ครอบครัว
4 หัวใจแห่งขุนเขา ดวงใจอัคนี (2553/2010) ดวงใจอัคนี ความบาดหมางของสองตระกูลที่ถ่ายทอดจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกทำให้อัคนีและอัจจิมาเป็นศัตรูคู่แค้นกันมาตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อทั้งคู่เข้ามาบริหารฟาร์มโคนมของตนซึ่งมีเพียงรั้วไม้สีขาวกั้นอาณาเขต การปะทะคารมอย่างรุนแรงจึงเกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ แท้จริงแล้ว ภายใต้ท่าทีอันแข็งกร้าวของทั้งสองคนนั้นซ่อนความห่วงใยซึ่งกันและกันไว้ แต่แล้วเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็นำพาให้ทั้งคู่ได้เผยความรู้สึกต่อกัน ติดอยู่ที่ก้างชิ้นใหญ่คือพ่อของฝ่ายหญิงที่ไม่ยอมละทิฐิยอมรับว่าที่ลูกเขยคนนี้แล้วอัคนีจะทำเช่นไร เพื่อให้ได้ดวงใจที่เขาแสนรักมาครอบครอง
เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์ (2559/2016) ละครพิเศษ เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์ จะเล่าถึงเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งเป็นวินาทีที่คนไทยทั้งประเทศต้องสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต จนถึงวันที่ 22 ตุลาคมที่พสกนิกรต่างพร้อมใจกันร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ณ ท้องสนามหลวง โดยเรื่องราวทั้งหมดนี้จะถูกเล่าผ่านตัวละครในหลากหลายเหตุการณ์ ต่างอาชีพ ต่างมุมมอง
เรื่องย่อ : เด็กแว้น
เก่ง เด็กเกเรที่ไม่ยอมเรียนหนังสือต่อหลังจบ ม.6 แต่กลับใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการแต่งรถ และแข่งมอเตอร์ไซค์ เก่งแอบหลงรัก อิง เพื่อนสาวที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก อิงเป็นคนยึดมั่นในคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ ๙ และมีพระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจในการเป็นนักคิด นักพัฒนา ทำให้เก่งคนที่ไม่เอาถ่านคิดได้และไปสมัครเรียนต่อ แต่วันหนึ่งกลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้อิงต้องติดคุก
เรื่องย่อ : ครูจันทนา
จากพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่เคยตรัสถึงครูทุกคนว่า ให้ครูปฏิบัติหน้าที่ครูให้ดีที่สุดเพื่อลูกศิษย์ทุกคน ทำให้ครูจันทนายึดหลักนี้ไว้ในใจเสมอ เพราะความเข้มงวดอยากให้ลูกศิษย์ทุกคนได้ดี ทำให้ พิมพ์ ลูกสาวของครูจันทนา เกิดความน้อยใจ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตพิมพ์มักถูกแม่บังคับเคี่ยวเข็ญ หรือหากทำผิดเธอก็มักจะถูกแม่ทำโทษมากกว่านักเรียนคนอื่น ๆ เสมอในฐานะที่เป็นลูกครู พิมพ์จึงคิดเสมอว่าแม่รักลูกศิษย์มากกว่าลูกตัวเอง จนเธอตัดสินใจหนีออกจากบ้าน แต่แล้ววันหนึ่งพิมพ์กลับได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่แม่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
เรื่องย่อ : บ้านของพ่อ
เรื่องราวของ ต้น กับ เต้ สองพี่น้องที่มีแนวความคิดต่างกันคนละขั้ว ทั้งคู่มักทะเลาะกันเสมอตั้งแต่เด็กจนโต แต่ทุกครั้งก็จะมีพ่อที่คอยเข้ามาห้ามปรามและสั่งสอน โดยยึดหลักคำสอนของในหลวงว่าให้รักกัน จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อพ่อเสียชีวิต ต้นมีความคิดที่จะขายบ้านของพ่อ แต่เต้กลับไม่ยอมเพราะคิดว่าบ้านหลังนี้คือความทรงจำถึงพ่อ สองพี่น้องทะเลาะกันรุนแรง แต่ในวันหนึ่งมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทำให้ต้นและเต้หันหน้ามาคุยกันและเข้าใจกันในที่สุด
เรื่องย่อ : 14 ตุลา
เรื่องราวของ นิค ชายหนุ่มที่กำลังจะพาพ่อกับแม่ไปรำลึกความหลังในวันที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรกจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 แต่เมื่อใกล้ถึงวันครบรอบ ประชาชนชาวไทยรวมทั้งนิค กลับได้รับข่าวการสวรรคตของในหลวง นิครู้ดีว่าพ่อรักและเทิดทูนในหลวงสุดหัวใจ เขากับแม่จึงพยายามปิดบังไม่ให้พ่อรู้เรื่องนี้ แต่สุดท้ายพ่อก็รับรู้ความจริงทุกอย่าง และถึงแม้พ่อจะเสียใจอย่างมาก แต่พ่อกลับกลายเป็นคนที่ให้กำลังใจทุกคนในครอบครัว เพราะพ่อเชื่อว่าในหลวง รัชกาลที่ ๙ พระองค์ท่านยังไม่จากไปไหน ตราบใดที่เรายังคงนึกถึงพระองค์ท่านและดำเนินชีวิตไปตามพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน
เรื่องย่อ : รักแท้
มุกดา ภรรยาของ นพ เจ้าของโรงงานทอผ้า มุกดานัดกับนพว่าจะไปกราบพระบรมศพ แต่นพต้องเร่งผลิตผ้าสีดำซ้ำเครื่องจักรยังเกิดระเบิด ทำให้นพผิดนัด ด้วยความเสียใจมุกดาจึงขับรถออกมาจนเกิดอุบัติเหตุชนกับรถของพอร์ชและรัฐ มุกดาสลบและไปตื่นอีกครั้งที่บ้านเก่าหลังหนึ่ง ใน พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นปีที่มีพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เจ้าของบ้านคือ สาคร สาวโสดวัยเกษียณ เคยเป็นนักข่าวสายพระราชสำนัก ตามทำข่าวถ่ายภาพในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาตลอด เธอซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ทำเพื่อประชาชน มุกดามีโอกาสได้เล่าปัญหาชีวิตคู่ของตัวเองให้สาครฟัง สาครจึงให้ดูรูปของในหลวง รัชกาลที่ ๙กับ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ภาพที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทรงยืนเคียงข้างในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทุกที่ สนับสนุนทุกสิ่งที่ทำ มุกดาจึงได้เรียนรู้ว่าความสุขของคนที่เรารักก็คือความสุขของเรา ทำให้เธอเข้าใจนพเข้าใจตัวเอง มุกดาตื่นขึ้นมาอีกครั้งที่โรงพยาบาล โดยมีนพเฝ้าอยู่ข้างเตียง ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน นพจึงพามุกดาไปร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในวันที่ 22 ตุลาคม 2559 ณ ท้องสนามหลวง
เรื่องย่อ : ชีวิตเพื่อให้
รัฐ หมอหนุ่มวัตถุนิยม ทำงานหนักเพราะอยากมีชีวิตที่ร่ำรวย วันหนึ่งแม่ของรัฐขอให้รัฐพาไปกราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ แต่รัฐไม่ใส่ใจ ส่วน ฟ้า แฟนของรัฐ ก็ชวนไปเป็นแพทย์อาสาที่สนามหลวง แต่รัฐก็ไม่ใส่ใจอีกเช่นกัน พอร์ช เพื่อนสนิท จึงชวนรัฐไปหัวหิน แต่ระหว่างทางกลับเกิดอุบัติเหตุชนกับรถของมุกดาจนสลบไป รัฐฟื้นมาอีกครั้งที่หมู่บ้านปางขุม ดอยปุย ในปี พ.ศ. 2512 มาเจอ ทิวาน สาวน้อยชาวเขาเผ่าม้ง และหว่าง รัฐได้ยินทั้งคู่พูดว่าในหลวง รัชกาลที่ ๙ จะเสด็จมาเยี่ยมชาวเขาที่นี่ รัฐเถียงว่าเป็นไปไม่ได้เพราะในหลวง รัชกาลที่ ๙ สวรรคตแล้ว ทิวาน, หว่าง และชาวบ้านโมโหไล่ตีรัฐ เพราะไม่พอใจที่รัฐพูดจาไม่เป็นมงคล จนวันหนึ่งรัฐป่วยหนักปางตาย ทุกคนจึงช่วยกันแบกรัฐไปหาหมอที่ตามเสด็จ หมอช่วยชีวิตรัฐไว้ได้ทันเวลา ในที่สุดรัฐฟื้นกลับมาสู่ยุคปัจจุบัน และตั้งมั่นจะเป็นหมออาสาช่วยเหลือผู้คน ตามแบบที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงปฏิบัติมาตลอดพระชนม์ชีพ
เรื่องย่อ : ดุจแสงทองส่อง
พอร์ช ชายหนุ่มที่มีชีวิตสุขสบาย พอร์ชไม่เข้าใจที่แม่เอาแต่ร้องไห้เพราะในหลวง รัชกาลที่ ๙ สวรรคต จึงชวน หมอรัฐ เพื่อนสนิทไปเที่ยวหัวหิน จนเกิดอุบัติเหตุรถชนกับมุกดา พอร์ชสลบและย้อนเวลาไปปี พ.ศ. 2523 ท่ามกลางสงครามระหว่างคอมมิวนิสต์กับทหารที่หมู่บ้านสร้างค้อ จ.สกลนคร คราม ช่วยพอร์ชไว้และพาไปอยู่ด้วย จนวันหนึ่ง สำเริง พี่ชายคราม ชวนคนในหมู่บ้านไปทำสวนในพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จนความเป็นอยู่เริ่มดีขึ้น คนในหมู่บ้านจึงค่อย ๆ เปลี่ยนความคิดจากที่ยึดมั่นในระบบคอมมิวนิสต์ จนในที่สุดครามก็คิดได้ว่าคนที่ช่วยเหลือพวกเขาอย่างแท้จริงคือใคร รวมไปถึงพอร์ชที่คิดได้ว่าในขณะที่ตัวเองมีชีวิตสุขสบาย ยังมีคนอีกมากที่ลำบาก พอร์ชจึงสัญญากับตัวเองว่า ถ้ากลับไปได้เขาจะช่วยเหลือคนให้มากที่สุด โดยยึดถือคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นแบบอย่าง
บางรักซอย 9/1 (2559/2016) ถ้าคุณยังจำซิทคอมโรแมนติกอารมณ์ดีเจ้าของวลี ถึงน้ำจะเน่าก็ยังเห็นเงาจันทร์ กันได้ นี่คือเรื่องราวภาคต่อที่จะทำให้คุณหายคิดถึงพวกเขา บางรักซอย 9/1 คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่ความรักของ ชัดเจน (แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) กับ แป้งร่ำ (อ้อม-พิยดา อัครเศรณี) ลงเอยด้วยการแต่งงาน และมีพยานรักถึง 2 คน ได้แก่ ชัดแจ้ง (ตงตง-กฤษกร กนกธร) เด็กหนุ่มวัย 16 สุดป๊อปประจำโรงเรียน ที่ถอดดีเอ็นเอความกวนกะล่อนจากชัดเจนมาแบบเต็ม ๆ และ แป้งหอม (อ๊ะอาย-กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ) เด็กสาววัย 13 ตัวป่วนสุดเนิร์ด ที่ถอดความเฮี้ยบเจ้าระเบียบมาจากแป้งแบบเป๊ะ ๆ เช่นกัน จากคู่รักมุกเสี่ยว ต้องผันตัวมาเป็นพ่อแม่คอยปราบความเฮี้ยวของลูก ๆ ชัดเจนกับแป้งจึงต้องคอยช่วยกันแก้ปัญหาต่าง ๆ นานา ทั้งเรื่องลูก เรื่องงาน ที่พากันบานปลายกลายเป็นปัญหาระดับชาติ ในขณะที่ชัดแจ้งและแป้งหอมก็ต้องผจญกับปัญหาหัวใจวัยสะรุ่น เมื่อบ้านเช่าที่ชัดเจนเคยอยู่ มีผู้เช่าใหม่คือ 2 พี่น้องสุดแสบ เอิร์ธ (นน-ชานน สันตินธรกุล) กับ ไอซ์ (พลอย-ภัชธร ธนวัฒน์) ผู้ที่ทำให้หัวใจของชัดแจ้ง และแป้งหอมเต้นแรงเป็นครั้งแรก และนี่คือปฐมบทใหม่ของซิทคอมสุดคลาสสิก โรแมนติกคอมมาดี้ที่สุดในยุค 4G กับเรื่องราวการแอบรักคนข้างบ้านที่ยังคงมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย พบกับพวกเขาได้ใน บางรักซอย 9/1
ดอกส้มสีทอง (2554/2011) เรยา วงศ์เศวต(อารยา เอ ฮาร์เก็ต) สาวหน้าตาคมเข้ม หน้าตาออกไปทางแขกมากกว่าไทย เธอเกลียดการเรียนหนังสือตั้งแต่เด็ก วันนี้เธอมาสมัครเป็นแอร์โฮสเตส บริษัทสยามทรานเนชั่นแอร์เวย์ และเข้ารับการสัมภาษณ์โดย สินธร (วรวุฒิ นิยมทรัพย์) ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบุคคล สินธรคือคนที่เรยาใฝ่ฝัน เขามีเวลาในการสานสัมพันธ์กับเรยาไม่มากนักเพราะต้องกลับบ้านตรงเวลาที่ เด่นจันทร์(อภิษฎา เครือคงคา) ภรรยาของเขาเป็นผู้กำหนด เด่นจันทร์ ชลธี เป็นลูกสาวคนเดียวของ นายเดช ชลธี คหบดีผู้มั่งคั่งและร่ำรวยอิทธิพลแห่งเมืองชลบุรี เขาพบกันเมื่อตอนไปเรียนที่อังกฤษ เวลาผ่านไปสองเดือนเธอยืนกรานที่จะแต่งงานโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น คฤหาสน์เก่าของ ท่านเจ้าสัวเชงสือเกียง(ฉัตรชัย เปล่งพานิช) คือสถานที่เกิดของเรยา มารดาของเธอชื่อ ลำยอง ( ปวีณา ชารีฟสกุล ) ลำยองถูกนำมาฝากให้ ยายพุ่ม (อัญชลี ไชยศิริ ) เลี้ยงดู โดยให้เป็นลูกมือช่วยทำอาหารในครัว ลำยองเป็นเด็กสาวสวยกิริยาเรียบร้อย ยามว่างเธอขึ้นไปรับใช้คุณนายทั้ง 4 ของเจ้าสัว คนแรก เม่งฮวย ( จริยา แอนโฟเน ) คุณนายใหญ่จากเมืองจีน เยนหลิง ( รินลณี ศรีเพ็ญ ) คุณนายที่ 2 หลานสาวท่านทูต เหม่เกว่ หรือโรส ( ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ ) คุณนายที่ 3 อดีตนางเอกคณะอุปรากรจีน คำแก้ว ( วนิดา เติมธนาภรณ์ ) คุณนายคนที่ 4 เป็นชาวเหนือ มีกิริยาอ่อนโยน เรียบร้อย เยนหลิงถูกใจลำยองจึงเอ่ยปากขอลำยองเป็นเด็กรับใช้ประจำตัว นางพุ่มจึงหาอุบายทำให้ลำยองกลับมาเป็นผู้ช่วยในครัวเหมือนเดิม วันหนึ่งลำยองได้พบกับ บังดุล หรือ นายอดุลย์ แขกยามของ คุณหลวงเจริญนิติเวช ชาวอังกฤษ ลำยองรักกับบังดุลในที่สุด เมื่อความรักสุกงอมฝ่ายหญิงได้ตั้งท้องขึ้น บังดุลให้คำมั่นสัญญาว่าจะมาสู่ขออย่างแน่นอน แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดโจรขึ้นขโมยของในตึกนายฝรั่ง นายอดุลย์ถูกแทงตาย ลำยองหัวใจแทบแตกสลาย นางพุ่มจึงขอความช่วยเหลือจากเยนหลิง เพราะเป็นคนเดียวที่ช่วยได้ วันคืนผ่านไปลำยองคลอดบุตรหน้าตาเหมือนแขก ทุกคนจึงเรียกเธอว่าแขก เรยามักเรียกแทนตัวเองว่าฟ้า เพราะใฝ่ฝันจะเป็นนางฟ้าได้ซักวัน ด้วยความกำพร้าทำให้ลำยองเลี้ยงบุตรด้วยความตามใจ บรรดาบุตรสาวและบุตรชายของท่านเจ้าสัว คือ คุณกองแก้ว (ด.ญ. นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล) และ คุณกรรณิการ์ (ด.ญ. กัญปภัส ฤดีขจรไชย) บุตรสาวของเยนหลิง คุณเกียรติกร(หลุยส์ สก๊อตต์) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของโรส ทุกคนรุมล้อเลียนเรยาว่าเป็นลูกแขก ด้วยความโกรธเรยาจึงตอบโต้ด้วยความรุนแรงและหยาบคาย ทุกครั้งเรยาจะเอาตัวรอดได้เสมอ แต่วันนี้โชคไม่เข้าข้าง เมื่อเยนหลิงเห็นเหตุการณ์พอดีทำให้เรยาโดนตีเจ็บแค้นและเจ็บปวด หลังจากนั้นมามารดาของเธอเรียกเธอว่าฟ้าโดยไม่เรียกแขกอีกเลย ทุกคนต่างตกใจมากที่เจ้าสัวพาคุณนายแหม่ม ซิลเวีย(เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์) ทำให้เกิดความริษยาในหมู่ภรรยาอีกครั้งการศัลยกรรมของเจ้าสัวทำให้ดูดีแต่รูปลักษณ์ภายนอกแต่ภายในยังเป็นชายวัย 60 ปีดังเดิม คุณนายแหม่มชวนไปสังสรรค์ทุกคืนจึงทำให้เจ้าสัวล้มป่วยในเวลาต่อมา เยนหลิงคิดกลอุบายทำไสยศาสตร์จึงสั่งให้ลำยองไปกาญจนบุรีเพื่อให้นำอาคมมาทำลายซิลเวีย ลำยองก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร เธอสำนึกในบาปบุญจึงไปพึ่งใบบุญเก่าของสามีด้วยการเข้าไปหานายฝรั่งซึ่งเป็นเจ้านายของบัลดุลเพื่อขอความช่วยเหลือ นายฝรั่งจึงได้ฝากงานให้ลำยอง วันที่ต้องเดินทางไปกาญจนบุรีจึงเป็นวันที่ลำยองพาบุตรสาวออกจากคฤหาสน์นี้อย่างไม่หวนหลับมา เรยาและสินธรลักลอบคบกันอยู่บ่อยครั้งแต่ครั้งนี้โชคไม่เข้าข้าง เมื่อเพื่อนของเด่นจันทร์พบเธอและสินธรที่นิวซีแลนด์จึงทำให้เด่นจันทร์ยื่นคำขาดกับสินธรให้ยุติความสัมพันธ์กับเรยา สินธรยื่นทรัพย์สินให้เรยาเป็นจำนวนมากพร้อมทั้งตำแหน่งงานใหม่ในสายการบินชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอย้ายจากคอนโดมาอยู่บ้านกับลำยองโดยที่ลำยองไม่รู้เลยว่าความจริงเป็นเช่นไร ก้องเกียรติ เจนพานิชย์สกุล( วิทยา วสุไกรไพศาล ) ลูกชายคนโตของเจ้าสัว เชงสือเกียง เดินทางเพื่อมาเจรจาธุรกิจที่นิวซีแลนด์ ก่อนบินกลับยุโรปไปรับ ณฤดี ( มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ) บุตรสาวอัครราชทูตผู้เป็นภรรยาก่อนกลับเมืองไทย เรยาหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่าจะทำทุกสิ่งให้คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเจ้าสัวทิ้งหัวใจไว้ที่นิวซีแลนด์ให้ได้ เรยายื่นข้อเสนอให้ก้องเกียรติเป็นผู้เลี้ยงดูเช่นเดียวกับสินธร ก้องเกียรติก็ยอมรับโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อเจ้าสัวล้มป่วยลง เจ้าสัวต้องการให้ ไทรรัตน์ ( โชคชัย บุญวรเมธี ) เป็นคู่ชีวิตของกรองกาญจน์(ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ) บุตรสาวแต่กรองกาญจน์ชอบใช้ชีวิตโสดและสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น ท่านเจ้าสัวมักเก็บตัวอยู่ในห้องกุหลาบซึ่งเป็นห้องของโรส คุณนายที่สามผู้ล่วงลับไปแล้ว ซิลเวียเริ่มเบื่อชีวิตในคฤหาสน์แดงที่มีแต่การชิงดีชิงเด่นกัน คนเดียวที่เธอสนใจคือคุณนายที่สี่ อรุณรุ่งเช้าวันหนึ่งท่านเจ้าสัวตื่นขึ้นแต่คว้าหาร่างคุณนายแหม่มไม่เจอ ด้วยอารมณ์หึงหวงที่เกิดขึ้นเองเพราะคิดไปเองว่าคุณนายแหม่มลอบลงไปหาชู้อย่างแน่นอน อารมณ์ร้อนรุ่มอยู่ข้างในทำให้นอนไม่หลับ มีอาการแน่นหน้าอก ประมาณยามสี่เสียงเพลงทำนองหวานเศร้าสร้อยดังกังวานขึ้นท่านลุกนั่ง แม้มีสติเพียงเล็กน้อย ภาพซิลเวียที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไทรรัตน์ในบึงน้ำ ยังคงล่องลอยหลอกหลอนอยู่ตลอด ความหวังของเรยาเป็นจริง เมื่อเธอได้คลอดลูกชายเป็นผู้สืบสกุลคนแรกของตระกูลเรยาขอให้ก้องเกียรติหย่าขาดกับณฤดีแต่ก้องเกียรติรู้สึกไม่รักเรยาแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจกลับไทย เรยาร้องไห้ฟูมฟายแต่แล้วก็กลับเป็นแบบเดิม เรยาได้พบ ซี.เค. จิตแพทย์หนุ่มรูปงาม เธอพยายามสานสัมพันธ์แต่เขาได้รักษาระยะห่างเอาไว้ จึงทำให้เรยารู้สึกถึงความเป็นสุภาพบุรุษของ ซี.เค. เรยาจึงกลับเมืองไทยและตัดสินใจยกลูกให้ณฤดี ซี.เค.กลับมาเมืองไทยเพื่อรักษาคำแก้วโดยไม่ได้บอกเรยา เมื่อเรยากลับไปนิวซีแลนด์เธอรู้ว่า ซี.เค. กลับเมืองไทยไปแล้ว เธอจึงตัดสินใจตามหา จนมาพบที่อยู่ของเขาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทำให้คฤหาสน์แดงมีโอกาสต้อนรับเรยาอีกครั้ง และเรยาก็ได้รู้ว่า ซี.เค. คือ คุณชายเล็กหรือก้องเกียรติ แห่งตระกูลเชงนั้นเอง ก้องเกียรติคิดว่าเรยาเป็นเพียงนางฟ้าสวยแต่รูป และเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะโตทันเป็นภรรยาน้อยของพี่ชายของเขาเอง เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เธอและเขาจะได้ครองรักกันและก้องเกียรติจะทิ้งทิฐิที่เคยมีต่อเรยาหรือไม่ ติดตามชม ดอกส้มสีทอง
ละครเทิดพระเกียรติชุด พ่อ ตอน ชีวิตที่พอเพียง (2542/1999)
กิเลสมาร (2546/2003) ประภาส ชาติเวท ประธานโรงแรมคิงส์เซ็นเตอร์ ผู้เพียนพร้อมทางสังคม ขาดก็แต่ความอบอุ่นในครอบครัว เขามีลูกสามคนคือ ดนัย และระตีทั้งคู่ไม่สนใจการทำงานเลย ส่วนวิเวียนลูกสาวนอกกฎหมายกลับเอาการเอางาน ประภาสจึงทำทุกอย่างเพื่อให้วิเวียนยอมรับเขาเป็นพ่อ แต่เธอกลับปฎิเสธโดยสิ้นเชิงเพราะ โกรธที่ประภาสเป็นทำให้แม่เธอต้องตรอมใจตาย วิเวียนจึงอาศัยอยู่กับป้าศศินาถ ตลอดมา วิเวียนทำงานเป็นมัณฑนศิลป์ วันหนึ่งช่อนซึ่งเป็นเจ้านายก็ส่งเธอมาทำงานที่โรงแรมของประภาส เมื่อประภาสพบวิเวียนเขาพยายามมาพูดดีด้วยแต่เธอกลับโต้เถียงเขา ทำให้ประภาสเกิดโรคหัวใจกำเริบอย่างหนัก พอดีกับที่กริชเดินผ่านมาพบเข้าพอดีจึงเข้าช่วยเหลือ ติดตามต่อได้ใน "กิเลสมาร"
