Bangkok รัก Stories ตอน อ้าวเฮ้ย (2561/2018) เบล (กิ๊บซี่ วนิดา) สาวไฮโซจอมบงการแห่งย่านอารีย์ เชื่อมั่นในฝีมือทำอาหารของ คราม (ฮั่น อิสริยะ) แฟนหนุ่มที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม จึงผลักดันให้ครามเปิดร้านอาหารของตัวเอง แต่เมื่อทั้งคู่กลายเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ความวิบัติจึงบังเกิด เมื่อเบลบังคับให้ครามทำอาหารแบบไทยฟิวชั่น ทั้งที่ครามอยากเปิดร้านอาหารไทยชาววัง เพื่อทำอาหารสูตรคุณแม่ เบลโกรธจนถอนตัวออกจากทั้งเรื่องรักและเรื่องร้าน แถมเปิดร้านอาหารใหม่ติดกันกับร้านของคราม เพื่อเปิดศึกกับคนที่เธออยากเลิกรัก แต่กลับหยุดไม่ได้สักที สงครามเผ็ด-มัน-ฮา เคล้าความอร่อยของอาหารหลากสไตล์ จึงปะทุขึ้นกลางอารีย์ โดยแต่ละฝ่าย มีทั้งตัวช่วยและตัวถ่วง ไม่ว่าจะเป็น อาเธอร์ (คชา นนทนันท์) เชฟหนุ่มที่จบจากสถาบันอาหารระดับโลกของฝรั่งเศส ผู้หลงรักเบลและเดินตามต้อย ๆ ตั้งแต่เป็นเบบี๋, มิว (เมโกะ ชนนิกานต์) สาวห้าวที่เสนอตัวมาเป็นเด็กฝึกงานร้านคราม ที่ดูเหมือนมีจุดมุ่งหมายมากกว่าเรียนรู้เรื่องธุรกิจ, แบร์รี่ (แซม ศุภกร) เกย์หนุ่มเพื่อนซี้ของเบล ที่รักเพื่อนดั่งดวงใจ แต่เหมือนจะมีใจให้กับคนที่เพื่อนรักซะด้วย สมเกียรติ (เชน อัฒรุต) และ องอาจ (เอิร์ธ ธวัช) สองหนุ่มสุดเนิร์ดที่คิดว่าตัวเองเก๋า ชอบมีคำแนะนำที่คิดว่าดีมากให้เพื่อนอย่างครามเสมอ, คุณหญิงรัชชูวงศ์ (ต่าย เพ็ญพักตร์) คุณแม่ของเบล ที่ไม่อยากเห็นลูกลงเอยกับคนที่ไม่มีความทะเยอทะยานอย่างคราม และ คุณพ่อคราม (สุเมธ องอาจ) หนุ่มใหญ่เจ้าของอู่รถวินเทจ ที่พยายามปลูกต้นรักกับคุณหญิง โดยไม่ให้เธอรู้ว่าเขาคือพ่อของคนที่เธอไม่อยากได้เป็นลูกเขย เมื่อปากบอกว่าขอเลิกรัก แต่หัวใจมันไม่ฟัง ใครจะพัง ใครจะชนะ ในศึกแห่งความรักและความอร่อยกลางอารีย์ครั้งนี้ ติดตามชมกันต่อได้ในละคร Bangkok รัก Stories ตอน อ้าวเฮ้ย

Bangkok รัก Stories ตอน ไม่เดียงสา (2561/2018) คลอเดีย (แตงโม นิดา) แม่ค้าส้มตำ แซ่บเลียสาก ในซอยคอนแวนต์ เกิดเปิดใจให้กับ เจซี (วิน กวิน) หนุ่มน้อยฟรีรันนิ่งจอมซ่า ที่กำลังรอให้แฟนสาวจากขอนแก่นย้ายมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ขณะที่ แดนนี่ (ปอนด์ พลวิชญ์) อาตี๋สุดคิวต์แดนลอดช่อง ถูกจู่โจมโดย อีฟ (แพรว นฤภรกมล) สาวออฟฟิศจอมโก๊ะ ที่ลงทุนแปลงร่างเป็นสาวบาร์ญี่ปุ่น เพื่อภารกิจกระชากแดนนี่ให้หลุดจากปมรักเก่าที่มีกับ หลิน (กุ๊กไก่ ภาวดี) สาวบาร์ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ส่วนอีกมุมของสีลม สาวใหญ่ไฮโซสายเปย์ เจนนิสตา (นิกกี้ นิโคล) เตรียมฮุบกายและใจของ คีตัน (แม็กซ์ ณัฐพล) เทรนเนอร์หนุ่มซิกแพกแน่น ที่กำลังถูกล่าโดย ไซม่อน (เท็น ทศทิศ) เกมดีไซเนอร์หนุ่มสายจู่โจมที่เพิ่งกลับมาจากซานฟรานซิสโกเพื่อมาอยู่กับ แม่ (ต๊งเหน่ง รัดเกล้า) ที่เป็นอัลไซเมอร์ โดยมีเพื่อนสาว เม็ดนุ่น (ก๊อตจิ เทยเที่ยวไทย) เป็นผู้คอยชักใยและชี้นำ ร่วมแจมความแซ่บด้วย เดียร์ (เกรซ นวรัตน์) ในบทเพื่อนเก่าที่เปลี่ยนไป และขอแนะนำ เทียร่า ธีระ ตุ๊ดไซซ์ใหญ่หัวใจสะออน ในบทน้องร่วมสาบานของเจ๊คลอเดีย รักแบบไหนก็ไม่ยากไปกว่า รักคนที่ไม่ลืมรักเก่า จะเจนจัดหรือไม่เดียงสาก็มีสิทธิ์เจ็บเท่ากัน ในบททดสอบความรักกลางสีลมครั้งนี้ใน Bangkok รัก Stories ตอน ไม่เดียงสา

