ญาติกา 2539

เรื่องย่อ : ญาติกา (2539/1996) หลัง จากขุนไกรตายลงแม่ดาวเรืองก็มาตั้งรกรากอยู่ในกรุงรัตนโกสินทร์ มีลูกหลานสืบมาจนมาถึงพ่อบวรหลานชายคนใหญ่ของตระกูลที่เหมือนจะเป็นพวกนัก เกรงหัวไม้ แต่แท้จริงแล้วชายหนุ่มเป็นคนตรงและรักความยุติธรรมมากกว่า พ่อบวรพบรักกับแม่นวลลูกสาวคนที่สองของคุณพระเพชรบุรีที่ติดตามมารดามาค้า ขายที่พระนคร แม่นวลเป็นคนนิ้มนวลสมชื่อ ตอนแรกหญิงสาวก็ดูจะไม่รักชายหนุ่มอย่างพ่อบวรเท่าไรนักเพราะได้ยิน กิติศักดิ์เรื่องความเป็นนักเกรงหัวไม้ แม่แนบมักจะไปจอดเรือที่ท่าน้ำของคุณหญิงจีบแม่ของพ่อบวรเสมอ จนทำให้ความรักของพ่อบวรกับแม่นวลแน้นแฟ้นยิ้งขึ้น พ่อของพ่อบวร จึงส่งคนไปสู่ขอแม่นวลจากคุณพระเพชรบุรี ท่านไม่ยอมยกให้ด้วยความหวงลูกสาวและไม่ชอบพ่อบวรเป็นทุนจึงเรียกทองหนัก เท่าตัวลูกสาว แม่นวลเสียไปไม่นานพ่อบวรก็มีภรรยาใหม่ แม่สร้อย กับพวงแสด ถูกส่งตัวกลับไปอยู่กับปู่ย่า แม่สร้อยเรียนในโรงเรียนประจำเด็กหญิงมีความสนใจในดาบที่อยู่ในห้องพระของ คุณทวดของเธอมากจนหน้าแปลก ส่วนแม่พวงแสดถูกส่งไปเรียนการเรือนในวัง แล้ววันหนึ่งก็มีคนมาดูตัวแม่พวกแสดแต่ผิดตัวกลายเป็นแม่สร้อยแทน พ่อชวานลูกชายคุณหญิงแว่นเจ้าของโรงเรียนที่แม่สร้อยเรียนอยู่ หลงรักหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็นด้วยความซุกซนเหมือนผู้ชายของแม่สร้อยทำให้หญิง สาวไม่ได้สนใจชายหนุ่มเท่าไรนัก แต่ทั้งคู่ก็ต้องแต่งงานกันจนได้ทั้งที่แม่สร้อยไม่ได้รักพ่อชวานเลยทั้งคู่ ย้ายไปอยู่ที่ต่างจังหวัดด้วยกัน ไม่นานพ่อชวานก็เสีย แม่สร้อยเพิ่งรู้ตัวเองว่ารักชายหนุ่มมากแค่ไหน พร้อมๆกับเพิ่งรู้ว่าตนเองท้องเธอเสียใจมาก และตั้งใจที่จะเลี้ยงลูกชายที่เป็นเหมือนตัวแทนพ่อของเขาอย่างดี ชวาลาเติบโตมาเป็นหนุ่มหล่อเหมือนพ่อเขาจบการศึกษาจากต่างประเทศ และคิดจะออกตามหาดาบคู่ที่แม่มีอยู่และเคยเล่าความเป็นมาให้ฟ้งเขาออกเดิน ท่างไปประเทศพม่าและที่นั้นเขาได้พบกับหญิงอันเป็นที่รักและดาบอีกเล่มที่ ตามหามานาน

เกาะสวาท หาดสวรรค์ 2539

เกาะสวาท หาดสวรรค์ (2539/1996) เกาะสวาทฯ เป็นเรื่องราวของ เพลย์บอยหนุ่มนาม เผดิมพงศ์ (เต๋า-สมชาย) ที่พ่อ แม่ ส่งไปเรียนต่างประเทศก็เรียนไม่จบ เพราะมัวแต่รักสนุก โดยมี มณเฑียร (เอ็กซ์-จตุรงค์) เป็นคู่หู จนสุดท้าย ขุนโภคกิจ (มานพ อัศวเทพ) ผู้เป็นพ่อ ต้องการดัดนิสัยด้วยการส่งไปดูแลกิจการที่ เกาะสวาท เผดิมพงศ์ จำต้องไปทั้งที่ไม่เต็มใจนัก ที่นั่นเขาได้พบกับ นภาพร (นุก-สุทธิดา) และตกหลุมรักเธอในวินาทีแรก แต่ครอบครัวของ นภาพร และ เผดิมพงศ์ นั้นไม่ถูก กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ทั้งคู่จึงต้องกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมา ผู้กำกับฯ คนเก่ง หลุยส์-สยาม ย้อนความหลังถึงเรื่องนี้ให้ฟังว่า ตอนนั้นกระแสตอบรับของละครได้ในระดับหนึ่ง และเป็นเรื่องที่กำกับแล้วสนุกมาก สนุกทั้งที่เป็นละครเพลง เพลงเพราะมาก และสนุกกับการถ่ายทำที่ยกกองไปที่จ.ชุมพร อยู่กับบรรยากาศชายทะเล ซึ่งตอนนั้นมีพายุเข้า และมีน้ำท่วม ทำให้ทั้งดาราและทีมงานติดอยู่ที่ชุมพรเกือบอาทิตย์เพราะ ถนนถูกตัดขาด

