ปลาหลงฟ้า 2558

เรื่องย่อ : ปลาหลงฟ้า (2558/2015) น่านฟ้า ชายหนุ่มอายุ 27 ปี หนุ่มหน้าใส ขี้เล่น รักสนุก เจ้าชู้ ลูกชายของสามีผู้วายชน มาทำงานได้ 2 เดือนแต่ยังทำตัวเหลวไหล และไม่ว่านางวิภาแม่เลี้ยงจะเตือนอย่างไร อีกฝ่ายก็ต่อปากต่อคำด้วยน้ำเสียง ยียวน กวนประสาท แถมยังชวน แม่ใหญ่ มาฝึกเล่นเกมกับเขาจะได้ไม่เป็นอัลไซเมอร์ นี่ยังไม่รวมชุดบ้า ๆ บอ ๆ ที่น่านฟ้าใส่มาทำงานในฐานะประธานคนใหม่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ผลิตข้าวเกรียบมีโชคออกสู่ตลาดมานานกว่า 30 ปี นางวิภาไม่เคยอยากให้ไอ้เด็กเหลือขอลูกเมียรองอย่างเขามารับตำแหน่งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอสุดท้ายของนายโชคอดีตประธานบริษัทหรือคือสามีที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ อุบัติเหตุครั้งนั้นพรากวิชญะ ลูกชายของนางไป เขาเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายโชคเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนจากไปสามีของนางทิ้งคำขอสุดท้ายไว้ว่าให้น่านฟ้าลูกของเขากับสุกัญญามาสานต่อกิจการข้าวเกรียบมีโชค นางวิภาไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมให้อาณาจักรมีโชคตกอยู่ในมือของน่านฟ้า นางวิภาหาผู้ช่วยมาสอนงานและควบคุมพฤติกรรมของน่านฟ้าเธอคือ มัศยา หรือ หยี อายุ 29 ปี ทำงานที่บริษัทข้าวเกรียบมีโชคมา 7 ปีแล้ว ปัจจุบันเธอเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด เธอตั้งใจถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งหมดให้น่านฟ้าและพร้อมทำทุกวิถีทางให้เขาเหมาะสมกับตำแหน่งประธานเพื่อมาช่วยกอบกู้สถานการณ์อันย่ำแย่ของบริษัทตามคำสั่งของนางวิภา แต่แค่เริ่มภารกิจฝันของน่านฟ้าก็สลายลงทันทีเพราะมัศยา ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงที่น่านฟ้าต้องการ แต่ความจริงมัศยาคือผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าเขาตั้ง 2 ปี หุ่นก็อวบ ดูอึด ถึก ทนและแข็งแรง หน้าตาก็แทบจะไม่มีเครื่องสำอาง ผมก็รวบหางม้าไว้ แถมหล่อเจ้าเสน่ห์อย่างน่านฟ้ายิ่งหมดอารมณ์ในการทำงาน มัศยากับน่านฟ้าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด มัศยาขับรถพาน่านฟ้าออกไปพบลูกค้า แต่เขาก็ยียวนประสาทเธอ ด้วยการนัด แอนนา สาวสวยหุ่นนางแบบให้ไปรับเขาระหว่างทางเพื่อเลี่ยงการไปพบลูกค้าแต่ไปกินข้าวกลางวัน กับผู้หญิงแทน ความเหลวไหลของน่านฟ้าทำให้พนักงานทุกระดับก่อม็อบปลดน่านฟ้าและกดดันให้ยกตำแหน่งให้นายสุกิจ น่านฟ้าไม่เดือดร้อน เขาว่าก็ให้นายสุกิจเป็นประธานไปเพราะเป็นน้องแม่ใหญ่อยู่แล้ว หากนางวิภาบอกว่านายสุกิจไม่ใช่สายเลือดเดียวกันกับนางหรือนายโชค น่านฟ้าตอกกลับทันทีว่าผมก็ไม่ใช่สายเลือดแม่ใหญ่เหมือนกัน แต่แกสืบสายเลือดของคุณโชค! คำพูดนี้ของนางวิภาและคำขอของนางสุกัญญาทำให้น่านฟ้าใจอ่อน ยอมให้สัญญาลูกผู้ชายว่าเขาจะเอาตำแหน่งประธานและบริษัทของพ่อกลับคืนมาให้ได้ แต่พอน่านฟ้าออกปากว่าจะมีใครช่วยงานเขาในเวลา 3 เดือนต่อจากนี้บ้าง กลับมีแต่ความเงียบงันจากพนักงาน ยกเว้นมัศยา คนเดียวเท่านั้นที่ออกปากจะช่วยน่านฟ้าไม่ให้ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ศึกย่อย ๆ ระหว่างน่านฟ้าและมัศยาจึงสงบลงชั่วคราว เพราะทั้งเขาและเธอจำเป็นต้องร่วมมือกัน น่านฟ้าเสนอให้มีการรีแบรนด์สินค้าใหม่ แม้มัศยาจะไม่เห็นด้วยที่น่านฟ้าจะเปลี่ยนชื่อข้าวเกรียบมีโชค แต่ไอเดียของน่านฟ้าในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของสินค้าและการเตรียมตัวทำการบ้านมาอย่างดีโดยการอ่านแผนการตลาดเดิมที่ประธานโชคและวิชญะเคยวางไว้ร่วมกับฝ่ายการตลาดของเธอ ทำให้มัศยาทั้งอึ้ง ทั้งทึ่งน่านฟ้าก็เริ่มเห็นว่ามัศยานั้นน่ารักดีจึงปฏิบัติการหมาหยอกไก่ แต่มัศยาเองระวังตัวตลอดเวลา ข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพร สูตรใหม่ที่น่านฟ้าเสนอไอเดียนอกจากการรีแบรนด์สินค้า เขาและเธอจึงต้องออกตามล่าหาคนทำสูตรนี้ น่านฟ้าเป็นคนพามัศยาไปหา ป้ามะลิ เจ้าของสูตรข้าวเกรียบรสเลิศสุดโหดที่หน้าบ้านป้ามะลิน่านฟ้ากับมัศยาพนันกันว่าถ้าน่าฟ้ากอบกกู้สถนการณ์ของข้าวเกรียบมีโคได้สำเร็จภายในสามเดือนเขามีสิทธิ์จะขออะไรเธอก็ได้อย่างหนึ่ง แต่ถ้าน่านฟ้าทำไม่สำเร็จมัศยาจะเป็นคนได้สิทธิ์ขออะไรก็ได้จากเขาแทน ความโหดของป้ามะลิทำให้ทั้งคู่ต้องปฏิบัติการตื้อเท่านั้นที่ครองโลกโดยนอนข้ามคืนตากน้ำค้างอยู่หน้าบ้านป้ามะลิอย่างไม่ย่อท้อแม้จะถูกเขวี้ยงปาของไล่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายป้ามะลิก็ใจอ่อนยอมช่วยเพราะบังเอิญไปรู้ว่ามัศยาเป็นลูกของนางสมใจ เพื่อนของเธอ นอกจากจะได้รู้ว่านางสมใจแม่ของมัศยาจงรักภักดีต่อบริษัทมีโชคมากขนาดไหน ยังพบว่ามัศยาเป็นแม่ม่ายเรือพ่วง เธอมีลูกแล้ว เป็นเด็กน้อยแสนน่ารักวัย 6 ขวบ ชื่อนะดีที่ติดใจน่านฟ้าตั้งแต่แรกพบ ในที่สุดข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรล็อตแรกทั้งรสกระเพรา ตะไคร้ และอัญชันก็ออกมาให้พนักงานบริษัทมีโชคได้ชิมกัน ทุกต่างฟันธงว่าข้าวเกรียบสูตรนี้ต้องติดตลาดในไม่ช้า อีกทั้งน่านฟ้ายังทำเรื่องเซอร์ไพรส์ด้วยการติดต่อกับห้างดังไว้เพื่อวางขายสินค้า ทั้งหมดนี้ทำให้นางวิภาเปี่ยมไปด้วยความหวัง แต่มันไม่ง่าย เมื่อน่านฟ้าเจอคู่แข่งอย่าง ข้าวสาหร่ายมันฝรั่งทอดโอกิมิ เมื่อต้องต่อสู้กับอุปสรรคที่เกิดจากาการทำสาหร่ายออกสู่ตลาด ความใกล้ชิดกันในการทำงาน ทำให้ทั้งมัศยาและน่านฟ้ามีใจให้กันมาเรื่อย ๆ แต่หนุ่มเพลย์บอยจะลงเอยกับสาวร่างทึนถึกได้หรือไม่อย่างไรต้องมาร่วมลุ้นไปด้วยกัน ใน ละครปลาหลงฟ้า ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 สี ละครปลาหลงฟ้า เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558

ลีลาวดีเพลิง 2558

เรื่องย่อ : ลีลาวดีเพลิง (2558/2015) บาดแผลในอดีต ฝังลึกจนกลายเป็นแผลเป็นเกาะกินกายและใจมานานกว่าสิบปี บาดแผลที่เกิดจากความรัก ที่ผลักดันให้ทุกคนต้องทำเพื่อคนที่ตนรัก แม้สิ่งที่ทำนั้นจะถูกหรือผิด นักร้องสาวฉายา ลีลาวดีเพลิง เป็นอีกคนหนึ่งที่มีแผลเป็นจากความรักที่พ่อมีต่อเธอ เธอจึงกลับมาเพื่อจะลบรอยแผล เป็นให้กับตัวเอง หากแต่ต้องแลกกับความทุกข์ทรมานของอีกคนหนึ่งที่ตนรัก อาการปวดหัวอย่างรุนแรง เป็นเครื่องเตือนความจำว่า ทิวัตถ์ ถูกคนที่ฆ่า ศุภิสรา แม่ของเขา...ทำร้ายเมื่อสิบกว่าปีก่อน หลังจากที่เขาโดนตีหัวจนสลบไปหลายวัน ความทรงจำต่อเหตุการณ์ในวันนั้นหายไปเกือบหมด ทรงพล ผู้เป็นพ่อ และ ศุภารมย์ พี่สาวของศุภิสราบอกเล่าเหตุการณ์กับทิวัตถ์ว่า แม่ของเขาถูก ปองภพ แฟนเก่าซึ่งเป็นคนรับจัดสวนฆ่าตายและชายหนุ่มเห็นเหตุการณ์จึงถูกทำร้าย แต่ ลิลิน ไม่เชื่อว่าปองภพพ่อของเธอจะเป็นฆาตกร วันนี้ลิลินจึงกลับมาเพื่อทวงความบริสุทธิ์ให้กับพ่อ ศักดิ์สิทธิ์ ลูกเจ้าของโรงแรม Royal Pearl แนะนำให้ทิวัตถ์รู้จักกับนักร้องคนใหม่ของเขา ซึ่งมีฉายาว่า ลีลาวดีเพลิง เพียงแค่ครั้งแรกที่ทิวัตถ์เห็นลิลิน เขาก็เกิดความรู้สึกชอบ ศุภารมย์สั่งให้ กานดา เลขาของทรงพลสืบประวัติของลิลินจนรู้ว่าเธอคือลูกสาวของปองภพ ทรงพลกระวนกระวายจนต้องไปหา ดร.ศรัณย์ ให้ทำการปิดกั้นความทรงจำของทิวัตถ์ด้วยการสั่งจิตใต้สำนึกให้ทิวัตถ์มีอาการปวดหัวทุกครั้งที่พยายามนึกถึงเรื่องในอดีต ขณะเดียวกันก็ได้ประวัติของลิลินจาก ปรมัตถ์ ทนายความอาสา เพื่อนที่แอบหลงรักลิลินอยู่ จึงรู้ว่าหลังจากปองภพถูกจับลิลินถูกส่งตัวไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มี แม่ดา เข้ามาอุปถัมภ์ส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือและให้คำปรึกษามาตลอด แต่ลิลินก็ยังไม่เคยเห็นแม่ดาตัวจริงเลยแม้แต่รูปถ่าย ระหว่างที่ทิวัตถ์กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กับลิลิน อนันยช ลูกชายของศุภารมย์ ก็ได้พบรักกับ วรรณิต อนันยชถูกใจและชอบพอวรรณิตเพราะมีหน้าตาเหมือนศุภิสรา...น้าที่เขาแอบปลื้มหลงใหลในเสน่ห์มานาน เดิมทีแม่สื่ออย่าง วาสนา ผู้เป็นทั้งย่าของวรรณิตและยายของทิวัตถ์กับอนันยช ตั้งใจจะให้ วรรณิตแต่งงานกับทิวัตถ์ แต่เพราะทิวัตถ์ฝังใจกับภาพที่ไม่ดีของแม่ทำให้ทิวัตถ์หมดความสนใจในตัวผู้หญิงอื่น ผิดกับอนันยชที่เห็นวรรณิตครั้งแรกก็ตกหลุมรักถึงขั้นขอให้ศุภารมย์จัดงานแต่งงานให้ทันที ทิวัตถ์ถึงกับอึ้งไปเมื่อรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วลิลินคือลูกสาวของปองภพ ฆาตกรที่ฆ่าแม่ของเขา ทิวัตถ์ตั้งท่ารังเกียจลิลินขึ้นมาราวกับคนละคน ยิ่งลิลินพยายามอธิบายเท่าไหร่ อาการปวดหัวของทิวัตถ์ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น เมื่อแยกจากทิวัตถ์มา ลิลินเผชิญหน้ากับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่พยายามจะทำมิดีมิร้ายกับเธอ ยังดีที่ วิทยา...นักออกแบบภูมิทัศน์ มาพบเข้าก่อนจะจัดการกับคนเหล่านั้นจนแตกกระเจิง ลิลินขอบคุณที่วิทยาช่วยเอาไว้ แล้วเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้วิทยาเหมือนได้พบกับรักครั้งแรก แม้ว่าทิวัตถ์จะโกรธลิลิน แต่อีกใจก็อยากจะเห็นหน้าเธอนั่นก็เพราะตอนนี้ทิวัตถ์ได้หลงรักลิลิน อย่างไม่รู้ตัว วันหนึ่งลิลินกลับมาที่ห้องพักและโดนผู้ชายสวมไอ้โม่งพุ่งเข้ามาหา ลิลินตะโกนเรียกอย่างสุดเสียงให้คนช่วย เพื่อนร่วมงานที่พักอยู่ห้องใกล้กันต่างพากันมาช่วย รวมถึง วิชนี เชฟคนใหม่ของโรงแรมที่ศักดิ์สิทธิ์จ้างมาด้วยค่าตัวที่สูง ถือกระทะออกมาจากห้องเตรียมฟาดผู้บุกรุกเต็มที่ ทั้งลิลินกับวิชนีสู้มันไม่ไหว ยังดีที่วิทยาแวะมาหาลิลินจึงได้เข้ามาช่วยเอาไว้ ปรมัตถ์คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของทิวัตถ์ที่ไม่ต้องการให้ลิลินรื้อฟื้นเรื่องราวในอดีต ปรมัตถ์จึงบุกไปหาทิวัตถ์ถึงที่บ้านเพื่อเอาเรื่อง เป็นจังหวะเดียวกับที่ทรงพลและศุภารมย์ให้ดร.ศรัณย์มาพบเพื่อทำการสั่งจิตใต้สำนึกให้กับทิวัตถ์ ปรมัตถ์นัดเจอลิลินเพื่อจะบอกเรื่องดร.ศรัณย์ แต่เมื่อไปถึงลิลินก็ต้องช็อกเมื่อเห็นว่าปรมัตถ์ได้ตายแล้ว การตายของปรมัตถ์เสมือนเป็นระเบิดลูกใหญ่ เพราะลิลินเชื่อว่าทรงพลกับศุภารมย์ต้องมีส่วนรู้เห็น ทรงพลกับศุภารมย์ไม่อาจนิ่งเฉยต่อสิ่งที่ลิลินกำลังค้นหาต่อไปได้ พวกเขามองว่าลิลินกำลังนำความเดือดร้อนมาสู่คนในครอบครัวที่อยู่กันอย่างสงบสุขมาหลายปี ศุภารมย์ไปหาลิลินที่ผับเพื่อจะโน้มน้าวให้เลิกรื้อฟื้นคดี แต่เมื่อหญิงสาวยืนกรานจะพิสูจน์ความจริงต่อไป ศุภารมย์จึงเตือนเธอว่าหากทิวัตถ์จำเหตุการณ์และรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าแม่ของเขา คนที่จะเจ็บปวดที่สุดก็คือทิวัตถ์ เมื่อไม่สามารถทำให้ลิลินเลิกล้มความคิดที่จะรื้อฟื้นคดีได้ ทรงพลและศุภารมย์จึงเปลี่ยนแผน เสนอให้ทิวัตถ์ชวนลิลินมาอยู่ที่บ้านด้วยกันเพื่อความปลอดภัยของทิวัตถ์และตัวลิลินเอง แต่งงานไม่ทันพ้นเดือน อนันยชรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตหลังสมรส เพราะวรรณิตไม่ได้มีเสน่ห์น่าหลงใหลเหมือนศุภิสราอย่างที่เขาคาดหวังไว้แม้แต่น้อย ครั้นพอมาได้เห็นลิลินอย่างใกล้ชิด อนันยชก็นึกอิจฉาญาติผู้น้องและรู้สึกว่าตัวเองนั้นแพ้ทิวัตถ์แทบทุกเรื่องแม้แต่เรื่องผู้หญิง หลายครั้งที่อนันยชแสดงออกว่าอิจฉาทิวัตถ์ต่อหน้าภรรยา แต่วรรณิตก็ไม่แสดงท่าทีโกรธหรือหึงหวงสามี เพราะเธอรู้ดีว่าการได้แต่งงานกับอนันยชไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เป็นเพราะความจำเป็นบางอย่าง อนันยชยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อ ยงยุทธ...ปรากฏตัวขึ้นที่บ้าน วรรณิตตกใจเมื่อได้พบกับยงยุทธ และเมื่ออนันยชถามว่ายงยุทธเป็นใคร วรรณิตจึงบอกว่าเป็นพี่ชาย ส่วนวาสนาก็พา นพกร มาฝากให้เป็นคนขับรถ ศุภารมย์ไม่ชอบใจนักเพราะนพกรดูทะเยอทะยานไม่มีความเคารพเจ้านาย แต่ก็จำใจต้องรับไว้เพราะความเกรงใจวาสนา วันหนึ่ง ศุภารมย์ได้รับจดหมายข่มขู่จาก เจี๊ยบ คนรับใช้เก่า เรียกร้องเงินหลายแสนเพื่อแลกกับการปิดปากเรื่องคดีของศุภิสรา เมื่อทิวัตถ์ทราบเรื่องจึงเดินทางไปหาเจี๊ยบ แต่เจี๊ยบกลับกลายเป็นศพอยู่ที่คลองท้ายสวนแห่งหนึ่ง ทิวัตถ์รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลจึงรีบโทรกลับไปหาศุภารมย์ แต่แล้วทิวัตถ์ก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าศุภารมย์กำลังนำเงินไปให้กับเจี๊ยบ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเจี๊ยบถูกฆ่าไปแล้ว จะต้องมีใครสวมรอยเป็นเจี๊ยบเพื่อข่มขู่ศุภารมย์แน่ๆ เมื่อมาถึงที่นัดศุภารมย์ขอดูหลักฐานก่อนจะฉวยจังหวะเอากล่องเหล็กที่ใส่เงินไว้กระแทกเข้าไปที่หมวกกันน็อคของคนที่ขับมอเตอร์ไซค์มาเอาเงิน เขาล้มลงและนั่นทำให้ศุภารมย์เห็นโฉมหน้าคนที่ต้องการแบล็คเมล์หล่อน นพกร...คนขับรถนั่นเอง หลังจากเอาตัวรอดด้วยการทำร้ายศุภารมย์...นพกรกลับมารอรับลิลินที่บ้านแล้วโกหกหญิงสาวว่า ศุภารมย์มีเรื่องสำคัญต้องการให้เธอไปพบ แต่รถที่นพกรขับพาเธอไปนั้น ออกนอกเส้นทางไปไกลมาก นพกรสารภาพว่าเขารักลิลินและต้องการพาเธอไปอยู่ด้วยกัน และเขาเองที่เป็นคนฆ่าปรมัตถ์เพราะรู้ว่าปรมัตถ์ชอบลิลิน เขาจะกำจัดทุกคนที่มาขวางทางรักของเขา ลิลินทำเป็นเข้าอกเข้าใจจนชายหนุ่มตายใจ เปิดช่องให้ลิลินฉวยจังหวะฉีดสเปรย์พริกไทยใส่เข้าเต็มหน้าของนพกรและรีบหนีทันที ทิวัตถ์กับวิทยาออกตามหาลิลิน ทิวัตถ์แทบคลั่งเมื่อเห็นรถของที่บ้านที่นพกรขโมยมาถูกไฟไหม้ทั้งคัน แต่แล้วเสียงหญิงสาวที่เขาคุ้นเคยดีก็ดังขึ้น ลิลินหนีรอดจากนพกรมาได้อย่างปลอดภัย วาสนาขอมาพักอยู่ที่บ้านทรงพลด้วยเพราะกลัวนพกรจะย้อนไปทำร้าย แต่อนันยชไม่พอใจเพราะวาสนาเป็นคนนำนพกรเข้ามาทำร้ายแม่และคนในบ้าน ขณะที่ศุภารมย์กลับเกรงใจยอมให้วาสนาพักอยู่ด้วยกันได้ วาสนาคอยพูดเสี้ยมให้อนันยชหวั่นไหวว่าสุดท้ายแล้วทรงพลต้องเห็นความสำคัญของลูกแท้ ๆ มากกว่าหลานหรือลูกเลี้ยงอย่างอนันยช แล้ววาสนาก็ต้องตกใจเมื่อได้พบกับยงยุทธที่มาขอเงินอีกครั้ง ลิลินได้รับจดหมายจากใครบางคนว่าขอนัดพบเพื่อเปิดโปงความจริงที่ลิลินควรรู้ วิทยารู้เรื่องการนัดพบของลิลินกับคนแปลกหน้าจึงตามไปเพราะความเป็นห่วง แต่ภาพที่วิทยาเห็นก็คือลิลินอยู่กับยงยุทธที่กลายเป็นศพ วาสนากล่าวหาว่าลิลินเป็นฆาตกรทันที วิทยาออกตัวยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับลิลิน ลิลิน สงสัยว่าวิทยาช่วยเธอไว้ทำไม วิทยาจึงตัดสินใจสารภาพรักกับลิลิน ลิลินทำตัวไม่ถูก เพราะเธอรู้ตัวเองดีว่าใจของเธอนั่นให้กับทิวัตถ์ไปแล้ว วิทยาเองก็เหมือนจะรู้จนต้องยอมหลีกทางให้ลิลินรักกับทิวัตถ์ เรื่องร้าย ๆ ยังคงเกิดขึ้นกับคนในบ้าน และครั้งนี้เกิดกับทิวัตถ์ที่ถูกโจร 2 คนใช้ไม้ตีเข้าที่ศีรษะอย่างแรงขณะที่เขาไปรับลิลินที่ผับ ทำให้วาสนายิ่งใส่ไฟกับคนในบ้านว่าลิลินเป็นตัวปัญหา ทั้งเปรยว่าเหตุการณ์นี้อาจทำให้ทิวัตถ์จำเรื่องราวในอดีตได้ทำเอาศุภารมย์และอนันยชรู้สึกหวั่นใจ ลิลินไปเยี่ยมทิวัตถ์ที่โรงพยาบาลและสังเกตเห็นความผิดปกติว่าน้ำเกลือกำลังไหลเข้าสู่เส้นเลือดของทิวัตถ์ทั้งที่แพทย์เพิ่งสั่งงดการให้ยา ลิลินสงสัยในพฤติกรรมและอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของศุภารมย์ จึงโพล่งออกมาว่าศุภารมย์ พยายามจะฆ่าทิวัตถ์ แต่ทรงพลยืนกรานว่าภรรยาของเขาไม่ทำแน่ เพราะหล่อนเป็นแม่อุ้มบุญของทิวัตถ์ เพราะศุภิสรากลัวการมีลูกแล้วจะทำให้รูปร่างเสีย จึงให้พี่สาวทำกิ๊ฟเพื่อตั้งท้องลูกของหล่อนแทน ทิวัตถ์กลับมาพักผ่อนที่บ้าน ลิลินแอบเข้าไปในห้องนอนของทิวัตถ์ และได้ยินเสียงใครบางคนพูดว่า "ตายยากตายเย็นเหลือเกิน" ก่อนที่ทิวัตถ์จะถามขึ้นว่า "ยายน้อยจะทำอะไร" ศุภารมย์บอกว่าสงสัยในตัววาสนามานานแล้วว่าเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของผู้เป็นน้า แม้จะปฏิเสธในตอนแรกแต่สุดท้ายวาสนาก็ต้องยอมจำนน เมื่อศุภารมย์บอกว่าวาสนาทำแบบนี้เพื่อต้องการเงินไปใช้หนี้พนัน และหากทิวัตถ์ตาย อนันยชก็จะได้ทุกอย่างและวรรณิตซึ่งเป็นภรรยาก็จะได้ด้วย และเมื่อนั้นวาสนาก็จะได้เงินจากหลานสาวที่หล่อนผลักดันให้เข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านนี้ อนันยชโกรธที่ตัวเองเป็นคนโง่โดนผู้หญิงหลอก วรรณิตไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ และที่มาแต่งงานกับเขาเพราะวรรณิตต้องการเงินไปช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งวาสนาเป็นคนพาเธอไปทำศัลยกรรมใบหน้าให้เหมือนศุภิสรา ด้วยหวังว่าทิวัตถ์จะชอบ และที่สำคัญยงยุทธที่วรรณิตอ้างว่าเป็นพี่ชาย แต่แท้ที่จริงแล้วเขาคือสามีของวรรณิตนั่นเอง การปรากฏตัวของยงยุทธนั้นผิดแผนของวาสนาที่วางไว้ เธอจึงวางแผนฆ่ายงยุทธแล้วนัดลิลินไปเพื่อใส่ร้ายเธอ ภาพที่วาสนาจับลิลินเป็นตัวประกันและพาไปที่ระเบียงทำให้ทิวัตถ์ปวดหัวขึ้นมาทันที ก่อนที่ภาพในอดีตซึ่งเลือนหายไปหลายปีจะกลับคืนมา เขาจำได้แล้วว่าที่แม่ตกลงไปจากระเบียงเป็นเพราะเขาทะเลาะกับแม่เรื่องของอนันยช ที่แม่ชอบพอหลานตัวเองในเชิงชู้สาว ศุภิสราไม่พอใจคว้าแจกันฟาดหัวของทิวัตถ์เมื่อทิวัตถ์คว้าไม้วัดของปองภพที่ตกอยู่ในห้อง ทำให้เลือดของเขาติดที่ไม้จนกลายเป็นหลักฐานสำคัญชี้เป้าไปที่ปองภพว่าเป็นฆาตกร ขณะที่ศุภิสราตกใจที่เห็นร่างของทิวัตถ์เต็มไปด้วยเลือดลุกขึ้นและเดินตรงเข้าไปหาหล่อน...จึงพลัดตกระเบียง แม้ลิลินจะดีใจที่พ่อของเธอพ้นผิด แต่ก็เสียใจมากเมื่อรู้ว่า ชายคนรักคือคนที่ทำให้ศุภิสราตายแต่คนในครอบครัวกลับช่วยกันปิดบัง เพราะความเห็นแก่ตัวรักลูกของตนมากเกินไป จนทำร้ายลูกของอีกคนหนึ่ง ศุภารมย์ขอโทษลิลินแทนทิวัตถ์ เพราะหล่อนต่างหากที่ให้ข้อมูลผิด ๆ กับเขาด้วยความรักที่แม่มีต่อลูก ศุภารมย์บอกกับลิลินว่า หล่อนรู้มาตลอดว่าปองภพไม่ใช่ฆาตกร แต่ความรักและเป็นห่วงลูกอย่าง ทิวัตถ์ที่มีมากกว่า ทำให้ศุภารมย์ไม่สนใจว่าใครจะถูกกล่าวหาอย่างไร แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปหล่อนสำนึกได้และพยายามหาทางช่วยปองภพให้หลุดพ้นจากความผิด แต่เป็นเพราะปองภพรักและเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวมากเช่นกัน จึงขอให้ศุภารมย์ช่วยดูแลลิลินแทนการไถ่โทษ โดยแลกกับอิสรภาพของเขา ปองภพป่วยเป็นโรคมะเร็งและคิดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน และเมื่อตนจากไปแล้วลิลินก็จะไม่เหลือใครอีกแม้แต่ญาติ ๆ ศุภารมย์จึงทำตามเจตนารมย์ของปองภพที่หล่อนได้รับปากไว้ เข้ามาเป็นแม่อุปถัมภ์เพื่อไถ่โทษต่อปองภพและชดเชยสิ่งที่ลิลินขาดไป ความเจ็บปวดที่ติดตัวทิวัตถ์มาสิบกว่าปีสิ้นสุดลงแล้ว เขาตัดสินใจบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับศุภิสรากับปองภพ พร้อมให้สัญญากับลิลินว่า วันใดที่เธอทำใจกับเรื่องที่ผ่านมาได้ เมื่อนั้นพวกเขาจะแต่งงานกันทันที ติดตามชม ละครลีลาวดีเพลิง ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี และ ช่อง 7 HD ละครลีลาวดีเพลิง เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558

