ช่อง 5 เอชดี
เรื่องย่อ : แสงไฟใต้ใบบัว (2563/2020)
“แสงทองที่มองไม่เห็น” นะ เชฟประจำร้านอาหารแห่งนึงในชุมชนวัดลาดบัวขาวที่เขาอาศัยอยู่กับ ต๊ะ น้องชายแท้ๆที่นิสัยต่างกันคนละขั้ว ต๊ะ ซึ่งคบเพื่อนไม่ดี หลงผิด ทำให้เขาผิดพลาด นะ จะสามารถช่วยน้องของเขาได้ไหม
“สุดถนนบนทางเปลี่ยว” เปี๊ยก พี่ชายของปู พี่น้องคู่ที่ชื่อเสียงดังมากในชุมชนลาดบัวขาว พี่ชายเมาเหล้า น้องสาวตั้งวงไพ่ นำภัยมาสู่ชุมชน โดยที่อาร์ต คนที่ชอบ ปู นั้น ไม่สามารถจะช่วยให้ ปูกลับมาได้เลย แต่มีสิ่งนึงที่อาร์ตเก็บมันไว้ คืออะไร
“เปลวไฟที่ดับลง” แมน นายร้อยจบใหม่ กลับมาบ้าน ที่น้าชายเป็นกะเทยอาศัยอยู่ เขาอายเพื่อนบ้าน ที่น้าของเขาพาผู้ชายมา แต่หารู้ไหม สิ่งที่กำลังจะเผชิญคือสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าน้าเป็นกะเทย
“เวลาที่มาไม่ถึง” ไอซ์ ผู้ที่มีฐานะมากแห่งชุมชนลาดบัวขาว เขาไม่ค่อยลงรอยกับ เควิน ลูกชายของเขา เขามีปัญหาทางด้านใจ และปัญหาชีวิตที่เขาเป็นคนก่อ และเขาจะแก้ได้ไหม
ครอบครัวหรรษา (2559/2016) ครอบครัวหรรษา เป็นละครโทรทัศน์ไทยประเภทซิตคอม ผลิตโดย บริษัท บ้านคนละคร 234 จำกัด หรือฝ่ายบริหารละครโทรทัศน์และซิตคอม สถานีโทรทัศน์ช่องช่อง 5 อำนวยการผลิตโดย ผศ.ดร.บุญมา อิ่มวิเศษ กำกับการแสดงโดย ตี๋ ดอกสะเดา ออกอากาศครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ทุกวันศุกร์ เวลา 20.45 - 21.10 น. เริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559-30 ธันวาคม พ.ศ. 2559 และเปลี่ยนการออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 – 13.25 น. เริ่มวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2560-30 ธันวาคม พ.ศ. 2560
เขมรินทร์ อินทิรา (2540/1997) อินทิรา วัลลภานุรักษ์ ตัดสินใจเดินทางไปทำงานเป็นครูสอนภาษาไทยให้กับเจ้านายเล็ก ๆ ของเขมรที่พนมเปญ เพื่อหลบเลี่ยงการถูก’จับคู่’ โดยมารดาและพี่ชายของเธอ ทั้งนี้ก็เพราะเธอมี ‘ชายในฝัน’ อยู่แล้วในใจของเธอ นับตั้งแต่ที่เธอได้พบกับเขาโดยบังเอิญ ณ ปราสาทเขาพระวิหาร โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้รู้จักว่าเขาเป็นใคร… เธอเฝ้าวิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ได้พบกับเขาอีกครั้ง… แต่ เมื่อเธอได้พบกับเขาจริง ๆ เธอกลับรู้สึกเศร้าใจในชะตาชีวิตของตนเองเพราะชายในฝันที่เธอเฝ้าใฝ่ฝันถึงนั้นกลับกลายเป็นเจ้าชายเขมรินทร์ พระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงกัมพูชา… เจ้าชายเขมรินทร์ทรงแสดงออกอย่างเปิดเผยว่า “โปรด” ครูสาวชาวไทยเป็นพิเศษ และมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต แต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไทยและกัมพูชากำลังมีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องของสิทธิ ครอบครองปราสาทเขาพระวิหารอยู่และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย อีกด้วย อินทิราจึงตัดสินใจ…ตัดใจอำลาจากเขมรินทร์กลับเมืองไทยก่อนกำหนด เขมรินทร์ติดตามอินทิรามาเมืองไทย ท่ามกลางความไม่พอใจของพระญาติพระวงศ์บางส่วน และทนยอมรับความไม่เข้าใจและความคลางแคลงใจของญาติ ๆ ทางฝั่งอินทิรา… ทั้งสองพบรักกันที่ปราสาทเขาพระวิหาร………ฤาจะต้องพรากจากกันด้วย “เขาพระวิหาร” เป็นเหตุ…?
มหาราชกู้แผ่นดิน (2547/2004) ละครโทรทัศน์ภาคต่อจากกษัตริยา เมื่อพระองค์ดำหรือพระนเรศวรได้เสด็จหนีจากหงสาวดีมา สู่กรุงศรีอยุธยาได้นำชาวไทใหญ่ จำนวนหนึ่งมาด้วย นั่นคือ เจ้านางมณีจันทร์และเจ้านางมณีอิน ตลอดจนขุนแสนกล้า นักรบของเจ้าไทใหญ่ อีกทั้งยังมีเจ้านายของกรุงศรีอยุธยาร่วมมาในขบวนครั้งนั้นด้วยคือ พระองค์หญิงพิจิตรจินดา กับเดือน ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงและเป็นสนมของพระราเมศวร การกลับมาของพระองค์ดำ ทำให้พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมหาธรรมราชาและพระเอกาทศรถหรือพระองค์ขาว ดีพระทัยเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ดำครองรักกับเจ้านางมณีจันทร์ แล้วเสด็จขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลก พระองค์ดำทรงคิดอยู่ตลอดเวลาเรื่องที่ กรุงศรีอยุธยาตกเป็นประเทศราชของหงสาวดี จึงได้จัดหาทหารฝีมือดีมาร่วมทัพ แล้วทรงเปลี่ยนกลศึกจากการยกพลจำนวนมหาศาลเข้าปะทะข้าศึก ก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้การรบเยี่ยงกองโจร ทหารฝีมือดีนั้น ต่อมาได้ร่ำเรียนพิไชยสงครามกับขุนเมืองผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ดำ มีจำนวน 6 คน คือ มิ่ง เที่ยง บุญ เพิ่ม ขวัญ ขาม และมีขุนแสนกล้าอีกผู้หนึ่ง รวมเป็นทหารเอกคู่พระทัย 7 คน ส่วนทางหงสาวดี ก็ไม่ไว้ใจกรุงศรีอยุธยา เพราะรู้กิตติศัพท์ของพระนเรศวรเป็นอย่างดีว่ามีความกล้าหาญเพียงใด จึงหาทางทำศึกกับกรุงศรีอยุธยา แต่เมื่อยกกองทัพมาก็พ่ายกรุงศรีอยุธยา ทุกครั้ง ทำให้เมืองต่าง ๆ ที่เป็นเมืองประเทศราช ต่างคิดแข็งเมืองกัน มังกะยอชะวาทุบตีตองชเว ผู้เป็นมเหสี ทำให้พระเจ้าอังวะ พระราชบิดาของตองชเวไม่พอใจ แข็งเมืองเป็นขบถ จันทรากับสุวรรณฉัตรสายเครือของอังวะจึงถูกเนรเทศออกไปจากหงสาวดี เมื่อทั้งสองกลับมายังอังวะ พร้อมกับนินตยาวดีมเหสีของสุวรรณฉัตรด้วย นันทบุเรงก็ใช้ให้เมืองประเทศราชทั้งหลายยกทัพไปตีอังวะ พระนเรศวรแกล้งเดินทัพช้าๆ เพื่อรอให้พระเจ้านันทบุเรงทำศึกกับพระเจ้าอังวะถึงแพ้ชนะก่อน มังกะยอชะวารักษาเมืองอยู่ ออกอุบายให้พระยาเกียรติกับพระยาราม ขุนนางมอญมาคอยรับ พระนเรศวรที่เมืองแครงพร้อมทั้งไพล่พล และมีกลศึกว่าทั้งสองคน ลวงพระนเรศวรไปฆ่าให้จงได้ ทั้งสองเคยสนิทกับพระนเรศวรมาก่อน จึงนำความไปเล่าให้พระมหาเถรคันฉ่องฟัง พระมหาเถรคันฉ่องมาเฝ้าพระนเรศวรแล้วทูลให้ทรงทราบ พระนเรศวรโกรธและประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ไม่ยอมขึ้นต่อหงสาวดีอีกต่อไป พระเจ้านันทบุเรง ส่งกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอยู่หลายครั้ง แต่ก็พ่ายกลับไปทุกครั้ง การพ่ายแพ้ของหงสาวดี ทำให้เมืองประเทศราชทั้งหลายต่างแข็งเมืองขึ้น ภายในเมืองหงสาวดีก็เกิดความวุ่นวาย เนื่องด้วยเจ้ายะไข่ได้ส่งธิดามาถวายพระเจ้านันทบุเรง ทำให้ศุภยา พระอัครมเหสีไม่พอใจมาก รวมถึงเจ้านางสุวนันทาด้วย ยะไข่ได้ใช้ธิดาของตนเป็นสื่อดึงฟิลิป เดอบริโต พ่อค้าชาวโปรตุเกสเข้ามาค้าขายในเมืองหงสาวดี และมีอิทธิพลทางการเมืองต่อหงสาวดีเป็นอย่างมาก ขณะที่พระนเรศวรได้รู้จักกับเซปาสเตียน ฝรั่งชาวสเปน ที่เข้ามาสอนการใช้ปืนไฟให้พระนเรศวร พระมหาธรรมราชาสวรรคต พระนเรศวรขึ้นครองราชย์ แล้วทรงแต่งตั้งพระเอกาทศรถเป็นพระอุปราช มุขมนตรีและเจ้านายชั้นสูงในสมัยพระมหาธรรมราชาได้ถวายหญิงงามเชื้อสาย ราชวงศ์สุพรรณภูมิพระองค์หนึ่ง เป็นพระชายานามว่า “มณีรัตนา” เจ้านางมณีจันทร์น้อยพระทัย แต่ไม่แสดงออก ส่วนราชวงศ์สุโขทัย โดยท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้ถวายนางที่มีเชื้อสายราชวงศ์สุโขทัยเป็นพระสนมเอก นามว่า “เจ้าแก้วปทุม” ทั้งนี้ท้าวศรีจุฬาลักษณ์คิดแค้นที่มิได้รับความรักจากพระมหาธรรมราชา จึงส่งหลานสาวมาแก้แค้นแทนตนทำให้กรุงศรีอยุธยาวุ่นวาย ส่วนขุนเมือง ได้รับแต่งตั้งเป็น “เจ้าพระยาสุรสีห์” ครองเมืองพิษณุโลกแทนพระนเรศวร
ตลาดอารมณ์ (2554/2011) ตรัส วิภาคโยธิน (ชาคริต แย้มนาม) เดินทางกลับเมืองไทย เพื่อมาเคารพศพ ไตร วิภาคโยธิน (ดิลก ทองวัฒนา) พ่อของเขา หลังจากตัดขาดกัน เพราะ บงกช วิภาคโยธิน (ปิยธิดา วรมุสิก) หญิงสาวข้างถนนที่พ่อเอามาแทนที่แม่ของเขาในฐานะภรรยาใหม่ ด้วยทิฐิตรัสจึงไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับกิจการมรดกต่าง ๆ ของพ่อแม้แต่นิดเดียว ตรัสมีคนรักคือ ชโลธร ลีลาทิพย์ (ศิริลักษณ์ ผ่องโชค) ที่คบกันตั้งแต่เรียนอยู่ที่อเมริกา ชโลธรได้ทำงานที่บริษัทฯ ของตระกูลวิภาคโยธิน เธอรู้ว่าตรัสเป็นผู้สืบทอดกิจการทั้งหมด จึงหวังจะแต่งงานด้วย ขณะเดียวกัน พิชิต พิชิตสรเดช (รัฐศาสตร์ กรสูต) หุ้นส่วนบริษัท เสือผู้หญิงตัวยง ต้องการจะฮุบบริษัทเป็นของตัวเอง จึงดึงชโลธรมาเป็นพวก โดยยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยปกปิดกำพืดให้ ทำให้ชโลธรยอมทำตามที่พิชิตสั่งทุกอย่าง เพราะแท้จริงแล้วชโลธรเป็นแค่เด็กในสลัมไม่ใช่คุณหนูไฮโซ เธอมีแม่คือ พวง (ดวงตา ตุงคะมณี) ขายข้าวแกงอยู่ในซอย แถมยังมีน้องสาวชื่อ ชลาธาร (แอริน ยุกตะทัต) ชโลธรทอดทิ้งแม่และน้องสาวไปชุบตัวอยู่ที่เมืองนอก ขณะที่ รักษา ธรรมรัตน์ (สันติสุข พรหมศิริ) ทนายความประจำตระกูลวิภาคโยธิน พยายามจะอธิบายเหตุผลต่าง ๆ ที่บงกชต้องการให้ตรัสกลับมาบริหารงานตามที่ไตรผู้เป็นพ่อสั่งเสียไว้ก่อนตาย แต่ตรัสปฏิเสธพร้อมประกาศว่าจะไม่เหยียบบ้านวิภาคโยธินเด็ดขาด บงกชจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจตรัสให้ได้ และหวังว่าวันหนึ่งตรัสจะยอมให้อภัยเธอ บงกชสั่งเตรียมงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับตรัส เธอสั่งให้ ผกายกุล หรือ กั้ง (วรรณรท สนธิไชย) หลานสาวของเธอให้เตรียมตัวสำหรับงานนี้ กั้งรู้ว่าลูกเลี้ยงของบงกชใจร้ายและอยุติธรรมกับบงกชมาตลอด เธอจึงมีอคติกับเขาและไม่อยากจะทำดีกับตรัส แต่แล้ววันหนึ่งตรัสได้ช่วยกั้งจากการถูกลวนลาม ทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ทำให้กั้งประทับใจในความเป็นสุภาพบุรุษของตรัสมากจนลืมถามชื่อ มัทนา (ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) เพื่อนสาวสุดห้าวของกั้งจึงตั้งชื่อให้ชายปริศนาที่เป็นฮีโร่ช่วยกั้งในวันนั้นให้ว่า ซูปเปอร์แมน หลังจากนั้นมาตรัสและกั้งก็มักได้พบกันเสมอ ๆ ทำให้ วาริน (ศุภกิจ บัวงาม) ลูกชายของรักษาที่แอบชอบกั้งอยู่ไม่พอใจ แต่สุดท้ายวารินก็ต้องยอมถอย เพราะรู้ความจริงว่า ซูปเปอร์แมนของกั้งคือตรัส วิภาคโยธิน จากการวางแผนของบงกช ในที่สุดตรัสกับกั้งก็ได้มาเจอกัน ทำให้ตรัสรู้ความจริงว่ากั้งคือผกายกุลหลานสาวของบงกช ตรัสจริงเข้าใจผิดคิดว่ากั้งร่วมมือกับบงกชหลอกลวงเขามาตลอด ด้วยความแค้นตรัสจึงประกาศว่าจะกลับมาทำงานที่วิภาคโยธิน โดยมีข้อแม้ว่ากั้งจะต้องมาทำงานกับเขาเท่านั้น ความชิงชังและความโกรธแค้นที่ตรัสมีต่อกั้งจะลงเอ่ยอย่างไร?