ดั่งดวงหฤทัย 2539

ดั่งดวงหฤทัย (2539/1996) เป็นเรื่องราวของแคว้นกาสิก พันธุรัฐ และทานตะ เป็นสามแคว้นที่อยู่ติดกัน กาสิกอยู่ด้านเหนือสุด เป็นแคว้นที่ร่ำรวย และมีทรัพยากรมาก แต่ไม่มีทางออกทะเล พันธุรัฐอยู่กลาง ค่อนข้างอุดมสมบรูณ์ และทานตะอยู่ใต้สุด ซึ่งเป็นแคว้นที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่มีทางออกทะเล กาสิกต้องการทางออกทะเลเพื่อขนส่งสินค้า เพื่อการนี้ รังสิมันต์ เจ้าหลวงแห่งกาสิกจึงตัดสินใจอภิเษกกับเจ้าหญิงแห่งทานตะ รังสิมันต์ กริ้วมากเมื่อทรงทราบข่าวจากกองทหารที่ส่งไปรับเสด็จ เจ้าหญิงมณิสรา พระคู่หมั้นจากแคว้นทานตะ ถวายรายงานว่าเจ้าหญิงหายไปที่รอยต่อชายแดน สามแคว้นคือ กาสิก พันธุรัฐ และ ทานตะ และน่าจะเป็นไปได้ว่าเจ้าหญิงหายเข้าไปในพันธุรัฐ แล้วเหตุใดพันธุรัฐถึงไม่ส่งตัวเจ้าหญิงกลับมา นั้นเท่ากับเป็นการหมิ่นพระเกียรติของเจ้าหลวง แห่งกาสิกอย่างยิ่ง เจ้าหลวงจึงตัดสินพระทัยไปสืบข่าวนี้ด้วยพระองค์เอง แท้จริงแล้ว เจ้าหญิงมณิสราได้ตัดสินใจหลบหนีเองเพราะไม่ต้องการแต่งงานกับชายที่ไม่ได้ รัก โดยเฉพาะยิ่งเป็นเจ้าหลวงกาสิก ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือทางด้านความโหดเหี้ยม เจ้าหญิงควบม้าหนีเข้ามาในชายแดนพันธุรัฐ ด้วยความที่ไม่ชำนาญในการขี่ม้ามากนัก เจ้าหญิงจึงตกจากหลังม้าทำให้ขาแพลง และยังเดินไปติดกับดักตาข่ายล่าสัตว์ของนายพรานถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ ขณะที่เจ้าหญิงกำลังสิ้นหวังและอ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากชายคนหนึ่งนั้นคือ เจ้าชายทยุติธร องค์รัชทายาทของแคว้นพันธุรัฐ เจ้าชายทยุติธรพาเจ้าหญิงมณิสราไปรักษาตัวที่ตำหนักป้อมปืน เจ้าหญิงจึงขอร้องเจ้าชายขอลี้ภัยอยู่ในพันธุรัฐ แต่ถ้าเจ้าชายยังยืนยันที่จะส่งตัวกลับ ก็จะขอให้ฆ่าตัวเองเสียดีกว่า ชายชาติทหารอย่างเจ้าชายทยุติธรจึงจำต้องอนุญาตให้เจ้าหญิงประทับอยู่ชั่วคราว เมื่อเจ้าหญิงทรรศิกา พระขนิษฐาของเจ้าชายทยุติธร ทรงทราบข่าวลับ ๆ ว่าเจ้าชายช่วยเหลือเจ้าหญิงมณิสราไว้ โดยไม่ส่งตัวกลับในกาสิกก็ร้อนใจ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้อาจทำให้เกิดสงครามตามมาได้ จึงตัดสินใจจะไปที่ตำหนักป้อมปืนเพื่อทูลเชิญ เจ้าหญิงมณิสราเสด็จมาประทับฝ่ายในเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียพระเกียรติ แต่ระหว่างทางขบวนเสด็จถูกกลุ่มชายชุดดำซุ่มโจมตี ม้าของเจ้าหญิงเตลิดเข้าไปในป่า พลัดหลงกับองครักษ์ เจ้าหญิงทรรศิกาหนีเข้ามาในป่าเจอกับชายชุดดำ จึงขอร้องให้ช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าเจ้าหญิงกลับถูกวางยาสลบลงในน้ำชา เมื่อฟื้นขึ้น เจ้าหญิงทรรศิกาจึงรู้ว่าถูกเจ้าหลวงแห่งกาสิก ผู้สามารถสั่งตัดหัว ตัดมือนักโทษได้ในระหว่างเสวยโดยไม่สะทกสะท้าน จับตัวมา เจ้าหลวงพยายามสอบถามเกี่ยวกับเจ้าหญิงมณิสรา