รักเร่ 2558

รักเร่ (2558/2015) เมื่อความรักของวายูน (เขมนิจ จามิกรณ์) นักศึกษาสาวไทยในกรุงเวียนนากับดร.รามิล (อรรคพันธ์ นะมาตร์) นักการทูตหนุ่มผู้เพียบพร้อมต้องจบลง เพียงเพราะความเชื่อที่รามิลถูกปลูกฝังมาตลอดว่าผู้หญิงทุกคนรักแค่สมบัติของเขา เขาจึงปล่อยให้เธอต้องอุ้มท้องเพียงลำพังเพราะความเข้าใจผิด วายูนต้องต่อสู้ดิ้นรนกับความยากลำบากเพื่อเลี้ยงลูก และทนกับคำตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี โดยมีนิโคไล (อัษฎา พานิชกุล) เพื่อนชายชาวรัสเซียที่แอบรักเธอคอยช่วยเหลือไม่ห่าง แม้เธอจะให้เขาได้แค่ความเป็นเพื่อนก็ตาม ในที่สุด เมื่อความจริงถูกเปิดเผย รามิลจึงกลับมาขอโทษและทำทุกวิถีทางเพื่อขอคืนดีกับเธอ โดยมีลูกน้อยเป็นกาวใจ

คนละโลก 2558

คนละโลก (2558/2015) เขา...มองว่าโลกมีสองด้าน คือ โลกของคนจน และโลกของคนรวย เธอ...มองว่าโลกมีสองด้าน คือ โลกของคนดี และโลกของคนชั่ว ไม่มีใครผิดหรือถูก เมื่อสุดท้าย ความรักหลอมรวมโลกทุกดวงให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทิเบต หนุ่มแสนซื่อ จากบ้านที่ต่างจังหวัด เพราะทะเลาะกับ บุญ พ่อเลี้ยง ถึงขั้นลงไม้ลงมือ เพราะทิเบตทนไม่ได้ที่เห็นบุญเอาแต่ไถเงิน รัญจวน (แม่) ไปเล่นการพนันและซื้อเหล้าดื่ม ทิเบตจึงพารัญจวนกับบุษย์ (ลูกของรัญจวนกับบุญ) หนีเข้ามาในกรุงเทพ โดยได้รับการช่วยเหลือจาก หนุ่ม เพื่อนวัยเด็กของทิเบต ที่รู้เรื่องราวในชีวิตของทิเบตดีทุกอย่าง แต่หนุ่มมีโอกาสที่ดีกว่าจึงเรียนจบปริญญาตรี ได้งานทำเป็นหัวหน้าคนงานที่โรงแรมอินดรีม ส่วนทิเบตต้องหยุดเรียนกลางคันเนื่องจากไม่มีเงิน ทิเบต รัญจวน บุษย์มาพักอยู่บ้านเช่าของหนุ่ม ไม่เท่านั้นหนุ่มยังชวนทิเบตมาทำงานเป็นพนักงานขนกระเป๋าที่โรงแรมอีกด้วย หนุ่มพาทิเบตมรู้จักกับ คุ๊กกี้ พนักงานต้อนรับสาวร่างเล็ก หน้าตาน่ารัก ที่หนุ่มจีบ มาร่วมสามปี แต่คุ๊กกี้ก็ยังไม่ยอมใจอ่อน ถึงหนุ่มจะถูกด่าถูกว่าแต่หนุ่มก็ถือคติ “ผู้หญิงด่าแปลว่าผู้หญิงรัก” ทันทีที่คุ๊กกี้เจอทิเบตก็สนใจทันที จึงเสนอตัวคอยสอนงานและช่วยเหลือทิเบตทุกอย่าง หนุ่มรู้ทัน จึงขอให้ทิเบตช่วยเป็นพ่อสื่อจีบคุ๊กกี้ให้เค้า วันแรกของการทำงาน ทิเบตก็ก่อเรื่องเข้าจนได้ เมื่อถูก คลเมขลา ศักการะ ผู้จัดการฝ่ายพีอาร์ทางโรงแรมเข้าใจว่าทิเบตเป็นพวกขี้ขโมยเพราะกระเป๋าเงินของเธอหายไป ผิดกับทิเบตที่หลงรักคลเมขลาตั้งแต่แรกเห็น แต่ทันทีที่คลเมขลาด่าออกมา ก็ทำให้ภาพนางในฝันมลายหายไปชั่วพริบตา ทิเบตถูกไล่ออกทันทีตั้งแต่วันแรก หนุ่มรีบมาช่วยพูดก็ไม่ได้ผล หนุ่มเล่าให้ทิเบตฟังว่าผู้หญิงที่เค้ามีเรื่องด้วยคือ คลเมขลา หรือคุณมอธ หลานสาวคุณหญิงศรีเมือง หุ้นส่วนรายใหญ่ของโรงแรม ปุราณ เพื่อนของคลเมขลามาหา ปุราณชอบคลเมขลามานาน แต่คลเมขลาให้ได้แค่ความเป็นเพื่อน ปุราณเห็นคลเมขลากำลังหัวเสียเรื่องกระเป๋าเงิน ที่ปุราณมาหาก็เพราะคลเมขลาลืมกระเป๋าไว้ในรถเค้า ทำให้คลเมขลารู้ว่าเธอเข้าใจทิเบตผิด จึงรีบไปขอโทษ และให้ทิเบตกลับมาทำงานตามเดิม ทิเบตรู้สึกประทับใจในตัวคลเมขลา แต่เมื่อคิดว่าเธอเป็นถึงหลานเจ้าของโรงแรมก็ทำให้ทิเบตเจียมตัวว่าเธอกับเขาเสมือนอยู่คนละโลก คลเมขลาเป็นลูกสาวของ ศรีวิศาล กับ คคนางค์ (หย่ากับศรีวิศาลและไปอยู่ต่างประเทศ) เธอเป็นหลานรักของคุณหญิงศรีเมือง เพราะศรีวิชัย น้องชายศรีวิศาลไปเลือกนิลสี ผู้หญิงชั้นต่ำจากสลัม แถมยังมีลูกติดอย่างกานนมาเป็นเมีย นิลสียังนำนิสัยแบบชาวสลัมมาใช้ทำให้คุณหญิงศรีเมืองรับไม่ได้ หลังจากศรีวิชัยกับนิลสีแต่งงานกันได้ไม่กี่ปี ศรีวิชัยก็ประสบอุบัติทางรถยนต์จนเสียชีวิต ปริศนาการตายของศรีวิชัยยังเป็นที่สงสัยของคุณหญิงศรีเมืองมาจนทุกวันนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าปกติลูกชายคนเล็กของเธอจะไม่ขับรถไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง ถึงแม้กานนจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของศรีวิชัย แต่เค้ากลับถือตัวจากการสั่งสอนของแม่ เค้ามองลูกจ้างเป็นเหมือนสัตว์ เจ้าชู้ไม่เลือก ทอดทิ้งผู้หญิงทุกคนที่เขาได้แล้วอย่างไม่ใยดี แต่ที่สำคัญกานนเป็นไบโพล่าร์ (โรคอารมณ์สองขั้วเป็นความผิดปกติทางอารมณ์ ผู้ที่เป็นจะมีอารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน 2 แบบ แบบแรกมีลักษณะอารมณ์และพฤติกรรมออกเป็นแบบซึมเศร้า นั่งนิ่งๆ เฉยๆ ทำให้ดูเป็นคนสุภาพนุ่มนวล แบบที่สองมีลักษณะคึกคักพลุ่งพล่าน ซึ่งเรียกว่าเมเนีย ฉะนั้นเวลาโกรธหรือไม่ได้ดั่งใจจะแสดงออกอย่างรุนแรงจนควบคุมไม่ได้) กานนแอบรักคลเมขลา แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดเพราะคุณหญิงศรีเมืองขัดขวาง ทำให้กานนเกลียดคุณหญิงศรีเมืองมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องคอยเอาใจตามคำสั่งของนิลสีเพราะหวังในมรดก นิลสีมีลูกสาวที่เกิดกับศรีวิชัยคนหนึ่ง คือ นิลปัทม์ เธอมีนิสัยไม่ต่างกับพี่ชาย มั่วผู้ชายตั้งแต่วัยเรียนจนเรียนไม่จบ แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดไม่เกรงสายตาใคร คุณหญิงศรีเมืองให้นิลปัทม์มาช่วยงานที่โรงแรม เพราะนิลปัทม์มีข่าวคาวๆ ไม่เว้นแต่ล่ะวัน นิลปัทม์ได้เจอกับทิเบตก็รู้สึกถูกใจในความซื่อของเค้า นิลปัทม์อ่อยทิเบต แต่ทิเบตไม่สนใจ ทำให้นิลปัทม์โกรธมากเพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำเย็นชากับเธอมาก่อน นิลปัทม์จึงใส่ร้ายทิเบตว่าลวนลามเธอ ทันทีที่กานนรู้เรื่องก็มาเอาเรื่องทิเบต คลเมขลาผ่านมาเห็นก็เข้าใจทิเบตผิดเช่นกัน ไม่ว่าทิเบตจะพูดยังไง ก็ไม่มีใครเชื่อ ร้อนถึงคุณหญิงศรีเมืองต้องเป็นคนตัดสิน แต่ดูเหมือนคุณหญิงจะรู้สันดานของนิลปัทม์ดี จึงลงโทษทิเบตโดยการให้เซ็นใบเตือน ทำให้นิลปัทม์กับกานนไม่พอใจ เพราะกานนหมั่นไส้ทิเบตมานาน เนื่องจากอิจฉาที่สาวๆ ในโรงแรมพากันรุมล้อมทิเบต กานนมักจะเรียกทิเบตมาใช้งานอย่างหนัก และกดให้ทิเบตอยู่ต่ำกว่าเค้าเสมอ ทิเบตทำงานหนัก จนทำให้ไม่ค่อยได้นอน จึงเกิดอาการเบลอจนทำงานพลาด ทำให้ลูกค้ารายใหญ่ไม่พอใจ คลเมขลาเรียกทิเบตมาต่อว่าโดยไม่ฟังสาเหตุ เธอคิดว่าทิเบตเอาแต่เที่ยวเตร่ เพราะเห็นเค้ามีสาวๆ มาติดพันหลายคน ทิเบตทั้งเสียใจทั้งผิดหวังในตัวคลเมขลา เข้าใจว่าเธอใช้อำนาจโดยไม่สนความรู้สึกใครเลยปฏิเสธที่จะรับผิดในสิ่งที่ไม่ได้ทำ ยิ่งทำให้คลเมขลาไม่พอใจอย่างแรง เจ้าหนี้ของบุญก็คือ ไพโรจน์ (พ่อผู้ให้กำเนิดทิเบต แต่รัญจวนกับทิเบตไม่รู้) ไพโรจน์มาทวงหนี้บุญ แต่บุญไม่มีจึงบอกให้ไพโรจน์ไปตามทวงเงินกับลูกชายที่ตอนนี้ไปอยู่กรุงเทพ และทำงานที่โรงแรมอินดรีมที่บุญรู้เพราะบุษย์บอก ไพโรจน์นั้นเป็นนักธุรกิจ มีโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง แต่ที่เป็นอาชีพหลักจริงๆ คือ ปล่อยเงินกู้นอกระบบ เมื่อไพโรจน์รู้จึงออกคำสั่งให้ วันชัย ลูกน้องไปตามหาทิเบต ด้านกานนมีคู่ขาประจำชื่อ ลลิสา ไฮโซสาว ทั้งคู่ตกลงเป็นเพียงคู่นอนกันเท่านั้น เพราะต่างรู้ไส้รู้พุงกัน วันนี้กานนพาลลิสามาทานอาหารร้านเดียวกับคลเมขลาที่มากับร้อยตำรวจโทชัชชัย เพื่อนรักสมัยมัธยม กานนหึงคลเมขลาจึงมาขอนั่งด้วยและคอยกวนประสาทชัชชัย ขณะที่ลลิสาส่งสายตายั่วยวนชัชชัยตลอดเวลา ชัชชัยไม่สนใจแต่คลเมขลาอึดอัดจึงขอตัวกลับทันที วันชัยมาถึงบ้านเช่าของหนุ่ม เจอรัญจวนกับบุษย์ที่กำลังจะเตรียมตัวออกไปขายข้าวแกงรถเข็นเข้าพอดี วันชัยทำลายข้าวของจนพังพินาศ พร้อมทั้งให้เวลาสามวันในการหาเงินมาคืน ทันทีที่ทิเบตกลับมาและรู้เรื่อง ก็โกรธบุญมาก หนุ่มพยายามหาทางช่วย แต่ก็ยังได้เงินไม่ครบ ทิเบตเครียดมาก ไม่รู้จะทำยังไง จนเห็นโฆษณารับสมัครชายหนุ่มกล้าแสดงออก รายได้ต่อคืนหลายหมื่น ทิเบตสนใจมากจึงไปสมัครงานทันที โดยที่ไม่รู้ว่างานนั้นคืองานนั่งดริ้งค์กับสาวๆ ทิเบตจำเป็นต้องทำทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจ คืนนั้นคลเมขลาถูกเพื่อนเซอร์ไพร์สวันเกิดโดยพาไปที่ผับที่ทิเบตทำงาน ทิเบตโดนจับโดนลูบแต่ก็ต้องทน ซ้ำยังถูกลูกค้าสาวแก่สั่งให้เต้น ทิเบตจำต้องเต้น คลเมขลาเห็นทิเบตก็จำได้ เธอเสียความรู้สึกกับทิเบตมาก เข้าใจว่าทิเบตเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อเงิน เพื่อนคลเมขลาเห็นทิเบตก็ถูกใจเลยบอกให้ทิเบตมาเต้นให้เพื่อนเธอที่เกิดวันนี้ ทิเบตมาเต้นโดยไม่เห็นว่าเป็นคลเมขลา แต่สุดท้ายก็เห็นจนได้ คลเมขลารู้สึกแย่มากจึงเอาเงินฟาดหัวทิเบตก้อนหนึ่ง พร้อมกับสั่งไม่ให้ทิเบตกลับไปทำงานอีก ทิเบตมีเงินไปใช้หนี้ แต่กลับตกงาน แต่วันชัยกลับตุกติกอ้างว่าเงินไม่ครบ ทิเบตโมโหมาก จึงโดนวันชัยซ้อมอย่างหนัก ทำเอาทิเบตเจ็บไปทั้งกายและใจ บุษย์กับหนุ่มรู้ว่าทิเบตตกงาน บุษย์อยากช่วยพี่ชายจึงบอกให้หนุ่มพาเธอเข้าทำงานที่โรงแรม ตอนแรกทิเบตไม่ยอม เพราะอยากให้บุษย์เรียนหนังสือ แต่เพราะความดื้อของบุษย์ ทำให้ทิเบตต้องยอม ที่โรงแรมมีแม่บ้านลาออก เนื่องจากโดนกานนลวนลามแต่ไม่มีใครรู้ หนุ่มเลยให้บุษย์มาเป็นแม่บ้าน โดยให้ทดลองงานก่อน แล้วบุษย์ก็เจอแจคพอตเมื่อได้เข้าไปทำความสะอาดในห้องสูทชั้นบนของโรงแรม ห้องพักของกานน กานนเจอบุษย์ก็สนใจ แต่ยังไม่มีโอกาสเพราะเขาพาลลิสามาด้วย ด้านทิเบตมาทำเรื่องเอกสารที่โรงแรม เจอกับคลเมขลาโดยบังเอิญ คลเมขลายังคงพูดจาดูถูก ทำเอาทิเบตโมโห ดึงคลเมขลามาจูบ คลเมขลาตบหน้าทิเบตก่อนจะวิ่งหนีไป ทิเบตรู้สึกผิด แต่คิดว่าคนใจดำอย่างคลเมขลาสมควรแล้วที่ต้องโดนแบบนี้ ขณะที่ทิเบตกำลังกลับบ้าน ก็บังเอิญไปเห็นการไล่ล่าบนถนนเข้า ทิเบตตกใจมาก แล้วก็เห็น มิสเตอร์ซาซูเกะ กำลังจะถูกลอบยิง ทิเบตตะโกนลั่นให้ระวัง ทำให้มือปืนพลาดยิงไม่โดนจุดสำคัญ แต่กลับโดนแขน ทิเบตรีบพามิสเตอร์ซาซูเกะหนีด้วยความทุลักทุเล ทิเบตจะพามิสเตอร์ซาซูเกะไปหาหมอ แต่ซาซูเกะไม่ยอมไป เค้าขอให้ทิเบตช่วยเค้าเอากระสุนออก โดยทำตามที่เค้าบอก ทิเบตรู้ทันทีว่าซาซูเกะไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน หลังจากทิเบตเอากระสุนออกมา เค้าก็ให้ซาซูเกะพักที่บ้าน โดยโกหกแม่ บุษย์และหนุ่มว่า ซาซูเกะเป็นนักท่องเที่ยวที่โดนทำร้าย ซาซูเกะประทับใจในความดีของทิเบตจึงให้นามบัตรเอาไว้และบอกว่าพร้อมช่วยทิเบตทุกเรื่อง ก่อนที่เค้าจะจากไปในวันรุ่งขึ้น คุณหญิงศรีเมืองบ่นกับคลเมขลาเรื่องศรีวิศาลว่าไม่เอาถ่าน เข้าไปบริษัททุกวัน แต่บริหารอะไรก็ไม่ดีไม่เหมือนศรีวิชัยเสียดายที่ศรีวิชัยอายุสั้น นอกจากนี้ท่านยังเบื่อที่จะต้องบริหารงานกับนิลสี แต่ไม่มีเงินพอซื้อหุ้นโรงแรมทั้งหมด คลเมขลาเห็นใจคุณย่าแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง ทิเบตหางานใหม่ได้ คือการเป็นพนักงานล้างรถ แต่โลกก็กล๊มกลมเมื่อทิเบตมาเจอกับคลเมขลาที่เอารถมาล้าง ทิเบตจึงรู้ว่าร้านนี้เพื่อนคลเมขลาเป็นเจ้าของ คลเมลขาบอกเพื่อนว่าทิเบตไว้ใจไม่ได้ ทิเบตจึงโดนไล่ออกตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน ทิเบตโกรธแค้นคลเมขลามากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คลเมขลาประกาศไว้ว่าเธอจะรังควานชีวิตทิเบต ทำให้ทิเบตไม่มีความสุขไปชั่วชีวิต กานนหยอดขนมจีบให้บุษย์ ป้อนคำหวาน แต่บุษย์ไม่เล่นด้วย เพราะหนุ่มกับคุ๊กกี้เตือนให้รู้ว่ากานนเป็นเสือผู้หญิง ทำให้กานนยิ่งอยากได้ ครั้งหนึ่งบุษย์เกือบโดนปล้ำ แต่นิลปัทม์เข้ามาขัดคอ บุษย์รีบหนีไปอย่างอับอาย บุษย์ไม่กล้าบอกใครเรื่องนี้เพราะกลัวทุกคนเป็นห่วง ข่าวลือเรื่องบุษย์กับกานนแพร่สะพัดไปทั่ว เพราะมีคนเห็นกานนกับบุษย์หายไปในห้องเก็บอุปกรณ์ จึงเข้าใจว่าเข้าไปมีอะไรกัน ทั้งๆ ที่บุษย์หนีออกมาได้ก่อน เรื่องนี่รู้ถึงหูคลเมขลา เธอรู้ว่าบุษย์เป็นน้องสาวทิเบตก็เข้าใจว่า พี่น้องมีนิสัยเห็นแก่เงินไม่ต่างกัน ช่วงที่ทิเบตยังหางานทำไม่ได้ เค้าไปช่วยแม่ขายข้าวแกง พอดีว่ามีพวกค้ายามาซื้อขายกันแถวนี้ ชัชชัยนำกำลังตำรวจมาจับ พวกค้ายาโยนยาบ้าไปที่รถเข็นของรัญจวน ทำให้ทิเบตติดร่างแหถูกจับไปด้วย ชัชชัยจำทิเบตได้ว่าเคยเป็นพนักงานที่โรงแรมอินดรีม สุดท้ายทิเบตถูกปล่อยตัวเพราะหลักฐานไม่พอ ชัชชัยเล่าเรื่องทิเบตให้คลเมขลาฟัง คลเมขลายังฟังไม่ทันจบก็ตัดสินว่าทิเบตเป็นคนไม่ดี ด้านกานนยังคงตามติดบุษย์ ทำให้เธอกลัวมาก โชคดีที่วันนี้ คลเมขลามาทำงานแล้วชัชชัยแวะมาเยี่ยม กานนจึงมาเป็นก้างขวางคอทั้งคู่ ชัชชัยขอตัวกลับด้วยไม่อยากมีปัญหา แต่เพราะไม่ทันระวังจึงเดินชนบุษย์ ทำให้บุษย์ข้อเท้าพลิก ชัชชัยขอโทษและจับบุษย์ไว้อย่างไม่รังเกียจว่าเป็นแค่พนักงาน ทำให้บุษย์หลงรักชัชชัยตั้งแต่แรกเจอ แต่ก็ต้องปิดซ่อนไว้เพราะเข้าใจว่าชัชชัยเป็นคู่รักของคลเมขลา คืนหนึ่ง บุษย์ต้องอยู่กะดึก หนุ่มจะอยู่เป็นเพื่อน แต่คุ๊กกี้ดันโทรหาเพราะรถเสียกลางทาง ทำให้หนุ่มรีบไป โดยบอกว่าจะกลับมารับบุษย์ กานนเห็นว่าบุษย์อยู่ตามลำพัง จึงหลอกให้เข้าไปจัดห้องพักแขก แต่กลายเป็นว่ากานนรออยู่ บุษย์พยายามจะหนีแต่ไม่สำเร็จ เธอถูกกานนขืนใจอย่างไม่ปราณีและทิ้งเธอไว้ บุษย์ขวัญเสียมาก เธอรีบหนีออกมาจากห้อง คลเมขลาเห็นเข้าพอดี ก็แปลกใจ ก่อนจะเห็นกานนเดินออกมา คลเมขลาเข้าใจว่าบุษย์กับกานนเป็นไปตามข่าวลือจริงๆ จึงไม่ได้สงสัยอะไร หนุ่มมารับบุษย์แต่ไม่เจอก็แปลกใจ กลับไปบ้านก็ไม่เห็น ทิเบตกับหนุ่มออกตามหาบุษย์ จนเห็นบุษย์กำลังจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย ทิเบตกับหนุ่มรีบเข้ามาห้าม จึงได้รู้ความจริงทั้งหมด วันรุ่งขึ้น ทิเบตพาบุษย์ไปเรียกร้องให้กานนรับผิดชอบ มีคลเมขลายืนฟังอยู่ด้วย แต่กานนอ้างว่าบุษย์สมยอม คลเมขลาเองก็คิดว่าบุษย์สมยอมเช่นกัน แต่ที่ทำเป็นโวยวายเพราะอยากได้เงิน กานนดีใจที่คลเมขลาไม่เชื่อ จึงด่าว่าสองพี่น้องอย่างรุนแรง ทิเบตแค้นใจมากเข้าทำร้ายร่างกายกานน คลเมขลาตกใจรีบเรียกให้ รปภ.