอดจึงไม่สามารถฆ่าสุดสาครได้ ย่องตอดจนปัญญา จึงพาตัวสุดสาครไปให้มีฤทธิ์จัดการแทน เมื่อทุกคนฟื้นขึ้นมาเห็นสุดสาครหายตัวไป ต่างก็ร้อนใจมาก ชีเปลือยเชื่อว่าเป็นฝีมือของย่องตอด นับดาวเล่าให้ทุกคนฟังว่าย่องตอดเป็นบริวารของนางละเวงวัณฬา และสาเหตุที่ยอมเป็นบริวารของนางละเวงก็เพราะว่านางละเวงมีของวิเศษคือตราพระราหูนั่นเอง อาจณรงค์ฟันธงว่าการที่สุดสาครพลัดหลงจากวรรณคดีมาได้นั้น น่าจะเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ของตราพระราหูอย่างแน่นอน นับดาว แสนสมุทรและชีเปลือยจึงรับหน้าที่ไปช่วยเหลือสุดสาครจากเงื้อมมือของมีฤทธิ์ที่ประเทศศรีลังกาโดยที่ขี่ม้านิลมังกรไป ที่คฤหาสน์ของมีฤทธิ์ที่ประเทศศรีลังกา เกนหลงได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ในห้องทำงานของมีฤทธิ์ ด้วยความสงสัย เกนหลงจึงเปิดเข้าไปดูและพบสุดสาครถูกมัดอยู่ สุดสาครขอความช่วยเหลือจากเกนหลง แต่ย่องตอดออกมาห้ามไว้ เกนหลงรู้ดีว่าเหล่าอมนุษย์ของมีฤทธิ์ไม่กล้าทำอะไรเธอ เพราะเป็นคำสั่งของมีฤทธิ์ เธอจึงพาตัวสุดสาครหนีไปซ่อนที่อื่นที่มีฤทธิ์ไม่มีวันคิดถึง ด้านนับดาว แสนสมุทรและชีเปลือยก็เดินทางมาถึง ศรีลังกาโดยสวัสดิภาพ แสนสมุทรกับนับดาวจับชีเปลือยโมดิฟายด์เสียใหม่เพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตา ก่อนจะพากันเข้าไปพักในโรงแรม ชีเปลือยใช้เวทมนตร์ที่มีอยู่น้อยนิดเสกให้พนักงานโรงแรมไม่สงสัย แสนสมุทรกับนับดาวทิ้งชีเปลือยไว้ที่โรงแรม แล้วออกไปสำรวจหาบ้านพักของมีฤทธิ์ด้วยกัน มีฤทธิ์โทรศัพท์มาหาตรีลังกาเพื่อแจ้งข่าวว่าเกนหลงช่วยสุดสาครหนีไป ตรีลังกาไม่เข้าใจว่าสุดสาครมีความสำคัญอย่างไร มีฤทธิ์จึงเล่าความเป็นมาทั้งหมดให้ฟัง และยังเล่าด้วยว่าในวันที่สุดสาครปรากฏตัวขึ้นนั้น เป็นเพราะตราพระราหูได้สำแดงอิทธิฤทธิ์นั่นเอง ตรีลังกาเริ่มเข้าใจความสำคัญของการกำจัดสุดสาครเสีย มีฤทธิ์ถามตรีลังกาว่าถ้าหากเกนหลงจะพาสุดสาครไปซ่อนตัว เกนหลงจะพาไปที่ไหน ตรีลังกาครุ่นคิดอยู่ไม่นานก็ได้คำตอบ ระรินดามาหาตรีลังกาที่เกาะกาวิน ตรีลังกาเชื่อว่านับดาวกับแสนสมุทรเป็นคู่รักกัน และนัดแนะกันมาที่เกาะกาวินเพื่อค้นหาพินัยกรรมของสุภัชชา ตรีลังกาจึงขอให้ระรินดาช่วยหลอกถามนับดาวว่าพินัยกรรมถูกซ่อนไว้ที่ไหน ระรินดายินดีช่วยเหลือตรีลังกาเต็มที่ เพราะเธอหวังในตัวตรีลังกาอยู่ ทั้งคู่ตามไปที่บ้านพักอีกฟากของเกาะ แต่ไม่พบนับดาวกับแสนสมุทร ตรีลังกากับระรินดาข่มขู่ป้านอบน้อมกับอาจณรงค์ให้บอกว่าแสนสมุทรกับนับดาวหายไปไหน อาจณรงค์หลุดปากบอกว่าทั้งคู่ไปช่วยเด็ก ตรีลังการู้ทันทีว่าทั้งคู่ไปช่วยสุดสาครที่ศรีลังกาเป็นแน่ ตรีลังกาจึงสั่งให้พนักงานที่รีสอร์ทควบคุมตัวป้านอบน้อมกับอาจณรงค์เอาไว้ก่อน แสนสมุทรกับนับดาวตามไปถึงบ้านพักของมีฤทธิ์ และใช้อุบายหลอกคนเฝ้าประตูบ้านจนสามารถเข้าไปในบริเวณบ้านของมีฤทธิ์ได้สำเร็จ ทั้งคู่แอบได้ยินมีฤทธิ์ดุด่าลูกน้องที่ไม่ดูแลให้ดี ปล่อยให้เกนหลงพาสุดสาครหนีไปได้ สองหนุ่มสาวจึงวางแผนจะให้ม้านิลมังกรตามหาสุดสาคร โดยตามกลิ่นของเกนหลงจากผ้าเช็ดหน้าที่แสนสมุทรบังเอิญเก็บได้ไป ม้านิลมังกรพานับดาว แสนสมุทรและชีเปลือยมาถึงวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว ที่เมืองแคนดี้ เมืองหลวงเก่าของประเทศศรีลังกา ทั้งสามคนจึงบุกเข้าวัดไปหาตัวสุดสาครทันที นับดาวกับแสนสมุทรได้พบกับเกนหลงในวัด ตอนแรกเกนหลงก็ยังไม่เชื่อใจทั้งคู่ เพราะกลัวว่าจะเป็นคนของมีฤทธิ์ แต่เมื่อเห็นชีเปลือยปรากฏตัวขึ้น เกนหลงก็เชื่อสนิทใจทันที เกนหลงพาทั้งสามคนไปพบสุดสาครที่หลบซ่อนอยู่ในวัด สุดสาครดีใจมากที่ได้พบกับแสนสมุทรและนับดาวอีกครั้ง นับดาวและแสนสมุทรบอกกับเกนหลงว่าจะต้องพาสุดสาครหนีไปอีกครั้ง เพราะมีฤทธิ์กำลังจะตามมาที่นี่ เกนหลงถามทั้งสามว่าจะทำอย่างไรต่อไป นับดาวบอกว่าต้องตามหาตราพระราหูให้พบ แต่เกนหลงไม่เคยได้ยินมีฤทธิ์พูดถึงตราพระราหูมาก่อน ทุกคนขอให้เกนหลงช่วยคิดว่ามีฤทธิ์จะเก็บของสำคัญแบบนี้ไว้ที่ไหน เกนหลงมั่นใจว่ามีฤทธิ์เก็บตราพระราหูไว้ที่สิคีริยาอย่างแน่นอน พวกนับดาวตัดสินใจเดินทางไปที่นั่นทันทีก่อนที่มีฤทธิ์จะตามมาถึงที่นั่น ขณะที่เกนหลงอาสาถ่วงเวลามีฤทธิ์ไว้ให้ก่อน เมื่อออกจากวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว คณะของนับดาวก็ถูกโจมตีจากย่องตอดที่ซุ่มดักรออยู่ภายนอก ย่องตอดต้องการจับตัวสุดสาครไปให้มีฤทธิ์ ชีเปลือยจึงเสียสละด้วยการเข้าไปต่อสู้กับย่องตอด ทั้งคู่จมไปในทะเลสาบและหายสาบสูญไป แม้ทุกคนจะเสียใจกับการจากไปของชีเปลือย แต่ก็ยังต้องเดินหน้าทำภารกิจต่อไปเพื่อไม่ให้การเสียสละของชีเปลือยเสียเปล่า ทุกคนจึงมุ่งหน้าสู่สิคีริยาทันที มีฤทธิ์ตามมาถึงวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว เมื่อตะโกนหาย่องตอด แต่ย่องตอดก็ไม่ปรากฏตัวเหมือนเคน มีฤทธิ์เริ่มไม่สบายใจขึ้นมาจึงรีบเข้าไปหาเกนหลงในวัดทันที เกนหลงพยายามเกลี้ยกล่อมให้มีฤทธิ์ปล่อยวาง มีฤทธิ์ไม่ยอมฟัง คาดคั้นจะเอาคำตอบจากเกนหลงให้ได้ว่าสุดสาครอยู่ที่ไหน แต่เกนหลงไม่ยอมปริปากบอก ทันใดนั้น ตรีลังกากับระรินดาก็ปรากฏตัวขึ้น ตรีลังกาบอกมีฤทธิ์ว่าเขาคาดคั้นเอาคำตอบจากอาจณรงค์กับนอบน้อมจนได้ความว่า พวกนับดาวกำลังตามหาตราพระราหูอยู่ มีฤทธิ์ ตรีลังกาและระรินดาจึงรีบเดินทางตามพวกนับดาวไปที่สิคีริยาทันที นับดาว แสนสมุทรและสุดสาครเดินทางจากบนเขาสิคีริยาลงไปยังถ้าด้านล่างเชิงเขาซึ่งมีชื่อว่าสิบสองท้องพระคลัง ซึ่งนับดาวเชื่อว่ามีฤทธิ์น่าจะเก็บของสำคัญไว้ในนั้น สุดสาครรู้สึกได้ถึงอันตรายในบริเวณนั้น ทันใดนั้นก็มีลูกธนูไฟเวทย์มนตร์พุ่งออกมาจากถ้ำทั้งสิบสอง ทั้งสามคนต่างหาที่หลบกันจ้าละหวั่น นับดาวพยายามนึกว่ามีตัวละครใดในเรื่องพระอภัยมณีที่ใช้ธนูไฟเวทย์มนตร์บ้าง ในที่สุดหญิงสาวก็นึกออกว่ามีตัวละครที่ชื่อว่ามะหุดซึ่งมีอิทธิฤทธิ์เป็นไฟกรดที่สามารถกัดกร่อนทุกอย่างได้เหมือนน้ำกรด สุดสาครมอบลูกตาของผีเสื้อยักษ์ให้นับดาวกับแสนสมุทรไว้คุ้มครองป้องกันภัย แสนสมุทรถูกไฟกรดของมะหุดเข้าอย่างจัง ไฟลุกไหม้ทั่วตัวแสนสมุทร แต่ไฟกรดทำอะไรแสนสมุทรไม่ได้เพราะแสนสมุทรมีลูกตาผีเสื้อยักษ์คุ้มกันอยู่ ทว่าไฟกรดนั้นไม่สามารถใช้น้ำธรรมดาดับได้ จำเป็นต้องใช้น้ำฝนดับไฟกรดเท่านั้น สุดสาครลองเรียกฝนตามที่นับดาวขอร้อง ฝนก็ตกมาดับไฟกรดที่แผดเผาร่างแสนสมุทรในทันที ทันใดนั้น ก็เกิดฟ้าผ่าลงไปยังถ้ำหนึ่งในสิบสองถ้ำที่เป็นที่ซ่อนตราพระราหู พวกมีฤทธิ์ที่กำลังตามมา รู้ได้ทันทีว่าพวกนับดาวรู้ที่ซ่อนตราพระราหูแล้ว มีฤทธิ์สั่งให้ภูตพรายที่เลี้ยงไว้ไปขัดขวางพวกสุดสาครไม่ให้เข้าถึงตราพระราหูได้ พวกนับดาวตรงเข้าไปที่ถ้ำที่มีตราพระราหูซ่อนอยู่ มะหุดปรากฏตัวขึ้นขัดขวาง แสนสมุทรตรงเข้าสู้กับมะหุดเพื่อให้สุดสาครกับนับดาวเข้าไปในถ้า ทว่าภูตพรายของมีฤทธิ์ก็เข้ามาขวางไว้อีก สุดสาครรับมือกับภูตเหล่านั้น ปล่อยให้นับดาวเข้าไปเอาตราพระราหูคนเดียว มีฤทธิ์ ระรินดาและตรีลังกาปรากฏตัวขึ้นขวางทางไว้ มีฤทธิ์เสกหุ่นพยนต์จากหญ้าแห้งมาเป็นกำลังเสริมเพิ่มเติมอีก ขณะที่นับดาวกำลังจนมุม ม้านิลมังกรก็มาช่วยจัดการกับหุ่นพยนต์ นับดาวจึงรีบวิ่งเข้าไปในถ้ำตามหลังพวกมีฤทธิ์ แล้วจัดการช่วงชิงตรา พระราหูจากมีฤทธิ์มาได้ ก่อนจะวิ่งออกไปสมทบกับแสนสมุทร สุดสาครและม้านิลมังกรด้านนอก หญิงสาวใช้ตราพระราหูจัดการกับภูตผีปิศาจและมะหุดได้สำเร็จ แล้วส่งตราพระราหูให้สุดสาครพาตัวเองกลับเข้าเรื่องพระอภัยมณีไป ทว่าสุดสาครกลับพาทั้งสามคนกับอีกหนึ่งตัวกลับมาเข้าวรรณคดีเรื่องโคบุตรแทน ทั้งสามจึงต้องหาทางกลับไปยังโลกเดิมที่จากมาให้ได้ ทั้งสามมาปรากฏตัวอีกครั้งที่เกาะกาวิน ตรีลังกาและมีฤทธิ์ควบคุมตัวป้านอบน้อมและอาจณรงค์มากดดันให้คืนตราพระราหู และบอกที่ซ่อนของพินัยกรรมให้ แสนสมุทรถ่วงเวลาให้ตรีลังกากับมีฤทธิ์ไปหาพินัยกรรมในรีสอร์ท แต่ทว่าสองพ่อลูกหาไม่พบ ขณะที่มีฤทธิ์กับตรีลังกากำลังจะจัดการกับทุกคน ทันใดนั้น สภาพอากาศรอบตัวก็เริ่มเปลี่ยนไป ฟ้าแลบแปลบปลาบด้วยอำนาจของตราพระราหู ผีเสื้อยักษ์ปรากฏตัวขึ้น นับดาวรีบตรงเข้าไปหาแสนสมุทรและสุดสาครที่กำตราพระราหูไว้มั่น แสงจากตราพระราหูเปล่งประกายเจิดจรัส ส่องให้เห็นขบวนเรือสำเภาของเมืองการเวกที่สุดสาครจะต้องกลับไป นับดาวกับแสนสมุทรล่ำลาสุดสาครด้วยความอาลัยอาวรณ์ พลันคลื่นลูกใหญ่ก็ซัดเข้ามา ทั้งคู่จมดิ่งลงไปในน้ำทะเลอันมืดมิด ก่อนที่สติสัมปชัญญะของนับดาวจะดับวูบลง นับดาวฟื้นขึ้นมาอีกครั้งที่เกาะกาวิน โลกของเธอกลับมาสู่สภาพปกติแล้ว นับดาวถามหาแสนสมุทร ระรินดาแจ้งข่าวร้ายกับนับดาวว่าตั้งแต่แสนสมุทรลงไปช่วยนับดาวเมื่อวันก่อน ก็ถูกคลื่นยักษ์ซัดจมหายไป กว่าจะพบตัวก็หลายชั่วโมงให้หลังและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที นับดาวรีบตรงไปที่โรงพยาบาลด้วยความเป็นห่วงแสนสมุทร หญิงสาวเข้าไปเยี่ยมแสนสมุทรในห้องไอซียูและพบว่าแสนสมุทรไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ที่ทำเป็นหลับก็เพราะอยากให้แน่ใจว่าปลอดภัยจากมีฤทธิ์และตรีลังกาแล้วเท่านั้น หลายเดือนผ่านไป นับดาวและแสนสมุทรกำลังจะแต่งงานกัน นับดาวทวงสัญญาจากแสนสมุทรที่เคยบอกว่าจะอ่านเรื่องพระอภัยมณีให้จบ ทั้งคู่ต่างรำลึกถึงสุดสาคร และบอกกับตัวเองว่าจะไม่มีวันลืมการผจญภัยในครั้งนั้นเลย
เทพบุตรสุดเวหา 2558

เทพบุตรสุดเวหา (2558/2015) กลางดึกในคืนวันเพ็ญ กลางหุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทสวยหรูขนาดใหญ่กลางป่า มีนกขนาดใหญ่กว่าตัวคนบินเข้ามาในบริเวณรีสอร์ทแล้วหายตัวไป เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนในรีสอร์ทแปลกใจที่ได้พบแขกพิเศษของ คุณหญิงสุภัควดี(ซินดี้-สิรินยา) เป็นหนุ่มรูปงาม นาม นิรันดร (โอม-อัชชา) “โฬม” และเป็นแขกที่คุณหญิงสุภัควดีให้เกียรติเป็นอย่างมาก รติรส(นิศาชล ต้วมสูงเนิน) จัดนิทรรศการเกี่ยวกับนก ดร.