2551
- ฝัน
- หวาน
- อาย
- จูบ
เรื่องย่อ : องค์บาก 2 (2551/2008) เมื่อรอยบากแห่งความแค้นฝังลึกถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจ ทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้จะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ดวงชะตากำหนดทุกสรรพสิ่ง ลิขิตชีวิตขึ้นสู่จุดสูงสุด และพร้อมดับทุกชีวิตดำดิ่งลงลึกถึงปลายเหวสู่จุดต่ำสุด บัดนี้มันได้กำหนดชีวิตของ “เทียน” เด็กหนุ่มที่หวังเติบใหญ่เป็นนักรบผู้แกร่งกล้าเฉกเช่นบิดา “ออกญาสีหเดโช” (สันติสุข พรหมศิริ) นายทหารผู้ซื่อสัตย์ซึ่งจงรักภักดีต่อเหนือหัวผู้ซึ่งยอมได้แม้กระทั่งสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินจากเหล่าผู้ฉ้อฉลและคนทรยศ แต่จากคำทำนายที่ว่าเมื่อใดที่เทียนซึ่งถือกำเนิดในฤกษ์พระกาฬเติบใหญ่ภายใต้วังวนแห่งคมดาบและกลิ่นคาวเลือด เมื่อนั้นผู้คนจำนวนมากจักต้องล้มตายกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ออกญาสีหเดโชตัดสินใจส่งเทียนไปให้ “ครูบัว” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เพื่อนสนิทซึ่งต่างเป็นลูกศิษย์ของพระครูปั้นมาด้วยกันช่วยบ่มเพาะสมาธิ เรียนรู้การฝึกจิตให้นิ่ง และศึกษาในด้านวิชาโขนนาฏศิลป์ เพื่อหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยจรรโลงจิตใจให้เกิดแต่สิ่งที่ดีงามขึ้น โดยมี “พิม” เด็กสาวที่ครูบัวเก็บมาเลี้ยงคอยให้ความช่วยเหลือ และมี “ไอ้เหม็น” (หม่ำ จ๊กม๊ก) ชายบ้าเสียสติแต่หลงใหลในนาฏศิลป์เป็นเพื่อนเล่น แต่แล้วชีวิตเทียนต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เมื่อ “พระยาราชเสนา” (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ซึ่งวางแผนขึ้นครองความเป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือส่งเหล่านักฆ่ามือดีมาลอบสังหารออกญาสีหเดโชทั้งครอบครัว และเหล่าทหารหาญให้สิ้นซากด้วยตนเอง โดยมีเทียนเพียงคนเดียวที่เล็ดรอดชีวิตมาได้ท่ามกลางความคลั่งแค้นที่อัดแน่นฝังลึกในจิตใจ โชคชะตาพลิกผันอีกครั้งเมื่อเทียนได้พบกับ “เชอนัง” (สรพงษ์ ชาตรี) หัวหน้ากองโจรผาปีกครุฑผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งช่วยชีวิตจากเงื้อมมือของเหล่าพ่อค้าทาสและยักษ์ขมุจอมโหด เพราะเล็งเห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นนักสู้และสัญชาตญาณความเป็นนักฆ่าที่แฝงเร้นอยู่ในแววตาซึ่งพร้อมจะสังหารผู้คนได้ทุกเมื่อ จึงตัดสินใจรับเป็นลูกบุญธรรมเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกองโจร ให้การชุบเลี้ยงฝึกฝนเหล่าสรรพวิชาอาวุธในศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบจากเหล่าปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า หมัดมวย การใช้เวทมนตร์คาถา ไปจนถึงการใช้สรรพวุธทุกชนิด ดาบ กระบี่ กระบอง 3 ท่อน วิชากล การใช้ระเบิด ฯลฯ เมื่อทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้ถูกบ่มเพาะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว “เทียน” (จาพนม