999-9999 ต่อ ติด ตาย (2545/2002) “ความอยากรู้อยากเห็น” คือ “ประตูสู่ความหายนะ” เคยมีคำกล่าวว่า “มนุษย์” มีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ ไม่ชอบให้ “ชีวิต” ตกอยู่ใน “ความคลุมเครือ” เมื่อใดที่ความคลุมเครือเข้าครอบงำชีวิต พวกเขาก็จะขจัดมันโดยไม่ค่อยคิดว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร แม้บางทีมันอาจต้องแลกด้วย “ชีวิต” “สหมงคลฟิล์ม” ภูมิใจเสนอ ภาพยนตร์ระทึกขวัญเหนือธรรมชาติที่สะท้อนด้านแห่งความต้องการที่ไม่เคยพอของมนุษย์ และผลลัพธ์ที่ตามมาที่สยดสยองอย่างคาดไม่ถึง “999-9999 ต่อ-ติด-ตาย” เรื่องราวทั้งหมดของ “999-9999 ต่อ-ติด-ตาย” เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งของ “เรนโบว์” หญิงสาวผู้กุมความลับบางอย่างจากโรงเรียนเก่าที่เธอเพิ่งย้ายจากมา เรื่องราวลึกลับและบุคลิกที่ไม่เหมือนใครของเธอสร้างความสนใจให้กับกลุ่มนักเรียนเกรดสิบสองสุดเฮี้ยว 5 คนซึ่งตั้งชื่อกลุ่มของตัวเองว่า “Dare Devil Club” เป็นอย่างมาก พวกเขาซึ่งประกอบด้วย “ซัน” หัวหน้ากลุ่มผู้นิ่งสงบ, “อาฉี” หนุ่มสำอางที่อยากเด่นดัง, “มีนา” สาวเซ็กซี่ประจำกลุ่ม, “วาวา” ผู้คลั่งเทคโนโลยี และ “ราจิต” จอมวิตกจริตประจำกลุ่ม พยายามทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงตัวเรนโบว์ และไม่นานนักความจริงที่น่ากลัวก็ถูกเปิดออก มันเกี่ยวพันกับหมายเลขโทรศัพท์มรณะ “999-9999” ที่ใครก็สามารถโทรไปขอสิ่งที่ตนปรารถนาได้ตามใจอยาก และเมื่อเขาโทรไปแล้วก็ได้รับสิ่งที่ใจต้องการ แต่ไม่นานเขาก็ต้องตายอย่างปริศนา อย่างไรก็ตาม แทนที่ทุกคนฟังแล้วจะเกิดความกลัวไม่อยากเข้าไปยุ่งกับมัน พวกเขากลับให้ความสนใจ อยากรู้และอยากทดลองว่ามันเป็นจริงหรือเปล่าในทันที และแล้วปฐมบทแห่งความน่ากลัวภายใต้หมายเลขมรณะ “999-9999” ก็เริ่มต้นขึ้น… “999-9999 ต่อ-ติด-ตาย” เป็นผลงานการกำกับของ “ปีเตอร์ มนัส” ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จากบทภาพยนตร์ที่เขียนขึ้นโดย “ณัฐิยา ศิรกรวิไล” ภาพยนตร์เรื่องนี้ควบคุมการสร้างโดย “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ( รองต๊ะแล่บแปล๊บ, เกิดอีกทีต้องมีเธอ) ภายใต้การอำนวยการสร้างของ “สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” ในด้านของนักแสดง “999-9999 ต่อ-ติด-ตาย” ระดมทีมนักแสดงวัยรุ่นที่มากด้วยฝีมือหลายคน นำโดย “จุลจักร จักรพงษ์” (รับบท ซัน), “ศรีริต้า เจนเซ่น” (เรนโบว์), “พอลล่า เทเลอร์ (มีนา), “รวิช พงษ์วานิช” ( หมูเปรี้ยว), “เทพฤทธิ์ ไรวินท์” (อาฉี), “ฐิตินันท์ เกียรติธนกร” (ราจิต) และ “วรจรรย์ แสงเงิน” (วาวา)
สาบเสือที่ลำน้ำกษัตริย์ (2545/2002) ต้นรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ “ปีเตอร์ เบย์น” (Peter Bain) อดีตนายทหารอังกฤษจากเมืองมัณฑะเลย์ถูก “เจ้าสัวหยาง” พ่อค้าของป่าชาวจีนเมืองบางกอกจับได้ว่าเอาปืนชำรุดมาหลอกขาย จึงถูกบังคับให้ร่วมคณะไปกับพรานป่าของเจ้าสัวหยางเพื่อล่าเสือด้วยปืนชำรุดเหล่านั้นให้ได้ หรือไม่ก็ถูกเสือฆ่าตาย ขณะเดียวกัน “วัน” ภิกษุหนุ่มอดีตพรานป่าก็ลาสิกขา เพราะถูกวิญญาณอาถรรพ์ของเสือร้ายตัวหนึ่งคุกคามทุกๆ ครั้งที่เขาพยายามจะนั่งกรรมฐาน วันและปีเตอร์ต่างเดินทางสู่หมู่บ้านกลางดงลึกใกล้แดนพม่า และพบกับ “จูเลีย” พรานสาวเลือดอเมริกัน-กะเหรี่ยงโดยไม่รู้ว่าชะตากรรมกำลังพาเขาทั้งสามไปพบกับนางเสือร้ายตัวหนึ่งซึ่งพร้อมจะเอาชีวิต วันเข้าร่วมกับปีเตอร์ จูเลีย และพรานของเจ้าสัวหยางออกตามล่าช้างงายาวตัวหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่ามี “เสือสมิง” ให้ความคุ้มครอง ทั้งหมดพลัดเข้าสู่อาณาจักรของช้างงายาวและนางเสือร้ายที่มีดวงวิญญาณของ “เนียน” หญิงสาวผู้ถูกฆ่าตายอย่างทารุณ ระหว่างสงครามลำน้ำกษัตริย์เมื่อเกือบร้อยปีก่อนสิงอยู่ และได้เข้าถึงใจกลางป่าลำน้ำกษัตริย์ซึ่งเต็มไปด้วยอาถรรพ์ลี้ลับก่อนที่ช้างจะถูกพวกพรานยิงบาดเจ็บ ความอาฆาตของวิญญาณเนียนซึ่งสิงอยู่ในร่างของเสือร้ายรุนแรงถึงขนาดแปลงร่างเป็นมนุษย์ตามไปเล่นงานผู้คนในหมู่บ้านกลางป่าอันเป็นที่ตั้งสถานียิงสัตว์ของเจ้าสัวหยาง และเมื่อจวนตัว เนียนก็อาศัยพลังจิตอันแก่กล้าเข้าครอบงำวันและพาวันจากไป ปีเตอร์และจูเลียตามไปช่วยวัน เมื่อวันคืนสติ เขาพยายามจะปลดปล่อยเนียนจากแรงอาฆาตของอดีต ขณะที่พวกพรานของเจ้าสัวหยางมุ่งจะกำจัดเนียน และฆ่าช้างงางาม ความโลภ ความอาฆาต และกรรมเก่าจากอดีตชาติเข้ามาพัวพันระหว่างคนเหล่านั้น จน “ป่าลำน้ำกษัตริย์” คาวคลุ้งไปด้วยเลือดและความตายอีกครั้ง…
The Trek ดงพญาไฟ (2545)

