Placeholder
ใครดีใครได้ 2470

เรื่องย่อ : ใครดีใครได้ (2470/1927) ร้อยเอกกริส แห่งราชนาวี รักอยู่กับนางเอกของเรื่องซึ่งเป็นบุตรสาวของท่านเจ้าคุณ นางเอกมีชายหนุ่มมาหมายปองมากเพราะความเป็นคนรูปสวยคนหนึ่งที่หมายปองคือ นายเลียบ โลหมุข นักเลงพนันเจ้าคุณนั้นเป็นคนชอบเล่นการพนัน แล้วก็เป็นหนี้นายเลียบ นายเลียบพยายามเร่งรัดหนี้ และเสนอว่าหากไม่ชำระหนี้ ต้องให้ลูกสาวแต่งงานกับตน ที่สุดร้อยเอกกริสต้องวางแผนแข่งพนันชกมวยกับนายเลียบ โดยมีข้อแม้ว่าหากนายเลียบชนะ นางเอกจะต้องแต่งงานกับเขา แต่หากนายเลียบแพ้ก็เป็นอันปลดหนี้ นายร้อยเอกสู้อย่างสามารถบนเวทีผืนผ้าใบเพื่อเอาชนะคู่แข่งและเพื่อสมรัก

ไม่คิดเลย 2470

เรื่องย่อ : ไม่คิดเลย (2470/1927) พระเศรษฐกิจวิบูลย์ เศรษฐีม่าย มีลูกสาวแสนสวยชื่อ นางสาวประภา หมั้นหมายอยู่กับนายกาหลง บุญชุบ เศรษฐีเหมืองแร่จอมเปิ่น และก็เพราะความเปิ่นนี้เองที่ทำให้นางสาวประภาไม่ผูกสมัครรักใคร่นายกาหลงและพยายามบ่ายเบี่ยงเรื่องการแต่งงาน หารู้ไม่ว่า นายประเสริฐ หลานชายคุณพระหมายจะครอบครองเธออยู่ วันหนึ่งขณะที่นางสาวประภาออกไปขี่ม้าเผอิญเจออุบัติเหตุตกจากหลังม้า ดีที่ได้ นายอำนวย ชายพเนจรช่วยไว้ ครั้นถามไถ่จึงรู้ว่านายอำนวยกำลังตกงาน นางสาวประภาจึงรับนายอำนวยไว้เป็นคนเลี้ยงม้า กระทั่งความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองชอบพอกัน นายประเสริฐที่เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอดจึงพยายามขัดขวางความรักของทั้งสอง โดยกุแผนขึ้นมาใส่ร้ายให้นายอำนวยกลายเป็นขโมย พร้อมทั้งฉุดตัวนางสาวประภา เมื่อนายอำนวยทราบเรื่องจึงรีบนำความไปบอกนายกาหลง นายกาหลงจึงรีบมาช่วยนางสาวประภาด้วยการตะบันหน้านายประเสริฐลงไปกองกับพื้น ตำรวจจึงสามารถจับผู้ร้ายไว้ได้ นายอำนวยจึงเปิดเผยว่าแท้ที่จริงเขาคือ นายร้อยตำรวจแห่งกองพิเศษปลอมตัวมาจับนายประเสริฐ เพราะนายประเสริฐนั้นสร้างคดีไว้ที่ต่างจังหวัด ทั้งบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับประภามิได้มีอะไรจริงจัง นางสาวประภาจึงกลับมามองเห็นความดีของนายกาหลงและยินดีที่จะแต่งงานกับเขา

ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี 2470

เรื่องย่อ : ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี (2470/1927) ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี เล่าถึงครอบครัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ทางจังหวัดธนบุรีตอนเหนือ ตั้งแต่พ่อสมบุญ จิตต์กระด้างยังเชื่อน้ำมนต์หมอผี จนกระทั่งไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี เรื่องมีอยู่ว่า พ่อสมบุญป่วยเรื้อรังเป็นเวลานาน ไม่ยอมทานยารักษาโรคแผนปัจจุบันใดๆ เพราะพ่อสมบุญมีความเชื่อว่าอาการของแกจะทุเลาลงได้ ก็ต่อเมื่อได้รับการเสกเป่าน้ำมนต์เท่านั้น วันหนึ่ง พ่อสมบุญได้ยินกิตติศัพท์ของหมอดั่น ว่าสามารถรักษาผู้เจ็บป่วยหรือถูกผีเข้าได้ พ่อสมบุญจึงให้ลูกชายชื่อ นายสุพินธ์ ไปเชิญหมอดั่นมาตรวจอาการ ก่อนเริ่มพิธี หมอดั่นขอเงินค่าไหว้ครูเป็นเงิน 5 บาทแล้วจึงลงมือปลุกเสกน้ำมนต์ แต่อาการของพ่อสมบุญก็ไม่มีทีท่าจะดีขึ้น จนกระทั่ง แกคิดว่าจะต้องสิ้นชีวิตแน่จึงแจกเงินให้ลูกคนละ 1 บาท เพื่อไปทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ตนชอบแล้วให้แผ่กุศลมาให้แก นายสุพินธ์นำเงินไปซื้ออ้อยให้ช้างกิน นายโสพิตร์ให้ทานคนพิการ 10 คน คนละ 10 สตางค์นางสาวสนองบริจาคเงิน 1 บาท แก่สภากาชาดสยามปรากฏว่า พ่อสมบุญเห็นดีงามกับการทำบุญของนางสาวสนอง เพราะยังประโยชน์แก่คนหมู่มาก จึงขอให้ลูกทั้งสามพาไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แพทย์ตรวจพบว่าพ่อสมบุญเป็นโรคลำไส้พิการ ไม่ใช่ถูกคุณไสยแต่อย่างใด อาการป่วยของพ่อสมบุญค่อยๆ หายเป็นปรกติ ทำให้เขาเลื่อมใสในวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นอันมาก ต่อมา หมอดั่นบังเอิญผ่านมาหน้าบ้านพ่อสมบุญ เห็นพ่อสมบุญแข็งแรงดีก็คุยโวโอ้อวดสรรพคุณของตน พ่อสมบุญจึงไล่ตะเพิดพร้อมกับตะโกนว่า "ไอ้เรื่องวิธีรักษาของแกอย่างบ้าๆ ฉันไม่ขอพบขอเห็นอีกแล้ว"

โชคสองชั้น 2470

เรื่องย่อ : โชคสองชั้น (2470/1927) นายกมล มาโนช (มานพ ประภารักษ์) พระเอกของเรื่อง เป็นนายอำเภอหัวเมืองฝ่ายเหนือ ได้รับมอบหมายให้ลงมาสืบจับผู้ร้ายคนหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพ นายกมลเข้ามาพักอยู่ที่บ้านพระยาพิชัย (อุทัย อินทร์วงศ์) และมีหลานชื่อว่า นางสาววลี ลาวัณยลักษณ์ (หม่อมหลวงสุดจิตตร์ อิศรางกูร) ซึ่งทั้งสองได้พบรักกันโดยเร็ว แต่นายวิง ธงสี (มงคล สุมนนัฏ) ซึ่งหมายปองนางสาววลีอยู่แล้วและชอบไปมาหาสู่พระยาพิชัยเป็นเนือง ๆ และนายวิงคนนี้ก็คือคนร้ายที่นายกมลกำลังสืบจับอยู่นั่นเอง นายวิงไหวตัวทันเรื่องที่นายกมลตามคนร้าย จากนั้นนายวิงก็วางแผนร้ายโดยส่งพรรคพวกลูกสมุนเข้ามาทำร้ายนายกมล แต่นายกมลมีความชำนาญในการระวังภัยจากโจรจึงต่อกรขัดขวางกำลังได้ จนนายวิงและพรรคพวกต้องหลบหนีไป นายกมลไล่ตามจับแต่เกิดหลงทาง นายวิงได้วกกลับมาที่บ้านพระยาพิชัยและจับนางสาววลีไป แต่นายกมลมีเชาวน์ที่ดี เข้าใจว่าเป็นแผนลวง จึงวกกลับบ้านพระยาพิชัยและได้พบนายวิง นายกมลจึงตามล่านายวิงไปจนสุดทางและเกิดการต่อสู้ขึ้น จนกระทั่งตำรวจที่พระยาพิชัยโทรไปแจ้งมาสมทบร่วมจับนายวิงและสมุนได้ทันเวลา นายวิงจึงถูกตำรวจจับเข้าตะราง ส่วนนายกมลมีโชคสองชั้น นอกจากจะจับผู้ร้ายได้แล้วยังได้นางสาววลีมาเป็นภรรยาอีกด้วย