แต่เจ้าหญิงทรรศิกาก็ไม่ทรงยอมตอบคำถามใด ๆ ซ้ำยังเห็นใจเจ้าหญิงมณิสราที่ต้องโดนบังคับแต่งานกับผู้ชายโหดเหี้ยม ป่าเถื่อนเช่นนี้ เจ้าหลวงโกรธมาก จึงตัดสินใจจับเจ้าหญิงทรรศิกาไว้เป็นตัวประกัน ในขบวนมีแต่ทหารซึ่งเป็นผู้ชายทั้งนั้น เมื่อจู่ๆ ก็มีเจ้าหญิงอยู่ในขบวน เจ้าหลวงจึงสั่งให้ เบนลี ราชองค์รักษ์คู่ใจไปจ้าง กระวาน สาวชาวป่ามาเป็นนางกำนัลชั่วคราวให้เจ้าหญิงระหว่างทาง เจ้าหญิงทรรศิกาหลอกให้กระวานใส่เสื้อของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ใส่เสื้อของกระวาน แอบขโมยม้าหนีออกไปนอกค่าย แต่กลับถูกเจ้าหลวงจับได้ ขี่ม้าไล่ตามมา เจ้าหญิงหนีไปจนถึงน้ำตกตัดสินใจกระโดดน้ำตกหนี ขอตายเสียดีกว่าตกอยู่ในเงื้อมือของเจ้าหลวงรังสิมันต์ เจ้าหลวงพาตัวเจ้าหญิงขึ้นมาจากน้ำตกได้ แต่ก็ทำให้ต้องพลัดกับขบวน เจ้าหลวงโมโหมากที่เจ้าหญิงทรรศิกาทำท่ารังเกียจพระองค์ขนาดนี้ทั้ง ๆที่ตอนแรกได้ปฏิบัติอย่างดีกับเจ้าหญิง ต่อแต่นี้ไปเจ้าหญิงจะได้รู้จักความป่าเถื่อนของชาวกาสิกจริง ๆ เสียที เจ้าหลวงรังสิมันต์พาเจ้าหญิงทรรศิกามาสมทบ กับขบวนที่รออยู่ เจ้าหลวงสั่งลงโทษ ตัดมือกระวานที่ปล่อยให้เจ้าหญิงหนีไป เจ้าหญิงเข้ามาช่วยบอกว่ากระวานเป็นคนของพระองค์ ถ้าจะลงโทษกระวานก็ต้องลงโทษพระองค์ด้วย เจ้าหลวงบอกว่าตอนนี้พระองค์ไม่มีสิทธิเพราะอยู่ในฐานะเชลย แต่ตามประเพณีของชาวกาสิก ชีวิตก็แลกด้วยชีวิต ถ้าอยากให้ยกโทษให้กระวานก็ต้องเอาชีวิตมาแลกกัน เจ้าหลวงให้เรียก ราชิด ทหารคู่ใจอีกคนหนึ่ง ยืนมือให้เจ้าหญิงตัดแทนกระวาน แล้วแกล้งโยนดาบวางให้เจ้าหญิงเลือกว่าจะตัดมือใคร เจ้าหญิงอึ้งในความโหดร้ายของเจ้าหลวง จึงตัดสินใจหยิบดาบ เชือดมือตัวเอง แต่เจ้าหลวงจับไว้ทัน เจ้าหลวงพาเจ้าหญิงทรรศิกาเดินทางลึกเข้ามา ในกาสิกเรื่อย ๆ โดยใช้เส้นทางที่ธุระกันดาร แต่เจ้าหญิงก็ไม่ย่อท้อ หรือปริปากบ่นไม่ว่าเจ้าหลวงจะแกล้งด้วยวิธีใด ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้นิสัยซึ่งกันและกัน ในขณะที่เจ้าหลวงเริ่มรู้จักทั้งความอ่อนหวานและเด็ดเดี่ยวของเจ้าหญิงทรรศิกา เจ้าหญิงทรรศิกาก็เรียนรู้ว่าเจ้าหลวงผู้เอาแต่ใจ ก็มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่เช่นกันและไม่โหดร้ายอย่างที่เห็น สาธิน เสนาบดีมหาดไทยของกาสิก ร้อนใจมากเมื่อไม่สามารถติดต่อเจ้าหลวงได้ มีนา ลูกสาวของสาธิน จึงอาสาไปดักพบเจ้าหลวงที่ตำหนักวสุธรา มีนาเติบโตมาพร้อมกับเจ้าหลวง เบนลี และราชิด เจ้าหลวงเอ็นดูมีนามากเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ฝึกขี่ม้าและยิงธนูให้ มีนาก็สามารถทำได้ดีเท่ากับผู้ชายคนหนึ่ง มีนาแอบหลงรักเจ้าหลวงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเจ้าหลวงประกาศหมั้นกับเจ้าหญิงแห่งทานตะ เธอเจ็บปวดอย่างยิ่งแต่อย่างน้อยหัวใจของเจ้าหลวงก็ยังไม่มีผู้หญิงคน