เลือดสุพรรณ (2562/2019) เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มังราย (ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ชายหนุ่มรูปงาม ผู้เป็นนายกองปีกซ้ายแห่งเมือง รัตนปุระอังวะ ได้ปลอมตัวลอบเข้ามาสืบข่าวการศึกในเมืองสุพรรณ เมืองที่ขึ้นชื่อว่า เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของอาณาจักรอยุธยา โดยคำสั่งของ แม่ทัพมังมหาสุรนาท (วิทย์-ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ผู้ที่เป็นทั้งบิดาและผู้บัญชาการทัพที่เข้มงวด และที่เมืองสุพรรณแห่งนี้เองที่ มังราย ได้มาถูกตาต้องใจกับหญิงสาวชาวบ้านนางหนึ่ง สาวผู้เป็นลูกคหบดีค้าข้าวนามว่า ดวงจันทร์ (แป้ง-พรภัสร์ชนก มิตรชัย) หญิงที่มีนิสัยแก่นแก้วห้าวหาญ ผิดวิสัยหญิงสาวชาวบ้านทั่วไป ทำให้ จันทร์ ผู้เป็นแม่ (หน่อย-สุรัตนา ข้องตระกูล) เอือมระอากับความแก่นกระโหลกของลูกสาว เพราะนอกจากจะไม่ได้ดั่งใจแล้ว ก็ยังมี พ่อดวง (ปุ้ม-ไกรสร แสงอนันต์) คอยให้ท้ายลูกอยู่เสมอ ดวงจันทร์ ยังเป็นที่หมายปองของหนุ่มในละแวกบ้านรั้วใหญ่ โดยเฉพาะ จอม (เพชร-ภัควรรธน์ ลีละเมฆินทร์) ลูกชาย กำนันแสง (จิ๋ว-ปรีชา เกตุค้า) ที่มาคอยตามเกี้ยวไม่ห่าง จนเป็นที่น่ารำคาญใจ จอมเป็นพวกขี้เมาไม่เอาการเอางาน สร้างแต่เรื่องจนกำนันผู้เป็นพ่อนั้นกลัดกลุ้มอยู่เป็นประจำ แต่ถึงอย่างไร จอม ก็ไม่อาจออกตัวถนัดนัก เพราะมีก้างขวางคอชิ้นใหญ่อย่าง ขาม (แสน-แสนยา สมสอาด) หนุ่มชาวสุพรรณ รูปร่างสันทัด คอยดูแล ดวงจันทร์ อยู่เนือง ๆ แต่ ขาม ก็รู้ดีว่าเป็นได้ก็เพียงพี่ชายเท่านั้น ดวงจันทร์ ยังมีเพื่อนสนิทที่ไปไหนมา ด้วยกันอีก 4 คน คือ ขวัญจิตร สาวกุลสตรีชอบร้องรำ พริ้ง สาวปากร้ายใจดี แก้ว หญิงแกร่งร้านตีดาบ และ เหมย สาวชาวจีนที่ย้ายเข้ามาตั้งรกรากและปรับตัวเข้ากับเมืองสุพรรณ ครั้นเข้าสู่ช่วงเทศกาลงานกฐิน ด้านหนึ่งคือช่วงเวลาแห่งความรื่นเริงหลังการเก็บเกี่ยว แต่อีกด้านหนึ่ง เปรียบเสมือนเมฆดำทมึน กำลังเคลื่อนเข้าสู่เมืองสุพรรณ เมื่อ แม่ทัพมังมหาสุรนาท ได้รับคำสั่งจาก แม่ทัพใหญ่มังมหานรธา ให้นำทัพล่วงหน้าเข้ายึดเมืองสุพรรณ เพื่อคอยท่าทัพหลวง ที่ซึ่ง มังราย ได้ใช้ชีวิตปะปนกับชาวสุพรรณนานนับเดือนโดยไม่มีใครได้ล่วงรู้ ว่าเขาคือสายลับจากอังวะ ส่วนหนึ่งเกิดจากความหละหลวมของ เจ้าเมือง (เต้-ทัตพงศ์ พงศทัต) ที่เอาใจออกห่าง มุ่งแต่ผลประโยชน์และการทุจริต จึงเป็นเหตุให้ความเข้มงวดหย่อนยาน และแล้วเรื่องเลวร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มโจรยะไข่ ที่ลอบขึ้นมาจากเมืองพะสิมสบโอกาสนี้ บุกปล้นทั้งทรัพย์สินและคน หมายจะส่งออกไปขายแก่เหล่ากะลาสีเรือที่เมาะตะมะ และเป็นการสั่งสอนเจ้าเมือง ดวงจันทร์ ได้ถูกโจรลักตัวออกจากเมืองไป แต่โชคดีที่ มังราย สะกดรอยตามไปช่วยไว้ได้ ชายหนุ่มได้เผยตัวและอ้างว่าเป็นทหารจากกรุงศรีชื่อ ทัพ หลังช่วยดวงจันทร์ไว้ได้ ทัพ ได้ดูแลอาการบาดเจ็บของ ดวงจันทร์ ในถ้ำบนเนินเขาพุหางนาค อย่างทะนุถนอม สองหนุ่มสาวได้ใกล้ชิดและมอบหัวใจให้แก่กันในที่สุด แต่ภายหลัง ขาม และเพื่อนได้แกะรอยตามมาพบเข้า ทั้งสองจำต้องแยกจากกันเพราะ ดวงจันทร์ ต้องกลับคืนบ้านที่สุพรรณ ส่วน ทัพ ก็มีงานราชการที่จะต้องสะสาง เมื่อ ดวงจันทร์ กลับถึงบ้าน เด็กสาวก็ไม่วายเฝ้าเพ้อคิดถึงถึงทหารหนุ่มที่ช่วยเธอไว้ ขณะที่ข่าวศึกอังวะเริ่มกระจายหนาหู จอม ที่หมายในตัว ดวงจันทร์ หวังพึ่งบารมี เจ้าเมือง จึงถูกหลอกใช้ให้ยิงพลุส่งสัญญาณ เบิกทางให้ทัพอังวะของมังมหาสุรนาทที่รอทัพนอกเมือง นำไพร่พลเรือนหมื่นบุกเข้าเมือง ทัพของมังมหาสุรนาท จึงเข้ายึดเมืองสุพรรณได้อย่างง่ายดาย ด้วยการยอมสวามิภักดิ์ของเจ้าเมือง ทำให้พ้นจากการถูกปล้นฆ่าและเกาะกุมเป็นเชลย ส่วนชาวบ้านที่จับดาบขึ้นสู้ต้องพลีชีพไปไม่น้อย ผู้ที่รอดชีวิตต่างถูกกวาดต้อนเป็นแรงงานทัพ พ่อและแม่ของดวงจันทร์ต้องทำงานอย่างหนักท่ามกลางอากาศร้อนและพิษไข้ เมื่ออาการไม่สู้ดีจึงตกเป็นเป้าทำให้ถูกเพ่งเล็งโดย มังระโธ (แตงโม-พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน) นายกองปีกขวา ผู้ที่เห็นแก่ได้และเหี้ยมโหด กดขี่รังแกเชลยทุกชาติทุกภาษาไม่เว้นวาง โดยเฉพาะชาวเมืองสุพรรณ อย่างไม่เกรงกลัวอาญาทัพ เหตุการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้นเมื่อ มังระโธ ได้ใจ กดขี่ข่มเหงเหล่าเชลย จนทำให้ มังราย นายกองปีกซ้ายทนเห็นการทารุณต่อเชลยไม่ได้ จำต้องออกหน้าปกป้อง ดวงจันทร์ หญิงที่ตนรัก และอีกหลายชีวิตที่ถูก มังระโธ รังแก และนั่นคือครั้งแรก ที่ ดวงจันทร์ ได้พบกับ ทัพ คนรักในฐานะของศัตรู ความรักท่ามกลางความรู้สึกอันสับสนจะลงเอยอย่างไร และการใช้ชีวิตอันยากลำเค็ญของชาวเมืองสุพรรณจะหลุดจากบ่วงพันธนาการได้หรือไม่ โปรดติดตามได้ในละคร เลือดสุพรรณ

ลูกผู้ชายหัวใจทองคำ (2562/2019) เรื่องราวของ สันติ (โตนนท์ วงบุญ) หนุ่มนักเรียนกฎหมาย ที่ไม่เคยมีความคิดจะเป็นทหารเลย เพราะเขามีความทรงจำที่เจ็บปวดกับ เผด็จ (พันเอก(พิเศษ) วินธัย สุวารี) พ่อของเขา ซึ่งเป็นทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจยะลา ตลอดมาพ่อไม่เคยมีเวลาให้ครอบครัวแม้แต่ตอนแม่ (ปัทมา ปานทอง) ป่วยหนัก ในเมื่อพ่อรักอาชีพทหารเขาจึงเป็นทุกอย่างที่ตรงข้ามกับพ่อ กลางวันสันติรับจ้างทวงหนี้ กลางคืนเขาเป็นคนคุมบาร์ สันติทำอาชีพสีเทาแต่ไม่ผิดกฎหมายเพราะแม่ขอไว้ พ่อไม่ชอบงานที่สันติทำแต่ใครจะสน เขาทำได้ทุกอย่างขอ ให้สามารถดูแลแม่ได้ แต่มีอย่างหนึ่งที่เขาจะไม่เป็นคือทหารแบบพ่อ ในวันที่เขาต้องไปผ่อนผันทหาร เขาถูกรุ่นพี่ทหารดูถูก ทำให้เขาเปลี่ยนใจหันไปสมัคร สันติถูกส่งตัวมาค่ายทหารเกณฑ์พลัดสอง และได้มาเจอจ่า อารี (บู-กฤษณ์ ไตรรัตน์) ครูฝึกทหารจอมโหดคนที่เผด็จได้ฝากฝังสันติไว้ เผด็จอยากให้สันติรักในอาชีพทหาร และไม่อยากให้สันติมองโลกแคบ ๆ จะชอบหรือไม่ชอบอะไรก็ควรได้สัมผัสสิ่งนั้นจริง ๆ ซะก่อนเพราะความเป็นคนหัวแข็ง ดูก้าวร้าว ปากกับใจตรงกัน เชื่อมั่นในตัวเอง กล้าได้กล้าเสีย ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ของสันติ ทำให้ทหารใหม่คนอื่น ๆ ไม่มีใครชอบขี้หน้าสันติ เพราะเขาทำให้ทุกคนต้องพลอยถูกลงโทษไปด้วย ถึงสันติจะหนีไม่พ้นต้องมาเป็นทหาร แต่อย่างน้อยตอนนี้สันติก็ได้รู้จักเพื่อนดี ๆ แบบ คมกริช (วิคเตอร์-ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกุล) และ ยิ้ม (เอ๋-สิทธิพันธ์ กลมเกลี้ยง) แม่ของสันติแอบดีใจ และปลื้มใจ แต่สันติกำลังคิดว่าเขาคิดผิด และไม่น่าใช้อารมณ์ตัดสินใจครั้งนี้ เมื่อสันติได้รู้ความจริงว่าโดนหลอกให้มาเป็นทหาร สันติโกรธจ่าอารีกับพ่อมากคิดอยากจะกลับบ้านไปดูแลแม่ จ่าอารีเตือนสติจนทำให้สันติได้คิดได้ไตร่ตรองอีกครั้ง ในวันที่ค่ายเปิดให้ญาติเข้ามาเยี่ยม ทุกคนต่างมีพ่อแม่พี่น้องมาหาอบอุ่น แต่กลับเป็นวันที่สันติได้รับข่าวร้ายที่สุดในชีวิต แม่ของสันติเสียแล้ว สันติเสียใจมาก ที่ไม่ได้มาดูแม่ในวาระสุดท้าย เผด็จส่งคลิปที่แม่ค่อยดูสันติอยู่ตลอดในระหว่างที่สันติฝึกอยู่ที่ค่าย และทำให้แม่ภูมิใจในตัวสันติอย่างมาก สันติกำลังจะได้ไปปฏิบัติภารกิจสำคัญ สันติได้รู้แล้วว่าหน้าที่ของตนสำคัญต่อประเทศชาติ การได้ปกป้องคนอื่นทำให้รู้ว่าตัวเองมีคุณค่าขนาดไหน สันติสัญญากับแม่ว่าจะเป็นชายชาติทหารที่แม่ต้องภาคภูมิใจสันติกับเพื่อน ๆ สมัครมาช่วยงานที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีจ่าวีทำหน้าที่พี่เลี้ยงพาลาดตระเวนสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งกลางวันกลางคืน เยี่ยมมวลชน เข้าไปพูดคุย กับหัวหน้าชุมชน เอาหยูกยาไปแจก ฝึกชาวบ้านคุ้มกันตัวเอง สอนการใช้อาวุธ เครื่องกระสุนปืน การที่จ่าวี เป็นคนในพื้นที่อยู่แล้วจึงได้รับการต้อนรับ การมาครั้งนี้ทำให้สันติได้เจอกับ ครูดุจดาว (ริด้า-ฟาริดา วัลเลอร์) และ ครูหยาด (เบล-เลลาณี ทศพร) น้องสาวของยิ้มที่ขอย้ายตัวเองมาสอนหนังสือที่บันนังสตา สันติกับดุจดาวสานสัมพันธ์กันเหมือนจะไปด้วยดี จน อาหมัด (อ๋อง-พัฒนะ พันธุ์เทวะ) บริจาคเงินเพื่อบูรณะโรงเรียนขึ้นมาใหม่ ทำให้ดุจดาวปลาบปลื้มมาก เพราะอาหมัดคือบุคคลที่สนับสนุนให้ทุนการศึกษากับนักเรียนในจังหวัด และอาหมัดก็เป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้ดุจดาวเรียนจบเป็นครูได้ถึงทุกวันนี้ด้วย ครูใหญ่ให้ดุจดาวเป็นที่ปรึกษาโครงการและเป็นตัวแทนโรงเรียนประสานงานกับอาหมัด สันติไม่ค่อยไว้ใจอาหมัดเท่าไหร่นัก และก็จริงที่อาหมัดมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา สันติบอกรักดุจดาว แต่ดุจดาวยังไม่อยากคิดเรื่องรัก เพราะตนได้อุทิศให้กับอาชีพ อาหมัดคิดแผนร้ายเข้าทางดุจดาว หวังให้ชาวบ้านกับทหารผิดใจกัน เพื่อธุรกิจผิดกฎหมายของตนจะได้ทาง สะดวกขึ้น อาหมัดขนของครั้งใหญ่ใช้ดุจดาวเป็นใบเบิกทางโดยที่ดุจดาวไม่รู้ตัว รถทหารที่จะมาช่วยสร้างโรงเรียนถูก วางระเบิด ทหารบาดเจ็บล้มตาย ดุจดาวเป็นห่วงสันติมาก แต่จะทันที่เธอจะบอกเขาหรือเปล่า ต้องติดตามในละคร ลูกผู้ชายหัวใจทองคำ

กล่อมรัก (2562/2019) ผู้การหมึกสมอ (อาร์ม-สุกวิณ แก้วพิกุล) ทหารเรือผู้พิทักษ์ท้องทะเล เรื่องงานหมึกสมอลงสนามรบจับกุมคนทำผิดกฎหมายมาแล้วมากมาย แต่เรื่องหัวใจกลับต้องอ้างว้างเดียวดาย หมึกสมอไม่เคยลงสนามรักเลยสักครั้ง หงส์ (หลิว-อาจารียา พรหมพฤกษ์) วิศวกรสาวสวย เก่งรอบด้าน ลูกสาวคนเดียวของ พิมพร (หงส์-สุชาดา พูนพัฒนสุข) และ สิงห์ (หนึ่ง-นึกคิด บุญทอง) เจ้าของ บริษัท NeoSK จำกัด บริษัทออกแบบงานโดยระบบ 3D ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้เข้ามาทำงานในบริษัทด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ วันหนึ่งหมึกสมอได้ขอพรจากท้องทะเลให้ได้พบรักแท้ โดยเขียนจดหมายใส่ขวดโหล แล้วโยนลงทะเล หงส์เป็นหญิงสาวผู้พบขวดโหลนั้นบนชายหาด เธอเปิดอ่านดู และบุพเพสันนิวาส ได้นำพาหงส์เข้ามาคุยงานเรื่องการสร้างอาคารในกองทัพเรือ ซึ่ง แววดาว (มิว-ณัฐปภัสร์ ผารุธรรม) และ พัชชา (ปุ๊-ชานน ชูศิลป์) เพื่อนสนิทของหงส์ได้ไปด้วย หงส์ กับ หมึกสมอ ได้พบกันเป็นครั้งแรก และในวันนั้นมีงูจะฉกหงส์ หมึกสมอเข้ามากอดหงส์ไว้ จนโดนกัดแทน หงส์ประทับใจหมึกสมอจึงเลี้ยงข้าวตอบแทน ในวันที่ทั้งสองได้มาทานอาหารที่ริมทะเลด้วยกัน หงส์ได้มอบกระเป๋าสตางค์เพื่อแทนคำขอบคุณ หมึกสมอและหงส์เริ่มมีใจให้กันและกัน ทางด้าน ชนะชล (โจม-ศุกล ศศิจุลกะ) และ พรระพี (ติ๊ก-รภทัตา กิ่มศาสตร์) พ่อและแม่ของหมึกสมอ เห็นว่าหมึกสมอทำงานเสี่ยงอันตราย ก็เป็นห่วงจึงได้จับคู่ให้แต่งงานกับ ดารณี (อร-อรวิภา อัศวนิก) แพทย์หญิงทายาทโรงพยาบาลเพชรดำรงเวช แต่หมึกสมอและดารณีไม่ได้รักกัน หมอดารณีออกตรวจชาวบ้านร่วมกับแพทย์หนุ่ม นวพล (นัท-ณัฐวัฒน์ บุญนาม), กรกฏ (มีน-จิรัฏฐ์ เกตุภู่) และ จิดาภา (ธันวา-พิชญา ลักษณา) บนพื้นที่ห่างไกลอย่างมีความสุข วันหนึ่งเมื่อดารณีรู้ข่าวว่า เพชรแท้ (ป๊อบ-สุริยา เยาวสังข์) กับ ลัดดา (หลิน-นุศรา ประวันณา) พ่อและแม่ของเธอ จะจับแต่งงานกับหมึกสมอก็ตกใจมาก นวพลเองก็เกิดความน้อยใจเพราะเขาแอบหลงรักดารณี ด้านหมึกสมอและหงส์ได้พบกับ หอมจันทร์ (น้องไอย่า-ด.ญ.ศิญารัศม์ สุขะ) และ วันชนะ (น้องสแน็ค-ด.ช.ธีรเดช ชนะสุวรรณดำรง) สองพี่น้องจากเกาะกล่อมรักที่นั่งร้องไห้ เพราะเรือเที่ยวสุดท้ายหมดแล้ว หมึกสมอจึงอาสาไปส่งที่เกาะกล่อมรัก หงส์ และ หมึกสมอ พาหอมจันทร์และวันชนะมาส่งบนเกาะ ทำให้หงส์ได้รู้ว่าบนเกาะแห่งนี้ไม่มีอาคารเรียน หงส์อาสาจะมาสร้างอาคารเรียนบนเกาะกล่อมรักให้ฟรี หมึกสมอยิ่งรู้สึกดีกับหงส์มากขึ้น และในวันนั้นหงส์ได้รู้ว่าคนที่เขียนจดหมายบอกรักในขวดโหลคือ หมึกสมอ หงส์เตรียมตัวที่จะไปดูพื้นที่การสร้างอาคารเรียน หมึกสมอก็ได้รับภารกิจให้เข้าไปสืบการลักลอบขนสินค้าและอาวุธเถื่อนบนเกาะกล่อมรักเช่นกัน ทั้งสองจึงได้ไปเกาะกล่อมรักด้วยกัน และได้พบ กำนันศัก (เอ-วิทิต แลต) และ หมื่น (นนท์-อภิชา พัชรวิภาคกิจ) หลังจากกลับมาหมึกสมอได้เขียนจดหมายเอาไว้อีกฉบับ แต่ยังไม่มอบให้หงส์ เพราะตั้งใจไว้ว่าหากเสร็จภารกิจ จะรีบเคลียร์ตัวเองและขอหงส์เป็นแฟน หมึกสมอนัดพบกับดารณี โดยทั้งคู่สารภาพว่ามีคนที่รักอยู่แล้ว แต่หงส์มาพบหมึกสมอ และได้รู้ว่าหมึกสมอกำลังจะแต่งงานกับดารณี หงส์ได้ขอยุติความสัมพันธ์กับหมึกสมอ ในวันที่คณะของหงส์เข้ามาบนเกาะกล่อมรัก เสี่ยเกรียง (เล็ก -วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) และ กริช (ฟิล์ม-กรรญกฤต อรรควงษ์) นายทุนที่อยู่เบื้องหลังได้วางแผนระเบิดเรือจน ไอรดา (แป็กกี้-สิริพิชยา สตัยเสารยะ) เสียชีวิต เพื่อเบนความสนใจในการขนสินค้าออกนอกเกาะ บนเกาะกล่อมรัก หงส์ได้พบกับหมึกสมอที่ปลอมตัวเป็น แซม ฝรั่งผิวสี แซมปลอบใจหงส์ที่กำลังช็อกเรื่องระเบิดที่ท่าเรือ หงส์เชื่อว่าเรื่องระเบิดต้องเกี่ยวข้องกับกำนันศัก จึงได้สั่งให้ เดช (อู๋-จตุรวิช กลมเกลี้ยง) ลูกน้องคนสนิทติดตามกำนันศักและพวก แล้วก็เป็นอย่างที่หงส์คิดไว้จริง ๆ หงส์และเดชได้ตามกำนันศักและพวกเข้าไปในถ้ำ จึงได้พบกับกล่องไม้ที่ด้านในมีสินค้าผิดกฎหมาย และอาวุธเถื่อนมากมาย ทั้งคู่เกือบโดนพวกกำนันศักจับได้ หมึกสมอที่แต่งตัวเป็นแซมได้เข้าช่วยเหลือหงส์ จากการโดนพวกกำนันศักตามจับ ทั้งสองติดอยู่ในป่าด้วยกันทั้งคืน และคืนนั้นหงส์ได้รู้ว่าแซม ก็คือหมึกสมอที่ปลอมตัวมาทำภารกิจ ด้านงานแต่งงาน... ดารณีก็ได้นวพลมาช่วยลองชุดเจ้าบ่าวแทนหมึกสมอ ดารณีและนวพลร่ำลากันด้วยความเข้าใจ แต่ลัดดาแม่ของดารณีมาพบ จึงตบหน้านวพลและสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งกับดารณี หมึกสมอได้แบ่งทีมออกสำรวจป่าบนเกาะกล่อมรัก แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เพราะหมื่นได้ย้ายสินค้าไปฝังไว้ในหาดทรายอีกฟากของเกาะ แต่ ครูฝ้าย (ธัญญรัตน์ ลีสีไสย), หอมจันทร์ และวันชนะมาเห็นเข้า หมื่นจึงจับไว้เป็นตัวประกัน เรื่องครูและเด็ก ๆ หายตัวกลายเป็นข่าวใหญ่โต เฮียกวง (ตุ๋ย-อรุณ ภาวิไล) และ หนูกิ๊ก (ลูกกิ๊ก-กัณจนาณัฎ พัฒนะสิริกุลชัย) เจ้าของรีสอร์ตบนเกาะ เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงได้แอบถ่ายภาพเอาไว้และนำหลักฐานให้หมึกสมอและตำรวจดู หมึกสมอได้แบ่งทีมตามจับหมื่น เรื่องถึงหูเสี่ยเกรียงว่ากำนันศักโดนตำรวจคุมตัว จึงได้โทรหาหมื่นเพื่อช่วยเหลือ โดยการเตรียมเรือให้หมื่นหลบหนี ทีมทหารเรือได้ตามแกะรอย จนพบว่าหมื่นได้พาตัวประกันไปขึ้นเรืออีกฟาก ของเกาะ หมื่นได้โยนตัวประกันลงน้ำ แต่ทีมทหารเรือเข้าช่วยเหลือไว้ทัน เรือของหมื่นขับออกไปได้ไม่ไกล ก็เกิดระเบิด กำนันศักมั่นใจว่าเป็นฝีมือเสี่ยเกรียง จึงสารภาพกับตำรวจว่า เสี่ยเกรียงอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด กริชได้นำลูกน้องแอบไปขนย้ายสินค้าที่หมื่นฝังเอาไว้ ตำรวจจึงเข้าจับกริช กริชโดนยิงตกน้ำ แต่ตามหาศพไม่เจอ เสี่ยเกรียงโดนตำรวจจับจากการสารภาพของกำนันศัก หงส์ขอบคุณหมึกสมอและทหารเรือที่ช่วยครูฝ้าย, หอมจันทร์ และวันชนะเอาไว้ได้ ชาวบ้านบนเกาะกล่อมรักพากันจัดงานเลี้ยงฉลองให้ตำรวจและทหารเรือ หงส์กับหมึกสมอเต้นรำและบอกรักกันใต้แสงจันทร์ หมึกสมอได้ให้ขวดโหลที่มีจดหมายแก่หงส์ และในจดหมายมีข้อความขอหงส์เป็นแฟน ด้านชนะชลกับพรระพี เมื่อรู้ว่าดารณีมีคนรักแล้ว จึงเริ่มไม่เห็นด้วยกับงานแต่งครั้งนี้ หมึกสมอทำภารกิจเสร็จสินก็กลับมาเคลียร์เรื่องงานแต่ง เขานัดคุยกับดารณี และตกลงกันว่าจะเลือกทางเดินชีวิตของตนเอง หมึกสมอกับหงส์ ดารณีกับนวพลตกลงจะแต่งงานกัน ทั้งสองคู่เตรียมงานอย่างเงียบ ๆ โดยที่เพชรแท้และลัดดา พ่อกับแม่ของดารณีไม่ทราบ แต่เพชรแท้ก็สงสัยและจ้างนักสืบตามหมึกสมอ จนได้รู้ว่าหมึกสมอกำลังจะแต่งงานกับหงส์ เพชรแท้และลัดดาจึงสร้างเรื่องใส่ร้ายว่าหงส์กำลังแย่งหมึกสมอไปจากดารณี หมึกสมอ, หงส์, ดารณี และนวพล ไลฟ์สด เพื่อแก้ข่าวให้หงส์ เพราะหงส์ถูกชาวเน็ตประณามว่าแย่งสามีคนอื่น และหมึกสมอใช้โอกาสนี้ขอหมั้นกับหงส์ เพชรแท้และลัดดาไม่ยอม บุกเข้ามาพังงานหมั้น ทางด้านกริชที่ยังไม่ตาย ก็มาปรากฏตัวกลางงาน ยิงหมึกสมอเพื่อแก้แค้นจนบาดเจ็บสาหัส ผู้กองยิ่งยศ (ฟิว-ธีระพงษ์ สิงหวัฒน์) คว้าปืนยิงใส่กริชจนสิ้นลม ดารณีและนวพลจะสมหวังหรือไม่ ? เมื่อถูกผู้ใหญ่กีดกัน ความรักของ หงส์ กับ หมึกสมอ จะลงเอยอย่างไร เมื่อหมึกสมอบาดเจ็บสาหัส อาการโคม่า เป็นตายเท่ากัน จะมีปาฏิหาริย์อีกครั้งหรือไม่ ? ติดตามชมกันต่อได้ในละคร กล่อมรัก

ป่าปลูกรัก (2562/2019) ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งหนึ่ง ย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน เด็กหญิงร่มไม้(คารีสา สปริงเก็ตต์) ลูกสาวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ รู้สึกสะเทือนใจที่สุด เมื่อได้เห็นซากของลูกหมีขอที่ตนกับพ่อเคยไปแอบซุ่มดูความน่ารักของมัน ถูกพรานฆ่าอย่างทารุณ ภาพนี้สร้างความทรงจำอันแสนเจ็บปวดให้กับเด็กน้อย เธอตั้งปณิธานกับซากลูกหมีในวันนั้นว่า เมื่อเติบโตขึ้นเธอจะปกป้องคุ้มครองสัตว์ป่า และบ้านสีเขียวของพวกเขา ไม่ให้ใครหน้าไหนเข้ามาเยียบย่ำทำลาย วันเวลาผ่านจนเด็กน้อยเติบโตเป็นหญิงสาวที่หัวใจกล้าแกร่ง เธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มุ่งหน้าเข้ารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในจังหวัดบ้านเกิดตนเอง เธอปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน ซื่อตรง และต่อสู้กับผู้บุกรุกป่าอย่างองอาจกล้าหาญ จนเป็นที่กล่าวขวัญว่าเธอคือนางฟ้าแห่งป่าแถบนี้ วันหนึ่ง ร่มไม้ได้รับแจ้งข่าวว่ามีผู้ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ในเขตหวงห้าม โดยทิ้งแต่ซากสัตว์เอาไว้ และน่าจะเป็นคนเดียวกับที่แอบเข้ามาล่าสัตว์หลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่ขนานนามมันว่า "พรานกรุง"(โอ๋ ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) ซึ่งลักลอบเข้าเขตอุทยานจากการช่วยเหลือนำทางของพรานป่าในพื้นที่ โดยพรานป่าจะลอบเข้าสำรวจพื้นที่ก่อนว่ามีสัตว์จะออกหากินตรงจุดไหนแล้วส่งข่าวให้พรานกรุงที่มีฐานะร่ำรวย อาวุธปืนทันสมัย กระสุน อุปกรณ์อำนวยการล่าเต็มพิกัด เพื่อแลกกับค่าจ้างสูงลิ่ว ร่มไม้ รีบบุกเข้าป่าพร้อมหัวหน้าชัยชนะ(เอ็กซ์ จาตุรงค์ โกลิมาศ) และเพื่อนร่วมทีม แต่เมื่อไปถึง พรานกรุงใจโฉดและไอ้กล้า(ไมเคิล เวลส์ช) พรานป่าต่างพากันหลบหนีไปหมด ซากสัตว์ที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆเพื่อทำอาหารกินกลางป่า เป็นภาพที่ร่มไม้ไม่อาจทนนิ่งเฉยอยู่ได้ เสียงร้องเล็กๆของช้างดังมาเข้าหูร่มไม้ เมื่อหญิงสาวกับเจ้าหน้าที่ช่วยกันค้นหา จึงพบลูกช้างตัวน้อยนิด ซุกตัวหลบอยู่อย่างน่าสงสาร ช้างน้อยร้องหาแม่ จนร่มไม้ต้องเข้าไปสวมกอดและพากลับไปดูแลที่เขตอนุรักษ์ ร่มไม้ตั้งชื่อช้างน้อยว่า "รถถัง" และไม่กี่วันหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ค้นพบว่า พังนวล แม่ของรถถังถูกยิงตายอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบซากสัตว์ ร่มไม้ เดินทางไปพบ อิสระ(บอม นนทัช ธนวัฒน์ยรรยง) เพื่อนนักข่าวเพื่อให้ตีข่าวเรื่องพรานกรุง อิสระเต็มใจทำให้เพราะแอบหลงรักร่มไม้มานานตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่กล้าจีบจริงจัง และในวันที่ร่มไม้จะเดินทางกลับ ได้ไปเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน !!! บนถนนที่รถติดยาวเหยียด มีหญิงชราป่วยหนัก แต่ลูกสาวไม่สามารถขับรถฝ่ารถติดไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ห่างเพียงไม่กี่เมตรข้างหน้าได้ ร่มไม้ที่อยู่บนแท็กซี่ที่จอดอยู่ติดกันทนไม่ได้ วิ่งไปโบกรถให้ช่วยเบี่ยงเปิดทาง จนได้เจอรถของเมืองเอก(แมน ธฤษณุ สรนันท์) ที่มัวแต่โทรศัพท์ทะเลาะอยู่กับนายบุรี(โอ๋ ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) บิดาอยู่ในรถ แม้ร่มไม้จะเอามือทุบกระจกเรียกก็ไม่ใส่ใจ จนร่มไม้ทนไม่ได้ต้องช่วยอุ้มคนแก่พาวิ่งไปบนบาทวิถีเพื่อพาส่งโรงพยาบาล เมืองเอกเห็นภาพร่มไม้ซึ่งแข็งแรงอดทน ก็รู้สึกทึ่งและอยากจีบร่มไม้ในทันที เขาตามไปจอดรถที่โรงพยาบาล พบว่าหญิงชราได้รับการช่วยเหลือทันท่วงที แต่ร่มไม้ได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ในวันเดียวกันมีคนเอาคลิปร่มไม้โพสต์ลงโซเชียล เมืองเอกไล่อ่านจากคอมเมนต์จนรู้ว่า ร่มไม้คือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชายหนุ่มกำลังเซ็งพ่อที่ไม่ยอมให้ทุนไปเปิดร้านนำเข้ารถสปอร์ต แต่จะบังคับให้เมืองเอกไปทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ จึงตัดสินใจเดินทางไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ระหว่างทางเข้าหมู่บ้านเพื่อจ้างคนพาเข้าไปยังเขตอนุรักษ์ เมืองเอกไปเจอกับนักเลงเจ้าถิ่นเกือบถูกนักเลงรุมยำ แต่โชคดีที่ร่มไม้เข้ามาช่วยไล่นักเลงไปได้ เมืองเอกยิ่งทึ่งร่มไม้หนักกว่าเดิม เพราะหญิงสาวบู๊เก่งต่อสู้กับผู้ชายแบบไม่กลัวเกรง เมืองเอกวางแผนโกหกร่มไม้ว่าตัวเองเป็นช่างภาพ รับจ้างถ่ายรูปสัตว์ป่าส่งเว็บไซต์สารคดีต่างๆ มีความสนใจอยากเข้าไปถ่ายรูปสัตว์ป่าในเขตอนุรักษ์ ร่มไม้หวังจะให้เมืองเอกช่วยปลุกจิตสำนึกให้คนรักป่าและสัตว์ป่า จึงอาสาช่วยพาเมืองเอกไปยังเขตอุทยาน ร่มไม้พาเมืองเอกเข้าป่า ระหว่างทางเกิดฝนตกน้ำหลาก ร่มไม้ต้องพาเมืองเอกลุยข้ามแอ่งน้ำเพราะสะพานโดนตัดขาด เป็นครั้งแรกที่เมืองเอกต้องเผชิญกับความยากลำบากจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ร่มไม้ก็สามารถพาเขาลุยน้ำฝ่าไปได้จนสำเร็จ แต่เมื่อไปถึงที่พักในเขตอุทยาน เมืองเอกก็ล้มป่วยด้วยพิษไข้ ต้องนอนรักษาตัว ทำให้ร่มไม้เปลี่ยนใจที่จะส่งเมืองเอกกลับไป เพราะรำคาญผู้ชายอ่อนแอ แต่พอเมืองเอกหายดี เขาก็พยายามพิสูจน์ว่าตัวเองอยู่ในป่าได้ด้วยการเอาใจหัวหน้าอุทยาน หัวหน้าอนุญาตให้เมืองเอกอยู่ต่อไป และมอบหมายให้ร่มไม้เป็นคนพาเมืองเอกเข้าป่าไปถ่ายรูปได้ ร่มไม้จำยอมทำตามคำสั่ง แต่ก็แกล้งให้เมืองเอกไปเลี้ยง "รถถัง" ถ้าสามารถทำให้รถถังชอบเมืองเอกได้ก็จะยอมช่วยเหลือเมืองเอกทุกอย่าง เมืองเอกรับคำท้าจึงต้องไปเลี้ยง "รถถัง" แต่ก็โดนช้างน้อยแสนรู้กลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา แต่สุดท้ายเมืองเอกก็เอาชนะใจรถถังได้ และพยายามหาทางใกล้ชิดกับร่มไม้อยู่ตลอดเวลา แต่ก็โดนร่มไม้พาไปตกทุกข์ได้ยากอยู่กลางป่า เมืองเอกเริ่มเรียนรู้ถึงความงดงามของป่า สัตว์ป่า และคน ที่ต้องพึ่งพาอยู่ในระบบนิเวศเดียวกัน ความใกล้ชิดทำให้ความรักก่อตัวขึ้นทีละนิด โดยเมืองเอกไม่รู้เลยว่าความรักของเขาไม่มีวันสมหวังได้ เพราะพรานกรุงที่ร่มไม้ตามล่า คือ นายบุรี บิดาของตนนั่นเอง ! นายบุรีทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกำลังปลูกสร้างรีสอร์ตขนาดใหญ่ที่รุกล้ำเข้าไปในเขตอุทยาน เมื่อหัวหน้าชัยชนะเข้าไปตรวจสอบกลับถูกคนของนายบุรีทำร้าย และให้ทนายใส่ความว่าเจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงคนของตัวเองก่อน ส่งผลให้หัวหน้าชัยชนะถูกพักงาน เพราะอำนาจเงินของนายบุรีที่จ่ายให้กับนักการเมืองท้องถิ่น แต่โชคยังเข้าข้างร่มไม้ นายพรานกล้าเกิดสำนึกผิด คิดมอบตัวเตรียมเดินทางไปพบหัวหน้าอุทยานเพื่อแฉว่า พรานกรุงคือนายบุรี แต่ยังไปไม่ถึงกลับโดนนายบุรีส่งคนมาฆ่าปิดปากระหว่างทาง เมื่อร่มไม้และเมืองเอกตามมาถึง ก็พบพรานกล้าเป็นศพไปแล้ว ร่มไม้โกรธมากบุกไปหาบุรีถึงรีสอร์ต จนโดนคนของบุรีทำร้าย เมืองเอกตามไปช่วยขัดขวาง ทำให้ความจริงเปิดเผยว่า เจ้าของรีสอร์ตคือพ่อของเมืองเอก ร่มไม้เข้าใจผิดคิดว่าเมืองเอกแฝงตัวเข้ามาอยู่กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อเป็นสายให้กับพ่อตัวเอง เพราะที่ผ่านมาพวกบุกรุกป่าจะรู้ตัวก่อนทุกครั้งเวลาเจ้าหน้าที่บุกไปจับ โดยหารู้ไม่ว่าสายของบุรีตัวจริงคือ ฝักแค(มิ้ง ชุติญา ลิ้มเจริญ) สาวชาวบ้านที่อาสามาเป็นคนครัวให้เจ้าหน้าที่ และหลงรักอยากได้เมืองเอกเป็นผัวนี่เอง ร่มไม้ทะเลาะกับเมืองเอกอย่างรุนแรง ไล่เมืองเอกให้ออกไปจากอุทยาน เมืองเอกกลับไปหาบุรีขอให้หยุดบุกรุกป่า แต่โดนบุรีตบหน้าประกาศตัดจากกองมรดกถ้าเมืองเอกไม่ยอมรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของรีสอร์ต เมืองเอกทำเป็นห่วงสมบัติจึงยอมตกลงอย่างง่ายดาย เพื่อหวังเข้าไปทำลายโครงการนี้ รถถังหนีหายจากคอกเข้าไปในป่า เมืองเอกขอออกตามหาพร้อมกับร่มไม้และกลุ่มเจ้าหน้าที่ จนพบว่า รถถังไปอยู่ตรงจุดที่แม่ถูกยิงตาย เมื่อพารถถังกลับมา รถถังปวดท้องถ่ายออกมามีแหวนของนายบุรี เมืองเอกเห็นแหวนจำได้ว่าเป็นของพ่อตัวเองแต่ไม่ยอมบอกร่มไม้ เขารีบติดต่อพ่อเพื่อถามเอาความจริง แต่กลับรู้ว่าบุรีเข้าป่าไปล่าสัตว์จึงรีบตามไป พร้อมๆ กับที่ร่มไม้ได้รับข่าวว่ามีคนบุกรุกเขตห้ามล่าสัตว์ จนเกิดการปะทะกัน ร่มไม้เกือบโดนบุรียิงตาย แต่เมืองเอกเอาตัวเข้าขวางจนยิงโดนบาดเจ็บสาหัส บุรีห่วงลูกไม่ยอมหนีจนโดนเจ้าหน้าที่จับตัวได้ อิสระลงข่าวเรื่องบุรี ทำให้เกิดแรงกดดันจากประชาชนทั่วทุกสารทิศ ทำให้รีสอร์ตถูกคำสั่งรื้อถอนทั้งหมด นักการเมืองท้องถิ่นต้องลาออก ธุรกิจของบุรีโดนต่อต้านจนบริษัทเกือบล้ม ดีที่ร่มไม้ออกหน้าให้สัมภาษณ์สื่อว่า เมืองเอกเป็นคนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ และเมืองเอกก็เข้าบริหารบริษัทแทนบุรี เปลี่ยนแปลงโครงการต่างๆ ในอนาคตให้เป็นโครงการป่ากลางเมือง รณรงค์ให้ผู้คนรักต้นไม้ รักสัตว์ โดยนำเอารูปถ่ายที่เคยถ่ายสัตว์ป่าเอาไว้ออกมาเผยแพร่ เมืองเอกขอแต่งงานกับร่มไม้ แต่ร่มไม้ขออุทิศตัวเพื่อทำงานอนุรักษ์ป่า เมืองเอกไม่ละความพยายาม ขอรดน้ำพรวนดินปลูกต้นรักต่อไป จนกว่าร่มไม้จะใจอ่อน

พลังใส ใจยั่งยืน (2561/2018) ซันนี่.. สาวใสสมาชิกแห่งบ้านพลังใส กับ ผลการสอบที่ทำให้เธอเปลี่ยน...เปลี่ยน ! จากวิกฤตของเพื่อนทั้งห้อง ซึ่งสอบตกใน วิชาภาษาอังกฤษ กลายเป็นหนทางสร้าง รายได้ให้ซันนี่อย่างสดใส เมื่อเพื่อนทุก คนต่างรุมล้อมแย่งให้ซันนี่ช่วยติว มอง เธอเป็นนางฟ้าของเพื่อนๆ เป้าหมายซันนี่ คือเงินที่ไหลมา ทำให้ซันนี่หลงลืมห่วงตัว นำซันนี่ไปพบบทสรุปแห่งความสำเร็จ ซึ่ง เกิดขึ้นกับเพื่อนทุกคน ด้วยการสอบผ่าน วิชาภาษาอังกฤษกันยกห้อง แต่ความผิด หวังบังเกิดขึ้นกับซันนี่เอง ดับฝัน..ในที่สุด

บ่วงนาคราช (2561/2018) อาโป นักเขียนสาวฝีมือดี ถูก สุเมธ เพื่อนชายคนสนิท ขอร้องให้ช่วยเขียนบทภาพยนตร์ ที่แปลงมาจากนวนิยายของเธอให้กับบริษัทของ กันตา พี่ของเขาเอง อาโป ไม่อยากรับงานนี้ แต่มีเพื่อนสาว เจน ช่วยพูดให้ เพราะเธอก็อยากค้นหาความจริงเกี่ยวกับฝันร้ายที่อาโป ต้องทนทุกข์เพราะเธอฝันชายผู้แต่งกายสูงศักดิ์สมัยขอมกลายเป็นพญานาค และเธอได้ตายภายในอ้อมกอดของเขา หลังจากที่อาโปตกปากรับคำรับงาน ทำให้เธอได้เจอกับ กังสดาล หญิงผู้มีความคลุมเครือลึกลับ แม้แต่ เมรา คนสนิทของเธอก็ดูลึกลับเช่นกัน กันตาไม่สนใจความคลุมเครือของกังสดาล เธอสนใจแต่เงินทุนที่กังสดาล ให้เธอหากเธอได้อาโปมาร่วมงาน เมื่ออาโป รับปากมาร่วมงานทำให้เธอเจอกับเรื่องราวน่ากลัวจากนางอัปสรจำแลง แต่อาโป ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก ธัญญะ และ อำไพสองพี่น้อง ที่มีความชื่นชอบประวัติศาสตร์ขอบโบราณ อาโป ได้รับฟังตำนานโบราณจาก ย่าอุษามณี ทำให้เธอยิ่งอยากค้นหาความจริงการล่มสลายของเมืองขอมโบราณ และยามใดที่เธอต้องเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ ธัญญะ มักจะมาช่วยเหลือเธอเสมอ อาโป ได้รับรู้เรื่องราวกฎแห่งกรรม จาก บำเพ็ญชายตาบอดแต่กำเนิด ที่เชื่อว่าเขาเองมีความเกี่ยวพันอดีตชาติกับเมืองขอมโบราณ และ ลงฮุน, ศิลา พร้อมแก็งก๊วนป่าวฮ่าอย่าง หมอผีนิดหน่อย, จ๊อบ หนูผี และ อมยิ้ม อาโป ได้รับรู้เรื่องราวในอดีต ที่มีทั้งความรัก ความแค้น การเข้าใจผิด ทำให้เมืองล่มสลายของ พระเจ้าธัญญะวรมัน พระนางโสมาสีวิกาเทวะนาคเทวี และ พระนางกังสตาลวาตี ศรีสุริยวรมัตตรา หญิงผู้โหดเหี้ยมที่สุดในยุคขอมโบราณ และเมื่อกงล้อแห่งกรรมตามทัน บ่วงแห่งกรรมจึงเริ่มทำงาน อาโป ต้องไขปริศนาแห่งกรรมเพื่อปลดปล่อยจิตที่ยังติดบ่วงกรรม......!!! “บ่วงนาคราช” เปิดตัวด้วยพญานาคทั้ง ๙ ที่คอยช่วยเหลือ พระนางโสมาสีวิกานาคเทวี มาทุกภพทุกชาติ ให้พ้นจากพญามาร โดยพญานาคทั้ง ๙ มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป

นายร้อยสอยดาว (2561/2018) ละครสร้างสรรค์ แนวโรแมนติก คอมเมดี้ ยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่มาพร้อมกับเกียรติและศักดิ์ศรี บนเส้นทางชีวิตของลูกผู้ชายเหล่านักเรียนเตรียมทหารที่ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่คิด เพื่อวันหนึ่งจะคว้าดาวแห่งเกียรติยศมาไว้บ่นบ่าให้ได้ พร้อมกับความผูกพันอันเหนียวแน่นของผู้ร่วมทางที่ฟันฝ่าทุกข์สุขมาด้วยกัน จนถึงวันแห่งความภาคภูมิใจ กลายเป็นมิตรภาพของคำว่าเพื่อน และบทพิสูจน์ความรักต่างฐานะระหว่างนักเรียนนายร้อย จปร. กับนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง กำกับการแสดงโดยผู้กำกับมากประสบการณ์ ประยูร วงษ์ชื่น และนักแสดงนำรุ่นใหม่ที่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความสนุก สุดประทับใจ ลงจอให้ได้ชมกันแล้ววันนี้ นายร้อยสอยดาว บทประพันธ์ของ พลเอก บัญชร ชวาลศิลป์ เป็นละครที่ได้รับความนิยม ถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งในชื่อ นายร้อยสอยดาว เวอร์ชั่น สอยดาวมาร้อยบ่า ซึ่งเวอร์ชั่นนี้ได้มีการปรับบทใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่ให้ทหารและตำรวจเข้ามามีบทบาทในการดำเนินเนื้อเรื่องพร้อม ๆ กัน โดย เด่นดนัย (ศุภณัฐ พงศ์พศุตม์) ลูกชาย จ่าแม้น (ชลิต เฟื่องอารมย์) ต้องการเรียนต่อทางด้านนิเทศศาสตร์ แต่กลับถูกบังคับให้มาสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร จนเมื่อวันประกาศผลสอบ ทำให้เขาได้พบกับเพื่อนใหม่อีกหลายคนที่เข้าไปเรียนด้วยกัน กว่าพวกเขาจะจบการศึกษาต้องผ่านบททดสอบมากมายที่ต้องใช้ทั้งการเรียนรู้ ความมุ่งมั่น อดทน เพื่อจะคว้าดาวมาประดับบนบ่าให้สำเร็จ เด่นดนัย หลงรัก เหมือนดาว (ดุจฤดี เทพวงษ์) นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง ซึ่งเป็นน้องสาวของ ว่องไว (อดุลยรัศมิ์ สุวรรณจักรา) เป็นลูกของ พลโท สมหมาย (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) กับ คุณหญิงพิมพ์ผกา (นาตยา จันทร์รุ่ง) แต่อุปสรรคด้วยฐานะแตกต่างกันทำให้เขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็น เพื่อเอาชนะใจเธอและครอบครัว พร้อมกับชมอุดมการณ์ทั้งคู่พระ-นางที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

วัยฝันร้ายเดียงสา (2560/2017) ป๊อบ (ดช.รัชชานนท์ ธไนศวรรยางกูร) จินตนาการว่าตนเองได้ต่อสู้กับยักษ์ด้วยแม่ไม้มวยไทยจนชนะ ทั้งที่ในความจริงป๊อบเป็นแค่เด็กธรรมดา ป๊อบกับ จั๊กจั่น(ด.ญ.วรินทร์ทิรา สุขุมเจริญจิต)ดีใจที่พบโจ้(ดช.ดุรงค์ฤทธิ์ เวฬุวะนาธร)กับ แตงโม(ดช.ปิติ มะณู) เพื่อนใหม่ที่วัดเด็กๆทุกคนเล่นกันสนุกสนานป๊อบถูกคนร้ายชิงโทรศัพท์มือถือไปครูสิงห์( โกวิท วัฒนกุล)อดีตนักมวยแชมป์แห่งประเทศไทยที่ถูกจ้างล้มมวยครูสิงห์ไม่ยอมจึงถูกทำร้ายจนแขนพิการ มาอาศัยวัด เป็นสัปเหร่อช่วยหลวงตาทำความสะอาดวัด เห็นเข้าจึงจัดการคนร้ายและเอาโทรศัพท์คืนให้ป๊อบ ป๊อบชื่นชมความเก่งในวิชามวยของครูสิงห์ที่เอาชนะโจร จึงขอเรียนต่อยมวยกับครูสิงห์แต่ครูสิงห์ไม่ยอมสอนให้ ป๊อบกับเพื่อนๆ แสดงความตั้งใจจริง จนทำให้ครูสิงห์ใจอ่อนสอนมวยด้วยมือข้างเดียว ป๊อบกับเพื่อนๆ ซ้อมมวยโดยไม่ท้อถอย มีน้ำใจไม่ตรีต่อกัน รักความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ครั้งหนึ่งครูสิงห์ลองใจเด็ก ๆ โดยสร้างเรื่องให้สู้กันเองแต่ไม่ได้ผล เด็กๆรักและปกป้องกันเองทำให้ครูสิงห์พอใจมากที่เด็กๆใช้วิชาที่เรียนไปในทางที่ถูกต้อง ป๊อบซ้อมมวยที่ลานวัดทุกวันจนพ่อแม่(รศ.ดร.ศรปราชญ์ – กรรรทิวา ธไนศวรรยางกูร) เป็นห่วงจึงดูอยู่ห่างๆแดง(ดช.ทรงพร บุญประสิทธิ์)พยายามหาเรื่องป๊อบ ป๊อบหลีกเลี่ยงแต่ไม่ได้ผล ป๊อบรับคำท้าสู้กับแดงและเอาชนะแดงได้ แต่ป๊อบขอยอมแพ้แดง ครอบครัวของป๊อบเดินทางไปต่างจังหวัด ป๊อบอยู่บ้านคนเดียว “กังนัม” กับ “สไตล์” มาส่งพวงหรีดที่วัด เห็นโอกาสเหมาะจึงเข้ามาจะขโมยของในบ้านป๊อบใช้สติปัญญาและทักษะเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้เรียนมาเอาตัวรอดจากขโมย ป๊อบหนีไปได้และบอกชาวบ้านมาจัดการคนร้ายแต่คนร้ายหนีไปได้ ครูสิงห์ทราบเรื่องราว จึงสังเกตพฤติกรรมของ “กังนัม” กับ “สไตล์” เมื่อทั้งคู่มาที่วัด ทั้งสองคนมีพฤติกรรมน่าสงสัย ครูสิงห์รู้ว่า “กังนัม” กับ “สไตล์ คือคนที่เข้าไปขโมยของที่บ้านป๊อบ ครูสิงห์กับเด็กๆ จึงช่วยกันจัดการ“กังนัม” กับ “สไตล์” และส่งตัวให้ตำรวจ ป๊อบและเด็กๆ เผชิญกับภัยสังคมเห่อของแพง ที่หลอกเอาโทรศัพท์แพงๆของเด็กๆ ไปขายป๊อบและเพื่อนๆ ขอความช่วยเหลือพวกผู้ใหญ่ ให้ช่วยสังเกตพฤติกรรมของ “แมน”ทีทำตัวน่าสงสัย เป็นมิจฉาชีพโจ(ธนัท ฉิมท้วม)ผู้ที่เก่งการต่อสู้แบบกังฟูและมวยจีนที่กำลังติดตามหาครูสิงห์เพื่อประลองฝีมือ เจอแมนกำลังหลอกเด็ก จึงจัดการ “แมน”จนสิ้นฤทธิ์ โจหาตัวครูสิงห์จนเจอและท้าประลองฝีมือกับครูสิงห์ ครูสิงห์เลี่ยงไม่ได้จึงสู้ใช้วิชามวยไทยสู้กับโจที่ใช้วิชากังฟู ครูสิงห์ชนะโจแม้มีมือข้างเดียวโจรู้สึกเสียหน้าแต่ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ส่วนครูสิงห์เองก็บาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ เด็กๆ เห็นครูสิงห์ไม่สบาย และไม่มีเงินไปหาหมอ จึงเปิดแสดงการทักษะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยในตลาดหาเงินค่ารักษาตัวให้ครูสิงห์ เด็กๆ เจอ “เชน” หลานป้าแหวว(ประไพ สิโนทก)ที่หลงรักรู้สิงห์แต่ครูสิงห์ไม่เล่นด้วย เชนใช้ความเป็นหนุ่มหน้าตาดี หลอกล่อสาวๆ ทำให้กิจการขายดี “ฟ้า” หลงคารมเชน “โล่” รักฟ้ารู้ว่าฟ้าถูกหลอกแต่ฟ้าไม่ฟัง หลวงพ่อใช้ธรรมมะเตือนสติโล่ ฟ้ารู้ความจริงว่าเชนชอบหลอกผู้หญิง เชนคิดว่าที่ฟ้ารู้ความจริงเป็นเพราะโล่ จึงให้พรรคพวกไปทำร้ายโล่ ป๊อบและเด็กๆ ช่วยกันวางแผนหลอกว่าโล่เป็นกะเทย ทำให้พรรคพวกของเชนละเว้น ครูสิงห์ชื่นชมในสติปัญญาและความมีน้ำใจของเด็ก ที่วัดมีพระธุดงค์มาสองรูป ขอพักจำวัดที่ป่าช้า ภายนอกพระทั้งสองรูปปฏิบัติกิจสงฆ์น่าเลื่อมใสศรัทธา แต่เบื้องหลัง ปรากฏว่าทั้งสองรูป มีประวัติโชกโชนหลอกลวงชาวบ้าน สวมรอยเป็นพระเพื่อขโมยของมีค่าที่วัดแล้วป้ายความผิดให้ชายขาเป๋ที่เป็นใบ้ รับเคราะห์ ป๊อบและเด็ก ๆ เห็นพฤติกรรมของพระปลอมทั้งสองและรู้ว่าชายขาเป๋เป็นผู้บริสุทธิ์เด็กๆร่วมมือกับผู้ใหญ่พิสูจน์ความจริง และช่วยกันจัดการพระปลอมที่กำลังขโมยตู้เงินบริจาคของวัด เด็กใช้วิชาที่เรียนมาต่อสู้กับพระปลอมช่วยกันตะลุมบอลจับพระปลอม และส่งตัวให้ตำรวจมา ป๊อบกับเพื่อนๆเห็น “เบ๊นซ์” ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ บางครั้งก็ไปแข่งขันกับเพื่อนๆป้าหวาดแม่ค้าผลไม้แม่ของเบ๊นซ์ เพราะแยกทางกับพ่อของเบ๊นซ์ตั้งแต่เบ๊นซ์ยังเล็กเลี้ยงลูกตามลำพัง ด้วยความรักลูกป้าหวาดกู้เงินนอกระบบมาซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ลูก ป้าหวาดขายไม่ดีไม่มีเงินส่งดอกเบี้ยนักเลงทวงหนี้มาข่มขู่เอาเงินคืน ป้าหวาดไม่มีเงินคืนตามกำหนดถูกนักเลงทวงหนี้ ทำลายแผงขายผลไม้ เบ๊นซ์เสียใจที่เป็นสาเหตุทำให้แม่เดือดร้อน จะไปแข่งรถมอเตอร์ไซค์เอาเงินเดิมพันมาใช้หนี้ ป๊อบกับเพื่อนๆได้ข่าวว่าตำรวจเตรียมกวาดจับเด็กแว๊นซ์ ป๊อบบอกเบ๊นซ์นักเลงทวงหนี้ยึดรถเบ๊นซ์ไป เบ๊นซ์ไปตามเอารถคืนป๊อบและเด็กๆไปช่วยเบ๊นซ์ ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันช่วยกันจึงจัดการนักเลงได้ ตำรวจที่ติดตามนักเลงกลุ่มนี้และขยายผลการจับกุมยาเสพติดได้ในที่สุด เรื่องราวของป๊อบกับเพื่อนๆ เผชิญกับภัยทางสังคมอีกมากมายจะเป็นภัยในรูปแบบไหนบ้าง เด็กจะมีวิธีเอาตัวรอดได้อย่างไร ครูสิงห์จะใช้วิชามวยไทยพลิกชีวิตเด็กๆ ให้เป็นคนดีของสังคมได้อย่างไร ติดตามชมความน่ารักแบบใสใส ร้ายเดียงสาของทุกคนได้ในซีรีย์น้ำดีสร้างแรงบันดาลใจเรื่อง “วัยฝันร้ายเดียงสา” กำกับการแสดงโดยสองผู้กำกับฝีมือดี รัชต์ไกรสิงห์และมงคลสารธรรม ค่าย “ร้อย ๑๐๐ ล้านโปรดักชั่น จำกัด”

Placeholder

เรื่องวุ่นวุ่นของวัยรุ่นมีฝัน (2560/2017) โรงเรียนเซนต์ปิแอร์ มีชมรมเต้นที่โด่งดังคือ ชมรม "CMS" เป็นชมรมในฝันของนักเรียนส่วนใหญ่ สโลแกนของชมรมนี้คือ "เต้นไปให้ถึงดาว" จุดมุ่งหมายของชมรมนี้คือ ผลิตนักเต้นให้เป็นซุปเปอร์สตาร์ นักเต้นชื่อดังหลายคนมีชื่อเสียงโด่งดังจากการแข่งขันในนามชมรมนี้ ที่โด่งดังที่สุดก็คือ ชินซอง (ภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล) หนุ่มลูกครึ่งเกาหลีที่เป็นนักเรียนเก่าของที่นี่ ปัจจุบันชินซองเป็นนักร้องอยู่ที่เกาหลี จึงไม่แปลกใจที่ชมรมนี้เป็นเป้าหมายของวัยรุ่นคนมีฝันที่อยากจะเดินรอยตามรุ่นพี่อย่างชินซอง ชมรม CMS มี นาตาลี (วนัสธนัน อักษรสิงห์ชัย) เป็นประธานชมรม มีสมาชิกที่สำคัญ คือ โรส (วิมม์วิภา เตียวิรัตน์) มิเชลล์ (จุติพร กลัดทิม) จีจี้ (อโณณา ดีเป็นแก้ว) สก็อต (สก๊อต โกมลวณิช) และ ชาร์ตี้ (ชลกานต์ มีทรัพย์) ชมรมนี้เต็มไปด้วย การแข่งขัน ขาดความรักความเข้าใจกัน ชมรม Dream Catcher มี ชาช่า (สโรชิน แมคอินไตย์) เป็นประธานชมรมมีสมาชิกที่สำคัญคือ เควิน (กรกวี นุ่มน้อย) กวิน (โอฬาร ศรีกัณฑิมารักษ์) วิน (นพณัฐ กันทะชัย) ยองจิน และตุ้ยนุ้ย ชมรมนี้เต้นไปด้วยความรัก ความสามัคคี ไม่ได้มุ่งเน้นถึงการแข่งขัน ชินซองกลับมาจากเกาหลีและมาเป็นที่ปรึกษาชมรม CMS ส่วน ครูสามารถ (คัมภีร์ นุ่มน้อย) เป็นที่ปรึกษาชมรม Dream Catcher ชินซองรู้สึกสนใจชาช่าเพราะรู้สึกว่าเป็นคนมีนิสัยเหมือนตัวเองและมีอะไรๆ หลายๆ อย่างคล้ายกับตัวเอง จนทำให้นาตาลีไม่พอใจ สุดท้ายชินซองก็ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับชมรม Dream Catcher ด้วย และเริ่มสนิทสนมกับชาช่า จนเกิดเป็นความรัก ส่วนกวินก็แอบหลงรักชาช่าเหมือนกัน แต่ถูกปฏิเสธจากชาช่า ชาช่าให้ได้แต่ความเป็นเพื่อน ชมรมทั้ง 2 ชมรม แข่งขันกันมาตลอด จนสุดท้ายชมรม Dream Catcher กลับมามีชื่อเสียงแทนชมรม CMS เพราะทุกคนที่อยู่ชมรมนี้ มีแต่คนรักในการเต้น ไม่ได้เข้าชมรมเพราะการแข่งขัน ชาช่ากับชินซองตกลงคบกัน กวินไปคุยกับชินซองบอกให้ดูแลชาช่าให้ดี ชินซองรับปากว่าจะดูแลชาช่าเป็นอย่างดีสุดท้ายนาตาลีก็เข้ามาเป็นมิตรกับชาช่าและเป็นเพื่อนกัน

หน้าที่