ใต้ฟ้า ตะวันเดียว (2553/2010) วินดี้ (ฉัตร ปริยฉัตร) พบรักกับปาร์คชองมิน (ไรอัน วงพารัน) ขณะไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ อเมริกา เมื่อเรียนจบชองมินชวนวินดี้ไปเที่ยวบ้านเกิดของเขาที่เกาหลี และขอวินดี้แต่งงาน โดยสัญญาว่าจะรีบให้พ่อแม่ไปสู่ขอเธอที่เมืองไทย วินดี้ดีใจมาก แต่ลึก ๆ แล้วแอบกลุ้มใจ เพราะรู้ว่าทุกคนในครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะคุณยายพนอจัน (เปียทิพย์) เกลียดคนเกาหลีมาก ซึ่งทั้งแม่ฤทัย (รัชนู บุญชูดวง) และ น้าศจี (ปู นริสรา) ต่างก็พากันบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่เธอถามถึงสาเหตุ ติดตามต่อได้ใน ใต้ฟ้าตะวันเดียว

สกุลกา (2552/2009) ดวง (รัชนีกร พันธ์มณี) สาวใช้ในบ้านเศรษฐีตระกูลกาญจนโรจน์ แอบมีความสัมพันธ์กับรัตน์ (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) ลูกชายเจ้าของบ้านจนตั้งท้อง พอแม่ของรัตน์รู้จึงบังคับให้ดวงทำแท้ง ดวงจึงต้องหนีมาอาศัยอยู่กับสุดา (ณหทัย พิจิตรา) พี่สาวที่บ้านเช่าในสลัม สุดามีอาชีพรับจ้างซักรีดมีรายได้เดือนละไม่กี่พัน เมื่อดาว (วรรณรท สนธิไชย) ลูกสาวของดวงเกิดมา ก็ป่วยหนักต้องใช้เงินมากมายในการรักษา ดวงไม่มีเงินจึงจำต้องขายตัวหาเงินมารักษาลูก และตั้งแต่นั้นเธอก็ทำงานเป็นหญิงบริการเรื่อยมา เพื่อเก็บเงินส่งเสียให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ แต่ดวงก็ละอายใจเกินกว่าจะให้ลูกเรียกเธอว่าแม่ จึงขอร้องให้สุดารับดาวเป็นลูกแทน จนกระทั่ง 17 ปีผ่านไป ดาวเติบโตขึ้นมาในโรงเรียนคอนแวนต์ เป็นเด็กสาวที่บริสุทธิ์งดงาม และเข้าใจว่าเธอเป็นลูกสาวของสุดา และดวงเป็นเพียงน้าสาว ติดตามต่อได้ใน สกุลกา

รอยรักรอยบาป 2552

เรื่องย่อ : รอยรักรอยบาป (2552/2009) แม้วันเวลาจะผ่านไปกี่ภพ กี่ชาติ แรงแค้นพยาบาท ก็ไม่มีวันจางหาย จะจดจำเป็นรอยรัก รอยบาป ติดตัวเธอตลอดไป จนกว่าความแค้นในใจจะสิ้นสุด

รัชกาลที่ 5 ราวพุทธศักราช 2450 หรือรัตนโกสินทร์ศก 126 ที่บ้านของพระยาวิสุทธิ์ (อัมรินทร์ นิติพน) เจ้าพระยาที่ได้ขึ้นชื่อว่ารูปงามและร่ำรวยทั้งศักดินาและทรัพย์สิน ซึ่งมีทาสในอาณัติปกครองนับร้อยคน หนึ่งในนั้นคือ จวน (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) สาวน้อยวัยสิบแปด ลูกของทาสสม (พงษ์ประยูร ราชอาภัย) กับทาสมี (วาสิฎฐี ศรีโลฟุ้ง) ที่เลื่องชื่อกิตติศัพท์เรื่องความงาม จนคุณระย้า (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) ภรรยาของพระยาวิสุทธิ์ไม่พอใจเพราะรู้ว่าพระยาวิสุทธิ์ แอบหมายปองจวนอยู่ อีกทั้งคุณระย้าเองไม่มีบุตรสืบสกุล คุณระย้าจึงพยายามหาทางกันไม่ให้จวนเข้ามายุ่งบนเรือนใหญ่ อ้างว่าทาสสมกับทาสมี แก่แล้วและอีกอย่างก็ไม่ค่อยสบาย จวนควรจะอยู่ดูแลพ่อแม่เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ คุณระย้าให้เงินจวนพาพ่อกับแม่ไปหาหมอ จวนซึ้งใจในพระคุณของคุณระย้ามาก

ภายใต้หน้ากากอันดีงามไม่มีใครรู้ว่าคุณระย้าซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ คุณระย้าคิดจะกำจัดจวนอย่างเงียบๆ โดยอาศัยมือของ ทองเกลียว (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ภรรยาคนที่สองของเจ้าพระยาวิสุทธิ์ เพราะ ทองเกลียว ขี้หึงและเป็นคนโผงผาง

คุณระย้าออกตัวว่าเงินทองที่จวนได้ใช้จ่ายอย่างสุขสบายเป็นของกำนัลที่พระยาวิสุทธิ์ให้ เมื่อทองเกลียวรู้ก็โกรธจนตัวสั่น นึกว่าพระยาวิสุทธิ์เสน่หาจวนถึงกับมอบของกำนัลให้ แม้จวนจะปฏิเสธก็ไม่ฟัง คุณระย้ามาปลอบอกปลอบใจจวนพร้อมทั้งบอกให้จวนอย่าไปถือสาคนอย่างทองเกลียว นับวันจวนยิ่งให้ความเคารพนับถือคุณระย้า

คุณระย้าเองก็พอใจมาก ที่ทั้งทองเกลียวและจวนไม่ได้คิดระแวงตน เมื่อมีเรื่องคับข้องใจทั้งสองคนก็จะมาระบายให้คุณระย้าฟัง และคุณระย้าก็จะถือโอกาสยุแยงตะแคงรั่วโดยที่ทั้งทองเกลียวและจวนไม่เคยระแวงสงสัย เพราะภายนอกคุณระย้าคือผู้ใหญ่ที่แสนดี

จวนมีคนรักคือทาสบุญ(นนทพันธ์ ใจกันทา) และเพื่อนสนิทคือ อิ่ม(ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) ซึ่งเป็นทาสสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับจวน อิ่มมีคนรักอยู่แล้วคือ ยิ่ง ที่เป็นทาสหนุ่มวัยฉกรรจ์ ทั้งจวนและอิ่มหวังจะใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รักในบั้นปลาย

วันหนึ่งพระยาวิสุทธิ์ไปตกปลาที่ลำธาร และบังเอิญได้เจออิ่มเข้า พระยาวิสุทธิ์เกิดความเสน่หาอิ่มจึงใช้กำลังปลุกปล้ำจนอิ่มตกเป็นของพระยาวิสุทธิ์ อิ่มเสียใจมาก พยายามที่จะปกปิดความลับทุกอย่างเพราะกลัวยิ่งจะรู้ความจริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะพระยาวิสุทธิ์เกิดละอายและยอมรับผิดชอบอิ่มเป็นเมียคนที่สาม อิ่มเสียใจมากที่ไม่อาจรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองและได้ครองคู่กับยิ่งอย่างที่ฝัน นับวันจวนยิ่งมองภาพพระยาวิสุทธิ์เป็นคนใจร้ายและมักมากในกามคุณ

คุณระย้ากับทองเกลียวโกรธมากที่พระยาวิสุทธิ์เลื่อนขั้นให้อิ่มขึ้นมาเป็นภรรยาอีกคน ทองเกลียวเอะอะโวยวายลั่นบ้าน ในขณะที่คุณระย้าเงียบสงบยอมรับอิ่มเข้ามาเป็นภรรยาคนที่สามแต่โดยดี ไม่มีใครรู้ว่าคุณระย้าแอบร้องไห้ราวกับน้ำตาจะออกมาเป็นสายเลือด ด้วยความช้ำใจที่สามีทรยศทั้งที่คุณระย้า คือลูกสาวของเจ้าพระยาน้อยที่สูงศักดิ์ ไม่ใช่ลูกทาสที่ต่ำศักดิ์อย่างทองเกลียว หรือ อิ่ม คุณระย้าวางแผนที่จะกำจัดอิ่มโดยอาศัยมือของทองเกลียวอีกครั้ง โดยอาศัยคนใช้คู่ใจอย่างยายทอง ปากเหม็นเป็นหอกระจายข่าว และยายทองก็ทำหน้าที่กระจายข่าวไปจนทั่วว่าตอนนี้พระยาวิสุทธิ์ทั้งรักทั้งหลงอิ่มมาก

ไม่ใช่เรื่องยากเพราะทองเกลียวเป็นคนโวยวายโผงผางไม่มีสติ ทองเกลียวเชื่อทุกเรื่องที่ยายทองมาเล่าและคุณระย้านำมาปรับทุกข์ ทั้งที่เรื่องอิ่มขอให้พระยาวิสุทธิ์ยกเป็นเมียเดียว เมื่อพระยาวิสุทธิ์ไปว่าราชการต่างจังหวัด ทองเกลียวและพรรคพวกจึงบุกเข้ามาตบตีอิ่ม ทั้งที่ขณะนั้นอิ่มตั้งท้องได้สามเดือน เมื่อจวนเข้าไปช่วยก็ถูกทองเกลียวตบตี และสั่งทาสโบยจวนจนหมดสติ

คุณระย้าให้คนไปดูแลพยาบาลจนจวนฟื้น เมื่อพระยาวิสุทธิ์กลับมา จวนจึงเล่าความร้ายกาจของทองเกลียวให้ฟัง พระยาวิสุทธิ์โกรธมาก สั่งไล่ทองเกลียวออกไปเป็นทาสเหมือนเดิม ทองเกลียวโกรธมากเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเป็นตุ๊กตาให้คุณระย้าเชิด

ทองเกลียวพยายามหาทางตักเตือนอิ่มกับจวน ว่าคุณระย้าคิดจะกำจัด แต่อิ่มกับจวนไม่เชื่อทองเกลียว เพราะภายนอกทองเกลียวเป็นคนปากร้ายและเจ้าคิดเจ้าแค้น จวนกับอิ่มจึงหาทางหลบเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยวกับทองเกลียว และเลือกที่จะเชื่อคุณระย้า ทั้งจวนและอิ่มเอาเรื่องที่ได้รู้มาไปบอกคุณระย้า ว่าคุณระย้าคิดจะฆ่าทั้งสองคน แต่ทั้งสองคนไม่เชื่อคำพูดของคนอย่างทองเกลียว

คุณระย้าเสียอีกที่แค้นฝังหุ่น ทองเกลียว เพราะทองเกลียวเอาความลับของเธอไปโพนทะนา คุณระย้าวางแผนกำจัดทองเกลียว โดยอาศัยมือของอิ่ม โดยการออกอุบายว่า ทองเกลียวเอายาสมุนไพรบำรุงครรภ์มาให้อิ่มกิน ทั้งๆที่ความจริง คุณระย้าเอามาให้เอง ผลปรากฏว่าอิ่มตกเลือด ตั้งท่าจะแท้ง พระยาวิสุทธิ์โกรธมากสั่งโบยทองเกลียวปางตาย ทองเกลียวลั่นปากว่าชาตินี้จะจองล้างจองผลาญคุณระย้าไปจนตาย พระยาวิสุทธิ์ได้ยินจึงสั่งทำร้ายทองเกลียวเพิ่ม จนทองเกลียวเป็นบ้าวิกลจริตไป อิ่มกับจวนยิ่งโกรธทองเกลียวหาว่าให้ร้ายคนดีๆอย่างคุณระย้า