ปริศนา (2558/2015) ปริศนา สุทธากุล (สุษมา กิติยากร ณ อยุธยา) เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนลูกสาว 4 คน ของ คุณนายสมร (อาภาศิริ นิติพน) และพระวิจิตร มนตรี ที่เธอได้ชื่อนี้เพราะปริศนาเกิดหลังจากบิดาเสียชีวิตไปได้ 6 เดือน ทำให้ญาติพี่น้องฝ่ายพ่อซึ่งรังเกียจความเป็นครูจน ๆ ของคุณนายสมรอยู่แล้ว สงสัยว่าปริศนาอาจจะเป็นลูกชู้ไม่ใช่ลูกพระวิจิตรกับคุณนายสมรอยู่แล้ว คุณนายสมรตกพุ่มม่าย ก็ต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูกทั้ง 4 คนคือ อุบล (ฝนพา ปราโมช ณ อยุธยา) สิรี (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร (กบ) อนงค์ (ปจิตรา ภรณ์เจริญ (นุกนิก) และปริศนา โดยไม่มีญาติฝ่ายสามีมาใยดี จะมีก็แต่ วิรัช น้องชายของพระวิจิตรมนตรีที่ดีต่อพี่สะใภ้และหลาน ๆ มาโดยตลอด เมื่อวิรัชต้องย้ายไปรับราชการที่สหรัฐอเมริกา เขาจึงขอปริศนาหลานคนโปรดไปอุปการะด้วย ที่อเมริกา ปริศนาได้รับการศึกษาที่ดี ได้รับความรักความอบอุ่นจากวิรัชประหนึ่งลูกสาวแท้ ๆ ปริศนาเติบโตขึ้นเป็นสาวน้อยที่สดใส ร่าเริง มีความมั่นใจในตัวเองแบบเด็กฝรั่ง และมีความสามารถมากมาย ทั้งทางด้านดนตรี กีฬา และศิลปะ ปริศนากลับมากรุงเทพฯ อายุ 19 ปี ด้วยความสวยและความเก่ง ขณะเดียวกันชายหนุ่มที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุด ท่านชายพจน์ปรีชา ราชนิกูล (ศรราม เทพพิทักษ์) หนุ่มหล่อเจ้าของวังศิลาขาวทายาทมรดกจำนวนมหาศาล ท่านชายมีขนิษฐาสุดสวาทเพียงคนเดียวคือท่านหญิงรัตนาวดี (ญีน่า ซาลาซ (จีน่า) แต่ก็ได้อุปการะลูกภรรยาน้อยของน้าชายอีก 2 คน คือ ประวิช (ติณห์ ศรีตรัย) และ วิมล (ณฐมณฑ์ งามกนก (เจน) ท่านชายให้ความไว้วางใจประวิชเหมือนน้องแท้ ๆ ส่วนวิมลก็สนิทสนมกับท่านหญิงรัตน์ ประวิช รู้จักกับอนงค์พี่สาวผู้สงบเสงี่ยมเรียบร้อยของปริศนาที่หัวหิน เขาสนใจในตัวอนงค์ตามประสาชายหนุ่ม แต่เมื่อประวิชได้พบกับปริศนาเขาก็หลงใหลในตัวเธอและเปลี่ยนใจมาชอบปริศนาแทนในขณะที่อนงค์หลงรักประวิชเข้าจริง ๆ ต่อมาปริศนาได้งานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสิขาลัย เป็นนักเรียนประจำแก่นแก้วและหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือท่านหญิงรัตน์ และ วิมลต่อมาประวิชได้ชวนปริศนาให้มาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในวังศิลาขาวมากขึ้น ทำให้ท่านชายได้ใกล้ชิดเห็นความฉลาดน่ารักของเธอและเกิดหลงรักปริศนาขึ้นทีละน้อยปริศนาก็รู้สึกประทับใจในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชายจนกลายเป็นความรักเช่นกัน ประวิช หลงรักปริศนาจนถอนตัวไม่ขึ้นแต่ปริศนากลับเข้าใจว่าประวิชมาชอบอนงค์ เธอจึงให้ความสนิทสนมในฐานะเพื่อนและว่าพี่เขยมากกว่า ประวิชจึงได้ขอให้ท่านชายช่วยพูดแทน ท่านชายซึ่งรู้ตัวว่ารักปริศนาเข้าให้แล้วก็จำเป็นต้องตัดใจจากปริศนาเพราะเห็นแก่ประวิชและหันมาทำหน้าที่พ่อสื่อ ปริศนาปฏิเสธความรักฉันท์ชู้สาวของประวิช ภายหลังประวิชได้มาสารภาพรักกับปริศนาด้วยตัวเอง ทำให้เขารู้แน่ว่าปริศนาไม่ได้รักเขา ประวิชจึงหันกลับไปหาอนงค์ตามเดิมด้วยความรักที่มีเป็นทุนเดิมทำให้อนงค์ตอบรักประวิชด้วยความดีใจ ระหว่างนี้สิรี พี่สาวคนรองของปริศนาชอบพอกับคุณเสมอลูกชายคหบดีเพื่อนของท่านชาย แต่เมื่อคุณเสมอขอให้พ่อมาสู่ขอสิรีพ่อของเขากลับปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าสิรีจนไม่คู่ควร และได้หาผู้หญิงไว้ให้เขาแล้ว ผู้หญิงที่พ่อคุณเสมอหาไว้คือ รตี (ปกฉัตร เทียมชัย) แต่รตีปฏิเสธเพราะมีความหวังอยู่ที่ท่านชาย คุณเสมอจึงกลับไปหาสิรี แต่สิรีตัดใจแล้วและจะไม่ยอมรักใครอีก หลังจากห่างเหินกับทางวังศิลาขาว ปริศนามีเพื่อนบ้านใหม่ คือครอบครัวของ นงลักษณ์ เจ้าของร้านตัดเสื้อที่สิรีทำงานด้วยครอบครัวของนงลักษณ์ประกอบด้วยอานนท์ (โทนี่ รากแก่น) พี่ชายนักเรียนนอกสุดโก้ และนพ (ปิยะณัฐ แดงพูนผล (โด่ง) น้องชายผู้ใฝ่รู้ทะเยอทะยาน ทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีของปริศนา ปริศนากับอานนท์สนิท กันมากขึ้นในฐานะเพื่อนและคนที่เคยอยู่เมืองนอกเหมือนกัน จนทำให้ท่านชายเข้าใจผิด ฝ่ายรตีก็พยายามใกล้ชิดเพื่อเอาชนะใจท่านชายปริศนาเองรักท่านชายไม่น้อยไปกว่าที่ท่านรักเธอ แต่ด้วยความถือดีคิดว่าท่านชายมีเงินคอยแต่จะดูถูกผู้หญิงว่าวิ่งไล่จับท่าน ทำให้ปริศนาแข็งข้อกับท่านเสมอ จนสุดท้ายมีข่าวลือว่าปริศนากับอานนท์รักและจะแต่งงานกัน ท่านชายรู้ข่าวก็เสียใจหนีขึ้นไปเชียงใหม่ไปล่าสัตว์ที่เชียงราย วันหนึ่งปริศนาก็ได้รับข่าวร้ายว่าท่านชายป่วยเป็นไข้ป่าอาการปางตาย และกำลังถูกส่งกลับมากรุงเทพฯ ปริศนารู้สึกเสียใจและรู้ใจตัวเองว่าท่านชายมีความสำคัญกับเธอมากขนาดไหน ปริศนามาดูแลท่านชายที่วังศิลาขาว ในคืนที่ความเป็นความตายเท่ากัน ปริศนาสารภาพรักกับท่านชายว่าเธอรักท่านชายมากแค่ไหน ทั้งสองจึงเข้าใจกันในที่สุด อาการของท่านชายดีวันดีคืน เมื่อความรักของทั้งสองสุกงอมจึงมีการหมั้นกันอย่างเงียบ ๆ แต่แล้วเรื่องก็ เข้าถึงหูคุณหญิงราชวรรลภแม่ของรตีที่อยากได้ท่านชายมาเป็นเขย คุณหญิงเอาความไปบอกเสด็จอา ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของท่านชายให้คัดค้านและใส่ไฟว่าปริศนาเป็นไพร่ ไม่มีชาติตระกูล ทำตัวเหลวแหลก มีคู่รักมากมายเสด็จอาจึงเรียกท่านชาย เข้าไปพบและถามความในใจ เมื่อรู้ว่าท่านชายรักปริศนาอย่างแท้จริง เสด็จอาจึงขอดูตัวปริศนาในงานเลี้ยงที่วังศิลาขาว เมื่อได้พบกับปริศนาเสด็จอาก็โปรดปริศนาถึงกับประทานสร้อยเพชรของตระกูล ให้เธอ คุณหญิงราชวรรลภ เห็นท่าไม่ดีจึงแฉเรื่องที่ปริศนาเป็นลูกไม่มีพ่อ แต่เหตุการณ์กลับเปลี่ยนไปเมื่อคุณอาวิรัชของปริศนาซึ่งเพิ่งกลับมาจากสหรัฐอเมริกาปรากฎตัวในงานพร้อมจดหมายรับรองฐานะของปริศนาที่พระวิจิตรมนตรีเขียนไว้ก่อนตายว่าปริศนาคือลูกของพระวิจิตร เมื่อปริศนาในตัวหญิงสาวถูกไขจนหมดข้อกังขา งานแต่งงานระหว่างนางสาวปริศนาและท่านชายพจน์ปรีชาก็เกิดขึ้น เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดราวเทพนิยาย ติดตามชม ละครปริศนา
หนึ่งฤทัย (2546/2003) หนึ่งฤทัย เป็นเรื่องราวของ หนึ๋งฤทัย ( อลิชา ไล่ศัตรูไกล ) เป็นลูกสาวคนเดียวของโกศล ( ทูน หิรัญทรัพย์ ) นักธุรกิจใหญ่ เป็นเด็กสาวแสน สวยที่เอาแต่ใจตัวเองเพราะผู้เป็นพ่อรักและสงสารที่เธอต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่ ยังเด็ก หนึ่งฤทัยมีน้าสาวชื่อ กรอง กาญจน์ ( วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง ) ซึ่งเป็นคนเลี้ยงดูหนึ่งฤทัยมาตั้งแต่แบเบาะ โดยกรองกาญจน์แอบหลงรักโกศลอยู่ ยิ่งโกศลและกรองกาญจน์ตามใจหนึ่งฤทัยมากเท่าไร คุณย่าทองแท้ ( (พิศมัย วิไลศักดิ์) ) กับสุนทรีย์ ( บุญฑริก ทัศนารมณ์ ) น้องสาวโกศล ก็ยิ่งหมั่นไส้หนึ่งฤทัยมากขึ้นเท่านั้น ทุกครั้งที่หนึ่งฤทัยก่อเรื่องจนถูกพ่อหรือคุณย่าดุ เธอก็จะเข้าไปคุกเข่าต่อหน้ารูปแม้พร่ำรำพัน จนโกศลใจอ่อนทุกครั้งไป และแม้ว่าหนึ่งฤทัยจะมีข้อเสีย หลายอย่าง แต่ ในความร้ายกาจนั้น เธอก็เป็นคนน่ารักและมีใจเมตตากรุณาต่อผู้อื่น เมื่อวัยเด็กหนึ่งฤทัยเคยสนิทสนมกับ พัฒน์ ( ธนา สุทธิกมล ) ซึ่งเป็นลูกชาย ของ คมสัน ( เวย์น ฟอลโคเนอร์ ) เพื่นรักของโกศล ซึ่งต่อมาคมสันและ ภรรยา นุชนารถ ( ปริศนา กล่ำพินิจ ) ไปอยู่ต่างประเทศ 15 ปีต่อมา ครอบ ครัว ของคมสันกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง เมื่อพัฒน์เรียนจบปริญญาตรี ด้าน สถาปนิก พร้อมกับมาสมาชิกใหม่เพิ่มอีกคน คือ พงศ์ ( ตะวันไทย ไทยสวัสดิ์ ) น้องชายของพัฒน์ ทำให้หนึ่งฤทัยได้พบกับพัฒน์อีกครั้ง และด้วยความ เป็นสุภาพบุรุษที่แสนดีของพัฒน์ ทำให้หนึ่งฤทัยเริ่มสนใจและหลงรักพัฒน์ ในทันทีที่พบหน้ากัน วันประกาศผลสอบเอ็นทรานซ์ หนึ่งฤทัยสอบติดมหาลัยเดียวกับแก๊งค์สามซ่าส์ที่มี 3 สาว อากิโกะ หญิง และเจนนี่ ( วิจิตรา ตรียะกุล, กิรติพร กุลยิ่งวัฒนวิทย์, สุธินี มัณยานนท์ ) ที่เป็นคู่ปรับกับหนึ่งฤทัย มาตั้งแต่ โรงเรียน มัธยม และในวันเดียวกันนั้นมีเด็กสาวใส่แว่นหนาเตอะท่าทางเปิ่นเชยชื่อ พิมพ์พรรณ ( ญดา โชติชูตระ กูล ) มาดูผลสอบด้วย สาวซ่าส์แกล้งกระแทกจนพิมพ์พรรณล้มลง หนึ่งฤทัยเข้าไปช่วยปกป้องพิมพ์พรรณ สาวซ่าส์สู้ไม่ได้กระเจิดกระเจิงหนีไปพิมพ์พรรณรีบตามไปขอบใจหนึ่งฤทัยอย่าง ซาบซึ้ง หนึ่งฤทัยไม่รู้ตัวเลยว่า พิมพ์พรรณเฝ้ามองและประทับใจในน้ำใจของหนึ่งฤทัยมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แล้ว และในตอนนี้ก็ยิ่งเพิ่ม ความประทับใจในตัวหนึ่งฤทัยมากกว่าเดิม วันเปิดเทอมวันแรกที่มหาวิทยาลัย ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง เพื่อนได้เริ่มต้นขึ้น หนึ่งฤทัย พิมพ์พรรณ และประวิทย์ ( วัชรชัย สัตย์ พิทักษ์ ) กลายเป็นเพื่อนร่วมแก๊งค์เดียวกันโดยมี 3 สาวแก๊งค์สามซ่าส์เป็น คู่ปรับเหมือนเคย หนึ่งฤทัยแนะนำให้พัฒน์รู้จักกับพิมพ์พรรณ และ ประวิทย์ พัฒน์รู้สึกขำและเอ็นดูท่าทางที่เด๋อด๋าของพิมพ์พรรณ ส่วน พิมพ์พรรณ เองก็ประทับใจในตัวพัฒน์อยู่เงียบ ๆ ในขณะเดียวกันประวิทย์ก็ พยายาม ปิดบังความรู้สึกพิเศษที่มีต่อหนึ่งฤทัย คิดเสมอว่าเขาไม่เหมาะ สม กับเธอ และเข้าใจว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว คือ พัฒน์ วันหนึ่ง โกศลก็ได้พบกับ ทิพย์อาภา ( เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ) แม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์ เจ้าของสนามกอล์ฟ โดยไม่ รู้ว่าทิพย์อาภาเป้นแม่ของพิมพ์พรรณ เพื่อนสนิทของหนึ่งฤทัย โกศลหลงรักทิพย์อาภาทันทีและหา โอกาสทำ ตัวใกล้ชิดจนทิพย์อาภามีใจให้ แต่ปัญหาของทั้งคู่ก็คือ กลัวว่าลูกสาวของตนจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ สุนทรีย์พยายาม ขัดขวางความรักระหว่างโกศลกับทิพย์อาภา เพราะเข้าใจว่าทิพย์อาภาแย่งวรเชษฐ์ ( ทัตพงศ์ พงศ์ทัต ) แฟนของเธอไป สุนทรีย์จึงคิดแผนร้ายโดยใช้กรองกาญจน์ เป็นเครื่องมือทำลายความสัมพันธ์ของโกศล และทิพย์ อาภา กรองกาญจน์เจ็บปวดเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหมดความหมาย จนดื่มเหล้าจนเมามาย และเข้าหา โกศลในคืนหนึ่ง โกศลตกใจในการกระทำของ กรองกาญจน์ ไล่เธออกจากห้องและยืนยันว่า เขาเห็นเธอเป็น เพียง น้องสาว พิมพ์พรรณ ถูกแก๊งค์สามซ่าส์พูดจาเฉือดเชือนทำร้ายจิตใจว่า เธอไม่สวย เฉิ่มเชย ไร้ค่าเหมือนสูญ ญากาศ ด้วยความสงสารหนึ่งฤทัยตัดสินใจพา พิมพ์พรรณ ไปแปลงโฉมจนกลายเป็นสาวสวยพริ้ง ไม่เหลือเค้าของคนเดิม พิมพ์พรรณปราบปลื้ม และยิ่งรักและศรัทธาใตตัวหนึ่งฤทัยมากขึ้น เมื่อพัฒน์พบพิมพ์พรรณอีกครั้ง ความรักระหว่างเขาและเธอก็ยิ่งก่อตัวขึ้นโดย ที่หนึ่งฤทัย ไม่ได้เอะใจเลยแม้แต่น้อย โกศลและทิพย์อาภา นัด หนึ่งฤทัยและ พิมพ์พรรณมาพบที่สนามกอล์ฟ เพื่อบอกเรื่องการแต่งงาน วันนั้น ทั้งสองต้องทั้งดีใจและแปลกใจเมื่อรู้ว่าลูกสาวเป็นเพื่อนนรักกัน และยินดี ที่จะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน ในงานแต่งงาน กรองกาญจน์ ฉวยโอกาส ยุแยงหนึ่งฤทัยว่าทิพย์อาภาและพิมพ์พรรณ กำลังจะมาแย่งทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่เป็นของเธอไป ประกอบกับหนึ่งฤทัยพบภาพบาดใจที่พัฒน์แสดงท่า ที สนใจพิมพ์พรรณอย่างเห็นได้ชัดหนึ่งฤทัยเริ่มหวั่นไหวไปกับคำพูดของกรองกา ญจน์ เธอรู้สึกปวดหัวอย่างหนักขึ้นมาเป็นครั้งแรก หนึ่งฤทัย เริ่มเปลี่ยนไป แสดงกิริยาเหมือน ทิพย์อาภาและ พิมพ์พรรณเป็นเพียงผู้อาศัย จนรู้สึกว่าตัวเองเคว้ง คว้างไม่มีใครในขณะเดียวกันทิพย์อาภาก็เริ่มตั้งท้อง เธอแอบบอกเรื่องนี้กับพิมพ์พรรณและขอให้เก็บเป็น ความลับไว้ก่อน เพราะกลัวว่าหนึ่งฤทัยจะยิ่งคิดมาก พิมพ์พรรณเริมหวั่นไหวว่าวันหนึ่งถ้าหนึ่งฤทัยจะรู้เรื่องนี้เข้า อาจจะคิดทำร้ายแม่ของเธอที่มหาวิทยาลัยนักศึกษารุ่นพี่จะจัดการแสดงละครเวที เป็นละครร้อง แบบโบราณ เรื่อง……..โรสิตา ทุกคนลงความเห็นว่าหนึ่งฤทัยเหมาะจะเป็นพระเอก คู่กับ พิมพ์พรรณที่อ่อนหวานสมเป็น นางเอกคืนงานวันเกิดคุณย่าทองแท้ หนึ่งฤทัยเอาเข็มหมุดไปปักไว้ในชุดรำฉุยฉายของพิมพ์พรรณ พิมพ์พรรณ ถูกเข็มหมุดแทงจนเลือดไหล ทิพย์อาภาตกใจ ครูบอกว่ามีเพียงหนึ่งฤทัยที่เข้ามาในห้องแต่งตัว ทิพย์อาภา โกรธมาก ต่อมาเมื่อทุกคนรู้ว่าเป็นฝีมือของหนึ่งฤทัย โกศลโกรธมากจนถึงขั้นตบหน้าลูก หนึ่งฤทัยวิ่งหนีออกมา ทิพย์อาภารีบตามมาเพื่อปรับความเข้าใจ แต่เรื่อง กลับเลวร้ายมากขึ้น เมื่อสุนทรีย์มาตอกย้ำให้หนึ่งฤทัยสับสนว่า ทิพย์อาภา เสแสร้งทำเป็นคนดี หนึ่งฤทัยตัดสินใจจะหนีไปให้พ้นทิพย์อาภายื้อหยุด ห้ามไว้ หนึ่งฤทัยสะบัดจนทิพย์อาภาพลัดตกบันได และทุกคนยิ่งตกใจมากขึ้น เมื่อพิมพ์พรรณ บอกว่าทิพย์อาภากำลังตั้งท้องอยู่ ซึ่งทำให้หนึ่งฤทัยตกใจมากที่บ้านโกศล พัฒน์มาบอกคุณย่าทองแท้ว่าทิพย์อาภาปลอดภัยแล้ว หนึ่งฤทัย กลับมาพอดีและเกิดมีปากเสียงกับคุณย่า เธอจึงผลุนผลันจะขับรถออกจากบ้านไป พัฒน์รีบตามขึ้นรถ ไปด้วย เขาขอร้องให้หนึ่งฤทัยจอดรถและระงับสติอารมณ์ แต่หนึ่งฤทัยไม่ยอมฟังดื้อดึงขับรถต่อไป จนเกิดอุบัติ เหตุรถชนพัฒน์ ได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล ทุกคนประนามว่าเป้นความผิดของเธอ หนึ่งฤทัยรู้สึกผิด และเสียใจ มากขึ้นเป็นทวีคูณ ที่เธอทำร้ายคนที่เธอรักโดยไม่ได้ตั้งใจ หนึ่งฤทัยปวดหัวอย่างรุนแรงจนเซล้มลงหมดสติไป หมอวินัยมาพบจึงเข้าไปช่วยเหลือและพาไปตรวจที่โรงพยาบาล หนึ่งฤทัย ถึงกับช็อคไปเมื่อรู้ถึงสาเหตุของการปวด หัวอย่างรุนแรงที่เธอเป็นอยู่บ่อย ๆ หนึ่งฤทัยเริ่มได้คิดและตัดสินใจว่าจะไม่บอกใครเรื่อง อาการป่วย ของเธอ คงยังไม่สายเกินไปที่จะทำความดี ลบล้างความผิดพลาดที่เธอทำไว้กับทุกคน
สลักจิต (2559/2016) เธอมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ แต่กลับเป็นชนวนที่จุดไฟของการแย่งชิง สลักจิตหรือ จอย (เต็มฟ้า กฤษณายุธ) พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะที่เธออายุยังน้อย จอยจึงถูกส่งตัวมาอยู่กับ เจ้าคุณภักดีบดินทร (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ผู้เป็นปู่ แต่ถูกขับไสให้ไปอยู่เรือนเล็กกับ แม่เจิด (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) ต้นห้องและลูกสาวชื่อ ใจภักดิ์ (ศรุชา เพชรโรจน์) ไม่นานจอยได้รู้ความจริงว่า ภาคภูมิ (ภูธเนศ หงษ์มานพ) พ่อของเธอถูกเจ้าคุณปู่ตัดออกจากตระกูลเพราะภาคภูมิจะแต่งงานกับ มากาเร็ต แม่ของเธอที่เป็นชาวอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่ได้หมั้นกับ ม.ร.ว.จันทรา (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) ธิดาของ ม.จ.รังสิมันต์ ซึ่งเป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนสนิทของเจ้าคุณ เมื่อจอยกลับมาอยู่เมืองไทย จอยรับหน้าที่ดูแล คุณหญิงรำเพย (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ผู้เป็นย่าที่กำลังป่วยหนัก ก่อนตายคุณหญิงยกสร้อยเพชรประจำตระกูลให้กับจอย ทำให้ญาติ ๆ พากันเกลียดชังจอย โดยเฉพาะ รำพา (ชไมพร จตุรภุช) ภรรยารองของเจ้าคุณ และคุณหญิงจันทราที่จำใจแต่งงานกับ พิท (ศรุต วิจิตรานนท์) แทนภาคภูมิพ่อของจอย ทั้งคู่มีลูกชายคือ พรพจน์ (อาเมน โสตถิพันธุ์ คำลือชา) และลูกสาว พริ้มพราย (อัญชสา มงคลสมัย) ซึ่งเกเร และเอาแต่ใจ ส่วนญาติที่รักจอยมีเพียง หม่อมภาคี (มยุรา เศวตศิลา) น้องสาวของเจ้าคุณ และ ม.ร.ว.ภูษิต หรือ คุณชายเดียว (ศรราม เทพพิทักษ์) ลูกเลี้ยงของหม่อมภาคีซึ่งเป็นคู่หมายของ เพียงเพ็ญ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) น้องสาวของพิท จอยมีเพื่อนรักชื่อ กรรณิการ์ (ภคกัญญา เจริญยศ) ลูกสาว ท่านทูตไกร (ตระการ พันธุมเลิศรุจี) เธอมีพี่ชายสุดหล่อชื่อ เกริก (ชลวิทย์ มีทองคำ) ซึ่งตกหลุมรักจอยตั้งแต่แรกเห็น ทั้งหมดนี้ทำให้ภูษิตรู้สึกเป็นห่วงจอย จึงเข้ามาคอยดูแลจอยจนเพียงเพ็ญรู้สึกไม่พอใจ เมื่อภูษิตต้องไปทำงานที่ฝรั่งเศส 4 ปี จอยจึงขอแหวนที่เขาสวมติดนิ้วไว้เพื่อดูต่างหน้าเพียงเพ็ญเห็นแหวนที่นิ้วจอยก็โกรธ และให้จอยส่งแหวนคืนภูษิตพร้อมเขียนจดหมายบอกให้เขาเลิกดูแลตามคำสั่งเพียงเพ็ญภูษิตแอบน้อยใจ และคิดว่าจะเลิกสนใจจอย แต่ก็ไม่วายส่ง ธเนศ (อัศนัย เทียนทอง) เพื่อนรักไปดูแลแทน ทำให้ธเนศได้ใกล้ชิดกับกรรณิการ์ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของจอย และภูษิต ระหว่างนี้เกริกเริ่มเข้ามาใกล้ชิดจอยโดยไม่รู้ว่าใจภักดิ์มีใจให้กับเขา ส่วนจอยก็รักษาระยะห่างกับเกริก และตั้งใจเรียนจนสอบเข้าคณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ ได้ เมื่อเกริกต้องเดินทางไปดูงานต่างประเทศ พร้อม ๆ กับที่ภูษิตได้กลับมาเมืองไทย ทำให้จอยกับภูษิตได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง ทั้งคู่ต่างก็หวั่นไหว และรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของกันและกัน เรื่องไปถึงหูท่านเจ้าคุณ และหม่อมภาคี ทั้งคู่จึงเร่งงานแต่งงานระหว่างเพียงเพ็ญกับภูษิตให้เร็วขึ้น ส่วนรำพา และเพียงเพ็ญก็วางแผนจ้าง เริง (ธีธัช จรรยาศิริกุล) ข้าเก่าเต่าเลี้ยงในตระกูลให้มาทำลายจอยแต่ไม่สำเร็จ เริงจึงเปลี่ยนแผนมุ่งไปที่พริ้มพรายแทนเพราะรู้ว่าคุณหญิงจันทราแม่ของพริ้มพรายรวยมาก เริงชักชวนพริ้มพรายติดยา และนัดหมายให้พริ้มพรายขโมยเครื่องเพชรของคุณหญิงจันทราเพื่อหนีไปกับเขา ด้านพรพจน์ก็ไปทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับ ในที่สุดจอยสามารถช่วยทั้งพริ้มพราย และพรพจน์ไว้ได้ ทำให้ท่านเจ้าคุณซาบซึ้ง และยอมรับในตัวจอย ด้านเกริกเมื่อกลับมาจากต่างประเทศก็ต้องการหมั้นกับจอยทันที ส่วนภูษิตก็เสียใจประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสทำให้เกริกรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลึกซึ้งเกินกว่าอากับหลานจึงตัดสินใจขอถอนหมั้นจอย ความรักของภูษิต และจอยจะลงเอยอย่างไร ? ทั้งคู่จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรครักครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ? ติดตามชมได้ใน ละครสลักจิต