เรื่องย่อ : The Trek ดงพญาไฟ (2545/2002) กลุ่มสมาชิกชมรมคชบาล ซึ่งศึกษาพันธุ์ช้างเอเชีย พร้อมด้วยนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่กำลังสนใจพันธุ์ช้างเอเชีย ออกเดินทางเข้าไปในป่า เพื่อเดินทางตามหาช้างประหลาด ที่ถูกพบโดยบังเอิญ ตามข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่เส้นทางนี้ก็มีอันตราย เนื่องจากเป็นเส้นทางของชนกลุ่มน้อย ที่มีการลำเลียงขนสารแอมเฟตตามีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตยาบ้า กลุ่มคณะสำรวจเริ่มต้นการเดินทาง จากหมู่บ้านเล็กๆ ในป่าลึก จากการเข้าพบผู้ใหญ่บ้าน เพื่อขอให้ช่วยพูดกับนายพรานผู้ชำนาญป่า เป็นคนนำทาง แต่ได้รับการปฏิเสธ เพราะมีนายพรานหลายคน ที่เข้าไปในป่าแห่งนี้แล้ว ไม่กลับออกมาอีกเลย แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ ยังคงยืนกรานที่จะเดินทางเข้าป่าโดยลำพัง เพื่อติดตามหาช้างประหลาดดังกล่าว การเดินทางเข้าไปในป่า โดยไม่มีนายพรานผู้ชำนาญทางเป็นสิ่งที่อันตราย แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ ด้วยความหวังที่จะตามหาช้างให้พบ โดยจะต้องผ่านเส้นทางที่อันตราย และยากลำบาก แต่เมื่อเดินทางเข้าไปยังไม่ถึงครึ่งทาง ทั้งหมดก็ต้องตกตะลึง เมื่อเผชิญกับหลุมตะขาบยักษ์ อาศัยอยู่นับร้อยนับพันตัว และก็ต้องพบกับความสูญเสีย เมื่อหนึ่งในคณะเดินทาง ตกลงไปในหลุมตะขาบที่น่าสยดสยอง ส่วนหัวหน้ากลุ่มสมาชิกชมรมคชบาล ที่นำคณะสำรวจเข้าป่า ตั้งใจที่จะค้นหาช้างประหลาดนี้ให้พบ กลับบาดเจ็บสาหัส จนทนพิษบาดแผลไม่ไหว และไม่อยากเป็นภาระของคนอื่นๆ จึงตัดสินใจยิงตัวตายในคืนนั้น กลุ่มคณะสำรวจที่เหลือจำต้องเดินทางต่อ พร้อมด้วยพรานธงที่เดินทางตามมาสมทบ ตามคำขอร้องของผู้ใหญ่บ้านให้ตามเข้ามาดูแล กลุ่มคณะสำรวจนี้จะตัดสินใจเดินทางต่อ หรือกลับออกมาจากป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย..? พวกเขาจะตามหาช้างป่า ที่มีลักษณะประหลาดได้หรือไม่ ? การผจญภัยของพวกเขา ที่จะต้องเดิมพันด้วยการสูญเสีย เพื่อแลกกับความอยู่รอด เรื่องราวของความหวัง มิตรภาพ การผจญภัยในดินแดนเร้นลับ ที่ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไป...

