เพื่อเธอ 2559

เพื่อเธอ (2559/2016) ชานนท์ (พุฒิชัย เกษตรสิน) ชายหนุ่มผู้รักครอบครัว กำลังได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการโรงงาน โดยการตัดสินใจของประภาส (สันติสุข พรหมศิริ) ประธานบริษัทเทวินทร์การ์เม้นท์ เพราะเขาเห็นว่าชานนท์เป็นคนขยัน และซื่อสัตย์ การศึกษาดีมีวิสัยทัศน์ ทุกคนในโรงงานจึงยินดีกับเขา เว้นแต่ อธิเบศร์ (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) หลานชายของประภาส ที่คิดว่าตำแหน่งนี้ควรเป็นของไพรัช (สุรวุฑ ไหมกัน) ลูกน้องคนสนิทของเขา ทำให้อธิเบศร์ไม่พอใจจนพาลคิดไปถึงว่าโรงงานนี้ควรเป็นของเขา เพราะพ่อเขาเป็นผู้สร้างมาไม่ใช่ประภาส ประภาสเชิญชานนท์ไปร่วมงานฉลองที่บ้าน ทำให้เขาได้เจอกับอัญธิกา (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) ลูกสาวเพียงคนเดียว ที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศ ครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้พบกันต่างก็ตกหลุมรักกันทันที และประภาสก็เปิดทางให้ชานนท์ได้ทำความรู้จักกับอัญธิกามากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่ออัญเข้ามาทำงานบัญชีให้กับบริษัท เธอก็พบว่าบริษัทกำลังถูกโกงเงิน จึงให้ชานนท์เข้ามาช่วยดูแล โดยมีดาว (คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) น้องสาวข้างบ้านที่สนิทกับชานนท์ คอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้ที่โรงงาน ซึ่งดาวก็บังเอิญได้ยินลูกสมุนของอธิเบศร์กำลังปรึกษากันเรื่องการขโมยสินค้า ดาวจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกชานนท์ ในขณะที่อัญกำลังเดินไปที่ห้องเก็บของ อัญได้เจอกับโจรที่กำลังขโมยของ โจรจึงทำร้ายเธอจนสลบ และทำลายหลักฐานว่าสินค้าหายไปเพราะโกดังถูกไฟไหม้ แต่โชคดีที่ชานนท์ตามมาพบ และช่วยอัญออกมาจากกองเพลิงได้ทันเวลา ชานนท์ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลโดยมีอัญคอยดูแล ทำให้ดาวรู้สึกน้อยใจ เพราะลึก ๆ ดาวคิดกับชานนท์มากกว่าพี่ชาย ด้วยความดีของชานนท์ที่มีต่ออัญ ทำให้ประภาสตัดสินใจให้ชานนท์กับอัญแต่งงานกัน หากแต่ชานนท์กลับขอหมั้นอัญไว้ก่อน เพราะต้องการสร้างเนื้อสร้างตัวให้ดีกว่านี้ ประภาสตั้งใจจะประกาศเลื่อนตำแหน่งให้ชานนท์ ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ในวันหมั้น อธิเบศร์รู้เรื่องนี้เข้าก็ยิ่งโกรธเกลียดชานนท์ จึงร่วมมือกับจิตตรี (วราไพรินทร์ ธนวริสพร) เมียลับ ๆ ของเขา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขาของประภาส และมีสุรกิจ (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) ผู้จัดการฝ่ายขาย คอยช่วยวางแผนโกงสินค้าส่งออกไปต่างประเทศด้วยการปลอมเอกสาร แต่โชคกลับไม่เข้าข้าง อธิเบศร์ เมื่อเรือบรรทุกสินค้าถูกจับกุมได้เสียก่อน อธิเบศร์กลัวจะถูกเปิดโปง จึงรีบนำเอกสารที่ชานนท์เป็นคนเซ็นอนุมัติไปให้ตำรวจมาจับกุมตัวชานนท์ในงานหมั้น ด้วยหลักฐานทุกอย่าง ทำให้ชานนท์ต้องโทษเป็นเวลา 5 ปี ตลอดเวลาอัญพยายามมาหาชานนท์ที่เรือนจำ แต่ก็ถูกชานนท์ไล่กลับไปทุกครั้ง ระหว่างที่ชานนท์ต้องโทษอยู่นั้น เขาก็ได้พบกับ ใหญ่ (ภัทรพล กันตพจน์) เจ้าพ่อในคุก ที่สุดท้ายกลายเป็นเพื่อนรัก และคอยช่วยเหลือชานนท์ทุกครั้งที่มีปัญหา ในขณะที่ชานนท์อยู่ในเรือนจำ เขาต้องพบเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย บ้านของชานนท์ก็เริ่มลำบาก นุช (หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช) น้องสาวของชานนท์ จึงไปสมัครงานเป็นนักแสดงตัวประกอบ เพื่อหารายได้มาช่วยเหลือแม่ดรุณี (อรอนงค์ ปัญญาวงศ์) ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ วันหนึ่งอธิเบศร์ไปหาเพื่อนที่กองถ่ายละคร ทำให้เขาได้เจอกับนุช ความที่เขากำลังเบื่อในความงี่เง่าของจิตตรี อธิเบศร์จึงตามจีบนุช จนนุชตกเป็นของเขาในที่สุด นุชเริ่มมีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะการช่วยเหลือจากอธิเบศร์ ไม่นานจิตตรีก็ตามสืบจนรู้ว่าอธิเบศร์แอบมาคบกับนุช จึงตามมาทำร้าย และข่มขู่นุชที่คอนโด อธิเบศร์เข้ามาห้าม จิตตรีจึงยื่นคำขาดว่าจะเปิดโปงเรื่องที่เคยทำร่วมกันไว้ อธิเบศร์โมโหมากจึงทำร้ายจิตตรีจนเสียชีวิต ก่อนจะตัดสินใจอำพรางคดีว่าจิตตรีขับรถตกหน้าผาเอง เมย์ (พิมพ์จิรา เจริญลักษณ์) เพื่อนสมัยเรียนเมืองนอกของอัญ กลับมาเมืองไทย ทำให้อัญได้พบกับปาลิต (พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) พี่ชายของเมย์ และปาลิตก็หลงรักอัญทันที ทำให้ปาลิตคิดจะรวมบริษัทกับประภาส เพื่อจะได้เกี่ยวดองกับอัญ ซึ่งประภาสก็เห็นดีด้วย เพราะตอนนี้บริษัทกำลังต้องการผู้ร่วมทุน ประภาสหมายมั่นให้อัญแต่งงานกับปาลิต ในขณะที่อัญได้ข่าวว่าชานนท์กำลังจะพ้นโทษ เธอจึงตามไปหาชานนท์ที่บ้าน แต่ก็คลาดกันทุกครั้ง เมื่อประภาสรู้ข่าวว่าชานนท์พ้นโทษแล้ว ก็แอบไปพบชานนท์ และขอร้องให้ชานนท์เลิกยุ่งกับอัญ แม้ชานนท์จะเจ็บปวดแต่เขาก็ยอมทำตาม เพื่อให้คนรักของเขาได้เจอสิ่งที่ดี ในขณะที่ชีวิตของชานนท์ หลังจากออกจากเรือนจำแล้ว ชายหนุ่มกลับต้องพบกับความลำบากมากมาย เพราะไม่มีบริษัทไหนให้โอกาสคนคุก ชานนท์จึงต้องไปรับจ้างทำงานต่าง ๆ และไปขับรถแท็กซี่ เพื่อหาเงินมาดูแลครอบครัว อธิเบศร์รู้ข่าวเรื่องการรวมบริษัทของประภาส กับ ปาลิต ก็กังวลว่าตนเองจะไม่เหลืออะไรเลย จึงวางแผนทำลายชื่อเสียงบริษัทรวมทั้งส่งคนไปฆ่าปาลิต แต่โชคดีที่ชานนท์บังเอิญขับรถแท็กซี่ผ่านมาช่วยไว้ทัน ปาลิตซาบซึ้งในบุญคุญของชานนท์ เขาจึงชวนชานนท์ไปทำงานที่บริษัทเพื่อเป็นการตอบแทน ชานนท์ได้แต่เจ็บปวดเมื่อรู้ว่าปาลิตคือคนรักใหม่ของอัญ เมย์เห็นอัญยังไม่เปิดใจให้พี่ชายตนเอง จึงวางแผนชวนอัญไปเที่ยวหัวหิน โดยแอบนัดแนะให้ปาลิตตามไป ปาลิตขอร้องให้ชานนท์ไปด้วยกัน เพื่อช่วยเป็นพ่อสื่อให้ ชานนท์เจ็บปวดแต่ก็ยอมเพื่อให้อัญได้ลงเอยกับปาลิต อัญพยายามหาทางแอบมาคุยกับชานนท์ แต่เขากลับบอกว่าจำเธอไม่ได้ อัญเสียใจมากที่ชานนท์เย็นชา และดูถูกความรักที่เธอมีให้ จึงตบหน้าชานนท์แล้วหนีมาหาปาลิตด้วยความเจ็บปวด ดาวแอบสืบจนรู้ว่าหวิน (อรุชา โตสวัสดิ์) คือคนที่ทำร้ายปาลิต โดยมีอธิเบศร์เป็นคนจ้างวาน ดาวจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับประภาส แต่อธิเบศร์ก็ปฏิเสธเสียงแข็งจนประภาสยอมเชื่อ ด้วยความแค้นอธิเบศร์จึงสั่งให้หวินไปจัดการดาว ในขณะที่ดาวรอชานนท์กลับมาจากหัวหิน หวินก็มาดักทำร้าย และข่มขืนดาว พร้อมสั่งห้ามปริปากบอกใคร ในที่สุดปาลิตก็ได้รู้ว่าคนรักเก่าที่อัญไม่เคยลืมคือชานนท์ เขาจึงร่วมมือกับประภาสเร่งการแต่งงานกับอัญให้เร็วที่สุด ซึ่งครั้งนี้อัญกลับไม่ปฏิเสธเพราะกำลังเสียใจอย่างหนัก หลังรู้ข่าวว่าดาวตั้งท้องกับชานนท์ ชีวิตของชายคนหนึ่งซึ่งทำทุกอย่างเพื่อคนรักของเขาได้ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ? สุดท้ายเรื่องราวความรักของชานนท์ และอัญธิกาจะลงเอยอย่างไร ? ติดตามชมได้ใน ละครเพื่อเธอ

หน้ากากนางเอก (2559/2016) วงการบันเทิงเมืองไทยใคร ๆ ก็รู้จัก เอี๊ยม-อรัญภัทร (มารี เบิร์นเนอร์) นางเอกสาวสุดฮอต ลูกคนเดียวของ ท่านอานนท์ อัศวทินกร (ดอม เหตระกูล) นักการเมืองใหญ่อดีตรัฐมนตรี เอี๊ยมมีปัญหากับ พิมพิชชา (จอย-ชลธิชา นวมสุคนธ์) แม่เลี้ยงตัวแสบอดีตพยาบาลที่ดูแลแม่ของเธอ แต่ทะเยอทะยานตีท้ายครัวแย่งพ่อไปทำให้แม่ต้องตาย หนำซ้ำยังยุแยงให้พ่อตัดขาดความเป็นลูกกับเอี๊ยม แค้นนี้จึงรอวันชำระ แต่ที่ทำให้เอี๊ยมตกเป็นข่าวแทบทุกวัน คือ มีปัญหากับเพื่อนร่วมค่ายอย่าง มะม่วง-เวฬุยา (บุศ-บุศย์สิริ รัตนาไพศาลสุข) นักแสดงตัวรองรับบทหงิม ๆ แต่ตัวจริงพูดขวานผ่าซาก แรง ไม่ยอมใคร มีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง ต่างกับ เขม-เขมปัญฑา (จันจิ ไกอา-จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย) นางร้ายสุดแซ่บที่ในจอแรงสุดติ่ง ผิดกับตัวจริงที่นุ่มนิ่มโลกสวยจนคนหาว่าแอ๊บแบ๊ว ข่าวฉาวของ 3 สาว ถูกใจ เจ๊เต่า-ตุลา จินดาวัฒนะ (เอ-สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ) ผู้จัดการส่วนตัวมาก เพราะมันหมายถึงรายได้จากงานอีเว้นท์ ถ่ายแบบ และ ละคร จะวิ่งเข้าใส่โครมคราม ทุกคนพากันอิจฉาเอี๊ยมที่เป็นเซเลบ Some One มีแต่คนจับจ้อง พิมพิชชาคลั่งเอาชนะลูกเลี้ยงไม่ได้ทั้งที่ตะเกียกตะกายแย่งท่านอานนท์มาจาก สุวรีย์ แม่ของเอี๊ยมได้แล้ว จึงคว้า นังเบอรี่ (หลับปุ๋ย-พิมพ์รตา กิตติพัฒนาวัฒน์) เด็กในชุมชนที่บ้านเก่ามาเสริมทัพ เพราะเห็น วรรษชล แมคคินสัน (ต่าย-นัฐฐพนท์ ลียะวณิช) หนุ่มหล่อ ลูกบุญธรรมนักธุรกิจชาวต่างชาติ ทำรายการสารคดีเชิงอนุรักษ์ที่กำลังฮอต มีข่าวเป็นกุ๊กกิ๊กกับเอี๊ยม เอี๊ยมสืบรู้ว่า วรรษชลเคยเป็นแฟนเก่าของพิมพิชชา ที่ตอนนี้นังแม่เลี้ยงหน้าปลวกตามตื๊อจะสานสัมพันธ์ต่อ เอี๊ยมจึงหาโอกาสทำความรู้จักกับวรรษชล เพื่อขัดขวางพิมพิชชา วรรษชลดีใจที่ได้พบสาวน้อยที่เคยช่วยชีวิตเขาตอนถูกพิมพิชชาหักอก ตอนนั้นวรรษชลเป็นแค่เด็กหนุ่มไร้อนาคต ถูกพิมพิชชาแฟนสาวพยาบาลทิ้งไม่ใยดี เขาเมาจนเกือบถูกรถชนตาย ดีที่สาวน้อยเอี๊ยมมาช่วยไว้ทัน ความประทับใจจากวันนั้นจำมาถึงวันนี้ วรรษชลนับถือหัวใจอันแข็งแกร่งที่เอี๊ยมเคยปลอบเรื่อง แกสโทรทิช คือ สัตว์ที่มีวงจรชีวิตสั้นที่สุด แต่มันไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย คนเราดีกว่าเยอะ เมื่อเกิดมามีวงจรชีวิตยาวกว่าก็ควรทำประโยชน์ให้มากที่สุด เมื่อมีโอกาสวรรษชล จึงเลือกทำรายการท่องเที่ยงเชิงสารคดี การเจอกันอีกครั้งของวรรษชล กับเอี๊ยมทำให้หัวใจทั้งคู่ใกล้ชิดกันโดยไม่รู้ตัว พิมพิชชาหาทางแก้เผ็ดลูกเลี้ยงด้วยการปล่อยข่าวมั่วให้ ป้าไก่ (เม้าท์ซี่-จันทร์สม กุลเทิดทูล) นักข่าวรุ่นเก๋าตามขุดคุ้ยทำลายเอี๊ยม ขณะที่พิมพิชชา จะแย่งหัวใจวรรษชลคืนในฐานะ แฟนเก่า เบอรี่ก็พยายามแทงข้างหลังเจ้านายเพื่อแย่งผู้ชายคนเดียวกัน เอี๊ยมทะเลาะกับแม่เลี้ยงแล้วหลุดปากว่าจะแย่งวรรษชล เพื่อแก้แค้น เขมอยู่ในเหตุการณ์บังเอิญถ่ายคลิปไว้ แต่เบอรี่แอบส่งคลิปนี้ให้วรรษชล เขาเจ็บปวดมากที่ผู้หญิงที่รักเห็นเป็นแค่เหยื่อในการแก้แค้น วรรษชลตัดใจจากเอี๊ยมไปเงียบ ๆ พิมพิชชาเล่าเรื่องนี้ให้ คริสโตเฟอร์ (แมทธิว ดีน) หลานชายของ ดำรง (จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร) เจ้าของสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลน้องใหม่มาแรงฟัง เพราะดำรงจะดึงคริสโตเฟอร์มาเป็นพระเอกคู่กับเอี๊ยม เพื่อกอบกู้สถานการณ์ด้านละครของสถานีโทรทัศน์ตัวเอง ดำรงรุกหนักบังคับคริสโตเฟอร์ให้เป็นคู่จิ้นเอี๊ยมดังกระหึ่มวงการ วรรษชลแอบน้อยใจแฟนสาวอยู่เนือง ๆ เพราะความเป็นตัวตนของเอี๊ยมทำให้คริสโตเฟอร์เชื่อใจยอมเผยกับเธอว่า เขาเป็นชายรักชาย ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด ด้านเบอรี่ที่เริ่มไม่มีที่ยืนในวงการก็ยอมทำทุกทางเพื่ออัพตัวเองเป็นดาราแถวหน้าให้ได้ ถึงขั้นยอมเสียตัวให้ทั้งดำรง และผู้กำกับเพื่อจะโค่นเอี๊ยมให้ตกกระป๋อง งานแสดงของเอี๊ยมกลับมาเปรี้ยงอีกครั้ง แต่ความรักกับวรรษชลยังคลุมเครือ ต่างกับเขมที่หัวใจกำลังเบ่งบานพบรักกับ ปราชญ์ (โย่ง-อนุสรณ์ มณีเทศ) เจ้าของธุรกิจซุปเปอร์คาร์ หล่อ รวยไม่แพ้วรรษชล ตอนแรกปราชญ์คิดแกล้งเขมเพราะเข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้หญิงของ ธาริช ผู้เป็นพ่อ จริง ๆ ธาริชจะแต่งงานกับน้าสาวของเขมต่างหาก ด้านมะม่วงก็แฮปปี้ไม่แพ้กัน เมื่อ แทนไท (เป้-ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์) เจ้าของ ไร่แทนรัก รูปหล่อ มีเสน่ห์ตามจีบ ทั้งที่แรก ๆ คู่นี้เกลียดขี้หน้ากันหนักมาก แทนคิดว่ามะม่วงไล่ล่าผู้ชายรวย ๆ เลยตามสืบประวัติเธอ พอรู้จักตัวตนจริง ๆ ไม่ใช่อย่างที่คิดจึงรุกจีบมะม่วง ทุกคนกำลังไปได้สวย ทำให้พิมพิชชาสำนึกผิดที่ทำกับแม่ตัวเอง และแม่ของเอี๊ยม เมาประชดชีวิตหลุดปากพูดความจริงที่เป็นคนฆ่า แม่เอี๊ยม อานนท์ไล่ออกจากบ้านทันที เขาเสียใจที่ดูแลครอบครัวไม่ดีจนลูกสาวคนเดียวต้องออกไปอยู่นอกบ้าน ทุกอย่างพลิกผันเบอรี่ขึ้นแท่นเป็นนางเอกเบอร์ต้น ๆ ไม่เห็นหัวป้าไก่ และไม่จ่ายเงินส่วนแบ่งที่หางานให้ตามตกลง ทั้งคู่ผิดใจกันป้าไก่สาวไส้เบอรี่ออกมาแฉ เลยโดนเบอรี่กำจัดให้พ้นทาง ด้านเอี๊ยมก็ถูกช่องคุณแจ๊ดฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ฉีกสัญญา เดือดร้อนถึงละครของดำรงที่มีเอี๊ยมเป็นนางเอกก็ถ่ายทำต่อไม่ได้ เคราะห์ซ้ำ พิมพิชชาถูกฆาตกรรม และเอี๊ยมเป็นผู้ต้องสงสัยคดีนี้ ทุกคนพยายามช่วยแต่ก็ต้องจนด้วยหลักฐานที่เบอรี่เอามาโชว์ว่าเอี๊ยมเป็นฆาตกร เรื่องราวความเข้มข้นจะไปต่อยังไง ? ความรักของ วรรษชล จะช่วย เอี๊ยม ให้พ้นภัยได้รึเปล่า ? ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครหน้ากากนางเอก

เกมพยาบาท (2559/2016) อัคคี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่มีความแค้นต่อครอบครัวของ ฉัตรชนก คู่แข่งทางธุรกิจคนสำคัญที่อัคคีปักใจเชื่อว่าเป็นต้นเหตุทำให้พ่อกับแม่ต้องฆ่าตัวตาย เพราะถูกโกงจนล้มละลาย ยิ่งไปกว่านั้นฉัตรชนกยังเป็นคนรักของ วรรณิศา น้องสาวคนเดียวที่อัคคีรักยิ่งกว่าชีวิต อัคคีจึงกีดกันความรักของฉัตรชนกกับวรรณิศาอย่างจริงจัง ส่วน อำภา แม่ของฉัตรชนก ก็แสดงทีท่ารังเกียจวรรณิศาเช่นกัน เพราะคิดว่าเป็นผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าหวังจะมาเกาะลูกชายกิน อำภา จึงประกาศหมั้นหมาย เกษณีย์ ลูกสาวของ เกสร ไฮโซเจ้าของร้านเพชร ให้ฉัตรชนกกลางงานเลี้ยงต้อนรับ ฉัตรชบา น้องสาวของฉัตรชนก วรรณิศาที่อยู่ในงานเลี้ยงได้ยินอำภาประกาศหมั้นเกษณีย์ก็แบกความเสียใจวิ่งออกจากงานไป โดยมี พัฒนะ เพลย์บอยจอมแสบ ตามไปติด ๆ เพื่อหวังจะรวบหัวรวบหางวรรณิศา แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อวรรณิศาพยายามเอาชีวิตรอดจากพัฒนะแต่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ลงมือข่มขืนจนเสียสติ ในระหว่างการพักรักษาตัวอัคคีเฝ้าดูวรรณิศาด้วยความเศร้าเสียใจ เมื่อฉัตรชนก และฉัตรชบาได้รับข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับวรรณิศาก็รีบมาดูอาการวรรณิศาด้วยความรู้สึกผิด แต่ยิ่งกลายเป็นการจุดไฟแค้นในใจให้กับอัคคี เพราะอัคคีที่มั่นใจว่าฉัตรชนกคือสาเหตุที่ทำให้วรรณิศาต้องเผชิญชะตากรรมเลวร้ายเช่นนี้จึงออกปากไล่ฉัตรชนก และฉัตรชบาอย่างไม่ไยดี พร้อมจะหาหลักฐานเอาผิดทุกทางเพื่อให้ฉัตรชนกชดใช้ในสิ่งที่วรรณิศาสูญเสียไป ส่วนเกษณีย์แม้ว่าจะได้ฉัตรชนกไปครอบครองแล้ว แต่ก็ยังแอบเข้ามาเยาะเย้ยวรรณิศาจนเกิดอาการคลุ้มคลั่งวิ่งหนีขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงพยาบาล อัคคีตามมาเจอน้องสาวที่ยืนอยู่ริมระเบียงตึกจึงพยายามจะเกลี้ยกล่อม แต่ในวินาทีนั้นสติของวรรณิศาล่องลอยไปพร้อมกับจิตใจที่เจ็บปวดจนเกินจะรับไหวเพ้อเรียกหาแต่ฉัตรชนก ก่อนจะพลัดตกตึกไปต่อหน้าต่อตาอัคคี ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้อัคคีเชื่อว่าฉัตรชนกคือตัวการของเรื่องทั้งหมด อัคคีจิตใจร้อนรุ่มราวกับไฟคิดแต่จะแก้แค้นฉัตรชนกให้ได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสไม่ต่างจากตนเอง แม้ว่า จิดาภา แฟนสาว และอดุลย์ เพื่อนคนสนิท จะพยายามเตือนเท่าไหร่ก็ไม่สามารถดับความแค้นในใจของอัคคีลงได้แม้แต่น้อย และสิ่งเดียวที่จะทำให้ฉัตรชนกตกอยู่ในความเจ็บปวดเดียวกับตัวเองก็คือ ฉัตรชบา อัคคีจึงตัดสินใจลักพาตัวฉัตรชบามาที่เกาะร้าง เพื่อเปิดเกมการแก้แค้นกับฉัตรชนกอย่างเป็นทางการ อัคคีทรมานทั้งร่างกาย และจิตใจฉัตรชบาสารพัด ซึ่งแม้ว่าฉัตรชบาจะดูเป็นคุณหนูขี้เหวี่ยงขาวีน แต่เมื่อได้รับรู้ถึงสาเหตุความแค้นของอัคคี ฉัตรชบาก็พร้อมจะเสียสละแทนพี่ชาย ฉัตรชบายอมตกเป็นของอัคคีด้วยความทุกข์ทรมานใจอย่างที่สุด เพื่อหวังจะดับไฟที่สุมอยู่ในจิตใจของอัคคีให้มอดดับไป แตทุกอย่างไม่เป็นดั่งที่คิด เมื่ออัคคี และฉัตรชบาต่างก็หวั่นไหวต่อความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นบนความแค้นครั้งนี้ จนในเวลาต่อมาอัคคีได้รับแจ้งจากตำรวจเกี่ยวกับความคืบหน้าทางคดีของวรรณิศาที่พบว่าฉัตรชนกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องนี้ อัคคีอึ้งไปที่หลงแก้แค้นคนผิด แถมยังเอาความโกรธความเกลียดมาลงที่ฉัตรชบาอีก แล้วทั้งคู่จะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรัก เกมแห่งความแค้น และไฟแห่งความพยาบาทของครั้งนี้จบลงอย่างไร ติดตามกันต่อได้ในละคร เกมพยาบาท

