ใต้ปีกปักษา 2561

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา (2561/2018) สาริศา รับทราบข่าวร้ายของบิดา กัปตันสารัตถ์ ด้วยหัวใจที่แตกสลาย อุบัติเครื่องบินตกกลางทะเลอ่าวไทยคร่าชีวิตบิดาของเธอไปทั้งๆ ที่เขาใกล้จะเกษียณอายุแล้ว สาริศาแค้นใจเพราะงานในวันนั้น พ่อของเธอถูกเรียกตัวด่วนเพื่อไปทำงานแทนกัปตันคนอื่นที่ลางานกะทันหัน เธอลงความเห็นว่ากัปตันคนนั้นคือสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอตาย และเธอจะไม่มีทางให้อภัยเขาเลย

กัปตันวิสสุต เพื่อนสนิทของสารัตถ์เห็นใจกัปตันรุ่นน้องอย่าง อคิน เพราะทันทีที่สาริศารู้ว่าเขาคือคนที่พ่อของเธอไปบินแทนในวันนั้นเธอก็มีอาการปั้นปึงต่อเขาทันที วิสสุตรู้ว่าสารัตถ์พอใจในตัวอคินจนอยากให้มาเป็นลูกเขย เขาจึงพยายามสานต่อเพื่อเปิดโอกาสให้ทำความรู้จักและปรับความเข้าใจกัน เขาจัดการนัดหมายให้อคินช่วยขับรถพาสาริศาไปลอยอังคารเถ้ากระดูกของพ่อ เพราะ ป้าสุมาลี พี่สาวคนเดียวของสารัตถ์ก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดทันทีที่เสร็จงานเผาศพ คืนก่อนที่จะไปลอยอังคาร ก่อนที่สาริศาจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลียทั้งกายและใจ เธอเห็นร่างโปร่งแสงสีขาวของชายหนุ่มในวัย 25 ปีในชุดโบราณที่ดูแปลกตา ชายคนนั้นมองมายังเธอด้วยสายตาที่เศร้าหมอง เขาบอกเธอว่าเขาไม่ใช่พ่อของเธอ เขามาขอให้เธอช่วย .. ก่อนที่เธอจะได้คำตอบว่าเขาคือใคร มาหาเธอทำไม และจะให้ช่วยอะไร ร่างนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อตา ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เธอเห็นเขา เธอยังเห็นชายลึกลับคนนั้นพร้อมเสียงร้องขอคำมั่นสัญญาที่จะช่วย เหลือเขา แต่มีเพียงสาริศาที่เห็นและได้ยิน เธอไม่กล้าบอกให้ ป้านิ่ม แม่บ้านเก่าแก่ที่ดูแลเธอมานานจะรู้เพราะกลัวแม่บ้านสูงวัยจะตกใจ ทันทีที่สาริศาเห็นว่าคนที่วิสสุตส่งมาช่วยขับรถพาเธอไปลอยอังคารเถ้ากระดูกของบิดาคือ อคิน เธอก็ปฏิเสธไม่ยอมรับน้ำใจจากเขา แต่เมื่อเขาเอ่ยคำขอโทษจากใจด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แถมป้านิ่มยังช่วยเร่งให้รีบไป สาริศาจึงไม่มีทางเลือก ตลอดทางแม้จะไม่ได้พูดอะไรกัน แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าสาริศาเศร้าเสียใจแค่ไหน เขาสัญญาในใจ บอกสารัตถ์ว่าเขาจะดูแลสาริศาให้ดีที่สุด และราวกับว่าสารัตถ์จะรับรู้ในคำสัญญานั้น เพราะอคินได้กลิ่นน้ำหอมที่สารัตถ์ใช้เป็นประจำลอยมาแตะจมูกอย่างอ่อนโยน ในพิธีลอยอังคาร อคินช่วยจัดการทุกอย่าง ทั้งเรื่องพิธีการและค่าใช้จ่าย เขาอยู่เคียงข้างหญิงสาวที่ร่ำไห้ด้วยความอาดูร เขายังปลุกปลอบใจให้เธอลุกขึ้นยืน เมื่อตั้งสติได้ สาริศาก็พยายามข่มความไม่พอใจในตัวเขา เพราะเธอคิดว่านับจากนี้เขาและเธอคงไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอคิด ไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเลย สิ่งที่ติดค้างอยู่ในความสงสัยของเธอคือ สาริศาคุ้นกับนัยน์ตาของอคินราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เธอมั่นใจว่าเธอเพิ่งพบกับเขาเป็นครั้งแรกในชีวิตในงานศพของพ่อนั่นเอง หลังงานศพ สาริศาพบเหตุการณ์แปลกๆ หลายครั้ง เธอฝันถึงฉากในสงคราม เสียงปืน เสียงเครื่องบิน และเห็นเงาร่างของใครบางคนที่มาขอให้เธอช่วย ป้านิ่มแนะนำให้เธอทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ใครก็ตามที่ปรากฏร่างให้เธอเห็น .. ในฝันของสาริศา.. ปี ๒๔๘๓ จังหวัดอุดรธานี อนงค์อร เจ็บท้องใกล้คลอด แต่วันนั้นฝูงบินฝรั่งเศสบุกมาทิ้งระเบิดในตัวจังหวัดอุดร แม้ อัศนี อยากจะขึ้นบินขับไล่ข้าศึก แต่เพราะคำขอของภรรยาที่อยากให้เขาเห็นหน้าลูกก่อนออกรบ ทำให้เขาละล้าละลัง ยิ่งอนงค์อรคลอดยากและใช้เวลานานเท่าไหร่ อัศนีก็ยิ่งกระสับกระสาย แต่เมื่อ สันติ เพื่อนทหารสังกัดกองบินเดียวกันมาตามเขาตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เขาก็ไม่ลังเลไปจะออกไปทำหน้าที่ป้องกันชาติ เขาชะงักเมื่อได้ยินเสียงลูกที่เพิ่งคลอดร้องดังออกมาให้ได้ยิน เขาบอกกับ ครูอำนวย ผู้เป็นบิดาว่าเขาจะขอไปทำหน้าที่รับใช้ชาติ แล้วจะกลับมาดูหน้าลูกตามสัญญาที่ให้ไว้กับอนงค์อร เขาไปทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าเขาได้ลูกชาย แต่วันนั้นเครื่องของเขาถูกยิงจนไฟลุก อัศนีถูกยิงที่หัวเข่าและถูกไฟคลอก อาการสาหัสจนต้องส่งเข้ารับการรักษาที่พระนคร สาริศาตกใจตื่น และพบว่าในห้องของเธอ บุรุษลึกลับมาปรากฏตัวในเครื่องแบบนักรบแบบเดียวกับที่เธอเห็นรูปของปู่ของเธอ เขาขอบใจที่เธออุทิศบุญกุศลไปให้ แต่เขาก็ยังร้องขอ เขาขอให้เธอช่วยเอาล็อกเก็ตไปให้เมียของเขาด้วย เขาบอกว่าในอดีตนั้น เขาฝากให้สันติเอาล็อกเก็ตไปให้เมียของเขาถ้าเขาเป็นอะไรไป สันติก็คือปู่ของสาริศานั่นเอง วิญญาณตนนั้นคือเพื่อนของคุณปู่ของเธอ และร้องขอให้เธอค้นหาล็อกเก็ตของเขาเพื่อเอาไปให้อนงค์อร สาริศาพบกับอคินโดยบังเอิญ เมื่อเธอออกมาซื้อของยามพักเที่ยง ส่วนเขามาเฝ้าไข้คุณย่าในโรงพยาบาลที่อยู่แถวนั้น แต่เมื่อเธอเห็นว่าเขามากับ อรนิภา สาวสวยเฉี่ยวบาดตา เธอก็รีบฉุด วีรนุช เพื่อนสนิทให้จากมาทันที วีรนุชสงสัยว่าอคินจะมาชอบเพื่อนสนิทของเธอ อรนิภาเถียงเพื่อนคอเป็นเอ็น แต่วิญญาณของปู่อัศนีก็กระซิบบอกสาริศาว่าเขาก็สงสัยเช่นเดียวกัน สาริศาจึงแอบเถียงปู่อัศนี เพราะเธอคิดว่าอรนิภาเป็นแฟนของอัคนี ยิ่งสาริศาทำบุญตักบาตรให้ปู่อัศนีทุกวัน ก็เหมือนเป็นการเติมพลังให้เขามากขึ้นเท่านั้น วิญญาณของเขามักจะตามติดสาริศาไปในที่ต่างๆ จนเธอเองก็เริ่มเคยชินที่จะมีวิญญาณอยู่ใกล้ตัว วิสสุตและญาดาแวะมาเยี่ยมป้านิ่ม และเพื่อหยั่งเชิงว่าป้านิ่มคิดอย่างไรกับอคิน วิสสุตคิดจะสานสัมพันธ์ให้สารัตถ์ได้อคินมาเป็นลูกเขยของสารัตถ์ ทั้งคู่ดีใจที่ป้านิ่มก็มีท่าทีพอใจในตัวอคินไม่น้อย สิ่งที่น่ากังวลมีเพียงสาริศาเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังคิดว่าอคินเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอสูญเสียพ่อไปอยู่อีกหรือไม่ สาริศาได้พบอคินในยามพักเที่ยงอีกครั้ง เธอเห็นเขารีบร้อนเข้าไปในโรงพยาบาล แต่เธอไม่คิดจะถามไถ่ธุระของเขา และไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีก แต่เขากลับมาปรากฏตัวในขณะที่เธอพักรับประทานอาหารกลางวันอยู่ตามลำพัง เพราะวีรนุชลางานไปสอบสัมภาษณ์ แม้ว่าเธอยินดีที่เพื่อนสนิทจะได้งานใหม่ที่เงินดีขึ้นและตำแหน่งดีขึ้น แต่เธอก็อดใจหาย และเก็บเอาคำแนะนำของอคินที่ยุให้เธอเปิดร้านอาหารตามที่เคยฝันไว้กับพ่อของเธอ ตอนนั้นเธอลืมไปแล้วว่าเธอไม่ชอบหน้าเขา เมื่อเลิกงาน สาริศารีบกลับไปค้นแปลนร้านที่เคยคุยกับพ่อ เสียงของปู่อัศนีบอกให้รู้ว่าแบบนั้นอยู่ที่ไหน แถมยังบอกด้วยว่ากล่องใส่ล็อกเก็ตของปู่นั้นอยู่ที่ใด สาริศาพบทุกอย่างที่ต้องการ เธอมองล็อกเก็ตที่จารึกชื่ออนงค์อร-อัศนีด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมปู่สันติถึงไม่สามารถทำตามที่สัญญากับเพื่อนสนิทได้ ปู่อัศนีย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เขาฝากฝังให้สันติเพื่อนรักส่งล็อกเก็ตที่เขาตั้งใจทำเพื่อรับขวัญลูกชายถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ปู่อัศนีไม่มีรายละเอียดอะไรไม่ได้เลย เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของลูกชาย เพราะปู่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นหน้าลูกที่เพิ่งเกิดมา สาริศาจึงช่วยค้นหาข้อมูลตระกูลของปู่อัศนีด้วยการค้นหาในอินเตอร์เน็ต ปู่อัศนีทึ่งและสนุกไปกับเทคโนโลยีก้าวหน้าของโลกสมัยใหม่ แม้สาริศาจะค้นเจอบันทึกที่เอ่ยถึงวีรกรรมของปู่อัศนี แต่ไม่มีบันทึกไหนที่จะบอกได้เลยว่าภรรยาและบุตรชายของปู่อัศนีนั้นชื่ออะไรและอยู่ที่ไหน สาริศาพยายามค้นหาชื่อและนามสกุลของอนงค์อร แต่ป้านิ่มขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน ป้านิ่มดีใจเมื่อสาริศาบอกเธอว่าเธอคิดจะลาออกจากงานเพื่อมาเปิดร้านอาหารตามที่เคยฝันกับพ่อของเธอ แต่เธอยืนกรานว่าเธอไม่ใช่ทำตามที่อคินแนะนำอย่างที่ป้านิ่มเข้าใจ อคินแวะช่วยหมาที่ถูกรถชนไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์จนทำให้เขามาตามนัดกับสาริศาสายมาก แต่ความโกรธของเธอก็หายไปเมื่อเห็นเสื้อของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด เธอจึงเชื่อในสิ่งที่เขาบอกเธอ เขาบอกป้านิ่มว่าเขาจะมารับสาริศาไปคุยกับผู้รับเหมาและคุยกับเพื่อนของเขาที่เคยเปิดร้านอาหาร สาริศาหาเสื้อของพ่อให้เขาเปลี่ยนก่อนจะขอให้เขาแวะพาเธอไปดูน้องหมาที่เขาช่วยไว้ด้วยความเป็นห่วง อคินรู้สึกพอใจที่สาริศามีน้ำใจและรักสัตว์ สาริศาเองก็ทึ่งที่เห็นน้ำใจที่อ่อนโยนงดงามของเขาที่มีต่อหมาข้างถนน เขาประทับใจเมื่อเธออาสาจะเอามันไปเลี้ยงที่บ้าน สาริศาบอกเขาว่าเธอไม่อยากทำร้านอาหารที่บ้าน เพราะอยากมีความเป็นส่วนตัว เขาจึงเสนอให้ใช้บ้านย่านกลางเมืองของแม่เขาที่ผู้เช่ากำลังจะย้ายออกพอดี เขาพาเธอไปดูและดีใจเมื่อเห็นเธอยิ้มด้วยความถูกใจ แถมยังรับข้อเสนอที่เขาขอเป็นหุ้นส่วนแทนการจ่ายค่าเช่าร้าน ปู่อัศนีมาแสดงความยินดีกับสาริศา ปู่บอกว่าอคินเป็นคนดีจริงๆ แม้จะเห็นด้วยแต่สาริศาก็ยังติดอยู่ที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องเสียพ่อของเธอไป แม้ปู่จะพยายามชี้ให้เห็นว่าอคินคงมีความจำเป็น แต่สาริศาก็ยังไม่พร้อมจะยอมรับ ปู่จึงคิดว่าอนงค์อรคงจะโกรธปู่ที่ไม่รักษาสัญญา ไม่เข้าใจปู่เหมือนที่สาริศาไม่เข้าใจอคินในตอนนี้ สาริศาค้นจนเจอชื่อของอรนิภาที่มีนามสกุลเดียวกับอนงค์อร เธอไม่ลังเลที่จะส่งข้อความไปทาง FB