ปอบ หวีด สยอง (2544)

เรื่องย่อ : ปอบ หวีด สยอง (2544/2001) ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวงและแสงสีคึกคักยามค่ำคืน กลุ่มนักศึกษาชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งรวมแก๊งจอมซ่า นำโดย คอม (ดนัย สมุทรโคจร) หนุ่มช่างสงสัย ฟ้า (แองเจล่า แกรนท์) สาวจริงใจ และเกอร์ (ชมพูนุช ปิยะภาณี) ดาวมหาวิทยาลัย ได้จัดคณะออกค่ายอาสาพัฒนาขึ้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยหารู้ว่าสถานที่แห่งนั้นเพิ่งมีหมอผีสะกดวิญญาณปอบเอาไว้ กระทั่งกลับถึงกรุงเทพฯ มิตรภาพของพวกเขาจึงเริ่มเปลี่ยนไป และเหลือไว้แค่ความน่ากลัวสยดสยอง

เชอรี่ แอน (2544)

เชอรี่ แอน (2544/2001) ภาพยนตร์ที่ตีแผ่คดีดัง “คดีฆาตกรรมของนางสาวเชอรี่ แอน” มีผู้พบศพของนางสาวเชอรี่ แอนที่ป่าแสมใกล้ถนนสุขุมวิทสายเก่า หลักกิโลเมตรที่ 42 แถว บางปู สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 หลังการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง ภายใต้ความรับผิดชอบของ พ.ต.ท.เลิศล้ำ ธรรมนิสา กับ พ.ต.ท.มั่งคั่ง ศรีพรพงษ์ นำไปสู่การจับกุม นายวิชัย ชนะพานิช พร้อมบริวาร 4 คน นายเฉลิมรุ่ง นายพิพัฒน์ นายกระสิน และนายธวิช ในข้อหาจ้างฆ่าและร่วมกันฆ่า โดยตำรวจได้แยกย้ายผู้ต้องหาออกคุมขังกระจายไปตามสถานีตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ นางไพลิน-พี่สาวของเสี่ยหนุ่ม ได้ว่าจ้างสำนักงานทนายเข้าแก้คดี เพ็ญนภา ธรรมรุ่งโรจน์ ทนายสาวจึงเข้ามารับผิดชอบในคดีนี้ ในระหว่างการถูกคุมขัง ผู้ต้องหาต่างต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆนาๆ ทั้ง 4 คน ถูกฟ้องร้องด้วยหลักฐานปลอม พยานเท็จ จากการปรุงแต่งของตำรวจชั่ว จนถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต และส่งตัวไปจองจำที่เรือนจำบางขวาง แพะรับบาปทั้งหมด ต้องรอความหวังจากกระบวนการยุติธรรมของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ทุกคนจึงต้องแบกรับชะตากรรมอันเลวร้ายต่อสิ่งที่ตนเองไม่ได้ก่อขึ้น สัมผัสกับเรื่องจริงอันโหดร้าย ของแพะรับบาปและความหมายและคุณค่าของคำว่า “อิสรภาพ” ได้ในภาพยนตร์เรื่อง “เชอรี่แอน”

แม่เบี้ย (2544)

เรื่องย่อ : แม่เบี้ย (2544/2001) บนรถโดยสารที่กำลังมุ่งหน้า สู่เรือนไทยริมน้ำ จังหวัดสุพรรณบุรี ชนะชล (กอล์ฟ-พุฒิชัย อมาตยกุล) ลูกทัวร์หนุ่มกำลังตกอยู่ในภวังค์อันแปลกประหลาด เขาจบการศึกษาจากต่างประเทศ เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มีภรรยาแสนดี และลูกน้อยวัยน่ารัก เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ด้วยชีวิตที่สมบูรณ์พร้อม แต่เขากลับรู้สึกว่า บางสิ่งที่สำคัญหายไปจากชีวิตเขา ซึ่งเขาเอง ก็ไม่รู้ว่า สิ่งที่หายไปนี้คืออะไร แต่มันก็นำเขาให้มากับทัวร์เรือนไทยคณะนี้ เพราะทุกครั้งที่เขาได้ใกล้ชิด กับเรือนไทย หรือข้าวของเก่าๆ ของคนไทย เขาจะรู้สึกว่า ได้สิ่งที่หายไปนั้นกลับคืนมา แม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วคราวก็ตาม แต่ก็ทำให้เขามีความสุขมาก

