ภาพยนตร์
ระเด่นลันได (2478/1935) ถอดจากหนังสือลือชื่อในบทประพันธ์ไทยเรื่องหนึ่ง ผู้แสดงได้แก่ บังฟัก พูมศรี เป็นตัวระเด่นลันได ขุนสำราญ (อ๊อด) เป็นท้าวประดู่ จรัสยนตร์ คำแย้ม เป็นนางประแดะ และ จำเริญ สวัสดิสันติ์ เป็นนางกระแอ เป็นหนังไทยเรื่องแรกที่สำคัญในเชิงตลกขบขัน การฉายคงมีพากย์ประกอบในแบบใหม่ คือ ชายพากย์บทชาย หญิงพากย์บทหญิง (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน ศรีกรุง กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478) เรื่องตลกจริงๆ ตลก แท้ๆ ถ้าท่านยังไม่มี เรื่องที่จะหัวเราะหรือยังหาโอกาสหัวเราะไม่ได้ ก็เชิญเตรียมตัวคอยชม ระเด่นลันได ภาพยนตร์ตลกประกอบ เสียงของหัสดินทรภาพยนตร์ "ระเด่นลันได" ที่บริษัทหัสดินทร์สร้างขึ้นใหม่ นี้ ได้ใช้วิธีสร้างประกอบเสียงโดยวิธีใหม่ที่สุดซึ่งท่านจะได้เห็นและได้ฟังเปนครั้งแรกในพระนคร ท้องเรื่องของภาพยนตร์ถอดจากบทประพันธ์ของจินตกวีในรัชชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชชกาลที่ ๒ และเปนเรื่องตลกล้วนๆ อย่างที่ฝรั่งเรียกว่า Comedy แท้ๆ (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ มีนาคม พ.ศ. 2478)
เมืองแม่หม้าย (2478/1935) เกสร กับ กำจร สองเพื่อนรักนักเสี่ยงโชคกำลังตกอับถึงขีดสุด แม้แต่ค่าเช่าบ้านก็ยังค้าง นายสุดใจ ถึงสามเดือน ทั้งสองจึงปลอมตัวเป็นหญิงเพื่อเดินทางไปแสวงโชคยังเมืองแม่หม้ายดินแดนลึกลับที่มีแต่ผู้หญิง ระหว่างทางต้องผจญอุปสรรคมากมายแต่ก็รอดพ้นได้จนสามารถมาถึงเมืองแม่หม้าย ทหารเมืองค้นตัวเกสรกับกำจรและอธิบายว่า ก่อนจะเข้ามาอยู่ในเมืองนี้ ทุกคนต้องเข้าพิธีเสี่ยงน้ำสาบานว่าจะซื่อตรงต่อพระจันทร์ ผู้เป็นพระสามีของชาวเมือง หากพระจันทร์โปรดผู้ใดก็จะตั้งครรภ์ ทั้งสองกลัวความแตก จึงโกหกนางพญาว่าเป็นหมอดูและดูดวงชะตาให้นางพญา เมื่อหลอกล่อถามนางพญาจนรู้ว่านางเองก็ต้องการให้มีผู้ชายเข้ามาอยู่ในเมืองจึงเปิดเผยตน นางพญาซึ่งต้องการผู้ชายให้มาอยู่ในเมืองอยู่แล้ว จึงออกคำสั่งห้ามประหารชีวิตสองหนุ่ม แต่มีข้อแม้ว่าเกสรกับกำจรต้องอยู่ที่เมืองแม่หม้ายตลอดไป
กุหลาบเชียงใหม่ (2478/1935) กุหลาบเชียงใหม่ต้องชอกช้ำเพราะหนุ่มโกเสต (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ พฤศจิกายน พ.ศ. 2478)