พระยาวิสุทธิ์ยังคงมีใจเสน่หาต่อจวน เมื่อมีโอกาสจึงปลุกปล้ำจวน แต่บุญเข้ามาช่วยได้ทัน บุญขอร้องด้วยชีวิตขอให้พระยาวิสุทธิ์ปล่อยจวนไป พระยาวิสุทธิ์ไม่ยอม บอกสักวันจะเอาชนะใจจวนให้ได้

คุณระย้ารู้เรื่องด้วยความเจ็บปวด เจ็บช้ำ แต่พยายามเก็บกดความรู้สึกเจ็บปวดทุกอย่าง คุณระย้าไปยุแหย่อิ่มบอกว่า จวนกำลังจะเข้ามาแทนที่อิ่ม เพราะพระยาวิสุทธิ์คิดจะยกย่องจวนเข้ามาเป็นเมียอีกคน ถ้าอิ่มอยากให้ลูกที่เกิดมาเป็นลูกคนเดียวของพระยาวิสุทธิ์ อิ่มควรจะขัดขวาง อิ่มไม่ทำเพราะรักจวนมากและรู้ดีว่าจวนไม่มีวันยอมเป็นเมียพระยาวิสุทธิ์ แต่โชคร้ายที่ในปีนั้นเองทาสสมกับทาสมีรวมทั้งยิ่งและทาสอีกจำนวนมาก เป็นโรคห่าตาย ก่อนตายทาสสมกับทาสมีขอให้พระยาวิสุทธิ์รับปากว่าจะไม่ทอดทิ้งจวน พระยาวิสุทธิ์รับปากและขอให้อิ่มเกลี้ยกล่อมให้จวนยอมเป็นภรรยาของตนอีกคน ไม่อย่างนั้นจะไล่ให้อิ่มกลับไปเป็นทาสเหมือนเดิม ด้วยกลัวลูกที่จะเกิดมาลำบาก อิ่มลำบากใจจึงเอาเรื่องไปปรึกษากับคุณระย้า คุณระย้าแกล้งทำดีด้วยการบอกไม่ให้อิ่มวิตก คุณระย้าจะไปพูดกับพระยาวิสุทธิ์เองว่าไม่ให้ยุ่งกับจวนเอง

คืนนั้นทั้งคืน คุณระย้าคิดหาหนทางกำจัด อิ่มและจวนไปให้พ้นทาง แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อพระยาวิสุทธิ์มาสารภาพและขออนุญาตคุณระย้า ขอมีจวนเป็นภรรยาอีกคนและจะเป็นคนสุดท้าย คุณระย้ารู้ดีว่าไม่มีทางขัดขวางพระวิสุทธิ์ได้แน่ อีกทั้งหากบุ่มบ่ามทำอะไรลงไป ก็คงจะได้รับโทษทัณฑ์หนักเหมือนทองเกลียว คุณระย้าจึงตกลง และคิดแผนที่จะให้เพื่อนรักห้ำหั่นกันเอง

คุณระย้าออกอุบายบอกว่าตนเองไม่สบายมาก ขอให้อิ่มไปบอกให้จวนมาดูแล ด้วยความเป็นห่วงและต้องการตอบแทนบุญคุณ จวนเข้ามาดูคุณระย้าบนเรือนแต่กลับโดนพระยาวิสุทธิ์ขืนใจ จวนเสียใจมาก คุณระย้าบอกว่า ทั้งหมดเป็นอุบายของอิ่มที่ล่อหลอกจวนมาให้พระยาวิสุทธิ์ขืนใจเพราะไม่เช่นนั้น อิ่มกับลูกจะถูกไล่ลงจากเรือนกลับไปเป็นทาสเหมือนเดิม จวนเสียใจมากที่เพื่อนทรยศ ยิ่งเสียใจหนักที่ทำให้บุญคนรักเสียใจ คุณระย้าได้ทีบอกอิ่มว่าทั้งหมดเป็นแผนการของจวน เพราะจวนอยากมีอำนาจวาสนาได้ดิบได้ดีอย่างอิ่ม แต่อิ่มไม่เชื่อ อิ่มเริ่มรู้ว่าภายใต้ท่าทางอันใจดี คุณระย้าซ่อนความร้ายกาจเอาไว้

อิ่มเอาเรื่องทั้งหมดไปบอกบุญ ตั้งใจที่จะให้บุญเตือนจวนถึงความร้ายกาจของคุณระย้า เคราะห์ร้ายที่จวนมาเห็น จวนยิ่งเข้าใจผิดคิดว่าอิ่มคิดจะทรยศแย่งความรักของบุญไปจากจวน

ตั้งแต่นั้นมาเพื่อนรักสองคนก็แตกคอกัน จวนโกรธชนิดไม่เผาผีอิ่ม ในขณะที่อิ่มรู้สึกผิดตลอดเวลาที่เป็นต้นเหตุให้จวนต้องตกเป็นของพระยาวิสุทธิ์ ทางฝ่ายพระยาวิสุทธิ์ก็หลงใหลจวนมาก ด้วยความแค้นในใจจวนพยายามเอาอกเอาใจพระยาวิสุทธิ์จนพระยาหนุ่มหลงใหลจวนเป็นอย่างมาก ไม่นานจวนก็ตั้งท้อง คุณระย้าทนไม่ไหวที่คิดการณ์ผิด ทั้งอิ่มทั้งจวนกำลังจะมีลูกให้กับพระยาวิสุทธิ์ จึงคิดแผนการที่จะกำจัดทั้งอิ่มและจวน

คุณระย้าแอบเอายาพิษใส่ในจานอาหารของทั้งคู่ แต่เคราะห์ดีคนที่กินยากลับกลายเป็นจวนแต่เพียงผู้เดียว จวนแท้งลูกด้วยความเข้าใจผิดว่าอิ่มเป็นคนวางยา พระยาวิสุทธิ์โกรธมาก จึงขับไสไล่ส่งอิ่มกลับไปเป็นทาสเหมือนเดิม บุญเข้ามาปลอบใจอิ่มและต่อว่าที่จวนใจร้ายไม่เหลือคราบหญิงสาวที่จิตใจดีคนก่อน จวนยิ่งโกรธมาก ยิ่งโกรธที่บุญบอกว่าตอนนี้รักอิ่มไม่ใช่จวน จวนยิ่งรู้สึกว่าถูกทรยศจากทั้งเพื่อนและคนรัก บุญตัดสินใจอยู่กินกับอิ่มและรับเป็นพ่อของเด็กในท้อง

คุณระย้าสะใจที่อิ่มกระเด็นไปเป็นทาสเหมือนเดิม และตอนนี้ก็มีจวนคนเดียวที่เป็นหอกข้างแคร่ คอยทิ่มแทงให้เจ็บใจ คุณระย้าคิดจะกำจัดจวน ด้วยความที่คุณระย้ามีพระคุณคุ้มหัว จวนไม่ระแวงสงสัยคุณระย้าเลย ไม่นานพระยาวิสุทธิ์ก็ผิดคำสัญญา ด้วยการมีคุณพริ้ง(พรรัมภา สุขได้พึ่ง)ลูกของเศรษฐีกล่ำเข้ามาเป็นภรรยาอีกคน และเช่นเคยพระยาวิสุทธิ์หลงใหลคุณพริ้งจนลืมทุกคน คุณระย้าทั้งเสียใจและโกรธมาก จึงอาศัยมือของจวนมาทำร้ายคุณพริ้ง พร้อมทั้งยุแหย่ว่า คุณพริ้งชอบพูดจาให้ร้ายคุณระย้า จนพระยาวิสุทธิ์เกลียดชังคุณระย้า ด้วยกตัญญูและสงสารคุณระย้า จวนจึงออกโรงปกป้องและถือตนเป็นศัตรูกับคุณพริ้ง เหมือนทองเกลียวในครั้งก่อน แต่เช่นเดิมคุณระย้าทำดีกับทุกคนรวมทั้งคุณพริ้งด้วย

อิ่มพยายามเตือนไม่ให้จวนไว้ใจคุณระย้ามาก แต่จวนไม่เชื่อ ในเวลาต่อมาอิ่มคลอดลูกของพระยาวิสุทธิ์ออกมาเป็นผู้หญิงชื่อ แก้ว(ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) และมีลูกกับบุญชื่อ กล้า(ชนะพล สัตยา) ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่คุณระย้าตั้งท้องขึ้นมาซึ่งก็ไล่เลี่ยกับคุณพริ้ง แต่หมอตำแยที่มาตรวจครรภ์บอกว่าคุณระย้าจะได้ลูกสาว และคุณพริ้งจะได้ลูกชาย คุณระย้าโกรธมาก ด้วยอยากให้ลูกของตัวเป็นผู้สืบสกุลเพียงคนเดียว คุณระย้าจึงคิดแผนการชั่วขึ้นมาอีกครั้ง

คุณระย้าบอกให้จวนไปเอาสมุนไพรจากอิ่ม ซึ่งอิ่มก็เอาสมุนไพรบำรุงครรภ์อย่างดีมาให้ แต่คุณระย้าให้ยายทองเปลี่ยนเอาสมุนไพรพิษมาต้ม และให้จวนเป็นคนเอายาไปให้คุณพริ้ง ผลปรากฏว่าคุณพริ้งกระอักเลือดออกมา ส่วนยายทองทำท่าจะปากโป้งว่าจริงๆแล้วคนที่เปลี่ยนยาสมุนไพรคือคุณระย้า จึงถูกคุณระย้าฆ่าตาย คุณพริ้งบอกว่าจวนเป็นคนเอาสมุนไพรมาให้ จวนปฏิเสธบอกว่าสมุนไพรเอามาจากอิ่ม อิ่มปฏิเสธ พระยาวิสุทธิ์สั่งให้คนเข้าค้นที่เรือนของอิ่มซึ่งก็ไม่พบสมุนไพรพิษจริงๆ แต่กลับพบที่ห้องของจวนที่คุณระย้าเป็นคนเอาไปซ่อนไว้ พระยาวิสุทธิ์โกรธมาก หาว่าจวนเป็นคนวางยาคุณพริ้ง เศรษฐีกล่ำก็ไม่ยอมขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พระยาวิสุทธิ์จึงโบยจวนจนตาย ก่อนตายจวนกล่าวอาฆาตพยาบาทจะจองเวรจองกรรมกับอิ่มและพระยาวิสุทธิ์ให้ถึงที่สุด

ขณะนั้นเอง คุณระย้าเกิดปวดท้องจะคลอดขึ้นมา วิญญาณของจวนจึงลอยเข้าไปอยู่ในท้องของคุณระย้าในทันที อิ่มเสียใจมากแต่บุญบอกไม่ให้คิดมากเราย่อมรู้ตัวดีว่าเราไม่ได้ทำและให้อิ่มพยายามทำบุญให้จวนจะได้ไม่พยาบาทจองเวร คุณระย้าตั้งชื่อลูกสาวว่า หนูยิ้ม(อุษามณี ไวทยานนท์) ขณะที่คุณพริ้งไม่มีบุตรจึงไปขอลูกของพี่สาวคือคุณพร้อมมาเลี้ยง และตั้งชื่อลูกชายที่ขอมาว่า เภา(ธีร์ วณิชนันทธาดา) เภา เป็นเด็กหนุ่มที่สุภาพเจียมตัว แต่หนูยิ้มเป็นเด็กหญิงที่อารมณ์ร้ายเอาแต่ใจตัว เพราะคุณระย้าให้ท้าย และที่สำคัญตั้งแต่จำความได้หนูยิ้มเกลียดพระยาวิสุทธิ์โดยที่ทุกคนไม่รู้สาเหตุ

ปีพุทธศักราช 2454 ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงประกาศเลิกทาส พระยาวิสุทธิ์ปลดปล่อยทาสทุกคน แต่อิ่มและบุญขออยู่อาศัยต่อเพื่อตอบแทนบุญคุณ และสาเหตุที่สำคัญตรงที่อิ่มกับบุญอยากให้แก้วมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับพระยาวิสุทธิ์ผู้เป็นบิดาแท้ๆ อิ่มเอา ทองเกลียวที่สติไม่สมประกอบมาอยู่ด้วย