เรื่องย่อ : ขมิ้นกับปูน (2559/2016) เมื่อปี พ.ศ. 2486 ความเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองและสังคมเกิดขึ้นในเมืองไทย แต่ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเลย คือความเกลียดชังระหว่างตระกูล พระยาอภิบาลบำรุง (สันติสุข พรหมศิริ) และ ตระกูลพระวิจิตรศิลปการ (ดิลก ทองวัฒนา) สาเหตุเนื่องมาจากคุณแม่ของพระยาอภิบาลบำรุง ได้หนีตามคุณพ่อของพระวิจิตรไป ซึ่งนำความเสื่อมเสียมายังตระกูลของพระยาอภิบาลอย่างยิ่ง พระยาอภิบาล มีบุตรชาย 1 คน คือ พระนิติรักษ์ธรรมสถิตย์ (เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล) และธิดา 3 คน คือ คุณปริก (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) คุณจำปา (ศิรประภา สุขดำรงค์) และคุณปีบ (สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา) ซึ่งครองความเป็นสาวจนกระทั่งปัจจุบัน ในรุ่นหลานของตระกูล ซึ่งเป็นลูกของพระนิติรักษ์ ได้แก่สามสาวปัทมา (อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล), ปวีณา (ศรศิลป์ มณีวรรณ์) และปารมี (มุกดา นรินทร์รักษ์) เมื่อทางราชการเปลี่ยนแปลงไม่ให้มีการใช้ยศถาบรรดาศักดิ์อีก พระนิติรักษ์ ทนไม่ได้จึงลาออกจากราชการ ฝ่ายพระยาอภิบาลก็เกษียณแล้ว ทำให้ตระกูลอภิบาลบำรุงเริ่มเสื่อมถอย เงินทองร่อยหรอ ผิดกับตระกูลของพระวิจิตร ที่เจริญมั่งคั่งขึ้นทุกวัน ปวีณา เป็นเด็กสาวช่างฟ้อง อิจฉาปัทมาพี่สาว จึงฟ้องพระยาอภิบาลว่าปัทมาแอบคบกับทานตะวันและธนา หลานและลูกของพระวิจิตร ปัทมาจึงถูกเฆี่ยนตีอย่างหนัก จนเริ่มเก็บกด แข็งกระด้างและเจ้าทิฐิโดยไม่รู้ตัว ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระนิติรักษ์ทำการค้า และถูกโกง ยิ่งทำให้พระยาอภิบาลกลุ้มใจหนัก ในระหว่างนั้นเอง ปัทมาขออนุญาตไปเรียนต่อที่ศรีราชา กับเพื่อนรัก ทานตะวัน (อธิชนัน ศรีเสวก) ที่นั่นเอง ปัทมาพบรักกับคุณธนา (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) น้าของทานตะวัน เมื่อพระยาอภิบาลทราบเรื่อง ปัทมาถูกตบตีอย่างรุนแรง หลังจากนั้นปัทมาถูกจับไปบวชชี ทานตะวันและธนาช่วยปัทมาหนีออกจากวัดได้ ปัทมาได้แต่งงานกับธนาในที่สุด พระยาอภิบาลโกรธแค้นมาก ตัดปัทมาออกจากตระกูล เวลาผ่านไป ปวีณา และปารมีเริ่มเป็นสาว ปวีณา แอบอิจฉาปารมีที่สวยกว่าตน แต่ปวีณาเป็นที่โปรดปรานของคุณปู่และคุณพ่อ จึงได้รับอนุญาตให้เรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนปารมีให้เรียนถึงมัธยมแปดเท่านั้น ปวีณา ได้พบกับแทนพงศ์ หลานของพระวิจิตรที่เพิ่งจบการศึกษาจากเมืองนอก และมาเป็นอาจารย์พิเศษของปวีณา ปวีณาได้ที่อยู่ของปัทมา เธอจึงไปเยี่ยมพี่สาว และนำความไปบอกเจ้าคุณปู่กับคุณพ่อ พระนิติรักษ์จึงมาพาตัวปัทมากลับไป ปัทมาเสียใจที่ถูกพรากจากสามี เธอตรอมใจจนผูกคอฆ่าตัวตาย แต่คุณปีบมาช่วยไว้ทัน วันหนึ่งปัทมาเห็นรูปถ่ายของ ธนากับทานตะวัน เพื่อนรัก ปัทมาเข้าใจว่าเพื่อนรักแย่งสามีตน เธอจึงกินยาฆ่าตัวตายอีกครั้ง แต่ทุกคนช่วยไว้ได้ทัน สภาพจิตใจของปัทมาแย่ลงทุกที ทันพันธุ์ (อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์) หลานอีกคนหนึ่งของตระกูลพระวิจิตร แอบชอบปารมีอยู่ ทันพันธุ์มาร่วมงานทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อเปิดร้านอาหารของคุณทั้ง 3 นาง และมีโอกาสพูดคุยกับพระยาอภิบาล พระยาอภิบาลไม่ทราบว่าทันพันธุ์เป็นหลานศัตรู ทั้งคู่พูดคุยกันถูกคอ เมื่อพระยาอภิบาลรู้ความจริงว่าทันพันธุ์เป็นใคร ก็มิได้จงเกลียดจงชังมากนัก ธนาส่งจดหมายหย่าให้ปัทมา เป็นเหตุให้ปัทมาช็อก กลายเป็นคนบ้า เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป สุดท้ายความรักในรุ่นของลูกหลานจะเอาชนะความอาฆาตพยาบาทระหว่างสองตระกูลได้หรือไม่ ติดตามชมกันต่อได้ในละคร ขมิ้นกับปูน ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 ทางช่อง 7 สี ละคร ขมิ้นกับปูน เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม 2559
เรื่องย่อ : บ้านทรายทอง (2543/2000) พจมาน เด็กสาวผู้มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีและชาติกำเนิดของตน แม้จะเป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาก็ตาม เธอจำเป็นต้องจากบ้านสวนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนหนังสือต่อ ตามความประสงค์ของบิดาที่เขียนสั่งไว้ก่อนเสียชีวิต ให้พจมานไปอาศัยอยู่กับครอบครัวหม่อมพรรณราย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของพ่อที่บ้านทรายทอง เธอถูกกลั่นแกล้งตั้งแต่เข้ามาอยู่ โดยมีหม่อมแม่และคุณหญิงเล็กน้องสาวของชายกลาง รวมถึงคนรับใช้ทุกคนในบ้านคอยแกล้งเธอ ชายกลางสงสาร และให้คุณหญิงใหญ่พี่สาวคนโตคอยช่วยเหลือ และพจมานก็คอยดูแลเอาใจใส่น้องชายคนเล็กของชายกลางที่เป็นง่อย เธอแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่เข้มแข็งอดทนมีจิตใจที่ดีงาม จนสามารถเอาชนะใจของชายกลาง และอีกหลายๆ คน จนเป็นผลสำเร็จ จนทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันในที่สุด พจมาน แต่งงานกับชายกลาง ที่บ้านทรายทอง หม่อมพรรณรายมางานอย่างเสียมิได้ น้องสาวของพจมาน พจนีย์ก็มาเรียกร้องสิทธิ์จะอาศัยอยู่ด้วย เมื่อทั้งสองกลับจากฮันนีมูน ก็พบกับปัญหาต่าง ๆ นานา ทั้งไสวแม่บ้านและพจนีย์กับเด็กบุญเรือน ที่มักจะนำเรื่องภายในบ้านไปกระจายข่าว ทำให้เกิดเรื่องขัดแย้งกันเสมอ สามีเก่าของพจนีย์ก็มาขอเงินไปรักษาตัว จนไสวเอาไปรายงานหม่อมพรรณราย ทั้งพจนีย์และคนอื่น ๆ ก็กล่าวหาพจมานในทางเสื่อมเสีย หญิงเล็กก็แต่งงานกับนายบุญเติมเศรษฐีซึ่งมีประวัติไม่ดีนัก เมื่อน้องชายป่วยและเสียชีวิตในที่สุด พจมานเสียใจมากและเหน็ดเหนื่อยกับปัญหาที่เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน จึงขอไปอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัดสักระยะ จนพจนีย์ไปพบจดหมายของสามีตนจึงเข้าใจพี่สาวและประกาศให้ทุกคนรู้ หม่อมพรรณรายเมื่อสูญเสียชายน้อย และรู้ว่ากำลังจะมีหลาน ก็ลดทิฏฐิลงหญิงใหญ่บอกชายกลางว่าเขากำลังจะมีลูก ชายกลางดีใจมาก รีบไปรับพจมานและบอกพจมานว่าความดีที่เพียรพยายามทำนั้น ในที่สุดทุกคนก็ยอมรับพจมานจึงกลับสู่บ้านทรายทอง และพบกับความเข้าใจของทุกคน
บางรักซอย 9 (2546/2003) “บางรักซอย 9” เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดถึงชีวิตของคนในวัยทำงาน ที่มีทั้งเรื่องอาชีพ อนาคตและความรักเป็นเรื่องสำคัญและละเอียดอ่อน สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของคนเมืองในยุคปัจจุบันออกมานำเสนอในรูปแบบตลกและแฝงแง่คิด ความรู้สึก แป้ง และ ชัดเจน ชัดเจน หรือ เจน (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) สถาปนิกหนุ่มวัย 30 มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ชีวิตสบายๆ เป็นคนที่ไม่มีความชัดเจนเหมือนชื่อ แต่มีความกระตือรือร้นและชอบศึกษาชีวิต มีความเข้าใจในคนรอบข้างเสมอ และเพราะเป็นสถาปนิกที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำอยู่เสมอ ตัดสินใจมาใช้ชีวิตอิสระ ด้วยการมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับออฟฟิศ บ้านเช่าหลังนี้เป็นการดัดแปลงจากเรือนคนใช้มาแบ่งทำเป็นห้องเช่า ในส่วนของโรงรถก็ใช้เป็นที่อบขนมของลูกเจ้าของบ้าน ที่ชื่อ “แป้ง” เนื่องจากเหมียวแฟนเก่าเจนคอยตามมารังควานจนเจนโดนไล่ออกจากบ้านเช่าเก่าไป 3 หลัง แป้ง (พิยดา จุฑารัตนกุล) สาวขึ้นคานนักฝันที่อยากจะครูกับเจ้าของร้านเบเกอรี่ เป็นไม่มีที่ไหนรับกับไม่มีงบจึงตกงานหลังเรียนจบ มีระเบียบวินัยสูง เต็มเปี่ยมไปด้วยกฎเกณฑ์ในชีวิต จึงขายเค้กตามบ้านกับเป็นติวเตอร์สอนเด็กหากำไรไปวันๆ แต่ก็สืบทอดมรดกจากแม่คือ พอตนพาลด่าใคร พอรู้ว่าตนหน้าแตก ก็ไม่รับผิดชอบหน้าด้านเงียบหนีเสมอ เมื่อเจนเข้ามาเช่าบ้านอยู่ในบ้าน ก็มีแต่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเสมอ ถึงแม้จะเป็นสถาปนิก แต่ก็ไม่เคยทำให้แป้งรู้สึกว่าบ้านมีระเบียบขึ้นมาเลยตรงกันข้ามจากบ้านที่เคยมีระเบียบวินัย กลับถูกเพ่นพ่านไปด้วยเพื่อนสถาปนิกที่ออฟฟิศ และแฟนเก่าของชัดเจนที่มาตามรังควาน หรือแม้แต่ลูกของเพื่อนที่มาฝากชัดเจนดูแล ด้วยเหตุนี้แป้งต้องมาคอยควบคุมและดูแลผลประโยชน์ของบ้านตนเอง และมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับเจนอยู่ตลอดเวลา ต่างกับปิ๊ก (หลุยส์ พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) น้องชายของแป้ง กลับเห็นดีเห็นงามและชื่นชมเจนเป็นพิเศษ ก็เพราะนิสัยที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นของเจนนั่นเอง แต่นั่นกลับเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้แป้งหาเรื่องทะเลาะกับเจนหนักขึ้น เพราะแป้งถือว่าเจนให้ท้ายน้องชาย ทำให้เจนเกิดความรู้สึกว่าแป้ง ทำตัวเหมือนแม่มากกว่าพี่สาว แม้แต่กับพ่อตุ๊ (สีหนุ่ม เชิญยิ้ม) พ่อของแป้ง ก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับเจน เนื่องจากเป็นคนสบาย ๆ เหมือนกัน พ่อของแป้งเป็นคนสนใจใฝ่รู้กับทุกๆเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่การดูหมอทรงเจ้า แต่ถึงกระนั้นพ่อของแป้งก็เป็นถึงอดีตนายทหารเรือ (เออ...แต่เป็นกองดุริยางค์) ผิดกับแม่เยาว์ (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) ที่เป็นถึงหลานสาวเจ้าพระยา เป็นคุณแม่ผู้สูงศักดิ์ หยิ่งทระนงในศักดิ์ศรียิ่งนัก แต่เนื่องจากฐานะครอบครัวที่สะเทือนไปในคราว “ต้มยำกุ้ง” ระบาด จึงกลายเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน แม่ของแป้งจึงจำต้องแบ่งพื้นที่ในบ้านให้เจนเช่าอาศัย ซึ่งแม่ของแป้งไม่เคยรู้เลยว่ามันเหมือนเป็นการชักศึกเข้าบ้าน... แมน (ซ้าย), ชัดเจน (กลาง), มารวย (ขวา) ในบ้านเช่า นอกจากจะมีเจนเป็นผู้เช่าอาศัยแล้ว ยังมีเพื่อนร่วมออฟฟิศของเจนอีกหนึ่งคนชื่อมารวยหรือ รวย (เหลือเฟือ มกจ๊ก) ชายหนุ่มนิสัยรักสบายมาก ตอนเรียนจบนั้นได้งานจะไปนอนที่ออฟฟิศ แต่พอเจนย้ายมาเช่าบ้านแป้งรวยจึงขอมาอยู่ด้วย จนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าขี้เกียจหาที่ที่พักจึงมาขอพักกับเพื่อน ซึ่งปรารถนาจะรวยทางลัดอยู่ตลอดเวลา แต่รวยก็เป็นคนมีความจริงใจ ตรงต่อเวลาในเวลาทำงานแต่ติดจะเชยและซื่อไปบ้าง นอกจากนี้ผู้คอยแวะเวียนมาในบ้านของแป้งยังมี แมน (ตี๋ ดอกสะเดา) เพื่อนร่วมออฟฟิศอีกคนของเจน ผู้ถูกกระชากวัยหนุ่มไปด้วยเวลาอันรวดเร็ว เพียงเพราะไปผู้หญิงท้องก่อนแต่งจนมีลูกด้วยกัน แต่แล้วเขาก็กระชากมันกลับมาด้วยความรวดเร็วอีกเช่นกัน ด้วยการ “แยกทางกัน” พร้อมกับของแถมเป็นเด็กชายวัย 4 ขวบ (ก๊วยเจ๋ง) ที่เขาจำต้องสลับกับภรรยาเลี้ยงดู แมนเป็นคนเจ้าชู้ จึงเกลียดความจริงจัง พอๆ กับที่เป็นคนกะล่อน จึงเกลียดความเชยเป็นที่สุดเหล่านี้คือบุคคลที่จะมาทำให้ชีวิตของเจนวุ่นวายได้ไม่มากเท่ากับ เหมียว (สุวัจนี ไชยมุสิก) แฟนเก่าของเจน ที่สลัดรักจากสถาปนิกหนุ่มไปซบอกกัปตันเครื่องบิน ด้วยเหตุผลเพียงว่าเท่กว่าและเร้าใจกว่า แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่าที่เหมียวทำงานอยู่ที่เดียวกันกับเจน และคิดอยู่เสมอว่า เจนคือของตายสำหรับเขา จึงหมั่นแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเมื่อยามเหงา มีปัญหาก็มาขอความช่วยเหลือ ทะเลาะกับแฟนก็มาหา เมาก็มาหา แต่เจนเองก็ไม่สามารถตัดขาดจากเหมียวไปได้ เพราะอดีตรักที่น่าจดจำของกันและกัน และทุกครั้งที่เหมียวมีปัญหา จนทำให้แป้งไม่ชอบพฤติกรรมของเหมียวอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือการกระทำ ที่คอยมาก่อกวนเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ใครเลยจะรู้ ว่าเจนและแป้งนั้น เหมือนเกิดมาเพื่อเป็นคู่กัดและคู่รักกัน ด้วยความที่ฟอร์มจัดด้วยกันทั้งคู่ สถานภาพที่คนอื่นมองจึงดูแปลกๆ เพราะบางครั้งก็เหมือนเป็นเพียงผู้เช่าและผู้อาศัย แต่บางครั้งก็เหมือนเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ก็มีหลายครั้งที่ดูเหมือนเป็นแม่ลูกกัน หรือเป็นคู่รักกันก็มี ความรักและความผูกพันของหนุ่มสาวทั้งสอง จึงค่อยๆก่อตัวขึ้น ท่ามกลางความวุ่นวายและปัญหารอบข้าง บ้างสุข บ้างเศร้า บ้างเหงา บ้างตลก แต่ทุกชีวิตในบ้านหลังนี้ก็ยังคงดำเนินไป โดยทั้งคู่แอบชอบกันไป แต่ทั้งคู่ก็ไม่กล้าบอกต่อกันเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้สึกเหมือนกัน จากนั้นพอเดือนเพื่อนแป้งมากับสงสัยในตัวแป้งจนจับได้ว่าแป้งแอบชอบเจน เดือนพยายามให้แป้งบอกรักเสมอแต่แป้งไม่เอาตลอด ทางเหมียวก็ลาออกไป กับไม่มีตัวเกะกะ ซึ่งเป็นโอกาส แต่ปูนิ่ม(ลูกสาวเจ้านายของเจน)ก็เข้ามาแทนที่กับอ้างตัวว่าคบกับเจน เจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยอมอย่างน่าสมเพช โดยปูนิ่มกุมความลับเรื่องคืนนั้นไว้ พอผ่านไปนาน จนตอนที่มีหมอดูมาทักเจนกับแมนเรื่องเนื้อคู่ว่า ว่าแมนมีเนื้อคู่อยู่ 2 คน คนแรกจากไปแล้วซึ่งก็คือเมียเก่า คนที่ 2 ต้องดูแลดีๆไม่งั้นจะป่วยจากไปก่อนอันควร แล้วแมนก็คบกับคุณริน แต่แมนก็ก่อเรื่องเมาพาล ทำให้เจนกับแมนปประชุมไม่ทันทั้งคู่ให้เจนแกล้งแขนหักไปเป็นเดือน พอป๊าของเจนมารู้เรื่องปูนิ่มเป็นลูกของเจ้านายเจน เผลอหลอกด่าเจ้านายโดยไม่รู้ตัว พอรู้ว่าปูนิ่มเป็นลูกใคร จึงบอกให้เจนตัดสินใจพูดเหมือนไม่รับผิดชอบ จนหลังจากเจนผ่าเฝือกเสร็จไปไม่นาน เจนพูดแบบที่ป๊าแนะนำแล้วบอกเลิกจนปูนิ่มโวยวายเสียใจจนปูนิ่มจากไป เจนได้อ่านจดหมายจากปูนิ่มว่าความจริงคืนนั้นไม่มีอะไรกัน จากนั้นแมนกับรวยก็สงสัยในตัวเจนว่าชอบแป้งจนเป็นความจริง พอเจนจะไปสารภาพรัก เต้ยก็ข้ามาในชีวิตแป้ง เจนก็ได้แต่เสียใจกับทำอะไรไม่ได้ พอรู้ว่าแป้งแอบชอบตนแต่สายไปแล้วเพราะแป้งเลือกเต้ย จนแป้งรับหมั้นเต้ยเจนก็เสียใจกลับสุพรรณไป พอเต้ยประสบอุบัติเหตุเจนจึงรีบมาถ่ายเลือดให้เต้ยมีชีวิตอยู่ดูแลแป้ง แต่เต้ยก็เสียชีวิต จนทำให้พลังพิเศษในตัวแป้งลืมตาตื่นขึ้นมาคือพลังดวงกินผัว แต่งหรือหมั้นกับใครคนนั้นต้องตายเพราะอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถ ทางแป้งเศร้าเรื่องเต้ย เจนพยายามหาทางดูแลแป้งไม่ให้แป้งเศร้าจนต่อมาแม่ของเหมียวมาบอกว่าเหมียวท้องแล้วลำดวนก่อเรื่องไปบอกชาวบ้านว่าเจนเป็นพ่อเด็ก แต่ความจริงฮาร์ตเป็นพ่อเด็ก ทางแป้งที่ฟังผิดมาต่อว่าเจน จนเจนบอกไม่ได้ทำกับเผลอบอกชอบแป้งไปในตัว จนแป้งหลบหน้าไป ทางเจนพยายามทำดี แต่แป้งเอาแต่หลบหน้า จนพอแป้งรู้จากแมนกับรวยว่าเจนถ่ายเลือกช่วยเต้ย ก็แอบมีใจเพราะเรื่องแค่ถ่ายเลือดช่วยผัวเก่า ทางเจนก็เห็นว่าแป้งไม่รับรักจึงทำได้แต่กลับสุพรรณ จนแป้งพอรู้หน้าด้านมาตามง้อจนทั้งคู่แอบคบกันจนชาวบ้านแอบจับได้กับคนที่รู้เผลอไปบอกต่อรู้เรื่อยๆ พี่พัชจับได้เป็นคนแรกช่วยเก็บเงียบไว้ แมนกับเจ๊งรู้จากมือถือของแป้ง แมนเผลอบอกรวย จนรวยที่ดีใจไปบอกลำดวน ป๊าอ่ำเครียดจนเจนบอกไป แล้วเฮียหมูสงสัยจึงหลอกจีบแป้งจนเจนเผลอบอก ส่วนยามรู้ตั้งนานแล้วแต่เก็บเงียบไว้แล้วเผยตัวตอนอาตุ๊สงสัย พอเจนบอกอาตุ๊ อาตุ๊เข้าโรงพยาบาลอาตุ๊เอาความรู้สึกแป้งมาเล่นเพื่อลองใจเจน จนแป้งโกรธ พอสัญญาเช่าบ้านของเจนหมดไป ก็มีเรื่องขึ้นคือ น่าเยาว์ไม่ยอมต่อสัญญาเช่ากับหาทางไล่เจนไป แต่ล้มเหลวแล้วเจนก็สงสัยเรื่องจดหมายที่แป้งเขียนถึงใคร จากนั้นพอเจนไปกนข้าวกับแฟนเก่าเพื่อปรับความเข้าใจ พอแป้งแอบรู้ก็คิดมาก พอแป้งเห็นแฟนเก่าเจนที่ชื่อปุ้มออกจากห้องนอน ก็คิดมากเข้าใจผิดไม่ฟังเจน จนเจนพยายามง้อก็ไร้ผล จากนั้นปุ้มปรับความเข้าใจกับเจนได้ดี แล้วคิดไปหาแป้ง เพราะเพิ่งรู้ว่าคนที่เขียนจดหมายหาแป้งเมื่อสมัยก่อนย้ายมาเช่าบ้านคือตน คิดจะไปถามเพื่อยืนยัน ทางปิ๊กที่รู้เรื่องคบกับแป้งเพราะพวกแมนเผลอบอก ไปถามเจน ทางเจนถูกปุ้มโทรหา เจนไปหากับคุยกันเสร็จ แล้วเจนไปหาแป้ง แต่แป้งไม่ยอมคืนดี จนเจนถามเกี่ยวกับจดหมาย แป้งก็หน้าด้านยอมคืนดีเพราะเรื่องจดหมาย จนเหลือแต่น้าเยาว์เพียงคนเดียวที่ไม่รู้ ตลอด 2 ปีที่เจนคบกับแป้ง ป้าจันทร์เรียกชายเหวงมาดูตัวแป้ง แต่ในช่วงนั้นอาตุ๊ถูกเพื่อนทาบทามให้ไปทำงานที่อังกฤษ แต่กลัวว่าน้าเยาว์ไม่ยอมจึงให้เมียเพื่อนมาคุย น้าเยาว์ยอมตามหน้าที่ของเมีย แต่ก็ไปหาอาตุ๊ประชดให้เซ็นใบหย่า อาตุ๊จึงยอมเซ็นกับเตรียมตัวไปอังกฤษกับโทรบอกสาเหตุกับปิ๊ก น้าเยาว์ก็หน้าด้านเสียใจถูกปิ๊กบอกสาเหตุมาปลอบจนยอมให้อาตุ๊ไป พอป๊าอ่ำก่อเรื่องเผลอพูดเรื่องเจน จนชายเหวงสงสัยจึงอัดคลิปเรื่องเจนคบกับแป้งแล้วรู้ก็ใส่ความกับขู่เจน จนแป้งเข้าใจผิด ทางเจนจึงทำได้แต่ต้องสารภาพกับน้าเยาว์เท่านั้น จึงไปสารภาพกับน้าเยาว์ตอนที่ครอบครัวแป้งที่ไปเยี่ยมอาตุ๊ที่อังกฤษ จนชายเหวงแกล้งเจนไม่ได้ น้าเยาว์ก็โวยวายไปทั่วกับกีดกันสารพัด แป้งก็คิดทรพีแม่ตัวเอง แต่เจนก็ทำคะแนนได้หลายที แต่บริษัทที่จนทำงานก็ดันมาเจ๊ง เจนจึงต้องเปิดบริษัทที่บ้านเช่าหางานจากลูกค้าเก่าๆ ซึ่งได้ผลดี โดยรวยกับแมนไปเป็นคนคุมงานบริษัทอื่นชั่วคราวเพื่อมาเป็นทุนเปิดบริษัทร่วมกับเจน จนทางแมนที่โง่ไม่ยอมขอคุณรินแต่งงานจนคุณรินเสียไป จนแมนเสียใจ เจนไม่อยากพลาดเหมือนแมนจึงไปขอแป้งแต่งงาน แต่ป้าจันทร์กับชายเหวงก็ขัดขวาง จนน้าเยาว์เครียดเข้าโรงพยาบาล จนปิ๊กไปโทรเรียกพ่อพิเชษฐ์ที่เป็นพ่อเลี้ยงแป้งตามคำแนะนำของอาตุ๊ เพื่อมาไล่ป้าจันทร์กับชายเหวงไม่ให้มายุ่งอีก จนเจนได้แต่งงาน แต่ต้องเตรียมงานกับพิธี แต่ว่าวันแต่งแป้งเผลอใช้พลังดวงกินผัวหวังฆ่าเจนกับป๊าอ่ำ จนทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุเจ็บหนัก เจนความจำเสื่อมแป้งเรียกความจำกลับมาได้สำเร็จ เงินสินสอดมาจ่ายค่ารักษาเจนกับป๊าอ่ำพอดี(งานแต่งงดสินสอดไป) พอเจนหายดีเกิดเรื่องป๊าอ่ำอยากให้ไปอยู่สุพรรณ แต่เพราะแพ้แล้วพาลจึงเปลี่ยนให้จัดงานแต่งที่สุพรรณถึงยอมให้เจนอยู่กรุงเทพต่อไป จึงเลื่อนงานแต่งอีกที เจนกับแป้งได้แต่งงานกัน จนกลายเป็นชีวิตของทั้งคู่ในฐานะคู่สามีภรรยา แต่คุณเอ๋ยก็มาใส่ความเจน ทางแป้งถูกปั่นหัวนิดหน่อยก็เสียใจกับพาล จนเจนเลิกกับแป้ง พอคุณเอ๋ยมาขอโทษแป้ง กับกล่อมแป้ง ทางแป้งได้รับจดหมายจากลาจากเจนกับมอบแหวนแต่งงานให้ แป้งเสียใจที่ให้อภัยเจนแค่นี้ไม่ได้ แป้งก็หน้าด้านตามง้อเจน ทุกคนคิดว่าเจนจะฆ่าตัวตายจึงออกตามหาเจน ทางเจนพอรู้จึงกลับไปเพื่อคืนดีกัน แต่แป้งเผลอใช้พลังดวงกินผัว ทำให้เจนโดนรถชนจนโคม่า กับความจำเสื่อมอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นฝ่ายของแป้งที่ต้องห้ามทำตัวแบบน้าเยาว์คอยดูแลกับเรียกความทรงจำเจนกลับมา พอน้ายีที่เป็นน้าของแป้งมาขออยู่ เพราะหนีหนี้กับปัญหามาไทยจนบ้านเป็นเรื่องกับป่วนกันใหญ่ ทางเจนโดนไฟช็อตจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทีรความจำกลับมาถึงกลับลามปามคนไปทั่วพอจามไปทีความจำหายไปดังเดิมทุกครั้ง จนเมื่อพอลูกบุญธรรมของเจนมาจนเจนจำได้แค่เรื่องลูกบุญธรรม จนแป้งเครียดเข้าโรงพยาบาลเพราะพยายามหลายที แต่ไร้ผล จนหมอตรวจบอกว่าแป้งท้อง กับแป้งก็แพ้ท้องหนักมาก กับก่อเรื่องทำให้เจนเสียงานทั้งกำชับไม่ให้เจนไปทำงานไกล จนพลังดวงกินผัวในตัวแป้งรุนแรงมากขึ้นเจนไปทำงานไกลๆตามฝันก็เป็นจริง ทุกคนไปรวมตัวกันที่โรงพยาบาลกับเป็นห่วงเจนอย่างมาก ทางเจนที่โคม่าอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ความจำก็เริ่มจะกลับมา ทางแป้งพลังดวงกินผัวรุนแรงทำให้ชีพจรเจนต่ำใกล้ตายเหมือนตอนเต้ย แต่ผลออกมาเจนพ้นขีดอันตรายจนเจนเพ้อพูดช่อแป้งไปแล้วหลับไป จนแป้งได้ยิน ในตอนอวสานของบางรักซอย 9 ที่ชื่อว่า "นิยามรัก ชัดเจน + แป้ง" จะต่อเนื่องจากความเดิมตอนที่แล้ว เจนได้ประสบอุบัติเหตุจากการนั่งรถมอเตอร์ไซค์ตกลงคลอง (แป้งใช้พลังดวงกินผัวใส่เจน 3 ที 1 รถชนกับป๋าอ่ำตอนกำลังจะแต่งงาน 2 รถชนพร้อมกับรักตอนกลับมาคืนดีกัน) พอเจนฟื้นออกจากโรงพยาบาล เจนความจำเสื่อมหนักกว่าเก่า ถึงขั้นปัญญาอ่อน ไม่พูดกับใคร พอรวยเล่นมุขน้ำเน่าใส่ลำดวน รวยพูดประโยคประจำตัวของเจนคือ ถึงน้ำเจะน่าก็ยังเห็นเงาจันทร์ ทำให้เจนจำได้ทั้งหมด กับด่าชื่อพ่อแมน แต่แกล้งลืมแป้ง สร้างความประทับใจให้กับทุกๆคนมาก แมนไปอวยพรโจกับแจ๋วให้มีชีวิดที่ดี ทางปิ๊กก็ตัดสินใจบอกรักน้องพิมออกสื่อ กับแฉว่าตัวเองไม่ได้เป็นเกย์จนโดนเด้ง กับทุกคนรวมตัวที่ร้านเฮียหมูฉลองที่เจนกลับมาจำได้ ปัญหาสุดท้ายคือตั้งชื่อลูกเจนกับแป้ง ลำดวนเผลอทำแกงร้อนใส่รวยแล้วเอาผ้ามาเช็ดให้รวยจนเกิดคืนดีกัน แต่ละคนได้คิดชื่อมา เฮียหมูตั้งชื่อให้ว่า "กระท่อม" เพราะเป็นสถานที่ที่เจนกับแป้งเคยหลบฝนด้วยกัน รวยได้ตั้งชื่อให้ว่า "โลเล" เพราะตรงกับจิตใจของเจนตอนกำลังจะบอกรักแป้ง และลำดวนก็ตั้งชื่อให้ว่า "ลังเล" ด้วยเหตุผลเดียวกับรวย ส่วนแมนก็ตั้งชื่อลูกว่า "บ้านเช่า" เพราะเหตุผล คือ สถานที่แรกที่เจนกับแป้งพบกันครั้งแรก ชื่อเต็มคือ "บ้านเช่าหลังละพันห้า จ่ายช้าน้าเยาว์ปรับวันละร้อย งกชิบเป๋ง!" โดยชื่อที่แมนคิดกระจอกสุดๆ ห่วยกว่ากระท่อมอีก ซึ่งทุกคนได้เถียงกันเรื่องชื่อลูกของเจน ทางเจนและแป้งขอคิดชื่อลูกเอง ตัดมาที่ฉากหลังบ้าน แป้งกับเจนนั่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่แป้งท้องตอนเจนความจำเสื่อม เจนได้ใช้ประสบการณ์เป็นพ่อคนไประยะหนึ่ง เพราะเจนหลังแต่งงานใหม่กลัวเรื่องมีลูก กับถ้าเกิดแป้งท้องตอนเจนจำได้แต่แรก เผลอๆ เจนอาจเครียดเป็นบ้าฆ่าตัวตายที่ไม่พร้อม กับพอเจนจำได้ทำให้พลังดวงกินผัวในตัวแป้งหายไป ผ่านไปอีก 9 ปีต่อมา (หรือ 18 ปีนับจากที่ทั้งคู่ได้เจอกันเป็นครั้งแรก) ชัดแจ้ง ตรีทิพย์ศิริ ลูกชายของทั้ง 2 คน ได้พูดถึงเรื่องราวความรักของพ่อแม่ตนเอง รวยกับลำดวนมีลูกชาย 1 คน ชื่อสเตฟาน แมนส่งเสียก๋วยเจ๊งเรียนต่อถึงมหาวิทยาลัย ส่วนน้าเยาว์ที่รออาตุ๊ไม่ไหวก็หน้าด้านตามไปหาผัวอยู่อังกฤษ น้ายีก็ยังอยู่ในประเทศไทย ฉากจบของบางรักซอยเก้าเกิดขึ้นเมื่อแป้งกำลังจะบันทึกไดอารี่ และพบกับข้อความของเจนในท้ายไดอารี่ที่เจนแอบเขียนไว้หลัจากชัดแจ้งเกิดมา ซึ่งไดอารี่นั้นเป็นเรื่องราวที่บันทึกเรื่องราวของชัดเจนไว้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกับเจน จนกระทั่งเมื่อตนเองกำลังจะตั้งท้องลูกคนที่ 2 แป้งได้เข้ามาโอบกอบเจนและชัดแจ้ง ทั้ง 2 ได้ฝ่าฟันเรื่องราวมาตลอด 9 ปี จนกระทั่งได้แต่งงานมีลูกและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป
มิติรัก ผ่านเลนส์ รอยเท้าของปูลม (2559/2016) 26 ธันวาคม 2547-26 ธันวาคม 2559 เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิผ่านมาแล้ว 12 ปี เหตุการณ์ในครั้งนั้นพรากลูกชายคนเดียวของ ญา จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตต่อจากพ่อและสามีของเธอ วันเวลาทำให้จิตใจของเธอให้ดีขึ้น แต่ความคิดถึงยังคงมาตรฐานวันนี้เป็นวันครบการจากไปของ เป้ ลูกชายของเธอ ญาตื่นแต่เช้า เตรียมหุงหาอาหารสำหรับถวายพระ มีอาหารทะเลของโปรดเป้ น้ำพริกปลาทู ขนม และของหวาน ญานั่งขึ้นเรือจากเกาะหมากไปทำบุญที่วัดบนเกาะช้าง หลังเสร็จสิ้นการทำบุญ ญานั่งเรือกลับเกาะหมากตามปกติ ระหว่างที่เธอขึ้นจากเรือ ญาพลัดตกลงไปในน้ำ โชคดีที่ว่ายน้ำเป็น ญาโผล่ขึ้นมาจากน้ำแต่กลับไม่มีเรือ ไม่มีใครอยู่ที่ท่าเรือ มีเพียงเธอคนเดียว ปิ่นโต ตะกร้า รวมทั้งข้าวของจมหายไปในทะเลญาเดินกลับมาบ้าน เนื้อตัวเปียกปอน เมื่อถึงยังบ้าน ญาต้องตกใจสุดชีวิต เมื่อพบกับ เป้ ลูกชายสุดที่รักของตัวเอง กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่ เป้เห็นแม่กลับมา จึงรีบเก็บหนังสือเหล่านั้นไปซ่อน ญาร้องไห้วิ่งเข้าไปกอดเป้ และคิดว่านี่คงเป็นความฝัน เป้แปลกใจที่ไม่ถูกแม่ตัวเองต่อว่าแต่กลับมีอาการแปลก ๆ เข้ามากอดเป้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก ญาเริ่มไม่มั่นใจว่านี่คือความฝันหรือความจริง ความรู้สึกตอนนี้ทั้งดีใจ ตื่นเต้น และอยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้ตลอดไป ปฏิทินบอกวันที่ 1 กันยายน 2547 นั่นเท่ากับว่า เธอย้อนเวลากลับมา 12 ปี มันเป็นช่วงเวลาก่อนที่เป้จะเสียชีวิต หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม นั่นเท่ากับว่าเหลือเวลาอีก 3 เดือนที่เธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชาย เกิดเหตุการณ์มากมายในช่วงเวลานี้ ทั้งการเตรียมสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารของเป้ เขาเป็นหนุ่มน้อยวัยรุ่นอนาคตไกล ความฝันอยากสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเรือ คุณตาของเป้เป็นทหารเรือ เสียชีวิตในประวัติศาสตร์สมรภูมิรบ ยุทธนาวีเกาะช้าง เหตุการณ์แห่งความทรงจำของคนไทย รวมทั้งตัวพ่อของเป้ ทหารนาวิกโยธินประจำเกาะช้าง ต่อมาได้เสียชีวิต ด้วยหน้าที่อันยิ่งใหญ่ จากการเข้าช่วยราชการยังสามจังหวัดชายแดนใต้ เป้ภูมิใจในตัวของตาและพ่อ อยากเดินตามรอยของบรรพบุรุษ ซึ่งญาไม่สนับสนุนในความฝันนี้เลยเพราะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย กลัวต้องสูญเสียลูกชายไปอีกคน ไหนจะเรื่องความรักของเป้ ที่ญาคอยปิดกั้น บงการ กีดกัน ด้วยความรักที่เห็นแก่ตัวของญา สร้างปมปัญหานี้มาโดยตลอด ญาไม่ชอบผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของเป้ เพียงเพราะกลัวเป้จะรักคนอื่นมากกว่าตัวเธอซึ่งในขณะเดียวกัน เธอเองกลับกำลังจะแต่งงานใหม่ กับเจ้าของรีสอร์ตเกาะช้าง เป็นช่วงที่ญาและเป้ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นแตกหัก ญามีอะไรที่อยากแก้ไขมากมายในชีวิต วันนี้เธอได้รับโอกาสนั้น โอกาสที่จะแก้ไขอดีตให้ดีขึ้น ญาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง แก้ไขอดีตทุกอย่าง ทั้งเรื่องเรียนของเป้ ความรัก และการแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ญาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับลูก ไปเที่ยวในที่ที่ยังไม่เคยไป ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ใช้ชีวิตอยู่กับลูก ซึ่งเหตุการณ์ต่อจากนี้ที่เธอจำได้ คือ เป้มาขออนุญาตไปเที่ยวทะเลที่ภูเก็ตกับเพื่อน ๆ แต่เธอไม่ให้ลูกไป เพราะรู้ว่ามีผู้หญิงคนที่เป้รักไปด้วย ญาทะเลาะกับเป้ จนเป้แอบหนีออกไปกับเพื่อน ๆ และเสียชีวิตในเหตุการณ์สึนามิที่หาดป่าตองในเวลาต่อมา วันนี้ เหตุการณ์นั้นมันได้เกิดขึ้นอีกรอบ ญาต้องหาวิธีเปลี่ยนอนาคต เพื่อรักษาชีวิตของลูกไว้ให้ได้
เรื่องย่อ : บ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ (2558/2015) พจมาน พินิตนันทน์ (มิน-พีชญา วัฒนามนตรี) เดินทางมาอาศัยอยู่กับญาติที่บ้านทรายทองตามคำสั่งของบิดาที่เสียชีวิต เพื่อให้เธอได้เรียนต่อจนสำเร็จการศึกษา พจมานเด็กสาววัยรุ่น มีได้นิสัยหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว จากการอบรมปลูกฝังจากบิดาที่เธอรักและรักเธอยิ่ง แต่วันแรกที่มาถึงเธอไม่ได้รับการต้อนรับอย่างที่หวัง หม่อมพรรณราย (ดวงดาว จารุจินดา) ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของเธอไม่อยู่ต้อนรับ แม้จะได้รับจดหมายจากแม่ของเธอล่วงหน้า ความอ่อนล้าในการเดินทางทำให้พจมานเป็นลมหมดสติไป ต่อหน้า ม.ร.ว.ภาระดี สว่างวัฒน์ หรือ คุณหญิงใหญ่ (นุสบา ปุณณกันต์) ที่มารับหน้าเธอในวันนั้น ภายนอกหญิงใหญ่ดูเป็นคนเย็นชา อารมณ์ร้อน แต่ลึก ๆ มีเมตตา เมื่อพิจารณาจากจดหมายยืนยันของบิดาพจมานโดยที่ยังไม่เปิดอ่านเธอก็ตัดสินใจให้พจมานพักที่บ้านทรายทองจนกว่าจะพบหม่อมพรรณราย
หม่อมพรรณรายกลับมาจากบ้านตากอากาศพร้อมกับ ม.ร.ว.ภาวิณีจรัสเรือง หรือ คุณหญิงเล็ก (แนท-ณัฐชา นวลแจ่ม) เมื่อทราบว่าหญิงใหญ่รับพจมานเข้ามาในบ้านก็ต่อว่าต่าง ๆ นานา พยายามผูกเรื่องบิดามารดาพจมานในทางลบ แต่เล่าไปเล่ามา หญิงใหญ่ก็แน่ใจว่าพจมานเกี่ยวดองเป็นญาติกับสกุล สว่างวงศ์ จริงกล่าวคือ พจมานเป็นบุตรสาวของ พนา พินิตนันทน์ (น็อต-นุติ เขมะโยธิน) บุตรชายของ คุณปู่สุรพล น้องชายแท้ ๆ ของเจ้าคุณราชาพิพิธ (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) ผู้เป็นบิดาของหม่อมพรรณราย มารดาของพจมานเคยติดตามบิดาของพจมานมาอาศัยอยู่ที่บ้านทรายทองและช่วยบริบาลเฝ้าไข้คุณยายของคุณหญิงใหญ่จนวาระสุดท้าย หญิงใหญ่ซาบซึ้งในความดีจึงรับอาสาดูแลพจมาน และเป็นผู้ปกครองให้ขณะอยู่ในบ้านทรายทอง
หญิงใหญ่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนของพจมานอยู่บ้าง เธอไม่ได้มีรายได้อะไรนอกจากเงินกองกลางจากมรดกของตระกูล เพราะเธอไม่ได้สำเร็จการศึกษา จึงไม่มีอาชีพ เหตุเป็นเพราะเรื่องความรักสมัยรุ่นสาวทำให้ไม่เป็นที่พอใจของหม่อมพรรณราย หม่อมพรรณรายจึงห้ามสั่งห้ามเธอออกจากบ้าน เธอจึงไม่ได้เรียนไปโดยปริยาย นับแต่นั้นมาจึงกลายเป็นคนเย็นชา หม่นหมอง อารมณ์แปรปรวนและคุ้มดีคุ้มร้ายในสายตาคนอื่น แต่เมื่อถามพจมานจึงทราบว่า บิดาของพจมานได้เตรียมค่าเล่าเรียนไว้ให้ส่วนหนึ่งแล้ว ขอเพียงที่พักและอาหารเท่านั้นหญิงใหญ่จึงดูแลพจมานได้สนิทใจขึ้น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความคลางแคลงใจในตัวหม่อมพรรณรายว่าเหตุใด จึงกีดกันพจมานไปจากบ้านทรายทอง
ฝ่ายหญิงเล็ก ผู้มีอารมณ์ร้อน หลงใหลความหรูหราฟู่ฟ่า ก็เชื่อคำบอกเล่าของมารดาทั้งหมด ก็รู้สึกว่าพจมานมารบกวนและสร้างความรำคาญให้เธอและผู้คนในบ้าน จึงเกลียดชังพจมานและหาทางกำจัดออกจากบ้านทรายทอง จึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้ไม้เมากันเสมอ พจมานอยู่ในบ้านทรายทองท่ามกลางความกดดันและโดนกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา มีเพียง ม.ร.ว.ภาณุทัตสวัสดี หรือ คุณชายน้อย (พีพี-พีรพล เพิ่มเพ็ชร) ลูกชายคนเล็กวัย 14 ปี ของหม่อมพรรณราย ที่มีร่างการพิการ ขาเป๋ ปากเบี้ยว ตัวเล็ก ที่เกิดมาไม่นานบิดาเสียชีวิต หม่อมพรรณราย จึงชิงชังชายน้อยถึงชั้นโยนให้ แม่นมทิพย์ (วาสนา สิทธิเวช) เลี้ยงดู พจมานเอ็นดูสงสารคุณชายน้อย เพราะคิดถึงพจนา (ปลั๊ก-สวีเดน ทะสานนท์) น้องชาย และพจนีย์ (กุ๊กกิ๊ก-กชกร ส่งแสงเติม) น้องสาวคนเล็กของเธอนมทิพย์เองก็มีความเมตตา ใจดีต่อพจมาน นอกจากชายน้อยแล้วพจมานจึงสนิทสนมกับกับนมทิพย์เป็นอย่างดี
พจมานอยู่บ้านทรายทองอย่างผู้อาศัย ทำงานไม่ต่างกับบ่าวไพร่ แต่ก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือ ถึงแม้ว่าการเรียนของเธอจะแย่ลง ต้องแบ่งเวลาช่วยงานบ้านจนแทบไม่มีเวลาทบทวนตำรา พจมานจึงขอแยกห้องจากหญิงใหญ่ไปอยู่เรือนคนใช้เพื่อจะได้ทบทวนตำรายามดึกได้ ขณะเดียวกัน คุณแพรวพรรณ (ปูดำ-สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์) น้องสาวของหม่อมพรรณรายกลับมาจากต่างประเทศและย้ายเข้ามาอาศัยอยู่บ้านทรายทองพร้อมกับ แสงโสม (นิว-ปทิตตา อัธยาตมวิทยา) บุตรสาว สืบศรี (ภูมิ-วรรณภูมิ ทรงสุภาพ) บุตรชายและประสพ (สมิท ธนโชติ) สามี
พจมานทราบว่าเจ้าคุณราชาพิพิธ พี่ชายของคุณปู่สุรพล อยู่ที่ตึกขวางของบ้านทรายทอง จึงเข้าไปกราบเรียนว่าเธอได้เข้ามาขออาศัยบารมีท่านในบ้านทรายทอง เจ้าคุณราชาพิพิธกลับหวาดกลัวเมื่อได้ยินชื่อสุรพล เพ้อออกมาแปลก ๆ และอาการป่วยทรุดหนักลง พจมานจึงถูกห้ามเข้าพบท่านอีก วันหนึ่งพจมานลัดเลาะไปที่ตึกขวางด้วยความสงสัย เธอพบหญิงชราผมขาวถือเครื่องเช่นไหว้ ไปตั้งหน้าโลงศพ เธอตกใจคิดว่าถูกผีหลอกแต่ก็พาสติตัวเองกลับมาฝั่งตึกที่อาศัยอยู่ได้ และชนเข้าอย่างจังกับสุภาพบุรุษท่านหนึ่งเข้า เธอกรีดร้องและหมดสติทันที มรว.ภารดาพัฒน์ระพี หรือ คุณชายกลาง (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เพิ่งกลับจากต่างประเทศ ไม่ทราบว่าพจมานเป็นใครแต่เห็นหมดสติจึงพาไปส่งห้องชายน้อยเพื่อให้นมทิพย์ดูแล และได้รับข้อมูลของพจมานจากคนรอบตัวชายกลางกลับมาเปลี่ยนทุกอย่างในบ้านทรายทองให้ดีขึ้น ตั้งแต่คนใกล้ชิดอย่างชายน้อยที่ได้รับการส่งตัวไปรักษาตลอดจนบ่าวไพร่และพจมานด้วย เธอได้รับอนุญาตให้มีห้องพักเป็นของตัวเอง เทียบเท่ากับญาติพี่น้อง และได้อยู่ในความปกครองของชายกลาง เธอและเขาจึงเข้ามามีบทบาทของกันและกันตามลำดับ
เหตุการณ์พลิกผันอีกครั้งเมื่อชายกลางต้องเดินทางไปดูงานต่างประเทศ หญิงเล็กเริ่มวางแผนทำลายพจมานเสียคนโดยการพาเข้าไปรู้จักสมาคมกับบุคคลต่าง ๆ ซึ่งเป็นคนไม่ดี โดยทำทีขอตอบแทนพระคุณชายกลางที่มอบเงินจัดงานหมั้นระหว่างเธอกับ ท่านชายอเนกนพรัตน์ หรือ ท่านต้อม (เขต ฐานทัพ) เจ้าพี่ของ ท่านหญิงปิยะฉัตรโสภา หรือ ท่านติ๋ว (เกี่ยวก้อย-ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์) สตรีสูงศักดิ์ซึ่งสนิทสนมกับหญิงเล็กเพราะหมายปองชายกลาง เธออาสาเป็นผู้ปกครองให้พจมาน ชายกลางตกลง ให้หญิงเล็กดูแลพจมาน แผนการร้าย ๆ จึงเริ่มขึ้น หญิงเล็กอนุญาตให้นกุล (อั๋น-ชยพล บุนนาค) เพื่อนชายคนสนิทของพจมานมาพบพจมานที่บ้านทรายทองได้ หวังให้เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้น แต่ไม่เป็นไปตามคาดไว้ หญิงเล็กจึงพาพจมานออกงานสมาคมต่าง ๆ
ซึ่งมีท่านต้อมไปด้วยเสมอ คนที่หญิงเล็กชักนำให้พจมานชิดเชื้อด้วยมีแต่คนที่ประวัติไม่ดี ท่านต้อมเห็นใจพจมานจึงคอยปกป้องพจมานอยู่บ่อย ๆ หญิงเล็กยังไม่วางมือง่าย ๆ บังคับให้พจมานไปบางปูกับครูสอนดนตรี ซึ่งเบื้องหลัง คือผู้ผลิตหนังลามก มักล่อลวงเด็กสาวไปถ่ายหนังอนาจาร ท่านต้อมไม่พอมีปากเสียงกับหญิงเล็ก พจมานมาได้ยินเลยรู้ว่าหญิงเล็กไม่เคยหวังดีกับเธอเลย แต่ก็รั้น บางอย่างทำให้เธอตัดสินใจไป ท่านต้อมตามไปช่วยเหลือ จึงรู้ใจตัวเองว่าจริงแล้วรักพจมานไม่ใช่หญิงเล็ก พจมานใช้ไหวพริบโน้มน้าวใจครูสอนดนตรีให้ปล่อยเธอ
ขากลับรถของพจมานพลิกคว่ำ พจมานได้รับบาดเจ็บน้อย นกุลและท่านต้อม จึงรีบไปรับพจมานกลับบ้านทรายทองหลังจากมีปากเสียงกับท่านต้อม หญิงเล็กก็มีปากเสียงกับหญิงใหญ่อีก เรื่องราวบานปลายเกี่ยวกับข่าวเรื่องเจ้าของสิทธิ์ครอบครองบ้านทรายทอง ว่าไม่ใช่ชายกลางอย่างที่เข้าใจ หญิงเล็กไปอาระวาดกับเจ้าคุณราชพิพิธที่ตึกขวาง จนอาการทรุดหนัก เมื่อพจมานกลับถึงบ้านทรายทองก็ถูกเรียกเข้าไปดูใจท่านเจ้าคุณ ท่านเจ้าคุณสารภาพว่าบ้านทรายทองเป็นของสุรพลน้องชายท่าน ซึ่งทายาทที่แท้จริงก็คือ พจมาน นั่นเอง ท่ามกลางความตกตะลึง พจมานก็ปฏิเสธจะรับสิทธิ์นั้น รุ่งเช้าเจ้าคุณราชพิพิธก็สิ้นใจ
หลังจากท่านเจ้าคุณสิ้นบุญไม่นาน พจมานก็ได้รับโทรเลขจากพจนา ว่าที่บ้านมีเรื่อง พจมานจึงกลับไปบ้านและพบว่า พจนีย์หนีตามผู้ชายไป ทรัพย์สินที่บิดาให้ไว้ก็ใกล้หมด มารดาจึงเอาบ้านและที่ดินไปจำนองพจมานรู้สึกท้อแท้ แต่ที่ร้ายกว่าคือ มารดาของเธอพยายามเกลี้ยกล่อมให้แต่งงานกับบุตรชายเศรษฐีท้องถิ่นเพื่อกู้หน้าและพยุงฐานะครอบครัว ขณะที่พจมานกลับบ้าน ชายกลางก็กลับมาถึงบ้านทรายทอง และทราบความจริง จึงตัดสินใจจะย้ายออกจากบ้านทรายทอง เพื่อคืนกรรมสิทธิ์ให้กับพจมานและครอบครัว ท่านต้อมทราบข่าวว่าชายกลางกลับมา ก็ขอนัดเพื่อถอนหมั้นหญิงเล็ก และขอหมั้นพจมานโดยให้ชายกลางเป็นถ้าแก่ พจมานกำลังถูกมารดากดดัน มารดาของฝ่ายชายมาทาบทาบถึงบ้าน รถของชายกลางก็เข้ามาที่หน้าบ้านพจมาน พจมานปลาบปลื้มมาก แต่ข่าวที่ได้รับคือ การคืนบ้านให้เธอและจะย้ายออกไป กับการทาบทามเธอให้กับท่านต้อมพจมานร้องไห้ ชายกลางจึงกลับไปพร้อมกำชับให้เธอกลับบ้านทรายทองในวันถัดไป
พจมานกลับมาที่บ้านทรายทอง ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด หญิงใหญ่ไปรับที่สถานีรถไฟ บ่าวไพร่ยิ้มแย้ม แจ่มใส จัดห้องไว้รับรอง และทานอาหารร่วมโต๊ะกับหญิงใหญ่และชายกลาง พจมานยืนยันจะไม่รับสิทธิ์การเป็นเจ้าของบ้านทรายทอง แต่ชายกลางก็ยืนยันจะย้ายออกไปโดยขอให้สร้างบ้านใหม่เสร็จก่อน ชายน้อยที่ไปรักษากับนายแพทย์ฝรั่ง ผลการรักษาไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นหายขาด แต่ก็เดินเหินสะดวกขึ้น จึงรับตัวกลับมา หญิงใหญ่ไปหาพจมานที่ห้อง เอาสร้อยที่ชายกลางซื้อให้พจมานไปสวมให้และบอกเป็นนัย ๆ ว่าชายกลางรู้สึกพิเศษกับพจมาน จังหวะนั้นบ่าวขึ้นมาตาม แจ้งว่าท่านต้อมมาขอพบพจมาน หญิงใหญ่พูดกับพจมานอย่างหวังดีว่าถึงเวลาแล้วที่พจมานต้องเลือก คนที่เธอรัก
พจมานปรากฏตัวต่อหน้าท่านต้อม มีชายกลางแอบมองอยู่โดยไม่รู้ตัว แต่แล้วนกุลก็ปรากฏตัวขึ้นพจมานดีใจเจอเพื่อนรักลืมตัวตรงไปหานกุล ท่านต้อมถึงกับงงงัน ยอมรับการปฏิเสธ และชายกลางก็ประหลาดใจ และผิดหวังมาก เดินหายไปในห้องสมุด พจมานรู้สึกรีบวิ่งตามชายกลางไป ทำให้ทุกคนรู้คำตอบว่าคนที่เธอเลือกคือชายกลางนั่นเอง แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของเรื่อง แต่หากเป็นปมบทแห่งการเริ่มต้มชิตรักระห่าง ชายกลางและพจมาน สว่างวงศ์ แห่ง...บ้านทรายทอง
หลังจากเสร็จพิธีศพของท่านเจ้าคุณราชาพิพิธ ข่าวเรื่องการสมรสระหว่างพจมานและชายกลางยังไม่แพร่ออกไป มีเพียงเสาวรัจ (ตูน-พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) เพื่อนสนิทที่พจมานแจ้งข่าวเป็นคนแรก และเสาวรัจก็ส่งข่าวต่อไปยังเพื่อน ๆ ของพจมาน ท่านหญิงอ้อม (พิมพ์-พิมประภา ตั้งประภาพร) จึงประสงค์จะเลี้ยงก่อนวันฉลองมงคลสมรสให้พจมาน โดยจัดขึ้นที่วังของท่าน ซึ่งภาณี สาวใช้คนใหม่ของวังหญิงอ้อม หรืออีกชื่อคือพจนีย์ น้องสาวพจมานแอบมองพจมานด้วยความอิจฉาริษยาที่พจมานจะได้ครอบครองบ้านทรายทอง
พิธีสมรสระหว่างชายกลางและพจมานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยมีหญิงใหญ่เป็นโต้โผจัดงานให้ ชายกลางและพจมานรู้สึกซาบซึ้งใจ หม่อมพรรณรายมาร่วมงานอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ด้วยเกรงใจแขกผู้ใหญ่จึงมา หญิงเล็กลอบไปสงขลาเลี่ยงการมาร่วมงานครั้งนี้ สิริอร (ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก) ซึ่งอกหักจากชายกลางก็แต่งงานกับ เกริกวิทย์ (นวพล ภูวดล) และไปร่วมงานแต่งพร้อมกับ ท่านผู้หญิงไฉไล (วิไลลักษณ์ ไวงาน) และ หลวงนฤสารวาที (ปริยะ วิมลโนช) พจนีย์ก็ปรากฏตัวขึ้นกลางงานของพจมาน พจมานตกใจระคนดีใจที่จู่ ๆ น้องก็มาปรากฏตัว
แต่พจนีย์ไม่ได้มาร่วมแสดงความยินดีแถมยังต่อว่าพจมานว่าเห็นแก่ตัวไม่เคยแบ่งอะไรให้น้องและยังประกาศว่าตนเองก็มีสิทธิ์อยู่ในบ้านทรายทองเหมือนกัน หลังจากพจนีย์มาอยู่บ้านทรายทองก็ผยองเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน ยุ่มย่ามกับของส่วนตัวพจมาน รังเกียจชายน้อย เป็นที่ไม่พอใจของนมทิพย์ คุณหญิงใหญ่เองก็ระอา พจมานจึงสั่งให้พจนีย์มีความเกรงใจต่อคุณหญิงใหญ่และชายกลาง แต่พจนีย์ทำหูทวนลม ชายกลางพาพจมานไปฮันนีมูนที่ศรีราชา ในเวลา 5 วันนี้ พจมานได้พบกับความสงบลืมเรื่องวุ่นวายในบ้านทรายทอง สองคนมีความสุขกับการฮันนีมูนครั้งนี้
ระหว่างนั้นที่บ้านทรายทองก็ได้รับ สายใจ แม่บ้านคนใหม่ซึ่งเป็นคนของหม่อมพรรณราย หลังจากที่คุณหญิงใหญ่ตัดสินใจไปอยู่เพชรบุรี สายใจคอยรายงานเรื่องของคนที่ตึกนอกให้หม่อมพรรณรายรู้ หม่อมพรรณรายมักว่าพจมานเป็นไพร่ ให้สายใจดูแลบ้านให้ดี ทำให้สายใจกระด้างกระเดื่องไม่เคารพพจมานเท่าที่ควร
หลับกลับจากฮันนีมูน พจนีย์มาบอกว่า หม่อมพรรณรายบอกว่าชายกลางแต่งงานกับพจมานเพราะหวังในบ้านทรายทอง ไม่เคยรักพจมานเลย ทำให้พจมานคิดมากเพราะชายกลางไม่เคยบอกรักเธอสักครั้งเธอจึงปั่นปึ่งใส่ชายกลาง เมื่อชายกลางเห็นพจมานเปลี่ยนไปจึงถามตรง ๆ ชายกลางรู้สึกน้อยใจพจมาน ทั้งสองคนเลยมีปากเสียงกัน พจมานไปพูดกับหม่อมพรรณรายให้รู้เรื่อง หม่อมพรรณรายยอมรัว่าพูดแบบนั้นจริง พจมานโกรธไม่ให้คนของหม่อมพรรณรายเข้าไปยุ่งที่ตึกนอกอีก หม่อมพรรณรายเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้หญิงใหญ่ฟัง หญิงใหญ่เฉย และได้นำมาพูดกับพจมานให้คิดได้เรื่องชายกลาง พจมานตั้งใจจะคืนดีกับชายกลางแต่พบชายกลางมากับสิริอรหลังจากดูหนังด้วยกัน เนื้อหาหนังเกี่ยวกับการแต่งงานเพราะเงิน พจมานสะอึกรีบหลบไป ชายกลางตามไปพูดกับพจมานที่ยังงอนอยู่ พจมานอยากได้ยินคำว่ารักจากปากชายกลาง ชายกลางถือว่าการกระทำสำคัญว่าคำพูด แต่ลึก ๆ แล้วพจมานก็รู้ดีว่าชายกลังนั้นรักเธอสุดหัวใจ