ตะวันตกดิน (2564/2021) โสรวาร (โอม อัชชา) เป็นชายหนุ่มที่มาจากครอบครัวยากจน มีความทะเยอทะยานสูง แต่ด้วยความที่เป็นคนฉลาด อ่อนน้อมถ่อมตน และรู้จักวิธีเข้าหาผู้ใหญ่ บวกกับมีความสามารถในการทำงาน ทำให้เขาพาตัวเองไต่เต้าขึ้นมาเป็นเลขานุการเอกของ เวศน์ (วิลลี่ แมคอินทอช) ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์กร ด้วยวัยไม่ถึง 30 ปี โสรวารทุ่มเททำให้เวศน์ทั้งรักและไว้วางใจในตัวเขา รวมไปถึง วิธู (ยุ้ย จีรนันท์) ภรรยาสาวสวยของเวศน์ ที่ให้ความสนิทสนมกับโสรวารเหมือนเป็นคนในครอบครัว ทั้งวิธูและโสรวารต่างฮึกเหิมและมั่นใจในอำนาจบารมีของเวศน์ ว่าจะผลักดันพาชีวิตของเธอและเขาให้ก้าวสู่ที่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ฑัณฑิกา (น้ำตาล ชลิตา) เป็นหญิงสาวที่เติบโตมาจากครอบครัวที่อบอุ่น โลกของฑัณฑิกามีเพียงสีขาวกับสีดำ สำหรับเธอไม่มีคำว่าตรงกลาง ถ้าไม่ถูกก็คือผิด ฑัณฑิกาจึงกลายเป็นคนแปลกสำหรับบางสังคม ฑัณฑิกาได้เจอกับโสรวารครั้งแรกที่งานวันเกิดของวิธู น้าสาว ทุกคนต่างพากันชื่นชมเวศน์ที่มีลูกน้องทั้งหล่อและขยัน ยกเว้นฑัณฑิกาที่แอบนึกดูถูกว่าเขาเป็นผู้ชายที่ช่างประจบสอพลอ เพราะความแปลกแยกของฑัณฑิกาทำให้โสรวารให้ความสนใจในตัวเธอ เช่นเดียวกับ ไอยรา (ฟิล์ม รัฐภูมิ) หนุ่มนักธุรกิจมาดเพลย์บอย ที่พยายามจะเข้ามาตีสนิทกับเธอ ทั้งโสรวารและไอยราต่างไม่ชอบหน้ากันอยู่เป็นทุนเดิม เพราะทั้งสองต่างรู้เท่าทันกันในทุก ๆ เรื่อง แต่แตกต่างกันตรงที่ไอยรามี คุณ (อุ๋ม อาภาศิริ) ซึ่งเป็นหญิงหม้ายสูงวัยกว่า และเป็นแม่ของเพื่อนสนิท ที่ให้การอุปถัมภ์ส่งไอยราเรียนจนจบมหาวิทยาลัย จนมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันอย่างลับ ๆ หลังงานวันเกิดวิธู โสรวารพยายามติดต่อหาฑัณฑิกา แต่ฑัณฑิกาแสดงอาการปฏิเสธอย่างชัดเจน เมื่อ ทินกร (แจ๊บ เพ็ญเพ็ชร) รู้ว่าโสรวารเป็นคนของเวศน์ จึงแสดงท่าทีให้รู้ว่าเขาไม่ยินดีที่จะต้อนรับโสรวารเท่าไรนัก ผิดกับไอยราที่วางแผนเข้าจีบฑัณฑิกาโดยเข้าทางทินกรก่อน และดูเหมือนว่าไอยราจะคิดถูก วันหนึ่ง เวศน์มีอาการหัวใจวายและเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ด้วยรู้ดีว่าอำนาจและบารมีที่เคยคุ้มครองนั้นได้ดับลงไปแล้วพร้อมกับชีวิตของเวศน์ จึงเป็นโอกาสของไอยราที่จะเข้ามาทำคะแนนกับฑัณฑิกา คุณจับความรู้สึกของไอยราได้ว่าเขากำลังตกอยู่ในความรักใครสักคน เมื่อเจ้านายคนใหม่ย้ายเข้ามา โสรวารก็ตกกระป๋องถูกเตะย้ายไปทำงานในตำแหน่งที่ไม่มีความสำคัญอะไร ในแต่ละวันของโสรวารจึงผ่านไปอย่างร้อนรุ่มและไร้ความสุข เช่นเดียวกับวิธู เมื่อขาดสามี เธอย่อมหวาดหวั่นและขาดความมั่นใจในชีวิต ด้านไฮโซสาวจอมฉาว ศาวิกา (เอมมี่ มรกต) เบื้องหน้าโชว์รวย ขึ้นชื่อว่าเป็นไฮโซจอมปลอม ออกตัวว่าเป็นเพื่อนรักวิธู แต่เบื้องหลังพร้อมเสียบแทงเพื่อนในชนชั้นสังคมตลอด ใช้ชีวิตอยู่กินกับ ชนะ (บอย พิษณุ) สามีตัวแสบ ที่ชีวิตจริงจอมปลอม ไม่รวยเหมือนที่ทุกคนคิด แอบส่งเมียตัวเองให้คนใหญ่คนโต เพื่อกลโกงทุจริตต่าง ๆ กับ ท่าน (อาหนิง นิรุตติ์) เป็นผู้มีอำนาจในการบริหารประเทศ สำหรับท่านเซ็กส์เปรียบเสมือนเกมที่ท้าทายอำนาจใฝ่ต่ำของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยกิเลส ตัณหา ราคะ และท่านคือผู้กำหนดกติกา แต่ตอนนี้เกมได้เปลี่ยนไปแล้ว ท่านแอบชอบฑัณฑิกามาก เพราะนอกจากความสวยแล้ว ความเป็นคนตรงไปตรงมา ยิ่งฑัณฑิกาแสดงตัวตนฝืนอำนาจของท่านมากแค่ไหน ท่านก็ยิ่งอยากได้เธอมากขึ้นเท่านั้น ฑัณฑิกากับ พัตรา (ญี่ปุ่น ณภัทร) ได้ช่วยเหลือ ป้าเฉวียน (หน่อย ณัฐนี) แม่ของโสรวาร ที่เป็นลมล้มข้างถนนไปส่งโรงพยาบาล และทำให้ฑัณฑิกาได้รู้จักโสรวารอีกมุมหนึ่งจากแม่ของเขา เมื่อฑัณฑิกาเจอกับโสรวารอีกครั้ง เธอจึงเริ่มมองเขาในมุมบวกมากขึ้น จากวันนั้นฑัณฑิกาก็เริ่มเปิดใจ และยอมรับในตัวโสรวารมากขึ้น โสรวารก็เริ่มเรียนรู้ความคิดของฑัณฑิกา วิธูมาพบท่านตามลำพังอย่างระมัดระวังตัว เพราะรู้ดีถึงกิตติศัพท์ว่าท่านเป็นผู้ชายประเภทไหน ท่านตอบรับยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือโสรวารโดยไม่มีเงื่อนไขอะไร สัตว์ร้ายมักจะทำให้เหยื่อตายใจก่อนขย้ำ เมื่อโสรวารไปทำงาน หัวหน้าปฏิบัติกับเขาด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ และมอบงานสำคัญให้ทำ วิธูบอกให้รู้ว่าเป็นฝีมือของเธอที่ไปขอให้ท่านช่วยเหลือ โสรวารรู้สึกตื้นตันใจและขอบคุณที่วิธูพยายามผลักดันช่วยเหลือเขาตลอดมา วิธูเปิดเผยให้โสรวารรู้ว่าเธอรักและต้องการเขา แต่แล้วในที่สุดด้วยความสงสารผสมกับความเมา ทำให้เขาขาดสติและถลำตัวได้เสียกับเธอ โสรวารรู้สึกเสียใจที่เขาไม่น่าปล่อยใจพลั้งเผลอให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่สำคัญเขารู้สึกผิดต่อความรู้สึกที่ตัวเองมีกับฑัณฑิกา เมื่อศาวิการู้ว่าวิธูกับโสรวารมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง จึงไปบอกท่าน ท่านจึงเริ่มแผนที่จะจัดการกับวิธู โดยติดต่อให้โสรวารไปพบ และเสนอให้ทำงานในตำแหน่งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม แต่มีเงื่อนไขว่าโสรวารจะต้องยินยอมให้วิธูมามีความสัมพันธ์กับเขา โสรวารคิดหนักกับผลประโยชน์ที่ท่านนำมาล่อ ความรู้สึกดีชั่วกำลังต่อสู้กัน ท่านตั้งใจมาบ้านวิธูเพราะรู้ว่าฑัณฑิกาอยู่ที่นี่ ด้วยความเมาที่ท่านดื่มมาจากที่อื่น ท่านจึงเผลอลวนลามกอดฑัณฑิกา ทำให้ฑัณฑิกาโกรธมากตบหน้าท่านอย่างไม่กลัว ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน ท่านทั้งโกรธและอับอายที่ถูกฑัณฑิกาตบแถมด่าอย่างรุนแรง จึงหมายหัวและหาทางที่จะทำลายเธอให้ได้ ด้านวิธูเริ่มตามติดชีวิตโสรวารจนเขาอึดอัด ไม่ว่าเขาจะไปไหนทำอะไรเธอจะคอยตามเช็กตลอด โสรวารจะจัดการอย่างไรกับชีวิตและความขัดแย้งระหว่างความก้าวหน้าที่ใฝ่ฝันกับหัวใจ ถ้าวิธูรู้ว่าโสรวารกับฑัณฑิการักกัน อะไรจะเกิดขึ้น ฑัณฑิกาจะทำอย่างไรหากรู้ว่าโสรวารกับน้าสาวเป็นอะไรกัน และถ้าท่านรู้ว่าโสรวารคือผู้ชายคนนั้น ท่านจะจัดการอย่างไร โสรวารจะยอมขายฑัณฑิกาให้กับท่านหรือไม่ ทุกอย่างมีคำตอบในละคร ตะวันตกดิน

ยัยเป็ดขี้เหร่ Ugly Betty Thailand (2558/2015) เป็ด เด็กสาวหน้าตาขี้เหร่แต่มีความสามารถ จับพลัดจับผลูได้เข้าทำงานที่พอชช์ (Posh) บริษัทนำเข้าเครื่องสำอางแบรนด์ไฮเอนด์ ในตำแหน่งเลขาฯ ของ ดนัย ว่าที่ผู้บริหารคนใหม่โดยที่ เป็ด ไม่รู้ตัวว่าไปมีเอี่ยวกับเกมการเมืองในบริษัท ซึ่งพอชช์ มี บดินทร์ พีรมิตร เป็นผู้บริหารใหญ่พร้อม งามแข ภรรยาชี้นำสามีทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่อง ดนัย ลูกชายจอมเจ้าชู้ที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกาเพื่อเป็นผู้บริหารคนต่อไป ทำให้ตระกูลพลากร ซึ่งถือหุ้นอีกครึ่งหนึ่งโดยมี เมษา น้องสาวคนสุดท้องต้องขึ้นมาเป็นคู่แข่งกับ ดนัย แต่เธออ่อนต่อโลก อลิซ ลูกพี่ลูกน้องซึ่งเก่งและพร้อมเลยเสนอตัวเป็นนอมินีผู้บริหารฝั่งพลากร ขณะที่ ดนัย ต้องพิสูจน์ผลงานให้ บดินทร์ ได้เชื่อมั่น ศึกการแย่งชิงบริษัทในครั้งนี้ ทำให้ เป็ด ได้ทำงานใกล้ชิดกับ ดนัย และโชว์ความสามารถของเธออย่างเต็มที่ จน อมิตา เลขาฯ อีกคนของ ดนัย คู่แข่งของ เป็ด ไม่พอใจ อีกทั้ง เจ๊โก้ อีเวนต์เมเนเจอร์ก็ไม่ชอบหน้า เป็ด ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น แต่โชคยังดีที่มีแก๊งปลวกอย่าง แคท คอยช่วยเหลือ และ เป็ด ก็ยังมี เต๋อ เพื่อนสนิทที่แอบรักเธอคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง อีกทั้งยังมี นัท เพื่อนร่วมคณะที่บังเอิญเจอกันที่ร้านกาแฟบ่อย ๆ คอยให้กำลังใจ นับวัน เมษา เริ่มเผยด้านมืดทำให้ ดนัย อยากถอยห่าง เพราะ เมษา และ อลิซ ร่วมมือใช้วิธีต่าง ๆ ให้ตัวเองได้หุ้นและตัว ดนัย ทำให้ ดนัย เผชิญวิกฤติชีวิตครั้งสำคัญ แถมถูกบังคับให้หมั้นกับ เมษา ท่ามกลางความวุ่นวายว่า ดนัย จะแก้ปัญหายังไง กุญแจไขทางออกอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนั่นคือ เป็ด สาวน้อยขี้เหร่เลขาฯ สุดเก่งของเขานั่นเอง ติดตามชม ละคร ยัยเป็ดขี้เหร่ Ugly Betty Thailand

หัวใจมีเงา 2558

หัวใจมีเงา (2558/2015) ละเวง อินทรักษ์ (ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ) นักข่าวสาวคนเก่งแห่งสถานีข่าว KTV และเป็นคนรักของ กวี วงศ์เกียรติอนันต์ (โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) หัวหน้าทีมข่าวเฉพาะกิจ ทั้งการงานและความรักของละเวงกำลังรุ่งโรจน์เต็มที่ วันหนึ่งมีชายลึกลับติดต่อละเวงว่าต้องการส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตระดับชาติ แต่หลังได้รับข้อมูล ละเวงก็รู้สึกว่าถูกสะกดรอยตาม เธอจึงพยายามขับรถหนีจนรถเสียหลักพลิกคว่ำ ทำให้ละเวงเสียชีวิตทันที แต่จิตของละเวงไม่แตกดับ เธอรู้สึกตัวอีกครั้งในร่างของ อมาวสี ราชเดชา (โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) หญิงสาวบอบบางที่หัวใจวายและถูกส่งมาที่โรงพยาบาลในเวลาเดียวกัน ละเวงจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง ในขณะที่จิตใต้สำนึกของเธอทำให้เธอปฏิเสธร่างใหม่ ละเวงพยายามบอกทุกคนว่าเธอไม่ใช่อมาวสีแต่ไม่มีใครเชื่อ เมื่อ เทิดพงษ์ (ศานติ สันติเวชกุล) กับ ระริน (อุทุมพร ศิลาพันธ์) พ่อแม่ของอมาวสี พาเธอกลับบ้าน ทำให้เธอได้พบกับ โยธา สิทธิ์พิทักษ์ (แฟร์-กันต์ดนย์ อะคาซาน) คู่หมั้นซึ่งกำลังจะแต่งงานกันในไม่ช้า อมาวสีขอยกเลิกการแต่งงานแต่โยธาไม่ยอม เธอจึงไปขอร้อง กรองทอง (เอ้ก-บุษกร ตันติภนา) คนรักเก่าของโยธา ให้กลับมาคบกับเขา ทำให้ พิมพา (เจนสุดา ปานโต) พี่สาวต่างสายเลือดของอมาวสีที่แอบหลงรักโยธามานาน บอกทุกคนว่าอมาวสีเป็นบ้า จน สุรางค์ (กาญจนา จินดาวัฒน์) ญาติผู้ใหญ่ของโยธา ต้องการให้ยกเลิกการแต่งงาน แต่เมื่อ หมอประสพ (อาเธอร์ เบญจกุล) เพื่อนสนิทของโยธาและแพทย์ประจำตัวของอมาวสี ยืนยันว่าเธอไม่ได้บ้า ทั้งพิมพาและสุรางค์จึงไม่มีเหตุผลมาขัดใจโยธาได้อีก วันหนึ่งอมาวสีรู้ข่าวการตายของละเวง ทำให้เธอสะดุดใจอย่างจัง อมาวสีพยายามค้นเรื่องราวทุกอย่างจนได้เห็นซากรถของละเวง ความทรงจำบางส่วนจึงกลับคืนมา อมาวสีมั่นใจว่าเธอคือละเวงและรู้ว่ามีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จ แต่ครอบครัวใหม่ของเธอกลับเป็นอุปสรรค ด้วยเหตุนี้โยธาจึงเป็นทางออกเดียวของเธอ อมาวสีจึงยอมแต่งงานกับโยธาโดยมีเงื่อนไขว่าโยธาจะต้องไม่ล่วงเกินเธอและยอมให้เธอทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าเธอคือละเวงเป็นเวลาหนึ่งปี หากเธอทำไม่ได้ก็จะยอมเป็นอมาวสีและจะยอมเป็นภรรยาที่ดีของเขา โยธายอมรับเงื่อนไขนั้น โยธาตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อหนีเรื่องยุ่งยาก แต่กลับทำให้อมาวสีได้พบสังคมเก่าที่คุ้นเคย อมาวสีจำกวีรวมทั้งเพื่อนร่วมงานทุกคนได้ทันที เธอจึงหาทางกลับไปทำงานใน KTV อีกครั้ง โยธาเริ่มน้อยใจที่อมาวสีทำตัวเหมือนไม่ต้องการเขา จึงประชดด้วยการให้ความสนิทสนมกับพิมพาและกรองทองมากขึ้น ซึ่งอมาวสีก็ทำเป็นไม่แคร์แม้บางทีเธอจะรู้สึกไม่พอใจอย่างบอกไม่ถูก แม้ทั้งคู่จะขัดแย้งกันตลอดเวลา แต่การใช้ชีวิตร่วมกันได้ก่อความผูกพันใหม่ที่ลึกซึ้งขึ้นในหัวใจของทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันกวีรู้สึกว่าอมาวสีมีบางอย่างที่เหมือนกับผู้หญิงที่เขารักและเริ่มใกล้ชิดกับอมาวสีมากขึ้น แต่แล้วอมาวสีก็ต้องโยนความสับสนในใจทิ้งไปก่อน เมื่อเธอหาทัมป์ไดรฟ์ที่ได้จากชายลึกลับก่อนเกิดอุบัติเหตุพบ ข้อมูลในทัมป์ไดรฟ์เปิดเผยเรื่องราวของนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการคอรัปชันมากมาย ทว่าการเปิดโปงชายคนนี้กลับสร้างความสะเทือนใจให้อมาวสีอย่างรุนแรง แล้วใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทุจริตที่ละเวงค้นพบ ? สุดท้ายแล้วรักสามเส้าของ ละเวงในร่างอมาวสี โยธา และกวีจะลงเอยอย่างไร ? ติดตามชมและร่วมลุ้นได้ใน ละครหัวใจมีเงา

สุดแค้นแสนรัก 2558

สุดแค้นแสนรัก (2558/2015) เรื่องราวความรัก ความแค้น ระหว่างสองครอบครัว ที่รอยแค้นฝังลึกมิอาจคืนดีกันได้ ทำให้ความรักแท้ของหนุ่มสาวถูกอำนาจของความแค้นของคนคนเดียว กีดกัน ทำลายจนพังพินาศไปอย่างน่าเสียดาย…

ภาคสุดแค้น พ.ศ. 2515

ในปี พ.ศ. 2515 ที่หมู่บ้านหนองนมวัว จังหวัดนครสวรรค์ หมู่บ้านที่มีบรรยากาศท้องทุ่ง ชาวบ้านช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี มีสองครอบครัว คือ ครอบครัว "แย้ม" (รัดเกล้า อามระดิษ) กับ "เทือง" (นึกคิด บุญทอง) ที่มีลูกชายคือ "ประยงค์" (พัชฏะ นามปาน) ได้แต่งงานกับ "อัมพร" (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) ลูกสาวของ "ขัน" (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) กับ "อ่ำ" (จินตหรา สุขพัฒน์) ชาวบ้านหมู่บ้านเดียวกัน แต่แย้มไม่ถูกใจลูกสะใภ้สักเท่าไร เมื่ออัมพรตั้งท้องลูกอยู่ เกิดเหตุการณ์เทือง สามีแย้มตายเนื่องจากทะเลาะวิวาทกับขัน พ่อของอัมพร เนื่องจากปล่อยน้ำเข้านา ทำให้แย้มโกรธแค้นเป็นอย่างมากสาปแช่งขันให้ถูกฟ้าผ่า และคำสาปแช่งดูเหมือนจะได้ผล เพราะคืนนั้นเองขันก็ถูกฟ้าผ่าตายตามเทืองไป

แย้มยังคงโกรธแค้นครอบครัวของอัมพร ขัดขวางไม่ให้ประยงค์ไปดูแลอัมพรและลูกที่โรงพยาบาล แย้มยังไม่ยอมให้ศพของขันสวดและเผาวัดเดียวกับเทือง "อุไร" (พรชิตา ณ สงขลา) น้องสาวของอัมพร ทนไม่ได้ด่าแย้มถึงศาลาสวดศพเทือง "ลือพงษ์" (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์) เจ้าของคิวรถประจำทางและกิจการห้องเช่าประจำหมู่บ้าน ได้คบหากับอุไร แต่พ่อของลือพงษ์ "โกตา" (สุทธิพงษ์ วัฒนจัง) และแม่ลือพงษ์ "นกเล็ก" (ไปรมา รัชตะ) ถูกแย้มยุยงให้เกลียดชังอุไร พร้อมทั้งหมายตาลือพงษ์ไว้ให้ "พะยอม" (น้ำฝน กุลณัฐ) ลูกสาวคนเล็กที่แอบชอบลือพงษ์

หลังจากอัมพรคลอดลูกชาย แย้มตั้งชื่อให้ว่า "ยงยุทธ" อัมพรย้ายมาอยู่ที่บ้านประยงค์ เหตุเพราะทน คำเหน็บแนม ด่าทอไม่ได้ แย้มพยายามจับคู่ประยงค์กับ "สุดา" (รฐา โพธิ์งาม) ลูกสาวของเพื่อนรัก เมื่ออัมพรรู้เรื่องจึงเกิดความหึงหวง และทะเลาะวิวาทอย่างหนัก เป็นเหตุให้แย้มถือโอกาสไล่อัมพรกลับบ้านและไม่ให้กลับมาอีก โดยลูกอยู่กับแย้ม

อุไรก็เผลอใจแอบได้เสียกับลือพงษ์ อุไรร้องขอให้ลือพงษ์รีบบอกพ่อแม่มาสู่ขอโดยเร็ว ลือพงษ์รับปากไปทั้งๆ ที่รู้แก่ใจว่าพ่อแม่ไม่ยอม เพราะทั้งคู่ไม่ชอบอุไร ด้านประยงค์ดื่มเหล้าย้อมใจเพราะคิดถึงภรรยา จนอัมพรไปเจอ และได้ปรับความเข้าใจกัน อัมพรขอลูกคืน แต่ประยงค์ขอลูกไว้เพื่อเป็นตัวแทนรักของอัมพร และสัญญาว่าจะไม่แต่งงานใหม่ หากวันใดเขาแต่งงาน อัมพรจะได้ลูกคืน อัมพรจึงยกลูกให้อยู่กับประยงค์และให้รักษาสัญญาให้ดี แย้มไม่หยุดความแค้นวางแผนให้ "ประยูร" (พิษณุ นิ่มสกุล) ลูกชายคนกลาง ทำให้อุไรกับลือพงษ์เข้าใจผิดและทะเลาะกันรุนแรง เวลาผ่านไปอัมพรแอบเอาข้าวไปส่งให้ประยงค์ทุกกลางวัน อัมพรยังแอบหายงยุทธ โดยได้พะยอมช่วย แต่แย้มก็จับได้ในที่สุด มีเรื่องตบตีกันจนขึ้นโรงพัก เป็นจุดที่อุไรและอัมพรได้พบกับ "ร้อยตำรวจตรีทวี" (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) ร้อยเวรบันทึกการแจ้งความ ทวีถูกชะตาสองพี่น้องมาก อาสาไปส่งถึงบ้าน ลือพงษ์เองเผลอไผลได้เสียกับพะยอม ทำให้ลือพงษ์ต้องแต่งงานกับพะยอมอย่างไม่เต็มใจ ขณะที่อุไรก็รู้ว่าตัวเองท้อง

ประยงค์เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าระยะสุดท้าย อัมพรทันมาดูใจในนาทีสุดท้าย หลังประยงค์ตาย อัมพรแน่ใจว่าคงไม่ได้ลูกชายคืนอย่างแน่ จึงพาครอบครัวทั้งหมดย้ายไปทำมาหากินในเมือง ตั้งหลักชีวิตใหม่

