The 8th day แปดวันแปลกคน (2551/2008) ในบ้านที่เก่าแก่ทรุดโทรมหลังหนึ่งนั้น คือชีวิตของป้าแก่ ๆ คนหนึ่งที่ชื่อ ป้าชุบ (วาสนา ชลากร) อยู่คนเดี่ยวอย่างโดดเดี่ยวจนกระทั่งวันหนึ่งที่ แพร เด็กสาวตัวน้อย(เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ) ก้าวเข้าไปในบ้านหลังนั้น และมี หมอหนุ่ม (ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล) อีกเพียงผู้เดียวที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด บ้านอันโดดเดี่ยวหลังนั้นเปิดประตูต้อนรับเด็กน้อยเข้าไปและปิดตายประตูถึงแปดวัน คือ แปดวันที่ป้าชุบเป็นผู้ควบคุมชีพจรชีวิตในบ้านทั้งหมด และหมอหนุ่มคือผู้ที่กุมชะตาของมนุษย์สองคนไปบ้านหลังนั้น
ถอดรหัส วิญญาณ (2551/2008) เรื่องนี้ ขออุทิศให้กับดวงวิญญาณทุกดวงที่กำลังรอการช่วยเหลือเพื่อตามจับฆาตกร! เรื่องเกิดขึ้น เมื่อตำรวจได้พบศพนักเรียนสาวมัธยมปลาย ถูกฆ่ายัดกล่อง ร่างของเธอเปลือยเปล่า มือและเท้าถูกมัดด้วยจีวร หน้าผากถูกลงอักขระสะกดวิญญาณเอาไว้ ตามความเชื่อโบราณเพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณตามจองเวรอาฆาต นับเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนและเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ศาสนา กรมตำรวจจึงส่งมอบคดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI เข้ามาทำคดีนี้โดยส่ง ผบ.กานนท์ (ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล) เข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบในการสืบสวน เขาได้พบหลักฐานหลายอย่างที่ทำให้พอจะมั่นใจได้ว่า น่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพรางกานนท์จึงได้ส่งศพนักเรียนหญิงไปยังหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ CIFS ที่กรุงเทพ เพื่อให้ นิชา (เปรมสินี รัตนโสภา) แพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติเวช หาหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียดเพื่อหาข้อมูลว่า ผู้ตายเป็นใครกันแน่..? ขณะเดียวกัน ซี (ปฏิวัติ เรืองศรี) อดีตนักร้องขวัญใจวัยรุ่น ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงตกอับ ก็ได้รับการติดต่อจาก สิ่งลี้ลับ จนทำให้เขาเกิดลางสังหรณ์บางอย่างว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับ หนิง (ณภัทร บรรจงจิตไพศาล) แฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันมาได้ไม่นาน ซีเกิดความเป็นห่วงหนิง จึงตัดสินใจเริ่มออกตามหาตัวหนิง สร้างความไม่พอใจให้กับ แพร (สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล) นางแบบสาวแถวหน้าของวงการที่เป็นแฟนใหม่เป็นอย่างมาก ระหว่างที่ซีพยายามตามสืบข่าวหนิง นิชาก็ได้ทำการผ่าศพ และ หาหลักฐานเพิ่มเติมจนได้ร่องรอยบางอย่างที่พอจะเป็นกุญแจไขปริศนาว่า นักเรียนหญิงที่ตายคือใครกันแน่..? เมื่อกานนท์เริ่มเชื่อในสัมผัสลี้ลับ ที่วิญญาณพยายามสื่อ ความจริง ก็เริ่มจะปรากฏให้เห็นเป็นภาพราง ๆ วิทยาศาสตร์ กับสัมผัสลี้ลับ อะไรคือความจริงที่จะนำไปสู่การไขปริศนาฆาตกรรม
