ยอพระกลิ่น 2546

เรื่องย่อ : ยอพระกลิ่น (2546/2003) ยอพระกลิ่น" เป็นธิดาของพระอินทร์และเจ้าหญิงชาวมนุษย์นางหนึ่ง ด้วยความที่พระอินทร์ไม่สามารถเลี้ยงดูพระธิดาได้จึงนำนางไปฝากไว้ในต้นไผ่ต้นใหญ่ในป่าบนโลก เวลาผ่านไปยอพระกลิ่นเติบโตเป็นสาว (ที่ได้ชื่อว่ายอพระกลิ่นเพราะนางมีกลิ่นกายหอมมาก) ก็ได้พบกับ "มณีพิชัย" เจ้าชายเมืองหนึ่ง ซึ่งบังเอิญเดินทางเข้าป่ามาแล้วพบต้นไผ่ต้นใหญ่จึงโค่นลง เมื่อมณีพิชัยพบยอพระกลิ่นที่มีกลิ่นกายหอมหวลจึงนำนางกลับเมืองและเเต่งตั้งให้นางเป็นมเหสี แต่พระนางจันทรพระมารดาของมณีพิชัย ไม่ชอบหน้ายอพระกลิ่น และอยากให้โอรสได้อภิเษกสมรสกับธิดาเจ้ากรุงจีนที่มั่งคั่งมากกว่า พระนางจึงวางแผนใส่ร้ายป้ายสียอพระกลิ่นว่านางเป็นกระสือกินแมวในราชวัง นางจึงต้องโทษประหาร เคราะห์ดีที่พระอินทร์ทรงลงมาช่วยธิดาไว้ได้ทันแล้วเสกให้นางกลายเป็นพราหมณ์หนุ่มมีเวทย์มนตร์แก่กล้า

ขายตรงส่งรัก 2546

เรื่องย่อ : ขายตรงส่งรัก (2546/2003) น้ำ ริน ต้องออกหางานทำเพื่อช่วยครอบครัว เพราะการตายของบิดา ที่ส่งผลถึงการเงินในบ้าน รวมทั้งปัญหาการเสียสิทธิ์ที่จะอยู่อาศัยในบ้านพักพนักงานรัฐวิสาหกิจ น้ำ ริน ออกฝึกงานเป็นพนักงานขายใน บริษัท จักรวาล เทรดดิ้ง บริษัทที่ขายของทุกชนิดให้หน่วยงานราชการและเอกชน น้ำรินมีโอกาสเข้าไปเสนอสินค้าให้กับบริษัทขายตรง ประกายรุ้ง และได้พบกับ ชาติชาย ลูกชายเจ้าของบริษัท ครั้งแรกทั้งคู่ถูกชะตากัน แต่เมื่อน้ำรินเริ่มเสนอสินค้า ชาติชายก็ไม่สบอารมณ์เพราะน้ำรินไม่มีความรู้เรื่องสินค้า แต่ใช้วิธีมั่วเอา ชาติชายต่อว่าน้ำรินค่อนข้างรุนแรง น้ำรินไม่ ประสบความสำเร็จจากงานที่ทำอยู่ จึงมองหางานใหม่หลายอย่าง แต่ก็ยังไม่พบหนทางอันใด จนกระทั่งมาพบกับ รุ่ง สาวขายตรงวัยดึก หรือที่จริง คือ รุ้งจรัส เจ้าของบริษัทประกายรุ้งที่ปลอมตัวออกมาทำงานหาข้อมูล น้ำรินแสดงน้ำใจช่วยรุ่งหลายครั้งจนรุ่งประทับใจและชวนให้มาทำงานกับประกายรุ้ง ติดตามต่อได้ใน ขายตรงส่งรัก

ชะชะช่า ท้ารัก 2546

เรื่องย่อ : ชะชะช่า ท้ารัก (2546/2003) การะเกด กำพร้าแม่มาตั้งแต่สองขวบ เนื่องจากถูกน้าสาวคือ ปานใจ ซึ่งแอบอิจฉา เกลียดชังพี่สาว ปานจิต ผู้เป็นแม่ของการะเกดมาตั้งแต่ยังสาว อันมีสาเหตุมาจาก รักผู้ชายคนเดียวกันคือ เกริกศักดิ์ พ่อของการะเกด แต่เกริกศักดิ์รักตอบและแต่งงานกับปานจิต ความแค้นสะสมมากขึ้น จนกระทั่งหาทางฆ่าปานจิตผู้อ่อนแอถึงตาย ในที่สุด ปานใจใช้เล่ห์มารยาว่าเป็นน้าที่แสนดีและรับใช้เกริกศักดิ์จนเกริกศักดิ์ยอม ใจอ่อน แต่งงานด้วย แต่การแต่งงานไม่ได้ทำให้ปานใจลดความอิจฉาลงได้ เพราะเกริกศักดิ์ทุ่มเทความรักให้การะเกดมากมาย และแม้แต่ กำไลทอง ลูกสาวของปานใจ เกริกก็ไม่รักเท่าการะเกด มิหนำซ้ำ นคร ข้าราชการรุ่นพี่กับ นวลน้อย ภรรยายังเมตตาการะเกดด้วยการจับจองตัวไว้เป็นคู่หมั้นของ สดุดี ลูกชายอีกด้วย ติดตามต่อได้ใน "ชะชะช่า ท้ารัก"

ศิลปินเถื่อน 2546

เรื่องย่อ : ศิลปินเถื่อน (2546/2003) เอี้ยมจุ๊นกำลังเร่งเครื่องมอเตอร์ไซด์อยู่กับที่ หน้าคฤหาสถ์หลังหนึ่ง คนซ้อนท้ายใส่หมวกกันน็อครอจังหวะ ก่อนจะวิ่งลงจากรถเครื่อง ตรงไปยังรถยนต์ที่แล่นออกจากคฤหาสถ์ชักปืนยิงแล้วก็วิ่งมาซ้อนท้ายรถ มอเตอร์ไซด์ของเอี้ยมจุ๊น เอี้ยมจุ๊นเร่งเครื่องยกหน้า รถมอเตอร์ไซด์กลิ้งโครมคราม ภาพผู้กำกับทำหน้าโมโหสุดขีดเข้ามาด่าเอี้ยมจุ๊น สั่งให้ธุรกิจกองถ่ายมาไล่เอี้ยมจุ๊นไป จ่ายค่าเจ็บตัวให้หนึ่งร้อยบาท ขณะเดียวกันนั้น รอย อนารยชน ก็กำลังอาราธนาจุดธูปไหว้เหล็กก้อนหนึ่ง ซึ่งรอยมั่นใจว่า เป็นเหล็กไหล กำลังจะลองให้นายหน้าคนซื้อเหล็กไหล ใช้ปืนยิง เพราะถ้ายิงไม่ออกในสามนัด นายหน้าจะยอมจ่ายเงินให้ตามราคาน้ำหนัก หนึ่งบาทต่อหนึ่งล้าน เมื่อยิงนัดแรก เสียงปืนดังแชะ รอยดีใจ แต่นายหน้าบอกว่าลืมใส่ลูกปืน พอเอาลูกปืนใส่ ยิงกระจาย นายหน้าด่ารอย อนารยชนว่าหลอกลวงอีกตามเคย รอยจ๋อย ส่วนเปี๊ยก อาร์ต กำลังยืนวางแผงขายรูปเขียน มีกรอบสวยงามอยู่ริมถนน แถบสีลม มีคนมาซื้อ เปี๊ยก อาร์ต ดีใจว่ามีคนนิยมฝีมือตัวเอง แต่ก็เสียความรู้สึกเมื่อคนซื้อขอซื้อเฉพาะกรอบรูป รูปวาดไม่เอาเพราะมีที่บ้านสวยกว่านี้มากนัก ขณะที่สินจิตกำลังเล่นดนตรีเปิดหมวกยืนดีดกีตาร์แถวศูนย์การค้า มีกล่องกีตาร์เปิด เพื่อให้คนใส่เงิน พอดีกับมีตำรวจเทศกิจมา ต้องหอบกีตาร์และกล่องออกมาวิ่งหนี เงินเหรียญหล่นกระจาย ฝ่ายเป บูรพา กำลังเดินออกจากซอย เจอตำรวจสายตรวจมาขอค้น เพราะมีท่าทีเหมือนขี้ยา ค้นย่ามไม่เจออะไรนอกจากบ๊วยเค็ม มะม่วงดอง เม็ดแตงโม ตำรวจสงสัยถามว่า ทำงานอะไร เปตอบเป็นภาษากวีว่า เป็นเพียงคนเถื่อนช่างฝัน บนคืนวันอันเศร้าหม่น ดื่มกินความเงียบเหงากับใจตน สาธุชนเรียกข้าว่ากวี..... ตำรวจสายตรวจปรึกษากันแล้วสรุปว่า “ บ้า” เลยปล่อยตัวไป ติดตามต่อได้ใน "ศิลปินเถื่อน"