ยุทธการปราบนางมาร (2561/2018) รัมภาภัสร์ ชื่อของเธอแปลว่า "นางฟ้า" แต่ในชีวิตจริงเธอคือ "นางมาร" รัมภาภัสร์ หรือ รัมภา (ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) บอสสาวสวยที่รับหน้าที่บริหารบริษัทภาพยนตร์ไทย ผู้ผลิตภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ แทน รณชัย (พีท ทองเจือ) ผู้เป็นพ่อของเธอที่ล้มป่วยกะทันหัน รัมภาภัสร์ มีนิสัยขี้เหวี่ยง ขี้วีน พร้อมจะปรี๊ด อารมณ์เสียได้ตลอดเวลา ทำให้เธอเปลี่ยนเลขาอยู่บ่อย ๆ แล้ววันหนึ่ง ยุทธการ (เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) ที่กำลังมีปัญหาเรื่องเงินอย่างหนัก ก็ได้รับการติดต่อให้มาสมัครเป็นเลขาของรัมภาภัสร์ ซึ่งยุทธการเห็นว่าเป็นช่องทางที่ดีที่จะได้เงินมาใช้หนี้จึงไปสมัครและสัมภาษณ์งานนี้กับรัมภาภัสร์โดยตรง ด้วยความละเอียดรอบครอบไหวพริบดีและยังสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่าง ๆ ได้ดี รัมภาภัสร์จึงรับยุทธการเข้าทำงาน และรัมภาภัสร์ก็คิดว่ายุทธการเป็นเกย์แน่นอน และไม่เคยถามให้ชัดเจน จึงเรียกเขาว่า ยุตตี้ หลังจากยุทธการเข้ามาทำงานได้ไม่นาน บริษัทของรัมภาภัสร์ก็ได้รับมอบหมายให้ทำโปรเจกต์ใหญ่นั่นคือ ทำหนังเรื่อง แบดกาย โดยมีบริษัท สยามภาพยนตร์ ของ แฟรงค์ (เดวิด อัศวนนท์) เป็นคู่แข่ง ซึ่งแฟรงค์พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมต่าง ๆ และหาวิธีเพื่อทำลายการทำงานของรัมภาภัสร์ตลอด การทำหนังเริ่มต้นขึ้น โดยอุปสรรคด่านแรกของรัมภาภัสร์คือนายทุนต้องการ ไซม่อน (ซัน-ประชากร ปิยะสกุลแก้ว) พระเอกลูกครึ่งไทยฮ่องกงมาเล่นเป็นพระเอก ทั้งบริษัทของแฟรงค์และรัมภาภัสร์ต่างก็พยายามเจรจากับไซม่อนเพื่อชิงตัวเขามาเป็นพระเอกให้ได้ เพื่อชัยชนะในด่านแรกยุทธการก็ได้แนะนำให้รัมภาภัสร์ไปขอความช่วยเหลือจาก ปภาดา (นารา เทพนุภา) ลูกสาวของ ปวีดา (เข็ม-ลภัสสรดา ช่วยเกื้อ) ภรรยาใหม่ของ รณชัย ซึ่งแม้ว่ารัมภาภัสร์จะไม่ชอบสองแม่ลูกนี้แค่ไหน แต่เพื่องานรัมภาภัสร์ก็ยอมทำตามที่ยุทธการบอก จนไซม่อนยอมตกลงเป็นพระเอกในหนังให้บริษัทของเธอ ระหว่างการถ่ายทำหนังก็เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้นมากมาย แต่ทุกครั้งยุทธการก็สามารถยื่นมือเข้ามาช่วยรัมภาภัสร์แก้ไขได้เกือบทุกครั้ง และด้วยความใกล้ชิดกันก็ทำให้ทั้งคู่เริ่มหวั่นไหวต่อกัน แต่จู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อรัมภาภัสร์จับได้ว่ายุทธการปิดบังความจริงบางอย่างแถมยังมาหลอกให้เธอรักและเชื่อใจทำให้รัมภาภัสร์เสียใจมาก ห้ามให้ยุทธการเข้ามาในออฟฟิศอีก และลงโฆษณาประจานว่าเขาคือคนหลอกลวงต้มตุ๋น ยุทธการพยายามชี้แจงแต่รัมภาภัสร์ไม่ยอม สุดท้ายเรื่องราวจะจบลงอย่างไร จากเลขาจะกลายเป็นคนรู้ใจได้หรือไม่ แล้วยุทธการจะปราบนางมารร้ายอย่างรัมภาภัสร์ ให้กลายเป็นนางฟ้าได้ด้วยวิธีไหน ติดตามชมกันต่อได้ในละคร ยุทธการปราบนางมาร

คุณพ่อจอมซ่าส์ (2561/2018) พันอินทร์ (วิลลี่ แมคอินทอช) ไบค์เกอร์สุดซ่า หนุ่มหล่อ เพลย์บอย ผู้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข คบผู้หญิงแบบไร้ข้อผูกมัด และไม่มีทีท่าจะผูกพันกับใคร ท่ามกลางความระอาของครอบครัว ที่ต้องการให้ลงหลักปักฐานเสียที จู่ ๆ โลกทั้งใบของพันอินทร์ต้องพลิกกลับ ด้วยการมาปรากฏตัวของ แสนแก้ว (ลิลลี่-ณิชภาลักษณ์ ทองคำ) ไอ้หนูวัย 16 ปี ที่หน้าตาเหมือนพันอินทร์เป๊ะทุกองศา แบบไม่ต้องสืบว่าลูกใคร แสนแก้ว แสดงตัวเป็นหนุ่มน้อยวัยใสที่มาตามหาพ่อ ที่ไข่ทิ้งไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว พันอินทร์แทบจะไม่มีความทรงจำอะไรเหลืออยู่ว่าเขาไปทำสาวที่ไหนท้องมาก่อน หลังจากใช้เวลาเรียบเรียงอดีต เขาพบว่า เขาได้กับ ทิพย์เกสร (ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์) สาวชาวบ้านแสนสวยสุดซื่อ ในขณะที่ไปออกค่ายกิจกรรมระหว่างเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยเมื่ออายุเพียง 18 ปี แต่นั่นมันเป็นเพียงความรักความใคร่ชั่วครู่ชั่วยามในสมัยเด็กของเขา ใครจะไปคาดคิดว่าจะเปิดปุ๊บติดปั๊บได้เร็วจากการมีความสัมพันธ์กันเพียงไม่กี่ครั้ง และทำไมไม่เคยมีการติดต่อให้ได้รับรู้มาก่อน ชีวิตของพันอินทร์ หนุ่มโสดจอมซ่า กลายเป็นคุณพ่อแมวเซา ด้วยโดนลูกสุดที่รักที่เพิ่งโผล่มาคอยตามติดสารพัดจนไม่มีเวลาไปแสวงหาความสุขจากบรรดาผู้หญิงในลิสต์ได้สักคน แถมยังต้องคอยคิดว่าจะทำตัวแมนอย่างไร ให้เป็นตัวอย่างให้ลูก เพราะจากบุคลิกภาพของแสนแก้ว สภาพความนุ่มนิ่มคล้ายกับจะโอนเอียงไปทางตุ๊ด เหรือเกย์มากกว่าเด็กผู้ชาย หารู้ไม่ว่า ความจริงแล้ว แสนแก้ว คือเด็กผู้หญิง ที่แสนเจ้าเล่ห์ จอมวางแผน ที่ทั้งชีวิตโหยหาอยากมีพ่อ อยากให้พ่อและแม่กลับมาพบรักกันใหม่ เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวเป็นเรื่องไม่น่าให้อภัย แต่เธอเชื่อว่า แม่ยังคงทั้งรักทั้งแค้นพ่ออยู่มาก จึงไม่ยอมแต่งงานใหม่ ทั้ง ๆ ที่มีทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาตามจีบมากมาย รวมถึง สินธร (มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล) ไบค์เกอร์หนุ่มน้อย ที่แค่พบสบตา ทิพย์เกสร ครั้งแรกก็หลงรักหัวปักหัวปำ ในฐานะที่เป็นรักแรก จนกลายเป็นคู่แค้นกับแสนแก้ว ที่หวงแม่ยิ่งชีวิต ความแสบของแสนแก้วสร้างความปั่นป่วนให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เรื่องราวสุดแสนวุ่นวายจึงเกิดขึ้น ติดตามบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ในละคร คุณพ่อจอมซ่าส์