ยี่สิบปีต่อมา ล่วงเข้าสู่รัชกาลที่ 8 ปีพุทธศักราช 2477 เด็กๆแต่ละคนเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาว แก้วอายุยี่สิบสี่ปี กล้าอายุยี่สิบสองเท่ากับเภา และหนูยิ้มอายุได้ยี่สิบปี แก้วได้ทำงานเป็นครูสาวใจดี กล้าและเภาเป็นทหาร ส่วนหนูยิ้มเป็นสาวสังคมจัดนักเรียนนอก

คุณระย้ามีคนใช้ใหม่ชื่อพุดซ้อน ซึ่งมีลูกสาวชื่อรุ้ง(อธิชนัน ศรีเสวก) รุ้งเป็นคนทะเยอะทะยานมาตั้งแต่เด็กเพราะอยากมีความเป็นอยู่สบายอย่างหนูยิ้ม พุดซ้อนเตือนให้เจียมตัวแค่ไหนรุ้งก็ไม่ฟัง พยายามหาทางกลั่นแกล้งหนูยิ้มตลอด แต่หนูยิ้มรู้ทันและเอาคืนรุ้งเสมอ ภาพภายนอกของหนูยิ้มจึงดูเป็นคนอารมณ์รุนแรง เกรี้ยวกราด

ท่ามกลางความสมัยใหม่และสังคมอันศิวิไลซ์เริ่ดหรู สิ่งหนึ่งที่ติดใจหนูยิ้มมาตลอดเวลานั่นคือ ความรู้สึกเจ็บปวด คลั่งแค้น หลายครั้งหลายหนที่ในมโนนึกมีภาพของน้าอิ่มที่เป็นคนใช้เก่าแก่ภายในบ้านและเพื่อนรักที่ชื่อ จวน เมื่อหนูยิ้มบอกคุณระย้า คุณระย้าก็บอกเล่าความหลังให้ฟัง ซึ่งแต่ละเรื่องคุณระย้าเป็นคนถูกกระทำทั้งสิ้น หนูยิ้มสงสารคุณระย้า จึงยิ่งเจ็บปวดชิงชังทุกคน รวมทั้งพระยาวิสุทธิ์ คุณระย้าสอนให้หนูยิ้มมีจิตใจอิจฉาริษยา ดูถูกดูชังคนโดยเฉพาะแก้วและเภา เพราะแก้วคือลูกสาวอีกคนของพระยาวิสุทธิ์ และเภาคือลูกชายที่พระยาวิสุทธิ์หวังจะให้สืบสกุล ในขณะที่อิ่มสอนให้แก้วและกล้าอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตน ทั้งคู่จึงอภัยให้หนูยิ้มเสมอ

กล้าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหนูยิ้ม เพราะกล้าเห็นว่าหนูยิ้มไม่น่ารักและชอบดูถูกคน ที่สำคัญหนูยิ้มชอบจิกหัวอิ่มมาเรียกใช้ พอไม่ถูกใจหนูยิ้มก็เอาไม้เฆี่ยนตี แต่น่าแปลกทุกครั้งที่ทองเกลียวเห็นหน้าหนูยิ้มก็จะตกใจ และเรียกหนูยิ้มว่าจวนตลอด คุณระย้าหาว่าทองเกลียวฟั่นเฟือนให้เอาไปกักขังไว้ แต่ทองเกลียวก็ยังลักลอบออกมาและมาบอกหนูยิ้มว่าให้ระวังคุณระย้า หนูยิ้มไม่เข้าใจ แต่คุณระย้าโกรธมาก สั่งให้คนมาลักตัวทองเกลียวเอาไปฆ่า ทองเกลียวบาดเจ็บสาหัสแต่ขณะที่นอนหายใจรวยริน กล้ามาพบเข้าจึงพาทองเกลียวไปอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ไม่นานเรื่องของทองเกลียวก็หายไปจากความทรงจำของทุกคน แต่กล้านึกสงสัย กล้าตกลงที่จะสืบความเป็นไประหว่างความสัมพันธ์ของคุณระย้าและหนูยิ้มอย่างเงียบๆ

แต่ยิ่งค้นหาความจริง กล้ากับหนูยิ้มก็ยิ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ในขณะที่ มนตรี เพื่อนสนิทของกล้าแอบรักหนูยิ้ม แต่หนูยิ้มไม่ได้สนใจซ้ำยังทำเย่อหยิ่งถือตัว รุ้งหมั่นไส้หนักที่ใครๆ ต่างก็รุมรักหนูยิ้ม จึงแอบให้ พัน หนุ่มชาวบ้านละแวกใกล้เคียงที่มาติดพันรุ้งหาทางลวงหนูยิ้มไปทำร้าย แต่กล้าช่วยได้ทัน กล้าพยายามบอกให้หนูยิ้มมีน้ำใจเผื่อแผ่กับคนอื่น เพราะหนูยิ้มจะได้น้ำใจกลับคืน หนูยิ้มเหมือนจะฟัง แต่ภาพแห่งความหลังอันเจ็บปวดทรมานมันผ่านเข้ามาในมโนนึก ทำให้จิตใจหนูยิ้มร้อนรุ่มเหมือนเดิม

ไม่นานหนูยิ้มก็รู้ว่าที่หนูยิ้มเกลียดชังอิ่มเพราะในอดีตชาติหนูยิ้มคือจวน ที่ถูกเพื่อนรักอย่างอิ่มทรยศหักหลัง หนูยิ้มจึงจงใจที่จะจองล้างจองผลาญอิ่ม และชายโฉดอย่างพระยาวิสุทธิ์ แต่ผู้ที่รับบาปคือแก้ว เพราะหนูยิ้มล่อลวงแก้วไปให้เพื่อนชายขืนใจ โชคดีที่เภาผ่านไปจึงช่วยแก้วได้ทัน เภาเอาเรื่องมาบอกพระยาวิสุทธิ์ หนูยิ้มก็บอกว่าแค่นี้มันยังน้อยไป เพราะอิ่มก็เคยหลอกลวงหนูยิ้มไปให้คนข่มขืนเหมือนกัน ทุกคนตกตะลึงมากเมื่อหนูยิ้มพูดอย่างนี้ โดยเฉพาะคุณระย้า แต่คุณระย้าคิดแค่เพียงหนูยิ้มอาจจะพูดเพ้อเจ้อ แต่ครอบครัวของอิ่มแอบสงสัยในการกระทำของหนูยิ้ม

กล้าโกรธที่หนูยิ้มหลอกแก้วไปให้เพื่อนชายขืนใจทั้งๆที่เคยช่วยหนูยิ้ม จึงดักฉุดหนูยิ้มไปกักขังทรมาน และทำทีว่าขืนใจ แต่หนูยิ้มสลบไปก่อน เมื่อตื่นขึ้นมาหนูยิ้มจึงเข้าใจผิดว่าตัวเองตกเป็นของกล้าแล้ว หนูยิ้มโกรธเกลียดกล้ามาก เภารู้สึกถูกชะตาและชื่นชอบความอ่อนหวานใจดีของแก้ว แต่ก็ถูกหนูยิ้มขัดขวางด้วยความอิจฉาริษยา หนูยิ้มไม่รู้ว่ายิ่งหนูยิ้มพยายามกลั่นแกล้งแก้วเท่าไหร่ เภายิ่งสงสารและเห็นใจแก้วมากขึ้นเท่านั้น ที่สุดก็กลายเป็นความรัก หนูยิ้มรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเภากับแก้วก็ยิ่งโกรธ หาว่า แก้วเป็นสาวแก่ขึ้นคานที่ทอดสะพานให้หญ้าอ่อนอย่างเภา แก้วโกรธมาก แต่อิ่มบอกแก้วไม่ให้ผูกใจพยาบาทต่อหนูยิ้ม เพราะจะเป็นการต่อกรรมกันไม่สิ้นสุด

แก้วกลุ้มใจ จึงระบายปรึกษากับมั่น ที่เป็นคนใช้ในบ้าน รุ้งแอบเห็นก็เอาไปโพนทะนาจนทั่วว่าแก้วกับมั่นมีความสัมพันธ์กัน ทั้งๆที่ความจริงแล้วมั่นแอบชอบรุ้ง เมื่อรุ้งรู้ก็หลอกใช้มั่นในเรื่องต่างๆนานาที่จะทำร้ายหนูยิ้ม มั่นเสียใจมากที่รุ้งเป็นคนไม่ดี จึงเลิกที่จะรักรุ้ง รุ้งยิ่งโกรธเกลียดหนูยิ้มมากขึ้น รุ้งปรึกษาหารือกับพัน จะให้พันทำร้ายหนูยิ้มอีก พันตกลงโดยมีรุ้งเป็นเดิมพัน ที่สุดรุ้งต้องตกเป็นเมียของพัน และพันก็โขกสับรุ้งเยี่ยงทาส ชดใช้บาปกรรมด้วยชีวิตตัวเองตลอดไป

พรรษานั้นเอง กล้าออกบวชและได้นั่งสมาธิ ในฌานสมาธิกล้ารู้ว่าหนูยิ้มคือจวนกลับชาติมาเกิด กล้าได้คุยกับทองเกลียวที่สติดีขึ้นแล้วจากการพึ่งใบบุญของวัด ทองเกลียวพยายามลำดับเหตุการณ์และเล่าความใจร้ายใจดำ ของคุณระย้าให้กล้าฟัง

เมื่อสึกออกมา กล้าเห็นใจหนูยิ้มมากขึ้น เข้าใจว่าทำไมหนูยิ้มจึงเจ็บแค้นพยาบาทอิ่มกับพระยาวิสุทธิ์ ซึ่งก็เนื่องจากความเข้าใจผิด ความสงสารเห็นใจก่อเกิดเป็นความรัก กล้าจึงพยายามบอกเล่าความจริงให้หนูยิ้มฟังว่าอิ่มไม่เคยคิดปองร้ายต่อหนูยิ้มหรือจวนในอดีต แต่หนูยิ้มไม่เชื่อ ยังคงมีใจผูกพยาบาทต่ออิ่มและบุญ หนูยิ้มหาเรื่องมาทำร้ายครอบครัวนี้เสมอ คุณระย้ายิ่งให้ท้ายเพราะรู้ดีว่าใจจริงแล้วพระยาวิสุทธิ์แอบเอ็นดูแก้ว ด้วยกลัวว่าพระยาวิสุทธิ์จะยกทรัพย์สมบัติให้แก้ว คุณระย้าเล่าความเลวร้ายของอิ่มให้ฟัง เป็นต้นว่าทรยศเพื่อน แย่งคนรักของเพื่อน ล่อหลอกเพื่อนให้ผู้ชายข่มขืน เอาสมุนไพรพิษลอบฆ่าคน หนูยิ้มจดจำเป็นข้อมูลและยิ่งเกลียดชังอิ่มและแก้ว หนูยิ้มใช้วิธีที่อิ่มเคยทารุณจวนมาแก้แค้นอิ่มกับแก้ว แต่ทุกครั้ง เภากับกล้าต้องมาช่วยได้ทัน หนูยิ้มกับคุณระย้าโมโหมาก

คุณพริ้งทนไม่ไหว ที่นับวันคุณระย้ากับหนูยิ้มยิ่งร้ายกาจ จึงนำความไปบอกกับพระยาวิสุทธิ์ พระยาวิสุทธิ์เอ่ยปากตักเตือนหนูยิ้มกับคุณระย้า คุณระย้าจึงวางแผนให้หนูยิ้มวางยาคุณพริ้งและโยนความผิดให้อิ่ม หนูยิ้มไม่ทำ คุณระย้าจึงบอกว่าจะทำเอง ที่สุดคุณพริ้งก็แทบตายด้วยน้ำมือของคุณระย้า และคุณระย้าก็โยนความผิดให้อิ่ม หนูยิ้มสับสนเพราะรู้ความจริงว่าคนที่วางแผนฆ่าคุณพริ้งคือคุณระย้านั่นเอง อิ่มถูกโบยแทบตาย กล้ากับแก้วพยายามหาหลักฐานมายืนยันว่าอิ่มบริสุทธิ์ กล้าบอกหนูยิ้มกำลังทำร้ายคนที่บริสุทธิ์ เพราะคนร้ายที่แท้จริงคือคุณระย้านั่นเอง