สัญญาเมื่อสายัณห์ 2546

เรื่องย่อ : สัญญาเมื่อสายัณห์ (2546/2003) ไร่องุ่นของ อิสระ และ เมฆา แม้จะอยู่ติดกันแต่ทั้งคู่ต่างถือว่าอีกคนเป็นศัตรูและต้องทำทุกอย่างเพื่อ ที่จะชนะให้ได้ พุดน้ำบุษย์ ลูกสาวของเมฆาเพิ่งจบฟู้ดไซน์มามาด ๆ เดินสำรวจไร่แต่เกิดหลงไปติดฝนอยู่ในกระท่อมร้าง จนกระทั่ง สีกลัก คนงานในไร่อิสระมาพบ และพากลับบ้านจนคุณพุดประทับใจคิดว่าสีกลักเป็นลูกชายเมฆา สีกลักเป็นลูกสีพร ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ เขามักมีเรื่องกับ สุบรรเจิด ลูกชายอิสระที่ไม่ชอบหน้าเขาที่หล่อกว่าและมีสาว ๆ มาทอดสะพานให้เยอะแยะ จึงคอยแกล้ง สีกลักไปเรียนคอร์สของกรมส่งเสริมการเกษตร อาจารย์มณียา แอบชอบสีกลักและคอยให้ท่า สีกลักมีเรื่องกับ สุบรรเจิดจนต้องพาแม่ออกจากไร่ สุบรรเจิดพบกับคุณพุดก็ตกหลุมรักทันที่ แต่ก็ต้องใจหายวาบเมื่อรู้ว่าเป็นลูกเมฆา อิสระมาตามสีกลักกลับไป เพราะสุบรรเจิดคุมคนงานไม่ได้ทำให้สุบรรเจิดยิ่งเกลียดสีกลัก คุณพุดขับรถตามหาสีกลัก เห็นกำลังขี่ม้าสำรวจไร่ ทั้งคู่ได้พูดคุยกันและต่างแอบประทับใจกันและกัน สุบรรเจิดขับรถตามคุณพุดขับหนีจนเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ได้รู้ความจริงว่าสีกลักเป็นแค่คนงาน คุณพุดพยายามมาหาสีกลักแต่ถูกสุบรรเจิดขัดขวาง แต่ก็ได้พบกันคุณพุดบอกเรื่อพ่อบังคับให้ไปเรียนนอก สีกลักถามว่าไปนานมั๊ยเพราะเมื่อพุดน้ำบุษย์กลับมาเขาคงเรียนสูงขึ้น คุณพุดบอกว่าเรียนสูงต่ำไม่สำคัญ สองคนสบตาด้วยความเข้าใจในความรักและสัญญาว่าจะรอกัน สุบรรเจิดกับสีกลักทะเลาะกันใหญ่โตลามปาม จนอิสระทนไม่ได้ประกาศไปว่าสีกลักคือลูกเขาอีกคน สุบรรเจิดยอมรับไม่ได้จึงเผ่ากระท่อมสีกลัก สีพรติดอยู่ในบ้านคุณพุดเข้าไปช่วย สุบรรเจิดเห็นก็เข้าไปช่วยบ้าง แต่เกือบถูกไปคลอก แต่สีพรช่วยไว้ได้ หลังเหตุการณ์ไม่มีใครเห็นสองแม่ลูกอีกเลย สีกลักซื้อไร่รกร้างมา ปรับปรุง และดูแลสีพรที่ตอนนี้ตาบอด คุณพุดยังเฝ้ารอสีกลักด้วยความหวังที่แห้งแล้งลงไปทุกที สุบรรเจิดยังตามทำดีแต่คุณพุดไม่สนใจ เมฆาที่ตอนนี้ไร่เริ่มตกต่ำ ดวงใจเมียเก็บเมฆาจึงยุให้ยกคุณพุดให้สุบรรเจิดเพื่อจะได้กำจัดคุณพุด พุดน้ำบุษย์จำใจแต่งกับสุบรรเจิดแต่ขอเพียงในนาม ก่อนวันแต่งคุณพุดได้พบสีกลัก และบอกเหตุผลที่ต้องแต่งกับสุบรรเจิด คุณพุดขอให้สีกลักรอเธอ ขอเวลาให้เธอสะสางปัญหา คืนวันแต่งสุบรรเจิดขืนใจสีกลักเข้ามาช่วย สุบรรเจิดระเบิดอารมณ์ว่าสีกลักแย่งทุกอย่างไปทั้งพ่อและคนรัก คุณพัด พัฒนาไร่โดยมีสีกลักคอยช่วย มณียาสืบจนรู้ที่อยู่สีกลักและพยายามตื้อแต่ถูก แหวน สาวชาวไร่ที่แอบชอบสีกลักขวาง พุดน้ำบุษย์มองอย่างเงียบ ๆ อดหวั่นไหวไม่ได้ว่าสีกลักอาจจะชอบคนใดคนหนึ่ง ในที่สุดไร่เมฆาก็พลิกฟื้นกลับมามีรายๆ ได้ ดวงใจเมื่อไม่เห็นทางชนะคุณพุดได้จึงทิ้งเมฆาไป คุณพุดจะขอหย่าจากสุบรรเจิดแต่เมฆาไม่ยอม คุณพุดเสียใจที่พ่อเห็นเธอเป็นเพียงหมากตัวหนึ่ง สุบรรเจิดแค้นที่ความดีของตัวเอาชนะใจคุณพุดไม่ได้ จึงออกตามล่าตัวสีกลักเอามาขังไว้เพื่อฆ่า อิสระตามมาและเอาตัวบังกระสุนจากสุบรรเจิด ที่รพ. อิสระขอร้องไม่ให้สีกลักเอาเรื่อง และบอกว่าสุบรรเจิดเป็นลูกสีพร สุบรรเจิดรับไม่ได้และพูดจาดูถูกสีพร สีกลักจึงชกด้วยความโมโห สุบรรเจิดขับรถหนีออกจากงานศพจนเกิดอุบัติเหตุ สุบรรเจิดตาบอดและขาพิการ สีกลักมาดูแลอย่างดี สุบรรเจิดคิดได้จึงยอมปล่อยคุณพุด ต่อมาสุบรรเจิดกลับมามองเห็นแต่ยังกะเพลก ที่งานประกวดไร่องุ่น สีกลักแต่งงานกับคุณพุด เมฆาก็ได้คนดามอกคืออาจารย์มณียาและสุบรรเจิดก็ได้พบสาวที่ตรงสเปคในงานนี้ เอง

