Super แหบ แสบ-สะบัด (2551/2008) ท่ามกลางกระแสเพลงเกาหลีมาแรง ค่ายเพลง (ใกล้เจ๊ง) ของเจ๊เง็ก ส่งศิลปินหนุ่มลูกผสม ไทย-เกาหลี ผสมญี่ปุ่น-เยอรมัน ตง ลี เฮ นักร้องหนุ่มผู้เลิศเลอเฟอร์เฟคไปซะหมด หน้าตาหล่อโฮก เสียงร้องมหัศจรรย์ แค่ซิงเกิลแรกก็ขึ้นอันดับหนึ่งทุกสถานี ดังระเบิดไปทั่วประเทศ ความดังของ ตง ลี เฮ เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ เจ๊เง๊ก (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) คว้างานเพลง ตง ลี เฮ ขึ้นจาก 2 หนุ่มที่มาออดิชั่น ต้อม (รัฐภูมิ โตคงทรัพย์) หล่อใส สไตล์บอยแบนด์ กับ ตึ๋ง (เกียรติศักดิ์ อุดมนาค) หล่อล่ำ หัวใจบอยแบนด์ (หัวใจบอยแบนด์ แต่หน้าบอยแบน) โดยมี สาลี่ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) เลขาเจ๊เง๊ก ช่วยกันปกปิด โฮะ!! ไม่ใช่ซิ ช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ ตง ลี เฮ ให้ Cool นิ่ง มาดเท่ห์ ไม่พูดไม่จา ตึ๋ง ได้พบกับ อิ๋ว (เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้) สาวช่างฝันผู้มากด้วยจินตนาการ ผู้ก่อตั้งแฟนคลับ อิ๋ว เป็นแฟนเพลงที่เข้าใจบทเพลง ตง ลี เฮ อย่างลึกซึ้ง มองลึกไปถึงเนื้อใน เห็นคุณค่าเสียงเพลงมากกว่าหน้าตา การได้พบ ได้พูดคุยกับอิ๋ว ทำให้ตึ๋งมีกำลังใจมากขึ้น ฝ่าย ต้อม ก็พบรักกับ แก้ว (มด - คุณัชญา ชัยรัตน์) เด็กฝึกงานผู้มีบุคลิกลึกลับ แต่ต้อมต้องพยายามเก็บอาการไม่ให้แก้วรู้ กระแสนิยมที่แฟน ๆ มีต่อ ตง ลี เฮ ยังนำความเดือดร้อนมาด้วย พี่อ้อย (ศิริพร อยู่ยอด) เหยี่ยวข่าวปาปารัสซี่, ลูซี่ เลเซอร์เจท (จันทร์เพ็ญ คงประกอบ) นักร้องคู่แข่ง ที่ต้องตกเป็นเบอร์สอง แฟนเพลงอีกทั่วประเทศ ทุกสายตาจ้องจับผิด ตง ลี เฮ ต้อม + ตึ๋ง ต้องช่วยกันเอาตัวรอดจากการเจาะข่าว และความรัก ความลับ ของ ต้อม + ตึ๋ง จะปกปิดไว้ได้สักแค่ไหน?!? ความจริงของ ต้อม ตึ๋ง ต้องพิสูจน์ด้วย มองเห็นด้วยสายตา หรือรับฟังด้วย หัวใจ เปิดใจให้กว้าง ร่วมค้นหา ความสนุกของสิ่งที่เกิดมาคู่กัน Super แหบ-แสบ-สะบัด
อีส้ม สมหวัง (2550/2007) สมหวัง ชายหนุ่มที่หลงใหลในการร้องเพลงและใฝ่ฝันว่าจะเห็น ยอดรัก สลักใจนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศไทย สมหวังจึงได้เข้าสมัครที่วงดนตรีของยอดรัก ซึ่งมีหางเครื่องสุดสวยประจำวงคือ ส้ม สมหวังเริ่มจากงานเล็กๆน้อยๆในวง และเลื่อนขั้นมาเป็นหางเครื่องประจำวง โดยมีส้มค่อยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ ต่อมาเขาได้รับโอกาสอย่างไม่คาดคิด เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นนักร้องอย่างเต็มตัว
