โทน (2546/2003) โทน หนุ่มกำพร้า อาศัยอยู่กับ หลวงตา ในชนบท โทนเป็นคนหน้าตาดี ฉลาด เรียนจบช่างยนต์ มีน้ำใจและชอบช่วยเหลือผู้อื่น สังข์ทอง เพื่อนรักของโทน เป็นลูกศิษย์วัดด้วยกัน ทั้งสองสาบานว่า จะเป็นเพื่อนตายจนกว่าชีวิตจะหาไม่ สังข์ทองชอบร้องเพลง โทน ที่แต่งเอง กระเซ้าเพื่อนอยู่เสมอ เพราะโทนนั้นไปหลงรักระริน เพื่อนตั้งแต่วัยเด็ก ของโทน ซึ่งมีฐานะความเป็นอยู่สูงกว่า ปันน์ กับ นัท สองพี่น้องเจ้าของดีลเลอร์รถยนต์เดินทางมาดูที่ และได้พบกับโทน นัทไม่ถูกชะตาโทน ทั้งสองมีปากเสียงกัน นัทเรียกโทนว่า นายทึ่ม ส่วนโทนเรียกนัทว่า คุณนาย ปันน์ ได้พบระริน และอดหลงรักเธอไม่ได้ เด็ด นักเลงเจ้าถิ่นหึงระริน จึงทำร้ายปันน์ โทนผ่านมาพบเข้า เลยเข้าช่วยเหลือ เด็ดพลาดจนบาดเจ็บ ดวง พ่อของเด็ดแค้นมากจะเอาชีวิตโทน แต่หลวงตา ขอบิณฑบาตรชีวิต เอาไว้ ดวงสั่งให้โทนออกจากคลองน้ำแดงภายใน 24 ชั่วโมง ปันน์รู้ดีว่าเขาเป็นต้นเหตุ จึงชวนโทนเข้ากรุงเทพพร้อมสังข์ทอง ติดตามต่อได้ใน โทน

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา (2546/2003) เป็นเรื่องราวของ มาลินี เป็นนางแบบที่สวย มีแฟนชื่อว่า ประดิษฐ์ เป็นคนเจ้าชู้ จนทำให้มาลินีจับได้ มาลินีจึงโกธรมาก วันหนึ่ง มาลินีได้รับจดหมายของคุณยายวัน มาลินีไม่สนิทกับคุณยายของเธอ ในขณะที่เธอได้อ่านจดหมายคุณยายวันได้ตายไปแล้ว โดยคุณยายวันให้ไปรับมรดกบ้านกับที่ไร่นาหลายร้อยไร่ คุณยายของเธอมีความประสงค์ให้มาลินีไปทำไร่นาแทนท่าน และห้ามไม่ให้หลานให้คนอื่นเช่าทำเด็ดขาด หรือถ้าคิดจะขายก็ให้ขายกับผู้ใหญ่ลีคนเดียว ห้ามขายให้กับคนอื่นเช่นเดียวกัน มาลินีได้แปลกว่าผู้ใหญ่ลีนั้นเป็นใคร ผู้ใหญ่ลี หรือ ลีนวัตร เป็นผู้ที่คุณนายวันให้ความรักและความเอ็นดูเป็นอย่างมาก คุณนายวันได้คอยสนับสนุนให้เรียนต่อและเรียนที่สูงๆ จนทำให้ลีนวัตรเป็นผู้ใหญ่ลีต่อจากพ่อของลีนวัตร มาลินีมาถึงบ้านคุณยาย จึงรู้ว่าคุณยายตายมาได้สองอาทิตย์แล้ว โดยผู้ใหญ่ลีเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่าง แต่มาลินีเพิ่งได้รับจดหมายของคุณยายเมื่อไม่กี่วัน ชาวบ้านจึงได้ตำหนิ มาลินีจึงโกรธผู้ใหญ่ลีเป็นอย่างมาก ปื๊ด เป็นเด็กกำพร้าที่ผู้ใหญ่ลีเก็บมาเลี้ยง ได้รับมอบหมายจากพ่อผู้ใหญ่ให้คอยดูแลมาลินี แต่มักจะคอยเก็บข้อมูลในตัวมาลินีมาบอกผู้ใหญ่ทุกเรื่อง ผู้ใหญ่ลี ได้ปลอมตัวเป็นนายเหว่าเป็นคนขับรถไถนาให้ผู้ใหญ่ลี มาลินีประทับใจเป็นอย่างมาก จนกระทั่ง ถูกเปิดเผยว่านายเหว่านั้นคือผู้ใหญ่ลี ในงานบรรจุเก็บศพของคุณนายวันที่วัด ทำให้มาลินีโกธรมาก แต่ผู้ใหญ่ลีต้องมาคอยดูแลช่วยเหลือเรื่องการงานทุกอย่างของมาลินี วันหนึ่ง ประดิษฐ์ซึ่งรู้ว่ามาลินีมาอยู่ที่นี่ และรู้ว่ามาลินีให้ไปรับมรดกของคุณยายมากมาย จึงเดินทางมาหามาลินีหวังจะขอคืนดี แต่มาลินีไม่ยอมคืนดีด้วย เพราะไม่ได้ขยันทำมาหากินและช่วยเหลือสังคม ปทุม ลูกสาวของผู้ใหญ่โหมด ที่ชอบผู้ใหญ่ลีอย่างมาก แต่ผู้ใหญ่ลีก็ไม่เคยสนใจปทุมเลย ปทุมจึงร่วมมือกับประดิษฐ์ วางแผนกัน โดยให้ประดิษฐ์หลอกให้มาลินีมาพบที่กระท่อมกับที่ปทุมเองก็แอบมาดักรอพบผู้ใหญ่ลีที่กองฟางเช่นเดียวกัน ในตอนค่ำ ฝนตกหนัก ไฟก็ดับ ผู้ใหญ่ลีเดินมาพบมาลินีเสียก่อน จึงไปหลบฝนที่บ้านมาลินี ผู้ใหญ่ลีก็หมั้นหมายมาลินีด้วยแหวนอีกหนึ่งวง ผู้ใหญ่ลีสัญญาว่า หากบวชแล้วสึกออกมาเมื่อไหร่ จะแต่งงานกับมาลินีทันที ทั้งประดิษฐ์และปทุมต่างรอมาลินีกับผู้ใหญ่ลี ทั้งคู่ต้องเข้าไปหลบฝนในกระท่อมอันมืดมิด ประดิษฐ์เข้าใจว่าปทุมเป็นมาลินีจึงปลุกปล้ำจนได้ พอตื่นเช้ามาจึงได้รู้ว่าตนเข้าใจผิดแต่ก็ได้ปทุมเป็นเมียเสียแล้ว ผู้ใหญ่ลีก็เข้าพิธีอุปสมบท ระหว่างที่บวชนั้น ประดิษฐ์ได้แอบพาฉลวย น้องสาวของผู้ใหญ่ลีอีกคน เข้ากรุงเทพฯ ไปถ่ายโป๊ พอดีมาลินีรู้ข่าวเสียก่อน จึงไปตามไปช่วยฉลวยได้ทัน พระผู้ใหญ่ลีเองก็มากับปื๊ด เพื่อมาช่วยฉลวยอีกแรง พระผู้ใหญ่ลีให้ฉลวยกลับไปเรียนที่บ้านตัวเอง อย่ามาดิ้นรนเพื่อจะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ฉลวยสำนึกผิด ยอมกลับบ้านแต่โดยดี ฉลวยก็กลับมาเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัด ไม่ไปกรุงเทพฯอีกแล้ว ปทุมมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก ผู้ใหญ่โหมดเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีเป็นพ่อของเด็กในท้อง จึงตั้งใจจะศึกพระให้ได้ แต่เมื่อความจริงเปิดเผยมาว่า ประดิษฐ์คือพ่อของเด็กในท้อง ประดิษฐ์กลายเป็นลูกเขยของผู้ใหญ่โหมดอย่างจำยอม แต่เขาก็ต้องจำยอมเพราะรู้ดีว่า หากไม่ยอมรับปทุมเป็นเมีย ประดิษฐ์ต้องถูกผู้ใหญ่โหมดเอาตายอย่างแน่นอน ประดิษฐ์ก็รับกรรมที่ก่อไป ผู้ใหญ่ลีสึกออกมาในที่สุด ผู้ใหญ่ลีจึงขอมาลินีแต่งงานในที่สุด ความรักของทั้งสองกำลังเบิกบานในทุ่งนาของคุณนายวัน ที่มอบไว้เป็นสมบัติให้กับมาลินี ผู้ใหญ่ลีกับนางมาจึงได้ครองคู่กันในที่สุด

ทะเลฤๅอิ่ม (2546/2003) วิฬาร (พลอย จินดาโชติ) สาวสวยเติบโตในสังคมไฮโซลูกสาวคนเดียวของคุณหญิงศรีดารา (ชุดาภา จันทเขตต์) กับดร.ทองแถม (สถาพร นาควิไล) กำลังเริงร่าเมายา อย่างสนุกสนานกับบรรดาเพื่อนใจแตก อยู่ที่บ้านพักตากอากาศริมชายหาด วิฬารเปลี่ยนจาก เด็กสาว สดใส มองโลกในแง่ดี กลายเป็นเด็กกร้านชีวิต เมื่อรู้ความจริงว่า แม่ที่เป็นสาวสังคมชั้นสูง เป็นนักสังคมสงเคราะห์ ต่อต้านยาเสพติด แอบไป มีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับรัฐมนตรีโฆษิต (นุติ เขมะโยธิน) โดยที่ตัวเองและพ่อไม่รู้มาก่อน เมื่อความจริงถูกเปิดเผย บ้านที่เคยอบอุ่น มีกันสามคนพ่อแม่ลูก ก็กลายเป็น บ้านที่เงียบเหงา พ่อแม่หนีหน้าไป คนละทิศละทาง พ่อได้เมียใหม่ชื่อพิศมัย (วิภาวี เจิรญปุระ) วิฬาร ประชดชีวิต ด้วยการเสพยากับเพื่อน ๆ โดยมีสุขุม เพื่อนชายซึ่งแอบหลงรัก วิฬารอยู่แนะนำให้ทดลองยา ในขณะนั้นเจ้าภูตะวัน (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ลูกชายเจ้าเต็มเดือน (ต้อย - อรุณพร เจริญยิ่ง) เพื่อนเก่าของคุณหญิง ศรีดารา เดินทางกลับมาเมืองไทย และ มาเยี่ยมวิฬารที่บ้าน ทั้งคู่เริ่ม สนิทสนมกัน มากขึ้น จนกลายเป็น ความรัก วิฬารพาเจ้าภูตะวัน ไปแนะนำ ให้เพื่อนๆ รู้จัก ในงานวันเกิด ของปุ๊ (โอ๊ต - สุรชัย พิชญ์พิสิฐานนท์) ที่ผับได้เจอกับสุขุม (น้ำ-รพีภัทร เอกพันธ์กุล) สุชาดา (จิ๊ก-จิรภัทร วงศ์ไพศาลลักษณ์) มารศรี (โบ - เบญจสิริ วัฒนา) กำจร (ฟู่ - วัชรชัย สัตย์พิทักษ์) กำลัง มีความสุขอยู่กับการมึนเมา สุขุมรู้ว่า เจ้าภูตะวัน เป็นคนพิเศษ ของวิฬาร จึงเกิดอาการ ไม่พอใจ พยายาม หาวิธีทำให้เจ้าภูตะวัน ออกไป จากชีวิตวิฬาร โดยใช้มารศรีเป็นตัวล่อ ติดตามต่อได้ใน ทะเลฤาอิ่ม

