เทวดาฟันน้ำนม 2558

เรื่องย่อ : เทวดาฟันน้ำนม (2558/2015) ใคร ๆ ก็เคยมีฟันน้ำนม..เมื่อถึงเวลาก็จะหลุดไป แต่ถ้าวันดีคืนดีฟันน้ำนมดันมีค่า จนเทวดาต้องทำสัญญา "เพื่อจองฟันน้ำนม !" กับเด็กน้อย ความงุนงง..อลวน..อลเวงจึงบังเกิด! จ๊าบ (ออย-ธนา สุทธิกมล) คุณพ่อลูก 1 จอมกวน ชีวิตไร้ระเบียบแบบแผน และไร้วินัยทางการเงินสุด ๆ ถึงจะชอบสอนลูกชายแปลก ๆ แต่จ๊าบก็รัก จ๋อง (ลีวายส์-อินฑัช เตชะเกิดกมล) ลูกชายหน้าเต่าดั่งดวงใจ แหม..เรื่องจะเกิดมันก็ต้องเกิด เมื่อจ๊าบประดิษฐ์หุ่นยนต์ทอดไข่อัตโนมัติขาย แต่ไฟฟ้าเกิดลัดวงจรไหม้บ้านวอดวาย 2 พ่อ ลูก จึงต้องระเห็จมาตายดาบหน้าที่กรุงเทพเมืองฟ้าอมร จ๊าบสมัครเป็น ช่าง ประจำโรงเรียน..การุณวิทยา นอกจากจ๋องได้สิทธิ์เรียนฟรีแล้ว จ๊าบยังเจอ ครูดาว (น้ำหวาน-กรรณาภรณ์ พวงทอง) อดีตรุ่นน้องกิ๊กเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ยังไม่ทันสารภาพรักน้องดาว ชีวิตจ๊าบก็เจอวิกฤตซะก่อน เมื่อ จอย (มิ้ง-ฐรินดา กรรณสูต) พี่สาวสุดที่รักของเค้า แอบมีสัมพันธ์รักกับลูกชายมหาเศรษฐีหมื่นล้าน จนมี "ลูกจ๋อง" เป็นพยานรัก ไม่นานสามีของจอยก็เสียชีวิต ครอบครัวฝ่ายชายต้องการเอาหลานชายไปเลี้ยงดู เธอกลัวถูกพรากลูกไปตลอดกาล เลยแอบพาจ๋องมาฝากจ๊าบเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ จอยไม่อยากให้ใครรู้ว่าจ๋องเป็นลูกตน จ๊าบจึงรับเป็นพ่อหลานเอง โดยที่จ๋องก็ไม่เคยรู้ความลับอันเจ็บปวดนี้เลย ทำให้ พี่จ๊าบ ต้องออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน และไม่ได้ติดต่อ น้องดาว อีก ทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าเค้าเป็นผู้ชายหลอกลวง มาเจอครั้งนี้..ครูดาวเห็นจ๊าบมีจ๋องเป็นลูก ยิ่งพาลให้แค้นหนัก คิดเหมาเอาว่าที่จ๊าบจากไปโดยไม่ลา เพราะแอบนอกใจไปมีลูกกะสาวอื่นนั่นเอง งานนี้จึงเกิดสงครามกลางใจเดือดปุด ๆ เจอนายจ๊าบที่ไหนเป็นต้องฉะกันที่นั่น แต่ถึงจะโกรธแค้นแฟนเก่าขนาดไหน ครูดาวก็ยังรัก และเอ็นดูจ๋องมาก คอยสอนให้เป็นเด็กใฝ่ดี..มีน้ำใจ ถึงแม้จะเฮี้ยบบ้าง ไรบ้าง ตามสไตล์ลูกสาว จ่าแจ้ (กลิ้ง-กฤตย์ อัทธเสรี) ทหารเก่า ซึ่งปัจจุบันรับจ๊อบสอนพิเศษวิชาลูกเสือ บ้านนี้จึงเคร่งครัดระเบียบวินัยเป็นพิเศษ จน อ๊อด (รัฐ-ศิรัฐ วิทยถาวรวงศ์) ลูกชาย และน้องเล็กของบ้านยังต้องแอบไปหลบบ้านจ๊าบเพื่อพักผ่อนอารมณ์อยู่บ่อย ๆ เปิดภาคเรียนใหม่..อ๊อดต้องมาเป็นครูฝึกสอนวิชาดนตรี และศิลปะที่โรงเรียนการุณวิทยา ดันปิ๊งรัก..กดไลค์ ครูยู่ยี่ (แพน-พรสวรรค์ มะทะโจทย์) ครูฝึกสอนสาวสวยวิชาภาษาอังกฤษ ดีกรีนักเรียนนอก พ่วงตำแหน่งลูกสาวผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ด้วย แต่ยู่ยี่ชอบของแปลก ตกหลุมรักพี่จ๊าบซะงั้น เพราะเค้าเป็น ฮีโร่ เคยช่วยเธอจากโจรปล้นธนาคาร ทำเอา ผอ.ระเด่น (แอ๊ด-สุรชัย สมบัติเจริญ) ผู้เป็นพ่อไมเกรนขึ้น เพราะไม่ชอบหน้า 2 พ่อ ลูก ตัวป่วน ไหนจะถูก บอล (เต้-นันทศัย พิศัลยบุตร) ครูพละกล้ามปูยุยงอีก เพราะสมัยอยู่มหาวิทยาลัยจ๊าบชอบแกล้ง และจีบ น้องดาว ตัดหน้าครูบอลจึงแค้นฝังหุ่น ด้านครูดาวจับตาดูจ๊าบเลี้ยงลูกใกล้ชิด สงสัยว่าที่จ๋องเป็นเด็กคิดแปลกเพราะมีพ่อเป็นไอดอล จ๊าบ บอกกวน ๆ "ถ้าจะให้ดี ครูดาว ก็มาเป็นแม่ใหม่ให้ ลูกจ๋อง เลยดีมั้ย?!" ครูดาวถึงกับปรี๊ด..ด ควันออกหู แหม..เห็นทะเลาะกันหยั่งงี้ แต่เวลาจ๋องมีปัญหาทั้งคู่ก็ร่วมมือกันช่วยนะจ๊ะ แต่ถ่านไฟเก่าไม่คุง่าย ๆ เพราะมีครูยู่ยี่เป็นก้างขัดคออยู่ ส่วนครูอ๊อดก็ช่วยดึง (หัวใจ) น้องยู่ยี่มาใกล้หัวใจตัวเองตล๊อด..ด จึงกลายเป็นรักวุ่น ๆ ที่ผสมผสานกันจนแซ่บเว่อร์ ใช่แต่จะหวานน้ำตาลเรียกพี่อย่างเดียว เรื่องตื่นเต้น..เค้นอารมณ์ก็ไม่พลาด เมื่อ ปู่เดชา (ตี๋-จีรศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) มหาเศรษฐีชาวไทยวัยเลยแซยิด ปู่แท้ ๆ ของจ๋องมาตามหาหลานชายสุดเลิฟมารับมรดก จ๊าบกับครูดาวจึงมีภารกิจลับ..ขัดขวางไม่ให้ปู่พาตัวจ๋องไปได้ เอิ่มมมม แล้วเมื่อไหร่จะเกี่ยวกะ "เทวดา" ?? ขณะที่โรงเรียนการุณวิทยา..มีแต่เรื่องยุ่ง ๆ บนสวรรค์..เทวดาระกา (ลิฟท์-สุพจน์ จันทร์เจริญ) เทวดารักษาเทวรูปศักดิ์สิทธิ์ เผลอทำเทวรูปหล่นฟันหัก..ขุ่นพระ!! โทษครั้งนี้ถึงขั้นตกสวรรค์!! แต่ยังพอมีทางออก คือ เทวดาระกาต้องหาฟันน้ำนมเด็กชายที่หลุดไม่เกิน 1 วัน และไม่ตกพื้น ที่สำคัญต้องเป็นของ ด.ช.จ๋อง เท่านั้น เพราะอดีตจ๋องสะสมบุญบารมีไว้มาก ทำให้ฟันน้ำนมของเค้าสะอาดบริสุทธิ์ที่สุดใส่แทนซี่ที่หลุดไป ไม่นานจ๋องก็ปวดฟันเทวดาระการีบปรากฏตัว เพื่อจองฟันน้ำนมของจ๋องทันที โดยสัญญา..จะเสกของวิเศษให้ตอบแทน โดยร่ายมนต์ประจำตัว...ไก่กระต๊าก ไข่กระตุก กุ๊ก กุ๊ก ก๊าก ก๊ากกกกก ไข่วิเศษปรากฏบนมือจ๋องอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นฟันน้ำนมของจ๋องก็หลุดออกมาง่ายดายโดยไม่เจ็บสักนิด เทวดาระการีบนำฟันซี่น้อยไปใส่เทวรูปบนสวรรค์ เรื่องน่าจะจบสวยงามแต่จู่ ๆ ฟันซี่ที่เหลือในปากเทวรูปกลับร่วงจนหมด ถือเป็นรางร้ายอาจเกิดหายนะขึ้นกับสวรรค์ และโลกมนุษย์ เกิดจากฟันน้ำนมของจ๋องที่นำมาใส่ให้เทวรูปผุจึงไม่บริสุทธิ์!! เทวดาแฝด แนะนำให้เทวดาระกาไปนำฟันน้ำนมเด็กซี่สะอาด ๆ มาใส่เทวรูปให้ครบ 20 ซี่ โดยฟันซี่แรก..ต้องเป็นของ ด.ช.จ๋อง เท่านั้น ภารกิจไล่ล่าฟันน้ำนมของ เทวดาระกา จึงเกิดขึ้น จ๋องหัวหมอขอทำสัญญาใหม่ คือ ขอพรได้ 3 ข้อ เทวดาระกาหลงกลจนได้ "เทวดาระกาต้องเสกของวิเศษช่วยจ๋อง..จนกว่าโลกจะแตก!!" นอกจากนี้..เทวดายังเจอฤทธิ์เพื่อน ๆ จอมแสบ "แก๊งฟันน้ำนม" ของจ๋องใช้อุบายขอของวิเศษด้วย เริ่มจาก ยึกยัก (ซีดี-ด.ช.กฤตนัย เลาหปราสาท) เด็กโข่งร่างยักษ์ หลานชายคนโปรดของ ผอ.ระเด่น ยึกยักชอบร้องเพลงลูกทุ่งของ ครูสุรพล สมบัติเจริญ ผู้เป็นไอดอลหนึ่งเดียวในดวงใจ แต่ร้องทีไร..ก็โดนโห่ไล่ทุกทีสิหนะ อีกคนก็ ด.ช.หรูหรา (ชิวอิก-ด.ช.นิบุณ ชุติทตรุนต์) ฉลาดแกมโกง..อวดเก่ง ใช้เงินแก้ปัญหาเหมือน เจ๊ฟุ่มเฟือย (ตา-สุรางคณา สุนทรพนาเวช) ผู้เป็นแม่ หรูหราชอบแข่งขันกับคนอื่น แต่ต้องหงอให้ยึกยักแม้ไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม ผิดกับ ด.ช.ไทเท่ (จัสติน-จักริน โมแรน) ลูกครึ่งหน้าหล่อ นิสัยดี แถมฉลาด และรวยไม่แพ้ใคร ไทเท่จึงเป็นคู่แข่งหัวใจของจ๋อง ตลอดเวลาที่ปลื้ม ด.ญ.แสนดี (โฟร์โมต์-ด.ญ.อธิกาญจน์ ปี่ทอง) สาวน้อยน่ารักแสนดีสมชื่อ เธอเป็นคนเดียวที่เข้าใจ และไม่ทิ้งจ๋อง แสนดีช่วยจ๋องให้รอดพ้นเงื้อมือ ยึกยัก หรูหรา นับครั้งไม่ถ้วน นอกนั้นก็มี..น้องคัพเค้ก (เจนน่า-ด.ญ.จิรดา โมแรน) รุ่นน้องน่ารักฟรุ้งฟริ้ง..ขวัญใจวัยฟันน้ำนม หัวหน้าเชียร์ลีดเดอร์ สวย..เริด..เชิด..หยิ่ง พกความมั่นใจจัดเต็มมาโรงเรียนตลอด ความฮอตของ คัพเค้กกระแทกใจ พี่ยึกยักกับพี่หรูหราจัง ๆ แต่ใช่จะเข้าถึงตัวนางได้ง่าย ๆ เพราะคัพเค้กมี เอื้อย (คุนนี่-ด.ญ.นิชคุณ สุริยะเกียรติ) และ อ้าย (ปราชญ์-ด.ญ.ปราชญานันท์ รอดมณี) 2 สาว เพื่อนซี้ ที่ชอบแต่งตัวคล้ายกันหยั่งกะฝาแฝด แก๊ง 3 สาว เป็น ซุปตาร์ ประจำโรงเรียนการุณวิทยา ถึงจะเด่นดัง & ไฮโซแค่ไหน แต่ คัพเค้ก กลับปลื้ม พี่จ๋อง หัวเห็ด เพราะเป็นหนุ่มคนเดียวที่ไม่สนใจนางเลย โอ๊ย..ย สงสัยงานนี้ เทวดาระกา ต้องรับศึกหนัก พลัง ไข่วิเศษ จะจัดระเบียบ รักหลายเส้า..แก๊งฟันน้ำนม เคลียร์หัวใจให้ นายจ๊าบ กะ ครูดาว และกู้วิกฤตให้ โลกมนุษย์ & เมืองสวรรค์ พ้นหายนะได้หรือไม่?? เอาใจช่วยท่านเทวดาในละครซิทคอมอารมณ์ดี แฝงแง่คิดให้เด็ก ๆ พึ่งตนเอง ติดตามชม ละครเทวดาฟันน้ำนม ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 น. ทางช่อง 7 สี ละครเทวดาฟันน้ำนม เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2558

สาวน้อยซอยรจนา 2558

เรื่องย่อ : สาวน้อยซอยรจนา (2558/2015) ชุมชนซอยรจนา หลังโรงแรมเฟอราซ่า แกรนด์ เป็นที่อยู่ของ พุด (วีระชัย หัตถโกวิท) มะลิ (สุธิตา เกตานนท์) และ รจนา โรส (ฮาน่า ลีวิส) ที่ทำอาชีพร้อยมาลัยขายส่ง เจ้าของโรงแรมรวมถึงที่ชุมชน คือ จุลทรรศน์ กับ เฑียรทอง (กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์) ซึ่งคิดเอาที่คืนเพื่อสร้างห้างสรรพสินค้า โดยร่วมทุนกับ ฤทัยมาศ (บี-มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์) จึงมาดูชุมชนบ่อย ๆ แต่มักถูกชาวบ้านภายใต้การนำของโรสโห่ไล่เสมอ เพื่อน ๆ โรสเป็นเด็กรุ่นเดียวกัน มี หน่อย (ชนัญญา พงษ์นาค), โจ๊ะเน๊ะ (เขมิกา สุขประสงค์ดี), หม่อน (รถิรา บังคมเนตร) เม่น (รษิกา บังคมเนตร) และเอ๋ (พิมพ์ชนก แก้วลุ่มใหญ่) ในชุมชนมีตันกับอ๋อง ที่มีเรื่องกันบ่อย กรวด (ชมวิชัย เมฆสุวรรณ) และ เป๋ (ปราโมทช์ เทียนชัยเกิดศิลป์) ลูกสมุน พาแก๊งค์ขอทานมาหากินในชุมชน มักรังแก จุกกับจิก จนโรสต้องช่วย ทำให้เป็นอริกัน พอกรวดขายยาเสพติด จุกกับจิกอยากได้เงินจึงไปเดินยาให้ ตันกับอ๋องรู้เลยมาบอกพวกโรสเพื่อหาทางแก้ไข วันหนึ่ง โรส (ฮาน่า) กับ กรวด (ชมวิชัย เมฆสุวรรณ) มีเรื่องกันจนรถติด ดลภาค (ออย-ธนา สุทธิกมล) และฤทัยมาศ (บี-มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์) มาต่อว่าจนมีปากเสียงกับโรส เมื่อเจอกันอีกตอนโรสทำงานพิเศษที่โรงแรม พวกฤทัยมาศวางแผนกลั่นแกล้งจนโรสต้องอับอายผู้คนในงาน ดลภาคได้พบโรสอีกครั้งตอนที่ได้รับเชิญไปบรรยายพิเศษที่มหาวิทยาลัย อาจารย์อมร (ภัคศรุจน์ นาคาฮาร่า) เพื่อนของดลภาค ฝากให้ช่วยรับโรสไปฝึกงานที่โรงแรมเพราะเห็นเป็นโอกาสดีที่โรสจะได้ความรู้เพื่อพัฒนาการเรียนให้ดีขึ้น ดลภาคตกลง ขณะที่โรสไม่เต็มใจนักแต่สุดท้ายก็ยอม ฤทัยมาศรู้ก็ไม่พอใจ จึงเป่าหู ดิษฐา (ตาล-กัญญา รัตนเพชร์) ให้เกลียดโรส แถมคอยแกล้ง จนดิษฐาต้องช่วยโรส ดลภาคช่วยสอนงานโรส จนทั้งคู่เริ่มสนิทกัน ฤทัยมาศก็ยิ่งเกลียดโรสมากขึ้นอีก ณภัทร (ซัน-พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) หลาน มิรันตี (เอ๋-รชยา รักกสิกรณ์) เจ้าของสปา มาเปิดสาขาที่โรงแรม ทำให้รู้จักดลภาค และชอบดิษฐา วันเปิดตัวสปา ปัทมา (ต้อม-รชนีกร พันธุ์มณี) ภรรยาของ มาลุต (ตฤณ เศรษฐโชค) อดีตคนรักที่คอยช่วยเหลือธุรกิจของมิรันตีวางแผนแกล้งจนงานเกือบพัง โรสใช้ไหวพริบแก้ปัญหาจนงานผ่านไปได้ ทำให้ณภัทร และมิรันตีรู้สึกดีกับโรส ดลภาพก็ชื่นชมโรสจนฤทัยมาศหมั่นไส้มากขึ้นอีก ด้านโรส รู้จากโจ๊ะเน๊ะ เรื่องที่เอ๋ หม่อน และเม่น ไปเป็นโคโยตี้เพราะเห็นว่ารายได้ดี โรสเตือน และแนะนำให้หางานอื่นทำ หม่อนกับเม่นเชื่อโรส ขณะที่เอ๋ หลงเชื่อดุสิต มิจฉาชีพที่มาหลอกว่าจะพาไปแคสติ้งภาพยนตร์ เอ๋เริ่มห่างกับเพื่อน ๆ เพราะเลือกไปกับดุสิต โรสไม่ไว้ใจดุสิตพยายามเตือนแต่เอ๋กลับคิดว่าอิจฉา และห้ามไม่ให้ยุ่งด้วย จนคืนหนึ่งเอ๋เมาเป็นโอกาสให้ดุสิตคิดรวบหัวรวบหาง โชคดีที่ณภัทร และพวกโรสไปช่วยทัน ดุสิตจึงถูกจับ ส่วน ดิษฐา (ตาล-กัญญา รัตนเพชร์) ก็มอง ณภัทร (ซัน-พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) ดีขึ้น โรส (ฮาน่า) กับ ดลภาค (ออย-ธนา สุทธิกมล) ใกล้ชิดกันมากขึ้น ฤทัยมาศยิ่งไม่พอใจ ไปฟ้องพ่อแม่ดลภาค ทั้งคู่เกรงลูกจะถูกหลอกจึงกีดกัน แต่กลายเป็นว่าได้มารู้จักโรสมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กดี จึงเริ่มเอ็นดู การทำงานโรงแรมทำให้โรสกับมิรันตีสนิทกัน จนมิรันตียอมเล่าเรื่องที่เคยมีลูก แต่ไม่พร้อมจึงต้องยกลูกให้คนอื่น เมื่อเริ่มมีฐานะเธอก็กลับไปตามหาลูกแต่โรงพยาบาลมีกฎไม่บอกเรื่องครอบครัวใหม่ เธอจึงถอดใจเลิกตาม ชุมชนมีกิจกรรมเปิดร้านขายของ โรสแนะนำให้มิรันตีรู้จักมะลิ ๆ จำได้ว่าเป็นแม่โรส ส่วนฤทัยมาศที่ตามดลภาคมา บังเอิญได้ยินพวกกรวดคุยกันเรื่องหาวิธีจัดการโรส ฤทัยมาศเจรจาจะให้เงินหากกีดกันโรสออกห่างโรงแรมได้ อมรอยากให้นักศึกษาเปลี่ยนบรรยากาศจึงติดต่อขอทำกิจกรรมในโรงแรมที่เขาใหญ่ของดลภาค ดลภาค อนุญาต โดยชวนพ่อแม่ไปพักผ่อนด้วย ฤทัยมาศวางแผนแกล้งโรส ดีที่โรสรู้ตัวก่อน สถานการณ์จึงพลิกจนฤทัยมาศเสียหน้าแทน โครงการห้างฯ เมื่อมีปัญหา จุลทรรศน์ จึงอยากให้หาที่แปลงใหม่ แต่ฤทัยมาศอยากแกล้งโรส จึงหว่านล้อมจนเฑียรทองสนใจ ขณะเดียวกันกรวดก็เริ่มแผนที่ตกลงไว้ด้วยการหาเรื่องป่วนชุมชน กลุ่มโรส และตัน สามัคคีกันช่วยชุมชน จนจับสมุนกรวดได้ กรวดโมโหเผาชุมชน ชาวบ้านดับไฟทันแต่ก็เสียหายไปมาก โดยที่กรวดหนีรอดไปได้ ดลภาครู้ว่าฤทัยมาศกับแม่คว้านซื้อที่ชุมชน ทั้งยังมีเรื่องวางเพลิงอีก ซึ่งบังเอิญเกินไป ขณะที่คนในชุมชนต่างเชื่อว่าเป็นฝีมือโรงแรม โรสก็เข้าใจผิดมาต่อว่าดลภาค ดิษฐาเตือนให้ใจเย็น ๆ แล้วช่วยกันแก้ปัญหาชุมชนก่อน ณภัทรเสนอให้โรสทำผลิตภัณฑ์ขาย โดยจะออกทุนให้ มิรันตีแนะให้ทำสบู่เพราะใช้ทุนไม่มาก โรสจึงดึงชาวชุมชนมาร่วมกันทำ เพื่อหาเงินมาฟื้นฟูชุมชน มิรันตีได้พบโรสบ่อยขึ้น ทำให้มะลิไม่พอใจ จึงเริ่มหาเหตุมากีดกันทั้งคู่ กรวดติดต่อขอเงินฤทัยมาศ ฤทัยมาศ ถูกกดดันหนักเข้าก็ไปปรึกษาดิษฐา ๆ แนะนำให้พูดความจริง ฤทัยมาศตัดสินใจสารภาพผิด และช่วยทางการจับกรวดได้สำเร็จ จากนั้นเธอก็ตัดสินใจเดินทางไปหาครอบครัวที่อเมริกา มิรันตีตัดสินใจจะตามหาลูกอีกครั้ง จึงติดต่อมาลุตที่เป็นคนกว้างขวาง ทำให้ปัทมาโกรธจัดตามไปยิงมิรันตีที่ชุมชม ดีที่โรสเห็นจึงปัดมือจนยิงพลาด ปัทมาถูกจับ มิรันตีเสียเลือดมาก แต่รอดตายเพราะโรสให้เลือด มะลิตัดสินใจบอกความจริง โรสรับไม่ได้ที่รู้ว่าตนถูกแม่ทอดทิ้ง จึงตีตัวออกห่างมิรันตี ส่วนมิรันตีก็ไม่กล้าสู้หน้าโรส แต่ด้วยความช่วยเหลือของมะลิ ทุกอย่างจึงจบลงด้วยความเข้าใจกัน หลังโรสเรียนจบ ยังคงอาศัยอยู่กับพุด และมะลิ โดยหาเวลาแวะไปทำความรู้จักกับมิรันตีแม่แท้ ๆ ดลภาคเข้ามามีส่วนช่วยพัฒนาชุมชนซอยรจนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ติดตามชม ละคร สาวน้อยซอยรจนา ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.35 น. ทางช่อง 7 สี ละคร สาวน้อยซอยรจนา เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2558

สาวน้อยอ้อยควั่น 2558

เรื่องย่อ : สาวน้อยอ้อยควั่น (2558/2015) เจ้านางน้อยบุญยวง ลูกสาวของ เจ้าอนันตธร เจ้าเมืองชนกลุ่มน้อยที่หลบหนีการถูกกบฏรุกรานแล้วถูกฆ่าเสียชีวิต ก่อนตายเจ้าอนันตธรได้ฝากเจ้านางน้อยบุญยวงลูกสาวไว้กับคนสนิทชื่อ ส่างโดย โดยการปลอมตัวเป็นสามัญชนปะปนมาอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย จากเจ้านางน้อยต้องกลายเป็นนางสาวบุญยวงที่ลำบากยากแค้น รอคอยการคัดเลือกตัวไปประเทศที่สาม

วันหนึ่ง ณัฐวุฒิ มหาเศรษฐีหนุ่มมีภรรยาชื่อ สินีนาฏ ทั้งคู่ไม่มีลูกด้วยกัน ทั้งที่อยากมีลูกมาก ณัฐวุฒิได้รับ นัทธร ซึ่งเป็นหลานของสินีนาฏมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่แบเบาะ และรักเหมือนลูกแท้ๆ ณัฐวุฒิได้มาแวะเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้เพื่อบริจาคเงิน และสิ่งของให้กับค่ายนี้ เขาจึงขอพักที่ศูนย์แห่งนี้ โดยมีส่างโดยซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าค่ายผู้อพยพเป็นผู้ดูแลที่พักและอาหารให้ ส่างโดยได้พาเจ้านางบุญยวงมาด้วย เพราะเจ้านางรับอาสามาทำความสะอาดที่พักให้กับณัฐวุฒิ เขาถึงกับตะลึงในความสวยงามใสซื่อของเจ้านางบุญยวง ณัฐวุฒิหลงรักเข้าทันทีที่ได้พบ ส่างโดยสังเกตเห็นและต้องการให้เจ้านางสุขสบายจึงเปิดโอกาสให้ทั้งคู่สนิทสนมกัน ส่างโดยเล่าประวัติของเจ้านางบุญยวงให้ณัฐวุฒิฟังว่าเธอเป็นเจ้านางน้อยของชนเผ่าที่อยู่ระหว่างตะเข็บชายแดน ณัฐวุฒิหาโอกาสมาพบเจ้านางบุญยวงบ่อยๆ และหาวิธีทำให้เจ้านางได้ออกมานอกค่าย จนในที่สุดเจ้านางบุญยวงก็ตกเป็นของณัฐวุฒิ สินีนาฏสงสัยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของณัฐวุฒิจึงสืบจนได้ความจริง สินีนาฏส่งคนตามทำร้ายเจ้านางบุญยวงเพื่อให้เลิกกับณัฐวุฒิ เพราะเขามีภรรยาแล้ว เจ้านางเสียใจมากพยายามขอเลิกกับณัฐวุฒิ แต่เขาไม่ยอม ในที่สุดเจ้านางก็ตั้งท้อง เจ้านางได้รับการติดต่อจากสินีนาฏว่าถ้าไม่อยากตายให้ยกลูกให้สินีนาฏ ถ้าไม่ยกให้เธอจะตามฆ่าลูกของเจ้านาง ส่วนสินีนาฏก็ทำเป็นท้องให้สอดคล้องกับการรับลูกของเจ้านางมาเป็นลูกตัวเอง เจ้านางเสียใจและได้ปรึกษากับส่างโดย ส่างโดยให้ยอมทำตามสินีนาฏเพื่อความสุขของหนูน้อยที่กำลังจะเกิดมา

ในที่สุดเจ้านางก็คลอดลูกสาวเธอให้ชื่อว่า ส่วยหย่ง แปลว่ากระต่ายทอง และตัดสินใจไปอยู่ประเทศที่สามคือ อเมริกา ส่วนลูกน้อยมอบให้ส่างโดยเป็นคนส่งมอบให้สินีนาฏ ณัฐวุฒิเองก็ดีใจมากที่จะมีลูกกับสินีนาฏ นัทธรก็ดีใจที่จะได้น้อง สินีนาฏทำทีไปต่างจังหวัดและอ้างว่าเธอจะขอคลอดลูกที่ต่างจังหวัดเลย แต่สินีนาฏรถคว่ำเสียชีวิตเสียก่อนที่จะได้ไปรับลูกของเจ้านาง และความจริงปรากฏว่าเธอไม่ได้ท้อง ณัฐวุฒิเสียใจมาก และไม่เข้าใจว่าทำไมสินีนาฏต้องโกหกเขาเรื่องท้อง ส่างโดยรอคอยการมาของสินีนาฏ และผิดหวังเข้าใจว่าสินีนาฏหลอก ภายหลังรู้ว่าสินีนาฏเสียชีวิตแล้วจึงวางแผนจะเอาส่วยหย่งไปส่งให้ ณัฐวุฒิและบอกความจริงว่าส่วยหย่งเป็นลูกของเจ้านางบุญยวงกับณัฐวุฒิ แต่เกิดเหตุจลาจลในค่ายพักเสียก่อน ส่างโดยเสียชีวิตก่อนที่จะได้บอกความจริงกับณัฐวุฒิ แม่หนูส่วยหย่งที่มีเหรียญห้อยคอเป็นโลหะธรรมดาสลักว่าบุญยวงด้านหนึ่งส่วยหย่งด้านหนึ่ง หนูน้อยส่วยหย่งถูกหญิงในศูนย์ดูแลตามมีตามเกิด เพราะต่างคนต่างมีลูก นาง มะขิ่น ได้สิทธิ์ขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานต่างด้าวได้ขายหนูส่วยหย่งให้กับ นางสมใจ คนไทยคนหนึ่งซึ่งซื้อเอาไปขอทาน

ณัฐวุฒิรีบมาที่ค่ายผู้อพยพพบว่าเจ้านางบุญยวงไปอยู่อเมริกาแล้ว และเขารู้ว่าเจ้านางมีลูกสาวกับเขาด้วยแต่ไม่ทราบว่าหายไปไหน ณัฐวุฒิเสียใจแทบเป็นบ้าคลั่งพยายามส่งคนสืบหาลูกสาว แต่ไม่ได้วี่แววทำให้ณัฐวุฒิถึงกับล้มป่วย หนูน้อยส่วยหย่งมีชื่อใหม่ว่า อ้อยควั่น ระหกระเหินร่อนเร่ขอทานให้กับนางสมใจจนเด็กน้อยอายุได้ 6-7 ขวบ ส่วยหย่งหรืออ้อยควั่นถูกทารุณทุบตีโดยสมใจตลอดเวลา พอโตขึ้นสมใจบังคับให้ไปขอทานเอง อ้อยควั่นมีพรสวรรค์ในการเต้นและร้องเพลงจึงสามารถสะกดให้คนทั้งหลายให้เงินเธอมากกว่าเด็กอื่นๆ จนอ้อยควั่นตกที่นั่งลำบากเพราะถูกเกลียดชังและกลั่นแกล้งจากเด็กขอทานที่ไม่ค่อยได้เงิน กิตติศัพท์ความสามารถของอ้อยควั่นลือไปทั่วทำให้เป็นที่ต้องการของพวกจับเด็กไปขอทาน ต่อมาอ้อยควั่นถูกแก๊งลักเด็กรายใหญ่คือ นางสมร ลักตัวไป ที่นั่นอ้อยควั่นพบเด็กที่ถูกบังคับมาขอทานจำนวนมาก อ้อยควั่นสงสารพวกเด็กๆ จึงวางแผนพาพวกเด็กๆ ก่อจลาจล และหนีออกมาในคืนหนึ่ง พวกเด็กๆ หนีออกไปได้หมด แต่อ้อยควั่นกลับถูกจับได้ และถูกซ้อมจนป่วย หลังจากนั้นอ้อยควั่นถูกนางสมรพาตัวใส่รถเพื่อส่งตัวไปขายที่ชายแดน ระหว่างเดินทางช่วงพักเติมน้ำมันอ้อยควั่นที่ป่วยปางตายแอบหนีลงจากรถ สมรเห็นเข้าไล่ตามจับอ้อยควั่น อ้อยควั่นหลบเข้าไปที่ร้านอาหารข้างปั้มแห่งหนึ่งแล้วแอบไปขึ้นท้ายรถคันหนึ่งหลบหนีไป รถคันนั้นมาถึงที่หมายพอคนขับรถคันนั้นเจออ้อยควั่นนอนหลับอยู่แทนที่จะสงสาร กลับทุบตีอ้อยควั่นตกใจขวัญหนีดีฝ่อลงหนีจากรถวิ่งเตลิดไร้จุดหมายไปเรื่อยๆ อ้อยควั่นใช้ชีวิตตามข้างถนน อาศัยนอนหลับตามพงหญ้า ยามหลับก็ละเมอเรียกหา “แม่จ๋าอยู่ไหน” อ้อยควั่นพบหมาจรจัดที่กำลังจะแย่งอาหารอ้อยควั่น แต่อ้อยควั่นก็ตัดสินใจแบ่งอาหารให้พร้อมกับตั้งชื่อว่ามู่ลี่ หมามู่ลี่กับอ้อยควั่นจึงกลายเป็นเพื่อนกันไปไหนไปด้วยกัน อ้อยควั่นร้องเพลงเต้นระบำหากินเลี้ยงชีวิตไปวันๆ กับมู่ลี่ ในใจอยากมีใครสักคนที่รักและดูแล อ้อยควั่นตั้งใจจะตามหาแม่ให้พบสักวันหนึ่งให้ได้

วันหนึ่งอ้อยควั่นเดินสะเปะสะปะเข้ามาในตลาดกับมู่ลี่หิวแทบเป็นลม อ้อยควั่นได้พบกับ ป้าเมตตา ที่มาเดินจ่ายตลาด และในรถเข็นมีข้าวของมากมายจนน่าแปลกใจ ในตะกร้ามีส้มลูกใหญ่น่ากินเต็มไปหมด อ้อยควั่นอยากขโมยของกินจึงเอื้อมมือไป แต่แล้วก็หดมือกลับเพราะรู้ว่าเป็นบาป ทันใดมีชายคนหนึ่งวิ่งมากระชากกระเป๋าคุณป้าเมตตา อ้อยควั่นอยากทำความดีจึงบอกให้มู่ลี่ช่วย หมามู่ลี่วิ่งไปแย่งกระเป๋าคืนมาได้ ป้าเมตตาดีใจและขอบใจอ้อยควั่น พร้อมให้เงินอ้อยควั่นเป็นรางวัลในการทำความดี อ้อยควั่นแอบตามไปดู เห็นป้าขึ้นรถตู้คันหนึ่งแล่นออกไป อ้อยควั่นมองตามหน้าละห้อย อ้อยควั่นกับมู่ลี่มาดักรอป้าเมตตาทุกวัน ช่วยถือของ และส่งขึ้นรถ ป้าเมตตาแปลกใจจึงถามชื่อ ถามถึงพ่อแม่ ที่อยู่ และโรงเรียน อ้อยควั่นบอกว่าเธอตัวคนเดียว อยู่น้องมู่ลี่เท่านั้น ป้าเมตตาตกใจมากจะพาไปพบผู้ดูแลบ้านเด็กกำพร้าที่คุณป้าทำงานอยู่ แต่มู่ลี่ไปไม่ได้อ้อยควั่นหน้าจ๋อย ในที่สุดอ้อยควั่นตัดสินใจสะกดรอยตามป้าเมตตาไป โดยแอบเข้าไปอยู่ในรถขนอาหารของป้าเมตตา เอามู่ลี่แอบไปด้วย เมื่อมาถึงบ้านเด็กกำพร้าป้าเมตตาตกใจและรับปากจะดูแลมู่ลี่ให้ในฐานะที่มู่ลี่ช่วยแย่งกระเป๋าเงินให้และจะไม่บอกให้ คุณแม่ปราณี รู้เรื่องมู่ลี่ ป้าเมตตาพาอ้อยควั่นไปพบคุณแม่ปราณี อ้อยควั่นได้รับอนุญาตให้อยู่ที่บ้านแห่งนี้ และมีชื่อใหม่ว่า “กชกร” อ้อยควั่นกับป้าเมตตาแอบเลี้ยงมู่ลี่เอาไว้ และคอยพาหลบซ่อนผู้คนรวมทั้งคุณแม่ปราณีด้วย อ้อยควั่นได้เรียนหนังสือและช่วยทำงานเล็กๆ น้อยๆ ในบ้าน อ้อยควั่นต้องต่อสู้เพราะถูกกลั่นแกล้งจากเด็กรุ่นเก่าและเด็กที่โตกว่า อ้อยควั่นต้องคอยป้องกันเด็กเล็กๆ ที่ถูกรังแก อ้อยควั่นอยู่ที่สถานเด็กกำพร้าจนเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ณัฐวุฒิพลิกแผ่นดินหาลูกสาวมาหกปีก็ยังไม่มีวี่แวว เขาให้นัทธรลูกชายบุญธรรมช่วยสืบเสาะก็ไม่พบจนหมดกำลังใจ ณัฐวุฒิให้นัทธรดูแลธุรกิจแทน นัทธรไปบริจาคเงินที่สถานเด็กกำพร้าหลายแห่ง และขอเข้าไปอุปการะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อหวังจะสืบหาลูกสาวของณัฐวุฒิ นัทธรประกาศรับอุปการะเด็กเป็นลูกโดยให้เขียนเรียงความประกวดเรื่อง “แม่จ๋าอยู่ไหน” อ้อยควั่นเห็นประกาศดีใจมาก อ้อยควั่นเรียงความเรื่อง “แม่จ๋าอยู่ไหน” เล่าถึงความเป็นมาของตัวเองตั้งแต่ตอนที่เริ่มจำความได้ และมาอยู่กับนางสมใจ แล้วถูกขโมยต่อมาโดยนางสมรต้องเร่ร่อนมีน้องหมามู่ลี่เป็นเพื่อนจนได้มาอยู่บ้านเด็กกำพร้า และแอบเลี้ยงมู่ลี่ไว้ ตลอดเวลาเธอโหยหาแม่และกำลังตามหาว่าแม่จ๋าอยู่ไหน นัทธรก็เอาเรียงความทั้งหมดมานั่งอ่าน เขาลงความเห็นว่าเด็กหญิงอ้อยควั่นหรือกชกรเขียนได้ประทับใจและสนุกสนานที่สุด เขาชอบมากตรงที่เธอแอบเลี้ยงสุนัขเพื่อนตายของเธอไว้ที่สถานเด็กกำพร้ามาหกปีแล้ว อ้อยควั่นดีใจมากที่ได้รับรางวัลด้วยการเป็นลูกอุปถัมภ์ของคุณพ่อคนหนึ่ง โดยที่เธอไม่เคยทราบเลยว่าคุณพ่อของเธอคือใคร อ้อยควั่นได้รับโน้ตสั้นๆ จากคุณพ่อจากเลขาชื่อ ดุจดาว คุณพ่อแจ้งความจำนงว่าคุณพ่อต้องการนำมู่ลี่ไปเลี้ยงดูอย่างดีที่บ้านของคุณพ่อ ส่วนอ้อยควั่นคุณพ่อจะส่งไปไว้ที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง คุณแม่ปราณีดีใจด้วยกับอ้อยควั่น แต่ต่อว่าที่แอบเลี้ยงสุนัขไว้ไม่บอก อ้อยควั่นสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมคุณแม่ช่วงปิดเทอม ที่โรงเรียนใหม่ของอ้อยควั่นเธอได้พบผู้อำนวยการโรงเรียนหนุ่มมากชื่อนัทธร มีเพื่อนใหม่ชื่อ ภัคภิรมย์ เป็นหลานของนันธร และ ศลิษา ซึ่งเป็นนักเรียนเข้าใหม่เช่นกัน วันหนึ่งนัทธรเรียกตัวอ้อยควั่นไปพบสอบถามถึงผลการเรียน และอบรมให้อ้อยควั่นเข้ากับทุกคนที่นี่ให้ได้และทำตัวให้เป็นประโยชน์กับผู้อื่น นัทธรดูเฉยเมยเงียบขรึมเจ้าระเบียบจนอ้อยควั่นกลัวมาก สายตาของนัทธรที่มองอ้อยควั่นดูเข้มงวดและสำรวจ อ้อยควั่นได้รับคำสั่งจากคุณพ่อผ่านเลขาว่าให้เธอบอกทุกคนว่าพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว และเธอมีญาติอุปการะอยู่ อ้อยกับภัคภิรมย์ไม่ถูกกันเพราะภัคภิรมย์จะดูหยิ่งพูดจาดูถูกผู้อื่น และอยากรู้ว่าทุกคนเป็นลูกท่านหลานเธอที่ไหน พูดแต่สิ่งที่หรูหรา และภัคภิรมย์ก็อยากรู้มากว่าอ้อยควั่นมาจากไหน และเป็นใคร ศลิษาต้องเป็นคนคอยตามไกล่เกลี่ย อ้อยควั่นมักเขียนจดหมายผ่านเลขาของคุณพ่อไประบายให้ฟังเสมอ แต่แล้วทุกคนก็ต้องตะลึงเพราะในวันหยุดจะมีรถคันงาม และมู่ลี่น้องหมาที่ถูกแปลงโฉมจนแทบจำไม่ได้ มาหาอ้อยพร้อมกับของขวัญมากมาย เช่น เสื้อผ้า ขนมนมเนย บางครั้งก็ให้รับไปเที่ยวข้างนอก คุณพ่อโอนเงินเข้าบัญชีให้อ้อยควั่น โดยอ้อยควั่นใช้วิธีกดเอทีเอ็มนำเงินนั่นออกมาใช้ได้เลย อ้อยควั่นเขียนจดหมายบอกคุณพ่อว่าเงินมากเกินไป แต่คุณพ่อก็ยังส่งมา ทำให้อ้อยควั่นอยากรู้และอยากพบคุณพ่อมาก แต่ไม่ว่าอ้อยควั่นจะขอร้องอย่างไรคุณพ่อก็ไม่เคยมาพบ คนที่อ้อยควั่นมักได้พบกลับเป็นนัทธรผู้อำนวยการโรงเรียนที่มาอาทิตย์ละครั้ง และทุกครั้งจะเรียกอ้อยควั่นไปพบสำรวจอ้อยอย่างเข้มงวด และอบรมเรื่องเดิมๆ

เวลาผ่านไป อ้อยควั่นจบ ม.6 ที่นี่ และได้รับโน้ตจากคุณพ่อว่าให้ตั้งใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ อ้อยก็สอบติดมหาวิทยาลัยที่เดียวกับภัคภิรมย์ และศลิษา มีงานเลี้ยงจัดขึ้นที่ห้องอาหารหรู ฉลองเอ็นติดของทั้งสามคน โดยมีนัทธรอาของภัคภิรมย์เป็นเจ้าภาพ นัทธรดูใจดีเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนแล้ว เขายิ้มแย้มกับอ้อยควั่นทำให้อ้อยควั่นหายกลัว ศลิษาแอบกระซิบอ้อยควั่นว่าเธอแอบกรี๊ด คุณอานัทธร และตอนนี้พวกเราเป็นสาวแล้ว เริ่มมองหนุ่มได้บ้างแล้ว นอกจากอานัทธรยังมีพี่ชายของศลิษา คือ พี่ ศรุต ที่ขอมาเลี้ยงพวกสาวๆ ด้วย คราวนี้ภัคภิรมย์กระซิบอ้อยควั่นว่าเธอปิ๊งพี่ศรุตแล้วอ้อยอย่าแตะ มีโน้ตจากคุณพ่อว่าอ้อยควั่นเป็นสาวแล้วให้ดูแลตัวเองดีๆ จะคบใครต้องระวังให้ดีอยู่ในวัยเรียนไม่ควรข้องแวะกับผู้ชาย อ้อยควั่นตอบกลับว่าจะไม่มีแฟน คุณพ่อตอบมาว่าดีมากขอให้จริงอย่างที่พูด

เจ้านางบุญยวงเดินทางกลับมาเมืองไทย และสืบหาณัฐวุฒิเพื่อตามหาลูก เมื่อทราบความจริงว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นดังที่เธอวางแผนไว้ เจ้าบุญยวงเสียใจมาก เจ้าบุญยวงได้พบกับนัทธรและขอความช่วยเหลือให้สืบหาลูกของเธออีกแรง นัทธรบอกว่าเขาทำมาโดยตลอด อ้อยไปเรียนที่มหาวิทยาลัยและเรียนดีพอสมควร ในโอกาสสำคัญนัทธรจะมาพบสาวๆ ทั้งสามคน แต่คราวนี้มีเจ้าบุญยวงมาด้วย เจ้าบุญยวงมองเด็กสาวทั้งสามด้วยความรัก และสนใจอ้อยควั่นเป็นพิเศษ เจ้านางถามอ้อยถึงพ่อแม่ แต่ก็ไม่ได้ความกระจ่าง บุญยวงบอกว่าเธอสนใจอ้อยควั่นมากยากรู้ว่ามาจากไหน นัทธรกลัวว่าบุญยวงจะดูถูกอ้อยควั่น จึงบอกว่าอ้อยมีพ่อแม่และเขารู้จักพ่อแม่ของอ้อยดี แต่ตอนนี้พ่อแม่ของอ้อยเสียชีวิตแล้ว ในช่วงปิดเทอมทุกคนพากันไปซัมเมอร์ต่างประเทศ เลขาบอกว่าคุณพ่อให้อ้อยไปได้ แต่อ้อยปฏิเสธเพราะฟุ่มเฟือยเกินฐานะและเกรงใจคุณพ่อ คุณพ่อจึงให้อ้อยไปพักผ่อนที่บ้านบนเขา ที่นั่นมีบุญยวง และ ป้าไพลิน รอต้อนรับอยู่ อ้อยแปลกใจมากที่คุณป้าไพลินบอกว่าเป็นแม่นมของอานัทธร แล้วทำไมทั้งอานัทธร เจ้านางบุญยวง และคุณป้าไพลิน จึงไปเกี่ยวข้องกับคุณพ่อของอ้อยได้ ด้วยความสงสัยอ้อยควั่นเขียนจดหมายไปถามคุณพ่อ แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา พออ้อยควั่นเขียนถามมากๆ ก็ถูกคุณพ่อดุกลับมาในจดหมายว่าถ้ารักคุณพ่อ มั่นใจในตัวคุณพ่อก็ควรเชื่อคุณพ่อ วันดี คืนดีอานัทธรก็มาหาแม่นม และเจ้านางบุญยวง