ความคิดของเขาถูกขัดจังหวะ โดยเสียงสดใสของ เมขลา (มะหมี่ - นภคปภา นาคประสิทธิ์) ไกด์สาวที่ทำหน้าที่ มอบความบันเทิงและความรู้แก่ลูกทัวร์ รวมทั้ง เป็นเจ้าของเรือนไทย ที่พวกเขากำลังจะไปชมนี้ด้วย ปกติแล้ว ชนะชลไม่ชอบผู้หญิงอย่างเมขลานัก ผู้หญิงที่ปราดเปรียว คล่องแคล่ว และ เปี่ยมเสน่ห์.. เกินไป แต่จนกระทั่ง เมื่อคณะทัวร์มาถึงเรือนไทย และเมขลาออกมาต้อนรับลูกทัวร์ในชุดไทย ตอนแรกเห็นชนะชลเกือบจำเมขลาไม่ได้ และจากนี้ไป ชีวิตของชนะชล ก็เปลี่ยนไป อย่างที่ไม่มีวันไปเป็นเหมือนเดิม..

เมขลาใช้ชีวิตสลับ ระหว่างกรุงเทพฯ กับเรือนไทยแห่งนี้ ที่นี่เธอจะอยู่กับ ลุงทิม (สุรชัย แก้วชูศิลป์), ป้าทับ (จินดา นาคจีน), นวล (สุรางค์ แซ่อั้ง) และ "งู" อีกตัวหนึ่ง งูที่เป็นทั้งเจ้าบ้าน และแขกอันไม่พึงประสงค์ เป็นงูเห่าสีดำตัวใหญ่ มันอยู่ที่เรือนไทยนี้มานาน อย่างน้อยก็ตั้งแต่สมัยเมขลายังเป็นเด็ก และย้ายมาที่นี่พร้อมกับ โกสุม (ณัฐสวาสดิ์ หมั้นทรัพย์) แม่ของเธอ

โกสุม แม่ของเมขลา เป็นเมียน้อยคนที่สี่ เมขลาจำได้ดีว่า เมื่อมาถึงที่นี่ใหม่ๆ เธอและแม่ต้องทนรับการโขกสับ จากบรรดาเมียหลวงทั้งสาม แม่เชื้อ (ลักษมี เพ็ญแสงเดือน), แม่นิ่ง (ปาริชาติ บริสุทธิ์), แม่สาย (หัทยา คูรัตน์ชัชวาล) จนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่แล้ว ด้วยฝีมือการบำเรอความสุขทางเพศของโกสุม ก็ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป พ่อของเมขลา (ภิญโญ ทองเจือ) มอบทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านให้โกสุมดูแล แล้วความสุขและชัยชนะ ก็กลับมาสู่ชีวิตของเมขลาอีกครั้ง

เมขลาได้เจอกับชนะชลที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง แม้จะพยายามรักษาท่าทีต่อกัน แต่ทั้งคู่ก็รู้ดีว่า ปรารถนาซึ่งกันและกันเพียงใด แต่กรอบแห่งศีลธรรม และความรับผิดชอบ ก็ยังกั้นคนทั้งคู่ให้ห่างจากกันได้ แต่เมื่อทั้งสองยิ่งได้เจอกันบ่อยมากขึ้น ก็ไม่มีอะไรในโลกจะสามารถหยุดทั้งคู่ให้จากกันได้ และเมื่อคืนหนึ่งมาถึง ที่เรือนไทยที่ชนะชลรู้สึกผูกพันนี้เอง

เขากับเมขลาก็ผูกสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นขึ้น แต่เขาก็เกือบต้องแลกความสุขนี้ด้วยชีวิต เมื่องูเห่าสีดำไล่ล่าเขาอย่างกราดเกรี้ยวและอาฆาต ผิดธรรมชาติของงูยิ่งนัก เมขลารู้ดีว่าเป็น เพราะเรื่องของเธอกับเขา จึงทำให้งูเห่าพยายามฆ่าชนะชล เหมือนที่เคยทำกับ พจน์ (อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) หนุ่มผู้กว้างขวางในย่านนั้น ผู้ชายอีกคนที่ตกหลุมเสน่ห์ของเมขลา จนถอนตัวไม่ขึ้น และต้องชดใช้ความต้องการของเขาด้วยชีวิต เมื่อเขาตัดสินใจเผชิญหน้ากับงูเห่าตัวนี้ เมขลาพยายามจะไล่งูออกไปจากเรือนไทย และจากชีวิตของเธอ แต่งูก็คอยหลบหน้าเธอ และยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ตัวเธอ และบ้านไทยต่อไป

ความสัมพันธ์ของชนะชลและเมขลารู้ถึง ไหมแก้ว (โซบี - โชติรส แก้วพินิจ) ภรรยาของชนะชล ไหมแก้วเสียใจและโกรธแค้นมาก เมขลารู้ดีว่า ความรักที่ผิดศีลธรรมของเธอ มาถึงจุดจบแล้ว เธอตัดใจจากชนะชล และเดินทางไปต่างประเทศ เธอเลือกที่จะอยู่ไกล แม้จะทำให้เธอร้าวราน และเจ็บปวดมากเพียงใดก็ตาม

แต่ชนะชลกลับไม่สามารถห้ามความปรารถนาของเขาเองได้ เขาเดินทางกลับไปที่เรือนไทย เพื่อค้นหาสิ่งที่จะมาเติมเต็มชีวิตของเขา แม้รู้ดีว่า งูเห่าตัวนั้นกำลังรอเขาอยู่

...ที่สุดแล้ว บทสรุปของเมขลา ขนะชล และงูเห่า จะลงเอยเช่นใด สายใยอะไรที่ร้อยเรียงพวกเขาไว้ด้วยกัน.. บางทีคำตอบทั้งหมด อาจรอพวกเขาอยู่ที่เรือนไทยริมน้ำหลังนั้น...