รัก-ฝัน วันฤดูหนาว (2546/2003) เบส (มิ้นท์ เปรมินทร์ วงศ์เบี้ยสัจจ์) จารุ (ต๊ะ กฤช พงษ์พันธ์) ก๊วยเจ๋ง (โก้ จตุโชด หวังสุวรรณกิจ) มังกร (ด๊อจ พันธุ์ธวัช บูลย์เวช) เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก “เบส” เป็นลูกชายของ “พิทยา” (อนุสรณ์ เดชะปัญญา) ซึ่งรับจ้างดูแลสวนของบ้าน “ภากร” (จีระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) เศรษฐีชื่อดังพ่อของ มังกร เบส และ พิณ (ต้อง สุภัชญา รื่นเริง) มาช่วยงานพ่อบ่อยๆ จนสนิทกับ มังกร และเพื่อนๆร่วมแก๊งของเขาซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ๆกันคือ จา และ ก๊วยเจ๋ง พิทยา สอนเบสกับพิณให้เจียมตัวเพราะไม่รวยเหมือนคนอื่น เกิดเป็นคนจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อได้ทำงาน เบสกับพิณจำคำพ่อมาตลอด เบสสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกับก๋วยเจ๋งได้ เบสกับพิณต่างต้องทำงานร้านฟาสต์ฟู๊ดเพื่อส่งตัวเองเรียน เพราะไม่อยากให้พ่อลำบาก จาสอบเข้าเรียนด้านภาพยนตร์ ในขณะที่ทุกคนในบ้านคาดหวังให้เขาเป็นหมอแต่จาไม่สนใจ จายังคงนัดเจอกับเบสและก๊วยเจ๋งเสมอ มังกรถูกส่งไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก และถูกเรียกตัวกลับมาจากต่างประเทศเพราะความที่ไม่ตั้งใจเรียน จาพามังกรกลับมาเจอก๊วยเจ๋ง และเบส เรื่องราวความผูกพันของเด็กหนุ่มสี่คนกลับมาเริ่มต้นอีกครั้งในช่วงปิดเทอมฤดูหนาว มังกร จารุ และก๊วยเจ๋ง กลายเป็นลูกค้าประจำที่ร้านฟาสต์ฟู๊ดที่เบสและพิณทำงานอยู่ พิณโดนผู้จัดการร้านแต๊ะอั๋ง พิณไม่ยอมจะเอาเรื่อง ผู้จัดการขู่จะไล่ออก ทั้งคู่เลยต้องหยุด เพราะกลัวว่าถ้าออกจากงานทั้งคู่แล้วจะทำให้พ่อไม่สบายใจ พิณได้งานใหม่ที่ร้านขายหนังสือแห่งหนึ่งแทน "วาโย" (ซาร่า เล็กจ์) สาวน้อยที่เดินทางมาจากอเมริกาเพื่อตามหา "วาริณ" (เชอรี่ เชอร์ม็อค) พี่สาวที่หนีตาม "เรด้าร์" (ธวัช ทัศนาพลพินิจ) นักซิ่งรถมาเมืองไทย วาโยมาพักอยู่ที่บ้านของจา และเจอกับเบสโดยบังเอิญเพราะรถเสีย ทั้งคู่เกิดความประทับใจกัน และได้มาเจอกันอีกทีที่ร้านฟาสต์ฟู๊ด ซึ่งมี เจ๋ง, มังกร และจารออยู่ มังกรประกาศตัวว่าจะจีบวาโย เบสกับจาพยายามเก็บอาการที่มีต่อวาโยเอาไว้ วาโยไม่สนใจมังกร เพราะชอบทำตัวเป็นเด็ก มังกรพยายามพิสูจน์ตัวเองให้วาโยเห็น ด้วยการสมัครทำงานที่ร้านฟาสต์ฟู๊ด ในระหว่างนั้น เบส, มังกร, เจ๋ง, จา และพิณ ก็ยายามสืบหาที่อยู่ของวาริณ แต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรเท่าไรนัก วาโยปรึกษาเบสว่าอยากหางานทำและหาที่อยู่ใหม่เพราะเกรงใจทางบ้านจามาก พิณจึงชวนวาโยให้ไปทำงานที่ร้านหนังสือด้วยกัน ส่วนจาไปฝึกงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพให้นิตยสารเล่มหนึ่ง มีนางแบบเบี้ยวไม่มาถ่ายงาน ก็เลยชวนวาโยมาถ่ายแทน สไตลิสต์ชอบใจวาโยมาก วาโยได้เงินจากการถ่ายแบบมามัดจำห้องเช่าเล็กๆ อยู่ได้ ก๊วยเจ๋งเริ่มเหงาเพราะเพื่อนๆ ทำงานกันหมด เลยสมัครทำงานที่ร้านหนังสือเดียวกับพิณและวาโย เพราะชอบพิณมานานแล้ว แต่พิณกลับรู้สึกดีกับจา วันหนึ่งมังกรไปแข่งรถ แล้วพบกับเรดาร์ และวาริณ แฟนของเรด้าร์ ทั้งคู่ไม่ถูกชะตากันจนเกือบมีเรื่อง พ่อของเบสล้มป่วย เงินค่าทำงานพิเศษของเบสไม่พอที่จะจ่ายค่ารักษาและค่าเช่าบ้าน เพื่อนๆ เสนอตัวเข้าช่วย แต่เบสกับพิณก็ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากใคร มีงานติดต่อให้จัดสวนติดต่อเข้ามาหลายที่ เบสดีใจที่จะได้เงินมารักษาพ่อ พิณ, วาโย, มังกร, เจ๋ง และจา ก็มาร่วมกันช่วยงานเบส ทำให้เบสได้เงินมาก้อนใหญ่พอที่จะรักษาพ่อได้ เจ๋งเผลอหลุดปากว่างานที่ได้มาทั้งหมดเป็นงานที่มังกรติดต่อให้ เบสถึงได้รู้ว่ามังกรเป็นตัวตั้งตัวดีวางแผนจนทำให้เขาได้เงินก้อนนี้มา จึงรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมังกร จึงเริ่มตัดใจหลีกทางให้มังกรจีบวาโย โดยวาโยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มังกรยังไปแข่งรถบ่อยๆ วาริณ

ปมรักนวลฉวี (2546/2003) มีการพบศพของ นวลฉวี ราชเดช (ใหม่ เจริญปุระ) นางพยาบาลสาวสวยแห่งโรงพยาบาลยาสูบในแม่น้ำเจ้าพระยาท้องที่นนทบุรี จากการสืบสวนพบว่า ผู้บงการฆาตกรก็คือหมออุทิศ (อำพล ลำพูน) คนรักของนวลฉวีนั่นเอง เหตุที่ต้องลงมือฆ่านวลฉวี หมออุทิศบอกว่าเพราะนวลฉวีมารบเร้าขอให้จดทะเบียนสมรสกัน สุดท้ายหมออุทิศถูกศาลพิพากษาประหารชีวิต