สัมผัสรัตติกาล (2561/2018) จันทร์จ้า (หลิน-มชณต สุวรรณมาศ) หญิงสาววัย 19 ปี ผู้เกิดมาพร้อมกับสัมผัสพิเศษ เธอเห็นความตายของทุกชีวิตที่เธอได้แตะต้องถูกตัว ทุกสัมผัสและอ้อมกอดจึงเป็นสิ่งต้องห้ามของเธอมาตลอดชีวิต ความรัก ความอบอุ่นจากอ้อมกอดจึงเป็นสิ่งที่ขาดหายสําหรับชีวิตเธอตั้งแต่แรกเกิด แม้กระทั่งแม่ก็ไม่สามารถอุ้ม หรือแตะต้องตัวเธอได้ ชีวิตของเธอจึงตกอยู่ในการควบคุมของ ป้าชบา (หน่อย-ณัฐนี สิทธิสมาน) ที่ใช้ความสามารถพิเศษของเธอเป็นช่องทางทํามาหากินกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ของชาวบ้าน ด้วยการเปิดตําหนักเจ้าจันทร์ตาทิพย์ รับเข้าทรง ดูความตายของผู้คน สร้างรายได้ให้กับครอบครัวป้าชบา จันทร์จ้าต้องทนกับการเห็นภาพสยดสยองของความตาย และเหนื่อยล้าทุกครั้งจนเธอคิดฆ่าตัวตายด้วยการพุ่งเข้าหารถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว แต่เหตุการณ์กลับทําให้เธอได้พบกับ ผู้ชายสองคน ที่มีความสําคัญกับชีวิตของเธอตามคําทํานายที่ว่า "จะมีผู้ชายสองคนเข้ามามีความสําคัญต่อชีวิตเธอ...หนึ่งในนั้นคือเนื้อคู่ของเธอ แต่จงระวัง เขากําลังมีเคราะห์ร้าย..หมายถึงอันตรายของชีวิต ..เธอต้องช่วยเขา ถ้าทําไม่ได้ เธอจะต้องเป็นเหมือนนางผีเสื้อสมุทร ..ที่ต้องเฝ้าคร่ำครวญ เพราะการพลัดพรากไปจนวันตาย" ผู้ชายคนแรกคือ ดร.อิชย์ (แจ็บ-เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล) หัวหน้าพรรคประชาธิป แคนดิเดดนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในการเลือกตั้งใหญ่ที่กําลังจะเกิดขึ้น และเป็นความหวังใหม่ของประชาชนในฐานะคนเก่ง มือสะอาด และคนที่สอง ร.ต.อ.นณณ์ (กอล์ฟ-อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดร่างใหญ่ ผู้ชายสองคนในรถตู้ที่ต้องเบรกกระทันหันและเข้ามาช่วยเหลือเธอ ดร.อิชย์ได้แตะตัวจันทร์จ้า ทําให้เธอเห็นภาพที่เขาจะตายในเวทีหาเสียง จันทร์จ้าจึงต้องพยายามหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพราะเห็นในความดีของดร.อิชย์ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ จึงเข้ามาเกี่ยวพันกับ ร.ต.อ.นณณ์ ในการช่วยให้ ดร.อิชย์ พ้นจากแผนการปลิดชีวิตของศัตรูที่ยังไม่เปิดเผยตัว ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง แผนสังหารดร.อิชย์มีมาเป็นระยะ แต่ก็รอดพ้นได้ทั้งหมด เพราะการรู้ล่วงหน้าของจันทร์จ้า ทําให้ศัตรูตัวจริงที่ซ่อนตัว เริ่มเปิดเผย กลายเป็นคนในใกล้ตัว อย่าง ประทิน (วิลลี่ แมคอินทอช) เลขาธิการพรรค ผู้ทรงอิทธิพลคนเก่าแก่ของพรรค ที่วางแผนร่วมมือกับ ยุทธนา (ทนงศักดิ์ ศุภการ) นักธุรกิจที่เคยเป็นคู่แข่งของดร.อิชย์ในการเลือกหัวหน้าพรรค วางแผนจะร่วมมือกับ ทวยเทพ (หนุ่ม-สันติสุข พรหมศิริ) หัวหน้าพรรคเทพไท พรรคคู่แข่ง เพราะหวังผลประโยชน์ ระหว่างการทํางานร่วมกันของจันทร์จ้ากับร.ต.อ.นณณ์ กลายเป็นความใกล้ชิดผูกพัน ทั้งสองตกหลุมรักกันแต่เป็นความรักที่ไม่สามารถแตะต้องสื่อสารทางกายกันได้ จะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยทำให้ทั้งคู่ได้ครองคู่กันอย่างสมหวัง แล้ว ดร.อิชย์ จะรอดพ้นจากการทำร้ายหรือไม่ ติดตามลุ้นเรื่องราวความสนุกสนานทั้งหมดนี้ได้ในซีรีส์เรื่อง สัมผัสรัตติกาล