ภาคแสนรัก พ.ศ. 2532-2534

เมื่อย้ายมาอยู่ในเมือง อุไรเปิดร้านขายข้าวแกง ส่วนทวีพลาดรักจากอุไร จึงได้ตกลงปลงใจแต่งงานกับอัมพร มีลูกสองคน คือ "ธนา" (วิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล) กับ "มยุรีย์" (พรสรวง รวยรื่น) ส่วนอุไรก็คลอดลูกสาว ชื่อ "ระพีพรรณ" (สรัลชนา อภิสมัยมงคล) และฝ่ายครอบครัวของลือพงษ์กับพะยอม มีลูกชายชื่อ "ลือชัย" (รวีโรจน์ รัตนตระกูลชัย) ส่วนประยูรลูกชายคนเล็ก แย้มก็ให้แต่งงานกับสุดามีลูกด้วยกันสองคน คือ "ปวริศ" (พิสิฐพงศ์ ช่างหล่อ) และ "ลลดา" (ครองขวัญ มงคล)

ส่วนยงยุทธ (จักริน ภูริพัฒน์) ถูกแย้มเสี้ยมสอนให้เกลียดแม่ โดยบอกว่าอัมพรมีคนมาติดพันจนทิ้งสามี แล้วพ่อก็ตรอมใจตาย เมื่อเวลาผ่านไป ทุกชีวิตได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนเดียวกัน เมื่ออัมพรรู้ว่ายงยุทธอยู่โรงเรียนกับลูกของตน แต่ถูกยงยุทธหลบหนีหน้า เมินเฉยเพราะคำเสี้ยมสอนจากแย้ม

สำหรับธนากับมยุรีย์ ก็ไม่เคยนับถือยงยุทธเป็นพี่ชายเพราะเห็นการกระทำที่ยงยุทธแสดงกับอัมพรและไม่เคยเห็นเขากับมยุรีย์อยู่ในสายตาว่าเป็นพี่เป็นน้องด้วย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเป็นพี่น้องกัน ยงยุทธนั้นมีโรคประจำตัวคือหอบหืด ทำให้เขากลายเป็นคนอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ยงยุทธได้คบหากับ "หทัยรัตน์" (นิคิต้า กรรณเกตุ) ลูกสาวเจ้าของกิจการร้านทอง แต่ธนานั้นหลงรักหทัยรัตน์อย่างหัวปักหัวปำ ตามตื้อจนฝ่ายหญิงรำคาญใจ หทัยรัตน์ไม่เคยรู้ความสัมพันธ์ของยงยุทธกับธนา ส่วนปวริศลูกชายประยูรก็มาตามจีบระพีพรรณ โดยที่อุไรไม่เคยชอบใจสักนิด ทำให้ระพีพรรณคิดเรื่องของตนเองไม่ตก

เมื่ออยู่ในช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัย แย้มซึ่งหมายมั่นให้ยงยุทธสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ แต่ยงยุทธอยากเรียนวิศวกรรมศาสตร์มากกว่า ผลออกมายงยุทธสอบไม่ติดคณะแพทย์สร้างความเสียใจให้แย้ม ส่วนระพีพรรณและหทัยรัตน์สามารถสอบติดแพทย์ได้เหมือนกัน จนในที่สุด ยงยุทธสอบติดที่เชียงใหม่ ส่วนปวริศ สอบติดนายร้อยทำให้นางแย้มปลื้มนักหนา และธนาก็ได้โควตาด้านกีฬาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

ด้านลือชัย ที่เรียนวิทยาลัยเทคนิค คบเพื่อนไม่ดี ไม่สนใจการเรียน ไปพัวพันกับยาเสพติด จนถูกตำรวจจับติดคุก สร้างความเสียใจให้กับพะยอมและลือพงษ์มาก ลือพงษ์เองก็ทำตัวเป็นเสี่ยยุ่งกับสาวๆ มากหน้าหลายตา ด้านระพีพรรณซึ่งรู้ความว่าลือพงษ์เป็นพ่อของตน เมื่ออุไรจับได้สั่งห้ามลือพงษ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับลูก อุไรยังขอให้ระพีพรรณแกล้งไปทำดีกับปวริศแล้วตีจากเพื่อให้ปวริศเจ็บช้ำ

ภาคสุดแค้นแสนรัก พ.ศ. 2544

ในปี พ.ศ. 2544 ธนา (ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์) เป็นนักร้อง นักแสดงที่มีชื่อเสียง ลลดา (ชุติมณฑน์ สกุลไทย) ซึ่งมีอาชีพเป็นนักแสดง หลงชอบธนา แต่ธนาไม่เคยสนใจ แต่ยังคงรักมั่นคงในหทัยรัตน์ (ศิรินทร์ ปรีดียานนท์) ส่วนมยุรีย์ (พรรณปพร ศรีดุรงคธรรมพ์) มีอาชีพเป็นครู ยงยุทธ (คณิน ชอบประดิถ) เป็นผู้จัดการธนาคาร หทัยรัตน์กับระพีพรรณที่เรียนจบแพทย์ทำงานที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกัน

ด้านความสัมพันธ์ หทัยรัตน์กับยงยุทธดูห่างเหินกันไป ปวริศ (เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) และรพีพรรณ (อนุธิดา อิ่มทรัพย์) ยังคงคบกันอยู่ ด้านลือชัย (อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์) หลังออกจากคุกก็ติดยาบ้า ระพีพรรณผู้เป็นน้องต่างมารดา ได้พาลือชัยไปบำบัด ทำให้พะยอมซาบซึ้งใจระพีพรรณมาก

อัมพรตรอมใจเรื่องยงยุทธหนักขึ้น จนล้มป่วยหนัก ทุกคนพยายามพายงยุทธมาเยี่ยมอัมพร ทำให้หทัยรัตน์รู้ความจริงว่า ธนาและยงยุทธมีแม่เป็นคนเดียวกัน ระพีพรรณขอให้หทัยรัตน์พายงยุทธมาหาอัมพร สุดท้ายยงยุทธก็ใจอ่อนยอมมาเยี่ยมอัมพรจนได้ก่อนอัมพรสิ้นใจ ก่อนตายอัมพรสั่งเสียว่า เป็นพี่น้องอย่าทอดทิ้งกัน ช่วยเหลือกันเวลามีเรื่องเดือดร้อน ให้รักย่าให้มากๆ และขอร้องอุไรไม่ให้ขัดขวางความรักของปวริศกับระพีพรรณ อุไรจำใจตอบตกลงเห็นแก่พี่สาวที่กำลังจะจากโลกนี้ไป

สุดาเล่าเรื่องความขัดแย้งระหว่างย่าแย้มกับอัมพรให้ยงยุทธ เมื่อยงยุทธรู้ก็รับไม่ได้กับการกระทำของย่า กลับบ้านเก็บข้าวของและทะเลาะกับย่า หนีออกจากบ้านมา มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ แย้มมาตามหายงยุทธที่งานศพอัมพร แต่ไม่พบ ปวริศขอแต่งงานกับระพีพรรณกับอุไร แต่อุไรบอกเงื่อนไข ว่าแต่งงานได้หากแย้มตายเสียก่อน ด้านลือพงษ์ประสบอุบัติเหตุขับรถลงข้างทาง ทำให้เป็นอัมพาต

ยงยุทธหลังออกจากบ้านและลาออกจากงานไป ก็เป็นผู้จัดการรีสอร์ตที่ลำปาง ซึ่งเป็นของวสันต์ (เตชินท์ ปิ่นชาตรี) เพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยยงยุทธไม่สนใจครอบครัวอีกเลย โดยเฉพาะแย้มที่มีปัญหากับลูกหนี้ มีเรื่องกันจนมีเรื่องถึงตำรวจ

ธนาอยากพาหทัยรัตน์ไปพักผ่อนต่างจังหวัด ได้ชวนปวริศ ระพีพรรณ ไปด้วยกัน ซึ่งบังเอิญมาพัก รีสอร์ตที่ยงยุทธทำงานอยู่ ทำให้ยงยุทธรู้ว่าธนากับหทัยรัตน์สนิทสนมกัน ยงยุทธจึงถามว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขายังเหมือนเดิมหรือไม่ หทัยรัตน์รู้ใจตัวเองว่าไขว้เขวมาทางธนา จบตอบอย่างถนอมน้ำใจว่า ยังคงเหมือนเดิม ด้านลลดาขับรถชนมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ได้ขอความช่วยเหลือกับก้องภพ ทำให้ลลดามีความรู้สึกดีกับก้องภพ ธนาเห็นว่าหทัยรัตน์ยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกยงยุทธหรือธนา เขาจึงขอเป็นฝ่ายไป โดยบอกว่าไปเรียนต่อต่างประเทศ หทัยรัตน์ใจหาย จึงเผยความรู้สึกที่แท้จริงในใจ โดยเธอบอกกว่า เธอรักธนาไม่ใช่ยงยุทธอีกต่อไป ธนาดีใจมากและไม่ไปเรียนต่อ ยอมทำตามใจหทัยรัตน์ทุกอย่าง

แย้มที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อาการไม่ดีขึ้นและยังคงคิดถึงหลาน ในที่สุดยงยุทธติดต่อกลับมาที่หทัยรัตน์และคิดจะกลับมาเยี่ยมย่า แต่เกิดอาการหอดหืบกระทันหัน ระพีพรรณกับลลดาจึงมาตามเขา พาเขากลับมาหาย่าจนได้ แต่เมื่อมาถึงยงยุทธกลับตัดพ้อเรื่องในอดีต และบอกว่าเกลียดย่า ทำให้แย้มเสียใจ สุดาเห็นว่าเป็นโอกาสดี จึงเป่าหูให้เขียนพินัยกรรมใหม่ จนแย้มได้เปลี่ยนพินัยกรรม

เมื่อยงยุทธหายป่วย ได้กลับมาที่บ้าน ได้กลับมาสำนึกบุญคุณที่ย่าเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก จึงรุดไปหาย่าที่โรงพยาบาล ย่าดีใจมาก แต่ในคืนนั้นสุดาลักลอบเพิ่มความเร็วของสายน้ำเกลือให้เร็วขึ้นจนทำให้แย้มหัวใจวายตาย ยงยุทธเสียใจมาก แต่ถูกสุดาไล่เขากลับทางอ้อม แต่เมื่อพินัยกรรมฉบับแก้ไขเปิด แย้มได้แก้ไขให้ที่ดินเป็นของยงยุทธแต่เพียงผู้เดียว สุดาเจ็บใจที่สมบัติได้กลายเป็นของยงยุทธ หทัยรัตน์ตัดสินใจบอกเลิกยงยุทธทางจดหมาย เพราะไม่กล้าที่จะบอกต่อหน้าเนื่องจากยงยุทธต้องเจอกับเรื่องสะเทือนใจมากมาย เมื่อยงยุทธอ่านจดหมายแล้วเสียใจมาก ตัดสินใจฆ่าตัวตายแต่ ลลดา ธนา และหทัยรัตน์ช่วยไว้ได้ทัน

เมื่อยงยุทธฟื้น ธนารู้สึกผิดจึงขอให้หทัยรัตน์เลือกยงยุทธ แต่ยงยุทธเป็นฝ่ายมาหาธนามาบอกให้ธนาเลือกหทัยรัตน์ ด้านพะยอมและประยูร ตัดสินใจมาขมาอ่ำและอุไร หลังจากนั้นยงยุทธตัดสินใจบวชตลอดชีวิต

รอยรักแรงแค้น 2558

เรื่องย่อ : รอยรักแรงแค้น (2558/2015) เมื่อกฎหมายไม่อาจเอาผิดกับฆาตรกรได้ การแก้แค้นอย่างสาสมจึงถูกนำมาใช้ แม้กับคนที่เขาเคยรักปานดวงใจ รอยรักก็มิอาจหักแรงแค้นลงได้แม้สักนิด

คิม คิมหันต์ สุริยศักดิ์ (ภัทรเดช สงวนความดี) หนุ่มวัยก่อนเบญจเพส กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยเหตุที่วายร้ายดักปล้นชิงทรัพย์และฆ่าบุพการีทั้งสองของเขาระหว่างเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ดินในต่างจังหวัด ในวันนั้น คิม เพิ่งจะมีอายุได้แปดขวบ ขณะที่ มล วิมลรัตน์ (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) พี่สาวคนเดียวของเขาอายุสิบแปดปี มล ต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปีหนึ่ง เพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงน้องชายคนเดียวของเธอ โชคดีที่ มล เป็นคนเก่ง คล่องแคล่ว เธอเริ่มทำธุรกิจหิ้วสินค้ามีชื่อจากเมืองนอก มาขายตรงให้กับลูกค้าไฮโซ

จากนั้น ได้พัฒนาจนเป็นผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการของเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์เนม จนเป็นที่ยอมรับของผู้คนในสังคมชั้นสูง สถานะของวิมลรัตน์ ร่ำรวยจนเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อม ๆ กับที่ คิม ได้กลายเป็น วัยรุ่นสายเลือดใหม่ ที่บรรดาสาวสังคมให้ความสนใจในเสน่ห์อันสดใสของเขา รวมทั้งเครดิตบัณฑิตใหม่จากคณะวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานไอที ก็เสริมรูปลักษณ์ชวนมองให้กับคิมได้ไม่น้อย การฟูมฟักดูแลเอาใจใส่อย่างดีของพี่สาวคนเดียวของเขาช่วยกลบลบความหวาดกลัวในวัยเด็กของคิมลงได้จนเกือบหมดสิ้น แม้ตำรวจไม่สามารถจับวายร้ายผู้ปลิดชีพพ่อและแม่ของเขาได้ แต่คิมก็เลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย

มุก มุกริน คุรุรัตน์ (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) น้องสาวในวัยใกล้เบญเพสของ ธาดา (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) พี่ชายคนเดียวของเธอ ธาดาอายุมากกว่าน้องสาวห้าปีครอบครัวของเขามีฐานะปานกลาง ผู้เป็นพ่อมีอาชีพเป็นทนายความที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังแต่อย่างใด ผู้เป็นแม่มีอาชีพเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษา ธาดาเป็นคนทะเยอทะยาน ประมาณสิบปีก่อนหน้านี้เขามุมานะสอบชิงทุนจนได้ไปเรียนต่อที่อเมริกา ธาดาต้องการให้ มุก น้องสาวของเขา มีโอกาสทางการศึกษาที่ดีกว่าอยู่เมืองไทย เขาแอบขโมยรถคันเก่งของพ่อไปขาย และนำเงินที่ได้เป็นค่าตั๋วเครื่องบินพาน้องสาวไปเรียนต่อด้วยกันที่นั่น

ธาดา ได้มีโอกาสรู้จักกับ วิมลรัตน์ ที่อเมริกา ความขยัน ทำการค้าเก่ง และรูปร่างที่เซ็กซี่ของวิมลรัตน์สะดุดตาของธาดายิ่งนัก โดยเฉพาะฐานะที่ร่ำรวย มีเงินใช้จ่ายคล่องตัวของวิมลรัตน์ยิ่งตอบสนองความทะเยอทะยานของธาดาเป็นเท่าทวี แม้อายุของเธอจะมากกว่าธาดาถึงห้าปี แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เช่นเดียวกับ บุคลิกอ่อนโยน เจ้าเสน่ห์ และเอาใจเก่ง ของธาดา ก็ทำให้สาวใหญ่ที่ครองตัวเป็นโสดมานานอย่างวิมลรัตน์ เคลิบเคลิ้มไปได้ไม่น้อย ในที่สุดทั้งสองก็ตกลงปลงใจอยู่กินร่วมกัน

พักตรา เลิศปัญญาวุฒิ (ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์) ลูกสาวคนเดียวของ พลโท อรรถ เลิศปัญญาวุฒิ (พลรัตน์ รอดรักษา) นายทหารนอกราชการ พักตรา ถือเป็นสาวไฮโซคนหนึ่งที่ถูกจับตามองจากผู้คนในสังคมแทบจะทุกย่างก้าว เธอเพียบพร้อมไปหมดทุกด้าน ทั้งเรื่องการศึกษา รูปร่างหน้าตา และฐานะที่มั่งคั่ง ร่ำรวย ด้วยเหตุนี้เอง พักตราจึงกลายเป็นสาวสวยที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่กล้าจีบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ พักตรา เดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด เธอพอใจที่จะเป็นดาวเด่นเหนือใคร ๆ และเป็นผู้เลือกมากกว่าผู้ถูกเลือก เพราะพักตรา เป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของวิมลรัตน์ เธอจึงมีโอกาสรู้จัก คิมหันต์ ได้โดยไม่ยาก หัวใจของพักตราหวั่นไหวทันทีที่ได้เห็นหน้า อนิจจา เธอตกหลุมรักคิมหันต์เข้าให้แล้ว แต่บุคลิกของพักตรา ย่อมปากแข็ง วางท่า และรอเวลาจนกว่าฝ่ายชายจะเป็นผู้เอ่ยปาก นั่นเพราะเธอเชื่อเสมอว่า คิมหันต์ ไม่มีวันหลุดไปจากมือเธอ ทว่า มันหาได้เป็นอย่างที่เธอคาดคิด

ผู้เป็นพ่อของธาดา ป่วยตายในวัยชรายังผลให้ผู้เป็นแม่ตกอยู่ในอาการซึมเศร้า ต้องอาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา จึงเป็นเหตุให้ธาดาย้ายกลับมาตั้งรกรากในเมืองไทย เขาตัดสินใจแต่งงานกับวิมลรัตน์ในที่สุด พักตรามีโอกาสได้รู้จักมุกริน ก่อนหน้างานแต่งงานของวิมลรัตน์ไม่นาน เธอแนะนำมุกให้รู้จักกับคิมหันต์ และด้วยความเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้คน พักตราจึงฝากฝังมุกให้ทำงานในบริษัทที่พ่อของเธอเป็นประธานบอร์ดบริหาร พักตราหารู้ไม่ว่าจากการแนะนำวันนั้น ทำให้คิมหันต์และมุกริน ใกล้ชิดกันจนกลายเป็นความรัก มันเป็นความรักอันสดใสของหนุ่มสาวที่มีอุปนิสัยใจคอใกล้กัน หนึ่งปีหลังจากนั้น คิมหันต์ประกาศตัวอย่างเปิดเผยว่า เขาและมุกริน คือคู่รักกัน และทั้งสองจะแต่งงานกันในอีกสามเดือนข้างหน้านี้ หัวใจพักตรา แทบสลาย เธอชิงชังผู้คนรอบตัวเธอทุกคน โดยเฉพาะมุกริน ความเป็นเพื่อนจึงสลายไปจนหมดสิ้น แต่แล้วเรื่องราวพลิกผันก็เกิดขึ้นเมื่อคิมหันต์ประกาศยกเลิกการแต่งงานหลังการเสียชีวิตของพี่สาวคืนนั้น

คืนเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด มันเป็นคืนที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าคืนใด ๆ วิมลรัตน์มีปากเสียงกับธาดาผู้เป็นสามี กรณีที่เถียงกันเราพอจะจับใจความได้ว่า เป็นเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ นอกจากเสียงด่าทอระหว่างกันแล้วไม่มีผู้ใดรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องนอนนั้น กระทั่งเช้ามืด จึงมีผู้พบศพของวิมลรัตน์สิ้นใจอยู่ในห้องดังกล่าว ไม่มีวัตถุพยานใดยืนยันตัวฆาตกรได้ ทว่า สังคมปักใจเชื่อด้วยความรู้สึกว่า ธาดา คือผู้ลงมือสังหารภรรยาตัวเอง เพื่อครอบครองทรัพย์สินและมรดกทั้งหมดของวิมลรัตน์ พยานปากเดียวที่สามารถชี้ตัวคนผิดได้คือ มุกริน แต่มุกรินกลับเลือกที่จะให้การเพื่อเป็นคุณแก่ ธาดา พี่ชายของเธอในที่สุด ศาลจึงมีคำสั่งยกฟ้องนายธาดา พ้นผิดในทุกข้อกล่าวหา

คิมหันต์แทบเสียสติ เมื่อทราบผลการพิจารณาคดี มุกริน ก็ตกอยู่ในภาวะสับสนไม่แพ้กัน แต่เมื่อเธอเลือกที่จะช่วยเหลือพี่ชายผู้มีบุญคุณกับเธอ มุกรินก็จำต้องยอมรับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของคิมหันต์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ความรักที่คิมหันต์เคยมีให้เธอ บัดนี้ได้กลายเป็นความแค้น เป็นความชิงชังที่คิมหันต์สาบแช่งไปจนวันตาย แม้ ชุมสาย (นวพล ภูวดล) เพื่อนสนิทที่ว่าความให้ จะปลอบโยนอย่างไรก็มิอาจหยุดไฟอาฆาตแค้นของคิมหันต์ได้

งานแต่งงานระหว่างคิมหันต์และมุกริน ถูกประกาศยกเลิกอย่างเอิกเกริก พักตรา ได้จังหวะในการเข้ามาสอดแทรกความสัมพันธ์ของ คิมหันต์ และ มุกริน ด้วยเจตนาหวังทวงคืนชายที่เธอหมายปองมาโดยตลอด และในที่สุดพักตราก็ทำสำเร็จ เพราะความเหงา ความเศร้า ความว้าเหว่ของคิมหันต์ เขาจึงพลาดพลั้งตกหลุมพรางของพักตรา โดยมิได้ตั้งใจ ไม่นานหลังจากนั้น พักตรา ประกาศกำหนดการหมั้นระหว่างเธอกับคิมหันต์อย่างเอิกเกริก เป็นไปดังคาด มุกรินตกอยู่ในความระทมทุกข์อย่างแสนสาหัส

ธาดา ทำตัวเป็นคนเสเพลซึ่งมันคือนิสัยแท้จริงของเขา ที่เพิ่งเปิดเผยหลังการตายของภรรยา ไม่มีใครรู้ว่า เขาแอบมีเมียเก็บอยู่คนหนึ่งเป็นนักดนตรีสาวฮิปปี้ผู้นิยมชมชอบการมีอิสระเสรีในทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องเซ็กส์ และมุกรินเองก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน วันหนึ่ง ธาดา แอบกลับเข้าไปยังบ้านเดิมของวิมลรัตน์เพื่อหวังหยิบฉวยทรัพย์สินที่อยู่ที่นั่น คิมหันต์โผล่เข้ามาเห็นเหตุการณ์ ทั้งสองเกิดการทะเลาะวิวาท ลงไม้ลงมือกันจนธาดาเป็นฝ่ายเจ็บตัวถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล มุกรินตามมาดูพี่ชายด้วยความเป็นห่วง เธอจึงต้องพบกับคิมหันต์ชนิดประจันหน้า คิมหันต์อดไม่ได้ที่จะพูดจาด่าทอมุกรินและลงเอยด้วยการบีบคอ ทำร้ายร่างกายมุกริน เหตุการณ์วันนั้นจบลงด้วยความช้ำใจของทุกฝ่าย แต่เมื่อคิมหันต์และมุกรินแยกย้ายไปอยู่กันตามลำพัง ทั้งคู่กลับสัมผัสถึงความรู้สึกลึก ๆ ของตนว่า พวกเขามิอาจตัดใจขาดจากความรักที่เคยมีให้กันได้ แต่เป็นเพราะความแค้นนั่นเอง ที่บดบังความรักของเขาและเธอจนแทบไม่เหลือร่องรอย

ปรารภ (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) เจ้านายโดยตรงของมุกริน แสดงความห่วงใยต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมุกริน เขาพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือมุกรินทุกอย่าง นั่นเป็นเพราะเขาแอบมีใจให้กับเธอมานานแล้ว วันที่มุกริน นำแหวนหมั้น และของใช้อื่น ๆ ไปคืนคิมหันต์ ทั้งสองมีโอกาสได้ประจันหน้ากันอีกครั้ง ความรู้สึกลึกซึ้งที่ทั้งคู่เคยมีให้กัน ดึงดูดให้ทั้งสองเกือบจะเผลอใจให้กัน ทั้งคู่พยายามลืมความขุ่นเคืองในปัจจุบัน เพื่อกลับไปหาอารมณ์รักเหมือนดังอดีต ทว่า พักตรา ได้ปรากฏตัวขึ้น ทันท่วงที เธอพรั่งพรูถ้อยคำ ด่าทอพฤติกรรมของคนทั้งสอง ในขณะที่ คิมหันต์ วางเฉย เขาปล่อยให้พักตราอาละวาดใส่มุกรินโดยไม่ออกรับแทนแต่อย่างใด มุกรินจำต้องเดินจากไปด้วยน้ำตานองหน้า และความเจ็บช้ำท่วมหัวใจ เธอได้แต่บอกกับตัวเองว่า ผู้ชายอ่อนโยนคนที่เธอเคยทุ่มเทหัวใจให้ไม่มีอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว

มุกริน ลาพักร้อนเพื่อหนีปัญหาต่าง ๆ ปรารภ เสนอทางเลือกให้มุกริน คือ ให้ไปช่วยงานเขาที่เชียงใหม่ซึ่งจะเป็นการพักผ่อน โดยไม่ต้องลางาน มุกริน ขอเวลาคิดและตัดสินใจอีกที ส่วน ธาดา นั้นเห็นด้วย และเชียร์ให้มุกรินยอมรับความปรารถนาดีจากปรารภ คิมหันต์ สั่งให้ชุมสายดำเนินการฟ้องร้อง เอาเรื่องธาดาให้ถึงที่สุดเพื่อยึดเอาบ้านของวิมลรัตน์ และทรัพย์สินทั้งหมดกลับมาเป็นของตน ชุมสาย แอบบอกเรื่องนี้ให้มุกรินรู้ แต่เธอก็ไม่สามารถโน้มน้าวให้ธาดายอมคืนทรัพย์สมบัติเหล่านั้นได้ มุกริน ต้องยอมรับสภาพการขึ้นโรงขึ้นศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น มุกริน ย้ายออกมาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่เองตามลำพังโดยไม่บอกให้ใครรู้ ป้าอ่อน แม่บ้านอัธยาศัยดี คุยฟุ้งว่า มุกรินโชคดีที่ได้ห้องที่สวยที่สุดและคุยซ้ำอีกว่า เจ้าของอพาร์ทเม้นท์นี้ เป็นชายหนุ่มที่หล่อที่สุด และน่ารักที่สุด เธอหารู้ไม่ว่าเจ้าของ อพาร์ทเม้นท์ก็คือ คิมหันต์ นั่นเอง