รักห้ามโปรโมท (2546/2003) วายุ เป็นนักร้องรูปหล่อแห่งวงเอ็กซ์โป วงดนตรีร็อคชื่อดังของค่ายแกรนด์มิวสิค ส่วนกอหญ้าเป็นเด็กสาวช่างฝัน ที่มุ่งมั่นว่าสักวันหนึ่ง จะเป็นนักแต่งเพลงชื่อดังให้ได้ เธอเขียนเพลงเก็บใส่สมุดสีฟ้าเล่มเล็ก และนำติดตัวไว้ตลอดเวลา วันหนึ่งระหว่างทางไปแสดงคอนเสิร์ต วายุเกือบขับรถชนกอหญ้า ทำให้กอหญ้าซึ่งไม่ได้ชื่นชมเพลงร็อคอยู่แล้ว เริ่มเกลียดขี้หน้าวายุ ยิ่งต้องไปดูคอนเสิร์ต วงเอ็กซ์โป ตามคำชวนของผึ้งเพื่อนสนิท ก็ยิ่งหมั่นไส้ท่าทางของวายุมากขึ้น อู๋ รู้ลึก นักข่าวบันเทิงจอมจุ้นพยายามสืบเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของวายุ หลายครั้งที่ดักถ่ายภาพวายุกับกอหญ้าไปลงพิมพ์ ทำให้ธิติโกรธ เพราะถ้าแฟนเพลงผู้หญิงของวายุที่มีอยู่มากมายรู้ว่าวายุเป็นแฟนกับกอหญ้า อาจกระทบถึงชื่อเสียงของวายุได้ ธิติบีบให้กอหญ้าออกจากบริษัท วายุ ปกป้องกอหญ้าถ้ากอหญ้าถูกไล่ออกวายุก็จะออกด้วย ธิติต้องยอมให้วายุ สนิทสนมกับกอหญ้าต่อไป โดยมีอู๋ทำตัวเป็นปาปาราสซี่ ทั้งดักทั้งตาม และปลอมตัว เข้ามาสิงในร้านกาแฟของผึ้ง เพื่อสืบข่าวกอหญ้าและวายุ ความ สัมพันธ์ของวายุกับกอหญ้าพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งยิ่งทำให้มินตราไม่พอใจมาก เมื่อมีโอกาสแสดงละครคู่กับวายุ มินตราหาเหตุให้คนเข้าใจผิดและเกลียดขี้หน้ากอหญ้าอยู่ตลอดเวลา อานนท์ ลูกชายของ อาชว์ เจ้าของแกรนด์มิวสิค บินกลับจากต่างประเทศมาบริหารงานต่อจากพ่อ อานนท์เกิดไปชอบพอกอหญ้าเข้า จึงทำดีให้กอหญ้าเห็นใจ ทั้งอานนท์และมินตรา ทำให้กอหญ้ามีเรื่องระหองระแหงกับวายุอยู่เสมอ ซึ่งกลับทำให้แม่ของกอหญ้าพอใจ เพราะชอบนักธุรกิจอย่างอานนท์ มากกว่านักร้องอย่างวายุ ถึงกระนั้นความรักที่มั่นคงของกอหญ้าและวายุก็ดึงให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน หวานชื่นอีก มินตราแค้นใจที่ไม่สามารถทำให้วายุกลับมารักได้ จึงแฉเรื่องอดีตรักระหว่างตนกับวายุในรายการทอล์คโชว์ ทำให้แฟน ๆ วายุรับไม่ได้ วงเอ็กซ์โปมีคะแนนนิยมต่ำลงเรื่อย ๆ วายุคิดจะลาออก แต่เพื่อน ๆ ในวงท้วงว่า ถ้าไม่มีวายุก็ไม่ต้องมีเอ็กซ์โป วายุจึงมีกำลังใจจะทำงานต่อ อาชว์จัดงานเลี้ยงฉลองอายุ 60 เขาประกาศเกษียณตัวเองแล้วยกกิจการส่วนใหญ่ให้วายุ ทำให้อานนท์ประหลาดใจ และโกรธมากที่พ่อยกมรดกให้คนอื่น เมื่อกองถ่ายละครเริ่มขึ้นอีกครั้ง เขาจึงออกตามล่าสังหารวายุ แต่ก่อนที่จะลั่นไก กอหญ้าก็เข้ามาขวาง หนำซ้าอาชว์ยังตามไปสำทับห้าม พร้อมกับเล่าว่า แท้ที่จริงแล้ว วายุเป็นพี่ชายต่างแม่ และอาชว์ต้องการลบล้างความผิดที่เคยทอดทิ้งแม่ของวายุ จึงอยากให้วายุรับธุรกิจใหญ่ ๆ ไป วายุได้หัวใจกอหญ้าแล้วเขาไม่ต้องการสิ่งอื่น ขอคืนธุรกิจให้อานนท์ในฐานะน้องชาย ทำให้อานนท์ซาบซึ้งใจมาก วายุบอกรัก กอหญ้าและขอหมั้นกอหญ้าบนเวทีคอนเสิร์ต ท่ามกลางความตื่นเต้นยินดีของแฟนเพลง ฝ่ายมินตรา เมื่อทำเล่ห์มารยาต่างๆนานแล้วยังไม่สามารถชนะใจวายุได้ จึงเตรียมไปอาละวาดในงานคอนเสิร์ต ถึงกับจะเอาปืนไปยิงวายุกลางเวที แต่เมื่อถึงนาทีนั้น เธอก็ทำไม่ลงเพราะความรักที่มีต่อวายุ กอหญ้าและวายุ ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า แม้วงการบันเทิงจะปิดกั้นไม่ให้ความรักของพวกตนเปิดเผยได้ในตอนต้น แต่เมื่อความรักนั้นมั่นคงพอ ใครก็ไม่อาจห้ามได้

ใบสั่งกามเทพ (2546/2003) วิชยาธร ( รอง เค้ามูลคดี ) และ อัปสร ( กาญจนา จินดาวัฒน์ ) เป็นเทพซึ่งอยู่บนวิมานทอง มีธิดา 1 คน คือ ญามิลา ( ครีม เปรมสินี รัตนโสภา ) แต่ด้วยความซุกซนและอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องของโลกมนุษย์ เธอจึงหนีมาเกิดยังโลกมนุษย์ ณกุล ทนายความรุ่นใหม่ไฟแรง เป็นลูกชายคนเดียวของ สุณีย์ ( วันทนา บุญบันเทิง ) ทำงานที่สำนักงานทนายความของ นราสี ( จันทนี สิงห์สุวรรณ ) ทั้งณกุลและนราสีเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเรื่อยมา สุพรเพ็ญ ( สิริพรรณ หลิมวิจิตร ) ซึ่งเป็นคนรักของณกุล ได้มาทำงานที่บริษัทของ วันชัย ( สมภพ เบญจาธิกุล ) ซึ่งเป็นลุงของธีเดช ธีเดช ( สุรวุฒิ ไหมกัน ) หลงรักสุพรเพ็ญ ตั้งแต่แรกเห็น ธีเดชมีนิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง เนื่องจากพ่อแม่ของธีเดชจากไปตั้งแต่เขายังจำความไม่ได้ วันชัยจึงเลี้ยงดูธีเดชมาเหมือนลูกคู่กับลูกสาวของเขาที่ชื่อ พิมพิไล ( นงนุช แต้กิจพัฒนา ) ทั้งวันชัยและผกามาศเมียของเขา วางแผนจะให้ธีเดชได้แต่งงานกับพิมพิไล แต่ทั้งสองรักกันฉันท์พี่น้องเท่านั้น ติดตามต่อได้ใน ใบสั่งกามเทพ

พ่อบ้านเมียเผลอ (2546/2003) เรื่องราวของเหตุการณ์ชวนขบขันของก๊วนชายหนุ่มน้อย - ใหญ่ หลายสไตล์แห่งบริษัทอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมที่มีชื่อแห่งหนึ่ง โดยอาศัยทีเผลอของคุณเธอที่บ้าน ทั้งที่เผลอโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ(ถูกทำให้)เผลอ เหตุการณ์สนุก ๆ จึงเกิดขึ้นกับบรรดาพ่อบ้านเมีย ( เผลอ ) เหล่านี้ ทุกครั้งที่มีปัญหาแต่ละกระทาชายมักจะไปนั่งพักใจที่ร้านกาแฟของอากู๋ ที่อยู่ข้างบริษัท และมักได้แง่คิดในการมองชีวิตจากอากู๋ คุณกำชัยรองประธานบริษัทกำลังมีปัญหาหงุดหงิดกับภรรยายิ่งนัก เช่นเดียวกับเปรมอนันต์และพันธุ์สง่า ลูกน้องคู่คิด แล้วยังต้องมาเจอปัญหาในที่ทำงานอีก กล่าวคือ คุณกำชัยแม้จะมีความสามารถรอบด้าน แต่มีจุดอ่อนอย่างหนึ่งคือตีกอล์ฟไม่เป็น เมื่อประธานบริษัทคนใหม่ชาวต่างชาติจะเดินทางมาประจำในประเทศไทยและนิยมชมชอบกอล์ฟเป็นชีวิตจิตใจ คุณกำชัยจึงเล็งเห็นแล้วว่าถ้ายังขืนตีกอล์ฟไม่เป็นอยู่ต่อไป โอกาสที่จะได้ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่คงจะชวดแน่ ติดตามต่อได้ใน "พ่อบ้านเมียเผลอ"

รักแปดพันเก้า (2546/2003) หลังจากที่ อิทธิ์ และนุ่น คืนดีกัน ต่างคนก็ต่างรู้ว่าขาดกันไม่ได้ ทั้งคู่พยายามที่จะดูแลทนุถนอมความรักนี้ไว้ให้ดีที่สุด อิทธิ์พยายามช่วยนุ่นแก้ปัญหาเรื่อเงินที่ จิ๊บ ขโมยไป ซึ่งความพยายามที่จะจับตัวจิ๊บให้ได้นี่เอง ที่สร้างปัญหาหน้าหนักใจตามมา แต่ปัญหานี้กลับทำให้ทั้งคู่ยิ่งรู้สึกผูกพันและห่วงใยกันมากขึ้น ในขณะที่นุ่นเองต้องคอยมาช่วย ทัศน์ แก้ปัญหาเรื่องการกลับมาของ พลอย คนรักเก่าที่ทำให้ทัศน์กับนุ่นต้องเลิกกัน พลอยเข้ามาตีสนิทกับ ทราย เพราะต้องการจะทำให้ทรายกับทัศน์เลิกกันเหมือนอย่างที่ตัวเองเคยทำกับนุ่น แต่ทรายรู้ไม่เท่าทันแผนการณ์ของพลอย ซ้ำยังไว้ใจพลอยอีก จะมีเพียงแต่นุ่นเท่านั้นที่รู้เท่าทันและพยายามขัดขวางการกระทำของพลอย จนทำให้ทรายเริ่มระแวงว่านุ่นอาจจะมีใจให้กับทัศน์อยู่ และนั่นก็คือชนวนสำคัญที่ทำให้แผนการณ์ของพลอยเป็นจริง ทัศน์กับทรายจะต้องผ่านอุปสรรคความรักครั้งนี้ไปให้ได้ โดยใช้ความเชื่อมั่นในความรักเป็นกุญแจสำคัญ ฟ้า พยายามจะรักษาความลับเรื่องพ่อของลูก ซึ่งหมายถึง แทน ที่ตัวเองเคยโกหกไว้ตั้งแต่แรก แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ความรู้สึกผิดในใจกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งแทนที่อยู่ห้องตรงข้ามก็มักจะมาคอยช่วยดูแลลูก ส่วน ทรงพล ก็รักและดูแลลูกเป็นอย่างดี เลยทำให้ฟ้ายิ่งรู้สึกผิด ทรงพลพยายามขอให้ฟ้าย้ายไปอยู่กับตัวเอง แต่ฟ้าก็ยังรู้สึกผิดเรื่องแทนจึงไม่อยากจะพรากลูกไปจากพ่ออีก ฟ้าจึงปฏิเสธที่จะย้ายตามทรงพลออกไป ทำให้ทรงพลและคนอื่นๆ โดยเฉพาะอิทธิ์ เริ่มรู้สึกสงสัยในตัวฟ้า ฟ้าจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะรักษาความลับนี้ไว้กับตัวเองให้นานที่สุด และทำให้ลูกที่กำลังป่วยได้สบายและมีเงินไว้รักษาตัว ที ได้รับการรักษาตัวอย่างดีจนอาการป่วยทางกายเริ่มดีขึ้น แต่ในเรื่องของความจำ ทีกลับยังจำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม และพ่อของทีก็อยากให้ทีลืมเรื่องของ จอน อยู่แล้วด้วย เลยพยายามกีดกันไม่ให้ทีได้เจอกับจอน หากแต่จอนและแม่ของทีกลับพยายามทำทุกอย่างที่จะทำให้ทีจำได้ ก่อนที่พ่อจะพากลับไปรักษาตัวที่อเมริกา ซึ่งนั่งก็หมายความว่าจอนอาจไม่ได้เจอทีอีกเลย...

