ช่อปาริชาต 2531
แต่ปางก่อน 2530

เรื่องย่อ : แต่ปางก่อน (2530/1987) พ.ศ. 2490 “ราชาวดี” สาวน้อยวัย 17 ปี เมื่อจบการศึกษาแล้วก็ได้เดินทางมาที่โรงเรียนกุลนารี เพื่อสมัครเป็นครูตามความประสงค์ของมารดาที่ล่วงลับ ไปแล้ว “กาบทอง” อาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนรับราชาวดีเข้าเป็นครูด้วยความเต็มใจ เพราะเธอกับแม่ของราชาวดีเคยรู้จักกันมาก่อน นับแต่ก้าวแรกที่ ราชาวดีเหยียบย่างเข้ามาในเขตโรงเรียนซึ่งเป็นวังเก่าก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะเหมือนมีใครตามเธออยู่ห่าง ๆ และยิ่ง “ถวิล” เพื่อนสนิทของเธอเล่าถึงความน่ากลัว ของเสด็จในกรมฯ และท่านชายรังสิธรผู้เป็นโอรสและเจ้าของวัง ซึ่งล่วงลับไปแล้ว ยิ่งทำให้ราชาวดีสนใจวังนี้มากขึ้นไปอีก คืนแรกที่ราชาวดีเข้าพัก เธอก็ได้ฝัน ถึงวังอันรโหฐาน และเพลงไทยเดิมที่ชื่อ “ลาวม่านแก้ว” อันแสนไพเราะ และชายหนุ่มที่เรียกเธอว่า “เจ้านางน้อย” แต่ไม่ทันได้เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นราชาวดี ก็สะดุ้งตื่นเสียก่อน ราชาวดี ต้องการหาคำตอบว่าสิ่งที่เธอฝันนั้นคืออะไร จึงแอบเข้าไปในวังซึ่งถูกทิ้งร้างมานานจนทรุดโทรม ที่นั่นราชาวดีได้พบกับ “จางวางจัน” ข้ารับใช้ ้เก่าแก่ของเสด็จในกรมฯ ราชาวดียิ่งแปลกใจมากขึ้น เมื่อจางวางจันเรียกเธอว่า “เจ้านางน้อย” เหมือนผู้ชายคนนั้นในฝันของเธอ จางวาง จันชวน ราชาวดี ไปที่ ตำหนักริมน้ำแต่เธอปฏิเสธ ระหว่างเดินทางกลับราชาวดีรู้สึกเหมือนมีใครบางคนดึงดูดเธอให้ตามเขาไปโดย ไม่รู้ตัว ราชาวดีรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่ายืนอยู่หน้าบ้าน สีขาว ราวบ้านในเทพนิยาย เธอรู้ทันทีว่านี่คือตำหนักริมน้ำที่จางวางจันชวนเธอมา กาบทองพาราชาวดีไป กราบหม่อม “พรรณราย” เจ้าของโรงเรียน ทำให้ได้ พบกับ “ม.ร.ว. จิรายุส” ลูกชายของหม่อมและ “สวรรยา” คู่หมั้น หม่อมพรรณรายประหลาดใจ ที่ราชาวดีหน้าตาเหมือนเจ้านางน้อยไม่มีผิดเพี้ยน เพราะตอนเด็กๆหม่อมเคยพบกับเจ้านางน้อย แต่ท่านก็ไม่ทราบรายละเอียดความเป็นมาของเจ้านางจากลาวผู้นี้มากนัก และดูเหมือนท่านจะไม่อยากพูดถึงเรื่องในอดีตนี้ด้วย ราชาวดีหาโอกาส ปลีกตัว ไปที่ตำหนักริมน้ำบ่อยครั้ง จนได้พบกับผู้ชายผู้เป็นเจ้าของตำหนัก เธอรู้สึกสนิทคุ้นเคยเหมือนรู้จักกันมานาน ชายคนนั้นให้ราชาวดี ดูรูปเจ้านางน้อยที่อยู่ใน ตำหนัก ทำให้ราชาวดีถึงกับหมดสติไป เพราะภาพที่เห็นช่างเหมือนตัวเธอราวคน ๆ เดียวกัน เมื่อฟื้นจากสลบ ก็พบว่าตนเองได้เข้ามาอยู่ปี พ.