ธาดา ปรึกษา ปรารภ เรื่องที่มุกรินหายตัวไป ทั้งสองพากันบุกไปหา คิมหันต์ ด้วยความเชื่อว่า คิมหันต์เป็นผู้ลักพาตัวมุกรินไปคิมหันต์ปฏิเสธ ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย ความเป็นห่วงมุกรินผุดขึ้นมาในใจเขาโดยไม่รู้ตัว ปรารภได้รับโทรศัพท์จากป้าอ่อน แจ้งว่ามุกรินป่วยหนัก ไข้สูง อยู่ที่โรงพยาบาล ปรารภและธาดา รีบตรงไปเยี่ยมมุกริน เช่นเดียวกับคิมหันต์ ที่รีบไปโรงพยาบาลทันทีที่ทราบข่าวเมื่อทั้งหมดได้ประจันหน้ากัน ในห้องพักคนไข้ คิมหันต์ อดไม่ได้ที่จะตะโกนลั่นว่า ธาดาคือคนฆ่าพี่สาวของเขา และมุกรินคือพยานที่ให้การเท็จเพื่อช่วยเหลือฆาตกร และทำให้วิมลรัตน์ต้องตายฟรี ๆ มุกรินตัดสินใจไปทำงานที่เชียงใหม่ เธอกลับมาเก็บของที่อพาร์ทเม้นท์ เพื่อคืนห้องให้กับเจ้าของ คืนนั้นเธอจึงได้พบกับเจ้าของอพาร์ทเม้นท์...คิมหันต์เขาพยายามช่วยขนของและอาสาขับรถไปส่ง แต่ มุกริน พยายามปฏิเสธ เกิดการตัดพ้อต่อว่า ราวกับคู่รักแง่งอนกัน

มุกรินเอาของใช้ส่วนตัวมาฝากที่บ้านเดิมของธาดา เธอจึงได้พบกับภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนอกจากลุงชม คนเฝ้าบ้านแล้ว มุกรินได้พบกับ ดวงดาว (รัญดภา มันตะลัมพะ) ฮิบปี้สาวสวยเก๋ ดวงดาว เป็นนักดนตรีที่รักอิสระเสรี และในเวลานี้ เธอรักที่จะมีความสัมพันธ์กับ ธาดา โดยไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ดวงดาว ไม่เดือดร้อนใจใด ๆ หากใคร ๆ จะเรียกเธอว่าเป็น เมียเก็บ มุกรินต่อว่าพี่ชายที่นอกใจวิมลรัตน์ เธอเริ่มรู้สึกว่า คำให้การของเธอที่เป็นคุณแก่ธาดานั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ธาดา น่าจะเป็นคนฆ่าวิมลรัตน์จริงดังที่คิมหันต์กล่าวหา

ในที่สุด พักตรา ก็เข้าสู่พิธีหมั้นกับ คิมหันต์ พักตรา พยายามเร่งรัดกำหนดการแต่งงาน แต่คิมหันต์หาทางบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา แต่กระนั้น เพียงได้ชื่อว่าเป็น คู่หมั้น ก็ทำให้พักตรามีความสุขไม่น้อย เธอเชื่อว่า คิมหันต์ ไม่มีวันดิ้นหลุดไปจากการครอบครองของเธอเป็นอันขาด ส่วน มุกริน ตัดสินใจเดินทางไปเชียงใหม่กับปรารภในวันนั้น ตลอดการเดินทาง มุกรินเอาแต่ร้องไห้ เธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเอาแต่พร่ำบ่นว่าเธอเป็นผู้ทำลายอนาคตด้วยตัวเองแท้ ๆ ปรารภต้องคอยปลอบประโลมมุกริน และเสนอตัวที่จะช่วยเยียวยาความรู้สึกทางใจให้หากมุกรินต้องการ ทว่ามุกรินยังไม่พร้อมที่จะเปิดรับใครในเวลานี้

พักตรา ชวนคิมหันต์ไปทานข้าวนอกบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างเธอและเขา คิมหันต์ กลับได้พบกับธาดาและดวงดาวโดยบังเอิญที่ร้านอาหารเดียวกัน คิมหันต์จงใจเดินไปพูดกับธาดาที่โต๊ะ แม้ธาดาจะพยายามพูดจาดี ๆ และแนะนำดวงดาวกับคิมหันต์พอเป็นพิธีตามมารยาท แต่คิมหันต์กลับตะโกนลั่นเหมือนเดิมว่าธาดาคือฆาตกรฆ่าพี่สาวของเขา เมื่อธาดากลับถึงบ้านเขาระเบิดอารมณ์ใส่ดวงดาว โทษฐานที่ดวงดาวลอบทำตาหวานใส่คิมหันต์ ดวงดาวโต้ตอบว่า ถึงเธอจะรักอิสระเสรี แต่ก็ไม่เคยนอกใจสามี แม้จะเป็นสามีลับ ๆ ก็ตาม

เมื่อมุกรินกลับจากเชียงใหม่ ธาดา ไปดักรอรับ และขอให้มุกรินมาอยู่ด้วยกันกับดวงดาวที่บ้านเดิมเพื่อช่วยดูแลบ้าน และดูแลดวงดาวด้วย มุกรินไม่สามารถปฏิเสธได้เธอจึงได้มีโอกาสใกล้ชิดกับดวงดาว และเห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ของดวงดาวโดยเฉพาะเรื่องการสูบกัญชา ดวงดาวบอกว่าทั้งหมดที่เธอทำนั้นเพื่อความสุขในชีวิต เธอจะไม่ยอมจมปลักอยู่กับความทุกข์ในอดีตอย่างที่มุกรินเป็น และจะไม่ยอมตายอย่างอเนจอนาถแบบวิมลรัตน์ด้วยเช่นกัน คิมหันต์มักหาจังหวะและโอกาสในการพบกับมุกริน เขาต้องการระบายความอึดอัดระหว่างเขากับพักตราให้ใครสักคนฟัง แม้คิมหันต์จะเคียดแค้น ชิงชังมุกรินมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครรับฟังปัญหาของเขาได้ดีไปกว่ามุกริน มุกรินทำได้เพียงแต่ก้มหน้าฟังนิ่ง ๆ โดยไม่เอ่ยปากใด ๆ

ปรารภ เรียกมุกรินไปแจ้งว่ามีคำสั่งจากหัวหน้าแผนกให้ไปช่วยงานต่างจังหวัดโดยมีพักตราร่วมอยู่ในทีมและต้องเดินทางเร็วที่สุด คือ มะรืนนี้การเดินทางไปทำงานทริปนี้ บริษัทจัดให้พักตราและมุกรินพักอยู่บ้านหลังเดียวกัน พักตรา จงใจพา คิมหันต์ ไปอยู่ด้วยเพื่อสร้างภาพให้ใคร ๆ ได้เห็นว่าเขาและเธอรักกันมากแค่ไหน ห้องนอนของพักตราและมุกรินถูกจัดให้อยู่ติดกัน ในเวลากลางคืน มุกรินจะได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังมาจากห้องพักตรา มุกรินต้องออกมานั่งปรับอารมณ์ตัวเองที่สนามนอกบ้าน จู่ ๆ คิมหันต์ ก็ตามมานั่งข้าง ๆ ด้วย เขาพร่ำพรรณนาถึงความหลังที่เคยมาเที่ยวทะเลด้วยกันกับมุกริน น้ำเสียง และแววตาของเขาอ่อนโยน นุ่มนวล จนน้ำตาของมุกรินไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ คิมหันต์กระซิบเบา ๆ ข้างหูเธอว่า "ผมยังต้องการคุณอยู่นะ มุกริน" เธอไม่รู้ว่าคิมหันต์จงใจทำเช่นนี้เพราะเหตุใด ในเมื่อเขาเพิ่งหมั้นกับพักตรา แต่กระนั้น หัวใจของเธอได้เตลิดเปิดเปิงไปกับเขาอีกคำรบหนึ่งแล้ว ตลอดช่วงเวลาต่างจังหวัดที่ มุกรินและพักตราต้องอยู่ด้วยกัน ทั้งสองกระทบกระทั่งกันด้วยวาจาอย่างเผ็ดร้อน พักตราพยายามยั่วมุกรินให้โกรธด้วยการ พร่ำพูดถึงอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะแต่งงานกันระหว่างเธอกับคิมหันต์ ส่วนมุกรินอดไม่ได้ที่จะโต้ตอบว่า ระวังเรื่องราวจะหักมุม ไม่เป็นอย่างที่คิด

เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ พักตรา พยายามใช้สถานะของลูกสาวประธานบอร์ดบริษัท ไล่มุกรินออก ปรารภ เป็นผู้เรียกร้องความถูกต้องให้กับมุกริน แต่กลับถูกพักตราเย้นหยันว่า ปรารภ ทำเพราะแอบชอบมุกริน ปรารภเถียงกลางวงประชุมว่า เขาไม่ได้ชอบมุกรินแต่เขารักมุกริน พักตราโกรธที่ใคร ๆ พากันรักแต่มุกริน มุกรินมีโอกาสได้คุยกับดวงดาวมากขึ้น เธอจึงรู้ประวัติชีวิตดวงดาวว่า เติบโตมากับแม่ที่เล่นการพนัน ขี้ขโมย จนโดนจับ และดวงดาวก็ถูกนำไปเลี้ยงในคุกตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นจึงเป็นที่มาของความแข็งแกร่ง สู้ชีวิตแบบดวงดาว ดวงดาวให้ความเห็นกับมุกรินว่าถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่ปล่อยให้คิมหันต์หลุดมือไปอีก และเชื่อได้เลยว่า คิมหันต์ยังคงต้องการมุกริน คิมหันต์หาจังหวะมาดักรอมุกริน เขาบอกเธอว่า พักตราลาออกจากบริษัทแล้ว ส่วนตัวเขาเองนั้น ไม่อาจหักห้ามใจได้อีกต่อไป คิมหันต์สารภาพว่า ยังคงรักและปรารถนาในตัวมุกรินเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนการรับปากว่าจะแต่งงานกับพักตรานั้น เป็นเพราะความพลาดพลั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาจมอยู่กับความโกรธ ชิงชัง ธาดา

ในที่สุดทั้งสอง ก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ปรารถนาของกันและกันตลอดค่ำคืนนั้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พักตราฟุ้งซ่านไปกับการวิ่งพล่าน ตามหาผู้เป็นคู่หมั้นของเธอ คิมหันต์นัดให้มุกรินมาหาที่ท่าเรือริมทะเล เพื่อนั่งเรือออกไปล่องลอยบนเกาะกลางทะเลด้วยกันเพียงลำพัง ทิ้งสิ่งรกร้างหัวใจไว้บนฝั่ง เบื้องหลังเขาทั้งสอง มุกริน ลังเล แต่ดวงดาวสนับสนุนให้มุกรินทำตามปรารถนาของหัวใจ ที่สุดแล้ว มุกรินก็เลือกที่จะเชื่อคำแนะนำของดวงดาว ทั้งสองมีความสุข ดื่มด่ำร่วมกัน สมความปรารถนา มุกรินอยากหยุดเวลานี้ไว้ให้นานเท่านานแต่เธอก็ไม่อาจลืมได้ว่า พฤติกรรมที่เธอกำลังทำอยู่นั้น คือการแย่งคู่หมั้นของเพื่อน คิมหันต์ ยอมรับว่า มันอาจเป็นการกระทำที่ผิด แต่มันก็เป็นบาปของเราทั้งคู่ ทั้งสองเลือกที่จะชะลอปัญหานี้ด้วยการหาบ้านเช่าสักหลังชานเมืองกรุงเทพฯ เพื่อเป็นรังรักของตน เพราะการขอถอนหมั้นจากพักตรานั้นเป็นเรื่องที่ยากมากความอาฆาตแค้นของพักตรา อาจถึงขั้นเอาชีวิตก็เป็นได้ เมื่อคิมหันต์ไปส่งมุกรินที่บ้าน เขาได้พบกับดวงดาวและได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของดวงดาวกับธาดา เขายิ่งเพิ่มความชิงชังในตัวธาดามากยิ่งขึ้นพร้อม ๆ กับความสงสารและเห็นใจดวงดาว

ธาดาขอให้มุกรินลาออกจากงาน เพื่อเลี่ยงการพบเจอกับคิมหันต์ มุกรินปฏิเสธ ธาดาโกรธจัด อยู่ ๆ ก็หน้ามืดล้มลง สัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับสุขภาพของธาดาได้ปรากฏขึ้น คิมหันต์หายหน้าไปจากทุก ๆ คนพักใหญ่ด้วยรู้สึกผิดในทั้งหมดทุกสิ่งที่ตัวเองทำลงไปไม่ว่าจะกับพักตรา หรือ มุกริน ในบางขณะ เขาเริ่มสับสนกับภาวะจิตใจของเขา ในเมื่อเขาโกรธเกลียด อาฆาตแค้นธาดา เขาก็ไม่ควรที่จะมีความรักให้มุกริน เขาควรจะทำร้าย ทำลาย มุกริน และธาดา รวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการตายของพี่สาวของเขา แต่เขากลับหักห้ามใจไม่ได้ คิมหันต์ ยอมรับกับตัวเองว่า เขารักมุกรินจริง และรักแท้ในครั้งนี้ อยู่เหนือความแค้นใด ๆ ทั้งหมด มุกรินร้อนใจจนอดไม่ได้ที่จะโทรหาคิมหันต์ ทว่าผู้ที่รับโทรศัพท์ปลายสายนั้นกลับเป็นพักตรา มุกรินรีบทิ้งโทรศัพท์ทันที เธอช้ำใจอีกครา ดวงดาวจึงอาสาพามุกรินไปพักผ่อนที่ภูเก็ต การหายตัวไปเฉย ๆ ของคิมหันต์ทำให้พักตรา ตกอยู่ในความซึมเศร้ามากยิ่งขึ้น คุณอรรถผู้เป็นพ่อต้องคอยพยายามปลอบ แต่ก็ไม่เป็นผล คนเดียวที่มีความหมายและมีอิทธิพลกับเธอมากที่สุดคือ คิมหันต์ วันหนึ่งคิมหันต์กลับมาหาพักตราที่บ้าน เขาได้พบกับสภาพบ้านที่พังยับเยิน ข้าวของกระจุยกระจายจากการทำลายของพักตรา

คิมหันต์ได้แต่กอดและปลอบเธอไว้ในวงแขนและสัญญาว่าจะไม่มีวันถอนหมั้นกับพักตราเป็นอันขาด ในเวลาเดียวกัน ธาดา ก็คะยั้นคะยอให้มุกรินลาออกจากบริษัท พร้อม ๆ กับที่บ่นด้วยความระแวงว่า ดวงดาว อาจปันใจไปชอบชายอื่นเพราะดวงดาวเคยสารภาพกับธาดาตรง ๆ ว่า เธอยินดีอยู่กับธาดาตลอดไป จนกว่าจะเจอผู้ชายคนที่เธอรักจริง ๆ ซึ่งเมื่อวันนั้น ธาดา จะไม่มีสิทธิ์รั้งตัวเธอไว้ได้อีกต่อไป

คิมหันต์จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูลใหม่ที่ใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดธาดาได้ เจตนาในการเดินทางครั้งนี้ เขามิได้ปริปากบอกใคร แม้แต่กับมุกริน กระนั้น มุกรินอดไม่ได้ที่จะแอบไปส่งคิมหันต์ที่สนามบิน พักตราตามมาที่สนามบินทีหลัง เธอเห็นมุกรินเต็ม ๆ ตาที่นั่น พักตราโกรธจัด ตามไปอาละวาดถึงที่ทำงาน ในที่สุดมุกรินก็ลาออกจากบริษัท ช่วงเวลาที่คิมหันต์ไม่อยู่ มุกรินได้แต่เฝ้ารอเขาที่บ้านเช่าหลังนั้น เธอฝันถึงเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แม้เพียงน้อยนิด ก็มีค่ามากมหาศาลสำหรับเธอ ธาดา หมกมุ่นในเรื่องเหล้าและการพนัน เขาเป็นหนี้สินในวงพนันมากมาย สมบัติเท่าที่มีก็ถูกขายออกไปจนเกลี้ยง กระทั่งดวงดาวก็ถูกตะเพิดไล่ออกจากบ้านไปด้วยอารมณ์พาลของธาดาเช่นกัน

ดวงดาวไม่รั้งรอ...เธอได้โอกาสเดินออกไปจากชีวิตธาดาทันที ไม่มีใครรู้ว่า ความวอดวายของธาดาครั้งนี้ ผู้อยู่เบื้องหลังคือคิมหันต์ ด้วยในอดีต พี่สาวของเขา เคยมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในวงการพนัน เฮียอ๋า ขาใหญ่ในบ่อน โทรแจ้งคิมหันต์ว่า ธาดาใกล้หมดตัว จนมุมแล้ว คิมหันต์พอใจเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อรู้ว่าดวงดาวแยกตัวไปก็ยิ่งเพิ่มความสะใจให้กับคิมหันต์เป็นอย่างมาก คิมหันต์ได้เจอกับดวงดาวโดยบังเอิญ เมื่อทั้งสองได้สนทนากัน ความสงสารและเห็นใจระหว่างกันจึงเกิดขึ้น ไม่น่าเชื่อว่า ดวงดาว กลับเป็นผู้ให้สติกับคิมหันต์ว่า ทุกสิ่งที่เขาทำไป ไม่เป็นผลดีกับใครแม้แต่คนเดียวหากพี่สาวของคิมหันต์ฟื้นขึ้นมาได้ คิดหรือว่าเธอจะพอใจที่คิมหันต์เป็นอย่างนี้ ก่อนแยกจากกัน ดวงดาวทิ้งท้ายไว้ว่า น่าเสียดายที่เราเจอกันช้าไป ไม่งั้นคุณไม่มีทางหลุดมือฉันไปแน่ ๆ

วันหนึ่ง เมื่อพักตราเจอตัว คิมหันต์ สิ่งแรกที่เธอทำ ไม่ใช่การต่อว่าด่าทอ แต่เธอเลือกที่จะหยิบปืนพกขนาดเล็กยิงใส่คิมหันต์ กระสุนพุ่งเข้ากลางหัวไหล่คิมหันต์ และเพียงพอที่คิมหันต์ต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล พักตราเป็นผู้เฝ้าดูแลอาการคิมหันต์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับครวญคราง ร้องขอโทษคิมหันต์อยู่ตลอดเวลา มุกรินพยายามจะไปเยี่ยมคิมหันต์ทันทีที่รู้ข่าว ทว่า ธาดาขวาง ห้ามไว้ ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ตบตีและกักขังมุกริน ส่วนดวงดาวนั้น ถลันเข้าไปเยี่ยมอาการคิมหันต์ได้โดยไม่มีผู้ใดห้ามไว้ เมื่อพักตราเห็นดวงดาว เธอกลับคิดไปเองว่า ดวงดาวต้องเป็นชู้รักคนใหม่ของคิมหันต์ ธาดาเฝ้าตามง้อดวงดาว แต่ไม่เป็นผล ดวงดาวรู้จากธาดาว่า เขากักขังมุกรินไว้ เธอจึงขอไปเยี่ยมมุกรินทันที ดวงดาวแนะนำว่า มุกรินควรยอมตามใจธาดา เพื่อเอาตัวรอดออกมาก่อน มุกรินยอมทำตามนั้น เธอถูกธาดาพาไปเจอเสี่ยอ๋า เจ้าหนี้ในบ่อนของเขา มุกรินไม่ได้ล่วงรู้มาก่อนเลยว่า นี่คือการใช้หนี้ของธาดา

มุกรินจึงถูกกักขังอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้กรงเล็บของเสี่ยอ๋า จู่ ๆ ดวงดาวก็มีอาการคลื่นเหียนอาเจียน เธอเข้าใจได้ไม่ยากว่ากำลังตั้งท้องนั่นเอง พ่อของเด็กในท้องก็คือธาดา ธาดาพร่ำรำพันกับดวงดาว เพื่อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จ ดวงดาวเลือกที่จะใจแข็ง และไม่เอ่ยปากเรื่องการตั้งท้อง ด้วยไม่ต้องการให้ถูกใคร ๆ มองว่า จงใจใช้เด็กในท้องเพื่อเป็นการผูกมัด นับวันธาดากลับดูทรุดโทรมมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งหมอที่ดูแลธาดาแจ้งให้ทราบว่า ธาดาเป็นมะเร็งที่สมอง ขณะที่สุขภาพกายกำลังย่ำแย่เขาก็ได้พบกับคิมหันต์อย่างจงใจ คิมหันต์จึงบอกให้รู้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับธาดาคือแผนการของเขาเอง มุกริน ที่ตกเป็นของเสี่ยอ๋าตอนนี้แท้จริงแล้วก็คือตกเป็นของเขานั่นแหละ เพราะเสี่ยอ๋าทำทุกอย่างตามแผนที่คิมหันต์วางไว้ ด้วยเหตุที่เคยเป็นหนี้บุญคุณกันมาก่อน ทั้งหมดนี้คือผลกรรมที่ธาดาก่อไว้กับวิมลรัตน์ และวันนี้ มันก็เป็นวาระที่ธาดาต้องชดใช้กรรมเหล่านั้นแล้ว ธาดาได้แต่ฟูมฟาย จนไม่มีสติอยู่กับตัว ในที่สุดเขาก็เลือกทางออกด้วยการฆ่าตัวตาย

ดวงดาวเป็นผู้ที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่คิมหันต์พูดกับธาดา เธอต่อว่าคิมหันต์ และพร่ำรำพันกับธาดาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะสิ้นลม เมื่อเรื่องราวทั้งหมดรู้ถึงหูมุกริน เธอจึงรู้สึกว่า เธอเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ง ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์แค้นของคิมหันต์ คิมหันต์พยายามเข้าหามุกริน เพื่อสารภาพว่าแม้มันจะเป็นแผนการ เพื่อแก้แค้นธาดา แต่ในความเป็นจริง เขาไม่เคยสลัดรอยรักที่มีต่อมุกรินออกไปจากหัวใจได้แม้แต่น้อย มุกริน ปฏิเสธคำสารภาพเหล่านั้น เธอไม่อาจวางใจในพฤติกรรมของคิมหันต์ได้อีกต่อไป

เมื่อดวงดาวได้เห็นฉากการสารภาพรักของคิมหันต์กับมุกริน เธอได้แต่ให้กำลังใจคนทั้งสอง และเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาทุกสิ่งได้เอง อนิจจา พักตราที่กำลังขับรถพุ่งมาหาคิมหันต์ด้วยความโกรธแค้น เธอไม่อาจหยุดอารมณ์โกรธของตนได้ พักตราตัดสินใจขับรถพุ่งชนดวงดาวทันที อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้สามชีวิตต้องจบลง หนึ่งคือพักตรา หนึ่งคือดวงดาว และอีกหนึ่ง คือทารกน้อยที่กำลังก่อตัวขึ้นในท้องของดวงดาว หลายเดือนผ่านไปหลังวันเกิดเหตุ คิมหันต์ตกลงใจที่จะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับทุกชีวิตที่พัวพันอยู่ในแรงแค้นของเขา แม้การบวชครั้งนี้จะไม่สามารถลดทอนกรรมที่เขาก่อไว้ได้ แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่มีคุณค่าใต้ร่มกาสาวพัสตร์ตลอดกาล