ความรักในเมืองไทย (2476/1933) ฮักเคี๋ยง หนุ่มชาวจีนถูกภรรยานอกใจ มิหนำซ้ำยังปรักปรำตนว่าเป็นคอมมิวนิสต์ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น หลีเจียงซัง หลบหนีมาอยู่ประเทศสยาม หลีเจียงซังได้งานเป็นผู้จัดการโรงสีไฟไต่ฟุงของนายฉั่นกาเซ้ง ไม่นานนักหลีเจียงซังก็พบรักใหม่กับ เซียกฟา บุตรสาวของฉั่นกาเซ้ง เคราะห์กรรมของเขายังไม่หมดไปวันหนึ่งหลีเจียงซังพบกับ เหล่าไกว่ฉุ่ง ชายชู้ของภรรยาเก่าโดยบังเอิญ หลีเจียงซังขอร้องไม่ให้เหล่าไกว่ฉุ่งแพร่งพรายเรื่องในอดีต เหล่าไกว่ฉุ่งจึงฉวยโอกาสนี้บังคับหลีเจียงซังร่วมมือฉ้อฉลโรงสีไฟไต่ฟุง เมื่อความแตกเหล่าไกว่ฉุ่งก็ป้ายสีความผิดแก่หลีเจียงซัง เซียกฟาผิดหวังมากขอร้องให้บิดาไล่หลีเจียงซังออกจากโรงสี ชุยเหลา ภรรยาเก่าของหลีเจียงซังตามเหล่าไกว่ฉุ่งมายังสยามและเกิดมีปากเสียงกัน หลีเจียงซังมาเห็นเหตุการณ์บันดาลโทสะควักปืนยิงทั้งคู่แต่ไม่โดนเหล่าไกว่ฉุ่งเข้าใจว่าชุยเหลาคิดทรยศจึงทำร้ายชุยเหลาบาดเจ็บปางตาย เหล่าไกว่ฉุ่งกินเหล้าระงับสติ แต่ด้วยเวรที่ทำไว้ หยิบยาพิษมาดื่มถึงแก่ความตาย หลีเจียงซังตามมาพบก็เกิดความสลดใจและตัดใจกลับเมืองจีน ขณะนั้น พ่อแม่ของหลีเจียงซังมาประเทศสยามเพื่อตามหาลูกชาย ความจริงจึงปรากฏว่าครอบครัวของหลีเจียงซังเป็นญาติกับฉั่นกาเซ้ง ที่สุดสองหนุ่มสาวจึงได้คืนรักและแต่งงานกัน
อำนาจความรัก (2476/1933) เป็นเรื่องราวของความรักที่มีอิทธิพลเหนือสิ่งอื่นใด พิมพ์ ศรีเวียง เป็นแม่ค้าปลาที่ตำบลศรีราชา ด้วยความสวยของพิมพ์ จึงเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ แม้กระทั่ง ทับ พ่อเลี้ยง และ สิน หาญสมุทร นักเลงท้องถิ่น แต่ทั้งสองก็ได้แต่แอบรักพิมพ์อย่างเงียบๆ จนกระทั่ง นาคร อุดมลักษณ์ ชายนักท่องเที่ยวปรากฏตัว นาครพา นารา น้องสาว และ ชอบ วิชัย เพื่อนสนิทมาตากอากาศที่ศรีราชา แต่เรือถูกพายุพัดล่ม จึงมาขออาศัยพิมพ์ ทั้งสองเริ่มสนิทสนมกันทำให้สินอิจฉา และตัดสินใจขืนใจพิมพ์กลางวันแสกๆ แต่นาครช่วยไว้ทันสินหาทางดักทำร้ายนาครด้วยวิธีต่างๆ แต่ทับมาช่วยไว้และถูกแทงอาการสาหัส ก่อนตายทับสารภาพกับพิมพ์ว่าไม่ได้รักพิมพ์แบบลูกสาว แต่รักพิมพ์แบบคนรัก และขอจูบพิมพ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นใจ
หมัดพ่อค้า (2474/1931) เป็นเรื่องเกี่ยวแก่การชิงรักระหว่างพ่อค้าชาวกองเกวียน มีการยกพวกปล้นกองเกวียน การต่อสู้กันด้วยอาวุธปืนและหมัดมวยอย่างโลดโผน (ที่มา: หนังสือพิมพ์ศรีกรุง ธันวาคม พ.ศ. 2474)