เรื่องตลก 69 (2542)

เรื่องตลก 69 (2542/1999) เหตุการณ์ในภาวะเศรษฐกิจไทยตกต่ำยุคฟองสบู่แตกหรือวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2540 ผ่านเรื่องราวของ ตุ้ม พนักงานสาวประจำบริษัทการเงินแห่งหนึ่งที่ถูกปลดออกจากงานเพราะปัญหาเศรษฐกิจ ซ้ำโชคชะตายังเล่นตลกเมื่อลูกน้องของเจ้าพ่อแห่งวงการมวย นำกล่องบะหมี่สำเร็จรูปที่เต็มไปด้วยเงินสดจำนวนมหาศาลมาวางไว้หน้าห้องพักหมายเลข 6 ของเธอ ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นห้องหมายเลข 9 เพราะตัวเลข 6 หน้าห้องของตุ้มบังเอิญพลิกตกกลับหัวกลายเป็น 9 เป็นจุดเริ่มต้นให้ชีวิตที่กำลังจนตรอก ต้องตกเข้าไปอยู่ในวังวนของอาชญากรรมโดยไม่ตั้งใจ

"ตุ้ม" เลขาที่ถูกเลิกจ้างในช่วงภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ วันแรกของการตกงาน ตุ้มตื่นมาเจอมาม่ากล่องใบหนึ่งวางอยู่หน้าห้องพักเธอ เมื่อเธอนำกล่องเข้าห้องมาและเปิดดูกลับพบเงินจำนวนมากมายในกล่อง และกล่องใบนั้นจะนำพามาด้วยโชคชะตาที่เล่นตลกกับเธอที่จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างที่เธอคิดไม่ถึง

โคลนนิ่ง คนก๊อปปี้คน (2542)

เรื่องย่อ : โคลนนิ่ง คนก๊อปปี้คน (2542/1999) เมื่อ ดร.จอร์จ หอบเอาการทดลอง "โคลนนิ่งมนุษย์" มาที่ประเทศไทย การทดลองดังกล่าวจึงดำเนินการขึ้นอย่างลับ ๆ โดยมีเจ้าของโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งรับอาสาเป็นนายทุนให้กับโครงการนี้ ด้วยความหวังว่าหากการทดลองชิ้นนี้เป็นผลสำเร็จเขาจะกลายเป็นมหาเศรษฐี ด้วยการ "ขาย" อวัยวะที่ได้จากการโคลนนิ่ง

นิวัติ โปรแกรมเมอร์ที่มุ่งมั่น ทำแต่งานโดยไม่สนใจเหตุการณ์รอบตัว ก็กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อการทดลองครั้งนี้…"B-7" ร่างโคลนนิ่งของนิวัติเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว หลุดรอดออกมาสู่โลกภายนอก และพยายามเข้ามาแทนที่นิวัติ แย่งชิงความเป็น "คน" เพื่อความอยู่รอดในโลกมนุษย์ การต่อสู้ระหว่างคน 2 คน จึงเกิดขึ้นโดยมีสิ่งเดิมพันคือ ชีวิต…ครอบครัว และความรัก

หนุ่มธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์ไม่ธรรมดา เมื่อมีชายลึกลับหน้าตาเหมือนเขาทุกประการ ทำร้ายและพยายามฆ่าเพื่อที่จะเข้ามาแทนที่ แย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งเพื่อน ครอบครัว และคนที่เขารักมากที่สุด "เมย์" (สิริยากร พุกกะเวส) เขาจึงต้องต่อสู้เพื่อทวงชีวิตซึ่งเคยเป็นของเขากลับคืนมา พร้อมกับสืบหาความลับของชายลึกลับ ว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

ล่าระเบิดเมือง (2542)