หนูยิ้มพยายามทบทวนเหตุการณ์ต่างๆและก็ยิ่งสับสนในตัวเอง เพราะคนที่คุณระย้าว่าเลวแสนเลวอย่างอิ่มและทุกคนที่อยู่รอบข้าง แท้จริงแล้วกลับเป็นคนดีมีน้ำใจ ในขณะคนที่ออกตัวว่าดีแสนดีอย่างคุณระย้า แท้จริงแล้วกลับใจร้ายใจดำ หนูยิ้มอยู่กับความสับสนเพราะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร และใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง ความเลวร้ายทั้งมวล

ในปีพุทธศักราช2482 ประเทศไทยเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง กล้ากับเภาไปต้องออกสนามรบ ในขณะที่พระยาวิสุทธิ์ก็ต้องไปประจำการกับกองทัพ ที่บ้านเหลือแต่ผู้หญิงคือคุณระย้า คุณพริ้ง แก้ว อิ่ม และหนูยิ้ม คุณระย้ากับหนูยิ้มสั่งให้อิ่มกับแก้วขุดหลุมหลบภัย สองแม่ลูกจำต้องทำตาม ด้วยความทุกข์ลำเค็ญสาหัส ปีนั้นเองเกิดข้าวยากหมากแพง อาหารไม่มี แต่อิ่มและแก้วกลับออกไปหาอาหารขุดเผือกขุดมันมาให้คนในบ้านประทังชีวิต แต่คุณระย้ากลับเก็บไว้กินแค่สองคนกับหนูยิ้ม เมื่อหนูยิ้มแบ่งให้คุณพริ้ง อิ่ม กับแก้ว ก็ถูกคุณระย้าตำหนิ นับวันหนูยิ้มยิ่งเห็นความใจร้ายใจดำและเห็นแก่ตัวของคุณระย้า

ด้วยความเป็นห่วง กล้าแอบหนีกลับมาดูแม่และพี่สาว ในขณะที่เภาก็กลับมาดูพริ้ง เมื่อกล้ากับเภาเห็นว่าอิ่ม แก้ว คุณพริ้งอยู่อย่างทุกข์ทรมานก็โกรธ กล้าดุด่าต่อว่าหนูยิ้ม ว่าหนูยิ้มใจร้ายใจดำ แม้กระทั่งคนที่หวังดีกับหนูยิ้มมาตลอดชีวิตอย่างอิ่ม เภากับกล้าพาพริ้ง อิ่ม แก้ว ไปอยู่ด้วย โดยทิ้งหนูยิ้มกับคุณระย้าอยู่กับภาวะเสี่ยงตาย ด้วยความหวาดกลัว คุณระย้าเริ่มเห็นภาพหลอน ความร้ายกาจต่างๆที่ตนเองเคยกระทำกับคนต่างๆในอดีต ทั้งทองเกลียว อิ่ม จวน และพริ้ง ในขณะเดียวกันคุณระย้าก็คลุ้มคลั่งเข้ามากอดหนูยิ้ม บอกไม่ให้หนูยิ้มทิ้งไป เพราะรักหนูยิ้มมาก

เมื่อความจริงเปิดเผย หนูยิ้มได้รู้ความจริงว่าคุณระย้านั่นเองที่เป็นคนวางแผนทำร้ายคนทุกคน รวมทั้งหนูยิ้ม หรือ จวนในอดีต หนูยิ้มสับสน เพราะยังจำได้ดีถึงคำกล่าวก่อนตายเมื่อชาติที่แล้วว่าจะจองเวรจองกรรมกับคนที่ทำร้ายจวนจนตาย หนูยิ้มสับสนระหว่างความรักกับความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงที่ร้ายกาจอย่างคุณระย้า หรืออีกนัยหนึ่งคือแม่ของหนูยิ้มเอง เภากับกล้า พาทุกคนไปอยู่ที่วัด บัดนี้ทองเกลียวผู้มีสติครบถ้วนทุกอย่างรวมทั้งเป็นคนทรงศีล ได้บอกให้ทุกคนไปช่วยหนูยิ้มกับคุณระย้า

ที่บ้านของพระยาวิสุทธิ์ ระเบิดลงพอดี คุณระย้าได้รับบาดเจ็บสาหัส วูบหนึ่งแรงแค้นของจวนสั่งให้หนูยิ้มทิ้งคนที่ใจร้ายใจดำอย่างคุณระย้าไป คุณระย้าจะต้องได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานก่อนตาย ทองเกลียวพาทุกคนไปถึง และให้สติหนูยิ้ม ว่าบัดนี้หนูยิ้มคือลูกในอุทรของคุณระย้า ไม่ใช่จวนในชาติที่แล้ว หนูยิ้มจะทิ้งคนที่รักหนูยิ้มที่สุดในชีวิตอย่างคุณระย้าไปได้อย่างไร เวรควรระงับด้วยการไม่จองเวร เหมือนสิ่งที่แม่ชีทองเกลียวกำลังทำอยู่ ไม่เช่นนั้นกรรมก็จะต่อกรรมกันไปไม่มีที่สิ้นสุด หนูยิ้มและกล้าตัดสินใจฝ่าดงระเบิดพาคุณระย้าออกมาด้วย

คุณระย้าถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ถูกตัดขาตัดมือทิ้งทั้งสองข้าง คุณระย้าต้องทนทุกข์ทรมานทั้งที่มีชีวิตอยู่ คุณระย้าขออสิกรรมต่อทองเกลียว อิ่ม คุณพริ้งและจวน หรือหนูยิ้ม รวมทั้งพระยาวิสุทธิ์ แต่พระยาวิสุทธิ์โชคร้ายถูกระเบิดตายระหว่างเดินทางกลับมาเยี่ยมคุณระย้า

หนูยิ้มตัดสินใจบวชชีพราหมณ์เพื่อตั้งจิตสมาธิลืมความเจ็บปวดแต่หนหลังพร้อมที่จะลืมอดีตและทดแทนผู้มีพระคุณอย่างแม่ระย้าสืบไป รวมทั้งขออโหสิกรรมต่อแก้ว อิ่มและ บุญที่ได้ล่วงเกิน แก้วได้แต่งงานกับเภา และกล้าพร้อมจะใช้ชีวิตกับหนูยิ้ม โดยที่ไม่มีอดีตอันเจ็บแค้นต่อไป เพราะหนูยิ้มรู้ซึ้งถึงสัจธรรมของชีวิตที่ว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

สุดแต่ใจจะไขว่คว้า 2551

สุดแต่ใจจะไขว่คว้า (2551/2008) พ่อของพล มีลูก 5 คน แต่รักลูกไม่เท่ากันโดยรักพงษ์พรรษ์ ลูกชายคนโตมากกว่าลูกคนอื่นเพราะพงษ์เรียนเก่งจึงสนับสนุนเต็มที่เพื่อชดเชย ความผิดหวังของตัวเองในอดีตที่อยากเป็นข้าราชการแต่ไม่สมหวัง พ่อตามใจและเข้าข้างพงษ์มากทำให้ในที่สุดพงษ์กลายเป็นคนที่นิสัยไม่ดี ส่วนแม่ส่ง เป็นคนที่คอยช่วยขัดขวางพ่อในทุกเรื่องที่เห็นว่าไม่ยุติธรรมกับลูกคนอื่น พัฒนะ เป็นลูกที่พ่อชังเพราะว่าเรียนไม่เก่งและยังดื้อกับพ่อ หลายครั้งที่พ่อมองข้ามความดีของพัฒ โดยเฉพาะพ่อไม่พอใจอย่างมากที่พัฒไม่เรียนต่อและมาทำอู่ซ่อมรถเพราะมองว่า เป็นอาชีพที่ต่ำต้อยและไม่มีอนาคต แต่พัฒก็ยังทำต่อไปโดยมีแม่สนับสนุน ติดตามต่อได้ใน สุดแต่ใจจะไขว่คว้า

สุดรักสุดดวงใจ 2549

สุดรักสุดดวงใจ (2549/2006) นายสุข อดีตกรรมกรก่อสร้างที่เมียกับลูกเสียชีวิตตอนไฟไหม้บ้าน นับแต่นั้นมานายสุขก็กลายเป็นคนขี้เมายังชีพด้วยการเก็บขยะ และ หาของเก่าขาย นายสุขได้รับความช่วยเหลือจาก นายสุพจน์กับนางเต็มดวง ที่เคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง วันหนึ่งขณะที่นายสุขหาของเก่าเพื่อนำไปขาย ก็ได้พบเด็กชาย นอนอยู่ใต้สะพานลอย นายสุขจึงรักใคร่เอ็นดูและรับมาเลี้ยงพร้อมกับตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่าสมโชค นาง เต็มดวงต้องช่วยนายสุขดูแลสมโชค จนเมื่อนางเต็มดวงมีลูกสาว 2 คนชื่อ พิมพ์กับแพร จึงได้ว่าจ้างนางเหมือนมาดูแลสมโชค แทนด้วยค่าแรงถูก ๆ เพราะความสงสารนายสุข เด็กทั้ง 3 คนเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน พิมพ์มักช่วยเหลือสมโชคอยู่เสมอ แต่แพรมักจะ สมรู้ร่วมคิดกับ ลิขิตและอ๊อด ที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกันคอยกลั่นแกล้งสมโชคอยู่บ่อยครั้ง จนนายสุขปั่นรถซาเล้งไปปาดหน้ารถของนายแพทย์ไชยสิทธิ์ ติดตามต่อได้ใน สุดรักสุดดวงใจ

