ครีบนี้หัวใจมีเธอ 2557

ครีบนี้หัวใจมีเธอ (2557/2014) ความเดิมที่แล้ว มีนานุช (ลักษณ์นารา เปี้ยทา) และมัสยา (วิชุดา พินดั้ม) ตัดสินใจกลับบ้าน เพราะรู้ว่ามนุษย์และนางเงือกไม่มีทางรักกันได้ ทำให้ชลนที (ฐากูร การทิพย์) ต้องตัดใจให้คนรักจากไป และเลือกที่จะสานต่ออุดมการณ์อุทิศตนเพื่อดูแลท้องทะเลไทยต่อไป แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเปลือกโลกใต้มหาสมุทรเคลื่อนตัวอีกครั้ง ทำให้ มัจฉาฉาน (พัทธนันท์ ธัญมาตรกิจ) เงือกน้อยแสนซนหนีมายังชายทะเลไทยด้วยความอยากรู้ว่า โลกมนุษย์นั้นเป็นอย่างไร? มัจฉาฉานแอบขึ้นฝั่งไปเจอกับนีโม่ (วาศิตา แฮเมเนา) ลูกสาวของเจ๊กั้ง (ราตรี วิทวัส) เจ้าของร้านอาหารตามสั่งนีโม่และเพื่อน ๆ ปลาดาว, แพลงตอน, ม้าน้ำ มาทัศนศึกษา ก็พามัจฉาฉานกลับไปด้วยเพราะคิดว่าเป็นเพื่อนในโรงเรียน แต่พอรู้ว่าไม่ใช่ นีโม่ก็พากลับบ้าน จนรู้ว่ามัจฉาฉานเป็นนางเงือก แต่ก็ช่วยปิดเป็นความลับและยังช่วยดูแลอย่างดี ณ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล ชลนทีทำงานตามอุดมการณ์เขาพบกับเพื่อนร่วมงานใหม่ อย่าง วารินทร์ (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) สาวที่มีอุดมการณ์รักษ์ท้องทะเลเช่นเดียวกันเธอแอบชอบชลนที และยังมี ริวกิว (ศุภชัย สุวรรณอ่อน) เพื่อนคู่หูของชลนที หนุ่มจอมกวนที่หายใจเข้า ออกเป็นทะเล, ปูนิ่ม (ภัณฑิลา ฟูกลิ่น) สาวห้าวประจำศูนย์วิจัย ลุยไหนลุยนั่น สู้ไม่ถอย นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าอย่าง มหาสมุทร หรือ พี่หมุด (วิชัย จงประสิทธิ์พร) ที่น้อง ๆ รักแต่ไม่ค่อยจะเคารพเท่าไหร่อยู่อีกคนมีนานุชรู้ว่ามัจฉาฉานหายไปมาตามหาที่โลกมนุษย์ แต่ก็คลาดกันเพราะนีโม่คอยช่วยเหลือทั้งยังมีปลาดาว ที่รู้เรื่องและรับปากว่าจะช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับนีโม่และปลาดาวไม่อยากให้มัจฉาฉานกลับบ้านใต้ทะเล พยายามสอนให้มัจฉาฉานได้เรียนรู้โลกมนุษย์ พาไปโรงเรียนด้วย เงือกน้อยเรียนรู้การเป็นมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วและมีความสุขกับเพื่อนมนุษย์ที่บ้านพักเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัย มีนานุชมาพักอยู่กับชลนที เขาอดที่จะแสดงออกไม่ได้ว่ายังรักมีนานุชสุดหัวใจ ทำให้วารินทร์น้อยใจที่มีนานุช แฟนเก่าของชลนทีกลับมาหา เลอลักษณ์ (รุจิรา ช่วยเกื้อ) เศรษฐีนี เจ้าของบริษัทผลิตเครื่องสำอาง คิดค้นเซรั่มบำรุงผิวสูตรพิเศษที่สกัดจากปะการังที่ยังมีชีวิตเธอให้ทีมงานคอยลักลอบระเบิดใต้ทะเลเพื่อเอาปะการังมาใช้ผลิตสินค้า เลอลักษณ์พยายามคิดค้นสูตรเครื่องสำอางที่จะทำให้เธอดูเป็นสาวตลอดกาล และพบตำนานลับที่ว่า "นางเงือกทำให้เป็นสาวตลอดกาล" เลอลักษณ์ สั่งให้ คอลลี่ (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) เลขาฯ คู่ใจตามหาคนที่จับนางเงือกได้ ซึ่งก็คือ อุทก (สุรินทร คารวุฒม์) ที่กำลังจะพ้นโทษออกมาพอดี เขารับงานตามหานางเงือกโดยไม่ลังเล เพราะต้องการจะแก้แค้นสองนางเงือกมีนานุชและมัสยาที่ทำให้เขาติดคุก การตามล่านางเงือกจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเริ่มต้นทีที่เขาคุ้นเคยจนมาเจอกับมัจฉาฉาน และได้บังเอิญช่วยมัจฉาฉานไว้ เขากลายเป็นฮีโร่ของมัจฉาฉาน อุทกที่ทั้งชีวิตไม่เคยมีใครมองว่าเป็นฮีโร่ ก็รู้สึกผูกพันกับมัจฉาฉาน และเรียกเธอว่า ยัยตัวเล็ก ส่วนเขาก็เป็น น้ำใจดี ด้านชลนทีและมีนานุชออกตามหามัจฉาฉานจนไปเจอกับพวกลอบระเบิดปะการังและโดนทำร้ายจนเกือบตาย โชคดีที่กุ้งเผา (จักรพันธ์ จันโอ) มาช่วยไว้ได้ทันการโดนทำร้ายครั้งนี้ทำให้ มีนานุชโดนพิษไซน์ยาไนต์ มัสยาที่ตามน้องขึ้นมาก็ได้พบมีนานุชชลนทีคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี เพราะทุกคนรู้ว่ามัจฉาฉานอยู่ใต้จมูกพวกเขามาตลอด ชลนทีพามีนานุชที่อาการดีขึ้นแล้วไปรับมัจฉาฉานที่บ้านเจ้กั๊ง แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่ออุทกดันรู้ว่ามัจฉาฉานเป็นนางเงือก อุทกจึงรีบนำตัวมัจฉาฉานไปให้เลอลักษณ์ ที่เมื่อเห็นว่ามัจฉาฉานเป็นนางเงือกจริง ๆ ก็ดีใจ ดร.กรกฎ ถูกเรียกตัวมาทำการสลัดสารจากนางเงือกทันที อุทกเปลี่ยนใจมาช่วยมัจฉาฉานหนีออกมา สามนางเงือกได้กลับมาเจอกัน หากแต่ทั้งหมดก็ได้รู้เรื่องราวว่าตอนนี้ท้องทะเลถูกทำร้ายจนสัตว์น้ำต้องล้มตายจำนวนมาก มีนานุชและมัสยาจึงตัดสินใจจะอยู่ช่วยชลนที คอลลี่ที่อยู่ข้างเลอลักษณ์มาตลอดก็เปลี่ยนใจมาอยู่ฝ่ายแก๊งศูนย์วิจัยฯ นักอนุรักษ์ ไข่มุก (อัยรินทร์ กองคำ) ที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกลุ่มชลนที พอเข้าทำงานเป็นนักข่าวที่สำนักพิมพ์โอเชี่ยนนิวส์ก็มีอุดมการณ์ที่จะช่วยท้องทะเลเหมือนกันจึงร่วมมือกับชลนทีช่วยกันเอาผิดเลอลักษณ์ให้ได้ ฝ่ายเลอลักษณ์เมื่อไม่ได้ตัวมัจฉาฉานก็ตามราวีมีนานุชและมัสยาไม่เลิก เลอลักษณ์ส่งลูกน้องมาจับตัวมัสยา ในขณะที่มัสยากำลังจะถูกสกัดเป็นเครื่องสำอาง ชลนทีก็นำทีมทุกคนมาช่วยมัสยาจนรอดไปได้ แต่เลอลักษณ์จะไม่ยอมจบง่าย ๆ ชลนทีจึงตัดสินใจพามีนานุชและมัสยาไปหลบซ่อนที่บ้านในกรุงเทพฯ ของเขา โดยมีกุ้งเผาและคอลลี่ติดตามไปด้วย และที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือจากน้าหมึก รปภ.ใจดี จากเหตุการณ์ชุลมุนนี้น้าหมึกโดนไล่ออก ชลนทีตัดสินใจให้น้าหมึกร่วมก๊วนไปกับพวกเขาด้วย ทั้งหมดมาพักที่บ้านริมคลองของชลนที แต่ก็ยังไม่วายโดนคนร้ายตามมาเจอจนการหนีเริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อ คอลลี่เสนอว่าให้หนีไปพักบ้านญาติเธอที่จังหวัดทางภาคเหนือ แต่ระหว่างทาง ทั้งหมดถูกทำร้ายจนต้องแยกจากกัน มีนานุชและมัสยาหนีเข้าป่าและลงน้ำไป ส่วนชลนที กุ้งเผา คอลลี่และน้าหมึกก็เข้าป่าไปอีกทาง สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็มาเจอกันและได้พบกับพรานสิงห์คำ ที่เอ่ยปากชวนพวกเขาไปพักในหมู่บ้านชาวดอย มีนานุชและมัสยาพอเห็นน้ำใสสะอาดก็อดไม่ได้ที่จะลงไปเล่น ขณะที่ทั้งคู่กำลังว่ายน้ำ แมะ ภรรยาของพรานสิงห์คำก็มาเห็น ทำให้ทั้งหมดถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านด้วยความกลัวว่ามีนานุชและมัสยาจะเป็นปีศาจร้าย ขณะเดียวกัน วารินทร์ ไข่มุก และบก. ก็ตามมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทั้งหมดกลับคืนสู่ศูนย์วิจัยด้วยความปลอดภัย แต่เรื่องก็ยังไม่จบแค่นั้น เพราะมัจฉาฉานและเพื่อน ๆ ถูกดร.กรกฎ (สมชาย ศักดิกุล) จับตัวไปอีกครั้ง อุทกตัดสินใจแน่วแน่เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมาระหว่างเขากับยัยตัวเล็ก จึงกลับไปช่วยเด็ก ๆออกมา แต่เขากลับไม่พบมัจฉาฉาน ดร.กรกฎคิดทรยศเลอลักษณ์ จับตัวมัจฉาฉานไปไว้ที่บ้าน แต่มัจฉาฉานหนีออกมาได้และมาพบอุทกในที่สุด เหตุการณ์กำลังจะคลี่คลาย แต่มีนานุชกลับถูกเลอลักษณ์จับตัวไปขณะที่เข้าไปช่วยมัจฉาฉานโดยความช่วยเหลือของสายชล ที่แปรพรรคเป็นพวกเลอลักษณ์เพราะต้องการเลือดของนางเงือกไปช่วยกัลปังหา แฟนสาวของตนที่เป็นนางเงือกเช่นกัน มัสยาตัดสินใจให้อุทกไปส่งมัจฉาฉานกลับบ้านที่ท้องทะเล และแก๊งศูนย์วิจัยทั้งหมดก็รวมตัวกันไปช่วยมีนานุช จนถูกเลอลักษณ์จับได้ ขณะที่ทุกคนกำลังจะถูกฆ่า มัจฉาฉานและอุทกก็กับมาพร้อมกับนกหวีดประจำตัวมัจฉาฉาน ที่เมื่อเป่าแล้วจะทำให้ปวดแก้วหูจนทนไม่ไหว ทั้งหมดรอดตาย อุทกที่กลับตัวเป็นคนดีมอบเงินที่เขาได้จากเลอลักษณ์ให้ศูนย์วิจัยเพื่อเป็นทุนสนับสนุนแต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่ออุทกโดนลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ดร.กรกฎและสายชล (วีระชัย หัตถโกวิทย์) ช่วยกันสกัดเลือดของมัจฉาฉานมารักษาอุทก จนทำให้รู้ว่าเลือดของมัจฉาฉานเงือกน้อยเท่านั้นที่จะชุบชีวิตคนขึ้นมาได้ เลอลักษณ์คับแค้นใจที่กำจัดพวกศูนย์วิจัยฯ ไม่ได้ แต่เธอก็แอบกระหยิ่มใจเมื่อได้เซรั่มสูตรเด็ดมาจากคอลลี่ โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคือพิษจากปลาทะเลน้ำลึก ที่จะทำให้หน้าเสียโฉม แก๊งค์ศูนย์วิจัยขอเป็นฝ่ายรุก โดยเริ่มเปิดโปงความชั่วของเลอลักษณ์ในเรื่องการระเบิดปะการังเพื่อนำมาสกัดเป็นเครื่องสำอาง เมื่อหลักฐานแน่นหนา เลอลักษณ์จึงสั่งให้คนวางระเบิดท้องทะเลหลายจุดเพื่อล้างแค้นทุกคน มีนานุชและมัสยาตัดสินใจลงไปกู้ระเบิด ชลนทีรีบตามไปช่วยแก๊งศูนย์วิจัยก็ไปจัดการกับเลอลักษณ์และลูกน้องที่ท่าเรือ แต่ก็มีระเบิดที่ทำให้มัสยาได้รับบาดเจ็บสาหัส มีนานุชรีบนำมัสยามาส่งที่ฝั่ง ดร.กรกฎและสายชลช่วยกันสกัดเลือดของมัจฉาฉานมารักษามัสยาจนหายดีในพริบตา จากนั้นเงือกทั้งสามก็ต้องลาไปอย่างจริงจัง มีนานุชพูดให้ชลนทีเปิดใจยอมรับวารินทร์และรักเธอให้มาก ๆ ส่วนเธอจะไม่มีวันลืมเขา ความรักของนางเงือกกับมนุษย์ก็ปิดฉากลงพร้อมกับเกลียวคลื่นที่กลืนตัวเธอลงใต้ท้องทะเล แต่ความรักของนักอนุรักษ์กับท้องทะเลไทยยังคงซัดซาดต่อไปอย่างไม่มีวันหมดสิ้น ติดตามชม ละครครีบนี้หัวใจมีเธอ

ลูกผู้ชายพันธุ์ดี 2559

เรื่องย่อ : ลูกผู้ชายพันธุ์ดี (2557/2014) ณ บริเวณไร่อ้อยจังหวัดภาคกลางแห่งหนึ่ง ลูกผู้ชายพันธุ์ดี ฮีโร่สายฟ้า กำลังยืนอยู่บนยอด เขาซึ่งสามารถเห็นหมู่บ้านพันธุ์ดี ด้วยสายตามุ่งมั่นที่จะประคับประคองหมู่บ้านของเขาให้รอดพ้นจากภยันตรายใด ๆ และจิตสำนึกแข็งกล้าที่บอกกับตนเองว่า "ความชั่วร้ายที่ดำมืดย่อมไม่มีทางพบแสงสว่างแห่งความดี จงฟังคำที่ข้าบัญญัติไว้ เพราะข้าคือ ลูกผู้ชายพันธุ์ดี" ไท ตัดสินใจออกจากการเป็นนายตำรวจดาวรุ่งอนาคตไกล เพราะ เทิด อดีตนายตำรวจตงฉิน ของหมู่บ้าน พ่อของไทเสียชีวิตกะทันหัน จากการถูกลอบวางยาพิษและการโดนไล่ล่าจนรถตกเขา หลังจากไปร่วมงานศพแม่ของ ณดา พยาบาลสาวสวยประจำหมู่บ้าน แต่ด้วยความแข็งแกร่งทำให้เทิดยังไม่เสียชีวิต เทิดถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลโดยเร่งด่วน และเป็นจังหวะเดียวกับที่ ไทไปทันพบพ่อของเขาก่อนถึงวาระสุดท้าย เทิดได้ส่งตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ไท ก่อนที่จะมีมือปืน ลึกลับยิงเขาจนล้มลงและยิงซ้ำที่พ่อของเขา ไทรอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลวงพ่อทองสุก เจ้าอาวาสแห่งวัดประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นผู้มอบตะกรุดศักดิ์สิทธิ์นี้แก่เทิดมาเยี่ยมไท ท่านรู้แล้วว่าตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ที่ทำมาจากฝาบาตรเส้นนี้ตามหาเจ้าของเจอแล้ว ไทเองก็รับรู้ถึงพลังมหาศาลที่เพิ่มขึ้นเมื่อสวมตะกรุดเส้นนี้ ในระหว่างที่รอฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีอยู่นั้น ไทเริ่มสืบหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเขา ไทคิดว่าคนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือ อบต.ฉลอง ผู้ทรงอิทธิพลในหมู่บ้าน ที่มักจะมีเรื่องทะเลาะกับเทิด พ่อของเขาเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่เทิดจะเสียชีวิตนั้นได้มีปากเสียงอย่างหนักในเรื่องการทุจริตการเลือกตั้งอบต. การลอบสืบหาฆาตกรในครั้งนี้ค่อนข้างเสี่ยงต่อครอบครัวและคนรอบข้าง ไทจึงปฏิบัติการอย่างเงียบ ๆ ในนามของ "ลูกผู้ชายพันธุ์ดี" ระหว่างที่เขากำลังสืบหาฆาตกรอยู่นั้น สิ่งที่เขาประสบก็คือภัยร้ายรูปแบบต่าง ๆ ที่เข้ามาคุกคามหมู่บ้านพันธุ์ดี ภารกิจของลูกผู้ชายพันธุ์ดีจึงไม่ใช่ภารกิจส่วนตัวอีกต่อไป หากแต่เป็นภารกิจเพื่อส่วนรวม เพื่อหมู่บ้านพันธุ์ดีของทุกคน ไทมีน้องชายอีกคนหนึ่งชื่อ แท้ ลูกชายคนเล็กแห่งไร่พงษ์พิทักษ์ หนุ่มเลือดร้อนรักความยุติธรรมและการต่อสู้แบบลูกผู้ชาย ทั้งสองเป็นเจ้าของไร่หนุ่มสุดเท่ ไทมีพาหนะคู่ใจคือรถบิ๊กฟุต ในขณะที่แท้ขี่รถเอทีวี คอยขับขี่ไปตามเส้นทางต่าง ๆ ภายในไร่และหมู่บ้าน เพื่อสอดส่องดูแลความปลอดภัยของหมู่บ้านพันธุ์ดี แต่ด้วยภารกิจลับของไท และทัศนคติที่แตกต่างกันได้ก่อเป็นกำแพงบาง ๆ ระหว่างพี่น้องทั้งสองขึ้น ด้วยความหล่อ เท่ สุขุม ของไท ทำให้สาว ๆ ในหมู่บ้านต่างหลงใหลในเสน่ห์ของเขา ไม่ว่าเป็น ลิลลี่ ลูกสาวคนเดียวของเถ้าแก่ฮง พิณ ลูกสาวของลุงจัน หัวหน้าคนงานไร่พงษ์พิทักษ์ แต่คนที่กุมหัวใจของไทไว้ได้ก็คือ ณดา พยาบาลสาวสวยประจำสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ผู้หนีความช้ำรักจากกรุงเทพฯ และทำเรื่องขอย้ายกลับมาอยู่กับครูประทีป พ่อของเธอ การที่ไทแสดงตัวว่าสนใจในตัวณดา สร้างความไม่พอใจแก่ครูประทีป พ่อของณดามาก เพราะไม่อยากให้ ณดาไปยุ่งเกี่ยวกับวงการนักเลง เพราะแม่ของณดาก็เสียชีวิตเนื่องจากโดนลูกหลงจากการต่อสู้ของแก๊งนักเลงเขาจึงสนับสนุนให้ณดาคบกับหมอปูน หมอหนุ่มประจำสาธารสุขประจำหมู่บ้านแทน ภัยคุกคามค่อย ๆ ทยอยกันเข้ามาในหมู่บ้านพันธุ์ดีเป็นระยะ ๆ เช่น ขบวนการลักลอบขนงาช้างเถื่อน ขบวนการค้าอาวุธผิดกฎหมาย แก๊งค้ายาเสพติด แก๊งลักเด็ก ขบวนการค้ามนุษย์ แก๊งขโมย วัตถุโบราณ ฯลฯ หลายครั้งที่สถานการณ์บีบบังคับให้ไทต้องออกมาต่อสู้ในนามลูกผู้ชายพันธุ์ดี เพราะด้วยอำนาจของตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเขาสวมชุดลูกผู้ชายพันธุ์ดีแล้วจะทำให้เขามีพละกำลังมากกว่าคนปกติหลายเท่าและยิงฟันไม่เข้าอีกด้วย การปฏิบัติภารกิจทั้งในบทบาทของไท เจ้าของไร่พงษ์พิทักษ์และลูกผู้ชายพันธุ์ดี ฮีโร่แห่ง หมู่บ้านพันธุ์ดีทำให้ไทเริ่มใช้ชีวิตยากขึ้น เขาเริ่มมีปากเสียงกับ แท้ และ ณดา ที่ชื่นชมลูกผู้ชายพันธุ์ดี และรู้สึกว่าไทเป็นคนดีที่ขี้ขลาดเกินไป แท้และณดาจึงแสดงตัวว่าเป็นพวกของลูกผู้ชายพันธุ์ดีอย่างออกหน้าออกตา ทั้งคู่ออกไปช่วยสืบเรื่องร้าย ๆ ที่จะเข้ามาในหมู่บ้านพันธุ์ดี ยิ่งแท้ และณดาพยายามลุกขึ้นมาปกป้องชาวบ้านก็ยิ่งก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมามากมาย เพราะเขาไปขัดขวางอิทธิพลของอบต.ฉลอง และฉลาม ลูกชาย อบต.ฉลอง หลายครั้งที่ฉลามซึ่งเป็นนักสู้ยอดฝีมือที่ฉลองส่งตัวไปฝึกฝนการต่อสู้จากต่างประเทศ และ สะท้าน ลูกสมุนมือขวาของอบต.ฉลอง เกือบจะลงมือขั้นเด็ดขาดกับแท้และณดา แต่ไทในนาม ลูกผู้ชายพันธุ์ดีก็เข้ามาขัดขวางได้ทุกครั้ง ยิ่งภารกิจของลูกผู้ชายพันธุ์ดีสำเร็จไปเท่าไหร่ ก็เท่ากับการเข้าไปขัดผลประโยชน์ของอบต.ฉลองและพวก ที่ใช้เถ้าแก่ฮงเป็นเครื่องมือมากขึ้น ทำให้ อบต.ฉลอง ต้องหาทางกำจัดลูกผู้ชายพันธุ์ดีออกไปจากหมู่บ้านให้ได้ เพราะหากมันยังอยู่ แผนการยึดหมู่บ้านพันธุ์ดีให้อยู่ในกำมือของเขาก็จะพังพินาศ และที่สำคัญ ท่านศักดา นายใหญ่จากกรุงเทพฯ ก็จะตัดท่อน้ำเลี้ยงแก่เขาด้วย อุปสรรคของลูกผู้ชายพันธุ์ดีมีทั้งจากฝั่ง อบต.ฉลอง และกลุ่มข้าราชการตงฉินที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติการเหนือกฎหมายของลูกผู้ชายพันธุ์ดีด้วย โดยมีแกนนำคนสำคัญคือ สารวัตรสุชาติ หมอปูน และครูประทีป ท่ามกลางความวุ่นวาย ในที่สุดแท้และณดาก็รู้ความจริงว่าไทคือ ลูกผู้ชายพันธุ์ดี ทำให้ทั้ง สองมีทัศนคติที่ดีกับไทอีกครั้ง ไทขอให้ทั้งสองปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ในตอนนั้นเองที่ไทกับณดาได้ตกลงเป็นคู่รักกัน แต่ดูเหมือนครูประทีปจะเร่งให้เกิดการแต่งงานระหว่างณดากับหมอปูนให้เร็วยิ่งขึ้น วันหนึ่งลิลลี่มาขอร้องให้แท้เป็นพ่อสื่อให้ตนกับไท แต่แท้ปฏิเสธเพราะรู้ดีว่าไทกับณดารักกัน แต่ถึงอย่างนั้นลิลลี่ก็ยังตามตื้อให้แท้ให้ช่วย แท้จึงพูดไปส่ง ๆ เมื่อแท้เห็นลิลลี่เสียใจเพราะเชื่อคำพูดของตน แท้ก็เริ่มเห็นว่าลิลลี่เป็นเพื่อนสนิทมากยิ่งขึ้น และกลายเป็นความผูกพันในที่สุด เถ้าแก่ฮงเริ่มกลัวว่าภัยจะใกล้เข้ามาถึงตัวจึงตัดสินใจขอเลิกเกี่ยวข้องกับ อบต.ฉลอง ทำให้ อบต.ฉลองโกรธมาก และขู่ว่าหากเถ้าแก่ฮงถอนตัวตอนนี้ กิจการและครอบครัวของเถ้าแก่ฮง จะต้องได้รับความเดือนร้อนแน่นอน ลิลลี่ลูกสาวของเถ้าแก่ฮง แอบฟังการทะเลาะกันของพ่อ และอบต.ฉลาม จึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับแท้ว่าจะหาทางช่วยพ่อได้อย่าไรบ้าง แท้บอกว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่ค่อย ๆ คิดแก้ปัญหา ท่านศักดาโทรมาต่อว่า อบต.ฉลองอย่างรุนแรงที่ไม่สามารถกำจัดลูกผู้ชายพันธุ์ดีได้เสียที เขาบอกว่าเขาจะส่งมือดีลงไปปราบเอง โดยขอให้อบต.ฉลองและพวกจัดฉากล่อให้ลูกผู้ชายพันธุ์ดีออกมาให้ได้ นักสู้ยอดฝีมือของท่านศักดาก็คือ มาริสา นางงามที่ทำทีมาเข้าประกวดงานวัด แต่จริง ๆ เธอมาสืบว่าใครคือลูกผู้ชายพันธุ์ดีกันแน่ ด้วยความสวยเซ็กซี่ของ มาริสา ทำให้แท้เคลิบเคลิ้มจนเผลอบอกความจริงเรื่องลูกผู้ชายพันธุ์ดีแก่มาริสาไป มาริสาจึงขอกำลังจากท่านศักดาจับตัวณดาเป็นตัวประกันมัดกับระเบิดเวลาไว้ ล่อให้ลูกผู้ชายพันธุ์ดีออกมาแสดงตัว จากการต่อสู้ไล่ล่าอย่างสุดมันส์นั้น แม้จะบาดเจ็บสาหัสแต่ในที่สุดลูกผู้ชายพันธุ์ดีก็เป็นฝ่ายชนะ ด้วยความช่วยเหลือของกองกำลังตำรวจ จากสารวัตรสุชาติจนสามารถช่วยชีวิตณดาไว้ได้ สารวัตรสุชาติรู้ความจริงว่าไทคือลูกผู้ชายพันธุ์ดี ไทยินดีมอบตัว แต่สารวัตรทำราวกับไม่เห็นเหตุการณ์นี้แล้ววิทยุสื่อสารไปว่า "ตอนนี้สถานการณ์ควบคุมได้แล้ว เราสามารถชิงตัวประกันออกมาและกู้ระเบิดเวลาได้ คนร้ายเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ส่วนลูกผู้ชายพันธุ์ดีก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นเคย" จากนั้นเขาก็แบกไทขึ้นรถและนำตัวไปรักษาพยาบาลในเซฟเฮ้าส์ของกรมตำรวจต่อไป ในระหว่างการรักษา ไทเพ้อถึงพ่อ แท้ และณดา ตลอดเวลา เขาเฝ้าแต่โทษตัวเองว่าไม่สามารถแก้แค้นแทนพ่อได้ ในความฝันพ่อมาพบเขาราวกับว่าจะมารับเขาไปอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อถึงคำถามที่ว่าไทพร้อมจะละทิ้งคนเหล่านั้นให้ต้องต่อสู้กับชะตากรรมของพวกเขาโดยลำพัง แล้วไปเสพทิพย์วิมานของชีวิตสงบหลังความตายกับพ่อหรือไม่ ไทก็ปฏิเสธและบอกพ่อว่าเขายังอยากใช้ทุกลมหายใจเพื่อพิทักษ์หมู่บ้านของเราไว้...หมู่บ้านพันธุ์ดี สิ้นคำพูดดูเหมือนพ่อจะค่อย ๆ เลือนหายไป แต่ก่อนจากไปไทก็ตะโกนถามพ่อว่า ใครฆ่าพ่อ? ในจังหวะนั้นเองคือจังหวะที่ ไทฟื้นคืนสติหลังจากสลบไปกว่า 4 วัน สารวัตรสุชาตินั่งเฝ้าดูอาการของไท เมื่อไทฟื้นก็ดีใจและเล่าเหตุการณ์หลังจากนั้นให้ฟังว่าอบต.ฉลองถูกจับกุมเพราะลิลลี่มีหลักฐานคลิปวิดีโอการสั่งฆ่า ประกอบกับการรับสารภาพของเถ้าแก่ฮงด้วย แต่ตอนนี้ยังขาดพยานหลักฐานเอาผิดกับท่านศักดา ไทถามหาณดา แท้ และทุกคน สารวัตรบอกว่าณดาและทุกคนปลอดภัยดี สารวัตรยื่นแฟ้มคดีการการตายของเทิดส่งให้ไท แล้วบอกว่าคดีของเทิด ฆาตกรอาจไม่ใช่ อบต.ฉลองอย่างที่ไทคิด ในห้องสอบสวน ไทขอพบกับอบต.ฉลอง อบต.ฉลองไม่กล้าสบตาไท เพราะเขาไม่คิดว่าชาวบ้านแห่งหมู่บ้านพันธุ์ดีจะได้รับบาดเจ็บล้มตายกันมาก ยังไงเขาก็ยังรักหมู่บ้านพันธุ์ดีเช่นกัน แต่เพราะความโลภและความกระหายอำนาจทำให้เขาหลงผิดไป ไทยื่นยาพิษและปลอกกระสุน ที่คนร้ายใช้ลงมือฆ่าเทิดพ่อของเขาตายส่งให้อบต.ฉลอง ไทถามว่าเคยเห็นสิ่งนี้ไหม อบต.ฉลอง รับสารภาพว่าเคยเห็น ตอนนั้นท่านศักดาบังคับให้เขาวางยาเทิด แต่เขาทำไม่ได้ เพราะยังไงเคยเป็นเพื่อนรักกันมาสามคนคือ เทิด ฉลอง และหลวงพ่อทองสุก อบต.ฉลองคิดว่าคนที่ลงมือฆ่าพ่อของไทในวันนั้นก็คือมือปืนของท่านศักดานั่นเอง ไทตัดสินใจที่จะไปแก้แค้นท่านศักดา แต่ อบต.ฉลองห้ามไว้บอกว่าไปก็ตายเปล่า เรามันคนธรรมดา เขามันผู้มีอำนาจ สารวัตรสุชาติเข้ามาขอร้องไทว่าอย่าไป เพราะตอนนี้เรามีพยานสำคัญคืออบต.ฉลองแล้ว ขอให้กฎหมายได้ทำหน้าที่ของกฎหมายเถอะ ไทตัดสินใจวางมือเรื่องนี้ชั่วคราวเพราะเชื่อใจสารวัตร และบอกว่าผมจะเฝ้าดูวันที่กฎหมายศักดิ์สิทธิ์เสียที จากเหตุการณ์ร้าย ๆ ครูประทีปก็ยิ่งเร่งให้ณดาแต่งงานกับหมอปูน แต่หมอปูนก็ไม่เร่งเร้า เพราะอยากแต่งงานกับณดาเมื่อเธอพร้อมที่จะให้โอกาสแก่เขา ณดาบอกหมอปูนว่าเธอรักใครไม่ได้อีกแล้วเพราะเธอมีคนรักแล้ว ระหว่างนั้นรถบิ๊กฟุตก็ขับเข้ามา เป็นไทนั่นเอง ณดาขอบคุณหมอปูนที่รักและหวังดีแก่เธอมาตลอด และหวังว่าเราจะยังเก็บมิตรภาพดี ๆ เช่นนี้ตลอดไป จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปนั่งในรถบิ๊กฟุตกับไท ไทก้มศีรษะให้หมอปูนเล็กน้อย หมอปูนก็พยักหน้าให้แก่ไท จากนั้นทั้งคู่ก็ขับรถออกไป เมื่อถึงทางเชื่อมก็พบกับรถเอทีวีที่แท้ขับมาโดยมีลิลลี่ซ้อนท้ายอยู่ ทั้งสี่คนยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ณ ยอดเขาที่มองลงมาเห็นหมู่บ้านพันธุ์ดีทั้งหมด ชายหนุ่มหญิงสาวทั้งสี่คนต่างมองหน้ากัน และมองตรงไปยังหมู่บ้านพันธุ์ดีด้วยสายตามุ่งมั่น ไทบอกกับตนเองด้วยความภาคภูมิว่า "หนึ่งความชั่วที่ลดลงเท่ากับหนึ่งความดีที่เพิ่มขึ้น ข้าจะขอเป็นศัตรูกับความชั่วตลอดกาล เพราะข้าคือ ลูกผู้ชายพันธุ์ดี" ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครลูกผู้ชายพันธุ์ดี ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี

เงา 2557

เรื่องย่อ : เงา (2557/2014) ท่านชายวสวัต (เคลลี่ ธนะพัฒน์) ยมบาลที่แฝงมาในหมู่มวลมนุษย์ เพื่อลงโทษมนุษย์ที่กระทำกรรมชั่ว ท่านชายจึงเหนื่อยหน่ายและเกรี้ยวกราดกับมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลศตัณหาทำความชั่ว เพราะทำให้ท่านมีภารกิจมากมายที่ไม่เคยหมดสิ้น ขณะเดียวกัน ท่านชายก็เป็นประจักษ์พยานแห่งกรรมดี และทรงมีความสุขทุกครั้งที่ได้พบผู้กระทำความดี เมื่อยามที่ผู้มีบุญถึงเวลาลาจากโลกนี้ ท่านชายจะเสด็จไปประทับยืนที่ปลายเท้า เพื่อคอยรับดวงวิญญาณและส่งสู่สวรรค์ ในอดีตชาตินั้น ท่านชายทรงเป็นมนุษย์ที่กระทำกรรมดี และ กรรมชั่วเท่า ๆ กัน ท่านจึงได้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการเป็นผู้ตัดสินยามดวงวิญญาณลงสู่ขุมนรก แต่ภาระอันหนักอึ้งของท่านชายวัสวัตนั้นดำเนินมาเป็นเวลานับร้อย ๆ ปี แล้วใครเล่าจะมารับหน้าที่นี้ต่อจากท่าน มนุษย์ผู้นั้นย่อมต้องมีกรรมดีและกรรมชั่วเท่า ๆ กัน อิศรา (อ้วน รังสิต) จึงกลายเป็นผู้หนึ่งในสายตายมบาล ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการกระทำและการตัดสินใจของอิศรา ว่าเขาจะสามารถหนีพ้นการล่วงพ้นจาก กิเลศของตนได้หรือไม่ คุณอุ่น (ตุ๊ก เดือนเต็ม) หลังจากที่หลงผิดหนีไปอยู่กินกับ นายยอด พ่อหม้ายลูกติด ชีวิตของเธอก็ตกระกำลำบาก เพราะนายยอดขี้เมา ไม่ทำงานทำการ จนนายยอดเมาตกน้ำตาย คุณอุ่นก็หอบหิ้ว ตาใหญ่ ลูกเลี้ยง บากหน้ามาหาพี่สาวคือ คุณอิ่ม ซึ่งก็ยินดีรับน้องสาวเข้ามาพำนักในบ้านเดียวกับเธอ คุณอิ่มเป็นสาวสวยสุภาพเรียบร้อย แต่งงานกับท่านเจ้าคุณ มีชีวิตที่สุขสบาย จน คุณอุ่น รู้สึกอิจฉา และยอมเป็นอีกเมียหนึ่งของท่านเจ้าคุณ เมื่อคุณอิ่มคลอดบุตรชาย คุณอุ่นก็แอบวางยาพิษพี่สาวจนถึงแก่ชีวิต ก่อนตายคุณอิ่มอโหสิกรรมให้น้องสาวและขอฝากให้คุณอุ่นเลี้ยงดูทารกน้อย ตาเล็ก ด้วย แต่ความชั่วของคุณอุ่นนั้น มิได้เล็ดลอดสายตา นางหยก เมียเล็กของท่านเจ้าคุณไปได้เลย นางหยกจึงเป็นหอกข้างแคร่ที่คุณอุ่นต้องกำจัดไปให้ได้ เมื่อคุณอุ่นได้ขึ้นมาเป็นเมียใหญ่ของบ้านแทนพี่สาว คุณอุ่นจึงจับนางหยกเฆี่ยนและจับถ่วงน้ำตาย ทั้ง ๆ ที่นางหยกกำลังท้องอ่อน ๆ ชีวิตของคุณอุ่น ซึ่งต่อมาได้เป็น คุณหญิงอุ่น ก็ดำเนินต่อมาโดยมิมีผู้ใดล่วงรู้ถึงกรรมชั่วในอดีต เมื่อเวลาผ่านไป คุณหญิงอุ่น สูงวัยขึ้น และเป็นคุณย่าอุ่น ที่กำชะตาชีวิตของหลาน 3 คน คือ อิศรา เจริญขวัญ ชาลินี อิศรา เป็นเพียงลูกของตาใหญ่ลูกเลี้ยงย่าอุ่น อิศราจึงมิใช่หลานในไส้แท้ ๆ ของย่าอุ่น แต่ย่าอุ่นก็รักและเลี้ยงดูอิศรามาแต่เล็กแต่น้อย และ คาดหวังให้อิศราเลี้ยงดูตนในยามแก่เฒ่า ชาลินี (เอมมี่ มรกต) เป็นลูกสาวของ คุณเพ็ญ บุตรสาวคนเดียวของคุณอุ่น กับท่านนายพลบัญชา ผู้ซึ่งมีความเจ้าชู้ไม่หยุดหย่อน สร้างความร้าวฉานภายในครอบครัวเสมอมา เจริญขวัญ (ฐิสา วริฎฐิสา) เป็นลูกสาวคนเดียวของ คุณเล็ก บุตรชายคนเดียวของคุณอิ่มกับท่านเจ้า คุณอุ่นนั้นก็เลี้ยงดูตาเล็กตามคำขอของพี่สาวก่อนตาย แต่คุณอุ่นก็มิเคยใยดีในตัวหลานชาย เมื่อคุณเล็กโตขึ้น คุณอุ่น ได้ขับไล่ คุณเล็ก ออกจากบ้าน เพื่อตัดปัญหาการครอบครองมรดก เมื่อคุณเล็กออกจากบ้านก็ประกาศไม่ขอกลับไปอีก และได้ใช้ชีวิตเป็นหนุ่มชาวไร่กับ คุณดวงแก้ว และลูกสาว คือเจริญขวัญอย่างมีความสุขจนเกิดอุบัติเหตุให้คุณเล็กเสียชีวิต ทิ้งให้ ดวงแก้วรับภาระดูแลเจริญขวัญเพียงผู้เดียว เจริญขวัญมีร่างกายไม่แข็งแรง เนื่องจากเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วตั้งแต่กำเนิด วันหนึ่ง คุณย่าอุ่นจับได้ว่า อิศรามีอะไรลึกซึ้งกับสำลีสาวใช้ในบ้าน เมื่อรู้ว่าสำลีท้อง ย่าอุ่นก็แสร้งว่า จะให้เงิน และแหวน แต่ย่าอุ่นก็ฟาดสำลีตกบันไดจนแท้ง และขับไล่ออกจากบ้านโดยไม่ให้เงินแม้แต่บาทเดียว กรรมเริ่มตามทัน คุณย่าอุ่นพลาดล้มทำให้เป็นอัมพาต ขยับร่างกายไม่ได้ จึงมีเพียงอิศราที่คอยดูแลใกล้ชิด อิศราเองก็หวังว่า ความดีที่เขาทำต่อย่าของเขาจะทำให้เขาได้บ้าน ได้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดมาครอบครอง แต่แล้ว คืนหนึ่ง ผีนางหยก (ต่าย ชัชฎาภรณ์) ได้ออกมา หลอกหลอนฟื้นความทรงจำของบาปผิดที่ย่าอุ่นเคยทำและปิดบังไว้ ย่าอุ่นได้คิดถึงบาปกรรมที่ต้องชดใช้ในนรก ทำให้ย่าอุ่นเปลี่ยนพินัยกรรม แทนที่จะยกบ้านให้อิศรา ย่าอุ่นก็เปลี่ยนไปให้ผู้มีสิทธิที่แท้จริง นั่นคือ เจริญขวัญ อิศราผิดหวังเป็นที่สุด เพราะเขาเองนั้นไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน หากไร้ซึ่งบ้านและทรัพย์สมบัติ ชีวิตหนุ่มเสเพลจะอยู่ได้อย่างไร ขณะที่ชาลินี เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก และหว่านเสน่ห์ไปกับชายหนุ่มแทบจะทุกคน เธอแอบคบหา แบบไม่จริงจังกับ เอกดนัย ซึ่งเป็นน้องชายของ อรอนงค์ (ครีม เปรมสินี) เพื่อนสนิทของเธอเอง เอกดนัยคอยตามตื้อชาลินี เพราะรักชาลินีจริงจัง และปรารถนาจะอยู่กินแต่งงานกับเธอ แต่เอกดนัยนั้นไม่ได้ร่ำรวย ไม่มีมีหน้ามีตาในสังคม จึงทำให้ชาลินีเตรียมจะสลัดรักไม่ใยดี แล้ว ท่านชายวสวัต ก็ปรากฏกายขึ้นในสังคม และก้าวเข้ามาในชีวิตของทุกคน ทุกคนได้รับรู้ว่าท่านเป็นท่านชายจากต่างแดน ร่ำรวย ท่านชายเปิดคลับชื่อ Logan เป็นที่โคจรยามค่ำคืนของบรรดาไฮโซหนุ่มสาวทั้งหลาย และไม่มีใครสังเกตเลยว่าคลับแห่งนี้ ที่แท้ก็คือ โลกันต์ ประตูแห่งนรกนั่นเอง ชาลินีได้พบท่านชายวสวัต กระแสดึงดูดที่ล้ำลึกทำให้เธอตกหลุมรักท่านชาย และด้วยท่านชายดูเป็นชายหนุ่มสูงศักดิ์ มีรูปงาม มีทรัพย์สมบัติ เป็นที่กล่าวขานในสังคม ชาลินีจึงหว่านเสน่ห์จับท่านชายในทันที ชาลินีบอกเลิกเอกดนัยอย่างไม่ใยดี เอกดนัยจึงยิงตัวตาย สร้างความเจ็บแค้นให้กับ อรอนงค์เป็นที่สุด เจริญขวัญ ก้าวเข้ามาในบ้านในฐานะเจ้าของบ้านคนใหม่ ชาลินียุให้อิศราจีบเจริญขวัญ เพื่อจะได้ทั้งบ้านและตัว และยังเป็นการปัดเจริญขวัญออกจากท่านชายด้วย อิศราเดินตามแผน พยายามทำดีต่อเจริญขวัญ แต่แล้ว อิสราก็พ่ายแพ้ต่อความดี และรักเจริญขวัญด้วยหัวใจแม้จริง ชาลีนีริษยาที่ท่านชายมีความชื่นชมและอ่อนน้อมกับเจริญขวัญ ชาลินีจึงบอกเจริญขวัญว่า ที่อิศราแกล้งทำดีด้วยนั้น ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เพราะเขาต้องการบ้านคืน และอยากได้ทรัพย์สมบัติ เจริญขวัญเสียใจเป็นที่สุด หนีกลับไปอยู่บ้านไร่ อิศราตามมางอนง้อ บอกว่า เขารักเธอจริง เจริญขวัญยอมพ่ายแพ้ต่อหัวใจของตนเอง แต่เธอก็พ่ายต่อความเจ็บป่วยด้วย อิศราจึงพาเข้ากรุงเทพ และจัดการให้เธอได้ผ่าตัดหัวใจ และกลับมาพักฟื้นที่บ้าน อิศราคอยดูแลเจริญขวัญใกล้ชิด ชาลินี สารภาพรัก และพร้อมจะมอบกายให้แก่ท่านชาย ท่านชายโกรธเกรี้ยว ไม่แตะต้องชาลินี แล้วสั่งให้ สิริ ขับรถพาชาลินีไปส่งที่บ้าน คุณหญิงเพ็ญรู้สึกว่าลูกสาวมีเรื่องปกปิดไม่กล้าบอก จึงรุดไปหาท่านชาย แต่กลับถูกตอกหน้ากลับมา ชาลินีจึงสารภาพกับมารดาอย่างเจ็บปวดว่า ตอนที่เธอไปเรียนทีต่างประเทศ เธอเคยพลาดมีลูกกับเศรษฐีแฟนฝรั่ง แต่เขาไม่ยอมรับ เธอใช้ทารกน้อยรีดเงินจากเขา จนในที่สุด เธอก็ประชดเขาด้วยการ ปล่อยให้ทารกลูกของเธอเป็นปอดบวมเสียชีวิต เมื่อเธอกลับมาเมืองไทย เธอก็เก็บเรื่องเงียบ เป็นตราบาปในใจของเธอตลอดมา แต่แล้วชาลินีก็ทำให้บิดา เข้าใจผิดว่า ท่านชายล่วงเกินชาลินี นายพลจึงบอกให้ท่านชายรับผิดชอบ ท่านชายกล่าวเป็นนัยว่า ท่านรับผิดชอบชีวิตทุกคนอยู่แล้ว ชาลินีจึงจัดแถลงข่าวถึงความสัมพันธ์กับท่านชาย แต่ในวันงาน สามสาว อรอนงค์ วัลภา ปวีณา กลับมาฉีกหน้ากากชาลินี ด้วยการนำคลิปเรื่องจริงของเอกดนัย กับคลิปชาลินีกับลูกและเศรษฐีฝรั่งมาเปิดให้ผู้สื่อข่าวดู ชาลินีกรีดร้อง หาว่าท่านชายร่วมมือกับสามสาวกลั่นแกล้งเธอเพื่อจะได้กลับไปหาเจริญขวัญ ท่านชายโกรธว่าเธอช่างมีจิตที่สกปรก ชาลินีโกรธจัด และบุกมาด่าว่าเจริญขวัญ และผลักเธอตกบันได เจริญขวัญเข้าโรงพยาบาลอาการทรุดหนัก อิศราโกรธชาลินีมาก และบอกว่า คำพูดของชาลินีกำลังจะคร่าชีวิตที่บริสุทธิ์ของเจริญขวัญ บิดามารดาของชาลีนี รุดมาหาเจริญขวัญ ยืนยันว่าอิศรารักเจริญขวัญจริง คุณหญิงเพ็ญส่งแหวนให้อิศราสวมหมั้นเจริญขวัญที่นอนอิดโรย อิศราพร่ำบอกเจริญขวัญว่า เขาและเธอจะแต่งงานกัน และมีความสุขด้วยกัน ท่านชายมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล เจริญขวัญคลับคล้ายเห็นแสงรัศมีกระจ่างของท่านชาย ได้แต่พูดว่า ฝากแม่ด้วย แล้วเจริญขวัญก็จากไปอย่างสงบ ทุกคนเสียใจกับการจากไปของเจริญขวัญ และด่าว่าชาลินี ชาลินีร่ำไห้ และโทษพ่อแม่ว่า การกระทำของเธอทั้งหมดเป็นเพราะ เธอถูกเลี้ยงมาด้วยเงินไม่ใช่ด้วยความรักความผูกพัน ไม่มีใครสั่งสอนเธอเลย แต่บิดามารดาเสียใจแต่ก็คิดว่า ชาลินีไม่ควรทำถึงเพียงนี้ ชาลินีเคว้งคว้าง เพราะเธอไม่เหลือใครอีกเลย เธอกินยานอนหลับเพื่อจะจบชีวิตที่ปวดร้าว ท่านชายปรากฏกาย ชาลินีได้แต่พร่ำพูดถึงความรักที่เธอมีแต่ท่านชาย ท่านชายโกรธเกรี้ยวและเผยร่างแท้จริงให้ชาลินีได้เห็น ชาลินีหวีดร้อง ก่อนวิญญาณของเธอจะถูกพร่าลงต่ำ สู่โลกัณฑ์ อิสราขอเลือกที่จะไม่เดินสู่เส้นทางของกิเลศ ท่านชายขอให้อิศรากระทำแต่ความดี เพื่อเมื่อถึงวันที่ต้องพบกัน ท่านชายจะเพียงมีสิทธิ์เพียงยืนที่ปลายเท้าและส่งดวงวิญญาณของอิศราสู่สรวงสวรรค์เท่านั้น ติดตามชม ละครเงา ได้ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละครเงา เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2557

แสนซนค้นรัก 2556

แสนซนค้นรัก (2556/2013) ชาวดาวเฮร่าส่ง ทหาร นักวิทยาศาสตร์ นักบิน และลูกระเบิดมหาประลัยมายังโลกมนุษย์ เพื่อตัดสินชะตากรรมของชาวโลกว่าสมควรมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ เพื่อให้การแฝงตัวเข้ามาในโลกสมบูรณ์แบบไม่ทำให้มนุษย์สังเกตเห็นถึงความแตกต่าง ชาวดาวเฮร่าจึงแปลงร่างเป็นมนุษย์ตามที่เขาสามารถรับชมได้จากละครโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่สัญญาณคลื่นวิทยุโทรทัศน์สามารถเดินทางข้ามจักรวาลได้ เปงกุมปราสเลียน่า (ริด้า ณัฐพิมล นาฏยลักษณ์) นักวิทยาศาสตร์ผู้เฉลียวฉลาดแปลงร่างมาเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามเหมือนนางเอกละคร มีชื่อเรียกทางโลกว่าวีนัส มีหน้าที่แฝงกายเป็นสาวใช้ของชาวโลก ตีย่าตีย่าแวนคร๊อฟ (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) สุดยอดนักรบแห่งดาวเฮร่าแปลงร่างเป็นกระถิน ตีย่าตีย่าแวนคร๊อฟแทบกระอักเมื่อต้องเรียนรู้ในการทำอาหาร เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวนายจ้าง ซึ่งแต่ละคนก็เรื่องมาก ยูบิสมันตุมสล๊าพกีกี้ (เกริก ชิลเลอร์) นักบินยานอวกาศมือดีที่สุดในจักรวาลแปลงร่างเป็นไอ้ย้อย ผู้มีอาชีพรับจ้างขับรถตามบ้าน และท้ายที่สุดจากีมันร๊อฟฟสิบเจ็ด (ด.ช.อธิพิชญ์ ชุติวัฒน์ขจรชัย) จรวดมหาประลัยรุ่นล่าสุดที่สามารถทำลายโลกได้ภายในพริบตา ถูกแปลงให้เป็นเด็กผู้ชายแก้มยุ้ยน่ารักจอมซุกซนมีชื่อเป็นภาษาไทยว่าเด็กชายขีปนาวุธหรือน้องลูกดอก มีหน้าที่ระเบิดตัวเองตามเสียงส่วนใหญ่ ชะตากรรมของมนุษย์ต่างดาวทั้งสี่ต้องขวัญหนีกับพลุจำนวนมหาศาลที่ระเบิดขึ้นรอบ ๆ ตัวของพวกเขา จนทำให้พวกเขาทั้งสี่ต้องสละยานอวกาศ และดิ่งพสุธาลงมาบนพื้นพิภพอย่างไม่รู้ชะตากรรมและพวกเขาไม่สามารถติดต่อกลับไปสู่มาตุภูมิต่างดาวของเขาได้อีก มนุษย์ต่างดาวทั้งสี่ได้ตกลงมายังบริเวณบ้านของด็อกเตอร์เอกภพ (วสุ แสงสิงแก้ว) เจ้าของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ด็อกเตอร์เป็นคนสมองเป็นเลิศ จึงมีความเข้มงวดในเรื่องการเรียนกับลูก ๆ เพราะมุ่งหวังให้ลูกเจริญรอยตามตัวเอง ด็อกเตอร์มีลูก 3 คนด้วยกัน ลูกชายคนโตคือ โอม (ฌอน จินดาโชติ) อายุ 18 ปี กำลังเรียนหมออยู่ชั้นปีที่ 1 ส่วนลูกคนรองคือ อิม (ปณิตา ธนโชติธรากร) อายุ 17 ปี กำลังเรียน ม.6 ส่วนลูกสาวคนสุดท้องคือ อาย (เอวีน่า เครื่องสาย) อายุ 7 ปี ครอบครัวของด็อกเตอร์เอกภพกำลังต้องการลูกจ้างทุกตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น แม่ครัว พี่เลี้ยงลูกสาวคนเล็ก รวมไปถึงคนขับรถ เพราะเขาเพิ่งไล่ลูกจ้างออกยกครัว สเปคของลูกจ้างที่เขาเรียกร้องจากบริษัทจัดหางานก็คือ อ่านออกเขียนได้ ความรู้ขั้นต่ำระดับอนุปริญญา เมื่อมนุษย์ต่างดาวทั้งสี่ที่มีท่าทางแปลกประหลาด แต่ชาญฉลาด ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าบ้านเขา เอกภพจึงเหมาเอาทันทีว่าคนทั้งสี่นี้คือลูกจ้างที่เขาต้องการ และเมื่อเขาแจกข้อสอบเพื่อทดสอบสติปัญญา เขาต้องช็อกเพราะข้อสอบที่ว่ายากแสนยาก คนใช้เหล่านี้กลับทำได้ เอกภพตัดสินใจรับลูกจ้างแปลกประหลาดทั้งสี่เข้ามายังครอบครัวของตน ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของชาวเฮร่าที่จะการเรียนรู้พฤติกรรมของชาวโลกและวิเคราะห์อารมณ์ของมนุษย์เรื่อง รัก โลภ โกรธ หลง สถาบันครอบครัว ความเชื่อ และคุณค่าต่าง ๆ ของชาวโลก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชะตากรรมของโลกมนุษย์ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมนุษย์ต่างดาวแปดชีวิตได้ร่วมเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ และได้ร่วมใจแก้ปัญหาด้วยหัวใจของคนกับสิ่งประดิษฐ์ล้ำยุคจากต่างดาว เพื่อแสวงหาวิธีที่จะอยู่อย่างสันติสุขต่อไปในภายภาคหน้า แต่ถ้าไม่สำเร็จ พวกเขาทั้งแปดคนก็จะเป็นคนกลุ่มแรกที่จะแหลกสลายไปเป็นจุลพร้อม ๆ กับโลกมนุษย์ของเรา ด้วยอานุภาพของจากีมันร๊อฟฟสิบเจ็ด จรวดมหาประลัยรุ่นล่าสุด ที่เริ่มนับถอยหลังตั้งแต่ตกลงมาบนพื้นพิภพ มาร่วมลุ้นกันว่าพวกเขาจะแก้ปัญหาได้สำเร็จหรือไม่? ติดตามหาคำตอบกันได้ใน ละครแสนซนค้นรัก