วันหนึ่ง ให้บังเอิญศรุตเกิดมีบ้านเพื่อนที่เขาข้างๆ จึงมาพบกันโดยบังเอิญทำให้อานัทธรดูหงุดหงิด อ้อยควั่นเขียนจดหมายไปเล่าเรื่องนี้ให้คุณพ่อฟัง และบอกว่าเธอนับถือพี่ศรุตเป็นพี่ชาย และก่อนเปิดเทอมภัคภิรมย์ และศลิษากลับมาจากต่างประเทศแล้ว ทั้งหมดได้รับเชิญจากอานัทธรให้ไปพักบ้านตากอากาศที่เขาใหญ่ของอานัทธร ต่อมาอ้อยได้ทราบว่าอานัทธรไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของณัฐวุฒิ ต่อมาณัฐวุฒิกับเจ้านางบุญยวงได้พบกัน ทั้งสองพยายามช่วยกันตามหาลูกสาว ทั้งสองดูรักใคร่อ้อยเป็นพิเศษ อ้อยเขียนจดหมายไปเล่าให้คุณพ่อฟังว่าเธอว่าจะรับจ๊อบเป็นสไตล์ลิสท์ให้นางแบบของหนังสือชื่อดังแห่งหนึ่ง และเธอจะเก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวคุณพ่อไม่ต้องส่งมา แต่คุณพ่อก็ยังส่งมาตามปกติ อ้อยตั้งใจเก็บเงินซื้อเน็คไทราคาแพงเส้นหนึ่งฝากผ่านเลขาไปให้คุณพ่อในวันปีใหม่ อ้อยควั่นอ้อนวอนขอพบคุณพ่ออีกเพื่อจะได้กราบคุณพ่อ แต่คุณพ่อกลับตอบมาว่าเมื่อถึงเวลาจะได้พบกันและจะผูกเน็คไทของอ้อยไปให้ดู ตลอดเวลาที่เรียนอ้อยทำของใช้และเครื่องประดับด้วยฝีมือตัวเองส่งให้คุณพ่อ การเรียนผ่านไปถึงปีสุดท้าย คุณพ่อให้อ้อยควั่นตั้งหน้าตั้งตาเรียน ส่วนเจ้านางบุญยวงก็ยังแวะมาเยี่ยมอ้อยเสมอ อ้อยถามว่าทำไมเจ้านางถึงชื่อแปลก เธอจึงบอกว่าเรื่องของเธอยาวมาก และเธอไม่ใช่คนไทย แต่เป็นชนกลุ่มน้อยที่หนีมาอยู่ในศูนย์อพยพ ตอนนี้เธอกำลังตามหาลูกสาวของเธอที่ชื่อ ส่วยหย่ง ซึ่งแปลว่ากระต่ายทอง อ้อยควั่นเห็นใจและสงสารเจ้านางบุญยวง อ้อยควั่นปลอบใจเจ้านางบุญยวง บุญยวงยิ่งรู้สึกผูกพันถูกชะตากับอ้อยมาก หลังจากเรียนจบอ้อยควั่นได้เกียรตินิยมดี ภัคภิรมย์ได้ดีมาก ส่วนศลิษาไม่ได้เกียรตินิยม มีงานเลี้ยงฉลองเรียนจบให้สาวๆ อ้อยควั่นเขียนจดหมายอ้อนวอนให้คุณพ่อมาร่วมงาน และขอให้อ้อยได้กราบขอบพระคุณคุณพ่อ แต่วันงานกลับมีแค่ คุณปู่ณัฐวุฒิ เจ้านางบุญยวง อานัทธร พี่ศรุตมาเท่านั้น อ้อยควั่นเสียใจและผิดหวังมาก คุณพ่อฝากของขวัญมาให้อ้อยเป็นรถเก๋งคันงาม อ้อยปฏิเสธไม่รับ ตอบกลับไปที่คุณพ่อว่าสิ่งที่เธอต้องการ คือ ได้พบคุณพ่อไม่ใช่รถคันนี้ ศรุตขอเป็นคนรู้ใจของอ้อยแต่อ้อยควั่นปฏิเสธ เหตุการณ์นี้ทำให้อ้อยมีมีปากเสียงกับภัคภิรมย์ที่คิดว่าอ้อยไม่รักษาคำพูด ศลิษาต้องมาอธิบาย ศรุตเสียใจไปพักหนึ่งในที่สุดก็คิดได้และกลายมาเป็นคนรู้ใจของ ต้องรัก อดีตแฟนเก่าของนัทธรที่เลิกรากันไปนานแล้ว และกลับมาอยู่เมืองไทย ส่วนศลิษาขอร้องให้อ้อยช่วยเป็นแม่สื่อให้ตนกับอานัทธร อ้อยตกลงทั้งที่ในใจนึกพอใจอานัทธรอยู่เหมือนกัน อ้อยกลับไปเยี่ยมคุณแม่ปราณีกราบขอบพระคุณที่อบรมให้อ้อยเป็นเด็กดี คุณแม่บอกว่ามีของชิ้นหนึ่งที่ติดตัวอ้อยอยู่ตอนมาที่นี่และจะคืนให้อ้อยแต่ตอนนี้หาไม่พบ ถ้าหาพบแล้วจะโทรไปบอกให้มารับ สิ่งนั้น คือ สร้อยคอสลักชื่อบุญยวงกับส่วยหย่งนั่นเอง ทางฝ่ายบุญยวงได้พบกับ มะขิ่นโดยบังเอิญ มะขิ่นมาสมัครงานที่บ้านของณัฐวุฒิทั้งสองดีใจที่พบกัน แต่มะขิ่นเจ้าเล่ห์มากอยากได้เงินจึงโกหกว่าลูกของบุญยวงถูกผู้หญิงชื่อสมใจมาหลอกไปจากหญิงคนหนึ่งในศูนย์คาดว่าคงเอาไปเป็นขอทาน ณัฐวุฒิกับบุญยวงตกใจรีบส่งคนตามรอยลูกตามที่มะขิ่นบอก ทางฝ่ายมะขิ่นยังโลภมากคิดจะหาเงินทางลัดจึงสืบหาเช่นกันเพราะหวังจะเอาลูกของเจ้านางไปเรียกค่าไถ่จึงแอบฟังความเคลื่อนไหวของการติดตามหาลูก อ้อยได้ทำงานเป็นดีไซน์เนอร์และอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งที่คุณพ่อมอบให้ คุณพ่อบอกว่าคงใกล้ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้พบกัน อ้อยดีใจมาก อ้อยขอพบอานัทธรและนัดให้พบกับศลิษาพยายามทำให้สองคนได้ใกล้ชิดกัน อ้อยเขียนเล่าให้คุณพ่อฟัง คุณพ่อเขียนดุกลับมาว่าไม่ให้ยุ่งเรื่องของคนอื่น และยังถามว่าอ้อยชอบใครหรือยังถ้าไว้ใจพ่อบอกให้พ่อรู้ อ้อยหลงกลบอกว่าชอบคุณอานัทธรแต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะคุณอานัทธรเหมาะสมกับศลิษา และอ้อย คือ เด็กกำพร้า ในที่สุดณัฐวุฒิกับบุญยวงก็ตามเจอสมใจ ตามเจอสมรโดยมีมะขิ่นรู้เห็นเรื่องราวโดยตลอด และทั้งหมดกำลังตามหาดูว่าอ้อยจะไปที่ไหนหลังจากหนีสายสมรแล้ว ในที่สุดก็สืบได้ว่าอ้อยมาที่ตลาดแห่งหนึ่ง

ขณะนั้นเอง ทางด้านนัทธรก็ปฏิเสธนิ่มๆ ไปกับศลิษาว่าเขาเอ็นดูเธอเหมือนหลาน ศลิษาเสียใจมากมาบอกอ้อย อ้อยเห็นใจเพื่อน ขณะเดียวกันอ้อยก็ได้รับจดหมายจากคุณพ่อว่าพร้อมแล้วที่จะให้อ้อยไปพบในงานเลี้ยงครบรอบปีของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งอ้อยแปลกใจเพราะ คือ บริษัทของนัทธรนั่นเอง คุณพ่อให้อ้อยไปพบคนที่ใส่เน็คไทของอ้อย ในที่สุดคุณแม่ปราณีก็หาสร้อยของอ้อยพบและโทรหาอ้อย อ้อยกำลังอยู่ในงานแต่งตัวสวยกำลังมองหาคุณพ่อ นัทธรใช้เน็คไทของอ้อยกำลังเดินตรงมาหาอ้อยที่มองหาอยู่ ที่สถาน เด็กพร้าคุณแม่ปราณีกำลังยกขึ้นมาดูอ่านเห็นชื่อบุญยวงพลิกอีกด้านเห็นชื่อส่วยหย่ง ปราณีดีใจรีบโทรหาอ้อย อ้อยรับแต่บอกว่าอยู่ในงานเลี้ยงพรุ่งนี้จะไปรับของ แต่แล้วอ้อยก็กลับได้ยินเสียงคุณแม่ร้องว๊ายแล้วเงียบเสียงไป พวกสมใจและมะขิ่นนั่นเองมาจับตัวปราณีไป ตอนกำลังถูกกระชากตัวปราณียัดสร้อยใส่ไว้ใต้หมอนไว้ อ้อยเลิกตามหาคุณพ่อรีบตรงไปที่บ้านเด็กกำพร้าไม่พบใครพบแต่ป้าเมตตา อ้อยเล่าเหตุการณ์ให้ป้าเมตตาฟัง อ้อยมองไปเห็นสร้อยที่แล่บออกมาจากใต้หมอนหยิบออกมาไม่ได้อ่าน แต่คิดว่าต้องเป็นของที่คุณแม่บอกว่าหาให้แน่ๆ อ้อยหยิบสร้อยเส้นนั้นออกมา นัทธรผิดหวังที่อ้อยไม่ไปหาตามนัด อ้อยเขียนโน้ตฝากเลขาขอโทษเพราะเกิดเรื่อง ทุกคนจึงรู้ว่าคุณแม่ปราณีถูกจับไป บุญยวงส่งรถไปรับอ้อยมาที่บ้าน อ้อยส่งให้ทุกคนดูว่านี่ คือ สร้อยที่ติดคอเธอมาตอนที่เธอมาที่บ้านคุณแม่ปราณี แต่คุณแม่เก็บเอาไว้ เมื่อบุญยวงเห็นถึงกับช็อค บุญยวงให้อ้อยควั่นอ่านที่แผ่นสลักทั้งสองด้าน อ้อยงงแต่ก็อ่านชื่อ “บุญยวง” “ส่วยหย่ง” อ้อยมองบุญยวง บุญยวงมองอ้อย สองคนถลาเข้ากอดกัน ที่นัทธรเข้ามาเห็นภาพยืนนิ่งมอง อ้อยก้มลงกราบแทบเท้าของบุญยวง บุญยวงประคองอ้อยขึ้นมา และบอกว่าณัฐวุฒิ คือ พ่อ อ้อยควั่นตะลึง ณัฐวุฒิกางแขนสวมกอดลูกสาว ทั้งสามคนกอดกัน จากนั้นอ้อยก้มลงกราบที่เท้าของพ่อและแม่ นัทธรยืนมองแล้วหันผละออกไป ณัฐวุฒิเห็นจึงเรียกให้มารู้จักกัน อ้อยมองไปนัทธรมองตอบกลับมา สายตาของอ้อยจ้องไปที่เน็คไทของนัทธร อ้อยตะลึงถลาไปหานัทธรโดยไม่ได้ตั้งใจไม่เชื่อว่าคุณพ่อที่อุปการะเธอจะหนุ่มไม่ใช่คนมีอายุ นัทธรยืนนิ่ง ณัฐวุฒิบอกอ้อยว่านัทธรเป็นลูกชายบุญธรรมของเขา นัทธรขัดเขินไม่กล้ากอดดังที่เคยเขียนจดหมายบอกไว้ แต่อ้อยกลับก้มลงกราบนัทธรที่เท้าและบอกพ่อแม่ว่า นี่คือ คุณพ่อที่อุปการะส่งเสียเธอจนเรียนจบ บุญยวงกับณัฐวุฒิตื่นเต้นดีใจและขอบใจนัทธร ต่อมาพวกมะขิ่นหาทางจับตัวอ้อย โดยใช้คุณแม่ปราณีมาขู่ว่าจะฆ่า อ้อยจึงต้องไปพบพวกมะขิ่น พวกนั้นจับตัวอ้อยเรียกค่าไถ่ยี่สิบล้าน นัทธรใช้อุบายเอาเงินไปล่อและช่วยอ้อยกับคุณแม่ปราณีออกมาได้ ส่วนพวกมะขิ่นกับสมใจหนีไปแต่ในที่สุดก็ถูกตามจับได้

มีงานฉลองการพบกันและประกาศว่าอ้อย คือ ลูกสาวของณัฐวุฒิและเจ้าบุญยวง หลังเสร็จงานเลี้ยง อ้อยตามเจ้านางบุญยวงมาอยู่ที่ภูคำ นัทธรตามมาที่ภูคำ เจ้านางให้อ้อยตัดสินใจเลือกไปอยู่กับความรัก คือ นัทธร อ้อยควั่นกลับมาเมืองไทยสร้างความดีใจให้กับนัทธรมาก นัทธรมอบแหวนที่รอไว้หมั้นให้อ้อย และประกาศหมั้นกับอ้อยควั่นท่ามกลางความอิจฉาของสาวๆ ทั้งหลาย ในงานหมั้นมีทุกคนมาร่วมงานกับอย่างมีความสุข

แม่ดอกรักเร่ 2558

เรื่องย่อ : แม่ดอกรักเร่ (2558/2015) บัวตอง (อาภา ภาวิไล) สาวน้อยบ้านนอกอายุแค่ 20 เรียนจบ ม.6 แต่ยังไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องออกมาช่วย ยุภา (วรารัตน์ เทพโสธร) แม่ของเธอทำนา แต่แล้วเกิดปัญหาดินเสียที่นาไม่ได้ผลผลิตจนต้องหมดเนื้อหมดตัว เพราะกู้หนี้ยืมสินจาก ตาเอิบ (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) เศรษฐีเงินกู้จอมโกง และยังหัวงูเป็นที่สุด ตาเอิบจ้องจะงาบบัวตองมาหลายนาน จึงตั้งใจปล่อยกู้ให้ยุภา ทำนา แล้วลอบโรยสารเคมีทำให้ดินเสียจนปลูกข้าวไม่ได้

และเมื่อเห็นว่ายุภา กับบัวตอง หมดปัญญาใช้หนี ตาเอิบก็ยื่นข้อเสนอทันทีว่าถ้ายุภา ยกบัวตองให้เป็นเมียตน ก็จะยินยอมยกหนี้พร้อมดอกเบี้ยร่วม 500,000 ให้ มิฉะนั้นจะยึดที่นาทำกินแห่งนี้ซะ

ยุภา สอนบัวตอง มาแต่เกิดให้ยึดมั่นในคุณธรรมความดี ไม่มีวันที่ยุภา จะยอมให้บัวตอง ทำสิ่งที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ บัวตองเลยประเคนผ่าหมากตาเอิบให้ทีหนึ่งก่อนจะลั่นวาจาว่าจะขอเวลา 3 เดือน หาเงินมาใช้หนี้ตาเอิบให้ได้

ดวง (มหัศจรรย์ มาตศรี) หนุ่มหล่อผู้เป็นคนรักของบัวตอง กำลังขับร้องเพลงลูกทุ่งในชุดเสื้อสูทผูกหูกระต่ายหล่อเหลา มีมาลัยเต็มคอ ก่อนจะกว้างออกมา เห็นว่าดวงร้องเพลงอยู่บนแคร่ข้างกองฟาง ท่อนล่างยังนุ่งผ้าขาวม้า คนดูที่ดวงยื่นไมโครโฟนให้ จริงๆ คือควายที่บัวตองจูงมากินหญ้า มีเพียงบัวตองที่ยังคอยเชียร์คอยให้กำลังใจดวง บัวตองเจอข่าวค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ‘ซาวด์สยาม’ กำลังจัดโครงการค้นหานักร้องลูกทุ่ง ดาวรุ่งดวงใหม่ จึงยุให้ดวง เดินทางจากตำบลบ้านนาดอนแห่งนี้ เพื่อมุ่งหน้าตามล่าฝันในเมืองกรุง ไปพร้อมกับเธอที่ตั้งใจจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯ อยู่เหมือนกัน ดวงมีความทะเยอทะยานอยากเป็นนักร้องลูกทุ่งอย่างแรงกล้า จึงรีบตกลงปลงใจทันที

ดวงกับบัวตอง จึงหิ้วกระเป๋ามุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ด้วยกัน มีเหตุให้ต้องพลัดพรากกันตั้งแต่ที่ขนส่ง เพราะระหว่างที่ดวงไปเข้าห้องน้ำ บัวตองถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าไป บัวตองร้องให้ช่วย แต่พบว่าคนเมืองหลวงไม่มีใครคิดจะสนใจ เธอจึงต้องวิ่งตามออกไปเอง และเมื่อกลับมาก็ไม่พบดวงแล้ว เพราะดวงเองก็เดินตามหาบัวตองไม่เจอ แต่ก็ต้องรีบไปบริษัทซาวด์สยาม เพื่อเข้าไปร้องเพลงออดิชั่นให้ทันเวลา เพราะสำหรับดวง ความทะยานอยากเป็นนักร้องสำคัญสำหรับเขายิ่งกว่าความรัก

บัวตองเดินริมฟุตปาธอย่างไร้จุดหมาย เพราะกระเป๋าสตางค์ดันอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบนั้น แต่เมืองกรุงก็ยังมีคนดี พี่แท็กซี่นายหนึ่งเห็นบัวตองเดินปาดน้ำตา ก็รีบอาสาพาไปส่งที่บริษัท ซาวด์สยาม แต่ดันพามุดเข้าซอยเปลี่ยวเพื่อฉุดเข้าป่าหญ้าข้างทางจะปลุกปล้ำ บัวตองสู้สุดชีวิต ถีบข่วน กัด แต่ก็สู้แรงผู้ชายหื่นๆ ไม่ได้ แต่สวรรค์ยังเห็นใจ เมื่อ กรณ์เทพ (ปิยพันธ์ ขำกฤษ) หนุ่มเซลส์แมนขายเครื่องดับเพลิงเดินมาพอดี กรณ์เทพ ต่อสู้ปกป้องบัวตองอย่างไม่เกรงกลัวแม้ว่าคนขับแท็กซี่จะพกมีดทหารเล่มโต กรณ์เทพใช้เครื่องดับเพลิงเป็นอาวุธ ฉีดน้ำยาดับเพลิงใส่คนขับแท็กซี่จนขาวโพลน ตัวแข็งเป็นรูปปั้นอยู่ตรงนั้น

ในขณะที่ดวงไปที่บริษัทซาวด์สยาม และได้พบกับ นวลอนงค์ (ปาลิตา โกศลศักดิ์) คุณหนูสวยเปรี้ยว ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ เฮียช้าง (ประกาศิต โบสุวรรณ) เจ้าของบริษัทค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดังแห่งนี้ นวลอนงค์เห็นความหล่อเข้มของดวง ก็แทบใจละลาย ในการร้องออดิชั่นคัดเลือกนักร้องเข้าสังกัดที่เฮียช้างมานั่งเป็นกรรมการเอง เฮียช้างจะไม่ให้ผ่าน แต่นวลอนงค์รีบมาเหวี่ยง ดุให้พ่อรีบเปลี่ยนใจ เฮียช้างที่ดุเป็นมาเฟียในวงการเพลงลูกทุ่ง ก็ยังต้องยอมแพ้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่ตนเลี้ยงตามใจมาแต่เกิด จนกลายเป็นเด็กสปอยล์ เอาแต่ใจแบบนี้ ดวงคิดว่าบัวตองที่คลาดกันไปคงจะรีบมาหาเขาที่นี่ จึงนั่งรออยู่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับจนหลับคาเก้าอี้ไปด้วยความเหนื่อยอ่อน จนเลิกงาน รปภ.นุ้ย มาปิดประตูบริษัทขังดวงไว้โดยไม่รู้ตัว กรณ์เทพพาบัวตองไปที่ค่ายเพลงซาวด์สยาม แต่ก็พบว่าประตูบริษัทปิดไปแล้ว ไปยืนด้อมๆ มองๆ ก็โดน รปภ.นุ้ย ตะเพิดออกมา กรณ์เทพรู้ว่าบัวตองไม่มีเงินติดตัวสักบาท ก็พาไปพักที่บ้าน บอกว่าตนพักกับแม่ บัวตองจึงยอมไป แต่พอถึงหน้าประตูบ้าน กลับกลายเป็นว่ามี 2 หนุ่มมาเปิดประตูบ้าน บัวตองจินตนาการไปถึงว่า 3 หนุ่มเป็นพวกจิตทราม ใช้กำลังฉุดจะรุมโทรมเธอก่อนจะสะดุ้งจากจินตนาการ เพราะทั้ง 2 แสดงท่าทีสุภาพและเป็นมิตร 2 หนุ่ม ก็คือ ทองดี (ธีรภัทธ์ แย้มศรี) ที่ดูจะมีอายุมากกว่าอีก 2 หนุ่ม เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นข้าราชการ กทม. และมีรถประจำตำแหน่งด้วย อีกคนคือ เบ๊นซ์ (พชรพล ศุขอร่าม) หนุ่มหน้าหยกที่แนะนำตัวเองว่าเป็นนักแสดงที่รับบทพระเอกมาแล้ว เบ๊นซ์ท่าธีรภัทธ์ แย้มศรีทางกรุ้มกริ่มปากหวาน เห็นว่าบัวตองสวย น่ารัก ก็ทำท่าจะจีบ กรณ์เทพต้องด่าเอาว่า บัวตองมีแฟนแล้ว และแค่มาพักคืนสองคืน พอเจอแฟนที่ชื่อดวง แล้วก็จะกลับ คืนนั้น 3 หนุ่มคึกคัก ทำตัวหล่อกันเป็นพิเศษ เพราะร้อยวันพันปี จะมีผู้หญิงสวยๆ มาค้างคืนอยู่ร่วมชายคาสักครั้ง ป้าพลอย (อุทุมพร ศิลาพันธ์) แม่ของกรณ์เทพ เป็นคนปากจัดใจดี เห็นบัวตองก็เข้าใจผิด คิดว่าเป็นพวกเด็กใจแตกหนีตามแฟนเข้าเมืองกรุง แต่พอได้คุยกันก็กลับกลายเป็นรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาแทน เพราะความใสซื่อไร้จริตของบัวตอง ที่หาได้ยากในสังคมสมัยนี้ ยิ่งได้ฟังว่าเข้ามาหางานทำเพื่อรวบรวมเงินใช้หนี้ให้แม่เป็นเงินถึงห้าแสนบาท ก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้ง รีบกุลีกุจอทำกับข้าวรับขวัญ ปรุงเกาเหลาซุปไก่ ที่เป็นเมนูเด็ดของตนให้บัวตองได้กิน บัวตองกินไปน้ำตาไหลไป ทั้งเอร็ดอร่อยทั้งซาบซึ้ง ไม่คิดว่าจะเจอน้ำใจที่อบอุ่นแบบนี้ในเมือง ที่ต้อนรับเธอด้วยการวิ่งราวกระเป๋า และเกือบฉุดเธอไปข่มขืน!

รุ่งเช้า นวลอนงค์มาที่บริษัทแล้วพบดวงที่นอนหลับอยู่ ก็เฉ่ง รปภ.นุ้ยซะยับ ดวงเล่าเรื่องของตัวเองกับบัวตองให้นวลอนงค์ฟัง วันนั้นในห้องอัดนักร้องที่นัดไว้เกิดหวัดลงคอร้องเพลงไม่ได้ กว่าจะรักษาหายก็ต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 3 เดือน นวลอนงค์จึงปรึกษากับเฮียช้างผู้เป็นพ่อว่าจะให้ดวงร้องเสียบแทนไปซะเลย พอเข้าห้องอัดดวงก็ทำได้ดีมากจนเฮียช้างถึงกับออกปากว่าตามประสบการณ์ที่ทำค่ายเพลงลูกทุ่งมาหลายสิบปี ขอบอกว่าดวง คือนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดเท่าที่เคยเห็น พร้อมตั้งชื่อให้ว่า ดวงดี นาดอน (ตามชื่อตำบลบ้านนาดอน ที่ดวงจากมา) นวลอนงค์ยิ่งเห็นรัศมีนักร้องดาวรุ่งดวงใหม่ ก็ยิ่งหลงใหลในตัวดวง

เมื่อบัวตองมาถามหาดวงที่บริษัทอีกครั้ง นวลอนงค์รับหน้าพอดี เลยโกหกว่าดวงไม่ผ่านการออดิชั่น และคงกลับต่างจังหวัดไปแล้ว บัวตองเสียใจ คิดว่าหาเงินได้ครบห้าแสนเมื่อไหร่ค่อยกลับไปหาดวง ใบพาย (ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี) กับ ลิ้นจี่ (เสาวนิตย์ ณัฐวรวโรตม์) 2 หางเครื่องประจำวงได้เห็นเรื่องราวทั้งหมด ใบพายเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ด คอยประจบสนับสนุนนวลอนงค์ ในขณะที่ ลิ้นจี่ จะรักความถูกต้องจนรู้สึกสงสาร และลั่นไว้ว่าวันหนึ่งจะบอกความจริงให้ดวงฟัง ใบพายขู่ว่าลองสิถ้าอยากจะโดนไล่ออกจากหางเครื่องไปเต้นโคโยตี้ตามคลับตามบาร์ ลิ้นจี่เลยต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ ปล่อยให้ดวงกลัดกลุ้ม คิดว่าบัวตองคงจะลืมตนไปซะแล้ว

บัวตองเริ่มสนิทสนมกับกรณ์เทพ มากขึ้น และยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกคนในชุมชนแจ่มใจ ชุมชนที่รวบรวมคนที่จนเงิน แต่ไม่จนน้ำใจ แต่ทุกคนก็แสบก็ร้าย ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ เจ๊พริ้ง เจ้าของร้านเสริมสวย ที่มีบริการนวดเท้าในร้านจนบางทีเจ๊พริ้งนวดเท้าลูกค้าคนหนึ่งอยู่ก็เผลอไปสลับยีผมให้ลูกค้าอีกคน ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมขาเม้าท์ประจำชุมชน เจ๊พริ้งมีลูกมืออีกคนคือ พอลล่า ที่มีชื่อตามบัตรประชาชนว่าพรหล้า ซึ่งเป็นหลานสาวของเจ๊พริ้ง ที่เพิ่งมาเริ่มหัดวิชาเสริมสวย และมักจะทำผมให้ลูกค้าเจ๊งเตลิดเปิดเปิงอยู่บ่อยๆ เช่น อบผมไว้แล้วลืมจนหัวไหม้ฟู แต่ก็เป็นที่หมายปองของทองดี ที่ชอบแวะมาแทะเล็มบ่อยๆ

อีกมุมของชุมชน มีสำนักเจ้าแม่ของ เจ้าแม่ไผ่แก้ว (ไปรมา รัชตะ) ที่รับดูหมอ สะเดาะเคราะห์ ใบ้หวย ดูฤกษ์ยาม หรืออะไรก็ตามที่ได้เงิน เจ้าแม่ไผ่แก้วเป็นคนกะล่อนหาเลี้ยงชีพปากกัดตีนถีบ อาศัยรู้จริงตามตำราโหราศาสตร์มาบ้าง แต่ส่วนมากมักจะมั่ว โดนจับได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่หลอกเงินชาวบ้านก็เพราะต้องเลี้ยงดู หน่อไม้ (ด.ญ.ดิสรยา เตชะไพบูลย์) ลูกสาววัย 10 ขวบ ที่ฉลาด ฉาดฉาน ช่างถาม แก่นแก้ว แต่ก็มีความน่ารักสมวัย ไม่ก้าวร้าวเกินเด็ก บางทีหน่อไม้ก็เผลอหลุดพูดความจริง แฉแม่ของตัวเองให้วงแตกอยู่บ่อยๆ หน่อไม้มีความใสซื่อๆ คิดอะไรง่ายๆ ไม่ซับซ้อนแบบความคิดเด็ก แต่กลับเตือนใจให้ลูกศิษย์ลูกหาที่มาไหว้เจ้าแม่ หรือแม้แต่ตัวเจ้าแม่เองได้หวนฉุกคิดอยู่บ่อยๆ

ครั้งหนึ่งที่บ้านของกรณ์เทพ ทั้งกรณ์เทพ บัวตอง ทองดี เบ๊นซ์ ไปจนถึงป้าพลอย ต่างโดนผีหลอกกันถ้วนหน้า ต้องไปตามเจ้าแม่ไผ่แก้วมาช่วย พร้อมจ่ายค่ายกครู แต่เจ้าแม่ไผ่แก้วก็เผ่นเตลิดเปิดเปิงจนได้เห็นว่าเจ้าแม่ไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อะไร ตามราคาคุย และค่ายกครูแพงๆ เลย

เจ๊พริ้งกับเจ้าแม่ไผ่แก้วยังได้ปะทะกันบ่อยๆ ที่โรงลิเกท้ายชุมชน เพราะต่างเป็นแม่ยกแย่งชิงตัวเบ๊นซ์ พระเอกลิเก ที่เคยบอกบัวตองว่าเป็นนักแสดงระดับพระเอก ที่แท้ก็คือ พระเอกลิเกโรงนี้นั่นเอง

ส่วนทองดี ที่อวดว่าตนเป็นข้าราชการ กทม. มีรถประจำตำแหน่ง บัวตองก็ได้พบความจริงที่ทองดีมากับรถขยะ เป็นพนักงานขนขยะของ กทม.นั่นเอง

บัวตอง พยายามตระเวนสมัครงาน แต่ก็ไม่มีใครรับเลย เพราะคุณสมบัติที่เรียนจบแค่ ม.6 จึงหางานดีๆ ได้ยากเหลือเกิน จนเริ่มคิดว่าอาจจะต้องทำงานแบบใช้แรงงานหาเงินประทังชีวิตไปก่อน

โดยมีกรณ์เทพ ทองดี และเบ๊นซ์ คอยช่วยให้กำลังใจ ทองดีนั้นอาศัยอ่านหนังสือที่คนทิ้งขยะมากมาย จึงเป็นคนที่มีคำคมคำสอนใจมาให้กำลังใจบ่อยๆ ส่วนนายเบ๊นซ์ ก็คอยกะล่อน เล่นมุกแซวให้บัวตองยิ้มได้ และเมื่อบัวตองเศร้าเรื่องของดวง เหมือนคนอกหัก ก็จะได้กรณ์เทพ ที่คอยดูแลหัวใจให้เป็นอย่างดี

เฮียช้างนั้นนอกจากจะเป็นเจ้าของค่ายเพลงผู้ทรงอิทธิพลในวงการลูกทุ่งแล้ว ยังเป็นเจ้าของที่ดินเกือบทั้งหมดในละแวกชุมชนแจ่มใจ แม้แต่บ้านของกรณ์เทพ ก็เป็นบ้านเช่าของเฮียช้างเช่นกัน โดยเฮียช้างมอบหมายให้ อาวุธ (ภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล) ลูกคนโตจอมกร่าง เป็นคนเก็บค่าเช่า ทั้งบ้าน ทั้งพื้นที่ค้าขาย ดูแลผลประโยชน์ในพื้นที่นี้ โดยมี จ๊อด (เทวินธวิ์ คุณารัตนาวัลน์) เป็นลูกสมุนคู่ใจ ที่ต่างก็อวดเบ่งใหญ่โต และชอบใช้กำลังข่มผู้อื่น พอๆ กัน เป็นที่เกลียดกลัวของพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านทุกคน อาวุธได้ปะหน้าบัวตอง ก็ถูกใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะจีบบัวตองให้ได้

เพลงของดวงเริ่มดังและขายดี นวลอนงค์จึงยื่นข้อเสนอให้ดวงว่าถ้าอยากจะดังเป็นนักร้องลูกทุ่งดาวรุ่งพุ่งแรงตัวจริง และได้เซ็นสัญญาออกอัลบั้มกับบริษัท มีเงินเดือนและที่พักหรูสบายที่ชั้นบนสุดของบริษัท มีข้อแม้เพียงข้อเดียว คือ ให้เลิกกับแฟนอย่างเด็ดขาด ดวงหน้ามืดใฝ่ฝันอยากดัง ประกอบกับคิดว่าบัวตองทอดทิ้งไม่มาดูดำดูดีตนเลย จึงตอบรับทันที การดูแลนักร้องหน้าใหม่อย่างใกล้ชิดของนวลอนงค์ ทำให้ความสัมพันธ์ของดวงกับนวลอนงค์เริ่มพัฒนาไปเป็นความรัก ถึงแม้ในใจลึกๆ ดวงยังมีบัวตองอยู่ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความสุขสบาย และโอกาสโด่งดังที่นวลอนงค์หยิบยื่นให้

กรณ์เทพ พาบัวตองไปตระเวนสมัครงาน แต่ก็ยังไม่มีบริษัทไหนรับ บัวตองจึงแอบไปสมัครงานก่อสร้าง คอยแบกปูน แต่ก็พลาดพลั้งไปเทปูนหล่อติดเอาหัวหน้าช่างติดพื้นปูนไปครึ่งแข้ง โดนตะเพิดออกมา บัวตองท้อใจคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาเงินใช้หนี้ ก่อนที่ที่นาทำกินของแม่จะถูกตาเอิบยึด บัวตองเขียนจดหมายกลับบ้าน และเมื่อยุภาตอบกลับมาว่าตาเอิบจะเร่งทวงเงินคืน และจะยึดที่นาทั้งหมดภายในเดือนนี้ บัวตองก็ยิ่งท้อ กรณ์เทพจึงให้กำลังใจว่าถ้าหางานกินเงินเดือนไม่ได้ ก็สร้างกิจการของตัวเองขึ้นมาเลยดีกว่า แต่บัวตองก็ยังมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าคนธรรมดาๆ อย่างตนจะไปสร้างกิจการอะไรได้

ระหว่างนั้นกรณ์เทพ โหมทำงานหนัก พยายามขยันขายเครื่องดับเพลิงให้มากขึ้นเพื่อค่าคอมมิชชั่น และยังรับทำงานกะดึก ด้วยการเป็น รปภ.หมู่บ้านใกล้ๆ จับพลัดจับผลูไปช่วยจับโจรที่กำลังจะปล้นบ้านของ เจ้าสัวสมโชค อภิอัครมหาเศรษฐีจากตระกูลที่เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ เจ้าสัวจึงตบรางวัลให้อย่างงาม เพื่อเป็นการตอบแทนความดีของกรณ์เทพ แต่การทำงานทั้งกะดึกกะกลางวัน ก็หนักหนาเกินกำลังจนกรณ์เทพ ต้องเลิกงานเป็น รปภ.หมู่บ้านไปซะ

ที่ทำเลติดถนนใหญ่ของชุมชนแจ่มใจที่จะมีผู้คนพลุกพล่าน เป็นทำเลที่ดีของร้านอาหารการกิน มีร้านขายอาหารตามสั่งของ เชฟหอย (ยุทธพิชัย ป๋วยเฮง) ที่ชอบคุยโม้ว่าตนคือ เชฟระดับ เชฟกระทะเหล็ก ที่อนาคตจะต้องมีภัตตาคารหรูเป็นของตนเอง ร้านเชฟหอยขายดี เพราะอร่อยและมีอยู่ร้านเดียว และมี คิงคอง (ด.ช.กฤตไน เลาหปราสาท) ลูกชายวัย 11 ขวบ (เป็นคู่ซี้คู่ทะเลาะของหน่อไม้ ลูกเจ้าแม่ไผ่แก้ว) คอยเป็นผู้ช่วย

คิงคองจะคอยช่วยพ่อเสิร์ฟ ช่วยล้างถ้วยชาม ทำงานสารพัดเกินวัย จนกลายเป็นเด็กที่ค่อนข้างกร้านโลก แก่แดดกว่าหน่อไม้ กรณ์เทพกับบัวตองมานั่งกินข้าวที่นี่ เห็นร้านติดกันติดป้ายให้เช่าก็เกิดความคิดว่านอกจากอาหารตามสั่งแล้ว ชุมชนละแวกนี้ยังไม่มีใครทำก๋วยเตี๋ยวขาย แต่ถ้าบัวตองไปฝึกและขอสูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวไก่จากป้าพลอย แม่ของตน ก็น่าจะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวได้ บัวตองจึงรีบไปกราบคารวะขอเป็นลูกศิษย์ป้าพลอย ปรุงน้ำซุปไก่ ด้วยความยากลำบาก

จนในที่สุดด้วยนิสัยสู้ยิบตาไม่มีถอยของบัวตอง ทำให้เธอสามารถปรุงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวไก่ที่อร่อยไร้เทียมทาน ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่จึงเริ่มเปิดขึ้น พร้อมกับขายดิบขายดีอย่างรวดเร็ว สร้างความหมั่นไส้ให้กับ เชฟหอย ที่ยอมไม่ได้ ที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงจะมาทำอาหารได้อร่อยกว่าตน แต่เมื่อได้ชิมน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวไก่ไปคำเดียว เชฟหอยถึงกับน้ำตาไหล ยอมรับในฝีมือ ประกอบกับเมื่อร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เริ่มดัง ในชื่อร้าน ‘ก๋วยเตี๋ยวไก่ยกซด’ (เพราะทุกคนที่ได้ชิมจะยกชามขึ้นซดน้ำซุปจนหมดหยดสุดท้าย) ร้านของเชฟหอย ก็พลอยขายดีไปด้วย ก็เลยกลายเป็นภาวะวิน-วิน แฮปปี้กันไปทั้ง 2 ฝ่าย

วันหนึ่งรถยนต์หรูของเจ้าสัวสมโชค ดันมาเครื่องยนต์ดับอยู่แถวชุมชนแจ่มใจ เจ้าสัวได้เจอหน้ากรณ์เทพก็จำได้ ที่กรณ์เทพเคยช่วยไว้จากโจรที่ปล้นบ้านเจ้าสัว กรณ์เทพยังช่วยดูเครื่องยนต์ให้

ปรากฏว่าเป็นความสะเพร่าของ นายบุญช่วย (ตูมตาม เชิญยิ้ม) คนขับรถที่ดันลืมเติมน้ำมันซะเอง เจ้าสัวด่าบุญช่วยยกใหญ่ ก่อนจะบ่นว่าหิว กรณ์เทพจึงรีบอาสาพาไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ยกซดของบัวตอง เพียงชิมน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวไก่คำแรก เจ้าสัวสมโชคก็น้ำตาไหลพรั่งพรู เพ้อว่านี่คือ รสมือของอดีตเมียเสี่ย คนเก่าก่อน ที่เสี่ยรักฝังใจไม่เคยลืม จนบุญช่วยโวยด่าว่าน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ใส่กัญชา หรือยาเสพติดอะไร ถึงทำให้เจ้าสัวเพ้อหลุดโลกไปได้ขนาดนี้ หลังจากนั้นเจ้าสัวสมโชคจะแวะเวียนมากินก๋วยเตี๋ยวไก่อีกครั้ง เจ้าสัวสอบถามบัวตอง ว่าไปได้สูตรน้ำซุปไก่แบบนี้มาจากไหน ขอร้องให้พาไปพบเจ้าของสูตรนั้น

บัวตองกับกรณ์เทพ พาเจ้าสัวสมโชคไปพบกับป้าพลอย ทันทีที่ทั้ง 2 พบกัน ก็ต่างโผเข้าสวมกอดร้องห่มร้องไห้ กรณ์เทพถึงกะอึ้งที่ป้าพลอยบอกให้เรียกเจ้าสัวว่า ‘พ่อ’ เห็นเด็กๆ งง เจ้าสัวสมโชคจึงเล่าย้อนอดีตให้ฟังว่าในสมัยยังหนุ่ม เจ้าสัวเคยพบรักกับพลอย สาวที่รับจ้างเย็บ ปะ ชุน แก้ทรงเสื้อผ้า จนเขาส่งเสียเลี้ยงดู ทั้งคู่อยู่กินมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง ในวันที่เจ้าสัวไม่สบาย พลอยทำน้ำซุปไก่ให้กิน รสชาติเอร็ดอร่อยจนต้องยกชามซดน้ำซุปจนหยดสุดท้าย ความรักของทั้งคู่ดำเนินไปด้วยดี จนวันที่พ่อแม่ของเจ้าสัวทราบ ก็สั่งเด็ดขาดให้เลิกกัน และหลังจากนั้นพลอยก็หายไป

ป้าพลอยจึงเล่าต่อว่าที่ตนหายไปนั้น เพราะพ่อแม่ของเจ้าสัวสมโชค บุกมาเจรจาข่มขู่ว่าถ้าไม่หนีออกไปจากชีวิตของสมโชคซะ จะจ้างมือปืนมาเก็บ (เพราะพ่อแม่สมโชคเข้าใจว่าพลอยจะมาหวังคบเพื่อปอกลอกสมโชค) เธอจึงต้องระเห็จหนีไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่าได้ตั้งท้องเจ้าหนูกรณ์เทพ ได้เดือนหนึ่งแล้ว จึงตัดสินใจคลอดลูกและเลี้ยงดูเอง เพราะกลัวว่าถ้าย้อนกลับไปบอก จะถูกพ่อแม่ของสมโชค ดูถูกเอาว่าปล่อยให้ท้องเพื่อจะจับลูกชายเขา

เจ้าสัวสมโชค คุกเข่าขอโทษพร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะเลี้ยงดูทุกคนอย่างดี แต่ป้าพลอยปฏิเสธทันที พร้อมสั่งให้กรณ์เทพ ห้ามรับเงินทองจากสมโชค เพราะไม่อยากให้ทางบ้านสมโชคดูถูกเอาได้ ถึงแม้ทุกวันนี้ไม่ได้รวย แต่ก็ไม่ได้อดอยาก ไม่มีกินแต่อย่างใด จึงไม่ขอรับความช่วยเหลือใดๆ จากเจ้าสัวทั้งสิ้น เจ้าสัวสมโชคยอมรับ แต่ก็ขอซื้อเครื่องดับเพลิงจากกรณ์เทพเยอะๆ และจะมากินก๋วยเตี๋ยวไก่ยกซดทุกวัน

กรณ์เทพ กับบัวตอง ได้ช่วยเหลือกัน ได้ใช้เวลาสนิทสนมกัน จนพัฒนาเป็นความรัก ถึงแม้จะมีอุปสรรคจากอาวุธ ลูกชายเฮียช้าง ที่มักมาตามรังควานกรณ์เทพ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ทั้ง 2 ช่วยกันผลักดันให้เจ้าสัวสมโชค จัดพื้นที่เปิดตลาดนัดที่ให้ทุกคนมาขายของกันได้โดยไม่เก็บค่าเช่า สร้างความไม่พอใจให้กับเสี่ยช้าง อาวุธ และจ๊อด จนวางแผนจะแอบพังแผงในตลาดนัดซะ

ในงานเลี้ยงเปิดตลาดนัด มีงานประกวดเทพีชุมชนแจ่มใจ กรณ์เทพได้เห็นบัวตองใส่ชุดสวย แต่งหน้าทำผมเผ้าสวยหยาดเยิ้มขึ้นประกวดบนเวที โดยมีพอลล่า ใบพาย ลิ้นจี่ มาร่วมประกวดด้วย และแน่นอนผู้ชนะ คือ บัวตอง คืนนั้นกรณ์เทพ รู้สึกความรักแน่นคับอกจนต้องระบายออก เขาตัดสินใจบอกรักบัวตอง บัวตองไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ พูดแต่เพียงว่าขอจัดการเคลียร์หนี้ของแม่ให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาว่ากันใหม่ แต่คำตอบก็น่าจะไม่ใช่คำปฏิเสธแน่ๆ เล่นเอากรณ์เทพเป็นปลื้มเดินยิ้มแก้มฉีกอยู่เป็นวันๆ แต่เวลาของความสุขมักสั้นเสมอ เพลงลูกทุ่ง ‘ไอ้หนุ่มโดนทิ้ง’ กลายเป็นเพลงฮิต เนื้อเพลงตัดพ้อต่อว่าหญิงสาวคนรักที่มาจากบ้านนอกด้วยกัน แต่พอเข้ากรุงก็ทิ้งหายหน้าไปกับหนุ่มเมืองหลวง ซึ่งคนร้องเพลงนี้คือ ดวงดี นาดอน ซึ่งก็คือดวง คนรักเก่าของบัวตอง ที่ได้ปรากฏตัวมาทวงความรักจากบัวตอง

บัวตองถึงกับสับสน แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของดวง ที่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเธอไปเลย บัวตองก็ใจอ่อน ตอบรับรักจากดวง ที่พอรู้สาเหตุว่าบัวตองไม่ได้ตั้งใจทิ้งตนไป ก็ขอร้องบัวตองให้มาเริ่มนับ 1 ใหม่กับเขาอีกครั้ง เพราะเขาเองก็เริ่มมีฐานะพอตั้งตัว และคิดสร้างครอบครัวในอนาคตได้ ทำเอากรณ์เทพ ถึงกับอกหัก หัวใจสลาย เป็นที่น่าสงสาร จนทองดีและเบ๊นซ์ ต้องคอยเฝ้าปลอบใจ

แต่ความรักของดวงกับบัวตองก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะนวลอนงค์ตามราวีทุกวิถีทางที่จะดึงเอาดวงกลับไปเป็นของตน นวลอนงค์ใช้ไม้ตายสุดท้าย เพราะรู้นิสัยความทะเยอทะยานอยากเป็นนักร้องของดวง จึงยื่นคำขาดให้ดวงเลือกว่าจะเลือกเป็นนักร้องของค่ายซาวด์สยามต่อไป หรือว่าจะเลือกไปเป็นคนรักของบัวตอง

บัวตองเห็นท่าทีลังเลของดวง ก็พอจะเข้าใจว่าดวงหนุ่มบ้านนอกช่างฝันคนเดิม ได้ตายจากไป เหลือแต่เพียง ดวงดี นาดอน ที่คิดแต่เรื่องอยากเป็นนักร้องเด่นดัง ไม่ได้คิดถึงบัวตองว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของเขาเลยแม้แต่น้อย บัวตองจึงตัดสินใจบอกเลิกกับดวง เพราะไม่อยากขวางอนาคตอันสดใสของนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ดวงดี นาดอน เธอจึงขอเป็นฝ่ายเดินออกมาเอง เพื่อสงบศึกกับนวลอนงค์ด้วย

บัวตองรู้ตัวแล้วในนาทีนี้ว่าใครกันแน่ที่ดีกับเธอ และเห็นความสำคัญของเธอจริงๆ บัวตองรีบตรงไปหากรณ์เทพ แต่ก็พบว่าสายไปเสียแล้ว เพราะทองดีกับเบ๊นซ์เล่าให้ฟังว่ากรณ์เทพ หลบไปเลียแผลใจ และสั่งทองดีกับเบ๊นซ์ไว้ว่าห้ามบอกบัวตอง ว่าเขาหายไปไหน เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าบัวตองอีกให้เจ็บปวดใจ บัวตองเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับ เพราะตนเป็นฝ่ายทิ้งกรณ์เทพ ให้เจ็บก่อนจริงๆ

บัวตองเก็บร้านขายก๋วยเตี๋ยว จะย้ายกลับไปที่ตำบลบ้านนาดอน บ้านเกิดของตน บัวตองกลับไปเจอยุภาแม่ของตน ก็สารภาพว่าหาเงินได้ไม่ครบห้าแสน มีอยู่เพียงแค่แสนห้า จากร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ที่ขายดีมากๆ ตาเอิบ เห็นบัวตองกลับมาก็ตามมากะลิ้มกะเลี่ย ทำท่าหัวงูอีก ยุภาเลยบอกให้บัวตองเตะผ่าหมากสั่งสอนเสี่ยซะ พร้อมบอกว่าตนเคลียร์หนี้ตาเอิบไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีก บัวตองงงว่าแม่เอาเงินจากไหน ยุภาก็งง เพราะได้เงินจากที่บัวตองส่งมา บัวตองนึกย้อนแล้วรู้ทันทีว่ากรณ์เทพ เป็นคนส่งมาแน่ๆ เพราะกรณ์เทพเล่าว่าเคยทำงานพิเศษ เคยทำงานหนักสารพัด เคยได้รับเงินเป็นน้ำใจที่ช่วยให้เจ้าสัวสมโชค รอดจากเงื้อมมือโจร บัวตองเพิ่งรู้ว่าเงินทั้งหมดนี่เป็นความช่วยเหลือจากกรณ์เทพ นั่นเอง

บัวตองรีบกลับไปกรุงเทพฯ อีกที เธออธิบายให้ทองดี และเบ๊นซ์ เข้าใจ เรื่องราวทั้งหมด พร้อมขอร้องให้บอกเธอว่ากรณ์เทพหนีไปอยู่ที่ไหน ทั้ง 2 จึงตกลงว่าจะพาไป โดยมีรถยนต์ลีมูซีนหรูของเจ้าสัวสมโชค ที่นายบุญช่วยขับมาช่วยอำนวยความสะดวกถึงที่

เวลาเย็นที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งยังดูมีความเป็นธรรมชาติสูง และไม่มีคนพลุกพล่าน กรณ์เทพนั่งซึมเศร้าอยู่คนเดียว เขาต้องแปลกใจที่มีรถยนต์ลีมูซีนหรูของเจ้าสัวสมโชค ปราดเข้ามาจอด พร้อมกับบัวตองที่วิ่งลงมาหาเขา และมีทองดี เบ๊นซ์ รวมถึง เจ้าสัวสมโชค และป้าพลอย พ่อแม่ของกรณ์เทพมาเป็นสักขีพยาน

บัวตองเคลียร์ทุกเรื่องในใจให้กรณ์เทพรับรู้ว่าคนที่อยู่ในใจเธอจริงๆ และมีค่าสำหรับเธอจริงๆ ณ ตอนนี้ และตลอดไป ก็มีแค่เพียงกรณ์เทพเท่านั้น กลายเป็นว่าบัวตองต้องมาคุกเข่าขอความรักจากกรณ์เทพซะนี่ ซึ่งแน่นอนกรณ์เทพย่อมตอบรับรักครั้งนี้ แม่ดอกรักเร่ของเขา จึงไม่ต้องเร่รักอีกต่อไป แต่จะประดับอยู่กลางใจของเขาไปเป็นรักนิรันดร์...