บอดี้...ศพ # 19 (2550/2007) ชลสิทธิ์ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) ไม่ได้นอนมาแล้วเกือบอาทิตย์ เขาไม่อยาก ไม่กล้า และไม่อาจข่มตานอน เพราะยามใดก็ตามที่เผลอหลับตา ชลจะฝันเห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร จำได้แค่ว่าเขาเคยสบตาผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้โดยบังเอิญครั้งหนึ่งในร้านอาหาร ในฝันเธอกรีดร้องให้เขาทำอะไรบางอย่าง และเขาคงไม่มีวันหยุดฝันร้าย ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของเธอ อาการของชลทำให้ เอ๋ (อรจิรา แหลมวิไล) พี่สาวซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกหัด บังคับให้เขาเข้ารับการบำบัด ชลเล่าให้ อุษา (กฤตธีรา อินพรวิจิตร) จิตแพทย์ของเขาฟังว่า ทุกครั้งที่ฝันเขาจะรู้สึกเหมือนตัวเองตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมเสียเอง สัมผัสในวินาทีที่อวัยวะโดนทิ่มแทง แรงกระตุกของลมหายใจเมื่อวิญญาณหลุดจากร่าง ความทรงจำอันเจ็บปวดค่อยๆ เข้าครอบงำสมองของชล หรือเขากำลังจะเป็นบ้า ด้วยร่องรอยเพียงน้อยนิดของผู้หญิงในฝัน มันนำชลไปสู่ตู้เก็บศพหมายเลข 19 ชลพยายามจะพิสูจน์กับเอ๋ว่าเขาไม่ได้บ้าไปเอง และความลับในตู้ใบนั้นเท่านั้นที่จะยืนยันได้ ในขณะที่ยิ่งอุษารักษาชลนานเข้า เธอก็เริ่มสงสัยว่าชลอาจเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว นับแต่เขาก้าวเข้ามาเป็นคนไข้ของเธอ ภายในตู้หมายเลข 19 ร่างไร้วิญญาณร่างหนึ่ง นอนอยู่อย่างโดดเดี่ยวในที่ที่ทั้งแคบ มืดมิดและหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจ เธอกำลังร่ำร้องหาใครบางคน ด้วยความคิดถึง แต่มันเป็นความคิดถึงที่คุกรุ่นไปด้วยแรงแค้น แค้นที่ต้องมานอนอยู่ในตู้ใบนี้คนเดียว เธอกำลังกระซิบผ่านชลไปยังใครคนนั้นว่า กูคิดถึงมึง
โอปปาติก เกิดอมตะ (Opapatika) (2550/2007) โอปปาติก (โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ) สิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งบนโลก ที่ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับผู้คนทั่วไป แต่ละคนที่เป็นโอปปาติกนั้น จะได้รับพลังพิเศษบางอย่าง ที่ทำให้มีความสามารถเก่งกาจเหนือคนอื่นๆ หากแต่พลังพิเศษนั้นก็มีขีดจำกัดในการใช้ และจะค่อยๆ หมดไป เมื่อสิ้นอายุขัยในที่สุด ศดก (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) โอปปาติกตนหนึ่งที่ต้องการเป็นอมตะ แต่อุปสรรคอย่างเดียว ที่คอยขัดขวางไม่ให้ความต้องการของศดกเป็นจริงก็คือ จิรัสย์ (สมชาย เข็มกลัด) โอปปาติกลึกลับ และดูอันตราย ศดกจึงหาทางกำจัดจิรัสย์ การตามล่าของเหล่าโอปปาติกจึงเกิดขึ้น ก่อเกิดสงครามครั้งใหญ่ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ ปราณ (เข็มอัปสร สิริสุขะ) สาวลึกลับที่ดึงดูดเหล่าโอปปาติกด้วยเหตุผลต่างๆ
คนหิ้วหัว (2550/2007) “คนหิ้วหัว” พล็อตเรื่องสุดเข้มข้นที่ว่าด้วยเรื่องราวของอดีตทหารเรือขี้โมโหที่พร้อมระเบิดโทสะได้ทุกเมื่อหากถูกใครเรียกเขาว่า “ไอ้เตี้ย” (พิง ลำพระเพลิง) นอกจากจะเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนในสายตาของ “หงส์” (วิสา สารสาส) เมียสาวที่กลายเป็นเสาหลักของบ้านโดยพึ่งพาเหล้าและการพนันในการประทังความสุขและเลี้ยงดูชีวิตของ “เต้ย” ลูกชายเพียงลำพัง