สาปพระเพ็ง 2556

สาปพระเพ็ง (2556/2013) บาปของเขาถูกปลดเปลื้องไปส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่หมด ไม่หมดทีเดียว… บางทีพรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า พระเพ็งจะยอมประทานโอกาสให้เขาได้แก้ตัวอีกครั้ง และอีกครั้ง จนกว่าบาปกรรมที่เขาก่อไว้จะถูกลบล้าง… จนกว่าเขาจะได้รับการอภัยจากผู้คนทั้งหมด เมื่อถึงวันนั้น ความทุกข์ทรมานของเขาคงยุติลงเสียที… สำนักงานสืบสวนพิเศษรื้อคดีดัง มีผู้กองไผ่ (โฬม พัชฎะ) และ ผู้กองพัทธ์ (อั๋น วิทยา) ตำรวจคู่หูเป็นหัวหน้าทีม สืบหาปริศนาฆาตกรรมร่วมกับ เจ๊วิกกี้ (เบนซ์ พรชิตา) เจ้าแม่สำนักงานที่ทำงานแบบกัดไม่ปล่อย คู่ปรับกับจนท.หนุ่มรุ่นน้อง วิว (อเล็กซ์ เรนเดลล์) ร่วมด้วยกลุ่มนักศึกษาฝึกงานที่มี รัดเกล้า (มิว ลักษณ์นารา) น้องสาวเจ๊วิกกี้ ยอดชาย (รอน ภัทรพล) และ มุรธา (โรช่า มนสิชา) ทั้งทีมต้องหาหลักฐานตามที่ เพชรดา (จอย รินลณี) เชื่อว่าพี่ชายตัวเอง สส.อภิมุข (ทนงศักดิ์ ศุภการ) ถูกฆาตกรรม ผู้ต้องสงสัยคนแรกคือพี่ชายคนรอง อภิวัฒน์ (พลวัฒน์ มนูประเสริฐ) ที่ต้องการเงินมรดกเพื่อพยุงธุรกิจและฐานะไฮโซของเมีย มาริษา (ปอ ศีกัญญา) ไผ่นำทีมสอบปากคำทุกคนในบ้านใหม่อีกครั้งและพบพิรุธจากน้องเมียอย่าง สิริรัตน์ (ขวัญข้าว กานต์พิชชา) ไผ่รู้สึกพิเศษกับรัดเกล้าตั้งแต่แรกเห็น แต่รัดเกล้ากลับไม่ชอบหน้าไผ่ แปลกไปกว่านั้นเมื่อร่างสัมผัสกัน ไผ่กับรัดเกล้าจะเจ็บที่หน้าอกเหมือนถูกแทง รัดเกล้าเจ็บปวดจนสลบไปและพบว่าตัวเองฟื้นขึ้นมาในเมืองศรีพิสยา วิกกี้เห็นเป็นเรื่องเพ้อเจ้อที่น้องสาวจะหลุดเข้าไปอดีตพันปี การสอบปากคำไม่คืบหน้าเพราะเพชรดาไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้พัทธ์หัวเสีย วิกกี้เข้าข้างพัทธ์ทุกอย่างเพราะคลั่งไคล้ในตัวพัทธ์ วิวคอยเตือนวิกกี้ด้วยความเป็นห่วง แต่วิกกี้กลับคิดว่าวิวอิจฉาที่ผู้กองพัทธ์เก่งกว่า ขณะที่ไผ่กับรัดเกล้าสืบหาพยานปากใหม่ นรสิงห์ (จอนนี่ แอนโฟเน) ชายลึกลับปรากฏตัวขึ้น ไผ่กับรัดเกล้ารู้สึกเกลียดชังนรสิงห์อย่างรุนแรง ต่างจากวิกกี้กับวิวที่เหมือนเคยรู้จักนรสิงห์มานานแสนนาน นรสิงห์ดึงคนทั้ง 4 มาหาและสะกดทุกคนให้กลับไปสู่อดีตเพื่อเห็นกรรมที่ร้อยรัดชะตาของพวกเขาไว้นับพันปี ณ ศรีพิสยา อาณาจักรอันสงบสุข ร่มเย็นดังเช่นแสงจันทร์ เจ้าปรันมา (ดอม เหตระกูล) กำลังเผชิญหน้ากับศึกประชิดแคว้นจาก กษัตริย์นรสิงห์สีหบดี (จอนนี่ แอนโฟเน่) ผู้มีพลานุภาพร้อนแรงเจิดจ้าดั่งแสงอาทิตย์ กองทัพทมิฬขององค์นรสิงห์มีสองคนสำคัญคือ แม่ทัพหญิงผู้กระหายเลือดอย่าง สีหสา (เบนซ์ พรชิตา) และ สุเลวิน (อเล็กซ์ เรนเดลล์) นักบวชหนุ่มตาบอดผู้มีญาณทิพย์ นรสิงห์อยากบุกตีเมืองเล็กอย่างศรีพิสยาให้ราบ แต่สุเลวินห้ามบุกศรีพิสยาในคืนบูชาพระเพ็งหรือพระจันทร์เต็มดวง เพราะบาปเคราะห์ที่ลบหลู่เทพจะนำหายนะมาให้ เวลาเดียวกับที่ศรีพิสยาเองก็มีศึกใน เมื่อ เจ้านางอินยา (จอย รินลณี) ต้องการให้ลูกชาย เจ้าปันแสง (อั๋น วิทยา) ได้เป็นกษัตริย์แทนที่เจ้าปรันมาพี่ชายต่างแม่ อินยาและปันแสงหาทางกำจัดเจ้าปรันมาและน้องสาว เจ้านางจันทเทวี (ไหยหยา วรินทร์ลดา) โดยเฉพาะศัตรูคนสำคัญ มรันมา (มิว ลักษณ์นารา) ลูกสาวอีกคนของเจ้าศรีพิสยา แต่มรันมามีคนรักคือ แม่ทัพติสสา (โฬม พัชฎะ) คอยปกป้อง ยิ่งทำให้อินยาและปันแสงใช้เล่ห์กลทุกทางเพื่อยกมรันมาให้ เจ้าแสงมิน (บิ๊ก ศรุต) อินยาเกือบทำสำเร็จเมื่อมรันมาตัดรักจากติสสา แต่เจ้าปรันมาเข้าขวางและยกมรันมาให้เป็นเจ้าสาวของติสสา อินยา ปันแสงคั่งแค้น สาบานว่าจะทำลายทุกคนที่หยามเกียรติ ไม่มีใครเชื่อภาพในอดีตพันปีที่นรสิงห์พาไปเห็น ไผ่ต่อต้านนรสิงห์ ยิ่งทำให้ผิดใจกับรัดเกล้าที่เชื่อว่านรสิงห์เล่าเรื่องจริง พัทธ์เจอหลักฐานที่จะส่งอภิวัฒน์เข้าคุก ข้อหาฆ่าพี่ชายหวังมรดก แต่มีพยานปากใหม่โผล่ขึ้นมา แก้วกล้า (เฟอร์นันโด้) ยืนยันว่าได้ยินเสียงผู้หญิงทะเลาะกับอภิมุขก่อนเสียงปืนดังปลิดชีวิต ทุกคนตามหาตัวแต่แก้วกล้าถูกฆ่าปิดปาก คดีที่จะคลี่คลายกลับมืดมนลงไปอีก รัดเกล้ากับวิวเชื่ออย่างที่นรสิงห์บอกว่า คนร้ายคือผู้หญิง แต่ไผ่เถียงหัวชนฝา เพราะความเกลียดชังนรสิงห์ฝังใจ พัทธ์จับอภิวัฒน์เข้าคุกเพื่อปิดคดี นรสิงห์จึงต้องพาทุกคนย้อนกลับสู่อดีตพันปีอีกครั้งเพื่อเห็นผลกรรมทั้งหมด กองทัพนรสิงห์บุกตีศรีพิสยาแต่เจออำนาจคุ้มครองจากพระเพ็งที่เป็นกำแพงกั้นเมืองไว้ นรสิงห์ใช้วิธีเจาะกำแพงด้วยการลอบส่งสีหสามาเป็นสายลับ อินยากับปันแสงที่ถูกกิเลสครอบงำจิตใจยอมร่วมมือกับศัตรู ทรยศแผ่นดินตัวเอง สุเลวินแฝงตัวเข้าสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์ จนเจอความลับว่าสิ่งคุ้มครองศรีพิสยาผูกอยู่กับดวงจิตของติสสาและจันทเทวี นรสิงห์หาวิธีทำลายดวงจิตที่กล้าแข็งของติสสาด้วยวิธีโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ เจ้าดาราน้อย (เจสซี่) ลูกสาวของติสสากับมรันมาตกเป็นเหยื่อแผนอำมหิตของนรสิงห์ มรันมาแทบขาดใจเมื่อลูกสาวล้มป่วย รอวันตาย นรสิงห์ยื่นยาแก้พิษให้แลกกับที่ติสสาต้องหักหลังเจ้าปรันมา มรันมาอ้อนวอนให้ติสสาเห็นแก่ชีวิตลูก แต่ติสสาไม่ยอมทรยศบ้านเมือง มรันมาผิดหวังในตัวคนรักจนกลายเป็นความเกลียดชัง อินยา ปันแสงช่วยสีหสานำกองทัพบุกเข้าทำลายศรีพิสยาจนย่อยยับ นรสิงห์ท้าทายเย้ยหยันพระเพ็งเมื่อได้เหยียบย่ำแผ่นดินศรีพิสยา ตอนนี้เองที่นรสิงห์เรียนรู้ว่า ไม่มีอำนาจใดยิ่งใหญ่เหนือธรรมชาติ พระเพ็ง (ปรียานุช ปานประดับ) ลงมาสาปให้นรสิงห์มีชีวิตอมตะต่อไปนับพันปี แต่ต้องเจ็บปวดทรมานด้วยไฟแผดเผาทุกคืนเพ็ง พระจันทร์เต็มดวง จนกว่าทุกชีวิตที่ตายลงอย่างน่าเวทนา จะยอมให้อภัย ไผ่ รัดเกล้า วิกกี้ วิว พัทธ์ เพชรดา ได้รู้ความจริงในอดีตที่เคยก่อกรรมร่วมกันมา นรสิงห์ผู้รับโทษทัณฑ์ หวังเพียงการอโหสิจากทุกคน แต่ความสูญเสีย คั่งแค้นนับพันปียากจะลบล้างได้ง่าย ๆ นรสิงห์จะหลุดพ้นจากคำสาปของพระเพ็งได้หรือไม่ และวงกรรมของไผ่ รัดเกล้า เพชร พัทธ์ วิกกี้ วิว จะชดใช้ต่อกันได้อย่างไร ติดตามชมได้ใน ละครสาปพระเพ็ง ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครสาปพระเพ็ง

มณีสวาท 2556

มณีสวาท (2556/2013) มรว ภุชคินทร์ ( วิทยา ) เชื้อพระวงค์หนุ่มนักเรียนนอก หัวสมัยใหม่และเป็นทายาทคนเดียวแห่งวังนาเคนทร์ถูกเรียกตัวกลับมาทำงานเป็นเลขาให้กับ ภิงคาร ( กมล ) ผู้เป็นน้าชาย เจ้าอุรคา ( ศรีริต้า )หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ จิตใจเด็ดเดี่ยวเต็มไปด้วยแรงรักรอยแค้นมาพร้อมกับอัญมณีรูปหยดน้ำสีเขียวเข้มที่เรียกว่า มณีนาคสวาท กลับเป็นจุดเด่นที่ทำให้มรว ภุชคินทร์รู้สึกสะดุดตาและยังทำให้เกิดความประทับใจเป็นอย่างมากให้กับ รมต สุบรรณ ( ชาตโยดม ) รัฐมนตรีที่โดดเด่นในงานที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย รมต สุบรรณพยายามที่จะทำความสนิทสนมกับเจ้าอุรคาเพราะหวังให้เจ้าอุรคามาเป็นคู่ของตน ทำให้ รตอ ไพศิษฐ์ ( โทนี่ ) เกิดความไม่ไว้วางใจในตัวของเจ้าอุรคา ด้านมรว ภุชคินทร์ ก็เกิดความสนใจในตัวเจ้าอรุคาแต่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ด้านเจ้าอรุคาเองกลับเป็นฝ่ายที่เข้าหา มรว ภุชคินทร์ เองโดยผ่านทางหม่อมภาณี ( สาวิตรี ) ซึ่งเป็นแม่ของ มรว ภุชคินทร์ วันหนึ่งหม่อมภาณีได้พลอยนาคสวาทมาจากเจ้าอุรคาและเล่าตำนานของพลอยนี้ให้มรว ภุชคินทร์ฟังทำให้มรว ภุชคินทร์สนใจเป็นอย่างมากและพลอยก็สามารถทำให้มรว ภุชคินทร์รู้สึกแปลกๆได้เช่นกัน ในขณะเดียวกันเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายๆเจ้าอุรคาและยมนา ( ปัญญาพล ) มักจะอยู่ด้วยกันเสมอและเมื่อเหตุการณ์จบลงทั้งยมนาก็จะหายตัวไปเสมอทำให้รตอ ไพศิษฐ์เกิดความสงสัยมากขึ้น การที่เจ้าอุรคานั้นมาบนโลกมนุษย์นั้นก็เพื่อความรักและความแค้นเมื่อสมัยที่ภุชเคนทร์ยังเป็นพญานาคอยู่เมื่ออดีตที่ต่อสู้กับพญาสุบรรณจนตาย ภุชเคนทร์นั้นตั้งสัจจะอธิฐานว่าจะไม่ขอกลับเกิดเป็นพญานาคอีก ทำให้เจ้าอุรคาปฏิญาณว่าจะจองเวรพญาสุบรรณและต้องการถอนคำสัตย์เพื่อต้องการขอให้ภุชเคนทร์เกิดมาคู่กับตนอีกครั้ง เจ้าอุรคาพยายามรื้อฟื้นความทรงจำของมรว ภุชคินทร์หลายวิธีแต่มรว ภุชคินทร์ได้ลืมอดีตชาติไปหมดทำให้เจ้าอุรคาเกิดความท้อใจ แต่มันกลับทำให้มรว ภุชคินทร์เกิดความสงสัยและอยากรู้จนทำให้ได้พบเจอกับ ดร วิชัยสิงห์ ( กมล ทองพลับ ) ทำให้ มรว ภุชคินทร์ ขอร้องที่จำให้ช่วยในการรื้อฟื้นความทรงจำในอดีตด้วยการสะกดจิต เมื่อมรว ภุชคินทร์รู้ว่าตนเองนั้นเป็นพญานาคภุชเคนทร์และมีความรักกับเจ้าอุรคาในอดีตทำให้มรว ภุชคินทร์ต้องการที่จะขออโหสิกรรมให้กับรมต สุบรรณ แต่รมต สุบรรณกลับเกิดหวงเจ้าอุรคาจึงทำให้จับมรว ภุชคินทร์ไว้เพื่อฆ่าแต่เจ้าอุรคามาช่วยไว้ทันและทำให้เจ้าอุรคาโกรธมากที่รมต สุบรรณคิดจะทำร้ายคนที่เจ้าอุรคารักเป็นครั้งที่2 เจ้าอุรคาจึงจับตัวรมต สุบรรณเพื่อหวังที่จะฆ่าทิ้งทำให้มรว ภุชคินทร์และรตอ ไพศิษฐ์รู้ความจริงว่าเจ้าอุรคาก็คืออุรคาเทวีที่มีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ท่อนร่างเป็นพญานาค เจ้าอุรคาย้อนภาพอดีตให้ทั้ง3ได้ดูเป็นภาพที่ภุชเคนทร์กำลังกระอักเลือดเป็นพลอย3เม็ดและตายลงในที่สุดส่วนเจ้าอุรคาก็ต่อสู้จนบาดเจ็บและกระอักเลือดเป็นพลอยมณีนาควาท เมื่อรมต สุบรรณได้รับรู้อดีตของตัวเองที่ทำไว้กลับไม่รู้สึกกลัวต่อกรรมที่จะเกิดขึ้นและได้ขออโหสิกรรมแก่เจ้าอุรคาและมรว ภุชคินทร์เพื่อให้ความแค้นจบลง แต่เจ้าอุราคาไม่ยอมแต่โดยดีทำให้ยมนาเปิดเผยตัวเองเข้ามาเตือนเจ้าอุรคาให้หยุดวงล้อแห่งกรรมเพื่อปลดปล่อยกรรม หลังจากนี้ต่อไปเจ้าอุรคาจะทำเช่นไรต่อไปเมื่อยมนาได้เตือนสติแล้ว รมต สุบรรณที่ถูกจับอยู่กรรมที่เขาได้เคยก่อไว้จะกำหนดให้รมต สุบรรณเป็นเช่นไร และความรักที่เจ้าอุรคามีให้กับมรว ภุชคินทร์ทั้งในอดีตชาติจนถึงปัจจุบันจะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน มณีสวาท

มณีแดนสรวง 2555

มณีแดนสรวง (2555/2012) รัศมิชโลธร (ซาร่า เล็กจ์) เป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เธอได้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อล่มงานวิวาห์ระหว่าง ร.ต.อ. ดรัณ (รณเดช วงศาโรจน์) และ สิริสุดา (ภัทราดา ยอดประสิทธิ์) เพราะเธอรู้ว่าทั้งคู่ไม่ใช่คู่แท้กัน ท่ามกลางความสงสัยของ ร.ต.อ.สการ (พศุตม์ บานแย้ม) นายตำรวจหนุ่มรูปหล่อสุดฮอตว่าเธอคือใคร เมื่อเทพบิดาทราบเรื่องจึงลงโทษเธอด้วยการส่งตัวลงมาเป็นมนุษย์ที่ไม่มีอำนาจวิเศษ เธอจะได้ความเป็นนางฟ้าคืนก็ต่อเมื่อเธอทำให้ดรัณและสิริสุกลับมาคืนดีและแต่งงานกัน