ทับเทวา 2546

เรื่องย่อ : ทับเทวา (2546/2003) ทับเทวา คฤหาสน์โอฬารที่ก่อสร้างขึ้นอย่างงดงามราวกับเป็นวิมานของชาวสวรรค์ แต่ ณ ที่นี้ได้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมากมาย ผู้คนล้วนเข้ามาพัวพันกันด้วยความรัก ความโลภ ความริษยา จนเป็นที่มาแห่งการช่วงชิงคฤหาสน์ทับเทวา ทับเทวาเป็นมรดกตกทอดมาหลายชั่วอายุคนจนมาถึงในยุคของบุตรชายพระยาพิทักษ์ ภูเบศ คือ พงศ์พิทักษ์ เทวัญ ทว่าเจจ้าของบ้านหามีความสุขไม่เพราะ พงษ์พิษณุ เทวัญ ทายาทคนเดียวที่เกิดกับคุณกลิ่นจันทร์ ถูกลักพาตัวหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อสิบสองปีก่อน ก่อนสิ้นใจคุณพงษ์พิทักษ์ได้สั่งการไว้ว่า ถ้าครบ 10 ปีไม่สามารถตามหาตัวพงษ์พิษณุกลับมาทับเทวาได้ให้ยกมรดกให้กับอดิเทพ เทวัญ ลูกชายคนรองที่เกิดจากลำดวนอนุภรรยา แต่คุณลำดวนยังมี วรรณทิพย์ ธูปหอม ลูกสาวติดแม่ร่วมอาศัยอยู่ในทับเทวาอีกคน และคุณพริ้มผู้เป็นน้องสาวของพงษ์พิทักษ์มีหน้าที่รักษาการแทนประมุขของบ้าน ติดตามต่อได้ใน "ทับเทวา"

ฝนใต้ 2546

เรื่องย่อ : ฝนใต้ (2546/2003) ยอด ยาหม่อง ชายหนุ่มที่ใครๆ ก็ต่างคิดว่าเขาเป็นคนเพี้ยน แต่จริงๆ แล้วเป้าหมายหลักที่ ยอด ได้เข้ามาในหมู่บ้านแก่งกระทิงนั้นก็เพื่อตามหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของตัวเอง

สิบตำรวจโทบุญถึง 2546

เรื่องย่อ : สิบตำรวจโทบุญถึง (2546/2003) สิบตำรวจโทบุญถึง เรื่องราวของตำรวจฝีมือดีที่ทุ่มเทฝีมือสุดความสามารถในการปราบปรามเหล่าร้ายโดยเฉพาะแก็งค์ค้ายาเสพติดและลักลอบขโมยรถยนต์ที่เป็นมาเฟียระดับประเทศ

นะหน้าทอง 2546

เรื่องย่อ : นะหน้าทอง (2546/2003) ทองทราย เด็กสาววัย 19 ปี ทำงานที่ร้านไอศกรีแห่งหนึ่งเพื่อหารายได้มาเรียนหนังสือ ทองทรายอยู่กับแม่ชื่อ สิถิล สิถิลแต่งงานกับทองขาวลูกชาวสวนมะพร้าวและมีอาชีพเคี่ยวน้ำตาลขาย ทองขาวเจ้าชู้มากซ้ำยังไม่มีความรับผิดชอบ เขาตกงานบ่อย ๆ ทองขาวกับสิถิลมีลูกสาว 2 คน คือ ทองทรายกับ ทอรุ้ง ความเจ้าชู้ของทองขาวทำให้สิถิลทนไม่ไหว ทั้งคู่เลิกกัน สิถิลหนีมาทำงานในกรุงเทพก่อนจะแต่งานใหม่กับ ปึง เซลล์แมนขายเครื่องสำอาง ปึงกับสิถิลมีลูกชายด้วยกันชื่อ ปัญญ์ แต่แล้วปึงกับสิถิลก็ไปด้วยกันไม่ได้ ปึงซ้อมสิถิลบ่อย ๆ เมื่อเขาเมา สิถิลจึงเลิกกับปึง ส่วนทองทรายกับทอรุ้ง เมื่ออยู่กับปู่และย่า ทั้งคู่ต้องช่วยทำงานปีนต้นมะพร้าว ปาดตาล เคี่ยวน้ำตาล เมื่อทองทรายรู้ว่าแม่เลิกกับพ่อเลี้ยง ทองทรายจึงย้ายออกจากบ้านปู่และย่ามาอยู่กับแม่เพราะเป็นห่วงและอีกประการหนึ่ง

โฉมตรูครูเถื่อน 2546

เรื่องย่อ : โฉมตรูครูเถื่อน (2546/2003) คุณธรรม และ ความดี ทำให้เขาสามารถพิชิตใจหญิงสาวผู้เพียบพร้อม

ตลาด โรงเจ ลิเก ความรัก 2546

เรื่องย่อ : ตลาด โรงเจ ลิเก ความรัก (2546/2003) เรื่องราวของชายหนุ่มและหญิงสาวที่มีความแตกต่างกันคนละขั้ว สิงหา ฝ่ายชายลูกชายพระเอกลิเกเก่า ที่ต้องผันตัวเองมารับบทเป็นพระเอกลิเกแทนผู้เป็นพ่อ ส่วนหลิว ฝ่ายหญิงผู้จัดการคณะงิ้วของเล้ง ที่หนุ่มๆ ในตลาด โดยเฉพาะพวกลิเกอย่าง สิงหา คอยว่าคอยแซวอยู่เสมอ

นารีลุยไฟ 2543

เรื่องย่อ : นารีลุยไฟ (2546/2003) นารี สาวสวยคนเก่ง ขยัน เธออยู่กับแม่และน้องสาวคือ นางเฉิด และธิตา ตั้งแต่พ่อของเธอตายไป นารีก็ต้องกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวโดยปริยาย เธอทำงานหนักและเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งไปพร้อมกัน นารีต้องหาเงินให้มากพอสำหรับ 3 ชีวิต และต้องเผื่อให้นางเฉิดสำหรับเล่นไพ่ ต้องมีเงินสำหรับค่าหน่วยกิตของธิตาน้องสาวคนสวยที่แสนจะบอบบางเพื่อเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งธิตาเรียนอยู่นานจนจะเป็นย่าของมหาวิทยาลัยอยู่แล้วก็ยังเรียนไม่จบ ขณะที่นารีเป็นน้องทั้งเรียนและทำงานไปพร้อมกัน นารีก็ยังเรียนจบก่อนธิตา ยิ่งไปกว่านั้นธิตาก็ขยันหาเรื่องมาให้นารีร้อนใจอยู่เสมอ จนบางครั้งเธอสงสัยว่านอกจากความสวยแล้ว ธิตามีสมองหรือไม่ แต่ไม่ว่าธิตาจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมา และนารีต้องตามแก้ปัญหาเพียงใด นารีก็ไม่เคยที่จะคิดทิ้งแม่และน้องสาวไปมีชีวิตที่สุขสบายตามลำพังเลยสักครั้ง

แต่วันนี้นารีก็อยากจะตายหรือหนีไปให้พ้นจากภาระที่ต้องรับอยู่นี้ เมื่อรู้ว่าน้องสาวคนสวยสะเพร่าทำเงินของชมรมกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยหายไป เงินนั้นมากถึงหนึ่งแสนบาท นารีโกรธจนหัวหมุน ยิ่งเห็นมารดาเอาแต่ร้องไห้ขอร้องให้เธอช่วยธิตาอีกครั้งก็เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาโดยไม่คิดจะช่วยหาทางหาเงินเลย ซ้ำร้ายธิตาเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับผิดชอบอะไรเช่นกัน นอกจากร้องไห้คร่ำครวญพร้อมสรุปง่าย ๆ ว่านารีต้องทำได้ นารีต้องช่วยไม่เช่นนั้นพวกเพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยจะไปแจ้งความแล้ว ธิดาก็จะต้องถูกจับเป็นข่าว ธิตาอายที่ไม่มีเงินไปใช้หนี้ นารีรู้สึกอยากจะคลั่งเมื่อเธอหมดความอดทน โวยวายดุธิตา ธิตาก็กรี๊ดแล้วนิ่งไป นางเฉิดก็แทบจะเป็นลมตามธิตาไปด้วย เพราะนางรักและทะนุถนอมธิตามาก เนื่องจากธิตาป่วยเป็นโรคหัวใจ ด้วยเหตุนี้ ธิตาจึงเป็นสาวน้อยที่บอบบาง กระทบอะไรนิดหน่อยก็พาลจะตาย นารีมองภาพมารดาที่ฟูมฟายกลัวธิตาจะตายอย่างอ่อนใจ และน้อยใจ เธอสงสัยว่าถ้าเรื่องนี้เกิดกับเธอ มารดาจะทำอย่างไร นารีถอนใจยาวก่อนจะไปละลายยาหอม หยิบยาดม และผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้น้องสาว นางเฉิดสีหน้าดีขึ้นเมื่อเห็นธิดาเริ่มรู้สึกตัว ธิตาจับมือนารีมากอดไว้พลางสรุปอย่างรวดเร็วว่านารีจะเอาเงินมาให้เธอได้เมื่อไหร่ เธออายและไม่อยากถูกทวงหนี้ นารีมองหน้าน้องสาวและมารดาอย่างน้อยใจที่สุด ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปเงียบ ๆ