บางรักซอย 9 (2546/2003) “บางรักซอย 9” เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดถึงชีวิตของคนในวัยทำงาน ที่มีทั้งเรื่องอาชีพ อนาคตและความรักเป็นเรื่องสำคัญและละเอียดอ่อน สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของคนเมืองในยุคปัจจุบันออกมานำเสนอในรูปแบบตลกและแฝงแง่คิด ความรู้สึก แป้ง และ ชัดเจน ชัดเจน หรือ เจน (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) สถาปนิกหนุ่มวัย 30 มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ชีวิตสบายๆ เป็นคนที่ไม่มีความชัดเจนเหมือนชื่อ แต่มีความกระตือรือร้นและชอบศึกษาชีวิต มีความเข้าใจในคนรอบข้างเสมอ และเพราะเป็นสถาปนิกที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำอยู่เสมอ ตัดสินใจมาใช้ชีวิตอิสระ ด้วยการมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับออฟฟิศ บ้านเช่าหลังนี้เป็นการดัดแปลงจากเรือนคนใช้มาแบ่งทำเป็นห้องเช่า ในส่วนของโรงรถก็ใช้เป็นที่อบขนมของลูกเจ้าของบ้าน ที่ชื่อ “แป้ง” เนื่องจากเหมียวแฟนเก่าเจนคอยตามมารังควานจนเจนโดนไล่ออกจากบ้านเช่าเก่าไป 3 หลัง แป้ง (พิยดา จุฑารัตนกุล) สาวขึ้นคานนักฝันที่อยากจะครูกับเจ้าของร้านเบเกอรี่ เป็นไม่มีที่ไหนรับกับไม่มีงบจึงตกงานหลังเรียนจบ มีระเบียบวินัยสูง เต็มเปี่ยมไปด้วยกฎเกณฑ์ในชีวิต จึงขายเค้กตามบ้านกับเป็นติวเตอร์สอนเด็กหากำไรไปวันๆ แต่ก็สืบทอดมรดกจากแม่คือ พอตนพาลด่าใคร พอรู้ว่าตนหน้าแตก ก็ไม่รับผิดชอบหน้าด้านเงียบหนีเสมอ เมื่อเจนเข้ามาเช่าบ้านอยู่ในบ้าน ก็มีแต่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเสมอ ถึงแม้จะเป็นสถาปนิก แต่ก็ไม่เคยทำให้แป้งรู้สึกว่าบ้านมีระเบียบขึ้นมาเลยตรงกันข้ามจากบ้านที่เคยมีระเบียบวินัย กลับถูกเพ่นพ่านไปด้วยเพื่อนสถาปนิกที่ออฟฟิศ และแฟนเก่าของชัดเจนที่มาตามรังควาน หรือแม้แต่ลูกของเพื่อนที่มาฝากชัดเจนดูแล ด้วยเหตุนี้แป้งต้องมาคอยควบคุมและดูแลผลประโยชน์ของบ้านตนเอง และมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับเจนอยู่ตลอดเวลา ต่างกับปิ๊ก (หลุยส์ พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) น้องชายของแป้ง กลับเห็นดีเห็นงามและชื่นชมเจนเป็นพิเศษ ก็เพราะนิสัยที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นของเจนนั่นเอง แต่นั่นกลับเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้แป้งหาเรื่องทะเลาะกับเจนหนักขึ้น เพราะแป้งถือว่าเจนให้ท้ายน้องชาย ทำให้เจนเกิดความรู้สึกว่าแป้ง ทำตัวเหมือนแม่มากกว่าพี่สาว แม้แต่กับพ่อตุ๊ (สีหนุ่ม เชิญยิ้ม) พ่อของแป้ง ก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับเจน เนื่องจากเป็นคนสบาย ๆ เหมือนกัน พ่อของแป้งเป็นคนสนใจใฝ่รู้กับทุกๆเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่การดูหมอทรงเจ้า แต่ถึงกระนั้นพ่อของแป้งก็เป็นถึงอดีตนายทหารเรือ (เออ...แต่เป็นกองดุริยางค์) ผิดกับแม่เยาว์ (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) ที่เป็นถึงหลานสาวเจ้าพระยา เป็นคุณแม่ผู้สูงศักดิ์ หยิ่งทระนงในศักดิ์ศรียิ่งนัก แต่เนื่องจากฐานะครอบครัวที่สะเทือนไปในคราว “ต้มยำกุ้ง” ระบาด จึงกลายเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน แม่ของแป้งจึงจำต้องแบ่งพื้นที่ในบ้านให้เจนเช่าอาศัย ซึ่งแม่ของแป้งไม่เคยรู้เลยว่ามันเหมือนเป็นการชักศึกเข้าบ้าน... แมน (ซ้าย), ชัดเจน (กลาง), มารวย (ขวา) ในบ้านเช่า นอกจากจะมีเจนเป็นผู้เช่าอาศัยแล้ว ยังมีเพื่อนร่วมออฟฟิศของเจนอีกหนึ่งคนชื่อมารวยหรือ รวย (เหลือเฟือ มกจ๊ก) ชายหนุ่มนิสัยรักสบายมาก ตอนเรียนจบนั้นได้งานจะไปนอนที่ออฟฟิศ แต่พอเจนย้ายมาเช่าบ้านแป้งรวยจึงขอมาอยู่ด้วย จนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าขี้เกียจหาที่ที่พักจึงมาขอพักกับเพื่อน ซึ่งปรารถนาจะรวยทางลัดอยู่ตลอดเวลา แต่รวยก็เป็นคนมีความจริงใจ ตรงต่อเวลาในเวลาทำงานแต่ติดจะเชยและซื่อไปบ้าง นอกจากนี้ผู้คอยแวะเวียนมาในบ้านของแป้งยังมี แมน (ตี๋ ดอกสะเดา) เพื่อนร่วมออฟฟิศอีกคนของเจน ผู้ถูกกระชากวัยหนุ่มไปด้วยเวลาอันรวดเร็ว เพียงเพราะไปผู้หญิงท้องก่อนแต่งจนมีลูกด้วยกัน แต่แล้วเขาก็กระชากมันกลับมาด้วยความรวดเร็วอีกเช่นกัน ด้วยการ “แยกทางกัน” พร้อมกับของแถมเป็นเด็กชายวัย 4 ขวบ (ก๊วยเจ๋ง) ที่เขาจำต้องสลับกับภรรยาเลี้ยงดู แมนเป็นคนเจ้าชู้ จึงเกลียดความจริงจัง พอๆ กับที่เป็นคนกะล่อน จึงเกลียดความเชยเป็นที่สุดเหล่านี้คือบุคคลที่จะมาทำให้ชีวิตของเจนวุ่นวายได้ไม่มากเท่ากับ เหมียว (สุวัจนี ไชยมุสิก) แฟนเก่าของเจน ที่สลัดรักจากสถาปนิกหนุ่มไปซบอกกัปตันเครื่องบิน ด้วยเหตุผลเพียงว่าเท่กว่าและเร้าใจกว่า แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่าที่เหมียวทำงานอยู่ที่เดียวกันกับเจน และคิดอยู่เสมอว่า เจนคือของตายสำหรับเขา จึงหมั่นแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเมื่อยามเหงา มีปัญหาก็มาขอความช่วยเหลือ ทะเลาะกับแฟนก็มาหา เมาก็มาหา แต่เจนเองก็ไม่สามารถตัดขาดจากเหมียวไปได้ เพราะอดีตรักที่น่าจดจำของกันและกัน และทุกครั้งที่เหมียวมีปัญหา จนทำให้แป้งไม่ชอบพฤติกรรมของเหมียวอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือการกระทำ ที่คอยมาก่อกวนเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ใครเลยจะรู้ ว่าเจนและแป้งนั้น เหมือนเกิดมาเพื่อเป็นคู่กัดและคู่รักกัน ด้วยความที่ฟอร์มจัดด้วยกันทั้งคู่ สถานภาพที่คนอื่นมองจึงดูแปลกๆ เพราะบางครั้งก็เหมือนเป็นเพียงผู้เช่าและผู้อาศัย แต่บางครั้งก็เหมือนเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ก็มีหลายครั้งที่ดูเหมือนเป็นแม่ลูกกัน หรือเป็นคู่รักกันก็มี ความรักและความผูกพันของหนุ่มสาวทั้งสอง จึงค่อยๆก่อตัวขึ้น ท่ามกลางความวุ่นวายและปัญหารอบข้าง บ้างสุข บ้างเศร้า บ้างเหงา บ้างตลก แต่ทุกชีวิตในบ้านหลังนี้ก็ยังคงดำเนินไป โดยทั้งคู่แอบชอบกันไป แต่ทั้งคู่ก็ไม่กล้าบอกต่อกันเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้สึกเหมือนกัน จากนั้นพอเดือนเพื่อนแป้งมากับสงสัยในตัวแป้งจนจับได้ว่าแป้งแอบชอบเจน เดือนพยายามให้แป้งบอกรักเสมอแต่แป้งไม่เอาตลอด ทางเหมียวก็ลาออกไป กับไม่มีตัวเกะกะ ซึ่งเป็นโอกาส แต่ปูนิ่ม(ลูกสาวเจ้านายของเจน)ก็เข้ามาแทนที่กับอ้างตัวว่าคบกับเจน เจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยอมอย่างน่าสมเพช โดยปูนิ่มกุมความลับเรื่องคืนนั้นไว้ พอผ่านไปนาน จนตอนที่มีหมอดูมาทักเจนกับแมนเรื่องเนื้อคู่ว่า ว่าแมนมีเนื้อคู่อยู่ 2 คน คนแรกจากไปแล้วซึ่งก็คือเมียเก่า คนที่ 2 ต้องดูแลดีๆไม่งั้นจะป่วยจากไปก่อนอันควร แล้วแมนก็คบกับคุณริน แต่แมนก็ก่อเรื่องเมาพาล ทำให้เจนกับแมนปประชุมไม่ทันทั้งคู่ให้เจนแกล้งแขนหักไปเป็นเดือน พอป๊าของเจนมารู้เรื่องปูนิ่มเป็นลูกของเจ้านายเจน เผลอหลอกด่าเจ้านายโดยไม่รู้ตัว พอรู้ว่าปูนิ่มเป็นลูกใคร จึงบอกให้เจนตัดสินใจพูดเหมือนไม่รับผิดชอบ จนหลังจากเจนผ่าเฝือกเสร็จไปไม่นาน เจนพูดแบบที่ป๊าแนะนำแล้วบอกเลิกจนปูนิ่มโวยวายเสียใจจนปูนิ่มจากไป เจนได้อ่านจดหมายจากปูนิ่มว่าความจริงคืนนั้นไม่มีอะไรกัน จากนั้นแมนกับรวยก็สงสัยในตัวเจนว่าชอบแป้งจนเป็นความจริง พอเจนจะไปสารภาพรัก เต้ยก็ข้ามาในชีวิตแป้ง เจนก็ได้แต่เสียใจกับทำอะไรไม่ได้ พอรู้ว่าแป้งแอบชอบตนแต่สายไปแล้วเพราะแป้งเลือกเต้ย จนแป้งรับหมั้นเต้ยเจนก็เสียใจกลับสุพรรณไป พอเต้ยประสบอุบัติเหตุเจนจึงรีบมาถ่ายเลือดให้เต้ยมีชีวิตอยู่ดูแลแป้ง แต่เต้ยก็เสียชีวิต จนทำให้พลังพิเศษในตัวแป้งลืมตาตื่นขึ้นมาคือพลังดวงกินผัว แต่งหรือหมั้นกับใครคนนั้นต้องตายเพราะอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถ ทางแป้งเศร้าเรื่องเต้ย เจนพยายามหาทางดูแลแป้งไม่ให้แป้งเศร้าจนต่อมาแม่ของเหมียวมาบอกว่าเหมียวท้องแล้วลำดวนก่อเรื่องไปบอกชาวบ้านว่าเจนเป็นพ่อเด็ก แต่ความจริงฮาร์ตเป็นพ่อเด็ก ทางแป้งที่ฟังผิดมาต่อว่าเจน จนเจนบอกไม่ได้ทำกับเผลอบอกชอบแป้งไปในตัว จนแป้งหลบหน้าไป ทางเจนพยายามทำดี แต่แป้งเอาแต่หลบหน้า จนพอแป้งรู้จากแมนกับรวยว่าเจนถ่ายเลือกช่วยเต้ย ก็แอบมีใจเพราะเรื่องแค่ถ่ายเลือดช่วยผัวเก่า ทางเจนก็เห็นว่าแป้งไม่รับรักจึงทำได้แต่กลับสุพรรณ จนแป้งพอรู้หน้าด้านมาตามง้อจนทั้งคู่แอบคบกันจนชาวบ้านแอบจับได้กับคนที่รู้เผลอไปบอกต่อรู้เรื่อยๆ พี่พัชจับได้เป็นคนแรกช่วยเก็บเงียบไว้ แมนกับเจ๊งรู้จากมือถือของแป้ง แมนเผลอบอกรวย จนรวยที่ดีใจไปบอกลำดวน ป๊าอ่ำเครียดจนเจนบอกไป แล้วเฮียหมูสงสัยจึงหลอกจีบแป้งจนเจนเผลอบอก ส่วนยามรู้ตั้งนานแล้วแต่เก็บเงียบไว้แล้วเผยตัวตอนอาตุ๊สงสัย พอเจนบอกอาตุ๊ อาตุ๊เข้าโรงพยาบาลอาตุ๊เอาความรู้สึกแป้งมาเล่นเพื่อลองใจเจน จนแป้งโกรธ พอสัญญาเช่าบ้านของเจนหมดไป ก็มีเรื่องขึ้นคือ น่าเยาว์ไม่ยอมต่อสัญญาเช่ากับหาทางไล่เจนไป แต่ล้มเหลวแล้วเจนก็สงสัยเรื่องจดหมายที่แป้งเขียนถึงใคร จากนั้นพอเจนไปกนข้าวกับแฟนเก่าเพื่อปรับความเข้าใจ พอแป้งแอบรู้ก็คิดมาก พอแป้งเห็นแฟนเก่าเจนที่ชื่อปุ้มออกจากห้องนอน ก็คิดมากเข้าใจผิดไม่ฟังเจน จนเจนพยายามง้อก็ไร้ผล จากนั้นปุ้มปรับความเข้าใจกับเจนได้ดี แล้วคิดไปหาแป้ง เพราะเพิ่งรู้ว่าคนที่เขียนจดหมายหาแป้งเมื่อสมัยก่อนย้ายมาเช่าบ้านคือตน คิดจะไปถามเพื่อยืนยัน ทางปิ๊กที่รู้เรื่องคบกับแป้งเพราะพวกแมนเผลอบอก ไปถามเจน ทางเจนถูกปุ้มโทรหา เจนไปหากับคุยกันเสร็จ แล้วเจนไปหาแป้ง แต่แป้งไม่ยอมคืนดี จนเจนถามเกี่ยวกับจดหมาย แป้งก็หน้าด้านยอมคืนดีเพราะเรื่องจดหมาย จนเหลือแต่น้าเยาว์เพียงคนเดียวที่ไม่รู้ ตลอด 2 ปีที่เจนคบกับแป้ง ป้าจันทร์เรียกชายเหวงมาดูตัวแป้ง แต่ในช่วงนั้นอาตุ๊ถูกเพื่อนทาบทามให้ไปทำงานที่อังกฤษ แต่กลัวว่าน้าเยาว์ไม่ยอมจึงให้เมียเพื่อนมาคุย น้าเยาว์ยอมตามหน้าที่ของเมีย แต่ก็ไปหาอาตุ๊ประชดให้เซ็นใบหย่า อาตุ๊จึงยอมเซ็นกับเตรียมตัวไปอังกฤษกับโทรบอกสาเหตุกับปิ๊ก น้าเยาว์ก็หน้าด้านเสียใจถูกปิ๊กบอกสาเหตุมาปลอบจนยอมให้อาตุ๊ไป พอป๊าอ่ำก่อเรื่องเผลอพูดเรื่องเจน จนชายเหวงสงสัยจึงอัดคลิปเรื่องเจนคบกับแป้งแล้วรู้ก็ใส่ความกับขู่เจน จนแป้งเข้าใจผิด ทางเจนจึงทำได้แต่ต้องสารภาพกับน้าเยาว์เท่านั้น จึงไปสารภาพกับน้าเยาว์ตอนที่ครอบครัวแป้งที่ไปเยี่ยมอาตุ๊ที่อังกฤษ จนชายเหวงแกล้งเจนไม่ได้ น้าเยาว์ก็โวยวายไปทั่วกับกีดกันสารพัด แป้งก็คิดทรพีแม่ตัวเอง แต่เจนก็ทำคะแนนได้หลายที แต่บริษัทที่จนทำงานก็ดันมาเจ๊ง เจนจึงต้องเปิดบริษัทที่บ้านเช่าหางานจากลูกค้าเก่าๆ ซึ่งได้ผลดี โดยรวยกับแมนไปเป็นคนคุมงานบริษัทอื่นชั่วคราวเพื่อมาเป็นทุนเปิดบริษัทร่วมกับเจน จนทางแมนที่โง่ไม่ยอมขอคุณรินแต่งงานจนคุณรินเสียไป จนแมนเสียใจ เจนไม่อยากพลาดเหมือนแมนจึงไปขอแป้งแต่งงาน แต่ป้าจันทร์กับชายเหวงก็ขัดขวาง จนน้าเยาว์เครียดเข้าโรงพยาบาล จนปิ๊กไปโทรเรียกพ่อพิเชษฐ์ที่เป็นพ่อเลี้ยงแป้งตามคำแนะนำของอาตุ๊ เพื่อมาไล่ป้าจันทร์กับชายเหวงไม่ให้มายุ่งอีก จนเจนได้แต่งงาน แต่ต้องเตรียมงานกับพิธี แต่ว่าวันแต่งแป้งเผลอใช้พลังดวงกินผัวหวังฆ่าเจนกับป๊าอ่ำ จนทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุเจ็บหนัก เจนความจำเสื่อมแป้งเรียกความจำกลับมาได้สำเร็จ เงินสินสอดมาจ่ายค่ารักษาเจนกับป๊าอ่ำพอดี(งานแต่งงดสินสอดไป) พอเจนหายดีเกิดเรื่องป๊าอ่ำอยากให้ไปอยู่สุพรรณ แต่เพราะแพ้แล้วพาลจึงเปลี่ยนให้จัดงานแต่งที่สุพรรณถึงยอมให้เจนอยู่กรุงเทพต่อไป จึงเลื่อนงานแต่งอีกที เจนกับแป้งได้แต่งงานกัน จนกลายเป็นชีวิตของทั้งคู่ในฐานะคู่สามีภรรยา แต่คุณเอ๋ยก็มาใส่ความเจน ทางแป้งถูกปั่นหัวนิดหน่อยก็เสียใจกับพาล จนเจนเลิกกับแป้ง พอคุณเอ๋ยมาขอโทษแป้ง กับกล่อมแป้ง ทางแป้งได้รับจดหมายจากลาจากเจนกับมอบแหวนแต่งงานให้ แป้งเสียใจที่ให้อภัยเจนแค่นี้ไม่ได้ แป้งก็หน้าด้านตามง้อเจน ทุกคนคิดว่าเจนจะฆ่าตัวตายจึงออกตามหาเจน ทางเจนพอรู้จึงกลับไปเพื่อคืนดีกัน แต่แป้งเผลอใช้พลังดวงกินผัว ทำให้เจนโดนรถชนจนโคม่า กับความจำเสื่อมอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นฝ่ายของแป้งที่ต้องห้ามทำตัวแบบน้าเยาว์คอยดูแลกับเรียกความทรงจำเจนกลับมา พอน้ายีที่เป็นน้าของแป้งมาขออยู่ เพราะหนีหนี้กับปัญหามาไทยจนบ้านเป็นเรื่องกับป่วนกันใหญ่ ทางเจนโดนไฟช็อตจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทีรความจำกลับมาถึงกลับลามปามคนไปทั่วพอจามไปทีความจำหายไปดังเดิมทุกครั้ง จนเมื่อพอลูกบุญธรรมของเจนมาจนเจนจำได้แค่เรื่องลูกบุญธรรม จนแป้งเครียดเข้าโรงพยาบาลเพราะพยายามหลายที แต่ไร้ผล จนหมอตรวจบอกว่าแป้งท้อง กับแป้งก็แพ้ท้องหนักมาก กับก่อเรื่องทำให้เจนเสียงานทั้งกำชับไม่ให้เจนไปทำงานไกล จนพลังดวงกินผัวในตัวแป้งรุนแรงมากขึ้นเจนไปทำงานไกลๆตามฝันก็เป็นจริง ทุกคนไปรวมตัวกันที่โรงพยาบาลกับเป็นห่วงเจนอย่างมาก ทางเจนที่โคม่าอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ความจำก็เริ่มจะกลับมา ทางแป้งพลังดวงกินผัวรุนแรงทำให้ชีพจรเจนต่ำใกล้ตายเหมือนตอนเต้ย แต่ผลออกมาเจนพ้นขีดอันตรายจนเจนเพ้อพูดช่อแป้งไปแล้วหลับไป จนแป้งได้ยิน ในตอนอวสานของบางรักซอย 9 ที่ชื่อว่า "นิยามรัก ชัดเจน + แป้ง" จะต่อเนื่องจากความเดิมตอนที่แล้ว เจนได้ประสบอุบัติเหตุจากการนั่งรถมอเตอร์ไซค์ตกลงคลอง (แป้งใช้พลังดวงกินผัวใส่เจน 3 ที 1 รถชนกับป๋าอ่ำตอนกำลังจะแต่งงาน 2 รถชนพร้อมกับรักตอนกลับมาคืนดีกัน) พอเจนฟื้นออกจากโรงพยาบาล เจนความจำเสื่อมหนักกว่าเก่า ถึงขั้นปัญญาอ่อน ไม่พูดกับใคร พอรวยเล่นมุขน้ำเน่าใส่ลำดวน รวยพูดประโยคประจำตัวของเจนคือ ถึงน้ำเจะน่าก็ยังเห็นเงาจันทร์ ทำให้เจนจำได้ทั้งหมด กับด่าชื่อพ่อแมน แต่แกล้งลืมแป้ง สร้างความประทับใจให้กับทุกๆคนมาก แมนไปอวยพรโจกับแจ๋วให้มีชีวิดที่ดี ทางปิ๊กก็ตัดสินใจบอกรักน้องพิมออกสื่อ กับแฉว่าตัวเองไม่ได้เป็นเกย์จนโดนเด้ง กับทุกคนรวมตัวที่ร้านเฮียหมูฉลองที่เจนกลับมาจำได้ ปัญหาสุดท้ายคือตั้งชื่อลูกเจนกับแป้ง ลำดวนเผลอทำแกงร้อนใส่รวยแล้วเอาผ้ามาเช็ดให้รวยจนเกิดคืนดีกัน แต่ละคนได้คิดชื่อมา เฮียหมูตั้งชื่อให้ว่า "กระท่อม" เพราะเป็นสถานที่ที่เจนกับแป้งเคยหลบฝนด้วยกัน รวยได้ตั้งชื่อให้ว่า "โลเล" เพราะตรงกับจิตใจของเจนตอนกำลังจะบอกรักแป้ง และลำดวนก็ตั้งชื่อให้ว่า "ลังเล" ด้วยเหตุผลเดียวกับรวย ส่วนแมนก็ตั้งชื่อลูกว่า "บ้านเช่า" เพราะเหตุผล คือ สถานที่แรกที่เจนกับแป้งพบกันครั้งแรก ชื่อเต็มคือ "บ้านเช่าหลังละพันห้า จ่ายช้าน้าเยาว์ปรับวันละร้อย งกชิบเป๋ง!" โดยชื่อที่แมนคิดกระจอกสุดๆ ห่วยกว่ากระท่อมอีก ซึ่งทุกคนได้เถียงกันเรื่องชื่อลูกของเจน ทางเจนและแป้งขอคิดชื่อลูกเอง ตัดมาที่ฉากหลังบ้าน แป้งกับเจนนั่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่แป้งท้องตอนเจนความจำเสื่อม เจนได้ใช้ประสบการณ์เป็นพ่อคนไประยะหนึ่ง เพราะเจนหลังแต่งงานใหม่กลัวเรื่องมีลูก กับถ้าเกิดแป้งท้องตอนเจนจำได้แต่แรก เผลอๆ เจนอาจเครียดเป็นบ้าฆ่าตัวตายที่ไม่พร้อม กับพอเจนจำได้ทำให้พลังดวงกินผัวในตัวแป้งหายไป ผ่านไปอีก 9 ปีต่อมา (หรือ 18 ปีนับจากที่ทั้งคู่ได้เจอกันเป็นครั้งแรก) ชัดแจ้ง ตรีทิพย์ศิริ ลูกชายของทั้ง 2 คน ได้พูดถึงเรื่องราวความรักของพ่อแม่ตนเอง รวยกับลำดวนมีลูกชาย 1 คน ชื่อสเตฟาน แมนส่งเสียก๋วยเจ๊งเรียนต่อถึงมหาวิทยาลัย ส่วนน้าเยาว์ที่รออาตุ๊ไม่ไหวก็หน้าด้านตามไปหาผัวอยู่อังกฤษ น้ายีก็ยังอยู่ในประเทศไทย ฉากจบของบางรักซอยเก้าเกิดขึ้นเมื่อแป้งกำลังจะบันทึกไดอารี่ และพบกับข้อความของเจนในท้ายไดอารี่ที่เจนแอบเขียนไว้หลัจากชัดแจ้งเกิดมา ซึ่งไดอารี่นั้นเป็นเรื่องราวที่บันทึกเรื่องราวของชัดเจนไว้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกับเจน จนกระทั่งเมื่อตนเองกำลังจะตั้งท้องลูกคนที่ 2 แป้งได้เข้ามาโอบกอบเจนและชัดแจ้ง ทั้ง 2 ได้ฝ่าฟันเรื่องราวมาตลอด 9 ปี จนกระทั่งได้แต่งงานมีลูกและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป

เลือดขัตติยา (2546/2003) ยโสธร ประเทศเล็ก ๆ ในหุบเขาแถบเอเชียกลาง ประชาชนอยู่อย่างสงบสุขภายใต้การปกครองของเจ้าหลวงและองค์ราชินี โดยมีมกุฎราชกุมารที่อ่อนโยนอย่าง สิทธิประวัติ เจ้าหญิงรัชทายาทอันดับสองอย่างแขไขจรัส และเจ้าหญิงองค์น้อยสุด ทิพยรัตน์ดารากุมารี ธิดาของเจ้าหลวงองค์ก่อน หากแต่เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ และพระเจ้าอาขึ้นครองบัลลังก์แทน ดารากุมารีต้องย้ายจากวังหลวงมาพำนักที่ตำหนักหลังเล็กกับพระมารดา พระองค์หญิงภาณุประภัส ผู้ซึ่งพยายามเคี่ยวเข็ญอบรมพระธิดาอย่างที่สุด โดยแอบหวังว่าสักวันดารากุมารีจะได้ครองมงกุฎราชินีแห่งยโสธร แต่ ความหวังของภาณุประภัสต้องพบอุปสรรค เพราะแขไขจรัสก็หวังตำแหน่งนี้เช่นกัน นันทวดี ก็ส่งเสริมลูกสาวเต็มที่ หากแต่สิทธิประวัติกลับเบื่อนิสัยเรื่องมากจุกจิกของเธอ และกลับมาชื่นชมความเฉลียวฉลาดเข้มแข็งเกินเด็กของดารากุมารีแทน และตัวสิทธิประวัติก็ต้องพึ่งพาเจ้าหญิงองค์น้อยอยู่เสมอในเรื่องของการเรียน ดารากุมารีจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของสิทธิประวัติ โดยที่มกุฎราชกุมารหนุ่มไม่รู้สึกตัว ดารากุมารีเบื่อหน่ายชีวิตในวัง จึงแอบหนีไปเที่ยวที่เกาะกลางทะเลสาบตามลำพัง และที่นี่เองทำให้ได้พบกับอโณทัย เด็กหนุ่มผู้เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวทั้งคู่ถูกชะตา และกลายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันอย่างรวดเร็ว โดยอโณทัยรู้แต่ว่าเธอชื่อ ดารา เพื่อหวังให้ลูกชนะแขไขจรัส ภาณุประภัสขอให้อินทร นักวิชาการผู้รอบรู้มาเป็นพระครูสอนการปกครองให้ดารากุมารี แต่เธอทำฤทธิ์เดชเพราะไม่ต้องการเรียนวิชานี้ แต่อินทรใช้ความใจเย็น จนเจ้าหญิงยอมเป็นลูกศิษย์ที่ดี และรับการถ่ายทอดวิชาจากเขาไปได้เต็มที่ โดยไม่รู้สึกพระองค์เลย