รักนี้หัวใจมีครีบ 2555

รักนี้หัวใจมีครีบ (2555/2012) ใต้ท้องทะเลไทยที่สวยงาม เต็มไปด้วยเหล่าสัตว์น้ำและปะการังรัง ปรากฎร่างของนางเงือกสองนาง คือ มีนานุช (ลักษณ์นารา เปี้ยทา) เงือกน้อยผู้ที่มีหน้าตาสระสวย อ่อนโยน ดูบริสุทธิ์ และอีกนางหนึ่งคือ มัสยา (วิชุดา พินดั้ม) ที่มีหน้าตาและอายุแก่กว่า เงือกน้อยมีนานุชพอสมควร ศ.ดร.ธารา (เกริก ชิลเลอร์) อาจารย์ประจำภาควิชาวิจัยทางทะเล ออกทำการวิจัยเกี่ยวกับมลพิษทางทะเล โดยมี ชลนที (ฐากูร การทิพย์) ลูกชายติดตามไปทำการวิจัยในครั้งนี้ด้วย แต่ชลนทีได้พลัดตกจากเรือลงทะเลไป แม้ว่า ศ.ดร.ธาราจะพยายามช่วยแต่ก็ไม่ทัน ทันใดนั้นก็มีนางเงือกน้อยมาช่วยไว้ทัน นำร่างของชลนทีขึ้นฝั่ง พอชลนทีฟื้น ได้ตอบแทนบุญคุณที่มีนานุชช่วยชีวิตไว้โดยการดูแลเธอเป็นการตอบแทน แต่ชลนทีไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อมานีนุชนั้นไม่ใช่คนแต่เธอเป็นนางเงือก พอขึ้นฝั่งจากหางก็จะกลายเป็นขา และครีบก็จะกลายเป็นแขน ก็เลยทำให้มีนานุชเป็นมนุษย์ที่มีหน้าตาสระสวยมาก ด้วยการไม่คุ้นเคยกับชีวิตแบบมนุษย์ ชลสอนให้มีนารู้จักโลกมนุษย์มากขึ้น จนกระทั่งทั้งสองเริ่มสนิทสนมกันและมีนาก็เผลอใจไปรักชลโดยรู้ตัวอยู่แล้วว่าความรักครั้งนี้มันเป็นไปไม่ได้ มีนานุชใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์อยู่อย่างยากลำบากนัก แม้กระทั่งการกิน เธอจะกินแต่สาหร่าย และเวลาดื่มน้ำเธอจะเทเกลือลงในน้ำก่อนดื่มทุกครั้ง หรือเวลาที่เจอสัตว์น้ำเธอจะทักทายและพูดคุยเหมือนเป็นเรื่องเป็นราว ชลนทีเริ่มเห็นถึงความแปลกประหลาดในตัวของเธอ เพราะสิ่งที่ ศ.ดร.ธารา เห็นเกร็ดที่หล่นจากตัวของมีนาในห้องน้ำ มันสวยงามมากเหมือนเกร็ดนางเงือก เขาจึงอยากพิสูจน์ว่าเธอเป็นนางเงือกอย่างที่คนอื่นเขาพูดจริงๆหรือเปล่า เขาจึงให้ชลผู้เป็นลูกชายพยายามนำน้ำมาสาดให้มีนานุชเปียกเพื่อจะให้เธอกลายร่างเป็นเงือกให้จงได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอมีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพราะมัสยาจะเตือนเธอทุกครั้งที่ ศ.ดร.ธาราคิดจะวางแผนร้ายในการเปิดเผยตัวจริงของเธอให้ได้ เพื่องานวิจัยว่านางเงือกมีอยู่จริงของ ศ.ดร.ธาราจะเป็นผลสำเร็จและดังไปทั่วโลก และแล้วความจริงก็ถูกเปิดเผยขึ้นในวันสงกรานต์ ซึ่งมีนาไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่รู้ว่าวันสงกรานต์คือการสาดน้ำกันทั่วบ้านทั่วเมือง พอโดนน้ำร่างของเธอก็กลายเป็นนางเงือกต่อหน้าชลทันที มีนาถูกจับไปแช่น้ำในอ่างพร้อมกับล่ามโซ่ กับวงแหวนเหล็กที่ล็อกเอวไว้อย่างแน่นหนาพร้อมที่จะขายให้นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาเพื่อเอาไปทำการวิจัยในราคามหาศาล ชลทนเห็นมีนาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ได้ จึงตัดสินใจช่วยมีนาออกมา ถึงแม้ในใจจะยังโกรธ และเสียใจกับการปิดบังความลับในครั้งนี้อยู่ก็ตาม ชลกับมีนาถูกตามล่าไปจนมุมที่ริมทะเล ชลโดนยิงจนได้รับบาทเจ็บ ส่วนมีนาก็หนีลงน้ำไปใต้ทะเลลึก จากนั้นชลก็ไม่ได้เจอมีนาอีกเลย แต่แล้วเมื่อเวลาล่วงเลยไปนานเป็นปี ชลได้กลับมานั่งที่สะพานปลาอีกครั้งมองดูท้องทะเลด้วยความคิดถึงมีนาอย่างจับใจ เขาก็หันมาเห็นขาของคนๆหนึ่งที่มายืนอยู่ข้างๆเขา และร่างของคนๆนั้นค่อยๆนั่งเคียงลงข้างเขา ซึ่งนั่นก็คือ มีนานุชนั่นเอง....

อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว 2555

เรื่องย่อ : อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว (2555/2012) โดยทำนายว่าโลกเวทมนตร์จะพังทลายตั้งแต่กำเนิดเด็กมาร ผู้นำได้สั่งว่าเด็กทุกคนที่เกิดในวันนั้นถูกฆ่าตาย แต่แม่มด (แม่มด) ฐหิรา รู้สึกเสียใจกับพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกทิ้งไว้ในกระท่อมและไม่สามารถพาตัวเองไปฆ่าเธอได้ Tahira ตัดสินใจส่งพี่เลี้ยงไปใช้ชีวิตบนโลกกับมนุษย์ พี่เลี้ยงแม่มดน้อยนิสัยเสีย เติบโตขึ้นมากับดาร์คาผู้อ่อนแอ Dar-Ka ก็ถูกรับเลี้ยงเช่นกัน

โก๊ะ ๗ 2554

เรื่องย่อ : โก๊ะ ๗ (2554/2011) บุญชู ลูกชายโก๊ะนายบ้านท่าแพ ได้มาอยู่ในโลกปัจจุบัน เป็นนักโบราณคดีหนุ่มที่ศึกษาค้นคว้า และตามเก็บสมบัติแห่งชาติไม่ให้ตกไปส่งมือโจร ชื่อเสียงของบุญโด่งดังในการค้นหาวัตถุลับค่ามากมาย จนทำให้ อเล็กซ์ มาจ้างบุญชูตามหาหลุมฝั่งศพปู่เขาสมัยสงครามโลกครั้ง2 บุญชูคิดมากเรื่องการเดินทางเพราะเสี่ยงอันตรายมาก และตัวเขาเองยังมีปัญหาที่ฝันถึง จ้าวม่านฟ้า เจ้าหญิงแห่งปุระนครอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดบุญชูก็ยอมรับงานเพราะขาดเงินสนับสนุนงานวิจัย จิ๊บ สันต์ ใบเตย ลูกทีมบุญชูเห็นชอบในการเดินทางครั้งนี้ บุญชูพาทุกคนเดินทางไปหาพรานบุญ พรานคู่ใจ แต่เขาได้ตายจากแล้วผู้ใหญ่บ้านแนะนำ พรานแดน เป็นผู้นำทาง พรานแดนแม้จะดูกะล่อนแต่บุญชูก็รู้สึกผูกพันทำให้ตกลงจ้างพรานแดนนำทาง แต่ไม่มีชาวบ้านยอมเป็นลูกหาม มังกะโบ มะเจย อาเจ 3 กระเหรี่ยงที่หนีเข้าเมืองยอมรับอาสาเพราะรู้ความลับว่าอเล็กซ์จะไปหาสมบัติ ไม่ใช่ไปตามหลุมศพ พรานแดน นำทางแบบมั่วๆ เข้าป่ามรณะ ทั้งคณะต้องเจอกับผีพรายจากการปากเสียของสันต์แต่ก็หนีรอดมาได้เพราะลม ตรีทูต ทำให้ทุกคนข้ามผ่านกาลเวลาหลงไปในยุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เจอกับทามาดะ ฮาโตริ ซึบะ ทหารญี่ปุ่นและได้เข้าไปช่วยเหลือ กล้า หัวหน้ากลุ่มเสรีไทยที่ถูก หนานดำ หักหลัง บัวตอง น้องสาวกล้ารู้สึกผูกพันธ์กับแดนจนทำให้พัดหลงมาด้วยลมตรีทูตพาย้อนยุคเข้า สู่ยุดกรุงศรีอยุธยา และในยุคนี้ บุญชูได้พบกับ รำเพย เชลยสาวชาวไทยบุญชูและพรรคพวกได้ช่วยเหลือชาวบ้านให้รอดพ้นจากการเป็นเชลยจน ทำให้ แม่ทัพ และเล่าอู ตายเป็นผีตามหลอกหลอน มังกะโบ มะเจย อาเจ แดนพยายามจะพาทุกคนกลับโลกปัจจุบันแบบมั่วๆโก๊ะ แต่แล้วจิ๊บถูก พญานาคศิงขร ดึงไปใต้น้ำ แดนรีบลงไปช่วยเพราะได้ความช่วยเหลือจาก กุมารทอง บุญชู พยายามจะไปช่วยจิ๊บแต่ถูก หลวงพ่อณาณ ห้ามไว้และส่งบุญชูข้ามมิติไปช่วยเหลือม่านฟ้าสร้างกองกำลังต่อสู้กับพวกกบฏ แต่งานยังไม่สำเร็จก็ถูกพรานแดนดึงกลับมาสู่โลกปัจจุบันเสียก่อนบุญชูคิดมาก เรื่องม่านฟ้า บุญชูอยากไปปุระนครจริงๆเพื่อช่วยม่านฟ้า แต่ระหว่างพวกเขาต้องฝ่าการผจญภัยกับจอมเมฆินทร์ ผีดูดเลือดเมื่อผ่านมาได้ต้องมาเจอกับ 2 กลุ่มคนป่า กาดำ และ กาขาว แต่ได้รับการช่วยเหลือจากม่านฟ้า ที่ปลอมมาเป็นสาวชาวบ้าน ในที่สุดทุกคนได้ผ่านพ้นเรื่องวุ่นๆไปช่วย ม่านฟ้า และ จ้าวภูพิงค์ พี่ชายม่านฟ้าจาก คำปัน คำลือ 2พ่อลูกที่คิดกบฏ โดยมีสางลี ผู้ไม่มีวันตายจอมเวชมนต์ค่อยช่วยเหลือ แต่เพราะบารมีหลวงพ่อณาณทุกคนจึงรอดมาได้ แต่ไม่อาจช่วยเหลือจ้าวภูหลวงไว้ทัน แม้จะปราบกบฏได้แต่ต้องสูญเสียพ่อทำให้ม่านฟ้าเสียใจมาก ภูพิงค์รับรู้ว่าน้องสาวรักผูกพันกับบุญชู จึงยอมปล่อยม่านฟ้าให้ไปผจญภัยกับบุญชูแม้อาจจะไม่ได้เจอกันอีกก็ตาม ทั้งคณะถูกลมตรีทูตพัดย้อนกลับไปสงครามโลกครั้งที่2 บัวตองได้กลับไปช่วยเหลือกล้าพี่ชาย และเปิดโปร่งหนานคำที่ทำทุกอย่างเพราะอยากได้สมบัติญี่ปุ่น ทำให้ทามาดะต้องสละชีพเพื่อช่วยเหลือทุกคนเพราะเขาหลงรักจิ๊บ บุญชูรู้ความลับว่าอเล็กซ์หวังสมบัติจึงขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมดและพร้อมจะพา ทุกคนกลับบ้าน แต่ลมตรีทูตพาทุกคนหลงเข้ามาในยุคอยุธยาอีกครั้ง และได้เจอกับ พนา เด็กที่มีความสามรถคุยกับสัตว์ได้ เธอเป็นลูกสาว ก้าน นายบ้านอำพันทั้งหมดต้องต่อสู้กับเสือสมิงที่แสนจะโหดร้าย แถมยังต้องมาเจอกับ อาซาน และ ตองสู ผีแม่ทัพกับเล่าอูกลับชาติมาเกิดที่คอยตามราวี มังกะโบ มะเจย อาเจ ที่คอยสร้างเรื่องปวดหัวให้บุญชู และพรานแดนตามแก้ให้ กว่าจะผ่านพ้นไปได้ทุกคนก็สะบักสะบอม ทั้งคณะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ จนทำให้จิ๊บกับแดนเริ่มผูกพันธ์กันมากขึ้น ส่วนบุญชู และม่านฟ้า ต่างก็เห็นอกเห็นใจกันจนกลายเป็นความรัก ในยุคอยุธยานี้ ทุกคนได้เจอกับ แผน ทองดี ทองใบ สีนวล ต่อสู้กับพม่า ทั้งหมดจึงเข้าช่วยเหลือ แต่กว่าจะผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ทั้งหมดต้องผจญกับความรักความแค้น ของ จอระเด นายกองผู้โหดเหี้ยมและ นายกองสุระเน ผู้อารีย์ ภายใต้การนำทัพของ มังกะยอ แต่ เมยานี ลูกสาวแม่ทัพกลับมีใจให้เชลยไทยซอเรยา นางกำนันคนสนิทคอย ช่วยเหลือ ม่านฟ้าเองก็เข้าใจผิดคิดว่าบุญชูมีใจให้สีนวล ม่านฟ้าน้อยใจจนถูกจับไปค่ายพม่า บุญชูลอบเข้าไปช่วยม่านฟ้า จอระเด ให้ มหาอิน คนไทยที่ทรยศพวกเดียวกันไปสืบว่าใครมาช่วยเหลือเชลย พอรู้ว่าเป็นกลุ่มบุญชู และพรานแดน จอระเดจึงเข้าถล่ม ทั้งหมดเข้าต่อสู้ ใบเตยใช้ความชำนาญในการดัดแปลงอาวุธเข้าลุยกับข้าศึก โดยมีกำลังเสริม ทวน ทหารพระเจ้าตากที่มาช่วยเหลือ แก่น น้องสาวที่ถูกจับเป็นเชลย ในที่สุดทั้งหมดก็ผ่านพ้นเรื่องร้ายๆไปได้และกลับสู่โลกปัจจุบัน แดนระลึกได้ว่าเขาคือโก๊ะกลับชาติมาเกิด และได้เจอกับบุญเรือนที่ต่างวัยกันมากแล้ว บุญเรือนขอให้แดนเริ่มต้นใหม่กับจิ๊บ เพราะเธอคืออดีตไปแล้ว บุญชู กับม่านฟ้าก็เข้าใจกัน ม่านฟ้าพร้อมจะอยู่กับบุญชูเพื่อผจญภัยค้นหาสมบัติแห่งชาติเพื่อเก็บรักษา เป็นทรัพย์แผ่นดินต่อไป.....

เจาะเวลาหาโก๊ะ 2551

เรื่องย่อ : เรื่องย่อ : เจาะเวลาหาโก๊ะ (2551/2008) หลังจากที่นักศึกษาชายหญิงทุกคน สามารถเดินทางผ่านเวลากลับจากโลกอดีตในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 กลับมาสู่ในโลกปัจจุบันได้ แต่พรานโก๊ะกลับขอใช้ชีวิตต่อไปอยู่ที่บ้านแพ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนเมืองกาญจนบุรีแห่งนั้น เพราะนอกจากจะมีเลือกรักชาติรักแผ่นดินอันเข้มข้นแล้ว ที่สำคัญคือความรักที่โก๊ะมีต่อ บุญหลาย ลูกสาวของ เฒ่าหอม ซึ่งเป็นจอมใจของเขา โก๊ะจึงตัดสินใจอยู่ใช้ชีวิตคู่กับบุญหลายและช่วยชาวบ้านปกป้องหมู่บ้านท่าแพให้อยู่รอดปลอดภัยจากข้าศึก

ส่วนนักศึกษาที่กลับมาไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องที่พวกตนไปผจญภัยให้กับใครฟังได้ เพราะอยากที่จะมีคนเชื่อนอกจากคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันเหลวไหล หรือพวกเขาเพ้อเจ้อกันไปเองเพราะพิษไข้ป่า เรื่องราวของพรานโก๊ะกับชาวท่าแพจึงเป็นแค่ความทรงจำอันงดงามและอยู่ในความคิดถึงของทุกคนเท่านั้น ยกเว้น โอสถ ที่ความทรงจำของตัวเองเจือความเจ็บปวดจากความผิดหวังเพราะเมื่อกลับมาไม่นาน จำนรรจ์ ก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยและไปเรียนต่อที่อเมริกา

ไม่นานนักก็มีนักข่าวว่าเธอมีคนรู้ใจใหม่ ทิ้งให้โอสถเศร้าซึมอยู่เดียวดาย และทางแก้ไขด้วยการเล่าเรื่องการต่อสู้ของตนเองกับทหารข้าศึกให้เป็นที่สนุกสนานกับพวกนักศึกษารุ่นน้อง แต่ก็มักจะถูกมองว่าพูดโม้หรือเพ้อเจ้อ โดยเฉพาะนักศึกษาปีหนึ่งที่ชื่อ จอมขวัญ หรือ จ๋อม ที่มักจะคอยขัดคออยู่เสมอโดยไม่เกรงกลัวรุ่นพี่ เธอมีดีกรีเป็นนักแม่นปืนระดับแชมป์แถมยังมี เอกสิทธิ์นักศึกษาหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยมาคอยติดพัน

หนึ่งเทอมผ่านไป เมื่อนักศึกษาสอบเสร็จและใกล้จะปิดภาคการศึกษา ในวันหนึ่งก็มีเสียงโฟนเรียกหาโอสถไปพบญาติที่ตึกอำนวยการในมหาวิทยาลัยทำให้โอสถแปลกใจคิดว่าใครอำเล่น เพราะตัวเองเป็นเด็กกำพร้าอาศัยวัดอยู่ ไม่มีญาติที่ไหน และพอหันมาโอสถก็ต้องตกใจและดีใจตื่นเต้นสลับกันไป เพราะชายคนนั้นคือ โก๊ะ หรือ พรานโก๊ะของทุกคนนั่นเอง โอสถดีใจที่ได้พบกับโก๊ะ แต่ก็ต้องแปลกใจที่ดูเหมือนโก๊ะจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