ศ.2453 ในสภาพเจ้านางน้อย ราชาวดีได้พบกับท่านชายใหญ่หรือ “ท่านชายรังสิธร” ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอ หมดสติไปอีกครั้ง เมื่อได้สติขึ้นมา คราวนี้ราชาวดีพบว่าตัวเองนอนสลบอยู่บนเตียง โดยมีบรรดาครูรุมล้อมด้วยความห่วงใย ถวิลเล่าให้ราชาวดีฟังว่า จางวางจัน พบเธอนอนสลบอยู่ในสวนหน้าวัง ราชาวดีสารภาพว่าเธอแอบเข้าไปที่ตำหนักริมน้ำ ราชาวดีได้พบวิญญาณท่านชายใหญ่อีกครั้งในงานประจำปีของโรงเรียน โดยเธอได้บรรเลงไวโอลินเพลง “ลาวม่านแก้ว” ทำให้ท่านหญิงวิไลเรขา ป้าแท้ๆ ของจิรายุส ขวัญผวา เพราะก่อนหน้านั้นวิไลเรขาเคยเป็นคู่หมั้นของท่านชาย ใหญ่ตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่ แต่ท้ายที่สุดท่านชายใหญ่ก็ขอถอน หมั้นกับเธอ แล้วไปแต่งงานกับเจ้านางน้อย ส่วนเพลง “ลาวม่านแก้ว” เป็นเพลงที่ท่าน ชายใหญ่แต่งให้เจ้านางน้อย และถูกนำมาบรรเลงในวันแต่งงาน วิไลเรขาเกลียดราชาวดีเพราะคิดว่าเป็นเจ้านางน้อยกลับชาติมาเกิดเพื่อจองเวรกับเธอ ดัง นั้นวิไลเรขาจึงแกล้งให้ราชาวดีมาอยู่รับใช้ช่วงปิดเทอม ราชาวดีถูกวางยาให้ป่วยทีละน้อย เหมือนที่วิไลเรขาเคยทำกับเจ้านางน้อยในอดีต จิรายุสนำตัวราชาวดี ส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ซึ่งก็ทำให้วิไลเรขาโกรธมากจนป่วยหนัก ก่อนที่วิไลเรขาจะสิ้นลมเธอได้บังคับให้จิรายุสเต่งงานกับสวรรยา และหลังการแต่งงาน ทั้งคู่เกิดการทะเลาะกันใหญ่โตสวรรยา ทวงทุกสิ่งทุกอย่างจากชายหนุ่ม หม่อมพรรณรายได้ยินทุกอย่างทำใจรับ ไม่ได้ท่านหัวใจวายทันที่แต่ก็ยังทันเห็นหน้าหลานชายคนเดียวก่อนเสีย จิรายุสเสียใจมากเพราะทั้งชีวิตเขาเหลือเพียงแม่คนเดียว เขาหย่าขาดจากสรรยาโดยเลี้ยงลูกชายเพียงคนเดียว คือ “จิราคม” ราชาวดีตัดสินใจลาออกจากการเป็นครูแล้วกลับมาที่อุดรฯ โดยมี วิญญาณ ของท่านชายใหญ่ติดตามมาเป็นกำลังใจ กระทั่งคืนหนึ่งท่านชายได้มาบอกลาเธอ ราชาวดีเสียใจที่จะไม่ได้พบท่านชายแล้ว แต่ถ้าเป็นการ จากลาเพื่อ ได้พบกันใหม่ราชาวดีก็ยินดี จากนั้นเธอก็ตัดกิเลสทางโลกเข้าวัดบำเพ็ญกุศล ราชาวดีป่วยหนัก เมื่อถวิลไปเยี่ยมก็พบเพียงกาบทองมาเยี่ยมถวิลที่บ้านและได้พบกับอันตราก็ ถึงกับอึ้งไป เพราะอันตรามีหน้าตาเหมือนราชาวดีเหลือเกิน อันตรา อาสามาส่งกาบทองที่บ้าน ทำให้เธอได้พบกับจิรายุส เมื่อจิรายุสได้พบอันตราก็รู้สึกเอ็นดู อันตราชอบตำหนักริมน้ำของจิรายุสมาก เธอพยายามขอ ซื้อแต่ ไม่สำเร็จ เพราะจิรายุสตั้งใจเก็บไว้มอบให้จิราคมในวันแต่งงาน อันตรามักจะไปที่ตำหนักริมน้ำบ่อย ๆ จนได้เจอจิราคม ทั้งคู่รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟอ่อน ๆ แล่นพล่านไปทั้งตัว อันตราตกใจรีบหนีออกมา แต่ทั้งคู่ก็ต้องมาพบกันอีกครั้งในงานราตรี จิราคมเดี่ยวเปียโนเพลง “ลาวม่านแก้ว” ซึ่งอันตราโปรดปรานมาก เพราะแม่ของเธอเคยร้องให้ฟังตอนเธอเด็ก ๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จิรายุสไปทาบทามอันตรามาเป็นสะใภ้ พร้อมกับเปรยว่า การรอคอยของท่านชายใหญ่ และเจ้านางน้อยสมควรจะจบสิ้นลงได้แล้ว อุปสรรคต่าง ๆ ได้ผ่านพ้นไป ทั้งคู่เข้าสู่พิธีวิวาห์ และสัญญาต่อกันว่าจะดูแลกันไปจนแก่เฒ่า ท่ามกลางบรรยากาศหวานละมุนของเสียงเปียโน เพลง “ลาวม่านแก้ว” ที่จิราคมเซอร์ไพรส์เจ้าสาวในวันแต่งงาน ออกอากาศทางช่อง 3 ระหว่าง เดือนมกราคม ถึง วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2530