เมืองมายา เดอะ ซีรีส์ (2546/2003) แคทเทรีน เทเลอร์ ( เมทินี กิ่งโพยม ) นักเขียนสาวสวยชื่อดังเชื้อสายไทย-อเมริกัน เดินทางมาโปรโมทหนังสือเรื่อง "เหยื่อปรารถนา" นิยายแนวลึกลับ สืบสวนสอบสวนที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก และเป็นที่ต้องการของบรรดาผู้จัดละครช่องต่าง ๆ รวมทั้งช่อง 2 ด้วย ก้องสกุล ( สัญญา คุณากร ) ให้จงรัก ( อรนภา กฤษฎี ) ไปติดต่อซื้อนิยายเหยื่อปรารถมาให้ได้ แต่จินตนา ( ไปรมา รัชตะ ) เอเยนซี่ของแคทเทอรีนไม่ยอมให้จงรักเข้าพบและให้เหตุผลว่าแคทเทอรีนยังไม่ อยากขายบทประพันธ์ให้ใครเอาไปทำละคร เพราะกลัวจะทำออกมาไม่ดี หลังเสร็จจากงานโปรโมทแคทเทอรีนเข้าพักในบ้านที่จินตนาหาไว้ให้และได้รับ การ์ดเชิญลึกลับน่าสนใจไปงานเปิดคลับใหม่ ที่นี่เองแคทเทอรีนได้พบกับปานสรวง พงศ์เพชร ( ยุรนันท์ ภมรมนตรี ) พระเอกเก่าที่อำลาวงการไปหลายปี หลังจากแต่งงานกับสาวไฮโซแล้วย้ายไปอยู่อเมริกาและกลับมาเมืองไทยในฐานะพ่อ หม้ายเนื้อหอมที่สุดคนหนึ่ง ปานสรวงทำให้แคทเทอรีนสนุกและประทับใจมาก หลังจากคืนนั้นปานสรวงก็พยายามสานสัมพันธ์ของตนกับแคทเทอรีนต่อ จนในที่สุดแคทเทอรีนตกเป็นของปานสรวง จินตนาไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างที่สุด เพราะรู้จักกิตติศัพท์ของปานสรวงดีว่าเจ้าชู้และชอบหลอกเอาเงินผู้หญิง และคอยเตือนแคทเทอรีนเรื่องนี้เสมอแต่แคทเทอรีนไม่สนใจ เธอไม่เคยคิดจะจริงจังกับปานสรวงอยู่แล้ว เพราะอีกไม่กี่วันเธอก็จะกลับอเมริกาและไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ ติดตามต่อได้ใน เมืองมายา The series 5 (มายาลวง)