ในเมื่อทั้งชีวิตไม่เคยแม้แต่จะได้ดีหรือทำดีขึ้นเลยสักครั้ง เตี้ยตัดสินใจเลือกทำความดีด้วยการตัดสินใจสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าจะไม่ยอมตายหากไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้ลูกได้ และวิธีเดียวที่เตี้ยคิดได้ก็คือ “ปล้นโรงรับจำนำ” จนเป็นเหตุให้เขาเข้าไปพัวพันกับ “รงค์” (อภิชาติ ชูสกุล) และ “ค่อม” (คืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี) สองโจรถ่อยที่กำลังวางแผนปล้นวงเงินแชร์ก้อนโต แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกกับศรัทธาแห่งความใฝ่ดีครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของเตี้ย เมื่อสัจจะไม่เคยมีอยู่ในหมู่โจร จนเป็นเหตุให้ “หัว” กับ “ตัว” ของเขาต้องแยกออกจากกัน ในขณะที่หัวตกไปอยู่ในมือของ 18 มงกฎ “หนุ่ม” จอมกะล่อน (ภูริ หิรัญพฤกษ์) ที่ฝีมือลายมือในการต้มตุ๋นเหยื่อแพรวพราวพอๆ กับความเจ้าชู้ ทะลึ่งหื่นกามที่กลายเป็นสันดานฝังลึก ในขณะที่ตัวตกไปอยู่กับพนักงานเก็บศพ “สาว” สุดห้าว (ศุภักษร ไชยมงคล) อดีตพนักงานไปรษณีย์ที่งามทั้งตัวและหัวใจ จนเป็นเหตุให้ทั้งสามต้องมาเกี่ยวพันกันและช่วยให้ศรัทธาขอเตี้ยสัมฤทธิ์ผล แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นภารกิจ “ตะวันชิงหัว” หรือ “ตามล่าตัวสุดขอบฟ้า” สาวจะต้องสื่อสารและคุยกับตัวที่ไร้หู ปราศจากตาและปากในการสื่อสาร ในขณะที่หัวจะต้องความสามารถที่มีแค่หัวพาหนุ่มให้ไปเจอตัวให้ได้ และอีกสารพัดเรื่องราวที่ทั้ง 3 จะต้องฟันฝ่าไปด้วยกันในเมื่อ “หัวจ๋าตัวไม่ได้” อยู่นี้จนทำให้ทุกคนเข้าใจ “วันใดขาดหัวแล้วตัวจะรู้สึก” กับ “คนหิ้วหัว” ภาพยนตร์ชวน “หัว” ให้มาเจอกับ “ตัว” ผลงานเรื่องล่าสุดของ “พิง ลำพระเพลิง”
วิดีโอคลิป (2550/2007) จากความรวดเร็วสู่สถิติความนิยม ความเร็วของเทคโนโลยีมือถือทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแปลงร่างเป็นนักข่าวออนไลน์มือสมัครเล่นเพิ่มสูงขึ้น โดยสามารถรายงานข่าวพร้อมถ่ายภาพเหตุการณ์จริงด้วยกล้องดิจิทัลบนโทรศัพท์มือถือได้เลยทันที หนึ่งในเว็บไซต์เหล่านี้อ้างว่าปัจจุบันมีสมาชิกผู้คอยอัปเดตข่าวสารอยู่มากกว่า 60,000 คนจาก 140 ประเทศทั่วโลก เว็บไซต์ชื่อดังผู้ให้บริการวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีผู้ใช้บริการเป็นอันดับ 4 จากเว็บไซต์ทั่วโลก เผยตัวเลขจำนวนผู้ชมวิดีโอคลิปของทางเว็บไซต์ทะลุหลัก 100 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีผู้อัปโหลดคลิปขึ้นเว็บมากกว่า 65,000 เรื่อง เฉลี่ยต่อเดือนมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์นี้ถึง 20 ล้านคน อีกความก้าวหน้านำมาซึ่งความเสื่อมถอย ปัจจุบันเยาวชนไทยเข้าถึงสื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต โดยมีการค้นหาคำว่า “SEX” ในสื่ออินเทอร์เน็ตสูงถึง 5,800,000 ครั้ง ในปี 2549 และในเดือนมกราคมปี 2550 ที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวยอดรวมของการค้นหาดังกล่าวสูงถึง 5 แสนกว่าครั้ง ศูนย์รวมสถิติเว็บไทยและสารบัญเว็บไทยได้แสดง 20 Keyword ที่เยาวชนไทยอายุต่ำกว่า 25 ปีเข้าค้นหามากที่สุด โดยคำว่า “แอบถ่าย“ อยู่อันดับที่ 4 ซึ่งมีจำนวนการค้นหาสูงถึง 