ไหนครอบครองเพราะการแต่งงานครั้งนี้ เจ้าหลวงทำเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมืองเท่านั้น มีนาไปดักพบเจ้าหลวงที่ตำนักวสุธรา จึงรู้ว่าเจ้าหลวง จับเจ้าหญิงทรรศิกามาเป็นเชลย เจ้าหลวงสั่งให้มีนากลับไปบอกสาธินว่าจะประพาสต่อไปตำหนักอิสินธร เรื่องต่างๆ ในเมืองหลวงให้สาธิน เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ส่วนเรื่องเจ้าหญิงมณิสราให้ทางทานตะหาตัวเจ้าหญิงให้พบ ก่อนจึงค่อยพูดเรื่องการอภิเษกอีกที เมื่อกาสิกบีบให้ทางทานตะจัดการเรื่องนี้ เจ้าหลวงแห่งทานตะร้อนใจมากจึงส่งทูตเข้าไปยังพันธุรัฐ เจ้าชายทยุติธรให้เจ้าหญิงมณิสราตัดสินใจเองว่าจะกลับทานตะหรือไม่ เจ้าหญิงฝากจดหมายกลับไปว่าจะขออยู่ที่พันธุรัฐ และ จะไม่แต่งงานกับเจ้าหลวงรังสิมันต์เด็ดขาด ขอให้เจ้าหลวงทานตะคิดเสียว่าไม่มีลูกคนนี้ เจ้าหลวงทานตะถึงกับประชวรเมื่อได้รับจดหมายจากเจ้าหญิงมณิสรา เสนาบดีของพันธุรัฐต่างก็เตือนเจ้าชายทยุติธรว่าทำเช่นนี้อาจเกิดสงครามกับ กาสิกได้ ชาวพันธุรัฐก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวกาสิก แต่เสนาบดีทูลว่าหน่วยข่าวกรองรายงานว่าที่เจ้าหญิงทรรศิกาหายไปอาจถูกทางกา สิกจับตัวไป เจ้าชายทยุติธรยิ่งโกรธ เพราะทำเช่นนั้นเป็นการหมิ่นเกียรติของพันธุรัฐอย่างยิ่ง จึงสั่งให้คนเข้าไปหาทางช่วยเจ้าหญิงทรรศิกาออกมาให้ได้ก่อน พระราชเทวีแห่งพันธุรัฐ เสด็จกลับจากแปรพระราชฐานก่อนกำหนด เจ้าชายทยุติธรพยายามปิดเรื่องที่เจ้าหญิงทรรศิกาหายไป แต่ไม่สามารถปิดเรื่องเจ้าหญิงมณิสราได้ พระราชเทวีจึงสั่งให้เจ้าหญิงมณิสรามาประทับที่ตำหนักฝ่ายใน แทนตำหนักป้อมปืน และสังเกตเห็นว่าเจ้าชายทยุติธรและเจ้าหญิงมณิสรามีกริยาแปลก ๆ ต่อกัน เจ้าหลวงรังสิมันต์พาเจ้าหญิงทรรศิกามายัง ตำหนักอิสินธร และให้เจ้าหญิงปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ พร้อมพระองค์ เจ้าหญิงทรรศิกาเข้าใจว่าทั้งหมดที่เจ้าหลวงทำก็เพราะเห็นเธอเป็นเพียงแค่ ตัวแทนของพระคู่หมั้นเท่านั้น เจ้าหลวงรังสิมันต์ตัดสินใจให้ ราชิด ไปบอกสาธินให้ส่งข้อเสนอใหม่ไปยังพันธุรัฐ นั้นคือพันธุรัฐจะต้องรับผิดชอบในการเสื่อมเสียพระเกียรติของเจ้าหญิงมณิสรา และกาสิกจะรับผิดชอบต่อเจ้าหญิงทรรศิกา แต่สาธิน กลับไม่ยอมส่งสารนี้ และยังลอบวางยา ฆ่าเสนาบดีฝ่ายมหาดไทย โดยใช้มีนาเป็นเครื่องมือ มีนาตกใจมากที่พ่อคิดเป็นใหญ่ครอบครองบัลลังค์กาสิกเสียเอง จึงหนีไปหาเจ้าหลวงรังสิมันต์เพื่อบอกแผนการ แต่เมื่อมาถึงที่อิสินธร ก็พบว่าหัวใจของเจ้าหลวงรังสิมันต์มีเจ้าหญิงทรรศิกา มีนาเสียใจมาก จึงกลับไปเมืองหลวงร่วมมือกับพ่อ ล้มราชบัลลังก์ เจ้าหญิงทรรศิกาแอบได้ยินเรื่องข้อเสนอที่ เจ้าหลวงส่งไป และพร้อมจะทำสงครามถ้าพันธุรัฐไม่ตกลง เจ้าหญิงน้อยใจมากที่เจ้าหลวงรังสิมันต์จะแต่งงานกับตัวเองนั้นก็เพื่อรักษา เกียรติของตัวเอง ไม่ใช่เพราะความรัก