เก๋า..เก๋า (2549/2006) พ.ศ. 2512 กรุงเทพฯ ในยุคที่หนุ่มสาววัยทีนเมามายกับแสงไฟดิสโก้ยามค่ำคืน การปรากฏตัวของวงสตริงเครื่องเป่า ผู้ประกาศตัวเป็นคณะปฎิวัติแห่งเสียงเพลงได้พลิกโฉมหน้าวงการไปชนิดที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้ Possible คือวงสตริงคอมโบที่จุดระเบิดความฮิตไปทุกหัวระแหง คอนเสิร์ตของพวกเขามีอานุภาพรุนแรงขนาดปลุกวัยรุ่นให้ลุกจากเตียงเพื่อไปฟังเพลงได้ตั้งแต่ตีสี่ ต๋อย (อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต) นักร้องนำ มีฝีไม้ลายมือในการแปลงเพลงระดับเทพ เพลงฝรั่งไม่ว่าเจ๋งแค่ไหน ต๋อยบิดเป็นเนื้อไทยได้แจ๋วกว่า ฝรั่งร้อง Linda Linda I Love You ต๋อยชงเป็น รินมา รินมา ฉันขอรักเธอเมามาย ฝรั่งแดนซ์ You can ring my bell..ell..ll ต๋อยถอดกางเกงเต้น กาง เกง ลิง ลอย ฟ้า อ้า อ้าา สมาชิกในวงไม่ว่า โบ้ (ปิยะ ศาสตรวาหา) มือกีต้าร์ สอง (จักรพงศ์ สิริริน) มือเบส น๊อต (ยุทธนา ธุวะประดิษฐ์) มือคีย์บอร์ด และ เบ๊ (ธนากร ชินกูล) มือกลอง ต่างสนุกสนานกับชีวิตคนดังนิสัยเสียไปวันๆ Possible ถือมติ ไม่ซ้อม มาสาย เมาเหล้า มั่วคิว และหม้อหญิง โอ้ ชีวิตอะไรมันจะน่าอิจฉาขนาดนี้ พวกเขากำลังจะได้เข้าอัดแผ่นเสียงเพื่อบัญญัติความดังไว้เป็นอมตะ Possible จึงหยิ่งผยองในความเป็นหนึ่งและอารมณ์เสียสุดๆ ที่มีวงน้องใหม่ชื่อ The Impossible ผุดขึ้นมาแย่งความสนใจ กระทั่งวันหนึ่ง Possible ได้รับไมค์เด็กเล่นเป็นของขวัญจากแฟนเพลงลึกลับ ต๋อยและเพื่อนๆ สมาชิกหัวเราะให้กับความคิดบรรเจิดนี้อย่างสนุกสนานและถือมันติดมือขึ้นเวทีไปด้วย แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ในคอนเสิร์ตเปิดโรงภาพยนตร์พระโขนง ซีเนม่า ไมค์สีชมพูหวานจ๋อยอันนั้นส่งพวกเขาข้ามเวลามาปี 2549 พ.ศ.ที่ดนตรีสตริงคอมโบกลายเป็นไดโนเสาร์ และวง Possible สุดมะ มีค่าเท่ากับวงบ่อจี๊ที่ไม่มีใครรู้จัก กรุงเทพฯ ไม่ใช่ที่ทางของพวกเขาอีกต่อไป Possible ต้องรีบหาทางกลับอดีตด่วนจี๋ และวิธีนั้นมีทางเดียวพวกเขาจะต้องระดมแฟนเพลงมารวมตัวกันเล่นดนตรีเพื่อจุดพลังให้ไมค์ทำงานอีกครั้ง แต่ในเมื่อปัจจุบันเทกนิกการแปลงเพลงอันเอกอุกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ซ้ำร้าย Possible ยังถูกตราหน้าว่าเป็น The Impossible เวอร์ชั่นแผ่นผีเข้าไปอีก แล้วจะให้ Possible เปิดคอนเสิร์ต มันจะเป็นไปได้เหรอเนี่ย