The Crime ทีมล่าทรชน (2561/2018) เวลา 15.00 น. วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เกิดเหตุการณ์ รถบรรทุกแก๊สเสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณธนาคารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตำรวจประจำท้องที่จึงตัดสินใจปิดถนนเป็นวงกว้าง 1.5 กิโลเมตร อพยพผู้คนบนถนนและบริเวณใกล้เคียงให้ออกจากพื้นที่ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุสะเทือนขวัญเหมือนครั้งรถแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรี ในปี 2533 แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นอุบัติเหตุอย่างที่ทุกคนคิด เพราะมันคือแผนการของ เอ็กซ์ (ไนกี้ นิธิดล) กับ เตอร์ (กวาง ศิริศิลป์) ที่จัดฉากขึ้นเพื่อปล้นเงินจำนวน 40 ล้านบาทจากรถขนเงินของธนาคาร หมวดภานุ (เฟย ภัทร) นายตำรวจหนุ่มรูปหล่อ ลูกชาย ผบ.ตร. อดีตนักเรียนดีเด่นจากโรงเรียนนายร้อยที่เพิ่งจบหลักสูตรการสอบสวน (ATF-ILEA) และเอฟบีไอ จากสหรัฐอเมริกา ได้รับคำสั่งให้นำทีมเข้าพื้นที่เกิดเหตุทันที แต่เขากลับไม่สามารถจับคนร้ายได้ เพราะเอ็กซ์ขี่เจ็ตสกีหลบหนีก่อนจะถูกกระสุนปริศนายิงตกน้ำ ในขณะที่เจ็ตสกีระเบิดกลางน้ำ พร้อมกับเงิน 40 ล้านที่ติดไฟปลิวว่อน คดีถูกอำพราง จัดฉากซ้ำ เพื่อตบตาตำรวจ ให้เห็นว่าทุกอย่างจบลงแล้ว พร้อมกับเงินที่ไหม้ไฟไปจนหมด ทั้งที่เงินจริงเพิ่งถูก อนุชิต (นนทร์ กฤตธวัฒน์) ที่ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ขนย้ายออกมากับห่อศพ ทุกอย่างเกือบจะเป็นไปตามแผนที่คนร้ายวางไว้ แต่หมวดภานุกลับรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างได้ เมื่อเขาสังเกตเห็นว่ารถมูลนิธิที่ใช้ขนศพไปยังโรงพยาบาลตำรวจ มีการสับเปลี่ยนคันระหว่างทาง หมวดภานุทำรายงานไปยัง รอง ผบ.ตร. เพื่อคัดค้านการปิดคดี แต่กลับถูก รอง ผบ.ตร. ร้องเรียนว่าหมวดภานุ ล้ำเส้นผู้บังคับบัญชา จนหมวดภานุต้องโดนคำสั่งย้ายให้ไปอยู่หน่วยของ ผู้กำกับ กานนท์ (ออย ธนา) ที่ได้ชื่อว่าเป็น มือปราบเบอร์หนึ่งของกองบังคับการปราบปราม ความกล้าที่มั่นใจเกินตัวและมาดกวน ๆ ที่ค่อนข้างหลงตัวเองของหมวดภานุทำให้ หมวดอีฟ (ยิปซี คีรติ) ผู้กองเชษฐ์ (ท็อป เทวินทร์) และตำรวจคนอื่น ๆ ในทีมไม่ค่อยชอบขี้หน้าหมวดภานุนัก จนสร้างปัญหาในเวลาที่ต้องร่วมกันทำคดีต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง จะมีก็แต่ผู้กำกับกานนท์ที่คอยให้กำลังใจหมวดภานุอยู่เสมอ อทิตยา (ใบเตย สุวพิชญ์) นักข่าวสาวขาลุยสายอาชญากรรม พยายามเกาะติดทีมผู้กำกับกานนท์ เพื่อเจาะข้อมูลเชิงลึกไปนำเสนอ อทิตยาค่อนข้างสนใจในตัวหมวดภานุที่ดูเป็นตำรวจขวางโลก ไม่เกรงกลัวใคร อีกทั้งยังชอบฉีกกฎแนวการทำงานแบบเดิม ๆ จนทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีมอยู่บ่อย ๆ ทีมของผู้กำกับกานนท์ ได้รับคำสั่งให้ตามคลี่คลายคดีสำคัญที่เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนมากมาย เช่น คดีศพชาวต่างชาติที่ถูกหั่นแยกชิ้นแช่แข็ง/คดีฆ่าอำพรางเอาเงินประกัน/คดีเจ้าพ่อยาเสพติดข้ามชาติ/คดีฆาตกรข่มขืนต่อเนื่อง โดยเกือบทุกคดีผู้กำกับกานนท์จะต้องทำงานร่วมกับ หมอเมย์ แพทย์หญิงจากหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ CIFF เพื่อพิสูจน์หาหลักฐานจากศพ ขณะเดียวกันระหว่างที่หมวดภานุ ร่วมทีมของผู้กำกับกานนท์เพื่อคลี่คลายคดีต่าง ๆ นั้น เขาก็ยังไม่หมดความพยายามในการตามหาหลักฐานเพิ่ม เพื่อยืนยันความเชื่อที่ว่า คดีปล้นรถขนเงินคนร้ายยังลอยนวล มีการปล้นรถขนเงินอีกเป็นระยะ หมวดภานุตามร่องรอยจนมีหลักฐานเชื่อมโยงว่า คนร้ายที่ปล้นรถขนเงินในอีกหลายครั้งนั้นเป็นกลุ่มเดียวกับคนร้ายที่ปล้นรถขนเงิน 40 ล้าน เมื่อหมวดภานุได้เรียนรู้การทำงานกับผู้กำกับกานนท์จนเขาเริ่มมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น การทำงานเป็นทีมมากขึ้นจึงส่งผลให้ความซับซ้อนของคดีต่าง ๆ ถูกคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงคดีปล้นรถขนเงิน ที่หลักฐานต่าง ๆ เริ่มกลายเป็นจิ๊กซอว์ที่ต่อภาพของกลุ่มคนร้ายให้เห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ และนี่คือเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากคดีจริง ที่จะตีแผ่ทุกแง่มุมของตำรวจไทยในการใช้ ไหวพริบ พลิกเกมทุกนาทีเพื่อตามล่าเหล่าอาชญากร ที่ก่อคดีสะเทือนขวัญประชาชนมาแล้วมากมาย เรียกศรัทธาแห่งกฎหมาย คงไว้ซึ่งความยุติธรรม ล้างบางอาชญากร