มาจับทิเบตกับบุษย์โยนออกไป ทิเบตหัวเสียอย่างมาก เค้าตัดสินใจจะแจ้งความเอาผิดกับกานน ทิเบตพาบุษย์ไปที่โรงพักเจอกับชัชชัยเข้าพอดี บุษย์เห็นชัชชัยก็รีบพาทิเบตกลับ เพราะไม่อยากให้ชัชชัยผู้ชายที่เธอแอบปลื้มรู้ว่าเธอถูกพรากความบริสุทธิ์ไปแล้ว บุษย์ขอให้ทิเบตหยุด และพาเธอกับแม่กลับบ้านต่างจังหวัด แต่ทิเบตไม่ยอมหยุด เค้าจะเอาเรื่องกานนให้ถึงที่สุด ทิเบตโทรบอกหนังสือพิมพ์ ทำให้กานนเสียชื่อ คุณหญิงศรีเมืองหัวเสียเรียกกานนกับนิลสีมาต่อว่า กานนโกรธแค้นทิเบตมาก คลเมขลาบอกให้ใจเย็น เธอจะจัดการเรื่องนี้เอง คลเมขลาโทรหาชัชชัยขอร้องให้พาไปที่บ้านทิเบตด้วยกัน ตอนนี้ชัชชัยรู้เรื่องบุษย์แล้ว คลเมขลาจะให้เงินชดเชยบุษย์ เพื่อให้ยุติข่าว เพราะตอนนี้กำลังจะมีการเลือกประธานบริหารคนใหม่ ถ้ามีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นจะทำให้คุณหญิงศรีเมืองไม่ได้รับเลือก แต่ทิเบตมองว่าคลเมขลาแก้ปัญหาด้วยเงินจึงไม่ยอมรับ พร้อมไล่ทั้งคู่กลับ ชัชชัยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น คลเมขลาจึงเล่าให้ฟัง ชัชชัยไม่เชื่อว่าบุษย์จะสมยอม ชัชชัยไปหาบุษย์ และขอคุยด้วย บุษย์ไม่อยากพูดถึง แต่ชัชชัยโน้มน้าวจนบุษย์เล่าทุกอย่างให้ฟัง ชัชชัยบอกคลเมขลาว่าเธอเข้าใจบุษย์ผิด ชัชชัยรู้ว่าบุษย์ไม่ได้โกหก คลเมขลาอึ้งและรู้สึกผิดที่เธอต่อว่าบุษย์อย่างแรง จึงเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาศรีวิศาล ศรีวิศาลไม่ให้แจ้งความอ้างถึงวงศ์ตระกูล แต่แท้จริง เขาไม่ต้องการให้ลูกชายของนิลสี ผู้หญิงที่เขาลักลอบคบมานานเดือดร้อน ทั้งคลเมขลาและคุณหญิงศรีเมืองไม่เคยเอะใจว่านี่เองคือสาเหตุที่ทำให้คคนางค์ขอหย่ากับศรีวิศาล และศรีวิชัยขับรถออกไปประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต บุษย์พยายามจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่รัญจวนกับทิเบตมาห้ามไว้ทัน ทำให้บุษย์กลายเป็นโรคซึมเศร้า ขณะที่คลเมขลาหมั่นมาหาบุษย์เพราะอยากช่วยเหลือจริงๆ แต่ทิเบตปฏิเสธและแค้นฝังหุ่นคนทั้งตระกูล นอกจากไม่มีงานไม่มีเงินแล้ว ทิเบตยังถูกวันชัยตามมาทวงเงินอีก อีกด้านกานนที่แค้นทิเบตอย่างมากที่ทำให้เค้าถูกคุณหญิงศรีเมืองกักบริเวณไม่ให้ออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหน ก็จ้างคนไปฆ่าทิเบต ทิเบตกำลังสิ้นหวังอย่างรุนแรง จึงดื่มเหล้าจนเมาและไปหากานนที่โรงแรม แต่กลับเจอคลเมขลา ทิเบตด่าคลเมขลาไม่หยุด คลเมขลาเห็นทิเบตเมาก็ไม่อยากถือสา มือปืนที่กานนจ้างมากำลังจะฆ่าทิเบต แต่ทิเบตดันเดินตามคลเมขลาไปขึ้นรถด้วย คลเมขลาไล่เท่าไหร่ ทิเบตก็ไม่ลง ซ้ำยังจะปลุกปล้ำเลยเจอคลเมขลาตบหน้าทำให้ทิเบตได้สติ ทิเบตจะขอโทษแต่คลเมขลาไล่ทิเบตลงจากรถ ทิเบตรู้สึกแย่ที่ตัวเองไม่ต่างจากกานน ขณะที่กำลังจะกลับบ้าน มือปืนตามมายิงโดนเข้าจุดสำคัญ ทิเบตล้มทั้งยืนเลือดอาบไหลเต็มถนน มีพลเมืองดีผ่านมาเห็นทิเบต ก็รีบพาส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เจอนามบัตรของซาซูเกะจึงโทรไปบอกในขณะที่ซาซูเกะกำลังจะเดินทางกลับญี่ปุ่น ซาซูเกะรีบมาหาทิเบต พบว่าทิเบตอาการแย่มาก ซาซูเกะรีบย้ายทิเบตไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุด แล้วในที่สุดทิเบตก็ปลอดภัย รัญจวน บุษย์ หนุ่มเป็นห่วงที่ทิเบตหายตัวไป แต่ไม่นานทิเบตก็โทรเข้ามาบอกว่าปลอดภัยดี มีอุบัติเหตุนิดหน่อย ซาซูเกะจัดการใช้หนี้ให้ทิเบตจนครบ และสั่งไม่ให้วันชัยมายุ่งกับทิเบตและครอบครัวอีก ซาซูเกะช่วยเหลือทิเบตทุกอย่าง ซื้อบ้านให้ทิเบตกับครอบครัวได้อยู่ หลังจากทิเบตหายดีก็พาแม่กับน้องสาวไปอยู่บ้านใหม่ที่ทั้งใหญ่และหรูหรามีคนรับใช้พร้อม นั่นคือ ต้อย สาวใช้พูดมาก กับ ยง สามีต้อยที่กลัวเมียยิ่งกว่ากลัวแม่ รัญจวนแปลกใจ แต่ถามอะไร ทิเบตก็ตอบกลางๆ หลังจากนั้นไม่นานทิเบตมาลาแม่กับน้องไปญี่ปุ่นพร้อมกับซาซูเกะ ทิเบตฝากหนุ่มกับคุ๊กกี้ให้ช่วยดูแลแม่กับน้อง ทิเบตจากไปเป็นวันเดียวกับที่ คลเมขลาเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่ทั้งคู่ก็เพียงเดินสวนกันโดยไม่ทันเห็นกันเสมือนอยู่คนละโลกและเดินคนละเส้นทาง ที่ญี่ปุ่น....ซาซูเกะรับทิเบตเป็นลูกบุญธรรม ส่งเสียให้เรียนหนังสือจนจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ นอกจากนั้นทิเบตยังได้เรียนศิลปะป้องกันตัว ความเป็นคนหัวดีทำให้เขาเรียนรู้ได้เร็วทั้งวิชาการและการต่อสู้ ครั้งหนึ่งซาซูเกะถูกลอบทำร้าย แล้วทิเบตเอาตัวเข้าช่วยจนบาดเจ็บแต่ก็จับตัวคนร้ายได้ ทำให้ซาซูเกะยิ่งรักทิเบต และยกกิจการทุกอย่างให้ทิเบตดูแล ตลอดเวลา 3 ปี ทิเบตเฝ้าอดทน เพียรพยายามจนเปลี่ยนตัวเองได้สำเร็จ แล้วในที่สุดก็ถึงเวลาที่ทิเบตจะได้กลับมาแก้แค้น ซาซูเกะรู้ความต้องการข้อนี้ของทิเบตดี ซ้ำยังสนับสนุนให้ทิเบตจัดการคนที่ทำร้ายเค้า แล้วโชคก็เข้าข้างเมื่อทิเบตรู้ข่าวว่าคลเมขลาเพิ่งแต่งงานกับปุราณ และจะมาฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น เค้าแอบเจ็บเพราะลึกๆ เค้ายังชอบคลเมขลาอยู่ แต่ทิเบตก็ต้องย้ำกับตัวเองว่าครอบครัวของคลเมขลาทำอะไรเอาไว้กับเค้าบ้าง สิ่งที่เค้าต้องทำคือ “แก้แค้น” เท่านั้น ทิเบตสืบจนรู้ว่าไฟล์ทของคลเมขลาคือไฟลท์อะไร พักที่โรงแรมไหน ทิเบตไม่รอช้าเริ่มทำตามแผนของเค้าทันที กระเป๋าเดินทางของคลเมขลากับปุราณถูกขโมย ทำให้สองคนเคว้งคว้าง แต่แล้วทิเบตกลับโผล่มาช่วย ทิเบตลุ้นว่าคลเมขลากับปุราณจะจำเค้าได้หรือไม่ เค้าสองคนจำทิเบตไม่ได้ เพราะตอนนี้ทิเบตรูปร่างใหญ่ขึ้น หน้าตาดีขึ้นไม่เหมือนหนุ่มซื่อ ผมม้า ท่าทางจ๋องๆ คนเดิม ทิเบตแนะนำว่าเค้าชื่อ ทิม เป็นคนไทยที่มาทำธุรกิจที่นี่ ทิเบตเสนอตัวช่วยเหลือทั้งสองคนเต็มที่ โดยการพาไปช้อปปิ้งชุดแบรนด์เนม จนทำให้คลเมขลากับปุราณไว้วางใจ ทิเบตพาสองสามีภรรยาเที่ยว ปุราณเอาใจคลเมขลาตลอดทางจนทำให้ทิเบตไม่พอใจ ทิเบตต้องหาทางแยกคลเมขลากับปุราณออกจากกัน แล้วทิเบตก็ทำสำเร็จเมื่อพาปุราณไปเข้าบ่อนของเค้า โดยที่ปุราณไม่รู้ ทิเบตบอกให้ลูกน้องทำให้ปุราณได้เงินเยอะๆ จนปุราณติดใจ ไม่อยากพาคลเมขลาเที่ยว ปุราณขอให้ทิเบตช่วยดูแลคลเมขลาแทน คลเมขลางอนปุราณจึงไปกับทิเบต แผนของทิเบตดำเนินไปด้วยความราบรื่น ทิเบตพาคลเมขลาเที่ยวชนบทในญี่ปุ่น คลเมขลามีความสุขมากจนลืมไปว่าไม่พอใจปุราณอยู่ ทิวทัศน์ธรรมชาติทำให้คลเมขลาเพลิดเพลิน ทิเบตดำเนินแผนการต่อไป โดยแกล้งทำเป็นรถเสีย กลับเข้าเมืองไม่ได้ จำต้องค้างคืนที่นี่ ทิเบตกับคลเมขลาไปเปิดโรงแรมแบบเรียวกัง (โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นอยู่) โรงแรมนั้นเป็นของซาซูเกะ ทิเบตจึงวางแผนบอกว่ามีห้องพักเหลือห้องเดียว สองคนจำต้องนอนห้องเดียวกัน แต่ทิเบตแสดงความเป็นสุภาพบุรุษโดยการออกไปนอกห้อง ทำให้คลเมขลาประทับใจมาก ทิเบตพาคลเมขลาไปเที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น ปุราณติดต่อทิเบต แต่คลเมขลายังไม่หายงอน จึงบอกไปว่าจะอยู่เที่ยวกับทิเบตต่ออีกสี่ห้าวันถึงจะกลับ ทิเบตอาสาเป็นตัวกลางประสานรอยร้าวให้ปุราณ ปุราณไม่ได้เอะใจแต่กลับเชื่อสนิท ทิเบตทำดีกับคลเมขลาทุกอย่าง คอยดูแล เอาใจ จนทำให้คลเมขลารู้สึกดีกับทิเบต และเริ่มรู้สึกว่าเธอน่าจะเจอทิเบตก่อนหน้านี้ เพราะว่า.. ครอบครัวของปุราณกำลังจะล้มละลาย จากการที่ปุราณเล่นหุ้นมากมายเพื่อเอาเงินมาบริหารงานของบริษัท แต่มันกลับไม่ประสบผลสำเร็จแถมยังเป็นหนี้มากกว่าเดิม นิโลบล แม่ของปุราณจึงย้ำให้ปุราณจับคลเมขลาให้อยู่ โดยนิโลบลเข้าทางคุณหญิงศรีเมือง ปุราณไม่อยากทำ แต่เพราะความที่เค้ารักแม่มาก จึงไม่กล้าขัดใจ ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษที่ปุราณแสดงออก ทำให้คุณหญิงศรีเมืองชอบ และตั้งใจจะให้แต่งงานกับคลเมขลา คลเมขลาปฏิเสธคุณย่าไม่ได้ เพราะคุณย่าเจ็บออดๆ แอดๆ เธอจำต้องแต่งงานกับปุราณ คลเมขลาตกลงกับปุราณว่าเราจะแต่งงานกันในทางนิตินัยเท่านั้น ปุราณจำยอม ทิเบตไม่เคยรู้ตื้นลึกหนาบางของคลเมขลากับปุราณ จึงเข้าใจว่าทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันทางพฤตินัยกันแล้ว ทิเบตจึงไม่คิดว่าคลเมขลาเป็นสาวบริสุทธิ์ เค้าจึงหาทางใกล้ชิดคลเมขลาแบบเนียนๆ ทำเอาคลเมขลาหวั่นไหว หลายวันที่คลเมขลาเที่ยวกับทิเบต เธอรู้สึกถึงอิสระที่เธอไม่เคยได้รับ เธอมีความสุขมาก มากซะจนไม่อยากกลับสู่โลกความเป็นจริง การอยู่ในญี่ปุ่นเหมือนการอยู่ในความฝัน เธอได้ทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำ ได้เก็บผลไม้ ไปออนเซน ขี่จักรยาน นั่งเรือ มันช่างเป็นชีวิตที่เธอเฝ้าฝันถึงมาตลอด คืนสุดท้ายก่อนทิเบตจะพาคลเมขลากลับไปหาปุราณในเมือง เค้าจัดดินเนอร์ชุดใหญ่ให้คลเมขลา โดยทั้งเค้าทั้งคลเมขลาแต่งตัวในชุดยูกาตะ สองคนนั่งทานอาหารและชมพลุที่ทิเบตจัดมาด้วยกัน จนทั้งคู่เผลอใจจูบกันท่ามกลางแสงสีของพลุที่กระจายเต็มท้องฟ้า คลเมขลาเรียกสติตัวเองกลับคืนโดยเร็ว เธอรู้สึกผิดกับปุราณ ทิเบตเองก็แกล้งทำเป็นรู้สึกผิดเช่นกัน รุ่งขึ้นทิเบตมาส่งคลเมขลาถึงมือปุราณ ทั้งคู่ลาจากกัน คลเมขลารู้สึกเศร้า แต่ทิเบตกลับสะใจที่ทำให้คลเมขลามีใจให้กับเค้าได้สำเร็จ หลังจากกลับจากฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น คลเมขลาคิดถึงทิเบตตลอดเวลา ชัชชัยสงสัย แต่คลเมขลาแก้ตัวว่าเป็นเพราะงานเยอะ ทำให้เธอเหม่อลอย ทิเบตกลับมาเมืองไทยพร้อมกับ โทรุ ผู้ช่วยคนญี่ปุ่นที่เป็นคนดูแลทิเบตตั้งแต่ทิเบตไปอยู่ที่นั่น โทรุอยู่กับทิเบตมานาน ทิเบตจึงสอนภาษาไทยจนทำให้โทรุพูดไทยได้คล่องเหมือนเป็นคนไทย ทิเบตมาดูแลธุรกิจใหม่ของซาซูเกะ นั่นคือการเปิดตัวคอนโดริมแม่น้ำ ทิเบตเลือกโรงแรมของคลเมขลาในการเปิดตัว ทิเบตมาโรงแรม ในฐานะนักธุรกิจใหญ่ ทิเบตเจอหนุ่ม แต่หนุ่มกลับจำทิเบตไม่ได้ เค้านอบน้อมกับทิเบตมาก จนทำให้ทิเบตขำแต่ต้องกลั้นเอาไว้ ทิเบตกับคลเมขลาได้พบกันอีกครั้ง ทิเบตทำเป็นแปลกใจ ผิดกับคลเมขลาที่ดีใจมากที่ได้เจอกับทิเบต กานน นิลปัทม์และคุณหญิงศรีเมือง ไม่มีใครจำทิเบตได้ซักคน นิลปัทม์สนใจทิม หรือทิเบต ผิดกับกานนที่รู้สึกไม่ถูกชะตาซักนิด ทิเบตต้องทำงานร่วมกับคลเมขลา ชัชชัยสงสัยเพื่อนสาวที่ดูมีความสุขผิดกับตอนที่กลับจากญี่ปุ่นใหม่ๆ ทิเบตกลับไปเยี่ยมแม่กับบุษย์ที่บ้าน ตอนนี้ น้องเสือ ลูกชายของบุษย์ที่เกิดจากบุษย์กับกานนโตได้สามขวบแล้ว ทิเบตรักหลานคนนี้มากถึงแม้จะเกลียดพ่อของเสือ ระหว่างนั้นชัชชัยมาหาบุษย์ ทิเบตตกใจมากรีบหลบ และได้รู้จากรัญจวนว่าตั้งแต่เกิดเรื่องชัชชัยมาคอยดูแลบุษย์ตลอด ซ้ำยังช่วยเรื่องเงิน แต่แม่ไม่รับ ความจริงแล้วเงินนั้นเป็นของคลเมขลาที่ฝากชัชชัยให้เอามาให้บุษย์กับหลาน แต่ไม่มีใครรู้ ทิเบตดำเนินแผนต่อไป...โดยการเข้ามาตีสนิทกับปุราณ จึงรู้ว่าปุราณกำลังจะทำธุรกิจตัวใหม่ นั่นคือการทำคอมมิวนิตี้มอล ทิเบตอาสาช่วย...บอกจะให้กู้เงินแบบไม่คิดดอกเบี้ย ปุราณตื่นเต้นมาก ทิเบตกำชับอย่าเพิ่งเรื่องนี้ให้คลเมขลารู้จนกว่าโปรเจคจะเป็นรูปเป็นร่าง คลเมขลาจะได้เซอร์ไพร์ส ปุราณเห็นด้วย ช่วงนี้ปุราณจึงทำงานหนัก ทำให้ไม่มีเวลาไปใส่ใจคลเมขลา คลเมขลาไม่ได้รู้สึกน้อยใจ เพราะเธอกำลังมีความสุขกับทิเบต บุษย์ปรับทุกข์กับรัญจวน เพราะรู้สึกว่าการกลับมาของทิเบตคราวนี้ ทิเบตดูเปลี่ยนไปเหมือนคนไม่มีหัวใจ ทำแต่งานจนไม่มีเวลาให้ใคร ซ้ำยังไปอยู่ที่อื่น ไม่อยู่บ้าน รัญจวนก็หนักใจ โดยเฉพาะเวลาโกรธ ทิเบตจะน่ากลัวมาก แต่บุษย์คิดจะทำทุกทางเพื่อให้ได้พี่ชายคนเดิมกลับมา นิลสีแปลกใจที่เห็นกานนกลายเป็นคนอารมณ์ร้อนมากกว่าเดิม จนมารู้จากนิลปัทม์ว่ากานนรักคลเมขลา เลยไม่พอใจที่คลเมขลาแต่งงาน นิลสีสงสารลูกจึงบอกว่าแต่งได้ก็หย่าได้ ทำให้กานนเกิดความคิดจะทำลายคลเมขลากับปุราณ ทิเบตเลือกลลิสามาเป็นพรีเซนต์เตอร์คอนโด ลลิสาอยากได้ทิเบตมาเป็นของเธอทันทีตั้งแต่แรกเจอ จึงทำให้ลลิสากับนิลปัทม์เป็นศัตรูกัน เจอหน้ากันทีไรต้องมีเรื่องตบตีกันทุกครั้ง ลลิสาบอกกับกานนให้เลิกยุ่งกับเธอ กานนรู้จากนิลปัทม์ว่าลลิสามีใจให้ทิเบต ก็ทำให้กานนโกรธแค้น และเกลียดทิเบตมาก งานเปิดตัวคอนโดเริ่มขึ้น มีการเดินแฟชั่น คลเมขลาจัดงานได้ออกมาดี ทิเบตพอใจสุดๆ งานได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คอนโดถูกจองด้วยความเร็ว ยกเว้นห้องเพ้นเฮ้าส์บนชั้นสูงสุดที่มีราคาเป็นร้อยล้าน เจ้าของห้องนี้คือคลเมขลา ตัวคลเมขลาและคนในงานพากันแตกตื่น ทิเบตบอกว่าเค้าซื้อเป็นของขวัญให้กับเธอที่ทำงานนี้ได้ถูกใจเค้า กานนหมั่นไส้ที่ทิเบตอวดรวย จึงกระแหนะกระแหนคลเมขลา ทำให้คลเมขลาไม่พอใจ ทิเบตผ่านมาเห็นกานนกับคลเมขลาอยู่กันสองต่อสองก็เข้าใจผิดคิดว่าคลเมขลาเป็นผู้หญิงไม่รู้จักพอ มีสามีแล้วยังมายุ่งกับญาติตัวเองอีก ทิเบตโมโหหึง พอเจอคลเมขลาก็เลยประชดออกไปกับนิลปัทม์ นิลปัทม์มีความสุขสุดๆ แต่ทิเบตกลับไปส่งเธอที่บ้านแทน ไม่ได้พาไปเที่ยวที่ไหน กานนเรียกพนักงานสาวในโรงแรมมาพบบนห้อง แต่ด้วยความเมาบวกกับหงุดหงิดเรื่องคลเมขลา เขาจึงรุนแรงกับหญิงสาวถึงขั้นบีบคอเธอตาย นิลสีเข้ามากับระเบียบ หัวหน้าแม่บ้านในโรงแรมเห็นพนักงานสาวนอนตาค้างก็ตกใจ นิลสีสั่งให้ระเบียบนำศพไปจัดการและให้ระเบียบลาออกพร้อมเงินก้อนหนึ่งเพื่อไม่ให้เรื่องยุ่งยาก ระเบียบจึงให้บุญ พ่อของบุษย์....น้องชายที่หนีเจ้าหนี้มาหลบอยู่ด้วยจัดการอีกต่อ ด้านนิลสีปลอบใจกานน แต่กลายเป็นกานนกลับเพิ่งรู้ตัวว่าชอบวิธีซาดิสม์แบบนี้ นิลสีถึงกับอึ้งและเริ่มหวั่นไหวกับพฤติกรรมของลูก นิลสีเลยตัดสินใจประกาศขายหุ้น เพราะต้องการพากานนไปรักษาตัว ทิเบตรู้จึงให้ทนายจัดการซื้อหุ้นทั้งหมด ทำให้ตอนนี้ โรงแรมมีหุ้นส่วนสองคน คือ ทิเบตและคุณหญิงศรีเมือง กานนไม่ยอมไปรักษาตัว นิลสีกลุ้มใจมาก แต่ก็ไม่กล้าขัดใจลูกชาย กานนจึงอยู่ที่นี่ในฐานะพนักงานคนหนึ่ง ตอนนี้กานนเทียบอะไรกับทิเบตไม่ได้ซักนิด กานนได้แต่เก็บความแค้นเอาไว้ในใจ ทิเบตเข้าไปแนะนำตัวกับคุณหญิงศรีเมืองว่าเป็นหุ้นส่วนรายใหม่ เขาทำการบ้านมาแล้วว่าคุณหญิงศรีเมืองชื่นชอบของเก่า เขาจึงชวนคุณหญิงศรีเมืองพูดคุยเรื่องนี้ และชวนนางไปดูของเก่าที่เขาเก็บสะสมไว้ คุณหญิงศรีเมืองถูกชะตากับทิเบตอย่างมาก เค้าเป็นสุภาพบุรุษน่าชื่นชม ด้านนิโลบลหมดเงินไปกับการออกงานสังคม ซื้อของแบรนเนม จึงไปขอยืมเงินคลเมขลาอ้างว่านำไปหมุนในบริษัท คลเมขลาเห็นว่าจำนวนเงินที่นิโลบลขอเธอยังพอช่วยได้จึงตกลง ขณะที่ปุราณมุ่งมั่นจะทำการค้าแต่งบลงทุนบานปลายจึงขอกู้เงินทิเบตเรื่อยๆ จนเขาเป็นหนี้ทิเบตหลายสิบล้าน ที่เค้างบบานปลายเพราะนักธุรกิจที่ร่วมทุนกับปุราณเป็นคนของทิเบต ปุราณมีปัญหาเรื่องงานจึงทะเลาะกับคลเมขลาบ่อยครั้ง ทิเบตแสร้งทำเป็นเห็นใจ และเริ่มพาตัวเข้ามาพัวพันกับคลเมขลามากขึ้น เพราะปุราณทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ทำให้คุณหญิงศรีเมืองดูถูก และเริ่มไม่ปลื้ม ผิดกับทิเบตที่ตอนนี้กลายมาเป็นแขกประจำบ้าน ทิเบตหาทางใกล้ชิดคลเมขลา แต่อีกด้านก็ปั่นหัวนิลปัทม์จนเธอรักเค้าจนถอนตัวไม่ขึ้น ทิเบตยังทำทุกอย่างไปตามแผน เขาให้คลเมขลามาช่วยงานเค้าแทนตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ และไล่กานนออก แต่กานนขอร้องให้คลเมขลาช่วยอ้างว่าอยากทำงานช่วยครอบครัว แต่ที่จริงต้องการอย