เจ้าหญิงทรรศิกาจึงตัดสินใจให้กระวานแอบติดต่อ ราชิด พาหนี เพราะอย่างน้อย ราชิด ก็มีเลือดชาวพันธุรัฐครึ่งหนึ่ง ราชิดซึ่งไม่อยากให้เกิดสงครามอยู่แล้วจึงรับปากพาเจ้าหญิงทรรศิกาหนี แต่โดนเจ้าหลวงจับได้ เจ้าหลวงโกรธมากจนเกือบฆ่าราชิด แต่เจ้าหญิงทรรศิกาทูลขอไว้ ราชิดจึงได้ลดโทษเหลือแค่ขังคุก เจ้าหลวงรังสิมันต์ ทั้งโกรธทั้งน้อยใจที่เจ้าหญิงทรรศิกาทำเช่นนี้ เจ้าหญิงทรรศิกาเองคิดว่าตัวเองจะต้องโดนฆ่าแน่ๆ จากการหนีครั้งนี้ เตรียมตัวยอมรับคมดาบแต่โดยดี แต่ในที่สุดเจ้าหลวงก็หลุดปากสารภาพรักเจ้าหญิงทรรศิกาออกมา ทั้งสองคนเข้าใจกัน เจ้าหลวงตกลงใจจะส่งเจ้าหญิงทรรศิกากลับพันธุรัฐ และมอบมงกุฏแห่งกาสิกให้กับเจ้าหญิงทรรศิกา เพื่อให้เสด็จกลับพันธุรัฐได้อย่างสมพระเกียรติ แต่ระหว่างทางนั้นเอง สาธินก็ส่งคนปลอมเป็นทหารของพันธุรัฐเข้ามาลอบปลงพระชนม์ เจ้าหลวงรังสิมันต์ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เจ้าหญิงทรรศิกาตัดสินใจพาเจ้าหลวงเข้าไปผ่าตัดที่ตำหนักป้อมปืนของแคว้น พันธุรัฐ จึงทราบความจริงว่า เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ฝีมือของเจ้าชายทยุติธร แต่เป็นสาธิน คนของเจ้าหลวงเองที่หักหลัง เจ้าหลวง โกรธมาก ในขณะที่เจ้าหลวงรังสิมันต์พักรักษาตัวอยู่ที่ตำหนักป้อมปืน พระราชเทวี มีรับสั่งให้เจ้าหญิงมณิสราไปคอยดูแลเจ้าหลวงรังสิมันต์ในฐานะที่เป็นพระคู่ หมั้น เจ้าหญิงทรรศิกาจึงหลบหน้าไม่ยอมไปเยี่ยมเจ้าหลวงอีก ในขณะที่ เจ้าชายทยุติธรก็มักจะหงุดหงิดเมื่อเห็นเจ้าหญิงมณิสราคอยดูแลเจ้าหลวง ในที่สุด เจ้าหลวงรังสิมันต์ก็ตัดสินใจบุกเข้าไปหาพระราชเทวี ทูลเรื่องความรู้สึกที่มีต่อเจ้าหญิงทรรศิกาและเรื่องราวทั้งหมด ขออภิเษกกับเจ้าหญิงทรรศิกา พระราชเทวีถามถึงเรื่องเจ้าหญิงมณิสรา เจ้าหลวงบอกว่าที่หมั้นกับเจ้าหญิงมณิสราก็เพราะเพื่อผลประโยชน์ที่ต้องการ ขนส่งสินค้าไปยังทางออกทะเลของทานตะ แต่ตอนนี้ตนรู้แล้วว่าตนไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักได้ และเจ้าหญิงมณิสราก็ขอถอนหมั้นกับตัวเองแล้ว เจ้าหลวงรังสิมันต์ขอให้เจ้าหญิงทรรศิการอ และจะกลับมาหาเมื่อกู้ราชบัลลังก์คืนได้ เจ้าหลวงรังสิมันต์พร้อมด้วยเบนลี ลอบกลับไปที่กาสิกอีกครั้งช่วยราชิดออกมา ร่วมมือกันปราบกบฎ สาธินถูกจับ มีนาขอร้องไม่ให้เจ้าหลวงฆ่าพ่อ เจ้าหลวงก็ยอมเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆ แต่สาธินกลับคว้าดาบเข้าแทงเจ้าหลวง มีนาจึงกระโดดขวางเข้ารับดาบแทนสิ้นใจตาย สาธินเสียใจมากที่พลั้งมือฆ่าลูกสาวตัวเอง จึงฆ่าตัวตายตาม เจ้าหลวงรังสิมันต์เสด็จกลับไปรับเจ้าหญิงทรรศิกามานั่งบัลลังค์ด้วยกันตามสัญญา เจ้าชายทยุติธรได้ราชาภิเษกขึ้นเป็นเจ้าหลวง เสด็จเยี่ยมทานตะอย่างเป็นทางการ และกำลังจะประกาศหมั้นกับเจ้าหญิงมณิสรา ทั้งสามแคว้นจึงอยู่กันอย่างสงบสุขเรื่อยมานับแต่นั้น