ขวัญผวา 2 (เมืองฅนรฦกชาติ) (2561/2018) เรื่องราว ในปีพ.ศ. 2562 จันทนันท์ เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก ได้เปิดวิทยาลัยต้อนรับนักศึกษาใหม่จากทั่วทุกสารทิศ น้ำใส (ก้อย อรัชพร) หญิงสาวที่กลับมายังบ้านเกิดเพื่อมาเรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้ ก็ได้พบกับ กันต์ (ปังปอนด์ อัครวุฒิ) ชายหนุ่มที่มาจากต่างเมือง แต่พวกเขาก็เข้ากันได้ดีและสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วราวกับรู้จักกันมานาน จึงทำให้ เอก (เบน เบนจามิน) ที่กำลังแอบปิ๊งน้ำใสอยู่เกิดอาการหมั่นไส้และวางแผนกลั่นแกล้งกันต์ แต่ทุกอย่างกลับบานปลาย เมื่อพวกเขาได้รุกล้ำเข้าไปในตึกต้องห้ามของวิทยาลัย และทำให้กันต์หายตัวไปอย่างลึกลับ พวกน้ำใสกับเอกเองก็ไม่มาสามารถออกตามหากันต์ภายในตึกนั้นได้ เพราะถ้าหากพวกผู้ใหญ่ในวิทยาลัยรู้ว่าพวกเขาแอบเข้าตึก พวกเขาจะต้องถูกไล่ออก แต่ไม่นานกันต์ก็กลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง พร้อมกับเกิดเรื่องประหลาดภายในเมือง เมื่อเด็ก ๆ ในจันทนันท์เริ่มเกิดระลึกชาติ และล่วงรู้เรื่องราวในอดีตบางอย่างของเมืองที่ไม่ควรจะรู้ จนนำไปสู่หายนะของเมืองตามที่เคยถูกสาปเอาไว้

เงา (2561/2018) ท่านชายวสวัต (อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์) เป็นใคร มาจากไหน อายุเท่าไร ไม่มีใครรู้ แต่ท่านงามสง่า ราวกับมีแสงออร่าประจําตัว แต่บางครั้งก็ดูน่าเกรงขาม ดื่มน้ำอมฤตเป็นอาหาร มีบ้านใหญ่โตราวปราสาทราชวังตึกใหญ่ทรงโบราณ มีบันไดหินทอดยาว เสาหงส์ห้อยโคมระย้าเสียงกระดึง ส่งเสียงก้องวังเวง ฝาผนังมีภาพประกอบมากมาย เกี่ยวกับไฟ ความร้อนและการลงทัณฑ์ ทุกที่ที่ท่านชายเสด็จล้วนมีความหมาย เพื่อไปรับดวงวิญญาณของคนที่กําลังสิ้นลมไปสู่สวรรค์และนรกตามกรรมของแต่ละคน ชาลินี (แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล) หญิงสาวสวยไฮโซผู้มากประสบการณ์ความรัก กล้าทำตัวใกล้ชิดสนิทสนม เข้าหาท่านชาย ทั้งในเรื่องของหัวใจและหวังในทรัพย์สมบัติมหาศาล สร้างเรื่องทุกอย่างเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับท่านชาย แต่สุดท้ายทุกความลับในอดีตที่เคยสร้างไว้ ถูกเปิดโปง เจริญขวัญ (แพทตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) สาวน้อยผู้สร้างแต่ความดี ยึดมั่นในธรรมะ เธอคือตัวแทนของคนดี ที่สามารถทําให้จิตใจสกปรกบาปหนาของ อิสรา(เก้า-จิรายุ ละอองมณี) หนุ่มเจ้าสำราญผู้ไม่เคยให้ความสำคัญอะไรมากไปกว่า ความต้องการของตัวเอง ได้รับการชําระให้มองเห็นธรรมะ และความรักที่แท้จริงอันยิ่งใหญ่ เรื่องราวของความดี ความชั่ว ผลกรรมของมนุษย์ ที่ธรรมชาติล้วนจัดสรร ตามโชคชะตาที่ได้กําหนดไว้แล้วคนชั่ว จะต้องถูกลงโทษตกนรกหมกไหม้ ทรมานอย่างไม่จบสิ้น ในขณะที่คนดีต้องได้รับกรรมดีตอบแทน ไม่ว่าจะยังอยู่หรือจากไปแล้ว