เพลิงตะวัน 2558

เพลิงตะวัน (2558/2015) แล้ววันหนึ่งก็มีหญิงสาวนิรนามมาสลบอยู่ท้ายรถ ธงไทย (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์)เจ้าของไร่หนุ่ม เธอถูกทำร้ายถึงขั้นความจำเสื่อม ธงไทยจึงพาไปรักษาตัวที่ไร่ โดยตั้งชื่อให้ใหม่ว่า ตะวัน (เซฟฟานี่ อาวะนิค) ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่รักกันถึงขั้นวางแผนแต่งงาน แต่แล้วความสุขก็พลันมลาย เมื่อความจริงปรากฏว่าเธอ คือ ปรางค์ทอง ภรรยาของ นันทวัฒน์ (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง และมีพ่อเลี้ยงเป็นมหาเศรษฐี เธอขอให้เขาพากลับไปรื้อฟื้นความทรงจำที่บ้านสามี และค่อยๆ จำเรื่องราวในอดีตได้ จากหญิงสาวผู้สดใสกลับกลายเป็นผู้หญิงไร้หัวใจ เธอเริ่มต้นที่จะแก้แค้นครอบครัวสามีแทนผู้มีพระคุณ แม้เขาจะพยายามเหนี่ยวรั้งเธอไว้ด้วยหัวใจรัก แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะสายเกินไป

เจ้านาง 2558

เจ้านาง (2558/2015) ความรักที่ไม่อาจสมหวังระหว่างเจ้านางละอองคำ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ธิดาเจ้าฟ้าเมืองนายกับเจ้าราบฟ้า (ธนพล นิ่มทัยสุข) พระราชบุตร เธอถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นานาจากเจ้านางปิ่นเมือง (ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) น้องสาวต่างมารดา จนเธอต้องจมอยู่กับความแค้น เมื่อเกิดภัยสงคราม จนเจ้าราบฟ้าเสียชีวิต ละอองคำก็ตัดสินใจเลี้ยงผีเจ้า (อำภา ภูษิต)ซึ่งเป็นผีต่างวงศ์ ผีเจ้าช่วยให้ละอองคำลี้ภัยมาอยู่เมืองไทย หลังจากเมืองนายล่มสลาย แลกกับการใช้ร่างละอองคำหาเหยื่อมาสังเวย แต่เมื่อผีเจ้าเห็นละอองคำสร้างครอบครัวและกำลังทอดทิ้งตน ผีเจ้าจึงฆ่าสามีละอองคำ โชคดีที่ลูกสาวหนีไปอยู่ต่างประเทศกับเพื่อนสนิทของพ่อได้ทัน ละอองคำต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวจนตาย ผีเจ้าจึงกักขังวิญญาณละอองคำไว้ กระทั่งหลายสิบปีต่อมา มนต์ทิพย์ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) หลานสาวผู้มีใบหน้าเหมือนละอองคำกลับมาแต่งงานกับบุญสลัก ซึ่งก็คือเจ้าราบฟ้ากลับชาติมาเกิด ผีเจ้าสร้างเรื่องเพื่อกดดันให้มนต์ทิพย์รับเลี้ยงตน ชีวิตมนต์ทิพย์เกือบกลายเป็นผีดิบเฉกเช่นละอองคำ ดีที่แม่ชีรุ้งแก้ว (ณธิดา ภัทรชาญไชย) น้องของละอองคำมาเตือนสติ จนละอองคำยอมขอขมาผีบรรพบุรุษ ท่านจึงช่วยปกป้องมนต์ทิพย์ ทายาทคนสุดท้ายของตระกูล จนวิญญาณผีเจ้าแตกสลาย มนต์ทิพย์และบุญสลักมีชีวิตอย่างปกติสุขโดยไม่ลืมทำบุญให้ผีบรรพบุรุษสืบต่อไป

เพื่อน-แพง 2558

เพื่อน-แพง (2558/2015) เมื่อลอ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หนุ่มคนยากใจซื่อที่กำลังจะแต่งงานกับเพื่อน (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) สาวงามแห่งทุ่งบ้านสร้างถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับโจรปล้นชาวบ้าน ลอจึงสู้กับโจรเพื่อพิสูจน์ตัวเองจนบาดเจ็บปางตาย ขณะที่เพื่อนถูกหลอกพาไปขายที่พระนคร ทำให้แพง (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) น้องสาวเพื่อนต้องดูแลลอ ชายที่มันรักสุดหัวใจ โชคดีที่น้าสาวของเพื่อนกับแพงช่วยพาลอไปรักษาที่พระนครและตามไปช่วยเหลือเพื่อนออกมาได้ แต่เพื่อนกลับหลงคารมของมานพ (กรเศก โคร์นิน) ชายหนุ่มเมืองกรุงจนบอกเลิกลอ ลอจึงกลับบ้านสร้างอย่างผู้พ่ายแพ้ แพงสงสารจึงไม่ไปเรียนต่อเมืองนอกและกลับมาดูแลลอ ความดีของแพง ทำให้ลอเทใจให้ จนทั้งคู่ได้เสียกัน ลอจะไปบอกพ่อของแพง แต่เพื่อนที่ถูกมานพทิ้งซมซานกลับมาก่อน เมื่อเพื่อนรู้เรื่องก็ทะเลาะกับแพงอย่างหนัก และด้วยความแค้นที่แพงท้องกับลอ เพื่อนจึงไม่ยอมบอกเรื่องบันไดชำรุด จนแพงตกบันไดแท้งลูกและเสียชีวิตลงในอ้อมกอดของลอ ลอเสียใจมากและตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อรักษาคำสาบานที่ให้ไว้กับเพื่อน ส่วนเพื่อนต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็นไปชั่วชีวิต

ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท 2558

ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท (2558/2015) ด้วยความแค้นอาฆาตพยาบาทของ ปฐวี(ตุ้ย-ธีรภัทร์ สัจจกุล) ซึ่งมีต่อ ชิดชงค์(ตฤณ เศรษฐโชค) ที่ทำให้พ่อของเขาฆ่าตัวตายและครอบครัวก็ต้องล่มสลาย เขาจึงต้องการล้างแค้นเอาคืนกลับครอบครัวและชีวิตของชิดชงค์เช่นกัน เขาเลยท้าพนันกับชิดชงค์ จนชิดชงค์พ่ายแพ้และฆ่าตัวตาย พอ ชิดชบา(ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์)ลูกสาวของชิดชงค์ทราบข่าว ก็รีบบินกลับมาจากฝรั่งเศสทันที เมื่อปฐวีเจอชิดชบาก็ยื่นข้อเสนอให้ชิดชบา ถ้าเธอยอมมาเป็นนางบำเรอของเขา ในระยะเวลา 1 ปี ถ้าทำตามกำหนดก็จะยอมคืนคฤหาสน์สมบัติชิ้นสุดท้ายคืนให้กับเธอทันที ชิดชบาแค้นใจมากที่ถูกย่ำยีศักดิ์ศรีแต่เธอไม่มีทางเลือก เลยตอบตกลง และเธอก็ให้เฉวียง(อาเต๊ะ-โชคดี ฟักภู่)ทนายคนเก่าแก่เป็นผู้จัดการเอกสารให้ทั้งหมด เงื่อนไขประหลาดของปฐวีนี้ ทำให้ โสมสุภางค์(ปุยฝ้าย- ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล)คู่หมั้นของเขาไม่พอใจอย่างมาก แต่เธอก็ต้องจำยอมให้ปฐวีเอาชิดชบามาเป็นนางบำเรอ เพราะเธอรักเขามากนั้นเอง และคิดว่าชิดชบาก็จะเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป อีกทั้งปฐวีก็สัญญากับเธอว่าชิดชบาจะอยู่ในฐานะนางบำเรอเท่านั้น ทางด้านชัยยงค์(บี๋-ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์)อดีตนักพนันที่พยายามจะโค่นล้มชิดชงค์หมายจะครอบครองคฤหาสน์ของชิดชงค์ แต่มารู้ข่าวว่าคฤหาสน์ตกไปอยู่ในมือของปฐวี ชัยยงค์เลยวางแผนกับชัยญา(เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูกชาย เพื่อโค่นปฐวีด้วยเกมส์การพนัน โดยมี ถกล(หนุ่ม-ชมวิชัย เมฆสุวรรณ)สมุนมือขวาของชัยญาเข้ามามีส่วนร่วมในแผนปองร้ายครั้งนี้ด้วย เหตุการณ์ในอดีตของปฐวีที่คอยตามหลอกหลอนเขา ทำให้เขาเป็นโรคนอนไม่หลับ ฝันร้ายตลอด ปฐวีเลยต้องได้รับการรักษา โดยมีแพรวา(น้ำหวาน-กรรณาภรณ์ พวงทอง) จิตแพทย์สาวสวย เข้ามารักษาด้วยความใกล้ชิดทำให้แพรวาตกหลุมรักปฐวี ในขณะเดียวกันข่าวการตายของชิดชงค์ได้แพร่สะพัดไปตามสื่อ เมื่อ ธวัชพงศ์ (เอ-เอกราช กฤตสิริทิตย์)นักข่าวหนังสือพิมพ์ เขาต้องการทำสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับการตายของชิดชงค์ เพื่อนำมาตีแผ่ให้ผู้อ่านได้รู้ถึงพิษภัยของการพนัน มันทำให้เขาได้ไปสนิทสนมกับชิดชบา จนเกิดเป็นความรัก ทั้งๆที่ธวัชพงศ์รู้ว่าชิดชบาเป็นนางบำเรอตามเงื่อนไขของปฐวีก็ตาม เขาพยายามจะช่วยแต่ก็ไม่เป็นผล ปฐวีใช้ร่างกายของชิดชบาเป็นที่ระบายความแค้น ชิดชบาได้แต่รองรับอารมณ์ของปฐวีด้วยความขมขื่น แต่เธอก็เลือกที่จะไม่แสดงความรู้สึกอ่อนแอให้ใครเห็น นอกจากตลับนาค(เจี๊ยบ-กาญจนาพร ปลอดภัย) ป้าของเธอ ปฐวียังคงหมั่นดูแลเอาใจใส่โสมสุภางค์ในฐานะคู่หมั้นอย่างดี ปฐวีเลือกที่จะพาโสมสุภางค์ไปท่องยุโรป แต่นั่นก็ทำให้โสมสุภางค์ดีใจได้ไม่นาน เมื่อรู้ว่าเขาจะพาชิดชบาไปด้วย และที่นั่นเขาได้พบกับ ม.ร.ว.อรุณณรงค์หรือคุณชายเอี่ยว(แอมป์-พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์)นักการทูต ม.ร.ว.อรุณณรงค์เริ่มสนิทสนมกับชิดชบามากขึ้น ด้วยความสุภาพของเขาทำให้ชิดชบากลับมายิ้มหัวเราะได้อีกครั้ง แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ปฐวีรู้สึกไม่พอใจ หลังจากกลับจากยุโรปโสมสุภางค์ป่วยเป็นโรคหัวใจ คุณนายเถาว์เครือ(ฮันนี่-ภัสสร บุญยเกียรติ)แม่ของโสมสุภางค์โกรธปฐวีมากที่เป็นสาเหตุทำให้ลูกสาวของเธอล้มป่วย ปฐวีรู้สึกผิดเลยจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุด พิธีแต่งงานของปฐวีและโสมสุภางค์จัดใหญ่โต ชิดชบาสวมชุดดำมาร่วมงาน ทำให้แขกเหรื่อแตกตื่น โสมสุภางค์ช็อคเป็นลมเข้าโรงพยาบาล ชิดชบาสะใจมากที่ได้ฉีกหน้าปฐวีได้ หลังจากนั้นโสมสุภางค์ก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ชิดชบาทนไม่ได้และออกจากบ้านไป แต่ชิดชบาก็ไม่สนใจ ในขณะเดียวกันดูเหมือนว่า ม.ร.ว.อรุณณรงค์เริ่มสนใจในตัวของชิดชบามากขึ้น จน หม่อนจรัสเรือง(อ้อย-กาญจนา จินดาวัฒน์) แม่ของม.ร.ว.อรุณณรงค์ทราบเรื่องไม่พอใจ เลยจับให้ ม.ร.ว.อรุณณรงค์ แต่งงานกับ หม่อนเจ้าอุราศรี (ตูน-พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) เพื่อตัดปัญหา ปฐวียังคงเรียกใช้ชิดชบาในยามที่เขาต้องการ แต่ชิดชบาเริ่มขัดขืน ทำให้ปฐวีโกรธ คืนนั้นปฐวีเมาและใช้กำลังกับชิดชบา โสมสุภางค์บังเอิญเดินลงมาเห็นภาพที่ปฐวีกับชิดชบาจูบกัน เธอช็อคหมดสติและตกบันไดเสียชีวิต ปฐวีเสียใจมาก เขาหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต ด้วยความรู้สึกผิดและโกรธแค้น ปฐวีเลยโทษชิดชบาว่ามีส่วนที่ทำให้โสมสุภางค์ตาย หลังจากนั้นไม่นานชิดชบาเริ่มรู้ตัวว่าตั้งท้องกับปฐวี ชิดชบาไม่ต้องการลูกที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของปฐวีเลยตัดสินใจจะทำแท้งและบอกให้ปฐวีรับรู้ เขาสั่งห้ามเด็ดขาด แต่ชิดชบาไม่ฟัง เพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่เธอจะใช้แก้แค้นเขาได้ แม้ตลับนาคและเฉวียงจะช่วยกันขอร้อง ชิดชบาก็ไม่ฟัง ปฐวีเริ่มใจอ่อนและเหนื่อยล้าเลยหลบไปทบทวนเรื่องราวต่างๆ เขาสำนึกผิดและเป็นห่วงกลัวว่าชิดชบาจะทำร้ายลูกในท้อง เมื่อกลับมาถึงบ้านปฐวีก็แทบช็อคเมื่อเห็นภาพที่ชิดชบากำลังใช้ไม้แขวนเสื้อทำแท้งด้วยตัวเอง เขารีบเข้าไปช่วยแล้วพาส่งโรงพยาบาล ปฐวีคอยเฝ้ารอดูอาการของชิดชบาด้วยความเป็นห่วง ในที่สุดอาการของชิดชบาก็ปลอดภัยรวมถึงลูกในท้องก็ปลอดภัยเช่นกัน ปฐวีเสียใจและขอโทษชิดชบากับสิ่งที่เขาทำร้ายจิตใจชิดชบามาโดยตลอด เขาบอกรักชิดชบาพร้อมกับขอโอกาสไถ่โทษและขอเริ่มต้นใหม่กับเธอ งานนี้มาเอาใจช่วยกันดีกว่าว่าชิดชบาจะยอมใจอ่อนยกโทษให้ปฐวีหรือไม่ และทั้งคู่จะลงเอ่ยกันอย่างไรต้องติดตามชมในละครเรื่อง “ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท”

บ้านศิลาแดง 2558

บ้านศิลาแดง (2558/2015) “เพ็ญพร” หรือ “เพ็ญ” หญิงสาวสวยปราดเปรียว ทายาทของเจ้าของบริษัท สวนเสาวรส ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในการผลิตมะพร้าวผงส่งนอก และส่วนผสมในการชงกาแฟทั้งหลาย เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยหลังจากจบวิชาบริหาร และด้วยความที่ชอบวิชาการต่อสู้ทุกชนิด เพ็ญพรก็กลับมาพร้อมวิชาการต่อสู้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นคาราเต้,เทควันโด้,ยิงปืน ฯลฯ และเที่ยวนี้เธอกลับมาพร้อมกับสุดา เพื่อนรักที่เดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกามาด้วยกัน ย่างก้าวแรกที่กลับมาถึงเมืองไทย เพ็ญพรก็ได้พบกับเดือนฉาย ผู้เป็นแม่มารอรับอยู่ที่สนามบิน และคลาดกันกับ สโรชาและอาภาพร ซึ่งเดินออกมาจากสนามบินเช่นกันเพ็ญพรเหยียบเมืองไทยได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็เกือบไปมีเรื่องกับตรัย ซึ่งตรัยเองก็เข้าใจผิดคิดว่าเพ็ญพรนั้น เป็นพรเพ็ญ ทางด้านบ้านศิลาแดง เมื่ออาภาพรเข้ามาถึงบ้านศิลาแดง ก็หาเรื่องแกล้งพรเพ็ญด้วยความหมั่นไส้ พรเพ็ญไม่โต้ตอบแต่อย่างใด มีเพียงป้าแจ่มที่คอยแต่จะให้กำลังใจ ถึงแม้จะปกป้องอะไรไม่ได้มาก พรเพ็ญต้องอดทนอยู่ในบ้านศิลาแดง เพราะเอกสิทธิ์ผู้เป็นพ่อคนเดียวเท่านั้น

มรสุมสวาท 2558

เรื่องย่อ : มรสุมสวาท (2558/2015) “สูตรสำเร็จของความรักสุดเข้มข้นสไตล์ตบจูบ ระหว่างลูกสาวเศรษฐีตกยากและมหาเศรษฐีเพลย์บอยหนุ่มใหญ่ ที่ถูกแทรกกลางด้วยหนุ่มน้อยอารมณ์อาร์ติสท์กับนักประชาสัมพันธ์สาว ชีวิตของคนทั้ง 4 ต้องต่อสู้กับมรสุมชีวิตไปพร้อมๆ กับมรสุมความรักในใจที่ตนเองต่างก่อขึ้นจนกลายเป็นพายุร้ายที่ยากจะดับ”

กุมาริกา อิสรเสวี (ทัศนียา การสมนุช) หรือกวางเด็กสาวสดใส วัย 17 ปี เป็นธิดาคนรองของ นายบุรุษ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) อดีตข้าราชการระดับสูง ซึ่งหันไปจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กวางมีพี่น้องทั้ง 5 คน อันได้แก่ วรเทวี (กัญญารัตน์ พงษ์กัมปนาท) พี่สาวคนโต ที่เกิดจากภรรยาเอกที่เสียชีวิตไปเช่นเดียวกับกวาง มานพ (ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกุล) น้องชายคนรองที่เกิดจากภรรยาเก็บซึ่งเลิกรากันไปแล้วของนายบุรุษ และเปี๊ยก (ด.ช.เสฐฐวุฒิ รุมพล) กับแป้ง (ด.ญ.เฟรย่า พิชชา) ลูกชายหญิงที่ถือกำเนิดจาก แม่สะอาด (มัณฑนา หิมะทองคำ) เมียคนล่าสุดที่เป็นคนใช้ในบ้านที่นิสัยทะเยอทะยานอยากเป็นคุณนายและไม่กินเส้นกับวรเทวีอย่างที่สุด

พี่น้องทุกคนของกวางต่างได้รับการตามใจจากนายบุรุษ อย่างมาก เพื่อทดแทนความอบอุ่นที่นายบุรุษ ไม่ได้มอบให้ลูกๆ เพราะมัวแต่ไปทุ่มเทเวลาให้กับบ้านน้อยที่มีอยู่มากมายนั่นเอง พี่น้องทุกคนของกวาง จึงมีนิสัยฟุ้งเฟ้อ มีแต่กวางคนเดียวที่ติดนิสัยค่อนข้างสมถะและละเอียดรอบคอบมาจากมารดา ทำให้กวางมีหน้าที่ต้องคอยควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมทั้งคอยดูแลน้องเล็กๆ ด้วย ขณะที่ วรเทวีนั้น เอาแต่ใจตัวเองฟุ่มเฟือยและดูถูกคนสุดๆ

หน้าตาที่สวยน่ารักและบุคลิกร่าเริงของกวางเป็นที่ติดตาต้องใจ อัครพล ธนะสาสน์ดำรงกุล (ณทรรศชัย จรัสมาส) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ นางจิตรา (สุภาภร คำนวณศิลป์) เศรษฐีนีใหม่จอมตระหนี่ ที่ร่ำรวยขึ้นมาจากการเป็นนายหน้าค้าที่ดิน ที่มีบ้านอยู่ตรงข้ามกันเป็นอย่างมาก กวางกับอัคร พบเข้ากันได้เป็นอย่างดีเพราะต่างก็เป็นคนรักอิสระ ตรงไปตรงมาชอบการผจญภัยเหมือนกัน แต่จะต่างกันก็ตรงที่อัครพล มีอารมณ์อ่อนไหว ช่างฝันอย่างมาก จนมักปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลทำอะไรตามใจตนเองอย่างไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งสิ้น

เมื่อกวางได้รับเลือกเป็นนักเรียนดีเด่นของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อัครพล ได้ตัดสินใจพาเด็กสาวไปฉลองและตัดสินใจขอความรักจากเธอ สถานที่ที่เขาพาเธอไป คือ ยอดตึกสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จและยังไม่เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ หากอัครพล เข้าไปได้เพราะเขาในฐานะนักศึกษาสถาปัตยกรรมได้มาฝึกงานที่ตึกนี่และรู้จักทางเข้าเป็นอย่างดี

ระหว่างที่ 2 หนุ่มสาวกำลังเพลิดเพลินกันดินเนอร์กลางแสงตะเกียงพร้อมกับดูแสงไฟในแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วยกันนั้น สยมภู ภักดีนฤเบศร์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ เจ้าของบริษัทคอนสตรัคชั่นที่ควบคุมดูแลการก่อสร้างตึกหลังนี้ ก็ได้เข้ามาดูแลความเรียบร้อยก่อนส่งมอบงาน

สยมภู เป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในแวดวงก่อสร้างตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะต้องเข้ามากอบกู้บริษัทแทนพ่อหรือ นายภักดี (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ที่จบชีวิตลงด้วยไกปืน ด้วยความคิดที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่านายภักดี ทำไปเพราะกิจการบริษัทของครอบครัวกำลังซวนเซ หากสยมภู เป็นคนเดียวที่รู้ความจริงว่าพ่อฆ่าตัวตายเพราะเสียใจอย่างหนักที่แม่ของเขาทิ้งเขากับพ่อหนีไปกับนักธุรกิจต่างชาติที่ร่ำรวย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สยมภู กลายเป็นคนใจดำอย่างยิ่งในเชิงธุรกิจ ขณะเดียวกันเขาก็เป็นเสือผู้หญิงตัวกลั่นที่ทำทุกอย่างเพราะต้องการแก้แค้นสิ่งที่แม่ทำกับเขาและพ่อ..

