วาไรตี้ ผีฉลุย (2548/2005) “ต้อม เป็นเลิศ” ผู้มีความฝันที่จะเป็นผู้กำกับหนังใหญ่ฉายโรงใหญ่ๆ เหมือนกับอีกหลายๆ ต้อมที่ได้เป็นกันไปแล้ว แต่ความฝันก็คือความฝันที่เป็นได้เพียงแค่ความฝัน ถึงแม้ต้อมจะไม่ได้เป็นอย่างในฝัน แต่ในโลกแห่งความจริง ต้อมก็ยังโชคดีที่มีเพื่อน “ติ๊ก, ดู๋, แป่ว, เน็ก และ น้องลูกหมี” เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ร่วมโลกที่เขารู้จัก ทำให้เขาได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงที่ยังไงก็ไม่สวยงามเหมือนความฝันอยู่แล้ว เขาจึงกลับมามีความสุขและสนุกกับโลกแห่งความจริงได้อีกครั้ง “ต้อม เป็นเลิศ” (หม่ำ จ๊กม๊ก-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) เป็นผู้กำกับหนังสั้นระดับมือรางวัลหลายสถาบันรับรอง แต่เมื่อเขาคิดจะขยับมาลองกำกับหนังใหญ่และยาวกว่าเดิมในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำจึงไม่ใช่ของง่าย เพราะลำพังแค่จะกินให้ครบ 3 มื้อก็ยังยาก แถมที่เป็นปัญหาใหญ่สุดอีกอย่างของต้อมคือเขาเป็นคนที่เกลียดและกลัว “ผี” มากๆ ในขณะที่ตลาดทั่วโลกเวลานี้เป็นเวลาที่หนังผีกำลังบูมสุดๆ เส้นทางชีวิตของต้อมจึงสวนทางกับความสำเร็จอย่างช่วยไม่ได้ “ดู๋-ปัญญา นิรันดร์กาล” (เจี๊ยบ-วัชระ ปานเอี่ยม) โปรดิวเซอร์รายการทีวีวาไรตี้ เจ้าของบริษัท “Work 100” ที่กำลังเข้าตาจนสุดๆ เพราะเมื่อรายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” รายการแรกในรอบ 10 ปีของเขาผ่านการอนุมัติจากช่อง ทีมงานคู่บุญทั้งหมดของดู๋ดีใจมากฉลองกันจนสว่างที่ภูเก็ต เลยโดนคลื่นสึนามิกวาดลงทะเลไปหมด ดู๋จำเป็นต้องหาทีมงานใหม่มาแทนอย่างเร่งด่วนชนิดชั่วโมงเดียวได้ และต้องมีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่เรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ ที่พึงมีพึงได้ นอกจากที่กินที่นอนและความเป็นเพื่อนเท่านั้นที่ดู๋ยังมีเหลืออยู่ “ติ๊ก เดอะสตาร์” (ติ๊ก กลิ่นสี-ชาญณรงค์ ขันทีท้าว) เพื่อนซี้หารสองค่าเช่าห้องเดียวกันกับต้อม มีอาชีพเป็นตัวประกอบอดทนและทนอดให้กับการแสดงทุกชนิดในประเทศไทย ติ๊ก เดอะสตาร์คือไข่มุกเนื้องามที่รอวันเจียรไน ติ๊กหวังว่าจะมีผู้กำกับตาถึงและใจถึงมาค้นพบไม่วันใดก็วันหนึ่ง และเมื่อวันที่ต้อมและดู๋มาทาบทามให้ไปเป็นพิธีกรภาคสนามรายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” จึงเป็นโอกาสดีที่ติ๊กไม่ยอมปล่อยให้หลุดลอยเป็นเด็ดขาด “น้องแป่ว” (เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร) นักศึกษาเพิ่งจบสดๆ ชิลล์ๆ เธอเป็นหลานคนเดียวของดู๋เจ้าของบริษัท Work 100 ซึ่งกำลังขาดทีมงานพอดี น้องแป่วจึงโชคดีไม่ต้องตกงานเหมือนเพื่อนๆ อีกหลายคน เธอเหมาโหลเป็นทั้งเลขา ผู้ช่วย ผู้จัดการกอง และอีกหลายๆ ตำแหน่งที่ว่างอยู่พร้อมๆ กันทีเดียวเลย ถึงแม้ว่าเธออาจจะยังน้อยประสบการณ์ แต่หากขาดเธอผู้ซึ่งมีคติประจำใจว่า “กลัวอดมากกว่ากลัวผี” รายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” อาจจะ Stop ตั้งแต่ยังไม่ Start ก็เป็นได้ “Supernext” (ตั๊ก-บริบูรณ์ จันทร์เรือง) ศิลปินใหม่แกะกล่องของค่ายเฮียกู๋ยักษ์ใหญ่วงการเพลง อนาคตจึงต้องได้เป็นนักร้องดาวรุ่งขวัญใจวัยโจ๋คนล่าสุดอย่างไม่มีข้อสงสัย โดยเฉพาะกับอัลบั้มชุด“ไม่กลัวผี” Supernextจึงต้องมาเป็นพิธีกรรับเชิญภาคสนามคู่กับ “ติ๊ก เดอะสตาร์” เพราะคอนเซปต์ของเพลงแมตช์กับรายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” มั้กๆ เมื่อหลังชนฝาหมาจนตรอกด้วยกันทุกคน การช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างเพื่อนครั้งนี้จึงไม่ต่างจากการช่วยตัวเอง (Self Service) กฎเกณฑ์นี้ส่วนใหญ่จะมีใช้กันเฉพาะร้านอาหารฟาส์ตฟูดจากตะวันตก แต่ปัจจุบันนี้ก็แพร่หลายได้รับการยอมรับไปแล้วทั่วโลก จึงเป็นเรื่องอินเทรนด์ไม่ถือว่าผิดกติกาแต่อย่างไร “น้องลูกหมี” (แจ็ค แฟนฉัน-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์) ยินดีเสิร์ฟน้ำทุกที่ที่มีนักร้องหรือดาราขวัญใจวัยกรี๊ด ค่าแรงรายวันไม่สำคัญสำหรับเธอ ขอเพียงไห้มีโอกาสได้ใกล้ชิดศิลปินคนโปรดแถมได้ลายเซ็นมานอนกอดก็ถือเป็นความสุขที่สุดของชีวิตเด็กเสิร์ฟน้ำอย่างเธอแล้ว ทุกคนต่างเพศ ต่างวัย ต่างความคิดกัน แต่มีอย่างเดียวที่เหมือนกันคือ “กลัวผี” วันนี้พวกเขาและเธอจะต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อรับมือกับผีและต่อยอดความฝันของแต่ละคนกับรายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” วัดไหน ตึกไหน บ้านไหน ซอกไหน ซอยไหน มีข่าวว่าเฮี้ยน ลือกันว่าผีดุ พวกเขาจะเสี่ยงตายเอาชีวิตเข้าแลก บุกไปค้นไปถ่ายไปตามล่าหาผีตัวเป็นๆ มา On Air ให้ผู้ชมได้เสียวได้เกร็งกันถึงห้องนอน เมื่อรายการทีวี “Ghost Variety คน ค้น ผี” ได้ออนแอร์ก็ประสบความสำเร็จมีเรตติ้งสูงสุด พร้อมกับได้รับรางวัลต่างๆ จากภาครัฐทุกองค์กรทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องมากมาย ผลงานมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก บวกกับได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากโปรดิวเซอร์ใหญ่และเพื่อนๆ ต้อมจึงได้เป็นผู้กำกับหนังยาวและใหญ่สมความตั้งใจในที่สุด
Art Of The Devil ลองของ (2548/2005) เรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างเด็กวัยรุ่นทั้ง 6 คน…ต๊ะ ปอ คิ้ม แต นุช และโก้ ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่ต่างจังหวัด ปัจจุบันทุกคนแยกย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพ… มหานครแห่งทางเลือกและอนาคตที่ดีกว่า … พวกเขามีโอกาสกลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงปิดเทอม ด้วยการกลับมาเยี่ยม “ ครูพนอ ” อดีตครูที่เคยสอนพวกเขาสมัยมัธยมและเป็นแม่เลี้ยงของต๊ะ …… และเหตุการณ์ที่ ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในช่วงเวลาค่ำคืนแห่งความน่ากลัวนั้น… ความลับในอดีตบางอย่างของเพื่อนทั้ง 6 ที่ไม่เคยปริปากบอกกันก็ค่อยๆ เปิดเผยออกมาพร้อมกับการตายอย่างสุดสยอง…. เรื่องราวเกี่ยวพันกับครูพนอ ครูสาวเสน่ห์แรงแม่เลี้ยงของต๊ะ เสน่ห์ของเธอแรงจนชายที่อยู่รอบตัวเธอต่างพากันหลงใหลและทำของใส่เธอเพื่อให้เธอหลงเสน่ห์ เมื่อการโดนของเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจน ทำให้เธอเสียสติ เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จะเพี้ยน บ้าเหมือนคนโรคจิต ครูพนอพยายามที่จะเอาของออกจากตัวเธอ โดยได้เดินทางไปหาหมอแขกเพื่อทำพิธีให้ด้วยการกินเนื้อสดๆ ของผู้ที่ทำของใส่เธอ แต่เกิดความผิดพลาดแทนที่ของจะออกจากตัวเธอ มันกลับส่งผลทำให้เธอมีพลังและอำนาจมากขึ้น เธอถลำลึก และ กลับกลายเป็นผู้หลงใหลในไสยศาสตร์มนตร์ดำนั้นเสียเอง …. และในค่ำคืนนี้ครูพนอจะใช้มนตร์ดำ กับ ลูกศิษย์ของเธอ และพาพวกเธอเข้าสู่โลกแห่งการชำระแค้นด้วยไสยศาสตร์….
In the Name Of the Tiger เสือภูเขา (2548/2005) บนยอดเขาสูง มีรูปสลักหัวเสือขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านครอบคลุมศาลเจ้าพ่อเสือดำ ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี เสมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในเมืองหลัก ศูนย์กลางแห่งหุบเขาปกครองโดย 2 ผู้มีอิทธิพล คือ นายหัวจเย และ ท้าวไลข่าน ซึ่งแก่งแย่งต้องการ เป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ขณะที่ 2 ฝ่ายยกพวกปะทะกัน จู่ๆภูเขาที่รายล้อมเมืองได้ถล่มลงมา เมื่อภูเขาสงบลง นายหัวจเยได้พาร่างกายสะบักสะบอมไปไหว้ ศาลเจ้าพ่อเสือดำ เพื่อขอบคุณที่ช่วยให้รอดตาย ทันใดนั้นได้ปรากฏร่างชายคนหนึ่งชื่อ เล่าทง ซึ่งอยู่สภาพหิวโซ เข้ามากินของเซ่นไหว้ นายหัวจเยสั่งให้ลูกน้องจัดการ แต่กลายเป็นว่าถูกเล่าทงเล่นงานกลับอย่างรวดเร็ว ด่างลี ชายตัวสั้นจอมกะล่อน ผู้มีหน้าที่เฝ้าศาลจึงได้อุปโลกว่า เล่าทง คือ คนที่เจ้าพ่อเสือดำส่งมาช่วยนายหัวจเยตามคำขอ เพราะท่าทางของเล่าทงที่นั่งคร่อมบนหัวเสือ ไปสอดคล้องกับภาพวาดโบราณในผนังถ้ำ เล่าทง ยอมเข้าไปพวกนายหัวจเยเพื่อแลกกับทองคำ ขณะเดียวกันก็แอบรับทองจากพวกไลข่าน โดยยอมเข้าเป็นพวกเช่นเดียวกัน แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งเล่าทงได้พบกับ ไหมท้อ สาวกะเหรี่ยงคอยาว ซึ่งถูกพวกของท้าวไลข่านรังแก อีกทั้งยังมี แฝดนรก ยอดฝีมือจอมโหด และ 7 เทพบุตรแดนใต้ ผู้มีใบหน้าราวกับผี กำลังเดินทางมา กำจัดเล่าทง ด้วยเช่นกัน ภารกิจของเล่าทงเพื่อ ช่วยเหลือชนเผ่าคอยาว ไม่ให้ล่มสลายจากการถูกล้างเผ่าพันธุ์ กับการเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของ แฝดนรก และ 7 เทพบุตรแดนใต้ จึงเริ่มต้น
เด็กโต๋ อย่าเพิ่งรีบโต มาโต๋กันก่อน (2548/2005) ภาพยนตร์ดังกล่าวถ่ายด้วยกล้องวิดีโอดิจิตอล เล่าเรื่องราวของประยูร คำชัย ครูใหญ่โรงเรียนบ้านแม่โต๋ในแถบภูเขาชนบทของจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีครอบครัวเป็นชาวเขาฐานะยากจน (ส่วนใหญ่เป็นกะเหรี่ยงและม้ง) ดำรงชีพด้วยการเป็นเกษตรกรในสภาพภูมิประเทศที่มีความทุรกันดารและห่างไกล เด็กนักเรียนมักจะต้องเดินทาง 80 - 90 กิโลเมตรโดยใช้ถนนบนภูเขาที่แคบและคดเคี้ยว ซึ่งในฤดูฝนจะทำให้ถนนดังกล่าวใช้สัญจรไปยังโรงเรียนไม่ได้ และบ่อยครั้งที่ผู้ปกครองของนักเรียนยากจนเกินกว่าจะจ่ายค่าเล่าเรียนได้ ประยูรจึงมองหาหนทางที่จะรับประกันว่าเด็กนักเรียนในโรงเรียนขนาดใหญ่แห่งนี้จะได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสม ประยูร ผู้ซึ่งถูกขอร้องให้ไปทำหน้าที่ในโรงเรียนแห่งนี้เมื่อเขาเริ่มสอนในปี พ.ศ. 2526 ในตอนแรกเขาสังเกตว่าเด็กนักเรียนไม่มีอาหาร ดังนั้นเขาจึงริเริ่มโครงการอาหารกลางวันฟรี ด้วยการสร้างโรงเรียนกินนอนและหาหนทางที่เด็กนักเรียนยอมรับได้มากที่สุด โรงเรียนแห่งนี้ได้รับเงินสนับสนุนจำนวนเล็กน้อยจากรัฐบาลไทย วัสดุก่อสร้างหอพักโรงเรียนกินนอนได้มาจากเงินบริจาคที่ได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ แห่ง ซึ่งงานก่อสร้างและการพัฒนาอื่นๆ ส่วนใหญ่ เด็กนักเรียนและครูเป็นผู้ลงมือทำเอง นอกเหนือไปจากค่าอาหารส่วนหนึ่งที่ได้รับจากรัฐบาลนั้น นักเรียนต้องปลูกผักและเลี้ยงปศุสัตว์เองด้วย เพื่อนำผลผลิตที่ได้บางส่วนมาปรุงอาหารเลี้ยงดูกันภายในโรงเรียน โรงเรียนบ้านแม่โต๋เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประยูรกำหนดให้นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาได้รับรางวัลเป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตรเป็นเวลาสามวัน โดยรถบรรทุกหกล้อและรถบัส ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกิดจากการร่วมเก็บออมเงินกันเองภายในโรงเรียน สำหรับนักเรียนแล้ว นั่นคือการเห็นทะเลเป็นครั้งแรกในชีวิต ถือเป็นกุศโลบายอันแยบยลที่ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมุ่งมั่นในการออมและร่ำเรียนให้จบการศึกษา ตลอดจนมีวิชาติดตัวเพื่อประกอบอาชีพหรือศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไป
Match Point Match Love เพราะรักครับผม (2548/2005) ท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุของชายหาดพัทยา การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดรอบชิงชนะเลิศปีนี้ ทำให้หัวใจของผู้ชายคนหนึ่งเปลี่ยนไปตลอดกาล แซนด์ (จิตรกร บุญสอน) หัวโจกแก๊งท้องถิ่นชายหาดพัทยา เด็กหนุ่มเดินดินใช้ชีวิตไปวันๆ จนกระทั่งได้พบ เน็ท (ซาร่า มาลากุล เลน) นักวอลเล่ย์บอลชายหาดดาวรุ่งที่จับคู่ลงแข่งคู่กับ โอปอล (มารีออน อัฟโฟลเทอร์) จนคว้าแชมป์มาหลายทัวร์นาเม้นท์ แซนด์พยายามใกล้ชิดเน็ท แต่เน็ทกลับมีความรู้สึกผูกพันกับ พีท (ศิวัส นฤภัย) โค้ชหนุ่มที่เน็ทมองเห็นเขาเป็นวีรบุรุษมาตั้งแต่เด็ก การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศใกล้เข้ามา ทีมคู่แข่งน่ากลัวของเน็ท คือ เรย์โกะ (รัศมี ทองสิริไพรศรี) แชมป์วอลเล่ย์บอลจากญี่ปุ่นเชื้อสายไทย กับ น้ำหวาน (อภิษฎา เครือคงคา) เรย์โกะไม่เพียงนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่เกมวอลเลย์บอล แต่เรย์โกะยังทำให้ปมความรักที่ผูกมัดพวกเขาทุกๆ คนไว้ ยิ่งพลิกผันมากขึ้นอีก เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของ เจ๊แต๋ว (เจเน็ต เขียว หรือ นงนุช สมบูรณ์) สาวใหญ่เจ้าของบาร์ในพัทยา เจ๊แต๋วเฝ้าดูความเป็นไปในความรักของหนุ่มสาว พร้อมทั้งให้คติเตือนใจน้องๆ ว่า "ความหวังไม่ได้มีให้เราสมหวัง แต่มีให้เราไขว่คว้า"
Rainbow Boys: The Movie เรนโบว์บอยส์ เดอะ มูฟวี่ (2548/2005) เรื่องราวรักวัยรุ่นสามคน และมิตรภาพอันลึกซึ้งเปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน ระหว่างเพื่อนนักเรียนเกย์สามคนในเมืองหลวง พวกเขาต้องการค้นหาความรู้สึกของตัวเอง ผ่านการเรียนรู้และต่อสู้กับความขัดแย้งภายในใจ พวกเขาดิ้นรนให้หลุดจากสิ่งที่ใครๆ บอกและตีกรอบเอาไว้ จนเริ่มเรียนรู้ว่าการเป็นตัวของตัวเองคือ สิ่งที่มีความหมายที่สุด
ใยสยองซ่อนตาย (2548/2005) หญิงชราคนหนึ่ง ถูกชาวบ้านกล่าวหน้าว่าเป็นผีร้ายที่คอยจับเด็กไปกินจึงจับเธอเผาทั้งเป็น ซึ่งบริเวณนั้นเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยรังแมงมุม ด้วยความแค้นทำให้ดวงจิตของหญิงชราผู้นั้นได้พุ่งเข้าสู่ตัวแมงมุม และกลับมาแก้แค้นพวกชาวบ้านในร่างของแมงมุมยักษ์ ซึ่งไม่มีใครสามารถปราบมันได้ ชาวบ้านต้องคอยนำเด็กชายมาเซ่นไหว้ทุกปี และทุกครั้งที่แมงมุมยักษ์ได้ลิ้มรสกับเหยื่อของมัน มันจะมีพลังอำนาจมากขึ้น
Scared รับน้องสยองขวัญ (2548/2005) หลายคนอาจเคยผ่านช่วงชีวิตแห่งการรับน้องในมหาวิทยาลัยกันมาแล้ว บางคนอาจสนุกกับการได้เจอเพื่อนใหม่หรือสถานที่เรียนใหม่ แต่บางคนอาจต้องพบกับเหตุการณ์ที่ต้องจดจำไปทั้งชีวิตเหมือนบรรดาน้องๆ เฟรชชีปีหนึ่ง หน้าใสกิ๊กจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ทั้ง 17 คนที่ต้องเจอกับพิธี “รับน้องสยองขวัญ” “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ร่วมกับ “บาแรมยู” นำเสนอเรื่องราวเขย่าขวัญที่จะพาคุณไปสัมผัสกับความหลอนสั่นประสาทโดยไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้ล่วงหน้ากับภาพยนตร์เรื่อง “รับน้องสยองขวัญ” ผลงานการกำกับของ “ภาคภูมิ วงษ์จินดา” ที่เคยฝากผลงานไว้ใน “ฟอร์มาลีนแมน รักเธอเท่าฟ้า” (2547) กับการนำนักแสดงหน้าใหม่ทั้ง 17 คนมารับบทนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยความน่าสนใจของโปรเจกต์นี้จะอยู่ที่นักแสดงแต่ละคนไม่สามารถมีโอกาสได้รู้ถึงบทหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น…
The Tiger Blade เสือคาบดาบ (2548/2005) "...เขาไม่ใช่ตำรวจแต่...มีหน้าที่เก็บกวาดวายร้ายของสังคม..ก่อนส่งต่อให้ตำรวจ ปืน..ดาบ คือ อาวุธประจำกายรายล้อมด้วยสาว ๆ ..ที่เสมือนอาวุธประจำใจ..." ยศธนา (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) เจ้าหน้าที่ของหน่วยปฎิบัติการณ์ลับแห่งชาติในมาดหนุ่มเพลย์บอยที่รายล้อมไปด้วยสาว ๆ เคราแดง (อนันต์ บุนนาค), เคราดำ ( ยอดนิยม นิยมสุข) คู่แสบต่างวัยเพื่อนร่วมก๊วนของยศธนา เป้าหมายสำคัญของพวกเขาคือการเก็บกวาดวายร้ายทางสังคม ผู้พันเก้ายอด (พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง) ผู้นำชนกลุ่มน้อยคนร้ายระดับพิสดารซึ่งเป็นทีต้องการของทางการเกิดเสียท่าให้กับ ยศธนา จนถูกกักขังในเรือนจำ ปฎิบัติการณ์บุกชิงคนร้ายอย่างอุกอาจได้เริ่มขึ้นท่ามกลาง การคุมกันของตำรวจอย่างแน่นหนา โดยไม่มีใครทราบว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือใคร เพียงแต่รู้ว่าเขาต้องการได้คนมากความสามารถอย่างผู้พันเก้ายอดมาร่วมงานกับ 3 สุดยอดคนร้าย อย่า มเหศักดิ์ (อมรฤทธิ์ สีผึ้ง) ร่างหนังเหนียว ผู้ที่ไม่รู้จักความเจ็บปวดไม่มีอาวุธใดทำร้ายได้ จอมโจร 5 นัด (ชลัฎ ณ สงขลา) ผู้ทีปลิดชีพเหยื่อลงอย่างช้าๆทีละนัดเพื่อความทรมาน และ จี ไอ เจนจิรา (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ) ความสวยที่มาคู่กับความอันตราย เพื่องานชิ้นสำคัญที่จะส่งผลถึงสถานะของประเทศ พวกเขาต้องการ ผู้พันเก้ายอดร่วมแก๊งด้วยจึงฝ่าวงล้อมตำรวจช่วยเหลือในครั้งนี้ ขณะที่ตำรวจยังไม่มีวี่แววในการควานหาตัวคนร้าย........ แต่ที่นี่หน่วยปฎิบัติการณ์ลับแห่งชาติกำลังได้เบาะแสที่กบดานแรกของพวกมัน หัวหน้าหน่วยระดมยอดฝีมือของหน่วยฯเพื่องานนี้ โดยมี ดวงดาว (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) ช่วยวางแผนในการจับกุมเพราะคนร้ายกลุ่มนี้เป็นที่รู้ดีถึงความไม่ธรรมดาของพวกมัน สมร (ฐิติมา มะลิวัลย์) ค้นพบอาวุธโบราณชนิดหนึ่ง จากคอมพิวเตอร์ที่เขาเจาะข้อมูลเข้าไป และนี่คือหนทางเดียวที่จะกำจัด มเหศักดิ์ มนุษย์หนังเหนียวนี่ได้ ดาบชนิดนี้นอกจากเจ้าของที่แท้จริงของมันแล้วไม่มีผู้ใดที่จะมีพละกำลังยกมันขึ้นมาได้เกิดอาเพศขึ้นในขณะที่พวกเขาค้นพบดาบเจอยศธนา คือผู้ที่ยก "ดาบทาสเหล็กไหล" นี้ได้ เขาได้ฉายาว่า "เสือคาบดาบ" การเผชิญหน้าได้เริ่มขึ้นมันไม่ใช่เพียง ตำรวจ ตามจับผู้ร้ายเท่านั้นหากแต่กลวิธีการไล่ล่าที่ต้องปรับกระบวนการให้เหมาะกับคนร้ายแต่ละคนการตอบโต้ที่พลิกแพลงตลอดเวลาแผนการณ์เพื่องานชิ้น สำคัญเทคโนโลยีล้ำยุคไสยศาสตร์อันถาวรสาวสวยไม่ซ้ำหน้ามิตรภาพต่างขั้วและ ดาบทาสเหล็กไหลพบกับจุดจบที่คาดไม่ถึง
The King Maker กบฏ ท้าวศรีสุดาจัน (2548/2005) “เฟอร์นานโด เดอ กัมมา” (แกรี สเตร็ช) ทหารรับจ้างหนุ่มจากประเทศโปรตุเกส ออกเดินทางมายังดินแดนในซีกโลกตะวันออกใน ค.ศ 1547 เพื่อแสวงหาความร่ำรวยเฉกเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชาติอีกหลายคนไปพร้อมกับการติดตามร่องรอยของบุคคลในอดีตที่เคยสังหารพ่อของเขาต่อหน้าต่อตาในขณะที่เขามีอายุเพียง 8 ขวบ ภาพความทรงจำดังกล่าวเป็นที่ติดตาและฝังใจแก่เขาเสมอมา แต่ในระหว่างการเดินเรือเขาพร้อมกับพวกพ้องกลับต้องเผชิญกับเคราะห์ร้ายเมื่อพายุทะเลคลั่งโหมซัดจนทำให้เรือจมลงใต้พื้นมหาสมุทรอินเดียอันกว้างใหญ่ เหลือเพียงเขาคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้จากเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่กลับกลายเป็นว่าเขาถูกพ่อค้าทาสชาวอาหรับจับตัวไปยังดินแดนอยุธยาเพื่อขายเป็นทาส กรุงศรีอยุธยาเมื่อราว 458 ปีที่แล้วกล่าวได้ว่าเป็นดินแดนแห่งการค้าขายที่เหล่าอาณาประเทศและผู้คนหลากหลายเชื้อชาติต่างหลั่งไหล่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นชาวตะวันตกไปจนถึงตะวันออกที่ใกล้เคียง แต่ใช่ว่าโชคชะตาของเฟอร์นานโดจะอับโชตเสียทีเดียว เมื่อเขาได้รับการไถ่ตัวให้มีอิสรภาพจาก “มาเรีย” (สิรินยา เบอร์บริดจ์) หญิงสาวชาวโปรตุเกสผู้มีจิตใจงดงามที่เดินทางติดตาม “ฟิลลิปป์” (จอห์น รีส-เดวีส์) บิดาผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมการก่อสร้างกำแพงเมืองให้กับ “พระชัยราชา” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) กษัตริยแห่งอยุธยา ต่อมาเมื่อกษัตริย์แห่งลานนาคิดแข็งข้อต่ออยุธยาโดยการส่งศีรษะของผู้ส่งสารมาให้ พระชัยราชาทรงกริ้วเป็นอย่างยิ่งจึงตัดสินใจยกทัพเข้าสู่ศึกสงครามพร้อมกับ “พระมหาจักรพรรดิ” (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) พระเชษฐาของพระชัยราชา ส่งผลให้เหล่าพันธมิตรของอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นชุมชนโปรตุเกส, ญี่ปุ่นต่างเข้าร่วมทำศึกในครั้งนี้ เฟอร์นานโดเองก็เข้าร่วมรบในฐานะทหารที่มีประสบการณ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ความห้าวหาญในฐานะนักรบของเขาจะสร้างความพึงพอพระทัยแก่องค์กษัตริย์จนพระองค์แต่งตั้งเขาให้เป็นหนึ่งในราชองครักษ์พร้อมกันกับเพื่อนใหม่ชาวไทยผู้อาจหาญนาม “ทอง” (ดอม เหตระกูล) ที่เขาได้มีโอกาสช่วยชีวิตไว้ในสมรภูมิรบ ขณะเดียวกัน “มเหสีสุดาจัน” (ยศวดี หัสดีวิจิตร) ผู้เลอโฉมแต่ร้ายกาจได้วางแผนลอบปลงพระชนม์พระชัยราชาและ “พระยอดฟ้า” (ชาลี ไตรรัตน์) พระโอรสที่เกิดกับตนขึ้น เพื่อที่จะจะปูทางให้ “พันบุตรศรีเทพ” (อัครา อมาตยกุล) ชู้รักของนางขึ้นครองราชย์ โดยมีมือสังหารจากต่างชาติร่วมมือในแผนการร้าย นายทองและเฟอร์นานโดราชองครักษ์ปกป้องกษัตริย์ชนิดถวายหัว และพยายามสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังแผนการร้ายในครั้งนี้ ก่อนที่จะพบว่ามีเงื่อนงำบางอย่างเชื่อมโยงมายังฟิลลิปป์พ่อของมาเรีย แต่แล้วโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ทั้งสองพบว่าพระมเหสีมีส่วนสำคัญในแผนการครั้งนี้ แต่ก็สายเกินกว่าจะช่วยพระมหากษัตริย์ให้รอดพ้นจากการถูกพระมเหสีวางยาได้ เช่นเดียวกันกับที่พระโอรสซึ่งถูกเหล่าองครักษ์ผู้ของมเหสีปลงพระชนม์ เมื่อกษัตริย์ทรงสวรรคต เฟอร์นานโดกับทองกลายเป็นผู้ถูกกล่าวโทษว่าเป็นผู้เกี่ยวข้อง โดยมาเรียและครอบครัวของทองเองก็ถูกทหารจับตัวไป เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป เตรียมพบกับอีกหนึ่งมุมมองของเรื่องราวจากประวัติศาสตร์ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องยิ่งใหญ่ระดับฮอลลีวูด “กบฏท้าวศรีสุดาจัน” 20 ต.ค.นี้ ในโรงภาพยนตร์
Ahingsa Stop to Run อหิงสา จิ๊กโก๋ มีกรรม (2548/2005) อหิงสา (บริวัตร อยู่โต) จิ๊กโก๋เดินดินนายหนึ่ง เกิดมาในยุคสมัยที่โลกหมุนเร็วรี่ด้วยไฮ-สปีดอินเตอร์เน็ต สื่อมวลชนกำลังแตกตื่นกับผลเสียของการตัดต่อพันธุกรรม สมัยเด็กอหิงสาเคยป่วยหนัก หมอโรงพยาบาลรักษาไม่ได้ พ่อแม่เลยพาอหิงสาไปรักษาด้วยพิธีเหยียบเสน ศาสตร์ลี้ลับที่ไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ โตเป็นหนุ่ม อหิงสาใช้ชีวิตสุดขั้วอยู่ในหมู่เพื่อนเพี้ยนๆ อย่าง อุโฆษ (ปริญญา งามวงศ์วาน) และ ไอน์สไตน์ (จอนนี่ อันวา) อหิงสาโดนรังควาญไม่หยุดหย่อน จาก "ไอ้เวรกรรม" (ธีรดนัย สุวรรณหอม) ไอ้บ้ามาจากไหนไม่รู้ แค่เห็นหน้ามันก็ปวดประสาท บ้าสีแดง หัวจรดเท้ามีแต่สีแดง รองเท้าแดง เสื้อแดง หัวแดง มันคอยโผล่มาว่าแดกดัน ประชดกวนบาทาก็เท่านั้น ยียวนกวนประสาทไม่เลิกรา พอถามกลับว่า "มึงเป็นใคร?" ดันตอบว่า เป็นไอ้เวรจริงๆ แล้วไอ้เวรหัวแดงนี้ อหิงสาสู้กับ ไม่มีวันชนะ มือหนัก ตีนยิ่งหนัก บทลงไม้ลงมือก็เล่นแรงๆ เล่นของหนัก ไม้หน้าสามงี้ ขับรถบี้งี้ กระทืบเอากันถึงตาย ไม่ว่าอหิงสาจะควบหนีสุดฝีเท้าขนาดไหน "ไอ้เวร" นี่ ก็ยังกวดไล่มาติดๆจ่อเข้ามาชนิดหายใจรดต้นคอได้ทุกที ราวกับฟ้าสร้างให้มันรู้ทันอหิงสาไปทุกย่างก้าว "พัทยา" (ธรัญญา สัตตบุศย์) คุณหมอคนสวย มีแฟนเป็นตำรวจ "มารุต" (กิรเดช เกตกินทะ) ชีวิตหญิงสาวพรั่งพร้อมดูดีอย่างพัทยา ไม่น่าจะมาข้องแวะกับจิ๊กโก๋อย่างอหิงสาได้ แต่ก็คล้ายมีบางอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว อหิงสากำลังเจอกับอะไรกันแน่? เวรกรรม, ความรัก? หรือทั้งสองอย่าง? จริงอยู่... เวรกรรมของใครของมัน ต้องสู้กันเอาเองถึงจะสู้กับ ไม่เคยชนะ แต่งานนี้ต้องหันหน้าสู้เท่านั้น !