ปาก (2561/2018) คำแต่ละคำ ที่ออกจาก "ปาก" สามารถมัดใจให้คนรัก หรือทำร้ายให้คนเกลียด หรือก่อให้เกิดการยกย่อง หรือเหยียดหยาม ล้วนเป็นผลลัพธ์ที่ผ่านลมปากของแต่ละคน ทั้งยังเป็นการแสดงตัวตน และบุคลิกลักษณะของคนผู้นั้นได้ชัดเจน แม้ว่าจะเสแสร้งปั้นแต่งสรรหาคำพูดต่าง ๆ ก็สามารถปกปิดได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ผู้หญิงสองคน คนหนึ่งสวย รวย การศึกษาดี มีพร้อมทุกสิ่ง อีกคนดูธรรมดา แต่มีความรู้ ฉลาด สองคนบนความแตกต่างของลมปาก เส้นทางเดินของทั้งสองอยู่บนเส้นขนานที่ไม่น่าจะมาบรรจบพบกันได้ แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง ทำให้ทั้งสองคนมาเกี่ยวพันกัน คนสวย มีเสน่ห์ แต่มีปากเป็นพิษ เลือกโลดแล่นบนเส้นทางบันเทิง และความจอมปลอม ส่วนอีกคนฉลาดเรียนรู้จากพิษของลมปากมาปรับตัวเอง กลายเป็นคนใหม่ที่สร้างเสน่ห์ได้จากปาก และความดีงามในจิตใจ รอย (สายป่าน อภิญญา) ลูกสาวของครอบครัวนักการเมืองท้องถิ่น มีพ่อที่เคยเป็นทนายความชื่อดังประจำจังหวัด และแม่ที่เป็นนายหน้าค้าที่ดิน และเพชร-พลอย เติบโตมาด้วยการตามใจของพ่อ ในขณะที่แม่เลี้ยงดูด้วยการด่าทอ ใช้คำหยาบประชดประชันมาตลอด ใช้คำเรียกว่าอีรอยทุกครั้ง รอยคิดว่าแม่ลำเอียงไม่รักลูกสาว ทำให้รอยกลายเป็นคนที่เก็บกดและมักใช้คำพูดรุนแรงหยาบคาย ชอบดูถูกคนอื่น ชอบเถียงเอาชนะ และให้ความสำคัญกับตัวเองสูง รอยสอบได้ทุนไปเรียนเมืองนอก จึงยกระดับตัวเองกลายเป็นนักเรียนหัวนอก รสนิยมสูง เหยียดคนจนหรือคนนอกกลุ่มที่เธอเห็นว่าเป็นคนละชนชั้นในสังคม เมรัย (แก้ว จริญญา) สาวร่างเล็ก ขาว หน้าตาธรรมดา มาจากครอบครัวข้าราชการที่เรียบง่าย มีฐานะพอสมควร เธอมาทำงานเป็นนักเขียนให้กับบริษัทขายอาหารเสริมของ ตั้ว (แตงโม พงษ์พิสุทธิ์) พี่ชายคนโตของรอย ที่อยู่ประจำจังหวัดเล็ก ๆ ใกล้กรุงเทพฯ เมรัย เป็นคนเรียบร้อย ไม่ชอบเที่ยว ไม่แต่งตัว จนคนอื่นดูว่าเชย ๆ การทำงานในบริษัทของตั้ว สร้างความอึดอัดใจให้กับเมรัยมาก เพราะสังคมของคนทำงานในสำนักงานแห่งนี้คือ สังคมแห่งการพูดจาหยาบคาย ลามก สองแง่สองง่าม ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทุกคนเหมือนอยู่ในสังคมเดียวกัน ชอบสังสรรค์ กินเหล้า เที่ยวกลางคืน ในขณะที่เมรัยตรงกันข้ามกับทุกคน เมรัยก็เหมือนหญิงสาวทั่วไป ที่มีความฝันอยากได้พบกับผู้ชายดี ๆ ในจังหวัดเล็ก ๆ ชานเมืองแห่งนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งเมรัยไม่สบายไปหาหมอที่คลินิก จึงพบกับ หมออุรส (ไผ่ พาทิศ) หมอหนุ่มหน้าตาดี ยังโสด จึงแอบชอบ แต่หมออุรส มาจากครอบครัวดีมีฐานะในกรุงเทพฯ แต่ยังไม่มีวี่แววแต่งงานหรือชอบผู้หญิงคนใดสักที เพราะหมอเป็นคนจุกจิก เลือกมาก กลัวสารพัดว่าการจะเลือกผู้หญิงเป็นภรรยาสักคน จะต้องเป็นผู้หญิงที่ครบเครื่อง สวย เก่ง ครอบครัวดี ฉลาด สามารถพูดจากับเขาทั้งเรื่องการเมือง สังคม และความเป็นไปของโลกได้ และเมื่อหมออุรสได้พบกับรอย ก็รู้สึกประทับใจเพราะตรงสเปกเขาทุกอย่าง ในขณะที่รอยก็เล็งเห็นว่าหมอคือหนึ่งในผู้ชายตัวเลือกที่น่าสนใจ รอยตัดสินใจทุ่มเทบริหารเสน่ห์กับหมออุรส รอยตั้งใจจับหมอให้แต่งงานให้ได้เพื่อต่อชีวิตของรอยให้สุขสบายต่อไป รอยต้องเสแสร้งพูดจาอ่อนหวาน สร้างภาพของผู้หญิงสมัยใหม่ มีความรู้ ฉลาด ตรงสเปกของหมอทุกอย่าง ในขณะที่เมรัยก็ถูก เพยีย (แดง ฉันทนา) แม่ของรอย วางแผนจับคู่กับตั้ว ลูกชายคนโต ที่เมรัยทำงานด้วย โดยจะให้ไปเที่ยวที่เขื่อนที่ ตอง (ตูมตาม ยุทธนา) ลูกชายคนรอง ทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่ตั้วกลับไปชวนเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ไปด้วยหมด รอยขอตามไป และยังชวนหมออุรสไปด้วย เมรัยกลายเป็นคนเดียวที่ไม่เข้าพวกในกลุ่ม เธอต้องอดทนในการท่องเที่ยวครั้งนี้ มีเพียงตองเท่านั้นที่เริ่มให้ความสนใจเมรัย แต่เมรัยก็ตั้งใจจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว และเห็นว่าตองก็คือคนหนึ่งในกลุ่มนี้ ที่มีปากเป็นพิษเช่นกัน เพราะตองเป็นผู้ชายตรง ๆ พูดจาไม่เกรงใจใคร ซึ่งไม่ได้เป็นคุณสมบัติที่เมรัยต้องการ สุดท้าย "ปาก" จะสามารถกำหนดชีวิตคนได้จริงหรือไม่ ชีวิตของผู้หญิงทั้งสองคนอย่าง รอย และ เมรัย ที่มีลมปากแตกต่างกัน จะลงเอยอย่างไร ? ติดตามได้ในละคร ปาก

ไร้เสน่หา (2561/2018) นงราม (ป๊อก ปิยธิดา) ผู้หญิงวัย 40 ที่ตลอดชีวิตไขว่คว้าหาแต่ความรัก ตั้งแต่ความรักจากพ่อ แม่ พี่ น้อง จนกระทั่งความรักจากคนอื่น ๆ รอบกาย เธอไม่เคยรู้ว่าความสุขจากความรักมันคืออะไร เป็นอย่างไร เมื่อไม่เคยพบไม่เคยสัมผัส เธอจึงมุ่งมั่นสู่เส้นทางที่เธอคิดว่าจะทำให้เธอเหนือกว่าคนอื่น ๆ เธอมุมานะเรียนหนังสืออย่างหนักจนจบปริญญาตรี เป็นครูผู้มีหน้ามีตาของครอบครัว พร้อมกับความทะนงตนว่า ดีเด่นเหนือคนอื่น ตัดขาดจากการติดต่อครอบครัว เพราะไม่ต้องการกลับไปสู่ชีวิตที่มีปมในอดีต จนลาออกจากครูมาทำงานบริษัทเพื่อหวังเงินรายได้สูง ๆ เพราะเป้าหมายของเธอคือชัยชนะ เธอจะต้องชนะและเหนือทุกคน เนตรนลิน (แพต ชญานิษฐ์) หญิงสาวสวย ผู้ถอดเค้าความสวยงามมาจากแม่ คือ นัยนา (ปิ่น เก็จมณี) น้องสาวของนงราม ผู้ที่นงรามมองว่าแย่งความรักและความสุขทุกอย่างไปจากชีวิต เนตรนลินกลายเป็นผู้จุดประกายให้นงรามพยายามกลับมาแก้ปมในจิตใจ โดยการทำทุกวิถีทางที่จะให้เนตรนลินไม่มีความสุขเหมือนที่เธอเป็นมา เพื่อชดใช้ให้กับสิ่งที่นัยนาเอาความสุขทุกอย่างไปจากเธอทั้งพ่อ แม่ คนรัก และความสุขสบาย เมื่อการแสดงออกทางอารมณ์ ด่าทอ และความบ้าคลั่งของนงรามไม่ได้มีผลกระทบต่อชีวิตเนตรนลิน นงรามจึงใช้แผนใหม่ที่ว่า "ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุด คือคนที่เราไว้ใจที่สุด" กลับเข้ามาทำดี เพื่อค่อย ๆ แทรกซึมทำลายแบบ น้ำซึมบ่อทราย จนเกือบสำเร็จ ถ้าไม่เจอกับ อนุพล (ไนกี้ นิธิดล) ผู้มีหน้าตาเหมือนคนรักเก่า คือร้อยโท นิกร ความคาดหวังที่จะสุขสมหวังในความรักกับนิกรในร่างอนุพล จึงเกิดขึ้นใหม่ด้วยภาพมโน จนสร้างความเดือดร้อนให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง สุดท้ายแผนการแก้แค้นของนงรามจะสำเร็จหรือไม่ ? ติดตามได้ในละคร ไร้เสน่หา