แจ้งความประสงค์ว่าเธอกำลังตามหาคนๆ หนึ่งที่อาจจะเป็นญาติของอรนิภา อรนิภาตอบกลับมาทันทีว่าพร้อมจะช่วย แต่ขอให้เธอส่งข้อมูลมามากกว่านี้ อรนิภารู้จักผู้หญิงที่สาริศากำลังตามหา เพราะอนงค์อรนั้นเป็นคุณย่าใหญ่ของเธอเองแม้เธอจะไม่ใช่สายตรงก็ตาม อรนิภาอยากรู้วัตถุประสงค์ในการตามหาของสาริศาจนแน่ใจก่อนที่จะบอกเรื่องนี้กับสาวแปลกหน้าในโลกออนไลน์คนนี้ สาริศาทุ่มเทเวลาเตรียมร้านจนไม่มีเวลาตามเรื่องของย่าอนงค์อรให้ปู่ สาริศาตัดสินใจถ่ายรูปล็อกเก็ตที่ตอนหลังเธอสวมคล้องคอติดตัวไว้เป็นประจำตามที่ปู่อัศนีบอก แล้วส่งรูปนั้นไปให้อรนิภาดูทางอีเมล์ รายละเอียดในรูปหลายๆ มุมทำให้อรนิภามั่นใจว่านี่เป็นล็อกเก็ตที่เกี่ยวพันกับย่าอนงค์อรของเธอแน่นอน แม้ว่าย่าจะไม่เล่าเรื่องสามีของย่าให้ลูกหลานฟังเพราะมีเรื่องโกรธเคืองที่ผิดสัญญา แต่อรนิภาก็รู้ว่าสามีของคุณย่าใหญ่นั้นชื่ออัศนี เพราะญาติผู้พี่ของเธอที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักบินรบเคยเล่าให้เธอฟังด้วยความชื่นชมในตัวปู่ ความใกล้ชิดสนิทสนมที่ร่วมมือกันสร้างร้านอาหารก่อให้เกิดความผูกพันและความรู้สึกแปลกๆ ในจิตใจของทั้งคู่ แต่สาริศาคิดว่าที่เขามาใกล้ชิดสนิทสนมช่วยเหลือเธอก็เพื่อลบล้างความรู้สึกผิดในใจของ อคิน แต่สำหรับอคินเอง เขาแน่ใจว่าความรู้สึกของหัวใจของเขานั้นชุ่มชื่นเบิกบานเกินปกติธรรมดา อรนิภาแวะเอาของมาให้อคินที่พาสาริศามาตรวจเตรียมร้าน อรนิภาแน่ใจว่าสาริศาที่ติดต่อตามหาคุณย่าใหญ่เป็นคนเดียวกันกับสาริศาที่เป็นหุ้นส่วนร้านของอคินแน่นอน แต่เธอตัดสินใจที่จะยังไม่เปิดเผยตัว เธอแปลกใจไม่น้อยที่เรื่องทุกอย่างวนเวียนใกล้ตัวอย่างน่าแปลกใจ คนที่สาริศาตามหาอยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง เธอแปลกใจที่สาริศาไม่รู้ว่าอคินนั้นนามสกุลเดียวกับคนที่เธอตามหาตัว เมื่ออรนิภาแหย่ว่าหุ้นส่วนร้านอาจจะเปลี่ยนเป็นหุ้นส่วนชีวิต อคินก็เล่าให้เธอฟังว่า เพราะเขาเองทำให้พ่อของสาริศาไปบินแทนจนประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก อรนิภาแย้งว่าอคินมีเหตุจำเป็นจริงๆ เพราะคุณย่าใหญ่ป่วยจนเกือบจะเสียชีวิต ถ้าไม่ใช่อคิน คุณย่าใหญ่ก็อาจจะจากไปแล้วก็ได้ เมื่อเขาแสดงความเห็นใจที่สาริศาลงความเห็นว่าเป็นความผิดของเขา เขาพร้อมจะรองรับอารมณ์ของเธอด้วยความเต็มใจ อรนิภาก็เลยยุให้เลื่อนฐานะจากรองรับอารมณ์ มาเป็นรองรับหัวใจ อคินก็ได้แต่ยิ้มในความคิดของญาติผู้น้อง อรนิภายังไม่อยากจะเผยตัวกับสาริศา เธอจึงรีบปฏิเสธที่จะเข้าไปพบไปรู้จักกับสาริศา เธออ้างกับอคินว่ามีนัด แล้วรีบเผ่นออกไปทันที เธอไม่รู้เลยว่าการปรากฏตัวของเธอ ทำให้สาริศาเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นแฟนของอคิน จนเหม่อลอยเกือบสะดุดล้ม แต่เธอได้สติเมื่อปู่อคินส่งเสียงร้องเตือน ร้านอาหารใกล้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ สาริศาเปิดรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่างๆ และได้ แหวนพลอย สาวน้อยวัยใกล้เคียงกับเธอมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้าน ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระเธอไปได้มาก อคินแวะไปเยี่ยม คุณย่าใหญ่อนงค์อร ในวัยเก้าสิบปีเศษที่โรงพยาบาลอย่างที่เขาทำเป็นกิจวัตร คุณย่าใหญ่เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพราะล้มในขณะเดินมาส่งเขาเพื่อไปบิน จนเป็นเหตุทำให้เขาต้องลางานกะทันหัน และทำให้เที่ยวบินครั้งนั้นกลายเป็นเที่ยวบินสุดท้ายของสารัตถ์ อยุทธ์ นักธุรกิจพ่อของอคินบอกให้ลูกชายรู้ข่าวจาก พล.