คู่กรรม 2 2547

คู่กรรม 2 (2547/2004) กลินท์ หรือ โยอิจิ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอังศุมาลินที่เกิดจากโกโบริ ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 อังศุมาลินพยายามเลี้ยงดูกลินท์ด้วยความเข้มแข็ง แม้ วนัส เสรีไทยที่ชอบอังศุมาลินอยู่นานจะเปิดเผยความในใจและไม่รังเกียจที่จะอยู่กินกับอังศุมาลิน แต่อังศุมาลินก็ยังคงคบกับวนัสเพียงเป็นเพื่อนที่ดีเท่านั้น เพราะยังมั่นในรักที่มีต่อโกโบริ อังศุมาลินพยายามปลูกฝังความเป็นโกโบริให้ในตัวกลินท์ แต่กลินท์ไม่ยอมรับและรังเกียจ เมื่อโตขึ้น กลินท์เข้าทำงานเป็นอาจารย์ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังผันผวนเพราะเป็นยุคเผด็จการทหาร กลินท์เป็นคนหนุ่มหัวสมัยใหม่ เขาเป็นผู้นำนักศึกษาร่วมการประท้วงสินค้าญี่ปุ่น โดยที่ไม่มีใครรู้ถึงประวัติของกลินท์ มีแต่เพียง ชิตาภา อาจารย์สาวร่วมคณะเท่านั้นที่คอยเตือนให้ระวังความปลอดภัย หนึ่งในนักศึกษาที่ร่วมการประท้วงนั้น ศราวณี นักศึกษาสาวปีสามคณะรัฐศาสตร์ เป็นคนที่โดดเด่นมาก กลินท์ประทับใจในตัวเธอ ต่อมาศราวณีรู้ว่ากลินท์ที่แท้ก็เป็นญาติผู้พี่ของเธอ ที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นที่เกิดจากอังศุมาลิน ที่ทางครอบครัวของเธอรังเกียจ เพราะอังศุมาลินยอมแต่งงานกับทหารญี่ปุ่นอย่างโกโบริ ศราวณีเลยพลอยรังเกียจกลินท์ไปด้วย(ทั้งๆที่เธอก็รู้ว่าคนในครอบครัวเธอเกลียดครอบครัวกลินท์) และบอกกล่าวประวัติของกลินท์ให้ทุกคนได้รู้หรือเรียกว่า​"social bullying" ในสมัยโบราณ​ ทำให้ทุกคนเริ่มถอยห่างและไม่ไว้วางใจให้กลินท์นำอีกต่อไป ซึ่งมีแต่เพียงชิตาภาซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของศราวณีผู้โง่เขลาเท่านั้นที่เข้าใจกลินท์ ต่อมา ศราวณีถูกจับ กลินท์เข้าไปช่วยและได้รู้ถึงสาเหตุที่ทุกคนรังเกียจตน กลินท์พาศราวณีไปที่บ้านและได้พบกับอังศุมาลิน ศราวณีถึงได้รู้ว่าที่แท้อังศุมาลินรักในตัวโกโบริอย่างแท้จริง และไม่ใช่คนไม่ดีอย่างที่ครอบครัวเธอปลูกฝัง จึงเปลี่ยนทัศนคติและขอโทษ จากนั้นความผูกพันของทั้งคู่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ การที่ศราวณีกลับไปคืนดีกับกลินท์ ทำให้ กบ ป้าของศราวณีไม่พอใจ จึงมีปากเสียงกัน ศราวณีหนีออกจากบ้าน ชิตาภาร้อนใจไปหากลินท์ที่บ้าน ขณะเดียวกันนั้นก็ได้เกิดเหตุการณ์วันมหาวิปโยคขึ้น กลินท์คิดว่าศราวณีคงจะไปร่วมชุมนุมด้วย จึงออกตามหาในที่ชุมนุม แต่กลับเจอศราวณีผู้น่าสงสารในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสปางตายและเพ้อรำพันที่บ้านสวนอยู่ตลอดเวลาว่า ตนเป็นคนพาเพื่อน ๆ ไปตาย ชิตาภาโทรศัพท์ไปบอกอาการแก่กบ แต่กบไม่รับฟังและเอาแต่โทษชิตาภาต่าง ๆ นานา หลังจากนี้ รัฐบาลต้องทูลเกล้าลาออกเพราะมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากมาย ชิตาภาต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศและพาศราวณีที่อาการปางตายไปรักษาอาการด้วย กลินท์เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองรักชิตาภาอย่างสุดหัวใจ แต่ไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับเธอได้ เพราะชิตาภามีคู่หมั้นแล้วเป็นชาวต่างประเทศ ทั้งคู่ให้คำมั่นสัญญากันว่า จะเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน ต่อมา อังศุมาลินมีอาการป่วยและบ่นถึงชิตาภาอยู่บ่อย ๆ ว่าเมื่อไหร่จะกลับ เมื่ออาการของอังศุมาลินเจ็บหนัก อังศุมาลินขอให้กลินท์เล่นซามิเซ็งให้ฟัง กลินท์ก็เล่นโดยที่ไม่รู้ว่าโกโบริได้พาอังศุมาลินไปยังทางช้างเผือกแล้วตามสัญญาที่เคยให้ไว้ และกลินท์ต้องเล่นซามิเซ็งแต่เพียงลำพังคนเดียว

แม่อายสะอื้น 2547

เรื่องย่อ : แม่อายสะอื้น (2547/2004) ดาวนิล สาวสวยที่สุดของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอแม่อาย มีความสามารถด้านการฟ้อนดาบเพราะ คำปัน พ่อของดาวนิลเป็นพ่อครูด้านการแสดงศิลปะล้านนา ดาวนิลสามารถฟ้อนดาบได้เป็นที่ เลื่องลือ ในขณะที่ช่อเอื้อง น้องสาวตีกลองสะบัดชัยได้เก่งไม่แพ้ใคร แต่เพราะความเก่ง ทำให้คณะของคำปันมีปัญหากับหนานเมือง เพื่อนบ้านที่ต้องการแย่งงานแสดง ในขณะที่ รินคำ ลูกสาวหนานเมือง อิจฉาความสวยของดาวนิลที่ ทอน ลูกชายผู้ใหญ่มาหลงรัก รินคำพยายามหาทางกลั่นแกล้งแต่ดาวนิลก็ ปกป้องพ่อและน้องไว้ทุกครั้ง คืนหนึ่ง ดาวนิลได้ไปแสดงในงานเปิดรีสอร์ทใหญ่ และเจอกับ ทรงพล เจ้าของโรงแรม ที่ชื่นชมความเก่งของดาวนิล ดาวนิลหวั่นไหวกับรอยยิ้มของทรงพล แต่ทรงพลไม่ได้สนใจเพราะมีคนรักคือ จิดาภา อยู่แล้ว คำปัน เริ่มตาฟาง เมื่อดาวนิลพาไปตรวจ ก็รู้ว่าพ่อเป็นต้อหิน หมอบอกว่าต้องรีบรักษา ก่อนที่ตาจะตาบอดเฉียบพลัน ดาวนิลพยายามหางานเพิ่ม แต่ อ้ายศักดิ์ นายหน้าหางาน ก็ฉวยโอกาสจะปลุกปล้ำ ดาวนิลไม่ยอมและทำร้ายอ้ายศักดิ์เพื่อป้องกันตัว หนานเมืองจึงฉวยโอกาสรวมหัวกับอ้ายศักดิ์ จนคณะคำปันไม่มีงานแสดงอีก ดาวนิลไม่ยอมแพ้ ลงมาหางานในเมือง จึงได้เจอทรงพลที่มาติดต่อธุรกิจ แต่ดาวนิลก็อายความจนของตัวเอง ได้แต่มองทรงพลเดินจากไปอีกครั้ง วิไล ที่กลับมาเยี่ยม ป้าบัว ผู้เป็นแม่แม่ รู้เรื่องดาวนิลต้องการทำงาน ก็ชวนดาวนิลเข้ากรุงเทพ ดาวนิลยังลังเลเพราะกลัวไม่มีคนดูแลพ่อ แต่สุดท้ายก็ต้องลาพ่อทั้งน้ำตาเพราะไม่อาจทนดูดายให้พ่อตาบอดได้ ดาวนิลโดนเพื่อนรักอย่างวิไลหลอกมาขายตัวโดยวางยานอนหลับ ดาวนิลไม่อยากขายศักดิ์ศรีจึงคิดกลับบ้าน วิไลเกลี้ยกล่อมโดยอ้างให้เห็นแก่ดวงตาของพ่อ ดาวนิลจำใจทำงานต่อ ด้วยความตั้งใจว่าได้เงินครบเมื่อไหร่ จะกลับบ้านทันที ทรงพลอยากแต่งงานกับจิดาภา แต่ สาวน้อย แม่นมเก่าแก่ของตระกูลไม่พอใจที่ จิดาภา เย่อหยิ่ง หัวสูงเกินไป เทวัญ พี่ชายทรงพลกับ ทรงวุฒิ น้องชาย พยายามช่วย แต่ก็แพ้สาวน้อยที่ขัดขวางความรักของทรงพลทุกทาง จนในที่สุด จิดาภาก็ทิ้งทรงพลไป ทรงพลเสียใจมาก ทรงวุฒิ พาพี่ชายไปปลอบใจที่อาบอบนวด ดาวนิลได้เจอทรงพลอีกครั้ง แต่ในสภาพน่าอับอายกว่าเดิม ดาวนิลพยายามหนี แต่ทรงพลเมามาย จำดาวนิลไม่ได้ ดาวนิลยอมเป็นของทรงพลด้วยความเต็มใจ ดาวนิลที่รวบรวมเงินได้ครบ กำลังจะกลับบ้าน แต่เกิดแพ้ท้อง วิไลบังคับให้ดาวนิลไปทำแท้ง แต่ตำรวจทลายคลีนิคเถื่อน ดาวนิลถูกพาส่งโรงพยาบาล หมอเทวัญช่วยชีวิตและเตือนสติดาวนิล ดาวนิลพรั่งพรูว่าไม่ต้องการทำลายชีวิตลูกที่เกิดจากความรัก เทวัญเห็นใจดาวนิล จึงพามาอาศัยอยู่กับ คุณนายติ๊ด เจ้าของร้านเสื้อ คุณนายติ๊ดคิดว่า ดาวนิลอาจจะเป็นเมียลับของเทวัญ จึงรับไว้ทำงาน หวังเอาหน้าแต่พอรู้ความจริงว่าดาวนิลเป็นแค่คนไข้ คุณนายติ๊ดกับ ผึ้ง ลูกน้องในร้านก็โขกสับใช้งานจนดาวนิลคลอดก่อนกำหนด ลูกออกมาขาพิการ คุณนายติ๊ดยื่นคำขาดให้ดาวนิลเอาลูกไปเลี้ยงที่อื่น ดาวนิลจะกลับบ้าน แต่คุณนายติ๊ดขู่จะทวงเงินค่าซ่อมแซมร้านที่เสียหายเพราะดาวนิลคลอดลูกจากเทวัญ ดาวนิลกลัวเทวัญเดือดร้อนไปด้วย จึงคิดเอาลูกไปฝากที่แม่อาย และรับปากว่าจะมาทำงานใช้หนี้ให้ ดาวนิลกลับมาแม่อายท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน ที่มีเด็กมาด้วย ช่อเอื้องเถียงแทนทันทีว่าไม่ใช่ลูกดาวนิล ดาวนิลกดดันมากที่พ่อถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยาม จึงตัดสินใจโกหกทุกคนว่า เป็นลูกของเพื่อนที่ตายไป คำปันดีใจที่ลูกกลับบ้าน ช่อเอื้องไม่อยากให้พี่กลับไปกรุงเทพอีก ดาวนิลฝาก กลอง ลูกชายไว้ และสัญญาว่าทำงานใช้หนี้คุณนายติ๊ดครบเมื่อไหร่ จะรีบกลับมาแม่อาย

ดงดอกเหมย 2546

ดงดอกเหมย (2546/2003) ฮั้ว เกิดในเมืองคุนหมิง ประเทศจีน เป็นคนงานท่าเรือหลงรักเหมยลูกสาวเถ้าแก่ซัว ต่อมาทั้งสองได้สาบานรัก กันด้วยการใช้กิ่งไผ่แทนธูป เทียน ว่าจะรักกันจนกว่าความตายจะมาพราก แต่ทางผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วย ทั้งคู่จึงหนี ไปใช้ชีวิตใหม่ที่เมืองไทย เพราะความรักอันยิ่งใหญ่ที่ทั้งสอง มีต่อกัน เมื่อถึงเมืองไทยฮั้วทำงานเป็น จับกังแบก ข้าวในท่าข้าวของเจ็ก ฮั้วและเหมยอาศัยอยู่ในห้องแถวเรือนไม้เก่าๆ และใช้ชีวิตร่วมกันโดยแต่งงานกันตาม ประเพณีจีนที่จัดขึ้นเอง ฮั้วตั้งความหวังว่าจะมีลูกผู้ชายไว้สืบสกุล แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อลูกทั้ง 7 คนกลับเป็นผู้หญิง หมด การมีลูกมากๆ ทำให้สุขภาพของเหมยทรุดโทรมลง หลังจากที่คลอดลูกคนสุดท้องได้เพียงเดือนเดียว เหมยต้องเข้าโรงพยาบาล ไหมต้องมาช่วยดูแลลูกๆ ให้ ก่อนที่เหมยจะสิ้นใจได้ขอให้ฮั้วมีศรัทธา ต่อลูกผู้หญิง ทั้งเจ็ดคน