บุญสืบ(สมชาย ศักดิกุล) พูดถึงเรื่องเล่าที่มีมานาน เกี่ยวกับ “หุบเขาเดียวดาย” ดินแดนที่อยู่ ณ เส้นริมขอบฟ้า ว่ากันว่าเป็นที่อยู่ของปีศาจมนุษย์นก ที่กินเลือดคนเป็นอาหาร นิรันดรปรากฎตัว และตอบโต้ว่ามนุษย์นกไม่ใช่ปีศาจ แต่เป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งที่มีมานานแสนนาน พวกนี้รักสงบ และจะเลือกทำร้ายเฉพาะคนชั่วเท่านั้น รติรสทึ่งมาก พยายามถามว่าเขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง ด้านวริต(วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ) ถูกย้ายมาประจำใกล้กับรีสอร์ท ได้พบรติรสก็ถูกใจ แต่ทั้งคู่มักมีเรื่องเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ และวริตเองก็ดูมีความสุขมากที่ได้ต่อปากต่อคำกับเธอ หลังการมาของนิรันดร พวกโจรผู้ร้ายถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก ทุกศพจะถูกดูดเลือดจนหมดตัว พร้อมมีขนนกทิ้งไว้ จนเป็นที่หวาดผวาของคนทั่วไป วรงค์(อรุชา โตสวัสดิ์) พยายามสืบหาคนร้าย จนได้ไปพบกับแก๊งค์โจร ก่อนจะมีการต่อสู้กัน ทั้งหมดต้องตกใจแทบช๊อค เมื่อปรากฎร่างของชายหนุ่มผู้มีปีกคล้ายนก ชายหนุ่มไล่ล่าแก๊งค์โจรและสูบเลือดอย่างเหี้ยมโหด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับวรงค์ มนุษย์นกผู้นั้นกลับผ่านหน้าไป โดยไม่แตะต้อง คนร้ายที่หนีมนุษย์นกจะทำร้ายวรงค์ แต่มนุษย์นกมาช่วยไว้ แต่กลับพลาดทำร้ายวรงค์อย่างไม่ตั้งใจ วรงค์ล้มหมดสติโดยมีขนนกหลุดติดมือ วรงค์บาดเจ็บสาหัส ได้แต่บอกวริตว่าคนเป็นนกคือฆาตกร หลังจากนั้นก็เสียชีวิต วริตได้หลักฐานเดียวที่มีคือขนนก วิทูร(คมกฤษณ์ จารุสมบูรณ์) ตรวจสอบแล้วงงมาก เพราะมันคือขนนกฟินิกซ์ นกในยุคดึกดำบรรพ์ ที่หายสาบสูญไปหลายร้อยปีแล้ว วริตสัญญากับตัวเองว่าจะเอาคนร้ายมาลงโทษให้ได้ วิทูรกับ ชวิน(จอร์จ-ฐปนัท) อาสาช่วยเพื่อนรักเต็มที่ สาวิตรี (จินนี่-ธนิดา) และศศิประภา(พราว-การัญชิดา ) แปลกใจและสงสัยในความสัมพันธ์ของแม่กับนิรันดร โดยเฉพาะศศิประภาที่คิดว่านิรันดรคบกับสุภัควดีเพราะหวังสมบัติ เธอคอยติดตามสังเกตพฤติกรรมและพบว่านิรันดรดูลึกลับ ศศิประภาสงสัยว่านิรันดรเป็นใคร อิ่ม(พอลลีน เรืองเพชร)พยายามบอกว่านิรันดรเป็นคนดี ไม่มีพิษภัยกับใคร แต่ศศิประภาก็ยังไม่ไว้ใจ นอกจากสุภัควดี คนที่นิรันดรให้ความสนิทก็คือรติรส โดยเขาไม่ได้สนใจ นภาพร(ตรี-นันทรัตน์) ที่พยายามเรียกร้องความสำคัญ รติรส นภาพรและศศิประภา เป็นเพื่อนรักสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่นิรันดรทำให้สามสาวเริ่มแตกกัน ศศิประภาไม่พอใจที่รติรสเห็นนิรันดรเป็นคนดี นภาพรก็ผิดหวังที่ชายหนุ่มไม่นึกชอบเธอตอบ จากที่ชอบกลายเป็นความโกรธ นภาพรช่วย ศศิประภาจับผิดนิรันดร วริตสืบจนหลักฐานเริ่มโยงเข้าหาตัวนิรันดร เขาแอบตามดูพฤติกรรมนิรันดร จนได้รู้ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ วริตพยายามบอกรติรส แต่เธอคิดว่าเขาใส่ร้ายนิรันดร วริต ชวินและวิทูร พยายามจับตัวนิรันดรทั้งเป็น แต่นิรันดรก็หลุดไปได้ทุกครั้ง รติรสถูกบ๋อยในโรงแรมพยายามปลุกปล้ำ แต่นิรันดรมาช่วยได้ทัน เธอได้เห็นเขาฆ่าและสูบเลือด นิรันดรนึกรู้ว่ามีมนุษย์วิหคอื่นมาที่นี่ นิรันดรได้พบกับ จาดีน(เจมส์-กิจเกษม) จาดีนคิดทำร้ายพวกวริต แต่นิรันดรช่วยไว้ นิรันดรชนะ บอกให้จาดีนกลับไป แต่เขาปฎิเสธ จาดีนจะทำร้ายรติรส นิรันดรขวางไว้ นิรันดรพลั้งมือทำร้ายจาดีนร่างสูญสลาย นิรันดรบอกว่าเขากับจาดีนเป็นคนละพวก การตายของจาดีนทำให้สงครามระหว่าง 2พวกเกิดขึ้น ซึ่งหมายถึงทุกคนที่โรงแรมจะต้องเดือดร้อนไปด้วย นิรันดรจะรีบไปจากโรงแรม โดยไม่ฟังคำขอร้องของสุภัควดี แต่สายเกินไป เพราะ พาราส(ปีเตอร์ ไนท์) ได้มาถึงรีสอร์ทแล้ว พาราสว่านิรันดร และคนที่เขารักทุกคนจะต้องชดใช้ สาวิตรีหลงใหลในตัวพาราสจนยอมล้มเลิกการแต่งงานกับ วรพจน์(เอฟ-ธัญนพ) สุภัควดีพยายามเตือนลูกสาว แต่สาวิตรีไม่ฟัง แขกที่มาพักในรีสอร์ทถูกพาราสฆ่าตายมากขึ้น รวมถึงวรพจน์ที่คิดรวบรัดสาวิตรีและจะฆ่าเธอเพราะหวังสมบัติบุญสืบ พยายามค้นหาความจริงจนรู้ว่านิรันดรและพาราส คือมนุษย์วิหค แต่ก่อนจะทันบอกลูกสาว เขาถูกพาราสฆ่าตายก่อน นภาพรคิดว่านิรันดรเป็นคนทำ เธอยิ่งแค้น ไปฝึกพลังจิตกับ แม่ชีบุญเสริม(อ้อย- จิระวดี) ผู้เป็นป้า เพื่อหวังแก้แค้นให้พ่อ โดยเธอได้รู้ความลับว่า ต้องใช้ธนูที่ผ่านการปลุกเสก แล้วยิงไปที่หัวใจ จึงจะทำลายมนุษย์นกได้ พาราสยังสูบเลือดฆ่าคนต่อไปเรื่อยๆ สร้างสถานการณ์ทำให้ทุกคนคิดว่าเป็นฝีมือ นิรันดร นพเดช(เอิน์ท-สหรัถ) กับศศิประภา พยายามให้ตำรวจดำเนินคดี แต่หลักฐานก็ไม่สาวมาถึงนิรันดร ทั้งคู่พยายามหาข้อมูลเคล็ดจากผู้รู้ต่างๆ เพื่อทำลายล้างอมนุษย์ตนนี้แต่นิรันดรก็รู้ทัน และหาทางแก้ไขได้ทุกครั้ง ใกล้ถึงฤกษ์ที่นภาพรจะใช้ธนูพลังจิตยิงมนุษย์วิหก โดยศศิประภาและนพเดชร่วมวางแผน นิรันดรรู้ว่าเวลาของเขาใกล้เข้ามาแล้ว จึงร่ำลาทุกคน นิรันดรขอให้วริตช่วยดูแลรติรส ศศิประภาโกรธมากที่เห็นมารดาเข้าไปในห้องนิรันดร เธอคิดว่าทั้งสองต้องมีความสัมพันธ์ด้านชู้สาว แต่ ศศิประภาเห็นและได้ยินคุณหญิงเรียกนิรันดรว่านายใหญ่ เธอจึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วคุณหญิงคือบุตรสาวของ สิเรศ(ปีเตอร์ ธนะสูตร) สมุนมือขวาของนิรันดรนั่นเอง เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว เคยมีนกยักษ์มาที่เมืองไทย สิเรศพบรักกับหญิงสาวผู้หนึ่ง ซึ่งก็คือแม่ของคุณหญิงสุภัควดี ศศิประภาเสียใจที่เธอเข้าใจผิดมาตลอด และพยายามไปห้ามนภาพร แต่นภาพรไม่ฟังคำคัดค้านอะไรทั้งสิ้น เธอยิงธนูพลังจิตเมื่อเห็นนกยักษ์ถลาบินขึ้นไป พญาวิหครู้ดีว่าหากมีการต่อสู้ ย่อมต้องเกิดการสูญเสีย นกยักษ์จึงบินหนีจากไป แล้วหายไปในท้องฟ้าแห่งราตรีกาล

ปาฏิหาริย์รักข้ามขอบฟ้า 2558

ปาฏิหาริย์รักข้ามขอบฟ้า (2558/2015) ดร.พิพัฒน์ (ทูน - หิรัญทรัพย์) นักธรณีวิทยา หายตัวไปกลางป่าดงดิบอย่างลึกลับ ขณะที่กำลังเดินทางไปที่ “จอมภูใหญ่” เพื่อค้นหาแร่ทองคำ ผ่านไป 6 เดือน โอภาสทนายความประจำตระกูล ติดต่อ ไอรดา (มิว – ลักษณ์นารา) ลูกสาวของ ดร. ที่ไปอยู่ต่างประเทศ ให้ทราบถึงการจากไป ถึงเธอจะไม่ค่อยถูกกับพ่อ เพราะคิดว่าพ่อไม่รัก แต่ทันทีที่ทราบข่าวเธอก็ระงับการแต่งงานกับ คริส (แชป – วรากร) แฟนหนุ่มนักธุรกิจไฟแรง และรีบกลับมาประเทศไทย เมื่อกลับมาถึงโอภาสได้บอกถึงคำสั่งเสียของ ดร. ว่า ให้ยกสมบัติทั้งหมดให้ลูกสาว และบอกต่ออีกว่า ดร. พิพัฒน์มีปัญหากับ อำพล เพื่อนสนิทและหุ้นส่วนทางธุรกิจ เนื่องจาก ดร. ค้นพบเหมืองทองคำ แต่อำพล กลับจะฮุบทองคำทั้งหมดไว้ แต่พิพัฒน์ไม่ยอมเพราะเป็นสมบัติของชาติ ทั้งสองจึงทะเลาะกันถึงขั้นแตกหัก ดร.จึงแอบเดินทางไปค้นหาเหมืองทองคำเพียงลำพัง ทำให้อำพลแค้นใจมาก ทันทีที่ฟังจบไอรดารู้สึกสงสารพ่อ และเสียใจมาก แต่เมื่อขอพบพ่อเป็นครั้งสุดท้ายกลับไม่มีใครพบศพ ไอรดาจึงมีความหวังทันทีว่าพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ และตัดสินใจออกเดินทางตามหาพ่อ แม้ทุกคนจะคัดค้านและไม่เห็นด้วยก็ตาม บุรินทร์ (โชกุน สันธนะพานิช) คนสนิทของอำพล อยากรู้ที่อยู่ของเหมืองทองคำ ทันทีที่รู้เรื่อง ก็เสนอตัวช่วยไอรดา โดยโกหกว่าตนเองเป็นผู้ช่วยของ ดร.พิพัฒน์ ไอรดาจึงตอบตกลงและเชื่อใจ โอภาส ที่ไม่เห็นด้วยกับไอรดาเพราะเป็นห่วง แต่เมื่อห้ามไม่ได้ก็ให้ความช่วยเหลือ และพาไปพบกับคนที่นำทาง ดร.พิพัฒน์ คือ เขตพนา (ไม้ – วฤษฎิ์) หนุ่มหล่อเจ้าของไร่และรีสอร์ทเมืองกาญฯ เป็นคนท้องถิ่นและรู้จักป่านั้นดี ทันที ที่เห็นไอรดาก็รู้สึกตะลึงในความสวยแต่ก็ห้ามใจไว้เพราะไอรดามีแฟนอยู่แล้ว และเมื่อรู้เหตุผลการเข้าไปตามหาพ่อของไอรดา เขตพนาก็ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือนำทางทันที เพราะคิดว่าไอรดาคงจะเอาตัวไม่รอด ไอรดาจึงบอกจะจ้างเป็นเงินจำนวนมาก ทำให้เขตพนารู้สึกไม่ชอบใจ นอกจากไอรดาที่จะมีแฟนอยู่แล้ว เขตพนาก็มีผู้หญิงมาติดพัน คือ จีรภา (ภัณฑิลา ฟูกลิ่น) ลูกค้าของรีสอร์ท และ มะลุลี (ภิชาภัช มหาทิตยากุล) คนรักเก่า แต่เขตพนากลับไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย ออกจะรำคาญด้วยซ้ำ เมื่อเขตพนาไม่ยอมรับงานนี้ ไอรดาจึงคิดจะไปพึ่งการนำทางของ พรานโจ๋ (หยอง ลูกหยี) พรานที่เห็นแก่เงิน ที่บุรินทร์แนะนำมาให้ช่วยนำทางเข้าป่าแทน แต่นั่นกลับยิ่งทำให้เขตพนาเป็นห่วงไอรดามากขึ้น บวกกับเขตพนารู้สึกสงสารและเห็นใจในความพยายามจึงยอมช่วย โดยมีข้อแม้ว่าไอรดาจะต้องเชื่อฟังทุกอย่าง คริสแฟนหนุ่มของไอรดาพยายามห้ามปราม และจะไม่ยอมให้เข้าป่า ไอรดาจึงขอร้อง ขวัญแก้ว (ฐา – กิตติ์ลภัส) น้องสาวของเขตพนา ให้ช่วยถ่วงเวลาโกหก จนคณะเดินทางของเขตพนาเข้าป่าได้สำเร็จ เขตพนา พร้อม หนานคำ (ค่อม ชวนชื่น) พรานเฒ่าฝีมือดี และคณะอันได้แก่ อุง (โก๊ะตี๋) ที่เป็นลูกชาย มะขิ่น (อิมอิม) และคณะลูกหาบอีกจำนวนหนึ่ง เริ่มต้นการเดินทางเต็มไปด้วยความทุลักทุเล เขตพนาคิดว่า ไอรดาต้องถอดใจแน่ ๆ แต่กลับตรงกันข้าม ไอรดาตั้งใจ มุ่งมั่น ไม่บ่นเลย ทั้งที่ในใจก็รู้สึกเหนื่อย แต่กลัวเขตพนาจะไม่พาเธอไปตามหาพ่อ เลยได้แต่เก็บความรู้สึกเหนื่อยเอาไว้ และไปไว้ใจบุรินทร์ แต่เขตพนากลับ รู้สึกไม่ถูกชะตาด้วย เมื่อเดินทางมาถึงแม่น้ำใหญ่ มีเรือของ อนันต์ จอดรออยู่ไอรดารู้สึกกลัวและไม่ไว้ใจจึงไม่ยอมลงเรือไปด้วย แต่เขตพนายืนยันว่า ต้องไปทางเรือเท่านั้น เมื่อยืนคำขาดก็เกิดมีลูกหาบคนหนึ่ง โดนปลิงฝูงใหญ่รุมกัดและดูดเลือดจนตัวขาดและตาย ทำเอาไอรดาแทบช็อคและต้องยอมไป ด้านคริสจับได้ว่า ขวัญแก้วโกหก จึงไปจ้างพรานโจ๋ให้นำทางไปพร้อมลูกหาบอีก 4 คน ไอรดานอนอยู่ในห้องคนเดียวบนเรือ ก็กลัวว่าอนันต์จะเข้ามาทำร้าย จึงรอให้เขตพนามานอนเฝ้า เขตพนาก็ยอมเพราะเป็นห่วงหญิงสาวเหมือนกัน แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ไอรดากลัว อนันต์จะเข้ามาทำร้าย แต่เขตพนามาช่วยไว้ได้ทัน และทำให้อนันต์ตกน้ำจมหายไป เมื่อถึงจุดหมายและลงเรือเดินทางต่อก็เจออุปสรรคต่าง ๆ มากมาย ทั้งผีกองกอยที่ทำให้ไอรดาเกือบเอาชีวิตไม่รอด พวกคริสที่เดินทางตามมา ก็มีมะลุลีกับจีรภาตามมาด้วยซึ่งเป็นอุปสรรคในการเดินทางเป็นอย่างมาก ไอรดากับเขตพนาเจอเสือสมิงที่ปลอมตัวมาเป็นดร.พิพัฒน์ และหวังจะทำร้ายไอรดา แต่เขตพนาก็มาช่วยไว้ได้ทันการณ์ แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้คณะเดินทางต้องสูญเสียลูกหาบไปคนหนึ่ง ส่วนลูกหาบคนอื่น ๆ ที่เริ่มจะกลัวจึงขอกลับออกจากป่าไป และยังไปเจองูยักษ์อีก ทำให้ไอรดาไม่สบาย เขตพนาต้องดูแล จนทั้งคู่เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน และเมื่อกลุ่มของคริส และเขตพนามาเจอกัน ทั้งหมดจึงต้องร่วมเดินทางไปด้วยกัน ความวุ่นวายอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ก็มีมากขึ้น โดยเฉพาะคริสที่ไม่ไว้ใจเขตพนา และไม่อยากให้เขตพนาใกล้ชิดกับไอรดาเกินไป ส่วนมะลุลีและจีรภาก็ยอมร่วมมือกันเพื่อกีดกันไอรดาให้ออกห่างจากเขตพนามากที่สุด เพราะเริ่มรู้สึกได้ว่าเขตพนารู้สึกพิเศษต่อไอรดาซะแล้ว คณะเดินทางทั้งหมดเดินหลงเข้าไปในเขตเครือเขาหลง ซึ่งแท้จริงแล้วหมู่บ้านในเครือเขาหลงนี้คือหมู่บ้านผีปอบที่คอยจับตัวชายหนุ่มมาเพื่อดูดวิญญาณ กว่าที่จะหาทางแก้ไขและออกมาพ้นเขตได้ทั้งหนานคำและเขตพนาก็เกือบจะเอาตัวไม่รอด แถมยังทำให้ไอรดาเข้าใจเขตพนาผิดจนถึงกับขอแยกกลุ่มเดินทางตามหาพ่อด้วยตัวเอง เขตพนาตามหาไอรดาที่เจอพายุงวงช้างที่พัดหายออกไปจากกลุ่มพราน จนในที่สุดก็ตามหาตัวไอรดาจนเจอ แต่สร้อยพระจันทร์ของไอรดาหายไป ทั้งหมดเริ่มเดินทางอีกครั้ง แต่หนานคำบอกว่าภูเขาข้างหน้าที่จะข้ามจะทำให้เราได้เจอกับ ดร.