นารีไปหา พุฒิ เพื่อนชายคนสนิท พุฒิกับนารีไม่ได้ต่างกันเลยในเรื่องฐานะและการดิ้นรนหาเงิน เลี้ยงตัวเองกับครอบครัว พุฒิจึงเข้าใจถึงความลำบากของนารีได้ดี เขาทั้งคู่จึงเป็นเพื่อนคู่ปรับทุกข์และคู่ปรึกษาซึ่งกันและกันเสมอมา เมื่อพุฒิรู้เรื่องเขามองนารีอย่างเห็นใจ เงินจำนวนมากขนาดนี้นารีจะทำอย่างไร ทุกวันนี้เธอทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในเวลากลางวัน กลางคืนเป็นบาร์เทนดี้ในผับ แถมเมื่อเวลานางเฉิดร้อนเงินเพราะเสียไพ่ หรือธิตาเปิดเทอมต้องการค่าหน่วยกิต นารีทำแม้กระทั่งขายเลือด นารีบ่นกับพุฒิอย่างอึดอัดใจ เธอประชดว่าหนี้สินคราวนี้ของธิตา เธอคงต้องขายตัวหาเงินมาปลดหนี้แน่ๆ พุฒิรู้ดีว่านารีดีแต่พูดเรื่องขายตัว ทุกวันนี้นารีต้องหาวิธีสารพัดในการที่จะรักษาตัวให้พ้นจากบรรดาเฒ่าหัวงูหรือหนุ่มเจ้าชู้ทั้งหลายที่วนเวียนมาจีบเธอถึงที่ผับ เพราะนารีสวย และเซ็กซี่มากแม้จะแต่งตัวเรียบร้อยเสมอ

เมื่อนารีบ่นอยากเบิกเงินก้อนมาใช้หนี้ พุฒิจึงนึกได้ถึงประกาศรับสมัครงานของภิธิชัยฟาร์มที่ต้องการพนักงานใหม่เป็นชายหนึ่งคนและหญิงหนึ่งคน โดยที่จะจ่ายเงินล่วงหน้าให้ 1 ปีครบตามสัญญาจ้าง พุฒิส่งหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นให้นารีเพื่อส่งจดหมายสมัครงานไป นารีรับหนังสือพิมพ์นั้นมาก่อนกลับบ้านอย่างเพลียใจ เธอหลับไปได้ไม่นานก็ต้องตื่นเพราะนางเฉิดมาปลุก นางบอกเธออย่างตื่นเต้นว่างานที่ภูธิชัยฟาร์มจะช่วยแก้ปัญหาครั้งนี้ได้แน่นอน นางบอกให้นารีรีบเขียนจดหมายทันที นารีรับหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมาดูประกาศรับสมัครงานที่แปลกประหลาดนั้นอีกครั้ง นารีตัดสินใจทันที งานครั้งนี้อาจจะดูแปลกแต่ก็เป็นวิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ สำหรับเธอแล้วถ้าจะต้องลุยไฟก็คงต้องยอมเพื่อแม่และน้องสาว นารีจะทิ้งทั้ง 2 คนนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

ทางด้าน ภูธิชย์ เจ้าของไร่กำลังปวดหัวกับ ภูธน น้องชายคนเดียวอย่างมาก ภูธนเจ้าชู้มาก พนักงานหญิงสาว ๆ ต้องมีอันลาออกหรือถูกให้ออกพร้อมเงินปลอบขวัญก้อนโตเสมอ เพราะภูธนจะหาโอกาสปล้ำเสียทุกคน ภูธนไม่สนใจว่าผู้หญิงจะรักเขาหรือไม่ เขารู้แต่ว่าถ้าเขาชอบเขาต้องได้ เรื่องก็จะลงเอยตรงที่ภูธนจะปล้ำหรือข่มขืนเพื่อให้ได้ดังใจทุกครั้ง ผู้หญิงเหล่านั้นแทบทุกคนท้องและต้องทำแท้ง ตามคำสั่งของภูธนก่อนจะออกจากบ้านไปพร้อมเงินก้อนโต ภูธนไม่เคยยอมรับเลยว่าเป็นฝีมือของเขา ภูธนจะปฏิเสธเสมอ ภูธิชย์เองแม้จะรู้อยู่แก่ใจแต่ก็ไม่ให้ความสำคัญจะเอาจริงเอาจัง เพราะตัวเขาเองก็ไม่เห็นค่าและความหมายของผู้หญิงเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพราะทั้งแม่ของเขาและแม่ของภูธนต่างก็หอบผ้าหนีตามชู้ไปทั้งคู่ ภูธิชย์จึงดูถูกผู้หญิงเสียด้วยซ้ำไป

ที่ภูธิชย์รำคาญใจและปวดหัวก็เพราะเขาขี้เกียจหาพนักงานใหม่ พอจะฝึกงานเป็นและคล่อง ภูธนก็ทำเรื่องเสียทุกครั้ง แล้วงานด้านเอกสารผู้หญิงก็มักจะละเอียดและรอบคอบกว่าเสียด้วย อีกประการหนึ่งเขากลัวว่าถ้าผู้หญิงพวกนั้นไปฟ้องร้องและแจ้งความภูธนก็ต้องติดคุก ที่สำคัญงานของภูธิชย์ยุ่งมากจนไม่มีเวลาจะมาช่วยน้องชายขึ้นโรงขึ้นศาลบ่อย ๆ ภูธิชย์ลืมคิดไปว่าการช่วยน้องชายแก้ปัญหาด้วยการใช้เงินปิดปากผู้หญิงเหล่านั้นมันยิ่งทำให้ภูธนได้ใจ เพราะคิดว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้ เพียงแค่เขาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเดี๋ยวภูธิชย์ก็จ่ายเงิน

แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ภูธนเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าพี่ชายต่างมารดาของเขาฉลาดเป็นกรด ไม่มีใครหลอกภูธิชย์ได้ง่ายๆ ยกเว้นแต่ว่าเขาจะไม่สนใจเท่านั้นเอง ที่ร้ายก็คือภูธิชย์ดุมาก เขาสามารถชกใครได้ง่าย ๆ ทั้งที่หน้าเฉย ๆ หรือยิ้ม ๆ ด้วยซ้ำ ถ้าคน ๆ นั้นขัดคำสั่งพูดจาไม่รู้เรื่อง หรือกวนประสาทเขา แต่ภูธิชย์ไม่ใช่คนเกเร อันธพาล เขาเป็นคนตรงไปตรงมาเป็นคนจริง ซึ่งถ้าภูธิชย์ไม่เป็นอย่างนี้ เขาคงไม่สามารถกอบกู้ฐานะครอบครัวจากการที่แทบล้มละลายกลับมามีทรัพย์สินเป็นร้อยล้านได้อย่างนี้ ภูธนจึงกลัวภูธิชย์มากพอ ๆ กับอิจฉา เขาคิดง่าย ๆ ว่าภูธิชย์โกงและรวบอำนาจไว้คนเดียว เขาเองกว่าจะใช้เงินได้ต้องขอแล้วขออีก ที่ทำให้ภูธนเจ็บใจก็คือภูธิชย์ให้เขาไปรับเงินจากปรัง ซึ่งเป็นผู้จัดการไร่และเป็นมือขวาของภูธิชย์ ภูธนคิดแค้นว่าภูธิชย์เชื่อปรังมากกว่าเชื่อเขาเสียอีก ภูธนไม่เคยสำนึกเลยว่าตัวเองไม่เคยทำงานเป็นชิ้นเป็นอันไม่เคยช่วยหาเงิน ดีแต่ช่วยให้จนถึงขั้นผลาญเงินมากกว่า