มนต์รักเพลงผีบอก 2558

เรื่องย่อ : มนต์รักเพลงผีบอก (2558/2015) เจื้อยแจ้วแว่วเสียงสำเนียงขับร้อง คร่ำครวญชวนขนลุกขนพอง จากนักร้องที่ไม่ใช่คน เกิดเป็นเรื่องอลวนปนขนหัวลุกคลุกเคล้าเสียงเพลงบรรเลงเสียงฮานำพาไปหารักแถมยังสนุกยิ่งนัก กับมนต์รักเพลงผีบอก

วงดนตรีลูกทุ่ง เสียงหวานสะท้านไพร ดังลือลั่นสนั่นบ้านทุ่งมาหลายปี แต่วันดีคืนดี การเวก เสียงหวาน นักร้องซุปตาร์ประจำวงประสบอุบัติเหตุสยองขณะที่กำลังขับรถไปเพื่อนัดพบง้องอนขอคืนดีกับมุกดาเมียรัก ทว่ารถทั้งสองคันประสานงาอย่างจัง การเวกและมุกดาดับอนาถคาที่ แต่ โถอนิจจาการเวกผู้น่าสงสารต้องจากโลกใบนี้ไปไม่มีโอกาสแต่แม้แต่ได้พบหน้า ช่อแก้ว ผู้เป็นลูก เสนาะ บางระจัน ผู้ก่อตั้งวงและปลุกปั้นการเวกจนโด่งดังถึงกับไมเกรนขึ้นสามเวลาหลังอาหาร หลังจากที่การเวกผู้เป็นเสาหลักของวงตาย เขาก็แทบประคับประคองวงลูกทุ่ง เสียงหวานสะท้านไพร ไว้แทบไม่ไหว เคราะห์ซ้ำกรรม ซัดเมื่อโส่ย สุพรรณ เพื่อนรักดันหักเหลี่ยมโหด ต้องการทำลายหัวใจเสนาะด้วยการคิดทำลายวง โส่ยโกงเงินในวงและไปสร้างหนี้สินมหาศาลแล้วโยนความผิดให้กับเสนาะต้องชดใช้แทน ก่อนจะหนีหายไปในกลีบเมฆ แค้นที่โส่ยฝากไว้ทำให้เสนาะสิ้นเนื้อประดาตัวแทบจะยุบวงแแต่เสนาะก็กัดฟันสู้เพื่อรักษาวงดนตรีไว้ให้นานที่สุด สาเหตุที่โส่ยแค้นเสนาะจนต้องทำลายชีวิตของเขาให้ย่อยยับ เพราะโส่ยแค้นฝังหุ่นที่อุตส่าห์ลำบากก่อตั้งวงมาด้วยกัน แต่ถูกเสนาะกดขี่สารพัด เป็นแค่นักร้องปลายแถวประจำวง ไม่ให้กู้ยืมเงิน ไม่ให้สิทธิ์การบริหารวง ที่สำคัญยังกีดกันความรักที่มีให้กับมุกดา แต่เสนาะกลับสนับสนุนให้มุกดารักกับการเวกแทน แต่โส่ยไม่รู้เลยว่าเสนาะต้องทำแบบนั้นเพราะโส่ยนิสัยเสีย ติดการพนันงอมแงม สร้างปัญหาให้วงอย่างไม่หยุดหย่อนจนเสนาะเอือมระอา โส่ยสะใจที่เสนาะและวงดนตรีพังพินาศด้วยน้ำมือของเขา แต่แล้วโส่ยก็หนีความผิดไม่พ้นโดนตำรวจจับไปชดใช้กรรมในคุก เสนาะตั้งใจจะพยุงวงดนตรีให้อยู่รอดจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เขาท้อหลายครั้งหลายหน แต่ก็ฟันฝ่ามหาอุปสรรคมาได้เพราะได้กำลังใจจากช่อแก้ว เสนาะนำช่อแก้วมาเลี้ยงเป็นลูกแทนลูกสาวตัวจริงที่ตายหลังคลอดก่อนที่ช่อแก้วจะเกิดไม่กี่นาที เสนาะและปกปิดความจริงกับทุก ๆ คน และทุกคนก็คิดว่าช่อแก้วเป็นลูกของเสนาะจริง ๆ โดยมีเมียคนสวยอย่าง สายพิณ วารินชำราบ อดีตนักร้องสาวเสียงสวยเต้นแซ่บ! ที่ปัจจุบันเป็นผู้จัดการวงดนตรี ควบด้วยตำแหน่งครูสอนร้องและสอนเต้น เป็นผู้ดูแลสั่งสอนเลี้ยงดูช่อแก้วตั้งแต่แบเบาะเหมือนลูกแท้ ๆ และยังแอบเสนาะสอนช่อแก้วร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่นานนักช่อแก้วก็แสดงความเป็นนักร้องอัจฉริยะ แต่เสนาะก็ไม่เคยให้ขึ้นเวที เพราะสาบานกับการเวกไว้ว่าไม่อยากให้ลูกต้องเต้นกินรำกินเหมือนตัวเอง…เพราะอาชีพนี้ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบแต่มันเต็มไปด้วยความลำบากและคราบน้ำตา แต่ช่อแก้วก็ต้านทานเสียงหัวใจของตัวเองไม่ไหว แอบเข้ากรุงเทพฯ ปลอมตัวไปประกวดร้องเพลงโดยมีหนุ่มหล่อใจวงอย่าง เก่งกาจ อดีตเด็กกำพร้าที่เสนาะเอามาอยู่กับวงตั้งแต่เด็กและรักเหมือนลูกเหมือนหลานตามติดไปด้วย เพราะอยากประกวดร้องเพลงเหมือนกัน และแล้วลีลาและเสียงร้องของช่อแก้วไปเข้าตาและกระแทกง่ามใจของสิงหา หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายของสนั่น หรือเฮียหนั่นเจ้าของค่ายเพลงอย่างจัง สิงหาต้องการได้ตัวช่อแก้วเป็นนักร้อง สิงหาจีบช่อแก้วอยากได้เป็นแฟนควบกับนักร้องประจำค่าย แต่ช่อแก้วกลัวความลับแตก เพราะถ้าพ่อรู้ว่ามาร้องเพลง จะต้องโดนตัดขาดความเป็นพ่อลูกอย่างแน่นอน ช่อแก้วก็เลยหนีสิงหากลับบ้านนอก สิงหาเสียดายมาก ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ สนั่นเห็นแววในตัวช่อแก้ว บอกว่าถ้าได้เธอมาเป็นนักร้องในค่ายรับรองว่าทำเงินได้มหาศาลแน่ ๆ ต่อมาเสนาะจับได้ว่าช่อแก้วหนีไปร้องเพลงประกวด เสนาะโกรธมาก ๆ ที่ช่อแก้วฝืนคำสั่ง จนทุกคนในวงต้องมาคอยปรับความสัมพันธ์ให้ จนเสนาะให้อภัยและออกคำสั่งให้ช่อแก้วทำหน้าที่ตัดเย็บเสื้อผ้าและดูแลงานทั่วไปในวง ห้ามขึ้นเวทีเด็ดขาด แต่ด้วยที่นักร้องนำประจำวงมีแค่ลำดวน นักร้องเซ็กซี่ตัวแม่ประจำวงอยู่คนเดียว นอกนั้นเป็นนักร้องรับจ้างเป็นครั้งคราว เสนาะเลยคิดจะปลุกปั้นเก่งกาจให้เป็นนักร้องแทน แต่ถึงแม้เก่งกาจจะมุ่งมั่นและมีความฝันอยากเป็นนักร้องปานใด แต่เสียงห่วยสุดกำลัง เสนาะกับสายพิณปั้นแค่ไหนดินก้อนนี้ก็เป็นดาวไม่ได้ชัวร์! แต่ช่อแก้วก็ให้กำลังใจและช่วยสอนร้องเพลงอยากให้ฝันของเก่งกาจเป็นจริง ช่อแก้วสอนเก่งร้องเพลงจนวันเคลื่อนเดือนคล้อยย้อยเป็นปี ๆ และแล้วสองหนุ่มสาวที่เป็นคู่กัดกันมาตลอด ความสัมพันธ์เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรักอย่างไม่รู้ตัวและใจซึ่งกันและกัน โห่ฮี้โห่ฮิ๊ววววว เวลาล่วงเลยไปจนไม่มีใครรู้เลยว่าเสนาะหมดเงินแล้ว และไม่อาจจะพยุงวงได้อีกต่อไป นักร้องที่จ้างมาก็ลาออกไม่ร่วมงานอีก เสนาะบอกกับทุกคนทั้งน้ำตาว่าไม่อาจจะสืบสานตำนานลูกทุ่งได้อีกต่อไปตั้งใจจะยุบวง แม้ว่าเก่งกาจกับช่อแก้วจะทัดทานก็ไม่เป็นผล หลายคนเริ่มทยอยออกจากวงไปเหลือแต่เพียง ช่อแก้ว เก่งกาจ เหม่งมือกลองสุดหล่ออารมณ์ดีจอมเจ้าชู้ เสือเหนือมือเป่าแซ็กจอมจุ้น บัวตอง บัวตูม สองสาวหางเครื่องสุดแซ่บ และ ทิดตุ๋ย กับ ไมเคิล ตลกตัวฮามั่งแป๊กมั่งประจำวง ทั้งหมดไม่ยอมหนีจากวง แต่เสนาะก็ยื่นคำขาดไม่อยากให้ทุกคนต้องมาจมปลักด้วยกัน เก่งกาจเศร้าใจมากเหลือเกิน อยากช่วยวงแต่วาสนาก็ไม่ถึงเป็นนักร้องได้แต่ช่วยสัพเพเหระไปวัน ๆ ก็เลยไปที่วัดประจำตำบลซึ่งเป็นที่สิงสถิตย์ของการเวก เสียงหวาน เก่งกาจไประบายกับรูปปั้นของการเวกไอดอลอันดับหนึ่งของตัวเองเหมือนทุก ๆ ครั้งที่มีเรื่องทุกข์ใจ แต่คราวนี้เก่งร้องไห้บอกว่าวงดนตรีกำลังจะจบสิ้นแล้วเพราะขาดนักร้องนำ การเวกโกรธเสนาะมากที่ยอมแพ้ ก็เลยตามไปด่าถึงบ้านพยายามจะบอกให้สู้ต่อ แต่ก็สื่อสารกับเสนาะไม่ได้ การเวกเซ็งสุด ๆ ที่สื่อสารกับใครไม่ได้เลย การเวกพยายามจะช่วยวงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ไม่มีพลังเลย ยมทูตคู่หูของการเวกก็ช่วยไม่ได้ สาเหตุที่ยมทูตต้องคอยดูแลและช่วยเหลือการเวกก็เพราะเขาทำงานผิดพลาดที่กระชากวิญญาณการเวกออกมาทั้ง ๆ ที่การเวกยังไม่ถึงฆาต ในขณะที่ทุกคนกำลังเก็บเสื้อผ้าจะออกจากวง เพราเสนาะยุบวง เก่งกาจเก็บสำภาระพลางร้องเพลงสุดรักสุดโปรดของการเวก ถึงแม้เก่งจะร้องไม่เพราะแต่ก็ออกมาจากใจจริงแท้ พลันการเวกได้ยินเข้าก็เกิดมนต์พิเศษการเวกสามารถเข้าสิงเก่งกาจได้ แล้วการเวกในร่างของเก่งกาจก็ร้องเพลงให้เสนาะฟัง เสนาะถึงกับช็อก ที่เก่งกาจร้องเพลงได้ไพเราะมากสุ้มเสียงสำเนียงลีลาเหมือนกับการเวกไม่ผิดเพี้ยน และเมื่อการเวกร้องจบเพลงก็เด้งกระเด็นออกจากร่างเก่งกาจทันที ทุกคนในวงงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเก่งกาจ (วะ) ทำไมไอ้เก่งเสียงห่วยถึงเสียงหวานได้จับขั้วหัวใจแบบนี้ เก่งกาจเองก็งงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง และแล้วเสนาะก็เปลี่ยนใจไม่ยุบวงเพราะเห็นว่าเก่งกาจจะเป็นนักร้องให้วงได้ พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้ว่า การเวกน้อย เสียงหวาน เสนาะมีความหวังสุด ๆ เปิดการแสดงลูกทุ่งหวังว่าเจ้าการเวกน้อยจะเข้าไปอยู่ในหัวใจพี่ป้าน้าอา พ่อยกแม่ยก แต่แล้วเก่งกาจ หรือ การเวกน้อยนั้นก็ทำวงล่มไม่เป็นท่า เพราะการแสดงคืนนั้นมันร้องเพลงห่วยนรกแตก บรรดาผู้ชมโห่ร้องไม่พอใจแทบพังเวทีทิ้ง เจ๊งไม่เป็นท่า ช่อแก้ว เสนาะ และทุกคนในวงเค้นคอเก่งกาจว่าทำไมคืนนั้นถึงร้องเพลงเพราะ เก่งกาจแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ แถสีข้างถลอก เสนาะให้โอกาสเก่งกาจอีกครั้งถ้ายังร้องเพลงไม่ได้ ยุบวงโว้ย! ตอนนี้ความหวังของทุกคนในวงขึ้นอยู่กับเก่งกาจแล้ว ช่อแก้วให้กำลังใจเต็มที่ เก่งกาจไม่อยากทำให้ช่อแก้วต้องผิดหวัง…ต่อมาเก่งกาจรีบกลับไปหารูปปั้นการเวกอีกครั้งเพื่อขอให้การเวกช่วยอีกที จะด้วยชะตาฟ้าลิขิตอย่างไรไม่ทราบได้ เก่งกาจกับการเวกสามารถสื่อสารกันได้ในที่สุด การเวกเห็นแก่เก่งกาจที่มีความมุ่งมั่นเต็มร้อยอยากเป็นขุนพลเพลงลูกทุ่ง ก็เลยรับปากจะช่วยเหลือสิงร่างช่วยร้องเพลงให้ แต่มีข้อแม้ว่าเก่งกาจต้องช่วยตามหาลูกสาวของเขาที่หายสาบสูญ เก่งกาจตกปากรับคำ และแล้วสนธิสัญญาของผีกับคนก็บังเกิดขึ้น โดยที่การเวกและเก่งกาจไม่รู้เลยว่าหญิงสาวที่ต้องพลิกแผ่นดินหาก็คือช่อแก้วนั่นเอง… ทางด้านโส่ยหลังจากที่พ้นโทษในคดีฉ้อโกง ก็อยู่อย่างลำบาก อยากเป็นนักร้องแต่ไปสมัครที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะในอดีตทำชื่อเสียไว้มาก ก็กลับสู่วงการพนันจนสร้างหนี้ขึ้นมาอีก แต่โชคยังดีที่นึกขึ้นได้ว่าตอนที่โดนไล่ออกจากวงเขาได้โขมยบทเพลง เสียงครวญจากหัวใจ มานี่หว่า มันเป็นเพลงที่เสนาะเป็นคนแต่งแล้วบรรดาครูเพลงฟันธงว่าเพลงนี้จะโด่งดังไม่ว่านักร้องคนไหนได้ร้องเพลงนี้ต้องดังทะลุฟ้า!!! โส่ยนำเพลงเสียงครวญจากหัวใจไปขายล้างหนี้พนัน โดยขายให้กับสิงหาที่กำลังต้องการเพลงดี ๆ เพื่อมากอบกู้วิกฤตบริษัทที่กำลังมีปัญหาด้านการเงิน สิงหาและเฮียสนั่นชอบบทเพลงนี้มาก ได้ทำการบันทึกเสียงทันทีและผู้ขับร้องเพลงนี้ก็คือสิงหานั่นเอง และเป็นดังคาดเพลงนี้ทำให้สิงหาและค่ายเทปของเขาโด่งดังในข้ามคืน ไม่นานนักชื่อเสียงที่เข้ามาทำให้เงินทองหลั่งไหลจนรวยไม่รู้เรื่อง สิงหาตัดสินใจจ้างโส่ยเป็นที่ปรึกษา โส่ยดีใจที่ชีวิตกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง และสะใจที่เสนาะต้องดิ้นทุรนทุรายเพราะถูกขโมยบทเพลงไป ไม่นานนักเสนาะ เก่งกาจ ช่อแก้ว และสมาชิกในวงยกพวกไปทวงสิทธิ์เจ้าของบทเพลงกับสิงหาและสนั่นแต่ก็ไม่มีหลักฐาน แล้วความลับที่ไม่มีใครรู้ก็คือเสนาะกับสนั่นเคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แต่ภายหลังผิดใจกันแล้วสนั่นผูกใจเจ็บและอาฆาตเสนาะมาตลอด โดยที่เสนาะเข้าใจผิดว่าทะเลาะกันเรื่องผู้หญิง แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่… ทุกวันนี้เสนาะยังไม่รู้ว่าสนั่นเกลียดตนด้วยเหตุผลใด… ทางด้านโส่ย สะใจสุด ๆ ที่ฝากรอยแค้นให้เสนาะได้อีกครั้ง ขณะที่สิงหาอยากได้ตัวช่อแก้วมาอยู่ในค่ายก็ยื่นข้อเสนอขอตัวช่อแก้วและกับครอบครองลิขสิทธิ์เพลงร่วมกัน แต่เสนาะไม่สนใจยกพลกลับพร้อมกับความแค้น สิงหาเองก็ไม่ยอมแพ้จะต้องหาหนทางเอาตัวช่อแก้วมาให้ได้ เดอะโชว์มัสโกออน วงลูกทุ่งเสียงหวานสะท้านไพรทำการแสดงอีกครั้ง คราวนี้การเวกเข้าสิงเก่งกาจและร่ายมนต์เพลงทำเอาบรรดาผู้ฟังเคลิบเคลิ้มชอบใจสุด ๆ หลั่งไหลแห่แหนกันมาดูพ่อการเวกน้อยกันยกใหญ่ ไม่ว่าจะเปิดการแสดงกี่รอบผู้คนก็แห่แหนมาดูทุกครั้ง จนช่อแก้วสงสัยมากกว่าเหตุใดเก่งกาจถึงร้องเพลงไพเราะ และทุกครั้งที่เก่งกาจร้องเพลงช่อแก้วกลับรู้สึกว่าคนที่ร้องเพลงไม่ใช่เก่งกาจแต่เหมือนมีใครอีกคนสิงร่างเขาอยู่… การที่เก่งกาจกลายเป็นคนที่ร้องเพลงได้เพราะจนขนลุก สร้างความสงสัยให้กับเสนาะและช่อแก้ว อยากหาคำตอบ เพราะทุกครั้งที่เก่งกาจร้องเพลงบรรดาหมา ๆ ต้องหอนทุกครั้ง บรรยากาศดูวังเวงพิกล!เก่งกาจปิดบังความจริงและแก้ตัวตลอดเวลาว่าไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ ๆ ร้องเพลงเพราะ มันเป็นของมันเอง แต่ช่อแก้วไม่เชื่อพยายามตามสืบ… ช่อแก้วได้ความช่วยเหลือจากสองคู่หูเพื่อนรักของเก่งกาจ เหม่งและเสือเหนือ จนเจอพิรุธว่าเก่งกาจชอบไปฝึกร้องเพลงในศาลที่มีรูปปั้นของการเวกสถิตย์อยู่ แต่พอจะจับให้ได้คาหนังคาเขาก็โดนผีการเวกแกล้งหลอกทุกทีไป เสนาะถึงกับตะลึงไปเมื่อรู้ว่าการเวกยังไม่ไปผุดไปเกิด ทางด้านช่อแก้วก็ไม่อยู่เฉยตามสืบพิรุธของเก่งกาจด้วยอีกคน หาเรื่องใกล้ชิดหลอกล้วงเอาข้อมูล จนลำดวนเข้าใจผิดหึงหวง เพราะลำดวนหลงรักเก่งกาจสุดใจขาดดิ้นก็เลยตามไปขัดขวาง ทำให้เหม่งที่ตามจีบลำดวนมานานได้โอกาสไปคอยกีดกันไม่ให้ลำดวนยุ่งวุ่นวายกับเก่งกาจ ขณะที่เก่งกาจเองก็พยายามสืบเรื่องลูกสาวของการเวกกับเสนาะอย่างไม่ลดละ และเห็นว่าเสนาะมีพิรุธเก็บซ่อนความจริงบางอย่าง เสนาะโกหกว่าการเวกไม่มีลูก แต่เก่งกาจไม่เชื่อยิ่งสืบหนึกขึ้น จนเสนาะประกาศลั่น ว่าห้ามถามถึงเรื่องลูกสาวการเวกอีก! ไม่งั้นจะถูกไล่ออกจากวง เสนาะชักสงสัยทำไมอยู่ ๆ เก่งกาจมันถึงอยากรู้เรื่องลูกสาวของการเวกนัก เรื่องชักชุลมุลเข้าไปใหญ่ เมื่อทางด้านสนั่น สิงหาและโส่ยแปลกใจที่ได้รู้ว่าเก่งกาจ นักร้องของเสนาะช่างร้องเพลงไพเราะเหมือนการเวกไม่ผิดเพี้ยนก็เลยส่งไอ้แก้ว ไอ้ขวัญ เข้าไปเป็นสายสืบไปสืบหาความจริงมาให้ได้ ช่อแก้วปลื้มที่วง เสียงหวานสะท้านไพร เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาจนเป็นขวัญใจชาวภูธร คิวการแสดงยาวเหยียด สิงหาและสนั่นวางแผนกันอยากได้ตัวเก่งกาจและช่อแก้วมาเซ็นสัญญาเพื่อความร่ำรวยของบริษัทก็เลยไปทาบทามอีกครั้งโดยจะแบ่งกำไรให้เสนาะอย่างงาม แต่เสนาะไม่สนใจ ขอเป็นหัวเสือดีกว่าเป็นหางมังกร สนั่นและสิงหาแค้นมากที่เสนาะปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย สนั่นสั่งให้โส่ยและลูกสมุนไปก่อกวนวงดนตรีตลอด ทั้งใส่ร้ายต่าง ๆ นา ๆ แอบตัดไฟบ้าง ขโมยเครื่องดนตรีบ้าง หนักข้อเข้าแอบลักพาตัวนักร้องและหางเครื่องไปซ่อนอีก เฮ้อ!!! เรียกว่าทำทุกวิถีทางให้วงเปิดการแสดงไม่ได้ แต่ทางด้านเสนาะ เก่งกาจ และช่อแก้วก็ช่วยกันต้านไว้อย่างสุดกำลัง ในระหว่างความยากลำบากที่ต้องเผชิญก็ยิ่งทำให้ช่อแก้วกับเก่งกาจรักกันมากขึ้น แต่ก็เป็นรักที่ต้องซ่อนเร้นเพราะเสนาะหวงช่อแก้วมาก ไม่ยอมให้ช่อแก้วมีคนรักเป็น นักร้อง ยี่เก รถเมล์ ตำรวจเด็ดขาด !!! (เพราะการเวกเคยสั่งเสียไว้ก่อนตาย) ยิ่งวงเสียงหวานสะท้านไพรทำการแสดงมากเท่าไร เก่งกาจก็โด่งดังมากเท่านั้น รู้สึกได้ว่า ช่อแก้วน้อยใจเสนาะมาก ๆ เพราะอยากขึ้นเวทีร้องเพลงเหมือนกันแต่พ่อก็สั่งห้ามตลอด เก่งกาจให้คำมั่นสัญญาว่าสักวันเราต้องได้ร้องเพลงคู่กันเป็นคู่ขวัญลูกทุ่งให้ได้ ความรักของเก่งกาจที่มีต่อช่อแก้วพอกพูนขึ้นทุกวันแต่ก็ต้องเจออุปสรรคศัตรูหัวใจคนสำคัญจากสิงหาที่ไม่ละความพยายาม ยังคงตามจีบช่อแก้วตลอด แถมยังมาในมาดใหม่ เป็นคนแสนดี กลับตัวกลับใจไม่ร้ายเหมือนแต่ก่อน สิงหาคอยมาเตือนให้รับมือว่าสนั่นผู้เป็นพ่อจะกลั่นแกล้งเสนาะอย่างไร ทุกคนก็เลยรับมือได้ทัน จนเสนาะก็ไว้ใจสิงหาและเปิดโอกาสให้ได้สนิทสนมกับช่อแก้วบ้าง แถมเสนาะยังไฟเขียวให้เก่งกาจปลูกต้นรักกับลำดวน จะได้กลายเป็นนักร้องคู่ขวัญทั้งในชีวิตจริงและบนเวที ต่อมาเสนาะคิดการใหญ่เห็นว่าแฟนเพลงเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็อยากจะร่ำรวยเพื่อให้ทุกคนในวงอยู่สบาย จะได้ไม่ถูกค่ายเทปของสิงหาดูดตัวไป เสนาะอยากให้วงเสียงหวานสะท้านไพรกลับมาโด่งดังทะลุฟ้าเหมือนในอดีตอีกครั้ง เสนาะไปกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยมหาโหดมาสร้างวงจนใหญ่โต ช่อแก้ว สายพิณ เก่งกาจ และทุกคนคัดค้านแล้วแต่เสนาะก็ไม่ฟัง จนในที่สุดวงก็เจ๊งไม่เป็นท่าขาดทุนย่อยยับ เพราะการเวกไม่สามารถเข้าสิงเก่งกาจได้ เพราะบุญที่สั่งสมมาไม่พอเนื่องจากในอดีตไม่ค่อยทำบุญ แถมยังเจ้าชู้ และไม่รับผิดชอบลูกเมีย หลงระเริงกับความสุขและชื่อเสียงเงินทอง กรรมดีไม่ค่อยได้ทำก็เลย ไม่มีอิทธิฤทธิ์อีกแล้ว เก่งกาจกลับมาร้องเพลงห่วยแตกอีกครั้ง ไม่สามารถทำการแสดงได้ ส่งผลให้ทุกคนต้องอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ เก่งกาจพยายามหัดร้องเพลงอย่างจริงจังอีกครั้งแต่ก็ยังไม่สำเร็จ ให้การเวกสอนร้องเพลงเท่าไรเก่งกาจก็ร้องไม่ได้ เฮ้อ! จนการเวกส่ายหัวฟันธงแล้วฟันอีกว่าเก่งกาจไม่มีทางเป็นนักร้องได้ถ้าเขาไม่เข้าสิง เก่งกาจและช่อแก้วกลุ้มใจมากที่เห็นเสนาะต้องไปรับจ้างทำงานงก ๆ มาเลี้ยงลูกวง แถมยังต้องหนีพวกทวงหนี้ที่จะมารุมยำสหบาทาถ้าหาเงินทบต้นทบดอกสิบล้าน มาคืนไม่ได้ สิงหาอยากจะล้างหนี้ให้แต่เสนาะก็ไม่รับความช่วยเหลือ เพราะกลัวว่าจะเป็นบุญคุณต่อกัน และอาจเสียช่อแก้วให้กับค่ายเพลงได้ สายพิณให้เสนาะทบทวนว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องให้ช่อแก้วร้องเพลงเพื่อกอบกู้วิกฤตของวง เสนาะคิดหนักแล้วในที่สุดก็จะให้ช่อแก้วร้องเพลง ช่อแก้วดีใจมาก ๆ แต่แล้วเก่งกาจก็สืบรู้ในที่สุดว่าแท้จริงแล้วช่อแก้วคือลูกของเขานั่นเอง การเวกก็เลยไปหลอกผีเสนาะทุกครั้งที่เสนาะคิดจะให้ช่อแก้วร้องเพลง จนเสนาะกลัวตัวสั่นต้องสาบานอีกครั้งว่าจะไม่ให้ช่อแก้วร้องเพลงเด็ดขาด ทางด้านสิงหาและสนั่นรู้ว่าที่เก่งกาจร้องเพลงไพเราะก็เพราะผีการเวกสิงร่างและช่วยร้องเพลง ก็เลยไปหา อาจารย์คง หมอผีชื่อดังมาปราบ และในที่สุดการเวกก็โดนจับถ่วงหม้อจนได้ แต่แล้วการเวกก็โชคดีที่หลุดออกมาจากหม้อได้เพราะชาวประมงดันไปเปิดยันต์ที่สะกดวิญญาณไว้ วิญญาณของการเวกจึงเป็นอิสระ ส่วนอาจารย์คง ก็ยังคงตามล่าการเวกต่อไป… เก่งกาจ ช่อแก้ว และสมาชิกในวงอยากช่วยเสนาะ เก่งกาจ สายพิณ เหม่ง ก็เลยแอบพาช่อแก้วไปเป็นนักร้องรับจ้าง โดยที่จะต้องห้ามไม่ให้การเวกรับรู้ ช่อแก้วปฏิเสธเพราะกลัวเสนาะ เสนาะเคยห้ามไว้เด็ดขาด แต่เก่งกาจทั้งรักและหวังดีต่อช่อแก้ว ไม่อยากให้ช่อแก้วละทิ้งความฝันแถมยังเป็นฝันที่ช่วยเหลือพ่อได้ การที่เก่งกาจตัดสินใจพาช่อแก้วปลอมตัวแอบพ่อไปเป็นนักร้อง จนเริ่มมีเงินมาจุนเจือวงและจ่ายหนี้ให้เสนาะได้บ้าง ทำให้เสนาะสงสัยว่าช่อแก้วหาเงินมาจากไหนก็เลยแอบตามสืบแล้วก็ต้องช็อกเพราะเห็น ช่อแก้วร้องเพลงอย่างมีความสุขสุดยอดบนเวที… เสนาะลากช่อแก้วลงเวทีทันทีแล้วออกคำสั่งว่าอย่าให้มีครั้งที่สอง "แกจะร้องเพลงไม่ได้เพราะฉันรับปากพ่อแกไว้" คำนี้สร้างความสงสัยให้ช่อแก้วมาก หมายความว่ายังไง??? เสนาะแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ เอาตัวรอดไปได้จนทุกคนหายสงสัย แต่ช่อแก้วยังเป็นคนเดียวที่ยังค้างคาใจอยู่… สิงหาแอบสืบจนรู้ความลับจากเสนาะว่า ช่อแก้ว ไม่ใช่ลูกของเสนาะแต่เป็นลูกสาวคนเดียวของการเวก!!! และสิงหาก็ไปเสาะหาหลักฐานจนชี้ชัดว่าช่อแก้วคือลูกสาวของการเวกจริง ๆ สิงหาและสนั่นถือโอกาสใช้นาทีทองนี้ แย่งตัวช่อแก้วมาอยู่ในสังกัดค่ายเทปของตัวเอง และช่วงที่เก่งกาจเผลอสิงหาแอบไปติดต่อลับ ๆ กับช่อแก้วให้ไปเป็นนักร้องออกอัลบั้ม บิ๊วท์ต่าง ๆ นา ๆ ว่าเสนาะไม่เห็นความสำคัญของช่อแก้วไม่ยอมผลักดันให้ไปสู่ดาว จนช่อแก้วเคลิ้มไปกับความจริงใจของสิงหาก็เลยตกปากรับคำที่จะไปเป็นนักร้องในสังกัด แต่เก่งกาจก็มาทันได้รับรู้เข้าพอดี เก่งกาจพยายามคัดค้านช่อแก้ว แต่ช่อแก้วไม่ฟังและหาว่าเก่งกาจก็เป็นอีกคนที่ไม่รักและหวังดีกับเธอจริง ๆ เก่งกาจช้ำใจมาก ช่อแก้วหนีออกจากวงไปโดยไม่ร่ำลาใคร และเสนาะก็ต้อง ช็อกเมื่อรู้ว่า สนั่นและสิงหาเปิดตัวช่อแก้วนักร้องลูกทุ่งสาวคนใหม่ แถมออกสื่อว่าเป็นทายาทคนเดียวของ การเวก เสียงหวาน! ช่อแก้วตะลึงเมื่อความจริงเปิดเผยว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเสนาะ ทางด้านเสนาะแทบจะไม่เผาผีกับช่อแก้วเลย ผิดหวังมากที่อุตส่าห์เลี้ยงมากับมือแต่หักหลังทิ้งกันไปแบบนี้ สายพิณพยายามให้ช่อแก้วกับเสนาะหาทางปรับความเข้าใจและเคลียร์ใจกัน แต่ก็ไม่สำเร็จ เสนาะ เก่งกาจ การเวก และทุกคนไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่ช่อแก้วเข้าไปเป็นนักร้องในสังกัดของสนั่นเพราะช่อแก้วต้องการหาเงินมาเพื่อช่วยปลดหนี้ให้เสนาะนั่นเอง แต่ทว่าช่อแก้วเสียรู้โดนหลอกให้เซ็นสัญญาอย่างแยบยล นอกจากส่วนแบ่งทางการตลาดจากการขายเพลงที่ได้น้อยนิดแล้ว ยังเป็นสัญญาทาสไม่สามารถไปร้องเพลงที่ไหนได้อีกเลย… ทางด้านการเวกเองก็ห่วงแสนห่วงหาทางไปเอาตัวช่อแก้วกลับคืนมา แต่ก็ยากแสนสาหัสเพราะต้องหนีหมอผีที่คอยตามจับตัว แถมโส่ยอาสาเก็บกักตัวช่อแก้วไว้ยิ่งกว่าอยู่ในค่ายนรก แต่แล้วด้วยหัวใจที่รักยิ่งของการเวกและและความพยายามเก่งกาจ ทั้งสองก็เจอช่อแก้วในที่สุด และชวนหนีกลับมาก่อร่างสร้างวงด้วยกันอีกครั้ง ช่อแก้วตัดสินใจจะกลับเข้าวงของเสนาะ แต่สนั่นรู้ทันโยนความผิดให้เสนาะว่ามันคือคนที่วางแผนฆ่าพ่อการเวกและแม่มุกดาของช่อแก้ว ช่อแก้วหลงเชื่อและโกรธมากจะไม่หวนกลับไปอีกเลย สิงหาได้โอกาสดูแลใจช่อแก้ว จนเก่งกาจหวิวหัวใจกลัวเสียคนที่รักไป แม้แต่การเวกและเก่งกาจรวมถึงทุกคนในวงก็หลงเชื่อว่าเสนาะวางแผนฆ่าการเวกเพื่อฮุบวงเอง และในขณะที่วงดนตรีลูกทุ่งเสียงหวานสะท้านไพรกำลังลำบาก เสนาะแทบไม่มีหัวใจทำวงต่อ สนั่นต้องการทำให้วงพินาศก็เลยส่งโส่ยตัวแทนไปเจรจากับเก่งกาจเพื่อให้เก่งกาจเข้าไปเป็นนักร้องในสังกัดอีกคน วงของเสนาะจะได้ล่มจมตลอดกาล และก็จะทำลายชื่อเสียงของการเวกน้อยให้จบสิ้นเสียที แต่สุดท้ายทุกคนก็ได้รู้ความจริงว่าเสนาะบริสุทธิ์ไม่มีส่วนในการตายของการเวก แถมยังรักการเวกและช่อแก้วขนาดยอมตายแทนได้! เสนาะไม่ยอมแพ้เกิดฮึดจะพยายามสร้างวงขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทว่าเก่งกาจกลับขอออกจากวง และรับข้อเสนอไปเป็นนักร้องสังกัดค่ายเทปของสิงหา ทุกคนช็อกไม่คิดว่าเก่งกาจจะเห็นแก่ตัวขนาดนี้ แต่แท้จริงแล้วเป็นแผนของเก่งกาจและการเวกเพื่อหาทางเอาช่อแก้วคนรักกลับคืนเพื่อมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง การเวกพยามเข้าไปค้นหาสัญญาทาศมาทำลายทิ้งแต่ก็ยังไม่รู้ว่าสนั่นและสิงหาเก็บไว้ที่ไหน ในขณะที่สิงหาเห็นถึงความรักระหว่างเก่งกาจและช่อแก้วที่เริ่มจะกลับมาเหมือนเดิม สิงหาก็เลยคิดจะทำลายหัวใจเก่งกาจด้วยการหลอกเก่งกาจว่าจะให้ออกคอนเสิร์ตพร้อมทำอัลบั้มคู่กับช่อแก้ว และสิงหารู้มาว่าเก่งกาจมีพรสวรรค์ในการแต่งคำกลอนและเนื้อร้องเพลงได้ไพเราะจับใจที่สุด ก็เลยเสนอข้อตกลงให้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นเพลงที่เก่งกาจแต่งขึ้นมาเอง เก่งกาจหลงกลและแต่งเพลงรักจากหัวใจขึ้นมาจนสำเร็จ แต่สิงหาก็หักหลังจะนำไปร้องคู่กับช่อแก้วซะเองเพื่อขยี้หัวใจของเก่งกาจให้ละเอียดและจะขอช่อแก้วแต่งงานบนเวีคอนเสิร์ต แต่ทว่าการเวกล่วงรู้แผนทันก็เลยเตือนเก่งกาจ เก่งกาจพาเหม่ง เสือเหนือ ลำดวน บัวตอง บัวตูมช่วยกันกีดกันจับตัวยับยั้งไม่ให้สิงหาขึ้นเวทีคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ของขุนพลเพลงลูกทุ่ง และคนที่ต้องขึ้นไปร้องเพลงคู่กับช่อแก้วก็คือเก่งกาจนั่นเอง การเวกเข้าสิงเก่งกาจได้อีกครั้ง และเป็นบทเพลงของสองพ่อลูกที่ออกมาไพเราะจับใจ ช่อแก้วหายสงสัยแล้วว่าทำไมตลอดเวลาถึงรู้สึกว่ามีใครบางคนอยู่ในร่างของเก่งกาจ การเวกได้บอกรักช่อแก้วและขอโทษที่เคยทำตัวไม่ดีทอดทิ้งช่อแก้วและแม่มาตลอด การเวกบอกว่าคนที่จะดูแลช่อแก้วแทนเขาก็คือเก่งกาจและเสนาะ การเวกบอกว่าเสนาะไม่มีส่วนในการตายของเขา และเสนาะรักช่อแก้วมากจริง ๆ ช่อแก้วขออนุญาตการเวกว่าขอเป็นนักร้องตามรอยพ่อ จนการเวกยอมและอวยพรให้ช่อแก้วเป็นราชินีลูกทุ่งคนต่อไป ต่อมาการเวกและเก่งกาจเจอสัญญาทาสและข้อมูลที่สนั่นหลอกลวงช่อแก้วมาเซ็นสัญญาก็นำมาเป็นหลักฐาน นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจนช่อ แก้วกลายเป็นไท สิงหาและสนั่นแค้นมาก จำต้องยอมปล่อยให้ ช่อแก้วกลับเข้าวงลูกทุ่งตามเดิม สิงหาเครียดที่สูญเสียช่อแก้วให้กับเก่งกาจ ทำให้ค่ายเพลงที่ขาดทุนอยู่ก็ยิ่งย่อยยับมากกว่าเดิมเพราะขาดนักร้องตัวทำเงินของบริษัท แถมยังกู้หนี้สินมากมายจนต้องขายทรัพย์สมบัติทั้งหมดเพื่อล้างหนี้แถมยังถูกฟ้องล้มละลายและสองพ่อลูกต้องอยู่อย่างขัดสนจากเศรษฐีกลายเป็นยาจก สนั่นโทษว่าเป็นความผิดของเสนาะ ส่วนสิงหาแค้นเก่งกาจมาก ๆ ที่ทำลายหัวใจของเขาจนเขาต้องสิ้นเนื้อประดาตัว โส่ยเห็นว่าอยู่กับสนั่นแล้วลำบากก็เลยทิ้งสนั่นไป แล้วเข้าสู่วงการพนันเหมือนเดิม โส่ยไปพลาดท่าเล่นพนันจนหมดตัวต้องหนีมาเฟียทวงหนี้อย่างหัวซุกหัวซุนจนถูกจับตัวได้ในที่สุด และในวินาทีที่โส่ยกำลังจะโดนฆ่าล้างหนี้ เสนาะเมื่อรู้เข้าก็อดใจอ่อนไม่ได้ เสนาะ (ที่เคยมีบุญคุณกับเจ้าหนี้ของโส่ย)ได้ช่วยเคลียร์หนี้ให้ส่วนหนึ่งและขอร้องให้มาเฟียไว้ชีวิต จนโส่ยรอดตายในที่สุด และสายพิณก็ทำให้โส่ยได้รับรู้ความจริงที่เก็บงำมาทั้งชีวิตว่าเสนาะรักและปารถนาดีกับโส่ยมาตลอด คอยตามแก้ปัญหาทุกอย่างที่โส่ยก่อเรื่องไว้ และที่กีดกันความรักและยังไม่ให้โอกาสเป็นนักร้องก็เพราะอยากให้โส่ยปรับปรุงนิสัยตัวเองให้ดีก่อน ที่สำคัญแรกเริ่มเดิมทีเพลงเสียงครวญจากหัวใจ เสนาะก็ตั้งใจแต่งขึ้นให้โส่ยด้วยซ้ำไป แต่เป็น โส่ยเองที่เข้าใจผิดเจ้าคิดเจ้าแค้นไปเอง แล้วความแค้นของโส่ยก็จบสิ้นและยอมรับความพ่ายแพ้พลันที่ความจริงทุกอย่างเปิดเผย… เสนาะและโส่ยกลับมาเป็นเพื่อนรักกันอีกครั้ง โส่ยสัญญาจะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น และอยากชดใช้ความผิดแต่ก็ยังไม่มีโอกาส สนั่นสะสมความแค้นที่มีต่อเสนาะมานานก็เลยลวงเสนาะมาเพื่อจะฆ่าทิ้งโดยที่การเวกพยายามเตือนแต่ก็สื่อสารกับเสนาะไม่ได้เพราะพลังแทบไม่เหลือแล้ว แต่โส่ยรู้แผนชั่วนี้เข้าก็เลยไปห้ามและเอาตัวบังกระสุนแทนเสนาะเพื่อชดใช้ความผิดของตน ดีที่ไม่ถึงตาย และความลับที่สนั่นปิดบังมานานว่าแค้นแสนแค้นเสนาะก็เปิดเผย สนั่นกับเสนาะเคยแข่งขันประกวดร้องเพลง สนั่นอยากได้เงินรางวัลนี้มากเพราะจะนำไปรักษาแม่ที่ป่วยหนัก แต่แล้วสนั่นก็แพ้เสนาะจนไม่ได้เงินรางวัล และเป็นสาเหตุให้แม่ของเขาต้องตาย แต่สนั่นก็หารู้ไม่ว่า เสนาะได้นำเงินทั้งหมดไปรักษาชีวิตแม่ของสนั่นแต่ก็ช่วยชีวิตไว้ไม่ทัน เมื่อสนั่นรู้ความจริงก็อึ้งไป และบอกทุกคนให้รีบช่วยกันไปห้ามสิงหา เพราะตอนนี้สิงหาก็กำลังจะไปล้างแค้นเก่งกาจ แม้สนั่นจะยอมแพ้และเลิกอาฆาตแค้นแล้วแต่สิงหากลับแค้นยิ่งกว่าพ่อ เพราะเก่งกาจแย่งความรักและทุกสิ่งทุกอย่างไปจากตน ก็เลยวางแผนฆ่าเก่งกาจ แต่เก่งกาจรอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของช่อแก้ว และสิงหาก็ต้องรับกรรมเข้าคุกไปตามระเบียบ ลำดวนยอมแพ้ให้กับความรักมั่นคงของเก่งกาจและช่อแก้ว และแพ้ใจให้กับเหม่งที่รักเธอมาตลอดไม่ว่าเธอจะดีหรือร้าย ก็เลยเปิดใจคบหากันในที่สุด ช่อแก้วและเสนาะปรับความเข้าใจกลับมาเป็นพ่อลูกกันอีกครั้ง แต่เสนาะตรวจพบเป็นโรคหัวใจไม่สามารถทำงานหนักได้อีก ก็เลยมอบหมายให้ช่อแก้วและเก่งกาจรับช่วงต่อ การเวกเมื่อหมดห่วงและเห็นว่าเก่งกาจรักและดูแลช่อแก้วได้ก็จากโลกนี้ไปด้วยใจที่เป็นสุข วงดนตรีลูกทุ่งเสียงหวานสะท้านไพร เปิดตัวนักร้องคนใหม่อย่างเป็นทางการซึ่งก็คือ ช่อแก้ว เสียงหวาน นั่นเอง แล้วเธอก็ได้กลายเป็นหนึ่งในขุนพลเพลงลูกทุ่งผู้สืบสานตำนานเพลงลูกทุ่งให้อบอวลและคงอยู่ในหัวใจคนไทยตลอดไป เก่งกาจเมื่อไร้การเวกเข้าสิงก็ไม่สามารถร้องเพลงให้ไพเราะได้ไม่ว่าจะพยายามมากมายเพียงใด เขายอมรับความจริงว่าเป็นนักร้องไม่ได้ แล้วมุ่งมั่นใช้ความสามารถในการแต่งเพลงฝากไว้ในแผ่นดินต่อไป แม้จะไม่ยืนมือถือไมค์ไฟไม่ส่องหน้า แต่เก่งกาจก็อยู่เบื้องหลังอย่างหนักแน่นช่วยสร้างสรรค์บทเพลงให้ช่อแก้วและเป็นกำลังใจให้กันด้วยความรักแท้ที่มั่นคงตราบนานเท่านาน ติดตามชม ละครมนต์รักเพลงผีบอก
หวานใจนายจิตระเบิด 2558