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน 2557

Rising Sun รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน (2557/2014) ทาเคชิ โอะนิซึกะ ลูกชายคนเล็ก สายเลือดผู้มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่แห่งเมืองชิบะ เมืองท่าของประเทศญี่ปุ่น เขาไม่เคยปรารถนาที่จะขึ้นเป็นนายใหญ่ของตระกูล สืบต่อจากผู้เป็นพ่อ เขาต้องการความอิสระเดินทางเที่ยวรอบโลก อยากทำอะไรที่ใจตัวเองอยากทำ ไม่ต้องมีใครคอยมาคุ้มครองป้องกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เป็นไปไม่ได้... ชีวิตของทาเคชิถูกกำหนดให้ต้องรับรู้เรื่องราวการจัดการกับคู่แข่งทางธุรกิจ รวมถึงอันธพาลที่คอยรังแกชาวเมือง ตั้งแต่อายุแปดขวบ เขาจึงเป็นคนเงียบขรึม พูดน้อย บางครั้งก็เย็นชา เพราะความอึดอัดที่ชีวิตถูกตีกรอบให้เดินเพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีของตระกูล แต่แล้วผู้หญิงคนหนึ่งก็เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเขาให้กลับมีชีวิตชีวา มีรอยยิ้ม มีแววตาที่สดใส สาวน้อยคนนั้นคือ แพรวดาว หรือ เซโกะ หญิงไทยที่ได้รับทุนมาศึกษาต่อปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเดียวกับเขา ทาเคชิได้แต่เฝ้าติดตามคอยมองเธออยู่ห่าง ๆ โดยไม่อาจแสดงตัวได้ เพราะเขามีพันธะอยู่กับไอโกะ ลูกสาวของริกิเพื่อนรักของพ่อ ซึ่งเป็นตระกูลผู้มีอิทธิพลอีกกลุ่มหนึ่ง โดยพ่อของเขาหมั้นหมายให้ตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุผลในการสร้างพันธมิตรและร่วมมือกันด้านธุรกิจ แต่ทาเคชิไม่เคยชอบหรือรักไอโกะแม้แต่นิดเดียว เพราะอุปนิสัยเอาแต่ใจ และจิตใจหยาบกระด้างของไอโกะ ทาเคชิพยายามหักห้ามใจไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับแพรวดาว เพราะเกรงว่าแพรวดาวอาจเป็นอันตรายจากความขี้หึงของไอโกะ แต่เขาก็ทนเสียงหัวใจเรียกร้องไม่ไหว ทาเคชิแอบไปดักรอและตามแพรวดาวไปถึงบ้าน ส่งจดหมายบอกความในใจให้แพรวดาวรับรู้ แต่แพรวดาวกลับหวาดกลัวทาเคชิตั้งแต่รู้ว่าเขาคือลูกชายของกลุ่มผู้มีอิทธิพลของเมือง เธอหลอกทาเคชิว่ามีแฟนอยู่ที่เมืองไทยแล้ว ทำให้ทาเคชิเศร้าเสียใจที่ถูกตัดรอนความสัมพันธ์ เหตุการณ์พลิกผัน เมื่อครอบครัวของทาเคชิถูกลอบทำร้ายจนทำให้ พ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ เสียชีวิตทั้งหมด เหลือเพียงทาเคชิกับริวเท่านั้นที่จะเป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งนายใหญ่ลำดับต่อไป ทาเคชิเศร้าเสียใจกับการสูญเสียครอบครัวมาก เมื่อแพรวดาวปรากฏตัวในงานศพ ทำให้แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตเขาปรากฏขึ้น ทาเคชิแอบนัดพบแพรวดาวตามลำพัง แพรวดาวให้กำลังใจทาเคชิด้วยความสงสารและเป็นห่วง ทำให้ทาเคชิเข้มแข็งขึ้น ซึ่งดูเหมือนความรักของคนทั้งคู่ถักทอสายใยจนยากที่จะมีอะไรขวางกั้นได้แล้ว แต่ทั้งสองกลับตัดสินใจว่าจะพบกันครั้งสุดท้ายเพราะทาเคชิมีภาระสืบต่อตำแหน่งนายใหญ่ของตระกูล และแพรวดาวก็ไม่อยากทำผิดต่อไอโกะ ว่าที่คู่หมั้นของทาเคชิ ทั้งสองบอกรักและบอกลากันทั้งน้ำตา ด้วยหัวใจที่ปวดร้าวทรมาน ทาเคชิกับริวออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมาดูแลกิจการของครอบครัวที่มีมากมาย วันหนึ่งไอโกะรู้เรื่องความรักระหว่างแพรวดาวกับทาเคชิ จึงเข้าไปสาดน้ำชาร้อน ๆ ใส่หน้าด้วยความหึงหวง ทาเคชิเข้าไปปกป้องแพรวดาว และรีบพาแพรวดาวไปโรงพยาบาล สร้างความเจ็บแค้นใจให้ไอโกะเป็นอย่างมาก ทาเคชิกลัวไอโกะจะย้อนกลับมาทำร้ายแพรวดาวอีก จึงมอบสร้อยจี้หยกสลักชื่อประจำตระกูล โอะนิซึกะให้กับแพรวดาว เพื่อสื่อให้รู้ว่าแพรวดาวเป็นผู้หญิงของเขา เธอจะได้ปลอดภัยเพราะไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอ แม้แพรวดาวจะไม่อยากรับไว้ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจค้านคำขอร้องของทาเคชิได้ ไอโกะไปหาเคนอิจิเพื่อให้ช่วยจับตัวแพรวดาว หวังทำลายแพรวดาวให้หายแค้น แต่เคนอิจิขอค่าตอบแทนเป็นร่างกายไอโกะ เมื่อไอโกะไม่ยอม เคนอิจิใช้กำลังขืนใจไอโกะ ไอโกะแค้นใจแต่เพื่อทำร้ายแพรวดาว ก็ยอมแลกทุกอย่าง... ทาเคชิมอบหมายให้ ทาโร่ ลูกน้องฝีมือดี คอยอารักขาแพรวดาวอยู่ห่าง ๆ แต่ก็พลาด... ทำให้คนของเคนอิจิจับตัวแพรวดาวไปได้ เคนอิจิคิดจะปล้ำแพรวดาว แต่เมื่อเห็นจี้หยกประจำตระกูลโอะนิซึกะ เขาก็เปลี่ยนใจ ส่งจี้หยกไปให้ทาเคชิ สั่งให้มาพบเขาคนเดียวเพื่อแลกตัวแพรวดาว ทาเคชิเดือดดาลที่เคนอิจิจับตัวแพรวดาวไป เขาบุกมาเจอเคนอิจิตามลำพัง เขาเจ็บปวดมากเมื่อเห็นสภาพแพรวดาวอยู่ในเงื้อมมือเคนอิจิ แพรวดาวซาบซึ้งเพราะไม่คิดว่าทาเคชิจะยอมเสี่ยงชีวิตมาช่วยเธอด้วยตัวเอง ทาเคชิต่อสู้กับเคนอิจิจนสามารถชิงตัวแพรวดาวกลับออกมาได้ ทาเคชิพาแพรวดาวมาอยู่บ้านโอะนิซึกะ และแต่งตั้งให้แพรวดาวเป็นอะเนะซัง (ภรรยารอง) ต่อหน้าทุกคน แม้โคจิจะคัดค้านเพราะกลัวจะทำให้ริกิกับไอโกะไม่พอใจ แต่ทาเคชิยืนยันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง แพรวดาวปฏิเสธไม่ขอรับตำแหน่งอะเนะซัง เพราะไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ ที่ทำผิดธรรมเนียมประเพณีไทย และเส้นทางชีวิตของเธอกับเขาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทาเคชิอ้างว่าทำเพื่อความปลอดภัยของแพรวดาว ขอให้แพรวดาวอยู่กับเขาจนกว่าจะเรียนจบจนกลับประเทศไทยในอีกหนึ่งปี เพื่อไปหาคนรักที่เมืองไทยของเธอ แพรวดาวรู้สึกผิดที่หลอกทาเคชิว่ามีคนรักแล้ว แต่ยังไม่กล้าบอกความจริงกับเขา ทาเคชิสัญญาจะไม่แตะต้องตัวแพรวดาวตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ทำให้แพรวดาวจำยอมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทาเคชิแต่งตั้งให้ทาโร่รับ-ส่งแพรวดาวไปมหาวิทยาลัยทุกวัน และคอยดูแลแพรวดาวตลอดเวลา...ความใกล้ชิดนี่เอง ทำให้ทาโร่ได้สัมผัสถึงความน่ารัก สดใสของแพรวดาว จนแอบเผลอใจให้หญิงอันเป็นที่รักของเจ้านายอย่างไม่รู้ตัว ในขณะที่ความใกล้ชิดของทาเคชิกับแพรวดาว ก็ก่อตัวเป็นความรักที่เพิ่มมากขึ้น แม้ทั้งคู่จะรู้ดีว่าเมื่อถึงเวลาหนึ่งปีที่แพรวดาวเรียนจบ เธอจะต้องจากไป ทาเคชิและแพรวดาวก็พยายามเก็บเกี่ยวความสุขที่มีกันและกันไว้ในปัจจุบันไว้ให้ได้มากที่สุด แต่แล้ววันหนึ่งทาเคชิถูกลอบทำร้าย แพรวดาวช็อกและตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เธอเริ่มตระหนักว่าตัวเองรักผู้ชายคนนี้มากแค่ไหน ซาโตชิ พี่ชายของไอโกะเป็นคนสั่งทำร้ายทาเคชิเพราะเจ็บแค้นแทน ริกิรู้เรื่องจึงต่อว่าและหาทางให้ไอโกะได้เฝ้าไข้ทาเคชิแทนแพรวดาว ไอโกะรู้ความจริงจากปากทาเคชิว่าเขากำลังตัดใจจากแพรวดาวแล้ว ถ้าเคนอิจิไม่จับตัวแพรวดาวไปเสียก่อน ไอโกะร้องไห้ที่ทุกอย่างผิดคาด จนเธอเสียตัวให้เคนอิจิและทำให้แพรวดาวได้ใกล้ชิดทาเคชิมากกว่าเดิม ไอโกะแค้นที่ถูกเคนอิจิหลอกใช้ ไปตบหน้าเคนอิจิถึงบ้าน เคนอิจิจึงซ้อมและข่มขืนไอโกะ ริกิเห็นบาดแผลของไอโกะคิดว่าทาเคชิทำร้ายจะไปเอาเรื่อง ไอโกะจึงยอมเล่าเรื่องที่ถูกเคนอิจิซ้อมและข่มขืน ริกิเข่าอ่อนช็อกมาก ! แต่ก็คิดหลอกใช้งานเคนอิจิต่อไป... หลังจากหายดีทาเคชิเซอร์ไพรส์แพรวดาว ด้วยการพาเธอไปท่องเที่ยวในหลายเมืองที่เธออยากไปและเมื่อบรรยากาศเป็นใจ แพรวดาวก็ยอมตกเป็นของทาเคชิ ความรักของทาเคชิกับแพรวดาวกำลังเติบโต ในขณะที่ทาโร่เฝ้าทนมองด้วยความเจ็บช้ำ ทาเคชิรู้ข่าวการทำเรื่องผิดกฎหมายของเคนอิจิกับริกิ เขาจึงร่วมกับตำรวจหวังจะแฉเบื้องหลังทั้งหมด แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ซาโตชิลูกชายของริกิตาย ริกิแตกหักกับครอบครัวทาเคชิ ยกเลิกการหมั้นทั้งหมด ไอโกะที่กำลังท้องเสียใจมากหนีไปคลอดลูกที่ฮาวาย แพรวดาวมุ่งมั่นกับการเรียนหวังให้จบภายในหนึ่งปี และแล้ววันหนึ่งเธอก็เป็นลม และพบว่าตัวเองตั้งท้อง ทาเคชิดีใจมาก หวังใช้ลูกเป็นเงื่อนไขให้แพรวดาวแต่งงานกับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ริว โคจิ และสมาชิกกลุ่มต่างดีใจที่รู้ข่าวทาเคชิกำลังจะมีทายาทสืบสกุล แพรวดาวถูกพวกริกิกับเคนอิจิจับตัวไปอีก ทาเคชิแทบคลั่งเป็นห่วงแพรวดาวกับลูก โดยที่เขาไม่รู้ว่าเคนอิจิทำร้ายแพรวดาวจนแท้งลูกไปแล้ว ทาโร่บาดเจ็บแต่ก็ขอตามทาเคชิไปช่วยแพรวดาว ทาเคชิบุกมาช่วยแพรวดาวที่ท่าเรือ เกิดการต่อสู้กันอย่างรุนแรงมาก และเมื่อริวกับโคจิมาถึง จึงพบเคนอิจิตายแล้ว และทาโร่ถูกระเบิดตายพร้อมไปกับทาเคชิ ทั้งหมดเข้าใจว่าร่างไร้วิญญาณที่กำดาบประจำตระกูลตัวไว้แน่นคือทาเคชิ แพรวดาวรอดชีวิตจากกองไฟ เมื่อริวพบร่างเธอหมดสติอยู่บนซากเรือที่ระเบิด เธอเสียใจที่ต้องสูญเสียทาเคชิกับลูก ริวขึ้นรับสืบทอดตำแหน่งโซเรียวของตระกูลโอะนิซึกะแทนทาเคชิ เขามอบพินัยกรรมให้แพรวดาว เธอจำเป็นต้องรับและขอเดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเพราะยังจดจำเรื่องราวความรักระหว่างเธอกับทาเคชิได้อยู่เต็มหัวใจ เมื่อแพรวดาวกลับถึงประเทศไทยทั้งที่ยังเรียนไม่จบ เธอนำเงินมาชดใช้ทุนคืนรัฐบาลและกลับเชียงใหม่ ซื้อที่ดินทำไร่องุ่นอย่างที่เคยฝันไว้กับทาเคชิ และวันหนึ่งชายชื่อตะวัน ก็ก้าวเข้ามาสมัครงานที่ไร่ แพรวดาวตกใจและดีใจมาก เมื่อรู้ว่าตะวันคือทาเคชิที่ปลอมตัวมา ทาเคชิเล่าว่าทาโร่ยอมสละชีวิตถอดแหวนประจำตระกูล และถือดาบประจำตัวเขาไว้ตบตาคนอื่นว่าทาเคชิตายไปแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการแก้แค้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ ก่อนทาโร่จะตายทาเคชิรับปากว่าจะรักและดูแลแพรวดาวเท่าชีวิต และรับปากว่าจะทิ้งทุกอย่างไปอยู่กับแพรวดาวเหมือนที่ทาโร่ยอมสละชีวิตให้เขากับแพรวดาว แพรวดาวร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งใจ กับความเสียสละที่ทาโร่มีให้เธอ ในที่สุด ทาเคชิ และแพรวดาว ก็สมหวังในความรักที่บริสุทธิ์จริงใจ ชีวิตของเขาและเธอปราศจากการต่อสู้และการแก้แค้นอีกต่อไป…แพรวดาวและทาเคชินั่งมองดาวดวงในคืนที่นักรบแห่งตะวันได้อยู่คู่กับดวงดาวที่สุกสกาว...ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน... ....ในขณะที่ โซเรียว ลำดับต่อไป ริว โอะนิซึกะ นักรักที่เคยอยู่เคียงข้างทาเคชิมาตลอดทั้งชีวิต...กำลังก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางแห่งนักรบ... เขาจะเป็นอย่างไร... เส้นทางนักรบของเค้าจะเป็นเหมือนทาเคชิหรือไม่... ติดตามต่อไปใน... รอยฝันตะวันเดือด

เพลิงฉิมพลี 2557

เพลิงฉิมพลี (2557/2014) ดอกงิ้วนั้นแม้จะงดงาม แต่ก็ร้อนแรงด้วยเปลวเพลิง เพลิงแห่งรัก เพลิงแห่งแค้น ที่ไม่มีวันมอดดับเช่นเดียวกับเพลิงที่ยังสุมอยู่ในหัวใจ หนานไตร หรือ พ่อเลี้ยงณไตร (อธิชาติ ชุมนานนท์) มุ่งสู่ปางไม้หิมวัตเพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัว หนานไตรปกปิดฐานะพ่อเลี้ยงเป็นเพียงผู้จัดการเพื่อเรียนรู้การทำงาน ในงานเลี้ยง เนื้อนาง (ราณี แคมเปน) หลานสาวควาญช้างอาวุโส หมื่นหล้า (สรพงษ์ ชาตรี) ถูกเลือกให้ฟ้อนแง้นต้อนรับผู้จัดการคนใหม่ ความงามพิสุทธิ์ของเนื้อนางสะกดสายตาและหัวใจของหนานไตรตั้งแต่แรกเห็น หนานไตรสนิทสนมกับเนื้อนางท่ามกลางความหึงหวงของ แสงคำ (เด่นคุณ งามเนตร) ควาญช้างที่หลงรักเนื้อนาง เรื่องเนื้อนางรู้ถึงหู แม่นายศรีวัลลา (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ที่ตั้งใจให้ลูกชาย คนโตแต่งงานกับ แขไข (เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์) ผู้หญิงที่เลือกให้ แขไขกับแม่นายตามมาราวีเนื้อนางถึงปาง ธรรพ์ (คณิศ ปิยะปภากรกูล) น้องชายของณไตร กับ ดาวเด่น (กมลเนตร เรืองศรี) น้องสาวแขไขต้องคอยช่วยกันไม่ให้เกิดเรื่องวิวาทหลายครั้ง แม่นายใช้กลุ่มคนงานในปาง รัญจวน (แชมเปญ เอ็กซ์) สร้อยฟ้า (ดวงธาริดา อัทธเสรี) กำปุ้ง (ธีระพล หอมจม) คอยกลั่นแกล้งใส่ความเนื้อนาง แต่เนื้อนางก็มี คำฝาย (พัสกร พลบูรณ์) ม่อนดอย (กฤษฎี พวงประยงค์) แสงคำที่ช่วยเนื้อนางให้รอดพ้นปัญหา ท่ามกลางความริษยาของแขไข ความรักของหนานไตรกับเนื้อนางงอกงามขึ้นทีละน้อยจากความใกล้ชิด หมื่นหล้ากลัวหลานสาวช้ำใจเหมือนแม่ที่รักคนเมืองต่างฐานะ แต่หนานไตรพิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้จัดการจนชนะใจทุกคน หมื่นหล้ายอมยกเนื้อนางให้หนานไตร แม่นายกับแขไขตามมาทำลายความสุขเนื้อนางถึงเรือนหอ หัวใจเนื้อนางแตกสลายเมื่อรู้ความจริงว่าหนานไตรคือพ่อเลี้ยงณไตร หมื่นหล้าช้ำใจจนตาย เนื้อนางหมดสิ้นทุกอย่างเมื่อ จันตา คนของแม่นายหลอกว่า แขไขกำลังจะแต่งงานกับพ่อเลี้ยงณไตร เนื้อนางซัดเซมาเจอกับ เจ้าแสนพรหม (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) ที่ยื่นมืออุปการะเนื้อนางทันทีเพราะหวังรวบหัวรวบหางเนื้อนางเป็นเมียเก็บอีกคน ณไตรออกตามหาเนื้อนาง แต่บุญลือ (ชยพล อินทรวงศ์) คนของแม่นายสร้างเรื่องว่าเนื้อนางหนีไปอยู่กินกับแสงคำ ณไตรกับเนื้อนางมาเจอกันอีกครั้งที่คุ้ม เจ้าแสนพรหมทำให้ณไตรเข้าใจว่าเนื้อนางเป็นเมียเก็บ ณไตรกับเนื้อนางจึงมีแต่ความน้อยใจ ประชดประชันกัน จนเนื้อนางชวน ประกาย (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) เมียเก็บอีกคนของเจ้าหนีออกจากคุ้ม แต่ณไตรวางแผนเอาตัวเนื้อนางคืนมาจากเจ้าแสนพรหมได้เสียก่อน ณไตรพาเนื้อนางเมียรักเข้าไปอยู่ในบ้านหิมวัต เกิดเรื่องขึ้นอีกเมื่อแขไขท้อง แม่นายถูก นายพลยศกร (สุเชาว์ พงษ์วิไล) กับ คุณหญิงมาลัย (ชุติมา นัยนา) เอาเรื่องจนล้มป่วยหนัก ณไตรจำใจแต่งงานกับแขไขเพื่อแก้ปัญหา เนื้อนางกล้ำกลืนความชอกช้ำที่แขไขกลายเป็นเมียแต่ง ทั้งเนื้อนางกับแขไขตั้งท้อง สองคนคลอดลูกในเวลาไล่เลี่ยกัน ป้าวันดี (สาวิตรี สามิภักดิ์) ทำคลอดให้เนื้อนาง เนื้อนางใจสลายอีกครั้งเมื่อลูกไม่รอดชีวิต บ้านหิมวัตกลับลุกเป็นไฟเมื่อเนื้อนางพบความลับว่าพ่อของ ด.ช.อัศดายุ ลูกแขไขคือ ธรรพ์ ไม่ใช่ณไตร ก่อนจะบอกความจริงกับทุกคน แขไขถูกทำร้ายจนตาย หลักฐานชี้ว่าเนื้อนางคือฆาตกร และเธอคือคนที่ลักลอบมีชู้กับธรรพ์ ณไตรไล่เนื้อนางออกจากบ้านด้วยความปวดร้าวแสนสาหัสที่น้องชายกับเมียรักทรยศ เนื้อนาง คำฝาย ประกายต้องระหกระเหินไปทำงานในคณะรำวงของ บุญน่าน (กลศ อัทธเสรี) กับ บัวตอง (วิยะดา อุมารินทร์) ณไตรตามมาพบเนื้อนางที่มีแสงคำข้างกาย ความรัก ความแค้นลุกโชนยิ่งกว่าไฟเผาทั้งป่า ขณะที่บ้านหิมวัตมีสมาชิกใหม่คือครูสาว อรองค์ (กมลเนตร เรืองศรี) ที่มาดูแลลูกของณไตร เนื้อนางย้อนมาที่บ้านหิมวัตเพราะคิดถึง ด.ช.อัศดายุ (ด.ช.ไรอัน จารุโยธิน) ธรรพ์หวาดหวั่นกลัวเนื้อนางพูดความลับเรื่องแขไข แม่นายจะจับเนื้อนางเข้าคุก เพราะคำประณามว่าเธอคือ กากี และแววตาชิงชังจากณไตร เนื้อนางตัดสินใจพิสูจน์ความจริงว่าเธอไม่ใช่คนฆ่าแขไข วิมานฉิมพลีกลับกลายเป็นกองเพลิงเผาผลาญใจทุกดวงด้วยรักและริษยา เพราะรักและเสน่หาที่ไม่เคยแยกขาดของณไตรและเนื้อนางทำให้ทุกคนต้องพบกับโศกนาฎกรรมเกินคาดคิด สามารถติดตามเรื่องราวความรัก ความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวของณไตร และ เนื้อนางได้ใน ละครเพลิงฉิมพลี

ทรายสีเพลิง 2557

ทรายสีเพลิง (2557/2014) เรื่องราวของหญิงสาวผู้เติบโตมาด้วยความคั่งแค้นในชะตาชีวิต เพราะซึมซับความกดดันเคียดแค้นต่าง ๆ จากมารดา หากสุดท้ายชีวิตของเธอก็พบเพียงความว่างเปล่า เพราะเพลิงแห่งความกระหายในชัยชนะที่ไม่เคยพอของตนเอง

ดวงตา เด็กในอุปถัมภ์ของ คุณหญิงศิริ ที่ชุบเลี้ยงเธอมาแบบกึ่งลูกกึ่งคนรับใช้ ชีวิตของดวงตาคงสงบเรียบง่ายตามสภาพหากเธอจะไม่ไปหลงรักและเผลอไผลได้เสียกับ ศก ลูกชายคนเดียวของคุณหญิง หากความทะเยอทะยานที่ต้องการขยับฐานะของดวงตาก็ต้องสิ้นสุดลงทันทีที่คุณหญิงรู้เรื่อง คุณหญิงจับ ศกแต่งงานกับ เสาวนีย์ ผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมจะมาเป็นสะใภ้คนเดียวของตระกูลพรหมมาสตร์นารายณ์ แม้ขณะนั้น คุณหญิงจะรู้ว่าดวงตากำลังตั้งท้องแล้วก็ตาม ดวงตาเก็บงำความเจ็บช้ำไว้ นอกจากความรักที่พันธนาการหัวใจเธอ เธอยังแอบหวังว่าสักวัน โอกาสที่ดีน่าจะเป็นของเธอบ้างเพราะอย่างน้อย เธอก็มีลูก คือ ศรุตา หรือ ทราย เป็นเครื่องต่อรอง จนเมื่อวันหนึ่ง เสาวนีย์ตั้งท้องและคลอดลูกออกมาเป็นหญิง ชื่อ ศรวณี หรือ ลูกศร ดวงตาก็ยังยื้อ ยังทนอยู่ด้วยทิฐิจนวันหนึ่ง มีคำถามจากลูกน้อยว่า ร้อยเอาไว้ใช้ แปลว่าอะไรเพราะทรายได้ยินพ่อกับย่าคุยกันว่าพวกเขาเลี้ยงแม่ไว้เพื่อคำ ๆ นี้ คำถามจากลูกน้อยไม่ต่างอะไรกับอาวุธแหลมคมที่แทงลงตรงกลางใจ ความรัก ความหวัง ความกตัญญูรู้คุณที่เคยพันธนาการเธอไว้จบสิ้นลง ตอนนั้นเกิดอุบัติเหตุทรายทะเลาะและผลักลูกศรตกน้ำอาการปางตาย ดวงตาจึงตัดสินใจพาลูกน้อยหนีออกจากบ้านโดยมิได้ร่ำลาแม้คนที่เธอรักที่สุดคือศก แรงรัก สร้างรอยแค้น ตั้งแต่บัดนั้น ดวงตาทั้งสัญญาทั้งสาบานกับตัวเองว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตของเธอกับลูกมีทุกสิ่งทัดเทียมและจะต้องดีกว่าที่ที่เธอจากมาให้จงได้สองแม่ลูกได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างจังหวัดด้วยความช่วยเหลือของ ป้าน้อย หัวหน้าพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ฝากงานให้ ก่อนจากไปดวงตาไม่ลืมพาทรายไปกราบลา ครูนารี ครูใหญ่ผู้มีพระคุณ และวันนั้นเองที่ทรายได้พบกับ พี่บี หรือ บุรี หลานชายครูนารีที่ทรายยังจดจำความใจดีของพี่บีได้ และ ดวงตาอบอุ่นอ่อนโยนคู่นั้นก็ยังติดตราตรึงใจเด็กหญิงทราย จวบจนวันที่เด็กหญิง กลายเป็น นางสาวศรุตา ผู้สวยสง่า เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทุกคนที่มีโอกาสได้พานพบเธอ ณ สหรัฐอเมริกา ศรุตา กลายเป็นคนใหม่ ทุกคนในสังคมชั้นสูงรู้จักเธอในนาม นางสาว แซนดี้ พี ดาลตัน ศรุตาสามารถพาตัวเองแทรกเข้ามาเป็นผู้หญิงแถวหน้าของสังคมทั้งความงาม การศึกษา และ การงาน ในฐานะทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ที่มีเครือข่ายกว้างขวางนามว่า ดอน ดาลตัน มิใช่แค่เพียงสถานภาพภายนอกหากภายในห้วงลึก ศรุตาก็ยังปรารถนาที่จะครองความเป็นหนึ่งในหัวใจผู้ชายทุกคนเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเธอนั้นมีพลังอำนาจดุจเปลวเพลิงที่ทรงอานุภาพที่เลือกจะละลายหัวใจของชายใดก็ได้เพียงเพราะความสะใจหรือความสุขชั่วคราว หากแท้จริงแล้ว เธอรู้ดีว่ามันคือกระบวนการชำระล้างคราบความแค้นที่เธอกับแม่เคยเป็นฝ่ายถูกกระทำในอดีตให้หมดไป ศรุตาเรียนรู้ที่จะใช้ความรักล่อลวงทุกคนให้เข้ามาติดกับ พร้อม ๆ กับการควบคุมจิตใจไม่ให้เป็นทาสของความรักเพราะเธอทนไม่ได้ที่จะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง จึงมีชายหนุ่มมากหน้าที่ถูกศรุตาใช้เสน่ห์ล่อให้หลง ครั้นพอเขาจะจริงจัง ศรุตาก็จะถอยฉาก หรือไม่ก็สลัดทิ้งอย่างไม่ใยดี ประหนึ่งว่าน้ำตาผู้ชาย คืออาหารอันโอชาของเธอก็ไม่ปาน แม้กระทั่ง ชาร์ลส์ หรือ ฌาน ผู้ชายคนพิเศษที่ทรายเข้าไปทำหน้าที่รักษาแผลใจให้เขา หลังจากที่เขาอกหักจาก ลิซ่า คู่รักที่ชาร์ลส์รู้ความจริงว่าเธอมิได้รักเขาที่ตัว หากแต่การคบหานั้นเป็นบันไดเพื่อธุรกิจครอบครัวเนื่องจาก นอร์แมน หว่อง นักธุรกิจชาวฮ่องกง สามีใหม่ของ แอนน์ แม่ของชาล์รส์ คือผู้ที่สามารถจะผลักดันธุรกิจของครอบครัวเธอให้ประสบความสำเร็จได้ ชาร์ลส์มีทรายคอยปลอบใจ ทั้งคู่คบหา ผูกพันกันเป็นพิเศษจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นคู่รักที่สำคัญ ชาร์ลส์เป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ทรายยอมมอบสิ่งที่หวงแหนที่สุดให้เขาในชั่วโมงเสน่ห์หาที่ชาร์ลส์นั้นมีสัมพันธ์กับเธอด้วยใจรักตรงกันข้ามกับทรายที่คิดเพียงแค่ว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่จะทำให้เธอผูกมัดผู้ชายที่ดูท่าว่าเธอจะเอาชนะได้ยากกว่าคนอื่น ๆ ก็เท่านั้น ความเป็นคนดูยากของทราย สร้างความงุนงงให้กับ คีตา และ งามสรรพ เพื่อนสนิทหรือแม้แต่ตัวชาร์ลส์เองก็ได้รับรู้อดีตของทรายเพียงว่า หลังจากที่ทรายกับแม่ต้องจากบ้านมาดวงตาก็เลือกจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองใหญ่ทางเหนือของไทย ดวงตาสู้ทนกับความเปล่าเปลี่ยวและงานหนักเพื่อเก็บเงิน และเมื่อมีมากพอ เธอก็ไม่รีรอจะพาลูกสาวคนเดียวเดินทางสู่แผ่นดินแห่งความหวังใหม่ และไม่นาน ดวงตาก็ได้แต่งงานกับมหาเศรษฐี ดอน ดาลตัน ที่เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ดวงตาทำงานอยู่ จากนั้น ชีวิตของสองแม่ลูกก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง วันหนึ่งชาร์ลส์มาหาทรายเพื่อบอกข่าวว่าเขาจะต้องบินกลับเมืองไทยเพราะพ่อเลี้ยงของเขาคิดจะทำโครงการใหญ่และต้องการให้เขาไปดูแล โครงการที่ว่านี้คือการพัฒนาที่ดินที่เคยบ้านเก่าของต้นตระกูลของชาร์ลส์เอง เป็นบ้านที่ชาร์ลส์เคยอาศัยอยู่แต่เล็กแต่น้อย จนเมื่อพ่อของชาร์ลส์เสียชีวิต แอนน์ตัดสินใจออกจากบ้านมาและได้แต่งงานกับนอร์แมน สุดท้ายญาติฝ่ายพ่อก็ตัดสินใจขายบ้านและที่ดินบริเวณนั้นเพื่อแบ่งเงินกัน นอร์แมนจึงตัดสินใจซื้อต่อโดยใส่ชื่อของชาร์ลส์ เป็นความเจ็บปวดลึก ๆ ของชาร์ลส์ที่ในที่สุดเขาต้องพ่ายแพ้ต่ออำนาจทุนนิยมอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ชาร์ลส์ต้องกลับเมืองไทย เวลาเดียวกับทรายก็ได้รับข่าวการเสียชีวิตของคุณหญิงศิริ ดวงตาที่รู้จักลูกสาวของตัวเองดีว่าทรายในวันนี้ ได้รับเอาเชื้อไฟแห่งความเกลียดชังในอดีตไว้ในทุกอณู เธอจึงแค่เพียงบอกให้ทรายทราบข่าวโดยไม่ต้องการให้ทรายเดินทางกลับเมืองไทย หากข่าวนี้สำหรับทราย มันเหมือนการเปิดประตูสู่การชำระล้างความเจ็บช้ำในอดีต ทรายตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทยทันทีโดยไม่ฟังคำทัดทานของแม่ เวลานั้น บุรีรวมกลุ่มกับเพื่อนคือ ชีวิน พัชระ จ้อย ติ่ง เจตน์ เปิดบริษัทสถาปนิก มีชีวิตเรียบง่ายและสุขสงบจนเมื่อเขาได้พบกับศรุตา ทันทีที่ได้พบหน้า ภาพในอดีตก็ผุดพราย บุรียังคงจดจำความน่ารักไร้เดียงสาของเด็กหญิงทรายในวันนั้นได้ดี ต่างกับวันนี้ ที่เขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงรูปร่างหน้าตาที่สวยสะดุดตาหากแต่ศรุตา มีอะไรบางอย่างที่เขาไม่กล้าเอ่ยให้ใครได้ยินนั่นคือพฤติกรรมที่ทรายกำลังบริหารเสน่ห์กับผู้ชายทุกคน โดยเฉพาะกับพัชระหลังจากที่ทรายรู้ว่าพัชระคือคู่หมั้นของลูกศร น้องสาวพ่อเดียวกับเธอ บุคคลที่แย่งทุกสิ่งไปจากเธอและแม่ ทรายเริ่มต้นเกมชีวิตทันทีโดยการก้าวเข้าไปเปิดตัวกับทุกคนในบ้านพรหมมาสตร์นารายณ์ สร้างความงุนงงกับทุกคนแตกต่างกันไป ศกนั้นออกจะเป็นปลื้มกับลูกสาวคนโตจนออกนอกหน้าเพราะนอกจากบุคลิกที่ดูสวยโก้ ฉลาด ขี้ประจบ ที่สำคัญ ทรายยังพกพาความร่ำรวยเข้ามาในชีวิตขณะที่ฐานะครอบครัวของเขาไม่รุ่งเรืองเหมือนก่อนทรายแม้จะเจ็บเพราะรู้ว่าพ่อแสดงความรักเพราะเห็นทรายเป็นแค่คนที่จะมาเชิดหน้าชูตาและทำประโยชน์ให้หากความเจ็บครั้งนี้น้อยนักเมื่อเทียบกับที่เธอกับแม่เคยได้รับในอดีตความเรียบง่ายและขี้โรคของลูกศรที่ไม่เคยมีอะไรโดดเด่นทำให้เธอถูกแย่งความสำคัญไปได้ในเวลารวดเร็ว หากด้วยหัวใจแสนซื่อ ลูกศรกลับไม่รู้สึกว่าทรายจะมาเป็นคู่แข่งของเธอ ตรงข้าม เธอกลับรู้สึกดีใจที่จะได้พี่สาวคืนมา ซ้ำยังมองทรายเป็นไอดอลอีกต่างหาก ส่วนเสาวนีย์ เธอหวาดกลัวและระแวงว่าเม็ดทรายต้อยต่ำจะกลับมาเป็นอัญมณีเลอค่าให้ลูกสาวคนเดียวของเธอหมดความหมาย และยังหวาดกลัวไกลไปกว่านั้นอีกโดยมิกล้าปริปากเพราะตอนนี้คนทั้งบ้านต่างก็รุมล้อมแต่ทราย แม้แต่ ยายทิศ แต้ว เติม บ่าวในบ้านก็ดูจะเห่อนายสาวคนใหม่เอามาก ๆ ศรุตาโดดเด่นมากในวันที่เธอได้รับคำชวนจากชาร์ลส์ให้ไปเที่ยวร้าน บีส์ บัดดีส์ ที่บุรีกับเพื่อนลงทุนร่วมกันไว้เป็นที่สังสรรค์และหารายได้เสริม เสน่ห์ของทรายถูกใจพัชระเข้าอย่างจัง บวกกับความจงใจจะมัดใจพัชระให้อยู่หมัดด้วยเหตุผลตรงไปตรงมาคือเธอต้องการให้คนในครอบครัวของพ่อโดยเฉพาะเสาวนีย์กับลูกศรต้องพบกับความสูญเสียเช่นที่เธอกับแม่เคยได้รับ แต่กระนั้น พฤติกรรมของทรายก็มิอาจเร็ดรอดสายตาของชาร์ลส์กับบุรี เพียงแต่ชาร์ลส์ที่รักทรายออกจะเชื่อคำอ้างของทรายที่บอกว่าแกล้งยั่วพัชระเพื่อพิสูจน์ว่าเขาจะรักน้องสาวของเธอจริงหรือเปล่า ต่างกับบุรีที่รู้สึกว่าทรายมีเป้าหมายซับซ้อนกว่านั้น บุรีพยายามจะบอกชาร์ลส์ แต่ตอนนั้น ชาร์ลส์ไม่มีกะจิตกะใจจะรับฟังเพราะต้องวิ่งวุ่นต่อสู้ชิงไหวชิงพริบกับ อลัน จาง หลานชายที่นอร์แมนจงใจจะ ปั้น ให้เป็นคู่แข่งของชาร์ลส์เพื่อชิงเชิงทางธุรกิจ และขณะนั้นอลันก็กำลังวางแผนเข้าครอบครองโครงการคอนโดริมน้ำ ที่ดินที่เคยเป็นบ้านเกิดของชาร์ลส์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ อลันเคยได้ครอบครองลิซ่าคนรักเก่าของชาร์ลส์มาแล้ว หลังจากที่ชาร์ลส์เลือกจะตัดลิซ่าออกจากชีวิต ความต่างของชาร์ลส์กับอลันคือ ชาร์ลส์นั้นเน้นธุรกิจเชิงอนุรักษ์โดยร่วมสร้างฝันกับบุรี ขณะที่เป้าหมายของอลันคือกำไร ซึ่งวิสัยทัศน์อย่างอลัน ย่อมเป็นที่ถูกใจนายทุนอย่างนอร์แมนมากกว่า ชาร์ลส์จึงตกเป็นเครื่องมือของคนทั้งคู่ให้เดินหน้าทำงานอย่างหนัก หากสุดท้ายชาร์ลส์ก็ถูกทั้งพ่อเลี้ยงและอลันหักหลังอย่างเจ็บแสบ งานวันเปิดโครงการจึงกลายเป็นการเปิดเกมชีวิตที่ผู้เล่นมีเป้าหมายต่างกันนอร์แมนจัดงานเปิดตัวอย่างอลังการเพื่อให้ชาร์ลส์ตายใจฝ่ายศรุตาก็จงใจจับลูกศรแต่งตัวสวยสะดุดตา เพื่อให้ลูกศรถูกใจชาร์ลส์บ้างเพราะชาร์ลส์จะได้ไม่สนใจเธอมากนักในเวลาที่เธอต้องการอ่อยเหยื่ออย่างพัชระให้ติดกับ ศรุตาประมาทนักเพราะคิดว่าอย่างไรเสีย ชาร์ลส์ก็ไม่มีวันปันใจจากเธอไปสนใจผู้หญิงจืดชืดอย่างลูกศร แต่ผิดคาด เพราะมิจฉาทิฐิของทรายได้กลายเป็นการพรวนดินปลูกต้นรักให้ทั้งชาร์ลส์และลูกศร และจากวันนั้น ความรักของทั้งคู่ก็พัฒนา โดยที่ทรายไม่รู้เลยว่าเธอกำลังจะสูญเสียผู้ชายที่เคยรักเธอมากที่สุดไป จากนั้น อลันก็วางแผนให้ลิซ่าหลอกชาร์ลส์ให้ติดเรือยอชต์ออกไปที่ทะเลไกลโพ้น เพื่อที่เขากับนอร์แมนจะได้ทำการเปลี่ยนโครงสร้างโครงการใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องขณะที่บุรีก็พาลูกน้องออกไปพักผ่อน โดยมีทรายกับลูกศรร่วมทางไปด้วย ในเรือ บุรีพยายามพูดเตือนสติทรายให้ล้มเลิกความคิดผิด ๆ เสีย หากแต่ทรายวันนี้ กลายเป็นทรายสีเพลิงที่ไม่มีความดีใด ๆ จะเข้าถึงจิตใจของเธอได้อีกแล้ว ทรายเดินหน้ายั่วยวนพัชระจนหลงไหล แล้วถอยฉาก ยิ่งยั่วให้พัชระอยาก จนถึงขั้นหลงละเมอเพ้อพก ชาร์ลส์เจ็บหนักจากการถูกหักหลัง ความฝันของเขาที่จะอนุรักษ์แผ่นดินแม่ไว้ต้องพังทลาย โครงการในฝันต้องตกอยู่ในมือนายทุนต่างชาติสมบูรณ์แบบ เสียใจที่สุดคือแอนน์แม่ของเขาเองที่พลอยรู้เห็นเป็นใจกับสามีเพียงเพื่อจะเอาตัวรอด คนที่เขาคิดถึงมากที่สุดยามที่หัวใจบอบช้ำคือศรุตา ผู้หญิงที่เขารักและหวังว่าจะแต่งงานด้วย แต่เวลานั้น ศรุตาที่หมดสนุกกับการยั่วให้พัชระหลง เริ่มจะหันมาทำตามความต้องการของหัวใจเพราะลึก ๆ แล้ว ศรุตายอมรับว่า ผู้ชายคนเดียวที่เธอพึงใจมาตลอดตั้งแต่ยังเยาว์ คือ บุรี หลังกลับจากเรือท่องเที่ยว บุรีต้องเดินทางไปประชุมด่วนที่สิงคโปร์ ทรายวางแผนทิ้งลูกศรไว้ที่โรงแรมและบินตามบุรีไปทันทีหมายจะเผด็จศึก ผูกมัดบุรีเหมือนที่เคยทำกับชาร์ลส์ ทำให้เวลานั้น ชาร์ลส์ที่จะมาหาทราย ได้พบเพียงลูกศรที่อยู่เป็นเพื่อนปลอบใจ ความน่ารัก ใสซื่อและเป็นธรรมชาติของลูกศรทำใจของชาร์ลส์หวั่นไหว ลูกศรเองก็มีความสุข รู้สึกว่าตัวเองมีค่าที่ช่วยเป็นเพื่อนคลายทุกข์ให้ชาร์ลส์ได้ ฝ่ายบุรี แม้จะพึงใจในตัวทรายไม่น้อยไปกว่าชายอื่นหากความรู้ผิดชอบชั่วดีเพราะบุรีนั้นรู้ดีว่าทรายคือคนที่ชาล์รส์หมายปอง และการรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของทราย ทำให้บุรีปฏิเสธทรายในวินาทีที่ทรายตัดสินใจแล้วที่จะมอบกายให้ชายที่เธอรัก ทรายเจ็บเกินเจ็บ อายสุดอาย เพราะการผลักไสด้วยวาจาและท่าทีแสนสุภาพนั้นไม่ต่างอะไรกับคมมีดที่กรีดลึกลงตรงกลางใจจนขาดวิ่นไม่มีชิ้นดีขณะที่ความสัมพันธ์ของชาร์ลส์และลูกศรเดินหน้าไป ด้วยใจบริสุทธิ์ที่ลูกศรเพียงปรารถนาให้ชายที่เธอรักเป็นสุข เธอจึงยอมมอบกายให้ชาร์ลส์อย่างเต็มใจในคืนเดียวกับที่ทรายถูกบุรีปฏิเสธ ทั้งสอง ต่างผ่านชั่วโมงเสน่หาไปด้วยความรู้สึกรักที่ก่อเกิดในใจอย่างเงียบงัน ไร้เงื่อนไขใด ๆ พัชระที่แน่ชัดใจตัวเองว่ารักศรุตา เข้าพบศกกับเสาวนีย์เพื่อขอถอนหมั้นกับลูกศร ทั้งสองผิดหวังเสียใจมากหากสิ่งที่ทำให้เสาวนีย์แทบกระอักออกมาเป็นเลือดคือคำสารภาพของพัชระที่บอกว่ารักและต้องการแต่งงานกับทราย ทุกคนตกใจกับการตัดสินใจของพัชระ หากคนที่ตกใจยิ่งกว่าคือพัชระเพราะคำตอบของทรายคือเธอไม่เคยรักและคิดจะแต่งงานกับพัชระเลย คำพูดตรง ๆ ของทรายทำให้พัชระรู้เช่นเห็นชาติผู้หญิงใจร้ายที่ทำให้เขาต้องหน้าแตกและเสียใจที่ต้องเสียผู้หญิงดี ๆ อย่างลูกศรไป ทรายที่คิดว่าตนกำลังกำชัยชนะ รีบนำข่าวร้ายเรื่องพัชระถอนหมั้นไปบอกกับลูกศร แต่แล้ว ทรายก็ต้องเซซวดกลับออกไปไม่เป็นท่าเมื่อเมื่อลูกศรไม่มีทีท่าเสียใจเลยจนนิด เป็นโจทย์ใหม่ของทรายที่ต้องตามล่าหาความจริงว่าอะไร? ทำให้ผู้หญิงอ่อนแออย่างลูกศรยืนหยัดอยู่ได้ทั้งที่ควรจะแดดิ้นตายเมื่อรู้ข่าว แล้ววันหนึ่ง ทรายก็ได้รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพลังใจทั้งหมดของลูกศรคือชาร์ลส์ ความเจ็บใจ แค้นใจประเดประดัง และทรายไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงไร้ค่าอย่างลูกศรได้ครอบครองคนดีที่เคยรักเธอเหมือนดวงใจ เคยเห็นเธอเป็นที่หนึ่งอย่างชาร์ลส์ ทรายวางแผนทำลายหัวใจลูกศรให้สิ้นซากด้วยการเก็บชุดนอนและเครื่องแสดงความผูกพันของเธอที่เคยมีต่อชาร์ลส์ลงกระเป๋าย่องเข้าไปคอนโดของชาร์ลส์ในคืนหนึ่งที่ทรายรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าลูกศรจะต้องขับเรือไปหาชาร์ลส์ และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน ทรายบุกเข้าไปหาชาร์ลส์ ขณะรู้ว่าลูกศรกำลังตามมา ลูกศรพบซากสัมพันธ์ที่ทรายจงใจจัดฉากก่อนจะเข้าไปเห็นภาพที่ทรายกับชาร์ลส์กำลังโอบกอดพร่ำพรอดกันโดยไม่รู้ว่าเป็นการบุกอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ชาร์ลส์ไม่ทันตั้งตัว และลูกศรก็ตกเป็นเหยื่อแผนสกปรก หัวใจบอบบางของลูกศรฉีกขาดไม่มีชิ้นดีเมื่อเข้าใจว่าคนที่เธอรักมากทั้งสองคนร่วมมือกันทรยศเธอ ลูกศรกลับมาเป็นคนอ่อนแออีกครั้ง เธอวิ่งหนีออกจากคอนโดและขับเรือหนีไปอย่างคนหัวใจแหลกสลาย ชาร์ลส์ตามมาแต่ไม่ทัน เรือเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ร่างลูกศรจมดิ่งลงน้ำ กว่าจะหาตัวเธอพบ ลูกศรก็กลายเป็นศพ เป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้ว การจากไปของหญิงสาวผู้น่าสงสาร ทิ้งรอยอาลัย ทิ้งหัวใจที่ตายแล้วไว้ให้กับชาร์ลส์และเสาวนีย์ผู้เป็นแม่ที่เสียใจจนกลายเป็นคนคุ้มดีคุ้มร้าย ชาร์ลส์แสดงอาการชิงชังรังเกียจทรายอย่างไม่เหลือเยื่อใยไมตรี เสียงด่าจากทุกคนที่รุมประณามทรายว่าเป็นผู้หญิงใจร้าย เป็นหญิงแพศยา เป็นซาตาน หากไม่มีเสียงใด บาดหัวใจทรายเท่ากับเสียงของบุรีที่เริ่มต้นด้วยความเข้าใจและเห็นใจในอดีตของทราย หากเขาก็จบคำพูดลงตรงการร้องขอให้ทรายไปเสียจากชีวิตทุกคน ศรุตา ผู้ที่ก้าวมาพร้อมความทระนง มีเป้าหมายที่ชัยชนะ ยามนี้เหมือนคนที่ตายทั้งเป็น ความตายของลูกศรแม้จะเกินความตั้งใจที่เธอต้องการจะให้เป็น แต่มันก็ได้ตอบสนองความคิดชั่วร้ายของเธอแล้วอย่างไม่อาจกลับไปแก้ไขอะไรได้เลย ศรุตาตัดสินใจบินกลับไปยังบ้านเมืองที่เธอจากมา หากในหัวใจที่ยังมีรัก ต่อผู้ชายที่เคยซับน้ำตาให้เธอ เธอจึงให้สัญญากับตัวเองว่าจะพยายามอย่างสุดใจเพื่อจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่และต่อจากนี้ไปเธอจะเป็นฝ่ายรอคอยเพื่อจะได้มีโอกาสกลับมาเป็นผู้หญิงที่รักของเขา เมื่อวันที่เพลิงในใจเธอได้มอดไหม้สนิทลงแล้วจริง ๆ ติดตามชม ละครทรายสีเพลิง