Dek Dehn เด็กเดน (2548/2005) เด็กเดน เรื่องราวของ แจ็ค (แจ๊คแฟนฉัน) นักเรียนมัธยมที่พยายามจีบหญิงจนเป็นเหตุของนักเรียนสองสถาบัน ก่อเหตุยกพวกตีกันกลางเมือง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ หนึ่งในนั้น คือวิว (แพททริค ชานนท์) กับน้องอิ๋ว (ณัฐกุล พิชยะพงษ์ไพบูลย์) น้องสาวสุดที่รักของชาญ(ธนากร โปษยานนท์) ได้รับบาดเจ็บจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เหตุการณ์ครั้งนี้ ชาญหัวใจแทบสลาย เจ้าหน้าที่รวบตัวนักเรียนได้จำนวนหนึ่ง หนึ่งในนั้นมี แจ็ค อาจารย์ดุสิต(ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง) และวณิพก(ใหม่ วงไอน้ำ) ติดร่างแหไปด้วย ทุกคนจึงโดนส่งไปฝึกอบรมในโครงการบุรุษอาชีวะ ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในภาคใต้ ซึ่งมีผู้กองอภิวัฒน์( ปั๋ง ประกาศิต) จ่าสมหมาย (ฐิติ พุ่มอ่อน) จ่าชะเอม (ทวีศักดิ์ นกเทศ) จ่าสมร (อุบลวรรณ บุญรอด) เป็นครูฝึก แต่แจ็ค อาจารย์ดุสิตและวณิพก และหัวโจกสองสถาบันนำโดย ขิง (หลุยส์ สก๊อตต์)และแว่น (นันทศัย พิศยบุตร)กับพวกแว่น (นันทศัย พิศยบุตร)วางแผนหนีออกจากค่ายแม้จะพ้นออกมาได้แต่ต้องไปอยู่ในเหตุการณ์สมรภูมินองเลือดอีก และจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาอีก
Dear Dakanda เพื่อนสนิท (2548/2005) คุณเคยแอบรัก "เพื่อน" มั้ย? กว่า 1500 กิโลเมตร จากทิวเขาและไอหมอกในจังหวัดเชียงใหม่ สู่ไอน้ำเค็มของหมู่เกาะพะงัน จังหวัด สุราษฏ์ธานี ความรักของ ไข่ย้อย หนุ่มนักศึกษาศิลปะ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ที่เกิดขึ้นสองครั้งสองครากับ เพื่อนสองคน ที่เชียงใหม่ ไข่ย้อย คือ หนุ่มเมืองกรุงฯ จากโรงเรียนชายล้วนที่แสนขี้อาย เขาไม่กล้าคุยกับผู้หญิง พูดตะกุกตะกักทุกครั้งที่มีสาวๆ เข้ามาทัก เป็นเหตุให้ต้องคอยหลบเลี่ยงอยู่เสมอ จนกระทั่งหญิงสาวท่าทางสดใส กระฉับกระเฉงเกินมาตราฐานสาวเหนือทั่วไปเข้ามาสมัครเป็นเพื่อน เธอชื่อ ดากานดา ซึ่งสำหรับไข่ย้อย ช่างเป็นชื่อที่แปลก แต่มีเสน่ห์สมตัวเจ้าของเป็นที่สุด ไข่ย้อยแอบหลงรักดากานดา แต่ไม่เคยเอ่ยปาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ขยับเข้าใกล้มากที่สุดที่คำว่า เพื่อนสนิท เพราะดากานดามีคนที่เธอรักซึ่ง ไม่ใช่เขา ที่พะงัน ไข่ย้อย คือ หนุ่มศิลป์จากเชียงใหม่ ที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาเป็นคนไข้ถึงสถานีอนามัยแห่งเดียวบนเกาะ ไข่ย้อย พลัดตกจากดาดฟ้าเรือขาหักจากการพยายามขึ้นไปเล่นบทพระเอกมิวสิกวิดีโอ ท่ามกลางคนแปลกถิ่นหน้าเข้ม พูดจาเร็วปรื๋อ ไข่ย้อยได้ พยาบาลสาวตาโต ยิ้มเก่งเป็นคนคอยดูแล เธอชื่อ นุ้ย ซึ่งสำหรับไข่ย้อย รอยไมตรีที่เธอจ่ายให้เขาบ่อยกว่าจ่ายยา ทำให้เขาสมัครเป็นคนไข้ไม่มีกำหนดหายอย่างเต็มใจ ไข่ย้อยรู้ว่านุ้ยมีใจให้เขา แต่เธอก็ไม่เคยเอ่ยปาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ขยับเข้าใกล้มากที่สุดที่คำว่า เพื่อนสนิท บางทีเธอคงรู้ว่า เขามีคนที่รักซึ่ง ไม่ใช่เธอ ความรักของคนสามคน เกิดขึ้น สองสถานที่ สองเวลา ความรักของคนคู่ใดจะก้าวพ้นคำว่า เพื่อนสนิท ความรักของไข่ย้อย จะจบลงที่ไหน ภูเขา หรือ ทะเล
The Remaker คนระลึกชาติ (2548/2005) เรื่องราวของ "ต้อม" (แอนดริว เกร็กสัน) ชายหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุ รถที่เขาขับมาตกจากสะพาน และตัวเขาก็จมดิ่งลงสู่ใต้น้ำพร้อมรถ เขาได้รับการช่วยเหลือจาก "พิม" (พิยดา อัครเศรณี) หญิงสาวคนหนึ่งที่บังเอิญผ่านมา และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจนรอดชีวิตปลอดภัยมาได้ หลังจากเกิดเหตุต้อมก็เห็นภาพและได้ยินเสียงแปลกๆ ราวกับจะมีใครบางคนบอกกับเขาว่า เรื่องที่เกิดไม่ใช่อุบัติเหตุ และการที่มีคนผ่านมาช่วยก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทั้งหมดเป็นกรรม ที่เขาและเธอเคยร่วมกันทำมาตั้งแต่ชาติปางก่อน แต่กรรมในอดีตยังไม่สิ้น และอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ทุกวันเวลา
ชัตเตอร์ ภาพถ่ายวิญญาณหลอน (2548/2005) หนึ่งภาพถ่ายมรณะ หนึ่งวิญญาณตามหลอกหลอนกับหนึ่งครอบครัวที่ต้องเผชิญ จงระวัง ! ความตายอาจอยู่ใกล้ตัวคุณ นักแทน ชายหนุ่มผู้รักในการถ่ายภาพ เขาพยายามถ่ายภาพวิวเพื่อส่งให้กับนิตยสาร ท่องเที่ยว และเขาก็พบว่าภาพที่เขาถ่ายมีวิญญาณปรากฏอยู่ ซึ่งเป็นภาพวิญญาณปริศนา ที่มากับฟิล์มเก่าสมัย 20 ปีก่อน และตั้งแต่นั้น แทนก็เจอะเจอกับเหตุการณ์แปลก ๆ และ สยองขวัญ จนไม่เป็นอันทำอะไร เขาจึงพยายามหาทางสืบหาแหล่งที่มาของฟิล์มและ วิญญาณร้าย จนได้รู้ความจริงทั้งหมดว่าแท้จริงแล้วฟิล์มนั้นเป็นของทศ ซึ่งเป็นฆาตกร จึง ทำให้วิญญาณนั้นกลายเป็นวิญญาณที่เต็มไปด้วยความอาฆาต และรอวันกลับมาแก้แค้น โดยใช้แทนเป็นคนนำไปสู่เรื่องราวทั้งหมด...
นาค รักแท้ วิญญาณ ความตาย (2548/2005) ตำนานผีไทยที่ยังคงวนเวียนอยู่ในกรุงเทพถึง พ.ศ. นี้ เพื่อพิสูจน์ว่าความรักอยู่เหนือความตาย มาก (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) ชายหนุ่มที่ฝันร้ายเห็นผีสาวตาดำ ปากดำและหน้าผากเป็นรูโบ๋ ซึ่งเขาไม่สามารถอธิบายภาพสยองให้ใครเข้าใจได้ มีเพียงแต่ นาค (ภัทรธิดา พัชรวีรพงษ์) แฟนสาววัยรุ่นและว่าที่เจ้าสาว ที่คอยปลอบประโลมเขา ในตลาดขายของเก่าแห่งหนึ่ง มากได้ไปเจอเข็มกลัดรูปไข่หน้าตาประหลาด สีซีดและเย็นเฉียบ แต่บางอย่างดลใจให้เขาซื้อมัน เพื่อเป็นของขวัญแต่งงานให้กับนาก มาก กับ นาค หาบ้านในหนังสือพิมพ์ และพบหลังหนึ่งแถวย่านพระโขนงที่ประกาศขายในราคาถูกมาก นายหน้าค้าบ้านจอมงมงาย แองเจิล (มีศักดิ์ นาครัตน์) เสนอขายบ้านให้กับวัยรุ่นคู่นี้ถูกๆ เป็นบ้านทรงไทยอายุร้อยกว่าปีซึ่งต้องซ่อมแซมก่อนเข้าอยู่ แต่ก็เป็นบ้านในฝันที่ มาก กับ นาค จะเริ่มต้นชีวิตแต่งงานร่วมกัน หนุ่มสาวคู่นี้ไม่รู้เท่าทันสัญญาปลอมของแองเจิลที่จะยึดบ้านคืนก่อนวันวิวาห์พวกเขา แองเจิลแอบย่องมาตอนกลางคืนเพื่อลงมือทำแผนชั่ว แต่ก็ต้องพบกับผีสาวในฝันร้ายของมาก แองเจิลจำได้ว่าเธอ คือ แม่นาก (พรทิพย์ ปาปะนัย) เธอตามหลอกเขาไปถึงรถไฟฟ้า เขาถูกฆ่าตายอย่างสยดสยอง ซึ่งดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุรถไฟที่ประหลาด มาก กับ นาค ยังไม่รู้ว่า แองเจิล ตายแล้ว ทั้งสองฉลองวันแต่งงานอันหวานชื่นกับญาติมิตรและครอบครัว แต่เหตุร้ายเกิดขึ้นอีกครั้งหลังวันแต่งงาน เมื่อทั้งคู่กลับมายังเรือนหอกลางดึก และพบว่าของขวัญถูกขโมยไป ระหว่างทางไปทำงาน มากเห็นหัวขโมยขายของขวัญแต่งงานของเขาบนถนน เขาพยายามจะจับขโมย แต่พวกมันหนีขึ้นรถตู้ไปโดยทำร้าย มาก จนสลบแล้วทิ้งไว้กลางถนน นาครีบไปที่โรงพยาบาลก็พบว่า มาก อยู่ในอาการสาหัส เมื่ออยู่กันตามลำพังสองคน เขากลับตื่นขึ้นมาช่วงสั้นๆ เพื่อบอก นาค ให้ไปตามหาแม่นากพระโขนง นาคไปปรับทุกข์กับคุณยายของเธอ (มารศี อิสรางกูล ณ อยุธยา) คุณยายจึงเล่าให้ฟังเรื่องตำนานแม่นากพระโขนง หญิงสาวที่ตายท้องกลมและกลายเป็นผีกลับมาอยู่กับสามี พี่มาก (จรัญ งามดี) และผู้คนที่ไปขัดขวางเธอพากันตายอย่างลึกลับ เมื่อมีคนตายแบบแปลกๆ มากขึ้นเรื่อยๆ พวกชาวบ้านจึงได้หาพระมาขับไล่วิญญาณชั่วร้ายนี้ออกไป พระได้ทำพิธีตัดกะโหลกหน้าผากออกมาเป็นรูปวงรีเพื่อสะกดวิญญาณไว้ภายใน โดยท่านได้เป็นผู้เก็บเอาไว้หลายปีจนกระทั่งมันหายไปกับกาลเวลา รอให้คนมาค้นพบ นาคเริ่มโยงใยระหว่างเข็มกลัดกับอาการของ มาก นี่จะใช่เข็มกลัดที่สะกดวิญญาณของแม่นากพระโขนงไว้ไหม

หน้าที่