รูปทอง (2561/2018) ภายใต้รูปลักษณ์ที่เข้มแข็ง แข็งกร้าวจนกลายเป็นหยาบกระด้างเกินผู้ชายแท้ ๆ ของคนหนึ่ง กับความรูปหล่องดงาม ละเอียดอ่อน อ่อนไหวเกินชายของอีกคน ไม่มีใครรู้ว่าจะมีสิ่งใดซุกซ่อนอยู่ในจิตใจ อันเป็นผลจากความบกพร่องของสถาบันครอบครัว การขาดความพอดีในการอบรมเลี้ยงดู จนกลายเป็นปัญหาที่ต้องการกำลังใจในการแก้ไข ทีฆะ หรือ เสือ (ทอย-ปฐมพงศ์ เรือนใจดี) เด็กหนุ่มรูปหล่อที่เติบโตมากับการเลี้ยงดูของ อำพัน (ตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา) ซึ่งเป็นแม่ กับญาติพี่น้องข้างแม่ที่ล้วนแต่เป็นผู้หญิง กับ รัสสะ หรือ หมู (แดน-วรเวช ดานุวงศ์) พี่ชายผู้เข้มแข็งจนกลายเป็นไม่แคร์ใคร เติบโตมาจากการเลี้ยงดูของพ่อ หลังจากที่อำพันกับสามีแยกทางกันตั้งแต่ทีฆะและรัสสะยังเล็กมาก จึงเกิดการแบ่งลูกให้ต่างเอาไปเลี้ยงคนละคน ทั้งสองเลี้ยงลูกด้วยวิธีการที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว หล่อหลอมให้ทีฆะและรัสสะมีความแตกต่างกันคนละทางอย่างชัดเจน จนกระทั่งเมื่อพ่อเสียชีวิต รัสสะ ต้องจำใจมาอยู่กับแม่อย่างไม่เต็มใจ ด้วยสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ทำให้ทุกอย่างล้วนเป็นปัญหา และนำมาซึ่งความวุ่นวายมากมายในครอบครัว รูปทอง ทีฆะ มีแฟนเป็นสาวสวยสมัยใหม่ เปรี้ยวจี๊ด ชื่อ เรียวข้าว (ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) และมีเพื่อนชายคนสนิทที่คบกันมายาวนานแบบไปไหนไปกันตลอดคือ ลาภ (ปังปอนด์-อัครวุฒิ มังคลสุต) ทำให้บางครั้งเรียวข้าวไม่ค่อยพอใจที่ทีฆะต้องแบ่งเวลาไปอยู่กับลาภ ความสัมพันธ์ระหว่างทีฆะกับเรียวข้าวเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ไปถึงไหน เหมือนทีฆะเองก็จะมีเส้นปิดกั้นระหว่างเขากับเรียวข้าวเอาไว้ และไม่มีทีท่าจะก้าวข้ามเส้นแบ่งนั้น ความสนิทสนมกันอย่างแปลก ๆ จนเกินไปของทีฆะกับลาภ ทำให้เรียวข้าวเกิดความสงสัยว่า จริง ๆ แล้วทีฆะเป็นอะไรกันแน่ รูปทอง ด้านรัสสะเองก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาดในพฤติกรรมของน้องชาย จนวันหนึ่งเมื่อความลับของทีฆะแตก ความจริงปรากฎถึงความสัมพันธ์ระหว่างทีฆะกับลาภที่มีเกินความเป็นเพื่อน ความผิดหวังของอำพันที่มีต่อทีฆะลูกชายสุดที่รัก ซึ่งอำพันเองก็ยอมรับว่าแตกต่างและไม่เท่ากันกับความรู้สึกที่มีต่อลูกชายอีกคนคือรัสสะ ทำให้อำพันหัวใจแทบสลาย รัสสะกลับหันมาสงสารเห็นใจแม่ และเริ่มรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อปัญหาของน้องชายจนพยายามช่วยหาทางแก้ไข รัสสะ...จะหาทางช่วยน้องชายให้กลับมาเป็นผู้ชายปกติได้หรือไม่ ? ติดตามได้ในซีรีส์เรื่อง รูปทอง

The Writers แนวสุดท้าย (2561/2018) ชาคริต (โทนี่ รากแก่น) ถูกส่งมาสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงานในหน่วยสืบราชการลับ เขาได้รับคัดเลือกเนื่องจากเป็นคนที่มีคุณบัติครบถ้วน คือ เขาไม่มีภาระทางครอบครัว ควบคุมอารมณ์และความรู้สึกได้ดี มีความสามารถในการจดจำและใช้ภาษา ชาคริตได้พบกับ ผู้การ (บี๋-ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) ซึ่งผู้การได้พาเขาไปทดสอบและฝึกเพื่อเอาตัวรอดตอนเป็นสายลับ นั่นทำให้ชาคริตรู้จักกับ กานดา (แก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล), หมวดแจ็ค (อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม) และ บุญส่ง (บูม-จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต) พวกเขามีหน้าที่เตรียมข้อมูลและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการออกปฏิบัติหน้าที่ และคอยสนับสนุนช่วยเหลือทุกอย่างที่ชาคริตต้องการ งานแรกที่ ชาคริต ได้รับคือ ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อล้วงความลับจาก กวางอันซู (หลิน-มชณต สุวรรณมาศ) นักเต้นสาวสวย ที่ผู้การสงสัยว่าเป็นสายลับของผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ ชาคริตจึงย้ายเข้าไปอยู่ห้องข้าง ๆ กับกวางอันซู แต่ระหว่างการทำงานชาคริตกลับพบว่า กวางอันซู เป็นเพียงผู้หญิงน่าสงสารที่ต้องยอมทำงานทุกอย่างที่ได้รับคำสั่งมา เพื่อแลกกับชีวิตของผู้ชายที่เธอรักอย่าง เลียวเวียนซาน (ตั๊ก-นภัสกร มิตรธีรโรจน์) ซึ่งถูกจับเป็นนักโทษ กวางอันซู ไว้ใจชาคริต และรู้สึกดีกับชาคริตจนทำให้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง สุดท้ายภารกิจของชาคริตจะดำเนินต่อไปอย่างไร เขาจะเข้าถึงตัว เลียวเวียนซาน ได้หรือไม่ต้องติดตามกันต่อในโปรเจคท์ The Writers เรื่อง แนวสุดท้าย