ด้านหญิงเล็กพบรักกับนายเติม ธีรวณิช (บิ๊ก-ศรุต วิจิตรานนท์) พ่อค้าผู้มั่งคั่ง และได้ตัดสินใจแต่งงานกับนายเติม หม่อมพรรณรายเห็นด้วยเพราะเห็นว่านายเติมมีฐานะมั่งคั่ง แต่ชายกลางกลบเป็นห่วงหญิงเล็กที่ตัดสินใจแต่งงานปุบปับ พจมานช่วยพูดให้ท่านต้อมพิจารณาหญิงเล็กอีกครั้ง แต่ท่านต้อมไม่ได้รักหญิงเล็กแล้ว แถมยังชื่นชมว่าชายกลางได้ภรรยาที่ดี ขนาดหญิงเล็กเกลียดพจมาน พจมานยังอุตส่าห์ห่วงหญิงเล็ก กำหนดการงานแต่งของหญิงเล็กใกล้เข้ามาทุกที หญิงเล็กอยากได้สร้อยระจำตระกูลของพจมานมาใส่ในวันแต่งงาน หม่อมพรรณรายอ้อนวอนให้ชายกลางไปขอมาให้ ชายกลางบอกให้หญิงเล็กไปขอกับพจมานเอง
หญิงเล็กไม่ยอมไปขอให้เสียศักดิ์ศรี ด้านนายเติมบอกจะหามาให้เอง พอถึงวันงาน สร้อยที่นายเติมหามาให้ดูเก่าคร่ำครึ ไม่เหมาะกับชุดหญิงเล็ก จนใกล้เวลานมทิพย์เอากล่องสร้อยประจำตระกูลมาให้ หญิงเล็กดีใจมาก แต่ไม่ได้รู้สึกดีกับพจมาน งานดำเนินไปอย่างเรียบร้อย โดย หญิงเล็กย้ายไปอยู่บ้านนายเติม นายเติมมีภรรยาอยู่แล้วถึง 2 คน คือ วิภา (มนตะกานต์ ทองขาว) และสมฤทัย (ภัทกัญญา โควสุวรรณ) ต่อหน้านายเติมก็ปฏิบัติกับหญิงเล็กเหมือนไม่มีอะไร แต่ลับหลังก็กระแนะกระแหนหญิงเล็กตลอดเวลา หญิงเล็กได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน
ด้านพจนีย์ พยายามเข้าหาชายกลาง ด้วยความอิจฉาที่พจมานได้แต่งงานกับหนุ่มหล่อสูงศักดิ์ ชายกลางมองพจนีย์ก็รู้ว่าเป็นคนประเภทใดจึงพยายามหลีกเลี่ยง พจนีย์ไปเดินตลาดและเป่าประกาศว่าตนเองได้เป็นเจ้าของบ้านทรายทองและเป็นภรรยาชายกลาง ข่าวรู้ถึงหู นิเวศน์ คงเยี่ยมจิต (สุรศักดิ์ โชตีทินวัฒน์) สามีเก่าที่เป็นครูสอนดนตรี นิเวศน์หวังจะไถเงินจากพจนีย์ จึงมาหาที่บ้านทรายทอง พจมานมองแวบเดียวรู้ว่านิเวศน์มีจุดประสงค์ไม่ดี จึงให้เงินไปก้อนหนึ่งและให้นิเวศน์สัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับพจนีย์อีก นิเวศได้เงินและรับปากสายใจ แอบเห็นเอาไปซุบซิบนินทาว่าพจมานมีกุ๊ยมาหาแอบให้เงินกันและว่ากันไปในทางชู้สาว พจนีย์เอาเรื่องที่พจมานคบชู้มาบอกชายกลาง พจมานบังเอิญเห็นตอนจะมาบอกข่าวว่าท่านต้อมกับหญิงอ้อมจะหมั้นหมายกัน พจมานเรียกพจนีย์ไปคุย ทะเลาะกันใหญ่โต พจมานเสียใจที่พจนีย์กล่าวหาว่าตัวเองมีชู้เลยเผลอตบหน้าพจนีย์ พจนีย์จึงย้ายไปอยู่ข้างเดียวกับหม่อมพรรณราย
ต่อมาชายน้อยเกิดป่วยหนักและจากไปโดยทุกคนไม่คาดคิด สร้างความเสียใจมากยังบ้านทรายทองหม่อมพรรณรายร่ำให้ปานจะขาดใจ เพิ่งจะมาแสดงให้รู้ว่ารักและอาลัยชายน้อยเมื่อสายไป โดยชายน้อยไม่ได้รับรู้ถึงความรักและเอ็นดูจากแม่ผู้ให้กำเนิด วาระสุดท้ายยังเพ้อถึงแต่นมทิพย์ งานศพชายน้อยจัดขึ้นอย่างเศร้าสร้อยพจมานถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ พจมานเกิดความเหนื่อยหน่ายจึงขอชายกลางกลับไปอยู่บ้านแม่
หญิงเล็กเห็นพจนีย์มาอยู่ข้างเดียวกันจึงใช้ให้พจนีย์ไปค้นห้องพจมานเผื่อเจอหลักฐานคบชู้ แต่ที่เจอคือ จดหมายของนิเวศน์ที่เขียนมาขอบคุณสำหรับเงินรักษาตัว และสัญญาที่นิเวศน์ทำไว้กับพจมานว่าจะไม่มายุ่งกับพจนีย์อีก พจนีย์รู้สึกผิดรีบเอาความจริงนี้ไปบอกกับชายกลางและทุกคนในตึกขวางเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจพจมาน ชายกลางรู้ว่าพจมานท้องก็ดีใจมากรีบมาหาพจมานที่บ้าน และบอกพจมานว่าเขารักเธอมากแค่ไหน เป็นสิ่งที่พจมานอยากได้ยินมาตลอด ชายกลางและพจมานจะต้องกลับมาเผชิญความจริงที่บ้านทรายทองอีกครั้ง ครั้งนี้ทั้งเธอและเขาจะต้องเจอกับอุปสรรคอะไรอีกบ้าง และทั้งคู่จะผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปได้ด้วยดีหรือไม่ ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครบ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 สี ละครบ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2558
เจ้าจอม (2559/2016) จอม เจิดจ้า ชื่อนี้ใครๆ ในย่านคลองรังสิตรู้จักกันดีในความขยัน อดทน และกตัญญู ซึ่งมีหน้าตาผิวพรรณสะอาดดูดี ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นลูกของลำเจียก ลำเจียกทารุณกรรมตบตีจอมตลอด ดังไม่ใช่ลูกของตนและแท้ที่จริงจอมก็ไม่ใช่ลูกลำเจียก จอมเป็นลูกของพุทธชาติที่เกิดกับดำรง แต่ก็จะมีแต่ยายจันหญิงชราตาบอดแม่ของลำเจียกที่รักและเอ็นดูจอมมากกว่าลูกแท้ๆ ของตนเอง จอมเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณมาก เธอพยายามทำงานทุกอย่างเพื่อนำเงินมาให้กับลำเจียกใช้สอย แต่ลำเจียกก็นำไปเล่นการพนันจนหมด ซึ่งจอมก็หาได้รับความรักจากลำเจียกเลย กลับตอบแทนเธอด้วยการตบตีจอมจนเจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้ง มีเพียงยายจันเท่านั้นที่มอบความรัก ความห่วงใย และความอบอุ่นให้จอม แต่จอมก็ยังรักลำเจียกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของตนเสมอมา แต่จอมหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วลำเจียกไม่ใช่แม่ของตน มันมีความลับบางอย่างที่จอมไม่รู้เลย เจ้าเปีย เพื่อนรักในวัยเด็กของจอม ที่คอยช่วยเหลือเธอมาตลอด แม้กระทั่งตอนที่เจ็บป่วยจากการถูกนางลำเจียกตบตีก็หายามาให้ เพราะความจนและลำเจียกก็ไม่เคยดูดำดูดีในตอนที่จอมป่วยเลย จอมไปรับฝักบัวมาขายตามสี่แยกถนนแถวรังสิต เพื่อหารายได้มาดูแลยายจัน ทำให้เธอได้พบกับ แรก ทัดเทพ ธรรมสถิต เมื่อเขาเห็นจอมก็ตกใจเพราะจอมหน้าเหมือน “รอง” น้องชายของเขาที่จมน้ำตายไปต่อหน้าซึ่งไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย เพราะความเป็นคนใจร้ายใจดำ ความริษยาของทับทิมแม่ของตนเอง ฆ่ารองตายแบบเลือดเย็นเพราะต้องการให้ตนเป็นทายาทผู้รับสมบัติจากเจ้าคุณปู่เพียงผู้เดียว แรกและจอม ถูกชะตากันมาก แรกบอกกับจอมว่าอาทิตย์หน้าให้มารอเขาที่สี่แยกนี้เพราะแรกจะพาจอมไปธรรมสถิตเพื่อหาเจ้าคุณปู่ ซึ่งเจ้าคุณปู่ไม่รู้ว่ารองหลานชายคนเล็กของเขานั้นตายจากไปแล้ว เพราะแรกโกหกว่ารองไปอยู่ต่างประเทศกับพุทธชาติ แต่แรกก็ไม่ได้เจอจอมอีกเพราะโดนนางลำเจียกนำไปขายให้กับคุณนายบุญชุบ แม่เล้าชั้นดี ตลอดเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา คุณนายบุญชุบและแม่วอนคอยสั่งสอนกิริยามารยาทให้กับจอมจนเธอกลายเป็นเด็กที่น่ารักอ่อนหวาน แต่ในความอ่อนหวานและสง่างามก็มีความเข้มแข็งฉลาดหลักแหลมในตัวตน แต่แม่วอนผู้เป็นคนดูแลเด็กในบ้านของคุณนายบุญชุบก็รักและคอยช่วยเหลือจอมไม่ให้โดนขายไปกับท่านซึ่งพอเห็นจอมก็หลงรักและอยากได้ไปเป็นอนุของท่าน จอมหนีออกจากบ้านคุณนายบุญชุบ แต่ระหว่างทางเจอคนร้ายเข้ามารุมทำร้าย แต่เธอก็ต่อสู้สุดชีวิตจนหนีออกมาได้แต่ก็มาถูกรถของแรกชน แรกพาจอมมาดูแลรักษาบาดแผลที่โดนรถชนที่บ้าน ทับทิมไม่พอใจเป็นอย่างมากและไม่ชอบหน้าจอมเพราะจอมมีหน้าตาคล้ายรอง ต่อมาแรกให้จอมเข้ามาอยู่ในบ้านฐานะน้องชายของเขาเอง ก็คือ รอง แรกพาจอมไปพบคุณปู่เทพและหลอกคุณปู่ว่าจอมคือรองกลับมาจากอังกฤษแล้ว ทำให้ปู่เทพดีใจและรักจอมมาก ซึ่งปู่เทพเองก็รู้ว่าจอมเป็นเด็กผู้หญิงแต่ก็ไม่ได้พูดออกไปกลับคอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้กับจอมเพื่อให้เธอต่อสู้กับครอบครัวทับทิมและหลานทั้ง 3 คนของเธอ ต่อมาคุณปู่เทพเสียชีวิตลง ทับทิมเรียกจอมไปพบและให้อ่านจดหมายของแรกซึ่งทับทิมปลอมมันขึ้นมาว่า เมื่อคุณปู่ตายแล้วจอมก็หมดหน้าที่ดังนั้นให้ทับทิมจัดการให้จอมออกจากบ้านไปเพราะหมดหน้าที่ในการดูแลเจ้าคุณปู่แล้ว จอมหลงกลทับทิมและเข้าใจผิดแรก เก็บเอาความเสียใจน้อยใจแรกจนเกิดเป็นแรงทิฐิ จอมออกไปหาที่อยู่ใหม่และได้เจอกับเปียเพื่อนเก่าสมัยเด็กซึ่งเปียได้มาขับรถแท็กซี่ในกรุงเทพฯและได้มาเช่ารถที่อู่ของเติมจึงทำให้การตามหาลูกสาวของดำรงง่ายขึ้น ก่อนเจ้าคุณปู่เทพจะเสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมยกธรรมสถิตให้กับแรกไว้ โดยมีข้อแม้ว่าแรกต้องแต่งงานกับจอม เพราะถ้าไม่แต่งสมบัติทั้งหมดจะตกเป็นของจอมแต่เพียงผู้เดียว เมื่อทับทิมรู้เรื่องพินัยกรรมก็เป็นลมล้มพับไป แรกสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเขาอยากปรึกษาใครสักคนโดยเฉพาะกับดลเพื่อนรักของเขาเองแต่ดลนั้นอยู่ต่างประเทศ เขาจึงระบายความทุกข์ให้ดุจฤดีฟังทำให้เธอรู้ว่าทับทิมหลอกแรกว่าจอมหนีไปแต่งงานแต่ด้วยความมีทิฐิของจอมก็ไม่อภัยให้กับแรกเพราะน้อยเนื้อต่ำใจ แรกได้รู้ความจริงว่าจอมไม่ได้เป็นเด็กใจแตกไม่ได้หนีออกไปแต่งงานจากสำลี สาวใช้ที่ดูแลจอม บอกเรื่องที่เกิดขึ้นจอมถูกใส่ร้ายมาตลอด คุณหลวงทนายความได้เจอตัวพุทธชาติแต่เธอกลับพยายามหลบหนีแรกก็ตามหาพุทธชาติเช่นกัน พอข่าวรู้ถึงดำรงว่าพุทธชาติยังไม่ตาย พุทธชาติเข้าไปอยู่กับหม่อมจิตเพื่อนรักที่วังเหมรินทร์แล้วและมีโอกาสได้พบกับดุจฤดีลูกสาวของตนจนบอกความจริงว่าจอมก็คือลูกของตนที่เกิดจากการขืนใจของดำรง แรกจะหนีไปต่างประเทศเพื่อเรียนต่อแต่ก็ไปเพื่ออยากลืมความเจ็บปวดทุกอย่าง เมื่อท่านชายภัทรยุทธ์รู้ว่าดุจฤดีคือคนเดียวกับจอม ก็บอกให้เธอยอมรับหัวใจตัวเองเพราะท่านรู้เสมอว่าดุจฤดีนั้นรักแรกเป็นอย่างมาก ไม่ได้รักท่านชายเลยที่ทำทุกอย่างเพียงเพราะต้องการประชดแรกเท่านั้น และท่านก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่รั้งเธอไว้กับตนเอง ถึงแม้จะรักมากก็ตาม มาร่วมลุ้นไปกับความรักของเขาและเธอว่าจะลงเอยกันอย่างไร...เจ้าจอม
รักประกาศิต (2555/2012) ภูชิชย์ บริรักษ์กิจเกษตร หรือที่ทุกคนเรียกว่า พ่อเลี้ยงภู เป็นพี่ชายคนโตของ วิทวัส และ สุพัฒนา หรือ คุณเล็ก หลังจากที่พ่อแม่ของสามพี่น้องได้เสียไปตั้งแต่วิทวัสและคุณเล็กยังไม่จบมหาวิทยาลัย ทำให้ภูชิชย์ต้องดูแลธุรกิจของครอบครัว ซึ่งก็คือ ไร่และฟาร์มชื่อ สุพัฒนา ซึ่งพ่อและแม่ของภูชิชย์ ตั้งชื่อตามลูกสาวคนเล็กที่ทั้งสองรอคอยลูกสาวมานาน ด้วยความที่คุณเล็กสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้ทุกคนในบ้านดูแลประคบประหงมเธอไม่ต่างอะไรกับเจ้าหญิงน้อยๆของที่บ้าน ไม่ว่าจะอยากได้อะไรอยากจะทำอะไร ไม่มีใครกล้าขัดใจคุณเล็ก เพราะถ้าขัดใจเธอเมื่อไหร่ คุณเล็กจะป่วยหอบและอาละวาดขึ้นมาทันที สาเหตุจากสุขภาพของคุณเล็กนี่เองที่ทำให้ก่อนตายพ่อกับแม่จึงขอให้ภูชิชย์กับวิทวัสดูแลน้องอย่างดี อย่าทำให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วงอีก และนี่ก็คือข้ออ้างไม้ตายทุกครั้งที่ภูชิชย์กับวิทวัสตั้งท่าจะเริ่มขัดใจคุณเล็ก ซึ่งก็ทำให้เธอได้ทุกอย่างจากพี่ชายทั้งสองมาจนโต ยิ่งนานวันนิสัยเอาแต่ใจ โวยวาย ขี้โมโหของคุณเล็กก็หนักขึ้นเรื่อยๆจนลามไปถึงเรื่องส่วนตัวทั้งของภูชิชย์และวิทวัส เพราะคุณเล็กไม่ชอบหน้า เจ้าน้อย หรือ เจ้าทิพย์ดารา บุตรสาวคนเดียวของ เจ้าเทพมงคลและเจ้าดาระกา เจ้าของไร่เทพมงคล และเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อแม่ของภูชิชย์มาตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆจนชวนกันมาซื้อที่ทำไร่อยู่ข้างกัน ทั้งสองครอบครัวสนิทกันมากจนแทบจะกลายเป็นญาติกัน ถ้าหากภูชิชย์ได้แต่งงานกับเจ้าน้อย แต่การณ์ก็ไม่เป็นดังที่ทุกคนหวัง เมื่อเจ้าเทพมงคลประสบปัญหาสะดุดทางธุรกิจในช่วงที่ภูชิชย์กับเจ้าน้อยกำลังจะแต่งงานกัน คุณเล็กจึงบังคับให้ภูชิชย์เลิกกับเจ้าน้อยเพราะคิดว่าเจ้าน้อยต้องการจะมาฮุบสมบัติของครอบครัวเธอ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เจ้าน้อยเสียใจมาก เจ้าเทพมงคลกับเจ้าดาระกาก็โกรธภูชิชย์ จึงส่งเจ้าน้อยไปอยู่ที่อังกฤษและประกาศตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวของภูชิชย์ ส่วนเรื่องของวิทวัสก็ไม่แพ้กัน เมื่อคุณเล็กรู้ว่าวิทวัสมีคนรักตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย คือ รัชนิดา หรือ ดา และทั้งคู่ตั้งใจว่าเรียนจบจะแต่งงานกัน คุณเล็กก็เข้าจัดการไล่รัชนิดาออกไปจากชีวิตทันที เพราะเธอสืบรู้มาว่ารัชนิดาเป็นเพียงผู้หญิงที่มาจากครอบครัวธรรมดา ซึ่งคำว่าธรรมดาไม่สามารถจะรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับครอบครัวเธอได้ วิทวัสเสียใจมากกับการกระทำของคุณเล็กจึงคิดจะเอาเรื่อง แต่ภูชิชย์ไม่อยากให้พี่น้องทะเลาะกันจึงเข้าไกล่เกลี่ย วิทวัสไม่เห็นด้วยกับการกระทำของภูชิชย์จึงขอย้ายตัวเองไปดูแล บริษัท สุพัฒนาการเกษตร ที่กรุงเทพฯ เพื่อลดการปะทะกับคุณเล็ก วันเวลาผ่านไป คุณเล็กมีความสุขอยู่กับการควบคุมพี่ชายทั้งสอง โดยอ้างว่าเธอต้องการให้คนที่จะมาเป็นพี่สะใภ้เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์ที่สุด ทั้งหน้าตา ชาติตระกูล และฐานะ เมื่อเงื่อนไขเยอะขนาดนี้ ภูชิชย์กับวิทวัสจึงตัดสินใจเป็นโสด เพราะรู้ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกที่จะดีพอสำหรับคุณเล็ก แถมคุณเล็กยังตั้งกฎห้ามรับผู้หญิงที่หน้าตาสวยเข้าทำงานทั้งในไร่และบริษัทที่กรุงเทพฯ โดยอ้างว่าจะทำให้คนงานชายเสียสมาธิในการทำงาน แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าคุณเล็กตั้งกฎนี้เพราะไม่ต้องการให้ภูชิชย์กับวิทวัสติดกับดักพวกผู้หญิงที่จะมาขุดทองจากสมบัติของครอบครัว เธอจึงคอยกลั่นแกล้ง ทำทุกวิธีทางเพื่อที่ไม่ให้ผู้หญิงเข้ามาใกล้ชิดกับพี่ชายทั้งสองของเธอ และเธอเองจะสามารถกีดขาวง และกลั่นแกล้งได้ตลอดไปหรือไม่ เรื่องจะเป็นอย่างไรห้ามพลาดกับละคร “รักประกาศิต”
ความลับของ Superstar (2551/2008) กันต์ พระเอกซูเปอร์สตาร์ ได้เล่นละครคู่กับ เนตรดาว นางเอกสาวดาวรุ่ง บี ผู้จัดการส่วนตัวของเนตรดาว เลยยุให้เนตรดาวเป็นแฟนกับกันย์ หวังทำให้เนตรดาวดังขึ้นไปอีก เนตรดาวจึงโปรยเสน่ห์ใส่กันย์เต็มที่ ทำให้ เป้ เกย์รุ่นใหญ่ผู้จัดการส่วนตัวของกันย์เป็นห่วง คอยเตือนให้กันย์ระวังเนตรดาว เพราะสิ่งที่กันย์และทุกคนไม่รู้คือ เนตรดาวมีความสัมพันธ์อยู่กับ ธีร์ อดีตเพื่อนสนิทของกันย์สมัยเพิ่งเข้าวงการ ธีร์มีข่าวพัวพันยาเสพติดจนชื่อเสียงตกต่ำ กันย์ได้รับเลือกให้เป็นพระเอกหนังแทนธีร์ และกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ไปจากหนังเรื่องนั้น ทำให้ธีร์โกรธอาฆาตและโทษว่ากันย์แย่งทุกสิ่งทุกอย่างจากเขา
บ่วงรักสลักแค้น (2559/2016) บางน้ำผึ้งเมื่อเกือบสี่สิบปีก่อน ก่อนที่จะมีตลาดน้ำบางน้ำผึ้งซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศนั้น เคยล้อมรอบไปด้วยสวนมะม่วงพันธุ์ดี บานชื่น สามีชื่อ ตาเช้า มีลูกชายอยู่สองคน ชื่อ ปองพล รับราชการทหาร และ ปกป้อง อัธยาศัยดี เชื่อฟังแม่ บ้านของบานชื่นอยู่ติดกับสวนของ บัวผัน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่รักใคร่กันเป็นอย่างดี มีลูกสาวสวยอยู่สามคนชื่อ มาลา มาลัย และมาลี สามสาววัยไล่เลี่ยห่างกันแต่ นิสัยต่างกันสุดขั้ว มาลา สวยหวานมีนิสัยอ่อนหวาน มาลัย เป็นคนเอาแต่ใจ ขี้โวยวาย เจ้าคิดเจ้าแค้น มาลี เป็นน้องเล็ก เห็นชีวิตของคนรอบ ๆ ตัวที่มีปัญหาแล้วไม่อยากมีคู่ครอง ปองพลชอบมาลัย เแต่มาลัยไม่ชอบเพราะปองพลเป็นคนมีระเบียบวินัยจนตนเองรู้สึกรำคาญ ส่วนปกป้องชอบมาลา เพราะเห็นเป็นคนจิตใจดี อีกประเด็นคือปกป้องอยากเอาชนะ พันลือ (ลูกชายของขิม กับ มาก ผู้ใหญ่บ้านประจำตำบล) ซึ่งเป็นเศรษฐีประจำหมู่บ้าน พันลือนั้นมีใจให้มาลาเช่นเดียวกัน เทียวไร้เทียวขื่อมาแต่เด็ก แต่มาลาเห็นว่าพันลือชอบทำตัวเป็นนักเลงจึงไม่สนใจจะคบหาในฐานะคนรัก ต่อมาทั้งสองบ้านมีเรื่องกินแหนงแครงใจกัน เนื่องจากได้ข่าวมาว่าสวนรอบนอกของชาวบ้านละแวกเดียวกันนั้น ทั้งหมดทยอยขายให้นายทุนที่จะมาซื้อไปทำบ้านจัดสรร เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ทั้งสองจึงตกลงกันว่าได้ผลผลิตเท่าไหร่จะแบ่งคนละครึ่งเพราะนางบัวผันเป็นคนปลูก แต่ที่ดินเป็นของบ้านครูบานชื่น ทั้งสองบ้านตกลงกันไม่ได้จึงแตกคอกัน แล้วยังเกิดเรื่องร้ายให้ต้องโกรธแค้นกันเข้าไปอีก วันหนึ่งมาลีไปอ่านหนังสือและพลัดตกน้ำ ปองพลมาพบเข้าจึงรีบลงไปช่วยเกิดตะคริวกินขาปองพลแม้จะว่ายน้ำเก่งไม่น่าจะจมน้ำแต่ปองพลก็มาจมน้ำตาย ยิ่งทำให้บ้านครูบานชื่นเกลียดบ้านของบัวผันมากอยู่แล้วถึงกับประกาศจะไม่เผาผีบ้านบัวผัน โทษฐานทำให้ลูกชายคนโตของตนต้องตายก่อนวัยอันควร โดยที่ครูบานชื่นสั่งห้ามลูกชายคนเล็กของตนให้เลิกไปคบหาดูใจกับมาลาอย่างเด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะตัดขาดแม่ลูก แต่ความรักของหนุ่มสาวที่ลักลอบคบหากันเกิดสุกงอมและได้เสียกันในวันหนึ่ง โดยที่มาลัยน้องสาวคนรองแอบเห็นเข้าและเสียใจมาก เพราะพอใจในตัวปกป้องอยู่มาก แต่มาลัยสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมยกปกป้องให้ผู้หญิงคนไหนทั้งนั้นจะยอมให้คนเดียวคือมาลาพี่สาวของตน แต่เมื่อ ดาวราย เห็นปกป้องเกิดพอใจปกป้องมากและไม่ชอบ รวมทั้งอิจฉาความสวยของสามพี่น้องมาลา มาลัย มาลี อยู่แล้วจึงคิดแย่งชิง ดาวรายแอบไปทำเสน่ห์กับหมอเสน่ห์ประจำตำบล พันลือแอบเห็นเข้า แต่เมื่อรู้ว่าดาวรายทำเสน่ห์ใส่ปกป้องหนามยอกหัวใจก็ไม่คิดจะทัดทานเพราะมาลาจะได้มาเป็นของตน ปกป้องมีท่าทีเปลี่ยนไปตีตัวออกห่างจากมาลา ในขณะที่มาลาบอกว่าตนเองกำลังตั้งท้องอ่อน ๆ ปกป้องโดนเสน่ห์จึงหมดรักมาลาแล้วกล่าวหาว่าลูกในท้องของมาลาอาจเป็นลูกของพันลือก็ได้ไล่ให้มาลาไปอ้อนวอนให้พันลือรับลูกในท้องเป็นพ่อ มาลาโกรธและเสียใจมากวิ่งหนีออกจากกระท่อมและตกท้องร่องทำให้แท้ง พันลือผ่านมาพบจึงพาไปโรงพยาบาลแล้วรู้ว่ามาลาตั้งท้องกับปกป้องแต่ก็ยังรักมาลา มาลัยตามไปด่าปกป้อง ทั้งคู่มีปากเสียงกันปกป้องกำลังหน้ามืดเพราะดาวรายกำลังเล่นของใส่จึงปล้ำมาลัยจนได้เสียกัน พันลือแม้เป็นลูกเศรษฐีและออกนักเลงหัวไม้แต่ก็รักมาลาจริง ๆ และยอมรับได้ทุกอย่าง มาลาจึงเห็นแก่ความดีของพันลือที่รักตนอย่างจริงใจยอมแต่งงานกับพันลือ และมีลูกด้วยสองคน (ชยพล และ ชลกร) ปกป้องกับดาวรายแม้ว่าจะรักกันด้วยเสน่ห์ แต่เมื่อดาวรายไม่ได้ทำเสน่ห์แล้ว ปกป้องก็ไม่อาจปัดความรับผิดชอบที่มีต่อลูกได้ทั้งคู่มีลูกสาวชื่อ (ปานดาว และต่อมามีลูกสาวอีกคนชื่อปานวาด และมีลูกผู้ชายชื่อปัฐวี) โดยไม่มีใครรู้ว่าปานวาดลูกคนกลางไม่ใช่ลูกของปกป้องกับดาวราย แต่เป็นลูกที่เกิดจากพันลือกับดาวราย ส่วนมาลัยตัดสินใจแต่งงานกับ ก้องภพ มีลูกสาวคนเดียวชื่อ ดุจเดือน และสอนให้ลูกสาวเกลียดญาตพี่น้องข้างพ่อ และถูกป้อนข้อมูลมาตลอดว่า ปกป้องทำอะไรเอาไว้กับป้าของตนบ้าง ดุจเดือนจึงเกลียดปกป้องและดาวรายมาก ปัจจุบัน วันเวลาผ่านไป ทั้งสองครอบครัวต่างร่ำรวย โดยเฉพาะมาลามีที่ดินมากกว่า ขายที่ได้เงินมากกว่าจึงร่ำรวย อีกทั้งพันลือก็เป็นลูกเศรษฐีอยู่แล้ว ทั้งสองย้ายมาอยู่ย่านบางพลีตั้งโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมและยิ่งร่ำรวยมากขึ้นไปอีก ลูกชายคนเล็ก ชยพล กลับมาจากอังกฤษ เพื่อรับช่วงธุรกิจของครอบครัว ส่วน ชลกร ลูกชายคนโตไม่สนใจงานด้านบริหาร เพราะเป็นคนอารมณ์ศิลปินชื่นชอบการถ่ายภาพ ต่อมามาลัยเห็นว่าพี่สาวและแม่ไม่ได้กลับบ้านมานับสิบปีแล้วจึงพาไปเที่ยวที่ตลาดน้ำแล้วบังเอิญไปเจอดาวรายคู่ปรับเก่าเข้าที่ตลาด และลูกสาว ปานดาว สองบ้านเปิดศึกน้ำลายตบตีกันจนตกน้ำ แต่ชลกรที่มาด้วยไม่รู้เรื่องเขาไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศภายในตลาดน้ำ และสะดุดตากับแม่ค้าคนสวยจึงขอสัมภาษณ์ นั่นทำให้หัวใจของสาวน้อยอย่าง ปาดวาด ตกอยู่ในห้วงรักทันที มาลัยทำทีไม่กล้าเล่าแต่วางแผนในใจอยากให้หลานชายแก้แค้นคืน ชยพลเลยเข้าไปเป็นลูกค้าที่ บ้านเตยหอม ซึ่งเป็นโฮมเสตย์ของ ปานดาว พลเข้าไปตีสนิท แกล้งปานดาวสารพัด ปานดาวโมโหจึงไล่ชยพลให้ไปพักที่อื่นและเลิกมาวอแวตนเสียที แต่คนชอบเอาชนะอย่างชยพลไม่ยอมไปไหนเขายังเทียวไล้เทียวขื่อเธอจนปานดาวอาละวาดหนัก ในคืนที่ไฟดับพอดี ชยพลได้โอกาสจึงรังแกปานดาวได้สำเร็จตกเป็นของตนในทันที เรื่องราวต่าง ๆ จะดำเนินไปอย่างไร เมื่อไฟของทั้งสองครอบครัวยังไม่ดับไปกับอดีต แต่มาลุกโชนอีกครั้งในปัจจุบัน ชยพล กับ ปานดาว จะจัดการอย่างไรกับลูกในท้อง และ ชลกร กับ ปานวาด จะรักกันได้หรือไม่ ? ติดตามชมและร่วมลุ้นกันต่อได้ในละคร บ่วงรักสลักแค้น
เกมรักเอาคืน (2562/2019) อาริสา (นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี) นางพยาบาลสาวสวยผู้หญิงที่เคยคิดว่าชีวิตตัวเองโชคดีเหมือนซินเดอเรลล่าหลังจากได้แต่งงานกับ หมอเอกภูมิ (บีม-กวี ตันจรารักษ์) หมอสูตินารีผู้อ่อนโยน จนกระทั่งในคืนฉลองครบรอบแต่งงานปีที่ 10 ของทั้งคู่ หมอเอกภูมิได้ตัดสินใจขอหย่ากับอาริสา ซึ่งนั่นทำให้อาริสาเสียใจมาก และยิ่งเจ็บใจมากยิ่งขึ้นเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่ทำให้หมอเอกภูมิเปลี่ยนไปคือ เกศิริน (แพท-ณปภา ตันตระกูล) เจ้าของกิจการเครื่องสำอางและเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงาม เพื่อนรุ่นพี่ที่เคยเรียนพยาบาลมาด้วยกัน แต่อาริสาก็ไม่ยอมหย่าง่าย ๆ ยิ่งหมอเอกต้องการอิสระไปอยู่กับเกศิรินเท่าไร อาริสาก็ยิ่งยืดเวลาครอบครองหมอเอกต่อไปถึงแม้จะเป็นภรรยาแค่ในนามก็ตาม เพราะอาริสาจะไม่ยอมเจ็บคนเดียว หลังจากนั้นอาริสาก็ได้รู้จักกับ สุนิดา (กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) อดีตเพื่อนเที่ยวของเกศิริน และสุนิดาได้แนะนำให้อาริสารู้จักกับ ป้องกุล (จอส-เวอาห์ แสงเงิน) หนุ่มไซด์ไลน์ โดยสุนิดาบอกอาริสาว่า "การแก้แค้นหมอเอกกับเกศิรินที่เจ็บแสบ คือการนอนกับป้องกุลจนท้องแล้วให้หมอเอกคิดว่าเป็นลูกของตัวเอง แล้วเลี้ยงและรักลูกคนอื่น และที่สำคัญยังเป็นลูกที่เกิดจากผู้ชายที่เกศิรินรักที่สุด" อาริสาจึงตัดสินใจจ้างป้องกุลมาอยู่ด้วยทุกวัน โดยที่ป้องกุลก็ไม่รู้ว่าอาริสามีแผนแก้แค้นเกศิรินแอบแฝงอยู่ และด้วยความใกล้ชิดกันก็ทำให้ทั้งสองมีความรู้สึกหวั่นไหวต่อกันขึ้นโดยไม่รู้ตัว ส่วนหมอเอกเมื่ออยู่กับเกศิรินไปนาน ๆ เขารู้สึกว่าเกศิรินเป็นผู้หญิงที่ฟรีเกินไป ทำให้หมอเอกรู้สึกไม่พอใจและมีเรื่องทะเลาะกันเพราะความหึงหวงของเกศิริน จนหมอเอกเริ่มคิดได้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการคือ อาริสาและการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ หมอเอกภูมิเลยคิดจะกลับมาหาอาริสา แต่พบว่าอาริสากำลังคบผู้ชายคนอื่น หมอเอกยอมเสียอาริสาไม่ได้ จึงกลับมาอยู่กับอาริสาและตีตัวออกห่างเกศิริน พอเกศิรินรู้ก็โกรธมากบุกไปบอกอาริสาว่าตัวเองตั้งท้องกับหมอเอก ทำให้อาริสาช็อก และตั้งใจจะหย่ากับหมอเอกโดยเด็ดขาด เพื่อไปเริ่มต้นใหม่กับป้องกุล แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เมื่ออาริสารู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง แต่เธอไม่แน่ใจว่าใครเป็นพ่อเด็ก ระหว่างหมอเอกและป้องกุล พอทั้งคู่รู้ว่าอาริสาท้องก็ดูแลอาริสาเป็นอย่างดี จนทำให้เกศิรินไม่พอใจ วางแผนทำร้ายอาริสาและลูก เรื่องราวความความรักความแค้นของพวกเขาจะจบลงอย่างไร ติดตามความสนุกเข้มข้นของละคร เกมรักเอาคืน
พ่อครัวหัวป่าก์ (2560/2017) เรื่องราวชุลมุนวุ่นรักเกิดขึ้น เมื่อ “กมลชนก” (หลุยส์ สก๊อตต์) หนุ่มหล่อ มาดเซอร์ ลูกชายคนเดียวของ “กาญจนา” (ต่อง สาวิตรี สามิภักดิ์) เจ้าของโรงแรมหรู เกิดหมดศรัทธาในความรัก หลังถูกหักอกจาก “แขไขไฉไล” (อัมราภัสร์ วรรธนะกุล) แฟนสาวที่หนีไปแต่งงานกับเจ้าสัวมหาเศรษฐี จนทำให้กมลชนกต้องกลายมาเป็นเพลย์บอยที่ใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ โดยมีเพื่อนซี้อย่าง “ทองทิว” (มิค-บรมวุฒิ) และ “อาเทวา” (เอ-อนันต์) คอยร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน แต่แล้วบุพเพสันนิวาสก็ทำให้กมลชนกได้พบกับ “ทองตรา” (รณิดา เตชสิทธิ์) สาวมั่น ดีกรีนักเรียนนอก สาวสวยจิตใจดีที่ได้ช่วยกมลชนกไว้จากการเข้าใจผิดที่คิดว่า กมลชนกกำลังจะทำร้ายตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้กมลชนกรู้สึกประทับใจในตัวทองตรา และมีความหวังที่จะเริ่มต้นตามหารักแท้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคใหญ่อย่าง “คุณนายทองม้วน” (ดวงตา ตุงคะมณี) แม่ของทองตรา ที่ได้รับฉายาจากคนในบ้านว่าเป็นคุณนายจอมเค็ม เขี้ยว ที่เหนียวซะยิ่งกว่าอะไรดี แต่กมลชนกก็ยังคงเดินหน้าพิสูจน์รักแท้ครั้งนี้ต่อไป โดยการปลอมตัวเป็นเกย์ เพื่อทำให้ตนเองได้เข้าไปอยู่ในบ้านของทองตราในฐานะ คนครัวคนใหม่ ที่มีชื่อว่า “นายมลคนครัว” ยิ่งนานวันความสัมพันธ์ของ “นายมล” กับ “ทองตรา” ในฐานะของลูกจ้างกับเจ้านายก็ดูเหมือนเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ “คุณนายทองม้วน” จับได้ว่านายมลกำลังคิดเกินเลยกับทองตราทำให้คุณนายทองม้วนโกรธจัดจนเอ่ยปากไล่นายมลออกจากบ้าน และทำให้ ทองตราไม่มีโอกาสได้พบกับนายมลอีกถึงแม้ว่าลึกๆ แล้วทองตราเองก็รู้สึกดีกับนายมลเหมือนกัน แต่กลับเป็น “กมลชนก” หนุ่มหล่อเจ้าของโรงแรมหรูที่เข้ามาทำให้ทองตรารู้สึกหวั่นไหว เพราะความที่หน้าตาเหมือนกับนายมลอย่างกับฝาแฝด โดยที่ทองตราเองก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว นายมล กับ กมลชนก คือคนคนเดียวกัน บททดสอบการตามหารักแท้ของกมลชนกจึงเริ่มต้นอีกครั้ง แต่งานนี้ไม่ง่าย เมื่อ “เบส” (สวิส เตชภูวนนท์) เพื่อนเก่าของทองตรา ดันกลายมาเป็นคู่แข่งหัวใจคนสำคัญที่กมลชนกต้องรับมือ ตามมาลุ้นต่อกันว่า บททดสอบการตามหารักแท้ของ “กมลชนก” จะทำให้เขาได้พบกับ “รักแท้” ที่ตามหาหรือไม่? ติดตามความสนุกนี้ได้ในละครเรื่อง “พ่อครัวหัวป่าก์”
สะใภ้ TKO (2562/2019) รวิชญ์ (แดน-วรเวช ดานุวงศ์) หนุ่มนักเรียนนอกเนื้อหอม บุตรชายคนเล็กของ ตระกูลจรัสปกรณ์ ถูกคุณกนกกุล (แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์) ผู้เป็นมารดาตั้งใจจะจับคลุมถุงชน เพื่อให้เหมาะสมทั้งฐานะและชาติตระกูลระหว่างเขากับ พิมพ์เดือน (บี-มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์) สาวเซเลบ แอ๊บเรียบร้อย ลูกสาวของ นำพล (ต้น-ตระการ พันธุมเลิศรุจี) ผู้มีอำนาจเงินและอิทธิพล รวิชญ์แก้ปัญหาไม่ตก เพราะเขามีคนรักอยู่ที่เมืองนอกตั้งแต่สมัยเรียน เธอชื่อว่า เล็กซี่ สาวอังกฤษแท้หัวทอง รวิชญ์มั่นใจว่าแม่ของเขาทำใจรับไม่ได้แน่นอน เหตุเพราะกนกกุลเพิ่งเสียใจกับการแต่งงานของ ไรวา (ซัน-ประชากร ปิยะสกุลแก้ว) บุตรชายคนโตที่ไปคว้า คิม ซุนมี (ซอ จียอน) สาวเกาหลีมาอยู่ร่วมกินกันที่โซลจนมีลูกสาวอายุ 6 ขวบชื่อว่า ยุนอา แต่ไรวาเพิ่งหอบลูกเมียกลับมาเมืองไทยพร้อมสารภาพความจริงกับกนกกุล แล้วอย่างนี้รวิชญ์จะทำร้ายจิตใจของแม่ซ้ำสองอีกได้อย่างไร มิหนำซ้ำกนกกุลยังประกาศก้องว่า ชีวิตนี้หัวเด็ดตีนขาดจะไม่มีวันรับสะใภ้อิมพอร์ตอีกเป็นอันขาด รวิชญ์กลุ้มเพราะเขากลายเป็นความหวังสุดท้ายของตระกูล รวิชญ์หลบมาพักหาคำตอบให้กับตัวเองที่ริมหาดพัทยา แต่เหมือนเวรซ้ำกรรมซัด แทนที่จะได้พักสมองใช้เวลาตรองคิดแก้ปัญหา กลับถูกแก๊งสิบแปดมงกุฎหลอก จังหวะนั้น รักฟ้า (แพตตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) หรือ ไอ้รัก หมัดเพชฌฆาต สาวนักมวยฝีมือฉกาจ กับ ไอ้จ๊อด (ด.ช. อินฑัช เตชะเกิดกมล) หลานชายผ่านเข้ามาเห็นเหตุการณ์ รักจึงเข้าไปช่วยรวิชญ์ได้ทัน และรวิชญ์ยังได้ช่วยพา ลุงสิงห์ (เอ-อนันต์ บุนนาค) ลุงของรักฟ้าไปหาหมอ และออกค่ารักษาพยาบาลให้ รักฟ้าสัญญากับรวิชญ์ว่าจะคืนค่ารักษาให้ ทำให้รวิชญ์เกิดไอเดียจ้างรักฟ้าสวมบทเป็นภรรยาของเขาด้วยเงินที่รักฟ้าติดหนี้ รักฟ้าตัดสินใจยอมรับข้อเสนอของรวิชญ์อย่างจำใจในที่สุด รวิชญ์พารักฟ้าเข้าบ้านในฐานะภรรยาที่อยู่ด้วยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว คุณกนกกุลกรี๊ดลั่นบ้าน เป็นลมสลบอยู่หลายรอบ แต่ที่สุดก็จนปัญญา เพราะเรื่องมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ตระกูลจรัสปกรณ์ยอมรับรักฟ้าเป็นสะใภ้ก็ได้ รวิชญ์โล่งใจ แต่หารู้ไม่ว่า สงครามระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้กำลังจะเกิดขึ้น !!! ติดตามชมละคร สะใภ้ TKO
เรื่องย่อ : Club Friday To Be Continued ตอน มิ้นต์กับมิว (2558/2015) มิ้นต์กับมิว To Be Continued เรื่องราวภาคต่อของมิ้นต์กับมิว ความรักของกะเทยร่างยักษ์ที่เคยทำให้คนดูเสียน้ำตา กลับมาแล้วตามคำเรียกร้อง แซ่บขึ้น ฟินขึ้น ฮาขึ้น ดราม่า บ้าผู้ชายยิ่งขึ้น ในโปรเจคท์พิเศษ Club Friday To Be Continued ซึ่งในภาคนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ฉันจะเอาพี่ฮัทมาทำผัวให้ได้ คือคำปฏิญาณตั้งต้นฝันใหม่ของกะเทยอ้วนกลิ้งหลุน ๆ อย่างมิว ที่เคยมีฝันอยากไปซานฟราน แต่ฝันเรื่องนั้นเก็บมันไปก่อน เที่ยวน่ะเรื่องรอง มีผัวน่ะเรื่องหลัก มิว (เบน ชลาทิศ) กะเทยเน็ตไอดอล ที่ตอนนี้มีคนรู้จักเป็นล้านเพราะเอาคลิปไปลงยูไลค์ ต่างจากเมื่อสมัยก่อน ที่แม้แต่เพื่อนร่วมงานยังไม่อยากคุยด้วย มิวไปหลงรักผู้ชายชื่อว่า พี่ฮัท (เต๋า สมชาย) พี่ชายสุดหล่อล่ำข้างบ้าน เป็นครูพละและช่วยงานอาสามูลนิธิ ที่สำคัญเขาชอบผู้หญิง แถมยังเกลียดกะเทยจนกระทืบมาแล้ว แต่โชคก็เข้าข้างเหมือนฟ้าประทานที่ทำให้พี่ฮัทยอมรับในตัวของมิว แล้วเริ่มความสัมพันธ์ฉันเพื่อน เพราะพี่ฮัทเห็นว่า มิวคือคนที่เข้าอกเข้าใจและดูแลตนมาเป็นอย่างดี การยอมรับครั้งนี้ เลยทำให้มิวมโนไปไกลสุดฤทธิ์ว่าพี่ฮัทจะต้องมายอมสยบแนบอกตัวเองให้จงได้ เรื่องราวสุดแซ่บจึงเริ่มขึ้น และหลังจากเพื่อนสนิทของมิว อีหมี (โอ๊ค กีรติ) กะเทยโบท็อก เดินทางกลับจากซานฟรานฯ และบอกว่ามีผู้ชายมาจีบตอนที่ทำวีซ่า มิวได้ยินก็ดีใจที่หมีจะมีผัวซักที แต่หารู้ไม่ว่าคนที่หมีพูดถึงนั่นก็คือ โต้ง (แท็ค ภรัณยู) แฟนเก่าของมิวที่เป็นต้นกำเนิดของชื่อปลอมมิ้นต์นั่นเอง! ที่จะกลับเข้ามาในชีวิตของมิวอีกครั้ง แถมอีหมียังได้พา เจ๊แอนนา (รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น) กลับมาให้มิวได้รู้จักด้วย และก็เข้ากันได้ดี ดูเหมือนชีวิตของมิวจะราบรื่นแต่ดันมีอุปสรรคสุดหิน เมื่อ แม่พี่ฮัท (สุดา ชื่นบาน) ย้ายมาอยู่ที่บ้านเป็นการถาวรกับพี่ฮัท เนื่องจากพ่อเลี้ยงของพี่ฮัทเสียชีวิต จะคอยขัดขวางความรักเพราะมิวเป็นตุ๊ด และไม่อยากให้ฮัทเบี่ยงเบน ไปเป็นเกย์แล้วชอบกะเทย หัวอกคนเป็นแม่ทำใจไม่ได้จริง ๆ พี่ฮัทเองหลังจากที่ถูกแม่กีดกันไม่ให้คุยกับมิว ก็ได้ไปสนิทกับครูสาวน่ารักไร้เดียงสาที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ อย่าง เข็ม (เปาวลี พรพิมล) ซึ่งเป็นมารหัวใจของมิว และกำลังจะแต่งงานกับพี่ฮัท มิวเสียใจร้องไห้ฟูมฟายจะเป็นจะตาย เลยคิดวางแผนกับเพื่อน ๆ แก๊งกะเทย เปิดคลิปแฉเข็มว่าเป็นกะเทยแปลงเพศมาให้รู้กันกลางงานแต่ง แต่แล้วเรื่องราวกลับตาลปัตรเพราะคนที่อยู่ในคลิปเป็นพี่ชายฝาแฝดของเข็มต่างหากที่แปลงเพศเรียบร้อยแล้ว ทำให้มิวหน้าแตก อับอายผู้คนมาก และหนีหน้าพี่ฮัทตลอด ในที่สุดพี่ฮัทก็ตามหามิวเจอ และถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้น มิวสารภาพความจริงออกไปทั้งหมดว่าทีทำไปเพราะเป็นห่วง ไม่อยากเห็นพี่ฮัทโดนหลอก เมื่อพี่ฮัทรู้ความจริงแบบนี้จะทำอย่างไรต่อไป? ความรักของมิวจะสมหวังหรือไม่? ติดตามได้ใน มิ้นต์กับมิว To Be Continued
ตราบสิ้นดินฟ้า (2551/2008) แพน พิษณุ (ยุรนันท์ ภมรมนตรี) เป็นหัวหน้าวงดนตรีที่โด่งดังมากของสโมสรเอกชนในกรุงเทพ นอกจากแพนจะเป็นนักดนตรีแล้ว ยังเป็นนักแต่งเพลงฝีมือดี และด้วยความที่ยังโสด แพนจึงเป็นที่หมายปองของสาวๆ โดยเฉพาะเนื้อทิพย์ (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) นักร้องสาวสุดเปรี้ยวในวง ที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแพนจนออกนอกหน้า ทำให้พี่แอบ(วนิดา แสงสุข) และ พี่กลีบ(รอง เค้ามูลคดี) ญาติของแพนที่เป็นเจ้าของคณะลิเก ต้องคอยกันท่าไม่ให้เนื้อทิพย์มายุ่มยามกับแพนจนเกินงาม สร้อย(คัทลียา กระจ่างเนตร) สาวสวยสู้ชีวิตมีอาชีพขายน้ำแข็งไส มีความฝันอยากเป็นนักร้อง สร้อยเสียงดีมากและเป็นแฟนเพลงที่เหนียวแน่นของแพนคนหนึ่ง ในวันที่ทางสโมสรประกาศรับสมัครนักร้องใหม่ แพนได้พบกับสร้อยที่มาสมัครเป็นนักร้อง ด้วยความดีและเสียงร้องของสร้อย ทำให้แพนหลงเสน่ห์สร้อยอย่างง่ายดาย และสร้อยก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคจนเข้ามาเป็นนักร้องหน้าใหม่ของวงสำเร็จ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางความอิจฉาของเนื้อ ทิพย์ สร้อยกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แพนแต่งเพลงมากมาย และแพนยังบรรจงแต่งเพลงเปิดตัวให้สร้อยในฐานะนักร้องเดี่ยว ส่งผลให้สร้อยโด่งดังในชั่วข้ามคืน หลังจากนั้นไม่นานแพนขอสร้อยแต่งงาน ทำเอาสร้อยถึงกับตะลึง เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่เหมาะกับแพน เนื่องจากสร้อยเคยมีสามีมาก่อน บังอร(ณหทัย พิจิตรา) เพื่อนรักคนเดียวของสร้อย อยากให้สร้อยได้ดีถ้ามีชีวิตใหม่ จึงยุให้สร้อยตอบตกลงกับแพน และไม่ต้องบอกเรื่องในอดีตให้ใครรู้ งานแต่งงานที่ใหญ่โตของแพนกับสร้อยจึงเกิดขึ้น
แรงปรารถนา (2556/2013) เพราะชาติกำเนิดที่ด่างพร้อย ทำให้พิทยา (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ต้องทนการกดขี่จาก สุอาภา หรือ กระแต (คิมเบอร์ลี แอน เทียมสิริ) ลูกสาวของผู้ที่เป็นทั้งนายและผู้มีพระคุณ โดยไม่รู้ว่าการกลั่นแกล้งนั้น คือการตอบโต้ความถือดีที่พิทยากล้าปฏิเสธการแต่งงาน ที่ นพ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) ผู้เป็นพ่อของเธอ หมายมั่นจะให้พิทยาที่เขาชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก มาเป็นผู้ที่จะดูแลลูกสาวจอมเฮี้ยวของเขา คนไม่เคยแพ้อย่างสุอาภา จึงทำทุกทางเพื่อจะเอาชนะ โดยเฉพาะกับ รวีพรรณ (ณัฐวรา วงศ์วาสนา) ผู้หญิงที่ทำให้พิทยาปฏิเสธเธอ ยิ่งสุอาภาได้ลูกยุจาก พราวพิไล (ธนิดา กาญจนวัฒน์) เพื่อนสาว สุอาภาก็ยิ่งได้ใจ กลั่นแกล้งพิทยาต่าง ๆ นานา จนวันหนึ่งพิทยาก็หมดความอดทน
การประกาศลาออกจากบริษัทของพิทยา ซึ่งเปรียบเสมือนมือขวาของนพนั้น ทำให้ บวร (สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล) และ วรรณวดี (พริมรตา เดชอุดม) พี่ชายและพี่สาวของสุอาภา รู้ได้ทันทีว่าเป็นเพราะฝีมือของสุอาภา แต่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถจัดการกับน้องสาวคนเล็กนี้ได้เลยสักคนปวีณา (ภัณฑิรา พู่กลิ่น) พนักงานสาว เป็นเดือดเป็นร้อนออกนอกหน้าจน กรองทิพย์ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) คนเก่าคนแก่ ต้องปรามให้เก็บความรู้สึกบ้าง เพราะรู้ดีว่าปวีณาแอบรักพิทยามาตลอด ตรงข้ามกับ ภูวดล (อเล็กซ์ เรนเดลล์) ลูกชายคนเดียวของ ศรีพิไล (พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ) อาสะใภ้ของสุอาภา ที่ทั้งดีใจ สะใจ ที่พิทยาจะได้ไปให้พ้นทางของเขาเสียที นพเล่นงานลูกสาว พร้อมขอร้องพิทยาให้อยู่ต่อ สุอาภาคิดว่าพิทยาแกล้งลาออกเพื่อเรียกร้องความสำคัญจากพ่อ ก็ยิ่งหมั่นไส้พิทยาเข้าไปใหญ่ สุอาภาเลยแกล้งวางแผนทำท่าสนิทชิดเชื้อกับพิทยาในงานเลี้ยงจนเป็นข่าว แถมยังหาเรื่องไปนอนค้างอ้างแรมที่บ้านของพิทยาในค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำเพื่อให้รวีพรรณเข้าใจผิดในค่ำคืนที่ได้ใกล้ชิด ความผูกพันแต่วัยเยาว์ซึมซาบเข้ามาในความรู้สึก แต่ในที่สุด ภาพเด็กชายพิทยากับเด็กหญิงกระแต ก็เป็นเพียงอดีตที่ทั้งคู่เลือกจะกดมันไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ เมื่อความจริงหลังจากตื่นลืมตาขึ้นมา สุอาภาคือผู้หญิงที่เขาเกลียดขี้หน้า ส่วนพิทยาก็เป็นเพียงผู้ชายต้อยต่ำ ที่ถือดีกล้าปฏิเสธการแต่งงาน จนทำให้เธอต้องอับอายแผนของสุอาภาไม่เป็นผล เพราะรวีพรรณทั้งรักและเชื่อใจพิทยา แต่ถึงจะหนักแน่นเพียงใด เมื่อรวีพรรณได้ยินคำยุยงจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะ สินีนาฏ (พรรษชล สุปรีย์) ก็ทำให้รวีพรรณเริ่มหวั่นไหว รวีพรรณจึงให้พิทยาพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อเธอ ด้วยการเร่งสร้างฐานะให้ผู้ใหญ่ยอมรับ การมุมานะทำงานหามรุ่งหามค่ำของพิทยา ยิ่งทำให้สุอาภาแค้นใจ เดินหน้าสร้างความร้าวฉานให้พิทยาและรวีพรรณ จน ณรงค์ (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) และ รมณีย์ (ธัญญา โสภณ) พ่อแม่ของรวีพรรณที่รังเกียจผู้ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างพิทยาอยู่แล้ว ออกโรงขัดขวางเต็มตัว เส้นทางของรวีพรรณกับพิทยาจึงเหมือนเป็นเส้นขนานเข้าไปทุกที เป็นความสะใจของสุอาภาอย่างมาก ขณะเดียวกันก็เป็นความอึดอัดกดดันของพิทยาอย่างที่สุดที่ต้องทนอยู่ร่วมโลกกับผู้หญิงใจร้ายอย่างสุอาภา แต่นั่นยังไม่หนักหนาเท่าที่เขาต้องรับรู้ว่ารมณีย์กำลังจะจับคู่รวีพรรณให้กับภูวดล เพราะมองเห็นความเหมาะสมทั้งฐานะและวงศ์ตระกูลการจับคู่ที่ผิดฝาผิดตัวกำลังจะเกิดขึ้น สร้างความปั่นป่วนให้กับทุกคน ยกเว้นแต่สุอาภาที่ยึดเอาสถานการณ์ของพิทยาและรวีพรรณซึ่งกำลังตกที่นั่งลำบากด้วยกันอยู่ทั้งคู่ โดยสุอาภาวางแผนเอาชนะใจพิทยาด้วยการเลิกข่มขู่ และทำในสิ่งตรงกันข้าม คือแสดงความเป็นเพื่อน ซึ่งการแสดงออกของสุอาภาก็แนบเนียนเสียจนพิทยาเองหลงเชื่อว่าสุอาภาคงเบื่อจะตอแยเขาแล้วจริง