กษัตริยา (2546/2003) กษัตริยา เป็นละครโทรทัศน์อิงประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ช่วงสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (พระเทียรราชา) เมื่อสมเด็จพระสุริโยทัย พระชายา สิ้นพระชนม์ในการยุทธหัตถีกับพม่า จนถึงการกอบกู้เอกราชของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยแบ่งเป็น 2 ภาค คือ ภาค “กษัตริยา” เป็นเรื่องราวของพระวิสุทธิกษัตรีย์ และพระสุพรรณกัลยา และภาค “อธิราชา” หรือ มหาราชกู้แผ่นดิน เป็นเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ความเริ่มตั้งแต่สมเด็จพระสุริโยทัยสิ้นพระชนม์ในการยุทธหัตถีกับพม่า พระราเมศวรราชบุตรเข้ากันพระศพไว้ได้ พระเจ้าหงสาวดีตะเบ็งชเวตี้ยกทัพกลับหงสาวดี พระบรมศพสมเด็จพระบรมศพสมเด็จพระสุริโยทัยถูกอัญเชิญมาถวายพระเพลิง ณ วัดสวนหลวงสบสวรรค์ อันเคยเป็นสวนสวรรค์ที่เคยทรงพระสำราญคราวยังทรงพระชนมชีพ บัดนี้กลับกลายเป็นสถานที่ส่งพระวิญญาณสีสรวงสวรรค์ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงเศร้าโศกโศกาดูรราชบุตรีพระองค์ใหญ่ พระวิสุทธิกษัตรีย์ทรงจดจำความเจ็บปวดฝังลึกในพระราชหฤทัย ว่าพระราชมารดาทรงหลั่งโลหิตเพื่อปกป้องแผ่นดิน หลังจากนั้นไทยกับพม่าว่างเว้นศึกสิบห้าปี ระหว่างนั่นพระเจ้าตะเบ็งเวตี้วิปลาส ถูกสมิงสอดวุต ลวงไปปลงพระชนม์ หงสาวดีเกิดการจลาจล บุเรงนองมหาอุปราชต้องปราบปรามจนราบคาบแล้วราชาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าหงสาวดี บุเรงนอง ปีกุน พ.ศ. 2106 พระเกียรติยศสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเลื่องลือแพร่หลาย ด้วยทรงมีช้างเผือกมาสู่พระบุญญาบารมีถึง 7 เชือก จนได้รับถวายพระนามว่าพระเจ้าช้างเผือก พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองให้ราชทูตเชิญพระราชสาส์นมาเจริญพระราชไมตรี ขอช้างเผือกไปเป็นศรีนครสองเชือก สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงทราบทันทีว่าบุเรงนองมีประสงค์จะก่อศึก เพราะหากทรงยอมตามคำขอก็หมายถึงยอมอยู่ในอำนาจ แต่ถ้าทรงปฏิเสธขัดข้องก็จะถือเอาเป็นเหตุยกมาตีเอากรุงศรีอยุธยา เวลานั้นในกรุงศรีอยุธยาแบ่งออกเป็นฝักฝ่าย พระมหินทราธิราช ราชบุตรองค์ใหญ่แม้จะเป็นอุปราช แต่ไม่ได้รับความจงรักภักดีเท่าพระราเมศวรผู้ทรงเก่งกาจในการณรงค์ พระราเมศวร ทรงเห็นด้วยกับพระยาจักรีว่า จากวันนี้ฤาวันไหน สงครามไทยพม่าย่อมอุบัติแน่ จะพระราชทานช้างเผือกให้พม่าไปใยให้เสียพระเกียรติยศ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิจึงทรงตอบปฏิเสธบุเรงนอง หลังจากนั้นอยุธยาก็เตรียมการพร้อมรบ ข่าวเตรียมศึกถูกส่งออกไปถึงเมืองพิษณุโลก ผู้ครองเมืองลูกหลวง พิษณุโลก ณ เวลานั้น เดิมคืออดีตทหารกล้านามขุนพิเรนทรเทพ ผู้เคยปราบกบฏขุนวรวงศาธิราช บั่นหัวนางพระยาศรีสุดาจันทร์ แล้วถวายบัลลังก์ให้แก่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ จนได้รับพระราชบัณฑูรให้ครองเมืองพิษณุโลก เป็นสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้า และได้รับพระราชทานพระสวัสดิราช พระราชธิดาพระองค์โตเป็นอัครมเหสี ทรงนามใหม่ว่าพระวิสุทธิกษัตรีย์ บัดนี้ทรงมีพระราชธิดาและพระราชโอรสรวม ๓ พระองค์ คือ พระสุพรรณกัลยา พระนเรศ และ พระเอกาทศรถ เวลานั้นพระสุพรรณกัลยาเจริญวัยแรกรุ่น ดรุณี พระฉวีเหลืองละออดังทองสมพระนาม ส่วนพระนเรศยังเยาว์พระชันษา แต่ทรงสนพระทัยในการสงครามอย่างเห็นได้ชัด พระฉวีคล้ำเข้มจนได้รับพระนามว่าพระองค์ดำ ส่วนพระเอกาทศรถ งามสะโอดสะอง พระฉวีขาวผ่อง จึงได้รับพระนามว่าพระองค์ขาว บุเรงนองกรีธาทัพเข้ามาโดยหัวเมืองทางเหนือมิได้ทันตั้งรับ เข้าบดขยี้ได้กำแพงเพชร สุโขทัย สวรรคโลกและพิชัยโดยง่าย จากนั้นจึงยกเข้าล้อมพิษณุโลกอันเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญ พระมหาธรรม ราชาเจนการศึก จึงรู้แน่แก่ใจว่าศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงเกินจะรับมือได้ ทัพพระเจ้าหงสาวดีมีพลถึงห้าแสน อีกทั้งมีเชียงใหม่คอยหนุนหลัง แต่เบื้องแรงพระมหาธรรมราชาก็ต่อสู้สุดความสามารถ จนในที่สุดเมืองจวนพินาศ เสบียงอาหารขาดแคลน เกิดโรคระบาดขึ้นในเมือง จึงต้องตัดสินพระทัยจำยอมอ่อนน้อมแก่ทัพพม่าเพื่อถนอมบ้านเมืองให้บอบช้ำ น้อยที่สุด การตัดสินใจของพระสวามีสร้างความตกตะลึงให้กับพระวิสุทธิกษัตรีย์ผู้ทรงสืบ สาย โลหิตจากวีรสตรีนักรบผู้กล้า ยิ่งเมื่อพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองให้พระมหาธรรมราชาและเจ้าเมืองกรมการที่ยอม อ่อนน้อมถือน้ำกระทำสัตย์ พระวิสุทธิกษัตรีย์ก็ทรงปวดร้าวถึงกับชวนพระวรกายปะทะแท่นวางพานพระศรี พระนลาฏกระทบขอบพานจนพระโลหิตตกทรงกระชากฉีกชายฉลองพระองค์ชับพระโลหิตบนพระ นลาฏ ม้วนพระภูษาเปื้อนพระโลหิตบรรจุตลับทองเก็บไว้ หลังจากนั้นไม่สรงไม่เสวยไม่ยอมเยียวยาบาดแผล ความขัดแย้งของสองพระองค์กลายเป็นรอยร้าวฉาน พระวิสุทธิกษัตรีย์ได้แต่ทรงฝากความหวังให้โอรสธิดาทั้งสามพระองค์กอบกู้ บ้านเมืองกลับคือมาให้ได้ในวันข้างหน้า พระเจ้าหงสาวดีกรีธาทัพลงมาล้อมกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาจักรพรรดิไม่อาจทานศึกได้ก็จำยอมออกมารับพระราชทานไมตรี ต้องทรงยอมให้พระเจ้าหงสาวดีนำตัวพระราเมศวรกับพระยาจักรีไปเป็นตัวประกัน ที่เมืองพม่า อีกทั้งยอมส่งช้างไปบรรณาการปีละ 30 เชือก ยอมส่งส่วยสาอากร รวมทั้งยอมเสียอำนาจปกครองเมืองมะริด พระราเมศวรตรอมพระทัยประชวรหนักระหว่างทาง ก่อนสิ่งพระชนม์มีรับสั่งสุดท้ายกับพระยาจักรี ห้ามมิให้ฝังพระอัฐิในดินแดนพม่า ให้หาทางนำกลับกรุงศรีอยุธยาให้จงได้ พระเจ้าเมกุติแห่งเมืองเชียงใหม่แข็งข้อกับหงสาวดี บุเรงนองจึงยกทัพมาตีเชียงใหม่ โดยมีใบบอกให้พระมหาธรรมราชาขึ้นไปช่วยรบ พระมหาธรรมราชาตระหนักว่าหากปฏิเสธ เห็นทีพิษณุโลกจะต้องถูกตีย่อยยับเป็นครั้งที่สอง จึงทรงยอมยกทัพไปช่วยพม่าตีเชียงใหม่ พระวิสุทธิกษัตรีย์ทรงผิดหวังขมขื่นหนักขึ้นถึงแก่แตกหักกัน สมเด็จพระมหาจักรพรรดิออกผนวช พระมหินทราธิราชขึ้นครองเมืองพระยารามรณรงค์ เจ้าเมืองกำแพงเพชรกราบทูลยุยงว่าพระมหาธรรมราชากระด้างกระเดื่องต่ออยุธยา หันไปสวามิภักดิ์ต่อหงสาวดี ควรจะหันไปหาทางเจริญไมตรีกับกรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้างเอาไว้ พระมหินทราธิราชจึงส่งพระเทพกษัตรีย์ ไปพระราชทานแก่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งล้านช้าง พระมหาธรรมราชาส่งข่าวนี้ไปแจ้งแก่บุเรงนอง บุเรงนองจึงส่งทหารมาดักชิงตัวพระเทพกษัตรีย์ไปหงสาวดี พระมหินทราธิราชทรงแค้น คิดจะกำจัดพระมหาธรรมราชา จึงออกอุบายให้พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชยกทัพมาตีพิษณุโลก แล้วกรุงศรีอยุธยาจะทำทีแต่งทัพขึ้นมาช่วย แต่ความจริงจะตีกระหนาบบดขยี้พิษณุโลกเสียให้สิ้นแค้น พระมหาธรรมราชาทราบความเสียก่อนจึงซ้อนแผนเผาเรือรบกรุงศรีอยุธยาทิ้งจำนวน มาก เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง อภิเษกพระมหาธรรมราชาขึ้นเป็นเจ้าฟ้าพิษณุโลก และประกาศให้พิษณุโลกเป็นประเทศราชขึ้นต่อหงสาวดีมิให้ขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา สืบไป ศึกระหว่างพระสวามีกับพระอนุชาครั้งนี้ บีบคั้นพระหทัยพระวิสุทธิกษัตรีย์จนแทบแตกสลาย ทรงตัดสินพระทัยส่งตลับบรรจุภูษาซับโลหิตจากพระนลาฏไปยังกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเปิดออกทอดพระเนตรเห็นโลหิตพระราชธิดาก็ทรงลาผนวช เสด็จขึ้นมายังพิษณุโลกรับพระวิสุทธิกษัตรีย์กับพระโอรสธิดาทั้งสามลงมา อยุธยาทันที พระเจ้าสงสาวดีบุเรงนองได้ที ทรงอ้างเหตุผลว่ากรุงศรีอยุธยาข่มเหงเมืองพิษณุโลก อันเป็นเมืองในขอบขัณฑสีมาพม่า สั่งให้เตรียมกองทัพใหญ่มาตรีกรุงศรีอยุธยา โดยให้พระมหาธรรมราชาลงมาช่วยทำศึกด้วย พระวิสุทธิกษัตรีย์ทรงทราบ ความก็นิ่งขึง ชะตากรรมลิขิตให้พระสวามีต้องยกทัพมาทำศึกกับพระญาติวงศ์พงศา คนไทยต้องมาทำสงครามกับคนไทยด้วยกันเอง บุเรงนองออกอุบายให้พระยาจักรีเป็นไส้ศึก ปล่อยตัวให้ลอบเข้าวังไปพร้อมกับพระอิฐิพระราเมศวร สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงเห็นพระอัฐิพระราชโอรสก็เสียพระทัยยิ่ง ถึงแก่ประชวรหนัก เพียง ๒๕ วัน ก็เสด็จสวรรคต อยุธยาระส่ำระสาย หลงกลศึกเสียทีบุเรงนอง เจ้าพระยาจักรีเปิดประตูเมืองรับศัตรูเข้ามาในพระนคร ในที่สุด เดือน 9 แรม 11 ค่ำ พ.ศ. 2112 กรุงศรีอยุธยาก็เสียเมืองให้แก่พม่า เสียแม่ เสียพ่อ เสียพี่ เสียน้อง เสียทั้งครอบครัว มาบัดนี้ต้องมาเสียเมืองให้แก่อริราชศัตรูอีก แต่ชะตากรรมของพระวิสุทธิกษัตรีย์จะหมดสิ้นเท่านี้ก็หาไม่ เมื่อบุเรงนองทำพิธีปราบดาภิเษกพระมหาธรรมราชาขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินแทนพระ มหินทราธิราชแล้ว ก็ออกพระโอษฐ์ขอตัวพระนเรศ โอรสองค์กลางไปเป็นพระราชบุตรบุญธรรมที่หงสาวดีอีก พระหทัยพระวิสุทธิกษัตรีย์แทบสลาย เมื่อพระมหาธรรมราชาทรงรับปากถวาย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าพระโอรสถูกนำไปในฐานะตัวจำนำในเมืองศัตรู พระนเรศถูกส่งตัวไปประทับอยู่ ณ กรุงหงสาวดีถึง 6 ปี ทำให้ทรงทราบตื้นลึกหนาบาง กำลังฤทธิ์เดชและจุดอ่อนของพม่าเป็นอย่างดี ในพระราชหฤทัยทรงตระหนักดีว่าภารกิจการกู้ชาติเป็นของพระองค์ จึงเฝ้าอดทนรอวันที่จะได้ลุกขึ้นมาปลดปล่อยคนไทยออกจากการข่มเหงยึดครองของ พม่า เมื่อพระนเรศเจริญพระชันษาได้ 15 ปี พระมหาธรรมราชาก็เห็นเป็นโอกาสดีที่จะทรงขอพระราชโอรสกลับมาเป็นกำลังสำคัญ กอบกู้บ้านเมือง เพื่อมิให้บุเรงนองแคลงพระทัย พระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตรีย์จึงต้องส่งพระราชธิดาองค์โตไปแลก เปลี่ยน พระเจ้าหงสาวดีได้พระสุพรรณกัลยาไปเป็นพระชายาเหมือนอย่างตัวจำนำแทน ก็อนุญาตให้พระนเรศกลับมาช่วยบิดาปกครองบ้านเมือง เมื่อพระสุพรรณกัลยาต้องทรงจากบ้านเมืองไปเป็นตัวประกันในราชสำนักพม่าอย่าง โดดเดี่ยว ต้องทนรับสภาพความทุกข์เกินกว่าที่หญิงใดในโลกจะทนได้ ด้วยการตกเป็นชายาของกษัตริย์พม่าที่มีวัยสูงกว่ามากมายถึงสองพระองค์ เพราะเมื่อบุเรงนองสิ้นพระชนม์แล้ว ยังต้องทรงตกเป็นมเหสีของพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงผู้โหดเหี้ยมสืบต่อมาอีก ด้วย การเสียสละของพระพี่นางครั้งนี้ส่งผลให้พระนเรศหรือสมเด็จพร นเรศวรได้มีโอกาสกลับคืนสู่มาตุภูมิ และทรงลุกขึ้นกอบกู้บ้านเมืองได้สำเร็จ ทรงประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง ปลดปล่อยคนไทยจากการยึดครองของพม่า หลังจากนั้นทรงรบพุ่งเผชิญสงครามกับพม่าตลอดระยะเวลายาวนาน โดยทรงเอาชนะพม่าได้ทุกครั้งจนพระเกียรติระบือลือเลื่อง ในปี ๒๑๓๕ ทรงทำสงครามยุทธหัตถีครั้งประวัติศาสตร์กับพระมหาอุปราชา พระโอรสของพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงที่หนองสาหร่าย สุพรรณบุรี ทรงจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูกพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์บนคอช้าง นับเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก ทว่าวันแห่งชัยชนะต้องแลกมาด้วยหยาดโลหิตของผู้อยู่เบื้องหลัง พระสุพรรณกัลยาทรงทราบข่าวพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ด้วยพระหัตถ์พระอนุชา ก็ทรงตระหนักว่าวันที่ทรงรอคอยตลอดยี่สิบปีในดินแดนศัตรูมาถึงแล้ว ทรงยอมรับชะตากรรมอย่างกล้างหาญเด็ดเดี่ยวเมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงทรง ปรี่เข้ามาหาด้วยโทสะแรงกล้าที่เสียพระราชโอรส แล้วใช้พระแสงดาบฟันสุพรรณกัลยาจนสิ้นพระชนม์พร้อมพระราชธิดาพระองค์น้อย วินาทีนั้น ทรงรู้สึกเป็นอิสระยิ่งกว่าอิสระใดที่เคยทรงประสบมา พระวิสุทธิกษัตรีย์ กษัตริยาผู้อาภัย มิได้ทรงทราบข่าวร้ายนี้เลยจนวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ แม้ในวินาทีสุดท้ายบนภพมนุษย์ ยังทรงเต็มเปี่ยมในพระราชหฤทัยด้วยความหวัง ว่าสักวันหนึ่งจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันห้าพระองค์อีกครั้ง

กาเหว่าที่บางเพลง 2546

กาเหว่าที่บางเพลง (2546/2003) เมื่อ 40 ปีก่อน ณ บ้านบางเพลง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบสอง วันลอยกระทง ประพันธ์ขอแก้วแต่งงานบนฟากฟ้า เวลานั้นเกิดสิ่งผิดปกติขึ้น เมื่อพระจันทร์ทรงกลดทั่วบ้านบางเพลงทุกสิ่งที่บ้านบางเพลงได้ถูกสะกดจาก อำนาจลึกลับให้หยุดนิ่งเป็นเวลา 4 นาทียกเว้นนางประนอมแม่ของประพันธ์ที่บังเอิญอยู่นอกรัศมี และสังเกตเห็นส่งประหลาดนี้เมื่อทุกคนรู้สึกตัวอีกครั้งทุกสิ่งก็เหมือนปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นหนึ่งเดือนประพันธ์ก็ไปทำงานที่พังงา สอง เดือนต่อมาผู้หญิงที่บ้านบางเพลงก็ตั้งท้องพร้อมกันสองร้อยกว่าคน ไม่เว้นแม้แต่เด็กสาว แม่ม่าย ยายชี รวมทั้งแก้วด้วย หลวงพ่อเติมเจ้าอาวาสวัดบางเพลงทราบว่ามหันตภัยกำลังเยือนเข้ามาใกล้พร้อม กับการกำเนิดของเหล่าทารกจากอเวจี ติดตามต่อได้ใน กาเหว่าที่บางเพลง

ไอ้หยาอาตือ 2546

ไอ้หยาอาตือ (2546/2003) เมื่อเสื้อหยกจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮั่นของประเทศจีนมาจัดแสดงที่ประเทศไทย ก็เป็นที่ฮือฮาของผู้คน และทำให้ เสี่ยกังไส พ่อค้าวัตถุโบราณรายใหญ่ต้องการครอบครอง จึงส่งลูกสมุนไปขโมยมา แต่ปรากฏว่าผิดพลาด เมื่ออาตือ สมุนคนหนึ่งถูกตำรวจยิงอาการสาหัส ทำให้ พล.ต.ต.ปืนไทย ผู้บัญชาการตำรวจในคดีนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร ถึงจะสาวไปสู่ตัวผู้บงการใหญ่ได้ ขณะเดียวกัน ชาลินี ลูกสาวเพียงคนเดียวของ พล.ต.ต.ปืนไทย ก็เพิ่งเรียนจบกลับมาจากสหรัฐอเมริกา พร้อมกับ ศักดิ์ระบือ แฟนหนุ่ม ศักดิ์ระบือมีหน้าตาเหมือนกับอาตือไม่มีผิด ต่างกันเพียงอาตือจะมีใฝเม็ดหนึ่งที่ริมฝีปากเท่านั้นเอง พล.ต.ต.ปืนไทย จึงเกิดความคิดที่จะให้ศักดิ์ระบือปลอมตัวเป็นอาตือ ที่ตายไปแล้ว เพื่อสืบหาไปสู่พรรคพวกของเสี่ยกังไสต่อไป โดยมีข้อแม้ว่า หากศักดิ์ระบือทำการนี้สำเร็จ ก็จะยกชาลินีให้แต่งงาน เรื่องวุ่น ๆ กับภารกิจแปลก ๆ นี้จึงบังเกิดขึ้น