ชายหนุ่มไม่เชื่อว่ารักแท้มีในโลกนี้..จึงครองตัวเป็นโสดและไม่เคยคิดจะแต่งงาน สำหรับเขาผู้หญิงเป็นแค่เครื่องมือที่จะนำไปสู่ความสำเร็จเชิงธุรกิจเท่านั้น

นีน่าก็เช่นเดียวกัน สยมภู ต้องการให้แบงก์ซึ่งพ่อนีน่าเป็นประธานสนับสนุนเงินทุนจึงเอาใจนีน่า เป็นพิเศษ เมื่อสยมภูปรากฏตัวขึ้นและขอเข้าไปในตึก รปภ.ถึงกับเหงื่อแตก รีบวิ่งมาส่งสัญญาณให้อัครพลรู้ อัครพลรีบพากวางวิ่งหนีออกจากห้อง ความมืดทำให้ทั้ง 2 เกิดพลัดหลงกัน เด็กสาววิ่งเข้าไปแอบในห้องๆ หนึ่ง ซึ่งสยมภูก็พานีน่าเข้าไปพลอดรักกันพอดี กวางทำเสียงดังทำให้ต้องวิ่งหนีออกมา สยมภู ไล่ตามจับตัวกวางและก็ต้องแปลกใจที่เห็นกวางในชุดนักเรียน ขณะที่กำลังปลุกปล้ำกัน อัครพล ก็เอาไม้เข้ามาฟาดสยมภู ล้มลงแล้วพากวางหนีออกไป

ข่าวสยมภู บาดเจ็บลงหนังสือพิมพ์ กวางถึงกับอึ้งเมื่อรู้ว่าสยมภู เป็นเจ้าของตึก ส่วนอัครพล อึ้งหนักกว่าเพราะสยมภู เป็นคนที่เซ็นใบผ่านการฝึกงานให้เขา และถ้าใบฝึกงานไม่ผ่านก็เท่ากับวิทยานิพนธ์ของเขาต้องมีปัญหา และอัครพล ก็คาดไม่ผิด เพราะอาจารย์เรียกเขาเข้าไปพบและแจ้งว่าสยมภู จะเอาเรื่องถึงผู้ปกครอง อัครพลกลุ้มใจมาก กวางต้องการไปช่วยเป็นพยานว่าเรื่องทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุ แต่อัครพลไม่ยอมเพราะกลัวกวางจะเสียชื่อ แต่กวางก็แอบไปเยี่ยมสยมภูที่โรงพยาบาลจนได้ แล้วกวางก็ได้พบระวิวรรณ (ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) หุ้นส่วนสาวใหญ่ เพื่อนสนิทของสยมภู คอยพยาบาลเขาอยู่ กวางขอร้องให้สยมภูให้อภัยอัครพล สยมภูปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย แถมยังถากถางว่าเป็นเด็กใจแตก กวางโกรธมาก ย้อนสยมภูว่าเขาเองก็เป็นพวกบ้ากามที่ชอบพล่าผลาญผู้หญิงไปวันวันเท่านั้น กวางกลับไปด้วยความแค้น แต่สยมภูกลับรู้สึกอยากจะเอาชนะกวางอย่างรุนแรง สยมภูให้ระวิวรรณช่วยติดต่อปิดข่าวเรื่องที่เกิดขึ้น และตกลงใจจะไม่เอาเรื่องอัครพล ยังความแปลกใจให้ระวิรรณมาก

กวางเองก็คาดไม่ถึงที่สยมภูกลับคำ แต่เธอก็ไม่ได้บอกอัครพลว่าไปพบสยมภู กวางคิดว่าชาตินี้เธอกับสยมภูคงไม่ได้พบกันอีก แต่ก็เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง ธุรกิจบุรุษ มีปัญหาต้องใช้เงินมหาศาล บุรุษจึงไปขอกู้แบงก์ของพ่อนีน่า แต่แบงก์ไม่อนุมัติ ที่นั่นเขาได้พบสยมภู โดยบังเอิญและขอความช่วยเหลือจากสยมภูในฐานะที่เขาเคยเป็นเพื่อนของพ่อสยมภู เขาคะยั้นคะยอให้สยมภู มาดูบ้านซึ่งเขาจะใช้ค้ำประกันเงินกู้ สยมภูมาด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก เขาได้พบกวางอีกครั้ง กวางจึงกับตะลึงขณะที่เจอสยมภู แต่สยมภูแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกวาง ขณะที่ในใจนั้นเตรียมแผนการที่จะแก้เผ็ดกวางไว้แล้ว ยิ่งได้เห็นว่าอัครพลนั้นอาศัยอยู่บ้านตรงข้าม สยมภูยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เขาตกลงรับจำนองบ้านจากนายบุรุษ ในราคาสูงลิ่ว และถือโอกาสเชิญครอบครัวบุรุษไปในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่จะจัดขึ้นที่คฤหาสน์ของเขา วรเทวีดีใจมากที่จะได้ไปร่วมงานเลี้ยงนี้กับ ทศพร (บดินทร์ โรจนพงษ์เกษม) คู่หมั้นหนุ่ม ลูกชายรัฐมนตรีคนดังแห่งยุคเพราะรู้ว่าเป็นงานที่หรูที่สุดของปี ขณะที่กวางไม่ต้องการจะไปเลยแต่ขัดคำสั่งของนายบุรุษ ไม่ได้

ที่งานเลี้ยงกวางพบว่าสยมภูม คือผู้ชายประเภทที่เธอไม่ต้องการข้องแวะด้วย เพราะเขาเป็นเพลย์บอยตัวกลั่น เช่นเดียวกับบิดาของเธอ รอบๆ ตัวชายหนุ่มมีแต่หญิงสาวที่ทะเลาะตบตีกันเพราะต้องการครอบครองสยมภู ยกเว้นระวิวรรณ ที่กวางชมชอบในความสง่างามและอัธยาศัยดี โดยที่กวางไม่รู้เลยว่าลึกๆ ระวิวรรณรักสยมภูสุดหัวใจ แต่ต้องทำตัวเป็นเพื่อนเพราะกลัวสยมภู จะตีตัวออกห่าง

ขณะที่ทุกคนรู้สึกสนุกสนาน กวางกลับรู้สึกเซ็งสุดๆ จึงปลีกตัวเดินสำรวจเรื่อยเปื่อยเข้าไปถึงตึกด้านหลังของตัวบ้าน กวางได้เจอกับ วันทนีย์ (วรรษพร วัฒนากุล) เมียเก็บของสยมภู เป็นครั้งแรกในชุดนอนบางเบา แต่ความที่วันทนีย์ โดนสั่งห้ามออกมาร่วมงานเลี้ยงจึงวิ่งหนีไป เมื่อเจอหน้ากวาง ทำให้เด็กสาวไม่แน่ใจว่าฝ่ายนั้นเป็นผีหรือคน ความแก่นซนทำให้เธอตามติดเพราะคิดอยากพิสูจน์จนชนเข้ากับแจกันลายครามแตกกระจาย และเจอกับสยมภูเข้าเสียก่อน

ทั้งคู่ปะทะคารมกันอย่างเผ็ดร้อน สยมภูขอจูบจากกวางแลกกับค่าแจกัน กวางตบหน้าสยมภูอย่างเหลืออด แล้วเธอก็ถูกปิดผนึกริมฝีปากด้วยจุมพิตของชายหนุ่ม เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตายของระวิวรรณ ที่เริ่มสงสัยว่ากวางจะเข้ามาเป็นศัตรูความรักอีกคนหนึ่งของเธอ

หลังจากกลับมาจากงานเลี้ยงของสยมภู วรเทวีได้บอกข่าวดีกับทุกคนในครอบครัวว่าเธอจะแต่งงานกับทศพร และจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศพร้อมกัน ทำให้บุรุษกลุ้มใจมาก เพราะลำพังค่าใช้จ่ายในบ้านก็แทบจะไม่พอ เขาตัดสินใจกลับไปกู้เงินเพิ่มจากสยมภู แต่สยมภูยื่นข้อเสนอว่าขอให้กวางมาเจรจาแทน บุรุษแปลกใจเพราะไม่คิดว่าสยมภูจะสนใจลูกสาวของตน ด้วยศักดิ์ศรี ทำให้บุรุษต้องบอกความจริงเรื่องฐานะของบ้านกับวรเทวี แต่แทนที่วรเทวีจะเข้าใจ กลับตีโพยตีพายและขอให้กวางไปพบสยมภูตามข้อเสนอ ขณะที่ข่าวการล้มละลายของนายบุรุษ ก็รั่วออกไปถึงหูครอบครัวและอัครพลเสียก่อน อัครพลรีบมาพบกวางและเสนอตัวช่วยเหลือ สยมภูเห็นกวางไม่ไปตามนัดจึงมาตามที่บ้านและได้เห็นอัครพลสวมกอดกับกวางอยู่ สยมภูจากไปอย่างเสียหน้ามาก

ฝ่ายอัครพล ไปขอเงินแม่เพื่อช่วยครอบครัวกวาง แต่จิตรา ปฏิเสธแถมยังบังคับให้อัครพลไปศึกษาต่อต่างประเทศ อัครพลไม่ยอม จิตรามาเจรจากับกวางให้เงินก้อนนึงแลกกับอนาคตลูกชาย กวางไม่รับ และจำต้องหลอกอัครพลว่าจะตามไปพบที่ต่างประเทศเพื่อให้อัครพลยอมไปเรียนต่อ

ด้วยความที่ไม่สามารถแบกรับภาระที่ประดังประเดเข้ามาได้ บุรุษตัดสินใจหนีไปต่างจังหวัดเพื่อหาทางทำมาหากินและหลบเจ้าหนี้ ทิ้งให้ลูกเมียต้องเผชิญโชคชะตาโดยลำพัง วรเทวีต้องโกหกพ่อแม่ทศพรว่าบุรุษเดินทางไปจัดการเรื่องธุรกิจและข่าวทั้งหมดเป็นเรื่องโคมลอย

ขณะเดียวกันวรเทวี ก็ต้องการเงินก้อนหนึ่งที่จะเอามาช่วยจัดเตรียมงานแต่งงานเพื่อยืนยันว่าฐานะของตนยังดีอยู่ กวางสงสารพี่สาวมากจึงบากหน้าไปหาสยมภูอีกครั้ง คราวนี้สยมภูยอมให้เงินกวางโดยดีแต่แกล้งบีบกวางโดยให้เวลาเพียง 1 เดือน ที่จะเอาเงินทั้งหมดมาคืน ไม่เช่นนั้นจะยืดบ้าน กวางรับปากทั้งๆ ที่รู้ดีว่าไม่สามารถจะทำตามเงื่อนไขได้ วรเทวีได้แต่งงานสมใจแล้วก็ย้ายไปใช้ชีวิตในอเมริกากับทศพร

ครบ 1 เดือน กวางก็ต้องพานางสะอาด กับน้องๆ ย้ายออกจากคฤหาสถ์อิสรเสวี ชีวิตที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทำให้นางสะอาด โกรธเกวี้ยวเป็นอย่างมากและลงโทษว่าทุกอย่างเป็นเพราะความผิดของวรเทวีและกวาง ระหว่างที่หางานทำ กวางต้องทยอยนำเสื้อผ้า ของประดับมีค่าที่หยิบฉวยตอนออกจากบ้านไปขายที่ตลาดของมือ 2 เพื่อนำมาใช้จ่ายในบ้าน และเก็บเป็นค่าทำคลอดให้นางสะอาด ด้วย

สยมภู ผิดหวังมากที่กวางไม่มาพบและขอร้องเขาอีก ชายหนุ่มสั่งให้ ทะนง (สัจจากาจ จิตรพึงธรรม) ทนายหนุ่มคู่ใจปิดคฤหาสน์เอาไว้ และจ้าง รปภ.มาดูแลย่างดี สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มนำออกไปจากคฤหาสน์ คือ ภาพสีน้ำมัน รูปกวางน้อย ฝีมือของกวางที่ทิ้งไว้ในห้องนอน และหันกลับไปใช้ชีวิตเพลย์บอยเหมือนเดิม

อัครพลเฝ้ารอกวางอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อกวางไม่เดินทางมาตามนัด อัครพลจึงคิดจะกลับเมืองไทย จิตราต้องสร้างเรื่องว่ากวางพาครอบครัวหนีเจ้าหนี้หายไป ตามตัวไม่ได้และก็แกล้งทำป่วยเพื่อดึงความสนใจจากลูก อัครพลจำต้องเรียนต่ออย่างซังกะตาย ที่โรงเรียนเขาได้พบกับ ปิยะธิดา (ฮาน่า ลีวิส) ลูกสาวทูตไทย ที่ค่อนข้างจะเป็นคุณหนู ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ปิยะธิดาหลงรักอัครพล ตั้งแต่แรกพบ บวกกับการผลักดันอย่างสุดชีวิตของจิตรา ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

เวลาผ่านไป 2 ปี กวางเริ่มโตเป็นสาวเต็มตัว พร้อมๆ กับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น ตลอดเวลากวางต้องเลี้ยงครอบครัวอย่างยากลำบาก จากรายได้อันน้อยนิดจากงานเสมียน แถมการโดนขูดรีดขอโน่นขอนี่จากนางสะอาด และบรรดาน้องๆ ทำให้เด็กสาวต้องกระเหม็ดกระแหม่อย่างถึงที่สุด เธอต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้าเพื่อจะได้ไปทันเวลาเข้างานตอน 8 โมงเช้า เพราะกวางไม่ยอมใช้บริการเรือหรือรถสาธารณะเธอเลือกที่จะพายเรือไปจอดที่ท่าน้ำในวัดแล้วเดินไปทำงานแทน นอกจากนี้กวางยังต้องอดข้าวเช้าและเที่ยงเป็นประจำ โดยอาศัยแค่น้ำลูบท้องเอา เธอจึงหน้ามืดตาลายอยู่บ่อยๆ ทำให้เพื่อนร่วมงานพายไม่ค่อยชอบขี้หน้าด้วยคิดว่าเธอสำออยต้องการออดอ้อนหัวหน้ากองหนุ่มโสดจนกวางเสียใจร่ำๆ อยากลาออกเสียหลายครั้ง แต่ทำไม่ได้เมื่อคิดถึงภาระครอบครัวที่เธอต้องรับผิดชอบ

ถึงกระนั้นนางสะอาด ก็ยังไม่เคยซาบซึ้งในบุญคุณของกวาง นางกลับหาเรื่องด่ากวางตลอด นางไม่เคยรู้ว่าที่กวางถึงบ้านค่ำมืดเกือบ 2 ทุ่ม เพราะเลือกประหยัดค่ารถด้วยการเดินจากที่ทำงานกลับบ้าน หากนางกลับคิดว่ากวางไปเที่ยวเตร่อย่างมีความสุข ทิ้งนางกับลูกให้อยู่ในกองทุกข์ และนางนังพาลพาโลไปถึงลูกๆ ของตนทุกคนรวมถึงมานพด้วย ที่วันๆ เอาแต่หายหัวไม่อยู่บ้าน

กวางกลุ้มใจมากับการที่น้องชายหายหน้าค่าตาไปและกลับบ้านดึกทุกวัน บางวันก็มีบาดแผลฟกช้ำหน้าตาแตกกลับมาด้วย หากเมื่อซักถาม มานพก็ไม่เคยปริปากพูด มีแต่ชักสีหน้าบึ้งตึงใส่เธอ ทั้งนี้เป็นเพราะเด็กหนุ่มทำใจรับสภาพที่เป็นอยู่ไม่ได้จึงพยายามหาทางออกด้วยการไปอยู่กับแก๊งลักเล็กขโมยน้อยเพื่อหาเงินใช้สบายมือเหมือนก่อน เขาทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงัดตู้โทรศัพท์สาธารณะ หรือเรียกค่าคุ้มครองจากลานจอดรถในวัด จนไปมีเรื่องกับมาเฟียเจ้าถิ่นเป็นต้น

นอกจากปัญหาเรื่องมานพแล้ว กวางยังต้องเจอสภาพบ้านแตก เปี๊ยกกับแป้งร้องไห้กระจองอแงทุกวันจนกวางทนไม่ได้เปิดฉากทะเลาะกับนางสะอาดขึ้นจนเกิดอุบัติเหตุ สะอาดตกเลือดต้องคลอดลูกกะทันหัน กวางตกใจมากรีบเข้าช่วยพานางสะอาดไปส่งโรงพยาบาล สะอาดคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง แต่เมื่อครบกำหนดนางสะอาดออกจากโรงพยาบาล กวางก็พบว่านางสะอาดกลับมารออยู่ที่บ้านโดยปราศจากทารกน้อยเสียแล้ว กวางสืบถามจนแน่ใจว่าแม่เลี้ยงใจยักษ์ตัดสินใจเอาทารกน้อยไปทิ้งไว้ที่ห้องน้ำสาธารณะในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ โรงพยาบาล

กวางต้องพายเรือออกจากบ้านไปตามหาทารกน้อยทั้งกลางดึก เมื่อเธอไปถึงกวางได้เจออัครพลกับปิยะธิดาโดยบังเอิญ อัครพลดีใจมากที่เจอกวาง แต่กวางรู้สึกอับอายมากในความต่ำต้อยของตน จึงหลบหน้าอัครพลแทบไม่ทัน ระวิวรรณซึ่งขับรถมาแถวนั้น มาพบเข้าและจำกวางได้ จึงรับกวางขึ้นรถและไปส่งที่บ้าน ระวิวรรณถึงกับตะลึงที่เห็นสภาพบ้านอันซอมซ่อของกวาง จึงให้เงินช่วยเหลือกวางจำนวนหนึ่ง กวางไม่รับ แต่นางสะอาดฉวยเอาไว้ก่อน กวางขอให้ระวิวรรณเก็บเรื่องที่เจอเธอเป็นความลับซึ่งระวิวรรณก็เต็มใจรับปาก เพราะเธอก็ไม่ต้องการให้สยมภู มาพบกับกวางอีก

แต่พรหมลิขิตก็ทำให้ทะนง เอาภาพข่าวเด็กถูกทิ้งในห้างสรรพสินค้าจาก นสพ.มาให้สยมภูดู สภาพของกวางที่มอบแมมทำให้สยมภูอดสะท้อนใจไม่ได้ และสั่งให้ทนง ระดมกำลังออกตามหากวาง และในที่สุดสยมภู ก็พบว่ากวางทำงานใกล้ๆ ไซด์งานเขานั่นเอง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจสะกดรอยตามเด็กสาวกลับบ้านไป และเมื่อพบว่ากวางเดินกลับบ้านแทนที่จะนั่งรถเมล์ และต้องไปพายเรือต่อเพราะบ้านอยู่กลางสวนลึก ชายหนุ่มก็ได้แต่สะท้อนใจทำให้เขาคิดจะช่วยเธอ

หากก่อนที่สยมภู จะตัดสินใจทำอะไรลงไปเขาก็พบว่าลูกน้องของเขาจับพวกตัดช่องย่องเบาได้ที่โกดังสินค้าใหญ่ริมน้ำ สยมภูจึงต้องไปสะสางเรื่องนี้ ขณะเดียวกันเพื่อนของมานพที่หนีออกมาได้ ก็รีบไปบอกกวางให้ไปช่วยมานพทันที ระหว่างทางไปกวางได้เจอกับอัครพลที่จ้างนักสืบสะกดรอยตามกวางมาถึงบ้าน ทำให้อัครพล ตัดสินใจไปช่วยมานพกับกวางด้วย

ด้านสยมภู ได้พบว่าหัวหน้าแก๊งตัดช่องย่องเบาที่กำลังโดนลูกน้องเขารุมกระทืบอยู่ คือ มานพ น้องชายวัยรุ่นของกวางนั่นเอง มานพสารภาพว่าระหวางที่หนีการไล่ลาของมาเฟียเจ้าถิ่น เขาได้พลัดเข้าไปในโกดังเก็บของของบริษัทสยมภู โดยบังเอิญ ที่นี่มานพ ได้พบช่องทางเข้า-ออกโกดัง และพบอุปกรณ์ก่อสร้างจำนวนมาก เช่นสายไฟที่ถอดเอาปลอกออกแล้วแกะทองแดงไปขายได้ มานพจึงตัดสินใจชวนเพื่อนในแก๊งให้มาขโมยสินค้าในโกดังอยู่หลายหนเพื่อหาเงินไปใช้ สยมภู ฟังแล้วตัดสินใจให้โอกาสมานพว่าจะไม่จับเขาส่งตำรวจ ขอแค่ให้เขาไม่สร้างปัญหาให้พี่สาวอีกต่อไป แล้วจะหาโรงเรียนให้เรียนพร้อมงานพิเศษให้ทำ แต่ขอให้มานพเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

มานพตกลงพร้อมๆ กับกวางและอัครพลไปถึง หากสยมภู ตัดสินใจหลบฉากไปเสียเมื่อเห็นเด็กสาวที่เขาปักใจรักมากับหนุ่มน้อยคู่แข่ง กวางดีใจมากที่น้องชายปลอดภัยและอัครพลยินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับตัวแทนของสยมภู พร้อมกับสั่งสอนมานพ ให้กลับเนื้อกลับตัว

การเปลี่ยนแปลงของมานพ ทำให้กวางเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพราะฝีมืออัครพล เธอจึงกลับไปสนิทกับอัครพลอีกครั้ง ท่ามกลางความขัดตาขัดใจของน้องชาย แต่มานพก็ออกปากอะไรมากไม่ได้เพราะติดสัญญากับสยมภูไว้ เด็กสาวยอมให้อัครพลช่วยเธอขายขนมไทยๆ เสริมรายได้พิเศษที่ละแวกท่าช้าง ที่นี่ กวางได้เจอกับสยมภูโดยไม่คาดฝันอีกครั้ง และทำให้สยมภูหมั่นไส้ และหาโอกาสค่อนขอดเด็กสาวต่างๆ หากกวางตัดสินใจทำหูทวนลม เพราะไม่ต้องการเข้าไปข้องแวะกับสยมภูอีก

ความสนิทสนมของคนทั้งคู่ล่วงรู้ไปถึงหูปิยะธิดา ทำให้จิตราไม่พอใจมากออกโรงราวีกับกวางถึงที่ทำงาน และใช้เส้นสายบีบให้หัวหน้ากองไล่กวางออก ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้เล็ดรอดสายตาของทะนง ไปได้ สยมภูจึงให้ทะนง ประกาศรับสมัครพนังงาน โดยส่งจดหมายไปถึงบ้านกวาง กวางจึงได้เข้าทำงานในบริษัทของสยมภู ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของระวิวรรณ เธอจึงตั้งใจเปิดโปงให้กวางรู้ว่าเจ้านายของกวางคือ สยมภู กวางโกรธมาก ตัดสินใจจะยื่นใบลาออกแต่แล้วเด็กสาวก็พบว่าเธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เมื่อเปี๊ยก น้องชายวัย 8 ขวบ ถูกรถชน ต้องใช้เงินค่ารักษาค่อนข้างสูง และเธอก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือของอัครพล

กวางตัดสินใจทำงานกับสยมภู เพื่อปากท้องของทุกคน และความอับอายในฐานะอันต่ำต้อยทำให้เธอหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสยมภู ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็หนีไม่พ้นเสียงซุบซิบนินทาของพนักงานในบริษัทที่เป็นเด็กเส้น ขณะที่อัครพล ถือโอกาสใช้ตำแหน่งหน้าที่สถาปนิกที่ต้องติดต่องานกับบริษัทสยมภู มาพังพันกับกวาง และชวนเธอไปดูงานนอกออฟฟิศบ่อยๆ สร้างความขัดเคืองให้สยมภู เป็นอย่างมาก

ยิ่งสยมภู หึงหวงกวาง ก็ยิ่งทำให้ระวิวรรณ รู้สึกไม่ปลอดภัย เธอจึงหาทางกลั่นแกล้งกวาง โดยหลอกใช้ให้กวางเข้าไปส่งรายงานให้สยมภู ในไซด์งานก่อสร้างจนเกือบโดนคนงานก่อสร้างปลุกปล้ำ เคราะห์ดีที่สยมภู เข้าไปช่วยทันเวลา แต่ความปากแข็งของสยมภู ทำให้เขาไม่ยอมพูดความจริงในใจออกมา หากกลับพูดจาทำให้กวางเสียใจหนักขึ้นไปอีก เพราะคิดว่าเธอต้องการเฟลิทให้ท่าผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ ขณะที่อัครพล กลับเข้ามาปลอบขวัญและให้กำลังใจหญิงสาว จนทำให้ปิยะธิดา ทนไม่ได้ขอร้องให้จิตรา ที่ถือหางตนอยู่บังคับให้อัครพล แต่งงานกับเธอโดยเร็ว อัครพลพยายามบ่ายเบี่ยงแต่ไม่สำเร็จ เพราะจิตราหลอกว่าตัวเองป่วยหนักเป็นโรคหัวใจ อัครพลจึงไม่กล้าขัดใจแม่