Club Friday The Series 9 ตอน รักที่ไม่มีจริง (2561/2018) มัด (รฐา โพธิ์งาม) เป็นลูกสาวที่ไม่ลงรอยกับ ชาติ (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) พ่อของเธอ เพราะชาติมักชอบทำร้าย เล็ก (ปวีณา ชารีฟสกุล) ผู้เป็นแม่มาโดยตลอด มัดจึงเกลียดพ่อฝังใจ ที่ทำร้ายแม่ยังไม่พอ ยังปล่อยให้ ษา (ณัฐภัสสร สิมะเสถียร) เมียน้อยของเขามารังแกแม่ของเธออีก มัดจึงมีปมในใจเกี่ยวกับความเลวร้ายของเพศชายทำให้เธอไม่กล้าที่จะมีความรักกับผู้ชายคนไหน กระทั่งวันหนึ่งมัดเปิดใจที่จะคบกับ เอก (ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์) เป็นครั้งแรก แต่เมื่อคบกันไปไม่นานก็รู้สึกว่าเอกไม่ใช่สำหรับมัด เธอจึงบอกเลิกเพื่อจบความสัมพันธ์ แต่เอกกลับแก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย ทำให้มัดรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองในครั้งนี้ไปตลอดชีวิต เวลาผ่านไป มัดได้เจอกับความรักครั้งใหม่เขาคนนั้นก็คือ ศีล (ธนา สุทธิกมล) ซึ่งความรักในครั้งนี้มัดรู้สึกอยากใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิต แต่แล้วทุกอย่างก็พังลงเพราะศีลมีภรรยาอยู่แล้ว มัดอยู่ในสถานะเมียน้อยแบบไม่รู้ตัวมาโดยตลอด มัดเสียใจมากที่ศีลทิ้งเธอไปแบบไร้เยื่อใย ทำให้ปมเรื่องผู้ชายฝังใจและมุมมองความรักของเธอก็เปลี่ยนไป มัดเริ่มทำตัวไม่มีคุณค่า คบกับใครก็ชิงบอกเลิกก่อน เอาตัวเข้าแลกเงินกับผู้ชายอายุมากกว่าที่เข้ามาดูแลเธอ หลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้ง ทำให้ผู้ชายเหล่านั้นเสียใจ เหมือนกับที่เธออยากจะให้พ่อของเธอได้เจอ มัดคิดแต่ว่าไม่มีความรักไหนที่จะเป็นความจริงสำหรับเธอ เธอจะตัดปมปัญหาเหล่านั้นอย่างไร

Club Friday The Series 9 ตอน รักซ่อนรัก (2561/2018) จากชีวิตครอบครัวที่อยู่กันมาอย่างมีความสุข จนถึงวันที่ เอ้ (ธีรภัทร์ สัจจกุล) เดินมาขอเลิกเพราะหมดรักและมีคนใหม่ ผิง (ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์) ยอมเปิดทางให้เขากับ หยก (อรจิรา แหลมวิไล) แต่โดยดี ถึงจะเจ็บปวดและเสียใจแค่ไหนแต่เธอก็พยายามเข้าใจและทำใจว่าวันนี้เราไม่รักกันอีกต่อไปแล้ว เมื่อแยกทางจากกันไปเขาไปสร้างครอบครัวใหม่กับผู้หญิงคนใหม่ แต่เขาและเธอก็ยังไม่เคยหยุดความสัมพันธ์ที่เรียกกันว่าเพื่อนสนิท เพราะเขาบอกกับเธอว่าระหว่างเรายังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่ไม่ว่าเพราะเธอจะยังรักเขามากจนไม่อาจตัดใจ หรือเพราะความใกล้ชิดที่ยังไม่เคยแยกจากกันไปไหน หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเธออย่างที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อนก็คือ เธอได้พาชีวิตตัวเอง จากความเป็นเมียหลวงของเขามาสู่ความเป็นเพื่อนสนิท และกลับไปจบลงด้วยคำว่าเมียน้อย คนที่เคยเป็นเมียหลวง จากความรักที่เปิดเผยได้ทุกอย่างกลับกลายเป็นเมียน้อยที่ต้องทนอยู่กับความรักที่หลบๆ ซ่อนๆ บอกใครไม่ได้ แล้วเธอจะพาความรักของเธอเดินต่อไปทางไหนอย่างไร

Club Friday The Series 9 ตอน รักที่หลุดลอย (2561/2018) มิ้นต์ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) แต่งงานกับ กรณ์ (กวี ตันจรารักษ์) หนุ่มวิศวกรเพียบพร้อมทุกอย่างที่พ่อกับแม่เลือกให้ ทั้งคู่แต่งงานกันมา 13 ปีแต่ยังไม่มีลูก จนกระทั่งวันหนึ่งมิ้นต์จับได้ว่ากรณ์แอบมีกิ๊ก กิ๊กสาวคนนั้นก็คือน้ำผึ้ง (สิรีภรณ์ ยุกตะทัต) มิ้นต์ไม่สบายใจจึงไปปรึกษา ขุน (ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม) หนุ่มมาดเซอร์เพื่อนสนิทสมัยเรียนที่แอบชอบมิ้นต์ ขุนคอยดูแลเทคแคร์มิ้นต์เป็นอย่างดี จนมิ้นต์เริ่มรู้สึกดีกับขุนขึ้นเรื่อยๆ พอกรณ์รู้ว่ามิ้นต์กลับไปสนิทกับขุนก็โกรธมาก ทำให้มิ้นต์กับขุนทะเลาะกันอย่างหนัก มิ้นต์จะตัดสินใจเลือกใครระหว่างคนที่ใช่กับคนที่รัก

Club Friday The Series 9 ตอน รักปลอมปลอม (2561/2018) หนุย (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) สาววัยทำงานการศึกษาดี เรียนจบถึงขั้นเป็นด็อกเตอร์ แต่งงานกับ โย (ศรราม เทพพิทักษ์) มา 13 ปี พอถึงวันครบรอบแต่งงาน ดร.หนุย จึงจัดเตรียมงานพิเศษให้กับโย แต่โยไม่มาตามนัด ทำให้ ดร.หนุย เสียใจมาก และยิ่งโมโหเมื่อรู้ว่า โย รับ ตอย (ตรีชฎา เพชรรัตน์) สาวประเภทสองเลขาเก่าของศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับ ดร.หนุย ซึ่งโดนไล่ออกมาก่อนหน้านี้ เข้าทำงานในบริษัท เมื่อตอยเริ่มทำงานกับโย ทั้งคู่ก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว จน ดร.หนุย ไม่ค่อยพอใจและเริ่มมีปัญหาทะเลาะกับ โย บ่อยขึ้นเรื่อยๆ