เรื่องย่อ : ล่าระเบิดเมือง (2542/1999) “อำนาจ” และ “เงินตรา” น้อยคนนักที่จะปฏิเสธการเป็นเจ้าของ และน้อยคนนักที่จะหลุดพ้นจากการเป็นทาสของมัน…. “ก้อง” บอดี้การ์ดหนุ่มมือหนึ่งของ “ธรรมคุณ” นักการเมืองที่อาศัยอำนาจหน้าที่บังหน้า โดยมีเบื้องหลังคือการค้ายาเสพติดรายใหญ่ระดับประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ก้องก็ถูกว่าจ้างให้เป็นสายให้กับหน่วยปราบปรามพิเศษด้วยเช่นกัน สาเหตุที่เขาทำเช่นนี้เพราะอำนาจของ “เงิน” ที่เขาต้องการเท่านั้น เงินสามารถจะซื้อทุกสิ่งทุกอย่างให้กับ “หน่อย” น้องสาวคนเดียวที่เขามีอยู่ “หนุ่ย” คอมมานโดหน่วยปราบปรามพิเศษ ที่มีคู่หูคือ “อ๊อฟ” เพื่อนรักที่สามารถยอมตามแทนกันได้ ทั้งสองอยู่ในความควบคุมของ “แดน” หัวหน้าหน่วยปราบปรามพิเศษ ที่คอยตามจับตัวราชายาเสพติดรายใหญ่อยู่

ในที่สุดทั้งสามคนก็สามารถร่วมกันจับ “เล่าซู” ราชายาเสพติดได้ ด้วยข้อมูลลับๆของก้อง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ก้องถูกจับได้ว่าเป็นสายให้กับทีมของแดน ก้องถูกสั่งเก็บแต่เขา หนีรอดออกมาได้ และยังได้หลักฐานชิ้นสำคัญมาอีกด้วย แต่หน่อยน้องสาวของก้องก็ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ เพื่อต่อรองกับก้อง… ผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้ปฏิบัติการอุกอาจ เข้ายึดโบกี้รถไฟไว้ขบวนหนึ่งและจับผู้โดยสารเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับเล่าซู โดยใช้ “จ๋อม” พยาบาลสาวทำหน้าที่สื่อกลางระหว่างผู้ก่อการร้ายกับตำรวจ…

หน่วยปฏิบัติการพิเศษของแดนออกปฏิบัติการอีกครั้ง เพื่อทำการช่วยเหลือตัวประกัน เหตุการณ์นี้หนุ่ยได้ช่วย จ๋อมออกมาได้ แต่ได้เสียสองเพื่อนรักไป อ๊อฟถูกฆ่าตาย และแดนเพื่อนรักก็หักหลังเพื่อนเพียงเพื่อ “อำนาจ” เท่านั้น แดนตามฆ่าหนุ่ยด้วยเหตุเพราะหนุ่ยล่วงรู้ความลับของตน หนุ่ยทั้งเสียใจและเครียดแค้นแดน จากเพื่อนรักต้องกลายมาเป็นคู่แค้น โชคดีที่เขามีจ๋อมคอยเป็นเพื่อนและคอยให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา ก้องยังถูกเจ้านายตามล่าอยู่ โดยใช้น้องสาวของเขาเป็นข้อต่อรองกับหลักฐานชิ้นสำคัญที่เขามีอยู่ ในที่สุด ก้อง หนุ่ย และจ๋อม ก็ถูกตามล่าและหนีมาเจอกัน จากความเข้าใจผิดกลับกลายมาเป็นเพื่อน เพราะต้องร่วมชะตากรรมในการหนีตายจากเหตุการณ์ต่างๆเหมือนกัน

ก้อง…จะช่วยชีวิตน้องสาวได้หรือไม่…? ความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่ยกับจ๋อมจะลงเอยอย่างไร…? แดน…จะรับโทษทัณฑ์อย่างไร…? และการตามล่าจะส่งผลเช่นไรกับเมือง…เมืองนี้

303 กลัว/กล้า/อาฆาต (2541)

เรื่องย่อ : 303 กลัว/กล้า/อาฆาต (2541/1998) เรื่องราวของนักเรียนกลุ่มใหม่จากห้อง 303 แห่งโรงเรียนเซนต์จอร์จ โรงเรียนคาทอลิคที่มีกฏเข้มงวด ซึ่งได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับกรณีการตายอย่างลึกลับของรุ่นพี่ที่ได้รับเกียรตินิยมและมีชื่ออยู่จารึกอยู่ในกรอบกลางห้องโถงของโรงเรียน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นพวกเขาจึงพยายามค้นหาความจริง แต่มันกลับนำพาเรื่องร้ายมาสู่พวกเขาทีละคน

ที่โรงเรียนเซนต์จอร์จ นักเรียนกลุ่มหนึ่งสังเกตว่ามีรูปของนักเรียนเกียรตินิยมติดอยู่แต่ไม่ได้เขียนรายละเอียดเอาไว้ พวกเขาจึงไปสืบเรื่องราวจนได้รู้ว่านักเรียนคนนั้นได้ฆ่าตัวตาย แต่พวกเขาไม่เชื่อ..จึงชักชวนกันเล่นผีถ้วยแก้วและได้คำตอบว่าคือการฆาตกรรม ต่อมาเริ่มมีคนตายในโรงเรียนมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่คนในกลุ่มที่เล่นผีถ้วยแก้ว พวกเขาจึงต้องหาตัวฆาตกรให้พบก่อนที่จะไม่มีใครรอดชีวิตเลยสักคน!