ยีรัมย์) เติบใหญ่พร้อมพิษสงความสามารถรอบตัวที่ยากจักหาใครทัดเทียม หนำซ้ำยังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้งของกองโจรผาปีกครุฑ จนได้รับการยอมรับจากทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามารถสยบช้างงาดำ ช้างศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าชุมโจรให้ความเคารพและสักการะ ในขณะที่เชอนังเองตั้งใจมอบตำแหน่งหัวหน้ากองโจรให้เทียนรับหน้าที่ผู้สืบทอดต่อไป เพียงทว่า ณ เวลานี้มีเพียงภารกิจเดียวในชีวิตที่เทียนจักต้องกระทำคือการขจัดความคลั่งแค้นที่มันสุมอกอยู่ในจิตใจตลอดมา นั่นคือการมุ่งหน้าเพื่อสังหารเจ้าพระยาราชเสนาด้วยน้ำมือตนเอง โดยมีเป้าหมายในคืนวันสถาปนาเทวเสาวนีย์ครุฑที่เจ้าพระยาราชเสนาจะขึ้นครองอำนาจในฐานะจอมราชันย์อย่างสมบูรณ์ ภายใต้เปลวเพลิงแห่งความอาฆาต เทียนผสมผสานทุกความสามารถในการต่อสู้ที่บ่มเพาะมาทั้งชีวิต แปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความอำมหิต โหดเหี้ยม เกรี้ยวกราด ดุดัน เพื่อที่จะสังหารทุกผู้คนที่เกี่ยวข้องอย่างไม่กลัวเกรง โดยหารู้ว่าไม่ว่ายังมีเหล่านักฆ่าระดับยอดฝีมือของจอมราชันย์ที่เขาจะต้องเผชิญหน้าและรับมือที่ล้วนแล้วแต่ยากในการต่อกรไม่ว่าจะเป็น “องค์รักษ์เกราะทอง” (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ), “กลุ่มนักฆ่าลึกลับในชุดดำ” ไปจนถึง “ภูติสางกา” (ชูพงษ์ ช่างปรุง) ที่ถูกส่งมาเพื่อนำเทียนไปสัมผัสกับดินแดนแห่งความตายโดยเฉพาะ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากรอยบากแห่งความคลั่งแค้นที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต เลือดเนื้อ และจิตวิญญาณ มีเพียงพลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้าเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตของเทียนอยู่รอดได้
เรื่องย่อ : ปืนใหญ่จอมสลัด (2551/2008) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 400 ปีก่อน องค์หญิงฮีเจา (จารุณี สุขสวัสดิ์) ธิดาคนโตขึ้นเป็นรายาสตรีองค์แรกแห่งลังกาสุกะ ภายหลังจากที่รายาบาฮาดูร์ ชาห์ ถูกลอบปลงพระชนม์ ซึ่งลังกาสุกะเป็นรัฐอิสระที่อยู่รายล้อมกลุ่มกบฏและโจรสลัดต่าง ๆ จนยานิส บรี (Andre Machielsen) ปราชญ์แห่งอาวุธชาวดัตช์ เดินทางมาพร้อมกับ ลิ่มเคี่ยม (จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม) ลูกศิษย์ นักประดิษฐ์ชาวจีน เพื่อนำมหาปืนใหญ่ ถวายรายาฮีเจาใช้ป้องกันบ้านเมือง แต่ก็กลับถูกกลุ่มโจรสลัดนำโดย เจ้าชายราไว (เอก โอรี) และ อีกาดำ (วินัย ไกรบุตร) จอมสลัดผู้มีวิชาดูหลำ ซุ่มโจมตีจนเรือฮอลันดาแตก ยานิส บรีถึงแก่ความตาย ส่วนมหาปืนใหญ่จมลงสู่ก้นทะเล แต่ศิษย์ของเขาลิ่มเคี่ยมรอดชีวิตมาได้ ในเหตุการณ์วันนั้น ปารี (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) เด็กที่ลอยมาจากทะเลซึ่งพ่อแม่ของเขาตายจากฝีมือของอีกาดำ โดยมีลิ่มเคี่ยมซึ่งช่วยชีวิตปารีในครั้งนั้นไว้ได้ เมื่อเขาเติบโตเป็นหนุ่มชาวเล เขาและลิ่มเคี่ยมที่ประดิษฐ์อาวุธพิสดารมากมาย และตั้งกลุ่มก่อกวนตัดกำลังโจรสลัดขึ้น