บ่วงนาคราช (2561/2018) อาโป นักเขียนสาวฝีมือดี ถูก สุเมธ เพื่อนชายคนสนิท ขอร้องให้ช่วยเขียนบทภาพยนตร์ ที่แปลงมาจากนวนิยายของเธอให้กับบริษัทของ กันตา พี่ของเขาเอง อาโป ไม่อยากรับงานนี้ แต่มีเพื่อนสาว เจน ช่วยพูดให้ เพราะเธอก็อยากค้นหาความจริงเกี่ยวกับฝันร้ายที่อาโป ต้องทนทุกข์เพราะเธอฝันชายผู้แต่งกายสูงศักดิ์สมัยขอมกลายเป็นพญานาค และเธอได้ตายภายในอ้อมกอดของเขา หลังจากที่อาโปตกปากรับคำรับงาน ทำให้เธอได้เจอกับ กังสดาล หญิงผู้มีความคลุมเครือลึกลับ แม้แต่ เมรา คนสนิทของเธอก็ดูลึกลับเช่นกัน กันตาไม่สนใจความคลุมเครือของกังสดาล เธอสนใจแต่เงินทุนที่กังสดาล ให้เธอหากเธอได้อาโปมาร่วมงาน เมื่ออาโป รับปากมาร่วมงานทำให้เธอเจอกับเรื่องราวน่ากลัวจากนางอัปสรจำแลง แต่อาโป ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก ธัญญะ และ อำไพสองพี่น้อง ที่มีความชื่นชอบประวัติศาสตร์ขอบโบราณ อาโป ได้รับฟังตำนานโบราณจาก ย่าอุษามณี ทำให้เธอยิ่งอยากค้นหาความจริงการล่มสลายของเมืองขอมโบราณ และยามใดที่เธอต้องเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ ธัญญะ มักจะมาช่วยเหลือเธอเสมอ อาโป ได้รับรู้เรื่องราวกฎแห่งกรรม จาก บำเพ็ญชายตาบอดแต่กำเนิด ที่เชื่อว่าเขาเองมีความเกี่ยวพันอดีตชาติกับเมืองขอมโบราณ และ ลงฮุน, ศิลา พร้อมแก็งก๊วนป่าวฮ่าอย่าง หมอผีนิดหน่อย, จ๊อบ หนูผี และ อมยิ้ม อาโป ได้รับรู้เรื่องราวในอดีต ที่มีทั้งความรัก ความแค้น การเข้าใจผิด ทำให้เมืองล่มสลายของ พระเจ้าธัญญะวรมัน พระนางโสมาสีวิกาเทวะนาคเทวี และ พระนางกังสตาลวาตี ศรีสุริยวรมัตตรา หญิงผู้โหดเหี้ยมที่สุดในยุคขอมโบราณ และเมื่อกงล้อแห่งกรรมตามทัน บ่วงแห่งกรรมจึงเริ่มทำงาน อาโป ต้องไขปริศนาแห่งกรรมเพื่อปลดปล่อยจิตที่ยังติดบ่วงกรรม......!!! “บ่วงนาคราช” เปิดตัวด้วยพญานาคทั้ง ๙ ที่คอยช่วยเหลือ พระนางโสมาสีวิกานาคเทวี มาทุกภพทุกชาติ ให้พ้นจากพญามาร โดยพญานาคทั้ง ๙ มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
วัยฝันร้ายเดียงสา (2560/2017) ป๊อบ (ดช.รัชชานนท์ ธไนศวรรยางกูร) จินตนาการว่าตนเองได้ต่อสู้กับยักษ์ด้วยแม่ไม้มวยไทยจนชนะ ทั้งที่ในความจริงป๊อบเป็นแค่เด็กธรรมดา ป๊อบกับ จั๊กจั่น(ด.ญ.วรินทร์ทิรา สุขุมเจริญจิต)ดีใจที่พบโจ้(ดช.ดุรงค์ฤทธิ์ เวฬุวะนาธร)กับ แตงโม(ดช.ปิติ มะณู) เพื่อนใหม่ที่วัดเด็กๆทุกคนเล่นกันสนุกสนานป๊อบถูกคนร้ายชิงโทรศัพท์มือถือไปครูสิงห์( โกวิท วัฒนกุล)อดีตนักมวยแชมป์แห่งประเทศไทยที่ถูกจ้างล้มมวยครูสิงห์ไม่ยอมจึงถูกทำร้ายจนแขนพิการ มาอาศัยวัด เป็นสัปเหร่อช่วยหลวงตาทำความสะอาดวัด เห็นเข้าจึงจัดการคนร้ายและเอาโทรศัพท์คืนให้ป๊อบ ป๊อบชื่นชมความเก่งในวิชามวยของครูสิงห์ที่เอาชนะโจร จึงขอเรียนต่อยมวยกับครูสิงห์แต่ครูสิงห์ไม่ยอมสอนให้ ป๊อบกับเพื่อนๆ แสดงความตั้งใจจริง จนทำให้ครูสิงห์ใจอ่อนสอนมวยด้วยมือข้างเดียว ป๊อบกับเพื่อนๆ ซ้อมมวยโดยไม่ท้อถอย มีน้ำใจไม่ตรีต่อกัน รักความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ครั้งหนึ่งครูสิงห์ลองใจเด็ก ๆ โดยสร้างเรื่องให้สู้กันเองแต่ไม่ได้ผล เด็กๆรักและปกป้องกันเองทำให้ครูสิงห์พอใจมากที่เด็กๆใช้วิชาที่เรียนไปในทางที่ถูกต้อง ป๊อบซ้อมมวยที่ลานวัดทุกวันจนพ่อแม่(รศ.ดร.ศรปราชญ์ – กรรรทิวา ธไนศวรรยางกูร) เป็นห่วงจึงดูอยู่ห่างๆแดง(ดช.ทรงพร บุญประสิทธิ์)พยายามหาเรื่องป๊อบ ป๊อบหลีกเลี่ยงแต่ไม่ได้ผล ป๊อบรับคำท้าสู้กับแดงและเอาชนะแดงได้ แต่ป๊อบขอยอมแพ้แดง ครอบครัวของป๊อบเดินทางไปต่างจังหวัด ป๊อบอยู่บ้านคนเดียว “กังนัม” กับ “สไตล์” มาส่งพวงหรีดที่วัด เห็นโอกาสเหมาะจึงเข้ามาจะขโมยของในบ้านป๊อบใช้สติปัญญาและทักษะเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้เรียนมาเอาตัวรอดจากขโมย ป๊อบหนีไปได้และบอกชาวบ้านมาจัดการคนร้ายแต่คนร้ายหนีไปได้ ครูสิงห์ทราบเรื่องราว จึงสังเกตพฤติกรรมของ “กังนัม” กับ “สไตล์” เมื่อทั้งคู่มาที่วัด ทั้งสองคนมีพฤติกรรมน่าสงสัย ครูสิงห์รู้ว่า “กังนัม” กับ “สไตล์ คือคนที่เข้าไปขโมยของที่บ้านป๊อบ ครูสิงห์กับเด็กๆ จึงช่วยกันจัดการ“กังนัม” กับ “สไตล์” และส่งตัวให้ตำรวจ ป๊อบและเด็กๆ เผชิญกับภัยสังคมเห่อของแพง ที่หลอกเอาโทรศัพท์แพงๆของเด็กๆ ไปขายป๊อบและเพื่อนๆ ขอความช่วยเหลือพวกผู้ใหญ่ ให้ช่วยสังเกตพฤติกรรมของ “แมน”ทีทำตัวน่าสงสัย เป็นมิจฉาชีพโจ(ธนัท ฉิมท้วม)ผู้ที่เก่งการต่อสู้แบบกังฟูและมวยจีนที่กำลังติดตามหาครูสิงห์เพื่อประลองฝีมือ เจอแมนกำลังหลอกเด็ก จึงจัดการ “แมน”จนสิ้นฤทธิ์ โจหาตัวครูสิงห์จนเจอและท้าประลองฝีมือกับครูสิงห์ ครูสิงห์เลี่ยงไม่ได้จึงสู้ใช้วิชามวยไทยสู้กับโจที่ใช้วิชากังฟู ครูสิงห์ชนะโจแม้มีมือข้างเดียวโจรู้สึกเสียหน้าแต่ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ส่วนครูสิงห์เองก็บาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ เด็กๆ เห็นครูสิงห์ไม่สบาย และไม่มีเงินไปหาหมอ จึงเปิดแสดงการทักษะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยในตลาดหาเงินค่ารักษาตัวให้ครูสิงห์ เด็กๆ เจอ “เชน” หลานป้าแหวว(ประไพ สิโนทก)ที่หลงรักรู้สิงห์แต่ครูสิงห์ไม่เล่นด้วย เชนใช้ความเป็นหนุ่มหน้าตาดี หลอกล่อสาวๆ ทำให้กิจการขายดี “ฟ้า” หลงคารมเชน “โล่” รักฟ้ารู้ว่าฟ้าถูกหลอกแต่ฟ้าไม่ฟัง หลวงพ่อใช้ธรรมมะเตือนสติโล่ ฟ้ารู้ความจริงว่าเชนชอบหลอกผู้หญิง เชนคิดว่าที่ฟ้ารู้ความจริงเป็นเพราะโล่ จึงให้พรรคพวกไปทำร้ายโล่ ป๊อบและเด็กๆ ช่วยกันวางแผนหลอกว่าโล่เป็นกะเทย ทำให้พรรคพวกของเชนละเว้น ครูสิงห์ชื่นชมในสติปัญญาและความมีน้ำใจของเด็ก ที่วัดมีพระธุดงค์มาสองรูป ขอพักจำวัดที่ป่าช้า ภายนอกพระทั้งสองรูปปฏิบัติกิจสงฆ์น่าเลื่อมใสศรัทธา แต่เบื้องหลัง ปรากฏว่าทั้งสองรูป มีประวัติโชกโชนหลอกลวงชาวบ้าน สวมรอยเป็นพระเพื่อขโมยของมีค่าที่วัดแล้วป้ายความผิดให้ชายขาเป๋ที่เป็นใบ้ รับเคราะห์ ป๊อบและเด็ก ๆ เห็นพฤติกรรมของพระปลอมทั้งสองและรู้ว่าชายขาเป๋เป็นผู้บริสุทธิ์เด็กๆร่วมมือกับผู้ใหญ่พิสูจน์ความจริง และช่วยกันจัดการพระปลอมที่กำลังขโมยตู้เงินบริจาคของวัด เด็กใช้วิชาที่เรียนมาต่อสู้กับพระปลอมช่วยกันตะลุมบอลจับพระปลอม และส่งตัวให้ตำรวจมา ป๊อบกับเพื่อนๆเห็น “เบ๊นซ์” ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ บางครั้งก็ไปแข่งขันกับเพื่อนๆป้าหวาดแม่ค้าผลไม้แม่ของเบ๊นซ์ เพราะแยกทางกับพ่อของเบ๊นซ์ตั้งแต่เบ๊นซ์ยังเล็กเลี้ยงลูกตามลำพัง ด้วยความรักลูกป้าหวาดกู้เงินนอกระบบมาซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ลูก ป้าหวาดขายไม่ดีไม่มีเงินส่งดอกเบี้ยนักเลงทวงหนี้มาข่มขู่เอาเงินคืน ป้าหวาดไม่มีเงินคืนตามกำหนดถูกนักเลงทวงหนี้ ทำลายแผงขายผลไม้ เบ๊นซ์เสียใจที่เป็นสาเหตุทำให้แม่เดือดร้อน จะไปแข่งรถมอเตอร์ไซค์เอาเงินเดิมพันมาใช้หนี้ ป๊อบกับเพื่อนๆได้ข่าวว่าตำรวจเตรียมกวาดจับเด็กแว๊นซ์ ป๊อบบอกเบ๊นซ์นักเลงทวงหนี้ยึดรถเบ๊นซ์ไป เบ๊นซ์ไปตามเอารถคืนป๊อบและเด็กๆไปช่วยเบ๊นซ์ ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันช่วยกันจึงจัดการนักเลงได้ ตำรวจที่ติดตามนักเลงกลุ่มนี้และขยายผลการจับกุมยาเสพติดได้ในที่สุด เรื่องราวของป๊อบกับเพื่อนๆ เผชิญกับภัยทางสังคมอีกมากมายจะเป็นภัยในรูปแบบไหนบ้าง เด็กจะมีวิธีเอาตัวรอดได้อย่างไร ครูสิงห์จะใช้วิชามวยไทยพลิกชีวิตเด็กๆ ให้เป็นคนดีของสังคมได้อย่างไร ติดตามชมความน่ารักแบบใสใส ร้ายเดียงสาของทุกคนได้ในซีรีย์น้ำดีสร้างแรงบันดาลใจเรื่อง “วัยฝันร้ายเดียงสา” กำกับการแสดงโดยสองผู้กำกับฝีมือดี รัชต์ไกรสิงห์และมงคลสารธรรม ค่าย “ร้อย ๑๐๐ ล้านโปรดักชั่น จำกัด”
อุบัติเหตุหัวใจ (2550/2007) เสี่ยใหญ่ เจ้าของ “อัครา คาเฟ่” กำลังขับรถกลับบ้าน โดยมี ชัยวัฒน์ ที่เป็นเพื่อนและผู้จัดการคาเฟ่ขอติดรถไปด้วย ระหว่างทางชัยวัฒน์ถือโอกาสคุยเรื่องที่เขาต้องการถือหุ้นอัคราคาเฟ่เพิ่ม แต่เสี่ยใหญ่ลงไปบนถนนจนโดนรถแท็กซี่ของ พิภพ ชนเอา โดยมี น้ารงค์ หัวหน้าคณะตลกที่คาเฟ่ขับรถตามาพอดีและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง พิภพถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพร้อมเสี่ยใหญ่อาการสาหัสทั้งคู่ ภาคภูมิ ลูกชายคนโตของพิภพรู้เรื่องก็รีบมาที่โรงพยาบาล ระหว่างที่นั่งรอที่หน้าห้องผ่าตัดได้เจอกับ อรชุมา ลูกสาวของเสี่ยใหญ่นั่งร้องไห้อยู่ เขาปลอบเธอในฐานะหัวอกเดียวกันสองคนแอบประทับใจกัน ต่อมาเสี่ยใหญ่เสียชีวิตแต่พิภพพ้นขีดอันตราย เมื่ออรชุมารู้ว่าคนที่ชนพ่อเธอตายคือพ่อของชายที่ปลอบใจเธอ อรชุมาก็ประกาศจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พิพัฒน์ ลูกชายคนเล็กของพิภพต้องการหาเงินรักษาพ่อ เลยขอ เอกชัย เจ้าของคอกม้าคัดตัวเป็นจ๊อกกี้ โดยมี ขิง ลูกสาวของเอกชัยที่ปลื้มเขามากคอยสนับสนุน พิพัฒน์โชว์ลีลาขี่ม้าเก่งจนเข้าตาชัยวัฒน์ ที่แวะมาหาเอกชัยเลยช่วยเชียร์อีกแรง พิพัฒน์ได้เป็นจ๊อกกี้สมใจชัยวัฒน์หวังทำเงินจากการแทงม้าของพิพัฒน์ ทำเป็นเห็นใจเรื่องพ่อบอกให้ตั้งใจฝึกซ้อมให้ดี ถ้าขี่ม้าชนะจะทำเงินมหาศาล พิพัฒน์รู้สึกดีที่ชัยวัฒน์สนับสนุน ภาคภูมิไปที่อัคราคาเฟ่เพื่อเริ่มงานวันแรกที่เขาได้เป็นกัปตัน โดยไม่รู้ว่าอัคราคาเฟ่เป็นของเสี่ยใหญ่ที่พ่อเขาเพิ่งขับรถชนตาย และคนที่มาบริหารแทนคืออรชุมาลูกสาวของเสี่ยใหญ่ เมื่อสองคนเจอกันอรชุมายอมให้ภาคภูมิทำงานที่นี่เพื่อจะได้มีเงินไปรักษาพ่อ เธอหวังว่าพิภพจะฟื้นขึ้นมาใช้กรรมในคุก ภาคภูมิดูแลความเรียบร้อยและแก้ปัญหาในคาเฟ่ได้อย่างดี จนกลายเป็นที่รักของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักร้องคาเฟ่ จันทร์เพ็ย และ เอมี่ ที่ตบตีกันเพื่อแย่งชิงภาคภูมิ รวมทั้ง ดาวรุ่ง ที่รักอยู่กับ วีระชัย ลูกชายของชัยวัฒน์ที่แอบเลี้ยงดูเธออยู่ลับๆ ก็หันมาร่วมแย่งภาคภูมิด้วยอีกคน ภาคภูมิเริ่มสงสัยว่าเรื่องยุ่งๆ ที่เกิดขึ้นในคาเฟ่เป็นฝีมือของชัยวัฒน์จึงเตือนอรชุมา แต่อรชุมาไว้ใจชัยวัฒน์มาก ภาคภูมิเลยถูกชัยวัฒน์ส่งคนมาทำร้ายบาดเจ็บชงเหล้าไม่ได้ ภาคภูมิเลยสอนอรชุมาชงเหล้าเผื่อเขาไม่สบายทำงานไม่ได้ คืนนั้นทั้งคู่เริ่มเมาและพูดความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจ อรชุมาขอบคุณภาคภูมิแล้วหลับไป ภาคภูมิอุ้มอรชุมาไปที่ห้องพักสำรองแล้วมานั่งเฝ้าที่โซฟาจนหลับไป เช้าวันรุ่งขึ้นพนักงานต่างซุบซิบนินทาว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันทั้งคืน อรชุมาถูกชัยวัฒน์และวีระชัยลากไปเตือนว่าอาจเป็นแผนของภาคภูมิ ที่ทำให้อรชุมาใจอ่อนไม่ฟ้องศาล อรชุมาเข้าไปต่อว่าภาคภูมิอย่าหวังว่าเรื่องเมื่อคืนจะทำให้ใจ่อน วีระชัยดูออกว่าทั้งคู่มีใจให้กัน เลยสั่งให้ดาวรุ่งไปเกาะแกะกับภาคภูมิเพื่อแยกทั้งคู่ให้ห่างกัน เมื่อดาวรุ่งท้องวีระชัยก็ใส่ร้ายภาคภูมิว่าเป็นพ่อของเด็กในท้อง แล้วจับดาวรุ่งไปทำแท้ง ดาวรุ่งเสียใจมากที่เสียลูกไปจึงตามไปจะฆ่าวีระชัย แต่แอบรู้ความลับของวีระชัญเสียก่อนจึงหลบหนีออกมาบอกอรชุมา แต่วีระชัยและชัยวัฒน์รู้ตัวจึงตามมาจับ แล้วขับรถชนจนดาวรุ่งเสียชีวิต ทางด้านอรชุมาก็เริ่มระแวงความซื่อสัตย์ของชัยวัฒน์ เมื่อเจอหลักฐานเกี่ยวกับการโอนหุ้นคาเฟ่จึงสืบหาต่อ จนรู้ว่าชัยวัฒน์เป็นคนทำให้พ่อของเธอต้องตาย อรชุมาพยายามจะเข้ามายกเลิกการพิจารณาคดีเพราะต้องการถอนฟ้อง แต่ถูกชัยวัฒน์ส่งคนไปจับตัวไว้แล้วบังคับให้เซ็นยกทุกอย่างให้เขา เมื่อภาคภูมิรู้เข้าก็รีบตามไปช่วยจนถูกยิงปางตาย อรชุมาเสียใจมากจึงเรียกตำรวจไปจับชัยวัฒน์ถึงบ้านพร้อมหลักฐานต่างๆ ชัยวัฒน์พยายามดิ้นเฮือกสุดท้ายด้วยการยิงสู้กับตำรวจจนตายคาที่ ทิ้งให้วีระชัยกลายเป็นผู้รับกรรมทั้งหมด ภาคภูมิสลบไปหลายวันก่อนจะฟื้นขึ้นมาพร้อมกับที่พิภพถูกปล่อยตัวออกมาเป็นอิสระ เมื่อศาลพิสูจน์แล้วว่าชัยวัฒน์เป็นคนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ครอบครัวของภาคภูมิจึงกลับมามีความสุขอีกครั้ง โดยคราวนี้เขามีอรชุมาอยู่เคียงข้างด้วยตลอดไป
คุ้มนางครวญ (2557/2014) คุ้มเวียงแก้วอายุราว 200 ปี มี เจ้าเก็จถวา (พิสมัย วิไลศักดิ์) วัย 70 ปี เป็นเจ้าของคุ้มเวียงแก้วเป็นคุ้มมหึมางดงาม แต่ไม่มีใครรู้ว่า ห่างออกไปราว 2 กิโลเมตร มีคุ้มร้างริมปิงผุผังอยู่หลังหนึ่ง ที่คุ้มร้างนั้นมีข่าวว่าเป็นคุ้มผีสิง เคยมีวัยรุ่นมาลองของและเจอผีจนต้องหนีจับไข้หัวโกร๋น แต่ความจริงแล้วที่นี่มีแก๊งค้ายาเสพติดมาลักลอบใช้เป็นที่กบดานและเรื่องผีก็เป็นเรื่องที่พวกนี้สร้างขึ้น เพื่อกันไม่ให้มีใครมายุ่งกับคุ้มร้างนี้ ฐาปกรณ์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ผู้กำกับและ มาดามสุ (ศิขรินธาร พลายพฤติ) ภรรยาสาวสวยที่เป็นผู้จัด ได้รับคำสั่งจากช่องให้ทำละครพีเรียด โดยวางตัว ตรีภพ (ยุทธนา เปื้องกลาง) เป็นพระเอก ตรีภพมีเพื่อนสนิทคือ แก้ว (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) นักเขียนหนุ่มถังแตก ตรีภพเสนอให้แก้วเป็นคนทำพล็อตละครเรื่องนี้ คืนหนึ่งเกิดพายุใหญ่ ฟ้าผ่าลงมาที่ยอดคุ้ม พวกแก๊งค้ายาเจอห้องใต้ดินมีหลุมศพซ่อนอยู่ และในคืนนั้นเอง พวกมันก็เกิดการทะเลาะวิวาทจนฆ่ากันเองทำให้เลือดซึมลงในหลุมศพ ปลุกให้วิญญาน เจ้านางยอดหล้า (สาวิกาไชยเดช) พร้อมบริวารคือ นางผัน (สิตางค์ ปุณภพ) และ นางเผื่อน (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ตื่นจากการถูกกักขัง ซึ่งวิญญาณยอดหล้าได้เฝ้ารอการกลับมาของตรีภพคนรักของเธอมานานแสนนาน พิมพ์ดาว (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) นางร้ายนิสัยดี อยู่กับแม่จันทรา (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) ที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยและเป็นนักปฏิบัติธรรมกับน้องสาวชื่อ พิมพ์เดือน (ธนิดา ธนวัฒน์) นักศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ปีสุดท้าย พิมพ์ดาวไปงานอีเว้นท์และได้พบกับตรีภพ ทั้งสองมีเรื่องเข้าใจผิดจนเกิดเขม่นกันขึ้น ส่วนฟาก มาลาริน (พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า) นางเอกสาวสวยใสแต่ตัวจริงแรดร้ายก็แอบปลื้มตรีภพ เลยขอให้บีบี (มอริส เค) ผู้จัดการนักปั้นมือทองของเธอใช้เส้นสายจนช่องให้เป็นนางเอกคู่ตรีภพ แก้วส่งเรื่องย่อ คุ้มนางครวญ เป็นมินิซีรีส์รัก 3 เส้า ระหว่างสองเจ้านางกับหนุ่มเมืองใต้ (พระนคร) ช่องอนุมัติและให้เปิดกล้องทันที ในตอนแรกฐาปกรณ์กลัวความไม่มีวินัยของแก้ว แต่จู่ ๆ เพียงแค่ 3 วัน บททั้งเรื่องก็ถูกส่งมา ทีมงานทุกคนพอใจในบทและมีการวางตัวเพิ่ม ตรีภพเสนอฐาปกรณ์ให้เลือกพิมพ์ดาวมารับบทนางร้ายเพราะอยากตอแยกับเธอต่อ ฐาปกรณ์เตรียมงานไปดูโลเคชั่นที่ อ.เวียงแก้ว พ่อเลี้ยงธาดา (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) มาต้อนรับทีมงาน ส่วนแก้วเชิญให้ทุกคนพักที่คุ้มเวียงแก้ว ฐาปกรณ์เลือกคุ้มหลวงเป็นฉากหลัก แก้วเสนอห้องพักมากมายให้นักแสดง แถมยังมีเรือนรับรองกว้างอีก 2 หลัง แม้ว่าจะมีคนเม้าท์ว่าที่นี่มีผี แต่มาดามสุก็ไม่สนเพราะจะได้ลดค่าใช้จ่ายและคิดถึงกำไรที่จะเพิ่มขึ้น ฐาปกรณ์วางแผนจะถ่ายละครทั้งเรื่องที่เวียงแก้ว ไม่ว่าจะเป็นฉากป่า บ่อน้ำพุร้อน ฉากคุ้มหลวงที่คุ้มเวียงแก้วรวมทั้งการเซตฉากเพิ่มเติมอื่น ๆ โดยจะมีคิวถ่ายให้เสร็จในเดือนเดียว บีบีโวยวายที่จะต้องไปต่างจังหวัดนาน ๆ แต่มาลารินหวังใกล้ชิดตรีภพจึงยอมเทคิวให้ พิมพ์ดาวเตรียมตัวเดินทางไปเวียงแก้ว จันทรานั่งสมาธิเห็นนิมิตยอดหล้าและฝูงอีกา เธอจึงมอบเขี้ยวเสือไฟให้พิมพ์ดาวพกติดตัวไว้ก่อนเดินทางไปเวียงแก้ว ตรีภพและพิมพ์ดาวรู้สึกแปลก ๆ กับคุ้มแห่งนี้ แม้จะมีข่าวผีเฮี้ยนเล็ดลอดออกมาจากทีมงาน แต่ฐาปกรณ์ก็สั่งให้ทุกคนหุบปาก ส่วน ราเชนทร์ (อิสริยะ ภัทรมานพ) ดาราไฮโซติดยาและเป็นหนึ่งในแก๊งพ่อเลี้ยงธาดาที่อยากได้งาน เลยใช้เสน่ห์ออดอ้อนมาดามสุให้ได้เล่นละครด้วย ราเชนทร์เกิดชอบพิมพ์ดาว และเธอเองก็ทำดีกับราเชนทร์ ทำให้ตรีภพเริ่มไม่พอใจเพราะความหึงพิมพ์ดาว ในวันบวงสรวง ฐาปกรณ์กับมาดามสุจะจัดไหว้เจ้าที่เล็ก ๆ พอเป็นพิธี แต่บีบีกลับไปพาพิธีกรรายการล่าท้าผี ทั้งชายหญิงมาเป็นเจ้าพิธี 2 พิธีกรยกเมฆด้นสดพูดถึงความดีงาม ศิริมงคล ทันใดนั้นก็มีศพตกจากยอดคุ้มลงกลางโต๊ะเครื่องเซ่น สองพิธีกรกรี๊ดแตกหนีกลับกรุงเทพฯ มาลารินเลยฉวยโอกาสแสร้งทำเป็นกลัวเพื่อให้ตรีภพคอยดูแล ระหว่างการถ่ายทำ อำนาจเขี้ยวเสือไฟบังตาทำให้ยอดหล้ามองไม่เห็นพิมพ์ดาว ยอดหล้าจึงพุ่งความโกรธแค้นหึงหวงไปที่มาลาริน มาลารินเจออุบัติเหตุต่าง ๆ ระหว่างถ่ายทำ ในตอนแรกบีบีเข้าใจผิดว่าเป็นฝีมือของพิมพ์ดาว แต่ต่อมาทุกคนในกองถ่ายเริ่มรู้สึกว่ามีอันตรายที่มองไม่เห็นอยู่รายรอบตัว คืนนั้นยอดหล้าสะกดตรีภพและส่งรถม้าปีศาจไปรับ แต่มาลารินดันย่องเข้าไปหาตรีภพและหลงตามไป มาลารินเห็นรถม้าแล่นสู่กำแพงต้นไม้ที่แหวกเป็นช่องจนถึงคุ้มร้างริมปิง ยอดหล้าสะกดตรีภพให้เห็นคุ้มร้างเป็นคุ้มสวยงาม ยอดหล้าเอาใจตรีภพด้วยการเล่นซึงเพลงรักที่ในอดีตชาติที่เขาเคยแต่งให้เธอ ตรีภพเคลิบเคลิ้ม แต่มาลารินเข้าไปเห็นยอดหล้าในสภาพโปร่งแสงก็กรี๊ดแตก ยอดหล้าทำร้ายมาลาริน ตรีภพตื่นจากสะกดและยอดหล้าหายตัวไป ตรีภพจึงพามาลารินที่สลบกลับคุ้มเอาเกือบเช้า พิมพ์ดาวเห็นเข้าจึงเข้าใจผิดว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน แต่มาลารินกลัวผีจนเพ้อและต้องเข้าโรงพยาบาล พิมพ์ดาวเห็นอาการมาลารินแล้วสงสาร จึงให้เขี้ยวเสือไฟกับมาลาริน ทำให้มาลารินอาการดีขึ้นทันที เมื่อปราศจากเขี้ยวเสือไฟ ยอดหล้าจึงเห็นพิมพ์ดาวและรู้ทันทีว่านี่คือดารารายที่เคยแย่งคนรักของเธอในอดีต ยอดหล้าคลั่งแค้นสุด ๆ จึงมาปรากฏกายให้พิมพ์ดาวเห็นในความฝันและสะกดจิตให้เธอจำอดีตชาติได้ พิมพ์ดาวสะดุ้งตื่นจากฝันจึงรู้ว่าตนคือดารารายที่ในอดีตเนิ่นนานเธอเคยแย่งตรีภพไปจากยอดหล้าแถมยังฆ่ายอดหล้าตาย และบัดนี้เธอกำลังโดนยอดหล้าตามมาอาฆาตและทวงทุกอย่างคืน สุดท้ายพิมพ์ดาวจะชดใช้ผลกรรมที่ตนเคยก่อไว้ในอดีตกับยอดหล้าอย่างไร? และความรักระหว่างตรีภพและพิมพ์ดาวจะได้สมหวังในชาตินี้หรือไม่? ติดตามหาคำตอบได้ใน ละครคุ้มนางครวญ
แดดทอรุ้ง (2525/1982) เป็นละครไทยออกอากาศในปี 2525 ทางช่อง 5 ผลิตโดย รัชฟิล์มทีวี จากบทประพันธ์ของ “อาริตา” แสดงนำ : ราวิน บุรารักษ์, วรารัตน์ เทพโสธร
กำไลหยก (2500/1957) กำไลหยก พระนิพนธ์ของ “เวตาล” พระเอก-นางเอก คือ อาคม มกรานนท์ และวิไลวรรณ วัฒนพานิช แสดงเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2500 ทางช่อง 7 ขาวดำ (ช่อง 5 ปัจจุบัน) กำกับการแสดงโดย “แก้วฟ้า” (แก้ว อัจฉริยกุล) เสนอโดย อัศวินภาพยนตร์ โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล และท่านทรงแต่งหน้าตัวละครให้ด้วย ผู้แสดงมีดังนี้ วิไลวรรณ วัฒนพานิช เป็น หลิน อาคม มกรานนท์ เป็น เกียรติ ดนัย เป็น ยงค์ (สมจิตร ทรัพย์สำรวย) เป็น คุณย่า ขวัญ สุวรรณะ เป็น เตี่ย ร่วมด้วย รจิต ภิญโญวนิช (ที่มา: Thai Movie Posters)
จ้าวพายุ (2556/2013) อรทัย(โสภิตนภา ชุ่มภาณี) ลูกสาวคนเดียวที่เกิดจากเมียหลวงของศิวา(เกรียงไกร อุณหนันท์) เจ้าของนามสกุลใหญ่ “เจนจรัสตระกูล” หลังจากแม่แท้ๆของเธอตาย ศิวาก็หันไปคว้าเอาอาภา(กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) เด็กรับใช้ในบ้านรุ่นราวคราวเดียวกับอรทัยมาเป็นเมีย อรทัยจึงเกลียดอาภามาก สร้างความหนักใจให้ศิวา จนกระทั่งอาภาคลอดลูกชายคือศุวิล หรือ ลม(ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ที่ได้เป็นเจ้าของนามสกุล เจนจรัสตระกูล อีกคนหนึ่ง อรทัยไม่ยอมให้เมียน้อยและลูกมาแย่งความรักและสมบัติของจากพ่อ คืนหนึ่งศิวาไม่อยู่ อรทัยจึงขู่อาภาว่าจะฆ่าลมและขับไล่สองแม่ลูกออกจากบ้าน อาภาจึงพาลมลูกชายวัย5ขวบจากไป อรทัยใส่ร้ายว่าอาภามีชู้ ศิวาไม่เชื่อและได้แต่สงสัยว่าอาภาหนีไปเพราะเหตุใด 20 ปีผ่านไป อรทัยคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่เธอคิดผิด เมื่อบรรเจิด(ภูธเนศ หงษ์มานพ) สามีของเธอ เริ่มมีพฤติกรรมน่าสงสัย แต่อรทัยก็ฉลาดพอที่จะไม่กระโตกกระตาก ตั้งใจจะสืบเรื่องผู้หญิงที่มาเป็นเมียน้อยของสามีเธออย่างลับๆ อรทัยต้องการให้สุธาวี(เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) ลูกชายที่ดื้อรั้นไม่ได้ดั่งใจ แต่งงานกับฟ้าใส(ลิลลี่-ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ) หลานบุญธรรมของบรรเจิด เพราะศิวารักและเอ็นดูฟ้าใสมากกว่าสุธาวีหลานแท้ๆของตน ความกตัญญูของฟ้าใสทำให้อรทัยมั่นใจว่าจะควบคุมทุกอย่างได้ แม้ว่าบรรเจิดจะคัดค้าน และสุธาวีเองก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้ชอบฟ้าใสแม้แต่น้อย ก็ไม่ได้ทำให้อรทัยเปลี่ยนใจ ศิวาตามหาอาภาและศุวิลจนพบ แต่อาการมะเร็งกำเริบจนต้องเข้าโรงพยาบาล อาภาใจอ่อนและสงสารศิวา แต่ก็ไม่ยอมปริปากถึงสาเหตุการจากมาของตน ศุวิลเติบโตมากับความเกลียดชังพ่อแท้ๆ อาภารู้ว่าถ้าศุวิลรู้ความจริงว่าอรทัยเคยขู่ฆ่า ศุวิลจะไม่ปล่อยอรทัยแน่ แต่ศุวิลก็มีเหตุปะทะกับอรทัยที่โรงพยาบาลจนได้ ฟ้าใสเข้ามาขวางจึงได้รับบาดเจ็บ ฟ้าใสตั้งใจจะทำให้ศุวิลปรับความเข้าใจกับศิวา ศุวิลรำคาญฟ้าใส แต่ความดีของเธอก็ทำให้หัวใจของศุวิลสั่นคลอน แม้ว่าเขาเองจะคบหาอยู่กับปิ่นมณี(ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) ก็ตาม ศุวิลไม่เคยรู้ว่าชีวิตลับๆ ของปิ่นมณีคือการขายตัวให้แขกไฮโซ ต่อหน้าเธอแสนดีและเข้าใจเขาเสมอ แท้จริงแล้วความฝันเดียวของปิ่นมณีคือ หาผู้ชายดีๆ รวยๆ สักคน เพื่อหนีชีวิตที่ยากลำบาก เพราะต้องเลี้ยงปาน(ณหทัย พิจิตรา) แม่บังเกิดเกล้าและพัน(จตุรงค์ โกลิมาศ) ผัวใหม่ของแม่ แต่เธอก็ไม่สามารถทิ้งแม่ของเธอได้ ความลับของปิ่นมณีไม่เคยมีใครรับรู้ แม้กระทั่งฟ้าใสเพื่อนสนิทของเธอ ปิ่นมณีอิจฉาชีวิตที่โชคดีของฟ้าใส รวมถึงแก้วตา(ซี-หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช) สาวน้อยใสซื่อเพื่อนสนิทอีกคน ที่ภายใต้หน้ากากสาวอ่อนหวานไร้พิษภัย แต่แท้จริงยอมพลีกายให้กับบรรเจิด สามีของอรทัย เพื่อแลกกับชีวิตที่สุขสบาย ทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่ง หักหลังฟ้าใสเพื่อนสนิทของตน อรทัยระแคะระคายได้เบาะแสเมียน้อยบรรเจิด แต่แก้วตาก็หนีรอดทุกครั้ง แต่ไม่ใช่การช่วยเหลือของบรรเจิดเพียงคนเดียว แต่เพราะเดช(ดิว-ภัทรพล กันตพจน์) คนสนิทของบรรเจิดที่แอบชอบแก้วตาช่วยด้วย ความลับของแก้วตาเริ่มถูก งามเสมอ(หนูอิมอิม ก้าวมหัศาจรรย์) ครูที่โรงเรียนจับตามอง แต่ชนเมศร์(ดิว-อรุณพงศ์ ชัยวินิตย์) ครูอีกคนที่ชอบแก้วตาคอยแก้ตัวให้อยู่เสมอ เมื่อศิวาประกาศว่า จะแบ่งสมบัติของตนครึ่งนึงให้ศุวิล อรทัยจึงแค้นที่สองแม่ลูกจะกลับมาแย่งของๆ เธออีกครั้ง อรทัยเห็นว่า ฟ้าใสเป็นเครื่องมือที่จะทำได้สมบัติทั้งหมด จึงออกคำสั่งให้สุธาวีเอาชนะใจฟ้าใสและแต่งงานให้เร็วที่สุด! แม้ว่าสุธาวีจะคบหาอยู่กับ สราลัย(เมย์-สิรินทร์ ก่อเกียรติ) ลูกสาวรัฐมนตรีอยู่ แต่เขาก็ไม่เคยกล้างัดข้อกับอรทัย จนกระทั่งสุธาวีได้พบปิ่นมณี สุธาวีก็คลั่งไคล้ปิ่นมณีทันที! สราลัยไม่พอใจที่ปิ่นมณีดึงสุธาวีไปจากตน จึงรุมทำร้ายปิ่นมณีแต่ก็แพ้ ยิ่งทำให้สุธาวีพอใจในความแซ่บของปิ่นมณี เมื่อรู้ว่าปิ่นมณีคือแฟนของศุวิล ก็ยิ่งอยากชนะ สราลัยเอาเรื่องปิ่นมณีไปบอกอรทัย อรทัยไม่ยอมรับปิ่นมณี แต่เพราะความหลงเสน่ห์ปิ่นมณี ทำให้สุธาวีกลับลุกขึ้นแข็งข้อกับอรทัย และยืนกรานว่าจะต้องอยู่กับปิ่นมณีให้ได้ สุธาวีเล่าเรื่องที่ศิวาจะยกมรดกให้ศุวิลครึ่งนึงให้ปิ่นมณีฟัง ทำให้ปิ่นมณีไม่ยอมปล่อยศุวิล เพราะยังไม่รู้ว่าศุวิลหรือสุธาวีจะได้ครอบครองสมบัติกันแน่ เธอจึงปกปิดเรื่องที่เธอแอบคบสุธาวีไม่ให้ศุวิลรู้ สุธาวีปะทะกับอรทัยบ่อยขึ้น และยื่นข้อเสนอกับอรทัยว่าจะแต่งงานกับฟ้าใสตามต้องการ แต่จะให้ปิ่นมณีเป็นเมียน้อย อรทัยไม่ยอมเด็ดขาด ปัญหารอบตัวของอรทัยยิ่งทวีคูณ เมื่อเห็นว่าศุวิลกับฟ้าใส เหมือนจะมีสายใยบางอย่างเกิดขึ้น หลายครั้งที่ศุวิลหัวเสียจากอรทัย คนที่โดนลูกหลงก็มักจะเป็นฟ้าใสเสมอ ครั้งนึงที่ศุวิลพลั้งมือทำร้ายฟ้าใส ศุวิลรู้สึกผิดมาก พยายามตามทำดีกับฟ้าใสเพื่อไถ่โทษ เมื่อได้ใกล้ชิดกันก็ทำให้ทั้งสองต่างหวั่นไหวต่อกัน รวมถึงแก้วตา เมื่อได้พบศุวิล ก็ตั้งใจว่าจะไม่ยอมให้ฟ้าใสได้สมหวังกับศุวิลแน่ จึงยกเอาเรื่องศุวิลเป็นแฟนของปิ่นมณีขึ้นมาพูดกับฟ้าใส และแสร้งทำทีว่าเข้าใจความรู้สึกของฟ้าใสที่มีต่อศุวิล แก้วตาขอให้ฟ้าใสรับปากว่าจะไม่หักหลังแย่งศุวิลจากปิ่นมณี ฟ้าใสยอมรับปาก แม้ในใจจะเจ็บลึกๆก็ตาม ฟ้าใสออกห่างจากศุวิล และขอร้องให้เรื่องระหว่างเธอกับเขาไม่มีอะไรเกินเลย เธอไม่อยากหักหลังเพื่อน ศุวิลรับปากเพราะไม่อยากทำให้ฟ้าใสลำบากใจ แก้วตาสมหวังที่กีดกันฟ้าใสออกจากศุวิลได้ เพื่อที่เธอจะได้แอบสร้างความสัมพันธ์กับศุวิลเอง และโชคก็เข้าข้างแก้วตา เมื่อบรรเจิดย้ายบ้านเธอหนีจากการรุกรานของอรทัย ที่สำคัญบ้านนั้นติดกับบ้านของศุวิล! ศุวิลและอาภาไม่เคยสงสัยแก้วตา และไม่เคยรู้ว่าแก้วตาคือเพื่อนของฟ้าใส ทุกครั้งที่ศุวิลไปหาฟ้าใสที่โรงเรียน แก้วตาจะหลบเลี่ยงไปทุกครั้ง มีเพียงสำลี(อุ่นเรือน ราโชติ)ที่ฟันธงว่าแก้วตาเป็นเมียน้อย!! แก้วตาทนไม่ไหวที่ต้องหลบซ่อน จึงระบายเรื่องที่เธอเป็นเมียน้อยบรรเจิดให้กับปิ่นมณีฟัง ปิ่นมณีปลอบใจแก้วตา แต่ความลับนี้กลายเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ปิ่นมณีจะใช้ไขเข้าบ้านเจนจรัสตระกูล ปิ่นมณียื่นข้อเสนอจะให้เบาะแสเรื่องเมียน้อยบรรเจิดกับอรทัย แม้ว่าไม่เต็มใจแต่อรทัยก็ตอบรับข้อเสนอปิ่นมณี ที่ขายความลับของเพื่อนสนิทให้อรทัยรู้ หารู้ไม่ว่า ถึงอย่างไรอรทัยก็จะไม่ยอมรับปิ่นมณี ฟ้าใสคนเดียวที่จะช่วยนำเธอไปสู่ชัยชนะระหว่างเธอกับศุวิลได้ อรทัยส่งคนไปทำร้ายแก้วตา แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเดชคอยส่งข่าวเตือน ด้านปิ่นมณีก็ทวงสัญญาการแต่งงานของเธอกับสุธาวีที่อรทัยเคยให้ แต่อรทัยเสนอให้สุธาวีสืบหาและจัดการกับแก้วตาให้เธอ และจะไม่ขัดขวางเรื่องแต่งงานกับปิ่นมณีอีก สุธาวีจึงรับปาก สุธาวีพาปองพล(พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา) พี่ชายลูกติดพ่อเลี้ยงของปิ่นมณีไปจัดการแก้วตาด้วย แม้ว่าปิ่นมณีจะไม่ลงรอยกับปองพล แต่งานนี้เธอก็ใช้ปองพลกับสุธาวีร่วมมือกันทำร้ายแก้วตาจนปางตาย สร้างความเสียใจให้บรรเจิดและเดช ทาสรักผู้ภักดีของแก้วตา เมื่อฟ้าใสรู้เรื่องแก้วตาก็ตกใจ แก้วตาขอโทษและขอร้องให้ฟ้าใสเข้าใจความรักของเพื่อนกับอา ฟ้าใสหลงเชื่อสงสารจึงยอมทำตาม แต่คิดไว้ว่าจะหาวิธีพูดให้แก้วตาเลิกเป็นเมียน้อยบรรเจิดให้ได้ ลึกๆแล้วแก้วตายังไม่อยากทิ้งบรรเจิด เพราะยังไม่ได้ศุวิลมาครอง แต่เมื่อรู้ว่าปิ่นมณีคือผู้ชี้เป้าให้อรทัยได้รู้ แก้วตาก็สืบจนรู้ว่าปิ่นมณีทำงานขายตัว จึงบอกเรื่องนี้กับศุวิลเพื่อเป็นการแก้แค้น ศุวิลไม่อยากเชื่อ แต่ก็ตามไปดูปิ่นมณี สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาต้องช็อค เพราะพบปิ่นมณีกำลังนัวเนียกับสุธาวี ศุวิลขอเลิกกับปิ่นมณีทันที เมื่อถูกสลัดจากศุวิล ปิ่นมณีจึงมาเร่งการแต่งงานกับสุธาวี แต่อรทัยก็ไม่รักษาคำพูด ซ้ำยังหันไปบังคับฟ้าใสให้ยอมแต่งงานกับสุธาวี ฟ้าใสยืนกรานไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รักเด็ดขาด เพราะในใจลึกเธอรักศุวิลแม้จะรักข้างเดียวก็ตาม คืนหนึ่งสุธาวีเมาและแค้นอรทัยมาก เมื่อกลับมาเจอฟ้าใส สุธาวีจึงใช้กำลังปลุกปล้ำ โชคดีที่ศุวิลมาช่วยฟ้าใสไว้ได้ทัน สุธาวีต่อสู้กับศุวิล สุธาวีเลยจะยิงศุวิล ฟ้าใสเอาตัวเข้าขวางเอาไว้ ฟ้าใสจึงถูกยิงแทน หลังเหตุการณ์นี้ศุวิลขอร้องให้ฟ้าใสมาพักรักษาตัวที่บ้านเขา ศุวิลกลายเป็นคนมีชีวิตชีวา อาภารับรู้ถึงความรู้สึกของทั้งคู่ แต่แม้ว่าจะได้ใกล้ชิดกันแค่ไหน ทั้งคู่ก็ยังรักษาสัญญาที่ว่าจะเป็นเพียงเพื่อนกัน อรทัยรู้ข้อมูลของปิ่นมณีเรื่องจ็อบเป็นโสเภณีชั้นสูง จากการให้ข่าวของปรียะ(ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล) เพื่อนกินของสุธาวี จึงเอาเรื่องนี้มาบอกสุธาวี แต่สุธาวีกลับยอมรับปิ่นมณีได้ แต่อรทัยไม่ยอม สั่งลูกน้องไปดักทำร้ายปิ่นมณีหวังข่มขู่ให้เลิกกับสุธาวี แต่สุธาวีมาช่วยปิ่นมณีเอาไว้ได้ทัน สุธาวีโกรธจนลืมตัว บุกไปเอาเรื่องอรทัย และประกาศว่าปิ่นมณีต้องเป็นเจ้าสาวของเขา! ทำให้อรทัยแค้นมาก ศุวิลยังไม่ยอมรับศิวาเป็นพ่อ ทำให้อาการของศิวาทรุดหนัก อาภาจึงบอกความจริงกับศุวิล ว่าอรทัยขู่ฆ่าศุวิล เธอจึงต้องหนีออกมา ศุวิลจึงโกรธแค้นอรทัยมาก แต่พอฟ้าใสกับอาภาขอร้องให้ใจเย็น ศุวิลก็เย็นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อศิวารู้ว่าอรทัยส่งคนไปทำร้ายแก้วตาจนปางตาย เขาก็ยิ่งเสียใจที่ลูกสาวแท้ๆของเขามีจิตใจเหี้ยมโหด จึงตั้งใจจะไม่มอบอะไรให้อรทัยและสุธาวีแม้แต่แดงเดียว อรทัยยอมรับและยังบอกให้ศิวายกสมบัติให้สุธาวีทั้งหมด ไม่อย่างนั้น ตนจะไม่เอาอาภาและศุวิลไว้ ศิวาเป็นห่วงอาภาและศุวิล จึงยอมร่างพินัยกรรม ปิ่นมณีใช้มารยาปั่นหัวสุธาวีจนแตกหักกับอรทัยแล้วมาแต่งงานอยู่กับตน ส่วนบรรเจิดได้ขอแยกทางกับอรทัยถาวร ทำให้อรทัยแค้นใจมาก แต่เรื่องทั้งหมดยังไม่จบลงเท่านั้น เมื่อเดชบุกมากลางงานแต่งงานพร้อมปืนในมือเพื่อล้างแค้นแทนแก้วตา ปิ่นมณีเองก็แค้นแก้วตาที่ขายความลับที่เธอขายตัวให้ศุวิลรู้และทำให้ชีวิตเธอแทบพัง บทสรุปของเรื่องราวความรัก ความแค้น ความเกลียดชังราวกับลมพายุที่โหมกระหน่ำในใจของทุกคนจะจบลงอย่างไร และสายลมรักของฟ้าใสกับศุวิลจะพัดพาฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกันได้หรือไม่?
ลักส์ ดาวค้นดาว ตอน ละครที่รัก (2547/2004) หลังจากที่ขิม (แอน ทองประสม) มีโอกาสไปถ่ายละครที่หมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง เธอได้เจอนักเรียนกลุ่มหนึ่ง กำลังนั่งคุยกันถึงเรื่องที่เพื่อนในกลุ่มชื่อส้มจี๊ดซึ่งเป็นแฟนคลับตัวยงของขิม ที่อยากจะเล่นละครเวทีของโรงเรียนเรื่อง “ขวัญกับเรียม” แต่ก็ไม่กล้า เพราะเป็นโรคกลัวที่จะต้องอยู่ต่อหน้าคนจำนวนมาก ขิมเห็นใจจึงอาสาช่วยพูดพร้อมแนะนำเทคนิคความกล้าให้ จนส้มจี๊ดเริ่มมีกำลังใจและตัดสินใจเข้าคิดเลือกนักแสดงทันที ในวันคัดเลือก ขิมขออนุญาตจากตวง(แจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูล) ผู้จัดการส่วนตัว เพื่อจะไปเป็นกรรมการคัดเลือกนักแสดงของงานโรงเรียนได้สำเร็จ และได้เจอกับตั้ม (หนุ่ม-อรรถพร ธีมากร) คุณครูสอนพละที่โรงเรียนแห่งนี้ ตั้มชวนขิมคุยจนทั้งคู่เริ่มสนิทกัน ด้านส้มจี๊ด หลังจากทำการคัดเลือกนักแสดงเสร็จ เธอก็ได้รับเลือกให้เล่นบทเรียม ส้มจี๊ดดีใจมากและขอร้องให้ขิมมาดูเธอเล่นละครด้วย ขิมตอบตกลงไปทั้งๆ รู้ดีว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะติดงาน แต่ขิมกลัวเด็กๆ เสียใจ จึงไปขออนุญาตตวงให้ยกเลิกงานในวันนั้น ตวงโกรธมากและไม่อนุญาตให้ขิมไป ขิมผิดหวังและรู้สึกเหนื่อยกับงานที่ทำอยู่ เมื่อตั้มเข้ามาเห็นก็สงสาร เลยออกปากชวนขิมไปเดินเล่นพร้อมกับพูดปลอบให้กำลังใจ
พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ (2536/1993) นิอร เป็นนักศึกษาที่ถูกโชเฟอร์แท็กซี่โป๊ะยาสลบ หมายจะขืนใจแต่ระหว่างรถติดไฟแดง นนท์เกิดเหลือบมองไปเห็นและเห็นท่าทีมีพิรุธของโชเฟอร์ด้วยก็เลยลองขับรถยนต์ตามไปดูกระทั่งรถแท็กซี่วิ่งเข้าโรงแรมม่านรูดก็เห็นโชเฟอร์แท็กซี่ประคองนิอรที่หมดสติเข้าห้องไปนนท์ก็เลยไปเปิดห้องข้างๆ แล้วแกล้งทำทีโทรศัพท์เข้าไปหาบอกว่าเป็นบ๋อยโรงแรม แจ้งว่ามีตำรวจเข้ามาโชเฟอร์ก็เลยเผ่นหนีทันที นนท์ก็เข้าไปหานิอรพยายามปลุกแล้วแต่นิอรไม่ตื่นนนท์ก็สั่งเบียร์มานั่งกินรอแล้วก็เมาหลับบนเตียงนอนข้างนิอร ฝ่ายนิอรเมื่อตื่นขึ้นมาเห็นผู้ชายนอนข้างๆก็เข้าใจว่าถูกข่มขืนรีบหนีกลับบ้านทันทีอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายจนเพื่อนพี่สาวที่อยู่ด้วยชื่อ สุภัค สงสัยว่าเป็นอะไร นิอรก็เลยเล่าให้ฟังพอถามว่าจำหน้าผู้ชายคนนั้นได้ไหม ก็บอกว่าได้แต่ไม่กล้าไปแจ้งความ เรื่องมันก็เกิดขึ้นเพราะนนท์ได้เจอกับนิอรอีกครั้งก็ตามไปจนถึงบ้านนิอรนิอรก็กลัวพยายามจะหนีและหนีไปเรียนเมืองนอกระหว่างนั้นนนท์ก็แวะเวียนมาดูที่บ้านนิอรบ่อยก็เลยเจอกับสุภัคที่เป็นเพื่อนพี่นิอร นนท์ก็เลยทำทีตีสนิทหาข่าวนิอรแต่พอเห็นมีผู้ชายอีกคนมาจีบสุภัค นนท์ก็เลยทำทีจีบแข่ง ฝ่ายสุภัคก็เกิดเทใจให้นนท์ ระหว่างนั้นสุภัคก็จดหมายไปบอกนิอรว่ามีผู้ชายมาชอบ 2 คนแต่เธอจะเลือกนนท์ นิอรก็เลยกลับจากเมืองนอกมาดูหน้าผู้ชายที่ทำให้สุภัคเปลี่ยนใจ พอเห็นหน้านนท์ก็ผงะเพราะเป็นผู้ชายคนที่นอนในโรงแรมนั่นเอง นิอรพยายามจะบอกสุภัคว่านนท์เป็นคนไม่ดีแต่ดูเหมือนสุภัคจะไม่เชื่อเพราะรักนนท์แล้ว ฝ่ายนนท์ก็พยายามจะพูดคุยกับนิอรแต่พอรู้ว่านิอรคิดว่าตนเสียตัวให้นนท์แล้ว นนท์ก็เลยตีลูกมึนรับสมอ้างเลยว่ามีอะไรกันกับนิอรแล้วก็ยิ่งทำให้นิอรโกรธเข้าไปอีกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสุภัคชอบนนท์อยู่เข้าข้างนนท์ กระทั่งนนท์บอกว่าจะแต่งงานกับสุภัค นิอรก็ยิ่งเกลียดที่นนท์จะมาหลอกสุภัคอีกคน ในวันแต่งงานนั้น นิอรก็เป็นเพื่อนเจ้าสาวแต่นนท์ก็ยังคงตามง้อนิอรจนถูกตบหน้า นนท์ก็เลยฉุดนิอรหนีไปด้วยกันไปบ้านพักชายทะเล ทำให้สุภัคโกรธคิดว่านิอรแย่งคนรักของตนไปก็เลยพาคนรักเก่าตามไปหาแต่บังเอิญว่าไปเห็นตอนที่นิอรและนนท์ตบตีกัน แต่มองไกลๆจะเป็นเห็นหยอกเย้ากัน ก็เลยปลงใจไปรักคนเก่าคืน ปล่อยให้นนท์และนิอรอยู่ด้วยกัน แล้วพออยู่ด้วยกันจริงๆ นนท์ก็เลยเล่าบอกความจริงต่างๆ ในคืนนั้นให้ฟัง ทั้งนิอรและนนท์ก็เข้าใจกันรวมถึงประนาทและสุภัคด้วย
เมียหลวง (2524/1981) ดร.วิกันดา พันธ์ภากร แต่งงานกับดร.อนิรุทธิ์ ศัลวิทย์ ทุก คนต่างชื่นชมว่าทั้งคู่โชคดีที่เป็นคู่กัน เพราะมีพร้อมทั้งหน้าตา สมบัติและความรู้ ตอนที่ทั้งคู่ไปฮันนีมูนที่ปีนัง อนิรุทธิ์ได้ย้ำกับวิกันดาเสมอว่ารักและบูชาวิกันดามาก วิกันดา มีเพื่อนสนิทสองคน คือ อนงค์นารถและฉวีเพ็ญ ทั้งหมดต่างมีครอบครัวแล้ว แต่ละคนพบเจอปัญหาที่แตกต่างกัน อนงค์นารถมีสามีคือ พลเวทย์ ซึ่งชื่นชอบในการอ่านหนังสือมาก เหมือนไม่มีปัญหา แต่ทำให้อนงค์นารถเบื่อ ส่วนฉวีเพ็ญดูเหมือนจะหนักสุด เพราะสีหนาทสามีของเธอนั้น เสพติดทุกอย่างที่เป็นการพนัน แต่ฉวีเพ็ญสามารถยิ้มได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อน เพราะมีความอดทนสูง แม้จะจนก็ตาม (เรื่องย่อจากนิยายเมียหลวง : ookbee.com)
ความทรงจำใหม่ หัวใจเดิม (2541/1998) เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ต้องสูญเสียความทรงจำไป เมื่อพบว่าคู่หมั้นของเธอพาหญิงสาวอื่นเข้าโรงแรม และจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้>เธอได้มาพบกันเขา…ชายหนุ่มผู้ที่ห่างหายจากความรักมาเกือบสิบปี… การได้มาพบกันของคนทั้งคู่ ทำให้ก่อเกิดความรู้สึกดีๆขึ้นในหัวใจ โดยเฉพาะสำหรับเขา ซึ่งห่างหายจากความรักมาเกือบสิบปี เขาได้เรียนรู้ที่จะรักใหม่ แต่ยังไม่ทันที่ความรักของเขาจะสมหวัง เขาก็ได้พบกับความจริงที่ว่า เธอ…หญิงสาวที่เขากำลังมอบความรักครั้งใหม่ให้นั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว… แม้จะเจ็บปวดกับความจริงนี้ แต่เขาก็ยังมอบสิ่งดีๆให้กับเธอ คือพยายามช่วยฟื้นความจำให้เธอ และเมื่อหญิงสาวกลับมามีความทรงจำอีกครั้ง ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับคู่หมั้นของเธอก็เปิดเผยออกมา ทำให้เขาเริ่มมีความหวังอีกครั้ง…
ใกล้ไกลหัวใจเดียวกัน (2542/1999) อมตะ จตุตถี (จุลจักรจักรพงษ์)ลูกชายของพลเอกชาติบดินทร์ (ทูน หิรัญทรัพย์)เอกอัครราชทูตไทยประจำฮังการี กับ คุณหญิงรุ่งรัตนา (ชไมพร จตุรภุช)เดินทางกลับจากเวียนนา ที่ไปศึกษาอยู่กลับมาพักอยู่กับครอบครัวที่กรุงบูดาเปสระหว่างปิดภาคเรียน และที่นี่ อมตะได้พบกับ เชิญตะวัน ฉัพรังสี(อิศริยา สายสนั่น)นิสิตสาวจากคณะสถาปตยกรรมซึ่งเดินทางมาค้นคว้าข้อมูลเพื่อทำวิทยานิพนธ์พร้อมกับเพื่อนคือ ลูกน้ำ (ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา)อมตะได้พบกับเชิญตะวันครั้งแรกในตอนที่เขามาหาเพื่อนนักดนตรี คือ ไมเคิล (แดนนี่ รามณรงค์) กับโจเซฟส่วนเชิญตะวันกับเพื่อนนั้นมาหายายเดสซี่แม่ของ มาธิลดาซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกนั้น อมตะเห็นเชิญตะวันครั้งแรกก็สนใจอยากรู้จักแต่ไม่ทันได้ทำความรู้จัก เชิญตะวันก็ไปเสียก่อน แล้วอมตะก็มีเรื่องกับ โธมัสที่มาลวนลามมาธิลดา ทั้งสองต่อสู้กัน อมตะจึงถูกตำรวจจับ ท่านทูตกับคุณหญิงและพี่สาวของอมตะ คือรุ่งอรุณ (พิชชาภรณ์ รัตนานนท์)ไม่พอใจมากที่อมตะไปก่อเรื่อง จึงต่อว่าอมตะตอนที่ไปรับตัวกลับมา แต่อมตะกลับภูมิใจที่ตนเองกับไมเคิลได้ช่วยมาธิลดาไว้ คุณหญิงรุ่งรัตนานั้นได้หมั้นอมตะไว้กับช่อฟ้า(สันธยา จันทเขต)ลูกสาว คุณหญิงเดือนฉาย(อภิรดี ภวภูตานนท์)ตั้งแต่ั้งสองยังเด็ก เมื่อคุณ-หญิงเดือนฉายกับช่อฟ้าจะเดินทางจากปารีส มาเยี่ยมครอบครัวของท่านทูต ที่บูดาเปส อมตะไม่สนใจไปรับที่สนามบิน หนีไปเดินเที่ยวเตร็ดเตร่แทน และได้พบกับเชิญตะวันอีกครั้งในร้านขายของที่ระลึก เชิญตะวันรีบร้อนออกจากร้านทำหนังสือหล่นไว้ อมตะเก็บหนังสือได้และจะตามไปแต่ไมเคิลตามมาขัดจังหวะเสียก่อน เชิญตะวันเมื่อรู้ตัวว่าทำหนังสือหล่นไปก็เสียดายมากเพราะเป็นหนังสือที่จรัลคนรักของตนส่งมาให้จากเมืองไทย ติดตามต่อได้ใน ใกล้ไกลหัวใจเดียวกัน
น่ารัก (2557/2014) ประเทศฮวาซา เป็นรัฐอิสระตอนตะวันตกเฉียงเหนือของไทยใกล้แม่น้ำโขง ต้องการเปิดประเทศให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จึงมีการเปิดประมูลหาบริษัทที่จะมาผลิตภาพยนตร์สารคดีเพื่อทำการประชาสัมพันธ์ประเทศให้เป็นที่รู้จัก โดยมี นาย (ชาคริต แย้มนาม) เจ้าของบริษัทกับ จีจี้ (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) แฟนสาว จากบริษัท GNN ซึ่งเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์สารคดีชื่อดังจากประเทศไทย ที่เข้าร่วมการประมูลงานในครั้งนี้ โดยบริษัทของนายมีทีเด็ดที่เหนือกว่าบริษัทคู่แข่งคือ แนวหน้า (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) ครีเอทีฟคนเก่งซึ่งเป็นน้องชายของนายนั่นเอง ทั้ง 3 คนประทับใจและชื่นชมความงามของประเทศฮวาซามาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นราชพิธีวันเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวที่ พระราชาธูล (พลวัฒน์ มนูประเสริฐ) ได้พา องค์หญิงโลลิต้า (อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) องค์หญิงรัชทายาทผู้ที่มีสิริโฉมงดงาม แสนซื่อบริสุทธิ์สดใส เสด็จออกเยี่ยมประชาชน ทำเอานายกับจีจี้ถึงกับเอ็นดูในความน่ารักสดใสขององค์หญิงโลลิต้า เว้นก็แต่แนวหน้าเท่านั้นที่รู้สึกตกใจอย่างมาก เพราะองค์หญิงโลลิต้าคือคนที่เพิ่งมีปากเสียงกับเขาที่กลางตลาดเมื่อตอนบ่าย เพียงเพราะเหตุผลที่เขาแย่งซื้อขนมชิ้นสุดท้ายจากเธอมาได้ จนทำให้เธอโกรธเคืองเขามากมาย หลังจากที่บริษัทนายนายได้รับการไว้วางใจให้เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีเพื่อประสัมพันธ์ประเทศฮวาซา โดยแนวหน้าได้เสนอความคิดว่าจะผลิตสารคดีท่องเที่ยวแบบกึ่งเรียลลิตี้ โดยมีองค์หญิงโลลิต้าเปรียบเหมือนเป็นฑูตของฮวาซา ซึ่งแนวหน้าจะเล่าเรื่องผ่านตัวละครชายหนุ่มนักผจญภัยที่ได้ยินกิตติศัพท์ความงามขององค์หญิงแห่งฮวาซา จึงเดินทางมาที่ประเทศนี้ ได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามและเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนฮวาซา จนชายผู้นี้ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศตลอดไป ซึ่งแนวหน้าตั้งใจว่าตัวเขาเองจะแสดงเป็นชายในสารคดีเรื่องนี้เอง แต่องค์หญิงโลลิต้ากลับไม่เห็นด้วย เพราะไม่อยากร่วมงานกับแนวหน้าชายคนที่เธอไม่ชอบหน้า องค์หญิงโลลิต้าเสนอให้จีจี้ไปติดต่อพระเอกละครไทยสุดฮอตคนที่เธอคลั่งไคล้คือ ไผท (สน ส่งไพศาล) มาเป็นตัวละครชายหนุ่มนักผจญภัยให้ได้เธอถึงจะยอมให้ความร่วมมือ ซึ่งจีจี้กับนายก็รีบตกปากรับคำทันที ทำให้แนวหน้าถึงกับไม่พอใจและไม่อยากทำโปรเจคท์นี้อีกต่อไป เพราะในอดีตเขากับไผทเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องมหาวิทยาลัยเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่เป็นคู่ปรับที่ชิงดีชิงเด่นกันอยู่ตลอด โดยเฉพาะเรื่องความรักของแนวหน้าที่ต้องอกหัก เมื่อถูก ขิง (คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) สาวสวยที่แนวหน้าหมายปองกลับปันใจไปคบหากับไผท ด้วยเหตุนี้เลยยิ่งทำให้แนวหน้าเกลียดไผทยิ่งขึ้นไปอีก แต่สิ่งที่ทำให้แนวหน้าต้องจำใจยอมทำโปรเจคท์นี้ต่อไปก็เพราะนายกับจีจี้เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จนถึงขึ้นที่จีจี้บอกเลิกนายและจะถอนหุ้นทั้งหมดออกจากบริษัท แถมจีจี้ยังประกาศว่าเธอจะต้องติดต่อไผท ให้ยอมร่วมงานกับเธอก่อนหน้านายกับแนวหน้าให้ได้ ซึ่งในขณะนั้นเองไผทกำลังเบื่อชีวิตในวงการบันเทิงเพราะ พี่ฟิน (ปิยะ เศวตพิกุล) ผู้จัดการส่วนตัวชอบรับงานซ้อนจนทำให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าไผทเป็นซุปตาร์ที่เรื่องมาก ขี้งกเลือกรับงาน ด้วยเหตุนี้ไผทเลยตัดสินใจร่วมงานกับแนวหน้า เพราะต้องการดัดนิสัยพี่ฟินและหลีกหนีความวุ่นวายในวงการบันเทิงไทย หลังจากที่ทั้ง 3 คนเดินทางมาถึงฮวาซาก็ต้องตกใจสุด ๆ เมื่อพบว่าจีจี้ได้พูดจาหว่านล้อมให้องค์หญิงนำพล็อตเรื่องที่วางไว้ขึ้นมาพิจารณาใหม่ โดยเสนอแนะให้องค์หญิงโลลิต้าเป็นนำผู้แสดงเพียงคนเดียว ในขณะที่องค์หญิงกำลังคิดพิจารณาตามข้อเสนอของจีจี้ นายกับแนวหน้าก็คิดแผนเด็ดขึ้นมาได้โดยต้องทำให้องค์หญิงรักไผทจริง ๆ ให้ได้ ด้วยเหตุนี้แนวหน้าจึงต้องติวเข้มไผทอย่างหนักว่าต้องทำตัวให้เหมือนกับคาแรคเตอร์ในละครถึงจะตรงตามสเปคขององค์หญิงโลลิต้า ซึ่งบทบาทในละครต่างจากตัวตนที่แท้จริงของไผทมาก ซึ่งแนวหน้าต้องไปตีสนิทกับ ชีฟอง (วิชญานี เปียกลิ่น) พี่เลี้ยงขององค์หญิงโลลิต้า เพื่อหลอกถามข้อมูลเกี่ยวกับองค์หญิงโลลิต้า ซึ่งชีฟองก็หลงเชื่อ และยอมร่วมมือทุกอย่าง เมื่อโลลิต้ามาเห็นว่าแนวหน้าจีบชีฟองก็โกรธมาก แต่ชีฟองกลับหลงรักแนวหน้ามาก ๆ จนองค์หญิงโลลิต้าไม่กล้าทำร้ายจิตใจชีฟอง หลังจากไผทรู้ว่าองค์หญิงโลลิต้าชอบเขาจากละครเรื่องอะไร ทำเอาเขาถึงกับช็อกเพราะเป็นเรื่องที่ไผทเล่นไว้แย่ที่สุด แต่ไผทก็ยอมทำทุกอย่างตามคำแนะนำของแนวหน้า เพราะเขารู้สึกหลงรักองค์หญิงโลลิต้าขึ้นมาจริง ๆ แม้จีจี้กับฟินจะมาพยายามข่มขู่ด้วยวิธีไหน ไผทก็ไม่ฟัง เพราะถ้าขาดแนวหน้าไปเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง ที่จะทำให้ผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดีอย่างองค์หญิงโลลิต้ามาชอบเขาจริง ๆ ได้ หลังจากที่ทุกคนเริ่มการถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีไปอย่างราบรื่น แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อขิงเดินทางมาที่ฮวาซาเพื่อรับหน้าที่สไตลิสต์ส่วนตัวให้กับไผท ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นแผนการของจีจี้ ที่หวังจะทำให้ไผทและแนวหน้าแตกคอกัน ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จเมื่อไผทกับแนวหน้าทะเลาะกันจริง ๆ แต่เป็นการแตกคอที่ทั้งคู่ต่างผลักดันให้อีกคนหนึ่งรับขิงเป็นของตน พอนายรู้เรื่องนี้ก็ขอร้องให้แนวหน้าเป็นคนจีบขิง เพื่อดึงขิงออกมาจากไผทที่กำลังไปได้ดีกับองค์หญิงฯ แนวหน้าอยากให้งานราบรื่นก็ยอมทำตามข้อเสนอของนาย แต่ แนวหน้ากลับทุกข์ใจกว่าเดิมเพราะเขารู้ว่าคนที่เขารักไม่ใช่ขิงแต่กลับเป็นองค์หญิงโลลิต้า ขิงกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ชีฟองอกหัก และทำให้เจ้าหญิงโลลิต้าโกรธมาก เธอคิดว่าแนวหน้าเจ้าชู้หลอกให้ชีฟองเสียใจ เธอทะเลาะกับแนวหน้าอยู่ตลอด ไผทเลยต้องทำหน้าที่สานสัมพันธ์ทั้งคู่เข้าใจกัน เพราะไผทกลัวว่าหากองค์หญิงโกรธจนไม่ยอมทำงานต่อ เขากับองค์หญิงจะต้องห่างกัน ดังนั้นไผทเลยลงทุนไปขอร้องให้ขิงทำตัวเป็นทอม เพราะไม่อยากให้ชีฟองอกหัก แล้วก็จัดการทำให้แนวหน้ากับชีฟองดีกัน เพื่อทำให้องค์หญิงโลลิต้าพอใจ พอขิงเห็นนิสัยที่ยอมทำอะไรเพื่อคนอื่นของไผท ก็รู้สึกแปลกใจมาก เพราะในอดีตไผทไม่เคยทำอะไรเพื่อคนอื่นเลยคิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้ขิงเลยยอมทำตัวเป็นทอมตามที่ไผทขอ และบอกองค์หญิงกับชีฟองว่าตนกับแนวหน้าเป็นแค่เพื่อนกัน พอชีฟองกลับมามีความสุข องค์หญิงโลลิต้าก็ดีกับแนวหน้า เธอเสนอให้แนวหน้าแต่งงานกับชีฟอง ทำให้แนวหน้าน้อยใจองค์หญิงโลลิต้ามาก จึงพยายามหลบหน้าองค์หญิงอยู่ตลอด และใช้ให้ขิงกับนายทำงานแทน ส่วนตัวเขาหนีไปสงบสติอารมณ์นอกเมือง พอขาดแนวหน้าไป ไผทก็ทำตัวไม่ถูก พูดอะไรก็ผิดหูโลลิต้าไปหมด จนทำให้องค์หญิงโลลิต้ารู้ว่าที่ไผทเป็นผู้ชายที่แสนดีตรงตามสเปคของเธอนั้นมาจากการที่มีแนวหน้าคอยเป็นผู้ชี้แนะนั่นเอง ไผทนำเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับองค์หญิงมาปรึกษาขิง หลังจากที่ขิงให้คำปรึกษากับไผทไป เขาก็ได้รู้ใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วขิงเป็นคนที่เขารักและเข้าใจเขามากที่สุด ไผทเห็นว่าเรื่องราวเริ่มจะวุ่นวายไปกันใหญ่ เลยไปปรับความเข้าใจกับแนวหน้าว่าเขารู้ใจตนเองแล้วว่าไม่ได้รักองค์หญิงโลลิต้า จนแนวหน้าเข้าใจไผทและยอมกลับมาถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีต่อ หลังจากที่การถ่ายทำดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น จู่ ๆ เจ้าชายชองปอล (อัครัฐ นิมิตชัย) ว่าที่คู่หมั่นขององค์หญิงโลลิต้า เข้ามาก่อความวุ่นวาย โดยเจ้าชายชองปอลได้วางแผนการครั้งสำคัญทำให้แนวหน้าและไผทต้องแตกคอกันอีกครั้ง รวมไปถึงองค์หญิงโลลิต้าและขิงที่มองแนวหน้าและไผทเปลี่ยนไป แผนการของเจ้าชายชองปอลคืออะไร แล้วความรักระหว่างแนวหน้ากับองค์หญิงโลลิต้าและไผทกับขิงจะลงเอยอย่างไร ? ตามชมกันต่อได้ใน ละครน่ารัก