ๆทุกคนในบ้านพากันแปลกใจกับการที่สุอาภาขอเข้าไปฝึกงานในบริษัท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยแม้สักเสี้ยวความคิด ที่สุอาภาจะยอมทิ้งชีวิตอันสุขสบายของเธอ มีเพียงนพเท่านั้นที่ดูออกว่าลูกสาวกำลังจะเล่นเกมอะไรบางอย่าง แต่ด้วยความที่เขาอยากได้พิทยามาเป็นเขยอยู่แล้ว เนื่องด้วยในอดีต นพเคยหลงรัก พิมพ์ (ดารัณ บุญยศักดิ์) แม่ของพิทยามาก จึงยอมรับอุปการะพิทยา เมื่อพิมพ์ได้หอบพิทยามาฝากไว้กับเขาก่อนที่เธอจะเสียชีวิตไปพร้อมกับความลับที่เธอไม่ยอมปริปากว่าใครเป็นพ่อของพิทยา นพรู้เพียงว่าพิมพ์ได้พลาดท่า ไปได้เสียกับผู้ชายที่มีเมียแล้วเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจพิทยา ตรงกันข้าม เขากลับรักและเอ็นดูพิทยาเหมือนลูกชายคนหนึ่ง ประกอบกับพิทยาเอง ก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนและการทำงาน นพจึงดีใจและเลือกให้พิทยาเป็นคนฝึกงานให้กับสุอาภาเสียเลยทั้งสุอาภาและพิทยาจึงติดกันเป็นปลาท่องโก๋ แบบไปไหนไปด้วย สุอาภาเองก็ทำการบริหารเสน่ห์อย่างเนียน ๆ ไม่ให้พิทยารู้สึกตัว ว่าเธอกำลังจะแทรกซึมเข้ามาเพื่อทำลายความรักของเขากับรวีพรรณ รวีพรรณเองที่ถูกแม่บังคับให้คบหากับภูวดล ก็เริ่มใจแกว่งกับการต้องทนเห็นพิทยากับสุอาภาใกล้ชิดกัน ส่วนภูวดลเองที่แม้จะแอบมีใจให้สุอาภา แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยจะเป็นตัวของตัวเองนัก ก็เลยไม่กล้าขัดใจแม่ จึงคบหากับรวีพรรณอย่างฝืน ๆคนที่มีความสุขที่สุดในเกมจับคู่นี้ จึงมีเพียงคนเดียวคือสุอาภา โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่า ในภาพลวงตาที่เหมือนเป็นแผนของเธอนั้น ลึก ๆ แล้ว มีความรู้สึกบางอย่างซ่อนอยู่ เป็นความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายอบอุ่นที่เธอคุ้นเคยมาแต่เล็กแต่น้อย ส่วนพิทยาเองก็รู้สึกแปลก ๆ ในบางครั้ง แต่ด้วยความที่ยังปักใจกับรวีพรรณ เขาจึงพยายามสลัดความรู้สึกนั้นออกจากใจ เมื่อไหร่ที่สุอาภายั่วใกล้ เขาก็รีบถอยห่างสุอาภารู้เรื่องที่นพจะไปสู่ขอรวีพรรณ เลยรีบหาทางเอาชนะ โดยทำทีไปหาพิทยาที่บ้าน อ้างความปรารถนาดีเดิม ๆ คือความหวังดีกับเพื่อน พิทยาเองก็ไม่มีแก่ใจจะสู้รบกับสุอาภาอีก จึงปล่อยเลยตามเลย คืนนั้นสุอาภาจึงค้างอยู่ที่บ้านพิทยาอีกครั้ง แม้จะไม่มีอะไรเกินเลย แต่มันก็ทำให้เรื่องการสู่ขอที่นพอุตส่าห์บากหน้าไปนั้นต้องล้มเหลว เพราะรมณีย์ถือโอกาสเอาเรื่องที่สุอาภาไปค้างที่บ้านพิทยามาเป็นข้ออ้างทำให้พิทยาหมดโอกาสแก้ตัว พิทยาได้แต่แค้นใจและเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นแผนของสุอาภาเป็นครั้งแรกที่สุอาภารู้สึกเจ็บปวดกับสายตาเกลียดชังที่พิทยามองเธอ ส่วนนพเองแม้จะเสียใจที่ลูกสาวต้องมาผิดหวังซ้ำรอยพ่อที่เคยผิดหวังจากแม่ของพิทยา แต่เขาก็รู้สึกดีใจเพราะรู้ว่าความรักคือสิ่งเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงหัวใจสุอาภาให้อ่อนโยนลงได้รวีพรรณไปหาพิทยาที่บ้านแต่กลับไปเห็นภาพความใกล้ชิดระหว่างพิทยาและสุอาภาเกินกว่าความเป็นเพื่อน โดยไม่รู้ว่าสุอาภาเพียงแต่ไปขอโทษต่อสิ่งที่เธอทำกับพิทยา รวีพรรณจึงกลับไปด้วยความชอกช้ำใจ พิทยารีบตามไปอธิบาย รวีพรรณยอมเข้าใจและขอให้พิทยาพาเธอหนีไป แต่พิทยาปฏิเสธ เพราะเขาไม่ต้องการให้คำสบประมาทของพ่อแม่รวีพรรณ ที่เคยพร่ำด่าถึงกำพืดของเขาว่าต่ำทรามนั้น เป็นความจริงสุอาภาคิดที่จะชดใช้ความผิดของตัวเองด้วยการช่วยทำให้ณรงค์และรมณีย์ยอมรับพิทยา เธอสืบจากนพจนรู้ว่าที่จริงแล้วพิทยาไม่ใช่ลูกไม่มีพ่อ แต่เป็นเพราะพ่อของพิทยานั้น เป็นคนใหญ่คนโตที่ไม่ยอมรับพิทยาเป็นลูก แม่ของพิทยาที่หยิ่งในศักดิ์ศรีจึงตัดสินใจอุ้มท้องโดยไม่ปริปากบอกว่าใครเป็นพ่อของเด็ก จนโดนตราหน้าว่ามั่วจนหาพ่อให้ลูกไม่ได้ นพเคยหลงรักแม่ของพิทยามาก่อน จึงคับแค้นใจที่หญิงผู้เป็นที่รักถูกผู้ชายย่ำยีอย่างไม่ใยดีสุอาภาเห็นนพเขม่นกับ รัฐมนตรีภาสันต์ (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) พ่อของภูวดล ก็เลยเชื่อว่าบางทีภาสันต์นั่นแหละที่อาจจะเป็นพ่อแท้ ๆ ของพิทยาก็เป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสุอาภารู้ว่าลูกค้าคนสำคัญที่คอยให้พิทยาออกแบบบ้านให้คือ คุณนายจันทร์จำนง (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ย่าของภูวดล ก็ยิ่งทำให้สุอาภาเชื่อว่าที่คุณนายจันทร์ถูกชะตาพิทยาก็น่าจะเป็นเพราะพิทยาเป็นสายเลือดของเธอคนหนึ่งเช่นกันสุอาภาเชื่อว่า หากรมณีย์ได้รู้ว่าพิทยาเป็นลูกของภาสันต์และเป็นพี่น้องกับภูวดล คนติดแต่เปลือกอย่างรมณีย์ก็จะยอมรับพิทยาเป็นลูกเขยได้เอง สุอาภาหาทางพิสูจน์ให้ภาสันต์ยอมรับพิทยาเป็นลูก ภูวดลไม่พอใจที่สุอาภาพยายามจะยกพิทยาขึ้นมาตีเสมอเขา เช่นเดียวกับรมณีย์ที่เดือดร้อนเพราะเห็นว่าสุอาภากำลังเข้าไปทำลายครอบครัวของศรีพิไลเพื่อนรัก พิทยาตกใจที่สุอาภาไปรื้อฟื้นเรื่องชาติกำเนิดของเขาขึ้นมา และที่เจ็บปวดยิ่งกว่านั้นก็คือ การที่เธอทำให้เขาต้องมาเห็นภาสันต์แสดงความรังเกียจแม่ของเขานพตกใจในความรั้นของสุอาภา ที่ดันทุรังสืบเสาะปมทุกอย่างจนค้นพบความจริงเข้า พิทยาทะนงจนเกินกว่าจะยอมรับภาสันต์เป็นพ่อ เขาขอให้นพช่วยปกป้องเขาอีกครั้ง นพออกมาคลี่คลายปัญหาด้วยการโกหกว่าเรื่องที่สุอาภาขุดคุ้ยนั้นเป็นเพียงความเข้าใจผิด พิทยาขอร้องให้สุอาภาเลิกยุ่งกับชีวิตเขา สุอาภาเสียใจที่ความหวังดีของเธอกลายเป็นความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สำหรับคุณนายจันทร์จำนงแล้ว ความพยายามของสุอาภานับว่าไม่สูญเปล่า แม้พิทยาจะไม่ยอมรับ แต่เธอก็มั่นใจว่าพิทยาเป็นหลานย่าของเธอแน่ ๆรมณีย์ยังไม่วายจะจับภูวดลให้ได้ เพราะกลัวรวีพรรณจะกลับมาคบหากับพิทยาอีก แต่ตัวภูวดลเอง กลับถูกใจผู้หญิงอย่างสุอาภามากกว่า สุอาภาอยากทำให้รมณีย์เห็นธาตุแท้ความเจ้าชู้ของภูวดล จึงได้ทำเป็นเฟลิตเที่ยวกับภูวดล ภูวดลติดกับสุอาภาอย่างง่ายดาย ศรีพิไลและภาสันต์รับไม่ได้ที่ภูวดลไปหลงเสน่ห์ยายตัวแสบอย่างสุอาภา รมณีย์เชื่อว่าสุอาภานั้นเข้าข่ายโรคจิตขี้อิจฉาจนคิดจะแย่งผู้ชายทุกคนไปจากรวีพรรณ นพอ่านเกมออกว่าสุอาภาไม่ได้มีใจให้ภูวดลเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เธอทำทั้งหมดนั้นก็เพื่อพิทยา นพรู้สึกเห็นใจลูกสาวที่กำลังหลงรักพิทยาเพียงข้างเดียวภูวดลเริ่มรู้ตัวว่ากำลังถูกสุอาภาหลอกใช้เพื่อกันตัวเขาให้ออกห่างจากรวีพรรณ สุอาภาเปิดอกยอมรับเพราะเธอเองก็เบื่อจะเล่นละครกับภูวดลเต็มทนแล้ว ภูวดลคิดจะสั่งสอนสุอาภาด้วยการวางยาเพื่อรวบรัดหญิงสาว บวรและนพบอกพิทยาถึงแผนที่สุอาภากำลังเอาตัวไปพัวพันกับภูวดล พิทยาไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างสุอาภาจะทำอะไรให้เขาด้วยความหวังดี เขาจึงแอบจับตาดูความสัมพันธ์ของสุอาภากับภูวดล จนได้รู้เรื่องที่ภูวดลจะวางยาสุอาภา พิทยาจึงรีบตามไปช่วยสุอาภาที่หมดสติไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่เธอจะพลาดท่าให้แก่ภูวดลนพเอาเรื่องภูวดลแบบกะจะเอาให้ถึงตาย พิทยาขวางนพไว้ด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่อยากให้มือนพต้องเปื้อนเลือด พิทยาสับสนกับสิ่งที่สุอาภาทำให้เขา สุอาภาไม่กล้าบอกว่าเธอทำเพราะรู้สึกดี ๆ ต่อเขา เธอได้แต่อ้างว่าทำไปเพื่อชดใช้ความผิด เพื่อให้พิทยาได้กลับไปลงเอยกับรวีพรรณอีกครั้งภูวดลแกล้งปล่อยภาพหลุดของสุอาภาที่แอบถ่ายไว้ก่อนที่พิทยาจะเข้ามาชิงตัวสุอาภาไป สุอาภาเสียใจแต่ก็ทำเป็นชาชินกับข่าวฉาวระลอกใหม่ตามประสาสาวกร้านโลก นพเดือดดาลที่ถูกภูวดลหักหลัง พิทยาลุกขึ้นมาปกป้องครอบครัวผู้มีพระคุณของเขาด้วยการรับสมอ้างเป็นคนรักของสุอาภาและเป็นชายในภาพหลุดนั้นเสียเอง พิทยายอมแต่งงานกับสุอาภาเพื่อรักษาหน้าสุอาภา รวีพรรณแทบจะล้มทั้งยืน เมื่อพิทยาอ้างว่าบุญคุณสำคัญกว่าความรักสุอาภาไม่เต็มใจแต่งงานเพราะรู้ว่าพิทยาทำเพื่อทดแทนบุญคุณ รวีพรรณตอกย้ำให้สุอาภารู้ว่าเธอจะได้พิทยาไปแต่ตัว งานแต่งงานจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายตามคำขอของพิทยา พิทยาขอให้สุอาภาย้ายออกมาอยู่ที่บ้านของเขา เพราะเขาไม่ต้องการให้ใครมองว่าตกถังข้าวสารเมื่อต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ความผูกพันในวัยเด็กของทั้งคู่ก็เริ่มกลับคืนมา พิทยาหาทางดัดนิสัยแย่ ๆ ของสุอาภา แต่แม้จะรู้สึกดีต่อกันแค่ไหน สุอาภาก็คงยังแต่งงานกับพิทยาแค่ในนาม เพราะเชื่อว่าพิทยายังรักรวีพรรณอยู่ ในขณะที่พิทยากลับคิดว่าสุอาภารังเกียจเกินกว่าจะเริ่มต้นชีวิตคู่กับผู้ชายต้อยต่ำอย่างเขารมณีย์โล่งใจที่พิทยาออกไปจากชีวิตของรวีพรรณได้ รวีพรรณถูกบังคับให้แต่งงานกับภูวดล รวีพรรณตั้งใจประชดชีวิตด้วยการเสนอตัวเป็นภรรยาน้อยของพิทยา เพื่อหักหน้าพ่อแม่ที่บังคับให้เธอแต่งงานโดยไม่เต็มใจ รวีพรรณกลายเป็นคนแข็งกร้าว เย็นชา เธอเริ่มเป็นมือที่สามเข้าไปก้าวก่ายชีวิตครอบครัวของพิทยากับสุอาภา จนทำให้คนกลางอย่างพิทยาลำบากใจ เขาพยายามปฏิเสธไม่ให้ความหวังอะไรแก่รวีพรรณ สุอาภาเองเสียอีกที่กลับเป็นฝ่ายทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น คอยหนีกลับไปอยู่ที่บ้านตัวเอง เพื่อที่จะเปิดทางให้พิทยาใช้บ้านของเขาเป็นรังรักกับรวีพรรณได้ตามสบาย แต่ลึก ๆ แล้วสุอาภารู้ว่าไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะหึงหวงพิทยา เพราะเธอไม่ใช่เจ้าของหัวใจของเขาพิทยาไม่เคยมองเจตนาของสุอาภาในแง่ดี เขาได้แต่ตีความเอาเองว่าสุอาภาเห็นเขาเป็นพวกลักกินขโมยกินและมักง่าย และที่ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ เธอไม่เคยใยดีในตัวเขาจนไม่เคยนึกที่จะหึงหวงหรือรั้งเขาไว้ซักนิด ด้วยทิฐิของพิทยาและสุอาภา ทำให้ทั้งคู่สร้างกำแพงขึ้นมาขวางกั้นความรู้สึกระหว่างกันทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่เคยรับรู้ความรักที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงนั้นเสียทีในขณะที่ความเจ็บปวดบีบคั้นให้รวีพรรณกลายเป็นผู้หญิงกล้าได้กล้าเสียที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อตักตวงความสุขส่วนตัวแม้เพียงชั่ววูบ สุอาภากลับเรียนรู้ที่จะแก้ไขความผิดพลาดในอดีตด้วยการใช้สตินำทางในการใช้ชีวิต นพดีใจที่เห็นว่าความรักทำให้สุอาภานั้นโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากรวีพรรณเสนอตัวขอมีสัมพันธ์กับพิทยาก่อนที่เธอจะต้องตกเป็นของภูวดล แต่พิทยาก็ไม่หวั่นไหว โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องให้เกียรติสุอาภา พิทยาผิดหวังที่รวีพรรณทำตัวเหมือนไม่มีคุณค่าและยังจ้องทำร้ายจิตใจสุอาภาอยู่ตลอด พิทยาแทบไม่อยากจะเชื่อว่ารวีพรรณเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่เขาเคยรัก รวีพรรณเองก็เชื่อว่าพิทยารักสุอาภาไปแล้ว เพียงแต่เขาไม่กล้ายอมรับ สุอาภาเห็นรวีพรรณสนิทแนบแน่นกับพิทยา คิดว่าพิทยาเลือกรวีพรรณ สุอาภาตัดสินใจขอพิทยาหย่า ขณะที่พิทยารู้ว่าใจของเขามีแต่สุอาภาเพียงคนเดียว แรงรัก แรงปรารถนา ของหนุ่มสาวสองคู่จะจบลงเช่นไร ก็ต้องติดตามชมใน ละครแรงปรารถนา ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครแรงปรารถนาข้ามสีทันดร (2561/2018) ยุพรา เพื่อนสนิทของ เดือนสิบ เห็นเธอเป็นทุกข์เรื่อง ดวล น้องชาย อีกทั้งปัญหาชีวิตมากมายรู้สึกสงสารอยากช่วยผ่อนคลาย จึงชวนเดือนสิบไปเที่ยว แอฟริกา กับคณะทัวร์ ที่มี ชีวาตม์ เป็นหัวหน้าคณะ ระหว่างเดินทางทุกคนในทัวร์ต่างตื่นเต้นกับการส่องสัตว์ ป่า นานาชนิด และ มหาสมุทรแอฟริกา จะมีเพียงแต่ เที่ยงวัน ชายหนุ่มซึ่งมีอดีตเคยติดเฮโรอีนมาเป็นเวลานาน 10 ปี เพียงคนเดียวที่มีทีท่าไม่แยแสต่อสิ่งที่พบเห็น ทำให้ นางสวาท ผู้เป็นแม่เฝ้าคอยดูด้วยความห่วงใยมากเกินปกติ จนเป็นที่ผิดสังเกตของเดือนสิบและทุกคน โดยเฉพาะ นางรื่นเริง ที่มักคอยจ้องจับผิดสองแม่ลูก เพราะนางรู้อดีตของเที่ยงวัน
ในระหว่างการเดินทางชีวาตม์ทำตัวเป็นหัวหน้าคณะที่ดี คอยดูแลลูกทัวร์ทุกคน โดยเฉพาะนางสวาทและเที่ยงวันที่มักจะแยกตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร เที่ยงวันรู้สึกอึดอัดกับสายตาแปลก ๆ ของบางคนในคณะทัวร์ แต่ก็พยายามทำใจยอมรับสภาพความเป็นจริง เขาเริ่มสังเกตและทำความคุ้นเคยกับเดือนสิบ และหันมาเอาใจใส่มารดาที่คอยเฝ้าตามตัวเขาด้วยความห่วงใย ครั้งแรกเที่ยงวันรู้สึกหวาดระแวงเดือนสิบ เพราะคิดว่าเดือนสิบเป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่อยากรู้เรื่องการติดยาของเขา แต่เมื่อเห็นความร่าเริงสดใสและความเป็นกันเองของเดือนสิบและยุพรา เที่ยงวันรู้สึกสบายใจและคลายความอึดอัดลง แต่ในบางครั้งเที่ยงวันก็สังเกตเห็นว่าเดือนสิบมีนัยน์ตาที่เลื่อนลอย เคว้งคว้างเหมือนมีเรื่องอยู่ในใจ ยุพราพยายามบอกให้เดือนสิบลืมปัญหาที่บ้านและความกังวลในเรื่องของลำธารคนรักไปก่อนClub Friday The Series 12 Uncharted Love รักนี้ไม่ได้มีแค่สองคน (2563/2020) เรื่องราวของ บงกช (ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เคยประสบกับปัญหาครอบครัวล้มเหลวจากการถูกสามีนอกใจ เธอตัดสินใจอย่างเข้มแข็งที่จะเอาเขาออกไปจากชีวิต แล้วจากนั้นเธอก็มุ่งมั่นทำงานหาเงินเลี้ยงดู ใบข้าว (ก้อย-อรัชพร โภคินภากร) ลูกสาวเพียงคนเดียว ด้วยตัวเองเพียงลำพัง แม้ว่าสามีจะมาขอคืนดี แต่เธอก็ไม่ให้โอกาส เธอถือว่าถ้าเขาเลือกที่จะทรยศเธอกับลูกด้วยการไปมีคนอื่น เขาก็ไม่คู่ควรที่จะอยู่ในชีวิตของเธอกับลูกอีก และถึงแม้ว่าจะมีผู้ชายคนอื่นอาสามาช่วยเธอดูแลใบข้าว แต่เธอก็ไม่สนใจจะรับใครเข้ามาในชีวิตเธอและลูก เธอยอมเสียสละทุกโอกาสในชีวิตให้กับใบข้าว โลกทั้งใบของเธอมีเพียงแค่เธอกับลูกสองคนเท่านั้น ตลอดเวลาที่เลี้ยงดูลูก บงกช ถูก ยอดชัย เพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิศเดียวกันเตือนอยู่เสมอว่า ควรปล่อยให้ใบข้าวจัดการชีวิตของตัวเองบ้าง เพราะในฐานะพ่อแม่ไม่มีใครที่จะได้อยู่กับเขาไปตลอดชีวิต ยอดชัยเป็นพ่อหม้ายที่ภรรยาเสียชีวิต และลูก ๆ ก็แต่งงานมีครอบครัวไปหมดแล้ว เขาเคยลองจีบบงกช เผื่อว่าจะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยกัน แม้ว่าบงกชจะรู้สึกดีกับยอดชัยเหมือนกัน แต่ด้วยความเป็นห่วงลูก เธอจึงตอบปฏิเสธ แต่ถึงกระนั้นยอดชัยก็ยังวนเวียนอยู่ในชีวิตบงกช เหมือนเป็นเพื่อน เป็นพี่ชายที่ช่วยเหลือเป็นห่วงเป็นใยและมีมิตรภาพให้แก่กัน แต่แล้ววันหนึ่ง โลกทั้งใบที่เคยมีกันอยู่สองคนแม่ลูกก็พังทลายลง ในวันรับปริญญาของใบข้าว ที่น่าจะเป็นวันที่บงกชภูมิใจมากที่สุด กลับเป็นวันที่ทำให้บงกชต้องหงุดหงิดไม่พอใจ เพราะใบข้าวแนะนำ อาร์ต (นิว-ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) แฟนหนุ่มให้รู้จัก บงกชไม่ทันตั้งตัวว่าใบข้าวแอบมีแฟน เธอพยายามสืบประวัติเกี่ยวกับอาร์ต แล้วก็พบว่าอาร์ตมีข้อไม่ถูกใจเธอเต็มไปหมด ทั้งเรื่องที่เรียนยังไม่จบ ฐานะทางบ้านก็ไม่ดี หน้าที่การงานก็เป็นแค่พนักงานธรรมดา ๆ บงกชพยายามพูดให้ใบข้าวเปลี่ยนใจเลิกกับอาร์ต แต่ก็ไม่เป็นผล แต่บงกชก็ไม่ยอมแพ้ เธอพยายามจนกระทั่งใบข้าวทนไม่ได้จึงบอกกับบงกชว่าเธอกับอาร์ตเคยมีอะไรกันแล้ว เธอจึงไม่ควรเลิกกับเขา บงกชได้ยินแล้วก็โมโหถึงขนาดตบหน้าและทะเลาะกับใบข้าวอย่างรุนแรง บงกชผิดหวังที่เธออุตส่าห์เลี้ยงดูใบข้าวอย่างดี แต่ใบข้าวกลับทำตัวง่ายเหมือนผู้หญิงไม่มีค่า ใบข้าวโกรธบงกชมากจนเตลิดไปอยู่กับอาร์ต ยอดชัยพยายามบอกให้บงกชใจเย็น ๆ และใช้น้ำเย็นเข้าลูบ เพราะถึงยังไงใบข้าวก็โตแล้ว แต่บงกชก็ยืนยันว่าเธอจะไม่ยอม เพราะลึก ๆ แล้วนั้นเธอก็กลัวว่าใบข้าวจะต้องลงเอยมีชีวิตรักที่ผิดหวังเหมือนอย่างเธอ ยอดชัยพยายามบอกให้บงกชมองโลกในแง่ดี และอย่าเพิ่งกังวลไปล่วงหน้า รักนี้ไม่ได้มีแค่สองคน เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรได้จริง ๆ บงกชตัดสินใจง้อใบข้าว และยอมให้ใบข้าวคบกับอาร์ตได้ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังพยายามหาทางแทรกกลางระหว่างใบข้าวกับอาร์ตเสมอ เธอยังคอยติดตามสถานการณ์ของทั้งคู่ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อไรก็ตามที่ใบข้าวกับอาร์ตมีปัญหากัน เธอก็จะรีบยุให้ใบข้าวเลิกกับอาร์ต นั่นยิ่งทำให้ใบข้าวไม่พอใจและยิ่งรักอาร์ตมากขึ้น เรียกได้ว่าเวลาที่อาร์ตทำอะไรผิด แทนที่ใบข้าวจะโกรธอาร์ต พอบงกชมาคอยยุยง ใบข้าวก็ประชดแม่ด้วยการให้อภัยอาร์ตอยู่ตลอด ในขณะที่อาร์ตก็ฉวยโอกาสอ้างความเกลียดชังที่บงกชมีกับเขาในการกลบเกลื่อนทุกความผิดที่เขาทำ ใบข้าวกลัวว่าถ้าแม่ยังคอยจับผิดอาร์ตอยู่แบบนี้คงไม่ดีแน่ เธอจึงยื่นเงื่อนไขให้อาร์ตแต่งงานกับเธอ ไม่อย่างนั้นเธอจะเลิกกับอาร์ต การแต่งงานเกิดขึ้นด้วยความไม่พอใจของบงกช แต่เธอก็ไม่อาจต้านความต้องการของใบข้าวได้ เธอจึงพยายามจะเรียกค่าสินสอดและเรียกร้องหลายสิ่งหลายอย่างจากอาร์ต ทำให้ว่าที่แม่ยายกับว่าที่ลูกเขยต้องทะเลาะกันตั้งแต่ยังไม่จัดงาน อาร์ตหาว่าบงกชขายลูกกิน ในขณะที่บงกชก็ด่าอาร์ตว่ากระจอก จนไม่คู่ควรจะเป็นสามีของลูกสาวเธอ การทะเลาะกันระหว่างอาร์ตกับบงกชลามไปสร้างความยุ่งยากใจให้ใบข้าว แม้ว่าใบข้าวจะรู้ดีว่าบงกชมักจะเป็นคนเริ่มก่อน แต่อาร์ตเองก็สวนคืนอย่างรุนแรงเกินไป ราวกับเขาไม่แคร์เธอ ใบข้าวพยายามคุยกับบงกชว่าให้อ่อนข้อเรื่องสินสอดลงบ้าง บงกชจึงยอมให้ครึ่งทาง แต่อาร์ตก็ยังไม่มีปัญญาหามาได้อยู่ดี ครอบครัวของอาร์ตก็ไม่ช่วยเหลืออะไรทั้งนั้น บงกชจึงยิ่งคิดว่าลูกสาวของเธอกำลังไปแต่งงานกับผู้ชายไม่เอาไหน แถมยังเจอกับครอบครัวแฟนที่เห็นแก่ตัวเข้าไปอีก แต่ในที่สุด งานแต่งงานก็จัดขึ้นจนได้ เมื่ออาร์ตสามารถหาสินสอดมาได้ตามที่บงกชต้องการ บงกชจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะขัดขวางได้อีก จนกระทั่งงานแต่งงานเกิดขึ้น มนตรี สามีเก่าของบงกช พ่อของใบข้าว มาร่วมงาน บงกชไม่พอใจ แต่ยอดชัยก็เตือนว่ายังไงเขาก็เป็นพ่อ เขาคงอยากมาร่วมงานสำคัญของลูก บงกชจึงยอม แต่ก็อดกระทบกระทั่งมีปากเสียงกันไม่ได้ บงกชพูดจาจี้ใจดำมนตรีว่าเธอเลี้ยงดูใบข้าวมาคนเดียว เพราะฉะนั้นมนตรีไม่มีสิทธิ์ภูมิใจในตัวลูก มนตรีทนไม่ได้เผลอหลุดปากออกมาว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ใบข้าวมาแอบมาเจอเขาอยู่ตลอดเวลา เขาคือพ่อที่ช่วยสนับสนุนลูกมาตลอด และงานแต่งนี้เกิดได้เพราะเขา เพราะว่าใบข้าวไปขอเงินเขามาให้อาร์ต วางเป็นเงินสินสอด บงกชฟังแล้วโกรธใบข้าวมาก ทั้งโกรธสามีเก่า โมโหลูก และพาลไปถึงลูกเขย ทั้งเสียใจและผิดหวังมากจนพาลจะไม่เข้าไปในงานแต่ง แต่ยอดชัยก็พยายามพูดให้บงกชปล่อยวาง เพราะถึงอย่างไรเรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว และถ้าบงกชไม่ยอมไปงานแต่งของใบข้าว มันก็จะไม่ดี บงกชยอมลดทิฐิลง ในขณะที่ใบข้าวก็ขอโทษบงกช