พิพัฒน์ แต่เป็นภูเขาที่มีป่าร้อยศพ ซึ่งเส้นทางที่จะเดินผ่านมีทั้งความลำบาก และความน่ากลัวรออยู่ ในป่าร้อยศพมะลุลีและจีรภาพลัดหลงออกจากกลุ่ม ทำให้ทั้งคณะต้องมีภารกิจเพิ่มทั้งต้องเร่งเดินทางออกจากป่าร้อยศพ และต้องตามหามะลุลีกับจีรภาไปพร้อมกัน การเดินทางมีอุปสรรคต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ เมื่อทั้งคณะต้องเดินข้ามแม่น้ำเชี่ยวกราก และไอรดาเกิดพลัดตกหายไปในกระแสน้ำ เขตพนารีบกระโดดตามไปช่วยไอรดาโดยไม่ห่วงชีวิตของตนเอง ทำให้เขตพนาและไอรดาพลัดออกจากกลุ่มพรานไปตามลำพังอีกครั้ง และครั้งนี้เขตพนาก็ได้รู้ใจของตัวเองว่า หลงรักไอรดาเข้าซะแล้ว หลังจากรอดชีวิตจากกระแสน้ำมาได้ กลับต้องมีเรื่องให้น่าตกใจอีก เมื่อไอรดาหล่นลงไปในหลุมศพที่มีวิญญาณหญิงสาวสิงอยู่ด้วยความแค้น เขตพนาหาตัวไอรดาไม่พบ เมื่อกลับมารวมกลุ่ม และคริสรู้ว่าเขตพนาทำให้ไอรดาหายไปจึงอาละวาดชกต่อย แต่หนานคำคิดว่า ไอรดาน่าจะถูกเผ่าเยติจับตัวไป จึงไปแอบซุ่มดูและก็ได้เห็นว่ามะลุลีจีรภาก็ถูกจับไปที่เผ่าเยติเช่นกัน แถมกำลังจะถูกบูชายัญอีกต่างหาก และทุกคนก็ต้องเจอกับไอรดาที่มีวิญญาณร้ายของ ซูมิน สิงอยู่เพื่อต้องการแก้แค้นหัวหน้าเผ่าอย่าง โมยา แต่ท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี วิญญาณร้ายถูกกำจัด เขตพนา ไอรดา และคณะจึงเริ่มเดินทางไปจอมภูใหญ่อีกครั้ง ระหว่างทางคริสเริ่มเห็นว่าไอรดาและเขตพนาดูจะมีความห่วงใยกันอยู่ก็เริ่มจะหวั่นใจมากขึ้น ระหว่างทางบุรินทร์เผยธาตุแท้จะปล้ำไอรดา แต่เขตพนามาช่วยไว้ได้ แต่ระหว่างทางเจอกับหมอกควันมรณะ ทำให้ไอรดาและเขตพนาหนีตายไปด้วยกัน และเพราะคิดว่าคงไม่รอดแน่แล้ว เขตพนาจึงสารภาพรักกับไอรดา ก่อนที่ทั้งคู่จะเจอกับวงแหวนสีทองและทะลุมิติไปสู่ดินแดนคู่ขนานกับโลก “เมืองพันดาว” เมืองที่ทุกคนในเมืองมีพลังพิเศษ โดยมีเจ้าเมืองคือ ท้าววายุษา (กลศ อัทธเสรี) ผู้มีพลังในการเรียกลม ลูกชาย องค์อัคคี (เชตชวิน ชูประทุม) มีพลังในการเรียกไฟ และ ธารา (อิษยา ฮอสุวรรณ) น้องสาวผู้มีพลังในการเรียกน้ำ เขตพนา ไอรดา และบุรินทร์ตกมาอยู่ในเมืองนี้กันคนละที่ ไอรดาได้พบเจอกับองค์อัคคีที่เพียงแรกเห็นก็รู้สึกตกหลุมรักเธอทันที จึงช่วยเหลือไอรดาไว้ เมื่อไอรดาฟื้นคืนสติ ก็พบว่าเธอความจำหายไปบางส่วน โดย ดร.พิพัฒน์ที่ทุกคนต่างมาตามหาก็อยู่ในเมืองนี้ ได้ผันตัวใช้ชีวิตเป็นอาจารย์ ศึกษาธรรมชาติอยู่ที่นี่ และเป็นผู้ที่พบเขตพนาที่กำลังหลงทางอยู่ เขตพนาเล่าเรื่องที่ไอรดาออกตามหาพ่อให้ ดร.ฟัง ดร.รู้สึกดีใจมาก รีบกลับมาหาลูกสาวทันที แต่เขตพนากลับต้องเสียใจที่ไอรดาจำเขาไม่ได้ แล้วยังทำตัวสนิทสนมกับองค์อัคคีอีก เขตพนาบังเอิญได้พบกับธารา และเธอก็ตกหลุมรักเขตพนาตั้งแต่ครั้งแรกเห็น และได้พบว่าเขตพนาและไอรดาก็มีพลังพิเศษในเมืองนี้เหมือนกัน แต่พวกเขากลับสงสัยว่าทำไมมี น้ำ ลม ไฟ แล้วดินคือใคร ทุกคนกลับเงียบไม่มีคำตอบ อีกฟากฝั่งของเมือง บุรินทร์ที่หลุดเข้ามาในมิตินี้กำลังเดินโซซัดโซเซไปพบกับชายหนุ่มท่าทางน่ากลัว ถูกล่ามโซ่ไว้ คนนั้นคือ พสุธา (แชป – วรากร) ลูกชายคนโตของเจ้าเมืองพันดาว ในขณะที่ทุกคนต่างมีความสุขในเมืองพันดาว ไม่รู้เลยว่ากำลังจะมีหายนะยิ่งใหญ่มาเยือน เพราะพสุธาแค้นใจ รอคอยเวลาที่จะกลับมาปลุกวิญญาณผีห่าซาตานขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อที่จะได้ใช้อำนาจพิเศษยึดเมืองนี้ไว้ในครอบครอง ในที่สุดความจำของไอรดาก็กลับคืนมา ความสัมพันธ์ของเขตพนากับไอรดากำลังไปได้ดี แต่ก็ต้องมีเหตุให้ เข้าใจผิดอีก เมื่อเขตพนาต้องแต่งงานกับธาราด้วยเหตุผลจำเป็น ทุกคนต่างเจ็บปวดกับเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่เมื่อถึงวันงานพิธี พสุธาวางแผนจะกลับมายึดเมืองนี้โดยใช้พลังทำให้แผ่นดินสะเทือนและแยกตัวออก ทุกคน จึงตกอยู่ในอันตราย เมื่อพสุธาคิดจะฆ่าทุกคนเพื่อยึดเมืองพันดาวมาให้ได้ เขตพนาและไอรดาจะต้องติดอยู่ที่เมืองพันดาวแห่งนี้ตลอดไป หรือจะสามารถทะลุมิติกลับมาสู่ยุคของตนได้หรือไม่ ความรักของเขาและเธอจะก่อให้เกิดปาฏิหาริย์ได้จริงหรือไม่ โปรดติดตาม “ปาฏิหาริย์รักข้ามขอบฟ้า”

กระสือมหานคร 2558

กระสือมหานคร (2558/2015) ณ เวลาดึกสงัด เกิดแสงวูบวาบลอยไปมา ผู้คนที่ได้พบเห็นต่างหวาดผวา ทว่าไม่มีใคร เคยเห็นแน่ชัดว่า แสงนั้นคืออะไร บางคนล่ำลือว่า อาจจะเป็นผีในตำนานที่เรียกว่า ผีกระสือ จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อที่นี่ไม่ใช่ชนบทอันไกลโพ้น แต่มันคือ กรุงเทพมหานคร มะเหมี่ยว (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) สาวนักเรียนนอกนางเอกใหม่หนังเรื่อง กระสือมหานคร เพื่อนรักหนูนา (เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์) คนเขียนบท ขอสงบศึกชั่วคราวกับลินิน (โชติมา นวคุณากร) อดีตนางเอกขวัญใจมหาชนที่ผันตัวมาเป็นนางร้ายเพราะ ยุพา (ดวงตา ตุงคะมณี) เจ้าของค่ายขู่ปลด ถ้าลินินมีเรื่องกับมะเหมี่ยว พี่แหม่ม (วิชุดา พินดั้ม) ผู้จัดการของลินิน หันไปปล่อยข่าวว่าลินินกับ ชานนท์ (ณัฐรัฐ โมริสเลอกรอง) ผู้กำกับปริญญาโทสาขาภาพยนตร์จากเมืองนอกลูกชายเจ้าของค่าย เพื่อนรักของเจตต์ (นิธิชัย ยศอมรสุนธร) กำลังกิ๊กกัน ยุพาถึงกับเหนื่อยใจ แต่แทนที่ปัญหาจะเป็นเรื่องชิงรักหักสวาทกลับเป็นเรื่องที่ทุกคนในยุค 2014 คาดไม่ถึง.. ชานนท์ยกกองไปถ่ายที่หมู่บ้านดอนกระสือ มะเหมี่ยวรับบทเป็นกระสือถูกพระเอก ดอนสไนเปอร์ ก้องภพ (ชานนท์ อักษระชาตะ) พระเอกของเรื่องไล่ล่า โดยมีบรรดาผี ๆ คอยช่วยเหลือ มะเหมี่ยวตะคริวกินแสดงท่าถอดหัวไม่ได้ ชานนท์หัวเสีย ตาคำ (ดลกมล ศรัทธาทิพย์) คนเก่าแก่ของหมู่บ้านสั่งให้เลิกกองก่อนค่ำ เพราะเป็นเวลาที่ผีกระสือออกหากิน อ.โก๋ (ศุภกร กิจสุวรรณ) นักล่าผี ที่ออกตามล่าและสะสมคอเล็คชั่นผีไทยกับคู่หูแหก (กีรติ ศิวะเกื้อ) รวมตัวกับชาวบ้านล่ากระสือ มะเหมี่ยวกับหนูนาอยากเห็นตามไปดู ชานนท์เป็นห่วงแอบตามไปด้วย กระสือถูกจับ มะเหมี่ยวบังเอิญสบตากระสือแล้วสงสาร กระสือหนีรอดหวุดหวิด ยายปริก (ไปรมา รัชตะ) หญิงชราที่ถูกร่ำลือว่าเป็นกระสือ ถูกลินินกับพี่แหม่มขับรถชนแล้วไม่รับผิดชอบแถมยังด่าว่ายายปริกทำให้ยายปริกแค้นใจ ยายปริกแอบเข้าไปในกองถ่าย บ้วนน้ำลายใส่แก้วน้ำหวังเอาให้ลินินสืบทอดทายาทกระสือ มะเหมี่ยวอาสาเอาแก้วน้ำไปให้ลินิน แต่ป้าหยิบ (ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์) ธุรกิจกองที่ปลื้มก้องภพ พระเอกรูปหล่อ มาแย่งแก้วน้ำจากมะเหมี่ยว น้ำในแก้วกะฉอกหกบนหลังมือมะเหมี่ยว มะเหมี่ยวยกมือป้ายปาก ยายปริกคิดเปลี่ยนใจแต่ไม่ทันการ เช้าวันต่อมายายปริกก็ได้จากโลกนี้ไปแล้ว...!!! เที่ยงคืนมะเหมี่ยวขับรถกลับจากกองถ่ายเห็นตัวเองไม่มีหัว ตื่นเช้ามาคิดว่าฝันไป มะเหมี่ยวเริ่มมีอาการแปลก ๆ เห็นของสดแล้วอยากกิน วันโปรโมทหนัง กระสือมหานคร ของชานนท์คนที่แอบรักมะเหมี่ยว ปะทะ เดอะลาสแวมไพร์ ของวรเชษฐ์ (โกสินทร์ ราชกรม) อดีตคนรักเก่ามะเหมี่ยว จึงเกิดการเขม่นกัน บนเวทีมีการแสดงโชว์ของสดมะเหมี่ยวควบคุมตัวเองไม่ได้วิ่งหนีลงจากเวทีชน อ.โก๋ จนเครื่องมือจับผีกระเด็น ข่าวพาดหัว กระสือกินรกเด็ก ยุพาดีใจกระแสกระสือช่วยให้หนังดังโดยไม่ต้องโปรโมท อ.โก๋ ประกาศกลางรายการ ใครถ่ายรูปกระสือได้จะมีรางวัล มะเหมี่ยวเริ่มรู้สึกผิดโดยเฉพาะตอนกลางคืน เธอมักฝันว่าตัวเองเป็นกระสือ ไม่สบตากับใคร หงุดหงิดง่าย เกรี้ยวกราด แต่เธอได้รับคำชมว่า เป็นดาราที่มีอินเนอร์มาก แสดงเป็นกระสือได้สมจริง แต่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเธอเองชื่นชม เพราะมันคือชีวิตจริงที่เธอกำลังประสบอยู่ทุกค่ำคืน มะเหมี่ยวเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองคือกระสือหรือเปล่า แต่ทุก ๆ ครั้งที่ตื่นขึ้น จะพบคราบสิ่งโสโครกรอบริมฝีปากเธอทุกเช้า...!!! มะเหมี่ยว ไม่กล้าบอกใครแม้แต่หนูนาเพื่อนรักที่นอนห้องเดียวกัน มะเหมี่ยวบอกให้หนูนาแคนเซิลทุกงาน อ้างว่าป่วยและขังตัวเองอยู่ในห้อง ปิดประตู-หน้าต่างมิดชิด หวังจะขังหัวไม่ให้ลากไส้ออกไปหาเหยื่อในยามค่ำคืน แต่ไม่เป็นผล เพราะเมื่อตื่นขึ้นมา ภาพที่เห็น คือข้าวของกระจัดกระจาย ที่ปากยังมีคราบเลือด กระจกแตกเป็นช่องโหว กระแสกระสือป่วนเมืองดังจนฉุดไม่อยู่ ชานนท์สงสัยว่ามะเหมี่ยวป่วยการเมือง ชวนเจตต์บุกไปที่คอนโด แต่โดนมะเหมี่ยวตะหวาดให้ออกไป หนูนาขอร้องให้ทั้งคู่กลับไปก่อนเพราะมะเหมี่ยวไม่ค่อยสบาย หนูนาได้ยินเสียงมะเหมี่ยวร้องกรี๊ดดังมาจากห้อง หนูนาอาสาจะไปดูเอง เพราะไม่อยากให้มะเหมี่ยวหงุดหงิดอีก ในห้องหัวมะเหมี่ยวเริ่มขยับเตรียมถอดหัว หนูนาเปิดประตูเข้าห้อง...เห็นหัวมะเหมี่ยวลอยออกไปจากห้อง หนูนาช็อค มะเหมี่ยวจำต้องเล่าความจริงทั้งหมดให้หนูนาฟัง หนูนากลัวแต่ด้วยความรักที่มีต่อเพื่อนจึงพามะเหมี่ยวไปปรึกษา อ.ศีล (สมเล็ก-สมชาย ศักดิกุล) ผู้เชี่ยวชาญที่สอนเรื่องคติชนวิทยาให้ช่วยหาวิธีช่วยมะเหมี่ยว อาจารย์ศีล มะเหมี่ยว หนูนา กลับไปหาตาคำ ตาคำเชื่อว่าคนในกองจะต้องมีใครเป็นทายาทกระสือจึงไม่อยากให้กลับเข้ามาในหมู่บ้านอีก ชานนท์กับเจตต์แอบตามมะเหมี่ยวมา อ้างว่าเข้าไปเก็บภาพที่เหลือ ตกค่ำชานนท์นอนไม่หลับจึงออกไปเดินเล่นเห็นแสง ไฟว๊าบ ว๊าบ ว๊าบ จึงอยากไปดูใกล้ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่กระสือ เพราะไม่เชื่อเรื่องกระสือ แต่ลื่นโขดหินตกน้ำ ชานนท์พยายามกระเสือกกระสนขึ้นเหนือน้ำ แต่ก็ไม่ไหว...!!! ก่อนสิ้นสติชานนท์เห็นแสงหนึ่งพุ่งเข้ามาหา ชานนท์ฟื้นอยู่ในถ้ำกับ พระปรีชา (สุเชาว์ พงษ์วิไล) พระธุดงค์นั่งสมาธิเห็นดวงชะตาชานนท์เกี่ยวข้องกับกระสือ จึงให้สร้อยตะกรุดไว้ป้องกันตัว มะเหมี่ยวออกตามหาชานนท์เพราะเป็นห่วง มะเหมี่ยวหลงป่า เริ่มกลัว เจอกับชานนท์ออกมาจากถ้ำพอดี ทั้งคู่โดนพรานป่าไล่ล่า ชานนท์ได้รับบาดเจ็บ ทั้งคู่กลิ้งตกเขา ชานนท์ย้อนคิดถึงเรื่องสมัยอดีตที่เป็นนักศึกษา มะเหมี่ยวเป็นสาวฮอตที่หนุ่ม ๆ ต้องตาต้องใจ และชานนท์ก็เป็นหนึ่งในนั้น การหลงป่าทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันอีกครั้ง หนูนากับเจตต์เป็นห่วง ออกตามหาจนเจอ ยุพาโมโหที่ชานนท์ทิ้งงาน เหมือนสามีที่ทิ้งยุพาไปอย่างไร้ร่องรอย รถมะเหมี่ยวเสีย หนูนาจึงให้มะเหมี่ยวไปกับรถชานนท์ ใกล้เวลาเที่ยงคืนมะเหมี่ยวเริ่มกระสับกระส่าย ไม่อยากให้ชานนท์เห็นตอนเป็นกระสือ บอกชานนท์ว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ถูกโดนกลุ่มวัยรุ่นจับไปจะข่มขืน ชานนท์ตามไปช่วย แต่มะเหมี่ยววิ่งหนี ชานนท์คิดว่ามะเหมี่ยวขวัญเสีย ดึงมากอด ปากชานนท์ชนแก้มมะเหมี่ยวพอดี เที่ยงคืนพอดีมะเหมี่ยวไม่ถอดหัว มะเหมี่ยวดีใจและแปลกใจ คิดว่าจุ๊บของชานนท์ทำให้หายเป็นกระสือ ทรงกรด (ศานติ สันติเวชกุล) เจ้าพ่อมาเฟีย ตามทวงหนี้มะเหมี่ยว เพราะมนัส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) พ่อของมะเหมี่ยวขโมยเพชรที่ร่วมกันโจรกรรมมาไป เพราะพ่อมะเหมี่ยวติดการพนัน ทรงกรดบังคับให้มะเหมี่ยวหาเงินมาชดใช้ ชานนท์รู้เรื่องจึงเอาเงินค่าตัวมะเหมี่ยวล่วงหน้าไปให้ มะเหมี่ยวโกรธ กระสือกระสือมหานครกระหึ่มมากขึ้น วรเชษฐ์คิดกลับไปหลอกใช้มะเหมี่ยว ขอมะเหมี่ยวคืนดี มะเหมี่ยวดีใจที่พ่อติดต่อมาและจะได้เจอพ่ออีกครั้ง ชานนท์แอบสะกดรอยตามไป มะเหมี่ยวตัดพ้อพ่อที่ทิ้งลูก เอาตัวรอดคนเดียวแถมยังถูกทวงหนี้สินที่ไม่ได้ก่อ มนัสปรับความเข้าใจกับมะเหมี่ยว จู่ ๆ มีเจ้าหนี้หลายกลุ่มเข้ามาทวงหนี้มนัสโดยไม่ทันตั้งตัว มนัสถูกซ้อม มะเหมี่ยวโดนตบ ชานนท์ช่วยจนอ่วมไปตาม ๆ กัน มนัสล่อให้เจ้าหนี้ตามตัวเองไป บอกให้มะเหมี่ยวไปหาเพชรที่ซ่อนไว้ วรเชษฐ์โกหกมะเหมี่ยวว่าอยู่กับมนัสที่ห้องมะเหมี่ยวรีบมา วรเชษฐ์จ้างปาปารัสซี่มาเก็บภาพไว้แบล็คเมล์ วรเชษฐ์ โปะยาสลบหวังเคลมมะเหมี่ยว มะเหมี่ยวกลายเป็นกระสือ วรเชษฐ์ช็อคสติแตก เจตต์บอกชานนท์ว่ามะเหมี่ยวเป็นกระสือ ชานนท์ไม่เชื่อไปพิสูจน์ที่ห้องมะเหมี่ยว ชานนท์รู้ความจริงว่ามะเหมี่ยวเป็นกระสือ รับไม่ได้วิ่งหนีลงมาจากคอนโด เจอวรเชษฐ์ที่ต้องการพิสูจน์ว่ามะเหมี่ยวเป็นกระสือเหมือนกัน ชานนท์กลัววรเชษฐ์รู้ว่ามะเหมี่ยวเป็นกระสือ รีบย้อนกลับไปอุ้มร่างมะเหมี่ยวหนีไป มะเหมี่ยวกับชานนท์ไปหาที่ซ่อนเพชรตามที่มนัสบอก ทรงกรดจับตัวมะเหมี่ยวไป ทรงกรดซ้อมมนัสให้มนัสบอกที่ซ่อนของเพชร แต่มนัสไม่บอก ทรงกรดจัดการมะเหมี่ยวแทน ชานนท์บอกว่ารู้ที่ซ่อนเพชร ให้ทรงกลดปล่อยทุกคน ทรงกลดจะข่มขืนมะเหมี่ยวต่อหน้าทุกคน แต่มะเหมี่ยวถอดหัวกลายเป็นกระสือ ทรงกรดหนีแทบไม่ทัน มนัสสงสารมะเหมี่ยวที่มารับกรรมที่ตัวเองก่อ มะเหมี่ยวบอกให้มนัสหนีไปพร้อมกัน แต่มนัสขอยอมมอบตัวเพื่อชดใช้กรรมของตัวเอง นุชเมียลับ ๆ ของก้องภพไม่ชอบที่ก้องภพเข้าไปเจาะแจ๊ะกับมะเหมี่ยวเพราะต้องการเกาะกระแสดัง นุชจะเปิดโปงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับก้องภพ ก้องภพโมโหทิ้งนุชไว้ข้างทาง เสือสมิงฆ่านุชตาย อ.