เงา 2530

เรื่องย่อ : เงา (2530/1987) ท่านชายวสวัตดีมาร เป็นเทพเจ้าแห่งความตาย ที่มาอาศัยบนโลกมนุษย์ เป็นเวลายาวนานมาก ตั้งแต่ครั้นโบราณกาล โดยท่านได้ใช้ตัวท่านในอดีตแทนว่าเป็น บิดา หรือ ปู่ ของพระองค์ ท่านสามารถล่วงรู้ความคิดมนุษย์ได้ ท่านเป็นมิตรกับอิศรา ท่านได้ผิดหวังกับการกระทำของมนุษย์ ท่านคิดว่าคงไม่มีมนุษย์ที่เลวแต่กลับตัวได้ จนท่านได้พบกับอิศรา อิศราผู้เกิดมาในตระกูลร่ำรวย แต่ปราศจากความรัก ถูกเลี้ยงดู มาด้วยเงิน ทั้งชีวิตเขารู้จักแต่ความสุขสบาย รู้จักแต่เที่ยวเล่น ไม่เคยทำงาน อิศราเข้าใจว่าเมื่อคุณย่าสิ้นเขาจะได้ครอบครอง สมบัติทั้งหมด ทว่า..คุณย่าผู้สูงศักดิ์แต่เคยใจดำกับคนรอบข้าง แม้แต่บุตรชายคนเล็กของตนเอง จะทำพินัยกรรมเพื่อแก้ไข ชดเชยความผิดพลาดในอดีต ทำให้ "เจริญขวัญ" ได้รับคฤหาสน์ ที่ควรจะเป็นของอิศรา ชายหนุ่มจึงคิดหลอกสาวบ้านนอก แสนซื่อแต่งงานเพื่อรวบมรดก...แต่อีกใจก็ยังมีความดีหลงเหลือบ้าง ทว่า บททดสอบของความรัก และความดีเลวในชีวิตกลับเริ่มขึ้น ด้วยเดิมพันความหวังในตัวมนุษย์ของท่านชายวสวัตครั้งสุดท้าย

หนุ่มทิพย์ 2530

หนุ่มทิพย์ (2530/1987)เด่นชาติ หรือ ตาเด่น ชายหนุ่มแห่งคลองตาขาว จังหวัดนครปฐม ถูกรถสิบล้อพุ่งเสยในงานแต่งงานตัวเอง เมื่อเด่นตายไปแล้วได้ขึ้นสวรรค์ แต่ก็อยู่บนสวรรค์ไม่ได้ เพราะไม่มีชื่อในบัญชี จึงถูกไล่ไปลงนรก พอลงนรกแล้ว ปรากฏว่ายมทูตต้องให้เด่นชาติฟื้นขึ้นมาอีกที เพราะเกิดความผิดพลาดในระบบบัญชีนรก เมื่อเด่นฟื้นมาแล้ว จึงมีญาณพิเศษมองเห็นและติดต่อกับสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติต่าง ๆ ได้ ทั้ง ยมทูต, กระสือ, เงือก, เทวดา ตลอดจน เจ้าพ่อเจ้าแม่ พร้อมกับเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามมาที่สะเทือนความเชื่อของคนคลองตาขาว ขณะที่เด่นเองก็ต้องขอ แฟนใหม่ แต่งงานอีกครั้ง แต่ว่าที่แม่ยายไม่ยิมยอมเพราะหาว่าเด่นบ้าที่อ้างว่าเห็นวิญญาณต่าง ๆ