คนเริงเมือง (2545/2002) ย้อนไปในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองเล็กน้อย ตัวเอก “พริ้ง” เป็นคนสวยพริ้งสมชื่อ พ่อแม่ตายไปตอนเด็กๆ ก็อยู่กับพี่สาวคนโต ซึ่งคอยดุด่า และเฆี่ยนตีพริ้งตลอด จนกระทั่งคุณประเทียบ ซึ่งเป็นมีศักดิ์เป็นภรรยาของญาติห่างๆของพริ้ง ไปพบแล้วสงสารจึงขอมาเลี้ยง คุณประเทียบเป็นสตรีไทยโบราณ ที่ใส่ใจเรื่องการบ้านการเรือน ก็พยายามอบรมสั่งสอนพริ้งให้เป็นกุลสตรีไทย แต่...สอนเท่าไร คนอย่างพริ้งก็ไม่เคยสนใจ พูดว่าอะไร พริ้งก็ฟังไปตามแกนแต่ไม่เคยจำ พอพริ้งเข้ารุ่นสาว แววความงามก็เริ่มปรากฏ พริ้งชอบชม้ายชายตาให้หนุ่มๆในละแวกบ้าน หลงเสน่ห์เล่น เป็นความสุขอย่างหนึ่งของพริ้ง เพราะพริ้งชอบให้มีคนรัก คนชอบ (ตามประสาคนมีปม) จนคุณประเทียบ ร้อนใจกลัวว่า พริ้งจะนำความอับอายขายหน้ามาให้ด้วยเรื่องของผู้ชาย คุณประเทียบเลยยกพริ้งให้แต่งงานกับคุณหมอพินิจ ซึ่งเทียวไปเทียวมาที่บ้าน ด้วยมนตร์เสน่ห์อยู่เป็นนาน พริ้งได้สามีคนแรก ตอนอายุ 16 นี่เอง สามีคนแรกแก่กว่าพริ้งถึง 20 ปี ชีวิตหลังแต่งงานของพริ้งไม่ได้ราบ รื่นนัก เพราะแม่สามีไม่ชอบความประพฤติของลูกสะใภ้วัยละอ่อนเท่าไร อีกทั้งลูกสะให้คนนี้ก็ไม่ใช่กุลสตรี อดทนอดกลั้น แบบหญิงไทยที่ยอมทนให้แม่ผัวโขกสับ พริ้งปากกล้า ต่อล้อต่อเถียงแม่ผัวไม่มีเกรงกลัว อยู่ไปหนักข้อ ข่มสามีได้อีก คนที่น่าสงสารที่สุดก็คุณหมอพินิจนี่ละ แรกๆ ชีวิตก็ทำท่าจะดี แต่พออยู่ไปนานเข้า คุณเมียก็มีแต่เรื่องปวดหัวมาให้จนกระทั่งหมอเส้นโลหิตในสมองแตกตาย โดยทิ้งลูกในท้องไว้ให้พริ้งคนหนึ่ง ติดตามต่อได้ใน คนเริงเมือง

ปีกมาร 2545

เรื่องย่อ : ปีกมาร (2545/2002) ศลัยลา สาวนักโบราณคดีพบรักกับ ภูฉาย นายธนาคารหนุ่มอนาคตไกล แม้จะคบกันไม่นานแต่ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันและกันอย่างลึกซึ้ง จนในที่สุดภูฉายและศลัยลาตกลงที่จะแต่งงานกัน ภูฉายพาศลัยลาไปพบกับ สลัก แม่ของเขา แต่ทั้งคู่กลับเจอสลักกำลังอาละวาดใส่พ่อของภูฉายซึ่งทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่เขายังเด็ก สลักโกรธแค้นพ่อของภูฉายมากที่ทอดทิ้งเธอกับลูกไป จนทำให้สลักกลายเป็นคนมีอาการทางจิตชอบเรียกร้องความรักความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภูฉาย ยิ่งสลักได้รู้ว่าภูฉายจะแต่งงานกับศลัยลาก็ยิ่งเพิ่มความรักความหวงภูฉายมากขึ้น ฝ่ายศลัยลาที่ได้เห็นสภาพจิตที่ไม่ปกติของสลักก็ตกตะลึง แต่เธอก็ยังยืนกรานจะแต่งงานกับภูฉาย ท่ามกลางเสียงคัดค้านของ นวลนภาและภาษิต แม่และน้องชาย รวมทั้งเพียรภมร ทนายความสาวเพื่อนรุ่นน้องของศลัยลาที่เป็นโรคเกลียดผู้ชายขึ้นสมอง เพียรภมรพยายามพูดให้ศลัยลาคิดให้ดีเพราะไม่อยากให้ศลัยลาทุกข์ใจเพราะผู้ชายเหมือน ฉวี แม่ของตนที่ถูกผู้ชายทุบตีทำร้ายมาตลอดชีวิต เมื่อภูฉายบอกสลักว่านวลนภายินดียกที่ดินพร้อมบ้านและรถให้เป็นของขวัญแต่งงาน สลักจึงยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกัน แต่ในคืนแต่งงานสลักแกล้งเป็นลมหมดสติจนทำให้ภูฉายไม่ได้เข้าหอกับศลัยลา ศลัยลาเสียใจมากแต่ไม่ยอมแสดงความรู้สึกให้ใครรับรู้ ระหว่างนั้นสลักแกล้งไม่สบายพร้อมทั้งใช้แผนต่างๆ นานาเพื่อให้ภูฉายมาอยู่ดูแลตนที่บ้านดังเดิม ในขณะที่ชีวิตคู่ของภูฉายกับศลัยลากำลังดิ่งลงเหว ศลัยลาก็พบว่าตัวเองตั้งท้อง ทำให้สลักยิ่งอิจฉาศลัยลาจึงพยายามเรียกร้องความสนใจจากภูฉายมากขึ้น จนในคืนที่ศลัยลาคลอดลูก ภูฉายก็ถูกสลักดึงตัวไว้จนไม่ได้ไปหาศลัยลา สลักกลัวภูฉายจะทิ้งตนไปสนใจแต่ศลัยลากับลูก จึงพูดเกลี้ยกล่อมจนภูฉายยอมยกลูกให้เลี้ยง ศลัยลาเสียใจมากที่ภูฉายยอมตามใจสลักจนครอบครัวแตกแยก เธอจึงตัดสินใจขอหย่าขาดจากภูฉาย แต่ภูฉายไม่ยอมและขอให้ศลัยลาคิดทบทวนอีกครั้ง ในขณะที่สลักกลับคอยยุยงให้ภูฉายหย่ากับศลัยลา ระหว่างที่ศลัยลาแยกกันอยู่กับภูฉาย เธอก็ถูกส่งตัวไปทำงานที่แหล่งขุดค้นวัตถุโบราณแถบภาคอีสาน ทำให้เธอได้พบกับ ลายสือ นักศึกษาโบราณคดีเพื่อนสนิทของภาษิต เมื่อลายสือได้เจอกับศลัยลาครั้งแรก ก็สะดุดตาทันทีโดยที่ไม่รู้ว่าเธอคือพี่สาวของภาษิต ด้วยความที่ลายสือขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็กและถูกพัลลพ พ่อของเขาทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ทำให้ลายสือตกหลุมรักความเป็นผู้ใหญ่ อบอุ่นและพึ่งพาได้ของศลัยลา ยิ่งทั้งคู่ได้ทำงานใกล้ชิดกันลายสือก็ยิ่งรักศลัยลาจนถอนตัวไม่ขึ้นแม้จะรู้ว่าเธอมีครอบครัวแล้ว ฟากศลัยลาเมื่อเจอคนที่เข้าใจเธอจริงๆ ก็เริ่มหวั่นไหว แต่เพราะในใจศลัยลายังมีภูฉาย ประกอบกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ศลัยลาจึงพยายามขับไสไล่ส่งลายสือออกไปจากชีวิตตน แต่ลายสือก็ดื้อแพ่งจะทำตามหัวใจตัวเองให้ได้ ทำให้ศลัยลายิ่งสับสนว้าวุ่นใจมากกว่าเดิม

หลงไฟ (ไม่ได้ออกอากาศ) (2544/2001) ก้านแก้วนักศึกษาปีสุดท้ายที่ต้องดิ้นรนเพราะพ่อแม่ยากจนและยังถูกลุงที่อาศัยอยู่ปล้ำ จึงตัดสินใจเป็นสาว เอสคอร์ท โดยที่กุญชรแฟนหนุ่มผู้แสนดีไปรับราชการที่ต่างจังหวัดเก็บเงินเพื่อรอวันแต่งงาน กิจการของก้านแก้วไปได้ดี เธอเพลิดเพลินกับการรับรองแขก กุญชรยังพาซื่อส่งเงินมาให้ก้านแก้วเก็บไว้เพื่อแต่งงาน แต่เธอกลับไม่ใส่ใจ เธอได้รู้จักชลลูกเศรษฐี ทั้งคู่พึงพอใจกัน ชลถูกทางบ้านให้เลิกกับก้านแก้วแต่เขาไม่ยอม อีกทั้งชลยังไม่ได้ทำงานและติดการพนัน กุญชรและชลมาหาก้านแก้ว จึงรู้ว่าก้านแก้วมีสามี กุญชรเสียใจมากขอให้ชลอย่าทิ้งเขาอีกคน ก้านแก้วหมดคนที่เลี้ยงไปอีกคนอีกทั้งเงินก็หมด ทำให้มีปากเสียงกับชลและเลิกกัน ก้านแก้วถลำลึกลงไปอีก และเจอแมงดาที่หาแขกให้และยังถูกซ้อม ก้านแก้วจึงส่งจดหมายเพื่อไปทำงานที่เยอรมัน แต่ก็ไม่ต่างไปจากหญิงไทยที่ถูกหลอกให้ไปเมืองนอก เธอถูกหลอกไปขายตัว และท้ายสุด ชีวิตก้านแก้วก็ต้องจบลงด้วยความเศร้า ที่หลงผิดไปชั่วชีวิต