แต่ยิ่งใกล้วันแต่งานเข้ามาเท่าไหร่ อัครพลก็ยิ่งเทียงไล้เทียวขื่อมาหากวางบ่อยขึ้น เฝ้าย้ำว่าเขาต้องแต่งงานเพื่อความกตัญญู แต่เมื่อแม่ของเขารักษาตัวหายขาดเขาจะหย่าทันที กวางเห็นใจอัครพลมากแต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่กล้าบอกอัครพลตรงๆ ว่าเธอไม่ได้รักเขา ได้แต่ปลอบใจ สยมภูขวางหูขวางตาอย่างหนักจึงพากวางไปดูไซด์งานก่อสร้างที่จังหวัดทางภาคเหนือ กับเขาสองต่อสอง เคราะห์ร้ายที่เสี่ยโอภาส ศัตรูทางธุรกิจของสยมภู จ้างมือปืนมาดักยิงกลางทาง สยมภูขับรถหนีไปในป่าลึก พอดีที่พายุฝนตกหนักทำให้ทางขาด ทั้งคู่จึงต้องพากันหนีกระเซอะกระเซิงขึ้นเขาไป และได้อาศัยอยู่กับหมู่บ้านชาวปะกากะญอ (กระเหรี่ยง) หมู่บ้านหนึ่ง

นางสะอาด โมโหมากที่กวางหายหน้าไปไม่ยอมมาช่วยดูแลบ้านและน้องๆ เหมือนเดิม จึงตามไปอาละวาดด่าที่บริษัท จนทำให้ทุกคนรู้ว่ากวางหายไปกับสยมภู รวมทั้งระวิวรรณ พอดีกับที่ตำรวจพบซากรถของสยมภู หล่นอยู่ในเหว จึงแจ้งกลับมาทางบริษัท พร้อมมีหลักฐานกระเป๋าของกวางกลับมาให้ดู ระวิวรรณล้มทั้งยืน

สะอาดกลับไปที่บ้านเจออัครพล และบอกข่าวเรื่องสยมภูกับกวาง อัครพลช็อค เขาไม่ยอมเชื่อว่ากวางตายแล้ว อัครพลให้เงินมานพไว้ และรับปากว่าจะตามกวางกลับมาให้ได้ เข่าตัดสินใจทิ้งงานแต่งงานไปตามหากวาง จนทำให้ปิยะธิดา อับอายขายหน้าที่ไม่มีเจ้าบ่าวในงานแต่งงาน

ที่หมู่บ้านบนเขา ธรรมชาติอันงดงานและจิตใจอ่อนโยนของชาวบ้านปะกากะญอ ทำให้ทิฐิของกวางและสยมภูค่อยๆ ทลายลง สยมภูขอให้หัวหน้าหมู่บ้านทำพิธีแต่งงานให้เขากับกวาง และตั้งใจจะสารภาพรักกับกวางในวันนั้น แต่อัครพล ปรากฏตัวขึ้นซะก่อน เขาล้มป่วยเป็นมาเลเรีย จนเพ้อไม่ได้สติ กวางปรนนิบัติอัครพลอย่างห่วงใย ทำให้สยมภูช้ำใจสุด เขาตัดสินใจเรียกทะนงขึ้นมารับ

เมื่อทั้งหมดกลับถึงกรุงเทพฯ กวางก็ถูกจิตรา และปิยะธิดา ประณามว่าเป็นผู้หญิงแพศยาจับปลาสองมือ จิตราขู่ว่าถ้ากวางไม่ยอมออกไปจากชีวิตอัครพล จะทำลายทุกอย่างในชีวิตกวาง โดยเริ่มจากการจ้างคนมาเผาบ้านกวางเป็นการขู่ทางอ้อม กวางโดดเข้าช่วยสะอาดที่มัวแต่เก็บของไม่ยอมหนีจนถูกหลังคาพังมาทับกวางบาดเจ็บ นางสะอาดเริ่มมีความรู้สึกที่ดีกับกวาง

ส่วนสยมภูนั้นวุ่นอยู่กับการติดตามตัวคนร้ายที่ลอบยิงเขา ซึ่งคว้าน้ำเหลว เพราะขาดพยานหลักฐานแต่กลับได้พบหลักฐานการวางเพลิงบ้านกวาง ว่าน่าจะเป็นฝีมือของจิตรา สยมภูไปหากวางเพื่อเตือนเมื่อพบกับอัครพล สยมภูก็ขอให้อัครพลเคลียร์ตัวเองก่อน ไม่เช่นนั้นกวางจะลำบาก อัครพลยืนยันว่าเขารักกวางคนเดียว และจะไม่ยอมเลิกรา สยมภูจึงบอกว่าเขากับกวางแต่งงานกันแล้วที่หมู่บ้านปะกากะยอ ขอให้อัครพลยอมแพ้เสีย เมื่ออัครพลถามกวาง กวางจำใจยอมรับ เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะตัวเองอีกต่อไป อัครพลเซซังจากไปอย่างเจ็บซ้ำ

ความปากแข็งทำให้สยมภู อ้างว่าที่ทำไปเพราะเป็นทางเดียวที่เขาจะตามหาลูกหนี้คนสำคัญอย่างบุรุษได้ ก็คือกวาง ดังนั้นเขาย่อมปล่อยให้เธอตายไม่ได้ และทางเดียวที่กวางกับน้องๆ จะปลอดภัยจากปิยะธิดา คือ เธอต้องยอมแต่งงานกับเขา

ข่าวงานแต่งงานของกวางกับสยมภู แพร่สะพัดออกไป ทำให้ระวิวรรณร้อนใจมากและพยายามเกลี้ยกล่อมให้สยมภูเปลี่ยนใจ โดยอ้างว่ากวางไม่เหมาะสมกับเขาด้วยประการทั้งปวง แต่เมื่อเธอเห็นสยมภูไม่สนใจฟัง หญิงสาวจึงเปลี่ยนไปยุยงอัครพลให้หาทางยื้อแย่งตัวกวางมาจากสยมภูแทน

อัครพลตัดสินใจขอร้องให้กวางทิ้งทุกอย่างหนีไปอยู่เมืองนอกกับตน แต่กวางเป็นห่วงพ่อและน้องกอรปกับจริงๆ แล้วกวางก็รักสยมภูอยู่ จึงปฏิเสธอัครพลไป ทำให้อัครพลแค้นมาก เขาแอบใช้ตำแหน่งสถาปนิกโครงงานแก้ไขแบบแปลนตึกระฟ้าที่บริษัทสยมภูกำลังจะสร้าง และพร้อมปล่อยข่าวออกไปในวันแต่งงานว่าสยมภูก่อสร้างตึกที่ผิดมาตรฐาน เพราะหวังให้ชายหนุ่มโดนฟ้องร้องหมดตัว ขณะเดียวกันก็ส่งจดหมายขู่จะฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความเห็นใจจากกวางด้วย

ดังนั้นงานมงคลสมรสของกวางและสยมภูที่จัดขึ้นที่บ้านเก่าของกวาง ซึ่งทำท่าว่าจะจบลงด้วยความสุขสวยงาม เพราะวรเทวี ก็เดินทางกลับมาจากต่างประเทศเพื่อมาร่วมงานแต่งงานน้องสาวกลับเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวของฝ่ายเจ้าบ่าว และฝ่ายเจ้าสาว ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ สร้างความฉงนสนเท่ห์ให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก ระหว่างที่ทะนงกำลังช่วยสยมภูแก้ไขสถานการณ์ ระวิวรรณก็ได้พบกับวันทนีย์ และรู้ว่าวันทนีย์นั้นอดีตเป็นลูกสาวนักธุรกิจที่ฆ่าตัวตายเพราะล้มละลาย และสยมภูช่วยซื้อบริษัทเอาไว้ วันทนีย์จึงกลายมาเป็นนางบำเรอขัดดอกอยู่ในบ้านของสยมภู ถึงกระนั้นวันทนีย์ก็รักสยมภูมาก งานแต่งงานของสยมภูจึงเปรียบเสมือนงานศพในความรู้สึกของวันทนีย์

ปิยะธิดาพบจดหมายที่อัครพลส่งให้กวางจึงตามไปพบกวางอยู่กับอัครพลตามลำพังที่บ้านของเธอกวางกำลังขอปืนจากอัครพล และขอร้องให้อัครพลกลับไปทำหน้าที่ลูกที่ดีเหมือนกับตน ภาพทั้งคู่กำลังตะกองกอดกันอยู่ทำให้ปิยะธิดาเข้าใจผิด ป่าวประกาศยกใหญ่ว่ากวางหนีเรือนหอมากกกอดเป็นชู้อยู่กับสามีเธอ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้กวางกับสยมภูมองหน้ากันไม่ติด ความหยิ่งทะนงทำให้กวางไม่ยอมแก้ตัวกับสยมภูว่าทุกอย่างที่เธอทำลงไปนั้นก็เพราะห้ามอัครพลไม่ให้ฆ่าตัวตาย ส่วนสยมภูก็เสียใจที่กวางไม่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาในนาทีวิกฤตเหมือนที่แม่ทำกับพ่อของเขา

ความที่สยมภูต้องแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลากลับบ้าน และจะติดต่อกับกวางผ่านทะนงเท่านั้น กวางพยายามให้กำลังใจเขาทุกๆ ทาง แต่ก็โดนระวิวรรณ ที่แทคทีมกับวันทนีย์ขัดขวาง ทำให้สยมภูไม่สามารถรับรู้ความห่วงใยที่กวางให้เขาได้เลย อัครพลนั้นถูกจิตราขู่จะตัดจากกองมรดกถ้าเลิกกับปิยะธิดา จึงตัดสินใจร่วมมือกับโอภาส (ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) ที่จะประมูลโครงการใหญ่ตัดหน้าสยมภูเพื่อหาเงินก้อนใหญ่ไปตั้งตัว เมื่อระวิวรรณรู้เข้าจึงแอบให้การช่วยเหลือขโมยความลับบริษัทไปให้อัครพลเพียงเพื่อต้องการให้อัครพลพากวางไปครองรักกันได้สำเร็จ

สยมภูแพ้การประมูลเขาบุกไปหาโอภาสและประกาศว่าจะเอาโอภาสเข้าคุกให้ได้ทั้งเรื่องที่ลอบทำร้ายเขาและขโมยข้อมูลของบริษัท โอภาสพูดเป็นนัยว่าให้สยมภูไปเล่นงานคนในเสียก่อน โชคร้ายตกมาสู่กวางอีกครั้ง เมื่อระวิวรรณใส่ร้ายว่ากวางเป็นคนขโมยข้อมูลไปให้อัครพล สยมภูเจ็บปวดใจอย่างที่สุด เขาเอาวันทนีย์มานอนในห้องแทนกวางเพื่อประชด ซึ่งทำให้กวางหมดความอดทน ตัดสินใจส่งหนังสือหย่าให้สยมภูเซ็น ชายหนุ่มโมโหมากปลุกปล้ำกวางจนตกเป็นของเขาในคืนนั้นนั่นเอง กวางน้อยใจการกระทำของสยมภูมาก และตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านเก่ากับแม่เลี้ยงและบรรดาน้องๆ การกระทำของกวางทำให้มานพทนไม่ได้และปริปากบอกความจริงทั้งหมดให้กวางฟังว่าแท้จริงแล้วสยมภูคือคนที่ช่วยทำให้เขากลับตัวเป็นคนใหม่ และเพราะสยมภูต้องการช่วยกวางให้พ้นจากการโดนนางสะอาด กดดันและปิยะธิดารังควานเขาจึงได้ขอกวางแต่งงาน กวางฟังแล้วตื้นตันมากเธอต้องการกลับไปขอโทษสยมภู

แต่อัครพลกลับเข้ามาขอกวางแต่งงานเสียก่อน หากหญิงสาวปฏิเสธและสารภาพว่าเธอได้หลงรักสยมภูเสียแล้ว พร้อมบอกให้เขากลับไปหาปิยะธิดาแทน หากอัครพลซึ่งตกลงใจแล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกวางต้องเป็นของเขาให้ได้ เขาจึงตกลงใจฉุดกวางไปในที่สุด

มานพ เปี๊ยก และแป้ง ตกใจมากกับการกระทำอุกอาจของอัครพล ทั้ง 3 รีบไปบอกสยมภูให้ตามไปช่วยกวางพร้อมกับบอกสยมภูว่าระหว่างที่เขาเงียบหายไปกอบกู้ธุรกิจอยู่นั้น กวางได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้าง คำบอกเล่าของเด็กๆ ทั้ง 3 ทำให้สยมภูตัดสินใจไปตามกวางคืนมา โดยไม่รู้ว่าตัวเองได้ถูกพวกของโอภาสสะกดรอยตามไป

อัครพลพากวางขึ้นเขาไปหมู่บ้านปะกากะญอ อย่างคนเสียสติ โดยอ้างว่าเพื่อลบอดีตกวางกับสยมภูให้หมด เขาบังคับให้หัวหน้าหมู่บ้านจัดงานแต่งงานให้เขา กวางเสียใจมากกับการกระทำของอัครพล จึงตัดสินใจจะโดดหน้าผาน้ำตกฆ่าตัวตายเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง สยมภูมาถึงได้ยินที่กวางบอกว่าเธอรักสยมภูเพียงคนเดียวพอดี สมุนโอภาสที่ตามมาเห็นเหยื่ออยู่พร้อมหน้าก็ลั่นกระสุนทันที กระสุนถูกสยมภูล้มลง กวางเข้าเอาตัวบังสยมภูไว้ อัครพลเห็นภาพนั้นแล้วก็ตระหนักว่าเขาไม่มีวันชนะใจกวางได้ จึงเข้าต่อสู้แลกชีวิตกับมือปืนจนเพลี่ยงพล้ำถูกยิงตกหน้าผา แต่สยมภูกับกวางช่วยกันคว้าเอาไว้ ขบวนการชาวบ้านปะกอกะญอ มาถึงพอดีและจัดการกับมือปืนได้หมด แต่อัครพลไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างพ่ายแพ้ได้ เขาดึงมือออกจากกวางและสยมภู ร่างลอยลิ่วลงสู่กระแสน้ำเบื้องล่างจบชีวิตในที่สุด

คู่ปรับฉบับหัวใจ 2558

เรื่องย่อ : คู่ปรับฉบับหัวใจ (2558/2015) มาวิน (ธันวา สุริยจักร), นารา (พิมพ์-พิมประภา ตั้งประภาพร) และอินทร (วิน-วาทิต โสภา) เป็นเพื่อนรักกัน มาวิน เป็นลูกชายของอานนท์ (ทูน หิรัญทรัพย์) นักธุรกิจนำเข้ารถยนต์ยุโรป กับมยุรา (ลูกศร-ธัญญ์ญาฏา วิชญ์ชญธนภรณ์) นักสังคมสังเคราะห์ ทั้งคู่ทำแต่งงาน ไม่มีเวลาดูแลมาวิน ให้แต่เงินเท่านั้น จนทำให้มาวินขาดความรักและดูถูกคุณค่าของคน มีเพียง นงนุช (น้อง-อรุโณทัย จิตรีขันธ์) เลขานุการของอานนท์ เป็นคนคอยดูแลจัดการทุกเรื่องของมาวินแทนอานนท์กับมยุรา ด้านนารา เป็นลูกสาวของจักรี (ภูชงค์ โยธาพิทักษ์) และรุจิรา (ต้อม-ณหทัย พิจิตรา) เจ้าของห้างสรรพสินค้า นาราเป็นความหวังของพ่อและแม่ เพราะนิชา (ฝน-ณธิดา ภัทรชาญไชย) พี่สาวของนารา ทำให้พ่อแม่ผิดหวังที่เรียนไม่จบ วามกดดันทุกอย่างเลยตกมาอยู่ที่นารา ส่วนอินทร เป็นลูกของรัฐมนตรีชื่อ สินชัย (เจ๊ก-ศตวรรษ ตุลยวิจิตร) เมื่อแม่ของอินทรเสีย สินชัยก็มีภรรยาใหม่ชื่อ จริยา (ฝ้าย-นิชานันท์ฟั่นแก้ว) ซึ่งอายุห่างกับสินชัยกว่า 20 ปี จริง ๆ แล้วจริยาสนใจในตัวอินทรเลยยอมแต่งงานกับสินชัย เพื่อหวังจะใกล้ชิดอินทร แต่อินทรไม่เล่นด้วย ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่ง แพรไหม (กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล), ชนน (เมฆ-จุติ จำเริญเกตุประทีป) และรตี (ตูน-พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) เป็นเพื่อนรักกันเช่นกัน แพรไหมเป็นลูกของมานี (ปู-นาตยา จันทร์รุ่ง) แม่ค้าขายผัก ทั้งพ่อและแม่ของแพรไหมเลิกกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้สมศักดิ์ (วีระชัย หัตถโกวิท) จะแต่งงานใหม่กับ รัศมี (อุ้ย-สุธิดา เกตานนท์) และมีลูกสาวชื่อ รังสิมา (ณัชชา-ด.ญ.ชวัลรัตน์ เจนจิตรานนท์) แต่ทั้งสองครอบครัวก็เข้ากันได้ดี แพรไหมมักถูก เสี่ยชาติ (ณรงค์ศักดิ์ เลิศวรานุรักษ์) มากระลิ้มกระเหลี่ย หลายครั้งก็ใช้มานีมากดดันแพรไหมให้ยอมเป็นเมียของตน แต่แพรไหมก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง ส่วนชนนเป็นลูกของ นาชัด (ปรินทร์ วิกรานต์) คนขับรถตุ๊ก ๆ ประจำตลาด ชนนอยู่กับพ่อสองคน เพราะแม่เสียแล้ว ทั้งคู่สนิทสนมกันเหมือนเพื่อน ผิดกับรตี ที่มีทั้งนายน้อม (เอกโอรี) และนางกุล (ต้อม-รชนีกร พันธุ์มณี) เป็นทั้งพ่อและแม่ แต่ขอก็ยังทะเยอทะยานอยากจะสุขสบาย วันหนึ่ง มาวินนำรถไปลองกับอินทร แต่ดันขับไปเฉี่ยวมานี แม่ของแพรไหม ทำให้แพรไหมไม่พอใจ อินทรเห็นแพรไหมก็เกิดหลงรัก ส่วนรตีก็ชอบมาวิน แต่ทั้งคู่ไม่ได้สนใจอินทรกับรตีเลย มัวแต่ทะเลาะกัน ด้านนาราไปเดินซื้อดอกไม้ก็ถูกโจรกระชากกระเป๋า ชนนที่ขับรถตุ๊ก ๆ อยู่แถวนั้นก็เข้ามาช่วย นาราและชนนต่างประทับใจกัน นิชาที่แอบอิจฉาน้องเลยเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อกับแม่ทำให้นารา โดนดุที่ไปสนิทสนมกับคนชั้นต่ำอย่างชนน แล้วโชคชะตาก็พาให้ทั้ง 6 คนมาเรียนในคณะเดียวกัน ชนนกับนาราดีใจมาก แต่ชนนก็พยายามเก็บความรู้สึกไว้เพราะรู้ว่าฐานะตัวต่ำต้อย ขณะที่มาวินหาโอกาสแกล้งแพรไหมตลอด จนเป็นที่อิจฉาของอินทรและรตี มาวินเข้าใจผิดคิดว่าแพรไหมมีอาชีพเป็นเมียเก็บเด็กเสี่ย มาวินจึงไม่ชอบแพรไหม จนถึงวันรับน้องนอกสถานที่ ปรากฏว่ามาวินกับแพรไหมหลงป่าไปด้วยกัน ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง มาวินจูบแพรไหม แพรไหมไม่พอใจผลักมาวินตกน้ำขาแพลง แพรไหมพยายามจะหาทางออกแต่ด้วยสามัญสำนึกทำให้เธอกลับมาดูมาวินที่เริ่มจะเป็นไข้ป่า แพรไหมกอดมาวินเอาไว้ทั้งคืนจนเช้า จนกลุ่มของชนนออกตามหามาเจอ นาราบอกกับมาวินว่าแพรไหมเป็นคนดูแลมาวิน จนมาวินเริ่มมองแพรไหมดีขึ้น รตีโกรธแพรไหมขณะอินทรกลัวว่าจะสู้มาวินไม่ได้จึงท้าแข่งจีบแพรไหม โดยมีรถของคู่แข่งเป็นรางวัล มาวินไม่อยากแข่งเพราะเริ่มชอบแพรไหมเข้าแล้ว แต่เขากลัวว่าเพื่อนรู้ความจริงเลยตกลง ทั้งคู่เร่งจีบแพรไหม แพรไหมต้องการประชดมาวินจึงรับดอกไม้ของอินทรบ่อย ๆ รตีไม่พอใจที่มาวินสนใจแพรไหมมากกว่าตน นาราเห็นว่าที่บ้านขาดคนสวนจึงชวนชนนมาทำ นิชาเห็นชนนครั้งแรกก็ชอบทันที พอนารารู้ก็ไม่สบายใจ วันหนึ่งแพรไหมได้ช่วยแม่ของมาวินเอาไว้ เลยถูกชะตากับแพรไหมจึงชวนมาทำงานดูแลตนที่บ้าน แพรไหมจะไม่ทำแต่ถูกมาวินท้าทายเลยยอมไม่ได้จึงตอบตกลง พอแพรไหมได้เข้ามาใกล้ชิดครอบครัวมาวินเลยทำให้รู้มาวินเป็นคนขาดความรัก ความอบอุ่น แพรไหมจึงพามาวินไปรู้จักกับครอบครัวของเธอที่ถึงแม้จะแยกกันอยู่แต่ก็มีความสุข มาวินถูกชะตากับมานีจึงไปช่วยขายผัก คามสัมพันธ์ของมาวินและแพรไหมเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ รตีรู้จึงขอเลิกคบกับแพรไหมและพยายามเข้าไปตีสนิทมาวิน ส่วนอินทรรู้ว่าสู้มาวินไม่ได้เลยหันไปติดเหล้า เมายา โดยมือภิชาติ (แพน-สุรเกียรติ บุนนาค) คอยยุยงให้อินทรเกลีดยมาวิน วันหนึ่งอินรเมามายไม่ได้สติ ทำให้จริยา แม่เลี้ยงได้โอกาสเข้าไปคลอเคลียอินทร จนอินทรเคลิ้มยอมมีอะไรด้วย ตราบาปครั้งนั้นทำให้อินทรเกลียดจริยามาก หลังจากนั้นไม่นานแพรไหมก็เริ่มใจอ่อน มีใจให้กับมาวิน พอถึงวันเกิดมาวิน รตีแต่งตัวสวยเพื่อมายั่วมาวิน แต่มาวินไม่สนใจ รติจึงไปยุแม่ของมาวินว่าแพรไหมเป็นคนไม่ดีหวังจะมาจับมาวิน อินทรใช้โอกาสนี้ประกาศกับแพรไหมว่าที่มาวินทำดีทุกอย่างกับแพรไหมก็เพื่อเอาชนะอินทรเท่านั้น ทำให้แพรไหมผิดหวังมยุราสั่งห้ามมาวินยุ่งกับแพรไหมอีก แต่มาวินไม่เชื่อและยืนยันว่าเขารักแพรไหมจริง ๆ รตีเห็นว่าอินทรเมามากจึงเข้าดูแลจนพลาดพลั้งได้เสียกัน จริยาเห็นเข้าก็โกรธแต่พูดอะไรมากไม่ได้เพราะเธออยู่ในฐานะแม่เลี้ยงอินทร อินทรชวนรตีมาอยู่ที่บ้านเพื่อเป็นกันชน เพื่อให้มาวินเลิกยุ่งกับเธอ สร้างความเสียใจให้กับรตีมาก มาวินพยายามแต่ง้อแต่ก็ไม่สำเร็จ ส่วนอินทรดันไปมีเรื่องกับปรัชญา(เติ้ล-ปิติพน พรตรีสัตย์) ถึงขั้นยิงกัน อินทรหนีแล้วเอาปืนไปซ่อนในรถของมาวินแล้วโทรแจ้งความ จนมาวินถูกจับ พ่อแม่ของมาวินอับอายมากเลยไม่ไปประกันตัวมาวิน ชนนกบนารามาให้กำลังมาวิน ขณะที่แพรไหมสับสนเลยไม่พูดกับมาวิน ทำให้มาวินน้อยใจ มานีเตือนสติแพรไหม จนแพรไหมคิดได้เลยกลับไปขอโทษมาวิน แต่ไม่ทันเพราะตำรวจสอบปล่อยตัวมาวินไปแล้ว มาวินรู้ว่าอินทรเป็นคนยิง แต่ด้วยความรักเพื่อนจึงไม่ได้บอกกับตำรวจ แพรไหมพยายามตามง้อมาวิน แต่มาวินก็ยังน้อยใจ ส่วนรตีก็บอกความจริงว่าเธอท้องกับอินทร แต่อินทรไม่สนใจ จริยารู้เรื่องก็หึงหวงจนความลับแตกว่าเธอก็เป็นเมียของอินทรอีกคน ทำให้สินชัยโกรธไล่จริยาออกจากบ้านรวมทั้งอินทร อินทรโกรธตีเลยถีบท้องรตีอย่างแรงจนรตีแท้ง อินทรตกใจมากเลยหนีบออกไป แต่โชคร้ายดันถูกตรวจตามจับได้ ส่วนคู่ของชนนกับนาราก็มีเรื่องเข้าใจผิดกัน เพราะคิดว่าชนนกับพี่สาวของตัวเองมีใจให้กัน ทำให้นาราเสียใจ จนชนนต้องตามมาปรับความเข้าใจ พ่อแม่ของนาราเห็นขณะที่ทั้งคู่กอดกัน จึงเข้าใจผิด ไล่นาราออกจากบ้าน บทสรุปสุดท้ายของทั้ง 6 คน จะเป็นเช่นไร