ภูธิชย์เรียกปรังมาถามเรื่องพนักงานคนใหม่ ปรังส่งแฟ้มให้ทันที เขาบอกภูธิชย์ว่ามีส่งจดหมายมาสมัครหลายคน แต่เขาเลือก 2 คนแรกในแฟ้ม แต่ถ้าภูธิชย์จะเปลี่ยนก็ได้อีกเหมือนกัน ภูธิชย์รับแฟ้มมาเปิดดูภาพของผู้สมัครติดอยู่กับใบสมัครเรียบร้อย ภูธิชย์ดูรูปของของสาวน้อยหน้าหวานแต่ตาดุและมีแววเอาจริงของนารีอย่างพอใจ ภูธิชย์ตกลงตามที่ปรังเสนอ ดังนั้นพนักงานใหม่ของภูธิชย์ฟาร์มคือ นารีกับพุฒินั่นเอง ปรังจึงรีบโทรเลขบอกให้ทั้งคู่เตรียมตัวมาทำงานโดยเร็วที่สุด

นารีรับโทรเลขของปรังจากธิตามาดูอย่างไม่ค่อยตื่นเต้นนัก เธอไม่รู้ว่าพุฒิก็สมัครงานไว้ที่นี่เช่นกัน คนที่มีความสุขกับงานใหม่ของนารีก็คือนางเฉิดและธิตา ทั้งสองคนคำนวณเงินเดือนของนารีเรียบร้อยแล้วว่าค่าจ้างล่วงหน้าทั้งปีนั้นพอใช้หนี้อย่างแน่นอน แถมยังเร่งให้เธอโอนเงินกลับมาให้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันใช้หนี้ นารีถอนใจยาวอย่างเหนื่อยหน่าย เธอจัดกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งน้ำตาจะอย่างไรก็ตามเธอไม่เคยต้องจากบ้านไปทำงานไกลๆ นานถึงขนาดนี้เลย 1 ปีที่ขอนแก่น ที่ไร่ภูธิชย์ฟาร์ม นารีคิดว่าคงทรมานที่สุดสำหรับเธอ เช้าวันรุ่งขึ้นนารีก็พร้อมจะเดินทาง เธอต้องการไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งตามลำพัง แต่นางเฉิดกับธิตาก็อ้างความเป็นห่วงและจะไปส่งเธอที่ท่ารถ นารีต้องห้ามจนเหนื่อยถึงได้ออกจากบ้าน แต่ขณะที่เธอรอรถแท๊กซี่อยู่ที่หน้าบ้านโดยมีนางเฉิดและธิตาตามออกมาด้วย รถโฟร์วิลด์คันหรูก็ปราดเข้ามาจอดตรงหน้า ผู้ชายที่ลงมาจากรถสูงใหญ่ แถมไว้หนวดเคราดูรุงรัง ผมยาวรวบไว้ง่าย ๆ ก็ลงมา เขาถือรูปมาด้วย เขามองรูปสลับกับมองนารี พลางพูดห้วน ๆ ว่าเธอจะไปภูธิชย์ใช่หรือไม่ ถ้าพร้อมจะไปก็ขึ้นรถได้เลย

นารีตกใจในครั้งแรกแต่เมื่อชะโงกดูรูปแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นรูปที่เธอส่งไปสมัครงานที่ภูธิชย์ฟาร์ม นารีมองนายเคราดกอย่างหวาดระแวง แต่เมื่อเขาย้ำอีกครั้งแล้วทำท่าจะไม่รอนารีก็ตัดสินใจทันที เธอเข้าใจว่าเขาคือคนขับรถที่ทางฟาร์มส่งมา นารีจึงออกเดินทางไปพร้อมกับเขา นารีไม่รู้ว่านายเคราที่เธอคิดว่าเป็นคนขับรถนั้นคือภูธิชย์นายจ้างของเธอเอง ดังนั้นระหว่างการเดินทางภูธิชย์แวะซื้อเหล้า นารีเตือนเขาว่าเจ้าของไร่คือคุณภูธิชย์คงไม่รู้ว่าคนขับรถแวะซื้อเหล้าเพื่อดื่มเวลาขับรถ คำพูดของนารีทำให้ภูธิชย์เกือบสำลัก เขานึกขำที่นารีตาต่ำเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่คิดจะบอกความจริงกับเธอ เพราะคิดว่าไม่จำเป็น

ภูธิชย์แวะค้างคืนที่โคราช ขณะที่นารีเริ่มโวยวายภูธิชย์จึงให้เธอขับเอง นารีจึงยอมแพ้เพราะเธอขับรถไม่คล่อง ท่าทีข่มขู่และดุของภูธิชย์ทำให้นารีหมั่นไส้ เธอจึงรวนกับเขาบ้างเพราะนารีก็ได้ชื่อว่าเป็นจอมเฮี้ยวเหมือนกัน กว่าจะถึงไร่ทั้งคู่ก็เป็นคู่กัดกันตลอดทาง เธอเรียกเขาประชด ๆ ว่านายเครา ชื่อใหม่นี้ทำให้ภูธิชย์ทั้งโกรธและขำ เขาเริ่มถูกใจที่นารีดุและเข้ม เพราะมาดอย่างนี้ภูธนคงทำอะไรไม่ได้ง่าย ๆ เมื่อถึงภูธิชย์ฟาร์ม ปรังออกมารับที่รถทันที นารีแปลกใจที่นายเครารีบคว้าแขนปรังไปกระซิบกระซาบอยู่สักครู่ก่อนจะผละไป ปรังมองนารีอย่างเอ็นดูก่อนให้แจ๋ว สาวใช้วัยรุ่นพาเธอไปที่ห้องพัก นารีถึงกับอึ้งไปเมื่อเห็นห้องพักของเธอ เพราะห้องนั้นกว้าง ตกแต่งอย่างอ่อนหวานด้วยสีชมพู เฟอร์นิเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบ นารีรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องพักของโรงแรมหรู ๆ มากกว่าในบ้านกลางไร่อย่างนี้ แจ๋วมองนารีขำๆ จนเธอรู้สึก แจ๋วพูดอะไรบางอย่างเป็นเชิงให้เธอระวังตัวจนนารีเข้าใจว่าภูธิชย์คงเป็นตัวอันตราย