ท.อิสริยะ ผู้เป็นอาที่เตือนเรื่องมีผู้ก่อการร้ายข้ามชาติแฝงตัวเข้ามาโดยยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ อาจจะเป็นการวางระเบิดหรือจี้เครื่องบิน อาของเขาฝากให้หลานชายระวังตัวมากขึ้น อคินนั่งคุยเป็นเพื่อนคุณย่าใหญ่ด้วยความเอาใจใส่ เขาเล่าเรื่องการเปิดร้านอาหารกับเพื่อน คุณย่าใหญ่อดไม่ได้ที่จะถามว่าหุ้นส่วนร้านเป็นแค่หุ้นส่วนเท่านั้นหรือ เธออยากเห็นหน้าของสาริศา เพราะคุณย่าใหญ่รู้สึกได้ว่าหลานชายใส่ใจกับเพื่อนหญิงที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้านี้มากกว่าธรรมดา และเธอก็อยากให้อคินเป็นฝั่งเป็นฝามีลูกมีหลานให้เธอได้ชื่นชม แต่เพราะอคินฝังใจว่าสาริศาไม่มีทางชอบคนอายุมากกว่าที่เป็นเหตุให้เธอต้องสูญเสียพ่อ ทำให้เขาต้องเบรกตัวเอง แม้จะคิดถึงเธอด้วยความหวานเต็มหัวใจก็ตาม แหวนพลอยโทรหาอคินด้วยความเป็นห่วงเพราะสาริศายังทำงานเพื่อเตรียมเปิดร้านอยู่ตามลำพังแม้จะมืดค่ำแล้วก็ตาม และเธอเห็นผู้ชายมาลับๆ ล่อๆ ไม่น่าไว้วางใจ เธอขอให้อคินรีบไปดูสาริศา ซึ่งชายหนุ่มเองก็แทบจะบึ่งไปทันทีที่รับรู้เรื่องราวน่ากังวลนั้น สาริศารับรู้ถึงความผิดปกติ เธอได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว แถมปู่อัศนียังมาบอกให้เธอรับรู้ว่ามีผู้บุกรุกที่กำลังมุ่งหน้ามาเธอ แม้จะมีวิญญาณของปู่อยู่เป็นเพื่อน แต่สาริศาก็รู้ว่าเธอต้องพึ่งตัวเอง ไม้เบสบอลที่อคินทิ้งไว้ให้เป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวของเธอในยามนี้ เธอหวดเข้าที่หัวของผู้บุกรุกทันที แต่เธอก็สู้แรงของผู้ชายไม่ได้ ไม่นานเธอก็เสียทีตกเป็นเบี้ยล่าง ปากที่ถูกมือหยาบปิดนั้นร้องไม่ออกเมื่อเสื้อของเธอถูกกระชากทิ้ง ปู่อัศนีแค้นใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรสาริศาได้ เมื่อปู่เห็นอคิน ก็รีบส่งเสียงบอกให้เขารู้ว่าสาริศากำลังตกอยู่ในอันตรายบนชั้น 2 อคินไม่มีเวลาคิดว่าเสียงนั้นมาจากไหน ใจเขามุ่งแต่ความปลอดภัยของสาริศาเท่านั้น เขาพุ่งเข้ากระชากร่างของชายแปลกหน้าที่พยายามจะข่มเหงรังแกสาริศา เขากระหน่ำต่อยไม่ยั้งจนสาริศาต้องมาจับแขนเขาดึงเอาไว้ เมื่อเห็นว่าโจรร้ายนั้นแทบจะลงไปกองกับพื้น ตำรวจมารับตัวโจรร้ายไปโรงพัก ส่วนเขารีบพาสาริศาไปรักษาตัวในโรงพยาบาลทันที เขาเจ็บปวดใจเมื่อเห็นสภาพร่างกายที่ถูกทำร้าย เขาอดใจไม่ไหวทีจะดึงร่างที่สั่นเทาด้วยความหวาดกลัวของสาริศามากอดแนบอกเพื่อปลอบใจ เขาสัญญากับเธอว่าจะดูแลปกป้องไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีก เขาพาเธอมาส่งที่บ้านเมื่อเธอมีอาการดีขึ้น แต่เมื่อเขาบอกป้านิ่มที่พร่ำขอบคุณเขาที่ไปช่วยสาริศาว่าเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องดูแล สาริศาก็อึ้งไปด้วยความสะเทือนใจ เธอคิดว่าเขาทำเป็นเพราะหน้าที่ที่ต้องลบล้างความรู้สึกผิดในใจของเขา ส่วนเขาก็ยังคิดว่าเธอคงไม่สนใจผู้ชายที่เป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของพ่อตัวเอง ถึงสาริศาจะมีท่าทีแข็งขืน แต่อคินก็ยืนกรานที่จะตามขึ้นมาดูแลเธอบนห้องของเธอเอง ท่าทีงอนของสาริศาทำให้ปู่อัศนีหัวเราะ อคินได้ยินเสียงแปลกปลอมนั้น เขานึกถึงเสียงลึกลับที่ร้องบอกเขาให้รู้ว่าสาริศาอยู่ที่ไหน เขาแน่ใจว่าสาริศารับรู้ถึงความผิดปกตินี้ด้วย แต่เมื่อเธอไม่พูดอะไร เขาก็เลือกที่จะไม่ถาม สาริศาสงสัยเช่นเดียวกับปู่อัศนีว่าทำไมอคินถึงได้ยินเสียงของปู่ .. เมื่ออาการทางกายของสาริศาดีขึ้น เธอก็ร่ำร้องจะกลับไปทำงานเพื่อเตรียมเปิดร้านอาหาร แต่อคินไม่แน่ใจว่าสาริศาจะลืมภาพเหตุการณ์ร้ายในคืนนั้นได้หรือไม่ เขาจึงพาเธอไปตามลำพัง และก็จริงอย่างที่เขากลัว สาริศาร้องไห้เมื่อเข้าไปในห้องนั้น เธอร้องไห้จนลืมตัวโผเข้าสู่อ้อมอกเขาราวกับยึดเป็นเกราะคุ้มครอง สภาพของหญิงสาวทำให้อคินใจอ่อนยวบ เขาอดใจไม่ไหวที่จูบปลอบประโลมก่อนจะบอกความในใจให้เธอรับรู้ว่าเธอคือผู้ที่ยึดครองพื้นที่ในหัวใจของเขา นับจากนี้เขาจะดูแลหัวใจของเขาให้ดีที่สุด สาริศาหวั่นไหวไปกับคำสารภาพ แต่เมื่อโทรศัพท์จากอรนิภาดังขึ้น ความดีใจของเธอก็วูบดิ่งลง เพราะเธอยังเข้าใจว่าอรนิภาเป็นแฟนของอคิน และเธอไม่กล้าพอที่จะเอ่ยปากถามเขาตรงๆ อรนิภาตัดสินใจเอาภาพถ่ายและข้อความที่สาริศาส่งมาให้เธอนั้นไปให้อคิน เมื่ออคินเห็นเอกสารทุกอย่าง เขามั่นใจว่าเป็นรูปของปู่อัศนี วีรบุรุษในใจของเขาแน่นอน แต่เพราะเขามีภารกิจต้องบินไปต่างประเทศ เขาจึงขอให้อรนิภาไปอธิบายให้สาริศาเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปแก้ความเข้าใจผิดให้สาริศารู้ซะทีว่าอรนิภาไม่ใช่แฟนของเขา สาริศาจำอรนิภาได้ทันทีที่เห็นหน้า อรนิภาซักถามเรื่องราวที่สงสัยจากสาริศา ซึ่งเธอสามารถตอบได้หมดเพราะปู่อัศนีคอยกระซิบบอกข้างหู จนเมื่ออรนิภามั่นใจ เธอจึงเปิดเผยความจริงมากขึ้นกว่าเดิมว่า หลานสายตรงของคุณย่าอนงค์อรก็คืออคินนั่นเอง และอคินก็ไม่ใช่แฟนของอรนิภา แต่เป็นญาติของเธอเอง เธอยังบอกอีกว่าคุณย่าใหญ่ที่สาริศากำลังไม่สบายนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในขณะนี้ ในขณะที่สาริศารู้สึกโล่งเบาสบายใจเมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้เธอกังวลมาตลอด เที่ยวบินที่อคินเป็นกัปตันก็ถูกสลัดอากาศจี้ เขาลงจอดที่สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์และพยายามจะต่อรองกับสลัดอากาศ เขาพยายามที่จะช่วยชีวิตของตัวประกันจนตัวเองถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส สำนึกสุดท้ายก่อนที่เขาจะหมดสติ คือภาพของปู่อัศนีในชุดนักบินรบ เขารู้ทันทีว่าเสียงลึกลับที่คอยช่วยเขาและสานิศาคือเสียงของปู่ วีรบุรุษที่อยู่ในใจเขาตลอดมานั่นเอง ในภวังค์ที่ล่องลอย อคินได้พบและคุยกับปู่อัศนี แต่ปู่บอกให้เขากลับไป ชื่อของสาริศาที่แวบขึ้นมาดึงดูดให้เขาได้สติ จิตของเขาถูกดูดให้กลับเข้าร่าง เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาในห้องพักผู้ป่วย คนแรกที่เขาเห็นก็คือสาริศา เธอบอกว่าเธอบินมาทันทีที่ทราบเรื่อง