ในขณะที่ลังกาสุกะ ได้ให้ อูงู (แอนนา แฮมบาวริส) น้องสาวคนเล็ก อภิเษกกับ เจ้าชายปาหัง (เจษฎาภรณ์ ผลดี) เพื่อให้เป็นแผ่นทองเดียวกัน แต่อูงูก็ไม่เต็มใจนักขณะที่ยะรังนั้นกลับตกหลุมรัก บิรู (ณัฐรดา อภิธนานนท์) องค์หญิงคนรอง แต่ไม่เผยความรู้สึกออกมา เมื่อองค์หญิงฮีเจาต้องการหาผู้ช่วยที่ร่วมสร้างมหาปืนใหญ่ โดยจะตามหาลิ่มเคี่ยม ลูกศิษย์ของยานิส บรี ที่หมู่บ้านชาวเลโดยให้น้องสาวทั้งสองเดินทางมากับองครักษ์และลิ่มกอเหนี่ยว (มนัสนันท์ พัชรโสภาชัย) น้องสาวของลิ่มเคี่ยมที่เดินทางมาจากประเทศจีนเพื่อตามหาพี่ชาย แต่ก็เจอกับกลุ่มโจรสลัดอีกาดำที่มาทำลายหมู่บ้าน ฆ่าทุกคนตายจนหมด จนมีการต่อสู้กันระหว่างโจรสลัดอีกาดำและกลุ่มองค์หญิงและปารี ปารีและอูงูได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์กระเบนขาว (สรพงษ์ ชาตรี) ปรมาจารย์ทางดูหลำ และติดอยู่ที่เกาะกระเบน บ้านของอาจารย์กระเบนขาวในระหว่างหน้ามรสุม ปารีได้พบกับกระเบนดำ (สรพงษ์ ชาตรี) ซึ่งเป็นด้านมืดของกระเบนขาว ได้พบเห็นความน่ากลัวของวิชาดูหลำที่มีทั้งด้านสว่างที่ทรงพลังและด้านมืดที่น่ากลัว จนยากต่อการควบคุม และได้ฝึกฝนวิชาดูหลำชั้นสูงจากกระเบนขาว ในระหว่างฤดูมรสุมนั้น ปารีกับอูงูก็มีความรักต่อกัน ขณะเดียวกันลิ่มเคี่ยม ถูกจับตัวเป็นเชลยของกลุ่มสลัดและถูกบังคับให้ต้องสร้างปืนใหญ่ขึ้นมาเพื่อทำลายรัฐลังกาสุกะ โดยกลุ่มโจรนำน้องสาวของเขาจับเป็นตัวประกันกักขังไว้เป็นข้อต่อรอง ทางฝั่งลังกาสุกะเมื่อรู้ที่ซ่อนตัวของโจรอีกาดำจึงเดินทางเข้ามาซุ่มโจมตี ขณะที่ทั้งปารีและอูงูเห็นการทดลองปืนใหญ่จึงซุ่มเข้ามาเช่นกัน เมื่อมีการต่อสู้กันเจ้าชายราไว ก็ถึงขนาดปางตาย ทำให้อาจารย์กระเบนขาวซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ของเจ้าชายราไวถูกด้านมืดเข้าครอบงำ ใช้วิชาทำให้เจ้าชายราไวรอดตาย และยังใช้วิชาดูหลำงมมหาปืนใหญ่จากใต้ทะเลมาได้ เมื่อสงครามเกิดขึ้นลังกาสุกะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะถูกมหาปืนใหญ่ในตำนานทำลายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีหนอนบ่อนไส้อีก แต่ก็ได้ลิ่มเคี่ยมก็ได้สร้างปืนใหญ่มหาลาโลขึ้นมาใช้ในการต่อกร ทั้งยังได้ความช่วยเหลือจากเจ้าชายปาหัง และปารีก็ใช้วิชาดูหลำทำให้มหาปืนใหญ่ลงดิ่งสู่ใต้ทะเลอีกครั้ง
หลวงพี่เท่ง ๒ รุ่นฮาร่ำรวย (2551/2008) หลวงพี่โจอี้ (อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต) เป็นพระใหม่ที่เข้ามาจำพรรษาที่วัดแทนหลวงพี่เท่ง อยู่วัดได้ไม่นานก็ได้รับคำสั่งให้ไปพัฒนาวัดที่กำลังมีปัญหา ก่อนไปจึงไปลาโยมแม่ที่กำลังป่วย ซึ่งโยมแม่ก็ได้บอกความลับบางอย่างเกี่ยวกับโยมพ่อ และมอบของสำคัญชิ้นหนึ่งให้ หลวงพี่โจอี้ออกเดินทางไปวัดโคกสะอาด และพบว่าทั้งวัดเต็มไปด้วยฝุ่นละอองจากการระเบิดภูเขา หลวงพี่ศรี (ชูศรี เชิญยิ้ม) และ หลวงพี่พวง (พวง แก้วประเสริฐ) เล่าว่าเมื่อก่อนวัดเจริญมาก ผู้คนเข้ามาทำบุญกันมากมายเพราะการแหล่ของ หลวงตา (สุเทพ โพธิ์งาม) แต่ปัจจุบันหลวงตาป่วย ประกอบกับมีนายทุนมาซื้อที่ดินทำโรงโม่หินใกล้บริเวณวัด และฝุ่นละอองมากมายก็ทำให้ชาวบ้านเป็นโรคภูมิแพ้กันถ้วนหน้า หลวงพี่โจอี้คิดหาวิธีทางต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นอย่างสงบสุข แต่สิ่งที่หลวงพี่โจอี้ทำขัดกับผลประโยชน์ของนายทุน นายทุนจึงคิดกำจัดหลวงพี่ให้พ้นทาง หลวงพี่โจอี้ต้องต่อสู้กับใจตัวเอง และคนรอบข้าง โดยใช้หลักธรรมในการเอาชนะปัญหาต่างๆ
เรื่องย่อ : ฮะเก๋า (2551/2008) เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสนิทชมรมเด็กฟิล์มที่ประกอบไปด้วย "ใบหม่อน" สาวฮ้าวประจำกลุ่ม และ 5 หนุ่มเฮ้ว ทว่าการมาถึงของน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าชมรมอย่าง "ต้นข้าว" ทำให้มิตรภาพของเพื่อนซี้เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อ "บุ้ง" เพื่อนซี้ขอให้ใบหม่อนช่วยเขาจีบต้นข้าว ระหว่างที่ความรักของบุ้งไปได้สวยแต่ความรักของใบหม่อนกับแฟนสาวกลับจบสิ้นลง ใบหม่อนเริ่มถอยห่างออกมาจากชีวิตบุ้ง เพราะไม่อาจหาคำตอบให้กับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเพื่อนสนิทได้ เรื่องราวความทรงจำและมิตรภาพของ ใบหม่อน (วัตถาภรณ์ เอี่ยมสินธร) นักศึกษาทอมบอยสุดเท่ห์เสน่ห์แรง กับบุ้ง (พงษ์พิสุทธ์ ผิวอ่อน) เพื่อนซี้หนุ่มมาดเซอร์ผู้ไม่เคยรักใคร ใบหม่อนและบุ้งมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเหมือนดั่งคู่ซี้ปาท่องโก๋ และมีเพื่อนร่วมแก็งค์อีก 4 คน คือ พี่โข่ง (เฉลิมศักดิ์ แย้มขะมัง), กังฟู (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์), ไอ้แว่น (สิทธิพล วิศาลาภรณ์) และปารีส (ณรงค์ ชัยนาม) ว่ากันว่าถ้าแก๊งค์นี้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเมื่อไหร่มักมีเรื่องสนุก ๆ ชวนปวดหัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะความป็อบปูล่าที่สุดในกลุ่มของใบหม่อนที่มักจะนำปัญหาเรื่องผู้หญิงมาให้บุ้งช่วยเหลืออยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ใบหม่อนก็ยังมี น้าอสุนี (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) น้าชายอารมณ์ศิลป์ที่คอยทำทุกวิถีทางที่จะให้ใบหม่อนเลิกเป็นทอม และแล้วเรื่องวุ่นวายชนิดกวนหัวใจก็เกิดขึ้นเมื่อวันเปิดภาคเรียนมาถึง ชมรมเด็กฟิล์มได้รับสมาชิกใหม่เข้ามาซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ต้นข้าว (บุศริน มโหทาน) รุ่นน้องเฟรชชี่ปี 1 ที่มีดีกรีเป็นถึงดาวคณะศิลปกรรม ด้วยความสวยหวานน่ารัก ทำให้บุ้งประทับใจต้นข้าวตั้งแต่แรกเห็น บุ้งจึงขอร้องให้เพื่อนซี้อย่างใบหม่อนช่วยให้เขาได้ใกล้ชิดกับต้นข้าว ในขณะที่ใบหม่อนเองก็กำลังอกหักและผิดหวังจากน้ำตาล (สกาว เอื้อวิวัฒน์สกุล) แฟนสาวที่ทนพฤติกรรมรัก ๆ เล่น ๆ ของใบหม่อนไม่ไหวอีกต่อไป แต่แล้วความสัมพันธ์ของบุ้งและต้นข้าวที่พัฒนาขึ้น กลับทำให้เพื่อนรักเริ่มห่างกัน บุ้งกำลังกลายเป็นคนที่มีความรัก ในขณะที่ใบหม่อนก็กลับเป็นฝ่ายถอยห่างออกมาจากชีวิตบุ้ง เพราะไม่อาจหาคำตอบให้กับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเพื่อนสนิทได้