นารีได้พบกับภูธนที่โต๊ะอาหารในเวลากลางวัน นารีไม่ชอบสายตากรุ้มกริ่มโลมเลียของภูธนที่มองเธอเหมือนเป็นเหยื่ออันโอชะ ยิ่งไปกว่านั้นภูธนวางมาดสุภาพบุรุษดูแลเธอ แต่ทำแบบปากว่ามือถึงจนนารีโกรธ เธอไม่ชอบวิธีการหลอกแต๊ะอั๋งของภูธน นารีเตือนภูธนตรง ๆ ด้วยมาดเข้ม ๆ ตาดุ ๆ จนภูธนต้องถอยเหมือนกัน นารีคิดว่าถ้าน้องชายเป็นอย่างนี้ พี่ชายคงไม่แตกต่างกันมากนัก นารีดีใจที่พกเครื่องมือป้องกันตัวสำหรับผู้หญิงมาด้วย บ่ายวันนั้นปรังให้เธอเซ็นสัญญาว่าจ้าง พร้อมกับเซ็นรับเช็คค่าจ้างของเธอทั้งปีด้วย นารีตัดสินใจจะโอนเงินให้มารดาโดยเร็วที่สุด ปรังมอบงานให้เธอทำเลยทันที นารีลุยงานจนค่ำ เมื่อกลับถึงห้องพักเธอก็ได้รับโทรเลขจากมารดาว่ากำลังมาภูธิชย์ฟาร์มพร้อมกับธิตาและจะถึงในวันรุ่งขึ้น นารีอยากจะร้องกรี๊ดในความดื้อรั้นของมารดาและน้องสาว เธอสังหรณ์ใจว่าทั้งคู่คงมาทำให้เธอวุ่นวายอีกแน่ๆ นารีจำใจต้องขออนุญาตปรังเข้าเมืองในวันรุ่งขึ้น เธอบอกเขาตามตรงเรื่องมารดาและน้องสาว ปรังรับปากจะบอกภูธิชย์ให้ ปรังพานรีไปรับมารดาและน้องสาว โดยบอกว่าเขาต้องไปรับพนักงานอีกคนหนึ่งอยู่แล้ว เมื่อถึงสถานีขนส่งที่ในเมือง นารีดีใจมากเมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมงานคนใหม่ของเธอคือพุฒินั่นเอง ปรังบอกนารีว่าภูธิชย์อนุญาตให้มารดาและน้องสาวของเธอพักที่ไร่ได้

เมื่อกลับถึงไร่ธิตากรี๊ดกร๊าดกับห้องพักที่สวยงามและบรรยากาศสวย ๆ ในไร่ นารีต้องสั่งอย่างเด็ดขาดว่าห้ามทั้ง 2 คนออกไปเพ่นพ่านข้างนอกและเธอจะให้ทั้งคู่กลับกรุงเทพโดยเร็ว นารีรีบกลับไปทำงาน พอคล้อยหลังนารี ธิตาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองน่ารัก และออกไปเดินเล่นโดยการสนับสนุนของนางเฉิด ภูธนพบธิดาขณะเธอเดินเล่นอยู่ในสวน เขาเข้าไปแนะนำตัวทันทีและชวนเธอไปกินข้าวกลางวันข้างนอก ธิตารับคำชวนอย่างอ่อนหวานทันที นารีโกรธจนหัวหมุนเมื่อกลับมาแล้วรู้ว่าธิตาออกไปกับภูธน

คืนนั้น ขณะที่นารียืนคิดหาทางส่งมารดาและธิตากลับกรุงเทพ เธอมองไปในสวนเห็นปรังนั่งคุยอยู่กับนายเครา ท่าทางของปรังนอบน้อมเกินไปกว่าจะพูดกับคนขับรถ นารีจึงฉุกใจคิดได้ว่าเธอยังไม่ได้พบภูธิชย์เจ้านายของเธอเลยสักครั้ง แล้วท่าทางของปรังและคำพูดของแจ๋วทำให้นารีอยากร้องไห้ เมื่อสรุปได้ว่านายเคราก็คือภูธิชย์เจ้านายของเธอนั่นเอง วันรุ่งขึ้นนารีบอกปรังว่าเธออยากพบภูธิชย์เพื่อขอโทษเขาที่เข้าใจผิด ปรังพาเธอไปพบกับภูธิชย์ที่ห้องทำงาน นารีขาสั่น ใจสั่น เมื่อสบตาคมเข้ม ดุของเขา นารีคิดว่าเธอทำผิดโดยบริสุทธิ์ใจเพราะเธอไม่รู้จักภูธิชย์มาก่อน เธอพยายามบังคับตัวเองให้พูดอย่างสุภาพโดยเสียงไม่สั่น นารีไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอต้องใจสั่นขนาดนี้ ทั้งที่ไม่ใช่ความกลัวอย่างแน่นอน เมื่อนารีพูดจบภูธิชย์ยิ้มให้ก่อนที่จะมอบงานให้เธออีกแฟ้มโตๆ นารีทำงานอย่างเต็มที่ เธอเริ่มสนุกกับงานและชอบที่นี่มากขึ้น สิ่งเดียวที่กวนใจเธอก็คือ ธิตากับนางเฉิดซึ่งไม่ยอมกลับกรุงเทพ โดยอ้างว่าภูธนอนุญาตให้อยู่ต่อ

แล้วคืนนั้นนารีก็ต้องอารมณ์เสียอีกเมื่อรู้ว่าธิตาออกไปกินข้าวกับภูธิชต์ เมื่อเธอต่อว่ามารดาที่ไม่เตือนธิตา นางเฉิดกลับบอกว่านารีน่ะโง่ทำแต่งาน ธิตาฉลาดกว่าที่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรจึงจะพ้นความจนได้ นารีเศร้าใจเมื่อเดาได้ว่าธิตาคงหว่านเสน่ห์เพื่อจีบใครสักคนระหว่างภูธิชย์และภูธน นารีไม่อยากเดือดร้อนและตกงาน ถ้าภูธิชย์และภูธนจะต้องมาผิดใจกันเพราะน้องสาวของเธอ ส่วนธิตารู้สึกเหมือนเธอเป็นหญิงสาวที่มีความสุขที่สุดเมื่อมีหนุ่มหล่อมาดดีเป็นเศรษฐีมาแย่งเอาใจเธอถึง 2 คน แต่ธิตาก็มีความสุขไม่นาน เมื่อวันต่อมาขณะที่ธิตาแต่งตัวสวยเดินนวยนาดลงมาจากห้องพักเพื่อเตรียมออกไปกับภูธน เธอก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งลงจากรถคันหรูด้วยมาดเปรี้ยว เฉี่ยว เย่อหยิ่ง เธอมองธิตาอย่างดูถูกก่อนถามดุๆ ว่าเป็นใคร ยังไม่ทันที่ธิตาจะตอบ แจ๋วกับภูธนก็เข้ามา ท่าทางทั้งคู่เอาใจเธอมาก ธิตารู้สึกเป็นส่วนเกินทันที เธอรีบกลับเข้าห้องอย่างอารมณ์เสียที่ภูธนไม่สนใจเธอเลย

ภูธิชย์สั่งให้ปรัง นารี พุฒิ รวมถึงนางเฉิดกับธิตากินข้าวกลางวันพร้อมกันกับเขา นารีไม่พอใจนักแต่ก็ต้องยอม ทุกคนคือจึงได้รู้ว่าสตรีสาวผู้นั้นคือ กนกนาฏ ญาติห่าง ๆ ของภูธิชย์และภูธน กนกนาฏเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของภูธิชย์ฟาร์มด้วย เพียงพบกันครั้งแรกกนกนาฏก็หมั่นไส้นารีและธิตาอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งนารีไม่ยอมไหว้เธอเมื่อได้รับการแนะนำ กนกนาฏถึงกับลุกออกจาโต๊ะอาหารทันที ภูธิชย์มองตามอย่างไม่สบายใจนัก เขาหันมาย้ำกับทุกคนที่เหลืออีกครั้งว่ากนกนาฏเป็นเจ้าของบริษัทเช่นกันกับเขา ตลอดเวลาที่พูด ภูธิชย์สบตานารีเหมือนจะบอกกับเธอโดยตรง นารีได้แต่นิ่งทั้งที่เริ่มโกรธเหมือนกัน ส่วนกนกนาฏนั้นแม้จะเป็นลูกของลุงภูธิชย์นับกันได้เป็นญาติห่าง ๆ แต่กนกนาฏพยายามทำทุกอย่างให้นารีรู้และเข้าใจว่าภูธิชย์เป็นคนรักของเธอ