โก๋ฆ่าเสือสมิงและปล่อยข่าวว่ากระสือเป็นคนทำ ข่าวนุชดังกระฉ่อน มะเหมี่ยวถูกเชิญให้ไปออกรายการ ยุพาเห็นว่าได้กระแส แต่ชานนท์ไม่ยอม วันที่มะเหมี่ยวไปออกรายการ ลินิน พี่แหม่ม วรเชษฐ์ อ.โก๋ ต้องการจะเปิดโปงว่ามะเหมี่ยวเป็นกระสือ ชานนท์เข้าไปกอดมะเหมี่ยว อานุภาพของตะกรุด ทำให้มะเหมี่ยวไม่ถอดหัว ลินินเหวี่ยงที่ไม่เป็นไปตามแผน แถมยังถูกมองว่าร้ายทั้งในจอและนอกจอ ขี้อิจฉา ทำให้กระแสสังคมเริ่มสงสารมะเหมี่ยวที่ถูกกล่าวหา ลินินเกลียดมะเหมี่ยวมากขึ้น ผลการพิสูจน์ออกมาว่ามะเหมี่ยวไม่เกี่ยวข้องกับการฆ่านุช และก้องภพถูกจับเพราะให้การเท็จ วรเชษฐ์แค้นใจที่ไม่สามารถชนะชานนท์ได้ วรเชษฐ์ไปร่วมมือกับอ.โก๋ เปิดโปงความจริงว่า ชานนท์คือหลานชายของยายปริกที่เป็นกระสือ และชานนท์ควรเป็นทายาทกระสือไม่ใช่มะเหมี่ยว ชานนท์รู้สึกผิดจะจูบมะเหมี่ยวเพื่อรับน้ำลายกระสือแทน มะเหมี่ยวตบชานนท์เรียกสติ ด้วยพลังแห่งรัก มะเหมี่ยวเข้าใจชานนท์ทุกอย่าง ไม่คิดจะโทษชานนท์ วันสุดท้ายของการถ่ายทำหนัง วรเชษฐ์ ลินิน พี่แหม่มวางแผนทำไฟในหมู่บ้านดับ เมียตาคำกำลังจะคลอดลูก มะเหมี่ยวใช้ไฟกระสือของตัวเองส่อง จนคลอดเสร็จ หลังจากนั้นมีคนหลงป่า มะเหมี่ยวใช้ไฟกระสือให้แสงนำทางกลับจากป่า ชาวบ้านเริ่มยอมรับกระสือเพราะมีบุญคุณ ระหว่างที่มะเหมี่ยวถอดหัว วรเชษฐ์ ลินิน พี่แหม่ม แอบมาขโมยร่างของมะเหมี่ยว ชานนท์ หนูนา เจตต์รีบเข้าไปขวาง ระหว่างที่ชุลมุนวรเชษฐ์กระชากตะกรุดของชานนท์จนขาด ลินินเอาร่างมะเหมี่ยวขึ้นรถออกไป ชานนท์รีบตามโดยไม่ได้สังเกตุว่าตะกรุดหลุดจากคอไปแล้ว ขณะที่ลินินขับรถไกลออกไป หัวมะเหมี่ยวก็กลับเข้าร่าง ชานนท์ขับรถตามแต่ลินินขับเบียดเสียหลักตกถนน มะเหมี่ยวคิดว่าชานนท์คงตามมาช่วยไม่ทัน ตั้งใจถอดหัวอีกครั้ง ลินินยื้อไม่ยอมให้มะเหมี่ยวถอดหัว จังหวะนั้นมีรถสวนมา ลินินหักรถหลบกระทันทำให้รถพลิกคว่ำมะเหมี่ยวถูกไม้แทงทะลุท้องแต่ลินินไม่เป็นอะไรมากและยังหวังจะเอามะเหมี่ยวไปเปิดโปงให้ได้ พยายามรั้งร่างมะเหมี่ยวออกมา ทำให้แผลยิ่งเปิดกว้างขึ้น มะเหมี่ยวเริ่มไม่ไหว ลินินเห็นรถชานนท์ที่ตามมาตกใจ ดึงร่างมะเหมี่ยวออกมาได้โดยไม่ทันตั้งตัว มะเหมี่ยวล้มทับลินินปากจุ๊บกัน หัวลินินกระแทกหินสลบไปทั้งคู่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมะเหมี่ยวอาการสาหัสและหยุดหายใจไป 2 นาทีทำให้ความเป็นกระสือหลุดออกไปจากร่าง แพทย์ปั้มหัวใจช่วยชีวิตมะเหมี่ยวทัน อ.โก๋กับพี่แหม่มพยายามเปิดโปงความลับของมะเหมี่ยว โดยการลักตัวมะเหมี่ยวออกมาจากโรงพยาบาล เพื่อถ่ายทอดสด มะเหมี่ยวจะถอดหัวหรือไม่ ชานนท์จะทำอย่างไร ลินินพี่แหม่ม อ.โก๋จะเปิดเผยนาทีกระสือถอดหัวได้หรือไม่

กลกิโมโน 2558

กลกิโมโน (2558/2015) ณ เมืองสึกิ เกิดพายุหิมะถล่มครั้งยิ่งใหญ่ นี่ไม่ใช่ภัยธรรมชาติธรรมดา แต่เป็นฝีมือของ นางปีศาจหิมะ ที่โกรธแค้น โฮชิ เทพเจ้านกกระเรียนที่ไม่ยอมรับรักเธอ นางปีศาจหิมะต้องการให้โฮชิเห็นประชาชนที่โฮชิรักต้องมีอันเป็นไปต่อหน้าต่อตา โฮชิต่อสู้กับนางปีศาจหิมะจนสามารถช่วยประชาชนได้สำเร็จ แต่การต่อสู้ทำให้กิโมโนของโฮชิขาดวิ่น โฮชิกลับสวรรค์ไปไม่ได้ต้องติดค้างอยู่บนโลกมนุษย์ เขาจึงต้องพรากจาก เมียวโจ คนรักที่อยู่บนสวรรค์ โฮชิเฝ้าคิดถึงเธออยู่ทุกลมหายใจ แต่เชื่อว่าเธอเองก็คิดถึงเขาอยู่เช่นกัน โฮชิมั่นใจว่าสักวันจะได้พบกับสาวคนรักอีกครั้ง ไม่ว่านานแค่ไหนเขาก็จะรอ

400 ปีผ่านไป รินดารา สาวไทยแสนสวยที่ได้รับทุนมาเรียนต่อปริญญาโทสาขากายภาพบำบัดที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังเดือดร้อนอย่างหนักเพราะทางมหาวิทยาลัยตัดสินใจไม่ให้ทุนเรียนต่อ เหตุเพราะรินดาราลักลอบขโมยสัตว์ทดลองออกไป รินดาราได้แต่ก้มหน้ายอมรับผลการตัดสินใจของมหาวิทยาลัย เพราะรินดาราไม่สามารถพูดออกไปได้ว่า สาเหตุของการขโมยสัตว์ทดลองเป็นเพราะความสามารถพิเศษของเธอที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดทำให้เธอได้ยินเสียงพวกมันร่ำร้องขอให้ช่วยรักษาบาดแผลบนลำตัว รินดาราพยายามทำเฉยเมยต่อเสียงสัตว์เหล่านั้นเหมือนอย่างที่ สุรินทร์ และ ดวงดาวพ่อแม่เคยเตือนเอาไว้ตั้งแต่เด็ก แต่รินดารารู้อยู่คนเดียวว่ายิ่งเธอไม่สนใจเท่าไหร่ ปานรูปดาวบนแผ่นหลังของเธอก็จะยิ่งเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนมากขึ้นเท่านั้นเหมือนอะไรบางอย่าง จะเตือนว่ารินดาราไม่มีสิทธิ์เพิกเฉยต่อความสามารถพิเศษเพราะทุกอย่างถูกลิขิตมาไว้แล้ว รินดารามั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสามารถพิเศษและปานรูปดาวบนแผ่นหลังจะต้องเป็นที่มาของอะไรบางอย่างที่รอให้เธอหาคำตอบ แล้วผลของการไม่เพิกเฉยต้องทำให้รินดาราต้องดิ้นรนทำงานหาเงินเพื่อเป็นค่าเทอมในปีต่อไป ขอให้เป็นงานที่ไม่เบียดเบียนใครรินดาราทำได้หมด แล้วงานล่าสุดของเธอที่มีค่าตอบแทนอย่างงดงามก็คือ การแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงอยู่ในสวนสนุก ในขณะที่รินดารากำลังทำงานด้วยความเพลิดเพลินอยู่กับลูกค้า เธอก็ได้ยินเสียงนกบนต้นไม้พูดขึ้นมาว่า มีเด็กผู้หญิงพิการนั่งอยู่บนรถเข็นล้อเลื่อนกำลังพลัดหลงกับคุณอาชายสุดหล่อกับคู่ควงสาวที่มัวแต่จีบกัน และดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะมุ่งหน้าไปที่สระน้ำ รินดาราวิ่งไปช่วยเด็กน้อยได้ทันก่อนที่รถจะไถลลงสระน้ำได้อย่างเฉียดฉิว รินดารากอดปลอบเด็กน้อยชื่อว่า อายูมิ มิยาคาวะ ที่เอาแต่ร้องไห้สะอื้นด้วยความตกใจ ก่อนที่ อาคิระ มิยาคาวะ และ ริเอะ ชินเอบะ ผู้ปกครองของเด็กน้อยจะมาพบเข้า ทั้งสองยังไม่ทันจะรู้เรื่องอะไร ริเอะก็กล่าวหาว่ารินดาราอาจจะเป็นพวกตระกูลโคสึกะ ตระกูลศัตรูคู่อาฆาตกับตระกูล มิยาคาวะ ส่งมาลักพาตัวอายูมิ รินดาราทนไม่ได้จึงเถียงกลับจนริเอะพูดไม่ออก แต่คนที่ไม่เคยยอมแพ้ใครอย่างริเอะก็จัดการรินดาราด้วยการทำให้รินดาราถูกไล่ออกจากงาน รินดาราประกาศไว้กับตัวเองว่าจะไม่ขอเจอยัยริเอะกับอาคิระอีกเลย รินดาราอยู่ในสภาพลำบากอีกครั้ง แล้วเหมือนโชคจะเข้าข้างเธอเมื่อมีคนติดต่อผ่านอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยว่าจะให้เธอไปเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็กหญิงพิการที่เมืองสึกิ เมื่อในนิทานแสนสวยงามที่รินดาราฝันอยากไปตั้งแต่เด็ก และเมืองสึกินี้เองที่เป็รแรงบันดาลใจทำให้รินดาราขอทุนเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ที่ผ่านมารินดาราต้องเรียนหนักและต้องประหยัดเงินทุกบาทจึงยังไม่เคยไปเมืองสึกิสักครั้ง รินดาราตื่นเต้นดีใจดีมากก่อนที่จะพบว่าผู้ที่มาติดต่อเธอคืออาคิระ ผู้ชายมาดขรึมเก๊กหล่อแฟนของยัยผู้หญิงนิสัยไม่ดี รินดารากำลังจะปฏิเสธโดยไม่เสียเวลาลังเลเลยแม้แต่วินาทีเดียว แต่อาคิระที่เหมือนจะอ่านใจรินดาราออกรีบบอกว่า ไม่ใช่เขาที่เป็นคนอยากให้รินดาราไปดูแลหลานสาว แต่เป็นคนอื่น รินดาราสังเกตเห็นได้ว่าอาคิระดูไม่ค่อยเต็มใจอยากจะมาทำหน้าที่นี้สักเท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่รินดาราคิด การที่อาคิระยอมมาเชิญรินดาราด้วยตัวเองเป็นเพราะ คุณย่ามิกิ คุณย่าที่เขารักและเคารพมากขอร้องมาว่าให้ทำเพื่อบุคคลผู้มีพระคุณต่อมิยาคาวะ อาคิระขอร้องให้รินดาราไปพบกับเขาคนนั้นด้วยตัวเองแล้วค่อยตัดสิ้นใจว่าจะรับหรือไม่รับงานนี้ รินดารายอมไปกับอาคิระเพราะอยากรู้ว่าเขาคนนั้นคือใคร พอถึงที่หมายซึ่งเป็นหน้าอุโมงค์คอกวีสทีเรีย อาคิระบอกให้รินดาราเข้าไปข้างในคนเดียว แล้วภาพของชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าอุโมงค์คอกวิสทีเรียอันสวยสดงดงามราวกับดวงดาวพร่างพรายแม้เวลากลางวัน เขาคนนั้นคือ ท่านชายโฮชิ ชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มอันเปี่ยมสุข แต่แววตากลับแฝงความเศร้าหมอง เพียงแค่คำพูดของเขาไม่กี่คำก็ทำให้รินดาราเหมือนตกอยู่ในมนต์ ตอบรับทำงานที่คฤหาสน์มิยาคาวะทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่าการเดินทางไปเมืองสึกิครั้งนี้จะทำให้ได้พบคำตอบที่เธอรอคอยมาตลอดชีวิต ณ ขณะเดียวกันที่ตระกูลโคสึกะ ตระกูลศัตรูคู่อาฆาตกับตระกูลมิยาคาวะกำลังร้อนเป็นไฟ เมื่อ ไดซุเกะ ชายชราวัย 70 ปี อ่านพบคำทำนายในตำราโบราณของบรรพบุรุษว่ากำลังมีผู้หญิงเดินทางมาที่มิยาคาวะ และผู้หญิงผู้นี้จะนำพาหายนะมาสู้โคสึกะ ตระกูลโคสึกะเป็นตระกูลใหญ่ในหุบเขาสึกิ พวกเขาเป็นเจ้าพ่อธุรกิจการเกษตรและเป็นตระกูลผู้ดูแลศาลเทพเจ้าสุนัขจิ้งจอก ซึ่งเป็นเทพเจ้าทางด้านพืชผลทางการเกษตร ขณะที่เทพเจ้านกกระเรียนทองคำคือเทพเจ้าแห่งสุขภาพและชีวิตที่ยืนยาว โดยมีตระกูลมิยาคาวะทำหน้าที่ดูแลศาลให้ สองตระกูลนี้ไม่ถูกกันมาตลอดเพราะความเชื่อและศรัทธาในเทพเจ้าของตัวเอง ตระกูลโคสึกะเข้าใจผิดไปว่าเทพเจ้านกกระเรียนเป็นต้นเหตุทำให้เทพเจ้าจิ้งจอกของพวกเขาสูญสลาย และเชื่อว่าเทพเจ้านกกระเรียนยังกลับขึ้นสวรรค์ไม่ได้ ทว่าไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เทพเจ้านกกระเรียนอยู่แห่งใดบนโลกนี้ ทุกคนในตระกูลโคสึกะจึงถูกปลูกฝังให้ขัดขวางไม้ให้เทพเจ้านกกระเรียนกลับขึ้นสวรรค์ เพราะไม่เช่นนั้นตระกูลโคสึกะจะต้องมีอันเป็นไป ฮิเดโนริ โคสึกะ หลานชายวัย 25 ปีลูกของไดซุเกะทำหน้าที่สืบว่าผู้หญิงที่มาคฤหาสน์มิยาคาวะเป็นใครด้วยการส่งฮิโตชิ ผีเด็กตัดผมหน้าม้าสวมชุดยูกาตะสีน้ำเงินที่เขาเลี้ยงไว้ใช้งานให้ไปที่คฤหาสน์มิยาคาวะ ทำให้รินดาราเกือบจะโดนผีหลอกตั้งแต่คืนแรกที่มาอยู่ที่คฤหาสน์มิยาคาวะ แต่รินดารารอดปลอดภัยมาเพราะท่านชายโฮชิมาช่วยไว้ และเขายังมอบเหรียญเซโมริลายนกกระเรียนซึ่งเป็นเครื่องรางของขลังของญี่ปุ่นให้รินดาราเอาไว้เป็นเครื่องคุ้มกันภัยจากอันตรายทั้งปวง ทำให้ฮิโตชิเข้าใกล้รินดาราไม่ได้ ทางด้านรินดาราเริ่มงานดูแลหนูน้อยอายูมิด้วยการบริหารให้กล้ามเนื้อคลาย เด็กหญิงร้องไห้ลั่นด้วยความเจ็บปวด อาคิระมาเห็นเข้าก็ไม่พอใจเข้าไปห้ามทันที รินดาราเข้าใจแล้วว่าที่อายูมิอาการไม่ดีขึ้นเป็นเพราะเด็กน้อยถูกประคบประหงมมากเกินไป กล้ามเนื้อไม่ได้ออกแรงอย่างที่ควรจะเป็น รินดาราใช้สิทธิของการเป็นผู้ดูแลอายูมิจัดโปรแกรมชีวิตเด็กน้อยให้หมด อาคิระจำใจต้องยอมรับรินดาราเพราะคำสั่งของคุณย่ามิกิ อาคิระแปลกใจว่าทำไมย่ามิกิต้องทำเหมือนรินดาราเป็นคนพิเศษมาก ไหนจะยังสายตาที่ท่านชายโฮชิมองรินดาราช่างหวานซึ้งและคุ้นเคย อาคิระจ้างนักสืบสืบประวัติของทั้งสอง นักสืบไม่พบข้อมูลใดๆ น่าสงสัย แต่ที่แปลกคือ นักสืบไม่พบข้อมูลของท่านชายโฮชิเลยแม้แต่นิดเดียวว่าเขาเป็นใครมาจากไหน วันหนึ่งรินดาราพาอายูมิเข้าไปในเมืองเพื่อเปิดหูเปิดตา สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กน้อยอยากกลับมาเดินได้อีกครั้ง