111 (ตองหนึ่ง) 2539

111 (ตองหนึ่ง) (2539/1996) เป็นเรื่องราว การผจญภัย ในฐานะสายสืบ ที่สนุกสนาน เฮฮา จากความเปิ่น ในการเสี่ยงอันตราย เข้าไปค้นหา ในด้านหลักฐาน และความจริง ของคดี ของหญิงสาว หน้าตาสวยเด่น แต่งตัวนำสมัย ผู้ซึ่งเป็นบุตรสาว ของเอกอัครราชทูต ซึ่งพึ่งเดินทาง กลับจากต่างประเทศ ซึ่งจากการติดต่อ ขอให้เธอนั้น เข้ามาทำงาน ในกรมตำรวจ เป็นกรณีพิเศษ จากการชักชวน โดยตรง ของท่านอธิบดี ผู้เป็นเพื่อนสนิท ของบิดา ที่ล่วงลับ ซึ่งได้ติดต่อ ขอให้หญิงสาว ซึ่งมีความรู้ ในด้านภาษา อย่างเชี่ยวชาญ เข้ามาทำงาน ในด้านเอกสาร ให้กับทางกรมตำรวจ ก็ทำให้หญิงสาวสวย เจ้าของรหัส ประจำตัว ในการทำงาน คือ 111 ที่มีอุปนิสัย เป็นคนใจร้อน และขาดความระมัดระวัง แม้จะมีความหวังดี ให้กับเพื่อนร่วมงาน ทุก-ทุกคน ซึ่งเข้าไปพัวพัน กับการทำงาน นอกสถานที่ ในการสืบราชการลับ ของเหล่าสายสืบ ในหน่วยงานพิเศษ ของทางกรมตำรวจ ได้สร้างความวุ่นวาย และความน่าปวดหัว ให้กับเหล่าสายสืบ ซึ่งเป็นหนุ่มๆ นายตำรวจ ในหน่วยงานพิเศษ ของกรมตำรวจ หน่วยงานนี้ อยู่เสมอ

แม่นาคพระนคร 2539

แม่นาคพระนคร (2539/1996) แม่นาคพระนคร เป็นภาคต่อของแม่นาคพระโขนง เรื่องราวของแม่นาคที่มีคนหาปลา ทอดแหได้หม้อแม่นาคขึ้นมา จึงทำให้แม่นาคออกมาอาละวาดอีกครั้งหนึ่ง

คุณฉุย 5 2539

คุณฉุย 5 (2539/1996) เด็กหนุ่มคนหนึ่งจากเกาะสมุยที่รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย มีแต่ความซื่อสัตย์เป็นอาวุธ เขาจึงสามารถชนะความรักด้วยความซื่อ

ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม 2539

ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม (2539/1996) ต้น นักศึกษาหนุ่มปีหนึ่ง ในคณะวิศวกรรมศาสคร์ ที่แม้จะอยู่ในวัยที่กำลังสนุกสนานร่วมกันกับเพื่อนๆ แต่ในใจลึกๆแล้วเขากำลังสับสนกับเส้นทางชีวิตในวัยข้างหน้าของตน จากการที่เขานั้นได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางการเป็นวิศวกรตามความต้องการของบิดา ทำให้ในบางครั้ง เขาต้องถามตัวเองว่าลึกๆจริงๆแล้วเส้นทางที่เขาต้องการคืออะไรกันแน่ ในการไปร่วมกิจกรรมในชมรมถ่ายภาพที่ต่างจังหวัดร่วมกับเพื่อนๆ ต้นได้เกิดอุบัติเหตุจนจมน้ำ ท่ามกลางสติที่เลือนราง เขาได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้าเหมือนกับเต้ย ผู้เป็นพี่ชายของเขาที่ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเด็ก จากเหตุการณ์นี้ทำให้ความทรงจำในช่วงวัยเด็กของต้น เกี่ยวกับโรงภาพยนตร์และบ้านหลังเก่าที่มีเต้ย พี่ชายใจดีที่รักศิลปะ รวมไปถึงคำสัญญาที่พี่ชายของเขาได้เคยให้ไว้ว่าจะกลับมาอีกครั้ง ในยามใดก็ตามที่ผู้เป๋็นน้องชายนั้นกำลังต้องการนั้นได้ปรากฎชัดขึ้นตรงหน้าเขาในวันนี้อีกครั้งอย่างน่าอัศจรรย์

นายขนมต้ม 2539

นายขนมต้ม (2539/1996) ที่ป่าโมกข์ แขวงเมืองวิเศษชัยชาญ ขนมต้ม (สมรักษ์ คำสิงห์) เป็นคนไร้ญาติขาดมิตร เนื่องจากพ่อแม่และพี่สาวถูกฆ่าตายจากฝีมือของกองทัพพม่าที่รุกรานอยุธยา ขนมต้มมักจะถูกดำ (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) และพรรคพวก (เขาทราย แกแล็คซี่, วิชัย ราชานนท์) รังแกเสมอ ๆ ดำเป็นศิษย์เอกของ ครูสอน (ทวี อัมพรมหา) ครูมวยไทยและกระบี่กระบองชื่อ ดัง ครูสอนมีลูกสาวคนหนึ่งที่มีนิสัยห้าวหาญเหมือนพ่อ ชื่อ มะขาม (กุลณัฐ ปรียะวัฒน์) มะขามเป็นคนสวย จึงเป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ หลายคน รวมทั้งขนมต้มด้วย ขณะที่ดำชอบพอกับจั๊กจั่น (อุษณีย์ รักกสิกร) เพื่อนสนิทของมะขาม ต่อมาขนมต้มได้รู้จักกับ ชายพเนจรที่ไร้ชื่อ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันท์) สอนวิชามวยไทยให้ ซึ่งชายพเนจรนี้เคยเอาชนะครูสอนในอดีตมาแล้ว ทำให้ขนมต้มเอาชนะดำได้ ดำยอมรับในฝีมือขนมต้ม และทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนรักกัน เมื่อกองทัพพม่ารุกราน ชาวบ้านป่าโมกข์ทั้งหมดก็รวมตัวกันเพื่อต่อต้านกองทัพพม่า ในตอนจบ เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ทุกคนตายหมด ขนมต้มเองก็กลายเป็นคนพเนจรและรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำของคนไทยด้วยกันเอง ที่เป็นต้นเหตุให้เสียบ้านเมือง

ไม้ดัด 2539

ไม้ดัด (2539/1996) การเลี้ยงลูกอย่างเข้มงวดและต้องการให้เด็กเป็นไปตามแบบที่ผู้ใหญ่ต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของเด็ก เด็กจึงเปรียบเสมือนไม้ดัดที่ผู้ใหญ่จะดัดอย่างไรก็ได้ตามใจชอบ จนเกิดเรื่องราวความขัดแย้งและความผูกพันในครอบครัวมากมาย หากแต่พวกเขามีชีวิตและจิตใจเป็นของตนเอง

หักลิ้นช้าง 2539

หักลิ้นช้าง (2539/1996) เขาเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมโดยบังเอิญ กลายเป็นปริศนาลึกลับเกี่ยวโยงกับขบวนการค้าเฮโรอีน จากติดตสมกลายเป็นไล่ล่า และตอบโต้กับทุจริตชนทุกรูปแบบ เพื่อเปิดโปงอาชญากรนั้นให้ได้ แม้ทุกนาทีต้องผจญกับความตาย หักลิ้นช้าง ปฏิบัติการนอกกฏ”บราโว่” โค่นล้มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่

ปะการังสีดำ 2539

ปะการังสีดำ (2539/1996) นราธร เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาทางทะเล เขากำลังวิจัยชนิดปะการังร่วมกับปรัชญา อาจารย์สอนถ่ายภาพและไข่มุก นักศึกษาที่เชี่ยวชาญในการดำน้ำและถ่ายภาพ นราธรสงสัยเรื่องที่ภูมิ พ่อของเขาและเมียใหม่ สายรุ้ง ต้องการซื้อที่ดินในเกาะน้อยใหญ่บริเวณทะเลละแวกนั้น อีกทั้งภูมิได้ขอซื้อที่ดินจากเกาะกะลาด้วย มีเรื่องที่ลึกลับคือเมื่อใครได้เข้าไปยังดงปะการังของเกาะกะโหลกมักจะไม่มีชีวิตรอดกลับมา หรือกลับมาได้มักเป็นบ้าหรือสติฟั่นเฟือน ราวกับกลัวบางสิ่งบางอย่าง และได้มีคนกลุ่มหนึ่งที่ระเบิดปะการังนี้เพื่อหวังสมบัติที่อยู่ข้างใน จึงทำให้วิญญาณของ สาหร่าย ถูกปลดปล่อยออกมาซึ่งเธอถูกฆ่าตายอย่างปริศนาและหาร่างไม่เจอ เธอเป็นญาติห่างๆกับสายรุ้ง แต่ในเวลาต่อมาสายรุ้งรู้ว่าสาหร่ายเป็นชู้กับของภูมิสามีของเธอ จึงสั่งให้ลูกน้องฆ่าสาหร่ายอีกทั้งจะได้เอาความลับที่สาหร่ายรู้ว่ามีสมบัติอยู่ในเกาะกะโหลกนี้ไปด้วย หารู้ไม่ว่านี่เป็นข้อมูลเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ลูกของสาหร่ายกับภูมิรอดชีวิตโดยไม่มีใครรู้ วิญญาณสาหร่ายจึงตามหาลูก แต่แล้วเมื่อมีร่างของปาริชาตถูกน้ำพัดเสียชีวิตที่เกาะ สาหร่ายจึงอาศัยร่างนี้และตั้งชื่อตัวเองว่า ปะการัง ปะการังเริ่มค้นหาลูกและคนที่ฆ่าเธอ ซึ่งสงสัยว่าภูมิอาจเป็นคนบงการ ในขณะที่นราธรและไข่มุกถูกชะตากับปะการังมากและมักพบกับเรื่องแปลกประหลาดอยู่บ่อยครั้ง ในขณะที่ปะการังพบกับกั้ง เด็กวัดกำพร้าก็รู้สึกถูกชะตามาก แต่เธอสิ่งอยู่ในร่างคนตายที่ไม่นานผิวพรรณก็แห้งเหี่ยวเกือบมีสภาพเน่าเปื่อย หานทางเดียวที่รู้คือจะต้องดื่มเลือดมนุษย์เพื่อต่อชีวิตตนเองแม้ว่าไม่อยากจะทำก็ตาม ภูมิเริ่มประสบความสำเร็จในการนำพื้นที่อนุรักษ์มาสร้างเป็นรีสอร์ท ทำให้นราธรและภูมิผู้เป็นพ่อเริ่มแตกคอกัน แต่แล้วภูมิก็ได้พบกับปะการังและรู้ว่าสาหร่ายสิ่งอยู่ในร่างนั้น และปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนฆ่าเธอ สาหร่ายจึงได้ใช้อำนาจบังคับให้ภูมิหาเลือกมนุษย์มาให้เธอไม่อย่างนั้นเขาจะฆ่าเธอ ภูมิจึงจำใจต้องทำ จนกระทั่งได้สืบรู้ว่าสายรุ้งเป็นคนบงการฆ่าสาหร่าย สายรุ้งกลัวสาหร่ายมากจนหมดสติไป ส่วนกั้งก็คือลูกชายของสาหร่ายนั่นเอง เมื่อสาหร่ายคลายปมในใจได้แล้วเธอก็พร้อมที่จะจากไปอย่างสงบ ได้มีการจัดงานศพให้กับเธอ ส่วนภูมิก็สำนึกผิดและรับกั้งไปเลี้ยงดู พร้อมกับเลิกทำลายธรรมชาติ สายรุ่งเสียสติจนเป็นบ้า ส่วนนราธร เมฆ และไข่มุก ช่วยสืบสานการอนุรักษ์ธรรมชาติให้อยู่คู่กันตลอดไป

บ้านสอยดาว 2539

บ้านสอยดาว (2539/1996) บ้านสอยดาว เป็นละครโทรทัศน์ไทย ที่สร้างจากนวนิยายของ โบตั๋น เดิมชื่อเรื่องคือ สุดสายรุ้ง เป็นเรื่องราวของอดีตที่ขมขื่นและเจ็บช้ำ จึงทำให้เขาทำทุกสิ่งเพื่อแก้แค้นคนในตระกูล "สอยดาว" แต่ท้ายสุดใครจะเป็นผู้สูญเสียที่แท้จริง

รักเร่ เร่ร้างรัก 2539
ละครเล่ห์เสน่หา 2539

เรื่องย่อ : ละครเล่ห์เสน่หา (2539/1996) เรื่องราวของ "นัฏศิมา" สาววัยเบญจเพส ที่ถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานกับชายหนุ่ม ผู้เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทของครอบครัวที่ชื่อ "อธิคม" เมื่อรู้ว่าถูกพ่อแม่บังคับ กำหนดเอาไว้แล้ว นัฏศิมารู้สึกต่อต้าน จึงไปปรึกษากับพี่ชายลูกพี่ลูกน้อง และคิดแผนการต่างๆ นานาร่วมกัน เล่นละครตบตาอธิคม เพื่อจะได้ไม่ต้องแต่งงาน แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า ลูกพี่ลูกน้องที่แสนดีในความรู้สึกของเธอ กลับหักหลังโดยเธอไม่รู้ตัว คิดแผนซ้อนแผนอีกที โดยมีพ่อแม่ของทั้ง "นัฏศิมา"และ "อธิคม" รวมถึงตัว "อธิคม" เองด้วย ที่รวมหัว ร่วมมือกันเล่นละครตบตาเธออีกชั้นหนึ่ง เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร และละครซ้อนละครเรื่องนี้