มนต์รักลูกทุ่ง (2548/2005) บุญเย็น (เอกราช สุวรรณภูมิ) ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงประจำปี ลุงชื่น (เทพ โพธิ์งาม), แว่น (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) และ บุปผา (อาภาพร นครสวรรค์) ต่างพากันดีใจ บุญเย็นได้เข้าไปร้องเพลงในกรุงเทพ เขามาบอกลา คล้าว (นันทวัฒน์ อาศิรพจนกุล) และ ทองกวาว (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ทั้งคู่ต่างดีใจกับบุญเย็น คล้าวรักอยู่กับทองกวาว แต่กลัวจะไม่สมหวังเพราะคล้าวจน ที่นาก็จำนองกับ จอม (กรุง ศรีวิไล) แต่ทองกวาวยืนยันในรักมั่น คล้าวสัญญาว่าถ้าขายข้าวได้จะไปหมั้นทองกวาว จอมมาทวงหนี้คล้าว คล้าวไม่มีให้ จอมจึงยึดที่นา ทองกวาวจึงเอาเงินที่มีอยู่มาให้คล้าวใช้หนี้ จอมโกรธที่ยึดที่นาของคล้าวไม่ได้ จึงไปต่อว่า ทองก้อน (ไพโรจน์ ใจสิงห์) และ ทับทิม (ดวงชีวัน โกมลเสน) พ่อแม่ของทองกวาว ทองก้อนและทับทิมจึงส่งทองกวาวไปอยู่กับ ป้าทองคำ (น้ำเงิน บุญหนัก) ที่กรุงเทพ โดยให้บุปผาและ หมึก (ตูมตาม เชิญยิ้ม) ไปดูแล ทองกวาวได้รู้จักกับ ธรรมรักษ์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) หลานของป้าทองคำ ซึ่งป้าทองคำหวังจะให้หลานทั้งคู่แต่งงานกัน เพื่อสมบัติจะได้ไม่ตกเป็นของคนอื่น คล้าวเศร้าโศกเสียใจที่น้ำท่วมทุ่งนาข้าวเสียหาย ได้บุญเย็น ลุงชื่น และพวกคอยปลอบ ลุงชื่นบอกบุญเย็นให้ตามหาทองกวาว บุญเย็นพบทองกวาวที่กรุงเทพและบอกเรื่องคล้าว ทองกวาวขอให้บุญเย็นบอกคล้าวให้ไปสู่ขอ ทองกวาวจะได้กลับบ้านซะที คล้าวดีใจไปยืมเงิน หมู่น้อย (เจี๊ยบ เชิญยิ้ม) ซื้อทองสองสลึงไปหมั้น พ่อแม่ทองกวาวไล่ส่ง เรียกค่าสินสอดสิบหมื่น ธรรมรักษ์เสียการพนัน หวังจะหลอกเอาเงินป้าจึงทำเป็นชอบทองกวาว โดยให้เพื่ออนชื่อ ธีระ (โจอี้ บาซู) หัวหน้าวงดนตรีมากันบุปผา ทั้งหมดเดินทางมาบ้านทองกวาว ด้วยความคิดถึงทองกวาวรีบมาหาคล้าว แต่พบอยู่กับ สายใจ (ไอริน จันยดา) ทำให้ทองกวาวเข้าใจผิด ทองกวาวจึงตกลงหมั้นกับธรรมรักษ์ ทองก้อนดีใจรีบไปป่าวประกาศว่า จะหมั้นลูกสาวด้วยเงินและทองมากมาย บุญเย็นพา ฤทัย (ทอฝัน จิตธาราทิต) เมียของธรรมรักษ์มาบ้านทองกวาว ธรรมรักษ์โกรธมาก บอกฤทัยเป็นนักร้องในวงธีระ ฤทัยแกล้งตีสนิทกับคล้าวเพื่อให้ธรรมรักษ์หึง เรื่องจึงแดงออกมา ป้าทองคำไล่ธรรมรักษ์และเมียกลับไป ข่าวการหมั้นของทองกวาวกับธรรมรักษ์ที่ทองก้อนประกาศไปเข้าหู เสือทุม (ฤทธิ์ ลือชา) เสือทุมจึงวางแผนปล้นแต่ไม่ได้อะไร จึงจับตัวทองกวาวและป้าทองคำไปเรียกค่าไถ่ คล้าวและตำรวจตามไปช่วยไว้ ป้าทองคำเป็นเถ้าแก่สู่ขอทองกวาวให้คล้าว ซึ่งพ่อทองก้อนและแม่ทับทิมไม่กล้าปฏิเสธ ทั้งคู่จึงแต่งงานกัน...