ปีกมาร (2556/2013) ศลัยลา สาวนักโบราณคดีพบรักกับ ภูฉาย นายธนาคารหนุ่มอนาคตไกล แม้จะคบกันไม่นานแต่ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันและกันอย่างลึกซึ้ง จนในที่สุดภูฉายและศลัยลาตกลงที่จะแต่งงานกัน ภูฉายพาศลัยลาไปพบกับ สลัก แม่ของเขา แต่ทั้งคู่กลับเจอสลักกำลังอาละวาดใส่พ่อของภูฉายซึ่งทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่เขายังเด็ก สลักโกรธแค้นพ่อของภูฉายมากที่ทอดทิ้งเธอกับลูกไป จนทำให้สลักกลายเป็นคนมีอาการทางจิตชอบเรียกร้องความรักความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภูฉาย ยิ่งสลักได้รู้ว่าภูฉายจะแต่งงานกับศลัยลาก็ยิ่งเพิ่มความรักความหวงภูฉายมากขึ้น ฝ่ายศลัยลาที่ได้เห็นสภาพจิตที่ไม่ปกติของสลักก็ตกตะลึง แต่เธอก็ยังยืนกรานจะแต่งงานกับภูฉาย ท่ามกลางเสียงคัดค้านของ นวลนภาและภาษิต แม่และน้องชาย รวมทั้งเพียรภมร ทนายความสาวเพื่อนรุ่นน้องของศลัยลาที่เป็นโรคเกลียดผู้ชายขึ้นสมอง เพียรภมรพยายามพูดให้ศลัยลาคิดให้ดีเพราะไม่อยากให้ศลัยลาทุกข์ใจเพราะผู้ชายเหมือน ฉวี แม่ของตนที่ถูกผู้ชายทุบตีทำร้ายมาตลอดชีวิต เมื่อภูฉายบอกสลักว่านวลนภายินดียกที่ดินพร้อมบ้านและรถให้เป็นของขวัญแต่งงาน สลักจึงยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกัน แต่ในคืนแต่งงานสลักแกล้งเป็นลมหมดสติจนทำให้ภูฉายไม่ได้เข้าหอกับศลัยลา ศลัยลาเสียใจมากแต่ไม่ยอมแสดงความรู้สึกให้ใครรับรู้ ระหว่างนั้นสลักแกล้งไม่สบายพร้อมทั้งใช้แผนต่างๆ นานาเพื่อให้ภูฉายมาอยู่ดูแลตนที่บ้านดังเดิม ในขณะที่ชีวิตคู่ของภูฉายกับศลัยลากำลังดิ่งลงเหว ศลัยลาก็พบว่าตัวเองตั้งท้อง ทำให้สลักยิ่งอิจฉาศลัยลาจึงพยายามเรียกร้องความสนใจจากภูฉายมากขึ้น จนในคืนที่ศลัยลาคลอดลูก ภูฉายก็ถูกสลักดึงตัวไว้จนไม่ได้ไปหาศลัยลา สลักกลัวภูฉายจะทิ้งตนไปสนใจแต่ศลัยลากับลูก จึงพูดเกลี้ยกล่อมจนภูฉายยอมยกลูกให้เลี้ยง ศลัยลาเสียใจมากที่ภูฉายยอมตามใจสลักจนครอบครัวแตกแยก เธอจึงตัดสินใจขอหย่าขาดจากภูฉาย แต่ภูฉายไม่ยอมและขอให้ศลัยลาคิดทบทวนอีกครั้ง ในขณะที่สลักกลับคอยยุยงให้ภูฉายหย่ากับศลัยลา ระหว่างที่ศลัยลาแยกกันอยู่กับภูฉาย เธอก็ถูกส่งตัวไปทำงานที่แหล่งขุดค้นวัตถุโบราณแถบภาคอีสาน ทำให้เธอได้พบกับ ลายสือ นักศึกษาโบราณคดีเพื่อนสนิทของภาษิต เมื่อลายสือได้เจอกับศลัยลาครั้งแรก ก็สะดุดตาทันทีโดยที่ไม่รู้ว่าเธอคือพี่สาวของภาษิต ด้วยความที่ลายสือขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็กและถูกพัลลพ พ่อของเขาทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ทำให้ลายสือตกหลุมรักความเป็นผู้ใหญ่ อบอุ่นและพึ่งพาได้ของศลัยลา ยิ่งทั้งคู่ได้ทำงานใกล้ชิดกันลายสือก็ยิ่งรักศลัยลาจนถอนตัวไม่ขึ้นแม้จะรู้ว่าเธอมีครอบครัวแล้ว ฟากศลัยลาเมื่อเจอคนที่เข้าใจเธอจริงๆ ก็เริ่มหวั่นไหว แต่เพราะในใจศลัยลายังมีภูฉาย ประกอบกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ศลัยลาจึงพยายามขับไสไล่ส่งลายสือออกไปจากชีวิตตน แต่ลายสือก็ดื้อแพ่งจะทำตามหัวใจตัวเองให้ได้ ทำให้ศลัยลายิ่งสับสนว้าวุ่นใจมากกว่าเดิม

แรงเงา 2555

แรงเงา (2555/2012) มุตตา หญิงสาวผู้มีนิสัยอ่อนหวาน ดูบอบบาง ทำงานเป็นเสมียนเล็กๆที่กระทรวงแห่งหนึ่งหล่อนหายหน้าไปนับจาก นพนภา ภรรยาของหัวหน้ากอง เจนภพ มาด่าประจานหล่อนที่กระทรวงเรื่องแย่งสามี ด้วยความที่เป็นคนอ่อนแอ ไม่กล้าสู้รบปรบมือกับใคร ทำให้ มุตตา ไม่สามารถอดทนต่อความอับอายได้ จึงหลบหนีไปอยู่ที่อื่นเป็นเวลา 1 เดือน ช่วงที่มุตตาหายไป วีกิจ หลานชายของเจนภพ ซึ่งมีใจให้กับมุตตาห่วงใยมุตตา และติดตามข่าวคราวของ มุตตา อยู่เสมอ เมื่อ มุตตา กลับมา นพนภา รู้ข่าวเข้าก็กลับมาด่าประจานอีกมุตตาหมดอดทนได้อีกจึงตบหน้านพนภาไปหนึ่ง ครั้ง เมื่อเจนภพรู้เข้าก็โกรธ เรียกให้มุตตามาขอโทษนพนภา มุตตาปฏิเสธพร้อมกับยื่นใบลาออก ทำให้เจนภพโกรธมากขึ้นไปอีก เหตุการณ์นี้สร้างความ ลำบากใจให้กับมุตตาเป็นอย่างมาก มุตตา จึงตัดสินใจย้ายที่พักเพื่อหลบหนีจากผู้คน เมื่อ วีกิจ รู้เข้าก็ออกตามหา มุตตา แต่ไม่พบ เจนภพ ได้รับโทรศัพท์จากมุตตาเพื่อขอนัดพบด้วยความรัก และปรารถนาที่ยังมีอยู่ในตัวเธอ เจนภพจึงไปพบกับมุตตาตามนัด และขอให้เธอกลับไปทำงานด้วยอีก แต่เธอปฏิเสธหลังจากนั้นมุตตาก็นัด เจอกับเจนภพบ่อยครั้งขึ้นพร้อม กับโทรศัพท์ไปหานพนภาด้วยการปลอมตัวเป็นผู้หวังดี บอกว่า เจนภพกำลังอยู่กับผู้หญิงทำให้นพนภาเกิดอารมณ์หึงอย่างรุนแรง และไปอาละวาดกับเจนภพมุตตาใช้มารยายั่วยวนเจนภพจนเขาคลั่งไคล้ในตัวเธอ มุตตาจึงยื่นข้อเสนอให้เจนภพหย่ากับนพนภาเมื่อวีกิจรู้ถึงความสัมพันธ์ ระหว่างมุตตาและเจนภพ ก็ขอร้องให้เธอเลิกคบกับเจนภพเสีย วีกิจยังสงสัยในตัว ของมุตตามาก เพราะเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จึงนำลายเซ็นไป ให้เพื่อนที่กองพิสูจน์ หลักฐานตรวจสอบ ผลปรากฎว่าไม่ใช่ลายมือจากคนคนเดียวกัน วีกิจจึงโทรไปหา มุตตา ตามเบอร์ที่เคยให้ไว้ ก็ไม่มีคนชื่อ มุตตา หากแต่เป็นศูนย์วิจัยคอมพิวเตอร์ทำให้ วีกิจกลับสงสัยหนักขึ้นไปอีก สถานการณ์ ของเจนภพ และนพนภาเลวร้ายลงทุกวัน เจนภพ ตัดสินใจพาครอบครัวไปพักผ่อนที่พัทยา มุตตา แอบตามไป และพักอยู่ห้องข้าง ๆ เจนภพ นพนภาอาละวาดหนักหาว่าเจนภพนัดมุตตามาด้วย และ นพนภา ก็เริ่มมีอาการเป็นโรคประสาทอ่อน ๆ วีกิจกลุ้มใจมากเพราะสงสารหลาน ๆ ที่ต้องทนรับสภาพปัญหาครอบครัว เขาตัดสินใจไปดักรอ มุตตา ที่ห้องพักอีกครั้ง และขอร้องให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับเจนภพ มุตตา ปฏิเสธแต่กล่าวว่าจะยอมทำตามถ้านพนภาจะยอมคุกเข่าขออโหสิกรรม คำตอบของ มุตตา ทำให้วีกิจเกิดอารมณ์โกรธมาก และพาลใช้กำลังทำให้มุตตาตกเป็นของเขาด้วยความที่ทั้งคู่แอบมีใจให้กันใน ส่วนลึกทำให้ทุกอย่างเลยตามเลย แต่กระนั้นมุตตาก็ยังไม่เลิกราที่จะราวีกับครอบครัวของเจนภพ วีกิจพบเบาะแสว่ามุตตาอาจมีฝาแฝด ชื่อ มุนินทร์ มุตตานัดเจอกับเจนภพเพื่ออำลา แต่เพื่อนของนพนภาเห็นเข้าจึงโทรบอกนพนภา ทำให้หล่อนช็อคหกล้มศีรษะฟาดพื้นเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง และกลายเป็นอัมพาต เหตุการณ์ ครั้งนี้ทำให้ เจนภพ หันมาสนใจภรรยา และครอบครัวมากขึ้น เพราะสำนึกผิดว่าเขาเป็นคนทำลายครอบครัว ของเขาเอง วีกิจ เดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อหาความจริงเกี่ยวกับพื้นเพของมุนินทร์ เขาสืบเสาะจนพบบ้านของมุตตา มุนินทร์พาเขาไปพบกับมุตตา เขาจึงรู้ความจริงว่ามุตตาได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว และเป็นวันครบกำหนดร้อยวันที่ต้องเผาศพเธอพอดีวีกิจรู้ความจริงที่น่า สะเทือนใจอีกว่า มุตตาผูกคอตายขณะตั้งครรภ์ได้ 2-3 เดือน มุนินทร์เรียนจบกลับมาจากอเมริกา พบว่าน้องสาวตายอย่างน่าสลดใจ จึงหาทางแก้แค้น และปลอมตัวเป็นมุตตาท้ายสุดแล้ว เมื่อเจนภพรู้ความ จริงจึงเดินทางมาเพื่อกราบศพและขออโหสิกรรมกับมุตตา หลังงานฌาปนกิจ ศพของมุตตาเรียบร้อย วีกิจก็ขอเริ่มต้นใหม่กับมุนินทร์ แต่มุนินทร์ลังเลในความรักของวีกิจ ไม่แน่ใจว่าเขารักที่ตัวเธอหรือมุตตากันแน่ มุนินทร์ไม่ต้องการเป็นเงาของกัน และกันกับมุตตา เธอต้องการให้วีกิจรักเธอที่ความเป็นตัวของเธอเอง วีกิจ จะสามารถเอาชนะใจของมุนินทร์ได้หรือไม่

มาหยารัศมี 2555

เรื่องย่อ : มาหยารัศมี (2555/2012) ในงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นทุกอาทิตย์ของ จันทรา (มัณฑนา หิมะทองคำ) ดุจแข (กัญญา รัตนเพชร์) ก็ถูกเชิญมาร่วมงานด้วย เพราะเป็นเพื่อนสนิทของ เพ็ญประกาย (นัทธินันท์ กุมชพร) แต่จริง ๆ แล้วดุจแขไม่ได้ชอบพออะไรในตัวเพ็ญประกายเลย แต่เพียงแค่เพ็ญประกายคือลูกของจันทราและ เมิน (วสุ แสงสิงแก้ว) นักธุรกิจใหญ่ที่ร่ำรวย ขณะที่ครอบครัวของดุจแขกำลังจะล้มละลาย เลยต้องหาที่ยึดหลักจึงคบเพื่อนไฮโซ หนึ่งในนั้นที่ดุจแขคบด้วยก็คือ มรว.ธิติรัตน์ (วงศกร ปรมัตถากร) คนรักของเธอ ในงานดุจแขโปรยเสน่ห์กับทุกคน จนคุณชายไม่พอใจจึงออกไปเดินเล่นด้านนอก แล้วก็ได้ยินเสียงคนร้อง แต่ก็หาไม่พบ ดุจแขออกมาตาม เลยทำให้คุณชายไม่รู้เลยว่า เดือนแรม/มาหยารัศมี (ดาวิกา โฮเน่) ถูกจับขังเอาไว้ในห้องเก็บของ เพราะจันทราเกลียดแรม ที่แรมเป็นลูกของเมินและ ราศรี (จุฑาทิพย์ ครุธามาศ) ภรรยาหลวงที่ตายไปแล้ว เพราะกลัวว่าแรมจะได้ทุกอย่างไป เนื่องจากจันทรารู้มาว่า หม่อนเจ้าธีรธำรง (ศุกล ศศิจุลกะ) พ่อของคุณชายธิติรัตน์ ได้ตกลงกับเมินว่าจะให้ลูกชายและลูกสาวของทั้งคู่แต่งงานกัน เมื่อรู้อย่างนั้นจันทราจึงพยายามนำพาลูกสาวของตนทั้งเพ็ญประกายและ ชุติมา (ป่านทอง บุญทอง) หลานสาว แต่จริง ๆ แล้วเป็นลูกสาวของจันทรากับสามีเก่า มาใส่พานเสนอคุณชาย ดุจแขรู้ก็โกรธมาก ตั้งแต่นั้น 2 ครอบครัวจึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน วันหนึ่งแรมถูกจันทราและชุติมาทรมานอย่างหนักจึงหนีออกจากบ้าน คุณชายขับรถมาเฉี่ยว จึงพาไปที่บ้านของ ธิดา (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เพราะ เกรียง (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) สามีของธิดาเป็นหมอ คุณชายทั้งสงสารและเอ็นดูแรม ส่วนแรมก็ถือว่าคุณชายเป็นผู้มีพระคุณ จันทราดีใจมากที่แรมหนีไป มีเพียง ป้ามะลิ (สุดารัตน์ เดชากุล) ป้าพิม (ปัทมา ปานทอง) และ ร.ท.แม้นเทพ/พี่ต้อม (โตนนท์ วงบุญ) ที่เป็นห่วงแรม ทั้ง 3 ออกตามหาแต่ไม่เจอ คุณชายขอ หม่อมรัตนา (กชกร นิมากรณ์) ผู้เป็นแม่ แต่งงานกับดุจแข แต่ยังไม่รับปากจนกว่าคุณชายจะเรียนปริญญาโทจบก่อน คุณชายไม่เต็มใจแต่ก็ต้องทำตาม แล้วก่อนไปหม่อมรัตนาได้ให้แหวนฝังเพชรที่สลักชื่อ มาหยารัศมี บอกว่าเธอคือคู่หมั้นของคุณชาย คุณชายไม่สนใจ วันที่คุณชายจะเดินทางไปต่างประเทศแรมได้ถักผ้าพันคอไว้ให้ แต่คุณชายไม่มา เพราะคุณชายไปหาดุจแข แรมเสียใจมากแต่ก็ไม่โกรธคุณชาย พอดุจแขรู้ว่าแรมอยู่บ้านพี่สาวคุณชายเลยบอกจันทราให้มารับตัวกลับไป หลังจากนั้นแรมก็ถูกกลั่นแกล้งสารพัดจากจันทราและชุติมา เพ็ญประกายพยายามช่วยแต่ก็ช่วยไม่ได้ แรมเลยต้องออกไปหางานทำ เพื่อเอาเงินมาส่งเสียตัวเองเรียน ส่วนดุจแขทันทีที่คุณชายไปเรียนต่อ เธอก็แต่งงานกับ สงคราม (สิรคุปต์ เมทะนี) เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้แทนพ่อ แต่ด้วยความเป็นสาวเร่าร้อน ดุจแขจึงแอบมีความสัมพันธ์กับ สรรชัย (ศุภมร โคร์นิน) หลานชายของสงคราม จนถูกจับได้ทำให้สงครามหัวใจวายตาย พอคุณชายรู้เรื่องก็เสียใจมาก กลายเป็นคนสำมะเลเทเมาและเกลียดผู้หญิงทุกคน แต่พอกลับมาเห็นแม่ทุกข์ใจเลยสำนึกผิดกลับตัว แต่ก็ยังเกลียดผู้หญิงอยู่ ดุจแขรู้ว่าคุณชายกลับมาก็ดีใจจะกลับไปหา โดยมี จารุณี (ปราณวรินทร์ ปามี) เพื่อนซี้เป็นสะพานให้ สรรชัยโกรธมาก แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะที่ผ่านมาดุจแขปกปิดความสัมพันธ์ไว้ พอจันทรารู้ว่าคุณชายกลับมาแล้วเลยออกอุบายให้เมินบอกว่าเพ็ญประกายคือมาหยารัศมี เพ็ญประกายไม่สบายใจที่ต้องแอบอ้างเป็นคนอื่น จันทรานัดคุณชายมาที่บ้านเพื่อให้มาเจอกับเพ็ญประกาย แต่ดันมาเจอแรมในสภาพที่โทรมมาก แรมดีใจที่ได้เจอคุณชายอีกครั้ง ทำให้ชีวิตของแรมมีความหวังขึ้นมา แต่แรมก็แปลกใจว่าทำไมคุณชายเปลี่ยนไป ไม่อ่อนโยนเหมือนเก่า พอคุณชายรู้ว่าแรมเป็นคนใช้ก็ยิ่งสงสาร เพราะรู้ว่าแรมถูกทรมาน คุณชายเลยปรึกษากับพี่สาวและแม่ ทุกคนก็ลงมติ ให้คุณชายขอแรมมาเป็นเด็กรับใช้ในบ้าน (แกล้งขอมาเป็นคนใช้) เมินกับจันทราก็ยอมยกให้ แรมดีใจมากที่จะได้ดูแลคุณชาย พอป้ามะลิ พี่ต้อม ป้าพิม รู้เรื่องก็ไม่ยอมต่อว่าเมินยกใหญ่ จนเมินบอกว่าแรมไม่ใช่ลูกตน เพราะลูกของตัวเองได้ตายไปแล้ว เลยเอาเด็กกำพร้ามาเลี้ยง เพราะไม่อยากให้ราศรีเสียใจ ทุกคนช็อค แต่ความรัก ความผูกพันที่มีให้แรม ทำให้ทุกคนไม่ถือ ต้อมดีใจมาก เพราะจริง ๆ แล้วต้อมแอบชอบแรมอยู่ ที่บ้านคุณชาย แรมเจอดุจแขกลั่นแกล้ง เพราะรู้ว่าคุณชายเอ็นดูแรม ไม่ใช่แค่คุณชายเท่านั้นยังมีเพื่อน ๆ ของคุณชายอีก ไม่ว่าจะเป็น ศรัญย์ (อิทธิกร สาธุธรรม) วีระ (สิทธิพันธ์ กลมเกลี้ยง) ต่างก็ชอบแรมทั้งนั้น จนทำให้คุณชายเขม่น แล้วก็ต่อว่าแรมต่าง ๆ นานา พอจันทรารู้ว่าคุณชายเอ็นดูแรม เลยกลัวว่าคุณชายจะหลงรักแรมเลยสั่งให้ ชำนิ (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) สามีเก่ามาฉุดแรม แต่คุณชายมาช่วยไว้ได้ทัน จันทรากลัวความลับจะถูกเปิดเผยเลยคิดจะให้เพ็ญประกายแต่งงานกับคุณชายเร็วที่สุด ชุติมาไม่พอใจ เพราะอิจฉาเพ็ญประกาย แต่ลึก ๆ แล้วชุติมาแอบชอบพี่ต้อม แต่พี่ต้อมไม่สนใจ ชุติมาเลยทำตัวให้น่าสงสารเพื่อหวังจะชนะใจคุณชาย แต่คุณชายไม่ตกหลุมพราง คนที่สงสารและเห็นใจชุติมาก็คือศรัญย์ ซึ่งชุติมาไม่สนใจ วีระเองก็แอบชอบเพ็ญประกาย และก็เหมือนว่าเพ็ญประกายจะมีใจให้เหมือนกัน ส่วนพี่ต้อมจะพาแรมกลับบ้าน คุณชายเลยถามความสมัครใจ ซึ่งใจจริงแล้วแรมอยากจะอยู่ดูแลคุณชาย แต่แรมต้องตอบว่าอยากกลับบ้าน ทำเอาคุณชายใจแป่ว ดุจแขเข้ามาปลอบ ดูแลคุณชาย เพื่อหวังรื้อฟื้นความหลัง แต่สรรชัยดักลอบทำร้ายคุณชายและพาดุจแขกลับ พร้อมกับจับดุจแขมากักขังทรมานไว้ แรมมาเจอคุณชายนอนหมดสติก็รีบพาส่งโรงพยาบาล แล้วขออาสาไปดูแลคุณชาย ทำให้พี่ต้อมรู้สึกน้อยใจ หลังจากนั้นที่แรมไปดูแลคุณชายก็ได้รู้จักกับนางพยาบาลเก่าแก่ประจำบ้านของคุณชายชื่อว่า สุดใจ (อรุโณทัย จิตตรีขันธ์) สุดใจเอ็นดูแรมแล้วบอกว่าแรมหน้าคล้ายคนที่ตัวเองรู้จัก แต่เมื่อสุดใจได้เจอเพ็ญประกายเธอก็บอกว่าเพ็ญประกายไม่เห็นมีอะไรที่เหมือนกับราศรีเลย หม่อมรัตนาเริ่มฉุกคิดแต่ก็ไม่ได้รังเกียจ เพราะเพ็ญประกายเป็นเด็กดี จึงเอ็นดูอยู่บ้าง ตลอดเวลาที่แรมคอยดูแลคุณชายก็จะโดนคุณชายดุตลอด โดยเฉพาะตอนที่มีผู้ชายเข้ามาป้วนเปี้ยนกับแรม แรมไม่ถือสา เพราะในใจรักและเทิดทูนคุณชาย ยิ่งรู้ว่าคุณชายเปลี่ยนไปเพราะอกหักจากดุจแขก็ยิ่งสงสาร หลังจากนั้นคุณชายก็เริ่มพาแรมออกงานด้วย จนแรมได้พบกับนักปั้นมือทองชื่อเจ๊กุ๊กไก่ เจ๊กุ๊กไก่จะพาแรมเข้าวงการ แรมอยากทำงาน เพราะจะได้หาเงินส่งเสียตัวเอง แต่คุณชายเข้าใจผิด คิดว่าแรมใจแตก คุณชายบอกว่าอยากได้เงินเขาจะให้เอง แลกกับการที่แรมต้องยอมเป็นของเขา แรมเสียใจมาก ที่ถูกดูถูก แต่ก็ให้อภัย คุณชายโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แอบหึงแรมอย่างไม่รู้ตัว ส่วนดุจแขพอรู้เรื่องก็อิจฉา เลยหาโอกาสหนีออกมาจากสรรชัย แล้วโทรศัพท์ให้คุณชายมาช่วย คืนนั้นคุณชายรับปากว่าจะไปดูแรมถ่ายโฆษณาครั้งแรก แต่พอดุจแขโทรมาคุณชายก็ลืมสนิท คุณชายไปช่วยดุจแขยิ่งเห็นสภาพของดุจแขก็ยิ่งสงสาร เลยให้ดุจแขไปอยู่ที่บ้านด้วย หม่อมรัตนาไม่พอใจ ระหว่างที่อยู่ด้วยกันดุจแขก็เปิดเผยธาตุแท้ออกมารังแกแรม สรรชัยตามมาหาดุจแข ดุจแขเลยขู่ว่าจะไม่ให้เงินสรรชัยใช้แม้แต่บาทเดียวถ้ายังไม่เลิกยุ่งกับเธอ สรรชัยเลยต้องจำใจยอม เพราะเงินทุกบาทที่สรรชัยใช้จ่ายดุจแขเป็นคนดูแลทั้งหมด เพ็ญประกายเริ่มทนไม่ไหวกับการที่ต้องปลอมตัวเป็นมาหยารัศมี เลยไปกินเหล้าแก้กลุ้มจนเมามายแล้วก็ไปเจอกับสรรชัย ทั้งคู่ก็พร่ำบอกความทุกข์ในใจและจบที่โรงแรม แต่ไม่ได้มีอะไรกัน แต่พอตื่นขึ้นมาเพ็ญประกายตกใจเข้าใจผิดคิดว่าพลาดท่าสรรชัยแล้ว ระหว่างที่ออกจากโรงแรมก็เจอกับคุณชายพอดี ทำให้เพ็ญประกายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องเข้าไปบำบัดจิตในโรงพยาบาล หมอเกรียงได้พูดคุยกับเพ็ญประกายจนถามไถ่ได้ความว่าเพ็ญประกายไม่ใช่มาหยารัศมี แต่มาหยารัศมีตัวจริงตายไปนานแล้ว หมอเกรียงเอาเรื่องนี้ไปบอกหม่อมรัตนา หม่อมรัตนาโกรธมากที่ถูกย้อมแมวขาย พอจันทราทราบเรื่องก็ทุบตีทำร้ายเพ็ญประกาย แรมสงสารเพ็ญประกาย แล้วจันทราก็ปล่อยข่าวทำลายชื่อเสียงของคุณชายกับแรม เพ็ญประกายเสียใจที่เป็นต้นเหตุของทุกเรื่อง ดุจแขแค้นแรมเลยยื่นข้อเสนอให้สรรชัยทำลายแรม สรรชัยสับสน เพราะเขารักดุจแขมาก แต่ดุจแขก็ร้ายเกินไป สรรชัยเลยตัดสินใจหาทางไปบอกคุณชายให้ระวังและดูแลแรมให้ดี แต่ไม่บอกเหตุผล คุณชายสงสัย เมินไม่สบาย จันทราไม่สนใจ แรมรู้ข่าวเลยกลับมาดูแล จนเมินเริ่มรู้สึกรักและเอ็นดูแรมมากขึ้น สุดใจเริ่มสงสัยในตัวของแรม เพราะยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนราศรี คิดมากจนล้มป่วยแล้วก็เพ้อถึงราศรี หม่อมรัตนาไปเยี่ยมสุดใจแล้วสุดใจก็กำลังจะเล่าเรื่องของราศรีกับมาหยารัศมีให้หม่อมรัตนาฟัง แต่จันทราดันโผล่เข้ามา หม่อมรัตนาเลยแปลกใจมากที่สุดใจกับจันทรารู้จักกัน จันทราขู่สุดใจไม่ให้พูดเรื่องของมาหยารัศมี ไม่งั้นเธอจะฆ่าสุดใจกับลูกสาว สุดใจเครียดจึงเขียนระบายลงในสมุด พอคุณชายได้คุยกับเพ็ญประกายก็ทำให้รู้ว่าจริง ๆ แล้วแรมก็เป็นลูกสาวอีกคนของเมิน ดุจแขรู้ว่าคุณชายเริ่มมีใจให้แรม เลยออกอุบายหาทางใกล้ชิดกับคุณชายจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ดุจแขส่งคลิปวิดีโอไปให้แรมดู แรมเสียใจมาก ชุติมารู้ข่าวก็โกรธดุจแข บังเอิญสรรชัยมาได้ยิน จึงรู้ว่าดุจแขเป็นของคุณชาย เลยร้องไห้คุ้มคลั่ง เลยสารภาพเรื่องที่ดุจแขจะให้ไปทำร้ายแรม คุณชายรู้เรื่องก็โกรธดุจแขมากตัดความสัมพันธ์ แล้วหันกลับมาตามง้อแรม แต่สุดท้ายแล้วคุณชายกับแรมจะลงเอยกันหรือไม่ แล้วทุกคนจะรู้ความจริงหรือเปล่าว่ามาหยารัศมีตัวจริงเป็นใคร ต้องคอยลุ้นกันต่อไปใน ละครมาหยารัศมี ได้ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครมาหยารัศมี เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555