เขาบอกเธอว่าปู่อัคนีมาช่วยเขาไว้ สาริศาเผลอตัวถามด้วยความประหลาดใจ จนเขาสงสัยว่าเธอรู้จักปู่อัศนีได้อย่างไร สาริศาจึงเล่าเรื่องราวน่าเหลือเชื่อให้เขาฟังจนหมด ปู่อัศนีส่งเสียงทักทายหลานชายและสาริศาเมื่อเธอเล่าจบ ปู่ฝากให้อคินไปบอกย่าอนงค์อรว่าปู่เสียใจที่ผิดสัญญา แต่หวังว่าย่าจะให้อภัยเพราะปู่มีหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง อคินรีบบอกปู่ว่าย่าไม่เคยลืมปู่เลยแม้แต่วันเดียว แต่เพราะเสียใจมากจึงไม่เอ่ยเล่าเรื่องราวของปู่ให้ลูกหลานฟัง มีแต่ทวดที่แอบเล่าด้วยความภาคภูมิใจในตัวของลูกเขยวีรบุรุษ จนเขาเองก็อยากเป็นนักบินรบเหมือนปู่ ปู่อัคนีปลอบใจอคินว่าถึงไม่ได้เป็นนักบินรบเพื่อชาติ แต่อคินก็เป็นวีรบุรุษเช่นกัน เพราะเขากล้าที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตของคนอื่น ในวันที่สาริศาและอคินเดินทางกลับเมืองไทย เธอรู้สึกตื้นตันที่เห็นเขาได้รับการต้อนรับในฐานะวีรบุรุษ แต่งานของเธอยังไม่เสร็จสิ้น เธอต้องรีบทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับปู่อัคนี เพราะเวลาของปู่เหลือน้อยลงไปทุกที สาริศาและอคินตรงไปหาคุณย่าใหญ่อนงค์อรที่โรงพยาบาลทันทีที่ถึงเมืองไทย ปู่อัคนีปรากฏร่างให้ทุกคนเห็น ทั้งย่าอนงค์อร อยุทธ์ อคินและสาริศา ปู่ขอโทษที่ทำให้ย่าเสียใจเพราะไม่สามารถรักษาคำพูดที่จะอยู่รอดูหน้าลูกก่อนออกไปรบ สาริศาส่งล็อกเก็ตให้ย่าอนงค์อรเปิดออกดูก่อนจะส่งต่อให้อยุทธ์ อยุทธ์บอกกับร่างของพ่อที่เขาเพิ่งได้เห็นหน้าเป็นครั้งแรก ว่าพ่อเป็นวีรบุรุษในใจของเขาตลอดมา ปู่อัคนีบอกให้อนงค์อรอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลาน และไม่ต้องรีบร้อนตามเขามา ถ้าเธอจะอยู่รอจนกว่าจะได้เห็นเหลนก็ยังไม่สาย ปู่อัคนีจากไปอย่างสบายใจเมื่อได้ปลดเปลื้องสิ่งที่ตกค้างในใจมาเนิ่นนาน ย่าอนงค์อรจึงตัดสินใจบอกความจริงแก่อคินว่าจริงๆ แล้วเขาสอบติดโรงเรียนเตรียมทหารอย่างที่เขาตั้งใจ แต่ย่าเองที่บอกให้อาของเขาเอาชื่อของอคินออก เพราะไม่ต้องการให้หลานเสี่ยงอันตรายกับการเป็นนักบินรบเหมือนปู่อัคนี ย่าไม่ต้องการเสียเขาไปอย่างที่เธอสูญเสียสามี แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอไม่มีสิทธิไปบงการชีวิตของคนอื่น ย่าขอโทษหลานด้วยความเสียใจ แต่อคินบอกว่าเขาไม่โกรธย่าเลยเพราะรู้ดีว่าย่ารักเขา สาริศารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นชุดที่อคินส่งมาให้เธอสวมไปงานวันเปิดร้าน เพราะชุดนั้นสวยมากจนเธอเกรงว่าจะสวยเกินไปที่จะเป็นชุดฉลองเปิดร้านใหม่ แต่เมื่อเธอเห็นชุดหล่อของเขา รวมทั้งชุดของบรรดาแขกเหรื่อในงาน เธอก็เริ่มตะหงิดใจสงสัย และแล้วความสงสัยของเธอก็เริ่มเป็นจริง เมื่ออคินเอ่ยปากขอเธอแต่งงาน งานเปิดร้านอาหารของเธอกลายเป็นงานแต่งงานของเธอโดยที่เธอไม่รู้มาก่อน สาริศาตอบรับคำขอแต่งงานของวีรบุรุษของเธอด้วยความเต็มใจ เมื่อเขาสวมแหวนให้เธอนั้น เธอก็ได้ยินเสียงอวยพรกระซิบข้างหู เสียงที่เธอไม่มีวันลืมและโหยหาที่จะได้ยินมาตลอด เสียงพ่อของเธอนั่นเอง พ่อมาปรากฏตัวให้เธอเห็นในวันที่เขาหมดห่วง นั่นคือวันที่สาริศาลงเอยกับอคิน ชายหนุ่มที่สารัตถ์มุ่งมาดอยากจะให้มาเป็นเขยนั่นเอง.