2,483,807 ครั้ง และการแพร่กระจายที่ไม่มีคำว่า “สิ้นสุด“ และลองคิดกันเล่นๆ ว่าถ้า เราส่ง MMS ไปถึงเพื่อน 5 คน โดยใช้เวลาเพียง 10 วินาที และคน 5 คนนี้ก็ส่งให้เพื่อนต่ออีกคนละ 5 คน ต่อไปเรื่อยๆ ภายในเวลาเพียง 1 นาที (ไม่นับช่วงเวลาการตัดสินใจและการกดเบอร์) คลิปวิดีโออันนี้จะเดินทางไปอยู่ในมือคนถึง 19,531 คน ยิ่งไปกว่านี้ถ้าเพิ่มเวลาขึ้นอีกเท่าหนึ่งเป็น 2 นาที ตัวเลขที่น่าตกใจจะอยู่ที่ 61,035,156 คนเลยทีเดียว ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้นำพามนุษย์สู่ความเจริญและความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร ในขณะเดียวกันก็ยิ่งเพิ่มช่องทางให้กับความเสื่อมถอยของจิตใจมากขึ้น แต่ใครจะรู้ว่าสื่อลามกที่หาดูหาเสพได้ง่ายเหล่านี้จะนำมาซึ่งอาชญากรรมร้ายแรงที่กำลังคืบคลานเข้ามาทุกขณะ ขีดสุดของเทคโนโลยีการสื่อสารอีกด้านหนึ่งได้กลายเป็นอาวุธที่มีอานุภาพไม่ต่างจากเชื้อไวรัสร้ายแรงที่พร้อมจะแพร่กระจายไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน คุณจะทำอย่างไร…เมื่อ “นาทีลับ” ของคุณกลายเป็น “นาทีร้าย” ที่ไม่อาจลืมเลือนไปชั่วชีวิต “เคน” พนักงานซ่อมโทรศัพท์มือถือที่ชื่นชอบการขโมยคลิปลับส่วนตัวของลูกค้า “นพ” เกย์หนุ่มฐานะดีที่ชอบดูคลิปโป๊ของคนอื่นและไม่พลาดที่จะส่งต่อ “อ๊อด” ดีเจในผับโคโยตี้ที่มักสรรหากิจกรรมวาบหวิวกับสาวๆ ด้วยการถ่ายคลิปเด็ดไว้อวดโชว์ “เสี่ยเก้ง” เจ้าของผับผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ฉาวที่หมกมุ่นอยู่กับการสะสมและเผยแพร่คลิปหลุด ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถสวมบทบาทผู้ชมผู้เสพได้อย่างสนุกสนานไม่แพ้กัน ใครจะรู้ว่าอีกไม่นานเครื่องเล่นในมือถือที่มาในรูปแบบความบันเทิงนี้จะกลายเป็นอาวุธร้ายที่ย้อนกลับมาทำลายชีวิตของพวกเขาอย่างที่ไม่มีวันตั้งตัว หยุดดู หยุดถ่าย หยุดส่ง ก่อนที่จะไม่มีโอกาสให้สนุกอีกต่อไป…
สวยลากไส้ (2550/2007) 7 คืนหลังความตาย คนที่ตายไปแล้วจะกลับมาหาคนรัก และในคืนนั้น ผู้หญิงสวยทั้ง 7 คนนี้ กำลังถูกตาม...ลากไส้ หญิงสาว...เซ็กซี่แสนสวย หญิงสาว...ร่ำรวยแบรนด์เนม หญิงสาว...ผู้ปรีเปรมกับการกิน หญิงสาว...อินเทรนด์กับการออกกำลังกาย หญิงสาว...ผู้หลงใหลในรูปรสของกันและกัน หญิงสาว...ผู้มั่นคงและบูชาในความรัก ในคืนวันที่ 7 คนที่ตายไปแล้วกำลังจะกลับมาหา...พวกเธอ ณ โรงพยาบาลลึกลับแห่งหนึ่ง เกิดเหตุการณ์สยองขวัญกับเหล่านางพยาบาลสาวสวยทั้งเจ็ดคน อันได้แก่ นุ๊ก (พลอย ชิดจันทร์ รุจิพรรณ) สาวหวานสวยและเซ็กซี่ , เอ๊ะ (ตาล กัญญา รัตนเพชร) สาวมาดไฮโซ, โจ้ (ดลรส เดชะประทุมวัน) สาวสุดเซ็กซี่ หุ่นดีแต่ชอบรับประทานเป็นชีวิตจิตใจ , ยิ้ม (โอซา วัง) สาวสปอร์ตเกิร์ล บ้าความเพอร์เฟกต์ , อรและแอม(บี อำไพรัตน์, เอ็ม อำไพวรรณ เตชะภูวภัทร) ฝาแฝดแสนน่ารักและสุดท้ายคือตาหวาน(ชล วจนานนท์) หญิงสาวน่ารักและเรียบร้อย ทั้งเจ็ดคนเหมือนกันที่ความสวยและหลงรักในสิ่งที่ตนเองชอบ ทุกคนมีความสุขในโลกของตนเอง นุ๊กมักจะฝันหวานถึงครอบครัวเล็กๆที่เธออยากมี, เอ๊ะ มีความสุขกับของแบรนด์เนมที่เธอเทิดทูนเหนือสิ่งอื่นใด, ยิ้ม รักการออกกำลังกาย เธอต้องมีร่างกายที่เพอร์เฟกต์ตลอดเวลา, โจ้ รักการรับประทานแม้เธอต้องล้วงคอออกทุกครั้ง , อรแอม ต่างหลงใหลในเรือนร่างของกันและกัน แม้เธอทั้งคู่จะเป็นฝาแฝดและสุดท้ายคือ ตาหวาน เธอเป็นคนที่บูชาความรัก ยึดมั่นสัญญาจนลมหายใจสุดท้าย ในค่ำคืนนี้เอง เธอทั้งเจ็ดกำลังถูกสิ่งที่เธอรักตามล่า เรื่องราวความสยองขวัญสุดวิปริตเหนือความคาดเดา สิ่งที่ทั้งเจ็ดต้องทำคือมีชีวิตรอดให้พ้นสิบห้านาทีแห่งความโหดร้ายให้ได้ แต่ดูเหมือนโลกแห่งความจริงจะไม่เป็นดั่งฝัน การตามล่าทวีความโหดร้ายขึ้นจนกลายเป็นความอาฆาตแค้น จะมีใครมั้ยที่จะรอดพ้นเวลาแค่สามสิบนาทีของคืนนี้ไปได้
เวิ้งปีศาจ (2550/2007) อดีตเสรีไทยอย่าง แนบหลังเลิกสงครามก็หันไปเป็นนายฮ้อยต้อนวัวควาย ท่ามกลางความเป็นห่วงเป็นใยของ จันทร์ เมียรัก ซึ่งได้แต่บนบานศาลกล่าวต่อ ศาลนางพราย ที่ตนศรัทธาให้ผัวรักแคล้วคลาดจากภยันตราย แต่แล้วเหตุร้ายก็เกิดขึ้นกับเธอเมื่อจันทร์ถูก ผู้ใหญ่ขุน และสมุนลากตัวไปข่มขืนฆ่าและอำพรางด้วยการนำร่างของเธอพร้อมกับ นวล ลูกน้อยวัย 2 ขวบไปทิ้งกลางลำคลอง ดีแต่ได้อิทธิฤทธิ์ของ นางพราย ช่วยให้เด็กน้อยรอดพ้นจากความตาย ส่วนตัวจันทร์นั้นกลายเป็นวิญญาณนางพรายสิงสถิตย์อยู่ ณ ศาลนางพราย เพื่อรอเวลาล้างแค้น นวล ในอีก 17 ปีต่อมาเป็นหญิงงามที่มีหลายชายหมายปอง แต่เธอต้องชะตากับ ร.ต.ต.ศักดิ์ ที่ถูกกรมตำรวจให้ปลอมตัวมาสืบเรื่องราวของผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้าน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ขุนและ เข้ม ลูกชายวัยฉกรรจ์ ความรักของนวลสร้างความไม่พอใจให้กับ สายพิณผู้เป็นเพื่อนที่หลงรักหมวดศักดิ์เช่นกัน สายพิณร่วมมือกับเข้มวางแผนดักฉุดนวลขณะที่กลับจากนำของไปเซ่นไหว้วิญญาณแม่ที่ศาลนางพราย แต่ต้องเผ่นหนีเพราะถูกผีนางพรายจันทร์เข้ามาขัดขวาง หมอผีแก้วจอมขมังเวทย์ผู้เก่งกล้าด้านคาถาอาคมถูกผู้ใหญ่ขุนและลูกชายตัวแสบตามตัวมากำจัดวิญญาณนางพรายจันทร์ ด้วยการจับขังไว้ในหม้อดินจนไม่สามารถออกมาช่วยนวลได้อีกต่อไป ในขณะที่ร.ต.ต.ศักดิ์ ปรึกษากับ จ่าถวัลย์ พ่อของสายพิณ เพื่อสู่ขอนวลที่กำลังตั้งท้องสายพิณจึงเข้าขัดขวางด้วยการวางยาเพื่อนสาวแล้วให้เข้มข่มขืน นวลขัดขืนก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดลงคลองเพื่อฆ่าตัวตาย เคราะห์กรรมของเธอยังไม่หมดสิ้นเมื่อหมอผีแก้วใช้อาคมผ่าท้องเพื่อเอาลูกของเธอไปทำกุมารทอง แต่ก็ได้ เฒ่าจอม ที่มีอาคมแกร่งกล้าเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยแรงอาฆาตของวิญญาณนางพรายนวล ความสยดสยองอันน่าสะพรึงกลัวจึงเกิดขึ้นกับทุกๆคนซึ่งต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้อย่างสาสม
แฝด (2550/2007) พิม (หทัยรัตน์ อีเกอรีฟ) และพลอย (ฤทัยรัตน์ อีเกอรีฟ) แฝดหญิงตัวติดกันวัย 15 ที่เข้ารับการผ่าตัดแยกช่องท้องและกระเพาะอาหารเป็นคู่แรกในเมืองไทย ผลปรากฏว่าพิมพี่สาวพ้นขีดอันตราย ส่วนคนน้องนั้นเสียชีวิต หลังพลอยตาย พิมเลือกที่จะทิ้งความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดไว้เบื้องหลัง แล้วหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่เกาหลี ชีวิตของพิมคงดำเนินต่อไปอย่างมีความสุขกับผู้ชายที่เธอเลือก ถ้าเสียงโทรศัพท์ในกลางดึกคืนหนึ่ง จะไม่ดึงให้เธอต้องหวนกลับมาพบความหลังที่เธอทั้งผูกพันและกลัวสุดหัวใจ ข่าวจากเมืองไทยแจ้งว่าแม่ของเธอ (รัชนู บุญชูดวง) ประสบอุบัติเหตุ พิม (มาช่า วัฒนพานิช) จึงรีบเดินทางกลับเมืองไทย แต่ทันทีที่เธอเหยียบย่างกลับเข้าบ้านหลังเก่า ความทรงจำในอดีตที่เธอแกล้งลืมมันไปก็ย้อนคืนมา ในบ้านเดิมที่พิมเคยอาศัยสมัยเด็ก ข้างของทุกอย่างของพิมและพลอยยังคงแน่นิ่งอยู่ในที่ของมัน รองเท้าสองคู่ ตุ๊กตาสองตัว เสื้อผ้าชุดติดกัน เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งไม่ไหลผ่าน พิมเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเก่าๆ อีกครั้ง ความรู้สึกคล้ายมีคนอยู่ข้างกายตลอดเวลา ทุกลมหายใจ คงจะดีกว่าถ้าพลอยจะเกลียดพิมซะจนไม่อยากกลับมาอยู่ข้างๆ พิมเหมือนเดิม ทว่าพลอยยังคงอยู่ที่นี่ รอเธอและโกรธเธอ หรือกระทั่งความตายก็ไม่อาจแยกพลอยจากพิม
หวีดสยอง รับน้องใหม่ (2550/2007) เรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาใหม่ซึ่งสมัครเข้าชมรมภาพยนตร์ และได้ไปรับน้องที่ต่างจังหวัด โดยมี พาย หนูนา ตั้ม และแมน ไปด้วย แต่เมื่อไปถึงสถานที่รับน้อง ซึ่งเป็นรีสอร์ทกลางป่าใหญ่ ได้มีนักศึกษาหายไปทีละคน ทำให้กลุ่มนักศึกษาต่างพากันหวาดกลัวและพยายามที่จะหาทางหนีกลับบ้านแต่ก็ไปไม่รอด
เขี้ยว..เพชฌฆาต (2550/2007) *ปีอาจไม่ตรง* อสรพิษร้ายที่คอยไล่ล่าผู้มาเยือนด้วยคมเขี้ยวมรณะ การแข่งขันแรลลี่ของกลุ่มนักเดินทาง ที่เกิดพลัดหลงเข้าไปในป่าลึกจนทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับโจรป่าและสัตว์ร้ายที่ค่อย ๆ ฆ่าชีวิตของพวกเขาทีละคน ๆ โดยเฉพาะสรพิษร้ายซึ่งมีเขี้ยวอันแหลมคมที่คอยไล่ล่าพวกเขาด้วยเช่นกัน เพราะแค้นที่กลุ่มนักเดินทางได้ไปทำร้ายไข่ของพวกมัน
วีดีโอคลิปสยอง (2550/2007) *ปีอาจไม่ตรง* คนรัก....เพื่อนรัก....คลิปฉาว...และความตาย... อามาโนะ นักธุรกิจหนุ่ม ต้องการตัดขาดความสัมพันธ์กับทิม เมียน้อยของเขา ทำให้เธอเสียใจมาก กิ๊ก จึงพาไปหาอาจารย์คงเพื่อทำเสน่ห์ แต่อาจารย์คงหลอกให้ทิมมีความสัมพันธ์กับเขา แล้วแอบถ่ายคลิปวีดีโอเก็บไว้ อามาโนะกลับมาหาทิมอีก ทิมจึงแอบถ่ายคลิปส่งไปให้ภรรยาของเขาจนเธอเสียใจและตรอมใจตาย ทิมเสียใจมาก แต่ก็ได้เต้ย คอยปลอบใจ เธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับเต้ย และในวันแต่งงานคลิปฉาวของทิมก็ถูกปล่อยออกมา สุดท้ายเรื่องราวของคลิปสยองนี้จะจบลงอย่างไร และใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด
The Passion Python เมียงู (2550/2007) *ปีอาจไม่ตรง* ลดา เด็กสาวกำพร้า ที่เติบโตมาพร้อมกับงูเผือก เธอมีฝันอยากเป็นนักแสดง จนกระทั่ง เธอได้พบกับเจ๊ไก่ที่ชักนำเธอเข้าสู่วงการบันเทิง แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เพราะยิ่งเธอ ประสบความสำเร็จ เธอก็ยิ่งถูกคนรอบข้างกลั่นแกล้งและทำร้าย รวมถึง วิศวะ หนุ่มคนรัก ของเธอด้วย แต่โชคดีที่งูเผือกคอยช่วยเหลือเธอตลอด ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ งูตัวนั้นลึกซึ้งจนยากที่จะอธิบายได้ และนี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักความ ผูกพันระว่างคนกับงู ที่ไม่มีใครรู้นอกจากเธอ...
ฅนไฟบิน

ฅนไฟบิน (2549/2006) ปี พ.ศ. 2398 เป็นต้นมาได้เกิดอาชีพ “นายฮ้อย” ขึ้นมา เพราะประเทศต้องการทำนาเพื่อนำข้าวส่งออกต่างประเทศ เหล่ากลุ่มนายฮ้อยเหล่านี้ต้อนควายเพื่อมาขายยังกรุงเทพฯ นายฮ้อยบางกลุ่มก็เป็นโจรแฝงมาเพื่อปล้นควายและฆ่าชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนโดยทางการมิได้เข้าช่วยเหลือแต่อย่างใด หนำซ้ำ “พระยาแหว่ง” (ลีโอ พุฒ-พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์) ยังต้องการให้ฆ่าควายให้หมดอีกด้วยเพื่อจะได้ขายรถไถฝรั่งให้กับประชาชนใช้แทนควาย กลุ่มนายฮ้อยโจรเหล่านี้ต้องเผชิญกับ “โจรบั้งไฟ“ (ชูพงษ์ ช่างปรุง) ผู้ออกปล้นด้วยเหตุผล 2 ประการคือ ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ทุกข์ยาก และที่สำคัญหาคนที่ฆ่าพ่อแม่ของตน จนกระทั่งเจอกับ “นายฮ้อยสิงห์” (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) และเชื่อมั่นว่าเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของตนจริงๆ ในขณะที่พระยาแหว่งจ้างโจรปล้นฆ่านายฮ้อยได้หมด แต่กลับไม่สามารถฆ่านายฮ้อยสิงห์คนที่ไม่เคยแพ้ใครได้ พระยาแหว่งจึงวางแผนหลอกใช้โจรบั้งไฟและ “ปอบดำ” (พันนา ฤทธิไกร) ผู้ลึกลับและมีความแค้นอยู่กับนายฮ้อยสิงห์มานาน จึงตกลงใจช่วยเหลือโดยทันที ทั้งพระยาแหว่งและโจรบั้งไฟต่างก็หลงรัก “อีสาว” (กัญญาภัค สุวรรกูฏ) ลูกสาวคนเดียวของปอบดำ แต่ปอบดำก็ไม่ยอมให้ใครได้อีสาวไปครอง… “นายฮ้อยสิงห์” ยังไม่รู้ว่าตนเองถูกปองร้าย… ชีวิตของ “อีสาว” ยังมีความลึกลับที่ยังไม่เปิดเผย… “โจรบั้งไฟ” และ “พระยาแหว่ง” ยังไม่รู้ความลับของ “ปอบดำ” แต่ทั้งสามก็ต้องร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของแต่ละคน…

เดอะ เลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย (2549/2006) เสรี ชายหนุ่มพูดน้อย บุคลิกเงียบขรึม ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงรุ่นเพื่อน ๆ ชั้นประถม เมื่อไปถึงเสรีต้องตะลึงในความสวยของ นาตยา เพื่อนร่วมรุ่นสาวที่ไม่ได้พบกันมานานเกือบ 20 ปี แต่ทั้งหมดได้รับจดหมายลูกโซ่แปลก ๆ ฉบับหนึ่ง ที่มีปริศนาคำทายและรูปของคนแขวนคอตัวเอง เรียกว่า "แฮงค์แมน" และมีข้อความขู่ว่าผู้ที่ได้รับต้องตาย หากจะรอด ต้องส่งต่อจดหมายฉบับนี้ไปยังคนที่ตนแค้นอีก 29 คนจึงจะรอด จากนั้นเพื่อน ๆ ชั้น ป.6/2 ของเสรีทะยอยตายไปเรื่อย ๆ ตามลำดับเลขที่ แรกเริ่มทุกคนไม่เชื่อ แต่เมื่อผ่านไป มีคนตายตามจดหมายนั้น 2-3 คน ทุกคนก็เริ่มเชื่อ เสรีจึงออกตามหาความจริง โดยมีนาตยาขอตามไปด้วย ก่อนจะพบว่า แท้ที่จริงแล้ว คนที่ส่งจดหมายนี้มาให้ เป็นเพื่อนเก่าที่พวกเขาชอบกลั่นแกล้งรังแก จนไม่สามารถออกไปพบปะผู้คนได้เหมือนคนทั่วไปชื่อ แว่น หรือ โชติธรรม
The Passion อำมหิต พิศวาส (2549/2006) หลังหนังรอบสุดท้าย ความตายจะเริ่มต้น ถ้าคุณเป็นผู้หญิงหรือมีหญิงอันเป็นที่รักของคุณอยู่ คุณเตรียมตัวหรือยังที่จะรับมือกับภัยอันตรายบางประเภทที่เกิดจากอารมณ์ของใครบางคนที่เน่าเฟะ ภัยบางอย่างที่คุณเคยได้ยินและเห็นจากหลายข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หรือสื่ออื่นๆ เหตุการณ์ที่คุณไม่เคยคาดคิดว่าจะมาถึงตัว หรือไม่มีวันจะเกิดขึ้นกับคนที่คุณรักได้ ใครล่ะจะรู้ เพียงแค่เพราะเป็นผู้หญิง ส่วนเว้าส่วนโค้ง รอยยิ้ม และแววตาอันชวนมองของคุณ จะกลายเป็นสิ่งล่อลวงใจให้ตัณหาราคะที่อยู่ก้นบึ้งของจิตใจให้ตื่นขึ้นและหิวกระหายเกินมนุษย์ธรรมดา “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ร่วมกับ “นับหนึ่ง นีโอฟิล์ม” สะท้อนภาพความรุนแรงในสังคมที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เห็นแก่ตัวฉกฉวยโอกาสจากคนเดินถนนทั่วไปมาสนองตัณหาอารมณ์ของตัวเอง โดยไม่รู้ว่าตนได้กลายเป็นเหยื่ออันโอชะที่แสนจะง่ายดาย ไม่รู้แม้กระทั่งโฉมหน้าหรือร่างกายไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของตัวเองจะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะชนผ่านกล้องวงจรปิด ผ่านแผ่นซีดีเถื่อน ผ่านสื่อต่างๆ ที่ถูกลักลอบบันทึกตอนที่คุณไม่รู้ตัว จากภายในแหล่งบันเทิงของคนทุกเพศทุกวัย สถานที่ที่เราอาจคิดว่าปลอดภัยจากการโจรกรรมในรูปแบบอื่นๆ แต่กลับถูกโจรกรรมวิญญาณและความรู้สึกของลูกผู้หญิงไปได้ง่ายดาย โดยไม่มีวันจะลืมเลือนหรือได้กลับคืนมา “อำมหิตพิศวาส” (The Passion) เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงมุมโสมมที่มีให้เห็นอยู่ดาษดื่นในสังคม ด้วยมุมมองของผู้กำกับที่ฝากผลงานมามากมายในฐานะนักแสดงระดับแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง “ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ที่ครั้งนี้มารับหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับภาพยนตร์ครั้งแรกและหนึ่งนักแสดงในมาดของ “ชัย” หัวหน้าฝ่ายอาคารของโรงภาพยนตร์ “มัลติเพล็กซ์เวิลด์” สถานที่เพียงแห่งเดียวในเรื่องที่เป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดจบของการไล่ล่าอันแสนสาหัส เพียงคืนเดียวเท่านั้นหลังหนังรอบสุดท้ายของที่นี่จบลง ทุกอย่างจะถูกเปิดเผยและถูกปิดตาย!!! “แพรว” (บงกช คงมาลัย) สาวสวยที่ถูกครอบงำจากความเก็บกดที่มีอยู่ภายในจิตใจ เธอหลงเข้ามาอยู่ในเงื้อมมือของธุรกิจอุบาทว์ที่มีโรงภาพยนตร์ “มัลติเพล็กซ์เวิลด์” โรงหนังครบวงจรขนาดใหญ่บังหน้า โดย “ชัย” (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) หัวหน้าฝ่ายอาคารบีบบังคับให้ “ขาว” (ตะวัน จารุจินดา) พนักงานเดินตั๋วภายในโรงหนังติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วทุกมุมเพื่อเก็บภาพอนาจารของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ตามที่ต่างๆ ของบริเวณโรงหนัง ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ตู้สติกเกอร์ หรือห้องลองเสื้อผ้า เพื่ออัดขายให้บรรดาพวกโรคจิตทั้งหลายได้ชื่นชมผ่านสื่อทุกรูปแบบ คืนนั้นขณะที่แพรวกำลังดูหนังรอบสุดท้ายอยู่ในโรง ชัยก็กำลังมองหาผู้หญิงเป้าหมายบนหน้าจอมอนิเตอร์ที่เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดที่ถูกติดไว้ทั่วห้าง ชัยสะดุดในความน่าหลงใหลอวบอั๋นของแพรว ความหื่นกระหายและตัณหาจึงพลุกพล่าน ในขณะที่หญิงสาวชื่อ “น้อย” (ปรางทอง ชั่งธรรม) พนักงานทำความสะอาดบริเวณตัวห้างกำลังจะวางแผนที่จะปลุกปล้ำขาวชายที่ตนเองแอบหลงรักอย่างสุดหัวใจ โดยไม่สนว่า “บุญเกิด” (เบญจพล เชยอรุณ) ที่เฝ้าบอกรักน้อยทุกวี่ทุกวันจะรู้สึกยังไง และในคืนอันวิปริตนี้ เมื่อหนังรอบสุดท้ายกำลังจะจบลง ชัยก็เข้าจู่โจมแพรวหวังขืนใจให้สมอยากกลางห้องน้ำ แพรวขัดขืนตามสัญชาตญานจนสามารถหลุดพ้นจากเงื้อมมือชัยไปได้ด้วยการให้ความช่วยเหลือของน้อย แล้วการสั่งปิดโรงหนังกลางดึกคืนนั้นเพื่อไล่ล่าแพรวและน้อยหญิงสาวตัวเล็กๆ เพียงสองคนจากผู้ชายทั้งหมดของหน่วย รปภ.ในโรงหนังจึงเริ่มต้นขึ้น ทว่าจุดจบของเรื่องนั้นจะเป็นเช่นไร ใครจะกล้าคาดเดา!