โก๊ะบอกว่า เป็นเพราะเวลาได้ผ่านไปเกือบสิบปี เขาเองยังไม่หวังว่าจะพบกับโอสถหรือเพื่อนๆ ของโอสถที่มหาวิทยาลัยนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหนจึงลองเสี่ยงมาหา แต่โอสถยืนยันว่าพวกตนเพิ่งกลับมาได้แค่สี่เดือนเท่านั้น ทั้งสองเถียงกันเรื่องเวลาเพราะโก๊ะก็ยืนยันว่า บุญชู ลูกชายของตนกับบุญหลายอายุได้ 9 ขวบแล้ว นั่นแสดงว่า เวลาของโลกอดีตกับปัจจุบันมีความเคลื่อนไปไม่ตรงกัน

โก๊ะเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่พวกนักศึกษากลับไป เหตุการณ์ทางชายแดนค่อนข้างสงบลง แต่ก็ยังมีข้าศึกเข้ามาบ้างประปราย เฒ่าหอมจึงผูกข้อมือแต่งงานให้โก๊ะกับบุญหลาย บุญหลาย ขอให้โก๊ะรับดาวเรืองเป็นเมียอยู่ร่วมเรือนอีกคนด้วยความสงสาร และเห็นว่าดาวเรืองก็เคยปลื้มโก๊ะมาก่อน ดอกรักทนทรมานด้วยความผิดหวังแต่ไม่ยอมมีเมียหรือสนใจผู้หญิงคนไหน และลั่นคำพูดไว้ว่า ถ้าโก๊ะกับบุญหลายมีลูกสาวเมื่อไหร่ จะทนรอเพื่อจีบเอามาเป็นเมียของตนให้ได้ แต่ ดอกรักก็ต้องผิดหวังอีกหนเพราะบุญหลายคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย

ซึ่งโก๊ะตั้งชื่อว่า บุญชู พอ บุญชูเติบโตขึ้นมาก็มีนิสัยขี้โม้และอีกหลายๆ อย่างไม่ต่างจากโก๊ะผู้เป็นพ่อซักเท่าไหร่ แต่ที่มากกว่าคือ การเอาตัวรอด เล่ห์เหลี่ยมและซุกซนจนเป็นหัวใจของเด็กๆ ในหมู่บ้าน และไม่เกรงกลัวใครแม้แต่ดอกรักที่ยังตัดใจจากบุญหลายไม่ได้ จึงมักจะคอยยุให้ดาวเรืองพยายามชิงโก๊ะจากบุญหลายเพื่อให้ชีวิตคู่ของทั้งสองมีปัญหา แต่ดาวเรืองไม่ยอมเล่นด้วย จนกระทั่งในเวลาต่อมาก็เริ่มมีข้าศึกเข้ามารุกราน โก๊ะกับดอกรักและพวกชาวบ้านก็ยังต่อสู้ขัดขวางและขับไล่พวกข้าศึกออกไปได้ด้วยความสามัคคี แต่ก็เริ่มมีปัญหาเมื่อดินปืนร่อยหรอลง โก๊ะจึงไปเก็บขี้ค้างคาวในถ้ำเพื่อเอามาทำดินปืนตามตำราที่กำจัดเขียนให้ไว้ ดาวเรืองตามไปคอยช่วยเหลือแต่ทนกลิ่นเหม็นอับในถ้ำไม่ไหว โก๊ะจึงให้ออกไปตักน้ำข้างนอก ทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว และประตูเวลาเปิดออก ดึงเอาโก๊ะกลับมายังโลกปัจจุบัน

ดาวเรืองตกใจเมื่อโก๊หายไปจึงพยายามตามหา และกลับมาเล่าให้ทุกคนรู้ บุญหลายกับบุญชูเข้ามาตามในถ้ำแต่ก็ไม่พบอะไร ดอกรักดีใจและพยายามบอกกับบุญหลายว่า ไม่มีวันที่โก๊ะจะกลับมาได้อีกเพราะโก๊ะไม่ใช่คนของที่นี่ แต่บุญหลายกับบุญชูไม่ยอมเชื่อ และคอยภาวนาให้โก๊ะกลับมา แม้ว่าดอกรักจะใช้ความพยายามอย่างไร บุญหลายก็ไม่ใจอ่อนแถมยังถูกขัดขวางจากดาวเรืองและบุญชูอยู่ตลอดเวลา

ส่วนโก๊ะเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็ออกมานอกถ้ำแต่กลับได้พบกับโจรสองพ่อลูกคือ เล่าหยาง กับ เล่าอู ที่หนี การคุมขังของเจ้าหน้าที่ออกมาได้ ทำให้โก๊ะรู้ว่าตนเองกลับมาสู่เวลาในโลกปัจจุบัน โก๊ะหนีพวกโจรเข้าไปในถ้ำเพื่อรอให้เกิดแผ่นดินไหว และตนจะได้ย้อนเวลากลับไป แต่ก็ไม่เกิดซักทีจนนึกถึงครั้งทีกำจัดและนักศึกษาสามารถทำระเบิดและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ จึงตัดสินใจออกจากถ้ำกลับเข้าเขตแดนไทยพบกับทองใบและเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อตามหาบรรดานักศึกษา และได้มาพบกับโอสถที่มหาวิทยาลัยนี่

โอสถพาโก๊ะไปพักที่วัดที่เขาอาศัยอยู่ โก๊ะได้กราบหลวงตามิ่งที่ซึ่งอวยพรให้โก๊ะประสบความสำเร็จและสวัสดีมีชัย วันรุ่งขึ้น โอสถพยายามนัดพวกเพื่อนๆ และรุ่นน้องให้มาพบกับ โก๊ะ แต่กลับไม่มีใครมาเพราะติดธุระหรือภาระของตนเอง จะมีก็แต่จัตวาและน้ำผึ้งเท่านั้นที่มาหาโก๊ะ รวมทั้งนักศึกษาปี 1 เช่น จอมขวัญ และเพื่อนๆ ได้แก่ ยิหวา ลักษมี อนุชา กำจร ซึ่งเป็นน้องชายของกำจัดและกำจัดบอกว่า มีความสามารถไม่แพ้ตนเอง และเอกสิทธิ์ที่ตามจอมขวัญมาด้วย กำจรยินดีช่วยโก๊ะถ้าเขาสามารถทำได้

บรรดานักศึกษาทุกคนสนใจที่จะตามไปดูการส่งตัวโก๊ะกลับเพื่อพิสูจน์ความจริงอันเหลือเชื่อ จอมขวัญยังพา จู้จี้ น้องสาวของตัวเองที่เป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ไปด้วยแม้จะถูกทัดทานจากทุกคนว่าอาจจะลำบากและมีอันตราย แต่จู้จี้ก็ดื้อตามมาจนได้ เอกสิทธิ์แม้จะไม่อยากมาเท่าไหร่แต่เมื่อจอมขวัญไม่เปลี่ยนใจจึงจำใจต้องตามมาด้วย

ทุกคนมาถึงท่าแพและพบกับทองใบ ทองใบไม่อยากให้จู้จี้ไปด้วย แต่โอสถสงสารจู้จี้จึงบอกกับทางทองใบว่าจะดูแลจู้จี้เอง ทำให้จู้จี้รู้สึกดีกับโอสถมากกว่าใครๆ แต่โอสถกับจอมขวัญก็ยังมีปัญหาเข้ากันไม่ได้ และมักจะกระทบกระทั่งกันด้วยคำพูดตลอดเวลาอยู่ดี เพราะจอมขวัญมักจะแซวโอสถเรื่องของจำนรรค์ โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นเพราะอะไรนอกจากรู้สึกหมั่นไส้ และก็ถูกโอสถย้อนให้เจ็บๆ เพราะเป็นคนปากไวไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ โก๊ะรู้สึกห่วงเมียและลูกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะรู้ว่าเวลาจะผ่านไปไว

ทางด้านในอดีต จอระแน นายกองคนใหม่ที่เป็นน้องชายฝาแฝดของนายกองคนเดิมที่ติดคุกเพราะพ่ายแพ้แก่พวกชาวบ้าน ได้อาสายกไพร่พลมาปราบชาวบ้านท่าแพเป็นการแก้ตัวให้กับพี่ชาย โดยมีเมืองประทุน หัวหมู่ทหารคนเดิมนำทางมาและ เม็งรายอ หัวหมู่คนใหม่ยกไพร่พลเดินทางมา ดอกรักพาพวกชาวบ้านเข้าซุ่มโจมตีแต่ต้องถอยหนีแตกพ่าย เพราะมีกำลังน้อยกว่า เมื่อจอระแนยกกำลังมาถึงหน้าหมู่บ้านก็วางแผนการณ์เข้าโจมตีโดยไม่ใช้กำลังให้เสียเลือดเนื้อแบบเดียวกับแผนการณ์ของสุกี้พระนายกองที่ใช้ศึกต่อสู้กับชาวบ้านบางระจันนั่นก็คือ ใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเข้าไป จนชาวบ้านพากันได้รับบาดเจ็บล้มตาย และระส่ำระสายไปตามๆ กัน ดอกรักจึงคิดจะพาพวกชาวบ้านเข้าตีค่ายข้าศึกที่วางกับดักรอไว้อยู่แล้ว

ในวันรุ่งขึ้น โก๊ะก็พาทองใบและพวกนักศึกษาเข้าป่าเพื่อเดินทางไปยังถ้ำที่เป็นประตูแห่งกาลเวลา และด้วยธรรมชาติของพรานใหญ่อย่างโก๊ะก็พาทุกคนหลงทางและวิ่งหนีเสือกันกระเจิดกระเจิงอีกจนได้ ขณะที่โก๊ะออกมาปรึกษาโอสถและทองใบ เล่าหยางกับเล่าอูก็มาพบกับนักศึกษาจึงใช้ปืนขู่และจับพวกผู้ชายมัดไว้ ส่วนผู้หญิงจะพาไปบังคับขืนใจเป็นเมียของพวกตน แต่จู้จี้วิ่งหนีพ้นไปได้ และตามพวกโก๊ะมาช่วยไว้ทันท่วงที ทุกคนจึงจับเล่าหยางกับเล่าอูมัดติดกันไว้บ้าง และทิ้งไว้ในป่าจนพบกับเสือตัวใหญ่ ทำให้สองโจรพ่อลูกต้องเอาตัวรอดกันอย่างทุลักทุเลเต็มที

ส่วนโก๊ะพาทุกคนมาถึงถ้ำจนได้ พวกนักศึกษาขอตามเข้าไปในถ้ำเพื่อพิสูจน์ว่าโก๊ะหายไปต่อหน้าต่อตาจริงๆ กำจรกำลังจะทดลองวางระเบิดเพื่อให้ถ้ำเกิดความสั่นสะเทือนแต่ปรากฏว่าเกิดแผ่นดินไหวจริง และทุกคนก็ถูกดูดเข้าอุโมงแห่งกาลเวลา เมื่อทุกคนรู้สึกตัวว่าได้เดินทางมาสู่เวลาใหม่ก็ตกใจ โดยเฉพาะเอกสิทธิ์ที่โวยวายจะกลับไป จัตวากับน้ำผึ้งไม่กลัวอะไรมากนักเพราะตนเองเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ทองใบก็ดีใจที่ได้มา เพราะคิดว่าวิชามวยไทยของตนเองอาจจะมีประโยชน์อะไรกับโก๊ะและชาวบ้านบ้าง โอสถไม่ตื่นเต้น เพราะคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะตามมา และตนเองไม่มีห่วงอะไรในโลกปัจจุบันอีกต่อไป

ส่วนพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมี อนุชา และกำจร แม้จะตื่นเต้นและกังวลบ้างแต่ก็พอระงับอารมณ์ได้ และยังมีหวังว่ากำจรจะพาทุกคนกลับได้เช่นกัน จู้จี้ร้องไห้ตกใจตามประสาเด็กแต่โอสถคอยปลอบให้กำลังใจ จอมขวัญรู้สึกดีกับโอสถขึ้นบ้างแต่พอถูกโอสถถากถางก็กลับหมั่นไส้ใหม่ ทุกคนตัดสินใจตามโก๊ะออกจากถ้ำ โก๊ะเริ่มกังวลและไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นนอกถ้ำมีความเปลี่ยนแปลงไป เพราะหน้าถ้ำไม่เหมือนกับหน้าถ้ำสมัยที่เขาอยู่ในหมู่บ้านท่าแพ และทุกคนก็รู้ว่าถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งโก๊ะตัดสินใจยิงปืนขู่ก็ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงและเสียงวิ่งเกรียวกราวหนีไป

โก๊ะพาทุกคนเข้ามาที่หมู่บ้านและเห็นความแตกต่างของสิ่งก่อสร้างหลายอย่าง ไม่ทันที่จะตั้งตัวก็มีทหารหญิงกรูเข้ามาใช้หอกและดาบควบคุมพวกโก๊ะไว้ พวกผู้หญิงพาพวกโก๊ะไปหานายบ้านซึ่งเป็นหญิงชื่อ รานี ทุกคนจึงรู้ว่าที่นี่เป็นเหมือนเมืองลับแลที่อยู่ในความปกครองของผู้หญิง และผู้ชายเป็นได้แค่ทาสกับบริวารเท่านั้น เอกสิทธิ์โวยวายแต่ถูกทหารหญิงตบจนเงียบเสียงไป

รานีรู้สึกพอใจในตัวโก๊ะจึงจะรับไว้เป็นทาสรักแต่โก๊ะไม่ตกลง รานีจึงคิดจะยกพวกนักศึกษาหญิงให้กับองครักษ์ของตนที่ไม่มีใครยอมเป็นคู่ด้วย พวกผู้ชายไม่ยอม รานีบอกว่า ถ้าเช่นนั้นต้องต่อสู้กับองครักษ์ของตนที่ชื่อว่า จิ๋ว หลายคนอาสาแต่พอจิ๋วก้าวเข้ามาก็ต้องตกใจเพราะจิ๋วเป็นชายร่างยักษ์สูงกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป จิ๋วชี้จะเอาจอมขวัญไปเป็นเมีย ทุกคนมองเอกสิทธิ์ที่ถอดใจไม่กล้าสู้ จอมขวัญบอกว่ายอมตายดีกว่าและทำท่าล้วงเป้เพื่อหยิบอะไรบางอย่าง จู้จี้ร้องไห้ โอสถตัดสินใจรับอาสาต่อสู้ จิ๋วว่าตัวแค่นี้ไม่ครณามือและท้าให้เข้ามาได้สองคน โก๊ะเข้าช่วยโอสถอีกคนและร่วมมือกันโค่นจิ๋วลงได้

จอมขวัญยิบชิ้นส่วนของปืนออกมาจากเป้และประกอบเป็นปืนยาวแล้วเข้าจี้ตัวรานี ขณะที่เหตุการณ์กำลังตึงเครียดก็มีพวกโจรป่าเข้ามาโจมตีหมู่บ้านหรือเมืองของรานี พวกโก๊ะตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้และปราบพวกโจรลงได้ รานีจึงยอมปล่อยตัวทุกคนและเดินทางมาส่งที่ถ้ำด้วยความอาลัย กำจรทดลองวางระเบิดในถ้ำจนสั่นสะเทือนและเกิดแผ่นดินไหว ทุกคนถูกดูดเข้าสู่ห้วงเวลา และมารู้สึกตัวในถ้ำอีกหน แต่เป็นเวลาของบ้านท่าแพและเมื่อออกมาที่หน้าถ้ำ โก๊ะก็เห็นกระบอกน้ำที่ดาวเรืองทิ้งเอาไว้จึงรีบพาทุกคนเข้าไปในหมู่บ้าน แต่สิ่งที่พบก็คือ ซากปลักหักพังของกระท่อมและหมู่บ้านท่าแพที่ยับเยินด้วยปืนใหญ่และไฟไหม้ โก๊ะตกใจวิ่งร้องหาบุญชูและบุญหลายกับดาวเรือง

ในขณะที่กำลังจะหมดหวัง บุญชูก็โผล่เข้ามาทำให้โก๊ะดีใจมาก และบุญชูเล่าให้ทุกคนฟังว่า ทหารข้าศึกยิงปืนใหญ่เข้ามาทุกวันจนชาวบ้านบอบช้ำเต็มที่แล้วจึงเข้าโจมตี ดอกรักต้านไม่ไหวจึงตัดสินใจพาทุกคนถอยหนีไปอยู่ที่หมู่บ้านท่าสร้างและอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ก็เกิดปัญหาเมื่อ หาญ นายบ้านหนุ่มใหญ่เกิดความพอใจในตัวของบุญหลายและดาวเรือง แต่ทั้งสองไม่ยินยอมพร้อมใจ ดอกรักเองก็คอยขัดขวางเกิดการปะทะกัน พอดีจอระแนยกกำลังตามไปและเกิดการต่อสู้ ส่วนบุญชูหนีมาเพราะยังแอบหวังว่าโก๊ะจะกลับมาหาและได้พบกับโก๊ะจริงๆ

โก๊ะจึงพาทุกคนเดินทางไปที่ท่าสร้างทันที และหาทางฝ่าทัพของจอระแนเข้าไปในหมู่บ้านในขณะที่หาญกำลังทำความตกลงกับดอกรักได้ด้วยการยกบุญหลายให้ดอกรักและตนเองยอมรับดาวเรืองคนเดียว แต่พวกโก๊ะเข้ามา ทั้งสองก็ต้องผิดหวัง เพราะบุญหลายกับดาวเรืองต่างโผเข้าหาโก๊ะทั้งคู่ หาญแสดงฝีมือขู่โก๊ะ แต่ทองใบแสดงฝีมือและชั้นเชิงมวยไทยจนปราบหาญกับดอกรักได้ ทองใบรับชาวบ้านเข้ามาเป็นศิษย์เพื่อฝึกสอนมวยไทยไว้ต่อสู้กับข้าศึก ส่วนพวกนักศึกษาก็เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตนเองมีมา กำจรมีดินปืนจำนวนมากสำหรับทำระเบิด จัตวา และอนุชาก็มีปืนของเล่าหยางกับเล่าอู โอสถมีเครื่องมือช่าง ส่วนพวกจอมขวัญมีเสบียงอาหารและยารักษาโรคกับเครื่องเวชภัณฑ์ ทำให้โก๊ะสงสัยว่าทุกคนตั้งใจจะตามเขามาที่นี่

จู้จี้ เริ่มบ่นตามประสาเด็กหญิงที่เคยชินกับความสะดวกสบาย และชักคิดถึงบ้าน เลยถูกบุญชูคอยยั่วแหย่ให้โมโหหุนหัน แต่ก็ทำให้หายเหงาไปได้ เอกสิทธิ์พยายามประกาศตัวว่าเป็นแฟนกับจอมขวัญจนทุกคนหมั่นไส้เพราะไม่ค่อยช่วยทำอะไร และจอมขวัญก็อึดอัดใจ โอสถพาชาวบ้านตัดไม้สร้างเป็นรั้วหรือป้อมค่ายล้อมหมู่บ้านเอาไว้ พวกนักศึกษาชายช่วยกันทำระเบิดบั้งไฟ หาญท้วงว่าอานุภาพอาจสู้ปืนใหญ่จริงๆ ไม่ได้ อนุชาเสนอให้เปลี่ยนจากรับเป็นรุกดูก่อนและทำสงครามกองโจรกับข้าศึกเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจ และอาสาเป็นทัพหน้าไปกับโอสถ เพราะถูกต่อว่าจากพวกผู้หญิง

โดยเฉพาะจอมขวัญแต่พอโอสถจะไปจริงๆ จอมขวัญก็เกิดเป็นห่วงขึ้นมาและภาวนาให้โอสถกลับมาด้วยความปลอดภัย แต่พอแสดงความเป็นห่วงเมื่ออยู่กันตามลำพัง ก็ถูกโอสถเย้าแหย่จนอดโมโหอีกไม่ได้ ยิหวาสงสัยว่าเพื่อนจะมีใจให้โอสถ แต่จอมขวัญคิดว่าในใจของโอสถมีแต่จำนรรค์เท่านั้น และมีเอกสิทธิ์เป็นเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว

เอกสิทธิ์รู้สึกดีใจลึกๆ ที่โอสถไปเสี่ยงอันตราย และอดแช่งขออย่าให้โอสถกลับมา แต่เผลอพูดดังไปจนจู้จี้ได้ยิน จู้จี้ไม่พอใจจึงเข้ามาต่อว่าจนเอกสิทธิ์ไม่พอใจและเกิดการเถียงกับจู้จี้ที่รู้สึกว่าน่าจะภาวนาให้พวกเดียวกันปลอดภัย บุญชูมาได้ยินทำให้เห็นว่าจู้จี้เป็นเด็กที่มีความคิดและอะไรในตัวดีเหมือนกัน จึงคิดและเลิกแกล้งจู้จี้และทำดีด้วยแต่กลับถูกจู้จี้เล่นงานกลับคืนจนย่ำแย่

พวกโอสถเข้ามาในป่าเพื่อดักทัพของข้าศึก จอระแนสั่งให้เม็งรายอที่ชอบคุยทับถมเมืองประทุน เป็นกองหน้ายกพลล่วงหน้ามาก่อนเพื่อดูลาดเลา โอสถคิดจะดักซุ่มโจมตีแต่อนุชาเสนอแผนการที่ดีกว่านั้นคือ วิธีของพลายงามที่เสกใบมะขามเป็นผึ้งตัวต่อเล่นงานทัพของแสนตรีเพชรกล้าในวรรณคดีไทย และขอให้ชาวบ้านที่มีความสามารถในการจับผึ้งป่ามาขังไว้ในหม้อดินและปิดฝาขังไว้

เมื่อพวกของเม็งรายอเดินทางมาและเตะถูกเชือกที่ขึงดักอยู่ เชือกดึงหม้อดินตกลงมา ฝูงผึ้งป่าที่กำลังโกรธจัดเพราถูกจับขังก็กรูกันออกมาต่อยพวกเม็งรายออุตลุด จนเม็งรายอและทหารพากันแตกหนีไม่เป็นขบวน พวกชาวบ้านเลยพากันเข้าไปเก็บอาวุธที่ข้าศึกทิ้งไว้และขนกลับไปหมู่บ้านด้วยความดีใจ แต่ดอกรักบอกว่าแค่ข้าศึกที่เป็นกองหน้าแตกหนีไปเท่านั้น แถมยังไม่มีใครตาย อีกไม่ช้าก็คงจะมากันใหม่ และใช้วิธีสู้อย่างเก่าไมได้ อนุชากับกำจรและโอสถบอกพวกตนก็ยังไม่หมดมุขแค่นี้เหมือนกัน

เม็งรายอ และทหารหนีมาหน้าตาหัวหูบวมปูดไปตามๆ กัน จอระแนคิดว่าพวกชาวบ้านที่ท่าแพอาจจะมีวิชาอาคมเสกพวกสัตว์พิษได้ แต่ทุกคน ก็ต้องแปลกใจเมื่อเหล่าหยางกับเล่าอูเข้ามาหาและบอกว่าพวกตนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่พวกนักศึกษาวางแผนกัน เมืองประทุนบอกกับจอระแนว่าเล่าอูเป็นใคร เล่าอูกับเล่าหยางเอาของขวัญแปลกๆ ให้และบอกว่าจะช่วยจอระแนจัดการกับนักศึกษาและชาวบ้านท่าสร้าง จอระแนจึงรับสองคนพ่อลูกไว้และตั้งให้เป็นที่ปรึกษา สั่งให้หมอยาช่วยกันพิษเหล็กในผึ้งให้พวกเม็งรายอและทหารกองหน้าก่อนที่จะเคลื่อนพลต่อมา

ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกากัน รานีกับจิ๋วก็เข้ามาหา ชาวบ้านตกใจนึกว่ายักษ์หรือเปรตที่ไหน รานีบอกว่าเป็นห่วงโก๊ะจึงตามมา บุญหลายกับดาวเรืองชักไม่ชอบใจด้วยความหึงหวงและเกิดปะทะคารมกัน โก๊ะเลยหนีไป โจมตีข้าศึกด้วยความรำคาญใจ จิ๋วขอตามไปด้วย จอมขวัญกับยิหวาและลักษมีก็ขอตามไปสังเกตการณ์ เมืองประทุนส่งทหารออกมาหาข่าว ยิหวาแต่งชุดเชียร์ออกมาเต้นยั่วให้พวกทหารตามจนถูกพวกโก๊ะจับได้ และสอบถามจนรู้ว่าเมืองประทุนคุมกองหน้ามา

โก๊ะจำได้ว่าเมืองประทุนค่อนข้างขลาดและกลัวผี ยิหวา กับลักษมีจึงช่วยกันแต่งหน้าให้จิ๋วจนมองดูเหมือนผีเปรตตัวสูงใหญ่ ขณะที่เมืองประทุนกับทหารกำลังจะพักก็ต้องตกใจเมื่อเห็นจิ๋วบุกเข้ามา ทุกคนวิ่งหนีและถูกจอมขวัญกับโก๊ะสุ่มยิงจนล้มกลิ้งไปตามๆ กัน จอระแนชักหนักใจที่พวกโก๊ะมีฝีมือและวิชาอาคมแปลกๆ เหมือนกับขุนแผนเจ้าเมืองกาญจน์สมัยก่อน แต่เล่าหยางกับเล่าอูบอกว่าเรื่องคนตัวสูงไม่มีอะไรแปลกตรงไหนเพราะพวกตนเคยเห็น โยกเยก เชิญยิ้ม เป็นนักแสดงตลกรูปร่างสูงใหญ่มาแล้ว พวกโก๊ะอาจจะมีคนตัวสูงปลอมเป็นผีมาหลอกก็ได้ จอระแน จึงสั่งให้เล่าหยางกับเล่าอูลองเป็นศึกกองหน้าดูบ้าง

พวกชาวบ้านพากันดีใจที่ได้ชัยชนะข้าศึก โดยไม่เสียเลือดเนื้ออีก แต่ดอกรักกับหาญก็ค้านว่าพวกข้าศึกก็ไม่เสียเลือดเนื้อเช่นกัน และพวกมันคงไม่ยอมถอยไปง่ายๆ แค่นี้ และเมื่อกำลังข้าศึกใกล้เข้ามา หาญจึงอาสาหาคนของตนยกออกไปรับข้าศึกดูบ้าง เอกสิทธิ์รู้สึกเสียหน้าจึงขอตามไปด้วยเพราะคิดว่าคงไม่น่ากลัวซักเท่าไหร่ แต่พอจะปะทะกันจริงๆ และถูกพวก เล่าหยางซุ่มยิงใส่ เอกสิทธิ์ก็ถอดใจวิ่งหนีให้ชาวบ้านใจเสีย และพอเข้าปะทะกันจึงสู้พวกทหารไม่ได้ทำให้หาญได้รับบาดเจ็บ ต้องพ่ายกลับมาอย่างบอบช้ำยับเยิน จอระแนชื่นชมเล่าหยางกับเล่าอูจนเมืองประทุนและเม็งรายอไม่ค่อยพอใจ

หาญเห็นชาวบ้านเสียขวัญจึงประกาศสละตำแหน่งนายบ้านให้เลือกหัวหน้าใหม่ เฒ่าหอมขอสละสิทธิ์เพราะคิดว่าตนแก่เกินไป ดอกรักสนใจอยากได้ตำแหน่งนี้เพื่อจะได้ดูดีมีความหมาย โอสถเสนอให้ใช้วิธีเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยใช้เสียข้างมาก มีคนเสนอให้โก๊ะรับตำแหน่งนายบ้านแข่งกับดอกรัก และเมื่อมีการเลือกตั้งคะแนนเสียงส่วนใหญ่ก็เป็นของโก๊ะทำให้โก๊ะได้เป็นนายบ้านคนใหม่แทนหาญ ดอกรักรู้สึกผิดหวังจนเตลิดออกจากหมู่บ้านอย่างคลุ้มคลั่ง และในที่สุดก็ถูกทหารของจอระแนจับตัวมาได้ จอระแนคิดจะฆ่าให้ตาย แต่เล่าอูคิดจะใช้ประโยชน์จากดอกรักจึงเข้ามาเกลี้ยกล่อมและเสนอผลประโยชน์จนดอกรักเริ่มหวั่นไหว

บุญชู พาลูกลิงแสนรู้ของตนเองไปเที่ยวในป่าและลิงหนีขึ้นต้นไม้ไม่ยอมลงมา บุญชูปีนตามขึ้นไปจึงรู้ว่าลิงหนีโขลงช้างป่าที่เข้ามาหากินใกล้ๆ บุญชูพาลิงกลับเข้าหมู่บ้านและมาเล่าให้โก๊ะฟัง โก๊ะจึงตัดสินใจออกไปล่อโขลงช้างป่าให้ตามมาและวิ่งเข้ากลางทัพข้าศึกจนจอระแนแทบจะถูกช้างป่าเหยียบตาย แต่พอตั้งหลักได้ก็ถูกพวกชาวบ้านมาตั้งค่ายบังเอาไว้

ทหารข้าศึกพยายามจะบุกเข้ามาให้ได้ แต่ถูกพวกโก๊ะและชาวบ้านยันเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เล่าอูแอบมาพบกับดอกรักและเอายาเบื่อมาให้ดอกรักวางยาพวกโก๊ะและนักศึกษา แต่ทุกอย่างอยู่ในสายตาของบุญหลายกับดาวเรือง ดาวเรืองเสียใจแต่บุญหลายพูดปลอบว่าคนเราอาจจะผิดพลาดกันได้ ทั้งสองไปปรึกษากับโก๊ะเพื่อให้จับตัวดอกรักไว้ โก๊ะมาขอให้โอสถกับจัตวาช่วยแก้ปัญหา โอสถเล่าให้ทุกคนฟังถึงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ของไทยว่าเป็นเพราะความแตกความสามัคคีและมีไส้ศึกที่ทรยศต่อชาติต่อแผ่นดินเกิดของตนเอง โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว และในที่สุดข้าศึกก็ไม่เคยคิดจะเลี้ยงคนทรยศไว้ ดอกรักเริ่มคิดหนักและเมื่อได้ยินบุญหลายกับดาวเรืองเล่าให้บุญชูและจู้จี้ฟังถึงวีรกรรมต่างๆ ของตนเอง และดาวเรืองก็บอกว่าภูมิใจในพี่ชายที่ชื่อดอกรักคนนี้

เล่าอูบอกกับจอระแนว่า ได้รับการนัดหมายจากดอกรักเรื่องวางยาพวกนักศึกษาและชาวบ้าน จอระแนไม่แน่ใจเพราะเคยได้รับการบอกเล่าจากพี่ชายจึงให้เม็งรายอพาทหารบุกเข้าไป เม็งรายอเห็นทุกคนนอนหลับก็คิดจะฆ่าฟัน แต่พวกโก๊ะลุกขึ้นมาเล่นงานทหารข้าศึกและเม็งรายอจนจับเยิน ชาวบ้านเริ่มระส่ำระส่าย พวกกำจรแก้เกมด้วยการตัดต้นตาลมาทาสีให้ดูเหมือนปืนใหญ่นับสิบกระบอกแล้วลากออกมาประจันหน้า แล้วยิงด้วยบั้งไฟจนทหารข้าศึกนึกว่าถูกระดมยิงจากปืนใหญ่จำนวนมาก

พอเห็นว่าข้าศึกเสียขวัญ พวกโก๊ะกับทุกคนก็เข้าประจัญบานทันที จอระแน เมืองประทุน และเม็งรายอ รวมทั้งทหารข้าศึกต่างบาดเจ็บล้มตายแตกพ่ายหนี แม้จะเป็นฝ่ายมีชัย แต่โก๊ะก็ต้องสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เมื่อบุญหลายกับดาวเรืองเข้าป้องกันบุญชูและจู้จี้จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในอ้อมกอดของโก๊ะ ก่อนที่จะสัญญาว่าจะขอตามไปรักโก๊ะในทุกชาติไป

โก๊ะไม่สนใจรานีที่คิดว่าตนเองอาจจะมีหวังเมื่อโก๊ะกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ดอกรักปลอบใจและมองว่าตนเองกับรานีหัวอกเดียวกัน แต่หาญก็เข้ายืนยันว่าตนเองก็ผิดหวังเหมือนกัน และถามว่ารานีจะเลือกใคร โก๊ะกับบุญชูพากันมาส่งพวกนักศึกษาที่ถ้ำขณะที่กำจรจะทำระเบิดก็เกิดแผ่นดินไหวทุกคนกลับสู่โลกปัจจุบัน ทันใดนั้นเล่าหยางกับเล่าอู ก็โผล่เข้ามาดูถูกพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมีจับเอาไว้ได้ และช่วยกันมัดทั้งสองพ่อลูกไว้ ทุกคนออกจากถ้ำไปแต่ที่สวนเข้ามาคือเสือตัวใหญ่ที่ท่าทางหิวกระหาย ทำให้สองโจรถึงกับร้องลั่นอย่างหมดหวัง

พวกโก๊ะกลับมาพักที่บ้านของทองใบ โก๊ะกับบุญชูยังไม่หายโศกเศร้าในขณะที่มีเสียงขบวนแห่ขันหมากเข้ามา จู้จี้ชวนบุญชูออกไป ดูแต่พอเห็นเจ้าบ่าวบุญชูก็หน้าตื่นกลับเข้ามาเพราะเจ้าบ่าวหน้าตาเหมือนดอกรักราวกับพิมพ์เดียวกัน ทองใบมาส่งข่าวว่าเจ้าบ่ายชื่อ ดอกดิน กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวชื่อ บุญเรือน โก๊ะรู้สึกสังหรณ์ใจ จึงวิ่งไปดูพร้อมกับบุญชู พอเจ้าสาวเห็นหน้าโก๊ะกับบุญชูก็ตกใจ เช่นเดียวกับบุญชูที่ร้องตะโกนเรียกแม่ เพราะเจ้าสาวหน้าเหมือนบุญหลายราวกับพิมพ์เดียวกัน แล้วเจ้าสาวหรือบุญเรือนก็ทิ้งทุกอย่างวิ่งเข้ามาหาและบอกว่า โก๊ะ กับ บุญชู คือ คนที่เธอฝันถึงตลอดมา ทำเอาเจ้าบ่าวหรือดอกดินแทบจะเป็นบ้าด้วยความเสียใจ แต่ดาวที่เป็นน้องสาวเข้ามาปลอบใจและชวนไปดูการแสดงของนักร้องลูกทุ่งที่ดอกดินติดใจคือ อาภาพร นครสวรรค์

จอมขวัญ ยังคงเถียงกับโอสถ แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าเป็นการเถียงเพื่อได้ใกล้ชิดกัน ส่วนกำจรกับยิหวา และอนุชากับลักษมีก็ตัดสินใจว่าจะทดลองคบกันเพื่อศึกษา จู้จี้สัญญาว่าจะไม่ลืมเพื่อนที่ชื่อ บุญชู และทุกคนก็ร่ำลากันและเดินทางไปตามครรลองชีวิตของตน

สิบสามปีต่อมา มีกลุ่มนักศึกษามาเที่ยวป่าและพบกับพรานนำทางหนุ่มหน้าตาดีแต่พูดคล่องท่าทางกะล่อนเต็มที่ พร้อมกับแนะนำตัวว่าชื่อพรานโก๊ะ มีเสียงท้วงว่าพรานโก๊ะน่าจะแก่กว่านี้ พรานโก๊ะหนุ่มจึงบอกผมเป็นลูกชายชื่อ โก๊ะจูเนียร์ และสงสัยว่ามีคนรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ใช่พรานโกะ นักศึกษาสาวสวยจึงบอกว่าเธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่และยังรู้ว่าชื่อจริงของเขาน่าจะชื่อ บุญชู ซะมากกว่า ทำให้โก๊ะจูเนียร์มองเด็กสาวอย่างพิจารณาก่อนจะร้องเรียกว่า ยายจู้จี้

สังข์ทอง 2550

เรื่องย่อ : สังข์ทอง (2550/2007) กาลปางก่อนมี พระเจ้าพรหมทัต (ท้าวยศวิมล) ครองเมืองพรหมนคร (เมืองยศวิมล) พระเจ้าพรหมทัตมีมเหสีสององค์ มเหสีฝ่ายขวาชื่อ พระนางจันทราเทวี (นางจันเทวี) มเหสีฝ่ายซ้ายชื่อ พระนางสุวรรณจัมปากะ (นางจันทา) พระเจ้าพรหมทัตโปรดมเหสีฝ่ายซ้ายมาก ต่อมามเหสีทั้งสองทรงครรภ์ โหรทำนายว่าบุตรของมเหสีฝ่ายขวาเป็นชาย ส่วนมเหสีฝ่ายซ้ายเป็นหญิง พระนางสุวรรณจัมปากะรู้สึกเสียใจที่จะได้ธิดาแทนที่จะเป็นโอรส และเกรงว่าพระนางจันทราเทวีจะได้ดีกว่า จึงใส่ร้ายพระนางจันทราเทวีจนพระเจ้าพรหมทัตหลงเชื่อขับไล่พระนางจันทราเทเวีออกจากพระราชวัง พระนางจันทราเทวีเดินทางด้วยความยากลำบาก เมื่อถึงชายป่านอกเมือง ยายตาสองคนสงสาร จึงชวนให้พักอยู่ด้วย โอรสในครรภ์ของพระนางจันทราเทวีเห็นความยากลำบากของพระมารดา จึงแปลงกายเป็นหอยสังข์เพื่อไม่ให้พระมารดาต้องลำบากเลี้ยงดู เมื่อครบกำหนดคลอด พระนางจันทราเทวีก็คลอดโอรสออกมาเป็นหอยสังข์ ซึ่งพระนางก็รักใคร่ เลี้ยงดูเหมือนลูกมนุษย์ วันหนึ่งพระนางจันทราเทวี ออกจากบ้านไปช่วยตายายเก็บผักหักฟืน ลูกน้อยในหอยสังข์ก็ออกจากรูปหอยสังข์ช่วยปัดกวาดบ้านเรือน และหุงหาอาหารไว้ พอเสร็จก็กลับเข้าไปในรูปหอยสังข์ตามเดิม พระนางจันทราเทวี เมื่อกลับมาก็แปลกใจ ว่าใครมาช่วยทำงาน และเมื่อนางจันทราเทวีออกจากบ้านไป ลูกน้อยในหอยสังข์ก็จะออกมาทำงานบ้านให้เรียบร้อยทุกครั้ง พระนางจันทราเทวีอยากรู้ว่าเป็นใคร วันหนึ่งจึงทำทีออกจากบ้านไปป่าเช่นเคย แต่แล้วก็ย้อยกลับมาที่บ้าน โอรสในหอยสังข์ก็ออกมาทำงานบ้าน พระนางจันทราเทวีเห็นโอรสเป็นมนุษย์ก็ดีใจ จึงทุบหอยสังข์เสีย และกอดโอรสด้วยความยินดี พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า "สังข์ทอง" เมื่อพระเจ้าพรหมทัตรู้ข่าวว่า พระนางจันทราเทวีประสูติพระโอรส ก็ยินดีจะรับพระนางจันทราเทวีกลับ พระนางสุวรรณจัมปากะเทวีริษยาจึงได้เท็จทูลว่า พระโอรสเดิมเป็นหอยสังข์ พระเจ้าพรหมทัตก็หลงเชื่อเกรงจะเป็นกาลกิณีต่อบ้านเมือง จึงให้อำมาตย์จับพระนางจันทราเทวีและลูกน้อยสังข์ทองใส่แพลอยไป เมื่อแพลอยออกทะเล เกิดพายุใหญ่แพแตก พระนางจันทราเทวีถูกคลื่นซัดลอยไปติดที่ชายหาดเมืองมัทราษฎร์ พระนางก็เดินทางซัดเซพเนจรไปอาศัยบ้านเศรษฐีเมืองมัทราษฎร์ชื่อธนัญชัยเศรษฐี และทำหน้าที่เป็นแม่ครัว ฝ่ายพระสังข์ทองนั้นจมน้ำลงไปยังนาคพิภพ พระยานาคมีจิตสงสารจึงเนรมิตเรือทอง แล้วอุ้มพระสังข์ทองใส่ไว้ในเรือ เรือทองลอยไปถึงเมืองยักษ์ซึ่งนางยักษพันธุรัตปกครองอยู่ นางยักษ์เห็นพระสังข์ทองในเรือทองเกิดความรักใคร่เอ็นดู จึงนำพระสังข์ทองมาเลี้ยงดูในปราสาท และให้พี่เลี้ยงนางนมแปลงร่างเป็นคน เพื่อมิให้พระสังข์ทองหวาดกลัว พระสังข์ทองก็เติบโตอยู่กับนางยักษ์พันธุรัต นางยักษ์พันธุรัตปกติจะต้องออกไปหาสัตว์ป่ากินเป็นอาหาร เมื่อนางออกไปป่าก็จะไปครั้งละสามวันหรือเจ็ดวัน ทุกครั้งที่ไปก็จะสั่งพระสังข์ทองว่า อย่าขึ้นไปเล่นบนปราสาทชั้นบนและในสวน พระสังข์ทองก็เชื่อฟัง แต่เมื่อโตขึ้นก็เกิดความสงสัยอยากรู้ วันหนึ่งเมื่อนางยักษ์พันธุรัตไปป่า พระสังข์ทองก็แอบไปในสวนส่วนที่ห้ามไว้ เห็นกระดูกสัตว์และคนที่นางยักษ์กินเนื้อแล้วทิ้งกระดูกไว้เป็นจำนวนมาก พระสังข์ทองเห็นเช่นนั้นก็ตกใจ นึกรู้ว่ามารดาเลี้ยงเป็นยักษ์ก็รู้สึกหวาดกลัว และเมื่อเดินต่อไปเห็นบ่อเงินบ่อทองสวยงาม พอพระสังทองเอานิ้วก้อยจุ่มลงไปนิ้วก็กลายเป็นสีทอง พระสังข์ทองจึงลงไปอาบทั้งตัวร่างกาย ก็กลายเป็นสีทองงดงาม แล้วพระสังข์ทองก็ขึ้นไปบนปราสาทชั้นบน เห็นเกราะรูปเงาะป่า เกือกทอง และพระขรรค์ พระสังข์ทองเอาเกราะเงาะป่ามาสวม ก็กลายร่างเป็นเงาะป่า พอใส่เกือกทองก็รู้สึกว่าลอยได้ พระสังข์ทองจึงหยิบพระขรรค์ แล้วเหาะหนีออกจากเมืองยักษ์ และข้ามแม่น้ำไปยังเมืองตักศิลา ตกเย็นจึงพักอยู่ที่ศาลาริมน้ำ ฝ่ายนางยักษ์กลับมาไม่เห็นลูก และขึ้นไปที่ปราสาทชั้นบน เห็นเกราะรูปเงาะป่า เกือกทอง และพระขรรค์หายไป ก็รู้ทันทีว่า พระสังข์ทองรู้ว่าตนเป็นยักษ์แล้วหลบหนีไป นางจึงเหาะตามไป เมื่อถึงฝั่งน้ำเห็นพระสังข์ทองพักอยู่ นางไม่สามารถเหาะข้ามไปได้ จึงร้องไห้ อ้อนวอนให้พระสังข์ทองกลับไป พระสังข์ทองยังหวาดกลัวจึงไม่ยอมกลับ นางพันธุรัตเสียใจจนหัวใจแตกสลาย แต่ก่อนตายนางก็สอนมนต์หาเนื้อหาปลาให้ พระสังข์ทองแล้วนางก็สิ้นใจตาย พระสังข์ทองรู้สึกเสียใจมากหลังจากได้จัดเผาศพนางยักษ์แล้ว พระสังข์ทองก็เหาะเดินทางไปเมืองพาราณสี และได้ไปอาศัยชาวบ้านช่วยเลี้ยงโค พระสังข์ทองตอนนี้รูปร่างเป็นเงาะป่าพวกเด็กเลี้ยงโคก็มาเล่นสนิทสนมกับพระสังข์ทอง ที่เมืองพาราณสีนี้เจ้าเมืองมีธิดา 7 องค์ เจ้าเมืองคิดจะให้พระธิดาทั้ง 7 องค์ได้อภิเษกสมรส จึงมีรับสั่งให้ประกาศแก่เจ้าผู้ครองนครต่างๆ ให้ส่งโอรสมาให้พระธิดาเลือกพระธิดาทั้ง 6 องค์ ก็เลือกได้เจ้าชายที่เหมาะสม แต่พระธิดาองค์สุดท้องชื่อ "รจนา" ไม่ยอมเลือกเจ้าชายองค์ใด เจ้าเมืองพาราณสีทรงกริ้วมากจึงประชดโดยให้อำมาตย์ไปประกาศให้ชายทุกคนในเมือง ให้เข้ามาในวังให้พระราชธิดาเลือก พระสังข์ทองในรูปเงาะป่าก็ถูกเกณฑ์เข้ามาด้วย เมื่อนางรจนาออกมาเลือกคู่ บุญบันดาลให้เห็นรูปทองของพระสังข์ทองแทนที่จะเป็นเงาะป่า นางจึงเลือกเงาะป่า เจ้าเมืองพาราณสีกริ้วมากขับไล่นางรจนาออกไปอยู่นอกเมือง เจ้าเมืองพาราณสีมีความแค้นเคืองเงาะป่าคิดจะกำจัด จึงออกคำสั่งให้เขยทั้ง 6 และเงาะป่า ไปหาเนื้อมาคนละตัว ใครหามาไม่ได้จะถูกประหารชีวิต เงาะป่าเข้าไปในป่าถอดรูปเงาะออกแล้วร่ายมนต์เรียกเนื้อ เนื้อทั้งหลายก็มาอยู่ที่พระสังข์ทอง 6 เขยหาเนื้อทั้งวันก็ไม่ได ้จนกระทั่งมาพบพระสังข์ทอง ซึ่ง 6 เขยคิดว่าเป็นเทวดา 6 เขยจึงขอเนื้อจากพระสังข์ทอง พระสังข์ทองให้โดยขอตัดใบหูคนละหน่อย 6 เขยยอม ทั้งหมดจึงนำเนื้อไปให้เจ้าเมืองพาราณสี เจ้าเมืองพาราณสียังทำร้ายเงาะป่าไม่ได้ก็แค้นใจ จึงมีคำสั่งให้เขยทุกคนหาปลาไปถวาย พระสังข์ทองก็ถอดรูปเงาะป่าแล้วร่ายมนต์เรียกปลา ปลาก็มาออคับคั่งอยู่ที่พระสังข์ทอง 6 เขยหาปลามาไม่ได้ทั้งวัน และเมื่อพบปลามาอออยู่ที่พระสังข์ทองก็กราบไหว้อ้ออนวอนขอปลา พระสังข์ทองยกให้โดยขอตัดปลายจมูกหกเขยคนละหน่อย แล้วหกเขยกับเงาะป่านำปลาไปถวายเจ้าเมืองพาราณสี เจ้าเมืองพาราณสีขัดแค้นใจที่ทำอันตรายเงาะป่าไม่ได้ ก็เฝ้าคิดหาวิธีการอื่นที่จะกำจัดเงาะป่า พระอินทร์บนสวรรค์ทราบถึงการคิดร้ายของเจ้าเมืองพาราณสีต่อเงาะป่าจึงลงมาช่วย โดยเหาะลงมาลอยอยู่หน้าพระที่นั่งของเจ้าเมืองพาราณสี และกล่าวท้าทายว่าให้เจ้าเมืองพาราณสีหาคนดีมีฝีมือเหาะขึ้นมาตีคลีกับพระอินทร์บนอากาศ ภายใน 7 วัน ถ้าหาไม่ได้ก็จะฆ่าเจ้าเมืองพาราณสี เจ้าเมืองพาราณสีตกใจมาก ให้ 6 เขยและบรรดาเสนาอำมาตย์ช่วยกันหาผู้อาสาเหาะไปตีคลี ทุกคนก็จนปัญญา เจ้าเมืองพาราณสีจึงให้ป่าวประกาศว่าผู้ใดที่สามารถเหาะไปตีคลีกับพระอินทร์บนอากาศได้ จะยกราชสมบัติให้ แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดมาอาสา นางมณฑาเทวีพระมเหสีของเจ้าเมืองพาราณสี จึงแอบไปหานางรจนาและขอให้นางรจนาอ้อนวอนให้เงาะป่าช่วย เงาะป่าสงสารทั้งสองนางจึงรับปาก และในวันที่ 7 เงาะป่าก็ถอดรูปเป็นพระสังข์ทอง ใส่เกือกแก้วเหาะขึ้นไปตีคลีกับพระอินทร์จนชนะ พระอินทร์ก็กลับไปบนสวรรค์ เจ้าเมืองพาราณสีดีพระทัยมากได้ขอโทษพระสังข์ทองและยกราชสมบัติให้ตามสัญญา พระสังข์ทองขอลาไปตามหาพระนางจันทราเทวีก่อน พระสังข์ทองเดินทางไปตามเมืองต่างๆ จนกระทั่งมาถึงเมืองมัทราษฎร์ จึงไปสืบถามที่บ้านธนัญชัยเศรษฐีว่ารู้จักหญิงที่ชื่อจันทราเทวีหรือไม่ ธนัญชัยเศรษฐีบอกว่าไม่รู้จัก แต่ก็เชิญพระสังข์ทองอยู่รับประทานอาหาร พระสังข์ทองสังเกตว่าอาหารมีรสปราณีต ซึ่งผู้ทำจะต้องเป็นผู้ทำอาหารถวายพระเจ้าแผ่นดิน จึงขอพบแม่ครัวและซักถามประวัติ ก็ทราบว่าเป็นพระนางจันทราเทวีจึงดีใจมาก และขอธนัญชัยเศรษฐีที่จะรับพระมารดากลับไป พระสังข์ทองนำพระมารดากลับไปอยู่ที่เมืองพาราณสี พระสังข์ทองปกครองเมืองพาราณสีจนเจริญรุ่งเรือง กิติศัพท์แพร่ไปยังนครอื่นๆ จนถึงเมืองพรหมนคร ชาวเมืองพรหมนครก็อพยพมาอยู่เมืองพาราณสี เสนาอำมาตย์เมืองพรหมนครจึงทูลเสนอพระเจ้าพรหมทัตว่า พระสังข์ทองพระราชโอรสครองเมืองพาราณสี มีความสามารถทำให้รุ่งเรือง จึงเห็นสมควรที่จะอัญเชิญพระสังข์ทองมาครองเมืองพรหมนครเพื่อสร้างความเจริญ พระเจ้าพรหมทัตเมื่อทรงทราบว่าพระโอรสยังมีชีวิตอยู่และมีความสามารถก็ยินดี และสำนึกผิดให้อำมาตย์ผู้ใหญ่ไปเมืองพาราณสีและทูลเชิญพระสังข์ทอง พระนางจันทราเทวี กลับเมืองพรหมนคร พระสังข์ทองสงสารพระบิดา จึงอ้อนวอนพระมารดาให้อภัยพระเจ้าพรหมทัตและเดินทางกลับเมืองพรหมนคร พระเจ้าพรหมทัตก็มอบราชสมบัติให้พระสังข์ทอง ปกครองบ้านเมืองเป็นสุขสืบมา

พระทิณวงศ์ 2550

เรื่องย่อ : พระทิณวงศ์ (2550/2007) เมืองพรหมสาลี ท้าวอภัยนุสินมีลูกสาวชื่อว่าทิพย์มณฑา ในวันที่นางประสูตินั้นมีกลิ่นหอมฟุ้งขจายไปทั่วเมือง แต่โหรหลวงกลับทำนายว่าพระธิดาจะต้องพลัดพรากจากบ้านเมือง และตายพร้อมกับคนรักในที่สุด

กล่าวถึงพระทิณวงศ์ที่ปลอมตัวมาเป็นชายพิการง่อยแอบอยู่สวน วันหนึ่งนางทิพย์มณฑาไปเดินเล่นที่อุทยานพร้อมกับพี่สาวทั้ง 7 นางได้เจอกับชายพิการ (พระทิณวงศ์) แล้วสนทนาพลางมอบผ้าสไบให้อีกด้วย พวกพระพี่นางทั้งหลายได้นำความไปฟ้องท้าวอภัยนุสิน ท้าวอภัยนุสินโกรธจัดจึงถีบนางออกไปอยู่กับพระทิณวงศ์

ร้อนถึงพระอินทร์ต้องลงมาท้าท้าวอภัยนุสินตีดลีซิ โดยถ้าแพ้ท้าวเธอจะต้องถูกตัดหัว ท้าวอภัยนุสินได้ซมซานไปง้องอนพระทิณวงศ์ให้ออกมาช่วยเหลือหน่อย จนพระองค์ได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ จึงได้เชิญมาอยู่ในพระราชวังได้ในที่สุด

กาษา นาคา 2550

เรื่องย่อ : กาษา นาคา (2550/2007) หญิงสาวสวยจัด ผมดำยาวสยาย ดวงตาดำสนิทลึกล้ำ ร่างแบบบางเหมือนต้นอ้อที่กำลังล้อลม เธอนั่งอยู่บนตั่งใหญ่ เสียงฆ้องพลิ้วใสดุจเสียงทิพย์คนธรรพ์ลอยแผ่วมาตามสายลมแทรกด้วยเสียงหูกทอผ้า เธอกำลังทอผ้า ผ้าไหมเนียนนุ่ม เส้นลื่น สีขาวสะอาดตาถูกทักทอยาวเป็นวา แล้วผ้าไหมผืนนั้นก็ถูกวางลงบนมือของ วารี เสียงแผ่วเหมือนกระซิบกล่าวว่า ฝากผ้ากาษาให้วาดจันทร์ สำหรับใช้ในวันที่ผู้ชายที่วาดจันทร์รักที่สุดบวช อย่าลืม ให้ผ้ากาษาแก่วาดจันทร์ ผ้ากาษานี้เป็นของวาดจันทร์ วารีสะดุ้งตื่นจากฝันที่ชัดเจนราวกับความจริง และในวันรุ่งขึ้นผ้าไหมสีขาวผืนยาวก็ตกมาถึงมือวารีจากร้านขายของเก่าร้านนั้น ผ้าผืนนั้นถูกเก็บอย่างดีตราบจนกระทั่ง วาดจันทร์ ลูกสาวคนเดียวของวารีและพิสุทธิ์ อายุ 21 ปีบริบูรณ์ วาดจันทร์จึงได้พบกับ พงศ์พญา ผู้ชายคนที่เธอรักที่สุดในชีวิต