และพูดให้บงกชสบายใจว่าถึงอย่างไรบงกชก็คือคนที่ใบข้าวรักและเคารพมากที่สุดเสมอ รักนี้ไม่ได้มีแค่สองคน หลังจากที่ใบข้าวแต่งงานกับอาร์ตไปแล้ว ชีวิตคู่ของทั้งสองเริ่มมีปัญหา ใบข้าวเริ่มคาดหวังจากอาร์ตมากกว่าเดิม ว่าอาร์ตจะต้องขยันทำงานเพื่อดูแลเธอและครอบครัว ใบข้าวจุกจิกและเรียกร้องความรับผิดชอบจากอาร์ตมากขึ้น เธอเริ่มยึดเงินยึดของ และให้อาร์ตใช้เป็นรายวันเพื่อวางแผนการใช้จ่าย เธอห้ามอาร์ตไปเที่ยว ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนอาร์ตเริ่มอึดอัด และคิดว่าแต่เดิมเขาไม่ใช่คนอยากแต่ง ใบข้าวต่างหากที่ต้องการ แล้ววันนี้ใบข้าวยังจะมาพรากอิสระเสรีในชีวิตเขาไปอีก ความสัมพันธ์ระหว่างอาร์ตกับใบข้าวเริ่มแย่ลง จนอาร์ตเริ่มแก้ปัญหาด้วยการนอกใจ บงกชเริ่มจับได้ว่าใบข้าวกำลังมีปัญหากับอาร์ต เธอจึงพยายามเข้าไปสืบเสาะด้วยความเป็นห่วง ใบข้าวไม่อยากให้บงกชมายุ่งเรื่องนี้ เธอจึงพยายามปกปิดไม่ให้บงกชรู้ แต่บงกชกลับตามสืบเรื่องอาร์ตแทนใบข้าว จนกระทั่งได้ข้อมูลว่าอาร์ตกำลังติดสาวอีกคน บงกชรีบเอาเรื่องนี้มาบอกใบข้าวทันที หวังว่าใบข้าวจะเลิกกับอาร์ต แต่ใบข้าวกลับไปคุยกับอาร์ต และขอให้อาร์ตเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแทน เธอคิดว่าเธอเลือกวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่จะประคองความสัมพันธ์ ในขณะที่บงกชกับอาร์ตทะเลาะกันมากขึ้นเพราะ อาร์ตหาว่าบงกชมายุ่งเรื่องครอบครัวเขา แม้จะโดนลูกสาวหมางเมิน และถูกลูกเขยต่อว่า แต่บงกชก็ยังไม่หยุด เธอยังคงสืบเสาะจนรู้ว่าอาร์ตยังไม่ยอมเลิกกับผู้หญิงคนใหม่ จนสร้างความไม่พอใจให้อาร์ตมากขึ้น ในขณะที่ใบข้าวก็ลำบากใจ ไม่รู้ว่าควรจะเข้าข้างใครระหว่างสามีที่เธอรัก กับแม่ที่เป็นห่วงเธอ จุดแตกหักเกิดขึ้นเมื่อบงกชตามไปราวีตบตีผู้หญิงคนนั้นแทนลูก สร้างความอับอายให้กับอาร์ตและใบข้าวมาก ๆ ใบข้าวทะเลาะกับบงกชเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ใบข้าวคิดว่าแม่ทำเกินไป ในขณะที่บงกชก็ด่าใบข้าวว่าเธอไม่ได้เลี้ยงใบข้าวมาให้เป็นคนโง่ ยอมให้ผัวสวมเขาแบบนี้ ใบข้าวโกรธที่แม่ด่าเธอ และระเบิดความในใจว่าตลอดเวลาที่เธอโตมากับการเลี้ยงดูของแม่ เธอไม่ได้มีความสุขเลย เพราะแม่บังคับให้เธอเกลียดพ่อ บังคับให้เธอใช้ชีวิตตามความต้องการของแม่ตลอด ถ้าให้เธอเลือกระหว่างอาร์ตกับแม่ เธอขอใช้ชีวิตกับอาร์ตดีกว่า เพราะอย่างน้อยอาร์ตก็ไม่เคยทำให้เธออึดอัด บงกชได้ยินแล้วก็โมโห ประกาศตัดแม่ตัดลูกและไม่ติดต่อใบข้าวอีกเลย ทางด้านใบข้าวกับอาร์ตนั้นเริ่มทะเลาะกันรุนแรงขึ้น เนื่องจากอาร์ตไม่ยอมเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ใบข้าวกล้ำกลืนฝืนทน อยากจะเลิกแต่ก็ไม่กล้า เธอจึงยอมให้อาร์ตรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น จนเธอกลายเป็นคนที่ต้องถอยออกมา ใบข้าวเสียใจหนักมากจนคิดถึงคำพูดของบงกช ทุกคำเตือน ทุกคำต่อว่าที่แม่เคยพูดกับเธอ มันเป็นความจริงทั้งหมด แต่ใบข้าวก็ยังไม่กล้ากลับไปหาบงกช เพราะกลัวถูกซ้ำเติม เธอจึงเดินหน้าที่จะประคับประคองความสัมพันธ์ของเธอกับอาร์ตต่อไป สุดท้ายเมื่อบงกชรู้สึกว่าได้เดินมาจนถึงที่สุดของความอดทน ไพ่ใบสุดท้ายในมือของบงกชที่มั่นใจว่าเมื่อวางลงมาแล้วใบข้าวจะต้องเชื่อ และเดินออกจากชีวิตของอาร์ตคืออะไร และบงกชจะปกป้องลูกที่รักที่สุดของเธอเอาไว้ได้หรือไม่ ความรักของอาร์ตกับใบข้าวจะเป็นอย่างไร สุดท้ายปัญหาความรักที่หลายคนมักคิดว่าเวลามีความรักโลกนี้จะมีอยู่กันแค่สองคน แต่ในความเป็นจริงของชีวิต ความรักยังมีผู้คนใกล้ตัวอีกมากมาย และที่สำคัญ ความรักที่เกินพอดี อาจจะนำมาซึ่งความเสียใจของทุกฝ่าย ? ติดตามชม Club Friday The Series 12 Uncharted Love รักซ่อนเร้น เรื่อง รักนี้ไม่ได้มีแค่สองคน
เรื่องย่อ : เส้นไหมสีเงิน (2545/2002) คุณยายบุหงา เศรษฐินีม่าย อาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ ดูเหมือนจะมีความสุขแต่แท้จริงแล้วกับเป็นคนแก่ที่เหงาเศร้า เพราะลูกทั้ง 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จงกลณีและอุบลวรรณเลี้ยงแม่ไม่ได้สักคน คุณยายจึงย้ายกลับมาอยู่บ้านเดิมกับแม่ครัวเก่าแก่เพียง 2 คน โดยมีเพื่อนบ้านเก่าอยู่รั้วติดกัน คือ คุณตาพจน์ คุณตาพจน์ เป็นชาวสกลนครมีลูกชาย 1 คน ภรรยาตายและมีหลานที่คุณตาต้องรับหน้าที่ดูแลอีก 4 คน คือ แพรวา ไหมคำ ฝ้าย และป่าน คุณตาและหลาน ๆ ผูกมิตรกับคุณยายด้วยการเด็ดผักสวนครัวข้างรั้วให้ ส่วนคุณยายก็ทำอาหารมาให้ และมีการเชิญไปทานข้าวซึ่งกันและกันบ้างเพิ่มความสนิทสนมทำให้คุณยายรู้สึกอบอุ่นรักหลานคุณตาเหมือนหลานตัวเอง ฝ้าย ชวน แพร ไปงานรับน้องใหม่ที่มหาวิทยาลัยทำให้ แพร รู้จักกับมอดลูกชายของอุบลวรรณซึ่งหล่อมาดนายแบบ เรียนดี เก่งกีฬาว่ายน้ำ ร้องเพลงเพราะ มอดแอบชอบแพรแต่แพรไม่สนใจเพราะมอดดูหยิ่งผยอง ไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษจนกระทั่งแพรได้รู้จักกับหนึ่งลูกชายของจงกลณีที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ และทำงานบริษัททัวร์ที่เชียงใหม่แพรก็แอบชอบหนึ่งพราะดูเขาเป็นคนดีมีน้ำใจและรักคนแก่เหมือนกัน จงกลณีเอาแต่เล่นการพนันจนมรดกและหนี้สินท่วมตัว จึงไปหลอกคุณยายว่าตนจะไปลงทุนค้าขายกับเพื่อน และขอโฉนดบ้านนี้ไปค้ำประกันเงินกู้ แต่คุณยายปฏิเสธเพราะรู้ว่าถ้าให้ไปก็คงไม่ได้ไถ่คืน จงกลณีกลับมาอีก พร้อมนักเลงที่จ้างและขอโฉนดบ้านนี้ไปและหลอกคุณยายว่าตนเป็นหนี้จ่ายเช็คเด้งไปสิบล้าน ถ้าไม่เคลียร์จงกลณีจะถูกฆ่าตายคุณยายถึงกับทรุด อดที่แวะมาต้องเข้าประคองและห้ามคุณยายให้โฉนดที่ดินอันเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายแก่ จงกลณี แต่คุณยายจำใจให้ไปเพราะกลัวนักเลงจะทำร้าย ไหม ป่าน มอด ชวนคุณยายหลบจงกลณีไปพักผ่อนที่สกลนคร แต่ก่อนคุณยายได้เขียนจดหมายทิ้งให้ จงกลณีว่าเปลี่ยนใจไม่ขายบ้านแล้ว พร้อมกับทิ้งเช็คไว้ห้าแสนบาทและโฉนดก็ถูกอุบลวรรณฉกไปต่อหน้าต่อตาบ้านที่สกลนครขาดเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มอดต้องการ อีกทั้งมอดยังต้องช่วยไหมทำกับข้าวและ ช่วยงานบ้านสารพัดจนจับไข้ คุณยายช่วยเช็ดตัวให้จดมอดซึ้งใจอีกทั้งได้ช่วยไหมให้พ้นจากการถูกข่มขืนจาก เพื่อนบ้านติดกัน ทำให้ไหมรู้สึกดีขึ้นหลังจากกลับมามอดเปลี่ยนแปลงไปเขาไปเช่าห้องแคบ ๆ เป็นนักร้องใน ห้องอาหารหาเงินค่าเช่าและค่าเล่าเรียนเอง ส่วนหนึ่งดัดแปลงบ้านเป็นเกสท์เฮาส์ให้ฝรั่งเช่า แพรช่วยหนึ่งเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และช่วยตกแต่งเต็มที่ แพรดูมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดหนึ่ง ส่วนไหมกับมอดก็เริ่มมีใจ ให้กัน เมื่ออุบลวรรณมาเห็นบ้านกลายเป็นเกสท์เฮาส์ก็หาว่าคุณยายโดยจงกลณียุคุณยายซึ่งแข็งขึ้นกว่าเดิม น้อยใจว่าอุบลวรรณไม่ใช่แม่อย่ามายุ่งกับสมบัติและให้เอาโฉนดมาคืนด้วย มอดซึ่งเดินออกมาจากบ้านคุณ ตาพอดีก็โดนอุบลวรรณหาว่ามอดมาอยู่กันกับผู้หญิงบ้านนั้น โดยคุณยายเป็นผู้รู้เห็นเป็นใจ มอดทนไม่ได้ ต่อว่าแม่ของเขาว่าดูถูกเพื่อนแล้วยังมาหาเรื่องคุณยายอีกจึงให้แม่เอาโฉนดมาคืน เมื่อเรื่องราววุ่น ๆ ผ่านไปคุณยายเลยต้องทำหน้าที่ให้หลานด้วยความเต็มใจและมีความสุขที่สุดในชีวิตด้วยการไปขอหมั้นแพรให้หนึ่งและขอหมั้นไหมให้มอดติดตามเรื่องราวดรามาสะท้อนสังคมและจะทำให้คุณ ๆ เห็นคุณค่าของคำว่า ” ครอบครัว ”
ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ (2558/2015) ตระกูล “วรรณดำรง” ตระกูลใหญ่ที่เริ่มต้นสืบเชื้อสายในไทยมาจากท่านเจ้าสัววรรณ ผู้ล่วงลับไปนานแล้ว ปัจจุบัน คุณปู่จรัล(เศรษฐา ศิระฉายา)เป็นเจ้าของธุรกิจหมื่นล้าน นั่นคือ “ธนาคารไทยธนกิจ” รวมทั้งกิจการในเครืออีกหลายรายการ คุณปู่จรัลมีน้องสาวแท้ๆ คือ คุณย่าพริ้มเพรา(โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ที่ครองความเป็นโสดมาเนิ่นนาน เจ้าระเบียบในแบบคนรุ่นเก่า ไม่มีใครใน “วรรณดำรง” ที่กล้าขัดคำสั่งของเธอ ทั้งคู่มีหลานสาวคนโตสุดรัก วรรณวิวาห์ หรือ วีว่า (ภีรนีย์ คงไทย) วีว่า (ภีรนีย์ คงไทย) สาวนักเรียนนอกเจ้าของ “วรรณวิวาห์เวดดิ้ง” บริษัทรับจัดงานแต่งงานแบบครบวงจร ที่มีชื่อเสียงและกำลังมาแรงในวงการธุรกิจนี้ โดยวีว่ามีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก “หากโตขึ้นและเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เธอจะได้สวมชุดเจ้าสาวที่สวยเริ่ดที่สุด พร้อมเข้าพิธีแต่งงานอันสุดแสนเพอร์เฟค“ วีว่ามีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ ลาภิศ หรือ ลม (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) หนุ่มหน้าตาดีมีเสน่ห์ เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ลมได้ให้คำมั่นสัญญากับวีว่า เมื่อเค้าเรียนจบจากเมืองนอกจะขอเธอแต่งงานทันที แต่แล้วการสิ้นลมหายใจแบบไม่คาดฝันของคุณปู่จรัล ทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตร แทนที่วีว่าหลานสาวคนโตสุดรักจะได้เป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินทั้งหมดตามที่หลายฝ่ายคาดไว้ คุณปู่จรัลกลับยกทรัพย์สินพร้อมกิจการทั้งหมดให้ ปูรณ์(วรินทร ปัญหกาญจน์) ลูกบุญธรรม ที่มีศักดิ์เป็นอาของวีว่า ความคาดหวังของทุกคนพังทลาย แต่ก็น้อมรับตามพินัยกรรมที่คุณปู่จรัลระบุไว้ วีว่ายังชังน้ำหน้าปูรณ์อยู่บ้าง ด้วยความที่คุณย่าพริ้มเพราปลูกฝังไว้ให้เกลียดชังอาปูรณ์ ที่เป็นแค่คนนอกสายเลือดหวังมากอบโกยเงินทอง ได้ใช้ชีวิตสุขสบายอย่างที่ไม่ควรได้รับ หลังเปิดพินัยกรรม คนที่เดือดร้อนเห็นมีแต่คุณหญิงแขอุไร(สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ)กับลมเท่านั้น ทั้งสองโมโหจนขาดสติ เพราะพลาดเงินทองมหาศาลที่หมายไว้หลังจากการดองกับวีว่า เมื่อคุณย่าพริ้มเพราเอ่ยปากเรื่องแต่งงาน คุณหญิงแขอุไรทำเฉไฉบอกปัดและขอเลื่อนออกไปทันที ใจเด็ด(สมมาตร ไพรหิรัญ)พ่อของวีว่าถึงกับโมโห รู้เช่นเห็นชาติความละโมบของคุณหญิงแขอุไรก็คราวนี้ ที่สำคัญทำให้ลูกสาวสุดรักต้องเสียชื่อว่าถูกฝ่ายชายทิ้งก่อนแต่ง วีว่าจะต้องตกเป็นขี้ปาก เม้าท์มอยและเสียงหัวเราะเยาะในแวดวงไฮโซอย่างแน่นอน วันหนึ่ง ขณะวีว่ากำลังขับรถอยู่มีมอเตอร์ไซค์ขับมาขนาบข้าง ชายสวมหมวกกันน็อคชักปืนขึ้นยิงใส่วีว่าทันที ในความฝันอันเลือนราง คุณลึกลับ(จรรยางค์ ดีกุล)ชายหนุ่มสวมชุดขาวเดินมาหาวีว่า วีว่าถามว่าเธอตายแล้วเหรอ แล้วเขาเป็นใคร ทำไมถึงมาหาเธอในฝันได้ ชายหนุ่มขำแล้วบอกจะพาเธอกลับไปส่ง เบื้องบนต้องการให้เธอไปอยู่ในอีกร่างหนึ่ง ที่บังเอิญเสียชีวิตพร้อมกัน วีว่าสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา เธอนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และเมื่อเธอรู้สึกตัว คนที่เข้ามาแสดงความดีใจกลับเป็นลมและพี่บี(คัชชาเทพ เอี่ยมศิริ) ผู้จัดการส่วนตัวของมุกริน(รัชวิน วงค์วิริยะ)ดารานางแบบชื่อดัง ผู้หญิงที่ลมบอกกับเธอว่าจะแต่งงานด้วย วีว่างุนงงว่าสองคนมาทำอะไรที่นี่ ทำไมไม่ใช่พ่อแม่หรือเจ้าขาน้องสาวเธอที่มาเยี่ยมไข้ แต่ไม่กี่นาทีต่อมา เมื่อเธอได้ส่องกระจก เธอก็ต้องพบคำตอบสุดช็อค เพราะในขณะนี้วีว่าอยู่ในร่างของมุกรินเรียบร้อยแล้ว เธอกลายเป็น มุกริน แม็กซ์เวลส์ ไปได้อย่างไร!!! แล้วเรื่องราวบางส่วนก็ค่อยๆ คลี่คลาย เมื่อวีว่าในร่างของมุกรินรู้ความจริงว่า มุกรินเสียใจที่ถูกพี่บีผู้จัดการส่วนตัวแก้แค้น ด้วยการปล่อยภาพหลุดของมุกรินที่คลอเคลียกับผู้ชายหลายคนออกสื่อจนเป็นข่าวฉาว แถมยังถูกลมคนรักบอกเลิกอีก มุกรินเสียใจมาก จึงกรีดข้อมือตัวเอง ลมมาเห็นเข้ารีบพาส่งโรงพยาบาลทันที เป็นเวลาเดียวกับที่วีว่าถูกคนร้ายยิงพอดี มุกรินหัวใจหยุดเต้นไปนาน แต่จู่ๆ หัวใจของมุกรินก็กลับมาเต้นอีกครั้ง เธอฟื้นคืนสติแถมไม่มีอาการบาดเจ็บอะไรเลยราวกับปาฏิหารย์ ขณะเดียวกันวีว่าที่ยังไม่ตาย กลับต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ไม่รู้จะฟื้นเมื่อใด ปูรณ์ตกใจและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก เขาโอบกอดร่างของวีว่าแล้วร้องไห้อย่างคนเสียสติ เขาอยากให้เธอฟื้นขึ้นมาเจอเขาเดี๋ยวนี้ เขาจะไม่หลบหนี ไม่ห่างหายไปจากเธออีกตลอดกาล ทุกอย่างอยู่ในสายตาของวีว่าในร่างมุกริน วีว่าเข้าใจชัดเจนว่าอาปูรณ์รักเธอเหมือนเดิม แต่ที่อาปูรณ์ต้องหายตัวไป เพราะทำตามคำสั่งคุณย่าพริ้มเพรา เรื่องราวเข้มข้นขึ้นไปทุกที แต่เรื่องราวความรักของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร? อาปูรณ์กับ วีว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคและปัญหาไปได้หรือไม่? “วีว่า” จะได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวที่สวยเริ่ดดดที่สุดอย่างที่ฝันไว้หรือเปล่า? ติดตามชมได้ใน “ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ”
ละครเทิดพระเกียรติชุด พ่อ ตอน เทียนขี้ผึ้ง (2542/1999)
ฝันเฟื่อง (2557/2014) อาทิตย์ (ธนทัต ชัยอรรถ) คนขับรถสุดชิลล์ของ รัฐรวี (พุฒิชัย เกษตรสิน) ทายาทเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่เกิดไปตกหลุมรัก วิไลลักษณ์ (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) สาวใช้คนโปรดของ มณฑิรา (วรัทยา นิลคูหา) สาวสวยรวยทั้งสมองและทรัพย์สมบัติ ความรักครั้งนี้มันควรจะลงตัวเพราะทั้งคู่ดูจะเสมอและเหมาะสมกัน แต่มันไม่เป็นแบบนั้นเพราะอาทิตย์แอบอ้างว่าตัวเองเป็นคนรวย และวิไลลักษณ์ก็แอบอ้างตัวเองว่าเป็นคุณหนูไฮโซกำมะลอเช่นเดียวกัน เมื่อรัฐรวีรู้เรื่องก็ยื่นคำขาดให้อาทิตย์ยุติเรื่องโกหก แต่อาทิตย์ก็ขอร้อง อ้อนวอน จนรัฐรวีคิดหนักยอมช่วยโดยติดตามไปในฐานะคนขับรถของอาทิตย์ที่ชื่อ นายวี ฝ่ายมณฑิราเมื่อจับได้ว่าวิไลลักษณ์แอบเอาเสื้อผ้าของเธอไปหลอกหนุ่ม ๆ ก็เป็นห่วงกลัวว่าวิไลลักษณ์จะโดนหลอก มณฑิราที่เคยแต่ใช้ชีวิตตามประสาคนรวยที่แสนน่าเบื่อจึงนึกสนุกให้วิไลลักษณ์เชิญอาทิตย์มาที่บ้าน โดยมณฑิราจะปลอมตัวเป็นคนใช้ของวิไลลักษณ์ที่ชื่อ มณฑา แล้วพรหมลิขิตก็เล่นตลกอีกครั้งเมื่อนายวีปิ๊งรักมณฑาทันทีตั้งแต่แรกเห็น จากที่รัฐรวีเคยขัดขวางอาทิตย์ก็กลับกลายเป็นติดสอยห้อยตามไปจีบมณฑา พออาทิตย์รู้ว่าเจ้านายเกิดไปตกหลุมรักคนใช้ก็ขัดขวางสุดตัวเพราะกลัวถูก รัฐ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) กับ ภัสสร (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) พ่อแม่ของรัฐรวีและ แม่ชื่น (ปรารถนา บรรจงสร้าง) แม่นมของรัฐรวี ซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้าของตนแหกอก รัฐรวีไม่ยอมแพ้แอบหนีไปจีบมณฑาด้วยตัวเอง ด้านภัสสรก็เป็นห่วงกลัวลูกชายคนเดียวจะไปคว้าคนไม่เหมาะสมมาเป็นลูกสะใภ้เลยพยายามหาคู่ให้รัฐรวี จับพลัดจับผลูภัสสรดันไปถูกใจมณฑิราหลานสาว คุณหญิงหิรัญญิการ์ (จารุณี สุขสวัสดิ์) จึงจัดการให้รัฐรวีได้เจอกับมณฑิราในงานปาร์ตี้แฟนซีหน้ากากวันเกิดคุณหญิง ซึ่งนั่นทำให้มณฑิราได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว นายวี ก็คือ รัฐรวี ทายาทเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ชื่อดัง! โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่มณฑิราดันเข้าใจว่า อาทิตย์ คือ เพื่อนคนรวยของรัฐรวีไปด้วย มณฑิราจึงอยากพิสูจน์รักของนายวี เธอตั้งใจแกล้งคบกับรัฐรวีในฐานะมณฑิราพร้อม ๆ กับคบนายวีในฐานะมณฑาไปพร้อม ๆ กัน โดยขอร้องให้วิไลลักษณ์ช่วยเก็บความลับนี้ วิไลลักษณ์ไม่สบายใจที่ต้องดึงมณฑิราเข้ามาร่วมวงโกหกด้วย เพราะนอกจากจะทำให้มณฑิราเดือดร้อน ยังทำให้ แม่เมียด(ดารัณ ฐิตะกวิน) นายวง(อนันต์ บุนนาค) และ เวก (วราวุธ โพธิ์ยิ้ม) พ่อ แม่ พี่ชายที่ทำงานอยู่บ้านมณฑิราต้องพลอยถูก คุณต๋อย (นรินทร ณ บางช้าง) กุ๊กกิ๊ก (โสรญา ฐิตะวชิร) สมจิตร คนใช้ร่วมบ้านคอยตำหนิไปด้วย อุปสรรคความรักของอาทิตย์ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อ อิงอร (แอริน ยุกตะทัต) สาวไฮโซลูกสาวหุ้นส่วนธุรกิจจิวเวลรี่ของรัฐรวีตกหลุมเสน่ห์ของอาทิตย์เข้าอย่างจังโดยคิดว่าอาทิตย์เป็นคนรวย อิงอรตั้งใจจะจับอาทิตย์ให้ได้ ทำให้วิไลลักษณ์ยิ่งน้อยใจว่าตนไม่เหมาะสมกับอาทิตย์เท่าอิงอร วิไลลักษณ์ตั้งใจจะเลิกกับอาทิตย์ แต่อาทิตย์ไม่ยอม เค้าทำทุกวิถีทางเพื่อจะพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อวิไลลักษณ์ แต่กับอิงอรเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะกลัวว่าจะกระทบกับธุรกิจของรัฐรวี ส่วนมณฑิราก็ต้องวิ่งหนีการตามตื้อของ ภูวเดช (พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) เพลย์บอยเจ้าของธุรกิจซูเปอร์คาร์ที่หวังจะใช้สมบัติของมณฑิรา และคุณหญิงหิรัญญิการ์ช่วยค้ำจุนธุรกิจที่กำลังร่อแร่ กระทั่งวันหนึ่งที่อาทิตย์ รัฐรวี วิไลลักษณ์ มณฑาได้ไปพักผ่อนต่างจังหวัดด้วยกัน รัฐรวีทนไม่ไหวสารภาพความจริงกับมณฑาว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ใช่คนขับรถของอาทิตย์ แต่เป็นเจ้านายและลูกชายเจ้าของธุรกิจที่ร่ำรวย มณฑิราในคราบสาวใช้มณฑาแกล้งทำเป็นน้อยใจว่ารัฐรวีรังเกียจที่ตนเป็นแค่คนใช้ รัฐรวียืนยันว่าทันทีที่กลับไปถึงกรุงเทพเค้าจะพามณฑาไปแนะนำกับพ่อแม่ แต่เมื่อทั้งคู่กลับมาที่พักก็พบว่าอาทิตย์กับวิไลลักษณ์เก็บข้าวของหนีตามกันไปแล้ว!! อาทิตย์พาวิไลลักษณ์หนีมาจดทะเบียนสมรสและอยู่ด้วยกันในอพาร์ทเมนท์เล็ก ๆ โดยต่างก็ยังไม่กล้าสารภาพฐานะที่แท้จริงของตัวเอง อิงอรที่ถูกอาทิตย์ปฏิเสธความสัมพันธ์ไปก่อนหน้านี้คิดจะแก้แค้นจึงพยายามตามสืบเรื่องของอาทิตย์จนไปรู้จาก หมอฉบัง (กรกันต์ สุทธิโกเศศ(อาร์ม KPN) เพื่อนรักของรัฐรวีว่าอาทิตย์เป็นแค่คนขับรถ อิงอรโกรธทั้งอาทิตย์และรัฐรวีจึงคิดจะแก้เผ็ดทั้งคู่ ภูวเดชที่ถูกมณฑิราปฏิเสธโดยอ้างว่ากำลังคบหากับรัฐรวีก็ไม่ยอมแพ้ เค้าแอบตามจับผิดรัฐรวีจนไปรู้ว่ามณฑิราก็คือมณฑา สาวใช้ที่รัฐรวีหลงรัก! อิงอรจึงรวมหัวกับภูวเดชวางแผนทำลายความรักของรัฐรวีกับมณฑิราในงานหมั้นที่รัฐรวีกำลังจะจัดขึ้นกับสาวใช้ที่ชื่อมณฑา! มณฑิราจะล่วงรู้แผนการของภูวเดชแล้วชิงสารภาพความจริงกับรัฐรวีได้ก่อนหรือไม่? รัฐรวีจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าตนถูกคนรักพิสูจน์รักแท้ด้วยการโกหกมาตลอด? อาทิตย์กับวิไลลักษณ์จะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตที่ตนเลือกไม่ได้เป็นคนร่ำรวยอย่างที่ตนฝันเฟื่องไว้ตั้งแต่แรก? แล้วอาทิตย์จะกลับมาช่วยเจ้านายสุดที่รักแก้ปัญหาความรักได้ทันหรือไม่? ความวุ่นวายที่เริ่มต้นจากความฝันเฟื่องของคนขับรถสุดพิเรน แต่กลับทำให้ทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างก็ได้พบรักแท้ที่รอคอยครั้งนี้จะผ่านพ้นไปได้อย่างไร? ติดตามกันต่อได้ใน ละครฝันเฟื่อง