รอยรักแรงแค้น 2558

เรื่องย่อ : รอยรักแรงแค้น (2558/2015) เมื่อกฎหมายไม่อาจเอาผิดกับฆาตรกรได้ การแก้แค้นอย่างสาสมจึงถูกนำมาใช้ แม้กับคนที่เขาเคยรักปานดวงใจ รอยรักก็มิอาจหักแรงแค้นลงได้แม้สักนิด

คิม คิมหันต์ สุริยศักดิ์ (ภัทรเดช สงวนความดี) หนุ่มวัยก่อนเบญจเพส กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยเหตุที่วายร้ายดักปล้นชิงทรัพย์และฆ่าบุพการีทั้งสองของเขาระหว่างเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ดินในต่างจังหวัด ในวันนั้น คิม เพิ่งจะมีอายุได้แปดขวบ ขณะที่ มล วิมลรัตน์ (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) พี่สาวคนเดียวของเขาอายุสิบแปดปี มล ต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปีหนึ่ง เพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงน้องชายคนเดียวของเธอ โชคดีที่ มล เป็นคนเก่ง คล่องแคล่ว เธอเริ่มทำธุรกิจหิ้วสินค้ามีชื่อจากเมืองนอก มาขายตรงให้กับลูกค้าไฮโซ

จากนั้น ได้พัฒนาจนเป็นผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการของเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์เนม จนเป็นที่ยอมรับของผู้คนในสังคมชั้นสูง สถานะของวิมลรัตน์ ร่ำรวยจนเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อม ๆ กับที่ คิม ได้กลายเป็น วัยรุ่นสายเลือดใหม่ ที่บรรดาสาวสังคมให้ความสนใจในเสน่ห์อันสดใสของเขา รวมทั้งเครดิตบัณฑิตใหม่จากคณะวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานไอที ก็เสริมรูปลักษณ์ชวนมองให้กับคิมได้ไม่น้อย การฟูมฟักดูแลเอาใจใส่อย่างดีของพี่สาวคนเดียวของเขาช่วยกลบลบความหวาดกลัวในวัยเด็กของคิมลงได้จนเกือบหมดสิ้น แม้ตำรวจไม่สามารถจับวายร้ายผู้ปลิดชีพพ่อและแม่ของเขาได้ แต่คิมก็เลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย

มุก มุกริน คุรุรัตน์ (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) น้องสาวในวัยใกล้เบญเพสของ ธาดา (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) พี่ชายคนเดียวของเธอ ธาดาอายุมากกว่าน้องสาวห้าปีครอบครัวของเขามีฐานะปานกลาง ผู้เป็นพ่อมีอาชีพเป็นทนายความที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังแต่อย่างใด ผู้เป็นแม่มีอาชีพเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษา ธาดาเป็นคนทะเยอทะยาน ประมาณสิบปีก่อนหน้านี้เขามุมานะสอบชิงทุนจนได้ไปเรียนต่อที่อเมริกา ธาดาต้องการให้ มุก น้องสาวของเขา มีโอกาสทางการศึกษาที่ดีกว่าอยู่เมืองไทย เขาแอบขโมยรถคันเก่งของพ่อไปขาย และนำเงินที่ได้เป็นค่าตั๋วเครื่องบินพาน้องสาวไปเรียนต่อด้วยกันที่นั่น

ธาดา ได้มีโอกาสรู้จักกับ วิมลรัตน์ ที่อเมริกา ความขยัน ทำการค้าเก่ง และรูปร่างที่เซ็กซี่ของวิมลรัตน์สะดุดตาของธาดายิ่งนัก โดยเฉพาะฐานะที่ร่ำรวย มีเงินใช้จ่ายคล่องตัวของวิมลรัตน์ยิ่งตอบสนองความทะเยอทะยานของธาดาเป็นเท่าทวี แม้อายุของเธอจะมากกว่าธาดาถึงห้าปี แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เช่นเดียวกับ บุคลิกอ่อนโยน เจ้าเสน่ห์ และเอาใจเก่ง ของธาดา ก็ทำให้สาวใหญ่ที่ครองตัวเป็นโสดมานานอย่างวิมลรัตน์ เคลิบเคลิ้มไปได้ไม่น้อย ในที่สุดทั้งสองก็ตกลงปลงใจอยู่กินร่วมกัน

พักตรา เลิศปัญญาวุฒิ (ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์) ลูกสาวคนเดียวของ พลโท อรรถ เลิศปัญญาวุฒิ (พลรัตน์ รอดรักษา) นายทหารนอกราชการ พักตรา ถือเป็นสาวไฮโซคนหนึ่งที่ถูกจับตามองจากผู้คนในสังคมแทบจะทุกย่างก้าว เธอเพียบพร้อมไปหมดทุกด้าน ทั้งเรื่องการศึกษา รูปร่างหน้าตา และฐานะที่มั่งคั่ง ร่ำรวย ด้วยเหตุนี้เอง พักตราจึงกลายเป็นสาวสวยที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่กล้าจีบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ พักตรา เดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด เธอพอใจที่จะเป็นดาวเด่นเหนือใคร ๆ และเป็นผู้เลือกมากกว่าผู้ถูกเลือก เพราะพักตรา เป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของวิมลรัตน์ เธอจึงมีโอกาสรู้จัก คิมหันต์ ได้โดยไม่ยาก หัวใจของพักตราหวั่นไหวทันทีที่ได้เห็นหน้า อนิจจา เธอตกหลุมรักคิมหันต์เข้าให้แล้ว แต่บุคลิกของพักตรา ย่อมปากแข็ง วางท่า และรอเวลาจนกว่าฝ่ายชายจะเป็นผู้เอ่ยปาก นั่นเพราะเธอเชื่อเสมอว่า คิมหันต์ ไม่มีวันหลุดไปจากมือเธอ ทว่า มันหาได้เป็นอย่างที่เธอคาดคิด

ผู้เป็นพ่อของธาดา ป่วยตายในวัยชรายังผลให้ผู้เป็นแม่ตกอยู่ในอาการซึมเศร้า ต้องอาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา จึงเป็นเหตุให้ธาดาย้ายกลับมาตั้งรกรากในเมืองไทย เขาตัดสินใจแต่งงานกับวิมลรัตน์ในที่สุด พักตรามีโอกาสได้รู้จักมุกริน ก่อนหน้างานแต่งงานของวิมลรัตน์ไม่นาน เธอแนะนำมุกให้รู้จักกับคิมหันต์ และด้วยความเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้คน พักตราจึงฝากฝังมุกให้ทำงานในบริษัทที่พ่อของเธอเป็นประธานบอร์ดบริหาร พักตราหารู้ไม่ว่าจากการแนะนำวันนั้น ทำให้คิมหันต์และมุกริน ใกล้ชิดกันจนกลายเป็นความรัก มันเป็นความรักอันสดใสของหนุ่มสาวที่มีอุปนิสัยใจคอใกล้กัน หนึ่งปีหลังจากนั้น คิมหันต์ประกาศตัวอย่างเปิดเผยว่า เขาและมุกริน คือคู่รักกัน และทั้งสองจะแต่งงานกันในอีกสามเดือนข้างหน้านี้ หัวใจพักตรา แทบสลาย เธอชิงชังผู้คนรอบตัวเธอทุกคน โดยเฉพาะมุกริน ความเป็นเพื่อนจึงสลายไปจนหมดสิ้น แต่แล้วเรื่องราวพลิกผันก็เกิดขึ้นเมื่อคิมหันต์ประกาศยกเลิกการแต่งงานหลังการเสียชีวิตของพี่สาวคืนนั้น

คืนเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด มันเป็นคืนที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าคืนใด ๆ วิมลรัตน์มีปากเสียงกับธาดาผู้เป็นสามี กรณีที่เถียงกันเราพอจะจับใจความได้ว่า เป็นเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ นอกจากเสียงด่าทอระหว่างกันแล้วไม่มีผู้ใดรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องนอนนั้น กระทั่งเช้ามืด จึงมีผู้พบศพของวิมลรัตน์สิ้นใจอยู่ในห้องดังกล่าว ไม่มีวัตถุพยานใดยืนยันตัวฆาตกรได้ ทว่า สังคมปักใจเชื่อด้วยความรู้สึกว่า ธาดา คือผู้ลงมือสังหารภรรยาตัวเอง เพื่อครอบครองทรัพย์สินและมรดกทั้งหมดของวิมลรัตน์ พยานปากเดียวที่สามารถชี้ตัวคนผิดได้คือ มุกริน แต่มุกรินกลับเลือกที่จะให้การเพื่อเป็นคุณแก่ ธาดา พี่ชายของเธอในที่สุด ศาลจึงมีคำสั่งยกฟ้องนายธาดา พ้นผิดในทุกข้อกล่าวหา

คิมหันต์แทบเสียสติ เมื่อทราบผลการพิจารณาคดี มุกริน ก็ตกอยู่ในภาวะสับสนไม่แพ้กัน แต่เมื่อเธอเลือกที่จะช่วยเหลือพี่ชายผู้มีบุญคุณกับเธอ มุกรินก็จำต้องยอมรับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของคิมหันต์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ความรักที่คิมหันต์เคยมีให้เธอ บัดนี้ได้กลายเป็นความแค้น เป็นความชิงชังที่คิมหันต์สาบแช่งไปจนวันตาย แม้ ชุมสาย (นวพล ภูวดล) เพื่อนสนิทที่ว่าความให้ จะปลอบโยนอย่างไรก็มิอาจหยุดไฟอาฆาตแค้นของคิมหันต์ได้

งานแต่งงานระหว่างคิมหันต์และมุกริน ถูกประกาศยกเลิกอย่างเอิกเกริก พักตรา ได้จังหวะในการเข้ามาสอดแทรกความสัมพันธ์ของ คิมหันต์ และ มุกริน ด้วยเจตนาหวังทวงคืนชายที่เธอหมายปองมาโดยตลอด และในที่สุดพักตราก็ทำสำเร็จ เพราะความเหงา ความเศร้า ความว้าเหว่ของคิมหันต์ เขาจึงพลาดพลั้งตกหลุมพรางของพักตรา โดยมิได้ตั้งใจ ไม่นานหลังจากนั้น พักตรา ประกาศกำหนดการหมั้นระหว่างเธอกับคิมหันต์อย่างเอิกเกริก เป็นไปดังคาด มุกรินตกอยู่ในความระทมทุกข์อย่างแสนสาหัส

ธาดา ทำตัวเป็นคนเสเพลซึ่งมันคือนิสัยแท้จริงของเขา ที่เพิ่งเปิดเผยหลังการตายของภรรยา ไม่มีใครรู้ว่า เขาแอบมีเมียเก็บอยู่คนหนึ่งเป็นนักดนตรีสาวฮิปปี้ผู้นิยมชมชอบการมีอิสระเสรีในทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องเซ็กส์ และมุกรินเองก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน วันหนึ่ง ธาดา แอบกลับเข้าไปยังบ้านเดิมของวิมลรัตน์เพื่อหวังหยิบฉวยทรัพย์สินที่อยู่ที่นั่น คิมหันต์โผล่เข้ามาเห็นเหตุการณ์ ทั้งสองเกิดการทะเลาะวิวาท ลงไม้ลงมือกันจนธาดาเป็นฝ่ายเจ็บตัวถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล มุกรินตามมาดูพี่ชายด้วยความเป็นห่วง เธอจึงต้องพบกับคิมหันต์ชนิดประจันหน้า คิมหันต์อดไม่ได้ที่จะพูดจาด่าทอมุกรินและลงเอยด้วยการบีบคอ ทำร้ายร่างกายมุกริน เหตุการณ์วันนั้นจบลงด้วยความช้ำใจของทุกฝ่าย แต่เมื่อคิมหันต์และมุกรินแยกย้ายไปอยู่กันตามลำพัง ทั้งคู่กลับสัมผัสถึงความรู้สึกลึก ๆ ของตนว่า พวกเขามิอาจตัดใจขาดจากความรักที่เคยมีให้กันได้ แต่เป็นเพราะความแค้นนั่นเอง ที่บดบังความรักของเขาและเธอจนแทบไม่เหลือร่องรอย

ปรารภ (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) เจ้านายโดยตรงของมุกริน แสดงความห่วงใยต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมุกริน เขาพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือมุกรินทุกอย่าง นั่นเป็นเพราะเขาแอบมีใจให้กับเธอมานานแล้ว วันที่มุกริน นำแหวนหมั้น และของใช้อื่น ๆ ไปคืนคิมหันต์ ทั้งสองมีโอกาสได้ประจันหน้ากันอีกครั้ง ความรู้สึกลึกซึ้งที่ทั้งคู่เคยมีให้กัน ดึงดูดให้ทั้งสองเกือบจะเผลอใจให้กัน ทั้งคู่พยายามลืมความขุ่นเคืองในปัจจุบัน เพื่อกลับไปหาอารมณ์รักเหมือนดังอดีต ทว่า พักตรา ได้ปรากฏตัวขึ้น ทันท่วงที เธอพรั่งพรูถ้อยคำ ด่าทอพฤติกรรมของคนทั้งสอง ในขณะที่ คิมหันต์ วางเฉย เขาปล่อยให้พักตราอาละวาดใส่มุกรินโดยไม่ออกรับแทนแต่อย่างใด มุกรินจำต้องเดินจากไปด้วยน้ำตานองหน้า และความเจ็บช้ำท่วมหัวใจ เธอได้แต่บอกกับตัวเองว่า ผู้ชายอ่อนโยนคนที่เธอเคยทุ่มเทหัวใจให้ไม่มีอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว

มุกริน ลาพักร้อนเพื่อหนีปัญหาต่าง ๆ ปรารภ เสนอทางเลือกให้มุกริน คือ ให้ไปช่วยงานเขาที่เชียงใหม่ซึ่งจะเป็นการพักผ่อน โดยไม่ต้องลางาน มุกริน ขอเวลาคิดและตัดสินใจอีกที ส่วน ธาดา นั้นเห็นด้วย และเชียร์ให้มุกรินยอมรับความปรารถนาดีจากปรารภ คิมหันต์ สั่งให้ชุมสายดำเนินการฟ้องร้อง เอาเรื่องธาดาให้ถึงที่สุดเพื่อยึดเอาบ้านของวิมลรัตน์ และทรัพย์สินทั้งหมดกลับมาเป็นของตน ชุมสาย แอบบอกเรื่องนี้ให้มุกรินรู้ แต่เธอก็ไม่สามารถโน้มน้าวให้ธาดายอมคืนทรัพย์สมบัติเหล่านั้นได้ มุกริน ต้องยอมรับสภาพการขึ้นโรงขึ้นศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น มุกริน ย้ายออกมาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่เองตามลำพังโดยไม่บอกให้ใครรู้ ป้าอ่อน แม่บ้านอัธยาศัยดี คุยฟุ้งว่า มุกรินโชคดีที่ได้ห้องที่สวยที่สุดและคุยซ้ำอีกว่า เจ้าของอพาร์ทเม้นท์นี้ เป็นชายหนุ่มที่หล่อที่สุด และน่ารักที่สุด เธอหารู้ไม่ว่าเจ้าของ อพาร์ทเม้นท์ก็คือ คิมหันต์ นั่นเอง

ธาดา ปรึกษา ปรารภ เรื่องที่มุกรินหายตัวไป ทั้งสองพากันบุกไปหา คิมหันต์ ด้วยความเชื่อว่า คิมหันต์เป็นผู้ลักพาตัวมุกรินไปคิมหันต์ปฏิเสธ ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย ความเป็นห่วงมุกรินผุดขึ้นมาในใจเขาโดยไม่รู้ตัว ปรารภได้รับโทรศัพท์จากป้าอ่อน แจ้งว่ามุกรินป่วยหนัก ไข้สูง อยู่ที่โรงพยาบาล ปรารภและธาดา รีบตรงไปเยี่ยมมุกริน เช่นเดียวกับคิมหันต์ ที่รีบไปโรงพยาบาลทันทีที่ทราบข่าวเมื่อทั้งหมดได้ประจันหน้ากัน ในห้องพักคนไข้ คิมหันต์ อดไม่ได้ที่จะตะโกนลั่นว่า ธาดาคือคนฆ่าพี่สาวของเขา และมุกรินคือพยานที่ให้การเท็จเพื่อช่วยเหลือฆาตกร และทำให้วิมลรัตน์ต้องตายฟรี ๆ มุกรินตัดสินใจไปทำงานที่เชียงใหม่ เธอกลับมาเก็บของที่อพาร์ทเม้นท์ เพื่อคืนห้องให้กับเจ้าของ คืนนั้นเธอจึงได้พบกับเจ้าของอพาร์ทเม้นท์...คิมหันต์เขาพยายามช่วยขนของและอาสาขับรถไปส่ง แต่ มุกริน พยายามปฏิเสธ เกิดการตัดพ้อต่อว่า ราวกับคู่รักแง่งอนกัน

มุกรินเอาของใช้ส่วนตัวมาฝากที่บ้านเดิมของธาดา เธอจึงได้พบกับภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนอกจากลุงชม คนเฝ้าบ้านแล้ว มุกรินได้พบกับ ดวงดาว (รัญดภา มันตะลัมพะ) ฮิบปี้สาวสวยเก๋ ดวงดาว เป็นนักดนตรีที่รักอิสระเสรี และในเวลานี้ เธอรักที่จะมีความสัมพันธ์กับ ธาดา โดยไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ดวงดาว ไม่เดือดร้อนใจใด ๆ หากใคร ๆ จะเรียกเธอว่าเป็น เมียเก็บ มุกรินต่อว่าพี่ชายที่นอกใจวิมลรัตน์ เธอเริ่มรู้สึกว่า คำให้การของเธอที่เป็นคุณแก่ธาดานั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ธาดา น่าจะเป็นคนฆ่าวิมลรัตน์จริงดังที่คิมหันต์กล่าวหา

ในที่สุด พักตรา ก็เข้าสู่พิธีหมั้นกับ คิมหันต์ พักตรา พยายามเร่งรัดกำหนดการแต่งงาน แต่คิมหันต์หาทางบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา แต่กระนั้น เพียงได้ชื่อว่าเป็น คู่หมั้น ก็ทำให้พักตรามีความสุขไม่น้อย เธอเชื่อว่า คิมหันต์ ไม่มีวันดิ้นหลุดไปจากการครอบครองของเธอเป็นอันขาด ส่วน มุกริน ตัดสินใจเดินทางไปเชียงใหม่กับปรารภในวันนั้น ตลอดการเดินทาง มุกรินเอาแต่ร้องไห้ เธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเอาแต่พร่ำบ่นว่าเธอเป็นผู้ทำลายอนาคตด้วยตัวเองแท้ ๆ ปรารภต้องคอยปลอบประโลมมุกริน และเสนอตัวที่จะช่วยเยียวยาความรู้สึกทางใจให้หากมุกรินต้องการ ทว่ามุกรินยังไม่พร้อมที่จะเปิดรับใครในเวลานี้

พักตรา ชวนคิมหันต์ไปทานข้าวนอกบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างเธอและเขา คิมหันต์ กลับได้พบกับธาดาและดวงดาวโดยบังเอิญที่ร้านอาหารเดียวกัน คิมหันต์จงใจเดินไปพูดกับธาดาที่โต๊ะ แม้ธาดาจะพยายามพูดจาดี ๆ และแนะนำดวงดาวกับคิมหันต์พอเป็นพิธีตามมารยาท แต่คิมหันต์กลับตะโกนลั่นเหมือนเดิมว่าธาดาคือฆาตกรฆ่าพี่สาวของเขา เมื่อธาดากลับถึงบ้านเขาระเบิดอารมณ์ใส่ดวงดาว โทษฐานที่ดวงดาวลอบทำตาหวานใส่คิมหันต์ ดวงดาวโต้ตอบว่า ถึงเธอจะรักอิสระเสรี แต่ก็ไม่เคยนอกใจสามี แม้จะเป็นสามีลับ ๆ ก็ตาม

เมื่อมุกรินกลับจากเชียงใหม่ ธาดา ไปดักรอรับ และขอให้มุกรินมาอยู่ด้วยกันกับดวงดาวที่บ้านเดิมเพื่อช่วยดูแลบ้าน และดูแลดวงดาวด้วย มุกรินไม่สามารถปฏิเสธได้เธอจึงได้มีโอกาสใกล้ชิดกับดวงดาว และเห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ของดวงดาวโดยเฉพาะเรื่องการสูบกัญชา ดวงดาวบอกว่าทั้งหมดที่เธอทำนั้นเพื่อความสุขในชีวิต เธอจะไม่ยอมจมปลักอยู่กับความทุกข์ในอดีตอย่างที่มุกรินเป็น และจะไม่ยอมตายอย่างอเนจอนาถแบบวิมลรัตน์ด้วยเช่นกัน คิมหันต์มักหาจังหวะและโอกาสในการพบกับมุกริน เขาต้องการระบายความอึดอัดระหว่างเขากับพักตราให้ใครสักคนฟัง แม้คิมหันต์จะเคียดแค้น ชิงชังมุกรินมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครรับฟังปัญหาของเขาได้ดีไปกว่ามุกริน มุกรินทำได้เพียงแต่ก้มหน้าฟังนิ่ง ๆ โดยไม่เอ่ยปากใด ๆ

ปรารภ เรียกมุกรินไปแจ้งว่ามีคำสั่งจากหัวหน้าแผนกให้ไปช่วยงานต่างจังหวัดโดยมีพักตราร่วมอยู่ในทีมและต้องเดินทางเร็วที่สุด คือ มะรืนนี้การเดินทางไปทำงานทริปนี้ บริษัทจัดให้พักตราและมุกรินพักอยู่บ้านหลังเดียวกัน พักตรา จงใจพา คิมหันต์ ไปอยู่ด้วยเพื่อสร้างภาพให้ใคร ๆ ได้เห็นว่าเขาและเธอรักกันมากแค่ไหน ห้องนอนของพักตราและมุกรินถูกจัดให้อยู่ติดกัน ในเวลากลางคืน มุกรินจะได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังมาจากห้องพักตรา มุกรินต้องออกมานั่งปรับอารมณ์ตัวเองที่สนามนอกบ้าน จู่ ๆ คิมหันต์ ก็ตามมานั่งข้าง ๆ ด้วย เขาพร่ำพรรณนาถึงความหลังที่เคยมาเที่ยวทะเลด้วยกันกับมุกริน น้ำเสียง และแววตาของเขาอ่อนโยน นุ่มนวล จนน้ำตาของมุกรินไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ คิมหันต์กระซิบเบา ๆ ข้างหูเธอว่า "ผมยังต้องการคุณอยู่นะ มุกริน" เธอไม่รู้ว่าคิมหันต์จงใจทำเช่นนี้เพราะเหตุใด ในเมื่อเขาเพิ่งหมั้นกับพักตรา แต่กระนั้น หัวใจของเธอได้เตลิดเปิดเปิงไปกับเขาอีกคำรบหนึ่งแล้ว ตลอดช่วงเวลาต่างจังหวัดที่ มุกรินและพักตราต้องอยู่ด้วยกัน ทั้งสองกระทบกระทั่งกันด้วยวาจาอย่างเผ็ดร้อน พักตราพยายามยั่วมุกรินให้โกรธด้วยการ พร่ำพูดถึงอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะแต่งงานกันระหว่างเธอกับคิมหันต์ ส่วนมุกรินอดไม่ได้ที่จะโต้ตอบว่า ระวังเรื่องราวจะหักมุม ไม่เป็นอย่างที่คิด

เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ พักตรา พยายามใช้สถานะของลูกสาวประธานบอร์ดบริษัท ไล่มุกรินออก ปรารภ เป็นผู้เรียกร้องความถูกต้องให้กับมุกริน แต่กลับถูกพักตราเย้นหยันว่า ปรารภ ทำเพราะแอบชอบมุกริน ปรารภเถียงกลางวงประชุมว่า เขาไม่ได้ชอบมุกรินแต่เขารักมุกริน พักตราโกรธที่ใคร ๆ พากันรักแต่มุกริน มุกรินมีโอกาสได้คุยกับดวงดาวมากขึ้น เธอจึงรู้ประวัติชีวิตดวงดาวว่า เติบโตมากับแม่ที่เล่นการพนัน ขี้ขโมย จนโดนจับ และดวงดาวก็ถูกนำไปเลี้ยงในคุกตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นจึงเป็นที่มาของความแข็งแกร่ง สู้ชีวิตแบบดวงดาว ดวงดาวให้ความเห็นกับมุกรินว่าถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่ปล่อยให้คิมหันต์หลุดมือไปอีก และเชื่อได้เลยว่า คิมหันต์ยังคงต้องการมุกริน คิมหันต์หาจังหวะมาดักรอมุกริน เขาบอกเธอว่า พักตราลาออกจากบริษัทแล้ว ส่วนตัวเขาเองนั้น ไม่อาจหักห้ามใจได้อีกต่อไป คิมหันต์สารภาพว่า ยังคงรักและปรารถนาในตัวมุกรินเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนการรับปากว่าจะแต่งงานกับพักตรานั้น เป็นเพราะความพลาดพลั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาจมอยู่กับความโกรธ ชิงชัง ธาดา