ทวารยังหวานอยู่ (2547/2004) ในปี พ.ศ. 2525 ปีแห่งการสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี กรุงเทพฯ สดใส ไร้เดียงสาอยู่กับแฟชั่นสีสันหวานแหวว เสียงเพลงจากวงสตริง และหนังทีวีกำลังภายใน กำลังฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง มือกลองหนุ่ม เบ๊ (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) ศิษย์โปรด อาจารย์ตึ่งโป๊ะ (ปราณี กี่บุตร) สำนักกลองเทวดา ที่พยายามฝึกวิชากลองเทวดาให้ถึงขั้นที่ 10 แต่ระหว่างนั้น เขากลับพบว่า ตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าคนตาย จนต้องหลบหนีการไล่ล่าของนักสืบมือปราบ ไอ้หูดำ (นิพนธ์ ชัยศิริกุล) ที่มี ซื่อบื้อ (ริชาร์ด ออฟ ไลออน ฮาร์ท) สุนัขดมกลิ่นเป็นผู้ชี้เบาะแส เบ๊พยายามพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองให้ทุกคนรู้ โดยมี ต้น (นันทกา วรวณิชชานันท์) ศิษย์พี่ร่วมสำนักกลองเทวดา คอยให้กำลังใจและช่วยเหลือ จนต้นกับเบ๊เกิดความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ระหว่างหนีเอาตัวรอด เบ๊ได้พบเจอผู้คน และเรื่องราวพลิกผันมากมาย หลายคนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเบ๊ จนกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในยุคนี้
มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม. (2545/2002) มนต์เพลงลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2545 ผลงานร่วมสร้างของ สหมงคลฟิล์ม และ ลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. และเป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของบัณฑิต ทองดี โดยเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ของวงการเพลงลูกทุ่ง และภาพยนตร์ไทย ที่รวบรวมไว้มากที่สุด ตั้งแต่นักร้อง นักแต่งเพลง นักจัดรายการลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม. รวมถึงบุคคลที่อยู่ในวงการเพลงลูกทุ่งไทย กว่า 200 ชีวิต มาแสดงในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน และบทเพลงทั้งที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนั้นและที่เคยได้รับความนิยมก่อนหน้านั้น กว่า 30 เพลง มาใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมทั้งบทเพลงใหม่ที่แต่งขึ้นโดยเฉพาะอีก 1 เพลง
มนต์รักทรานซิสเตอร์ (2544/2001) เรื่องราวของ "แผน" หนุ่มบ้านนอกที่หลงไหลในการร้องเพลง เขาได้พบรักกับ "สะเดา" และได้แต่งงานกัน ชะตาชีวิตของแผนเริ่มพลิกผันเมื่อสะเดาตั้งท้องได้ห้าเดือนแผนก็โดนเกณฑ์เป็นทหาร ในระหว่างที่เป็นทหารนี้เองที่เขาได้ไปประกวดร้องเพลงและได้รางวัลรองอันดับหนึ่ง นั่นทำให้แผนตัดสินใจครั้งใหญ่ในการตามหาฝันในการเป็นนักร้อง เขาหนีทหารและเข้ากรุงไปฝึกเป็นนักร้องอย่างที่มันฝันใฝ่ แต่แผนคิดไม่ถึงเลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล แผน หนุ่มลูกทุ่งที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักร้อง แม้จะแต่งงานกับ สะเดา เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว แผนก็ยังไม่ล้มเลิกความฝัน มีเสียงวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเล็กซึ่งเป็นของขวัญวันแต่งงานเป็นสิ่งเดียวที่สร้างความบันเทิงให้กับคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามัน เสียงเพลงที่ลอยออกมาจากวิทยุทรานซิสเตอร์อดทำให้แผนหลับตาฝันเห็นตัวเองโด่งดังเป็นนักร้องชื่อดังอย่างคนอื่นเขาไม่ได้ แต่เมื่อสะเดาตั้งท้องเข้าสู่เดือนที่ 5 แผนก็ได้รับหมายเกณฑ์ไปเป็นทหาร และนี่เองชีวิตที่รุ่งโรจน์และร่วงโรยของแผนก็ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากประกวดร้องเพลงได้รางวัลรองอันดับหนึ่ง แผนจึงตัดสินใจหนีทหารเพื่อเป็นนักร้องอย่างจริงจัง แม้จะต้องเป็นเบ๊ประจำวงก็เอา แต่ความอดทนก็มาถึงขีดสุดเมื่อถูกหัวหน้าวงคุกคาม แผนพลั้งมือทำร้ายผู้จัดการจนต้องหนีไปทำงานในไร่อ้อย ดันเกิดความซวยซ้ำซวยซ้อนถึงขั้นติดคุกติดตะรางกว่าจะพ้นโทษ และสิ่งเดียวที่แผนนึกถึงคือใบหน้าอันบริสุทธิ์ของสะเดาเมียรัก ก่อนจะลากสังขารกลับมายังรังรักอันเป็นที่พักใจสุดท้ายของคนชอกช้ำอย่างแผน
อนึ่งคิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 (2539/1996) เรื่องราวของกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ต้องมาอยู่ในวงโยธวาฑิตทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ชอบวงโยธวาฑิตเลยเพราะว่ามันล้าสมัย อย่างไรก็ตามนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสนุกสนาน ในมิตรภาพที่พัฒนาจากการเป็นปรปักษ์ของทั้ง 2 กลุ่ม ที่ต้องร่วมกันรักษาศักดิ์ศรีแชมป์โลกวงโยธวาธิตของโรงเรียน ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้ความสมัครสมานสามัคคีกันและกันเหนือสิ่งอื่นใด เริ่มการศึกษาใหม่มานานกว่าสามเดือนแล้ว แต่โรงเรียนชายเจ้าของตำแหน่งวงโยธวาธิตนักเรียนของโลก ก็ยังไม่สามารถหาสมาชิกใหม่ให้วงของตนแทนสมาชิกรุ่นเก่า ซึ่งจบการศึกษาออกไปแล้วกว่าครึ่งวงได้ นักเรียนส่วนใหญ่มุ่งเล่นแต่กีต้าร์ คีย์บอร์ด และกลองชุด ที่สำคัญมีการแบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งฐานะ ชิงดีชิงเด่นตลอดเวลา จนวันหนึ่ง เรื่องราวลุกลามถึงขั้นโต้เถียงและเล่นดนตรีเอะอะข่มกัน จนอาจารย์ต้องเข้ามาสั่งสอน และสั่งห้ามจับเครื่องดนตรีที่เป็นต้นเหตุ และส่งนักเรียนอารมณ์ร้อนทั้งหมดไปอยู่ในความดูแลของครูดนตรี เพื่อเข้าเป็นสมาชิกในวงโยธวาธิตของโรงเรียนต่อไป ทว่ายามลับหลังครู ทั้งสองฝ่ายก็คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งกันเป็นประจำ จะมีเพียงสิ่งเดียวที่นักเรียนสองกลุ่มนี้มีความเห็นเหมือนกันคือไม่เต็มใจในการเล่นดนตรีด้วยเครื่องดนตรีของวงโยธวาธิต เพราะเห็นว่ามันเชย อย่างไรก็ตาม นั่นคือจุดเริ่มต้นของความสนุกสนาน ในมิตรภาพที่พัฒนาจากการเป็นปรปักษ์ของทั้ง 2 กลุ่ม ที่ต้องร่วมกันรักษาศักดิ์ศรีแชมป์โลกวงโยธวาธิตของโรงเรียน ซึ่งแน่นอนว่า ต้องใช้ความสมัครสมานสามัคคีกันและกันเหนือสิ่งอื่นใด
รำปืนลำเพลิน (2538/1995) ข้อความบนใบปิด ไล้ติ้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เสนอ ขุนพลเพลง..นักเลงปืน พบกันท่ามกลาง กลิ่นคาวเลือด..ควันปืน และดงอิทธิพล.. รำปืน..ลำเพลิน ลิขิต เอกมงคล, เฉลิมพล มาลาคำ, ศศิธรโพธิโสภณ, ลักษณ์ อภิชาติ, ยุ้ย ยิ้มสยาม, จ่อย อย่างหนา, ผ่องพรรณ พจน์ชัยกุล, เปี๊ยก ยิ้มสยาม, อ๋อง ซูปเปอร์บ๊องส์, หมู สายันต์, ปั้น ตาปลา, ทวี เคราน้อย, ไอคิว ร้อยแปด สร้างเสนอ ไล้ติ้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ภาพนิ่ง มิสเตอร์พั๊งค์ ผู้ช่วยกำกับภาพ นนท์ชัย กำกับบท ป้อม บ้านช่างหล่อ ถ่ายภาพ สถิต กำกับการแสดง สุรพล อุระชื่น (ที่มา :Thai Movie Posters)