เรือนเสน่หา (2556/2013) พุทธศักราช 2448 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ยกเลิกการมีทาสไปแล้ว ผู้ชายโดยเฉพาะเจ้าขุนมูลนายนิยมมีภรรยาหลายคน ขณะที่ฝ่ายชายต่อสู้และแย่งชิงตำแหน่งและหน้าที่ทางสังคม ฝ่ายหญิงก็ต่อสู้เพื่ออำนาจในเรือน ครอบครัวของ คุณหลวงปราบ ธำรงค์นครา (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) เองก็เช่นกัน คุณหลวงมีภรรยาเอกคือ ชมนาด (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) หญิงสาวจากตระกูลสูง และ เอื้องคำ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวพ่อค้าจากเชียงใหม่ ทั้งสองคนต่างต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อให้เป็นคนโปรดของคุณหลวง ชมนาด นั้นมี อีอี่ (รัญญา ศิยานนท์) เป็นบ่าวคนสนิทคอยรับใช้เป็นหูเป็นตาให้ ส่วน เอื้องคำ มี อีมุ่ย (ณหทัย พิจิตรา) บ่าวที่ติดตามมาจากเชียงใหม่เป็นบ่าวคนสนิท และคอยเป็นหูเป็นตาเช่นกัน ทั้งชมนาดและเอื้องคำมักมีเรื่องกันบ่อยครั้ง เพราะเอื้องคำนั้นมีนิสัยเอาแต่ใจ เจ้าคิดเจ้าแค้น จึงไม่ยอมลงให้กับชมนาดเมียเอก ส่วนชมนาดนั้น ภายนอกดูเป็นคนจิตใจดี มีเมตตากรุณา แต่ซ่อนความเลือดเย็นเอาไว้ แต่เอื้องคำและอีมุ่ยมองทะลุเข้าไปถึงใต้ท่าทีเหล่านั้น จึงไม่วางใจในตัวชมนาด เมื่อเมียบ่าวที่ชื่อ สร้อย (อุทัยศรี ศรีณรงค์) เกิดตั้งท้องขึ้นมา ชมนาดก็แอบจัดการฆ่าไปเสียโดยใช้บึ้งชะงัก แล้วแอบใส่ความโยนความผิดให้เอื้องคำ ระหว่างนั้นเอื้องคำเกิดตั้งท้อง คุณหลวงจึงให้รอคลอดลูกให้เรียบร้อย แล้วไสหัวเอื้องคำและอีมุ่ยออกไป เอื้องคำแค้นใจมากที่ไม่มีใครเชื่อตน ด้วยความแค้นเอื้องคำจึงแอบไปบนเรือนชมนาดจะฆ่า แต่ก็พลาดต้องตกบันไดลงมาแท้งลูก ทำให้เอื้องคำไม่เหลืออะไรอีกแล้ว รอเพียงวันที่จะออกไปจากเรือนเท่านั้น ปราฏว่าในวันที่ต้องออกไปจากเรือน เอื้องคำเกิดเสียสติร้องหาลูก ทำให้คุณหลวงสงสารเลี้ยงดูให้อยู่ในเรือนต่อไป แม้เอื้องคำจะตกต่ำลงไปแล้ว ชมนาดก็ยังนอนใจไม่ได้ เพราะยังเหลือ มะลิ (โสภิตนภา ชุมภาณี) เมียบ่าวแสนซื่อของคุณหลวงอีกคนที่เป็นหนามยอกอก ยิ่งไปกว่านั้น มะลิ และ ไอ้มิ่ง (อาณัตพล ศิริชุมแสง) บ่าวชายเกิดไปรู้เห็นเรื่องบึ้งชะงักเข้า ยิ่งทำให้ชมนาดต้องกำจัดมะลิกับไอ้มิ่ง ด้วยการใส่ความว่าทั้งสองคนเป็นชู้กัน เมื่อคุณหลวงมาเห็นก็โมโหมาก สั่งลงโทษและไล่ออกจากเรือนไป มะลิ ไอ้มิ่งและ ป้าพิศ (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) ป้าของไอ้มิ่งหนีไปตั้งหลักที่วัด ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านคุณหลวงมากนัก หลวงตาน้อย (สรพงศ์ ชาตรี) พระที่ให้ความช่วยเหลือ ให้ทั้งหมดอยู่ที่กระท่อมท้ายวัด ปรากฏว่า มะลิมีลูกคุณหลวงติดท้องมาด้วย ทำให้ทุกคนยังออกเดินทางไปตั้งรกรากที่อื่นไม่ได้ ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน ส่วนชมนาดเองก็เกิดตั้งท้องขึ้นมาเช่นกัน วันหนึ่ง อีอี่ไปที่วัดก็แอบเห็นไอ้มิ่งแล้วตามไป จึงได้รู้ว่ามะลิตั้งท้องลูกของคุณหลวงเช่นกัน ชมนาดสั่งอีอี่ให้จัดการพวกของมะลิ เย็นวันนั้นมะลิคลอดลูกแฝดชายออกมา พอตกดึกอีอี่แอบตามมาเผาบ้านหวังให้ทุกคนตายคากองเพลิง มะลิคว้าลูกมาได้เพียงคนเดียว ส่วนลูกอีกคนที่หน้าอกโดนพระที่หลวงตาน้อยให้มาร่วงใส่อกจนเป็นรอยแผลเป็นนั้นคาอยู่ในกองไฟกับป้าพิศ มะลิและไอ้มิ่งหนีออกมาได้ก็สลบอยู่ที่ข้างบ้าน หารู้ไม่ว่าป้าพิศโยนเด็กอีกคนออกมาได้ เด็กไปคาอยู่บนกอผักบุ้ง ทางฝั่งชมนาดที่รออีอี่กลับมารายงานนั้น ก็เกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกเช่นกัน แต่ร้องหาบ่าวไพร่ไม่ได้สักคนเพราะบ่าวไพร่มัวแต่ไปช่วยกันดับไฟที่เรือนบ่าว คนที่ขึ้นมาดูชมนาดก็คือเอื้องคำ เมื่อชมนาดคลอดลูกสาว เอื้องคำก็แย่งเอาลูกไป ทำให้ชมนาดรู้ทันทีว่าเอื้องคำแกล้งบ้า เอื้องคำสะใจ อุ้มลูกสาวชมนาดหนีออกไปกับอีมุ่ยในคืนนั้นเอง เมื่ออีอี่กลับมาพบจึงรีบออกไปตามหาเอื้องคำเพื่อเอาลูกชมนาดกลับมา แต่เด็กที่อีอี่ได้กลับมานั้น คือลูกชายของมะลิ ที่หลวงตาน้อยเป็นคนไปพบบนกอบัว ชมนาดจึงตกกระไดพลอยโจนเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงแทนลูกตนเอง อีอี่นั้นแม้จะรู้จากหลวงตาน้อยว่าเป็นลูกของมะลิ แต่ก็มิได้บอกชมนาด ฝั่งมะลินั้นเมื่อเข้าใจว่าลูกอีกคนตายไปในกองเพลิงกับป้าพิศแล้วก็เศร้าโศกเสียใจ พากันย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่อยุธยา ระหว่างทางได้เจอกันหญิงท้องแก่คนหนึ่ง ซึ่งเกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกกะทันหัน หญิงคนนั้นรู้ว่าตนจะไม่รอด จึงฝากลูกสาวที่เพิ่งคลอดให้มะลิช่วยดูแลแทนตน ก่อนจะขาดใจตายไป มะลิตั้งชื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า สายหยุดและตั้งชื่อลูกชายของตนว่า เมือง เรือนเสน่หา ส่วนเอื้องคำและอีมุ่ยที่ขโมยลูกชมนาดไป จับพลัดจับผลูได้ไปเป็นเมียของเถ้าแก่ซ้ง (ประกาศิต โบสุวรรณ) เจ้าของโรงฝิ่น เอื้องคำตั้งชื่อให้ลูกสาวชมนาดว่า ชวนชม และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เหม่ยฟาง ส่วนอีมุ่ยก็เปลี่ยนเป็นชื่อเง็ก เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมเป็นอย่างดี ให้ฝึกหัดทุกอย่างตามแบบฉบับของสาวชาววัง ท่ามกลางความแปลกใจของอีมุ่ยว่าเหตุใดต้องทำเช่นนั้น คุณหลวงรักและหลงลูกชายคนแรกมาก ตั้งชื่อให้ว่า สุข เพราะเชื่อว่าลูกจะนำมาซึ่งความสงบสุขของบ้าน จากนั้นไม่นาน ชมนาดตั้งท้องอีกครั้ง คราวนี้ชมนาดได้ลูกชาย และให้ชื่อว่า เทพ ชมนาดเลี้ยงดูลูกอย่างลำเอียง ทำให้มีปากเสียงกับคุณหลวงบ่อยครั้ง อีอี่นั้นเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูสุขด้วยความสงสาร ฝั่งมะลิและไอ้มิ่งก็เลี้ยงดู เมือง และ สายหยุดมาเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งสองเข้าใจว่ามะลิและไอ้มิ่งคือพ่อแม่ที่แท้จริงของตน ทั้งที่ความจริงแล้วมะลิและไอ้มิ่งอยู่กันแบบพี่น้องเรื่อยมา 18 ปีผ่านไป รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คุณหลวงได้เลื่อนขั้นเป็นคุณพระธำรงค์นครา สุขนั้นเติบใหญ่มาท่ามกลางความเกลียดชังของชมนาด เพราะคุณพระรักและหลงในตัวสุขมาก ยิ่งสุขเรียนเก่งและดีเท่าไร ก็ยิ่งเป็นข้อเปรียบเทียบกับเทพ ลูกแท้ ๆ ของชมนาด เทพไม่สนใจการเรียน เอาแต่หาเรื่องเที่ยวเตร่ สนุกสนานไปวัน ๆ ไม่ได้อย่างใจคุณหลวง แม้สุขจะรู้สึกอยู่เสมอว่าแม่ไม่รักตน ก็ยังเฝ้ากตัญญูพยายามทำให้แม่รักตน และไม่เคยอิจฉาริษยาน้องเลย คุณพระนั้นหวังให้เป็นคู่หมั้นคู่หมายกับ เดือน ลูกสาวของ คุณหลวงไว (ศรุต วิจิตรานนท์) เพื่อนของตนเอง ส่วนมะลิและไอ้มิ่งนั้น เลี้ยงเมืองและสายหยุดมาจนเติบโต เมืองไปมีเรื่องกับนักเลงที่จะมาฉุดสายหยุด จนพวกนักเลงตามไล่ฆ่า ทำให้ทั้งครอบครัวนั้นหนีลงเรือ จับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ที่พระนครอีกครั้ง วันหนึ่ง เถ้าแก่ซ้งเกิดรู้ว่าที่แท้ชวนชมเป็นลูกสาวของชมนาดกับคุณพระ ก็ตั้งใจจะไปบอกความจริงกับคุณพระ เอื้องคำเลยใช้แก่นรัญจวนแก่นไม้ที่เพิ่มกำหนัด ซึ่งเอื้องคำเคยใช้ได้ผลมาหลายครั้งทั้งตอนที่ยั่วยวนคุณหลวง และเถ้าแก่ซ้งมาแล้ว แต่คราวนี้ออกฤทธิ์หนักจนทำให้เถ้าแก่ซ้งตายคาอกเอื้องคำ ทำให้เอื้องคำได้ขึ้นเป็นใหญ่ทันที เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมอย่างดี ชวนชมทำตามคำสั่งเอื้องคำทุกอย่าง และเฝ้ารอเพียงวันที่เอื้องคำจะบอกว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของตนเป็นใคร อีมุ่ยเพิ่งจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว ทุกอย่างที่เอื้องคำทำมาทั้งหมด ก็เพียงเพื่อจะรอวันแก้แค้นชมนาด ให้ชมนาดเจ็บปวดอย่างสาสม! โศกนาฏกรรมความเสน่หาอาฆาตบทนี้ จะลงเอยเช่นไร? ติดตามกันต่อได้ในละคร เรือนเสน่หา