เชื้อไม่ทิ้งแถว 2470
เรื่องย่อ : เชื้อไม่ทิ้งแถว (2470/1927) เป็นเรื่องสมเหตุสมผล พร้อมไปด้วยคติสอนใจ โลดโผน โศก รัก ตลก คะนอง กับยังมียวดยานเกือบทุกประเภทแสดงประกอบอยู่ในเรื่อง เช่น รถยนต์ รถไฟ เรือยนต์ เรือแข่ง เรือกระฐินหลวง เครื่องบิน ฉวี (พระเอก) ต้องผจญภัยไม่แต่เพียงในเรื่องเท่านั้น แม้แต่นอกเรื่องก็ถูกผจญภัยด้วย ดังข่าวตกเครื่องบินในขณะทำการแสดง ดังปรากฏในข่าวหนังสือพิมพ์ที่เคยลงซู่ซ่ากันมาแล้ว ผู้ที่ได้รับความชมเชยเป็นพิเศษยังมีอีก เช่น เล็ก ซึ่งแสดงเป็นตัวนางลม้าย ภรรยานายสมบุญ (เชงจู) ผู้นี้นับว่าทำหน้าที่แม่ได้สนิทมาก โรคปากมากก็เป็นที่ 1 บูชาพ่อหลานชาย (สนอง) เสียเป็นเทวดา เข้าใกล้ผัวทีใดเป็นมีเรื่องทะเลาะกับผัววันยังค่ำ ทุกสิ่งของแม่ลม้ายไม่มีสิ่งใดที่จะเหลือไว้ให้สงสัยเลยว่าพ่อหลานชายยอดยากของแก เป็นบรมจอมโจรที่จะคอยล้วงตับแกในวันแล้ววันอีก ถ้าผัวคัดค้านถึงเรื่องพ่อหลานชายคนนี้ แม่ลม้ายเป็นแหงคัดค้านเสียจนคอหอยแทบจะระเบิดทีเดียว ในที่สุดนายสมบุญก็ต้องยอมแพ้ตามเคย เพราะทนปากแม่ลม้ายไม่ไหว ยังอีกคนหนึ่งคือ ตุ๊ ซึ่งแสดงเป็นนางผ่อง คนใช้ผู้สัตย์ซื่อของนางเอก นางผ่องคนนี้ไม่แต่เป็นคนใช้ที่ซื่อสัตย์ ยังทำหน้าที่เป็นตัวโจ๊กของเรื่องได้อย่างขบขันมาก ความขบขันของนางผ่องผู้นี้จะเห็นได้คราวหนึ่ง เผอิญไปแอบเห็นนายสาวกำลังกอดกับพระเอก นางผ่องจะเกิดรู้สึกขันอย่างไรไม่ทราบ ถึงกับปล่อยถาดถ้วยกาแฟลงไปกับพื้นดังโครมใหญ่ ยังอีกตอนหนึ่ง อารามตกใจว่าคู่รัก ของนายสาวถูกเจ้าสนั่น ตัวโกงหลอกเอาไป วิ่งกระหืดกระหอบไปบอกนายเสียจน "หางหงษ์" หลุด ความจริง สังขารของนางผ่อง ประกอบกับท่าทางที่แสดง ก็ชวนให้ น่าขันอยู่แล้ว ยิ่งไปทำอาการจูบพระธรณีในขณะที่วิ่งจนนางหางหงษ์หลุด จึงดูอาการคล้ายๆ กับลูกฟักใบเขื่องๆ ตกตุบลงในกองดินอย่างหนักๆ ตอนนี้จะทำให้ท่านผู้ดูถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวทีเดียว เพื่อเป็นหลักฐานแสดงให้ท่านเห็นว่าเรื่อง "เชื้อไม่ทิ้งแถว" เป็นเรื่องควรแก่การทัศนาของท่านเพียงใด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ภายหลังเมื่อได้ทอดพระเนตรแล้ว มีพระราชดำรัสชมเชยว่า "เรื่องนี้ของเขาพอดูได้" (ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวภาพยนตร์ พ.ศ. 2470)

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