เสียงแคนดอกคูน (2536/1993) ข้อความบนใบปิด เขียวสดอินเตอร์กรุ๊พ เสนอ เริงสงกรานต์ ดอกคูนบานแล้ว เสียงแคนผิวแผ่วทั่วทั้งแนวไพร รักของหนุ่มสาวสดใส สุขใดจะเหมือนแม้น เด่นชัย จันทรพันธ์ บทภาพยนตร์-ลำดับภาพ-กำกับการแสดง เสียงแคนดอกคูน ฟัง 9 เพลงเอก ประทับใจ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ธิดา ธีระรัตน์ ศิริพร อำไพพงษ์ ลุงแนบ สนธิ สมมาตร, ดวงสุดา จันทร์สุข, วุฒิ วรชัย, ไกรสร เรืองศรี, ดาร์กี้ กันตรึมร็อก, ดวงใจ เพชรสุรินทร์, จ่าโทน คนโก้, ศิริประภา สุขสมวัฒน์, แอ้น สุขทอง, ภคินี สุนทรนาค, Mr.Dan Olsen, พล โชกุน, ไวท์ ผดุงการ, แรมโบ้ เทืองช้าง, แต้ม ตุกติก, เทพอรุณ, สัญญลักษณ์ ดอนศรี, เจิด ทานตะวัน, ศิลปินเกียรติยศ ส.ส.วิฑูรย์ วงษ์ไกร ดารารับเชิญ สาววารินทร์, หนุ่มสยาม, หนุ่มโคราช พยุง พยกุล, สุรสีห์ ผาธรรม ที่ปรึกษา อำนาจ ศรีดอกบวบ อำนวยการสร้าง (ที่มา :Thai Movie Posters)
รักอาลัย พุ่มพวง ดวงจันทร์ (2536/1993) ข้อความบนใบปิด จิตรหาญภาพยนตร์ สร้าง จากชีวประวัติ กว่าจะเป็นราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ บันทึกจริงของ แม่เล็ก จิตรหาญ รักอาลัย พุ่มพวง ดวงจันทร์ ทิพวรรณ จันทร์เกตุ รองมิสไทยแลนด์ปี 33 รับบท.. ยุ้ย ญาติเยอะ, ทศพร ธารินทร์ มานพ อัศวเทพ, เจริญ หงษ์ไทย, ไวท์ ผดุงการ, ดวงใจ ดวงจันทร์, ทาริกา บุญเกียรติ ก้องเกียรติ อัศวินิกุล ถ่ายภาพ วีระชัย เรืองสัมฤทธิ์ อำนวยการสร้าง เรืองสัมฤทธิ์ กำกับ มานพ น้อยวิจารณ์ บทภาพยนตร์ (ที่มา :Thai Movie Posters)
ผ่าโลกเพลงลูกทุ่ง (2536/1993) ยุรนันท์-ชุดาภา ขอความบนใบปิด ทรงพลเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เส้นทางชีวิต ราชินีลูกทุ่ง จากดิน สู่ดาว ฟัง 7 เพลงเอก จาก พุ่มพวง ดวงจันทร์ ผ่าโลกเพลงลูกทุ่ง นำโดย ยุรนันท์ ภมรมนตรี ชุดาภา จันทเขตต์ พิศมัย วิไลศักดิ์ หม่ำ จ๊กม๊ก วิทิต แลต #ThaiMoviePosters
ดีดสีและตีเป่า (2532/1989) เรื่องของชายหนุ่มสองคนที่ต้องมาใช้ชีวิตด้วยกัน ชู (ชูศักดิ์ มีถาวร) ชายหนุ่มที่รักเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจ กับ ติ๊ก (ติ๊ก กลิ่นสี) หนุ่มจอมกระล่อน ชูได้มีโอกาสเข้ามาเป็นนักร้องมีชื่อโดยมีติ๊กเป็นผู้จัดการส่วนตัว ชูถูกดาว (มณฑาทิพย์ แก้วประเสริฐ) หลอกให้รักแล้วทิ้งไปทำให้เกือบเสียคน ดีที่เดือน (จินตหรา สุขพัฒน์) พี่สาวของดาวคอยปลอบใจชูแล้วตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกับชู โดยที่ติ๊กกลับมาเป็นคนทำลายความฝันของหนุ่มสาวทั้งสอง แต่ในที่สุดทั้งสอง ก็กลับมาสร้างความฝันร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ภาพยนตร์เพลงเรื่องใหม่ของเปี๊ยกโปสเตอร์ที่นำเสนอเรื่องของความสัมพันธ์ของเพื่อน ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันนอกเหนือจากเรื่องความรักของหนุ่มสาวที่เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงจากวงชาย