My Precious รักแรก โคตรลืมยาก (2566/2023) เรื่องราวความรักของ "ต๋อง" (นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์) เด็กผู้ชายในวัย 16 หัวโจกของแก๊งสุดห่ามประจําโรงเรียน และแก๊งเพื่อนอย่าง "โด่ง" (โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี), "แบงค์" (ชิม่อน-วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์), "ไม้" (นีโอ-ตรัย นิ่มทวัฒน์) และ "เปา" (ยูโร-ธนเศรษฐ์ สุริยะพรชัยกุล) ที่มักจะก่อวีรกรรมสุดป่วนสร้างความปวดหัวให้กับเหล่าครูในโรงเรียนอยู่เสมอ แต่แล้ววันหนึ่ง "ต๋อง" และเพื่อน ๆ เกิดนึกสนุกเล่นพิเรนทร์กลางห้องเรียน จนทําให้ "ต๋อง" ถูกทําโทษด้วยการย้ายมานั่งอยู่หน้า "หลิน" (ฟิล์ม-รชานันท์ มหาวรรณ์) นักเรียนดีเด่นประจําโรงเรียนที่ทั้งน่ารักและเรียนเก่ง แถมยังเป็นคนที่เหล่าเพื่อน ๆ ในแก๊งของต๋องแอบชอบอีกด้วย มีเพียง "ต๋อง" ที่ไม่ได้ชอบ "หลิน" เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ 'โคตรเจ๋ง' เกินกว่าจะชอบใคร แต่สุดท้ายด้วยความใกล้ชิดเพราะต้องติวหนังสือให้กันก็เกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่พวกเขาเรียกมันว่า "รักแรก" และต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน "รักแรก" ก็ยังคงเป็นคนที่เราไม่มีวันลืมอยู่ดี
หนังสือรุ่น ภาพยนตร์ (2565/2022) จากซีรีส์แห่งความทรงจำ 8 ตอน ตัดต่อรูปแบบใหม่ในแบบ ภาพยนตร์ เรื่องราวมิตรภาพ ความทรงจำ คำสัญญา ของเพื่อนสนิท 2 คน นัท - ภพ เมื่อคำสัญญาเป็นแค่ลมปาก การพลัดพรากจึงเกิดขึ้น แต่มีสิ่งนึงที่ทำให้เขากลับมาเจอกันอีกครั้ง " หนังสือรุ่น " ภาพยนตร์กระชากน้ำตา ที่อาจทำให้คุณเห็นคุณค่าของชีวิต
บ้านพักหลังป่วนกับก๊วนเด็กเมือง 2 (2565/2022) เมื่อ "น้องเก็บตะวัน" เดินทางมาทำงานในตัวเมืองและได้พบกับ "พี่นับดาว" อีกครั้งในสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปจากปีที่แล้ว ความสัมพันธ์ของ "เก็บตะวัน" กับ "นับดาว" จะลงเอยอย่างไร
บ้านพักหลังป่วนกับก๊วนเด็กเมือง (2564/2021) ว่าด้วยเรื่องราวของ "นับดาว" หนุ่มเหนือฐานะดี และเพื่อนๆ ไปเที่ยวโฮมสเตย์นอกเมืองเชียงใหม่ที่กำลังจะเจ๊งและจะโดนยึดที่ดินทำกิน เขาได้พบกับ "เก็บตะวัน" ลูกชาวบ้านเจ้าของโฮมเสตย์ท่าทางใสซื่อและจริงใจ ทั้งสองรู้สึกถูกชะตากันจนนำมาซึ่งมิตรภาพที่ทั้งสองไม่อาจลืมเลือน
ตุ๊ดซี่ส์ & เดอะ เฟค (2562/2019) ความเฟคเริ่มต้นขึ้นเมื่อ กอล์ฟ ตุ๊ดร่างยักษ์ ดันเป็นต้นเหตุให้ เคที่ (ชมพู่ อารยา) ซุป’ตาร์ตัวแม่ เกิดอุบัติเหตุจนอาการโคม่า นอนสลบเป็นเจ้าหญิงนิทราและไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาถ่ายโฆษณาที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ได้ ทำให้กอล์ฟจะต้องชดใช้ค่าเสียหายถึง 50 ล้านบาท! แต่ในความฉิบหายนั้นยังมีความโชคดีอยู่ เมื่อกอล์ฟได้เจอกับ เจ๊น้ำ (ชมพู่ อารยา) แม่ค้าขายอาหาร ที่ทำศัลยกรรมมาจนเบ้าหน้าเหมือนเคที่แบบเป๊ะเว่อร์ เจ๊น้ำจึงเป็นความหวังหนึ่งเดียวที่จะมาแทนเคที่ในวันถ่ายโฆษณาได้ แต่เจ้ากรรม! เจ๊น้ำดันเป็นแม่ค้าปากจัด ที่มาพร้อมกับกิริยาสุดห่ามกึ่งทราม ต่างจากเคที่แสนอ่อนหวานสุดขั้ว งานนี้แก๊งตุ๊ดซี่ส์จึงต้องมารวมตัวช่วยกอล์ฟปฏิบัติการลวงโลก ปลอมแปลงเจ๊น้ำ ทั้งนิสัย น้ำเสียง กิริยา ท่าทาง ยันปกปิดหูกางของเจ๊อีกด้วย! แถมเรื่องยังทวีความวายป่วงไปอีกค่ะแม่!!! เพราะแก็งตุ๊ดซี่ส์มีเรื่องวุ่น ๆ ของตัวเองที่ต้องเคลียร์ให้จบไปพร้อมกัน!
ดิว ไปด้วยกันนะ (2562/2019) ณ ปางน้อย ปี พ.ศ. 2539 ดิว (ภวัต จิตต์สว่างดี) ซึ่งเป็นเด็กใหม่กำลังเดินทางไปโรงเรียน ได้พบกับภพ (ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์) ที่ขี่จักรยานยนต์มา จึงได้อาสาไปส่งที่โรงเรียน แต่เมื่อฝนตกจึงทำให้รถล้มลงไปในคูข้างทาง มาถึงโรงเรียนจึงต้องเปลี่ยนชุด โดยดิวให้ยืมชุดพละของตน ส่วนดิวใส่ชุดเชียร์ลีดเดอร์ ที่หน้าเสาธง ครูประกาศเรื่องการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ จึงได้ให้นักเรียนที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง มาลงทะเบียน ดิวกับภพ เริ่มทำความรู้จักมากขึ้นหลังจากคลาสเต้นลีลาศ ที่ได้จับคู่เต้นกัน เวลาผ่านไปทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น และชวนกันไปเชียงใหม่เพื่อเรียนพิเศษ โดยทั้งคู่อยู่ร่วมห้องกันที่เชียงใหม่ ที่โรงเรียนสอนพิเศษมีโครงการให้แปลเพลงไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยดิว แปลเพลง "ก่อน" ของวงโมเดิร์นด็อกเพื่อหวังเป็นผู้ชนะเลิศไปกระโดดบันจีจัมพ์ที่นิวซีแลนด์ จนวันหนึ่งภพสอนดิวขี่จักรยานยนต์ แต่ก็ได้ทะเลาะกัน ไล่ภพกลับ แต่ท้ายสุดภพก็กลับมากอดดิว จูบกันในตู้โทรศัพท์ขณะฝนตก ทั้งคู่กลับไปที่ห้องพัก ภาพที่เห็นคือทั้งคู่เปลือยในห้องน้ำ แต่พอออกจากห้องน้ำ เพื่อนร่วมห้องอีกคนก็เข้ามาเห็นพอดี กลับมายังปางน้อย ภพเปลี่ยนไปเพราะกลัวมีใครรู้ ไม่ยอมคุยกับดิว แต่ดิวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จึงทะเลาะกันจนดิวต่อยภพ จนเพื่อนเข้ามาห้ามภายหลัง ครูได้ทำการสอบสวนต่อหน้าผู้ปกครองของทั้งคู่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนดิวเปิดเผยสถานะว่าตนเองเป็นเกย์ เรื่องนี้ทำให้รู้กันทั้งโรงเรียน ภพนัดดิวมาเจอเพื่อเอาจะขอบัตรนักเรียนไปรับการบำบัดแทน ทั้งคู่คุยกันว่าจะหนีออกจากปางน้อย แต่พ่อภพรู้ว่าภพไปค่ายบำบัดการเบี่ยงเบน มีปากเสียงจนภพหนีออกจากบ้าน และได้ส่งข้อความไปทางเพจเจอร์ให้หนีไปด้วยกัน ตอน 5 ทุ่มครึ่ง แต่แม่ดิวเข้ามาอ่านข้อความ แม่จึงเริ่มซักไซ้ ไม่อยากให้ดิวไปเพราะแม่อยู่คนเดียว ขณะที่กำลังคุยกันภพโทรเข้าบ้านดิว แต่ท้ายสุด ดิวตัดสินใจไม่ไป จะอยู่กับแม่ ภพบอกที่ภพทำทุกอย่างเพราะดิว จนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ภพก็ทิ้งท้ายว่า ที่ทำทุกอย่างเพราะแค่สงสารดิวเท่านั้น ณ ปางน้อยปี พ.ศ. 2562 ภพ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) กลับมายังปางน้อยอีกครั้งพร้อมภรรยาที่ชื่อ อร (ญารินดา บุนนาค) ได้กลับมาสอนที่โรงเรียนเก่าของตัวเอง ภพได้รับคำสั่งให้ดูแลนักเรียนหญิงเกเรที่ชื่อ หลิว (ดริสา การพจน์) ที่ซ่องสุมกับเด็ก ม.6 ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นแฟนของหลิว ที่ชื่อ ท็อป (พันธุ์ธัช กันคำ) ซึ่งภพต้องคอยดูแลหลิวที่มักโดดเรียนอยู่เสมอ ก่อนที่ภพจะผ่านการประเมินบรรจุเป็นครู ภพต้องหากิจกรรมให้นักเรียนทำเป็นผลงาน ภพได้ชวนหลิวไปแข่งตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ที่เชียงใหม่ ภพพูดคุยกับหลิวเรื่องที่ว่าเคยมาเชียงใหม่ตอนเด็ก แล้วภพก็ถามหลิวว่า เชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดหรือไม่ ขณะที่ท็อป แฟนของหลิว เริ่มรู้สึกว่าทั้งคู่เริ่มมีความใกล้ชิดกันเกินไป ภพยังได้ช่วยแปลเพลง "ก่อน" ของวงโมเดิร์นด็อก เพื่อไม่ให้หลิวตกซ้ำชั้น ภาพตัดมาที่ภพวัยเด็ก หลังเหตุการณ์หนีออกจากบ้าน ภพกลับมายังปางน้อยอีกครั้ง จึงได้รู้ว่าดิวตายไปแล้ว ถูกรถชนในวันที่ภพหนีออกจากบ้าน ขณะที่หลิวเริ่มนึกได้ถึงเหตุการณ์ ความสัมพันธ์ของดิว ภพ ส่วนท็อปก็รู้สึกไม่พอใจ จึงหาเรื่องครูภพ หลิวเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ จนภพต่อยท็อป เมื่อมีการสืบสวน คณะครูว่าหากใครเริ่มก่อนฝ่ายนั้นจะถูกไล่ออก หลิวเข้าข้างภพ ทำให้ท็อปถูกไล่ออก ภพไปหาหลิวที่ห้องที่แต่งห้องแบบยุคคริสต์ทศวรรษ 1990 ภพพูดกับหลิวราวกับว่า หลิวนั้นคือดิว เพราะภพเชื่อว่าหลิวนั้นคือดิวกลับชาติมาอยู่ในร่างหลิว ท้ายสุดทั้งคู่สวมกอดกัน ในจังหวะเดียวกับที่ท็อปได้เข้ามาและได้ถ่ายทอดสดลงสังคมออนไลน์ เหตุนี้ทำให้รู้กันไปทั่ว รวมถึง อร ภรรยาภพ และได้บอกเลิกภพและเดินทางกลับกรุงเทพ ภพได้เก็บข้าวของจากโรงเรียนเพื่อออกจากโรงเรียน ภาพตัดสลับไปมาเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน หลิวขับจักรยานยนต์จะมาหาภพที่สถานีรถไฟ ส่วนดิวก็ขับมาที่สถานีรถไฟสถานีรถไฟเช่นกัน ทั้งดิวและหลิวประสบอุบัติเหตุ แต่ดิวเสียชีวิต ส่วนภาพปัจจุบัน หลิวกลับมาหาภพได้ ดิวกับภพคุยกันเรื่องว่าหายไปไหน จำเหตุการณ์อะไรได้บ้าง บนรถไฟ หลิวแทนตัวเองว่าดิว และได้เดินทางมายังเชียงใหม่ เพื่อมากระโดดบันจีจัมพ์ด้วยกัน ตามที่ทั้งดิวและภพอยากเมื่อตอนเด็ก ตอนจบของเรื่องเป็นภาพภพกับหลิวกระโดดลงมาโดยที่ไม่ได้ผูกเชือกไว้
แผลเก่า The Scar (2557/2014) ความรักระหว่าง ขวัญ หนุ่มลูกทุ่งและ เรียม สาวบ้านนาที่กลายเป็นรักต้องห้าม เมื่อครอบครัวแต่ละฝ่ายต่างเป็นศัตรูกัน กาลเวลาและโชคชะตาพรากพวกเขาออกจากกัน เมื่อสาวเรียมจำต้องถูกขายขัดดอกให้กับคุณหญิงทองคำเปลว ผู้รักเรียมประดุจลูกสาวของตนเอง คุณหญิงได้ชุบเลี้ยงเรียมจนกลายเป็นสาวชาวกรุงผู้มีการศึกษา สุดท้ายเป็นเพราะโชคชะตาอีกครั้งที่นำพวกเขามาพบกันอีกครั้งท่ามกลางความแตกต่างราวฟ้ากับเหวของทั้งสอง
The Melody รักทำนองนี้ (2555/2012) เพลงรักนับล้านที่มีมากมายอยู่บนโลก แต่มีแค่เพลงเดียวที่มันเป็นของเราสองคน “The Melody รักทำนองนี้” เมื่อดนตรีนำพาทั้งคู่ให้เจอกัน เนื้อเพลงและความหมายที่มีอยู่ต่อจากนี้ จึงเต็มไปด้วยความรู้สึกและความรัก…ที่มีอยู่จริง เมื่อเส้นทางชีวิตของ “วิน” (แดน วรเวช) นักร้องและนักแต่งเพลงยอดนิยมผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงแบบสุดๆ ความเปลี่ยนแปลงที่ยากจะยอมรับทำให้วินหนีไปซ่อนตัวที่แม่ฮ่องสอน เมืองเล็กๆ บนภูสูง ที่ที่ทำให้เขาบังเอิญพบกับ “หมอก” (ฉัตร ปริยฉัตร) นักเปียโนฝีมือดี สาวจอมตื๊อที่มักชอบบังคับให้เขาทำในสิ่งที่เกลียดอยู่เสมอ และแล้วเธอก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาโดยไม่รู้ตัว ความใกล้ชิดและดนตรีทำให้วินได้เรียนรู้ว่า ทำนองเพลงที่บรรเลงได้ไพเราะที่เขาค้นหามาตลอดชั่วชีวิต คือเสียงหัวใจของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขานี่เอง แต่กว่าวินจะรู้ตัว โชคชะตาก็นำพาอุปสรรคสำคัญเข้ามา สิ่งที่จะทำให้วินและหมอกเรียนรู้ที่จะเป็นแรงบันดาลใจของกันและกัน บททดสอบที่จะทำให้คู่รักทุกคู่รู้จักไขว่คว้าความสุข แม้ว่าจะอยู่ในมุมมืดมิดของความทุกข์ที่กำลังก่อตัวขึ้นมา เพลงที่เธอแต่งทำนองและเขาช่วยแต่งคำร้องที่บริสุทธิ์ที่สุดที่บทเพลงทั้งหมดเคยบรรเลงมา ร่วมซึ้งไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกในเมืองแห่งสายหมอก กับบทเพลงอันไพเราะด้วยฝีมือการแต่งเพลงจากนักแสดงนำ “แดน วรเวช” และนักร้องเสียงอบอุ่นอย่าง “บอย ตรัย” ที่จะมาเปลี่ยนแปลงฤดูหนาวของใครหลายคน ให้กลายเป็นฤดูที่หัวใจเต้นเป็นทำนองใหม่ที่อบอุ่นที่สุด
ห่วยขั้นเทพ Suck Seed!! ชีวิตมันต้องลองซักซี้ดนึง!! (2554/2011) เป็ด (จิรายุ ละอองมณี) เด็กประถมสุดเห่ย ที่ไม่เคยฟังเพลง นอกจากจะไม่ชอบฟังเพลงและยังเข้าใจเอาเองผิด ๆ ว่า เพลงเร็วเรียกเพลงร็อค เพลงช้าเรียกเพลงรัก ส่วนเพลงไทยนั้นก็มีแค่สองประเภทคือ เพลง แกรมมี่ และ อาร์เอส เป็ด หัดเล่นดนตรีเพียงเพราะแอบหลงรัก เอิญ (ณัฐชา นวลแจ่ม) เพื่อนร่วมห้องได้ทำให้เขารู้จักกับเพลง และความรัก เอิญ สอน เป็ด ว่าเวลาเราฟังเพลงก็จะเหมือนมีเพื่อนมาอยู่ข้าง ๆ เป็ด เลยอยากเป็นคนข้าง ๆ เอิญ บ้าง ยิ่งรู้ว่า เอิญ เป็นสาวหูเหล็ก เป็นสาวกเพลงร็อคที่คลั่งไคล้กีตาร์ฮีโร่เป็นชีวิตจิตใจ เป็ด จึงเกิดแรงฮึดที่จะผันตัวเองจากไอ้แหยขี้อายให้กลายเป็น ร็อคเกอร์ แต่รักครั้งแรกก็ต้องแตกสลาย เมื่อเธอต้องย้ายไปไกลแสนไกล เวลาผ่านไปไวถึง ม.6 เอิญ ก็กลับมาพร้อมกับความน่ารักและฝีมือกีตาร์ขั้นเทพ เป็ด ที่ยังเห่ยเหมือนเดิมจึงจับมือกับ คุ้ง (พชร จิราธิวัฒน์) มือกีตาร์ของวงนั้นมีบ้านเป็นโรงรับจำนำซึ่งเปรียบเสมือนดีสนีย์แลนด์ของเพื่อน ๆ ของเก่าของคนอื่นจะกลายมาเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของ คุ้ง เสมอ ตั้งแต่ประถมยันมัธยมคุ้งคือผู้นำเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์แฟมิคอม โรลเลอร์เบลด ตู้สติ๊กเกอร์ เกมเต้น โฟโต้ฮันท์ คุ้ง เป็นต้องได้ประเดิมเป็นคนแรก เป็นเพื่อนสนิทสุดเกรียนที่วัน ๆ คิดแต่จะหม้อหญิง พ่วงด้วย เอ็กซ์ (ธวัช พรรัตนประเสิรฐ) มือกลองบ้าพลังที่อยากสอยดาวโรงเรียนที่แอบชอบอยู่ รวมกันเป็นสามตัวห่วย ตั้งวงเพื่อจีบสาวสวย คุ้ง อาจจะมีชะตากรรมเป็นถึงไอดอลของโรงเรียน ถ้าจะไม่มีกรรมมาบังให้คุ้งดันมีฝาแฝดชื่อ เค น้องชายที่ทั้งเรียนเก่งกว่า ที่สำคัญเคยังเป็นมือกีตาร์ของวงโรงเรียนที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนเข้าประกวด Hot Wave Music Award ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความฮ็อตของ เค จะทำให้ คุ้ง กลายเป็นแค่ฝาแฝด เค ในสายตาของทุกคน ในปีสุดท้ายของชีวิตมัธยมปลาย เมื่อวงของ เค ลงสมัคร Hot Wave โดยมี เอิญ เข้าร่วมในฐานะนักร้องนำ เป็ด และ คุ้ง จึงจับมือกันปฏิวัติตัวเองฟอร์มวง SuckSeed ขึ้นมา หาญกล้าท้าแข่งเพื่อพิสูจน์ให้คนที่พวกเขาทั้งรักทั้งอยากเอาชนะได้เห็นว่า พวกเขาไม่ใช่แค่ "ตัวห่วย" อย่างที่ใคร ๆ คิด
ฟ้าใส ใจชื่นบาน (2552/2009) เรื่องราวเกี่ยวกับนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 และหลบหนีเข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ทราย (ร่มฉัตร ขำศิริ) นักศึกษาสาวที่ต้องการเข้าไปช่วยเพื่อนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกกันตัวออกมา เธอได้พบกับ ก้อง (พิชญะ วัชจิตพันธ์) กับพรรคพวก ได้แก่ จอบ (ค่อม ชวนชื่น) เสียม (อ่าง เถิดเทิง) และ คิด (ฝันดี จรรยาธนากร) ที่ปั๊มน้ำมัน วันหนึ่งก้องชวนเพื่อน ๆ เข้าป่าเพราะต้องการหนีจากชีวิตในเมือง หารู้ไม่เลยว่ากำลังเดินทางไปพร้อมกับพวกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก้องได้พบกับทราย ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "สหายเม็ดทราย" ไปแล้ว ก้องและพวกจึงจำเป็นต้องแสร้งใช้ชีวิตอยู่ในป่าไปก่อน สหายเม็ดทรายนั้นชื่นชอบ สหายเที่ยง (สุรสิทธิ์ เอี่ยมโอภาสวงศ์) คอมมิวนิสต์หนุ่มผู้มีอุดมการณ์ ซึ่งต่างจากก้องและพรรคพวก และวันหนึ่งที่จอบและเสียมเผลอไปตัดเอาต้นข้าวเพราะคิดว่าเป็นหญ้าจนเหี้ยนหมด ทั้งหมดจึงต้องออกเดินทางไปขอเสบียงจากชาวบ้าน และที่นั่น ทำให้สหายเม็ดทรายได้ล่วงรู้ถึงความจริงว่า ความสุขที่แท้ของคนอยู่ที่ใจ หาใช่อุดมการณ์อะไรไม่
Macabre Case of Prompiram คืนบาป พรหมพิราม (2546/2003)  “พรหมพิราม” เป็นชื่ออำเภอเล็กๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ศพของหญิงสาวคนหนึ่งถูกพบที่ริมทางรถไฟในอำเภอแห่งนี้ การตายของเธอคล้ายกับว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ท้ายที่สุดจากการสืบสวนของตำรวจถึงเหตุการณ์สืบเนืองอันน่าขยะแขยงที่ไปไกลเกินความคาดหมายก็ได้เปิดเผยออกมา พบว่าเธอชื่อ “สำเนียน” หญิงสาวชาวบ้าน ผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อของความหื่นของพวกผู้ชายเกือบทั้งตำบล ตอนมีชีวิตเธอเป็นคนมีสติไม่ค่อยสมประกอบ และได้ดั้นด้นออกจากภูมิลำเนาเพื่อไปหาสามีที่จังหวัดอุตรดิตถ์โดยรถไฟ แต่ถูกไล่ลงจากขบวนรถที่สถานีรถไฟ อ.พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากไม่มีเงินตีตั๋วรถไฟ แต่ไม่รู้เลยว่าจะเป็นการลงรถไฟเที่ยวสุดท้ายในชีวิต เมื่อมีคนพบศพของหญิงสาวดังกล่าวเสียชีวิตโดยปริศนาที่รางรถไฟในเวลาต่อมา เรื่องราวในภาพยนตร์จับความในวันท้ายๆ ของ “สำเนียน” เปิดเผยการตกเป็นเหยื่อที่ถูกรุมโทรมอย่างโหดร้าย เหตุการณ์สืบเนื่องที่ทำให้เธอเหมือนตกลงไปหลุมขวาก ตลอดจนการตายของเธอสะท้อนให้เห็นถึงความความเลือดเย็นที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน ความเสื่อมทรามในก้นบึ้งของจิตใจมนุษย์ถูกตอกย้ำให้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้จะรบกวนและแม้กระทั่งท้าทายผู้ชมให้ตระหนักถึงมหันตภัยที่ผู้หญิงถูกคุกคาม เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องหนัก แต่วิธีการนำเสนอในภาพยนตร์ได้ดำเนินไปโดยอาศัยกลเม็ดที่ชวนให้ติดตามอย่างเร้าใจ การเคลือบด้วยอารมณ์ขันทำให้การชมเป็นไปด้วยความราบรื่นโดยไม่เสียประเด็นนั้นเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับ “มานพ อุดมเดช” เลือกใช้องค์ประกอบทางด้านเทคนิคพื้นฐานของภาพยนตร์ทั้งในด้านการตัดต่อ, เทคนิคทางด้านภาพ, ดนตรีประกอบ ฯลฯ บอกเล่าเหตุการณ์อย่างมีชั้นเชิงคล้ายกับการปลอกหัวหอมที่จะนำไปสู่ใจกลางของหัวหอม ภายใต้การโปรดิวซ์โดย “ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล” ยกทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แห่งสยามประเทศอย่าง “สุริโยไท” มาผลิตเป็นผลงานที่น่าจับตา ซึ่งรวมถึง “ริชาร์ด ฮาร์วีย์” คอมโพสเซอร์ระดับโลก (Animal Farm, สุริโยไท) มาถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครและบรรยากาศที่น่าสะเทือนใจลงบนตัวโน้ตในภาพยนตร์แนวอาชญกรรมชีวิตระทึกขวัญเรื่องนี้ “สารวัตรหนุ่มใหญ่” (สมภพ เบญจาธิกุล) ที่มากด้วยไหวพริบ และ “ผู้หมวดหนุ่มหน้าใหม่” (กมล ศิริธรานนท์) ที่เพิ่งย้ายราชการมาใหม่ต้องรับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของ “หญิงสาวไม่ทราบชื่อ” (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) เมื่อเข้าไปรับผิดชอบคดีที่ดูเหมือนเป็นการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ แต่พอเข้าไปใกล้รูปคดีมากยิ่งขึ้นกลับพบเงื่อนงำบางอย่างที่บ่งบอกว่านี่คือคดีฆาตกรรมที่อื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งดึงเอาผู้คนหลากอาชีพหลายวัยจากชนชั้นต่างๆ ในอำเภอนั้นถึง 30 ชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของหญิงสาวรายดังกล่าวภายใต้คดีฆาตกรรมข่มขืนกระทำชำเราหาใช่อุบัติเหตุอย่างที่บางคนคิด ภายใต้แรงกดดันที่ถูกเร่งเร้าจากทุกทิศทางทำให้สารวัตรต้องเร่งคลี่คลายประเด็นและสรุปรูปคดีให้เร็วที่สุด ภายใต้เส้นตายที่ถูกกำหนดและเร่งรัดจากเบื้องบน…
999-9999 ต่อ ติด ตาย (2545/2002) “ความอยากรู้อยากเห็น” คือ “ประตูสู่ความหายนะ” เคยมีคำกล่าวว่า “มนุษย์” มีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ ไม่ชอบให้ “ชีวิต” ตกอยู่ใน “ความคลุมเครือ” เมื่อใดที่ความคลุมเครือเข้าครอบงำชีวิต พวกเขาก็จะขจัดมันโดยไม่ค่อยคิดว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร แม้บางทีมันอาจต้องแลกด้วย “ชีวิต” “สหมงคลฟิล์ม” ภูมิใจเสนอ ภาพยนตร์ระทึกขวัญเหนือธรรมชาติที่สะท้อนด้านแห่งความต้องการที่ไม่เคยพอของมนุษย์ และผลลัพธ์ที่ตามมาที่สยดสยองอย่างคาดไม่ถึง “999-9999 ต่อ-ติด-ตาย” เรื่องราวทั้งหมดของ “999-9999 ต่อ-ติด-ตาย” เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งของ “เรนโบว์” หญิงสาวผู้กุมความลับบางอย่างจากโรงเรียนเก่าที่เธอเพิ่งย้ายจากมา เรื่องราวลึกลับและบุคลิกที่ไม่เหมือนใครของเธอสร้างความสนใจให้กับกลุ่มนักเรียนเกรดสิบสองสุดเฮี้ยว 5 คนซึ่งตั้งชื่อกลุ่มของตัวเองว่า “Dare Devil Club” เป็นอย่างมาก พวกเขาซึ่งประกอบด้วย “ซัน” หัวหน้ากลุ่มผู้นิ่งสงบ, “อาฉี” หนุ่มสำอางที่อยากเด่นดัง, “มีนา” สาวเซ็กซี่ประจำกลุ่ม, “วาวา” ผู้คลั่งเทคโนโลยี และ “ราจิต” จอมวิตกจริตประจำกลุ่ม พยายามทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงตัวเรนโบว์ และไม่นานนักความจริงที่น่ากลัวก็ถูกเปิดออก มันเกี่ยวพันกับหมายเลขโทรศัพท์มรณะ “999-9999” ที่ใครก็สามารถโทรไปขอสิ่งที่ตนปรารถนาได้ตามใจอยาก และเมื่อเขาโทรไปแล้วก็ได้รับสิ่งที่ใจต้องการ แต่ไม่นานเขาก็ต้องตายอย่างปริศนา อย่างไรก็ตาม แทนที่ทุกคนฟังแล้วจะเกิดความกลัวไม่อยากเข้าไปยุ่งกับมัน พวกเขากลับให้ความสนใจ อยากรู้และอยากทดลองว่ามันเป็นจริงหรือเปล่าในทันที และแล้วปฐมบทแห่งความน่ากลัวภายใต้หมายเลขมรณะ “999-9999” ก็เริ่มต้นขึ้น… “999-9999 ต่อ-ติด-ตาย” เป็นผลงานการกำกับของ “ปีเตอร์ มนัส” ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จากบทภาพยนตร์ที่เขียนขึ้นโดย “ณัฐิยา ศิรกรวิไล” ภาพยนตร์เรื่องนี้ควบคุมการสร้างโดย “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ( รองต๊ะแล่บแปล๊บ, เกิดอีกทีต้องมีเธอ) ภายใต้การอำนวยการสร้างของ “สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” ในด้านของนักแสดง “999-9999 ต่อ-ติด-ตาย” ระดมทีมนักแสดงวัยรุ่นที่มากด้วยฝีมือหลายคน นำโดย “จุลจักร จักรพงษ์” (รับบท ซัน), “ศรีริต้า เจนเซ่น” (เรนโบว์), “พอลล่า เทเลอร์ (มีนา), “รวิช พงษ์วานิช” ( หมูเปรี้ยว), “เทพฤทธิ์ ไรวินท์” (อาฉี), “ฐิตินันท์ เกียรติธนกร” (ราจิต) และ “วรจรรย์ แสงเงิน” (วาวา)
ขวัญ เรียม (2544/2001) ขวัญ (นินนาท สินไชย) และ เรียม (ภัครมัย โปตระนันทน์) หนุ่มสาวแห่งทุ่งบางกะปิที่มีความผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พ่อของทั้งสองไม่ถูกกันทำให้ความรักของทั้งสองยากจะบรรจบ ซ้ำร้ายเมื่อเรียมจำต้องไปแต่งงานกับชายอื่นตามคำสั่งของพ่อ ขวัญชายหนุ่มบ้านนาต้องพยายามสุดชีวิตเพื่อรักษาคนรักของเขาเอาไว้
คู่กรรม 2 (2539/1996) กลินท์ หรือ โยอิจิ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอังศุมาลินที่เกิดจากโกโบริ ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 อังศุมาลินพยายามเลี้ยงดูกลินท์ด้วยความเข้มแข็ง แม้ วนัส เสรีไทยที่ชอบอังศุมาลินอยู่นานจะเปิดเผยความในใจและไม่รังเกียจที่จะอยู่กินกับอังศุมาลิน แต่อังศุมาลินก็ยังคงคบกับวนัสเพียงเป็นเพื่อนที่ดีเท่านั้น เพราะยังมั่นในรักที่มีต่อโกโบริ อังศุมาลินพยายามปลูกฝังความเป็นโกโบริให้ในตัวกลินท์ แต่กลินท์ไม่ยอมรับและรังเกียจ เมื่อโตขึ้น กลินท์เข้าทำงานเป็นอาจารย์ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังผันผวนเพราะเป็นยุคเผด็จการทหาร กลินท์เป็นคนหนุ่มหัวสมัยใหม่ เขาเป็นผู้นำนักศึกษาร่วมการประท้วงสินค้าญี่ปุ่น โดยที่ไม่มีใครรู้ถึงประวัติของกลินท์ มีแต่เพียง ชิตาภา อาจารย์สาวร่วมคณะเท่านั้นที่คอยเตือนให้ระวังความปลอดภัย หนึ่งในนักศึกษาที่ร่วมการประท้วงนั้น ศราวณี นักศึกษาสาวปีสามคณะรัฐศาสตร์ เป็นคนที่โดดเด่นมาก กลินท์ประทับใจในตัวเธอ ต่อมาศราวณีรู้ว่ากลินท์ที่แท้ก็เป็นญาติผู้พี่ของเธอ ที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นที่เกิดจากอังศุมาลิน ที่ทางครอบครัวของเธอรังเกียจ เพราะอังศุมาลินยอมแต่งงานกับทหารญี่ปุ่นอย่างโกโบริ ศราวณีเลยพลอยรังเกียจกลินท์ไปด้วยทั้งๆที่เธอก็รู้ว่าคนในครอบครัวเธอเกลียดครอบครัวกลินท์ และบอกกล่าวประวัติของกลินท์ให้ทุกคนได้รู้หรือเรียกว่า​"social bullying" ในสมัยโบราณ​ ทำให้ทุกคนเริ่มถอยห่างและไม่ไว้วางใจให้กลินท์นำอีกต่อไป