เหยื่ออารมณ์ (2544/2001) นายเอิบ (วันชัย เผ่าวิบูลย์) อดีตทหารรับจ้างที่ถูกยิงจนขาพิการข้างหนึ่ง เมื่อเขากลับมาอยู่กับเมีย นางแวว (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) และเอื้อย (อลิศรา วงศ์ชาลี) จึงมีอาชีพเป็นช่างฝีมือประจำตำบล เอิบมีเพื่อนสมัยเรียนเป็นทหารชื่อ นายลือ (โกวิท วัฒนกุล) ลือตามมาอาศัยอยู่ด้วยพักหนึ่งและได้ลอบเป็นชู้กับแวว เมื่อเอิบจับได้เขาตัดสินใจยกเมียให้เพื่อน เพราะเอิบรู้ดีว่าเขาให้ความสุขแก่แววไม่ได้อีก ลือทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ กินเหล้าและอาละวาดจนคนทั้งตำบลเอือมระอา ส่วนเอิบเลี้ยงลูกสาวด้วยหัวใจที่บอบช้ำ แต่ไม่เคยพูดอะไรให้ลูกสาวเสียใจ เอื้อย มีเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทชื่อ ถวัน (รัฐธรรม ศรีฤกษ์) ซึ่งเรียนอยู่กรุงเทพฯ ถวันเป็นเด็กวัดและกลับมาอยู่วัดทุกๆ ปิดเทอม นอกจากนั้นยังมี โก๊ะ (โก๊ะตี๋) ซึ่งเป็นรุ่นน้องเด็กวัดของถวันที่มักจะมาเที่ยวเล่นกับเอื้อยเป็นประจำ ถวันคอยรับส่งเอื้อยไปโรงเรียนทุกวัน และเอื้อยก็ชอบพูดถึงสุดทางรถไฟที่มีบ้านสีฟ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ มีพ่อ แม่ ลูกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เอื้อย ไปหาแม่ที่บ้าน และเจอลือ ลือมองเอื้อยด้วยสายตาน่ากลัว เอื้อยกลับมาเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง เอิบห่วงลูกสาว จึงไปพูดกับลือทั้งสองมีปากเสียงกัน ลือสู้เอิบไม่ได้ลือแค้น ก่อนที่หมู่บ้านจะมีงานวัด เอิบสานปลาตะเพียนที่เอื้อยชอบ เอิบยิ้มอย่างมีความสุข เขาปีนเก้าอี้เพื่อแขวนปลาให้ลูกสาว โดยไม่เห็นว่ามีใครก้าวเข้ามา เมื่อเอื้อยกลับมาบ้านพบว่าพ่อนอนตายที่พื้น ลือให้แววเข้ามาครอบครองบ้านเอิบ และห้ามไม่ให้เอื้อยยุ่งเกี่ยวกับถวัน แววไม่กล้าขัดใจลือ เอื้อย แอบเจอกับถวันระหว่างกลับบ้าน เอื้อยเล่าให้ถวันฟังและร้องไห้ ถวันสงสาร และโอบเอื้อย เอื้อยอาย ถวันรักเอื้อยประสาเด็กหนุ่ม ทั้งสองสัญญากันว่าโตขึ้นจะแต่งงานกันและหนีไปจากลือ เอื้อยเดินกลับบ้านอย่างมีความสุข ลือเห็นรอยเปื้อนดินจากกระโปรง จึงตบเอื้อย แววเข้ามาห้ามก็โดนซ้ำ เอื้อยวิ่งเข้าห้องร้องไห้ ลือสั่งให้แววออกไปซื้อของมาให้ จากนั้นลือเข้าห้องข่มขืนเอื้อยอย่างทารุณ เอื้อยน้ำตาไหลพรากสายตาจ้องไปที่ปลาตะเพียนของพ่อด้วยความปวดร้าว แววไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่เห็นว่าเอื้อยเงียบลง บางครั้งตกใจง่าย ที่โรงเรียนเอื้อยเหม่อลอยบางครั้งก็คุมอารมณ์โกรธไม่ได้ เอื้อยมีเพื่อนชื่อกินรีที่หลงรักถวัน และคอยแหย่เอื้อยเรื่องพ่อเลี้ยงหนุ่มกับลูกเลี้ยงสาว เอื้อยกรี๊ดลั่น วิ่งเข้าตบและถีบกินรีแบบที่ไม่มีใครฉุดอยู่ จนครูต้องเรียกเอื้อยมาตักเตือน ถวันเองก็แปลกใจที่เอื้อยพยายามหลบหน้า เอื้อยอยู่อย่างทรมาน เก็บกด รู้สึกผิดที่ต้องมีผัวคนเดียวกับแม่แต่ก็สู้แรงลือไม่ได้ ที่ร้ายกว่านั้น เอื้อยจะมีความสุขหลังจากที่ถูกพ่อเลี้ยงตบตี เอื้อยเครียดและเงียบขึ้นทุกวัน จนแววเริ่มผิดสังเกต เมื่อเห็นว่าเอื้อยมีอาการเหมือนคนแพ้ท้อง ลือจะพาเอื้อยไปหาหมอ ระหว่างทางลือฉุดเอื้อยเข้าป่าละเมาะข้างทางหมายจะข่มขืนเอื้อยอีก เอื้อยเคว้งไร้สติ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนร้องกรี๊ด เอื้อยหันไปเห็นว่าเป็นกินรีที่มองอย่างตกตะลึง จากนั้นเริ่มยิ้ม เอื้อยสับสนมองเห็นภาพคนหัวเราะ แม่ร้องไห้ ถวันมองอย่างดูถูก เอื้อยไม่รู้ตัวว่าตนทำอะไร รู้ตัวอีกครั้งตนเองก็คร่อมร่างที่ไร้วิญญาณของกินรี ลือตกใจกระชากมีดจากเอื้อย พอดีกับที่มีคนวิ่งมาเห็น ลือถูกจับติดคุก ส่วนเอื้อยเหมือนคนไร้สติ นั่งเงียบเหม่อลอย ชาวบ้านเริ่มสนุกปากกับการพูดว่า เอื้อยมีผัวคนเดียวกับแม่ แววทนไม่ไหวตัดสินใจขายบ้านพาเอื้อยไปอยู่กับลุงเย็น (นิเวศน์ กันไทยราษฎร์) วันที่แววพาเอื้อยหนี ถวันวิ่งตามรถไฟที่เอื้อยนั่งไปสุดทางแต่ตามไม่ทัน แววมาเปิดร้านขายข้าวแกง และไม่สนใจที่ใครถามถึงลูกสาวที่นั่งท้องโตไม่ยอมพูดกับใคร แววบอกว่าผัวเอื้อยตายไปแล้ว เมื่อเอื้อยคลอดลูก เอื้อยไม่เคยสนใจเด็กที่แววเรียก เจ้าแดงเลย เพราะการเห็นเด็กคือ การตอกย้ำสิ่งที่ลือเคยทำกับเอื้อย แววปรึกษาลุงเย็นอยากให้เอื้อยเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ จึงพามาหา น้าสด (ดารณีนุช โพธิปิติ) ซึ่งเป็นคนดูแลหอพักที่จะให้เอื้อยอยู่ จากนั้นแววพาเอื้อยมาหา เริงใจ (ชนิกา สุจริตกุล) ซึ่งทำงานอยู่มูลนิธิเด็กและสตรี ซึ่งเคยเจอเอื้อยเมื่อไปทำงานต่างจังหวัด เริงใจสนใจเอื้อย ขณะที่เอื้อยก็ชอบเริงใจมาก เริงใจมีคนรักชื่อ ภวันต์(โอลิเวอร์ พูพาร์ท) หนุ่มหล่อนักเรียนนอก ที่ คุณนายพวงเพชร (พิลาวรรณ ณ นคร) ผู้เป็นแม่ และ เพ็ญวดี (พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ) พี่สาวคนโตปลื้มมาก ทำให้ พวา (เอกชัย วริทธ์ชราพร) น้องชายหมั่นไส้ พวงเพชรและเพ็ญวดีอยากให้ภวันต์แต่งงานกับคนรวย เมื่อรู้ว่าภวันต์รักกับเริงใจซึ่งเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน ซ้ำยังเป็นแม่ม่ายสามีหย่า ทั้งคู่มองว่าเริงใจไม่คู่ควร เริงใจตัดใจจากภวันต์เมื่อรู้ว่าครอบครัวนี้ไม่ต้อนรับตน ภวันต์กลับเข้าใจผิดคิดว่าเริงใจเปลี่ยนไปเพราะ พิธาร (ปีเตอร์หลุยส์ ไมออกซิ) ที่จีบเริงใจอยู่ เริงใจชวนเอื้อยมาอยู่ที่คอนโดและช่วยงานของเริงใจไปด้วย ภวันต์ไม่ชอบใจนัก มองว่าเอื้อยเป็นเด็กบ้านนอก ขณะที่เอื้อยมองภวันต์เป็นเทพบุตร เอื้อยมีความหวั่นไหวทางเพศ แต่เอื้อยต้องซ่อนไว้อย่างทรมาน พวงเพชรฝากงานให้ภวันต์ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ทำให่ภวันต์ได้รู้จัก คำรณ (ภานุเดช วัฒนสุชาติ) คำรณมองว่าภวันต์เป็นเด็กฝากจึงไม่ค่อยชอบหน้าภวันต์มากนัก เริงใจฝากให้เอื้อยทำงานกับภวันต์ เริงใจแต่งตัวให้เอื้อยใหม่ จนภวันต์เริ่มมองเห็นความสวยผุดผาดของเอื้อย เริงใจมีเวลาให้ภวันต์น้อยลง หลายครั้งที่ภวันต์มารอเริงใจจนหลับ มีเอื้อยคอยปรนนิบัติเขาราวกับลูกแมวน้อย ภวันต์เริ่มมีใจเอนเอียง ภวันต์พาเอื้อยไปเที่ยวเพราะประชดที่เริงใจไม่มีเวลาให้เขาพาเอื้อยไปซื้อเสื้อผ้า ถวันเห็นเอื้อยนั่งรถมากับภวันต์ จึงดีใจวิ่งตามรถไปจนถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ถวันเห็นเอื้อยเต้นรำกับภวันต์อย่างมีความสุข ถวันมองเห็นความต่ำต้อยของตนเอง เอื้อยมองเห็นถวันแต่ไม่กล้าทักเพราะเอื้อยไม่กล้ารับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน ทำให้ถวันเสียใจ แต่เขาก็เข้าใจเอื้อย และอยากให้เอื้อยมีความสุข เริงใจสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของภวันต์ คำรณพยายามจะเกี้ยวเอื้อย แต่มีภวันต์คอยขวางอยู่ คำรณยิ่งต้องการเอาชนะ เริงใจคุยกับภวันต์เรื่องเอื้อย เอื้อยแอบมาได้ยิน และรู้ว่าภวันต์ไม่กล้าพูดกับเริงใจว่ารู้สึกอย่างไรกับเธอ เอื้อยแอบร้องไห้ เริงใจคืนแหวนที่ภวันต์เคยให้ ภวันต์ไม่ยอมรับ เริงใจโกรธขว้างแหวนออกไป เอื้อยรีบวิ่งไปตามเก็บแหวน ขณะเดียวกับรถมอเตอร์ไชค์ขับมาอย่างเร็วชนเอื้อย ท่ามกลางความตกใจของเริงใจและ ภวันต์ ภวันต์สงสารเอื้อย เมื่อหายดีเอื้อยตัดสินใจย้ายออกจากคอนโด เพราะรู้สึกผิดที่กลายเป็นมือที่สามของคนที่เธอรัก จากนั้นเอื้อยก็ยอมไปไหนมาไหนกับคำรณมากขึ้น คำรณมองเอื้อยแบบแปลกใจ ในความเรียบร้อยของเอื้อย เพราะบางครั้งเอื้อยก็ยอมดื่มเหล้ากับเขา และยอมให้เขาคลอเคลีย สายตาของเธอบางครั้งก็วาววับ เอื้อยพบว่าตนเองมีความต้องการ ที่ติดมาจากการป้อนของพ่อเลี้ยง เอื้อยพยายามควบคุมตนเอง คำรณรู้ว่าตัวเองหลงรักเอื้อย และพร้อมจะแต่งงานกับเธอ แต่เขาก็กลับมาได้ยินเอื้อยพูดกับเริงใจ ว่าไม่ได้รักเขา คำรณทั้งแค้นใจทั้งเสียใจคำรณมอมเหล้าและปลุกปล้ำเอื้อย เอื้อยไม่ยอมเขาจึงรุนแรงกับเอื้อยมากขึ้น แต่ความรุนแรงของคำรณกลับปลุกวิญญาณเดิมของเอื้อยให้ลุกโพลง สีหน้าของเอื้อยเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เมื่อเอื้อยรู้สึกตัว เอื้อยอาละวาด คำรณตบเธออีกเพราะคิดว่าเธอต้องการ เอื้อยดิ้นรนไม่คิดชีวิต เอื้อยเอาขวดตีหัวคำรณ เอื้อยเดินร้องไห้ออกมาจากบ้านคำรณ พบภวันต์ที่เลี้ยวรถมาพอดี เอื้อยแทบช็อค เอื้อยกรีดร้องแล้วหมดสติ คำรณวิ่งออกมาภวันต์เข้าใจเหตุการณ์ทันที เขาพาเอื้อยส่งโรงพยาบาล ภวันต์เชื่อว่าคำรณข่มขืนเอื้อย และคิดว่าตนเองเป็นต้นเหตุให้เอื้อยต้องเป็นเช่นนี้ ภวันต์เอาเรื่องที่คำรณยักยอกเงินบริษัทมาเปิดเผย ทำให้คำรณถูกไล่ออกจากงาน คำรณแค้นภวันต์ และออกปากว่าเรื่องจะไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อออกจากโรงพยาบาลเอื้อยหนีไปหาแม่ พบถวันและโก๊ะ ถวันบอกว่าเอื้อยมีแฟนและสูงส่งนัก เอื้อยบอกว่าเธอไม่มีใคร และไม่ได้สูงส่งอย่างที่ถวันคิด ความสุขของถวันกลับมา เขาเริ่มพูดถึงบ้านสีฟ้าแต่เอื้อยเหม่อลอย แล้วความฝันของถวันเริ่มสลายเมื่อปรากฎร่างของภวันต์ เอื้อยโผเข้าหาภวันต์ ภวันต์มารับเอื้อยกลับกรุงเทพฯ เขาบอกว่ารักและจะแต่งงานกับเอื้อยโดยไม่สนใจความรู้สึกของแม่ ภวันต์พาเอื้อยมาอยู่ที่บ้าน แต่โดนแม่ผัวและพี่สาวกลั่นแกล้งเสมอ พวาน้องชายภวันต์ก็ชอบพูดจาแทะโลมเอื้อย เมื่อควบคุมตัวเองไม่ได้เอื้อยก็อาละวาดรุนแรง แต่เพราะความรักภวันต์ก็ให้อภัยเอื้อย ภวันต์ประกาศแต่งงานกับเอื้อย ในวันแต่งงานเป็นวันที่เอื้อยต้องย่อยยับ เอื้อยสวยหรูหรา แต่เมื่อเดินขึ้นเวที คำรณกลับออกมาประกาศว่าเขาเคยมีอะไรกับเอื้อย พร้อมทั้งโชว์ภาพจากวีดีโอขึ้นกลางจอในงาน แขกทุกคนต่างเห็นสีหน้าที่มีความสุขของเอื้อย จนไม่เชื่อว่าเอื้อยโดนข่มขืน เอื้อยวิ่งออกจากงาน เดินเลื่อนลอยไร้สติ ถวันออกหาเอื้อยและรับเอื้อยไปอยู่ด้วยเมื่อเจอ ถวันดูแลเอื้อยอย่างดี เพราะรู้ว่าเอื้อยท้อง เขาพร้อมที่จะดูแลคนที่ตนรัก ภวันต์เองก็เสียใจผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเขามองเริงใจเธอก็มี เควิน (นรินทร์ อภิชัยรักษ์) เพื่อนรุ่นน้องคอยดูแลเสียแล้ว แต่เพราะความรักที่เริงใจและภวันต์มีต่อกัน ทั้งคู่ก็ตกลงที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เอื้อยคลอดลูกโดยถวันคอยดูแล แต่ทั้งสองไม่เคยมีอะไรกัน แม้บางครั้งเอื้อยคิดจะตอบแทนความดีของถวันด้วยเรือนร่าง แต่ถวันกลับบอกว่าเขารักเอื้อย และอยากแต่งงานกับเอื้อยจริงๆ ลือแหกคุกเพื่อที่จะออกมาแก้แค้นเอื้อย เขาเริ่มจากฆ่าลุงเย็น แล้วตามหาเอื้อยจนเจอ และขู่ว่าจะฆ่าเจ้าแดงลูกของเอื้อยกับเขา ถ้าเอื้อยไม่หาเงินมาให้ ด้วยความกลัวและควบคุมตัวเองไม่ได้ เอื้อยฆ่าลือ เมื่อถวันกลับมาพบ ก็พบเอื้อยหมดสติ กลายเป็นคนที่จมกลับความคิดเลื่อนลอย ถวันมาหาเอื้อยที่โรงพยาบาล นำปลาตะเพียนมาแขวน ถวันพูดถึงบ้านสีฟ้าหลังน้อย สุดทางรถไฟ เขาบอกเอื้อยว่ามีคนรอเอื้อยอยู่ และคน ๆ นั้นคือเขา เมื่อถวันเดินจากไปเขาจึงไม่เห็นรอยยิ้มและหยาดน้ำตาบนใบหน้าของเอื้อย.

ซอยปรารถนา 2500 2541

ซอยปรารถนา 2500 (2541/1998) “ซอยปรารถนา ๒๕๐๐” เป็นเรื่องราวชีวิตของ "กัลยาณี" ชื่อเล่นว่า เดือน หญิงสาวสวยมีจิตใจเปราะบางอ่อนไหวง่ายเธอเกิดมาในครอบครัวผู้ดีเก่า แต่ชะตากรรมกลับทำให้ "บ้านวิมานเมฆา"ซึ่งเป็นครอบครัวของเธอต้องล่มสลายเพราะหนี้สินมากมายจนทำ ให้คนรักที่หมายปองให้เป็นคู่ชีวิตต้องขอเลิกกับเธออย่างไม่มีเยื่อใยส่วน น้องสาวก็หนีตามผู้ชายไปเธอต้องระหกระเหินออกจากบ้านไปใช้ชีวิตอยู่กับสังคม ภายนอก ตอนแรกเป็นครูที่โรงเรียนคริสต์ฯ ได้พบรักครูสอนศิลปะ สุดท้ายก็จับได้ว่าครูสอนศิลปะเป็นเกย์สามีก็ยิงตัวตายเนื่องจากเกิดความอาย หลังจากนั้นกัลยาณีก็ต้องโดนออกจากการเป็นครูเนื่องจากมีนักเรียนมีติดพัน อาจารย์ใหญ่จึงตัดไฟตั้งแต่ต้นลมจนกระทั่งระหกระเหเล่รอนไปพับหรรษา สุดท้ายก็ไปขายตัวเพื่อแรกกับเงินและนักเรียนที่เคยติดพันก็ตามหาจนพบตัว กัลยาณีจนเป็นเรื่องถึงขั้นฆ่าตัวตายเพราะกัลยาณีไม่ได้รักนักเรียนคนนี้ กัลยาณีโดนใส่ร้ายเนื่องจากพ่อของนักเรียนได้ประโคมข่าวว่ากัลยาณีได้หลอก ลวงนักเรียนไปทำมิดีมิร้ายสุดท้ายก็ตัดเยื้อใยคนในผับก็รู้กันหมดว่าเดือน เป็นทั้งโสเภณี และหลอกล่อนักเรียนไปทำมิดีมิร้ายกัลยาณีจึงหนีไปหาน้องสาวที่ซอยปรารถนา และไปพบรักกับพี่ชายน้องเขยสุดท้ายน้องเขยตัวแสบก็เปิดโปงว่าเคยเป็นโสเภณี ที่ผับหรรษามาก่อนพี่ชายของน้องเคยเดือนจึงขอยกเลิกการแต่งงานทำให้เดือน เริ่มมีอาการสติสตางฟั่นเฟือนและน้องเขยซึ่งเป็นสามีน้องสาวเดือนก็ทำมิดีทิ ร้าย จึงกลายเป็นบ้าในที่สุดสุดท้ายก็ต้องเข้าโรงพยาบาลบ้า เนื่องจากฝีมือน้องเขยตัวแสบติดตามเรื่องราวต่าง ๆ ได้ในละคร “ซอยปรารถนา ๒๕๐๐”

บ่วงดวงใจ 2540

เรื่องย่อ : บ่วงดวงใจ (2540/1997) อนงค์แต่งงานกับเมธิส มีลูกสาววัยหกขวบหนึ่งคน เมื่อสามปีก่อนอนงค์ล้มป่วยลงหลังจากลูกชายวัยสี่เดือนเสียชีวิต อนงค์กลายเป็นคนป่วยที่มีแต่ทรงกับทรุดในวัยเพียง ๒๗ ปี เธออ้อนวอนขอร้องให้น้องสาวมาอยู่ด้วย น้องสาวของเธอ-สรงชลหรือปุ้มเป็นเด็กสาวที่รักอิสระ เธอเคยปฏิญาณไว้ว่าจะไม่ยอมไปอยู่ร่วมครอบครัวของพี่น้องคนใดที่แต่งงานไป แล้วเป็นอันขาด…แต่เธอก็ขัดพี่สาวที่เจ็บป่วยอย่างอนงค์ไม่ได้ น้องอาย หลานสาวของปุ้มติดน้าสาวเสียยิ่งกว่ามารดา ในขณะที่พี่เขยที่แสนดีก็พยายามรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับเขาอย่างเคร่ง ครัด… เขาแสดงท่าทีสนับสนุนหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบอย่างเรียบ ที่มาติดพันสรงชลอย่างเปิดเผย…จนก่อให้เกิดเป็นความโกรธขึ้งเล็ก ๆ ให้กับสรงชล ซึ่งเธอเองก็รู้สึกกลัวความรู้สึกของตัวเองไม่น้อย… สำหรับคนป่วยอย่างอนงค์ ร่างกายที่อ่อนแอส่งผลให้จิตใจเปราะบางและอ่อนไหวยิ่งนัก เธอจมจ่อมอยู่กับความหวาดระแวงในตัวสามี แม้เขาจะเสมอต้นเสมอปลายกับเธอตลอดมาก็ตาม บางครั้งเธอจึงเผลอแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดใส่คนรอบข้าง… ซึ่งสรงชลตระหนักดีว่าความระแวงของอนงค์นั้น…มีมูล สรงชลจึงตัดสินใจแต่งงานกับเรียบ…ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รักใคร่เขาเลย… แต่เพียงไม่นาน อนงค์ก็เสียชีวิต…เมธิสเป็นอิสระแล้ว แต่เธอเองต้องติดอยู่ในบ่วงที่ตัวเองสร้างขึ้นมา…

ปานตะวัน 2539

เรื่องย่อ : ปานตะวัน (2539/1996) ความรักและการต่อสู้กับอิทธิพลมืดของเจ้าหน้าที่ป่าไม้

เยี่ยมวิมาน 2539

เรื่องย่อ : เยี่ยมวิมาน (2539/1996) เยี่ยมวิมาน เป็นเรื่องราวของ แววพลอย ครีเอทีฟบริษัทโฆษณาที่กำลังประสบความสำเร็จในการทำงาน และความรักกับนิธิศ เจ้าของบริษัทก็กำลังไปด้วยดี ได้เจอกับอุปสรรคเมื่อเธอได้เจอกับจรัญญาแม่ของนิธิศ ที่ทั้งถือตัว หัวเก่า และไม่ยอมรับแววพลอยอย่างเปิดเผย ด้วยแววพลอยเป็นคนไร้ชาติตระกูล และพ่อแม่แยกทางกัน นิธิศต้องการให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นก่อนที่จะแต่งงานกับเธอ จึงพาทั้งสองไปท่องเที่ยวยุโรปกับกรุ๊ปทัวร์ด้วยกัน แต่เรื่องราวกลับไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด จรัญญาสร้างความกดดันให้กับแววพลอยอยู่ตลอด เปมิกาผู้หญิงที่ดูร่ำรวยกว่าพยายามเข้ามาแทรกแซงความสัมพันธ์ของนิธิศกับเธอ และแววพลอยได้เจอกับลูกทัวร์ที่ไม่คาดคิด คือ คริส ที่เป็นความลับและบาดแผลของเธอ เธอได้เลือกที่จะปกปิดทุกคนเรื่องที่คริสคืออดีตสามีที่ได้คบและแต่งงานกันตอนอยู่อเมริกา ทั้งคู่รักกันมากแต่ความไม่เข้าใจทำให้ต้องเลิกรากัน ตลอดมาคริสได้พยายามส่งจดหมายมาหาแววพลอยแต่เธอไม่เคยเปิดอ่านมัน เมื่อคริสได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดก็ได้เปลี่ยนใจ เขาขอเป็นเพื่อนและจะอยู่เพื่อช่วยเธอให้ถึงฝั่งฝันที่จะมีชีวิตแต่งงานที่ดี คริสคอยอยู่ข้างๆ ในช่วงที่แววพลอยมีปัญหา แต่ก็ได้ทำให้นิธิศและแม่ของเขาสงสัยและระแวงกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในระหว่างการเดินทางเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้แววพลอยมองเห็นคริสและนิธิศมากขึ้น และกลับมาทบทวนความสัมพันธ์ครั้งก่อนและครั้งนี้