เรื่องย่อ : หวานใจนายจิตระเบิด (2558/2015) 3 สาว 3 แบบ แสบคนละสไตล์ แสบหนึ่ง เซลล์เกิร์ล สวยแสบ จอมกะล่อน แสบสอง อาจารย์สาวทรงเสน่ห์ สุขุมนุ่มลึก และแสบที่สาม นางแบบไฮโซ สุดเซ็กซี่ กับกลยุทธพิชิตใจสาวเหล่านี้ของมาเฟียหนุ่ม ที่มีพรสวรรค์สามารถได้ยินความคิดของผู้หญิงได้นี่สิ เรื่องราวจึงอลวนอลเวง นัวเนียไปกับมุกเด็ด ๆ ที่จัดมาให้ฮากันอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีตบตี ไม่มีด่าทอ มาลุ้นกันว่ ใครจะเป็นคนที่เขาเลือก? ธนา ทายาทคนเดียวของกุ่ย ราชวงศ์ มาเฟียหนุ่มรุ่นสุดท้ายที่จะต้องสืบทอดกิจการของตระกูลต่อไป อย่างที่รู้กันดีว่านี่มันหมดยุคมาเฟียไปตั้ง 3-40 ปีแล้วจะต้องมาสืบทอดหาพระแสงอะไร นี่ก็เป็นความคิดที่ตรงกันของ ชาลี ผู้เป็นอา ที่กำลังจะส่งต่ออำนาจให้หลาน เขาคิดจะมุ่งเข็มชีวิตสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการลงสมัคร สส. เพราะต้องการที่จะลงหลังเสือแบบมีอำนาจที่ถูกกฎหมายรองรับ เพื่อปลอดภัยจากมาเฟียคู่ปรับ คือแก๊งท่าน้ำดูเม็กซ์มาเฟีย ที่ชื่อ พงษ์พิพัฒน์ แซ่จึง หรือที่ชาลีชอบเรียกเขาว่า ไอ้เสียม ทั้งสองฝ่ายเป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอด เสียมต้องการช่วงชิงความเป็นหนึ่ง กระทั่งวันหนึ่ง ชาลี ได้ยกพวกไปเคลียร์กับเสียม แต่เคลียร์กันไม่ลงตัวจึงเกิดการตะลุมบอนกัน และในช่วงนี่เองที่ธนาได้พบกับวิรงรอง แต่มันเป็นการพบกันแบบไม่มีความประทับใจเลยเพราะว่าธนา ไปทำสินค้าที่วิรงรองเอามาจัดแสดงพังหมด หลังจากนั้นธนาก็ขับรถไปช่วยแต่ก็ต้องพบกับอุบัติเหตุ รถคว่ำ โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไรเลยนอกจาก รถพังยับและความจำเสื่อม (นี่หรือวะโชคดี) ชาลีแทบจะคลั่งที่หลานชายสุดที่รักของเขากลายมาเป็นแบบนี้ ซึ่งนอกจากจะจำเขาไม่ได้แล้ว ยังมาเรียกเขาว่าหมีแพนด้าอีก เขาจึงตัดสินใจเสี่ยงที่จะรักษาด้วยการใช้คลื่นไฟฟ้าช๊อตสมองธนา การรักษาเป็นไปอย่างระมัดระวังและในที่สุดธนาก็หายเกินปกติ (หมายความว่ามันมีสิ่งที่เกินออกมา) เช้าวันรุ่งขึ้นธนาก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้งท่ามกลางความดีใจของชาลี แต่มันมีสิ่งผิดปกติเกิดกับเขานั่นคือ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนจะคิดอะไร เขาจะได้ยินหมด ในตอนแรกเขารู้สึกรำคาญแต่ไม่นานนัก เขาก็ชิน และถ้าไม่อยากได้ยินใครคิดก็อุดหูซะ สาเหตุมาจากการใช้คลื่นไฟฟ้าช็อตสมองมากไปนั่นเอง เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกให้ใครรู้นอกจากหมอที่รักษาเขาเท่านั้น ธนาเป็นมาเฟียที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมชั้นสูง เขาได้มาดูเดินแบบแฟชั่นการกุศลและได้พบกับรันย่า นางแบบอาชีพที่มาร่วมเดินด้วย รันย่าเกิดหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ ธนาเองก็ถูกใจรันย่าเหมือนกันแต่ติด ที่นิสัยบางอย่าง เช่น ความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นต้น แต่ธนาก็ลองคบไปก็ไม่น่าจะเสียหาย ทั้ง ๆ ที่ นล นักแสดงและนายแบบหนุ่มก็กำลังเป็นแฟนกับรันย่าอยู่ กำลังจะหมั้นกันในไม่ช้า และมักมีข่าวซุบซิบทาง หนังสือพิมพ์และทีวีเสมอ แต่รันย่าก็ไม่สนใจกับกระแสเหล่านี้อีกทั้งรันย่าคิดว่าเธอก็มีสิทธิ์เลือก นี่เป็นข้อดีของเธอที่นลชอบ แต่ที่คาใจธนาอยู่ก็คือ ธนาไม่ได้ยินเสียงคิดของรันย่า จนธนารู้สึกว่าตัวเองผิดปกติถึง ขนาดต้องไปปรึกษาจิตแพทย์เลยทีเดียว ชาลีตั้งใจว่าจะต้องสืบทอดตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียให้ธนาต่อไป ส่วนตัวเองคิดอยากทำสิ่งที่ชอบคือ การช่วยเหลือผู้อื่นแต่เป็นมาเฟียมันก็ช่วยได้ระดับหนึ่งแต่ถ้าเป็นตัวแทนประชาชนล่ะ เขาจึงเบนเข็มสู่วงการการเมืองด้วยการลงสมัคร สส. แต่มันมีกฎหมายบังคับไว้ว่าต้องจบปริญญาตรี ชาลีจึงต้องไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย โดยมีธนาเป็นผู้ปกครองและคนคอยรับส่ง รวมถึงต้องคอยเอาอาหารกลางวันไปส่งด้วย (อย่างกับเด็กอนุบาล) และปกปิดเรื่องการเป็นมาเฟียเอาไว้เพื่อป้องกันคนแตกตื่น ที่มหาวิทยาลัย ธนาได้พบกับภารดี อาจารย์สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ แล้วนึกชอบ เขาอาศัยว่าเขาได้ยินความคิดของเธอจึงรู้ใจไปเสียทุกอย่างเขาจึงตีสนิทและสร้างความสนิทสนมกับเธอได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงกลายเป็นเพื่อนรู้ใจในเวลาต่อมา คนสวยก็ย่อมเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มเป็นธรรมดา โดยเฉพาะชาลีที่หลงรักภารดีตั้งแต่แรกพบ แต่ด้วยบุคลิกที่เป็นอาจารย์ทุกตารางนิ้วจึงไม่มีใครอยากจะมาพัวพันด้วย แม้ว่าภารดีจะเคร่งเครียดและดุไปหน่อยตามประสาอาจารย์แต่ธนาก็พอใจที่จะคบ และพยายามหาโอกาสบอกความจริงกับชาลีว่าภารดีไม่ได้ชอบชาลีเลย สำหรับวิรงรองแล้ว การขายของและการพบลูกค้าเป็นอาชีพและหน้าที่ที่จะต้องทำทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น เธออาศัยอยู่บ้านหลังเก่า ๆ ที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิตกับน้องสาวชื่อกรองแก้ว ซึ่งนอกจากจะทิ้งบ้านเอาไว้ให้แล้วยังทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้อีกด้วย วิรงรองเอาของไปเสนอขายที่บ้านธนา แต่มีพวกลูกน้องกันไว้ วิรงรองไม่ยอมแพ้จึงใช้ความกะล่อน และ 18 มงกุฎจนลูกน้องหัวปั่นแล้วยอมให้ไปขายของ ธนากับวิรงรองได้พบกัน วิรงรองไม่ค่อยสนธนาเท่าไรเพราะดูภายนอก ธนาก็เหมือนตี๋ฮ่องกงทั่ว ๆ ไป และที่สำคัญ เธอคิดว่าเขาไม่รวย วิรงรองมักใช้ความกะล่อนหลอกผู้ชายไปเรื่อย แต่สำหรับธนาเธอใช้ไม่ได้ผล เพราะเขาได้ยินทุกอย่างที่เธอคิดจะทำกับเขา ทำให้วิรงรองตกหลุมรักธนาทันที มีแก๊งรุ่นพี่ปี 4 ชื่อ แจ๊ค ที่มหาวิทยาลัย ที่ชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ มักจะมาล้อและรังแกชาลี ชาลีพยายามอดกลั้นและอดทน เขาพยายามไม่ยุ่งกับใครและไม่มีเพื่อน แต่กรองแก้วที่มาเรียนที่นี่เหมือนกันก็ มาเป็นเพื่อนกับชาลี นอกจากนี้ยังมีรุ่นพี่ที่ชื่อโจอี้ ที่เป็นคนเงียบขรึม คอยช่วยดูแลแบบห่าง ๆ ซึ่งจะว่าไปแล้ว โจอี้ก็รู้สึกชอบกรองแก้วเหมือนกันแต่เก็บไว้ในใจ ตอนกลางวันธนาจึงมีหน้าที่เอาอาหารมาส่งเหมือนเด็กอนุบาล นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ชาลีโดนล้อ ภารดีมาพบเข้าจึงเห็นใจและปกป้องชาลี เขาจึงนึกชอบภารดี จนวันหนึ่งความอดทนอดกลั้นหมดลง ชาลีจึงมีเรื่องกับแจ๊ค จนมีการทำทัณฑ์บนและเรียกผู้ปกครองมาพบชาลีพาธนามา ภารดีตกใจมากที่ผู้ปกครองของชาลีเด็กกว่า และเป็นหลานอีกต่างหาก ชาลีบอกว่าเขามีกันสองคนอยู่บ้านเขาเป็นผู้ปกครอง ธนา แต่เวลาอยู่โรงเรียนธนาเป็นผู้ปกครองเขา วิรงรองพยายามเข้าหาธนาแต่ธนาก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไรเธอจึงใช้วิธีผ่านชาลีโดยการนำของมาขาย ให้ชาลีบ้าง ใช้วิธีตีสนิทอย่างอื่น ๆ บ้าง จนชาลีรู้สึกเอ็นดู แม้แต่ในวงการนางแบบ วิรงรองก็สอดแทรกเข้าไปได้อย่างกลมกลืน ด้วยการนำเอาสินค้าประเภท สวย ๆ งาม ๆ ส่งเสริมหุ่นให้สวยตลอดเวลา ฯลฯ จนรันย่ากลายเป็นลูกค้าชั้นดีของเธอภายในเวลาอันรวดเร็ว สำหรับเรื่องรัก....วิรงรองก็มีคนมาจีบเหมือนกัน แต่เป็นลักษณะเพื่อนมากกว่า เขาผู้นั้นชื่อเพชร เจ้าของมหาวิทยาลัยที่ภารดีสอนอยู่ เพชรเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุด ขนาดกรองแก้วน้องสาวของวิรงรอง ยังสนับสนุนเลย แต่ในใจวิรงรองคิดกับเพชรแค่เพื่อน ทางด้านวงการมาเฟียเสียมคิดการใหญ่ที่คิดจะฮุบวงการมาเฟียทั้งหมดให้เป็นของแก๊งตัวเอง เขาพยายามมาเจรจากับชาลี แต่ชาลีปฎิเสธ และบอกให้เลิกกิจการไปเลย เสียมไม่พอใจคิดว่าชาลีอยากจะ ควบรวมกิจการไว้คนเดียว จึงหาเรื่องส่งพวกมากวนบ่อย ๆ หนัก ๆ เข้าก็ต้องมีต่อยตีกัน เดือดร้อนตำรวจต้องมาเคลียร์ทุกครั้งไป แต่งานหลังมันใหญ่มาก จนต้องโอนคดีไปที่ดีเอสไอ เพราะมีรัฐมนตรีจีนคนหนึ่งเดิน ทางมาแล้วถูกดักทำร้าย ดีที่บังเอิญธนาช่วยเอาไว้ได้ เพราะการได้ยินเสียงผู้หญิงคิดนั่นเอง แต่ไม่มีใครเชื่อ คิดว่าธนาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่สอบสวนแล้วไม่มีหลักฐานเขาจึงรอด ดีเอสไอจึงส่ง สมิธ นักสืบมือดีมาติดตามคดีนี้ ไอ้หมอนี่เกลียดมาเฟียเข้าไส้อยู่แล้วจึงกัดไม่ปล่อย.. นอกจากนี้ยังมาพัวพันเรื่องความรักสามเส้าของธนาอย่างชุลมุลไปหมด สมิธเป็นนักสืบที่เก่งหล่อและคม จบหลักสูตร FBI จากอเมริกา แต่เป็นคนประเภทรักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน จนวันหนึ่งเบื้องบนได้ส่งคู่หูมาให้เขาช่วยทำคดีนี้ แองจี้ คือชื่อของหล่อน หล่อนเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนตำรวจ แองจี้จึงเรียกสมิธว่ารุ่นพี่ แองจี้เป็นคนติ๊งต๊องทำอะไรเป็นพลาดไปหมด แต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องกลับทำสำเร็จทุกครั้ง เวลาทำอะไรพยายามจะให้รอบคอบ ทุกครั้งที่ซื้อของต้องขอใบเสร็จ ร้านข้าวแกงข้างทางก็ยังขอ นัยว่าเคยจับคนร้ายแล้วพลาดไปทำข้าวของเขาเสียหาย จึงมีบิลมาแจ้งเก็บเป็นหางว่าว เธอหลงรักสมิธ แต่สมิธไม่ค่อยเล่นด้วย แต่บางครั้งเธอก็ทำให้ชีวิตสมิธสดชื่นขึ้นจนสมิธรู้สึก เหตุที่แองจี้ทำงานพลาดบ่อย ๆ เพราะว่าทุกครั้งที่จะสาวเรื่องสำคัญของธนา ธนาจะได้ยินความคิดของแองจี้ทุกครั้ง และรู้ว่าแองจี้แอบรัก สมิธ ธนา จึงมักพูดเป็นนัย ๆ บ่อย ๆ กับสมิธ ชื่อเสียงของมาเฟียทั้งสองฝ่ายเริ่มเสียและเป็นที่จับตามองว่าเกเรและทำให้เสียชื่อประเทศ ทั้งคู่จึงร่วมมือกันชั่วคราวสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำครั้งนี้ ธนากำลังมีความสุขกับสามสาวที่เขาต้องสับราง ไม่ให้ชนกันเพราะเขาได้ยินความคิดของแต่ละคนนั่นเอง ในคราวแรกสามสาวไม่รู้ว่าธนาคบสามคนพร้อมกัน มาภายหลังจึงรู้และพยายามหาทางช่วงชิง ธนามาเป็นแฟนโดยใช้วิธีตามสไตล์ของตัวเอง คนกะล่อนก็ใช้ความกะล่อน คนสวยก็ใช้ความสวย และมารยา ส่วนคนเป็นอาจารย์ก็ใช้ความสุมขุมและความฉลาดบวกวิชาการ แต่คนที่ธนาสนใจที่สุดก็คือ ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยเลิศเลอเพอร์เฟค ที่สำคัญคือ รู้ใจผู้ชายทุกอย่าง นั่นคือ รันย่า และชื่อนี้ทำให้ธนาต้องจดจำไปตลอดชีวิต ทั้งคู่พอใจและคบกันไปพักหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่ทำให้ ธนาไม่เบื่อก็คือเขาต้องค้นหาตัวเธอตลอดเวลาเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาไม่ได้ยินความคิดของเธอ อีกทั้งเธอ เป็นคนใจกว้างทั้งที่รู้ว่ามีผู้หญิงมาพัวพันถึงสองคน จนในที่สุดธนาก็รู้ความจริงว่าทำไมเขาไม่ได้ยินความคิดของรันย่า ทำไมรันย่าถึงเข้าใจผู้ชายทุกอย่าง ก็เพราะเธอเป็นผู้ชาย เคยเป็นมีสทิฟฟานี่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว แล้วย้ายไปอยู่กับครอบครัวที่อเมริกา ในบัตรประชาชนระบุว่าชื่อ นายศักดา นันต๊ะ ทั้งคู่จึงต้อง จบความสัมพันธ์แบบชู้ สาว มาเป็นชู้ทางใจแทนเพราะมันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว แต่ยังเป็นเพื่อนกันได้นี่ จริงไหมศักดา? และคนที่เหมาะสมกับเธอที่สุดก็คือ นล เพราะนลเป็นเกย์ บางทีสิ่งที่อยากได้ยินได้รับรู้เรื่องคนอื่นมันกลับไม่ได้ยิน แต่สิ่งที่ไม่อยากได้ยินได้ฟัง มันกลับได้ยินชัดเจน ชัดพอที่จะทำให้ธนารู้สึกว่าอยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ธนาได้เปรียบผู้หญิงพวกนี้เพราะเขา ได้ยินสิ่งที่พวกเธอคิด แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลับไม่ได้ยินซะอย่างนั้น มันกลายเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับเขาไปซะแล้ว เขาไปปรึกษาหมอแววตา หมอจิตแพทย์ที่รักษาเขา หมอแววตาบอกว่าถ้าทดลองใช้ไฟฟ้าช๊อต อาจจะกลับมา แต่มันกลับมาไม่กี่นาทีแล้วก็หายไป ธนาแก้ไขด้วยการพกเครื่องช๊อตไฟฟ้าติดตัวตลอดเวลา ทำให้เขาสามารถควบคุมการได้ยินความคิดของผู้หญิงได้ วันที่เขาจำเป็นต้องใช้มันช๊อตตัวเองเพื่อที่จะ ได้ยินความคิดของรันย่า แบตเตอรี่เครื่องช๊อตเกิดหมด เขารู้สึกมืดแปดด้านแล้วทำอะไรไม่ถูกต้องปล่อยให้ มันเป็นไปตามธรรมชาติอะไรมันจะซวยขนาดนั้น คราวหลังอย่าลืมพกถ่านอัลคาไลน์ด้วยล่ะตี๋เอ๊ย แต่ในที่สุดธนาก็ได้รับการรักษาจนหาย เขาไม่ได้ยินเสียงผู้หญิงอีกแล้ว แต่คราวนี้เขากลับได้ยิน เสียงผู้ชายแทน ยุ่งไปกันใหญ่เลย และชาลีก็รู้เรืองนี้ในที่สุด ย้ง เยาวราช คู่แค้นเก่าของพ่อของธนาออกจากคุก และต้องการมาล้างแค้นจึงร่วมมือกับเสียม กวาดล้างแก๊งค์ของธนาและชาลี ทั้งหมดได้ต่อสู้กันจนในที่สุด แก๊งค์ของธนาก็ยังอยู่ แต่มันกำลังจะสลายไป เมื่อชาลีเรียนจบ การที่เป็นคนพิเศษกว่าคนอื่น มันอาจจะได้เปรียบ จนกลายเป็นการเอาเปรียบไป แต่บางครั้งเขาอาจจะไม่รู้ความจริงสักอย่างเลยก็ นั่นก็คือใจของตัวเอง รันย่า ภารดี วิรงรอง ใครกันแน่ที่เขารักจริง ๆ วันหนึ่งธนาก็ได้รับการรักษาจนเป็นเหมือนคนปกติเขาไม่ได้ยินใครคิดอีกแล้ว สิ่งหนึ่งที่เขาค้นพบก็คือ แม้ว่าเขาจะได้ยินเสียงผู้หญิงคิด แต่ไม่มีใครสักคนที่คิดตรงกับปากและการกระทำ มีเพียงคนเดียวเท่า นั้นนั่นคือ วิรงรอง แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงคิดของวิรงรองอีกแล้วแต่เขาก็มั่นใจว่า วิรงรองคือคนที่ใช่สำหรับเขา ส่วนวิรงรองเองก็รู้ว่าเธอรักเขาอยู่เต็มหัวใจ ติดตามชม ละครหวานใจนายจิตระเบิด ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี ละครหวานใจนายจิตระเบิด เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2558

บุษบาท่าเรือ 2558

เรื่องย่อ : บุษบาท่าเรือ (2558/2015) เรื่องราวของเด็กสาวชื่อ ฉายชบา อายุ 17 ปี นัยน์ตาสีน้ำตาล ผิวขาว ปากร้าย สู้คนและไม่กลัวใคร เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายทำให้เธอต้องเป็นสู้คนและเข้มแข็ง ฉายอาศัยอยู่กับ นางโฉม ผู้เป็นแม่วัย 40 กว่าที่ทำอาชีพเป็นนักร้องที่บาร์ใกล้ ๆ ท่าเรือ และ ไอ้โถ นักเลงท่าเรือที่เธอเกลียดชังมาก เพราะมันเป็นแมงดาคอยเกาะแม่ของเธอกินไปวัน ๆ ตั้งแต่ฉายยังเด็กเธอก็อาศัยอยู่ในห้องแถวแคบ ๆ ที่กั้นแบ่งเป็นสองตอนกับโฉมแม่ของเธอเพียงสองคน โดยฉายนั้นนอนอยู่ในครัว และก็เห็นแม่ของเธอทำอาชีพนักร้องที่ท่าเรือนี้มาตลอด ฉายไม่มีพ่อแม้จะเคยถามโฉมผู้เป็นแม่ว่า พ่อเป็นใคร แต่เธอก็ไม่เคยได้รับคำตอบมีเพียงข่าวลือว่า พ่อเธออาจเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมหาศาลเท่านั้น ฉายเรียนจบแค่ชั้นมัธยมปลายก็ออกมาทำงานเป็นแม่ค้าขายปลาสด อยู่ในตลาดปลากับ ป้ายี่สุ่นและแฉะ ที่เธอสนิทสนมกันมาก ฉายเป็นเด็กสาวที่ขยันทำงานหาเงินเพราะเธอตั้งใจว่า จะได้เอาเงินมาเลี้ยงดูโฉมผู้เป็นแม่และจะได้ให้แม่เลิกเป็นนักร้องกลางคืนซักที พร้อมกับเลิกคบไอ้โถแมงดา ที่คอยแต่คิดจะหาโอกาสปล้ำเธออยู่เสมอ จนเธอไม่เคยนอนหลับสนิทซักคืน เพราะต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ฉายทำงานหนัก จนวันหนึ่งเธอไม่ทันระวังเข็นรถขนปลา ไปบนรองเท้าของชายหนุ่มหน้าตาดี อายุเกือบ 30 ปี ชื่อ ทิว เป็นกัปตันเรือขนสินค้าคนใหม่ ซึ่งทิวเมื่อเห็นฉายก็รู้สึกสนใจ จนต้องแอบถาม ต้นเรือสมเวช ว่าฉายเป็นใครเพราะรูปร่างหน้าตาผิวพรรณที่ดีของเธอทำให้เขาเกิดสงสัยนั่นเอง ทิวมาออกเรือเจอฉายจึงเข้าไปพูดคุยหวังผูกไมตรีจิต เพราะรู้สึกเอ็นดูแต่ก็โดนเธอตอกหน้ากลับมาทันทีเช่นกัน ฉายเริ่มทนไม่ไหวกับเรื่องของแม่และไอ้โถ จนออกมาเช่าห้องเช่าของป้ายี่สุ่นอยู่เพียงลำพัง ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรผิดกับไอ้โถที่ไม่ยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หลังจากนั้นไม่นานฉายไม่เห็นโฉมผู้เป็นแม่หลายวันเลยเป็นห่วงไปดูที่ห้องแถวจึงรู้ว่าแม่ของเธอไม่สบาย เมื่อพาไปคลีนิค หมอบอกว่า ให้พาโฉมไปตรวจที่โรงพยาบาลเพราะอาจเป็นมะเร็ง ทำให้ฉายกังวลและกลุ้มใจมาก เรื่องแม่ของเธอที่ไม่ยอมไปหาหมอที่โรงพยาบาลท่าเดียว ขณะที่กัปตันทิวที่เมาจากงานสังสรรค์ ก่อนจะเดินทางไปสิงคโปร์ เดินกลับมาที่ท่าเรือเจอฉายเข้าแล้วเริ่มมั่วคิดว่า เธอเป็นโสเภณีจะจ้างไปนอนด้วย ทิวจึงโดนเธอซัดเข้า เมื่อทิวไปสิงคโปร์ แล้วกลับมาจึงมาหาฉายเพื่อเอาตุ๊กตาที่ซื้อมาให้เธอ ทำให้เธอรู้สึกดีและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่มีคนนึกถึงเธอและให้ความสำคัญ ฉายอารมณ์ดีจนป้ายี่สุ่นสังเกตได้ จึงสอบถามพอรู้เรื่องจึงเตือนให้เธออย่าหลงระเริง ไปกับสิ่งของเพียงเล็กน้อย ซึ่งเธอก็เข้าใจแต่ก็อดไม่ได้ ไม่นานทิวก็เดินเรือไปเทียบท่าเรือที่สิงคโปร์อีก เขาได้พบกับผู้ชายสูงวัยร่างกายสูงใหญ่ หนวดเคราเข้มหนาชื่อ อดัม สมิธ จูเนียร์ เจ้าของบริษัทเดินเรือทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นที่นี้ ทิวพบอดัมที่บาร์ซึ่งเขารู้สึกคุ้นเคยมากเมื่อสบสายตากับคน ๆ นี้ หลังจากพูดคุยกันอย่างถูกคอ ทำให้อดัมชวนทิวให้ไปทำงานด้วย แต่เขากลับบอกขอเวลาคิดเพราะอะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกลังเลกับโอกาสดี ๆ ที่เข้ามาซึ่งอดัมก็บอกว่าจะรอคำตอบ ทางด้านฉายก็กลุ้มใจเรื่องแม่ของเธอไม่สบายเป็นมะเร็ง ต้องได้รับการผ่าตัดด่วนและเรื่องวิธีหาเงินค่ารักษาแม่ จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ซึ่งในระหว่างนั้นพี่ยุทธ์ลูกป้ายี่สุ่นที่เคยสนิทกับฉายในวัยเด็กก็ได้กลับมาจากการทำงานเป็นครูฝึกทหารด้วย เมื่อยุทธ์ทราบว่า แม่ของฉายเข้าโรงพยาบาลก็ไปเยี่ยมส่วนเธอหลังจากไม่ได้ทำงาน เพราะต้องเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล ทำให้เงินเก็บแทบไม่เหลือเธอจึงต้องรีบกลับมาทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียว วันต่อมาหลังจากที่ฉายกลับจากทำงาน ฉายก็ต้องตกใจมาก เมื่อเธอเห็นแม่แวะมาหาเพื่อบอกเธอว่า ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉายพยายามบอกให้แม่กลับไปโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ผลทำให้เธอยิ่งกลุ้มใจ ซึ่งทิวกับพี่ยุทธ์ก็ได้เข้ามาปลอบใจและแสดงความหวังดีกับเธอเป็นอย่างจนเธอรู้สึกราวกับว่า สิ่งที่ขาดหายในหัวใจได้ถูกเติมเต็ม ฉายออกมาทำงานเช่นเคย แต่วันนี้เจอไอ้โถมาก่อกวน แล้วคิดจะใช้กำลังเมื่อโดนเธอด่า แต่ยุทธ์ได้เข้ามาช่วยเธอไว้ทันโดยจับไอ้โถโยนลงน้ำไป ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ไอ้โถโกรธยุทธ์มากที่ทำให้เขาเสียหน้าและยังมาเกาะแกะฉายอีก จนไอ้โถคิดจะกำจัดยุทธ์ถ้ามีโอกาส ส่วนโฉมนั้นกลับมาทำงานเป็นนักร้องตามเดิม แม้ฉายจะขอร้องให้เลิก เธอก็ไม่สนใจและให้เหตุผลเพียงว่า ต้องกินต้องใช้เท่านั้น ยิ่งทำให้ฉายเป็นห่วงแม่มากขึ้น แต่ความจริงแล้วโฉมไม่อยากให้ฉายลำบากที่ต้องหาเงินมารักษาโฉม หลังจากนั้นพี่ยุทธ์มาหาฉายทุกวันคอยเตือนคอยให้กำลังใจด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ซึ่งป้ายี่สุ่นก็เริ่มสังเกตเห็นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จนวันหนึ่งฉายดูหงุดหงิดผิดปกติ ซึ่งพี่ยุทธ์ก็มาหาแล้วชวนไปกินข้าวแต่ถูกปฏิเสธ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม จึงรู้สึกหงุดหงิดหลังจากเห็น ศิรินภา กอดแขนขึ้นรถไปกับทิว หลังจากนั้นไม่นานทิวนั้นก็ได้ไปพบกับอดัมอีกครั้ง แล้วเขาก็ได้รู้ว่าอดัมจะมาเมืองไทยและขอให้เขาช่วยตามหาลูกกับภรรยาให้ซึ่งเขาก็รับปาก อดัมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทิวฟัง ทำให้เขารู้ความจริงว่าฉายเป็นลูกของอดัม ในขณะเดียวกันฉายไม่กลับไปกินข้าวที่บ้านป้ายี่สุ่นกับยุทธ์ซักที จึงทำให้ยุทธ์เป็นห่วงออกมาตามหา จนเจอไอ้โถแล้วมีปากเสียงกันเป็นเหตุให้ไอ้โถฆ่ายุทธ์ตาย นางยี่สุ่นเสียใจมาก จนไม่เป็นอันทำอะไร ส่วนฉายก็รู้สึกผิดมาก ที่เธอเป็นสาเหตุให้ยุทธ์ต้องตาย ฉายจึงคอยดูแลป้ายี่สุ่นอย่างดี และเป็นคนจัดการเรื่องงานศพทั้งหมด ในระหว่างที่ฉายออกมาข้างนอกก็ได้พบกับทิว ทิวเล่าเรื่องอดัมให้ฉายฟัง จนฉายต้องไปถามแม่ว่าจริงหรือไม่ แต่แม่กลับบอกว่าเป็นนิทานหลอกเด็ก ทำให้ฉายเสียใจมาก ทิวจึงกอดปลอบซึ่งทั้งสองไม่รู้เลยว่า ไอ้โถแอบฟังอยู่ แล้วก็เริ่มคิดวางแผนไม่ดีขึ้นทันที หลังจากนั้นโฉมได้มาหาทิวเพื่อบอกว่า อย่ายุ่งกับเรื่องนี้อีก แต่ทิวไม่ยอม โฉมจึงไปหาฉาย เพื่อสั่งห้ามว่า ไม่ให้ยุ่งและคุยกับทิวเรื่องพ่ออีก ซึ่งก็ได้ผลเมื่อทิวมาหาฉายเพราะเป็นห่วง แต่ฉายก็บอกกับทิวว่าเธอไม่ต้องการพ่อแล้ว เธอทำทุกอย่างได้เพื่อแม่แม้ต้องขายชีวิตก็ตาม และบอกให้เขาไม่ต้องมายุ่งกับเธออีก หลังจากนั้นไม่นานโฉมได้เสียชีวิตลง ฉายเสียใจมากซึ่งพอทิวรู้ก็มาปลอบใจ และบอกว่าตอนนี้เธอเหลือแต่พ่อเท่านั้น พร้อมกับบอกว่าเขารักเธอ เขาต้องการให้ผู้หญิงที่เขารักเป็นคนดี เขาถือว่าเขามีสิทธิ์ ถ้าฉายเป็นไปทำงานกลางคืน เขาก็คงรักไม่ได้ ทำให้ฉายเสียใจมากแล้ววิ่งหนีไป ฉายเสียใจมากจนตัดสินใจไปทำงานอย่างที่แม่เคยทำที่ท่าเรือ ทิวรู้เรื่องเลยรีบมาหาทำให้มีปากเสียงกัน ทิวโมโหมากเลยจะซื้อตัวฉายเองทำให้เธอกลัวจนสลบไป ทิวเลยพาฉายไปพักที่บ้านศิรินภา แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังซึ่งเธอก็ยอมจะช่วยเหลือ หลังจากนั้นเขาก็ไปพบอดัม เพื่อบอกเรื่องราวทั้งหมดโดยที่ไม่รู้เลยว่าโถและเหี้ยนได้สะกดรอยตามไป โถและเหี้ยนจึงได้บุกเข้าไปจับตัวฉาย ที่บ้านของ ศิรินภามาเรียกค่าไถ่ พอทิวรู้เรื่องก็รีบไปหาอดัมพ่อของฉายเพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ในระหว่างนั้นก็มีโทรศัพท์มาทิวรีบรับสายและบอกจะเอาเงินค่าไถ่ไปให้ตามที่นัดหมาย เมื่อไปถึงทั้งสองฝ่ายก็เอาของมาแลกกันพอโถเปิดกระเป๋าดูจึงรู้ว่าไม่มีเงินมีเพียง อิฐจึงโกรธมากเอามีดขึ้นมาจะแทงฉายให้ตาย แต่อดัมเข้ามาขวางจึงโดนแทงแทน โถและเหี้ยนถูกตำรวจที่ทิวแจ้งความไว้จับไป ส่วนฉายก็เสียใจมาก เพราะเธอทำให้พ่อต้องตายเนื่องจากทิฐิของเธอเอง ทิวจึงกอดปลอบว่ามันเป็นไปตามแต่บุญกรรม แล้วทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกันได้อยู่ ๆ มีดอกไม้ร่วงลงมาราวกับคำอวยพรของท้องฟ้าและผู้ล่วงลับ ต่อไปนี้ฉายจะไม่ไช่บุษบาท่าเรืออีก แต่จะเป็นบุษบาในหัวใจของทิวตลอดกาล ติดตามม ละครบุษบาท่าเรือ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี ละครบุษบาท่าเรือ เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 18 มีนาคม 2558

เรื่องย่อ : จับกัง (2558/2015) จากที่ราบสูง สู่เมืองกรุงที่แสนวุ่นวาย มิตรภาพต้องสั่นคลอน เพราะความละโมบ ทะเยอทะยาน สัมพันธภาพแตกดับ จากเพื่อนรักกลายเป็นเพื่อนแค้น ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ต้องเดิมพันด้วยชีวิตกล้า ไม้ ด้วง เพื่อนรัก จากบ้านเกิดที่ยโสธร..เข้าสู่เมืองกรุงเพื่อฝันว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่า ทันทีทั้งสามลงจากรถทัวร์ ความศิวิไลของเมือง ทำให้ทั้งสามคนแทบจะไม่กระพริบตา

แต่ทั้งสามก็รื่นเริงได้ไม่นาน เมื่อโดน หม่ำ คนขับแท็กซี่บ้านเดียวกันปอกหลอกจนหมดตัว หม่ำโกหกทั้งสามคนว่าจะให้ขึ้นรถฟรี และขับพาไปหาที่พักในกรุงเทพ ทันทีที่หม่ำขับพาทั้งสามเข้าไปในตรอกซอกซอย หม่ำออกอุบายจนสามารถฉกเงินและกระเป๋าเสื้อผ้าของทั้งสามไปจนเกลี้ยง

กล้า ด้วง ไม้ไม่เหลือตังค์ซักบาท แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่มี หิวก็หิว เหนื่อยก็เหนื่อย ทั้งสามเดินมาจนเจอร้านขายข้าวมันไก่ ด้วยความหิวจึงเข้าไปสั่ง แต่ไม่มีเงินจ่าย จึงขอล้างจานเป็นค่าข้าวมันไก่ แต่ เฮียอู เจ้าของร้านไม่ยอม...จะแจ้งความ

หมวย ลูกสาวเฮียอู กลับมาก็ปิ๊งกล้าอย่างแรง เลยขอร้องพ่อ ด้วยความที่พ่อรักลูกสาวมากเลยยอมให้สามหนุ่มพักที่นี่ และทำงานเป็นพนักงานไปก่อนที่จะหางานทำ โดยไม่ให้เงินเดือน เพราะค่าเช่าบ้านไม่ได้คิด

กล้า ด้วง ไม้ออกหางานทำ ด้วยความที่ไม่รู้ทาง ทำให้หลง และเดินมั่วจนเกือบถูกรถของ เพชร ที่นั่งมากับ น้ำตาล เพื่อนสนิทชน ไม้เห็นเพชรก็ชอบทันที เพราะเพชรเป็นคนสวย และขับรถโก้ เพชรเข้าใจว่า กล้า ด้วง ไม้เป็นสิบแปดมงกุฎ เลยเอาเงินฟาดหัวสามหนุ่มแล้วขับรถออกไป กล้าโมโหมาก และเกลียดขี้หน้าตั้งแต่เจอ แต่ไม้ดีใจที่ได้เงิน กล้าไม่ต้องการเงิน จึงยกให้ขอทานจนหมด ทำให้ไม้หัวเสีย จนทะเลาะกัน ร้อนถึงด้วงต้องรีบห้ามกล้า ด้วง ไม้ไปสมัครงานที่ท่าเรือ แต่คนงานเต็ม เลยไม่ได้งานทำ ระหว่างที่กำลังจะกลับ กล้าเห็นชายแก่คนหนึ่งกำลังจะได้รับอุบัติเหตุจากของที่กำลังจะหล่นใส่ กล้ารีบเข้าไปช่วย ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ชายแก่ซาบซึ้งใจมาก พอรู้ว่ากล้า ด้วง ไม้ มาสมัคนงานที่นี่ จึงตกลงรับเข้าทำงานที่ท่าเรือทันที เพราะชายแก่ที่กล้าช่วยไว้คือ เสี่ยเผด็จ เจ้าของท่าเรือ

กล้า ด้วง ไม้ เริ่มทำงานวันแรก แล้วกล้าก็เจอตอเข้าจนได้ เพชรเห็นกล้าเลยเข้าใจว่ากล้าตามเธอมา กล้าพยายามจะอธิบาย แต่เพชรไม่ฟังเลยทะเลาะกัน ร้อนถึงเสี่ยเผด็จต้องเข้ามาห้าม กล้าเลยได้รู้ว่าเพชรเป็นลูกสาวเสี่ยเผด็จ (เวรแล้วมั๊ยล่ะ)

ด้วงกับไม้รู้เรื่องนี้เข้าก็กลัวว่าจะถูกไล่ออก เลยสั่งให้กล้าสงบปากสงบคำและไปขอโทษเพชร เพชรจึงแกล้งกล้าต่างๆนานา แต่กล้าต้องทนเพราะเพื่อนขอร้อง ด้านไม้นั้นดีใจมากที่ได้เจอเพชรอีกครั้ง และฝันสูงคิดจะเด็ดดอกฟ้า แต่เพชรมีผู้ชายที่พ่อหมายตาจะให้แต่งงานด้วยคือ สหรัฐ ลูกชายคนโตของ ประพันธ์ และ ปทุม เพื่อนสนิทของเสี่ยเผด็จ สหรัฐมีน้องสาวชื่อ ไข่มุก เป็นเจ้าของกิจการโชว์รูมรถยนต์นำเข้า ประพันธ์ต้องใช้ท่าเรือของเสี่ยเผด็จเป็นที่ขนส่งรถบ่อยๆ เลยทำให้สองครอบครัวสนิทกัน แต่เพชรเห็นสหรัฐเป็นเพื่อน ทั้งๆที่สหรัฐรักเพชรจริงๆ

กล้าที่โดนเพชรเล่นงานไม่เว้นแต่ล่ะวัน ยังต้องเจอกับพวกคนงานที่เกลียดขี้หน้าอีก เพราะเข้าใจว่าสามคนเป็นเด็กเส้น โดยเฉพาะแก้งค์ของ ใหญ่ ที่มีลูกน้องสองคน ชื่อ หรั่ง กับ มืด ที่คอยหาเรื่องกล้า ด้วง ไม้ตลอดเวลา จนมีเรื่องชกต่อยกัน ร้อนถึง หัวหน้าชัย ต้องรีบมาห้าม และทำโทษทั้งหมดโดยให้ทำความสะอาดท่าเรือ โดยมี ฟ้างาม กะเทยควายที่พยายามเก็บเงินแปลงเพศคอยช่วยหนุ่มๆด้วยความเต็มใจ ไอดอลของฟ้างามคือกล้า กล้าเองก็รักและเอ็นดูฟ้างามเหมือนน้องชาย เอ๊ย น้องสาว

กล้า ด้วง ไม้ ตั้งใจทำงาน และมีความเป็นกันเอง ทำให้มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้นนอกจากฟ้างามแล้วก็ยังมี พี่น้องฝาแฝดคนล่ะฝา(เกย์เก้ย์) ชื่อ ข้าวเหนียว กับ ข้าวปุ้น ที่หลงรักด้วงหัวปักหัวปำ และพยายามจะลวนลามด้วงทุกครั้งที่มีโอกาส แล้วยังมี มะอึก เด็กหนุ่มที่เป่าแคนเก่งมาก แป๊ะ ไอ้อ้วนขี้ขลาด เพื่อนสนิทมะอึกที่ไม่ค่อยจะมีแรง แต่เรื่องเต้นสู้ตาย และ ป้าสม อดีตนักร้องหมอลำแดนอีสาน แม่ครัวประจำท่าเรือ ที่อยู่กับ บุญยัง ลูกสาวที่บ้าเกาหลี แต่งตัวเกาหลี ร้องเพลงเกาหลี ชอบพูดภาษาเกาหลี ถึงขนาดตั้งชื่อตัวเองเป็นภาษาเกาหลีว่า “ยังซุก” ยังซุกบ้าเกาหลีจัดจนเอากิมจิมาตำส้มตำ แล้วก็ทำให้คนงานกินจนคนงานอี้แตกอี้แตนกันทั้งท่าเรือจนถูกแม่คาดโทษว่าห้ามทำอาหารอีก

เมนูยอดฮิตของที่นี่คือส้มตำ ฝีมือของป้าสมนั้นสุดยอด จนใครๆตั้งฉายาให้ว่าครกเทวดา ตำไทย ตำมั่ว ตำลาว ถ้าป้าสมทำแล้วล่ะก้อ รับรองแซ่บทุกจาน นอกจากรสชาติจะแซ่บหลายแล้ว ปากป้าแกก็ยังแซ่บอีกด้วย เพราะยังซุกชอบนุ่งน้อย ห่มน้อย ถึงแม้หน้าจะไม่ให้ แต่ใจรัก ถึงแม้ไม่มีชายใดแลเหลียว แต่ยังซุกก็สู้ไม่ถอย โดยเฉพาะไม้...ที่ยังซุกเล็งจะเอาเป็นผัวให้ได้ (อิอิ) วันๆยังซุกจะเรียกไม้ว่า “โอปา โอปา” (ภาษาเกาหลีแปลว่าพี่ชาย) ทุกคนในท่าเรือดีกับกล้า ด้วง ไม้มาก ยิ่งทำให้ใหญ่ไม่พอใจที่โดนขโมยซีนไป เพราะก่อนที่สามหนุ่มจะมาทำงานที่นี่ ใหญ่เป็นพระเอก ที่ทั้งเก้งกวางบ่างชะนีต่างหลงใหลได้ปลื้ม ใหญ่หมั่นไส้สามหนุ่มมากๆ เลยหาทางเล่นงานกล้า ด้วง ไม้ เสมอๆ แต่สามคนก็เอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง เพราะมีคนคอยช่วย จนกระทั่งถึงงานใหญ่ประจำท่าเรือที่เสี่ยเผด็จจะจัดขึ้นในวันแรงงานทุกปี งานนี้กิน ดื่ม ฟรี ถ้าใครอยากแสดงอะไรก็เอาขึ้นมาโชว์ และทุกปีวงดนตรีของใหญ่ก็จะเป็นที่ชื่นชอบของคนงาน แต่ครั้งนี้กล้า ด้วง ไม้ขอท้าดวล โดยมีมะอึกมาเป่าแคน ป้าสมมาช่วยร้องหมอลำ ด้านแป๊ะ ฟ้างาม ข้าวปุ้น ข้าวเหนียว จะมาโชว์โปงลาง พร้อมกับเต้นบีบอย

งานนี้เพชร น้ำตาล สหรัฐ ไข่มุก มาด้วย งานจัดขึ้นที่ท่าเรือ บรรยากาศสนุกสนานมากๆ ไข่มุกได้เจอกับกล้าครั้งแรก ก็ชอบทันที เพชรเห็นกล้ากับไข่มุกก็เข้าใจว่ากล้าใฝ่สูง ไม่เจียมตัว สองคนเลยมีปากเสียงกัน แล้วเพชรก็รู้ว่ากล้ากับใหญ่ท้าแข่งดนตรีกัน ถ้าใครได้รับเสียงเชียร์มากกว่ากันถือว่าชนะ คนแพ้ต้องคลานเป็นหมาเพชรอยากช่วยใหญ่ โดยเอาเงินให้พวกคนงานเชียร์ใหญ่เยอะๆ

การแสดงเริ่มต้นขึ้น....ทุกคนมันส์หยดติ๋ง แล้วก็มาถึงวงกล้า ด้วง ไม้ที่เริ่มเล่นก่อน มีแต่พวกฟ้างามกับคนงานอีกนิดหน่อยที่ปรบมือให้ ทำให้กล้า ด้วง ไม้ใจเสีย พอวงใหญ่ขึ้นไปเล่นดนตรี คนปรบมือ กรี๊ดกร๊าดดังลั่น ทั้งๆที่ทุกคนก็เห็นว่ากล้า ด้วง ไม้เล่นดีกว่า เสี่ยเผด็จเห็นสีหน้าเพชรก็รู้ทันว่าเป็นแผนของเพชร เสี่ยเผด็จเค้นจำน้ำตาลจนรู้ว่าเพชรติดสินบนพวกคนงาน เสี่ยเลยประกาศให้แข่งกันใหม่ และให้คนงานทุกคนเอาเงินมาคืนเพชร ไม่งั้นจะไล่ออก เพชรอึ้ง กล้าไม่พอใจ

เมื่อวงกล้ากับวงจับกังของใหญ่แสดงอีกครั้ง คนงานก็เทใจให้วงกล้าจนหมดสิ้น ทำให้กล้าได้รับชัยชนะ ใหญ่แพ้ราบคาบ จำต้องคลานเป็นหมา เป็นที่อับอายอย่างมาก ด้านกล้าเยาะเย้ยเพชร ยิ่งทำให้เพชรโมโห แต่ทำอะไรกล้าไม่ได้ เพราะพ่อคาดโทษเอาไว้ ระหว่างนั้นใหญ่โดนคู่อริดักเล่นงานกลางทาง กล้า ด้วง ไม้เห็นเข้าเลยช่วยใหญ่กับพวกเอาไว้ ทำให้ทั้งสองฝ่ายสมัครสมานสามัคคีกัน

ใหญ่ชวนกล้ามาเข้าวงจับกังของเค้าไม้เห็นว่าเราไม่น่าจะแค่เล่นกันเองเพื่อผ่อนคลายความเครียดหลังเลิกงาน ไม้เห็นป้ายรับสมัครประกวดวงดนตรีที่ร้านอาหารริมน้ำท้ายซอย ไม้ชวนใหญ่กับเพื่อนๆให้ไปประกวด

ทุกคนจึงต้องซ้อมดนตรีกันหลังเลิกงาน โดยมีฟ้างามทำหน้าที่เทรนพวกเก้งกวางและแอ๊บแมนในคราบจับกังมาเป็นแด๊นเซอร์

ด้านเพชรเกลียดขี้หน้ากล้าจนแทบจะทนไม่ไหวเพราะกล้าชอบร้องเพลงแซวเพชรกับน้ำตาล เพชรเลยบอกให้สหรัฐช่วยทำยังไงก็ได้ให้กล้าโดนไล่ออก เพชรกับสหรัฐร่วมมือกันแกล้งกล้า แต่คนที่โดนไล่ออกกลับเป็นด้วงทำเอาข้าวเหนียวกับข้าวปุ้นเสียใจจนแทบเป็นบ้าแต่ก็ยังเป็นสมาชิกในวงตามเดิม

ด้วงเริ่มหางานทำใหม่ โดยมีฟ้างาม ข้าวเหนียว ข้าวปุ้นคอยช่วย แต่ไม่ว่าไปทำงานอะไรก็พังทุกงาน ตั้งแต่เป็นเด็กส่งพิซซ่า ขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ส่งหนังสือพิมพ์ ฯลฯ ระหว่างด้วงรองานใหม่ ด้วงเลยช่วยงานร้านเฮียอูขายข้าวมันไก่ไปก่อน ความใกล้ชิดทำให้ด้วงเริ่มชอบหมวย แต่หมวยรำคาญที่ด้วงชอบยิงมุขแป้กใส่เธอ

ถึงวันประกวดวงดนตรี เพชรแกล้งทำเป็นรู้สึกผิดที่ทำให้ด้วงถูกไล่ออก เลยเอาน้ำมาให้กล้ากิน กล้าเชื่อสนิท ดื่มน้ำเข้าไป ปรากฏว่าน้ำใส่พริก กล้าเผ็ดมาก ทำให้เสียงหาย เพชรสะใจ วงจับกังถูกโห่ เพราะนักร้องเสียงแหบ เพชรเห็นคนดูปาของและโห่ไล่พวกกล้าก็รู้สึกผิดขึ้นมาจริงๆ เพชรเลยขึ้นไปช่วยแก้ไขสถานการณ์โดยการร้องเพลงแทนกล้า กล้ากับทุกคนผงะอึ้ง เพชรร้องเพลงเพราะมาก ทำให้กล้ากับไม้ประทับใจ แต่ไม้ออกนอกหน้าจนด้วงรู้สึกได้ว่าไม้รู้สึกยังไงกับเพชร

การประกวดจบลง วงจับกังไม่ชนะ แต่ทุกคนก็สนุกมาก เพชรเลยขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงทุกคนเป็นการปลอบใจ เพชรกับกล้าเหมือนจะดีกัน แต่จนแล้วจนรอด เพราะความไม่ยอมคนของทั้งคู่ก็ทำให้ทะเลาะกันอีก ศัตรูของเสี่ยเผด็จ คือ อาชา อาชามีเมียชื่อ เกด ซึ่งอายุน้อยกว่าอาชาสิบกว่าปี อาชาเป็นพวกมาเฟียค้าของเถื่อน ทำธุรกิจผิดกฎหมาย อาชาเคยขอให้เสี่ยเผด็จช่วยขนของเถื่อนโดยใช้ท่าเรือของเสี่ย แต่เสี่ยไม่เล่นด้วย แถมยังแจ้งตำรวจมาจับ แต่เพราะไม่มีหลักฐานแน่นหนาพอ ทำให้อาชารอดตัวไปได้ จากเหตุการณ์นั้นทำให้อาชาโกรธแค้นเสี่ยมาก และหาทางเล่นงานเสี่ยตลอดเวลา

ด้วงได้งานทำในกองถ่ายละคร ตำแหน่งสวัสดิการ ทันทีที่หมวยรู้ก็ลัลล้ามาก เพราะเธอบ้าดารา ด้วงเลยใช้งานบังหน้า โกหกว่าตัวเองได้เป็นนักแสดง ชวนหมวยไปเที่ยวกองถ่าย แล้วหมวยก็ทำเรื่องวุ่นวายจนโกลาหลไปทั้งกอง หมวยเลยรู้ว่าด้วงโกหก แท้ที่จริงแล้วด้วงเป็นแค่สวัสดิการ

ด้วงเลยตั้งเป้าหมายว่าต้องเป็นนักแสดงให้ได้ เพื่อเอาชนะใจหมวย ด้วงพยายามเสนอหน้าทุกอย่าง แล้วก็ได้เป็นนักแสดงสมใจ แต่เป็นนักแสดง สตั๊นท์

ระหว่างนั้นคนขับรถของเสี่ยเผด็จได้รับอุบัติเหตุ ขับรถไม่ได้ ไม้เห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้ใกล้ชิดเพชรเลยเสนอตัว เสี่ยเผด็จไม่ถูกชะตาไม้...เลยขอให้กล้าเป็นคนขับรถให้แทน กล้าจำต้องทำ ทำให้ไม้ไม่พอใจ เพชรได้ทีแกล้งใช้กล้าขับรถให้ เพชรต้องไปงานแต่งงานเพื่อนที่ต่างจังหวัด รถเพชรเสีย เลยต้องเอารถเสี่ยมาใช้ กล้าขับรถให้เพชรนั่ง แต่วันนั้นอาชาส่งมือปืนไปเก็บเสี่ย มือปืนไล่ยิง กล้าขับรถหนี เพชรกลัวสุดๆ กล้าช่วยเพชรเอาไว้ จนตัวเองถูกยิงได้รับบาดเจ็บ หลังจากเหตุการณ์นี้ ทำให้เพชรรู้สึกกับกล้าดีขึ้น และรู้สึกผิด เพชรอาสาดูแลกล้าอย่างใกล้ชิด เสี่ยชอบกล้ามากกว่าเดิม เลยขยับให้กล้าเป็นบอดี้การ์ด และให้ไม้มาเป็นคนขับรถ

อาชาหัวเสียที่แผนล้มเหลว เพราะแผนการนี้ทำให้ได้รู้ว่าอาชากับประพันธ์ ร่วมมือกันโค่นเสี่ย เพราะประพันธ์เป็นหนี้อาชาอยู่ และอาชาสั่งให้ประพันธ์ไปตีสนิทเสี่ยเผด็จ..เพื่อที่อาชาจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของเสี่ย

เพชรดูแลกล้าจนหายเจ็บ ระหว่างที่ดูแลกัน..กล้าเริ่มรู้สึกดีกับเพชร และเห็นว่าจริงๆแล้วเพชรเป็นคนที่น่าสงสาร เพราะกำพร้าแม่ เลยทำให้เพชรต้องทำตัวห้าวและเข้มแข็งเพื่อปกปิดความอ่อนแอ เพชรเองก็เริ่มสนใจกล้าเช่นกัน แต่ทั้งคู่ไม่กล้าแสดงออก กล้าเจียมตัวรู้สึกตัวเองเป็นหมาวัด ส่วนเพชรเป็นดอกฟ้า

ไม้เห็นท่าทางเพชรที่เหมือนจะมีใจให้กล้าเลยชิงตัดหน้าบอกกล้าว่าเค้ารู้สึกยังไงกับเพชร กล้าเตือนเพื่อนให้เจียมตน แต่ไม้กลับเข้าใจว่ากล้าหวงก้าง ไม้เริ่มไม่ชอบขี้หน้ากล้า และหัวเสียเรื่องเพชรเลยไปเที่ยวผับ แล้วก็ไปเจอเกดที่กำลังเซ็งเรื่องอาชา เกดอยากเลิกกับอาชา แต่เลิกไม่ได้ เพราะพ่อกับแม่ของเธอเป็นหนี้อาชาเลยขายเกดให้อาชาเพื่อขัดดอก ทำให้ชีวิตที่เคยสดใสของเกดต้องดับวูบ ไปพร้อมๆกับความฝันที่อยากเป็นนักร้อง

ไม้กับเกดส่งสายตากัน เกดปิ๊งไม้..เพราะคำพูดหวานๆของเค้า ที่เกดไม่เคยได้รับจากชายคนไหน สองคนเริ่มคบกัน เพราะเกดมีส่วนคล้ายเพชร มันชดเชยแทนกันได้

สหรัฐเกลียดขี้หน้ากล้า และพยายามจะทำให้กล้าถูกไล่ออก สหรัฐเริ่มเผยตัวตนออกมา ทำให้เพชรไม่พอใจ สหรัฐเห็นเพชรปกป้องกล้า ก็รู้ว่าเพชรชอบกล้า สหรัฐดูถูกกล้าที่เป็นแค่จับกังมาก่อน กล้าโมโห ชกต่อยกับสหรัฐ เสี่ยเผด็จลงโทษกล้า แต่ไม่ไล่ออก ทำให้สหรัฐหัวเสีย เพชรโกรธจนไม่พูดกับสหรัฐ

กล้าตัดสินใจจะเรียนปริญญาตรีให้จบเพื่อเพชร เพชรให้กำลังใจและพากล้าไปสมัครเรียนพร้อมกับติวหนังสือให้ ยิ่งทำให้สองคนใกล้ชิดกันมากขึ้นจนน้ำตาลรู้ว่าเพชรชอบกล้า น้ำตาลพยายามห้าม เพราะเพชรกับกล้าต่างกันมาก แต่เรื่องความรักมันห้ามกันไม่ได้

ด้วงเห็นกล้ากับไม้ระหองระแหงกัน ก็พยายามหาทางช่วย โดยมีหมวยร่วมมือด้วยแต่ไม่สำเร็จ ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม กล้าไม่สบาย...ไม่ได้ไปทำงาน หมวยคอยดูแลใกล้ชิด ทำให้ด้วงเสียใจ เพชรเป็นห่วง แอบมาเยี่ยมกล้า ทำให้เจอหมวย สองสาวเลยปะฉะดะกัน เพชรเข้าใจกล้ากับหมวยผิด เพชรโมโหกล้ามาก สหรัฐใช้โอกาสนี้เข้ามาขอคืนดีเพชร และใส่ความกล้าจนทำให้กล้ากับเพชรห่างออกไปอีก

กล้าพยายามง้อเพชรผ่านทางน้ำตาล แต่ก็ไม่ได้ผล เพชรประชดกล้าโดยการคบกับสหรัฐ ทำให้กล้าโมโหมาก พอดีกับไข่มุกที่แอบชอบกล้ามานานแล้ว ก็ทำเป็นช่วยเหลือกล้าเรื่องเรียนหนังสือ กล้าเลยหันมาสนิทกับไข่มุกแทน ส่วนเพชรที่เข้าใจว่ากล้ามีใจให้ไข่มุก ก็แกล้งทำสวีทกับสหรัฐ ทำให้กล้าเข้าใจผิดคิดว่าเพชรมีใจให้กับสหรัฐ กล้าจึงทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการเรียนและการทำงาน

ไม้ได้เลื่อนขั้นให้เป็นหัวหน้าคนงานแทนหัวหน้าชัยที่ต้องกลับบ้านนอกไปดูแลแม่ ไม้ได้ที...บ้าอำนาจ ตั้งตนเป็นใหญ่ โดยมีใหญ่ หรั่ง มืดเป็นพวก และเริ่มเล่นตุกติก โกงเงินเสี่ย ใหญ่ไม่สบายใจกับการกระทำของไม้ เลยคิดจะไปบอกเสี่ยเผด็จ แต่ไม้รู้เข้า ใหญ่เลยโดนไม้อัดจนตายด้วยความไม่ได้ตั้งใจ ไม้ใช้ให้หรั่งกับมืดช่วยกันจับศพใหญ่ถ่วงน้ำ และโกหกเสี่ยเผด็จว่าใหญ่ยักยอกเงินหนีไปแล้ว กล้ารู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ เลยให้ด้วงช่วยสืบจนรู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของไม้ แต่ไม่มีหลักฐาน

กล้าบอกให้เสี่ยรู้เรื่องไม้ เพราะทนเห็นเพื่อนทำผิดไม่ไหว ทำให้ไม้โกรธกล้ามาก ไม้ตัดขาดความเป็นเพื่อนกับกล้า!! เสี่ยเผด็จไล่ไม้ หรั่ง มืด ออกจากงาน ไม้แค้นใจแล้วโชคก็เข้าข้างเมื่อไม้ช่วยอาชาจากการถูกลอบยิงจากศัตรู อาชาได้ใจไม้มาก เลยให้ไม้มาเป็นบอดี้การ์ดตัวเอง พร้อมทั้งรับหรั่งกับมืดเข้าทำงานด้วย แล้วไม้ก็ได้เจอกับเกด ไม้เลยได้รู้ว่าเกดเป็นเมียของอาชา ไม้ถึงกับผงะ คิดจะเลิก แต่เกดขอร้อง เพราะเธอรักเค้าจริงๆ เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อเค้า ไม้เกิดแผนชั่วในใจ คิดอยากขึ้นมาแทนอาชาทันที ไม้ขอให้เกดร่วมมือกำจัดกับอาชากับเค้า เกดรับปาก เพราะเธอเองก็เบื่อที่ต้องรองรับอารมณ์ของอาชา ในที่สุดไม้ก็ฆ่าอาชาสำเร็จ และตั้งตนขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งค์ ครอบครองทุกอย่างรวมทั้งเกดด้วย

ด้านกล้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สำเร็จ เสี่ยเผด็จเลยจัดงานเลี้ยงให้กล้า เพชรดีใจที่กล้าประสบความสำเร็จ แต่ทำเก็กไม่สนใจ ไข่มุกมาแสดงความยินดีกับกล้า เพชรหึงเอาแต่ดื่มคอกเทลจนเมา เสี่ยเผด็จให้ลูกน้องพาเพชรไปส่งที่บ้าน แต่กล้าอาสาไปส่งเพชรเพราะเป็นห่วง น้ำตาลตามไปช่วยด้วย

ทันทีที่ถึงบ้าน เพชรอาเจียนไม่หยุด กล้าพยายามจะช่วยก็เจอเพชรด่า สองคนเลยมีปากเสียงกันใหญ่โต น้ำตาลพยายามห้าม แต่เพชรไม่ฟัง แล้วเพชรก็โพล่งออกมาว่า “เธอรักกล้า” ก่อนจะหมดสติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ กล้าแทบช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน และดีใจที่รู้ว่าเพชรไม่ได้ชอบสหรัฐ

เพชรตื่นมาในสภาพมึน น้ำตาลบอกว่าเพชรสารภาพรักกล้าเมื่อคืน เพชรอายมาก ไม่กล้าสู้หน้ากล้า กล้าพยายามหาโอกาสเข้าใกล้เพชร เพชรก็หนีตลอด จนในที่สุดกล้าตัดสินใจบอกรักเพชร และบอกว่าเค้ากับไข่มุกไม่มีอะไรกัน เพชรอึ้ง กล้าขอความรักจากเพชร เพชรเองก็ทนเสียงเรียกร้องหัวใจตัวเองไม่ไหวเลยตอบรับรักกล้าแต่สองคนยังไม่อยากบอกเรื่องนี้ให้เสี่ยเผด็จรู้ มีแต่น้ำตาลกับด้วงสองคนที่รู้เรื่องนี้

ระหว่างนั้นหมวยขอคำปรึกษาจากด้วงเรื่องกล้า ด้วงอึกอัก ไม่กล้าบอกหมวยเรื่องกล้ากับเพชร หมวยวางแผนใหญ่โตจะทำเซอร์ไพร์สกล้า ด้วงทนไม่ไหว เลยบอกเรื่องกล้ากับเพชรให้หมวยรู้ หมวยเสียใจและโกรธแค้นเพชร เลยไปบอกเรื่องนี้กับสหรัฐ สหรัฐบอกเสี่ยเผด็จ แต่ไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด สหรัฐใส่ไฟกล้าลงไปด้วย โดยบอกว่ากล้าคิดจะจับเพชร เสี่ยเผด็จอึ้ง ทั้งโกรธทั้งเสียใจ ไล่กล้าออกจากงานและสั่งห้ามเพชรกับกล้าคบกัน ไม่ว่าเพชรขอร้องยังไง เสี่ยก็ไม่ฟัง!! และประกาศแต่งงานเพชรกับสหรัฐ

ไม้รู้เรื่องนี้จากด้วง เลยบอกให้กล้ามาอยู่กับเค้า “เงินจะทำให้กล้ามีฐานะทางสังคมและจะได้สมหวังกับเพชร” แต่กล้าไม่ต้องการ “เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง” ไม้หัวเสียที่กล้าหยิ่งผยอง เลยคิดจะรวบหัวรวบหางเพชร

ไม้รู้มาว่าประพันธ์ยังเป็นหนี้อาชาอยู่ เลยบีบประพันธ์ให้ร่วมมือกับเค้าในการกำจัดเสี่ยเผด็จ ประพันธ์หลอกเสี่ยให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ เสี่ยหลงเชื่อ สุดท้ายกิจการของเสี่ยทั้งหมดกลายเป็นชื่อของไม้ เสี่ยโมโหมากจนหัวใจวายเข้าห้องไอซียู ไม้เข้ามาคุกคามชีวิตเพชร สหรัฐรู้ว่าพ่อร่วมมือกับไม้ สหรัฐโกรธมาก ไปหาเรื่องไม้ ประพันธ์พยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จ ไม้จะยิงสหรัฐ แต่ประพันธ์ขวาง ทำให้ถูกยิงตาย สหรัฐคลั่ง พุ่งเข้าไปจะทำร้ายไม้เลยถูกยิงตกน้ำหายสาบสูญ เหลือแต่รัชนีกับไข่มุก สองแม่ลูก

ด้วงขอร้องไม้ให้เลิกทำชั่ว แต่ไม้ไม่เลิก ด้วงรีบไปบอกกล้า กล้าเป็นห่วงเพชรมาก ไม้กำลังจะปล้ำเพชร แต่กล้ามาช่วยได้ทันแล้วพาเพชรหนีออกมา เพชรดีใจที่เจอกล้า กล้าว่าเค้าจะช่วยเพชรเอง กล้ากับเพชรไปเยี่ยมเสี่ย เสี่ยฟื้น กล้าดีใจมาก เสี่ยกระซิบบางอย่างกับกล้า กล้าอึ้ง เสี่ยให้กล้ารับปาก กล้ารับปากเสี่ย แล้วเสี่ยก็สิ้นใจตาย

สิ่งที่เสี่ยกระซิบบอกกล้าก็คือ....”เสี่ยมีที่ดินเป็นพันไร่ที่เชียงราย เสี่ยให้กล้าขายที่ แล้วเอาเงินมาซื้อกิจการคืนพร้อมทั้งให้กล้าเป็นเจ้าของกิจการทั้งหมด”

กล้าทำตามที่เสี่ยบอก จนซื้อกิจการคืนมาได้สำเร็จ และส่งรัชนีกับไข่มุกให้ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เพราะกลัวไม้ตามเก็บสองแม่ลูก ทำให้ไม้โกรธแค้นกล้ามาก และคิดกำจัดกล้า

หมวยอกหักจนล้มป่วย ด้วงคอยดูแลทั้งคืนจนหมวยหาย แต่ตัวเองล้มป่วยแทน หมวยเริ่มรู้สึกดีกับด้วง และช่วยดูแลด้วงเป็นการตอบแทน จนสองคนรักกัน

กล้าต้องหยุดความชั่วร้ายของไม้ ก่อนที่ไม้จะถลำลึกลงไปมากกว่านี้ พอดีกับสหรัฐกลับมาหาเพชร หลังจากที่เค้าถูกยิง มีคนช่วยเค้าเอาไว้ เค้าสลบไปนานหลายวัน แล้วก็ฟื้นขึ้นมา ตอนนี้เค้าพร้อมเพื่อแก้แค้นไม้ สหรัฐทำเป็นยอมศิโรราบกับไม้ และทำเป็นโกรธแค้นกล้าที่แย่งเพชรหญิงที่เค้ารักไป ไม้เชื่อและให้สหรัฐมาช่วยดูแลธุรกิจซึ่งเค้าไม่ถนัด สหรัฐคอยหาข้อมูลให้กล้า จนมีหลักฐานพอที่จะเล่นงานไม้ กล้าส่งหลักฐานทั้งหมดไปให้ตำรวจ ตำรวจมีหมายจับไม้ ไม้แทบช็อค เลยได้รู้ว่าสหรัฐเป็นหนอนบ่อนไส้ แต่สหรัฐหนีไปแล้ว ไม้เครียดมาก จับเกดเป็นตัวประกัน แล้วหนีหายไป

เวลาผ่านไปหลายเดือน กล้าบริหารกิจการท่าเรือจนรุ่งเรือง สหรัฐเป็นผู้จัดการด้านการตลาด เค้ารับแม่กับน้องสาวกลับมาอยู่ด้วยกัน ส่วนด้วงได้เป็นหัวหน้าคนงานที่ท่าเรือ และขอหมวยแต่งงาน แต่หมวยยังไม่รับปาก

ในขณะเดียวกันไม้ที่กบดานอยู่กับเกด คิดวางระเบิดท่าเรือในวันงานครบรอบยี่สิบปีของท่าเรือ เกดขอร้องไม่ให้ไม้ทำ แต่ไม้ยืนยันเค้าต้องล้างแค้นคนที่ทำลายเค้าทุกคน!!

ไม้แฝงตัวเข้ามาในคราบคนงาน วันนั้นคนเยอะมากเลยไม่มีใครสนใจใคร เกดทนไม่ไหว ติดต่อไปหากล้า ทำให้กล้ารู้ว่าไม้ลอบเข้ามาในท่าเรือ กล้าบอกด้วงและสั่งให้ลูกน้องจับตามอง โดยห้ามบอกเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้ ด้วงเจอไม้ ด้วงพยายามขอร้องให้ไม้เลิก แต่ไม้กลับยิงด้วงได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วงหมดสติ

ด้านหมวยตามหาด้วงไม่เจอก็หัวเสีย โมโหด่าไม่หยุด ขณะที่กล้ากับเพชรขึ้นกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน หมวยเจอด้วงที่ถูกยิงอยู่ในโกดังก็ตกใจมาก รีบโทรบอกกล้า แต่ติดต่อไม่ได้ หมวยรีบวิ่งไปให้สหรัฐช่วย สหรัฐรีบบอกกล้าว่าด้วงถูกยิง กล้าสั่งให้สหรัฐรีบพาด้วงไปโรงพยาบาลทันที แต่มีเสียงระเบิดดังตูม!!! ผู้คนแตกตื่น วิ่งหนีกันจ้าล่ะหวั่น กล้ากับเพชรถูกแยกจากกัน กล้าตามหาเพชร แล้วก็เจอเพชรถูกไม้จับเป็นตัวประกัน ไม้สั่งให้กล้ายิงตัวตายตรงหน้าเค้ากับเพชร ไม่งั้นเค้าจะฆ่าเพชรซะ กล้าหยิบปืนขึ้นมา เพชรขอร้องไม่ให้กล้าทำ กล้าตัดสินใจจะปลิดชีพเพื่อช่วยเพชร แต่เกดโผล่มาบอกไม้ว่าเธอท้องกับเค้า ไม้อึ้ง เพชรเห็นจังหวะ ผลักไม้แล้ววิ่งหนีไปหากล้า ไม้หัวเสียจะยิงกล้ากับเพชร เกดเอาตัวบัง ไม้ยิงเปรี้ยง!! ไม้แทบช็อค เกดกับลูกตายไปพร้อมกัน ไม้หมดสิ้นทุกอย่าง ถูกตำรวจจับดำเนินคดีตามกฎหมาย รับกรรมในคุกไปจนตลอดชีวิต

หลังจากรักษาตัวในโรงพยาบาลนานหลายเดือน ด้วงฟื้นขึ้นมา หมวยรับปากว่าจะแต่งงาน ด้วงดีใจมาก กล้ากับเพชร ด้วงกับหมวยเลยจัดงานแต่งงานพร้อมกันเป็นสองคู่ชู้ชื่น

บ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ 2558

เรื่องย่อ : บ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ (2558/2015) พจมาน พินิตนันทน์ (มิน-พีชญา วัฒนามนตรี) เดินทางมาอาศัยอยู่กับญาติที่บ้านทรายทองตามคำสั่งของบิดาที่เสียชีวิต เพื่อให้เธอได้เรียนต่อจนสำเร็จการศึกษา พจมานเด็กสาววัยรุ่น มีได้นิสัยหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว จากการอบรมปลูกฝังจากบิดาที่เธอรักและรักเธอยิ่ง แต่วันแรกที่มาถึงเธอไม่ได้รับการต้อนรับอย่างที่หวัง หม่อมพรรณราย (ดวงดาว จารุจินดา) ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของเธอไม่อยู่ต้อนรับ แม้จะได้รับจดหมายจากแม่ของเธอล่วงหน้า ความอ่อนล้าในการเดินทางทำให้พจมานเป็นลมหมดสติไป ต่อหน้า ม.ร.ว.ภาระดี สว่างวัฒน์ หรือ คุณหญิงใหญ่ (นุสบา ปุณณกันต์) ที่มารับหน้าเธอในวันนั้น ภายนอกหญิงใหญ่ดูเป็นคนเย็นชา อารมณ์ร้อน แต่ลึก ๆ มีเมตตา เมื่อพิจารณาจากจดหมายยืนยันของบิดาพจมานโดยที่ยังไม่เปิดอ่านเธอก็ตัดสินใจให้พจมานพักที่บ้านทรายทองจนกว่าจะพบหม่อมพรรณราย

หม่อมพรรณรายกลับมาจากบ้านตากอากาศพร้อมกับ ม.ร.ว.ภาวิณีจรัสเรือง หรือ คุณหญิงเล็ก (แนท-ณัฐชา นวลแจ่ม) เมื่อทราบว่าหญิงใหญ่รับพจมานเข้ามาในบ้านก็ต่อว่าต่าง ๆ นานา พยายามผูกเรื่องบิดามารดาพจมานในทางลบ แต่เล่าไปเล่ามา หญิงใหญ่ก็แน่ใจว่าพจมานเกี่ยวดองเป็นญาติกับสกุล สว่างวงศ์ จริงกล่าวคือ พจมานเป็นบุตรสาวของ พนา พินิตนันทน์ (น็อต-นุติ เขมะโยธิน) บุตรชายของ คุณปู่สุรพล น้องชายแท้ ๆ ของเจ้าคุณราชาพิพิธ (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) ผู้เป็นบิดาของหม่อมพรรณราย มารดาของพจมานเคยติดตามบิดาของพจมานมาอาศัยอยู่ที่บ้านทรายทองและช่วยบริบาลเฝ้าไข้คุณยายของคุณหญิงใหญ่จนวาระสุดท้าย หญิงใหญ่ซาบซึ้งในความดีจึงรับอาสาดูแลพจมาน และเป็นผู้ปกครองให้ขณะอยู่ในบ้านทรายทอง

หญิงใหญ่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนของพจมานอยู่บ้าง เธอไม่ได้มีรายได้อะไรนอกจากเงินกองกลางจากมรดกของตระกูล เพราะเธอไม่ได้สำเร็จการศึกษา จึงไม่มีอาชีพ เหตุเป็นเพราะเรื่องความรักสมัยรุ่นสาวทำให้ไม่เป็นที่พอใจของหม่อมพรรณราย หม่อมพรรณรายจึงห้ามสั่งห้ามเธอออกจากบ้าน เธอจึงไม่ได้เรียนไปโดยปริยาย นับแต่นั้นมาจึงกลายเป็นคนเย็นชา หม่นหมอง อารมณ์แปรปรวนและคุ้มดีคุ้มร้ายในสายตาคนอื่น แต่เมื่อถามพจมานจึงทราบว่า บิดาของพจมานได้เตรียมค่าเล่าเรียนไว้ให้ส่วนหนึ่งแล้ว ขอเพียงที่พักและอาหารเท่านั้นหญิงใหญ่จึงดูแลพจมานได้สนิทใจขึ้น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความคลางแคลงใจในตัวหม่อมพรรณรายว่าเหตุใด จึงกีดกันพจมานไปจากบ้านทรายทอง

ฝ่ายหญิงเล็ก ผู้มีอารมณ์ร้อน หลงใหลความหรูหราฟู่ฟ่า ก็เชื่อคำบอกเล่าของมารดาทั้งหมด ก็รู้สึกว่าพจมานมารบกวนและสร้างความรำคาญให้เธอและผู้คนในบ้าน จึงเกลียดชังพจมานและหาทางกำจัดออกจากบ้านทรายทอง จึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้ไม้เมากันเสมอ พจมานอยู่ในบ้านทรายทองท่ามกลางความกดดันและโดนกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา มีเพียง ม.ร.ว.ภาณุทัตสวัสดี หรือ คุณชายน้อย (พีพี-พีรพล เพิ่มเพ็ชร) ลูกชายคนเล็กวัย 14 ปี ของหม่อมพรรณราย ที่มีร่างการพิการ ขาเป๋ ปากเบี้ยว ตัวเล็ก ที่เกิดมาไม่นานบิดาเสียชีวิต หม่อมพรรณราย จึงชิงชังชายน้อยถึงชั้นโยนให้ แม่นมทิพย์ (วาสนา สิทธิเวช) เลี้ยงดู พจมานเอ็นดูสงสารคุณชายน้อย เพราะคิดถึงพจนา (ปลั๊ก-สวีเดน ทะสานนท์) น้องชาย และพจนีย์ (กุ๊กกิ๊ก-กชกร ส่งแสงเติม) น้องสาวคนเล็กของเธอนมทิพย์เองก็มีความเมตตา ใจดีต่อพจมาน นอกจากชายน้อยแล้วพจมานจึงสนิทสนมกับกับนมทิพย์เป็นอย่างดี

พจมานอยู่บ้านทรายทองอย่างผู้อาศัย ทำงานไม่ต่างกับบ่าวไพร่ แต่ก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือ ถึงแม้ว่าการเรียนของเธอจะแย่ลง ต้องแบ่งเวลาช่วยงานบ้านจนแทบไม่มีเวลาทบทวนตำรา พจมานจึงขอแยกห้องจากหญิงใหญ่ไปอยู่เรือนคนใช้เพื่อจะได้ทบทวนตำรายามดึกได้ ขณะเดียวกัน คุณแพรวพรรณ (ปูดำ-สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์) น้องสาวของหม่อมพรรณรายกลับมาจากต่างประเทศและย้ายเข้ามาอาศัยอยู่บ้านทรายทองพร้อมกับ แสงโสม (นิว-ปทิตตา อัธยาตมวิทยา) บุตรสาว สืบศรี (ภูมิ-วรรณภูมิ ทรงสุภาพ) บุตรชายและประสพ (สมิท ธนโชติ) สามี

พจมานทราบว่าเจ้าคุณราชาพิพิธ พี่ชายของคุณปู่สุรพล อยู่ที่ตึกขวางของบ้านทรายทอง จึงเข้าไปกราบเรียนว่าเธอได้เข้ามาขออาศัยบารมีท่านในบ้านทรายทอง เจ้าคุณราชาพิพิธกลับหวาดกลัวเมื่อได้ยินชื่อสุรพล เพ้อออกมาแปลก ๆ และอาการป่วยทรุดหนักลง พจมานจึงถูกห้ามเข้าพบท่านอีก วันหนึ่งพจมานลัดเลาะไปที่ตึกขวางด้วยความสงสัย เธอพบหญิงชราผมขาวถือเครื่องเช่นไหว้ ไปตั้งหน้าโลงศพ เธอตกใจคิดว่าถูกผีหลอกแต่ก็พาสติตัวเองกลับมาฝั่งตึกที่อาศัยอยู่ได้ และชนเข้าอย่างจังกับสุภาพบุรุษท่านหนึ่งเข้า เธอกรีดร้องและหมดสติทันที มรว.ภารดาพัฒน์ระพี หรือ คุณชายกลาง (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เพิ่งกลับจากต่างประเทศ ไม่ทราบว่าพจมานเป็นใครแต่เห็นหมดสติจึงพาไปส่งห้องชายน้อยเพื่อให้นมทิพย์ดูแล และได้รับข้อมูลของพจมานจากคนรอบตัวชายกลางกลับมาเปลี่ยนทุกอย่างในบ้านทรายทองให้ดีขึ้น ตั้งแต่คนใกล้ชิดอย่างชายน้อยที่ได้รับการส่งตัวไปรักษาตลอดจนบ่าวไพร่และพจมานด้วย เธอได้รับอนุญาตให้มีห้องพักเป็นของตัวเอง เทียบเท่ากับญาติพี่น้อง และได้อยู่ในความปกครองของชายกลาง เธอและเขาจึงเข้ามามีบทบาทของกันและกันตามลำดับ

เหตุการณ์พลิกผันอีกครั้งเมื่อชายกลางต้องเดินทางไปดูงานต่างประเทศ หญิงเล็กเริ่มวางแผนทำลายพจมานเสียคนโดยการพาเข้าไปรู้จักสมาคมกับบุคคลต่าง ๆ ซึ่งเป็นคนไม่ดี โดยทำทีขอตอบแทนพระคุณชายกลางที่มอบเงินจัดงานหมั้นระหว่างเธอกับ ท่านชายอเนกนพรัตน์ หรือ ท่านต้อม (เขต ฐานทัพ) เจ้าพี่ของ ท่านหญิงปิยะฉัตรโสภา หรือ ท่านติ๋ว (เกี่ยวก้อย-ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์) สตรีสูงศักดิ์ซึ่งสนิทสนมกับหญิงเล็กเพราะหมายปองชายกลาง เธออาสาเป็นผู้ปกครองให้พจมาน ชายกลางตกลง ให้หญิงเล็กดูแลพจมาน แผนการร้าย ๆ จึงเริ่มขึ้น หญิงเล็กอนุญาตให้นกุล (อั๋น-ชยพล บุนนาค) เพื่อนชายคนสนิทของพจมานมาพบพจมานที่บ้านทรายทองได้ หวังให้เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้น แต่ไม่เป็นไปตามคาดไว้ หญิงเล็กจึงพาพจมานออกงานสมาคมต่าง ๆ

ซึ่งมีท่านต้อมไปด้วยเสมอ คนที่หญิงเล็กชักนำให้พจมานชิดเชื้อด้วยมีแต่คนที่ประวัติไม่ดี ท่านต้อมเห็นใจพจมานจึงคอยปกป้องพจมานอยู่บ่อย ๆ หญิงเล็กยังไม่วางมือง่าย ๆ บังคับให้พจมานไปบางปูกับครูสอนดนตรี ซึ่งเบื้องหลัง คือผู้ผลิตหนังลามก มักล่อลวงเด็กสาวไปถ่ายหนังอนาจาร ท่านต้อมไม่พอมีปากเสียงกับหญิงเล็ก พจมานมาได้ยินเลยรู้ว่าหญิงเล็กไม่เคยหวังดีกับเธอเลย แต่ก็รั้น บางอย่างทำให้เธอตัดสินใจไป ท่านต้อมตามไปช่วยเหลือ จึงรู้ใจตัวเองว่าจริงแล้วรักพจมานไม่ใช่หญิงเล็ก พจมานใช้ไหวพริบโน้มน้าวใจครูสอนดนตรีให้ปล่อยเธอ

ขากลับรถของพจมานพลิกคว่ำ พจมานได้รับบาดเจ็บน้อย นกุลและท่านต้อม จึงรีบไปรับพจมานกลับบ้านทรายทองหลังจากมีปากเสียงกับท่านต้อม หญิงเล็กก็มีปากเสียงกับหญิงใหญ่อีก เรื่องราวบานปลายเกี่ยวกับข่าวเรื่องเจ้าของสิทธิ์ครอบครองบ้านทรายทอง ว่าไม่ใช่ชายกลางอย่างที่เข้าใจ หญิงเล็กไปอาระวาดกับเจ้าคุณราชพิพิธที่ตึกขวาง จนอาการทรุดหนัก เมื่อพจมานกลับถึงบ้านทรายทองก็ถูกเรียกเข้าไปดูใจท่านเจ้าคุณ ท่านเจ้าคุณสารภาพว่าบ้านทรายทองเป็นของสุรพลน้องชายท่าน ซึ่งทายาทที่แท้จริงก็คือ พจมาน นั่นเอง ท่ามกลางความตกตะลึง พจมานก็ปฏิเสธจะรับสิทธิ์นั้น รุ่งเช้าเจ้าคุณราชพิพิธก็สิ้นใจ

หลังจากท่านเจ้าคุณสิ้นบุญไม่นาน พจมานก็ได้รับโทรเลขจากพจนา ว่าที่บ้านมีเรื่อง พจมานจึงกลับไปบ้านและพบว่า พจนีย์หนีตามผู้ชายไป ทรัพย์สินที่บิดาให้ไว้ก็ใกล้หมด มารดาจึงเอาบ้านและที่ดินไปจำนองพจมานรู้สึกท้อแท้ แต่ที่ร้ายกว่าคือ มารดาของเธอพยายามเกลี้ยกล่อมให้แต่งงานกับบุตรชายเศรษฐีท้องถิ่นเพื่อกู้หน้าและพยุงฐานะครอบครัว ขณะที่พจมานกลับบ้าน ชายกลางก็กลับมาถึงบ้านทรายทอง และทราบความจริง จึงตัดสินใจจะย้ายออกจากบ้านทรายทอง เพื่อคืนกรรมสิทธิ์ให้กับพจมานและครอบครัว ท่านต้อมทราบข่าวว่าชายกลางกลับมา ก็ขอนัดเพื่อถอนหมั้นหญิงเล็ก และขอหมั้นพจมานโดยให้ชายกลางเป็นถ้าแก่ พจมานกำลังถูกมารดากดดัน มารดาของฝ่ายชายมาทาบทาบถึงบ้าน รถของชายกลางก็เข้ามาที่หน้าบ้านพจมาน พจมานปลาบปลื้มมาก แต่ข่าวที่ได้รับคือ การคืนบ้านให้เธอและจะย้ายออกไป กับการทาบทามเธอให้กับท่านต้อมพจมานร้องไห้ ชายกลางจึงกลับไปพร้อมกำชับให้เธอกลับบ้านทรายทองในวันถัดไป

พจมานกลับมาที่บ้านทรายทอง ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด หญิงใหญ่ไปรับที่สถานีรถไฟ บ่าวไพร่ยิ้มแย้ม แจ่มใส จัดห้องไว้รับรอง และทานอาหารร่วมโต๊ะกับหญิงใหญ่และชายกลาง พจมานยืนยันจะไม่รับสิทธิ์การเป็นเจ้าของบ้านทรายทอง แต่ชายกลางก็ยืนยันจะย้ายออกไปโดยขอให้สร้างบ้านใหม่เสร็จก่อน ชายน้อยที่ไปรักษากับนายแพทย์ฝรั่ง ผลการรักษาไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นหายขาด แต่ก็เดินเหินสะดวกขึ้น จึงรับตัวกลับมา หญิงใหญ่ไปหาพจมานที่ห้อง เอาสร้อยที่ชายกลางซื้อให้พจมานไปสวมให้และบอกเป็นนัย ๆ ว่าชายกลางรู้สึกพิเศษกับพจมาน จังหวะนั้นบ่าวขึ้นมาตาม แจ้งว่าท่านต้อมมาขอพบพจมาน หญิงใหญ่พูดกับพจมานอย่างหวังดีว่าถึงเวลาแล้วที่พจมานต้องเลือก คนที่เธอรัก

พจมานปรากฏตัวต่อหน้าท่านต้อม มีชายกลางแอบมองอยู่โดยไม่รู้ตัว แต่แล้วนกุลก็ปรากฏตัวขึ้นพจมานดีใจเจอเพื่อนรักลืมตัวตรงไปหานกุล ท่านต้อมถึงกับงงงัน ยอมรับการปฏิเสธ และชายกลางก็ประหลาดใจ และผิดหวังมาก เดินหายไปในห้องสมุด พจมานรู้สึกรีบวิ่งตามชายกลางไป ทำให้ทุกคนรู้คำตอบว่าคนที่เธอเลือกคือชายกลางนั่นเอง แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของเรื่อง แต่หากเป็นปมบทแห่งการเริ่มต้มชิตรักระห่าง ชายกลางและพจมาน สว่างวงศ์ แห่ง...บ้านทรายทอง

หลังจากเสร็จพิธีศพของท่านเจ้าคุณราชาพิพิธ ข่าวเรื่องการสมรสระหว่างพจมานและชายกลางยังไม่แพร่ออกไป มีเพียงเสาวรัจ (ตูน-พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) เพื่อนสนิทที่พจมานแจ้งข่าวเป็นคนแรก และเสาวรัจก็ส่งข่าวต่อไปยังเพื่อน ๆ ของพจมาน ท่านหญิงอ้อม (พิมพ์-พิมประภา ตั้งประภาพร) จึงประสงค์จะเลี้ยงก่อนวันฉลองมงคลสมรสให้พจมาน โดยจัดขึ้นที่วังของท่าน ซึ่งภาณี สาวใช้คนใหม่ของวังหญิงอ้อม หรืออีกชื่อคือพจนีย์ น้องสาวพจมานแอบมองพจมานด้วยความอิจฉาริษยาที่พจมานจะได้ครอบครองบ้านทรายทอง

พิธีสมรสระหว่างชายกลางและพจมานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยมีหญิงใหญ่เป็นโต้โผจัดงานให้ ชายกลางและพจมานรู้สึกซาบซึ้งใจ หม่อมพรรณรายมาร่วมงานอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ด้วยเกรงใจแขกผู้ใหญ่จึงมา หญิงเล็กลอบไปสงขลาเลี่ยงการมาร่วมงานครั้งนี้ สิริอร (ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก) ซึ่งอกหักจากชายกลางก็แต่งงานกับ เกริกวิทย์ (นวพล ภูวดล) และไปร่วมงานแต่งพร้อมกับ ท่านผู้หญิงไฉไล (วิไลลักษณ์ ไวงาน) และ หลวงนฤสารวาที (ปริยะ วิมลโนช) พจนีย์ก็ปรากฏตัวขึ้นกลางงานของพจมาน พจมานตกใจระคนดีใจที่จู่ ๆ น้องก็มาปรากฏตัว

แต่พจนีย์ไม่ได้มาร่วมแสดงความยินดีแถมยังต่อว่าพจมานว่าเห็นแก่ตัวไม่เคยแบ่งอะไรให้น้องและยังประกาศว่าตนเองก็มีสิทธิ์อยู่ในบ้านทรายทองเหมือนกัน หลังจากพจนีย์มาอยู่บ้านทรายทองก็ผยองเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน ยุ่มย่ามกับของส่วนตัวพจมาน รังเกียจชายน้อย เป็นที่ไม่พอใจของนมทิพย์ คุณหญิงใหญ่เองก็ระอา พจมานจึงสั่งให้พจนีย์มีความเกรงใจต่อคุณหญิงใหญ่และชายกลาง แต่พจนีย์ทำหูทวนลม ชายกลางพาพจมานไปฮันนีมูนที่ศรีราชา ในเวลา 5 วันนี้ พจมานได้พบกับความสงบลืมเรื่องวุ่นวายในบ้านทรายทอง สองคนมีความสุขกับการฮันนีมูนครั้งนี้

ระหว่างนั้นที่บ้านทรายทองก็ได้รับ สายใจ แม่บ้านคนใหม่ซึ่งเป็นคนของหม่อมพรรณราย หลังจากที่คุณหญิงใหญ่ตัดสินใจไปอยู่เพชรบุรี สายใจคอยรายงานเรื่องของคนที่ตึกนอกให้หม่อมพรรณรายรู้ หม่อมพรรณรายมักว่าพจมานเป็นไพร่ ให้สายใจดูแลบ้านให้ดี ทำให้สายใจกระด้างกระเดื่องไม่เคารพพจมานเท่าที่ควร

หลับกลับจากฮันนีมูน พจนีย์มาบอกว่า หม่อมพรรณรายบอกว่าชายกลางแต่งงานกับพจมานเพราะหวังในบ้านทรายทอง ไม่เคยรักพจมานเลย ทำให้พจมานคิดมากเพราะชายกลางไม่เคยบอกรักเธอสักครั้งเธอจึงปั่นปึ่งใส่ชายกลาง เมื่อชายกลางเห็นพจมานเปลี่ยนไปจึงถามตรง ๆ ชายกลางรู้สึกน้อยใจพจมาน ทั้งสองคนเลยมีปากเสียงกัน พจมานไปพูดกับหม่อมพรรณรายให้รู้เรื่อง หม่อมพรรณรายยอมรัว่าพูดแบบนั้นจริง พจมานโกรธไม่ให้คนของหม่อมพรรณรายเข้าไปยุ่งที่ตึกนอกอีก หม่อมพรรณรายเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้หญิงใหญ่ฟัง หญิงใหญ่เฉย และได้นำมาพูดกับพจมานให้คิดได้เรื่องชายกลาง พจมานตั้งใจจะคืนดีกับชายกลางแต่พบชายกลางมากับสิริอรหลังจากดูหนังด้วยกัน เนื้อหาหนังเกี่ยวกับการแต่งงานเพราะเงิน พจมานสะอึกรีบหลบไป ชายกลางตามไปพูดกับพจมานที่ยังงอนอยู่ พจมานอยากได้ยินคำว่ารักจากปากชายกลาง ชายกลางถือว่าการกระทำสำคัญว่าคำพูด แต่ลึก ๆ แล้วพจมานก็รู้ดีว่าชายกลังนั้นรักเธอสุดหัวใจ

ด้านหญิงเล็กพบรักกับนายเติม ธีรวณิช (บิ๊ก-ศรุต วิจิตรานนท์) พ่อค้าผู้มั่งคั่ง และได้ตัดสินใจแต่งงานกับนายเติม หม่อมพรรณรายเห็นด้วยเพราะเห็นว่านายเติมมีฐานะมั่งคั่ง แต่ชายกลางกลบเป็นห่วงหญิงเล็กที่ตัดสินใจแต่งงานปุบปับ พจมานช่วยพูดให้ท่านต้อมพิจารณาหญิงเล็กอีกครั้ง แต่ท่านต้อมไม่ได้รักหญิงเล็กแล้ว แถมยังชื่นชมว่าชายกลางได้ภรรยาที่ดี ขนาดหญิงเล็กเกลียดพจมาน พจมานยังอุตส่าห์ห่วงหญิงเล็ก กำหนดการงานแต่งของหญิงเล็กใกล้เข้ามาทุกที หญิงเล็กอยากได้สร้อยระจำตระกูลของพจมานมาใส่ในวันแต่งงาน หม่อมพรรณรายอ้อนวอนให้ชายกลางไปขอมาให้ ชายกลางบอกให้หญิงเล็กไปขอกับพจมานเอง

หญิงเล็กไม่ยอมไปขอให้เสียศักดิ์ศรี ด้านนายเติมบอกจะหามาให้เอง พอถึงวันงาน สร้อยที่นายเติมหามาให้ดูเก่าคร่ำครึ ไม่เหมาะกับชุดหญิงเล็ก จนใกล้เวลานมทิพย์เอากล่องสร้อยประจำตระกูลมาให้ หญิงเล็กดีใจมาก แต่ไม่ได้รู้สึกดีกับพจมาน งานดำเนินไปอย่างเรียบร้อย โดย หญิงเล็กย้ายไปอยู่บ้านนายเติม นายเติมมีภรรยาอยู่แล้วถึง 2 คน คือ วิภา (มนตะกานต์ ทองขาว) และสมฤทัย (ภัทกัญญา โควสุวรรณ) ต่อหน้านายเติมก็ปฏิบัติกับหญิงเล็กเหมือนไม่มีอะไร แต่ลับหลังก็กระแนะกระแหนหญิงเล็กตลอดเวลา หญิงเล็กได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน

ด้านพจนีย์ พยายามเข้าหาชายกลาง ด้วยความอิจฉาที่พจมานได้แต่งงานกับหนุ่มหล่อสูงศักดิ์ ชายกลางมองพจนีย์ก็รู้ว่าเป็นคนประเภทใดจึงพยายามหลีกเลี่ยง พจนีย์ไปเดินตลาดและเป่าประกาศว่าตนเองได้เป็นเจ้าของบ้านทรายทองและเป็นภรรยาชายกลาง ข่าวรู้ถึงหู นิเวศน์ คงเยี่ยมจิต (สุรศักดิ์ โชตีทินวัฒน์) สามีเก่าที่เป็นครูสอนดนตรี นิเวศน์หวังจะไถเงินจากพจนีย์ จึงมาหาที่บ้านทรายทอง พจมานมองแวบเดียวรู้ว่านิเวศน์มีจุดประสงค์ไม่ดี จึงให้เงินไปก้อนหนึ่งและให้นิเวศน์สัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับพจนีย์อีก นิเวศได้เงินและรับปากสายใจ แอบเห็นเอาไปซุบซิบนินทาว่าพจมานมีกุ๊ยมาหาแอบให้เงินกันและว่ากันไปในทางชู้สาว พจนีย์เอาเรื่องที่พจมานคบชู้มาบอกชายกลาง พจมานบังเอิญเห็นตอนจะมาบอกข่าวว่าท่านต้อมกับหญิงอ้อมจะหมั้นหมายกัน พจมานเรียกพจนีย์ไปคุย ทะเลาะกันใหญ่โต พจมานเสียใจที่พจนีย์กล่าวหาว่าตัวเองมีชู้เลยเผลอตบหน้าพจนีย์ พจนีย์จึงย้ายไปอยู่ข้างเดียวกับหม่อมพรรณราย

ต่อมาชายน้อยเกิดป่วยหนักและจากไปโดยทุกคนไม่คาดคิด สร้างความเสียใจมากยังบ้านทรายทองหม่อมพรรณรายร่ำให้ปานจะขาดใจ เพิ่งจะมาแสดงให้รู้ว่ารักและอาลัยชายน้อยเมื่อสายไป โดยชายน้อยไม่ได้รับรู้ถึงความรักและเอ็นดูจากแม่ผู้ให้กำเนิด วาระสุดท้ายยังเพ้อถึงแต่นมทิพย์ งานศพชายน้อยจัดขึ้นอย่างเศร้าสร้อยพจมานถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ พจมานเกิดความเหนื่อยหน่ายจึงขอชายกลางกลับไปอยู่บ้านแม่

หญิงเล็กเห็นพจนีย์มาอยู่ข้างเดียวกันจึงใช้ให้พจนีย์ไปค้นห้องพจมานเผื่อเจอหลักฐานคบชู้ แต่ที่เจอคือ จดหมายของนิเวศน์ที่เขียนมาขอบคุณสำหรับเงินรักษาตัว และสัญญาที่นิเวศน์ทำไว้กับพจมานว่าจะไม่มายุ่งกับพจนีย์อีก พจนีย์รู้สึกผิดรีบเอาความจริงนี้ไปบอกกับชายกลางและทุกคนในตึกขวางเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจพจมาน ชายกลางรู้ว่าพจมานท้องก็ดีใจมากรีบมาหาพจมานที่บ้าน และบอกพจมานว่าเขารักเธอมากแค่ไหน เป็นสิ่งที่พจมานอยากได้ยินมาตลอด ชายกลางและพจมานจะต้องกลับมาเผชิญความจริงที่บ้านทรายทองอีกครั้ง ครั้งนี้ทั้งเธอและเขาจะต้องเจอกับอุปสรรคอะไรอีกบ้าง และทั้งคู่จะผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปได้ด้วยดีหรือไม่ ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครบ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 สี ละครบ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2558

ตะพดโลกันตร์ 2558

เรื่องย่อ : ตะพดโลกันตร์ (2558/2015) มนุษย์เราผูกพันกันด้วยวิญญาณ หรือร่างกาย จะเกิดอะไรขึ้น หากวิญญาณคนที่เรารักถูกสับเปลี่ยนไปอยู่ในร่างกายของคนที่เราเกลียด เราจะยังคงรักเขาต่อไปได้มั้ย ไม้ จะทำอย่างไร เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกว่า จะทำลายร่างคนที่รัก หรือรักษาวิญญาณคนที่โลกชิงชัง หนึ่งปีผ่านไป หลังจากเหตุการณ์นองเลือดในครั้งนั้น เมื่อเวตาลถูกกำจัด พันเทพ (นภัสกร มิตรเอม) หายสาบสูญไปในการต่อสู้ ความสงบสุขกลับคืนมาสู่ชุมชนอีกครั้ง ไม้ตะพดถูกรวมเป็นหนึ่ง เมฆ (เคลลี่ ธนะพัฒน์) กำลังจะจัดการแต่งงานของอบเชย (วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) กับ ไม้ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) วันวิวาห์ถูกกำหนดขึ้น สิ่งมีชีวิตย่อมมีคู่ ไม่เว้นแม้แต่เวตาลที่สิ้นวิญญาณไป คราวนี้ คู่ของมันกำลังมา วันวิวาห์ของไม้กับอบเชยถูกจัดขึ้นอย่างฉุกละหุก หลายคนในอำเภอพากันเม้าท์ว่าเป็นเพราะอบเชยท้องก่อนแต่ง ร้อนถึงอบเชยต้องไปจัดการกับพวกปากไม่ดีจนมีเรื่องเกือบเสียฤกษ์ เรื่องของเรื่อง อบเชยดันเอาวันเดือนปีเกิดของตนกับไม้ไปให้พระดู พระก็ให้ฤกษ์แต่งมาในคืนวันสุริยุปราคา ที่กำลังจะมาถึงในอาทิตย์หน้า ถ้าไม่แต่งอาทิตย์หน้าก็ต้องรอไปอีก 75 ปี แล้วคนอย่างอบเชยมีหรือจะยอม เธอทำทุกอย่างเพื่อจะให้ได้แต่งงานทันฤกษ์ ไม้เองที่รักกับอบเชยอยู่แล้วก็เลยยอมแต่ง แม้ว่าในพิธีหมั้นตอนเช้าเขาจะต้องแว่บออกไปปฏิบัติภารกิจ ช่วยเหลือคนอ่อนแอของลูกผู้ชาย แทนเมฆผู้เป็นพ่อ ตกเย็นเป็นพิธีวิวาห์ ปรากฏว่างานกร่อยเพราะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญโผล่มากลางงาน นั่นคือพันเทพ พันเทพกลับมาอย่างคนบ้าเลือด และกล้าแกร่ง ยังไม่มีใครรู้ว่ามันหายไปไหนมาท่ามกลางงานวันวิวาห์นั้น แม้เมฆ และไม้จะร่วมมือกันสองคนรุมพันเทพ ยังไม่สามารถเอาชนะพันเทพได้ ไม้เองแม้จะใช้ตะพดด้ามยาวที่รวมทั้งเลือด และวิญญาณเข้าด้วยกัน ยังทำได้เพียงเสมอ และประทังพันเทพเอาไว้ได้เท่านั้น ในการต่อสู้ ไม้ และเมฆได้กระตุกเอาของบางอย่างที่พันเทพห้อยคอมาไว้ได้ มันคือหูที่ยังไม่เน่าเปื่อยของเวตาล ก่อนจากพันเทพได้ลักพาตัวอบเชยไปด้วย สถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง อบเชยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เห็นพันเทพกำลังฝึกวิชาอยู่กับผู้หญิงรูปร่างสะโอดสะองงดงาม แต่มีฝีมือเป็นเลิศ อบเชยตะลึงไม่รู้ความเป็นมาของผู้หญิงคนนั้น รู้แต่เพียงว่าผู้หญิงคนนั้นดื่มเลือดต่างน้ำ และพยายามปลุกเสกวิญญาณบางดวงจากกล่องใส่วิญญาณของเวตาลที่เป็นซากอารยธรรมอันหลงเหลือมาจากสมัยที่เวตาลเคยเรืองอิทธิฤทธิ์ อบเชยรู้ว่านางกำลังทำพิธีกรรมบางอย่าง เพื่อปลุกวิญญาณของบุคคลที่เคยเสียชีวิต ด้วยการถูกเวตาลดูดกลืนวิญญาณ หนึ่งในนั้นคือทิวา (มิกค์ ทองระย้า) ผู้มีวิญญาณอาฆาตชะตากรรม ไม่แพ้เวตาล แต่หญิงเลอโฉมผู้นั้นยังไม่สามารถคืนร่างให้ทิวาสำเร็จ นางทำได้เพียงพูดคุยต่อรอง และรับรู้ถึงความแค้นของทิวาที่มีต่อผู้ครอบครองไม้ตะพด วิญญาณของทิวาสัญญาว่าถ้านางคืนร่างให้เขาได้ เขาจะยินดีรับใช้นางไปตลอดชีวิต ไม้กับเมฆ และศรนารายณ์ (ชาติชาย งามสรรพ์) ไม่รู้ชะตากรรมของอบเชย ทั้งสามได้แต่นั่งพิจารณาหูของเวตาล แล้วไม้ก็เหมือนจะได้ยินเสียงบางอย่างที่แว่วออกมาจากหูนั้น มันเป็นเสียงผู้หญิงที่กำลังคุยอยู่กับอบเชย เป็นคำอาฆาตว่าถ้าหากนางจะต้องอยู่อย่างไร้คู่ไปชั่วกัปชั่วกัลป์แล้วละก็ ไม้กับอบเชยก็ต้องได้รับความทรมานไม่แพ้กัน เสียงปริศนาที่ดังแว่วออกมาจากหูเวตาลนั้น ไม้ และเมฆ ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันเป็นเสียงของใคร ความจริงแล้วมันเป็นเสียงของ นางพญาเวตาล (ภคมน สถิรบุตร) นั่นเอง นางมีนัดพบเจอกับเวตาลผู้เป็นสามีในช่วงเวลานี้บนโลกมนุษย์ แต่นางก็รับรู้จากพันเทพว่าสามีของนางสิ้นแล้วอย่างไม่มีวันกลับ การที่นางติดต่อกับพันเทพได้ก็เพราะพันเทพครอบครองหูของเวตาลอยู่นั่นเอง นางออกคำสั่งให้พันเทพไปเอาหูของเวตาลคืนมา พันเทพรู้ดีว่าไม่สามารถเอาชนะไม้กับเมฆพร้อมกันได้ จึงเสนอเอาตัวอบเชยแลกกับหูเวตาลคืนกลับมา อบเชยรอดจากการปะทะระหว่างไม้ เมฆ และพันเทพกลับมาได้ โดยที่พันเทพได้หูเวตาลไป พันเทพไม่ต้องการให้นางพญาเวตาลคืนร่างให้กับทิวา เพราะความทรงจำที่ยังคงเหลืออยู่ บอกกับพันเทพว่าทิวาจะกลายเป็นคนที่มีอำนาจ และเป็นศัตรูตัวฉกาจต่อการกลับมายิ่งใหญ่ของพันเทพ อบเชยเอาความลับของนางพญาเวตาลมาบอกให้กับไม้ และเมฆรู้ ฝ่ายธรรมะรู้ตัวดีว่า พวกตนกำลังจะต้องเผชิญกับศัตรูที่น่ากลัวอีกครั้ง ตอนนี้นางพญาเวตาลกำลังตกไข่อยู่ ยังไม่สามารถออกมาแผลงฤทธิ์ด้วยตนเองได้ จึงจำใช้พันเทพต่างมือต่างเท้า โดยแลกกับการสอนวิชาเหนือมนุษย์ให้ นางพญาเวตาลจะสามารถสืบทอดเผ่าพันธุ์ได้ เฉพาะกับผู้ที่ฆ่าเวตาลผัวเก่าตนเท่านั้น นั่นก็คือนางพญาเวตาลต้องเอาไม้ทำสามีให้ได้ อิทธิฤทธิ์ของนางจึงจะทะยานขั้นสูงสุด นางพญาเวตาลในร่างของหญิงงามได้พยายามยั่วยวนไม้ แต่ความที่ไม้ซื่อสัตย์รักจริงต่ออบเชย จึงทำให้ความต้องการของนางพญาไม่สัมฤทธิผล แม้แต่ตัวนางเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีผู้ชายคนไหน อดทนต่อการยั่วยวนของธรรมชาติได้ นางพญาเวตาลกับอบเชยถึงกับมีเรื่องกันเพื่อแย่งไม้ นางพญาเวตาล ที่อยู่ในร่างมนุษย์ ไม่สามารถแสดงอภินิหารได้เต็มที่ นางจึงไม่สามารถหักอำนาจไม้ตะพดคู่ที่เคยปราบสามีของนางมาแล้วได้ ดังนั้นนางพญาเวตาลออกอุบายที่จะทำให้พันเทพกับเมฆสลับวิญญาณกัน โดยเมฆตกหลุมพราง เพราะเข้าใจว่าไม้อยู่ในอันตราย วิญญาณของเมฆมาอยู่ในร่างของพันเทพ ส่วนวิญญาณของพันเทพเข้าไปอยู่ในร่างเมฆ เมฆที่บัดนี้กลายเป็นวิญญาณของพันเทพ ครอบครองร่างเอาไว้กลับมาบ้าน เพื่อที่จะหาทางช่วงชิงไม้ตะพดจากลูกผู้ชาย วันเกิดของไม้ และตฤณ (ฐปนัท สัตยานุรักษ์) มาถึง ชายหนุ่มสองคนเกิดวันเดียวกัน และยังไม่เคยลืมว่าที่หมู่บ้านแห่งนั้นมีชายหนุ่มรูปงามอีกคนที่เกิดวันเดียวกับทั้งสองคน นั่นคือทิวานั่นเอง นางพญาเวตาลรู้ดีว่าถ้าหากจะต้องการคืนร่างชุบวิญญาณให้กับทิวานั้นจะต้องอาศัยสายสัมพันธ์ของบุคคลที่เกิดวันเดียวกันอีกสองคน ดังนั้นแผนการบางอย่างของนางพญาเวตาล ที่ต้องการชุบทิวาจึงเกิดขึ้น โดยการร่วมมือของไม้ และตฤณ โดยที่ทั้งสองไม่ทันรู้ตัว พันเทพในร่างเมฆก็พยายามขัดขวางการถือกำเนิดใหม่ของทิวา แต่ไม่สามารถสกัดกั้นได้ทัน ทิวาถือกำเนิดอีกครั้งในค่ำคืนวันเกิดของไม้ โดยที่ทิวายังไม่สามารถจำความแค้นได้ เขาคล้ายเพิ่งจะเกิดมาเพียงแต่ร่างกายเติบใหญ่เป็นหนุ่มกำยำแล้วเท่านั้น นางพญาเวตาลต้องนำทิวากลับไปยังถ้ำเพื่อคืนความทรงจำให้กับทิวา เมื่อทิวาถูกดูแลโดยนางพญาเวตาล เขาเองรู้สึกหลงรักหญิงรูปงามผู้นี้อย่างหมดใจ และตกเป็นเครื่องมืออีกชิ้นในการล้างแค้นโลกมนุษย์ของนางพญาเวตาล ส่วนร่างของพันเทพที่บัดนี้ คือเมฆนั้น ถูกจับขังเอาไว้ในถ้ำ เมฆในร่างของพันเทพแม้จะเจ็บปวดที่ต้องอยู่ในร่างของคนที่ตนรังเกียจ ก็พยายามหาทางไปช่วยไม้ แต่เขายังไม่สามารถออกจากถ้ำนั้นมาได้ เพราะถูกนางพญาเวตาลคุมตัวอยู่ นางพญาเวตาลพยายามยั่วยวนสมสู่กับเมฆในร่างของพันเทพแต่ก็ไม่สำเร็จ นางต้องการเพียงจิตวิญญาณของผู้ที่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกับผู้ที่ฆ่าผัวตนเท่านั้น ทิวาเห็นแผนการยั่วยวนของนางพญาเวตาล เขากลับเข้าใจไปว่าเมฆในร่างพันเทพนั้น วางแผนชิงความรักของนางพญาเวตาลจากเขาไป ทิวาพยายามกำจัดเมฆในร่างพันเทพอย่างบ้าดีเดือด และความทรงจำอันเลวร้ายของทิวาก็กลับคืนสู่ร่าง ทิวารู้แล้วว่าเขามีความแค้น มีความรัก ความหลังอะไรอยู่กับอบเชย และคนที่ทิวาเคียดแค้นชิงชังมากที่สุดก็คือไม้นั่นเอง เมฆที่บัดนี้แววตาเปลี่ยนเป็นชิงชังไปแล้วเพราะมีพันเทพสิงอยู่นั้น มาอยู่ใกล้ ๆ ไม้หาโอกาสที่จะช่วงชิงไม้ตะพดมาให้ได้ ไม้เองก็ไม่รู้ว่าทำไม หลาย ๆ อย่างพ่อถึงเปลี่ยนไปแต่เขายังไม่ได้คิดเลยเถิดไปไกลว่าตอนนี้พันเทพได้มาอาศัยอยู่ในร่างเมฆแล้ว ไม้ได้เผลอทำร้ายศรนารายณ์จนถึงกับกลายเป็นอัมพฤกษ์ด้วยแผนการร้ายของเมฆ อบเชยไม่รู้ คิดว่าไม้ต้องการทำร้ายพ่อของตน เธอจึงเสียใจมาก และบอกเลิกกับไม้ ไม้พยายามอธิบายเท่าไรอบเชยก็ไม่ฟัง ไม้รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ความรักของเขากับอบเชยต้องกลับไปอยู่ยังจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทิวาเองก็ได้อาศัยช่องว่างตรงนี้เข้ามาแทรกกลางระหว่างไม้กับอบเชย อบเชยประหลาดใจที่ทิวากลับมา แต่ด้วยความที่ทิวาเรียนรู้วิชาสมุนไพรมาจากนางพญาเวตาล ทำให้ทิวามีวิธีจะช่วยรักษาศรนารายณ์ได้ดีขึ้น อบเชยจึงรู้สึกดีกับทิวา เมื่อไม้เจอกับทิวาครั้งแรกก็ประหลาดใจ แต่ทิวาก็บอกว่าตนเป็นคนดีแล้ว ซึ่งที่จริงแล้ว ทิวาก็หาจังหวะทิ่มแทงไม้ข้างหลังอยู่ตลอดเวลา และอบเชยเองก็มีทีท่าว่าจะให้คะแนนทิวาอยู่เนือง ๆ พันเทพหรือภายในจิตใจที่เป็นเมฆนั้น หนีออกมาจนได้ โดยถูกนางพญาเวตาลให้กินสมุนไพรทำให้ไม่สามารถพูดได้ และได้ไปพบไม้ ไม้เข้าใจผิดคิดว่าเมฆคือพันเทพ ไม้ต่อสู้กับพันเทพ โดยที่ไม่รู้เลยว่า ตนกำลังต่อสู้กับเมฆอยู่นั่นเอง เมฆในร่างพันเทพไม่อยากทำร้ายไม้ เขาจึงต้องหนีจากไป ไม้มาบอกเมฆ ซึ่งในเวลานั้นคือพันเทพว่าได้ปะทะกับพันเทพ พันเทพมีท่าทีแปลก ๆ เหมือนพยายามบอกอะไรตน เมฆจึงดักทางว่ามันอาจพยายามสร้างเรื่องว่ามันเป็นพ่อ แล้วพ่อเป็นมันอยู่ พันเทพที่ตอนนี้จิตใจเป็นเมฆ พยายามเตือนอบเชยถึงเล่ห์กลของทิวา แต่คำพูดของเมฆที่ผ่านปากพันเทพตอนนี้ก็ไม่มีน้ำหนักที่ใครจะเชื่อถือ หนำซ้ำยังต้องมาพลาดท่าถูกทิวาตีเอาขาเดี้ยง จนต้องเดินคล้ายกับเมฆในภาคแรกซะอีก ไม้เข้าใจว่าพันเทพล้อเลียนพ่อตนก็มีเรื่องให้ต้องตีกัน เมฆถึงแม้อยู่ในร่างพันเทพก็ไม่อยากทำร้ายไม้จนต้องถูกไม้ทำร้ายบาดเจ็บอบเชยได้มาพบกับพันเทพที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับไม้ อบเชยเกือบฆ่าพันเทพ ซึ่งจริง ๆ ในเวลานั้นคือเมฆ แต่เดชะบุญมีเหตุให้อบเชยรับรู้ว่าจริง ๆ แล้วเมฆกับพันเทพสลับร่างกันอยู่ในเวลานี้หากฆ่าร่างพันเทพเมฆที่ติดอยู่ในร่างนั้นจะตายไปด้วย และพันเทพตัวร้ายก็จะกลายเป็นเมฆไปตลอดกาล อบเชยยังน้อยใจไม้อยู่ไม่อยากยุ่งด้วย แต่ก็มีเรื่องให้เธอต้องเข้ามาพัวพัน และพยายามอธิบายให้ไม้เข้าใจว่าอบเชยพยายามแก้แค้นที่เขาทำร้ายศรนารายณ์จนเป็นอัมพาต อบเชยกับไม้จึงระหองระแหงน้อยใจกันอีก เรื่องราวจากนี้ไปจึงกลายเป็นเรื่องชิงไหวชิงพริบ ชิงรัก และหักเหลี่ยมการต่อสู้ ระหว่างพันเทพในร่างเมฆ และเมฆในร่างพันเทพ แม้ว่าพันเทพจะสามารถพูดได้แล้ว แต่เขาก็ต้องทำให้ไม้เชื่อให้ได้ว่าเขาคือเมฆ เมฆในร่างพันเทพ และพันเทพในร่างเมฆ ปะทะการต่อสู้ช่วงชิงกันเพื่อปกป้องไม้ตะพดวิเศษ หลายครั้งที่เมฆในร่างพันเทพต้องเจ็บปวดเจ็บช้ำ เพราะคนเข้าใจว่าเขาเป็นคนเลว เพราะเขาต้องติดอยู่ในร่างของพันเทพนั่นเอง ไหนจะเรื่องของนางพญาเวตาลที่ในที่สุดก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลาย นางก็ได้เมฆเป็นสามี เพราะความที่เมฆต้องการช่วยไม้ จึงตกอยู่ภายใต้มนตร์สะกด และเข้าใจผิด อิทธิฤทธิ์ของนางพญาเวตาลขึ้นถึงขีดสูงสุดจนสามารถนำเวตาลที่กลับมาเกิดในรังไข่ของตน และมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ไม้จะต้องทำอย่างไร เขาจะต้องเลือกระหว่างเมฆกับพันเทพ พ่อที่แท้จริงในร่างของคนที่เลวทราม ความรักระหว่างเขากับอบเชยจะเป็นอย่างไร ทิวาจะสามารถชนะใจอบเชยได้หรือไม่ ?? ศรนารายณ์กับ เจ๊กี (อภิรดี ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) จะกลับมาเหมือนเดิมไหม ติดตามชมกันต่อได้ใน ละคร ตะพดโลกันตร์ ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 สี ละคร ตะพดโลกันตร์ เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2558

พญาโศก 2558

เรื่องย่อ : พญาโศก (2558/2015) หนูใหญ่ (ลำหับ) เป็นลูกสาวของ ราม หัวหน้าค่ายอาสาป้องกันชายแดนผู้ทรยศต่อแผ่นดิน เพราะความอยากเป็นใหญ่มีเงินทองจึงไปเข้าร่วมกับ พ่อเลี้ยงศร เจ้าพ่อค้ายา ทำสิ่งผิดกฎหมาย และก่อการร้าย รามเปิดทางให้พวกพ่อเลี้ยงศรเข้ามาเผาค่ายเพื่อใช้เป็นทางผ่านส่งยา ในคืนวันเกิดเหตุหลังจากที่ลำหับฝึกซอสามสายที่ นลินี ผู้เป็นแม่ฝึกสอนให้ประจำแล้ว รามสั่งให้นลินีเล่นเพลงพญาโศกซึ่งรามแอบใช้เป็นเพลงสื่อสารกับพ่อเลี้ยงให้รอช่วงเวลาหลังจากเพลงจบบุกทำลายค่าย นลินีไม่ต้องการเล่นเพลงนี้เพราะจับสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่สามีสั่งให้เล่นเพลงนี้จะมีความตายเกิดขึ้น แต่ก็ไม่อาจขัดขืนได้จึงจำใจเล่น

ศรได้ยินเสียงเพลงพญาโศกขึ้นจึงรีบสั่งการตามที่นัดหมายกับรามทันที เมื่อเพลงจบรามสั่งให้ลูกเมียเดินทางออกจากค่ายโดยไม่ยอมตอบคำถามว่ามีจุดหมายที่ใด อนุญาตเพียงให้เอาซอสามสายไปด้วย นลินีเกิดลางสังหรณ์ว่ารามอาจทำสิ่งไม่ถูกต้องจึงปฏิเสธที่จะออกจากค่ายจนกว่าจะได้คำตอบ รามตอบเพียงว่า ถ้าอยู่ครอบครัวต้องตายหมดเพราะค่ายกำลังจะถูกทำลาย นลินีเข้าใจทันที และต่อว่ารามว่าหักหลังพี่น้องในค่าย เธอจะไปบอกให้ทุกคนรู้ตัวโดยที่ไม่ฟังคำสั่งของรามว่าให้ออกจากค่ายไม่เช่นนั้นจะยิงให้ตาย

นลินี และลูกพากันวิ่งกลับไปเพื่อตะโกนบอกพวกในค่ายให้รู้ตัว ขณะเดียวกันนั้นพ่อเลี้ยงศรก็ยิงระเบิดเข้าไปในค่ายหลายลูก รามตัดสินใจยิงนลินีก่อนที่จะเข้าไปบอกทุกคนจนล้มลง ซอสามสายกระเด็น ลำหับ และน้องชายตกตะลึง นลินีที่ใกล้ตายตะโกนสั่งให้ลำหับซึ่งตอนนั้นชื่อหนูใหญ่ ส่วนน้องชายชื่อน้องเล็ก (พลเทพ)ให้พาน้องหนี ลำหับก้มลงเก็บซอกระชากน้องชายหนี แต่รามจิกหัวไว้จนผมขาดจากหัวกระจุกใหญ่ รามแย่งเอาน้องเล็กมาได้ คนของศรเข้ามาเจอเหตุการณ์จะยิงลำหับ นลินีฮึดเฮือกสุดท้ายกระโดดไปขวางทางปืนล้มลงตาย ลำหับหนีรอดไปได้ ค่ายโดนทำลายคนในค่ายตายทั้งหมด ศรพาคาราวานยาเสพติดผ่านค่ายไปได้ ตั้งรามให้เป็นหัวหน้าค่ายแห่งใหม่ รามได้รางวัลเป็นเงินทองมากพอสมควร

ลำหับหอบซอหนีมาหกล้มหกลุกคลุกคลานหมดแรงสลบบนก้อนหินใหญ่กลางป่า เช้ารุ่งขึ้น บริพัตร ทำงานสำรวจรังวัดถนนที่ดิน เข้ามาสำรวจงานตามปกติกับลูกน้องสองคน ขณะที่ส่องกล้องสำรวจ ได้ยินเสียงเพลงพญาโศกแว่วมาจึงแพนกล้องไปยังก้อนหินใหญ่ เขาเห็นเด็กสาวแรกรุ่นหน้าตาสะสวยน้ำตาอาบนองหน้ากำลังเล่นเพลงพญาโศก บริพัตรเข้าไปยืนฟังใกล้ ๆ รอจนเพลงจบจึงแสดงตัว แต่ลำหับไม่ยอมพูดจาหรือตอบคำถาม หอบซอหนีไป บริพัตรตามจนลำหับหมดแรงล้มสลบไปอีกครั้ง บริพัตรจึงพาลำหับกลับไปบ้านตนเอง ลำหับรู้สึกตัวที่บ้านบริพัตร เห็นบริพัตรคนแรกรีบถอยหนีดึงซอมากอดไว้แน่น นายแม่ ของบริพัตรนั่งอยู่ด้วยเข้าปลอบโยนจนหายตกใจ กระนั้นลำหับก็ยังไม่ยอมพูดจากับใครเช่นเดิม จนทุกคนคิดว่าลำหับเป็นใบ้ นายแม่ตั้งชื่อให้หนูใหญ่ว่าลำหับ ลำหับเอาแต่สีซอเพลงพญาโศก ข้าวปลาแทบไม่ยอมกิน จนกระทั่งวันหนึ่งนายแม่เป็นลมกะทันหันไม่มีใครในบ้านเห็น ลำหับไปช่วยพูดจาดูอาการนายแม่ ทำให้ทุกคนดีใจมากที่ลำหับพูดได้ วิเวก คนรถกับ ตึ๋งหนืด คนรับใช้ ชื่นชมรักใคร่ลำหับมากโดยเฉพาะนายแม่ บริพัตรดีใจที่สุดตัดสินใจส่งลำหับไปเรียนหนังสือ แต่ไม่ว่า ลำหับจะพูดจาอะไรก็ไม่เคยปริปากบอกว่าเป็นใครมาจากไหน

เฉิดเฉลา หญิงสาวเปรี้ยวเฉี่ยวที่ทุกคนเข้าใจว่าคือเจ้าสาวในอนาคตของบริพัตร ไม่ชอบลำหับตั้งแต่ก้าวแรกที่บริพัตรพามาบ้าน พยายามบอกให้ไล่ไปให้พ้นเพราะลำหับต้องเป็นคนไม่ดีแน่นอน เฉิดเฉลาเบื้องหน้าเป็นหลานของพ่อเลี้ยงศร แต่ความจริงแล้วเป็นลูกสาวของแม่บ้านที่ท้องกับคนงานด้วยกันแต่ไม่มีใครยอมรับเป็นพ่อ พอโตขึ้นหน้าตาดีจึงถูกศรปล้ำ และรับเอามาเป็นเมียน้อยตั้งแต่อายุเพิ่งแรกรุ่น เฉิดเฉลาแสร้งทำดีแต่ในใจเกลียดชังคิดล้างแค้น เฉิดเฉลารู้ความลับ และความเป็นมาของ ลำหับ เฉิดเฉลามักใหญ่ใฝ่สูงอยากได้ใคร่ดี แอบคบเพื่อนชายสนิทคือ ยศพงษ์ เป็นเศรษฐีใหม่ไฟแรงเคมีตรงกัน เฉิดเฉลาสมคบกับยศพงษ์โค่นล้มศร เพราะเกรงใครจะรู้ว่าเธอคือเมียน้อยของศร แม้แต่ยศพงษ์ก็ไม่รู้ เฉิดเฉลามีลูกกับศรชื่อ เศก เศกเป็นเด็กติดยา เฉิดเฉลาบอกทุกคนว่าเก็บมาดูแล เฉิดเฉลาทำตัวเป็นคนใจบุญดูแลเศกที่ติดยาถึงขั้นหนักหน่วง เมื่อโค่นศรได้แล้ว ยศพงษ์ก็จะกลายเป็นเจ้าพ่อค้ายาคนใหม่ แทนศร

ลำหับสวยวันสวยคืนเก่งงานสารพัด เรียนจบมอหก และจะไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อ ก่อนที่พ่อเลี้ยงศรจะโดนโค่นล้ม เฉิดยุยงให้ศรขอลำหับมาเป็นเมียเพื่อกีดกันลำหับให้พ้นจากบริพัตรที่เธอหมายปอง เฉิดพาพ่อเลี้ยงมาสู่ขอลำหับจากนายแม่ นายแม่โยนไปที่บริพัตร บริพัตรพูดไม่ออกบอกนายแม่ขอถามความเห็นของลำหับก่อน ลำหับปฏิเสธแม้ว่านั่นจะทำให้เธอกลายเป็นหญิงผู้ร่ำรวย เฉิดไม่พอใจมาก ๆ ลำหับกับบริพัตรพากันไปยังสถานที่พบกันครั้งแรก ทั้งสองสารภาพรักกัน บริพัตรขอลำหับแต่งงาน ลำหับตกลง บริพัตรแจ้งข่าวนี้กับนายแม่ ท่านยินดี และเต็มใจ เฉิดเฉลาแค้นมาก งัดไม้ตายเรื่องความหลังของลำหับว่ามีพ่อคือรามเป็นคนขายชาติ และจะเป็นการทำลายการไปสมัคร สส. ของบริพัตร นายแม่ไม่แคร์สิ่งนี้ และขอโทษเฉิดเฉลาแทนบริพัตร

ส่วนเรื่องอนาคตให้บริพัตรตัดสินใจเอง ลำหับแอบได้ยินทั้งหมดจึงตัดสินใจหนีไปจากบริพัตร ลำหับชวนบริพัตรไปยังโขดหินแห่งนั้นอีกครั้ง ทั้งสองได้เสียกันในคืนนั้น เมื่อบริพัตรตื่นมาไม่พบลำหับจึงรู้ว่าลำหับหนีไปแล้ว เขาเสียใจมากจนล้มป่วย เฉิดเฉลาวางแผนกับยศพงษ์ว่าจะใช้บริพัตรเป็นเครื่องมือหากินหลังจากที่บริพัตรได้เป็นสส. ยศพงษ์ลงทุนหาเสียง และแอบซื้อเสียงให้บริพัตรโดยที่เขาไม่รู้ตัว เฉิดเฉลาบอกบริพัตรเรื่องลำหับเป็นลูกคนขายชาติ บริพัตรบอกไม่จำเป็นที่ลำหับต้องขายชาติไปด้วย เฉิดเฉลาตามหาลำหับ ต่อว่าต่อขาน จ้างวานลำหับให้หนีไปให้พ้นอย่าให้บริพัตรเจอ ให้ลำหับนึกถึงอนาคตของบิริพัตร ลำหับปฏิเสธจะรับเงินแต่รับปากจะหนีให้พ้นบริพัตร เฉิดมาบอกบริพัตรว่าลำหับมีผู้ชายคนใหม่ชื่อ ชาตรี ไปมาหาสู่บ่อย ๆ

บริพัตรตามหาลำหับจนพบ ลำหับจึงแกล้งทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเธอยินยอมจะแต่งงานด้วยถ้าบริพัตรจะยอมเป็นคนขายชาติเข้าร่วมกับพ่อของเธอ บริพัตรไม่เชื่อ ลำหับยืนยันว่าจริง บังเอิญชาตรีมาหาลำหับ บริพัตรถามว่านี่คือผู้ชายคนใหม่หรือลำหับรับว่าใช่ บริพัตรจึงจำใจตัดใจจากลำหับด้วยความเศร้าโศกผิดหวังกลับมาแต่งงานกับเฉิดเฉลา บริพัตรได้เป็นสส.ดังต้องการ ถึงคราวที่ยศพงษ์ และเฉิดเฉลา จะเอาคืน ทั้งสองขอให้บริพัตรผลักดันโครงการที่หมายตาไว้ให้ยศพงษ์ บริพัตรปฏิเสธ เฉิดเฉลาบอกว่าจะเปิดโปงบริพัตรเรื่องลำหับ และจะแฉบริพัตรว่าเนรคุณที่ยศพงษ์ซื้อเสียงให้ บริพัตรตกใจมากเพราะไม่เคยทราบมาก่อน จึงตัดสินใจลาออกจาก สส. หันมาทำงานส่วนตัว

เฉิดกับยศเหิมเกริมเล่นชู้กันจนออกนอกหน้า นายแม่เห็นจึงตักเตือน เฉิดไม่พอใจเถียงสู้ด่ากลับแล้วผลักนายแม่จนตกจากบันไดคอหักตาย แสร้งทำโวยวายร้องไห้ว่าเข้ามาพบนายแม่ตกบันได บริพัตรหมดสิ้นทั้งแม่ และคนรัก เตลิดเปิดเปิงหายเข้าป่าไป เขาไปนั่งรอลำหับที่โขดหิน บางครั้งได้ยินเสียงซอสามสายเพลงพญาโศกดังแว่วมา พอตามไปหาที่มาของเสียงกลับไม่พบอะไร ที่แท้ลำหับนั่นเองลอบตามมาแอบดูบริพัตร ลำหับไปทำไร่ดอกไม้โดย มีวิเวกกับตึ๋งหนืดตามไปอยู่ด้วย เฉิดเฉลาท้องกับยศพงษ์แต่ไม่ได้บอกใคร กลับทำให้ทุกคนเข้าใจว่าท้องกับบริพัตร ส่วนลำหับคลอดลูกเป็นชายชื่อ คนัง ตลอดเวลาลำหับไม่เคยทราบว่าชาตรีคือตำรวจลับนอกเครื่องแบบที่แอบติดตามพฤติกรรมของเธอมาตลอด เธอมักพบชาตรีตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในเวลาที่คับขัน เขาจะเป็นคนที่มาช่วยให้เธอรอดปลอดภัย จนกลายเป็นคนที่ไปมาหาสู่ที่ไร่ของลำหับ พลเทพน้องเล็ก ซึ่งโตแล้ว และได้รามครอบงำเต็มที่ปฏิบัติตามคำสั่งพ่อแต่โดยดี พลเทพลงมาจากเขามาดูพฤติกรรมของลำหับโดยไม่บอกว่าเขาคือน้องเล็ก รามให้พลเทพพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลำหับไปเป็นพวก ลำหับปฏิเสธ แต่พลเทพเองก็ไม่ย่อท้อ

เฉิดแอบหลบไปคลอดลูกเงียบ ๆ และยกเด็กให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอบอกยศพงษ์ว่าเด็กแท้งตายไปแล้ว ยศพงศ์มีลูกกับภรรยาเก่าที่แต่งงานด้วยซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่ลูกสาวคือ เพ็ญโพยม ยังเล็ก ๆ ทิ้งเพ็ญให้อยู่ในความดูแลของ แม่เริ่ม กับ อาเดียว ญาติห่าง ๆ ยศพงษ์ให้ทุกอย่างทางวัตถุยกเว้นความรักความห่วงใย วิเวกมีญาติทำงานในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบอกลำหับว่าเฉิดทิ้งลูกที่ลงทะเบียนว่าเป็นลูกของบริพัตรไว้ ลำหับจึงไปรับมาดูแลเพราะสงสาร บริพัตรอาการหนักเพราะไปพลัดตกลงมาจากโขดหินที่ทั้งสองเคยพลอดรักกัน ลำหับรีบรับตัวบริพัตรมาดูแล เมื่อบริพัตรได้สติเขาได้ยินเสียงเพลงพญาโศก และพบว่า ลำหับสีซออยู่ใกล้ ๆ เขาดีใจมาก ลำหับบอกความจริง และบอกเรื่องลูก บริพัตรจึงขอร้องให้ดูแลลูกของตนกับเฉิดเฉลาด้วย ลำหับพาคนังกับ จักริน ลูกของเฉิดมาให้รู้จัก บริพัตรกอดคนัง จักริน และลำหับก่อนหมดลมหายใจ

ลำหับเลี้ยงดูเด็กทั้งสองด้วยความรักใคร่เท่าเทียมกัน สอนให้คนังรักน้องอภัยให้น้อง ยิ่งโตเด็กสองคนยิ่งมีนิสัยแตกต่างกัน จักรินชั่วร้ายเอาแต่ใจเห็นแก่ตัว เมื่อทำความผิดจะโทษคนัง ให้คนังยอมรับโทษแทนเสมอโดยที่ลำหับไม่เคยทราบ วิเวกกับตึ๋งหนืดระอาใจกับจักรินมาก โตขึ้นเรียนหนังสือเวลาสอบจักรินให้คนังใส่ชื่อและหมายเลขสอบของตน ส่วนตนเองใส่ชื่อคนัง ทำให้จักรินได้คะแนนสูงแต่คนังคะแนนต่ำ จบม.หก คนังตัดสินใจไม่เรียนต่อเพื่อให้แม่ได้ส่งเสียจักรินคนเดียว คนังใช้วิธีครูพักลักจำไปเรียนวิชาการเกษตรจากอาจารย์แม่โจ้ที่เกษียณแล้ว ทำสวนดอกไม้สวยงามใหญ่โต เอาเงินส่งให้จักรินเรียนเมืองนอกแบบลูกเศรษฐี

ที่เมืองนอกจักรินพบกับเพ็ญโพยม และสนิทสนมกัน จักรินหลงรักเพ็ญ แต่เพ็ญชอบพอบ้างไม่ถึงกับหลงรัก ทั้งสองไม่รู้ว่าพ่อเดียวกันเพียงแต่คนละแม่ จักรินอวดว่าเป็นลูกเศรษฐีมีเงิน เพ็ญฟังแล้วเบื่อมาก เพ็ญเลือกเรียนด้านดนตรีส่วนจักรินเรียนแบบจับจดไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปิดเทอมทั้งสองต่างกลับบ้าน และนัดเจอกันที่เมืองไทย จักรินไม่อยากอยู่บ้านไร่กลัวคนว่ายากจน โดยหารู้ไม่ว่าคนังได้ขยายกิจการจนมีบ้านน่ารักน่าอยู่ จักรินพักที่คอนโดหรูในตัวเมือง เพ็ญไม่พอใจน้อยใจพ่อที่เอาแต่อยู่กับ เฉิดเฉลาทำตัวเป็นนักการกุศลดูแลเด็กเศก และเด็กยากจนอื่น ๆ แต่ไม่เหลียวแลลูกตนเอง จึงไม่ยอมเข้าบ้านพ่อ แต่จะไปหาแม่เริ่มกับอาเดียวที่เป็นผู้เลี้ยงดูเธอมา ซึ่งก็ย้ายบ้านใหม่เช่นกัน เพ็ญขับรถมาตามลำพังเพื่อไปหาแม่เริ่มกับอาเดียว แต่ไปไม่ถูกจึงแวะถามทางที่ไร่ของลำหับ เจอวิเวกเขาจะเป็นคนพาไปแต่รถยางแบน วิเวกเรียกตึ๋งหนืดมาช่วย และฝากคนังให้พาเพ็ญไปนั่งรอ

คนังทำท่าเข้มไม่สนใจความเป็นสาวเปรี้ยวของเพ็ญ เพ็ญรู้สึกว่าคนังอวดดีปั้นปึ่ง เพ็ญหิวน้ำคนังก็ชี้ให้ไปกินในห้วย เพ็ญแอบเห็นคนังใช้ใบไม้รองน้ำกิน จึงขอใบไม้บ้าง คนังหมั่นไส้ส่งใบไม้ที่มีมดให้ เพ็ญโดนมดกัดปากเจ่อโวยวายใส่คนัง คนังหัวเราะเยาะแล้วเดินหนีไป เพ็ญเดินตามไปจะเอาเรื่องกลับได้ยินเสียงเพลงพญาโศก จึงหยุดทันทีหันเดินไปตามเสียงเพลงดังกล่าว พบว่าลำหับกำลังสีเพลงที่หลุมศพใครคนหนึ่ง เพ็ญเข้าไปทักทายจึงทราบว่าลำหับคือเจ้าของไร่ดอกไม้แห่งนี้ เธอบอกว่าสนใจซอสามสาย และเพลงพญาโศกนี้มาก เคยได้ยินเพลงนี้ แต่ไม่ไพเราะอย่างนี้ อยากขอมาเรียนรู้เพลงนี้จากลำหับบ้าง ลำหับยินดี ลำหับบอกว่าเธอมีลูกชายสองคน คนโตคือคนังผู้จัดการไร่ คนเล็กอยู่เมืองนอกหารู้ไม่ว่าจักรินมาขอให้คนังส่งเงินไปให้เช่าคอนโดอยู่ และกำลังจะขอให้ซื้อรถให้ และในระหว่างรอ จักรินจึงเอาเงินไปเช่ารถหรูมาขับ ขณะคุยกันลำหับทราบว่าเพ็ญเรียนเมืองเดียวกับลูกชาย และกำลังจะบอกชื่อลูกชายอีกคนแต่ไม่ทัน ได้บอก คนังก็มาบอกว่ารถใช้ได้แล้ว วิเวกพาเพ็ญไปส่งที่บ้านแม่เริ่มกับอาเดียว เพ็ญกลับไปเจอเข้ากับยศพงษ์เฉิดเฉลา และจักรินที่นั่น วิเวกซึ่งแอบหลบซ่อนดูอยู่จึงเห็นเหตุการณ์ และพบว่าแทนที่ยศพงษ์จะดีใจที่เห็นเพ็ญกลับมา แต่กลับบอกให้ไปคุยกับเฉิดเฉลาเรื่องงานกุศลที่จะให้เพ็ญโชว์ศิลปะที่ร่ำเรียนมา

เพ็ญต่อว่าพ่อไม่ใยดี จักรินรีบประจบเอาใจเฉิดกับยศเพื่อทำคะแนนเรื่องเพ็ญ สองคนคิดว่าจักรินเป็น ลูกเศรษฐีจึงยิ้มแย้มต้อนรับ ทั้งหมดทำให้วิเวกใจหายใจคว่ำมากรีบหนีกลับไร่ เฉิดกับยศพูดจบก็กลับไป ทิ้งให้เพ็ญอยู่กับอาเดียวแม่เริ่ม และจักริน ยศพงษ์ให้แค่ซองเงินเป็นค่าใช้จ่ายวันงาน เพ็ญน้ำตาตกใน จักรินชวนเพ็ญไปเที่ยวดูแสงสีในเมือง เพ็ญปฏิเสธ แม่เริ่มกับอาเดียวได้แต่มองหน้ากันทำตาปริบ ๆ สงสารเพ็ญ เพ็ญไปหาลำหับให้สอนเพลงพญาโศกและสอนสีซอสามสาย เพ็ญใช้เพลงพญาโศกประกอบ นาฏลีลาแสดงโชว์ของตนเอง โดยขอร้องให้ลำหับสีเพลงนี้ให้เธอ ลำหับรับปาก ทุกวันเพ็ญมาฝึกซ้อมที่ไร่ร่วมเดือน (ไร่ของลำหับ) เพ็ญพบกับคนังมีปากเสียงกันทุกวัน เพ็ญเปรยว่าอยากเจอหน้าน้องชายของคนังมาก เพราะลำหับคุยอวดไว้ว่าเป็นเด็กดีเรียนเก่ง คนังบอกลำหับว่าจักรินกลับมาแล้วไม่ยอมกลับมาบ้าน ลำหับน้อยใจเงียบ ๆ ให้คนังโทรไปหาจักริน จักรินบอกกำลังคุยเรื่องงาน และต้องการรถหนึ่งคันเพื่อใช้ติดต่องาน ไม่อยากให้ใครคิดว่ายากจนเพราะมีแฟนร่ำรวยมาก สองคนได้แต่อึ้ง แต่คนังก็รับปากน้องชายพยายามจะหาเงินให้จักรินไปดาวน์รถให้ได้

ถึงวันงาน มีการแสดงโชว์ต่าง ๆ พอถึงชุดที่เพ็ญโชว์ ทุกคนเงียบกริบเพลงพญาโศกหวานเย็นไพเราะจนทุกคนต้องนิ่งเงียบ ลีลาการแสดงของเพ็ญประทับใจคนดูที่สุด เมื่อจบการแสดงทุกคนต่างลุกขึ้นยืนปรบมือยกนิ้วส่งเสียงเอาอีก ๆ ให้เพ็ญ พิธีกรคือจักรินเป็นตัวแทนสัมภาษณ์เพ็ญ การแสดงครั้งนี้มีการถ่ายทอดทีวีด้วย รามดูรายการนี้ ส่วนพลเทพไปดูที่ห้องส่งจำเสียงเพลงพญาโศกนี่ได้ดีมาก การสัมภาษณ์เริ่มต้นขึ้น จักรินชื่นชมเพ็ญมากมาย เพ็ญกลับบอกว่าต้องยกเครดิตนี้ให้กับผู้ที่สีซอสามสายเพลงพญาโศก ยศพงษ์ และหลายคนต้องการให้พาไปดูคนสีซอผู้นี้ที่สุด เพ็ญพาจักรินไปพบลำหับทุกคนตะลึง ยศพงษ์ จักริน ถึงกับนิ่งอึ้ง รามที่ดูอยู่บนเขาในป่าตะลึงนิ่งเงียบ เห็นลำหับแม้จะเป็นผู้ใหญ่สามสิบกว่าแต่ยังสวยงามได้แต่ถอนใจ พูดไม่ออก แต่คนที่ทนไม่ได้คือเฉิดนั่นเอง ลืมตัวเผลอวิ่งเข้ากล้องมากระชากคันซอไปจากมือลำหับขว้างทิ้ง ตบหน้าจนทุกคนตกตะลึงพรึงเพริด

เฉิดเฉลาอ้างว่าตบสั่งสอนลูกคนขายชาติ ผู้กำกับรายการสั่งตัดภาพทันที เข้าโฆษณา แต่ผู้ชมก็เห็นกันทั่วประเทศแล้ว เฉิดเฉลาโกรธมากที่ลำหับบังอาจมาเล่นซอสามสายในงานของเธอ คนังปราดมาปกป้องแม่ วิเวกกับ ตึ๋งหนืดก็เช่นกัน เพ็ญโกรธเฉิดมากด่ากลับเฉิดรุนแรง จักรินพูดไม่ออก เพ็ญขอโทษลำหับ ชาตรีมาปรากฏตัว และแนะนำให้ลำหับกลับไปก่อน ขณะกำลังจะกลับจักรินวิ่งตามมาบอกลำหับว่าอย่าบอกทุกคนว่าเป็นลูก คนังชกจักริน ลำหับต้องห้ามเอาไว้ และรับปากว่าจะไม่บอกใคร จักรินโล่งอก เฉิดกับยศตามมาสำทับว่าอย่าคบหากับลูกสาวของพวกเขาเด็ดขาด และสั่งจักรินว่าพวกเราเป็นผู้ดีมีเงินอย่าไปเกลือกกลั้วคนชั้นต่ำ จักรินรีบทำท่าดูถูกผสมทันที คนังจะอาละวาดอีกครั้ง ลำหับต้องรีบห้าม

พลเทพกลับไปรายงานพ่อถึงเรื่องลำหับ และคนัง รามบอก สน มือขวาว่าต้องการให้สนติดตาม ลำหับมาเป็นพวกให้ได้ สนบอกว่าชาตรีเป็นคนรักของลำหับ ชาตรีน่าจะช่วยพูดให้ได้ รามตกลงให้เอา คนังมาด้วย เพ็ญไม่สบายใจมาก คนังก็แค้นมากที่เฉิดมาตบหน้าแม่ และโดนดูถูกจากยศพงษ์ คนังเก็บความแค้นเอาไว้เต็มอก วิเวกกับตึ๋งหนืดต่อว่าลำหับว่าทำไมไม่บอกเฉิดไปว่าจักรินคือลูกของเฉิดที่ลำหับเก็บมาเลี้ยง ลำหับห้ามไว้เพราะจักรินจะอับอาย จักรินแอบมาอีกครั้งมาบอกว่าจะเอาเงินไปซื้อรถเขาเห็นไร่ใหญ่โตไม่เชื่อว่าไม่มีเงิน และห้ามไม่ให้ไปในที่พวกเพ็ญ และจักรินไป ลำหับรับปากน้ำตาไหลพราก คนังประกาศว่าไม่ซื้อรถไม่ส่งเสียคนอกตัญญูอีกแล้ว ทำให้จักรินยิ่งแค้นใจมากชกต่อยกัน ลำหับแอบให้เงินจักรินไปก้อนหนึ่ง จักรินบอกว่าจะไม่มาที่นี่อีก เพราะกำลังจะไปเป็นลูกเขยของบ้านเฉิดแล้ว

เฉิดพยายามสืบสวนว่าจักรินคือลูกใคร ฐานะดี ชาติตระกูลดีแค่ไหน จักรินก็เล่นบทหลอกลวงจนสองคนเชื่อว่าเป็นลูกเศรษฐี จักรินขอเพ็ญแต่งงานเพ็ญปฏิเสธ วันหนึ่งเพ็ญแอบมาที่ไร่ของลำหับยังไม่ทันจะเข้าไปกลับพบกับคนังเสียก่อน เพ็ญโดนคนังต่อว่าแรง ๆ เพ็ญแรงตอบ และจะเข้าไปพบลำหับให้ได้ สองคนยื้อยุดกัน คนังโกรธจับเพ็ญมัดโยนใส่รถของเพ็ญเองแล้วขับไปในป่าที่มีทะเลสาบกระท่อม ลุงเปรื่อง ที่คนังคุ้นเคยซึ่งตอนนี้ลุงเปรื่องไม่อยู่แล้ว ทั้งสองทะเลาะตบตีกันในบ้านหลังนั้นหลายวัน คนังไม่ได้ล่วงเกินเพ็ญ ในที่สุดทั้งสองก็แอบรักกัน และกัน แต่ยังมีทิฐิอยู่

เฉิด ยศพงษ์ และจักรินตามหาเพ็ญไม่พบ มั่นใจว่าโดนคนังลักพาตัว จักรินรับอาสามาถามลำหับ จักรินทำร้ายด่าทอลำหับ ชาตรีมาห้ามเอาไว้ และต่อว่า ขู่ว่าจะไปแจ้งความ จักรินจึงกลับไป แล้วในที่สุดก็กลับมาอีกพร้อมกับยศพงษ์ สมุน และเฉิดมาบังคับให้ลำหับบอกให้ได้ ลำหับบอกไม่รู้ไม่เห็นเพ็ญกับคนัง คนังผูกเพ็ญไว้ตลอดเวลา ทีแรกเพ็ญไม่ยอมกินอาหารแกล้งสั่งให้ให้คนังไปหาอาหารแปลกมาให้กิน เช่นปลาโน่นปลานี่ คนังตากฝนไปหาปลาดังกล่าวมาให้เพ็ญโดนขวดแตกในน้ำบาดเป็นแผลเหวอะหวะอักเสบบวมไข้ขึ้น คนังจึงตัดสินใจปล่อยเพ็ญ เพ็ญออกไป คนังพยายามตะกายจะไปหาหมอเองล้มลงหมดสติ ฟื้นมาอีกทีพบว่าเพ็ญพาคนังไปหาหมอ คนังบอกไม่ต้องการให้ช่วยเหลือให้เพ็ญไป เพ็ญบอกไม่ไปจนกว่าคนังจะอาการดีขึ้น ทั้งสองจึงพากันกลับไปที่กระท่อมอีกครั้ง คนังห่วงลำหับมากทำตัวให้ดูเหมือนอาการดีขึ้น ทั้งสองจึงพากันกลับบ้าน

ที่บ้านลำหับ พวกเฉิดบุกมาอีกครั้งมาทำร้ายวิเวกกับตึ๋งหนืดจนหมดสติ และจะจับตัวลำหับจะเอาไปเป็นตัวประกันให้คนังออกมา แต่เฉิดต้องการมากกว่านั้นคือเผาบ้านลำหับ สั่งให้จักรินเป็นคนเผาเพื่อพิสูจน์ว่ารักเพ็ญจริง จักรินลำบากใจไม่น้อยเพราะมากเกินไป ที่นี่ตนเองเคยอยู่มาตั้งแต่เล็ก ๆ รีรอแต่ ยศพงษ์สั่งให้เผาหาไม่จะไม่ยกเพ็ญให้ จักรินพายามลากลำหับออกมาจากบ้าน ลำหับยืนกรานว่าจะตาย คาบ้าน เฉิดกับยศบอกตามใจ ลำหับสลัดหนีเข้าบ้าน ในที่สุดจักรินก็เผาบ้าน ลำหับหยิบซอนั่งสีเพลง พญาโศกน้ำตาไหลพรากในบ้าน ขณะที่เพ็ญกับคนังพากันมาใกล้บ้านมากแล้ว รถน้ำมันหมดสองคน ลงเดิน คนังมองไปเห็นควันไฟออกมาจากบ้าน คนังวิ่งสุดแรงเกิดรีบจนทำจดหมายหล่นลงพื้นหลายฉบับ

เพ็ญหยิบไว้ เก็บใส่กระเป๋าตัวเองเดินตามคนังไป คนังไปถึงบ้านไฟไหม้เกือบหมดแล้ว จักรินมองอึกอัก ยศกับเฉิดยืนมองหัวเราะด้วยความสะใจ คนังปราดมาชกต่อยจักริน วิเวกกับตึ๋งหนืดฟื้นขึ้นมาบอกคนังว่า ลำหับน่าจะติดอยู่ในบ้าน คนังวิ่งไปในบ้านที่ไฟกำลังลุกท่วมช่วยลำหับออกมาได้ ให้วิเวกกับตึ๋งหนืดดูแลแม่ คนังลงมือชกกับจักรินด่าว่าอกตัญญูไม่รู้จักบุญคุณแม่ที่เลี้ยงดูมา ยกพงศ์กับเฉิดแปลกใจ และโกรธมากที่รู้ว่าจักรินกลายเป็นลูกของลำหับแต่มาหลอก ยศพงษ์ชักปืนมาจะยิงจักริน วิเวกกับตึ๋งหนืดตะโกนใส่เฉิดบอกว่าจักรินนี่แหละลูกของเฉิดที่เกิดกับบริพัตรที่เฉิดเอาไปทิ้งไว้สถานเด็กกำพร้า ลำหับรับปากบริพัตรจึงไปรับมาเลี้ยง เฉิดตะลึง จักรินตะลึงแต่กลายเป็นดีใจที่มีแม่รวย คนังก็ตกใจเพิ่งรู้ความจริง แต่ยศพงษ์ก็ยังไม่พอใจเพราะยิ่งคิดว่าเป็นลูกบริพัตรก็ยิ่งไม่ชอบใจจะยิงต่อเฉิดวิ่งมาบัง แล้วบอกว่ายิงไม่ได้แถมดึงปืนจากมือยศมายัดใส่มือจักรินแล้วสั่งให้ยิงคนัง จักรินจะยิงคนังลำหับมาห้ามไว้ เฉิดบอกให้ยิงลำหับ

เพ็ญวิ่งมาบอกว่าคนังไม่ได้ลักพาตัวเธอไป จักรินกำลังจะยิงใส่ลำหับ คนังโดดมาแย่งปืน สองคนแย่งปืนกันไปมา แล้วปืนก็ลั่นดังขึ้นไปโดนเอาพลเทพที่รามส่งลงมาหาลำหับ พลเทพบอกกับลำหับว่าเขาคือน้องชายของลำหับที่รามส่งมาคอยดูลำหับ ลำหับร้องไห้ด้วยความเสียใจ เฉิดรีบสั่งให้จักรินเอาปืนยัดใส่มือคนังที่กำลังตกใจมาก เฉิด ยศ จักรินช่วยกันลากเพ็ญกลับออกไป วิเวกกับตึ๊งหนืดให้คนังรีบหนี ส่วนสมุนที่มาด้วยกับพลเทพทำทีช่วยคนังหนี แต่ที่แท้แอบจับตัวคนังไปให้ราม ส่วนศพของพลเทพที่ตายในอ้อมกอดของลำหับ มีคนของรามมาเอาศพไป ลำหับหมดสิ้นทุกอย่างตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยกันเอาคันซอแทงหน้าอก ชาตรีมาห้ามเอาไว้ทัน ปลอบโยนลำหับว่าถ้าต้องการกู้เกียรติว่าไม่ใช่คนขายชาติก็ต้องกอบกู้เกียรตินั่นกลับคืนมาด้วยการช่วยชาติ ลำหับตกลง ชาตรีจึงแนะให้ลำหับไปพบรามบนเขา ลำหับไปพบราม รามไม่ได้ทำท่ายินดีมากมายแต่โอบกอดตามรูปแบบที่ทุกคนทำกันเท่านั้น ลำหับบอกจะมาขออยู่ด้วย รามบอกให้ลำหับพิสูจน์ตนเองด้วยการฆ่าใครหนึ่งให้ดู ลำหับรับปาก แต่พอเห็นคนที่รามสั่งให้ฆ่าเท่านั้น ลำหับใจสลายตกใจมาก เพราะนั่นคือคนังนั่นเอง โทษฐานที่ยิงพลเทพตาย และไม่ใช่แค่คนังที่โดนจับ พวกยศ เฉิด จักริน ก็โดนด้วยเช่นกัน รามสั่งให้ลำหับยิงคนัง หรือไม่ก็มีตัวเลือกให้อีกคนคือ จักริน เพราะอยู่ในข่ายยิงพลเทพตายเช่นเดียวกัน ถ้าไม่ยิงคนใดคนหนึ่ง

ทุกคนที่เหลืออยู่ต้องตายหมด เฉิดร้องห้ามไม่ให้ยิงจักริน ยศบอกยิงใครก็ได้ เฉิดจึงบอกความจริงออกมาว่าจักรินคือลูกเธอกับเขา เพ็ญยืนยันว่าคนที่ทำปืนลั่นใส่พลเทพคือจักรินแม้ว่าจะเป็นพี่ชายของเธอก็ตาม แต่มันคือความถูกต้อง เฉิดกับยศพากันตบหน้าเพ็ญ ลำหับรีรอไม่ยิงสักที รามจึงสั่งให้สนจัดการยิงให้หมดทุกคน ลำหับขอสีซอเพลงพญาโศกก่อน รามยอมให้ลำหับสีซอจนจบเพลง รามสั่งให้ยิงอีก ลำหับยกปืนมากลั้นหายใจ หันปากกระบอกปืนใส่ตนเองทันที สนยืนตรงนั้นยิงไปที่รามทันทีเช่นกัน ชาตรีเข้ามาแย่งปืนจากลำหับ สนยิงรามล้มลง ชาตรีกระชากลำหับให้ไปด้วย คนังกระชากเพ็ญหลบออกมาทันที ยศโกรธต่อว่าเฉิดแย่งปืนจากคนของรามมายิงเฉิด เฉิดแย่งปืนจากอีกคนยิงยศตายเช่นกัน จักรินวิ่งหนีจึงโดนคนของรามยิงตาย

เพ็ญเอาจดหมายของจักรินที่เขียนมาไถเงินคนัง และขอบใจเรื่องที่ทำสอบแทนทุกครั้งที่สอบ ที่คนังทำหล่นไว้ให้ลำหับดูว่าคนังไม่ใช่คนเรียนไม่เก่ง คนังเสียสละให้จักรินตลอดมา เธอจะไม่กลับไปเรียนต่อแต่จะขออยู่ทำไร่ดอกไม้ และเรียนซอสามสายกับลำหับต่อไป คนังยิ้มให้เพ็ญ ลำหับไปที่โขดหิน และถือซอสามสายที่นั่นนึกถึงบริพัตร ชาตรีไปหาลำหับ และบอกว่าเขาคือผู้ที่บริพัตรฝากให้ดูแล และช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีของลำหับกลับคืนมา ซึ่งลำหับก็ได้ทำแล้ว เขาขอคุ้มครอบลำหับต่อไปได้ไหม พร้อมกับเอาจดหมายฝากฝังจากบริพัตรให้ลำหับดู ลำหับยิ้มให้ชาตรี เล่นเพลงพญาโศกอีกครั้งชาตรีพึมพำบอกว่าลำหับคือเจ้าแม่พญาโศกจริง ๆ ติดตามชม ละครพญาโศก ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20น. ทางช่อง 7 สี ละครพญาโศก เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2558

ข้ามากับพระ 2558

เรื่องย่อ : ข้ามากับพระ (2558/2015) ชีวิตนักเลงพเนจรของ ศักดิ์ ประกาศิต ถึงจุดหักเหเมื่อมาพบกับหลวงพ่อเสือ ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าหลวงพ่อมีอาคม จึงออกติดตามเพื่อหวังวิชา ระหว่างทางได้พบกับแก้วตา ลูกสาวเสี่ยกิจ ซึ่งมีอิทธิพลจากเงินที่ได้จากธุรกิจมืดและการทำไม้เถื่อน ด้วยการสนับสนุนของ ส.ส.เกริก แต่ทั้งคู่ก็ถูกเสือไพรและเพลิงลูกบุญธรรมลูบคมด้วยการปล้นเงินไป แม้ว่า สารวัตรพนากับจ่าโชค จะคุ้มกันเต็มที่แล้ว ด้วยความโมโหเกริกจึงตาม เสือทอง ให้มาปลอมเป็นเสือไพร เพื่อลอบสังหารตำรวจกลุ่มนี้แล้วโยนความผิดให้ มะนาวกับมะขวิดนิมนต์หลวงพ่อเสือไปที่บ้าน และได้พบกับตาชู ชายชราตาบอด ทั้งคู่รู้สึกคุ้นกันมาก ภูได้ยินกิตติศัพท์ในอาคมจึงมาหา หลวงพ่อเลยเทศนาให้ฟัง ภูเข้าใจ แต่ศักดิ์กลับไปบอกชาวบ้านว่าหลวงพ่อให้หวยแม่น ปรากฏว่าชาวบ้านเอาคำสั่งสอนไปตีหวยจนถูกรางวัล หลวงพ่อเสือจึงดังไปทั้งอำเภอ มะนาวพาศักดิ์มาสมัครงานที่โรงไม้เสี่ยกิจ เขาไปพบไม้เถื่อนโดยบังเอิญ จนหวิดถูกฆ่าปิดปากดีที่แก้วตามาช่วยไว้ทัน ทั้งยังรับเข้าทำงาน โดยให้ภูซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานที่นี่ช่วยดูแล แก้วตากับศักดิ์มีโอกาสสานความสัมพันธ์กันอีกครั้งจากอุบัติเหตุ ท่ามกลางความไม่พอใจของเกริก และยังแอบไปได้เสียกับแพรวพรรณ แม่เลี้ยงของแก้วตา เสือทองกับภูที่แท้เป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน เสือทองข่มขืนและฆ่าแวว หญิงที่ภูหลงรัก ทำให้เขาโกรธแค้นมาก ภูพลาดท่าเกือบถูกสังหารโชคดีที่เสือไพรมาช่วยไว้ทัน พงษ์กับจ่าโชค มีเรื่องกับพวกของเกริก เพราะปกป้องมะนาวจนถูกแกล้งให้ติดคุก ตาชูจึงแอบเอาทองคำแท่งที่ซ่อนไว้ให้มะนาวไปขายเพื่อเอาเงินมาประกันตัว เกริกรู้เรื่องทองคำจึงส่งเสือทองไปคาดคั้นกับตาชู แต่กลับพลั้งมือฆ่าตาชูตาย ก่อนสิ้นลมหลวงพ่อเสือมาพบเข้าพอดี ทั้งคู่จึงจำได้ว่าเคยรู้จักกันมาก่อน และยังมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับเสือไพรอีกด้วย พงษ์และเกริกรู้ว่าทองเหล่านี้ถูกปล้นมาโดยตาชูและเสือไพร เกริกจึงพยายามโยนความผิดต่าง ๆ ให้เสือไพร เพื่อจะได้มีคนมาช่วยจับ เสือไพรประกาศปล้นครั้งใหญ่ ทั้ง เกริก, เสี่ยกิจ และสารวัตรพนาเตรียมรับมือ สุดท้ายเสือไพรก็ถูกจับเพราะถูกเพลิงหักหลังหวังจะได้เป็นใหญ่ นับเป็นครั้งที่สองที่เสือไพรพลาด เพราะเมื่อยี่สิบปีที่แล้วเขาก็เคยโดน พ.ต.ท.ชาติเสือ จับกุมมาแล้ว หลังจากเกริกคาดคั้นเอาที่ซ่อนทองจากเสือไพร ทั้งหมดจึงดั้นด้นไปค้นพบทองที่เหมืองของเสี่ยกิจ ซึ่งความจริงก็ปรากฏว่า ชาติเสือ, เสือไพร, เกริก เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก และหมายปองหญิงคนเดียวกันคือชบา เธอรักกับเสือไพรแต่ต้องมาแต่งงานกับชาติเสือ โดยมีลูกติดท้องของเสือไพรมาด้วย ในระหว่างการจับกุมชาติเสือยิงใส่เสือไพร พอดีชบาจะมาช่วยเสือไพรเธอจึงรับกระสุนแทนจนเสียชีวิต ชาติเสือเสียใจที่ฆ่าคนรัก จึงตัดสินใจบวชตลอดชีวิต พร้อมนำลูกของชบาไปฝากให้พระสมชายช่วยเลี้ยงดู เพราะเสือไพรได้หลบหนีไปก่อน ในที่สุดความสัมพันธ์ทั้งหมดก็ถูกคลี่คลายและจบลงด้วยดี แพรวพรรณคือน้าสาวของแก้วตา ที่เธอยอมเสียตัวให้เกริกก็เพื่อล้างแค้นแทนแม่ของแก้วตา ชาติเสือก็คือหลวงพ่อเสือ ส่วนลูกของเสือไพรที่ชาติเสือส่งเสียมาตลอดก็คือศักดิ์ เกริกและเสือทองตาย ส่วนเสี่ยกิจ สารวัตรพนา ถูกพงษ์จับกุมตัวดำเนินคดี แก้วตาได้แต่งงานกับศักดิ์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายอำเภอมือปราบคนใหม่ของอำเภอ ส่วนพงษ์ก็ลงเอยกับมะนาว หลวงพ่อเสือออกธุดงค์ต่อไปโดยมีเสือไพรคอยติดตามเพื่อนรักไปทุกหนทุกแห่ง ติดตามชม ละครข้ามากับพระ ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละครข้ามากับพระ เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2558

เลือดตัดเลือด 2558

เรื่องย่อ : เลือดตัดเลือด (2558/2015) จางฉง (ศุกล พงษ์ทัต) หัวหน้ากลุ่มมังกรมหานคร ผู้เป็นประมุขแห่งจตุรภาคี ถูก ร.ต.ท. อนันต์ (ทนงศักดิ์ ศุภการ) ตำรวจมือปราบฝีมือดีแห่งกรมตำรวจวิสามัญตาย การตายของจางฉงนอกจากจะทำให้เสถียรภาพของจตุรภาคีสั่นคลอน ยังสร้างความเจ็บแค้นให้แก่ เหว่ยชิง (ภัสสร บุณยเกียรติ) ภรรยาท้องแก่ใกล้คลอดของจางฉงเป็นอันมาก หลังจตุรภาคีแตกกระจายไปคนละทิศละทาง เธอต้องหอบลูกในท้องระหกระเหินเพียงลำพัง ในคืนที่ฝนพันปีลงเม็ดอย่างไม่ลืมหูลืมตานั้น เหว่ยชิงที่หลบหนีมาเกิดปวดท้องคลอดลูกขึ้นมากะทันหัน เธอตะเกียกตะกายออกไปขอความช่วยเหลือท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ในความมืดมิดและโดดเดี่ยวเธอทรุดตัวลงอย่างหมดแรง เสียงกรีดร้องของ นวลจันทร์ (สุพรรษา เนื่องภิรมย์) ดังเข้ามาในโสตประสาทปลุกให้เหว่ยชิงที่สลบไสลฟื้นขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องคลอดของโรงพยาบาลเล็ก ๆ แห่งหนึ่งและกำลังจะคลอดลูกพร้อมกับภรรยาของอนันต์ หลังได้ยินชื่อนั้น ความแค้นทำให้เธอปวดท้องขึ้นมาอย่างหนัก ราวกับว่าลูกน้อยในท้องของเธอต้องการออกมาชำระหนี้แค้นแทนพ่อที่จากไป และแล้วในช่วงเวลาแห่ง ฤกษ์ดาวโจร นั้นเอง เสียงเด็กร้องไห้จ้าดังขึ้นพร้อมกันทีเดียวสองเสียง พยาบาลวิ่งออกมาบอกอนันต์ว่าเด็กคลอดแล้วพร้อมกับเตียงข้าง ๆ เป็นผู้ชายทั้งคู่น่าอัศจรรย์จริง ๆ เวลานั้นอนันต์ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าดีใจที่ทั้งแม่และลูกปลอดภัย นั่นคงเป็นชะตาฟ้ากำหนดให้สองสายเลือดคู่แค้นมาพบกันในสภาพนี้ คืนเดียวกันนั้นเอง เหว่ยชิงพาร่างอันอ่อนเพลียหลังการคลอดลูกมายืนมองทารกชายทั้งคู่ คนหนึ่งคือเลือดในอกที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิต อีกหนึ่งคือสายเลือดศัตรูที่เธอสาบานจะต้องแก้แค้นให้ได้ในชาตินี้ และนี่คือโอกาสเดียวที่เธอจะทำได้ เหว่ยชิงอุ้มลูกน้อยของตัวเองขึ้นมากอดด้วยความรักเป็นครั้งสุดท้าย แล้วนำไปวางสลับที่กับทารกชายอีกคนผู้เป็นสายเลือดของ ร.ต.ท. อนันต์ โดยไม่มีใครล่วงรู้ เหว่ยชิงได้วางแผนแก้แค้นที่แสนเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของ ร.ต.ท. อนันต์ไว้แล้ว นั่นก็คือ การทำให้สายเลือดต้องเป็นศัตรู และอนันต์ต้องตายด้วยน้ำมือลูกตัวเอง! 25 ปีผ่านไป โชว หรือ เตโช (เป้-อารักษ์) ค่อย ๆ เติบโตขึ้นพร้อมกับความแค้นของเหว่ยชิงที่เฝ้ารอวันชำระหนี้แค้นอย่างเงียบ ๆ สิ่งที่โชวได้รับจากผู้เป็นแม่นั้นคือความเย็นชา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาพร่ำถามตัวเองว่าเขาทำผิดอะไร ทำไมแม่จึงไม่เคยมอบความรักให้เขาเลยสักครั้ง สิ่งเดียวที่จะทำให้แม่พอใจได้คือ คำสัญญาที่เขาจะแก้แค้นให้พ่อและฆ่าอนันต์ด้วยมือของเขาเอง! แตกต่างจาก อนาวิล (กันต์ กันตถาวร) ที่ได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่จากนายพลอนันต์และคุณหญิงนวลจันทร์เป็นอย่างดี ทั้งยังมีน้องสาวที่รักพี่ชายมากอย่าง ดุจดาว (แพรว-เฌอมาวีร์ สุวรรณภานุโชค) อนาวิลมีความสุขและได้รับความรักจากครอบครัว เขากลายเป็นคนอบอุ่น เป็นชายในฝันของสาว ๆ โชว มีเพียง หลี่เฟย (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้เป็นอาจารย์ที่รักเขาดั่งลูกของตัวเอง และยังทำหน้าที่ดูแลกิจการทั้งหมดของบ้านตระกูลจาง นอกจากนั้นหลี่เฟยยังฝึกฝน เฉิน (เจเจ-จักรกฤษณ์) ลูกชายคนโต ให้เป็นบอดี้การ์ดคอยปกป้องโชว และให้ เม่ย (แพร-นิชา ปาลวัฒน์วิไชย) ลูกสาวคนเล็ก เรียนพยาบาลเพื่อมาดูแลโชวเพียงคนเดียว ความสุขเล็ก ๆ ในชีวิตของโชวคือการได้อยู่ใกล้ ๆ เม่ยและแกล้งรังแกเธอ นั่นเป็นวิธีแสดงความรักในแบบของโชว เพราะโชวคิดว่าเม่ยเป็นสมบัติของเขาและไม่มีใครมีสิทธิ์ยุ่งกับเม่ย ยิ่งทำให้ทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน โดยที่ไม่รู้ตัวว่าแท้จริงแล้วทั้งคู่ได้แอบหลงรักกันอยู่อย่างเงียบ ๆ ภายในใจมานานแสนนาน หลังอนาวิลกลับจากเรียนต่อโรงเรียนตำรวจที่ต่างประเทศ เขาก็แอบสมัครเข้าทำงานในหน่วยอินทรีย์พิฆาต โดยไม่ได้บอกให้ทางบ้านรู้ นัท (พงศ์ธรรศ เกียรติศิริขจร) รุ่นพี่หัวหน้าหน่วยและยังเป็นคนรักของดุจดาว จึงเตือนอนาวิลให้บอกเรื่องนี้กับอนันต์ แต่อนันต์ก็ทราบก่อน อนาวิลอธิบายให้พ่อเข้าใจว่าการอยู่หน่วยอินทรีย์พิฆาตคือความใฝ่ฝันของตน แม้จะรู้ว่าหน่วยงานนี้อยู่นอกเหนือจากราชการจะเข้าไปเกี่ยวข้องได้และต้องเสี่ยงชีวิตมากแค่ไหนก็ตาม นอกจากโชวแล้วแต่ละกลุ่มในจตุรภาคีก็มีทายาทที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน อันได้แก่ อันดา (ธฌาณ์ แก้ววรากรณ์) ทายาทของกลุ่มอันดามัน ผู้ดูแลธุรกิจมืดแห่งภาคใต้ วายุ (โก้-วศิน) ทายาทแห่งกลุ่มลมบูรพา ยึดครองอำนาจอยู่ภาคตะวันออก และภูผา (บอส-จักรพันธ์) ทายาทกลุ่มฟ้าเหนือ แผ่อำนาจครอบคลุมทั่วดินแดนภาคเหนือ ในขณะที่โชวถูกวางตัวให้เป็นหัวหน้ากลุ่มมังกรมหานคร และประมุขจตุรภาคี ศูนย์กลางแห่งอำนาจทั้งปวง ทั้งสี่จึงกลายเป็นเดอะแก๊งเพื่อนรัก มาเฟียหนุ่มฮอตที่สาว ๆ หมายปอง ในนามของ จตุรเทพ แห่ง จตุรภาคี เหว่ยชิงรู้ข่าวการแต่งตั้งอนันต์เป็นผู้บังคับการกองปราบ จึงวางแผนให้พ่อลูกที่แท้จริงพบกันครั้งแรกในวันนั้น โดยสั่งให้มีการจัดงานขึ้นตำแหน่งประมุขจตุรภาคีในวันเดียวกัน และในวันนั้นเอง อนันต์ก็ได้รับแจ้งเรื่องการส่งยาเสพติดในงานของโชว เขาจึงนำกำลังตำรวจไปจับกุม เมื่อโชวได้พบอนันต์ครั้งแรกในฐานะศัตรูที่ฆ่าพ่อก็ทั้งเกลียด แต่ก็รู้สึกประทับใจกับชายคนนี้ทีเดียวกัน และในงานนี้ทั้งโชวและอนาวิลก็ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ ทั้งคู่จะชำระแค้นระหว่างสองตระกูลได้อย่างไร และจะล่วงรู้ความจริงของชาติกำเนิดที่ถูกปิดบังไว้หรือไม่? ติดตามชม ละครเลือดตัดเลือด ได้ทุกวันศุกร์เวลา 20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 สี ละครเลือดตัดเลือด เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2558

สิงห์รถบรรทุก 2558

เรื่องย่อ : สิงห์รถบรรทุก (2558/2015) สีทอง จับได้ว่าเพื่อนซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกของบริษัทเกษมขนส่ง โกงบริษัท เลยนำเรื่องไปบอกกับเสี่ยเกษม (อนุสรณ์ เดชะปัญญา) ทำให้คนเหล่านั้นถูกไล่ออก พรหมบุญซึ่งเป็นคู่แข่งทางธุรกิจยุให้คนขับเหล่านั้นกลับไปแก้แค้นสีทอง โดยแอบส่งลูกน้องตามไปด้วย วันนั้นสีทองขออนุญาตเสี่ยเกษมเอารถบรรทุกพาแม่ไปโรงพยาบาล สีหราช (ชนะพล สัตยา) พี่ชายของสีทองกลับมาเยี่ยมแม่พอดี เลยอาสาขับรถให้ ระหว่างทางรถของสีหราชถูกรถบรรทุกของพวกพรหมบุญไล่ล่า สีหราชให้สีทองมาขับแทน ส่วนเขาพยายามสู้กับคนร้ายจนพลัดตกรถ จู่ ๆ มีมือลึกลับยิงปืนใส่สีทองตายคาที่ รถเสียหลักชนเกิดระเบิดขึ้น พ่อและแม่ตายคาที่เช่นกัน สีหราชโกรธแค้นทุกคนที่ทำให้ครอบครัวเขาเสียชีวิต พาลไปถึงเสี่ยเกษมและสายสุนีย์ (กวิตา รอดเกิด) เจ้านายของสีทอง แม้สายสุนีย์จะพยายามอธิบาย แต่สีหราชไม่เปิดใจยอมรับ ทั้งคู่จึงบาดหมางไม่ค่อยชอบหน้ากันนัก สีหราชหาทางแก้แค้นแทนครอบครัว ด้วยการบุกเข้าไปวางระเบิดที่พรหมบุญยานยนต์ พรหมบุญสั่งลูกน้องออกตามล่า สีหราชหลบเข้าไปซ่อนตัวในบ้านของมุกดาม่ายสาว มุกดาช่วยออกรับหน้า เมื่อพวกพรหมบุญไป มุกดากลับเข้าไปในบ้านไม่พบตัวสีหราช พบแต่จดหมายขอบคุณ สร้างความประทับใจให้กับมุกดา สีหราชหลบออกมาจากบ้านมุกดาด้วยการซ่อนตัวหลังรถของสายสุนีย์ สายสุนีย์รู้ตัว ก็มีเรื่องกับสีหราชอีกเช่นเคย แต่ครั้งนี้ความรู้สึกของเธอเริ่มเปลี่ยนไป ในงานศพของพ่อ แม่ และสีทอง ที่ อ.เป๋อ (อรุณ ภาวิไล) ออกหน้าเป็นแม่งานให้ พรหมบุญ (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) ส่งคนมาป่วนงาน แต่กลับถูกชาญ บ้านสั้น (อานัส ฬาพานิช) เพื่อสมัยเด็กของสีหราช ซึ่งเป็นลูกน้องของน้องชายพรหมบุญมาขวางไว้ น้องชายพรหมบุญเสนอให้กำจัดชาญ แต่พรหมบุญชอบในฝีมือและความตรงของชาญ เลยตัดสินใจเก็บไว้เป็นพวก คืนหนึ่ง วงดนตรีของแก้ว การเวก (กิตติวงศ์ โพธิ์ปี) ถูกปล้น แก้วแสดงฝีมือดวลกับพวกโจร แต่ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย พรหมบุญผู้ชื่นชอบเพลงลูกทุ่งเฉลยว่าเป็นการทดสอบฝีมือ แก้วแนะนำพรหมบุญให้รู้จักกับหวานสวาท (ชัชฏาภรณ์ ธนันทา) นักร้องดาวยั่วประจำวง พรหมบุญเชิญทั้งคู่มากินข้าวที่บ้าน หวานสวาทเริ่มยั่วยวนจนพรหมบุญหลงใหล อ.เป๋อ พาสีหราชมาหาชาญเพื่อหาพวกช่วยร่วมกำจัดอิทธิพลเถื่อนของพรหมบุญ ชาญรับปากจะช่วยคอยส่งข้อมูลให้ แต่มีข้อแม้ว่าจะไม่ยอมทำร้ายน้องชายพรหมบุญผู้เป็นเจ้านาย สีหราชมาขอสมัครเป็นคนขับรถในบริษัทเกษมขนส่ง สายสุนีย์ปฏิเสธ แต่เสี่ยเกษมเกลี้ยกล่อมให้รับไว้ โดยสีหราชยอมขอโทษที่เคยเข้าใจผิด มุกดา (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) ซึ่งเป็นเพื่อนกับสายสุนีย์เห็นว่าสีหราชมาทำงานกับสายสุนีย์ ก็แสดงความสนใจ ทำให้สายสุนีย์เข้าใจว่ามุกดากับสีหราชคงจะเคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน สายสุนีย์ไปคุมขบวนรถ งานขนส่งไม้ ที่จำต้องผ่านเส้นทางอันตราย ผาพยัคฆ์ของเสือเล็ก เกิดการดักซุ่มโจมตี ปล้นขบวนรถ ชาญแอบส่งข้อความบอกสีหราช สีหราชตามไปช่วยสายสุนีย์เอาไว้ได้ แต่ก็ไม่ทันการ รถถูกปล้นไปได้ สายสุนีย์เสียใจมาก สีหราชรับปากจะไปตามหารถคืนให้ การปล้นเป็นไปตามแผนของพรหมบุญ ที่ต้องการทำลายกิจการของบริษัทเกษมขนส่ง และต้องการซื้อใจเสือเล็ก ไว้เป็นลูกน้อง เมื่อแผนการลุล่วง เสือเล็กจึงยอมสวามิภักดิ์กับพรหมบุญ สีหราชฝากชาญสืบเรื่องรถที่ถูกปล้น จนพบว่า เสือเล็กเอาไปซ่อนไว้ที่ไร่ของพรหมบุญ เป็นจังหวะที่พรหมบุญให้แก้วเข้าไปแสดงดนตรีที่ไร่ สีหราชและสายสุนีย์จึงแฝงตัวไปกับวงดนตรี แล้วปล้นรถกลับคืนมา เมื่อได้รถคืน สายสุนีย์ก็วางใจในตัวสีหราชมากขึ้น แต่มุกดาแสดงออกว่าชอบสีหราช ทำให้สายสุนีย์เข้าใจผิด แม้สีหราชพยายามตีตัวออกห่าง เพราะรู้ว่าชาญแอบชอบมุกดาอยู่ก่อน เสือเล็กแอบสะกดรอยชาญ จนรู้ว่ารถบรรทุกที่ถูกขโมยมาซ่อนอยู่ที่ไหน แต่พอยกกำลังพลมา กลับไม่เจอรถ เพราะมุกดาแอบมาส่งข่าวให้ย้ายรถหนีก่อน ทำให้เสือเล็กแค้นมาก พรหมบุญเริ่มเครียด และหนักใจในฝีมือของสีหราช อยากหาทางเอาชนะ จึงส่งเสือเล็กไปจับตัวสายสุนีย์มาเป็นตัวประกัน แต่สายสุนีย์ไม่อยู่ เสือเล็กจึงจับตัวเสี่ยเกษมและมุกดามาแทน เมื่อสายสุนีย์รู้เรื่องก็โกรธมาก นำรถบรรทุกไปปิดล้อมบ้านพรหมบุญ ประกาศตัวเป็นศัตรูอย่างชัดเจน อาจารย์เป๋อได้ข่าวจากชาญ ก็รีบไปบอกสีหราช ทำให้สีหราชไปช่วยได้ทันเวลา และท้าดวลปืนกับเสือเล็ก เสือเล็กสู้ไม่ได้ ได้รับบาดเจ็บ สายสุนีย์ชิงตัวเกษมกับมุกดากลับไปได้ สร้างความเจ็บใจให้พรหมบุญ เกษมตัดสินใจบอกสีหราช ว่าคนที่ยิงสีทอง ก็คือเสือเล็ก สีหราชแค้นมาก พยายามออกตามล่า หมายเอาชีวิตเสือเล็ก โดยมีแก้ว การเวก คอยช่วยเหลือบอกพิกัด แต่เสือเล็กก็หนีรอดไปได้ทุกครั้ง เสือเล็กเริ่มสงสัยในตัวแก้ว วันงานชุมนุมชาวไร่ เสือเล็กลอบทำร้ายแก้ว โดยการวางระเบิดบนเวที หวานสวาทตกใจเป็นลม พรหมบุญพามาพักที่บ้าน ทำให้เสียแผนที่สีหราชจะจัดการเสือเล็ก สีหราชและสายสุนีย์ตัดสินใจบุกเข้าไปช่วยหวานสวาท แต่แก้วรับปากว่าจะดูแลหวานสวาทเอง การต่อสู้ครั้งนี้ต่างสูญเสีย สายสุนีย์ถูกยิง สายสุนีย์ให้พาคนเจ็บไปซ่อนตัวที่ไร่ของทิดคำอ้าย โดยมีมุกดาและชาญแอบเข้าไปช่วยรักษาคนเจ็บ พรหมบุญเริ่มกลั่นแกล้งกิจการของเกษม เพื่อบีบให้สีหราชปรากฏตัว แต่แผนมักรั่วเสมอ เสือเล็กมั่นใจว่าชาญคือหนอนบ่อนไส้ จึงสั่งลูกน้องให้ไปแอบเก็บชาญ แต่กลับถูกชาญฆ่าตายหมด ชาญจึงเป็นอริกับเสือเล็กอย่างเปิดเผย ส่วยหวานสวาทอาศัยความใกล้ชิด ให้พรหมบุญระแวงในตัวเสือเล็ก ด้วยการหว่านเสน่ห์ให้เสือเล็กหลง ที่ไร่ทิดคำอ้าย สายสุนีย์ได้รับการปฐมพยาบาลจากสีหราชอย่างดี ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เริ่มพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ มุกดาเสียใจมาก ชาญคอยปลอบใจมุกดาไม่ให้อกหัก ปลัดฉกาจให้พรหมบุญเป็นผู้ช่วยขนอาวุธร้ายแรง หากพลาดพวกเขาจะถูกโทษประหาร ชาญแอบนัดแนะส่งข่าวให้พวกสีหราชรู้ตัว วันขนของ สีหราชกับพวกบุกชิงรถบรรทุก ชาญแสร้งสลบเพราะถูกยิง เสือเล็กสั่งลูกน้องไล่ล่าเอารถคืน รถคันหนึ่งเกิดพลิกคว่ำ อาวุธในรถระเบิด กลุ่มสีหราชเหลือรอดเพียง สีหราช สายสุนีย์ และทิดคำอ้าย เมื่อพรหมบุญรู้ข่าวก็รีบไปหาเสือเล็กทันที เสือเล็กเชื่อว่าชาญเป็นหนอนบ่อนไส้จึงยิงและจับชาญไปขังไว้ ส่วนหวานสวาทใส่ไฟให้พรหมบุญเชื่อว่าเสือเล็กเป็นคนปล้นอาวุธซะเอง อาจารย์เป๋อมาบอกสีหราชเรื่องชาญถูกจับ สีหราชรีบวางแผนหาทางช่วยชาญ มุกดารู้ข่าวก็เริ่มเป็นห่วงชาญ ลูกน้องพรหมบุญจับตัวมุกดามาขังเนื่องจากเห็นไปสุงสิงกับพวกสายสุนีย์บ่อย ๆ สายสุนีย์ลอบเข้าไปช่วย เห็นมุกดาถูกทรมาน มุกดาจำต้องกุเรื่องว่าตนเป็นเมียสีหราช สายสุนีย์ได้ยินก็เสียใจมาก พรหมบุญวางแผนใช้มุกดาเป็นตัวล่อสีหราชออกมา แม้จะรู้ว่าเป็นกับดัก แต่สีหราชก็บุกเดี่ยวเข้าไปช่วยมุกดา ทำให้สายสุนีย์ยิ่งเข้าใจผิด แก้วมาขอร้องให้สายสุนีย์ตามไปช่วยสีหราช ในระหว่างการต่อสู้เสือเล็กพลัดตกหน้าผา ในขณะที่พรหมบุญหนีเอาตัวรอดไม่ยอมช่วย ทำให้เสือเล็กผูกใจเจ็บ พรหมบุญเมื่อพ่ายแพ้กลับมาที่รังก็จะฆ่าชาญกับมุกดาเพื่อเป็นการแก้แค้น แต่หวานสวาทหาทางช่วยด้วยการเบี่ยงประเด็นว่าคนที่เป็นหนอนบ่อนไส้ที่แท้จริงคือ แก้ว พรหมบุญเชื่อหวานสวาทจึงยอมปล่อยตัวชาญ และสั่งล่าหัวแก้วอีกคน นายใหญ่เรียกปลัดฉกาจและพรหมบุญเข้าพบเพื่อรับโทษที่ทำงานพลาด แต่ที่ประชุมขอร้องให้ให้โอกาสอีกครั้ง นายใหญ่จึงสั่งให้จัดการพวกสีหราชโดยเร็วที่สุด เพราะสีหราชเป็นหน่วยราชการลับที่ตามสืบเรื่องธุรกิจตนอยู่ สีหราชรู้สึกผิดปกติกับท่าทีของสายสุนีย์ที่เมินเฉย เมื่อแก้วมาบอกให้รีบเข้าไปช่วยมุกดา เพราะหวานสวาทจะเปิดทางให้หนี ก็ยิ่งทำให้สายสุนีย์มั่นใจว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันเกินเพื่อน หวานสวาทแกล้งทำเป็นทะเลาะกับมุกดาแล้วเปิดโอกาสให้หนีไป มุกดาหนีไปที่ไร่ของทิดคำอ้าย พวกพรหมบุญตามมาถล่มไร่ทิดคำอ้ายเพื่อจัดการกับพวกสีหราช ไร่ของทิดคำอ้ายเสียหายยับเยิน ทิดคำอ้ายตายคาที่ สีหราชพา สายสุนีย์ แก้ว มุกดา และทุกคนหนีตายและหายสาปสูญไป สายสุนีย์ตั้งใจจะแยกหนีไปคนเดียว จนมาเจอกับพวกสมุนของพรหมบุญ แต่สีหราชกับอาจารย์เป๋อมาช่วยไว้ได้ทัน สีหราชปรับความเข้าใจกับสายสุนีย์ ขณะที่มุกดารับรักชาญ เสือเล็กหนีกลับไปชุมเสือของตนและตั้งใจหยุดช่วยพรหมบุญ เพราะพรหมบุญเห็นแก่ตัว สีหราชวางแผนให้เสือเล็กกับพรหมบุญผิดใจกันด้วยการให้คนไปชวนเสือเล็กปล้นบาร์แล้วให้ตำรวจไปล้อมจับ แล้วออกข่าวว่าเสือเล็กสารภาพว่าพรหมบุญเป็นคนสั่ง หวานสวาทนำข่าวมาบอกพรหมบุญ พรหมบุญคิดว่าเสือเล็กเล่นไม่ซื่อก็คิดเก็บเสือเล็ก คืนหนึ่งพวกสีราชแกล้งปลอมตัวเป็นสมุนของพรหมบุญเพื่อฆ่าเสือเล็กปิดปาก แต่เสือเล็กก็หนีรอดมาได้ตามแผนของสีหราช เมื่อพรหมบุญรู้เรื่องจึงให้ปลัดฉกาจนำกำลังไปบุกถล่มรังเสือเล็กทันที เสือเล็กหลบหนีหายไปโดยไม่มีใครพบเห็น ทำให้พรหมบุญเข้าใจว่าเสือเล็กตายแล้ว สีหราชได้รับคำสั่งจากหน่วยลับว่าให้ค้นหาพิกัดสถานที่ซึ่งตันเคียนสิวซ่อนอาวุธ จึงให้หวานสวาทและชาญช่วยหาข้อมูลจากพรหมบุญให้ จนรู้ว่าจะมีการขนส่งอาวุธล็อตใหญ่ที่ชายแดน โดยตันเคียนสิวมาคุมงานด้วยตัวเอง สีหราชวางแผนไปล้อมจับ ในระหว่างปะทะกำลังกัน เสือเล็กบุกเข้ามาแก้แค้นพรหมบุญ ทำให้เกิดการปะทะที่หนักหน่วงขึ้น พรหมบุญและตันเคียนสิวหนีขึ้นเครื่องบิน สีหราชกระโดดเข้าไปจัดการพรหมบุญและตันเคียนสิวจนเครื่องบินตก สีหราชโดดหนีออกมาลงหลังรถบรรทุก เสือเล็กเห็นเข้าก็ตามขึ้นไปหมายจะฆ่าสีหราช ทั้งคู่เปิดฉากการต่อสู้หวาดเสียวกันบนหลังรถบรรทุก สุดท้ายเสือเล็กพลาดท่าตกลงไปตาย ส่วนสีหราชรอดมาได้อย่างหวุดหวิด และสามารถหยุดการขนอาวุธข้ามชาติได้สำเร็จ สีหราชออกจากราชการมาคุมอู่รถบรรทุกและแต่งงานกับสายสุนีย์อย่างมีความสุข ติดตามชม ละครสิงห์รถบรรทุก ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.35 น. ทางช่อง 7 สี ละครสิงห์รถบรรทุก เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2558

เพลงรักเพลงลำ 2558

เรื่องย่อ : เพลงรักเพลงลำ (2558/2015) เพลงลำ สาวสวยเข้มดุเป็นลูกสาวคนเดียวของ บัวสาย แม่เพลงลำตัดคนดังของบ้านบางลำสุพรรณบุรี ตั้งแต่จำความได้เพลงลำมีเพียงแม่บัวสายกับ น้าบัวเผื่อน ที่เลี้ยงดูเธอมา เธอไม่รู้จักพ่อ หรือที่จริงแล้วไม่มีใครรู้ว่าพ่อของเธอเป็นใคร นอกจากแม่บัวสายซึ่งไม่ยอมพูดถึงสักครั้ง วันหนึ่งเมื่อเพลงลำยังเด็กบัวสายกลับจากเล่นลำตัด พบเด็กหญิงวัยแบเบาะคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ที่พุ่มไม้หน้าบ้าน บัวสายสงสารจึงอุปการะเลี้ยงดูเรื่อยมา เธอตั้งชื่อให้ว่า ไข่กา เด็กทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่และน้อง เพลงลำสวย มีสง่าเสียงดีเหมาะที่จะหัดเล่นลำตัด แต่เธอไม่ยอม ไม่ว่าบัวสายจะบังคับอย่างไรก็ตาม

เพลงลำกลับชอบที่จะหัดชกมวยไทยกับน้าบัวเผื่อนมากกว่าและทำได้ดีเสียด้วย นอกจากนั้นยังเก่งเรื่องเครื่องยนต์รถ ไถนาและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพราะเป็นลูกมือให้น้ามาตั้งแต่เด็ก ๆ ตรงข้ามกับไข่กาที่อยากจะเป็นลำตัดเหลือเกินทั้งที่ไม่สวยและเสียงไม่ดี บัวสายมีคณะลำตัดที่มีชื่อเสียงมาก ครอบครัวนี้และชาวบ้านใกล้เคียงทำนาด้วยวิธีดั้งเดิมไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้รถไถ ไม่ใช้รถเกี่ยวข้าว ทำให้ กำนันฝอย กับลูกคือ ฝาจีบ และ ฝาจุก ลูกชายและลูกสาวไม่ค่อยพอใจนัก เพราะครอบครัวกำนัยฝอยทำกิจการค้าปุ๋ยเคมี และมีรถเกี่ยวข้าวให้เช่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ของบางลำมีหนี้สินกับครอบครัวนี้มากจนถูกยึดนาไปหลายราย

เพราะเชื่อใจกำนันฝอยที่ทำเหมือนใจดีให้พวกเขาซื้อปุ๋ยในราคาเงินเชื่อ ตกลงว่าขายข้าวได้แล้วจะเอามาคืน จากแค่ซื้อปุ๋ยก็จะโดนบังคับให้เช่ารถเกี่ยวข้าวในราคาสูงลิบจนต้องหมดตัวไปตาม ๆ กัน แต่ไม่ใช่ครอบครัวของบัวสาย และชาวบ้านใกล้เคียงทำให้ ครอบครัวกำนันฝอยไม่พอใจนัก ที่จริงแล้วกำนันฝอยเคยหลงรักบัวสายตั้งแต่เริ่มเป็นสาวรุ่น แต่เมื่อบัวสายไปเล่นลำตัดที่กรุงเทพฯ แล้วท้องกลับมาโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อทำให้กำนันฝอยอกหักกินเหล้าจนพ่อกับแม่ต้องจับให้แต่งงานกับแม่เพลงลำตัดสาวสวยคู่ปรับกับบัวสายจนมีลูกสองคน กำนันฝอยเป็นม่ายเพราะเมียตายมาหลายปีแล้ว ทั้งฝาจีบและฝาจุกทำตัวเป็นนักเลงประจำหมู่บ้านมาตั้งแต่เด็กจึงเป็นคู่ปรับกับเพลงลำ และไข่กาตลอดมา แม้ฝาจุกจะเป็นผู้หญิงแต่ก็เจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากฝาจีบซึ่งเป็นพี่ชายสักนิดอาจจะร้ายกว่าเสียด้วยซ้ำ จะอย่างไรก็ตามครอบครัวกำนันฝอยทำอะไรครอบครัวบัวสายไม่ได้มากนัก

เพราะครอบครัวนี้เป็นที่รักของชาวบ้านมากกว่า ทั้งเรื่องของการฝึกลำตัดให้เด็ก ๆ ที่สนใจหรือจะฝึกมวยกับเพลงลำในหน้าแล้งเป็นการสอนให้เด็กใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นคือ เพลงลำเป็นคนฉลาด กล้า ไม่กลัวใครเมื่อโดนแกล้งจึงตอบโต้จนกำนันฝอยต้องเสียเงินมากมายในคณะฯ ของบัวสายมี เจิด เป็นพ่อเพลงที่เก่งมากอยู่ด้วยเจิดมาฝึกกับบัวสายตั้งแต่เด็กเขาเป็นกำลังสำคัญของคณะฯ บัวสายเลี้ยงเจิด และคนอื่น ๆ เหมือนลูกหลาน บ้านนี้มีกฎระเบียบและข้อห้ามหลายอย่างเพราะมีคนมาก แต่ก็อยู่กันมาได้ เจิดนั้นรักเพลงลำมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม เขาอายุมากกว่าเพลงลำไม่กี่ปี แต่สำหรับเธอแล้วเจิดเป็นพี่ชายที่แสนดีเท่านั้น

ปกรณ์พล นักศึกษาปริญญาโท ตั้งใจจะทำวิทยานิพนธ์ เรื่องลำตัดเพลงพื้นบ้านของไทย จึงต้องลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล เมื่อลำตัดคณะแม่บัวสายมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเขาจึงต้องไปบางลำ ปกรณ์พลเป็นลูกชายคนเดียวของ อรรถ และ โฉมตรู พ่อของเขาเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงด้านการสื่อสารในระดับนานาชาติ ร่ำรวยมาก แต่ปกรณ์พลไม่เคยสนใจกิจการของพ่อเขาเลยชายหนุ่มชอบดนตรี และงานศิลปวัฒนธรรมทุกประเภทเขาเหมือนกับโฉมตรูมากกว่า ชายหนุ่มมีเพื่อนสนิทชื่อ กุชงค์ ซึ่งเข้ามาช่วย อรรถทำงานมากกว่าปกรณ์พลเสียอีก เมื่อกุชงค์รู้ว่าเพื่อนจะต้องไปอยู่บางลำเขาก็อดห่วงไม่ได้ เขากังวลว่าปกรณ์พลจะหาข้อมูลได้ไม่ดีนัก

เพราะงามไฉไลไฮโซสาวสวยคงไม่ยอมง่าย ๆ งามไฉไลเป็นลูกสาวคนเดียวของ โพยมยง นักธุรกิจม่ายสาวที่รวยมาก ครอบครัวนี้รวยจากการค้าเพชรและเล่นหุ้น ครอบครัวอรรถกับโฉมตรูสนิทสนมกับโพยมยงและสามีมานานจนกระทั่งสามีเธอตายจากไป ทั้งสองครอบครัวก็ยังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะงามไฉไลที่ติดปกรณ์พลมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกันที่ตามใจเธอ ชายหนุ่มเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว แต่งามไฉไลไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เธอรักเขา และพยายามประกาศตัวว่าเป็นคู่รักของเขาเสมอ เธอไม่ยอมรับว่าเธอกับปกรณ์พลไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย ขณะที่ชายหนุ่มชอบศิลปวัฒนธรรมไทย ชอบมีชีวิตที่เรียบง่าย งามไฉไลกลับชอบความหรูหรา ฟุ่มเฟือย วางอำนาจ อวดรวย เธอจึงไม่ค่อยน่ารักอีกแล้วในสายตาของปกรณ์พล

ดังนั้นคนในบ้านจึงไม่แปลกใจนักเมื่อเขารีบออกไปบางลำแต่เช้าก่อนที่งามไฉไลจะมาขอตามไปด้วย ปกรณ์พลขับรถไปเกือบถึงบ้านบัวสายแต่แล้วรถเสียกลางทาง เขาโชคดีที่เพลงลำขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดีเธอจึงพาเขาไปส่งที่อู่รถของ ช่างเอื้อง เมื่อย้อนกลับมายังรถที่จอดอยู่ ปกรณ์พลหนักใจเมื่อรู้ว่าต้องรออะไหล่หลายวันเขาไม่กลับกรุงเทพฯ แต่เลือกที่จะไปนอนค้างที่วัดตามที่ช่างเอื้องแนะนำมากกว่า ค่ำแล้วเมื่อปกรณ์พลเดินเกือบถึงวัด เขาเห็นเพลงลำถูกรุมทำร้าย แม้จะเก่งเรื่องต่อสู้ป้องกันตัวแต่การที่เธอถูกรุมจากฝาจีบและลูกน้องก็ไม่ง่ายที่เธอจะจัดการพวกมันได้ ปกรณ์พลมาช่วยทันเวลาเขาใช้ไม้ท่อนใหญ่ตีจนพวกนั้นหนีกระเจิง เจ็บกันหลายคนโดยเฉพาะฝาจีบกับนายแสบคนสนิทที่ถูกฟาดหัวอย่างแรง เพลงลำจึงพาเขาไปพักที่ค่ายมวยของน้าบัวเผื่อน เธอไม่กล้าปล่อยเขาไว้ตามลำพังเพราะรู้ดีว่าฝาจีบคงพาพวกมาล้างแค้นแน่นอน

เช้าวันต่อมาปกรณ์พลต้องตอบคำถามมากมายเรื่องการมาทำวิทยานิพนธ์ของเขา ชายหนุ่มแปลกใจที่บัวเผื่อนแนะนำให้เขาไปที่อื่นรวมทั้งเพลงลำกับไข่กาด้วย แต่เมื่อเขายืนยันว่าเขาต้องการมาเป็นลูกศิษย์แม่บัวสายต้องการข้อมูลของที่นี่จริง ๆ เพลงลำจึงยอมพาไปพบบัวสาย แต่เขากลับต้องวิ่งหนีออกจากบ้านแทบไม่ทันเมื่อ บัวสายปล่อยหมาเฝ้าบ้านนับสิบตัวออกมาไล่เขา แม้กระนั้นปกรณ์พลก็ไม่ยอมแพ้ เพลงลำนึกชอบที่เขา ใจสู้ เธอกับไข่กาจึงพาเขาไปหาเจิดให้ช่วยพูดกับบัวสายอีกครั้ง เจิดเป็นลูกศิษย์คนโปรดของบัวสาย เขามีวิธีพูดให้บัวสายใจอ่อนยอมรับปกรณ์พลให้อยู่เรียนรู้เรื่องลำตัดได้ แต่เขาต้องผ่านบททดสอบของเธอก่อน ปกรณ์พลดีใจขณะที่เพลงลำกับไข่กากลุ้มใจแทนเพราะรู้ว่าบททดสอบของบัวสายนั้นคืออะไร

วันรุ่งขึ้น ปกรณ์พลถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เขาต้องออกไปช่วยทำนาตามบททดสอบของบัวสาย ครอบครัวนี้จะทำนาในหน้านา และจะรับงานลำตัดเมื่อหลังการเก็บเกี่ยว เพลงลำคอยช่วยอยู่ใกล้ ๆ ชายหนุ่มเต็มใจทำงานแม้จะเงอะงะบ้าง แต่ความตั้งใจจริงของเขาก็ทำให้เพลงลำพอใจ แต่ลึกลงไปในใจแล้วเพลงลำรู้สึกว่าเขามีบุญคุณที่มาช่วยเธอจากพวกฝาจีบได้ทันเวลา มิฉะนั้นเธออาจพลาดถูกพวกมันฉุดไปแล้ว พฤติกรรมที่เลวร้ายของฝาจีบอีกอย่างคือชอบฉุดสาว ๆ ที่พอใจไปปล้ำแล้วยังถ่ายคลิปเก็บไว้แบล็คเมล์ ขู่ไม่ให้แจ้งความเสียอีก เพลงลำจึงนึกขอบใจปกรณ์พลที่ช่วยเธอไว้ อะไรที่เธอพอจะช่วยเขาได้เธอก็อยากช่วย ความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองคนเริ่มมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ทว่าความที่ไม่เคยชินกับงานหนักกลางแดดจัด ๆ ปกรณ์พลหมดแรงเป็นลมไปตั้งแต่ก่อนเที่ยง เพลงลำ เจิด และไข่กาต้องช่วยกันพาเขากลับไปพักกับบัวเผื่อนโดยไม่ให้บัวสายรู้ ชายหนุ่มไข้ขึ้นสูงทั้งคืนเพลงลำเป็นทุกข์เป็นร้อนห่วงใยเขามากจนไข่กาผิดสังเกต เธอบอกไข่กาว่ากลัวปกรณ์พลจะมาตายที่นี่แล้จะเกิดเรื่องใหญ่ แต่ไข่กากับเจิดไม่ค่อยเชื่อนัก อย่างไรก็ตามเพลงลำตัดสินใจค้นโทรศัพท์มือถือของเขามาเปิดเพื่อหาหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อทางบ้าน ทันทีที่เปิดเครื่องเสียงเรียกก็ดังขึ้น เพลงลำรับสายจึงต้องฟังงามไฉไลโวยวายต่อว่าอยู่หลายคำกว่าจะพูดกันรู้เรื่องว่าให้ไปรับปกรณ์พลที่โรงพยาบาลในอำเภอ

เมื่อถึงโรงพยาบาล ไข่กาแยกกลับบ้านกับเจิดก่อนที่บัวสายจะสงสัย เพลงลำอยู่กับปกรณ์พลตลอดเวลาจนกระทั่งงามไฉไลกับโพยมยงซึ่งเป็นแม่มาถึงโรงพยาบาล เธอประกาศตัวเป็นแฟนของ ปกรณ์พลอย่างชัดเจน เมื่อชายหนุ่มเพ้อถึงเพลงลำทำให้งามไฉไลนั่งไม่ติดเธอตามไปอาละวาดกับเพลงลำอีก ประกาศตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจนเพลงลำเข้าใจผิด งามไฉไลพาปกรณ์พลกลับกรุงเทพฯ เธอพยายามอาสามาดูแลชายหนุ่มแต่เขาก็หลบเลี่ยงตลอดเวลา ในช่วงเวลาเดียวกันที่บางลำ กำนันฝอยจัดงานเปิดตัว ฝาจีบลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน คนใหม่แทนคนเก่าที่แกบีบจนลาออกไปเอง เพลงลำรู้ทันจึงเสนอ ชื่อเจิดลงสมัครแข่งขันด้วย ฝาจีบจึงเปิดศึกตัดกำลังบ้านเสียงของเจิด เริ่มต้นด้วยการใช้รถเกี่ยวข้าวแอบไปขโมยเกี่ยวข้าวที่ออกรวงงาม ๆ ของนา นางสำอาง เพื่อนบ้านของบัวสายจนหมดเพียงชั่วข้ามคืน เพลงลำระแวงอยู่แล้วจึงชวน ไข่กา เจิด และคนอื่น ๆ ไปค้นเหล็กท่อนใหญ่ ๆ จากอู่ช่างเอื้องตัดเป็นท่อนให้มีความยาวประมาณต้นข้าว เธอกับพวกนำท่อนเหล็กเหล่านั้นไปปักเป็นแนวตั้งแทรกปนไปกับต้นข้าวรอบแนวคันนาที่รถเกี่ยวจะลงได้

กลางดึกคืนนั้น เพลงลำ เจิด ไข่กา ไปเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างมั่นใจว่าต้องได้ตัวคนร้ายแน่ ๆ ดึกมากแล้วเมื่อเสียงรถเกี่ยวข้าวดังขึ้นแต่ไกล ไม่นานนักก็เห็นเงารถเลื่อนลงนา เสียงดังกระทบกันของโลหะ และเสียงฝาจีบกับพวกโวยวายลั่น เมื่อรถเกี่ยวเกี่ยวเหล็กท่อนเข้าไปจนพังหมด รถเกี่ยวพัง ทำให้กำนันฝอยโกรธพวกเพลงลำมากขึ้นไปอีก ส่วนปกรณ์พลเมื่อฟื้นไข้เขาก็หนีกลับไปบางลำอีก คราวนี้ไม่ใช่เพื่องานวิจัยอย่างเดียว แต่เพื่อหัวใจด้วยเขารักเพลงลำ และรู้ดีว่าต้องพิสูจน์ตัวเองกับบัวสายมากเพียงใดแต่เขาก็พร้อมจะสู้ เพลงลำดีใจมากเมื่อพบปกรณ์พลอีกครั้ง เธอไม่อยากหลอกตัวเองอีกต่อไป เพลงลำเองก็รักเขามากเช่นกัน ทว่าความรักของทั้งคู่มีอุปสรรคมากมาย เริ่มจากงามไฉไลที่มาตามเขาไม่เลิกรา แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือ อรรถพ่อของปกรณ์พลเมื่อเขารู้ว่าลูกชายมาบางลำมาอยู่กับคณะลำตัดบัวสาย อรรถก็อยู่ไม่ติดออกมาตามปกรณ์พลกลับไปด้วยตัวเอง

ที่บ้านบัวสายเธอต้อนรับอรรถด้วยปืนลูกซองมาดเข้มดุ ไม่ทำให้อรรถกลัวแต่แววตาที่หมางเมิน เกลียดชังทำให้อรรถต้องยอมถอยกลับไป เพลงลำงงที่เห็นบัวสายโกรธแค้นอรรถมากขนาดนั้น คนที่เข้าใจสถานการณ์ดีที่สุดคือบัวเผื่อน เขาจำอรรถได้ว่าเคยไปเฝ้าดูบัวสายเล่นลำตัดที่กรุงเทพฯ เมื่อก่อนที่เธอจะท้องกลับมา บัวเผื่อนนึกรู้ทันทีว่าอรรถเป็นพ่อของปกรณ์พล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บัวสายยื่นคำขาดห้ามเพลงลำติดต่อกับปกรณ์พลโดยไม่บอกเหตุผลที่เธอรู้แก่ใจว่าพี่กับน้องจะแต่งงานกันได้อย่างไร

เพลงลำเป็นลูกของอรรถเหมือนกับปกรณ์พล งามไฉไลตามรังควานเพลงลำกับบัวสายอย่างน่ารำคาญ ลำพังเพลงลำเธอทนได้ แต่เธอทนให้ใครมาดูถูกแม่ไม่ได้ หญิงสาวจึงขอร้องให้ปกรณ์พลกลับไป ทั้งเธอและเขาต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ หน้าที่ของลูกที่ดี ปกรณ์พลยอมกลับกรุงเทพฯ และยอมหมั้นกับงามไฉไลตามความต้องการของอรรถ เขากลับมาคราวนี้เหมือนคนที่ไม่มีหัวใจ โฉมตรูเห็นลูกแล้วสงสารจับใจ เธอแปลกใจที่อรรถเคี่ยวเข็ญลูกชายอย่างไม่เคยทำมาก่อน ส่วนเพลงลำยอมหัดลำตัดเพื่อประชันในงาน สืบสานศิลปวัฒนธรรมงานใหญ่ของจังหวัดโดยมีฝาจีบเป็นคู่ประชัน กำนันฝอยยอมเสียเงินมากมายเพื่อให้ลูกชายชนะ แม้จะต้องโกงคะแนนก็ตาม คนที่เข้ามาเพิ่มความวุ่นวายคืองามไฉไลกับโพยมยงที่ตามมาช่วยสบทบเงินค่าจ้างหน้าม้ามาโห่ฮาเพลงลำ

เช้าวันงาน บัวสายป่วยต้องผ่าตัดไส้ติ่งกระทันหัน เพลงลำไม่มั่นใจในการขึ้นเวที แต่เจิดช่วยเป็นกำลังใจให้ ส่วนปกรณ์พลแปลกใจเมื่องามไฉไลกุลีกุจอพาเขามาดูการประชันลำตัด เขาไม่รู้ว่าอรรถตามมาดูด้วย เมื่อผลการประชันออกมาว่าเพลงลำชนะฝาจีบอย่างงดงาม เขาหายสงสัยทันทีเมื่องามไฉไลกับโพยมยงตามไปต่อว่ากำนันฝอยกับลูกที่ทำงานไม่สำเร็จ เพลงลำกับคณะไม่แพ้และโดนฉีกหน้าให้อายอย่างที่ตกลงกันไว้ ตัวตนของว่าที่คู่หมั้นกับแม่ทำให้ปกรณ์พลกลุ้มใจมาก ส่วนอรรถตามมาเยี่ยมบัวสายที่โรงพยาบาล เขาถามบัวสายว่าเพลงลำเป็นลูกของเขาใช่หรือไม่ แต่เธอไม่ตอบ บัวสายเมินหนีทั้งที่น้ำตากลบตา

แต่ไม่นานนักก็อดใจไม่ได้เธอเหน็บแนมต่อว่าเขาเรื่องศักดิ์ศรีผู้ดี และความต่ำต้อยของการเป็นแม่เพลงลำตัดของเธอ เพียงเท่านี้อรรถก็เข้าใจ เขาได้แต่ขอโทษที่ปล่อยให้เธอต้องอุ้มท้องกลับบางลำ และเลี้ยงลูกคนเดียว ทั้งสองคนไม่รู้ว่าเพลงลำกลับมาจากงานประชันแล้วและยืนอยู่ที่หน้าห้องนั้นเอง เธอได้ยินทุกอย่าง หญิงสาวรีบหลบไปก่อนที่อรรถจะออกมาพบเธอเข้า หญิงสาวเข้าไปพบบัวสายเมื่อเห็นว่าอรรถกลับไปแล้ว เพลงลำตั้งใจว่าจะทำให้แม่มีความสุขที่สุดจึงไม่พูดถึงพ่ออรรถสักคำ เธอตั้งใจจะเป็นแม่เพลงลำตัดที่ดีให้ได้ ที่กรุงเทพฯ โฉมตรูได้ต้อนรับ ดัสกร เพื่อนเก่าเมื่อครั้งที่เธอไปเรียนที่สวิสเซอร์แลนด์ ที่จริงดัสกรคือคนรักของเธอก่อนจะแต่งงานกับอรรถ ดัสกรมาพบเธอเพื่อลาเพราะเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่เหนือกว่าอะไรทั้งหมดคือเขาอยากพบลูกโฉมตรูปฏิเสธไม่ยอมให้พบปกรณ์พล แต่ดัสกรก็พบกับปกรณ์พลจนได้ในวันหนึ่ง แม่ ปริก คนรับใช้เก่าแก่ที่ตามโฉมตรูไปสวิสด้วยรู้ความจริงดีว่าปกรณ์พลเป็นลูกดัสกรกับโฉมตรู เป็นความจริงที่เป็นความลับบอกใครไม่ได้

ก่อนงานหมั้นงามไฉไลกับโพยมยงไปพบกำนันฝอยที่บ้านเธอต้องการทำลายเพลงลำกับแม่ให้ถึงที่สุด หญิงสาวจ้างฝาจีบให้ไปเผาบ้านของบัวสาย ฝาจีบนั้นเมื่อพบงามไฉไลเขาหลงรักเธอทันที และตั้งใจจะต้องแต่งงานกับเธอให้ได้ บ้านบัวสายถูกเผาตามแผน ในช่วงเวลาเดียวกันงามไฉไลติดต่อจ้างคณะลำตัดบัวสายไปแสดงในงานหมั้นของเธอกับปกรณ์พล เธอต้องการประจานเพลงลำกับแม่ให้ได้อายกลางงาน บัวสายไม่อยากให้เพลงลำรับงาน แต่เพลงลำยอมรับ

งานนี้โดยบอกว่า "แม่สอนอยู่เสมอว่าเราต้องทำหน้าที่ของศิลปินพื้นบ้านให้ดีที่สุด สง่างามที่สุด เพื่อจะสืบสานมรดกชิ้นนี้ไว้ให้กับลูกหลานสืบไป" งานคราวนี้ก็เป็นงานแสดงครั้งหนึ่งเท่านั้น หลังจากงานนี้เพลงลำบอกบัวสายว่าเธอจะแต่งงานกับเจิดเพื่อช่วยกันทำงานรักษาศิลปวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านต่อไป บัวสายสงสารลูกสาวมากเพลงลำทำทุกอย่างเหมือนเป็นหน้าที่เท่านั้น เพลงลำมีชีวิต มีวิญญาณ แต่ไม่มีจิตใจ งานครั้งนี้เพลงลำเรียกค่าจ้างหนึ่งล้านบาท โพยมยงกับ

งามไฉไลยอมตกลง ข่าวงานหมั้นของปกรณ์พลและงามไฉไลทำให้ฝาจีบ กับฝาจุกกลุ้มใจ ร้อนใจมากที่สุด ฝาจีบรักงามไฉไล ส่วนฝาจุกรักปกรณ์พล สองพี่น้องวางแผนจับตัวทั้งสองคนกลางงานหมั้นเพื่อจัดงานแต่งงานของตนแทน ที่วุ่นวายคือสองพี่น้องยุให้กำนันฝอยจับโพยมยง และรวบรัดเป็นเมียด้วยเสียอีกคน ที่โรงแรมหรูกลางกรุงเทพฯ งานหมั้นจัดอย่างหรูหรา งามไฉไลรอเวลาแสดงลำตัดอย่างตื่นเต้น ส่วน เพลงลำข่มใจให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทั้งที่เธอเจ็บปวดเหลือเกิน

บัวสายสงสารลูกสาวแต่ก็ดีใจที่เพลงลำเข้มแข็งเหมือนเธอ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน งามไฉไลฉวยโอกาสขึ้นเวทีขณะกำลังแสดง เธอประจานเพลงลำเสีย ๆ หาย แต่การที่เธอลามดูถูกไปถึงการเป็น "คนลำตัด" กลับทำให้เพลงลำกับบัวสายได้รับความเห็นใจจากแขกในงานมากขึ้น ก่อนเหตุการณ์จะลุกลามต่อไป ฝาจีบกับพวกจัดการดับไฟความโกลาหลวุ่นวายเกิดขึ้นทันที เพลงลำโดนปกรณ์พลฉุดลงจากเวทีให้ไปหลบใต้โต๊ะด้วยกัน เจิดกับบัวเผื่อนช่วยบัวสายหลบไปหลังเวที เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กว่าไฟจะเปิดอีกครั้ง โพยมยงตกใจแทบสิ้นสติเมื่อรู้ว่างามไฉไลหายไป ส่วนฝาจีบอารามรีบร้อนเขาจึงทิ้งกำนันฝอย และฝาจุกอยู่ที่โรงแรมนั่นเอง งามไฉไลตกใจมากเมื่อรู้ว่าฝาจีบจับตัวเธอมา หญิงสาวพยายามต่อรองให้เขาปล่อยเธอไปโดยเสนอเงินจำนวนมากให้แต่ฝาจีบไม่สนใจเขาพูดชัดเจนว่าเขาต้องการตัวเธอเท่านั้น

ดึกมากแล้วเมื่อกุชงค์กับปกรณ์พลพาเพลงลำกลับบ้านที่บางลำอย่างปลอดภัย ทั้งสองคนสงสัย ฝาจีบว่าจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ พวกเขาไปรับบัวเผื่อนให้ไปตามฝาจีบด้วยกัน บัวเผื่อนนึกรู้ว่าฝาจีบต้องไปที่กระท่อมร้างกลางนาไม่ไกลนักแน่ ๆ ที่นาแห่งนี้กำนันฝอยยึดมาจากลูกหนี้คนหนึ่ง เกือบเช้าแล้วเมื่อปกรณ์พลกับกุชงค์และน้าบัวเผื่อนตามไปช่วยงามไฉไล ทั้งสามคนแปลกใจที่ไม่พบหญิงสาวที่นั่นมีเพียงฝาจีบกับพวกเท่านั้น ทว่าระหว่างทางที่ย้อนกลับไป ทั้งสามคนก็พบงามไฉไลนอนสิ้นสติอยู่บนคันนา สภาพของเธอบอกได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น ปกรณ์พลกับกุชงค์รีบพาเธอส่งโรงพยาบาลเขาบอกกุชงค์ว่า ที่เขาช่วยงามไฉไลก็เพราะเธอเป็นเหมือนน้องสาวของเขามากกว่า

งามไฉไลรักษาตัวอยู่หลายวันโดยไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น เธออ้างว่าจำไม่ได้อย่างเดียว ปกรณ์พลได้พบดัสกรบ่อยครั้งขึ้น ความสนใจในเรื่องดนตรีเหมือนกันทำให้ทั้งสองคนมีความสุขทุกครั้งที่ได้พบกัน ดัสกรรู้ทันทีว่าปกรณ์พลคือลูกชายของเขาแน่ ๆ ดังนั้นเขาจึงนำกีตาร์ตัวโปรดไปฝากไว้ที่โฉมตรูโดยบอกว่าฝากให้ลูกชายของเขาด้วย ดัสกรกำลังจะจากไป แต่งามไฉไลกลับย้อนมาวุ่นวายกับปกรณ์พลอีกครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครเพลงรักเพลงลำ ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครเพลงรักเพลงลำ เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2558

แหวนสวาท 2558

เรื่องย่อ : แหวนสวาท (2558/2015) เรื่องราวความผูกพันของภูตสาวสวยที่เฝ้ารอคอยเพื่อจะได้พบชายคนรักในอดีตชาติอีกครั้งแต่เมื่อเขากลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ทั้งคู่กลับต้องพบอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะน้องสาวในอดีตชาติที่กลายมาเป็นคู่แข่งหัวใจในชาตินี้ บทพิสูจน์ของความรักต่างภพระหว่างรักสามเส้านี้จะลงเอยอย่างมีความสุขหรือไม่ วิศิษฏ์ (ธันวา สุริยจักร) หนุ่มข้าราชการชั้นโทสังกัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ผู้นิยมชมชอบสะสมของเก่า เดินทางมาดูงานที่ตลาดน้ำอโยธยา จ.กรุงศรีอยุธยา ระหว่างที่วิศิษฏ์ยืนชมการแสดงอาวุธโบราณ โดยสำนักดาบ ศ.พุทไธสวรรค์ อย่างออกรสออกชาติอยู่นั้น ก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดไม่คาดฝัน เมื่อนักแสดงดาบเกิดอาการผีเข้า ไล่ฟันผู้ชม ผู้ชมวิ่งหนีแตกตื่น รวมไปถึง แพรวพรรณ (เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวข้าราชการระดับสูงที่มายืนชมการแสดงอยู่ด้วย นักแสดงดาบพุ่งเข้าหาแพรวพรรณ วิศิษฏ์กระชากหญิงสาวให้พ้นคมดาบ และเอาตัวปกป้องแพรวพรรณ ในวินาทีที่ผีร้ายจะฟันใส่ร่างของชายหนุ่ม นางฟ้าแสนสวยก็ปรากฏกายใช้ฤทธิ์เดชที่สูงกว่าสยบวิญญาณผีเร่ร่อนจนหลุดออกจากร่างนักแสดงดาบ ช่วยชีวิตวิศิษฏ์และแพรวพรรณได้อย่างหวุดหวิด กว่าวิศิษฏ์จะเรียกสติกลับคืนมาได้ นางฟ้าตนนั้นหายวับไปเสียแล้ว หลังเหตุการณ์ระทึกขวัญผ่านไป เจ้าของสำนักดาบมาขอโทษวิศิษฏ์ และบอกว่าเป็นเพราะนักแสดงคนนั้นไม่ได้ไหว้ครู จึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น วิศิษฏ์ถามถึงผู้หญิงที่แต่งกายคล้ายนักแสดงนางรำของที่นี่ เจ้าของสำนักดาบงุนงงว่าเขาไม่เห็นผู้หญิงที่เข้าไปช่วยชีวิตวิศิษฏ์เลย ส่วนแพรวพรรณเกิดความประทับใจในตัวชายหนุ่มที่กล้าเอาชีวิตเข้าปกป้องเธอ หญิงสาวเกิดหลงรักวิศิษฏ์ขึ้นมาอย่างจับใจ แต่ยังไม่ทันได้พูดคุยหรือสานต่อสัมพันธ์ใด ๆ แพรวพรรณก็ถูกมารดาโทรตามตัวให้รีบกลับไปดูพ่อที่ความดันขึ้นอย่างกะทันหัน วิศิษฏ์เดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่เหมือนมีอำนาจบางอย่างดลบันดาลให้เขาขับรถหลงทางไปที่ร้านขายของเก่าโบราณ วิศิษฏ์ได้พบกับแหวนหัวนาคราช ด้วยความที่สนใจของเก่าเป็นทุนเดิม จึงเกิดความชื่นชอบ และซื้อมาครอบครอง โดยหารู้ไม่ว่าบางสิ่งที่มองไม่เห็นในแหวนได้ติดตามชายหนุ่มไปอย่างเงียบเชียบ !! และแล้วในคืนนั้นวิศิษฏ์ก็ต้องตกตะลึงเมื่อมีผู้หญิงสาวสวยชุดไทยจักรพรรดิ ผ้าไหมยกทองงามระยับ ประดับเครื่องถนิมพิมพาภรณ์แวววาว มาปรากฏตัวในห้องนอนเขา วิศิษฎ์จำได้ว่าเธอเป็นหญิงสาวคนเดียวกับที่ช่วยเขาที่อยุธยา หญิงสาวเรียกเขาว่า คุณเด๋อ แนะนำตัวว่า เธอชื่อ พิศ (เขมนิจ จามิกรณ์) เป็นวิญญาณที่สิงอยู่ในแหวนนาคราช พิศบอกว่าเธอรอคอยเขามานานแสนนานเพื่อมาพบกันอีกในชาตินี้เพราะต่างมีสัญญาต่อกัน และเขาเท่านั้นที่จะเป็นสะพานเชื่อมโยงให้เธอได้พบกับน้องสาว และช่วยให้น้องสาวพ้นบ่วงกรรม วิศิษฏ์พยายามถามว่าน้องสาวคนนั้นคือใคร ทำไมเขาต้องช่วย ในฝันเสียงพิศก้องในหัวก่อนหลับคือให้วิศิษฏ์เอารูปนงราม (กัญญารัตน์ พงศ์กัมปนาท) แฟนของเขาออกจากหัวเตียงเพราะเธอไม่ใช่เนื้อคู่ของเขา และเธอจะขออาศัยอยู่ในห้องนี้ด้วย ในขณะเดียวกันแพรวพรรณก็ฝันแปลก ๆ เห็นภาพหญิงสาวในชุดไทยจักรพรรดิ เลือดออกจากปากน่าสยดสยอง แพรวพรรณกรีดร้องลั่นบ้าน จนคุณหญิงงามเนตร (วิยะดา โกมารกุล) ต้องวิ่งเข้ามาปลอบประโลมบุตรสาว รุ่งเช้า วิศิษฏ์คิดว่าเขาคงฝันไปจึงไม่ใส่ใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นมีแมวมาทำให้กรอบรูปนงรามแตกทำให้เขานึกถึงคำพูดของพิศขึ้นมา แต่เขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อ วิศิษฏ์หยิบแหวนหัวนาคราชมาใส่ พิศแปลงร่างสวยงามเป็นสาวสมัยใหม่โผล่มาให้วิศิษฏ์เจอในทุกที่ แต่เมื่อวิศิษฎ์จะเข้าไปพูดจาด้วย พิศก็กลับหายไป ทำให้นงรามหงุดหงิดมากที่วิศิษฎ์ดูไม่มีสมาธิเวลาไปเที่ยวด้วยกัน คืนต่อมาพิศสาวสวยคนเดิมก็ปรากฏกายขึ้นในชุดราตรีทันสมัยราวนางแบบจากแคทวอล์ค พร้อมแหวนนาคราชติดที่นิ้วกระดกลิ้นวูบวาบ วิศิษฏ์อยากลองดีท้าให้พิศสำแดงฤทธิ์เปลี่ยนร่างเป็นผีให้ดูถึงจะยอมเชื่อว่าเป็นผีจริง พิศจึงแกล้งเรียกแม่ลิ้นจี่ (ชัชฎภรณ์ ธนันทา) ผีตายโหงที่สิงอยู่ต้นมะขามหน้าบ้านของวิศิษฏ์มาแสดงอิทธิฤทธิ์ชุดใหญ่ แบบนันสต็อป ทั้งปรากฏให้เห็นเป็นปีศาจผู้หญิงร่างสูงกว่ารั้วสามเท่า แหกอก หายตัว แยกร่าง จนวิศิษฏ์กลัวแทบสิ้นสติ ชายหนุ่มเกิดความหวาดกลัวคิดจะทำลายแหวน แต่พิศร้องขอและยื่นข้อเสนอว่าถ้าเธอสามารถช่วยชีวิต เฟื่องขจร (ดวงดาว จารุจินดา) แม่ของเขาได้ เขาจะต้องเก็บแหวนวงนี้ไว้ ชายหนุ่มตกใจมากถามว่าแม่เขาจะเป็นอะไร พิศตอบว่าเคราะห์จะมาจากบ้านหลังใหม่ เจ้ากรรมนายเวรจะมาทวงแค้น ให้ระวัง และแล้วก็เป็นไปตามทำนายของพิศ วิภาดา (บัณฑิตา ฐานวิเศษ) พี่สาวของเขาได้มอบบ้านพร้อมที่ดินให้กับแม่ของเขาเป็นของขวัญวันเกิด คุณนายเฟื่องขจรคิดที่จะหาคนมาเช่าบ้านหลังนี้ แต่วันที่เฟื่องขจรกับชื่นจิตสาวใช้ไปทำความสะอาดบ้านก็ถูกผีตาชุบ (สมชาย ศักดิกุล) และนังอวบ (ราตรี วิทวัส) ที่เป็นวิญญาณอาฆาตเฟื่องขจรมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว คิดทำร้ายเอาชีวิต โชคดีที่พิศมาทันเวลา ทำให้ตาชุบและผีบริวารเกรงใจไม่ทำร้ายเฟื่องขจร วิศิษฏ์จึงยอมสวมแหวนหัวนาคราชไว้ตามสัญญา แพรวพรรณตั้งใจตามหาวิศิษฏ์จนได้พบกัน แม้จะรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว เธอก็คิดแย่งมาให้ได้ ส่วนพิศดีใจมากที่ได้ใกล้ชิดน้องสาวอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถปรากฏร่างหรือพูดคุยกับแพรวพรรณได้ เนื่องจากคำสาบานที่แพรวพรรณเคยประกาศไว้ในอดีตชาตินั่นเอง ย้อนกลับไปในชาติปางก่อน วิศิษฏ์มีศักดิ์เป็นถึงคุณพระ มีพี่น้องฝาแฝดรุมรัก แต่วิศิษฏ์รักพิศแฝดผู้พี่ ทำให้แพรวแฝดผู้น้องเกิดความริษยารุนแรง ถึงกับกล้าเอาดอกอุณากรรณตากแห้งชงน้ำให้พิศกินตอนที่คุณพระไปราชการต่างจังหวัด เมื่อคุณพระกลับมาพิศก็ตายไปเสียแล้ว พ่อตาจึงยกแพรวให้เป็นเมียคุณพระแทน แต่แล้วเขารู้เรื่องนี้จากแม่นมทำให้เขาโกรธมากจึงบวชไม่สึก แพรวแค้นใจสาบานว่าจะตามติดคุณพระทุกชาติไปจนกว่าจะได้สมหวัง วิญญาณของพิศจึงสิงอยู่ในแหวนของรักที่คุณพระมอบให้ด้วยความตรอมตรมเพราะห่วงน้อง ด้วยเหตุนี้พิศจึงต้องอาศัยวิศิษฏ์ทำให้แพรวพรรณหลุดพ้นจากคำสาบานนั้น ดร.บรรจบ (กรเศก โคนินทร์) ญาติห่าง ๆ ของนงรามกลับมาจากเมืองนอก นงรามได้พบกับบรรจบและเกิดความหลงใหลเพราะบรรจบปากหวาน คอยพูดแทะเล็มให้นงรามเกิดความหวิวใจ นงรามคิดหลบหน้าวิศิษฏ์เพื่อยุติความสัมพันธ์ พิศพยายามสนับสนุนให้วิศิษฏ์รักกับแพรวพรรณ หาทางให้สองคนได้ใกล้ชิดกันอยู่เรื่อย ๆ ขณะที่ตัวเองก็เฝ้ามองอย่างปวดร้าว เพราะในหัวใจยังมีวิศิษฏ์อยู่เสมอมา ด้านบรรจบคิดสลัดนงรามทิ้ง แล้วหันมาจีบแพรวพรรณ เมื่อรู้ว่าแพรวพรรณฝันแปลก ๆ ทุกคืน จึงคิดเอาใจแพรวพรรณด้วยการติดต่อให้สัตตะ (ชาติชาย งามสรรพ์) มาทำพิธีขับไล่ผีในบ้านที่แพรวพรรณมาเช่าอยู่ จนพวกผีตาชุบหนีไปอยู่ที่บ้านวิศิษฏ์สิงร่างเฟื่องขจร และยังเข้าสิงชื่นจิตสาวใช้จนวุ่นวายไปหมด ทำให้พิศไม่สามารถเข้ามาในบ้านวิศิษฏ์ได้ชั่วคราว แต่พิศก็สามารถที่จะเรียกกายทิพย์ของวิศิษฏ์ให้มาพบปะกับเธอได้ที่นอกบ้าน บรรจบขัดใจที่แพรวพรรณหลงรักวิศิษฏ์ไม่เลิกรา จึงคิดกำจัดศัตรูหัวใจ จ้างให้คนมาฆ่าวิศิษฏ์แต่พิศเข้าปกป้องช่วยเหลือตลอด บรรจบจึงไปหาหมอผีสัตตะ หมอผีบอกว่าวิศิษฏ์มีผีผู้หญิงคุ้มครองอยู่ บรรจบจ้างให้หมอผีปราบให้สิ้นซาก หมอผีทำพิธีมนต์ดำเรียกให้พิศลงมาอยู่ในขวดแก้ว แต่เด็กอสุรกายชื่อกาฬ สมุนใหม่ของพิศ แปลงร่างเป็นหญิงสวยหยดย้อยยั่วยวนจนหมอผีหลงใหลแล้วก็ทำลายขวดแก้วสำเร็จ บรรจบใส่ร้ายวิศิษฏ์ว่าเป็นพวกสติไม่ดีชอบเลี้ยงภูตผีปีศาจ และให้หมอผีเอาน้ำตาหมาปลุกเสกมาป้ายตาแพรวพรรณทำให้เห็นพิศอยู่กับวิศิษฏ์จริง แพรวพรรณช็อก วิศิษฏ์รีบพาแพรวพรรณส่งโรงพยาบาล หมอช่วยชีวิตได้ทันและตรวจพบว่าแพรวพรรณป่วยเป็นโรคหัวใจอันเป็นผลจากวิบากกรรมที่เคยกระทำกับพิศไว้ พิศห่วงน้องสาวขอให้วิศิษฏ์ช่วยตอบรับเป็นแฟนกับแพรวพรรณ ทำให้ชายหนุ่มยิ่งสงสัยว่าเพราะเหตุใดพิศจึงตามห่วงใยแพรวพรรณนักหนา วิศิษฏ์จึงขอให้แสวง (วิชญะ จารุจินดา) และ ภาณุ (อนุวัฒน์) เพื่อนสนิทที่รู้จักกับหลวงปู่เทียน (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ที่มีฌานเก่งกล้าให้เฉลยความลับเรื่องนี้ แต่ก็ยังหาไม่พบเพราะหลวงปู่เทียนไปปฏิบัติธรรมในป่า เมื่อแพรวพรรณออกจากโรงพยาบาลก็ร่วมมือกับบรรจบ วางแผนกำจัดวิญญาณร้ายข้างกายวิศิษฏ์ แต่บรรจบต้องการให้หมอผีฆ่าวิศิษฏ์ให้ตายไปด้วยเพื่อให้ตนสมหวังในรัก โดยแพรวพรรณไม่รู้ พิศกับกาฬร่วมแรงกันต่อสู้กับหมอผี จนหมอผีพ่ายแพ้และหลบหนีไป หมอผีกลับไปที่อาศรมและเจอกับแพรวพรรณที่มารอฟังข่าว แพรวถูกน้ำมันโหงพรายจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ขณะที่หมอผีสัตตะกำลังจะปลุกปล้ำแพรว เจ้ากาฬอสูรกายตัวแสบก็มาช่วยพาแพรวหนีออกมาได้ และกาฬก็พ้นพันธนาการจากมงกุฎเหล็กตามคำบอกของพิศว่ามงกุฎจะกลายเป็นเส้นหญ้าเมื่อพบแม่ในภพใหม่ บรรจบตามมาเจอแพรวหมดสติ หมอผีโกหกว่าโดนวิญญาณของพิศทำร้าย เมื่อแพรวพรรณรู้เรื่องนี้ยิ่งทำให้แพรวพรรณเกลียดชังพิศมากขึ้น วิศิษฏ์ไม่กล้าเล่าอดีตชาติของพิศให้แพรวรู้ เพราะหลวงปู่สั่งไว้ว่าถ้าความลับของสวรรค์ถูกเปิดเผย คนที่เดือดร้อนคือพิศ เมื่อพิศรู้ว่าวิศิษฏ์รู้ความจริงหมดแล้วจึงขอร้องวิศิษฏ์ให้แต่งงานกับแพรวพรรณ เธอถึงจะยอมไปเกิดใหม่ วิศิษฏ์ตัดสินใจทำเพื่อพิศ เอ่ยปากให้แพรวพรรณพาไปพบพ่อแม่ของเธอเพื่อตกลงเรื่องการแต่งงาน ภายใต้แรงสนับสนุนของเฟื่องขจรและวิภาดา เพราะครอบครัวของแพรวพรรณมีฐานะดีกว่า บรรจบผิดหวังอย่างแรงเพราะรักแพรวพรรณสุดหัวใจ วันแต่งงานใกล้มาถึง พิศมาบอกลาวิศิษฏ์เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเตรียมตัวไปเกิดใหม่ และไม่สามารถมาพบกับวิศิษฏ์อีกเพราะบุญที่ทำต่อกันไว้หมดเพียงแค่นี้ วิศิษฏ์เหมือนสูญเสียคนรักไปอีกครั้ง พิศบอกว่าแพรวจะเป็นตัวแทนของเธอตลอดไป ขอให้วิศิษฏ์เกลี้ยกล่อมให้แพรวพรรณทำบุญมาก ๆ เพื่อให้พ้นบ่วงกรรมนี้ ในวันแต่งงาน ขณะเจ้าบ่าวเจ้าสาวเตรียมตัวเข้าพิธี วิศิษฏ์ถูกมนต์ดำอาเจียนออกมาเป็นเลือดสีดำและตัวหนอนน่าเกลียดน่ากลัว ส่วนแพรวพรรณถูกบรรจบล่อให้ไปที่เซฟเฮ้าส์แล้วใช้กำลังคิดปลุกปล้ำ พิศที่เป็นวิญญาณเวียนว่ายรอการไปเกิดอยู่นั้น พยายามรวบรวมพลังครั้งสุดท้ายช่วยเหลือแพรวไม่ให้ถูกบรรจบทำร้าย แต่ด้วยกรรมเก่าของแพรวทำให้บรรจบเหวี่ยงแพรวลงกระแทกกับเตียง แพรวที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้วก็ตกใจจนช็อกช่วงที่วิญญาณแพรวริบหรี่จะออกจากร่าง ภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาเป็นอดีตชาติที่แพรวได้ชงยาพิษให้พิศกินจนพิศตาย แพรวช็อกเห็นภาพชัดเจนและรู้แล้วว่าพิศคือพี่สาวในอดีตชาติทำให้สำนึกในบาปกรรมที่ทำไว้ แล้วแพรวก็เสียชีวิตลง ระหว่างที่วิญญาณของแพรวออกจากร่างมา พิศก็ถูกแรงดึงดูดของบางสิ่งให้เข้ามาสวมร่างของแพรว พิศในร่างแพรวขยับตัวลุกขึ้นมาเสียใจกับการจากไปของแพรว ขณะเดียวกันหลวงปู่เทียนนั่งฌานเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด รีบตามมาช่วยเหลือคลายมนต์ดำให้วิศิษฏ์จนพ้นขีดอันตราย มนต์ดำนั้นได้วิ่งกลับไปหาเจ้าของคือหมอผีชั่วจนกลายเป็นคนพิกลพิการชดใช้กรรมที่ก่อไว้อย่างทุกข์ทรมาน วิศิษฏ์ยังไม่หายความโศกเศร้าจากการจากไปของพิศ เมื่อพิศในร่างแพรวมาหาวิศิษฏ์ก็ไม่ได้ให้ความสนใจแต่อย่างใด เพราะคิดว่าเป็นแพรว พิศประทับใจในความรักที่วิศิษฏ์มีให้กับเธอ เธอจึงบอกความจริงกับเขาด้วยการ เรียกเขาว่า "คุณเด๋อ" ที่ไม่เคยมีใครเรียกชื่อนี้นอกจากพิศ พิศบอกว่าเธอไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะจุติที่ไหนเพิ่งรู้ว่าเธอจะมาอยู่ในร่างแพรวก็ตอนที่แพรวเสียชีวิตแล้ว แพรวได้ชดใช้หนี้บาปให้เธอโดยปริยาย วิศิษฏ์กับพิศในร่างแพรวก็ได้แต่งงานอยู่กินกันอย่างมีความสุข ตอนนี้พิศในร่างแพรวไม่สามารถติดต่อกับโอปปาติกะได้อีกแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่พิศพอจะรู้คือกาฬอสูรน้อยยังวนเวียนเพื่อรอการมาเกิดเป็นลูกของเขาทั้งสองคน ซึ่งวิศิษฏ์กับพิศก็ยินดีที่จะให้เป็นเช่นนั้น การรอคอยอันยาวนานของพิศก็สมหวังดังสัญญาภพชาติในอดีตของทั้งคู่ด้วยกรรมดีที่เธอและเขาสั่งสมด้วยกันมา พิศในอ้อมกอดของสามี ฝันเห็นน้องสาวมาปรากฏร่างในชุดขาวสวยงาม ยิ้มแย้มให้เธออย่างสดใส พิศได้ส่งแหวนหัวนาคราชให้กับแพรวเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการได้พบเจอกันอีกครั้งในภพต่อไป ติดตามความสนุกสนานของ ละครแหวนสวาท ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครแหวนสวาท เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2558