สองสาวต่างวัยได้พบกับ แป้งร่ำ และ เกียว เจ้าของร้านนวดแผนไทย รินดาราดีใจที่มีคนไทยอยู่ใกล้ๆ ให้อบอุ่นใจ แต่ขากลับรินดาราเกือบถูกสุนัขจิ้งจอกทำร้าย เสื้อผ้าของเธอฉีกขาดเล็กน้อย โชคดีที่อาคิระและโฮชิช่วยเอาไว้ทัน แต่สิ่งที่ทำให้โฮชิตกตะลึงก็คือ ปานรูปดาวบนแผ่นหลังของรินดารา โฮชิแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เขาคิดถูกต้อง รินดาราคืออวตารส่วนหนึ่งของเมียวโจ เมียวโจส่งรินดารามาช่วยทำให้กิโมโนโฮชิปักเสร็จแล้วพาเขากลับสวรรค์ แต่ตอนนี้รินดารายังจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร โฮชิกับมิกิจะช่วยฟื้นความจำให้รินดารา มิกิจึงวางแผนให้รินดาราขึ้นไปบนหอคอยอันเป็นเขตห่วงห้ามของคุณย่ามิกิ เผื่อว่ากิโมโนโฮชิจำทำให้รินดาราจำได้ว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของเมียวโจ แต่เมื่อกิโมโนโฮชิปรากฎต่อสายตา ปานรูปดาวบนแผ่นหลังของรินดาราเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนอย่างรุนแรงจนเธอเป็นลมสลบไป โฮชิรู้แล้วว่าตอนนี้ร่ายหยาบของมนุษย์อย่างรินดารายังไม่สามารถรับพลังงานบริสุทธิ์ของเทพได้ ต้องรอให้ร่างของรินดาราพร้อมด้วยตัวเองเท่านั้น ตอนนี้โฮชิจึงได้แต่เฝ้ารอให้รินดาราจำได้ว่าเธอเป็นใคร มิกิหวังว่าจะถึงวันนั้นเร็วๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ทางด้านฮิเดโนริตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพเลือดเต็มตัว เนื้อตัวเปรอะเปื้อนดินโคลน ฮิเดโนริจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งไดซุเกะเข้ามารับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลานชาย จึงรู้ว่าเลือดปีศาจจิ้งจอกในตัวฮิเดโนริเริ่มออกฤทธิ์ สุนัขจิ้งจอกตัวที่ทำร้ายรินดาราก็คือฮิเดโนรินั่นเอง แท้จริงแล้วฮิเดโนริเป็นลูกครึ่งมนุษย์และปีศาจจิ้งจอก พ่อของฮิเดโนริรักกับนางปีศาจจิ้งจอกที่ปลอมตัวเป็นหญิงสาวสวย เมื่อฮิเดโนริกำเนิด ทั้งสองก็ทิ้งเด็กชายไว้กับไดซุเกะก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะตามคนรักเข้าป่าไปอยู่กับฝูงสุนัขจิ้งจอก ไดซุเกะไม่เคยคิดว่าจะบอกเรื่องนี้ให้กับหลานรู้เพราะอยากให้มันเป็นความลับตลอดกาล แต่เมื่อเลือดปีศาจจิ้งจอกในตัวฮิเดโนริกำลังมีพลังอำนาจเหนือเลือดมนุษย์ ไดซุเกะจึงทำพิธีสักยันต์บนแผ่นหลังของฮิเดโนริ และสอนให้ฮิเดโนริรู้จักควบคุมปีศาจจิ้งจอกให้อยู่ภายใต้การควบคุมของฮิเดโนริ กว่าฮิเดโนริจะทำใจยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองเป็นได้ เขาก็อาละวาดใส่ฮิโตชิหลายครั้ง ฮิโตชิตกใจกลัวจึงเข้าไปหลบในห้องของไดซุเกะ แล้วเขาก็เผลอทำตุ๊กตาฮินะรูปผู้หญิงผมยาวผิวขาวซีด ปากเป็นสีแดงตกแตก ทำให้วิญญาณของนางปีศาจหิมะที่ตระกูลโคสึกะกังขังอยู่ในตุ๊กตาฮินะตัวนั้นมานานหลายร้อยปีถูกปลดปล่อยโดยไม่มีใครรู้ นางปีศาจหิมะเป็นเพียงมวลสารไร้รูปกายมันจึงเข้าไปสิงอยู่ในร่างของ ยูกิ เกอิชา สาวแสนสวยที่เป็นทาสความรักของ มาโกะโตะ ชินเอบะ พ่อของริเอะ ที่ผ่านมามาโกะโตะให้ความหวังกับยูกิจนเธอรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ยูกิเรียกร้องอยากแต่งงานกับเขา มาโกะโตะรำคาญสุดขีดจึงสั่งเก็บยูกิ ยูกิต้องจบชีวิตด้วยความรักความแค้นไม่ต่างจากที่นางปีศาจหิมะที่เคยรู้สึกมาก่อน นี่เป็นช่องโหว่ที่ทำให้นางปีศาขหิมะสามารถสิงร่างของยูกิได้ แล้วนางปีศาจหิมะที่อยู่ในร่างของยูกิก็กลับมาหามาโกะโตะ พร้อมกับซากศพของลูกน้องของเขาที่เธอสูบกินกิเลสตัวพวกมันจนแห้งกรัง ด้วยความกลัวสุดขีดทำให้มาโกะโตะยอมเป็นทาสรับใช้ ช่วยยูกิตามหาเทพเจ้านกกระเรียนชายที่เธอยังรักหมดหัวใจที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน แล้วยูกิก็ได้พบกับโฮชิอยู่ในงานทานาตะ ยูกิอยากจะเข้าไปหาเขาแต่พลังของเธอยังน้อยเกินไป ทว่า ยูกิยังรู้สึกที่อย่างน้อยก็รู้ว่าเขายังอยู่ในเมืองสึกิและอยู่กับครอบครัวมิยาคาวะ ยูกิคิดไปเองว่าสาเหตุที่เมื่อก่อนโฮชิไม่รับรักเธอ เป็นเพราะเธอเป็นนางปีศาจหิมะน่าเกลียดน่ากลัว แต่ตอนนี้เธออยู่ในร่างของหญิงสาวแสนสวยแล้วโฮชิน่าจะรักเธอได้ ดังนั้นยูกิจึงสั่งให้ริเอะพาคุณย่ามิกิและอาคิระมาที่บ้าน โดยอ้างว่ายูกิอยากจะสั่งคุณย่ามิกิทอกิโมโน เมื่อพบโอกาสยูกิก็จัดการสะกดจิตคุณย่ามิกิคนใกล้ชิดที่สุดของโฮชิให้ทำตามความต้องการของยูกิ ทำให้หลังจากนั้นเป็นต้นมาคุณย่ามิกิก็เอาแต่พูดถึงยูกิให้โฮชิฟัง และยังขอให้โฮชิไปพบกับยูกิอีกด้วย โฮชิมาพบยูกิตามนัดที่ซุ้มอุโมงค์วิสทีเรียเพราะยูกิจงใจให้ตัวเองเหมือนเมียวโจคนรักของโฮชิ แต่โฮชิกลับไม่มีท่าทีอ่อนไหวกับยูกิเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำเขายังเกิดความสงสัยว่ายูกิไม่ใช่คน โฮชิจึงล่อพายูกิไปที่ศาลเจ้าอันเป็นสถานที่ที่ปีศาจเข้าไม่ได้ ยูกิเกือบจะแสดงท่าแท้ของตัวเองออกมาให้โฮชิเห็น แต่เธอก็เอาตัวรอดมาได้ ในงานทานาบาตซึ่งตรงกับวันเกิดของรินดารา รินดาราแปลกใจมากว่าทำไมเธอถึงไม่รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ปานรูปดาวเหมือนวันเกิดที่ผ่านมา รินดารายอมเล่าเรื่องปานรูปดาวให้โฮชิฟังเพราะเธอไว้ใจเขาอย่างประหลาด โฮชิพูดเป็นในให้รินดาราได้คิดว่าปานรูปดาวอาจจะพอใจที่เธออยู่ในเมืองสึกินี้แล้วก็ได้ รินดารายังไม่เข้าใจที่โฮชิพูดแต่แน่ใจว่าต้องมีอะไร รินดาราพยายามหาคำตอบให้กลับตัวเอง แต่ยิ่งหาเท่าไหร่เธอยิ่งรู้เรื่องประหลาดเกี่ยวกับโฮชิ ทางด้านฮิเดโนริพยายามทำร้ายรินดาราด้วยการส่งผีไปฆ่าแต่ไม่สำเร็จ เพราะรินดารามีเหรียญเซโมริปกป้อง ฮิเดโนริจึงใช้วิธีเข้าไปทำความรู้จักกับรินดาราเพื่อหาทางทำร้ายเธอ แต่ยิ่งฮิเดโนริอยู่ใกล้รินดารามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหลงรักในความน่ารักสดใสของเธอมากขึ้นเท่านั้น จนฮิเดโนริเกิดความรู้สึกลำบากใจที่จะฆ่ารินดารา ฮิเดโนริเกิดเกิดความคิดว่าแค่หาทางไล่รินดาราไปให้พ้นจากเมืองสึกิก็น่าจะพอแล้ว รินดาราได้เห็นรูปถ่ายเมื่อสมัยห้าสิบปีของพ่อสามีของแป้งร่ำ ผู้ที่ปรากฎอยู่ในรูปหน้าตาละม้ายคล้ายท่านชายโฮชิ รินดาราจึกวางแผนให้ท่านขายไปพบกับพ่อสามีของแป้งร่ำ จนรินดารารู้ว่าท่านชายโฮชิคือผู้ชายในรูปจริง ๆ แต่หน้าตาของท่านชายไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย รินดาราจึงแน่ใจแล้วว่าเรื่องล่ำลือเกี่ยวกับชายหนุ่มที่อยู่บนหอคอยของคฤหาสน์มิยาคาวะก็คือท่านชายโฮชิ ด้านทางฮิเดโนริรู้เรื่องว่าฮิโตชิแอบหนีไปเล่นกับอายูมิที่คฤหาสน์มิยาคาวะอยู่บ่อยๆ ฮิเดโนริเรียกฮิโตชิมาลงโทษและกักขังเอาไว้ในตุ๊กตาฮิะ แต่ ไอ บังเอิญไปพบเข้าแล้วทำตุ๊กตาฮินะแตก ฮิโตชิหลุดออกมาหาอายูมิ และได้รับการปกป้องจากท่านชายโฮชิ ทำให้ฮิเดโนริได้เจอกับท่านชายโฮชิแล้วรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ซึ่งขณะเดียวกันนั้นไดซุเกะรับรู้แล้วว่านางปีศาจหิมะหลุดออกไปจากตุ๊กตาฮินะ ไดซุเกะรีบทำพิธีเรียกมันกลับมา แต่มันกลับมาในสภาพของมนุษย์สาวสวยชื่อยูมิ ไดซุเกะจะจัดการกักขังปีศาจหิมะเอาไว้เหมือนเดิม แต่นางปีศาจหิมะที่อยู่ในร่างของยูกิโพล่งออกมาว่า เธอรู้ว่าตอนนี้เทพเจ้านกกระเรียนอยู่ที่ไหนและเธอจะขอให้แก้แค้นเทพเจ้านกระเรียน เพื่อแก้แค้นให้เธอและให้เทพเจ้าจิ้งจอกที่ต้องสลายไป เพราะฝีมือของเทพเจ้านกกระเรียน เมื่อฮิเดโนริรู้เรื่องเข้าจึงกระจ่างแล้วว่าท่านชายโฮชิเป็นเทพเจ้าจริง ๆ ไดซุเกะจึงยอมปล่อยนางปีศาจหิมะโดยไม่รู้เลยว่าทั้งหมดนั้นเป็นแผนการณ์ของนางปีศาจหิมะ นางปีศาจหิมะที่อยู่ในร่างของยูจิหลอกใช้พลังของไฮซุเกะแล้วถ้าทุกอย่างสมหวัง เธอจะจัดการกับไดซุเกะเป็นคนแรก เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากไดซุเกะจนมีพลังกลับคืนมา นางปีศาจหิมะที่อยู่ในร่างของยูกิก็ กลับไปพบกับโฮชิที่คฤหาสน์มิยาคาวะ ยูกิอ้างไปว่าที่หายหน้าไปหลายวันเพราะมีธุระส่วนตัว โฮชิจึงไม่สงสัยอีกแล้วว่าโฮชิมีอาการเป็นห่วงผู้หญิงที่ชื่อรินดารามากเป็นพิเศษ จึงอยู่รอพบหน้ารินดารา เมื่อพบหน้ายูกิยังไม่รู้ว่ารินดาราเป็นส่วนหนึ่งของเมียวโจ ยูกิรู้แต่ว่ารินดาราสวยเหลือเกิน ประกอบกับสายตาของโฮชิยามมองรินดาราช่างอ่อนหวานอ่อนโยนจนเธอนึกอิจฉาอยู่ในใจ ยูกิจึงตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่างกับรินดารา นางปีศาจหิมะในร่างยูกิหลอกล่อรินดาราเพื่อฆ่า แล้วนางปีศาจหิมะจะสิงเข้าไปอยู่ในร่างของรินดาราเสียเอง แต่นางปีศาจหิมะทำไม่ได้ง่ายๆ เพราะจิตของรินดาราไม่ได้บอบช้ำเพราะความรักเหมือนอย่างยูกิ แล้วอาคิระกับโฮชิก็มาช่วยรินดารา รินดาราตกอยู่ในสภาพแย่มากจากพลังอำนาจประหลาด โฮชิจึงตัดสินใจคืนร่างเป็นเทพเจ้านกกระเรียนเพื่อช่วยรินดารา ทำให้รินดารากระจ่างแล้วว่าโฮชิไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็นเทพเจ้านกกระเรียนตามตำนานในนิทาน เท่านั้นยังไม่พอมิกิยังพารินดาราขึ้นไปดูกิโมโนโฮชิบนหอคอยเพียงแค่รินดารายื่นมือไปแตะลายปักรูปนกกระเรียนบนกิโมโน ภาพความจำว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของเมียวโจก็ปรากฎขึ้นในหัว รินดาราได้คำตอบแล้วว่า เธอเกิดมาเพื่อช่วยส่งท่านชายโฮชิกลับสวรรค์ โดยต้องตามหาขนนกกระเรียนทองคำแล้วนำมาปักบนกิโมโนให้สำเร็จ แต่ทั้งหมดนี้อาคิระยังไม่รู้เรื่อง รินดาราเริ่มหน้าที่ของตัวเองด้วยการหาข้อมูลของขนนกกระเรียนทองคำ รวมทั้งถามกับ แฮโรลด์ เจ้าของสถาบันอาภรณ์แห่งเอเชียผู้โด่งดังที่มาขอกิโมโนของตระกูลมิยาคาวะไปจัดแสดงในงาน แต่แฮโรลด์ไม่เคยได้ยินว่าขนนกกระเรียนทองคำมีจริง ๆ แต่การสนทนาครั้งนั้นทำให้ริเอะได้ยินแล้วนำไปบอกกับยูกิ ยูกิรวบรวมสิ่งที่รู้มาจนแน่ใจว่ารินดาราคือส่วนหนึ่งของเมียวโจที่ลงมาช่วยพาโฮชิกลับสวรรค์ ยูกิสั่งให้ไดซุเกะและฮิเดโนริคอยหาทางขัดขวางไม่ให้รินดาราหาขนนกกระเรียนทองคำเจอ ช่วงนั้นรินดาราไปหาเพื่อนชื่อ เคนจิ ลูกครึ่งญี่ปุ่น-ไทย นักศึกษาปริญญาโทคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลับเดียวกันกับรินดารา เคนจิกำลังทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องสัตว์พิเศษในตำนานของเทพนิยายต่างๆ เช่น ล็อคเนสแห่งทะเลสาปล็อคเนส เยติมนุษย์หิมะแห่งฮิมาลัย ฯลฯ รินดาราถามเคนจิเรื่องนกกนกระเรียนทองคำ แต่เคนจิบอกว่ามันเป็นสิ่งที่หายากมาก ร้อยปีถึงวจะมีกำเนิดสักครั้ง ความหวังที่จะช่วยโฮชิของรินดาราดูจะริบหรี่เหลือเกิน แต่แล้วก็เหมือนฟ้าดลใจ เมื่อเคนจิเดินทางมาหารินดาราที่คฤหาสน์มิยาคาวะว่าได้คุยกับ ป้าอัง ญาติของเคนจิที่อยู่เมืองไทยมีขนนกกระเรียนทองคำ และป้าอังก็ยินดีจะมอบขนนกกระเรียนทองคำให้รินดารา และที่ผ่านมาป้าอังฝันว่ามีผู้หญิงมาบอกว่าให้เก็บขนนกกระเรียนนี้ไว้ สักวันพวกเขาจะมารับ ป้าอังเชื่อว่าต้องเป็นรินดารา เพราะผู้หญิงในฝันหน้าเหมือนรินดาราไม่มีผิด รินดารานำเรื่องนี้ไปเล่าให้ย่ามิกิและท่านชายโฮชิฟังโดยไม่รู้ตัวว่าอาคิระกำลังแอบฟังเรื่องทั้งหมดอยู่ อาคิระก็เลยรู้ความจริงทั้งหมด และเขาก็ยินยอมที่จะร่วมมือช่วยปลดปล่อยท่านชายโฮชิกลับคืนสู่สวรรค์ ในระหว่างนั้นเองทางเมืองไทยก็ส่งข่าวมาว่าพ่อของรินดารามีอาการป่วย รินดาราและอาคิระจึงตัดสินใจเดินทางไปหาป้าอังพร้อมกับเคนจิที่เมืองไทย เพื่อตามหาขนนกกระเรียนและเพื่อรักษาอาการของพ่อ แต่ถึงกระนั้นไอก็ยังขอติดตามไปดูเส้นไหมที่เมืองไทยด้วย หากความจริงแล้วไอไปตามคำสั่งของฮิเดโนริ ไอรักฮิเดโนริมากแล้วความรักนี้ทำให้ไอมองไม่ออกว่าฮิเดโนริกำลังหรอกใช้เธอ รินดารากับอาคิระเดินทางไปเมืองไทยด้วยกัน อาคิระได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของรินดารา ได้เห็นถึงการสู้ชีวิตของหญิงสาวทำให้อาคิระเข้าใจรินดารามากขึ้น ขณะเดียวกันรินดาราก็ได้เห็นมุมอ่อนโยน ความมีน้ำใจของอาคิระที่ปฏิบัติต่อทุกคนในครอบครัวของเธอ ทำให้ความรักก่อเกิดขึ้นในใจของทั้งสองแบบเงียบๆ แต่ทั้งสองยังไม่สามารถคิดสิ่งใดได้ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการตามหาขนนกกระเรียนทองคำจากญาติของเคนจิ ขณะเดียวกัยรู้ว่ายูกิไม่ใช่คนอย่างที่เขาเคยคิดจริงๆ แต่โฮชิไม่แสดงออกมาให้ยูกิรู้ว่าเขารู้ความจริง เพราะโฮชิอยากจะช่วยพูดและทำให้นางปีศาจหิมะในร่างยูกิยอมลดกิเลสในใจตัวเอง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะในของนางปีศาจหิมะลุ่มหลงอยู่ในกิเลศมากเหลือเกิน ทันทีที่รินดารากับอาคิระไปถึงบ้านป้าอัง กลับพบว่าป้าอังเกิดอาการมึนเบลอ จำไม่ได้แม้กระทั่งว่าตนเองมีขนนกกระเรียนทองคำ เพราะความจริงแล้วที่ป้าอังต้องเป็นเช่นนี้เป็นฝีมือของฮิเดโนริที่แอบสะกดรอยตามมา โดยมีไอเป็นนางนกต่อคอยสือความลับอยู่ ดังนั้นไม่ว่ารินดารากับอาคิระจะทำอะไร ฮิเดโนริจะรู้ความเคลื่อนไหวทั้งหมด แต่มีเรื่องที่ไอกับฮิเดโนริไม่รู้คือ ความสามารถพิเศษได้ยินสัตว์พูดรองรินดารา รินดารารู้เรื่องจากแมวป้าอังว่ามีคนปริศนามาทำร้ายป้าอังให้เป็นแบบนี้ และที่สำคัญแมวรู้ด้วยว่าป้าอังเก็บขนนกกระเรียนไว้ที่ไหน แต่รินดาราไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับใครแม้กระทั่งอาคิระเพราะรินดาราไม่รู้แน่ชัดว่าใครคือคนปริศนาพวกนั้น รินดารารอจนกลับมาถึงคฤหาสน์มิยาคาวะถึงนำขนนกกระเรียนทองคำของป้าอังออกมา สร้างความดีใจกับย่ามิกิและท่านชายโฮชิเป็นอย่างมาก แต่อาคิระกลับน้ายใจที่รินดาราไม่ไว้ใจเขา ไม่ยอมบอกว่าหาขนนกกระเรียนได้แล้ว รินดาราอธิบายเหตุผลให้อาคิระเข้าใจว่า เธอสงสัยว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่ไกล้พวกเรา แล้วยังไม่ทันขาดคำขนนกกระเรียนทองคำที่ได้มาจากป้าอังก็ถูกมือดีขโมยไปเผาทำลายจนไม่เหลือซาก อาคิระก็เลยวางแผนกับรินดาราสร้างเรื่องขึ้นมาว่ายังมีขนนกกระเรียนทองคำเพื่อล่อมือดีให้ปรากฎตัว จนกระทั่งแผนสำเร็จ ทุกคนมิยาคาวะรู้ว่าไอเป็นสายลับให้โคสึกะมาตลอด ไอกับอาคิระทะเลาะกันอย่างรุนแรงแล้วไอก็หนีออกจากคฤหาสน์มิยาคาวะไปอยู่ที่คฤหาสน์โคสึกะกับฮิเดโนริ อาริคะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น รินดาราคอยปลอบใจ แล้วความใกล้ชิดก็ทำให้ทั้งสองรู้ใจตัวเองว่ารักอีกฝ่ายเข้าเสียแล้ว แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะต่างไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร และอาคิระก็รู้อยู่แก่ใจว่ารินดาราเกิดมาเพื่อช่วยท่านชายโฮชิไม่ใช่เขา แล้วช่วนนั้นเองรินดาราก็ได้พบกับ ฮิเมะ ลูกนกที่พลัดหลงจากแม่และกำลังถูกแมวไล่จับกิน รินดาราช่วยฮิเมะและเลี้ยงดูมันอย่างดี ทางด้านยูกิสั่งให้มาโกะโตะหาเหยื่อมาให้เธอสูบกินกิเลสอีก แต่มาโก๊ะทำไม่ได้เพราะตอนนี้ตำรวจเริ่มตามสืบคดีคนหายไปหลายคน ยูกิโกรธมากจึงสูบกิเลสของมาโกะโตะซะเลย ริเอะเข้ามาเห็นภาพเข้าก็พยายามจะช่วยพ่อแต่ก็ช่วยไม่สำเร็จ มาโกะโตะตายในสภาพที่ไม่ต่างจากเหยือที่เขาหามาให้ยูกิภาพพ่อถูกกินทำให้ริเอะถึงกับเสียสติต้องอยู่โรงพบาบาลด้วยความหวาดกลัว ตอนแรกยูกิจะกินริเอะด้วยแต่ยูกิสัมผัสได้ว่าการที่ริเอะยังมีชีวิตอยู่ในสภาพป่วยเช่นนี้ ความห่วงใยที่อาคิระมีให้ริเอะสร้างความปวดร้าวหัวใจให้รินดารา และเมื่อไหร่ที่รินดาราเจ็บปวดเพราะความรักจนถึงขีดสุด เมื่อนั้นนางปีศาจหิมะจะสามารถสิงร่างของรินดาราได้ ยูกิจึงปล่อยริเอะเอาไว้ก่อน แต่ท่านชายโฮชิรู้ทันแผนของยูกิ เขาจึงพยายามทำให้รินดารากับอาคิระเข้าใจกัน แม้ว่าหัวใจของเขาจะเจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องทนเห็นรินดารารักกันกับอาคิระ ยูกิอยากให้อาคิระกับรินดาราเข้าใจผิดกัน จึงวางแผนกันฮิเดโนริให้จับตัวอายูมิไปลักซ่อน ฮิเดโนริใช้ให้ผีเด็กฮิโตชิที่เขาเพิ่มจับมาใหม่ได้อีกครั้งให้ทำงานนี้ ฮิโตชิยอมทำเพราะเด็กชายโกรธที่อายูมิกลับเขา ฮิโตชิล่ออายูมิมาได้สำเร็จ แล้วยูกิก็สร้างเรื่องว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะความประมาทของรินดารา อายูมิจึงหายตัวไป แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนของยูกิ เพราะท่านชายโอชิบอกให้อาคิระเข้าใจเสียก่อนว่าเรื่องนี้มีตัวไป แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนของยูกิ เพราะท่านชายโฮชิบอกให้อาคิระเข้าใจเสียก่อนว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังมาจากนางปีศาจหิมะ อาคิระกับรินดาราจึงไม่เข้าใจผิดกันแต่ช่วยกันตามหาอายูมิ แต่ก็ยังหาไม่พบ ทางด้านโฮชิออกไปพบกับยูมิเพื่อเจรจาให้ปล่อยอายูมิ แต่ยูกิกลับใช้อายูมิเป็นเครื่องมือต่อรองให้โฮชิยอมให้โอกาสเธอ เธอจะทำให้โฮชิรักเธอให้ได้ แต่โฮชิปฏิเสธเพราะยูกิยังไม่รู้จักความรักที่แท้จริงแล้วจะรักใครได้อย่างไร สร้างความโกระแค้นให้ยูกิ ยูกิจึงขู่เอาไว้ว่าจะถล่มเมืองสึกิอีกครั้ง โฮชิได้แต่เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจตามลำพัง เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังเป็นห่วงอายูมิที่หายตัวไป จนกระทั่งรินดาราตามกาอายูมิพบจากความช่วยเหลือของฮิโตชิที่กลับใจมาช่วยเพื่อนรัก หลังจากที่รู้ว่าแท้จริงแล้วอายูมิไม่เคยรังเกียดเขาเลย เธอแค่ตกใจในครั้งแรกที่รู้เรื่องว่าฮิโตชิไม่ใช่คนเท่านั้นเอง แล้วเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้อายูมิกลับมาเดินได้อีกครั้ง โฮชิจึงตอบแทนน้ำใจของฮิโตชิด้วยการปลดปล่อยเด็กน้อยให้ไปผุดไปเกิด ทางด้านยูกิก็กลับไปสั่งให้ไดซุเกะร่วมมือกับเธอถล่มเมื่อสึกิ แต่ไดซุเกะยังไม่ทำเพราะป่วยหนัก ยูกิโกรธก็เลยทำร้ายไดซุเกะพร้อมกับพูดให้เขารู้ความจริงว่า พวกโคสึกะเข้าใจผิดมาโดยตลอด แล้วยูกิก็สูบกิเสลในตัวไดซุเกะ วิญญาณของไดซุเกะที่มีความรู้สึกผิดต่อเทพเจ้านกกระเรียนจึงไปหาฮิเดโนริแล้วเล่าความจริงให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้ฮิเดโนริเข้าใจทุกอย่างและมีความโกรธแค้นนางปีศาจหิมะมาก เขายอมไปปรับความเข้าใจกับพวกมิยาคาวะและขอให้ทุกคนยกโทษให้ไอ อาคิระและย่ามิกิก็เลยยอมให้อภัยไอ ต่อมายูกิถล่มเมืองสึกิเหมื่อนเมื่อสี่ร้อนปีที่แล้วเพื่อหวังให้ผู้คนในเมืองล้มตายและจะฆ่ารินดารา อาคิระ โฮชิ และฮิเดโนริร่วมมือกับช่วยรินดาราและทำร้ายนางปีศาจหิมะกันอย่างยากลำบาก เพราะพลังของนางปีศาจหิมะมากเหลือเกิน แต่สุดท้ายความสามัคคีและหัวใจที่รักรินดาราก็ทำให้ทั้งสามชายช่วยกับปราบปีศาจหิมะได้สำเร็จ เมื่อจัดงานศพของไดซุเกะเสร็จเรียบร้อย ฮิเดโนริก็กลับไปปอยู่ในป่ากับฝูงสุนัขจิ้งจอก เพราะการต่อสู้กับนางปีศาจหิมะครั้งนั้นทำให้เขาไม่สามารถควบคุมพลังของปีศาจสุนัขจิ้งจอกในตัวเองได้อีก และเกรงว่าตัวเองจะทำร้ายมนุษย์ด้วยพลังของปีศาจในตัว ฮิเดโนริจึงยอมทั้งทุกอย่างทั้งตระกูลโคสึกะและไอผู้หญิงที่รักเขาสุดหัวใจ แม้ไอจะพยายามดึงตัวเขาไว้โดยบอกเรื่องที่เธอกำลังท้องกับเขา แต่ฮิเดโนริก็ต้องจากไปพร้อมกับคำสัญญาว่าสักวันจะกลับมาหาเธอกับลูก การต่อสู้ครั้งนั้นก็ทำให้ท่านชายโฮชิบาดเจ็บสาหัส เขาต้องรีบกลับสวรรค์เร็วที่สุด แต่ยังกลับไม่ได้เพราะไม่มีขนนกกระเรียนทองคำ แม้ว่ารินดาราจะเพิ่มค้นพบว่าฮิเมะเป็นลูกนกกระเรียนทองคำ แต่ฮิเมะก็เด็กจนกว่าจะทำขนมาปักชุดได้ ทุกคนมองไม่เห็นทางออกว่าจะเอาขนนกกระเรียนที่ไหนมาปักกิโมโนโฮชิจนกระทั่งแม่ของฮิเมะบินตามหาฮิเมะจนพบแล้วรับรู้ถึงความมีน้ำใจของรินดารา แม่ของฮิเมะก็เลยตอบแทนด้วยการผลัดขนสีทองของตัวเองให้รินดารานำไปปักชุดกิโมโนโฮชิจนสำเร็จ แต่ก่อนที่โฮชิจะสวมใส่กิโมโนโฮชิเพื่อกลับสู่สวรรค์ โฮชิรู้ว่ารินดารามีบางอย่างที่ยังติดค้างอยู่ในใจระหว่างความรู้สึกของเธอที่มีต่อโฮชิและมีแต่อาคิระ โฮชิจึงนัดให้ทั้งสองนัดพบปรับความเข้าใจกันที่สวนวีสทีเรีย จนรินดารากับอาคิระเข้าใจกันและยอมสารภาพความรักต่อกัน ริเอะถึงแน่ใจแล้วว่าตัวเองหมดสิทธิ์ในตัวอาคิระอีกต่อไป เธอจึงบินกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศสไม่มายุ่งกับความรักของอาคิระและรินดาราอีกเลย โฮชิจึงกลับสู่สวรรค์ได้อย่างสุขใจ เวลาผ่านไป อาคิระพารินดารามาฝากท้องที่โรงพยาบาลในเมือง แล้วรินดาราก็เพิ่งหันไปเห็นผู้ชายที่เดินสวนกัน ชายคนนั้นมีใบหน้าที่ดูอบอุ่นเป็นมิตร เขาก้มหัวแล้วยิ้มทักทายให้กับอาคิระและรินดาราอย่างยินดีปรีดาที่ได้เห็นทั้งคู่มีความสุข ก่อนที่เขาจะเดินหายไปในฝูงชน ใบหน้าของเขาและดวงตาสีเขียวช่างละม้ายคล้ายกับท่ายชายโฮชิเหลือเกิน
ตะพดโลกันตร์ 2558

เรื่องย่อ : ตะพดโลกันตร์ (2558/2015) มนุษย์เราผูกพันกันด้วยวิญญาณ หรือร่างกาย จะเกิดอะไรขึ้น หากวิญญาณคนที่เรารักถูกสับเปลี่ยนไปอยู่ในร่างกายของคนที่เราเกลียด เราจะยังคงรักเขาต่อไปได้มั้ย ไม้ จะทำอย่างไร เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกว่า จะทำลายร่างคนที่รัก หรือรักษาวิญญาณคนที่โลกชิงชัง หนึ่งปีผ่านไป หลังจากเหตุการณ์นองเลือดในครั้งนั้น เมื่อเวตาลถูกกำจัด พันเทพ (นภัสกร มิตรเอม) หายสาบสูญไปในการต่อสู้ ความสงบสุขกลับคืนมาสู่ชุมชนอีกครั้ง ไม้ตะพดถูกรวมเป็นหนึ่ง เมฆ (เคลลี่ ธนะพัฒน์) กำลังจะจัดการแต่งงานของอบเชย (วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) กับ ไม้ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) วันวิวาห์ถูกกำหนดขึ้น สิ่งมีชีวิตย่อมมีคู่ ไม่เว้นแม้แต่เวตาลที่สิ้นวิญญาณไป คราวนี้ คู่ของมันกำลังมา วันวิวาห์ของไม้กับอบเชยถูกจัดขึ้นอย่างฉุกละหุก หลายคนในอำเภอพากันเม้าท์ว่าเป็นเพราะอบเชยท้องก่อนแต่ง ร้อนถึงอบเชยต้องไปจัดการกับพวกปากไม่ดีจนมีเรื่องเกือบเสียฤกษ์ เรื่องของเรื่อง อบเชยดันเอาวันเดือนปีเกิดของตนกับไม้ไปให้พระดู พระก็ให้ฤกษ์แต่งมาในคืนวันสุริยุปราคา ที่กำลังจะมาถึงในอาทิตย์หน้า ถ้าไม่แต่งอาทิตย์หน้าก็ต้องรอไปอีก 75 ปี แล้วคนอย่างอบเชยมีหรือจะยอม เธอทำทุกอย่างเพื่อจะให้ได้แต่งงานทันฤกษ์ ไม้เองที่รักกับอบเชยอยู่แล้วก็เลยยอมแต่ง แม้ว่าในพิธีหมั้นตอนเช้าเขาจะต้องแว่บออกไปปฏิบัติภารกิจ ช่วยเหลือคนอ่อนแอของลูกผู้ชาย แทนเมฆผู้เป็นพ่อ ตกเย็นเป็นพิธีวิวาห์ ปรากฏว่างานกร่อยเพราะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญโผล่มากลางงาน นั่นคือพันเทพ พันเทพกลับมาอย่างคนบ้าเลือด และกล้าแกร่ง ยังไม่มีใครรู้ว่ามันหายไปไหนมาท่ามกลางงานวันวิวาห์นั้น แม้เมฆ และไม้จะร่วมมือกันสองคนรุมพันเทพ ยังไม่สามารถเอาชนะพันเทพได้ ไม้เองแม้จะใช้ตะพดด้ามยาวที่รวมทั้งเลือด และวิญญาณเข้าด้วยกัน ยังทำได้เพียงเสมอ และประทังพันเทพเอาไว้ได้เท่านั้น ในการต่อสู้ ไม้ และเมฆได้กระตุกเอาของบางอย่างที่พันเทพห้อยคอมาไว้ได้ มันคือหูที่ยังไม่เน่าเปื่อยของเวตาล ก่อนจากพันเทพได้ลักพาตัวอบเชยไปด้วย สถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง อบเชยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เห็นพันเทพกำลังฝึกวิชาอยู่กับผู้หญิงรูปร่างสะโอดสะองงดงาม แต่มีฝีมือเป็นเลิศ อบเชยตะลึงไม่รู้ความเป็นมาของผู้หญิงคนนั้น รู้แต่เพียงว่าผู้หญิงคนนั้นดื่มเลือดต่างน้ำ และพยายามปลุกเสกวิญญาณบางดวงจากกล่องใส่วิญญาณของเวตาลที่เป็นซากอารยธรรมอันหลงเหลือมาจากสมัยที่เวตาลเคยเรืองอิทธิฤทธิ์ อบเชยรู้ว่านางกำลังทำพิธีกรรมบางอย่าง เพื่อปลุกวิญญาณของบุคคลที่เคยเสียชีวิต ด้วยการถูกเวตาลดูดกลืนวิญญาณ หนึ่งในนั้นคือทิวา (มิกค์ ทองระย้า) ผู้มีวิญญาณอาฆาตชะตากรรม ไม่แพ้เวตาล แต่หญิงเลอโฉมผู้นั้นยังไม่สามารถคืนร่างให้ทิวาสำเร็จ นางทำได้เพียงพูดคุยต่อรอง และรับรู้ถึงความแค้นของทิวาที่มีต่อผู้ครอบครองไม้ตะพด วิญญาณของทิวาสัญญาว่าถ้านางคืนร่างให้เขาได้ เขาจะยินดีรับใช้นางไปตลอดชีวิต ไม้กับเมฆ และศรนารายณ์ (ชาติชาย งามสรรพ์) ไม่รู้ชะตากรรมของอบเชย ทั้งสามได้แต่นั่งพิจารณาหูของเวตาล แล้วไม้ก็เหมือนจะได้ยินเสียงบางอย่างที่แว่วออกมาจากหูนั้น มันเป็นเสียงผู้หญิงที่กำลังคุยอยู่กับอบเชย เป็นคำอาฆาตว่าถ้าหากนางจะต้องอยู่อย่างไร้คู่ไปชั่วกัปชั่วกัลป์แล้วละก็ ไม้กับอบเชยก็ต้องได้รับความทรมานไม่แพ้กัน เสียงปริศนาที่ดังแว่วออกมาจากหูเวตาลนั้น ไม้ และเมฆ ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันเป็นเสียงของใคร ความจริงแล้วมันเป็นเสียงของ นางพญาเวตาล (ภคมน สถิรบุตร) นั่นเอง นางมีนัดพบเจอกับเวตาลผู้เป็นสามีในช่วงเวลานี้บนโลกมนุษย์ แต่นางก็รับรู้จากพันเทพว่าสามีของนางสิ้นแล้วอย่างไม่มีวันกลับ การที่นางติดต่อกับพันเทพได้ก็เพราะพันเทพครอบครองหูของเวตาลอยู่นั่นเอง นางออกคำสั่งให้พันเทพไปเอาหูของเวตาลคืนมา พันเทพรู้ดีว่าไม่สามารถเอาชนะไม้กับเมฆพร้อมกันได้ จึงเสนอเอาตัวอบเชยแลกกับหูเวตาลคืนกลับมา อบเชยรอดจากการปะทะระหว่างไม้ เมฆ และพันเทพกลับมาได้ โดยที่พันเทพได้หูเวตาลไป พันเทพไม่ต้องการให้นางพญาเวตาลคืนร่างให้กับทิวา เพราะความทรงจำที่ยังคงเหลืออยู่ บอกกับพันเทพว่าทิวาจะกลายเป็นคนที่มีอำนาจ และเป็นศัตรูตัวฉกาจต่อการกลับมายิ่งใหญ่ของพันเทพ อบเชยเอาความลับของนางพญาเวตาลมาบอกให้กับไม้ และเมฆรู้ ฝ่ายธรรมะรู้ตัวดีว่า พวกตนกำลังจะต้องเผชิญกับศัตรูที่น่ากลัวอีกครั้ง ตอนนี้นางพญาเวตาลกำลังตกไข่อยู่ ยังไม่สามารถออกมาแผลงฤทธิ์ด้วยตนเองได้ จึงจำใช้พันเทพต่างมือต่างเท้า โดยแลกกับการสอนวิชาเหนือมนุษย์ให้ นางพญาเวตาลจะสามารถสืบทอดเผ่าพันธุ์ได้ เฉพาะกับผู้ที่ฆ่าเวตาลผัวเก่าตนเท่านั้น นั่นก็คือนางพญาเวตาลต้องเอาไม้ทำสามีให้ได้ อิทธิฤทธิ์ของนางจึงจะทะยานขั้นสูงสุด นางพญาเวตาลในร่างของหญิงงามได้พยายามยั่วยวนไม้ แต่ความที่ไม้ซื่อสัตย์รักจริงต่ออบเชย จึงทำให้ความต้องการของนางพญาไม่สัมฤทธิผล แม้แต่ตัวนางเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีผู้ชายคนไหน อดทนต่อการยั่วยวนของธรรมชาติได้ นางพญาเวตาลกับอบเชยถึงกับมีเรื่องกันเพื่อแย่งไม้ นางพญาเวตาล ที่อยู่ในร่างมนุษย์ ไม่สามารถแสดงอภินิหารได้เต็มที่ นางจึงไม่สามารถหักอำนาจไม้ตะพดคู่ที่เคยปราบสามีของนางมาแล้วได้ ดังนั้นนางพญาเวตาลออกอุบายที่จะทำให้พันเทพกับเมฆสลับวิญญาณกัน โดยเมฆตกหลุมพราง เพราะเข้าใจว่าไม้อยู่ในอันตราย วิญญาณของเมฆมาอยู่ในร่างของพันเทพ ส่วนวิญญาณของพันเทพเข้าไปอยู่ในร่างเมฆ เมฆที่บัดนี้กลายเป็นวิญญาณของพันเทพ ครอบครองร่างเอาไว้กลับมาบ้าน เพื่อที่จะหาทางช่วงชิงไม้ตะพดจากลูกผู้ชาย วันเกิดของไม้ และตฤณ (ฐปนัท สัตยานุรักษ์) มาถึง ชายหนุ่มสองคนเกิดวันเดียวกัน และยังไม่เคยลืมว่าที่หมู่บ้านแห่งนั้นมีชายหนุ่มรูปงามอีกคนที่เกิดวันเดียวกับทั้งสองคน นั่นคือทิวานั่นเอง นางพญาเวตาลรู้ดีว่าถ้าหากจะต้องการคืนร่างชุบวิญญาณให้กับทิวานั้นจะต้องอาศัยสายสัมพันธ์ของบุคคลที่เกิดวันเดียวกันอีกสองคน ดังนั้นแผนการบางอย่างของนางพญาเวตาล ที่ต้องการชุบทิวาจึงเกิดขึ้น โดยการร่วมมือของไม้ และตฤณ โดยที่ทั้งสองไม่ทันรู้ตัว พันเทพในร่างเมฆก็พยายามขัดขวางการถือกำเนิดใหม่ของทิวา แต่ไม่สามารถสกัดกั้นได้ทัน ทิวาถือกำเนิดอีกครั้งในค่ำคืนวันเกิดของไม้ โดยที่ทิวายังไม่สามารถจำความแค้นได้ เขาคล้ายเพิ่งจะเกิดมาเพียงแต่ร่างกายเติบใหญ่เป็นหนุ่มกำยำแล้วเท่านั้น นางพญาเวตาลต้องนำทิวากลับไปยังถ้ำเพื่อคืนความทรงจำให้กับทิวา เมื่อทิวาถูกดูแลโดยนางพญาเวตาล เขาเองรู้สึกหลงรักหญิงรูปงามผู้นี้อย่างหมดใจ และตกเป็นเครื่องมืออีกชิ้นในการล้างแค้นโลกมนุษย์ของนางพญาเวตาล ส่วนร่างของพันเทพที่บัดนี้ คือเมฆนั้น ถูกจับขังเอาไว้ในถ้ำ เมฆในร่างของพันเทพแม้จะเจ็บปวดที่ต้องอยู่ในร่างของคนที่ตนรังเกียจ ก็พยายามหาทางไปช่วยไม้ แต่เขายังไม่สามารถออกจากถ้ำนั้นมาได้ เพราะถูกนางพญาเวตาลคุมตัวอยู่ นางพญาเวตาลพยายามยั่วยวนสมสู่กับเมฆในร่างของพันเทพแต่ก็ไม่สำเร็จ นางต้องการเพียงจิตวิญญาณของผู้ที่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกับผู้ที่ฆ่าผัวตนเท่านั้น ทิวาเห็นแผนการยั่วยวนของนางพญาเวตาล เขากลับเข้าใจไปว่าเมฆในร่างพันเทพนั้น วางแผนชิงความรักของนางพญาเวตาลจากเขาไป ทิวาพยายามกำจัดเมฆในร่างพันเทพอย่างบ้าดีเดือด และความทรงจำอันเลวร้ายของทิวาก็กลับคืนสู่ร่าง ทิวารู้แล้วว่าเขามีความแค้น มีความรัก ความหลังอะไรอยู่กับอบเชย และคนที่ทิวาเคียดแค้นชิงชังมากที่สุดก็คือไม้นั่นเอง เมฆที่บัดนี้แววตาเปลี่ยนเป็นชิงชังไปแล้วเพราะมีพันเทพสิงอยู่นั้น มาอยู่ใกล้ ๆ ไม้หาโอกาสที่จะช่วงชิงไม้ตะพดมาให้ได้ ไม้เองก็ไม่รู้ว่าทำไม หลาย ๆ อย่างพ่อถึงเปลี่ยนไปแต่เขายังไม่ได้คิดเลยเถิดไปไกลว่าตอนนี้พันเทพได้มาอาศัยอยู่ในร่างเมฆแล้ว ไม้ได้เผลอทำร้ายศรนารายณ์จนถึงกับกลายเป็นอัมพฤกษ์ด้วยแผนการร้ายของเมฆ อบเชยไม่รู้ คิดว่าไม้ต้องการทำร้ายพ่อของตน เธอจึงเสียใจมาก และบอกเลิกกับไม้ ไม้พยายามอธิบายเท่าไรอบเชยก็ไม่ฟัง ไม้รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ความรักของเขากับอบเชยต้องกลับไปอยู่ยังจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทิวาเองก็ได้อาศัยช่องว่างตรงนี้เข้ามาแทรกกลางระหว่างไม้กับอบเชย อบเชยประหลาดใจที่ทิวากลับมา แต่ด้วยความที่ทิวาเรียนรู้วิชาสมุนไพรมาจากนางพญาเวตาล ทำให้ทิวามีวิธีจะช่วยรักษาศรนารายณ์ได้ดีขึ้น อบเชยจึงรู้สึกดีกับทิวา เมื่อไม้เจอกับทิวาครั้งแรกก็ประหลาดใจ แต่ทิวาก็บอกว่าตนเป็นคนดีแล้ว ซึ่งที่จริงแล้ว ทิวาก็หาจังหวะทิ่มแทงไม้ข้างหลังอยู่ตลอดเวลา และอบเชยเองก็มีทีท่าว่าจะให้คะแนนทิวาอยู่เนือง ๆ พันเทพหรือภายในจิตใจที่เป็นเมฆนั้น หนีออกมาจนได้ โดยถูกนางพญาเวตาลให้กินสมุนไพรทำให้ไม่สามารถพูดได้ และได้ไปพบไม้ ไม้เข้าใจผิดคิดว่าเมฆคือพันเทพ ไม้ต่อสู้กับพันเทพ โดยที่ไม่รู้เลยว่า ตนกำลังต่อสู้กับเมฆอยู่นั่นเอง เมฆในร่างพันเทพไม่อยากทำร้ายไม้ เขาจึงต้องหนีจากไป ไม้มาบอกเมฆ ซึ่งในเวลานั้นคือพันเทพว่าได้ปะทะกับพันเทพ พันเทพมีท่าทีแปลก ๆ เหมือนพยายามบอกอะไรตน เมฆจึงดักทางว่ามันอาจพยายามสร้างเรื่องว่ามันเป็นพ่อ แล้วพ่อเป็นมันอยู่ พันเทพที่ตอนนี้จิตใจเป็นเมฆ พยายามเตือนอบเชยถึงเล่ห์กลของทิวา แต่คำพูดของเมฆที่ผ่านปากพันเทพตอนนี้ก็ไม่มีน้ำหนักที่ใครจะเชื่อถือ หนำซ้ำยังต้องมาพลาดท่าถูกทิวาตีเอาขาเดี้ยง จนต้องเดินคล้ายกับเมฆในภาคแรกซะอีก ไม้เข้าใจว่าพันเทพล้อเลียนพ่อตนก็มีเรื่องให้ต้องตีกัน เมฆถึงแม้อยู่ในร่างพันเทพก็ไม่อยากทำร้ายไม้จนต้องถูกไม้ทำร้ายบาดเจ็บอบเชยได้มาพบกับพันเทพที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับไม้ อบเชยเกือบฆ่าพันเทพ ซึ่งจริง ๆ ในเวลานั้นคือเมฆ แต่เดชะบุญมีเหตุให้อบเชยรับรู้ว่าจริง ๆ แล้วเมฆกับพันเทพสลับร่างกันอยู่ในเวลานี้หากฆ่าร่างพันเทพเมฆที่ติดอยู่ในร่างนั้นจะตายไปด้วย และพันเทพตัวร้ายก็จะกลายเป็นเมฆไปตลอดกาล อบเชยยังน้อยใจไม้อยู่ไม่อยากยุ่งด้วย แต่ก็มีเรื่องให้เธอต้องเข้ามาพัวพัน และพยายามอธิบายให้ไม้เข้าใจว่าอบเชยพยายามแก้แค้นที่เขาทำร้ายศรนารายณ์จนเป็นอัมพาต อบเชยกับไม้จึงระหองระแหงน้อยใจกันอีก เรื่องราวจากนี้ไปจึงกลายเป็นเรื่องชิงไหวชิงพริบ ชิงรัก และหักเหลี่ยมการต่อสู้ ระหว่างพันเทพในร่างเมฆ และเมฆในร่างพันเทพ แม้ว่าพันเทพจะสามารถพูดได้แล้ว แต่เขาก็ต้องทำให้ไม้เชื่อให้ได้ว่าเขาคือเมฆ เมฆในร่างพันเทพ และพันเทพในร่างเมฆ ปะทะการต่อสู้ช่วงชิงกันเพื่อปกป้องไม้ตะพดวิเศษ หลายครั้งที่เมฆในร่างพันเทพต้องเจ็บปวดเจ็บช้ำ เพราะคนเข้าใจว่าเขาเป็นคนเลว เพราะเขาต้องติดอยู่ในร่างของพันเทพนั่นเอง ไหนจะเรื่องของนางพญาเวตาลที่ในที่สุดก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลาย นางก็ได้เมฆเป็นสามี เพราะความที่เมฆต้องการช่วยไม้ จึงตกอยู่ภายใต้มนตร์สะกด และเข้าใจผิด อิทธิฤทธิ์ของนางพญาเวตาลขึ้นถึงขีดสูงสุดจนสามารถนำเวตาลที่กลับมาเกิดในรังไข่ของตน และมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ไม้จะต้องทำอย่างไร เขาจะต้องเลือกระหว่างเมฆกับพันเทพ พ่อที่แท้จริงในร่างของคนที่เลวทราม ความรักระหว่างเขากับอบเชยจะเป็นอย่างไร ทิวาจะสามารถชนะใจอบเชยได้หรือไม่ ?? ศรนารายณ์กับ เจ๊กี (อภิรดี ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) จะกลับมาเหมือนเดิมไหม ติดตามชมกันต่อได้ใน ละคร ตะพดโลกันตร์ ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 สี ละคร ตะพดโลกันตร์ เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2558

วัยมันพันธุ์อสูร 2557

เรื่องย่อ : วัยมันพันธุ์อสูร (2557/2014) ท้องฟ้ามืดครึ้ม เกิดปรากฏการณ์สุริยคราส นี่คือลางร้ายครั้งใหม่ของมวลมนุษย์ อสูรร้ายที่ถูกจองจำใต้บาดาลมานานแสนนานกำลังจะเกิดมาดูโลกจากครรภ์ของหญิงผู้หนึ่ง ไกรสิทธิ์ (บี๋-สวิส) (ทายาทที่สืบเชื้อสายมาจากไกรทอง) รู้ดีว่าชาละวันกำลังจะกลับชาติมาเกิด เขาได้ขโมยทารกมาลงอักขระยันต์แปดเหลี่ยมปิดผนึกวิญญาณชั่วร้ายไว้ และเอาเด็กไปเลี้ยงดูเสมือนเด็กมนุษย์ปกติ ซึ่งในเวลานั้นแสงทอง (เอ๋-รชยา) ภรรยาของไกรสิทธิก็เพิ่งให้กำเนิดทายาทเป็นบุตรชายมาในฤกษ์ยามเดียวกัน เด็กคนนี้คือ ไกรทองกลับชาติมาเกิดนั่นเอง ทั้งไวกูณฐ์ -ไกรทอง (เพชร-ปรัชญ) และนาวิก-ชาละวัน (เขต-ธาราเขต) ถูกเลี้ยงดูเหมือนเป็นพี่น้องคลานตามกันมา พ่อกับแม่มักจะบอกว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน แต่กลับไม่มีสิ่งใดที่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย บุคลิกก็แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ไวกูณฐ์เป็นคนร่าเริง รักสนุก ชอบสังคม เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อน ๆ รักกีฬากลางแจ้ง ส่วนนาวิกนั้นมาดนิ่ง ชอบเก็บตัว ขยันเรียนเป็นที่หนึ่งของห้องเสมอ ตรงข้ามกับไวกูณฐ์ที่สอบตกทุกครั้งและกลายเป็นลูกเกเรของพ่อแม่ แต่พี่น้องต่างเผ่าพันธุ์กลับไม่ได้แก่งแย่งความรักกัน ต่างก็รักใคร่กัน ยามเมื่อใครประสบปัญหาอีกคนก็คอยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออยู่เสมอ ไม่ใช่แต่จระเข้เท่านั้นที่ขึ้นมาบนโลกมนุษย์ลูกเงือกสาวนามว่า มุกดา (แพร-วรภร) ก็ผลัดหลงจากพ่อแม่มาอยู่ที่โลกมนุษย์ด้วย ไกรสิทธิ์ผู้เป็นพ่อรู้ว่าไม่ใช่ปลาธรรมดาจึงถ่ายทอดวิชาแปลงกายให้ แต่มีข้อแม้ว่ามุกดาจะต้องปกปิดฐานะที่เป็นเงือกไว้ มุกดาจึงกลายเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของไวกูณฐ์ โรคกลัวน้ำของนาวิกเป็นที่สนใจของหม่อนไหม (โซฟี่- อัปสรสิริ) สาวนิเทศศาสตร์ที่มุ่งมั่นจะเป็นนักข่าวมืออาชีพ เธอคิดหาความจริงว่าเพราะอะไรนาวิกถึงได้กลัวน้ำ ลงทุนไปตามสืบถึงบ้านของไวกูณฐ์ แต่สุดท้ายก็ถูกไวกูณฐ์แกล้งเตลิด ในสายตาของหม่อนไหม ไวกูณฐ์คือคนไม่เอาไหน ทำเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่เขากลับเข้ามาทำให้ชีวิตเธอวุ่นวายได้โดยตลอด ซ้ำไวกูณฐ์ยังมาชอบรุ้งแก้ว (ฝน-ณธิดา) เพื่อนสนิทของหม่อนไหมด้วย หม่อนไหมจึงตั้งตนคอยเป็นไม้กันหมาอย่างไวกูณฐ์ไม่ให้ได้สนิทกับรุ้งแก้วผู้อ่อนโยน ซ้ำยังตั้งตำแหน่งศัตรูหมายเลข 1 ให้กับไวกูณฐ์ไปโดยไม่ต้องคิด เมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี ไวกูณฐ์และนาวิกถูกทำนายทายทักว่าจะมีเคราะห์หนัก ไกรสิทธิพยายามหาวิธีแก้ไขแต่ก็ไม่เป็นผล ในวันคัดเลือกนักกีฬาของมหาวิทยาลัย จู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นจนไวกูณฐ์เกือบต้องบาดเจ็บหนัก โชคดีที่ไกรสิทธิ์มาช่วยได้ทัน นาวิกกับรุ้งแก้วรู้ข่าวไวกูณฐ์บาดเจ็บก็รีบมาหาทันที ระหว่างทางผ่านสระว่ายน้ำจู่ ๆ ก็มีพลังบางอย่างพุ่งมาจากสระกระชากตัวนาวิกลงไป รุ้งแก้วหวีดร้องตกใจ นาวิกพยายามดิ้นร้นเอาชีวิตรอด แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งจมลึกเรื่อย ๆ นาวิกหายใจไม่ออก กำลังจะตาย แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นบอกให้เขาตั้งสติ น้ำคือชีวิตของนาวิก และนั่นทำให้นาวิกรู้ว่าเขาหายใจในน้ำได้ พลังที่ฉุดนาวิกไว้ก็มลายหายไป อักขระที่ลงไว้ในตัวนาวิกเกิดเรืองแสงวาวเปล่งประกาย อาจารย์มกร (อ่านว่า มะ-กอน แปลว่า มังกร)(อู๋-นวพล) แท้จริงแล้วมกรคือ ครูจระเข้ของชาละวันปลอมตัวเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเพื่อสืบหาเด็กที่มีวิญญาณของชาละวันสถิตอยู่ และครั้งนี้เขาก็ได้พบแล้วว่าคือนาวิก แต่แผนของมกรก็ย่อมมีอุปสรรคเพราะยศสินี (เตย-อรัชมน) ทายาทแห่งพระยมที่ปลอมตัวมาเป็นอาจารย์เพื่อตามหาวิญญาณชาละวันที่หายไปเมื่อ 15 ปีก่อนกลับคืนสู่นรกภูมิเช่นเดียวกัน โดยมี ทัณฑ์ (พอร์ช-อริย์ธัช) ยมทูตด้านเจ้าหน้าที่ข้อมูลเป็นผู้ช่วย นาวิกกลุ้มใจอย่างมาก เขาอยากเล่นกีฬาแต่ก็ไม่อยากทิ้งการเรียน ยศสินีจึงยื่นเงื่อนไขว่าถ้าทำให้การเรียนของไวกูณฐ์ดีขึ้น เธอก็จะยอมให้นาวิกเข้าชมรมว่ายน้ำของมกร ไวกูณฐ์โวยวายว่าทำไมตัวเองต้องมาเดือดร้อนด้วย แต่เพราะเห็นแก่นาวิก ไวกูณฐ์เลยจำยอมต้องเข้าคอร์สพิเศษกับยศสินี โดยมีหม่อนไหม รุ้งแก้วและนาวิกมาร่วมช่วยติว ไวกูณฐ์เซ็งที่ต้องมาเจอหม่อนไหมทุกวัน โชคดีที่มีคู่หูตัวแสบอย่างตะโก้ (ไบเบิ้ล-ภูผา) น้องชายตัวแสบวัย 12 ขวบของหม่อนไหมกับปู่ไม้สน (รอง เค้ามูลคดี) ปู่ของหม่อนไหมที่เป็นอัลไซเมอร์ชอบเล่าเรื่องเหนือธรรมชาติอยู่เสมอจนใคร ๆ หาว่าเพี้ยน แต่สำหรับไวกูณฐ์กลับสนุกที่ได้ฟังเรื่องที่ปู่ไม้สนเล่า หารู้ไม่ว่าเรื่องจระเข้กับเงือกที่ได้ฟังนั้นมันมีอยู่จริงใกล้ ๆ ตัวเขานั่นเอง สุดท้ายความพยายามตั้งใจเรียนก็ส่งผลให้ผลการเรียนของไวกูณฐ์ดีขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้ดีระดับท๊อปแต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของนักเรียนโดยทั่วไป ทำให้ยศสินีต้องยอมปล่อยตัวนาวิกให้กับชมรมกีฬา แต่ยศสินีก็ไม่มีทางวางมือ เพราะเธอรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของมกรดี และเธอจะไม่มีวันให้ชาละวันถือกำเนิดอีกแน่ ยศสินีจึงคอยจับผิดการซ้อมของชมรมกีฬาทุกฝีก้าว มกรรู้ดีว่าถูกจับตาจึงใช้จระเข้แปลงศิษย์รักอย่าง วิมล (แพร-แพรอิศรา) กับนันทา (เกรซ-กรกนกภรณ์) คอยขัดขวางยศสินีและคอยช่วยเหลือให้นาวิกได้ความสามารถพิเศษของชาละวันกลับคืน มกรได้ใช้กีฬาต่าง ๆ เป็นเรื่องกระตุ้นสัญชาติญาณของนาวิกให้ตื่นขึ้น ทำให้นาวิกว่ายน้ำได้เร็วและมีพลังเหนือกว่าคนปกติ แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ปานอักขระในร่างของนาวิกก็ค่อย ๆ หายไปจนนาวิกล้มป่วย ร่างกายของนาวิกเริ่มคล้ายกับจระเข้ ไกรสิทธิ์รู้เรื่องจึงต้องสะกดอักขระไว้ แล้วตัดสินใจบอกความจริงเรื่องชาติกำเนิดของนาวิกให้ไวกูณฐ์รู้ พร้อมกับฝึกเข้มถ่ายทอดวิชาหมอจระเข้เพื่อให้ไวกูณฐ์ได้เป็นไกรทองอย่างเต็มตัว หากเกิดเหตุร้ายไวกูณฐ์จะได้ใช้พลังความสามารถหยุดนาวิกลงได้ การฝึกเข้มของไวกูณฐ์เป็นการฝึกฝนทั้งทางร่างกายและใจ โดยมีบททดสอบอันหนักถ่วงทั้งจากไกรสิทธิ์และยศสินี เพื่อให้ก้าวพ้นขีดจำกัดของมนุษย์ให้ได้ แต่ความเหนื่อยครั้งนี้เขาก็มีกำลังใจอย่างหม่อนไหมอยู่ข้าง ๆ เพื่อให้นาวิกเป็นชาละวันโดยสมบูรณ์มกรจึงใช้วิธีสะกดจิตดึงจิตใต้สำนึกที่ถูกกักขังไว้ในตัวนาวิกออกมา เป็นผลให้นาวิกเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากผู้ชายที่แสนดีกลายเป็นคนที่แข็งกร้าว อารมณ์ร้อน ชอบใช้กำลัง ใช้ความรุนแรงกับกีฬา จนผู้เข้าแข่งขันบาดเจ็บตาม ๆ กัน แม้ว่านาวิกจะเปลี่ยนไปขนาดไหนรุ้งแก้วก็ไม่เคยห่างนาวิก เธอใช้จิตใจดีในการเตือนสตินาวิก แต่นาวิกก็กลับคลุ้งคลั่งถึงจับตัวหม่อนไหมไว้ พร้อมกับท้าไวกูณฐ์ให้มาแข่งว่ายน้ำกับเขา แต่ไวกูณฐ์ยังไม่พร้อม ซ้ำยังตัดความผูกพันที่โตมาด้วยกันกับนาวิกไม่ได้ มุกดาจึงอาสาลงแข่งแทน นาวิกไม่แข่งกับผู้หญิงส่งให้วิมลกับนันทาแข่งแทน สุดท้ายมุกดาก็ชนะ เธอบอกให้นาวิกปล่อยตัวหม่อนไหมแต่นาวิกปฏิเสธ มุกดาต่อว่าที่นาวิกตระบัดสัตย์ นาวิกโกรธยอมลงแข่งกับมุกดา ศึกความเร็วกลางสายน้ำระหว่างเงือกสาวและจระเข้หนุ่มจึงเริ่มขึ้น แม้มุกดาจะเป็นเงือกแต่เรื่องการว่ายน้ำและการไล่ล่าของเจ้าจระเข้อย่างชาละวันไม่เป็นสองรองใคร จึงทำให้นาวิกชนะมุกดาไปอย่างขาดลอย มุกดาถูกทำร้ายบาดเจ็บ ตราบใดที่ไวกูณฐ์ไม่ลงแข่ง นาวิกก็จะทำร้ายคนขึ้นมากเรื่อย ๆ จนมกรเองก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่ทำให้สัญชาติญาณของจระเข้ในนาวิกกลับคืน ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปกว่านี้ยศสินีจึงหาทางเจรจากับมกรเพื่อที่จะยุติปัญหา จัดให้ไวกูณฐ์ขึ้นสังเวียนแข่งกีฬากับนาวิก โดยแข่งกัน 2 ใน 3 ของกีฬา (มวย/บาสและว่ายน้ำ) ที่เป็นเครื่องทดสอบทักษะต่าง ๆ ของร่างกายว่าระหว่างทายาทชาละวันอย่างนาวิกกับทายาทไกรทอง 2013 อย่างไวกูณฐ์ ใครกันแน่ที่จะเป็นที่หนึ่ง ศึกการแข่งขันกีฬาระหว่างมนุษย์และจระเข้อสูรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กำลังจะบังเกิดขึ้น ไวกูณฐ์จะโค่นนาวิกได้หรือไม่ นาวิกจะกลายเป็นชาละวันผู้โหดร้ายต่อไปจริงหรือ ติดตามชมความเข้มข้นของ ละครวัยมันพันธุ์อสูร ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 น ทางช่อง 7สี ละครวัยมันพันธุ์อสูร เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 9 กันยายน 2557

เล่ห์นางฟ้า (2557/2014) ลัลน์ลลิต หรือ บิวตี้ (วิว-วรรณรท สนธิไชย) สาวไฮโซทายาทของ บริษัท ธนบวร จำกัด ผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปรายใหญ่ระดับนานาชาติ บิวตี้ถูก บวร (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) พ่อของเธอตามใจด้วยเงินทองเพื่อทดแทนที่เธอขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เธอจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ขี้วีน เริ่ดเชิดหยิ่ง และที่สำคัญรักสวยรักงามเป็นที่สุด หลังพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต บิวตี้ก็มี กรเทพ (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) อาแท้ๆ คอยดูแลมาตลอด นับวันนิสัยแย่ๆ ของบิวตี้ก็ยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนล่วงรู้ไปถึง นางฟ้าลลิตา (นิโคล เทริโอ) มารดาผู้ล่วงลับที่อยู่ในภพภูมินางฟ้า นางฟ้าลลิตากลัวลูกสาวจะต้องมีชีวิตที่ตกต่ำในอนาคต จึงคิดฝืนกฎสวรรค์ใช้อำนาจช่วยลูก แต่ ปรมะเทวี (นุสบา ปุณณกันต์) หัวหน้านางฟ้ากลับเข้ามาขัดขวาง และเสนอจะให้บทเรียนกับบิวตี้เพื่อให้เธอสำนึก ด้วยการสาปให้บิวตี้เป็นนกหงส์หยกหลังพระอาทิตย์ตกดิน โดยมีเงื่อนไข 3 ข้อคือ 1.ต้องทำความดีให้มากกว่าความชั่ว 2.ต้องนึกถึงผู้อื่นมากกว่าตนเอง และ 3.ต้องรักชายคนหนึ่งยิ่งกว่ารักตัวเอง หากทำสามข้อนี้ไม่สำเร็จภายในสามเดือนร่างของบิวตี้จะกลายเป็นนกหงส์หยกตลอดไป หลังถูกสาปบิวตี้ก็ร้อนใจบินไปขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง แต่เธอกลับได้รู้ว่าไม่มีใครจริงใจกับเธอสักคน แถมเธอยังได้ล่วงรู้ว่ามีคนคิดทรยศบริษัท บิวตี้ทั้งช็อคทั้งเสียใจจึงบินโซซัดโซเซไปถึงบ้านของ ธีภพ (พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน) ลูกชายของ ธนา (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) หุ้นส่วนบริษัทและเพื่อนของพ่อเธอ ธีภพกับบิวตี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อนกหงส์หยกบิวตี้ได้รับการดูแลอย่างอ่อนโยนจากธีภพ เธอจึงเริ่มรู้สึกดีกับเขา แม้ในใจจะยังระแวงว่าธีภพอาจจะเป็นคนที่คิดทรยศบริษัท บิวตี้ฮึดสู้เพื่อรักษาบริษัทของพ่อโดยขอให้ธีภพช่วยสอนงาน ธีภพจึงวางเงื่อนไขว่าบิวตี้ต้องฝึกงานทุกแผนกโดยไม่แสดงตัวว่าเป็นใคร บิวตี้ก็ยอมทำตามแม้จะสร้างเรื่องป่วนไม่เว้นแต่ละวันไหนจะต้องปิดบังเรื่องกลายร่างเป็นนกหงส์หยกอีก แต่บิวตี้ก็ฝึกงานสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับของทุกคน ยกเว้น พักตร์พิมล หรือ แพ็ต (เอ้ก-บุษกร ตันติภนา) ลูกสาวของกรเทพ แพ็ตริษยาบิวตี้เพราะคิดว่าบิวตี้แย่งทุกอย่างไปจากตน บิวตี้เริ่มปรับปรุงตัวไปในทางที่ดี ทำให้ธีภพเริ่มรู้สึกดีกับบิวตี้มากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างนั้นบิวตี้ก็ใช้ร่างนกหงส์หยกคอยสืบหาหลักฐานว่าใครที่เป็นคนทรยศ เมื่อบิวตี้ก้าวเข้ามาเป็นประธานบริษัทร่วมกับธีภพ เธอจึงได้รับเชิญไปร่วมงานที่ห้างสรรพสินค้าของครอบครัว อรวิภา (ซี-หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช) ว่าที่คู่หมั้นของธีภพ พอบิวตี้เห็นธีภพให้ความสนใจ อรวิภามากกว่าตน บิวตี้จึงประชดด้วยการหันไปสนิทสนมกับ เจตน์ชาญ(ดิว-ภัทรพล กันตพจน์) เจ้าของบริษัทคู่แข่งของธนบวร นอกจากจะประชดธีภพแล้วบิวตี้ยังหวังจะสืบว่าเจตน์ชาญมีส่วนเกี่ยวข้องในการฮุบบริษัทของเธอหรือไม่ ธีภพหงุดหงิดใจที่บิวตี้ไปสนิทกับเจตน์ชาญแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เจตน์ชาญพาบิวตี้ชมโรงงานยกเว้นห้องลับในแผนกดีไซน์ บิวตี้เชื่อว่าในห้องนั้นต้องมีหลักฐานซ่อนไว้ พอตกกลางคืนนกหงส์หยกบิวตี้จึงแฝงตัวเข้าไป ทำให้เธอเจอหลักฐานแบบเสื้อที่ลอกมาจากบริษัทของเธอ และยังได้พบว่ากรเทพนัดพบกับเจตน์ชาญอย่างลับๆ บิวตี้จึงมั่นใจว่ากรเทพเป็นคนที่ทรยศบริษัท แต่เรื่องราวร้ายๆ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่พ่อของบิวตี้และบิวตี้เคยทำไว้กับผู้อื่นในอดีตกำลังย้อนกลับมาทวงคืนถึงขั้นเอาชีวิต แถมเวลาแก้คำสาปของบิวตี้ก็น้อยลงทุกที งานนี้บิวตี้จะรักษาบริษัทไว้ได้หรือไม่? แล้วเธอจะหาทางแก้คำสาปได้อย่างไร? ความรักระหว่างบิวตี้กับธีภพจะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมและร่วมลุ้นได้ในละคร “เล่ห์นางฟ้า” 20.25น. ทางช่อง 5