ตลาดอารมณ์ (2554/2011) ตรัส วิภาคโยธิน (ชาคริต แย้มนาม) เดินทางกลับเมืองไทย เพื่อมาเคารพศพ ไตร วิภาคโยธิน (ดิลก ทองวัฒนา) พ่อของเขา หลังจากตัดขาดกัน เพราะ บงกช วิภาคโยธิน (ปิยธิดา วรมุสิก) หญิงสาวข้างถนนที่พ่อเอามาแทนที่แม่ของเขาในฐานะภรรยาใหม่ ด้วยทิฐิตรัสจึงไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับกิจการมรดกต่าง ๆ ของพ่อแม้แต่นิดเดียว ตรัสมีคนรักคือ ชโลธร ลีลาทิพย์ (ศิริลักษณ์ ผ่องโชค) ที่คบกันตั้งแต่เรียนอยู่ที่อเมริกา ชโลธรได้ทำงานที่บริษัทฯ ของตระกูลวิภาคโยธิน เธอรู้ว่าตรัสเป็นผู้สืบทอดกิจการทั้งหมด จึงหวังจะแต่งงานด้วย ขณะเดียวกัน พิชิต พิชิตสรเดช (รัฐศาสตร์ กรสูต) หุ้นส่วนบริษัท เสือผู้หญิงตัวยง ต้องการจะฮุบบริษัทเป็นของตัวเอง จึงดึงชโลธรมาเป็นพวก โดยยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยปกปิดกำพืดให้ ทำให้ชโลธรยอมทำตามที่พิชิตสั่งทุกอย่าง เพราะแท้จริงแล้วชโลธรเป็นแค่เด็กในสลัมไม่ใช่คุณหนูไฮโซ เธอมีแม่คือ พวง (ดวงตา ตุงคะมณี) ขายข้าวแกงอยู่ในซอย แถมยังมีน้องสาวชื่อ ชลาธาร (แอริน ยุกตะทัต) ชโลธรทอดทิ้งแม่และน้องสาวไปชุบตัวอยู่ที่เมืองนอก ขณะที่ รักษา ธรรมรัตน์ (สันติสุข พรหมศิริ) ทนายความประจำตระกูลวิภาคโยธิน พยายามจะอธิบายเหตุผลต่าง ๆ ที่บงกชต้องการให้ตรัสกลับมาบริหารงานตามที่ไตรผู้เป็นพ่อสั่งเสียไว้ก่อนตาย แต่ตรัสปฏิเสธพร้อมประกาศว่าจะไม่เหยียบบ้านวิภาคโยธินเด็ดขาด บงกชจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจตรัสให้ได้ และหวังว่าวันหนึ่งตรัสจะยอมให้อภัยเธอ บงกชสั่งเตรียมงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับตรัส เธอสั่งให้ ผกายกุล หรือ กั้ง (วรรณรท สนธิไชย) หลานสาวของเธอให้เตรียมตัวสำหรับงานนี้ กั้งรู้ว่าลูกเลี้ยงของบงกชใจร้ายและอยุติธรรมกับบงกชมาตลอด เธอจึงมีอคติกับเขาและไม่อยากจะทำดีกับตรัส แต่แล้ววันหนึ่งตรัสได้ช่วยกั้งจากการถูกลวนลาม ทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ทำให้กั้งประทับใจในความเป็นสุภาพบุรุษของตรัสมากจนลืมถามชื่อ มัทนา (ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) เพื่อนสาวสุดห้าวของกั้งจึงตั้งชื่อให้ชายปริศนาที่เป็นฮีโร่ช่วยกั้งในวันนั้นให้ว่า ซูปเปอร์แมน หลังจากนั้นมาตรัสและกั้งก็มักได้พบกันเสมอ ๆ ทำให้ วาริน (ศุภกิจ บัวงาม) ลูกชายของรักษาที่แอบชอบกั้งอยู่ไม่พอใจ แต่สุดท้ายวารินก็ต้องยอมถอย เพราะรู้ความจริงว่า ซูปเปอร์แมนของกั้งคือตรัส วิภาคโยธิน จากการวางแผนของบงกช ในที่สุดตรัสกับกั้งก็ได้มาเจอกัน ทำให้ตรัสรู้ความจริงว่ากั้งคือผกายกุลหลานสาวของบงกช ตรัสจริงเข้าใจผิดคิดว่ากั้งร่วมมือกับบงกชหลอกลวงเขามาตลอด ด้วยความแค้นตรัสจึงประกาศว่าจะกลับมาทำงานที่วิภาคโยธิน โดยมีข้อแม้ว่ากั้งจะต้องมาทำงานกับเขาเท่านั้น ความชิงชังและความโกรธแค้นที่ตรัสมีต่อกั้งจะลงเอ่ยอย่างไร?

ในรอยรัก 2554

เรื่องย่อ : ในรอยรัก (2554/2011) ม่านมัสลิน (มัสลิน) (พัชราภา ไชยเชื้อ) เดินทางกลับจากนิวยอร์คมากรุงเทพฯ ในเที่ยวบินเดียวกับ กานน (ณวัฒน์ กุลรัตน์รักษ์) ซึ่งเขาประทับใจในความสวยมีเสน่ห์ของเธอ แต่เขาไม่กล้าที่จะเปิดฉากสนทนามากไปว่าจะช่วยส่งของและยกของให้มัสลินเพียงอย่างเดียว ซึ่งมัสลินเป็นฝ่ายเข้ามาขอบคุณกานนในความมีน้ำใจที่คอยช่วยเหลือเธอมาตลอดโดยที่เธอไม่ไม่ได้ขอร้อง ก่อนที่จะเดินจากไป เหตุผลที่ทำให้มัสลินบินกลับมาเมืองไทย ก็เพื่อมาร่วมงานศพของพ่อที่จากไปอย่างกระทันหัน ทำให้เธอต้องทิ้งการศึกษาปริญญาโทเทอมสุดท้าย เพื่อกลับมาดูแลแม่และยายของเธอแทนพ่อ ซึ่งตัวของมัสลินเองมีอาชีพเป็นนางแบบ โดยที่เธอรับจ๊อบหารายได้พิเศษด้วยการถ่ายแบบตอนที่เรียนอยู่นิวยอร์ค แล้วเธอก็ได้ไปรู้จักกับนักศึกษารุ่นพี่ที่ชื่อว่า กุเทพ (รังสิต ศิรนานนท์) ชายหนุ่มอารมณ์ดี จนบางครั้งทำให้ดูกลายเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ แต่จริง ๆ กุเทพหลงรักมัสลินคนเดียว ซึ่งก่อนที่กุเทพจะตัดสินใจเข้ามาจีบมัสลิน เขาเคยมีแฟนมาแล้วหนึ่งคนชื่อว่า พินสุดา (พิชญ์นาฎ สาขากร) แต่พินสุดามีนิสัยขี้หึง เจ้าอารมณ์ ทำให้กุเทพทนไม่ไหวจึงขอเลิกแล้วหันไปจีบมัสลินแทน พินสุดารู้เลยโกรธแค้นมัสลินมาก ซึ่งเรื่องนี้มาถึงหูของ อุษยา (บุศรา นฤมิตร) ป้าของกุเทพทำให้ไม่พอใจเลยเล่าเรื่องนี้ให้กานนฟัง ซึ่งมีฐานะเป็นอา-หลานกัน แต่อุษยานั้นเลี้ยงดูกานนเป็นเหมือนลูก เพราะพ่อแม่ของกานนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปตั้งแต่เขายังเด็ก โดยที่กานนก็มีฐานะเป็นอาของกุเทพเพราะกุเทพเป็นลูกชายของพี่ชาย โดยที่อุษยาเล่าว่า กุเทพสนิทสนมกับนางแบบสาวคนหนึ่งตลอดเวลาที่เรียนที่นิวยอร์ค ซึ่งนางแบบคนนั้นก็มีแต่ข่าวฉาว แถมตอนนี้ยังบินตามกุเทพกลับมาเมืองไทยอีกทั้ง ๆ ที่ยังเรียนไม่จบ กานนตั้งใจฟังมากเพราะเขาเป็นห่วงอนาคตของหลานชาย เมื่อกุเทพชวนเขาไปงานเปิดตัวนาฬิกาและจะพาไปรู้จักกับนางแบบคนนั้น กานนเลยตอบตกลงทันที โดยที่ตัวเองไม่รู้เลยว่านางแบบคนนั้นคือ มัสลิน หญิงสาวที่ตัวเองแอบปลื้มอยู่ ซึ่งงานนี้จัดขึ้นโดยห้องเสื้อของ เกวลิน รุ่นพี่ของมัสลินเลยทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันมาก ระหว่างที่มัสลินเดินแบบนั่นชุดของเธอโดนเลาะตะเข็บออกแต่มัสลินก็แก้ไขสถานการณ์ไปได้ พอลงมาหลังเวทีมัสลินเลยขอให้เกวลินช่วยหาตัวคนผิด จนรู้ว่าเป็นฝีมือของพินสุดา แล้วเธอก็ทราบข่าวว่า คุณม่านมุข (ดร.ปัทมาฆะ สุคนธมาน) ผู้เป็นยายของเธอเข้าโรงพยาบาล โดยที่กานนขออาสาพาไปส่งเพราะ เจ้าสัวทศ (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานนต์) อาก๋งของเขาก็อยู่โรงพยาบาลเดียวกันกับยายของมัสลิน อุษยาไม่พอใจที่หลานชายทั้ง 2 คนไปหลงรักมัสลิน เพราะเธอต้องการให้กานนคบกับ มธุริน (กัญญา รัตนเพชร์) ลูกสาวคนเดียวของ เตช (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) นักธุรกิจใหญ่ด้านภาพยนตร์กับ บัวบงกช (ชฎาพร รัตนากร) อดีตนางเอกภาพยนตร์และกุเทพคบกับพินสุดา ส่วนมัสลินเองก็ได้รู้ความจริงจากปากของ จิรดา (สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงษ์) ผู้เป็นแม่ว่ามัสลินไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของตนกับ ภาษิต (ตฤณ เศรษฐโชค) ทำให้มัสลินรู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าแม่พูดไปเพราะความเมา พอกุเทพรู้เรื่องเลยเข้าไปปลอบใจมัสลินและนำไปเล่าให้กานนฟัง พร้อมกับยืนยันว่าจะจีบมัสลินให้สำเร็จเพื่อจะได้ดูแลมัสลิน ซึ่งกานนฟังแล้วก็รู้สึกเศร้าใจอยู่ลึก ๆ ฝ่ายจิรดาก็สงสัยมาโดยตลอดว่ามัสลินอาจจะเป็นลูกของภาษิตกับบัวบงกชอดีตคนรักเก่า เธอจึงหาทางแก้แค้นบัวบงกช โดยที่เธอแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเตช สามีของบัวบงกช เพื่อทำให้บัวบงกชช้ำใจแต่เธอกลับไม่มีท่าทีหึงหวงเลย แต่เตชกับเป็นฝ่ายหาเรื่องทะเลาะกับบัวบงกชและเลยเถิดไปถึงเรื่องในอดีต เพราะตอนนั้นเตชหลงรักบัวบงกชทั้งที่รู้ว่าบัวบงกชมีภาษิตเป็นคนรักอยู่แล้ว เสี่ยศักดา (จีระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) เพื่อนสนิทของเตชจึงวางแผนช่วยเพื่อน โดยวางยาสลบบัวบงกชแล้วเตชก็ขืนใจเธอจนเธอตั้งท้องและหนีไปโดยที่ไม่ได้บอกเตช ซึ่งเธออยากจะทำแท้งแต่ภาษิตเข้ามาห้ามไว้แล้วก็ขอลูกของเธอไปเลี้ยงทั้ง ๆ ที่กำลังจะแต่งงานกับจิรดา ส่วนเตชก็พยายามตามหาบัวบงกช ขณะเดียวกันก็ช่วยดูแลพ่อแม่พี่น้องของบัวบงกชเป็นอย่างดีเพื่อเป็นการไถ่โทษ บัวบงกชจึงยอมใจอ่อนยอมกลับมาแต่งงานด้วย แต่ก็ไม่เคยปริปากเรื่องลูกสาวคนแรกที่เกิดกับเตช เพราะความแค้นที่กรุ่นอยู่ลึก ๆ แม้จะมีลูกสาวคนที่ 2 คือ มธุริน แล้วก็ตาม บัวบงกชรู้สึกผิดกับจิรดามาตลอด บ่อยครั้งที่จะรับมัสลินกลับมาเลี้ยงเอง แต่ก็ถูกภาษิตห้ามไว้ บัวบงกชกล้ำกลืนทำตามที่ภาษิตขอร้องทั้งที่ไม่เห็นด้วย จนกระทั่งภาษิตเสียชีวิต บัวบงกชจึงกลืนน้ำลายตัวเอง ทำทุกทางเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับมัสลิน เลยทำให้จิรดาเริ่มมั่นใจว่ามัสลินเป็นลูกของบัวบงกชกับภาษิต จึงอาฆาตและประกาศว่าจะทำทุกทางให้บัวบงกชและมัสลินพังพินาศ ด้านมัสลินเริ่มมีงานในวงการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เกวลินดีใจกับมัสลินที่กำลังก้าวหน้าเรื่องการงานและคุยถึงหนุ่มคนใหม่ที่กำลังคบหากันอยู่คือ ศิธา (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูกชายคนเล็กของเสี่ยศักดา ซึ่งมีนิสัยนักเลง มัสลินเลยเตือนสติให้เกวลินระวังตัว แต่เกวลินก็ยังคบกับศิธาต่อ เพราะเชื่อว่าศิธาจริงใจกับตน มัสลินไปคัดเลือกตัวแสดงที่บริษัทเอเจนซี่โฆษณาของ ดุสิต (เจจินตัย อันติมานนท์) ซึ่งหุ้นกับเพื่อนรักอย่าง คิม (พาทิศ พิสิฐกุล) ที่เป็นลูกครึ่งฮ่องกง-สิงคโปร์ พอได้พบกับมัสลินก็เกิดตกหลุมรักในครั้งแรกที่เจอ แต่ก็เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันเลยทำให้มัสลินโกรธคิมมาก ไม่ยอมร่วมงานด้วย ซึ่งเตชเลยเสนอเงินให้จิรดาช่วยเกลี้ยกล่อมมัสลินให้ยอมเล่นหนังของตน บัวบงกชรู้เลยยื่นขอเสนอให้จิรดามากกว่าที่เตชให้ เพื่อให้มัสลินยอมมาเป็นพรีเซนเตอร์เสื้อผ้าให้กับเธอ แทนที่จะไปเป็นนางเอกหนังให้เตชกับเสี่ยศักดา ซึ่งจิรดาก็รับปากว่าจะจัดการให้ ส่วนมัสลินดีใจมากที่แม่หันมาทำงานเป็นเรื่องเป็นราวโดยเป็นผู้จัดการส่วนตัวของมัสลิน หลังจากนั้นพินสุดามาพบกับมัสลินและกุเทพโดยบังเอิญจึงเข้าไปหาเรื่อง แต่โดนตอกกลับ มธุรินที่อยู่ในเหตุการณ์รีบไปฟ้องกานน แต่กานนกลับสนใจมัสลินมากขึ้น กุเทพตั้งใจทำงานจึงไม่ค่อยมีเวลาไปหามัสลิน ด้านดุสิตพาคิมมาขอโทษมัสลินถึงบ้าน ความเป็นสุภาพบุรุษนิสัยดีของคิม ทำให้มัสลินยอมรับเขาเป็นเพื่อนและตกลงถ่ายแบบให้เขา ส่วนจิรดาก็ดำเนินการแก้แค้นบัวบงกช โดยใช้มัสลินเป็นเครื่องมือ จิรดาโกหกมัสลินว่าบัวบงกชเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตัวเองกับภาษิตทะเลาะกัน เพราะภาษิตยังตัดใจจากบัวบงกชไม่ได้ มัสลินสงสารแม่เลยตั้งแง่ไม่ชอบบัวบงกช ทางด้านพินสุดารู้ว่ามธุรินไม่ชอบมัสลินเหมือนกันเลยชักชวนให้มธุรินมาร่วมมือกันแก้แค้น โดยมี พีระพล (พศิน ศรีธรรม) น้องชายกับศิธาเพื่อนสนิทช่วยกันวางแผนให้ แต่มธุรินไม่เอาด้วยเพราะกลัวความผิด ซึ่งศิธาคือชายหนุ่มที่เกวลินหลงรัก แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่าศิธามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วคือ พีระพล น้องชายของพินสุดานั่นเอง ด้านกานนก็แอบโทรหามัสลินบ่อย ๆ จนทำให้แน่ใจว่าตนไม่ได้ชอบมธุริน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พบกันโดยบังเอิญที่ประจวบ เพราะกานนไปดูงานส่วนมัสลินไปถ่ายแบบ กานนจึงแอบไปหามัสลินแล้วทั้งคู่ก็ไปเที่ยวด้วยกัน ทำให้คิมเสียใจ เกวลินโดนศิธาหลอกไปที่โรงแรมเพื่อให้พีระพลทำร้ายและจะให้ลูกน้องข่มขืน คิมได้ข่าวจึงไปบอกกับมัสลินและก็ไปช่วยเกวลิน ซึ่งมัสลินบอกให้เกวลินเอาเรื่องศิธาให้ถึงที่สุด ด้านบัวบงกชรู้ว่า มัสลินสนิทกับกานนก็ไม่สบายใจ เพราะไม่อยากให้มัสลินและมธุรินซึ่งเป็นพี่น้องรักผู้ชายคนเดียวกัน วันต่อมาก็มีคลิปเปลือยของมัสลินกับผู้ชายบนเตียง พร้อมภาพข่าวที่มัสลินไปเที่ยวกับกานนและคิม คิมเห็นมัสลินมีเรื่องมากพอแล้วจึงขอไม่ให้เกวลินเอาเรื่องศิธา เกวลินจึงยุติเรื่องแจ้งความ กุเทพพอรู้ปัญหาของมัสลินจึงเข้ามาปลอบใจและให้กำลังใจ ต่างจากกานนที่ต้องวางตัวออกห่าง ไม่กล้าแสดงออกว่าห่วงใยมัสลิน เพราะต้องการเปิดทางให้กุเทพ มัสลินน้อยใจที่กานนทำตัวห่างเหิน ด้านพินสุดาโทรมาบอกกับมธุรินว่าศิธากับพีระพลน้องชายของเธอเป็นคนทำคลิปฉาวของมัสลินเอง มธุรินไม่ดีใจเลยเพราะกลัวติดร่างแหไปด้วย กานนถูกอุษยาต่อว่าที่มีภาพข่าวกับมัสลินทำให้มธุรินเสียใจ ขณะที่กุเทพเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของกานนกับมัสลินว่าทั้งคู่เริ่มมีใจให้กัน เขาจึงมีคำพูดเหน็บแนมกานนอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ทางด้าน คุณแต้ว ผู้จัดการฝ่ายละครของสถานีเรียกมัสลินไปพบ กานนโทรบอกรักและให้กำลังใจมัสลิน ทำให้ใจชื้นขึ้นและยิ่งดีใจที่ทางคุณแต้วให้โอกาสเล่นละครต่อ เอจึงตัดสินใจแถลงข่าวเพื่อพิสูจน์ว่าข่าวฉาวทั้งหมดไม่ใช่ความจริง แล้วทุกอย่างก็คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากนั้นกานนก็พาตัวเองเข้ามาพัวพันกับมัสลินมากขึ้น จนเขาขอเลิกกับมธุริน ทำให้มธุรินเสียใจมาก เตชรู้เรื่องนี้เลยไปต่อว่ามัสลินด้วยตัวเอง ทั้งคู่ทะเลาะกันแบบไม่ลดราวาศอก ซึ่งทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าเป็นพ่อลูกกัน วันหนึ่งกุเทพมารับมัสลินไปทานข้าวร่วมกับเจ้าสัวทศที่บ้าน เลยทำให้เจ้าสัวทศรู้ว่ามัสลินเป็นหลานของคุณม่านมุก ภรรยาคนสุดท้ายที่เขาตามหาอยู่ พอมัสลินรู้ถึงกับเสียใจมาก เพราะเธอกับกานนไม่สามารถรักกันได้ แต่กานนก็ยืนยันว่าจะรักมัสลินต่อไป ส่วนคิมก็ยังคงค้นหาความจริงเรื่องคลิปฉาวของมัสลินต่อ โดยบุกไปที่โรงถ่ายของเสี่ยศักดา จนถูกทำร้ายปางตายกลายเป็นเจ้าชายนิทรา มัสลินจึงรู้สึกผิดที่ทำให้คิมต้องเป็นอย่างนี้และสัญญาว่าจะรับผิดชอบคิมไปตลอดชีวิต แล้วเธอก็สืบหาข้อมูลต่อแทนคิมจนรู้ว่าเป็นฝีมือของใคร โดยมัสลินฝากมธุรินไปบอกกับพินสุดาว่าเธอมีหลักฐานที่จะจัดการกับคนทำคลิปฉาวแล้ว มธุรินตกใจรีบไปบอกกับพินสุดา ซึ่งพินสุดาเลยตามไปเอาเรื่องกับพีระพลและศิธา ทั้งศิธาและพีระพลต่างโยนความผิดให้กันจนเกิดบันดาลโทสะศิธาชักปืนขึ้นขู่ไล่ยิงพินสุดาและพีระพล พีระพลไม่ยอมแย่งปืนจะทำร้ายศิธาแต่เกิดทำปืนลั่นมาถูกพินสุดาจนกลายเป็นอัมพาตครึ่งตัว ส่วนพีระพลก็ถูกตำรวจจับ ศิธาไปบอกเสี่ยศักดาผู้เป็นพ่อว่า มัสลินรู้เรื่องคลิปฉาวหมดแล้ว เสี่ยศักดาจึงวางแผนจับตัวมัสลินไป บัวบงกชรู้ข่าวตกใจมากเลยหลุดพูดความจริงกับเตชเรื่องมัสลินว่าเป็นลูกของเธอกับเตช ทั้งเตชและ แม็กกี้ (อำพันธุ์ งามจิตสุขศรี) แม่ของคิมช่วยกันวางแผนจับตัวศิธาเพื่อต่อรองกับเสี่ยศักดา ซึ่งเสี่ยศักดายอมแลกตัวมัสลินกับศิธา กานนกับเตชพามัสลินมาพักฟื้นที่บ้านเตช พอมัสลินฟื้นขึ้นมาบัวบงกชเลยตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดให้มัสลินฟัง มัสลินยังทำใจไม่ได้ขอให้จิรดาพากลับบ้าน แล้วเธอก็หลบไปพักที่ชายทะเล เพราะอยากหลีกทางให้กานนกับมธุรินคืนดีกัน แต่กานนก็ตามมา มัสลินไม่อาจห้ามใจตัวเองจึงยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับกานนก่อนที่จะหนีไป เหลือแต่เพียงจดหมายบอกลา ทำให้กานนเสียใจมาก ส่วนมัสลินก็ตามแม็กกี้ไปช่วยดูแลคิมที่ฮ่องกง จนคิมฟื้น แล้วมัสลินจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิตของเธอ เธอจะยอมทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคิมหรือว่าเธอจะเลือกฟังเสียงหัวใจของตัวเอง ต้องช่วยกันลุ้นและติดตามชมกันใน ละครในรอยรัก