CC-J แสบฟ้าแลบ (2541)

เรื่องย่อ : CCJ แสบฟ้าแลบ (2541/1998) ร.ต.ต. "เจมส์" (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) นายตำรวจหนุ่มไฟแรงแห่งหน่วยตำรวจสากลปราบปรามพิเศษคอยปกป้องพิทักษ์ความสงบได้รับมอบหมายให้กำจัดกลุ่มโจรปล้นร้านนาฬิกา โดยการปลอมตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งมอเตอร์ไซค์ของพวกโจร จนได้รู้จักกับ "คาร์โล" (แชมเปญ เอ็กซ์) หญิงสาวผู้มีความมั่นใจสูงเจ้าของร้านมอเตอร์ไซด์ อีกทั้งยังได้รู้จักกับกลุ่มขับมอเตอร์ไซค์ของ "ต้น" ความสนิทสนมระหว่างปฏิบัติภารกิจ ทำให้เขาต้องเลือกระหว่างมิตรภาพ ความรัก และคำว่าหน้าที่

ร.ต.ต. เจมส์ นายตำรวจหนุ่มไฟแรงแห่งหน่วยตำรวจสากลปราบปรามพิเศษคอยปกป้องพิทักษ์ความสงบได้รับมอบหมายให้กำจัดกลุ่มโจรปล้นร้านนาฟิกา โดยเขาได้ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งมอเตอร์ไซค์ของพวกโจร และได้รู้จักกับ คาร์โล หญิงสาวผู้มีความมั่นใจสูง ความสนิทสนมระหว่างปฏิบัติภารกิจ ทำให้เขาต้องสับสนในความรักระหว่างเธอกับแฟนสาวผู้อ่อนโยน

กรุงเทพฯ ค.ศ. 2000 เป็นยุคที่บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย มีการปล้นและก่อเหตุไม่สงบ จึงจำเป็นต้องมีหน่วยตำรวจสากลปราบปรามพิเศษคอยปกป้องพิทักษ์ความสงบ ร.ต.ต. เจมส์ นายตำรวจหนุ่มไฟแรงได้รับมอบหมายให้กำจัดกลุ่มโจรปล้นร้านนาฟิกาที่นำทีมโดยต้นและเพื่อนๆ ทางตำรวจสืบทราบว่าเป็นแก๊งค์มอเตอร์ไซด์ เจมส์จึงปลอมตัว เพื่อเข้าไปอยู่ในแก๊งค์ เจมส์ได้รู้จัก CARLO หญิงสาวผู้มีความมั่นใจสูง เป็นเจ้าของร้านมอเตอร์ไซด์ และ CARLO ได้แนะนำให้เจมส์รู้จักกับกลุ่มของต้น เจมส์พยายามเข้าไปสนิท คลุกคลีกับแก๊งค์ของต้น ขณะเดียวกัน เจมส์ได้ไปมีเรื่องกับแก๊งค์มอเตอร์ไซด์อีกกลุ่มหนึ่ง (กลุ่มแจ็ค) ซึ่งต้นได้ช่วยเหลือไว้ จากนั้นเจมส์กับต้นก็ตกลงเป็นเพื่อนกัน และเจมส์ก็สนิทสนมกับ CARLO โดยไม่รู้ตัวทำให้เขา สับสนระหว่าง CARLO กับแฟนสาวผู้อ่อนโยนที่เขารักมาก ต้นมีน้องชายชื่อ "ฟลุ๊ค" ป่วยเป็นโรคไต และมีความจำเป็นต้องใช้เงินมาก และทุกคนต่างมีความฝัน จึงตัดสินใจปล้นเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งในตอนนั้นพวกเขารู้แล้วว่าเจมส์คือตำรวจ ขณะที่ ปล้นธนาคารได้มีการต่อสู้กับตำรวจ จนในที่สุดกลุ่มของต้นถูกตำรวจยิงเสียชีวิตทั้งหมด ตัวต้นเองไม่ยอมถูกจับ จึงตัดสินใจขับรถหนีพุ่งลงเหวตายในที่สุด

ท้าฟ้าลิขิต (2540)

เรื่องย่อ : ท้าฟ้าลิขิต (2540/1997) เจี๊ยบ (สัญญา คุณากร) กับ ว่าน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) แฟนสาวของเขากำลังจะไปทำบุญ แต่ระหว่างทางที่ไป ว่านเกิดถูกรถชน อาการสาหัสปางตาย หลวงพ่อ (สุภักดิ์ ปิติธรรม) บอกว่าเป็นกรรมเก่าของว่าน เจี๊ยบพยายามจะช่วยว่าน เขาได้พบกับหนังสือพิมพ์ประหลาดฉบับหนึ่งโดยบังเอิญ ซึ่งพาดหัวข่าวเรื่องราวในอนาคต ส่วนมากเป็นเรื่องราวของคนตายโดยฆ่าตัวตายหรืออุบัติเหตุ เจี๊ยบต้องวิ่งไปแก้สถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้นด้วยตนเองเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้น