ขณะที่วางแผนกันธิตาออกจาก ภูธิชย์โดยหันไปสนับสนุนภูธนให้จับธิตาแทน กนกนาฏเสนอให้ธิตามาทำงานเป็นเลขาของเธอ และให้นางเฉิดเป็นแม่บ้าน นารีไม่พอใจมาก เธอรู้ทันกนกนาฏว่าต้องการอะไร นารีพยายามขอร้องไห้ธิตากับมารดากลับกรุงเทพแต่ไม่สำเร็จ ธิตาดีใจที่จะได้ทำงานเพื่อจะได้อยู่ใกล้ภูธน กนกนาฏแกล้งเอาใจด้วยการยกเสื้อผ้าสวย ๆ แต่ใช้แล้วของเธอให้ธิตา ธิตาก็ยิ่งปลื้มกนกนาฏอย่างออกนอกหน้า ส่วนารีได้แต่แค้นใจที่ธิตาไม่รู้ทันกนกนาฏเสียเลยว่าแกล้งจิกเอาไว้เป็นคนใช้ เมื่อนารีเตือนมาก ๆ เข้าเรื่องภูธน ทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน นางเฉิดเข้าข้างธิตาอีกตามเคย จนนารีตัดใจ เธอประกาศว่าจะไม่ยุ่งกับธิตาอีกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม นารีทำอย่างปากว่าเช่นกัน เธอมุทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง ส่วนภูธิชย์แรก ๆ ก็สนใจธิตาแต่เมื่อไปเที่ยวกัน 2-3 ครั้งเขาก็เบื่อ ประกอบกับงานยุ่ง กนกนาฏเองก็วุ่นวายกับเขาจน ภูธิชย์รำคาญ ภูธิชย์จึงทำงานมากขึ้น ภูธิชย์กับนารีจึงใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย และต่างก็มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แม้ว่าต่อหน้าต่างก็วางมาดเข้มแข็งในงานอย่างเต็มที่ก็ตาม

นายร้อยสอยดาว 2541

เรื่องย่อ : นายร้อยสอยดาว (2546/2003) เด่นดนัย เด่นล้ำ ลูกชายจ่าแม้น มีความใฝ่ฝันจะสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยของรัฐในคณะนิเทศศาสตร์ แต่ถูกพ่อบังคับให้สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารไม่ยังงั้นจะไม่ส่งเสียให้ เรียนอะไรเลย เด่นดนัยขอร้องแม่ให้ช่วยพูดกับพ่อแต่แม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะความที่แม่ตามใจลูกชายคนโตให้เรียนนิติศาสตร์จนลูกชายคนโตต้องเสีย ชีวิตในการประท้วงเรียกร้องรัฐธรรมนูญ จ่าแม้นจึงมีความหวังที่ตัวเด่นดนัยเพียงคนเดียว สาเหตุที่จ่าแม้นบังคับให้เด่นดนัยเรียนเตรียมทหารนั้นเพราะว่าจ่าแม้นถูก ส่งไปรับราชการอยู่ชายแดนไม่มีโอกาสเหมือนเพื่อน ๆ รุ่นเดียวของเขาคือ พันโทปัญญา ซึ่ง มีโอกาสเรียนสอบเลื่อนขึ้นเป็นนายร้อย นายพันและมีลูกชายคือ รท.ปานเทพ เป็นผู้หมวดฝึกนักเรียนเตรียมทหารและนักเรียนนายร้อย จปร. ติดตามต่อได้ใน นายร้อยสอยดาว

เดิมพันวันวิวาห์ 2546

เรื่องย่อ : เดิมพันวันวิวาห์ (2546/2003) สำนวนที่ว่า "เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน" มักใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะกับตระกูลที่มีทรัพย์สินเงินทองมากมายไม้เว้นแต่ตระกูล "นนทิวากร" และตระกูล "รัตนสิรินทร์" ที่ต้องการเกี่ยวดองกันไว้เพื่อผลทางธุรกิจและสัญญาลูกผู้ชายที่หัวหน้าครอบ ครัวได้ให้ไว้ต่อกันว่า หากพวกเขามีลูกสาวลูกชายก็จะให้แต่งงานกัน แต่ถ้าเป็นเพศเดียวกันก็จะให้เป็นพี่น้อง เมื่อนายภิญโญ นนทิวากร มีบุตรชายชื่อ ภูริต ส่วน นายวัฒนา รัตนสิรินทร์ มีลูกสาวชื่อ เพลงพิณ สัญญานี้จึงเป็นผลในทันที เรื่องมันคงไม่ปั่นป่วนขึ้นมาหากเพลงพิณจะไม่มีอคติกับคู่หมั้นอย่างภูริ ตที่มักนั่งนิ่งมองทุกสิ่งราวกับจะประเมินสถานการณ์รบ และพูดน้อยจนแทบจะนับคำได้ แล้วเขาจะดูดีในสายตาหล่อน หากในวันพิเศษอย่างวันเกิดของคู่หมั้นหรือวันวาเลนไทน์เขาจะส่งดอกไม้ช่องาม มาเป็นของขวัญ แทนที่จะมีเพียงการ์ดแค่ใบเดียวกับข้อความที่ว่า … ขอให้มีความสุข ภูริต นนทิวากร หล่อนจะไม่รู้สึกเขม่นเขาเลยถ้าเวลาเจอหน้ากันชายหนุ่มจะพูดจาอ่อนหวานสัก นิดแทนที่จะตีหน้าเคร่งอย่างกับนักโบราณคดีกำลังสำรวจซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ ที่เพิ่งขุดค้นพบใส่หล่อน รวมๆ ความแล้วหล่อนไม่ชอบท่าทีเงียบขรึมของคู่หมั้นคนนี้น่ะเอง ดังนั้นเมื่อบิดามารดาเร่งรัดเรื่องการแต่งงาน เพลงพิณจึงค้าหัวชนฝา โดยอ้างว่าทั้งหล่อนและเขาไม่ได้รักกัน มิใยที่พ่อแม่จะหว่านล้อมหรือให้เหตุผลต่าง ๆ นานาหล่อนก็ไม่ฟังพร้อมกับอ้างว่าผู้หญิงสมัยนี้ไม่จำเป็นจะต้องแต่งงาน มีหลายคนที่อยู่เป็นโสดและประสบความสำเร็จในชีวิตได้โดยไม่มีคู่ชีวิต แล้วหล่อนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

พรพรหมอลเวง 2546

เรื่องย่อ : พรพรหมอลเวง (2546/2003) “ตันหยง” สาวสวยมากด้วยความมั่นใจและสามารถ กับอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาในร่างของ “น้องเมย์” เด็กน้อยอายุห้าขวบกับปัญหาในครอบครัวใหญ่ของเด็กน้อยและความรู้สึกพิเศษที่เริ่มก่อขึ้นกับ “ปฐวี” อาหนุ่มของเด็กหญิงผู้เป็นหมอหนุ่ม หน้าตาดีที่มากด้วยความสามารถ เธอจะทำยังไงกับปัญหาของตน และจะกลับร่างตนได้หรือไม่ ตันหยง เสียใจจากการที่ไปพบ พิราม หนุ่มคู่หมั้นกำลังหาความสุขอยู่ที่คอนโดมิเนียมที่จะใช้เป็นห้องหอ กับพนักงานสาวในบริษัทของพิรามเองโดยบังเอิญ ตันหยงถอนหมั้นทันที แล้วขับรถออกมา ร้องไห้จนสาใจแล้วสำนึกว่าเป็นเพราะความโกรธแค้น อับอายที่ถูกหลอกมากกว่าจะเสียใจเพราะอกหักตันหยงขับรถเตลิดเปิดเปิงไปไกลโดยไม่รู้ตัว พอรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ที่อยุธยาแล้ว ตันหยงแวะทานข้าว เผลอดื่มเหล้าจนเมามาก รู้สึกตัวว่าชายหนุ่มแปลกหน้าเริ่มลวนลามจับมือจับแขนจึงขับรถกลับ แต่ถูกตามโดยรถ 2 คัน ขนาบหน้า-หลัง 1 ในรถคันนั้น คือชายแปลกหน้านั่นเอง ตันหยงกลัวตัดสินใจบึ่งรถหนีจนเกิดอุบัติเหตุบนทางโค้ง รถตันหยงตกข้างทางชนต้นไม้ใหญ่อย่างแรงวิญญาณ ของตันหยงออกจากร่าง และด้วยปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง พอตันหยงรู้สึกตัวอีกครั้งในโรงพยาบาลก็พบว่าร่างที่ตัวเองอยู่นั้นกลายเป็น เด็กหญิง อายุ 5 ขวบ ชื่อ เมริน ซึ่งพลาดตกบันได และเป็นเวลาเดียวกับที่ตันหยงประสบอุบัติเหตุ เกิดการสลับวิญญาณตันหยงรู้ว่าวิญญาณของเมรินตายแล้ว และตัวเองมาอาศัยร่างแทน แต่ไม่รู้ว่าร่างของตัวเองอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร จนกระทั่งตอนท้ายของเรื่องเมื่อแรกก็รู้สึกตัว ตันหยงพยายามบอกใคร ๆ ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ไม่มีใครรับฟัง เด็ก 5 ขวบ แม้แต่ ปฐวี ซึ่งเป็นทั้งแพทย์ที่รักษาและน้าชายของเมริน ตันหยงเลยเลิกพูดพยายามปรับตัวใช้ชีวิตอยู่ในร่างของ ด.ญ. เมริน ( น้องเมย์ ) ตันหยงต้องดำเนินชีวิตในร่างของน้องเมย์ วัย 5 ขวบ ด้วยวิญญาณและความรู้สึกของสาวอายุ 25 น้องเมย์เป็นสุดที่รักของน้าชาย ( ปฐวี ) ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนมของน้าชายกับหลาน 5 ขวบ ทำให้หัวใจของตันหยง เริ่มซึมซับความอบอุ่นทีละน้อยจนในที่สุดตันหยงก็ยอมรับกับตัวเองว่ารัก น้าวี เป็นความรักอย่างแท้จริงที่ไม่สามารถแสดงออกได้ใคร ๆ พากันแปลกใจมากที่น้องเมย์ กลายเป็นเด็กที่เรียนเก่ง พูดเก่ง ฉลาดเกินวัยมาก ตันหยงรู้ว่าครอบครัวของน้องเมย์มีปัญหา ประภัสสร และ เมธี แตกแยกกันเพราะความเข้าใจผิด และด้วยแรงยุของ ปรางค์ทิพย์ ตันหยงร่วมมือกับน้าวี แก้ไขสถานการณ์จนเรียบร้อย ขณะที่ความรู้สึกของตันหยงก็ยิ่งรักปฐวีเข้าไปทุกวัน ด้วยความอยากรู้ว่าร่างของตัวเองเป็นอย่างไร ตันหยงพยายามหาข่าวตัว เองจาก นสพ. ทุกฉบับ แต่ก็ไม่พบจนหมดกำลังใจ เคยพยายามโทรศัพท์ไปหาแม่ ( คุณบุหงา ) หลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครยอมเชื่อว่า เด็กอายุ 5 ขวบ มาเรียกคุณบุหงาว่าแม่ ตันหยงไม่รู้จะทำยังไงต้องจำยอมอยู่ในร่างของน้องเมย์ต่อไป เรื่องราวต่าง ๆ ผ่านไปมากมาย ในชีวิตครอบครัวของน้องเมย์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวความไม่ซื่อสัตย์ของสามี ต่อภรรยาทั้งนั้น ทำเอาตันหยงแทบจะเกลียดผู้ชายทั้งโลก จน 3 เดือนผ่านไปประภัสสรและเมธี พ่อ-แม่ของน้องเมย์กลับมารักกันอย่างเดิม ตันหยงพอใจมาก คิดจะบอกความจริงกับปฐวีหลายครั้งแต่ไม่ได้บอก บังเอิญมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ด้วยความริษยาของคุณปรางทิพย์ จึงไปจ้างให้กรรมกรคนหนึ่งมาปล้นบ้านประภัสสร ให้ทำร้ายประภัสสรและฆ่าน้องเมย์ ขณะที่คนร้ายกำลังบีบคอน้องเมย์และจับหัวกระแทกกำแพงแตก ปฐวีก็มาช่วยไว้ทันพอดี การที่ต้องไปโรงพยาบาลเช็คสมองเย็บแผลต่าง ๆ ทำให้ตันหยงบังเอิญพบคุณบุหงาครั้งหนึ่ง ตันหยงถลาเข้าไปกอดร้องไห้ เรียกว่าแม่ ปฐวีแปลกใจและสงสัยในตัวหลานสาวมานานแล้ว จึงต้องยอมรับว่าเรื่องที่หลานพูดตอนฟื้นคืนสติใหม่ ๆ เป็นความจริง ตันหยง ยอมรับกับปฐวีทุกอย่าง ปฐวีทุกข์ใจมากเพราะรักน้องเมย์เหลือเกิน ( ขณะเดียวกันก็รู้ว่ารักตันหยงเช่นกัน ) ตันหยงรู้ว่าร่างของตัวเองกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามา 3 เดือนกว่าแล้ว ตันหยงสงสารพ่อแม่ตัวเองมากที่เฝ้าร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติงของลูกสาวตลอด เวลาด้วยความหวัง ว่าลูกจะฟื้นขึ้นมาวันหนึ่ง ปฐวีและตันหยงต่างก็มีปัญหากันทั้งคู่ โดยเฉพาะปฐวีคิด หนัก ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใคร ระหว่างหลานรักกับหัวใจรัก เพราะถ้าตันหยงออกจากร่างน้องเมย์ก็จะสูญเสียน้องเมย์ตลอดไป แต่ถ้าเห็นแก่ตัวและครอบครัวของพี่สาว ก็เท่ากับว่า อยุติธรรมต่อครอบครัวของตันหยง ในที่สุด ปฐวีก็ตัดสินใจยอมรับความจริงไล่ตันหยงให้กลับไปสู่ร่างเดิม ตันหยงในร่างน้องเมย์ ตัดสินใจกระโดดลงมาจากบันได ตายในเวลาเดิม (เที่ยงคืน) แต่ตันหยงไม่ได้กลับเข้าร่างทันที วิญญาณของตันหยงคงเฝ้าดูอาการของคนต่าง ๆ โดยเฉพาะปฐวี ที่มาเฝ้าคอยเรียกตันหยงที่โรงพยาบาลทุกวัน สารภาพความในใจทุกอย่างกับร่างนั้น รอคอยอย่างทรมานนานถึง 6 วัน ตันหยงก็กลับมาสู่ร่างเดิม ด้วยความสุข สมหวังของทั้งคู่ ครอบครัวของประภัสสรและเมธีเสียน้องเมย์ไปแต่ก็มีลูกสาวอีกคน คือวิญญาณของน้องเมย์ กลับมาเกิดใหม่นั่นเอง

แก้วตาหวานใจ 2546

เรื่องย่อ : แก้วตาหวานใจ (2546/2003) หวันยิหวา หรือ ไข่หวาน จะเข้า กทม. เพื่อมาประกวดเป็นซุปเปอร์โมเดลของสถาบันการเงิน โดยการเข้ากทม.ในครั้งนี้ เธอได้รับภาระกิจจากพี่ชายของเธออีกอยางหนึ่งคือ การตามหาตัวของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยควงกับพี่ชายของเธออยู่พักหนึ่งสมัย เรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็เลิกรากันไป โดยพี่ชายของเธอมาทราบเข้าทีหลังว่่า เธอคนนั้นตั้งครรภ์ เขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นลูกของเขา จึงได้วานน้องสาวมาช่วยสืบหาตามที่อยู่ที่พี่ชายนั้นมีอยู่น่ะค่ะ.. นางเอกได้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของพระเอกโดยบังเอิญ (พระเอกของเรื่องคือพี่ชายของผู้หญิงคนที่นางเอกจะมาตามหาน่ะค่ะ และก็เป็นลุงของหลานของเธอนั่นเอง) โดยคำชักชวนของเพื่อนสาวของเธอเอง มีคำการันตีในความปลอดภัยว่า.. พระเอกเป็นเกย์ เพราะ่ว่าย้งไม่มีแฟน และเก่งการบ้านการเรือนเลยเกิน