ภาพยนตร์
เมืองทอง (2480/1937) ชีวิตของ ฉัย ต้องพลิกผันเมื่อ นายสุด ผู้เป็นพ่อโดนเสือกินระหว่างการเดินทางไปค้าขายยังต่างถิ่นส่วน นางคำ ผู้เป็นแม่ ก็ยังมาตรอมใจตายตามพ่อไปอีกคนก่อนตายนางคำได้สั่งเสียให้ฉัยไปขออาศัยอยู่กับ นายเหมือน ผู้มีศักดิ์เป็นลุง นายเหมือนและ นางสลวย สองสามีภรรยาเป็นเศรษฐีที่มีจิตเมตตา สงสารชะตากรรมของฉัยจึงรับอุปการะส่งเสียให้ฉัยได้ร่ำเรียนในโรงเรียนเหมือนเด็กๆ ทั่วไป 15 ปีผ่านไป ฉัย เป็นผู้ใหญ่พอที่จะช่วยแบ่งเบางานของนายเหมือน ช่วยเก็บเงินค่าค้าไม้ ส่วน เพ็ญศรี ลูกสาวของนายเหมือนก็โตเป็นสาวงาม มีหนุ่มมากมายมาติดพันโดยเฉพาะ สอน คู่ปรับในวัยเด็กของฉัยที่เพียรมาขอความรักเพ็ญศรี แต่เพ็ญศรีไม่มีทีท่าจะรักตอบ เพราะมอบใจให้ฉัยไปหมดแล้ว นายเหมือนผู้รักฉัยดั่งลูกในไส้ก็มิได้รังเกียจฉัยแต่อย่างใด จึงส่งเสริมให้หนุ่มสาวได้ครองรักกัน ฝ่ายสอน เมื่อไม่สมหวังในความรักก็บ่ายหน้าเข้าหาสุรา และคิดแก้แค้นฉัยโดยทำทีมาเสนอค้าไม้ราคาถูก อ้างว่าพ่อค้าไม้คนหนึ่งนำมาแต่ภรรยาเสียชีวิตระหว่างการเดินทางจึงต้องรีบกลับไปจัดการทำพิธีศพ ฉัยตกหลุมพรางเข้าอย่างจัง ตามสอนไปหาพ่อค้าไม้อย่างว่าง่าย แต่แทนที่สอนจะพามาพบพ่อค้าไม้กลับพาฉัยมาที่ราชสีมาฮอลล์อันอุดมไปด้วยนางระบำ สอนเรียกให้เฉลียวมาร้องเพลงให้ฉัยฟัง จังหวะนั้นเอง ทองย้อยก็มาหาเรื่องชกต่อยกับฉัยและอาศัยช่วงชุลมุนขโมยกระเป๋าเงินของฉัยไป ทำให้ฉัยไม่กล้ากลับไปพบนายเหมือนจึงกลับไปที่บ้านเก่าของตน ฉัยได้มาเจอกับ แหน เพื่อนสมัยเด็กกำลังขลุกตัวอยู่กับ นายกอง นักวิทยาศาสตร์คร่ำครึ ที่พยายามเล่นแร่แปรธาตุหวังจะเปลี่ยนพริกเปลี่ยนกะปิให้เป็นทอง ฉัยเลยหลอกว่าให้ผสมใบตองลงไปด้วย นายกองเชื่อสนิทรีบไปปลูกต้นกล้วยหมายจะเอามาเปลี่ยนเป็นทอง นับจากวันที่ฉัยหายตัวไป เพ็ญศรีก็ไม่เป็นอันกินอันนอนล้มป่วยเป็นไข้ เดือดร้อนถึงนายเหมือนที่ต้องตามหมอมารักษา แต่ก็ไม่หาย นายเหมือนจึงชวนเพ็ญศรีไปเปลี่ยนบรรยากาศยังบ้านเดิมของฉัย เพ็ญศรีหูผึ่ง ลุกขึ้นกุลีกุจอเก็บข้าวของเดินทางไปบ้านเกิดของฉัยอย่างฉับพลัน สอนรีบตามมาเป่าหูเพ็ญศรีว่าที่แท้ฉัยกลับมาหาแหนคนรักเก่า เป็นจังหวะเดียวกับที่เพ็ญศรีเห็นแหนกำลังป้อนมะพร้าวใส่ปากฉัย สอนกระหยิ่มยิ้มย่อง ในใจคิดว่าเพ็ญศรีจะเป็นของตนก็คราวนี้ แต่การณ์กลับเป็นว่า เปิดโอกาสให้ฉัยได้ปรับความเข้าใจกับเพ็ญศรี สอนประจักษ์แก่ตาถึงความรักของทั้งสองจึงสารภาพความจริงและยอมตัดใจจากเพ็ญศรี ระหว่างที่เรื่องราวกำลังจะจบด้วยดี นายกองก็กระหืดกระหอบมาต่อว่าฉัยที่บังอาจมาหลอกให้ตนปลูกกล้วยเสียเกือบครึ่งปีฉัยเลยว่า ค่ากล้วยค่าใบตองที่นายกองเสียไปนั่นล่ะเท่ากับค่าทอง
กุหลาบพระนคร (2480/1937) 1 เมษายน วันขึ้นปีใหม่ของชาวสยาม ใครๆ ไม่ว่าหนุ่มสาวต่างทำใจเบิกบานต้อนรับความสุข แต่ปีใหม่มิได้เปลี่ยนเอาความจนของปีเก่าของคนจนไปด้วยเลย คงต้องต่อสู้กับความจนต่อไป วินัย สุปานันท์ ถูกความหมุนเวียนเปลี่ยนชีวิตของเขาแทบจะนับครั้งไม่ถ้วน บิดาคือ ร้อยเอกหลวงสัจจาวุธ เสียชีวิตไปก่อนที่เขาจะเป็นหนุ่ม ทิ้งแม่เจียมและ นิจ น้องสาวที่ยังเล็กให้เผชิญชีวิตตามลำพัง บัดนี้ความหมุนเวียนเปลี่ยนให้แม่เจียมที่เคยแข็งแรงทำงานเลี้ยงลูกอย่างขันแข็ง มาเป็นแม่เจียมที่ตามองอะไรไม่เห็นไม่อาจทำงานได้ อนาถหนาครอบครัวเล็กๆ ต้องประสบมรสุม ทำให้วินัยซึ่งอีกสองเดือนกว่าๆ ก็จะจบการโรงเรียน ต้องตัดใจลาออกมาทำงานเลี้ยงแม่และน้อง มาเป็นกรรมกรถีบสามล้อ และได้ ถึก คนถีบสามล้อเป็นเพื่อนรักกัน อีกแห่งหนึ่งในความเป็นอยู่ของชาวพระนครณ บ้านของคนผู้มั่งมีแล้ว คือบ้านของ พันโทพระยาสรรพาวุธ นายทหารนอกราชการ กับ สุณี ลูกสาวผู้กำลังเป็นกุหลาบดอกที่งามเด่นอยู่ในพระนคร จึงมีชายหนุ่มและกระทั่งแก่หลายรายจ้องมองสุณีด้วยความปรารถนาจะได้ครอง แต่ดูเหมือนไม่มีใครได้ใกล้ชิดเกินไปกว่านายเรืออากาศเอกอารี สมัครยุทธ์ ในสังกัดกรมทหารอากาศ สามารถไปมาหาสู่ที่บ้านได้บ่อยๆ ซึ่ง นิ่ม หญิงคนใช้ที่ต้องคอยเปิดประตูบ้านให้รถเข้าคุ้นเคย วันนี้อารีมาหาสุณีเพื่อแจ้งข่าวว่าเขาถูกย้ายไปประจำกองบินที่ 5 ประจวบคีรีขันธ์ แล้วถามถึงเรื่องส่วนตัว แต่สุณีนิ่งเฉยอารีจึงกลับไปอย่างผิดหวังเช่นเคย วันนี้เจ้าคุณพ่อกับสุณีไปธนาคารเพื่อเบิกเงินสด 6 พันบาทสำหรับจะซื้อที่ดินที่มีคนมาบอกขายแต่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน รถยนต์เกิดเสียกลางทางเจ้าคุณไม่รอให้คนขับซ่อม เรียกรถสามล้อกลับบ้านกับลูก บังเอิญวินัยถีบสามล้อมาพอดี รับไปส่งถึงบ้าน เจ้ากรรม ท่านเจ้าคุณและสุณีลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่เบาะสามล้อ วินัยกลับถึงบ้าน จึงรู้ว่าผู้โดยสารลืมกระเป๋าทีแรกถึกว่าให้เอาไปลงทุนเปิดร้านขายของ แต่แม่เจียมว่าให้เอาไปคืนเขาและขอให้เขา เขาอาจเห็นความดีและหางานดีๆ ให้ทำ ถึกพยายามทักท้วง แต่แม่เจียมบอกว่า ลูกผู้ชายเราควรจะทำตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้างชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญ สิ่งเหล่านี้อีกที่เราควรรักและหวงไว้ประดุจชีวิตของเรา
กลัวเมีย (2479/1936) จำรัส เป็นผู้จัดการบริษัทสากลประกันภัย มีภรรยาชื่อ ลาวรรณ ชีวิตการแต่งงานของเขาไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เหตุเพราะเป็นโรคกลัวเมียขึ้นสมอง ผัน เพื่อนของจำรัสแนะนำ หมอแนม ซึ่งมีความสามารถสับเปลี่ยนวิญญาณมนุษย์กับผีได้ รุ่งขึ้นจำรัสจึงไปหาหมอแนมให้ช่วยรักษาโรคกลัวเมีย หมอแนมจัดการเปลี่ยนวิญญาณให้จำรัสและกำชับว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่อายุอ่อนกว่า วิธีรักษาของหมอแนมประสบผลดีเกินคาด ไม่ว่าจำรัสจะทำอะไรลาวรรณก็ไม่ดุด่าเหมือนแต่ก่อน จนจำรัสย่ามใจเผลอไปยุ่งกับ ทองฟู นางบำเรอที่มาขอทำประกันความงามที่บริษัทของจำรัส โรคกลัวเมียจึงกลับมาเยือนจำรัสเหมือนอย่างเคย
กะเหรี่ยงไทรโยค (2479/1936) ณ หมู่บ้านลิ่นถิ่น ยังมีความรักของหนุ่มสาวชาวกะเหรี่ยงเกิดขึ้นระหว่าง มาลู แอมพะเวียและ เคอะแปง มาลูนั้นเป็นคนมีฐานะดีในหมู่บ้านเนื่องจากเป็นคนผูกขาดในการทำป่าไม้ เมื่อเห็นความงามของแอมพะเวีย ลูกสาวของ พะโป้ พ่อค้าไม้ก็เกิดความหลงใหล แต่ติดตรงแอมพะเวียนั้นรักอยู่กับเคอะแปงหนุ่มในบ้านของพะโป้ แม้มาลูจะพยายามหาทางเอาชนะใจหรือทำตามประเพณีเท่าไหร่ก็ไม่สามารถพิชิตใจแอม-พะเวียได้ จึงคิดจะกำจัดเคอะแปงด้วยการท้าฟันดาบแต่สุดท้ายก็ยังพ่ายเคอะแปง มาลูจึงยอมรับแต่โดยดีว่าเขามิอาจได้ตัวแอมพะเวียไป หลังจากนั้นพะโป้จึงยกแอมพะเวียให้เคอะแปงได้ครองรักและแต่งงานกันตามประเพณี
จันทร์เจ้าขา (2479/1936) จากเรื่องอ่านเล่นลือชื่อมาเปนลครร้องเรื่องที่ดูไม่น่าเบื่อ จากเรื่องลครที่ดูกันไม่เบื่อมาเปนภาพยนตร์พากย์ชั้นมโหฬาร คือ "จันทร์เจ้าขา" ของ "พรานบูรพ์" (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ พฤษภาคม พ.ศ. 2479)
กุหลาบนครสวรรค์ (2479/1936) ณ ท้องทุ่งตำบลโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ยังมีความรักตามประสาชายหนุ่มหญิงสาวอย่าง เฉิด และ เนียน อยู่ที่ปลายทุ่ง แต่ความรักของทั้งคู่มิได้ราบรื่นดั่งใจหวัง เพราะเฉิดนั้นเป็นคนยากจน ในขณะที่เนียนเป็นลูกสาวของ กำนันสี ผู้ใหญ่ซึ่งคอยอุปถัมภ์ให้เฉิดได้มีการศึกษา แม้เฉิดจะรักเนียนแต่ก็จำต้องเก็บงำความรู้สึกไว้กระทั่งวันหนึ่ง เฉิดเกิดเผลอใจเอ่ยรักแก่เนียนในขณะที่เนียนก็ยอมรับว่าเธอเองก็มีใจให้เฉิด หนุ่มสาวทั้งสองจึงลอบสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง จนต่างรู้ว่าทั้งคู่คงมิอาจจะพรากจากกัน แต่แล้ววันหนึ่ง นักเลงเมืองกรุงอย่างชิตก็ดันเข้ามาก่อเรื่องหมายใจจะเอาตัวเนียนไป เฉิดจึงต้องตรงเข้าไปต่อสู้ด้วยความชุลมุนชิตจึงชักปืนขึ้นยิงสู้ อนิจจากระสุนพลาดไปถูก นางช้อย มารดาของเฉิดเสียชีวิต กระนั้นก่อนตายช้อยได้บอกความจริงแก่เฉิดว่าแท้จริงเขาคือ ชาญ เป็นลูกชายของ พระยาเทพศรีสุนทร ผู้ดีเมืองกรุง เมื่อรู้ดังนั้นเฉิดจึงเดินทางบ่ายหน้าไปตามหาบิดา แม้ต้องจากกับเนียนแต่เขาก็ให้คำมั่นว่าจะกลับมาสู่ขอเธอ ครั้นเมื่อถึงบ้านของท่านเจ้าคุณ เฉิดจึงเปิดเผยตัวแก่ท่านเจ้าคุณ จนท่านเจ้าคุณถึงแก่ความปีติ จึงรับเฉิดมาดูแล เฉิดเปลี่ยนสภาพจากชายผู้ยากไร้กลายมาเป็นเศรษฐีเมืองกรุง แต่แล้วฐานะที่เปลี่ยนไปก็ทำให้ใจของเฉิดเปลี่ยนตาม เมื่อเขาดันมาหลงเสน่ห์ วิลัย สาวสวยเมืองกรุงจนถอนตัวไม่ขึ้น หลงลืมสัญญาที่ให้ไว้กับเนียน ฝ่ายเนียนที่ยังยึดมั่นในคำสัญญาก็เลิกที่จะรอและตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อมาตามหาเฉิด แม้ทางบ้านจะจัดให้เธอได้แต่งงานกับนายอำเภอหนุ่ม เมื่อเนียนเดินทางมาถึงบ้านท่านเจ้าคุณจึงได้พบกับเฉิดอีกครั้ง แต่เฉิดกลับไม่ยอมรับเนียนดังที่เคยให้สัญญา ซ้ำร้ายยังบอกเนียนว่าเขากำลังจะแต่งงานกับวิลัย หารู้ไม่ว่าแท้จริงวิลัยคือหญิงร้ายที่หมายจะฮุบสมบัติของเฉิด เมื่อท่านเจ้าคุณทราบเรื่องจึงโกรธเฉิดที่ไม่มีความรับผิดชอบ และตัดเฉิดออกจากกองมรดก เมื่อนั้นเอง วิลัยจึงได้เผยธาตุแท้ให้เฉิดเห็นว่าเธอเพียงต้องการแค่สมบัติของเฉิด เฉิดจึงต้องซมซานกลับมาหาท่านเจ้าคุณและเนียน เพื่อขอให้ทั้งสองให้อภัย ด้วยความรักของคนเป็นพ่อ ท่านเจ้าคุณก็พร้อมจะให้อภัย ในขณะที่เนียนก็ไม่ปฏิเสธรักเดียวของเธอ ทั้งคู่จึงได้ครองรักกันอย่างมีความสุข