เพชฌฆาตเดนสงคราม 2 (2539)
เพชฌฆาตเดนสงคราม 2 (2539/1996) ข้อความบนใบปิด เพชรพันนาโปรดัคชั่น เสนอ ยิ่งใหญ่...มันส์ก้องโลก ทุนสร้างกว่า 10 ล้าน เพชฌฆาตเดนสงคราม 2 MISSION HUNTER 2 ชาติชาย รักศิลป พระเอกวัยรุ่น สมภพ วงศ์ก่อ พันนา ฤทธิไกร ดาราอินเตอร์ คริสทอป, โรเบิร์ต คริสต์ติน, โจเซฟ วูร์เทล ธัญลักษณ์ ราชธา, สมชาติ ทินใต้, บรรลุ ศรีแสง, พัฒนพงษ์ ราชธา, จา สุรินทร์, ทอง ชาตรี, ประภาษ ลาดพันนา, วิมล น้ำพอง, เตี้ย แจ่วบอง, ทีมสตั๊นแมนเพชรพันนาโปรดัคชั่น, ทีมยิมนาสติค อ.ป้อม เมืองสุรินทร์, ทีมเทควนโด 138/1 เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ วัตร ผู้ช่วยถ่ายภาพ โหน่ง ผู้ช่วยกำกับ นิต ลายเขียน ที่ปรึกษา โชคชัย เพชรพันนา ดำเนินงานสร้าง อรรถพล สงวนเกียรติ ถ่ายภาพ ธวัชชัย ลัดลอย อำนวยการสร้าง ประพนธ์ เพชรอินทร์ กำกับการแสดง เพชรพันนาโปรดัคชั่น จัดจำหน่าย
ฉีกป่าล่าคน (2538)

เรื่องย่อ : ฉีกป่าล่าคน (2538/1995) เรื่องราวชีวิตของ หมึก ชายหนุ่มที่ในวัยเด็กเคยฝันที่จะเป็นนายแพทย์ เพื่อช่วยชีวิตคนให้รอดพ้นจากความตาย..แต่ชีวิตกลับผกผันทำให้เขาต้องกลายเป็นผู้ฆ่า.. ฆ่าคนมันบาปนะลูก เป็นคำเตือนของแม่ที่ยังก้องอยู่ในหัวใจเขา

ด้วยความเบื่อหน่ายสังคมเมืองกรุง ทำให้หมึกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับสาวชาวเขา แต่วันหนึ่ง เขากลับพบภรรยาสุดที่รักกลายเป็นศพอยู่ที่ริมลำธาร ชาวเขาที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าเป็นฝีมือของพวกคนเมืองที่เข้ามาล่าสัตว์ หมึกจึงออกตามล่าเอาชีวิตพวกคนเมืองด้วยความแค้น เมื่อถูกฆ่าตายทีละคน เหล่าคนเมืองจึงรวมตัวกันออกตามหาหมึกซึ่งแฝงกายอยู่ภายในป่า เขาจึงกลายเป็นผู้ล่าและผู้ถูกล่าในเวลาเดียวกัน

บ้าน..ผีหัวขาด (2537)
บ้าน..ผีหัวขาด (2537/1994) ข้อความบนใบปิด บ้าน...ผีหัวขาด ของ ธรานันท์ ยิ่งใหญ่...แปลก...ใหม่ สรพงศ์ ชาตรี ยอมหัวขาดเพื่อเป็นประวัติศาสตร์หนังไทย จรินทร์ พรหมรังสี กำกับการแสดง สรพงศ์ ชาตรี วิเวียน ระวี โซนิค ซันนี่, บิลลี่ หงัด, สมศักดิ์ ชัยสงคราม, รัญ เมืองลพ, ตึ๋ง ท่าตำหนัก, ลูกน้ำ เพิ่มสกุล, ยอดธง เทียนไท และคณะมิสออลลี่ แช่มทอง จุลเกตุ ขอแนะนำ “นิเชามาร์คทู” ชินเมธ ประสาทพร ดำเนินงานสร้าง ธวัชชัย พันธุ์ภักดี ประสานงาน
กาเหว่าที่บางเพลง (2537)

เรื่องย่อ : กาเหว่าที่บางเพลง (2537/1994) เรื่องราวแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านบางเพลง ในคืนวันลอยกระทง ได้เกิดเหตุการณ์พระจันทร์ทรงกลดขึ้นทำให้ทุกสิ่งหยุดไปชั่วขณะ ต่อมา ผู้หญิงในหมู่บ้านไม่ว่าจะเป็นหญิงสาว คนชรา หรือแม่ชี กลับตั้งครรภ์พร้อมกันโดยไม่มีสาเหตุ เมื่อคลอดออกมา เด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์ลี้ลับเหล่านี้กลับมีหน้าตาที่แปลกประหลาด และมีพลังลึกลับแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป

เมื่อวัตถุประหลาดบินผ่านบางเพลง ผู้หญิงทั้งหมู่บ้านไม่เว้นคนชราและแม่ชี เกิดตั้งท้องพร้อมๆกันและต่อมาให้กำเนิดเด็ก 214 คน เป็นเด็กที่มีพลังพิเศษและสามารถสื่อสารกันได้ทางโทรจิต นำมาซึ่งเรื่องราวลึกลับและความหวาดกลัวถึงแผนการใหญ่ของผู้มาเยือนจากต่างโลก