ในที่สุดทั้งสอง ก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ปรารถนาของกันและกันตลอดค่ำคืนนั้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พักตราฟุ้งซ่านไปกับการวิ่งพล่าน ตามหาผู้เป็นคู่หมั้นของเธอ คิมหันต์นัดให้มุกรินมาหาที่ท่าเรือริมทะเล เพื่อนั่งเรือออกไปล่องลอยบนเกาะกลางทะเลด้วยกันเพียงลำพัง ทิ้งสิ่งรกร้างหัวใจไว้บนฝั่ง เบื้องหลังเขาทั้งสอง มุกริน ลังเล แต่ดวงดาวสนับสนุนให้มุกรินทำตามปรารถนาของหัวใจ ที่สุดแล้ว มุกรินก็เลือกที่จะเชื่อคำแนะนำของดวงดาว ทั้งสองมีความสุข ดื่มด่ำร่วมกัน สมความปรารถนา มุกรินอยากหยุดเวลานี้ไว้ให้นานเท่านานแต่เธอก็ไม่อาจลืมได้ว่า พฤติกรรมที่เธอกำลังทำอยู่นั้น คือการแย่งคู่หมั้นของเพื่อน คิมหันต์ ยอมรับว่า มันอาจเป็นการกระทำที่ผิด แต่มันก็เป็นบาปของเราทั้งคู่ ทั้งสองเลือกที่จะชะลอปัญหานี้ด้วยการหาบ้านเช่าสักหลังชานเมืองกรุงเทพฯ เพื่อเป็นรังรักของตน เพราะการขอถอนหมั้นจากพักตรานั้นเป็นเรื่องที่ยากมากความอาฆาตแค้นของพักตรา อาจถึงขั้นเอาชีวิตก็เป็นได้ เมื่อคิมหันต์ไปส่งมุกรินที่บ้าน เขาได้พบกับดวงดาวและได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของดวงดาวกับธาดา เขายิ่งเพิ่มความชิงชังในตัวธาดามากยิ่งขึ้นพร้อม ๆ กับความสงสารและเห็นใจดวงดาว

ธาดาขอให้มุกรินลาออกจากงาน เพื่อเลี่ยงการพบเจอกับคิมหันต์ มุกรินปฏิเสธ ธาดาโกรธจัด อยู่ ๆ ก็หน้ามืดล้มลง สัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับสุขภาพของธาดาได้ปรากฏขึ้น คิมหันต์หายหน้าไปจากทุก ๆ คนพักใหญ่ด้วยรู้สึกผิดในทั้งหมดทุกสิ่งที่ตัวเองทำลงไปไม่ว่าจะกับพักตรา หรือ มุกริน ในบางขณะ เขาเริ่มสับสนกับภาวะจิตใจของเขา ในเมื่อเขาโกรธเกลียด อาฆาตแค้นธาดา เขาก็ไม่ควรที่จะมีความรักให้มุกริน เขาควรจะทำร้าย ทำลาย มุกริน และธาดา รวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการตายของพี่สาวของเขา แต่เขากลับหักห้ามใจไม่ได้ คิมหันต์ ยอมรับกับตัวเองว่า เขารักมุกรินจริง และรักแท้ในครั้งนี้ อยู่เหนือความแค้นใด ๆ ทั้งหมด มุกรินร้อนใจจนอดไม่ได้ที่จะโทรหาคิมหันต์ ทว่าผู้ที่รับโทรศัพท์ปลายสายนั้นกลับเป็นพักตรา มุกรินรีบทิ้งโทรศัพท์ทันที เธอช้ำใจอีกครา ดวงดาวจึงอาสาพามุกรินไปพักผ่อนที่ภูเก็ต การหายตัวไปเฉย ๆ ของคิมหันต์ทำให้พักตรา ตกอยู่ในความซึมเศร้ามากยิ่งขึ้น คุณอรรถผู้เป็นพ่อต้องคอยพยายามปลอบ แต่ก็ไม่เป็นผล คนเดียวที่มีความหมายและมีอิทธิพลกับเธอมากที่สุดคือ คิมหันต์ วันหนึ่งคิมหันต์กลับมาหาพักตราที่บ้าน เขาได้พบกับสภาพบ้านที่พังยับเยิน ข้าวของกระจุยกระจายจากการทำลายของพักตรา

คิมหันต์ได้แต่กอดและปลอบเธอไว้ในวงแขนและสัญญาว่าจะไม่มีวันถอนหมั้นกับพักตราเป็นอันขาด ในเวลาเดียวกัน ธาดา ก็คะยั้นคะยอให้มุกรินลาออกจากบริษัท พร้อม ๆ กับที่บ่นด้วยความระแวงว่า ดวงดาว อาจปันใจไปชอบชายอื่นเพราะดวงดาวเคยสารภาพกับธาดาตรง ๆ ว่า เธอยินดีอยู่กับธาดาตลอดไป จนกว่าจะเจอผู้ชายคนที่เธอรักจริง ๆ ซึ่งเมื่อวันนั้น ธาดา จะไม่มีสิทธิ์รั้งตัวเธอไว้ได้อีกต่อไป

คิมหันต์จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูลใหม่ที่ใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดธาดาได้ เจตนาในการเดินทางครั้งนี้ เขามิได้ปริปากบอกใคร แม้แต่กับมุกริน กระนั้น มุกรินอดไม่ได้ที่จะแอบไปส่งคิมหันต์ที่สนามบิน พักตราตามมาที่สนามบินทีหลัง เธอเห็นมุกรินเต็ม ๆ ตาที่นั่น พักตราโกรธจัด ตามไปอาละวาดถึงที่ทำงาน ในที่สุดมุกรินก็ลาออกจากบริษัท ช่วงเวลาที่คิมหันต์ไม่อยู่ มุกรินได้แต่เฝ้ารอเขาที่บ้านเช่าหลังนั้น เธอฝันถึงเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แม้เพียงน้อยนิด ก็มีค่ามากมหาศาลสำหรับเธอ ธาดา หมกมุ่นในเรื่องเหล้าและการพนัน เขาเป็นหนี้สินในวงพนันมากมาย สมบัติเท่าที่มีก็ถูกขายออกไปจนเกลี้ยง กระทั่งดวงดาวก็ถูกตะเพิดไล่ออกจากบ้านไปด้วยอารมณ์พาลของธาดาเช่นกัน

ดวงดาวไม่รั้งรอ...เธอได้โอกาสเดินออกไปจากชีวิตธาดาทันที ไม่มีใครรู้ว่า ความวอดวายของธาดาครั้งนี้ ผู้อยู่เบื้องหลังคือคิมหันต์ ด้วยในอดีต พี่สาวของเขา เคยมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในวงการพนัน เฮียอ๋า ขาใหญ่ในบ่อน โทรแจ้งคิมหันต์ว่า ธาดาใกล้หมดตัว จนมุมแล้ว คิมหันต์พอใจเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อรู้ว่าดวงดาวแยกตัวไปก็ยิ่งเพิ่มความสะใจให้กับคิมหันต์เป็นอย่างมาก คิมหันต์ได้เจอกับดวงดาวโดยบังเอิญ เมื่อทั้งสองได้สนทนากัน ความสงสารและเห็นใจระหว่างกันจึงเกิดขึ้น ไม่น่าเชื่อว่า ดวงดาว กลับเป็นผู้ให้สติกับคิมหันต์ว่า ทุกสิ่งที่เขาทำไป ไม่เป็นผลดีกับใครแม้แต่คนเดียวหากพี่สาวของคิมหันต์ฟื้นขึ้นมาได้ คิดหรือว่าเธอจะพอใจที่คิมหันต์เป็นอย่างนี้ ก่อนแยกจากกัน ดวงดาวทิ้งท้ายไว้ว่า น่าเสียดายที่เราเจอกันช้าไป ไม่งั้นคุณไม่มีทางหลุดมือฉันไปแน่ ๆ

วันหนึ่ง เมื่อพักตราเจอตัว คิมหันต์ สิ่งแรกที่เธอทำ ไม่ใช่การต่อว่าด่าทอ แต่เธอเลือกที่จะหยิบปืนพกขนาดเล็กยิงใส่คิมหันต์ กระสุนพุ่งเข้ากลางหัวไหล่คิมหันต์ และเพียงพอที่คิมหันต์ต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล พักตราเป็นผู้เฝ้าดูแลอาการคิมหันต์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับครวญคราง ร้องขอโทษคิมหันต์อยู่ตลอดเวลา มุกรินพยายามจะไปเยี่ยมคิมหันต์ทันทีที่รู้ข่าว ทว่า ธาดาขวาง ห้ามไว้ ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ตบตีและกักขังมุกริน ส่วนดวงดาวนั้น ถลันเข้าไปเยี่ยมอาการคิมหันต์ได้โดยไม่มีผู้ใดห้ามไว้ เมื่อพักตราเห็นดวงดาว เธอกลับคิดไปเองว่า ดวงดาวต้องเป็นชู้รักคนใหม่ของคิมหันต์ ธาดาเฝ้าตามง้อดวงดาว แต่ไม่เป็นผล ดวงดาวรู้จากธาดาว่า เขากักขังมุกรินไว้ เธอจึงขอไปเยี่ยมมุกรินทันที ดวงดาวแนะนำว่า มุกรินควรยอมตามใจธาดา เพื่อเอาตัวรอดออกมาก่อน มุกรินยอมทำตามนั้น เธอถูกธาดาพาไปเจอเสี่ยอ๋า เจ้าหนี้ในบ่อนของเขา มุกรินไม่ได้ล่วงรู้มาก่อนเลยว่า นี่คือการใช้หนี้ของธาดา

มุกรินจึงถูกกักขังอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้กรงเล็บของเสี่ยอ๋า จู่ ๆ ดวงดาวก็มีอาการคลื่นเหียนอาเจียน เธอเข้าใจได้ไม่ยากว่ากำลังตั้งท้องนั่นเอง พ่อของเด็กในท้องก็คือธาดา ธาดาพร่ำรำพันกับดวงดาว เพื่อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จ ดวงดาวเลือกที่จะใจแข็ง และไม่เอ่ยปากเรื่องการตั้งท้อง ด้วยไม่ต้องการให้ถูกใคร ๆ มองว่า จงใจใช้เด็กในท้องเพื่อเป็นการผูกมัด นับวันธาดากลับดูทรุดโทรมมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งหมอที่ดูแลธาดาแจ้งให้ทราบว่า ธาดาเป็นมะเร็งที่สมอง ขณะที่สุขภาพกายกำลังย่ำแย่เขาก็ได้พบกับคิมหันต์อย่างจงใจ คิมหันต์จึงบอกให้รู้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับธาดาคือแผนการของเขาเอง มุกริน ที่ตกเป็นของเสี่ยอ๋าตอนนี้แท้จริงแล้วก็คือตกเป็นของเขานั่นแหละ เพราะเสี่ยอ๋าทำทุกอย่างตามแผนที่คิมหันต์วางไว้ ด้วยเหตุที่เคยเป็นหนี้บุญคุณกันมาก่อน ทั้งหมดนี้คือผลกรรมที่ธาดาก่อไว้กับวิมลรัตน์ และวันนี้ มันก็เป็นวาระที่ธาดาต้องชดใช้กรรมเหล่านั้นแล้ว ธาดาได้แต่ฟูมฟาย จนไม่มีสติอยู่กับตัว ในที่สุดเขาก็เลือกทางออกด้วยการฆ่าตัวตาย

ดวงดาวเป็นผู้ที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่คิมหันต์พูดกับธาดา เธอต่อว่าคิมหันต์ และพร่ำรำพันกับธาดาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะสิ้นลม เมื่อเรื่องราวทั้งหมดรู้ถึงหูมุกริน เธอจึงรู้สึกว่า เธอเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ง ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์แค้นของคิมหันต์ คิมหันต์พยายามเข้าหามุกริน เพื่อสารภาพว่าแม้มันจะเป็นแผนการ เพื่อแก้แค้นธาดา แต่ในความเป็นจริง เขาไม่เคยสลัดรอยรักที่มีต่อมุกรินออกไปจากหัวใจได้แม้แต่น้อย มุกริน ปฏิเสธคำสารภาพเหล่านั้น เธอไม่อาจวางใจในพฤติกรรมของคิมหันต์ได้อีกต่อไป

เมื่อดวงดาวได้เห็นฉากการสารภาพรักของคิมหันต์กับมุกริน เธอได้แต่ให้กำลังใจคนทั้งสอง และเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาทุกสิ่งได้เอง อนิจจา พักตราที่กำลังขับรถพุ่งมาหาคิมหันต์ด้วยความโกรธแค้น เธอไม่อาจหยุดอารมณ์โกรธของตนได้ พักตราตัดสินใจขับรถพุ่งชนดวงดาวทันที อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้สามชีวิตต้องจบลง หนึ่งคือพักตรา หนึ่งคือดวงดาว และอีกหนึ่ง คือทารกน้อยที่กำลังก่อตัวขึ้นในท้องของดวงดาว หลายเดือนผ่านไปหลังวันเกิดเหตุ คิมหันต์ตกลงใจที่จะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับทุกชีวิตที่พัวพันอยู่ในแรงแค้นของเขา แม้การบวชครั้งนี้จะไม่สามารถลดทอนกรรมที่เขาก่อไว้ได้ แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่มีคุณค่าใต้ร่มกาสาวพัสตร์ตลอดกาล

เลื่อมสลับลาย 2558

เรื่องย่อ : เลื่อมสลับลาย (2558/2015) ชีวิต คือ การเริ่มต้นใหม่เสมอ บางคนเริ่มต้นไปสู่สิ่งที่ดีกว่า แต่บางคนกลับเดินไปสู่สิ่งที่แย่กว่าเดิม บางทีเหตุผลก็เอาชนะอารมณ์ไม่ได้ เพราะคนเราถูกสร้างมาด้วยธาตุที่ต่างกัน ดั่งลวดลายของเลื่อมบนผืนผ้า ลายหนึ่งงดงามเหมือนสวรรค์สร้าง อีกลายก็สวยงามแต่ไร้ราคา แล้วโชคชะตาก็ส่งบททดสอบครั้งยิ่งใหญ่มาให้ 2 สาว ได้เรียนรู้ความหมายแท้จริงของชีวิต เฉกเช่นชีวิตของ พาไล (แซมมี่ เคาวเวลด์) สาวน้อยกำพร้าที่ครอบครัวผู้ดีเก่ารับอุปการะ เคยรับรางวัลผลการเรียนดีเยี่ยม และฝันอยากเป็นคุณหมอใส่ชุดสีขาว หากแต่ปัจจุบันพาไลวัย 25 ปี กลายเป็นโคโยตี้ตัวแม่ชื่อในวงการ คือ เซอร์ไพรส์ เป็นสาวที่ชอบใช้ชีวิตโลดโผน เปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ทุกคนนิยามพาไลว่า สวยแต่ไร้สติ!! เพราะอารมณ์ชั่ววูบช่วงวัยรุ่นทำให้เธอมีชีวิตเน่าเฟะถึงทุกวันนี้ แตกต่างกับ ปิ่นปัก (รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) สาวสวยผู้เพียบพร้อมวัยเดียวกัน เป็นเพชรเม็ดงามในสังคมชั้นสูง ไม่เคยนอกกรอบอุ่นใจว่าชีวิตต้องเจอแต่สิ่งดี ๆ ปิ่นปักทุ่มเทกับการศึกษาเป็นผู้หญิง สวยมีสติ!! เธอจบด็อกเตอร์ด้านสังคมวิทยาจากอเมริกาด้วยทุนของรัฐบาล วันที่เดินทางกลับถึงเมืองไทย ศก (แมทธิว ฉันทวานิช) คู่หมั้นหนุ่มหล่อรวยระดับมหาเศรษฐีเป็นที่หมายปองของสาว ๆ มารับถึงสนามบิน ศกโผเข้ากอดจูบปิ่นปักด้วยความคิดถึง แต่เธอขืนตัวจากอ้อมกอดคู่หมั้นเพราะกลัวคำนินทาชาวบ้าน ไม่แปลกที่ปิ่นปักจะไม่เคยมีอะไรกับศกเลยซักครั้ง

ดั่งสวรรค์สาป 2558

เรื่องย่อ : ดั่งสวรรค์สาป (2558/2015) สวรรค์ ส่งให้เธอเกิดมามีพร้อมทั้งทรัพย์สมบัติ และหน้าตา เพราะ..ความพร้อมในทุกด้านของชีวิต เธอจึงเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างทนงตัว และโปรยเสน่ห์ให้กับผู้ชายทุกคนที่เข้ามารุมรัก ดั่งสวรรค์สาปโดยไม่ได้คิดเลยว่า ถ้าหากวันหนึ่ง...เธอตื่นมาแล้วต้องกลายเป็นผู้หญิงอีกคน เธอจะทำเช่นไร กับอดีตของเธอ เช้าวันหนึ่งที่โรงพยาบาล ดาหวัน (ปู-ไปรยา) ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับความว่างเปล่าในหัว แม้แต่ชื่อของตัวเองเธอยังจำไม่ได้ ภาพที่เธอมองเห็นคือ มาลัย (ตรีนุช ทิมเจริญ) แม่นมคนสนิทที่พยามเรียกความทรงจำของเธอกลับคืนมา โดยอธิบายให้ฟังว่า กานต์ (อ๋อม-อรรคพันธ์) ผู้ชายที่มีท่าทีเย็นชา และยืนมองดูเธออยู่ห่าง ๆ นั้น คือคู่หมั้นของเธอ แต่ดาหวันก็ต้องสับสน เมื่อชายคนที่นั่งจับมือเธออย่างใกล้ชิดอยู่ข้างเตียง กลับเป็น อติเทพ (แดน-ดนัย สมุทรโคจร) หนุ่มคารมดีที่ออกตัวว่าเป็นแฟนกับดาหวันตลอดเวลา ดั่งสวรรค์สาป หลังออกจากโรงพยาบาล เธอได้รับรู้ว่า ทวี (สถาพร นาควิไลโรจน์) พ่อของเธอเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ในทุก ๆ วันดาหวันต้องเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากมายบนความสับสน ว่าทำไมคนรอบข้างจึงดูเหมือนมีแต่คนที่เกลียดชังเธอ จนหญิงสาวเริ่มสงสัยว่าก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นนั้น เธอเคยมีชีวิตยังไง? กานต์ต้องมาเยี่ยมดาหวันทุกวันตามคำสั่งของพ่อ ซึ่งทำให้ ครองขวัญ (กีฟ-อรลีฬห์) คนรักเก่าที่ยังรอคอยวันที่กานต์จะถอนหมั้นไม่พอใจมาก ดั่งสวรรค์สาปกานต์ได้แต่ขอให้ครองขวัญเข้าใจ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้เห็นคุณค่าอะไรในตัวดาหวัน มองว่าดาหวันคือผู้หญิงเอาแต่ใจ รักการปาร์ตี้ ที่ชอบโปรยเสน่ห์ให้ผู้ชายไปทั่ว และแม้ว่าในวงสังคมจะรู้ดีว่า เขาและเธอคือคู่หมั้นกัน แต่ดาหวันก็ยังควงอติเทพไปเที่ยวอย่างออกหน้าออกตา ทำให้ เพียงนภา (ธัญสินี พรมสุทธิ์) ญาติผู้น้องของดาหวัน และเป็นแฟนเก่าของอติเทพไม่พอใจเช่นกัน ดาหวันเริ่มเรียนรู้ว่า ทำไมเธอจึงมีศัตรูอยู่มากมาย อติเทพพยายามพาเธอไปรื้อฟื้นความจำในที่ต่าง ๆ ที่เธอชอบไป ในขณะที่กานต์ก็เข้าไปขอร้อง ประจวบ (กบ-ทรงสิทธิ์) ผู้เป็นพ่อให้ยกเลิกการแต่งงาน แต่ประจวบไม่ยอม เพราะเชื่อว่าตนเองมองคนไม่ผิด แถมเร่งให้กานต์ต้องแต่งงานเร็วขึ้น กานต์ได้แต่พูดไม่ออกกับคำสั่งของพ่อ ด้านอติเทพและครองขวัญจึงต้องร่วมมือกันวางแผนขัดขวางการแต่งงานครั้งนี้ดั่งสวรรค์สาป ดาหวันรู้สึกวุ่นวายใจ เพราะสับสนกับเรื่องราวในอดีตของเธอเอง ยังไม่พอต้องมาเสียใจกับการแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วัน และว่าที่เจ้าบ่าวของเธอนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกยินดีกับตัวเธอแม้แต่น้อย

นางชฎา 2558

เรื่องย่อ : นางชฎา (2558/2015) "คนเราทุกคนมี ""ความลับ"" แต่อย่าคิดว่าเมื่อมันเป็นความลับ แล้วจะไม่มีใครรู้ หวงแหนชีวิตของตัวเองเอาไว้และเลิกไว้ใจคนรอบตัว ก่อนที่เงาหัว จะไม่มี!" เมื่อเตชิต และชมพู เลือกซื้อบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไกลจากตัวเมืองเป็นเรือนหอ แต่เพียงสัมผัสแรกที่ก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน ชมพูกลับเป็นฝ่ายเดียวที่รับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง บ่อยครั้งที่เธอรู้สึกเหมือนมีคนเดินวนอยู่รอบๆ เตียงในค่ำคืนที่ฟ้าร้องคำราม และเสียงวงปี่พาทย์นางหงส์ที่ดังมาตามสายลมก็ทำให้ต้องขวัญผวา ไหนจะเวลาที่เธอนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่าง แต่กลับได้ยินเสียงใครสักคนวิ่งตึงตังอยู่ข้างบนบ้าน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเวลานั้นเธออยู่คนเดียว! ชมพูเชื่อมั่นว่า บ้านหลังที่เธออาศัยอยู่นั้นมันคือบ้านผีสิง และการที่เพื่อนในกลุ่มของเธอพากันล้มตายด้วยสภาพศพที่ 'ไม่น่าดูเอาเสียเลย' ทีละคน ทีละคน ก็ทำให้เธอยิ่งประสาทเสียขึ้นทุกทีๆ โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่า 'ความลับ' ที่เธอเก็บงำไว้ในใจมาตลอดหลายปี กำลังจะถูกเปิดเผย และ 'มัน' กำลังจะมาเอาคืน!!!

คาดเชือก 2558

เรื่องย่อ : คาดเชือก (2558/2015) คาดเชือกเป็นเรื่องราวของการสู้แย่งชิงและการรักษาความยุติธรรมเอาไว้ในอำเภอโพธิ์ทองสถานที่ๆขึ้นชื่อในเรื่องหมัดมวยโดยผู้ที่มีอิทธิพลอยู่ในโพธิ์ทองขณะนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนายทองคำ และทองดี ผู้เป็นลูกชายซึ่งตัวของทองคำนั้นล้วนแล้วแต่ทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ข่มเหงรังแกชาวบ้านอยู่เสมอๆ นอกจากทองดีแล้วในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีสองสาวผู้มีหน้าตาจิ้มลิ้มได้แก่ละไม และละเมียน โดยถึงแม้ว่าสองพี่น้องนี้จะเป็นฝาแฝดกันก็ตามแต่นิสัยใจคอของทั้งคู่นั้นต่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงโดยละไมนั้นมีนิสัยติดหรูออกไฮโซและกำลังคบหากันกับทองดีในขณะที่ตัวของละเมียนเองนั้นมีลักษณะนิสัยที่ติดดิน ก๋ากั่นและไม่ยอมคนซึ่งเธอนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมาชอบปะทะคารมกับบุญสม นักมวยคาดชื่อผู้มีหมัดอันหนักหน่วงเพราะเธอมองว่าบุญสมนั้นเป็นนักเลงอันธพาล แต่แล้ววันหนึ่งเรื่องราวของอำเภอโพธิ์ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อธนู ว่าที่ปลัดคนใหม่กำลังจะเข้ามาประจำการที่พื้นที่แห่งนี้ซึ่งตัวของธนูเองนั้นมีพรสวรรค์พิเศษคือหากเห็นการต่อสู้ชนิดใดก็ตามสมองของเขาก็จะทำการประมวลผลเก็บไว้และสามารถนำเอาการต่อสู้นั้นๆ มาใช้ได้ทันทีซึ่งในครั้งแรกที่ธนูเข้ามาก็ได้เจอกับละไมและรู้สึกชอบพอกับเธอในขณะที่ละไมเองนั้นกลับไม่ชอบขี้หน้าเพราะคิดว่าเขานั้นเป็นอันธพาล ด้านบุญสมเองนั้นก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับทองคำและทองดีสองพ่อลูกคู่นี้มานานแล้วเพราะเนื่องจากว่าทั้งบุญสมและทองดีนั้นล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์มวยครูเดียวกันแต่เนื่องจากว่าบุญสมเองรักความยุติธรรมจึงมักคอยขัดขวางไม่ให้ทองคำและทองดีทำชั่วอยู่เสมอๆ

หน้าที่