Placeholder
แก้วราหู 2529
เปรต 2529
ภูตพิศวาส 2528
สาปอสูร 2527
พัชราวลัย 2526
เงา 2525

เงา (2525/1982) หญิงสาวพลิกตัวอีกครั้ง ซุกมือไว้ข้างหมอน หลังตาลงอย่างมีความสุข ระหว่างที่กึ่งหลับกึ่งตื่น สมองส่วนหนึ่งเตือนให้รู้ว่า มีเงาดำๆ หลายร่างมาก้มชะเงื้อมง้ำอยู่เหนือเตียงนั้น หากแล้วเสียงทุ้มนุ่มนวลไพเราะ แต่ทรงอำนาจก็กังวานขึ้นอย่างเด็ดขาด "กลับไป ยังไม่ถึงเวลา ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้า" เงาดำๆ ทั้งกลุ่มชะงัก ถอยกลับไปอย่างลนลาน แล้วร่างดำทะมึนสูงตระหง่านก็กลับปรากฏขึ้นโดยกะทันหัน ส่วนใบหน้าที่อยู่ในเงามืดก้มลงมองอย่างเยือกเย็น พร้อมมีเสียงกระซิบเบาๆ อย่างเหี้ยมเกรียมว่า "หลับให้สบายใจ ฝันถึงความสุขสนุกสบายที่เจ้าปรารถนาให้เต็มที่ แล้ววันหนึ่งเราจะได้พบกับเจ้าโดยสมบูรณ์ เจ้าจะได้รู้ว่า...เราคือใคร!" บางทีเงานั้น ยามนี้กำลังประทับยืนอยู่ใกล้เราแล้วกระมัง

ภูตพิศวาส (2523/1980) มารุต...ชายหนุ่มที่มีอนาคตไกลเป็นถึงทนายความมือหนึ่ง แต่แล้วก็มา พานพบกับความรักแท้กับ "ภูตสาว" ที่ตกอยู่ใต้อำนาจของปีศาจร้ายที่คอยคุม ให้เธอกระทำความผิดด้วยการ "ดูดเลือด" จากชายหนุ่มที่มาตกหลุมรักเสน่ห์สาว ของเธอ ทว่า สำหรับเขาแล้วได้ใช้ "สติ" และ "ความรักแท้" เป็นเครื่องนำพา เขาได้ผ่าน "ความตาย" ในครั้งนั้นได้สำเร็จ และได้รับรู้ว่า ภูตสาวตนนี้ คือ ภูตพิศวาส ของเขาแน่นอน ดาว...ผีดิบสาวที่มีความวาดหวังอยากจะเป็นคนอย่างสมบูรณ์ และเมื่อ "พบรัก" แล้วก็มีความรักอย่างมั่นคง แม้จะรู้ล่วงหน้าแล้วว่าเธอจะต้องพบ ความร้าวรอนที่หนักหน่วงหัวใจ แต่เธอก็พร้อมที่จะก้าวผ่านขวากหนามให้ผ่านพ้น ไปได้ โดยใช้ทั้งความรักและความจริงใจเป็นตัวพิสูจน์ ทั้ง มารุตและดาว ต่างผ่านอุปสรรคและพิสูจน์รักแท้ว่ามีความหมาย มีค่า มากกว่าราคาสิ่งใดๆ และรู้ว่าเขาและเธอต่อให้พรมแดนเขตแคว้นกว้างใหญ่ เพียงไหน จะกี่ภพหรือจะกี่ชาติถ้าใจทั้งสองต่างผูกใจกันก็จะไม่มีวันพรากจากกัน

หน้าที่