ซึ่งมีแต่เพียงชิตาภาซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของศราวณีผู้โง่เขลาเท่านั้นที่เข้าใจกลินท์ ต่อมา ศราวณีถูกจับ กลินท์เข้าไปช่วยและได้รู้ถึงสาเหตุที่ทุกคนรังเกียจตน กลินท์พาศราวณีไปที่บ้านและได้พบกับอังศุมาลิน ศราวณีถึงได้รู้ว่าที่แท้อังศุมาลินรักในตัวโกโบริอย่างแท้จริง และไม่ใช่คนไม่ดีอย่างที่ครอบครัวเธอปลูกฝัง จึงเปลี่ยนทัศนคติและขอโทษ จากนั้นความผูกพันของทั้งคู่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ การที่ศราวณีกลับไปคืนดีกับกลินท์ ทำให้ กบ ป้าของศราวณีไม่พอใจ จึงมีปากเสียงกัน ศราวณีหนีออกจากบ้าน ชิตาภาร้อนใจไปหากลินท์ที่บ้าน ขณะเดียวกันนั้นก็ได้เกิดเหตุการณ์วันมหาวิปโยคขึ้น กลินท์คิดว่าศราวณีคงจะไปร่วมชุมนุมด้วย จึงออกตามหาในที่ชุมนุม แต่กลับเจอศราวณีผู้น่าสงสารในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสปางตายและเพ้อรำพันที่บ้านสวนอยู่ตลอดเวลาว่า ตนเป็นคนพาเพื่อน ๆ ไปตาย ชิตาภาโทรศัพท์ไปบอกอาการแก่กบ แต่กบไม่รับฟังและเอาแต่โทษชิตาภาต่าง ๆ นานา หลังจากนี้ รัฐบาลต้องทูลเกล้าลาออกเพราะมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากมาย ชิตาภาต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศและพาศราวณีที่อาการปางตายไปรักษาอาการด้วย กลินท์เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองรักชิตาภาอย่างสุดหัวใจ แต่ไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับเธอได้ เพราะชิตาภามีคู่หมั้นแล้วเป็นชาวต่างประเทศ ทั้งคู่ให้คำมั่นสัญญากันว่า จะเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน ต่อมา อังศุมาลินมีอาการป่วยและบ่นถึงชิตาภาอยู่บ่อย ๆ ว่าเมื่อไหร่จะกลับ เมื่ออาการของอังศุมาลินเจ็บหนัก อังศุมาลินขอให้กลินท์เล่นซามิเซ็งให้ฟัง กลินท์ก็เล่นโดยที่ไม่รู้ว่าโกโบริได้พาอังศุมาลินไปยังทางช้างเผือกแล้วตามสัญญาที่เคยให้ไว้ และกลินท์ต้องเล่นซามิเซ็งแต่เพียงลำพังคนเดียว
คู่กรรม (2538/1995) ความรักบนความขัดแย้งในเชื้อชาติ ระหว่างทหารญี่ปุ่นและหญิงสาวชาวไทย ในช่วงเวลาสงครามมหาบูรพาที่กองทัพญี่ปุ่นใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการทำสงคราม ด้วยความบังเอิญและความจำเป็นบางอย่างบีบบังคับให้ทั้งคู่ต้องแต่งงานกัน แม้จะเต็มไปด้วยความเกลียดชังทหารญี่ปุ่นของสาวไทยเพียงใด แต่สุดท้ายเธอก็ได้รับรู้หัวใจตนเอง ท่ามกลางความเข้มข้นของสภาพสงครามที่ดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ
รักอาลัย พุ่มพวง ดวงจันทร์ (2536/1993) ข้อความบนใบปิด จิตรหาญภาพยนตร์ สร้าง จากชีวประวัติ กว่าจะเป็นราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ บันทึกจริงของ แม่เล็ก จิตรหาญ รักอาลัย พุ่มพวง ดวงจันทร์ ทิพวรรณ จันทร์เกตุ รองมิสไทยแลนด์ปี 33 รับบท.. ยุ้ย ญาติเยอะ, ทศพร ธารินทร์ มานพ อัศวเทพ, เจริญ หงษ์ไทย, ไวท์ ผดุงการ, ดวงใจ ดวงจันทร์, ทาริกา บุญเกียรติ ก้องเกียรติ อัศวินิกุล ถ่ายภาพ วีระชัย เรืองสัมฤทธิ์ อำนวยการสร้าง เรืองสัมฤทธิ์ กำกับ มานพ น้อยวิจารณ์ บทภาพยนตร์ (ที่มา :Thai Movie Posters)

หน้าที่