ปี่แก้วนางหงส์ 2561

ปี่แก้วนางหงส์ (2561/2018) พิกุล(ราณี แคมเปน) หญิงสาวหน้าตาสะสวยผู้เติบโตมาในคณะมโหรีปี่พาทย์ของจางวางพ่วง(สรพงษ์ ชาตรี)ผู้เป็นพ่อ ถูกสอนให้เป่าปี่แก้วจนมีความสามารถเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งพระนครทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อย จางวางพ่วงเป็นหัวหน้าคณะวงมโหรีปี่พาทย์ที่มีชื่อเสียง ต่อมาเจ้าพระยาพิชัยเดชา (เกรียงไกร อุณหะนันทน์)ได้เมตตารับคณะมโหรีปี่พาทย์ของจางวางพ่วงเข้ามาอยู่ในวังพิชัยเดชา พิกุลถูกสอนให้เป่าปี่แก้วมาตั้งแต่เด็ก โดยได้รับการสืบทอดปี่แก้วมาจากย่าของเธอที่เสียชีวิตไปแล้ว เพราะธรรมเนียมของตระกูลที่จางวางพ่วงยึดถือปฏิบัติกันมา โดยคนที่จะเป่าปี่แก้วได้นั้นจะต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น พิกุลมีเพื่อนสนิทคือเอื้อย(พริมา พันธุ์เจริญ)หญิงสาววัยเดียวกันที่เป็นลูกสาวของนางสุด(นฤมล พงษ์สุภาพ)แม่ครัวผู้อาศัยอยู่ในเรือนของจางวางพ่วง แต่เอื้อยเป็นคนที่มีนิสัยเหมือนลิงทโมน หัวช้ามักจดจำโน้ตดนตรีไม่ค่อยได้ เอื้อยก็เลยถูกสอนให้เล่นฉิ่งแทนที่จะไปเล่นเครื่องดนตรีชิ้นอื่นที่ยากกว่า ต่อมาไม่นานหลวงราช(วรินทร ปัญหากาญจน์)ชายหนุ่มรูปงามลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าพระยาพิชัยเดชาได้เดินทางกลับจากการไปเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยที่ยุโรป หลวงราชเป็นหนุ่มเพลย์บอยหัวนอกที่มากด้วยเสน่ห์ หลังจากที่กลับมาจากต่างประเทศก็ไม่ได้หางานทำเป็นชิ้นเป็นอัน อาศัยบารมีของพ่อผู้เป็นเจ้าพระยาก็เลยออกเที่ยวเตร่ ดื่มกิน สนุกสนานไปวัน ๆ ในขณะที่ท่านผู้หญิงเกสร(ดวงตา ตุงคะมณี)ผู้เป็นมารดาของหลวงราชก็ได้แต่คอยตามใจลูกชายจนเสียผู้เสียคน เมื่อหลวงราชบังเอิญมาพบกับพิกุลที่กำลังเป่าปี่แก้วอยู่ที่ศาลาริมสระน้ำท้ายวังพิชัยเดชาก็เกิดพึงใจในเสียงปี่แก้วของพิกุลพอ ๆ กับที่พึงใจในรูปโฉมของพิกุล ส่วนพิกุลเองก็แอบมีใจให้หลวงราชเช่นกัน หลวงราชพยายามหาเรื่องมาหาพิกุลที่ศาลาริมสระน้ำท้ายวังพิชัยเดชาซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับเรือนของจางวางพ่วงอยู่เสมอ อยู่มาวันหนึ่งเสงี่ยมผู้มีหน้าที่เล่นฆ้องนางหงส์ประจำคณะเกิดล้มป่วยกะทันหันและเสียชีวิตลงในที่สุด จางวางพ่วงนึกถึงสิน(อเล็กซ์ เรนเดลล์)หลานชายที่เป็นญาติห่าง ๆ เมื่อครั้งที่อยู่สุพรรณบุรี จางวางพ่วงจึงแจ้งข่าวให้สินเดินทางมาที่วังของเจ้าพระยาพิชัยเดชา และสินก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้เล่นฆ้องนางหงส์ประจำวงปี่พาทย์ของจางวางพ่วง สินดีใจมากที่เขาได้เจอกับพิกุลอีกครั้งเพราะสินแอบมีใจให้กับพิกุลมานานแล้ว แต่พิกุลต้องติดตามจางวางพ่วงผู้เป็นพ่อเข้าไปอยู่ในบ้านท่านเจ้าพระยาพิชัยเดชาเสียก่อน สินจึงไม่มีโอกาสได้บอกความในใจแก่พิกุล ขณะเดียวกันเอื้อยเองก็แอบชอบสิน ทว่าเอื้อยก็รู้ว่าสินแอบมีใจให้กับพิกุล เมื่อความรักเข้าตาเอื้อยก็เลยไม่เห็นพิกุลเป็นเพื่อนรักเหมือนที่เคยเป็นมา เอื้อยคอยกันท่าไม่ให้สินเข้าใกล้พิกุล อีกทั้งยังแสดงออกชัดเจนว่าเธอมีใจให้กับสิน แม้สินจะปฏิเสธเอื้อยไปหลายต่อหลายครั้งว่าเขาไม่เคยมีใจให้กับเอื้อยเลยแม้แต่น้อย แต่เอื้อยก็ยังคงตามติดสินอยู่ไม่ห่าง หลวงราชแอบพบกับพิกุลจนทำให้จางวางพ่วงรู้จนได้ จางวางพ่วงโกรธมากที่รู้ว่าพิกุลไม่เจียมตัว ไปแอบชอบพอกับหลวงราชผู้เป็นลูกของเจ้านาย และด้วยความที่หลวงปู่ที่จางวางพ่วงเคารพ เคยทำนายเอาไว้ว่า หากมีลูกสาว จงให้ระวังลูกสาวจะมีเคราะห์หนักที่เกิดจากชายสูงศักดิ์นำพามาให้ซึ่งเป็นผลมาจากกรรมในอดีตชาติ ทำให้จางวางพ่วงเป็นห่วงอนาคตของพิกุล ฝ่ายท่านผู้หญิงเกสรเมื่อรู้ว่าหลวงราชมีใจให้กับพิกุลก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ท่านผู้หญิงเกสรก็เลยพยายามจะหาทางไล่ครอบครัวของจางวางพ่วงออกไปจากวัง ทว่าไม่สำเร็จเพราะเจ้าพระยาพิชัยเดชาคอยให้ท้ายครอบครัวของจางวางพ่วงอยู่ตลอดเวลา ท่านผู้หญิงเกสรก็เลยต้องให้สร้อย(วิมลพันธ์ ชาลีจังหาญ) บ่าวรับใช้คนสนิทไปคอยกลั่นแกล้งพิกุลเพื่อความสะใจ แม้ว่าพิกุลจะรักหลวงราชมากเพียงใด แต่พิกุลก็ยังเป็นหญิงสาวที่ถูกสอนมาให้รักนวลสงวนตัว ไม่ยอมให้หลวงราชแตะต้องตัวเธอ หลวงราชทั้งรักทั้งหลงพิกุลมากและอยากให้พิกุลตกเป็นของเขา เขาก็เลยยอมทำทุกอย่างเพื่อให้พิกุลเชื่อใจและยอมรับในตัวเขา หลวงราชยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองจากที่เคยเป็นคนเจ้าชู้สำมะเลเทเมาไม่เอาไหนก็กลายมาเป็นคนเอาการเอางาน เลิกกินเหล้าและเลิกเจ้าชู้ ท่านผู้หญิงเกสรดีใจมากที่หลวงราชกลับตัวได้ แต่ท่านผู้หญิงเกสรก็ยังไม่เห็นด้วยกับการที่หลวงราชไปรักกับผู้หญิงต่ำต้อยอย่างพิกุลอยู่ดี ขณะเดียวกันสินยังคงเป็นห่วงพิกุลและไม่เชื่อใจหลวงราชว่าหลวงราชจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้และรักพิกุลจริง ๆ สินพยายามเตือนพิกุลว่าให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับหลวงราชแต่พิกุลไม่เชื่อ สินก็เลยคอยกันท่าไม่ให้หลวงราชเข้าใกล้กับพิกุล หลวงราชไม่พอใจสินก็เลยให้มุด(ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์) ซึ่งเป็นบ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์คอยขัดขวางสินไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องของเขากับพิกุล ท่านผู้หญิงเกสรกลัวว่าหลวงราชจะพลาดท่าเสียทีถูกหญิงสาวต่ำต้อยอย่างพิกุลจับเป็นสามี ก็เลยทำทีรับคุณหญิงดาว(การัญชิดา คุ้มสุวรรณ)และคุณหญิงเดือน(นาตาชา จุลานนท์) ลูกสาวฝาแฝดของเจ้าพระยายุทธนามนตรี(ศานติ สันติเวชกุล)กับ ม.ร.ว. พิศพิราศ(สุรัตนา คล่องตระกูล) ที่เป็นญาติกับเจ้าพระยาพิชัยเดชาให้มาเรียนการฟ้อนรำที่ในวังของตน เพื่อเปิดโอกาสให้หญิงสาวทั้งสองได้มาทำความรู้จักกับหลวงราช คุณหญิงดาวและคุณหญิงเดือนต่างพึงใจในตัวหลวงราชตั้งแต่แรกเห็น ขณะเดียวกันสองสาวพี่น้องคู่นี้ยังคอยแย่งกันทำตัวเด่นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากหลวงราชก็เลยแย่งกันเอาใจทั้งยังคอยตามติดชิดใกล้หลวงราชจนทำให้หลวงราชรำคาญ ยิ่งทำให้หลวงราชหาเรื่องหนีออกจากตึกใหญ่ของวังไปที่เรือนซ้อมดนตรีของจางวางพ่วง เพื่อที่จะได้เจอกับพิกุล แต่กลับทำให้พิกุลเสียสมาธิในการซ้อมเพราะมัวแต่ชะเง้อมองหลวงราชจาง วางพ่วงโกรธมากเลยลงโทษพิกุล หลวงราชก็เลยต้องเข้ามาช่วย พิกุลซาบซึ้งในน้ำใจของหลวงราชที่เขาแสดงความเป็นสุภาพบุรุษช่วยเหลือเธอเอาไว้ พิกุลก็เลยยิ่งมีใจให้หลวงราชมากขึ้นอีก หลวงราชเข้าทำงานมีตำแหน่งในกระทรวง ได้รับความไว้วางใจจากท่านเจ้าคุณต่วน(วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) และได้รู้จักกับสารภี(สุภัสสรา ธนชาต) ลูกสาวของจีนพ้ง(ทนงศักดิ์ ศุภการ) คหบดีผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพล สารภีชอบหลวงราชมาก คอยมาทำธุระที่กระทรวงเพื่อเจอกับหลวงราช ขณะที่เจ้าพระยาพิชัยเดชาก็เห็นว่าสารภีเหมาะสมกับหลวงราช แต่ท่านผู้หญิงเกสรไม่ชอบสารภีเลย เห็นว่าเป็นลูกเจ๊กลูกจีน ไม่คู่ควรกับหลวงราช และนิสัยก็หยิ่งผยอง ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร สารภีมีน้องสาวต่างมารดาอยู่หนึ่งคนคือพุดกรอง(กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ) เด็กสาววัย 10 ขวบ ที่จีนพ้งฝากเข้าไปรับใช้งานท่านผู้หญิงเกสรในวังพิชัยเดชา แม่ของพุดกรองเป็นหญิงชาวไทยคือนิ่ม(พรรษชล สุปรีย์) ภรรยาคนที่ 2 ของจีนพ้ง สารภีไม่ค่อยชอบนิ่มสักเท่าใดนักเพราะกลัวว่านิ่มจะมาฮุบเอาสมบัติของพ่อ ทำให้สารภีพลอยไม่ชอบและรังเกียจพุดกรองที่เป็นลูกเมียรองของพ่อทว่าพุดกรองก็ยังรักสารภีเสมือนพี่สาวแท้ ๆ ของตนในระหว่างที่รับใช้งานท่านผู้หญิงเกสรอยู่ในวังพิชัยเดชา พุดกรองได้มีความสนิทสนมกับพิกุลมากเป็นพิเศษ เพราะคนอื่น ๆ ในวังมองว่าเธอเป็นลูกเจ๊กไม่มีสกุลรุนชาติ สารภีได้พบกับคุณหญิงดาวและคุณหญิงเดือนโดยบังเอิญ เมื่อคุณหญิงดาวและคุณหญิงเดือนรู้ว่าสารภีคือคนที่เจ้าพระยาพิชัยเดชาหมายหมั้นจะให้มาเป็นคู่ครองกับหลวงราชแทนที่จะเป็นเธอทั้งสอง คุณหญิงดาวและคุณหญิงเดือนก็เลยเกิดอาการหมั่นไส้สารภี สารภีซึ่งเป็นคนไม่ยอมคนก็เลยตอบโต้กลับ คุณหญิงดาวและคุณหญิงเดือนแค้นสารภีที่บังอาจมาสู้กับลูกเจ้าพระยาอย่างพวกเธอ คุณหญิงดาวและคุณหญิงเดือนก็เลยวางแผนให้คนไปลอบขืนใจสารภี แต่สารภีฉลาดกว่า เธอคิดแผนตลบหลังโดยให้ชบา(คัคกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง) สาวใช้คนสนิทเอาเงินไปล่อพวกคนร้ายให้บอกความจริงว่าใครเป็นคนจ้างวานพวกมันมา และใช้เงินที่มากกว่าหลายเท่าจ้างคนร้ายพวกนั้นให้กลับไปทำร้ายคุณหญิงดาวและคุณหญิงเดือนจนตายเพื่อเป็นการเอาคืน แม้จะไม่มีหญิงดาว หญิงเดือน ทางท่านผู้หญิงเกสร ก็ยังไม่ชอบทั้งพิกุล และ สารภี สุดท้ายท่านผู้หญิงเกสร หาเรื่องด่าทอ ตบตีพิกุลอีกจนจางวางพ่วงทนไม่ไหว กราบลาเจ้าพระยาพิชัยเดชา ยกวงกลับสุพรรณบุรีบ้านเกิด สร้างความเสียใจให้หลวงราชและพิกุล ส่วนด้านสารภีดีใจ พยายามเข้าทางเจ้าพระยาพิชัยเดชาที่อยากได้เธอเป็นลูกสะใภ้ แต่หลวงราชก็ไม่ได้มีใจให้สารภีแต่อย่างใด จางวางพ่วงตัดสินใจให้สินแต่งงานกับพิกุล ทำให้พิกุลและเอื้อยเสียใจมาก แต่พิกุลก็ไม่สามารถขัดพ่อได้ แต่สินเห็นแก่ความรักที่พิกุลมีต่อหลวงราช จึงยอมเป็นผู้เสียสละ พาพิกุลไปเจอกับหลวงราชที่กระท่อมเก่าๆของครูทับ (พรเลิศ พิพัฒน์รุ่งเรือง) และท่านจัน(สโรชา วาทิตตพันธ์) ครูเป่าปี่ที่รักกัน อยู่ด้วยกันจนเสียชีวิตไปแล้ว พิกุลเห็นถึงความรักของหลวงราชที่มีต่อเธอ ยอมสละความสุขสบายส่วนตัวมาอยู่อย่างลำบากในกระท่อมหลังเล็กๆ ทั้งยอมขัดใจท่านผู้หญิงเกสรผู้เป็นแม่ พิกุลก็เลยยอมตกเป็นของหลวงราชในที่สุด ทั้งคู่ใช้ชีวิตชาวบ้านอย่างมีความสุข ขณะที่สารภีและชบาให้คนมาสืบหาตามหลวงราช ผ่านมาที่กระท่อมของครูทับ ก็ไม่เจอ เพราะวิญญาณของท่านจันช่วยอำพรางเอาไว้ สุดท้ายหลวงราช ตัดสินใจพาพิกุล ไปขอขมาจางวางพ่วง ให้สัญญาว่าจะรีบกลับพระนคร ให้พ่อมาสู่ขอและจัดพิธีแต่งงานกับพิกุลให้ถูกต้อง จางวางพ่วง แม้จะโกรธมาก แต่สุดท้ายเห็นแก่ความรักของทั้งคู่ ทำให้หลวงราชและพิกุลดีใจมาก หลวงราชกลับไปที่บ้าน เจ้าพระยาพิชัยเดชาไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่ก็เกิดเหตุท่านผู้หญิงเกสร และสร้อย โดนโจรบุกปล้นบ้านและฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งก็เป็นฝีมือของสารภี หลังจัดพิธีศพ ทางจีนพ้งและสารภี ยังวางแผนร้ายบีบบังคับให้หลวงราชต้องแต่งงานกับสารภี เพื่อเห็นแก่ชาติบ้านเมือง หลวงราชจำยอม โดยตั้งใจว่าหลังแต่งงานจะรีบไปอธิบายให้พิกุลเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แต่สารภีกลับใช้ให้ปิง(ว่าที่ร้อยตรีภัทรกฤษณ์ พุ่มพิพัฒน์) ลูกน้องของจีนพ้งไปฆ่าล้างครัวครอบครัวของพิกุล ทำให้จางวางพ่วงและแม่เพียร สุด อ่ำ ต้องตายอย่างทารุณ เหลือเพียงพิกุล สิน และ เอื้อย พิกุลเสียใจมากที่ตัวเธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อแม่ต้องตาย เดินทางเข้าพระนคร เพื่อไปหาหลวงราช หาความจริงเรื่องที่หลวงราชผิดสัญญา และกำลังจะแต่งงานกับสารภี แล้วพิกุลก็ต้องเศร้าใจอย่างมาก เพราะเห็นหลวงราชเข้าพิธีแต่งงานกับสารภีจริงๆ พิกุลเสียใจมาก เดินไปที่ท่าน้ำที่เธอกับหลวงราชนัดเจอกันเป็นประจำ พิกุลเป่าปี่ไปเรื่อยๆ คิดถึงเรื่องราว คำสัญญาของหลวงราช พิกุลเป่าปี่จนสิ้นใจตาย ไม่ได้เจอกับหลวงราชเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่หลวงราชโดนเล่ห์มารยาของสารภี กว่าจะได้มาเจอกับพิกุล ก็เหลือเพียงร่างที่ไร้วิญญาณ หลวงราชร้องไห้ฟูมฟาย เสียใจมาก สารภียังมาเยาะเย้ยถากถาง ดีใจที่เห็นพิกุลตาย หลวงราชสุดจะทน ต่อว่าสารภีจนเธอโกรธลุแก่โทสะ เอาลิ่มแทงหลวงราชจนบาดเจ็บ หลวงราชพร้อมจะตาย ท้าให้สารภีแทงให้ตรงหัวใจ พร้อมจับมือสารภีให้แทง หลวงราชยืนยันว่าไม่มีทางจะรักสารภี เพราะเขารักเพียงพิกุลคนเดียวเท่านั้น สารภีจะได้แค่เพียงร่างกาย แต่ไม่ได้ใจของเขาไปครอง

Happy Birthday วันเกิดของนาย วันตายของฉัน (2561/2018) ตลอดทั้งชีวิต 16 ปีของ ต้นไม้ (ปุริม รัตนเรืองวัฒนา) เขาคือเด็กที่ไม่เคยมีวันเกิดเป็นของตัวเองแม้แต่ครั้งเดียว เพราะวันเกิดของต้นไม้ คือ "วันตาย" ของ ธารน้ำ (ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล) พี่สาวคนโต ถ้าต้นไม้เอ่ยถึงเรื่องวันเกิด พ่อเชษฐ์ (สันติสุข พรหมศิริ) และ แม่อร (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) จะโกรธต้นไม้มากถึงมากที่สุด แต่แล้วในขวบปีที่ 17 ต้นไม้ก็ได้รับของขวัญวันเกิดชิ้นแรกจากพ่อและแม่ นั่นคือ “ห้องนอนเก่าของธารน้ำ“ และเมื่อต้นไม้เริ่มเข้าไปปรับปรุงและอาศัยอยู่ เขาก็ได้พบกับวิญญาณของธารน้ำที่ยังคงวนเวียนและยึดติดอยู่ ณ ที่แห่งนั้น และเขา ก็เป็นคน ๆ เดียวที่สามารถสื่อสารกับธารน้ำได้ ธารน้ำไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้เพราะยังมีบ่วงในจิตใจที่แก้ยังไงก็แก้ไม่ออก ทั้งเรื่องที่เธอทำยังไงก็ไปเกิดใหม่ไม่ได้ และทำยังไงก็ไม่สามารถจำสาเหตุและเหตุการณ์ที่ทำให้เธอตัดสินใจฆ่าตัวตายได้ ธารน้ำจึงใช้โอกาสนี้ขอความช่วยเหลือจากต้นไม้ให้ไปสืบเรื่องของ ที (พุฒิชัย เกษตรสิน) ดาราดาวรุ่งที่เป็นรักแรกและรักเดียวของธารน้ำ และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจเชื่อมรอยร้าวของครอบครัวที่เคยแตกสลายให้ผสานกลับมาเป็นดังเดิม ด้วยพลังแห่งความรักที่เขามีเพียงคนเดียว

Love Songs Love Series ตอน ก็เคยสัญญา (2561/2018) เรื่องราว ความรัก ความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทสามคน โซ่ (ภัทร เอกแสงกุล) เคน (วชิรวิชญ์ ชีวอารี) และ แป้ง (สโรชา บุรินทร์) ทั้งหมดคนเดินทางไปดูสถานที่ที่ชายทะเลแห่งหนึ่งเพื่อถ่ายภาพยนตร์สั้นส่งประกวดด้วยกัน ซึ่งโซ่กับเคนตกลงกันว่าจะใช้เวลาช่วงนี้สารภาพรักแป้ง แต่บังเอิญระหว่างเดินทางรถของพวกเขาก็เกิดเสียหลักไปชน หมวย (คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) ทั้ง 3 คนตกใจมากเพราะ หมวยมีท่าทางเหมือนคนเสียสติ แต่อยู่ๆ ต่อ (สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) ก็เข้ามาช่วยและพาหมวยกลับบ้านไปรักษา โซ่ เคน และ แป้ง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมต่อถึงไม่พาหมวยไปโรงพยาบาล พวกเขาจึงรีบตามทั้งคู่ไปและพยายามถามต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมวย จนได้รับรู้เรื่องราวความรัก มิตรภาพ คำมั่นสัญญา เมื่อ 20 ปีก่อนระหว่าง หมวย ต่อ และ เป้ (รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์) โซ่ เคน และแป้ง สนใจเรื่องราวนี้มากจึงขอนำเรื่องของ หมวย เป้ และ ต่อ ไปทำหนังสั้นประกวด แต่ต่อไม่ยอมเพราะไม่อยากให้หมวยเสียใจหากหมวยจำเรื่องราวในอดีตได้ ซึ่งนั่นทำให้ โซ่ กับ เคน เริ่มเข้าใจความรักมากขึ้นและรับรู้ความตั้งใจของต่อ ทั้งคู่จึงกลับมาคิดทบทวนเรื่องราวความรักของพวกเขาทั้งสามคนอีกครั้ง สุดท้ายโซ่กับเคนจะยอมสารภาพรักแป้งอย่างที่ตั้งใจกันไว้แต่ต้นหรือไม่ พวกเขาจะตัดสินใจอย่างไร ระหว่างความรักที่อาจจะต้องเสียเพื่อนคนหนึ่งหรือมิตรภาพที่จะคงอยู่ตลอดไป

เพลงรักมือปืน 2561

เรื่องย่อ : เพลงรักมือปืน (2561/2018) เข้ม ตลาดพลู เป็นแท้จริงคือตำรวจที่ปลอมตัวมาเป็นมือปืนรับจ้าง ได้รับการติดต่อจาก นายใหญ่ (ทนง ) เจ้าพ่อวงการบันเทิงให้รับงานสังหารคน โดยเป้าหมายคือ จันทร์เจ้า เสาวรส นักร้องลูกทุ่งหญิงที่โด่งดังที่สุดในเมืองไทย (ในวงการ เล่าลือกันว่า จันทร์เจ้า เป็นนักร้องที่ชอบสร้างภาพเป็นเจ้าหญิงของวงการ แต่แท้ที่จริง เธอคือนางปีศาจร้ายที่ชอบวีน ปากร้าย เรื่องมากที่สุดคนหนึ่ง นอกจากนี้ คนในวงดนตรีของเธอก็มีส่วนพัวพันกับคดีสำคัญ ๆ หลายคดี ) เข้ม ตลาดพลู ตัดสินใจรับงานนี้ เพราะเป้าหมายของเขาก็คือการกวาดล้างเจ้าพ่ออิทธิพลต่างๆ ที่แฝงตัวอยู่ในวงการบันเทิง แต่งานนี้ไม่ใช่งานง่ายๆ เหมือนที่ผ่านมา เพราะญาติผู้พี่ ของจันทร์เจ้า คือฉลาดเลิศ เป็นนักเลงผู้กว้างขวางคนหนึ่งของวงการ ครอบครัวฉลาดเลิศเคยเลี้ยงดูจันทร์เจ้าและแม่ในยามที่ตกอับ ทำให้จันทร์เจ้าเป็นหนี้บุญคุญ และต้องทำตามที่ฉลาดเลิศสั่งทุกอย่าง ฉลาดเลิศรู้ระแคะระคายมาอยู่แล้วว่า จันทร์เจ้า กำลังเป็นเป้าการสังหาร สาเหตุมาจากการที่จันทร์เจ้าปฏิเสธที่จะต่อสัญญาเป็นนักร้องกับค่ายเพลงใหญ่ เสี่ยธำรง เจ้าของค่ายแค้นมาก หากจันทร์เจ้าไม่ต่อสัญญา ก็เท่ากับจันทร์เจ้าไม่อยากจะต่ออายุนั่นเอง ฉลาดเลิศ ให้การคุ้มครองจันทร์เจ้าอย่างรัดกุม โดยมีการคัดกรองไม่ให้คนนอกเข้ามาอยู่ร่วมงานใกล้ชิดกับจันทร์เจ้าได้โดยง่าย และให้ ฉายแสง ภรรยาคนใหม่ของฉลาดเลิศ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคนสนิท ไม่ว่าจันทร์เจ้าต้องการอะไร ฉายแสงก็จะคอยดูแลจัดการให้ทุกอย่างโดยไม่ต้องลงมือทำเอง เข้ม ตลาดพลู หาทางเข้าแทรกซึมด้วยการปลอมตัวเข้าไปเป็นคนขับรถบรรทุกเครื่องเสียงของวง แม้จะเป็นเพียงคนงานระดับล่างที่ไม่สามารถเข้าใกล้ชิด ฉลาดเลิศ และจันทร์เจ้าได้ แต่ก็ถือว่านี่คือโอกาสที่จะทำให้งานของเขาสำเร็จลงอีกครั้ง เรวัต ลูกชายนักเลงผู้มีอิทธิพลในวงการคนหนึ่ง และเป็นเพื่อนของฉลาดเลิศ เข้ามาช่วยดูแลความเรียบร้อยของวงดนตรีลูกทุ่ง บ่อยๆ ฉลาดเลิศรู้ว่าเรวัต ชอบจันทร์เจ้า จึงพยายามเชียร์ และหาโอกาสให้ เรวัตและจันทร์เจ้าได้อยู่ใกล้ชิดกันบ่อยๆ ทำให้เรวัตกลายเป็นอุปสรรค อีกชั้นหนึ่งที่ ทำให้เข้มไม่สามารถเข้าถึงเป้าหมายได้โดยง่าย เนื่องจากเรวัตมีสัญชาตญาณของนักเลง คอยสังเกตท่าทางความผิดปกติของคนรอบตัวอยู่ตลอดเวลา เสี่ยธำรง เจ้าของค่ายเพลง ปั้น มนัสชนก แก้วมณี นักร้องใหม่ ขึ้นมาเพื่อดับรัศมีของจันทร์เจ้า โดยอดีตของ มนัสชนก ก็คือนักร้องคู่แข่ง ที่เคยเอาชนะจันทร์เจ้า มาตลอดในทุกเวทีที่ทั้งคู่เคยเข้าประกวดสมัยที่อยู่ต่างจังหวัด มนัสชนก มีความแค้นส่วนตัวกับจันทร์เจ้า เนื่องจากเมื่อครั้งที่ ทั้งคู่กำลังหาทางเข้าวงการ และมนัสชนกกำลังจะได้เซ็นสัญญากับค่ายเทป มนัสชนกซ้อนมอเตอร์ไซค์ของจันทร์เจ้า แต่เกิดอุบัติเหตุ ทำให้มนัสชนก บาดเจ็บหนัก การเซ็นสัญญาถูกระงับ ขณะที่จันทร์เจ้า ซึ่งบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ได้เซ็นสัญญาแทน และกลายเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ส่วนมนัสชนก ถูกค่ายเทปลืม เธอจึงคิดมาตลอดว่า นี่เป็นแผนการของจันทร์เจ้ากลั่นแกล้งเธอ มนัสชนก และจันทร์เจ้า ได้รับเชิญให้มาร้องเพลงในเวทีเดียวกันอยู่บ่อยๆ แต่จันทร์เจ้าได้รับการดูแลจากทีมงาน ราวกับเจ้าหญิง ขณะที่มนัสชนก ถูกตีราคาว่าเป็นแค่นักร้องไม้ประดับ ทำให้มนัสชนก เกลียดชัง และพยายามหาทางกลั่นแกล้งจันทร์เจ้าอยู่ตลอดเวลา เข้ม จับสัญญาณ ปองร้ายของมนัสชนก ที่มีต่อจันทร์เจ้าได้ เขาจึงอาศัยโอกาสนี้ ไต่ระดับ เพิ่มคะแนนให้กับตัวเอง โดยเมื่อมนัสชนก ใช้ให้ลูกน้องขับรถพุ่งเข้าชนจันทร์เจ้า เข้มจึงโดดเข้าไปช่วยจันทร์เจ้า แล้วจัดการลากตัวลูกน้องของมนัสชนกมาให้เรวัต สอบสวน เรวัต รู้สึกผิดสังเกตกับลักษณะท่าทางของ เข้ม ที่ดูจะคล่องแคล่ว เรื่องการใช้อาวุธเป็นอย่างมาก แต่เข้ม บอกทุกคนว่า เขาเคยฝึกตอนเป็นทหารเกณฑ์ จึงไม่มีใครสงสัย เมื่อฉลาดเลิศรู้ว่า เหตุที่เกิดเป็นฝีมือของ มนัสชนก จึงสั่งให้จันทร์เจ้าระวังตัวให้มากขึ้น และรอหาจังหวะเอาคืนภายหลัง ฉลาดเลิศ รู้เรื่องที่เข้มเสี่ยงตาย เข้าช่วยจันทร์เจ้า จึงเลื่อนตำแหน่งให้ เข้มมาเป็นคนขับรถส่วนตัวให้จันทร์เจ้า เข้มพยายามมองหาจังหวะที่จะจัดการกับจันทร์เจ้า แต่โอกาสยังไม่ค่อยเหมาะเพราะ จันทร์เจ้ามีคนใกล้ชิดแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้มาทำงานใกล้ชิด ก็ทำให้เข้มรู้สาเหตุที่ทำให้จันทร์เจ้า เป็นคนที่ต้องอารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้เป็นเพราะคนที่ใกล้ชิดกับจันทร์เจ้า ทุกคน พยายามจะหาเรื่องเอาหน้ากับเจ้านายโดยการใส่ร้ายคนโน้นคนนี้อยู่ตลอดเวลา ทำให้จันทร์เจ้ากลายเป็นคนที่มองลูกน้องคนอื่นๆ ผิดจากความเป็นจริง ชอบดุ ตวาดทุกคนอยู่ตลอดเวลา ฉายแสง ชอบเล่นพนัน และเป็นหนี้ก้อนโต เธอจึงมากดดันให้ จันทร์เจ้าทำงานหนัก หาเงินมาเข้าบัญชี โดยปิดบังไม่ให้ใครรู้ว่าเธอยักยอกเอาเงินใช้หนี้พนัน จันทร์เจ้า ไม่มีเวลาพักผ่อน เหน็ดเหนื่อย พยายามขอร้อง ฉายแสง และฉลาดเลิศให้หาคิวพักผ่อนให้เธอบ้าง แต่ฉายแสง แอบใส่ความให้ฉลาดเลิศเข้าใจผิดว่า จันทร์เจ้า กำลังนิสัยเสีย แอบคบผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่เรวัต จึงไม่อยากทำงาน ฉลาดเลิศ เริ่มไม่พอใจจันทร์เจ้า ฉายแสง จัดคิวงานจนทำให้จันทร์เจ้า เหนื่อยมาก จนจันทร์เจ้า ไปงานประกาศรางวัลลูกทุ่งยอดเยี่ยม ประจำปีไม่ทัน กรรมการโกรธมาก คิดว่าจันทร์เจ้าไม่ให้เกียรติรางวัล จึงตัดสิทธิ์และประกาศให้มนัสชนก ได้รับรางวัลแทน ทำให้มนัสชนกกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ และเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง และถูกนำมาเทียบรัศมีกับจันทร์เจ้า กระแส สื่อมวลชนพาลเข้าใจ จันทร์เจ้าผิด และโจมตีเธอ จนทำให้คิวงานต่างๆ ที่เคยจองเอาไว้พากันยกเลิก ฉลาดเลิศถูกกดดันจากฉายแสงให้มาอาละวาด จันทร์เจ้า จนทำให้จันทร์เจ้าตัดสินใจหนีออกจากวงดนตรี ทิ้งงานทุกงาน จันทร์เจ้า สั่งให้เข้ม ขับรถพาเธอหนี ไปไหนก็ได้ ขณะที่เรวัต ขับรถไล่ตามกระชันชิด แต่เข้มอาศัยความชำนาญพื้นที่ พาจันทร์เจ้าหลบออกต่างจังหวัดมุ่งหน้าไปยังบ้านของตน บ้านของเข้ม เป็นบ้านต่างจังหวัด เขาอาศัยอยู่กับแม่ และ ขาว ซึ่งเป็นน้องสาว ขาวจำได้ว่า จันทร์เจ้าเป็นใคร แต่เข้มสั่งไว้ไม่ให้ ขาวบอกใคร โดยให้จันทร์เจ้าปลอมตัวให้กลมกลืนกับชาวบ้าน จันทร์เจ้ารู้สึกดีๆกับวิถีชีวิตแบบชนบท เหมือนในวัยเด็กที่เธอเติบโตมา ที่นี่เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ อาหารการกินก็มีอยู่รอบตัว ไม่ต้องซื้อหา จันทร์เจ้ารู้ว่า แม่ของเข้มป่วยหนัก ก็รู้สึกสงสาร พยายามหาทางช่วยรักษา จนทำให้เข้มเห็นตัวตนที่แท้จริงของจันทร์เจ้าว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเลวร้าย ตรงกันข้ามกลับมีน้ำใจ จนแม่ของเข้มรัก และเอ็นดู แม่ของเข้ม ได้มอบเหรียญพระให้จันทร์เจ้า เก็บไว้เป็นที่ระลึก เข้มได้รับการติดต่อจากนายใหญ่ ให้ลงมือสังหาร จันทร์เจ้าได้แล้ว แต่เข้มพยายามผลัดผ่อน บอกว่า โอกาสยังไม่เหมาะ ทำให้นายใหญ่ไม่พอใจมากคิดว่าเข้มหักหลัง เข้ม จึงตัดสินใจพาจันทร์เจ้าหนี โดยจันทร์เจ้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเข้มกำลังหนีอะไร นายใหญ่โมโห จึงให้คนจับตัวแม่และน้องสาวเข้มเป็นตัวประกัน เข้มพยายามเจรจาขอชีวิต แม่และน้องสาว จันทร์เจ้าแอบได้ยินเรื่องทั้งหมดจึงเข้าใจว่าเข้มเป็นมือปืนที่จะมาฆ่าเธอ เธอเสียใจมาก เพราะที่ผ่านมาเข้ม และเธอแอบมีใจให้กันเงียบๆ แม้จะไม่มีการแสดงออก แต่การกระทำหลายอย่างของทั้งคู่ ก็ทำให้ความสัมพันธ์ก่อตัวอย่างแน่นแฟ้น เมื่อพบความจริงว่าเข้ม คือมือปืนที่กำลังจะฆ่าเธอ จันทร์เจ้าตัดสินใจหนีกลับไปหา เรวัต และฉลาดเลิศ เมื่อจันทร์เจ้ากลับมา ฉายแสงก็จัดคิวการแสดงครั้งใหญ่โดยเป็นการประชันกันระหว่าง จันทร์เจ้า และมนัสชนก ถือเป็นการพิสูจน์ความเป็นนักร้องยอดนิยมที่แท้จริง เสี่ยธำรงเกรงจันทร์เจ้าจะชนะมนัสชนก จึงแอบกระซิบบอกนายใหญ่ขอให้งานนี้เป็นงานส่งท้ายชีวิตของจันทร์เจ้า ยังไงจันทร์เจ้าก็ต้องตายในงานนี้ห้ามพลาด เรวัตรู้ระแคะระคายถึงแผนการปองร้าย เขาและฉลาดเลิศจึงวางแผนคุ้มกันหนาแน่น เข้มถูกบังคับให้รับงานอีกครั้งเพื่อแลกกับอิสระของผู้เป็นแม่และน้องสาว ขณะที่นายใหญ่ ก็ยังมีแผนสำรองในการฆ่าจันทร์เจ้าอีกแผนหนึ่งนั่นคือ ให้นักฆ่านิรนาม ซึ่งแฝงตัวใกล้ชิดจันทร์เจ้าเป็นคนลงมือ หากเข้มทำไม่สำเร็จ ไม่มีใครรู้ว่านักฆ่านิรนามที่ใกล้ชิดจันทร์เจ้าคือใคร ขณะที่เข้มขอโอกาสได้พบกับแม่และน้องสาวอีกครั้งก่อนที่จะไปทำงาน เพราะเกรงว่างานครั้งนี้เขาอาจไม่รอดกลับมา นายใหญ่ตกลงอนุญาตให้เข้มเจอกับแม่และน้องสาวได้ และแล้ว ขณะเข้มมาพบกับแม่และน้องสาว เข้มก็ส่งสัญญาณให้ตำรวจหน่วยจู่โจมเข้าทำการปิดล้อมและจับกุมนายใหญ่และลูกน้องแบบเงียบๆ และปิดข่าวไว้ไม่ให้ข่าวนี้รั่วออกไปเนื่องจากเข้มยังมีอีกภาระกิจหนึ่งนั่นคือ การกระชากหน้ากากมาเฟีย และผู้มีอิทธิพลในวงการบันเทิงออกมา คอนเสิร์ตกำลังเริ่มขึ้น มนัสชนกมองจันทร์เจ้าอย่างท้าท้าย ยังไงเสียคืนนี้เธอก็ต้องชนะแน่นอน จันทร์เจ้า จิตใจไม่พร้อมที่จะขึ้นไปร้องเพลง เธอยังคงผิดหวังในตัวเข้ม แ ละความหลอกลวงที่เธอประสบมา ฉลาดเลิศ ทวงบุญคุณ ด่าหาว่าจันทร์เจ้าว่าเนรคุณ และบังคับให้จันทร์เจ้าขึ้นไปร้องเพลง หาไม่แล้วครอบครัวและวงดนตรีของจันทร์เจ้าอาจโดนฟ้องล้มละลายแน่นอน เพราะฉายแสงได้ไปเซ็นสัญญารับเงินทั้งหมดมาแล้ว ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ก็ยังจะดีกว่าหมดเนื้อหมดตัวเพราะจันทร์เจ้าไม่ยอมขึ้นไปร้องเพลง จันทร์เจ้าตัดสินใจขึ้นไปร้องเพลงอีกครั้ง ขณะที่เข้ม แฝงตัวเข้ามาในงานได้อย่างแนบเนียนโดยที่เสี่ยธำรงไม่รู้ว่าเข้มกำลังจะซ้อนแผนจับตน ขณะที่เสี่ยธำรง จ้างมือปืนอีกชุดไว้คอยจัดการเก็บเข้มเพื่อฆ่าปิดปาก หลังจากที่เข้มฆ่าจันทร์เจ้าแล้ว เข้มแอบอยู่หลังไฟโฟโล่ว์ ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่สาดแสงไปบนเวที เข้มเห็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนเสี่ยธำรงค์ก็รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เข้มจึงอาศัยชิงลงมือก่อนโดยการให้ตำรวจสายสืบจัดการจับพวกมือปืนทีละคนโดยคนในงานไม่ทันสังเกต เข้ม รุกคืบเข้ามาหาเสี่ยธำรง แต่เสี่ยธำรงรู้ว่าเข้มทรยศ เนื่องจากมีข่าวรั่วมาว่า เข้มเป็นตำรวจ และได้จับนายใหญ่และพวกเอาไว้ได้ และที่เข้มมาในงานนี้ก็เพื่อช่วยจัดการกับเสี่ยธำรงนั่นเอง เสี่ยธำรงตกใจรีบวิ่งหนีไปหน้าเวทีแล้วจับตัวจันทร์เจ้า เป็นตัวประกัน เรวัตและฉลาดเลิศ ซึ่งคุ้มกันจันทร์เจ้าอยู่ก็รีบเข้าชาร์จแล้วจับเสี่ยธำรงค์ไว้ได้ จันทร์เจ้าตกใจ คิดว่าเข้ม กำลังจะมาฆ่าตนจึงรีบวิ่งไปหลังเวที และขอให้ฉายแสงรีบพาหนี แต่ฉายแสงชักปืนออกมาเตรียมสังหารจันทร์เจ้า แท้จริงฉายแสงก็คือมือปืนนิรนาม ที่เป็นผู้หญิงซึ่งแฝงตัวเข้ามาอยู่ในวงดนตรีนั่นเอง เสียงปืนดังขึ้น จันทร์เจ้าทรุดตัวลง เพราะถูกยิง เข้มรีบเข้าจับกุมฉายแสง แต่แล้วเข้มเองก็ถูกเรวัต และฉลาดเลิศยิง ตำรวจบุกเข้ากวาดล้าง จับกุม ฉลาดเลิศ เรวัติ และลูกน้อง จันทร์เจ้า รอดชีวิต เนื่องจากกระสุนที่ฉายแสงยิงไปโดนเอาเหรียญพระที่แม่ของเข้มเคยให้จันทร์เจ้าไว้ ขณะที่เข้มแม้จะบาดเจ็บสาหัสแต่แพทย์ก็ช่วยชีวิตไว้ได้ จันทร์เจ้า มาเยี่ยมเข้ม เข้มขอโทษที่ต้องจับฉลาดเลิศเข้าคุก แต่จันทร์เจ้า กลับขอบคุณเพราะการที่ฉลาดเลิศเข้าคุก ทำให้เธอมีโอกาสตั้งต้นชีวิตใหม่ ปราศจากหนี้บุญคุณที่ติดค้างกันมา แม้ต่อไป จันทร์เจ้าจะไม่ได้เป็นนักร้องชื่อดัง แต่เธอก็มีความสุขมากกว่าที่จะได้ใช้ชีวิตเงียบๆ ในชนบท เข้มและจันทร์เจ้า จึงเริ่มต้นความสัมพันธ์กันใหม่อีกครั้งนับแต่นั้นมา

แม่อายสะอื้น 2561

แม่อายสะอื้น (2561/2018) เรื่องราวของดาวนิล หญิงสาวที่สวยที่สุดของหมู่บ้านหนึ่งในอำเภอแม่อาย ที่มีฝีมือในการรำดาบเป็นอย่างมาก เธอเป็นลูกสาวของคำปัน ครูสอนศิลปะการแสดงล้านนา ที่เลี้ยงชีพด้วยการแสดงของคณะละคร จนกระทั่ง ถูกหนานเมืองเจ้าของคณะละครคู่แข่งกลั่นแกล้งทุกวิถีทาง ทำให้คณะละครของคำปันย่ำแย่ จนในท้ายที่สุด ดาวนิลจึงต้องตัดสินใจเดินทางมาหาเงินในกรุงเทพฯ แต่แท้ที่จริงแล้วเธอโดนหลอกให้ไปขายตัว แทนที่จะเป็นงานแสดงศิลปะล้านนาที่เธอถนัด เหตุการณ์ผ่านไป เธอกลายเป็นดาราที่มือชื่อเสียงขึ้นมา แต่เธอต้องแลกด้วยการลืมอดีตของเธอ นั่นหมายถึง พ่อ น้อง และลูกของเธอไว้ที่แม่อาย และนี่เอง ที่กลายเป็นปมที่กดดันเธอ ให้ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด

ใต้ปีกปักษา 2561

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา (2561/2018) สาริศา รับทราบข่าวร้ายของบิดา กัปตันสารัตถ์ ด้วยหัวใจที่แตกสลาย อุบัติเครื่องบินตกกลางทะเลอ่าวไทยคร่าชีวิตบิดาของเธอไปทั้งๆ ที่เขาใกล้จะเกษียณอายุแล้ว สาริศาแค้นใจเพราะงานในวันนั้น พ่อของเธอถูกเรียกตัวด่วนเพื่อไปทำงานแทนกัปตันคนอื่นที่ลางานกะทันหัน เธอลงความเห็นว่ากัปตันคนนั้นคือสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอตาย และเธอจะไม่มีทางให้อภัยเขาเลย

กัปตันวิสสุต เพื่อนสนิทของสารัตถ์เห็นใจกัปตันรุ่นน้องอย่าง อคิน เพราะทันทีที่สาริศารู้ว่าเขาคือคนที่พ่อของเธอไปบินแทนในวันนั้นเธอก็มีอาการปั้นปึงต่อเขาทันที วิสสุตรู้ว่าสารัตถ์พอใจในตัวอคินจนอยากให้มาเป็นลูกเขย เขาจึงพยายามสานต่อเพื่อเปิดโอกาสให้ทำความรู้จักและปรับความเข้าใจกัน เขาจัดการนัดหมายให้อคินช่วยขับรถพาสาริศาไปลอยอังคารเถ้ากระดูกของพ่อ เพราะ ป้าสุมาลี พี่สาวคนเดียวของสารัตถ์ก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดทันทีที่เสร็จงานเผาศพ คืนก่อนที่จะไปลอยอังคาร ก่อนที่สาริศาจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลียทั้งกายและใจ เธอเห็นร่างโปร่งแสงสีขาวของชายหนุ่มในวัย 25 ปีในชุดโบราณที่ดูแปลกตา ชายคนนั้นมองมายังเธอด้วยสายตาที่เศร้าหมอง เขาบอกเธอว่าเขาไม่ใช่พ่อของเธอ เขามาขอให้เธอช่วย .. ก่อนที่เธอจะได้คำตอบว่าเขาคือใคร มาหาเธอทำไม และจะให้ช่วยอะไร ร่างนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อตาไม่ใช่ครั้งเดียวที่เธอเห็นเขา เธอยังเห็นชายลึกลับคนนั้นพร้อมเสียงร้องขอคำมั่นสัญญาที่จะช่วย เหลือเขา แต่มีเพียงสาริศาที่เห็นและได้ยิน เธอไม่กล้าบอกให้ ป้านิ่ม แม่บ้านเก่าแก่ที่ดูแลเธอมานานจะรู้เพราะกลัวแม่บ้านสูงวัยจะตกใจทันทีที่สาริศาเห็นว่าคนที่วิสสุตส่งมาช่วยขับรถพาเธอไปลอยอังคารเถ้ากระดูกของบิดาคือ อคิน เธอก็ปฏิเสธไม่ยอมรับน้ำใจจากเขา แต่เมื่อเขาเอ่ยคำขอโทษจากใจด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แถมป้านิ่มยังช่วยเร่งให้รีบไป สาริศาจึงไม่มีทางเลือก ตลอดทางแม้จะไม่ได้พูดอะไรกัน แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าสาริศาเศร้าเสียใจแค่ไหน เขาสัญญาในใจ บอกสารัตถ์ว่าเขาจะดูแลสาริศาให้ดีที่สุด และราวกับว่าสารัตถ์จะรับรู้ในคำสัญญานั้น เพราะอคินได้กลิ่นน้ำหอมที่สารัตถ์ใช้เป็นประจำลอยมาแตะจมูกอย่างอ่อนโยนในพิธีลอยอังคาร อคินช่วยจัดการทุกอย่าง ทั้งเรื่องพิธีการและค่าใช้จ่าย เขาอยู่เคียงข้างหญิงสาวที่ร่ำไห้ด้วยความอาดูร เขายังปลุกปลอบใจให้เธอลุกขึ้นยืน เมื่อตั้งสติได้ สาริศาก็พยายามข่มความไม่พอใจในตัวเขา เพราะเธอคิดว่านับจากนี้เขาและเธอคงไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอคิด ไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสิ่งที่ติดค้างอยู่ในความสงสัยของเธอคือ สาริศาคุ้นกับนัยน์ตาของอคินราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เธอมั่นใจว่าเธอเพิ่งพบกับเขาเป็นครั้งแรกในชีวิตในงานศพของพ่อนั่นเองหลังงานศพ สาริศาพบเหตุการณ์แปลกๆ หลายครั้ง เธอฝันถึงฉากในสงคราม เสียงปืน เสียงเครื่องบิน และเห็นเงาร่างของใครบางคนที่มาขอให้เธอช่วย ป้านิ่มแนะนำให้เธอทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ใครก็ตามที่ปรากฏร่างให้เธอเห็น ..ในฝันของสาริศา.. ปี ๒๔๘๓ จังหวัดอุดรธานี อนงค์อร เจ็บท้องใกล้คลอด แต่วันนั้นฝูงบินฝรั่งเศสบุกมาทิ้งระเบิดในตัวจังหวัดอุดร แม้ อัศนี อยากจะขึ้นบินขับไล่ข้าศึก แต่เพราะคำขอของภรรยาที่อยากให้เขาเห็นหน้าลูกก่อนออกรบ ทำให้เขาละล้าละลัง ยิ่งอนงค์อรคลอดยากและใช้เวลานานเท่าไหร่ อัศนีก็ยิ่งกระสับกระสาย แต่เมื่อ สันติ เพื่อนทหารสังกัดกองบินเดียวกันมาตามเขาตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เขาก็ไม่ลังเลไปจะออกไปทำหน้าที่ป้องกันชาติ เขาชะงักเมื่อได้ยินเสียงลูกที่เพิ่งคลอดร้องดังออกมาให้ได้ยิน เขาบอกกับ ครูอำนวย ผู้เป็นบิดาว่าเขาจะขอไปทำหน้าที่รับใช้ชาติ แล้วจะกลับมาดูหน้าลูกตามสัญญาที่ให้ไว้กับอนงค์อร เขาไปทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าเขาได้ลูกชาย แต่วันนั้นเครื่องของเขาถูกยิงจนไฟลุก อัศนีถูกยิงที่หัวเข่าและถูกไฟคลอก อาการสาหัสจนต้องส่งเข้ารับการรักษาที่พระนครสาริศาตกใจตื่น และพบว่าในห้องของเธอ บุรุษลึกลับมาปรากฏตัวในเครื่องแบบนักรบแบบเดียวกับที่เธอเห็นรูปของปู่ของเธอ เขาขอบใจที่เธออุทิศบุญกุศลไปให้ แต่เขาก็ยังร้องขอ เขาขอให้เธอช่วยเอาล็อกเก็ตไปให้เมียของเขาด้วย เขาบอกว่าในอดีตนั้น เขาฝากให้สันติเอาล็อกเก็ตไปให้เมียของเขาถ้าเขาเป็นอะไรไป สันติก็คือปู่ของสาริศานั่นเอง วิญญาณตนนั้นคือเพื่อนของคุณปู่ของเธอ และร้องขอให้เธอค้นหาล็อกเก็ตของเขาเพื่อเอาไปให้อนงค์อรสาริศาพบกับอคินโดยบังเอิญ เมื่อเธอออกมาซื้อของยามพักเที่ยง ส่วนเขามาเฝ้าไข้คุณย่าในโรงพยาบาลที่อยู่แถวนั้น แต่เมื่อเธอเห็นว่าเขามากับ อรนิภา สาวสวยเฉี่ยวบาดตา เธอก็รีบฉุด วีรนุช เพื่อนสนิทให้จากมาทันที วีรนุชสงสัยว่าอคินจะมาชอบเพื่อนสนิทของเธอ อรนิภาเถียงเพื่อนคอเป็นเอ็น แต่วิญญาณของปู่อัศนีก็กระซิบบอกสาริศาว่าเขาก็สงสัยเช่นเดียวกัน สาริศาจึงแอบเถียงปู่อัศนี เพราะเธอคิดว่าอรนิภาเป็นแฟนของอัคนียิ่งสาริศาทำบุญตักบาตรให้ปู่อัศนีทุกวัน ก็เหมือนเป็นการเติมพลังให้เขามากขึ้นเท่านั้น วิญญาณของเขามักจะตามติดสาริศาไปในที่ต่างๆ จนเธอเองก็เริ่มเคยชินที่จะมีวิญญาณอยู่ใกล้ตัววิสสุตและญาดาแวะมาเยี่ยมป้านิ่ม และเพื่อหยั่งเชิงว่าป้านิ่มคิดอย่างไรกับอคิน วิสสุตคิดจะสานสัมพันธ์ให้สารัตถ์ได้อคินมาเป็นลูกเขยของสารัตถ์ ทั้งคู่ดีใจที่ป้านิ่มก็มีท่าทีพอใจในตัวอคินไม่น้อย สิ่งที่น่ากังวลมีเพียงสาริศาเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังคิดว่าอคินเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอสูญเสียพ่อไปอยู่อีกหรือไม่สาริศาได้พบอคินในยามพักเที่ยงอีกครั้ง เธอเห็นเขารีบร้อนเข้าไปในโรงพยาบาล แต่เธอไม่คิดจะถามไถ่ธุระของเขา และไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีก แต่เขากลับมาปรากฏตัวในขณะที่เธอพักรับประทานอาหารกลางวันอยู่ตามลำพัง เพราะวีรนุชลางานไปสอบสัมภาษณ์ แม้ว่าเธอยินดีที่เพื่อนสนิทจะได้งานใหม่ที่เงินดีขึ้นและตำแหน่งดีขึ้น แต่เธอก็อดใจหาย และเก็บเอาคำแนะนำของอคินที่ยุให้เธอเปิดร้านอาหารตามที่เคยฝันไว้กับพ่อของเธอ ตอนนั้นเธอลืมไปแล้วว่าเธอไม่ชอบหน้าเขาเมื่อเลิกงาน สาริศารีบกลับไปค้นแปลนร้านที่เคยคุยกับพ่อ เสียงของปู่อัศนีบอกให้รู้ว่าแบบนั้นอยู่ที่ไหน แถมยังบอกด้วยว่ากล่องใส่ล็อกเก็ตของปู่นั้นอยู่ที่ใด สาริศาพบทุกอย่างที่ต้องการ เธอมองล็อกเก็ตที่จารึกชื่ออนงค์อร-อัศนีด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมปู่สันติถึงไม่สามารถทำตามที่สัญญากับเพื่อนสนิทได้ปู่อัศนีย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เขาฝากฝังให้สันติเพื่อนรักส่งล็อกเก็ตที่เขาตั้งใจทำเพื่อรับขวัญลูกชายถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ปู่อัศนีไม่มีรายละเอียดอะไรไม่ได้เลย เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของลูกชาย เพราะปู่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นหน้าลูกที่เพิ่งเกิดมา สาริศาจึงช่วยค้นหาข้อมูลตระกูลของปู่อัศนีด้วยการค้นหาในอินเตอร์เน็ต ปู่อัศนีทึ่งและสนุกไปกับเทคโนโลยีก้าวหน้าของโลกสมัยใหม่ แม้สาริศาจะค้นเจอบันทึกที่เอ่ยถึงวีรกรรมของปู่อัศนี แต่ไม่มีบันทึกไหนที่จะบอกได้เลยว่าภรรยาและบุตรชายของปู่อัศนีนั้นชื่ออะไรและอยู่ที่ไหน สาริศาพยายามค้นหาชื่อและนามสกุลของอนงค์อร แต่ป้านิ่มขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน ป้านิ่มดีใจเมื่อสาริศาบอกเธอว่าเธอคิดจะลาออกจากงานเพื่อมาเปิดร้านอาหารตามที่เคยฝันกับพ่อของเธอ แต่เธอยืนกรานว่าเธอไม่ใช่ทำตามที่อคินแนะนำอย่างที่ป้านิ่มเข้าใจ อคินแวะช่วยหมาที่ถูกรถชนไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์จนทำให้เขามาตามนัดกับสาริศาสายมาก แต่ความโกรธของเธอก็หายไปเมื่อเห็นเสื้อของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด เธอจึงเชื่อในสิ่งที่เขาบอกเธอ เขาบอกป้านิ่มว่าเขาจะมารับสาริศาไปคุยกับผู้รับเหมาและคุยกับเพื่อนของเขาที่เคยเปิดร้านอาหาร สาริศาหาเสื้อของพ่อให้เขาเปลี่ยนก่อนจะขอให้เขาแวะพาเธอไปดูน้องหมาที่เขาช่วยไว้ด้วยความเป็นห่วง อคินรู้สึกพอใจที่สาริศามีน้ำใจและรักสัตว์ สาริศาเองก็ทึ่งที่เห็นน้ำใจที่อ่อนโยนงดงามของเขาที่มีต่อหมาข้างถนน เขาประทับใจเมื่อเธออาสาจะเอามันไปเลี้ยงที่บ้านสาริศาบอกเขาว่าเธอไม่อยากทำร้านอาหารที่บ้าน เพราะอยากมีความเป็นส่วนตัว เขาจึงเสนอให้ใช้บ้านย่านกลางเมืองของแม่เขาที่ผู้เช่ากำลังจะย้ายออกพอดี เขาพาเธอไปดูและดีใจเมื่อเห็นเธอยิ้มด้วยความถูกใจ แถมยังรับข้อเสนอที่เขาขอเป็นหุ้นส่วนแทนการจ่ายค่าเช่าร้านปู่อัศนีมาแสดงความยินดีกับสาริศา ปู่บอกว่าอคินเป็นคนดีจริงๆ แม้จะเห็นด้วยแต่สาริศาก็ยังติดอยู่ที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องเสียพ่อของเธอไป แม้ปู่จะพยายามชี้ให้เห็นว่าอคินคงมีความจำเป็น แต่สาริศาก็ยังไม่พร้อมจะยอมรับ ปู่จึงคิดว่าอนงค์อรคงจะโกรธปู่ที่ไม่รักษาสัญญา ไม่เข้าใจปู่เหมือนที่สาริศาไม่เข้าใจอคินในตอนนี้ สาริศาค้นจนเจอชื่อของอรนิภาที่มีนามสกุลเดียวกับอนงค์อร เธอไม่ลังเลที่จะส่งข้อความไปทาง FB แจ้งความประสงค์ว่าเธอกำลังตามหาคนๆ หนึ่งที่อาจจะเป็นญาติของอรนิภา อรนิภาตอบกลับมาทันทีว่าพร้อมจะช่วย แต่ขอให้เธอส่งข้อมูลมามากกว่านี้อรนิภารู้จักผู้หญิงที่สาริศากำลังตามหา เพราะอนงค์อรนั้นเป็นคุณย่าใหญ่ของเธอเองแม้เธอจะไม่ใช่สายตรงก็ตาม อรนิภาอยากรู้วัตถุประสงค์ในการตามหาของสาริศาจนแน่ใจก่อนที่จะบอกเรื่องนี้กับสาวแปลกหน้าในโลกออนไลน์คนนี้สาริศาทุ่มเทเวลาเตรียมร้านจนไม่มีเวลาตามเรื่องของย่าอนงค์อรให้ปู่ สาริศาตัดสินใจถ่ายรูปล็อกเก็ตที่ตอนหลังเธอสวมคล้องคอติดตัวไว้เป็นประจำตามที่ปู่อัศนีบอก แล้วส่งรูปนั้นไปให้อรนิภาดูทางอีเมล์ รายละเอียดในรูปหลายๆ มุมทำให้อรนิภามั่นใจว่านี่เป็นล็อกเก็ตที่เกี่ยวพันกับย่าอนงค์อรของเธอแน่นอน แม้ว่าย่าจะไม่เล่าเรื่องสามีของย่าให้ลูกหลานฟังเพราะมีเรื่องโกรธเคืองที่ผิดสัญญา แต่อรนิภาก็รู้ว่าสามีของคุณย่าใหญ่นั้นชื่ออัศนี เพราะญาติผู้พี่ของเธอที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักบินรบเคยเล่าให้เธอฟังด้วยความชื่นชมในตัวปู่ ความใกล้ชิดสนิทสนมที่ร่วมมือกันสร้างร้านอาหารก่อให้เกิดความผูกพันและความรู้สึกแปลกๆ ในจิตใจของทั้งคู่ แต่สาริศาคิดว่าที่เขามาใกล้ชิดสนิทสนมช่วยเหลือเธอก็เพื่อลบล้างความรู้สึกผิดในใจของ อคิน แต่สำหรับอคินเอง เขาแน่ใจว่าความรู้สึกของหัวใจของเขานั้นชุ่มชื่นเบิกบานเกินปกติธรรมดาอรนิภาแวะเอาของมาให้อคินที่พาสาริศามาตรวจเตรียมร้าน อรนิภาแน่ใจว่าสาริศาที่ติดต่อตามหาคุณย่าใหญ่เป็นคนเดียวกันกับสาริศาที่เป็นหุ้นส่วนร้านของอคินแน่นอน แต่เธอตัดสินใจที่จะยังไม่เปิดเผยตัว เธอแปลกใจไม่น้อยที่เรื่องทุกอย่างวนเวียนใกล้ตัวอย่างน่าแปลกใจ คนที่สาริศาตามหาอยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง เธอแปลกใจที่สาริศาไม่รู้ว่าอคินนั้นนามสกุลเดียวกับคนที่เธอตามหาตัว เมื่ออรนิภาแหย่ว่าหุ้นส่วนร้านอาจจะเปลี่ยนเป็นหุ้นส่วนชีวิต อคินก็เล่าให้เธอฟังว่า เพราะเขาเองทำให้พ่อของสาริศาไปบินแทนจนประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกอรนิภาแย้งว่าอคินมีเหตุจำเป็นจริงๆ เพราะคุณย่าใหญ่ป่วยจนเกือบจะเสียชีวิต ถ้าไม่ใช่อคิน คุณย่าใหญ่ก็อาจจะจากไปแล้วก็ได้ เมื่อเขาแสดงความเห็นใจที่สาริศาลงความเห็นว่าเป็นความผิดของเขา เขาพร้อมจะรองรับอารมณ์ของเธอด้วยความเต็มใจ อรนิภาก็เลยยุให้เลื่อนฐานะจากรองรับอารมณ์ มาเป็นรองรับหัวใจ อคินก็ได้แต่ยิ้มในความคิดของญาติผู้น้องอรนิภายังไม่อยากจะเผยตัวกับสาริศา เธอจึงรีบปฏิเสธที่จะเข้าไปพบไปรู้จักกับสาริศา เธออ้างกับอคินว่ามีนัด แล้วรีบเผ่นออกไปทันที เธอไม่รู้เลยว่าการปรากฏตัวของเธอ ทำให้สาริศาเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นแฟนของอคิน จนเหม่อลอยเกือบสะดุดล้ม แต่เธอได้สติเมื่อปู่อคินส่งเสียงร้องเตือนร้านอาหารใกล้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ สาริศาเปิดรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่างๆ และได้ แหวนพลอย สาวน้อยวัยใกล้เคียงกับเธอมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้าน ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระเธอไปได้มากอคินแวะไปเยี่ยม คุณย่าใหญ่อนงค์อร ในวัยเก้าสิบปีเศษที่โรงพยาบาลอย่างที่เขาทำเป็นกิจวัตร คุณย่าใหญ่เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพราะล้มในขณะเดินมาส่งเขาเพื่อไปบิน จนเป็นเหตุทำให้เขาต้องลางานกะทันหัน และทำให้เที่ยวบินครั้งนั้นกลายเป็นเที่ยวบินสุดท้ายของสารัตถ์อยุทธ์ นักธุรกิจพ่อของอคินบอกให้ลูกชายรู้ข่าวจาก พล.ท.อิสริยะ ผู้เป็นอาที่เตือนเรื่องมีผู้ก่อการร้ายข้ามชาติแฝงตัวเข้ามาโดยยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ อาจจะเป็นการวางระเบิดหรือจี้เครื่องบิน อาของเขาฝากให้หลานชายระวังตัวมากขึ้นอคินนั่งคุยเป็นเพื่อนคุณย่าใหญ่ด้วยความเอาใจใส่ เขาเล่าเรื่องการเปิดร้านอาหารกับเพื่อน คุณย่าใหญ่อดไม่ได้ที่จะถามว่าหุ้นส่วนร้านเป็นแค่หุ้นส่วนเท่านั้นหรือ เธออยากเห็นหน้าของสาริศา เพราะคุณย่าใหญ่รู้สึกได้ว่าหลานชายใส่ใจกับเพื่อนหญิงที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้านี้มากกว่าธรรมดา และเธอก็อยากให้อคินเป็นฝั่งเป็นฝามีลูกมีหลานให้เธอได้ชื่นชม แต่เพราะอคินฝังใจว่าสาริศาไม่มีทางชอบคนอายุมากกว่าที่เป็นเหตุให้เธอต้องสูญเสียพ่อ ทำให้เขาต้องเบรกตัวเอง แม้จะคิดถึงเธอด้วยความหวานเต็มหัวใจก็ตามแหวนพลอยโทรหาอคินด้วยความเป็นห่วงเพราะสาริศายังทำงานเพื่อเตรียมเปิดร้านอยู่ตามลำพังแม้จะมืดค่ำแล้วก็ตาม และเธอเห็นผู้ชายมาลับๆ ล่อๆ ไม่น่าไว้วางใจ เธอขอให้อคินรีบไปดูสาริศา ซึ่งชายหนุ่มเองก็แทบจะบึ่งไปทันทีที่รับรู้เรื่องราวน่ากังวลนั้น สาริศารับรู้ถึงความผิดปกติ เธอได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว แถมปู่อัศนียังมาบอกให้เธอรับรู้ว่ามีผู้บุกรุกที่กำลังมุ่งหน้ามาเธอ แม้จะมีวิญญาณของปู่อยู่เป็นเพื่อน แต่สาริศาก็รู้ว่าเธอต้องพึ่งตัวเอง ไม้เบสบอลที่อคินทิ้งไว้ให้เป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวของเธอในยามนี้ เธอหวดเข้าที่หัวของผู้บุกรุกทันที แต่เธอก็สู้แรงของผู้ชายไม่ได้ ไม่นานเธอก็เสียทีตกเป็นเบี้ยล่าง ปากที่ถูกมือหยาบปิดนั้นร้องไม่ออกเมื่อเสื้อของเธอถูกกระชากทิ้งปู่อัศนีแค้นใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรสาริศาได้ เมื่อปู่เห็นอคิน ก็รีบส่งเสียงบอกให้เขารู้ว่าสาริศากำลังตกอยู่ในอันตรายบนชั้น 2 อคินไม่มีเวลาคิดว่าเสียงนั้นมาจากไหน ใจเขามุ่งแต่ความปลอดภัยของสาริศาเท่านั้น เขาพุ่งเข้ากระชากร่างของชายแปลกหน้าที่พยายามจะข่มเหงรังแกสาริศา เขากระหน่ำต่อยไม่ยั้งจนสาริศาต้องมาจับแขนเขาดึงเอาไว้ เมื่อเห็นว่าโจรร้ายนั้นแทบจะลงไปกองกับพื้นตำรวจมารับตัวโจรร้ายไปโรงพัก ส่วนเขารีบพาสาริศาไปรักษาตัวในโรงพยาบาลทันที เขาเจ็บปวดใจเมื่อเห็นสภาพร่างกายที่ถูกทำร้าย เขาอดใจไม่ไหวทีจะดึงร่างที่สั่นเทาด้วยความหวาดกลัวของสาริศามากอดแนบอกเพื่อปลอบใจ เขาสัญญากับเธอว่าจะดูแลปกป้องไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกเขาพาเธอมาส่งที่บ้านเมื่อเธอมีอาการดีขึ้น แต่เมื่อเขาบอกป้านิ่มที่พร่ำขอบคุณเขาที่ไปช่วยสาริศาว่าเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องดูแล สาริศาก็อึ้งไปด้วยความสะเทือนใจ เธอคิดว่าเขาทำเป็นเพราะหน้าที่ที่ต้องลบล้างความรู้สึกผิดในใจของเขา ส่วนเขาก็ยังคิดว่าเธอคงไม่สนใจผู้ชายที่เป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของพ่อตัวเองถึงสาริศาจะมีท่าทีแข็งขืน แต่อคินก็ยืนกรานที่จะตามขึ้นมาดูแลเธอบนห้องของเธอเอง ท่าทีงอนของสาริศาทำให้ปู่อัศนีหัวเราะ อคินได้ยินเสียงแปลกปลอมนั้น เขานึกถึงเสียงลึกลับที่ร้องบอกเขาให้รู้ว่าสาริศาอยู่ที่ไหน เขาแน่ใจว่าสาริศารับรู้ถึงความผิดปกตินี้ด้วย แต่เมื่อเธอไม่พูดอะไร เขาก็เลือกที่จะไม่ถามสาริศาสงสัยเช่นเดียวกับปู่อัศนีว่าทำไมอคินถึงได้ยินเสียงของปู่ .. เมื่ออาการทางกายของสาริศาดีขึ้น เธอก็ร่ำร้องจะกลับไปทำงานเพื่อเตรียมเปิดร้านอาหาร แต่อคินไม่แน่ใจว่าสาริศาจะลืมภาพเหตุการณ์ร้ายในคืนนั้นได้หรือไม่ เขาจึงพาเธอไปตามลำพัง และก็จริงอย่างที่เขากลัว สาริศาร้องไห้เมื่อเข้าไปในห้องนั้น เธอร้องไห้จนลืมตัวโผเข้าสู่อ้อมอกเขาราวกับยึดเป็นเกราะคุ้มครองสภาพของหญิงสาวทำให้อคินใจอ่อนยวบ เขาอดใจไม่ไหวที่จูบปลอบประโลมก่อนจะบอกความในใจให้เธอรับรู้ว่าเธอคือผู้ที่ยึดครองพื้นที่ในหัวใจของเขา นับจากนี้เขาจะดูแลหัวใจของเขาให้ดีที่สุด สาริศาหวั่นไหวไปกับคำสารภาพ แต่เมื่อโทรศัพท์จากอรนิภาดังขึ้น ความดีใจของเธอก็วูบดิ่งลง เพราะเธอยังเข้าใจว่าอรนิภาเป็นแฟนของอคิน และเธอไม่กล้าพอที่จะเอ่ยปากถามเขาตรงๆอรนิภาตัดสินใจเอาภาพถ่ายและข้อความที่สาริศาส่งมาให้เธอนั้นไปให้อคิน เมื่ออคินเห็นเอกสารทุกอย่าง เขามั่นใจว่าเป็นรูปของปู่อัศนี วีรบุรุษในใจของเขาแน่นอน แต่เพราะเขามีภารกิจต้องบินไปต่างประเทศ เขาจึงขอให้อรนิภาไปอธิบายให้สาริศาเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปแก้ความเข้าใจผิดให้สาริศารู้ซะทีว่าอรนิภาไม่ใช่แฟนของเขาสาริศาจำอรนิภาได้ทันทีที่เห็นหน้า อรนิภาซักถามเรื่องราวที่สงสัยจากสาริศา ซึ่งเธอสามารถตอบได้หมดเพราะปู่อัศนีคอยกระซิบบอกข้างหู จนเมื่ออรนิภามั่นใจ เธอจึงเปิดเผยความจริงมากขึ้นกว่าเดิมว่า หลานสายตรงของคุณย่าอนงค์อรก็คืออคินนั่นเอง และอคินก็ไม่ใช่แฟนของอรนิภา แต่เป็นญาติของเธอเอง เธอยังบอกอีกว่าคุณย่าใหญ่ที่สาริศากำลังไม่สบายนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในขณะนี้ ในขณะที่สาริศารู้สึกโล่งเบาสบายใจเมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้เธอกังวลมาตลอด เที่ยวบินที่อคินเป็นกัปตันก็ถูกสลัดอากาศจี้ เขาลงจอดที่สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์และพยายามจะต่อรองกับสลัดอากาศ เขาพยายามที่จะช่วยชีวิตของตัวประกันจนตัวเองถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส สำนึกสุดท้ายก่อนที่เขาจะหมดสติ คือภาพของปู่อัศนีในชุดนักบินรบ เขารู้ทันทีว่าเสียงลึกลับที่คอยช่วยเขาและสานิศาคือเสียงของปู่ วีรบุรุษที่อยู่ในใจเขาตลอดมานั่นเองในภวังค์ที่ล่องลอย อคินได้พบและคุยกับปู่อัศนี แต่ปู่บอกให้เขากลับไป ชื่อของสาริศาที่แวบขึ้นมาดึงดูดให้เขาได้สติ จิตของเขาถูกดูดให้กลับเข้าร่าง เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาในห้องพักผู้ป่วย คนแรกที่เขาเห็นก็คือสาริศา เธอบอกว่าเธอบินมาทันทีที่ทราบเรื่อง เขาบอกเธอว่าปู่อัคนีมาช่วยเขาไว้ สาริศาเผลอตัวถามด้วยความประหลาดใจ จนเขาสงสัยว่าเธอรู้จักปู่อัศนีได้อย่างไร สาริศาจึงเล่าเรื่องราวน่าเหลือเชื่อให้เขาฟังจนหมดปู่อัศนีส่งเสียงทักทายหลานชายและสาริศาเมื่อเธอเล่าจบ ปู่ฝากให้อคินไปบอกย่าอนงค์อรว่าปู่เสียใจที่ผิดสัญญา แต่หวังว่าย่าจะให้อภัยเพราะปู่มีหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง อคินรีบบอกปู่ว่าย่าไม่เคยลืมปู่เลยแม้แต่วันเดียว แต่เพราะเสียใจมากจึงไม่เอ่ยเล่าเรื่องราวของปู่ให้ลูกหลานฟัง มีแต่ทวดที่แอบเล่าด้วยความภาคภูมิใจในตัวของลูกเขยวีรบุรุษ จนเขาเองก็อยากเป็นนักบินรบเหมือนปู่ปู่อัคนีปลอบใจอคินว่าถึงไม่ได้เป็นนักบินรบเพื่อชาติ แต่อคินก็เป็นวีรบุรุษเช่นกัน เพราะเขากล้าที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตของคนอื่น ในวันที่สาริศาและอคินเดินทางกลับเมืองไทย เธอรู้สึกตื้นตันที่เห็นเขาได้รับการต้อนรับในฐานะวีรบุรุษ แต่งานของเธอยังไม่เสร็จสิ้น เธอต้องรีบทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับปู่อัคนี เพราะเวลาของปู่เหลือน้อยลงไปทุกที สาริศาและอคินตรงไปหาคุณย่าใหญ่อนงค์อรที่โรงพยาบาลทันทีที่ถึงเมืองไทยปู่อัคนีปรากฏร่างให้ทุกคนเห็น ทั้งย่าอนงค์อร อยุทธ์ อคินและสาริศา ปู่ขอโทษที่ทำให้ย่าเสียใจเพราะไม่สามารถรักษาคำพูดที่จะอยู่รอดูหน้าลูกก่อนออกไปรบ สาริศาส่งล็อกเก็ตให้ย่าอนงค์อรเปิดออกดูก่อนจะส่งต่อให้อยุทธ์ อยุทธ์บอกกับร่างของพ่อที่เขาเพิ่งได้เห็นหน้าเป็นครั้งแรก ว่าพ่อเป็นวีรบุรุษในใจของเขาตลอดมา ปู่อัคนีบอกให้อนงค์อรอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลาน และไม่ต้องรีบร้อนตามเขามา ถ้าเธอจะอยู่รอจนกว่าจะได้เห็นเหลนก็ยังไม่สาย ปู่อัคนีจากไปอย่างสบายใจเมื่อได้ปลดเปลื้องสิ่งที่ตกค้างในใจมาเนิ่นนาน ย่าอนงค์อรจึงตัดสินใจบอกความจริงแก่อคินว่าจริงๆ แล้วเขาสอบติดโรงเรียนเตรียมทหารอย่างที่เขาตั้งใจ แต่ย่าเองที่บอกให้อาของเขาเอาชื่อของอคินออก เพราะไม่ต้องการให้หลานเสี่ยงอันตรายกับการเป็นนักบินรบเหมือนปู่อัคนี ย่าไม่ต้องการเสียเขาไปอย่างที่เธอสูญเสียสามี แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอไม่มีสิทธิไปบงการชีวิตของคนอื่น ย่าขอโทษหลานด้วยความเสียใจ แต่อคินบอกว่าเขาไม่โกรธย่าเลยเพราะรู้ดีว่าย่ารักเขาสาริศารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นชุดที่อคินส่งมาให้เธอสวมไปงานวันเปิดร้าน เพราะชุดนั้นสวยมากจนเธอเกรงว่าจะสวยเกินไปที่จะเป็นชุดฉลองเปิดร้านใหม่ แต่เมื่อเธอเห็นชุดหล่อของเขา รวมทั้งชุดของบรรดาแขกเหรื่อในงาน เธอก็เริ่มตะหงิดใจสงสัย และแล้วความสงสัยของเธอก็เริ่มเป็นจริง เมื่ออคินเอ่ยปากขอเธอแต่งงาน งานเปิดร้านอาหารของเธอกลายเป็นงานแต่งงานของเธอโดยที่เธอไม่รู้มาก่อน สาริศาตอบรับคำขอแต่งงานของวีรบุรุษของเธอด้วยความเต็มใจ เมื่อเขาสวมแหวนให้เธอนั้น เธอก็ได้ยินเสียงอวยพรกระซิบข้างหู เสียงที่เธอไม่มีวันลืมและโหยหาที่จะได้ยินมาตลอด เสียงพ่อของเธอนั่นเอง พ่อมาปรากฏตัวให้เธอเห็นในวันที่เขาหมดห่วง นั่นคือวันที่สาริศาลงเอยกับอคิน ชายหนุ่มที่สารัตถ์มุ่งมาดอยากจะให้มาเป็นเขยนั่นเอง.
ดวงใจในไฟหนาว 2561

ดวงใจในไฟหนาว (2561/2018) เยี่ยมยุทธ เศรษฐีหนุ่ม เย่อหยิ่ง ไร้หัวใจ มุ่งเข้ามาทำลายบ้าน ศิลาทอง ด้วยการหว่านเสน่ห์ให้หญิงสาว “ปิ่นมุก” และ “จินดา” ดาวเหนือ คนใช้หญิงลูกสาวแม่บ้าน ใสซื่อ และจงรักภักดี รู้ทันแผนการร้ายกาจ ออกโรงปกป้องเจ้านายของหล่อนด้วยชีวิต ด้วยการเข้าปะทะกับเยี่ยมยุทธ เยี่ยมยุทธหงุดหงิดกับสาวใช้จอมจุ้นจ้าน แม้ถูกนายสาวร้ายกาจอย่างปิ่นมุกกดขี่ ข่มเหงก็ยังตามจงรักภักดีไม่เสื่อมคลาย หัวใจเย็นชาของเยี่ยมยุทธที่เห็นเงินเป็นพระเจ้า เห็นความแค้นเป็นแผนที่จึงอ่อน โยนลง ด้วยพลังของความดีและความรักของดาวเหนือ เยี่ยมยุทธ เป็นเด็กกำพร้า เพราะพ่อแม่ นนท์ และ สุดา เกิดอุบัติเหตุบ้านไฟไหม้ตายทั้งคู่ เมื่อเขาอายุได้เพียงสามขวบ ความทรงจำส่วนนี้ของเขารางเลือน และกลายเป็นฝันร้าย เหมือนจิ๊กซอว์ที่ ปะติดปะต่อไม่ได้ เยี่ยมยุทธเด็กกวนประสาทที่ไม่รู้จักความรัก โตในบ้านเด็กกำพร้าเขาขยันศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะด้านการเงินเพราะต้องการเป็นมหาเศรษฐีตั้งแต่อายุยี่สิบห้า และเขาก็ทำได้จริง ๆ ด้วยมันสมอง ระดับอัจฉริยะ เยี่ยมยุทธยังใช้ประโยชน์ จากหน้าตา และ บุคลิก คอยหวานเสน่ห์เพศตรงข้ามเพื่อผล ประโยชน์อยู่เสมอ เยี่ยมยุทธเป็นเหมือนสายลมหนาว เหมือนหลุมดำ สำหรับคนที่อยู่ใกล้เขาทุกคน ที่มัก สูญเสียผลประโยชน์บางประการให้เขาโดยไม่รู้ตัว เวลานี้เยี่ยมยุทธอยู่ในฐานะเศรษฐีใหม่ พ่อมดการเงินอายุน้อยที่สุด แต่ความสุขไม่เคยงอกขึ้นมา จากเงินทอง ชีวิตยิ่งเพียบพร้อม ยิ่งโดดเดี่ยว ยิ่งฝันร้าย เขาจึงไปพบกับจิตแพทย์คนหนึ่งให้สะกดจิตเขา ความฝันที่ขาดเป็นชิ้นถูกจับปะติดปะต่อกัน เขาจึงระลึกได้ว่าในวันที่บ้านไฟไหม้นั้น ยังมีเด็กอีกคนหนึ่งใน เหตุการณ์ เขามีน้องสาว ! และน้องสาวเขายังไม่ตาย ! และที่สำคัญที่สุดการตายของพ่อแม่คือ ฆาตกรรมไม่ใช่อุบัติเหตุ ชีวิตที่หดหู่ ซึมเซาน่าเบื่อหน่ายของเขามีเป้าหมายใหม่ ! เยี่ยมยุทธเริ่มค้นหาอดีตของเขา เขารู้จากเอกสารในบ้านเด็กกำพร้าที่ถูกเผาทำลายว่า คนที่ส่งเขามา ที่นี่คือ โตมร ศิลาทอง โตมรและนนท์ริเริ่มธุรกิจธนาคารมาด้วยกัน เมื่อนนท์พ่อของเขาตาย “ธนาคารธนานุวัตร” ก็ต้องตกเป็นของศิลาทองแต่เพียงผู้เดียว เยี่ยมยุทธหยุดการท่องเที่ยวสำราญรอบโลก บ้านศิลาทองคือเป้าหมายต่อไป เขาเดินทางกลับมาตั้งรกรากถาวรที่เมืองไทยทันที โตมรปัจจุบันได้เสียชีวิตลงแล้ว คุณหญิง เปรมจิต ผู้มีนิสัยดุดัน เจ้าอารมณ์ คือประธาน ธนาคารคนปัจจุบัน เปรมจิตมีลูกสาวสวยเอาแต่ใจตัวเอง ชื่อ ปิ่นมุก ที่ถูกวางให้ดำรงตำแหน่งประธาน ธนาคารธนานุวัตรคนต่อไป แต่ปิ่นมุกรักความสะดวกสบายและเจ้าอารมณ์ สร้างความกลุ้มใจ ให้ พีระ ผู้จัดการใหญ่คนปัจจุบันที่รับใช้ครอบครัวศิลาทองด้วยความจงรักภักดี เยี่ยมยุทธเข้าหาปิ่นมุกสำเร็จอย่างง่ายดาย เขาปรากฏตัวในฐานะคู่รักของปิ่นมุก ลูกสาวคนสวย ไฮโซคนดัง เปรมจิตขัดขวางทันที เพราะต้องการหาคู่ให้ปิ่นมุกด้วยตนเอง เปรมจิตสั่งให้ ดาวเหนือ เลขาของปิ่นมุก ลูกสาวของ แดน คนขับรถของธนาคารและ เดือนเพ็ญ แม่บ้านประจำบ้านศิลาทอง ให้ติดตามความประพฤติของเยี่ยมยุทธ ดาวเหนือ เกิดในบ้านพักคนงานธนาคารระดับล่าง ตอนเด็ก ๆ ดาวเหนือป่วยหนัก เปรมจิตสงสาร เลยรับมาเลี้ยงดูเพื่อให้เป็นเพื่อนเล่นของปิ่นมุก ดาวเหนือจึงเป็นมากกว่าเลขานั่นคือเป็นคนรับใช้ของปิ่นมุก ไปพร้อมกันดาวเหนือมีความจงรักภักดีต่อครอบครัวศิลาทองอย่างสุดโต่ง เมื่อได้รับคำสั่งให้จับตาเยี่ยมยุทธ ดาวเหนือก็ทำหน้าที่อย่างดี จนเยี่ยมยุทธรู้สึกรำคาญ ความสวยงามสดใส ของดาวเหนือ ที่ตามขัดขวางเขา ทุกการกระทำ ผู้ชายหลุมดำเย็นชาอย่างเยี่ยมยุทธ ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง กับ ดาวฤกษ์ผู้สุกสว่างไปด้วย ความกตัญญูอย่างดาวเหนือ เยี่ยมยุทธมองโลกในแง่ร้าย ดาวเหนือมองโลกในแง่ดี เยี่ยมยุทธต้อง กิน ใช้ อยู่กับข้าวของ ราคาแพงที่ดีที่สุด เขาติดหรู ติดแบรนด์ จนแทบจะอยู่อย่างคนปรกติไม่ได้ แต่สำหรับดาวเหนือ หล่อนมี มาตรฐานเดียว .... อะไรที่ราคาถูกสุด สิ่งนั้นคือดีที่สุด เยี่ยมยุทธ เป็นเลิศด้านการเงิน แต่ดาวเหนือ มีพ่อแม่ เป็นหนี้สิน ทั้งพ่อ แดน และแม่เดือนเพ็ญ ทั้งคู่เป็นบุคคลล้มละลาย เพราะขาดวินัยทางการเงินขั้นรุนแรง เยี่ยมยุทธมุ่งทำลายครอบครัวศิลาทอง แต่ดาวเหนือมุ่งปกป้องครอบครัวศิลาทองด้วยชีวิต! แต่ธรรมชาติของหลุมดำย่อมโหยหาแสง ฉันใดก็ ฉันนั้น เมื่อดาวเหนือเริ่มตรวจสอบเขาด้วยการสะกดรอย ตาม ค้นเอกสาร และ ตามมาดูแลที่คอนโด เยี่ยมยุทธก็ชักสนุก อยากอยู่ใกล้กับดาวเหนือมากกว่าผู้หญิงคนอื่นทั้งหมด วันหนึ่ง เยี่ยมยุทธแกล้งทำเจ้าชู้ยักษ์ใส่ ทำท่าเหมือนจะปลุกปล้ำดาวเหนือ เพื่อไล่จอมจุ้นอย่าง ดาวเหนือออกไปจากชีวิต ปิ่นมุกมาพบฉากเข้าพระเข้านางบนเตียง ปิ่นมุกไม่โกรธเยี่ยมยุทธ แต่ไล่ ดาวเหนือออกจากบ้าน และไล่พ่อแม่ของดาวเหนือออกจากงานด้วย พ่อแม่ของดาวเหนือจำต้องไปเช่าตึก แถวเปิดกิจการขายของออนไลน์อยู่ในซอยเดียวกัน ดาวเหนือเสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก สำหรับเธอรุนแรงยิ่งกว่าอกหัก เพราะตั้งแต่เด็กทั้งสามสาว ปิ่นมุก จินดา และ ดาวเหนือ เติบโตมาด้วยกัน เป็นสามสาวที่อยู่ด้วยกันเกือบตลอดเวลา ปิ่นมุกเป็นทั้ง เพื่อนทั้งเจ้านายของดาวเหนือ เยี่ยมยุทธพอใจที่ดาวเหนือออกไปจากบ้านศิลาทอง เยี่ยมยุทธพบหลักฐานว่า จินดา ลูกสาวของพีระเป็นแค่บุตรบุญธรรม จินดาอาจจะเป็นน้องสาวที่หายไปของเขา เยี่ยมยุทธเริ่มเข้าไป พัวพันกับจินดา จินดาเป็นคนเรียบร้อย อ่อนหวานแต่ร้ายเงียบ จินดาหลงใหลเยี่ยมยุทธ เข้าใจผิดว่า เยี่ยมยุทธเข้ามาหาตนเพราะเบื่อปิ่นมุก ปิ่นมุกเริ่มทะเลาะเบาะแว้งกับ จินดา สร้างความร้าวฉานให้กับ พีระและเปรมจิตที่ต้องพึ่งพากัน จนวุ่นวายไปทั้งบ้านศิลาทอง ดาวเหนือเห็นแบบนั้นก็ทนไม่ได้เข้ามาขวาง ยอดเยี่ยมกับจินดาอีก แต่จินดาเองก็ไม่ต่างจากปิ่นมุก ทำร้ายจิตใจ ดาวเหนือเพราะความเอาแต่ใจไม่ แตกต่างกัน เยี่ยมยุทธหงุดหงิดที่ดาวเหนือวุ่นวายไม่เลิก วงจรซ้ำซากนี้ทวีความผูกพันให้เยี่ยมยุทธรักและ สงสารดาวเหนือมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ดาวเหนือก็เกลียดเยี่ยมยุทธมากขึ้นเช่นกัน เพื่อเบี่ยงเบนความ สนใจดาวเหนือออกไปจากศิลาทอง เยี่ยมยุทธเข้ามาจัดการชีวิตที่มีแต่หนี้ของแดน เข้ามาคลุกคลีกับมนุษย์ เงินเดือนพนักงานระดับล่าง ที่เป็นสังคมของดาวเหนือ เยี่ยมยุทธที่เคยรังเกียจชีวิตราคาถูก เขารู้สึกทึ่งกับ สังคมแบ่งปัน ที่ไม่ต้องใช้เงินตราของดาวเหนือ ผู้หญิงดี ๆ ที่เขาตั้งใจจะอยู่ให้ห่าง แต่ตอนนี้ไม่เจอสักวัน ชักจะไม่ได้ เยี่ยมยุทธมีรอยยิ้มบ่อยมากขึ้น สดชื่นขึ้น กลายเป็นคนน่ารักสำหรับดาวเหนือ ความสัมพันธ์ ทั้งสองกำลังจะเริ่มต้น แต่ในที่สุดเยี่ยมยุทธก็กลับไปเป็นลมหนาวที่เยือกเย็นอีกครั้ง เมื่อเขาพบหลักฐานเป็นวีดีโอวงจรปิด เขาพบว่าคนขับรถบรรทุกในอดีต จงใจชนรถของพ่อแม่เขา และคน ๆ นั้น คือ สุนทร บอดี้การ์ดประจำ บ้านศิลาทองนั่นเอง สิ่งที่เขาคิดเป็นจริงศิลาทองคือคนที่ทำลายชีวิตเขา ความเกลียดชังถูกยกระดับขึ้นเป็น การแก้แค้นในทันที ! เยี่ยมยุทธตัดสินใจแน่นอนว่าจะแย่งกิจการธนาคารธนานุวัตรให้กลับมาเป็นของเขา และจะทำลาย ชีวิตของครอบครัวศิลาทองทุกคน !!! เรื่องราวจะจบลงอย่างไร “เมื่อเยี่ยมยุทธต้องละทิ้งหัวใจอันอบอุ่นของดาวเหนือ เหลือไว้เพียง ความแค้น” โปรดติดตามความเข้มข้นของเขาและเธอได้ใน “ดวงใจในไฟหนาว”

ขวัญผวา 2 (เมืองฅนรฦกชาติ) (2561/2018) เรื่องราว ในปีพ.ศ. 2562 จันทนันท์ เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก ได้เปิดวิทยาลัยต้อนรับนักศึกษาใหม่จากทั่วทุกสารทิศ น้ำใส (ก้อย อรัชพร) หญิงสาวที่กลับมายังบ้านเกิดเพื่อมาเรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้ ก็ได้พบกับ กันต์ (ปังปอนด์ อัครวุฒิ) ชายหนุ่มที่มาจากต่างเมือง แต่พวกเขาก็เข้ากันได้ดีและสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วราวกับรู้จักกันมานาน จึงทำให้ เอก (เบน เบนจามิน) ที่กำลังแอบปิ๊งน้ำใสอยู่เกิดอาการหมั่นไส้และวางแผนกลั่นแกล้งกันต์ แต่ทุกอย่างกลับบานปลาย เมื่อพวกเขาได้รุกล้ำเข้าไปในตึกต้องห้ามของวิทยาลัย และทำให้กันต์หายตัวไปอย่างลึกลับ พวกน้ำใสกับเอกเองก็ไม่มาสามารถออกตามหากันต์ภายในตึกนั้นได้ เพราะถ้าหากพวกผู้ใหญ่ในวิทยาลัยรู้ว่าพวกเขาแอบเข้าตึก พวกเขาจะต้องถูกไล่ออก แต่ไม่นานกันต์ก็กลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง พร้อมกับเกิดเรื่องประหลาดภายในเมือง เมื่อเด็ก ๆ ในจันทนันท์เริ่มเกิดระลึกชาติ และล่วงรู้เรื่องราวในอดีตบางอย่างของเมืองที่ไม่ควรจะรู้ จนนำไปสู่หายนะของเมืองตามที่เคยถูกสาปเอาไว้

เชิง ชาย ชาญ 2561

เรื่องย่อ : เชิง ชาย ชาญ (2561/2018)

เชิง เชื้อเสือ (ธันน์ ธนากร) หนุ่มวัย 28 ปี เป็นพี่ชายคนโตแห่งตระกูลเชื้อเสือ เขาจึงยอมเสียสละความสุขส่วนตัว มาดูแลกิจการพืชไร่ของบ้าน โดยที่ให้น้องชาย 2 คนร่ำเรียนอย่างที่ตัวเองต้องการ เชิงจึงมีนิสัย แกร่งเกินตน เด็ดขาด ทำดูเหมือนกับเขาเป็นคนแข็งกระด้าง เชิงเป็นที่รัก และเคารพของน้อง ๆ อย่างมาก ชาย เชื้อเสือ (กรกฎ ตุ่นแก้ว) ลูกชายคนรอง ชายเป็นลูกพ่อแม่เดียวกับเชิง แต่นิสัยผิดกันอย่างมาก เพราะชายเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน มองโลกในแง่ดี เขาวาดหวังจะเป็นปลัดที่อำเภอเสือสะท้าน เพราะอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของพี่ชายเท่าที่ทำได้ ชาญ เชื้อเสือ (ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส) น้องชายคนสุดท้อง แม้เขาจะคนละแม่กับพี่ ๆ แต่เขาก็รักพี่ชายทั้งสองมาก ทำให้ ถวิล (แวร์ โซว) แม่ของชาญ หมั่นไส้ลูกแท้ ๆ ของตัวเองมาก เพราะเธอหวังมาโดยตลอดว่า จะกำจัดลูกเลี้ยงนอกไส้ของตัวเอง เพื่อให้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างตกเป็นของลูกชายเธอเท่านั้น ชด เชื้อเสือ (เล็ก ไอศูรย์) พอจะมองออกในพฤติกรรมของเมีย แต่เขาก็คิดว่าเป็นแค่ความริษยาของผู้หญิง คงไม่มีทางทำอันตรายเชิง และชายได้

เชิงมักชอบปกป้องสาว ๆ ในอำเภอของตัวเอง จากเงื้อมมือของ บุญแท้ (กฤษฎา สุภาพพร้อม) เจ้าพ่ออำเภอคลองใหญ่ เพราะ สุรีย์ (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) นางงามประจำเสือสะท้านก็ถูกบุญแท้ฉุดไปเป็นเมีย เชิงจึงคอยดูแล ครูมาลัย (ธัญสินี พรมสุทธิ์) จนใคร ๆ คิดว่าเขาหลงรักมาลัย แต่มาลัยรู้ดีว่านั่นไม่ใช่ความรัก เธอจึงเลือกที่จะแต่งงานกับ ครูเริง (กณิณ ปัทมนันต์) แต่ก่อนวันแต่งงานครูเริงกลับถูกฆ่าตาย ทำให้ทุกคนคิดว่าเชิงเป็นคนทำ โดยเฉพาะ รัตติการ วรกุล (ศรศิลป์ มณีวรรณ์) น้องสาวของเริง เธอถึงกับยอมลงทุนปลอมตัวเป็นหลานสาว นายอำเภอประกิจ (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทของ ปรางทิพย์ (จาร์ดา อินโตร์เร) คุณนายเทียนทอง (พิมพ์ดาว รวีมงคลเสถียร) ก็ชอบใจ เพราะจะได้มีลูกสาวเพิ่มอีกคน

ในขณะที่ทุกคนต่างเข้าใจเชิงผิด มีเพียง ชฎา (อังคณา วรรัตนาชัย) ครูสาวและลูกสาวของ น้าแสน (หน่อย เชิญยิ้ม) หัวหน้าคนงานในไร่เชื้อเสือ เพราะเธอแอบชอบเชิง และรู้ดีว่าเขาไม่มีทางฆ่าครูเริงเด็ดขาด เชิงแค่ปกป้องทุกคนเหมือนที่ปกป้อง อ้อย (ดวงกมล บุญเขียว) จากเหี้ยม

วันแรกที่รัตเหยียบคลองใหญ่ก็เกิดเรื่อง เผือก (อธิบดี พันตาวงศ์) และ ว่อง (ณัฐพล รัตนิพนธ์) เข้ามาลวนลาม ชายกับชาญผ่านมาพบจึงเข้าช่วยเหลือ ทำให้ชายเกิดรักแรกพบเมื่อพบหน้ารัต ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย น้ายง (จรินทร์ พรหมรังสี) มารับรัตที่ท่ารถพอดีจึงเข้าห้าม รัตเองก็เพิ่งรู้จากปรางว่าที่นี่มันเถื่อนขนาดไหน

เผือกนำเรื่องความสวยของรัต ไปเล่าให้บุญแท้ฟัง บุญแท้เริ่มสนใจ ส่ง เหี้ยม (อิทธิกร สาธุธรรม) และ เปีย (สานิตย์ บุญรอด) ลูกน้องคนสนิทไปสืบ พอรู้ว่ารัตสวยมากจึงรีบให้ เถ้าแก่เบ๊ (พงศนารถ วินศิริ) ไปขอหลานสาวนายอำเภอมาเป็นลูกสะใภ้ แต่นอกจากจะถูกปฏิเสธกลับทำให้เกิดเรื่องชกต่อยกับเชิง แม้รัตจะไม่ชอบบุญแท้ แต่เมื่อมีเรื่องกับคนที่เธอคิดว่าฆ่าพี่ชายเธอ รัตจึงเข้าข้างบุญแท้ ทำให้บุญแท้คิดว่ารัตมีใจให้เขาเช่นกัน เชิงแม้จะไม่ถูกชะตากับรัต แต่ก็อดห่วงเธอไม่ได้หากไปชอบคนเลวอย่างบุญแท้

ชาญรู้ว่าชายชอบรัตเอามาก ๆ จึงพยายามส่งเสริมเต็มที่ผ่าน ปรางทิพย์ และด้วยนิสัยขี้เล่น ทำให้ปรางกับชาญ มักมีปากเสียงเป็นพ่อแง่แม่งอนเสมอ ๆ แต่ถึงเป็นแบบนี้แต่ในเรื่องงาน ทั้งสองกลับเข้าขากันอย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องสืบคดีเชิงถูกใส่ร้าย และเรื่องที่ชาวบ้านถูกเถ้าแก่เบ๊โกงที่ดิน ชาญจึงใช้ความสามารถด้านทนายทุ่มเทเพื่อชาวบ้าน ไม่ว่าแม่จะขัดขวางอย่างไงเขาก็คงเดินหน้าต่อสู้กับความอยุติธรรม

ผู้กองไชโย (คมกฤษณ์ ดวงสุวรรณ์) เป็นเจ้าของคดีครูเริง ด้วยสิ่งที่เขาได้ยินมาจาก หมวดสมศักดิ์ (ตูมตาม เชิญยิ้ม) และ ปลัดวิชิต (พิทักษ์ ศัลย์วิวรรธน์) เรื่องตระกูลเชื้อเสือมีอิทธิพล และเห็นความโศกเศร้าของมาลัย ทำให้เขาไม่ชอบหน้าเชิง และคิดจะหาทางจับเชิงให้ได้หากพบหลักฐาน แต่ยิ่งสืบ ทำให้เขายิ่งคิดหนัก เพราะเชิงกลับเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาหลายครั้ง มาลัยผูกใจเจ็บเรื่องครูเริงมาก ตาแม้น (พอเจตน์ แก่นเพ็ชร์) พ่อมาลัยพยายามพูดเตือนสติ แต่มาลัยก็ไม่สนใจ รัต เข้าทำงานเป็นครูที่โรงเรียน ทำให้เธอได้รู้เรื่องของพี่ชาย จากขาเมาส์ประจำโรงเรียนอย่าง ครูพลับพลึง (อรวรา เพ็งพารา) และ ครูวิทยา (ภูวเนตร สีชมพู) ข้อมูลผิด ๆ ทำให้เธอยิ่งมั่นใจว่าเชิง คือคนฆ่าพี่ชายเธอแน่นอน เธอจึงคิดใช้ชาย เป็นสะพานสืบหาความจริง ปรางเตือนรัตว่าเป็นสิ่งผิดที่เล่นกับหัวใจคน แต่รัตไม่ยอมฟัง เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อพี่ชาย

เชิงไม่เข้าใจว่าทำไมรัตถึงรังเกลียดเขามากมาย และเขาเองก็กลับหงุดหงิดเมื่อเห็นรัต ใกล้ชิดกับบุญแท้ มีเพียงชฎาคอยปลอบโยน และเตือนสติให้ข้อคิดดี ๆ เชิงจึงพยายามไม่สนใจรัต เพราะเป็นผู้หญิงที่น้องชายหมายปอง แต่ความรักยิ่งวิ่งหนีมันกลับวิ่งตาม ขณะที่เชิงตามสืบเรื่องคนงานที่ขโมยนาฬิกาเชิงไป จนกลายเป็นหลักฐานหมัดตัวเขา เพราะตกอยู่ใกล้ ๆ ศพครูเริง รัตอยากรู้ความจริงจึงติดตามเชิงไป ทำให้ต้องไปติดค้างคืนด้วยกันเพราะรถเสีย ทำให้เชิงกับรัตยิ่งผูกพันกัน เป็นเหตุให้ชายไม่พอใจอย่างมาก รีบออกจากโรงพยาบาลทั้งที่เพิ่งถูก ทับ (นพฤทธิ์ ศรีบุตร) ลูกน้องบุญแท้ยิงมาสด ๆ ร้อน ๆ เหตุที่เชิงถูกใส่ความ ทำให้ เทิ้ม (วิฑูรย์ ลิ่วลักษณ์) ลูกน้องเชิง ยอมแฝงตัวเองเข้าไปอยู่กับบุญแท้ ทด (พิจักษณ์ ศิริประกา) ไม่เข้าใจพี่ชาย แต่ก็เชื่อมั่นว่า เทิ้มไม่มีวันหักหลังนายเชิง

เผือกชวนบุญแท้ค้ายา บุญแท้จึงรวบรวมพรรคพวกได้ ทองแดง (ธนวิช วงศ์สุวรรณ) มาช่วยเพื่อค้ายาอย่างจริงจัง เพราะเถ้าแก่เบ๊แพ้คดีที่ดิน แม้จะลอบวางเพลิง จนชาญเจ็บตัวเพราะเข้าไปช่วยปรางในสำนักงานทนายความ แผนการจะเปิดโรงงานขนาดใหญ่ของเถ้าแก่เบ๊จึงล้มเลิกไป เถ้าแก้เบ๊เจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ถวิลซึ่งแท้จริงเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเถ้าแก่เบ๊ บอกว่าเธอจะฆ่าชดเอง เพื่อเป็นการแก้แค้นให้กับพี่ชาย และเธอจะเอาที่ดินทั้งหมดของชดมาให้ได้

ขณะที่บุญแท้กำลังยุ่งกับเรื่องค้ายาเสพติด เพราะเขาจับได้ว่า สุรีย์เล่นชู้กับเหี้ยม และร่วมมือกับเผือกคิดหักหลังเขา ชายก็ตกหลุมรักรัตอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนทำให้มีเรื่องชกต่อยกับเชิง เพราะเชิงหายไปกับรัตทั้งคืนเมื่อตอนขึ้นไปเที่ยวบ้านบนดอย ชายหนีเข้ากรุงเทพฯ ทำให้เขาได้รู้ความจริงจากผู้กองไชโย ว่ารัตคือน้องสาวครูเริง ชายจึงใช้เหตุนี้บีบบังคับให้รัตหมั้นกับเขา รัตยอมหมั้นด้วยแต่มีข้อตกลงว่า เธอจะแต่งงานกับชายต่อเมื่อเชิงบริสุทธิ์ เพราะเธอคิดว่าเชิงเป็นฆาตกรตัวจริง แต่การที่เธอคิดแบบนี้มันกลับทำให้เธอเจ็บปวดมาก เมื่อเชิงมาหาในวันหมั้นเพื่อจะสอบถามความจริงว่ารัตรักชายหรือเปล่า ทำให้รัตเป็นลมในอ้อมกอดเชิง ชายมาเห็นกับตาทำให้ความอดทนทุกอย่างจบสิ้น ชายโกรธที่ถูกพี่ชายหักหลัง รีบขับรถออกไปจนถูกทองแดงดักยิง อาการสาหัส เชิงบริจาคเลือดให้น้องจนเกือบตายเช่นกัน ชาญทุกข์ใจมาก เพราะพี่ชายทั้งสองคนอยู่ในโคม่า และเขาก็สืบทราบมาว่า ถวิลเป็นตัวการใส่ร้ายเชิงโดยร่วมมือกับเถ้าแก่เบ๊ และคิดจะฆ่าพ่อ แต่ด้วยแผนซ้อนแผน ทำให้ถวิลเปิดเผยตัวว่าเธอเป็นใครและหนีไป ชาญเสียใจมาก ปรางคอยปลอบโยนให้กำลังใจ ทำให้ทั้งคู่เริ่มมีความรู้สึกพิเศษต่อกัน

บุญแท้รู้ว่าชายหมั้นกับรัต จึงให้ทับและทองแดงไปฉุดรัตมา แต่กลับติดปรางและชฎามาด้วย เทิ้มถูกบุญแท้จับได้ว่าแกล้งเป็นสายให้เชิงจึงถูกจับมาขังรวมกับสาว ๆ เทิ้มเล่าความจริงทุกอย่างที่สืบรู้มา รัตถึงกับอึ้งเมื่อรู้ว่าเชิงไม่ได้เป็นคนฆ่าพี่เริง ชายหนีออกจากโรงพยาบาลตามมาช่วยแต่นอกจากจะช่วยไม่ได้ ชายยังถูกจับอีกคน บุญแท้ต้องไปรับยาเสพติดที่หุบวัวแดง จึงให้ลูกน้องเฝ้าทุกคนไว้รอเขากลับมา เชิงอยากจะไปช่วยรัต แต่เขาคิดว่าถ้าได้ตัวบุญแท้ก็ต้องได้ตัวทุก ๆ คน เชิงจึงเข้าป่าไปพร้อมกับนายอำเภอประกิจ เพื่อช่วยจับบุญแท้และพ่อค้ายาเสพติดในฐานะผู้ชำนาญทาง

เชิงจะจับบุญแท้ได้หรือไม่ เผือก, สุรีย์, เหี้ยม จะได้รับผลกรรมอย่างไร รัตจะรักกับเชิงได้ไหม เพราะเธอทำร้ายชายอย่างแสนสาหัส ชาญจะตามไปช่วยปรางหญิงคนรักได้หรือไม่ ชฎาจะสมหวังกับเชิง หรือจะพ่ายรัก มาลัยกับผู้กองไชโย จะลงเอยอย่างไร เชิงจะแก้ปัญหาชีวิตรักอย่างไร ติดตามชมกันต่อได้ในละคร เชิงชายชาญ

 

เขยผู้ใหญ่ สะใภ้กำนัน 2561

เรื่องย่อ : เขยผู้ใหญ่ สะใภ้กำนัน (2561/2018) ผู้ใหญ่พร้อม แห่งบ้านหนองพง เจ้าของคณะฉ่อย มีลูกชายคือ พันแสง ที่เคยรักกับ จิรกานต์ ลูกสาวกำนันพิมาน เจ้าของวงดนตรีลูกทุ่ง คู่กัดตลอดกาลแห่งบ้านหนองไพร แต่ต้องเลิกกัน เพราะพิมานทำให้เข้าใจผิด เมื่อทั้งคู่เรียนจบกลับมา พันแสงยังรักจิรกานต์ ขณะที่ฝ่ายหญิงคบอยู่กับ ชิตพล นักธุรกิจใหญ่ พร้อมและพิมานต่างก็ตั้งความหวังกับลูกของตน ในศึกชิงตำแหน่งกำนันตำบลบ้านใหม่ ซึ่งผู้ได้ตำแหน่งไป คือ จิรกานต์ โดยเจ้าตัวไม่รู้เลยว่า พิมาน และ ชิตพลซื้อเสียงเพื่อช่วยเธอ จิรกานต์มีแค่ความตั้งใจดีอยากช่วยชาวบ้าน จึงวางแผนจะพัฒนาตำบล หวังให้เจริญเป็นที่หนึ่งในจังหวัด ขณะที่พันแสงถูกเลือกให้รับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหนองพงคนใหม่แทนพ่อ งานใหญ่งานแรกที่จิรกานต์และพันแสงต้องร่วมกัน คืองาน “ร้องเล่นเต้นรำ ดื่มด่ำวัฒนธรรมไทย” เพื่อหาตัวแทนของอำเภอ เข้าประกวดต่อในระดับจังหวัด บ้านหนองพงของพันแสง จัดแสดงโชว์เพลงฉ่อย มีผู้ใหญ่พร้อมและครูโอ่งนำชาวคณะอย่าง แม่น แก้ว เข้าประกวด โดยมี บุปผาและเพื่อนคือ ส้มโอ แตงโม คอยนำชาวบ้านไปเชียร์เพื่อขับเคี่ยวกับวงลูกทุ่งคณะพิมาน ที่จิรกานต์เลือกเป็นตัวแทนบ้านหนองไพร มี ดาวิกา เป็นครูสอนเต้นและผู้จัดการวง หลังแบ่งหน้าที่ ให้พ่อและครูโอ่งดูแลเรื่องประกวด พันแสงก็ตามเรื่องปัญหาหนี้นอกระบบของชาวบ้าน เขาเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุม แต่ถูก นายอำเภอยุวดี ค้านให้ใส่ใจเรื่องประกวดก่อน พันแสงไม่ลดละหาวิธีปลดหนี้ให้ชาวนา ด้วยโครงการ “ปลูกข้าวอินทรีย์ ต้นทุนต่ำ” ชาวบ้านบางส่วนสนใจ แต่ส่วนใหญ่ยังติดกับการทำนาแบบเดิมๆ พันแสงจึงลงมือปลูกข้าวอินทรีย์พิสูจน์ให้ชาวบ้านเห็น จิรกานต์รู้ว่าพันแสง เริ่มโครงการเพื่อชาวนา ก็ไม่ยอมแพ้ จัดโครงการ “เกษตรก้าวหน้าครบวงจร” ตามคำแนะนำของชิตพล นำเครื่องมือการเกษตรทันสมัยมาให้ชาวบ้านผ่อนได้แบบไม่คิดดอกเบี้ย โดยมีสุดยอดผู้ใหญ่บ้านหนองพัง สนับสนุน แต่พันแสงมองว่าจะเป็นการก่อหนี้เพิ่ม จิรกานต์ไม่พอใจที่พันแสงมาหักหน้า ด่าไล่จนกลุ่มพิมานและพร้อมจะมีเรื่องตีกัน พันแสงอาศัยช่วงชุลมุนลากจิรกานต์มาดูแปลงนาข้าวอินทรีย์ที่ปลูก พร้อมบอกความในใจที่ยังรักจิรกานต์ แต่จิรกานต์ปฏิเสธ พันแสงเสียใจมาก บุปผาโกรธแทน ตามไปต่อว่าจิรกานต์แต่ถูกสุดยอดกันท่า บุปผารู้ว่าสุดยอดชอบจิรกานต์เลยดึงเป็นพวก สองคนตกลงร่วมมือจะขัดขวางพันแสงและจิรกานต์ไม่ให้กลับมารักกัน แต่ความใกล้ชิดกลับทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เห็นความดีของกันและกันจนเกิดเป็นความรักขึ้นโดยไม่รู้ตัว ส่วนจิรกานต์กลับมาบ้าน ก็ถูกชิตพลขอหมั้น อ้างเพื่อลบคำครหาของชาวบ้านเรื่องพันแสง จิรกานต์บ่ายเบี่ยงขอจัดการเรื่องงานประกวดให้เรียบร้อยจึงให้คำตอบ ชิตพลไม่ค่อยพอใจ พันแสงกลับมาดูแลเรื่องความเป็นอยู่ชาวบ้านตามคำแนะนำของละไมผู้เป็นแม่ โดยรวบรวมชาวบ้านกลุ่มที่สนใจเรื่องข้าวอินทรีย์มาอบรม เตรียมขยายช่องทางการขายข้าวโดยไม่พึ่งนายทุน ชิตพลที่ดูแลเครือข่ายธุรกิจโรงสีจังหวัด รู้ข่าว เลยสั่งหน่องสมุนคนสนิทไปดักยิง แต่โชคดีพันแสงรอดมาได้ ละไมและพร้อมกังวลว่าลูกชายจะเอาชีวิตมาทิ้ง ขอให้พันแสงหยุดโครงการที่ทำอยู่ แต่พันแสงยืนยันจะสู้ เพราะถ้ายอมให้นายทุนข่มขู่เอาเปรียบ ก็จะต้องยอมไปตลอดชีวิต ชิตพล ยืมมือพิมานผลักดันโครงการ เกษตรก้าวหน้าครบวงจร จนชาวบ้านที่ไม่มีเงินต้องเอาที่มาจำนอง เพื่อผ่อนซื้อเครื่องมือการเกษตรกับชิตพล แม้แต่ ยอดเยี่ยม เจ้าของโรงงานปุ๋ย พ่อของสุดยอด ก็มาขอเอี่ยวกับโครงการ โดยมีข้อเสนอเรื่องผลประโยชน์ให้ชิตพลอย่างลับๆ จิรกานต์ปลื้มกับคำชมที่โครงการฯ เติบโตรวดเร็ว โดยมีสุดยอดคอยเชียร์ จนพันแสงมาเตือน เรื่องชาวบ้านกู้หนี้มากขึ้นถึงขั้นเอาที่ดินมาจำนองแล้ว พันแสงให้จิรกานต์มองภาพรวม ว่าชิตพลเป็นใหญ่ในธุรกิจโรงสี นโยบายให้ชาวบ้านซื้อเครื่องมือผ่อนได้ เพราะต้องการเพิ่มกำลังผลิต ที่จะยิ่งสร้างกำไรให้ชิตพล ที่สำคัญ จิรกานต์กำลังตกเป็นเครื่องมือให้ชิตพลหลอกใช้ จิรกานต์ไม่พอใจ ตบหน้าและไล่พันแสงไป จิรกานต์ปรึกษาชิตพล เรื่องโครงการใหม่ๆ ที่จะช่วยชาวบ้าน ชิตพลว่าสร้างโรงงานแปรรูปข้าวรอไว้แล้ว เพื่อเตรียมนำข้าวที่มาตรฐานไม่พอมาต่อยอดแปรรูปเป็นเครื่องสำอาง น้ำมันรำข้าว ไวน์หมักข้าว อยากให้ชาวบ้านมีทางเลือก ไปทำงานที่โรงงาน ไม่ต้องรอปลูกข้าวขายอย่างเดียว แต่ทั้งหมดต้องให้จิรกานต์เสนอต่ออำเภอเพื่ออนุมัติ จิรกานต์คิดถึงคำพูดพันแสง และเริ่มสงสัยชิตพล ใกล้วันประกวด คณะฉ่อยยังไม่พร้อม เพราะครูโอ่งและแก้ว ถกกันเรื่องฉ่อยเดิมๆกับฉ่อยแร๊พๆ จนสุดท้ายพันแสงตัดสินใจเอาข้อดีของฉ่อยและแร๊พมาผสมกัน ได้เป็นฉ่อยประยุกต์ ซึ่งหัวข้อขอให้พูดถึง“ทุกข์ชาวบ้าน ที่รู้ไม่ทันเล่ห์นายทุน” ทุกคนรู้ว่าพันแสงจะใช้ฉ่อยเป็นกระบอกเสียงเตือนชาวบ้าน แต่เป็นห่วงความปลอดภัยพันแสง พันแสงยืนยันว่าจะเสี่ยง วันประกวด ทีมหนองพง และหนองไพร ขับเคี่ยวกันมาจนถึงรอบสุดท้าย ผลตัดสินค้านสายตาคนดูรวมถึงจิรกานต์ด้วย เพราะวงลูกทุ่งที่ดูเป็นรองเป็นฝ่ายชนะได้เป็นตัวแทนไปแข่งระดับจังหวัด พันแสงเดาผลได้แต่แรกเพราะรู้ว่ากรรมการ ต่างเกรงใจพิมานและชิตพล แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ใช้โอกาสนี้ ส่งสารให้ชาวบ้านได้คิด คลิปแร๊พฉ่อยคณะผู้ใหญ่พร้อม ที่แก๊งบุปผาและชาวบ้านถ่ายไว้ แพร่ไปอย่างรวดเร็ว พันแสงวางแผนใช้โซเชี่ยลตอกย้ำกับชาวบ้าน แต่ก็ถูกชิตพลตอบโต้ด้วยการประกาศเปิดโรงงานแปรรูปข้าว จ้างชาวบ้านไปทำงาน จ่ายค่าแรงล่วงหน้า แม้แต่คนบ้านหนองพงก็ยังแห่ไป เพราะได้ค่าตอบแทนสูง จิรกานต์ไม่พอใจที่ชิตพลเจรจาขอเปิดโรงงานกับนายอำเภอลับหลังเธอ ชิตพลอ้างว่าทำเพื่อสร้างความมั่นคงให้จิรกานต์ เพราะพิมาน อนุญาตให้เขาหมั้นกับเธอ หลังเสร็จงานประกวดตามสัญญา กำหนดวันหมั้นคือวันเดียวกับวันเปิดโรงงาน จิรกานต์ไม่สบายใจนัก สุดยอดพยายามทักท้วงแต่ไม่ได้ผล บุปผาเอาข่าวไปบอกพันแสง อยากให้พันแสงตัดใจพร้อมสารภาพรัก พันแสงขอบใจบุปผาที่คอยเคียงข้าง แต่เขาคิดกับเธอแค่น้องสาว บุปผาอกหักฟูมฟาย แตงโม ส้มโอปลอบใจก็ไม่ได้ผล สุดยอดเรียกบุปผาไปปรึกษาวางแผนถล่มงานหมั้นจิรกานต์ แต่ด้วยความเห็นใจใกล้ชิด และความเมา ทั้งคู่จึงลงเอยกันอย่างลับๆ งานหมั้นและวันเปิดโรงงาน ชิตพลเชิญคณะฉ่อยมาร่วมงาน เพื่อเย้ยพันแสง พร้อมและละไมช่วยกันปลอบใจขอให้พันแสงอย่าท้อ เพราะยังมีหน้าที่ต้องดูแลชาวบ้าน พันแสงเกณฑ์ชาวบ้านมาช่วยกันเกี่ยวข้าวอินทรีย์ล็อตแรก ใช้สื่อโซเชี่ยลประชาสัมพันธ์ เพลงฉ่อยเกี่ยวข้าวผสมแร๊พร้องดังครึกครื้น พันแสงพอมีกำลังใจว่าสิ่งดีๆที่ทำไป ยังไม่สูญเปล่า ชิตพลรู้ว่าพันแสงกำลังจะขายข้าวอินทรีย์ล็อตแรก สั่งให้หน่องจัดการ จิรกานต์บังเอิญได้ยิน จะเตือนพันแสงแต่ถูกชิตพลริบโทรศัพท์และคุมตัวไว้ เลยแอบให้ดาวิกาไปเตือนแทนแต่ไม่ทัน ข้าวล็อตแรกถูกเผาย่อยยับ พันแสงมาเอาเรื่องแต่ถูกชิตพลดัดหลัง แจ้งตำรวจจับ และให้นายอำเภอปลดพันแสงจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน โดยตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหนองพง ให้พิมานที่ว่างอยู่ช่วยดูแล พันแสงหมดทางสู้ แต่บุปผาว่ายังมีหวังเพราะยังมีสุดยอด ลูกชายนายยอดเยี่ยมที่ถูกชิตพลหลอกใช้ สุดยอดพาพันแสงไปหายอดเยี่ยม ขอให้เป็นพยานการทุจริตของชิตพล ตั้งแต่ปล่อยกู้นอกระบบ ซื้อเครื่องมือเกษตรผิดกฎหมาย ตั้งเครือข่ายโรงสีกดราคาข้าว ฮั้วประมูลที่ดินตั้งโรงงาน แต่ยอดเยี่ยมปฏิเสธ เพราะถ้าแฉชิตพลเท่ากับฆ่าตัวตาย เนื่องจากตนก็มีส่วนด้วย และขอให้สุดยอดเลิกหาเรื่องใส่ตัว สุดยอดยืนยันว่านี่คือครั้งแรกในชีวิตที่จะทำสิ่งที่ถูกและจะทำให้ดีที่สุด พันแสงให้สุดยอดเป็นสายติดต่อจิรกานต์เพื่อรวบรวมหลักฐานเอาผิดชิตพล แต่เพราะธุรกิจที่ชิตพลทำ ชื่อในสัญญาเป็นชื่อ พิชิต พ่อของชิตพล แถมมีพิมานเป็นหุ้นส่วน ถ้าเปิดโปงคนที่จะรับเคราะห์ไปด้วยคือพิมาน จิรกานต์จึงตัดสินใจปิดเรื่องนี้เป็นความลับ จิรกานต์กลับมาทำดีกับชิตพลจนชิตพลไว้ใจ พันแสงช้ำหนัก เพราะคิดว่า จิรกานต์เปลี่ยนไป ชาวบ้านที่ทำงานในโรงงานชิตพล เริ่มมีอาการเจ็บป่วย สุดยอดขอให้พันแสงช่วยสืบความจริง แต่ถูกหน่องจับได้ จิรกานต์ จ้างหมอมาตรวจพิสูจน์ แถลงข่าวปกป้องชิตพลเต็มที่ แถมสั่งลูกน้องไปพังเวทีที่พันแสงตั้งขึ้นร้องฉ่อยเตือนชาวบ้านอีก (แต่ความจริงเธอพยายามหาโอกาสส่งหลักฐานให้พันแสง) ชิตพลโมโหมาก สั่งหน่องไปลอบฆ่าพันแสง งานแต่งงานของชิตพลและจิรกานต์ จัดขึ้นวันเดียวกันกับงานศพพันแสง หน่องและลูกน้องถูกเกณฑ์ไปดูแลความเรียบร้อย ที่โรงงานจึงเหลือลูกน้อง4-5คนเฝ้าอยู่ เป็นโอกาสให้ สุดยอดและบุปผา นำชาวคณะฉ่อยมาบุก ขณะที่งานแต่งงานดำเนินไปจนถึงช่วงพรีเซนต์เทชั่น ที่จิรกานต์เตรียมไว้เป็นเซอร์ไพรส์ ที่จอเริ่มด้วยคลิปวันแถลงข่าวที่จิรกานต์ปกป้องชิตพลเรื่องโรงงาน ก่อนจะตัดเข้าสู่เฟซบุ๊คไลฟ์ของสุดยอดที่อยู่ในโรงงาน ถ่ายทอดสด แฉหลักฐานให้เห็นสารตั้งต้น และเครื่องมือผลิตยาบ้าในโกดังชั้นในสุด ตำรวจบุกเข้ามาจะจับชิตพล เขาจึงสั่งลูกน้องยิงต่อสู้ หน่องและพวกโดนวิสามัญ ชิตพลจับจิรกานต์เป็นตัวประกัน พันแสงที่แฝงตัวอยู่ในงานช่วยจิรกานต์ พร้อมจับตัวชิตพลได้สำเร็จ พิมานถูกกันให้เป็นพยาน ชิตพลถูกจำคุกตลอดชีวิต เรื่องร้ายผ่านพ้น จิรกานต์คิดจะลาออกจากตำแหน่งกำนัน แต่พันแสงทักท้วง เพราะเขาเตรียมลงสมัครผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจะมาช่วยจิรกานต์พัฒนาตำบลและหมู่บ้านให้เจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ผู้ใหญ่พร้อม ขอสงบศึกกับกำนันพิมาน และจะสู่ขอจิรกานต์ให้พันแสง พิมานว่าจะยอมยกให้ แต่คณะฉ่อยต้องช่วยวงลูกทุ่ง เอาชนะการแข่งขันระดับจังหวัดให้ได้ก่อน สองคณะร่วมใจคิดโชว์ที่ประยุกต์ฉ่อยเข้ากับวงลูกทุ่งอย่างกลมกลืน จนชนะได้รางวัลอย่างที่ตั้งใจ งานแต่งงานของผู้ใหญ่พันแสงและกำนันจิรกานต์จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย บนแปลงนาข้าวอินทรีย์ที่ปลูกขึ้นใหม่เหมือนความรักของทั้งคู่ ชาวบ้านร้องรำสนุกสนาน เสียงเพลงฉ่อยผสมลูกทุ่งร้องเพลงรักลอยมาตามลมอีกครั้ง

ชาติเสือพันธุ์มังกร 2561

ชาติเสือพันธุ์มังกร (2561/2018) ทรงวาด เด็กชายผู้ตั้งชื่อตามสถานที่เกิดคือ”ถนนทรงวาด” ด้วยความที่พ่อ แม่ และอา อพยพมาจากเมืองจีน ต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก ทรงวาดกับน้องสาวจึงเติบโตมาอย่างปากกัดตีนถีบก่อนที่ทรงวาดจะได้ช่วยชีวิตนักการเมืองระดับประเทศคนหนึ่งไว้จากการลอบสังหารโดยบังเอิญ ทรงวาดจึงได้มาเป็นบุตรบุญธรรมของนักการเมืองผู้นั้น ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และได้เรียนหนังสือสูงขึ้น ในขณะที่พ่อของทรงวาดกับอาคือ ลิ้มเม้งฮง ได้สาบานเป็นพี่น้องกับ โอ๊วฮุ่ยเชี้ยง นักเลงคนหนึ่งของเยาวราช ได้ร่วมกันทำกิจการบ่อนและโรงน้ำชาเพื่อค้าประเวณีขึ้นแต่พ่อของทรงวาดถูกยิงตายจากการเอาตัวเองเข้ารับกระสุนแทนน้องชาย ลิ้มเม้งฮงล้างแค้นให้พี่และขึ้นเป็นเจ้าพ่อคนหนึ่งของเยาวราช กิจการโรงน้ำชาของลิ้มเม้งฮงกำลังไปได้ดี จึงคิดขยายกิจการ ด้วยการหลอกซื้อตึกแถวหกห้องของ “ตระกูลลี้” แต่หลังจากโอนแล้วก็ชักดาบไม่จ่ายเงิน แถมเอาคนมาฆ่าล้างบ้านตระกูลลี้ จนเหลือ ปิ่นมุก(เตียงจู) บุตรสาววัยสิบกว่าคนเดียว โอ๊วฮุ่ยเชี้ยงต้องการจะฆ่าปิดปากปิ่นมุกเด็กสาวหวาดกลัวและต่อสู้ คว้าตะเกียบฟาดเข้าหน้าโอ๊วฮุ่ยเชี้ยงจนไฟไหม้ใบหน้าครึ่งซีก ก่อนที่ปิ่นมุกจะหนีรอดไปได้ ทรงวาดเติบโตขึ้นจนสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ แต่ขณะเรียนอยู่ปีสุดท้าย ก็ถูกคู่แข่งทางการเมืองของพ่อบุญธรรมกลั่นแกล้ง จนต้องออกจากโรงเรียน ชาญยุทธ(อ้าย)พี่ชายบุญธรรมซึ่งดำเนินรอยตามพ่อมาเล่นการเมือง ได้ส่งทรงวาดกลับมาเยาวราช และออกทุนให้เปิดร้านค้าขายข้าวสารชื่อ “โฮ่ว เฮง จั่น”ขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการส่งข่าว และทำตามที่พี่และพ่อบุญธรรมสั่งทุกอย่าง แต่ทรงวาดก็เลือกที่จะทำตามนั้น เพราะดีกว่าที่ตนต้องกลับไปรับช่วงโรงน้ำชาที่ตนรังเกียจ ทรงวาดเริ่มกิจการค้าข้าวอย่างราบรื่น โดยมี ทิเหล็ง อดีตคนลากรถเป็นมือขวาจนกระทั่งทรงวาดได้มาพบกับเตียงจูโดยบังเอิญที่ศาลเจ้า ทรงวาดรู้จากทิเหล็งว่าเตียงจูต้องกลายเป็นเด็กเร่ร่อนอาศัยศาลเจ้านอนเพราะอาของตน จึงคิดจะไถ่โทษด้วยการเอาเตียงจูมาเลี้ยง ทรงวาดเลี้ยงเตียงจูอย่างเข้มงวด และพยายามให้เตียงจูเรียนหนังสือให้ได้สูงที่สุด เพื่อชดเชยที่ ป่วยซัง น้องสาวแท้ๆของตนไม่ได้เรียนหนังสือ เตียงจูพยายามหาโอกาสฆ่าลิ้มเม่งฮงเพื่อแก้แค้นให้ครอบครัว แต่ก็แพ้ความดีของทรงวาด เตียงจูซึ้งใจและเริ่มรู้สึกรักทรงวาดขึ้นมาแบบเงียบๆ โดยที่แม้แต่ตนเองก็ไม่รู้สึกตัวทรงวาดดำเนินกิจการค้าข้าวไป และพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการโรงน้ำชาและบ่อนของครอบครัว แต่ก็มักจะมีเหตุจำเป็นที่ดึงให้ทรงวาดต้องเข้าไปคอยช่วยเหลือเรื่อยมา ด้วยนิสัยคนจริงของตนจึงเป็นเหตุทำให้ทรงวาดได้รับการยอมรับนับถือจากเหล่านักเลงเป็นวงกว้าง และชื่อของทรงวาด หรือ “เถ้าแก่เสือ”ก็ติดทำเนียบเจ้าพ่อเยาวราช แม้ว่าทรงวาดเองจะไม่ตั้งใจให้เป็นอย่างนี้ก็ตาม ทรงวาดค้าขายข้าวจนร่ำรวยขึ้นมากพร้อมกับส่งเตียงจูเรียนจนสอบติดคณะแพทยศาสตร์ รวมทั้ง ก๊กไช้ น้องชายของทิเหล็งก็สอบติดคณะนิติศาสตร์เช่นกัน ก๊กไช้แอบหลงรักเตียงจูแต่ไม่กล้าแสดงออก ในขณะที่ทรงวาดเองก็มองทั้งสองคนเหมือนน้องมาตลอด แต่ยิ่งใกล้ชิดเตียงจูมากเท่าไหร่ ทรงวาดก็ยิ่งหวั่นไหวมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว จนเป็นเหตุให้ทรงวาดปฏิเสธการแต่งงานกับ ไต้เกียว หลานสาวคนสวยของโอ๊วฮุ่ยเชี้ยง ทำให้โอ๊วฮุ่ยเชี้ยงอาฆาตทรงวาดมาตลอด ทรงวาดยังต้องทำตามที่ชาญยุทธสั่งในหลายเรื่อง รวมทั้งต้องปกป้องน้องสาวและครอบครัวด้วย เลยถูกเพ่งเล็งจากทางตำรวจ โดยเฉพาะกลุ่ม “สี่คิง” ซึ่งเป็นตำรวจที่คุมเยาวราช จักรวรรดิ พลับพลาไชยทั้งหมด โดยมีสิบตำรวจเอก รณชิต เป็นไม้เบื่อไม้เมากับทรงวาดมาตลอด รณชิตเป็นตำรวจหนุ่มรูปหล่อ อนาคตไกล เลยทำให้สาวๆในเยาวราชหลายคนมองกันตาเป็นมัน รวมทั้ง ลี่เง็ก ลูกสาวของลิ้มเม่งฮงด้วย แต่รณชิตก็ไม่สนใจใคร เพราะผู้หญิงคนเดียวที่รณชิตมีใจด้วยกลับเป็นเตียงจูนั่นเอง ทรงวาดต้องสู้กับอำนาจมืดของกลุ่มอิทธิพลทางการเมือง และทางธุรกิจเพื่อช่วยเหลือพี่ชายและพ่อบุญธรรมมาโดยตลอด และเรื่องหัวใจ ก็ต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้เช่นกัน.... มาเอาใจช่วย ”ทรงวาด” ชายหนุ่มผู้มีหัวใจที่แข็งแกร่งและมั่นคงแห่งเยาวราชว่าจะผ่าฟันอุปสรรคในเส้นทางรักและเส้นทางรบไปได้อย่างไร...เพื่อให้ได้เดินบนเส้นทางที่ตนต้องการจริงเสียที

คุณพ่อจอมซ่าส์ (2561/2018) พันอินทร์ (วิลลี่ แมคอินทอช) ไบค์เกอร์สุดซ่า หนุ่มหล่อ เพลย์บอย ผู้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข คบผู้หญิงแบบไร้ข้อผูกมัด และไม่มีทีท่าจะผูกพันกับใคร ท่ามกลางความระอาของครอบครัว ที่ต้องการให้ลงหลักปักฐานเสียที จู่ ๆ โลกทั้งใบของพันอินทร์ต้องพลิกกลับ ด้วยการมาปรากฏตัวของ แสนแก้ว (ลิลลี่-ณิชภาลักษณ์ ทองคำ) ไอ้หนูวัย 16 ปี ที่หน้าตาเหมือนพันอินทร์เป๊ะทุกองศา แบบไม่ต้องสืบว่าลูกใคร แสนแก้ว แสดงตัวเป็นหนุ่มน้อยวัยใสที่มาตามหาพ่อ ที่ไข่ทิ้งไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว พันอินทร์แทบจะไม่มีความทรงจำอะไรเหลืออยู่ว่าเขาไปทำสาวที่ไหนท้องมาก่อน หลังจากใช้เวลาเรียบเรียงอดีต เขาพบว่า เขาได้กับ ทิพย์เกสร (ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์) สาวชาวบ้านแสนสวยสุดซื่อ ในขณะที่ไปออกค่ายกิจกรรมระหว่างเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยเมื่ออายุเพียง 18 ปี แต่นั่นมันเป็นเพียงความรักความใคร่ชั่วครู่ชั่วยามในสมัยเด็กของเขา ใครจะไปคาดคิดว่าจะเปิดปุ๊บติดปั๊บได้เร็วจากการมีความสัมพันธ์กันเพียงไม่กี่ครั้ง และทำไมไม่เคยมีการติดต่อให้ได้รับรู้มาก่อน ชีวิตของพันอินทร์ หนุ่มโสดจอมซ่า กลายเป็นคุณพ่อแมวเซา ด้วยโดนลูกสุดที่รักที่เพิ่งโผล่มาคอยตามติดสารพัดจนไม่มีเวลาไปแสวงหาความสุขจากบรรดาผู้หญิงในลิสต์ได้สักคน แถมยังต้องคอยคิดว่าจะทำตัวแมนอย่างไร ให้เป็นตัวอย่างให้ลูก เพราะจากบุคลิกภาพของแสนแก้ว สภาพความนุ่มนิ่มคล้ายกับจะโอนเอียงไปทางตุ๊ด เหรือเกย์มากกว่าเด็กผู้ชาย หารู้ไม่ว่า ความจริงแล้ว แสนแก้ว คือเด็กผู้หญิง ที่แสนเจ้าเล่ห์ จอมวางแผน ที่ทั้งชีวิตโหยหาอยากมีพ่อ อยากให้พ่อและแม่กลับมาพบรักกันใหม่ เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวเป็นเรื่องไม่น่าให้อภัย แต่เธอเชื่อว่า แม่ยังคงทั้งรักทั้งแค้นพ่ออยู่มาก จึงไม่ยอมแต่งงานใหม่ ทั้ง ๆ ที่มีทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาตามจีบมากมาย รวมถึง สินธร (มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล) ไบค์เกอร์หนุ่มน้อย ที่แค่พบสบตา ทิพย์เกสร ครั้งแรกก็หลงรักหัวปักหัวปำ ในฐานะที่เป็นรักแรก จนกลายเป็นคู่แค้นกับแสนแก้ว ที่หวงแม่ยิ่งชีวิต ความแสบของแสนแก้วสร้างความปั่นป่วนให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เรื่องราวสุดแสนวุ่นวายจึงเกิดขึ้น ติดตามบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ในละคร คุณพ่อจอมซ่าส์

ฝันให้สุด Dream Teen (2561/2018) เรื่องราวของสถาบันอาชีวะ ชื่อเทคโนโลยีบูรณาภาพที่กำลังจะถูกปิดตัวลงเพราะปัญหาการเงิน และภาพลักษณ์ด้านลบอย่างหนัก ทำให้อาจารย์ตะวัน เจ้าของโรงเรียนอาชีวะเอกชนแห่งนี้ ทนดูโรงเรียนที่ปั้นมากับมือ ปิดตัวลงไม่ได้ เพราะการบริหารกิจการต่อของลูกชาย ผอ.บารมี ที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจ เพราะในใจลึก ๆ เขาต้องการให้สถาบันแห่งนี้ถูกยุบ เพื่อนำที่ดินไปขายทอดตลาด เป็นเหตุให้ อ.ตะวัน ต้องออกมากู้เงิน กู้วิกฤต แต่การจะขอเงินกู้จาก บริษัท ซีเอ็ดเทค จำกัด มหาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของโครงการพัฒนาสถาบันอาชีวะศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือเรียกย่อ ๆ ว่า พอย. โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อยกระดับมาตรฐานสถาบันอาชีวศึกษาของไทยในมิติใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากชื่อเสียที่เด็กนักเรียนได้ก่อไว้มีแต่ภาพลบ เป็นเหตุให้ อ.ตะวัน ต้องขอความช่วยเหลือจาก อ.ก้อง ศิษย์เก่าเทคโนโลยีบูรณาภาพ อาจารย์ประจำโรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังที่กำลังจะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่เขาต้องยอมลดเงินเดือนและโอกาสเพื่อกลับมากู้วิกฤต ตอบแทนอาจารย์ตะวันที่เคยเปลี่ยนให้เขาเป็นคนใหม่ ซึ่งการจะกู้ชื่อเสียให้กลับมาดีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เมื่อเหล่าอาจารย์ต้องเผชิญหน้ากับ ทิพย์ จากบริษัท ซีเอ็ดเทค จำกัด มหาชน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและประเมินผลคุณภาพการเรียน การสอน การบริหาร รวมทั้งสภาพแวดล้อมของเทคโนโลยีบูรณาภาพ ทิพย์เป็นคนตงฉิน แถมเนียบสุด ๆ จนใครต่อใครรู้จักกิตติศัพท์ และเธอมีอคติกับเด็กอาชีวะเป็นทุนเดิม เนื่องจากได้สูญเสียเพื่อนรักไปเพราะถูกลูกหลงระหว่างที่เด็กช่างตีกัน เธอจึงไม่ปล่อยให้สถาบันแห่งนี้ผ่านเกณฑ์การขอเงินกู้ไปได้ง่าย ๆ อ.ตะวัน กับ อ.ก้อง และเหล่าลูกศิษย์ จึงต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ ค่อย ๆ ปรับปรุงสภาพของโรงเรียน เพื่อต้อนรับการมาของ จนท.ทิพย์ เพื่อสร้างภาพให้ดูดี เพื่อผ่านผลการประเมิน ซึ่ง อ.ก้องจะมีเวลาแค่เพียงหนึ่งเทอมเท่านั้นเพื่อรับมือกับวิกฤติในครั้งนี้ หากเทอมใหม่สภาพโรงเรียนยังไม่ดีขึ้น และไม่มีนักเรียนเพิ่มขึ้น นั่นก็หมายถึงการปิดฉากอย่างสมบูรณ์ของเทคโนโลยีบูรณาภาพ เป็นเหตุให้เหล่านักเรียนจอมแสบ ไปจนถึงพวกไก่อ่อน ต้องออกโรงปกป้องสถาบันเอาไว้ให้ได้ โดยมี ฟิก หนุ่มมากพรสวรรค์สามารถซ่อมได้ทุกอย่าง และเพื่อนซี้ เหน่ง กับ จ้อน ที่เปรียบดังเป็นมือขวาและซ้าย คอยช่วยเหลือและสนับสนุน และที่ขาดไม่ได้ คือสาวสวยคนเดียวของทีม น้ำหวาน ผู้เป็นขั้วตรงข้ามกับคำว่าซ่อม คือทำให้ทุกอย่างเสีย พังได้อย่างง่ายดาย จนถูกขนานนามว่า น้ำหวาน ลัดวงจร ฟิกแอบชอบน้ำหวานมาก แต่ไม่เคยกล้าเสนอหน้า เพราะเวลาอยู่ใกล้น้ำหวานเขามักจะอายจนไม่กล้าพูดความในใจ แต่ที่น้ำหวานไม่รู้คือ เหตุผลเดียวที่ฟิกอยากให้สถาบันแห่งนี้อยู่รอด ไม่ใช่เพราะรักเทิดทูนสถาบันอะไรเลย แต่ทั้งหมดฟิกทำไปเพราะอยากอยู่ใกล้ ๆ น้ำหวาน จนเรียนจบไปด้วยกัน ถ้าโรงเรียนปิด เขาคงไม่มีโอกาสได้เจอเธออีก แต่ปัญหาเดียวคือ เธอกำลังหลงคบรุ่นพี่ น็อต รุ่นพี่หัวโจกของโรงเรียน ฟิกจะจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างไร การกอบกู้เทคโนโลยีบูรณาภาพก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการแบ่งแยกภายในสถาบัน มีกลิ่นไม่ชอบมาพากล เมื่อ ผอ.บารมี ลูกชายของ อ.ตะวัน บริหารโรงเรียนในแบบขอไปที โดยมีเป้าหมายลับ ๆ ที่จะปล่อยให้สถาบันนี้ถูกปิด เพราะต้องการขายที่ดินเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ก้อนใหญ่ จนกระทั่ง อ.ตะวัน มีปากเสียงกับลูกชาย จนต้องเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ คือ อ.ก้อง ที่ต้องรักษาเทคโนโลยีบูรณาภาพ ไม่ให้ถูกยุบ เป็นอันขาด เรื่องราววุ่น ๆ ในความรักหนุ่มสาวของ ฟิกและน้ำหวาน ก็เริ่มก่อตัวขึ้น พร้อมกับการรวมพลังของเด็กอาชีวะเพื่อปกป้องสถาบัน ก่อนที่เส้นตายจะมาถึง และความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับผู้ตรวจสอบ ก็เริ่มก่อตัวอย่างช้า ๆ จน จนท.ทิพย์ เริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ อ.ก้อง ทำให้เธอคือความรัก หรือเพียงเพราะอยากซื้อใจเธอเพื่อสถาบันคาบเส้นแห่งนี้กันแน่ อ.ก้องจึงต้องพิสูจน์ถึงความจริงใจที่มีให้จนท.ทิพย์ และทำให้ทุกคนเห็นว่าเทคโนโลยีบูรณาภาพ แห่งนี้คู่ควรจะได้ไปต่อ โดยแผนการสุดท้ายที่จะทำให้สถาบันแห่งนี้ มีชื่อเชิดหน้าชูตาในสื่อสังคมได้ คือการลงแข่งขันหุ่นยนต์ชิงแชมป์ระหว่างสถาบันอาชีวะ และโรงเรียนสายสามัญ พวกเขาจะเป็นตัวแทนของการศึกษาวิชาชีพ ที่จะประกาศให้คนทั้งประเทศรู้ว่า อาชีวะก็เจ๋งและมีดีไม่แพ้ใคร ติดตามชมละคร ฝันให้สุด Dream Teen

ไข่มุกมังกรไฟ 2561

ไข่มุกมังกรไฟ (2561/2018) เรย์ (เพื่อน คณิน) ลูกชายบุญธรรมของอลัน เจ้าของไร่ชาชื่อดังที่เบื้องหลังคือพ่อค้ายาเสพติด ต้องขึ้นดูแลสืบทอดธุรกิจค้ายาแทนพ่อที่ถูกโค่นอำนาจจากกลุ่มคู่แข่ง อาหลาง (เดี่ยว สุริยนต์) ลูกชายพ่อค้ายาของ ไป๋หู่ (บี๋ ธีรพงศ์) อาหลางต้องการเป็นหัวหน้ารวบเส้นทางการค้ายาบ้าแถบลุ่มน้ำโขงทั้งหมด แต่เรย์ไม่ยอมให้คู่แค้นสมหวัง สองกลุ่มปะทะกันเพื่อแย่งเส้นทางและลูกค้า อาหลางมุ่งทำร้าย เจนเนตร หรือ เจินลี่จู (วาววา ณิชารีย์) ไข่มุกเม็ดงาม น้องสาวต่างสายเลือดที่เรย์เฝ้าปกป้อง ขณะที่สงครามยาเสพติดกำลังดุเดือด แดนไท (อาโป ณัฐวิญญ์) ศิลปินหนุ่มเข้ามาสร้างมิตรภาพให้กับสองพี่น้องไร่ชา เรย์กับเจนเนตรไม่ระแคะระคายว่าแดนไทคือตำรวจปราบปรามยาเสพติดมือดี ที่ถูกส่งมาฝังตัวเพื่อทำลายขบวนการค้ายานรก ซึ่งหมายถึงการดับชีวิตเรย์ !!! แดนไททำงานท่ามกลางความขัดแย้งในใจ เพราะเจนเนตรสาวสวยดั่งไข่มุกบริสุทธิ์ ทำให้เขาลังเลขณะที่ สารวัตรสาวริมปิง (โบว์ เบญจวรรณ) ผู้กองนักรบ (บอย ภาสกร) นายทหารหนุ่มถูกส่งมาเร่งกวาดล้างกลุ่มค้ายา และ จ่ามะกล่ำ (แจ็ค จักรพันธ์) จ่าจอมกวนเป็นบัดดี้ของแดนไท ทั้งหมดต้องทำงานร่วมกันภายใต้ความร่วมมือของ 5 ชาติเพื่อกวาดล้างยาเสพติดแถบลุ่มน้ำโขง เรย์ปกปิดความจริงเรื่องค้ายาจากน้องสาว เพราะไม่ต้องการให้เจนเนตรมีความผิดไปด้วยแต่การปะทะกับอาหลางบนเรือ ทำให้เจนเนตรรู้ความจริงเรื่องครอบครัวทำผิดกฎหมาย เจนเนตรผิดหวังที่พี่ชายปิดบังเรื่องร้ายแรง แดนไทเป็นคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเจนเนตรและเชื่อมั่นจิตใจงดงามของหญิงสาว ความใกล้ชิดของเจนเนตรกับแดนไททำให้เรย์หึงแทบคลั่ง ทั้งที่เรย์มี ไป่หลิง(ลิตา คาลิยา ) สาวสวยข้างกาย แต่เรย์ไม่ได้รักไป่หลิงเท่ากับที่รักเจนเนตร น้องสาวต่างสายเลือด การแย่งชิงระหว่างเรย์กับอาหลางทวีความรุนแรงเมื่อ จางเกาซิน (อั๋น วิทยา) พ่อแท้ๆของเรย์คอยบงการให้ทวงคืนทุกอย่าง ขณะที่หมิงเต๋อขัดขวางทุกทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ให้เจนเนตร เจนเนตรต้องก้าวสู่วังวนการค้ายาเสพติด โดยมี หมิงเต๋อ (อู๋ ธนากร) เป็นกุนซือคนสำคัญ หนุนหลังการขึ้นครองอำนาจของเจนเนตร เพื่อผลประโยชน์ทั้งหมดและความเป็นหนึ่งเหนือกลุ่มอาหลาง แดนไทต้องปลิดชีวิตคนรักอย่างเจนเนตรทันที เมื่อเจนเนตรขึ้นเป็นผู้นำอาณาจักรยาบ้าสีฟ้าในชื่อ “ไข่มุกมังกร” ไม่เพียงสงครามของพ่อค้ายาที่ร้อนระอุบนเส้นทางบาป ความรักและการทรยศหล่อหลอมให้ไข่มุกงามอย่างเจนเนตรกลายเป็นไข่มุกสีเลือด รอยร้าวของมิตรภาพระหว่างเรย์ และ แดนไททำให้สองมังกรหนุ่มต้องชิงไหวชิงพริบ เข้าห้ำหั่นกันเองด้วยหน้าที่ จุดยืนคนละขั้ว จุดจบของความรัก มิตรภาพ และอำนาจต้องลงเอยด้วยชีวิตของใคร ติดตามชมได้ในละครรักเข้มข้น “ไข่มุกมังกรไฟ”

เรื่อง ลับ หลัง 2561

เรื่อง ลับ หลัง Behind The Sin The Series (2561/2018) เบื้องหน้าคือความสดใสในฐานะกลุ่มซุปตาร์วัยทีนสุดฮอต แต่เบื้องหลังของเหล่านักแสดงวัยรุ่นของซีรีส์ชื่อดัง อย่าง The A List กลับมีความลับดำมืดซ่อนอยู่ เมื่อพวกเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่ทำให้ “เรน” เพื่อนนักแสดงของเรื่องเดียวกันฆ่าตัวตาย โดยอยู่ๆพวกเขาก็ได้รับข้อความจากคนที่แอบอ้างว่าเป็น “เรน” ที่ตายไปแล้ว ส่งข้อความมาขู่ว่า “ถ้าไม่อยากถูกเปิดเผยความลับ ให้ออกมาบอกถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงของเรน” ความกังวลว่าความลับของตนจะถูกเปิดเผยเริ่มก่อตัว ความวุ่นวายในกองถ่ายเริ่มเกิดขึ้น ถี่ขึ้น รุนแรงขึ้น และฉาวโฉ่ขึ้นทุกขณะ ความบาดหมางในหมู่นักแสดงเริ่มปะทุและจวนเจียนจะแตกสลาย เช่นเดียวกับความสงสัยว่าใครกันแน่ที่แอบอ้างเป็นเรน และมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำเช่นนั้น หรือว่าแท้จริงแล้ว การตายของเรนไม่ได้เกิดจากการฆ่าตัวตาย แต่มีคนจงใจให้เธอตาย !

ชะชะช่า ท้ารัก 2561

เรื่องย่อ : ชะชะช่า ท้ารัก (2561/2018) การะเกด กำพร้าแม่มาตั้งแต่สองขวบ เนื่องจากถูกน้าสาวคือ ปานใจ ซึ่งแอบอิจฉาเกลียดชังพี่สาว ปานจิต แม่ของการะเกด มาตั้งแต่ยังสาว มีสาเหตุมาจากรักผู้ชายคนเดียวกันคือ เกริกศักดิ์ พ่อของการะเกด แต่เกริกศักดิ์รักและแต่งงานกับปานจิต ความแค้นสะสมมากขึ้นจนกระทั่งปานใจหาทางฆ่าปานจิตผู้อ่อนแอถึงตายในที่สุด ปานใจใช้เล่ห์มารยาว่าเป็นน้าที่แสนดีและรับใช้เกริกศักดิ์ จนเกริกศักดิ์ใจอ่อนแต่งงานด้วย แต่การแต่งงานไม่ได้ทำให้ปานใจลดความอิจฉาลงได้ เพราะเกริกศักดิ์ทุ่มเทความรักให้การะเกดมากมาย และแม้แต่ กำไลทอง ลูกสาวของปานใจ เกริกศักดิ์ก็ไม่รักเท่าการะเกด มิหนำซ้ำ นคร ข้าราชการรุ่นพี่ กับ นวลน้อย ภรรยา ยังพา สดุดี ลูกชาย นวลปรางค์ ลูกสาว และพิทยา เพื่อนสนิทของสดุดี มาพบปะกัน กินข้าวเพื่อให้สดุดีและการะเกดได้รู้จักกันไว้แต่เล็ก ทั้งยังเมตตาการะเกดด้วยการจับจองตัวไว้เป็นคู่หมั้นของสดุดีอีกด้วย ปรากฏว่าถูกปานใจกีดกันเอาไว้ตลอดเวลา สดุดีซ่อนความแปลกใจไว้ในใจไม่ได้บอกใคร ส่วนกำไลติดเชื้ออิจฉาจากแม่ จำแม่มาบอกกับสดุดี นวลปรางค์ และพิทยา ว่าการะเกดไม่กล้าออกมาเจอผู้คนเพราะติดโรคร้ายจากแม่ ต่อหน้าเกริกศักดิ์ ปานใจทำดีกับการะเกด แต่ลับหลังทารุณโหดร้ายทุบตีการะเกด จนครูมาลาที่บ้านอยู่ใกล้กัน และเป็นครูของปานจิต ปานใจ มาตั้งแต่สมัยยังสาวต้องคอยแอบมาดูแลสอนวิชาร้องเพลงเต้นรำให้กับการะเกด โดยมี อ่ำ เด็กชายรุ่นพี่ที่ได้รับความช่วยเหลือจากปานจิตสมัยยังไม่ได้แต่งงานกับเกริกศักดิ์ มาเป็นเด็กในปกครองของครูมาลาคอยติดตามปกป้องการะเกดเหมือนทาสผู้ซื่อสัตย์ เวลาผ่านไป สดุดีกลับมาจากนอกจบวิชาอาชญาวิทยากลับมาและได้พากันมาที่บ้านของเกริกศักดิ์ ทั้งครอบครัวรวมทั้งพิทยา เพื่อนสนิทของสดุดี ด้วย เพราะหลังจากเรียนจบมาทั้งสองก็ทำงานที่เดียวกัน และในขณะที่สดุดีไปเรียนต่อที่เมืองนอก พิทยาก็คอยดูแลเอาใจนวลปรางค์แทนสดุดีจนทั้งสองคนมีใจให้กัน แต่นวลปรางค์จะไม่ยอมให้พิทยาเอาใจผู้หญิงคนอื่นเลยนอกจากตัวเอง นวลปรางค์หวงพิทยามากเพราะพิทยาเอาใจนวลปรางค์มาตั้งแต่เล็ก ๆ และยอมนวลปรางค์ทุกอย่าง ปานใจบอกทุกคนว่าการะเกดหนีไปเที่ยวกับอ่ำ แต่สดุดีสงสัยจึงออกไปเดินเล่นและได้ยินเสียงเพลงมาจากท้ายคลองจึงพายเรือออกไปพบการะเกดแต่ไม่รู้ว่าเป็นการะเกด ทั้งสองมีปากเสียงกันจนเรือล่ม ทั้งสองต่างว่ายน้ำมาขึ้นฝั่งที่มุมหนึ่งในสวนบ้านเกริกศักดิ์ ทับทิม คนเก่าแก่ของปานใจ เห็นเหตุการณ์จึงรีบไปบอกปานใจมาจัดการ ขณะที่สดุดีพยายามขอโทษและสอบถามว่าเธอคือใคร ปานใจก็เข้ามาและตบหน้าไล่การะเกดโชว์ให้สดุดีเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กสาวจากที่อื่นมาบุกรุก การะเกดจึงหนีไปบ้านครูมาลา สดุดีเก็บความสงสัยแปลกใจไว้เงียบ ๆ ต่อมาความหวาดกลัวว่าสดุดีจะพบกับการะเกดมีมากขึ้นทุกที ทำให้ปานใจและทับทิมช่วยกันทารุณทุบตีการะเกดหนักข้อจนถึงขั้นป่วยและขังเอาไว้ การะเกดจึงหนีออกจากบ้านโดยมีอ่ำเข้าไปช่วย อ่ำพาการะเกดนั่งเรือหนีไปขึ้นที่ท่าน้ำวัดแถวบางปะอินซึ่งมีงานวัดพอดี อ่ำไปชกมวยหาเงิน การะเกดถูกวัยรุ่นไล่จับตัวจึงวิ่งหนีไปชนกลุ่มของ สมหมาย และ แสงจันทร์ ซึ่งเป็นคู่แข่งของวงลูกทุ่ง นายประทีป และนางสิน แสงจันทร์เมื่อเห็นพ่อสนใจการะเกดจึงให้นึกไม่ชอบขี้หน้าและไล่การะเกดไป ทำให้สมหมายเสียดายในความสวยของการะเกดเป็นอย่างมาก การะเกดหนีพวกแก๊งวัยรุ่นที่ไล่จับไปถึงเวทีวงลูกทุ่งของนายประทีปและนางสิน พวกหางเครื่องเข้าใจผิดว่าการะเกดเป็นนักร้องที่มีคนส่งมาให้ประทีปและสิน จึงผลักการะเกดออกมาร้องเพลง การะเกดจึงร้องเพลงด้วยความจำใจ ซึ่งถูกใจคนดูมาก แต่เป็นที่ขัดใจของแสงจันทร์ สมหมายเมื่อเห็นการะเกดบนเวทีก็จำได้ ส่วนแสงจันทร์ให้นึกอิจฉาในความสวยและความสามารถของการะเกด จึงชวนพ่อกลับบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ การะเกดร้องต่อไปเรื่อย ๆ พอร้องเสร็จการะเกดจะหนีออกมาจากคณะดนตรี แต่กลุ่มวัยรุ่นแก๊งเดิมดักรอเล่นงานอีก จึงหนีออกไปนอกถนนพบกับสดุดีที่มางานวันเกิดเพื่อนที่บางปะอินกำลังขับรถกลับบ้านพบเหตุการณ์ลงมาช่วยเหลือ การะเกดพบว่าผู้ที่มาช่วยเหลือคือสดุดี ซึ่งเป็นที่ต้องห้ามจึงวิ่งหนีกลับมาที่วงลูกทุ่งอีกครั้ง พบอ่ำและประทีปและสินกับคณะ ทุกคนเห็นสดุดีตามมาจึงช่วยกันทุบตีสดุดีแล้วพากันขึ้นรถกลับ เกริกศักดิ์กลับจากราชการมาถึงบ้านได้รับข่าวว่าการะเกดหนีตามอ่ำไปจึงเสียใจและไม่เชื่อ ต่อมาปานใจพยายามหาหลักฐานมาบอกว่าการะเกดตายแล้ว เกริกศักดิ์ก็ไม่เชื่อ ยังรอคอยการกลับมาของการะเกดและพยายามติดตามหาการะเกดต่อไป ส่วนทางสดุดีได้รับคำบอกเล่าแบบนี้เช่นกัน ทางด้านการะเกดมาอยู่กับประทีปและสิน กลายเป็นนักร้องนำของวง สองคนรักและรับการะเกดเป็นลูก และบอกกับทุกคนว่าการะเกดคือลูกในไส้ ทำให้พวกหางเครื่องสี่คน คือ เดือนแรม, แจ่มตา, จำปา และ สายสร้อย ไม่พอใจอิจฉาแอบกลั่นแกล้งการะเกดบ่อย ๆ ด้านปานใจพยายามยัดเยียดให้กำไลทองได้เป็นคู่หมั้นของสดุดีแทนเกด ซึ่งนวลปรางค์ก็ยอมรับ แต่กำไลนิสัยไม่ดีและชอบแอบหนีเที่ยวกลางคืนไปตามผับดื่มเหล้ามากอีกด้วย วันหนึ่งมีงานแสง สี เสียง ที่อยุธยามี นายอำเภอสมศักดิ์ เป็นผู้ประสานงาน สดุดีพา ฟรานซิส มาร่วมงานด้วย ครูมาลาเป็นผู้ทำรายการแสง สี เสียง และยังส่งลูกศิษย์ไปร่วมกับคณะลูกทุ่งของประทีป สิน จัดรำวงลูกทุ่งหาเงินเข้าการกุศล สดุดีได้ยินเพลงเดิมที่การะเกดร้องอีกจึงจำได้ รีบไปที่จุดรำวงพบว่าเป็นการะเกด จึงสอบถามได้ความว่าชื่อ แก้วตา เป็นลูกของนายประทีปและนางสิน ฟรานซิสเองเมื่อเห็นการะเกดก็ติดใจในหน้าตาและเสียงร้องของการะเกด ครูมาลามาอีกคนจำการะเกดได้แต่ก็ได้รับคำตอบว่านั่นคือแก้วตาเช่นกัน ส่วนอ่ำรีบซ่อนหน้าไม่ให้ครูเห็น ครูมาลาเข้าใจดีว่านั่นคือการะเกด แต่แกล้งทำเป็นยอมรับและเอ่ยปากฝากฝังประทีปกับสินให้ดูแลการะเกดให้ดีและจะหางานให้ สดุดีไปพบครูมาลาเค้นเอาความจริง ทั้งสองตกลงกันลับ ๆ ว่าจะแอบช่วยเหลือการะเกดให้ได้ดี ดังนั้นแผนการช่วยเหลือการะเกดจึงเริ่มต้นขึ้น สดุดีแกล้งไปที่บ้านเกริกศักดิ์ถามหาการะเกดและรับกำไลไปเที่ยว ส่วนฟรานซิสก็พยายามช่วยลุ้นการะเกดให้มีชื่อเสียงให้ฝึกร้องเพลงดี ๆ โดยให้เจนนิเฟอร์ เพื่อนสาวฝรั่ง แต่ร้องเพลงไทยได้เพราะแม่เป็นคนไทยมาช่วยฝึกการะเกด จนมีงานแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยมีเกริกศักดิ์และนครเป็นผู้จัดงาน สดุดีและครูมาลาจงใจให้การะเกดรำเบิกโรงอวยพร เกริกศักดิ์ซึ่งนั่งดูกับปานใจ กำไล ถึงกับตะลึงแต่เมื่อสอบถามได้ความว่าชื่อแก้วตา ด้านเกริกศักดิ์ยังไม่อยากจะเชื่อถึงกับแอบไปพบการะเกด แต่การะเกดไม่ยอมรับ ปานใจคิดว่าการะเกดต้องปลอมตัวมากลั่นแกล้งจึงหาทางกำจัดการะเกดทุกวิถีทาง โดยให้กล้วย กับทับทิมแอบไปที่บ้านของสินเพื่อสืบเรื่อง อ่ำกลัวทุกคนรู้ความจริงจึงปลอมตัวทำเป็นคนพิการขาเป๋ มือแป ปากเบี้ยว และเปลี่ยนทรงผมจนทุกคนจำไม่ได้ วันหนึ่ง มีการประกวดดนตรีลูกทุ่ง ซึ่งนอกจากคณะของประทีป สิน แล้ว ยังมีคณะของสมหมาย และ แสงจันทร์ เข้าร่วมประกวดด้วย ทั้งสองคณะเขม่นกันตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นประกวด กล้วยและทับทิบให้สี่สาววางยาสลบการะเกด แต่คนที่รับเคราะห์คือแสงจันทร์ เพราะแสงจันทร์ไปดื่มน้ำที่ใส่ยาสลบ พอขึ้นร้องเพลงก็ทำให้หลับกลางเวที ส่วนการะเกดไม่ได้ดื่มน้ำที่วางยาสลบจึงไม่เป็นอะไร แต่แสงจันทร์กลับมองว่าการะเกดกลั่นแกล้ง เมื่อประกาศผลการะเกดได้รางวัลรองชนะเลิศ ทำให้แสงจันทร์ยิ่งเจ็บใจเป็นอย่างมากว่าเป็นเพราะการะเกดทำให้เธอเป็นฝ่ายแพ้ มีคนสนใจการะเกดให้ไปเป็นนักร้องในค่ายกันหลายค่าย โดยการแอบลุ้นของสดุดีซึ่งการะเกดไม่ยอมพูดจาดีด้วย แต่การะเกดก็แปลกใจเสมอว่ามักมีคนมาช่วยอยู่เบื้องหลังหลายเรื่อง การะเกดทำท่าจะชอบพอกับฟรานซิส กำไลมาบอกการะเกดว่าอย่าคิดมาแย่งสดุดีเด็ดขาด ถึงแม้การะเกดจะไม่ยอมรับว่าเป็นการะเกด แต่ทั้งปานใจและกำไลมั่นใจว่าเป็นการะเกดแน่ และพยายามกีดกันไม่ให้เกริกศักดิ์พบการะเกด เกริกศักดิ์ตรอมใจเสียใจเรื่องการะเกดจนล้มป่วย ประทีปและสินเห็นแก่อนาคตของการะเกดอ้อนวอนให้การะเกดไปเข้าค่ายเพลง ในที่สุดการะเกดและแสงจันทร์ก็ได้เป็นนักร้องในค่ายเดียวกัน และเริ่มเป็นที่รู้จักบ้างในฐานะนักร้องคนใหม่ของวงการ ในขณะที่กำลังเริ่มทำเพลงคณะของสินและประทีปกลับย่ำแย่เพราะขาดนักร้องนำอย่างการะเกด และสุขภาพก็เริ่มไม่ดี การเงินจึงขาดแคลน เมื่อการะเกดรู้ข่าวจึงอยากมาช่วยแต่ถูกทัดทาน การะเกดคิดหนักระหว่างบุญคุณกับชื่อเสียงส่วนตัว กำไลเสเพลเที่ยวจนท้องกับ โป้ง เพื่อนในกลุ่มที่เที่ยวด้วยกัน แต่โป้งไม่ยอมรับทำให้กำไลเสียใจมาก ปานใจเมื่อรู้ว่ากำไลท้องจึงพยายามจัดงานหมั้นให้กำไลกับสดุดีโดยเร็วที่สุด การะเกดก็ยึดฟรานซิสไว้เป็นที่พึ่งทำเหมือนว่าเป็นแฟนกัน การะเกดกลับมาเยี่ยมวงดนตรีของประทีป สิน ถึงแม้ถูกสั่งห้ามมาร้องเพลงตามวงเร่แบบนี้อีกการะเกดก็ทำ การะเกดเมื่อรู้ว่ากำไลท้องก็โกรธสดุดีมาก ไม่ฟังเหตุผลและบอกให้สดุดีไปแต่งงานกับกำไลซะ เพราะว่ายังไงกำไลก็เป็นน้องสาวของเธอ ในที่สุดสดุดีก็หมั้นกับกำไล ต่อมาปานใจพยายามจัดการให้สดุดีแต่งงานกับกำไลให้เร็วที่สุดเพราะกำไลเริ่มท้องโต แต่ในขณะที่กำลังจะแต่งงานกันกำไลก็ยังแอบหนีเที่ยว สดุดีจับได้และรู้ว่ากำไลท้องจึงปฏิเสธบ่ายเบี่ยง กำไลก็ออกเที่ยวและกินเหล้าเมาจนในที่สุดรถชนและแท้งลูก โป้งเมื่อรู้ว่ากำไลแท้งลูกจึงสำนึกผิดมาง้อกำไล ทำให้กำไลใจอ่อนเพราะในใจลึก ๆ ของกำไลก็ยังรักโป้งอยู่ สดุดีให้พิทยาช่วยสืบความจริงเรื่องการะเกด และเหตุผลนี้เองพิทยาก็บอกนวลปรางค์ไม่ได้ ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อย ด้วยความที่นวลปรางค์หึงพิทยามาก และไม่อยากให้พิทยาเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหน พิทยาสืบรู้มาว่าวงของการะเกดกำลังแย่ สดุดีจึงแอบช่วยเหลืออีก เกริกศักดิ์ป่วยอยู่ก็เพราะถูกปานใจแอบวางยา เพราะเกริกศักดิ์ออกปากว่าจะยกมรดกให้การะเกดเป็นส่วนใหญ่ ให้กำไลนิดหน่อย และหวังว่าการะเกดต้องกลับมารับมรดกสักวัน เกริกศักดิ์ป่วยหนักเพ้อหาแต่การะเกด สดุดีไปบังคับเอาตัวการะเกดไปเยี่ยมเกริกศักดิ์ที่โรงพยาบาลจนได้ การะเกดรู้ว่าพ่อป่วยมากกำลังจะตายจึงบอกความจริงว่าเธอคือการะเกด เกริกศักดิ์ดีใจและเสียชีวิตในอ้อมแขนของการะเกด เมื่อความจริงปรากฏว่าแก้วตาคือการะเกด ปานใจกับกำไลแค้นมาก นครกับนวลน้อยดีใจจะจัดงานหมั้นให้ การะเกดอนุญาตให้ปานใจและกำไลพักอยู่ที่บ้านเดิม ส่วนตัวเองจะออกไปช่วยวงลูกทุ่งของประทีปและสินต่อไป ฟรานซิสเมื่อรู้ความจริงว่าที่แท้ทั้งสดุดี และการะเกด เป็นคู่หมั้นกันและรักกัน ฟรานซิสจึงตัดใจจากการะเกด และหันไปสนใจแสงจันทร์แทน ส่วนประทีปตายลงเหลือแต่สิน สินจึงไปบอกให้ครูมาลาขอร้องการะเกดให้ยุบวงและกลับไปหาค่ายเพลงที่ติดต่อกลับมาใหม่อีกครั้ง และจะโปรโมตเรื่องราวชีวิตของการะเกดว่าเป็นนักร้องกตัญญู ในที่สุดการะเกดจึงตัดสินใจกลับไปเป็นนักร้องเข้าค่ายเพลงอีกครั้งและเลี้ยงดูสินในฐานะแม่ต่อไป ปานใจกับกำไลยังไม่หายแค้นทำลายชื่อเสียงของการะเกดต่อไป ปล่อยข่าวว่าการะเกดเป็นเมียเช่าฟรานซิส ฟรานซิสต้องไปแก้ข่าวให้ แต่แทนที่จะทำให้การะเกดดับกลับทำให้การะเกดดังมากขึ้น เมื่อออกแสดงคอนเสิร์ตงานแรกการะเกดก็ไดรับการต้อนรับล้นหลามด้วยเพลงนำที่ชื่อว่า ชะชะช่า ท้ารัก ที่แม่การะเกดเคยร้องได้รับการปรับปรุงใหม่ดังระเบิดไปทั่ว ด้านกำไลเมื่อกลับไปคบกับโป้ง โป้งก็สอนให้กำไลรู้จักอภัยและอย่าคิดแค้นเคืองใครอีก กำไลลึก ๆ ก็ยังไม่หายโกรธการะเกดเพราะแม่ปลูกฝังแต่เล็กว่าพ่อรักการะเกดมากกว่า แต่กำไลก็ทำใจไม่ให้ทำร้ายการะเกดอีก และไปเรียนต่อที่เมืองนอกกับโป้ง หลังเวทีคอนเสิร์ตครูมาลามารอพบการะเกด บอกความจริงว่าผู้ที่คอยลุ้นอยู่เบื้องหลังตลอดมาคือสดุดี เพราะเขาสืบจนรู้ว่าการะเกดคือคู่หมั้น การะเกดตกใจและดีใจ การะเกดจะเดินทางไปขอโทษสดุดีแต่ถูกปานใจส่งคนติดตามฆ่า แต่การะเกดก็เอาตัวรอดมาได้เพราะสดุดีรู้เช่นกัน ปานใจถูกจับเข้าคุกฐานฆ่าปานจิตและลอบวางยาพิษใส่ให้เกริกศักดิ์ และพยายามฆ่าการะเกด การะเกดดังไปทั่วมีสดุดีเป็นกำลังใจให้ ติดตามชมละคร ชะชะช่าท้ารัก ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 18.50 น. วันศุกร์ เวลา 18.30 น. และวันเสาร์ เวลา 18.20 น. ทางช่อง 7 ละคร ชะชะช่าท้ารัก เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 21 กันยายน 2561

My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก (2561/2018) ลินิน (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) เด็กสาวยากจนที่มีความสามารถพิเศษในการเอาตัวรอดเป็นเลิศ เพราะต้องหนีเจ้าหนี้ของ ต่วน ผู้เป็นพ่อที่ติดการพนันและขยันสร้างหนี้ จนจับพลัดจับผลูได้รู้จักกับ ภูริ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) หลานชายคนเดียวของ เจ้าสัวพล เจ้าของธุรกิจระดับพันล้าน ทั้งภูริชและลินินมีเหตุการณ์ที่ให้ได้เจอกันแบบไม่ตั้งตัวหลายครั้ง และเป็นเหตุการณ์ที่ภูริชไม่ค่อยประทับใจลินินเท่าไหร่ ลินินบังเอิญได้รู้จักกับ มาร์ค เศรษฐีเพลย์บอย ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นเพื่อนสนิทและหุ้นส่วนของภูริช มาร์คปลื้มในความจริงใจ ตรงไปตรงมา และร่าเริงของลินินตั้งแต่แรกพบ ซึ่งในขณะนั้นเจ้าสัวพล หรือปู่ของภูริช ที่กำลังป่วยหนัก ต้องการพบหน้าหลานสาวที่เกิดจากลูกสาวคนเดียวที่หนีตามคนรักไป จนเสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ที่เมืองจีน ภูริชพยายามตามหาน้องมาตลอดแต่ก็ไม่เจอ จนอาการคุณปู่ทรุดจนหมอบอกว่าหมดทางรอด ภูริชจึงตัดสินใจจ้างวานให้ ลินินเข้ามาสวมรอยเป็นหลานสาวคุณปู่เพื่อปลดล็อกให้คุณปู่ก่อนตาย แล้วปาฏิหาริย์เกิดขึ้น คุณปู่กลับอาการดีวันดีคืนเพราะได้พบลินิน ลินินต้องตกกระไดพลอยโจนย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของภูริช โดยสวมบทบาทเป็นหลานสาวของท่านเจ้าสัวพล ทำให้ โสภิศ อาของภูริข ที่คอยดูแลรับใช้ใกล้ชิดเจ้าสัวพลเกิดไม่พอใจ เพราะในใจลึก ๆ กลัวว่าลินินจะหวังในทรัพย์สมบัติ และด้วยความที่ไม่เชื่อว่าลินินคือหลานสาวที่แท้จริง โสภิศจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางและเปิดโปงลินิน ด้านลินิน ถึงแม้จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแต่ก็อยู่บนความไม่สบายใจ จึงพยายามให้ภูริชหาทางออกในการจบเรื่องโกหกนี้ให้เร็วที่สุด แต่ด้วยความใกล้ชิดลินินก็เกิดตกหลุมรักภูริชเข้าโดยไม่รู้ตัว แต่แล้วเมื่อ เพนนี คนรักเก่าของภูริชหวนกลับมาอีกครั้ง เรื่องราวยุ่ง ๆ จึงเกิดขึ้นระหว่าง มาร์คที่หลงรักลินิน ลินินที่แอบรักภูริช และเพนนีที่ต้องการให้ภูริชกลับมาเป็นคนรักของเธออย่างเดิม เพนนีเริ่มสังเกตเห็นว่าภูริชให้ความสำคัญกับลินินมากกว่าปกติ จนเริ่มสงสัยในความไม่ชอบมาพากลระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งคู่ อย่าพลาดชมความสนุกในซีรีส์ My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก

Kiss Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง (2561/2018) เรื่องราวชวน Kiss ของ 5 สาว พี่น้อง 5 แสนกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง แสนสวย (แป้งโกะ-จินตนัดดา) พี่สาวคนโตสุดของบ้านที่กำลังคิดจะลืม โซ่ (เอิร์ท-พิรพัฒน์) อดีตแฟน แต่อยู่ ๆ ทั้งคู่ก็ดันต้องโคจรกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง และการเจอกันครั้งนี้มันทำให้ทั้งคู่ได้ทบทวนอีกที ว่า คิส !! ครั้งใหม่ จะหวานชื่นเหมือน คิส !! ครั้งเก่าหรือไม่ แสนซน (ต้าเหนิง-กัญญาวีร์) พี่คนรอง กับภารกิจจับเกย์ หมอแมท (ม่อน-ธนัชชัย) ที่กำลังต้องสงสัยว่าแมนหรือเปล่า ? แถมยังสนิทกับเพื่อนชายคนหนึ่งมาก ๆ จนไม่คิดมองผู้หญิงคนไหนเลย แสนซน จึงต้องงัดหลากหลายวิธีมาเพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัด และหลังจากนั้นก็จะต้องทำให้ หมอแมท กลับมาแมนเต็ม 100% ให้ได้ด้วย แค่ คิส !! ก็ไม่ชัวร์แล้วว่าจะสำเร็จตามแผนได้หรือไม่ ? แสนหวาน (ฝน-ศนันธฉัตร) คนน้องรองสุดท้าย สาวแว่นเด็กเรียนผู้ไม่สนใจความรัก ต้องมาเจอกับ หมออาร์ (มาร์ช-จุฑาวุฒิ) ที่มีความจำเป็นต้องขอให้ แสนหวาน มาแกล้งคบด้วย และการเป็นแฟนแบบหลอก ๆ ครั้งนี้ กำลังจะเปลี่ยนแปลงเป็นความจริงได้หรือเปล่า ? จากคนสองคนที่มีความคิดและการใช้ชีวิตต่างกัน จะมี คิส !! ที่เข้ากันได้หรือไม่ ? พีท (เต-ตะวัน) และ เก้า (นิว-ฐิติภูมิ) สองเพื่อนสนิทในปัจจุบัน ที่มีอดีตขัดแย้งกันมาก่อน กำลังคิดปรับจูนความรู้สึก เพื่อหาทางเข้ากันให้ได้ในมหาวิทยาลัย โดยมีแก๊งเพื่อนอย่าง แสนดี (มายด์-ลภัสลัล), ธาดา (เมฆ-จิรกิตติ์) และ จูน (นิกกี้-ณฉัตร) ที่จะต้องเรียนคณะเดียวกันไปตลอด แต่แล้วจู่ ๆ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ พีท และ เก้า คิส !! กันโดยบังเอิญ คราวนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นบวกหรือเป็นลบ ? ต้องมาตามลุ้นกันต่อไปว่า เรื่อง คิส ๆ ของแต่ละคู่จะออกมาเป็นแบบไหน ติดตามได้ในซีรีส์ Kiss Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง

Love Songs Love Series ตอน X Years After คำสัญญา...เพื่อนรัก (2561/2018) การเดินทางกลับบ้านเกิดของ ต้า (ยศวัศ สิทธิวงค์) โจ (ภาวดี คุ้มโชคไพศาล) บี (ศิตา มหารวิเดชากร) เสือ (ธนกร กุลจรัสสมบัติ) และ กอล์ฟ (กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา) กลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเองแล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 10 ปี หลังจากได้รับจดหมายจาก X เพื่อนคนเดียวในกลุ่มที่ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดและได้หายตัวไป ซึ่งในจดหมายมีใจความว่ากลับมาทำตามสัญญาที่เคยให้กัน ต้า โจ บี เสือ และกอล์ฟ สงสัยว่ามันคืออะไร พวกเขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปที่บ้านเกิดของ X เพื่อหาคำตอบแต่พอไปถึงบ้าน X ปรากฏว่า X ไม่ได้อยู่ที่บ้านเดิมแล้ว ภารกิจการตามหา X เริ่มต้นขึ้นซึ่งช่วงระยะเวลาที่พวกเขาตามหา X ก็ทำให้พวกเขาได้ระลึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ทั้งมิตรภาพ ความฝัน และความรัก รวมถึงปมต่างๆ ของแต่ละคนจนทำให้พวกเขาได้รู้ว่าตัวตนจริงๆ ของพวกเขานั้นเป็นอย่างไร สัญญาลึกลับของเพื่อนกลุ่มนี้คืออะไร และพวกเขาจะเจอ X หรือไม่

​ก๊วนสืบหลังเลิกเรียน (2561/2018) การรวมตัวกันของเด็กกลุ่มหนึ่งที่ถูกเด็กส่วนใหญ่ในโรงเรียนมองว่า เป็นพวกส่วนเกิน ขี้แพ้ เป็นตัวประหลาด ภายใต้การดูแลของ "ครูสมาน" ครูวิทยาศาสตร์คนใหม่ของโรงเรียนประถมประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง ได้มารวมตัวกันสร้างมิตรภาพใหม่ด้วยการทำสิ่งดีงาม ช่วยเหลือผู้อื่น และเรียนรู้เข้าใจโลกในแบบที่เด็กทั่วไปคาดไม่ถึง ทั้งการตามหาตัวคนร้ายคดีลักเล็กขโมยน้อยในโรงเรียน ตามหาเด็กที่หายตัวไป ช่วยเหลือครูใหญ่แก้ไขปัญหาที่แม้แต่ผู้ใหญ่ก็คาดไม่ถึง ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้หลักวิทยาศาสตร์และอัจฉริะที่ซ่อนอยู่ในตัวของเหล่าเด็ก ๆ แก๊งนักสืบหลังเลิกเรียน การรวมตัวกันครั้งนี้ ได้ทำให้พวกเขาเห็นคุณค่าในตัวเอง รู้จักการเข้าสังคม และการมองเห็นคุณค่าในตัวเองนั้น ก็ทำให้พวกเขาค่อยๆ มองโลกต่างออกไปจากที่เคยเกลียดชัง วิ่งหนี และขยาดประสบการณ์ กลายเป็นความกล้าหาญ ความรับผิดชอบ และความเมตตา เพราะ "แพ้ ชนะ ไม่สำคัญ... เด็กๆ เติบโตอย่างมั่นคงได้ เพราะรู้คุณค่าในตัวเอง"

แมวของเขาและรักของเรา 2561

MEO Me & You แมวของเขาและรักของเรา (2561/2018) ซีรีส์รักโรแมนติกของสาวน้อยช่างฝันที่อยากเป็นนักเขียนนิยายรัก แต่เสนอเรื่องเท่าไรก็ไม่ผ่านสักที เพราะเธอยังไม่เคยมีความรักจริง ๆ สักครั้ง นอกจากมโนแอบรักข้างเดียวไปวัน ๆ จนวันหนึ่ง เจ้าแมวหลงทาง จะพาเธอไปหลงรัก และได้รู้จักความรักกับเขาสักที แต่บทจะมาก็มาให้เลือกรักถึง 5 คนกับอีก 1 ตัว แล้วนิยายรักเล่มแรก จะเขียนจบลงได้เพราะใคร ?

The Judgement Like… ได้เรื่อง (2561/2018) เรื่องราวของ ลูกแก้ว (มายด์) นิสิตสาววัย 18 ปีที่มีความเพียบพร้อมรอบด้านทั้งเรื่องหน้าตา ความสามารถทางด้านกิจกรรมและการเรียน แต่ชีวิตของเธอกลับต้องมาพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อ อรรธ (ภีม MBO) เพื่อนสนิทผู้ชายที่กำลังตามจีบเธอ แอบมีเพศสัมพันธ์กับเธอในยามที่เธอเมามายไร้สติในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นที่บ้านของอรรธ ด้วยความพลาดพลั้งเล็ก ๆ ในครั้งนั้นมันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อรูปถ่ายที่อรรธแอบถ่ายลูกแก้วเอาไว้ขณะที่เขากำลังแอบลักหลับเธอนั้น ได้หลุดออกมาในโลกโซเชียลมีเดีย ลูกแก้วต้องเผชิญปัญหาอย่างโดดเดี่ยวทั้งการถูก Social Bully โดยคนในมหาวิทยาลัยซึ่งต่างซุบซิบนินทาว่าร้าย โดยนำรูปภาพไปส่งต่อและเอาไปวิจารณ์อย่างเสียหาย โดยไม่ได้มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เธอกำลังตกเป็นเหยื่อ และยิ่งไปกว่านั้นคือคนใกล้ตัวที่กลับตัดสินเธอแบบไม่ได้ฟังความจริงจากปากของเธอ ความผิดพลาดในครั้งนั้นได้เหวี่ยงให้ลูกแก้วพบเจอกับคนที่มีปัญหาคล้าย ๆ กับเธอ ในขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนเลวร้าย ก็มีคนหนึ่งที่เข้ามายื่นมือช่วยเหลือและอยู่เคียงข้าง นั่นคือ อาชา (คชา) เพื่อนร่วมชั้นปีที่แอบชอบเธอ ลูกแก้วจะเรียกร้องความถูกต้องให้กับตัวเองได้หรือไม่ ? แน่นอนว่าหนทางการกลับไปสู่ชีวิตที่ปกติของลูกแก้วและพวกเขา ย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต่างต้องแลกด้วยมิตรภาพ เพื่อน และ น้ำตา และเธอจะหาทางออกกับเรื่องนี้ได้อย่างไร ? คุณเท่านั้น คือผู้ตัดสิน ! ติดตามชม The Judgement (Like…ได้เรื่อง)

Club Friday The Series 9 ตอน รักที่ไม่มีจริง (2561/2018) มัด (รฐา โพธิ์งาม) เป็นลูกสาวที่ไม่ลงรอยกับ ชาติ (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) พ่อของเธอ เพราะชาติมักชอบทำร้าย เล็ก (ปวีณา ชารีฟสกุล) ผู้เป็นแม่มาโดยตลอด มัดจึงเกลียดพ่อฝังใจ ที่ทำร้ายแม่ยังไม่พอ ยังปล่อยให้ ษา (ณัฐภัสสร สิมะเสถียร) เมียน้อยของเขามารังแกแม่ของเธออีก มัดจึงมีปมในใจเกี่ยวกับความเลวร้ายของเพศชายทำให้เธอไม่กล้าที่จะมีความรักกับผู้ชายคนไหน กระทั่งวันหนึ่งมัดเปิดใจที่จะคบกับ เอก (ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์) เป็นครั้งแรก แต่เมื่อคบกันไปไม่นานก็รู้สึกว่าเอกไม่ใช่สำหรับมัด เธอจึงบอกเลิกเพื่อจบความสัมพันธ์ แต่เอกกลับแก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย ทำให้มัดรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองในครั้งนี้ไปตลอดชีวิต เวลาผ่านไป มัดได้เจอกับความรักครั้งใหม่เขาคนนั้นก็คือ ศีล (ธนา สุทธิกมล) ซึ่งความรักในครั้งนี้มัดรู้สึกอยากใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิต แต่แล้วทุกอย่างก็พังลงเพราะศีลมีภรรยาอยู่แล้ว มัดอยู่ในสถานะเมียน้อยแบบไม่รู้ตัวมาโดยตลอด มัดเสียใจมากที่ศีลทิ้งเธอไปแบบไร้เยื่อใย ทำให้ปมเรื่องผู้ชายฝังใจและมุมมองความรักของเธอก็เปลี่ยนไป มัดเริ่มทำตัวไม่มีคุณค่า คบกับใครก็ชิงบอกเลิกก่อน เอาตัวเข้าแลกเงินกับผู้ชายอายุมากกว่าที่เข้ามาดูแลเธอ หลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้ง ทำให้ผู้ชายเหล่านั้นเสียใจ เหมือนกับที่เธออยากจะให้พ่อของเธอได้เจอ มัดคิดแต่ว่าไม่มีความรักไหนที่จะเป็นความจริงสำหรับเธอ เธอจะตัดปมปัญหาเหล่านั้นอย่างไร

The Writers แนวสุดท้าย (2561/2018) ชาคริต (โทนี่ รากแก่น) ถูกส่งมาสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงานในหน่วยสืบราชการลับ เขาได้รับคัดเลือกเนื่องจากเป็นคนที่มีคุณบัติครบถ้วน คือ เขาไม่มีภาระทางครอบครัว ควบคุมอารมณ์และความรู้สึกได้ดี มีความสามารถในการจดจำและใช้ภาษา ชาคริตได้พบกับ ผู้การ (บี๋-ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) ซึ่งผู้การได้พาเขาไปทดสอบและฝึกเพื่อเอาตัวรอดตอนเป็นสายลับ นั่นทำให้ชาคริตรู้จักกับ กานดา (แก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล), หมวดแจ็ค (อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม) และ บุญส่ง (บูม-จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต) พวกเขามีหน้าที่เตรียมข้อมูลและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการออกปฏิบัติหน้าที่ และคอยสนับสนุนช่วยเหลือทุกอย่างที่ชาคริตต้องการ งานแรกที่ ชาคริต ได้รับคือ ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อล้วงความลับจาก กวางอันซู (หลิน-มชณต สุวรรณมาศ) นักเต้นสาวสวย ที่ผู้การสงสัยว่าเป็นสายลับของผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ ชาคริตจึงย้ายเข้าไปอยู่ห้องข้าง ๆ กับกวางอันซู แต่ระหว่างการทำงานชาคริตกลับพบว่า กวางอันซู เป็นเพียงผู้หญิงน่าสงสารที่ต้องยอมทำงานทุกอย่างที่ได้รับคำสั่งมา เพื่อแลกกับชีวิตของผู้ชายที่เธอรักอย่าง เลียวเวียนซาน (ตั๊ก-นภัสกร มิตรธีรโรจน์) ซึ่งถูกจับเป็นนักโทษ กวางอันซู ไว้ใจชาคริต และรู้สึกดีกับชาคริตจนทำให้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง สุดท้ายภารกิจของชาคริตจะดำเนินต่อไปอย่างไร เขาจะเข้าถึงตัว เลียวเวียนซาน ได้หรือไม่ต้องติดตามกันต่อในโปรเจคท์ The Writers เรื่อง แนวสุดท้าย

Bangkok Ghost Stories บ้านเลขที่ 303 2561

Bangkok Ghost Stories บ้านเลขที่ 303 (2561/2018) ทอง ยามหนุ่มที่เพิ่งมาทำงานในหมู่บ้านเพียงไม่กี่วัน ก็ต้องตาต้องใจกับบ้านเศรษฐีเก่าหลังหนึ่ง ที่มีชายชราอาศัยอยู่เพียงลำพัง จนกลางดึก เขาผันตัวเป็นหัวขโมยแอบย่องเข้าไปค้นหาทรัพย์สินของมีค่าหวังจะได้เงินมาง่าย ๆ แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อการก้าวเท้าเข้าสู่บ้านหลังนี้ทำให้เขาได้พบกับความลับสุดโหด ซึ่งใครก็ตามที่ล่วงรู้แล้วจะไม่มีวันได้กลับไปอีก ทองต้องทำทุกวิถีทางให้ตัวเองหลุดพ้นจากสิ่งลึกลับที่พันธนาการเขาไว้บนความเป็นความตาย เพราะทางรอดเดียวคือ ..ต้องหนีออกจากบ้านหลังนี้ให้ได้ ...

Social Death Vote โซเชียล เดธ โหวต (2561/2018) เพราะสิ่งที่เห็น...อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น อย่าติดสินคน เพียงแค่.. ปลายนิ้ว เรื่องราวของวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องกับการใช้โซเชียลในปัจจุบัน โดยมีการก่อตั้ง Facebook Fanpage ที่ใช้ชื่อว่า Sex Vote และได้ทำการเชิญชวนให้เพื่อนทุกคน ผู้คนอีกมากมายให้เข้ามากดติดตาม และร่วมกันโหวตเน็ตไอดอลเด็กมัธยมที่มีข่าวฉาวของแต่ละโรงเรียน โดยผลจากการโหวตจะส่งผลให้ผู้ชนะหรือผู้ที่ถูกโหวตถูกเผยแพร่ภาพลับคลิปหลุดสู่หน้าเพจ Sex Vote ในทุก ๆ หนึ่งสัปดาห์จะมีเด็กนักเรียนมัธยมจากโรงเรียนต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่หน้าตาดีและมีวีรกรรมเด็ด ๆ ที่เป็นที่จับตามองทยอยเรียงคิวกันถูกนำรายชื่อมาโหวตให้โดนแฉเรื่องเซ็กส์ ด้วยภาพหรือคลิปวิดีโอ ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้นั้นไม่มีใครได้รู้ด้วยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของทุกอย่างคือ คิว ชายหนุ่มผู้เก็บงำความแค้นไว้มากมาย จากการที่เขาต้องสูญเสียคนรักไปมันคือ เบสท์ หญิงสาวที่เขาแอบหลงรักได้ฆ่าตัวตาย เพราะมีคนเผยแพร่คลิปฉาวของเธอในโลกออนไลน์ และแชร์ส่งต่อกันไปจนทั่วแบบไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยความแค้นในครั้งนี้ทำให้คิวคิดว่าตัวเองจะต้องออกมาตอบโต้สังคมเพื่อเบสท์ ด้วยวิธีการดังกล่าวคือ การสร้างเพจ Sex Vote คิวได้ทำการวางแผนทุกอย่างไว้ล่วงหน้าเขาใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นานเป็นปี ทั้งศึกษาโลกของอินเตอร์เน็ต ออนไลน์ และรวบรวมข้อมูลภาพลับคลิปหลุด และคลิปฉาวของเหยื่อวัยรุ่นแต่ละราย เมื่อถึงเวลาแผนการทุกอย่างก็เริ่มขึ้น เขาเปิดเสนอรายชื่อให้โหวตในแต่ละสัปดาห์ โดยที่รายชื่อทุกคนนี้ล้วนแล้วแต่มีเรื่องลับ ๆ ฉาว ๆ ที่เคยทำกันไว้ทั้งสิ้นที่เป็นความลับ และยังไม่ถูกเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้เรื่องราวของตัวตนที่แท้จริง คิวใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะเอาคลิป และภาพฉาวพวกนั้นมา สุดท้ายข้อมูลทั้งหมดก็อยู่ในมือของคิวแล้ว โดยที่เขาแค่รอเวลาเปิดคอมพิวเตอร์ ต่ออินเตอร์เน็ต และกดอัปโหลดข้อมูลเหล่านั้นเท่านั้นเอง และนี่คือการแก้แค้นสังคมจากคิว ที่มีผู้ร่วมลงมือช่วยกันโหวต และกดแชร์จากทุกคนในโลกออนไลน์ พวกเขาและเธอจะรอดพ้นจากการถูกพิพากษาโดยศาลสังคม ที่มีผู้ใช้โซเชียลออนไลน์ทุกคนเป็นผู้ตัดสินหรือไม่ บทเรียนของความคึกคะนองขาดสติครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในซีรีส์ Social Death Vote

Bangkok Ghost Stories รถเมล์เที่ยวสุดท้าย 2561

Bangkok Ghost Stories รถเมล์เที่ยวสุดท้าย (2561/2018) นนท์ พนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ ที่ชีวิตต้องวนเวียนอยู่กับการทำงานหนักจนดึกดื่นคืนแล้วคืนเล่า นนท์รู้สึกว่าชีวิตของเขาช่างน่าเบื่อ จืดชืดไร้สีสัน กระทั่งคืนหนึ่งนนท์ก็ได้พบกับหญิงสาวที่เขารู้สึกพิเศษ บนรถเมล์เที่ยวสุดท้าย แม้จะเป็นเพียงการแอบมองเธอข้างเดียว แต่นั่นก็ทำให้ชีวิตของเขามีความสุขมากกว่าเดิม และมันก็มาพร้อมกับจุดเริ่มต้นของเรื่องราวแปลกประหลาด ทุกครั้งที่นนท์ได้พบหญิงสาวลึกลับบนรถประจำทางเที่ยวสุดท้าย เขาจะต้องเผลอหลับไป และตื่นขึ้นมาเมื่อรถเมล์วิ่งสุดสาย พร้อมกับได้พบกับวิญญาณที่ไล่ล่าเขา แม้นนท์จะรู้สึกหวาดกลัวกับวิญญาณที่เขาได้พบบนรถเมล์เที่ยวสุดท้าย แต่นนท์ก็ยังอยากขึ้นรถคันนั้นเพียงเพื่อจะได้พบหญิงสาวลึกลับอีกสักครั้ง แม้มันจะนำมาซึ่งความหวาดผวาก็ตามที...

ตราบาปสีชมพู 2561

ตราบาปสีชมพู (2561/2018) พรรษกร ผู้ชายที่ขาดความรัก เขาเติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่มีพ่อแม่พร้อมหน้า แต่ไม่มีความรักให้แก่กัน เพราะ ศักดินัย พ่อของพรรษกร ถูกบังคับให้แต่งงานกับ พรรณี แม่ของพรรษกร ทั้งที่มีคนรักอยู่แล้วคือ บุญณิสา การแต่งงานโดยไม่มีความรักทำให้ศักดินัยเฉยชากับพรรณี เมื่อมีพรรษกร ศักดินัยก็สนใจแต่งานไม่มีเวลาให้ บวกกับการกระทำของศักดินัยที่ไม่สนใจแม้กระทั่งตอนพรรณีเสียชีวิต เพราะตรอมใจ ทำให้พรรษกรเกลียดพ่อของตัวเอง กลายเป็นผู้ชายแข็งกระด้าง เย็นชา แต่ลึก ๆ ในใจต้องการ ความรัก วันหนึ่ง พรรษกรได้พบกับ กังสดาล หญิงสาวที่เติบโตมากับแม่สองคน แต่หัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยรัก จนเผื่อแผ่ให้กับคนอื่น ๆ ความสดใสของกังสดาล ทำให้หัวใจของพรรษกรอบอุ่น โลกของเขาสว่างไสว อย่างไม่เคยเป็น พรรษกรโกรธและน้อยใจศักดินัย ผู้เป็นพ่อ มาก ตั้งแต่ที่พรรณี ผู้เป็นแม่ ได้ตรอมใจจากไป เพราะความเสียใจที่ศักดินัยไม่เคยรักและใส่ใจเธอเลย จากความโกรธก็เปลี่ยนเป็นความเกลียด เขาพยายามต่อต้านและแสดงออกตรงข้ามกับใจ จนวันหนึ่งศักดินัยก็พาบุญณิสาเข้ามาอยู่ในบ้านพรมพิทักษ์ พร้อมประกาศว่าบุญณิสาคือภรรยาคนใหม่ ที่มาพร้อมกับลูกสาวซึ่งก็คือกังสดาล หากเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาคงไม่รู้สึกอะไร แต่ไม่ใช่สำหรับกังสดาล เพราะเธอคือผู้หญิงที่เขาหลงรักตั้งแต่เจอกันครั้งแรก พรรษกรไม่สามารถรับความจริงได้ว่าผู้หญิงที่เขารัก กลายเป็นลูกสาวของผู้หญิงหิวเงิน พรรษกรผิดหวังและเสียใจมาก จนแสดงท่าทางร้าย ๆ ใส่กังสดาลและบุญณิสาประจำ พรรษกรเจ็บแค้นศักดินัย บุญณิสา และลามมาถึงกังสดาล ความแค้นที่เกิดจากความรัก ทำให้พรรษกรหาทางทำให้กังสดาลอยู่อย่างไม่มีความสุข แต่ทุกครั้งที่พรรษกรหาเรื่องมากลั่นแกล้งกังสดาลและบุญณิสา ก็ยิ่งทำให้มีปัญหากับศักดินัยมากขึ้น จนวันหนึ่งพรรษกรกลั่นแกล้งกังสดาลหนักมาก จนทำให้บุญณิสาช็อกและเข้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นไม่นานบุญณิสาก็เสียชีวิต กังสดาลเสียใจมาก โทษว่าพรรษกรเป็นต้นเหตุ ศักดินัยเสียใจ จนมีปากเสียงกับพรรษกร และเผลอไล่พรรษกรออกจากบ้าน พรรษกรรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้บุญณิสาจากไป แต่ทิฐิในใจจากการที่เห็นศักดินัยเสียใจ จะเป็นจะตายเมื่อบุญณิสาจากไป ผิดกับตอนพรรณีจากไป ศักดินัยไม่แม้แต่จะมาดูใจ ทำให้เขาเกลียดการกระทำของศักดินัยมาก แต่สิ่งที่ทำให้พรรษกรเสียใจมากที่สุดก็คือศักดินัยรับกังสดาลเป็นลูกบุญธรรม จากความรัก กลายเป็นความเกลียด พรรษกรคิดว่ากังสดาลกำลังจะแย่งทุกอย่างไปจากเขา โดยเฉพาะความรักจากพ่อ และที่พ่อไล่เขาออกจากบ้านก็เพราะกังสดาล ผู้หญิงหิวเงินอย่างนั้น ไม่คู่ควรกับความรักของเขา พรรษกรเสียศูนย์กับการกระทำของศักดินัย ไม่สามารถอยู่ที่เมืองไทยได้ เมื่อพ่อไล่เขาก็จะหนี พรรษกรลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อเดินทางไปต่างประเทศ โดยการช่วยเหลือของ ปวีชญา เพื่อนในกลุ่ม ที่แอบรักพรรษกรข้างเดียว ปวีชญาทำทุกอย่างเพื่อให้พรรษกรมีความสุข โดยไม่ใส่ใจ คริส ที่แอบรักปวีชญาอยู่แม้แต่น้อย คริสเห็นปวีชญาสนใจแต่พรรษกร ทำให้เขาอิจฉาพรรษกรอยู่ลึก ๆ แต่ไม่แสดงออกมา คฑา รับรู้ความรู้สึกของเพื่อนทุกคนว่าใครรู้สึกยังไง แต่ไม่พูดออกไป คฑาคอยไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง ระหว่างคริสกับพรรษกรอยู่เสมอ คริสเห็นว่าสิ่งที่พรรษกรทำกับกังสดาลเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่พรรษกรคิดว่าคริสสนใจแต่ความถูกต้อง ไม่สนใจความรู้สึกของเขา ต่างคนต่างมองคนละมุมเท่านั้น แต่ความเป็นเพื่อนก็ยังอยู่ ศักดินัยเสียใจที่ไล่ลูกชายออกจากบ้าน พยายามตามหาแต่ก็ไม่พบ กังสดาลรู้สึกผิดเพราะการที่พรรษกรหายตัวไปเธอเองก็มีส่วนเหมือนกัน แล้ววันหนึ่งกังสดาลมีโอกาสไปเกาหลีในฐานะตัวแทนของคณะ ไปทำการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางอาหาร ที่นั่นกังสดาลได้พบกับพรรษกรกับปวีชญา กังสดาลพยายามปรับความเข้าใจและให้สัญญาว่า ที่เธอยอมเป็นลูกบุญธรรมของศักดินัย เพราะศักดินัยขอร้อง ไม่ได้คิดจะแย่งทุกอย่างไปจากเขา พรรษกรให้โอกาสกังสดาล ทั้งสองมีช่วงเวลาดี ๆ ต่อกัน ความรู้สึกรักของทั้งสองมีมากขึ้น แต่ในทางตรงข้ามปวีชญากลับเกลียดกังสดาลมากขึ้น...ก่อนจากกันพรรษกรฝากบอกศักดินัยว่าไม่ต้องตามหาเขา เมื่อถึงเวลาเขาจะกลับไปเองเมื่อพร้อม ซึ่งศักดินัยก็ทำตามที่พรรษกรบอก คือหยุดตามหาแต่ก็จมอยู่กับความเสียใจ ผ่านไปสี่ปี พรรษกรก็ต้องผิดหวัง เมื่อจู่ ๆ มีข่าวเปิดตัวทายาทพรมพิทักษ์ออกมา ศักดินัยจะประกาศให้กังสดาลได้รับตำแหน่งนี้ พรรษกรคิดว่ากังสดาลโกหก ความเชื่อใจที่มีต่อกังสดาลถูกทำร้ายจนหมดสิ้น ถึงเวลาที่เขาต้องกลับไปทวงทุกอย่างคืน สิ่งที่พรรษกรไม่รู้คือ กังสดาลไม่สบายใจที่ต้องเปิดตัวในฐานะทายาท แต่ที่ทำไปเพราะอยากตอบแทนบุญคุณที่ศักดินัยดูแลเธอแทนบุญณิสา ธีธัช คนสนิทของศักดินัย ก็ให้เหตุผลว่างานของศักดินัยล้นมือ ยิ่งกังสดาลเข้าไปเรียนรู้งานเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งช่วยศักดินัยได้เร็วขึ้น เธอจึงตอบตกลง พรรษกรกลับมาทวงทุกอย่างที่ควรเป็นของตัวเอง ในฐานะพรมพิทักษ์คนหนึ่ง โดยมีปวีชญาอยู่เคียงข้างเขาเสมอ พรรษกรประกาศศึกกับกังสดาลว่าให้แข่งขันในเรื่องการทำงาน ว่าใครเหมาะสมกับตำแหน่งทายาทมากกว่า ศักดินัยไม่พอใจกับการกระทำของพรรษกรที่คอยแต่จะทำร้ายจิตใจกังสดาล แต่กังสดาลทนไหว และอยากจะพิสูจน์ให้พรรษกรเห็นว่าเธอต้องการทำเพื่อศักดินัย ไม่ใช่เพื่อตัวเอง การได้พบกันอีกครั้งระหว่างพรรษกรและกังสดาล กลายเป็นการประกาศสงคราม ที่พรรษกรต้องเก็บความรู้สึกรักเอาไว้ในใจ ถึงแม้จะพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้อย่างมิดชิด แต่ปวีชญาและคริสต่างรู้ว่า พรรษกรรู้สึกอย่างไรกับกังสดาล นั่นยิ่งทำให้ปวีชญาเกลียดกังสดาลมากขึ้น ส่วนคริสกลับคิดว่ากังสดาลเป็นจุดอ่อนของพรรษกร ชวัลภา เพื่อนสนิทของกังสดาล เป็นห่วงกังสดาลมากที่จะต้องรบกับพรรษกรผ่านการทำงาน เพราะกังสดาลเรียนจบด้านคหกรรมมา แต่พรรษกรเรียนจบบริหารโดยตรง แต่กังสดาลบอกว่าไม่ต้องห่วง เธอไม่ยอมแพ้พรรษกรเป็นอันขาด พรรษกรและกังสดาลต่างแข่งขันการทำงาน ต่างคนผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ธีธัชคอยให้คำแนะนำกังสดาลเงียบ ๆ และอีกคนที่คอยช่วยเธอก็คือคริส คริสที่อิจฉาพรรษกรมาก โดยเฉพาะเรื่องปวีชญา คนที่เขาแอบรัก แต่ปวีชญาไม่เคยเห็นเขาในสายตา เพราะรักแต่พรรษกร ปวีชญาทะเลาะกับคริสเพราะพรรษกร จนเกิดการทะเลาะครั้งใหญ่ เกือบจะแตกหักกัน คริสโยนความผิดให้พรรษกร และเขาวางแผนเอาไว้ว่ากังสดาลนี่แหละคือเครื่องมือที่จะทำร้ายพรรษกรได้มากที่สุด รอแค่วันแตกหักเท่านั้น ทางด้านพรรษกรก็มีปวีชญาคอยช่วยอยู่เสมอ ปวีชญาคิดว่าตัวเองมีหวังกับพรรษกร ก็หลอกตัวเองไปวัน ๆ ว่าพรรษกรรัก จนยอมทุ่มเททุกอย่างให้ ผิดกับพรรษกรที่มองปวีชญาเป็นเพียงเพื่อนที่แสนดี ที่พร้อมช่วยเขาเสมอก็แค่นั้น เพราะลึก ๆ แล้วพรรษกรก็ไม่เคยตัดใจจากกังสดาลได้เลย ความรู้สึกรักที่ล้นอกกับความเกลียดที่ครอบคลุมจิตใจพรรษกร ทำให้เขาสับสน การกระทำของพรรษกรบางครั้งก็เต็มไปด้วยความแค้น แต่สุดท้ายก็ห่วงใยกังสดาลเพราะความรัก เมื่อครั้งทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง ความรักที่ตีกับความเกลียด ทำให้เขาเผลอจูบกังสดาล และคนที่เข้ามาเห็นคือศักดินัย ศักดินัยแทบช็อก เมื่อเห็นการกระทำของพรรษกร เพราะเขามีความลับอีกข้อที่ไม่เคยบอกใคร นั่นก็คือกังสดาลเป็นลูกสาวที่แท้จริงของเขาที่เกิดจากบุญณิสาในอดีต เมื่อวันแต่งงานของเขากับพรรณี ศักดินัยหนีออกจากห้องหอไปมีความสัมพันธ์กับบุญณิสา ตราบาปที่เกิดจากความรักที่ผิด ทำให้บุญณิสาทนไม่ได้ หนีศักดินัยไปพร้อมกับลูกในท้อง ศักดินัยให้ธีธัชตามสืบเงียบ ๆ เพราะกลัวว่าถ้าบุญณิสาเจอเขาจะหนีไปอีก จนพรรณีเสียชีวิต เขาถึงปรากฏตัวต่อหน้าบุญณิสาอีกครั้ง แต่บุญณิสาขอร้องไม่อยากให้กังสดาลรู้ว่าศักดินัยเป็นพ่อ ทำให้เขาเก็บความลับนี้เอาไว้ แต่ศักดินัยไม่ยอมให้พี่น้องรักกัน กังสดาลกับพรรษกรจะรักกันไม่ได้

เรื่องย่อ : เสน่ห์นางงิ้ว (2561/2018) คณะงิ้วเหลี่ยนฮัวของ เถ้าแก่เจียง (รับบทโดย มนตรี เจนอักษร) ต้องประสบวิกฤตทางการแสดงอย่างกลางคัน เมื่อนางเอกประจำคณะ ไหมฟ้า (รับบทโดย ศกุนตลา เทียนไพรโรจน์) ขอลาออกเนื่องจากมีปัญหาทะเลาพวิวาทกับ ตรึงจิต (ภัทรวดี ปิ่นทอง) นางรองประจำคณะเรื่องชู้สาว บัว (รับบทโดย ณัฏฐนิชา ดังวัธนาวณิชย์) เด็กสาวประจำคณะเหลี่ยมฮัว ที่ถูกเจียงเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก ดำเกิง (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) ลูกบุญธรรมอีกคนของเจียงไปตามตัวไหมฟ้ากลับมาเล่น แต่กลับถูกไหมฟ้าปฏิเสธอย่างไม่ไยดี เมื่อสถานการณ์ถูกบีบบังคับให้เจียงต้องตัดสินใจ บัว จึงได้จับพลัดจับพลู กลายมาเป็นนางเอกประจำคณะอย่างไม่ได้ตั้งใจ ซินแสหลอ เห็นพรสวรรค์ในตัวของบัวจึงผลักดันให้เธอได้แสดงเป็นนางเอกประจำคณะเหลี่ยมฮัว ชยุติ เกียรติกำจร (รับบทโดย ธีรเดช เมธาวรายุทธ) ชายหนุ่มหน้าตาดี จบจากต่างประเทศ ภายใต้การต้อนรับอย่างอบอุ่นของครอบครัว ไชโย (รับบทโดย ทนงศักดิ์ ศุภการ) พ่อของชยุติ ปัจจุบันรับช่วงต่อดูแลธุรกิจโรงงานน้ำปลาต่อจาก องกงเทียน ผู้ล่วงลับ วลี (รับบทโดย ปรารถนา บรรจงสร้าง) ผู้เป็นแม่ วลัย (รับบทโดย ปาริฉัตร ไพรหิรัญ) มาลัย (รับบทโดย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) ผู้เป็นยาย และ กนกวิภา (รับบทโดย พริมา พันธุ์เจริญ) ผู้เป็นน้องสาวแท้ๆ ครอบครัวชยุติ เป็นคนอวดร่ำอวดรวย เมื่อที่ชยุติเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็จัดงานแถลงข่าวอย่างใหญ่โตให้สมกับเป็นบุตรชายคนเดียวประจำตระกูล ส่วนมาลัย ผู้อาวุโสที่สุดในบ้าน กลับไม่เห็นด้วยกับความฟุ้งเฟ้อสุรุ่ยสุร่าย บัวได้ขึ้นแสดงเป็นครั้งแรก ก็ได้กระแสตอบรับมาเป็นอย่างดี ชุยุติได้พามาลับมาดูการแสดงงิ้วของบัวจนเกิดความประทับใจให้กับเขาเป็นอย่างมากถึงกับวาดรูปของเธอเก็บไว้ส่วนตัว มาลัยก็ชื่นชมที่บัวเป็นนางเอกงิ้วหน้าใหม่ที่แสดงได้ดี ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดี แต่เจียงกลับไม่เห็นด้วยที่บัวขึ้นแสดงงิ้ว ในฐานะที่เป็นเจ้าของคณะจึงสั่งห้ามไม่ให้บัวขึ้นแสดงอีก ครอบครัวของชยุติยกเว้นมาลัย อยากให้ชยุติแต่งงานกับครอบครัวของ ยิ่งจันทร์ (รับบทโดย ฉัตรฑริกา สิทธิพรหม) ซึ่งเป็นสาวไฮโซ แม่ของยิ่งจันทร์คือ แสงเดือน พ่อของเธอคือ ล้วน ซึ่งเป็นครอบครัวของเธอนั้นประสบภาวะวิกฤตด้านการเงินแต่ไม่มีใครรู้ ทั้งสองครอบครัวพยายามยัดเหยียด ยิ่งจันทร์ให้กับชยุติ แต่เขาไม่ได้รักเธอและไม่สามารถที่จะปฏิเสธไปตรงๆได้ ชะตาที่พลิกผันหลังจากที่ไหมฟ้าออกจากคณะเหลี่ยนฮัวของเจียงก็บังเอิญตกเป็นเมียของเสี่ยธานีอย่างไม่ตั้งใจ ไหมฟ้าสบโอกาสจึงตั้งตนเป็นใหญ่ขู่รีดไถคณะเหลี่ยนฮัวเพื่อแก้แค้น เจียงเครียดอย่างหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล สถานการณ์ย้ำแย่จนตัดสินใจจะขายคณะเพื่อนำเงินที่ได้ไปสร้างตัวใหม่ แต่กลับโดนไชโยวางแผนหลอกให้คณะเหลี่ยนฮัวต้องหมดกำลังใจที่จะแสดงงิ้วต่และบีบให้เจียงขายคณะทิ้งแล้วนำที่ดินไปสร้างเรือนหอให้กับชยุติและยิ่งจันทร์ บัวหนีสอบเพื่อมาแสดงงิ้วในวันเปิดบริษัทใหม่ของครอบครัวชยุติแต่บัวปิดบังไม่ให้ใครรู้จนกระทั่งเสร็จงาน กนกวิภาเป็นคนเฉลยความจริงต่อหน้าเจียงและในคณะว่าบัวหนีสอบเพื่อมาแสดงงิ้วเพื่อช่วยเหลือคณะ แต่กลับโดนวลีเซ็นเช็คปลอมมาให้ยิ่งทำให้สถานการณ์ของคณะเข้าขั้นวิกฤต ชยุติถูกครอบครัวสั่งห้ามยุ่งกับคณะงิ้วและบัว ความรักที่เกิดขึ้นของเขาและเธอจะสามารถนำผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ติดตามชมความสนุกเข้มข้นของละคร “เสน่ห์นางงิ้ว”

ปาก (2561/2018) คำแต่ละคำ ที่ออกจาก "ปาก" สามารถมัดใจให้คนรัก หรือทำร้ายให้คนเกลียด หรือก่อให้เกิดการยกย่อง หรือเหยียดหยาม ล้วนเป็นผลลัพธ์ที่ผ่านลมปากของแต่ละคน ทั้งยังเป็นการแสดงตัวตน และบุคลิกลักษณะของคนผู้นั้นได้ชัดเจน แม้ว่าจะเสแสร้งปั้นแต่งสรรหาคำพูดต่าง ๆ ก็สามารถปกปิดได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ผู้หญิงสองคน คนหนึ่งสวย รวย การศึกษาดี มีพร้อมทุกสิ่ง อีกคนดูธรรมดา แต่มีความรู้ ฉลาด สองคนบนความแตกต่างของลมปาก เส้นทางเดินของทั้งสองอยู่บนเส้นขนานที่ไม่น่าจะมาบรรจบพบกันได้ แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง ทำให้ทั้งสองคนมาเกี่ยวพันกัน คนสวย มีเสน่ห์ แต่มีปากเป็นพิษ เลือกโลดแล่นบนเส้นทางบันเทิง และความจอมปลอม ส่วนอีกคนฉลาดเรียนรู้จากพิษของลมปากมาปรับตัวเอง กลายเป็นคนใหม่ที่สร้างเสน่ห์ได้จากปาก และความดีงามในจิตใจ รอย (สายป่าน อภิญญา) ลูกสาวของครอบครัวนักการเมืองท้องถิ่น มีพ่อที่เคยเป็นทนายความชื่อดังประจำจังหวัด และแม่ที่เป็นนายหน้าค้าที่ดิน และเพชร-พลอย เติบโตมาด้วยการตามใจของพ่อ ในขณะที่แม่เลี้ยงดูด้วยการด่าทอ ใช้คำหยาบประชดประชันมาตลอด ใช้คำเรียกว่าอีรอยทุกครั้ง รอยคิดว่าแม่ลำเอียงไม่รักลูกสาว ทำให้รอยกลายเป็นคนที่เก็บกดและมักใช้คำพูดรุนแรงหยาบคาย ชอบดูถูกคนอื่น ชอบเถียงเอาชนะ และให้ความสำคัญกับตัวเองสูง รอยสอบได้ทุนไปเรียนเมืองนอก จึงยกระดับตัวเองกลายเป็นนักเรียนหัวนอก รสนิยมสูง เหยียดคนจนหรือคนนอกกลุ่มที่เธอเห็นว่าเป็นคนละชนชั้นในสังคม เมรัย (แก้ว จริญญา) สาวร่างเล็ก ขาว หน้าตาธรรมดา มาจากครอบครัวข้าราชการที่เรียบง่าย มีฐานะพอสมควร เธอมาทำงานเป็นนักเขียนให้กับบริษัทขายอาหารเสริมของ ตั้ว (แตงโม พงษ์พิสุทธิ์) พี่ชายคนโตของรอย ที่อยู่ประจำจังหวัดเล็ก ๆ ใกล้กรุงเทพฯ เมรัย เป็นคนเรียบร้อย ไม่ชอบเที่ยว ไม่แต่งตัว จนคนอื่นดูว่าเชย ๆ การทำงานในบริษัทของตั้ว สร้างความอึดอัดใจให้กับเมรัยมาก เพราะสังคมของคนทำงานในสำนักงานแห่งนี้คือ สังคมแห่งการพูดจาหยาบคาย ลามก สองแง่สองง่าม ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทุกคนเหมือนอยู่ในสังคมเดียวกัน ชอบสังสรรค์ กินเหล้า เที่ยวกลางคืน ในขณะที่เมรัยตรงกันข้ามกับทุกคน เมรัยก็เหมือนหญิงสาวทั่วไป ที่มีความฝันอยากได้พบกับผู้ชายดี ๆ ในจังหวัดเล็ก ๆ ชานเมืองแห่งนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งเมรัยไม่สบายไปหาหมอที่คลินิก จึงพบกับ หมออุรส (ไผ่ พาทิศ) หมอหนุ่มหน้าตาดี ยังโสด จึงแอบชอบ แต่หมออุรส มาจากครอบครัวดีมีฐานะในกรุงเทพฯ แต่ยังไม่มีวี่แววแต่งงานหรือชอบผู้หญิงคนใดสักที เพราะหมอเป็นคนจุกจิก เลือกมาก กลัวสารพัดว่าการจะเลือกผู้หญิงเป็นภรรยาสักคน จะต้องเป็นผู้หญิงที่ครบเครื่อง สวย เก่ง ครอบครัวดี ฉลาด สามารถพูดจากับเขาทั้งเรื่องการเมือง สังคม และความเป็นไปของโลกได้ และเมื่อหมออุรสได้พบกับรอย ก็รู้สึกประทับใจเพราะตรงสเปกเขาทุกอย่าง ในขณะที่รอยก็เล็งเห็นว่าหมอคือหนึ่งในผู้ชายตัวเลือกที่น่าสนใจ รอยตัดสินใจทุ่มเทบริหารเสน่ห์กับหมออุรส รอยตั้งใจจับหมอให้แต่งงานให้ได้เพื่อต่อชีวิตของรอยให้สุขสบายต่อไป รอยต้องเสแสร้งพูดจาอ่อนหวาน สร้างภาพของผู้หญิงสมัยใหม่ มีความรู้ ฉลาด ตรงสเปกของหมอทุกอย่าง ในขณะที่เมรัยก็ถูก เพยีย (แดง ฉันทนา) แม่ของรอย วางแผนจับคู่กับตั้ว ลูกชายคนโต ที่เมรัยทำงานด้วย โดยจะให้ไปเที่ยวที่เขื่อนที่ ตอง (ตูมตาม ยุทธนา) ลูกชายคนรอง ทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่ตั้วกลับไปชวนเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ไปด้วยหมด รอยขอตามไป และยังชวนหมออุรสไปด้วย เมรัยกลายเป็นคนเดียวที่ไม่เข้าพวกในกลุ่ม เธอต้องอดทนในการท่องเที่ยวครั้งนี้ มีเพียงตองเท่านั้นที่เริ่มให้ความสนใจเมรัย แต่เมรัยก็ตั้งใจจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว และเห็นว่าตองก็คือคนหนึ่งในกลุ่มนี้ ที่มีปากเป็นพิษเช่นกัน เพราะตองเป็นผู้ชายตรง ๆ พูดจาไม่เกรงใจใคร ซึ่งไม่ได้เป็นคุณสมบัติที่เมรัยต้องการ สุดท้าย "ปาก" จะสามารถกำหนดชีวิตคนได้จริงหรือไม่ ชีวิตของผู้หญิงทั้งสองคนอย่าง รอย และ เมรัย ที่มีลมปากแตกต่างกัน จะลงเอยอย่างไร ? ติดตามได้ในละคร ปาก