ดู My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา (2561) ch3plus
ชื่อไทย : ใต้ปีกปักษา

ชื่ออังกฤษ :
ละครช่อง : ช่อง 3
บทประพันธ์ : นภสร
บทโทรทัศน์ : ทิพย์สุดา
กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
แสดงนำ : หลุยส์ สก๊อต, มทิรา ตันติประสุต
ออกอากาศ : 4 – 19 สิงหาคม 2561
วัน/เวลาออกอากาศ : ศุกร์ 20.00 – 20.15 น. , 20.45 – 23.00 น. , เสาร์ – อาทิตย์ 20.15 – 22.45 น.
จำนวนตอน :
ความยาวตอน :
เรทละคร :
เป็นคนแรกที่รีวิว “My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

หลุยส์ สก๊อต

กัปตัน อคิน นพประสิทธิ์

แยม มทิรา ตันติประสุต

สาริศา พงศ์บุญยภา (ริศา)

โอ๊ต วรวุฒิ นิยมทรัพย์

อัศนี ภักดีณรงค์

จอย รินลณี ศรีเพ็ญ

อนงค์อร สิริปัญญา / เอมอร นพประสิทธิ์ (วัยสาว)

อั๋น วิทยา วสุไกรไพศาล

สันติ พงศ์บุญยภา

มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา

อรนิภา สิริปัญญา (อร)

พิศมัย วิไลศักดิ์

เอมอร นพประสิทธิ์ / อนงค์อร สิริปัญญา (วัยชรา)

ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี

สุมาลี (ป้านิ่ม)

เดวิด ชัชวาลย์ อัศวนนท์

เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ ซาลองยาน (มิสเตอร์เอฟ)

ต้อม พลวัฒน์ มนูประเสริฐ

อยุทธ์ นพประสิทธิ์ (ยุทธ์)

นก สินจัย เปล่งพานิช

ครูจันทรา ชลวัฒนะ (รับเชิญ)

กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี

กัปตัน สารัตถ์ พงศ์บุญยภา (พ่อของสาริศา) (รับเชิญ)

บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์

พันตรี เตชัส เบเนดิกต์ วสุธรไพศาล (เบน) (รับเชิญ)

เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์

พัสกร วิริยะกาญจน์ (พัส) (รับเชิญ)

เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์

โขง ธรรมดี (รับเชิญ)

ท็อป จรณ โสรัตน์

อิสระ รัชชพลกุล (อิสร์) (รับเชิญ)

ชิปปี้ ศิรินทร์ ปรีดียานนท์

อวัศยา เรืองฤทธิกุล / อวัศยา วสุธรไพศาล (หมอก) (รับเชิญ)

ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์

ป้านิด (ผู้ช่วยของครูจันทรา) (รับเชิญ)

วิชาญ มีสม (จอห์น บราโว่)

สมุนของมิสเตอร์เอฟ (รับเชิญ)

โอม คณิน สแตนลีย์

พันตรี นายแพทย์ อดิศักดิ์ บูรณดำรงค์ (ติ) (รับเชิญ)

ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี

ท่านทูตอังคาร สิริปัญญา (ท่านทูตไทยประจำประเทศอินดานา,พ่อของอรนิภา) (รับเชิญ)

ฮีน ศศิธร พานิชนก

สเตฟานี (ผู้ตรวจสอบการทุจริตในองค์กรประจำประเทศอินดานา) (รับเชิญ)

จิราภา จิตร์ระเบียบ

อังคณา พงศ์บุญยภา (วัยสาว,น้องสาวของสันติ) (รับเชิญ)

แค็ทเทอร์รีน จันทรวิสูตร

สาริศา (วัยเด็ก) (รับเชิญ)

กํากับการแสดง

นักเขียน

นภสร

บทประพันธ์

ทิพย์สุดา

บทโทรทัศน์

โปรดักชั่น